รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน ระดับหลักสูตร ปีการศึกษา 2564

3.5 ผลการประเมนิ กระบวนการและรายละเอยี ดผลการตรวจประเมินกรณมี ีการปรบั ลดหรอื เพิ่มคะแนน

ระดับคะแนน กรณุ าอธบิ ายเหตุผลเพม่ิ เติม

ตวั ชีว้ ัด IPO หลักสูตร กรรม กรณีมีการปรับลดหรือเพิ่มคะแนน
ประเมนิ การ 1. การปรบั ลดคะแนน
องค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา
1 3.1 การรับนักศึกษา ตนเอง ประเมนิ 2. มีผลประเมินอยใู่ นระดับ 3,4,5 คะแนน

P3 3

2 3.2 การสง่ เสริมและพฒั นานกั ศึกษา P 3 3

องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์ P4 4 มกี ลไกและกระบวนการในการบรหิ ารและ
3 4.1 การบริหารและพฒั นาอาจารย์ พัฒนาอาจารยอ์ ย่างมปี ระสิทธิภาพและ
ตอ่ เนอ่ื ง
องคป์ ระกอบที่ 5 หลกั สูตรการเรียนการสอน การประเมินผเู้ รยี น
3
4 5.1 สาระของรายวชิ าในหลักสตู ร P3

5 5.2 การวางระบบผสู้ อนและ P 3 3 จากการสัมภาษณ์พบว่าหลกั สูตรมีการ

กระบวนการจดั การเรียนการสอน ปรับปรุงกระบวนการ

6 5.3 การประเมินผเู้ รยี น P2 2

7 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลักสตู รตาม P5 5 ไม่ประเมินข้อ 8 และ 10
กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ P3 3
ระดับอุดมศกึ ษาแห่งชาติ

องค์ประกอบที่ 6 สงิ่ สนบั สนนุ การเรียนรู้
8 6.1 ส่งิ สนับสนุนการเรียนรู้

11

สว่ นท่ี 4 สรุปผลการประเมนิ คะแนนในภาพรวม

ตวั ช้ีวัด IPO ระดับคะแนน หมายเหตุ

ประเมนิ กรรมการ กรณหี ลกั สูตรใหม่
TQF ยงั ไมม่ บี ณั ฑิต
ตนเอง ประเมิน จบ จะไมป่ ระเมนิ 2
ตัวชี้วดั น้ี
องคป์ ระกอบที่ 1 การกำกับมาตรฐาน แต่ถ้าเป็นหลักสตู ร
ปรับปรุง (ซงึ่ ไมใ่ ช่
1 1.1 การบรหิ ารจดั การหลกั สูตรตามเกณฑม์ าตรฐาน ผ่าน ผ่าน หลักสูตรใหม่) จะ
วดั ผลการดำเนนิ งาน
หลกั สตู รท่กี ำหนดโดย สกอ. ของบัณฑติ หลกั สูตร
เดมิ ทจ่ี บการศึกษา
องคป์ ระกอบที่ 2 บณั ฑิต ตามหลกั สตู รเดิม)

2 2.1 คณุ ภาพบณั ฑติ ตามกรอบมาตรฐานคณุ วุฒิ O 4.10 4.10 มกี ลไกและ
กระบวนการในการ
ระดบั อุดมศกึ ษาแหง่ ชาติ บริหารและพัฒนา

3 2.2 ปริญญาโท ผลงานของนกั ศึกษาและผสู้ ำเรจ็ O5 5 อาจารย์อย่างมี
ประสิทธิภาพและ
การศึกษาในระดับปรญิ ญาโททไี่ ดร้ บั การตพี มิ พห์ รอื
ตอ่ เนอื่ ง
เผยแพร่

องคป์ ระกอบท่ี 3 นักศึกษา P3 3
4 3.1 การรับนักศึกษา P3 3
5 3.2 การส่งเสรมิ และพัฒนานักศึกษา O3 3
6 3.3 ผลท่เี กดิ กบั นักศกึ ษา
องค์ประกอบท่ี 4 อาจารย์ P4 4
7 4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์

8 4.2 คณุ ภาพอาจารย์ I 5 5
- รอ้ ยละของอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลกั สูตรท่ีมคี ณุ วฒุ ิ O 100 100
ปริญญาเอก
- รอ้ ยละอาจารยผ์ ้รู ับผิดชอบหลกั สตู รที่ดำรงตำแหนง่ 100 100
วิชาการ
- ผลงานวชิ าการของอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบ 112.50 112.50
3 3
9 4.3 ผลทเ่ี กดิ กับอาจารย์

12

ตัวช้วี ดั IPO ระดบั คะแนน หมายเหตุ

ประเมนิ กรรมการ

ตนเอง ประเมิน

องค์ประกอบที่ 5 หลักสตู รการเรียนการสอน การประเมนิ ผู้เรยี น

10 5.1 สาระของรายวชิ าในหลกั สตู ร P3 3

11 5.2 การวางระบบผสู้ อนและกระบวนการจัดการเรยี นการ P 3 3 จากการสัมภาษณ์

สอน พบว่าหลักสตู รมกี าร

ปรบั ปรุง

กระบวนการ

12 5.3 การประเมนิ ผู้เรยี น P2 2

13 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลกั สูตรตามกรอบมาตรฐาน p5 5 ไมป่ ระเมนิ ขอ้ 8 และ

คุณวุฒิระดบั อุดมศกึ ษาแห่งชาติ 10

องคป์ ระกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้

14 6.1 สิง่ สนบั สนนุ การเรยี นรู้ P3 3

รวมคะแนน 3.55 3.55

หมายเหตุ

1.ตัวชวี้ ดั ไหน หลกั สูตรใดไมไ่ ดร้ บั การประเมินใหต้ ดั ตวั ชวี้ ดั นนั้ ออก (ไม่นำมาคดิ ค่าคะแนน)

2.กองพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาได้จัดทำโปรแกรม Excel ในการคำนวณคะแนน และส่งทางเมลให้กรรมการทกุ ท่าน

ทางอีเมล หรือตดิ ตอ่ โทร 48707-9

ระดบั คุณภาพ

คะแนนระดบั หลักสตู ร = 0 หมายถึง หลักสูตรไมไ่ ดม้ าตรฐาน

คะแนนระดบั หลักสูตร = 0.01-5.00 หมายถึง หลักสตู รเป็นไปตามมาตรฐานและมีระดับคณุ ภาพตามคะแนนทไ่ี ด้

ดงั นี้

คะแนน ระดับคณุ ภาพ

0.01-2.00 นอ้ ย

2.01-3.00 ปานกลาง

3.01-4.00 ดี

4.01-5.00 ดีมาก

13

รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน
ประจำปกี ารศึกษา 2564

(ระหวา่ งวันที่ 1 สิงหาคม 2564 – 31 กรกฎาคม 2565)

หลักสตู รปรชั ญาดุษฎีบณั ฑิต สาขาวชิ าโรคพืชวิทยา
คณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น

วนั ท่ี 28 กันยายน 2565

(ระดบั ปริญญาเอก)
1

รายช่อื คณะกรรมการ

ลำดบั รายชอื่ คณะกรรมการ ตำแหนง่ สงั กัดหลกั สตู ร/สาขา คณะ

1 ผศ.ดร.อังคณา บุญยืด ประธาน คณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์

2 รศ.ดร.ณกรณ์ จงร้ังกลาง กรรมการ พชื ไร่ คณะเกษตรศาสตร์

3 ผศ.ดร.อนงนาฏ ศรีประโชติ กรรมการ ปฐพีศาสตรแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม คณะเกษตรศาสตร์

กรุณาระบุขอ้ มูลใหถ้ กู ต้องและครบถ้วน กองพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาจะบนั ทกึ รายชือ่ ผตู้ รวจประเมนิ ทีท่ ำหนา้ ทต่ี รวจ

ประเมนิ แต่ละหลกั สูตรเพื่อจดั เกบ็ เป็นฐานข้อมูลผตู้ รวจประเมนิ และผทู้ ำหนา้ ท่ตี รวจประเมนิ หลกั สตู ร

มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น

ส่วนที่ 1 บทนำ

1.1 ขอ้ มูลของหลักสูตรโดยสงั เขป/ประวัตคิ วามเป็นมาของหลักสตู ร

รหสั หลกั สูตร 0106 1585

ระดบั คุณวฒุ ิ ปริญญาเอก

ปีทเี่ ปิดสอน พ.ศ.2561

ปที ปี่ รบั ปรงุ (ทุกรอบ 5 ปี) ปรบั ปรุงล่าสุด ปกี ารศกึ ษา 2560

ปรบั ปรุงรอบ 5 ปี ในปีการศึกษา 2555

สภามหาวิทยาลัยอนมุ ตั ิ การประชุมคร้ังท่ี 8/2560 เม่ือวนั ท่ี 8 สิงหาคม 2560

สกอ.รบั ทราบ วนั 10 เดือน มิถนุ ายน ปี 2560

สถานทจี่ ัดการเรยี นการสอน คณะเกษตรศาสตร์

(ระบใุ นสว่ นทเี่ กีย่ วข้อง) 123 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมอื ง อำเภอเมือง จังหวดั ขอนแกน่ 40002

วันที่รายงาน 31 สงิ หาคม 2565

ปกี ารศึกษาที่รายงาน ปกี ารศกึ ษา 2564

ประวตั ิความเปน็ มาของหลักสูตร

หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาโรคพืชวิทยา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) มุ่งเน้นท่ีจะผลิต

ดุษฎีบัณฑิตที่มีความรู้ความเข้าใจหลักการและทฤษฎีอย่างลึกซึ้งในด้านโรคพืช สามารถวิเคราะห์ปัญหา และ

ดำเนินงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่ หรอื ค้นหาและพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านวิทยาโรคพืชท่ี

เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีมาตรฐานด้วยตัวเอง ท้งั ด้านผลผลิตและด้านจริยธรรม สามารถ

ถ่ายทอดและเผยแพรค่ วามรทู้ ี่ได้รับอย่างมีประสทิ ธิภาพท้ังในระดบั ประเทศและนานาชาติ และมีภาวะผู้นำใน

การส่งเสริมให้มีการประพฤติปฏิบัติตนอย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการและ

วชิ าชีพ

2

วัตถปุ ระสงคข์ องหลักสูตร

หลักสตู รปรัชญาดษุ ฎีบัณฑติ สาขาวชิ าโรคพชื วทิ ยา (หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. 2560) มวี ัตถุประสงค์

เพือ่ ผลิตปรชั ญาดุษฎบี ณั ฑติ ทีม่ ีคณุ สมบตั ดิ ังนี้

(1) มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงในหลักการและทฤษฎี ในสาขาวิชาวิทยาโรคพืช และสามารถ

ประยุกตค์ วามรู้ดงั กล่าวในการทำวิจยั หรอื การปฏิบตั งิ านในสาขาวชิ าชีพในระดบั สูงได้

(2) มีความสามารถในการวิจัยท่ีจะก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ด้วยตัวเอง หรือพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน

วิทยาโรคพชื ทเ่ี ปน็ มาตรฐาน หรือการสร้างนวัตกรรมใหม่

(3) มีความสามารถในการวิเคราะห์หาแนวทางแก้ปัญหา ประยุกต์ใช้ผลงานวิจัยร่วมกับสาขาวิชาอื่นท่ี

เกยี่ วขอ้ ง ในการพฒั นาการเกษตรและจัดการปัญหาอนั เนื่องมาจากโรคพชื

(4) มีความสามารถในการสือ่ สาร การสอน/ถา่ ยทอดความร้ดู า้ นวทิ ยาโรคพืช

(5) มีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดการสมัยใหม่ ท่ีจะ

นำไปสกู่ ารพัฒนาความรู้และการนำไปใช้ประโยชน์ได้ในวงกวา้ งอยา่ งมปี ระสิทธิภาพสูงสดุ

(6) มที ักษะการทำงานเปน็ ทีมร่วมกับผอู้ ื่น และมีจิตอาสา เพอ่ื ประโยชนส์ ่วนรวม

(7) มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการ/วิชาชพี และมีภาวะผู้นำในการส่งเสริมให้มีการ
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนอยา่ งมีคุณธรรมและจรยิ ธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ
1.2 วิธกี ารประเมิน

(1) การวางแผนการประเมนิ ก่อนและหลงั การตรวจประเมินหลักสูตร
1. กรรมการตรวจอา่ นรายงานประเมนิ ตนเอง
2. กรรมการสรุปคะแนนเบื้องตน้

3. ประธานรวบรวมคะแนนและความเห็นจากกรรมการ สรปุ ผลและอภปิ รายผลการประเมนิ ราย

ตัวชวี้ ัด และเห็นชอบรว่ มกัน

(2) วธิ ีการตรวจสอบและความนา่ เช่ือถือของข้อมลู

1. ตรวจจากการอา่ นรายงานประเมนิ ตนเองหลักสตู ร

2. กรรมการสรุปผลคะแนนตามรายงานประเมนิ ตนเองของหลกั สตู ร

(3) ผูใ้ ห้ข้อมลู ในวันตรวจเยย่ี มหลกั สตู ร เช่น อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลักสตู ร/อาจารยป์ ระจำหลักสตู ร

อาจารย์ผู้สอน ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เรยี น) (โปรดระบุรายชอ่ื และตำแหน่ง)

ที่ ช่ือ-สกลุ ตำแหน่ง
1 ผศ.ดร.อนันต์ วงเจรญิ อาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลักสตู ร
2 ผศ.ดร.สวุ ติ า แสไพศาล อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร

3 อ.ดร.กานตส์ ริ ี จนิ ดาปัณณาพฒั น์ อาจารย์ประจำหลกั สตู ร

4 อ.ดร.ชเนรนิ ทร์ ฟ้าแลบ อาจารย์ประจำหลักสตู ร

3

ส่วนท่ี 2 บทสรุปผบู้ ริหารและสรุปผลการประเมินในภาพรวม

จุดเด่น
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีคุณวุฒิและศักยภาพสูงในการผลิตผลงานวิจัยท่ีได้รับความยอมรับใน

ระดับชาติและนานาชาติอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
2. หลักสูตรมกี ารบริหารและพัฒนาอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตรอย่างเป็นระบบ

และมีประสิทธิภาพส่งผลให้มีคะแนนความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต่อการบริหารหลักสูตรอยู่ใน
ระดบั สูงข้นึ อยา่ งต่อเน่อื ง

จุดท่คี วรพฒั นา
1. หลักสตู รควรพิจารณาเกณฑ์และกระบวนการรับเข้าสำหรับนักศึกษาสาขาวิชาโรคพืชวิทยาเพ่ือเพ่ิมโอกาส

การในการรบั นักศกึ ษาสำหรบั หลกั สูตรใหม่
2. หลักสูตรควรนำผลประเมินของนักศึกษาในด้านการเตรียมความพร้อมแก่ผู้เรียน มาวิเคราะห์และวางแผน

ปรบั ปรุงกระบวนการต่าง ๆ เน่ืองจากมีคะแนนประเมินน้อยกวา่ 3.00
3. สาขาวิชาควรมีกลยุทธ์ของสาขาวิชาเพ่ือสร้างโอกาสในการได้รับนักศึกษา พัฒน าอาจารย์ ปรับปรุง

กระบวนการเรียนการสอนและการประเมิน เพ่ือให้หลักสูตรใหม่ท่ีเกิดจากการควบรวมเป็นหลักสูตรกลางของคณะมี
ผลการดำเนินงานที่มปี ระสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ล

วธิ ปี ฏิบัตทิ ดี่ ี / นวตั กรรม (ถา้ มี)
*วิธีปฏบิ ตั ทิ ด่ี ี หมายถึง วิธีการปฏิบัติหรือข้ันตอนการปฏบิ ตั ทิ ที่ ำใหส้ ถาบนั ประสบความสำเร็จหรอื สคู่ วาม
เป็นเลศิ ตามเปา้ หมาย เปน็ ที่ยอมรับในวงวชิ าการหรือวชิ าชีพนน้ั ๆ มีหลกั ฐานปรากฏชดั เจน โดยมีการสรุป
วธิ ีการปฏบิ ตั ิหรือข้ันตอนการปฏบิ ตั ิ ตลอดจนความรู้ ประสบการณ์ บันทึกเปน็ เอกสาร เผยแพรใ่ ห้
หนว่ ยงานภายในหรอื ภายนอกสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หมายเหตุ :
ผู้ประเมินควรจะแสดงรายละเอียดทีช่ ัดเจน เพ่ือมหาวทิ ยาลัยจะไดน้ ำไปเผยแพรแ่ นวปฏบิ ตั ิท่แี ละกิจกรรม
แลกเปล่ยี นเรยี นรู้

4

ส่วนท่ี 3 ผลประเมนิ คุณภาพหลกั สูตร ข้อที่ ผา่ น ระบเุ หตผุ ล
3.1 องค์ประกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน ประเมิน /ไมผ่ า่ น กรณที ไี่ มผ่ ่านเกณฑ์
()
ขอ้ เกณฑ์ ผ่าน การประเมนิ

1 • จำนวนอาจารยผ์ ูร้ บั ผิดชอบหลกั สตู ร ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 คนและเป็น  ผา่ น
อาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร เกนิ กวา่ 1 หลักสตู รไมไ่ ดแ้ ละประจำ
หลักสตู รตลอดระยะเวลาทจี่ ัดการศึกษาตามหลกั สตู รนนั้ รายละเอียด  ผา่ น

2 • คณุ สมบัตขิ องอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบหลักสตู ร มีคณุ วุฒิปรญิ ญาเอกหรอื  ผา่ น
เทยี บเท่าหรือขัน้ ตำ่ ปรญิ ญาโทหรอื เทียบเท่าทมี่ ตี ำแหนง่ ศาสตราจารย์
ขึน้ ไป NA NA

• และมผี ลงานทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปยี ้อนหลงั โดย  ผา่ น
อย่างน้อย 1 รายการตอ้ งเป็นผลงานวจิ ยั

3 • คุณสมบตั ขิ องอาจารยป์ ระจำหลักสูตร มคี ณุ วุฒิปริญญาเอกหรอื
เทียบเท่าหรือขนั้ ตำ่ ปรญิ ญาโทหรอื เทียบเทา่ ที่มีตำแหน่งรอง
ศาสตราจารย์

• และมผี ลงานทางวชิ าการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปยี อ้ นหลัง โดย
อย่างนอ้ ย 1 รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวิจัย

4 • คณุ สมบตั ิของอาจารย์ผสู้ อน ที่เปน็ อาจารยป์ ระจำ มีคณุ วุฒิปรญิ ญา
เอกหรือเทียบเท่าหรือขนั้ ตำ่ ปริญญาโทหรือเทยี บเท่าท่มี ีตำแหน่งรอง
ศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ านนั้ หรอื สาขาวชิ าทส่ี มั พนั ธ์กันหรือสาขาวชิ า
ของรายวชิ าท่ีสอน

• และต้องมปี ระสบการณด์ า้ นการสอนและมผี ลงานทางวิชาการอย่าง
น้อย 1 รายการใน 5 ปียอ้ นหลงั รายละเอียด

5 • คณุ สมบตั ขิ อง อาจารยผ์ ูส้ อน ทเ่ี ปน็ อาจารย์พิเศษ (ถ้ามี) มีคณุ วุฒิ
ปรญิ ญาเอกหรือเทยี บเท่าหรอื ข้ันตำ่ ปริญญาโทหรือเทยี บเทา่ ทม่ี ี
ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ในสาขาวชิ าน้ันหรอื สาขาวชิ าทส่ี มั พนั ธ์กนั
หรือสาขาวชิ าของรายวิชาท่ีสอน และตอ้ งมปี ระสบการณด์ ้านการสอน

• และมผี ลงานทางวิชาการอย่างนอ้ ย 1 รายการใน 5 ปีย้อนหลัง มี
ชวั่ โมงสอนไมเ่ กนิ ร้อยละ 50 ของรายวชิ า โดยมอี าจารยป์ ระจำเป็น
ผูร้ บั ผิดชอบรายวชิ าน้นั

6 • คณุ สมบตั ิของอาจารยท์ ี่ปรกึ ษาวิทยานิพนธ์หลกั และอาจารย์ท่ปี รึกษา
การคน้ คว้าอสิ ระ
1. เป็นอาจารยป์ ระจำหลกั สตู รทม่ี คี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอกหรือเทยี บเทา่
หรือ ขนั้ ตำ่ ปรญิ ญาโทหรือเทียบเทา่ และดำรงตำแหนง่ ทางวชิ าการไม่
ต่ำกวา่ รองศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ านน้ั หรือสาขาวิชาท่สี ัมพันธก์ นั

5

ขอ้ เกณฑ์ ขอ้ ท่ี ผา่ น ระบเุ หตุผล
ประเมิน /ไมผ่ า่ น กรณีที่ไมผ่ ่านเกณฑ์
และ ()
2.มีผลงานทางวชิ าการอย่างนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปีย้อนหลงั โดยอยา่ ง การประเมนิ
นอ้ ย 1 รายการตอ้ งเป็นผลงานวิจยั 
7 • คุณสมบัตขิ องอาจารยท์ ี่ปรกึ ษาวทิ ยานพิ นธ์รว่ ม (ถ้ามี) กรณี เปน็ ผา่ น
อาจารย์ประจำต้องมีคณุ วุฒิปริญญาเอกหรือเทยี บเท่า หรอื ข้นั ตำ่ NA
ปรญิ ญาโทหรือเทยี บเทา่ และดำรงตำแหน่งทางวชิ าการไมต่ ำ่ กวา่ รอง NA NA ไมม่ ีการสอบ
ศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาน้ันหรอื สาขาวิชาทส่ี ัมพนั ธก์ นั และมผี ลงาน วิทยานพิ นธ์
ทางวชิ าการอย่างน้อย 3 รายการใน 5 ปียอ้ นหลัง โดยอยา่ งนอ้ ย 1 NA
รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวิจยั NA ไมม่ ีการสอบ
วทิ ยานิพนธ์
• หรือ กรณี เปน็ ผทู้ รงคณุ วุฒภิ ายนอก 1. มีคณุ วุฒปิ ริญญาเอกหรือ
เทยี บเทา่ และมผี ลงานทางวิชาการทไี่ ดร้ ับการตีพิมพเ์ ผยแพร่ในระดบั NA ไม่มผี ูส้ ำเรจ็
นานาชาติ ซึ่งตรงหรอื สัมพันธก์ ับหวั ข้อวทิ ยานพิ นธ์หรือการคน้ คว้า
อิสระไม่น้อยกวา่ 5 เรอ่ื ง หากไม่มคี ุณวุฒิหรือประสบการณต์ ามท่ี
กำหนดจะตอ้ งมีความรคู้ วามเชยี่ วชาญและประสบการณ์สงู เป็นที่
ยอมรับซง่ึ ตรงหรอื สมั พันธ์กับหัวขอ้ วทิ ยานิพนธ์หรอื การคน้ ควา้ อิสระ
โดยผ่านการเห็นชอบของสภาสถาบันและแจง้ กกอ ทราบ

8 • อาจารยผ์ ู้สอบวทิ ยานิพนธ์ ประกอบด้วย อาจารย์ประจำหลกั สูตรและ
ผู้ทรงคณุ วฒุ จิ ากภายนอกไมน่ อ้ ยกวา่ 5 คน ประธานผ้สู อบ
วิทยานิพนธ์ตอ้ งเป็นผู้ทรงคุณวุฒจิ ากภายนอก

9 • คุณสมบตั อิ าจารยผ์ สู้ อบวิทยานิพนธ์ กรณี เป็นอาจารย์ประจำ
หลกั สตู รตอ้ งมคี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอกหรอื เทยี บเทา่ หรอื ขนั้ ตำ่ ปรญิ ญาโท
หรือเทยี บเทา่ และดำรงตำแหน่งทางวชิ าการไมต่ ำ่ กวา่ รอง
ศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ าน้ันหรอื สาขาวิชาที่สมั พันธก์ ัน และมีผลงาน
ทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปียอ้ นหลัง โดยอย่างน้อย 1
รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวิจัย หรือ

• กรณี เปน็ ผู้ทรงคณุ วุฒิภายนอก 1. มคี ุณวุฒิปรญิ ญาเอกหรอื เทยี บเทา่
และมผี ลงานทางวิชาการท่ีไดร้ บั การตีพิมพเ์ ผยแพรใ่ นระดบั นานาชาติ
ซึง่ ตรงหรือสมั พนั ธก์ บั หวั ขอ้ วิทยานิพนธห์ รือการค้นควา้ อสิ ระไม่น้อย
กวา่ 5 เร่ือง หากไมม่ ีคณุ วฒุ ิหรอื ประสบการณ์ตามทกี่ ำหนดจะต้องมี
ความรู้ความเชีย่ วชาญและประสบการณส์ ูงเปน็ ที่ยอมรบั ซ่งึ ตรงหรอื
สมั พนั ธก์ บั หัวขอ้ วทิ ยานพิ นธ์หรอื การคน้ คว้าอิสระ โดยผา่ นการ
เหน็ ชอบของสภาสถาบันและแจง้ กกอ ทราบ

10 • การตพี มิ พเ์ ผยแพรผ่ ลงานของผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา

6

ข้อ เกณฑ์ ข้อที่ ผา่ น ระบุเหตุผล
ประเมนิ /ไมผ่ า่ น กรณีท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์
()
การประเมิน

-กรณี แบบ 1 ตอ้ งไดร้ บั การยอมรบั ให้ตีพมิ พ์ในวารสารระดบั ชาตหิ รอื การศกึ ษา

นานาชาติทีม่ คี ณุ ภาพตามประกาศของ กกอ. อยา่ งนอ้ ย 2 เรอ่ื ง

-กรณี แบบ 2 ตอ้ งไดร้ บั การยอมรบั ให้ตพี มิ พใ์ นวารสารระดับชาตหิ รอื

นานาชาตทิ มี่ ีคุณภาพตามประกาศของ กกอ.

11 • ภาระงานอาจารย์ทปี่ รึกษาวทิ ยานพิ นธแ์ ละการค้นควา้ อิสระในระดบั  ผา่ น

บัณฑิตศกึ ษา วิทยานิพนธ์

-อาจารย์คณุ วฒุ ิปริญญาเอก 1 คน ต่อ นักศกึ ษา 5 คน การค้นควา้

อิสระ

-อาจารยค์ ณุ วฒุ ิปริญญาเอก 1 คน ตอ่ นักศกึ ษา 15 คน หากเป็นท่ี

ปรกึ ษาทงั้ 2 ประเภทใหเ้ ทยี บสดั สว่ นนกั ศกึ ษาที่ทำวิทยานพิ นธ์ 1 คน

เทยี บเทา่ กบั นกั ศึกษาทคี่ น้ ควา้ อสิ ระ 3 คน

-หากอาจารย์คณุ วุฒิปรญิ ญาเอกและมตี ำแหนง่ ทางวิชาการหรือ

ปริญญาโทและตำแหน่งทางวชิ าการระดบั รองศาสตราจารย์ขนึ้ ไป 1

คน ต่อนักศึกษา 10 คน

-หากอาจารย์คณุ วุฒปิ รญิ ญาเอกและมตี ำแหน่งทางวิชาการระดบั

ศาสตราจารย์ขึ้นไป ไม่เกิน 15 แตต่ ้องไดร้ ับการอนุมัตจิ าก กกอ.

12 • การปรับปรุงหลักสูตรตามรอบระยะเวลาของหลักสตู รหรือทุกรอบ 5  ผา่ น

ปี

จำนวนขอ้ ท่ปี ระเมิน 8 8 ผลการประเมนิ

จำนวนข้อทีผ่ า่ นการประเมนิ  หลกั สตู รได้

มาตรฐาน

หมายเหตุอนื่ ๆ (ถ้าม)ี

3.2 จุดเด่นและโอกาสในการพฒั นาองค์ประกอบท่ี 1

(1) ข้อเสนอแนะเพอื่ การปรบั ปรุงหลกั สตู รใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลุมประเดน็

การตรวจสอบ ประเมิน ให้หลักสตู รมมี าตรฐานอย่างตอ่ เน่ืองและยงั่ ยนื

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(2) แนวปฏบิ ัติที่ดี/นวตั กรรม/ผลงานโดดเด่น (ถา้ มี)

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

7

3.3 ผลการประเมนิ รายองค์ประกอบ (องคป์ ระกอบที่ 2-6)

จุดเด่น โอกาสในการพัฒนา

องคป์ ระกอบที่ 2 บณั ฑิต องคป์ ระกอบที่ 2 บณั ฑิต

--

องคป์ ระกอบท่ี 3 นักศกึ ษา องค์ประกอบท่ี 3 นักศกึ ษา
3.1 การรับนักศกึ ษา 3.1 การรับนักศกึ ษา
- 1. หลักสูตรควรหาชอ่ งทางหรอื แผนกลยทุ ธ์เพื่อให้
หลักสูตรได้นกั ศึกษาตามแผนทกี่ ำหนดในหลักสูตรใหม่ที่
3.2 การส่งเสรมิ และพฒั นานกั ศกึ ษา เกิดจากการควบรวมหลกั สตู ร
- 2. หลกั สตู รควรพจิ ารณาเกณฑแ์ ละกระบวนการรบั เข้า
สำหรับนกั ศึกษาสาขาวิชาโรคพชื วทิ ยาเพ่อื เพมิ่ โอกาส
3.3 ผลท่ีเกิดกบั นักศึกษา การในการรบั นักศึกษาสำหรบั หลกั สูตรใหม่
- 3.2 การส่งเสริมและพฒั นานกั ศกึ ษา
1. การดำเนินงานของหลักสูตรนอกจากการสง่ เสริมและ
องคป์ ระกอบท่ี 4 อาจารย์ พฒั นานักศึกษาในดา้ นของการทำงานแลว้ หลกั สตู รควร
4.1 การบรหิ ารและพฒั นาอาจารย์ วิเคราะห์สาเหตุท่ีมีผลต่อการสำเรจ็ ศึกษาของนักศกึ ษา
- เพือ่ นำมาวางแนวทางให้อัตราการสำเร็จการศกึ ษาตาม
4.2 คณุ ภาพอาจารย์ ระยะเวลาของนักศึกษาเพิม่ ขึน้
2. หลกั สตู รควรมกี ารกำหนดตัวชี้วดั ท่ีสามารถบง่ บอกถงึ
ผลการดำเนนิ งานของกระบวนการส่งเสรมิ และพฒั นา
นักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาสามารถสำเร็จการศึกษาได้
ตามระยะเวลาทก่ี ำหนดเพ่ิมเตมิ จากการวดั ความพงึ
พอใจของผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม
3.3 ผลทเี่ กดิ กบั นักศึกษา
1. ควรมแี ผนเชิงกลยทุ ธท่ที ำให้นกั ศกึ ษาจบการศกึ ษาได้
ตามเวลาทหี่ ลักสูตรกำหนด
2. ความพงึ พอใจของนักศึกษามีแนวโน้มลดลง หลักสูตร
ควรนำผลประเมนิ มาวิเคราะหเ์ พือ่ นำมาวางแผนและ
ปรับปรงุ กระบวนการโดยเฉพาะในด้านการเตรียมความ
พรอ้ มให้แกน่ ศ.ที่มคี ะแนนประเมนิ น้อยกวา่ 3.00
องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์
4.1 การบรหิ ารและพัฒนาอาจารย์
-
4.2 คณุ ภาพอาจารย์

8

จดุ เดน่ โอกาสในการพัฒนา
1. อาจารยผ์ ูร้ บั ผิดชอบหลักสูตรมคี ุณวุฒแิ ละศกั ยภาพ -
สูงในการผลิตผลงานวจิ ยั ทไ่ี ดร้ บั ความยอมรบั ใน
ระดบั ชาติและนานาชาตอิ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง 4.3 ผลท่ีเกดิ ขึน้ กับอาจารย์
4.3 ผลทเี่ กิดข้ึนกบั อาจารย์ -
1. ความพึงพอใจของอาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลักสตู รตอ่
การบริหารหลกั สูตรอย่ใู นระดบั สงู อยา่ งตอ่ เนือ่ ง องค์ประกอบท่ี 5 หลกั สตู ร การเรียนการสอน การ
องค์ประกอบท่ี 5 หลักสูตร การเรยี นการสอน การ ประเมินผู้เรียน
ประเมินผูเ้ รียน 5.1 สาระของรายวชิ าในหลักสตู ร
5.1 สาระของรายวชิ าในหลักสตู ร -
- 5.2 การวางระบบผ้สู อนและกระบวนการจัดการเรียน
5.2 การวางระบบผ้สู อนและกระบวนการจัดการเรยี น การสอน
การสอน -
- 5.3 การประเมนิ ผูเ้ รยี น
5.3 การประเมินผู้เรียน 1. หลักสตู รควรพัฒนาเกณฑ์การประเมนิ ผเู้ รยี นเพ่อื ให้
- สอดคลอ้ งกับผลลัพธก์ ารเรียนรทู้ ่ีหลกั สตู รกำหนด
5.4 ผลการดำเนนิ งานหลกั สูตรตามกรอบมาตรฐาน
5.4 ผลการดำเนินงานหลกั สตู รตามกรอบมาตรฐาน คณุ วุฒิระดับอุดมศกึ ษาแหง่ ชาติ
คณุ วุฒริ ะดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ -
- องค์ประกอบที่ 6 ส่ิงสนับสนนุ การเรยี นรู้
องคป์ ระกอบที่ 6 ส่งิ สนับสนุนการเรียนรู้ 1. หลักสูตรควรวเิ คราะหส์ ิ่งสนบั สนนุ การเรยี นรู้ทม่ี ีอยู่
- วา่ มีการใชง้ านอย่างเต็มประสทิ ธิภาพหรือไม่ เพ่อื ชช้ี ดั ถงึ
ความสำคญั ของการมีอยขู่ องสง่ิ สนับสนนุ การเรียนรู้
2. หลักสูตรควรนำผลการสำรวจความพึงพอใจตอ่ สงิ่
สนบั สนนุ การเรยี นรขู้ องนกั ศึกษาและอาจารยป์ ระจำ
หลกั สูตรมาเป็นขอ้ มลู ในการวางแผน/จัดหาสิ่งสนบั สนนุ
การเรียนรู้

9

3.4 (ตัวชว้ี ดั ที่ 5.4) ผลการดำเนินงานหลักสตู รตามกรอบมาตรฐานคณุ วุฒิระดบั อุดมศกึ ษาแห่งชาติ

ข้อ เกณฑ์ ผ่าน ระบุเหตผุ ล
/ไม่ผา่ น กรณีทีไ่ ม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ

1 อาจารยผ์ ูร้ บั ผิดชอบหลักสตู รอยา่ งน้อยร้อยละ 80 ผ่าน

มสี ่วนร่วมในการประชุมเพ่ือวางแผน ตดิ ตาม และ

ทบทวนการดำเนนิ งานหลักสตู ร

2 มรี ายละเอยี ดของหลกั สตู ร ตามแบบ มคอ.2 ท่ี ผ่าน

สอดคลอ้ งกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ หรอื

มาตรฐานคณุ วุฒสิ าขา/สาขาวชิ า (ถา้ ม)ี

3 มรี ายละเอียดของรายวิชา และรายละเอยี ดของ ผ่าน

ประสบการณ์ภาคสนาม (ถา้ มี) ตามแบบ มคอ.3 และ

มคอ.4 อยา่ งน้อยก่อนการเปิดสอนในแตล่ ะภาค

การศกึ ษาใหค้ รบทุกรายวิชา

4 จัดทำรายงานผลการดำเนนิ การของรายวิชา และ ผ่าน

รายงานผลการดำเนนิ การของประสบการณ์ภาคสนาม

(ถา้ ม)ี ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วัน

หลังส้นิ สดุ ภาคการศึกษาทเ่ี ปิดสอนใหค้ รบทกุ รายวิชา

5 จัดทำรายงานผลการดำเนนิ การของหลักสูตร ตามแบบ ผา่ น

มคอ.7 ภายใน 60 วนั หลงั สิน้ สดุ ปีการศกึ ษา

6 มกี ารทวนสอบผลสมั ฤทธ์ิของนกั ศกึ ษาตามมาตรฐาน ผา่ น

ผลการเรียนรู้ ที่กำหนดใน มคอ.3 และมคอ.4 (ถ้าม)ี

อยา่ งนอ้ ยร้อยละ 25 ของรายวชิ าที่เปิดสอนในแตล่ ะปี

การศกึ ษา

7 มกี ารพฒั นา/ปรบั ปรุงการจัดการเรยี นการสอน กลยทุ ธ์ ผ่าน

การสอน หรอื การประเมนิ ผลการเรียนรู้ จากผลการ

ประเมินการดำเนนิ งานท่รี ายงานใน มคอ.7 ปที ่แี ล้ว

8 อาจารยใ์ หม่ (ถ้ามี) ทกุ คน ไดร้ บั การปฐมนิเทศหรอื NA

คำแนะนำดา้ นการจัดการเรียนการสอน

9 อาจารยผ์ ู้รับผิดชอบหลกั สตู รทกุ คนไดร้ ับการพฒั นา ผา่ น

ทางวชิ าการ และ/หรือวชิ าชพี อยา่ งน้อยปลี ะหน่งึ ครั้ง

10 จำนวนบคุ ลากรสนบั สนนุ การเรยี นการสอน (ถา้ มี) NA

ไดร้ ับการพัฒนาวชิ าการ และ/หรอื วิชาชีพ ไมน่ ้อยกวา่

รอ้ ยละ 50 ต่อปี

11 ระดับความพงึ พอใจของนักศึกษาปสี ุดทา้ ย/บณั ฑติ ใหม่ NA

10

ข้อ เกณฑ์ ผ่าน ระบเุ หตุผล
/ไมผ่ า่ น กรณีที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ
ท่ีมตี ่อคณุ ภาพหลกั สตู ร เฉลี่ยไมน่ ้อยกว่า 3.50 จาก
คะแนนเต็ม 5.0 NA คดิ เป็นร้อยละ....100.....
12 ระดบั ความพงึ พอใจของผู้ใชบ้ ัณฑิตท่มี ีต่อบัณฑติ ใหม่ 8
เฉลี่ยไม่นอ้ ยกวา่ 3.50 จากคะแนนเตม็ 5.0

จำนวนข้อทีป่ ระเมิน

จำนวนข้อทผี่ า่ นการประเมนิ ...8...

เกณฑ์การประเมนิ
1. มกี ารดำเนินงานนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 มีคา่ คะแนนเทา่ กบั 0
2. มีการดำเนนิ งานร้อยละ 80 มีค่าคะแนนเทา่ กับ 3.50
3. มีการดำเนนิ งานร้อยละ 80.01-89.99 มีคา่ คะแนนเทา่ กับ 4.00
4. มีการดำเนินงานรอ้ ยละ 90.00-94.99 มีค่าคะแนนเท่ากับ 4.50
5. มกี ารดำเนินงานร้อยละ 95.00-99.99 มีคา่ คะแนนเทา่ กบั 4.75
6. มีการดำเนินงานรอ้ ยละ 100 มคี า่ คะแนนเทา่ กบั 5.00
หมายเหตุ ตอ้ งผา่ น 5 ข้อแรกก่อน ถึงจะพิจารณาคา่ คะแนนที่ 1-5 ได้

11

3.5 ผลการประเมินกระบวนการและรายละเอียดผลการตรวจประเมินกรณมี ีการปรับลดหรอื เพมิ่ คะแนน

ระดบั คะแนน กรุณาอธบิ ายเหตุผลเพ่มิ เติม

ตวั ชีว้ ัด IPO หลกั สตู ร กรรม กรณีมกี ารปรบั ลดหรือเพิม่ คะแนน
ประเมนิ การ 1. การปรับลดคะแนน
องค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา
1 3.1 การรบั นักศกึ ษา ตนเอง ประเมิน 2. มผี ลประเมนิ อยู่ในระดับ 3,4,5 คะแนน

2 3.2 การสง่ เสริมและพฒั นานักศึกษา P2 2 มกี ระบวนการรบั เข้าแตไ่ ม่พบการทบทวน
P3 กระบวนการเพอื่ ปรับปรุงหลักสตู รได้รับ
อนุมัตใิ ห้งดรับนศ.เพอื่ เตรียมปดิ หลกั สูตร

3

องคป์ ระกอบที่ 4 อาจารย์ P3 3
3 4.1 การบริหารและพฒั นาอาจารย์

องคป์ ระกอบที่ 5 หลกั สูตรการเรียนการสอน การประเมินผเู้ รียน

4 5.1 สาระของรายวิชาในหลักสตู ร P3 3
3
5 5.2 การวางระบบผู้สอนและ P3 2
5
กระบวนการจดั การเรยี นการสอน
3
6 5.3 การประเมนิ ผู้เรยี น P3 ไม่พบการปรบั ปรงุ กระบวนการ
NA ขอ้ 8,10,11,12
7 5.4 ผลการดำเนินงานหลกั สูตรตาม P 5

กรอบมาตรฐานคณุ วุฒิ

ระดบั อดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ

องคป์ ระกอบท่ี 6 สง่ิ สนับสนนุ การเรียนรู้

8 6.1 สงิ่ สนบั สนนุ การเรยี นรู้ P3

12

สว่ นท่ี 4 สรปุ ผลการประเมินคะแนนในภาพรวม

ตัวชวี้ ดั IPO ระดบั คะแนน หมายเหตุ

ประเมิน กรรมการ กรณีหลกั สูตรใหม่ TQF
ยังไม่มบี ัณฑติ จบ จะไม่
ตนเอง ประเมิน ประเมนิ 2 ตัวชว้ี ดั นี้
แตถ่ ้าเปน็ หลักสตู ร
องค์ประกอบท่ี 1 การกำกบั มาตรฐาน ปรบั ปรงุ (ซึง่ ไมใ่ ช่
หลักสตู รใหม)่ จะวัดผล
1 1.1 การบรหิ ารจัดการหลักสูตรตามเกณฑม์ าตรฐาน ผา่ น ผา่ น การดำเนินงานของ
บณั ฑิตหลักสูตรเดมิ ที่
หลกั สตู รท่ีกำหนดโดย สกอ. จบการศึกษาตาม
หลกั สตู รเดิม)
องค์ประกอบท่ี 2 บัณฑิต
- มีกระบวนการรบั เข้า
2 2.1 คุณภาพบณั ฑติ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ O NA NA แตไ่ มพ่ บการทบทวน
ระดับอุดมศึกษาแหง่ ชาติ กระบวนการเพอื่
ปรบั ปรงุ
3 2.2 ปรญิ ญาเอก ผลงานของนกั ศึกษาและผสู้ ำเร็จการศกึ ษา O NA NA - หลักสูตรได้รับอนมุ ตั ิให้
ในระดับปรญิ ญาเอกทีไ่ ดร้ ับการตพี ิมพห์ รือเผยแพร่ งดรับนศ.เพ่อื เตรียมปดิ
หลกั สตู ร
องคป์ ระกอบท่ี 3 นกั ศกึ ษา P2 2
4 3.1 การรับนกั ศึกษา มีแนวโนม้ ดีบางเร่ือง

5 3.2 การสง่ เสรมิ และพฒั นานักศกึ ษา P3 3
6 3.3 ผลทเ่ี กดิ กับนกั ศึกษา O2 3
องคป์ ระกอบที่ 4 อาจารย์
7 4.1 การบรหิ ารและพัฒนาอาจารย์ P3 3
8 4.2 คณุ ภาพอาจารย์
I5 5
- ร้อยละของอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลักสูตรทม่ี ีคณุ วฒุ ิ
ปริญญาเอก 100% 100%

- ร้อยละอาจารยผ์ ู้รับผิดชอบหลักสตู รท่ีดำรงตำแหนง่ 100% 100%
วิชาการ
113.33% 113.33%
- ผลงานวิชาการของอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบ 3%
- จำนวนบทความของอาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลกั สตู รท่ี

13

ตวั ช้ีวดั IPO ระดับคะแนน หมายเหตุ

ประเมนิ กรรมการ

ตนเอง ประเมนิ

ได้รบั การอา้ งองิ ในฐานข้อมูล TCI และ Scopus ต่อ

จำนวนอาจารยผ์ ู้รับผดิ ชอบหลกั สตู ร

9 4.3 ผลท่ีเกดิ กับอาจารย์ O4 4 มแี นวโน้มดีทุกเร่อื ง

องคป์ ระกอบที่ 5 หลักสตู รการเรียนการสอน การประเมินผเู้ รยี น

10 5.1 สาระของรายวชิ าในหลกั สตู ร P3 3

11 5.2 การวางระบบผสู้ อนและกระบวนการจัดการเรยี นการ P 3 3

สอน

12 5.3 การประเมินผเู้ รยี น P3 2 ไมพ่ บการปรับปรงุ

กระบวนการ

13 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลักสตู รตามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิ p 5 5 NA ข้อ 8,10,11,12

ระดบั อุดมศกึ ษาแหง่ ชาติ

องคป์ ระกอบท่ี 6 สงิ่ สนับสนุนการเรียนรู้

14 6.1 สิ่งสนับสนนุ การเรยี นรู้ P3 3

รวมคะแนน 3.27 3.27

หมายเหตุ

1.ตัวช้วี ดั ไหน หลกั สตู รใดไมไ่ ดร้ บั การประเมนิ ให้ตดั ตวั ชวี้ ดั นนั้ ออก (ไม่นำมาคิดค่าคะแนน)

2.กองพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาไดจ้ ัดทำโปรแกรม Excel ในการคำนวณคะแนน และส่งทางเมลให้กรรมการทุกทา่ น

ทางอีเมล หรอื ตดิ ตอ่ โทร 48707-9

ระดบั คุณภาพ

คะแนนระดบั หลักสตู ร = 0 หมายถงึ หลักสตู รไมไ่ ดม้ าตรฐาน

คะแนนระดบั หลักสูตร = 0.01-5.00 หมายถงึ หลักสตู รเปน็ ไปตามมาตรฐานและมรี ะดับคณุ ภาพตามคะแนนท่ีไดด้ งั น้ี

คะแนน ระดบั คุณภาพ

0.01-2.00 นอ้ ย

2.01-3.00 ปานกลาง

3.01-4.00 ดี

4.01-5.00 ดมี าก

14

รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน
ประจำปกี ารศกึ ษา 2564

(ระหวา่ งวนั ที่1 สิงหาคม 2564 - 31 กรกฎาคม 2565)

หลักสตู รปรัชญาดุษฎีบณั ฑิต สาขาวชิ าพืชสวน
คณะคณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
วันที่ 28 กนั ยายน 2565

(ระดบั ปริญญาเอก)
1

รายชอื่ คณะกรรมการ

ลำดบั รายชอ่ื คณะกรรมการ ตำแหน่ง สังกดั หลักสตู ร/สาขา คณะ

1 รศ.ดร.อาทิตย์ เนรมิตตกพงศ์ ประธาน วิศวกรรมเคมี คณะวศิ วกรรมศาสตร์

2 อ.ดร.วาสนา ไพรสิงขรณ์ กรรมการ การประมง คณะเกษตรศาสตร์

3 ผศ.ดร.อรุณี พรมคำบตุ ร กรรมการ การส่งเสรมิ และพฒั นาการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์

กรุณาระบขุ อ้ มูลใหถ้ กู ต้องและครบถ้วน กองพฒั นาคุณภาพการศึกษาจะบนั ทึกรายช่ือผตู้ รวจประเมินที่ทำหนา้ ทีต่ รวจ

ประเมินแตล่ ะหลักสตู รเพอื่ จดั เกบ็ เป็นฐานขอ้ มลู ผูต้ รวจประเมนิ และผทู้ ำหนา้ ทีต่ รวจประเมนิ หลกั สตู ร

มหาวิทยาลยั ขอนแก่น

สว่ นที่ 1 บทนำ

1.1 ขอ้ มูลของหลกั สูตรโดยสงั เขป/ประวัติความเปน็ มาของหลักสูตร

รหัสหลกั สูตร หลกั สูตรปรชั ญาดษุ ฎีบณั ฑติ สาขาวชิ าพืชสวน

ระดับคุณวฒุ ิ หลักสตู รระดบั ปริญญาเอก แบบ 1.1 และ 2.1 แบบ1.2 และ 2.2

ปีทเ่ี ปิดสอน สิงหาคม 2560

ปที ่ปี รับปรงุ (ทกุ รอบ 5 ป)ี ปรับปรุงลา่ สดุ ปกี ารศึกษา 2560

ปรับปรุงรอบ 5 ปี ในปีการศึกษา 2560

สภามหาวทิ ยาลยั อนมุ ตั ิ การประชุมครงั้ ที่ 12/2563 ลงวนั ที่ 29 ตลุ าคม 2563

เปดิ สอน ภาคการศึกษาภาคตน้ ปกี ารศึกษา 2560

สกอ.รับทราบ อยู่ในระหวา่ งการพิจารณาเพ่อื รบั ทราบหลักสูตร

สถานทจ่ี ดั การเรยี นการสอน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น

(ระบใุ นสว่ นทเ่ี กีย่ วข้อง) 123 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวดั ขอนแก่น 40002

วนั ท่รี ายงาน 15 กันยายน 2565

ปกี ารศึกษาทร่ี ายงาน ปีการศึกษา 2564

ประวัติความเปน็ มาของหลักสูตร

ปรัชญา

หลกั สตู รปรชั ญาดุษฎบี ัณฑติ สาขาวชิ าพืชสวน (หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) มุ่งผลิตมหาบัณฑิต ให้

มีความรู้ความเข้าใจในเชิงลกึ ดา้ นหลักการและทฤษฎใี นสาขาวชิ าพชื สวน การจัดการศกึ ษาโดยใช้วิจัยเป็นฐาน

ของกระบวนการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพเชิงวิชาการบุคคลทางด้านพืชสวน ให้มีความสามารถประยุกต์

และบูรณาการความรู้ทางการเกษตรระดับสูง และแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ได้อย่างอิสระ มีคุณธรรม จริยธรรม

และมภี าวะผนู้ ำ ตลอดจนมจี ติ สำนึกในความเป็นวชิ าชพี ของสาขาวชิ าพืชสวน

2

การขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เกิดการค้าและลงทุนในภาค
การเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้การแข่งขันด้านการผลิต การค้า
และการส่งออกของสินค้าในภาคการเกษตรในลักษณะเชงิ รุก และเน้นทัง้ ปริมาณและคุณภาพของผลิตผลเป็น
หลัก สง่ ผลให้วิถกี ารเกษตรแบบพ่งึ ตนเอง และแรงงานในครอบครวั เข้าสูก่ ารเกษตรแผนใหมท่ ี่ใช้เคร่ืองจักรกล
และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ปัจจัยการผลิตมีความสมบรู ณ์มากย่ิงขึ้น เกษตรกรต้องพึ่งพาปัจจัยการผลิตเกือบ
ทั้งหมดจากต่างประเทศ เกิดการการปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นหลัก มีการผลิตที่เน้นความ
ตอ้ งการของผู้บริโภคท้ังรูปลักษณ์ รสชาติ และสีสนั เป็นต้น สง่ ผลใหธ้ ุรกจิ ในภาคการเกษตรและอาหารเติบโต
แบบก้าวกระโดด เนื่องด้วยหลายประเทศไม่สามารถปลูกพืชอาหารได้ เนื่องด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ เกิดภัย
พิบัติทางธรรมชาติ และฤดูการเพาะปลูกเปลี่ยน รวมทั้งแนวโน้มของประชากรโลกทีเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ซึ่ง
ต้องการอาหารในการดำรงชีพ สินค้าในภาคการเกษตรจึงถอื เป็นขุมทรพั ย์อันมคี ่าอีกอย่างในปัจจบุ ัน พืชสวน
ถือเปน็ พืชสำคัญทางเศรษฐกจิ ของประเทศ ครบคลมุ ไม้ผล พชื ผัก และไม้ดอกไมป้ ระดบั มีการสง่ ออกจำหน่าย
ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นที่ต้องการขอผู้บริโภคทั้งในและ
ต่างประเทศ การผลิตพืชสวนปัจจุบันและอนาคต จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้เทคโนโลยีในการจัดการตั้งแต่
ระดับสวนจนกระทั้งผู้บริโภค ซึ่งการตลาดของโลกในยุคโลกาภิวัตน์ที่อยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภมู ิอากาศที่อณุ หภมู ิสูงขึ้นและภัยธรรมชาตถิ ่ีขึน้ มีการเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ทำใหม้ ีการแข่งขันทางการค้า
ทั้งภายในและระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เนื่องมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีทุกด้านเพื่อสนองต่อความสุข
สบาย ทำให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือย และการมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผู้สูงอายุ
และการที่ผู้คนเข้ามาใช้ชีวิตอาศยั อยู่อย่างหนาแน่นในเมืองเพ่ิมขึ้น ทำให้ความต้องการอาหารมีปริมาณสูงขึน้
โดยเฉพาะอาหารที่มีคุณภาพดีต่อสุขภาพ มีความปลอดภัยและถูกผลิตภายใต้ระบบการผลิตและแปรรูปท่ี
ย่งั ยืนแบบเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม การทปี่ ระเทศไทยจะมีความสามารถอยู่รอดไดภ้ ายใตส้ ภาพการแข่งขันและ
ภาวะความแปรปรวนของสง่ิ แวดล้อมทีเ่ พมิ่ ขึ้นน้นั จะข้นึ อยูก่ บั ความสามารถด้านภูมิปัญญาของคนไทยท่ีได้รับ
การพัฒนาแล้ว จึงมีจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการพัฒนาคนและสังคมไทยสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและการ
เรียนรู้ ตามที่ได้มีระบุไว้แล้วในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) และ
จะตอ้ งกลา่ วถงึ อย่างต่อเน่อื งในฉบับต่อๆ ไป

การปรับเปลี่ยนวิธีการดำรงชีวิตจากสังคมเกษตรกรรมจากชนบทสู่สังคมเมือง ส่งผลกระทบต่อ
วัฒนธรรมทางการเกษตร ทใี่ นอดีตทีเ่ น้นการปลกู พชื เพื่อบรโิ ภคภายในครัวเรือน หรือชมุ ชน มกี ารใช้ประโยชน์
ร่วมกัน เช่น ผักสวนครัว สวนป่าชุมชน และธนาคารพันธุ์พืช เป็นต้น จึงเป็นการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร
ของวฒั นธรรมทางการเกษตร มีการใช้แรงงานท้ังในระดับครอบครวั เครือญาติ และชุมชน ซ้ือขายแลกเปลี่ยน
ผลิตผลต่างๆ ในลักษณะรายย่อย หรือตามฤดูกาล มีความหลากหลายของผลิต เน้นพึ่งพาและใช้
ทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก ปัจจุบันมีความแตกต่างจากอดีตอย่างยิ่งเนื่องด้วยสภาพสังคม วัฒนธรรม และ
เศรษฐกิจ การเคลื่อนย้ายแรงงานทางการเกษตรสู่ภาคอุตสาหกรรม จากการปลูกหลังบ้านเป็นแปลงใหญ่ ใช้
เทคโนโลยีต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ผลผลิตมีทั้งคุณภาพและปริมาณตามความต้องการของผู้บริโภค เน้น
ความสะดวก รับประทานอาหารนอกบ้าน มีแนวโน้มเป็นครอบครัวขนาดเล็ก และเน้นการซื้ออาหารแทนการ

3

เพาะปลูก ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และค่าแรงงานที่สูงขึ้น จึงทำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยน
วิธีการเพาะปลูกจากพืชหลายชนิดเป็นพืชเชิงเดี่ยว มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่เหมาะสม ส่งผล
กระทบต่อปัญหาทางสภาพภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงทั้งอุณหภูมิที่สูงขึ้น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำให้
เกษตรกรปรับเปลี่ยนการผลิต การใช้สารสนเทศเพื่อสนับสนุนการผลิต การปลูกพืชในโรงเรือนที่สามารถ
ควบคมุ และจดั การได้อย่างสมำ่ เสมอ ด้วยจำนวนของประชากรผสู้ ูงอายุท่ีเพมิ่ ขึ้น แนวโนม้ การใช้เคร่ืองจักรกล
ในทั้งสวนผัก ผลไม้ และไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น เครื่องหยอดเมล็ด แผ่นซิบ เครื่องทุ่นแรง
จากผลกระทบจากการเคลื่อนย้ายแรงงานสู่ภาคอุตสาหกรรมและบริการ เกษตรกรใช้ข้อมูลทางวิชาการเพ่ือ
สนับสนุน ส่งผลให้อาหารเกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในหนุ่มสาวในภาคการเกษตร การเคลมภาค
การเกษตรมายาวนานหลายสิบปี และมีแนวโน้มต่อไปในอนาคต ประกอบกับจำนวนของประชากรผู้สูงอายุท่ี
เพิ่มขึ้น ในขณะที่ประชากรวัยแรงงานกลับคงที่หรือลดลง อีกทั้งพฤติกรรมของคนในสังคมเคยที่เน้นการซ้ือ
ขาย แลกเปลย่ี นกับภายนอก ทำให้เกดิ ความไม่มัน่ คงทางดา้ นอาหารในระดับครัวเรือน จากวทิ ยาการด้านต่าง
ที่เจริญก้าวหน้า จึงมีการพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ในการอำนวยความสะดวกในภาคการเกษตร
มากขึ้น เช่น เครื่องจักรกล เครื่องทุ่นแรง อิเล็กทรอนิกส์ และสารสนเทศต่างๆ เพื่อช่วยลดปัญหาการขาด
แคลนแรงและมีคณุ ภาพ

การพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์เป็นเป้าหมายหลักของการจัดการศึกษา ในโลกปัจจุบันท่ีก้าวเขา้ สู่ศตวรรษท่ี
21 เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สื่อสาร และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยี
สารสนเทศ และบริการที่ทันสมัย สอดคล้องกับสภาพสังคมและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงสู่สังคมเมืองท่ี
หนาแนน่ มีความหลากหลายและซับซ้อนทางวัฒนธรรม และมีการเปล่ียนแปลงสงู ดงั นัน้ การพัฒนาหลักสูตร
และการจัดการศกึ ษาเพือ่ ใหร้ องรับและก้าวทันการสังคม ประกอบกับการเจริญกา้ วหน้าทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี การพัฒนาหลักสูตรและการจัดการศึกษา ที่มุ่งผลิตบัณฑิตที่มคี ุณภาพทางวชิ าการ มีคุณธรรม
จรยิ ธรรม มศี ักยภาพในการแขง่ ขันกบั นานาประเทศ และสามารถดำรงชีวติ อยู่ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ในยุคศตวรรษ
ที่ 21 ประกอบกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศด้วยนวัตกรรม หรือไทยแลนด์ 4.0 ดังนั้น จึงมี
ความสำคญั อยา่ งย่ิงท่จี ำเปน็ ตอ้ งพฒั นาหลักสูตรสาขาวิชาพชื สวนในเชงิ รกุ ซ่ึงขับเคลื่อนดังกล่าว จำเป็นตอ้ งใช้
องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีทนั สมัย ดว้ ยกระบวนการวิจยั ในการสร้างสรรค์ผลงาน การแก้ไข
ปัญหาทางวิชาการ เพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การจัดการและการพัฒนาพืชสวนด้าน ให้สอดคล้องกับ
ความต้องการของผบู้ ริโภค ประกอบกบั เพื่อพฒั นาทรัพยากรบุคคลทางด้านพชื สวนที่มีศักยภาพสูงทางวิชาการ
การค้นคว้าวิจัย มีทักษะการทำงาน การวางแผน บูรณาการองค์ความรู้และนวัตกรรม รวมทั้งให้บริการทาง
วิชาการทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยมีการพัฒนาเนื้อหาทางวิชาการให้ทันสมัย มีคุณภาพ มีศักยภาพ
และมาตรฐานสากล โดยปรับปรุงบางเนื้อหาบางส่วนจากหลักสูตรเดิมให้กระชับ ยุบรวมเนื้อหาบางวิชาเพื่อ
ความเหมาะสม และเพิ่มเติมรายวิชาให้ทันสมัย ตามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้ อม
สังคม และเศรษฐกิจ อกี ทั้งได้สรา้ งองค์ความรู้ใหม่ผ่านการผลติ บุคลากรทางด้านพืชสวน และมอี ตั ตลักษณ์ของ
มหาบัณฑิตท่ีพร้อมทำงานบนพ้ืนฐานการวิจยั

วัตถุประสงค์ของหลักสตู ร

4

หลักสตู รปรชั ญาดุษฎบี ณั ฑติ สาขาวิชาพืชสวน (หลกั สตู รปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พือ่ ผลติ
มหาบณั ฑิตที่มีคณุ สมบตั ิ ดงั นี้

(1) มีความร้เู ชงิ ลกึ ในหลกั วิชาการศกึ ษาสาขาวชิ าพืชสวน และสามารถประยุกต์ในการประกอบวชิ าชีพ
ขั้นสูง หรือการวจิ ยั เพ่อื ไขปญั หา หรือสร้างองคค์ วามรใู้ หม่

(2) มคี วามสามารถในการใช้ความรู้ ทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และวชิ าชีพพืชสวนในการ
คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และบรู ณาการองค์ความรูเ้ พ่ือแก้ไขปญั หาทางวิชาการขนั้ สูงได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
และเหมาะสม

(3) มคี วามสามารถในการใชภ้ าษาไทยและภาษาตา่ งประเทศในการศกึ ษาเรยี นรู้ การส่ือสาร และการ
ถ่ายทอดความร้ทู างวิชาการ รวมทั้งการใชค้ อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดการสมัยใหม่ อย่างมี
ประสิทธภิ าพ

(4) มคี วามสนใจใฝร่ ใู้ นดา้ นการเกษตร และสามารถพฒั นาตนอยา่ งต่อเนื่อง
(5) มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง สังคม และส่ิงแวดล้อม มมี นุษย์สมั พันธ์ สามารถทำงานร่วมกบั ผูอ้ ่นื
และมีวุฒิภาวะความเปน็ ผูน้ ำ
(6) มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาชพี การประพฤติตนเปน็ พลเมอื งทีด่ ี รวมทัง้ มี
ทัศนคติทด่ี ตี ่อการทำงานและการใชช้ วี ติ ในสงั คมพหุวัฒนธรรม

1.2 วธิ ีการประเมนิ

(1) การวางแผนการประเมนิ ก่อนและหลงั การตรวจประเมินหลักสตู ร

1. กรรมการตรวจอ่านรายงานประเมินตนเอง

2. กรรมการสรปุ คะแนนเบ้ืองต้น

3. ประธานรวบรวมคะแนนและความเห็นจากกรรมการ สรปุ ผลและอภปิ รายผลการประเมนิ ราย

ตวั ช้วี ดั และเห็นชอบร่วมกนั

(2) วิธีการตรวจสอบและความน่าเช่อื ถือของข้อมูล

1. ตรวจจากการอา่ นรายงานประเมนิ ตนเองหลกั สตู ร

2. กรรมการสรปุ ผลคะแนนตามรายงานประเมนิ ตนเองของหลักสูตร

(3) ผใู้ ห้ข้อมูลในวนั ตรวจเยยี่ มหลักสูตร เช่น อาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบหลกั สตู ร/อาจารย์ประจำหลกั สตู ร

อาจารยผ์ ู้สอน ผ้ทู รงคุณวุฒิ ผู้เรียน) (โปรดระบรุ ายชอื่ และตำแหน่ง)

ท่ี ช่อื -สกลุ ตำแหนง่

1 รศ.ดร.ภาณพุ ล หงษภ์ กั ดี อาจารยผ์ ้รู บั ผดิ ชอบหลักสตู ร

2 ผศ.ดร.สภุ ัทร์ อศิ รางกรู ณ อยธุ ยา อาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบหลักสตู ร

3 ผศ.ดร.ชานนท์ ลาภจิตร อาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลักสตู ร

4 ผศ.ดร.ศุภัชญา นามพลิ า อาจารย์ประจำหลักสูตร
5 อ.ดร.ประกาศติ ดวงพาเพ็ง อาจารยป์ ระจำหลักสูตร

5

ส่วนท่ี 2 บทสรปุ ผ้บู รหิ ารและสรปุ ผลการประเมินในภาพรวม

จดุ เดน่
1. คุณภาพอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอยู่ในเกณฑ์ที่สูง โดยมีทุนวจิ ยั และการตีพมิ พ์ระดบั นานาชาติ อย่าง

ต่อเนอ่ื ง
2. กระบวนการสง่ เสรมิ และพฒั นาอาจารย์ผ้รู บั ผิดชอบหลกั สูตร สามารถทำใหอ้ าจารย์ผ้รู บั ผดิ ชอบหลักสตู รได้

ตำแหนง่ วชิ าการทส่ี ูงขึ้น และสามารถหาทุนวจิ ัยและทำผลงานวิจยั ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
3. คุณภาพงานวิจัยของนักศึกษาอยูใ่ นระดับที่สูงโดยสามารถตีพิมพ์ได้ในฐานขอ้ มูล Scopus ระดับ Quartile

1

จุดท่ีควรพัฒนา
1. การรับนักศกึ ษา ควรมกี ารทบทวนกลยทุ ธ์เพมิ่ เติม เพื่อสามารถรบั นักศกึ ษาได้อยา่ งต่อเนื่อง
2. ควรพิจารณาทบทวนระบบช่วยเหลือและติดตามวิทยานิพนธ์ เพื่อให้นักศึกษาสามารถจบการศกึ ษาภายใน

ระยะเวลาท่กี ำหนด
3. ควรมีการเก็บข้อมูลในด้านการใช้สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ของนักศึกษาว่ามีความเพียงพอและเหมาะสมใน

การทำวิจัยหรอื ไม่

วธิ ีปฏิบัติทด่ี ี / นวตั กรรม (ถ้ามี)
*วธิ ีปฏบิ ตั ิทดี่ ี หมายถึง วิธกี ารปฏิบตั หิ รอื ขั้นตอนการปฏบิ ตั ทิ ที่ ำใหส้ ถาบนั ประสบความสำเรจ็ หรอื สคู่ วาม
เปน็ เลิศตามเปา้ หมาย เปน็ ที่ยอมรับในวงวิชาการหรือวิชาชีพนน้ั ๆ มีหลกั ฐานปรากฏชัดเจน โดยมกี ารสรุป
วธิ กี ารปฏิบัติหรือขน้ั ตอนการปฏิบัติ ตลอดจนความรู้ ประสบการณ์ บันทึกเป็นเอกสาร เผยแพร่ให้
หน่วยงานภายในหรอื ภายนอกสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หมายเหตุ :
ผูป้ ระเมนิ ควรจะแสดงรายละเอียดที่ชัดเจน เพอ่ื มหาวิทยาลัยจะได้นำไปเผยแพรแ่ นวปฏิบตั ทิ ี่และกจิ กรรม
แลกเปลีย่ นเรียนรู้

6

สว่ นที่ 3 ผลประเมนิ คณุ ภาพหลักสูตร

3.1 องคป์ ระกอบที่ 1 การกำกบั มาตรฐาน ข้อท่ี ผ่าน ระบเุ หตผุ ล
ประเมิน /ไมผ่ ่าน กรณีท่ไี ม่ผา่ นเกณฑก์ าร
ข้อ เกณฑ์ ()
ผา่ น ประเมนิ
1 • จำนวนอาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลักสตู ร ไม่น้อยกวา่ 3 คนและ 
เป็นอาจารยผ์ ้รู บั ผิดชอบหลกั สตู ร เกินกว่า 1 หลกั สตู รไมไ่ ด้  ผ่าน
และประจำหลกั สตู รตลอดระยะเวลาท่จี ดั การศึกษาตาม
หลักสตู รนั้น รายละเอียด  ผ่าน

2 • คุณสมบัติของอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลักสตู ร มคี ณุ วฒุ ิปรญิ ญา  ผ่าน
เอกหรอื เทียบเท่าหรือขั้นตำ่ ปริญญาโทหรอื เทยี บเท่าทมี่ ี
ตำแหน่งศาสตราจารยข์ ้นึ ไป NA NA

• และมผี ลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการใน 5 ปี  ผ่าน ศ.ดร.สุชลี า เตชะวงศ์
ย้อนหลัง โดยอยา่ งนอ้ ย 1 รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวิจัย เสถยี ร เกษียรอายุ

3 • คณุ สมบัติของอาจารย์ประจำหลกั สตู ร มคี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอก
หรอื เทยี บเท่าหรอื ขัน้ ต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าท่มี ตี ำแหนง่
รองศาสตราจารย์

• และมผี ลงานทางวิชาการอย่างนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปี
ย้อนหลงั โดยอยา่ งน้อย 1 รายการต้องเป็นผลงานวิจยั

4 • คณุ สมบัติของอาจารย์ผสู้ อน ทีเ่ ป็นอาจารยป์ ระจำ มคี ณุ วฒุ ิ
ปริญญาเอกหรือเทยี บเท่าหรือขน้ั ตำ่ ปริญญาโทหรือเทียบเท่า
ทม่ี ีตำแหนง่ รองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาน้ันหรอื สาขาวชิ าท่ี
สัมพนั ธก์ นั หรือสาขาวิชาของรายวชิ าทส่ี อน

• และต้องมปี ระสบการณด์ า้ นการสอนและมผี ลงานทางวิชาการ
อย่างน้อย 1 รายการใน 5 ปียอ้ นหลัง รายละเอยี ด

5 • คุณสมบตั ิของ อาจารยผ์ ู้สอน ท่ีเปน็ อาจารยพ์ ิเศษ (ถา้ มี) มี
คุณวฒุ ิปรญิ ญาเอกหรือเทียบเทา่ หรอื ขั้นตำ่ ปรญิ ญาโทหรือ
เทยี บเทา่ ท่ีมตี ำแหนง่ รองศาสตราจารยใ์ นสาขาวชิ าน้ันหรอื
สาขาวิชาท่ีสัมพนั ธก์ ันหรือสาขาวชิ าของรายวิชาทสี่ อน และ
ต้องมปี ระสบการณด์ ้านการสอน

• และมผี ลงานทางวชิ าการอยา่ งน้อย 1 รายการใน 5 ปี
ย้อนหลัง มชี วั่ โมงสอนไม่เกินร้อยละ 50 ของรายวชิ า โดยมี
อาจารยป์ ระจำเปน็ ผู้รบั ผิดชอบรายวชิ านั้น

6 • คุณสมบตั ขิ องอาจารย์ทป่ี รึกษาวิทยานิพนธห์ ลกั และอาจารย์
ทีป่ รกึ ษาการค้นคว้าอสิ ระ

7

ขอ้ เกณฑ์ ข้อท่ี ผ่าน ระบเุ หตุผล
ประเมนิ /ไมผ่ า่ น กรณที ่ีไม่ผา่ นเกณฑ์การ
1. เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรที่มีคุณวุฒิปริญญาเอกหรือ ()
เทียบเท่า หรือ ขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าและดำรง ประเมนิ
ตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชา  ราชการปี 2562 จงึ เป็น
น้ันหรอื สาขาวิชาที่สัมพันธก์ ัน และ อาจารย์ท่ปี รกึ ษาหลกั
2. มีผลงานทางวชิ าการอย่างนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปีย้อนหลงั  ตอ่ เนอื่ งจนนกั ศกึ ษา
โดยอย่างน้อย 1 รายการตอ้ งเป็นผลงานวจิ ยั  สำเรจ็ การศกึ ษา
7 • คุณสมบัติของอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม (ถ้ามี) กรณี
เป็นอาจารย์ประจำต้องมีคุณวุฒิปริญญาเอกหรือเทียบเท่า ผ่าน
หรือ ขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าและดำรงตำแหน่งทาง
วิชาการไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชานั้นหรือ ผ่าน
สาขาวิชาที่สัมพันธ์กัน และมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 ผา่ น
รายการใน 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็น
ผลงานวจิ ัย

• หรือ กรณี เป็นผทู้ รงคณุ วุฒิภายนอก 1. มคี ุณวุฒปิ ริญญาเอก
หรือเทียบเท่าและมีผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์
เผยแพร่ในระดับนานาชาติ ซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับหัวข้อ
วทิ ยานพิ นธ์หรอื การคน้ ควา้ อิสระไมน่ ้อยกว่า 5 เรือ่ ง หากไมม่ ี
คุณวุฒิหรือประสบการณ์ตามที่กำหนดจะต้องมีความรู้ความ
เชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงเป็นที่ยอมรับซึ่งตรงหรือ
สัมพันธ์กับหัวข้อวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ โดยผ่าน
การเห็นชอบของสภาสถาบันและแจ้ง กกอ ทราบ

8 • อาจารย์ผู้สอบวิทยานิพนธ์ ประกอบด้วย อาจารย์ประจำ
หลักสูตรและผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกไม่น้อยกว่า 5 คน
ประธานผู้สอบวทิ ยานพิ นธต์ อ้ งเป็นผู้ทรงคุณวุฒจิ ากภายนอก

9 • คุณสมบัติอาจารย์ผู้สอบวิทยานิพนธ์ กรณี เป็นอาจารย์
ประจำหลักสูตรต้องมีคุณวุฒิปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือ
ขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าและดำรงตำแหน่งทางวิชาการ
ไม่ต่ำกว่ารองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่
สัมพันธ์กัน และมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการใน
5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็นผลงานวิจัย
หรอื

• กรณี เป็นผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 1. มีคุณวุฒิปริญญาเอกหรอื
เทียบเท่าและมีผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่
ในระดับนานาชาติ ซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับหัวข้อวิทยานิพนธ์

8

ขอ้ ท่ี ผา่ น ระบุเหตุผล
/ไมผ่ า่ น กรณที ีไ่ มผ่ ่านเกณฑก์ าร
ขอ้ เกณฑ์ ประเมนิ
() NA ประเมนิ
ผา่ น
หรือการค้นควา้ อสิ ระไมน่ ้อยกวา่ 5 เรอ่ื ง หากไมม่ คี ุณวุฒิหรือ ผลการประเมนิ
ผา่ น  หลักสูตรได้มาตรฐาน
ประสบการณ์ตามที่กำหนดจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญ 10

และประสบการณส์ ูงเป็นท่ียอมรบั ซึ่งตรงหรอื สัมพันธก์ ับหวั ข้อ

วิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ โดยผ่านการเห็นชอบของ

สภาสถาบันและแจ้ง กกอ ทราบ

10 • การตพี มิ พ์เผยแพร่ผลงานของผู้สำเรจ็ การศึกษา NA

- กรณี แบบ 1 ต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร

ระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศของ กกอ.

อยา่ งนอ้ ย 2 เรือ่ ง

-กรณี แบบ 2 ต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร

ระดับชาติหรือนานาชาตทิ ีม่ ีคณุ ภาพตามประกาศของ กกอ.

11 • ภาระงานอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และการค้นคว้าอิสระ 

ในระดับบณั ฑติ ศกึ ษา วิทยานพิ นธ์

- อาจารย์คุณวุฒิปริญญาเอก 1 คน ต่อ นักศึกษา 5 คน การ

ค้นคว้าอิสระ

- อาจารย์คณุ วุฒปิ ริญญาเอก 1 คน ตอ่ นักศึกษา 15 คน หาก

เป็นที่ปรึกษาทั้ง 2 ประเภทให้เทียบสัดส่วนนักศึกษาที่ทำ

วทิ ยานิพนธ์ 1 คนเทยี บเทา่ กบั นักศกึ ษาทีค่ น้ คว้าอิสระ 3 คน

- หากอาจารย์คุณวุฒิปริญญาเอกและมีตำแหน่งทางวิชาการ

หรือปริญญาโทและตำแหน่งทางวิชาการระดับรอง

ศาสตราจารยข์ น้ึ ไป 1 คน ต่อนกั ศึกษา 10 คน

- หากอาจารย์คุณวุฒิปริญญาเอกและมีตำแหน่งทางวิชาการ

ระดับศาสตราจารย์ขึ้นไป ไม่เกิน 15 แต่ต้องได้รับการอนุมัติ

จาก กกอ.

12 • การปรบั ปรุงหลกั สตู รตามรอบระยะเวลาของหลกั สตู รหรอื ทกุ 

รอบ 5 ปี

จำนวนขอ้ ที่ประเมิน 10

จำนวนข้อทผ่ี ่านการประเมิน

หมายเหตอุ ่ืนๆ (ถา้ ม)ี

9

3.2 จดุ เดน่ และโอกาสในการพัฒนาองคป์ ระกอบที่ 1
(1) ข้อเสนอแนะเพือ่ การปรับปรุงหลักสูตรใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลุมประเด็น
การตรวจสอบ ประเมนิ ใหห้ ลักสูตรมมี าตรฐานอยา่ งตอ่ เน่ืองและย่ังยนื
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
(2) แนวปฏบิ ัติทด่ี /ี นวัตกรรม/ผลงานโดดเด่น (ถา้ ม)ี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3.3 ผลการประเมินรายองค์ประกอบ (องคป์ ระกอบท่ี 2-6)

จดุ เดน่ โอกาสในการพัฒนา

องคป์ ระกอบที่ 2 บัณฑิต องคป์ ระกอบท่ี 2 บัณฑิต

1.- 1.-

องคป์ ระกอบที่ 3 นกั ศกึ ษา องค์ประกอบที่ 3 นกั ศึกษา

3.1 การรบั นักศึกษา 3.1 การรบั นักศกึ ษา

1.- 1. การรับนักศึกษา ควรมีการทบทวนกลยุทธ์เพิ่มเติม

เพ่อื สามารถรับนกั ศกึ ษาไดอ้ ย่างตอ่ เนือ่ ง

3.2 การส่งเสริมและพัฒนานกั ศกึ ษา 3.2 การสง่ เสรมิ และพัฒนานักศกึ ษา

1. มีระบบและกลไกในการส่งเสริมเพื่อให้นักศึกษามี 1. ควรพิจารณาทบทวนระบบช่วยเหลือและติดตาม

งานวจิ ัยที่มคี ณุ ภาพในระดับสงู โดยสามารถตีพิมพไ์ ดใ้ น วิทยานพิ นธ์ เพือ่ ให้นักศกึ ษาสามารถจบการศึกษาภายใน

ฐานขอ้ มลู Scopus ระดบั Quartile 1 ระยะเวลาทีก่ ำหนด

3.3 ผลที่เกิดกับนักศึกษา 3.3 ผลทีเ่ กิดกบั นักศึกษา

1. - 1.-

องคป์ ระกอบที่ 4 อาจารย์ องค์ประกอบท่ี 4 อาจารย์

4.1 การบริหารและพฒั นาอาจารย์ 4.1 การบรหิ ารและพัฒนาอาจารย์

1. กระบวนการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ผู้รับผิดชอบ 1.-

หลกั สตู ร สามารถทำใหอ้ าจารยผ์ ู้รบั ผดิ ชอบหลักสูตรได้

ตำแหน่งวิชาการท่ีสูงข้ึน และสามารถหาทนุ วจิ ยั และทำ

ผลงานวิจยั ได้อยา่ งตอ่ เน่ือง

4.2 คณุ ภาพอาจารย์ 4.2 คุณภาพอาจารย์

1. คุณภาพอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอยู่ในเกณฑ์ท่ี 1.-

สูง โดยมีทุนวิจัย และการตีพิมพ์ระดับนานาชาติ อย่าง

ต่อเนื่อง

4.3 ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั อาจารย์ 4.3 ผลที่เกิดขึน้ กบั อาจารย์

10

จุดเดน่ โอกาสในการพัฒนา
1. มตี ำแหน่งทางวชิ าการทส่ี งู ขน้ึ 1.-
องคป์ ระกอบท่ี 5 หลกั สตู ร การเรียนการสอน การ องค์ประกอบท่ี 5 หลักสูตร การเรยี นการสอน การ
ประเมนิ ผูเ้ รยี น ประเมนิ ผู้เรียน

5.1 สาระของรายวชิ าในหลักสตู ร 5.1 สาระของรายวิชาในหลกั สตู ร
1.- 1.-

5.2 การวางระบบผ้สู อนและกระบวนการจดั การเรยี น 5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจดั การเรยี น
การสอน การสอน
1.- 1.-
5.3 การประเมนิ ผู้เรยี น 5.3 การประเมนิ ผเู้ รียน
1.- 1.-
5.4 ผลการดำเนนิ งานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐาน 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลกั สตู รตามกรอบมาตรฐาน
คณุ วุฒิระดับอดุ มศึกษาแห่งชาติ คุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษาแหง่ ชาติ
1.- 1.-
องคป์ ระกอบท่ี 6 สง่ิ สนับสนุนการเรยี นรู้ องคป์ ระกอบท่ี 6 ส่ิงสนับสนุนการเรียนรู้
1.- 1. ควรมีการเก็บข้อมูลในด้านการใช้สิ่งสนับสนุนการ
เรียนรู้ของนักศึกษาว่ามีความเพียงพอและเหมาะสมใน
การทำวิจยั หรือไม่

11

3.4 (ตวั ชี้วดั ที่ 5.4) ผลการดำเนินงานหลักสตู รตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒริ ะดับอดุ มศึกษาแหง่ ชาติ

ข้อ เกณฑ์ ผ่าน ระบุเหตุผล
/ไม่ กรณีทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
ผ่าน

1 อาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลักสตู รอย่างนอ้ ยรอ้ ยละ 80 ผ่าน

มสี ่วนรว่ มในการประชมุ เพือ่ วางแผน ตดิ ตาม และ

ทบทวนการดำเนนิ งานหลักสูตร

2 มีรายละเอยี ดของหลักสตู ร ตามแบบ มคอ.2 ท่ี ผ่าน

สอดคลอ้ งกับกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ แิ ห่งชาติ หรือ

มาตรฐานคณุ วุฒิสาขา/สาขาวชิ า (ถ้ามี)

3 มีรายละเอยี ดของรายวิชา และรายละเอยี ดของ ผ่าน

ประสบการณภ์ าคสนาม (ถา้ มี) ตามแบบ มคอ.3 และ

มคอ.4 อย่างนอ้ ยก่อนการเปดิ สอนในแตล่ ะภาค

การศกึ ษาให้ครบทกุ รายวชิ า

4 จัดทำรายงานผลการดำเนนิ การของรายวชิ า และ ผ่าน

รายงานผลการดำเนนิ การของประสบการณภ์ าคสนาม

(ถา้ ม)ี ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วัน

หลงั สน้ิ สดุ ภาคการศึกษาที่เปิดสอนให้ครบทุกรายวชิ า

5 จดั ทำรายงานผลการดำเนนิ การของหลกั สูตร ตาม ผา่ น

แบบ มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลงั สน้ิ สดุ ปกี ารศึกษา

6 มีการทวนสอบผลสัมฤทธข์ิ องนกั ศึกษาตามมาตรฐาน ผา่ น

ผลการเรียนรู้ ที่กำหนดใน มคอ.3 และมคอ.4 (ถ้ามี)

อยา่ งน้อยรอ้ ยละ 25 ของรายวชิ าทีเ่ ปิดสอนในแตล่ ะ

ปีการศกึ ษา

7 มีการพฒั นา/ปรบั ปรงุ การจดั การเรียนการสอน กล ผ่าน

ยุทธ์การสอน หรอื การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จากผล

การประเมนิ การดำเนนิ งานทร่ี ายงานใน มคอ.7 ปีท่ี

แล้ว

8 อาจารย์ใหม่ (ถ้ามี) ทกุ คน ได้รบั การปฐมนเิ ทศหรือ ผ่าน

คำแนะนำดา้ นการจัดการเรยี นการสอน

9 อาจารยผ์ ู้รบั ผดิ ชอบหลักสตู รทุกคนได้รบั การพฒั นา ผา่ น

ทางวชิ าการ และ/หรือวชิ าชพี อย่างน้อยปลี ะหน่ึงครง้ั

12

ขอ้ เกณฑ์ ผา่ น ระบเุ หตผุ ล
/ไม่ กรณีทไ่ี ม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ
ผา่ น

10 จำนวนบุคลากรสนบั สนนุ การเรยี นการสอน (ถา้ ม)ี ผา่ น

ไดร้ ับการพฒั นาวิชาการ และ/หรอื วชิ าชีพ ไมน่ ้อย

กวา่ รอ้ ยละ 50 ต่อปี

11 ระดับความพงึ พอใจของนักศกึ ษาปสี ุดทา้ ย/บณั ฑิต ผา่ น

ใหม่ทม่ี ตี อ่ คณุ ภาพหลักสตู ร เฉลยี่ ไม่น้อยกวา่ 3.50

จากคะแนนเต็ม 5.0

12 ระดบั ความพงึ พอใจของผใู้ ช้บัณฑติ ที่มตี อ่ บัณฑติ ใหม่ NA

เฉล่ยี ไมน่ อ้ ยกวา่ 3.50 จากคะแนนเตม็ 5.0

จำนวนขอ้ ที่ประเมิน 11

จำนวนขอ้ ทีผ่ า่ นการประเมิน 11 คิดเปน็ ร้อยละ 100

เกณฑ์การประเมนิ
1. มกี ารดำเนินงานน้อยกวา่ ร้อยละ 80 มีคา่ คะแนนเทา่ กับ 0
2. มีการดำเนินงานร้อยละ 80 มีคา่ คะแนนเทา่ กบั 3.50
3. มกี ารดำเนินงานร้อยละ 80.01-89.99 มคี า่ คะแนนเท่ากับ 4.00
4. มกี ารดำเนนิ งานรอ้ ยละ 90.00-94.99 มีคา่ คะแนนเท่ากบั 4.50
5. มกี ารดำเนินงานร้อยละ 95.00-99.99 มีค่าคะแนนเทา่ กับ 4.75
6. มกี ารดำเนนิ งานร้อยละ 100 มคี ่าคะแนนเทา่ กบั 5.00
หมายเหตุ ต้องผ่าน 5 ขอ้ แรกกอ่ น ถงึ จะพจิ ารณาคา่ คะแนนที่ 1-5 ได้

13

3.5 ผลการประเมินกระบวนการและรายละเอยี ดผลการตรวจประเมินกรณมี ีการปรบั ลดหรอื เพิ่มคะแนน

ตัวชว้ี ัด ระดบั คะแนน กรุณาอธิบายเหตผุ ลเพ่มิ เติม
หลกั สตู กรรม กรณมี ีการปรบั ลดหรอื เพิ่มคะแนน
องค์ประกอบท่ี 3 นักศึกษา IPO ร การ 1. การปรับลดคะแนน
1 3.1 การรับนกั ศึกษา ประเมนิ ประเมิน 2. มผี ลประเมนิ อย่ใู นระดับ 3,4,5 คะแนน
ตนเอง

P3 2 เนื่องจากไมส่ ามารถรบั นกั ศกึ ษาไดใ้ นปีท่ี
ประเมนิ

2 3.2 การส่งเสริมและพัฒนานกั ศกึ ษา P 3 3

องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์ P3 4 กระบวนการสง่ เสรมิ และพฒั นาอาจารย์
3 4.1 การบริหารและพฒั นาอาจารย์ ผู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร สามารถทำใหอ้ าจารย์
ผ้รู บั ผดิ ชอบหลกั สตู รได้ตำแหนง่ วชิ าการท่ี
องคป์ ระกอบที่ 5 หลกั สูตรการเรียนการสอน การประเมินผเู้ รยี น สงู ขึ้น และสามารถหาทุนวิจยั และทำ
ผลงานวจิ ยั ไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่อง
4 5.1 สาระของรายวชิ าในหลกั สตู ร P3
3

5 5.2 การวางระบบผู้สอนและ P 3 3
3 3
กระบวนการจดั การเรียนการสอน

6 5.3 การประเมินผเู้ รยี น P

7 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลกั สูตรตาม P 5 5

กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิ 3 มีการพัฒนาและปรับปรุงผลจากการประเมนิ
โดยมีการหาทุนสนับสนุนเพิ่มเติม แต่ผลของ
ระดบั อุดมศึกษาแหง่ ชาติ การปรับปรุงยังไม่ชัดเจนเป็นรูปธรรม ซึ่งไม่มี
การแสดงการเปรียบเทียบก่อนและหลังการ
องคป์ ระกอบที่ 6 สง่ิ สนับสนนุ การเรียนรู้

8 6.1 สง่ิ สนบั สนนุ การเรยี นรู้ P4

14

ตวั ชว้ี ัด ระดบั คะแนน กรณุ าอธบิ ายเหตุผลเพม่ิ เติม
หลักสตู กรรม กรณีมกี ารปรับลดหรอื เพิ่มคะแนน
IPO ร การ 1. การปรบั ลดคะแนน
ประเมนิ ประเมิน 2. มผี ลประเมนิ อยู่ในระดับ 3,4,5 คะแนน
ตนเอง

ปรับปรุง และไม่มีข้อมูลแสดงให้เห็นว่าส่ิง
สนบั สนนุ การเรียนรู้เพียงพอและเหมาะสม

ส่วนท่ี 4 สรปุ ผลการประเมนิ คะแนนในภาพรวม

ตวั ช้วี ดั IPO ระดบั คะแนน หมายเหตุ
ประเมิน กรรมการ
องคป์ ระกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน ตนเอง ประเมนิ
1 1.1 การบริหารจดั การหลักสูตรตามเกณฑม์ าตรฐาน
ผ่าน/ไม่ ผา่ น/ไม่
หลักสตู รทกี่ ำหนดโดย สกอ. ผา่ น ผา่ น
องคป์ ระกอบที่ 2 บณั ฑิต

2 2.1 คณุ ภาพบณั ฑติ ตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิ O NA NA กรณีหลกั สูตรใหม่
ระดับอดุ มศกึ ษาแห่งชาติ O NA TQF ยงั ไมม่ ีบัณฑติ จบ

3 2.2 ปริญญาเอก ผลงานของนกั ศกึ ษาและผสู้ ำเร็จ NA จะไม่ประเมนิ 2
การศึกษาในระดบั ปรญิ ญาเอกทไี่ ด้รบั การตพี ิมพ์หรอื ตวั ชวี้ ดั นี้
เผยแพร่ แตถ่ า้ เป็นหลกั สตู ร
ปรับปรงุ (ซ่งึ ไมใ่ ช่
หลักสตู รใหม)่ จะ
วัดผลการดำเนินงาน
ของบัณฑิตหลกั สูตร
เดิมที่จบการศกึ ษาตาม
หลกั สูตรเดิม)

องคป์ ระกอบท่ี 3 นกั ศกึ ษา

4 3.1 การรบั นกั ศกึ ษา P3 2

5 3.2 การส่งเสรมิ และพัฒนานกั ศึกษา P3 3
6 3.3 ผลทีเ่ กดิ กับนกั ศกึ ษา O3 3
องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์
7 4.1 การบริหารและพฒั นาอาจารย์ P3 4
8 4.2 คณุ ภาพอาจารย์ I5 5

- รอ้ ยละของอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลักสูตรท่มี ีคณุ วฒุ ิ 100 100
ปรญิ ญาเอก

- รอ้ ยละอาจารยผ์ ู้รบั ผดิ ชอบหลกั สตู รทด่ี ำรงตำแหนง่ 100 100
วชิ าการ

15

ตัวชีว้ ัด IPO ระดบั คะแนน หมายเหตุ

ประเมนิ กรรมการ

ตนเอง ประเมิน

- ผลงานวชิ าการของอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบ 320 320

- จำนวนบทความของอาจารยผ์ ูร้ บั ผดิ ชอบหลักสูตรท่ี 15 15

ได้รบั การอา้ งอิงในฐานข้อมลู TCI และ Scopus ตอ่

จำนวนอาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สตู ร

9 4.3 ผลทีเ่ กดิ กับอาจารย์ O4 3 ยงั ไม่เห็นแนวโนม้

ความพึงพอใจ

องคป์ ระกอบที่ 5 หลกั สตู รการเรียนการสอน การประเมินผ้เู รยี น

10 5.1 สาระของรายวิชาในหลักสตู ร P3 3

11 5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรยี นการ P 3 3

สอน

12 5.3 การประเมนิ ผ้เู รยี น P3 3

13 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลกั สูตรตามกรอบมาตรฐาน p5 5 ไม่ประเมนิ ขอ้ 12

คณุ วฒุ ริ ะดับอดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ ประเมินทงั้ หมด11ข้อ

ได้11ข้อ

องค์ประกอบที่ 6 ส่งิ สนบั สนุนการเรียนรู้

14 6.1 ส่งิ สนบั สนุนการเรียนรู้ P4 3

รวมคะแนน 3.55 3.36

หมายเหตุ

1.ตวั ช้วี ดั ไหน หลกั สตู รใดไมไ่ ดร้ บั การประเมินใหต้ ดั ตวั ชวี้ ัดนนั้ ออก (ไม่นำมาคดิ คา่ คะแนน)

2.กองพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาได้จดั ทำโปรแกรม Excel ในการคำนวณคะแนน และสง่ ทางเมลใหก้ รรมการทกุ ท่าน

ทางอเี มล หรือติดตอ่ โทร 48707-9

ระดบั คุณภาพ

คะแนนระดบั หลกั สตู ร = 0 หมายถึง หลักสตู รไมไ่ ดม้ าตรฐาน

คะแนนระดบั หลักสตู ร = 0.01-5.00 หมายถงึ หลกั สตู รเปน็ ไปตามมาตรฐานและมรี ะดบั คุณภาพตามคะแนนท่ีไดด้ งั น้ี

คะแนน ระดับคุณภาพ
0.01-2.00 น้อย
2.01-3.00
3.01-4.00 ปานกลาง
4.01-5.00 ดี

ดมี าก

16

รายงานผลการตรวจประเมินคณุ ภาพภายใน
ประจำปีการศกึ ษา 2564

(ระหว่างวนั ที่ 1 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2565)

หลักสูตรปรชั ญาดษุ ฎีบัณฑิต สาขาวิชาเกษตรเชิงระบบเพ่ือการพัฒนาท่ีย่งั ยืน
คณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น

วันที่ 7 กันยายน 2565

(ระดบั ปรญิ ญาเอก)
1

รายชือ่ คณะกรรมการ

ลำดับ รายชอ่ื คณะกรรมการ ตำแหน่ง สังกัดหลักสตู ร/สาขา คณะ

1 รศ.ดร. ยวุ รตั น์ เงนิ เย็น ประธาน สาขาวชิ าเคมี คณะวศิ วกรรมศาสตร์

2 อ.ดร. ชเนรินทร์ ฟ้าแลบ กรรมการ สาขาวชิ าโรคพชื วทิ ยา คณะเกษตรศาสตร์

3 รศ.ดร. สภุ าภรณ์ พวงชมภู กรรมการ สาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์

หมายเหตุ

กรุณาระบขุ ้อมลู ใหถ้ ูกต้องและครบถ้วน กองพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาจะบนั ทกึ รายชอ่ื ผตู้ รวจประเมนิ ที่ทำหนา้ ท่ีตรวจ

ประเมนิ แต่ละหลกั สตู รเพ่อื จัดเก็บเปน็ ฐานข้อมูลผูต้ รวจประเมินและผทู้ ำหนา้ ทต่ี รวจประเมนิ หลักสูตร

มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น

สว่ นท่ี 1 บทนำ
1.1 ข้อมลู ของหลักสูตรโดยสงั เขป/ประวัตคิ วามเปน็ มาของหลักสตู ร

หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเกษตรเชิงระบบเพ่ือการพัฒนาท่ีย่ังยืน (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.
2560) ปรับปรุงจากหลักสูตรเกษตรเชิงระบบ โดยหลักสูตรเกษตรเชิงระบบพัฒนาขึ้นมาเป็นหลักสูตรใหม่ในคณะ
เกษตรศาสตรแ์ ละเปิดสอนคร้ังแรกในปี พ. ศ. 2545 โดยเป็นหลกั สตู รทีพ่ ฒั นามาจากโครงการวจิ ัยระบบการทำฟาร์ม
ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้การสนับสนุนของ USAID โดยได้พัฒนาเครื่องมือและกระบวนการในการวเิ คราะห์
ระบบการทำฟาร์มและชมุ ชน โดยอาศัยอาจารย์ทีม่ ีประสบการณย์ าวนานในการทำงานแบบสหสาขาวิชาที่ใชแ้ นวทาง
เชิงระบบและกระบวนการมีส่วนร่วม โดยเฉพาะงานวิจัยระบบการทำฟาร์ม เป็นที่ยอมรับท้ังในระดับชาติและระดับ
นานาชาติ คณาจารยก์ ลุม่ นีย้ ังได้ดำเนินการฝึกอบรมระยะส้ันในด้านแนวคิดและวิธกี ารของการวิจยั และพัฒนาโดยใช้
แนวทางเชิงระบบให้แก่บุคลากรของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งของรัฐและองค์กรพัฒนาเอกชนทั้งในประเทศและ
ต่างประเทศ โดยเปิดสอนท้ังหลักสูตรปกติ และหลักสูตรนานาชาติ ต้ังแต่เปิดใช้หลักสูตรมีนักศึกษาที่มาศึกษาจาก
ประเทศญ่ปี ุ่น สหรฐั อเมริกา ศรีลงั กา บังกลาเทศ ลาว กัมพูชา เอริเทยี และไทย มอี าจารย์สอนทีเ่ ป็นท้ังคนไทย และ
ต่างประเทศ โดยเร่ิมต้นมีปรัชญาหลักสูตรท่ีมุ่งผลิตนักศึกษาท่ีมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความสามารถในการวิเคราะห์
และวินิจฉัยปัญหาในด้านการผลิตทางการเกษตรและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และทำงานวิจัยในลักษณะ
สาขาวิชาโดยใชแ้ นวทางและวิธกี ารเชิงระบบ

ในปีพ. ศ. 2556 หลักสูตรได้รับการปรับปรุงอีกครั้งหน่ึงเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศใน
ด้านต่าง ๆ เพื่อมีทักษะในการดำรงชีวิต อย่างรู้เท่าทันความเป็นไปของกระแสโลก อย่างเช่น การค้าเสรี การเส่ือม
โทรมของระบบทรัพยากร การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็นต้น มีความรู้ความสามารถที่
เก่ยี วขอ้ งกับเกษตรเชิงระบบ มที ักษะกระบวนการคดิ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ เพ่ือที่จำเป็นตอ่ การศกึ ษาคน้ คว้า ในการ
วิจัยหาองค์ความรู้ใหม่ รวมทั้งเป็นบัณฑิตท่ีมีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ โดยมีปรัชญา
หลกั สูตรคือมุ่งผลิตมหาบัณฑิตใหม้ ีความรู้ความเข้าใจเชิงลกึ หลักการและทฤษฎีในสาขาวชิ าเกษตรเชิงระบบ สามารถ
วเิ คราะหแ์ ละวินิจฉัยปัญหาในด้านการผลิตทางการเกษตรและการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติ ทำงานวิจัยในลักษณะ

2

สหสาขาวิชาโดยใช้แนวทางและวิธกี ารเชิงระบบ เพ่อื ให้มคี วามสามารถในการทำวิจัยหรือปฏิบัตงิ านในสาขาวชิ าชพี ได้
โดยการใช้ความรทู้ ้ังภาคทฤษฎแี ละภาคปฏิบัติ นำมาประยุกต์ใหเ้ กิดการพัฒนาความรู้ใหม่หรอื วธิ ีการปฏบิ ัติงานใหม่
ในสาขาวิชาได้อย่างสร้างสรรค์ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณตามหลกั วชิ าการและวิชาชพี และมีภาวะผู้นำ
ในการส่งเสริมให้มีการประพฤติปฏิบัติตนอย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการ หลักสูตร
เกษตรเชิงระบบมกี ารจัดการเรียนการสอนแบบ โดยเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ เช่นการใช้ project based learning หรือ
กรณีศึกษา มีการเปดิ โลกทัศนโ์ ดยการกิจกรรมการทัศนศกึ ษาดงู าน มกี ารนำเสนอสัมมนา โดยนักศกึ ษา อาจารย์ หรือ
ผ้เู ชี่ยวชาญตา่ ง ๆ เพ่อื สรา้ งบรรยากาศทางวชิ าการ พัฒนาทักษะในการนำเสนอ การอภิปรายและแลกเปลย่ี นความรู้
ในปี พ. ศ. 2560 หลักสูตรได้รับการปรับปรุงอีกคร้ังหน่ึง ภายใต้ช่ือใหม่ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา
เกษตรเชิงระบบเพื่อการพัฒนาที่ย่ังยืน (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพ่ือตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาในระดับ
โลกที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยหลักสูตรน้ี มุ่งผลิตดุษฎีบัณฑิตให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงในทฤษฎี
หลักการและแนวคิดที่สำคัญในสาขาวิชาเกษตรเชิงระบบเพื่อการพัฒนาทีย่ ่ังยืน สามารถวิเคราะห์และวินิจฉัยปัญหา
ในด้านการผลิตทางการเกษตรและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งสามารถวางแผนยุทธศาสตร์พัฒนาเกษตร
ยั่งยืนและชุมชนแบบบูรณาการ และศาสตร์ในสาขาวิชาอื่นที่มีความสัมพันธ์เก่ียวข้องกัน มีความสามารถในการทำ
วจิ ัยโดยบูรณาการองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาท่ีซบั ซ้อนหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่และถ่ายทอดองค์ความรู้เพือ่ ให้
เกิดการพัฒนาในสาขาวิชาเกษตรเชิงระบบเพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ทั้งในระดับชาติระดับนานาชาติ มีคุณธรรม
จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณตามหลักวิชาการและวชิ าชพี และมภี าวะผ้นู ำและเปน็ แบบอย่างในการประพฤติตนอย่างมี
คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม และจรรยาบรรณทางวชิ าการและวิชาชพี

วตั ถุประสงค์ของหลกั สตู ร
(1) มีความเข้าใจอย่างลึกซ้ึงหลักการและทฤษฎีสำคัญในสาขาวิชาเกษตรเชิงระบบ และสาขาวิชา อื่นที่

เกยี่ วข้อง สามารถนำมาบูรณาการเพอ่ื อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงทางการเกษตรและสงั คมเกษตรได้
(2) มีทักษะในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเกษตรและสังคมเกษตร

เพ่อื เสนอแนะแนวทางแก้ไขปญั หาไดอ้ ย่างเหมาะสม
(3) มีทักษะการส่ือสาร การใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดการสมัยใหม่ที่จะ

นำไปส่กู ารพัฒนาองค์ความรแู้ ละการนำไปใชป้ ระโยชน์ได้
(4) มีทักษะในการวิจัยแบบสหสาขาวิชาที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่หรือการปฏิบัติใหม่ใน

สาขาวิชาเกษตรเชิงระบบ
(5) มีทักษะในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์พัฒนาเกษตรยั่งยืนและแผนพัฒนาชุมชนแบบบูรณาการท่ี

เหมาะสมกับสภาพและเงอ่ื นไขของชมุ ชนในระดับต่าง ๆ ได้
(6) มกี ารประพฤติตนอยา่ งมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณทางวชิ าชีพ
(7) มีภาวะผู้นำในการเปล่ียนแปลงสังคมมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม

ยอมรบั ความคดิ เห็นที่แตกตา่ ง สามารถทำงานกับผูอ้ ื่นภายใตว้ ฒั นธรรมทีห่ ลากหลาย
1.2 วธิ กี ารประเมิน

(1) การวางแผนการประเมนิ ก่อนและหลังการตรวจประเมนิ หลกั สูตร
1. กรรมการตรวจอา่ นรายงานประเมินตนเอง
2. กรรมการสรุปคะแนนเบือ้ งตน้

3

3. ประธานรวบรวมคะแนนและความเหน็ จากกรรมการ สรุปผลและอภิปรายผลการประเมนิ รายตวั ชวี้ ัด
และเหน็ ชอบร่วมกัน
(2) วธิ กี ารตรวจสอบและความน่าเช่อื ถอื ของขอ้ มูล
1. ตรวจจากการอา่ นรายงานประเมินตนเองหลักสูตร
2. สัมภาษณอ์ าจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลักสตู ร
3. กรรมการสรปุ ผลคะแนนตามรายงานประเมินตนเองของหลกั สูตร
(3) ผู้ให้ขอ้ มูลในวนั ตรวจเยีย่ มหลกั สูตร เช่น อาจารย์ผูร้ บั ผิดชอบหลกั สูตร/อาจารยป์ ระจำหลักสูตร อาจารย์
ผสู้ อน ผูท้ รงคุณวุฒิ ผู้เรียน (โปรดระบุรายช่ือและตำแหนง่ )

ลำดบั ชื่อ – สกลุ ตำแหนง่
1 ผศ.ดร. อรณุ ี พรมคำบุตร อาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบหลกั สตู ร

4

ส่วนที่ 2 บทสรปุ ผ้บู ริหารและสรุปผลการประเมนิ ในภาพรวม

จุดเดน่
1. อาจารยผ์ ูร้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรและอาจารยป์ ระจำหลักสูตร มีคณุ วฒุ ิสูง และมตี ำแหนง่ ทางวชิ าการ

จดุ ที่ควรพฒั นา
1. หลักสูตรควรหาแนวทางในการติดตามประเมินผเู้ รียนเพอื่ ให้นักศกึ ษาสามารถจบการศึกษาได้ตามระยะเวลาที่
หลกั สตู รกำหนด

วธิ ปี ฏิบัตทิ ดี่ ี / นวตั กรรม (ถ้ามี)
*วธิ ีปฏิบตั ิทดี่ ี หมายถึง วธิ กี ารปฏบิ ตั ิหรือขั้นตอนการปฏบิ ตั ทิ ท่ี ำให้สถาบนั ประสบความสำเรจ็ หรือสู่ความ
เปน็ เลิศตามเปา้ หมาย เปน็ ทย่ี อมรับในวงวชิ าการหรือวชิ าชพี นนั้ ๆ มหี ลกั ฐานปรากฏชดั เจน โดยมีการสรปุ
วิธกี ารปฏบิ ตั ิหรือขนั้ ตอนการปฏิบตั ิ ตลอดจนความรู้ ประสบการณ์ บันทกึ เป็นเอกสาร เผยแพรใ่ ห้
หนว่ ยงานภายในหรือภายนอกสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หมายเหตุ :
ผปู้ ระเมินควรจะแสดงรายละเอียดที่ชดั เจน เพ่ือมหาวิทยาลยั จะได้นำไปเผยแพร่แนวปฏิบตั ทิ ี่และกจิ กรรม
แลกเปล่ียนเรียนรู้

ส่วนท่ี 3 ผลประเมนิ คุณภาพหลักสูตร

3.1 องค์ประกอบท่ี 1 การกำกบั มาตรฐาน

ข้อที่ ผา่ น ระบเุ หตุผล
/ไมผ่ า่ น กรณที ไี่ ม่ผา่ นเกณฑ์การ
ข้อ เกณฑ์ ประเมนิ ผ่าน
() ประเมนิ
ผา่ น
1 • จำนวนอาจารยผ์ ้รู ับผิดชอบหลกั สตู ร ไมน่ ้อยกวา่ 3 คนและเป็น 
ผา่ น
อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสูตร เกนิ กว่า 1 หลกั สตู รไมไ่ ด้และ

ประจำหลักสตู รตลอดระยะเวลาที่จัดการศกึ ษาตามหลกั สตู รนัน้

รายละเอียด

2 • คณุ สมบัตขิ องอาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบหลักสตู ร มคี ณุ วฒุ ิปรญิ ญา 

เอกหรอื เทียบเท่าหรือข้นั ต่ำปริญญาโทหรอื เทียบเทา่ ที่มี

ตำแหน่งศาสตราจารย์ขน้ึ ไป

• และมผี ลงานทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปีย้อนหลงั

โดยอยา่ งนอ้ ย 1 รายการตอ้ งเป็นผลงานวจิ ยั

3 • คุณสมบตั ขิ องอาจารย์ประจำหลกั สูตร มคี ณุ วฒุ ิปริญญาเอก 

5

ขอ้ เกณฑ์ ขอ้ ท่ี ผา่ น ระบเุ หตุผล
ประเมิน /ไมผ่ า่ น กรณที ีไ่ มผ่ ่านเกณฑ์การ
หรือเทยี บเทา่ หรือขน้ั ต่ำปริญญาโทหรอื เทียบเทา่ ที่มตี ำแหน่ง ()
รองศาสตราจารย์ ประเมนิ

• และมผี ลงานทางวชิ าการอยา่ งน้อย 3 รายการใน 5 ปีย้อนหลงั  ผา่ น
โดยอยา่ งน้อย 1 รายการต้องเปน็ ผลงานวจิ ัย
NA
4 • คุณสมบัตขิ องอาจารยผ์ สู้ อน ทีเ่ ปน็ อาจารย์ประจำ มคี ณุ วุฒิ
ปรญิ ญาเอกหรือเทยี บเทา่ หรอื ข้ันตำ่ ปริญญาโทหรอื เทียบเท่าท่ี  ผา่ น
มตี ำแหน่งรองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาน้นั หรอื สาขาวชิ าท่ี
สมั พนั ธก์ นั หรือสาขาวชิ าของรายวชิ าท่ีสอน  ผา่ น

• และตอ้ งมีประสบการณด์ ้านการสอนและมผี ลงานทางวชิ าการ
อยา่ งนอ้ ย 1 รายการใน 5 ปียอ้ นหลงั รายละเอียด

5 • คณุ สมบัตขิ อง อาจารยผ์ สู้ อน ที่เปน็ อาจารยพ์ เิ ศษ (ถา้ มี) มี
คุณวุฒิปรญิ ญาเอกหรือเทยี บเท่าหรอื ขนั้ ตำ่ ปรญิ ญาโทหรือ
เทยี บเท่าท่ีมีตำแหนง่ รองศาสตราจารย์ในสาขาวชิ าน้ันหรือ
สาขาวิชาท่สี ัมพนั ธ์กนั หรือสาขาวชิ าของรายวิชาท่ีสอน และ
ตอ้ งมีประสบการณด์ ้านการสอน

• และมผี ลงานทางวชิ าการอยา่ งน้อย 1 รายการใน 5 ปยี อ้ นหลงั
มชี ่ัวโมงสอนไมเ่ กินรอ้ ยละ 50 ของรายวิชา โดยมีอาจารย์
ประจำเป็นผรู้ บั ผดิ ชอบรายวิชานนั้

6 • คุณสมบัติของอาจารย์ท่ปี รึกษาวทิ ยานพิ นธห์ ลักและอาจารย์ท่ี
ปรกึ ษาการค้นควา้ อสิ ระ
1. เป็นอาจารยป์ ระจำหลักสตู รทม่ี ีคุณวุฒปิ รญิ ญาเอกหรอื
เทียบเท่า หรอื ขนั้ ตำ่ ปริญญาโทหรอื เทียบเท่าและดำรง
ตำแหนง่ ทางวิชาการไมต่ ่ำกวา่ รองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชา
นั้นหรอื สาขาวิชาทีส่ มั พันธ์กัน และ
2.มีผลงานทางวชิ าการอย่างน้อย 3 รายการใน 5 ปยี อ้ นหลงั
โดยอยา่ งนอ้ ย 1 รายการต้องเป็นผลงานวจิ ัย

7 • คณุ สมบตั ขิ องอาจารยท์ ่ปี รกึ ษาวทิ ยานิพนธร์ ว่ ม (ถ้ามี) กรณี
เป็นอาจารย์ประจำต้องมคี ณุ วุฒิปรญิ ญาเอกหรือเทียบเท่า หรอื
ขน้ั ต่ำปริญญาโทหรือเทียบเทา่ และดำรงตำแหน่งทางวชิ าการไม่
ตำ่ กว่ารองศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ าน้นั หรอื สาขาวชิ าท่ี
สมั พนั ธ์กนั และมผี ลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการใน 5
ปีย้อนหลัง โดยอยา่ งน้อย 1 รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวจิ ยั

• หรือ กรณี เปน็ ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิภายนอก 1. มีคณุ วุฒิปริญญาเอก

6

ข้อ เกณฑ์ ข้อท่ี ผ่าน ระบเุ หตุผล
ประเมิน /ไมผ่ ่าน กรณีท่ไี มผ่ ่านเกณฑก์ าร
หรอื เทยี บเทา่ และมผี ลงานทางวชิ าการท่ไี ดร้ ับการตพี มิ พ์ ()
เผยแพร่ในระดับนานาชาติ ซ่ึงตรงหรือสมั พันธก์ ับหวั ข้อ NA ประเมิน
วทิ ยานพิ นธ์หรือการคน้ คว้าอสิ ระไมน่ ้อยกวา่ 5 เรอ่ื ง หากไม่มี NA NA
คณุ วฒุ ิหรอื ประสบการณต์ ามท่ีกำหนดจะต้องมคี วามรคู้ วาม NA
เช่ียวชาญและประสบการณส์ ูงเปน็ ทีย่ อมรบั ซึง่ ตรงหรือสัมพนั ธ์ ผ่าน
กบั หวั ข้อวทิ ยานิพนธห์ รอื การคน้ ควา้ อสิ ระ โดยผ่านการ  ผา่ น
เหน็ ชอบของสภาสถาบนั และแจ้ง กกอ ทราบ 
8 • อาจารยผ์ สู้ อบวทิ ยานพิ นธ์ ประกอบด้วย อาจารย์ประจำ
หลกั สตู รและผู้ทรงคุณวฒุ จิ ากภายนอกไม่นอ้ ยกวา่ 5 คน
ประธานผสู้ อบวทิ ยานิพนธต์ อ้ งเปน็ ผ้ทู รงคุณวุฒิจากภายนอก
9 • คณุ สมบัติอาจารยผ์ ูส้ อบวทิ ยานพิ นธ์ กรณี เป็นอาจารยป์ ระจำ
หลักสตู รต้องมคี ณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอกหรอื เทียบเท่า หรอื ขน้ั ตำ่
ปริญญาโทหรอื เทยี บเทา่ และดำรงตำแหนง่ ทางวชิ าการไมต่ ่ำ
กวา่ รองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชานนั้ หรอื สาขาวชิ าที่สมั พนั ธ์
กนั และมผี ลงานทางวิชาการอย่างนอ้ ย 3 รายการใน 5 ปี
ย้อนหลงั โดยอยา่ งนอ้ ย 1 รายการตอ้ งเป็นผลงานวจิ ยั หรอื

• กรณี เปน็ ผูท้ รงคณุ วุฒิภายนอก 1. มีคุณวฒุ ิปรญิ ญาเอกหรือ
เทียบเท่าและมผี ลงานทางวิชาการท่ไี ดร้ ับการตพี มิ พเ์ ผยแพรใ่ น
ระดบั นานาชาติ ซง่ึ ตรงหรอื สมั พนั ธ์กับหวั ข้อวิทยานิพนธ์หรือ
การค้นควา้ อสิ ระไม่น้อยกวา่ 5 เรอ่ื ง หากไมม่ ีคณุ วฒุ ิหรือ
ประสบการณต์ ามทีก่ ำหนดจะตอ้ งมคี วามรคู้ วามเชี่ยวชาญและ
ประสบการณ์สูงเป็นท่ยี อมรบั ซง่ึ ตรงหรือสัมพันธ์กบั หวั ขอ้
วทิ ยานิพนธ์หรือการคน้ ควา้ อสิ ระ โดยผา่ นการเห็นชอบของ
สภาสถาบันและแจง้ กกอ ทราบ

10 • การตพี ิมพ์เผยแพรผ่ ลงานของผสู้ ำเร็จการศกึ ษา
-กรณี แบบ 1 ต้องไดร้ บั การยอมรบั ใหต้ ีพมิ พ์ในวารสาร
ระดบั ชาตหิ รอื นานาชาติทม่ี คี ณุ ภาพตามประกาศของ กกอ.
อยา่ งน้อย 2 เรอ่ื ง
-กรณี แบบ 2 ต้องไดร้ ับการยอมรบั ใหต้ พี มิ พใ์ นวารสาร
ระดบั ชาตหิ รือนานาชาตทิ มี่ คี ุณภาพตามประกาศของ กกอ.

11 • ภาระงานอาจารยท์ ีป่ รกึ ษาวทิ ยานพิ นธแ์ ละการคน้ ควา้ อสิ ระใน
ระดับบณั ฑติ ศึกษา วิทยานพิ นธ์
-อาจารยค์ ณุ วุฒปิ ริญญาเอก 1 คน ตอ่ นักศึกษา 5 คน การ

7

ข้อที่ ผ่าน ระบเุ หตผุ ล
/ไมผ่ ่าน กรณที ่ีไมผ่ า่ นเกณฑก์ าร
ข้อ เกณฑ์ ประเมนิ
() ผา่ น ประเมิน
10
คน้ ควา้ อสิ ระ ผลการประเมนิ
 หลกั สตู รได้มาตรฐาน
-อาจารย์คณุ วฒุ ิปริญญาเอก 1 คน ตอ่ นกั ศกึ ษา 15 คน หาก

เปน็ ทปี่ รึกษาทง้ั 2 ประเภทใหเ้ ทยี บสัดส่วนนักศึกษาทที่ ำ

วทิ ยานิพนธ์ 1 คนเทียบเทา่ กับ นกั ศึกษาทีค่ น้ ควา้ อสิ ระ 3 คน

-หากอาจารยค์ ณุ วุฒปิ รญิ ญาเอกและมตี ำแหน่งทางวชิ าการหรือ

ปรญิ ญาโทและตำแหน่งทางวิชาการระดับรองศาสตราจารยข์ นึ้

ไป 1 คน ต่อนกั ศึกษา 10 คน

-หากอาจารย์คณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอกและมตี ำแหนง่ ทางวิชาการ

ระดบั ศาสตราจารยข์ น้ึ ไป ไม่เกนิ 15 แตต่ ้องไดร้ บั การอนุมตั ิ

จาก กกอ.

12 • การปรับปรงุ หลักสตู รตามรอบระยะเวลาของหลักสตู รหรอื ทุก 

รอบ 5 ปี

จำนวนขอ้ ทีป่ ระเมนิ 10

จำนวนข้อท่ผี า่ นการประเมนิ

หมายเหตุอื่นๆ (ถา้ มี)

3.2 จุดเด่นและโอกาสในการพัฒนาองค์ประกอบที่ 1
(1) ขอ้ เสนอแนะเพอื่ การปรบั ปรุงหลกั สูตรให้เปน็ ไปตามมาตรฐาน โดยครอบคลุมประเดน็
การตรวจสอบ ประเมนิ ให้หลักสตู รมีมาตรฐานอยา่ งตอ่ เนอ่ื งและย่ังยนื
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
(2) แนวปฏบิ ตั ทิ ดี่ /ี นวตั กรรม/ผลงานโดดเด่น (ถา้ ม)ี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3.3 ผลการประเมินรายองค์ประกอบ (องค์ประกอบท่ี 2-6)

จุดเดน่ โอกาสในการพฒั นา

องค์ประกอบที่ 2 บัณฑติ องค์ประกอบที่ 2 บณั ฑิต

1.- 1.-

องค์ประกอบท่ี 3 นกั ศึกษา องคป์ ระกอบที่ 3 นกั ศึกษา
3.1 การรับนกั ศกึ ษา 3.1 การรับนักศึกษา

8

จดุ เด่น โอกาสในการพัฒนา
1.- 1.-
3.2 การส่งเสริมและพฒั นานกั ศกึ ษา 3.2 การสง่ เสริมและพัฒนานกั ศกึ ษา
1.- 1.-
3.3 ผลทีเ่ กิดกบั นักศึกษา 3.3 ผลท่ีเกิดกบั นกั ศึกษา
1.- 1. หลกั สูตรควรหาแนวทางในการติดตามประเมินผเู้ รียน
เพื่อให้นกั ศึกษาสามารถจบการศึกษาได้ตามระยะเวลาที่
องค์ประกอบท่ี 4 อาจารย์ หลกั สูตรกำหนด
4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์ 2. หลักสูตรควรทำการทบทวนผลการประเมินความพึง
1.- พอใจของนกั ศกึ ษาดา้ นการพฒั นานักศึกษา เนือ่ งจากมี
ผลประเมนิ ต่ำกว่า 3.5
4.2 คุณภาพอาจารย์ องคป์ ระกอบท่ี 4 อาจารย์
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสตู รและอาจารย์ประจำ 4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์
หลักสูตร มคี ณุ วุฒสิ งู และมีตำแหน่งทางวชิ าการ 1. อาจารย์ผูร้ บั ผิดชอบหลักสตู รปจั จุบนั ควรมสี ่วนรว่ มใน
4.3 ผลทีเ่ กดิ ข้นึ กับอาจารย์ การบริหารหลักสตู รปรบั ปรงุ พ.ศ. 2565 ซ่ึงรวมทุก
1.- สาขาวชิ าไวใ้ นหลกั สตู รปริญญาเอก (นานาชาต)ิ ของ
คณะเกษตรศาสตร์
องคป์ ระกอบที่ 5 หลักสตู ร การเรียนการสอน การ 4.2 คณุ ภาพอาจารย์
ประเมนิ ผเู้ รียน 1. หลักสูตรควรสง่ เสริมให้อาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลักสูตร
5.1 สาระของรายวชิ าในหลักสตู ร มบี ทความวิจยั ตีพิมพเ์ พ่มิ มากขน้ึ
1.- 4.3 ผลท่เี กิดขึน้ กบั อาจารย์
1. หลักสูตรควรทำการวิเคราะห์ความพึงพอใจของ
อาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบหลักสตู ร ซึง่ มคี ่าคะแนนตำ่ กวา่ 3.5
องคป์ ระกอบท่ี 5 หลักสตู ร การเรยี นการสอน การ
ประเมนิ ผูเ้ รยี น
5.1 สาระของรายวชิ าในหลักสตู ร
1.-

5.2 การวางระบบผสู้ อนและกระบวนการจดั การเรยี น 5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียน

การสอน การสอน

1.- 1.-

5.3 การประเมนิ ผเู้ รียน 5.3 การประเมินผเู้ รยี น

1.- 1. หลักสูตรควรอำนวยความสะดวกใหผ้ ู้เรยี นเข้าถงึ แบบ

ประเมนิ หรอื กระบวนการประเมินได้สะดวกขึน้

5.4 ผลการดำเนนิ งานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐาน 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลักสตู รตามกรอบมาตรฐาน

9

จุดเดน่ โอกาสในการพฒั นา
คณุ วุฒิระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ คุณวุฒริ ะดับอุดมศกึ ษาแหง่ ชาติ
1.- 1.-
องคป์ ระกอบท่ี 6 สงิ่ สนับสนุนการเรยี นรู้ องค์ประกอบท่ี 6 ส่งิ สนับสนุนการเรียนรู้
1.- 1.-

3.4 (ตัวชีว้ ดั ที่ 5.4) ผลการดำเนินงานหลกั สูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ

ข้อ เกณฑ์ ผา่ น ระบเุ หตุผล
/ไม่ กรณีที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
ผา่ น

1 อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลกั สูตรอย่างนอ้ ยรอ้ ยละ 80 ผ่าน

มีส่วนรว่ มในการประชุมเพอ่ื วางแผน ติดตาม และ

ทบทวนการดำเนนิ งานหลักสูตร

2 มีรายละเอียดของหลักสตู ร ตามแบบ มคอ.2 ท่ี ผ่าน

สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคณุ วุฒแิ หง่ ชาติ หรือ

มาตรฐานคณุ วฒุ ิสาขา/สาขาวชิ า (ถ้ามี)

3 มรี ายละเอยี ดของรายวชิ า และรายละเอียดของ ผ่าน

ประสบการณภ์ าคสนาม (ถา้ มี) ตามแบบ มคอ.3 และ

มคอ.4 อยา่ งน้อยกอ่ นการเปิดสอนในแตล่ ะภาค

การศกึ ษาใหค้ รบทกุ รายวชิ า

4 จัดทำรายงานผลการดำเนนิ การของรายวิชา และ ผ่าน

รายงานผลการดำเนนิ การของประสบการณภ์ าคสนาม

(ถา้ มี) ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วนั

หลังส้ินสดุ ภาคการศกึ ษาที่เปดิ สอนใหค้ รบทกุ รายวชิ า

5 จัดทำรายงานผลการดำเนนิ การของหลักสูตร ตามแบบ ผา่ น

มคอ.7 ภายใน 60 วนั หลงั สิ้นสดุ ปีการศึกษา

6 มกี ารทวนสอบผลสัมฤทธ์ิของนกั ศกึ ษาตามมาตรฐาน ผา่ น

ผลการเรยี นรู้ ทกี่ ำหนดใน มคอ.3 และมคอ.4 (ถา้ มี)

อย่างน้อยรอ้ ยละ 25 ของรายวชิ าทีเ่ ปดิ สอนในแตล่ ะปี

การศกึ ษา

7 มกี ารพฒั นา/ปรบั ปรุงการจดั การเรียนการสอน กลยุทธ์ ผา่ น

การสอน หรือ การประเมินผลการเรยี นรู้ จากผลการ

ประเมนิ การดำเนนิ งานทร่ี ายงานใน มคอ.7 ปที แ่ี ลว้

8 อาจารย์ใหม่ (ถา้ มี) ทุกคน ได้รับการปฐมนิเทศหรือ ผา่ น

10

ขอ้ เกณฑ์ ผ่าน ระบุเหตุผล
/ไม่ กรณที ีไ่ มผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ
ผ่าน

คำแนะนำดา้ นการจัดการเรียนการสอน

9 อาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลกั สูตรทุกคนไดร้ ับการพฒั นา ผ่าน

ทางวชิ าการ และ/หรอื วชิ าชีพ อยา่ งนอ้ ยปลี ะหน่งึ ครงั้

10 จำนวนบคุ ลากรสนบั สนุนการเรยี นการสอน (ถา้ ม)ี NA

ได้รับการพัฒนาวชิ าการ และ/หรอื วชิ าชีพ ไมน่ ้อยกวา่

ร้อยละ 50 ต่อปี

11 ระดบั ความพงึ พอใจของนกั ศกึ ษาปสี ดุ ท้าย/บัณฑติ ใหม่ ผ่าน

ทมี่ ีตอ่ คุณภาพหลักสตู ร เฉล่ยี ไมน่ อ้ ยกว่า 3.50 จาก

คะแนนเต็ม 5.0

12 ระดับความพงึ พอใจของผใู้ ช้บณั ฑิตทม่ี ีตอ่ บัณฑติ ใหม่ ผา่ น

เฉลี่ยไมน่ อ้ ยกวา่ 3.50 จากคะแนนเตม็ 5.0

จำนวนข้อท่ีประเมนิ 11

จำนวนข้อท่ผี ่านการประเมิน 11 คิดเป็นรอ้ ยละ 100

เกณฑก์ ารประเมิน
1. มีการดำเนินงานนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 มีคา่ คะแนนเทา่ กบั 0
2. มีการดำเนินงานร้อยละ 80 มีคา่ คะแนนเทา่ กับ 3.50
3. มกี ารดำเนนิ งานรอ้ ยละ 80.01-89.99 มีค่าคะแนนเท่ากับ 4.00
4. มกี ารดำเนนิ งานร้อยละ 90.00-94.99 มคี ่าคะแนนเท่ากับ 4.50
5. มกี ารดำเนนิ งานร้อยละ 95.00-99.99 มคี ่าคะแนนเทา่ กับ 4.75
6. มีการดำเนนิ งานรอ้ ยละ 100 มคี า่ คะแนนเทา่ กบั 5.00
หมายเหตุ ต้องผ่าน 5 ขอ้ แรกก่อน ถงึ จะพิจารณาค่าคะแนนท่ี 1-5 ได้

11

3.5 ผลการประเมินกระบวนการและรายละเอียดผลการตรวจประเมนิ กรณีมีการปรับลดหรอื เพิม่ คะแนน

ระดับคะแนน กรณุ าอธบิ ายเหตุผลเพ่ิมเตมิ

ตวั ชว้ี ดั IPO หลกั สตู ร กรรม กรณมี ีการปรับลดหรือเพม่ิ คะแนน
ประเมนิ การ 1. การปรบั ลดคะแนน
องค์ประกอบท่ี 3 นกั ศึกษา
1 3.1 การรบั นกั ศกึ ษา ตนเอง ประเมิน 2. มผี ลประเมินอยูใ่ นระดับ 3,4,5 คะแนน

P NA NA ปดิ รับนักศกึ ษาใหมต่ ง้ั แต่ปกี ารศึกษา 2562

2 3.2 การสง่ เสรมิ และพัฒนานักศกึ ษา P 3 3

องคป์ ระกอบท่ี 4 อาจารย์ P3 3
3 4.1 การบริหารและพฒั นาอาจารย์

องคป์ ระกอบท่ี 5 หลักสูตรการเรียนการสอน การประเมนิ ผเู้ รียน

4 5.1 สาระของรายวชิ าในหลกั สตู ร P3 3

5 5.2 การวางระบบผู้สอนและ P 3 3
กระบวนการจดั การเรียนการสอน 3 3

6 5.3 การประเมนิ ผเู้ รยี น P

7 5.4 ผลการดำเนนิ งานหลักสูตรตาม P5 5
กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ P3 2
ระดบั อุดมศกึ ษาแห่งชาติ

องคป์ ระกอบท่ี 6 สิ่งสนับสนุนการเรยี นรู้
8 6.1 สิง่ สนบั สนนุ การเรียนรู้

12

สว่ นที่ 4 สรปุ ผลการประเมนิ คะแนนในภาพรวม

ตัวชีว้ ดั IPO ระดับคะแนน หมายเหตุ

ประเมนิ กรรมการ กรณีหลักสูตรใหม่ TQF
ยงั ไม่มีบณั ฑติ จบ จะไม่
ตนเอง ประเมนิ ประเมนิ 2 ตวั ชี้วัดนี้
แต่ถ้าเปน็ หลักสูตร
องค์ประกอบท่ี 1 การกำกับมาตรฐาน ปรบั ปรงุ (ซ่งึ ไมใ่ ช่
หลกั สตู รใหม)่ จะวัดผล
1 1.1 การบริหารจัดการหลักสูตรตามเกณฑม์ าตรฐาน ผา่ น ผา่ น การดำเนินงานของ
บณั ฑติ หลกั สตู รเดิมที่
หลักสตู รท่ีกำหนดโดย สกอ. จบการศึกษาตาม
หลกั สูตรเดิม)
องคป์ ระกอบท่ี 2 บณั ฑิต
รายงานครบทกุ เรอ่ื ง แต่
2 2.1 คุณภาพบณั ฑติ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ O 5.00 5.00 ไมม่ เี รอื่ งไหนทม่ี ี
แนวโน้มดีขนึ้
ระดบั อดุ มศกึ ษาแห่งชาติ

3 2.2 ปรญิ ญาเอก ผลงานของนกั ศึกษาและผสู้ ำเรจ็ การศึกษา O 5 5

ในระดบั ปรญิ ญาเอกทไี่ ดร้ ับการตพี มิ พ์หรอื เผยแพร่

องคป์ ระกอบท่ี 3 นักศึกษา P NA NA
4 3.1 การรับนกั ศกึ ษา P3 3
5 3.2 การสง่ เสรมิ และพฒั นานักศกึ ษา O3 2
6 3.3 ผลทเี่ กดิ กบั นักศึกษา

องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์ P 3 3
7 4.1 การบริหารและพฒั นาอาจารย์ I 5 5
8 4.2 คณุ ภาพอาจารย์ 100 100
O
- รอ้ ยละของอาจารย์ผรู้ บั ผดิ ชอบหลักสตู รทมี่ ีคณุ วฒุ ิ 100 100
ปริญญาเอก
113.33 113.33
- รอ้ ยละอาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลกั สตู รทด่ี ำรงตำแหนง่ 5 (2.67) 5
วิชาการ
3 3
- ผลงานวชิ าการของอาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบ
- จำนวนบทความของอาจารยผ์ ูร้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรที่

ได้รบั การอา้ งอิงในฐานขอ้ มูล TCI และ Scopus ตอ่
จำนวนอาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลักสตู ร
9 4.3 ผลทีเ่ กดิ กบั อาจารย์
องค์ประกอบที่ 5 หลกั สตู รการเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน

13

ตัวชวี้ ดั IPO ระดับคะแนน หมายเหตุ

ประเมนิ กรรมการ

ตนเอง ประเมนิ

10 5.1 สาระของรายวชิ าในหลกั สตู ร P3 3

11 5.2 การวางระบบผสู้ อนและกระบวนการจัดการเรยี นการ P 3 3

สอน

12 5.3 การประเมินผเู้ รยี น P3 3

13 5.4 ผลการดำเนินงานหลกั สตู รตามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิ p 5 5

ระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ

องค์ประกอบท่ี 6 ส่งิ สนบั สนุนการเรยี นรู้

14 6.1 สง่ิ สนบั สนนุ การเรยี นรู้ P3 2 ยังไม่พบกระบวนการ

ทบทวนเพอ่ื ปรับปรุง

อย่างชัดเจน

รวมคะแนน 3.67 3.50

หมายเหตุ

1.ตัวชว้ี ัดไหน หลักสูตรใดไมไ่ ด้รบั การประเมนิ ใหต้ ดั ตวั ชว้ี ัดนนั้ ออก (ไม่นำมาคิดค่าคะแนน)

2.กองพฒั นาคุณภาพการศึกษาไดจ้ ัดทำโปรแกรม Excel ในการคำนวณคะแนน และสง่ ทางเมลให้กรรมการทกุ ท่าน

ทางอเี มล หรือตดิ ต่อ โทร 48707-9

ระดบั คุณภาพ

คะแนนระดบั หลักสูตร = 0 หมายถึง หลักสูตรไมไ่ ดม้ าตรฐาน

คะแนนระดบั หลกั สตู ร = 0.01-5.00 หมายถึง หลักสตู รเปน็ ไปตามมาตรฐานและมรี ะดับคณุ ภาพตามคะแนนที่ได้ดงั นี้

คะแนน ระดับคณุ ภาพ

0.01-2.00 นอ้ ย

2.01-3.00 ปานกลาง

3.01-4.00 ดี

4.01-5.00 ดมี าก

14

รายงานผลการตรวจประเมินคุณภาพภายใน
ประจำปกี ารศกึ ษา 2564

(ระหวา่ งวนั ท่ี 1 สิงหาคม 2564 – 31 กรกฎาคม 2565)

หลักสูตรปรชั ญาดุษฎีบัณฑติ สาขาวิชาการประมง
คณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น

วนั ที่ 29 กันยายน 2565

(ระดบั ปริญญาเอก)
1

รายชือ่ คณะกรรมการ

ลำดบั รายชื่อคณะกรรมการ ตำแหน่ง สังกัดหลักสูตร/สาขา คณะ

1 ผศ.ดร.คณิต ชคู ันหอม ประธาน อายุศาสตร์ปศสุ ัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์

2 รศ.ดร.ยศ บริสทุ ธ์ิ กรรมการ การส่งเสริมและพฒั นาการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์

3 รศ.ดร.วิลาวณั ย์ ชมนิรัตน์ กรรมการ การพยาบาลครอบครวั และชุมชน คณะพยาบาลศาสตร์

กรุณาระบุข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน กองพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาจะบนั ทกึ รายช่อื ผตู้ รวจประเมินทท่ี ำหน้าที่ตรวจ

ประเมนิ แตล่ ะหลักสูตรเพ่ือจัดเกบ็ เป็นฐานขอ้ มูลผตู้ รวจประเมินและผทู้ ำหนา้ ที่ตรวจประเมนิ หลักสตู ร

มหาวิทยาลยั ขอนแก่น

ส่วนท่ี 1 บทนำ

1.1 ข้อมูลของหลักสตู รโดยสงั เขป/ประวัตคิ วามเป็นมาของหลักสูตร

รหสั หลักสตู ร 01062436

ระดับคณุ วฒุ ิ ปรญิ ญาเอก

ปที ่ีเปิดสอน ภาคการศึกษาท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2560 เป็นตน้ ไป

ปที ่ปี รับปรุง (ทุกรอบ 5 ป)ี ปรบั ปรงุ ลา่ สดุ ปกี ารศกึ ษา 2560

ปรบั ปรุงรอบ 5 ปี ในปกี ารศกึ ษา 2565

สภามหาวทิ ยาลัยอนุมตั ิ วันท่ี 8 เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2560 การประชุมครั้งที่ 8/2560

สกอ.รับทราบ วนั ท่ี 6 เดอื นมกราคม ปี พ.ศ. 2564

สถานทจ่ี ดั การเรยี นการสอน คณะเกษตรศาสตร์

(ระบุในสว่ นท่ีเกย่ี วข้อง) 123 ถนนมติ รภาพ ตำบลในเมอื ง อำเภอเมือง จงั หวัดขอนแก่น 40002

วันท่ีรายงาน รายงานเม่ือวนั ท่ี 23 กนั ยายน 2565
ปกี ารศึกษาที่รายงาน ปีการศึกษา 2564

ประวตั ิความเปน็ มาของหลักสตู ร

หลักสูตรปรชั ญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการประมง เป็นหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560 โดยเริ่มเปิดภาคเรียนที่
1 ปีการศึกษา 2560 เปน็ ตน้ ไป ซึง่ สภามหาวทิ ยาลัยอนมุ ตั ิหลักสูตร เมื่อวันที่ 8 เดือนสิงหาคม 2560 จากน้ันได้เสนอ
ไปยังสำนกั งานคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา เพือ่ พจิ ารณาหลกั สตู รต่อไป

ปรัชญา
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการประมง (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการ
ผลิตดษุ ฎีบัณฑิตใหม้ ีความรูค้ วามเขา้ ใจอย่างลกึ ซึง้ ในหลักการและทฤษฎีในสาขาวชิ าการประมง ท่มี คี วามสามารถใน
การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ขอ้ มูลและแก้ไขปัญหาในด้านการประมงและสามารถทำงานวิจัยใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์
มีความสามารถในการสร้างสรรค์ วางแผน และดำเนินการทำวิจัยหรือปฏิบัติงานในสาขาวิชาชีพได้ โดยการมีการ

2

เช่ือมโยงความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ นำมาประยุกต์ให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่หรือวิธีการปฏิบัติงาน
ใหม่ในสาขาวิชาได้ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณตามหลักวิชาการและวิชาชีพ และมีภาวะผู้นำในการ
ส่งเสริมใหม้ กี ารประพฤตปิ ฏิบัตติ นอยา่ งมคี ุณธรรม และจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการและวชิ าชีพ ตลอดจน
สามารถสอื่ สารและถา่ ยทอดความร้ทู างวชิ าการสสู่ ังคมและอย่รู ว่ มกบั สงั คมได้

วตั ถุประสงคข์ องหลกั สตู ร

หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการประมง (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) มีวัตถุประสงค์เพ่ือผลิต
ดุษฎบี ณั ฑติ ทีม่ คี ณุ สมบัติดังน้ี

(1) มคี วามรู้ความเขา้ ใจอย่างลึกซึง้ ในหลักการและทฤษฎสี ำคัญในสาขาวิชาประมง และศาสตร์ในสาขาอน่ื ทีม่ ี
ความสัมพนั ธเ์ กี่ยวข้องกนั นำมาใช้ในการอธิบายปรากฏการณ์ที่ซบั ซอ้ นและพฒั นาความรใู้ นสาขาวชิ าทศี่ ึกษาได้

(2) มีความสามารถในวิจัยโดยบูรณาการองค์ความรู้ท้ังในมุมลึก และมุมกว้างเพื่อแก้ปัญหาทางวิชาการหรือ
การปฏิบัติงานหรือการปฏบิ ัติงานที่ซับซ้อน หรือการพัฒนาความรู้ใหมห่ รอื วธิ ีปฏิบัตงิ านใหม่ๆ ในสาขาวิชาประมงได้
อยา่ งมนี ัยสำคัญ

(3) มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสื่อสาร การใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ
และการจัดการสมัยใหม่ ทจ่ี ะนำไปสกู่ ารพฒั นาความรแู้ ละการนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ดใ้ นวงกวา้ ง

(4) มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการ/วิชาชีพ และมีภาวะผู้นำในการส่งเสริมให้มีการ
ประพฤตปิ ฏิบตั ติ นอย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวชิ าการและวิชาชพี

(5) มีความสามารถในการส่ือสารและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านการประมง
(6) มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น และมีความเป็นผู้นำ
(7) มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม และจริยธรรมในวิชาชีพ
หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการประมง (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560) มีวัตถุประสงค์เพ่ือผลิต
ดุษฎบี ัณฑติ ที่มีคณุ สมบัตดิ งั น้ี
(1) มีความรูค้ วามเขา้ ใจอย่างลกึ ซึง้ ในหลักการและทฤษฎสี ำคญั ในสาขาวิชาประมง และศาสตร์ในสาขาอน่ื ทีม่ ี
ความสัมพนั ธ์เกยี่ วขอ้ งกนั นำมาใชใ้ นการอธบิ ายปรากฏการณ์ทซ่ี ับซ้อนและพฒั นาความรูใ้ นสาขาวิชาทศี่ ึกษาได้
(2) มีความสามารถในวิจัยโดยบูรณาการองค์ความรู้ท้ังในมุมลึก และมุมกว้างเพ่ือแก้ปัญหาทางวิชาการหรือ
การปฏิบัติงานหรอื การปฏิบัติงานที่ซบั ซ้อน หรือการพัฒนาความรู้ใหม่หรือวธิ ีปฏิบัติงานใหม่ๆ ในสาขาวิชาประมงได้
อยา่ งมนี ยั สำคัญ
(3) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสื่อสาร การใช้คอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการจัดการสมัยใหม่ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาความร้แู ละการนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ในวงกวา้ ง
(4) มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการ/วิชาชีพ และมีภาวะผู้นำในการส่งเสริมให้มีการ
ประพฤติปฏิบัติตนอย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวชิ าการและวชิ าชีพ
(5) มีความสามารถในการส่ือสารและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านการประมง
(6) มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อ่ืน และมีความเป็นผู้นำ
(7) มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม และจริยธรรมในวิชาชีพ

การพัฒนาการเรียนการสอน

3