The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chalikae, 2022-11-10 02:30:05

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ท21101

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

๔๓๙

ใบความรู้ เร่ือง การสรุปเนอื้ หาวรรณคดี เรือ่ ง กาพย์พระไชยสรุ ิยา
หนว่ ยท่ี ๕ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๓ การสรปุ เน้ือหาวรรณคดี เรือ่ ง กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า

รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑

พระไชยสรุ ยิ าเป็นพระราชาครองเมืองสาวะถี (สาวัตถี) มมี เหสชี ือ่ ว่าสุมาลี บา้ นเมืองอดุ มสมบูรณ์
มพี ่อคา้ ตา่ งเมอื งมาคา้ ขาย ราษฎรอย่เู ยน็ เป็นสขุ ตอ่ มาพวกขนุ นางผูใ้ หญ่และขา้ ราชบริพารพากันประพฤติผดิ
ลุ่มหลงในกามคุณและอบายมุขต่าง ๆ ผมู้ ีอานาจกดข่ขี ม่ เหงราษฎรจนเดือดร้อนกันไปท่ัว การปกครองขาด
ความยุติธรรม บ้านเมอื งอยใู่ นภาวะทีข่ าดเสถยี รภาพ ในท่สี ดุ เกดิ น้าปา่ ไหลท่วมบ้านเมืองทาให้ผู้คนลม้ ตาย
เป็นจานวนมาก ผทู้ ่ีรอดชีวิตกห็ นีออกจากเมืองไปหมด พระไชยสุริยาพามเหสแี ละบริวารพรอ้ มเสบียงลงเรอื
สาเภาหนีออกจากเมอื ง เรือแตกเพราะถกู พายุ บริวารทั้งหลายพลดั ไปหมด พระไชยสรุ ยิ าและนางสุมาลขี ้นึ ฝง่ั
ได้พากนั รอนแรมไปในปา่ ตกทุกข์ได้ยากอยหู่ ลายวัน พระดาบสรูปหนง่ึ เขา้ ฌานเหน็ ทงั้ สองพระองคเ์ รร่ ่อนอยู่
ในป่ากส็ งสาร เพราะทราบว่าพระไชยสุรยิ าเปน็ กษตั รยิ ์ท่ีดี แต่ต้องเคราะหร์ า้ ยเชน่ นเี้ พราะหลงเชื่ออามาตย์ที่
ฉ้อฉล พระดาบสจงึ เทศนาโปรดทงั้ สององคใ์ ห้ศรัทธาถอื เพศเป็นฤษบี าเพญ็ ธรรมอย่างเคร่งครดั จนได้ไปเสวย
สุขในสวรรค์


๔๔๐

ใบงาน เรือ่ ง การสรปุ เนอ้ื หาวรรณคดี เร่อื ง กาพยพ์ ระไชยสุริยา
หน่วยท่ี ๕ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ การสรุปเน้ือหาวรรณคดี เร่อื ง กาพยพ์ ระไชยสรุ ิยา

รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๑

คาช้แี จง ให้นักเรยี นเขยี นแผนภาพความคิดสรปุ เนื้อหาวรรณคดี เร่ือง กาพย์พระไชยสรุ ิยา ลงในช่องว่าง
ทกี่ าหนดให้


๔๔๑

แบบประเมินการสรุปความ
คาชีแ้ จง ครูประเมนิ พฤติกรรมของนักเรียนในการสรุปความ และใหค้ ะแนนลงในช่องท่ตี รงกบั พฤติกรรมของ

นักเรยี น

เลขที่ ชื่อ – สกุล เนื้อความ รวม สรุปผลการ
การใช้ภาษา ประเมนิ
ความสะอาดเ ีรยบ ้รอย

๔ ๔ ๔ ๑๒ ผ่าน ไม่ผ่าน

เกณฑ์การตัดสนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป

คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถงึ ดมี าก

คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง ดี
พอใช้
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ ปรบั ปรงุ

คะแนน ๐-๖ หมายถงึ

ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
(.........................................................)

................./............................/....................


๔๔๒

เกณฑ์การประเมนิ การสรปุ ความ

ประเดน็ การประเมนิ ๔ (ดมี าก) ระดบั คณุ ภาพ ๑ (ปรับปรงุ )
๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้

เนือ้ ความ ครบถว้ นทุกประเด็น ขาดประเดน็ สาคัญ ขาดประเด็น ขาดประเด็นสาคัญ

สอดคลองกับ ๑ ประเดน็ แต่ สาคญั ๒ ประเด็น

เนือ้ ความ เนื้อความโดยรวม แตเ่ นื้อความ

สอดคล้องกับเร่ือง โดยรวม

สอดคล้องกับเรอ่ื ง

การใชภ้ าษา ใชภ้ าษาสละสลวย ส่ือ ใช้ภาษาได้ชัดเจน ใชภ้ าษาได้ชัดเจน ใชภ้ าษาไมช่ ัดเจน

ความได้ชัดเจน แตข่ าดความ ขาดความ ขาดความสละสลวย

สละสลวย สละสลวย และ และเรยี บเรยี งความ

เรียบเรยี งไดไ้ ม่ ได้ไม่ครบถ้วน

ครบประเดน็

ความสะอาด ผลงานสะอาด ผลงานมรี อยลบ ผลงานมีรอยลบ ผลงานมรี อยลบ
เรียบร้อย เรียบรอ้ ย ขีด-ฆ่า ๑ แห่ง ขดี -ฆ่า ๒ แห่ง ขีด-ฆ่า ๓ แหง่ ข้นึ ไป

เกณฑก์ ารตัดสนิ หมายถงึ ดมี าก
คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถงึ ดี
คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๗-๘
คะแนน ๐-๖ หมายถึง ปรบั ปรุง


๔๔๓

แผนการจัดการเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๕ สร้างสรรคบ์ ทกวี เวลา ๑๒ ช่ัวโมง
เวลา ๑ ช่ัวโมง
แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๔ ฉนั ทลักษณ์กาพยย์ านี ๑๑
ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖5
สอนวนั ที่ เดอื น พ.ศ.
ตาแหนง่ ครู
ครูผู้สอน นางสาวชาลิสา หาญกจิ

๑. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา

และพลังของภาษาภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ
ตวั ชีว้ ัด
ม. ๑/๕ แต่งบทรอ้ ยกรอง

๒. สาระสาคัญ
การแต่งคาประพันธ์ ควรคานึงถึงคาที่นามาแต่งให้มีสัมผัสและมีความหมายเหมาะกับเร่ืองท่ีร้อย

เรียงคาเป็นเรอื่ งราว เพอ่ื ใหค้ าประพนั ธน์ นั้ มคี วามไพเราะ สละสลวย มีคุณค่าอันเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และ
ควรเรียนรู้ฉันทลักษณ์ของคาประพันธ์แต่ละชนิด เพื่อให้การแต่งคาประพันธ์ถูกต้อง ช่วยส่งผลให้เป็นผู้ท่ี
สามารถใช้สานวนภาษาได้ชดั เจนถูกต้อง

๓. จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ฉนั ทลักษณข์ องกาพยย์ านี ๑๑
๒. นักเรียนอธิบายฉันทลกั ษณ์ของกาพย์ยานี ๑๑ ได้
๓. นักเรยี นเขียนแผนผงั ของฉันทลักษณค์ าประพันธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑ ได้

๔. นักเรียนใฝ่เรียนรแู้ ละมคี วามมงุ่ มน่ั ในการทางาน

๔. สาระการเรียนรู้
ฉนั ทลักษณค์ าประพนั ธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑

๕. การจัดกระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้นั นา
๑. นักเรียนอ่านออกเสียงคาประพันธจ์ ากเรือ่ ง กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า จากหนงั สือเรยี นวรรณคดี

วิจกั ษ์ หน้า ๘๑ เปน็ ทานองเสนาะ จานวน ๔ บท ต้งั แตบ่ ท "สะธุสะจะขอไหว้ จนถงึ อยู่บรุ ีไมม่ ีภยั "

๒. นกั เรยี นสงั เกตลักษณะคาประพันธ์ที่อ่านทานองเสนาะแล้วรว่ มกนั วเิ คราะหว์ า่ เปน็ ลักษณะ

คาประพันธ์ประเภทใดและมลี ักษณะทีแ่ ตกตา่ งจากกลอนสุภาพอยา่ งไร

ขั้นสอน

๑. ครตู ดิ แผนผงั คาประพันธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑ บนกระดานแล้วให้นกั เรียนสงั เกตพร้อมกบั
ตอบคาถามในประเดน็ ดงั นี้


๔๔๔

๑) คาประพันธ์ ๑ บท มีจานวนกี่วรรค
๒) คาประพนั ธ์ ๑ วรรค มีจานวนกีค่ า

๓) ในแตล่ ะวรรคมีคาสมั ผัสบังคับอยา่ งไร
๒. ครูแจกใบความรู้ เร่อื ง ฉนั ทลกั ษณก์ าพย์ยานี ๑๑ เพือ่ ใช้ในการทบทวนความรู้ ใช้เวลา

ประมาณ ๕ นาที
๓. ครูสุ่มนกั เรียนเป็นรายบคุ คลเพื่อสรุปความรเู้ ก่ยี วกับแผนผังของฉนั ทลกั ษณ์คาประพนั ธ์

ประเภทกาพย์ยานี ๑๑

๔. นักเรยี นทาใบงาน เร่อื ง ฉนั ทลักษณก์ าพยย์ านี ๑๑ ใช้เวลาประมาณ ๕ นาที พร้อมเฉลย
คาตอบรว่ มกนั

ข้นั สรปุ
นักเรยี นร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเก่ยี วกบั ฉนั ทลักษณข์ องคาประพันธป์ ระเภทกาพย์

ยานี ๑๑

๖. ส่อื /แหลง่ เรียนรู้
๑. ใบความรู้ เรอ่ื ง ฉันทลักษณก์ าพย์ยานี ๑๑
๒. แผนผังกาพยย์ านี ๑๑
๓. หนังสอื เรยี นภาษาไทยชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑
๔. ใบงาน เร่ือง ฉันทลักษณก์ าพย์ยานี ๑๑

๗. วัดผลประเมนิ ผล

วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์
ตรวจใบงาน เรอ่ื ง ฉันทลกั ษณ์กาพยย์ านี ๑๑ ใบงาน เรื่อง ฉนั ทลกั ษณ์กาพย์ยานี ๑๑ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ
๖๐ ข้ึนไป
สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์

ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์


๔๔๕

บันทึกหลงั แผนการจดั การเรียนรู้

๑. ด้านความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๒. ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านยิ ม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. ดา้ นอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๕. ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๖. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการแกป้ ญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ………………………………………ครูประจาวิชา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………

๗. ความคดิ เหน็ ของผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ………………………………………ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………


๔๔๖

ใบความรู้ เรือ่ ง ฉันทลักษณ์กาพยย์ านี ๑๑
หน่วยท่ี ๕ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๔ ฉันทลกั ษณ์กาพยย์ านี ๑๑
รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๑

จดุ ประสงค์ ใหน้ กั เรียนศึกษาฉันทลกั ษณข์ องคาประพันธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑
ฉนั ทลักษณก์ าพยย์ านี ๑๑

กาพย์ยานี เปน็ คาประพันธไ์ ทยประเภทกาพยท์ ก่ี วีนิยมแต่งมาก ปรากฏการแต่งตง้ั แต่สมยั กรงุ ศรีอยธุ ยา
มีทง้ั แต่งสลบั กบั คาประพันธ์ประเภทอ่นื และแตง่ เพยี งลาพัง กาพยย์ านบี ทหน่งึ มสี องบาท บาทละ ๑๑ คา คน
ทวั่ ไปจึงนิยมเรียกวา่ กาพย์ยานี ๑๑

แผนผังกาพย์ยานี ๑๑

๑ บท

สมั ผสระหวา่ งบท

๑ บท

คณะของกาพยย์ านี
กาพย์ยานี ๑ บท มี ๒ บาท
บาทหนง่ึ มี ๒ วรรค วรรคหนา้ มี ๕ คา วรรคหลังมี ๖ คา รวมเปน็ ๑๑ คา

การสง่ สมั ผสั
คาสุดทา้ ยของวรรคที่ ๑ สง่ สมั ผสั ไปยังคาที่สาม ของวรรคที่ ๒ (อาจเล่ือนมาส่งสมั ผัสคาท่ี ๑ หรอื ๒

ได้)
คาสุดทา้ ยของวรรคท่ี ๒ ส่งสัมผสั ไปยังคาสุดท้าย ของวรรคที่ ๓ (หากสง่ สมั ผัสไปยังคาท่ี ๑ หรือ ๒

หรอื ๓ ในวรรคที่ ๔ ได้ จะเพิม่ ความไพเราะในคาประพันธเ์ พิ่มข้ึน)
ในการแต่งกาพย์ยานมี ากกว่า ๑ บท ตอ้ งส่งสัมผัสระหว่างบท โดยคาสุดท้ายของวรรคท่ี ๔ ส่งสัมผัส

ไปยังคาสุดทา้ ยของวรรคที่ ๒ ในบทถัดไป


๔๔๗

คาสัมผัสในคาประพนั ธ์

การแต่งคาประพันธจ์ ะมีลกั ษณะเฉพาะคือการส่งสมั ผสั ซงึ่ มีการส่งสมั ผัสแบง่ เป็น ๒ ชนดิ ได้แก่
สัมผสั ในและสมั ผัสนอก

สัมผัสใน เปน็ สัมผสั ทไี่ มบ่ งั คับเพียงแตเ่ ปน็ สมั ผัสที่เพิม่ ความไพเราะและแสดงถึงความสามารถของผู้
แต่งโดยแบง่ แยกสัมผัสในออกเป็น ๒ ชนดิ คอื สัมผสั สระและสมั ผสั พยญั ชนะ

สมั ผสั นอก เปน็ สัมผสั บังคับโดยแบ่งย่อยออกเป็นสัมผัสระหว่างวรรคและสมั ผัสระหว่างบท โดยสัมผสั
นอกนัน้ ต้องเปน็ สมั ผัสสระเท่านนั้

สมั ผัสพยัญชนะ คอื คาสมั ผัสในคาประพันธ์ที่อยใู่ นวรรคเดียวกนั ที่มีเสยี งพยญั ชนะตน้ เสียงเดียวกนั

อาจเรียกว่า “สัมผัสอักษร” ตัวอย่างเช่น

คา่ เช้าเฝ้าสซี อ อย่บู รุ ไี มม่ ีภยั ไพรฟ่ ้าประชาชี

โลโภพาใหบ้ ้าใจ ฉอ้ แตไ่ พรใ่ ส่ขื่อคา วา่ โง่เงา่ เตา่ ปปู ลา

สมั ผัสสระ คอื คาสัมผสั ในวรรค สัมผัสระหว่างวรรคหรือสัมผัสระหว่างบท ท่ีมีเสยี งสระเสยี งเดยี วกัน

และอยู่ในมาตราตัวสะกดเดียวกนั ดว้ ย ตวั อย่างเช่น

บ้านช่องคลองเลก็ ใหญ่ บา้ งตืน่ ไฟตกใจโจน

ปลกุ เพื่อนเตือนตะโกน ลกุ โลดโผนโดนกนั เอง

พิณพาทย์ระนาดฆ้อง ตะโพนกลองรอ้ งเปน็ เพลง

ระฆงั ดังวังเวง โหง่งหง่างเหง่งเก่งก่างดงั

ทม่ี า กาพยพ์ ระไชยสุริยา: หนังสือเรยี นวรรณคดีวิจกั ษ์ ม.๑


๔๔๘

ใบงาน เร่อื ง ฉันทลกั ษณ์กาพยย์ านี ๑๑
หน่วยที่ ๕ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ ฉนั ทลกั ษณก์ าพยย์ านี ๑๑
รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑

คาช้ีแจง
ตอนท่ี ๑ จงเติมคาลงในช่องว่างต่อไปน้ี (๑๐ คะแนน)

๑. กาพย์ยานี ๑๑ จานวน ๑ บท มี………………….บาท
๒. กาพย์ยานี ๑๑ จานวน ๑ บาท มี………………….วรรค
๓. กาพย์ยานี ๑๑ แบง่ ออกเปน็ วรรค…………….จานวน…………….คา และวรรค……………จานวน……………คา
๔. คาสุดท้ายของวรรคท่ี ๑ ส่งสัมผัสไปยงั คาท่ี………………….ของวรรคท่ี ๒
๕. คาสุดท้ายของวรรคที่ ๒ สง่ สมั ผัสไปยังคาสดุ ท้ายของวรรคท่ี………………….
๖. คาสมั ผัสระหว่างบทนน้ั ใหค้ าสดุ ท้ายของวรรคท่ี………ส่งสมั ผัสไปยงั คาสุดท้ายของวรรคที่………ของบทถัดไป

ตอนที่ ๒ จงโยงเส้นสัมผัสฉันทลักษณ์ของคาประพันธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑ (๕ คะแนน)


๔๔๙

แผนการจดั การเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๕ สร้างสรรคบ์ ทกวี เวลา ๑๒ ชัว่ โมง
เวลา ๑ ชว่ั โมง
แผนการเรยี นรู้ที่ ๕ การแต่งบทประพันธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑
ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖5
สอนวนั ที่ เดอื น พ.ศ.
ตาแหน่ง ครู
ครูผู้สอน นางสาวชาลสิ า หาญกจิ

๑. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษาภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ
ตวั ชวี้ ัด
ม. ๑/๕ แต่งบทร้อยกรอง

๒. สาระสาคญั
การแต่งคาประพันธ์ ควรคานึงถึงคาที่นามาแต่งให้มีสัมผัสและมีความหมายเหมาะกับเร่ืองท่ีร้อย

เรยี งคาเป็นเรือ่ งราว เพอ่ื ให้คาประพันธ์น้ันมีความไพเราะ สละสลวย มีคุณค่าอันเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และ
ควรเรียนรู้ฉันทลักษณ์ของคาประพันธ์แต่ละชนิด เพื่อให้การแต่งคาประพันธ์ถูกต้อง ช่วยส่งผลให้เป็นผู้ที่
สามารถใชส้ านวนภาษาได้ชัดเจนถกู ต้อง

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

๑. นกั เรียนมคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแต่งคาประพนั ธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑
๒. นักเรียนแต่งคาประพันธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑ ได้
๓. นักเรยี นใฝ่เรียนรูแ้ ละมคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน

๔. สาระการเรียนรู้
การแตง่ คาประพนั ธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑

๕. การจดั กระบวนการจดั การเรยี นรู้

ข้นั นา
๑. ครูยกตัวอยา่ งบทประพันธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑ บนกระดานแล้วใหน้ ักเรียนอ่านออกเสยี ง

เป็นทานองเสนาะพรอ้ มกนั

มัสมนั่ แกงแกว้ ตา หอมยี่หรา่ รสรอ้ นแรง

ชายใดไดก้ ลืนแกง แรงอยากใหใ้ ฝ่ฝันหา

ยาใหญ่ใส่สารพดั วางจานจัดหลายเหลือตรา

รสดีด้วยน้าปลา ญีป่ นุ่ ลา้ ยา้ ยวนใจ

ทม่ี า กาพย์เห่ชมเคร่ืองคาวหวาน: รชั กาลท่ี ๒


๔๕๐

ไกฟ่ ้าอ้าสดแสง หวั สกุ แดงแทงเดือยแนม

ปีกหางตา่ งสแี กม สแี ตม้ ต่างอย่างวาดเขยี น

ทมี่ า กาพย์หอ่ โคลงประพาสธารทองแดง: เจ้าฟ้ากงุ้

๒. นักเรยี นสังเกตความไพเราะของคาประพนั ธ์ที่ไดอ้ า่ น พรอ้ มท้ังช่วยกันพิจารณาความงาม

ทางภาษาท่ปี รากฏในคาประพนั ธข์ ้างตน้

ข้ันสอน

๑. ครใู ห้นกั เรียนฝกึ หดั การใช้คาคลอ้ งจองโดยทากจิ กรรม "งูกนิ หาง" ครูเป็นผู้กาหนดคาคล้อง
จอง ๒ พยางค์ แล้วใหน้ ักเรยี นทกุ คนแตง่ ตอ่ กนั ตามลาดับ

ตัวอยา่ ง เตน้ รา ทานา ปลาเผา เขา้ ทรง ลงโทษ ฯลฯ
๒. นกั เรียนทบทวนความรเู้ กี่ยวกับคาสมั ผสั จากใบความรู้ เรื่อง ฉันทลกั ษณก์ าพยย์ านี ๑๑
๓. ครฝู กึ ฝนนักเรียนใหร้ ู้จกั การเลอื กสรรคามาใช้ในการแต่งคาประพนั ธ์ โดยครแู จกบัตรคาต่าง
ๆ ใหน้ กั เรยี นคนละ ๑ คา เพ่ือให้นกั เรียนเขา้ กล่มุ "คาไวพจน"์ ให้ถูกตอ้ ง ซง่ึ ครนู าคาไวพจนท์ ่ีเป็นความหมาย
ไปตดิ ไว้มุมตา่ ง ๆ ของหอ้ งเรียน ใชเ้ วลาทากจิ กรรมประมาณ ๕ นาที

ตวั อยา่ ง นา = นท,ี วาร,ี สาคร, ธารา, สายชล, ชลธาร
ปา่ = พนา, ไพร, ไพรสณฑ์, วนา, เถ่ือน, พนสั
ช้าง = กญุ ชร, คช, กร,ี หตั ถี, ไอยรา, สาร

๔. ครูนาภาพทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ให้นกั เรยี นดู
๕. ครขู ึ้นต้นคาประพนั ธใ์ หน้ ักเรียนจานวน ๑ วรรค เชน่ "รกั ชาติศาสน์กษัตรยิ ์" แล้วให้
นักเรียนท้ังช้ันชว่ ยกนั แต่งคาประพนั ธ์จนเสรจ็ สมบูรณ์
๖. ครูมอบหมายให้นักเรียนแตง่ คาประพนั ธ์ ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ จานวน ๒ บท ตามภาพท่ี
นักเรียนเลอื กเอง
ขน้ั สรุป
นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความคิดรวบยอดเกีย่ วกับการแต่งคาประพันธ์ประเภทกาพยย์ านี ๑๑

๖. สื่อ /แหลง่ เรยี นรู้
๑. ตวั อย่างคาประพันธ์
๒. ใบความรู้ เรอ่ื ง ฉันทลักษณ์กาพย์ยานี ๑๑
๓. กิจกรรมงูกนิ หาง
๔. บตั รคาไวพจน์


๔๕๑

๗. วัดผลประเมนิ ผล

วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
แบบประเมนิ การแตง่ คาประพนั ธ์ ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ
ตรวจชน้ิ งาน ๖๐ ขึ้นไป
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน
สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี น แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์
ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์


๔๕๒

บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรียนรู้

๑. ดา้ นความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๒. ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓. ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์/คา่ นยิ ม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๕. ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๖. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการแก้ปญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ………………………………………ครปู ระจาวิชา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………

๗. ความคิดเห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ………………………………………ผู้อานวยการสถานศึกษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………


๔๕๓

ใบความรู้ เร่อื ง ฉันทลักษณ์กาพย์ยานี ๑๑
หน่วยท่ี ๕ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๕ การแต่งคาประพันธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑

รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑

จุดประสงค์ ใหน้ กั เรียนศกึ ษาฉันทลกั ษณข์ องคาประพนั ธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑
ฉันทลกั ษณก์ าพย์ยานี ๑๑

กาพยย์ านี เปน็ คาประพันธ์ไทยประเภทกาพยท์ ี่กวีนยิ มแตง่ มาก ปรากฏการแต่งตง้ั แตส่ มัยกรงุ ศรอี ยธุ ยา
มีทงั้ แตง่ สลบั กบั คาประพันธ์ประเภทอนื่ และแต่งเพียงลาพงั กาพย์ยานบี ทหน่งึ มีสองบาท บาทละ ๑๑ คา คน
ทั่วไปจึงนิยมเรียกวา่ กาพยย์ านี ๑๑

แผนผังกาพย์ยานี ๑๑

๑ บท

สัมผสระหวา่ งบท

๑ บท

คณะของกาพยย์ านี
กาพยย์ านี ๑ บท มี ๒ บาท
บาทหน่งึ มี ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๕ คา วรรคหลงั มี ๖ คา รวมเป็น ๑๑ คา

การสง่ สัมผัส
คาสุดท้ายของวรรคที่ ๑ สง่ สมั ผัสไปยังคาท่ีสาม ของวรรคท่ี ๒ (อาจเลอ่ื นมาสง่ สมั ผัสคาที่ ๑ หรอื ๒

ได้)
คาสุดท้ายของวรรคท่ี ๒ ส่งสมั ผสั ไปยงั คาสุดท้าย ของวรรคที่ ๓ (หากสง่ สมั ผัสไปยังคาท่ี ๑ หรือ ๒

หรือ๓ ในวรรคท่ี ๔ ได้ จะเพิ่มความไพเราะในคาประพันธเ์ พิ่มข้ึน)
ในการแตง่ กาพย์ยานีมากกวา่ ๑ บท ตอ้ งส่งสมั ผสั ระหว่างบท โดยคาสุดท้ายของวรรคท่ี ๔ ส่งสัมผัส

ไปยงั คาสุดทา้ ยของวรรคที่ ๒ ในบทถัดไป


๔๕๔

คาสัมผัสในคาประพนั ธ์

การแต่งคาประพันธจ์ ะมีลกั ษณะเฉพาะคือการส่งสมั ผสั ซงึ่ มีการส่งสมั ผัสแบง่ เป็น ๒ ชนดิ ได้แก่
สัมผสั ในและสมั ผัสนอก

สัมผัสใน เปน็ สัมผสั ทไี่ ม่บงั คับเพียงแตเ่ ปน็ สมั ผัสที่เพิม่ ความไพเราะและแสดงถึงความสามารถของผู้
แต่งโดยแบง่ แยกสัมผัสในออกเป็น ๒ ชนดิ คอื สัมผสั สระและสมั ผสั พยญั ชนะ

สมั ผสั นอก เปน็ สัมผสั บังคับโดยแบ่งย่อยออกเป็นสัมผัสระหว่างวรรคและสมั ผัสระหว่างบท โดยสัมผสั
นอกนัน้ ต้องเปน็ สมั ผัสสระเท่านนั้

สมั ผัสพยัญชนะ คอื คาสมั ผัสในคาประพันธ์ที่อยใู่ นวรรคเดียวกนั ที่มีเสยี งพยญั ชนะตน้ เสียงเดียวกนั

อาจเรียกว่า “สัมผัสอักษร” ตัวอย่างเช่น

คา่ เช้าเฝ้าสซี อ อย่บู รุ ไี มม่ ีภยั ไพรฟ่ ้าประชาชี

โลโภพาใหบ้ ้าใจ ฉอ้ แตไ่ พรใ่ ส่ขื่อคา วา่ โง่เงา่ เตา่ ปปู ลา

สมั ผัสสระ คอื คาสัมผสั ในวรรค สัมผัสระหว่างวรรคหรือสัมผัสระหว่างบท ท่ีมีเสยี งสระเสยี งเดยี วกัน

และอยู่ในมาตราตัวสะกดเดียวกนั ดว้ ย ตวั อย่างเช่น

บ้านช่องคลองเลก็ ใหญ่ บา้ งตืน่ ไฟตกใจโจน

ปลกุ เพื่อนเตือนตะโกน ลกุ โลดโผนโดนกนั เอง

พิณพาทย์ระนาดฆ้อง ตะโพนกลองรอ้ งเปน็ เพลง

ระฆงั ดังวังเวง โหง่งหง่างเหง่งเก่งก่างดงั

ทม่ี า กาพยพ์ ระไชยสุริยา: หนังสือเรยี นวรรณคดีวิจกั ษ์ ม.๑


๔๕๕

แบบประเมินการแตง่ คาประพันธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑

คาชีแ้ จง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนักเรียนในการแตง่ คาประพันธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑ และใหค้ ะแนนลงใน
ชอ่ งทต่ี รงกับพฤตกิ รรมของนักเรยี น

ลาดบั ที่ ช่ือ-สกุล ัฉนทลักษ ์ณ สรุปผล
การใช้คา ัสม ัผส รวม การประเมิน
ความ ิคดส ้รางสรร ์ค
เน้ือหาตรงประเด็น
การเลือกใช้คา

๔ ๓ ๓ ๓ ๒ ๑๕ ผา่ น ไม่ผา่ น

เกณฑ์การตัดสิน ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป

คะแนน ๑๔-๑๕ หมายถงึ ดีมาก
ดี
คะแนน ๑๑-๑๓ หมายถึง พอใช้

คะแนน ๘-๑๐ หมายถึง ปรับปรงุ

คะแนน ๐-๗ หมายถงึ

ลงช่อื ..............................................ผปู้ ระเมิน
(.........................................................)

................./............................/....................


๔๕๖

เกณฑ์การประเมินการแต่งคาประพันธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑

ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดับคณุ ภาพ ๑ (ปรบั ปรุง)
การประเมิน ถกู ต้อง ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ถกู ต้อง
ฉันทลักษณ์ ตามฉันทลักษณ์
ถูกต้อง ถูกต้อง ตามฉันทลักษณ์
ตามฉันทลกั ษณ์ ตามฉันทลกั ษณ์

การใช้คาสมั ผัส มีการใชค้ าสัมผัส มีการใช้คาสัมผัส มกี ารใชค้ าสมั ผัส ไมม่ ี
ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม สระ และสมั ผัส บางสว่ น การใช้คาสัมผัส
พยัญชนะไดถ้ กู ต้อง
ตามลกั ษณะคา
ประพันธ์

ความคดิ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ มคี วามคิด ไมม่ คี วามคิด
สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์
ทีน่ ่าสนใจสะท้อน นา่ สนใจ สะทอ้ น สร้างสรรค์

แนวความคดิ ใหม่ ความคิด แต่ไม่แปลกใหม่

เน้ือหา มีเน้ือหาตรงประเดน็ มีเนอ้ื หาตรงภาพ มเี นื้อหาตรงภาพ เนื้อหาไม่ตรง
ตรงประเด็น เหมาะสมกบั ภาพ
ที่กาหนด ที่กาหนด ตามภาพที่กาหนด
ทกี่ าหนด บางส่วน แต่ไม่ชดั เจน

การเลือกใช้คา เลือกใช้คาได้ เลือกใช้คาเหมาะสม มีการเลือกใช้คา เลือกใช้

อย่างเหมาะสม บางสว่ น ไมเ่ หมาะสมส่วนใหญ่ คาไมเ่ หมะสม

เกณฑ์การตัดสิน หมายถึง ดมี าก
คะแนน ๑๔-๑๕
หมายถงึ ดี
คะแนน ๑๑-๑๓ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๘-๑๐ หมายถึง ปรับปรงุ
คะแนน ๐-๗


๔๕๗

แผนการจัดการเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๕ สร้างสรรคบ์ ทกวี เวลา ๑๒ ช่วั โมง
เวลา ๑ ช่วั โมง
แผนการเรยี นรู้ที่ ๖ การเขยี นจดหมายกิจธุระ
ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖5
สอนวันท่ี เดือน พ.ศ.
ตาแหน่ง ครู
ครผู ูส้ อน นางสาวชาลิสา หาญกจิ

๑. มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความและเขียนเรื่องราวใน
รปู แบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด
ม.๑/๗ การเขียนจดหมายสว่ นตัวและจดหมายกิจธุระ
ม.๑/๙ มมี ารยาทในการเขียน

๒. สาระสาคญั
จดหมายกิจธุระ เปน็ จดหมายระหว่างบุคคลท่ีติดตอ่ สือ่ สารกันดว้ ยกจิ ธุระ เช่น การติดตอ่ สอบถาม

การบอกขายหรือแจ้งรายการสินค้า การเตอื น การทวงถาม การแจ้งขา่ วสาร

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๑. นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในหลกั การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ

๒. นักเรยี นขยี นจดหมายกจิ ธุระได้
๓. นกั เรียนใฝ่เรียนรแู้ ละมคี วามมงุ่ ม่ันในการทางาน

๔. สาระการเรียนรู้
การเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ

๕. การจัดกระบวนการจดั การเรยี นรู้
ข้นั นา
ครแู ละนักเรียนสนทนากับเรือ่ งการส่อื สารจากอดีตจนถงึ ปจั จุบนั วา่ มชี อ่ งทางในการสอื่ สาร

อยา่ งไรบ้าง เช่น จดหมาย โทรเลข โทรศัพท์ ไปรษณยี อ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นตน้

ขน้ั สอน

๑. ครูนาซองจดหมายมาให้นกั เรียนดแู ล้วซกั ถามและสนทนาร่วมกนั เก่ียวกบั ความสาคญั ของ
การใช้จดหมาย ประโยชน์ รวมไปถึงประเภทของจดหมายชนิดตา่ ง ๆ

๒. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ เรอื่ ง หลักการเขยี นจดหมายกิจธรุ ะใชเ้ วลาประมาณ ๕ นาที
๓. นกั เรียนสนทนารว่ มกนั เกยี่ วกบั หลักการเขียนจดหมายกิจธุระในประเด็น ดงั นี้

๑) รูปแบบของจดหมายกิจธุระ
๒) ภาษาที่ใช้ในการเขียนจดหมายกจิ ธุระ


๔๕๘

๓) สว่ นประกอบของจดหมายกิจธรุ ะ
๔) การเขยี นจ่าหนา้ ซองจดหมาย

๔. ครแู จกใบงาน เรอ่ื ง การเขียนจดหมายกิจธุระใหน้ กั เรียนปฏิบัติกิจกรรมในช้ันเรยี น
๕. ครมู อบหมายให้นักเรียนทกุ คนเขยี นจดหมายกิจธุระ(จดหมายลากจิ ) คนละ ๑ ฉบบั พร้อม

ใสซ่ องและจา่ หน้าซอง
ข้ันสรปุ
นกั เรยี นสรุปความคดิ รวบยอดเก่ียวกบั หลักการเขยี นจดหมายกิจธุระ

๖. สื่อ /แหล่งเรียนรู้
๑. ซองจดหมายตวั อย่าง
๒. ใบความรู้ เรือ่ ง หลกั การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ
๓. ใบงาน เรื่อง การเขยี นจดหมายกิจธุระ

๗. วดั ผลประเมินผล

วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์
ใบงาน เร่ือง การเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ แบบประเมนิ การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ
๖๐ ขึ้นไป
สงั เกตพฤติกรรมการเรยี น แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี น
ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์

ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์


๔๕๙

บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรียนรู้

๑. ดา้ นความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๒. ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓. ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์/คา่ นยิ ม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๕. ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๖. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการแก้ปญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ………………………………………ครปู ระจาวิชา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………

๗. ความคิดเห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ………………………………………ผู้อานวยการสถานศึกษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………


๔๖๐

ใบความรู้ เรอ่ื ง หลักการเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ
หน่วยท่ี ๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ การเขยี นจดหมายกิจธุระ
รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑

จดหมาย เป็นเครื่องมอื ในการสง่ สารชนิดหน่งึ เนื้อหาในจดหมายขน้ึ อยกู่ บั วัตถปุ ระสงคข์ องผูส้ ง่ วา่
ต้องการแนะนาตน เล่าเรือ่ ง สอบถาม แสดงความคิดเหน็ หรือแสดงความรูส้ กึ ภาษาของจดหมายจะเปน็ ระดบั
ใดขนึ้ อยู่กับเน้ือหา ความสัมพันธ์ระหวา่ งผ้สู ง่ กับผู้รับและสถานภาพทางสงั คม

จดหมายกิจธุระเปน็ จดหมายทีข่ น้ึ โดยมีวตั ถุประสงคส์ าคญั เพอ่ื งานหรือกจิ ธรุ ะบางประการ เชน่
จดหมายที่ส่งไปยังนิตยสารเพื่อขอความรจู้ ากผเู้ ช่ียวชาญ จดหมายลาปว่ ยถึงครูประจาชนั้ จดหมายท่เี ขยี นถงึ
บรษิ ทั เพ่อื สมคั รงานระหวา่ งปิดภาคเรยี น ผเู้ ขยี นจดหมายประเภทน้จี ะใช้ภาษาระดับก่ึงทางการหรือภาษาท่ี
เป็นทางการ ขนึ้ อยู่กบั จดหมายฉบับน้ันเขยี นขนึ้ เพอ่ื งานส่วนตัวหรือเขียนในนามขององคก์ รหรอื หนว่ ยงาน

ในการเขียนจดหมาย ผ้เู ขียนต้องคานึงถงึ วัตถปุ ระสงค์ ความสัมพนั ธ์ และสถานภาพทางสังคมของผู้
สง่ และผูร้ ับ เนื้อหาสาระ ระดับภาษา ตลอดจนการใชค้ าให้เหมาะสม โดยคานงึ ถงึ วธิ ีการเขยี นดังนี้

๑. เขียนให้ถูกรปู แบบตามทน่ี ยิ มใชก้ ัน
๒. ใจความในจดหมายต้องใหช้ ดั เจน สมบูรณค์ รบถ้วน
๓. เลือกใชก้ ระดาษท่สี าหรบั เขยี นจดหมาย และ ซองจดหมายสสี ุภาพ เหมาะสมกบั ระดบั ของบุคคล (
ผู้รับ)
๔. เขียนดว้ ยลายมือท่ีอ่านง่าย เป็นระเบยี บ สะอาดเรียบร้อย พยายามอยา่ ใหม้ รี อย ลบ ขดู ขดี ฆา่
๕. ใช้ภาษาให้ถูกต้องตามหลักภาษา และตามความนิยม สุภาพถูกกาลเทศะ
๖. ท่ีอยู่ของผู้เขยี นทาใหผ้ ู้รับทราบว่าผเู้ ขยี นจากที่ใด
๗. ถัดมาเป็นวันท่ีที่จดหมาย ช่วยบอกให้ทราบวา่ ผเู้ ขยี นเขยี นจดหมายเมอ่ื ใด
๘. ใชค้ าขึ้นต้น คาสรรพนามแทนผู้เขยี นนั้นควรถูกตอ้ งเหมาะสมตามระดบั ของบคุ คล
๙. คาลงท้าย ต้องให้ถกู ตามกาลเทศะ
๑๐. ควรมกี ารตรวจสอบจดหมายท้งั ฉบับใหเ้ รยี บรอ้ ยกอ่ นส่งถึงผรู้ บั

ท่ีมา : หนงั สือเรียนวิวธิ ภาษา ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑


๔๖๑

ใบงาน เร่ือง การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ
หน่วยที่ ๕ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๖ การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ
รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑

คาชแ้ี จง ตอนท่ี ๑ จงเขยี นจดหมายกจิ ธุระ (ลาป่วย) ลงในช่องวา่ งที่กาหนดให้ (๑๐ คะแนน)

()


๔๖๒

ตอนที่ ๒ จงเขียนซองจดหมายกจิ ธุระ (ลาปว่ ย) ลงในชอ่ งว่างท่ีกาหนดให้ (๑๐ คะแนน)

ชอ่ื และทีอ่ ยู่ผฝู้ าก
…………………………………..…………
…………………………………..…………
…………………………………..…………

ชื่อและทอี่ ยู่ผู้รับ
…………………………………..…………
…………………………………..…………
…………………………………..…………


๔๖๓

แบบประเมนิ การเขียนจดหมายกจิ ธุระ
คาช้แี จง ครูประเมินพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขียนจดหมายกจิ ธุระ และใหค้ ะแนนลงในช่องท่ตี รงกบั

พฤติกรรมของนกั เรียน

เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ ูรปแบบของจดหมาย สรุปผล
เน้ือหาของจดหมาย รวม การประเมนิ
การใ ้ชภาษา
ความเป็นระเบียบ

๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ผา่ น ไม่ผา่ น

เกณฑก์ ารตัดสนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป

คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถึง ดีมาก
ดี
คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ พอใช้
ปรับปรงุ
คะแนน ๗-๘ หมายถึง

คะแนน ๐-๖ หมายถึง

ลงชอื่ .............................................ผปู้ ระเมิน
(.........................................................)

................./............................/....................


๔๖๔

เกณฑ์การประเมินการเขียนจดหมายกิจธรุ ะ

ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ
รูปแบบของจดหมาย
กจิ ธุระ ๓ (ดีมาก) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรบั ปรุง)
เนอื้ หาของจดหมาย
เขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ เขยี นจดหมายกิจธรุ ะ เขยี นจดหมายกิจธรุ ะ
การใช้ภาษา
ความเป็นระเบียบ ถกู ตอ้ งตามรปู แบบ ไมถ่ กู ตอ้ งตามรปู แบบ ไม่ถูกต้องตามรปู แบบ

๑ – ๒ ตาแหนง่ ๒ ตาแหนง่ ข้ึนไป

เน้อื หากระชับ ชัดเจน เน้ือหาขาดความกระชบั เนือ้ หาขาดความกระชบั

ถูกต้องตามวัตถปุ ระสงค์ ไม่ชดั เจน แต่ยังคง ไม่ชดั เจน ขาดความ

ของจดหมาย และจา่ หน้า ความถกู ตอ้ งตาม ถกู ตอ้ งตามวัตถุประสงค์

ซองถกู ตอ้ ง วัตถุประสงคข์ อง ของจดหมาย และจ่าหนา้

จดหมาย และจา่ หนา้ ซอง ซองไมถ่ ูกตอ้ ง

ถูกตอ้ ง

ใช้ภาษาและถอ้ ยคาใน ใชภ้ าษาและถอ้ ยคาใน ใช้ภาษาและถ้อยคาใน

การเขยี นถกู ต้อง ใช้ การเขียนถูกต้อง ใช้ การเขยี นไม่ถกู ตอ้ ง ใช้

ระดบั ภาษาเหมาะสม ระดับภาษาไม่เหมาะสม ระดบั ภาษาไมเ่ หมาะสม

ทางานสะอาดเรียบร้อย ทางานสะอาดเรยี บร้อย ทางานขาดความสะอาด

เป็นระเบียบ สะกดคา เปน็ ระเบียบ สะกดคาผิด ไม่เปน็ ระเบยี บ และ

ไดถ้ กู ต้องทกุ คา ๑-๓ คา สะกดคาผิดเกิน ๓ คา

ข้ึนไป

เกณฑ์การตัดสิน หมายถงึ ดีมาก
คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถงึ ดี
คะแนน ๙-๑๐
หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ ปรับปรุง
คะแนน ๐-๖


๔๖๕

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๑
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๕ สร้างสรรคบ์ ทกวี เวลา ๑๒ ช่วั โมง
เวลา ๑ ชว่ั โมง
แผนการเรียนรูท้ ่ี ๗ การเขียนแนะนาสถานที่
ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5
สอนวนั ที่ เดอื น พ.ศ.
ตาแหนง่ ครู
ครูผู้สอน นางสาวชาลิสา หาญกิจ

๑. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่อื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความและเขียนเร่ืองราวใน
รปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ตัวชว้ี ัด
ม.๑/๒ เขียนสื่อสารโดยใช้ถอ้ ยคาถกู ต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย
ม.๑/๙ มมี ารยาทในการเขียน

๒. สาระสาคญั
การเขียนเป็นการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก และความต้องการของผู้เขียนให้ผู้อ่ืนทราบเป็น

ลายลักษณ์อักษร การเขียนจะประสบผลสาเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นอย่างดีหรือไม่ข้ึนอยู่กับความมุ่ง
หมายของการเขียน หลักในการเขียน วิธีการเขียน การใช้ภาษาในการเขียนตลอดจนเนื้อหาที่เหมาะสมกับ
ผ้อู า่ น เปน็ สาคัญ

๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑. นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับการเขยี นแนะนาสถานทีส่ าคัญ
๒. นักเรียนเขียนแนะนาสถานท่ีสาคัญได้ถูกต้องตามหลกั การเขียน

๓. นกั เรียนใฝเ่ รยี นรแู้ ละมีความม่งุ ม่นั ในการทางาน

๔. สาระการเรยี นรู้
เขยี นแนะนาสถานที่สาคญั

๕. การจดั กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั นา
๑. นกั เรียนจับกลุ่มประมาณ ๔-๖ กลุ่ม แล้วครูแจกภาพสถานทส่ี าคญั ในประเทศไทยให้กลมุ่

ละ ๑ ภาพ

๒. นักเรียนแต่ละกลุม่ สงั เกตภาพและให้เขยี นรายละเอยี ดของภาพวา่ ปรากฏรายละเอยี ดใดใน

ภาพบา้ ง (ใช้เวลาประมาณ ๕ นาท)ี

๓ นักเรียนแต่ละกลุม่ นาเสนอภาพและรายละเอยี ดของภาพ

ขั้นสอน


๔๖๖

๑. ครูชีแ้ จงนักเรียนถงึ หลักสาคัญของการเขียนแนะนาสถานทีส่ าคัญวา่ มอี งคป์ ระกอบใดบ้าง
โดยครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรปู้ ระกอบการเรยี นรู้

๒. ครูอ่านตวั อย่างการเขียนแนะนาสถานทสี่ าคญั ให้นกั เรยี นทกุ คนฟังเพือ่ เป็นตวั อยา่ งในการ
เขียนบรรยาย

๓. ครูแจกใบงาน เร่ือง การเขยี นแนะนาสถานที่สาคัญ เพ่ือฝึกใหน้ กั เรยี นไดใ้ ชท้ ักษะการเขียน
ในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด และประสบการณใ์ นสถานท่ีต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้ถอ้ ยคาภาษาท่ีเหมาะสม
กับรปู แบบ

ขน้ั สรุป
นกั เรยี นร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั หลักการเขียนแนะนาสถานท่สี าคัญ

๖. สื่อ /แหลง่ เรียนรู้
๑. ภาพสถานทีส่ าคญั
๒. ใบความรู้ เรอ่ื ง การเขียนแนะนาสถานที่สาคัญ
๓. ใบงาน เรอ่ื ง การเขียนแนะนาสถานที่สาคญั
๔. ตัวอยา่ งการเขยี นแนะนาสถานสาคัญ

๗. วัดผลประเมินผล

วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงาน เรื่อง การเขยี นแนะนาสถานท่สี าคญั ใบงาน เรื่อง การเขยี นแนะนาสถานที่สาคญั ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ
๖๐ ข้ึนไป
สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี น แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียน
ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์

ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์


๔๖๗

บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรียนรู้

๑. ดา้ นความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๒. ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓. ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์/คา่ นยิ ม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๕. ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๖. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการแก้ปญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ………………………………………ครปู ระจาวิชา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………

๗. ความคิดเห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ………………………………………ผู้อานวยการสถานศึกษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………


๔๖๘

ใบความรู้ เรือ่ ง การเขยี นแนะนาสถานท่สี าคัญ
หนว่ ยท่ี ๕ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗ การเขยี นแนะนาสถานที่สาคญั
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑

ความหมายการเขยี นแนะนาสถานท่สี าคัญ
การเขียนแนะนาสถานท่สี าคญั เป็นการเขยี นเลา่ เหตกุ ารณใ์ ดเหตกุ ารณ์หน่ึงท่เี กดิ ขนึ้ เพอ่ื ใหผ้ ู้อ่านเห็น

ภาพ เหตกุ ารณ์ ลาดบั เวลา สถานที่ บุคคล ผู้เขยี นควรกล่าวถงึ เหตกุ ารณใ์ ห้ชดั เจน โดยมีขอ้ มลู และเนื้อหาสา
ระของเรอื่ งทจี่ ะแสดงความคดิ

จุดมงุ่ หมายของการเขยี นแนะนาสถานที่สาคัญ
การเขียนแนะนาสถานทสี่ าคัญใชแ้ สดงความคิดเห็นได้หลายรปู แบบ เป็นการเขียนเล่าขอ้ เท็จจริงหรอื

รายละเอียดของเร่อื งตามท่ีเปน็ อยู่โดยคานงึ ถงึ ความตอ่ เน่ืองและรายละเอยี ดของเร่อื ง บคุ คลหรือสถานทน่ี ัน้ ๆ

ขอ้ สังเกตการเขยี นแนะนาสถานทส่ี าคัญ
การเขยี นแนะนาสถานท่ีสาคญั เป็นการเขียนที่ต้องสามารถใช้เปน็ หลักฐานอ้างองิ ได้ มสี ถานที่ บุคคล

จริง ไมม่ ีการสอดแทรกอารมณห์ รือความรู้สึกลงไปในงานเขยี น


๔๖๙

ใบงาน เร่อื ง การเขยี นแนะนาสถานที่สาคัญ
หนว่ ยที่ ๕ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗ การเขยี นแนะนาสถานทีส่ าคัญ
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑

คาชี้แจง จงเขยี นแนะนาสถานทสี่ าคญั ในจังหวัดประจวบครี ขี ันธ์ (เลอื กเอง) ติดภาพและเขยี นลงในชอ่ งวา่ งท่ี
กาหนดให้ (๑๐ คะแนน)


๔๗๐

ตวั อยา่ งการเขยี นแนะนาสถานที่สาคญั
หนว่ ยท่ี ๕ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๗ การเขียนแนะนาสถานท่สี าคัญ
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๑

วดั วชิรธรรมสาธติ วรวหิ าร: วัดประจารัชกาลท่ี ๑๐

วดั วชริ ธรรมสาธติ วรวหิ าร หรือวดั ทงุ่ สาธติ วดั ประจารชั กาลที่ ๑๐ นน้ั ตงั้ อย่แู ขวงบางจาก เขตพระ
โขนง กรงุ เทพมหานคร สรา้ งขึ้นประมาณพุทธศักราช ๒๓๙๙ โดยคหบดชี าวลาวช่อื นายวันดี ที่อพยพมาจาก
เวยี งจันทน์ แต่เมอ่ื คหบดที ่านนถี้ งึ แกก่ รรม รวมถงึ เจา้ อาวาสรูปสุดท้ายมรณภาพ ทาใหไ้ ม่มใี ครสืบสานตอ่ จน
กลายเป็นวดั ร้าง

จากวัดรา้ งกลางทุ่ง มแี ต่กองอิฐ กองปูน ซากปรกั หกั พัง ภายในเวลา ๒ ปี กลบั กลายเปน็ วัดที่สวยงาม
สงบ รม่ ร่ืน ทาใหเ้ ปน็ ท่เี คารพและเล่อื มใสของชาวพระโขนงเปน็ อย่างมาก ด้วยพระอาจารย์สาธิต ฐานวโร
มใี จเคารพในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ผทู้ รงเป็นองค์เอกอคั ร-
ศาสนูปถมั ภก และเพอื่ เป็นการถวายความจงรักภกั ดี ท่านจึงขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าตถวายวัดท่งุ
สาธติ แด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟา้ วชิราลงกรณ (พระอสิ รยิ ยศในขณะนนั้ ) และเมื่อวันท่ี ๙ กนั ยายน
พทุ ธศักราช ๒๕๐๘ รัชกาลท่ี ๙ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลกู ยาเธอ เจ้าฟา้ วชริ าลงกรณ ทรงรบั วดั ทุ่ง
สาธติ ไวใ้ นพระอุปถัมภพ์ ร้อมไดพ้ ระราชทานนามวดั ใหมว่ ่า “วัดวชิรธรรมสาธิตวรวหิ าร”


๔๗๑

แบบประเมนิ การเขยี นแนะนาสถานท่ีสาคัญ
คาชแี้ จง ครูประเมินพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขียนแนะนาสถานทส่ี าคัญ และใหค้ ะแนนลงในชอ่ งทต่ี รง

กับพฤติกรรมของนกั เรียน

เลขที่ ชื่อ – สกลุ อักขร ิวธี รวม สรปุ ผล
การ ัจดลา ัดบข้อความ การประเมิน
การใ ้ช ้ถอยคา
เน้ือหา
ความสะอาดเ ีรยบ ้รอย

๔ ๔ ๓ ๒ ๒ ๑๕ ผ่าน ไมผ่ า่ น

เกณฑก์ ารตัดสนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป

คะแนน ๑๔-๑๕ หมายถงึ ดมี าก
ดี
คะแนน ๑๑-๑๓ หมายถึง พอใช้

คะแนน ๘-๑๐ หมายถงึ ปรับปรงุ

คะแนน ๐-๗ หมายถึง

ลงช่ือ ..............................................ผู้ประเมนิ
(.........................................................)

................./............................/....................


๔๗๒

เกณฑ์การประเมินการเขยี นแนะนาสถานทีส่ าคญั

ประเดน็ ระดับคุณภาพ
การประเมนิ
๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรุง)
อักขรวิธี
เขยี นสะกดคาถูกตอ้ ง เขยี นสะกดคาผิด เขยี นสะกดคาผิด เขียนสะกดคาผิด
ทุกคา จานวน ๑-๒ ค า จานวน ๓-๔ คา ๕ คาขนึ้ ไป

การจัดลาดับ จดั ลาดับข้อความ จัดลาดบั ข้อความได้ จดั ลาดบั ขอ้ ความ จดั ลาดับขอ้ ความ
ขอ้ ความ ไดต้ อ่ เนือ่ งและ
ต่อเนอ่ื งกัน ไดแ้ ตย่ งั ขาด วกวน สับสน
มเี อกภาพ
ความต่อเนอื่ ง ขาดความต่อเนอ่ื ง

การใชถ้ อ้ ยคา การใชถ้ อ้ ยคา มกี ารเลือกสรรคาได้ มีการเลือกสรรคา การเลอื กใช้ถอ้ ยคา
ถูกตอ้ งเหมาะสม อย่างถกู ตอ้ ง
เนอ้ื หา สละสลวย ไดแ้ ต่ยังขาดความ ไมเ่ หมาะสมกบั
เน้ือหาตรงประเดน็ เนื้อหาตรงประเดน็
ความสะอาด ครบถ้วน ตามท่ี ส่วนใหญ่ สละสลวย เนอ้ื งเรอื่ ง
เรยี บร้อย กาหนด
สะอาดเรียบร้อย สะอาดเรียบรอ้ ยดี เน้อื หาน่าสนใจ เนอ้ื หาไม่นา่ สนใจ
ดมี าก ดึงดดู ใจ สอดคล้อง ไมส่ อดคลอ้ ง กบั
กับภาพบางสว่ น ภาพ

สะอาดเรียบรอ้ ย มีข้อบกพรอ่ งของ

แสดงถึงความตงั้ ใจ ผลงาน มรี อยลบ

ไมม่ รี อยลบ ขดี -ฆา่ หลายแหง่

ขีด-ฆ่าข้อความ

เกณฑ์การตัดสิน หมายถงึ ดมี าก
หมายถงึ ดี
คะแนน ๑๔-๑๕
คะแนน ๑๑-๑๓ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๘-๑๐ หมายถงึ ปรับปรุง
คะแนน ๐-๗


๔๗๓

แผนการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑
หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ สรา้ งสรรค์บทกวี เวลา ๑๒ ช่ัวโมง

แผนการเรียนรทู้ ่ี ๘ การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อในชวี ิตประจาวัน เวลา ๑ ชั่วโมง

สอนวันท่ี เดอื น พ.ศ. ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5

ครูผู้สอน นางสาวชาลสิ า หาญกจิ ตาแหนง่ ครู

๑. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสือ่ สาร เขียนเรียงความ ย่อความและเขียนเร่ืองราวใน
รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

ตัวชว้ี ัด
ม.๑/๒ เขยี นส่ือสารโดยใช้ถอ้ ยคาถกู ต้อง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย
ม.๑/๙ มมี ารยาทในการเขียน

๒. สาระสาคญั
การเขียนเป็นการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความรสู้ ึก และความตอ้ งการของผู้เขียนให้ผู้อื่นทราบเป็น

ลายลักษณ์อักษร การเขียนจะประสบผลสาเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นอย่างดีหรือไม่ข้ึนอยู่กับความมุ่ง
หมายของการเขียน หลักในการเขียน วิธีการเขียน การใช้ภาษาในการเขียนตลอดจนเนื้อหาที่เหมาะสมกับ
ผอู้ า่ นเปน็ สาคัญ

๓. จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑. นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับการเขียนแสดงความคิดเหน็ จากส่อื ในชีวิตประจาวัน
๒. นกั เรียนเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากสอ่ื ในชีวิตประจาวนั ได้

๓. นกั เรียนใฝเ่ รียนร้แู ละมีความม่งุ มัน่ ในการทางาน

๔. สาระการเรียนรู้
การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากสอ่ื ในชวี ติ ประจาวนั

๕. การจัดกระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้นั นา
๑. ครูคดั เลอื กประเด็นข่าวในสงั คมปัจจุบนั มาอา่ นให้นกั เรยี นฟงั

๒. นักเรียนร่วมกนั พูดแสดงความคดิ เห็นจากประเด็นข่าวที่ได้ฟัง

ข้ันสอน

๑. ครแู จกตัวอย่างข่าว ใหน้ ักเรยี นคนละ ๑ แผ่น แลว้ ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาข่าวนน้ั (ใช้เวลา
ประมาณ ๕ นาที)

๒. ครสู ่มุ นักเรยี นให้พดู แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั ข่าวทีไ่ ดฟ้ งั
๓. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ เรือ่ ง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสอ่ื ในชวี ติ ประจาวนั


๔๗๔

๔. ครอู ภิปรายซกั ถามความรู้และอธิบายเพ่มิ เติม
๕. ครใู หน้ ักเรียนฝึกเขยี นวเิ คราะห์ข้อเท็จจริงและขอ้ คิดเหน็ และแสดงความคดิ เห็นจากใบงานท่ี
แจกให้
๖. ครสู ุม่ นักเรียนนาเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน
ขั้นสรปุ
๑. นักเรียนร่วมกันสรุปความคิดรวบยอดเรื่อง การเขียนแสดงความคิดเห็นจากส่ือใน
ชีวิตประจาวนั
๒. ครูมอบหมายชิน้ งานใหน้ กั เรียนคดั เลือกข่าวทส่ี นใจแลว้ เขียนแสดงความคดิ เห็น

๖. สื่อ /แหล่งเรียนรู้
๑. ตัวอยา่ งขา่ วจากหนงั สือพมิ พ์
๒. ใบความรู้ เรอ่ื ง การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากสอ่ื ในชีวติ ประจาวัน
๓. ใบงาน เรอื่ ง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสอ่ื ในชีวติ ประจาวนั

๗. วดั ผลประเมินผล

วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์

ตรวจใบงาน เร่อื ง การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จาก ใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จาก ผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ

สื่อในชวี ิตประจาวนั ส่อื ในชีวติ ประจาวนั ๖๐ ข้ึนไป

สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี น ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
ประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์


๔๗๕

บันทกึ หลงั แผนการจดั การเรยี นรู้

๑. ด้านความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๒. ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์/คา่ นยิ ม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. ดา้ นอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมท่มี ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ ม)ี )
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๕. ปัญหา/อปุ สรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๖. ข้อเสนอแนะ/แนวทางการแก้ปัญหา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………ครปู ระจาวชิ า
(…………………………………………….)
…………/…………/…………

๗. ความคดิ เห็นของผู้อานวยการสถานศกึ ษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ………………………………………ผ้อู านวยการสถานศึกษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………


๔๗๖

ใบความรู้ เร่อื ง การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากสอ่ื ในชวี ติ ประจาวัน
หนว่ ยท่ี ๕ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๘ การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากส่อื ในชีวติ ประจาวัน

รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑

ความหมายของการเขียนแสดงความคิดเหน็
การเขยี นแสดงความคิดเหน็ คอื การเขียนท่ปี ระกอบดว้ ยขอ้ มลู ที่เปน็ ขอ้ เท็จจรงิ กับการแสดงความ

คิดเห็นต่อเรอ่ื งใดเร่ืองหน่งึ ความคดิ เห็นนัน้ ควรจะมีเหตุผลและเป็นไปในทางสรา้ งสรรค์
หลักการเขยี นแสดงความคิดเหน็

๑. การเลือกเรอื่ งผเู้ ขียนควรเลอื กเรอ่ื งที่เปน็ ทน่ี า่ สนใจของสงั คมเป็นเร่อื งทีพ่ น้ สมยั อาจเกยี่ วกับ
เหตุการณ์ทางการเมอื ง เศรษฐกิจ สงั คม ศาสนา ศลิ ปะ วทิ ยาศาสตร์ หรือขา่ ว เหตกุ ารณ์ประจาวัน ทง้ั น้ี
ผเู้ ขยี นแสดงความคดิ เห็นควรจะมคี วามรู้และความเข้าใจเรอื่ งท่จี ะแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งลึกซ้งึ

๒. การใหข้ ้อเท็จจริง ขอ้ มูลท่เี ลอื กมานั้นจะต้องมรี ายละเอียดตา่ ง ๆ เช่น ทีม่ าของเรื่อง ความสาคัญ
และเหตุการณ์ เป็นต้น

๓. การแสดงความคิดเหน็ ผเู้ ขียนอาจแสดงความคิดเหน็ ได้ ๔ ลักษณะ คอื
๑) การแสดงความคิดเห็นเพอ่ื ตง้ั ขอ้ สังเกต เช่น การรักษาสุขภาพของคนสมยั ใหม่
๒) การแสดงความคิดเหน็ เพือ่ สนบั สนนุ ขอ้ เท็จจริง เช่น การใชเ้ ทคโนโลยีในทางท่ีผิดของ

วัยรนุ่
๓) การแสดงความคิดเห็นเพือ่ โตแ้ ย้งขอ้ เทจ็ จริง เชน่ การกนิ ยาลดความอว้ นของวัยรนุ่
๔) การแสดงความคดิ เหน็ เพ่อื ประเมินคา่ เช่น การวิจารณเ์ ร่ืองส้นั ทไ่ี ด้รบั รางวัล

การเรยี บเรียง
๑) การต้งั ช่อื เรอ่ื ง ควรตง้ั ช่ือเรือ่ งใหเ้ ร้าความสนใจผอู้ ่านและสอดคล้องกบั เน้อื หาทจี่ ะเขียน

เพราะชื่อเรอื่ งเป็นส่วนทผ่ี อู้ ่านจะต้องอา่ นเปน็ ลาดบั แรกและเป็นการบอกขอบเขตของเร่อื งด้วย
๒) การเปดิ เร่ืองใช้หลกั การเขยี นเช่นเดียวกบั การเขียนคานาและควรเปดิ เร่อื งใหน้ ่าสนใจชวน

ให้ผูอ้ ่านตดิ ตาม
๓) การลาดับเรื่อง ควรลาดับเรอ่ื งใหม้ ีความต่อเนื่องสามารถแยกแยะได้ว่าสว่ นใดเป็น

ข้อเท็จจริงและสว่ นใดเป็นการแสดงความคดิ เห็น
๔) การปดิ เร่ืองใชห้ ลักการเช่นเดียวกบั การเขียนสรปุ และควรปิดเร่อื งใหผ้ อู้ า่ นประทับใจ

การใชภ้ าษา
ควรใชภ้ าษาอย่างสละสลวย ชดั เจน ไม่เยิน่ เยอ้ มีการใช้สานวนโวหารอย่างเหมาะสมกับเรือ่ ง

นอกจากนีย้ ังตอ้ งใชค้ าท่สี ือ่ ความหมายไดต้ รงตามอารมณ์ของผู้เขยี น ทงั้ นี้พึงหลกี เลย่ี งการใชถ้ ้อยคาท่แี สดง
อารมณร์ นุ แรงซง่ึ อาจกอ่ ให้เกิดความขัดแยง้ อย่างรนุ แรงตามมาในภายหลัง


๔๗๗

ใบงาน เรื่อง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสือ่ ในชีวิตประจาวัน
หน่วยที่ ๕ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๘ การเขียนแสดงความคิดเห็นจากสอ่ื ในชวี ิตประจาวัน

รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑

คาชี้แจง ให้นักเรยี นอ่านขา่ วทางซ้ายมือแล้วเขยี นแสดงความคดิ เหน็ ลงในชอ่ งว่างท่กี าหนดให้

ส่อื ทุกสานกั รายงานตรงกนั วา่ เจ้าหนา้ ท่ี กลุ่มนกั ดานา้ ได้พบตัวน้อง ……………………………………………………
……………………………………………………
นักฟตุ บอลทีมหมูปา่ ครบทง้ั ๑๒ คน พร้อมโคช้ รวมเปน็ ๑๓ ชวี ติ แล้ว ……………………………………………………
โดยทุกคนปลอดภยั ดี ……………………………………………………
……………………………………………………
หลงั การรอคอย ๒๒ ชว่ั โมง ในที่สุดหนว่ ยซลี ก็บุกเข้าไปพบน้อง ๆ ……………………………………………………
เมือ่ เวลา ๒๒.๑๕ น. คนื วันจันทรท์ ่ี ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ บรเิ วณเลยจาก ……………………………………………………
หาดพทั ยาไปประมาณ ๔๐๐ เมตร ซึ่งเดก็ ๆ ทุกคนปลอดภยั จากน้ัน ……………………………………………………
……………………………………………………
นายณรงค์ศักด์ิ โอสถธนากร ผวู้ ่าราชการจังหวัดเชียงรายได้แถลงยืนยนั ……………………………………………………
อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงเฮดว้ ยความดีใจจากผู้เกีย่ วข้องดังกกึ ก้อง ……………………………………………………
……………………………………………………
"หลังดาน้าถึงพัทยาบีช ปรากฏวา่ นา้ ท่วม ทหารจงึ ไดเ้ ดินไป อีก ๔๐๐ ……………………………………………………
เมตร จึงได้พบกับเด็ก ๆ ท้ัง ๑๓ คนอยบู่ นโขดหิน" ผูว้ า่ ฯ เชียงรายกลา่ ว
โดยรวมเวลาที่เดก็ หายไป ๙ วัน ๕ ชม. ๔๑ นาที ๑๕ วนิ าที พลเอก ……………………………………………………
……………………………………………………
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรีได้แสดงความยินดที ่ีเจ้าหน้าที่พบตัว ……………………………………………………
เยาวชนและโค้ชทีมฟตุ บอลหมูปา่ อะคาเดมแี ม่สายทัง้ ๑๓ คนในสภาพ ……………………………………………………
……………………………………………………
ทปี่ ลอดภัย พร้อมขอบคุณเจ้าหนา้ ท่ที ุกฝ่าย โดยเฉพาะหนว่ ยซีล รวมทง้ั
พลเรอื น ตารวจ ทหาร พนี่ ้องประชาชน จิตอาสาชาวไทยและตา่ งประเทศ ……………………………………………………
และสือ่ มวลชน ท่รี ว่ มมอื รว่ มใจกนั สนบั สนนุ ใหป้ ฏบิ ตั ิการคน้ หาในคร้งั น้ี ……………………………………………………
……………………………………………………
ประสบความสาเร็จด้วยดี นายกรัฐมนตรี ยา้ วา่ เหตกุ ารณน์ แ้ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ……………………………………………………
ความเป็นหนงึ่ เดยี วกนั ของคนไทย ถ้าทุกคนตั้งใจทาอะไรกจ็ ะสาเรจ็ ได้
……………………………………………………
ภายใต้ร่มพระบารมขี องสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวรชั กาลท่ี ๑๐

ท่มี า: สานักขา่ วอัมรินทร์


๔๗๘

ตัวอยา่ งข่าวจากหนงั สอื พมิ พ์ เร่ือง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสอื่ ในชีวติ ประจาวนั
หน่วยท่ี ๕ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๘ การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่อื ในชีวิตประจาวนั

รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑

"โครงการเมาไม่ขบั "
ในชว่ งสงกรานตท์ ผ่ี า่ นมานน้ั "โครงการเมาไม่ขับ" ไดม้ ผี ลดตี ่อผูท้ ่ีเคยดื่มแอลกอฮอล์แลว้ ขับ ทาให้ผู้

ขับระวังตวั เองในการด่มื แตจ่ านวนผู้ท่ีเสียชีวิตและผูท้ ีบ่ าดเจ็บจากการเกิดอุบตั ิเหตุ ไมไ่ ด้มจี านวนนอ้ ยลง
อาจเป็นเพราะเมอ่ื ผูข้ ับทราบว่าจะมีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอลท์ ี่ใดกจ็ ะเล่ยี งไปใช้เส้นทางอ่นื แทน จงึ เปน็
หนา้ ท่ขี องเจ้าหน้าท่ีตารวจท่ีจะตอ้ งเปลีย่ นสถานทต่ี ั้งด่านไปเรอ่ื ย ๆ

อย่างไรกต็ ามอบุ ัตเิ หตทุ ่ีเกิดข้ึนไม่ไดม้ าจากสาเหตุเพราะเมาแล้วขับเพียงอยา่ งเดียวเท่านั้น แต่การขับ
รถประมาทกเ็ ป็นสาเหตหุ น่งึ ทท่ี าใหเ้ กิดอบุ ัติเหตไุ ด้เช่นกนั เพราะการด่ืมแอลกอฮอล์ทาใหข้ าดสติในการควบคุม
ตนเองซง่ึ ในชว่ งสงกรานตท์ ่ีผ่านมานน้ั มีประชาชนเดนิ ทางกลบั ต่างจงั หวัดเปน็ จานวนมาก ทาใหก้ ารจราจร
แออัดซ่ึงผู้ท่ดี ืม่ แลว้ ขับจนเกิดอุบัตเิ หตนุ ้นั ทาให้ผู้อน่ื เดอื ดร้อนไปดว้ ยเพราะสาเหตกุ ารเมาเป็นเหตุใหผ้ อู้ ่นื
บาดเจ็บ หรอื บางรายอาจถึงข้นั เสยี ชีวติ หรอื พกิ ารตลอดชีวติ ทางทดี่ ีทกุ คนควรช่วยกันคนละไมค้ นละมอื มี
นา้ ใจและสานกึ ดที ่ีจะทาใหส้ งั คมนา่ อย่ขู ้ึน และไมม่ ผี ูท้ ีเ่ ดือดร้อนเพราะการกระทาของคนอน่ื อีกดว้ ย


๔๗๙

แบบประเมินการเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากสื่อในชวี ติ ประจาวัน
คาช้ีแจง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากสอื่ ในชวี ติ ประจาวนั และให้

คะแนนลงในช่องที่ตรงกับพฤตกิ รรมของนกั เรยี น

การใช้ภาษา
เนื้อหา
ความสะอาดเ ีรยบ ้รอย
เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ รวม
สรุปผลการประเมิน

๔ ๔ ๒ ๑๐ ผา่ น ไม่ผ่าน

เกณฑก์ ารตัดสนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป

คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ ดีมาก
ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ
พอใช้
คะแนน ๕-๖ หมายถงึ ปรบั ปรุง

คะแนน ๐-๔ หมายถงึ

ลงชอ่ื ..............................................ผปู้ ระเมนิ

(.........................................................)
................./............................/....................


๔๘๐

เกณฑ์การประเมินการเขยี นแสดงความคิดเห็นจากสื่อในชวี ติ ประจาวัน

ประเด็น ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ
การประเมิน มีการเลือกสรรคา
การใช้ภาษา ได้อย่างถูกต้อง ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)
สละสลวย ใช้ภาษา มีการเลือกสรรคา การเลือกใช้ถ้อยคา เลือกใช้ถ้อยคายัง
เนื้อหา แสดงความคิดเห็น ได้ดีแต่ยังขาดความ ไม่เหมาะสมกับ ไม่ถูกต้อง และไม่มี
ตรงประเด็น สละสลวยในการใช้ เนื้อเรื่อง แต่ การใช้ภาษาเพ่ือ
ความสะอาด ภาษา และมีการใช้ มีการใช้ภาษา แสดงความคิดเห็น
เรียบร้อย ตรงประเด็น ภาษาแสดงความ แสดงความคิดเห็น
สอดคล้องกับเร่ือง คิดเห็น

สะอาดเรียบร้อย ดี ตรงประเด็น แต่ขาด ตรงประเด็น แต่ เนื้อหาไม่ตรง
มาก
เอกภาพของเนื้อหา ขาดเอกภาพของ ประเด็น และ

๑-๒ แห่ง เน้ือหา ๓-๔ แห่ง ขาดเอกภาพ

สะอาดเรียบร้อย ดี สะอาดเรียบร้อย มีข้อบกพร่องของ
แสดงถึงความตั้งใจ ผลงาน มีรอยลบ
ไม่มีรอยลบ ขีด-ฆ่าหลายแห่ง

ขีด-ฆ่าข้อความ

เกณฑ์การตัดสิน หมายถึง ดมี าก
คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๕-๖
คะแนน ๐-๔ หมายถงึ ปรบั ปรงุ


๔๘๑

แผนการจดั การเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๕ สร้างสรรคบ์ ทกวี เวลา ๑๒ ชว่ั โมง

แผนการเรียนรู้ท่ี ๙ การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากหนงั สือนอกเวลา เวลา ๑ ชว่ั โมง

สอนวนั ท่ี เดอื น พ.ศ. ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5

ครูผู้สอน นางสาวชาลสิ า หาญกจิ ตาแหน่ง ครู

๑. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความและเขียนเรือ่ งราวใน
รูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ และรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ตวั ชวี้ ัด
ม.๑/๖ เขียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั สาระจากสอ่ื ทไี่ ด้รบั
ม.๑/๙ มีมารยาทในการเขียน

๒. สาระสาคญั
การเขียนเปน็ การถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความรู้สึก และความต้องการของผู้เขียนให้ผู้อ่ืนทราบเป็น

ลายลักษณ์อักษร การเขียนจะประสบผลสาเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นอย่างดีหรือไม่ข้ึนอยู่กับความมุ่ง
หมายของการเขียน หลักในการเขียน วิธีการเขียน การใช้ภาษาในการเขียนตลอดจนเน้ือหาที่เหมาะสมกับ
ผู้อา่ น เปน็ สาคัญ

๓. จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรียนอธบิ ายมคี วามรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับหลกั การเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากหนงั สอื นอกเวลา
๒. นักเรยี นเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากหนังสอื นอกเวลาได้

๓. นกั เรียนใฝเ่ รียนรแู้ ละมีความมงุ่ มั่นในการทางาน

๔. สาระการเรยี นรู้
การเขียนแสดงความคิดเหน็ จากหนงั สอื นอกเวลา

๕. การจัดกระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขัน้ นา
๑. ครูเล่านทิ าน/นิยาย/เรื่องส้นั /ตานาน ให้นกั เรยี นฟัง ๑ เรอ่ื ง (ใชเ้ วลาประมาณ ๕ นาท)ี

๒. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็นจากเรอ่ื งท่ไี ด้ฟงั

ขั้นสอน

๑. ครนู าหนังสอื นอกเวลาระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ มาให้นักเรียนอา่ นในช่วั โมง (ครูอาจเปน็
ผ้พู จิ ารณาเลอื กเรอ่ื งท่มี คี วามเหมาะสมกบั เวลาและวยั ของนักเรียน)

๒. ครูให้ใบงาน เรื่อง การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากหนังสือนอกเวลา แก่นกั เรยี นเพ่ือใชใ้ น
การทาชน้ิ งาน (อ่านนอกเวลา)


๔๘๒

ขั้นสรุป
ครูและนักเรยี นสรุปประโยชนแ์ ละการเขียนแสดงความคิดเห็นจากหนังสอื นอกเวลา

๖. ส่ือ /แหล่งเรยี นรู้
๑. หนังสอื อา่ นนอกเวลา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑
๒. นทิ าน/นยิ าย/เร่อื งส้นั /ตานาน (ขนาดสน้ั )
๓. ใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากหนงั สอื นอกเวลา

๗. วดั ผลประเมินผล

วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงาน เรอื่ ง การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จาก ใบงาน เรอ่ื ง การเขียนแสดงความคดิ เห็นจาก ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ
หนังสอื นอกเวลา หนังสอื นอกเวลา ๖๐ ขึ้นไป

สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียน ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์

ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์


๔๘๓

บันทึกหลงั แผนการจดั การเรียนรู้

๑. ด้านความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๒. ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านยิ ม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. ดา้ นอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๕. ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๖. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการแกป้ ญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ………………………………………ครูประจาวิชา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………

๗. ความคดิ เหน็ ของผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ………………………………………ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………


๔๘๔

ใบงาน เร่อื ง การเขยี นแสดงความคดิ เห็นจากหนงั สือนอกเวลา
หนว่ ยที่ ๕ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๙ การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากหนังสอื นอกเวลา

รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑
ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑

หนงั สือนอกเวลา เรื่อง…………………………………….

ขอ้ มูลเบ้อื งต้นของหนงั สือนอกเวลา…………………………
ผู้แตง่ ……………………………………………………………………
ปีท่ีพิมพ์…………………………พมิ พ์ครง้ั ที่………………………
จงั หวัดที่พิมพ์…………………………………………………………
โรงพมิ พ…์ ……………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………


๔๘๕

แบบประเมินการเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากหนังสือนอกเวลา
คาชแ้ี จง ครูประเมินพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขียนแสดงความคิดเห็นจากหนังสือนอกเวลา และให้

คะแนนลงในชอ่ งท่ตี รงกบั พฤติกรรมของนกั เรียน

การใช้ภาษา
เนื้อหา
ความสะอาดเ ีรยบ ้รอย
เลขที่ ชอื่ – สกุล รวม
สรุปผลการประเมิน

๔ ๔ ๒ ๑๐ ผา่ น ไม่ผ่าน

เกณฑก์ ารตัดสนิ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป

คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ ดมี าก
ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ
พอใช้
คะแนน ๕-๖ หมายถงึ ปรับปรงุ

คะแนน ๐-๔ หมายถึง

ลงชอื่ ..............................................ผู้ประเมนิ

(.........................................................)
................./............................/....................


๔๘๖

เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากหนังสอื นอกเวลา

ประเด็น ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ
การประเมิน มีการเลือกสรรคา
การใช้ภาษา ได้อย่างถูกต้อง ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)
สละสลวย ใช้ภาษา มีการเลือกสรรคา การเลือกใช้ถ้อยคา เลือกใช้ถ้อยคายัง
เนื้อหา แสดงความคิดเห็น ได้ดีแต่ยังขาดความ ไม่เหมาะสมกับ ไม่ถูกต้อง และไม่มี
ตรงประเด็น สละสลวยในการใช้ เนื้องเรื่อง แต่ การใช้ภาษาเพ่ือ
ความสะอาด ภาษา และมีการใช้ มีการใช้ภาษา แสดงความคิดเห็น
เรียบร้อย ตรงประเด็น ภาษาแสดงความ แสดงความคิดเห็น
สอดคล้องกับเร่ือง คิดเห็น

สะอาดเรียบร้อย ดี ตรงประเด็น แต่ขาด ตรงประเด็น แต่ เน้ือหาไม่ตรง
มาก
เอกภาพของเน้ือหา ขาดเอกภาพของ ประเด็น และ

๑-๒ แห่ง เน้ือหา ๓-๔ แห่ง ขาดเอกภาพ

สะอาดเรียบร้อย ดี สะอาดเรียบร้อย มีข้อบกพร่องของ
แสดงถึงความตั้งใจ ผลงาน มีรอยลบ
ไม่มีรอยลบ ขีด-ฆ่าหลายแห่ง

ขีด-ฆ่าข้อความ

เกณฑก์ ารตัดสิน หมายถึง ดีมาก
คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๕-๖
คะแนน ๐-๔ หมายถึง ปรบั ปรุง


๔๘๗

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๑
เวลา ๑๒ ช่วั โมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ สรา้ งสรรค์บทกวี เวลา ๑ ชว่ั โมง

แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๑๐ การพดู แสดงความคิดเหน็ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5

สอนวันท่ี เดือน พ.ศ. ตาแหนง่ ครู

ครผู ูส้ อน นางสาวชาลสิ า หาญกจิ

๑. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิดและ
ความรูส้ กึ ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

ตัวช้ีวัด
ม. ๑/๓ พดู แสดงความคิดเห็นอยา่ งสร้างสรรค์เกีย่ วกับเรือ่ งทีฟ่ ังและดู
ม. ๑/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดูและการพูด

๒. สาระสาคญั

การพูดเป็น หมายถึงการไม่พูดเท็จ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดคาหยาบ ไม่พูดส่อเสียด พูดแต่เรื่องที่ถูก ท่ี
จรงิ เรอื่ งทเ่ี ปน็ ประโยชน์ พดู แลว้ ผฟู้ งั พงึ พอใจ เหมาะสมกบั กาละ เทศะ

พดู แสดงความคิดเหน็ ระบขุ อ้ เทจ็ จริง ถูกต้อง ตรงประเด็น เชอื่ ถือได้ ครอบคลุมเน้ือหา ข้อคิดเห็น

อยู่บนหลักของเหตุผล ตรงประเด็น ไม่กระทบผู้อื่น บทสรุป ชัดเจน ถูกต้อง ครอบคลุมเนื้อหา การใช้
นา้ เสยี ง กริ ยิ าการพดู แสดงมติ รไมตรี รกั ษาเวลาตามทีก่ าหนด/ เหมาะสม

๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรียนพูดแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งสร้างสรรคไ์ ด้

๒. นักเรียนประโยชน์ของการพูดแสดงความคดิ เหน็ เชงิ สร้างสรรค์
๓. นักเรยี นฝกึ พูดแสดงความคดิ เหน็ เชิงสร้างสรรค์
๔. นกั เรียนใฝเ่ รยี นรแู้ ละมีความมุง่ มน่ั ในการทางาน

๔. สาระการเรียนรู้
การพูดแสดงความคิดเหน็ เชงิ สรา้ งสรรค์

๕. การจดั กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้ันนา
๑. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สนทนาการพูดของผพู้ ูดจากรายการต่าง ๆ ทางส่อื โทรทัศน์ วีดที ัศน์

ข้นั สอน
๑. ครใู หน้ ักเรียนศึกษาใบความรู้ เร่ือง การพูดแสดงความคดิ เหน็ จากนนั้ ครสู นทนาซักถามเร่อื ง

ขอ้ ควรปฏิบัตแิ ละมารยาทในการพูดแสดงความคิดเห็นเชงิ สรา้ งสรรค์
๒. ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ ออกเป็น ๔ กลุ่ม จากนนั้ ใหต้ ัวแทนกล่มุ ออกมาจบั สลากหวั ข้อ

แล้วรว่ มกนั ศกึ ษาขอ้ มลู พร้อมสง่ ตวั แทนออกมาพูดแสดงความคดิ เห็นเชิงสรา้ งสรรค์


๔๘๘

๑) สภาพสถานการณป์ จั จบุ นั
๒) การศกึ ษา
๓) เศรษฐกิจ
๔) ครอบครัว
๓. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายเพิม่ เติม แล้วให้นกั เรยี นจดบันทึก
ข้ันสรปุ
ครสู นทนาซกั ถามเรื่องประโยชนข์ องผู้พูดแสดงความคดิ เหน็ ที่ดี

๖. สื่อ /แหล่งเรียนรู้
ใบความรู้ เรอื่ ง การพดู แสดงความคิดเห็น

๗. วัดผลประเมนิ ผล

วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมินการพูด ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ
๖๐ ขึ้นไป
สังเกตพฤติกรรมการเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี น
ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์

ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์


Click to View FlipBook Version