The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by noysupapt2541, 2022-03-05 01:24:39

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา 2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

รวมเล่มแผนม.4 เทอม 2 ชีววิทยา

แผนการจดั การเรียน

รายวชิ าชวี วทิ ยา (ว31242)
ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564

โรงเรียนอุดรพชิ ยั รกั ษ์พิทยา

นางสาวสุภาวิณี เพม่ิ ทอง
รหสั ประจำตัวนกั ศึกษา 60100147107

สาขาวชิ าวิทยาศาสตร์ (ชวี วิทยา)

การปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 2
รหัสวชิ า ED18501 (INTERNSHIP IN SCHOOL 2)

คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึ



คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับการสอน รายวิชาชีววิทยา เล่ม 2
ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ทเ่ี กิดจากวเิ คราะห์สภาพการจดั การเรียนการสอนเพ่ือวางแผนพัฒนาการ
เรียนการสอนเพื่อวางแผนพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ โดยทุกขั้นตอนได้คำปรึกษา
และตรวจสอบดแู ลอย่างใกลช้ ดิ จากู้เชีย่ วชาญดา้ นตา่ ง ๆ เปน็ อย่างดี

แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ได้รวบรวมข้อมูลคำอธิบายรายวิชา โครงสร้างหลักสูตรรายวิชา
กำหนดการสอนรายวิชาและแผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด
สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้สาระการเรียนรู้ ข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนแบบใช้ทักษะ
กระบวนการการสืบเสาะหาความรู้สื่อและแหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินล ซึ่งทุกชิ้นได้ผ่านการ
ตรวจสอบแลว้ เชน่ เดียวกนั

ขอขอบคุณ รองผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์พิทยา คุณครูวราภรณ์ เบ้าหล่อ
เพชร คุณครพู ี่เลยี้ ง คุณครูธรี พงษ์ พลสงู เนิน หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน คณะครูและบุคลากร ตลอดจนผู้ที่มีส่วนร่วมในการให้กำลังใจในการจัดทำทุก
ข้นั ตอน หวงั เป็นอย่างย่งิ ว่า สิง่ ท่ีดงี ามเหลา่ นี้จะเป็นประโยชนแ์ ละลดีต่อการพัฒนาผ้เู รียน พัฒนาการ
เรียนการสอนและพัฒนาการศึกษาต่อไป

นางสาวสุภาวณิ ี เพิม่ ทอง
นักศึกษาปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา

สาขาวิทยาศาสตร์ คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอดุ รธานี
2564

สารบญั ข

เรือ่ ง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
คำอธบิ ายรายวชิ า 1
โครงสร้างเวลาเรยี น รายวชิ าชวี วิทยาเพิม่ เตมิ 2 3
กำหนดการสอนโครงการสอนภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 7
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 โครโมโซมและสารพันธกุ รรม
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 20
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 33
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 56
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 4 74
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 90
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6 109
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 129
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8 160
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9 199
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 230
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 262
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 เทคโนโลยีทางดเี อ็นเอ
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 12 284
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 312
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 14 329
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 15 347
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 วิวฒั นาการ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 16 363
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17 380
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 18 399

สารบญั (ต่อ) ค

เร่ือง หน้า
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 19 415
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 20 430

1

ว31242 ชีววิทยา 1 คำอธิบายรายวิชา
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 3 คาบ/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาเกี่ยวกับโครโมโซม และสารพันธุกรรม โครงสร้างของ DNA การจําลอง DNA การ
ควบคุมลักษณะทางพันธกุ รรมของ DNA มิวเทชัน และการเกิดมวิ เทชัน ศึกษาการถ่ายทอดลักษณะ
ทางพนั ธกุ รรม การศึกษาพันธกุ รรมของเมนเดล การถา่ ยทอดยนื บนโครโมโซม ลกั ษณะทางพันธุกรรม
ท่เี ป็นสว่ นขยายของพันธุศาสตรเ์ มนเดล การถา่ ยทอดยืนบนโครโมโซมเพศ ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน
ศึกษาเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ พันธุวิศวกรรม และการโคลนยีน การหาขนาดของ DNA และการหา
ลําดับนิวคลีโอไทด์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอและเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ กับความ
ปลอดภัยทางชวี ภาพและชวี จริยธรรม ศกึ ษาเกีย่ วกบั ววิ ฒั นาการ หลักฐานและข้อมลู ทีใ่ ชใ้ นการศึกษา
วิวัฒนาการของสิ่งมชี ีวิต แนวคิดเกีย่ วกับวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวติ พันธุศาสตรป์ ระชากร ปัจจัยที่ทำ
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถีของแอลลีล และกําเนิดสปีชีส์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
การสืบเสาะหาความรู้ การสบื คน้ ข้อมลู การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรุป
เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์
รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา
ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรูและนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์
จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้

1. สบื คน้ ข้อมลู อธิบายสมบตั ิและหน้าท่ขี องสารพนั ธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทาง
เคมขี อง DNA และสรปุ การจำาลอง DNA

2. อธิบายและระบุขั้นตอนในกระบวนการสังเคราะหโ์ ปรตนี และหน้าท่ีของ DNA และ RNA
แต่ละชนดิ ในกระบวนการสงั เคราะห์ โปรตีน

3. สบื ค้นขอ้ มลู และอธิบายการเกิดมวิ เทชันระดบั ยนี และระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิว
เทชัน รวมท้งั ยกตัวอยา่ งโรคและกลุ่มอาการทีเ่ ป็นผลของการเกดิ มวิ เทชนั

4. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายและสรปุ ผลการทดลองของเมนเดล
5. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และ
เชอ่ื มโยงกับความรู้เรือ่ งพนั ธศุ าสตร์เมนเดล

2

6. อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมน
เดลนี้ไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์
และจีโนไทป์แบบตา่ ง ๆ ของรุ่น F1 และ F2

7. สบื คน้ ขอ้ มลู วิเคราะห์ อธบิ าย และสรุปเกยี่ วกับการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมท่ีเป็น
สว่ นขยายของพนั ธุศาสตร์เมนเดล

8. สืบคน้ ข้อมลู วิเคราะห์ และเปรยี บเทียบลกั ษณะทางพันธกุ รรมท่ีมีการแปรผันไม่ต่อเนื่อง
และลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่มี ีการแปรผนั ตอ่ เนื่อง

9. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคมุ
ดว้ ยยนี บนออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ

10. อธบิ ายหลกั การสร้างส่งิ มชี วี ติ ดดั แปรพนั ธกุ รรมโดยใชด้ เี อน็ เอรคี อมบิแนนท์
11. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนำเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ทั้งใน
ด้านสิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึงด้าน
ชีวจรยิ ธรรม
12. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิด
วิวฒั นาการของสง่ิ มีชีวติ
13. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์กและ
ทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการของส่ิงมชี วี ติ ของชาลส์ ดารว์ นิ
14. ระบุสาระสำคัญและอธบิ ายเงื่อนไขของภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี - ไวน์เบริ ์ก ปัจจัยที่ทำให้
เกิดการเปลี่ยนแปลงความถ่ีของแอลลีลในประชากร พร้อมทั้งคำนวณหาความถี่ของแอลลลี และจโี น
ไทปข์ องประชากรโดยใช้หลักของฮารด์ ี - ไวน์เบิร์ก
15. สืบคน้ ขอ้ มลู อภปิ ราย และอธิบายกระบวนการเกดิ สปชี สี ใ์ หม่ของสิ่งมชี ีวิต

รวมทั้งหมด 15 ผลการเรยี นรู้

รายวิชา ชวี วิทยา 2 รหัสวิชา ว31242 โครงสร้าง
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2
เวลา 60 ช่ัวโมง

ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้
หน่วย

4 โครโมโซมและสาร 1. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ขอ

พนั ธกุ รรม พันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมขี อง

และสรปุ การจำาลอง DNA

2. อธิบายและระบุขั้นตอนในกระบวนการสังเค

โปรตีนและหน้าที่ของ DNA และ RNA แต่ละช

กระบวนการสงั เคราะห์ โปรตนี

3. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระ

และระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชันร

ยกตัวอย่างโรคและกลุ่มอาการที่เป็นผลของกา

มิวเทชนั

5 การถ่ายทอดลักษณะ 4. สืบค้นข้อมูล อธิบายและสรุปผลการทดลอ
ทางพนั ธกุ รรม เมนเดล

3

งรายวิชา กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์
จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ง/ภาคเรยี น
เวลา คะแนน
สาระการเรียนรู้ (ชั่วโมง) (100)
องสาร - โครโมโซม 10
ง DNA - สารพนั ธกุ รรม 12

- สมบัตขิ องสารพนั ธกุ รรม
คราะห์ - มวิ เทชัน
ชนิดใน

ะดับยีน
รวมท้ัง
ารเกิด

องของ - การศกึ ษาพันธุกรรมของเมนเดล 15 20
- ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยาย
ของพนั ธุศาสตร์เมนเดล

ลำดับ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้
หน่วย

5. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แ

โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และเชื่อมโยงกับค

เรอื่ งพันธศุ าสตรเ์ มนเดล

6. อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและก

การรวมกลุ่มอย่างอิสระ และนำกฎของเมนเด

อธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมและ

การคำนวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์และจีโนไทป

ต่างๆ ของรนุ่ F1 และ F2

7. สืบคน้ ขอ้ มลู วิเคราะห์ อธิบาย และสรปุ เก่ยี วก

ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยา

พันธศุ าสตร์เมนเดล

8. สืบค้นขอ้ มูล วิเคราะห์ และเปรียบเทยี บลกั ษณ

พันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่องและลักษณ

พันธกุ รรมทม่ี ีการแปรผันตอ่ เน่อื ง

9. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม

ยกตวั อยา่ งลักษณะทางพนั ธกุ รรมที่ถกู ควบคุมด้วย

ออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ

สาระการเรียนรู้ 4

แอลลีล - ยนี บนโครโมโซมเดียวกัน เวลา คะแนน
ความรู้ (ชัว่ โมง) (100)

ฎแห่ง
ลนี้ไป
ะใช้ใน
ป์แบบ

กับการ
ายของ

ณะทาง
ณะทาง

ม และ
ยยีนบน

ลำดับ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้
หนว่ ย

6 เทคโนโลยที าง 10. อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธ

ดเี อน็ เอ โดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบแิ นนท์

11. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายก

เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ทั้งในด้านสิ่งแว

นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอตุ สาห

และข้อควรคำนึงถงึ ดา้ นชีวจรยิ ธรรม

7 วิวฒั นาการ 12. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับ หลัก
สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนากา
สงิ่ มชี วี ติ
13. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ย
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์กและท
เกย่ี วกับวิวัฒนาการของสง่ิ มีชีวติ ของชาลส์ ดารว์ ิน
14. ระบสุ าระสำคัญและอธบิ ายเงื่อนไขของภาวะ
ของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยน
ความถี่ของแอลลีลในประชากร พร้อมทั้งคำนว
ความถี่ของแอลลีลและจีโนไทปข์ องประชากรโดยใ
ของฮารด์ ี-ไวนเ์ บริ ก์

5

สาระการเรยี นรู้ เวลา คะแนน
(ช่วั โมง) (100)
ธุกรรม - พันธุวิศวกรรมและการโคลนยนี
- การหาขนาดของ DNA และการหาลำดับ 12 6

การนำ ของนิวคลีโอไทด์
วดล้อม - การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีทางดีเอน็ เอ
หกรรม - เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอกับความปลอดภัย

ทางชวี ภาพและชีวจริยธรรม

กฐานท่ี - หลักฐานและข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา 15 14
ารของ วิวัฒนาการของสง่ิ มชี ีวติ

- แนวคดิ เกี่ยวกบั ววิ ฒั นาการของส่งิ มชี ีวิต
ยวกับ - พันธุศาสตรป์ ระชากร
ทฤษฎี - ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปล่ียนแปลงความถี่

ของแอลลลี
ะสมดุล - กำเนดิ สปีชีส์
นแปลง
วณหา
ใช้หลกั

ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้
หน่วย

15. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายกระบว

เกดิ สปชี สี ใ์ หม่ของสงิ่ มชี วี ิต

สอบกลางภาค
สอบปลายภาค
รวมตลอดภาคเรียน

สาระการเรียนรู้ 6
วนการ
เวลา คะแนน
(ชว่ั โมง) (100)

3 20
3 20
54 100

กำหนดการสอนวชิ า

โรงเรยี นอุดรพชิ ัยรักษ์พิทยา

ภาคเรยี นท่ี 2 ปีก

รหสั วชิ า ว31242 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4

สปั ดาห์ หน่วยการเรียนร/ู้ สาระการเรยี นรู้ จำนวน ผลการเรยี นรู้
ท่ี (contents) ช่วั โมง

1 บทท่ี 4 โครโมโซม และสารพันธกุ รรม 3 สืบค้นข้อมูล อธิบายสม
เรื่อง โครโมโซม หนา้ ทีข่ องสารพันธกุ รรม

- รปู ร่าง ลกั ษณะ และจำนวน และองค์ประกอบทางเคม

โครโมโซม และสรปุ การจำลองดีเอ็นเ

- ส่วนประกอบของโครโมโซม

เรอ่ื ง สารพันธกุ รรม
- การค้นพบสารพันธุกรรม

- องคป์ ระกอบทางเคมขี อง DNA

- โครงสร้างของ DNA

7

าชวี วิทยาเพิม่ เติม 2

อำเภอเมอื ง จงั หวัดอุดรธานี

การศกึ ษา 2564

จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต เวลา 60 ช่ัวโมง

สาระการเรยี นรู้เพิม่ เติม จุดประสงค์การเรยี นรู้

มบัติและ  DNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลี 1. อธิบายโครงสร้างและองค์ประกอบ

โครงสรา้ ง โอไทด์ แตล่ ะนวิ คลี ของโครโมโซม และหลกั การจำแนก

มีของ DNA โอไทด์ ประกอบด้วย น้ำตาลดี โครโมโซมได้

เอ ออกซีไรโบส หมู่ฟอสเฟต และไน 2. เขียน/วาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และ

โตรจีนสั เบส คอื A T C และ G ส่วนประกอบของโครโมโซมได้

 โมเลกุลของ DNA เปน็ พอลิ 3. อธิบายโครงสร้างและองค์ประกอบ
นิวคลีโอไทด์ 2 สายเรียงสลับทิศ ทางเคมีของ DNA ได้
และบิดเป็นเกลียวเวียนขวา โดย 4. สร้างแบบจำลองโครงสร้าง DNA ได้
การเข้าคู่กันของสาย DNA เกิด 5. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ
จากการจับคู่ของเบสคู่สม คือ A มอบหมายได้
6. มีทักษะการสังเกต ทักษะการลง
คู่กบั T และ C คูก่ ับ G
ความเห็นจากข้อมูล การจัดกระทำและ

สื่อความหมายข้อมูล และการสร้าง

แบบจำลอง

สปั ดาห์ หน่วยการเรยี นร้/ู สาระการเรียนรู้ จำนวน ผลการเรียนรู้

ท่ี (contents) ชั่วโมง

2-3 บทท่ี 4 โครโมโซม และสารพนั ธุกรรม 6 อธิบายและระบุขั้น

เร่ือง สมบัติของสารพนั ธกุ รรม กระบวนการสงั เคราะห์โป

- การจำลองดีเอน็ เอ หน้าที่ของ DNA และ RN

- การควบคุมลักษณะทางพันธกุ รรม ชนิดในกระบวนการสัง

ของ DNA โปรตีน

8

สาระการเรียนรู้เพ่มิ เติม จดุ ประสงค์การเรียนรู้

น ต อ น ใ น  ยีน คอื สาย DNA บางชว่ งที่ 1. อธบิ าย และระบุขน้ั ตอนในกระบวน

ปรตีนและ ควบคุมลกั ษณะทางพันธกุ รรมได้ การสงั เคราะห์โปรตีนได้

NA แต่ละ โดยยนี กำหนดลำดบั กรดอะมิโน 2. อธบิ ายหน้าท่ีของ DNA และ RNA

งเคราะห์ ของโปรตีนซึ่งทำหน้าท่เี ป็น แตล่ ะชนดิ ในกระบวนการสังเคราะห์

โครงสร้าง เอนไซม์และอ่ืน ๆ มี โปรตนี ได้

ผลทำให้เซลล์และสิ่งมีชีวิ ต 3. แก้โจทย์ปัญหาการถอดรหัสและการ

ปรากฏลกั ษณะตา่ ง ๆ ได้ แปลรหัส

 DNA จำลองตัวเองได้โดยใช้ 4. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ

สายหนึ่งเป็นแม่แบบและสรา้ งอกี มอบหมายได้

สายขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะมีโครงสร้าง 5. มีทักษะการสังเกต ทักษะการลง

แ ล ะ ล ำ ด ั บ น ิ ว ค ล ี โ อ ไ ท ด์ ความเห็นจากข้อมูล การจัดกระทำและ

เหมือนเดิม สื่อความหมายข้อมูล และการสร้าง

 DNA คว บคุมลัก ษณะ ทาง แบบจำลอง

พันธกุ รรมของสง่ิ มชี ีวิตได้โดยการ

สรา้ ง RNA 3 ประเภท คอื mRNA

tRNA และ rRNA ซึ่งร่วมกันทำ

หน้าที่ในกระบวนการสังเคราะห์

โปรตนี

 RNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลี

โอไทด์สายเดี่ยว แต่ละนิวคลีโอ

ไทดป์ ระกอบด้วย น้ำตาลไรโบส

สปั ดาห์ หนว่ ยการเรียนรู้/สาระการเรยี นรู้ จำนวน ผลการเรียนรู้
ท่ี (contents) ช่วั โมง

4 บทท่ี 4 โครโมโซม และสารพันธุกรรม 3 สืบค้นข้อมลู และอธบิ ายก
เรอ่ื ง มวิ เทชัน เทชนั ระดบั ยีนและระดับโ
- มิวเทชันระดบั ยีน สาเหตุการเกิดมิวเทชัน รว
- มวิ เทชนั ระดบั โครโมโซม ยกตัวอย่างโรคและกลุ่มอ
เปน็ ผลของการเกดิ มวิ เทช

9

สาระการเรยี นรู้เพมิ่ เติม จุดประสงค์การเรียนรู้

หมฟู่ อสเฟต และไนโตรจีนัสเบส

คอื A U C และ G

การเกดิ มวิ การทำงานของโปรตีน ซึ่งถ้าการ 1. อธิบายสาเหตุ และผลของการเกิดมิว

โครโมโซม เปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดในเซลล์ เทชนั ระดบั ยนี และระดับโครโมโซม

วมทง้ั สืบพันธุ์ จะสามารถถ่ายทอดไป 2. ยกตัวอย่างโรคและกลุ่มอาการที่เปน็

อาการที่ ยังรุ่นต่อ ๆ ไปได้ และทำให้เกิด ผลของการเกิดมิวเทชันระดับยีนและ

ชนั ความแปรผันทางพันธุกรรมของ ระดับโครโมโซมได้

สิ่งมีชีวิต การเกิดมิวเทชันมี 3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุ และผล

สาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ของการเกดิ มวิ เทชนั ระดับยีนและระดบั

รงั สี และสารเคมี โครโมโซม โรคและกลุ่มอาการที่เป็นผล

 การขาดหายไปหรือเพิ่มขึ้นของ ของการเกดิ มิวเทชนั ระดับยีนและระดับ

นวิ คลีโอไทด์ และการแทนท่คี เู่ บส โครโมโซมได้

เป็นการเกิดมิวเทชันระดับยีน 4. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ

เช่น โรคโลหิตจางชนิดซิกเคิล มอบหมายได้

เซลล์ เป็นผลมาจากการแทนที่คู่ 5. มีทักษะการสังเกต การจัดกระทำและ

เบส สื่อความหมายข้อมูล และทักษะการลง

 การเปล่ียนแปลงโครงสรา้ งของ ความเหน็ จากข้อมลู

โครโมโซม เช่นหายไปหรอื เพิ่มขึ้น

บางส่วน และการเปลยี่ นแปลง

จำนวนโครโมโซม เช่น การลดลง

หรือเพิ่มขึน้ ของโครโมโซมบาง

สปั ดาห์ หน่วยการเรียนรู/้ สาระการเรยี นรู้ จำนวน ผลการเรยี นรู้
ท่ี (contents) ชั่วโมง

5-6 บทที่ 5 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม 6 สืบค้นข้อมูล อธิบาย แล

เร่ือง การศกึ ษาพันธกุ รรมของเมนเดล การทดลองของเมนเดล

- ศึกษาการถ่ายทอดลกั ษณะทาง

พนั ธกุ รรมโดยการผสมพันธุถ์ ่วั ลันเตา สรุปความสัมพันธ์ระห

- ความหมายและยกตัวอย่าง พันธุกรรม แอลลีล โปรตีน

ลกั ษณะเดน่ ลักษณะด้อย แอลลลี ฟีโนไทป์ ทางพันธุกรรม และเชื่อ

จีโนไทปฮ์ อมอไซกสั เฮเทอโรไซกสั ฮอมอ ความรู้เร่อื งพันธุศาสตรเ์ ม

ไซกสั โดมแิ นนท์ และฮอมอไซกสั รเี ซสสฟี

- กฎการแยก

- กฎการรวมกลุ่มอย่างอิสระ

- การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม

10

สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ จุดประสงค์การเรยี นรู้

แท่งหรอื ทง้ั ชุด เปน็ สาเหตุของ

การเกิดมวิ เทชันระดับโครโมโซม

เชน่ กลุ่มอาการคริดูชาต์และกลุม่

อาการดาวน์ กลุ่มอาการเทอร์

เนอร์และกลุม่ อาการไคลน์เฟล

เตอร์

ละสรุปผล  เมนเดลศึกษาการถ่ายทอด 1. อธบิ าย และสรุปผลการทดลองของ

ลักษณะทางพันธุกรรมโดยการ เมนเดลได้

ผสมพันธุ์ถั่วลันเตา จนสรุปเป็น 2. อธิบายความหมายและยกตัวอย่าง

หว่างสาร กฎแห่งการแยกและกฎแห่งการ ลักษณะเด่น ลักษณะด้อย แอลลีล ฟีโน

น ลกั ษณะ รวมกล่มุ อยา่ งอิสระ ไทป์ จีโนไทป์ฮอมอไซกัส เฮเทอโไซกัส

อมโยงกับ  กฎแห่งการแยกมีใจความว่า ฮอมอไซกัสโดมิแนนท์ และฮอมอไซกัสรี

มนเดล แอลลลี ทอี่ ย่เู ปน็ คู่จะแยกออกจาก เซสสฟี ได้

กันในระหว่างการสร้างเซลล์ 3. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสาร

สืบพันธุ์ โดยเซลล์สืบพันธุ์แต่ละ พันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทาง

เซลล์จะมีเพียงแอลลีลใดแอล พันธุกรรม และเชื่อมโยงกับความรู้เรื่อง

ลลี หนึง่ พันธุศาสตร์เมนเดล

 กฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ 4. เขียนการถ่ายทอดลักษณะพนั ธุกรรม

มีใจความว่าหลังจากคู่ของแอลลี ของถั่วลันเตาตามการทดลองของเมน

ลแยกออกจากกัน แต่ละแอลลีล เดลได้

จะจัดกลมุ่ อยา่ งอิสระกบั แอลลีล

สปั ดาห์ หนว่ ยการเรยี นรู้/สาระการเรยี นรู้ จำนวน ผลการเรียนรู้
ท่ี (contents)
ชว่ั โมง

อธบิ าย และสรุปกฎแหง่ ก

และกฎแหง่ การรวมกล่มุ อ

อิสระ และนำกฎของเมนเ

อธิบายการถา่ ยทอดลักษณ

พันธกุ รรมและใชใ้ นการค

โอกาสในการเกิดฟโี นไทป

ไทปแ์ บบต่าง ๆ ของรนุ่ F

7-8 บทท่ี 5 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม 6 สบื ค้นขอ้ มลู วเิ คราะห์ อธ

เรือ่ ง ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นสว่ น สรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอด

ขยายของพันธุศาสตรเ์ มนเดล ทางพันธุกรรมที่เป็นส่วน

- ความเด่นไม่สมบรู ณ์ พันธุศาสตรเ์ มนเดล

- ความเดน่ รว่ ม

- มัลตเิ พลิ แอลลีล สบื ค้นข้อมลู วเิ คราะห์ แล

- ลกั ษณะควบคุมด้วยยีนหลายคู่ เทยี บลักษณะทางพันธุกร

- การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ แปรผนั ไม่ตอ่ เนือ่ งและลัก

11

สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

การแยก อื่น ๆ ที่แยกออกจากคู่เช่นกันใน 5. อธบิ ายและสรุปกฎแหง่ การแยกและ

อย่าง การเข้าไปอยู่ในเซลลส์ ืบพันธุ์ กฎแห่งการรวมกลมุ่ อย่างอิสระ และนำ

เดลนี้ ไป โครโมโซมภายในเซลลร์ ่างกาย กฎของเมนเดลนไ้ี ปอธบิ ายการถา่ ยทอด

ณะทาง แบง่ เปน็ ออโตโซมและโครโมโซม ลักษณะทางพันธุกรรม และใชใ้ นการ

คำนวณ เพศ ลักษณะทางพันธุกรรมส่วน คำนวณโอกาสในการเกดิ ฟีโนไทป์และจี

ป์และจีโน ใหญ่ถูกควบคุมด้วยยีนบนออโต โนไทปแ์ บบตา่ งๆ ของร่นุ F1 และ F2

F1 และ F2 โซมบางลักษณะถูกควบคุมด้วย 6. เขียนจีโนไทป์และฟีโนไทป์จาก

ยีนบนโครโมโซมเพศ ซึ่งส่วนมาก สถานการณ์ที่กำหนดให้ได้

เปน็ ยนี บนโครโมโซม X 7. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ

มอบหมายได้

8. ทักษะการสังเกต การจัดกระทำและ

สื่อความหมายข้อมลู และทกั ษะการลง

ความเหน็ จากขอ้ มูล

ธิบาย และ  การถ่ายทอดลักษณะ ท าง 1. อธบิ ายและสรุปการถ่ายทอดลักษณะ

ดลักษณะ พ ั น ธ ุ ก ร ร ม บ า ง ล ั ก ษ ณ ะ ให้ ทางพันธุกรรมแบบความเด่นไม่สมบูรณ์

นขยายของ อัตราส่วนที่แตกต่างจากผล ความเด่นร่วม มัลติเพิลแอลลีล และ

การศึกษาของเมนเดล เรียก ลกั ษณะควบคุมด้วยยนี หลายคู่

ลักษณะเหล่านี้ว่า ลักษณะทาง 2. นำความรู้ไปใช้ในการหาโอกาสเกิด

ละเปรยี บ- พันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของ ลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่เป็น

รรมท่ีมีการ พันธุศาสตร์เมนเดล เช่น การข่ม ส่วนขยายของพันธศุ าสตรเ์ มนเดล

กษณะทาง ไมส่ มบรู ณ์ การขม่ รว่ มกัน มัลติ

สปั ดาห์ หน่วยการเรียนร้/ู สาระการเรียนรู้ จำนวน ผลการเรียนรู้
ท่ี (contents)
ช่ัวโมง

พนั ธกุ รรมท่ีมี การแปรผัน

9 บทท่ี 5 การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม 3 อ ธ ิ บ า ย ก า ร ถ ่ า ย ท อ ด

เรอื่ ง ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน โครโมโซม และยกตวั อย่า

ทางพันธุกรรมที่ถูกควบค

บนออโตโซมและยีนบนโ

เพศ

12

สาระการเรยี นรู้เพ่มิ เตมิ จุดประสงค์การเรียนรู้

นตอ่ เนื่อง เปิลแอลลีล ยีนบนโครโมโซมเพศ 3. เปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่

และพอลิยนี มีการแปรผนั ไมต่ อ่ เนอื่ งและลักษณะทาง

 ลักษณะพันธกุ รรมบางลักษณะ พนั ธกุ รรมที่มกี ารแปรผันตอ่ เน่ือง

มีความแตกต่างกันชัดเจน เช่น 4. เขียนการถ่ายทอดลกั ษณะพันธุกรรม

การมีติ่งหูหรือไม่มีติ่งหู ซึ่งเป็น ลักษณะต่าง ๆ เป็นส่วนขยายของพันธุ

ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการ ศาสตร์เมนเดลได้

แปรผนั ไม่ตอ่ เน่อื ง 5. รับผิดชอบต่อหนา้ ทแี่ ละงานท่ีได้รบั

 ลักษณะทางพันธุกรรมบาง มอบหมายได้

ลักษณะมีความแตกต่างกัน 6.มีทักษะการใชจ้ ำนวน ทักษะการลง

เล็กน้อยและลดหลั่นกันไป เช่น ความเห็นจากขอ้ มูล และทกั ษะการ

ความสูงและสีผิวของมนุษย์ถูก พยากรณ์

ควบคุมโดยยีนหลายคู่ซึ่งเป็น

ลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการ

แปรผันต่อเนื่อง และสิ่งแวดล้อม

อาจมผี ลต่อการแสดงลกั ษณะน้ัน

ด ย ี น บ น  เมอื่ มกี ารสร้างเซลลส์ บื พนั ธุ์ ยนี 1. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม

างลักษณะ บนโครโมโซมเดียวกันทอ่ี ยู่ใกล้กัน เดียวกัน และการเกิดครอสซิงโอเวอรใ์ น

คุมด้วยยีน มักจะถูกถ่ายทอดไปด้วยกันแต่ การแบ่งเซลลแ์ บบไมโอซสิ

โครโมโซม การเกดิ ครอสซงิ โอเวอร์ในการ 2. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม

แบ่งเซลลแ์ บบไมโอซิสอาจทาให้ และยกตัวอย่างลักษณะทางพนั ธกุ รรมท่ี

สปั ดาห์ หนว่ ยการเรียนรู้/สาระการเรยี นรู้ จำนวน ผลการเรยี นรู้
ท่ี (contents) ชั่วโมง

10 กลางภาค 3

11-12 บทที่ 6 เทคโนโลยีทางดเี อน็ เอ 4 อธิบายหลกั การสร้างส่ิงมีช
เร่อื ง พนั ธวุ ิศวกรรมและการโคลนยีน แปรพนั ธกุ รรมโดยใชด้ ีเอน็
- การโคลนยีนโดยใช้พลาสมิดของ บิแนนท์
แบคทเี รยี
- การเพิ่มจำนวน DNA ดว้ ย
เทคนิค PCR

13

สาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ยีนบนโครโมโซมเดียวกนั แยก ถกู ควบคมุ ดว้ ยยีนบนออโตโซมและยีน
จากกนั ได้ ส่งผลใหร้ ูปแบบของ บนโครโมโซมเพศ
เซลลส์ ืบพนั ธทุ์ ีไ่ ดแ้ ตกต่างไป 3. สืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ยีนบนโครโมโซม
จากกรณีทีไ่ มเ่ กิดครอสซิงโอ เดยี วกนั ได้
เวอร์ 4. รบั ผดิ ชอบต่อหน้าทีแ่ ละงานทไี่ ด้รับ
มอบหมายได้
5. มที ักษะการใช้จำนวน ทกั ษะการลง
ความเหน็ จากข้อมูล และทกั ษะการ
พยากรณ์

ชีวิตดัด  การใชเ้ ทคโนโลยีทางดีเอน็ เอ 1.อธิบายหลักการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปร
นเอรคี อม ในการสรา้ งดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์ พันธุกรรมและการสร้างดีเอ็นเอ
สามารถนำไปใช้ในการสร้าง รคี อมบิแนนท์
สิ่งมีชวี ิตดัดแปรพนั ธุกรรม โดย 2. อธิบายหลักการการโคลนยีนโดยใช้
นำยนี ทต่ี อ้ งการมาตดั ต่อใส่ใน พลาสมิดของแบคทีเรียได้
สง่ิ มีชวี ติ ทำให้ส่ิงมชี ีวติ น้ันมี 3. อธิบายหลักการการการเพิ่มจำนวน
สมบตั ติ ามตอ้ งการ DNA ดว้ ยเทคนคิ PCR
4. สามารถทดลองการสร้างดีเอ็นเอรี
คอมบิแนนท์ได้
5. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานท่ไี ด้รับ
มอบหมายได้

สปั ดาห์ หน่วยการเรยี นร/ู้ สาระการเรียนรู้ จำนวน ผลการเรยี นรู้
ท่ี (contents) ชัว่ โมง

12 บทท่ี 6 เทคโนโลยที างดีเอ็นเอ 2 อธบิ ายหลักการสร้างสงิ่ มชี
เรอ่ื ง การหาขนาดของ DNA และการหา แปรพนั ธกุ รรมโดยใชด้ ีเอน็
ลำดับนิวคลโี อไทด์ บิแนนท์

13 บทที่ 6 เทคโนโลยที างดเี อน็ เอ 3 สบื คน้ ข้อมูล ยกตัวอยา่ ง
เรือ่ ง การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีทางดีเอน็ อภิปรายการนำเทคโนโลย
เอ เอน็ เอไปประยกุ ต์ทัง้ ในดา้
ส่งิ แวดลอ้ ม นิตวิ ทิ ยาศาส
การแพทย์ การเกษตร แล
อตุ สาหกรรม และข้อควร
ด้านชวี จริยธรรม

14

สาระการเรียนรู้เพิ่มเตมิ จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ชวี ติ ดัด  การใชเ้ ทคโนโลยที างดีเอ็นเอ 6. มที กั ษะการสงั เกต ทักษะการลง
นเอรคี อม ในการสร้างดีเอน็ เอรคี อมบิแนนท์ ความเห็นจากข้อมูล และการทดลอง
สามารถนำไปใช้ในการสรา้ ง 1. สืบคน้ ข้อมูลและอธิบายการหาขนาด
และ ส่งิ มีชวี ติ ดดั แปรพนั ธกุ รรม โดย DNA โดยใชเ้ ทคนิคเจลอิเล็กโทรฟอรีซิส
ยีทางดี นำยีนทตี่ ้องการมาตัดตอ่ ใส่ใน 2. แสดงวธิ ีการหาขนาด DNA โดยใช้
าน สิ่งมีชวี ติ ทำให้สิ่งมีชวี ติ นน้ั มี เทคนิคเจลอิเลก็ โทรฟอรรีซิสได้
สตร์ สมบัตติ ามตอ้ งการ 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทแ่ี ละงานที่ไดร้ บั
ละ มอบหมายได้
รคำนงึ ถงึ  เทคโนโลยที างดีเอน็ เอ สามารถ 4. มที ักษะการสงั เกต และทักษะการลง
นำไปประยกุ ตใ์ ช้ในด้านต่าง ๆ ความเห็นจากขอ้ มูล
เช่น ส่งิ แวดลอ้ ม นิติวิทยาศาสตร์ 1. ยกตัวอย่าง และอธิบายการใช้
การแพทย์ การเกษตร และ เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอในการสร้าง
อุตสาหกรรม โดยการใช้ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ การวินิจฉัย
เทคโนโลยีทางดเี อ็นเอตอ้ ง หรอื การตรวจกรองโรค และการรกั ษาได้
คำนงึ ถงึ ความปลอดภยั ทาง 2. สืบค้นขอ้ มูลและยกตัวอย่างการใช้
ชีวภาพ ชวี จรยิ ธรรม และ เทคโนโลยที างดเี อน็ เอสำหรบั การ
ผลกระทบตอ่ สังคม ปรับปรงุ พนั ธ์สุ ง่ิ มีชีวิตเพ่อื ใชป้ ระโยชน์
ทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรม และ
สง่ิ แวดล้อมได้
3. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ
มอบหมายได้

สปั ดาห์ หน่วยการเรียนร/ู้ สาระการเรียนรู้ จำนวน ผลการเรยี นรู้
ท่ี (contents) ช่วั โมง

14 บทที่ 6 เทคโนโลยที างดเี อน็ เอ 3 สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย
เรอื่ ง เทคโนโลยีทางดเี อ็นเอกับความ อภิปรายการนำเทคโนโ
ปลอดภัยทางชวี ภาพและชวี จริยธรรม เอ็นเอไปประยุกต์ทั้ง
สิ่งแวดล้อม นิติวิทย
การแพทย์ การเกษ
อุตสาหกรรม และข้อคว
ดา้ นชวี จริยธรรม

15 บทท่ี 7 ววิ ฒั นาการ 3 สืบค้นข้อมูล และอธิบาย

เรื่อง หลกั ฐานและข้อมลู ที่ใช้ในการศึกษา หลักฐานทีส่ นับสนุนและข

ววิ ัฒนาการของสงิ่ มีชีวติ อธิบายการเกิดวิวัฒนา

- ซากดกึ ดำบรรพ์ สงิ่ มชี วี ติ

- กายวภิ าคเปรียบเทยี บ

- วิทยาเอม็ บริโอ

- ชวี วิทยาโมเลกุล

15

สาระการเรยี นรู้เพม่ิ เติม จุดประสงค์การเรียนรู้

4. มีทกั ษะการสังเกต และทกั ษะการลง

ความเหน็ จากข้อมูล

ย่าง และ  การใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ 1. อภิปรายเกี่ยวกับความปลอดภัยทาง

โลยีทางดี ในการสร้างดเี อ็นเอรีคอมบิแนนท์ ชวี ภาพ และชวี จริยธรรมในการประ-

งใน ด้าน สามารถนำไปใช้ในการสร้าง ยุกต์ใช้เทคโนโลยที างดเี อ็นเอได้

ยาศาสตร์ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม โดย 2. สืบค้นข้อมูลแนวทางในการนำ

ตร แล ะ นำยีนที่ต้องการมาตัดต่อใส่ใน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอมาใช้ประโยชน์

วรคำนึงถึง สิ่งมีชีวิต ทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นมี โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทางชีวภาพ

สมบตั ิตามต้องการ ชวี จรยิ ธรรม และผลกระทบต่อสังคม

3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าทแี่ ละงานท่ีได้รบั

มอบหมายได้

4. มที กั ษะการสังเกต และทักษะการลง

ความเหน็ จากข้อมูล

ยเกี่ยวกับ  หลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าส่ิงมชี ีวติ 1. อธิบายเกี่ยวกับหลักฐานต่าง ๆ ที่

ขอ้ มูลท่ใี ช้ มีวิวัฒนาการ เช่น ซากดึกดำ สนบั สนนุ และขอ้ มลู ท่ีใชอ้ ธิบายการเกิด

าการของ บรรพ์ กายวิภาคเปรียบเทียบ ววิ ัฒนาการของสิง่ มีชวี ิตได้

วิทยาเอ็มบริโอ การแพร่กระจาย 2. อธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีการคัดเลือก

ของสิ่งมีชีวิตทางภูมิศาสตร์ โ ด ย ธ ร ร ม ช า ต ิ ข อ ง ด า ร ์ ว ิ น แ ล ะ

การศึกษาทางชีวภูมิศาสตร์ และ ยกตัวอย่างวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตซึ่ง

ด้านชวี วทิ ยาระดับโมเลกุล ผา่ นการคดั เลือกโดยธรรมชาติ

สปั ดาห์ หน่วยการเรยี นร/ู้ สาระการเรียนรู้ จำนวน ผลการเรียนรู้
ท่ี (contents) ช่วั โมง
- การแพร่กระจายของส่ิงมีชวี ติ ทาง
ภมู ิศาสตร์

16 บทท่ี 7 วิวฒั นาการ 3 อธบิ าย และเปรยี บเทียบแ

เรอ่ื ง แนวคิดเกย่ี วกับวิวัฒนาการของ เกีย่ วกับววิ ฒั นาการของส

สง่ิ มชี ีวิต ของฌอง ลามารก์ และทฤ

- แนวคดิ เก่ยี วกบั ววิ ัฒนาการของลา เกี่ยวกับวิวฒั นาการของส

มารก์ ของชาลส์ ดาร์วนิ

- แนวคดิ เกย่ี วกับววิ ฒั นาการของ

ดารว์ ิน

16

สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม จุดประสงค์การเรยี นรู้

 มนษุ ย์มีการสืบสายวิวฒั นาการ 3. อภิปรายและเปรียบเทียบแนวคิด

มาเป็นเวลานานโดยมหี ลกั ฐานท่ี เกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์กและ

สนับสนุนจากซากดึกดำบรรพ์ ดารว์ นิ

ของบรรพบรุ ุษมนษุ ยท์ ี่ค้นพบ 4. สืบคน้ ข้อมูล และนำเสนอเกยี่ วกบั

และจากการเปรยี บเทียบลำดบั หลกั ฐานต่าง ๆ ท่สี นับสนนุ และขอ้ มูลท่ี

เบสบน DNA ระหว่างมนษุ ยก์ ับ ใช้อธิบายการเกดิ ววิ ัฒนาการของ

ไพรเมตอน่ื ๆ สิ่งมชี ีวติ ได้

5. รบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่แี ละงานที่ได้รับ

มอบหมายได้

6. มที ักษะการสังเกต และทักษะการลง

ความเหน็ จากขอ้ มูล

แนวคดิ  ฌอง ลามาร์ก ได้เสนอแนวคิด 1. อธิบายเกี่ยวกับกฎการใช้และไม่ใช้
ส่ิงมชี วี ติ
ฤษฎี เพื่ออธิบายเกี่ยวกับวิวัฒนาการ และกฎการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้น
สงิ่ มีชวี ติ
ของสิ่งมีชีวิตว่า สิ่งมีชีวิตมีการ ใหม่ของลามารก์ ได้

เปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้เข้ากับ 2. อธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีการคัดเลือก

สภาพแวดล้อมโดยอาศัยกฎการ โ ดย ธ ร ร ม ชาติ ข อ ง ดาร ์ ว ิ น แ ละ

ใช้และไม่ใช้ และกฎแห่งการ ยกตัวอย่างวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตซึ่ง

ถ่ายทอดลักษณะทเ่ี กดิ ขนึ้ มาใหม่ ผา่ นการคัดเลือกโดยธรรมชาติ

สปั ดาห์ หนว่ ยการเรยี นรู/้ สาระการเรียนรู้ จำนวน ผลการเรยี นรู้
ท่ี (contents) ชัว่ โมง

17 บทที่ 7 ววิ ัฒนาการ 3 ระบุสาระสำคญั และอธบิ

เรอ่ื ง พันธุศาสตร์ประชากร เงอ่ื นไขของภาวะสมดุลขอ

- ความถีข่ องแอลลีลและความถ่ีของ ไวนเ์ บริ ก์ ปจั จัยทที่ ำใหเ้ ก

จีโนไทป์ เปล่ียนแปลงความถี่ของแ

- หลกั การของฮารด์ ี-ไวน์เบิร์ก ประชากร พรอ้ มท้งั คำนว

ความถี่ของแอลลลี และจีโ

ของประชากรโดยใชห้ ลักข

ไวน์เบิร์ก

17

สาระการเรียนรู้เพม่ิ เตมิ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

 ชาลส์ ดารว์ ิน เสนอทฤษฎี 3. อภิปรายและเปรียบเทียบแนวคิด

เกยี่ วกับววิ ฒั นาการของส่งิ มชี ีวติ เกี่ยวกับวิวัฒนาการของลามาร์กและ

ว่า เกดิ จากการคดั เลอื กโดย ดารว์ นิ

ธรรมชาตโิ ดยสิง่ มชี วี ติ มีแนวโนม้ 4. สืบค้นข้อมลู เกยี่ วกบั กฎการใช้และไม่

ท่ีจะให้กำเนดิ ลกู ทม่ี ลี กั ษณะ ใช้และกฎการถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขน้ึ

แตกต่างกนั จำนวนมาก แตม่ ีเพียง ใหม่ของลามาร์กและทฤษฎกี ารคัดเลือก

จำนวนหนง่ึ ท่เี หมาะสมกบั โดยธรรมชาตขิ องดาร์วนิ

สภาพแวดล้อมสามารถมีชีวิตรอด 5. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ

และถ่ายทอดลกั ษณะทเี่ หมาะสม มอบหมายได้

ไปยังรุน่ ตอ่ ไปได้ 6. มที กั ษะการสงั เกต และทกั ษะการลง

ความเห็นจากข้อมูล

บาย  เมือ่ ประชากรอย่ใู นภาวะสมดุล 1. อธิบายหลักการของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก

องฮารด์ ี- ของฮารด์ ี-ไวนเ์ บริ ์กโดยประชากร และระบุเงื่อนไขของสมดุลฮาร์ดี-ไวน์

กิดการ มีขนาดใหญ่ ไมม่ ีการถา่ ยเทยีน เบิรก์ ได้

แอลลลี ใน ระหวา่ งประชากร ไม่เกดิ มวิ เทชนั 2. คำนวณหาความถี่ของแอลลีลและ

วณหา สมาชกิ ทกุ ตัวมีโอกาสผสมพนั ธไ์ุ ด้ ความถขี่ องจีโนไทปข์ องประชากรโดยใช้

โนไทป์ เทา่ กัน และไม่เกิดการคัดเลือก หลกั การของฮารด์ ี-ไวนเ์ บริ ์ก

ของฮารด์ ี- โดยธรรมชาติ จะทำใหค้ วามถี่ 3. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ

ของแอลลลี ของลักษณะนั้นไม่ มอบหมายได้

เปล่ยี นแปลงไมว่ า่ จะผ่านไปกร่ี ุ่นก็ 4. มที ักษะการสังเกต ทกั ษะการใช้

สปั ดาห์ หนว่ ยการเรียนรู้/สาระการเรียนรู้ จำนวน ผลการเรยี นรู้
ท่ี (contents) ชวั่ โมง

18 บทท่ี 7 ววิ ฒั นาการ 3 ระบสุ าระสำคัญ และอธบิ
เรอ่ื ง ปัจจยั ที่ทำให้เกดิ การเปลย่ี นแปลง เง่ือนไขของภาวะสมดลุ ขอ
ความถ่ขี องแอลลลี ไวน์เบริ ์ก ปจั จยั ทที่ ำใหเ้ ก
เปล่ยี นแปลงความถ่ขี องแ
ประชากร พรอ้ มท้ังคำนว
ความถข่ี องแอลลีลและจีโ
ของประชากรโดยใชห้ ลักข
ไวนเ์ บริ ก์

19 บทที่ 7 ววิ ัฒนาการ 3 สบื คน้ ขอ้ มลู อภปิ ราย แล
เร่อื ง กำเนดิ สปีชสี ์ กระบวนการเกิดสปชี สี ใ์ ห
- ความหมายของสปีชสี ์ สงิ่ มชี วี ติ
- การแยกเหตุการณ์สืบพันธุ์
- กำเนดิ สปีชีส์ใหม่

18

สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ตาม เปน็ ผลให้ลกั ษณะน้ันไมเ่ กดิ จำนวน และทกั ษะการลงความเหน็ จาก

วิวฒั นาการ ขอ้ มูล

บาย  การเปลยี่ นแปลงความถข่ี องยีน 1. อธบิ ายปัจจยั ที่ทำให้เกดิ การเปล่ียน

องฮารด์ ี- หรอื แอลลลี ในประชากร เกดิ จาก แปลงความถ่ขี องแอลลีลและความถี่ของ

กดิ การ ปจั จัยหลายประการ นำไปสกู่ าร จีโน ไ ทป์ในประชากร ที่ส่งผลต่อ

แอลลลี ใน เกดิ ววิ ัฒนาการ ววิ ัฒนาการของส่งิ มชี ีวติ ได้

วณหา 2. สืบค้นข้อมูล และนำเสนอเกี่ยวกับ

โนไทป์ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ของฮารด์ ี- ความถี่ของแอลลีลและความถี่ของจีโน

ไทป์ในประชากรที่ส่งผลต่อวิวัฒนาการ

ของสิ่งมชี วี ิตได้

3. รบั ผดิ ชอบต่อหน้าทีแ่ ละงานท่ีได้รบั

มอบหมายได้

4. มีทักษะการสงั เกตและทักษะการลง

ความเหน็ จากขอ้ มูล

ละอธบิ าย  สปีชีส์ใหม่จะเกดิ ขึ้นได้เม่อื ไม่มี 1. อธิบาย และยกตัวอย่างแนวคิด

หม่ของ การถ่ายเทเคลื่อนย้ายยีนระหว่าง เกี่ยวกับความหมายของสปีชสี ์ดา้ นต่างๆ

ประชากรหนึ่งกับอีกประชากร 2. อธิบาย และยกตัวอย่างการแยก

หนึ่ง ในรุ่นบรรพบุรุษ ทำให้ เหตกุ ารณ์สบื พนั ธ์ุ

ประชากรทงั้ สอง มีโครงสรา้ งทาง 3. อธบิ ายกำเนดิ สปชี สี ์

สปั ดาห์ หนว่ ยการเรียนร้/ู สาระการเรยี นรู้ จำนวน ผลการเรียนรู้
ท่ี (contents) ชัว่ โมง

20 ปลายภาค 3

19

สาระการเรียนรู้เพ่ิมเติม จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

พันธุกรรมที่แตกต่างกันและ 4. สืบคน้ ขอ้ มลู เกีย่ วกบั กำเนดิ สปีชสี ์
วิวัฒนาการเกิดเปน็ สปชี ีสใ์ หม่ 5. รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ
 ปัจจยั ทท่ี ำให้เกดิ สปชี ีสใ์ หม่ มอบหมายได้
อาจเกิดได้ 2 แนวทางคือ การ 6. มที ักษะการสงั เกต และทักษะการลง
เกดิ สปีชสี ์ใหมจ่ ากการแบง่ แยก ความเหน็ จากขอ้ มูล
ทางภูมศิ าสตรแ์ ละการเกดิ สปชี ีส์
ใหมใ่ นเขตภมู ิศาสตรเ์ ดยี วกัน

20

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
12 ชว่ั โมง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง โครโมโซมและสารพันธกุ รรม 1 ชว่ั โมง

เรื่อง โครโมโซม ภาคเรยี นท่ี 2/2564

ครูผูส้ อน นางสาวสุภาวิณี เพมิ่ ทอง

ผลการเรียนรแู้ ละสาระการเรยี นรเู้ พมิ่ เติม

สาระชีววิทยา 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ

และหน้าที่ของสารพันธกุ รรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูล และแนวคิด

เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความ

หลากหลายทางชวี ภาพ กำเนดิ ของสิ่งมชี วี ิต ความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้ง

นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชน้ั ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้เพิม่ เตมิ

ม.4 สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและ  DNA เป็นพอลิเมอร์ของนิวคลีโอไทด์ แตล่ ะนิวคลี

หน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้าง โอไทด์ ประกอบด้วย นำ้ ตาลดีออกซไี รโบส หมู่ฟอสเฟต

และองค์ประกอบทางเคมีของ DNA และไนโตรจีนสั เบส คือ A T C และ G

และสรุปการจำลองดีเอน็ เอ  โมเลกุลของ DNA เปน็ พอลิ

นิวคลีโอไทด์ 2 สายเรียงสลับทิศและบิดเป็นเกลียว

เวียนขวา โดยการเข้าคู่กันของสาย DNA เกิดจากการ

จบั คขู่ องเบสคู่สม คอื A ค่กู ับ T และ C คกู่ ับ G

1. กำหนดเปา้ หมายของการจดั การเรียนรู้
1.1 สาระการเรยี นร/ู้ เนอ้ื หาการเรียนรู้
เรอ่ื ง โครโมโซม
1) รปู รา่ ง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซม
2) สว่ นประกอบของโครโมโซม

21

1.2 สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดของเร่ืองที่เขยี น
โครโมโซมของสิ่งมีชวี ิตแต่ละสปีชีส์มีจำนวนคงที่ โครโมโซมประกอบด้วย DNA และโปรตีน

นกั วิทยาศาสตรใ์ ช้วธิ ีการทางวิทยาศาสตรค์ น้ พบว่า DNA เปน็ สารพนั ธกุ รรม ส่วนของ DNA ทีค่ วบคุม
ลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตเรียกว่า ยีน และสารพันธุกรรมทัง้ หมดที่อยู่ในสิ่งมีชีวิต เรียกว่า
จีโนม DNA เป็นพอลินิวคลีโอไทด์ 2 สายบิดเป็นเกลียวเวียนขวา แต่ละสายเกิดจากนิวคลีโอไทด์
ต่อกันเปน็ สายยาว นิวคลีโอไทด์ประกอบด้วยน้ำตาลดอี อกซีไรโบส หมู่ฟอสเฟต และไนโตรจีนัสเบส
ซึง่ DNA แตล่ ะโมเลกุลมีจำนวนและลำาดับของนิวคลีโอไทดท์ แ่ี ตกต่างกนั

1.3 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้: เม่ือผูเ้ รียนจบกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถ

ด้านความรู้ (K: Knowledge) อ ธ ิ บ า ย โ ค ร ง ส ร ้ า ง แ ล ะ อ ง ค ์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง

โครโมโซม และหลักการจำแนกโครโมโซมได้

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P: Process) เขียน/วาดภาพร ูปร ่าง ลักษณะ และ

สว่ นประกอบของโครโมโซมได้

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A: Attribute) ทำงานร่วมกบั ผูอ้ ืน่ , รับผิดชอบต่อการทำงาน,

แสดงคงามคดิ เหน็ , นำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น

ได้

ตระหนักถึงการนำความรู้ทางชีววิทยาไปใชว้ ่า

ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและผลกระทบต่อมนุษย์

และส่ิงแวดล้อม

ด้านทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์  การลงความเหน็ จากข้อมลู
(Sc.P: Science Process Skill)  การกำหนดและควบคุมตวั แปร
 การสังเกต  การกำหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบัตกิ าร
 การวัด  การตงั้ สมมตฐิ าน
 การคำนวณ/การใช้ตัวเลข  การทดลอง
 การจำแนกประเภท  การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรุป
 การจดั กระทำและส่อื ความหมายข้อมูล  การสร้างแบบจำลอง
 การหาความสัมพันธ์ระหวา่ งสเปสกบั สเปส
และสเปสกบั เวลา
 การพยากรณ์/การทำนาย

22

2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบ 5E
2.1 ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement)
2.1.1 ครูให้นักเรียนศึกษารูปนำบทในหนังสือเรียนซึ่งแสดงจำนวนและรูปร่างลักษณะของ

โครโมโซมในสงิ่ มชี ีวิต 2 สปีชีส์ คือ กบนาและมนษุ ย์ แลว้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปราย

 สิ่งมีชีวิต 2 สปีชีส์นี้มีจำนวนโครโมโซมเท่ากันหรือไม่ และมีรูปร่างลักษณะของโครโมโซม
แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร และใช้อะไรเป็นเกณฑ์ (แนวคำตอบ: สิ่งมีชีวิต 2 สปีชีส์นี้มีจำนวน
โครโมโซมที่แตกต่างกัน คือ กบนามี 26 โครโมโซม ส่วนมนุษย์มี 46 โครโมโซม นอกจากนี้เมื่อ
พจิ ารณาจากขนาดของโครโมโซมและตำแหนง่ ของเซนโทรเมยี ร์ พบว่าโครโมโซมของกบนาและมนุษย์
มีรปู รา่ งลักษณะทง้ั ท่ีคล้ายกนั และแตกต่างกันและเมื่อพิจารณาโครโมโซมในส่ิงมีชวี ิตหน่ึง ๆ พบว่ามี
ขนาดและรปู รา่ งลักษณะท่คี ลา้ ยกนั และแตกต่างกนั ด้วย)

2.1.2 หลังจากอภิปรายเกี่ยวกับรูปนำบทแล้ว ใช้คำถาม ถามนักเรียน ว่า ถ้าจัดเรียง
โครโมโซมโดยพิจารณาจากขนาดของโครโมโซมและตำาแหน่งของเซนโทรเมียร์จะจัดเรยี งไดอ้ ย่างไร
(แนวคำตอบ: คำตอบของนกั เรยี นอาจจะหลากหลาย จากนน้ั ให้นกั เรียนศึกษารปู 4.1 แคริโอไทป์ของ
กบนาและมนุษย์ หน้า 4 ในหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา เล่ม2 ม.4 ซึ่งนักเรียนควรจะ
สังเกตเหน็ ว่า เมือ่ นำโครโมโซมมาเรียงแล้วจะเรียงไดเ้ ป็นคู่ ๆ แตล่ ะคมู่ รี ูปรา่ งลกั ษณะท่ีเหมอื นกนั ซ่ึง
ก็คือ ฮอมอโลกสั โครโมโซม จากนน้ั จึงสรปุ ไดว้ ่า สามารถจำแนกโครโมโซมได้ตามขนาดของโครโมโซม
และตำแหน่งของเซนโทรเมยี ร์ โดยโครโมโซมอาจมรี ูปร่างไดห้ ลายแบบ ดังรูป 4.2 หน้า 4)

23

2.2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration)
2.2.1 แบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุม่ กลุม่ ละ 5-6 คน คละความสามารถ เกง่ ปานกลาง ออ่ น
2.2.2 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาและร่วมกันอภิปรายภายในกลุ่ม รูปร่าง ลักษณะ และ

จำนวนโครโมโซม ซึ่งประกอบด้วยโครมาทิด 2 อัน ยึดกันที่ตำแหน่งเซนโทรเมียร์ และประเภทของ
โครโมโซมตามตำแหน่งของเซนโทรเมียร์ ที่แบ่งออกเป็น 4 แบบ ได้แก่ เมทาเซนทริก ซับเมทาเซนท
รกิ อะโครเซนทริก และทโี ลเซนทรกิ

2.3 ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)
2.3.1 ครูและนักเรียนร่วมกนั อภิปรายเกีย่ วกบั รูปรา่ ง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซม และ

ประเภทของโครโมโซมตามตำแหน่งของเซนโทรเมียร์

2.4 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration)
2.4.1 ครูให้นักเรียนศึกษาตาราง 4.1 ในหนังสือเรียนหน้า 5 และร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ

จำนวนโครโมโซมของสง่ิ มชี ีวิตสปชี สี ์ตา่ งๆ โดยมีแนวคำถามดงั นี้

24

 สิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กันจะมีจำนวนโครโมโซมต่างกันเสมอหรือไม่ และสามารถใช้จำนวน
โครโมโซมในการระบุสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตได้หรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ: จากการศึกษาตาราง 4.1
พบว่า โดยทั่วไปแล้ว สิ่งมีชีวิตแต่ละสปีชีส์มีจำนวนโครโมโซมไม่เท่ากัน แต่สิ่งมีชีวิตบางสปีชีส์ มี
จำนวนโครโมโซมเท่ากัน เช่น สุนัขและไก่มีจำนวนโครโมโซม 78 โครโมโซมเท่ากัน กะหล่ำปลีและ
มะละกอมีจำนวนโครโมโซม 18 โครโมโซมเท่ากัน)

 นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้จำนวนโครโมโซมในการระบุสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตได้หรือไม่
เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ: จำนวนโครโมโซมไม่สามารถใช้ระบุสปีชีสข์ องสิง่ มชี วี ิตได้ เพราะสิ่งมีชีวิต
ต่างสปีชีส์กันอาจมีจำนวนโครโมโซมเท่ากันได้ เช่น สน มะเขือเทศ และข้าว มีจำนวนโครโมโซม 24
โครโมโซมเทา่ กัน)

25

2.4.2 หลังจากนั้นครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายเกยี่ วกับสว่ นประกอบของโครโมโซม

2.5 ขั้นประเมิน (Evaluation)
2.5.1 ครใู หน้ ักเรยี นทำผังสรุป เร่อื ง โครโมโซมของสงิ่ มชี ีวติ โดยคัดเลอื กสง่ิ มชี ีวิตทสี่ นใจ

ระบุจำนวนโครโมโซม และประเภทของโครโมโซมแตล่ ะแทง่ ตามตำแหนง่ ของเซนโทรเมียร์

26

3. สือ่ /อุปกรณ์/แหล่งการเรยี นรู้
3.1 หนงั สอื เรยี นรายวิชาเพิ่มเตมิ ชวี วิทยา 2
3.2 PowerPoint เรือ่ ง โครโมโซม
3.3 ใบงานที่ 1 ผังสรุป เรื่อง โครโมโซมของส่งิ มีชีวติ

4. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ กี ารวดั ผลการเรยี นรู้ เกณฑก์ ารประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K: Knowledge) การถามตอบ ผา่ นเกณฑ์ไม่น้อยกวา่

อธบิ ายโครงสร้างและองคป์ ระกอบ การตรวจแบบฝึกหัด ร้อยละ 75

ของโครโมโซม และหลักการจำแนก

โครโมโซมได้

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P: Process) สงั เกตพฤติกรรมในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ไมน่ ้อยกว่า

เขียน/วาดภาพรูปร่าง ลักษณะ และ การตรวจแบบฝึกหัด รอ้ ยละ 75

ส่วนประกอบของโครโมโซมได้

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A: สังเกตพฤตกิ รรมในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ไม่นอ้ ยกว่า

Attribute) ร้อยละ 75

ทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่ , รับผดิ ชอบต่อ

การทำงาน, แสดงความคดิ เห็น,

นำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี นได้

ตระหนกั ถึงการนำความรทู้ าง

ชีววทิ ยาไปใชว้ ่าตอ้ งคำนงึ ถึงจริยธรรม

ด้านทักษะกระบวนการทาง สังเกตพฤติกรรมในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ไม่นอ้ ยกว่า

วิทยาศาสตร์ การตรวจแบบฝกึ หดั ร้อยละ 75

(Sc.P: Science Process Skill)

 การสงั เกต

 การจดั กระทำและสือ่ ความหมาย

ข้อมูล

 การลงความเหน็ จากขอ้ มูล

27

แบบสังเกตพฤติกรรม

เร่ือง โครโมโซม

คำชี้แจง จงทำเครื่องหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ

พฤตกิ รรมการแสดงออกไว้เป็น 3 คะแนน ดังน้ี

3 คะแนน หมายถึง ผู้เรยี นมีพฤติกรรมในระดับดี

2 คะแนน หมายถงึ ผู้เรียนมพี ฤติกรรมในระดบั ปานกลาง

1 คะแนน หมายถึง ผเู้ รียนมีพฤตกิ รรมในระดับปรับปรงุ

ชื่อ-สกุล รายการประเมิน คะแนน ร้อย สรปุ ผลการ

ความใส่ใจ การเสนอ ความ การยอมรับ รวม ละ ประเมนิ

เลขท่ี ในการ ความ รว่ มมอื ใน ฟงั คนอนื่

ทำงาน คิดเห็น การทำงาน

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผ่าน ไม่
ผ่าน

1 นายณฐั นนท์สธุ รรมฤทธ์ิ

2 นายระพีธาดา วงศ์คลุ ี

3 นายจักรกฤษ สลี าแดง

4 นายจักรภัทร จนั ทร์แก้ว

5 นายนรภัทร ศรที อง

6 นายปรัชญา ใจบญุ

7 นายประสทิ ธิชยั อามาตย์

สมบตั ิ

8 นายจกั รภัทร สขุ ณรงค์

9 นายฉัตรดนยั สภุ า

10 นายณฐั พล จนั ทฤาชา

11 นายณัฐวัศ พนมธรี -
เกียรติ

12 นายถิระวัฒน์ แตงเอี่ยม

13 นายทัธดนยั สแตนลีย์

14 นายธีรตั เดช นอ้ ยมนตรี

15 นายนันทวฒุ ิ สขุ เกิด

28

ช่อื -สกุล รายการประเมิน คะแนน ร้อย สรปุ ผลการ
การยอมรบั รวม ละ ประเมิน
เลขท่ี ความใส่ใจ การเสนอ ความ ฟังคนอ่ืน
ในการ ความ รว่ มมือใน
ทำงาน คิดเห็น การทำงาน

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่
ผา่ น

16 นายนันทศร หูไธสง

17 นายวชริ วชิ ญ์ พันพินิจ

18 นายวรี ภัทร ครูศรี

19 นายสริ วชิ ญ์ สัมฤทธ์ิ

20 น.ส.ปิยธิดา อม้ วชิ า

21 น.ส.จรี ะนันท์ เเหล้ยงั

22 น.ส.ปนัดดา คนดี

23 น.ส.จฑุ ารตั น์ คำเดช

24 น.ส.ชยธิดา สงวนพร

25 น.ส.ณัฐกฤตา หาญโก-
กรวด

26 น.ส.ตติยา อปุ ระโคตร

27 น.ส.ธิดารัตน์ ตอ้ นโสกี

28 น.ส.นครินทร์ สารโี ท

29 น.ส.นภัสสร สำราญบญุ

30 น.ส.ปนัดดา วรรณบูลย์

31 น.ส.ปิน่ ภทั รา ชนิ คำ

32 น.ส.ปณุ ยาพร ทองไชย

33 น.ส.พิชญ์นาฏ ขนั ธวิชัย

34 น.ส.พิมพร ละดาดาษ

35 น.ส.ภัทรภรณ์ สายสขุ

36 น.ส.มณฑาทิพย์ ใจสขุ


Click to View FlipBook Version