The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานประจำปี 2562

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รายงานประจำปี 2562

รายงานประจำปี 2562

รายงานประจ าปี 2562



หวงน้ า อสม.รณรงค์และให้ค าแนะน า ถ้ามีแต่ผู้สูงอายุก็ให้ อสม.ช่วยด าเนินการ อบต. ซื้อผ้าตาข่าย (ผ้าเขียว)

ให้ประชาชน 2 โอ่งต่อหลังคาเรือน
ประธาน อสม. เขตโรงพยาบาล เป็น อสม. มานานมาก ท าไปเรื่อยๆตามหน้าที่ที่รับมอบ แต่
เมื่อมีลูกตัวเองปุวยเป็นไข้เลือดออก จึงเห็นความส าคัญ
1.8 สิ่งที่ดีอยู่แล้วและควรท าต่อไป

1.8.1 ก่อนเกิดโรค

1.8.1.1 บริหารจัดการโรคไข้เลือดออกในรูปแบบคณะกรรมการพฒนาคุณภาพชีวิต
ระดับอ าเภอ (พชอ.) โดยมีนายอ าเภอเป็นผู้สั่งการ

1.8.1.2 มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงโรคไข้เลือดออกในระดับต าบล ระดับหมู่บ้าน
1.8.1.3 วางแผนการด าเนินงานตั้งแต่ก่อนการเกิดโรค และด าเนินตามมาตรการที่
ก าหนดไว้
ื้
1.8.1.4 ก าหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบและพนที่ชัดเจน ให้แก่ อสม.
เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง

1.8.1.5 มีระบบเฝูาระวัง ประเมินค่าดัชนีความชุกลูกน้ าทุกสัปดาห์ มีการประเมิน
ไขว้ระหว่าง อสม. แต่ละคน และสุ่มไขว้ระหว่างหมู่บ้าน
1.8.2 ขณะเกิดโรค

1.8.2.1 โรงพยาบาลแจ้งทางไลน์ทันที เมื่อมีผู้ปุวยได้รับการวินิจฉัย viral infection
ไม่ต้องรอวินิจฉัยไข้เลือดออก
1.8.2.2 ให้ความส าคัญกับการสอบสวนโรค เพอให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง จะได้
ื่
ควบคุมโรคได้ตรงพื้นที่เปูาหมายและทันเวลา

1.8.2.3 เมื่อมีรายงานผู้ปุวย จะด าเนินตามมาตรการ 3-3-1 มี timeline ในการ
ควบคุมโรคชัดเจน
1.8.2.4 แจ้งข้อมูลให้นายอาเภอทราบ รวมถึงมีการคืนข้อมูลให้ก านัน ผู้ใหญ่บ้าน

และประชาชน

1.8.2.5 ผู้น าชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการประสานงานที่ดีมี
เครือข่ายพึ่งพาได้
1.8.2.6 ช่วงเกิดโรคจะมี อสม.จากหมู่บ้านใกล้เคียงมาช่วยควบคุมโรค
1.8.2.7 มีการประเมินผลการควบคุมโรคหลังจากควบคุมโรคทุกครั้ง

1.8.2.8 มีการท าประชาคมหมู่บ้าน เน้นให้มีตัวแทนทุกหลังคาเรือนเข้ามาประชุม
1.8.3 หลังเกิดโรค
1.8.3.1 เฝูาระวังค่าดัชนีความชุกลูกน้ าต่อเนื่อง

1.8.3.2 ติดตามเฝูาระวังผู้ปุวยรายใหม่ หากพบผู้ที่มีอาการไข้ ให้รีบน าเข้าสู่ระบบ
การรักษา
1.8.3.3 วิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์โรค
1.9 ปัจจัยที่ท าให้ด าเนินงานส าเร็จ
1.9.1 ปฏิบัติเข้มข้นกว่าทุกปี มีการวางแผนก่อนท างาน

1.9.2 ท างานเป็นทีม ท างานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล/
โรงพยาบาลเมืองจันทร์ และทีม SRRT เมื่อมีรายงาน Index case ทุกภาคส่วนในทีมจะมาร่วมด าเนินการทันท ี





82


รายงานประจ าปี 2562




1.9.3 สิ่งสนับสนุนพร้อมใช้งาน ส่วนเครื่องพนสารเคมีที่อาจมีปัญหาช ารุด ผู้บริหาร อปท. ก็
สามารถแก้ไขปัญหาได้
1.9.4 ท าตามมาตรการ 3-3-1-7-14-21-28 อย่างเคร่งครัด
1.9.5 โรงพยาบาลเมืองจันทร์มีการจัดระบบการรายงานผู้ปุวยโรคไข้เลือดออกทันที ไม่ต้อง
รอวันราชการ

1.9.6 อสม.ใช้ smart phone เก็บข้อมูลในขณะส ารวจลูกน้ า ท าให้ผู้บริหารและทุกส่วนที่
เกี่ยวข้องรับรู้ข้อมูลทันที
1.9.7 ใช้ Google Form จัดเก็บข้อมูล ท าให้สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงได้รวดเร็วและลด

ความซ้ าซ้อน

1.9.8 สาธารณสุขอาเภอมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์จริง
จึงสะดวกในการท างาน
1.9.9 ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประกาศนโยบายชัดเจน มีการลงนามในบันทึกข้อตกลง
ความร่วมมือควบคุมปูองกันโรคไข้เลือดออก ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรี

สะเกษนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ผู้น าศาสนาพุทธ และผู้บริหารหน่วยงานทุกหน่วยงาน
1.9.10 จังหวัดศรีสะเกษ จัดกิจกรรมประชาสัมพนธ์ผ่านสื่อสารมวลชน และสนับสนุน

งบประมาณให้อ าเภอจัดกิจกรรม kick off ท าให้ทุกภาคส่วนรับรู้ปัญหา มีความเข้าใจ และร่วมด าเนินการ

1.9.11 นายอ าเภอก ากับติดตามผลการด าเนินงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
1.9.12 จากข้อสั่งการให้เปิด EOC ท าให้สามารถระดมคน และทรัพยากรต่างๆ ได้ง่าย
1.10 สิ่งที่ยังบกพร่องเป็นจุดอ่อนและควรจะปรับปรุง
1.10.1 ประชาชนยังต้องพึ่งพาภาครัฐไม่สามารถด าเนินการด้วยตนเอง

1.10.2 เครื่องพ่นสารเคมีก าจัดยุงไม่เพียงพอ
1.10.3 ค่าดัชนีความชุกลูกน้ าในหมู่บ้านส่วนใหญ่ยังสูงเกินเกณฑ์ และพบลูกน้ าในวัด
โรงเรียนและหน่วยงานบางแห่ง
1.11 ข้อเสนอแนะในสิ่งที่ควรท าเพิ่มเติม

1.11.1 พัฒนาศักยภาพของประชาชน ให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ทุกหลังคาเรือน
1.11.2 ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดี มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถน าไปปฏิบัติด้วย
ตนเอง
1.11.3 จัดท าแผนเตรียมความพร้อมด้านวัสดุอุปกรณ์ และด้านการรักษา

1.11.4 ผลักดันให้สถานศึกษาให้ความรู้เรื่องไข้เลือดออกกับบุคลากรในโรงเรียนและนักเรียน
และน าไปปฏิบัติที่บ้านและขยายผลไปในหมู่บ้าน


2. ถอดบทเรียนการด าเนินงานโรคไข้เลือดออก อ าเภอเมืองจันทร์ ปี พ.ศ. 2562 จังหวัดศรีสะเกษ
วันที่ 4 ตุลาคม 2562
2
1
นางกันยารัตน์ เหล่าเสถียรกิจ นายสมัย ค าเหลือ นางสาวนิภา ศรีนิล
1 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ 2 ส านักงานสาธารณสุขอ าเภอเมืองจันทร์
2.1 บทคัดย่อ

ในปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษ มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงและมีผู้ปุวยเสียชีวิต จากวันที่
1 มกราคม 2562 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 มีรายงานผู้ปุวยโรคไข้เลือดออกจ านวน 2,119 ราย เสียชีวิต





83


รายงานประจ าปี 2562





4 ราย อตราปุวย 143.86 ต่อแสนประชากร อตราปุวยตายร้อยละ 0.18 มีรายงานผู้ปุวยโรคไข้เลือดออก

ทุกอ าเภอ และทุกอ าเภอมีอัตราปุวยสูงกว่า 50 ต่อแสนประชากร ยกเว้นอ าเภอเมืองจันทร์ มีอตราปุวย 16.64

ต่อแสนประชากร จังหวัดศรีสะเกษ จึงถอดบทเรียนการด าเนินงานโรคไข้เลือดออก อาเภอเมืองจันทร์
ปี พ.ศ. 2562 โดยมีวัตถุประสงค์ 1. เพอให้เกิดความรู้ที่เป็นบทเรียนในการด าเนินงานปูองกันควบคุมโรค
ื่
ื่
ไข้เลือดออก และน าไปปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ดีขึ้น และ 2. เพอน าความรู้ที่ได้ไปขยายผลในพนที่อนๆ ผู้
ื่
ื้

ร่วมกิจกรรมถอดบทเรียนรวม 24 คน ได้แก่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ท้องถิ่นอาเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ก านัน ผู้ใหญ่บ้านข้อมูลที่ได้จากการถอดบทเรียน คือ ก่อนเกิดโรค มีการบริหารจัดการโรคไข้เลือดออกใน

รูปแบบคณะกรรมการพฒนาคุณภาพชีวิตระดับอาเภอ (พชอ.) มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงโรคไข้เลือดออกใน

ระดับต าบล ระดับหมู่บ้านมีการวางแผนการด าเนินงานตั้งแต่ก่อนการเกิดโรค และด าเนินตามมาตรการที่
ก าหนดไว้ ก าหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบและพนที่ชัดเจน ให้แก่ อสม. เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง
ื้
มีระบบเฝูาระวัง ประเมินค่าดัชนีความชุกลูกน้ าทุกสัปดาห์ มีการประเมินไขว้ระหว่าง อสม.แต่ละคนและ
สุ่มไขว้ระหว่างหมู่บ้าน ขณะเกิดโรค เมื่อมีผู้ปุวยได้รับการวินิจฉัย viral infection ไม่ต้องรอวินิจฉัย
ไข้เลือดออก ให้ความส าคัญกับการสอบสวนโรค เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง จะได้ควบคุมโรคได้ตรงพนที่
ื้
เปูาหมายและทันเวลา ด าเนินตามมาตรการ 3-3-1 ก าหนดวันควบคุมโรคชัดเจน แจ้งข้อมูลให้นายอาเภอ

ทราบรวมถึงมีการคืนข้อมูลให้ผู้น าท้องถิ่น ผู้น าท้องที่และประชาชน อสม. จากหมู่บ้านใกล้เคียงมาช่วย
ควบคุมโรค มีการประเมินผลการควบคุมโรคหลังจากควบคุมโรคทุกครั้ง และท าประชาคมหมู่บ้าน เน้นให้มี

ตัวแทนทุกหลังคาเรือนเข้ามาประชุม หลังเกิดโรค เฝูาระวังค่าดัชนีความชุกลูกน้ าต่อเนื่อง ติดตามเฝูาระวัง
ผู้ปุวยรายใหม่ หากพบผู้ที่มีอาการไข้ ให้รีบน าเข้าสู่ระบบการรักษาและวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์
ึ่
โรค แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่บกพร่องเป็นจุดออนและควรปรับปรุง ได้แก่ ประชาชนยังต้องพงพาภาครัฐ ไม่

สามารถด าเนินการด้วยตนเอง เครื่องพนสารเคมีก าจัดยุงไม่เพยงพอ และยังพบว่ามีค่าดัชนีความชุกลูกน้ าใน


หมู่บ้านส่วนใหญ่สูงเกินเกณฑ์ พบลูกน้ าในวัด โรงเรียนและหน่วยงาน บางแห่ง ข้อเสนอแนะในสิ่งที่ควรท า

ิ่
เพมเติม ได้แก่ 1. พฒนาศักยภาพของประชาชนให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านทุกหลังคาเรือน 2. ส่งเสริมให้
ประชาชนมีทัศนคติที่ดี มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถน าไปปฏิบัติด้วยตนเอง 3. จัดท าแผนเตรียมความ
พร้อมด้านวัสดุอปกรณ์และด้านการรักษา และ 4. ผลักดันให้สถานศึกษาให้ความรู้เรื่องไข้เลือดออกกับ

บุคลากรในโรงเรียนและนักเรียน และน าไปปฏิบัติที่บ้านและขยายผลไปในหมู่บ้าน
ปัจจัยที่ท าให้เกิดความส าเร็จ ได้แก่ 1. มีการวางแผนก่อนท างานและปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์
2. ท างานเป็นทีมเมื่อมีรายงาน Index case ทุกภาคส่วนในทีมจะมาร่วมด าเนินการทันที 3. สิ่งสนับสนุนพร้อม
ใช้งาน 4. ท าตามมาตรการ 3-3-1-7-14-21-28 อย่างเคร่งครัด 5. โรงพยาบาลเมืองจันทร์จัดระบบการ

รายงานผู้ปุวยทันที ไม่ต้องรอวันราชการ 6. ใช้ smart phone เก็บข้อมูลในขณะส ารวจลูกน้ า ท าให้ผู้บริหาร
และผู้เกี่ยวข้องรับรู้ข้อมูลทันที 7. ใช้ Google Form จัดเก็บข้อมูล ท าให้สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงได้
รวดเร็วและลดความซ้ าซ้อน 9. ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประกาศนโยบายชัดเจน รวมทั้งสนับสนุน


งบประมาณจัดกิจกรรม kick off และสื่อสารถึงประชาชนผ่านสื่อสารมวลชนนายอาเภอจึงก ากับติดตามอย่าง
ใกล้ชิด และ 10. จากข้อสั่งการให้เปิด EOC ท าให้สามารถระดมคน และทรัพยากรต่างๆ พร้อมตอบโต้
สถานการณ์










84


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันควบคุมโรคไข้มาลาเรีย


1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์โรคไข้มาลาเรียประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562
พบผู้ปุวยทั้งหมด 5,834 ราย เป็นชาวไทย 4,188 ราย ชาวต่างชาติถาวร (M1) 689 ราย ชาวต่างชาติชั่วคราว
(M2) 956 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 พบว่าในปี 2562 มีผู้ปุวยลดลงร้อยละ 21 (ปี 2561พบผู้ปุวย

7366 ราย) จังหวัดที่มีจ านวนผู้ปุวยสูง 10 ล าดับแรกของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดตาก, ยะลา, กาญจนบุรี,
ศรีสะเกษ, แม่ฮองสอน, ราชบุรี, อบลราชธานี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ และ สงขลา ตามล าดับ จ านวน


ผู้ปุวย 1642, 1550, 425, 386, 275, 248, 236, 196, 171 และ 150 รายตามล าดับ จ านวนผู้ปุวยรวม 10
จังหวัด เท่ากับ 5279 ราย คิดเป็นร้อยละ 96.48 ของจ านวนผู้ปุวยทั้งประเทศ ผู้ปุวยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย
ร้อยละ 67.91 อายุมากกว่า 15 ปี ร้อยละ 72 อาชีพของผู้ปุวยที่ส าคัญ ได้แก่ ท าสวนยาง, เด็ก/นักเรีย,

รับจ้าง, ทหาร/ตชด. และ พระภิกษุ คิดเป็นร้อยละ 33.12, 31.86, 15.55, 5.42 และ 0.82 ตามล าดับ ชนิด
ของเชื้อที่พบส่วนใหญ่เป็น Plasmodium vivax (PV) 4,840 ราย คิดเป็นร้อยละ 83 Plasmodium
falciparum (PF) 754 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 พบผู้ปุวยทุกกลุ่มอายุ พบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 25-44 ปี

สถานการณ์โรคไข้มาลาเรียของจังหวัดศรีสะเกษมีผู้ปุวยลดลง ในปีงบประมาณ 2552-2562 มีผู้ปุวย
325, 686, 847, 1183, 1642, 815, 1019, 831, 827, 871 และ 386 ราย ในปี 2562 มีผู้ปุวยเสียชีวิต


จ านวน 1 ราย อาเภอที่มีจ านวนผู้ปุวยสูง 5 อนดับแรก ได้แก่ ขุนหาญ (186 ราย), กันทรลักษ์ (139 ราย),
ภูสิงห์ (45 ราย), ไพรบึง (6 ราย) และ ขุขันธ์ (4 ราย) อาเภอที่ 1, 2, 3 และ 5 มีเขตติดต่อกับราชอาณาจักร

ื้


กัมพชา ส่วนอาเภอไพรบึง ไม่ได้ติดเชื้อในพนที่แต่ไปติดเชื้อจากการไปประกอบอาชีพในอาเภอขุนหาญ จาก

การสอบสวนโรค พบว่าอาชีพของผู้ปุวยที่ติดเชื้อจากมากไปน้อย ได้แก่ ท าสวนยางพารา, ทหาร/ต ารวจ,
พระภิกษุ, เด็ก/นักเรียน และ เกษตรกรรม คิดเป็นร้อยละ 51.81, 35.49, 3.37, 3.11 และ 2.33 ตามล าดับ
เมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2561 พบว่าในปี 2562 มีผู้ปุวยลดลงร้อยละ55.68 พบผู้ปุวยสูงสุดในเดือน

พฤศจิกายน จ านวน 102 ราย รองลงมา ได้แก่ เดือน ตุลาคม, ธันวาคม, มกราคม, มีนาคม, กุมภาพนธ์,
มิถุนายน, เมษายน, กรกฎาคม, พฤษภาคม, กันยายน และ สิงหาคม จ านวน 102, 84, 52, 37, 25, 22, 16,
14, 12, 10, 7 และ 5 ราย ตามล าดับ
ชนิดของเชื้อที่พบเป็น Plasmodium vivax (PV) 301 ราย คิดเป็นร้อยละ 77.97 Plasmodium

falciparum (PF) 80 ราย คิดเป็นร้อยละ 20.72 Plasmodium Malariae (PM) 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.25
Mix 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.78 และไม่ทราบเชื้อ 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.25 ผู้ปุวยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย
คิดเป็นร้อยละ 93.52 พบผู้ปุวยทุกกลุ่มอายุ พบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 25-44 ปี รองลงมา ได้แก่ กลุ่มอายุ 45+,

15-24 และ 5-14 ปี คิดเป็นร้อยละ 45.07, 29.01, 23.57 และ 2.33 ตามล าดับ














85


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 1 จ านวนผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย จ าแนกรายเดือน ปีงบประมาณ 2556-2562 จังหวัดศรีสะเกษ
















รูปที่ 2 อาชีพของผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย ปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษ















รูปที่ 3 กลุ่มอายุของผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย ปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษ



















86


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 4 หน่วยบริการตรวจรักษาผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย ปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษ


















ตารางที่ 28 หน่วยบริการตรวจรักษาผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย ปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษ


โรงพยาบาล มาลาเรีย มาลาเรีย ตอน
อ าเภอ โรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพต าบล คลินิก ชุมชน พยาบาล

กันทรลักษ ภูมิซรอล ไม่ม ี ด่าน, กันทรลักษ ์ ภูมิซรอล
โดนเอาว์ โดนเอาว์,
ละลาย ก่อ
ค าโปรย

ช าเม็ง
เสาธงชัย
ขุนหาญ ทับทิมสยาม 07 ขุนหาญ จองกอ ขุนหาญ ไม่ม ี

หลักหิน
ส าโรงเกียรติ
ห้วยจันทร์
กันทรอม

ตานวน
ภูสิงห์ นาตราว ภูสิงห์ คูสี่แจ, ภูสิงห์ ไม่ม ี

ไพรพัฒนา จ าปานวง,
แซร์ไปร โอปังโกว์
แซร์สโบว์
ขุขันธ์ ทับทิมสยาม 06 ไม่ม ี ไม่ม ี ขุขันธ์ ไม่ม ี


พื้นที่ B ไม่ม ี ไม่ม ี ไม่ม ี ทุกอาเภอ ไม่ม ี
18 อ าเภอ





87


รายงานประจ าปี 2562



ตารางที่ 29 จ านวนผู้ป่วยไข้มาลาเรีย ปี 2556-2562 จังหวัดศรีสะเกษ จ าแนกรายอ าเภอ


จ านวนผู้ป่วย
ล าดับ อ าเภอ
2562 2561 2560 2559 2558 2557 2556

1 เมืองศรีสะเกษ 0 5 4 8 12 5 11
2 ยางชุมน้อย 0 1 0 2 2 1 0
3 กันทรารมย์ 1 5 4 6 6 3 8
4 กันทรลักษ ์ 139 235 167 208 261 226 607

5 ขุขันธ์ 4 12 24 19 27 19 34
6 ไพรบึง 6 9 3 4 11 8 9
7 ปรางค์ก ู่ 0 4 7 3 0 3 1

8 ขุนหาญ 186 359 336 383 425 314 556
9 ราษีไศล 0 0 0 3 2 2 4
10 อุทุมพรพิสัย 1 1 2 2 4 1 3

11 บึงบูรพ์ 0 0 1 0 0 0 1
12 ห้วยทับทัน 0 0 0 0 1 2 4
13 โนนคูณ 0 0 2 2 3 8 2

14 ศรีรัตนะ 1 3 2 1 2 4 6
15 น้ าเกลี้ยง 0 4 1 6 4 4 9
16 วังหิน 0 0 0 1 3 2 0

17 ภูสิงห์ 45 162 216 134 195 170 285
18 เมืองจันทร์ 0 0 1 0 0 1 1
19 เบญจลักษ ์ 2 1 6 0 3 7 1

20 พยุห์ 0 0 2 2 7 1 6
21 ศิลาลาด 0 0 2 1 1 1 0
22 โพธิ์ศรีสุวรรณ 0 0 1 0 1 1 0

รวม 386 803 781 785 970 783 1548


















88


รายงานประจ าปี 2562



2. มาตรการในการด าเนินงาน

2.1 จัดตั้งหน่วยบริการตรวจรักษาโรคไข้มาลาเรียในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลและในหมู่บ้าน
2.2 ด าเนินตามมาตรการ 1-3-7
2.3 ติดตามการกินยาแบบมีพี่เลี้ยง (Dots) และติดตามการรักษาของผู้ปุวย
2.4 สนับสนุนมุ้งชุบเคมี ยาทากันยุง กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

2.5 ให้สุขศึกษาแก่ผู้มารับบริการตรวจรักษาทุกราย ที่มารับการตรวจหาเชื้อมาลาเรีย
2.6 จัดสัปดาห์รณรงค์มาลาเรียในระหว่างวันที่ 23-27 เมษายน 2562

2.7 พฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับอาเภอ/ต าบล, เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการชันสูตรโรค,

พนักงานมาลาเรียชุมชน, อาสาสมัคร, ผู้น าชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
2.8 นิเทศ ก ากับ ติดตามการด าเนินงานในหน่วยตรวจรักษา
ื้
2.9 ท าแผนเชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อมาลาเรียที่ไม่แสดงอาการในกลุ่มที่อาศัย/ประกอบอาชีพในพนที่เสี่ยง
โรคไข้มาลาเรีย


3. ผลการด าเนินงาน

ปัจจัยที่มีผลกระทบโดยตรงกับอตราปุวย ได้แก่ อาชีพ กลุ่มคนที่ปุวยส่วนใหญ่มีอาชีพที่ต้อง
เดินทางเข้าไปในปุา เช่น ทหาร ต ารวจตะเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ปุาไม้ ประชาชนที่มีอาชีพหาของปุา ล่าสัตว์


ตัดไม้ และการดูแลความสงบชายแดนระหว่างไทย-ราชอาณาจักรกัมพชา ท าให้มีคนเข้าไปในแหล่งที่มีการ
แพร่เชื้อมากขึ้น จึงมีโอกาสเป็นไข้มาลาเรียสูง การควบคุมแหล่งแพร่เชื้อ ท าได้เฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้นและ
การมีช่องผ่านทางระหว่างประเทศทั้งที่เป็นช่องถาวรและไม่ถาวร ท าให้ประชาชนมีการเดินทางไปมา
ตลอดเวลา จึงมีโอกาสได้รับเชื้อมากขึ้นด้วย กิจกรรมที่ด าเนินการมี ดังนี้

3.1 จัดตั้งหน่วยบริการตรวจรักษาจ านวน 24 แห่ง ที่ รพ.สต. 17 แห่งและในหมู่บ้าน 7 แห่ง
3.2 แจกมุ้งชุบสารเคมี(LLIN) จ านวน 6,000 หลัง และแจกยาทากันยุงจ านวน 14,800 ซอง เพอ
ื่
สนับสนุนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงไข้มาลาเรีย
3.3 การด าเนินมาตรการ 1-3-7

3..3.1 มาตรการ 1 ด าเนินการได้ร้อยละ 59
3.3.2 มาตรการ 3 ด าเนินการได้ร้อยละ 94
3.3.3 มาตรการ 7 ด าเนินการได้ร้อยละ 39
ื้
3.4 ให้ความรู้ประชาชนในพนที่เสี่ยงไข้มาลาเรียในหน่วยบริการตรวจรักษาทุกราย จ านวน 849 ราย
และในการรณรงค์ฯ จ านวน 1,200 ราย รวมทั้งสิ้น 2,049 ราย

4. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป

4.1 ก ากับการกินยาและติดตามการรักษาผู้ปุวยโรคไข้มาลาเรียไม่น้อยกว่าร้อยละ 90
4.2 เฝูาระวังผู้ติดเชื้อมาลาเรียที่ไม่แสดงอาการ และให้การรักษา
4.3 เฝูาระวังเชื้อมาลาเรียดื้อยา
4.4 เพิ่มความครอบคลุมการด าเนินงานตามมาตรการ 1-3-7
4.5 แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย

4.6 ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลประชาชนในพื้นที่
4.7 ส่งเสริมให้หน่วยงาน/องค์กรต่างๆ มีศักยภาพ สามารถจัดการปัญหาโรคไข้มาลาเรีย





89


รายงานประจ าปี 2562



งานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค


ตัวชี้วัด : 1. อัตราความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในเด็กอายุ 0-5 ปี > ร้อยละ 90

ยกเว้น วัคซีน MMR > ร้อยละ 95
2. อัตราความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในเด็กนักเรียน > ร้อยละ 95
3. อัตราป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนไม่เกินเกณฑ์ที่ก าหนด

1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
การด าเนินงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็กอายุ 0-5 ปี ในเด็กนักเรียน ป.1, ป.5, ป.6 และ
หญิงตั้งครรภ์ มีอตราความครอบคลุมในการได้รับวัคซีนในปี 2561 บางกลุ่มไม่ได้ตามเปูาหมายที่ก าหนด

โดยเฉพาะวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 0-5 ปี ความครอบคลุมร้อยละ 89 วัคซีน MMR1 อตราความครอบคลุมการ

ได้รับวัคซีน ร้อยละ 89 และวัคซีน MMR2 อัตราความครอบคลุมการได้รับวัคซีน ร้อยละ 85 ซึ่งต่ ากว่าเกณฑ์

เปูาหมายมาก ปัญหาที่พบจากการด าเนินงาน คือ การบันทึกข้อมูลการให้บริการใน 43 แฟม ยังไม่ถูกต้อง

และไม่ครบถ้วนตามการให้บริการจริง สาเหตุเกิดจาก หน่วยบริการบางแห่งให้ผู้ช่วยเหลือผู้ปุวยหรือผู้ช่วย
แพทย์แผนไทยเป็นผู้บันทึกข้อมูล ซึ่งอาจะไม่ถูกต้องและครบถ้วนตามมาตรฐาน

ในปีงบประมาณ 2562 จังหวัดศรีสะเกษ จึงได้โครงการพฒนาศักยภาพบุคลากรในการด าเนินงาน


สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและโรคติดต่อที่ปูองกันได้ด้วยวัคซีนจังหวัดศรีสะเกษ และโรคพษสุนัขบ้า
ปีงบประมาณ 2562 ขึ้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคทุกหน่วยบริการมีความรู้ความสามารถใน
การด าเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ ท าให้ไม่เกิดโรคที่ปูองกันได้ด้วยวัคซีนเกินเกณฑ์ที่ก าหนดและไม่เป็น

ปัญหาของจังหวัดอีกต่อไป

2. มาตรการในการด าเนินงาน
2.1 ก าหนดให้งานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการจัดล าดับอ าเภอ(Ranking)

2.2 ประเมินผลการด าเนินงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคจาก HDC
2..3 ก าหนดให้ทุกหน่วยบริการส่งแบบประเมินมาตรฐานงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคปีละ 1 ครั้ง

2.3.1 ครั้งที่ 1 ทุกหน่วยบริการประเมินตนเอง และผู้รับผิดชอบระดับอาเภอรวบรวมจัดท า
ผลการประเมินเป็นไฟล์ xls ส่งกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ


2.3.2 ครั้งที่ 2 ผู้รับผิดชอบระดับอาเภอออกประเมินมาตรฐานของหน่วยบริการในเขต
รับผิดชอบ และรวบรวมส่งเป็นไฟล์ xls ส่งกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ ในไตรมาสสาม
2.4 จังหวัดออกสุ่มประเมิน รพ.สต./คลังวัคซีน/โรงเรียน เพอประเมินมาตรฐานงานสร้างเสริม
ื่
ภูมิคุ้มกันโรค และสุ่มประเมินความครอบคลุมการให้วัคซีนในเด็กนักเรียน ในวันที่ออกประเมินการจัดล าดับ
อ าเภอ ปีละ 2 ครั้ง/อ าเภอ

3. ผลการด าเนินงาน
3.1 ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในเด็กอายุ ๑ ปี ได้แก่ วัคซีน BCG. ร้อยละ ๙๘.๘๖ HBV1

ร้อยละ ๙๙.๘๖ DTP-HB3 ร้อยละ ๙๕.๘๖ โปลิโอ3ร้อยละ ๙๕.๘๖ MMR1 ร้อยละ ๙๔.๔๕ IPV ร้อยละ
๙๖.๐๗ ไม่ผ่านเกณฑ์เฉพาะ MMR 1







90


รายงานประจ าปี 2562


























3.2 ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในเด็กอายุ ๒ ปี ได้แก่ DTP4 ร้อยละ ๙๔.๔๖ โปลิโอ 4 ร้อยละ
๙๔.๔๒ JE1ร้อยละ ๙๕.๐๔ ผ่านเกณฑ์ทุกชนิด




























91


รายงานประจ าปี 2562



3.3 ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในเด็กอายุ ๓ ปี ได้แก่ JE2 ร้อยละ ๘๖.๘๗ MMR2 ร้อยละ

๙๒.๙๒ ไม่ผ่านเกณฑ์ทุกชนิด
สรุปความครอบคลุมการได ้รบวัคซีนในเดกอายุครบ 3 ป ปงบประมาณ 2562




สรุปผลการด าเนินงานการได้ร ับว ัคซีนในเดกอายุครบ 3 ป ี

ที ่ อ าเภอ เปาหมาย 3 ผลงาน JE % ผลงาน MMR2 % รวม ี %



3 ป
1 เมืองศรีสะเกษ 927 747 80.58 779 84.03 763 82.31

2 ยางชมน้อย 269 249 92.57 266 98.88 258 95.72
3
89.81
ก ันทรารมย์
754
724
86.29
783
839
93.33
4 ก ันทรล ักษ์ 1,989 1,560 78.43 1,779 89.44 1670 83.94
1,310
5
1,234
88.47
ขุข ันธ์
1,159
1197
94.2
91.34
6 ไพรบึง 400 374 93.5 390 97.5 382 95.50
498
7 ปรางค์กู่ 1,050 386 77.51 414 83.13 400 80.32
8
88.38
ขุนหาญ
928
90.1
86.67
910
946
9 ราษีไศล 594 551 92.76 579 97.47 565 95.12
10 อุทุมพรพิส ั ย 777 750 96.53 757 97.43 754 96.98
11 บึงบูรพ์ 64 56 87.5 64 100 60 93.75
92.7
12 ห้วยท ับท ัน 370 334 90.27 343 99.04 339 91.49
292
311
308
โนนคูณ
93.89
300
96.46
13
14 ศรีร ัตนะ 524 420 80.15 504 96.18 462 88.17
93.4
15 น ้าเกลี้ยง 409 377 92.18 382 98.37 380 92.79
ว ังหิน
16
94.9
465
96.63
482
474
490
17 ภูสิงห์ 585 555 94.87 571 97.61 563 96.24
96.73
153
149
148
18
97.06
97.39
เมืองจ ันทร์
149
19 เบญจล ักษ์ 301 266 88.37 298 99 282 93.69
82.9
20 พยุห์ ์ 269 223 83.73 250 92.94 237 87.92
166
139
161
21
90.36
โพธิศรีสุวรรณ
150
96.99
22 ศิลาลาด 100 81 81 80 80 81 80.50
รวม จ.ศรีสะเกษ 12395 10767 86.87 11518 92.92 11142.5 89.90

3.4 ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในเด็กอายุ ๕ ปี ได้แก่ DTP5 ร้อยละ ๙๓.๐๗ โปลิโอ 5 ร้อยละ
๙๓.๐๒ ผ่านเกณฑ์ทุกชนิด
สรุปความครอบคลุมการได ้รบวัคซีนในเดกอายุครบ 5 ป ปงบประมาณ 2562




สรุปผลการด าเนินงานการได้ร ับว ัคซีนในเดกอายุครบ 5 ป ี

โปลิโอ5

ที ่ อ าเภอ เปาหมาย ผลงาน DTP5 % ผลงาน % รวม ี %
1 ป

5 ป
1 เมืองศรีสะเกษ 1,078 899 83.40 895 83.02 897 83.21
315
315
323
315
ยางชมน้อย
2
97.52

97.52
97.52
3 ก ันทรารมย์ 836 777 92.94 778 93.06 778 93.00
4 ก ันทรล ักษ์ 2,019 1,928 95.49 1,930 95.59 1929 95.54
93.79
93.75
1,231
1,232
1,313
ขุข ันธ์
5
1232
93.83
6 ไพรบึง 425 406 95.53 405 95.29 406 95.41
476
82.07
82.07
476
ปรางค์กู่
7
82.07
476
580
8 ขุนหาญ 1,121 957 85.37 958 85.46 958 85.41
9
10 ราษีไศล 574 558 97.21 558 97.21 558 97.21
840
822
821
97.74
97.86
822
97.80
อุทุมพรพิส ั ย
59
100
59
59
59
100
11 บึงบูรพ์ 379 367 96.83 367 96.83 367 100.00
12
ห้วยท ับท ัน
96.83
13 โนนคูณ 334 329 98.50 329 98.5 329 98.50
14 ศรีร ัตนะ 568 533 93.84 532 93.66 533 93.75
15 น ้าเกลี้ยง 457 428 93.65 425 93 427 93.33
16 ว ังหิน 515 497 96.50 496 96.31 497 96.41
621
97.95
621
17
97.95
ภูสิ งห์
634
621
97.95
18 เมืองจ ันทร์ 167 166 99.40 166 95.42 166 99.40
99.4
95.27
19
332
349
333
95.13
เบญจล ักษ์
333
20 พยุห์ 304 282 92.76 282 92.76 282 92.76

21 โพธิศรีสุวรรณ 204 198 97.06 198 97.06 198 97.06
108
108
22
85.71
108
126
ศิลาลาด
85.71
85.71
รวม จ.ศรีสะเกษ 13205 12290 93.07 12283 93.02 12286.5 93.04

92


รายงานประจ าปี 2562



4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

4.1 การบันทึกข้อมูลไม่ถูกต้องไม่ทันเวลา
4.2 ขาดการวิเคราะห์และตรวจสอบข้อมูลจากโปรแกรม HDC
4.3 ผู้รับผิดชอบระดับอ าเภอ
4.3.1 ไม่วิเคราะห์ข้อมูล

4.3.2 ไม่ติดตามผลการด าเนินงาน
4.3.3 ไม่ประเมินมาตรฐานEPI
4.3.4 บางแห่งไม่แจ้งเปูาหมายนักเรียน ท าให้ไม่ทราบผลการด าเนินงานที่ครอบคลุม


5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป
ผลการด าเนินในปีงบประมาณ 2562 งานสร้างเสริมภูมคุ้มกันโรคประสบผลส าเร็จผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัด
ทุกประเภท ยกเว้น MMR1/MMR2/JE2 ซึ่งปีงบประมาณ 2563 จะด าเนินการ ดังนี้
5.1 แจ้งแนวทางการด าเนินงานเป็นหนังสือราชการ

5.2 ติดตามการด าเนินงานใน HDC และส่งให้ผู้บริหารก ากับการด าเนินงานในไลน์กลุ่มผู้บริหารเป็น
รายเดือน
5.3 ลงนิเทศติดตามงานเฉพาะกิจในพื้นที่ที่มีผลงานต่ ากว่าเกณฑ์

5.4 สุ่มประเมินโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล
5.5 น าเข้าประเมินในการจัดล าดับอ าเภอ






























93


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันควบคุมโรคติดต่อทางอาหารและน้ า


ตัวชี้วัด : 1. อัตราป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงไม่เกินค่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี (1,835 ต่อแสนประชากร)

2. อัตราป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษไม่เกินค่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี (303 ต่อแสนประชากร)
1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2561 ประเทศไทยโดยกองระบาดวิทยา ได้รับรายงานผู้ปุวย



โรคอจจาระร่วงจ านวน 1,222,217 ราย คิดเป็นอตราปุวย 1,843.43 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 8 ราย
ในพนที่จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 ราย จังหวัดพะเยา, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, จันทบุรี, กาฬสินธ์ และ นครราชสีมา
ื้

จังหวัดละ 1 ราย จังหวัดที่มีอตราปุวยเป็นอนดับ 1 ของประเทศคือจังหวัดปราจีนบุรี มีอตราปุวย 4,589



ต่อแสนประชากร ส าหรับจังหวัดศรีสะเกษได้รับรายงานผู้ปุวย 29,271 ราย คิดเป็นอตราปุวย 2,010.24
ต่อแสนประชากร เป็นอนดับที่ 5 ของเขตสุขภาพที่ 10 อนดับที่ 8 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็น


อันดับที่ 32 ของประเทศไทย ไม่มีผู้ปุวยเสียชีวิต

ส่วนโรคอาหารเป็นพษ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2561 ประเทศไทยโดยกองระบาด


วิทยา ได้รับรายงานผู้ปุวยโรคอาหารเป็นพษจ านวน 120,758 ราย คิดเป็นอตราปุวย 182.14


ต่อแสนประชากร ไม่มีรายงานเสียชีวิต จังหวัดที่มีอตราปุวยเป็นอนดับ 1 ของประเทศคือจังหวัดอบลราชธานี

มีอตราปุวย 440.38 ต่อแสนประชากร ส าหรับจังหวัดศรีสะเกษได้รับรายงานผู้ปุวย 3,666 ราย คิดเป็น

อตราปุวย 251.77 ต่อแสนประชากร เป็นอนดับที่ 4 ของเขตสุขภาพที่ 10 รองจากอบลราชธานี (440





ต่อแสนประชากร) อานาจเจริญ (364 ต่อแสนประชากร) และมุกดาหาร (289 ต่อแสนประชากร) อนดับที่ 8
ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นอันดับที่ 18 ของประเทศไทย และไม่มีผู้ปุวยเสียชีวิต

2. มาตรการในการด าเนินงาน
2.1 วิเคราะห์สถานการณ์โรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษตามหลักระบาดวิทยา
2.2 วิเคราะห์หาสาเหตุของการระบาดเป็นกลุ่มก้อน เพอวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและหาแนวทางการ
ื่
แก้ไขปัญหา
2.3 เฝูาระวังสถานการณ์โรค โดยใช้ระบบ Line Application รายงานจากพนที่ Real Time ใน
ื้
Line Group ระบบเฝูาระวังโรค

2.4 เฝูาระวังปริมาณคลอรีนตกค้างในน้ าประปาในช่วงฤดูร้อน
2.5 ประชาสัมพันธ์และให้สุขศึกษาแก่ประชาชนทั่วไป
2.6 ประสานงานในการปรับปรุงสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมและอาหารปลอดภัยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เช่น เทศบาล ประปาส่วนภูมิภาค กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข กลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อม
และอาชีวอนามัย
2.7 เตรียมทีมเฉพาะกิจในการสอบสวนและควบคุมโรคให้พร้อมปฏิบัติงาน

3. ผลการด าเนินงาน

อตราปุวยด้วยโรคอจจาระร่วงในพนที่จังหวัดศรีสะเกษในปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง วันที่
ื้



31 ตุลาคม 2562 มีรายงานผู้ปุวยจ านวน 25,134 ราย คิดเป็นอตราปุวย 1701.79 ต่อแสนประชากร

น้อยกว่าค่ามัธยฐานคือ 1,835 ต่อแสนประชากร และน้อยกว่าปี 2560 ที่มีอตราปุวย 2,010.24

ต่อแสนประชากร เมื่อจ าแนกผู้ปุวยเป็นรายอาเภอ พบว่ามีอาเภอที่มีอตราปุวยเกินค่ามัธยฐาน จ านวน 8



94


รายงานประจ าปี 2562




อาเภอ คือ เมือง (2,069 ต่อแสนประชากร) ยางชุมน้อย (3,101 ต่อแสนประชากร) ปรางค์กู่ (2,341

ต่อแสนประชากร) ปรางค์ก (2619.59 ต่อแสนประชากร) ขุนหาญ (2,859 ต่อแสนประชากร) บึงบูรพ (3,644
ู่
ต่อแสนประชากร) โนนคูณ (3,258 ต่อแสนประชากร) น้ าเกลี้ยง (2,254 ต่อแสนประชากร) และภูสิงห์ (2,755
ต่อแสนประชากร)
รูปที่ 1 แสดงอัตราปุวยด้วยโรคอุจจาระร่วง จ าแนกรายอ าเภอ จ.ศรีสะเกษ ปี 2562
















ส าหรับอัตราปุวยด้วยโรคอาหารเป็นพิษในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษในปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง

วันที่ 31 ตุลาคม 2562 มีรายงานผู้ปุวยจ านวน 3,541 ราย คิดเป็นอตราปุวย 239.76 ต่อแสนประชากร

น้อยกว่าค่ามัธยฐานคือ 303.96 ต่อแสนประชากร และน้อยกว่าปี 2560 ที่มีอตราปุวย 303.29


ต่อแสนประชากร เมื่อจ าแนกผู้ปุวยเป็นรายอาเภอ พบว่ามีอาเภอที่มีอตราปุวยเกินค่ามัธยฐาน จ านวน

10 อาเภอ คือ เมือง (309 ต่อแสนประชากร) ยางชุมน้อย (393 ต่อแสนประชากร) กันทรารมย์ (345

ต่อแสนประชากร) ราศีไศล (456 ต่อแสนประชากร) บึงบูรพ (544 ต่อแสนประชากร) โนนคูณ (435

ต่อแสนประชากร) ศรีรัตนะ (326 ต่อแสนประชากร) น้ าเกลี้ยง (443 ต่อแสนประชากร) เมืองจันทร์ (482
ต่อแสนประชากร) และโพธิ์ศรีสุวรรณ (364 ต่อแสนประชากร)

รูปที่ 2 แสดงอัตราปุวยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ จ าแนกรายอ าเภอ จ.ศรีสะเกษ ปี 2562




















95


รายงานประจ าปี 2562





รูปที่ 3 แสดงจ านวนปุวยด้วยโรคอุจาระร่วง จ าแนกรายเดือน จ.ศรีสะเกษ ปี 2562
เทียบกับค่ามัธยฐาน 5 ปี























รูปที่ 4 แสดงจ านวนปุวยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ จ าแนกรายเดือน จ.ศรีสะเกษ ปี 2562
เทียบกับค่ามัธยฐาน 5 ปี
























96


รายงานประจ าปี 2562



4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

4.1 กลุ่มอายุที่พบผู้ปุวยสูงที่สุดทั้งโรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ คือ เด็กอายุ 0-4 ปี ทั้ง 2 โรค



โดยโรคอจจาระร่วง ในกลุ่มอายุนี้มีอตราปุวย 7,255.16 ต่อแสนประชากร โรคอาหารเป็นพษ 532.51
ต่อแสนประชากร ดังนั้นการด าเนินการแก้ไขปัญหา จึงต้องเร่งรัดการปูองกันโรคในกลุ่มอายุนี้


4.2 พื้นที่อ าเภอที่พบผู้ปุวยเกินค่ามัธยฐานทั้ง 2 โรค มี 5 อาเภอ คือ อาเภอเมือง อาเภอยางชุมน้อย

อ าเภอบึงบูรพ์ อ าเภอโนนคูณและอ าเภอน้ าเกลี้ยง จึงควรมีกิจกรรมเพื่อลดอัตราปุวยด้วยโรคอาหารเป็นสื่อใน
พื้นที่นี้

4.3 ช่วงเวลาที่เกิดโรคสูง พบผู้ปุวยโรคอจจาระร่วงสูงกว่าค่ามัธยฐานในเดือนมกราคม กุมภาพนธ์

เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน กันยายนและตุลาคม และพบน้อยกว่าค่ามัธยฐานในเดือนมีนาคม กรกฎาคม
และสิงหาคม ส าหรับโรคอาหารเป็นพษพบผู้ปุวยสูงกว่าค่ามัธยฐานเพยงเดือนเดียวคือเดือนสิงหาคม


แต่อย่างไรก็ดีควรด าเนินการปูองกันควบคุมโรคต่อเนื่องทุกเดือนตลอดปี
4.4 การระบาดเป็นกลุ่มก้อนพบได้ประปราย โดยในปี 2562 มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน 7 เหตุการณ์

สาเหตุของการระบาดเป็นกลุ่มก้อนได้แก่เห็ดพษ 2 เหตุการณ์ อาหารทะเล 2 เหตุการณ์ และการบริโภค
เนื้อดิบ ส้มต า และระบาดในศูนย์เด็กเล็ก อย่างละ 1 เหตุการณ์

5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป





5.1 แจ้งพนที่ที่พบผู้ปุวยสูงทั้ง 2 โรค คือ อาเภอเมือง อาเภอยางชุมน้อย อาเภอบึงบูรพ อาเภอ

ื้
โนนคูณและอาเภอน้ าเกลี้ยง ให้จัดท าแผนงาน/โครงการเร่งรัดการด าเนินงานปูองกัน ควบคุมโรคติดต่อทาง

อาหารและน้ า ในปีงบประมาณ 2563
5.2 แจ้งสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ในการเร่งรัดด าเนินการปูองกันโรคในกลุ่มเด็กอายุ 0-4 ปี
การให้อาหารและนมที่ปลอดภัยแก่เด็ก การล้างมือด้วยน้ าและสบู่ก่อนให้อาหารแก่เด็ก ช่องทางในการ
ด าเนินการ ได้แก่ Well Baby Clinic ของสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง
5.3 ประสานสถานีวิทยุกระจายเสียง สวท. ทางข่าวแดนล าดวนในการรณรงค์การ“กินร้อน ช้อนกลาง
ล้างมือ” เพอให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงความส าคัญและมีพฤติกรรมการปูองกันโรคติดต่อทางอาหารและน้ า
ื่
และรณรงค์เรื่องส้มต าปลาร้าสุก รวมทั้งให้ความรู้เรื่องการบริโภคอาหารทะเลสุกและไม่รับประทานอาหาร
ค้างคืนโดยไม่อุ่นให้ร้อนก่อนน ามารับประทาน




















97


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันควบคุมโรคมือเท้าปาก


ตัวชี้วัด : 1. อัตราป่วยด้วยโรคมือเท้าปากไม่เกินค่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี (88.8 ต่อแสนประชากร)

1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 ถึง 31 ธันวาคม 2561 ประเทศไทยโดยกองระบาดวิทยา ได้รับรายงานผู้ปุวย
โรคมือเท้าปาก จ านวน 69,774 ราย คิดเป็นอัตราปุวย 105.24 ต่อแสนประชากร มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่จังหวัด


ชุมพรและมหาสารคาม จังหวัดละ 1 ราย จังหวัดที่มีอตราปุวยเป็นอนดับ 1 ของประเทศคือจังหวัดจันทบุรี


มีอตราปุวย 317.29 ต่อแสนประชากร ส าหรับจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับรายงานผู้ปุวย 809 ราย คิดเป็น


อตราปุวย 55.56 ต่อแสนประชากร เป็นอนดับที่ 5 ของเขตสุขภาพที่ 10 อนดับที่ 12 ของ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นอันดับที่ 64 ของประเทศไทย

2. มาตรการในการด าเนินงาน
2.1 วิเคราะห์สถานการณ์โรคมือเท้าปากตามหลักระบาดวิทยา
ื้
2.2 เฝูาระวังสถานการณ์โรค โดยใช้ระบบ Line Application รายงานจากพนที่ Real Time ใน
Line Group ระบบเฝูาระวังโรค
2.3 เฝูาระวังโรคในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนที่มีชั้นอนุบาล ดังนี้
2.3.1 ให้คุณครูท าการคัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าเรียน
2.3.2 หากพบเด็กปุวยให้แยกเด็ก ให้เด็กหยุดเรียนอยู่บ้าน

2.3.3 ท าความสะอาดของเล่นเด็กด้วยผงซักฟอกทกสัปดาห์

2.4 การควบคุมปูองกันการระบาดของโรค
2.4.1 ในโรงเรียน

2.4.1.1 ท าความสะอาดอปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในห้องเรียน รวมถึงห้องน้ า ห้องส้วม
และอาคารสถานที่
2.4.1.2 จัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ของเด็ก แยกเป็นรายบุคคล ไม่ให้ใช้ปะปนกัน
เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ า ช้อน จาน ชาม แปรงสีฟัน เป็นต้น
2.4.1.3 จัดหาอปกรณ์ให้เด็กมีการล้างมือด้วยน้ าและสบู่ ก่อนรับประทานอาหาร

และหลังจากเข้าห้องส้วม
2.4.1.4 กรณีพบเด็กปุวยมากกว่า 2 ราย ใน 1 สัปดาห์ ให้ปิดสถานศึกษา เป็นเวลา
5 วันท าการ และท าความสะอาดห้องเรียนระหว่างหยุดเรียน และแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่

2.4.2 ในสถานบริการสุขภาพ
2.4.2.1 ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษวิเคราะห์สถานการณ์โรคทุกสัปดาห์
ในช่วงฤดูกาลระบาด
2.4.2.2 เพอชี้เปูาหมู่บ้านที่พบการระบาดของโรคหรือพนที่ที่มีรายงานผู้ปุวยอย่าง
ื้
ื่
ต่อเนื่อง และแจ้งข้อมูลรวมทั้งรายชื่อผู้ปุวยให้กับสถานบริการที่รับผิดชอบเพอสกัดเด็กที่ปุวยในหมู่บ้าน ไม่ให้
ื่
แพร่โรคสู่เด็กคนอื่นๆ

2.4.2.3 กรณีอ าเภอที่มีการระบาดรุนแรงและต่อเนื่อง ส านักงานสาธารณสุขอาเภอ
ร่วมกับส านักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลชุมชน ด าเนินการประชุมบุคลากรสาธารณสุขและครูใน

พื้นที่ระบาด เพื่อด าเนินงานควบคุมโรคอย่างเข้มข้น




98


รายงานประจ าปี 2562




2.5 ประชาสัมพนธ์และให้สุขศึกษาแก่ประชาชนทั่วไปทางสถานีวิทยุ สวท. และ อสมท. ในช่วง
ฤดูกาลระบาด

3. ผลการด าเนินงาน
ื้
อตราปุวยด้วยโรคมือเท้าปากในพนที่จังหวัดศรีสะเกษในปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่

31 ตุลาคม 2562 มีรายงานผู้ปุวยจ านวน 1,324 ราย คิดเป็นอตราปุวย 89.65 ต่อแสนประชากร มากกว่า


ค่ามัธยฐานคือ 88.8 ต่อแสนประชากรเล็กน้อย และมากกว่าปี 2561 ที่มีอตราปุวย 55.56 ต่อแสนประชากร



เมื่อจ าแนกผู้ปุวยเป็นรายอาเภอ พบว่ามีอาเภอที่มีอตราปุวยเกินค่ามัธยฐานจ านวน 11 อาเภอ คือ


อาเภอเมือง, ยางชุมน้อย, ไพรบึง, ปรางค์กู่, ขุนหาญ, ราศีไศล, อทุมพรพสัย, บึงบูรพ, ภูสิงห์, พยุห์ และ



โพธิ์ศรีสุวรรณ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีอ าเภอยางชุมน้อยอ าเภอเดียวที่มีอัตราปุวยสูงกว่าค่ามัธยฐาน

รูปที่ 1 แสดงอัตราปุวยด้วยโรคมือเท้าปาก จ าแนกรายอ าเภอ จ.ศรีสะเกษ ปี 2562














เมื่อจ าแนกผู้ปุวยเป็นรายเดือนในปี 2562 พบผู้ปุวยโรคมือเท้าปากน้อยกว่าค่ามัธยฐานในช่วงเดือน


มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน และมากกว่าค่ามัธยฐานในเดือนพฤษภาคมถงเดือนกันยายน

รูปที่ 2 แสดงจ านวนปุวยด้วยโรคมือเท้าปาก จ าแนกรายเดือน จ.ศรีสะเกษ ปี 2562

เทียบกับค่ามัธยฐาน 5 ปี

















99


รายงานประจ าปี 2562



ซึ่งส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษได้ตรวจจับพบการระบาด และแจ้งสถานการณ์ที่ผิดปกตินี้

ื้
ื้
ไปยังพนที่ วิเคราะห์ข้อมูลทุกสัปดาห์และชี้เปูาหมายพนที่เร่งรัดการด าเนินงานควบคุมโรคให้กับพนที่ที่มีการ
ื้
ระบาดอย่างต่อเนื่องทาง Website ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และทางApplicatio Line
ส าหรับกลุ่มอายุที่พบผู้ปุวย พบผู้ปุวยมากในกลุ่มอายุ 2-3 ปี (ร้อยละ 49.81) รองลงมาคือกลุ่มอายุ 0-1 ปี
ต่างจากปี 2561 ที่พบผู้ปุวยสูงสุดในกลุ่มอายุ 0-1 ปี และพบผู้ปุวยในกลุ่มอายุ 2-3 ปีรองลงมา ส่วนกลุ่มอายุ

4-5 ปี, 8-9 ปี และ มากกว่า 10 ปี พบผู้ปุวยเพียงร้อยละ 11.64 ,3.63 และ 1.28 ตามล าดับ

รูปที่ 3 แสดงร้อยละผู้ปุวยด้วยโรคมือเท้าปาก จ าแนกตามกลุ่มอายุ จ.ศรีสะเกษ

ปี 2560 ปี 2561 และ ปี 2562

















4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

4.1 กลุ่มอายุที่พบผู้ปุวยสูงที่สุด คือเด็กกลุ่มอายุ 2-3 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่เริ่มเข้าสู่สถานศึกษา ดังนั้นการ
ด าเนินงานจึงยังคงต้องมุ่งเน้นในศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลที่มีชั้นเด็กเล็ก ในขณะเดียวกันก็ยังคงต้องมี
การด าเนินงานปูองกันควบคุมโรคในเด็กก่อนวัยเรียนคือกลุ่มอายุ 0-1 ปีด้วย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่พบผู้ปุวย
รองลงมา จึงจะท าให้สามารถลดอัตราปุวยลงได้ส าเร็จ

4.2 ระบบการแจ้งเตือนด้วย Application Line ได้ผลค่อนข้างดีมาก ในเรื่องของการแจ้งเตือนพนที่
ื้
ื่
เกิดโรค แต่การควบคุมโรคให้สงบได้หรือไม่นั้น ยังมีปัจจัยอนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นั่นคือการตระหนักและ
ื้
การตอบสนองที่ว่องไวรวดเร็วของเจ้าหน้าที่ในพนที่ หากเจ้าหน้าที่ตระหนักและตอบสนองรวดเร็ว จะท าให้
ควบคุมโรคให้สงบได้ในเวลาที่ค่อนข้างจะรวดเร็ว แต่การที่จะตอบสนองได้เร็วหรือไม่นั้น ผู้บริหารระดับอาเภอ

มีความส าคัญที่มีผลต่อการตอบสนองของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ รวมทั้งสถานศึกษาด้วย
4.3 การเฝูาระวังโรคต้องด าเนินการต่อเนื่อง ซึ่งผู้รับผิดชอบทุกระดับต้องเฝูาระวังสถานการณ์ของโรค
อย่างต่อเนื่องตลอดปี เพื่อให้สามารถตรวจจับการระบาดและชี้เปูาหมายพื้นที่ด าเนินการควบคุมได้
4.4 ไม่มีรายงานการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในปี 2562 แสดงให้เห็นว่าการปูองกันโรคท าได้ค่อนข้างดี

ทั้งนี้อาจเนื่องจากครูในศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียน รวมทั้งผู้ปกครองมีความรู้ดีขึ้น สามารถแยกเด็กที่ปุวยก่อนที่จะมี
การระบาดได้ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเองมีความตระหนักในการปูองกันโรคดีขึ้นด้วย





100


รายงานประจ าปี 2562



5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป

5.1 การด าเนินงานแจ้งเตือนสถานศึกษาก่อนฤดูกาลระบาด และการตรวจจับการระบาดด้วยระบบ
ื้
Application Line รวมทั้งการชี้เปูาพนที่เปูาหมายทุกสัปดาห์ในช่วงสถานการณ์การระบาดยังคงต้อง
ด าเนินการต่อไป
5.2 แจ้งสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งในการด าเนินการปูองกันโรคในกลุ่มเด็กอายุ 0-2.6 ปี ให้กับ

ผู้ปกครองที่พาเด็กมารับวัคซีนใน Well Baby Clinic ของสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง โดยเน้นการล้างมือ

การสกัดเด็กปุวยไม่ให้สัมผัสใกล้ชิดกับเด็กปกติ รวมทั้งการแยกแก้วน้ า จาน ชาม ผ้าเช็ดตัวและแปรงสีฟน
เพื่อลดการแพร่โรคและลดอัตราปุวยในเด็กกลุ่มอายุนี้

ื่
5.3 ประสานสถานีวิทยุกระจายเสียง สวท. ในการให้ความรู้ประชาชนในช่วงฤดูฝน เพอให้ประชาชน
ตระหนักรู้ถึงความส าคัญในการปูองกันโรคมือเท้าปาก








































101


รายงานประจ าปี 2562



งานโรคพยาธิใบไม้ตับ


ตัวชี้วัด : 1. อัตราความชุกโรคพยาธิใบไม้ตับในประชาชนไม่เกินร้อยละ 5

1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ผลการด าเนินงานจังหวัดศรีสะเกษในปี 2561 จากการสุ่มส ารวจอจจาระหาความชุกโรคหนอนพยาธิ
22 อ าเภอ อ าเภอละหนึ่งหมู่บ้านจ านวน 1,734 ตัวอย่าง ตรวจพบพยาธิใบไม้ตับ 162 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ




7.15 พบสูงสุดในหมู่บ้านในอาเภอเบญจลักษ์ พบร้อยละ 30.56 รองลงมา คือ อาเภอศรีรัตนะ และอาเภอ

น้ าเกลี้ยง พบ ร้อยละ 30.36 และ 20.00 ตามล าดับ ส าหรับอาเภอพนที่เปูาหมายตรวจพยาธิตามโครงการ
ื้

ื้


Isan Cohort มีพนที่ด าเนินการ 9 อาเภอ 12 ต าบล คือ อาเภอวังหิน (ต าบลโพนยาง) อาเภอภูสิงห์ (ต าบล

ดงรัก) อาเภอยางชุมน้อย (ต าบลกุดเมืองฮาม) อาเภอกันทรลักษ์ (ต าบลสังเม็ก, ต าบลจานใหญ่, ต าบลขนุน



และ ต าบลละลาย) อาเภอขุนหาญ (ต าบลกันทรอม) อาเภอขุขันธ์ (ต าบลกฤษณา) อาเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ


(ต าบลผือ) อาเภอเมืองจันทร์ (ต าบลเมืองจันทร์) และ อาเภอพยุห์ (ต าบลต าแย) เปูาหมายต าบลละ 905 คน

มีผลการตรวจ 10,556 คน พบพยาธิใบไม้ตับ 723 คน คิดเป็นร้อยละ 6.85 (ตารางที่ 27)

ตารางที่ 30 ผลการด าเนินงานตาม 5 มาตรการ ในพื้นที่ Isan Cohort ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ปี 2562

มาตรการ รายละเอียด ผลการด าเนินงาน
มาตรการที่ 1 1.1 ต าบลมีการออกขอบังคับในการก าจัดสิ่งปฏิกูล 12 ต าบล

การสร้างเสริมสุขภาพ 1.2 ต าบลมีการจัดการเรียนการสอนเรื่อง OV-CCA
1.2.1 จ านวนโรงเรียนทั้งหมดในต าบล 59 โรงเรียน
1.2.2 มีแผนการจัดการเรียนการสอน 58 โรงเรียน
(คิดเป็นร้อยละ) (ร้อยละ 98.3)
มาตรการที่ 2 2.1 การตรวจอุจจาระประชาชนอายุ 15-70 ปี 10,556 คน
การปูองกันควบคุมโรค (เปูาหมาย 10,860 คน) (97.20 %)

2.2 พบพยาธิใบไม้ตับ (คน/%) 723 คน (6.85%)
มาตรการที่ 3 3.1 ตรวจ U/S กลุ่มเสี่ยง(เปูาหมาย 5,448 ราย) 8,332 คน
การรักษาพยาบาล (152.94 %)

3.2 ส่งต่อ 13 คน
มาตรการที่ 4 4.1 จ านวนผู้ปุวย Palliative Care CCA 10 คน

การดูแลผู้ปุวยระยะสุดท้าย ทั้งหมดใน 7 ต าบล
4.2 ได้รับการติดตามดูแลโดยทีมหมอครอบครัว 10 คน (100%)
มาตรการที่ 5 5.1 จัดประชุม/ท าปูายประชาสัมพันธ์

การสื่อสารสาธารณะ 5.2 รณรงค์/อบรมเพอปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ื่
5.3 ประชาสัมพันธ์ทางหอกระจายข่าว
5.4 จัดประชุมครูเพื่อถ่ายทอดแผนการสอน OV-CCA

สู่การปฏิบัติ







102


รายงานประจ าปี 2562



2. มาตรการในการด าเนินงาน

ื้
ื้
2.1 พนที่ถวายเป็นพระราชกุศลฯ (Isan Cohort) ในพนที่ 12 อาเภอ 24 ต าบล ด าเนินงานตาม

5 มาตรการ ทศวรรษก าจัดโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี ประกอบด้วย
2.1.1 มาตรการที่ 1 การสร้างเสริมสุขภาพ
2.1.2 มาตรการที่ 2 การปูองกันควบคุมโรค

2.1.3 มาตรการที่ 3 การรักษาพยาบาล
2.1.4 มาตรการที่ 4 การดูแลผู้ปุวยระยะสุดท้าย
2.1.5 มาตรการที่ 5 การสื่อสารสาธารณะ

2.2 ทุกพื้นที่ในจังหวัดศรีสะเกษ
ื้
2.2.1 จัดท าหมู่บ้านต้นแบบลดโรคพยาธิใบไม้ตับในปี 2562 ร้อยละ 20 ของหมู่บ้าน ในพนที่
รับผิดชอบของแต่ละ รพช./รพ.สต. เมื่อรวมกับหมู่บ้านต้นแบบที่ได้ด าเนินการแล้วในปี 2558-2562 แล้ว
ื้
ต้องได้หมู่บ้านต้นแบบร้อยละ 100 ของหมู่บ้านในพนที่รับผิดชอบในปี 2562 โดยกิจกรรมในหมู่บ้านต้นแบบ
ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก คือ

2.2.1.1 ตรวจพยาธิให้ได้ครอบคลุมร้อยละ 80 ของหลังคาเรือนของหมู่บ้าน อย่าง
น้อยหลังคาเรือนละ 1 ตัวอย่าง และให้การบ าบัดโรคพยาธิด้วยยาตามแต่ชนิดพยาธิที่ตรวจพบ ส่วนผู้ที่ตรวจ
พบพบาธิใบไม้ตับและอายุมากกว่า 40 ปี ให้ส่งตรวจ U/S ต่อเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งท่อน้ าดี

2.2.1.2 ด าเนินการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคด้วยมาตรการต่างๆ เช่น การ
ให้ความรู้ การสาธิตอาหารปลาปรุงสุก การปฏิญาณตน ให้ประชาชนทุกคนในหมู่บ้านต้นแบบ บริโภคปลาสุก
ปลาร้าสุก ส้มต าปลาร้าสุก และร้านส้มต าทุกร้านในพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ต้องจ าหน่ายส้มต าปลาร้าสุก
ื่
ื้
2.2.2 จัดประชุมครูในพนที่จังหวัดศรีสะเกษจ านวน 135 โรงเรียน เพอถ่ายทอดแผนการ
สอนเรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี ให้กับโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนขยายโอกาส
2.2.3 ทุก รพช./รพ.สต. ด าเนินการตรวจ U/S ตามเปูาหมายที่แจ้งโดยกลุ่มงานควบคุมโรค
ไม่ติดต่อ

2.2.4 สุ่มประเมินความชุกโรคหนอนพยาธิในหมู่บ้านต้นแบบลดโรคพยาธิใบไม้ตับ อาเภอละ
1 หมู่บ้านทุกอ าเภอ
2.2.5 ตรวจพยาธิในโรงเรียนในโครงการตามพระราชด าริฯ จ านวน 12 โรงเรียน

3. ผลการด าเนินงาน

ื้
3.1 ผลการด าเนินงานโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดีในพนที่ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ในพนที่
ื้

ด าเนินการ 12 อ าเภอ 24 ต าบล คือ อาเภอเบญจลักษ์ (ต าบลหนองฮาง, ต าบลเสียว) อาเภอศรีรัตนะ (ต าบล


เสื่องข้าว, ต าบลพงพวย) อาเภอน้ าเกลี้ยง (ต าบลตองปิด, ต าบลเขิน) อาเภอขุนหาญ (ต าบลโพธิ์วงศ์, ต าบล




โพธิ์กระสังข์) อาเภอกันทรารมย์ (ต าบลผักแพว, ต าบลจาน,ทาม) อาเภอเมือง (ต าบลน้ าค า, ต าบลหนองไผ่)


อาเภอพยุห์ (ต าบลโนนเพก) อาเภอกันทรลักษ์ (ต าบลภูเงิน, ต าบลกระแชง) อาเภอปรางค์กู่ (ต าบลสมอ)


อาเภอขุขันธ์ (ต าบลปราสาท, ต าบลใจดี, ต าบลตะเคียนช่างเหล็ก) อาเภอวังหิน (ต าบลบ่อแก้ว, ต าบลบุสูง)


อ าเภอโนนคูณ (ต าบลบก, ต าบลหนองกุง) ทุกต าบลมีการด าเนินงานครบทั้ง 5 มาตรการ คิดเป็นร้อยละ 100
ของต าบลเปูาหมาย (ตารางที่ 28)



103


รายงานประจ าปี 2562



ตารางที่ 31 ผลการด าเนินงานตาม 5 มาตรการ ทศวรรษก าจัดพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ าดี

ปีงบประมาณ 2562

มาตรการ รายละเอียด ผลการด าเนินงาน
มาตรการที่ 1 1.1 ต าบลมีการออกขอบัญญัติในการก าจัดสิ่งปฏิกูล 24 ต าบล

การสร้างเสริมสุขภาพ 1.2 ต าบลมีการจัดการเรียนการสอนเรื่องOV-CCA
และจัดการสิ่งแวดล้อม 1.2.1 จ านวนโรงเรียนทั้งหมดในต าบล 135 รร.
1.2.2 มีการจัดการเรียนการสอนเรื่อง OV-CCA 127 รร.

คิดเป็นร้อยละ (94.07 %)
มาตรการที่ 2 2.1 การตรวจอุจจาระประชาชนอายุ 15-70 ปี 21,141 คน
การปูองกันควบคุมโรค (เปูาหมาย 21,720 คน) (97.33%)

2.2 พบพยาธิใบไม้ตับ(คน/%) 2,106คน
(9.96%)
มาตรการที่ 3 3.1 ตรวจ U/S กลุ่มเสี่ยง (เปูาหมาย 12,537 คน) 15,226 คน

การรักษาพยาบาล (100%)
มาตรการที่ 4 4.1 จ านวนผู้ปุวยPalliative Care CCA 26 คน
การดูแลผู้ปุวยระยะสุดท้าย ทั้งหมดใน 24 ต าบล

4.2 ได้รับการดูแลโดยทีม PCC 26 คน
(100 %)
มาตรการที่ 5 5.1 รณรงค์ในหมู่บ้าน 9 ต าบล
การสื่อสารสาธารณะ 5.2 เสียงตามสายในชุมชน ทุกหมู่บ้าน 1 ต าบล

5.3 จัดนิทรรศการ 3 ต าบล
5.4 อบรมนักเรียน/ อสม. 11 ต าบล

5.5 รณรงค์ส้มต าปลาร้าสุก 3 ต าบล
5.6 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 2,720 คน
5.7 จัดท าปูายประชาสัมพันธ์ 2 ต าบล
5.8 ประชาคมหมู่บ้าน 26 ต าบล


3.2 ผลการด าเนินงานในภาพรวมจังหวัดศรีสะเกษ
3.2.1 ในภาพรวมจังหวัดศรีสะเกษจากรายงานในระบบข้อมูลสุขภาพและบริหารจัดการ



43 แฟม ในWebsite ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ มีการตรวจคัดกรองพยาธิทุกอาเภอ มีรายงาน
การตรวจ (รหัส Z11.6) จ านวน 44,454 ราย พบพยาธิใบไม้ตับ 2,127 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.78 ลดลงจาก
ปี 2561 ที่มีรายงานการตรวจพยาธิจ านวน 65,474 ราย พบพยาธิใบไม้ตับ 3,160 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.82
พบพยาธิอื่นๆร้อยละ 3.44

3.2.2 มีการด าเนินงานตามเปูาหมายกิจกรรมครบทุกกิจกรรม

3.2.3 ผลการสุ่มประเมินความชุกโรคหนอนพยาธิ อาเภอละ 1 หมู่บ้าน ในภาพรวมมีอตรา

การตรวจพบพยาธิร้อยละ 7.57 พบพยาธิใบไม้ตับร้อยละ 5.54 พยาธิตัวตืดร้อยละ 0.28 พยาธิปากขอ
ร้อยละ 1.07





104


รายงานประจ าปี 2562



ส าหรับพยาธิใบไม้ตับที่มีการตั้งเปูาหมายให้มีความชุกไม่เกินร้อยละ 5 นั้น ผลการสุ่มประเมินพบว่า

มีอาเภอที่มีความชุกมากกว่าร้อยละ 5 จ านวน 8 อาเภอ ได้แก่ อาเภอเมือง (7.81%) อาเภอไพรบึง (6.90%)




อาเภอปรางค์กู่ (25.27%) อาเภอราศีไศล (6.90%) อาเภอห้วยทับทัน (5.41%) อาเภอศรีรัตนะ (20.90%)




อ าเภอน้ าเกลี้ยง (5.77 %) และอ าเภอวังหิน(26.76 %)

รูปที่ 1 แสดงความชุกพยาธิใบไม้ตับ จากการสุ่มประเมิน จ.ศรีสะเกษ ปี 2562














3.3 ผลการด าเนินงานในโรงเรียนตามโครงการพระราชด าริฯ
ื้
ผลการด าเนินงานตรวจพยาธินักเรียนในโครงการตามพระราชด าริฯ จ านวน 12 แห่ง ในพนที่จังหวัด
ศรีสะเกษ มีจ านวนนักเรียนทั้งหมด 1,782 คน ได้รับการตรวจคัดกรองทั้งสิ้นจ านวน 638 คน คิดเป็นร้อย
ละ 35.80 ตรวจพบพยาธิ 18 คน คิดเป็นร้อยละ 2.82 พบพยาธิใบไม้ตับ 8 คน (ร้อยละ 1.25) พบพยาธิ
ปากขอ 7 คน(ร้อยละ 1.1) รายละเอียดดังนี้


ตารางที่ 32 สรุปผลการตรวจพยาธิในนักเรียนตามโครงการพระราชด าริฯ จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2562

พบ พบ พบ
นร.ทั้งหมด ตรวจ
ที่ โรงเรียน พยาธิ พยาธิใบไม้ตับ พยาธิปากขอ
(คน)
จ านวน % จ านวน % จ านวน % จ านวน %
1 รร.บ้านหนองโปร่งใหญ่ 65 48 73.85 4 8.33 0 0 4 8.33
2 รร.กันทรลักษ์ธรรมวิทย์ 72 72 100 2 2.78 1 1.39 1 1.39
3 รร.บ้านหนองบาง 71 55 77.46 4 7.27 2 3.64 2 3.64
4 รร.ศรีเกษตรวิทยา 84 35 41.67 0 0 0 0 0 0
5 รร.ราชประชานุเคราะห์29 825 377 45.70 3 0.80 0 0 3 0.80
6 รร.พระปริยัติธรรรม โนนคูณ 72 66 91.67 0 0 0 0 0 0
7 รร.สระก าแพงใหญ่ 162 162 100 0 0 0 0 0 0
8 รร.วัดประชานิมิตร 36 30 83.33 0 0 0 0 0 0
9 รร.พระปริยัติธรรมเกียรติแก้ววิทยา 45 27 60.00 0 0 0 0 0 0
10 รร.โพธิ์ศรีวิทยา 35 17 48.57 1 5.88 0 0 1 5.88
11 รร.ดวนใหญ่วิทยา 45 23 51.11 1 4.35 1 4.35 0 0
12 รร.ปรางค์กู่วิทยา 72 25 34.72 1 4.00 0 0 1 4.00
รวม 1,584 937 59.15 16 1.71 4 0.43 12 1.28





105


รายงานประจ าปี 2562



4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

4.1 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้สะอาดปลอดภัยเป็นสิ่งที่ท าได้ยาก เนื่องมาจากหลาย
สาเหตุ เช่น ติดในรสชาติอาหาร ความเคยชิน ความสะดวกในการปรุง รวมทั้งปัจจัยด้านเศรษฐานะ
ื้
4.2 ระบ าบัดสิ่งปฏิกูลจากรถสูบส้วมยังมีรองรับไม่เพยงพอ โดยในพนที่ทั้งจังหวัดศรีสะเกษ มีระบบ


บ าบัดสิ่งปฏิกูลจากรถสูบส้วมที่ถูกต้องเพยงแห่งเดียว คือ ที่ต าบลบุสูง อาเภอวังหิน ดังนั้นโอกาสที่ปลาจะติด

โรคพยาธิใบไม้ตับจึงยังคงมีอยู่
4.3 การบันทึกผลการตรวจพยาธิจากโปรแกรม JHCIS และ Him-Pro ของ รพ.สต./รพ. ในเวปไซด์
ของส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษยังไม่ครบถ้วน


5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป
5.1 การด าเนินงานประชาสัมพนธ์รณรงค์การบริโภคสุก สะอาด ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเสนอ

ให้ส่วนกลาง ประชาสัมพันธ์ทาง Mass Media โดยใช้นักแสดงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีชื่อเสียงเป็นผู้
น าเสนอ

ื่
5.2 ประสานท้องถิ่นจังหวัดในการของบพฒนาจังหวัดเพอก่อสร้างระบบบ าบัดสิ่งปฏิกูลจาก

รถสูบส้วม อย่างน้อยอ าเภอละ 1 ระบบ
ื่
5.3 จัดประชุมผู้รับผิดชอบงานจากทุก รพ.สต. เพอชี้ปัญหาและให้ รพ.สต. บันทึกข้อมูลการตรวจ
พยาธิและผลการตรวจในโปรแกรม JHCIS และ Himpro ให้ถูกต้องครบถ้วน































106


รายงานประจ าปี 2562



งานควบคุมป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีส


ตัวชี้วัด : 1. อัตราป่วยไม่เกิน 20 ต่อแสนประชากร

2. อัตราป่วยตายไม่เกินร้อยละ 2
บทสรุปส าหรับผู้บริหาร (Executive Summary)
จากข้อมูลทางระบาดวิทยา 5 ปี จากปี 2558-2562 พบว่าโดยสถานการณ์ทางระบาดวิทยา 5 ปี

ที่ผ่านมาพบว่าในปี 2558 พบผู้ปุวย 312 ราย อัตราปุวย 21.29 เสียชีวิต19 ราย อัตราปุวยตาย 6.09 ปี 2559


พบผู้ปุวย 369 ราย อตราปุวย 25.16 เสียชีวิต10 ราย อตราปุวยตาย 2.71 ปี 2560 พบผู้ปุวย จ านวน 769

ราย อตราปุวย 53.37 เสียชีวิต 22 ราย อตราปุวยตาย 2.86 ปี 2561 พบผู้ปุวย382 รายอตราปุวย 25.86



เสียชีวิต 7 รายอตราปุวยตาย 1.83 และในปี2562 พบผู้ปุวย 235 รายอตราปุวย 15.95 เสียชีวิต 4 ราย


อัตราปุวยตาย 1.70 อ าเภอที่มีอัตราปุวยสูงและเป็นพื้นที่ระบาดทุกปีคือกลุ่มอ าเภอภูสิงห์ อ าเภอขุขันธ์ อาเภอ


ขุนหาญ จ านวนอาเภอที่อตราปุวยด้วยโรคเลปโตสไปโรซีส เกินกว่าเกณฑ์ที่กระทรงก าหนดไว้ 20


ต่อแสนประชากร คือ อ าเภอวังหิน อ าเภอบึงบูรพ อาเภอยางชุมน้อย และ อาเภอไพรบึง เป็นอาเภอที่กลับมา


มีอัตราปุวยเกินเกณฑ์อีกครั้ง

ส าหรับอัตราปุวยตายเกณฑ์ก าหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 2 พบว่า ในภาพรวมของจังหวัดอตราปุวยตายยัง
เป็นปัญหาของจังหวัด คือ 6.09, 2.70, 2.86, 1.98 และ 1.70 หากดูจ านวนผู้เสียชีวิตก็เป็นจ านวนที่มากเมื่อ
เทียบกับความสามารถในการตรวจรักษาและเครื่องมือที่ทันสมัยในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่เป็นที่วางใจเนื่องจาก
โรคเลปโตสไปโรซีส มีอาการด าเนินของโรคที่อวัยวะส าคัญและมีความรุนแรงของอาการท าให้เสียชีวิตได้อย่าง
รวดเร็ว
จากสถานการณ์ทางระบาดวิทยาดังกล่าว ท าให้อตราปุวยในภาพรวมของจังหวัดมีแนวโน้มไม่ลดลง


และอตราปุวยภาพรวมของจังหวัดสูงกว่าเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ และจ านวนผู้เสียชีวิตเป็นจ านวนที่มากเมื่อเทียบ
กับความสามารถในการตรวจรักษาในปัจจุบัน


ตารางที่ 33 จ านวนและอัตราป่วยด้วยโรคเลปโตสโรซีส ปี 2558-2562 (8 พฤศจิกายน 2562)
จังหวัดศรีสะเกษ

ปี พ.ศ. 2558 2559 2560 2561 2562
จ านวน 312 334 769 354 235
อัตรา/แสน 21.29 22.80 52.21 23.97 15.95

เสียชีวิต 19 8 22 7 4
อัตราปุวยตาย 6.09 2.40 2.86 1.98 1.70


ในปี 2562 สถานการณ์ในระดับประเทศ พบว่า จังหวัดระนอง จังหวัดพงงา จังหวัดศรีสะเกษ มีอตรา



ปุวยต่อแสน 20.93, 17.17 และ 16.50 ตามล าดับ จังหวัดศรีสะเกษอตราปุวยเป็นล าดับที่ 3 และเป็นล าดับที่
1 ของเขตสุขภาพท 10 พบว่าช่วงฤดูการระบาดของโรค คือ เดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ของทุกปี
ี่

จากที่ได้ท าการสอบสวนทางระบาดวิทยาและสอบสวนโรคพบว่าเป็นโรคที่เกี่ยวพนเกิดจากวิถีการท า
มาหากินและการด ารงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเลปโตสไปโรซีส มีอาการด าเนินของโรคที่
อวัยวะส าคัญ และมีความรุนแรงของอาการท าให้เสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว





107


รายงานประจ าปี 2562



ด้วยสภาพปัญหาดังกล่าว จังหวัดศรีสะเกษได้ด าเนินการปูองกันและควบคุมโรคเลปโตสไปโรซีส โดยมี

ื่
วัตถุประสงค์ เพอมุ่งให้ประชาชน ครอบครัว ชุมชน มีทัศนคติ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขปฏิบัติ

ที่ดีขึ้น เพื่อช่วยปูองกันการเจ็บปุวย และมีการเฝูาระวังอาการการเจ็บปุวยได้อย่างเหมาะสม เพอลดอตราการ
ื่
เสียชีวิตจังหวัดศรีสะเกษได้ด าเนินการทั้งเชิงรุกและเชิงรับ รวมทั้งมีการนิเทศติดตาม เพอให้การด าเนินงาน
ื่
เกิดประสิทธิภาพตามแนวทางการด าเนินงาน 4 E คือ Early detection การค้นพบเร็ว, Early diagnosis
การวินิจฉัยเร็ว, Early treatment การรักษาและส่งต่อผู้ปุวยโดยเร็ว และ Early control การด าเนินการ
ปูองกันและควบคุมโรคโดยเร็ว โดยมีกิจกรรมเพื่อการตอบสนองการด าเนินงานทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ดังนี้
1. ก าหนดกลยุทธ์การด าเนินงานอ าเภอเข้มข้น อ าเภอลดโรค

2. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ถอดบทเรียนจากนักวิชาการผู้รับผิดชอบงาน


3. จัดพมพแบบคัดกรองผู้ปุวย เพอใช้ในระดับ รพ.สต. สนับสนุนจ านวน 255 แห่ง ท าให้สะดวกต่อ
ื่
การวินิจฉัยและการส่งต่อได้อย่างรวดเร็ว ลดอัตราการเสียชีวิต
4. จัดท าแผนภูมิขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง ด้านการควบคุมโรค ให้ทุกสถานบริการสาธารณสุข
ทุกแห่ง ใช้เป็นแนวทางเดียวกันทั้งจังหวัด

5. จัดท า CPG คู่มือส าหรับการดูแลผู้ปุวยสงสัยและผู้ปุวยในระดับ รพสต. จ านวน 255 แห่ง
ื้
6. ด าเนินงานเชิงรุกติดตามในพนที่ที่มีการระบาดรุนแรงใน 22 อาเภอ โดยจัดนิเทศติดตาม

สถานบริการ เพื่อช่วยลดอัตราการเจ็บปุวย และเป็นการสร้างเครือข่ายการเฝูาระวังในชุมชน ช่วยเจ้าหน้าที่ใน
การแจ้งข้อมูลข่าวสาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝูาระวังและควบคุมโรค การรับ-ส่งผู้ปุวย เข้ารับการรักษา
ได้อย่างทันเวลา
7. คปสอ. จัดการประชุมวิชาการโดยกระบวนการ Death case conference ส าหรับเจ้าหน้าที่
ผู้เกี่ยวข้องส าหรับพื้นที่ที่มีผู้ปุวยเสียชีวิต

อย่างไรก็ตามเมื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงของประชาชนในพนที่จังหวัดศรีสะเกษ การบูรณาการ และ
ื้

ความร่วมมือกันทั้งในส่วนของโรงเรียน องค์การบริหารส่วนต าบล การประชาสัมพนธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ
ื่
ข้อมูล เพอเป็นช่องทางให้กลุ่มเสี่ยงเข้าถึงระบบบริการและการปูองกันควบคุมโรคในระดับพนที่ ทั้งระดับ
ื้

จังหวัด อ าเภอและต าบล ต้องเพิ่มความเขมข้นในการด าเนินงาน การนิเทศติดตามเป็นสิ่งส าคัญที่จะต้องมีการ
พัฒนาและด าเนินการต่อไป ดังนี้
1. น าเสนอผู้บริหารให้โรคเลปโตสไปโรซีสเป็นหนึ่งในโรคที่เป็นวาระของจังหวัด

2. โฟกัสเปูาหมายการด าเนินงานโดยก าหนดอาเภอเข้มข้น 9 อาเภอและอาเภอลดโรค13 อาเภอ



เพื่อให้ตรงเปูาประสงค์และสอดคล้องกับบริบทปัญหาของพื้นที่
3. พื้นที่ต้องมีการวิเคราะห์สถานการณ์ตามระบบระบาดวิทยาและวางแผนจัดสรรงบประมาณของตน
ในการด าเนินงานเชิงรุกในชุมชนตามบริบทและเพื่อแกไขสภาพปัญหาในพื้นที่ตนเอง

ิ่
4. การประชาสัมพันธ์ความรู้ข่าวสารสื่อสารความเสี่ยงต้องเพิ่มช่องทางและเพมความแข้มข้นให้เข้าถึง
ประชาชนในชุมชนให้มากยิ่งขึ้นเพื่อลดการเจ็บปุวยและการเข้าถึงการบริการรับการตรวจรักษาอย่างทันเวลา
5. เนื่องด้วยมีการจ ากัดและความจ าเป็นในการใช้งบประมาณควรเน้นงานบูรณาการและสร้าง
เครือข่ายชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อช่วยในการกระจายความรู้ทัศนคตที่ถูกต้องในการปูองกันการเจ็บปุวย











108


รายงานประจ าปี 2562



1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง


ในปี 2562 สถานการณ์ในระดับประเทศ พบว่า จังหวัดระนอง จังหวัดพงงาและจังหวัดศรีสะเกษ


มีอตราปุวยต่อแสน 20.93, 17.17 และ 16.50 ตามล าดับ จังหวัดศรีสะเกษอตราปุวยเป็นล าดับที่ 3 ของ
ประเทศ และเป็นล าดับที่ 1 ของเขตสุขภาพที่10
สถานการณ์การเกิดโรคของจังหวัดพบว่ามีรายงานการพบผู้ปุวยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลตลอดทั้งปี

แต่ช่วงฤดูการระบาดของโรคและพบผู้ปุวยเริ่มสูง คือ เริ่มจากเดือน กรกฏาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี

ตารางที่ 34 สถานการณ์โรคเลปโตสไปโรซีส ปี 2562


จ านวนผู้ป่วย อัตราป่วย/ จ านวยตาย อัตราป่วยตาย
ล าดับ อ าเภอ
(ราย) 100000 (ราย) (ร้อยละ)
1 ภูสิงห์ 24 45.67 0 0

2 ขุนหาญ 41 37.95 0 0
3 บึงบูรพ์ 4 37.62 0 0
4 ยางชุมน้อย 13 35.39 0 0
5 ขุขันธ์ 45 29.68 0 0

6 วังหิน 11 24.25 2 18.18
7 ไพรบึง 11 22.76 0 0

8 ราษีไศล 16 19.98 0 0
9 พยุห์ 5 13.10 0 0
10 ห้วยทับทัน 5 12.53 0 0
11 ปรางค์ก ู่ 12 17.69 0 0

12 โพธิ์ศรีสุวรรณ 2 8.35 0 0
13 น้ าเกลี้ยง 3 7.21 0 0
14 กันทรารมย์ 10 9.99 0 0

15 อุทุมพรพิสัย 7 6.54 1 14.29
16 กันทรลักษ ์ 11 5.43 0 0
17 ศิลาลาด 1 4.25 1 100

18 เมือง 12 8.95 0 0
19 เมืองจันทร์ 1 5.55 0 0
20 ศรีรัตนะ 0 0 0 0

21 โนนคูณ 0 0 0 0
22 เบญจลักษ ์ 0 0 0 0
รวม 235 15.95 4 1.70











109


รายงานประจ าปี 2562



จากการสอบสวนโรคเฉพาะรายผู้ปุวย พบว่าพฤติกรรมการเจ็บปุวย เกิดจากการต้องด ารงชีวิต

ท ามาหากิน ภายในครอบครัว รายและเอียดดังนี้
1.1 เดินลุยน้ า แช่น้ า จ านวน 35 ราย
1.2 หาปลา จ านวน 18 ราย
1.3 มีบาดแผล หาปลาแหล่งน้ า จ านวน 19 ราย

1.4 เกี่ยวหญ้า เกี่ยวข้าว จ านวน 3 ราย
1.5 ด านา ถอนหญ้า จ านวน 3 ราย
1.6 วางข่ายดักปลา จ านวน 5 ราย

1.7 ไถนา จ านวน 1 ราย
1.8 จับหนู จ านวน - ราย
1.9 ย่ าโคลน จ านวน 7 ราย
1.10 ลอกหญ้าวัชพืช จ านวน - ราย
1.11 อื่นๆ (ตัดอ้อย กรีดยาง เลี้ยงวัว สูบปลา ถางหญ้า) จ านวน 3 ราย


2. มาตรการในการด าเนินงาน
ไตรมาสที่ 1 มาตรการควบคุมปูองกันโรคเลปโตสไปโรซีสระดับ รพสต. โดยด าเนินการให้ครบ 4E

ตามมาตรการของจังหวัดดังนี้
2.1 Early detection การค้นพบเร็ว เป็นการค้นหาผู้ปุวยเชิงรุกโดย อสม. กรรมการชุมชน
2.2 Early diagnosis การวินิจฉัยเร็ว การวินิจฉัยโรคได้เร็ว โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจ า รพสต.
โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

2.2.1 มีประวัติลุยน้ า แช่น้ า สัมผัสแหล่งน้ า
2.2.2 ไข้สูงเฉียบพลัน (38-40 องศาเซนเซียส)
2.3.3 ปวดศรีษะ ปวดกระบอกตา
2.2.4 ปวดกล้ามเนื้อน่อง ต้นขา หรือสะโพก (ใช้เกณฑ์ทางคลินิกจากคู่มือนิยามโรคติดเชื้อ

ปี 2546) หรือใช้แบบคัดกรองผู้ปุวยเบื้องต้นส าหรับเจ้าหน้าที่ รพสต. หากให้ผลบวกวินิจฉัย R/O Lepto และ
น าส่งโรงพยาบาลทันทีเพื่อให้แพทย์ตรวจ
2.3 Early treatment การรักษาและส่งต่อผู้ปุวยโดยเร็ว
2.3.1 เมื่อพบผู้ปุวยมีประวัติ ไข้สูงเฉียบพลันเกิน 3 วันร่วมกับมีประวัติสัมผัสแหล่งน้ า

ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อน่อง ต้นขา หรือสะโพกให้รีบน าส่งโรงพยาบาลทันที
2.3.2 เมื่อพบผู้ปุวยมีประวัติ ไข้สูงเฉียบพลันไม่เกิน 3 วันร่วมกับมีประวัติสัมผัสแหล่งน้ า
ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อน่อง ต้นขา หรือสะโพกให้ยา Doxy cycline (100 mg) ครั้งละ1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง

หลังอาหารเป็นเวลา 7 วันทันที ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วันให้รีบน าส่งโรงพยาบาล
2.4 Early control การด าเนินการปูองกันและควบคุมโรคโดยเร็ว โดยให้ด าเนินกิจกรรม ดังนี้
ื้
2.4.1 ให้สุขศึกษากับประชาชนในพนที่เกี่ยวกับ พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรค สิ่งแวดล้อม
การปูองกันโรค อาการการเจ็บปุวยที่ควรรีบมารับการตรวจรักษา ทั้งในช่วงก่อนฤดู การระบาดและระหว่างฤดู
การระบาด

ื้
2.4.2 หากมีผู้ปุวยเกิดขี้นในพนที่รับผิดชอบ ต้องเรียกประชุมท าประชาคมในหมู่บ้านที่มี
ผู้ปุวยทุกราย





110


รายงานประจ าปี 2562




ื้
2.4.3 แจ้งข่าวประชาสัมพนธ์สถานการณ์การเกิดโรคในเขตพนที่รับผิดชอบอย่างครอบคลุม
และทั่วถึง พร้อมทั้งแจ้งขอความร่วมมือหน่วยงานในพนที่ เช่น โรงเรียน อบต. เฝูาระวัง และช่วยในการ
ื้
ประชาสัมพนธ์ควบคุมโรค


3. ผลการด าเนินงาน

3.1 อัตราปุวยโรคเลปโตสไปโรซีสต่อแสน แยกรายอ าเภอ ปี 2561




70 66.48
ค่าKPI ก าหนดไม่เกิน 20 ต่อแสนประชากร
60

47.57
50 46.3 42.8

40 36.75
32.54
30.67
25.99
30 28.92
18.61
20 19.46
17.72 13.1
12.19
10.82 9.5 9.23
10 6.93 5.55 4.18
0
0 0






3.2 อัตราปุวยโรคเลปโตสไปโรซีสต่อแสนแยกรายอ าเภอ ปี 2562



50 45.67 KPI

40 37.95 37.62
35.39

30 29.69
22.76
24.25
19.98
20 17.69
13.1
12.53 8.35
9.99
10 7.21 5.43 4.25
6.54 5.55
0 0 0
0









111


รายงานประจ าปี 2562



โครงการเด่น (Best Practice)

ใช้มาตรการกลยุทธท์อ าเภอเข้มข้นและอ าเภอลดโรค

4. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป
4.1 รพช./รพสต. มีระบบเฝูาระวัง/คัดกรองและการส่งต่อผู้ปุวย ตามมาตรการโรคเลปโตสไปโรซีส

ร้อยละ 100
4.2 สสอ./รพช./รพสต. มีมาตรฐานข้อมูลทางระบาดวิทยา ทันเวลาถูกต้อง วิเคราะห์สถานการณ์
สอบสวนควบคุมโรค ครบถ้วน ร้อยละ 80

4.3 สสอ./รพช./รพสต. สื่อสารความเสี่ยง กลุ่มเปูาหมาย อาชีพ พฤติกรรม กิจวัตรประจ าวัน เสี่ยงต่อ
การติดเชื้อครอบคลุมทุกพื้นที่ ร้อยละ 80





4.4 อาเภอเข้มข้นการด าเนินงาน 9 อาเภอ ได้แก่ อาเภอภูสิงห์ อาเภอขุขันธ์ อาเภอขุนหาญ อาเภอ






น้ าเกลี้ยง อาเภอปรางค์กู่ อาเภอยางชุมน้อย อาเภอห้วยทับทัน อาเภอวังหิน และ อาเภอราศีไศล มีแผนงาน
โครงการ งบประมาณ ด าเนินงานเชิงรุก ตามแนวทางการด าเนินงานระดับจังหวัดและมาตรการ 4 E
ร้อยละ 80
4.5 คปสอ. ในอาเภอเข้มข้น ก าหนดรพสต./รพช. ต้นแบบ การด าเนินงานที่ประสบผลส าเร็จด้าน

การควบคุมปูองกันโรคเลปโตสไปโรซีส ร้อยละ 30

ื้


4.6 อาเภอลดโรค 13 อาเภอ ในต าบลที่มีอตราปุวยสูง ด าเนินงาน รพสต.เข้มข้น (จังหวัดชี้เปูาพนที่


ต าบลรายอ าเภอ) ดังนี้ อ าเภอเมือง (ต าบลโพนเขวา) อาเภอกันทรารมย์ (ต าบลละทาย) อาเภอไพรบึง (ต าบล






สุขสวัสดิ์) อาเภอกันทรลักษ์ (ต าบลเมือง) อาเภออทุมพรพสัย (ต าบลแข้) อาเภอบึงบูรพ (ต าบลเปาะ) อาเภอ



โนนคูณ (ต าบลโนนค้อ) อาเภอศรีรัตนะ (ต าบลสระเยาว์) อาเภอเมืองจันทร์ (ต าบลตาโกน) อาเภอเบญจลักษ์



(ต าบลหนองหว้า) อาเภอพยุห์ (ต าบลหนองค้า) อาเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ (ต าบลหนองม้า) อาเภอศิลาลาด

(ต าบลคลีกลิ้ง)






















112


รายงานประจ าปี 2562



งานป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า


ตัวชี้วัด : 1. ไม่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า

2. ผู้สัมผัสสัตว์ติดเชื้อยืนยันโรคพิษสุนัขบ้า ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
ตามแนวทางเวชปฏิบัติ ร้อยละ 100
3. ผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า ในระบบรายงาน ร.36 มีอัตราการได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

ครบชุด ตามแนวทางเวชปฏิบัติ ร้อยละ 90
4. มีระบบการติดตามผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้ามารับวัคซีน ผ่านกลุ่มไลน์ Dog bite center:
Auto alert และทุก รพ.สต. มีทะเบียนรับแจ้งผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่รับผิดชอบ
ทุกอ าเภอ
5. มีการอบรมแนวทางเวชปฏิบัติฯ และจัดกิจกรรมรณรงค์ ประชาสัมพันธ์

การสื่อสารความเสี่ยง การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ทุกอ าเภอ
1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์โรคพษสุนัขบ้าในประเทศไทย พบว่ามีการเกิดโรคพษสุนัขบ้าในคน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม

2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 ประเทศไทย มีรายงานผู้ปุวยเสียชีวิตแล้ว 3 ราย ใน 2 จังหวัด ได้แก่
จังหวัดสุรินทร์ เสียชีวิต 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 32 ปี จังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิต 1 ราย เป็นเพศหญิง

อายุ 10 ปี และจังหวัดบุรีรัมย์ 1 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนปูองกันโรคพษสุนัขบ้า
ื้
หลังสัมผัสสัตว์ ในพนที่เขตสุขภาพที่ 10 และจังหวัดศรีสะเกษไม่มีผู้ชีวิตด้วยโรคพษสุนัขบ้า ในส่วนของการ

เกิดโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ ในประเทสไทย พบว่า มีรายงานผลบวกของโรคพษสุนัขบ้าในสัตว์ 498 ตัว คิดเป็น

ร้อยละ 6.66 ของตัวอย่างทั้งหมด 7,475 ตัว จาก 77 จังหวัด พบสูงสุดใน จังหวัดสุรินทร์ คิดเป็นร้อยละ
13.25 ตรวจพบมากที่สุดในสุนัข คิดเป็นร้อยละ 82.82 ตัวอย่างที่พบผลตรวจในสุนัข-แมว ที่มีเจ้าของร้อยละ
41.30 ไม่มีเจ้าของร้อยละ 40.14 และไม่ทราบประวัติว่ามีเจ้าของ ร้อยละ 18.56 และพบว่า สุนัข-แมว ไม่ได้

ฉีดวัคซีนร้อยละ 32.55 ฉีดวัคซีน ร้อยละ 11.48 และไม่ทราบประวัติร้อยละ 55.97 (รูปที่ 1)

รูปที่ 1 จ านวนสัตว์ที่มีผลบวกต่อโรคพิษสุนัขบ้า แยกรายจังหวัด และแยกตาชนิดสัตว์





















113


รายงานประจ าปี 2562



สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในจังหวัดศรีสะเกษ พบว่า ปี 2560-2561 ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรค



พษสุนัขบ้า (รูปที่ 2) ส่วนของการเกิดโรคพษสุนัขบ้าในสัตว์ พบรายงานผลบวกของโรคพษสุนัขบ้าในสัตว์


10 ตัว คิดเป็นร้อยละ 5.71 ของตัวอย่างทั้งหมด 175 ตัว จาก 22 อาเภอ พบสูงสุดใน อาเภอกันทรลักษ์



อาเภอเมืองศรีสะเกษ อาเภอปรางค์กู่ และ อาเภอเบญจลักษ์ อาเภอละ 2 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 80 ของ


สัตว์หัวบวกทั้งหมด และมีอ าเภอยางชุมน้อยและอ าเภอราษีไศล อ าเภอละ 1 ตัวอย่าง ตรวจพบมากสุดในสุนัข
ร้อยละ 60 เป็นสุนัขที่มีเจ้าของ ร้อยละ 28.57 ไม่มีเจ้าของ ร้อยละ 71.43 (รูปที่ 3)

รูปที่ 2 จ านวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าในจังหวัดศรีสะเกษ
















รูปที่ 3 สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ ปีงบประมาณ 2561 และ 2562
















เมื่อพจารณาการตรวจพบสัตว์หัวบวกรายเดือน พบว่า มีแนวโน้มพบสัตว์หัวบวกมากในเดือน

มกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ เดือนละ 2 ตัวอย่าง






114


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 4 สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ ปีงบประมาณ 2562 แยกรายเดือน

















2. ผลการด าเนินงาน
2.1 การฉีดวัคซีนปูองกันโรคพิษสุนัขบ้าในผู้สัมผัสโรค


ข้อมูลผู้สัมผัสโรคที่เข้ารับการฉีดวัคซีนปูองกันโรคพษสุนัขบ้าครบชุด หลังสัมผัส ปี 2562 ร้อยละ

91.52 ไม่ครบชุด ร้อยละ 8.48 ซึ่งจะเห็นว่า ผู้สัมผัสโรคมีแนวโน้มเข้ารับการฉีดวัคซีนปูองกันโรคพษสุนัขบ้า
จนครบชุดมากขึ้น เมื่อเทียบกับข้อมูลปี 2559-2561 ที่มีการฉีดวัคซีครบชุด ร้อยะ 90.00, 88,44 และ 85.89


ตามล าดับ (รูปที่ 5) โดยอาเภอเมืองจันทร์ มีผู้สัมผัสมาฉีดวัคซีนปูองกันโรคพษสุนัขบ้าครบชุดมากที่สุด


ร้อยละ 99.60 รองลงมาคือ อ าเภออุทุมพรพิสัย ร้อยละ 98.60 และอาเภอพยุห์ ร้อยละ 97.40 และมีอาเภอที่

มีอตรการฉีดวัคซีนครบชุดน้อยกว่าร้อยละ 90 คือ อาเภอโนนคูณ อาเภอน้ าเกลี้ยง อาเภอวังหิน อาเภอ






โพธิ์ศรีสุวรรณ และอาเภอเมืองศรีสะเกษ โดยมีอตราการฉีดวัคซีนครบชุด ร้อยละ 89.30, 88.40, 85.90,
81.70 และ 65.30 ตามล าดับ (รูปที่ 6) และเดือนที่พบผู้สัมผัสโรคมารับการฉีดวัคซีนมากที่สุด คือ เดือน
มีนาคม จ านวน 3,018 ราย รองลงมาคือเดือนเมษายน และเดือน 2,829 ราย ตามล าดับ (รูปที่ 7)

รูปที่ 5 ข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ปี 2559-2562



















115


รายงานประจ าปี 2562



รูปที่ 6 การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าครบชุด จาก ร.36 Ranking รอบที่ 2 ปี 2562 แยกรายอ าเภอ


















รูปที่ 7 จ านวนผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า ใน ร.36 ปี 2562 รายเดือน


















2.2 การสอบสวนโรคพิษสุนัขบ้า



สอบสวนโรคพษสุนัขบ้าในสัตว์ และการค้นหาผู้สัมผัสโรคพษสุนัขบ้า กรณีสัตว์หัวบวก พบว่า

ปีงบประมาณ 2562 มีผู้สัมผัสโรคพษสุนัขบ้า กรณีมีผลตรวจยืนยันสัตว์หัวบวก จ านวน 55 ราย โดยผู้สัมผัส
โรคทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนปูองกันโรคพิษสุนัขบ้าครบชุด อ าเภอที่มีผู้สัมผัสโรคมากที่คือ อาเภอยางชุมน้อย


จ านวน 14 ราย (มีการสัมผัสโรคแบบหมู่คณะ) รองลงมา คือ อ าเภอปรางค์กู่ 14 ราย จาก 2 พนที่ และอาเภอ
ื้
เมืองศรีสะเกษ 9 ราย จาก 2 พนที่ การค้นหาผู้สัมผัสมีทั้งการสอบสวนโรคเบื้องต้นและการลงพนที่สอบสวน
ื้
ื่
โรคแบบบูรณาการ ซึ่งพบว่า การสอบสวนโรคแบบบูรณาการสามารถค้นหาผู้สัมผัสโรคได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 63.6
จากผู้สัมผัสโรคทั้งหมดที่ค้นพบ




116


รายงานประจ าปี 2562



ตารางที่ 35 เปรียบเทียบผลการค้นหาผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า กรณีเกิดโรคในสัตว์


จ านวนผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า
การสอบสวน การสอบสวน
ที่ พื้นที่เกิดโรค รวม
เบื้องต้น โรคแบบบูรณาการ
(ราย) (ราย)
1 ต.ส้มปุอย อ.ราษีไศล 4 5 9
2 ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษ ์ 3 0 3

3 ต.ส าโรงปราสาท อ.ปรางค์ก ู่ 0 10 10
4 ต.ยางชุมใหญ่ อ.ยางชุมน้อย 7 7 14
5 ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ 0 3 3

6 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ 0 0 0
7 ต.ซ า อ.เมืองศรีสะเกษ 0 0 0
8 ต.หนองครก อ. เมืองศรีสะเกษ 3 6 9

9 ต.หนองเชียงทูน อ.ปรางค์ก ู่ 0 1 4
10 ต.ท่าคล้อ อ.เบญจลักษ ์ 3 0 3

รวม 20 (36.4%) 35 (63.6%) 55

2.3 การประเมินการรับรู้ความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าของประชาชาชน

การสุ่มประเมินวัคการรับรู้ความรู้เกี่ยวกับโรคพษสุนัขบ้าของประชาชน ปี 2562 ของหน่วยบริการ

สุขภาพ จากอ าเภอ 22 อ าเภอ พบว่า ในภาพรวมประชาชนมีความรู้เพมมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2561 แต่จะมี
ิ่


5 อาเภอที่ผลการประเมินในปี 2562 น้อยกว่าปี 2561 ได้แก่ อาเภอเมืองศรีสะเกษ อาเภอโนนคูณ อาเภอ


ขุขันธ์ อ าเภอศิลาลาด และ อ าเภอเบญจลักษ์ (รูปที่ 8)

รูปที่ 8 ผลการสุ่มประเมินการรับรู้ความรู้เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าของประชาชน ปี 2562





















117


รายงานประจ าปี 2562



2.4 การด าเนินงานเฝูาระวัง ปูองกัน ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า

2.4.1 การวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยง
ื้

ื้
2.4.1.1 พนที่ควบคุมโรคพษสุนัขบ้า ระดับ A หรือพนที่ปกติ คือ พนที่ที่ไม่พบ
ื้
รายงาน โรคพษสุนัขบ้าในคนและสัตว์ ตลอดระยะเวลา 2 ปี ได้แก่ อาเภอเมืองจันทร์ อาเภอศิลาลาด



อ าเภอวังหิน และอ าเภอขุนหาญ
ื้
ื้

2.4.1.2 พนที่ควบคุมโรคพษสุนัขบ้า ระดับ B คือ พนที่ที่ไม่พบรายงานคนเสียชีวิต


ด้วยโรคพิษสุนัขบ้า ตลอดระยะเวลา 2 ปี แต่ยังพบรายงานสัตว์ตายด้วยโรคพษสุนัขบ้า ได้แก่ อาเภอราษ๊ไศล








อาเภอบึงบูรพ อาเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ อาเภอยางชุมน้อย อาเภอห้วยทับทัน อาเภออทุมพรพสัย อาเภอ

เมืองศรีสะเกษ อาเภอกันทรารมย์ อาเภอวังหิน อาเภอปรางค์กู่ อาเภอพยุห์ อาเภอน้ าเกลี้ยง อาเภอโนนคูณ







อาเภอเบญจลักษ์ อาเภอศรีรัตนะ อาเภอไพรบึง อาเภอขุขันธ์ อาเภอภูสิงห์ อาเภอขุนหาญ และอาเภอ






กันทรลักษ ์
ื้
ื้
2.4.1.3 พนที่ควบคุมโรคพษสุนัขบ้า ระดับ C คือ พนที่ที่ยังมีรายงานคนและสัตว์

เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าตลอดระยะเวลา 2 ปี ซึ่งในจังหวัดศรีสะเกษไม่พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า
2.5 การประชุมชี้แจงและการอบรม
2.5.1 ทั้ง 22 อาเภอ มีการผลักดันการการขับเคลื่อนการด าเนินงานเฝูาระวัง ปูองกันโรค



พษสุนัขบ้าในรูปแบบของคณะกรรมการคุณภาพชีวิตระดับอาเภอ และการจัดท าแผนโครงการในภาพของ
เครือข่ายบริการสุขภาพระดับอ าเภอ (คปสอ.)

2.5.2 การจัดกิจกรรมรณรงค์ kick off การปูองกันโรคพษสุนัขบ้าจังหวัดศรีสะเกษ
ที่องค์การบริหารส่วนต าบลกู่ อ าเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ

2.5.3 การจัดกิจกรรมรณรงค์ kick off การปูองกันโรคพษสุนัขบ้าจังหวัดศรีสะเกษ
ที่องค์การบริหารส่วนโพนเขวา อ าเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ

2.5.4 การจัดอบรมแนวทางเวชปฏิบัติโรคพษสุนัขบ้า บูรณาการร่วมกับการประชุม
แนวทางการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีน (EPI) จ านวน 2 ครั้ง
2.6 การติดตามนิเทศการด าเนินงานการปูองกันโรคพิษสุนัขบ้าระดับอ าเภอ (Ranking)

2.6.1 การติดตามนิเทศงานปูองกันโรคพษสุนัขบ้าระดับอาเภอ ครั้งที่ 1 พบว่า ส่วนใหญ่

มีการจัดท าแผนงานโครงการและการประชุมชี้แจงการด าเนินงาน แต่ยังมีหลายอาเภอที่ท าการบันทึกข้อมูล

ผู้สัมผัสโรคในระบบรายงาน ร.36 ไม่ทันเวลา มีการจัดตั้งกลุ่มในการติดตามผู้สัมผัสโรค เป็นในภาพ คปสอ.

2.6.2 การติดตามนิเทศงานปูองกันโรคพษสุนัขบ้าระดับอาเภอ ครั้งที่ 2 พบว่า ในภาพรวม

ส่วนใหญ่มีพฒนาการด้านการท างานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการรายงานผลการบันทึกข้อมูลผู้สัมผัสโรค


การติดตามค้นหาผู้สัมผัสโรคกรณีพบสัตว์หัวบวก และด าเนินการฉีดวัคซีนตามแนวทางเวชปฏิบัติโรคพษสุนัข


บ้า การบันทึกข้อมูลผู้สัมผัสโรคในระบบรายงาน ร.36 ไม่ทันเวลา โดยอาเภอที่ได้คะแนนสูงสุด มีการพฒนา





ระบบ Auto alert ในเข็มที่ 1 ได้หลายอาเภอ ได้แก่ อาเภอเมืองศรีสะเกษ อาเภออทุมพรพสัย อาเภอ

ปรางค์กู่ และอ าเภอขุนหาญ
2.7 ผลงานและความส าเร็จ
ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรคพษสุนัขบ้า การบริหารจัดการวัคซีนภายในหน่วยบริการและในระดับ

จังหวัด มีความเพยงต่อปริมาณผู้สัมผัสโรคที่เข้ารับบริการ ระบบการรายงานข้อมูลการฉีดวัคซีนในผู้สัมผัส

โรคพิษสุนัขบ้า มีแนวโน้มที่ดีขึ้น รายงานผลได้ทันเวลา และมีระบบการติดตามการด าเนินงานทุกเดือน จังหวัด

ศรีสะเกษได้รับการคัดเลือกให้เป็นจังหวัดต้นแบบที่มีผลการด าเนินงานเฝูาระวัง ปูองกันโรคพษสุนัขบ้าดีเด่น

118


รายงานประจ าปี 2562




(Best Practice) ของส านักงานปูองกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอบลราชธานี ด้วยโมเดล 5G ในการผลักดัน
การด าเนินงานเฝูาระวัง ปูองกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า
สรุปผลการด าเนินงานในปีงบประมาณ 2562 จังหวัดศรีสะเกษ ไม่พบการรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรค

พิษสุนัขบ้า แต่ยังพบรายงานการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ พบมาในสุนัข แมว และโค ในส่วนของอตราการใช้

วัคซีนปูองกันโรคพษสุนัขบ้ามีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2562 ซึ่งในภาพรวม

จังหวัดทุกโรงพยาบาลมีการบริหารจัดการวัคซีนได้อย่างเพยงพอ และมีระบบการส่งต่อและการยืมวัคซีน

ระหว่างโรงพยาบาลในจังหวัด ในกรณีที่วัคซีนไม่เพยงพอ การรายงานผลการฉีดวัคซีนในผู้สัมผัสโรคพษสุนัข

บ้า (ร.36) มีแนวโน้มการบันทึกเพมมากขึ้นทุกโรงพยาบาล การมาฉีดวัคซีนปูองกันโรคพษสุนัขบ้าหลังสัมผัส
ิ่


ครบชุดมากขึ้น แต่ยังมีบางส่วนที่มีการฉีดวัคซีนไม่ครบชุด จึงต้องมีการพฒนาระบบการติดตามและส่งต่อ

ข้อมูลผู้สัมผัสระหว่างโรงพยาบาล สาธารณสุขอาเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบล อสม. และชุมชนใน
การช่วยติดตามผู้สัมผัสโรคให้มาฉีดวัคซีนให้ครบตามก าหนดต่อไป

3. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

3.1 ยังไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูลผู้สัมผัสระหว่างหน่วยบริการ ท าให้ผู้สัมผัสบางรายขาดนัดหรือมารับ
วัคซีนไม่ครบ เพราะมีภารกิจในการเดินทางหรือการเคลื่อนย้ายที่ท างานและที่อยู่อาศัยในช่วงเวลาที่ต้องมารับ
วัคซีน ท าให้ติดตามไม่ได้

3.2 ผู้รับผิดชอบงานพิษสุนัขบ้าในหน่วยงาน ทั้งในส านักงานสาธารณสุขอาเภอและโรงพยาบาลมีการ


สับเปลี่ยนหมุนเวียน ท าให้การด าเนินงาน และการด าเนินงานขาดความต่อเนื่อง ในบางอาเภอยังไม่มีการระบุ
ผู้รับผิดชอบงานที่ชัดเจน
3.3 ยังมีประชาชนบางส่วน ที่ยังขาดความตระหนักในเรื่องของการเข้ารับการฉีดวัคซีนหลังสัมผัสโรค

พิษสุนัขบ้า และการมารับการฉีดวัคซีนให้ครบโด๊ส

3.4 การบันทึกข้อมูลการมารับบริการฉีดวัคซีน้ปงอกันโรคพษสุนัขบ้าในหน่วยบริการ มีหลาย
โปรแกรม ได้แก่ โปรแกรม HIS ของ โรงพยาบาล, ร.36 และ E-claim ท าให้เพมภาระงานและเป็นการท างาน
ิ่
ซ้ าซ้อน ท าให้การบันทึกข้อมูลมีความล่าช้า กรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน


4. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป
4.1 ทุกหน่วยงานที่ให้มีการมอบหมายภารกิจงานบันทึกข้อมูลรายงานให้ชัดเจน เพอจะได้จัด
ื่
โปรแกรมพัฒนาบุคคลากร


4.2 พัฒนาระบบการติดตามผู้สัมผัสในระดับอาเภอ จังหวัด และต่างจังหวัด ให้มารับการฉีดวัคซีนให้
ทันเวลาและมาฉีดให้ครบตามนัด โดยปรับให้เป็นระบบแจ้งเตือนอัติโนมัติทุกโรงพยาบาล
ื้
4.3 การด าเนินการเฝูาระวังโรค และสัตว์ต้องสงสัยในพนที่ โดยให้เครือข่าย SRRT อส.ปศุสัตว์ อสม.
และผู้น าชุมชนช่วยกันเฝูาระวังโรคในพื้นที่ มีช่องทางในการสื่อสารในระดับอ าเภอ
4.4 ผู้บริหารมีส่วนส าคัญในการเร่งรัดด าเนินการในพนที่ ดังนั้น หากมีก าหนดให้การปูองกัน
ื้
โรคพิษสุนัขบ้าเป็นนโยบายหลักด้านสุขภาพในพนที่ที่ต้องมีการด าเนินการอย่างเข้มข้น จะท าให้ทุกหน่วยงาน
ื้
ราชการที่เกี่ยวข้องในพนที่มีการระดมทรัพยากรและการท างานร่วมกันอย่างจริงจัง และท าให้ไม่เกิด
ื้
โรคพิษสุนัขบ้าทั้งในสัตว์และคน


4.5 มีการเชื่อมต่อข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียวจากหลายโปรแกรม หรือให้มีการบันทึกเพยงระบบเดียว คือ
ระบบ 43 แฟูมของโรงพยาบาล





119


รายงานประจ าปี 2562



งานกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR) และงานสาธารณสุขชายแดน


ตัวชี้วัด : 1. จังหวัดมีการด าเนินงานตามแนวทางการประเมินตามประเด็นกฏอนามัยระหว่างประเทศ

(IHR2005) และผ่านการประเมินไม่ต่ ากว่า ระดับ 4
2. พัฒนาสมรรถนะช่องทางเข้าออกตามข้อก าหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศ
ไม่ต่ ากว่าระดับ 4

3. อ าเภอที่อยู่พื้นที่ชายแดน มีระบบการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ
ตามแนวทางของวิทยาการระบาดของกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ ทุกตัวชี้วัด ร้อยละ 100
4. อ าเภอชายแดน มีแผนเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ เพื่อรองรับสถานการณ์
และบริบทการท างานในพื้นที่ชายแดน ร้อยละ 100
1. ผลการด าเนินงาน

1.1 การด าเนินงานตามเปูาหมายของ IHR-JEE
การด าเนินงานตามสมรรถนะหลักตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ IHR2005 ของจังหวัดสุขภาพ

ชายแดนและจังหวัดเศรษฐกิจพเศษปี 2562 จังหวัดศรีสะเกษได้ด าเนินการใน 4 ประเด็น จาก 19 ประเด็น
หลักของกฏอนามัยระหว่างประเทศ ได้แก ่
- ประเด็นที่ 1 ด้านกฎหมาย นโยบาย และงบประมาณ
- ประเด็นที่ 4 ด้านการปูองกันการเกิดและแพร่ระบาดของโรคติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน
- ประเด็นที่ 7 การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

- ประเด็นที่ 9 ด้านการพัฒนาระบบเฝูาระวังให้ทันเวล
- ประเด็นที่ 13 ด้านศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข
- ประเด็นที่ 16 ด้านการสื่อสารความเสี่ยง
- ประเด็นที่ 18 ด้านการจัดการภัยด้านสารเคมี

ผลการด าเนินงาน มีดังนี้
1.1.1 ประเด็นที่ 1 ด้านกฎหมาย นโยบายและงบประมาณ ผลการประเมินอยู่ในระดับ 5 คือ
มีการด าเนินแล้วและรักษาระดับได้ดีมาก มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการ

จังหวัดเป็นประธาน มีการการจัดท าแผนปฏฺบัติการเฝูาระวัง ปูองกันและควบคุมโรคติดต่ออนตราย โรคติดต่อ
ที่ต้องเฝูาระวังหรือโรคระบาดในเขตพื้นที่จังหวัดจ านวน 19 แผน และได้มีการประชุมคณะกรรกการโรคติดต่อ
ระดับจังหวัด 1 ครั้ง มีการแต่งตั้งคณะท างานประจ าช่องทางเข้าออกด่านพรหมแดนช่องสะง า อาเภอภูสิงห์

จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีการประชุมคณะท างาน 2 ครั้ง การอบรมพฒนาสมรรถนะของบุคลากรสาธารณสุข

ื้
ในการเฝูาระวัง ปูองกัน ควบคุมโรคติดต่อหรือ โรคระบาดในพนที่จังหวัด และโรคติดต่อระหว่างประเทศ

โดยได้มีการอบบรมพฒนาศักยภาพบุคลากรเกี่ยวกับกฎอนามัยระว่างประเทศ (IHR) และพระราชบัญญัติ
โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ณ ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ ส านักงานสาธารณสุขจังหวดศรีสะเกษ
1.1.2 ประเด็นที่ 4 ด้านการปูองกันการเกิดและแพร่ระบาดของโรคติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน
ผลการประเมินอยู่ในระดับ 5 คือ มีการด าเนินแล้วและรักษาระดับได้ดีมาก มีการแต่งตั้งคณะท างานปูองกัน


โรคพษสุนัขบ้าจังหวัดศรีสะเกษ โดยบุณรณาการท างานร่วมกับองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดศรีสะเกษ
มีระบบการเฝูาระวังโรคที่เหมาะสม ตลอดจนมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การเกิดโรคระหว่างหน่วยงาน
ื้

ในกลุ่มไลน์เฝูาระวังโรคติดโรคจังหวัด และโรคพษสุนัขบ้า มีการลงพนที่สอบสวนโรคแบบบูรณาการร่วมกัน

ของภาคีเครือข่าย ตลอดจนการสื่อสารความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ เช่น ปูายประชาสัมพนธ์ สถานี



120


รายงานประจ าปี 2562




วิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดศรีสะเกษ การจัดกิจกรรมรณรงค์ปูองกันโรค และการอบรมพฒนา
ศักยภาพของบุคลากรและทีมสุขภาพในพื้นที่ และการสนับสนุนงบประมาณในการด าเนินงานจากส่วนราชการ
ที่เกี่ยวข้อง และองค์การบริหารส่วนจังหวัด
1.1.3 ประเด็นที่ 7 การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ผลการประเมินอยู่ในระดับ 4 คือ ก าลัง
ด าเนินการและพัฒนาในระดับที่ดี จังหวัดศรีสะเกษมีการให้บริการวัคซีนปูองกันโรคหัด ได้น้อยกว่าร้อยละ 95

มีการประชุมชี้แจงและการลงพนที่ติดตามนิเทศงานหน่วยบริการที่มีรายงานข้อมูลต่ ากว่า ร้อยละ 95 และมี
ื้
การระบบติดตามประเมินความความครอบคลุมของวัคซีนโรคหัดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มไลน์ผู้รับผิดชอบงาน
และการติดตามในการประชุม คปสจ. มีการตรวจสอบปริมาณการใช้วัคซีนต่อเดือน มาตรฐานคลังวัคซีน

การบันทึกอุณภูมิตู้เย็นวัคซีนตามมาตรฐานงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

1.1.4 ประเด็นที่ 9 ด้านการพฒนาระบบเฝูาระวังให้ทันเวลา ผลการประเมินอยู่ในระดับ 5
คือ มีการด าเนินแล้วและรักษาระดับได้ดีมาก มีการก าหนดโรค กลุ่มอาการ และภัยที่เป็นปัญหาสาธารณสุข
ื้

ที่ส าคัญของพนที่ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลโรคระหว่างจังหวัด อาเภอ และหน่วยบริการ มีการเฝูาระวังโรค
ตรวจจับการระบาดของโรค มีระบบรายงานโรคติด่อที่ต้องเฝูาระวังโรคตามแนวทางและมาตรฐานของงาน

เฝูาระวัง 506 (Indicator based) และการเฝูาระวังเหตุการณ์ (Event based) ผ่านการแจ้งเตือนอติโนมัติ

ก าหนดผู้รับผิดชอบและกิจกรรมที่ต้องด าเนินการ ทั้งทีม SAT JIT ระดับจังหวัด อาเภอและต าบล จัดท า
แนวทางการปฏิบัติงาน มีการประเมินสถานการณ์โรคโดยทีม SAT และจัดท าแนวทางตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน

และการอบรมพัฒนาความรู้บุคลากร
1.1.5 ประเด็นที่ 13 ด้านศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ผลการประเมินอยู่ใน
ระดับ 5 คือ มีการด าเนินแล้วและรักษาระดับได้ดีมาก มีการเปิด EOC โรคไข้เลือดออก โดยมีผู้บริหาร
หน่วยงาน โดยมีท่านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ที่ท าหน้าที่เป็น

ผู้บัญชาการเหตุการณ์และรองผู้บัญชาการเหตุการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุข ผ่านการอบรมหลักสูตร ICS
ส าหรับผู้บริหาร มีการจัดตั้งทีมปฏิบัติการระดับจังหวัดในส่วนภารกิจปฏิบัติการ (Operation Section) มีการ
ก าหนดบทบาทหน้าที่ของบุคลากรในหน่วยงาน ตามโครงสร้างระบบบัญชาการเหตุการณ์ของกรมควบคุมโรค
ที่สอดคล้องกับบริบทของพนที่ โดยมีทีมปฏิบัติการระดับจังหวัด ได้แก่ MERT, mini MERT, EMS, MCAT
ื้
และ CDCU/SRRT แต่ละทีมมีกิจกรรมการด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีการอบรมพฒนาทักษะ ความรู้

ความสามารถ ในการเฝูาระวังโรค และการรายงานสถานการณ์ให้กับสมาชิกทีม SAT การจัดเวร SAT ภาวะ
ปกติประจ าเดือน การจัดท าทะเบียน SAT ภาวะฉุกเฉิน โดยชื่อไม่ซ้ ากับ SAT ภาวะปกติ จัดท า Outbreak
Verification list ทุกสัปดาห์สามารถจัดท า Spot Report ได้ตามเงื่อนไขและเวลาที่ก าหนดมีการซ้อม

แผนตอบโต้ฉุกเฉินโรคไข้หวัดนก
1.1.6 ประเด็นที่ 16 ด้านการสื่อสารความเสี่ยง ผลการประเมินอยู่ในระดับ 4 คือ มีก าลัง

ด าเนินการและพฒนาในระดับที่ดี มีการก าหนดผู้รับผิดชอบด้านการสื่อสารความเสี่ยงในกลุ่มงาน และมีการ
ด าเนินงานตามระบบ กลไก แนวทางการสื่อสารความเสี่ยงเรื่องโรคและภัยสุขภาพ มีการก าหนดโครงสร้างผู้ที่
ท าหน้าที่สื่อสารความเสี่ยง การเฝูาระวัง/ตอบโต้ ข่าวลือ ข่าวลบ และข้อเข้าใจผิด โดยมีการก าหนด



กลุ่มเปูาหมาย กลุ่มเสี่ยง ชุมชนกลุ่มเสี่ยง มีการประสัมพนธ์เรื่องโรคและภัยสุขภาพ กรณีเกิดอทุกภัยที่อาเภอ


ราษีไศล อาเภอยางชุมน้อย และอาเภอกันทรารมย์ มีการประเมินความเสี่ยงของสื่อช่องทางเรื่องอาหารและ
ผลิตภัณฑ์สุขภาพของกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค ก าหนดให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้ให้
ข่าวและสื่อสาร ความเสี่ยง หรือข่าวลือ ข่าวลบ และข้อเข้าใจผิด เกี่ยวกับการรับบริจาคเงินและเครื่องนุ่งห่ม
ให้กับผู้ปุวยติดเตียง อ าเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ





121


รายงานประจ าปี 2562



1.1.7 ประเด็นที่ 18 ด้านการจัดการภัยด้านสารเคมี ผลการประเมินอยู่ในระดับ 2 คือ มีการ

ื้
พัฒนาน้อย โดยในภาพรวมจังหวัดศรีสะเกษ ไม่ใช่แหล่งน าเข้าสารเคมีรายใหญ่ และมีพนที่ที่เป็นเส้นทางผ่าน

ของการขนส่งสารเคมีน้อย บทบาทหน้าที่หลักและมีรายละเอยดที่เกี่ยวข้องคือ ส านักงานปูองกันและบรรเทา
สาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีกลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อม ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เป็น
ทีมงานเครือข่ายในการร่วมประเมินมาตรฐานการจัดการสารเคมีในโรงงาน เช่น โรงน้ าแข็ง เป็นต้น โดยจังหวัด

ยังไม่มีค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการหรือคณะท างานที่มีบทบาทรับผิดชอบเกี่ยวกับโรคและภัยสุขภาพด้าน
สารเคมีโดยตรง จึงยังไม่มีกจกรรมในการอบรมพฒนาบุคลากรและการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยจะเป็นการ


ประชุมเตรียมความพร้อมเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินทางด้านสารเคมี หรืออบัติเหตุจากการขนส่งสารเคมี และยัง

ไม่มีการจัดท าทะเบียนเครือข่าย เพอใช้ในการประสานงานเมื่อเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดด้อยที่จะต้องมีการผลักดัน
ื่

และขับเคลื่อนการด าเนินงานตามรายละเอยดประเด็นที่เป็นองค์ประกอบให้ได้ตามแนวทางการประเมิน และ
เพอเป็นการเตรียมพร้อมในการด าเนินงาน ก าลังด าเนินการและพฒนาในระดับที่ดี มีการก าหนดผู้รับผิดชอบ
ื่

ด้านการสื่อสารความเสี่ยงในกลุ่มงาน และมีการด าเนินงานตามระบบ กลไก แนวทางการสื่อสารความเสี่ยง
เรื่องโรคและภัยสุขภาพ มีการก าหนดโครงสร้างผู้ที่ท าหน้าที่สื่อสารความเสี่ยง การเฝูาระวัง/ตอบโต้ ข่าวลือ


ข่าวลบ และข้อเข้าใจผิด โดยมีการก าหนดกลุ่มเปูาหมาย กลุ่มเสี่ยง ชุมชนกลุ่มเสี่ยง มีการประสัมพนธ์เรื่องโรค
และภัยสุขภาพ กรณีเกิดอทุกภัยที่อาเภอราษีไศล ยางชุมน้อย และกันทรารมย์ มีการประเมินความเสี่ยงของ


สื่อช่องทางเรื่องอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพของกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค ก าหนดให้นายแพทย์สาธารณสุข
จังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้ให้ข่าวและสื่อสารความเสี่ยง หรือข่าวลือ ข่าวลบ และข้อเข้าใจผิด เกี่ยวกับการรับ
บริจาคเงินและเครื่องนุ่งห่มให้กับผู้ปุวยติดเตียง อ าเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

1.2 การพฒนาความร่วมมือด้านการเฝูาระวังปูองกัน ควบคุมโรค และภัยสุขภาพร่วมกับจังหวัด
ชายแดนคู่ขนาน (Twin cities)



1.2.1 มีการประชุมซ้อมแผนอบัติเหตุหมู่บริเวณจุดผ่านแดนช่องสะง า อาเภอภูสิงห์ จังหวัด

ศรีสะเกษ ในช่วงเทศกาล โดยมีตัวแทนจากจังหวัดพระวิหาร จังหวัดอดรมีชัย และผู้ประสานงานด่าน
พรหมแดนประเทศกัมพชา เข้าร่วมกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนในครั้งนี้ด้วย เมื่อวันที่



11 เมษายน 2562 ณ อาคารผู้โดยสารเมืองใหม่ ต าบลไพรพฒนา และด่านพรดมแดนช่องสะง า อาเภอภูสิงห์
จังหวัดศรีสะเกษ
1.2.2 การอบรมเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนปูองกันโรคไข้หวัดนก ณ โรงพยาบาลภูสิงห์ เมื่อวันที่
30-31 พฤษภาคม 2562 โดยมีตัวแทนจากจังหวัดพระวิหาร จังหวัดอดรมีชัย และผู้ประสานงานด่าน

พรหมแดนประเทศกัมพูชา เข้าร่วมกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนในครั้งนี้ด้วย

1.2.3 มีการจัดท าร่างประกาศในการเฝูาระวังปูองกันโรคและภัยสุขภาพ ช่องทางเข้าออก


ระหว่างประเทศ ด่านพรมแดนช่องสะง าอาเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้มีการน าเข้าสู่การพจารณา
ร่างประกาศจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ โดยคณะกรรมการได้มีมติที่ประชุมให้แต่งตั้ง

คณะอนุกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ เพอพจารณารายละเอยดของร่างประกาศดังกล่าว เพอให้เป็น
ื่

ื่
ื่
ตามแนวทางกฏอนามัยระหว่างประเทศ และข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้องระหว่างประเทศ เพอให้ไม่ให้เกิด
ข้อผิดพลาดอันจะน าไปสู่ข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งได้จัดท าค าสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

ศรีสะเกษแล้ว และอยู่ระหว่างการการก าหนดวันประชุมพจารณารายละเอยดร่างประกาศฯ และสรุป

การพิจารณาร่างเพื่อเสนอให้คณะกรรมการโรคติดต่อพิจารณาและอนุมัติประกาศ เพอด าเนินการเฝูาระวังโรค
ื่
และภัยสุขภาพต่อไป





122


รายงานประจ าปี 2562



1.2.4 ประเด็นระบบการส่งต่อผู้ปุวย ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษร่วมกับด่าน


ควบคุมโรคติดต่อด่านพรหมแดนช่องสะง าและโรงพยาบาลศรีสะเกษ ได้พฒนาระบบการส่งต่อผู้ปุวยระหว่าง
ประเทศ ที่ผ่านทางด่านพรหมแดนช่องสะง า โดยระบบการส่งต่อผู้ปุวยออนไลน์ โดยให้ด่านควบคุมโรคติดต่อ

และโรงพยาบาลเอกชนที่มีผู้ปุวยจากประเทศกัมพชาเข้ามารับบริการ มาเป็นหน่วยบริการในระบบ E-Refer
ของจังหวัดศรีสะเกษที่มีการด าเนินการส่งต่อผู้ปุวยอยู่แล้ว ซึ่งจะสามารถส่งต่อข้อมูลผู้ปุวย และการวางแผน

เตรียมความพร้อมในการรักษา หรือการเฝูาระวังเหตุการณ์ทางระบาดวิทยาในโรงพยาบาล ตลอดจนการรับส่ง
ข้อมูลผู้ปุวย เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามและการวางแผนการด าเนินงานด้านการเฝูาระวังโรคติดต่อในอนาคต
ต่อไป

1.3 งานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ร่วมการสัมนาวิชาการด้านระบาดวิทยาระดับเขตและเมืองคู่ขนานไทย-ลาว, ไทย-กัมพชา
(Twin cities) ระหว่างวันที่ 30 เมษายน 2562 ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ณ โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ โฮเทล

แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อาเภอเมือง จังหวัดอบลราชธานี โดยส่งผลงานเข้าร่วมการน าเสนอผลการ

ด าเนินงานเฝูาระวัง ปูองกัน และควบคุมโรคและภัยสุขภาพ จ านวน 8 ผลงาน ได้รับรางวัล ดังนี้
1.3.1 ประเภทภาพถ่าย
1.3.1.1 ชนะเลิศ นางกันยารัตน์ เหล่าเสถียรกิจ กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ
ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ

1.3.1.2 รองชนะเลิศ อันดับที่ 2 นายวีระพล ห้วยทราย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ต าบลธาตุ อ าเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ
1.3.2 Oral presentation (English)
1.3.2.1 รองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ดร.ณัฐกร พงษ์สุรเดช โรงพยาบาลศรีสะเกษ

1.3.3 Oral presentation Best Practice

1.3.3.1 รองชนะเลิศ อนดับที่ 1 นางกานต์พชชา วิจารณ์ โรงพยาบาลส่งเสริม

สุขภาพต าบลโนนแกด อ าเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
1.3.4 Oral presentation รายงานการสอบสวนโรค


1.3.4.1 รองชนะเลิศ อนดับที่ 1 นางชุติกาญจน์ มงคลชัยพานิชย์ โรงพยาบาล
อุทุมพรพิสัย
1.4 ผลงานและความส าเร็จ
1.4.1 การพัฒนาระบบตรวจคัดกรองโรคติดต่อ บริเวณด่านชายแดนช่องสะง า ให้มีห้องตรวจ

คัดกรองโรคติดต่อ ห้องกักกัน และห้องปฐมพยาบาลผู้ปุวยบริเวณด่านช่องสะง า โดยผู้ว่าราชการจังหวัด
ศรีสะเกษที่ได้มาตรฐาน และมีการว้อมแผนโรคอุบัติใหม่ และอุบัติเหตุหมู่
1.4.2 การพัฒนาระบบส่งต่อผู้ปุวยระหว่างประเทศ ด่านชายแดนช่องสะง า โดยใช้โปรแกรม

E-Refer ซึ่งอยู่ใช่วงของการเพิ่ม user ของด่านควบคุมโรคติดต่อและโรงพยาบาลเอกชนที่เกี่ยวข้อง
1.4.3 ผลงานวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการเฝูาระวัง ปูองกันโรคติดต่อและภัยสุขภาพได้รับ
รางวัลในเวทีวิชาการสัมมนานานาชาติ Twin cities
สรุปผลการด าเนินงานในปี 2562 การด าเนินงานด้านกฎอนามัยระว่างประเทศ (IHR) ได้ด าเนินการ
ตามประเด็นหลัก 7 ประเด็น อยู่ในระดับ 5 จ านวน 4 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 1 ด้านกฏหมาย นโยบายและ

งบประมาณ, ประเด็นที่ 4 ด้านการปูองกันการเกิดและแพร่ระบาดของโรคติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน, ประเด็นที่
9 ด้านการพัฒนาระบบเฝูาระวังให้ทันเวลา, ประเด็นที่ 13 ด้านศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข อยู่ใน





123


รายงานประจ าปี 2562



ระดับ 4 จ านวน 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นที่ 7 การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และประเด็นที่ 16 ด้านการ

สื่อสารความเสี่ยง และอยู่ในระดับ 2 คือ มีการพัฒนาน้อย ในประเด็นที่ 18 ด้านการจัดการภัยด้านสารเคมี ที่
จะต้องมีการพัฒนาในปีงบประมาณ 2563 ส่วนการพัฒนาความร่วมมือระหว่างจังหวัดชายแดนคู่ขนาน (Twin
cities) มีการพัฒนาความร่วมมือในการเฝูาระวัง ตรวจจับโรคและภัยสุขภาพ โดยการอบรมเชิงปฏิบัติการซ้อม


แผนเฝูาระวัง ปูองกันโรคไข้หวัดนก และอบัติเหตุหมู่ ส่วนการพฒนามาตรฐานช่องทางเข้าออกระหว่าง
ประเทศ ได้มีการจัดท าร่างประกาศเฝูาระวัง ปูองกันโรคและภัยสุขภาพด่านพรมแดนช่องสะง า

2. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)

2.1 การประสานความร่วมมือในการท าข้อตกลงท าความเข้าใจในการด าเนินการเฝูาระวัง ปูองกัน
ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ยังอยู่ในขั้นตอนการร่าง แต่ยังไม่สามารถด าเนินการได้ เนื่องจากทางฝั่ง
ประเทศเพื่อนบ้านยังอยู่ในขั้นตอนการเสนอพิจารณาจากผู้บริหารระดับสูง

2.2 การพฒนาระบบการตรวจคัดกรองผู้ปุวย และระบบการส่งต่อออนไลน์ (E-Refer) ยังอยู่ใน

ขั้นตอนการพฒนาโปรแกรมเพอให้สามารถใช้ร่วมกับระบบการส่งต่อผู้ปุวยออนไลน์ของจังหวัด แต่ยังขาดใน
ื่

ส่วนของอปกรณ์และเครื่องมือในการระบุตัวตนของประชากรต่างด้าว โดยระบบนี้จ าเป็นต้องมีเครื่องสแกน
ลายนิ้วมือ เพื่อระบุอัตลักษณ์บุคคล ซึ่งจะสามารถสร้างเป็นฐานข้อมูลการส่งต่อรับบริการในหน่วยบริการของ
จังหวัด และระหว่างจังหวัดได้ โดยไม่ท าให้เกิดการระบุตัวตนซ้ าซ้อน สามารถติดตามข้อมูลการเข้ารับบริการ

และการรักษาทั้งในภาพรวมและระดับบุคคลของชาวต่างด้าวที่มารักษาในประเทศไทยได้
2.3 การด าเนินงานประสานความร่วมมือด้านสุขภาพจังหวัดชายแดนคู่ขนาน ระหว่างจังหวัด
ศรีสะเกษ ประเทศไทย และจังหวัดพระวิหาร จังหวัดอดรมีชัย ประเทศกัมพชา ยังมีเงื่อนไขที่ต้องใช้การ


พจารณาและการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูงของประเทศกัมพชา ท าให้การด าเนินงานในพนที่ด้านการเฝูา


ื้
ื่
ระวัง ปูองกัน ควบคุมโรค และภัยสุขภาพ เกิดความล่าช้า จึงได้มีการจัดท าร่างประกาศฯ ช่องทาง เพอให้มี
มาตรฐานในการเฝูาระวัง ตรวจจับโรคและภัยสุขภาพบริเวณด้านพรมแดนช่องสะง า และเป็นการพฒนา

ร่วมกันของเมืองคู่ขนาน ซึ่งมีความจ าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการสานสัมพันธไมตรี และการท าความเข้าใจระหว่าง
ื่

ประเทศของผู้บริหารระดับสูง ในการพดคุยเจรจาและหาข้อตกลงร่วมกัน เพอช่วยให้การท างานของบุคลากร
ในจังหวัดคู่ขนาน สามารถท างานความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป
3.1 การด าเนินงานประสานความร่วมมือด้านสุขภาพจังหวัดชายแดนคู่ขนาน ระหว่างจังหวัด


ศรีสะเกษ ประเทศไทย และจังหวัดพระวิหาร จังหวัดอดรมีชัย ประเทศกัมพชา ยังมีเงื่อนไขที่ต้องใช้การ


พจารณาและการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูงของประเทศกัมพชา ท าให้การด าเนินงานในพนที่ด้านการ
ื้

เฝูาระวัง ปูองกัน ควบคุมโรค และภัยสุขภาพ เกิดความล่าช้า ไม่สามารถด าเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น
จึงมีความจ าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการสานสัมพนธไมตรี และการท าความเข้าใจระหว่างประเทศของผู้บริหาร

ื่

ระดับสูง ในการพดคุยเจรจาและหาข้อตกลงร่วมกัน เพอช่วยให้การท างานของบุคลากรในจังหวัดคู่ขนาน
สามารถท างานความร่วมมือด้านสุขภาพระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3.2 การพฒนาระบบส่งต่อผู้ปุวยออนไลน์ หรือ E-Refer ยังติดปัญหาที่ผู้พฒนาโปรแกรมมีภาระงาน

มาก ท าให้ในการเพิ่มหน่วยบริการของด่านควบคุมโรคติดต่อและโรงพยาบาลเอกชนที่เกี่ยวข้อง ยังไม่สามารถ
เข้าใช้งานได้ ดังนั้น จึงควรจังหวัดมีการแต่งตั้งให้ผู้รับผิดชอบในการดูแลระบบส่งต่อผู้ปุวยเฉพาะ และมีการ
พัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง





124


รายงานประจ าปี 2562



งานเอดส์และกามโรค และไวรัสตับอักเสบบีและซี


1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ส านักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษท าการเฝูาระวังผู้ปุวยเอดส์ โดยรับรายงานจากบัตรรายงาน
506/1, 507/1 (Cases report) ซึ่งเป็นผู้ปุวยที่เข้ารับบริการในสถานบริการทั้งภาครัฐและเอกชนตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 พบว่ามีผู้ปุวยเอดส์ จ านวน 146 ราย ผู้ติดเชื้อที่มีอาการ จ านวน

2 ราย ผู้มีเชื้อเอดส์ 25 ราย รวม 173 ราย เสียชีวิต จ านวน 27 ราย

ตารางที่ 36 จ านวนร้อยละผู้ป่วยเอดส์/ผู้ติดเชื้อจ าแนกตามปีที่เริ่มป่วย จังหวัดศรีสะเกษ

ผู้ติดเชื้อ
ผู้ป่วยเอดส์ ผู้ติดเชื้อมีอาการ ไม่มีอาการ เสียชีวิต
ปี พ.ศ. (คน) (คน) (คน) รวม (คน)

จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ

2528 - 2550 4,428 55.32 3,160 96.11 244 28.88 7,832 1,559 66.85

2551 451 5.63 23 0.70 52 6.15 526 88 3.77

2552 441 5.51 9 0.27 63 7.46 513 84 3.60

2553 365 4.56 9 0.27 83 9.82 457 78 3.34

2554 301 3.76 8 0.24 84 9.94 393 80 3.43

2555 304 3.80 6 0.18 65 7.69 375 66 2.83
2556 314 3.92 15 0.46 67 7.93 396 71 3.04

2557 260 3.25 16 0.49 32 3.79 308 69 2.96

2558 236 2.95 16 0.49 56 6.63 308 47 2.02

2559 258 3.22 11 0.33 26 3.08 295 62 2.66

2560 251 3.14 7 0.21 22 2.60 280 52 2.23
2561 284 3.55 7 0.21 26 3.08 317 56 2.40

2562 111 1.39 1 0.03 25 2.96 137 20 0.86

รวม 8,004 65.95 3,288 27.09 845 6.962 12,137 2,332 19.21

ที่มา : จากรายงาน 506/1 จังหวัดศรีสะเกษ












125


รายงานประจ าปี 2562



แผนภูมิ : แสดงข้อมล ศิลาลาด

ผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยเอดสสะสม 42

จ าแนกตามภูมิล าเนา บึงบูรพ์ ราษีไศล มี < 100 ราย
มี 100 - 299 ราย
80
480
มี 300 - 499 ราย
ณ 30 กันยายน 2562 เมืองจันทร์ 60 ยางชุมน้อย มี > 500 ราย
246
125 อุทุมพรพิสัย กันทรารมย์
521
ห้วยทับทัน 1,025 เมืองศรีสะเกษ
2,000
267 วังหิน พยุห์ น้ าเกลี้ยง โนนคูณ
365
348
ปรางคกู่ 124 ศรีรัตนะ 214

440 ไพรบึง 325 เบญจลักษ์
150
ขุขันธ์ 289
783
ขุนหาญ กันทรลักษ์
ภูสิงห์ 818 1,205
417



จากรายงานปูองกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก จากวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน

2562 พบมีหญิงคลอดทั้งหมด 10,192 ราย ผลเลือดเอชไอวีบวก 47 ราย คิดเป็น ร้อยละ 0.46 และได้รับการ
วินิจฉัยว่าเป็นซิฟลิส 38 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.38 เด็กคลอดจากมารดาติดเชื้อเอชไอวี ได้รับยาต้านและนม

ผสมครบ 47 ราย ตรวจ PCR ในเด็กที่เกิดจากแม่ติดเชื้อเอชไอวี ครบ 2 ครั้ง 38 ราย พบการติดเชื้อในเด็กที่
เกิดจากแม่ติดเชื้อเอชไอวี 1 ราย ร้อยละ 2.63


ตารางที่ 37 จ านวนหญิงคลอดที่ติดเชื้อ HIV และการได้รับยาต้านไวรัสในหญิงคลอดที่ติดเชื้อและทารก
ปี 2553-2562 จังหวัดศรีสะเกษ

จ านวนหญิงคลอด การได้รับยาต้านไวรัส การได้รับยาต้านไวรัส
จ านวน

ปี ที่ติดเชื้อเอชไอว ี ของมารดา ของทารกเกิดมีชพ
คลอดทั้งหมด
จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ จ านวน ร้อยละ
2553 13,821 71 0.51 70 98.59 50 100
2554 12,799 53 0.41 523 100 45 100
2555 11,178 45 0.4 45 100 39 100

2556 7,509 37 0.5 36 97.29 37 100
2557 12,778 61 0.5 60 98.36 59 100

2558 7,824 39 0.5 37 94.87 39 100
2559 4,720 17 0.36 17 100 17 100
2560 11,200 43 0.38 42 97.67 44 100
2561 10,546 56 0.53 56 100 56 100

2562 10,192 46 0.45 46 100 47** 100
ที่มา : จากรายงาน PHIMS **ทารกแฝด





126


รายงานประจ าปี 2562






















จากรายงานโรคติดต่อทางเพศสัมพนธ์ 506 จากวันที่ 1 มกราคม 2562 ถึงวีนที่ 30 กันยายน 2562

พบผู้ปุวยเป็นโรคซิฟิลิส 250 ราย คิดเป็นอัตราปุวย 16.97 ต่อแสนประชากร หนองใน 439 ราย คิดเป็นอตรา

ปุวย 29.80 ต่อแสนประชากร หนองในเทียม 44 ราย คิดเป็นอตราปุวย 2.99 ต่อแสนประชากร กามโรคของ


ต่อมและท่อน้ าเหลือง 3 รายคิดเป็นอตราปุวย 0.20 ต่อแสนประชากร และแผลริมออน 25 รายคิดเป็น
อัตราปุวย 1.70 ต่อแสนประชากร


ตารางที่ 38 จ านวนและอัตราป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อัตราป่วยต่อแสนประชากร
พ.ศ. 2556-2562

ปี 2556 ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 ปี 2562
โรค จ า อัตรา จ า อัตรา จ า อัตรา จ า อัตรา จ า อัตรา จ า อัตรา จ า อัตรา
นวน ป่วย นวน ป่วย นวน ป่วย นวน ป่วย นวน ป่วย นวน ป่วย นวน ป่วย
โรคซิฟิลิส 101 6.95 132 9.16 186 12.69 155 10.58 184 12.77 157 10.9 250 16.97
(Syphilis)
โรคหนองใน
(Gonorrhea) 358 24.65 338 23.46 439 29.96 507 34.6 715 49.62 385 26.72 439 29.8
โรคหนองใน
เทียม
(Non 54 3.72 40 2.78 74 5.05 38 2.59 56 3.89 44 3.05 44 2.99
Gonorrhea
Urethrtis –
NSU)
โรค
แผลริมอ่อน 33 2.27 39 2.71 30 2.05 6 0.41 32 2.22 31 2.15 25 1.7
(Chancroid)
โรคฝีมะม่วง
(Lymphogrmu
loma 10 0.69 1 0.07 6 0.41 1 0.07 4 0.28 1 0.07 3 0.2
Venereum –
LGV)
รวม 1115 76.76 462 31.8 1016 69.94 707 48.25 991 68.77 618 42.89 761 51.66
ที่มา : จากรายงาน 506





127


รายงานประจ าปี 2562

















ื้
ผลการด าเนินงานการติดเชื้อเอชไอวีเฉพาะพนที่ ในกลุ่มประชากรต่างๆ คือ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มา
ฝากครรภ์ จ านวน 1,065 ราย พบติดเชื้อเอชไอวี ๗ ราย คิดเป็นร้อยละ 0.7 ส่วนใหญ่พบในกลุ่มครรภ์ที่สาม

ขึ้นไป จ านวนฝากครรภ์ 270 คน พบการติดเชื้อเอชไอวี 4 คน คิดเป็นร้อยละ 0.38 รองลงมาคือกลุ่มหญิง
ครรภ์แรก 420 คน ติดเชื้อเอชไอวี 2 คน คิดเป็นร้อยละ 0.19 และ ครรภ์ที่ 2 375 คน คิดเป็นร้อยละ 0.09


อตราการติดเชื้อซิฟลิส พบร้อยละ 0.9 และอตราการติดเชื้อไวรัสตับอกเสบบี พบร้อยละ 0.5 กลุ่มโลหิต


บริจาค จ านวน 2,406 คน พบติดเชื้อเอชไอวี 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.04 ติดเชื้อซิฟลิส 4 คน คิดเป็นร้อยละ


0.2 ในกลุ่มนี้ไม่ได้เก็บข้อมูลการติดเชื้อไวรัสตับอกเสบบี กลุ่มพนักงานบริการหญิง เก็บข้อมูลแบบลูกโซ่ โดย
ในหนึ่งคนจะพาเพอนมารับบริการ 3 คน จ านวนตรวจ 270 คน ติดเชื้อเอชไอวี 6 คน คิดเป็นร้อยละ 2.2
ื่
ติดเชื้อซิฟิลิส 1 คน คิดเป็นร้อยละ 0.4
จากรายงานการรณรงค์ เพื่อตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บีและซี จ านวน 200 ราย ดังนี้
- HCV Ab positive จ านวน 2 ราย ผล HCV Ab negative จ านวน 198 ราย
- HBs Ag positive จ านวน 2 ราย HBs Ag negative จ านวน 198 ราย
จากการด าเนินงานเฝูาระวังปูองกันการถ่ายทอดเชื้อไวรัสตับอกเสบบีจากแม่สู่ลูก ในปีงบประมาณ

2562 มีหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด 10,601 ราย ได้รับการตรวจ Hepatitis screening จ านวน 9,799 คน คิดเป็น

ร้อยละ 92.43 จ านวนเด็กแรกเกิด 10,748 คน ได้รับวัคซีนปูองกันไวรัสตับอกเสบบี จ านวน 10,748 คน
คิดเป็นร้อยละ 100 พบเด็กที่เกิดจากมารดา HBsAg (+ve) 35 คน และได้รับ HBIG 28 คน คิดเป็นร้อยละ 80


2. มาตรการในการด าเนินงาน
2.1 การพัฒนาและส่งเสริมการปูองกัน
2.1.1 การบูรณาการความร่วมมือและประสานแผนยุทธศาสตร์

2.1.2 สนับสนุนเครือข่ายโรงพยาบาลในการจัดบริการที่เป็นมิตร
2.1.3 ส่งเสริมการจัดบริการสุขภาพและอนามัยการเจริญพันธุ์

2.1.4 รณรงค์ปูองกันโรคติดต่อทางเพศสัมพนธ์และเอดส์ในวันส าคัญ เช่น วันเอดส์โลก
(VCT’s Day) วันแห่งความรักและวันลอยกระทง
2.1.5 ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย

2.2 การพัฒนาคุณภาพบริการดูแลรักษา
2.2.1 ด าเนินการพัฒนาระบบและคุณภาพบริการปรึกษา





128


รายงานประจ าปี 2562



2.2.2 พัฒนาระบบการดูแลรักษา และส่งต่ออย่างมีคุณภาพ

2.3 การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการสุขภาพและการรักษา
2.3.1 การเฝูาระวังปูองกันและติดตามสถานการณ์การเกิดเชื้อดื้อยา โดยให้บริการรักษา

อย่างมีมาตรฐาน การใช้ยาที่มีคณภาพ และส่งเสริมปูองกันการแพร่ระบาด
2.4 สนับสนุนหน่วยบริการในการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและการมีส่วนร่วมของแกนน า


3. ผลการด าเนินงาน
ื่
มีผู้เข้ารับบริการปรึกษาและรับบริการตรวจเลือดเพอหาเชื้อเอชไอวีทั้งหมด 3,348 ราย พบติดเชื้อ
เอชไอวี 67 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.0 และสมัครใจรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ร้อยละ 46.27 และอตรา

การติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเด็กที่เกิดจากแม่ติดเชื้อเอชไอวี จ านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ ๒.๖๓ ผลการ
ด าเนินงานกามโรค พบอัตราปุวย 30.09 ต่อแสนประชากร ไม่พบมีผู้ปุวยเสียชีวิตจากกามโรคเลย
จากการส ารวจพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มนักเรียน กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน ชั้น
ม.2, ม.5 และ ปวช.ชั้นปีที่ 2 จ านวน 4,465 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามการเฝูาระวังพฤติกรรม

ที่สัมพนธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี ส านักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ด้วยวิธีการตอบผ่านแอพปลิเคชั่น


ในโทรศัพท์มือถือ พบอัตราการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มวัยรุ่นชายในการมีเพศสัมพนธ์ครั้งสุดท้ายร้อยละ 83.7
วัยรุ่นหญิงร้อยละ 82.2


ตารางที่ 39 ตารางสรุปการใช้ถุงยางอนามัยของเด็กและเยาวชน จังหวัดศรีสะเกษ ในการมีเพศสัมพันธ์
ครั้งล่าสุด ปี 2562

ในช่วง12เดือนที่ผ่านมา การใช้ถุงยางอนามัย
ชั้น มีเพศสัมพันธ์ ในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด ร้อยละ
(คน) (คน)
นักเรียนชาย

มัธยมศึกษาปี่ที่ 2 1 1 100
นักเรียนหญิง
มัธยมศึกษาปี่ที่ 2 1 1 100

นักเรียนชาย
มัธยมศึกษาปี่ที่ 5 59 54 93.1
นักเรียนหญิง 107 93 86.91
มัธยมศึกษาปี่ที่ 5

นักเรียนชาย
อาชีวศึกษาปี่ที่ 2 354 296 83.61
นักเรียนหญิง

อาชีวศึกษาปี่ที่ 2 333 290 87.1
รวม 854 735 86.06
วัยรุ่นชาย 413 351 84.99
วัยรุ่นหญิง 441 384 87.08






129


รายงานประจ าปี 2562



3.1 ผลการด าเนินงานจากคลินิกเอื้อรัก

3.1.1 มีผู้มาใช้บริการตรวจกามโรค จ านวน 819 ราย จ าแนกตามประเภท ดังนี้
3.1.1.1 ชายนักเที่ยวทั่วไป จ านวน 153 ราย พบหนองใน 4 ราย หนองในเทียม
4 ราย ซิฟิลิส 1 ราย เชื้อรา 1 ราย เริม 3 ราย อื่นๆ 50 ราย
3.1.1.2 ประชาชนหญิงทั่วไป จ านวน 94 ราย พบโรคอื่นๆ 15 ราย

3.1.1.3 พนักงานบริการหญิง จ านวน 406 ราย พบติดเชื้อเอชไอวี 10 ราย
3.1.1.4 กลุ่มชายรักชาย จ านวน 114 ราย ไม่พบโรค
3.1.2 ผู้มาใช้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป 204 ราย ท าแผล 32 ราย


3.1.3 เจาะเลือดในผู้ต้องขังเรือนจ าจังหวัดศรีสะเกษ และเรือนจ าอาเภอกันทรลักษ์ จ านวน
1,509 ราย พบ HIV negative 1,499 ราย positive จ านวน 10 ราย ส่งต่อเข้าสู่ระบบ Hep B negative
1,509 ราย ตรวจหาเชื้อซิฟลิส พบ negative 1,500 ราย positive 9 ราย รายที่positive ให้การรักษา

ติดตามจนหาย
3.1.4 จ่ายนมสูตร 1 (ส าหรับเด็กอายุ 1-6 เดือน) จ านวน 193 ลัง นมสูตร 2 (ส าหรับเด็ก

อายุ 6-18 เดือน) จ านวน 435 ลัง และ 5 กล่อง
3.1.5 จ่ายถุงยางอนามัย แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั่วไป จ านวน 3,330 คน แก่หน่วยงานทาง
ราชการ จ านวน 15 แห่ง รวมจ่ายถุงยางอนามัย เบอร์ 49 จ านวน 15,000 ชิ้น ถุงยางอนามัย เบอร์ 52

จ านวน 58,000 ชิ้น ถุงยางอนามัย เบอร์ 54 จ านวน 15000 ชิ้น สารหล่อลื่น จ านวน 15,000 ชิ้น
จากรายงานการรณรงค์ เพื่อตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บีและซี จ านวน 200 ราย ดังนี้
- HCV Ab positive จ านวน 2 ราย ผล HCV Ab negative จ านวน 198 ราย
- HBs Ag positive จ านวน 2 ราย HBs Ag negative จ านวน 198 ราย

จากการด าเนินงานเฝูาระวังปูองกันการถ่ายทอดเชื้อไวรัสตับอกเสบบีจากแม่สู่ลูก ใน

ปีงบประมาณ 2562 มีหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด 10,601 ราย ได้รับการตรวจ Hepatitis screening จ านวน

9,799 คน คิดเป็นร้อยละ 92.43 จ านวนเด็กแรกเกิด 10,748 คน ได้รับวัคซีนปูองกันไวรัสตับอกเสบบี
จ านวน 10,748 คน คิดเป็นร้อยละ 100 พบเด็กที่เกิดจากมารดา HBsAg (+ve) จ านวน 35 คน และได้รับ

HBIG จ านวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 80

4. การวิเคราะห์สภาพปัญหาที่พบ (เชิงคุณภาพ)
4.1 การเคลื่อนย้ายแรงงาน ท าให้ยากต่อการติดต่อ

4.2 จากการให้บริการรับยาต้านไวรัสในทุกค่าCD4 ปัญหาที่ตามมาคือเกิดการดื้อยา
4.3 การด าเนินงานในกลุ่มผู้ให้บริการทางเพศควบคุมยาก เพราะไม่มีคนเปิดเผย(เนื่องด้วยกฎหมาย)
4.4 รายงานเยอะและซ้ าซ้อน ผู้รับผิดชอบในระดับโรงพยาบาลมีภาระงานมาก

4.5 นมที่สนับสนุนส าหรับเด็กที่เกิดจากแม่ติดเชื้อเอชไอวีไม่เพียงพอ
4.6 พยาบาลที่ดูแลคลินิกเอื้อรักยังไม่เคยผ่านการอบรมเวชปฏิบัติ
4.7 ไม่ได้รับการสนับสนุนถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นจากส่วนกลาง

5. แนวทางการแก้ปัญหา/แนวทางการด าเนินงานในปีต่อไป

5.1 ควรรวบรวมรายงานเป็นหนึ่งเดียว






130


รายงานประจ าปี 2562



งานควบคุมวัณโรค


ตัวชี้วัด : 1. อัตราการรักษาส าเร็จของผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่ มากกว่าร้อยละ 85

2. ความครอบคลุมการขึ้นทะเบียนรักษาผู้ป่วยวัณโรค ร้อยละ 82.5
3. อัตราป่วยตายไม่เกินร้อยละ 5
1. สถานการณ์ สภาพปัญหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

องค์การอนามัยโลกได้จัดล าดับปัญหาวัณโรคของประเทศไทยเป็น 1 ใน 22 ประเทศ ที่มีจ านวนผู้ปุวย

วัณโรคสูง ผู้ปุวยวัณโรคที่ติดเชื้อเอชไอวีสูง และมีผู้ปุวยวัณโรคดื้อยาหลายขนาดสูงติดอนดับ 1 ใน 14
ประเทศ อัตราการรักษาส าเร็จของประเทศไทยร้อยละ 80 ซึ่งยังต่ ากว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกก าหนด คือ
ร้อยละ 85 ประเทศไทยตั้งเปูาหมายในความส าเร็จของการดูแลรักษาผู้ปุวยวัณโรคที่ร้อยละ 90 ปัจจัยหลัก
ส าคัญ 3 ประการ ที่จะท าให้ด าเนินการไม่ส าเร็จตามวัตถุประสงค์ คือ 1. ผู้ปุวยวัณโรคเสียชีวิตระหว่างการ

รักษาสูง 2. การขาดนัดรับยาอย่างต่อเนื่อง และ 3. ไม่มีการติดตามประเมินผลการรักษา

จังหวัดศรีสะเกษมีการเร่งรัดการด าเนินงานวัณโรคตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2552 อตราการรักษาส าเร็จ
มากกว่าร้อยละ 85 แต่ก็ยังไม่ถึงร้อยละ 90 ยังพบผู้ปุวยวัณโรคเสียชีวิตสูง >ร้อยละ 5 และยังพบผู้ปุวยวัณโรค

ดื้อยาปีละ 10-20 รายต่อปี ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงคุณภาพของระบบบริการสาธารณสุข และควบคุมวัณโรคใน
การตัดวงจรการแพร่กระจายเชื้อวัณโรค และปูองกันเชื้อยังมีปัญหา ผลการด าเนินงานวัณโรค ปีงบประมาณ

2561 อตราความครอบคลุมการขึ้นทะเบียนรักษา (Treatment coverage) ร้อยละ 81.73 อตราการรักษา



ส าเร็จร้อยละ 87.08 อตราเสียชีวิตร้อยละ 8.78 อตราการขาดการรักษาร้อยละ 2.39 ดังนั้นจังหวัดศรีสะเกษ
ื่
จึงได้จัดท าโครงการปูองกันควบคุมวัณโรคจังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562 ขึ้น เพอเร่งรัดก ากับติดตาม
พฒนาระบบบริการในการด าเนินงานปูองกันควบคุมวัณโรคจังหวัดศรีสะเกษ บรรลุตามวัตถุประสงค์ท าให้

วัณโรคไม่เป็นปัญหาของจังหวัดอีกต่อไป


2. มาตรการในการด าเนินงาน
จังหวัดศรีสะเกษได้ก าหนดนโยบายและแนวทางในการเร่งรัดด าเนินงานวัณโรคให้บรรลุตามตัวชี้วัด
ดังนี้
2.1 ติดตามผลการด าเนินงาน โดย นพ.สสจ.ศรีสะเกษ ในการประชุม คปสจ. ทุกเดือน

2.2 ติดตามในกลุ่มผู้บริหารโดยท่าน ผชชว.2 เป็นผู้ก ากับติดตาม
2.3 ผู้ประสานงานวัณโรคระดับจังหวัดวิเคราะห์สถานการณ์ ในทีม SAT เสนอผู้บริหาร ทุกวันจันทร์
2.4 เร่งรัดการค้นหาผู้ปุวยวัณโรครายใหม่ในกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม โดยการเอกซเรย์ปอด

2.4.1 บุคลากรสาธารณสุขในระดับอาเภอ ก าหนดให้ผู้รับผิดชอบงานในระดับอาเภอ ไปรับ


การเอกซเรย์ปอด ณ โรงพยาบาลระดับอ าเภอ
2.4.2 การคัดกรองค้นหาผู้ปุวยวัณโรคในเรือนจ า 100 %
2.4.3 ผู้ปุวยโรคเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวี ต้องได้รับการตรวจด้วย เอกซเรย์ 100 %
2.4.4 ผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านผู้ปุวยวัณโรค ใช้ข้อมูลผู้ปุวยวัณโรคย้อนหลัง 5 ปี, ผู้ปุวย

โรคเบาหวานที่ผลการตรวจ Hb A1C > 7, ผู้สูงอายุ > 65 ปีที่มีโรคร่วม และแรงงานต่างชาติ
2.5 การขึ้นทะเบียนรักษา ต้องใช้โปรแกรม NTIP
2.6 ใช้มาตรการในการก ากับติดามการรักษาโดยกระบวนการ 2-2-2 ดังนี้







131


Click to View FlipBook Version