The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร ปีการศึกษา 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jiajiling, 2022-11-24 02:14:47

รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร ปีการศึกษา 2564

รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร ปีการศึกษา 2564

Keywords: ผลการตรวจประเมิน

AG KKU

2564
2022

รายงานผลการตรวจประเมิน
คุณภาพภายใน

ระดับหลักสูตร

รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน
ประจำปกี ารศึกษา 2564

(ระหวา่ งวันท่ี 1 กรกฎาคม 2564 – 30 มิถนุ ายน 2565)

หลักสตู รวิทยาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาโรคพชื วทิ ยา
คณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแกน่

วนั ท่ี 29 กันยายน พ.ศ.2565

รายชื่อคณะกรรมการ

ลำดบั รายชื่อคณะกรรมการ ตำแหน่ง สังกดั หลักสูตร/สาขา คณะ

1 ผศ.ดร.ภาวดี ภักดี ประธาน (สัตวศาสตร์) เกษียณอายรุ าชการ

2 ผศ.ดร.นวลฉวี แสงชัย กรรมการ (การจดั การ) เกษียณอายุราชการ

3 ผศ.ดร.นภิ า นาสินพร้อม กรรมการ เทคโนโลยกี ารผลิตสตั ว์ มหาวทิ ยาลยั กาฬสนิ ธุ์

4 นายเอกชัย คนคดิ เลขานุการ - คณะเกษตรศาสตร์

หมายเหตุ
กรณุ าระบุข้อมลู ใหถ้ ูกตอ้ งและครบถว้ น กองพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาจะบนั ทกึ รายชอื่ ผตู้ รวจประเมนิ ทท่ี ำหน้าที่ตรวจประเมนิ
แต่ละหลกั สูตรเพือ่ จัดเกบ็ เปน็ ฐานขอ้ มลู ผตู้ รวจประเมนิ และผู้ทำหนา้ ทต่ี รวจประเมินหลักสูตรมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่

ส่วนที่ 1 บทนำ

1.1 ข้อมลู ของหลักสตู รโดยสงั เขป/ประวตั ิความเปน็ มาของหลักสูตร
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโรคพืชวิทยา (แผน ก แบบ ก 1 และ แผน ก แบบ ก 2) เป็น

หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560 ปรับปรุงจากหลักสูตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาโรคพืช พ.ศ. 2555
สภามหาวิทยาลัย อนุมัติหลักสูตรในการประชุมคร้ังที่ 8/2560 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 เปิดสอน ภาคการศึกษาท่ี
1 ปีการศกึ ษา 2560

1) ปรชั ญาของหลกั สตู ร
หลกั สตู รวทิ ยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโรคพืชวทิ ยา (หลกั สตู รปรับปรงุ พ.ศ. 2560) มุ่งเน้นที่จะผลิต

มหาบณั ฑติ ทมี่ ีความรูค้ วามเขา้ ใจเชิงลกึ ในหลักการและทฤษฎีด้านโรคพชื ให้มีความสามารถในการทาวิจัยเพื่อให้เกิด
ความรู้ใหม่หรือการคน้ คว้ารวบรวมข้อมลู ท่ีมอี ยู่แลว้ เพ่ือการวิเคราะห์ปญั หา และประยกุ ต์ความรเู้ พ่ือการแก้ไขปัญหา
ด้านโรคพืชที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีมาตรฐาน ทั้งด้านผลผลิตและด้านจริยธรรม สามารถ
ถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้แก่เกษตรกร นักวิชาการ นักเรียนนักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาการ
เกษตร และการจดั การปัญหาอันเนื่องมาจากโรคพชื และมภี าวะผนู้ าในการสง่ เสริมใหม้ ีการประพฤติปฏิบัติตนอย่างมี
คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ

2) วัตถุประสงค์ของหลกั สูตร
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาโรคพืชวทิ ยา (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือ

ผลติ มหาบณั ฑติ ทีม่ ีคุณสมบตั ิดังน้ี
(1) มีความรู้ความเขา้ ใจเชิงลึกในหลักการและทฤษฎี ในสาขาวิชาโรคพชื วิทยา และมีความสามารถประยกุ ต์
ความรสู้ าขาวชิ าโรคพชื วิทยา ในการทาวิจัยหรอื การปฏบิ ัตงิ านในสาขาวชิ าชพี ในระดบั สูงได้
(2) มีความสามารถในการวิจัยที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาความรู้ใหม่ และค้นคว้ารวบรวมข้อมูลทีม่ ีอยู่แล้วมา
วเิ คราะหเ์ พือ่ แก้ไขปัญหาด้านโรคพชื

(3) มคี วามสามารถในการประยุกตใ์ ชผ้ ลงานวจิ ัยบูรณาการร่วมกบั สาขาวชิ าอน่ื ท่ีเกยี่ วข้อง ในการพัฒนาการ

เกษตรและจดั การปญั หาอนั เนือ่ งมาจากโรคพืช

(4) มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ และสังเคราะหอ์ ยา่ งเปน็ ระบบ (แบบครบวงจร)

(5) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดการสมัยใหม่ ที่จะนาไปสู่การพัฒนาความรู้

และการนาไปใชป้ ระโยชน์ไดใ้ นวงกวา้ ง หรอื การตอ่ ยอดไปส่กู ารสร้างนวัตกรรมใหม่

(6) มีความสามารถในการส่ือสาร การสอน/ถา่ ยทอดความรูด้ ้านโรคพืชวทิ ยา

(7) มที ักษะการทางานเป็นทีมรว่ มกบั ผู้อืน่ และมีจติ อาสา เพอ่ื ประโยชนส์ ่วนรวม

(8) มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการ/วิชาชีพ และมีภาวะผู้นาในการส่งเสริมให้มีการ

ประพฤติปฏิบตั ิตนอยา่ งมคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการและวชิ าชีพ

3) ผลการเรียนรู้ของหลักสูตร (Program Learning Outcomes, PLOs)
(1) สามารถจัดการปัญหาในการปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาการและวิชาชีพ และเป็นผู้นำหรือมีส่วนริเริ่ม
ให้มีการทบทวนและวินิจฉัยปัญหาทางจรรยาบรรณวิชาการและวิชาชีพได้อย่างเหมาะสมตาม
สถานการณ์
(2) มีภาวะผ้นู ำในการสง่ เสริมให้มีการประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นตามกรอบคณุ ธรรมและจริยธรรมของบัณฑิต มข.
ได้แก่ การมีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เข้าใจในความแตกต่างหลากหลายทาง
วฒั นธรรมและสงั คม มจี ติ สาธารณะ มคี วามรกั และภูมิใจในทอ้ งถน่ิ สถาบนั และประเทศชาติ
(3) มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหลักการและทฤษฎีสำคัญในสาขาวิชาโรคพืชวิทยา และสามารถ
นำมาประยุกตใ์ นการศึกษาคน้ ควา้ ทางวชิ าการหรอื การปฏบิ ัติงานในวิชาชพี
(4) สามารถทำการวิจัยหรือปฏิบัติงานในสาขาวิชาการหรือวิชาชีพได้อย่างลึกซึ้ง โดยการพัฒนาความรู้
ใหมๆ่ หรอื การประยุกต์วิธีปฏบิ ตั ิงานใหม่ๆ ได้
(5) มีความรคู้ วามเข้าใจในพัฒนาการใหมๆ่ ในสาขาวชิ า รวมถึงงานวิจัยที่มผี ลกระทบตอ่ การพฒั นาความรู้
ใหม่หรือการปฏิบัติงานในสาขาวิชาการหรือวิชาชีพในปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นใน
อนาคต
(6) สามารถสังเคราะหแ์ ละประเมินผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการในสาขาวิชา และพัฒนาความรูห้ รือ
แนวความคดิ ใหม่ๆโดยบูรณาการเขา้ กับความรเู้ ดิมไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์
(7) สามารถดำเนินโครงการศึกษาที่สำคัญหรือโครงการวิจัยทางวิชาการได้ด้วยตนเอง และหาข้อสรุปท่ี
สมบรู ณ์เพือ่ ขยายองค์ความรหู้ รือแนวทางปฏิบตั ิในวชิ าชพี ไดอ้ ย่างมีนัยสำคัญ
(8) มีภาวะผู้นำ รับผิดชอบในการดำเนินงานของตนเอง และร่วมมือกับผู้อื่นในการจัดการข้อโต้แย้ง หรือ
ปัญหาทางวิชาการได้อย่างเหมาะสมตามโอกาสและสถานการณ์ เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทำงาน
ของกล่มุ
(9) มีความรับผิดชอบในการเรียนรู้ รวมทั้งวางแผนพัฒนาและปรับปรุงตนเองให้มีประสิทธิภาพในการ
ทำงานระดับสงู ได้
(10) มคี วามสามารถในการใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรห์ รือคณิตศาสตร์หรือกระบวนการวิจัยในการคิด
วิเคราะหห์ รือแกป้ ญั หาการปฏบิ ัติงานหรอื ปัญหาทางวชิ าการทีส่ ลับซบั ซอ้ นได้
(11) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์และสารสนเทศในการสือ่ สาร การแสวงหาความรู้ด้วย
ตนเอง และการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทางวชิ าการในรปู แบบต่างๆเพอ่ื ประโยชน์ในการเรียนรู้ของผอู้ ืน่ ได้

1.2 วธิ ีการประเมนิ
(1) การวางแผนการประเมินกอ่ นและหลังการตรวจประเมนิ หลกั สตู ร
(1.1) ศึกษารายงานการประเมินตนเองของหลักสูตรหลกั สูตรวิทยาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าโรคพชื วิทยา
(1.2) คณะกรรมการประชุมทาความเข้าใจเกณฑ์และแนวทางการประเมินรว่ มกนั
(1.3) คณะกรรมการขอข้อมลู เอกสารหลกั ฐานและสมั ภาษณ์เพิม่ เติมในกรณีท่ีข้อมลู ใน SAR ไมช่ ดั เจน
(1.4) คณะกรรมการดาเนินงานตรวจประเมิน และสัมภาษณผ์ ู้ทเี่ กยี่ วขอ้ งแบบ Onsite
(1.5) คณะกรรมการตรวจประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาภายในสรุปผลการประเมนิ พร้อมท้งั จดั ทารายงานการ
ประเมินผล
(1.6) ประธานกรรมการส่งผลการประเมนิ ให้คณะเกษตรศาสตร์ (จัดทารายงานการตรวจประเมนิ ฯ ตาม
แบบฟอรม์ ภายใน 15 วันทาการ)
(2) วธิ ีการตรวจสอบและความนา่ เชอื่ ถือของข้อมลู
(2.1) ตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากเอกสารหลกั ฐานตามรายงานในรายงานการประเมนิ ตนเอง (SAR) ของ
หลกั สูตรวทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าโรคพืชวิทยา และหลกั ฐานท่เี กย่ี วข้อง ตามความสอดคลอ้ ง
และตามเกณฑก์ ารประเมนิ AUN-QA V.4
(2.2) ตรวจสอบจากการสัมภาษณผ์ ูท้ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั หลักสตู รวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโรคพชื วทิ ยา
(2.3) ตรวจเยีย่ มสภาพแวดลอ้ ม และสถานทอี่ านวยความสะดวกในการจดั การเรียนการสอนของหลกั สูตรวิทยา
ศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าโรคพชื วิทยา

(3) ผู้ใหข้ ้อมูลในวันตรวจเย่ยี มหลกั สูตร เช่น อาจารย์ผ้รู บั ผดิ ชอบหลักสตู ร/อาจารย์ประจำหลกั สตู ร อาจารย์
ผู้สอน ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ผูเ้ รยี น) (โปรดระบรุ ายชือ่ -สกุล และตำแหนง่ )

อาจารยอ์ าจารยผ์ ู้รับผดิ ชอบหลักสตู รและประจาหลกั สตู ร

1. ผศ.ดร. อนันต์ วงเจริญ อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสตู ร

2. ผศ.ดร. สุวติ า แสไพศาล อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลกั สตู ร

3. อ.ดร. กานตส์ ริ ิ จินดาปณั ณาพัฒน์ อาจารย์ประจาหลักสตู ร

4. อ.ดร. ชเนรินทร์ ฟา้ แลบ อาจารยป์ ระจาหลักสตู ร

นักศกึ ษาปจั จุบัน

1. นางสาวจุฑามาศ สอนเมือง 2. นายอลงกรณ์ นนทภา

3. นางสาวพชร เพ็งพนั ธุ์

บคุ ลากรสายสนบั สนุน

1. นายกฤษฎา โพธ์เิ รอื งเดช นักวิชาการเกษตร

2. นายปฏภิ าณ ทมถา พนกั งานการเกษตร

ศษิ ย์เก่า

1. นางสาวปทั มวรรณ มณสี วุ รรณ 2. นายวรี กรณ์ แสงไสย์

ผู้ใชบ้ ัณฑติ

1. นายชะนะกร วเิ ศษ ตาแหน่ง กรรมการบรหิ าร บริษทั อดมั ส์ เอ็นเตอร์ไพรเซส จากัด

สว่ นท่ี 2 บทสรปุ ผู้บรหิ ารและสรปุ ผลการประเมินในภาพรวม

จดุ เด่น
1. มกี ารจดั การเรียนสอนแบบ Active Learning ทสี่ ามารถพฒั นาผู้เรียนใหม้ ีสมรรถนะด้านความรคู้ วามเชี่ยวชาญ
ในสาขาวชิ าที่ตอบสนองตอ่ ความต้องการของผ้ใู ชบ้ ณั ฑติ
2. มีการจัดกจิ กรรมโครงการสร้างเสรมิ ประสบการณใ์ หน้ กั ศึกษาในการตรวจแปลงผลิตเมล็ดพนั ธ์ุท่ีสอดคลอ้ ง
เชื่อมโยงกับ CLOs ของรายวิชา สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงานในสายอาชพี และส่งผลต่อการได้
งานทาของนักศกึ ษา
3. มีระบบกากับดูแลนกั ศึกษาทงั้ ทางดา้ นวชิ าการและการใชช้ วี ติ ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมโครงการเสริมทกั ษะ
และเพ่ิมประสบการณก์ ารเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย สง่ ผลให้นักศึกษามคี วามความพึงพอใจและผูกพนั ตอ่ หลกั สตู ร
ประกอบกับผู้ใชบ้ ัณฑติ มีความพงึ พอใจในการทางานและความสามารถของบณั ฑติ
4. มคี วามพรอ้ มดา้ นหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร เครอื่ งมือสาหรบั การเรยี นการสอน การวิจัย และบริการวชิ าการ

จดุ ทคี่ วรพัฒนา
1. ควรมกี ารพัฒนาผลลพั ธ์การเรยี นรตู้ ามกระบวนการของ Outcome Based Education เชน่ การออกแบบ
หลกั สตู รแบบ Backward Curriculum Design การใช้ Learning Taxonomy สาหรบั PLOs (Program
Learning Outcomes) และ CLOs (Course Learning Outcomes)
2. ควรทบทวนวธิ ีการวดั ประเมนิ ผลลพั ธก์ ารเรยี นร้ทู ห่ี ลากหลาย รวมถงึ มีการใช้ Rubrics และ Marking
Schemes และมี Validity, Reliability และ Fairness ในการวัดประเมิน CLOs นาสกู่ ารวัดการบรรลุ PLOs
3. ควรมกี ารกาหนดตัวชีว้ ัดผลการดาเนนิ งาน (Output & Outcomes) เพอ่ื การวิเคราะห์ ตดิ ตาม และ
Benchmarked เพ่ือการปรับปรงุ
4. มหาวิทยาลยั ควรกาหนดปรชั ญาการศกึ ษา และนามาใชเ้ ปน็ แนวทางจัดการเรยี นการสอน และการจัดกจิ กรรม
เสริมหลักสตู รเพือ่ พฒั นาผูเ้ รยี นสู่ผลลพั ธก์ ารเรยี นร้ทู ่ีคาดหวัง (PLOs)

ส่วนที่ 3 ผลประเมนิ คุณภาพหลักสูตร

3.1 องคป์ ระกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน ข้อที่ประเมิน ผา่ น ระบุเหตผุ ล กรณที ีไ่ ม่
ขอ้ เกณฑ์ () /ไม่ผา่ น ผ่านเกณฑ์การประเมิน

1 • จานวนอาจารย์ผู้รบั ผิดชอบหลกั สตู ร

- ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 คน และ  ผา่ น
- เป็นอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรเกนิ กว่า 1 หลักสตู รไมไ่ ด้ และ

- ประจาหลักสตู รตลอดระยะเวลาทีจ่ ัดการศกึ ษาตามหลกั สตู รนั้น

2 • คุณสมบัติของอาจารยผ์ ู้รบั ผดิ ชอบหลกั สตู ร

- คุณวฒุ ริ ะดบั ปริญญาเอกหรือเทยี บเท่า หรือขั้นตา่ ปรญิ ญาโท  ผา่ น
หรือเทียบเท่าทีม่ ตี าแหน่งรองศาสตราจารยข์ ึน้ ไป

- มผี ลงานทางวชิ าการอยา่ งน้อย 3 รายการในรอบ 5 ปยี อ้ นหลัง

โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเปน็ ผลงานวจิ ัย

3 • คณุ สมบตั ขิ องอาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร

- คณุ วฒุ ขิ ัน้ ตา่ ปรญิ ญาโทหรือเทียบเท่า  ผ่าน
- มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการในรอบ 5 ปียอ้ นหลัง

โดยอยา่ งน้อย 1 รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวิจยั

4 • คณุ สมบตั ขิ องอาจารย์ผู้สอน

• อาจารยป์ ระจา

- คณุ วุฒริ ะดบั ปรญิ ญาโทหรือเทยี บเทา่ ในสาขาวชิ าน้นั  ผ่าน
หรือสาขาวชิ าทส่ี มั พนั ธก์ นั หรือสาขาวชิ าของรายวิชาทส่ี อน

- ต้องมีประสบการณด์ า้ นการสอนและมผี ลงานทางวิชาการ

อย่างนอ้ ย 1 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง

• อาจารย์พิเศษ

- คุณวุฒริ ะดบั ปริญญาโทหรอื เทยี บเท่าในสาขาวชิ านนั้ หรอื

สาขาวชิ าทส่ี ัมพันธก์ นั หรือสาขาวชิ าของรายวชิ าท่ีสอน

- มปี ระสบการณ์ทางานท่เี กยี่ วขอ้ งกับวิชาทสี่ อนและมีผลงาน - -
ทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 1 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง

- ทั้งน้ี มชี ่วั โมงสอนไม่เกินรอ้ ยละ 50 ของรายวิชา โดยมีอาจารย์

ประจาเป็นผรู้ ับผดิ ชอบรายวิชานน้ั

5 • คุณสมบตั ขิ องอาจารยท์ ี่ปรึกษาวทิ ยานพิ นธ์หลกั

- เป็นอาจารยป์ ระจาหลกั สตู รที่มคี ณุ วุฒิปรญิ ญาเอกหรอื

เทียบเท่า หรอื ข้นั ตา่ ปริญญาโทหรอื เทียบเท่าและดารง  ผ่าน
ตาแหน่งทางวิชาการไมต่ ่ากว่ารองศาสตราจารย์ในสาขาวิชา

นัน้ หรอื สาขาวชิ าทีส่ ัมพันธ์กัน และ

- มีผลงานทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการในรอบ 5 ปียอ้ นหลงั

ขอ้ เกณฑ์ ขอ้ ที่ประเมิน ผา่ น ระบุเหตผุ ล กรณีท่ีไม่
โดยอยา่ งนอ้ ย 1 รายการตอ้ งเป็นผลงานวิจยั () /ไมผ่ า่ น ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ

6 • คุณสมบตั ิของอาจารยท์ ี่ปรึกษาวิทยานิพนธร์ ่วม (ถ้าม)ี

• อาจารยป์ ระจา

- คุณวฒุ ริ ะดับปริญญาเอกหรือเทยี บเท่า หรอื ขนั้ ตา่ ปรญิ ญาโท

หรือเทยี บเทา่ และดารงตาแหนง่ ทางวิชาการไม่ตา่ กว่ารอง

ศาสตราจารย์ในสาขาวิชาน้ัน หรอื สาขาวิชาทีส่ ัมพันธ์กัน

- มีผลงานทางวชิ าการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการในรอบ 5 ปียอ้ นหลงั

โดยอยา่ งนอ้ ย 1 รายการต้องเป็นผลงานวิจัย

•ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก NA NA
- คณุ วุฒิระดับปรญิ ญาเอกหรอื เทยี บเท่า

- มีผลงานทางวชิ าการทไ่ี ดร้ ับการตพี ิมพ์เผยแพรใ่ นระดบั ชาติ ซง่ึ

ตรงหรือสัมพนั ธก์ ับหัวขอ้ วิทยานพิ นธ์หรอื การค้นควา้ อสิ ระไม่

น้อยกว่า 10 เรือ่ ง

- หากไม่มคี ณุ วุฒหิ รอื ประสบการณ์ตามท่ีกาหนดจะตอ้ งมีความรู้

ความเชยี่ วชาญและประสบการณส์ ูงเปน็ ท่ยี อมรบั ซงึ่ ตรงหรอื

สัมพนั ธ์กบั หัวข้อวทิ ยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอสิ ระ โดยผา่ น

ความเห็นชอบของสภาสถาบนั และแจง้ กกอ. ทราบ

7 • คณุ สมบัตขิ องอาจารยผ์ ู้สอบวทิ ยานพิ นธ์

• อาจารย์ผสู้ อบวิทยานพิ นธ์ ประกอบด้วย อาจารยป์ ระจา

หลกั สตู รและผ้ทู รงคณุ วุฒจิ ากภายนอกไมน่ ้อยกวา่ 3 คน ประธาน

ผ้สู อบวิทยานิพนธต์ ้องไมเ่ ป็นทีป่ รกึ ษาวทิ ยานพิ นธห์ ลกั หรือที่

ปรกึ ษาวิทยานิพนธ์ร่วม

• อาจารย์ประจาหลกั สตู ร

- คุณวฒุ ริ ะดบั ปรญิ ญาเอกหรือเทยี บเท่า หรอื ขั้นต่าปริญญาโท

หรอื เทยี บเท่าและดารงตาแหนง่ ทางวชิ าการไมต่ ่ากว่ารอง

ศาสตราจารย์ในสาขาวิชานน้ั หรอื สาขาวชิ าทีส่ มั พนั ธ์กัน  ผา่ น
- มีผลงานทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง

โดยอยา่ งน้อย 1 รายการต้องเป็นผลงานวจิ ัย

• ผูท้ รงคุณวฒุ ิภายนอก

- คุณวุฒิระดบั ปริญญาเอกหรอื เทยี บเท่า

- มีผลงานทางวิชาการที่ไดร้ บั การตพี มิ พเ์ ผยแพรใ่ นระดบั ชาติ ซึ่ง

ตรงหรือสมั พนั ธ์กับหัวข้อวิทยานพิ นธ์ไมน่ ้อยกวา่ 10 เร่อื ง

- หากไมม่ คี ณุ วฒุ หิ รอื ประสบการณ์ตามทีก่ าหนดจะต้องมีความรู้

ความเชยี่ วชาญและประสบการณส์ ูง เปน็ ที่ยอมรบั ซ่ึงตรง

ข้อ เกณฑ์ ข้อท่ปี ระเมิน ผ่าน ระบุเหตผุ ล กรณที ่ไี ม่
() /ไม่ผา่ น ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ

หรือสมั พันธก์ บั หวั ข้อวิทยานพิ นธ์

โดยผา่ นความเห็นชอบของสภาสถาบนั และแจ้ง กกอ. ทราบ

8 • การตีพมิ พเ์ ผยแพรผ่ ลงานของผูส้ าเรจ็ การศกึ ษา

• แผน ก1

- ต้องไดร้ ับการยอมรบั ใหต้ ีพมิ พ์ในวารสารระดับชาติหรือ

นานาชาตทิ ่มี คี ณุ ภาพตามประกาศของ กกอ.

• แผน ก2  ผา่ น
- ตอ้ งได้รบั การยอมรับใหต้ พี ิมพ์ในวารสารระดับชาติหรอื

นานาชาติท่มี คี ณุ ภาพตามประกาศของ กกอ. หรอื นาเสนอต่อ

ท่ีประชมุ วิชาการ

โดยบทความทนี่ าเสนอได้รบั การตพี ิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจาก

การประชมุ ทางวชิ าการ (Proceeding)

9 • ภาระงานอาจารยท์ ่ปี รกึ ษาวทิ ยานิพนธใ์ นระดับบัณฑิตศึกษา  ผา่ น
• วทิ ยานพิ นธ์

- อาจารยค์ ณุ วุฒิปรญิ ญาเอก 1 คน ต่อ นกั ศกึ ษา 5 คน

10 ⚫ การปรับปรงุ หลักสตู รตามรอบระยะเวลาที่กาหนด

- ตอ้ งไม่เกิน 5 ปี ตามรอบระยะเวลาของหลกั สตู ร หรืออยา่ ง  ผา่ น

นอ้ ยทุกๆ 5 ปี

จำนวนข้อทปี่ ระเมิน 9 ผลการประเมิน
จำนวนขอ้ ทผี่ ่านการประเมนิ  หลักสูตรได้

ผา่ น มาตรฐาน

 หลักสตู รไม่ได้
มาตรฐาน

หมายเหตุอ่นื ๆ (ถ้าม)ี

ประเมนิ 9 ขอ้ เนอ่ื งจาก ข้อ 6 ไม่มี อาจารย์ทีป่ รกึ ษาวทิ ยานพิ นธ์ร่วม

3.2 จดุ เดน่ และโอกาสในการพัฒนาองคป์ ระกอบที่ 1
(1) ขอ้ เสนอแนะเพอื่ การปรบั ปรุงหลักสตู รให้เปน็ ไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลุมประเดน็
การตรวจสอบ ประเมิน ใหห้ ลักสูตรมีมาตรฐานอยา่ งตอ่ เนอื่ งและยัง่ ยนื

ดว้ ยมีประกาศคณะกรรมการมาตรฐานอดุ มศกึ ษา เรอ่ื ง เกณฑม์ าตรฐานหลักสตู รระดับบณั ฑิตศกึ ษา
พ.ศ.2565 ลงวันท่ี 18 กรกฎาคม พ.ศ.2565 หลกั สูตรจงึ ควรทบทวนและดำเนนิ การบริหารจดั การหลักสูตรให้
สอดคลอ้ งกบั ประกาศดงั กล่าว เพอ่ื ใหห้ ลักสูตรมีมาตรฐานอย่างตอ่ เนอ่ื งและยัง่ ยืน

3.3 ผลการประเมินรายดา้ น (ดา้ นท่ี 1-8) ตามเกณฑ์ ASEAN UNIVERSITY NETWORK QUALITY ASSURANCE

AUN-QA Version 4.0 คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ

AUN-QA 1 Expected Learning Outcomes 32
(ดา้ นที่ 1 : ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั )

AUN-QA 2 Programme Structure and Content 32
(ดา้ นท่ี 2 : โครงสรา้ งโปรแกรมและเน้ือหา)

AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach 33
(ดา้ นท่ี 3 : แนวทางการจัดเรียนการสอน)

AUN-QA 4 Student Assessment 32
(ดา้ นที่ 4 : การประเมนิ ผ้เู รียน)

AUN-QA 5 Academic Staff 33
(ดา้ นท่ี 5 : บุคลากรสายวชิ าการ)

AUN-QA 6 Student Support Services 33
(ด้านท่ี 6 : การบรกิ ารและการช่วยเหลือผเู้ รยี น)

AUN-QA 7 Facilities and Infrastructure 33
(ดา้ นท่ี 7 : ส่ิงอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพ้ืนฐาน)

AUN-QA 8 Output and Outcomes 32
(ด้านท่ี 8 : ผลผลิตและผลลัพธ์)

Overall Verdict Inadequate and Improvement is Necessary

AUN 1 Expected Learning Outcomes คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
32
1.1 The programme to show that the expected learning outcomes are
appropriately formulated in accordance with an established learning 32
taxonomy, are aligned to the vision and mission of the university, and are
known to all stakeholders. 34
1.2 The programme to show that the expected learning outcomes for all
courses are appropriately formulated and are aligned to the expected 32
learning outcomes of the programme. 32
1.3 The programme to show that the expected learning outcomes consist of 32
both generic outcomes (related to written and oral communication, problem
solving, information technology, teambuilding skills, etc) and subject specific
outcomes (related to knowledge and skills of the study discipline).
1.4 The programme to show that the requirements of the stakeholders,
especially the external stakeholders, are gathered, and that these are
reflected in the expected learning outcomes.
1.5 The programme to show that the expected learning outcomes are
achieved by the students by the time they graduate

Overall opinion

AUN 2 Programme Structure and Content คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
32
2.1 The specifications of the programme and all its courses are shown to be
comprehensive, up-to date, and made available and communicated to all 32
stakeholders. 32
2.2 The design of the curriculum is shown to be constructively aligned with 32
achieving the expected learning outcomes.
2.3 The design of the curriculum is shown to include feedback from 34
stakeholders, especially external stakeholders.
2.4 The contribution made by each course in achieving the expected learning 34
outcomes is shown to be clear.
2.5 The curriculum to show that all its courses are logically structured, 33
properly sequenced (progression from basic to intermediate to specialised 32
courses), and are integrated.
2.6 The curriculum to have option(s) for students to pursue major and/or
minor specialisations.
2.7 The programme to show that its curriculum is reviewed periodically
following an established procedure and that it remains up-to-date and
relevant to industry.

Overall opinion

AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
31
3.1 The educational philosophy is shown to be articulated and 34
communicated to all stakeholders. It is also shown to be reflected in the 34
teaching and learning activities.
3.2 The teaching and learning activities are shown to allow students to 32
participate responsibly in the learning process.
3.3 The teaching and learning activities are shown to involve active learning 34
by the students. 33
3.4 The teaching and learning activities are shown to promote learning, 33
learning how to learn, and instilling in students a commitment for life-long
learning (e.g., commitment to critical inquiry, information-processing skills,
and a willingness to experiment with new ideas and practices).
3.5 The teaching and learning activities are shown to inculcate in students,
new ideas, creative thought, innovation, and an entrepreneurial mindset.
3.6 The teaching and learning processes are shown to be continuously
improved to ensure their relevance to the needs of industry and are aligned
to the expected learning outcomes.

Overall opinion

AUN-QA 4 Student Assessment คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
32
4.1 A variety of assessment methods are shown to be used and are shown to 33
be constructively aligned to achieving the expected learning outcomes and 32
the teaching and learning objectives.
4.2 The assessment and assessment-appeal policies are shown to be explicit, 31
communicated to students, and applied consistently. 32
4.3 The assessment standards and procedures for student progression and 33
degree completion, are shown to be explicit, communicated to students, 31
and applied consistently. 32
4.4 The assessments methods are shown to include rubrics, marking
schemes, timelines, and regulations, and these are shown to ensure validity,
reliability, and fairness in assessment.
4.5 The assessment methods are shown to measure the achievement of the
expected learning outcomes of the programme and its courses.
4.6 Feedback of student assessment is shown to be provided in a timely
manner
4.7 The student assessment and its processes are shown to be continuously
reviewed and improved to ensure their relevance to the needs of industry
and alignment to the expected learning outcomes.

Overall opinion

AUN-QA 5 Academic Staff คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
5.1 The programme to show that academic staff planning (including
succession, promotion, redeployment, termination, and retirement plans) is 33
carried out to ensure that the quality and quantity of the academic staff fulfil 33
the needs for education, research, and service. 33
5.2 The programme to show that staff workload is measured and monitored 33
to improve the quality of education, research, and service.
5.3 The programme to show that the competences of the academic staff are 33
determined, evaluated, and communicated.
5.4 The programme to show that the duties allocated to the academic staff
are appropriate to qualifications, experience, and aptitude.
5.5 The programme to show that promotion of the academic staff is based
on a merit system which accounts for teaching, research, and service.
5.6 The programme to show that the rights and privileges, benefits, roles and
relationships, and accountability of the academic staff, taking into account
professional ethics and their academic freedom, are well defined and
understood.

เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
5.7 The programme to show that the training and developmental needs of
the academic staff are systematically identified, and that appropriate training 33
and development activities are implemented to fulfil the identified needs.
5.8 The programme to show that performance management including reward 33
and recognition is implemented to assess academic staff teaching and 33
research quality.

Overall opinion

AUN-QA 6 Student Support Services คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
34
6.1 The student intake policy, admission criteria, and admission procedures 33
to the programme are shown to be clearly defined, communicated,
published, and up-to-date. 33
6.2 Both short-term and long-term planning of academic and non-academic
support services are shown to be carried out to ensure sufficiency and 33
quality of support services for teaching, research, and community service.
6.3 An adequate system is shown to exist for student progress, academic 33
performance, and workload monitoring. Student progress, academic
performance, and workload are shown to be systematically recorded and 32
monitored. Feedback to students and corrective actions are made where 33
necessary.
6.4 Co-curricular activities, student competition, and other student support
services are shown to be available to improve learning experience and
employability.
6.5 The competences of the support staff rendering student services are
shown to be identified for recruitment and deployment. These competences
are shown to be evaluated to ensure their continued relevance to
stakeholders needs. Roles and relationships are shown to be well-defined to
ensure smooth delivery of the services.
6.6 Student support services are shown to be subjected to evaluation,
benchmarking, and enhancement.

Overall opinion

AUN-QA 7 Facilities and Infrastructure คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
7.1 The physical resources to deliver the curriculum, including equipment, 33
material, and information technology, are shown to be sufficient. 34
7.2 The laboratories and equipment are shown to be up-to-date, readily 33
available, and effectively deployed.
7.3 A digital library is shown to be set-up, in keeping with progress in information 33
and communication technology.
7.4 The information technology systems are shown to be set up to meet the 32
needs of staff and students. 33
7.5 The university is shown to provide a highly accessible computer and network
infrastructure that enables the campus community to fully exploit information 33
technology for teaching, research, service, and administration.
7.6 The environmental, health, and safety standards and access for people with 33
special needs are shown to be defined and implemented. 33
7.7 The university is shown to provide a physical, social, and psychological
environment that is conducive for education, research, and personal wellbeing.
7.8 The competences of the support staff rendering services related to facilities
are shown to be identified and evaluated to ensure that their skills remain
relevant to stakeholder needs.
7.9 The quality of the facilities (library, laboratory, IT, and student services) are
shown to be subjected to evaluation and enhancement.

Overall opinion

AUN-QA 8 Output and Outcomes คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
32
8.1 The pass rate, dropout rate, and average time to graduate are shown to be
established, monitored, and benchmarked for improvement. 32
8.2 Employability as well as self-employment, entrepreneurship, and
advancement to further studies, are shown to be established, monitored, and 32
benchmarked for improvement.
8.3 Research and creative work output and activities carried out by the 31
academic staff and students, are shown to be established, monitored, and 32
benchmarked for improvement.
8.4 Data are provided to show directly the achievement of the programme 32
outcomes, which are established and monitored.
8.5 Satisfaction level of the various stakeholders are shown to be established,
monitored, and benchmarked for improvement.

Overall opinion

จุดเดน่ (Strength) โอกาสในการพัฒนา (Area of Improvement)

AUN 1 Expected Learning Outcomes

1.1 The programme to show that the expected learning outcomes are appropriately formulated in

accordance with an established learning taxonomy, are aligned to the vision and mission of the university,

and are known to all stakeholders.

- มกี ารพฒั นาหลักสูตรไดพ้ จิ ารณาจากความตอ้ งการและ - การสรา้ งผลลพั ธ์การเรยี นรู้ (PLOs) อย่างเหมาะสมโดยใช้

ความคาดหวังของผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสยี ประกอบดว้ ยผ้ใู ช้ action verb ตาม Learning Taxonomy และสอดรับกบั อัตต

บณั ฑิต ศษิ ยเ์ กา่ ศษิ ย์ปัจจบุ ัน อาจารยผ์ ู้สอน และสถาน ลกั ษณข์ องมหาวิทยาลยั และคณะ ทสี่ ามารถวัดและประเมินได้

ประกอบการ ผนวกกับวสิ ยั ทัศน์ พันธกิจของมหาวทิ ยาลยั - การสรา้ งผลลัพธ์การเรียนรู้ (PLOs) ทส่ี อดคล้องกับประกาศ

และคณะเกษตรศาสตร์ ของคณะกรรมการมาตรฐานการอดุ มศกึ ษา เรอ่ื ง รายละเอียด

- มคี วามเชอื่ มโยงระหวา่ งผลลัพธก์ ารเรยี นรูข้ องหลกั สตู ร ผลลัพธ์การเรียนรตู้ ามมาตรฐานคณุ วฒุ ริ ะดับอุดมศึกษา พ.ศ.

กบั วิสัยทศั น์และพันธกิจของมหาวทิ ยาลัยและคณะ 2565

(ตารางท่ี 1.1-1) - การสร้างผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ (PLOs) ทต่ี อบสนองตรงความ

- มีการสือ่ สารมาตรฐานการเรียนรขู้ องหลกั สตู ร ไปยัง ตอ้ งการและความคาดหวังของผู้เรียนและผู้มสี ว่ นได้เสยี

นกั ศกึ ษา อาจารยผ์ สู้ อน และการเผยแพร่บนเวบ็ ไซตข์ อง - การส่ือสารผลลพั ธ์การเรยี นรู้ (PLOs) ไปยัง Stakeholder ให้

คณะฯ (Ref.3) เพอื่ ให้ผู้มีสว่ นไดเ้ สยี ไดร้ ับทราบ ครอบคลมุ ทกุ กลมุ่ และการประเมนิ การรับรูข้ อง SHs ด้วย

1.2 The programme to show that the expected learning outcomes for all courses are appropriately
formulated and are aligned to the expected learning outcomes of the programme.

มแี นวทางการนาผลลัพธ์การเรยี นรู้ของหลกั สตู รมา - การสรา้ งผลลพั ธ์การเรียนร้รู ายวชิ า (CLOs) อยา่ งเหมาะสม
กาหนดผลลัพธ์การเรยี นร้รู ายวิชาในทกุ รายวชิ าของ โดยใช้ Action verb ตาม Learning Taxonomy
หลกั สตู ร
- การสรา้ งผลลัพธ์การเรียนรู้รายวิชา (CLOs) ทสี่ อดรบั กับ

PLOs ทงั้ ในส่วนของสาระรายวชิ า และ Learning level

ตาม Learning taxonomy เพือ่ ให้การบริหารจดั การ

หลักสตู รสามารถพฒั นาผเู้ รียนใหบ้ รรลุ PLOs ไดอ้ ยา่ ง

ครบถว้ นตามที่กาหนดไวใ้ น มคอ.2

- การสรา้ งผลลัพธก์ ารเรยี นรรู้ ายวิชา (CLOs) ทสี่ ามารถ

ผลักดนั PLOs ได้ อยา่ งครบถว้ น (ใน curriculum mapping

พบวา่ PLO 2.2, 3.2, 4.1 และ 5.1 มีรายวชิ าวิทยานิพนธ์

รองรับเพียงวิชาเดียวเทา่ นนั้ อาจไม่สามารถผลกั ดัน PLO ได้)

1.3 The programme to show that the expected learning outcomes consist of both generic outcomes
(related to written and oral communication, problem solving, information technology, teambuilding skills,
etc.) and subject specific outcomes (related to knowledge and skills of the study discipline).

PLOs ประกอบดว้ ย ความรคู้ วามสามารถเฉพาะสาขาวิชา การทบทวนความชัดเจนของ PLOs ทเี่ ป็นความรู้ความสามารถ

(Subject specific outcomes, SSOs) PLO 2.1, 2.2, เฉพาะสาขาวชิ า (Subject specific outcomes, SSOs) และ

2.3, 3.1, 3.2 และ Generic outcomes (GLOs) 1.1, Generic outcomes (GLO) ท่สี ามารถวัดและประเมินได้

1.2, 4.1, 4.2, 5.1, 5.2

จุดเด่น (Strength) โอกาสในการพัฒนา (Area of Improvement)

1.4 The programme to show that the requirements of the stakeholders, especially the external

stakeholders, are gathered, and that these are reflected in the expected learning outcomes.

มกี ารกาหนดกลุ่มผเู้ ก่ยี วขอ้ งและผมู้ ีสว่ นไดเ้ สียของ - การสร้าง PLOs ทีส่ ะทอ้ นความตอ้ งการของ SHs

หลักสตู ร เพื่อสารวจความพึงพอใจของผูม้ สี ่วนได้สว่ นเสีย - การกาหนดวธิ กี ารรวบรวม requirements หรือ needs จาก
และทักษะทผ่ี ู้ใชบ้ ัณฑติ ต้องการ SHs โดยเฉพาะ external SHs

- การแสดงใหเ้ หน็ วา่ PLO ใด ตอบสนองต่อ requirement
ของ SHs กลุ่มใด

1.5 The programme to show that the expected learning outcomes are achieved by the students by the
time they graduate

- มกี ารกระจายความรับผดิ ชอบผลลัพธก์ ารเรยี นรูจ้ าก - การระบุ CLOs อยา่ งครบถว้ น และมหี ลายรายวชิ าชว่ ย
หลกั สตู รสรู่ ายวชิ า (Curriculum Mapping) และได้ ผลักดนั การบรรลุ PLOs อย่างเหมาะสม

กาหนดไวใ้ น มคอ. 3 ของแตล่ ะรายวิชา - การกาหนดกระบวนการวดั ประเมนิ ผลลพั ธ์การเรียนรู้ที่

- มีการประเมินการบรรลผุ ลลพั ธ์การเรยี นร้ทู ่คี าดหวงั ใน ชดั เจนเพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ วา่ ผเู้ รียนไดบ้ รรลผุ ลลพั ธ์การเรยี นรู้

ระยะเวลาท่นี กั ศึกษาสาเรจ็ การศกึ ษาผ่านการสอบ ตามทีห่ ลักสูตรกาหนด (นศ.ได้ PLOs ระดับใด วัดอย่างไร
ประมวลความร้แู ละสอบปอ้ งกันวิทยานพิ นธ์ เกณฑก์ ารวดั เครอ่ื งมือทใี่ ช้ เมอ่ื ไหร่ วดั จากใครบา้ ง)
- การแสดงขอ้ มลู ผลการประเมนิ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้นักศึกษาที่
สามารถบง่ ช้ไี ด้ว่านักศกึ ษาบรรลผุ ลลัพธก์ ารเรยี นรูต้ ามที่
หลักสตู รกาหนด

AUN-QA 2 Programme Structure and Content

2.1 The specifications of the programme and all its courses are shown to be comprehensive, up-todate,
and made available and communicated to all stakeholders.

มีการเผยแพรข่ ้อมลู หลกั สตู รใหผ้ มู้ ีสว่ นไดเ้ สียรบั ทราบ การเผยแพร่ขอ้ มลู หลักสตู รและรายวชิ าไปยงั ผ้มู สี ่วนไดส้ ว่ นเสีย

- ผูม้ สี ่วนไดส้ ่วนเสียและผเู้ กี่ยวข้องอ่นื ๆ ผา่ นเวบ็ ไซต์ ครอบคลมุ ทกุ กลมุ่ โดย
คณะเกษตรศาสตร์ และเวบ็ ไซต์ มหาวิทยาลยั - Comprehensive ครอบคลมุ (ครอบคลุมทกุ กลุ่ม SHs และ

- อาจารย์ประจาหลกั สตู ร ผา่ นการประชมุ สาขาฯ และ มี information ท่ี SHs แตล่ ะกลมุ่ ตอ้ งการทราบ)
คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู ร - Up-to-date ข้อมูลทีเ่ ผยแพรต่ อ้ งเป็นชดุ เดยี วกันกับ มคอ.2

- นกั ศกึ ษา ผ่านคมู่ ือนกั ศึกษาระดบั บณั ฑิตศึกษา ปี ท่ีได้รบั อนุมตั ิ หรอื ข้อมลู ทไ่ี ดร้ บั การปรบั ปรุงล่าสุด (ข้อมลู ที่
การศึกษา 2560 และการปฐมนเิ ทศนักศกึ ษาใหม่ เผยแพรต่ ้องเป็นข้อมูลทไ่ี ดร้ ับการปรบั ปรงุ ลา่ สดุ )
- Made available ในทกุ สือ่ ทเ่ี ผยแพร่ SHs สามารถเขา้ ถงึ ได้

- ขอ้ มูลของหลกั สตู ร และรายวชิ า (program และ courses
specifications) ตอ้ งมีขอ้ มูลตามเกณฑ์ AUN-QA V.4 หน้า

20 อย่างครบถ้วน

2.2 The design of the curriculum is shown to be constructively aligned with achieving the expected
learning outcomes.
หลกั สตู รฯ ได้ออกแบบโครงสรา้ งหลักสตู รให้มคี วาม การออกแบบหลักสตู รโดยใช้ Backward Curriculum Design

สอดคล้องกบั ผลลัพธก์ ารเรยี นร้ทู ค่ี าดหวงั ของหลักสตู ร มี PLOs เป็นฐาน เพื่อใหบ้ รรลุเปา้ หมาย PLOs ของหลักสตู ร

(BCD -> OBE)

จุดเดน่ (Strength) โอกาสในการพฒั นา (Area of Improvement)

2.3 The design of the curriculum is shown to include feedback from stakeholders, especially external
stakeholders.

มีการออกแบบหลกั สูตรให้มคี วามสอดคล้องกบั ข้อมลู ทีไ่ ด้ - การแสดงแผนผงั กระบวนการนา SH’s feedback & need

จากการสารวจความตอ้ งการของผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสยี ทงั้ มาสรา้ งหลักสูตร

ภายในและภายนอก ได้แก่ ผใู้ ชบ้ ณั ฑิต นกั ศึกษาปจั จุบนั - การแสดงความเชื่อมโยงสอดคล้องของ feedback ท่ไี ด้จาก

และอาจารย์ผสู้ อน รวมถึงข้อเสนอแนะของผู้ทรงคณุ วฒุ ิ stakeholders กบั การออกแบบหลกั สูตร

ภายนอกจากการวพิ ากษ์หลกั สตู ร

2.4 The contribution made by each course in achieving the expected learning outcomes is shown to be
clear.

ผลลพั ธก์ ารเรยี นรทู้ ี่คาดหวังทั้ง 11 ข้อ ถกู กระจายอยใู่ น - การสรา้ ง CLOs โดยใช้ Learning taxonomy ทสี่ อดคล้อง

รายวิชาบงั คับและวทิ ยานิพนธ์ กับ PLOs ทงั้ Learning level และสาระรายวชิ า พร้อมทงั้

แสดงให้เห็นวา่ แต่ละรายวิชาสามารถทาใหผ้ ้เู รยี นบรรลุ PLOs

ขอ้ ใด ในระดบั ใด

- การแสดงใหเ้ หน็ ว่าแตล่ ะ PLO แตล่ ะตัวมี รายวชิ ารองรบั

อย่างพอเพียงท่ีจะสามารถผลักดนั ให้ผูเ้ รียนบรรลุ PLO นนั้ ๆ

ได้

2.5 The curriculum to show that all its courses are logically structured, properly sequenced (progression

from basic to intermediate to specialised courses), and are integrated.

มกี ารวางลาดับในการเรียนรขู้ องของรายวิชาโดยในชนั้ ปีที่ -

1 เนน้ ความรพู้ ื้นฐานทางดา้ นโรคพืชวิทยา

กระบวนการวจิ ยั การบรู ณาการความรดู้ ้านโรคพืชและ

การจัดการโรค และสัมมนาทางด้านโรคพืชวทิ ยา

เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นนาความรู้และกระบวนการทางการวจิ ยั มา

ประยุกตใ์ ช้ในการทาวทิ ยานิพนธซ์ ง่ึ เป็นรายวิชาทเี่ รยี นใน

ชน้ั ปีที่ 2

2.6 The curriculum to have option(s) for students to pursue major and/or minor specialisations.

มรี ายวิชาเลอื กสาหรับนกั ศกึ ษาจานวน 13 วิชา แบ่งตาม -

ความเชี่ยวชาญทางดา้ นเช้อื สาเหตุโรค เช่น เช้อื ไวรัส เชื้อ

แบคทเี รยี เชื้อรา และไสเ้ ดือนฝอยสาเหตุโรคพืช และ

ทางดา้ นโรคพืชประยุกต์

2.7 The programme to show that its curriculum is reviewed periodically following an established
procedure and that it remains up-to-date and relevant to industry.

ในปกี ารศึกษา 2563 หลกั สูตรฯ ได้ดาเนินการปรบั ปรงุ การบวนการสรา้ งหลกั สูตร ต้องมกี ารทบทวนหลกั สตู รเป็นระยะ

หลกั สตู ร พ.ศ. 2565 สม่าเสมอ อยา่ งเป็นกระบวนการทช่ี ดั เจน (เชน่ establish = ทา

เม่อื ไหร่ ใครทา เปน็ ระยะอยา่ งไร) เพือ่ ให้หลักสตู ร up-to-date

และสอดคล้องกบั ความต้องการของผใู้ ช้บณั ฑิต และตลาดงาน

จดุ เด่น (Strength) โอกาสในการพฒั นา (Area of Improvement)

AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach

3.1 The educational philosophy is shown to be articulated and communicated to all stakeholders. It is

also shown to be reflected in the teaching and learning activities.

- - การนาปรชั ญาการศึกษามหาวทิ ยาลัย หรอื คณะ มาใช้เป็น

แนวทางจัดการเรยี นการสอน และการจดั กจิ กรรมเสริม

หลกั สตู ร

- การระบผุ ้มู สี ่วนไดส้ ่วนเสยี ทตี่ อ้ งการส่ือสารปรชั ญาการศกึ ษา

เพอ่ื สื่อสารใหเ้ ขา้ ใจ และทราบถึงปรัชญาการศึกษาของ

มหาวิทยาลยั

3.2 The teaching and learning activities are shown to allow students to participate responsibly in the

learning process.

ทกุ รายวชิ าไดอ้ อกแบบให้นกั ศึกษาไดม้ สี ว่ นร่วมใน -

กิจกรรมการเรยี นการสอนเพื่อบรรลผุ ลการเรยี นรู้ท่ี

คาดหวังของหลกั สตู ร โดยเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนไดม้ สี ว่ น

ร่วมในการยอมรับ และตัดสนิ ใจในกจิ กรรมการเรียนการ

สอนต่างๆ

3.3 The teaching and learning activities are shown to involve active learning by the students.

มีการจดั การเรียนการสอนทีม่ ุง่ เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สาคัญ โดย -

เนน้ ให้ผเู้ รียนไดป้ ฏิบตั ิจรงิ และพัฒนาทักษะกระบวนการ

คิด วเิ คราะห์ และบรู ณาการองคค์ วามรู้ นาความรู้ทไ่ี ดไ้ ป

ประยุกต์ใชใ้ นการแกป้ ญั หาทางด้านโรคพชื เช่น การเรยี น

แบบ Research base learning (RBL) ผ่าน

กระบวนการวิจยั Problem base learning การเรยี น

การสอนผา่ นปญั หาทเี่ กิดขึ้นในสภาพจริง และการเรยี น

การสอนแบบ Active learning รอ้ ยละ 100 ของรายวชิ า

ทเี่ ปิดสอน

3.4 The teaching and learning activities are shown to promote learning, learning how to learn, and
instilling in students a commitment for life-long learning (e.g., commitment to critical inquiry, information-
processing skills, and a willingness to experiment with new ideas and practices).

มีการจัดกจิ กรรมหรือโครงการทสี่ ง่ เสรมิ ให้นกั ศึกษาไดร้ ับ - การกาหนด และผลักดนั ทกั ษะ Lifelong learning

การฝกึ ฝนในการคน้ หาความรเู้ พ่มิ เติมได้ดว้ ยตนเองตลอด - การแสดงให้เหน็ ว่ามกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ท่ี

ชีวติ เช่น นาเสนองาน และถ่ายทอดวิชาการ ผา่ น ส่งเสริมการเรียนรู้ การเรียนรวู้ ธิ ีการเรยี นรู้ และปลกู ฝังความ

กิจกรรมช่วยสอน การมอบหมายงานใหน้ กั ศกึ ษาคน้ คว้า ม่งุ มน่ั ในการเรยี นรูต้ ลอดชวี ติ เพ่ือพัฒนาทักษะทก่ี าหนด

ขอ้ มูลทางวชิ าการ ขอ้ มลู งานวจิ ัย วิเคราะห์ สังเคราะห์

ข้อมูล นาเสนอ และอภิปราย การศึกษาดงู าน

3.5 The teaching and learning activities are shown to inculcate in students, new ideas, creative thought,
innovation, and an entrepreneurial mindset.

จดุ เดน่ (Strength) โอกาสในการพฒั นา (Area of Improvement)
- มีการจดั การเรยี นการสอนทเ่ี นน้ ให้นักศึกษาได้ปฏบิ ตั ิ
-

จรงิ นักศึกษาไดล้ งพื้นที่ปลูกพชื ศกึ ษาตวั อย่างจริงใน

สภาพธรรมชาติ เช่น วิชา AG 117 301 โรคของพืช

เศรษฐกจิ และการจดั การ และ AG 117 401 วิทยาเห็ดรา

พชื มีกจิ กรรมการเรยี นการสอนที่ใหผ้ ู้เรียนไดป้ ระสบกบั

ปัญหาจรงิ ในแปลงปลูก ได้เหน็ ตวั อยา่ งจรงิ ในสภาพ

ธรรมชาติ ซึง่ เป็นการกระตุน้ และส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนเกดิ

ความคิดสรา้ งสรรคใ์ หมๆ่ เกดิ องค์ความรใู้ หมๆ่ เกดิ การบรู

ณาการความรเู้ พ่ือนามาใชใ้ นการแก้ไขปัญหา

- บม่ เพาะการมแี นวคิดเปน็ ผปู้ ระกอบการณใ์ นการผลติ

เมลด็ พนั ธุ์ผ่าน จากกิจกรรมโครงการสรา้ งเสริม

ประสบการณ์ทางด้านโรคพืช โดยการตรวจแปลงผลติ

เมลด็ พนั ธ์สุ าหรับสง่ ออก

3.6 The teaching and learning processes are shown to be continuously improved to ensure their
relevance to the needs of industry and are aligned to the expected learning outcomes.

- ผู้สอนปรบั ปรงุ การจัดการเรยี นการสอนในแตล่ ะรายวชิ า การทวนสอบผลสมั ฤทธร์ิ ายวิชา (วเิ คราะห์กจิ กรรมการเรียนการ
โดยใช้ผลการประเมินการเรยี นการสอน และผลสะท้อน สอนต่อการบรรลุ CLOs) นาส่กู ารปรับปรุงกจิ กรรมการเรยี น
จากผู้มสี ่วนได้เสยี การสอนรายวิชาอย่างต่อเนอื่ ง เพอ่ื ให้สอดคลอ้ งกับสายงาน
- มีการจดั กิจกรรมโครงการสรา้ งเสริมประสบการณ์ อาชพี ของสาขาวชิ า (industry) และสอดคลอ้ งเชอ่ื มโยง
ทางด้านโรคพืช ใหน้ ักศึกษาตรวจแปลงผลติ เมล็ดพันธุ์ (aligned) กบั CLOs และ PLOs

AUN-QA 4 Student Assessment

4.1 A variety of assessment methods are shown to be used and are shown to be constructively aligned to
achieving the expected learning outcomes and the teaching and learning objectives.

มีกระบวนการประเมนิ นกั ศึกษากอ่ นเข้าเรียน ระหว่าง การทบทวนรูปแบบ/วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล ทสี่ อดคลอ้ งกบั

เรยี น ก่อนจบการศึกษา และหลังสาเรจ็ การศกึ ษา CLOs และวัตถุประสงค์การเรียนรูข้ องแต่ละรายวชิ า

4.2 The assessment and assessment-appeal policies are shown to be explicit, communicated to students,
and applied consistently.
มปี ระกาศของมหาวทิ ยาลัยทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การอทุ ธรณ์โทษ การประเมนิ การรบั รู้และเข้าถึง กระบวนการร้องเรียน และ

สาหรบั นกั ศกึ ษาระดบั บัณฑติ ศึกษาผา่ นช่องทางทค่ี ณะฯ ช่องทางการร้องเรียนผลการประเมินรายวิชาของนักศึกษา

และมหาวทิ ยาลยั กาหนด

4.3 The assessment standards and procedures for student progression and degree completion, are shown
to be explicit, communicated to students, and applied consistently.

หลักสตู รฯ ได้กาหนดเกณฑ์การสาเรจ็ การศึกษา ซง่ึ ไดร้ ะบุ การกาหนดเกณฑแ์ ละวธิ กี ารประเมินความก้าวหนา้ ของผ้เู รียน

ไว้ใน มคอ.2 คูม่ ือนกั ศึกษา และได้มีการเผยแพร่ไว้ใน ใหช้ ัดเจน ประกาศ และแจ้งตอ่ หรอื ส่ือสารไปยังผู้เรยี นอยา่ ง

เวบ็ ไซต์ของคณะฯ ทวั่ ถงึ และใช้อยา่ ง consistently (กาหนดอยา่ งไร ประเมิน

อย่างนน้ั )

จุดเดน่ (Strength) โอกาสในการพฒั นา (Area of Improvement)

4.4 The assessments methods are shown to include rubrics, marking schemes, timelines, and regulations,

and these are shown to ensure validity, reliability, and fairness in assessment.

มีการนาเกณฑ์การใช้คะแนนรายงาน ข้อสอบ หรอื การใช้ rubrics วดั ประเมินผลลัพธ์การเรียนรูร้ ายวชิ า ในกรณีท่ี

กจิ กรรมต่างๆ แบบ rubrics มาปรับใช้ ขน้ึ อยกู่ บั วัดประเมนิ คณุ ภาพพฤติกรรม รวมถงึ การใช้ marking

ธรรมชาตขิ องรายวชิ า schemes โดยเครือ่ งมือที่ใช้ประเมิน ตอ้ งประกันไดว้ ่ามี

validity, reliability, และ fairness ในการวัดประเมิน

4.5 The assessment methods are shown to measure the achievement of the expected learning outcomes
of the programme and its courses.

มีการประเมินการบรรลผุ ลลพั ธ์การเรียนรทู้ ีค่ าดหวังใน การใช้วิธกี ารวดั ประเมนิ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ ที่สามารถสะท้อนผล

ระยะเวลาทน่ี ักศึกษาสาเร็จการศกึ ษาผา่ นการสอบ การบรรลุ CLOs & PLOs ได้

ประมวลความรแู้ ละสอบปอ้ งกนั วิทยานิพนธ์

4.6 Feedback of student assessment is shown to be provided in a timely manner

- รายวชิ า AG 117 891 สัมมนาทางวทิ ยาโรคพชื 1 การกาหนดกรอบเวลาการประเมนิ ผลลัพธ์การเรียนรู้ และ

ประเมนิ ผลการนักศึกษาจากการนาเสนอชิ้นงานหนา้ ชนั้ Feedback หรอื ใหข้ อ้ มลู ป้อนกลบั ทุกวิชา ในเวลาทีเ่ หมาะสม

เรยี น และแจ้งใหน้ กั ศกึ ษาทราบทนั ทีในชัน้ เรียน เพื่อแกไ้ ข ทนั การณ์ ทีจ่ ะทาใหผ้ เู้ รยี นนาผลการประเมินท่ี feedback ไป

ปรับปรงุ ชิน้ งานให้ถูกต้อง ปรับปรงุ การเรียนใหด้ ีขนึ้ ได้

- AG 117 892 สัมมนาทางวทิ ยาโรคพชื 2 ไดป้ ระเมินผล

ช้ินงานนกั ศึกษา และอาจารยผ์ ู้สอนตรวจให้คะแนน

พร้อมทัง้ สง่ งานคืนใหน้ กั ศึกษาผ่านทาง Google

classroom ของรายวชิ า นักศึกษาสามารถเขา้ ไปดู

คะแนนของตนเอง และนาข้อผดิ พลาดไปปรบั ปรุงแก้ไข

4.7 The student assessment and its processes are shown to be continuously reviewed and improved to
ensure their relevance to the needs of industry and alignment to the expected learning outcomes.

- การทบทวนกระบวนการวดั ประเมนิ ผลการเรียนรู้ และปรับปรงุ

อย่างตอ่ เน่ือง เพื่อให้สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของตลาดงาน

ในสายอาชพี ของสาขาวชิ า (industry) และสอดคลอ้ งกับ CLOs

& PLOs

AUN-QA 5 Academic Staff
5.1 The programme to show that academic staff planning (including succession, promotion,
redeployment, termination, and retirement plans) is carried out to ensure that the quality and quantity of
the academic staff fulfil the needs for education, research, and service.

- หลักสูตรมกี ารเตรยี มวางแผนอตั รากําลังของบุคลากร (มี การจดั ทำแผนบุคลากรด้านขดี ความสามารถ (education,

กลไกการวางแผนทดแทนอัตรากำลังทจ่ี ะไปเพิม่ พนู ความรู้ research, and service) ท่สี อดคลอ้ งกับวตั ถุประสงคข์ อง
และเกษยี ณอาย)ุ
- อตั รากำลงั ของบคุ ลากรสายวชิ าการมีความเหมาะสม ทั้ง หลักสตู ร และ ELOs (Needs ของหลกั สูตร)

เชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพ

จุดเดน่ (Strength) โอกาสในการพฒั นา (Area of Improvement)

5.2 The programme to show that staff workload is measured and monitored to improve the quality of

education, research, and service.

- คณะมกี ารวิเคราะห์ จาํ นวน สัดสว่ น FTEs ของอาจารย์ การวิเคราะห์ และนาํ FTEs ไปใช้ในการ monitor ใน

ในหลกั สูตร และนาํ ไป monitor ดา้ นอัตรากาํ ลัง การบรหิ ารจัดการดา้ น education, research and service

- หลักสตู รฯ ได้ควบคมุ จํานวนนกั ศกึ ษาตอ่ อาจารย์ท่ี

ปรกึ ษาให้เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีกาหนด

5.3 The programme to show that the competences of the academic staff are determined, evaluated, and
communicated.

- คณะ/หลักสตู รมีการกําหนดสมรรถนะ/ขีดความสามารถ การจดั ทํารายละเอยี ดของสมรรถนะในแตล่ ะดา้ นและวิธีการ

4 ดา้ นครอบคลมุ ด้านการเรียนการสอน วิจยั ประเมนิ สมรรถนะทสี่ อดคลอ้ งเชื่อมโยงกับวัตถปุ ระสงค์ของ

บรกิ ารวิชาการ ใน E-Workload หลักสตู ร และ ELOs (Needs ของหลกั สูตร)

- มกี ารประเมนิ สมรรถนะทกุ ๆ 6 เดอื น

- มกี ารสือ่ สารผ่านชอ่ งทางต่างๆ เชน่ การประชุม

5.4 The programme to show that the duties allocated to the academic staff are appropriate to
qualifications, experience, and aptitude.

คณะมกี ารกําหนดภาระงานและหนา้ ทีต่ ามความเชี่ยวชาญ - การแสดงให้เห็นวา่ มวี ิธกี าร/กระบวนการจดั สรรภาระงาน

ความรคู้ วามสามารถ ประสบการณ์ และความเช่ียวชาญ ให้กับอาจารยท์ ่ีเหมาะสมกับ qualifications (คณุ สมบัติของ

- หลกั สตู รฯ ได้กาํ หนดบทบาทและหนา้ ทขี่ องอาจารย์ ตาแหนง่ งาน) ความเชย่ี วชาญ ประสบการณ์ และความถนดั ให้

ผูร้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรในการบรหิ ารหลักสตู รใหส้ อดคล้อง ชัดเจนย่ิงขึ้น

กับความเช่ยี วชาญ โดยพจิ ารณาจากภาระงานสอน

และความเช่ียวชาญของแตล่ ะท่าน

และได้เกลี่ยภาระงานสอนให้ อาจารย์ในหลักสูตรเท่าๆ

กนั เพื่อให้ภาระงานเป็นไปตามภาระงานขน้ั ต่าทคี่ ณะ

กาหนด

- ในกรณีทม่ี ีอาจารย์จะเสนอขอตาแหน่งวชิ าการ

หลกั สตู รจะเกลยี่ ภาระงานใหเ้ หมาะสม เพื่อใหส้ ามารถ

ดาเนนิ การขอตาแหน่งทางวชิ าการไดต้ ามเกณฑ์

5.5 The programme to show that promotion of the academic staff is based on a merit system which
accounts for teaching, research, and service.

- คณะฯ มีการตอบแทนบุคลากรตามผลการประเมิน การประเมินผลการปฏิบตั ิงานทีอ่ ยู่บนฐานของความรู้
สมรรถนะการปฏบิ ัติงานในรอบปี โดยพิจารณาจาก ความสามารถดา้ นการจดั การเรยี นการสอนทั้งในดา้ นปรมิ าณ
ผลงานตามพนั ธกจิ หลัก 4 ดา้ น การผลติ บณั ฑิต การ และคณุ ภาพ

วจิ ัย การบริการวชิ าการ และการทานศุ ลิ ปวฒั นธรรม

- คณะมกี ารเพิ่มแรงจูงใจการทางาน โดยการใหร้ างวัล

เชดิ ชูเกียรติ และค่าตอบแทนการตพี ิมพว์ ารสาร

ระดับชาติ และนานาชาติ สนับสนนุ ความกา้ วหนา้ ใน

การขอตาแหนง่ ทางวชิ าการ

จุดเด่น (Strength) โอกาสในการพฒั นา (Area of Improvement)
- หลกั สตู รฯ สนบั สนนุ อาจารยโ์ ดยจดั สรรงบประมาณ

เพ่ือการพัฒนาตนเอง จานวน 5,000 บาท/คน/ปี

การศกึ ษา ในระดับชาติ และจานวน 10,000 บาท/คน/

ปีการศึกษา ในระดบั นานาชาติ

5.6 The programme to show that the rights and privileges, benefits, roles and relationships, and
accountability of the academic staff, taking into account professional ethics and their academic freedom,
are well defined and understood.

คณะฯ มชี อ่ งทางในการสื่อสารเกย่ี วกบั สทิ ธปิ ระโยชน์ - การประเมินการรับรู้ และเขา้ ใจถึง สทิ ธิ และสิทธพิ ิเศษ

และสวสั ดกิ าร กฎเกณฑ์ บทบาทหนา้ ทแี่ ละความ ผลประโยชน์ บทบาทหนา้ ท่ี ภาระความรบั ผิดชอบ รวมถึง

รบั ผดิ ชอบของบุคลากร รวมถงึ จรรยาบรรณ โดยผ่าน จรรยาบรรณวิชาชพี และอิสระทางวชิ าการของอาจารย์

ชอ่ งทางต่างๆ คือ - การประเมนิ ประสิทธิภาพช่องทางการสือ่ สาร

1. การส่ือสารผ่านช่องทาง Web site คณะเกษตรศาสตร์

2. ผ่านชอ่ งทาง e-mail โดยฝา่ ยทรพั ยากรบุคคลของคณะ

เกษตรศาสตร์

3. ผ่านชอ่ งทาง line กลุม่ บุคลากรสายวิชาการ

5.7 The programme to show that the training and developmental needs of the academic staff are
systematically identified, and that appropriate training and development activities are implemented to
fulfil the identified needs.

คณะฯ มีการสนับสนุนการพัฒนาตนเองของบคุ ลากรเพอื่ - การระบุ need และการได้มาของ need สาหรับการพฒั นา

เพ่มิ ศกั ยภาพบุคลากรสายวชิ าการ ท่สี าคัญ 4 ด้าน คอื อาจารย์ในแตล่ ะดา้ น

ดา้ นการจดั การศกึ ษา วิจัย บริการวชิ าการ และการ - การแสดงความเช่ือมโยงของ need กบั การพัฒนาตนเองของ

บรหิ ารบคุ คล อาจารย์ทีส่ อดคล้องกับวัตถุประสงคข์ องหลักสตู ร

5.8 The programme to show that performance management including reward and recognition is
implemented to assess academic staff teaching and research quality.

คณะฯ มีระบบการประเมินความดีความชอบตามภาระ - การใหร้ างวัล และการประกาศเกยี รตคิ ณุ ยกย่องใน ดา้ น

งานดา้ นการเรยี นการสอน การวิจยั การบริการวชิ าการ คุณภาพการจดั การเรยี นการสอน

เชน่ ด้านการวิจัย ทางคณะมีการสนบั สนุนบุคลากรทไี่ ดร้ ับ - การตดิ ตาม วดั วเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลงของผลการ

การตีพมิ พ์นานาชาติในฐาน ISI หรือ SCOPUS ในรอบปี ปฏิบัตงิ านหลงั การได้รบั รางวลั หรอื การเลื่อนขน้ั เงินเดอื น

โดยแบง่ เปน็ นกั วจิ ยั ดเี ดน่ ระดบั อาวโุ ส ระดบั กลาง และ หรอื การรับเงนิ สนบั สนุนการพัฒนาตนเอง

ระดับรุน่ เยาว์

AUN-QA 6 Student Support Services

6.1 The student intake policy, admission criteria, and admission procedures to the programme are shown

to be clearly defined, communicated, published, and up-to-date.

- มีการรับเข้านักศกึ ษาที่เป็นระบบ และเป็นไปตาม การประเมินวธิ แี ละชอ่ งทางการสอื่ สาร เผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์

ระเบยี บมหาวทิ ยาลยั และตามทหี่ ลกั สูตรฯ กาหนดใน การรับเขา้ ไปยงั กลมุ่ เปา้ หมาย

มคอ.2

จุดเด่น (Strength) โอกาสในการพัฒนา (Area of Improvement)

- มีการกาํ หนด แผนการรับ เกณฑก์ ารรับเข้า และมกี าร

ประชาสมั พันธ์หลากหลายช่องทาง

6.2 Both short-term and long-term planning of academic and non-academic support services are shown
to be carried out to ensure sufficiency and quality of support services for teaching, research, and
community service.

มีการจดั กจิ กรรมเพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มในการศกึ ษา และ การจดั ทาแผนบริการนกั ศกึ ษาทง้ั ระยะส้ัน ระยะยาว ทัง้ ในเชิง

พัฒนาทักษะตา่ งๆ เพ่อื ใหส้ าเรจ็ การศึกษาได้ตาม academic และ non-academic และดาเนินการตามแผน

ระยะเวลาท่หี ลกั สตู รกาหนด ดงั น้ี เพือ่ ให้ม่ันใจวา่ การให้บรกิ ารเพียงพอและมคี ณุ ภาพ ท้งั ในด้าน

- โครงการปฐมนเิ ทศนกั ศึกษาใหมร่ ะดับบณั ฑติ ศึกษา การสอน การวจิ ยั และบรกิ ารวชิ าการแก่ชุมชน

ประจาปกี ารศกึ ษา 2564

- กจิ กรรมผู้ชว่ ยสอน (TA)

- โครงการพฒั นาศักยภาพทางด้านภาษาอังกฤษ

- โครงการรายงานความก้าวหน้าวิทยานพิ นธ์

- โครงการพฒั นาทักษะการทางาน ทักษะการวเิ คราะห์

สถติ เิ ชงิ วจิ ยั

- โครงการสรา้ งเสรมิ ประสบการณท์ างดา้ นโรคพชื -

การตรวจแปลงผลิตเมลด็ พันธ์ุ

6.3 An adequate system is shown to exist for student progress, academic performance, and workload

monitoring. Student progress, academic performance, and workload are shown to be systematically
recorded and monitored. Feedback to students and corrective actions are made where necessary.

มีการตดิ ตามความก้าวหนา้ และผลการศึกษาของนกั ศกึ ษา การสร้างระบบในการตดิ ตามความก้าวหน้าในการเรียนของ

ผ่านหลายชอ่ งทาง ได้แก่ อาจารยท์ ป่ี รึกษา และกจิ กรรม นกั ศึกษา academic performance และ ภาระงานของ

โครงการรายงานความกา้ วหนา้ วิทยานิพนธ์ในภาคต้น นกั ศึกษา ทม่ี ีการบันทกึ วดั วิเคราะหอ์ ยา่ งเปน็ ระบบ เพ่ือ

และปลาย นำไปสู่การปรบั ปรงุ และแก้ปญั หา (หากม)ี

6.4 Co-curricular activities, student competition, and other student support services are shown to be
available to improve learning experience and employability.

มีการจัดเตรียมกจิ กรรมเพือ่ เสริมทกั ษะและเพิม่ การจัดกิจกรรมเสรมิ หลกั สตู ร ที่สามารถผลักดันใหน้ กั ศึกษา

ประสบการณ์การเรยี นร้ทู ัง้ ทางดา้ นวชิ าการและการใช้ บรรลุ PLOs รวมถงึ ช่วยใหน้ กั ศกึ ษามพี ฒั นาการเรยี นดีขึน้ และ

ชีวิตในสงั คม ไดแ้ ก่ ช่วยใหม้ ีสมรรถนะในการทางานทส่ี ูงขึน้ (ชว่ ยใหม้ โี อกาสในการ

- กจิ กรรมผ้ชู ว่ ยสอน (TA) ในภาคต้นและภาคปลาย ได้ทางานมากขน้ึ )

- กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21

และมที ักษะในการดารงชีพ ประกอบดว้ ย การรายงาน

ความกา้ วหนา้ วิทยานพิ นธ์ การพฒั นาศกั ยภาพทางด้าน

ภาษาองั กฤษ ทกั ษะการวเิ คราะห์สถติ เิ ชิงวจิ ัย การพฒั นา

ทกั ษะงาน ทกั ษะการวนิ ิจฉยั โรคพชื และทกั ษะในการเป็น

ผู้ประกอบการ เป็นต้น

6.5 The competences of the support staff rendering student services are shown to be identified for
recruitment and deployment. These competences are shown to be evaluated to ensure their continued

จุดเด่น (Strength) โอกาสในการพัฒนา (Area of Improvement)

relevance to stakeholders needs. Roles and relationships are shown to be well-defined to ensure smooth
delivery of the services.

คณะฯ มีการกาหนดคณุ สมบตั บิ ุคลากรสายบริการ - การกาหนดสมรรถนะในแตภ่ าระหน้าท่ี รวมถึงการวเิ คราะห์

การศกึ ษาทีส่ อดคลอ้ งกบั ภาระหนา้ ทใี่ นการบริการการ ความต้องการในการพัฒนาตนเองของบุคลากรสายสนับสนุน

เรยี นการสอนและการปรับปรุงหลกั สูตร การใหค้ าปรึกษา เพื่อจดั ทาเปน็ แผนพัฒนารายบคุ คล ท่ีสอดคล้องกบั

กับผูม้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสีย วัตถุประสงค์ของหลักสูตร และ ELOs (Need ของหลกั สตู ร)

- การประเมินสมรรถนะ เพ่อื วดั สมรรถนะในการตอบสนองตอ่

การให้บริการ ทสี่ อดคล้องกบั ความตอ้ งการของ SHs ของ

หลกั สตู รอย่างต่อเนอ่ื ง

6.6 Student support services are shown to be subjected to evaluation, benchmarking, and enhancement.

- มกี ารประเมนิ ความพงึ พอใจของนักศกึ ษาปัจจุบันตอ่ - การระบุ Student support services ใหช้ ดั เจน

หลักสตู ร ด้านการใหบ้ รกิ ารการศกึ ษาของหลกั สูตร - การกาหนดตัวชว้ี ดั ของ Student support services เพ่ือ

เทา่ กับ 4.80 ด้านส่งิ สนบั สนุนการเรยี นและกายภาพ การประเมิน Benchmarked และปรบั ปรุง

อ่นื ๆ ของหลักสตู ร เทา่ กับ 3.83 ซึ่งมากกว่าปกี ารศึกษา

2563

- การประเมนิ ความพึงพอใจของนักศึกษาชนั้ ปสี ดุ ทา้ ยต่อ

หลักสตู ร ดา้ นส่ิงสนบั สนุนการเรยี น เท่ากับ 4.60 และ

ผลการประเมนิ ความพึงพอใจของอาจารยป์ ระจา

หลกั สตู ร ด้านบรรยากาศและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้

เท่ากบั 4.63

AUN-QA 7 Facilities and Infrastructure

7.1 The physical resources to deliver the curriculum, including equipment, material, and information
technology, are shown to be sufficient.

มีการสารวจความต้องการครภุ ณั ฑข์ องนกั ศึกษาและ การสารวจเกีย่ วกบั ความเพียงพอ พรอ้ มใชง้ าน ของห้องเรยี น

อาจารย์ มกี ารจัดทาแผนการซอ่ มและจัดหาครภุ ณั ฑ์ และสิ่งสนบั สนนุ การเรยี นการสอนตา่ งๆ ในห้องเรียนให้

ทดแทนการสารวจความพรอ้ มเครอ่ื งมือ อุปกรณ์ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการใชง้ าน สาหรับสนับสนนุ การเรยี น

หอ้ งปฏิบตั ิการ การสอน และการวิจัยของอาจารย์ และนกั ศึกษา

7.2 The laboratories and equipment are shown to be up-to-date, readily available, and effectively
deployed.

- มีความพร้อมด้านห้องปฏิบัติการและเครื่องมือ โดยมี - จากการสัมภาษณน์ ักศึกษาปัจจบุ นั นศ. ต้องการให้จดั หา

ห้องปฏิบัติการ ห้องสาหรับการเรียนการสอน การวิจัย เครือ่ งมือวทิ ยาศาสตรส์ มยั ใหม่ เพอ่ื ใหส้ ะดวกต่อการทาวิจัย

เครื่องคอมพิวเตอร์ กล้องจุลทรรศน์ รวมถึงโปรแกรมที่ - การจัดทาแผนปรับปรงุ ห้องปฏบิ ัตกิ าร และบารุงรักษา

จาเปน็ ต่อการวิจยั ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์ตา่ งๆ เครื่องมือ รวมท้งั การกาหนดตารางการตรวจสอบบารงุ รักษา

- จากการสัมภาษณ์บุคลากรที่ดูแลห้องปฏิบัติการและ เครื่องมอื อุปกรณ์ และดาเนนิ การตามแผนการบารุงรกั ษา

อุปกรณ์ พบว่ามีการสารวจ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้มี เพอ่ื ใหพ้ ร้อมใชง้ าน

ความพร้อมในการสนับสนุนการเรียนการสอน มีการ

พิจารณาร่วมกนั ในการจัดหาวัสดุอปุ กรณเ์ ปน็ ประจาทุก

จุดเดน่ (Strength) โอกาสในการพัฒนา (Area of Improvement)

ปี มีการวางแผนการแกไ้ ขปัญหาเบ้อื งต้น หากอุปกรณ์มี หลักสตู รควรทบทวนถึงความทนั สมยั เพยี งพอ ความพร้อม

ปัญหาการใช้งาน แต่หากเกินขอบเขตความรับผิดชอบ ใชง้ านอยา่ งปลอดภยั และมีประสทิ ธภิ าพของหอ้ งปฏิบตั ิการ

จะติดต่อช่างภายนอกเข้ามาซ่อมบารุงอีกครั้ง และหา อุปกรณ์ และเครื่องมือ

แนวทางการใช้งานอุปกรณ์อื่นทดแทนเบื้องต้น รวมถึง

ประสานงานบุคลากรห้องปฏบิ ตั กิ ารจากสาขาวิชาอ่นื ๆ

7.3 A digital library is shown to be set-up, in keeping with progress in information and communication

technology.

มหาวทิ ยาลยั และคณะมีศนู ย์วทิ ยบรกิ ารทีม่ เี อกสารตารา - การประเมิน ความเพยี งพอ ทนั สมยั พร้อมใช้งานของ

มสี อ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ และฐานข้อมลู ที่จาเป็นสาหรับ ทรพั ยากรหอ้ งสมดุ ตอ่ ความสามารถในการสนับสนนุ การ

อาจารย์และนักศกึ ษา จดั การเรียนการสอนในรายวิชาตา่ งๆ ของหลกั สูตร

- ข้อมลู การให้บริการ digital library ของหอ้ งสมดุ เช่น e-

book, e-journal, ฐานของมลู ที่สามารถใช้ในการเรยี นการ

สอน การวิจยั ของหลกั สูตร และผลกั ดันใหผ้ ู้เรยี นบรรลุ

PLOs

7.4 The information technology systems are shown to be set up to meet the needs of staff and students.

- หลักสูตรและคณะมีระบบ IT Service support เช่น - การสารวจความต้องการและความพึงพอใจต่อระบบ IT

IKKU ระบบ e-mail ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ Service support ของ นศ. และ บุคลากร

บริการ Help Desk บริการ Software เป็นต้น - การกากับ ติดตาม และประเมินความเพียงพอ ทันสมัย พร้อม

- จากการสัมภาษณ์ นักศกึ ษา พบวา่ หลกั สตู รมีการเตรียม ใช้งานของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือระบบสารสนเทศ

Software ที่จ าเป็นในการเรียนการสอน โดยใช้ ต่างๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อต้องการของบุคลากรและ

โปรแกรมต่าง ๆ ที่สอดคล้อง จากสานักเทคโนโลยี นกั ศกึ ษา

ดิจิทัล มหาวิทยาลัย และอาจารย์มีการแสวงหา

โปรแกรมที่จาเป็น เพื่อมาใช้ประกอบในการเรียนการ

สอน

7.5 The university is shown to provide a highly accessible computer and network infrastructure that
enables the campus community to fully exploit information technology for teaching, research, service,
and administration.

- คณะและมหาวิทยาลัยมีฐานข้อมูล สาขาวิทยาศาสตร์ จากการสมั ภาษณ์นกั ศึกษา พบว่า นักศกึ ษาสามารถใช้งาน VPN

และเทคโนโลยี และฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ออนไลน์ ได้ในเวลาค่อนขา้ งส้ัน จึงต้องเขา้ ระบบใหม่ ทาให้การสืบค้นไม่

เพื่อให้นักศึกษาสามารถสืบค้นข้อมูลประกอบการทา สามารถทาไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่อื ง เกดิ ความลา่ ช้าในการทางานวิจัย

วิทยานิพนธ์ หลักสตู รจึงควรทบทวนการอานวยความสะดวกในการใช้ระบบ

- มีระบบ VPN ให้นักศึกษาและคณาจารย์สามารถใช้ VPN กบั มหาวทิ ยาลัย

โปรแกรมหรอื คน้ หาขอ้ มลู จากนอกมหาวิทยาลยั ได้

7.6 The environmental, health, and safety standards and access for people with special needs are shown
to be defined and implemented.

จุดเดน่ (Strength) โอกาสในการพฒั นา (Area of Improvement)

คณะฯ มีระบบบริการผู้พิการหรือผู้ที่ต้องการความ - การกาหนดใช้มาตรฐานสากลเกี่ยวกับส่งิ แวดลอ้ ม สุขภาพ

ช่วยเหลือโดยมที างลาดสาหรบั รถเข็นข้ึนลงอาคาร บรเิ วณ ความปลอดภยั (EHS standards) และดาเนินการตาม

อาคาร 8 ด้านทิศตะวันออกของอาคาร มีราวจับ ในปี มาตรฐานทเี่ ลอื กใช้

2565 มีการติดตั้งอักษรเบลสาหรับผู้พิการทางสายตาท้ัง - การตรวจสอบ และประเมนิ ความเพยี งพอของสง่ิ สนบั สนนุ ท้ัง

นอกและในลฟิ ต์ และในปี 2565 คณะฯ ได้ปรบั ปรงุ อาคาร ทางด้านกายภาพ และความปลอดภยั ตา่ งๆ ท่จี ัดให้สาหรบั ผู้ท่ี

เรียนรวมโดยบรเิ วณอาคารจอดรถมีทางลาดสาหรบั รถเขน็ มคี วามตอ้ งการพิเศษ เพ่ือการปรบั ปรุงและอานวยความ

ขึ้น-ลงของอาคาร สะดวก

7.7 The university is shown to provide a physical, social, and psychological environment that is conducive
for education, research, and personal wellbeing.

- คณะไดจ้ ดั เตรยี มพื้นทส่ี าหรบั บริการให้กบั นกั ศึกษาโดย การประเมนิ และปรับปรงุ คุณภาพของการจดั สภาพแวดลอ้ ม

การปรับปรุงบริเวณอาคารเรียนรวม อาคาร 7 และจดั ทางดา้ นสงั คม และจติ ใจทส่ี ร้างเสรมิ การเรยี นการสอน และการ

พื้นทใี่ ห้นกั ศกึ ษาจัดกจิ กรรม และเป็นพ้ืนท่ีสาหรบั อ่าน วิจยั และสุขภาวะส่วนบคุ คล ใหม้ คี วามปลอดภยั พรอ้ มใชง้ าน

หนังสือ ทบทวนบทเรยี น Co-Working Space มีระบบ และมีความสุข

ฉกุ เฉินแจง้ เตือนอัคคีภยั มีหนว่ ยบริการปฐมภมู ิ มข. มี

ระบบบริการผู้พิการหรอื ผู้ทตี่ ้องการความชว่ ยเหลือ มี

การจดั สรรท่ีจอดรถสาหรับบคุ ลากร

- หลักสตู รไดป้ รบั ปรุงห้องสาหรับการเรยี นการสอน การ

วิจยั และเรอื นทดลองอารกั ขาพืช จดั สรรพน้ื ทใ่ี ห้

นกั ศกึ ษาสาหรับทานอาหารว่าง จดั ภูมทิ ัศนร์ อบ

โรงเรือนอารักขาโรคพชื

7.8 The competences of the support staff rendering services related to facilities are shown to be
identified and evaluated to ensure that their skills remain relevant to stakeholder needs.

คณะมรี ะบบประเมินสมรรถนะของสายสนับสนนุ ผ่าน - การกำหนดและประเมนิ สมรรถนะของสายสนบั สนุนประจา

ระบบ S-workload online และระบบการตดิ ตามผลการ หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร ห้องสมดุ เทคโนโลยีสารสนเทศ IT และงาน

ดาเนนิ งานตามแผนปฏบิ ตั กิ าร project follow up โดย บริการนกั ศกึ ษาทค่ี รอบคลุมชดั เจน เพ่อื ใหม้ ่ันใจวา่ สามารถมี

การกาหนดสมรรถนะของผทู้ างานดังกล่าวบนพืน้ ฐานของ สมรรถนะในการให้บริการ สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของ

ความร้แู ละความเชย่ี วชาญในงานท่ีเก่ยี วขอ้ ง อาจารย์และนักศกึ ษา

- การนำเกณฑส์ มรรถนะดังกลา่ ว มากำหนดใช้ในการประเมนิ
ความสามารถในการทำงานอยา่ งสมำ่ เสมอ

7.9 The quality of the facilities (library, laboratory, IT, and student services) are shown to be subjected to
evaluation and enhancement.

คณะมกี ารดาเนนิ การพัฒนาคณุ ภาพของส่ิงสนบั สนนุ การ การประเมินคณุ ภาพของสิง่ สนบั สนนุ (ห้องสมดุ หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร

เรยี นรู้ในการจดั การเรียนการสอนในด้านต่างๆ ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ IT เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการวิจยั และงาน

ห้องสมุด ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ ระบบเทคโนโลยี บริการนกั ศึกษา) จากบุคลากรและนกั ศึกษาอยา่ งสมา่ เสมอใน

สารสนเทศห้องปฏิบตั ิการต่างๆ การบริการรบั ฟัง ดา้ นความทนั สมยั ความเพยี งพอ พร้อมใช้งาน และมกี าร

ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะ การบริการนกั ศกึ ษา และการ ปรบั ปรุงจากผลการประเมินทีช่ ัดเจน

บรกิ ารการศกึ ษา

จุดเดน่ (Strength) โอกาสในการพัฒนา (Area of Improvement)

AUN-QA 8 Output and Outcomes

8.1 The pass rate, dropout rate, and average time to graduate are shown to be established, monitored,
and benchmarked for improvement.

หลักสตู รมีการพิจารณาอตั ราการรบั เข้า การคงอยู่ และ - การวดั วเิ คราะหข์ ้อมลู ท้ังเชงิ ปรมิ าณ และเชงิ คุณภาพของ

อัตราการสาเรจ็ การศึกษาทกุ ปี ดังตาราง 8.1-1 อตั ราการสาเรจ็ การศกึ ษา การตกออก และคา่ เฉลีย่ ของ

ระยะเวลาท่ใี ชใ้ นการศึกษาทีช่ ัดเจน เพื่อกากบั ตดิ ตาม และ

Benchmarked ปรับปรุงการดาเนินงานของหลักสตู ร

8.2 Employability as well as self-employment, entrepreneurship, and advancement to further studies, are

shown to be established, monitored, and benchmarked for improvement.

- มีการตดิ ตามการไดง้ านทาของนกั ศึกษาที่สาเรจ็ - การพจิ ารณากาหนดตวั ชีว้ ัดทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั การได้งานทาท้งั

การศึกษาในปีการศกึ ษา 2560-2563 self-employment, entrepreneurship, and

- อัตราการไดง้ านทาร้อยละ 100 advancement to further studies เพื่อกากบั ตดิ ตาม และ

Benchmarked ปรับปรงุ การดาเนนิ งานของหลักสูตร

- กรณอี ัตราการได้งานทารอ้ ยละ 100 หลกั สูตรอาจพจิ ารณา

เลอื กตวั ชีว้ ัดอ่นื ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การได้งานทา เพ่ือจะได้ช่วยให้

มขี ้อมูลในการพัฒนาหลักสตู ร เชน่ การวดั ศกั ยภาพการ

ทางาน หรือ วัดสมรรถนะทีเ่ พิม่ พนู ข้ึนจากการเรยี นใน

หลักสตู ร จากมมุ มองของผ้ใู ช้บณั ฑติ เปน็ ต้น

8.3 Research and creative work output and activities carried out by the academic staff and students, are

shown to be established, monitored, and benchmarked for improvement.

หลกั สตู รมกี ารตดิ ตามผลงานตพี มิ พข์ องคณาจารย์ ปี - การกาหนดตัวชี้วดั ผลงาน และกิจกรรมการวจิ ยั ของอาจารย์

2562-2564 โดยมจี านวนผลงานตพี มิ พ์ตอ่ บคุ ลากรเท่ากับ และนักศกึ ษา ทสี่ อดคล้องกบั เปา้ หมายหรอื วัตถปุ ระสงค์ของ

0.6, 0.8 และ 1.2 ตามลาดบั เมื่อเทยี บกบั คเู่ ทยี บ คอื หลักสตู ร และวสิ ัยทัศน&์ พนั ธกจิ ของมหาวิทยาลัย และของ

หลกั สตู รวิทยาศาสตรม์ หาบณั ฑติ สาขาพชื ไร่ พบว่า คณะ เพอื่ วดั วิเคราะห์ ติดตาม นาไปใชป้ ระโยชน์ และ

จานวนผลงานตพี มิ พ์ต่อบุคลากรเท่ากบั 3.63, 4.45 และ Benchmarked เพื่อปรับปรงุ การดาเนนิ งานของหลักสตู ร

3.18 ตามลาดบั

8.4 Data are provided to show directly the achievement of the programme outcomes, which are

established and monitored.

- หลักสตู รมีแนวทางการประเมนิ การบรรลผุ ลลัพธก์ าร - การแสดงขอ้ มลู /ผลการประเมินผลลพั ธ์การเรยี นรู้ของ

เรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั ของหลกั สตู รผ่านการประเมนิ ผลลัพธก์ าร ผสู้ าเรจ็ การศึกษาตามท่หี ลักสตู รกาหนด (PLOs) ท่ีสะทอ้ นให้

เรียนร้ทู ่คี าดหวงั ของรายวชิ า เห็นวา่ นักศกึ ษาทสี่ าเรจ็ การศกึ ษาของหลักสตู รมที กั ษะ/

- มีแนวทางการประเมินการบรรลผุ ลลพั ธก์ ารเรียนรทู้ ่ี สมรรถนะตาม PLOs อยา่ งครบถว้ น

คาดหวังในระยะเวลาท่ีนกั ศกึ ษาสาเรจ็ การศึกษาผา่ นการ - การกาหนดตัวช้วี ดั เพือ่ การวิเคราะห์ ตดิ ตาม และ

สอบประมวลความรแู้ ละสอบปอ้ งกันวทิ ยานิพนธ์ Benchmarked เพ่อื ปรับปรุงการดาเนนิ งานของหลักสตู ร

8.5 Satisfaction level of the various stakeholders are shown to be established, monitored, and

benchmarked for improvement.

จุดเดน่ (Strength) โอกาสในการพัฒนา (Area of Improvement)
หลกั สตู รมกี ารประเมนิ และติดตามความพึงพอใจของผูม้ ี - การรวบรวมขอ้ มลู ผลการสารวจระดับความพงึ พอใจของผูม้ ี
สว่ นไดส้ ่วนเสยี ทง้ั ภายในและภายนอกไดแ้ ก่ นักศึกษา
ปจั จบุ นั (2562-2564) นกั ศกึ ษาปีสดุ ท้าย (2564) สว่ นไดส้ ว่ นเสยี กลมุ่ ต่างๆ (หลักสตู รกาหนด) ตอ่ คณุ ภาพการ
อาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สตู ร (2564) อาจารย์ผู้ประจา ดาเนินงานของหลักสตู รในแตล่ ะดา้ นทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับผู้มสี ่วนได้
หลักสตู ร (2564) และผูใ้ ช้บณั ฑติ (2561-2563) ประจาปี ส่วนเสยี แตล่ ะกลมุ่
การศกึ ษา 2562-2564 พบว่าความพงึ พอใจของนกั ศกึ ษา - การกาหนดตัวชว้ี ดั เพอ่ื การวิเคราะห์ ตดิ ตาม และ
ปีสุดทา้ ยเพม่ิ ข้นึ ในขณะทีค่ วามพงึ พอใจของนกั ศกึ ษา
ปจั จุบนั และผูใ้ ชบ้ ณั ฑติ ลดลงจากปี 2563 Benchmarked เพอ่ื ปรับปรุงการดาเนนิ งานของหลักสตู ร

รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน
ประจำปการศึกษา 2564

(ระหวา งวนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2564 – 31 กรกฎาคม 2565)

หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาธรุ กจิ การเกษตร
คณะเกษตรศาสตร
มหาวิทยาลัยขอนแกน

วนั ท่ี 31 สิงหาคม 2565

(ระดบั ปรญิ ญาโท)

รายชื่อคณะกรรมการ

ลำดับ รายชื่อคณะกรรมการ ตำแหนง สังกัดหลักสูตร/สาขา คณะ

1 รศ.ดร.เกียรติสดุ า นาค ประธาน หลกั สตู รปรชั ญาดษุ ฎีบัณฑิต คณะวิทยาศาสตร
ประสิทธ์ิ กรรมการ สาขาวชิ าคณิตศาสตร

2 รศ.ดร.สุรชัย จันทรจ รัส กรรมการ หลักสตู รบริหารธรุ กิจและการ คณะบริหารธุรกจิ และการ
บัญชี บญั ชี

3 อ.ดร.ธัญญา จันทรป ระสพชัย กรรมการ หลักสตู รเทคโนโลยกี ารผลิต คณะเทคโนโลยี

4 นายเอกลกั ษณ ขาวประภา ผูประสานงาน กองพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา สำนักงานอธกิ ารบดี

สว นที่ 1 บทนำ
1.1 ขอมูลของหลักสูตรโดยสงั เขป/ประวตั ิความเปน มาของหลกั สูตร

หลักสตู รวทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาธุรกิจการเกษตร มงุ ผลติ มหาบัณฑิตใหม ีความรูความเขา ใจและ
สามารถประยุกตใชไดอยางเหมาะสมของหลักการและทฤษฎีในสาขาวชิ าธุรกิจการเกษตร โดยมุง เนนการบูรณาการ
ความรูและทักษะทางดานการบริหารจัดการธุรกิจการเกษตรสมยั ใหม การจัดการเชิงกลยุทธ ตลอดจนการสรา งองค
ความรูใหม ๆ ดานการตดั สินใจในการผลติ และการตลาดสินคาเกษตร นอกจากนีย้ ังมุงใหนักศึกษามีความสามารถใน
ดานทักษะวิจัย การสื่อสาร และการใชเทคโนโลยีสารสนเทศ มีทักษะและประสบการณการเรียนรู การคิดวิเคราะห
อยางมีประสิทธิผล เพื่อใหมีความสามารถในการทำวิจัยหรือการปฏิบัติงานในสาขาวชิ าชีพได โดยการใชความรูท้ัง
ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ นำมาประยุกตใหเกิดการพัฒนาความรูใหมหรือวิธีการปฏิบัติงานใหมในสาขาไดอยาง
สรา งสรรค มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณทางวชิ าการและวิชาชีพ และมภี าวะความเปน ผนู ำ

วตั ถปุ ระสงคข องหลกั สูตร
หลกั สตู รวิทยาศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาธรุ กจิ การเกษตร มีวัตถุประสงคเ พอ่ื ผลติ บัณฑิตทมี่ ีคณุ สมบัติดงั น้ี
(1) มีความรูความเขาใจในหลักการและทฤษฎีสำคัญในสาขาวิชาการทางธุรกิจการเกษตร และสามารถ
ประยุกตใ ชความรใู นการทำวจิ ยั หรอื การปฏบิ ัตงิ านในสาขาวิชาชีพในระดับสูงได
(2) มีความสามารถในการวิจยั หรือการจดั การโครงการทางวชิ าการทจี่ ะกอ ใหเ กดิ การพัฒนาความรใู หม หรอื วิธี
ปฏิบตั ิงานใหม ๆ ในสาขาวิชาธรุ กจิ การเกษตร
(3) มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห สงั เคราะห สือ่ สาร การใชคอมพิวเตอร และเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการจัดการสมยั ใหม ท่จี ะนำไปสูก ารพัฒนาความรแู ละการนำไปใชป ระโยชนไ ดใ นวงกวาง
(4) มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณทางวชิ าการ
(5) มีความสามารถดานทักษะความสมั พนั ธและทำงานรวมกับบุคคลอ่ืนไดเ ปน อยา งดีพรอมกับมภี าวะผูนำที่
ยอมรับความคดิ เห็นท่ีแตกตางในสภาพแวดลอมท่หี ลากหลาย

1.2 วิธีการประเมิน
1) การตรวจประเมนิ คุณภาพหลักสูตรจากเอกสารรายงานการประเมินตนเอง (SAR)
โดยมีการดาํ เนนิ การดงั นี้
1.1) ผูป ระสานงานดำเนินการสง เอกสาร SAR ของหลกั สตู ร ใหกรรมการฯ วนั ท่ี 22 สิงหาคม 2565
1.2) ประธานกรรมการประสานใหกรรมการแตละทานศึกษาเอกสาร SAR พรอมประเมินผลคะแนนของ
ตวั ช้วี ัดในแตล ะหมวด พรอมจุดเดน และโอกาสในการพฒั นา และหากพบขอสงสยั หรอื ตอ งการเอกสาร

จากทางหลักสตู รฯ เพิ่มเติม ใหดำเนินการแจงประธานเพือ่ ประสานขอหลักฐานเพิ่มเติมจากหลักสูตรฯ
ตอ ไป โดยใหแ จง ขอมลู ทีต่ องการเพ่ิมเติมภายในวันศกุ รท่ี 26 สงิ หาคม 2565
1.3) ประธานกรรมการแจงผูประสานงานใหด ำเนนิ การขอขอมลู เพม่ิ เตมิ ไปยงั อาจารยผ ูร ับผดิ ชอบหลักสูตรฯ
ในวันศกุ รท่ี 26 สิงหาคม 2565 โดยใหห ลักสูตรฯ สง เอกสารภายในวันจนั ทรท ่ี 29 สงิ หาคม 2565
1.4) หลักสตู รฯ จดั สงเอกสารเพิ่มเตมิ และผูป ระสานงานจัดสงใหค ณะกรรมการฯ ในจนั ทรที่ 29 สิงหาคม
2565
1.5) คณะกรรมการฯ ประชุมผานระบบ Zoom meeting ในวันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 เวลา 13.30 –
16.00 น. เพ่อื ประเมนิ คา คะแนน จดุ เดน และโอกาสในการพฒั นา
1.6) คณะกรรมการดำเนินการตรวจประเมินคุณภาพภายใน จัดทำเอกสารรายงานผลการตรวจประเมิน
คุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร สงผูประสานงาน เพื่อแจงผลการตรวจประเมินหลักสูตรฯ ใหคณะ
เกษตรศาสตร

2) วธิ กี ารตรวจสอบและความนา เช่อื ถือของขอมลู
2.1) คณะกรรมการเชอื่ ในสิ่งท่ีทางหลักสูตรเสนอในรายงานการประเมินตนเอง โดยมหี ลกั คดิ วา สิ่งที่

ทางหลักสูตรดำเนนิ การนั้นนาจะตองมมี ากกวาที่ไดเขยี นไวในรายงาน SAR และในกรณีทีม่ คี วามสงสัยในรายงาน ได
ประสานกบั หลักสูตรเพื่อขอขอมูลเพิ่มเติม รวมถึงมีการตรวจสอบผลงานวิชาการที่นำเสนอ การคำนวณตัวเลขให
ถกู ตอง

2.2) ตรวจสอบขอมูลผลงานตีพิมพของของอาจารยประจำหลักสูตร และ ขอมลู อื่น ๆ จากเอกสารที่
ทางหลกั สตู รนำเสนอใน SAR

สวนท่ี 2 บทสรุปผูบริหารและสรุปผลการประเมนิ ในภาพรวม

จดุ เดน
1. หลักสูตรฯ ดำเนินการปรับปรุง หลักสูตรฯ ป พ.ศ.2565 ใหมีโครงสรางแบบ Non-degree 2 Module ชุดละ 6
หนว ยกิต มีรายวิชาใหม 2 รายวิชา และมกี ารแลกเปลย่ี นรายวิชาระหวางมหาวทิ ยาลยั อันจะชวยใหหลักสูตรมีความ
ทันสมัย ยืดหยนุ และสอดคลอ งกบั ความตอ งการของผูเรียนมากยง่ิ ข้นึ
2. มีระบบการจัดภาระงานสอนภายใตหลักเกณฑ “คณาจารยทุกคนควรจะไดสอนในรายวิชาที่ตรงสาขาความ
เชี่ยวชาญ (ตามคุณวุฒิและงานวิจัย)” โดยพิจารณาจาก 1) ความรู ความเช่ียวชาญ 2) ประสบการณการทำงานและ
สาระรายวชิ า 3) ความเหมาะสมของภาระงานผูสอนในหลักสูตรธุรกิจเกษตร ซึ่งจะชวยเพิ่มคุณภาพการจัดการเรียน
การสอนและเช่ือมโยงสกู ารพัฒนาหัวขอ วิทยานิพนธตอ ไป

จดุ ทคี่ วรพฒั นา
1. หลักสตู รฯ ควรเพิ่มการประชาสมั พันธหลักสูตรเชงิ ลึกไปยงั กลุมเปาหมาย มกี ารสนบั สนนุ ทุนการศกึ ษาใหนกั ศึกษา
ในหลกั สตู ร และ/หรอื อาจารยป ระจำหลกั สตู รควรหาทนุ วิจัยทส่ี ามารถสนบั สนนุ นกั ศึกษาในการทำวทิ ยานิพนธ เพื่อ
ดึงดดู ผเู รียนเขาศึกษาในหลกั สตู รใหไ ดจ ำนวนตามแผนการรบั เขา
2. หลกั สตู รฯ ควรมีการปรบั ปรงุ แผนการศกึ ษาและมีกลไกสนบั สนุนใหน กั ศกึ ษาสามารถพัฒนาหวั ขอ วทิ ยานพิ นธ ขอ
อนุมัตหิ ัวขอวิทยานิพนธ และเริ่มตนการทำวิทยานิพนธ ตั้งแตปการศึกษาแรก เพื่อชวยใหน ักศึกษาสามารถสำเร็จ
การศกึ ษาไดตามระยะเวลาหลกั สูตร
3. หลักสูตรฯ ควรมีกลไกในการสนับสนุนใหนักศึกษาตีพิมพผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับ
คุณภาพของบณั ฑติ และผลงานวิจัยของหลักสูตรฯ
4. หลักสูตรฯ ควรมีกลไกในการสนบั สนุนและกำกับตดิ ตามการผลิตผลงานวิชาการของอาจารยผูรบั ผิดชอบหลักสูตร
ทุกคนใหสามารถผลิตผลงานวิชาการไดอยางตอเนือ่ ง รวมถงึ ยกระดับคุณภาพผลงานวิชาการสูระดับนานาชาติ เพื่อ
สรางความเขมแข็งของหลักสูตรฯ
5. ในแตละตวั บงชี้ ควรตั้งคาเปาหมายทั้งเชิงปรมิ าณและเชิงคุณภาพใหชัดเจน และเมื่อดำเนินการแลว ใหทำการ
ประเมินผลการดำเนินงานโดยเปรียบเทียบกับเปาหมาย (เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ) ท่ีกำหนด หากผลการ
ดำเนินงานไมเปนไปตามเปา หมาย ควรวิเคราะหห าสาเหตุ และแนวทางแกปญหาในปการศกึ ษาตอไป

วิธปี ฏบิ ตั ิทดี่ ี / นวตั กรรม (ถา มี)
-

สวนที่ 3 ผลประเมินคณุ ภาพหลกั สตู ร
3.1 องคประกอบท่ี 1 การกำกบั มาตรฐาน

ขอ เกณฑ ขอทปี่ ระเมิน ผาน ระบุเหตุผล
() /ไมผา น กรณที ่ีไมผา นเกณฑก าร

1  จำนวนอาจารยผ รู บั ผดิ ชอบหลักสตู ร ไมน อยกวา 3 คนและ  ผา น ประเมนิ

เปนอาจารยผ รู ับผดิ ชอบหลักสตู ร เกินกวา 1 หลักสูตรไมไ ด ใหหลักสูตรฯ ตรวจสอบ
ความสอดคลองของ
 และประจำหลักสตู รตลอดระยะเวลาท่จี ัดการศึกษาตาม คุณวุฒิและตำแหนงทาง
วิชาการที่ตรง หรอื สมั พนั ธ
หลกั สตู รนน้ั รายละเอียด กับหลักสูตร ของอาจารย
ประ จำหลั กสู ตรฯ ให
2  คุณสมบัติของอาจารยผ รู ับผดิ ชอบหลกั สตู ร มีคณุ วุฒิปรญิ ญา  ผาน ถูกตองและสอดคลองทุก
ตำแหนง ในเลม รายงาน
เอกหรอื เทยี บเทา หรือขน้ั ต่ำปริญญาโทหรอื เทยี บเทาทมี่ ี
ไมม อี าจารยผสู อนทีเ่ ปน
ตำแหนง รองศาสตราจารยขึ้นไป อาจารยพ ิเศษ

 และมผี ลงานทางวิชาการอยา งนอย 3 รายการใน 5 ป

ยอ นหลงั โดยอยา งนอย 1 รายการตอ งเปน ผลงานวจิ ัย

3  คณุ สมบตั ิของอาจารยประจำหลักสูตร มคี ณุ วฒุ ขิ ้ันตำ่ ปริญญา  ผา น

โทหรือเทยี บเทา

 และมผี ลงานทางวชิ าการอยางนอ ย 3 รายการใน 5 ป

ยอนหลัง โดยอยา งนอ ย 1 รายการตองเปน ผลงานวจิ ยั

4  คณุ สมบัติของอาจารยผ สู อนท่ีเปน อาจารยป ระจำ มคี ณุ วุฒิข้ัน  ผา น
ตำ่ ปริญญาโทหรอื เทยี บเทา ในสาขาวชิ าน้นั หรือสาขาวชิ าท่ี NA NA
สมั พนั ธกันหรอื สาขาวิชาของรายวชิ าที่สอน  ผาน

 และตอ งมปี ระสบการณด า นการสอนและมผี ลงานทางวชิ าการ
อยางนอย 1 รายการใน 5 ปย อนหลงั รายละเอียด

5  คุณสมบตั ขิ องอาจารยผ สู อนท่เี ปนอาจารยพิเศษ(ถามี)
มคี ุณวฒุ ิข้ันตำ่ ปริญญาโทหรอื เทียบเทา ในสาขาวชิ านัน้ หรือ
สาขาวชิ าทสี่ ัมพันธกนั หรอื สาขาวชิ าของรายวชิ าที่สอน

 และตองมีประสบการณด านการสอนและมผี ลงานทางวชิ าการ
อยา งนอ ย 1 รายการใน 5 ปยอ นหลัง

 และมีช่ัวโมงสอนไมเ กนิ รอยละ 50 ของรายวิชาโดยมอี าจารย
ประจำเปน ผรู ับผดิ ชอบรายวชิ านน้ั

6  คณุ สมบัตขิ องอาจารยที่ปรกึ ษาวิทยานิพนธหลักและอาจารย
ที่ปรกึ ษาการคน ควาอสิ ระ
1. เปนอาจารยประจำหลักสตู รทีม่ คี ุณวฒุ ปิ รญิ ญาเอกหรอื
เทียบเทา หรอื ข้ันตำ่ ปริญญาโทหรอื เทยี บเทาและดำรง
ตำแหนงทางวชิ าการไมต ำ่ กวารองศาสตราจารย ในสาขาวชิ า
นนั้ หรอื สาขาวชิ าที่สมั พนั ธก ัน และ
2.มีผลงานทางวิชาการอยา งนอ ย 3 รายการใน 5 ปย อนหลงั
โดยอยางนอ ย 1 รายการตองเปน ผลงานวจิ ยั

ขอ เกณฑ ขอ ทป่ี ระเมิน ผาน ระบุเหตผุ ล
() /ไมผ าน กรณีที่ไมผ า นเกณฑก าร
ผา น
ประเมนิ
ผา น
7  คุณสมบัติของอาจารยที่ปรึกษาวิทยานิพนธรว ม (ถามี) กรณี  ผา น
เปนอาจารยประจำ ตองมีคุณวุฒิปริญญาเอกหรือเทียบเทา
หรือ ขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเทาและดำรงตำแหนงทาง 
วิชาการไมต่ำกวารองศาสตราจารยในสาขาวิชานั้นหรือ 
สาขาวชิ าท่สี ัมพนั ธกัน

 และมผี ลงานทางวชิ าการอยางนอ ย 3 รายการใน 5 ป
ยอ นหลัง โดยอยา งนอย 1 รายการตอ งเปน ผลงานวิจยั

 หรอื กรณี เปน ผทู รงคุณวุฒภิ ายนอก (ถา มี)
1. มีคุณวฒุ ิปรญิ ญาเอกหรือเทียบเทาและมีผลงานทาง
วิชาการท่ไี ดร บั การตพี ิมพเผยแพรใ นระดบั ชาติ ซ่ึงตรงหรือ
สัมพนั ธกับหัวขอ วิทยานพิ นธหรือการคน ควา อสิ ระไมนอยกวา
10 เรื่อง
2.หากไมมีคณุ วฒุ หิ รือประสบการณตามทีก่ ำหนดจะตองมี
ความรูความเช่ียวชาญและประสบการณส งู เปน ท่ยี อมรบั ซงึ่
ตรงหรอื สัมพนั ธกับหัวขอ วิทยานพิ นธหรอื การคน ควา อิสระ
โดยผา นการเห็นชอบของสภาสถาบันและแจง กกอ ทราบ

8  อาจารยผสู อบวทิ ยานิพนธ ประกอบดวย อาจารยป ระจำ
หลกั สตู รและผทู รงคณุ วฒุ ิจากภายนอก รวมแลวไมนอ ยกวา 3
คน

 ประธานผสู อบวิทยานพิ นธต องไมเปน ท่ปี รกึ ษาวิทยานพิ นธ
หลกั หรือทปี่ รกึ ษาวิทยานพิ นธรว ม

9  คุณสมบตั อิ าจารยผ ูสอบวิทยานิพนธ กรณี เปนอาจารย
ประจำหลกั สูตรตอ งมีคณุ วุฒปิ รญิ ญาเอกหรือเทยี บเทา หรือ
ขน้ั ตำ่ ปริญญาโทหรือเทยี บเทา และดำรงตำแหนง ทางวชิ าการ
ไมต ำ่ กวารองศาสตราจารย ในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาท่ี
สัมพันธกัน

 และมผี ลงานทางวิชาการอยางนอ ย 3 รายการใน 5 ป
ยอ นหลงั โดยอยา งนอย 1 รายการตอ งเปนผลงานวิจัย

 หรือ กรณี เปน ผทู รงคณุ วุฒภิ ายนอก 1. มีคณุ วุฒิปรญิ ญาเอก
หรือเทยี บเทาและมผี ลงานทางวชิ าการที่ไดร ับการตพี ิมพ
เผยแพรใ นระดับชาติ ซง่ึ ตรงหรอื สมั พันธก ับหัวขอวิทยานพิ นธ
หรอื การคนควาอสิ ระไมนอ ยกวา 10 เรอื่ ง หากไมมคี ณุ วุฒิ
หรือประสบการณต ามทกี่ ำหนดจะตองมีความรูค วาม
เชี่ยวชาญและประสบการณส งู เปนท่ยี อมรับซ่งึ ตรงหรือ
สัมพนั ธก ับหัวขอ วทิ ยานิพนธหรือการคนควา อสิ ระ โดยผาน
การเหน็ ชอบของสภาสถาบนั และแจง กกอ ทราบ

ขอ เกณฑ ขอ ทป่ี ระเมนิ ผาน ระบเุ หตผุ ล
() /ไมผาน กรณีท่ีไมผ า นเกณฑก าร

ประเมนิ

10  การตีพมิ พเผยแพรผ ลงานของผสู ำเร็จการศึกษา  ผาน มีผูสำเร็จการศึกษาอยู
ร ะ ห ว  า ง ร อ บ ป ร ะ เ ม ิ น ป
-กรณี แผน ก1 ตองไดร ับการยอมรับใหต ีพิมพใ นวารสาร การศึกษา 2563 – 2564
ระดับชาตหิ รือนานาชาติท่ีมคี ณุ ภาพตามประกาศของ กกอ.
-กรณี แผน ก2 ตอ งไดร บั การยอมรับใหตีพิมพในวารสาร ที่ ย ั ง ไ ม  ไ ด  ร า ย ง า น ใ น ป
การศึกษา 2563 จำนวน 1
ระดับชาตหิ รอื นานาชาตทิ ี่มคี ณุ ภาพตามประกาศของ กกอ. ราย จึงยกมารายงานในป

หรอื นำเสนอตอทีป่ ระชุมวชิ าการโดยบทความท่ีนำเสนอ การศึกษา 2564 ไดแก

ไดรบั การตีพิมพใ นรายงานสบื เนอ่ื งจากการประชุมทาง นางสาวธมณ ธีระศรานนท

วิชาการ (proceedings)

-กรณี แผน ข รายงานการคน ควา หรอื สว นหนงึ่ ของการ

คนควาอสิ ระตองไดร บั การเผยแพรในลกั ษณะใดลกั ษณะหนึ่ง

ท่สี ืบคนได

11  ภาระงานอาจารยท่ีปรกึ ษาวิทยานพิ นธแ ละการคนควา อิสระ  ผา น

ในระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา วทิ ยานิพนธ

-อาจารยคณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอก 1 คน ตอ นักศกึ ษา 5 คน การ

คนควาอสิ ระ

-อาจารยคณุ วุฒปิ ริญญาเอก 1 คน ตอ นักศึกษา 15 คน หาก

เปน ทป่ี รกึ ษาทง้ั 2 ประเภทใหเทยี บสัดสวนนกั ศึกษาทท่ี ำ

วทิ ยานพิ นธ 1 คนเทยี บเทา กับ นักศึกษาท่ีคน ควา อสิ ระ 3 คน

-หากอาจารยค ณุ วุฒปิ รญิ ญาเอกและมตี ำแหนงทางวชิ าการ

หรือปริญญาโทและตำแหนง ทางวิชาการระดบั รอง

ศาสตราจารยข้ึนไป 1 คน ตอ นักศกึ ษา 10 คน

-หากอาจารยค ณุ วุฒิปรญิ ญาเอกและมีตำแหนง ทางวิชาการ

ระดับศาสตราจารยข ้นึ ไป ไมเกิน 15 แตตอ งไดรับการอนุมตั ิ

จาก กกอ.

12  การปรบั ปรงุ หลกั สูตรตามรอบระยะเวลาของหลกั สตู รหรอื ทกุ  ผา น

รอบ 5 ป

จำนวนขอ ทป่ี ระเมนิ 11 ผลการประเมิน

จำนวนขอ ทผี่ า นการประเมิน 11  หลกั สตู รไดมาตรฐาน

หมายเหตุอนื่ ๆ (ถา ม)ี

3.2 จดุ เดน และโอกาสในการพฒั นาองคป ระกอบที่ 1
(1) ขอเสนอแนะเพ่อื การปรบั ปรงุ หลกั สตู รใหเ ปนไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลุมประเด็น
การตรวจสอบ ประเมิน ใหห ลกั สตู รมีมาตรฐานอยางตอ เนื่องและยั่งยนื
-
(2) แนวปฏบิ ตั ทิ ดี่ /ี นวัตกรรม/ผลงานโดดเดน (ถา มี)
-

3.3 ผลการประเมินรายองคประกอบ (องคป ระกอบท่ี 2-6)

จุดเดน โอกาสในการพัฒนา

องคป ระกอบท่ี 2 บัณฑิต องคประกอบท่ี 2 บัณฑิต

1. 1. หลกั สตู รฯ ควรมกี ลไกในการสนับสนุนใหน ักศึกษา

ตพี มิ พผลงานวิจัยในวารสารระดบั นานาชาติ เพ่อื

ยกระดับคณุ ภาพของบณั ฑติ และงานวจิ ยั ของหลกั สูตรฯ

องคประกอบท่ี 3 นกั ศึกษา องคประกอบที่ 3 นักศึกษา

3.1 การรับนักศึกษา 3.1 การรบั นกั ศกึ ษา

- 1. หลักสูตรฯ ควรเพ่ิมการประชาสมั พนั ธหลกั สูตรเชิงลึก

ไปยังกลมุ เปาหมาย เพื่อเพม่ิ จำนวนการรบั นักศกึ ษาใหได

ตามแผนการรับเขา

2. หลักสูตรฯ ควรสนับสนุนทุนการศึกษาใหนักศึกษา

(เชน ทุนสนับสนุนผูชวยสอน (TA) ทุนสนับสนุนผูชวย

วิจัย (RA)) และ/หรือ อาจารยประจำหลกั สูตรควรหาทุน

วิจัยที่สามารถสนับสนุนนักศึกษาในการทำวทิ ยานิพนธ

(เชน ทุนวิจัยสำหรับคณาจารยบัณฑิตศึกษาเพื่อให

สามารถรับนักศึกษาที่มีความสามารถและศักยภาพสูง

เขาศึกษาในหลักสูตรและทำวิจัยในสาขาที่อาจารยมี

ความเชี่ยวชาญของบัณฑิตวิทยาลัย, ทุนอุดหนุนและ

สงเสริมการทำวิทยานิพนธ (ภายใตการยื่นขอเสนอการ

วจิ ยั และนวตั กรรม สำนกั งานการวิจยั แหงชาติ วช.)) เพื่อ

ดึงดูดผูเรียนเขาศึกษาในหลักสูตรใหไดจำนวนตาม

แผนการรับเขา

3.2 การสงเสรมิ และพฒั นานักศกึ ษา 3.2 การสงเสรมิ และพฒั นานักศกึ ษา

- 1. หลักสตู รฯ ควรมีกระบวนการสนบั สนนุ ผูเรียนในการ

ทำวิทยานิพนธเพื่อใหสามารถสำเร็จการศึกษาไดตาม

ระยะเวลาหลกั สูตร

2. หลักสตู รฯ ควรมีกลไกสนับสนุนใหนักศึกษาสามารถ

เริ่มตนพัฒนาหัวขอวิทยานิพนธ ขออนุมัติเคาโครง

วทิ ยานพิ นธ และเรม่ิ ตนทำวทิ ยานิพนธ ตงั้ แตป การศกึ ษา

แรก

3.3 ผลท่เี กิดกบั นกั ศกึ ษา 3.3 ผลทเ่ี กิดกบั นกั ศกึ ษา

- 1.

องคประกอบที่ 4 อาจารย องคประกอบท่ี 4 อาจารย

4.1 การบริหารและพฒั นาอาจารย 4.1 การบรหิ ารและพฒั นาอาจารย

- 1. ทบทวนการตั้งคาเปาหมายในประเด็น “การบริหาร

ผูรับผิดชอบหลักสูตร” และควรประเมินผลการ

ดำเนนิ งานเปรยี บเทยี บกับเปา หมายที่กำหนด

จุดเดน โอกาสในการพัฒนา
4.2 คณุ ภาพอาจารย
- 4.2 คณุ ภาพอาจารย
1. หลักสูตรฯ ควรมีกลไกในการสนับสนุนและกำกับ
4.3 ผลทเ่ี กิดขึ้นกับอาจารย ติดตามการผลิตผลงานวิชาการของอาจารยผูรับผดิ ชอบ
- หลักสูตรทุกคนใหสามารถผลิตผลงานวิชาการไดอยาง
องคป ระกอบท่ี 5 หลกั สตู ร การเรียนการสอน การ ตอเนื่อง รวมถึงยกระดับคุณภาพผลงานวิชาการสูระดับ
นานาชาติ เพ่ือสรา งความเขม แขง็ ของหลกั สตู รฯ
ประเมนิ ผูเ รียน
4.3 ผลท่เี กิดขึ้นกับอาจารย
-

องคป ระกอบท่ี 5 หลักสูตร การเรียนการสอน การ
ประเมนิ ผูเรยี น

5.1 สาระของรายวชิ าในหลกั สูตร 5.1 สาระของรายวชิ าในหลกั สตู ร

1. หลักสูตรฯ ดำเนินการปรับปรุง หลักสูตรฯ ป 1. หลักสูตรฯ ควรมีการปรับปรุงแผนการศึกษาให

พ .ศ.2565 .ให ม ี โ ค รง ส ร าง แ บ บ Non-degree 2 นักศึกษาพัฒนาหัวขอวิทยานิพนธ ขออนุมัติหัวขอ

Module ชุดละ 6 หนวยกิต มีรายวิชาใหม 2 รายวิชา วิทยานิพนธ และเริ่มตนการทำวิทยานิพนธ ตั้งแตป

และมีการแลกเปลี่ยนรายวชิ าระหวางมหาวิทยาลัย อัน การศึกษาแรก เพื่อชวยใหนักศึกษาสามารถสำเร็จ

จะชวยใหหลักสูตรมีความทันสมัย ยืดหยุน และ การศึกษาไดต ามระยะเวลาของหลักสูตร

สอดคลองกบั ความตองการของผเู รียนมากยิ่งข้นึ

5.2 การวางระบบผสู อนและกระบวนการจัดการเรียน 5.2 การวางระบบผสู อนและกระบวนการจดั การเรยี น

การสอน การสอน

1. มีระบบการจัดภาระงานสอนภายใตหลักเกณฑ 1. หลักสูตรฯ ควรมีกลไกการชวยเหลือ กำกับ ติดตาม

“คณาจารยทุกคนควรจะไดสอนในรายวิชาที่ตรงสาขา การทำวิทยานิพนธเพื่อใหนักศึกษาสามารถสำเร็จ

ความเชี่ยวชาญ (ตามคุณวุฒิและงานวิจัย)” โดย การศกึ ษาตามระยะเวลาหลักสูตร

พิ จา รณาจ าก 1) ควา มรู  ควา ม เชี ่ย วช า ญ 2) 2. หลักสูตรฯ ควรมีกลไกกำกับติดตามกา รทำ

ประสบการณการทำงานและสาระรายวิชา 3) ความ วิทยานพิ นธข องนักศกึ ษาทุกคนในหลักสตู รอยางตอเนื่อง

เหมาะสมของภาระงานผูสอนในหลักสูตรธุรกิจเกษตร วิเคราะหปญหา หาแนวทางชว ยเหลือ สนับสนุน เพื่อให

ซึ่งชวยเพิ่มคุณภาพการจัดการเรียนการสอนและ นักศึกษาสามารถสำเร็จการศึกษาไดอ ยางมีคุณภาพและ

เช่ือมโยงสูก ารพัฒนาหัวขอ วิทยานิพนธต อไป ตามกำหนดระยะเวลาหลกั สูตร

5.3 การประเมินผเู รียน 5.3 การประเมนิ ผูเรยี น

- 1. หลักสูตรฯ ควรวิเคราะหผลประเมินความพึงพอใจ

ของผเู รยี นตอผลการดำเนินงานของหลกั สตู รทไ่ี ดคะแนน

ตำ่ กวา 4.00 (การรับเขา การใหบริการการศึกษา การจดั

กิจกรรมดานการพัฒนานักศึกษา) เพื่อหาแนวทาง

พัฒนาการบริหารหลักสูตร สงเสริมคุณภาพการจัดการ

เรยี นการสอนและการพัฒนาผเู รยี นตอไป

2. หลกั สูตรฯ ควรประเมินผลการดำเนินงานเปรียบเทยี บ

กบั เปา หมาย (เชงิ ปรมิ าณ/เชิงคณุ ภาพ) ทีก่ ำหนดไว หาก

ไมเปนไปตามเปาหมาย ควรวิเคราะหหาสาเหตุ และ

จุดเดน โอกาสในการพฒั นา

5.4 ผลการดำเนินงานหลักสตู รตามกรอบมาตรฐาน แนวทางปรับปรุงกลไกเพื่อใหไดผลการดำเนินงานตาม
คณุ วฒุ ิระดบั อดุ มศกึ ษาแหง ชาติ เปาหมายทีก่ ำหนดไว
- 3. หลักสูตรฯ ควรรายงานผลการประเมินความพงึ พอใจ
ของนกั ศึกษาและอาจารยผ ูรับผดิ ชอบหลักสตู ร แยกตาม
องคประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนนุ การเรยี นรู ประเด็นยอยท่ีดำเนินประเมินอยางนอย 3 ปตอเนื่อง
- เพอ่ื ติดตาม ประเมินผล และปรับปรงุ การดำเนินงานใหดี
ข้ึน

5.4 ผลการดำเนนิ งานหลกั สตู รตามกรอบมาตรฐาน
คณุ วฒุ ริ ะดับอดุ มศึกษาแหง ชาติ
1. หลักสูตรฯ ควรวิเคราะหหาสาเหตทุ ี่สงผลตอความพึง
พอใจของนักศึกษาปสุดทาย/บัณฑิตใหม ตอคุณภาพ
หลักสูตรที่มีคาคะแนนต่ำกวา 3.00 ไดแก ดานหลักสูตร
การศึกษา ดานพัฒนานักศึกษา และ ดานขอรองเรียน
ตา ง ๆ เพอ่ื นำไปปรบั ปรุงผลการดำเนินงาน อันจะนำไปสู
การเพิ่มระดบั ความพงึ พอใจ

องคประกอบที่ 6 สง่ิ สนบั สนนุ การเรียนรู

1. หลักสูตรฯ ควรประเมินรายการสิ่งสนับสนุนและ
จำนวนสิ่งสนับสนุนทัง้ หมดเพื่อใหเพียงพอตอการจัดการ
เรียนการสอน นำขอมูลที่ไดไปใชวางแผนจัดหา ดูแล
รกั ษา และซอมบำรุง เพื่อใหพ รอมใชต ลอดเวลา (หรือใน
กรณที ี่เกนิ ความสามารถในการดำเนินการของหลักสูตรฯ
สามารถนำเสนอผลการประเมินตอผูบริหารระดบั คณะฯ
เพอื่ พิจารณาดำเนินการตอไป)
2. หลักสูตรฯ ควรประเมินความพึงพอใจของอาจารย
และนักศึกษาใหครอบคลุมประเด็น “ความเพียงพอ”
“ความพรอมใช” “คุณภาพ” และ “การบริหารจัดการ”
ดานสิง่ สนับสนุนการเรียนรู

3.4 (ตัวชีว้ ัดท่ี 5.4) ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิระดับอดุ มศึกษาแหงชาติ

ขอ เกณฑ ผา น ระบเุ หตผุ ล
/ไม กรณที ไ่ี มผ านเกณฑก ารประเมนิ
ผา น

1 -อาจารยผรู บั ผดิ ชอบหลักสูตรอยางนอ ยรอ ยละ 80 ผา น

มสี วนรว มในการประชุมเพ่อื วางแผน ติดตาม และ

ทบทวนการดำเนนิ งานหลกั สตู ร

2 มรี ายละเอยี ดของหลกั สตู ร ตามแบบ มคอ.2 ท่ี ผาน

สอดคลอ งกบั กรอบมาตรฐานคณุ วุฒแิ หงชาติ หรอื

มาตรฐานคณุ วุฒิสาขา/สาขาวิชา (ถาม)ี

ขอ เกณฑ ผา น ระบเุ หตุผล
/ไม กรณที ่ไี มผ านเกณฑก ารประเมนิ
ผา น

3 มีรายละเอยี ดของรายวชิ า และรายละเอยี ดของ ผาน

ประสบการณภาคสนาม (ถา มี) ตามแบบ มคอ.3 และ

มคอ.4 อยา งนอยกอ นการเปด สอนในแตล ะภาค

การศกึ ษาใหค รบทุกรายวิชา

4 จัดทำรายงานผลการดำเนนิ การของรายวิชา และ ผาน

รายงานผลการดำเนนิ การของประสบการณภาคสนาม

(ถา มี) ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วัน

หลงั สน้ิ สดุ ภาคการศึกษาท่ีเปดสอนใหครบทุกรายวชิ า

5 จดั ทำรายงานผลการดำเนนิ การของหลักสูตร ตาม ผา น

แบบ มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลงั ส้นิ สดุ ปก ารศึกษา

6 มกี ารทวนสอบผลสมั ฤทธข์ิ องนกั ศึกษาตามมาตรฐาน ผา น ทวนสอบ 2 รายวิชา จาก 8 รายวิชา คิด

ผลการเรยี นรู ทีก่ ำหนดใน มคอ.3 และมคอ.4 (ถามี) เปน 25%

อยา งนอยรอยละ 25 ของรายวชิ าทีเ่ ปดสอนในแตล ะ

ปการศึกษา

7 มีการพฒั นา/ปรบั ปรงุ การจดั การเรียนการสอน กล ผา น เพ่ิมกรณีศกึ ษาในการจัดการเรยี นการ

ยุทธการสอน หรือ การประเมนิ ผลการเรยี นรู จากผล สอนในหลายรายวิชา

การประเมินการดำเนนิ งานท่ีรายงานใน มคอ.7 ปท ี่

แลว

8 อาจารยใ หม (ถา ม)ี ทกุ คน ไดร ับการปฐมนเิ ทศหรือ NA ไมมอี าจารยใหม

คำแนะนำดา นการจดั การเรยี นการสอน

9 อาจารยผูร ับผดิ ชอบหลกั สตู รทุกคนไดร บั การพัฒนา ผาน

ทางวิชาการ และ/หรอื วิชาชีพ อยา งนอยปละหนึ่งครั้ง

10 จำนวนบุคลากรสนบั สนุนการเรยี นการสอน (ถา ม)ี NA ไมมีสายสนบั สนนุ ในหลักสูตร

ไดร บั การพัฒนาวิชาการ และ/หรือวิชาชพี ไมน อ ย

กวา รอ ยละ 50 ตอป

11 ระดับความพงึ พอใจของนกั ศึกษาปส ดุ ทา ย/บณั ฑิต ผา น ระดบั ความพึงพอใจ 3.56

ใหมท่มี ตี อ คณุ ภาพหลกั สูตร เฉลย่ี ไมนอ ยกวา 3.50

จากคะแนนเตม็ 5.0

12 ระดบั ความพงึ พอใจของผูใ ชบ ัณฑติ ที่มตี อบัณฑติ ใหม ผา น ระดบั ความพงึ พอใจ 5.00

เฉลยี่ ไมน อยกวา 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.0

จำนวนขอทีป่ ระเมนิ 10

จำนวนขอทีผ่ า นการประเมนิ ....10... คิดเปน รอ ยละ.....100...........

.

เกณฑก ารประเมิน

1. มกี ารดำเนินงานนอยกวา รอ ยละ 80 มีคาคะแนนเทา กบั 0

2. มีการดำเนนิ งานรอ ยละ 80 มีคา คะแนนเทา กับ 3.50

3. มกี ารดำเนินงานรอ ยละ 80.01-89.99 มคี า คะแนนเทากับ 4.00

ผา น ระบุเหตผุ ล
กรณที ี่ไมผ านเกณฑก ารประเมนิ
ขอ เกณฑ /ไม

ผาน

4. มกี ารดำเนนิ งานรอยละ 90.00-94.99 มีคา คะแนนเทากับ 4.50

5. มีการดำเนนิ งานรอ ยละ 95.00-99.99 มคี า คะแนนเทากับ 4.75

6. มีการดำเนนิ งานรอ ยละ 100 มีคา คะแนนเทากบั 5.00

หมายเหตุ ตองผาน 5 ขอ แรกกอ น ถงึ จะพิจารณาคา คะแนนที่ 1-5 ได

3.5 ผลการประเมนิ กระบวนการและรายละเอยี ดผลการตรวจประเมนิ กรณีมกี ารปรับลดหรอื เพม่ิ คะแนน

ตวั ชีว้ ัด ระดับคะแนน กรณุ าอธิบายเหตผุ ลเพ่ิมเติม
หลักสูต กรรม กรณมี กี ารปรับลดหรอื เพม่ิ คะแนน
องคป ระกอบที่ 3 นักศกึ ษา IPO ร การ 1. การปรับลดคะแนน
1 3.1 การรบั นักศกึ ษา ประเมนิ ประเมนิ 2. มีผลประเมนิ อยใู นระดบั 3,4,5 คะแนน
ตนเอง

P2 2

2 3.2 การสงเสริมและพฒั นานกั ศกึ ษา P 3 3

องคป ระกอบที่ 4 อาจารย

3 4.1 การบรหิ ารและพัฒนาอาจารย P 2 2
3
องคป ระกอบที่ 5 หลกั สตู รการเรียนการสอน การประเมนิ ผเู รียน

4 5.1 สาระของรายวิชาในหลักสตู ร P3

5 5.2 การวางระบบผูสอนและ P 3 3
กระบวนการจดั การเรยี นการสอน P 2 2

6 5.3 การประเมนิ ผเู รยี น

7 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลกั สตู รตาม P 5 5 ไมป ระเมนิ ขอ 8, 10

กรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิ 2 การประเมินรายการสิ่งสนับสนุนและจำนวน
สิ่งสนับสนุนทั้งหมดเพื่อใหเพียงพอตอการ
ระดับอดุ มศึกษาแหงชาติ จัดการเรยี นการสอน

องคป ระกอบท่ี 6 สง่ิ สนับสนุนการเรียนรู

8 6.1 ส่งิ สนับสนนุ การเรยี นรู P2

สว นที่ 4 สรปุ ผลการประเมนิ คะแนนในภาพรวม

ตวั ช้วี ัด IPO ระดบั คะแนน หมายเหตุ

ประเมิน กรรมการ ไมประเมินขอ 5
เ น ื ่ อ ง จ า ก ไ ม  มี
ตนเอง ประเมิน อาจารยพเิ ศษ
มีผูสำเร็จการศึกษา
องคป ระกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน อยูระหวางรอบ
ประเมินปการศึกษา
1 1.1 การบริหารจัดการหลกั สตู รตามเกณฑม าตรฐาน ผา น ผาน 2563 – 2564 ที่ยัง
ไ ม  ไ ด  ร า ย ง า น ใ น ป
หลกั สตู รท่กี ำหนดโดย สกอ. การศึกษา 2563
จำนวน 1 ราย จึงยก
องคป ระกอบท่ี 2 บัณฑติ O 5.00 5.00 ม า ร า ย ง า น ใ น ป
O 5 5 การศึกษา 2564
2 2.1 คณุ ภาพบณั ฑิตตามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิ ไดแ ก นางสาวธมณ ธี
ระดับอดุ มศึกษาแหงชาติ ระศรานนท และเปน
บัณฑิตที่ไดรับการ
3 2.2 ปรญิ ญาโท ผลงานของนกั ศกึ ษาและผสู ำเร็จ ประเมินคณุ ภาพดว ย
การศกึ ษาในระดับปรญิ ญาโททไี่ ดร บั การตพี มิ พห รือ
เผยแพร ไมประเมินขอ 8,10

องคป ระกอบที่ 3 นกั ศกึ ษา P 2 2
4 3.1 การรับนกั ศึกษา P 3 3
5 3.2 การสงเสริมและพัฒนานักศกึ ษา O 3 3
6 3.3 ผลทเ่ี กดิ กับนักศึกษา
องคป ระกอบที่ 4 อาจารย P 2 2
7 4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย I 5 5
8 4.2 คุณภาพอาจารย 100 5 5

- รอยละของอาจารยผรู ับผดิ ชอบหลกั สตู รท่ีมีคณุ วุฒิ 100 5 5
ปริญญาเอก
133.33 5 5
- รอยละอาจารยผูรบั ผดิ ชอบหลกั สตู รทดี่ ำรงตำแหนง 3 3
วชิ าการ O
3 3
- ผลงานวชิ าการของอาจารยผรู ับผดิ ชอบ P 3 3
9 4.3 ผลทีเ่ กดิ กบั อาจารย P
องคป ระกอบท่ี 5 หลกั สูตรการเรียนการสอน การประเมนิ 2 2
ผเู รียน P 2 2
10 5.1 สาระของรายวิชาในหลักสตู ร p
11 5.2 การวางระบบผูส อนและกระบวนการจดั การเรยี น

การสอน
12 5.3 การประเมนิ ผูเรยี น
13 5.4 ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐาน

คณุ วุฒริ ะดบั อดุ มศกึ ษาแหง ชาติ

ตัวชวี้ ดั IPO ระดบั คะแนน หมายเหตุ

ประเมิน กรรมการ

ตนเอง ประเมิน

องคป ระกอบที่ 6 ส่งิ สนับสนนุ การเรยี นรู

14 6.1 สิง่ สนับสนุนการเรยี นรู P2 2 การประเมินรายการ

สิ่งสนับสนุนและ

จำนวนสิ่งสนับสนุน

ท ั ้ ง ห ม ด เ พ ื ่ อ ใ ห

เพียงพอตอการ

จัดการเรยี นการสอน

รวมคะแนน 3.31 3.31

หมายเหตุ

1.ตวั ช้วี ดั ไหน หลกั สตู รใดไมไ ดรบั การประเมนิ ใหตดั ตัวช้วี ดั นน้ั ออก (ไมนำมาคดิ คาคะแนน)

2.กองพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาไดจ ัดทำโปรแกรม Excel ในการคำนวณคะแนน และสง ทางเมลใหกรรมการทุกทาน

ทางอเี มล หรือติดตอ โทร 48707-9

ระดับคณุ ภาพ

คะแนนระดบั หลกั สตู ร = 0 หมายถึง หลกั สูตรไมไ ดมาตรฐาน

คะแนนระดบั หลกั สูตร = 0.01-5.00 หมายถงึ หลักสูตรเปนไปตามมาตรฐานและมีระดับคณุ ภาพตามคะแนนทไ่ี ด

ดงั น้ี

คะแนน ระดับคณุ ภาพ

0.01-2.00 นอ ย

2.01-3.00 ปานกลาง

3.01-4.00 ดี

4.01-5.00 ดีมาก

รายงานผลการตรวจประเมินคณุ ภาพภายใน
ประจำปีการศึกษา 2564

(ระหว่างวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2564 – 30 มิถนุ ายน 2565)

หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร
คณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแกน่

วนั ท่ี 30 กนั ยายน 2565

(ระดบั ปรญิ ญาตรี)
1

รายชื่อคณะกรรมการ

ลำดบั รายชือ่ คณะกรรมการ ตำแหน่ง สังกัดหลกั สูตร/สาขา คณะ

1 ผศ.ดร.นวลฉวี แสงชยั ประธาน สาขาวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ คณะบรหิ ารธรุ กจิ

และการบญั ชี

2 ผศ.ดร.กันยารตั น์ เควยี เซน่ กรรมการ สาขาวชิ าสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์

และสังคมศาสตร์

3 รศ.ดร.วรรณวิภา แกว้ ประดษิ ฐ์ กรรมการ สาขาวชิ าพชื ไร่ คณะเกษตรศาสตร์

พลพนิ จิ

4 นางสาวจริ าวรรณ ปดั อาสา เลขานุการ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร คณะเกษตรศาสตร์

หมายเหตุ

กรุณาระบขุ ้อมลู ให้ถกู ต้องและครบถ้วน กองพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาจะบนั ทกึ รายช่อื ผตู้ รวจประเมนิ ที่ทำหน้าทตี่ รวจ

ประเมนิ แต่ละหลักสตู รเพอื่ จดั เก็บเป็นฐานขอ้ มลู ผู้ตรวจประเมินและผทู้ ำหนา้ ที่ตรวจประเมินหลักสูตร

มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่

สว่ นท่ี 1 บทนำ
1.1 ขอ้ มูลของหลักสูตรโดยสงั เขป/ประวตั คิ วามเปน็ มาของหลักสตู ร

หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร ได้เริ่มเปิดสอนครั้งแรกในปีการศึกษา 2521
จนถึงปัจจุบนั มบี ัณฑิตจบการการศกึ ษาแล้ว 43 รนุ่ โดยหลักสูตรทีใ่ ช้ในการจดั การเรยี นการสอนในปกี ารศึกษา 2564
เป็นหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560 โดยได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย ในการการประชุมครั้งท่ี 8/2560 วันท่ี 8
สงิ หาคม พ.ศ. 2560 และ สกอ. รบั ทราบ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2563

หลกั สตู รวทิ ยาศาสตรบณั ฑติ สาขาวิชาเศรษฐศาสตรเ์ กษตร (หลักสตู รปรับปรุง พ.ศ. 2560) เป็นหลักสูตรที่
มีปรัชญาการจัดการศึกษา ที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน มีการนำเอาวิจัย และทักษะที่เกี่ยวข้องในการวิจัยมาเป็น
ฐานในการจัดการศึกษา (research based learning, RBL) เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน
การเปลี่ยนแปลงบริบทของสังคม และเทคโนโลยี เพื่อให้บัณฑิตเป็นผู้มีความรู้ มีความสามารถ และทัศนคติในการ
ทำงานทีด่ ี มสี ่วนสำคญั ในการพฒั นา ภาคการเกษตรของประเทศให้กา้ วหนา้ และม่นั คง

วตั ถุประสงคข์ องหลักสตู ร
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑติ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์เกษตร (หลักสูตรปรับปรงุ พ.ศ. 2560) มีวัตถุประสงค์
เพ่ือผลิตบัณฑิตท่ีมคี ุณสมบตั ดิ ังน้ี
1) มีความรูแ้ ละประสบการณก์ ารเรยี นรู้ สามารถปฏิบตั ิงานในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรได้อย่างถูกต้อง
ตามหลักวิชาการ
2) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และริเริ่มสร้างสรรค์ มีทักษะการวิจัย และบูรณาการใช้ความรู้และ
ประสบการณใ์ นสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรในการแก้ปัญหาการทำงานได้
3) มีทักษะความสามารถด้านการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร การใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
สารสนเทศ และการจดั การสมยั ใหม่
4) มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ/วิชาชีพ และมคี วามรับผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คม

2

5) มที ักษะความพร้อมดา้ นสงั คม มีมนษุ ยสมั พันธด์ ี มภี าวะผ้นู ำ ยอมรบั ความคิดเหน็ ทแ่ี ตกตา่ ง โดยสามารถ

ทำงานร่วมกบั ผู้อื่นภายใต้วัฒนธรรมทีห่ ลากหลาย และมีความสามารถขั้นพื้นฐานในการบริหารจดั การทรัพยากรที่มี

อยใู่ หเ้ หมาะสมกับการปฏิบัตงิ านโดยสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจบุ นั

1.2 วิธีการประเมิน

(1) การวางแผนการประเมนิ กอ่ นและหลังการตรวจประเมินหลกั สตู ร

1. กรรมการตรวจสอบอ่านรายงานประเมินตนเอง

2. กรรมการสรปุ คะแนนเบอ้ื งตน้

3. กรรมการประชุมสรปุ ผลและอภปิ ลายผลการประเมินรายงานตวั ช้วี ัด

(2) วิธกี ารตรวจสอบและความนา่ เชอื่ ถือของข้อมูล

1. ตรวจจากการอา่ นรายงานประเมนิ ตนเองของหลักสูตร

2. กรรมการสรุปผลคะแนนตามรายงานประเมินตนเองของหลกั สตู ร

(3) ผใู้ หข้ อ้ มูลในวันตรวจเยยี่ มหลักสตู ร เช่น อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลกั สูตร/อาจารยป์ ระจำหลักสูตร อาจารย์ผสู้ อน

ผ้ทู รงคณุ วุฒิ ผูเ้ รียน (โปรดระบรุ ายชอื่ และตำแหน่ง)

1. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. พัชรี สุริยะ ประธานหลกั สูตร

2. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. เยาวรัตน์ ศรวี รานันท์ อาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สตู ร

3. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ธีระ เกียรติมานะโรจน์ อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร

4. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ หยาดรุง้ มะวงศ์ไว อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลักสตู ร

5. อาจารย์ ภคพล สายหยุด อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร

6. รองศาสตราจารย์ ดร. สุภาภรณ์ พวงชมภู อาจารยผ์ สู้ อน

7. ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. สาธติ อดโิ ต อาจารยผ์ ู้สอน

8. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ปารชิ าติ แสงคำเฉลียง อาจารยผ์ สู้ อน

9. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ปนัดดา อตุ รนคร อาจารยผ์ ู้สอน

10. นางสาวน้ำทิพย์ นามวิเศษ นกั ศึกษาสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การเกษตร

11. นายอนชุ ัน จันทร์พรมชู นกั ศึกษาสาขาวชิ าเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร

12. นายศภุ ชยั พนั ธต์ ู้ ศิษย์เกา่ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร

13. นายชัยภักด์ิ ศรีสขุ ศิษย์เกา่ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร

14. นายสขุ เจรญิ กจิ ผใู้ ชบ้ ัณฑติ

15. นางสาวพรชวรตั น์ ฐานมนั่ ผู้ใช้บณั ฑติ

16. นางสาววรรณวไิ ล ชาสุด สายสนับสนนุ

3

ส่วนที่ 2 บทสรปุ ผู้บริหารและสรปุ ผลการประเมนิ ในภาพรวม

จุดเด่น
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลกั สตู รมคี ณุ วุฒติ รงกับสาขาวิชาท่ีเปิดสอน ส่วนใหญม่ ีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกและมี
ตำแหนง่ ทางวิชาการ มคี วามรว่ มมอื ร่วมใจในการขับเคลื่อนหลักสตู รใหต้ อบสนองความกา้ วหนา้ ทางวิชาการ
และความต้องการของภาคการทำงาน
2. มีการจัดการเรียนสอนแบบ Active Learning ที่สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะด้านความรู้ความ
เช่ียวชาญในสาขาวิชา
3. คณะเกษตรศาสตร์มีสถานที่ใหเ้ รียนรูใ้ นภาคปฏิบัติที่หลากหลายท่ีสัมพันธ์กบั หลกั สูตร ได้แก่ การฝึกปฏิบัติ
ด้านการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ การฝึกประสบการณ์ในการเป็นผู้ประกอบการที่อุทยาน
เทคโนโลยีการเกษตร
4. โครงสร้างหลักสูตร มีการออกแบบและจัดวางโครงสร้างตามลำดับความยากง่าย ทำให้นักศึกษาได้พัฒนา
ความรูต้ ามลำดับขนั้
5. บัณฑิตมีความร้คู วามสามารถและความพร้อมในการทำงาน สามารถเรยี นรไู้ ดเ้ ร็ว มีความตั้งใจในการทำงาน
พร้อมเรียนรู้ สู้และอดทนต่อการทำงาน ไม่ปฏิเสธงาน สามารถทำงานเป็นทีม พร้อมสำหรับการปรับปรุง
และเปล่ียนแปลง

จุดทค่ี วรพฒั นา
1. มหาวิทยาลัยควรกำหนดปรัชญาการศึกษา และนำมาใช้เป็นแนวทางจัดการเรียนการสอน และการจัด
กจิ กรรมเสริมหลกั สตู รเพ่ือพฒั นาผู้เรยี นสผู่ ลลพั ธก์ ารเรยี นร้ทู ค่ี าดหวัง (PLOs)
2. หลักสูตรจะมีการปรับปรุงในปี พ.ศ. 2565 โดยมุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (Outcome-based
education : OBE) จึงควรปรับปรุงรายวิชาให้จัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติมากขึ้น ลดรายวิชาที่เป็น
ภาคทฤษฎีท่ีมีความซับซ้อน และให้ทุกรายวิชาของหลักสูตรมีการประเมินผลโดยใช้ rubrics และ marking
schemes
3. ควรมีการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกระบวนการของ Outcome Based Education เช่น การออกแบบ
หลักสูตรแบบ Backward Curriculum Design การใช้ Learning Taxonomy สำหรับ PLOs (Program
Learning Outcomes) CLOs (Course Learning Outcomes)
4. ควรมีการกำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (Output & Outcomes) เพื่อการวิเคราะห์ ติดตาม และ
Benchmarked เพอื่ การปรับปรงุ
5. พฒั นาทักษะ Soft skills ทีจ่ ำเปน็ ให้กบั นกั ศกึ ษาในการประกอบวิชาชพี เช่น ทักษะชีวิต ทักษะการใฝเ่ รยี นรู้
ทักษะผู้ประกอบการ ทกั ษะการตดั สินใจ และความสามารถในการปรบั ตัว เปน็ ตน้
6. หลักสูตรสามารถส่งเสริมความก้าวหน้า ความเชี่ยวชาญทางวิชาการของอาจารย์ โดยพิจารณาจากความ
ต้องการของตลาดงานหรือการวเิ คราะห์ชอ่ งว่างของความรขู้ องศาสตร์ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป
7. จากข้อเสนอแนะของบัณฑิต และผู้ใช้บัณฑิต แนะนำว่าควรเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับการออกแบบ หรือผลิต
สอื่ เพื่อสง่ เสริมการตลาดออนไลน์ การเงนิ แบบไร้พรมแดน ความรู้ทางด้านการเกษตรในแนวกวา้ ง เชน่ การ

4

พัฒนาปรับปรุงดินแบบง่าย การเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของภาค
การทำงาน
8. หลักสูตรหรือคณะอาจจัดเตรียมความพร้อม สอนเสริม หรือรวบรวมแหล่งความรู้สำหรับการเตรียมสอบ
ให้กับนักศึกษาทั้งทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้นักศึกษาสามารถสอบวดั ระดับความรู้
ผ่านตามเกณฑท์ ีม่ หาวทิ ยาลัยกำหนด

วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ดี่ ี / นวตั กรรม (ถา้ มี)
*วิธีปฏบิ ตั ทิ ด่ี ี หมายถงึ วธิ กี ารปฏบิ ัตหิ รอื ขน้ั ตอนการปฏบิ ัตทิ ที่ ำให้สถาบนั ประสบความสำเรจ็ หรือสคู่ วาม
เปน็ เลิศตามเปา้ หมาย เปน็ ท่ยี อมรับในวงวิชาการหรือวิชาชพี นน้ั ๆ มีหลกั ฐานปรากฏชดั เจน โดยมีการสรุป
วิธีการปฏบิ ัติหรือขั้นตอนการปฏบิ ัติ ตลอดจนความรู้ ประสบการณ์ บันทึกเปน็ เอกสาร เผยแพร่ให้
หน่วยงานภายในหรอื ภายนอกสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หมายเหตุ :
ผ้ปู ระเมินควรจะแสดงรายละเอียดทช่ี ดั เจน เพอ่ื มหาวทิ ยาลัยจะได้นำไปเผยแพร่แนวปฏิบตั ทิ แี่ ละกิจกรรม
แลกเปลยี่ นเรียนรู้

ส่วนที่ 3 ผลประเมนิ คุณภาพหลกั สูตร

3.1 องค์ประกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน

สำหรับหลักสตู รทใ่ี ชเ้ กณฑ์มาตรฐานหลักสตู ร พ.ศ.2558

ขอ้ เกณฑ์ ขอ้ ท่ี ผา่ น ระบเุ หตผุ ล
ประเมิน /ไมผ่ ่าน กรณีท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ
()

1 • จำนวนอาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สตู ร  

ไมน่ ้อยกว่า 5 คน

• และเป็นอาจารยผ์ ูร้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร

เกินกวา่ 1 หลกั สตู รไม่ได้และประจำ

หลกั สตู รตลอดระยะเวลาทจี่ ดั

การศกึ ษาตามหลกั สตู รน้นั

2 • คณุ สมบตั ิของอาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบ  

หลกั สตู ร มีคณุ วุฒปิ รญิ ญาโทหรือ

5

ข้อ เกณฑ์ ข้อท่ี ผ่าน ระบเุ หตผุ ล
ประเมิน /ไมผ่ า่ น กรณที ่ีไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมิน
เทยี บเทา่ หรือดำรงตำแหนง่ ทาง ()
วิชาการไม่ตำ่ กวา่ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ 
 
• และมีผลงานทางวชิ าการ 1
รายการใน 5 ปี ย้อนหลัง  NA

3 • คณุ สมบตั ิของอาจารย์ประจำ NA  หลักสูตรปรบั ปรุง ปี 2560

หลกั สตู ร มีคณุ วุฒปิ รญิ ญาโทหรอื 
เทยี บเทา่ หรือดำรงตำแหน่งทาง
วิชาการไมต่ ำ่ กวา่ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์

• และ มผี ลงานทางวชิ าการ 1
รายการใน 5 ปี ยอ้ นหลงั

4 • คณุ สมบัติของอาจารย์ผสู้ อน ทเี่ ปน็

อาจารยป์ ระจำ มีคณุ วุฒิปรญิ ญาโท
หรือเทยี บเทา่ หรือดำรงตำแหนง่ ทาง
วชิ าการไมต่ ำ่ กว่าผู้ชว่ ยศาสตราจารย์
ในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่
สัมพันธ์กนั หรือสาขาวชิ าของรายวชิ า
ท่สี อนรายละเอียด

5 • คณุ สมบตั ิของ อาจารยผ์ ้สู อน ทีเ่ ปน็

อาจารย์พิเศษ (ถา้ มี) มีคณุ วฒุ ิ
ปรญิ ญาโท หรอื คณุ วุฒิปริญญาตรี
หรือเทยี บเท่าและมปี ระสบการณ์
ทำงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกับวชิ าทสี่ อนไม่
น้อยกวา่ 6 ปี ท้ังนี้ มชี ัว่ โมงสอนไม่
เกินรอ้ ยละ 50 ของรายวิชา โดยมี
อาจารยป์ ระจำเปน็ ผู้รบั ผดิ ชอบ
รายวิชาน้นั

6 • การปรบั ปรงุ หลักสตู รตามรอบ

ระยะเวลาที่กำหนดตอ้ งไม่เกิน 5 ปี

จำนวนขอ้ ท่ีประเมิน 5 5 ผลการประเมนิ
 หลกั สตู รไดม้ าตรฐาน
จำนวนข้อทีผ่ า่ นการประเมิน

หมายเหตุอ่นื ๆ (ถ้าม)ี

6

3.2 จุดเดน่ และโอกาสในการพฒั นาองค์ประกอบที่ 1
(1) ข้อเสนอแนะเพื่อการปรบั ปรุงหลักสตู รให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลมุ ประเด็น
การตรวจสอบ ประเมนิ ให้หลักสูตรมีมาตรฐานอย่างต่อเนือ่ งและยั่งยนื

-
(2) แนวปฏบิ ัติที่ดี/นวตั กรรม/ผลงานโดดเด่น (ถา้ มี)

-

3.3 ผลการประเมนิ รายดา้ น (ด้านท่ี 1-8) คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
AUN-QA Version 4.0
22
AUN-QA 1 Expected Learning Outcomes
(ด้านท่ี 1 : ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั ) 33
AUN-QA 2 Programme Structure and Content
(ด้านท่ี 2 : โครงสรา้ งโปรแกรมและเนอื้ หา) 33
AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach 22
(ดา้ นที่ 3 : แนวทางการจัดเรยี นการสอน)
AUN-QA 4 Student Assessment 33
(ดา้ นท่ี 4 : การประเมนิ ผเู้ รียน)
AUN-QA 5 Academic Staff 33
(ดา้ นท่ี 5 : บคุ ลากรสายวิชาการ)
AUN-QA 6 Student Support Services 33
(ด้านที่ 6 : การบริการและการช่วยเหลอื ผู้เรยี น)
AUN-QA 7 Facilities and Infrastructure 33
(ด้านที่ 7 : สงิ่ อำนวยความสะดวกและโครงสรา้ งพน้ื ฐาน)
AUN-QA 8 Output and Outcomes 33
(ด้านท่ี 8 : ผลผลิตและผลลัพธ)์

คะแนน

AUN 1 Expected Learning Outcomes คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
22
1.1 The programme to show that the expected learning outcomes are
appropriately formulated in accordance with an established learning
taxonomy, are aligned to the vision and mission of the university, and
are known to all stakeholders.

7


Click to View FlipBook Version