๓๘๙
แบบของการเขยี นยํอความ
ยอํ คาํ ระพันธ๑ประเภท……….…เรอื่ ง…………ของ……….…ตอน……...จาก…..…..หนงั สือ….…หนา๎ ……
ความวาํ
เน้ือความที่ยอํ …………………………………………….…………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ตวั อยา่ ง
ยอํ ความเรือ่ ง เพ่ือนกนั ของชมัยภร แสงกระจาํ ง จากหนงั สอื เรียนสาระการเรยี นรพ๎ู ื้นฐาน
วิวธิ ภาษา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ ความวํา
เนื้อความท่ยี อํ ………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
๓๙๐
แบบทดสอบเร่อื ง การเขียนยํอความ
หนํวยท่ี ๔ แผนการจดั การเรียนรูท๎ ี่ ๑๒ เรอื่ ง เชย่ี วชาญเขียนยํอความ
รายวชิ าภาษาไทย รหสั ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑
คาํ ชแ้ี จง ให๎นกั เรียน ทําเคร่อื งหมาย X ทับตัวอกั ษรท่ถี กู ต๎อง
๑. ขอ๎ ใดไมใํ ชหํ ลักเกณฑ๑การยอํ ความ
ก. คงคาํ ราชาศพั ท๑ไว๎ ข. ใชค๎ าํ สรรพนามเดิม
ค. ใชส๎ ํานวนภาษาของผูย๎ อํ เอง ง. ถา๎ เป็นร๎อยกรองต๎องถอดคําประพนั ธก๑ ํอน
๒. ข๎อใดกลําวถึงการยํอความถกู ต๎องทส่ี ดุ
ก. การนาํ ขอ๎ ความเดมิ มาตัดตํอให๎สน้ั ลง
ข. การนาประโยคสาํ คัญของเรื่องมาเรยี งตํอกนั
ค. การสรุปสาระสําคญั ดว๎ ยสํานวนภาษาของผ๎ูยํอความ
ง. การนาํ สาระสาํ คญั ของเรื่องเดมิ มาอธิบายขยายความใหมํ
๓. ขอ๎ ความใดกลําวไมํถกู ต๎อง
ก. ใจความท่ยี อํ แล๎วจะเป็นกยี่ อํ หนา๎ ก็ได๎
ข. ถา๎ เป็นรอ๎ ยกรองใหเ๎ ปลีย่ นเป็นภาษาธรรมดา
ค. ถา๎ ไมมํ ชี ่ือเรอื่ งใหใ๎ ชใ๎ จความสําคญั ต้งั ชื่อเร่ือง
ง. ถา๎ เปน็ บทสนทนาต๎องเปล่ียนเป็นแบบเลาํ เรือ่ ง
๔. “ถา๎ เอาออกจากบทเขยี น หรือบทพดู ก็จะเปลีย่ นแปลงสารทั้งหมด และข๎อความท่เี หลืออยอูํ าจเขา๎ กันไมไํ ด”๎
ขอ๎ ความน้ีกลาํ วถงึ ลกั ษณะของสงิ่ ใด
ก. ใจความ ข. พลความ
ค. ข๎อคิดเหน็ ง. ขอ๎ ความแสดงอารมณ๑
๕. ข๎อใดเป็นคาํ นําของยอํ ความประเภทจดหมาย
ก. จดหมายของ……ถึง….ลงวันท…ี่ …ความวํา
ข. จดหมายของ…….ถงึ ……ความวํา
ค. จดหมายของ……ลงวันที่…..ถึง……ความวํา
ง. จดหมายของ…ถงึ ….สงํ วันท่ี……ความวํา
๖. การเขยี นยอํ ความควรใชว๎ ธิ เี ขียนอยาํ งไรจงึ จะดที ส่ี ุด
ก. อาํ นวเิ คราะห๑ไปพรอ๎ มกับเขยี นยอํ ไป
ข. ตีความแตลํ ะยอํ หน๎าแลว๎ นาํ มาเขยี นเรยี งลําดับดว๎ ยสํานวนของตนเอง
ค. อํานจบั ใจความสาํ คญั แล๎วจึงเรียบเรียงเป็นขอ๎ ความด๎วยสาํ นวนตนเอง
ง. ขีดเสน๎ ใต๎ขอ๎ ความท่ีเปน็ ใจความสาํ คญั แลว๎ นํามาเรียบเรียงเขียนใหต๎ ํอเนื่องกัน
๗. ข๎อควรทําในการเรียบเรยี งยํอความคอื ขอ๎ ใด
ก. เรียงใหส๎ ัมพันธต๑ ํอเนอ่ื งกัน
ข. เรียงให๎กลับกันกับเรือ่ งเดิม
ค. เรียงลําดับตามความพอใจขอผู๎ยํอ
ง. เรียงลําดบั เรือ่ งตามแบบเรื่องเดมิ เสมอ
๓๙๑
๘. ยอํ ความควรมีกย่ี ํอหนา๎
ก. ยอํ หน๎าเดียว
ข. เทาํ จาํ นวนยํอหนา๎ ของเนอ้ื เรื่องเดิม
ค. สามยอํ หนา๎ คือ คํานาํ เนอ้ื เร่อื ง สรปุ
ง. สองยอํ หนา๎ คอื ยํอหน๎าคาํ นาํ และยอํ หน๎าเน้ือความซึง่ มกั ยอํ เหลือเพียงยอํ หนา๎ เดียว
๙. ข๎อความใดไมใํ ชปํ ระโยชนข๑ องการยอํ ความ
ก. การเขียนคาํ ตอบขอ๎ สอบ
ข. การตีความบทรอ๎ ยกรอง
ค. การบนั ทึกรายงานการประชมุ
ง. การยอํ ความร๎ูจากหนงั สือเรยี น
๑๐. ข๎อใดสรุปความตํอไปนี้ได๎เหมาะสมทสี่ ดุ
"ความเคารพความอํอนน๎อมนถ้ี ๎าจะพจิ ารณากนั ในแงสํ งั คมก็มีความสาํ คญั อยไูํ มนํ ๎อย เพราะเปน็ ระเบยี บวินยั
ทด่ี งี ามของคนเรา เปน็ เครื่องร๎อยรดั ให๎คนรวมกนั เป็นหมํูเปน็ คณะ กํอให๎เกดิ ความสามัคคแี ละรกั ษาสามคั คีไว๎
ได๎ เพราะเป็นเหตใุ ห๎รักใครเํ มตตากรณุ าตํอกัน ข๎อสาํ คัญอยทํู ีว่ าํ การแสดงความเคารพออํ นน๎อมตํอกนั นั้นตอ๎ ง
แสดงดว๎ ยความบรสิ ทุ ธ์ใิ จจงึ จะบังเกิดผลดี"
ก. ความเคารพความออํ นนอ๎ มกอํ ให๎เกดิ ความสามคั คีในหมํคู ณะ
ข. ความเคารพความออํ นนอ๎ มสาํ คญั สาหรบั การอยรูํ ํวมกนั ในสังคม
ค. ความเคารพความออํ นนอ๎ มเปน็ เครือ่ งร๎อยรดั ใหค๎ นรวมกนั เปน็ หมคํู ณะ
ง. ความเคารพความอํอนน๎อมทีแ่ สดงด๎วยความบริสทุ ธิ์ใจจะบงั เกิดผลดตี ํอสงั คม
เฉลย ขอ๎ ๑ ข. ขอ๎ ๒ ค. ข๎อ ๓ ก. ขอ๎ ๔ ก. ข๎อ ๕ ก.
ข๎อ ๖ ค ข๎อ ๗ ก ข๎อ ๘ ง ขอ๎ ๙ ก ขอ๎ ๑๐ ง
๓๙๒
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๕
สรา้ งสรรค์บทกวี
รหัสวิชา ท๒๑๑๐๑ รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ เวลา ๑๒ ช่ัวโมง
………………………………………………………………………………………….........................................………………………
๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ัญหาในการ
ดาเนินชวี ิต และมนี สิ ยั รักการอา่ น
ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ม.๑/๑ อ่านออกเสียงรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ งเหมาะสมกับเรื่องท่อี า่ น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสือ่ สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียน
เรือ่ งราวในรูปแบบต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ และรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตัวช้วี ดั
ท ๒.๑ ม.๑/๖ เขียนแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สาระจากส่ือที่ไดร้ บั
ท ๒.๑ ม.๑/๙ มีมารยาทในการเขียน
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงั และดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ
ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์
ตวั ชี้วดั
ท ๓.๑ ม.๑/๓ พูดแสดงความคดิ เหน็ อย่างสร้างสรรคเ์ ก่ยี วกับเร่ืองทฟ่ี ังและดู
ท ๓.๑ ม.๑/๖ มมี ารยาทในการฟงั การดู การพดู
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั
ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ
ตวั ชว้ี ัด
ท ๔.๑ ม.๑/๕ แตง่ บทรอ้ ยกรอง
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณค่า
และนามาระยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง
ตวั ช้ีวัด
ท ๕.๑ ม.๑/๑ สรปุ เนือ้ หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ า่ น
๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
อา่ นออกเสียงบทร้อยกรองเรอ่ื งกาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า สรุปเน้ือหาวรรณคดี เร่อื ง กาพย์พระไชยสรุ ยิ า
ฉันทลักษณ์ของคาประพันธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑ และแตง่ คาประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ เขียน
จดหมายกิจธรุ ะ เขยี นแนะนาสถานที่สาคญั เขียนแสดงความคดิ เหน็ จากส่อื ในชวี ติ ประจาวนั และหนังสอื นอก
เวลาได้ถกู ต้องตามหลักการเขียนระบขุ ้อสังเกตและความสมเหตผุ ลของสาร พูดและ เขียนแสดงความ คดิ เหน็
อยา่ งสร้างสรรคจ์ ากเร่ืองทฟ่ี ังหรอื ดู
๓๙๓
๓. สาระการเรียนรู้
ความรู้
๑. หลักการอ่านออกเสยี งร้อยแก้ว
๒. หลกั การอ่านออกเสียงรอ้ ยกรอง
๓. เนอ้ื หาวรรณคดี เรอ่ื ง กาพย์พระไชยสุรยิ า
๔. ฉันทลักษณ์กาพย์ยานี ๑๑
๕. หลกั การแต่งคาประพนั ธ์ประเภทกาพยย์ านี ๑๑
๖. หลักการเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ
๗. หลกั การเขยี นแนะนาสถานทีส่ าคัญ
๘. หลกั การเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่ือในชวี ติ ประจาวัน
๙. หลักการเขียนแสดงความคดิ เหน็ จากหนงั สือนอกเวลา
๑๐. หลักการพดู แสดงความคดิ เห็นเชงิ สรา้ งสรรค์
๑๑. หลกั การเขียนเคา้ โครงโครงงาน
๑๒. หลักการเขยี นรายงานโครงงาน
ทักษะ/กระบวนการ
๑. อ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้ ไดถ้ ูกต้อง
๒. อ่านออกเสียงรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ ง
๓. สรปุ เน้อื หาวรรณคดี เรอ่ื ง กาพย์พระไชยสรุ ิยา
๔. เขยี นแผนผังของฉนั ทลักษณป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑ ไดถ้ ูกต้อง
๕. แต่งคาประพนั ธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ได้ถูกต้อง
๖. เขยี นจดหมายกจิ ธุระได้ถูกต้อง
๗. เขยี นแนะนาสถานที่สาคญั ไดถ้ กู ต้อง
๘. เขียนแสดงความคดิ เห็นจากสอ่ื ในชวี ติ ประจาวันไดถ้ กู ตอ้ ง
๙. เขียนแสดงความคดิ เห็นจากหนังสอื นอกเวลาได้ถูกตอ้ ง
๑๐. เขยี นแสดงความคดิ เห็นเชงิ สร้างสรรค์ได้ถกู ต้อง
๑๑. เขียนเค้าโครงโครงงานไดถ้ กู ต้อง
๑๒. เขียนรายงานโครงงานได้ถูกตอ้ ง
๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๓๙๔
๕. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซอื่ สตั ย์ สุจริต
๓. มีวนิ ัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มน่ั ในการเรยี นรู้
๗. รักความเป็นไทย
๘. จติ สาธารณะ
๖. การประเมินผลรวบยอด
ชิ้นงานหรอื ภาระงาน
ชน้ิ งานหรือภาระงานและเกณฑก์ ารประเมนิ แบบ Rubrics
๓๙๕
แบบประเมินการอ่านออกเสียงร้อยแกว้
คาช้แี จง ครปู ระเมนิ พฤติกรรมของนักเรียนในการอ่านออกเสียงร้อยแกว้ และใหค้ ะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกับ
พฤตกิ รรมของนักเรียน
ัอกขรวิ ีธ
น้าเสียง-อารมณ์
ความ ูถกต้องในการ ่อาน
ุบคลิกท่าทาง
เลขที่ ชือ่ – สกลุ รวม สรปุ ผล
การประเมนิ
๔ ๔ ๔ ๔ ๑๖ ผ่าน ไม่ผ่าน
เกณฑ์การตดั สิน รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป (๑๓ คะแนน)
คะแนน ๑๓ – ๑๖ หมายถงึ ดมี าก
คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถงึ ดี
พอใช้
คะแนน ๕ – ๘ หมายถงึ ปรับปรุง
คะแนน ๐ – ๔ หมายถึง
ลงชอื่ ..............................................ผู้ประเมิน
(.........................................................)
................./............................/....................
๓๙๖
เกณฑก์ ารประเมินการอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแกว้
ประเดน็ ระดับคุณภาพ
การประเมิน
อักขรวิธี ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ )
นา้ เสยี ง ออกเสียงอักขรวิธี ออกเสียงอักขรวิธี ออกเสียงอกั ขรวิธี ออกเสยี งอักขรวิธี
อารมณ์
ตัวสะกด ตวั สะกด ควบกลา้ ตัวสะกด ควบกลา้ ตวั สะกด ควบกลา้
ความถูกต้องในการอา่ น
ควบกล้า ผิดพลาด ๑ แหง่ ผดิ พลาด ๒ แห่ง ผดิ พลาด ๓ แหง่
บคุ ลิกทา่ ทาง
ถูกตอ้ งทุกแหง่ ขึ้นไป
เสยี งดงั ชดั เจน เสยี งดงั พอสมควร เสยี งเบาขาด เสียงเบาขาด
มคี วามไพเราะกบั มคี วามไพเราะ มคี วามไพเราะ มคี วามไพเราะ
เนอ้ื เร่ืองทอี่ า่ น เหมาะสมกับ เหมาะสมกับ เพยี งเล็กน้อย
ลกั ษณะคา ลักษณะคา แตไ่ ม่ค่อย
ประพนั ธ์เป็น ประพนั ธเ์ ป็น เหมาะสมกับ
สว่ นใหญ่ บางส่วน ลักษณะ
คาประพันธ์
การเว้นวรรคตอน การเว้นวรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอน
จังหวะลลี าถูกตอ้ ง ผิด ๑ แหง่ ผิด ๒ แหง่ จงั หวะ ผิดมากกวา่ ๓
สมบูรณ์ จังหวะถูกตอ้ ง ถูกตอ้ งแตข่ าด แหง่ ขน้ึ ไป ขาดทัง้
แตข่ าดลลี า ลีลา จงั หวะและลีลา
มคี วามเชื่อม่นั มีความเช่ือมน่ั มคี วามเชือ่ มน่ั ขาดความเชื่อม่ัน
ท่าทางสัมพนั ธ์ ทา่ ทางไม่สมั พนั ธ์ ลีลา ทา่ ทาง
กบั เนอ้ื เร่อื ง กับเนื้อเร่อื ง แต่งกาย
เหมาะสม แตง่ กายเรยี บรอ้ ย ไม่เหมาะสม
แตง่ กายเรียบร้อย
เกณฑ์การตดั สิน หมายถงึ ดีมาก
คะแนน ๑๓ – ๑๖
หมายถึง ดี
คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๕ – ๘ หมายถึง ปรบั ปรงุ
คะแนน ๐ – ๔
๓๙๗
แบบประเมินการแต่งคาประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑
คาช้แี จง ครูประเมินพฤติกรรมของนักเรียนในการแตง่ คาประพันธป์ ระเภทกาพยย์ านี ๑๑ และให้คะแนนลงใน
ชอ่ งทีต่ รงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น
ลาดับที่ ชือ่ -สกลุ ฉันท ัลกษ ์ณ สรปุ ผล
การใ ้ชคา ัสมผัส รวม การประเมนิ
ความคิดส ้รางสรรค์
เ ื้นอหาตรงประเด็น
การเลือกใช้คา
๔ ๓ ๓ ๓ ๒ ๑๕ ผา่ น ไมผ่ ่าน
เกณฑก์ ารตัดสิน ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป (๑๒ คะแนน)
คะแนน ๑๔-๑๕ หมายถงึ ดีมาก
คะแนน ๑๑-๑๓ หมายถงึ ดี
คะแนน ๘-๑๐ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๐-๗ หมายถงึ ปรับปรงุ
ลงชอื่ ..............................................ผ้ปู ระเมิน
(.........................................................)
................./............................/....................
๓๙๘
เกณฑก์ ารประเมินการแต่งคาประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑
ประเดน็ ๔ (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ ๑ (ปรับปรงุ )
การประเมิน ถูกตอ้ ง ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ถกู ตอ้ ง
ตามฉันทลกั ษณ์
ฉนั ทลกั ษณ์ ถกู ต้อง ถูกต้อง ตามฉันทลกั ษณ์
ตามฉนั ทลักษณ์ ตามฉันทลักษณ์
การใช้คาสมั ผสั มีการใชค้ าสัมผสั มีการใช้คาสมั ผัส มกี ารใชค้ าสัมผสั ไมม่ ี
ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม สระ และสัมผัส บางส่วน การใช้คาสมั ผัส
ตามลักษณะคา พยญั ชนะได้ถกู ตอ้ ง
ประพันธ์
ความคดิ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ มีความคดิ ไม่มคี วามคิด
สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์
ทีน่ ่าสนใจสะทอ้ น นา่ สนใจ สะทอ้ น สร้างสรรค์
แนวความคดิ ใหม่ ความคดิ แต่ไมแ่ ปลกใหม่
เน้อื หา มเี นอื้ หาตรงประเดน็ มเี นอื้ หาตรงภาพ มีเนื้อหาตรงภาพ เน้อื หาไม่ตรง
ตรงประเดน็ เหมาะสมกับภาพ ทกี่ าหนด ทก่ี าหนด ตามภาพที่กาหนด
บางส่วน แตไ่ ม่ชัดเจน
ท่ีกาหนด
การเลือกใช้คา เลือกใชค้ าได้ เลือกใช้คาเหมาะสม มีการเลือกใชค้ า เลือกใช้
อย่างเหมาะสม บางส่วน ไม่เหมาะสมส่วนใหญ่ คาไม่เหมะสม
เกณฑ์การตดั สิน หมายถึง ดีมาก
คะแนน ๑๔-๑๕ หมายถึง ดี
คะแนน ๑๑-๑๓ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๘-๑๐ หมายถึง ปรบั ปรุง
คะแนน ๐-๗
๓๙๙
แบบประเมนิ การเขียนจดหมายกจิ ธุระ
คาชี้แจง ครูประเมินพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ และใหค้ ะแนนลงในช่องท่ีตรงกับ
พฤตกิ รรมของนกั เรยี น
เลขท่ี ช่ือ – สกุล ูรปแบบของจดหมาย สรปุ ผล
เ ้ืนอหาของจดหมาย รวม การประเมิน
การใช้ภาษา
ความเป็นระเ ีบยบ
๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ผ่าน ไม่ผา่ น
เกณฑ์การตดั สนิ ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป (๑๐ คะแนน)
คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถงึ ดมี าก
คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๐-๖ หมายถึง ปรบั ปรงุ
ลงชือ่ .............................................ผปู้ ระเมนิ
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๐๐
เกณฑก์ ารประเมินการเขียนจดหมายกิจธุระ
ประเดน็ การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ
รปู แบบของจดหมาย
กจิ ธรุ ะ ๓ (ดีมาก) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)
เนื้อหาของจดหมาย
เขยี นจดหมายกจิ ธุระ เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ เขยี นจดหมายกิจธรุ ะ
การใช้ภาษา
ความเปน็ ระเบยี บ ถกู ตอ้ งตามรปู แบบ ไมถ่ ูกตอ้ งตามรูปแบบ ไม่ถูกตอ้ งตามรูปแบบ
๑ – ๒ ตาแหน่ง ๒ ตาแหนง่ ข้ึนไป
เน้ือหากระชับ ชดั เจน เน้อื หาขาดความกระชบั เน้ือหาขาดความกระชับ
ถกู ตอ้ งตามวัตถุประสงค์ ไม่ชดั เจน แตย่ งั คง ไมช่ ดั เจน ขาดความ
ของจดหมาย และจ่าหนา้ ความถกู ต้องตาม ถกู ตอ้ งตามวตั ถปุ ระสงค์
ซองถูกต้อง วัตถุประสงค์ของ ของจดหมาย และจ่าหนา้
จดหมาย และจา่ หน้าซอง ซองไมถ่ ูกต้อง
ถูกต้อง
ใช้ภาษาและถ้อยคาใน ใชภ้ าษาและถอ้ ยคาใน ใช้ภาษาและถ้อยคาใน
การเขยี นถูกตอ้ ง ใช้ การเขียนถกู ต้อง ใช้ การเขยี นไม่ถูกต้อง ใช้
ระดับภาษาเหมาะสม ระดับภาษาไม่เหมาะสม ระดบั ภาษาไม่เหมาะสม
ทางานสะอาดเรียบรอ้ ย ทางานสะอาดเรยี บรอ้ ย ทางานขาดความสะอาด
เป็นระเบียบ สะกดคา เปน็ ระเบยี บ สะกดคาผิด ไม่เป็นระเบียบ และ
ได้ถกู ตอ้ งทุกคา ๑-๓ คา สะกดคาผดิ เกิน ๓ คา
ขน้ึ ไป
เกณฑก์ ารตดั สิน หมายถงึ ดมี าก
คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถึง ดี
คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ ปรับปรุง
คะแนน ๐-๖
๔๐๑
แบบประเมนิ การเขยี นแนะนาสถานท่ีสาคญั
คาชีแ้ จง ครปู ระเมนิ พฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขียนแนะนาสถานทส่ี าคัญ และใหค้ ะแนนลงในช่องท่ตี รง
กับพฤตกิ รรมของนักเรียน
เลขที่ ชือ่ – สกุล ัอกขรวิธี รวม สรปุ ผล
การจัดลา ัดบข้อความ การประเมนิ
การใช้ถ้อยคา
เ ้ืนอหา
ความสะอาดเรียบร้อย
๔ ๔ ๓ ๒ ๒ ๑๕ ผา่ น ไมผ่ า่ น
เกณฑก์ ารตดั สนิ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป
คะแนน ๑๔-๑๕ หมายถงึ ดมี าก
ดี
คะแนน ๑๑-๑๓ หมายถึง พอใช้
ปรับปรงุ
คะแนน ๘-๑๐ หมายถึง
คะแนน ๐-๗ หมายถึง
ลงชือ่ ..............................................ผ้ปู ระเมิน
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๐๒
เกณฑก์ ารประเมินการเขียนแนะนาสถานทสี่ าคญั
ประเดน็ ระดบั คุณภาพ
การประเมนิ
๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ )
อักขรวธิ ี
เขียนสะกดคาถกู ต้อง เขียนสะกดคาผิด เขยี นสะกดคาผิด เขียนสะกดคาผิด
ทุกคา จานวน ๑-๒ ค า จานวน ๓-๔ คา ๕ คาขนึ้ ไป
การจดั ลาดับ จดั ลาดบั ขอ้ ความ จดั ลาดับข้อความได้ จัดลาดบั ข้อความ จดั ลาดบั ขอ้ ความ
ข้อความ ไดต้ อ่ เน่ืองและ
ต่อเนื่องกัน ได้แต่ยังขาด วกวน สับสน
มเี อกภาพ
ความตอ่ เนอ่ื ง ขาดความตอ่ เนื่อง
การใชถ้ อ้ ยคา การใช้ถอ้ ยคา มกี ารเลือกสรรคาได้ มีการเลือกสรรคา การเลอื กใช้ถอ้ ยคา
ถูกต้องเหมาะสม อย่างถกู ต้อง
เนอ้ื หา สละสลวย ไดแ้ ตย่ ังขาดความ ไม่เหมาะสมกบั
เนือ้ หาตรงประเดน็ เน้ือหาตรงประเด็น
ความสะอาด ครบถ้วน ตามท่ี สว่ นใหญ่ สละสลวย เนอ้ื งเรือ่ ง
เรียบรอ้ ย กาหนด
สะอาดเรยี บรอ้ ย สะอาดเรยี บร้อยดี เนือ้ หาน่าสนใจ เนื้อหาไมน่ า่ สนใจ
ดมี าก ดึงดูดใจ สอดคลอ้ ง ไม่สอดคลอ้ ง กบั
กับภาพบางสว่ น ภาพ
สะอาดเรยี บร้อย มขี อ้ บกพรอ่ งของ
แสดงถึงความตั้งใจ ผลงาน มีรอยลบ
ไมม่ ีรอยลบ ขดี -ฆา่ หลายแห่ง
ขดี -ฆา่ ข้อความ
เกณฑ์การตัดสิน หมายถึง ดีมาก
คะแนน ๑๔-๑๕ หมายถงึ ดี
คะแนน ๑๑-๑๓ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๘-๑๐ หมายถึง ปรับปรุง
คะแนน ๐-๗
๔๐๓
แบบประเมินการเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากส่ือในชีวิตประจาวนั
คาช้ีแจง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขยี นแสดงความคิดเห็นจากส่อื ในชวี ติ ประจาวนั และให้
คะแนนลงในช่องที่ตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น
การใช้ภาษา
เ ื้นอหา
ความสะอาดเรียบร้อย
เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ รวม
สรุปผลการประเมิน
๔ ๔ ๒ ๑๐ ผ่าน ไม่ผ่าน
เกณฑก์ ารตดั สนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป
คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ ดีมาก
ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ พอใช้
ปรบั ปรุง
คะแนน ๕-๖ หมายถงึ
คะแนน ๐-๔ หมายถงึ
ลงชอ่ื ..............................................ผูป้ ระเมิน
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๐๔
เกณฑ์การประเมนิ การเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากส่ือในชวี ิตประจาวนั
ประเด็น ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ
การประเมิน มีการเลือกสรรคา ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)
การใช้ภาษา ได้อย่างถูกต้อง มีการเลือกสรรคา การเลือกใช้ถ้อยคา เลือกใช้ถ้อยคายัง
สละสลวย ใช้ภาษา ได้ดีแต่ยังขาดความ ไม่เหมาะสมกับ ไม่ถูกต้อง และไม่มี
เนื้อหา แสดงความคิดเห็น สละสลวยในการใช้ เนื้อเร่ือง แต่ การใช้ภาษาเพ่ือ
ตรงประเด็น ภาษา และมีการใช้ มีการใช้ภาษา แสดงความคิดเห็น
ความสะอาด ภาษาแสดงความ แสดงความคิดเห็น
เรียบร้อย ตรงประเด็น คิดเห็น
สอดคล้องกับเร่ือง
ตรงประเด็น แต่ขาด ตรงประเด็น แต่ เน้ือหาไม่ตรง
สะอาดเรียบร้อย ดี
มาก เอกภาพของเน้ือหา ขาดเอกภาพของ ประเด็น และ
๑-๒ แห่ง เน้ือหา ๓-๔ แห่ง ขาดเอกภาพ
สะอาดเรียบร้อย ดี สะอาดเรียบร้อย มีข้อบกพร่องของ
แสดงถึงความต้ังใจ ผลงาน มีรอยลบ
ไม่มีรอยลบ ขีด-ฆ่าหลายแห่ง
ขีด-ฆ่าข้อความ
เกณฑ์การตดั สนิ หมายถึง ดมี าก
คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๕-๖ หมายถงึ ปรับปรุง
คะแนน ๐-๔
๔๐๕
แบบประเมินการเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากหนงั สอื นอกเวลา
คาชแ้ี จง ครูประเมนิ พฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขียนแสดงความคิดเห็นจากหนงั สือนอกเวลา และให้
คะแนนลงในช่องทีต่ รงกบั พฤตกิ รรมของนกั เรียน
การใช้ภาษา
เ ื้นอหา
ความสะอาดเรียบร้อย
เลขที่ ชื่อ – สกลุ รวม
สรปุ ผลการประเมิน
๔ ๔ ๒ ๑๐ ผา่ น ไมผ่ า่ น
เกณฑก์ ารตัดสิน รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป
คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง ดีมาก
ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ พอใช้
ปรบั ปรุง
คะแนน ๕-๖ หมายถึง
คะแนน ๐-๔ หมายถงึ
ลงชอ่ื ..............................................ผู้ประเมิน
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๐๖
เกณฑ์การประเมินการเขยี นแสดงความคิดเหน็ จากหนงั สอื นอกเวลา
ประเด็น ระดับคุณภาพ
การประเมิน
การใช้ภาษา ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง)
เนื้อหา มีการเลือกสรรคา มีการเลือกสรรคา การเลือกใช้ถ้อยคา เลือกใช้ถ้อยคายัง
ความสะอาด ได้อย่างถูกต้อง ได้ดีแต่ยังขาดความ ไม่เหมาะสมกับ ไม่ถูกต้อง และไม่มี
เรียบร้อย
สละสลวย ใช้ภาษา สละสลวยในการใช้ เน้ือเร่ือง แต่ การใช้ภาษาเพ่ือ
แสดงความคิดเห็น ภาษา และมีการใช้ มีการใช้ภาษา แสดงความคิดเห็น
ตรงประเด็น ภาษาแสดงความ แสดงความคิดเห็น
คิดเห็น
ตรงประเด็น ตรงประเด็น แต่ขาด ตรงประเด็น แต่ เนื้อหาไม่ตรง
สอดคล้องกับเร่ือง เอกภาพของเนื้อหา ขาดเอกภาพของ ประเด็น และ
๑-๒ แห่ง เน้ือหา ๓-๔ แห่ง ขาดเอกภาพ
สะอาดเรียบร้อย ดี สะอาดเรียบร้อย ดี สะอาดเรียบร้อย มีข้อบกพร่องของ
มาก แสดงถึงความต้ังใจ ผลงาน มีรอยลบ
ไม่มีรอยลบ ขีด-ฆ่าหลายแห่ง
ขีด-ฆ่าข้อความ
เกณฑก์ ารตดั สนิ หมายถึง ดีมาก
คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๕-๖ หมายถึง ปรบั ปรุง
คะแนน ๐-๔
๔๐๗
แบบประเมนิ การพูดแสดงความคิดเหน็ เชงิ สร้างสรรค์
คาช้แี จง ครปู ระเมนิ พฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการพดู แสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ และให้คะแนนลงใน
ช่องทีต่ รงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น
ูพดตรงประเด็น
ความสร้างสรร ์ค
ความคล่องแคล่ว
ุบคลิกภาพ
เลขที่ ช่ือ-สกุล รวม สรุปผลการประเมนิ
๓ ๓ ๓ ๓ ๑๒ ผ่าน ไมผ่ ่าน
เกณฑก์ ารตดั สนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป
คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถึง ดมี าก
ดี
คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง พอใช้
ปรบั ปรงุ
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ
คะแนน ๐-๖ หมายถึง
ลงชอื่ ..............................................ผูป้ ระเมนิ
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๐๘
เกณฑ์การประเมินการพดู แสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์
ประเด็นการประเมนิ ระดับคะแนน/ระดบั คณุ ภาพ
พูดตรงประเดน็
๓ (ดีมาก) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ )
ความสรา้ งสรรค์ พดู ตรงประเดน็
ความคล่องแคล่ว เรยี งลาดบั เรื่องราว พูดตรงประเด็น เร่อื งราว พดู นอกประเดน็ เร่อื งราว
บคุ ลกิ ภาพ ได้ตามลาดับ ไมว่ กวน
ไมเ่ รียงตามลาดับ วกวน
เนื้อเรอ่ื งมีความ
สร้างสรรค์ นา่ สนใจ เหตกุ ารณ์บา้ ง แตท่ าให้
พูดไดค้ ลอ่ งแคล่ว
แก้ไขปญั หาได้รวดเรว็ เขา้ ใจเรื่องราวได้
มคี วามมน่ั ใจ มที า่ ทาง
ประกอบ เนอื้ เรอ่ื งน่าสนใจ แตย่ ัง เนอ้ื เรื่องไม่แปลกใหม่
ไมแ่ ปลกใหม่
พูดตดิ ขัดบ้าง แตส่ ามารถ พูดตดิ ขัดมาก
แก้ไขปญั หาได้
มีความมัน่ ใจ มที ่าทาง ขาดความมน่ั ใจ
ประกอบเลก็ นอ้ ย ในการพดู
เกณฑก์ ารตดั สิน หมายถึง ดมี าก
คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถงึ ดี
คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ ปรับปรุง
คะแนน ๐-๖
๔๐๙
แบบประเมินการเขียนเคา้ โครงโครงงาน
คาชแ้ี จง ครูประเมินพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขยี นเคา้ โครงโครงงาน และให้คะแนนลงในชอ่ งท่ตี รงกับ
พฤตกิ รรมของนกั เรยี น
รวม สรุปผลการประเมนิ
๔ ๔ ๒ ๑๐ ผ่าน ไม่ผา่ น
เลขที่ ช่ือ-สกุล องค์ประกอบ
ภาษา
ความสะอาด
เกณฑ์การตัดสนิ ร้อยละ ๖๐ ขึ้นไป
คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ ดีมาก
ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถึง พอใช้
ปรับปรุง
คะแนน ๕-๖ หมายถงึ
คะแนน ๐-๔ หมายถงึ
ลงชอ่ื ..............................................ผปู้ ระเมนิ
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๑๐
เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นเค้าโครงโครงงาน
ประเด็น ๔ (ดมี าก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรบั ปรุง)
การประเมิน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ขาดองค์ประกอบ
องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ ขาดองคป์ ระกอบ ขาดองค์ประกอบ สาคญั
ครบถ้วน สาคญั สาคัญ ๓ องคป์ ระกอบ
ภาษา ๑ องคป์ ระกอบ ๒ องคป์ ระกอบ ขน้ึ ไป
ความสะอาด อธิบายขั้นตอน อธบิ ายขัน้ ตอน อธิบายขัน้ ตอน ขัน้ ตอนไม่ชัดเจน
ชดั เจน ใชภ้ าษา ชดั เจน ใช้ภาษา ชัดเจน ใช้ภาษา และใชภ้ าษา
ถกู ต้อง ชัดเจน บกพรอ่ ง ๑ แหง่ บกพร่อง ๒ แหง่ บกพรอ่ ง ๓ แหง่
ขนึ้ ไป
สะอาดเรยี บรอ้ ยดีมาก สะอาดเรยี บร้อยดี สะอาดเรียบรอ้ ย
มรี อยลบ ขดี -ฆ่า
เกณฑก์ ารตดั สนิ หมายถงึ ดีมาก
คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง ดี
คะแนน ๗-๘ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๕-๖ หมายถึง ปรับปรุง
คะแนน ๐-๔
๔๑๑
แบบประเมนิ การเขยี นรายงานโครงการ
คาชแี้ จง ครูประเมนิ พฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขยี นรายงานโครงการ และให้คะแนนลงในช่องท่ีตรงกับ
พฤติกรรมของนักเรยี น
องค์ประกอบ ่สวน ้ตน
เน้ือเร่ือง/ภาษา
่สวน ้ทาย
เลขท่ี ชื่อ – สกลุ รวม สรุปผลการประเมนิ
๔ ๔ ๔ ๑๒ ผ่าน ไมผ่ ่าน
เกณฑก์ ารตดั สิน ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป
คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถึง ดีมาก
ดี
คะแนน ๙-๑๐ หมายถงึ พอใช้
ปรบั ปรงุ
คะแนน ๗-๘ หมายถึง
คะแนน ๐-๖ หมายถงึ
ลงชื่อ ..............................................ผู้ประเมนิ
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๑๒
เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นรายงานโครงงาน
ประเด็นการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ )
มอี งคป์ ระกอบของ
องคป์ ระกอบของ มอี งค์ประกอบของ มีองคป์ ระกอบของ มอี งค์ประกอบ การเขียนรายงาน
ไม่ครบถว้ น
การเขยี นรายงาน การเขียนรายงาน การเขยี นรายงาน ของการเขยี น
โครงงาน สว่ นปก โครงงานครบถ้วน โครงงานครบถว้ น รายงานโครงงาน
และสว่ นตน้ บางสว่ น ยังไม่ครบถว้ น
เน้ือเรอื่ ง การเรียบ การเรียบเรยี งเนอ้ื เร่อื ง การเรียบเรยี งเน้ือเรอ่ื ง การเรยี บเรยี ง การเรียบเรยี งยัง
เรยี ง การใชภ้ าษา
มีการลาดบั ตามหวั ข้อ มีการลาดับตามหวั ขอ้ มกี ารลาดบั ตาม ไม่เปน็ ไปตามลาดบั
สว่ นท้าย
ท่กี าหนดตรงตาม ท่ีกาหนดตรงตาม หัวขอ้ แตย่ งั ไม่ตรง ตามหัวขอ้ ที่กาหนด
วัตถุประสงคข์ อง วัตถปุ ระสงค์ของ ตามวตั ถุประสงค์ และไมต่ รงตาม
โครงการ โครงการ ของโครงการ วัตถุประสงค์
มีองคป์ ระกอบ มีองคป์ ระกอบ มีองค์ประกอบ ขาดองคป์ ระกอบ
สว่ นท้าย ส่วนทา้ ยส่วนเปน็ ใหญ่ ส่วนท้ายบางสว่ น ส่วนทา้ ย
ประกอบด้วย บรรณานกุ รมและ บรรณานุกรมและ บรรณานุกรมและ
บรรณานกุ รมและ ภาคผนวก ภาคผนวก ภาคผนวก
ภาคผนวกครบถ้วน ยังไมค่ รบถว้ น ยังไมค่ รบถ้วน ไมค่ รบถ้วน
เกณฑ์การตดั สิน หมายถงึ ดีมาก
คะแนน ๑๑-๑๒ หมายถงึ ดี
คะแนน ๙-๑๐ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๗-๘ หมายถึง ปรับปรงุ
คะแนน ๐-๖
๔๑๓
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
คาชแ้ี จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงใน
ชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน
ลาดบั ชื่อสกุล- ความมีวนิ ัย ความมีนา้ ใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงตอ่ รวม
ที่ ของผู้รบั การประเมนิ เอื้อเฟื้อ ความคิดเหน็ ความคิดเห็น เวลา ๒๐
เสยี สละ คะแนน
๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑
ลงชอ่ื .................................................... ผู้ประเมนิ
........./ .............................../ ......
เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ ๓ คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ ๒ คะแนน ๑๘ - ๒๐ ดมี าก
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ต่ากวา่ ๑๐ ปรับปรงุ
๔๑๔
แบบประเมนิ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม
ช่อื กลุ่ม ช้ัน
คาชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ ง
ท่ตี รงกับระดับคะแนน
ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน
4321
1 การแบ่งหน้าท่กี นั อย่างเหมาะสม
2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน
3 การแสดงความคดิ เห็น
4 การรบั ฟงั ความคิดเห็น
5 ความมนี า้ ใจชว่ ยเหลอื กนั
รวม
ลงชือ่ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
........./ .............................../ ......
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๔ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ๑๘ - ๒๐ ดมี าก
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั ให้ ๑ คะแนน
๑๔ – ๑๗ ดี
๑๐ – ๑๓ พอใช้
ตา่ กวา่ ๑๐ ปรับปรงุ
๔๑๕
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการท่กี าหนด แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ท่ีตรงกับระดับคะแนน
ระดบั คุณภาพ
ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ๔ ๓๒ ๑
(ดมี าก)
๑ เน้ือหาละเอยี ดชดั เจน (ดี) (พอใช้) (ปรบั ปรงุ )
๒ ความถกู ต้องของเนอื้ หา
๓
๔ ภาษาทีใ่ ชเ้ ขา้ ใจงา่ ย
๕ ประโยชน์ทีไ่ ด้จากการนาเสนอ
วิธกี ารนาเสนอผลงาน
รวม
ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๔ คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ ๓ คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี อ้ บกพร่องบางส่วน ให้ ๒ คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ ๑ คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี อ้ บกพรอ่ งมาก
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ระดบั คุณภาพ
ดมี าก
ชว่ งคะแนน ดี
๑๘ – ๒๐ พอใช้
๑๔ – ๑๗ ปรบั ปรงุ
๑๐ – ๑๓
ต่ากวา่ ๑๐
๔๑๖
แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกับระดบั คะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงคด์ ้าน ๔๓๒๑
๑. รกั ชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยืนตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธบิ าย
ความหมาย
กษัตริย์ ของเพลงชาติ
๒. ซื่อสตั ย์ สุจรติ ๑.๒ ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธิและหน้าทีข่ องพลเมอื ง
๓. มีวินัย ๑.๓ ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น
รบั ผิดชอบ และชมุ ชน
๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๑.๔ เข้าร่วมกิจกรรมและมีสว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมท่ีสร้างความ
๕. อยอู่ ย่าง สามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชมุ ชน และ
พอเพียง สังคม ชื่นชม
ความเปน็ ไทย
๑.๕ เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถือ ปฏิบัตติ นตามหลักของ
ศาสนา
๑.๖ เข้ารว่ มกจิ กรรมและมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับ
สถาบนั
พระมหากษตั รยิ ์ตามทีโ่ รงเรยี นและชุมชนจัดขึน้
๒.๑ ใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ต้อง และเปน็ จริง
๒.๒ ปฏบิ ัตใิ นส่งิ ที่ถูกต้อง ละอาย และเกรงกลัวทจ่ี ะกระทาความผิด
ทาตามสญั ญาทต่ี นให้ไวก้ ับเพื่อน พอ่ แม่ หรือผูป้ กครอง และครู
๒.๓ ปฏิบัตติ นต่อผู้อื่นด้วยความซ่ือตรง ไม่หาประโยชนใ์ นทางท่ไี ม่
ถูกตอ้ ง
๓.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว
โรงเรียน และสงั คม ไมล่ ะเมิดสทิ ธิของผอู้ ่นื ตรงตอ่ เวลาในการ
ปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั และรับผดิ ชอบในการ
ทางาน
๔.๑ แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ
๔.๒ มกี ารจดบันทึกความร้อู ยา่ งเปน็ ระบบ
๔.๓ สรุปความรู้ได้อย่างมเี หตผุ ล
๕.๑ ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด
ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม
๔๑๗
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น ๔๓๒๑
๕.๒ ใช้ทรพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดูแล
อย่างดี
๕.๓ ปฏบิ ตั ติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล
๕.๕ วางแผนการเรียน การทางานและการใชช้ ีวติ ประจาวันบนพืน้ ฐาน
ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร
๕.๖ รเู้ ทา่ ทนั การเปลีย่ นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั
และปรับตัว อยูร่ ว่ มกับผอู้ น่ื ได้อย่างมีความสุข
๖. มงุ่ ม่นั ในการ ๖.๑ เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ที ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
ทางาน ๖.๒ ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการทางานให้สาเร็จ
๖.๓ ปรับปรงุ และพฒั นาการทางานอย่างรอบคอบ
๖.๔ ทมุ่ เท ทางาน อดทน ไมท่ ้อต่อปัญหาและอุปสรรค
๖.๕ พยายามแกป้ ัญหาและอปุ สรรคในการทางานใหส้ าเร็จ
๖.๖ ชื่นชมผลงานความสาเรจ็ ด้วยความภาคภมู ิใจ
๗. รักความเป็นไทย ๗.๑ มีจิตสานกึ ในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย
๘. มจี ติ สาธารณะ ๘.๑ รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน
๘.๒ อาสาทางาน ชว่ ยคิด ชว่ ยทา แบง่ ปันสงิ่ ของ ทรพั ย์สนิ และอนื่ ๆ
และช่วยแก้ปญั หาใหผ้ ู้อน่ื
๘.๓ ดแู ล รักษาทรพั ย์สนิ ของห้องเรียน โรงเรียน ชมุ ชน
๘.๔ เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียนและ
ชมุ ชน
ลงชอื่ .................................................... ผู้ประเมิน
........./ .............................../ ......
เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ ๒ คะแนน ๑๐๔ – ๑๒๔ ดมี าก
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ ๑ คะแนน
๑๘๓ – ๑๐๓ ดี
๖๒ – ๘๒ พอใช้
ต่ากว่า ๖๒ ปรับปรงุ
๔๑๘
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๕ สร้างสรรคบ์ ทกวี เวลา ๑๒ ชัว่ โมง
เวลา ๑ ชวั่ โมง
แผนการเรียนรทู้ ่ี ๑ การอา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้ว
ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖5
สอนวนั ที่ เดอื น พ.ศ.
ตาแหนง่ ครู
ครผู ู้สอน นางสาวชาลิสา หาญกิจ
๑. มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคิด เพอื่ นาไปใชต้ ัดสนิ ใจแกป้ ัญหาในการ
ดาเนินชีวติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น
ตัวช้ีวัด
ม. ๑/๑ อ่านออกเสียงรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ งเหมาะสมกบั เรื่องท่ีอ่าน
๒. สาระสาคญั
การอ่านออกเสยี งรอ้ ยแก้ว เป็นการอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง ชัดเจน และมีลีลาการอ่านเหมาะสมกับ
เนื้อเรื่อง เพื่อถา่ ยทอดอารมณ์ไปส่ผู ู้ฟัง ทาใหเ้ กิดความคลอ้ ยตามไปกับเรอ่ื งราว หรือบทประพันธ์ท่ีอา่ น
๓. จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. นักเรยี นอธิบายหลักการอา่ นออกเสยี งได้ร้อยแกว้ ได้
๒. นักเรยี นอา่ นออกเสียงร้อยแก้วได้ถูกตอ้ ง
๓. นกั เรียนใฝ่เรียนรู้และมีความมุ่งมัน่ ในการทางาน
๔. สาระการเรยี นรู้
การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว
๕. การจดั กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้ันนา
๑. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ าถาม ดังน้ี
๑) อา่ นไดแ้ คง่ ู ๆ ปลา ๆ
๒) อา่ นคล่อง อ่านไมค่ ล่อง
๓) การแบ่งวรรคตอนมคี วามสาคญั อย่างไร
ขนั้ สอน
๑. ครใู หน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่ือง หลักการอ่านออกเสยี ง
๒. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาใบความรู้ เรือ่ ง หลักการอา่ นออกเสยี งร้อยแกว้
๓. ครูนาตัวอยา่ งขอ้ ความมาติดบนกระดาน แล้วอ่านใหน้ กั เรียนฟังและสงั เกตการออกเสียง
ของครใู นประเด็น ดังนี้
๔๑๙
“ผูค้ นในชนบทนน้ั ไมอ่ าจเขา้ ใจภาษาสลับซบั ซ้อนของคนเมอื งได้เวลาคนในเมืองกลา่ วว่าแม่
เปน็ “ขุมทรพั ยแ์ หง่ ความรัก” จึงซบั ซอ้ นเกินไปสาหรบั พวกเขา”
ท่ีมา: เมตตาภาวนา คาสอนวา่ ด้วยรกั
๔) ออกเสียงคาตามอกั ขรวธิ ี
๕) การแบ่งวรรคตอนของข้อความ
๖) การเนน้ เสยี งถ้อยคาหรือข้อความท่เี ปน็ ใจความสาคญั
๗) การใชน้ า้ เสยี งให้สอดคล้องกบั เนือ้ หา
๔. ครจู ับฉลากคัดเลอื กนักเรยี นจานวน ๓ คน ออกมาอา่ นข้อความท่ีครไู ด้เตรียมไวใ้ ห้ และให้
เพือ่ น ๆ ช่วยกันประเมินการอา่ นออกเสยี งและครใู ห้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ
๕. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงาน เร่ือง หลกั การอา่ นออกเสยี ง เมอื่ เสรจ็ เรียบร้อยแล้ว ร่วมกนั เฉลย
ความถกู ตอ้ ง
๖. ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น
ขนั้ สรปุ
๑. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เรอ่ื ง หลกั การอ่านออกเสียงร้อยแกว้ เป็นแผนภาพความคิด
๒. ครูมอบหมายให้นักเรียนทุกคนหาคัดเลือกเน้ือหาที่ตนเองสนใจ แล้วฝึกฝนอ่านออกเสียง
รอ้ ยแก้ว
๖. ส่ือ /แหล่งเรยี นรู้
๑. ตัวอยา่ งคาถาม
๒. แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอื่ ง หลกั การอ่านออกเสียง
๓. แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง หลักการอ่านออกเสยี ง
๔. ใบความรู้ เร่อื ง หลกั การอ่านออกเสียงร้อยแกว้
๕. ตวั อย่างขอ้ ความ
๖. ใบงาน เรื่อง หลักการอา่ นออกเสียง
๗. วัดผลประเมนิ ผล
วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑ์
ทดสอบกอ่ นเรยี นหลงั เรียน- แบบทดสอบกอ่ นเรียนหลงั เรยี น- ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ
๖๐ ข้ึนไป
สังเกตพฤตกิ รรมการอ่าน แบบสงั เกตการอ่านออกเสยี ง
ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
๔๒๐
บันทึกหลงั แผนการจดั การเรียนรู้
๑. ด้านความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๒. ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๓. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ ค่านยิ ม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๔. ดา้ นอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๕. ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๖. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการแกป้ ญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ………………………………………ครูประจาวิชา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………
๗. ความคดิ เหน็ ของผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ………………………………………ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………
๔๒๑
ใบความรู้ เรอื่ ง ความหมายและองคป์ ระกอบของการอ่านออกเสียง
หนว่ ยท่ี ๕ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ การอา่ นออกเสียงรอ้ ยแก้ว
รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
ความหมายของการอา่ นออกเสยี ง
ความหมายของการอา่ นออกเสียง คอื ศลิ ปะในการสื่อสารประสบการณ์ ความคดิ และอารมณ์ของ
ผเู้ ขียนโดยอาศัยอารมณ์ น้าเสียง และสีหน้าท่าทางของผู้อา่ น
๑. องค์ประกอบของการอ่านออกเสยี ง
กระบวนการส่อื สารดว้ ยการอ่านออกเสียงประกอบดว้ ย
๑) ผสู้ ่งสาร คือผูอ้ า่ น
๒) สาร คือข้อความท่ีอา่ น
๓) ผูร้ บั สาร คือผฟู้ ัง
๔) วิธตี ิดตอ่ ส่ือสาร คือการอา่ น
๕) การสนองตอบ คือผลของการสอื่ สารซ่งึ อาจเป็นการปรบมอื การก้มศีรษะ การทาตาม
ฯลฯ
๒. หลกั ในการอ่านออกเสียง
๑) ความเข้าใจบทอา่ น ผูอ้ า่ นจะตอ้ งตีความเข้าใจในบทอา่ น เพอื่ ที่จะถ่ายทอดความเขา้ ใจ
ของตนไปสผู่ ฟู้ งั ได้
๒) การยืนหรือน่ัง ควรยืนหรือนง่ั ในตาแหน่งทอ่ี ยตู่ รงหน้า ตรงกลางของผ้ฟู งั ห่างจากผ้ฟู ัง
พอสมควร การน่งั ตอ้ งนงั่ ให้เรยี บรอ้ ย หลังตรง ไม่ควรน่งั ไขวห่ า้ งหรอื กระดิกขา
๓) การถอื บทอ่าน จบั เอกสารให้มัน่ บทอา่ นไมบ่ ังหน้า
๓. การออกเสียงให้ถูกต้องตามอกั ขรวิธี
- การอา่ นพยญั ชนะ ร กบั ล ผ้อู ่านจะต้องระมัดระวังโดยการอา่ น แยกความแตกต่างให้
ชดั เจน
- การอา่ นพยัญชนะ ร ให้ปลายล้นิ กกั ลมท่ีปมุ่ เหงือก ห่อลิ้นยกตวั ไปท่เี พดานแขง็ รวั ลิ้น
หลายๆ ครั้ง
การอ่านออกเสียงคาควบกล้า
คาควบกลา้ คือ คาท่ีมพี ยัญชนะตน้ ๒ ตัว พยัญชนะตน้ ตวั ที่ ๒ จะต้องเปน็ ร ล หรอื ว การเปลง่ เสียง
คาควบกล้า ตอ้ งออกเสยี งพยัญชนะทงั้ ๒ ตวั ไปพรอ้ มๆ กนั การเปล่งเสียงเพยี งคร้ังเดียว เช่น กรอง กลอง
กวางเปน็ ต้น
การเวน้ วรรคตอนในการอา่ นออกเสียง
ถา้ เว้นวรรคตอนผิด ความหมายจะผิดไปดว้ ย ก่อนที่จะอ่านจะตอ้ งทดลองแบ่งวรรคตอน แบ่งคา
แบง่ ประโยคให้ถกู ตอ้ งกอ่ น ซึง่ อาจใช้เคร่ืองหมาย/แบ่งคา
ทมี่ า: นพดล จนั ทรเ์ พ็ญและคณะ. การใชภ้ าษาไทย. กรุงเทพฯ : ธเนศวรการพมิ พ.์ 2519)
๔๒๒
แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอื่ ง การอา่ นออกเสียง
หนว่ ยท่ี ๕ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑ การอ่านออกเสียงร้อยแกว้
รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑
คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนทาเคร่อื งหมาย ✓ หน้าขอ้ ทีเ่ หน็ ว่าถูก เคร่ืองหมาย x หนา้ ข้อทีเ่ ห็นวา่ ผิด
............. ๑. การอ่านแบง่ วรรคตอนผิดจะทาให้ความหมายผดิ ไป
............. ๒. การฝึกกวาดสายตาไม่จาเปน็ กับการอ่าน
............. ๓. การอ่านออกเสยี งคาควรอา่ นช้าช้าทลี ะคา
............. ๔. การอา่ นออกเสียงตอ้ งอาศัยอารมณ์ น้าเสียง และสีหนา้ ทา่ ทางของผู้อา่ น
............. ๕. การเตรียมตวั อา่ นควรทาความเขา้ ใจกับวตั ถุประสงคข์ องผู้เขยี น
............. ๖. การพูดตามตวั หนงั สือคอื ความหมายของการอ่านออกเสียง
............. ๗. การขีดเครือ่ งหมาย/ไม่จาเป็นในการอ่านออกเสียง
............. ๘. ท่ายืนและนง่ั ไม่มีความจาเป็นในการอา่ น
............. ๙. การอ่านควรมีนา้ เสียงหนกั เบาตามเนื้อหา
............. ๑๐. การปรบมอื การก้มศีรษะเปน็ การตอบสนองการสื่อสาร
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
๑. ✓ ๒. x ๓. x ๔. ✓ ๕. ✓ ๖. ✓ ๗. x ๘. x ๙. ✓ ๑๐. ✓
๔๒๓
แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง การอา่ นออกเสียง
หน่วยท่ี ๕ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ การอ่านออกเสยี งร้อยแก้ว
รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
คาช้แี จง ให้นกั เรียนทาเคร่อื งหมาย ✓ หน้าขอ้ ที่เหน็ ว่าถกู เครอ่ื งหมาย x หนา้ ข้อทเี่ หน็ วา่ ผิด
............. ๑. การพดู ตามตัวหนังสอื คือความหมายของการอ่านออกเสยี ง
............. ๒. การอา่ นแบง่ วรรคตอนผิดจะทาให้ความหมายผิดไป
............. ๓. การอ่านออกเสียงคาควรอา่ นช้าช้าทลี ะคา
............. ๔. การเตรียมตวั อ่านควรทาความเขา้ ใจกบั วตั ถุประสงค์ของผ้เู ขียน
............. ๕. การอ่านควรมนี า้ เสยี งหนกั เบาตามเน้อื หา
............. ๖. การขดี เคร่อื งหมาย/ไมจ่ าเปน็ ในการอ่านออกเสียง
............. ๗. ท่ายนื และน่งั ไมม่ คี วามจาเปน็ ในการอ่าน
............. ๘. การฝกึ กวาดสายตาไมจ่ าเปน็ กบั การอ่าน
............. ๙. การปรบมอื การกม้ ศรี ษะเปน็ การตอบสนองการส่อื สาร
............. ๑๐. การอา่ นออกเสยี งต้องอาศัยอารมณ์ น้าเสยี ง และสหี น้าทา่ ทางของผู้อา่ น
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
๑. ✓ ๒. ✓ ๓. x ๔. ✓ ๕. ✓ ๖. x ๗. x ๘. x ๙. ✓ ๑๐. ✓
๔๒๔
แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้
คาชีแ้ จง ครปู ระเมินพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการอ่านออกเสยี งรอ้ ยแก้วและใหค้ ะแนนลงในชอ่ งที่ตรงกบั
พฤติกรรมของนักเรยี น
อักขร ิวธี
น้าเ ีสยง-อารมณ์
ความ ูถก ้ตองในการอ่าน
บุค ิลกท่าทาง
เลขท่ี ช่ือ – สกุล รวม สรปุ ผล
การประเมิน
๔ ๔ ๔ ๔ ๑๖ ผ่าน ไมผ่ า่ น
เกณฑ์การตัดสิน รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป หมายถงึ ดีมาก
คะแนน ๑๓ – ๑๖
หมายถงึ ดี
คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๕ – ๘ หมายถึง ปรบั ปรุง
คะแนน ๐ – ๔
ลงชอ่ื ..............................................ผ้ปู ระเมิน
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๒๕
เกณฑก์ ารประเมินการอ่านออกเสยี งร้อยแก้ว
ประเดน็ ระดับคุณภาพ
การประเมนิ
อกั ขรวธิ ี ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรุง)
น้าเสียง ออกเสียงอักขรวิธี ออกเสยี งอกั ขรวธิ ี ออกเสยี งอักขรวธิ ี ออกเสยี งอักขรวิธี
อารมณ์
ตวั สะกด ตวั สะกด ควบกล้า ตัวสะกด ควบกล้า ตัวสะกด ควบกล้า
ความถกู ต้องในการอา่ น
ควบกลา้ ผิดพลาด ๑ แห่ง ผิดพลาด ๒ แหง่ ผดิ พลาด ๓ แห่ง
บคุ ลิกท่าทาง
ถกู ต้องทกุ แห่ง ขน้ึ ไป
เสียงดังชัดเจน เสยี งดงั พอสมควร เสียงเบาขาด เสยี งเบาขาด
มคี วามไพเราะกบั มคี วามไพเราะ มคี วามไพเราะ มีความไพเราะ
เนอ้ื เรอื่ งท่ีอา่ น เหมาะสมกับ เหมาะสมกับ เพียงเล็กน้อย
ลกั ษณะคา ลกั ษณะคา แตไ่ มค่ ่อย
ประพันธเ์ ป็น ประพันธ์เป็น เหมาะสมกับ
สว่ นใหญ่ บางส่วน ลักษณะ
คาประพันธ์
การเวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเว้นวรรคตอน การเวน้ วรรคตอน
จังหวะลีลาถกู ตอ้ ง ผดิ ๑ แห่ง ผิด ๒ แหง่ จังหวะ ผดิ มากกวา่ ๓
สมบูรณ์ จังหวะถกู ต้อง ถกู ต้องแตข่ าด แห่งขึ้นไป ขาดทง้ั
แตข่ าดลลี า ลีลา จังหวะและลีลา
มคี วามเชอ่ื มนั่ มีความเช่อื ม่นั มีความเชื่อม่นั ขาดความเชือ่ มน่ั
ทา่ ทางสัมพันธ์ ทา่ ทางไมส่ มั พนั ธ์ ลีลา ทา่ ทาง
กบั เนือ้ เรอ่ื ง กบั เน้ือเรอ่ื ง แต่งกาย
เหมาะสม แต่งกายเรยี บร้อย ไม่เหมาะสม
แต่งกายเรยี บรอ้ ย
เกณฑก์ ารตัดสิน หมายถงึ ดีมาก
คะแนน ๑๓ – ๑๖
หมายถงึ ดี
คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๕ – ๘ หมายถึง ปรบั ปรุง
คะแนน ๐ – ๔
๔๒๖
ตัวอย่างขอ้ ความ
ข้อความท่ี ๑
รปู แบบการพัฒนาชนบท ได้มีววิ ัฒนาการเปล่ียนแปลงมาเป็นลาดบั ในสมยั ก่อนที่จะมกี าร
เปลีย่ นแปลงการปกครอง โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในรชั สมยั ของ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว
ลักษณะความเปน็ อยู่ของคนไทยในสมัยนัน้ เป็นชนบทโดยแท้จริง ประชาชนประกอบอาชีพการทานาเป็นส่วน
ใหญ่ อาศัยแรงคน และแรงงานจากวัวควาย ใช้น้าฝนเพยี งอย่างเดยี ว บางปีน้าทว่ ม บางปีก็แหง้ แล้ง
พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยู่หัวทรงมพี ระราชดารหิ ามาตรการแก้ไขปัญหา โดยให้ขดุ คลอง เช่น
คลองรงั สติ เป็นต้น เพ่อื อาศยั นา้ จากคลองขดุ มาชว่ ยทานาในปที ี่แห้งแลง้
สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน เล่มท่ี ๑๒
ขอ้ ความที่ ๒
ระบบครอบครวั และเครอื ญาติ หมายถึง ระบบของเครือข่ายความสัมพันธ์ของกลมุ่ คน ทีเ่ กย่ี วข้องกัน
โดยทางสายเลอื ด หรอื การแต่งงาน การจะนับว่า ใครเปน็ ญาตขิ องเราบ้างนัน้ ข้ึนอยกู่ ับกฎเกณฑ์ ในแต่ละ
วัฒนธรรม การจัดระบบเครือญาติเป็นเร่ืองทาง "วฒั นธรรม" ไม่ใช่เรอ่ื ง "ธรรมชาติ" แม้ว่าปรากฏการณ์ พอ่
แม่ ลกู จะเป็นเรือ่ งธรรมชาติ และมปี รากฎในทุก ๆ สังคม แต่แตล่ ะสงั คม ก็จะมีการจดั ระบบเครือญาติในการ
กาหนดบทบาทแนวปฏิบตั ิ และหน้าที่ของสมาชกิ ในครอบครัวต่างกันไป บางสังคมเปน็ สังคมท่ีให้ความสาคัญ
กับญาตขิ า้ งพอ่ เช่น สังคมจนี สังคมอินเดีย บางสังคม ก็ใหค้ วามสาคัญกบั ญาตขิ ้างแม่ เชน่ สังคมกะเหรย่ี งโปว
หรอื บางสงั คมก็ใหค้ วามสาคัญกบั ญาติทัง้ สองฝา่ ย เชน่ สังคมพมา่ สังคมอนิ โดนเี ซีย สังคมไทย เป็นต้น
สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน เล่มที่ ๒๒
ขอ้ ความที่ ๓
ละครชาตรเี ปน็ ศิลปะการแสดงของไทยประเภทหนึ่ง พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.
๒๕๕๒ ได้ให้ความหมายว่าเป็น “ละครตน้ แบบของละครรา เลน่ กันเปน็ พนื้ บา้ นทว่ั ไป มตี วั ละครน้อย เดมิ เป็น
ชายลว้ น ตัวละครที่ไม่สาคัญมกั ไม่แต่งตัวยนื เครื่อง กระบวนราไม่สงู้ ดงามประณตี นัก” แมว้ ่าละครชาตรีจะเป็น
ละครราที่มมี าตัง้ แต่สมัยโบราณ แต่คนท่วั ไปอาจไม่รจู้ กั หรอื คุน้ เคยกับละครชาตรมี ากนัก บางคนอาจเคยเห็น
ละครราที่มีการจดั แสดงอยูท่ ่ศี าลหลกั เมือง หรือศาลพระพรหมเอราวณั กรงุ เทพฯ โดยจดั แสดงเปน็ ตอนสน้ั ๆ
ซ่งึ กค็ ือ ละครชาตรี หรอื ทเี่ รียกกันว่า ละครแก้บน นนั่ เอง
สารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน เลม่ ท่ี ๓๖
๔๒๗
แผนการจดั การเรียนรู้
กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๕ สรา้ งสรรคบ์ ทกวี เวลา ๑๒ ชว่ั โมง
เวลา ๑ ช่ัวโมง
แผนการเรยี นรทู้ ี่ ๒ การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖5
สอนวนั ที่ เดือน พ.ศ.
ตาแหนง่ ครู
ครผู สู้ อน นางสาวชาลสิ า หาญกจิ
๑. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สินใจแกป้ ญั หาในการ
ดาเนนิ ชีวิตและมีนสิ ัยรักการอ่าน
ตวั ช้ีวัด
ม. ๑/๑ อา่ นออกเสียงร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกับเร่ืองที่อา่ น
๒. สาระสาคัญ
การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองและทานองเสนาะเป็นการส่งสารด้วยการอ่าน ซ่ึงผู้อ่านต้องมีความรู้
เร่อื งลกั ษณะคาประพนั ธ์ จงั หวะการอา่ น ทานองการอ่านและการใส่อารมณ์ นอกจากนี้ ยังต้องฝึกฝนอย่าง
ตอ่ เน่อื งจงึ จะสามารถอ่านได้ไพเราะนา่ ฟงั
๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นกั เรียนอธบิ ายความหมาย หลกั การอ่านออกเสยี งรอ้ ยกรอง
๒. นักเรยี นอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองไดถ้ กู ต้อง
๓. นักเรยี นใฝเ่ รยี นรแู้ ละมีความม่งุ มัน่ ในการทางาน
๔. สาระการเรียนรู้
การอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
๕. การจัดกระบวนการจดั การเรียนรู้
ขน้ั นา
ครใู หน้ กั เรยี นดบู ทอาขยานบทหลกั เรือ่ ง รักษาป่า ซึ่งมีเนือ้ หาดังนี้
รกั ษาปา่
นกเอยนกนอ้ ยนอ้ ย บินลอ่ งลอยเปน็ สขุ ศรี
ขนขาวราวสาลี อากาศดีไมม่ ีภัย
ทุกทศิ เจา้ เท่ียวท่อง ฟ้าสีทองอันสดใส
มีปา่ พาสขุ ใจ มีตน้ ไมม้ ลี าธาร
ผคู้ นไม่มโี รค นบั เป็นโชคสขุ สาราญ
อากาศไร้พษิ สาร สตั ว์ชื่นบานดนิ ชื่นใจ
คนสัตว์ไดพ้ งึ่ ป่า มารักษาปา่ ไม้ไทย
๔๒๘
ส้ินปา่ เหมือนสนิ้ ใจ ชว่ ยปลกู ใหมไ่ วท้ ดแทน
(นภาลัย สวุ รรณธาดา, คู่มือการใช้บทอาขยานภาษาไทย)
ครถู ามนักเรยี นว่าบทอาขยานขา้ งต้นเป็นบทร้อยกรองประเภทใด และมีวธิ ีการแบ่งวรรคตอนใน
การอา่ นอยา่ งไร แล้วให้นักเรียนอา่ นออกเสียงพรอ้ มกัน
ขน้ั สอน
๑. ครูสมุ่ นักเรียนออกมาช่วยกันแบ่งวรรคตอนในการอา่ นบทร้อยกรองจากเรื่อง กาพย์พระไชย
สุริยา จากหนังสอื เรยี นวรรณคดีวจิ กั ษ์ ดังน้ี
กาพยย์ านี ๑๑
สะธุสะจะขอไหว้ พระศรีไตรสรณา
พอ่ แม่แลครบู า เทวดาในราศี
ข้าเจ้าเอา ก ข เขา้ มาตอ่ ก กามี
แกไ้ ขในเท่านี้ ดีมิดอี ยา่ ตรชี า
จะร่าคาต่อไป พอลอ่ ใจกมุ ารา
ธรณีมีราชา เจา้ พาราสาวะถี
ช่อื พระไชยสุริยา มีสุดามเหสี
ชอื่ วา่ สมุ าลี อยูบ่ ุรีไมม่ ภี ัย
ข้าเฝ้าเหล่าเสนา มกี ิริยาอชั ฌาศัย
พ่อแม่มาแต่ไกล ไดอ้ าศัยในพารา
๒. แบง่ กลุม่ นกั เรียนกลุ่มละ ๓-๕ คน จากน้นั ให้นักเรยี นเข้ากลุ่มเพือ่ รว่ มกนั ศกึ ษาใบความรู้
เร่ือง หลักการอ่านออกเสียงรอ้ ยกรองและใบความรู้ เรื่อง การอา่ นออกเสียงรอ้ ยกรอง ประเภทกาพย์
แล้วรว่ มสนทนาถึงหลักการอา่ น
๓. ครูอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองกาพย์ยานี ๑๑ จากเรื่อง กาพยพ์ ระไชยสุริยาให้นักเรยี นฟงั
แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตาม
๔. ใหน้ กั เรยี นฝึกอ่านพร้อมกนั ทัง้ หอ้ งจนคลอ่ ง แนะนาแกไ้ ขใหน้ กั เรยี นอ่านใหถ้ ูกต้อง และ
อธบิ ายเพ่ิมเติม
๕. นักเรียนทาใบงานการแบ่งวรรคตอนกาพยย์ านี ๑๑
ขนั้ สรปุ
ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้และหลกั ในการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี
๑๑ และนัดหมายเพอื่ ประเมินผลการอา่ นออกเสียงรอ้ ยกรองเปน็ รายบุคคล
๖. ส่ือ /แหลง่ เรยี นรู้
๑. ใบความรู้ เรื่อง การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง
๒. ใบความรู้ เรอ่ื ง การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองประเภทกาพย์
๓. ใบงาน เรื่อง การแบ่งวรรคตอนกาพยย์ านี ๑๑
๔. หนังสอื เรยี นภาษาไทยชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑
๔๒๙
๗. วัดผลประเมนิ ผล
วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์
ตรวจใบงาน เรื่อง การแบ่งวรรคตอนกาพย์ยานี ใบงาน เร่อื ง การแบ่งวรรคตอนกาพยย์ านี ผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ
๑๑ ๑๑ ๖๐ ขึ้นไป
ประเมินการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ
๖๐ ขึ้นไป
ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
๔๓๐
บันทกึ หลังแผนการจดั การเรยี นรู้
๑. ดา้ นความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๒. ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๓. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์/คา่ นิยม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๔. ดา้ นอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่ีมีปญั หาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี )
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๕. ปญั หา/อปุ สรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๖. ข้อเสนอแนะ/แนวทางการแกป้ ัญหา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………………ครูประจาวชิ า
(…………………………………………….)
…………/…………/…………
๗. ความคิดเหน็ ของผอู้ านวยการสถานศึกษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ………………………………………ผู้อานวยการสถานศกึ ษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………
๔๓๑
ใบความรู้ เร่ือง การอา่ นออกเสยี งร้อยกรอง
หนว่ ยที่ ๕ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ การอา่ นออกเสยี งรอ้ ยกรอง
รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑
หลักเกณฑ์ท่วั ไปในการอ่านออกเสยี งร้อยกรอง (ฟองจนั ทร์ สขุ ยิง่ และคณะ. ๒๕๕๔ : ๖, วาสนา บุญ
สม๒๕๔๑: ๒๖) ดังน้ี
๑. ศึกษาลกั ษณะบงั คบั ของคาประพันธ์ทจี่ ะอ่าน เชน่ จานวนคา สัมผัส เสียงวรรณยกุ ต์ เสียงหนักเบา
รจู้ ักการแบง่ วรรคตอน อ่านตามจังหวะทานองเสนาะ โดยอา่ นใหช้ ัดเจนและใสอ่ ารมณ์ตามใจความน้ัน
๒. อ่านเน้นคาในตาแหน่งสัมผัสนอก
๓. อา่ นเออื้ นสมั ผสั ในเพ่อื เพิม่ ความไพเราะ เชน่ อนั รักษาศีลสัตยก์ ตเวที อา่ นว่า กดั -ตะ-เว-ที เพอ่ื ให้
สมั ผสั กับ สัตย์
๔. อา่ นถูกต้องตามทว่ งทานองเสนาะของคาประพนั ธแ์ ตล่ ะชนิด
๕. อา่ นออกเสยี งคาให้ชดั เจน ถูกต้อง โดยเฉพาะคาท่ีออกเสียง ร ล และคาควบกล้าe
๖. อ่านเสียงดังพอสมควรทีผ่ ้ฟู ังจะไดย้ ินทวั่ ถงึ ไมด่ งั หรอื ค่อยจนเกินไป
๗. อ่านมีจังหวะ วรรคตอน รู้จักทอดจังหวะ เออื้ นเสยี ง หรอื หลบเลีย่ ง
๘. คาท่มี พี ยางค์เกินใหอ้ า่ นเร็วและเบา เพ่อื ใหเ้ สียงไปตกอย่พู ยางคท์ ตี่ ้องการ
๙. มศี ลิ ปะในการใช้เสียง รจู้ ักเอื้อนเสยี งใหเ้ กิดความไพเราะ
การเตรยี มตวั กอ่ นอา่ นออกเสยี ง (จไุ รรตั น์ ลกั ษณะศิริ และมาหยนั อิ่มสาราญ. ๒๕๔๗ : ๒๖) มดี งั น้ี
๑. อา่ นบทให้เขา้ ใจการอ่านให้ผ้อู ืน่ ฟงั มีวตั ถปุ ระสงคส์ าคัญเพ่อื ให้ผู้ฟงั รบั รูแ้ ละเขา้ ใจตรงตามเน้อื หา
สาระท่อี า่ น ฉะน้นั ผู้อา่ นจึงต้องเขา้ ใจขอ้ ความนัน้ เสยี ก่อนเพื่อความมั่นใจ และเพอื่ ความเขา้ ใจท่ตี รงกนั ระหว่าง
ผสู้ ง่ สารและผูร้ ับสาร ข้อความใดทอี่ ่านไมเ่ ขา้ ใจหรือสงสัยวา่ จะผดิ พลาดต้องตรวจสอบเสยี ก่อน
๒. ทาเครื่องหมายแสดงจังหวะการอ่าน ในการอ่านเราควรทาเครือ่ งหมายลงในบทว่าตอนใดควรหยดุ
คาใดควรเน้น และคาใดควรทอดจงั หวะ การทาเครื่องหมายในบทมกี ฎเกณฑต์ ายตวั แตโ่ ดยทางที่นิยมปฏิบตั ิ
มกั ทาเครื่องหมายง่าย ๆ ดังนี้
ก. เครอื่ งหมายขีดเฉียงขดี เดยี ว (/) ขดี ระหว่างคา แสดงการหยดุ เว้นนิดหน่ึง เพราะมีคาหรือ
ขอ้ ความอน่ื ต่อไปอีก การอา่ นตรงคาท่ีมเี ครอื่ งหมายน้จี งึ ไมค่ วรลงเสียงหนกั เพราะยงั ไมจ่ บประโยค
ข. เคร่ืองหมายขดี เฉียงสองขีด (//) ขีดหลังประโยคหรือระหวา่ งคาเพื่อแสดงให้รู้ว่าเวน้ นาน
ค. เครือ่ งหมายวงกลมล้อมคา เพ่ือบอกวา่ เป็นคาทีส่ งสัยหรอื ไมแ่ น่ใจวา่ อ่านอยา่ งไร
ง. คาท่ตี อ้ งการเนน้ ใหข้ ดี เสน้ ใตท้ ่ีคานน้ั
จ. คาใดท่ีทอดจังหวะ ใหท้ าเสน้ โค้งท่สี ว่ นบนของคานั้น (⌒)
ฉ. เคร่ืองหมายมมุ คว่า หรือหมวกแจ๊กคว่า ∧ แสดงว่าข้อความน้นั จะเนน้ เสียงสงู และมมุ
หงายหรอื หมวกแจก๊ หงาย (∨) แสดงการเนน้ เสียงลงตา่ ซ้อมอ่านใหค้ ลอ่ ง หลังจากอ่านบทจนเขา้ ใจและทา
เคร่ืองหมายแสดงจังหวะการอ่านแล้ว
๔๓๒
ใบงาน เร่อื ง การแบง่ วรรคตอนกาพย์ยานี ๑๑
หน่วยที่ ๕ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ การอ่านออกเสียงรอ้ ยกรอง
รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นทาเครือ่ งหมายขดี เดยี ว (/) และ (//) หลังประโยคหรือระหว่างคาของกาพย์ยานี ๑๑
ให้ถกู ต้อง (๑๐ คะแนน)
กาพยเ์ ร่อื งพระไชยสุรยิ า
กาพย์ยานี ๑๑
สะธุสะจะขอไหว้ พระศรีไตรสรณา
พอ่ แม่แลครบู า เทวดาในราศี
ข้าเจา้ เอา ก ข เขา้ มาตอ่ ก กามี
แก้ไขในเทา่ น้ี ดีมิดีอยา่ ตรีชา
จะรา่ คาตอ่ ไป พอลอ่ ใจกมุ ารา
ธรณมี รี าชา เจา้ พาราสาละถี
ชอื่ พระไชยสรุ ิยา มสี ุดามเหสี
ชอื่ วา่ สุมาลี อยบู่ รุ ไี มม่ ีภยั
ขา้ เฝ้าเหล่าเสนา มีกิรยิ าอชั ฌาศัย
พอ่ แม่มาแตไ่ กล ได้อาศัยในพารา
ไพร่ฟา้ ประชาชี อยบู่ รุ กี ป็ รดี า
ทาไรข่ ้าวไถนา ไดข้ า้ วปลาแลสาลี
อยู่มาหมู่ขา้ เฝา้ กห็ าเยาวนารี
ท่ีหนา้ ตาดีดี ทามโหรีทเ่ี คหา
คา่ เช้าเฝ้าสีซอ เข้าแต่หอล่อกามา
หาไดใ้ ห้ภริยา โลโภพาให้บา้ ใจ
ไม่จาคาพระเจ้า เหไ่ ปเข้าภาษาไสย
ถือดมี ีข้าไทย ฉ้อแตไ่ พรใ่ ส่ชือ่ คา
ทีม่ า: หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวจิ กั ษ์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑
๔๓๓
ใบความรู้ เร่ือง การอ่านออกเสยี งรอ้ ยกรองประเภทกาพย์
หนว่ ยท่ี ๕ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ การอา่ นออกเสียงรอ้ ยกรอง
รายวชิ าภาษาไทย รหสั วิชา ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑
กาพย์ยานี ๑๑
กาพย์ยานี ๑๑ หนงึ่ บทมี ๒ บาท บาทละ ๑๑ คา แบ่งเปน็ ๒ วรรค วรรคแรก ๕ คา วรรคหลัง ๖ คา
บังคับสัมผัสระหว่างวรรคที่ ๑, ๒ และ ๓ ทง้ิ สัมผัสวรรคที่ ๔ สมั ผัสระหว่างบทส่งจากท้ายบทแรกไปยงั ทา้ ย
บาทแรกของบทต่อไป ดังตวั อยา่ ง
ลงิ คา่ ง / ครางโครกครอก// ฝูงจิ้งจอก / ออกเห่าหอน//
ชะนี / วิเวกวอน// นกหกรอ่ น / นอนรงั เรยี ง//
ลูกนก / ยกปีกปอ้ ง// อ้าปากรอ้ ง / ซ้องแซเ่ สียง//
แม่นก / ปกปกี เคยี ง// เลี้ยงลูกอ่อน / ปอ้ นอาหาร//
(กาพย์พระไชยสุรยิ า)
กาพยฉ์ บงั ๑๖
กาพย์ฉบงั ๑๖ มีจงั หวะการอา่ น คือ วรรคที่ ๑ , ๓ มี ๓ จงั หวะ ส่วนวรรคท่ี ๒ มี ๒ จังหวะดัง
ตวั อย่าง
พระไชย / สุรยิ า / ภูม/ี / พาพระ / มเหสี
มาที่ / ในลา / สาเภา//
ขา้ วปลา / หาไป / ไม่เบา// นารี / ที่เยาว์
ก็เอา / ไปใน / เภตรา
(กาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า)
กาพยส์ ุรางคนางค์ ๒๘
กาพย์สรุ างคนางค์ ๒๘ มจี ังหวะการอ่านเทา่ กันทกุ วรรค คอื วรรคละ ๒ จงั หวะ ดังตัวอยา่ ง
ก กา / วา่ ปน// ข้ึนใหม่ / ในกน//
เอ็นดู / ภูธร//
มณฑล / ต้นไทร// ระคน / กันไป//
มานอน / ในไพร//
แทนไพชยนต์ / สถาน//
(กาพย์พระไชยสุรยิ า)
๔๓๔
แบบประเมินการอ่านออกเสยี งร้อยกรอง
คาชี้แจง ครปู ระเมินพฤติกรรมของนกั เรียนในการอา่ นออกเสียงรอ้ ยกรองและให้คะแนนลงในชอ่ งท่ตี รงกบั
พฤตกิ รรมของนักเรียน
อักขร ิวธี
น้าเ ีสยง-อารมณ์
ความ ูถก ้ตองในการอ่าน
บุค ิลกท่าทาง
เลขท่ี ชอื่ – สกุล รวม สรปุ ผล
การประเมิน
๔ ๔ ๔ ๔ ๑๖ ผา่ น ไม่ผา่ น
เกณฑ์การตัดสนิ ร้อยละ ๖๐ ขึน้ ไป หมายถึง ดีมาก
คะแนน ๑๓ – ๑๖
หมายถงึ ดี
คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๕ – ๘ หมายถงึ ปรบั ปรงุ
คะแนน ๐ – ๔
ลงช่อื ..............................................ผู้ประเมิน
(.........................................................)
................./............................/....................
๔๓๕
เกณฑก์ ารประเมินการอ่านออกเสยี งร้อยกรอง
ประเดน็ ระดบั คุณภาพ
การประเมนิ
อักขรวิธี ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ๑ (ปรับปรุง)
นา้ เสียง ออกเสียงอกั ขรวธิ ี ออกเสยี งอกั ขรวธิ ี ออกเสียงอกั ขรวิธี ออกเสยี งอกั ขรวิธี
อารมณ์
ตวั สะกด ควบกล้า ตัวสะกด ควบกล้า ตัวสะกด ควบกล้า ตวั สะกด ควบกล้า
ความถูกตอ้ ง
ในการอ่าน ถกู ต้องทกุ แหง่ มจี ดุ ผดิ พลาด มจี ุดผิดพลาด มีจดุ ผดิ พลาด
บคุ ลกิ ท่าทาง ๑-๒ จุด ๓-๔ จดุ ๕ จุดขน้ึ ไป
เสียงดงั ชดั เจน เสยี งดังพอสมควร เสียงเบาขาด เสียงเบาขาด
มีความไพเราะกับ มคี วามไพเราะ มคี วามไพเราะ มีความไพเราะ
เนื้อเรอื่ งท่อี ่าน เหมาะสมกบั เหมาะสมกับ เพยี งเลก็ น้อย แต่
ลกั ษณะคา ลกั ษณะคา ไม่คอ่ ยเหมาะสม
ประพนั ธ์เป็น ประพันธ์ กบั ลกั ษณะ
สว่ นใหญ่ เปน็ บางสว่ น คาประพนั ธ์
การเว้นวรรคตอน การเว้นวรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอน
จังหวะลีลาถกู ต้อง จังหวะถูกต้อง ถูกตอ้ งแตข่ าด ไมถ่ ูกต้อง
สมบูรณ์ แต่ขาดลีลา จงั หวะและ ทัง้ จงั หวะและ
ขาดลีลา ขาดลีลา
มคี วามเชอื่ มนั่ มีความเช่อื มนั่ มคี วามเชื่อมั่น ขาดความเช่อื ม่ัน
ท่าทางสมั พันธ์ ทา่ ทางไมส่ ัมพันธ์ ลลี า ท่าทาง
กับเนือ้ เร่ือง กบั เน้ือเรอื่ ง แต่งกาย
เหมาะสม แต่งกายเรยี บรอ้ ย ไม่เหมาะสม
แต่งกายเรียบร้อย
เกณฑ์การตัดสิน หมายถึง ดีมาก
คะแนน ๑๓ – ๑๖
หมายถงึ ดี
คะแนน ๙ – ๑๒ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๕ – ๘ หมายถงึ ปรับปรงุ
คะแนน ๐ – ๔
๔๓๖
แผนการจัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๑
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ สรา้ งสรรคบ์ ทกวี เวลา ๑๒ ชว่ั โมง
แผนการเรยี นรู้ที่ ๓ การสรุปเนือ้ หาวรรณคดเี ร่อื ง กาพย์พระไชยสุรยิ า เวลา ๑ ชวั่ โมง
สอนวนั ท่ี เดือน พ.ศ. ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖5
ครูผู้สอน นางสาวชาลิสา หาญกจิ ตาแหนง่ ครู
๑. มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิด เพื่อนาไปใช้ตัดสินใจแกป้ ญั หาในการ
ดาเนินชีวติ และมีนสิ ัยรกั การอา่ น
ตวั ช้ีวัด
ม.๑/๒ จับใจความสาคัญจากเรื่องทอี่ ่าน
ม.๑/๔ ระบแุ ละอธบิ ายคาเปรยี บเทยี บและคาท่ีมีหลายความหมายในบริบทตา่ ง ๆ จากการอา่ น
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คุณค่า
และนามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ
ม.๑/๓ อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอา่ น
ม.๑/๔ สรปุ ความรูแ้ ละขอ้ คิดจากการอ่านเพ่อื ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง
๒. สาระสาคัญ
กาพย์พระไชยสุริยา เป็นผลงานประพันธ์ของสุนทรภู่ แต่งขึ้นในสมัยรัชกาลท่ี ๓ เพื่อใช้สาหรับเป็น
แบบเรียนเร่ืองตัวสะกด อย่างไรก็ตาม เนื้อหาของวรรณคดีเรื่องน้ี สะท้อนให้เห็นคุณค่าในด้านสังคมและ
การเมือง กล่าวคือ เสนอภาพการล่มสลายของเมือง อันเนื่องมาจากการประพฤติทุจริตของผู้มีอานาจ
เหตุก าร ณ์ในเมืองสาวั ตถีจึง เป็น อุทาหร ณ์ให้แก่ปร ะ ชาชน ทุก ค น ท่ีจะ ต้อง ร่ ว มใจและ ปฏิบัติตน ตามหลัก
คุณธรรม จรยิ ธรรม เพ่อื สร้างความสงบและสนั ติ
๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. นักเรยี นถอดคาประพนั ธ์บทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑ กาพยพ์ ระไชยสุริยา
๒. นกั เรียนวเิ คราะห์เน้อื หาและสรุปสาระสาคัญวรรณคดปี ระเภทกาพยย์ านี ๑๑
๓. นักเรียนใฝ่เรียนรแู้ ละมคี วามมงุ่ มน่ั ในการทางาน
๔. สาระการเรียนรู้
การอ่านบทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑
๕. การจัดกระบวนการจดั การเรียนรู้
ขั้นนา
ครูเลา่ เร่อื งการสอนหนงั สือสาหรบั กุลบุตร กุลธิดาในสมัยโบราณ โดยใชก้ าพย์พระไชยสุรยิ า
สอนหนงั สือและนักเรียนอภปิ รายร่วมกนั
ขัน้ สอน
๔๓๗
๒. ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นบทร้อยกรอง กาพย์พระไชยสรุ ิยาในหนงั สือเรียนวรรณคดจี กั ษพ์ ร้อมกัน
๓. ครสู นทนาซกั ถามเกี่ยวกับเนอ้ื เรอ่ื งฉนั ทลักษณ์ แล้วสรปุ รว่ มกัน
๔. ครแู บ่งกลุ่มนกั เรียนออกเป็น ๔ กลุ่ม ศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื ง การเขยี นอธิบายคาประพันธ์
หรอื การถอดคาประพนั ธ์
๕. นักเรียนทุกกลุ่มถอดคาประพนั ธ์เรอื่ งกาพยพ์ ระไชยสรุ ยิ า ครูตรวจผลงาน อธบิ ายเพ่มิ เติม
นักเรียนจดบันทึกลงสมุด
๖. ครมู อบหมายให้นกั เรยี นฝึกถอดคาประพันธบ์ ทรอ้ ยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑ แลว้ สง่ั ครู
ตามกาหนด
๗. นักเรยี นนาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียนและแตล่ ะกลุ่มทาใบงาน เรื่อง สรุปเนื้อหาวรรณคดี
เร่อื ง กาพยพ์ ระไชยสรุ ิยา
ขน้ั สรุป
นกั เรยี นทกุ คนสรปุ ความคิดรวยยอดจากวรรณคดี เร่อื ง กาพย์พระไชยสรุ ิยา
๖. สือ่ /แหล่งเรียนรู้
๑. หนังสอื เรียน ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑
๒. ใบความรู้ เร่ือง สรุปเนื้อหาวรรณคดี เร่ืองกาพย์พระไชยสุริยา
๓. ใบงาน เรอื่ ง สรปุ เน้ือหาวรรณคดี เรอ่ื งกาพย์พระไชยสรุ ิยา
๗. วดั ผลประเมินผล
วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์
แบบประเมนิ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ
ตรวจชน้ิ งาน ๖๐ ข้ึนไป
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
๔๓๘
บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรียนรู้
๑. ดา้ นความรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๒. ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๓. ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์/คา่ นยิ ม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๔. ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๕. ปัญหา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๖. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการแก้ปญั หา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………ครปู ระจาวิชา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………
๗. ความคิดเห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………………ผู้อานวยการสถานศึกษา
(…………………………………………….)
…………/…………/…………