- ปรับปรุงกระบวนการเรยี นการสอนที่มงุ่ สู่การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ มีความสามารถด้านความคิดและการ
ค้นหาองคค์ วามรู้ใหมใ่ ห้กบั สาขาวชิ าชพี
- ใช้เทคนิคการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางแบบต่างๆ ได้แก่ การสอนแบบ Research based learning
(RBL), Problem based learning (PBL) กรณีศึกษา (case study) เป็นตน้
- ปรับปรุงกระบวนการเรยี นการสอนที่ม่งุ สู่การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ มีความสามารถด้านความคิดและการ
ค้นหาองคค์ วามร้ใู หมใ่ หก้ บั สาขาวชิ าชีพ
1.2 วธิ ีการประเมนิ
(1) การวางแผนการประเมนิ ก่อนและหลังการตรวจประเมินหลกั สูตร
1. กรรมการตรวจอา่ นรายงานประเมนิ ตนเอง
2. กรรมการสรปุ คะแนนเบ้ืองต้น
3. ประธานรวบรวมคะแนนและความเหน็ จากกรรมการ สรุปผลและอภปิ รายผลการประเมินราย
ตวั ชวี้ ดั และเห็นชอบรว่ มกนั
(2) วธิ ีการตรวจสอบและความน่าเชือ่ ถือของข้อมูล
1. ตรวจจากการอา่ นรายงานประเมนิ ตนเองหลกั สูตร
2. กรรมการสรุปผลคะแนนตามรายงานประเมินตนเองของหลกั สตู ร
(3) ผใู้ ห้ข้อมูลในวันตรวจเยยี่ มหลกั สูตร เชน่ อาจารยผ์ ู้รบั ผดิ ชอบหลกั สูตร/อาจารย์ประจำหลักสตู ร
อาจารยผ์ สู้ อน ผู้ทรงคุณวฒุ ิ ผเู้ รียน) (โปรดระบุรายช่ือและตำแหน่ง)
ที่ ชือ่ -สกุล ตำแหน่ง
1 รศ.ดร.บณั ฑติ ยวงสรอ้ ย อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลกั สตู ร
2 ผศ.ดร.รักพงษ์ เพชรคำ อาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบหลักสตู ร
3 รศ.ดร.สธุ ี วงศม์ ณปี ระทีป อาจารย์ผู้รบั ผดิ ชอบหลักสตู ร
4
ส่วนที่ 2 บทสรุปผบู้ ริหารและสรปุ ผลการประเมินในภาพรวม
จุดเดน่
1. อาจารย์ผ้รู ับผดิ ชอบหลักสูตรมีผลงานตีพมิ พ์ระดับนานาชาตอิ ยา่ งตอ่ เนือ่ ง
2. จากการสัมภาษณพ์ บว่าหลักสตู รมีการสร้างความร่วมมือทางวชิ าการในระดับนานาชาติ
จุดทค่ี วรพัฒนา
1. ควรมกี ารปรับปรงุ กลยทุ ธก์ ารรับนกั ศกึ ษาใหเ้ ป็นไปตามแผน
2. ควรมีการปรับปรุงรูปแบบการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาท่ีสอดคล้องกับการจัดการเรยี นรู้แบบ New
Normal และ Next Normal
3. ควรมีการปรับปรุงกลยุทธ์และรูปแบบเพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาสำเร็จการศึกษาได้เร็วขึ้น หรือลดค่าเฉลี่ย
ระยะเวลาของการสำเร็จการศกึ ษา
วธิ ีปฏิบตั ิทดี่ ี / นวตั กรรม (ถ้าม)ี
*วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ี่ดี หมายถึง วธิ ีการปฏบิ ัตหิ รอื ขัน้ ตอนการปฏิบตั ทิ ที่ ำให้สถาบนั ประสบความสำเร็จหรอื สูค่ วาม
เป็นเลศิ ตามเปา้ หมาย เปน็ ทีย่ อมรับในวงวชิ าการหรือวิชาชีพนน้ั ๆ มหี ลกั ฐานปรากฏชัดเจน โดยมกี ารสรุป
วิธกี ารปฏบิ ตั หิ รือขั้นตอนการปฏิบตั ิ ตลอดจนความรู้ ประสบการณ์ บันทึกเป็นเอกสาร เผยแพรใ่ ห้
หนว่ ยงานภายในหรือภายนอกสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หมายเหตุ :
ผูป้ ระเมินควรจะแสดงรายละเอยี ดท่ีชดั เจน เพอ่ื มหาวทิ ยาลยั จะได้นำไปเผยแพรแ่ นวปฏบิ ตั ิทแี่ ละกจิ กรรม
แลกเปล่ยี นเรยี นรู้
5
ส่วนที่ 3 ผลประเมินคณุ ภาพหลกั สตู ร
3.1 องคป์ ระกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน
ข้อ เกณฑ์ ขอ้ ท่ี ผ่าน ระบเุ หตผุ ล
ประเมิน /ไมผ่ า่ น กรณีที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์การ
() ผ่าน
ผ่าน ประเมิน
ผ่าน
1 • จำนวนอาจารยผ์ ู้รบั ผดิ ชอบหลักสตู ร ไมน่ อ้ ยกว่า 3 คนและเปน็ ผา่ น
อาจารยผ์ ู้รับผิดชอบหลักสูตร เกนิ กว่า 1 หลักสูตรไมไ่ ดแ้ ละ
ประจำหลักสตู รตลอดระยะเวลาท่จี ดั การศึกษาตามหลกั สตู รนัน้ NA
รายละเอียด
ผา่ น
2 • คณุ สมบตั ิของอาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบหลกั สตู ร มคี ณุ วุฒิปรญิ ญา
เอกหรอื เทียบเท่าหรอื ขน้ั ตำ่ ปริญญาโทหรือเทียบเทา่ ที่มี
ตำแหน่งศาสตราจารยข์ ึน้ ไป
• และมผี ลงานทางวชิ าการอย่างน้อย 3 รายการใน 5 ปียอ้ นหลัง
โดยอยา่ งนอ้ ย 1 รายการตอ้ งเป็นผลงานวิจัย
3 • คุณสมบตั ิของอาจารย์ประจำหลกั สูตร มคี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอก
หรอื เทยี บเท่าหรอื ขนั้ ต่ำปรญิ ญาโทหรอื เทยี บเท่าที่มตี ำแหนง่
รองศาสตราจารย์
• และมผี ลงานทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปยี ้อนหลัง
โดยอยา่ งน้อย 1 รายการตอ้ งเป็นผลงานวิจัย
4 • คณุ สมบตั ิของอาจารย์ผสู้ อน ท่เี ปน็ อาจารยป์ ระจำ มีคณุ วุฒิ
ปรญิ ญาเอกหรอื เทยี บเท่าหรอื ขั้นต่ำปรญิ ญาโทหรือเทียบเท่าท่ี
มีตำแหนง่ รองศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ าน้นั หรือสาขาวชิ าท่ี
สมั พนั ธ์กนั หรอื สาขาวิชาของรายวชิ าทสี่ อน
• และตอ้ งมปี ระสบการณ์ดา้ นการสอนและมผี ลงานทางวชิ าการ
อยา่ งน้อย 1 รายการใน 5 ปีย้อนหลงั รายละเอียด
5 • คุณสมบัติของ อาจารยผ์ ู้สอน ทเี่ ปน็ อาจารยพ์ เิ ศษ (ถา้ ม)ี มี NA
คุณวุฒปิ รญิ ญาเอกหรือเทยี บเท่าหรอื ขน้ั ตำ่ ปรญิ ญาโทหรอื
เทียบเทา่ ทม่ี ตี ำแหน่งรองศาสตราจารยใ์ นสาขาวชิ าน้ันหรือ
สาขาวชิ าทส่ี มั พนั ธก์ นั หรอื สาขาวชิ าของรายวชิ าทีส่ อน และ
ต้องมีประสบการณด์ า้ นการสอน
• และมผี ลงานทางวชิ าการอยา่ งน้อย 1 รายการใน 5 ปีย้อนหลัง
มีชัว่ โมงสอนไมเ่ กินร้อยละ 50 ของรายวชิ า โดยมอี าจารย์
ประจำเปน็ ผรู้ ับผดิ ชอบรายวชิ านน้ั
6 • คณุ สมบัตขิ องอาจารย์ทป่ี รกึ ษาวทิ ยานิพนธ์หลกั และอาจารยท์ ี่
ปรึกษาการคน้ คว้าอสิ ระ
6
ข้อ เกณฑ์ ข้อที่ ผา่ น ระบุเหตผุ ล
ประเมนิ /ไมผ่ า่ น กรณีท่ีไมผ่ า่ นเกณฑก์ าร
1. เปน็ อาจารยป์ ระจำหลักสตู รทมี่ ีคณุ วุฒปิ รญิ ญาเอกหรือ () ผ่าน
เทียบเท่า หรือ ขั้นต่ำปรญิ ญาโทหรอื เทียบเท่าและดำรง ประเมนิ
ตำแหนง่ ทางวชิ าการไมต่ ำ่ กว่ารองศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ า ผา่ น
นนั้ หรือสาขาวิชาทส่ี มั พนั ธก์ นั และ ผ่าน
2.มผี ลงานทางวชิ าการอยา่ งน้อย 3 รายการใน 5 ปีย้อนหลัง
โดยอย่างนอ้ ย 1 รายการต้องเปน็ ผลงานวจิ ัย
7 • คุณสมบตั ิของอาจารยท์ ีป่ รกึ ษาวิทยานพิ นธร์ ว่ ม (ถา้ ม)ี กรณี
เป็นอาจารย์ประจำตอ้ งมีคณุ วฒุ ปิ ริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรอื
ขัน้ ตำ่ ปรญิ ญาโทหรือเทยี บเทา่ และดำรงตำแหนง่ ทางวชิ าการไม่
ตำ่ กว่ารองศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ าน้ันหรือสาขาวชิ าที่
สมั พนั ธก์ นั และมผี ลงานทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการใน 5
ปยี อ้ นหลัง โดยอยา่ งน้อย 1 รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวิจัย
• หรอื กรณี เป็นผู้ทรงคณุ วฒุ ภิ ายนอก 1. มีคุณวฒุ ปิ รญิ ญาเอก
หรือเทยี บเทา่ และมผี ลงานทางวชิ าการทีไ่ ดร้ ับการตีพมิ พ์
เผยแพรใ่ นระดบั นานาชาติ ซง่ึ ตรงหรอื สัมพนั ธก์ บั หัวขอ้
วทิ ยานพิ นธ์หรือการคน้ คว้าอสิ ระไมน่ ้อยกว่า 5 เร่ือง หากไม่มี
คณุ วุฒิหรือประสบการณ์ตามทีก่ ำหนดจะตอ้ งมคี วามรคู้ วาม
เชีย่ วชาญและประสบการณ์สงู เปน็ ทยี่ อมรบั ซ่ึงตรงหรอื สมั พันธ์
กบั หัวขอ้ วิทยานพิ นธ์หรอื การคน้ คว้าอิสระ โดยผ่านการ
เห็นชอบของสภาสถาบันและแจ้ง กกอ ทราบ
8 • อาจารยผ์ ู้สอบวทิ ยานพิ นธ์ ประกอบด้วย อาจารย์ประจำ
หลกั สตู รและผู้ทรงคุณวฒุ จิ ากภายนอกไมน่ ้อยกวา่ 5 คน
ประธานผสู้ อบวทิ ยานิพนธ์ตอ้ งเปน็ ผูท้ รงคุณวุฒจิ ากภายนอก
9 • คณุ สมบัตอิ าจารยผ์ สู้ อบวิทยานิพนธ์ กรณี เป็นอาจารยป์ ระจำ
หลกั สตู รต้องมคี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอกหรอื เทียบเท่า หรอื ขน้ั ต่ำ
ปริญญาโทหรือเทยี บเทา่ และดำรงตำแหน่งทางวิชาการไมต่ ำ่
กว่ารองศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ านน้ั หรือสาขาวชิ าที่สมั พันธ์
กนั และมผี ลงานทางวชิ าการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปี
ยอ้ นหลัง โดยอยา่ งน้อย 1 รายการต้องเปน็ ผลงานวจิ ยั หรือ
• กรณี เปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิภายนอก 1. มคี ณุ วุฒิปรญิ ญาเอกหรอื
เทียบเท่าและมผี ลงานทางวชิ าการท่ไี ดร้ บั การตพี มิ พเ์ ผยแพร่ใน
ระดับนานาชาติ ซึง่ ตรงหรือสมั พนั ธ์กับหัวขอ้ วทิ ยานิพนธ์หรือ
การคน้ ควา้ อิสระไม่นอ้ ยกวา่ 5 เรอื่ ง หากไม่มีคณุ วุฒิหรือ
ประสบการณ์ตามทก่ี ำหนดจะต้องมีความรูค้ วามเชี่ยวชาญและ
7
ขอ้ ท่ี ผ่าน ระบุเหตผุ ล
/ไมผ่ า่ น กรณที ่ไี มผ่ า่ นเกณฑก์ าร
ขอ้ เกณฑ์ ประเมนิ
() ประเมิน
ประสบการณ์สงู เปน็ ทยี่ อมรบั ซ่ึงตรงหรือสัมพนั ธ์กับหวั ข้อ
วิทยานิพนธ์หรือการคน้ คว้าอสิ ระ โดยผา่ นการเหน็ ชอบของ
สภาสถาบนั และแจ้ง กกอ ทราบ
10 • การตีพิมพเ์ ผยแพรผ่ ลงานของผสู้ ำเรจ็ การศึกษา ผ่าน
-กรณี แบบ 1 ต้องได้รับการยอมรบั ใหต้ ีพิมพใ์ นวารสาร
ระดบั ชาตหิ รอื นานาชาติทมี่ คี ณุ ภาพตามประกาศของ กกอ.
อยา่ งน้อย 2 เรอื่ ง
-กรณี แบบ 2 ต้องได้รบั การยอมรบั ใหต้ พี มิ พใ์ นวารสาร
ระดับชาตหิ รือนานาชาติท่มี คี ุณภาพตามประกาศของ กกอ.
11 • ภาระงานอาจารย์ที่ปรกึ ษาวทิ ยานพิ นธ์และการคน้ ควา้ อิสระใน ผา่ น
ระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา วทิ ยานพิ นธ์
-อาจารยค์ ณุ วุฒปิ รญิ ญาเอก 1 คน ตอ่ นักศึกษา 5 คน การ
ค้นควา้ อิสระ
-อาจารย์คณุ วุฒิปริญญาเอก 1 คน ต่อ นกั ศึกษา 15 คน หาก
เปน็ ทีป่ รึกษาทั้ง 2 ประเภทใหเ้ ทยี บสัดส่วนนกั ศึกษาที่ทำ
วทิ ยานพิ นธ์ 1 คนเทียบเท่ากับ นกั ศกึ ษาท่คี ้นคว้าอิสระ 3 คน
-หากอาจารยค์ ณุ วุฒิปรญิ ญาเอกและมตี ำแหนง่ ทางวิชาการหรือ
ปริญญาโทและตำแหนง่ ทางวิชาการระดบั รองศาสตราจารยข์ ้ึน
ไป 1 คน ตอ่ นักศกึ ษา 10 คน
-หากอาจารยค์ ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอกและมตี ำแหน่งทางวิชาการ
ระดับศาสตราจารยข์ นึ้ ไป ไม่เกิน 15 แต่ต้องได้รบั การอนมุ ตั ิ
จาก กกอ.
12 • การปรับปรงุ หลักสูตรตามรอบระยะเวลาของหลักสตู รหรอื ทุก ผ่าน
รอบ 5 ปี ผลการประเมนิ
11 หลักสตู รไดม้ าตรฐาน
จำนวนข้อทป่ี ระเมิน 11
จำนวนข้อที่ผา่ นการประเมนิ
หมายเหตอุ ่ืนๆ (ถ้ามี)
8
3.2 จดุ เดน่ และโอกาสในการพฒั นาองคป์ ระกอบที่ 1
(1) ขอ้ เสนอแนะเพอื่ การปรบั ปรงุ หลกั สตู รให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลุมประเดน็
การตรวจสอบ ประเมิน ให้หลกั สตู รมมี าตรฐานอยา่ งต่อเนื่องและยง่ั ยนื
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
(2) แนวปฏบิ ัติท่ีด/ี นวัตกรรม/ผลงานโดดเด่น (ถา้ มี)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.3 ผลการประเมนิ รายองคป์ ระกอบ (องค์ประกอบที่ 2-6)
จุดเดน่ โอกาสในการพฒั นา
องค์ประกอบท่ี 2 บัณฑติ องค์ประกอบที่ 2 บณั ฑิต
1.- 1.-
องค์ประกอบท่ี 3 นกั ศึกษา องค์ประกอบท่ี 3 นกั ศึกษา
3.1 การรับนกั ศกึ ษา 3.1 การรับนักศึกษา
1.- 1. ควรมกี ารปรับปรงุ กลยุทธ์การรับนกั ศกึ ษาใหเ้ ป็นไป
ตามแผน
2. ควรมกี ารปรบั ปรุงรูปแบบการเตรยี มความพรอ้ มของ
นกั ศกึ ษาทส่ี อดคลอ้ งกบั การจดั การเรียนรู้แบบ New
Normal และ Next Normal
3.2 การส่งเสริมและพฒั นานกั ศกึ ษา 3.2 การส่งเสรมิ และพัฒนานกั ศกึ ษา
1.- 1. ควรมกี ารปรับปรงุ กลยทุ ธ์และรปู แบบเพ่อื สนบั สนนุ
ให้นกั ศึกษาสำเรจ็ การศึกษาได้เร็วข้ึน หรอื ลดคา่ เฉล่ีย
ระยะเวลาของการสำเรจ็ การศึกษา
3.3 ผลทเี่ กิดกับนกั ศึกษา 3.3 ผลทเ่ี กิดกับนกั ศึกษา
1.- 1.-
องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์ องค์ประกอบท่ี 4 อาจารย์
4.1 การบรหิ ารและพัฒนาอาจารย์ 4.1 การบรหิ ารและพฒั นาอาจารย์
1.- 1.-
4.2 คุณภาพอาจารย์ 4.2 คุณภาพอาจารย์
1. อาจารยผ์ ู้รับผิดชอบหลกั สตู รมผี ลงานตพี มิ พร์ ะดบั 1.-
นานาชาตอิ ย่างต่อเน่ือง
4.3 ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ กบั อาจารย์ 4.3 ผลทเี่ กดิ ขน้ึ กับอาจารย์
9
จุดเด่น โอกาสในการพัฒนา
1.- 1.-
องคป์ ระกอบท่ี 5 หลกั สูตร การเรียนการสอน การ องค์ประกอบที่ 5 หลกั สตู ร การเรยี นการสอน การ
ประเมนิ ผเู้ รยี น ประเมนิ ผเู้ รยี น
5.1 สาระของรายวชิ าในหลักสตู ร 5.1 สาระของรายวิชาในหลักสตู ร
1.- 1.-
5.2 การวางระบบผสู้ อนและกระบวนการจดั การเรียน 5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียน
การสอน การสอน
1.- 1.-
5.3 การประเมนิ ผูเ้ รยี น 5.3 การประเมนิ ผู้เรียน
1.- 1.-
5.4 ผลการดำเนนิ งานหลกั สูตรตามกรอบมาตรฐาน 5.4 ผลการดำเนินงานหลกั สตู รตามกรอบมาตรฐาน
คณุ วุฒริ ะดับอุดมศึกษาแห่งชาติ คุณวฒุ ิระดับอดุ มศึกษาแห่งชาติ
1. - 1. -
องค์ประกอบท่ี 6 สิ่งสนบั สนุนการเรยี นรู้ องคป์ ระกอบที่ 6 สง่ิ สนบั สนุนการเรยี นรู้
1. จากการสมั ภาษณ์พบวา่ หลักสตู รมกี ารสร้างความ 1. -
ร่วมมอื ทางวชิ าการในระดบั นานาชาติ
3.4 (ตัวชี้วัดที่ 5.4) ผลการดำเนนิ งานหลกั สูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ริ ะดบั อดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ
ข้อ เกณฑ์ ผ่าน ระบุเหตุผล
/ไม่ กรณีที่ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ
ผา่ น
1 อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลกั สูตรอย่างน้อยร้อยละ 80 ผา่ น
มสี ว่ นร่วมในการประชุมเพอื่ วางแผน ติดตาม และ
ทบทวนการดำเนนิ งานหลกั สูตร
2 มรี ายละเอียดของหลักสตู ร ตามแบบ มคอ.2 ท่ี ผา่ น
สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิแหง่ ชาติ หรอื
มาตรฐานคณุ วฒุ สิ าขา/สาขาวิชา (ถ้ามี)
3 มีรายละเอยี ดของรายวิชา และรายละเอียดของ
ประสบการณ์ภาคสนาม (ถา้ มี) ตามแบบ มคอ.3 และ
มคอ.4 อยา่ งน้อยกอ่ นการเปิดสอนในแต่ละภาค
การศึกษาให้ครบทุกรายวชิ า
4 จัดทำรายงานผลการดำเนนิ การของรายวิชา และ ผา่ น
รายงานผลการดำเนนิ การของประสบการณภ์ าคสนาม
10
ขอ้ เกณฑ์ ผ่าน ระบเุ หตผุ ล
/ไม่ กรณีทีไ่ มผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ
ผา่ น
(ถา้ ม)ี ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วนั
หลงั ส้ินสดุ ภาคการศกึ ษาทีเ่ ปิดสอนใหค้ รบทกุ รายวชิ า
5 จัดทำรายงานผลการดำเนนิ การของหลักสตู ร ตามแบบ ผ่าน
มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลงั ส้นิ สดุ ปกี ารศกึ ษา
6 มกี ารทวนสอบผลสมั ฤทธข์ิ องนกั ศกึ ษาตามมาตรฐาน ผา่ น
ผลการเรยี นรู้ ที่กำหนดใน มคอ.3 และมคอ.4 (ถา้ มี)
อยา่ งนอ้ ยร้อยละ 25 ของรายวชิ าทีเ่ ปิดสอนในแตล่ ะปี
การศกึ ษา
7 มกี ารพัฒนา/ปรบั ปรงุ การจัดการเรยี นการสอน กลยุทธ์ ผ่าน
การสอน หรอื การประเมินผลการเรียนรู้ จากผลการ
ประเมนิ การดำเนนิ งานทีร่ ายงานใน มคอ.7 ปีทีแ่ ล้ว
8 อาจารย์ใหม่ (ถา้ ม)ี ทกุ คน ไดร้ บั การปฐมนเิ ทศหรือ NA
คำแนะนำดา้ นการจดั การเรียนการสอน
9 อาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบหลักสตู รทกุ คนได้รบั การพฒั นา ผ่าน
ทางวชิ าการ และ/หรอื วชิ าชีพ อยา่ งน้อยปลี ะหน่ึงคร้งั
10 จำนวนบคุ ลากรสนบั สนนุ การเรยี นการสอน (ถา้ มี) NA
ไดร้ บั การพัฒนาวิชาการ และ/หรือวชิ าชพี ไมน่ ้อยกว่า
ร้อยละ 50 ตอ่ ปี
11 ระดบั ความพงึ พอใจของนกั ศึกษาปสี ุดทา้ ย/บณั ฑิตใหม่ ผ่าน 4.70
ทีม่ ตี อ่ คณุ ภาพหลักสูตร เฉล่ียไม่นอ้ ยกว่า 3.50 จาก
คะแนนเตม็ 5.0
12 ระดับความพงึ พอใจของผูใ้ ชบ้ ัณฑิตทีม่ ตี อ่ บัณฑติ ใหม่ ผ่าน 4.96
เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเตม็ 5.0
จำนวนขอ้ ทป่ี ระเมิน 10
จำนวนข้อทีผ่ า่ นการประเมิน 10 คดิ เป็นรอ้ ยละ 100
เกณฑก์ ารประเมิน
1. มกี ารดำเนนิ งานนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 มีค่าคะแนนเท่ากบั 0
2. มกี ารดำเนนิ งานรอ้ ยละ 80 มคี า่ คะแนนเทา่ กบั 3.50
3. มีการดำเนนิ งานรอ้ ยละ 80.01-89.99 มคี ่าคะแนนเท่ากับ 4.00
4. มกี ารดำเนนิ งานรอ้ ยละ 90.00-94.99 มีคา่ คะแนนเทา่ กับ 4.50
11
ผ่าน ระบเุ หตุผล
กรณที ี่ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ
ขอ้ เกณฑ์ /ไม่
ผ่าน
5. มกี ารดำเนนิ งานรอ้ ยละ 95.00-99.99 มีคา่ คะแนนเทา่ กับ 4.75
6. มกี ารดำเนนิ งานรอ้ ยละ 100 มคี ่าคะแนนเทา่ กบั 5.00
หมายเหตุ ตอ้ งผา่ น 5 ข้อแรกกอ่ น ถึงจะพิจารณาค่าคะแนนท่ี 1-5 ได้
12
3.5 ผลการประเมินกระบวนการและรายละเอยี ดผลการตรวจประเมินกรณมี ีการปรับลดหรอื เพิม่ คะแนน
ระดับคะแนน กรณุ าอธิบายเหตผุ ลเพ่มิ เตมิ
ตัวช้วี ัด IPO หลักสูตร กรรม กรณีมีการปรับลดหรือเพิ่มคะแนน
ประเมนิ การ 1. การปรับลดคะแนน
องคป์ ระกอบที่ 3 นักศกึ ษา
1 3.1 การรบั นักศึกษา ตนเอง ประเมนิ 2. มีผลประเมินอยู่ในระดับ 3,4,5 คะแนน
P3 3
2 3.2 การส่งเสริมและพฒั นานกั ศึกษา P 4 3 ไม่พบแนวโนม้ ผลลพั ธ์ที่ดขี น้ึ ที่เหน็ ผลเชิง
ประจกั ษช์ ัดเจน
องค์ประกอบท่ี 4 อาจารย์ P4
3 4.1 การบรหิ ารและพฒั นาอาจารย์ 3 ไมพ่ บแนวโนม้ ผลลพั ธท์ ี่ดขี นึ้ ทเ่ี หน็ ผลเชงิ
ประจักษช์ ดั เจน
องคป์ ระกอบท่ี 5 หลักสตู รการเรียนการสอน การประเมินผูเ้ รียน
3 ไม่พบแนวโน้มผลลพั ธท์ ี่ดีขน้ึ ทีเ่ ห็นผลเชงิ
4 5.1 สาระของรายวชิ าในหลกั สตู ร P4 ประจกั ษช์ ดั เจน ไม่มกี ารรายงานการปรบั ปรุง
รายวิชาและเช่อื มโยงกบั การปรับปรงุ
5 5.2 การวางระบบผสู้ อนและ P 3 หลกั สูตร
กระบวนการจดั การเรียนการสอน 3
3
6 5.3 การประเมินผเู้ รยี น P
3
7 5.4 ผลการดำเนินงานหลักสูตรตาม P5 5
กรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิ P4
ระดับอุดมศกึ ษาแหง่ ชาติ 3 ไมพ่ บแนวโน้มผลลัพธท์ ี่ดีขนึ้ ที่เห็นผลเชงิ
ประจักษช์ ดั เจน
องค์ประกอบท่ี 6 สิง่ สนบั สนุนการเรยี นรู้
8 6.1 สงิ่ สนับสนนุ การเรยี นรู้
13
สว่ นที่ 4 สรปุ ผลการประเมินคะแนนในภาพรวม
ตวั ช้วี ัด IPO ระดับคะแนน หมายเหตุ
ประเมิน กรรมการ ไมพ่ บแนวโน้มผลลัพธ์ท่ี
ดขี ึ้นที่เห็นผลเชิง
ตนเอง ประเมิน ประจกั ษช์ ัดเจน
องค์ประกอบท่ี 1 การกำกบั มาตรฐาน ไมพ่ บแนวโน้มผลลพั ธ์ที่
ดีขน้ึ ท่เี ห็นผลเชงิ
1 1.1 การบรหิ ารจดั การหลกั สูตรตามเกณฑ์มาตรฐาน ผา่ น ผ่าน ประจกั ษช์ ัดเจน
หลักสตู รท่กี ำหนดโดย สกอ. ไม่พบแนวโน้มผลลพั ธท์ ี่
ดีขนึ้ ทเ่ี ห็นผลเชงิ
องคป์ ระกอบท่ี 2 บณั ฑิต ประจกั ษช์ ัดเจน
2 2.1 คุณภาพบณั ฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิ O 4.96 4.96 มีรายงานทุกเร่อื งมี
แนวโนม้ ดขี ึ้นบางเรือ่ ง
ระดับอดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ ไม่พบแนวโน้มผลลพั ธท์ ี่
3 2.2 ปรญิ ญาเอก ผลงานของนกั ศกึ ษาและผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา O 5.00 5.00
ในระดับปรญิ ญาเอกทไ่ี ดร้ ับการตพี มิ พห์ รือเผยแพร่
องคป์ ระกอบท่ี 3 นกั ศกึ ษา
4 3.1 การรบั นกั ศึกษา P3 3
5 3.2 การสง่ เสรมิ และพฒั นานักศึกษา P4 3
6 3.3 ผลท่ีเกดิ กับนกั ศกึ ษา O4 3
องคป์ ระกอบท่ี 4 อาจารย์ P4 3
7 4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์
8 4.2 คณุ ภาพอาจารย์ I 5.00 5.00
- รอ้ ยละของอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลักสตู รทมี่ ีคณุ วุฒิ 100 100
ปริญญาเอก
- ร้อยละอาจารยผ์ ้รู บั ผดิ ชอบหลักสตู รท่ีดำรงตำแหนง่ 100 100
วชิ าการ
- ผลงานวชิ าการของอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบ 240 240
- จำนวนบทความของอาจารยผ์ ูร้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรท่ี 9 9
ได้รับการอ้างองิ ในฐานข้อมูล TCI และ Scopus ตอ่
จำนวนอาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลกั สตู ร O4 3
9 4.3 ผลทีเ่ กดิ กบั อาจารย์
องค์ประกอบที่ 5 หลักสูตรการเรียนการสอน การประเมินผ้เู รียน P 4 3
10 5.1 สาระของรายวิชาในหลักสตู ร
14
ตัวชีว้ ัด IPO ระดบั คะแนน หมายเหตุ
ประเมนิ กรรมการ
ตนเอง ประเมิน
ดีขึ้นท่เี ห็นผลเชิง
ประจกั ษช์ ัดเจน ไม่มี
การรายงานการ
ปรบั ปรุงรายวชิ าและ
เชอื่ มโยงกับการ
ปรบั ปรงุ หลักสตู ร
11 5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจดั การเรยี นการ P 3 3
สอน
12 5.3 การประเมินผเู้ รยี น P3 3
13 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลักสตู รตามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิ p 5 5 ไม่ประเมินข้อ 8 และ10
ระดับอุดมศึกษาแหง่ ชาติ
องคป์ ระกอบที่ 6 สง่ิ สนับสนุนการเรยี นรู้
14 6.1 สงิ่ สนบั สนุนการเรยี นรู้ P4 3 ไมพ่ บแนวโนม้ ผลลัพธท์ ่ี
ดขี ึน้ ทีเ่ ห็นผลเชิง
ประจักษช์ ัดเจน
รวมคะแนน 4.07 3.61
หมายเหตุ
1.ตัวชวี้ ดั ไหน หลักสตู รใดไมไ่ ดร้ บั การประเมนิ ใหต้ ดั ตัวชีว้ ัดนนั้ ออก (ไม่นำมาคิดค่าคะแนน)
2.กองพฒั นาคุณภาพการศึกษาได้จดั ทำโปรแกรม Excel ในการคำนวณคะแนน และสง่ ทางเมลให้กรรมการทกุ ทา่ น
ทางอเี มล หรือติดตอ่ โทร 48707-9
ระดบั คณุ ภาพ
คะแนนระดบั หลกั สตู ร = 0 หมายถงึ หลกั สูตรไมไ่ ด้มาตรฐาน
คะแนนระดบั หลกั สตู ร = 0.01-5.00 หมายถงึ หลกั สตู รเปน็ ไปตามมาตรฐานและมรี ะดบั คุณภาพตามคะแนนท่ีได้ดงั น้ี
คะแนน ระดบั คุณภาพ
0.01-2.00 น้อย
2.01-3.00 ปานกลาง
3.01-4.00 ดี
4.01-5.00 ดมี าก
15
รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน
ประจำปกี ารศกึ ษา 2564
(ระหว่างวนั ท่ี 1 สิงหาคม 2564 – 31 สิงหาคม 2565)
หลกั สตู ร วิทยาศาสตรบณั ฑิต (เกษตรศาสตร์)
คณะ เกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
วนั ท่ี 21 กนั ยายน 2565
(ระดบั ปริญญาตรี)
1
รายช่ือคณะกรรมการ
ลำดับ รายชอ่ื คณะกรรมการ ตำแหน่ง สังกดั หลักสตู ร/สาขา คณะ
1 รศ.ดร.นนั ทรตั น์ โฆมานะสิน ประธาน - เกษยี ณอายรุ าชการ
2 รศ.ดร.อภพิ ร ถ่นิ คำรพ กรรมการ ปรสิตวทิ ยา คณะแพทยศาสตร์
3 อ.ดร.กติ ติ อนิ ทุยศ กรรมการ พยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์
หมายเหตุ
กรุณาระบุข้อมูลให้ถูกตอ้ งและครบถ้วน กองพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาจะบนั ทกึ รายชอื่ ผตู้ รวจประเมนิ ท่ที ำหน้าทต่ี รวจ
ประเมินแตล่ ะหลกั สตู รเพ่อื จัดเก็บเป็นฐานขอ้ มลู ผตู้ รวจประเมินและผทู้ ำหนา้ ท่ีตรวจประเมินหลกั สตู ร
มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่
ส่วนท่ี 1 บทนำ
1.1 ข้อมลู ของหลกั สตู รโดยสงั เขป/ประวัตคิ วามเปน็ มาของหลักสูตร
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาเกษตรศาสตร์ได้เริ่มเปิดสอนครั้งแรกในปีการศึกษา 2507 จนถึง
ปัจจุบันมีบัณฑิตจบการศึกษาแล้ว 57 รุ่น โดยหลักสูตรที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในปี 2560 เป็นหลักสูตร
ปรับปรงุ พ.ศ.2560
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเกษตรศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) เป็นหลักสูตรที่มีปรัชญา
การจดั การศกึ ษา ทม่ี ุ่งเนน้ ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน มกี ารนำเอาวจิ ยั และทกั ษะทีเ่ กย่ี วข้องในการวจิ ัย มาเป็นฐานในการ
จัดการศึกษา (research based learning, RBL) เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน การ
เปลี่ยนแปลงบริบทของสงั คม และเทคโนโลยี เพ่อื ให้บัณฑติ เปน็ ผ้มู คี วามรู้ มคี วามสามารถ และทัศนคติในการทำงาน
ท่ีดี มสี ว่ นสำคัญในการพัฒนา ภาคการเกษตรของประเทศใหก้ ้าวหนา้ และม่ันคง
วัตถุประสงค์ของหลกั สตู รวทิ ยาศาสตรบัณฑติ สาขาวชิ าเกษตรศาสตร์
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2560) มุ่งผลิตบัณฑิตให้มี
ความรู้ความสามารถในดา้ นการเกษตร มีทกั ษะและประสบการณ์การเรียนรู้ และการฝึกปฏิบัติ มีทกั ษะการวิจัย การ
แก้ปัญหาและการพัฒนาความรู้ในสาขาวิชาการเกษตร มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เพื่อการจัดการที่ทันสมยั
พร้อมการทำงาน มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณตามหลักวิชาการ เข้าใจในบริบทของการเปลี่ยนแปลง
สามารถปฏิบัติงานได้ภายใต้สถานการณ์ของโลกและสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลาย และเปลี่ยนแปลงอยู่
ตลอดเวลา
โดยเมื่อบัณฑิตจบการศึกษาจากหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเกษตรศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง
พ.ศ.2560) จะต้องมีผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ หรือ คุณลกั ษณะดังต่อไปน้ี
1.มคี วามรู้ ความเข้าใจในหลกั การ และทฤษฎีทสี่ ำคัญในด้านวทิ ยาศาสตร์เกษตร และศาสตร์ทีเ่ ก่ียวข้อง
2. มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์เป็นระบบ คิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีทักษะการวิจัย และบูรณาการใช้
ความรู้ความสามารถและประสบการณใ์ นการแกป้ ัญหาการทำงานได้
3. มที กั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยี เทคโนโลยสี ารสนเทศ และการจดั การทท่ี นั สมัย
4. มีทกั ษะการสอื่ สาร ดา้ นการพูดและการเขียนท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
2
5. มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณทางวิชาการ และประพฤตปิ ฏิบตั ติ นเปน็ พลเมอื งที่ดี
6.มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม มีภาวะผู้นำ มีมนุษยสัมพันธ์ ยอมรับความ
คดิ เห็นทแี่ ตกต่าง สามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อนื่ ภายใต้วฒั นธรรมที่หลากหลาย
7. เป็นผใู้ ฝร่ ู้ สงู้ าน และพฒั นาตนเองตลอดชีวติ
1.2 วิธีการประเมิน
(1) การวางแผนการประเมนิ ก่อนและหลงั การตรวจประเมินหลักสตู ร
1. กรรมการตรวจอา่ นรายงานประเมนิ ตนเอง
2. กรรมการสรุปคะแนนเบ้ืองต้น
3. ประธานรวบรวมประเด็นและความเห็นจากกรรมการ สรปุ ผลและอภปิ รายผลการประเมนิ ราย
ตวั ชวี้ ดั และเหน็ ชอบร่วมกนั
(2) วิธีการตรวจสอบและความน่าเชื่อถือของข้อมูล
1. ตรวจจากการอา่ นรายงานประเมนิ ตนเองหลักสูตร
2. สัมภาษณผ์ ูท้ ีเ่ ก่ียวข้องของหลักสูตรและเยีย่ มชมส่ิงสนับสนุนการเรยี นรู้
3. กรรมการสรุปผลตามเกณฑก์ ารประเมนิ
(3) ผู้ใหข้ ้อมูลในวันตรวจเยย่ี มหลกั สูตร เชน่ อาจารย์ผูร้ ับผิดชอบหลักสตู ร/อาจารยป์ ระจำหลกั สตู ร
อาจารย์ผู้สอน ผ้ทู รงคุณวฒุ ิ ผู้เรยี น) (โปรดระบุรายชือ่ และตำแหนง่ )
ท่ี ชื่อ-สกลุ ตำแหน่ง
1 ผศ.ดร.ศิรภิ าวี เจริญวัฒนศักดิ์ รองคณบดีฝ่ายการศึกษา
2 ผศ.ดร.สมพงษ์ จันทรแ์ ก้ว อาจารย์ผรู้ ับผิดชอบหลักสตู ร/ อาจารย์ประจำหลกั สตู ร/ อาจารย์ผู้สอน
3 ผศ.ดร.ฝากจติ ปาลินทร อาจารย์ผ้รู บั ผิดชอบหลกั สตู ร/ อาจารยป์ ระจำหลกั สูตร/ อาจารย์ผู้สอน
4 อ.ดร.ศภุ ณัฏฐ์ กาญจนวัฒนาวงศ์ อาจารย์ผรู้ ับผิดชอบหลกั สตู ร/ อาจารย์ประจำหลกั สูตร/ อาจารยผ์ ูส้ อน
5 รศ.ดร.อโนมา ดงแสนสุข อาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบหลกั สตู ร/ อาจารยป์ ระจำหลักสูตร/ อาจารย์ผสู้ อน
6 รศ.ดร.สนั ตไิ มตรี กอ้ นคำดี อาจารยผ์ ู้รับผิดชอบหลักสตู ร/ อาจารย์ประจำหลกั สูตร/ อาจารยผ์ ูส้ อน
7 ผศ.ดร.มลั ลกิ า ศรีสธุ รรม อาจารย์ผ้รู บั ผดิ ชอบหลักสตู ร/ อาจารยป์ ระจำหลักสูตร/ อาจารยผ์ ู้สอน
8 อ.ดร.พรทิพย์ โพนตแุ สง อาจารย์ผู้รบั ผดิ ชอบหลักสตู ร/ อาจารย์ประจำหลักสตู ร/ อาจารย์ผสู้ อน
9 อ.ดร.นรินทร์ พวงชมพู อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร/ อาจารย์ประจำหลกั สตู ร/ อาจารย์ผสู้ อน
10 ผศ.ดร.ยุพนิ ผาสุข อาจารย์ผู้รับผดิ ชอบหลกั สตู ร/ อาจารย์ประจำหลกั สตู ร/ อาจารย์ผสู้ อน
11 นายสรุ ิยนั ต์ บญุ นำ นักศกึ ษาชนั้ ปีที่ 1
12 นางสาวปานรพี พิมพลชาย นักศกึ ษาชนั้ ปที ่ี 2
13 นายมนัสศกั ด์ิ ประดบั ศรี นักศึกษาชน้ั ปีท่ี 4
14 นางสาวอภิสรา อ่นุ ฝาง นกั ศึกษาชนั้ ปที ี่ 4
15 นายภัทรชยั หัตถกรรม นกั ศกึ ษาชน้ั ปีท่ี 4
16 นายศักดา วนั ดี ผู้ใชบ้ ัณฑติ
3
ท่ี ช่อื -สกุล ตำแหนง่
17 นายประสิทธิ์ สมจนิ ดา
18 นางสาวณฏั ฐชา ซาซมุ ผใู้ ช้บัณฑติ
19 นางสาวคล้องใจ กลางประพนั ธ์ ศษิ ยเ์ กา่
20 นางสาวจิราพชั ร สอนเสน ศษิ ย์เก่า
21 นางสาวปวีณา จนั ทนพมิ พ์ ศษิ ย์เก่า
22 ดร.ชตุ นิ ันท์ ชสู าย บคุ ลากรสายสนับสนุน
23 นางศรีนวล คณานติ ย์ บคุ ลากรสายสนบั สนุน
บคุ ลากรสายสนบั สนนุ
สว่ นท่ี 2 บทสรุปผู้บริหารและสรุปผลการประเมนิ ในภาพรวม
จุดเด่น
1. หลกั สตู รมกี ารออกแบบหลกั สตู รที่เร่ิมเรยี นจากรายวิชาศึกษาท่วั ไป รายวชิ าพ้ืนฐานวชิ าชพี และวชิ าชพี ในชน้ั ปที ี่
1, 2, 3 และ 4 ตามลำดบั โดยมรี ะดบั การเรยี นร้ตู าม Bloom’s taxonomy ท่ีระดบั remembering, understanding,
applying, analyzing, evaluating และ creating ตามลำดบั นอกจากนี้ ในชนั้ ปที ่ี 4 ยังมเี รียนรายวชิ าบรู ณาการ
ปัญหาพเิ ศษ และโครงงานนกั ศกึ ษา ซ่ึงเนน้ การประยกุ ตใ์ ช้องค์ความรู้ การคิดวเิ คราะห์ และแก้ไขปัญหาในวชิ าชีพโดย
ใช้พน้ื ฐานการทำวิจัยตามปรัชญาการจดั การศึกษาของคณะฯ นอกจากนีแ้ ต่ละสาขาวชิ าเอกของหลกั สตู รยังเปิดโอกาส
ให้นกั ศึกษาได้เลอื กวา่ จะฝกึ งาน (แผน 1) หรอื สหกจิ ศึกษา (แผน 2) นอกจากน้ีในแต่ละสาขายงั มีรายวชิ าท่ใี ห้นักศกึ ษา
ได้เลอื กตามความสนใจอย่างน้อย 3 รายวิชา
2. หลกั สูตรมีการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนทเี่ ป็น active learning ทกุ รายวชิ า เปิดโอกาสใหน้ ักศกึ ษามสี ่วนรว่ มใน
การกำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน มกี ารสอดแทรกเนอ้ื หาในรายวชิ าท่ีเป็นกลุม่ วชิ าชพี เพอ่ื กระต้นุ ให้นกั ศกึ ษา
สามารถใช้กระบวนการคิดสรา้ งสรรค์ มแี นวคิดของการสร้างนวตั กรรม และแนวคดิ ของการเป็นผ้ปู ระกอบการ
3. คณะฯ มีความพร้อมของห้องปฏิบัตกิ ารและเคร่ืองมือสำหรบั การฝกึ ปฏิบตั ิ ซึ่งมีท้ังส่วนทีอ่ ยู่ในการดแู ลของ
คณะฯ และสาขาวชิ า โดยก่อนเปิดเรยี น แตล่ ะสาขาฯ มีการสำรวจความพร้อมของเคร่อื งมือและอปุ กรณ์ ซ่งึ
จากการประเมนิ ความพงึ พอใจของความพร้อมของห้องปฏิบัติการมคี ะแนน 3.63
จุดทค่ี วรพัฒนา
1. ไมพ่ บความเชอื่ มโยงท่ชี ัดเจนของการกำหนด PLOs กับการออกแบบหลกั สูตร โดย PLOs ของหลักสตู รยังไม่
ครอบคลมุ ความตอ้ งการหรอื ความคาดหวังทส่ี ำคัญของ stakeholders โดยเฉพาะกล่มุ ทเ่ี ป็น stakeholder ภายนอก
เชน่ ไม่พบ PLOs ที่สะทอ้ นความรูท้ างดา้ นธรุ กจิ /มมุ มองดา้ นผปู้ ระกอบการ/การตลาด ซงึ่ เปน็ ความคาดหวังทมี่ รี ะดบั
คะแนนสงู เปน็ ลำดบั ท่ี 4 แตม่ กี ารออกแบบหลกั สูตรปรบั ปรงุ 2560 ใหม้ ีรายวิชาผปู้ ระกอบการสร้างสรรค์
2. รายวชิ าสว่ นใหญข่ องหลักสตู รยังไมม่ ีการกำหนด CLOs และไมไ่ ดแ้ สดงความสอดคล้องระหว่าง CLOs กบั
PLOs
4
3. วิธีการประเมินการบรรลุ PLOs ของนักศกึ ษาทห่ี ลกั สูตรแสดง ยังไมช่ ัดเจนวา่ สามารถประเมนิ การบรรลุทกุ PLOs
โดยเฉพาะในแผนการศกึ ษาทีไ่ มไ่ ด้เลือกเรียนวชิ าสหกจิ ศกึ ษา นอกจากน้ียังไมพ่ บวธิ ีการตดิ ตามการบรรลุ PLOs ของ
นกั ศกึ ษาอย่างเปน็ ระบบ และการแสดงผลการบรรลุ PLOs ของนกั ศึกษา
4. ไม่พบว่าหลกั สตู รมีการประเมนิ ผลการเรียนรโู้ ดยใช้ rubrics และหลกั สูตรไมไ่ ดแ้ สดงให้เหน็ ถึงความเท่ยี ง (validity)
นา่ เชอ่ื ถือ (reliability) และความเปน็ ธรรม (fairness) ของการประเมินผลการเรยี นรู้ดว้ ยโดย rubrics และ marking
scheme
5. ไม่พบวา่ หลกั สูตรหรอื คณะฯ มีระบบการประเมนิ สมรรถนะของบุคลากรสายสนบั สนุนด้านการบริการ
การศึกษาที่สอดคล้องกับความตอ้ งการของผู้ใช้บริการ
วธิ ปี ฏิบัติทดี่ ี / นวตั กรรม (ถา้ ม)ี
*วธิ ปี ฏบิ ตั ิท่ดี ี หมายถงึ วธิ กี ารปฏบิ ัติหรือขั้นตอนการปฏบิ ัตทิ ท่ี ำให้สถาบนั ประสบความสำเรจ็ หรือส่คู วาม
เป็นเลิศตามเปา้ หมาย เปน็ ทย่ี อมรบั ในวงวิชาการหรอื วิชาชีพนน้ั ๆ มหี ลกั ฐานปรากฏชดั เจน โดยมีการสรุป
วิธกี ารปฏิบตั ิหรอื ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ ตลอดจนความรู้ ประสบการณ์ บันทกึ เปน็ เอกสาร เผยแพร่ให้
หน่วยงานภายในหรอื ภายนอกสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หมายเหตุ :
ผปู้ ระเมนิ ควรจะแสดงรายละเอยี ดทีช่ ดั เจน เพือ่ มหาวทิ ยาลัยจะได้นำไปเผยแพร่แนวปฏิบัติที่และกิจกรรม
แลกเปล่ยี นเรยี นรู้
ส่วนที่ 3 ผลประเมินคณุ ภาพหลกั สูตร
3.1 องค์ประกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน
สำหรับหลักสตู รทใี่ ช้เกณฑม์ าตรฐานหลักสตู ร พ.ศ.2558
ขอ้ เกณฑ์ ข้อที่ ผา่ น ระบเุ หตผุ ล
ประเมนิ /ไมผ่ ่าน กรณีที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
()
1 • จำนวนอาจารยผ์ ูร้ ับผดิ ชอบหลักสตู ร ผ่าน
ไม่น้อยกว่า 5 คน
• และเป็นอาจารยผ์ ู้รับผดิ ชอบหลกั สตู ร
เกนิ กว่า 1 หลักสูตรไมไ่ ดแ้ ละประจำ
หลักสตู รตลอดระยะเวลาทจ่ี ดั
การศกึ ษาตามหลักสตู รน้นั
2 • คุณสมบตั ขิ องอาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบ ผา่ น
หลักสตู ร มคี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาโทหรอื
5
ขอ้ เกณฑ์ ขอ้ ที่ ผ่าน ระบุเหตุผล
ประเมิน /ไมผ่ า่ น กรณีที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน
เทียบเทา่ หรอื ดำรงตำแหน่งทาง () ผา่ น
วชิ าการไม่ตำ่ กว่าผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ผา่ น
• และมผี ลงานทางวชิ าการ 1 ผ่าน
รายการใน 5 ปี ย้อนหลัง
ผา่ น
3 • คณุ สมบตั ขิ องอาจารย์ประจำ
หลักสตู ร มีคณุ วุฒิปรญิ ญาโทหรอื
เทยี บเท่า หรือดำรงตำแหน่งทาง
วิชาการไมต่ ำ่ กวา่ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์
• และ มีผลงานทางวชิ าการ 1
รายการใน 5 ปี ย้อนหลงั
4 • คุณสมบัติของอาจารย์ผสู้ อน ท่เี ปน็
อาจารย์ประจำ มีคณุ วฒุ ิปรญิ ญาโท
หรือเทียบเท่า หรือดำรงตำแหน่งทาง
วิชาการไมต่ ำ่ กวา่ ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์
ในสาขาวิชานัน้ หรือสาขาวิชาท่ี
สัมพันธก์ นั หรอื สาขาวชิ าของรายวชิ า
ทสี่ อนรายละเอยี ด
5 • คณุ สมบัติของ อาจารยผ์ ู้สอน ท่ีเปน็
อาจารยพ์ ิเศษ (ถ้าม)ี มีคณุ วฒุ ิ
ปริญญาโท หรอื คณุ วุฒปิ รญิ ญาตรี
หรอื เทยี บเท่าและมปี ระสบการณ์
ทำงานท่ีเกยี่ วขอ้ งกับวชิ าทีส่ อนไม่
นอ้ ยกว่า 6 ปี ท้ังน้ี มชี ั่วโมงสอนไม่
เกินร้อยละ 50 ของรายวชิ า โดยมี
อาจารย์ประจำเป็นผู้รบั ผิดชอบ
รายวิชานนั้
6 • การปรับปรุงหลักสตู รตามรอบ
ระยะเวลาทีก่ ำหนดต้องไม่เกิน 5 ปี
จำนวนข้อทป่ี ระเมิน 6 6 ผลการประเมิน
จำนวนขอ้ ท่ีผา่ นการประเมิน หลักสตู รได้มาตรฐาน
หมายเหตอุ ่นื ๆ (ถ้ามี)
6
3.2 จดุ เดน่ และโอกาสในการพฒั นาองค์ประกอบที่ 1
(1) ข้อเสนอแนะเพ่ือการปรบั ปรุงหลักสตู รให้เปน็ ไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลุมประเดน็
การตรวจสอบ ประเมิน ใหห้ ลักสูตรมีมาตรฐานอยา่ งตอ่ เน่ืองและย่ังยนื
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
(2) แนวปฏบิ ัติทีด่ /ี นวัตกรรม/ผลงานโดดเดน่ (ถา้ มี)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.3 ผลการประเมินรายด้าน (ด้านที่ 1-8) คะแนน (1-5) กรรมการ
ประเมินตนเอง 3
AUN-QA Version 4.0
3
AUN-QA 1 Expected Learning Outcomes
(ด้านที่ 1 : ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั ) 33
AUN-QA 2 Programme Structure and Content
(ด้านที่ 2 : โครงสร้างโปรแกรมและเนื้อหา) 33
AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach
(ด้านที่ 3 : แนวทางการจดั เรยี นการสอน) 32
AUN-QA 4 Student Assessment
(ด้านที่ 4 : การประเมนิ ผู้เรียน) 33
AUN-QA 5 Academic Staff
(ดา้ นท่ี 5 : บุคลากรสายวชิ าการ) 33
AUN-QA 6 Student Support Services
(ด้านท่ี 6 : การบรกิ ารและการชว่ ยเหลือผ้เู รยี น) 33
AUN-QA 7 Facilities and Infrastructure
(ดา้ นท่ี 7 : สงิ่ อำนวยความสะดวกและโครงสรา้ งพนื้ ฐาน) 33
AUN-QA 8 Output and Outcomes
(ด้านท่ี 8 : ผลผลติ และผลลัพธ์)
AUN 1 Expected Learning Outcomes คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
1.1 The programme to show that the expected learning outcomes are
appropriately formulated in accordance with an established learning
taxonomy, are aligned to the vision and mission of the university, and
are known to all stakeholders.
7
เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
1.2 The programme to show that the expected learning outcomes for
all courses are appropriately formulated and are aligned to the 32
expected learning outcomes of the programme.
1.3 The programme to show that the expected learning outcomes 34
consist of both generic outcomes (related to written and oral
communication, problem solving, information technology, teambuilding 33
skills, etc) and subject specific outcomes (related to knowledge and
skills of the study discipline). 32
1.4 The programme to show that the requirements of the stakeholders, 33
especially the external stakeholders, are gathered, and that these are
reflected in the expected learning outcomes.
1.5 The programme to show that the expected learning outcomes are
achieved by the students by the time they graduate
Overall opinion
AUN 2 Programme Structure and Content คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
2.1 The specifications of the programme and all its courses are shown
to be comprehensive, up-to date, and made available and 22
communicated to all stakeholders. 34
2.2 The design of the curriculum is shown to be constructively aligned 33
with achieving the expected learning outcomes. 34
2.3 The design of the curriculum is shown to include feedback from
stakeholders, especially external stakeholders. 34
2.4 The contribution made by each course in achieving the expected
learning outcomes is shown to be clear.
2.5 The curriculum to show that all its courses are logically structured,
properly sequenced (progression from basic to intermediate to
specialised courses), and are integrated.
2.6 The curriculum to have option(s) for students to pursue major
and/or minor specialisations.
8
เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
2.7 The programme to show that its curriculum is reviewed periodically
following an established procedure and that it remains up-to-date and 33
relevant to industry.
Overall opinion 33
AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
3.1 The educational philosophy is shown to be articulated and
communicated to all stakeholders. It is also shown to be reflected in 34
the teaching and learning activities. 34
3.2 The teaching and learning activities are shown to allow students to 33
participate responsibly in the learning process.
3.3 The teaching and learning activities are shown to involve active 33
learning by the students.
3.4 The teaching and learning activities are shown to promote learning, 33
learning how to learn, and instilling in students a commitment for life-
long learning (e.g., commitment to critical inquiry, information- 33
processing skills, and a willingness to experiment with new ideas and
practices).
3.5 The teaching and learning activities are shown to inculcate in
students, new ideas, creative thought, innovation, and an
entrepreneurial mindset.
3.6 The teaching and learning processes are shown to be continuously
improved to ensure their relevance to the needs of industry and are
aligned to the expected learning outcomes.
Overall opinion
9
AUN-QA 4 Student Assessment คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
4.1 A variety of assessment methods are shown to be used and are
shown to be constructively aligned to achieving the expected learning 33
outcomes and the teaching and learning objectives. 32
4.2 The assessment and assessment-appeal policies are shown to be
explicit, communicated to students, and applied consistently. 32
4.3 The assessment standards and procedures for student progression
and degree completion, are shown to be explicit, communicated to 32
students, and applied consistently. 33
4.4 The assessments methods are shown to include rubrics, marking 33
schemes, timelines, and regulations, and these are shown to ensure
validity, reliability, and fairness in assessment. 32
4.5 The assessment methods are shown to measure the achievement of
the expected learning outcomes of the programme and its courses.
4.6 Feedback of student assessment is shown to be provided in a timely
manner
4.7 The student assessment and its processes are shown to be
continuously reviewed and improved to ensure their relevance to the
needs of industry and alignment to the expected learning outcomes.
Overall opinion
AUN-QA 5 Academic Staff คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
5.1 The programme to show that academic staff planning (including
succession, promotion, redeployment, termination, and retirement 33
plans) is carried out to ensure that the quality and quantity of the 34
academic staff fulfil the needs for education, research, and service. 33
5.2 The programme to show that staff workload is measured and
monitored to improve the quality of education, research, and service.
5.3 The programme to show that the competences of the academic
staff are determined, evaluated, and communicated.
5.4 The programme to show that the duties allocated to the academic
staff are appropriate to qualifications, experience, and aptitude.
10
เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
5.5 The programme to show that promotion of the academic staff is
based on a merit system which accounts for teaching, research, and 33
service. 33
5.6 The programme to show that the rights and privileges, benefits,
roles and relationships, and accountability of the academic staff, taking 33
into account professional ethics and their academic freedom, are well
defined and understood. 33
5.7 The programme to show that the training and developmental needs 33
of the academic staff are systematically identified, and that appropriate
training and development activities are implemented to fulfil the
identified needs.
5.8 The programme to show that performance management including
reward and recognition is implemented to assess academic staff
teaching and research quality.
Overall opinion
AUN-QA 6 Student Support Services คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
6.1 The student intake policy, admission criteria, and admission 32
procedures to the programme are shown to be clearly defined,
communicated, published, and up-to-date. 33
6.2 Both short-term and long-term planning of academic and non-
academic support services are shown to be carried out to ensure 33
sufficiency and quality of support services for teaching, research, and
community service.
6.3 An adequate system is shown to exist for student progress,
academic performance, and workload monitoring. Student progress,
academic performance, and workload are shown to be systematically
recorded and monitored. Feedback to students and corrective actions
are made where necessary.
6.4 Co-curricular activities, student competition, and other student
support services are shown to be available to improve learning
experience and employability.
11
เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
6.5 The competences of the support staff rendering student services are
shown to be identified for recruitment and deployment. These 32
competences are shown to be evaluated to ensure their continued
relevance to stakeholders needs. Roles and relationships are shown to 33
be well-defined to ensure smooth delivery of the services. 33
6.6 Student support services are shown to be subjected to evaluation,
benchmarking, and enhancement.
Overall opinion
AUN-QA 7 Facilities and Infrastructure คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
7.1 The physical resources to deliver the curriculum, including
equipment, material, and information technology, are shown to be 33
sufficient. 34
7.2 The laboratories and equipment are shown to be up-to-date, readily 33
available, and effectively deployed. 34
7.3 A digital library is shown to be set-up, in keeping with progress in
information and communication technology. 33
7.4 The information technology systems are shown to be set up to 34
meet the needs of staff and students.
7.5 The university is shown to provide a highly accessible computer and 33
network infrastructure that enables the campus community to fully
exploit information technology for teaching, research, service, and
administration.
7.6 The environmental, health, and safety standards and access for
people with special needs are shown to be defined and implemented.
7.7 The university is shown to provide a physical, social, and
psychological environment that is conducive for education, research,
and personal wellbeing.
7.8 The competences of the support staff rendering services related to
facilities are shown to be identified and evaluated to ensure that their
skills remain relevant to stakeholder needs.
12
เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
7.9 The quality of the facilities (library, laboratory, IT, and student
services) are shown to be subjected to evaluation and enhancement. 33
Overall opinion
33
AUN-QA 8 Output and Outcomes คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
33
8.1 The pass rate, dropout rate, and average time to graduate are
shown to be established, monitored, and benchmarked for 33
improvement.
8.2 Employability as well as self-employment, entrepreneurship, and 33
advancement to further studies, are shown to be established,
monitored, and benchmarked for improvement. 31
8.3 Research and creative work output and activities carried out by the 33
academic staff and students, are shown to be established, monitored, 33
and benchmarked for improvement.
8.4 Data are provided to show directly the achievement of the
programme outcomes, which are established and monitored.
8.5 Satisfaction level of the various stakeholders are shown to be
established, monitored, and benchmarked for improvement.
Overall opinion
จดุ เด่น โอกาสในการพัฒนา
AUN 1 Expected Learning Outcomes
1.1 The programme to show that the expected learning outcomes are appropriately formulated in
accordance with an established learning taxonomy, are aligned to the vision and mission of the
university, and are known to all stakeholders.
1.หลักสตู รมีการกำหนด PLOs ของหลักสูตร (Ref. 1, หน้า 1. มีหลาย PLOs เช่น PLO 5, 6 และ 7 ทไ่ี ม่สะท้อนผลลพั ธ์
7) โดยพิจารณาจากความตอ้ งการ และความคาดหวงั ของผู้ การเรยี นรูท้ ี่วัดได้
มีสว่ นได้ส่วนเสียร่วมกบั วิสยั ทัศนแ์ ละพนั ธกิจของ 2. มีการส่ือสาร PLOs ใหก้ ับ stakeholders กล่มุ ตา่ ง ๆ
มหาวิทยาลยั ขอนแก่น เมอ่ื มกี ารปรบั ปรงุ หลกั สตู ร ปี พ.ศ. ด้วยชอ่ งทางทห่ี ลากหลาย แตจ่ ากการสมั ภาษณพ์ บว่ายงั ไม่
2560 เป็นทร่ี ับทราบของนกั ศกึ ษาและผใู้ ชบ้ ัณฑติ
2. มีการใช้ learning taxonomy ในการกำหนด PLOs
13
จดุ เด่น โอกาสในการพัฒนา
3. PLOs มคี วามสอดคล้องกบั vision และ mission ของ
มหาวิทยาลยั และคณะฯ
4. มีการสอ่ื สารผู้มสี ่วนไดส้ ว่ นเสียผา่ น website คณะฯ
1.2 The programme to show that the expected learning outcomes for all courses are appropriately
formulated and are aligned to the expected learning outcomes of the programme.
จากการสมั ภาษณ์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลกั สตู รและอาจารยผ์ สู้ อน
พบว่ารายวชิ าสว่ นใหญย่ ังไม่มกี ารกำหนด CLOs นอกจากน้ี
curriculum mapping ทแ่ี สดงใน มคอ 2 หน้า 174-182
เปน็ การแสดงการกระจายความรบั ผดิ ชอบของแต่ละรายวชิ า
กับ PLOs ไม่ไดแ้ สดงความสอดคลอ้ งระหว่าง CLOs กบั
PLOs
1.3 The programme to show that the expected learning outcomes consist of both generic outcomes
(related to written and oral communication, problem solving, information technology, teambuilding
skills, etc) and subject specific outcomes (related to knowledge and skills of the study discipline).
1.หลกั สตู รมที ง้ั generic outcomes และ subject
specific outcomes โดย outcome ท่เี ปน็ generic
ได้แก่ sub-PLOs 1.3, 2.1, 3.1, 3.2, 3.3, 4.1, 4.2, 4.3,
5.1, 5.2, 5.3, 6.1, 6.2, 6.3, 6.4, 7.1, 7.2 และ 7.3 และ
outcome ทเ่ี ป็น subject specific ได้แก่ sub-PLOs 1.1,
1.2, 2.2 และ 2.3
1.4 The programme to show that the requirements of the stakeholders, especially the external
stakeholders, are gathered, and that these are reflected in the expected learning outcomes.
หลกั สตู รมีการรวบรวบและวเิ คราะหค์ วามคาดหวงั ของ หลกั สตู รไม่ไดแ้ สดงใหเ้ หน็ วา่ ความคาดหวังของ
stakeholders แตล่ ะกลมุ่ โดยเฉพาะกลุ่มผปู้ ระกอบการ stakeholders ทแ่ี สดงในตารางที่ 1.1-3 มีความสอดคลอ้ ง
และศษิ ยเ์ กา่ แลว้ จัดลำดับความสำคญั ตามระดับคะแนน กบั PLOs และ sub-PLOs อย่างไร และพบวา่ ไมม่ ี PLOs
(ตารางท่ี 1.1-3) หรือ sub-PLOs ใดท่สี ะท้อนความคาดหวงั ของ
stakeholders ในเรื่องมคี วามรู้ทางดา้ นธุรกจิ /มุมมองดา้ น
ผูป้ ระกอบการ/การตลาด ซ่ึงมรี ะดับคะแนนสูงเป็นลำดบั ที่ 4
1.5 The programme to show that the expected learning outcomes are achieved by the students by the
time they graduate
1.จาก มคอ 2 หนา้ 150 หลกั สตู รมีการประเมินการบรรลุ 1. จากกระบวนการทวนสอบผลสมั ฤทธ์ขิ องหลักสตู รไมไ่ ด้
POLs โดยประเมินผลจากรายวชิ าท่เี ป็นทรี่ วมของเนอ้ื หา สะทอ้ นว่าผเู้ รียนบรรลุ CLOs
หรือทกั ษะจากวิชาต่าง ๆ ท่ไี ดศ้ กึ ษามา (Capstone 2. หลักสูตรมีการประเมินการบรรลุ POLs โดยประเมนิ ผล
Course) เช่น รายวชิ าฝกึ งาน รายวิชาสัมมนา วชิ าปญั หา จากรายวชิ าท่เี ปน็ ทีร่ วมของเนือ้ หาหรือทักษะจากวิชาตา่ ง ๆ
พิเศษ วชิ าโครงงาน วิชาสหกิจศกึ ษา ท่ีได้ศึกษามา (Capstone Course) เช่น รายวิชาฝึกงาน
รายวิชาสัมมนา วิชาปัญหาพเิ ศษ วชิ าโครงงาน วชิ าสหกจิ
14
จุดเดน่ โอกาสในการพฒั นา
ศกึ ษา แตจ่ าก curriculum mapping ในภาคผนวกของ
มคอ 2 หน้า 164-181 มีเพียงรายวชิ าสหกจิ ศกึ ษา (ซ่ึงเป็น
รายวิชาท่ไี มไ่ ด้เรยี นในแผน 1) ที่สะท้อนการบรรลุทกุ sub-
domain ของ TQF 5 ด้าน ทมี่ กี าร align กับ TQF กับ
PLOs (มคอ 2 ภาคผนวกหนา้ 162)
3. ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั ศึกษาปสี ดุ ทา้ ยก่อน
จบการศึกษา (Ref 7) ไมไ่ ดส้ ะทอ้ นการบรรลุ PLOs
AUN-QA 2 Programme Structure and Content
2.1 The specifications of the programme and all its courses are shown to be comprehensive, up-todate,
and made available and communicated to all stakeholders.
1. programme specification ที่เป็นหลักสตู รปรบั ปรงุ 1.ไม่พบขอ้ มลู programme และ course specificitions
2560 (มคอ 2) และ course specification (มคอ 3) มี บน website ของคณะฯ และมหาวิทยาลัย
ขอ้ มูลท่คี รบถว้ น
2. มกี ารสื่อสาร programme และ course
specifications ใหก้ บั stakeholders กลมุ่ ตา่ ง ๆ ผา่ นการ
ปฐมนเิ ทศ Facebook และคมู่ อื หนงั สือระดบั ปริญญาตรี
2.2 The design of the curriculum is shown to be constructively aligned with achieving the expected
learning outcomes.
หลกั สตู รมกี ารถ่ายทอด PLOs สรู่ ายวชิ าตา่ ง ๆ แล้วนำไป การถ่ายทอด PLOs สรู่ ายวิชาตา่ ง ๆ มีระดับการเรียนรูท้ ่ีไม่
จดั ทำเป็นโครงร่างหลักสูตรท่ีแบ่งเป็น 3 หมวดวชิ า ใน สอดคล้องกบั ระดบั การเรียนรู้ของ PLOs เชน่ รายวชิ าในชนั้
PLO เดียวกนั จะมรี ะดบั การเรยี นรู้ตาม Bloom’s ปีท่ี 3 และ 4 ทร่ี บั ผดิ ชอบ PLO 1 (ตารางท่ี 2.2-1) มรี ะดบั
taxonomy ตามชัน้ ปีทส่ี งู ขนึ้ เช่น PLO 1 ช้นั ปที ี่ 1 และ 2 การเรยี นรู้ (apply และ evaluating) สูงกว่าระดบั การ
ระดับการเรยี นรูเ้ ปน็ remembering และ เรียนรขู้ อง PLO 1 (มีความรแู้ ละเขา้ ใจ)
understanding และเพ่ิมเป็น apply และ evaluating ใน
ชนั้ ปีที่ 3 และ 4 ตามลำดับ (ตารางท่ี 2.2-1)
2.3 The design of the curriculum is shown to include feedback from stakeholders, especially external
stakeholders.
หลกั สตู รได้มกี ารปรบั ปรับปรงุ หลกั สตู รโดยใช้ผลจากการ ไมช่ ัดเจนว่าหลกั สตู รมีกระบวนการทบทวนการรับฟงั หรอื
สำรวจความต้องการของผปู้ ระกอบการ/ศษิ ยเ์ กา่ เช่น สำรวจความตอ้ งการของ stakeholder ภายนอกในแตล่ ะปี
ผปู้ ระกอบการต้องการใหเ้ พ่มิ ทักษะภาษาองั กฤษในระดับท่ี การศกึ ษาอย่างไร เพื่อใช้ในการปรบั ปรุงคณุ ภาพของ
สือ่ สารไดอ้ ย่างดีและมุมมองผู้ประกอบการ (SAR หน้า 37) หลักสตู ร
48-49) หลักสตู รจึงไดเ้ พ่ิมรายวชิ า ภาษาองั กฤษ 4 และ
วิชาผปู้ ระกอบการสรา้ งสรรค์ ในหลักสตู รปรบั ปรุง 2560
(SAR หน้า 48-49)
2.4 The contribution made by each course in achieving the expected learning outcomes is shown to be
clear.
15
จุดเดน่ โอกาสในการพัฒนา
ทกุ PLOs ของหลักสตู รมรี ายวชิ ารบั ผิดชอบ และทกุ หลกั สตู รไม่ไดแ้ สดงให้เหน็ ว่าทกุ รายวชิ าท่รี ับผิดชอบ PLOs
รายวชิ ามีสว่ นในการทำให้นักศกึ ษาบรรลุ PLOs ทำใหน้ กั ศึกษาบรรลุ PLOs โดยเฉพาะในส่วนทีเ่ ปน็ ระดบั
การเรยี นรู้
2.5 The curriculum to show that all its courses are logically structured, properly sequenced
(progression from basic to intermediate to specialised courses), and are integrated.
1. โครงสรา้ งของหลกั สตู รแบง่ รายวชิ าเปน็ 3 หมวด ได้แก่
หมวดศึกษาทัว่ ไป หมวดวชิ าเฉพาะ และวชิ าเลอื ก
2. แผนการศกึ ษาของหลกั สูตรจัดลำดบั รายวิชาให้
นักศกึ ษาไดเ้ รยี นตามระดับชั้นปีตามแผนการศกึ ษาของ
สาขาวชิ าเอกทง้ั 7 สาขา (Ref. 1, หนา้ 47-98) โดยเรยี ง
ตามระดบั การเรยี นรูข้ อง PLOs ที่ (ตาราง 2.5-1) โดยเริม่
จากรายวชิ าพนื้ ฐานวิชาชพี และรายวชิ าศึกษาทว่ั ไปในช้นั
ปีที่ 1 และ 2 ทม่ี รี ะดับการเรียนรตู้ าม Bloom’s
taxonomy ทรี่ ะดบั Remembering, Understanding
และ Applying ) จากนนั้ จงึ เรยี นกลมุ่ วชิ าบงั คับพ้นื ฐาน
วชิ าชีพ กลมุ่ วชิ าชีพ ในชน้ั ปีที่ 3 (Intermediate ที่
สอดคลอ้ งกบั Bloom’s taxonomy ทร่ี ะดับ Applying,
Analyzing และEvaluating) และในช้นั ปีที่ 4 (Advance
ท่ีสอดคลอ้ งกบั Bloom’s taxonomy ทร่ี ะดบั Applying,
Analyzing, Evaluating และ Creating) เปน็ รายวชิ า
บรู ณาการ ปญั หาพเิ ศษ และโครงงานนักศึกษาซ่ึงเน้นการ
ประยุกตใ์ ชอ้ งคค์ วามรู้ การคิดวเิ คราะห์ และแก้ไขปญั หา
ในวิชาชีพโดยใชพ้ นื้ ฐานการทำวิจัยตามปรัชญาการจัด
การศกึ ษา
2.6 The curriculum to have option(s) for students to pursue major and/or minor specialisations.
ในแต่ละสาขาวิชาเอกของหลักสตู รเปดิ โอกาสใหน้ กั ศึกษา
ได้เลือกวา่ จะฝึกงาน (แผน 1) หรอื สหกจิ ศกึ ษา (แผน 2)
นอกจากนใ้ี นแต่ละแผนยังมีรายวชิ าอยา่ งนอ้ ย 3 รายวิชาท่ี
ให้นักศึกษาได้เลอื กตามความสนใจเปน็ จำนวน 6-12
หนว่ ยกติ สำหรบั แผน 1 และ 3-9 หนว่ ยกติ สำหรบั แผน 2
2.7 The programme to show that its curriculum is reviewed periodically following an established
procedure and that it remains up-to-date and relevant to industry.
หลกั สตู รมกี ารปรบั ปรงุ ทกุ 5 ปี โดยมกี ารสอบถามความ นอกจากการปรบั ปรุงหลกั สตู รทกุ รอบ 5 ปี ไมช่ ดั เจนว่าใน
ต้องการ/คาดหวงั ของ stakeholder ซ่ึงรวมถงึ กลุ่ม ระหว่างที่ยงั ไม่ครบรอบของการปรับปรงุ หลักสตู ร มกี ารปรบั
ผู้ประกอบการ ศิษยเ์ กา่ และผใู้ ชบ้ ัณฑติ เพ่ือทำเปน็ ทักษะ เนื้อหารายวิชาของหลักสูตร ใหเ้ ปน็ ปัจจุบนั และสอดคล้อง
กบั ความต้องการของภาคการทำงานของบณั ฑิต
16
จดุ เด่น โอกาสในการพฒั นา
ทจี่ ำเปน็ สำหรับบณั ฑติ เม่อื สำเรจ็ การศกึ ษาแลว้ ปรบั
PLOs ของหลักสตู รปรบั ปรงุ 2565 ใหส้ อดคล้อง
AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach
3.1 The educational philosophy is shown to be articulated and communicated to all stakeholders. It is
also shown to be reflected in the teaching and learning activities.
1. จากการสมั ภาษณผ์ ้รู ับผดิ ชอบหลกั สตู รและอาจารย์ ไมพ่ บวา่ มกี ารส่อื สารปรชั ญาการศกึ ษาไปยงั อาจารย์และ
ผู้สอน หลกั สูตรมีการกำหนดปรชั ญาการศึกษาคือ นักศึกษา
หลักสตู รจดั การศึกษาโดยใชก้ ารวจิ ยั เป็นฐาน
2. จากการสัมภาษณอ์ าจารยผ์ ้สู อนพบว่ามีการใช้ปรชั ญา
การศกึ ษาของหลกั สตู รในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
อยา่ งไร
3.2 The teaching and learning activities are shown to allow students to participate responsibly in the
learning process.
รายวชิ าโครงงาน นักศกึ ษาสามารถเลอื กวิธีและเครือ่ งมือ
ในการศกึ ษาเพ่ือดาเนินการโครงการ ภายใตค้ ำแนะนาของ
อาจารยท์ ป่ี รึกษา รวมทัง้ มสี ว่ นร่วมในการประเมินโครงงาน
ของกลุม่ อ่ืน ประเมินการทำงานของสมาชกิ ในกลมุ่ ส่วน
รายวิชาอื่น ๆ เปดิ โอกาสให้นกั ศึกษาสามารถเลือกรปู แบบ
การทำงานได้ เช่น เลือกวิธกี ารทำงานเอง เลอื กวธิ ีการ
สือ่ สารระหวา่ งนกั ศกึ ษาและอาจารย์ประจำวชิ า เลือก
สมาชกิ กลุม่ เอง
3.3 The teaching and learning activities are shown to involve active learning by the students.
1. จากการสัมภาณ์อาจารยผ์ สู้ อนและนกั ศกึ ษาพบว่าทกุ
รายวชิ าของหลกั สตู รมกี ารจัดการเรยี นการสอนแบบ
active learning โดย
2. หลักสูตรมีวธิ กี ารจดั การเรยี นการสอนทเี่ ปน็ active
learning หลากหลายรูปแบบ เชน่ มีการใช้งานวิจยั และ
ทกั ษะท่เี กย่ี วข้องในการวจิ ัย เป็นฐานในการจัดการศึกษา
(research based learning; RBL) นอกจากนย้ี งั มีรายวิชา
ที่เน้นใหผ้ เู้ รยี นแสวงหาความรู้ และพฒั นาความรไู้ ดด้ ว้ ย
ตนเอง รวมท้งั การฝึกและปฏบิ ัติจรงิ มีการจัดการเรียนรู้
โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learningว PBL)
(SAR หน้า 66)
3.4 The teaching and learning activities are shown to promote learning, learning how to learn, and
instilling in students a commitment for life-long learning (e.g., commitment to critical inquiry,
information-processing skills, and a willingness to experiment with new ideas and practices).
17
จดุ เดน่ โอกาสในการพฒั นา
1. หลกั สูตรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพอ่ื ใหเ้ กดิ การ จาก SAR ไมช่ ัดเจนวา่ life-long learning skill ของ
เรยี นร้แู ละรวู้ ิธีการแสวงหาความรโู้ ดยการจดั การเรยี นการ หลักสตู รคอื อะไร และหลักสตู รมวี ธิ ีการอย่างไรในการ
สอนแบบ active learning จดั กจิ กรรมทนี่ ักศกึ ษาสามารถ ปลูกฝงั ใหเ้ กิดทกั ษะดงั กล่าว
เรียนรผู้ า่ นการปฏิบตั ิจริงในภาคสนาม เช่น การลงพื้นที่
เพ่ือหาโจทยจ์ ากชาวบ้าน เกษตรกร ชุมชนและหนว่ ยงาน
ทอ้ งถ่นิ เพ่ือนามาวางแผนในการเสนอโครงแกไ้ ขปัญหา
โดยผูเ้ รยี นสามารถคิดวเิ คราะห์ และตดั สินใจภายใต้
หลกั วชิ าและประสบการณ์ท่ไี ดฝ้ ึกมาจากชั้นเรียน เชน่
รายวชิ า AG163 301 การวเิ คราะห์ชุมชนเพื่อการ
พัฒนาการเกษตร AG164 303 การจดั การการพฒั นา
ชมุ ชนเกษตร
3.5 The teaching and learning activities are shown to inculcate in students, new ideas, creative thought,
innovation, and an entrepreneurial mindset.
หลักสตู รจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนเพื่อให้เกดิ การ ยงั ไมม่ ีการแสดงการประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องนกั ศึกษาว่า
เรียนรู้และรูว้ ิธีการแสวงหาความรโู้ ดยการจัดการเรยี นการ เกิดทักษะที่ไดท้ ำการปลกู ฝัง
สอนแบบ active learning จัดกจิ กรรมท่นี กั ศึกษาสามารถ
เรยี นรผู้ ่านการปฏิบตั ิจริงในภาคสนาม เช่น การลงพื้นท่ี
เพ่ือหาโจทยจ์ ากชาวบา้ น เกษตรกร ชมุ ชนและหนว่ ยงาน
ทอ้ งถิ่น เพอื่ วางแผนการเสนอโครงแกไ้ ขปัญหา โดยผเู้ รียน
สามารถคิดวิเคราะห์ และตดั สินใจภายใตห้ ลักวชิ าและ
ประสบการณ์ท่ีไดฝ้ กึ มาจากช้นั เรยี น เช่น รายวิชา AG163
301 การวิเคราะหช์ มุ ชนเพ่ือการพฒั นาการเกษตร AG164
303 การจัดการการพัฒนาชมุ ชนเกษตร
3.6 The teaching and learning processes are shown to be continuously improved to ensure their
relevance to the needs of industry and are aligned to the expected learning outcomes.
จากการสมั ภาษณ์ หลักสตู รมกี ารปรบั ปรงุ หรือพฒั นา หลักสตู รไมไ่ ด้แสดงใหเ้ ห็นว่าหลังจากปรบั กิจกรรมการเรยี น
กจิ กรรมการเรยี นการสอนในบางรายวชิ าเพอ่ื ให้บัณฑิตมี การสอนแล้ว บณั ฑิตมีสมรรถนะสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการ
สมรรถนะสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของผใู้ ชบ้ ัณฑติ ของผูใ้ ชบ้ ัณฑติ
AUN-QA 4 Student Assessment
4.1 A variety of assessment methods are shown to be used and are shown to be constructively aligned
to achieving the expected learning outcomes and the teaching and learning objectives.
หลักสตู รมีการประเมินผเู้ รียนโดยการสอบดว้ ยข้อสอบ การ 1. หลักสูตรไม่ไดแ้ สดงความสอดคลอ้ งระหวา่ งวิธีการ
ประเมินผลการปฏิบตั งิ าน การประเมินการเข้าร่วม ประเมนิ ทหี่ ลากหลายกับกิจกรรมการเรยี นการสอน
กิจกรรม โดยใช้ rating scale และจากการสมั ภาษณ์ 2. จากกระบวนการทวนสอบผลสมั ฤทธ์ิ ไมพ่ บรายละเอยี ดท่ี
นักศึกษา พบวา่ หลกั สตู รยงั มกี ารใหน้ กั ศกึ ษาประเมิน ระบวุ า่ การวดั และประเมนิ ผลสะทอ้ นการบรรลุ CLOs
18
จดุ เด่น โอกาสในการพฒั นา
กันเองในรายวิชาทม่ี ีการจัดการเรยี นการสอนแบบกจิ กรรม
กลมุ่
4.2 The assessment and assessment-appeal policies are shown to be explicit, communicated to
students, and applied consistently.
หลกั สตู รมกี ารกำหนดนโยบายการอุทธรณ์ กำหนดชอ่ งทาง จากการสมั ภาษณน์ ักศกึ ษา พบว่านักศึกษาไม่ทราบชอ่ ง
การอุทธรณ์ สำหรับนโยบายการประเมินผล เป็นไปตาม ทางการอุทธรณ์และนโยบายเก่ยี วกบั การประเมินผล
ระเบียบของมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ (SAR หนา้ 72 R 4.1)
และมีการกำหนดวา่ ตดั เกรดแบบอิงเกณฑ์ การวดั และ
ประเมนิ ผลของแตล่ ะรายวชิ าตอ้ งมมี ากกว่า 1 วธิ ี (SAR
หนา้ 73 R 4.3)
4.3 The assessment standards and procedures for student progression and degree completion, are
shown to be explicit, communicated to students, and applied consistently.
หลกั สตู รกำหนดเกณฑ์การสำเร็จการศึกษาไว้ 6 ขอ้ ซ่งึ 1. ไม่พบวา่ หลักสูตรมีการสอื่ สารใหน้ ักศกึ ษารับทราบ
เป็นไปตามระเบยี บของมหาวิทยาลัย (SAR หน้า71 R 4.1) เก่ยี วกบั เกณฑก์ ารสำเร็จการศกึ ษาผา่ นช่องทางใด
2. หลกั สูตรไม่ไดแ้ สดงการประเมนิ ความก้าวหนา้ ในการ
เรยี นรขู้ องนักศึกษา (formative assessment) ของ
นกั ศกึ ษา
4.4 The assessments methods are shown to include rubrics, marking schemes, timelines, and
regulations, and these are shown to ensure validity, reliability, and fairness in assessment.
หลกั สตู รมกี ารประเมินผลการเรียนรโู้ ดยใช้ marking 1. ไม่พบวา่ หลกั สตู รมกี ารประเมนิ ผลการเรยี นร้โู ดยใช้
scheme rubrics
2. หลักสูตรไม่ไดแ้ สดงใหเ้ ห็นวา่ มนั่ ใจไดอ้ ยา่ งไรว่าการ
ประเมนิ ผลโดย rubrics และ marking scheme มคี วาม
เท่ียง (validity) น่าเช่อื ถือ (reliability) และมีความเปน็
ธรรม (fairness)
3. ไมพ่ บการกำหนด timeline
4.5 The assessment methods are shown to measure the achievement of the expected learning
outcomes of the programme and its courses.
หลักสตู รมกี ารประเมินรายวิชาทเี่ ป็น capstone เพื่อ 1. จากการตรวจสอบเอกสารเกยี่ วกับการทวนสอบ ไมพ่ บวา่
ประเมนิ วา่ นักศึกษาบรรลุ PLOs ในแผน 2 มีการประเมินการบรรลุ CLOs อยา่ งเป็นรปู ธรรม
2. การประเมินรายวชิ าทเี่ ปน็ capstone เพอื่ ประเมินว่า
นกั ศกึ ษาบรรลุ PLOs ไม่ชัดเจนในแผน 1
4.6 Feedback of student assessment is shown to be provided in a timely manner
หลักสตู รมีการกำหนดให้อาจารยผ์ ้สู อนทีม่ ีการประเมินผล จากการสมั ภาษณน์ กั ศกึ ษา พบว่ามบี างรายวชิ าทไ่ี มไ่ ด้แจ้ง
การทำกจิ กรรมในห้องเรียน หรอื มีการทดสอบ ให้แจง้ ผล ผลปอ้ นกลับตามเวลาที่กำหนด
การประเมินกับนกั ศึกษาทนั ที และเปดิ โอกาสให้นักศกึ ษา
19
จดุ เดน่ โอกาสในการพฒั นา
ซักถาม สำหรับรายวชิ าท่มี กี ารสง่ งานเปน็ รายสัปดาห์
อาจารย์ก็ต้องแจ้งผลการประเมนิ เปน็ รายสปั ดาหเ์ ชน่ กัน
4.7 The student assessment and its processes are shown to be continuously reviewed and improved to
ensure their relevance to the needs of industry and alignment to the expected learning outcomes.
จากการสมั ภาษณ์ พบวา่ หลกั สตู รมกี ารนำผลการประเมิน ไมพ่ บวา่ หลักสตู รมีการประมนิ ผลการเรยี นรู้ของนกั ศกึ ษา
เพอ่ื ทบทวนหลกั สูตรทุก 4 ปี มาใช้ในการปรบั ปรงุ วิธกี าร จากผูใ้ ช้บณั ฑติ หรือศษิ ยเ์ กา่ ในแตล่ ะปีการศกึ ษาเพอ่ื
ประเมินผลการเรยี นรขู้ องนกั ศกึ ษาเพ่อื ใหผ้ ลลัพธก์ าร ปรับปรุงวธิ ีการประเมินผลการเรียนร้ขู องนกั ศกึ ษาอย่าง
เรียนรสู้ อดคลอ้ งกับความตอ้ งการของผู้ใชบ้ ัณฑิต ตอ่ เนือ่ งเพือ่ ให้ผลลัพธ์การเรียนรสู้ อดคล้องกับความตอ้ งการ
ของผู้ใช้บัณฑิต
AUN-QA 5 Academic Staff
5.1 The programme to show that academic staff planning (including succession, promotion,
redeployment, termination, and retirement plans) is carried out to ensure that the quality and quantity
of the academic staff fulfil the needs for education, research, and service.
1. หลกั สูตรมกี ารวเิ คราะหอ์ ัตรากำลังเปน็ เวลา 3 ปี การวางแผนอตั รากำลงั ของหลักสตู รไมค่ รอบคลุมภาระ
(2563-2565) วา่ มีจำนวนเพยี งพอต่อการจดั การเรยี นการ งานวจิ ยั และบริการวิชาการของอาจรย์
สอนอย่างมปี ระสิทธิภาพแมว้ า่ จะมอี าจารยเ์ กษียณอายุ
ราชการ
2. คณะฯ มีการตรวจสอบจำนวนผลงานวิชาการของ
อาจารยท์ กุ ปีเพ่ือใหม้ นั่ ใจวา่ อาจารย์มีคณุ สมบัตทิ ี่จะเป็น
อาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สตู ร บรรลุ KPI ดา้ นผลงาน
วิชาการตามทมี่ หาวทิ ยาลยั กำหนด และเตรยี มพรอ้ ม
สำหรับการขอตำแหน่งวิชาการ นอกจากนีย้ ังมกี ารกระจาย
งานบรกิ ารวิชาการใหก้ บั อาจารยต์ ามความเชี่ยวชาญ
5.2 The programme to show that staff workload is measured and monitored to improve the quality of
education, research, and service.
หลักสตู รมกี ารวิเคราะหค์ า่ FTE ของอาจารยป์ ระจำ ไมช่ ดั เจนเก่ยี วกบั การกลไกการ monitor ภาระงานด้านการ
หลักสตู รทกุ ท่านเพอื่ ใหเ้ ห็นถงึ โหลดภาระงานสอนของ สอน วจิ ยั และบริการวิชาการเพ่ือพัฒนาคุณภาพของงานทัง้
อาจารย์ประจาหลักสตู รฯ แตล่ ะทา่ นตามทคี่ ณะฯ และ 3 ดา้ นของอาจารย์
หลกั สตู รกำหนด สาหรับภาระงานดา้ นวิจัย บรกิ ารวชิ าการ
และอ่นื ๆ เปน็ ภาระงานทค่ี ณะฯ ดแู ลและกำกับ
5.3 The programme to show that the competences of the academic staff are determined, evaluated,
and communicated.
คณะฯ มกี ารกำหนดสมรรถนะขีดความสามารถอาจารย์ 1.
ผ่านระบบ E-workload (Ref. 23) ซ่งึ มกี ารกำหนดความ
รบั ผดิ ชอบในการทำงานของคณะฯ ผ่านพันธกิจหลกั 4
ดา้ น มีการกำกบั ติดตามและประเมินผลในรอบ 6 เดือน
20
จดุ เดน่ โอกาสในการพฒั นา
(ข้าราชการ) และรอบ 12 เดอื น (พนกั งานมหาวิทยาลยั )
ซ่งึ ผลการประเมนิ พบว่าบุคลากรทุกคนปฏบิ ัตงิ านเป็นไป
ตามเกณฑแ์ ละขีดความสามารถตามท่คี ณะฯ กำหนดไว้ มี
การให้บุคลากรตรวจสอบความถูกตอ้ งกอ่ นลงนามยนื ยนั
หากมกี ารปรบั เปลี่ยนเกณฑก์ ารประเมนิ คณะผ้บู รหิ ารจะ
สื่อสารให้บุคลากรของคณะรับทราบผ่านชอ่ งทางตา่ ง ๆ
เช่น การประชุมคณะกรรมการบรหิ ารคณะฯ
5.4 The programme to show that the duties allocated to the academic staff are appropriate to
qualifications, experience, and aptitude.
หลักสตู รไดม้ กี ารกำหนดภาระงานและหน้าท่ีใหก้ ับ ไมพ่ บหลกั ฐานการเกลี่ยงานของอาจารย์ให้มคี วามเหมาะสม
บุคคลากรของคณะจะพิจารณาจากคณุ วุฒแิ ละ
ประสบการณ์ของบคุ ลากร ซ่งึ ลกั ษณะงานท่ปี ฏิบตั ิ ภาระ
งานและความรบั ผดิ ชอบไดถ้ ูกกำหนดและระบไุ ว้อยา่ ง
ชดั เจนตั้งแตก่ ระบวนการเปดิ รบั สมคั รบคุ ลากรนน้ั เขา้
ทำงานไป เชน่ บุคลากรท่ีทำหน้าทบ่ี ริหารหลกั สตู รมี
คุณวุฒแิ ละ/หรอื เปน็ ผทู้ ม่ี ีประสบการณ์การทำงานวิจัย
เกี่ยวข้องกับศาสตร์เฉพาะของหลกั สตู รนั้น ๆ
5.5 The programme to show that promotion of the academic staff is based on a merit system which
accounts for teaching, research, and service.
นอกเหนอื จากการประเมนิ การปฏบิ ตั ิงานเพือ่ เลอื่ นขัน้ หลกั สตู รไม่ได้แสดงใหเ้ หน็ ว่าการส่งเสรมิ และสนับสนุน
เงินเดือน คณะฯ มีการเพิ่มแรงจงู ใจการทำงาน โดยให้ อาจารยใ์ นด้านต่าง ๆ เป็นไปตามความต้องการของอาจารย์
รางวลั เชิดชเู กยี รติ และคา่ ตอบแทนการตีพมิ พว์ ารสาร แตล่ ะคน
ระดบั ชาติ และนานาชาติ สนับสนนุ ความก้าวหนา้ ในการ
ขอตำแหนง่ ทางวชิ าการของบุคลากร โดยการสง่ เสรมิ
บุคคลากรใหเ้ ขา้ รว่ มอบรมโครงการค่าย ผศ. รศ. ของ
มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น และแต่งตงั้ คณะกรรมการเพ่อื
พิจารณากล่ันกรองผลงานทางวิชาการโดยคณะฯ
5.6 The programme to show that the rights and privileges, benefits, roles and relationships, and
accountability of the academic staff, taking into account professional ethics and their academic
freedom, are well defined and understood.
คณะฯ มีการสื่อสารเกีย่ วกบั สิทธิประโยชน์ และสวสั ดกิ าร 1. ไมช่ ัดเจนว่าการถา่ ยทอดแบบ one-way จะทำให้
กฎเกณฑ์ บทบาทหน้าที่และความรบั ผดิ ชอบของบุคลากร บคุ ลากรมคี วามเข้าใจเกยี่ วกับสทิ ธปิ ระโยชน์ และสวสั ดิการ
รวมถงึ จรรยาบรรณ โดยผา่ นชอ่ งทางตา่ ง ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้ กฎเกณฑ์ บทบาทหนา้ ทแ่ี ละความรับผดิ ชอบของบุคลากร
1. Web site คณะเกษตรศาสตร์ 2. ไม่พบการประเมินผลของการสอ่ื สารไปยังบุคคลากร
2. e-mail โดยฝา่ ยทรัพยากรบุคคลของคณะเกษตรศาสตร์
3. Line กลมุ่ บคุ ลากรสายวชิ าการ
21
จดุ เด่น โอกาสในการพฒั นา
5.7 The programme to show that the training and developmental needs of the academic staff are
systematically identified, and that appropriate training and development activities are implemented to
fulfil the identified needs.
คณะฯ มีการจดั โครงการเพือ่ พฒั นาอาจารย์ทงั้ ด้านการ ไม่ชดั เจนว่าคณะฯ มรี ะบบการสอบถามความต้องการการ
สอน วจิ ัย บริการวิชาการ และบรหิ ารบุคคล โดยมีการ อบรมและพฒั นาตัวเองดา้ นใดของอาจารยแ์ ตล่ ะคนเพอื่ ให้
สำรวจความตอ้ งการของบคุ ลากรแล้วคัดกรองความ เป็นไปตามความต้องการของอาจารย์แตล่ ะคน
ต้องการท่ีสอดคลอ้ งกับวสิ ยั ทศั นแ์ ละพันธกจิ ของคณะฯ
5.8 The programme to show that performance management including reward and recognition is
implemented to assess academic staff teaching and research quality.
คณะฯ คณะมีระบบการประเมนิ ความดีความชอบตาม จาก SAR ไมพ่ บวา่ รางวัลสำหรับผทู้ ีม่ กี ารเรยี นการสอนดีเด่น
ภาระงานดา้ นการเรยี นการสอน การวจิ ัย การบรกิ าร
วชิ าการ เช่น ดา้ นการวจิ ยั ทางคณะฯ มกี ารสนับสนุน
บคุ ลากรทไี่ ดร้ บั การตพี มิ พ์นานาชาตใิ นฐาน ISI หรอื
SCOPUS สาหรบั ดา้ นบรกิ ารวชิ าการ คณะฯ มกี าร
สนบั สนุนให้บุคลากรทมี่ ผี ลงานบรกิ ารวชิ าการทโี่ ดดเดน่
ได้แก่รางวลั Good Practice และ Best Practice (Ref.
34)
AUN-QA 6 Student Support Services
6.1 The student intake policy, admission criteria, and admission procedures to the programme are
shown to be clearly defined, communicated, published, and up-to-date.
1. นโยบายการรบั นกั ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรขี องคณะฯ ใช้ ไม่ชดั เจนวา่ ข้อมูลทีป่ ระชาสมั พนั ธต์ ามชอ่ งทางตา่ ง ๆ มี
ระบบคัดเลือกกลางบคุ คลเขา้ ศกึ ษาในสถาบันอดุ มศึกษา ข้อมลู ท่ตี รงกันและเป็นข้อมลู ลา่ สดุ
(Thai University Central Admission System: TCAS)
ของท่ปี ระชมุ อธิการบดีแหง่ ประเทศไทย (ทปอ.) จำนวน 4
รอบ โดยหลักสตู รมกี ารกำหนดคณุ สมบัตทิ ่วั ไป
คณุ สมบัติเฉพาะ และวิธีการคัดเลอื ก
2. หลกั สูตรมีการประชาสัมพันธไ์ ปยังกลมุ่ เป้าหมายคือ
นกั เรียนในโรงเรียนจงั หวดั ขอนแกน่ และจังหวดั ใกล้เคียง
โดยการทำ road show และตลาดนัดหลกั สตู ร รวมท้ังการ
ประชาสมั พันธบ์ นเว็บไซต์ของคณะและมหาวทิ ยาลัย
6.2 Both short-term and long-term planning of academic and non-academic support services are shown
to be carried out to ensure sufficiency and quality of support services for teaching, research, and
community service.
คณะฯ มีแผนการบริการนักศกึ ษาทงั้ ในสว่ นท่เี กีย่ วข้องกับ 1. คณะฯ ไม่ได้แสดงแผนระยะยาว
วชิ าการและความเปน็ อยู่ เช่น การสง่ เสริมและพฒั นา 2. หลกั สูตรไม่ไดแ้ สดงแผนของงานบรกิ ารนักศึกษาในสว่ นท่ี
เก่ยี วข้องกับการทำวจิ ยั
22
จุดเด่น โอกาสในการพฒั นา
ทักษะทางวชิ าการ ส่งเสรมิ ทกั ษะการทำงานชมุ ชน ระบบ
อาจารยท์ ีป่ รึกษา
6.3 An adequate system is shown to exist for student progress, academic performance, and workload
monitoring. Student progress, academic performance, and workload are shown to be systematically
recorded and monitored. Feedback to students and corrective actions are made where necessary.
1. คณะฯ มรี ะบบอาจารย์ทป่ี รกึ ษาสำหรับการตดิ ตาม ไมพ่ บการติดตามภาระงานของนกั ศกึ ษาอย่างเป็นระบบ
ความก้าวหนา้ ด้านการเรยี น
2. มรี ะบบตดิ ตามวชิ าท่ตี กคา้ งและผลการเรยี นทอี่ ยใู่ น
เกณฑต์ ่ำของนกั ศึกษา โดยแจ้งเตอื นนกั ศึกษาทีม่ ีผลการ
เรยี นตำ่ กวา่ 2.00 ผา่ นทางอาจารย์ท่ีปรึกษา
3. มหาวทิ ยาลยั มีระบบสารสนเทศ (reg KKU) สำหรับการ
ลงทะเบียน ตารางเรยี น ตารางสอบ ผลการเรียน และ
workload
6.4 Co-curricular activities, student competition, and other student support services are shown to be
available to improve learning experience and employability.
คณะฯ มีการจัดกจิ กรรมเสริมหลกั สตู รที่ช่วยพฒั นาทักษะ จาก SAR หนา้ 109 นกั ศกึ ษาไม่ไดเ้ ขา้ รว่ มทุกคน เนอ่ื งจาก
ตา่ ง ๆ ท่ีเปน็ สว่ นหน่งึ ของ PLOs เช่น โครงการส่งเสรมิ เปน็ โครงการทใี่ ห้นกั ศึกษาสมคั รใจเขา้ รว่ ม จึงมนี กั ศึกษา
ทกั ษะทางดา้ นการเกษตร บางสว่ นไมไ่ ดร้ ับการพัฒนาทกั ษะดงั กลา่ ว
2. หลกั สตู รมีการจัดกิจกรรมการแขง่ ขนั เชิงสร้างสรรค์ เช่น
โครงการการแข่งขนั แผนไอเดยี เชงิ ธรุ กิจ นอกจากนย้ี งั
สง่ เสรมิ ใหน้ กั ศกึ ษาเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขนั ของ
หน่วยงานอนื่ ๆ
6.5 The competences of the support staff rendering student services are shown to be identified for
recruitment and deployment. These competences are shown to be evaluated to ensure their
continued relevance to stakeholders needs. Roles and relationships are shown to be well-defined to
ensure smooth delivery of the services.
จากการสมั ภาษณผ์ รู้ บั ผดิ ชอบหลกั สูตรพบว่าคณะฯ กำลัง ไมพ่ บระบบการประเมินสมรรถนะของบคุ ลากรสาย
อยใู่ นระหว่างดำเนินการกำหนดสมรรถนะของบคุ ลากรสาย สนบั สนุนด้านการบรกิ ารการศกึ ษาท่สี อดคลอ้ งกบั ความ
สนับสนนุ ที่ทำงานบริการการศกึ ษา และมแี ผนการ ตอ้ งการของผ้ใุ ช้บรกิ าร
ประเมนิ ผลการปฏิบัติงานของบคุ ลากรสายสนบั สนนุ ตาม
แบบฟอรม์ ตาราง 6.5-1 หนา้ 121
6.6 Student support services are shown to be subjected to evaluation, benchmarking, and
enhancement.
1. มกี ารประเมินคณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารโดยใช้แบบประเมิน คณะฯ ยงั ไมไ่ ดม้ ีการพัฒนาระบบของการบริการศึกษา
ความพึงพอใจ หลงั จากการดูงานที่หลักสูตรแพทยศาสตรบณั ฑติ คณะ
แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
23
จุดเด่น โอกาสในการพัฒนา
2. คณะฯ มีการกำหนดค่เู ทียบของงานบริการการศึกษากับ
หลักสตู รแพทยศาสตรบัณฑติ คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ และเขา้ ศึกษาดูงานเกีย่ วกบั ระบบ
การติดตามผลลพั ธก์ ารเรียนร้ขู องนักศึกษา ระบบการ
พฒั นา soft skill
AUN-QA 7 Facilities and Infrastructure
7.1 The physical resources to deliver the curriculum, including equipment, material, and information
technology, are shown to be sufficient.
คณะฯ มคี วามพร้อมของห้องเรยี น และเครื่องมือซึ่งรวมถึง คณะฯ ไมไ่ ดแ้ สดงถึงความพร้อมของ information
ในระดบั สาขาวชิ าด้วย ในกรณีทีส่ าขาวิชาขาดอปุ กรณห์ รอื technology ท่ีชว่ ยส่งเสริมการจดั การเรยี นการสอนของ
เครอื่ งมือจากการสำรวจ ก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการเพอื่ หลกั สตู ร
จัดหา
7.2 The laboratories and equipment are shown to be up-to-date, readily available, and effectively
deployed.
คณะฯ มีความพร้อมของห้องปฏบิ ตั ิการและเครอื่ งมือ จากการสมั ภาษณน์ กั ศึกษา พบวา่ ยังมปี ญั หาเรือ่ งความ
สำหรับการฝกึ ปฏบิ ัติ ซ่ึงมีท้งั สว่ นทอ่ี ยู่ในการดแู ลของ พรอ้ มใชข้ องเครื่องมือ เช่น มเี ครื่องมือหลายเคร่ืองที่ชำรดุ
คณะฯ และสาขาวชิ า ซึง่ ก่อนเปิดเรียน แตล่ ะสาขาฯ มีการ และบางเคร่อื งตอ้ งรอควิ นานในการใช้
สำรวจความพรอ้ มของเคร่อื งมอื และอุปกรณ์ ซ่ึงจากการ
ประเมินความพึงพอใจของความพรอ้ มของหอ้ งปฏบิ ัติการมี
คะแนน 3.63
7.3 A digital library is shown to be set-up, in keeping with progress in information and communication
technology.
คณะฯ และมหาวิทยาลัยมรี ะบบหอ้ งสมุดออนไลน์ ซึ่ง
ผูใ้ ชบ้ รกิ ารสามารถคน้ หาหนังสอื และสบื คน้ ข้อมูลต่าง ๆ
ผา่ นเวบ็ ไซตข์ องห้องสมดุ
7.4 The information technology systems are shown to be set up to meet the needs of staff and
students.
คณะฯ มีการจดั เตรยี มระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีตรง จากการสมั ภาษณ์นักศึกษา พบว่ายงั มปี ญั หาการเช่อื มต่อ
ตามความคาดหวงั ของผู้ใช้บรกิ าร เชน่ อินเตอรเ์ น็ท สัญญาณ internet คอื ชา้ และบ่อยครง้ั ที่ไมส่ ามารถเชอ่ื มต่อ
เครือขา่ ยแบบไรส้ าย ระบบสารสนเทศสำหรับนักศึกษา ได้
ผา่ น KKU login บรกิ ารแอนตไี วรสั ซอรฟ์ แวร์
7.5 The university is shown to provide a highly accessible computer and network infrastructure that
enables the campus community to fully exploit information technology for teaching, research, service,
and administration.
คณะฯ และมหาวทิ ยาลยั มกี ารจัดเตรยี มคอมพวิ เตอร์และ
ระบบ Internet ทง้ั แบบ LAN และ Wi-Fi เพ่อื รองรบั การ
24
จดุ เดน่ โอกาสในการพฒั นา
เรียนการสอนแบบ active learning ในชน้ั เรียน จดั เตรยี ม
ฐานข้อมลู (data base) สาขาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระบบ VPN เพือ่ ใหอ้ าจารยแ์ ละนกั ศึกษาสามารถใช้
โปรแกรมหรอื คน้ ข้อมลู จากภายนอกมหาวทิ ยาลัย
7.6 The environmental, health, and safety standards and access for people with special needs are
shown to be defined and implemented.
1. คณะฯ มรี ะบบความปลอดภยั ของ เชน่ มีระบบฉกุ เฉิน ไมพ่ บมาตรฐานของระบบความปลอดภัยของคณะฯ
แจ้งเตอื นอคั คีภัยทกุ สาขาวิชา การฉีดพน่ สารเคมปี ้องกนั
กาจัดยุงลาย ฉดี พ่นสารฆ่าเชือ้ โรคในสถานการณโ์ รค
ระบาดโควิด-19 การตดิ ต้งั กล้องวงจรปิดทุกอาคาร การแส
กนลายมือในการเข้าออกอาคาร มกี ารอบรมโครงการ
ปอ้ งกันและระงบั อัคคภี ยั
2. ระบบความปลอดภยั ของสขุ ภาพเปน็ ระบบของ
มหาวิทยาลยั เชน่ ศนู ย์สขุ ภาพ หนว่ ยบริการปฐมภูมิ 123
มข. โรงพยาบาลศรีนครินทร์
3. คณะฯ มรี ะบบบริการผูพ้ ิการหรอื ผทู้ ี่ตอ้ งการความ
ช่วยเหลือโดยมที างลาดสาหรบั รถเขน็ ขึน้ ลงอาคาร บรเิ วณ
อาคาร 8 ด้านทศิ ตะวนั ออกของอาคาร มีราวจบั ในปี
2565 มกี ารติดตัง้ อกั ษรเบลสำหรบั ผ้พู ิการทางสายตาทัง้
นอกและในลฟิ ท์ และในปี 2565 คณะฯ ไดป้ รับปรุงอาคาร
เรียนรวมโดยบริเวณอาคารจอดรถมที างลาดสำหรับรถเข็น
ขนึ้ -ลงของอาคาร
7.7 The university is shown to provide a physical, social, and psychological environment that is
conducive for education, research, and personal wellbeing.
คณะฯ และมหาวิทยาลัย ไดจ้ ัดพน้ื ท่ี และสงิ่ แวดล้อมท่เี อือ้
ต่อการเรยี น การทำวิจัยและความเปน็ อยู่ เช่น จัดพ้นื ที่
สำหรบั ใหน้ กั ศกึ ษาไดท้ ำกจิ กรรมทเ่ี ก่ียวข้องกับการเรยี น
ไดแ้ ก่ หอ้ งสมดุ มีชวี ิต เพ่อื เป็นพ้ืนท่ีใชใ้ นการแลกเปล่ียน
เรยี นรขู้ องนกั ศึกษา ตลอดจนสืบค้นขอ้ มูล มีหอ้ งประชุม
เล็กสำหรบั การทำงานกลมุ่ มรี ถ shuttle bus บรเิ วณ
ใกล้เคยี งคณะฯ มีศนู ย์อาหารและบรกิ ารซึง่ มสี ถานที่
อำนวยความสะดวก ต่าง ๆ เช่น ธนาคาร ร้านสะดวกซ้ือ
รา้ นถา่ ยเอกสาร
7.8 The competences of the support staff rendering services related to facilities are shown to be
identified and evaluated to ensure that their skills remain relevant to stakeholder needs.
25
จดุ เดน่ โอกาสในการพัฒนา
จากการสมั ภาษณ์ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร พบวา่ คณะฯ มกี าร ไม่พบวา่ คณะฯ มีการกำหนดสมรรถนะของบคุ ลากรสาย
สำรวจสมรรถนะของบุคลากรสายสนบั สนนุ ทีด่ ูแลสิ่ง สนับสนนุ ที่ดแู ลสิ่งสนบั สนนุ การเรยี นรู้
สนับสนุนการเรยี นรู้ทีย่ งั ตอ้ งการเพิม่
7.9 The quality of the facilities (library, laboratory, IT, and student services) are shown to be subjected
to evaluation and enhancement.
ผลการประเมนิ ความพึงพอใจด้านคณุ ภาพ ปรมิ าณของ ไมพ่ บว่าคณะฯ มีการปรับปรุงเพือ่ พัฒนาคณุ ภาพ
ทรพั ยากรการเรยี นรู้ และสิง่ อานวยความสะดวก ของ
หอ้ งสมุดจากนกั ศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ มคี วามพงึ พอใจ
ในภาพรวม ร้อยละ 88.81 โดยพึงพอใจดา้ นทรัพยากร
สารสนเทศ รอ้ ยละ 87.46 ด้านกระบวนการใหบ้ ริการ รอ้ ย
ละ 88.02 ดา้ นบคุ ลากรผใู้ ห้บริการ ร้อยละ 89.60 และ
ด้านสภาพกายภาพและส่ิงอานวยความสะดวก รอ้ ยละ
91.78
AUN-QA 8 Output and Outcomes
8.1 The pass rate, dropout rate, and average time to graduate are shown to be established, monitored,
and benchmarked for improvement.
1. อัตราการสำเรจ็ การศึกษาของนกั ศึกษาประจำปี 1. หลักสูตรไมไ่ ดแ้ สดงระยะเวลาการสำเรจ็ การศึกษาของ
การศึกษา 2560 และ 2561 คือ ร้อยละ 82.77 และ นกั ศึกษาแตล่ ะรนุ่ รวมทงั้ การติดตาม
79.34 ตามลาดับ จากการติดตามพบวา่ เกดิ จากการเรียน 2. หลกั สตู รยงั ไมม่ กี ารเทียบเคยี งอัตราการสำเรจ็ การศึกษา
ออนไลน์ การตกออก และระยะเวลาการสำเรจ็ การศกึ ษา เพ่อื การ
2. ปีการศกึ ษา 2564 มนี กั ศกึ ษาทต่ี กออกตกออกจำนวน พัฒนา
43 คน คิดเปน็ ร้อยละ 10.59 ของนกั ศกึ ษาทง้ั หมด ทาง
หลักสตู รได้มีการพูดคุยกันถึงปญั หาของนักศึกษาผา่ น
ระบบอาจารย์ทีป่ รึกษาของนกั ศกึ ษาแตล่ ะคน และผา่ นการ
ประชุมของสาขาวชิ า ฯ โดยส่วนใหญ่พบวา่ นักศกึ ษามี
ความตอ้ งการลาออกเพอ่ื เตรยี มตวั สอบคัดเลือกเขา้ คณะ
อื่น
8.2 Employability as well as self-employment, entrepreneurship, and advancement to further studies,
are shown to be established, monitored, and benchmarked for improvement.
คณะฯ แสดงผลการไดง้ านทำของบัณฑติ ทส่ี ำเรจ็ การศึกษา หลักสตู รไม่ได้แยกประเภทของการมีงานทำของบณั ฑติ
ในปกี ารศกึ ษา 2563 จำนวน 295 คน โดยพบว่าร้อยละของ รวมท้ังไมม่ ีการตดิ ตามและเทียบเคยี งกับหลักสตู รหรอื
บณั ฑติ ปรญิ ญาตรขี องหลักสตู รทไ่ี ด้งานทำ คดิ เป็นรอ้ ยละ สถาบันอ่นื เพื่อการปรบั ปรุงและพฒั นา
100 ซ่ึงเพิม่ จากปีการศกึ ษา 2562 คดิ เป็นร้อยละ 20.76
8.3 Research and creative work output and activities carried out by the academic staff and students,
are shown to be established, monitored, and benchmarked for improvement.
26
จดุ เดน่ โอกาสในการพัฒนา
1. ปี 2564 อาจารย์ประจาหลกั สตู รได้มีการเผยแพรผ่ ลงาน หลักสตู รไมไ่ ดแ้ สดงผลของการตดิ ตามและเทยี บเทยี ง
วิชาการทัง้ ระดบั ชาติและนานาชาติ รวมท้งั ส้ิน 263 เรื่อง ผลงานวจิ ยั ของอาจารยแ์ ละนกั ศึกษากบั หลักสตู รหรือ
แบง่ เปน็ proceedingระดับชาติ 22 เรือ่ ง ระดบั ชาตฐิ าน สถาบนั อน่ื เพอื่ การพัฒนา
TCI 41 เรื่อง และระดับนานาชาตฐิ าน SCOPUS 200 เรื่อง
ซ่งึ เพ่มิ ขึ้นจากปี 2563
2. ปกี ารศกึ ษา 2564 มจี ำนวนผลงานของนักศกึ ษาสหกิจ
ศึกษาทัง้ ส้นิ 188 เรอ่ื ง แยกตามสาขาวชิ าดงั นี้ กฏี วิทยา
โรคพชื ปฐพีศาสตร์และส่งิ แวดล้อมพืชสวน พชื ไร่ สง่ เสริม
การเกษตร และสัตวศาสตร์ จานวน 15, 22, 25 34, 29,
25 และ 38 ตามลำดบั
8.4 Data are provided to show directly the achievement of the programme outcomes, which are
established and monitored.
คณะฯ ไมได้แสดงข้อมลู การบรรลุ PLOs ของนักศกึ ษา
รวมทั้งผลการตดิ ตามการบรรลุ PLOs
8.5 Satisfaction level of the various stakeholders are shown to be established, monitored, and
benchmarked for improvement.
หลักสตู รแสดงผลการประเมินความพึงพอใจต่อหลักสตู ร หลกั สตู รไม่ไดแ้ สดงผลการตดิ ตามและเทียบเคียงการ
ดา้ นตา่ ง ๆ ของ stakeholder แตล่ ะกลมุ่ ได้แก่ นกั ศกึ ษา ประเมนิ ความพึงพอใจกบั หลักสตู รหรือสถาบนั อื่นเพือ่ การ
ท่ีสำเรจ็ การศึกษา นกั ศึกษาปจั จุบนั ผู้ใชบ้ ณั ฑติ อาจารย์ ปรบั ปรงุ และพฒั นา
ผู้รับผิดชอบหลักสตู ร และอาจารยผ์ ู้ประจำหลกั สตู ร
เท่ากบั 3.96, 3.96, 4.20, 4.23 และ 3.44 ตามลำดบั
27
รายงานผลการตรวจประเมินคณุ ภาพภายใน
ประจำปีการศึกษา 2564
(ระหว่างวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2564 – 30 มิถนุ ายน 2565)
หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร
คณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแกน่
วนั ท่ี 30 กนั ยายน 2565
(ระดบั ปรญิ ญาตรี)
1
รายชื่อคณะกรรมการ
ลำดบั รายชือ่ คณะกรรมการ ตำแหน่ง สังกัดหลกั สูตร/สาขา คณะ
1 ผศ.ดร.นวลฉวี แสงชยั ประธาน สาขาวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ คณะบรหิ ารธรุ กจิ
และการบญั ชี
2 ผศ.ดร.กันยารตั น์ เควยี เซน่ กรรมการ สาขาวชิ าสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์
และสังคมศาสตร์
3 รศ.ดร.วรรณวิภา แกว้ ประดษิ ฐ์ กรรมการ สาขาวชิ าพชื ไร่ คณะเกษตรศาสตร์
พลพนิ จิ
4 นางสาวจริ าวรรณ ปดั อาสา เลขานุการ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร คณะเกษตรศาสตร์
หมายเหตุ
กรุณาระบขุ ้อมลู ให้ถกู ต้องและครบถ้วน กองพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาจะบนั ทกึ รายช่อื ผตู้ รวจประเมนิ ที่ทำหน้าทตี่ รวจ
ประเมนิ แต่ละหลักสตู รเพอื่ จดั เก็บเป็นฐานขอ้ มลู ผู้ตรวจประเมินและผทู้ ำหนา้ ที่ตรวจประเมินหลักสูตร
มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่
สว่ นท่ี 1 บทนำ
1.1 ขอ้ มูลของหลักสูตรโดยสงั เขป/ประวตั คิ วามเปน็ มาของหลักสตู ร
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร ได้เริ่มเปิดสอนครั้งแรกในปีการศึกษา 2521
จนถึงปัจจุบนั มบี ัณฑิตจบการการศกึ ษาแล้ว 43 รนุ่ โดยหลักสูตรทีใ่ ช้ในการจดั การเรยี นการสอนในปกี ารศึกษา 2564
เป็นหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560 โดยได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย ในการการประชุมครั้งท่ี 8/2560 วันท่ี 8
สงิ หาคม พ.ศ. 2560 และ สกอ. รบั ทราบ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2563
หลกั สตู รวทิ ยาศาสตรบณั ฑติ สาขาวิชาเศรษฐศาสตรเ์ กษตร (หลักสตู รปรับปรุง พ.ศ. 2560) เป็นหลักสูตรที่
มีปรัชญาการจัดการศึกษา ที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน มีการนำเอาวิจัย และทักษะที่เกี่ยวข้องในการวิจัยมาเป็น
ฐานในการจัดการศึกษา (research based learning, RBL) เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน
การเปลี่ยนแปลงบริบทของสังคม และเทคโนโลยี เพื่อให้บัณฑิตเป็นผู้มีความรู้ มีความสามารถ และทัศนคติในการ
ทำงานทีด่ ี มสี ่วนสำคญั ในการพฒั นา ภาคการเกษตรของประเทศให้กา้ วหนา้ และม่นั คง
วตั ถุประสงคข์ องหลักสตู ร
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑติ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์เกษตร (หลักสูตรปรับปรงุ พ.ศ. 2560) มีวัตถุประสงค์
เพ่ือผลิตบัณฑิตท่ีมคี ุณสมบตั ดิ ังน้ี
1) มีความรูแ้ ละประสบการณก์ ารเรยี นรู้ สามารถปฏิบตั ิงานในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรได้อย่างถูกต้อง
ตามหลักวิชาการ
2) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และริเริ่มสร้างสรรค์ มีทักษะการวิจัย และบูรณาการใช้ความรู้และ
ประสบการณใ์ นสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรในการแก้ปัญหาการทำงานได้
3) มีทักษะความสามารถด้านการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร การใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
สารสนเทศ และการจดั การสมยั ใหม่
4) มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ/วิชาชีพ และมคี วามรับผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คม
2
5) มที ักษะความพร้อมดา้ นสงั คม มีมนษุ ยสมั พันธด์ ี มภี าวะผ้นู ำ ยอมรบั ความคิดเหน็ ทแ่ี ตกตา่ ง โดยสามารถ
ทำงานร่วมกบั ผู้อื่นภายใต้วัฒนธรรมทีห่ ลากหลาย และมีความสามารถขั้นพื้นฐานในการบริหารจดั การทรัพยากรที่มี
อยใู่ หเ้ หมาะสมกับการปฏิบัตงิ านโดยสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจบุ นั
1.2 วิธีการประเมิน
(1) การวางแผนการประเมนิ กอ่ นและหลังการตรวจประเมินหลกั สตู ร
1. กรรมการตรวจสอบอ่านรายงานประเมินตนเอง
2. กรรมการสรปุ คะแนนเบอ้ื งตน้
3. กรรมการประชุมสรปุ ผลและอภปิ ลายผลการประเมินรายงานตวั ช้วี ัด
(2) วิธกี ารตรวจสอบและความนา่ เชอื่ ถือของข้อมูล
1. ตรวจจากการอา่ นรายงานประเมนิ ตนเองของหลักสูตร
2. กรรมการสรุปผลคะแนนตามรายงานประเมินตนเองของหลกั สตู ร
(3) ผใู้ หข้ อ้ มูลในวันตรวจเยยี่ มหลักสตู ร เช่น อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลกั สูตร/อาจารยป์ ระจำหลักสูตร อาจารย์ผสู้ อน
ผ้ทู รงคณุ วุฒิ ผูเ้ รียน (โปรดระบรุ ายชอื่ และตำแหน่ง)
1. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. พัชรี สุริยะ ประธานหลกั สูตร
2. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. เยาวรัตน์ ศรวี รานันท์ อาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สตู ร
3. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ธีระ เกียรติมานะโรจน์ อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร
4. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ หยาดรุง้ มะวงศ์ไว อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลักสตู ร
5. อาจารย์ ภคพล สายหยุด อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร
6. รองศาสตราจารย์ ดร. สุภาภรณ์ พวงชมภู อาจารยผ์ สู้ อน
7. ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. สาธติ อดโิ ต อาจารยผ์ ู้สอน
8. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ปารชิ าติ แสงคำเฉลียง อาจารยผ์ สู้ อน
9. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ปนัดดา อตุ รนคร อาจารยผ์ ู้สอน
10. นางสาวน้ำทิพย์ นามวิเศษ นกั ศึกษาสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์การเกษตร
11. นายอนชุ ัน จันทร์พรมชู นกั ศึกษาสาขาวชิ าเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร
12. นายศภุ ชยั พนั ธต์ ู้ ศิษย์เกา่ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร
13. นายชัยภักด์ิ ศรีสขุ ศิษย์เกา่ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตรก์ ารเกษตร
14. นายสขุ เจรญิ กจิ ผใู้ ชบ้ ัณฑติ
15. นางสาวพรชวรตั น์ ฐานมนั่ ผู้ใช้บณั ฑติ
16. นางสาววรรณวไิ ล ชาสุด สายสนับสนนุ
3
ส่วนที่ 2 บทสรปุ ผู้บริหารและสรปุ ผลการประเมนิ ในภาพรวม
จุดเด่น
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลกั สตู รมคี ณุ วุฒติ รงกับสาขาวิชาท่ีเปิดสอน ส่วนใหญม่ ีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกและมี
ตำแหนง่ ทางวิชาการ มคี วามรว่ มมอื ร่วมใจในการขับเคลื่อนหลักสตู รใหต้ อบสนองความกา้ วหนา้ ทางวิชาการ
และความต้องการของภาคการทำงาน
2. มีการจัดการเรียนสอนแบบ Active Learning ที่สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะด้านความรู้ความ
เช่ียวชาญในสาขาวิชา
3. คณะเกษตรศาสตร์มีสถานที่ใหเ้ รียนรูใ้ นภาคปฏิบัติที่หลากหลายท่ีสัมพันธ์กบั หลกั สูตร ได้แก่ การฝึกปฏิบัติ
ด้านการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ การฝึกประสบการณ์ในการเป็นผู้ประกอบการที่อุทยาน
เทคโนโลยีการเกษตร
4. โครงสร้างหลักสูตร มีการออกแบบและจัดวางโครงสร้างตามลำดับความยากง่าย ทำให้นักศึกษาได้พัฒนา
ความรูต้ ามลำดับขนั้
5. บัณฑิตมีความร้คู วามสามารถและความพร้อมในการทำงาน สามารถเรยี นรไู้ ดเ้ ร็ว มีความตั้งใจในการทำงาน
พร้อมเรียนรู้ สู้และอดทนต่อการทำงาน ไม่ปฏิเสธงาน สามารถทำงานเป็นทีม พร้อมสำหรับการปรับปรุง
และเปล่ียนแปลง
จุดทค่ี วรพฒั นา
1. มหาวิทยาลัยควรกำหนดปรัชญาการศึกษา และนำมาใช้เป็นแนวทางจัดการเรียนการสอน และการจัด
กจิ กรรมเสริมหลกั สตู รเพ่ือพฒั นาผู้เรยี นสผู่ ลลพั ธก์ ารเรยี นร้ทู ค่ี าดหวัง (PLOs)
2. หลักสูตรจะมีการปรับปรุงในปี พ.ศ. 2565 โดยมุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (Outcome-based
education : OBE) จึงควรปรับปรุงรายวิชาให้จัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติมากขึ้น ลดรายวิชาที่เป็น
ภาคทฤษฎีท่ีมีความซับซ้อน และให้ทุกรายวิชาของหลักสูตรมีการประเมินผลโดยใช้ rubrics และ marking
schemes
3. ควรมีการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกระบวนการของ Outcome Based Education เช่น การออกแบบ
หลักสูตรแบบ Backward Curriculum Design การใช้ Learning Taxonomy สำหรับ PLOs (Program
Learning Outcomes) CLOs (Course Learning Outcomes)
4. ควรมีการกำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (Output & Outcomes) เพื่อการวิเคราะห์ ติดตาม และ
Benchmarked เพอื่ การปรับปรงุ
5. พฒั นาทักษะ Soft skills ทีจ่ ำเปน็ ให้กบั นกั ศกึ ษาในการประกอบวิชาชพี เช่น ทักษะชีวิต ทักษะการใฝเ่ รยี นรู้
ทักษะผู้ประกอบการ ทกั ษะการตดั สินใจ และความสามารถในการปรบั ตัว เปน็ ตน้
6. หลักสูตรสามารถส่งเสริมความก้าวหน้า ความเชี่ยวชาญทางวิชาการของอาจารย์ โดยพิจารณาจากความ
ต้องการของตลาดงานหรือการวเิ คราะห์ชอ่ งว่างของความรขู้ องศาสตร์ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป
7. จากข้อเสนอแนะของบัณฑิต และผู้ใช้บัณฑิต แนะนำว่าควรเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับการออกแบบ หรือผลิต
สอื่ เพื่อสง่ เสริมการตลาดออนไลน์ การเงนิ แบบไร้พรมแดน ความรู้ทางด้านการเกษตรในแนวกวา้ ง เชน่ การ
4
พัฒนาปรับปรุงดินแบบง่าย การเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของภาค
การทำงาน
8. หลักสูตรหรือคณะอาจจัดเตรียมความพร้อม สอนเสริม หรือรวบรวมแหล่งความรู้สำหรับการเตรียมสอบ
ให้กับนักศึกษาทั้งทางด้านภาษาอังกฤษ หรือเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้นักศึกษาสามารถสอบวดั ระดับความรู้
ผ่านตามเกณฑท์ ีม่ หาวทิ ยาลัยกำหนด
วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ดี่ ี / นวตั กรรม (ถา้ มี)
*วิธีปฏบิ ตั ทิ ด่ี ี หมายถงึ วธิ กี ารปฏบิ ัตหิ รอื ขน้ั ตอนการปฏบิ ัตทิ ที่ ำให้สถาบนั ประสบความสำเรจ็ หรือสคู่ วาม
เปน็ เลิศตามเปา้ หมาย เปน็ ท่ยี อมรับในวงวิชาการหรือวิชาชพี นน้ั ๆ มีหลกั ฐานปรากฏชดั เจน โดยมีการสรุป
วิธีการปฏบิ ัติหรือขั้นตอนการปฏบิ ัติ ตลอดจนความรู้ ประสบการณ์ บันทึกเปน็ เอกสาร เผยแพร่ให้
หน่วยงานภายในหรอื ภายนอกสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หมายเหตุ :
ผ้ปู ระเมินควรจะแสดงรายละเอียดทช่ี ดั เจน เพอ่ื มหาวทิ ยาลัยจะได้นำไปเผยแพร่แนวปฏิบตั ทิ แี่ ละกิจกรรม
แลกเปลยี่ นเรียนรู้
ส่วนที่ 3 ผลประเมนิ คุณภาพหลกั สูตร
3.1 องค์ประกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน
สำหรับหลักสตู รทใ่ี ชเ้ กณฑ์มาตรฐานหลักสตู ร พ.ศ.2558
ขอ้ เกณฑ์ ขอ้ ท่ี ผา่ น ระบเุ หตผุ ล
ประเมิน /ไมผ่ ่าน กรณีท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ
()
1 • จำนวนอาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สตู ร
ไมน่ ้อยกว่า 5 คน
• และเป็นอาจารยผ์ ูร้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร
เกินกวา่ 1 หลกั สตู รไม่ได้และประจำ
หลกั สตู รตลอดระยะเวลาทจี่ ดั
การศกึ ษาตามหลกั สตู รน้นั
2 • คณุ สมบตั ิของอาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบ
หลกั สตู ร มีคณุ วุฒปิ รญิ ญาโทหรือ
5
ข้อ เกณฑ์ ข้อท่ี ผ่าน ระบเุ หตผุ ล
ประเมิน /ไมผ่ า่ น กรณที ่ีไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมิน
เทยี บเทา่ หรือดำรงตำแหนง่ ทาง ()
วิชาการไม่ตำ่ กวา่ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์
• และมีผลงานทางวชิ าการ 1
รายการใน 5 ปี ย้อนหลัง NA
3 • คณุ สมบตั ิของอาจารย์ประจำ NA หลักสูตรปรบั ปรุง ปี 2560
หลกั สตู ร มีคณุ วุฒปิ รญิ ญาโทหรอื
เทยี บเทา่ หรือดำรงตำแหน่งทาง
วิชาการไมต่ ำ่ กวา่ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์
• และ มผี ลงานทางวชิ าการ 1
รายการใน 5 ปี ยอ้ นหลงั
4 • คณุ สมบัติของอาจารย์ผสู้ อน ทเี่ ปน็
อาจารยป์ ระจำ มีคณุ วุฒิปรญิ ญาโท
หรือเทยี บเทา่ หรือดำรงตำแหนง่ ทาง
วชิ าการไมต่ ำ่ กว่าผู้ชว่ ยศาสตราจารย์
ในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่
สัมพันธ์กนั หรือสาขาวชิ าของรายวชิ า
ท่สี อนรายละเอียด
5 • คณุ สมบตั ิของ อาจารยผ์ ้สู อน ทีเ่ ปน็
อาจารย์พิเศษ (ถา้ มี) มีคณุ วฒุ ิ
ปรญิ ญาโท หรอื คณุ วุฒิปริญญาตรี
หรือเทยี บเท่าและมปี ระสบการณ์
ทำงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกับวชิ าทสี่ อนไม่
น้อยกวา่ 6 ปี ท้ังนี้ มชี ัว่ โมงสอนไม่
เกินรอ้ ยละ 50 ของรายวิชา โดยมี
อาจารยป์ ระจำเปน็ ผู้รบั ผดิ ชอบ
รายวิชาน้นั
6 • การปรบั ปรงุ หลักสตู รตามรอบ
ระยะเวลาที่กำหนดตอ้ งไม่เกิน 5 ปี
จำนวนขอ้ ท่ีประเมิน 5 5 ผลการประเมนิ
หลกั สตู รไดม้ าตรฐาน
จำนวนข้อทีผ่ า่ นการประเมิน
หมายเหตุอ่นื ๆ (ถ้าม)ี
6
3.2 จุดเดน่ และโอกาสในการพฒั นาองค์ประกอบที่ 1
(1) ข้อเสนอแนะเพื่อการปรบั ปรุงหลักสตู รให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลมุ ประเด็น
การตรวจสอบ ประเมนิ ให้หลักสูตรมีมาตรฐานอย่างต่อเนือ่ งและยั่งยนื
-
(2) แนวปฏบิ ัติที่ดี/นวตั กรรม/ผลงานโดดเด่น (ถา้ มี)
-
3.3 ผลการประเมนิ รายดา้ น (ด้านท่ี 1-8) คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
AUN-QA Version 4.0
22
AUN-QA 1 Expected Learning Outcomes
(ด้านท่ี 1 : ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวงั ) 33
AUN-QA 2 Programme Structure and Content
(ด้านท่ี 2 : โครงสรา้ งโปรแกรมและเนอื้ หา) 33
AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach 22
(ดา้ นที่ 3 : แนวทางการจัดเรยี นการสอน)
AUN-QA 4 Student Assessment 33
(ดา้ นท่ี 4 : การประเมนิ ผเู้ รียน)
AUN-QA 5 Academic Staff 33
(ดา้ นท่ี 5 : บคุ ลากรสายวิชาการ)
AUN-QA 6 Student Support Services 33
(ด้านที่ 6 : การบริการและการช่วยเหลอื ผู้เรยี น)
AUN-QA 7 Facilities and Infrastructure 33
(ด้านที่ 7 : สงิ่ อำนวยความสะดวกและโครงสรา้ งพน้ื ฐาน)
AUN-QA 8 Output and Outcomes 33
(ด้านท่ี 8 : ผลผลิตและผลลัพธ)์
คะแนน
AUN 1 Expected Learning Outcomes คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
22
1.1 The programme to show that the expected learning outcomes are
appropriately formulated in accordance with an established learning
taxonomy, are aligned to the vision and mission of the university, and
are known to all stakeholders.
7
เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
1.2 The programme to show that the expected learning outcomes for
all courses are appropriately formulated and are aligned to the 22
expected learning outcomes of the programme.
1.3 The programme to show that the expected learning outcomes 23
consist of both generic outcomes (related to written and oral
communication, problem solving, information technology, teambuilding 32
skills, etc) and subject specific outcomes (related to knowledge and
skills of the study discipline). 22
1.4 The programme to show that the requirements of the stakeholders, 22
especially the external stakeholders, are gathered, and that these are
reflected in the expected learning outcomes.
1.5 The programme to show that the expected learning outcomes are
achieved by the students by the time they graduate
Overall opinion
AUN 2 Programme Structure and Content คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
32
2.1 The specifications of the programme and all its courses are shown
to be comprehensive, up-todate, and made available and 32
communicated to all stakeholders. 33
2.2 The design of the curriculum is shown to be constructively aligned 33
with achieving the expected learning outcomes. 23
2.3 The design of the curriculum is shown to include feedback from
stakeholders, especially external stakeholders. 33
2.4 The contribution made by each course in achieving the expected
learning outcomes is shown to be clear.
2.5 The curriculum to show that all its courses are logically structured,
properly sequenced (progression from basic to intermediate to
specialised courses), and are integrated.
2.6 The curriculum to have option(s) for students to pursue major
and/or minor pecialisations.
8
เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
2.7 The programme to show that its curriculum is reviewed periodically
following an established procedure and that it remains up-to-date and 23
relevant to industry.
Overall opinion 33
AUN-QA 3 Teaching and Learning Approach คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
31
3.1 The educational philosophy is shown to be articulated and
communicated to all stakeholders. It is also shown to be reflected in 33
the teaching and learning activities. 33
3.2 The teaching and learning activities are shown to allow students to 33
participate responsibly in the learning process.
3.3 The teaching and learning activities are shown to involve active 33
learning by the students.
3.4 The teaching and learning activities are shown to promote learning, 22
learning how to learn, and instilling in students a commitment for life-
long learning (e.g., commitment to critical inquiry, information- 33
processing skills, and a willingness to experiment with new ideas and
practices).
3.5 The teaching and learning activities are shown to inculcate in
students, new ideas, creative thought, innovation, and an
entrepreneurial mindset.
3.6 The teaching and learning processes are shown to be continuously
improved to ensure their relevance to the needs of industry and are
aligned to the expected learning outcomes.
Overall opinion
9
AUN-QA 4 Student Assessment คะแนน (1-5)
ประเมินตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
22
4.1 A variety of assessment methods are shown to be used and are
shown to be constructively aligned to achieving the expected learning 23
outcomes and the teaching and learning objectives. 33
4.2 The assessment and assessment-appeal policies are shown to be
explicit, communicated to students, and applied consistently. 23
4.3 The assessment standards and procedures for student progression
and degree completion, are shown to be explicit, communicated to 32
students, and applied consistently. 24
4.4 The assessments methods are shown to include rubrics, marking 22
schemes, timelines, and regulations, and these are shown to ensure
validity, reliability, and fairness in assessment. 22
4.5 The assessment methods are shown to measure the achievement of
the expected learning outcomes of the programme and its courses.
4.6 Feedback of student assessment is shown to be provided in a timely
manner
4.7 The student assessment and its processes are shown to be
continuously reviewed and improved to ensure their relevance to the
needs of industry and alignment to the expected learning outcomes.
Overall opinion
AUN-QA 5 Academic Staff คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
32
5.1 The programme to show that academic staff planning (including
succession, promotion, redeployment, termination, and retirement 32
plans) is carried out to ensure that the quality and quantity of the 33
academic staff fulfil the needs for education, research, and service. 32
5.2 The programme to show that staff workload is measured and
monitored to improve the quality of education, research, and service.
5.3 The programme to show that the competences of the academic
staff are determined, evaluated, and communicated.
5.4 The programme to show that the duties allocated to the academic
staff are appropriate to qualifications, experience, and aptitude.
10
เกณฑ์ คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
5.5 The programme to show that promotion of the academic staff is
based on a merit system which accounts for teaching, research, and 34
service. 33
5.6 The programme to show that the rights and privileges, benefits,
roles and relationships, and accountability of the academic staff, taking 33
into account professional ethics and their academic freedom, are well
defined and understood. 34
5.7 The programme to show that the training and developmental needs 33
of the academic staff are systematically identified, and that appropriate
training and development activities are implemented to fulfil 3the
identified needs.
5.8 The programme to show that performance management including
reward and recognitionis implemented to assess academic staff teaching
and research quality.
Overall opinion
AUN-QA 6 Student Support Services คะแนน (1-5)
ประเมนิ ตนเอง กรรมการ
เกณฑ์
32
6.1 The student intake policy, admission criteria, and admission 32
procedures to the programme are shown to be clearly defined,
communicated, published, and up-to-date. 33
6.2 Both short-term and long-term planning of academic and non-
academic support services are shown to be carried out to ensure 33
sufficiency and quality of support services for teaching, research, and
community service.
6.3 An adequate system is shown to exist for student progress,
academic performance, and workload monitoring. Student progress,
academic performance, and workload are shown to be systematically
recorded and monitored. Feedback to students and corrective actions
are made where necessary.
6.4 Co-curricular activities, student competition, and other student
support services are shown to be available to improve learning
experience and employability.
11