The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประจำปี 2562

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานประจำปี 2562

รายงานประจำปี 2562

รายงานประจ าปี 2562



ตารางที่ 61 ร้อยละของผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงได้รับการค้นหา

และคัดกรองโรคไตเรื้อรัง

ที่ อ าเภอ เป้าหมาย ผลงาน ร้อยละ

1 เมือง 9,903 5,273 53.25

2 ยางชุมน้อย 3,509 2,908 82.87
3 กันทรารมย์ 9,229 4,659 50.48

4 กันทรลักษ ์ 11,724 8,842 75.42

5 ขุขันธ์ 9,325 7,399 79.35
6 ไพรบึง 3,096 2,550 82.36

7 ปรางค์ก ู่ 3,725 2,951 79.22

8 ขุนหาญ 7,991 5,976 74.78

9 ราษีไศล 6,990 5,769 82.53
10 อุทุมพรพิสัย 10,829 8,113 74.92

11 บึงบูรพ์ 585 478 81.71

12 ห้วยทับทัน 2,182 1,709 78.32
13 โนนคูณ 2,850 2,388 83.79

14 ศรีรัตนะ 3,526 2,586 73.34

15 น้ าเกลี้ยง 2,499 1,107 44.3
16 วังหิน 2,978 2,357 79.15

17 ภูสิงห์ 1,919 1,294 67.43

18 เมืองจันทร์ 1,505 1,310 87.04
19 เบญจลักษ ์ 2,641 2,138 80.95

20 พยุห์ 2,104 1,789 85.03

21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 1,899 1,735 91.36
22 ศิลาลาด 1,506 974 64.67

จังหวัด 102,515 74,305 72.48

เขต 10 335,090 247,026 73.72
ประเทศ 5,535,804 3,525,830 63.69












181


รายงานประจ าปี 2562




3.2 ตัวชี้วัดที่ 2 การชะลอความเสื่อมของไต ผู้ปุวยมีอตราการลดลงของ eGFR < 4 ml/min/1.73
m2/yr ในปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษมีผู้ปุวยโรคไตวายเรื้อรัง Stage 3- 4 จ านวน 9,842 ราย มีจ านวนผู้ปุวย
โรคไตเรื้อรัง Stage 3-4 ได้รับการตรวจ creatinine มีผล eGFR≥2 และมีค่าเฉลี่ยการเปลี่ยนแปลง <4
จ านวน 5,842 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.36 ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์ที่ก าหนดมากกว่าร้อยละ 66 ผลการด าเนินงาน

น้อยกว่าระดับเขตร้อยละ 59.88 และน้อยกว่าระดับประเทศร้อยละ 60.87 อาเภอที่ผลงานน้อยที่สุด ได้แก่

อ าเภอเมืองจันทร์ร้อยละ 37.88 อ าเภอที่มีผลงานมากที่สุด ได้แก อ าเภอปรางค์กร้อยละ 67.51
ู่

รูปที่ 3 ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง Stage 3-4 มีอัตราการลดลงของ eGFR < 4 ml/min/1.73 m2/yr

จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2562 (1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562)










































182


รายงานประจ าปี 2562





ตารางที่ 62 ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง Stage 3-4 มอตราการลดลงของ eGFR < 4 ml/min/1.73 m2/yr
จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2562 (1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562)

จ านวนผู้ป่วย จ านวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง Stage 3-4
ที่ อ าเภอ โรคไตเรื้อรัง มีอัตราการกรองไตลดลง ร้อยละ
Stage 3-4 eGFR < 4 ml/min/1.73 m2/yr

1 เมือง 1,492 935 62.67

2 ยางชุมน้อย 132 65 49.24

3 กันทรารมย์ 181 106 58.56
4 กันทรลักษ ์ 1,344 737 54.84

5 ขุขันธ์ 622 418 67.2

6 ไพรบึง 444 228 51.35

7 ปรางค์ก ู่ 711 480 67.51
8 ขุนหาญ 909 566 62.27

9 ราษีไศล 684 384 56.14

10 อุทุมพรพิสัย 509 305 59.92
11 บึงบูรพ์ 75 45 60

12 ห้วยทับทัน 354 226 63.84

13 โนนคูณ 619 358 57.84
14 ศรีรัตนะ 357 234 65.55

15 น้ าเกลี้ยง 79 44 55.7

16 วังหิน 243 141 58.02
17 ภูสิงห์ 325 168 51.69

18 เมืองจันทร์ 66 25 37.88

19 เบญจลักษ ์ 182 107 58.79
20 พยุห์ 276 144 52.17

21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 101 57 56.44

22 ศิลาลาด 137 69 50.36
จังหวัด 9,842 5,842 59.36

เขต 10 35,331 21,157 59.88

ประเทศ 428,693 260,946 60.87








183


รายงานประจ าปี 2562



4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

4.1 การคัดกรองความเสี่ยงต่อภาวะไตวายในผู้ปุวยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
ไม่ครอบคลุมกลุ่มเปูาหมาย

4.2 การด าเนินงานชะลอความเสื่อมของไต ผู้ปุวยมีอตราการลดลงของ eGFR < 4 ml/min/1.73
m2/yr ยังไม่ผ่านเกณฑ์ ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์หาสาเหตุที่ท าให้ผู้ปุวยไม่สามารถชะลอไตเสื่อม และหา

แนวทางการแก้ปัญหาเป็นรายบุคคล













































184


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันควบคุมโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง


ตัวชี้วัด : 1. อัตราการเกิดการก าเริบเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง อายุ 40 ปีขึ้นไป

130 ครั้งต่อร้อยผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


ประเทศไทยมีอตราโรคปอดอดกั้นเรื้อรังรายใหม่ ในปี 2558-2562 ดังนี้ ปี 2558 อตราความชุก

39.09 ต่อแสนประชากร, ปี 2559 อตราความชุก 44.30 ต่อแสนประชากร, ปี 2560 อตราความชุก 37.36



ต่อแสนประชากร, ปี 2561 อตราความชุก 34.40 ต่อแสนประชากร และปี 2562 อตราความชุก 23.74

ต่อแสนประชากร ผู้ปุวยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมีแนวโน้มลดลง


ส าหรับจังหวัดศรีสะเกษมีอตราโรคปอดอดกั้นเรื้อรังรายใหม่ในปี 2558-2562 ดังนี้ ปี 2558

อตราความชุก 6.35 ต่อแสนประชากร, ปี 2559 อตราความชุก 10.82 ต่อแสนประชากร, ปี 2560 อตรา



ความชุก 5.24 ต่อแสนประชากร, ปี 2561 อัตราความชุก 5.91 ต่อแสนประชากร และปี 2562 อตราความชุก


7.41 ต่อแสนประชากร ผู้ปุวยโรคปอดอดกั้นเรื้อรังตายในปี 2558-2562 ดังนี้ ปี 2558 อตราตาย 12.87

ต่อแสนประชากร, ปี 2559 อัตราตาย 16.91 ต่อแสนประชากร, ปี 2560 อตราตาย 15.51 ต่อแสนประชากร,
ปี 2561 อัตราตาย 18.95 ต่อแสนประชากร และปี 2562 อัตราตาย 18.28 ต่อแสนประชากรมีแนวโน้มสูงขึ้น

รูปที่ 1 อัตราตายผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังต่อแสนประชากรจังหวัดศรีสะเกษ ปี 2558-2562
แยกรายอ าเภอ





























185


รายงานประจ าปี 2562



2. มาตรการในการด าเนินงาน

2.1 ค้นหาผู้สูงบุหรี่ในประชากร อายุ 15 ปีขึ้นไป และผู้ปุวยโรคเรื้อรัง
2.2 ด าเนินการประเมินสมรรถภาพปอดในผู้สูบบุหรี่โดยการเปุา Peak Flow และส่งต่อผู้ที่มีค่า
Peak Flow น้อยกว่า 62 ส่งตรวจด้วยเครื่อง Spirometer

2.3 จัดตั้งคลินิกโรคปอดอดกั้นเรื้อรัง โดยมีทีมสหวิชาชีพ ร่วมด าเนินการจัดหายาตามสูตรการรักษา
ื้

ด าเนินการฟนฟสมรรถภาพปอด การนัดติดตามผู้ปุวยมารับการรักษา การเยื่อมติดตาม และการให้สุขศึกษา
เพื่อลดการกระตุ้นการก าเริบ


3. ผลการด าเนินงาน


จังหวัดศรีสะเกษ มีอตราการเกิดการก าเริบเฉียบพลันในผู้ปุวยโรคปอดอดกั้นเรื้อรังอายุ 40 ปีขึ้นไป

ร้อยละ 150.48 มากว่าระดับเขต ร้อยละ 134.3 น้อยกว่าระดับประเทศ ร้อยละ 141.88 อาเภอที่มีอตรา


การก าเริบเฉียบพลันในผู้ปุวยโรคปอดอดกั้นเรื้อรังอายุ 40 ปีขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ได้แก่ อาเภอเมืองร้อยละ


96.77, อาเภอกันทรลักษ์ร้อยละ 80.15, อาเภอขุขันธ์ร้อยละ 99.69, อาเภอขุนหาญร้อยละ 85.96, อาเภอ



บึงบูรพ์ร้อยละ 134.62, อ าเภอโนนคูณร้อยละ 133.33 และ อ าเภอเบญจลักษร้อยละ 105.56


รูปที่ 2 อัตราการเกิดการก าเริบเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอายุ 40 ปีขึ้นไป จังหวัดศรีสะเกษ
ปี 2562 (1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562)































186


รายงานประจ าปี 2562



ี่
ตารางท 63 อัตราการเกิดการก าเริบเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอายุ 40 ปีขึ้นไป
จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2562 (1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562)

จ านวนครั้งของการเข้ารับการรักษา
ผู้ป่วย COPD

ที่ อ าเภอ อายุ 40 ปี ที่ห้องฉุกเฉิน และหรือต้องรักษาแบบ ร้อยละ
ผู้ป่วยในโรงพยาบาลด้วยการ
ขึ้นไป
ก าเริบเฉียบพลันของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

1 เมือง 155 150 96.77

2 ยางชุมน้อย 99 267 269.7
3 กันทรารมย์ 258 526 203.88

4 กันทรลักษ ์ 413 331 80.15

5 ขุขันธ์ 325 324 99.69

6 ไพรบึง 59 108 183.05

7 ปรางค์ก ู่ 153 267 174.51
8 ขุนหาญ 292 251 85.96

9 ราษีไศล 157 196 124.84

10 อุทุมพรพิสัย 285 452 158.6

11 บึงบูรพ์ 26 35 134.62
12 ห้วยทับทัน 89 172 193.26

13 โนนคูณ 78 104 133.33

14 ศรีรัตนะ 155 262 169.03

15 น้ าเกลี้ยง 119 293 246.22
16 วังหิน 73 162 221.92

17 ภูสิงห์ 101 174 172.28

18 เมืองจันทร์ 41 112 273.17

19 เบญจลักษ ์ 54 57 105.56

20 พยุห์ 72 204 283.33
21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 85 170 200

22 ศิลาลาด 42 82 195.24

จังหวัด 3,131 4,699 150.08

เขต10 11,168 14,999 134.3

ประเทศ 182,050 258,294 141.88





187


รายงานประจ าปี 2562



4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

4.1 พยาบาลที่ผ่านการอบรม Spirometer มีน้อย
4.2 ยาสูดมาตรฐานยังไม่ครอลคลุมทุกโรงพยาบาล

















































188


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันควบคุมโรคหลอดเลือดสมอง


ตัวชี้วัด : 1. อัตราตายของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน (Ischemic Stroke ; I63

2. อัตราตายของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตก Hemorrhagic Stroke ; I60-I62)
3. อัตราตายของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง(Stroke ; I60-I69) การรักษาใน Stroke Unit

4. ร้อยละผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (I60-I69) ที่มอาการไมเกิน 72 ชั่วโมงได้รับการรักษาใน

Stroke Unit ระยะเวลาที่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
5. ร้อยละผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตับระยะเฉียบพลัน (I63) ที่มีอาการไม่เกิน
4.5 ชั่วโมง ได้รับการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดด าภายใน 60 นาที
(door to needle time)
6. ร้อยละผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตก (I60-I62) ได้รับการผ่าตัดสมองภายใน 90 นาที

(door to needle time)
1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ประเทศไทยมีอตราโรคปอดอดกั้นเรื้อรังรายใหม่ในปี 2558-2562 ดังนี้ ปี 2558 อตรา 60.83




ต่อแสนประชากร, ปี 2559 อตรา 69.60 ต่อแสนประชากร, ปี 2560 อตรา 71.38 ต่อแสนประชากร,

ปี 2561 อตรา 67.36 ต่อแสนประชากร และปี 2562 อตรา 50.27 ต่อแสนประชากร ผู้ปุวยโรคหลอดเลือด

สมองมีแนวโน้มลดลง

ส าหรับจังหวัดศรีสะเกษมีอตราโรคหลอดเลือดสมองรายใหม่ ในปี 2558-2562 ดังนี้ ปี 2558 อตรา


8.59 ต่อแสนประชากร, ปี 2559 อตรา 16.95 ต่อแสนประชากร, ปี 2560 อตรา 11.70 ต่อแสนประชากร,


ปี 2561 อตรา 13.72 ต่อแสนประชากร และปี 2562 อตรา 16.71 ต่อแสนประชากร ผู้ปุวยโรค

หลอดเลือดสมองตายในปี 2558-2562 ดังนี้ ปี 2558 อตราตาย 39.89 ต่อแสนประชากร, ปี 2559 อตราตาย


47.68 ต่อแสนประชากร, ปี 2560 อตราตาย 49.99 ต่อแสนประชากร, ปี 2561 อตราตาย 56.66


ต่อแสนประชากร และปี 2562 อัตราตาย 60.74 ต่อแสนประชากรมีแนวโน้มสูงขึ้น

รูปที่ 1 อัตราผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองรายใหม่ต่อแสนประชากรจังหวัดศรีสะเกษ ปี 2558-2562
แยกรายอ าเภอ



















189


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 2 อัตราตายผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองต่อแสนประชากรจังหวัดศรีสะเกษ ปี 2558-2562

แยกรายอ าเภอ















2. มาตรการในการด าเนินงาน


2.1 พฒนา Stroke awareness ประชาสัมพนธ์โอกาสเสี่ยงการเกิดดรคหลอดเลือดสมอง “ ออนรง

แขนา มึนชาตามัว หน้าเบี้ยวเวียนหัว ลิ้นรัวเดินเซ” ในวงกว้าง
2.2 พัฒนา Stroke Alert , ระบบ Fast tract , Unit Stroke
2.3 ให้มีการจัดตั้ง Clinic Stroke เชื่อมกับ คลินิกโรคเรื้อรัง การดูแลผู้ปุวย Intermediate care
2.4 ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ปุวยโรคหลอดเลือดสมอง


3. ผลการด าเนินงาน
ี่
ตารางท 64 ผลการด าเนินงานป้องกันควบคุมโรคหลอดเลือดสมอง ปีงบประมาณ 2562

ผลการ
ที่ ตัวชี้วัด
ด าเนินงาน
1 อัตราตายของผู้ปุวยโรคหลอดเลือดสมองตีบ/อดตัน (Ischemic Stroke ; I63 ร้อยละ 7.54

2 อัตราตายของผู้ปุวยโรคหลอดเลือดสมองแตก Hemorrhagic Stroke ; I60-I62) ร้อยละ 3.49
3 อัตราตายของผู้ปุวยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke ; I60-I69) ร้อยละ 7.54

การรักษาใน Stroke Unit
4 ร้อยละผู้ปุวยโรคหลอดเลือดสมอง (I60-I69) ที่มีอาการไม่เกิน 72 ชั่วโมงได้รับ ร้อยละ 100
การรักษาใน Stroke Unit ระยะเวลาที่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม

5 ร้อยละผู้ปุวยโรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตับระยะเฉียบพลัน (I63) ที่มีอาการ ร้อยละ 89.77
ไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง ได้รับการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดด าภายใน

60 นาที (door to needle time)
6 ร้อยละผู้ปุวยโรคหลอดเลือดสมองแตก (I60-I62) ได้รับการผ่าตัดสมองภายใน ร้อยละ 55.30

90 นาที (door to needle time)






190


รายงานประจ าปี 2562



4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

4.1 การประชาสัมพันธ์อาการเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในวงกว้างยังน้อย เพื่อเพิ่มการเข้าถึง
4.2 การจัดตั้งคลินิกโรคหลอดเลือดสมองในดรงพยาบาลชุมชนยังไม่ครอบคลุมทุกแห่ง

















































191


รายงานประจ าปี 2562



งานคลินิกไร้พุง (DPAC)


ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละของประชาชนวัยท างานมีค่าดัชนีมวลกายปกติ น้อยกว่าร้อยละ 54

2. รอบเอวของประชาชนวัยท างานอายุ 30-44 ปี อยู่ในเกณฑ์ปกติ มากกว่าร้อยละ 54
3. ร้อยละของหน่วยบริการผ่านการประเมินตนเองคลินิก DPAC ร้อยละ 80
4. ร้อยละของอ าเภอผ่านการประเมินตนเององค์กรไร้พุง ร้อยละ 80

1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ผลค่าดัชนีมวลกายของประชากรวัยท างานอายุ 30-44 ปี มีค่าดัชนีมวลกายปกติรายเอน ภาพรวม
ของประเทศ จากข้อมูล Health data center ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 ถึงเดือน ตุลาคม 2561 พบว่า
แนวโน้มของค่าดัชนีมวลกายเพมสูงขึ้นไม่มากนักคือประมาณร้อยละ 0.1 และเมื่อพจารณาผลดัชนีมวลกาย

ิ่
ของประชากรวัยท างานอายุ 30-44 ปี มีดัชนีมวลกายปกติ รายเขตสุขภาพตั้งแต่ปี 2558 -2562 พบว่า
เขตสุขภาพที่แนวโน้มสูงขึ้นจากปี 2561 แล้วสูงขึ้นในปี 2562 สาเหตุส าคัญมาจากการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่
เหมาะสม โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ อาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสหวานจัด

เค็มจัด ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ าตาลสูง รวมทั้งการขาดการออกก าลังกายด้วย จากภาวะอวนไม่นานก็จะกลายเป็น
โรคอวน ท้ายที่สุดแล้วก็จะน าไปสู่การเจ็บปุวยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน

โรคหลอกเลือดสมอง หรือแม้แต่มะเร็ง
ข้อมูลสถานการณ์จังหวัดศรีสะเกษย้อนหลัง 5 ปีประชากรวัยท างานมีดัชนีมวลกายปกติ (18.5-22.9
กก./ตร.ม2) ปี 2557-2562 ร้อยละ 49.88, 46.11, 44.74, 44.91, 44.35 และ 43.45 ตามล าดับ ซึ่งไม่บรรลุ

ค่าเปูาหมาย ที่ได้ก าหนดไว้ร้อยละ 56 (ข้อมูลจาก HDC วันที่ 31 ตุลาคม 2562)
จากข้อมูลสถานการณ์จังหวัดศรีสะเกษย้อนหลัง 5 ปี รอบเอวของประชากรวัยท างานอยู่ใน
เกณฑ์ปกติปี 2557-2562 ร้อยละ 77.54, 76.52, 76.41, 77.09, 76.66 และ 76.18 ตามล าดับ (ข้อมูลจาก
HDC วันที่ 31 ตุลาคม 2562)


2. มาตรการในการด าเนินงาน
2.1 มีการจัดตั้งคลินิกไร้พุงในสถานประกอบการ
2.2 มีทีมสหวิชาชีพในการด าเนินงาน

2.3 มีรูปแบบในการด าเนินกิจกรรมการให้บริการในคลินิก
2.4 มีระบบการประเมิน/ติดตาม/พัฒนาแผนการติดตาม
2.5 แนวทางการด าเนินงาน

2.5.1 ในประชาชนอายุ 30-44 ปี
2.5.1.1 ส ารวจประชากรเปูาหมาย 30-44 ปี
2.51.2 วัดส่วนสูง ชั่งน้ าหนัก ประเมินค่าดัชนีมวลกาย
2.5.1.3 จ าแนกกลุ่มเปูาหมายออกเป็น กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
และโรคความดันโลหิตสูง กลุ่มปุวยด้วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง

2.5.1.4 ด าเนินการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่งต่อกลุ่มเสี่ยงเข้าคลีนิกปรับเปลี่ยน
พฤติกรรม (DPAC) ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
2.5.1.5 จัดท าทะเบียนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มปุวยรายหมู่บ้าน

2.5.1.6 ติดตามน้ าหนักในเดือนที่ 1 เดือนที่ 6 และประเมินเมื่อครบ 1 ปี




192


รายงานประจ าปี 2562



2.5.2 ในสถานบริการสาธารณสุข

2.5.2.1 ประเมินสมรรถภาพ ตรวจสุขภาพบุคลากรในหน่วยงานปีละ 1 ครั้ง
ื้
2.5.2.2 จัดสถานที่ที่เออให้บุคลากรในหน่วยงานได้ออกก าลังกายอย่างน้อย
สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที
2.5.2.3 จัดกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบุคลากรในองค์กร

2.5.2.4 ติดตามน้ าหนักในเดือนที่ 1 เดือนที่ 6 และประเมินเมื่อครบ 1 ปี

3. ผลการด าเนินงาน

3.1 ผลงานภาพรวมจังหวัด
ตารางที่ 65 ผลงานภาพรวมจังหวัดงานคลินิกไร้พุง (DPAC) ปีงบประมาณ 2562

เป้าหมาย/ ผ่าน/
ที่ รายการ เกณฑ ์
ผลงาน ไม่ผ่าน

1 ร้อยละของประชาชนวัยท างาน น้อยกว่า 341,640/ ผ่าน
มีค่าดัชนีมวลกายปกติ ร้อยละ 54 148,236
(43.39%)

2 รอบเอวของประชาชนวัยท างาน มากกว่า 115,342/ ผ่าน
อายุ 30-44 ปีอยู่ในเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 54 87,871
(76.18%)

3 ร้อยละของหน่วยบริการ ร้อยละ 80 22/22 ผ่าน
ผ่านการประเมินตนเองคลินิก DPAC (100%)

4 ร้อยละของอ าเภอผ่าน ร้อยละ 80 22/22 ผ่าน
การประเมินตนเององค์กรไร้พุง (100%)


ที่มา : ข้อมูลจาก HDC แฟูม (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562)





















193


รายงานประจ าปี 2562



3.2 ผลงานแยกรายอ าเภอ

ี่
ตารางท 66 จ านวนร้อยละของประชากรอายุ 30-44 ปี มีดัชนีมวลกายปกติ ปี 2562
(ตุลาตม 2561 ถึง กันยายน 2562)

ปี 2562

ที่ อ าเภอ อายุ 18-59 ปี อายุ 18-59 ปี
ที่ชั่งน้ าหนัก/วัดส่วนสูง ดัชนีมวลกายปกติ ร้อยละ
1 เมืองศรีสะเกษ 26,105 11,098 42.51

2 ยางชุมน้อย 9,377 4,410 47.03
3 กันทรารมย์ 21,969 8,415 38.3

4 กันทรลักษ ์ 54,101 24,423 45.14
5 ขุขันธ์ 34,836 16,556 47.53
6 ไพรบึง 11,675 5,046 43.22

7 ปรางค์ก ู่ 13,445 6,176 45.94
8 ขุนหาญ 28,265 12,708 44.96

9 ราษีไศล 17,663 7,896 44.7
10 อุทุมพรพิสัย 22,147 8,623 38.94
11 บึงบูรพ์ 2,525 1,019 40.36

12 ห้วยทับทัน 8,705 3,505 40.26
13 โนนคูณ 9,637 3,579 37.14

14 ศรีรัตนะ 12,447 5,301 42.59
15 น้ าเกลี้ยง 11,488 5,416 47.14
16 วังหิน 12,585 5,938 47.18

17 ภูสิงห์ 11,822 4,919 41.61
18 เมืองจันทร์ 5,486 2,356 42.95

19 เบญจลักษณ์ 9,400 3,476 36.98
20 พยุห์ 8,410 3,239 38.51
21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 5,438 2,431 44.7

22 ศิลาลาด 3,939 1,618 41.08
รวม 341,465 148,148 42.67

ที่มา : ข้อมูลจาก HDC แฟูม (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562)












194


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 1 ร้อยละของประชากรอายุ 30-44 ปี ดัชนีมวลการปกติ แยกรายอ าเภอ





















ที่มา : ข้อมูลจาก HDC แฟูม (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562)






























195


รายงานประจ าปี 2562



ี่
ตารางท 67 รอบเอวของประชาชนวัยท างานอายุ 30-44 ปี จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562

จ านวนประชากรท างาน จ านวนประชากรท างาน

ล าดับ อ าเภอ อายุ 30 ปี - 44 ปี อายุ 30 ปี - 44 ปี ร้อยละ
ที่วัดรอบเอวทั้งหมด มีเส้นรอบเอวอยู่ในเกณฑ์ปกติ
1 เมืองศรีสะเกษ 9,139 6,415 70.19
2 ยางชุมน้อย 3,096 2,222 71.77

3 กันทรารมย์ 6,898 4,626 67.06
4 กันทรลักษ ์ 21,235 17,456 82.2
5 ขุขันธ์ 11,634 9,286 79.82

6 ไพรบึง 3,014 2,366 78.5
7 ปรางค์ก ู่ 4,002 3,124 78.06
8 ขุนหาญ 10,133 8,118 80.11

9 ราษีไศล 5,487 4,191 76.38
10 อุทุมพรพิสัย 6,771 4,848 71.6
11 บึงบูรพ์ 704 504 71.59

12 ห้วยทับทัน 2,375 1,742 73.35
13 โนนคูณ 3,182 2,048 64.36
14 ศรีรัตนะ 4,018 2,862 71.23

15 น้ าเกลี้ยง 4,380 3,727 85.09
16 วังหิน 4,633 3,660 79
17 ภูสิงห์ 3,923 2,805 71.5

18 เมืองจันทร์ 2,066 1,630 78.9
19 เบญจลักษ ์ 3,284 2,272 69.18
20 พยุห์ 2,443 1,699 69.55
21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 1,823 1,445 79.26

22 ศิลาลาด 1,101 824 74.84
รวม 115,341 87,870 74.71

















196


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 2 รอบเอวของประชาชนวัยท างานอายุ 30-44 ปี จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562




















4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)
ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง
และโรคมะเร็ง เป็นปัญหาสุขภาพที่ส าคัญระดับประเทศ เนื่องมาจากความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี
และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อการด าเนินชีวิตของประชาชนคนไทย มีความสะดวกสบาย




มากยิ่งขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้อตราเสี่ยงและอตราการเกิดของโรคอวนลงพง และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

เพิ่มสูงขึ้น จากรายงานสถิติสุขภาพทั่วโลก พ.ศ. 2555 ขององค์การอนามัยโลกพบว่า 1 ใน 10 ของประชาชน
ในวัยผู้ใหญ่ปุวยเป็นโรคเบาหวานและ 1 ใน 3 มีภาวะความดันโลหิตสูง นอกจากนี้พบว่าประมาณร้อยละ 63
ของการเสียชีวิตทั้งหมดทวโลกเกิดจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ั่
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ โดยเพมการเคลื่อนไหวร่างกาย/การมีกิจกรรมทางกาย (Physical
ิ่
Activity) การมีพฤติกรรมสุขภาพด้านอาหารและโภชนาการ (Diet) ที่เหมาะสม ลดอาหารหวาน มัน เค็ม
ิ่
เพมการรับประทานผักผลไม้ ควบคุมปูองกันไม่ให้เกิดภาวะโภชนาการเกิน ลดการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา จัดการ
อารมณ์ เน้นการลดปัจจัยเสี่ยง ปูองกันภาวะน้ าหนักเกิน/อวนลงพง และปูองกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้


ทั้งนี้กรมอนามัยมีนโยบายส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ 3 อ. 2 ส. โดยด าเนินการสนับสนุนการ
ื่

จัดตั้งคลินิกไร้พง (DPAC : Diet & Physical Activity Clinic) ในสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ เพอให้
ประชาชนได้รับการบริการในคลินิกไร้พุงและมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพอส่งเสริม
ื่
สุขภาพ ปูองกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังให้แก่ประชาชน
ื่

โครงการพฒนาคลินิกไร้พงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพอพฒนากระบวนด าเนินงานและการขยายผล



การจัดตั้งคลินิกไร้พุง (DPAC) พัฒนาเกณฑ์และจัดท าคู่มือการด าเนินงาน คลินิกไร้พง (DPAC) ในสถานบริการ

ื่

สาธารณสุขแต่ละระดับ เพอพฒนาและยกระดับคุณภาพการด าเนินงานสู่เปูาหมาย คลินิกไร้พงคุณภาพ
(DPAC Quality) สร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม
เพื่อปูองกันและลดภาวะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง




197


รายงานประจ าปี 2562



5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป

5.1 ประเมินสภาวะสุขภาพ ด าเนินการวัดรอบเอว ชั่งน้ าหนัก วัดส่วนสูงในประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป
บูรณาการกับการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะเบาหวานและความดันโลหิตสูง
5.2 จ าแนกประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ตามปิงปองจราจรชีวิต 7 สี ได้แก่
5.2.1 กลุ่มปกติ สีขาว หญิงรอบเอว น้อยกว่า 80 เซนติเมตร ชาย รอบเอวน้อยกว่า 90
2
เซนติเมตร หรือค่า BMI น้อยกว่า 25 กก.ม.
5.2.2 กลุ่มเสี่ยง สีเขียวอ่อน หญิงรอบเอว มากกว่า 80 เซนติเมตร ชาย รอบเอวมากกว่า 90
2
เซนติเมตร หรือ ค่า BMI น้อยกว่า 25 กก.ม.
5.2.3 กลุ่มปุวยด้วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง แยกเป็นสีเขียว เหลือง ส้ม แดง ด า
5.3 การปรับวิสัยทัศน์ เปูาประสงค์และกลยุทธ์ด าเนินการให้เกิดการบูรณาการบริการให้เออต่อการ
ื้
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อส่งเสริมปูองกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง



5.4 พฒนาคลินิกไร้พงให้มีคุณภาพโดยประยุกต์ใช้การพฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ
(PMQA ย่อมาจาก Public Sector Management Quality Award) และยึดผู้มารับบริการหรือผู้ปุวยเป็น
ศูนย์กลาง
ิ่

5.5 เพมการดูแลแบบผสมผสาน โดยบูรณาการงานคลินิกไร้พง (DPAC) และงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
(NCD) ประสานการด าเนินงานร่วมกันเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในการส่งเสริม ปูองกัน และบ าบัด
โรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างยั่งยืน
5.6 เพิ่มคุณภาพในกระบวนการจัดการ และคุณภาพการบริหารจัดการทางคลินิก (Clinical Quality)
5.7 เชื่อมโยงการเข้าถึงการดูแลในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน
5.8 มีการสนับสนุนการใช้ข่าวสาร และทรัพยากรร่วมกัน




























198


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันและแก้ไขมะเร็งปากมดลูก


ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละของสตรีจังหวัดศรีสะเกษกลุ่มอายุ 30-60 ปี ได้รับการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

สะสม 5 ปี (2558-2562) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
โรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่ส าคัญของประเทศไทย ท าให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชน


และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเป็นจ านวนมาก โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอนดับหนึ่ง

ในประเทศไทย จากข้อมูลสถิติสาธารณสุขปี พ.ศ. 2546 (สถาบันมะเร็งแห่งชาติ, 2548) พบว่า อตราตายจาก
โรคมะเร็งของประชากรไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น และโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ มะเร็งตับ

มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ตามล าดับ ส าหรับสตรีไทยโรคมะเร็งปากมดลูกมีอบัติการณ์
สูงเป็นอันดับหนึ่งของโรคมะเร็งทุกชนิด (สถาบันมะเร็งแห่งชาติ, 2548) นอกจากนี้ยังพบว่า การตรวจวินิจฉัย

และให้การรักษาผู้ที่มีความผิดปกติของปากมดลูกตั้งแต่ ระยะก่อนเป็นมะเร็งตามขั้นตอน ที่ถูกต้องเหมาะสม
สามารถลดอบัติการณ์และอตราการตายของโรคมะเร็งปากมดลูกได้ เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็ง


ที่สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่เซลล์เริ่มผิดปกติโดยการท า Pap smear หรือ VIA (Visual Inspection of
cervix with Acetic acid) ประกอบกับการด าเนินโรคเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และสามารถรักษาให้หายขาด
ได้โดยการรักษาตามระบบและการจี้เย็น (Cryotherapy) ปีงบประมาณ 2553 ส านักงานหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติได้เห็นความส าคัญของปัญหา จึงให้การสนับสนุนงบประมาณการด าเนินงานโครงการคัดกรองมะเร็ง
ปากมดลูกแก่กระทรวงสาธารณสุข โดยมอบให้สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ เป็นผู้ด าเนินโครงการ

คัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap smear และ VIA ในสตรีไทยอายุ 30-60 ปี ก าหนดเกณฑ์ตัวชี้วัด
ร้อยละของสตรี 30-60 ปี ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสะสมปีงบประมาณ 2558-2562
ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
ในปี 2558-2562 จังหวัดศรีสะเกษ ได้ด าเนินการคัดกรองค้นหาโรคมะเร็งปากมดลูกมีผลงานสะสม

5 ปี เปูาหมาย 217,975 คน ได้รับการตรวจคัดกรอง 146,739 คน คิดเป็นร้อยละ 67.32 ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์
ตัวชี้วัด

2. มาตรการในการด าเนินงาน


2.1 ประสานการด าเนินงานร่วมกันระหว่างโรงพยาบาล/ส านักงานสาธารณสุขอาเภอ/ภาคีเครือข่าย
และแต่งตั้งคณะกรรมการการด าเนินงานระดับอ าเภอ/ต าบล
2.2 จัดท าแผนงานโครงการที่เกี่ยวข้อง

2.3 ส ารวจ/รวบรวมข้อมูลประชากรเปูาหมายเพศหญิงที่มีอายุ 30-60 ปี ในพนที่ โดยมีอาสาสมัคร
ื้
สาธารณสุขประจ าหมู่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ด าเนินกิจกรรมการคัดกรอง
ื่
2.4 ด าเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชากรกลุ่มเปูาหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองเพอค้นหามะเร็ง
ปากมดลูก
2.5 ด าเนินการคัดกรองโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

2.6 กรณีผล Pap smear เป็นบวกให้ส่งต่อผู้ปุวยไปยังโรงพยาบาลชุมชน/โรงพยาบาลทั่วไป
ตามล าดับ เพี่อให้แพทย์ยืนยันการวินิจฉัย
2.7 กรณีวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก ให้ส่งต่อผู้ปุวยเข้าสู่ระบบการรักษามาตรฐาน







199


รายงานประจ าปี 2562



2.8 จัดท าทะเบียนกลุ่มเสี่ยงกลุ่มปุวยให้ครบถ้วน โดยบูรณาการกับการคัดกรองมะเร็งล าไส้ปกติ มี

การบันทึกข้อมูลใน 43 แฟูม ให้ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน
2.9 บริหารจัดการ/พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง
2.10 นิเทศติดตามประเมินผล
2.11 สรุปด าเนินผลงาน


3. ผลการด าเนินงาน
ี่
ตารางท 68 ผลการด าเนินงานคัดกรองมะเร็งปากมดลูกกลุ่มอายุ 30-60 ปี สะสม 4 ปี จังหวัดศรีสะเกษ
จ าแนกรายอ าเภอ (2558-2562)

ประชากรเป้าหมาย ผลการด าเนินงานสะสม
ที่ อ าเภอ ร้อยละ
ณ ปีงบประมาณ 2558 ปีงบประมาณ 2558-2562
1 เมืองศรีสะเกษ 21,510 7,885 36.66

2 ยางชุมน้อย 5,892 4,511 76.56
3 กันทรารมย์ 14,821 8,943 60.34
4 กันทรลักษ ์ 35,914 26,289 73.2

5 ขุขันธ์ 21,087 17,408 82.55
6 ไพรบึง 5,817 4,465 76.76
7 ปรางค์ก ู่ 9,403 6,338 67.4
8 ขุนหาญ 17,273 9,180 53.15

9 ราศีไศล 11,665 6,587 56.47
10 อุทุมพรพิสัย 14,483 10,006 69.09

11 บึงบูรพ์ 1,243 1,054 84.79
12 ห้วยทับทัน 5,452 3,695 67.77
13 โนนคูณ 5,893 4,251 72.14
14 ศรีรัตนะ 7,609 6,241 82.02

15 น้ าเกลี้ยง 6,927 3,253 46.96
16 วังหิน 8,037 7,169 89.2

17 ภูสิงห์ 7,131 5,599 78.52
18 เมืองจันทร์ 2,479 2,156 86.97
19 เบญจลักษ ์ 5,347 3,815 71.35
20 พยุห์ 4,784 3,588 75

21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 3,062 2,587 84.49
22 ศิลาลาด 2,146 1,719 80.1
รวม 217,975 146,739 67.32

ที่มา : ข้อมูลจาก HDC แฟูม (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562)







200


รายงานประจ าปี 2562



ผลการด าเนินงานคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีกลุ่มอายุ 30-60 ปี สะสม 5 ปี (2558-2562)

ร้อยละ 80 จากตารางแสดงผลการด าเนินงานประชากรเปูาหมายจ านวน 217,975 คน ได้รับการคัดกรอง
146,739 คน คิดเป็นร้อยละ 67.32 ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์ ในส่วนของผลการด าเนินงานปูองกันและควบคุม
โรคมะเร็งปากมดลูกจังหวัดศรีสะเกษ แบ่งกลุ่มตามผลการด าเนินงานได้ 3 กลุ่ม ดังนี้



3.1 กลุ่มดีมาก ผ่านเกณฑ์เปูาหมายมากกว่าร้อยละ 80 จ านวน 7 อาเภอ ได้แก่ อาเภอวังหิน อาเภอ
เมืองจันทร์ อ าเภอบึงบูรพ์ อ าเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ อ าเภอขุขันธ์ อ าเภอศรีรัตนะ และอ าเภอศิลาลาด


3.2 กลุ่มดี มีผลการด าเนินงานร้อยละ 70-79 จ านวน 4 อาเภอ ได้แก่ อาเภอภูสิงห์ อาเภอไพรบึง


อ าเภอยางชุมน้อย อ าเภอพยุห์ อ าเภอกันทรลักษ อ าเภอโนนคูณ และอ าเภอเบญจลักษ ์




3.3 กลุ่มพอใช้ มีผลการด าเนินงานน้อยกว่าร้อยละ 69 มีจ านวน ได้แก่ อาเภออทุมพรพสัย อาเภอ
ห้วยทับทัน อาเภอปรางค์กู่ อาเภอกันทรารมย์ อาเภอราศีไศลอาเภอขุนหาญ อาเภอน้ าเกลี้ยง และอาเภอ






เมืองศรีสะเกษ

รูปที่ 1 การด าเนินงานคัดกรองมะเร็งปากมดลูกกลุ่มอายุ 30-60 ปี สะสม 5 ปี จังหวัดศรีสะเกษ
จ าแนกรายอ าเภอ (2558-2562)


















ที่มา : ข้อมูลจาก HDC แฟูม (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562)


4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)
4.1 ระบบข้อมูลมีความยุ่งยากซักซ้อนในการใช้งาน
4.2 ผลการด าเนินงานมะเร็งยังไม่ผ่านตัวชี้วัด

5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป

5.1 ปรับปรุงระบบข้อมูลให้มีการใช้งานง่ายกว่าเดิม






201


รายงานประจ าปี 2562



แผนผังการด าเนินงานคัดกรองมะเร็งปากมดลูก



ค้นหากลุ่มเสี่ยงการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

หมายถึง สตรีสัญชาติไทยทุกสิทธิที่มีอายุ 30-60 ปี





ตรวจ Pap smear





ยังไม่ทราบผลตรวจ

บันทึก Special PP บันทึกผลการด าเนินงานในฐานข้อมูล

รหัส 1B0044 โรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล






ผลตรวจปกติ ผลตรวจผิดปกติ
บันทึก Special PP บันทึก Special PP
รหัส 1B30 รหัส 1B40





ตรวจซ้ า ส่งต่อโรงพยาบาลศรีสะเกษ

ปีละ 1 ครั้ง ผ่านศูนย์ประสาน





1. ติดตามผลการวินิจฉัย การรักษา
2. เยี่ยมบ้าน บันทึก Special PP รหัส 1A002

เยี่ยมผู้ปุวยโรคมะเร็ง








202


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันและแก้ไขมะเร็งเต้านม


ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละของสตรีจังหวัดศรีสะเกษกลุ่มอายุ 30-70 ปี ได้รับการคัดกรองมะเร็งเต้านม

ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90
1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
มะเร็งเต้านมนับวันยิ่งทวีความส าคัญมากขึ้นเป็นล าดับ จากสถิติพบว่า มะเร็งเต้านมเป็นโรคมะเร็งที่

พบบ่อยที่สุดของสตรีทั่วโลก คิดเป็นร้อยละ 16 ของโรคมะเร็งในสตรี ในแต่ละปีจะพบผู้ปุวยมะเร็งเต้านม
570,000 คน ในผู้หญิงอายุ 50 ปี ทุกๆ 1,000 คน จะเป็นมะเร็งเต้านม 2 คน ส าหรับประเทศไทยมะเร็งเต้า

นมพบมากเป็นอันดับหนึ่งและเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลการปุวยและการตายอตราต่อแสนประชากรด้วย
โรคมะเร็งเต้านม พ.ศ. 2549-2552 เท่ากับ 34.4, 37.9, 40.62 และ 38.4 ตามล าดับ ข้อมูลการตายอตรา

ต่อแสนประชากรเท่ากับ 6.3, 6.8, 7.3, 7.3, 7.7 ตามล าดับ (เอกสารเผยแพร่ความรู้ “เพอนสุขภาพ” ศูนย์
ื่

อนามัยที่ 5 ปีที่ 6 ฉบับที่ 5 พฤษภาคม 2555) แม้มะเร็งเต้านมจะพบน้อยกว่ามะเร็งปากมดลูกแต่อตราการ
เสียชีวิตจะมากกว่า เพราะการเป็นมะเร็งเต้านมจะไม่รู้ล่วงหน้าและไม่มีอาการบ่งบอก สาเหตุโดยตรงที่ท าให้
เกิดมะเร็งเต้านมยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ประมาณร้อยละ 25 ของผู้ปุวย พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง

กับการเกิดมะเร็งเต้านม คือ กลุ่มคนที่มีประจ าเดือนครั้งแรกเมื่ออายุยังน้อยหรือหมดประจ าเดือนเมื่ออายุมาก
ขาดการออกก าลังกายอย่างสม่ าเสมอ ประวัติครอบครัวมีญาติพี่น้องสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม การรับประทาน

อาหารไขมันมาก การดื่มเหล้า เป็นต้น ส่วนอกร้อยละ 75 ของผู้ปุวยยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัดว่าเกี่ยวกับอะไร
ประมาณว่าในช่วงชีวิตของผู้หญิง 1 ใน 10 คน จะมีโอกาสเป็นมะเร็งต้านมได้ และมักพบในสตรีอายุ 40 ปี

ขึ้นไป การปูองกันที่ดีที่สุด คือ การค้นพบให้เร็วที่สุด โดยการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ควรจะเริ่มตรวจเมื่ออายุ
๒๐ ปีขึ้นไป โดยตรวจเป็นประจ าทุกเดือน หากพบสิ่งผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์จะสามารถลดอตราตายของ

โรคได้ดี
ในปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษได้ด าเนินงานคัดกรองมะเร็งเต้านม เปูาหมายการคัดกรองคือสตรีไทย

อายุ 30-70 ปี จ านวน 269,475 ด าเนินการคัดกรองจ านวน 210,527 คน คิดเป็นร้อยละ 78.12 ซึ่งยังไม่ผ่าน
เกณฑ์

2. มาตรการในการด าเนินงาน


2.1 ให้ประสานการด าเนินงานร่วมกันระหว่างโรงพยาบาล/ส านักงานสาธารณสุขอาเภอ/ภาคี
เครือข่าย และแต่งตั้งคณะกรรมการการด าเนินงานระดับอ าเภอ/ต าบล
2.2 จัดท าแผนงานโครงการที่เกี่ยวข้อง

2.3 ส ารวจ/รวบรวมข้อมูลประชากรเปูาหมายคือสตรีอายุ ๓๐-๗๐ ปี ที่มีอยู่ในพนที่ โดยมีอาสาสมัคร
ื้
สาธารณสุขประจ าหมู่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ด าเนินกิจกรรมการคัดกรอง
ื่
2.4 ด าเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชากรกลุ่มเปูาหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองเพอค้นหามะเร็ง
เต้านมด้วยตนเอง (BSE) และบันทึกการตรวจลงในสมุดบันทึกการตรวจเต้านมตนเอง
2.5 ยืนยันการตรวจคัดกรองโดย อสม.เชี่ยวชาญ และรับรองผลการตรวจโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

2.6 กรณีพบความผิดปกติให้ส่งต่อโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล/โรงพยาบาลชุมชนในพนที่ และ
ื้
โรงพยาบาลทั่วไปตามล าดับ
2.7 จัดท าทะเบียนกลุ่มเสี่ยงกลุ่มปุวยให้ครบถ้วน โดยบูรณาการกับการคัดกรองมะเร็งเต้านมปกติ มี

การบันทึกข้อมูลใน 43 แฟูม ให้ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน




203


รายงานประจ าปี 2562



2.8 บริหารจัดการ/พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง

2.9 นิเทศติดตามประเมินผล
2.10 สรุปผลการด าเนินงาน

3. ผลการด าเนินงาน

ี่
ตารางท 69 ผลการด าเนินงานคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีอายุ 30-70 ปี จังหวัดศรีสะเกษ

ประชากรเป้าหมาย ร้อยละของประชากร
ประชากรเป้าหมาย
ที่ อ าเภอ ที่ได้รับการตรวจ ที่ได้รับการตรวจ
สตรีอายุ 30-70 ปี
คัดกรอง คัดกรอง

1 เมืองศรีสะเกษ 26,567 13,110 49.35
2 ยางชุมน้อย 7,247 5,367 74.06

3 กันทรารมย์ 18,092 16,608 91.8

4 กันทรลักษ ์ 44,321 20,323 45.85
5 ขุขันธ์ 26,285 22,211 84.5

6 ไพรบึง 7,396 6,939 93.82

7 ปรางค์ก ู่ 11,626 10,865 93.45
8 ขุนหาญ 21,375 19,424 90.87

9 ราษีไศล 14,431 13,064 90.53

10 อุทุมพรพิสัย 18,193 16,504 90.72
11 บึงบูรพ์ 1,531 1,476 96.41

12 ห้วยทับทัน 6,824 5,737 84.07

13 โนนคูณ 7,334 6,603 90.03
14 ศรีรัตนะ 9,266 8,485 91.57

15 น้ าเกลี้ยง 8,423 7,724 91.7

16 วังหิน 9,907 9,210 92.96

17 ภูสิงห์ 8,708 7,663 88
18 เมืองจันทร์ 3,111 2,939 94.47

19 เบญจลักษ ์ 6,384 5,877 92.06

20 พยุห์ 5,916 4,583 77.47
21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 3,915 3,729 95.25

22 ศิลาลาด 2,623 2,086 79.53

รวม 269,475 210,527 78.12
ที่มา : ข้อมูลจาก HDC แฟูม (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562)





204


รายงานประจ าปี 2562



ผลการด าเนินงานคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีกลุ่มอายุ 30-70 ปี ในปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษ มี

ประชากรเปูาหมาย 269,475 คน ได้รับการคัดกรอง 210,527 คน คิดเป็นร้อยละ 78.12 ยังไม่ผ่านเกณฑ์
ตัวชี้วัด ในการด าเนินงานจ าแนกรายอ าเภอ แบ่งกลุ่มตามผลการด าเนินงาน ดังนี้



1. กลุ่มดีเด่น ผ่านเกณฑ์เปูาหมายมากกว่าร้อยละ 90 จ านวน 14 อ าเภอ ได้แก อ าเภอบึงบูรพ อาเภอ





โพธิ์ศรีสุวรรณ อาเภอเมืองจันทร์ อาเภอไพรบึง อาเภอปรางค์กู่ อาเภอวังหิน อาเภอเบญจลักษ์ อาเภอ









กันทรารมย์ อาเภอน้ าเกลี้ยง อาเภอศรีรัตนะ อาเภอขุนหาญ อาเภออทุมพรพสัย อาเภอราศีไศล และอาเภอ
โนนคูณ

2. กลุ่มดีมาก ผ่านเกณฑ์เปูาหมายร้อยละ 80-89 จ านวน 3 อาเภอ ได้แก่ อาเภอภูสิงห์ อาเภอขุขันธ์


และอ าเภอห้วยทับทัน



3. กลุ่มดี ผ่านเกณฑ์เปูาหมายต่ ากว่าร้อยละ 70-79 จ านวน 3 อาเภอ ได้แก่ อาเภอศิลาลาด อาเภอ
พยุห์ และอ าเภอยางชุมน้อย

4. กลุ่มพอใช้ ผ่านเกณฑ์เปูาหมายต่ ากว่าร้อยละ 69 จ านวน 2 อาเภอ ได้แก่ อาเภอเมืองศรีสะเกษ

และอ าเภอกันทรลักษ ์

รูปที่ 1 ผลการด าเนินงานคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีอายุ 30-70 ปี จังหวัดศรีสะเกษ จ าแนกรายอ าเภอ
ปีงบประมาณ ๒๕๖2















4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)
4.1 ระบบการส่งข้อมูลมีความยุ่งยากซับซ้อน

4.2 ผลการด าเนินงานไม่ผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัดเนื่องด้วยสาเหตุ เช่น การจัดเก็บข้อมูลยังไม่ถูกต้อง
ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน

5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป
5.1 พฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ความเข้าใจในระบบการจัดเก็บข้อมูลให้ถูกต้องและเป็น

แนวทางเดียวกันทั้งจังหวัด






205


รายงานประจ าปี 2562



5.2 จัดท าแนวทางการด าเนินงานคัดกรอง การดูแลรักษาอย่างครบถ้วนและต่อเนื่องเป็นแนวทาง

เดียวกันทั้งจังหวัด
5.3 ส่งเสริมสนับสนุนให้ความรู้แก่สตรีกลุ่มเปูาหมายให้เกิดความตระหนัก/เห็นความส าคัญและดูแล
สุขภาพของตนเอง
5.4 อบรมอาสาสมัครประจ าหมู่บ้านและกลุ่มสตรีแกนน า ให้มีความรู้ความเข้าใจเป็นแบบอย่างที่ดี


Flow Chart การจัดการข้อมูลมะเร็งเต้านมจังหวัดศรีสะเกษ



จนท./อสม.เชี่ยวชาญสอน BSE สถานบริการลงทะเบียนสตรีอายุ

ให้สตรีอายุ 30-70 ปี และรับรอง 30-70 ปี ในพื้นที่ของตนเอง

ผลการตรวจ BSE ทุกเดือน




สตรีอายุ 30-70 ปี ในพื้นที่

ตรวจ BSE และลงบันทึก
ในสมุดบันทึกทุกเดือน





อสม. ประเมินคุณภาพการตรวจ สถานบริการบันทึกขอมูลคุณภาพ สถานบริการหรือ

BSE และเก็บข้อมูลส่งสถานบริการ การตรวจ BSE (ความสม่ าเสมอ, Center Upload ไฟล์
ทุกเดือน ความถูกต้อง) เข้าระบบ JHCIS, popdata_ exam

Hos-xp pcu และส่งออกไฟล์ ทุกเดือน
popdata_exam ทุกเดือน


BSE พบผิดปกติ ส่ง พบ จนท.
เพื่อ CBE และส่งต่อ




รพช./รพท./รพศ. ที่รับ Refer ผู้ปุวยมะเร็งเต้านม รพท./รพศ. ที่วินิจฉัยพบ


Investigate วินิจฉัย และการรักษา เป็นผู้ปุวยมะเร็งเต้านมรายใหม่ ให้เก็บขอมูล

กรณีที่ไม่ใช่มะเร็งและที่เป็นมะเร็ง และบันทึกเข้าโปรแกรมของโครงการ
ตามแบบฟอร์มรายบุคคล (From_BCI)







206


รายงานประจ าปี 2562



ขั้นตอนปฏิบัติของการตรวจเต้านมตนเอง จังหวัดศรีสะเกษ



ประชาชนสตรี อายุ 30-70 ปี
ตรวจเต้านม ด้วยตนเองเป็นประจ า
ทุกเดือน


ไม่พบสิ่งผิดปกติ
ตรวจพบ
จดบันทึกผลการตรวจ
ิ่

สงผิดปกติหรอไม ่ ลงในสมุดบนทึก



พบสิ่งผิดปกติ

แจ้ง อสม. และไปพบเจ้าหน้าที่
ที่รพ.สต. เพื่อตรวจยืนยัน





ไม่พบสิ่งผิดปกติ
รพ.สต. ตรวจคัดกรอง บันทึก
รหัส Z๑๒.๓

พบสิ่งผิดปกติ ตรวจแล้ว
อาจไม่ใช่ก้อนเนื้อ
หรือเป็น ถุงน้ า
ส่งต่อเพื่อพบแพทย์ที่ รพช. อาจเจาะน้ าออก
ให้ได้รับการวินิจฉัยด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ แล้วกลับบ้านได้



ไม่พบก้อนเนื้อ
ตรวจพบก้อนเนื้อหรือไม่
พบก้อนเนื้อ


ตรวจพบก้อนเนื้อส่งต่อ
โรงพยาบาลทั่วไป/ศูนย์




จดบันทึกผลการตรวจ
ลงในสมุดบันทึก







207


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันและแก้ไขมะเร็งล าไส้ใหญ่


กลุ่มเป้าหมาย : 1. ประชากรสิทธิ UC อายุ 50-70 ปี จังหวัดศรีสะเกษ

1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ื่
มะเร็งล าไส้มักพบในกลุ่มผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป นอกจากยังมีปัจจัยอนที่ท าให้เกิดโรคได้ เช่น มีประวัติ
การเกิดมะเร็งล าไส้ในครอบครัว พฤติกรรมการการกิน พฤติกรรมการออกก าลังกาย การพกผ่อน เป็นต้น

เนื่องจากผู้ปุวยมักไม่มีอาการแสดงของโรค เมื่อมาพบแพทย์ก็มีอาการมากแล้ว ซึ่งท าให้โอกาสรอดชีวิตและ
รักษาให้หายขาดลดลง


โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอนดับ 1 ในจังหวัดศรีสะเกษ มะเร็งที่พบมากในเพศชาย 5 อนดับแรก
ได้แก่ มะเร็งตับ/ท่อน้ าดี (ร้อยละ 46.67) มะเร็งล าไส้ใหญ่และทวารหนัก (ร้อยละ 19.44) มะเร็งปอด
(ร้อยละ 6.11) มะเร็งในช่องปาก (ร้อยละ 5.37) และมะเร็งต่อมกระเพาะปัสสาวะ (ร้อยละ 4.44) มะเร็งที่พบ

มากในเพศหญิง 5 อันดับแรก ได้แก่ มะเร็งตับ/ท่อน้ าดี (ร้อยละ 23.13) มะเร็งเต้านม (ร้อยละ 22.04) มะเร็ง
ในช่องปาก (ร้อยละ 12.93) มะเร็งล าไส้ใหญ่และทวารหนัก (ร้อยละ 12.39) และมะเร็งต่อมไทรอยด์ (ร้อยละ
8.2)

จากสถานการณ์ข้างต้นจะเห็นได้ว่า มะเร็งล าไส้ใหญ่และทวารหนักพบมากเป็นอนดับ 2 ในเพศชาย



และพบมากเป็นอนดับ 4 ในเพศหญิง ซึ่งมะเร็งล าไส้ใหญ่และทวารหนัก คัดกรองโดยการตรวจอจจาระหา
เลือดแฝงก่อนส่งต่อผู้ปุวยที่พบความผิดปกติในแพทย์ท าการส่องกล้องตรวจล าไส้ใหญ่ ในการคัดกรองมะเร็ง
ล าไส้ใหญ่และทวารหนักนี้ หากผู้ปุวยสามารถคัดกรองพบตั้งแต่ระยะแรกเริ่มสามารถรักษาให้หายขาดได้

ในปีงบประมาณ 2562 จังหวัดศรีสะเกษได้ด าเนินงานคัดกรองมะเร็งล าไส้ใหญ่เป็นปีแรก โดยมี

เปูาหมายในการคัดกรองด้วยการตรวจเม็ดเลือดแดงในอจจาระ (Fit test) เป็นประชากรสิทธิ UC อายุ 50-70
ปี จ านวน 19,500 ราย เปูาหมายในการคัดกรองด้วยวิธีส่องกล้องตรวจล าไส้ใหญ่ (ประชากรสิทธิ UC ที่มีอายุ
50-70 ปี ที่มีผลตรวจ Fit test เป็น Positive) จ านวน 376 ราย เนื่องจากในปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษมีการ

ด าเนินงานส่องกล้องตรวจล าไส้ โดยด าเนินงานเป็น OPD case ในวันราชการ จ านวน วันละ 4 คน มีผลการ
ด าเนินงาน 55 คน

2. มาตรการในการด าเนินงาน

2.1 ประสานการด าเนินงานร่วมกันระหว่างโรงพยาบาล/ส านักงานสาธารณสุขอาเภอ/ภาคีเครือข่าย

และแต่งตั้งคณะกรรมการการด าเนินงานระดับอ าเภอ/ต าบล
2.2 ให้เจ้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ารับการอบรมการตรวจ FIT test

2.3 จัดท าแผนงานโครงการที่เกี่ยวข้อง
2.4 ส ารวจ/รวบรวมข้อมูลประชากรเปูาหมาย คือ ประชากรที่มีอายุ 50-70 ปี ในพนที่ โดยมี
ื้
อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ด าเนินกิจกรรมการคัดกรอง
2.5 ด าเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชากรกลุ่มเปูาหมายเข้ารับการตรวจคัดกรองเพอค้นหามะเร็ง
ื่
ล าไส้ใหญ่

2.6 ด าเนินการคัดกรองโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ผ่านการอบรมการตรวจ FIT test
2.7 กรณีตรวจ FIT test ให้ผลบวก ให้ส่งต่อพบแพทย์เพอท าการส่องกล้องตรวจล าไส้ใหญ่ เพอการ
ื่
ื่
วินิจฉัย
2.8 กรณีวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งล าไส้ ให้ส่งต่อผู้ปุวยเข้าสู่ระบบการรักษามาตรฐาน




208


รายงานประจ าปี 2562



2.9 จัดท าทะเบียนกลุ่มเสี่ยงกลุ่มปุวยให้ครบถ้วน โดยบูรณาการกับการคัดกรองมะเร็งล าไส้ปกติ มี

การบันทึกข้อมูลใน 43 แฟูม ให้ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน
2.10 บริหารจัดการ/พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง
2.11 นิเทศติดตามประเมินผล
2.12 สรุปด าเนินผลงาน


3. ผลการด าเนินงาน
ี่
ตารางท 70 ผลการด าเนินงานคัดกรองมะเร็งล าไส้ด้วยวิธี Fit test ในประชากรกลุ่มอายุ 50-70 ปี

ผลการคัดกรอง
ที่ อ าเภอ เป้าหมาย ร้อยละ positive ร้อยละ
CA Colon
1 เมืองศรีสะเกษ 1,800 633 35.17 17 0.94

2 ยางชุมน้อย 540 449 83.15 19 3.52
3 กันทรารมย์ 1,500 1,063 70.87 39 2.60

4 กันทรลักษ ์ 2,610 1,212 46.44 26 1.00

5 ขุขันธ์ 1,890 1,352 71.53 29 1.53
6 ไพรบึง 600 601 100.17 29 4.83

7 ปรางค์ก ู่ 900 638 70.89 14 1.56
8 ขุนหาญ 1,500 1,314 87.60 35 2.33

9 ราษีไศล 1,200 563 46.92 23 1.92
10 อุทุมพรพิสัย 1,500 908 60.53 24 1.60

11 บึงบูรพ์ 180 147 81.67 2 1.11

12 ห้วยทับทัน 570 521 91.40 13 2.28
13 โนนคูณ 540 427 79.07 7 1.30

14 ศรีรัตนะ 690 669 96.96 11 1.59
15 น้ าเกลี้ยง 540 458 84.81 8 1.48

16 วังหิน 600 917 152.83 22 3.67

17 ภูสิงห์ 600 281 46.83 27 4.50
18 เมืองจันทร์ 240 241 100.42 5 2.08

19 เบญจลักษ ์ 450 443 98.44 13 2.89
20 พยุห์ 450 265 58.89 5 1.11

21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 300 296 98.67 7 2.33

22 ศิลาลาด 300 206 68.67 1 0.33
รวม 19,500 13,604 69.76 376 1.93
ที่มา : ข้อมูลจาก HDC แฟูม (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562)






209


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 1 การด าเนินงานคัดกรองมะเร็งล าไส้ในประชากรสิทธิ UC อายุ 50-70 ปี จังหวัดศรีสะเกษ

จ าแนกรายอ าเภอ



















4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)
4.1 มีการคัดกรองนอกกลุ่มเปูาหมาย ประชากรสิทธิ UC อายุ 50-70 ปี
4.2 ระบบข้อมูลมีความยุ่งยากซับซ้อนในการใช้งาน ท าให้การบันทึกข้อมูลเกิดความผิดพลาด


5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป
5.1 ส ารวจประชากรสิทธิ UC ที่มีอายุ 50-70 ปี ก่อนด าเนินการคัดกรองมะเร็งล าไส้ด้วยวิธี Fit test

5.2 พฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ความเข้าใจในระบบการจัดเก็บข้อมูลให้ถูกต้อง และเป็น
แนวทางเดียวกันทั้งจังหวัด





















210


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี


ตัวชี้วัด : 1. ร้อยละของประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 40 ปีขึ้นไป คัดกรองมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ าดี

ด้วยอัลตร้าซาวด์ เป้าหมายร้อยละ 80
2. ร้อยละของการส่งต่อผู้ที่มีอาการผิดปกติจากการคัดกรองมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ าดี
เป้าหมายร้อยละ 100

3. อัตราตายในผู้ป่วยโรคมะเร็งตับ/ท่อน้ าดี ≤ 25.61 ต่อแสนประชากร
1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
สถานการณ์โรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีประเทศไทย โรคมะเร็งท่อน้ าดีสูงสุดในปี 2548 ประมาณ

25,000 ราย คิดเป็นอตราการเสียชีวิตวันละ 70 ราย หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 3 ราย ในปี 2554 พบคนไทย
เสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ าดีและตับ จ านวน 14,314 ราย ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

หรือประมาณ 7,539 ราย รองลงมาคือภาคเหนือ จ านวน 2,638 ราย และจากสถิติโรงพยาบาลศรีนครินทร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี 2556 พบผู้ปุวยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีรายใหม่มากกว่า
1,765 ราย ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยเป็นมะเร็งท่อน้ าดี ร้อยละ 63 (1,108 ราย) มะเร็งตับร้อยละ 18

(320 ราย) ในจ านวนนี้ร้อยละ 55 เกิดในประชากรวัยท างานที่เป็นหัวหน้าครอบครัว อายุระหว่าง 40-60 ปี
การรักษาโรคมะเร็งท่อน้ าดีโดยการผ่าตัดมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 80,000 บาทต่อราย หรือประมาณ 1,960 ล้าน/ปี
ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่มีขนาดปัญหารุนแรงและก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสังคม คุณภาพชีวิตของคนใน
สังคมเป็นอย่างมาก


สถานการณ์โรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีจังหวัดศรีสะเกษ มีอตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ

และมะเร็งท่อน้ าดี ตั้งแต่ปี 2558-2561 มีแนวโน้มลดลง ดังนี้ ปี 2558 จ านวน 489 ราย คิดเป็นอตรา 33.71
ต่อแสนประชากร ปี 2559 จ านวน 385 ราย คิดเป็นอตรา 26.21 ต่อแสนประชากร ปี 2560 จ านวน 371


ราย คิดเป็นอัตรา 25.56 ต่อแสนประชากร ปี 2561 จ านวน 406 ราย คิดเป็นอตรา 27.58 ต่อแสนประชากร
ตามล าดับ

ส าหรับในปี 2562 อตราเสียชีวิต (จาก 1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562) จ านวน 377 ราย




คิดเป็นอตรา 25361 ต่อแสนประชากร เมื่อจ าแนกรายอาเภอพบ อตราการเสียชีวิตสูงสุด คือ อาเภอ


กันทรารมย์คิดเป็นอตรา 57.89 ต่อแสนประชากร รองลงมาได้แก่ อาเภอโนนคูณ (50.64 ต่อแสนประชากร)


อาเภอพยุห์ (49.73 ต่อแสนประชากร ) อาเภอเบญจลักษ์ (45.81 ต่อแสนประชากร) อาเภอวังหิน (39.98

ต่อแสนประชากร) อาเภอศรีรัตนะ (39.42 ต่อแสนประชากร) อาเภอปรางค์กู่ (30.87 ต่อแสนประชากร)



อ าเภอเมืองศรีสะเกษ (30.82 ต่อแสนประชากร) อาเภอภูสิงห์ 27.70 ต่อแสนประชากร) และอาเภอศิลาลาด

(24.75 ต่อแสนประชากร)

2. มาตรการในการด าเนินงาน
2.1 จัดท าแนวทาง/แผนงานโครงการการด าเนินงานมะเร็งตับมะเร็งท่อน้ าดี ปีงบประมาณ 2562
2.2 ส ารวจประชากรกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ าดี จัดฐานข้อมูลกลุ่มเสี่ยง
รายอ าเภอทั้ง 22 อ าเภอ เพื่อก าหนดเปูาหมายในการคัดกรอง ดังนี้
2.2.1 กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ าดี ได้แก่ ประชาชนอายุ ๔๐ปีขึ้นไป
ร่วมกับมีอาการดังต่อไปนี้ข้อใดข้อหนึ่ง

2.2.2 เคยตรวจพบพยาธิใบไม้ในตับ Opisthorchisviverrini(OV)




211


รายงานประจ าปี 2562



2.2.3 มีบุคคลในครอบครัวที่มีประวัติเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ าดี โดยนับสายตรง

3 ชั้น ได้แก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูกของผู้เสียชีวิต
2.2.4 ปุวยเป็น case Hepatitis B หรือ Chronic Active Hepatitis B
2.2.5 ผู้ปุวยกลุ่ม Alcoholic หรือ Cirrhosis
2.3 บูรณาการการด าเนินงานร่วมกับงานปูองกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดีตาม 5

มาตรการ ดังนี้
ื่
2.3.1 การจัดการสิ่งแวดล้อมและสิ่งปฏิกูล เพอให้คนปลอดพยาธิ ปลาปลอดภัย

อบต./เทศบาล ออกข้อก าหนดและมีการบังคบใช้
2.3.2 อาหารปลอดภัยโดยเฉพาะ ปลาร้า ปลาส้ม
2.3.3 คัดกรองโรคพยาธิใบไม้ตับ ด้วยอจจาระในประชาชนไม่มีประวัติเสี่ยงในการติดพยาธิ

ใบไม้ตับอายุ 15 ปีขึ้นไป และรักษาทุกคนที่ติดเชื้อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพประชาชน
2.3.4 คัดกรองมะเร็งตับและมะเร็งต่อน้ าดี ในประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไปด้วยอลตร้าซาวด์

และส่ง CT/MRI กรณีผิดปกติ และดูแลรักษาตามมาตรฐาน

2.3.5 มีการดูแลแบบประคับประคองทุกราย
2.4 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพฒนาความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับโรคมะเร็งตับมะเร็งท่อน้ าดี และการ

ลงข้อมูลใน Isan Cohort แก่ผู้รับผิดชอบงานมะเร็งตับมะเร็งท่อน้ าดีในโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริม

สุขภาพต าบลและส านักงานสาธารณสุขอ าเภอ
2.5 ส่งแพทย์เข้าร่วมอบรมการใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์
2.6 การลงบันทึกขอมูลในการด าเนินงาน

2.6.1 การบันทึกข้อมูลใน ๔๓ แฟม ส าหรับโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ

ต าบล ดังนี้
2.6.1.1 รหัสการวินิจฉัย Z128: Specific screening for CA

2.6.1.2 อลตร้าซาวด์ รหัสหัตการการตรวจบันทึกใน 43 แฟมโรงพยาบาล หัตการ

8876 หรือบันทึกใน ๔๓ แฟูมในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล หัตการ 9270700
2.6.1.3 กรณีผลการตรวจอัลตร้าซาวด์ พบสิ่งผิดปกติ บันทึก ดังนี้
- PPF = R932 Abnormal finding on diagnosis imagine of Liver
- Fatty Liver = K760
- Cirrhosis = K746

- Liver mass = D376 (mass hepatic)
- Dilated duct = K831 bile duct obstruction
- Gall bladder thickening = K819 cholecystitisunspecified

- Gall stone = K802
- Ascitic = R18
- อื่น ๆ Jaundice = R17, CA Liver = C22.0, CHCA = C22.1
2.6.2 บันทึกข้อมูลในโปรแกรมการด าเนินงานโครงการก าจัดพยาธิใบไม้ตับและมะเร็ง
ท่อน้ าดี ถวายเป็นพระราชกุศล (Isan Cohort) ในแบบฟอร์ม CCA01, CCA02 และสแกนใบยินยอม

2.6.3 ขอให้ตรวจสอบข้อมูลใน 43 แฟม และ Isan Cohort เดือนละ 1 ครั้งเพอให้ข้อมูล
ื่

ตรงกัน




212


รายงานประจ าปี 2562



Flow Chart แนวทางการคัดกรองมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี



ส ารวจกลุ่มเสี่ยงมะเร็งตับท่อน้ าด ี กลุ่มเสี่ยงมะเร็งตับ/ท่อน้ าด ี
การคัดกรอง(ฟอร์ม CCA -01) ประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไป ร่วมกับมีอาการดังต่อไปนี้
ข้อใดข้อหนึ่ง
- เคยตรวจพบพยาธิใบไม้ในตับ (OV)หรือ
ตรวจอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound Screening) - ญาติสายตรงผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งตับ/ท่อน้ าดี
โดยนับสายตรง 3 ชั้นได้แก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง
(วินิจฉัย Z128 : Specific screening for CA)
1. บันทึกแบบฟอร์ม CCA-02) และ - ผู้ปุวยเป็น case Hepatitis B หรือ Chronic Active
2. บันทึกใน 43 แฟูม รพ. หัตการ 8876 หรือ Hepatitis B
3. บันทึกใน 43 แฟูม รพ.สต หัตการ 9270700 - ผู้ปุวยกลุ่ม Alcoholic หรือ Cirrhosis



ผลการคัดกรองปกติ
ให้มาท าการตรวจอัลตร้าซาวด์ใหม่
ปีละ 1 ครั้ง ผลการตรวจคัดกรองผิดปกติ


- PPF = R932 - Liver mass = D376 - Gall bladder thickening
- Fatty Liver = K760 - Dilated duct = K831 = K819
- Cirrhosis = K746 - Gall stone = K802
- Ascitic = R18
- อื่น ๆ Jaundice = R17,



ศูนย์ประสานงานส่งต่อ ส่งต่อ
โรงพยาบาลศรีสะเกษส่งต่อ โรงพยาบาล
โรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี ศรีสะเกษ



ท าการตรวจยืนยันโดย CT/MRI/MRCP


ปกติ ผิดปกติ
ให้ตรวจอัลตร้าซาวด์ใหม่ เข้าสู่กระบวนการวินิจฉัย
ทุก 6เดือน รักษา


บันทึกข้อมูล
1. โรงพยาบาล/ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล บันทึกข้อมูลในโปรแกรม 43 แฟูม

2. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล/โรงพยาบาล บันทึกลงในโปรแกรม Isan Cohort แบบฟอร์ม CCA 01 , CCA 02
3. โรงพยาบาลศรีสะเกษ / โรงพยาบาลมะเร็งอุบล บันทึก CCA-03 และ CCA-03.1






213


รายงานประจ าปี 2562



3. ผลการด าเนินงาน


ในปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษได้ด าเนินการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีด้วยวิธีอลตร้า
ซาวด์ เปูาหมาย 12,573 ราย ได้รับการคัดกรอง 15,226 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 พบผิดปกติ 125 คน
คิดเป็นร้อย 0.82 จ าแนกเป็น Dilate duct จ านวน 26 ราย และ Liver mass จ านวน 99 ราย และส่งรักษา
ต่อโรงพยาบาลศรีสะเกษ 125 ราย คิดเป็นร้อยละ 100

3.1 ร้อยละของประชากรกลุ่มเสี่ยงอายุ 40 ปีขึ้นไป คัดกรองมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ าดีด้วยอัลตร้าซาวด์
เกณฑ์เปูาหมายร้อยละ 100 ผลงานภาพรวมจังหวัด เปูาหมายคัดกรองกลุ่มเสี่ยงมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี


อายุ 40 ปีขึ้นไป ด้วยวิธีอลตร้าซาวด์จ านวน 19,698 ราย ผลงานอลตร้าซาวด์จ านวน 15,226 ราย คิดเป็น
ร้อยละ 77.30

ตารางท 71 ผลงานการคัดกรองมะเร็งท่อน้ าดี ด้วยวิธีอัลตร้าซาวด์ จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562
ี่

ผลงานอัลตร้าซาวด์
ที่ อ าเภอ เป้าอัลตร้าซาวด์
จ านวน ร้อยละ
1 เมืองศรีสะเกษ 1,400 1,049 74.93

2 ยางชุมน้อย 374 285 76.20
3 กันทรารมย์ 1,000 213 21.30
4 กันทรลักษ ์ 1,300 1,056 81.23

5 ขุขันธ์ 1,300 92 7.08
6 ไพรบึง 292 259 88.70
7 ปรางค์ก ู่ 1,173 1,173 100

8 ขุนหาญ 866 850 98.15
9 ราษีไศล 5,452 5,452 100
10 อุทุมพรพิสัย 910 370 40.66

11 บึงบูรพ์ 146 86 58.90
12 ห้วยทับทัน 537 537 100
13 โนนคูณ 501 501 100

14 ศรีรัตนะ 1,333 1,333 100
15 น้ าเกลี้ยง 742 742 100
16 วังหิน 343 65 18.95

17 ภูสิงห์ 635 318 50.08
18 เมืองจันทร์ 325 325 100
19 เบญจลักษ ์ 483 106 21.95

20 พยุห์ 201 62 30.85
21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 237 237 100
22 ศิลาลาด 148 115 77.70

รวม 19,698 15,226 77.30
ที่มา : รายงาน CASSK1 CASSK2 CASSK 3 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ (30 กันยายน 2562)




214


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 1 การคัดกรองมะเร็งท่อน้ าดี ด้วยวิธีอัลตร้าซาวด์ จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562





















































215


รายงานประจ าปี 2562



3.2 ร้อยละของการส่งต่อผู้ที่มีอาการผิดปกติจากการคัดกรองมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ าดี เกณฑ์


เปูาหมายร้อยละ 100 ผลงานภาพรวมจังหวัด ผลการคัดกรองมะเร็งท่อน้ าดีด้วยวิธีอลตร้าซาวด์พบผิดปกติ
และส่งรักษาต่อรวม 125 ราย ส่งรักษาต่อ 125 ราย คิดเป็นร้อยละ 100

ตารางท 72 ผลการคัดกรองมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีด้วยวิธีอัลตร้าซาวด์พบผิดปกติและส่งรักษาต่อ
ี่
จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562

ผลงาน พบผิดปกติ ส่งรักษา
เป้า
ที่ อ าเภอ รวม ร้อยละ ต่อ รพ. ร้อยละ
คัดกรอง จ านวน ร้อยละ Dilate Liver
Duct Mass ศรีสะเกษ
1 เมืองศรีสะเกษ 1,400 1,049 74.93 7 55 62 5.91 62 100.00

2 ยางชุมน้อย 374 285 76.20 0 1 1 0.35 1 100.00

3 กันทรารมย์ 1,000 213 21.30 0 3 3 1.41 3 100.00

4 กันทรลักษ์ 1,300 1,056 81.23 0 0 0 0.00 0 0.00
5 ขุขันธ์ 1,300 92 7.08 0 0 0 0.00 0 0.00

6 ไพรบึง 292 259 88.70 0 2 2 0.78 2 100.00

7 ปรางค์กู่ 1,173 1,173 100 0 0 0 0.00 0 0.00
8 ขุนหาญ 866 850 98.15 8 0 8 0.95 8 100.00

9 ราษีไศล 5,452 5,452 100 0 8 8 0.15 8 100.00

10 อุทุมพรพิสัย 910 370 40.66 0 2 2 0.54 2 100.00

11 บึงบูรพ์ 146 86 58.90 0 0 0 0.00 0 0.00
12 ห้วยทับทัน 537 537 100 3 9 12 2.24 12 100.00

13 โนนคูณ 501 501 100 1 4 5 1.00 5 100.00

14 ศรีรัตนะ 1,333 1,333 100 6 6 12 0.90 12 100.00
15 น้ าเกลี้ยง 742 742 100 0 0 0 0.00 0 0.00

16 วังหิน 343 65 18.95 0 0 0 0.00 0 0.00

17 ภูสิงห์ 635 318 50.08 1 6 7 2.21 7 100.00
18 เมืองจันทร์ 325 325 100 0 1 1 0.31 1 100.00

19 เบญจลักษ์ 483 106 21.95 0 0 0 0.00 0 0.00

20 พยุห์ 201 62 30.85 0 0 0 0.00 0 0.00
21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 237 237 100 0 2 2 0.84 2 100.00

22 ศิลาลาด 148 115 77.70 0 0 0 0.00 0 0.00

รวม 19,698 15,226 77.30 26 99 125 0.82 125 100.00
ที่มา : รายงาน CASSK1 CASSK2 CASSK 3 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ (30 กันยายน 2562)






216


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 2 ผลการคัดกรองมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีด้วยวิธีอัลตร้าซาวด์พบผิดปกติและส่งรักษาต่อ

จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562


















































217


รายงานประจ าปี 2562



3.3 อัตราการเสียชีวิตจากผู้ปุวยมะเร็งตับ/มะเร็งท่อน้ าดี เกณฑ์เปูาหมาย ≤ 25.6 ต่อแสนประชากร


ผลงานภาพรวมจังหวัด อตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี รวม 377 ราย คิดเป็น 25.61
ต่อแสนประชากร

ี่
ตารางท 73 อัตราเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562

ปีงบประมาณ 2562 (1ตุลาคม 2561 ถึง 22 สิงหาคม 2562)

ที่ อ าเภอ เสียชีวิต อัตรา เสียชีวิต เสียชีวิต
ประชากร ต่อแสน ด้วยมะเร็งเซลล์ตับ ด้วยมะเร็งท่อน้ าดีในตับ
รวม
ประชากร ชาย หญิง รวม ชาย หญิง รวม
1 เมืองศรีสะเกษ 139,511 43 30.82 18 17 35 6 2 8
2 ยางชุมน้อย 36,828 4 10.86 3 1 4 0 0 0

3 กันทรารมย์ 100,193 58 57.89 14 15 29 16 13 29
4 กันทรลักษ ์ 201,964 35 17.33 12 7 19 10 6 16
5 ขุขันธ์ 151,340 12 7.93 10 2 12 0 0 0
6 ไพรบึง 48,352 7 14.48 0 0 0 5 2 7

7 ปรางค์กู่ 68,026 21 30.87 10 11 21 0 0 0
8 ขุนหาญ 107,988 12 11.11 9 3 12 0 0 0
9 ราษีไศล 80,778 15 18.57 5 3 8 4 3 7

10 อุทุมพรพิสัย 107,227 26 24.25 9 8 17 5 4 9
11 บึงบูรพ์ 10,668 0 0.00 0 0 0 0 0 0
12 ห้วยทับทัน 42,385 5 11.80 5 0 5 0 0 0

13 โนนคูณ 39,492 20 50.64 10 3 13 6 1 7
14 ศรีรัตนะ 53,273 21 39.42 9 4 13 7 1 8
15 น้ าเกลี้ยง 44,393 15 33.79 8 3 11 1 3 4

16 วังหิน 50,021 20 39.98 13 7 20 0 0 0
17 ภูสิงห์ 54,155 15 27.70 7 3 10 4 1 5
18 เมืองจันทร์ 18,031 3 16.64 2 1 3 0 0 0
19 เบญจลักษ์ฯ 37,113 17 45.81 3 4 7 8 2 10

20 พยุห์ 36,192 18 49.73 8 5 13 3 2 5
21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 23,896 5 20.92 3 2 5 0 0 0
22 ศิลาลาด 20,205 5 24.75 0 0 0 2 3 5

รวม 1,472,031 377 25.61 158 99 257 77 43 120
ที่มา : โปรแกรม Health Data Center (HDC) ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ (30 กันยายน 2562)










218


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 3 อัตราเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดี จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562





















โครงการเด่น/Best Practice
จังหวัดศรีสะเกษได้รับรางวัลผลการด าเนินงานก าจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดีระดับเขต
ในกิจกรรมชุมชนสร้างสุข ลดเสี่ยงพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี ประจ าปี ๒๕๖๒ ระดับดีเด่นให้กับ


โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลนาขนวน อาเภอกันกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จากส านักปูองกันและ
ควบคุมโรคที่ ๑๐ จังหวัดอุบลราชธานี

4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

4.1 ความครอบคลุมการคัดกรองอัลตร้าซาวด์มะเร็งท่อน้ าดียังต่ า

5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป
5.1 ส ารวจประชากรกลุ่มเปูาหมายอายุ 40 ขึ้นไป ให้ครอบคลุมครบถ้วนในทุกพื้นที่

5.2 เร่งรัดการคัดกรองภายในไตรมาส 2
5.3 พัฒนาศักยภาพบุคลากรในการตรวจคัดกรองให้ได้ตามมาตรฐาน

5.4 พฒนาระบบข้อมูลและฐานข้อมูลผู้ปุวยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ าดีให้ครบถ้วน ถูกต้อง
เป็นปัจจุบัน












219


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน


ตัวชี้วัด : 1. อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนไม่เกิน 16 ต่อแสนประชากร

1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

การบาดเจ็บเป็นปัญหาที่ส าคัญที่ท าให้เกิดการเจ็บปุวย เสียชีวิต พการและก่อความสูญเสียทาง

เศรษฐกิจและสังคมทั่วทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะการบาดเจ็บจากอบัติเหตุทางถนน องค์การอนามัยโลก
ประมาณการว่าในแต่ละวันจะมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 3,000 คน คาดการณ์ว่าระหว่าง พ.ศ.
2543-2563 ประเทศที่มีรายได้สูงจะมีการเสียชีวิตจากการจราจรลดลงประมาณร้อยละ 30 แต่จะมีผู้เสียชีวิต
จากอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นอย่างมากในประเทศที่มีรายได้ต่ าและปานกลางถ้าปราศจากการด าเนินการแก้ไข
ปัญหาที่เหมาะสม

สถานการณ์อบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย องค์การอนามัยโลกรายงานความปลอดภัยทางถนน
ของโลก (Global Status Report on Road Safety, 2015) รายงานข้อมูลอบัติเหตุทางถนนของโลก พ.ศ.


2556 จากการส ารวจ 180 ประเทศทั่วโลก พบว่า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อบัติเหตุทางถนนที่

เกิดขึ้น คิดเป็นอตรา 17.3 ต่อประชากรแสนคน โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอตราตายเป็นอนดับหนึ่งใน




ภูมิภาคนี้ และจากรายงานดังกล่าว ได้ประมาณการว่าประเทศไทยมีอตราการเสียชีวิตเป็นอนดับ 2 ของโลก


อตราตาย 36.2 รายต่อแสนประชากร (ประมาณ 24,237 คน) และประเทศไทยยังเป็นอนดับ 1 ของเอเชีย
และอาเซียน ที่มีอตราการเสียชีวิตจากอบัติเหตุทางถนนสูงที่สุด และในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมา จาก


ข้อมูลมรณะบัตร พบว่าอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอยู่ที่ 19.21 ต่อประชากรแสนคน
เปูาหมายความปลอดภัยทางถนนกระทรวงสาธารณสุขประเทศไทย มีการก าหนดเปูาหมายในการ

ด าเนินงานอบัติเหตุทางถนน คือ การลดอตราการเสียชีวิตจากอบัติเหตุทางถนนให้ได้ไม่เกิน 10 คน


ต่อประชากรแสนคน ภายใน พ.ศ.2563 โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขได้ก าหนดเปูาหมายการ
ด าเนินงานอุบัติเหตุทางถนน ให้สอดคล้องกับเปูาหมายของประเทศ และสอดคล้องเปูาหมายของการพฒนาที่

ยั่งยืน Sustainable Development Goals หรือ SDGs โดยหนึ่งในเปูาหมายของการพฒนาที่ยั่งยืน

(Sustainable Development Goals หรือ SDGs) จ านวน 17 เปูาหมาย ซึ่งในเปูาหมายที่ 3 สร้าง
หลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและส่งเสริมสวัสดิภาพส าหรับทุกคนในทุกวัย ข้อ 3.6 ลดอตราการ


เสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอบัติเหตุการจราจรทางถนนให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2563 การก าหนดให้ลด
จ านวนการเสียชีวิตจากอบัติเหตุจากการจราจรทางถนนถือเป็นก้าวครั้งส าคัญต่อประเด็นความปลอดภัยทาง

ถนน สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับมากขึ้นว่าการบาดเจ็บจากอบัติเหตุการจราจรทางถนน เป็นสาเหตุส าคัญ

ประการหนึ่งของการเสียชีวิตของคนทั่วโลก

สถานการณ์อุบัติเหตุจังหวัดศรีสะเกษ มีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 7 ปีย้อนหลัง จากปี 2555-

2561 พบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นผู้เสียชีวิตจ าแนกเป็นรายปี ดังนี้ ปี 2555 จ านวน 99 รายคิดเป็นอตรา 6.79
ต่อแสนประชากร ปี 2556 จ านวน 95 ราย คิดเป็นอตรา 6.32 ต่อแสนประชากร ปี 2557 จ านวน 138 ราย

คิดเป็นอตรา 9.43 ต่อแสนประชากร ปี 2558 จ านวน 125 ราย คิดเป็นอตรา 8.54 ต่อแสนประชากร


ปี 2559 จ านวน 191 ราย คิดเป็น 13.05 ต่อแสนประชากร ปี 2560 จ านวน 211 ราย คิดเป็น 14.35
ต่อแสนประชากร 2561 จ านวน 202 ราย คิดเป็นอตรา 13.72 ต่อแสนประชากร และ ปี 2562 จ านวน

330 ราย คิดเป็นอัตรา 22.42 ต่อแสนประชากร







220


รายงานประจ าปี 2562



2. มาตรการในการด าเนินงาน

2.1 มาตรการด้านระบบข้อมูล

2.1.1 ประชุมคณะกรรมการศูนย์อานวยความปลอดภัยทางถนน จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่
7/2562 วันที่ 29 ธันวาคม 2561 ณ ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ โดยผู้ว่า

ราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบนโยบายการปูองกันและแก้ไขปัญหาอบัติเหตุทางถนน และก าหนดการการ
ปูองกันอบัติเหตุเป็นวาระของจังหวัด ภายใต้หัวข้อรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยตลอด 365 วัน โดยเน้นหนัก

มาตรการ 3ม. 2ข. 1ร. และให้ด าเนินการต่อเนื่องตลอดปีและตลอดไป
2.1.2 การบูรณาการระบบฐานข้อมูล 3 ฐาน (สาธารณสุข/ต ารวจ/บริษัทกลาง) มีการประชุม

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดือนละ 1 ครั้ง โดยส านักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยงานหลักในการ

จัดประชุม ซึ่งเดิมปัญหาระบบฐานข้อมูลอบัติเหตุไม่ตรงกัน โดยเฉพาะหน่วยงานส านักงานสาธารณสุขจังหวัด
ศรีสะเกษ และของต ารวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ระบบฐานข้อมูลอบัติเหตุที่ข้อมูลใกล้เคียงกันมากที่สุดคือของ

บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถจังหวัดศรีสะเกษและของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ
ซึ่งเป็นฐานข้อมูลจากระบบ Items ของระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งมาเชื่อมต่อกับโปรแกรมอเคลม ของบริษัท


กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ในที่ประชุมยุทธศาสตร์ 5 E ให้ใช้ข้อมูลในระบบอเคลมของบริษัทกลาง
เป็นข้อมูลกลาง ในการวางแผนและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดศรีสะเกษ

2.1.3 จังหวัดศรีสะเกษ มีทีมสอบสวนอบัติเหตุแบสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งจังหวัดได้จัดอบรมเชิง

ปฏิบัติการเทคนิคการสอบสวนการบาดเจ็บจากอบัติเหตุทางถนนด้วยเครือข่ายสหสาขาวิชาชีพของศูนย์



อานวยความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัด/อาเภอ (On the job Training) แก่ ผู้รับผิดชอบงานอบัติเหตุ
จาก รพท./รพช//สสอ./ท้องถิ่น/ต ารวจ/แขวงการทางที่ 1,2/ทางหลวงชนบท/ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย
จังหวัด/บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จาก 22 อาเภอ ผู้เข้าร่วมอบรม จ านวน 150 คน ไปแล้วเมื่อ

ปี 2558 ซึ่งบุคลากรที่ผ่านการอบรมจะเป็นทีมสอบสวนและเขียนรายงานการสอบสวน กรณีอบัติเหตุ

กลุ่มชนขนาดใหญ่

2.1.4 การสอบสวนกรณีเสียชีวิตจากอบัติเหตุทางถนน มีการสอบสวนทุกราย โดย

ประสานงานกับทีม SRRT ในการสอบสวนอบัติเหตุทางถนน และโดยส่งรายงานการสอบสวนให้จังหวัด
ศรีสะเกษทาง email:[email protected] ทราบ ทุกสิ้นเดือน
2.1.5 การสอบสวนกรณีอุบัติเหตุทางถนนขนาดใหญ่ (เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 15 รายขึ้นไป
หรือเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลส าคัญ หรือ เป็นเหตุการณ์ที่บุคคลให้ความสนใจมาก) ให้แจ้งจังหวัด
ทราบทันที และลงสอบสวนโดยทีมสหสาขาวิชาชีพที่ผ่านการอบรม ประกอบด้วย SRRT ร่วมกับงานอบัติเหตุ

ฉุกเฉิน ต ารวจ แขวงการทาง ทางหลวงชนบท ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย ท้องถิ่น กู้ชีพ ออกสอบสวน
ื่
ื่
เพอหาสาเหตุการเสียชีวิตทุกครั้ง (แบบฟอร์มตามที่จังหวัดส่งให้) แล้วน าส่งให้กลุ่มงานควบคุมโรค เพอสรุป
และรายงานให้ นพ.สสจ.ศรีสะเกษ และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต ทราบตามล าดับต่อไป
2.1.6 น าเสนอข้อมูลอบัติเหตุทางถนน จาก 3 หน่วยงาน (ข้อมูล 3 ฐาน)ในการประชุม

ยุทธศาสตร์ 5 E ซึ่งส านักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมทุกเดือน เพอให้
ื่
ข้อมูลเป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมทั้งทราบที่ไปที่มาของระบบการจัดเก็บและรายงานของมูลของจังหวัด
พร้อมทั้งการน าข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน ส่งคืนให้โรงพยาบาล ทุกแห่งทราบและน าข้อมูลไปวางแผนแก้ไข
ปัญหาในระดับจังหวัดและอ าเภอต่อไป

2.1.7 วันที่ 4 เมษายน 2562 ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพธีเปิดการ

ประชุมการขับเคลื่อนการปูองกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน แก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด





221


รายงานประจ าปี 2562



2.1.8 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในระดับ


จังหวัด ซ้อมแผนบนโต๊ะเกี่ยวกับการปูองกันและแก้ไขอบัติเหตุทางถนน ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วน
จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพธีเปิดใน

วันที่ 5 พฤษภาคม 2562
2.2 มาตรการด้านการปูองกัน

ื่

2.2.1 ระดับจังหวัดและระดับอาเภอมีการชี้เปูา เพอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขจุดเสี่ยง

เป็นรายไตรมาส ไตรมาสละ 5 จุด รวมทั้งปี อาเภอละ 20 จุดเสี่ยง และผลการชี้เปูาและแก้ไขจุดเสี่ยงของ
จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า จุดเสี่ยงทั้ง 22 อ าเภอ จ านวน 440 จุด ได้รับการแก้ไข 215 จุด คิดเป็นร้อยละ 48.86
และรอเข้าแผน เพอแก้ไขจ านวน 225 จุด คิดเป็นร้อยละ 51.13 ซึ่งจุดที่ยังไม่ได้แก้ไขจะเป็นจุดใหญ่ที่ต้องใช้
ื่
งบประมาณเป็นจ านวนมาก ซึ่งแขวงทางหลวงที่ 1 แขวงทางหลวงที่ 2 และแขวงทางหลวงชนบท ต้องน าเข้า
แผนและขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากกระทรวงคมนาคม เพื่อมาแก้ไขปัญหาต่อไป
ื่

2.2.2 มีการตั้งด่านชุมชนเพอปูองกันอบัติเหตุทางถนน โดยทีม อปท./อปพร./ก านัน/
ผู้ใหญ่บ้าน/อาสาสมัครสาธารณสุข ในทุกอาเภอ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 (29 ธันวาคม 2561 ถึง 4 มกราคม

2562) มีการตั้งด่านชุมชนจ านวน 1,542 แห่ง มีการตรวจ และปูองปราม ประชาชนในหมู่บ้านชุมชน ที่เมา
แล้วขับจ านวน1,200 ราย และช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 มีการตั้งด่านชุมชนจ านวน 1,760 แห่ง ผลการ
ด าเนินงานช่วงเทศกาลสงกรานต์จ านวน 1410 ราย

2.2.3 มีการท าบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือโครงสร้างมาตรการองค์กรใน
การส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100 % (ภายใต้สโลแกนห่วงใครให้ใส่หมวก) มีหน่วยงานที่เข้าร่วม MOU
จ านวน 7 หน่วยงาน ส านักงานประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษ/สหกรณ์การเกษตรเมืองศรีสะเกษ/ศูนย์พฒนา



ฝีมือแรงงานจังหวัดศรีสะเกษ/วิทยาลัยอาชีวศึกษาจุลมณีอทุมพรพสัยและบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จ ากัด


(มหาชน) สาขาศรีสะเกษ, โรงพยาบาลยางชุมน้อย, อาเภอพยุห์ และอาเภอขุนหาญ ในวันที่ 19 ธันวาคม

2561 ส านักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ได้แจ้งขอสั่งการให้นายอาเภอ ทุกแห่ง

แจ้งให้ทุกหน่วยงานในระดับจังหวัดและอาเภอ ท า MOU เรื่องการสวมหมวกนิรภัย,เมาไม่ขับ,การคาดเข็มขัด
นิรภัย และโทรไม่ขับ ซึ่งข้าราชการที่ดีต้องเป็นแบบอย่างแก่ประชาชน จากผลการด าเนินงานหน่วยงานที่
เกี่ยวข้อง
2.2.4 คปสอ.ทุกแห่ง มีการขับเคลื่อนการปูองกันอบัติเหตุทางถนน โดยใช้กลยุทธ์ D-RTI


และระบบพฒนาคุณภาพชีวิตระดับอาเภอ(พชอ.) เป็นตัวขับเคลื่อนในการด าเนินงานปูองกันและแก้ไขปัญหา

อบัติเหตุทางถนน และในปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษได้ส่งอาเภอขุนหาญ อาเภออทุมพรพสัย และ รพ.สต.





โคกหล่าม เป็นตัวแทนประกวดระดับเขต และได้รับการคัดเลือกส่งประกวดระดับประเทศ และได้รับรางวัล
อาเภอด าเนินงานปูองกันการบาดเจ็บจากการจราจรทางถนนระดับอาเภอ (District Road Traffic injury) :




D-RTI) ดีเยี่ยม (Advanced) ระดับทอง ได้แก่ อาเภออทุมพรพสัยและ อาเภอขุนหาญ และทีมด าเนินงาน


ปูองกันการบาดเจ็บจากการจราจรทางถนนระดับต าบล (RTI team) ระดับทอง ได้แก่ รพ.สต.โคกหล่าม
อ าเภออุทุมพรพิสัย
2.3 มาตรการด้านการรักษาพยาบาล

2.3.1 ประชุมชี้แจง หัวหน้างานอุบัติเหตุฉุกเฉิน/ผู้รับผิดชอบงานอบัติเหตุ จาก รพท./รพช./

สสอ.ทุกแห่ง เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปูองกันและแก้ไขปัญหาอบัติเหตุทางถนน ในวันที่ 21 ตุลาคม
2562 และ ประชุม VDO Conference การเตรียมความพร้อมรับอบัติเหตุทางถนน กับส านักสาธารณสุข

ฉุกเฉิน 3 ครั้ง ณ ห้องประชุมส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ



222


รายงานประจ าปี 2562



2.3.2 มีการประชุมสรุปวิเคราะห์ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ในวันที่

29 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2562 ณ ห้องประชุมสระก าแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัด
ศรีสะเกษ

2.3.3 มีการประชุมสรุปวิเคราะห์ปัญหาอบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ใน
วันที่ 11-17 เมษายน 2562 ณ ห้องประชุมสระก าแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ


2.3.4 โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน ทุกแห่ง มีการพฒนามาตรฐานการให้บริการ
ณ จุดเกิดเหตุ (Pre-hospital) ในระหว่างน าส่ง (Inter-hospital) และในห้องฉุกเฉิน (In-hospital) ให้มี
คุณภาพ เพื่อลดอัตราตายจากอุบัติเหตุทางถนน

2.3.5 โรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง มีแนวทางมาตรฐานและ Flow Chart
การดูแลผู้ปุวยบาดเจ็บที่ศีรษะ (head Injury) และในระบบ Fast Track ครอบคลุมทุกโรค
2.3.6 โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลชุมชน ทุกแห่ง มีการประเมินคุณภาพห้องฉุกเฉิน (ECS
คุณภาพ) ตามเกณฑ์คุณภาพมิติ 12 องค์ประกอบ โรงพยาบาลทุกแห่งต้องประเมินตนเองผ่านเกณฑ์ร้อยละ
80 ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกแห่ง


2.3.7 โรงพยาบาลศูนย์ก าหนดจัดการอบรมพฒนาบุคลากรที่ปฏิบัติงานที่ห้องฉุกเฉิน

ประเด็น Trauma Audit โรงพยาบาลละ 2 คน จ านวนรวม 60 คน ในวันที่ 27 กุมภาพนธ์ 2562 ณ
ห้องประชุมกิตติรังสี โรงพยาบาลศรีสะเกษ

2.4 มาตรการด้านบริหารจัดการ

2.4.1 ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษมอบนโยบายให้ การปูองกันอบัติเหตุทางถนน เป็นวาระ
จังหวัดศรีสะเกษภายใต้สโลแกน “รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย 365 วัน”
ื่
2.4.2 เตรียมการซ้อมแผนเสมือนจริงและซ้อมแผนบนโต๊ะ เพอเตรียมความพร้อมในการ

รองรับอบัติเหตุกลุ่มชน โดยทีมสหสาขาวิชาชีพระดับจังหวัด ในวันที่ 4 เมษายน 2562 ณ ห้องประชุม
ส านักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ มีคนเข้าร่วมประชุมและรณรงค์ จ านวน 240 คน

2.4.3 ค าสั่งคณะกรรมการศูนย์อานวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดศรีสะเกษ มีผู้ว่า
ราชการจังหวัดศรีสะเกษเป็นประธานคณะกรรมการ และหัวหน้าส านักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นเลขานุการ
2.4.4 ทีมผู้บริหาร จ านวน 4 ทีม ออกตรวจเยี่ยมให้ก าลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานที่ห้องฉุกเฉินก่อน
เทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์ ปี 2562 โดยออกเยี่ยมโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลชุมชน ทุกแห่ง
ในวันที่ 10 เมษายน 2562


2.4.5 ประธานตรวจติดตามเยี่ยมจุดตรวจc]tจุดพกรถช่วงเทศกาลปีใหม่/สงกรานต์ ปี 2562
ในวันที่ 29 ธันวาคม 2561 และในวันที่ 11 เมษายน 2562 ที่อ าเภอขุขันธ์และอ าเภอภูสิงห์ จ านวน 6 จุด โดย
มีหน่วยงานที่ออกปฏิบัติงานร่วมตรวจเยี่ยม คือ คณะกรรมการคุ้มครอง, ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ),

ื้
อุตสาหกรรมจังหวัด, ส านักงานเขตพนที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษเขต 3, เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ และ
แขวงทางหลวงชนบท ออกตรวจเยี่ยมให้ก าลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน และรับทราบปัญหาและข้อเสนอแนะจาก
ผู้ปฏิบัติ น ามาเสนอทประชุมศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษในเวลา 09.00 น ทุกวัน
ี่
2.4.6 ประชุมวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ปี 2562 ช่วง
7 วันอนตราย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและรองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการ

ประชุม ณ ห้องประชุมสระก าแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ทุกวัน โดยช่วงปีใหม่ 2562 ประชุม
วันที่ 29 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2562 และช่วงปีใหม่ ในวันที่ 11-17 เมษายน 2562





223


รายงานประจ าปี 2562




2.4.7 มีการจัดตั้งศูนย์บริหารอบัติเหตุและฉุกเฉิน (Trauma Emergency Admin Unit)
ในโรงพยาบาลศูนย์และรงพยาบาลชุมชน 22 แห่ง
2.4.8 พัฒนาระบบAmbulance Safety โดย
2.4.8.1 พนักงานขับรถทุกคนต้องผ่านการอบรม หลักสูตร Ambulance Safety
2.4.8.2 บุคลากรที่ปฏิบัติงานในระบบฉุกเฉินทุกคน ต้องท าประกันอุบัติเหตุ

2.4.8.3 รถAmbulance ต้องจัดท าประกันภัยชั้น1
2.4.8.4 รถAmbulance ติด GPS พร้อมติดกล้อง 2 ตัว (ห้องพนักงานขับรถและ
ห้องผู้โดยสาร)

2.4.8.5 รถAmbulance จ ากัดความเร็วขณะมีผู้ปุวยไม่เกิน 80 กม./ชม และไม่เกิน
90 กม./ชม. ขณะรถไม่มีผู้ปุวย
2.4.8.6 รถAmbulance ห้ามฝุาสัญญาณไฟแดง ทุกกรณี
2.4.8.7 การปรับเบาะรถนั่งของรถ Ambulance ซึ่งเป็นแบบเบาะรถ 2 แถว ให้
เป็นเบาะเดี่ยวแบบหมุนได้และมี Safety Belt ทุกที่นั่ง ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ื่
เพอความปลอดภัยของบุคลากรที่ปฏิบัติงานบนรถพยาบาล ซึ่งหน่วยงานในสังกัดก าลังด าเนินการปรับปรุง
แก้ไข


2.4.9 คณะกรรมการพฒนาคุณภาพชีวิตอาเภอ (พชอ.) จ านวน 22 อาเภอ ได้น าโครงการ

ื่


ปูองกันและแก้ไขปัญหาอบัติเหตุทางถนน น าเข้าคณะกรรมการระดับอาเภอ เพอขับเคลื่อนกระบวนงาน เพอ
ื่
ปูองกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นรูปธรรม

3. ผลการด าเนินงาน
รูปที่ 1 จ านวนและอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจ าแนกรายอ าเภอ ปีงบประมาณ 2562

















ที่มา : www.ict-pher.moph.go.th








224


รายงานประจ าปี 2562



ตารางท 74 จ านวนและอัตราตายจากอุบัติเหตุทางถนนศรีสะเกษจ าแนกรายอ าเภอ ปีงบประมาณ 2562
ี่

ผู้ป่วยเสียชีวิต
ที่ โรงพยาบาล อัตรา/แสนประชากร
จากอุบัติเหตุทางถนน
1 ศรีสะเกษ 52 37.27

2 ยางชุมน้อย 8 21.78
3 กันทรารมย์ 29 28.98
4 กันทรลักษ ์ 49 24.24

5 ขุขันธ์ 40 26.40
6 ไพรบึง 7 14.48
7 ปรางค์ก ู่ 15 22.13

8 ขุนหาญ 23 21.31
9 ราษีไศล 19 23.58
10 อุทุมพรพิสัย 22 20.56

11 บึงบูรพ์ 1 9.41
12 ห้วยทับทัน 4 9.43
13 โนนคูณ 5 12.64

14 ศรีรัตนะ 12 22.48
15 น้ าเกลี้ยง 6 13.48
16 วังหิน 4 7.97

17 ภูสิงห์ 8 14.72
18 เมืองจันทร์ 0 0
19 เบญจลักษ ์ 8 21.48

20 พยุห์ 11 30.48
21 โพธิ์ศรีสุวรรณ 5 21.00
22 ศิลาลาด 2 9.95
รวม 330 22.42

ที่มา : www.ict-pher.moph.go.th

วิเคราะห์ผลการด าเนินงานเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีการด าเนินการ

ปูองกันและแก้ไขปัญหาอบัติเหตุทางถนน ในรูปแบบคณะกรรมการศูนย์อานวยความปลอดภัยระดับจังหวัด




(ศปถ.จังหวัด) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการ และระดับอาเภอ(ศปถ.อาเภอ)
มีนายอ าเภอ เป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งมีส านักงานปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเป็นเลขานุการ

เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนกิจกรรมในการปูองกันและแก้ไขปัญหาอบัติเหตุทางถนน ให้เป็นรูปธรรม ซึ่งใน
การด าเนินกิจกรรมเพื่อปูองกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนไม่สามารถแกไขได้โดยหน่วยงานใดหน่วยงาน

หนึ่ง แต่ต้องร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมด าเนินการ และร่วมกันแก้ไขปัญหา และต้องด าเนินการให้ครอบคลุมทุกพนที่
ื้
และต่อเนื่องไม่ใช่ท าเฉพาะช่วงเทศกาลส าคัญเท่านั้น ถ้าการด าเนินการขาดความต่อเนื่อง จะส่งผลท าให้


จ านวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเพมมากขึ้น ดังนั้นการที่จะด าเนินการปูองกันและแก้ไขปัญหาอบัติเหตุทางถนน
ิ่


225


รายงานประจ าปี 2562



ต้องมีเครือข่าย ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานหลัก 5 หน่วยงานหรือยุทธศาสตร์ 5 E คือ 1. ด้านบังคับใช้

กฎหมาย (Enforcement) 2. ด้านวิศวกรรมจราจร (Engeneering) 3. ด้านการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency

Medical Service) 4. การประชาสัมพนธ์และให้ความรู้(Education) 5. ด้านการประเมินผล(Evaluation) ซึ่ง
หน่วยงานหลักทั้ง 5 หน่วยงานจะเป็นตัวขับเคลื่อนกิจกรรมหลักในแต่ละหน่วยงาน ที่รับผิดชอบ แต่ต้องมีการ
ื่
เชื่อมโยงข้อมูล และประสานการด าเนินงานในระหว่างหน่วยงาน เพอให้บรรลุเปูาหมาย คือลดอตราตายจาก


อุบัติเหตุทางถนนลง 50 เปอร์เซ็น ในปี 2563 การที่จะบรรลุเปูาหมายได้ต้องมีการแล้ว ต้องมีการพฒนาอย่าง
ต่อเนื่องคือ 1. การบูรณาการระบบฐานข้อมูล (ข้อมูล3 ฐาน) ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน 2. มาตรฐานการ
รักษาพยาบาลต้องมีคุณภาพ (EMS) ต้องมีเครือข่ายครอบคลุมและปฏิบัติงานทุกหน่วย 3. มาตรฐานการ

บริหารจัดการ ผู้บริหารต้องให้ความส าคัญและติดตามความก้าวหน้าตลอด 4. ระบบโครงสร้างการบริหาร
จัดการภาพของจังหวัด มีผู้ว่าราชการเป็นประธาน และปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นเลขา

คณะกรรมการ นอกจากนี้จังหวัดทีมสหสาขาวิชาชีพเข้มแข็งที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการสอบสวนอบัติเหตุ
ทางถนนครบทั้ง 22 อาเภอ พร้อมลงสอบสวนหาสาเหตุของอบัติเหตุในแต่ละครั้งการสอบสวนหากมีอบัติเหตุ




กลุ่มชนขนาดใหญ่เกิดขึ้นในพนที่ ส่วนกรณีอบัติเหตุขนาดเล็กแต่มีผู้เสียชีวิต ทีม SRRT และพยาบาลห้อง
ื้
ฉุกเฉินต้องลงสอบสวนทุกราย โดยใช้แบบฟอร์มที่จังหวัดส่งให้ แล้วน าข้อมูลมาวิเคราะห์หาสาเหตุการเสียชีวิต
ว่าเกิดจากปัจจัยเสี่ยงอะไร เพื่อจะน ามาวางแผนแก้ไข


4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)



4.1 ศูนย์อานวยความปลอดภัยระดับอาเภอ (ศปถ.อาเภอ) ไม่มีผู้รับผิดชอบหลัก ท าให้การ
ประสานงานค่อนข้างล าบาก

5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป

5.1 ระดับจังหวัดและอาเภอ ต้องประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามาขับเคลื่อนการ
ด าเนินการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงและเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเรื่อง การตั้งด่านชุมชน และการ
แก้ไขจุดเสี่ยงในระดับต าบลและหมู่บ้าน


5.2 ขับเคลื่อนโดยใช้ขบวนการ D-RTI ระบบสุขภาพอาเภอ และ RTI Team โดยให้ระดับอาเภอ

จัดท า ค าสั่งคณะท างานทั้งระดับอ าเภอ และให้ท้องถิ่นอาเภอสั่งการให้ องค์การบริหารส่วนต าบล จัดท าค าสั่ง

คณะกรรมการ เพื่อจะได้ขับเคลื่อนและด าเนินกิจกรรมควบคู่กันไปทั้งระดับอ าเภอและต าบล/หมู่บ้าน

5.3 ระดับจังหวัดโดย ศปถ.จังหวัดก าหนดจัดการประชุมขับเคลื่อนงานอบัติเหตุทางถนน โดย


จัดประชุม ในระดับอาเภอ เพอกระตุ้นให้ ศปถ.อาเภอ มีการตื่นตัวและพร้อมขับเคลื่อนการท างาน โดยมี
ื่
สสอ.และ รพ.เป็นเลขาคณะกรรมการในระดับอาเภอ และคณะกรรมการ ศปถ.อาเภอและภาคีเครือข่าย


ภาคประชาชน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกอาเภอ เข้าร่วมประชุมเพอเสนอปัญหาและให้
ื่

ข้อเสนอแนะแก่ทีม ศปถ.จังหวัด












226


รายงานประจ าปี 2562



งานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน


1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงสาธารณสุขโดยศูนย์นเรนทรมีนโยบายให้ทุกจังหวัดจัดตั้งระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
ื่
ื้
เพอให้บริการแก่ประชาชนในทุกพนที่ โดยเฉพาะในท้องถิ่นทุรกันดารที่ไม่มีสถานบริการสาธารณสุข ให้การ
ดูแลได้อย่างทั่วถึง ดังนั้นจังหวัดศรีสะเกษจึงได้จัดตั้งส านักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินขึ้น โดยสถานที่
ตั้งอยู่ที่กลุ่มงานควบคุมโรค ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และมีการจัดตั้งศูนย์สื่อสารและสั่งการที่
ื่
ื้
โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพอท าหน้าที่รับแจ้งเหตุและสั่งการไปยังหน่วยบริการที่กระจายอยู่ในพนที่ทั้งระดับ

จังหวัด อาเภอ ต าบลและหมู่บ้าน โดยให้บริการรับแจ้งเหตุและสั่งการตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ได้มีการจัดท า

ค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉน มีผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเป็นประธาน
จังหวัดศรีสะเกษได้ด าเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2547 จนถึง
ื่
ปัจจุบัน ได้มีการประชาคมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ต ารวจ และหน่วยงานอนที่สนใจสมัครเข้าร่วม
ปฏิบัติการช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ ในปัจจุบันมีเครือข่ายที่สมัครเข้าร่วมปฏิบัติงาน 303 หน่วย แยกเป็น
ื้
ระดับสูง ALS (Advance Life Support) ซึ่งหน่วยนี้จะตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลชุมชนในพนที่
จ านวน 22 แห่ง ระดับ BLS (Basic Life Support) หน่วยนี้จะอยู่ในโรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชนและ
ระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลจ านวน 84 แห่ง และระดับ FR (First Responder) จ านวนหน่วย 200
หน่วย ในจังหวัดศรีสะเกษมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 212 หน่วย (อบต./เทศบาล) ขึ้นทะเบียนเป็น
หน่วยปฏิบัติในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน จ านวน 200 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 94.34 นอกจากนี้ยังมีทีมจากมูลนิธิ

2 แห่ง เป็นเครือข่ายในการให้บริการ (มูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานและมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์)
ิ่
จากความร่วมมือการพัฒนาการด าเนินงานส่งผลให้ผลการด าเนินงานเพมขึ้น ทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ โดย
มีผลการออกปฏิบัติงาน ณ จุดเกิดเหตุ ตั้งแต่ปี 2547-2562 ดังนี้ จ านวน 0 ครั้ง, 133 ครั้ง, 1,493 ครั้ง,
3,521 ครั้ง, 10,944 ครั้ง, 21.320 ครั้ง, 17,330 ครั้ง, 30,050 ครั้ง, 31,645 ครั้ง, 34,382 ครั้ง, 35,300 ครั้ง,

35,894 ครั้ง, 37,597 ครั้ง, 39,213 ครั้ง, 42,230 ครั้ง และ 44,417 ครั้ง ตามล าดับ

2. มาตรการส าคัญที่ใช้ในการด าเนินงาน
จังหวัดศรีสะเกษมีการจัดท าแผนงาน/โครงการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับ

จังหวัดและอาเภอเกี่ยวกับการซ้อมแผนรองรับอบัติเหตุกลุ่มชนขนาดใหญ่ รวมทั้งภัยโรคระบาด โดยมีการ


ประชุมท าแผนคณะกรรมการปูองกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยจังหวัดร่วมกัน โดยมีหน่วยงานปูองกันและ
บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งในปี 2562 ก าหนดซ้อมแผนบนโต๊ะและซ้อมแผนเสมือนจริง

เกี่ยวกับสถานการณ์อบัติเหตุกลุ่มชนขนาดใหญ่ ในวันที่ 5 เมษายน 2562 ณ ส านักงานองค์การบริหารส่วน

จังหวัดศรีสะเกษ
การมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดศรีสะเกษมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี
บทบาทในการจัดระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จ านวน 200 แห่ง จากทั้งหมด 212 แห่ง คิดเป็นร้อยละ
94.34 และทีมที่สมัครเป็นหน่วยปฏิบัติงาน และออกปฏิบัติการรับผู้ปุวยในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน

จ านวน 170 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 80.18 จากการนิเทศติดตามพบว่าทีมที่สมัครแต่ไม่ได้ออกปฏิบัติงาน
เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับยานพาหนะ องค์การบริหารส่วนต าบลมีรถยนต์ 1 คัน แต่ใช้ ทุกภารกิจ ท าให้
ไม่สามารถออกรับผู้ปุวยได้ ปัญหานี้บุคลากรในพนที่ก าลังด าเนินการแก้ไขปัญหาโดยลงไปพบผู้บริหาร
ื้
ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เห็นความส าคัญและสนับสนุนการด าเนินงาน EMS ต่อไป




227


รายงานประจ าปี 2562



ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินมีการคัดแยกและให้บริการผู้ปุวยตามระดับความรุนแรงและเร่งด่วน


โดยใช้ระบบการคัดแยก 5 ระดับ คือ แดง ชมพ เหลือง เขียวและขาว จากการด าเนินงานของปีงบประมาณ
2562 (ตุลาคม 2561 ถึง กันยายน 2562) พบว่าจังหวัดศรีสะเกษมี Case ฉุกเฉินที่มารับบริการที่ห้องฉุกเฉิน
ของโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนจ านวน 28,652 ราย เทียบกับ Case ฉุกเฉินและวิกฤติที่มารับ
บริการด้วยระบบ EMS จ านวน 24,171 ราย คิดเป็นร้อยละ 84.36

จ านวนผู้ปุวยฉุกเฉินและวิกฤติที่น าส่งโดยทีมปฏิบัติการช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ (EMS) ที่สามารถ
น าส่ง Case ฉุกเฉินและวิกฤติภายใน 10 นาที ผลการด าเนินของจังหวัดศรีสะเกษรอบ 12 เดือน (ตุลาคม
2561 ถึง กันยายน 2562) จ านวน 34,408 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 84.32 ประชาชนมีการแจ้งเหตุผ่านศูนย์รับ

แจ้งเหตุและสั่งการที่หมายเลขโทรศัพท์ 1669 รอบ 12 เดือน (ตุลาคม 2561 ถึง กันยายน 2562) จ านวน
38,370 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 94.03
การบริหารจัดการการด าเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดศรีสะเกษ มีการด าเนินงาน
ระบบริการการแพทย์ฉุกเฉินภายใต้นโยบายของส านักสาธารณสุขฉุกเฉิน และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน
แห่งชาติ และภายใต้การก ากับดูแลของคณะกรรมการปรึกษาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดศรีสะเกษ

ื่
โดยมีเปูาประสงค์เพอให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างทั่วถึง โดยมีรายละเอยด

กิจกรรมด าเนินงาน ดังนี้
2.1 พัฒนาระบบโครงสร้างที่เอื้อต่อการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน

2.1.1 มีนโยบายชัดเจนและมีการจัดท าแผนงานโครงการพฒนาระบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน

จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมทั้งก าหนดแนวทางการด าเนินงานที่ชัดเจน
2.1.2 มีค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด
สะเกษป็นประธานที่ปรึกษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษป็นกรรมการ และเลขานุการ/สั่งตั้ง

ส านักงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดศรีสะเกษ ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ โดยมี
นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมปูองกัน) เป็นหัวหน้าส านักงาน
2.1.3 มีการจัดประชุมชี้แจงแนวทางการด าเนินงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
แก่ผู้รับผิดชอบงานในระดับอ าเภอ เพื่อที่จะได้เข้าใจและสามารถปฏิบัติงานได้ตามวัตถุประสงค์


2.1.4 มีการตรวจประเมินมาตรฐานรถยนต์ และอปกรณ์ ที่ใช้ในการออกปฏิบัติงานในระบบ
การแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งติดสติ๊กเกอร์รับรองมาตรฐาน
2.1.5 ประชาสัมพันธ์ ให้อาสาสมัครกู้ชีพทั้ง 3 ระดับ ALS BLS FR และครอบครัวท าประกัน

อบัติเหตุ มีทีมอาสาสมัครกู้ชีพจากองค์การบริหารส่วนต าบล โรงพยาบาลทุกแห่งและโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพต าบล สมัครท าประกันชีวิตของบริษัททิพยประกันภัย จ านวน 1,042 ราย เป็นเงิน 125,040 บาท
2.1.6 ตรวจประเมินคุณภาพ Case ที่ออกรับในระบบ EMS และจ่ายค่าตอบแทน (Audit)
ทุกเดือน

2.1.7 พัฒนาศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ โดยส่งพยาบาลวิชาชีพอบรมพยาบาลสั่งการ (EMD)
และส่งเจ้าหน้าที่บันทึกขอมูลเข้ารับการอบรมครบทุกคน

2.1.8 จัดจ้างเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน 1 คน
2.2 เสริมสร้างและพฒนาระบบบริหารจัดการ และการจัดบริการการแผนฉุกเฉินให้มีคุณภาพได้

มาตรฐาน










228


รายงานประจ าปี 2562




2.2.1 การออกให้บริการช่วยเหลือดูแล ณ จุดเกิดเหตุ โดยพจารณาจากความรุนแรงและ

เร่งด่วนของ Case ที่ออกรับแยกเป็น แดง ชมพ เหลือง เขียวและขาว และมีการสั่งการให้หน่วยปฏิบัติการ
ออกรับได้เหมาะสมกับ Case
2.2.2 จัดท าทะเบียนหน่วยบริการ/บุคลากร/รถ ที่สมัครเข้าร่วมปฏิบัติการในระบบบริการ
การแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดศรีสะเกษ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

2.2.3 ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาลและเอกชนทั้งระดับ
จังหวัด อ าเภอ ต าบล เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด/ท้องถิ่นจังหวัด/เทศบาลเมือง/เทศบาลต าบล/องค์การ
บริหารส่วนต าบล/ปูองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด/สถานีต ารวจภูธร/กรมทางหลวง/ทางหลวงชนบท/

ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา/วิทยาลัยอาชีวะ ในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการแพทย์ฉุกเฉิน
2.2.4 จัดพิมพ์แบบบันทึกการปฏิบัติงานทั้ง 3 ระดับ ALS/BLS/FR สนับสนุนให้โรงพยาบาล


ทุกแห่ง และเครือข่ายอาสาสมัครกู้ชีพทุกหน่วย โดยปีงบประมาณ 2562 จัดพมพแบบฟอร์มปฏิบัติงานทั้ง 5
ระดับ (ALS, BLS และ FR) จ านวน 1,111 เล่ม เล่มละ 90 บาท เป็นเงิน 99,990 บาท
2.2.5 มีการนิเทศติดตามความก้าวหน้าระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในระดับอาเภอ โดย

การนิเทศแบบผสมผสาน 2 ครั้ง/ปี

ื้
2.3 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาตีเครือข่ายทุกระดับ โดยจัดฟนฟวิชาการแก่หน่วยกู้ชีพระดับ
เบื้องต้น (FR) โดยจัดแข่งขันทักษะการช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ (EMS RALLY) ใน 3-4 ธันวาคม 2562 ณ
วนอทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อาเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และเชิญภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องจาก


รพท.,รพช. ทุกแห่ง ร่วมเป็นวิทยากรประจ าฐาน ปีงบประมาณ 2562 มอบหมาย ให้ Cup ขุขันธ์ เป็นเจ้าภาพ

จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพฒนาทักษะของบุคลากรด้านการแพทย์ฉุกเฉิน (Ems Rally) และประชุมวิชาการ
ปีงบประมาณ 2562 โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข

อาสาสมัครหน่วยกู้ชีพ จากองค์การบริหารส่วนต าบล จากมูลนิธิสว่างจิตต์ธรรมสถาน มูลนิธิศรีสะเกษ
สงเคราะห์ อปพร.เทศบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาล
ชุมชน ทุแห่ง จ านวน 300 คน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
2.4 ส่งเสริมให้ประชาชนที่เจ็บปุวยฉุกเฉินเจ้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉิน

2.4.1 มีการท าประชาคมในพนที่เพอให้ประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจ าหมู่บ้าน
ื่
ื้
ผู้น าชุมชน คณะกรรมการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะครู นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งพระภิกษุ ได้มี
ความรู้ในการเรียกใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน โดยการโทรศัพท์หมายเลข 1669 รวมทั้งการให้ความรู้เรื่องการ
ปฐมพยาบาลขั้นต้น และการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้น เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นอาสาฉุกเฉินชุมชน (อฉช.)


2.4.2 มีการประชาสัมพนธ์ ในคลินิกโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง/ฝากครรภ์/ผู้ปุวย COPD/Asthma
คลีนิคเด็กดี และผู้ปุวย Admit เพื่อให้เข้าถึงบริการได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง
2.4.3 ารประชาสัมพันธ์ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เพอให้ประชาชนเข้าถึง
ื่
บริการการแพทย์ฉุกเฉิน

3. ผลการด าเนินงาน
ปีงบประมาณ 2562 จังหวัดศรีสะเกษมีเปูาหมายของประชาชนที่ต้องเข้าถึงบริการในระบบการแพทย์
ฉุกเฉินจังหวัดทั้งปี (ตามเกณฑ์ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินก าหนด) จ านวน 40,067 ครั้ง ผลงานไตรมาสทั้ง 4

ไตรมาส ปีงบประมาณ 2562 จ านวน 44,417 ครั้ง ร้อยละ 110.8 ทั้งนี้ถึงแม้ผลการด าเนินงานในไตรมาสจะ
เกินเปูาหมาย แต่จังหวัดศรีสะเกษต้องมีการด าเนินงานการแพทย์ฉุกเฉิน เพอให้ประชาชนในจังหวัดศรีสะเกษ
ื่




229


รายงานประจ าปี 2562



ื้
และในพนที่รอยต่อได้รับบริการได้ครอบคลุม ทันเวลา และมีประสิทธิภาพต่อไป โดยต้องมีการด าเนินงาน
ต่อเนื่อง ดังนี้

3.1 มีการประชาสัมพนธ์ผ่านสื่อ เช่น สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในสถานบริการ
สาธารณสุข ทุกแห่ง
ื่
3.2 มีการจัดอบรมอาสาสมัครฉุกเฉินชุมชน ให้ครอบคลุมทุกอาเภอ เพอช่วยในการประชาสัมพนธ์


และเรียกใช้บริการจากระบบการแพทย์ฉุกเฉิน
ื่
3.2 พฒนาบุคลากร ทุกระดับให้มีความรู้ มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล เพอให้ผู้ใช้บริการ

เกิดความมั่นใจ ไว้วางใจ และเรียกใช้บริการ
3.4 มีการนิเทศติดตาม,ก ากับการด าเนินงานของหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน ปีละ 1 ครั้ง
3.5 มีการตรวจสอบ การควบคุมก ากับ การเบิกจ่ายค่าชดเชยการออกปฏิบัติการของหน่วยปฏิบัติการ
ฉุกเฉินในพื้นที่ โดยส านักงานระบบการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้เกิดความถูกต้องตามระเบียบการ
เบิกจ่ายค่าชดเชยของทางราชการ และเบิกจ่ายให้หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ตามเวลาที่ก าหนด
3.6 จังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลชุมชน ทุกแห่ง ผ่านรับการรับรองเป็นองค์กรฝึกอบรมหลักสูตร

อาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ (หลักสูตร อฉพ.) จาก อศป. และสามารถจัดฝึกอบรมหลักสูตรกู้ชีพเบื้องต้น
(40ชม.)ได้ และโรงพยาบาลศรีสะเกษ สามารถเป็นแหล่งอบรมหลักสูตรหน่วยกู้ชีพระดับพื้นฐาน(EMT-B)
3.7 ความครอบคลุมของหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินในพนที่จังหวัดศรีสะเกษ ในระดับ FR ( First
ื้
Responder) มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสมัครเข้าร่วมปฏิบัติการ จ านวน 200 หน่วย ในจังหวัดศรีสะเกษ มี
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 212 หน่วย (อบต./เทศบาล) ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยปฏิบัติในระบบ
การแพทย์ฉุกเฉิน จ านวน 200 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 94.34

3.8 ผลการด าเนินงานการพฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินครบวงจรและระบบส่งต่อ ปีงบประมาณ
2562
3.8.1 อตราของผู้ปุวย trauma triage level 1 และมีข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด ในโรงพยาบาล

ระดับ A, S และ M1 สามารถเข้าห้องผ่าตัดได้ ภายใน 60 นาที ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ผลงานร้อยละ 50

3.8.2 อตราของผู้ปุวย triage level 1, 2 อยู่ในห้องฉุกเฉิน <2 ชม. ในโรงพยาบาลระดับ
A, S และ M1 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ผลงานร้อยละ 60.95
3.8.3 อตราตายของผู้ปุวย PS score >0.75 ในโรงพยาบาลทุกระดับ และได้รับการท า

root cause analysis ร้อยละ 100 ผลงาน ร้อยละ 0

3.8.4 อตราตายผู้ปุวยบาดเจ็บรุนแรงต่อสมอง (mortality rate of severe traumatic
brain injury) (รหัส ICD S06.1-S06.9) ไม่เกินร้อยละ 45 ผลงานร้อยละ 19.60

3.8.5 อตราของ TEA unit ในโรงพยาบาลระดับ A, S, M1 ที่ผ่านเกณฑ์ประเมินคุณภาพ
ไม่ต่ ากว่าร้อยละ 80 ผลงานร้อยละ 50

3.8.6 อตราของโรงพยาบาลระดับ F2 ขึ้นไปที่ผ่านเกณฑ์ประเมิน ECS คุณภาพไม่ต่ ากว่า

ร้อยละ 80 ผลงานร้อยละ 10.52
3.8.7 อตราการเสียชีวิตผู้ปุวยวิกฤติฉุกเฉิน (Triage Level 1) ภายใน 24 ชม. ใน

โรงพยาบาลระดับ A, S และ M1 เสียชีวิตน้อยกว่าร้อยละ 12 ผลงานร้อยละ 5.76









230


Click to View FlipBook Version