The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by noysupapt2541, 2022-03-05 01:24:39

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาชีววิทยา 2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

รวมเล่มแผนม.4 เทอม 2 ชีววิทยา

229

ก. จำนวนแอลลีลในจีโนไทป์
ข. อุณหภมู ิของสภาพแวดลอ้ ม
ค. จำนวนแอลลลี ท่คี วบคมุ ลักษณะของสี
ง. จำนวนแอลลีลเด่นในจีโนไทป์
6. โรคทางพนั ธุกรรมที่เกิดจากยีนเดน่ บนโครโมโซม X ข้อใดถกู ต้อง
ก. โรคตาบอดสี
ข. โรคภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD
ค. โรคฮีโมฟเิ ลยี
ง. มนุษย์หมาป่า
7. ขอ้ ใดตอ่ ไปนจี้ ัดเป็นการแปรผนั แบบตอ่ เน่อื ง
ก. ความสูง, การมีลกั ยิ้ม
ข. นำ้ หนกั , สีผวิ ของคน
ค. การมีต่งิ ห,ู การงอน้วิ
ง. การห่อล้นิ , สติปญั ญา
8. ขอ้ ใดต่อไปนีก้ ลา่ วถูกต้อง
ก. B′B′ จะแสดงอาการศีรษะล้านทง้ั ในเพศหญิงและเพศชาย
ข. BB จะแสดงอาการศีรษะลา้ นเฉพาะในเพศชายเท่าน้นั
ค. BB′ จะไมแ่ สดงอาการศีรษะลา้ นในเพศหญงิ
ง. BB′ จะไมแ่ สดงอาการศรี ษะล้านในเพศชาย
9. ชายผวิ เผือกมลี ักษณะผวิ เผอื กแท้ แต่งงานกับหญงิ ผวิ ปกติมีลกั ษณะผวิ ปกตแิ ท้ ลูกทีอ่ อกมาจะมีผิว
เผอื กก่เี ปอรเ์ ซ็นต์
ก. 0
ข. 25
ค. 50
ง. 75
10. การถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมชนดิ หนึ่งทค่ี วบคุมโดยยีนเพยี งยนี เดยี ว พบว่า ถา้ พ่อและแม่เป็น
พาหะของโรคโอกาสทลี่ ูก 1 ใน 4 เป็นโรคนี้ด้วย โดยทเี่ พศหญงิ และชายมโี อกาสเกิดโรคเท่า ๆ กัน
โรคพนั ธกุ รรมนี้มกี ารถา่ ยทอดแบบใด
ก.ยนี เดน่ บนออโตโซม

230

ข.ยนี ด้อย บนออโตโซม
ค.ยีนเดน่ บนโครโมโซม X
ง.ยนี ด้อย บนโครโมโซม x

231

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 10

กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เร่อื ง การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม 15 ช่วั โมง

เร่อื ง ลกั ษณะทางพันธกุ รรมทีเ่ ป็นสว่ นขยายของพนั ธุศาสตร์เมนเดล 2 3 ช่วั โมง

ครผู ู้สอน นางสาวสุภาวณิ ี เพิม่ ทอง ภาคเรยี นท่ี 2/2564

ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการเรยี นรูเ้ พมิ่ เตมิ

สาระชีววิทยา 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ

และหน้าที่ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูล และแนวคิด

เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความ

หลากหลายทางชวี ภาพ กำเนิดของสงิ่ มชี ีวติ ความหลากหลายของส่ิงมีชวี ติ และอนกุ รมวธิ าน รวมท้ัง

นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ชัน้ ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ

ม.4 สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และ  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะให้

สรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะ อตั ราสว่ นท่แี ตกตา่ งจากผลการศึกษาของเมนเดล เรียก

ทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของ ลักษณะเหล่านี้ว่า ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วน

พันธุศาสตรเ์ มนเดล ขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล เช่น การข่มไม่สมบูรณ์

การข่มร่วมกัน มัลติเปิลแอลลีล ยีนบนโครโมโซมเพศ

สืบค้น ข้อมูล ว ิเคร าะ ห์ และ และพอลิยนี

เปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรม  ลักษณะพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกัน

ที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่องและ ชดั เจน เชน่ การมตี ง่ิ หูหรอื ไม่มตี ่ิงหู ซึง่ เป็นลกั ษณะทาง

ลักษณะทางพันธุกรรมที่มี การแปร พนั ธกุ รรมทม่ี กี ารแปรผนั ไม่ตอ่ เนือ่ ง

ผันต่อเนอ่ื ง  ลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่าง

กันเล็กน้อยและลดหลั่นกันไป เช่น ความสูงและสีผิว

ของมนุษย์ถกู ควบคุมโดยยีนหลายคูซ่ ่ึงเป็นลักษณะทาง

พันธุกรรมที่มีการแปรผันต่อเนื่อง และสิ่งแวดล้อมอาจ

มีผลตอ่ การแสดงลักษณะนนั้

232

1. กำหนดเปา้ หมายของการจดั การเรยี นรู้

1.1 สาระการเรยี นร/ู้ เนอ้ื หาการเรียนรู้

เรอื่ ง ลกั ษณะทางพันธกุ รรมทเี่ ป็นส่วนขยายของพนั ธุศาสตร์เมนเดล 2

1) ลักษณะควบคุมดว้ ยยีนหลายคู่

2) การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ

1.2 สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดของเรอ่ื งที่เขยี น

พอลิยีน (polygene) เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนหลายยีน และมี

สิง่ แวดล้อมมาเก่ียวข้อง เชน่ สผี ิว สตี า

ลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกันชัดเจน เช่น การมีติ่งหูหรือไม่มีติ่งหู

ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่อง แต่บางลักษณะมีความแตกต่างกนั เล็กน้อย

และลดหลั่นกันไป เช่น ความสูงและสีผิวของมนุษย์ถูกควบคุมโดยยีนหลายคู่ ซึ่งเป็นลักษณะทาง

พันธกุ รรมที่มกี ารแปรผันต่อเนอื่ งและสง่ิ แวดลอ้ มอาจมีผลต่อการแสดงลกั ษณะน้นั

โครโมโซมภายในเซลล์ร่างกายแบ่งเป็นออโตโซมและโครโมโซมเพศ ยีนบนโครโมโซมจะ

ถา่ ยทอดสรู่ ุน่ ถัดไปผ่านเซลล์สืบพันธุ์ ลักษณะทางพันธกุ รรมสว่ นใหญถ่ ูกควบคุมด้วยยีนบนออโตโซม

ซึ่งยีนที่ควบคุมลักษณะต่างๆ จะอยู่กันเป็นคู่ บางลักษณะถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมเพศ

ซ่งึ ทำให้โอกาสในการแสดงลกั ษณะในเพศชายและเพศหญิงแตกต่างกนั

1.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้: เม่อื ผู้เรยี นจบกิจกรรมการเรียนรู้ ผ้เู รียนสามารถ

ด้านความรู้ (K: Knowledge) อธิบายและสรุปการถ่ายทอดลักษณะทาง

พันธุกรรมแบบความเด่นไม่สมบูรณ์ ความเด่น

ร่วม มัลติเพิลแอลลีล และลักษณะควบคุมด้วย
ยีนหลายคู่

เปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการ

แปรผันไมต่ ่อเน่ืองและลกั ษณะทางพันธุกรรมที่

มกี ารแปรผนั ตอ่ เนือ่ ง

นำความรู้ไปใช้ในการหาโอกาสเกิดลักษณะท่ี
ถา่ ยทอดทางพันธกุ รรมท่เี ป็นสว่ นขยายของพนั ธุ

ศาสตร์เมนเดล

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P: Process) เขียนการถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรมลักษณะ

ต่าง ๆ เป็นส่วนขยายของพนั ธศุ าสตร์เมนเดลได้

233

ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A: Attribute) ทำงานร่วมกับผูอ้ ื่น, รับผิดชอบต่อการทำงาน,
แสดงคงามคดิ เหน็ , นำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น
ดา้ นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ได้
(Sc.P: Science Process Skill)
 การสงั เกต  การลงความเหน็ จากข้อมูล
 การวัด  การกำหนดและควบคมุ ตัวแปร
 การคำนวณ/การใช้ตวั เลข  การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
 การจำแนกประเภท  การตงั้ สมมติฐาน
 การจัดกระทำและส่ือความหมายข้อมลู  การทดลอง
 การหาความสัมพันธร์ ะหวา่ งสเปสกับสเปส  การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรปุ
และสเปสกบั เวลา  การสร้างแบบจำลอง
 การพยากรณ์/การทำนาย

2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบ 5E รว่ มกับ STAD
2.1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
2.1.1 ครูอาจทบทวนลักษณะพันธุกรรมของถั่วลันเตาแต่ละลักษณะที่เมนเดลศึกษาว่าถูก

ควบคมุ ด้วยยนี 1 คู่ และตง้ั ประเดน็ เพือ่ ไปสกู่ ารอภิปรายว่า ลักษณะหน่งึ ๆ ของสง่ิ มชี ีวติ ถูกควบคุม
ดว้ ยยนี เพียงคเู่ ดยี วเสมอไปหรือไมแ่ ละมลี ักษณะทางพนั ธกุ รรมลักษณะใดบา้ งท่ีถกู ควบคุมด้วยยีน
หลายคู่ เพ่อื กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นเกดิ ความสนใจอยากรู้

2.1.2 ครยู กตัวอยา่ งการถ่ายทอดลักษณะสีของเมล็ดข้าวสาลีท่ีมยี นี ควบคุม 3 คู่ หลังจากน้ัน
ครใู หน้ ักเรียนสบื ค้นขอ้ มลู เกยี่ วกบั การถ่ายทอดลักษณะสีของเมล็ดขา้ วสาลี

234

2.1.3 ครูและนักเรียนร่วมอธิบายและลงข้อสรุปจากการสืบค้นและการอภิปรายสรุปได้ว่า
สขี องเมล็ดข้าวสาลีควบคุมดว้ ยยนี 3 โลคสั โดยมีเมล็ดสแี ดงเป็นลักษณะเด่น เมล็ดสีขาวเป็นลักษณะ
ด้อย รุ่น F1 เมล็ดมีสีแดงปานกลางรุ่น F2 เมล็ดมีสีต่าง ๆ กัน ตั้งแต่สีแดงเข้มและมีสีแดงจางลง
ลดหล่นั กนั จนถงึ เมลด็ สีขาวจากรปู จะเหน็ ไดว้ า่ รนุ่ F1 มเี มล็ดสแี ดงปานกลาง เน่อื งจากจีโนไทป์มีแอล
ลลี เดน่ และแอลลีลด้อยจำนวนเท่ากันคือ 3 แอลลีล ฟโี นไทป์มีลกั ษณะกึ่งกลาง เมื่อให้ F1 ผสมกันเอง
จะได้รุ่น F2 ที่มีฟีโนไทป์แตกต่างกันเป็น 7 แบบ ขึ้นอยู่กับจำนวนแอลลีลเด่น ถ้ามีแอลลีลเด่นมาก
เมลด็ จะมีสแี ดง ทำนองเดียวกันถา้ แอลลลี เด่นมนี อ้ ยเมลด็ จะมีสีแดงจางลงมา ถ้าไมม่ แี อลลลี เด่นเมล็ด
จะมีสีขาว

2.1.4 ครทู บทวนความรู้เดิมเกีย่ วกับออโตโซมและโครโมโซมเพศ ครอู าจตงั้ คำถามเพือ่ นำไปสู่
การอภิปรายว่า การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศแตกต่างจากการถ่ายทอดยีนที่อยู่บนออโตโซม
อย่างไร โดยให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งการถ่ายทอดยีนท่ีอย่บู นออโตโซม เชน่ ลักษณะของถัว่ ลันเตาที่เมน
เดลศึกษา หม่เู ลือดระบบ ABO สีตา ลักษณะเส้นผม พร้อมทง้ั เขยี นจีโนไทป

2.2 ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration)
2.2.1 แบง่ นักเรยี นออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน คละความสามารถ เกง่ ปานกลาง อ่อน
2.2.2 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ลักษณะทาง

พันธกุ รรมทีค่ วบคมุ โดยยีนบนโครโมโซมเพศ
กจิ กรรม เรอ่ื ง การแก้โจทยป์ ัญหา

เร่อื ง ลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมโดยยีนบนโครโมโซมเพศ
จุดประสงค์
อธบิ ายการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมทคี่ วบคุมโดยยีนบนโครโมโซมเพศ
วธิ ีการทำกิจกรรม
ตอบคำถามจากโจทย์ปญั หาต่อไปน้ี

235

1. หญิงตาปกติคนหนึ่งมีพ่อเป็นตาบอดสีแต่งงานกับชายตาปกติซึ่งมีพ่อเป็นตาบอดสี จงหา
โอกาสของลกู ท่จี ะเปน็ ตาบอดสี

2. จากพันธุประวัติแสดงการถ่ายทอดโรคฮีโมฟิเลียซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมโดย
แอลลีลด้อยบนโครโมโซม X

2.1 จากพันธุประวตั มิ ีบุคคลใดบ้างทีม่ ีจีโนไทป์เปน็ เฮเทอโรไซกัสอยา่ งแนน่ อน
2.2 ถ้าบคุ คลที่ 1 ในรนุ่ ที่ IV แต่งงานกบั ชายปกติ โอกาสที่ลกู จะแสดงลักษณะดงั กล่าวเปน็ เท่าใด

3. หญิงปกตคิ นหนง่ึ แต่งงานกบั ชายทเี่ ปน็ โรคฮโี มฟเิ ลีย มลี ูกสาวคนหนึง่ เป็นโรคฮโี มฟิเลีย
3.1 จโี นไทป์ของหญิงชายคู่นี้ และลูกสาวเปน็ อยา่ งไร
3.2 โอกาสทีล่ กู คนถัดไปจะเปน็ เพศหญงิ และเป็นโรคฮีโมฟเิ ลียเป็นเท่าใด

236

2.2.3 ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มศึกษาและรว่ มกนั อภิปรายภายในกลมุ่ เรือ่ ง ลกั ษณะควบคุมด้วย
ยีนหลายคู่ และการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ ในหนังสือเรียนชีววิทยา 2 หน้า 91 – 99 ให้
เชอื่ มโยงกบั กจิ กรรม

2.2.4 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลของกิจกรรมและองค์ความรู้ที่สรุปได้จาก
การศกึ ษาในหนังสอื เรียนชวี วิทยา 2

2.3 ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
2.3.1 ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลของกิจกรรมและองค์ความรู้ท่ีสรุปได้ หน้าชั้น

เรยี น
2.3.2 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายผลของกิจกรรม และนำสรุปองค์ความรู้ ดงั น้ี

1) ลกั ษณะควบคุมดว้ ยยีนหลายคู่
ความหมายของลักษณะควบคุมด้วยยีนหลายคู่ได้ว่าลักษณะทางพันธุกรรมลักษณะหนึ่งควบคุม

ด้วยยีนหลายโลคัส แอลลีลเด่นแต่ละคู่แสดงผลต่อลักษณะเท่า ๆ กัน เช่น R1R1 แสดงลักษณะเดน่
เทา่ ๆ กบั R2R2 หรอื R3R3 ครูอาจช้แี จงเพ่ิมเตมิ เก่ียวกับการถา่ ยทอดสีของเมล็ดขา้ วสาลี ซึ่งนิลส์
สัน-เอิล (Nilsson-Ehle) ได้เสนอสมมติฐานยีนหลายคู่เพื่ออธิบายลักษณะที่ควบคุมด้วยยีนหลายคู่
แอลลีลเด่นแต่ละคู่แสดงผลต่อลักษณะนั้นเท่าๆ กัน และมีการแสดงออกแบบสะสม (additive
effect) คอื ถ้ามีแอลลีลเดน่ มากกแ็ สดงผลสแี ดงมาก ถา้ มีแอลลลี เดน่ น้อยกแ็ สดงผลสแี ดงน้อย

ลกั ษณะท่ีมกี ารแปรผนั ไม่ต่อเนอ่ื ง เป็นลกั ษณะทางพันธุกรรมทีค่ วบคมุ ดว้ ยยีนโลคัสเดียว ฟโี นไทป์
มีความแตกต่างกันอยา่ งชัดเจน ส่วนลักษณะที่มกี ารแปรผันต่อเน่ือง จะเป็นลักษณะควบคมุ ด้วยยนี
หลายคู่ฟีโนไทป์มีความหลากหลายและมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ลักษณะเหล่านี้สามารถ
ตรวจวดั ในเชงิ ปรมิ าณได้ และบางลักษณะพบว่าสิ่งแวดลอ้ มมอี ิทธิพลสงู ต่อการแสดงออกของยนี เม่ือ
เขยี นกราฟแสดงขนาดประชากรในแต่ละฟีโนไทป์จะมกี ารกระจายอย่างต่อเนื่องหรือกระจายแบบโค้ง
ปกติ
2) การถ่ายทอดยนี บนโครโมโซมเพศ

การถ่ายทอดลักษณะที่ควบคุมด้วยยีนบนออโตโซม จะปรากฏทั้งสองเพศได้เท่า ๆ กัน ส่วนการ
ถ่ายทอดลักษณะที่ควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซม X จะปรากฏลักษณะในเพศหนึ่งมากกวา่ อีกเพศหน่ึง
แล้วแต่ว่ายีนบนโครโมโซม X เป็นแอลลีลเด่นหรอื แอลลีลดอ้ ย ถ้าเป็นแอลลีลเด่นจะปรากฏลักษณะ
ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เชน่ ลกั ษณะฟนั เปน็ สนี ้ำาตาล ถ้าเปน็ แอลลีลดอ้ ยจะปรากฏลักษณะใน
เพศชายมากกวา่ ในเพศหญิง เชน่ ลกั ษณะตาบอดสี ฮโี มฟเิ ลยี โรคกล้ามเนื้อแขนขาลบี เป็นต้น

237

สรุปประเด็นจากผลการทดลองการถ่ายทอดลักษณะสีตาของแมลงหวี่ ตาสีแดงเป็นลักษณะเด่น
ตาสีขาวเปน็ ลักษณะดอ้ ย เพศเมียจะมโี อกาสมีตาสีขาวได้ เมอ่ื มยี ีนควบคุมตาสขี าวบนโครโมโซม X ที่
ไดร้ บั มาจากพอ่ และแม่ เมอ่ื ผสมสลับลกั ษณะระหวา่ งเพศเมยี และเพศผู้ โดยผสมแมลงหวเ่ี พศเมียตาสี
ขาวกับเพศผู้ตาสีแดง ผลที่ได้จะแตกตา่ งจากแมลงหวี่เพศเมยี ตาสแี ดงพันธุ์แท้ผสมกับเพศผู้ตาสีขาว
แตกตา่ งโดยในรุ่น F1 จะได้แมลงหว่เี พศเมียตาสแี ดง และเพศผตู้ าสีขาว เม่ือนำรุน่ F1 มาผสมกันจะ
ไดร้ นุ่ F2 ที่มเี พศเมยี ตาสีแดง เพศเมยี ตาสขี าว เพศผู้ตาสแี ดง และเพศผ้ตู าสขี าว ดังรูป

238

2.4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)
2.4.1 ครูแสดงการเปรียบเทียบลักษณะท่ีควบคุมดว้ ยมัลติเพิลแอลลีลและลักษณะที่ควบคมุ

ดว้ ยยนี หลายคู่

2.4.2 ครูอาจขยายความรู้เพม่ิ เตมิ ใหแ้ กน่ ักเรียน โดยใหน้ ักเรยี นศึกษาพันธุประวัติดังตัวอย่าง
นแ้ี ลว้ ใหน้ กั เรยี นวิเคราะห์
ตัวอยา่ งพนั ธุประวตั ิของลักษณะทค่ี วบคมุ ดว้ ยยนี บนออโตโซม
พันธุประวัตขิ องครอบครัวหนง่ึ แสดงลกั ษณะการมีนว้ิ เกนิ ซงึ่ เปน็ ลักษณะเด่น

- พอ่ หรอื แม่ฝ่ายใดฝ่ายหน่งึ แสดงลกั ษณะนิ้วเกิน ลูกจะมีลกั ษณะนิ้วเกนิ ได้

239

- ถ้าพ่อแม่ไม่มีลักษณะนิ้วเกิน (คนที่ 4 และคนที่ 5 ในรุ่นที่ II) ลูกก็จะไม่แสดงลักษณะนิ้วเกิน
- ลักษณะนิ้วเกินปรากฏทั้งในเพศหญิงและเพศชายได้เท่า ๆ กัน แสดงว่ายีนควบคุมลักษณะ
นิว้ เกินอยบู่ นออโตโซม
ตัวอย่างพนั ธปุ ระวัตขิ องลกั ษณะที่ควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมเพศ
พนั ธปุ ระวตั ิของครอบครวั หนึง่ แสดงโรคภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD

- พ่อปกติและแม่เป็นพาหะในรุ่นที่ I ลูกชายที่เป็นโรคภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD จะได้รับแอล
ล ี ล ด ้ อ ย จ า ก แ ม ่ แ ล ะ ล ู ก ส า ว ม ี โ อ ก า ส เ ป ็ น พ า ห ะ โ ด ย ไ ด ้ ร ั บ แ อ ล ล ี ล ด ้ อ ย จ า ก แ ม ่ เ ช ่ น กั น
- โรคภาวะพร่องเอนไซม์นี้ปรากฏในเพศชาย โดยได้รับยีนจากแม่เพียงยีนเดียวก็สามารถ
แสดงออกได้ ส่วนเพศหญิงต้องได้รับยีนจากทั้งพ่อและแม่ แสดงว่าลักษณะนี้ควบคุมด้วย
แอลลีลด้อยบนโครโมโซม X

2.5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation)
2.5.1 ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 10 การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมที่ควบคุมโดยยีนบน

โครโมโซมเพศ
2.5.2 ครูให้นักเรียนทำข้อสอบหลังเรียน เรื่อง ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของ

พันธุศาสตร์เมนเดล 2 ซึ่งเป็นการทดสอบรวบยอดและนำคะแนนของตนไปหาคะแนนพัฒนาการ
กลุ่มใดได้คะแนนพัฒนาการของกลุ่มสูงสดุ กลุม่ นนั้ ได้รบั รางวลั จากครู
3. สือ่ /อปุ กรณ์/แหล่งการเรียนรู้

3.1 หนงั สือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา 2 ม.4
3.2 PowerPoint เรอื่ ง ลกั ษณะทางพันธกุ รรมท่ีเปน็ ส่วนขยายของพันธศุ าสตรเ์ มนเดล
3.3 ใบกิจกรรม เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหา เรื่อง ลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมโดยยีนบน
โครโมโซมเพศ

240

3.4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น เรอื่ ง กฏลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมทีเ่ ปน็ ส่วนขยายของพันธุ
ศาสตรเ์ มนเดล

3.5 ใบงานท่ี 10 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมท่ีควบคมุ โดยยนี บนโครโมโซมเพศ

4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธกี ารวัดผลการเรยี นรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K: Knowledge) การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ไมน่ อ้ ยกวา่

อธ ิบายและ สรุปก ารถ่ายทอด การถามตอบ ร้อยละ 75

ลักษณะทางพันธุกรรมแบบความเด่น การทำแบบทดสอบ

ไม่สมบูรณ์ ความเด่นร่วม มัลติเพิล สังเกตพฤตกิ รรมในการทำงาน

แอลลีล และลักษณะควบคุมด้วยยีน

หลายคู่

เปรยี บเทยี บลักษณะทางพนั ธุกรรมที่

มีการแปรผันไม่ต่อเนื่องและลักษณะ

ทางพันธุกรรมทมี่ ีการแปรผนั ตอ่ เนอื่ ง

นำความรไู้ ปใช้ในการหาโอกาสเกดิ

ลกั ษณะทถ่ี ่ายทอดทางพันธกุ รรมที่

เป็นสว่ นขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P: Process) การทำแบบทดสอบ ผ่านเกณฑไ์ มน่ อ้ ยกว่า

เขียนการถ่ายทอดลกั ษณะพนั ธุกรรม การตรวจแบบฝกึ หดั ร้อยละ 75

ลักษณะตา่ ง ๆ เปน็ ส่วนขยายของพนั ธุ

ศาสตร์เมนเดลได้

ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A: สังเกตพฤติกรรมในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ไม่น้อยกว่า

Attribute) ร้อยละ 75

ทำงานรว่ มกบั ผูอ้ นื่ , รบั ผิดชอบตอ่

การทำงาน, แสดงความคิดเห็น,

นำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี นได้

ดา้ นทักษะกระบวนการทาง สงั เกตพฤตกิ รรมในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ไม่นอ้ ยกว่า

วิทยาศาสตร์ รอ้ ยละ 75

(Sc.P: Science Process Skill)

241

 การคำนวณ/การใช้ตัวเลข
 การพยากรณ/์ การทำนาย
 การลงความเห็นจากข้อมลู

242

แบบสังเกตพฤติกรรม

เรอ่ื ง ลักษณะทางพันธุกรรมที่เปน็ ส่วนขยายของพันธศุ าสตร์เมนเดล 2

คำชี้แจง จงทำเครื่องหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ

พฤตกิ รรมการแสดงออกไวเ้ ปน็ 3 คะแนน ดงั น้ี

3 คะแนน หมายถงึ ผเู้ รียนมพี ฤติกรรมในระดับดี

2 คะแนน หมายถึง ผูเ้ รียนมพี ฤตกิ รรมในระดับปานกลาง

1 คะแนน หมายถึง ผู้เรียนมพี ฤติกรรมในระดับปรับปรงุ

ช่อื -สกลุ รายการประเมนิ คะแนน รอ้ ย สรุปผลการ

ความใสใ่ จ การเสนอ ความ การยอมรบั รวม ละ ประเมนิ

เลขท่ี ในการ ความ รว่ มมอื ใน ฟงั คนอน่ื

ทำงาน คดิ เห็น การทำงาน

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่
ผา่ น

1 นายณัฐนนทส์ ุธรรมฤทธิ์

2 นายระพธี าดา วงศค์ ลุ ี

3 นายจกั รกฤษ สีลาแดง

4 นายจกั รภทั ร จนั ทร์แกว้

5 นายนรภทั ร ศรที อง

6 นายปรัชญา ใจบญุ

7 นายประสิทธิชยั อามาตย์

สมบตั ิ

8 นายจกั รภทั ร สุขณรงค์

9 นายฉัตรดนยั สุภา

10 นายณัฐพล จันทฤาชา

11 นายณัฐวศั พนมธรี -
เกยี รติ

12 นายถริ ะวฒั น์ แตงเอ่ยี ม

13 นายทัธดนยั สแตนลยี ์

14 นายธีรตั เดช นอ้ ยมนตรี

15 นายนันทวฒุ ิ สุขเกิด

243

ชื่อ-สกลุ รายการประเมิน คะแนน ร้อย สรปุ ผลการ
การยอมรบั รวม ละ ประเมนิ
เลขท่ี ความใส่ใจ การเสนอ ความ ฟังคนอ่ืน
ในการ ความ ร่วมมือใน
ทำงาน คิดเห็น การทำงาน

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่
ผ่าน

16 นายนันทศร หไู ธสง

17 นายวชริ วิชญ์ พันพินิจ

18 นายวีรภัทร ครศู รี

19 นายสริ วิชญ์ สมั ฤทธ์ิ

20 น.ส.ปยิ ธิดา อม้ วชิ า

21 น.ส.จรี ะนนั ท์ เเหลย้ ัง

22 น.ส.ปนดั ดา คนดี

23 น.ส.จฑุ ารัตน์ คำเดช

24 น.ส.ชยธิดา สงวนพร

25 น.ส.ณฐั กฤตา หาญโก-
กรวด

26 น.ส.ตติยา อปุ ระโคตร

27 น.ส.ธิดารตั น์ ตอ้ นโสกี

28 น.ส.นครินทร์ สารโี ท

29 น.ส.นภัสสร สำราญบุญ

30 น.ส.ปนดั ดา วรรณบูลย์

31 น.ส.ปิน่ ภทั รา ชินคำ

32 น.ส.ปุณยาพร ทองไชย

33 น.ส.พิชญน์ าฏ ขนั ธวิชัย

34 น.ส.พมิ พร ละดาดาษ

35 น.ส.ภัทรภรณ์ สายสุข

36 น.ส.มณฑาทิพย์ ใจสุข

244

ชอื่ -สกุล รายการประเมนิ คะแนน รอ้ ย สรุปผลการ
การยอมรบั รวม ละ ประเมิน
เลขท่ี ความใสใ่ จ การเสนอ ความ ฟงั คนอ่ืน
ในการ ความ รว่ มมือใน
ทำงาน คิดเหน็ การทำงาน

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผ่าน ไม่
ผ่าน

37 น.ส.ณัฏฐธดิ า อุปะทะ

38 น.ส.รจุ ี บุตรนนท์

39 น.ส.วภิ วานี แสนโสภา

40 น.ส.สริ ิกญั ญา บตุ รน้อย

41 น.ส.สกุ ฤตา บรรเรอื ง-
ทอง

42 น.ส.นันทิพร โอนากุล

เกณฑก์ ารประเมิน
รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป ( 9 - 12 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกว่ารอ้ ยละ 75 ( 0 – 8 คะแนน ) ไม่ผา่ นเกณฑ์

ลงชื่อ ........................................................ ผูส้ อน
(นางสาวสุภาวิณี เพิ่มทอง)

วันท่ี ............ เดือน ........................ พ.ศ..............

245

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ประเด็นทป่ี ระเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน

321

ความใสใ่ จในการ เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่ ส่ว น ใหญ ่เมื่อเกิด เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่

ทำงาน เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง ปัญหาหรือไม่เข้าใจ เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง

มักซักถามและมีความ บทเรียนทุกครั้งมัก มักซักถามและมีความ

พยายามในการค้นหา ซักถามและมีความ พยายามในการค้นหา

คำตอบอยู่เสมอ พยายามในการค้นหา คำตอบเปน็ บางคร้ัง

คำตอบ

การเสนอความคดิ เหน็ ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ส น อ เสนอความคิดเห็น ไม่เสนอความคิดเห็น

ความคิดเห็น กล้า กล้าแสดงออกที่จะพูด กล้าแสดงออกที่จะพูด

แสดงออกที่จะพูดใน ใน สิ่ง ที่ถูก หร ือ ดี ในสิง่ ที่ถกู หรอื ดี

ส่งิ ทีถ่ ูกหรอื ดี บางครั้ง

ความรว่ มมือในการ ใหค้ วามร่วมมอื ในการ ส่วนใหญ่ให้ค ว าม ใหค้ วามร่วมมอื ในการ

ทำงาน ทำงานกลมุ่ และ ร่วมมือในการทำงาน ทำงานกลุ่มและ

ปฏบิ ัตงิ านทีส่ มาชิกใน กลุ่มและปฏิบัติงานที่ ปฏิบตั งิ านที่สมาชิกใน

กลมุ่ มอบหมายดว้ ย ส ม า ช ิ ก ใ น ก ลุ่ ม กลุ่มมอบหมายได้เป็น

ความเต็มใจทกุ ครั้ง มอบหมายได้ บางคร้ัง

การยอมรับฟังคนอ่นื ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ไม่ยอมรับฟังความ

คิดเห็น ที่ดีและ มี คิดเห็น ที่ดีและ มี คิดเห็น ที่ดีและ มี

เหตุผลของผู้อื่นทุก เหตุผลของผู้อื่นบ้าง เหตุผลของผู้อื่น มัก

ค ร ั ้ ง ไ ม ่ ย ึ ด ค ว า ม แต่บาง คร ั้ง จะ ยึ ด ยึดความคิดเห็นของ

คิดเห็นของตนแต่ฝ่าย ความคิดเห็นของตน ตนแต่ฝ่ายเดียว

เดียว

246

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

ชื่อกลุม่ ...............................................................................................................ช้ัน............................

รายชือ่ สมาชิก 1. .............................................................................................เลขที.่ ..........................

2. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................

3. .............................................................................................เลขที่...........................

4. .............................................................................................เลขที่...........................

5. .............................................................................................เลขที่...........................

6. .............................................................................................เลขที.่ ..........................

คำชแ้ี จง จงทำเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั พฤติกรรมท่ผี ู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ

พฤติกรรมการแสดงออกไวเ้ ปน็ 3 คะแนน ดงั น้ี

3 คะแนน หมายถึง ผู้เรียนมพี ฤตกิ รรมการแสดงออกอยา่ งสมำ่ เสมอ

2 คะแนน หมายถึง ผู้เรยี นมีพฤติกรรมการแสดงออกเปน็ ครง้ั คราว

1 คะแนน หมายถงึ ผูเ้ รียนมพี ฤตกิ รรมการแสดงออกนอ้ ยครัง้

ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเหน็

32 1

1 การเตรยี มความพร้อม

2 เนื้อหาสาระครอบคลมุ ชัดเจน

3 ความถกู ต้องของเนื้อหา

4 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกใน

กลมุ่

5 รูปแบบการนำเสนอ

รวม

เกณฑ์การประเมิน
รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป ( 11 - 15 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกว่าร้อยละ 75 ( 0 – 10 คะแนน ) ไม่ผ่านเกณฑ์

ลงช่อื ........................................................ ผูส้ อน
(นางสาวสภุ าวณิ ี เพิม่ ทอง)

วันท่ี ............ เดือน ........................ พ.ศ..............

247

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ประเด็นทีป่ ระเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน

321

การเตรียมความพร้อม ดำเนินการตามแผนท่ี ดำเนินการตามแผนท่ี ไม่สามารถดำเนินการ

วางไว้ ใช้อุปกรณ์และ วางไว้ ใช้อุปกรณ์และ ตามแผนที่วางไว้

สื่อประกอบได้ถูกต้อง สื่อประกอบได้ถูกต้อง

คล่องแคล่ว และเสร็จ แต่ไมค่ ล่องแคล่ว

ทันเวลา

เนือ้ หาสาระ เน ื้อหาถูก ต้อง มี เน ื้อ หาถูก ต้อง มี เนื้อหาถูกต้องแต่ให้

ครอบคลุมชัดเจน สาระสำคัญครบถ้วน สาระสำคัญ แต่ยังไม่ สาระสำคัญน้อยมาก

และระบุแหล่งที่มา ครบถ้วน มีการระบุ และไม่ระบุแหล่งที่มา

ของความรู้ชดั เจน แหล่งทมี่ าของความรู้ ของความรู้

ความถูกต้องของ เนื้อหาสาระถกู ตอ้ ง ส่วนใหญ่เนื้อหาสาระ เน้ือหาสาระไม่ถกู ต้อง
เนื้อหา
ครบถว้ น ถูกต้อง
การมสี ว่ นรว่ มของ
สมาชิกในกลุ่ม มีส่วนร่วมสมำ่ เสมอ มีส่วนร่วมบางครั้ง มีส่วนร่วมน้อยครั้ง/

รปู แบบการนำเสนอ ขาดการมสี ่วนร่วม

มีรูปแบบน่าสนใจ มี ร ู ป แ บ บ มี ไม่มีรูปแบบน่าสนใจ

ค ว า ม ส ั ม พ ั น ธ ์ กั บ ค ว า ม ส ั ม พ ั น ธ ์ กั บ มีความสัมพันธ์กับ

ห ั ว ข ้ อ ท ี ่ ก ำ ห น ด หัวข้อที่กำหนด แต่ไม่ หัวข้อที่กำหนดน้อย

ระบายสีไดส้ วยงาม ดึงดูดความสนใจ มาก

248

249

250

ใบงานท่ี 10
เรอ่ื ง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมที่ควบคมุ โดยยีนบนโครโมโซมเพศ

คำชีแ้ จง : ทำนายโอกาสเกิดโรคทางพันกุ รรมของรุ่นลกู ต่อไปน้ี

1. พอ่ เป็นโรคฮีโมฟเิ ลยี แม่ปกตแิ ตเ่ ป็นพาหะของโรคฮีโมฟเิ ลยี
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
2. พอ่ มภี าวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD แม่ปกติ
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................

ชอ่ื ....................................................................................................เลขท.ี่ ..................ห้อง.....................

251

เฉลยใบงานท่ี 10
เรอ่ื ง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมที่ควบคุมโดยยีนบนโครโมโซมเพศ

คำชแ้ี จง : ทำนายโอกาสเกดิ โรคทางพนั ุกรรมของรุ่นลกู ต่อไปนี้
1. พ่อเปน็ โรคฮโี มฟเิ ลีย แม่ปกตแิ ตเ่ ป็นพาหะของโรคฮีโมฟิเลยี

กำหนดให้ H แทนแอลลีลปกติ

h แทนแอลลีลของโรคฮโี มฟเิ ลยี

วิธีทำ P พ่อเป็นโรคฮีโมฟเิ ลีย x แมป่ กติแต่เปน็ พาหะ

จีโนไทป์ XhY x XHXh

เซลล์สืบพนั ธ์ุ ½ Xh , ½ Y x ½ XH , ½ Xh

F1 ¼ XHXh ¼ XhXh ¼ XHY ¼ XhY
ฟีโนไทป์ ลูกสาวปกติ
ลกู สาวเป็นโรค ลูกชายปกติ ลูกชายเปน็ โรค

แต่เปน็ พาหะ ฮโี มฟิเลยี ฮีโมฟิเลยี

ดังน้ัน ลูกสาวมีโอกาสเป็นโรคฮโี มฟิเลีย รอ้ ยละ 50 และมโี อกาสเปน็ พาหะของโรค ร้อยละ 50

ลกู ชายมีโอกาสเป็นโรคฮโี มฟเิ ลยี ร้อยละ 50 และมโี อกาสปกติ ร้อยละ 50

2. พอ่ มีภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD แมป่ กติ

กำหนดให้ G แทนแอลลีลปกติ

g แทนแอลลีลของภาวะพร้องเอนไซม์ G-6-PD

วธิ ีทำ P พอ่ มภี าวะพรอ่ งเอนไซม์ x แมป่ กติ

จีโนไทป์ XgY x XGXG

เซลลส์ ืบพันธ์ุ ½ Xg , ½ Y x XG

F1 ½ XGXg ½ XGY
ฟีโนไทป์ ลูกสาวเปน็ โรค ลูกชายปกติ

แต่เป็นพาหะ

ดังนั้น ลกู สาวทุกคนปกติ แต่เป็นพาหะของภาวะพรอ่ งเอนไซม์ G-6-PD

ลูกชายทุกคนปกติ

ชอื่ ....................................................................................................เลขท.่ี ..................หอ้ ง.....................

252

ใบกจิ กรรม เรอื่ ง การแกโ้ จทยป์ ัญหา
เรื่อง ลักษณะทางพันธุกรรมท่ีควบคุมโดยยีนบนโครโมโซมเพศ

ชอื่ กลมุ่ ............................................................................................................ชั้น..................................
รายชือ่ สมาชิก 1. .........................................................................................เลขที่..................................

2. .........................................................................................เลขท่…ี …............................
3. .........................................................................................เลขท…่ี …….........................
4. .........................................................................................เลขที่……….........................
5. .........................................................................................เลขที่……............................
6. .........................................................................................เลขที่..................................
คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเตรียมอุปกรณต์ ามท่ีกำหนดให้ และศึกษาวิธีทำ จากนนั้ ใหว้ าดภาพหรือตดิ ภาพ
ผลการทดลอง และสรปุ ผลของกิจกรรมการทดลอง

กิจกรรม เร่ือง การแกโ้ จทยป์ ัญหา
เรื่อง ลกั ษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมโดยยีนบนโครโมโซมเพศ
จุดประสงค์
อธิบายการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทค่ี วบคุมโดยยีนบนโครโมโซมเพศ
วธิ กี ารทำกิจกรรม
ตอบคำถามจากโจทย์ปัญหาต่อไปน้ี
1. หญิงตาปกติคนหนึ่งมีพ่อเป็นตาบอดสีแต่งงานกับชายตาปกติซึ่งมีพ่อเป็นตาบอดสี จงหา
โอกาสของลกู ท่จี ะเปน็ ตาบอดสี

253

2. จากพันธุประวัติแสดงการถ่ายทอดโรคฮีโมฟิเลียซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมโดย
แอลลลี ดอ้ ยบนโครโมโซม X

2.1 จากพนั ธุประวัติมบี ุคคลใดบา้ งทม่ี ีจโี นไทป์เปน็ เฮเทอโรไซกัสอย่างแนน่ อน

2.2 ถ้าบุคคลที่ 1 ในรุ่นที่ IV แตง่ งานกบั ชายปกติ โอกาสท่ลี ูกจะแสดงลกั ษณะดังกล่าวเป็นเท่าใด

3. หญงิ ปกตคิ นหนึง่ แต่งงานกบั ชายท่ีเปน็ โรคฮีโมฟเิ ลีย มีลูกสาวคนหนึง่ เป็นโรคฮโี มฟเิ ลยี
3.1 จีโนไทป์ของหญิงชายคู่นี้ และลูกสาวเปน็ อย่างไร

3.2 โอกาสท่ลี กู คนถัดไปจะเปน็ เพศหญงิ และเป็นโรคฮีโมฟเิ ลยี เป็นเท่าใด

254

ตัวอย่างใบกจิ กรรม เรอ่ื ง การแก้โจทยป์ ญั หา
เร่ือง ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่คี วบคุมโดยยีนบนโครโมโซมเพศ

ชื่อกลุ่ม............................................................................................................ช้นั ..................................
รายชอื่ สมาชิก 1. .........................................................................................เลขที่..................................

2. .........................................................................................เลขท่…ี …............................
3. .........................................................................................เลขที่……….........................
4. .........................................................................................เลขที่……….........................
5. .........................................................................................เลขท่…ี …............................
6. .........................................................................................เลขท่.ี .................................
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเตรียมอปุ กรณต์ ามทีก่ ำหนดให้ และศึกษาวธิ ที ำ จากนัน้ ให้วาดภาพหรือตดิ ภาพ
ผลการทดลอง และสรุปผลของกจิ กรรมการทดลอง

กจิ กรรม เรือ่ ง การแกโ้ จทย์ปัญหา
เร่อื ง ลักษณะทางพนั ธุกรรมที่ควบคุมโดยยีนบนโครโมโซมเพศ
จดุ ประสงค์
อธิบายการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมท่ีควบคมุ โดยยนี บนโครโมโซมเพศ
วธิ กี ารทำกจิ กรรม
ตอบคำถามจากโจทย์ปัญหาต่อไปน้ี
1. หญิงตาปกติคนหนึ่งมีพ่อเป็นตาบอดสีแต่งงานกับชายตาปกติซึ่งมีพ่อเป็นตาบอดสี จงหา
โอกาสของลูกทจ่ี ะเปน็ ตาบอดสี
หญิงตาปกติแต่มีพ่อตาบอดสี แสดงว่าหญิงคนนี้เป็นพาหะของตาบอดสี และมีจีโนไทป์
เป็น XCXc โดยแอลลีล Xc ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อซึ่งเป็นตาบอดสี ส่วนชายตาปกติมี
พ่อตาบอดสี จะไม่รับการถ่ายทอดยีนตาบอดสีจากพ่อจึงมีจีโนไทป์เป็น X Y ดังนั้นจะมี
โอกาสที่ลูกตาบอดสีเท่ากับ 1/4 และเกิดกบั ลกู ชาย ดงั น้กี ำหนดให้ C แทนแอลลลี ควบคุมลักษณะ
ตาปกติ c แทนแอลลลี ควบคมุ ลักษณะตาบอดสี

255

2. จากพันธุประวัติแสดงการถ่ายทอดโรคฮีโมฟิเลียซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมโดย
แอลลีลดอ้ ยบนโครโมโซม X

2.1 จากพนั ธปุ ระวัติมบี คุ คลใดบ้างที่มจี โี นไทป์เปน็ เฮเทอโรไซกัสอย่างแนน่ อน
บุคคลที่ 2 ในรุ่นที่ I บุคคลที่ 2 ในรุ่นที่ III และบุคคลที่ 4 ในรุ่นที่ III มีจีโนไทป์เป็นเฮเทอโรไซกัส
อย่างแนน่ อน

256

2.2 ถ้าบคุ คลที่ 1 ในรุ่นท่ี IV แต่งงานกับชายปกติ โอกาสท่ลี กู จะแสดงลกั ษณะดังกลา่ วเปน็ เทา่ ใด

3. หญิงปกตคิ นหนึ่งแต่งงานกบั ชายทเ่ี ปน็ โรคฮโี มฟิเลยี มีลกู สาวคนหนึ่งเป็นโรคฮีโมฟเิ ลยี
3.1 จโี นไทปข์ องหญงิ ชายคูน่ ้ี และลกู สาวเปน็ อยา่ งไร

3.2 โอกาสทีล่ กู คนถดั ไปจะเป็นเพศหญิงและเปน็ โรคฮีโมฟิเลียเปน็ เท่าใด
โอกาสที่ลูกคนถัดไปจะเป็นเพศหญิงและเป็นโรคฮีโมฟิเลีย คือ 1/4 แม้ว่าลูกสาวคนก่อนหน้าจะ
เป็นโรคไปแล้ว ลกู คนถัด ๆ ไปก็มโี อกาสท่จี ะเปน็ โรคได้ในโอกาสเทา่ เดมิ

257

แบบทดสอบหลังเรียน เร่อื ง ลักษณะทางพนั ธุกรรมที่เปน็ ส่วนขยายของพนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล
ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

รายวชิ าชวี วทิ ยา 2 รหัสวชิ า ว31242 เวลาสอบ 10 นาที
คำชแ้ี จง: แบบทดสอบทง้ั หมดประกอบด้วย ข้อสอบปรนัย 4 ตวั เลอื ก จำนวน 10 ข้อ
1. ชายคนหนึง่ มีเลือดหมู่ A แตง่ งานกับหญงิ มเี ลอื ดหมู่ B มบี ุตรคนแรกเปน็ เลอื ดหมู่ O จงหา
genotype ของพ่อและแม่ และสามี ภรรยาค่นู ้ีโอกาสมบี ุตรเลอื ดหม่ใู ดได้อีกบา้ ง

ก. พ่อ IAIA, แม่ IBi, ลกู AB และ A
ข. พอ่ IAi, แม่ IBIB, ลูก A และ B
ค. พ่อ IAi, แม่ IBi, ลกู A, B และ O
ง. พอ่ IAi, แม่ IBi, ลกู AB, A, B และ O
2. การถ่ายทอดโรคทางพนั ธกุ รรมชนดิ หนง่ึ ทค่ี วบคุมโดยยนี เพยี งยนี เดยี ว พบวา่ ถ้าพ่อและแมเ่ ป็น
พาหะของโรคโอกาสท่ีลกู 1 ใน 4 เป็นโรคนี้ด้วย โดยท่ีเพศหญงิ และชายมีโอกาสเกดิ โรคเทา่ ๆ กัน
โรคพนั ธุกรรมน้ีมกี ารถา่ ยทอดแบบใด
ก.ยีนเดน่ บนออโตโซม
ข.ยีนด้อย บนออโตโซม
ค.ยีนเดน่ บนโครโมโซม X
ง.ยนี ดอ้ ย บนโครโมโซม x
3. ขอ้ ใดตอ่ ไปนีจ้ ัดเปน็ การแปรผันแบบตอ่ เน่อื ง
ก. ความสงู , การมีลักยมิ้
ข. น้ำหนกั , สีผวิ ของคน
ค. การมตี ิ่งห,ู การงอนิว้
ง. การห่อล้นิ , สติปัญญา
4. เหตุใดการถา่ ยทอดลกั ษณะของเส้นผมในคนจงึ เปน็ การข่มไม่สมบูรณ์
ก. เพราะแอลลลี ที่ควบคมุ ลักษณะเส้นผมในคนมมี ากกว่า 2 แอลลีลใน 1 ลกั ษณะ
ข. เพราะแอลลีลของผมตรง ผมหยกิ และผมหยักศก ต่างเป็น แอลลลี ด้อยทั้งหมด
ค. เพราะแอลลีลท่ีควบคุมลกั ษณะผมต่างกแ็ สดงลักษณะเท่าๆ กนั
ง. เพราะแอลลีลแต่ละแอลลีลเปน็ ลักษณะเด่นไม่สมบูรณ์

258

5. ลักษณะท่ีไม่ได้เปน็ sex – linkage คือ
ก. โรคเลือดไม่หยดุ
ข. ตาบอดสี
ค. หมู่เลอื ด
ง. สตี าแมลงหวี่

6. ชายผวิ เผอื กมลี ักษณะผิวเผือกแท้ แตง่ งานกับหญิงผวิ ปกตมิ ีลกั ษณะผวิ ปกตแิ ท้ ลูกทอี่ อกมาจะมีผิว
เผอื กกีเ่ ปอรเ์ ซ็นต์

ก. 0
ข. 25
ค. 50
ง. 75
7. เมล็ดข้าวสาลีถูกควบคุมด้วยพอลียีน นักเรยี นคิดว่าสาเหตใุ ดทสี่ ง่ ผลต่อความเข้มของเมล็ดขา้ วสาลี
ก. จำนวนแอลลีลในจีโนไทป์
ข. อุณหภมู ิของสภาพแวดลอ้ ม
ค. จำนวนแอลลีลทีค่ วบคุมลกั ษณะของสี
ง. จำนวนแอลลลี เด่นในจีโนไทป์
8. ชายที่มหี มู่เลือด AB แตง่ งานกับหญงิ ท่ีมีหม่เู ลอื ด AB จะมโี อกาสไดล้ ูกคนแรกมีหมเู่ ลือด AB รอ้ ย
ละ
ก.25
ข.50
ค.75
ง. 100
9. ขอ้ ใดตอ่ ไปนีก้ ลา่ วถกู ตอ้ ง
ก. B′B′ จะแสดงอาการศีรษะลา้ นท้งั ในเพศหญิงและเพศชาย
ข. BB จะแสดงอาการศีรษะลา้ นเฉพาะในเพศชายเท่านั้น
ค. BB′ จะไมแ่ สดงอาการศรี ษะลา้ นในเพศหญงิ
ง. BB′ จะไม่แสดงอาการศีรษะล้านในเพศชาย

259

10. โรคทางพนั ธกุ รรมที่เกิดจากยนี เดน่ บนโครโมโซม X ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง
ก. โรคตาบอดสี
ข. โรคภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD
ค. โรคฮีโมฟิเลยี
ง. มนษุ ยห์ มาป่า

260

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทเ่ี ปน็ สว่ นขยายของพนั ธุศาสตร์เมนเดล
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4

รายวิชาชีววิทยา 2 รหัสวิชา ว31242 เวลาสอบ 10 นาที
คำช้แี จง: แบบทดสอบทง้ั หมดประกอบด้วย ข้อสอบปรนัย 4 ตวั เลอื ก จำนวน 10 ขอ้
1. ชายคนหนง่ึ มีเลือดหมู่ A แต่งงานกับหญงิ มีเลือดหมู่ B มีบุตรคนแรกเป็นเลือดหมู่ O จงหา
genotype ของพอ่ และแม่ และสามี ภรรยาคนู่ ้โี อกาสมีบตุ รเลอื ดหมู่ใดได้อกี บ้าง

ก. พ่อ IAIA, แม่ IBi, ลูก AB และ A
ข. พอ่ IAi, แม่ IBIB, ลูก A และ B
ค. พอ่ IAi, แม่ IBi, ลูก A, B และ O
ง. พอ่ IAi, แม่ IBi, ลกู AB, A, B และ O
2. การถา่ ยทอดโรคทางพันธกุ รรมชนิดหนึง่ ทีค่ วบคุมโดยยนี เพยี งยนี เดียว พบวา่ ถา้ พอ่ และแมเ่ ปน็
พาหะของโรคโอกาสที่ลกู 1 ใน 4 เป็นโรคน้ีดว้ ย โดยท่เี พศหญิงและชายมีโอกาสเกดิ โรคเท่า ๆ กนั
โรคพันธกุ รรมนี้มกี ารถา่ ยทอดแบบใด
ก.ยนี เด่น บนออโตโซม
ข.ยีนด้อย บนออโตโซม
ค.ยนี เด่น บนโครโมโซม X
ง.ยนี ด้อย บนโครโมโซม x
3. ขอ้ ใดต่อไปนีจ้ ดั เปน็ การแปรผันแบบต่อเนื่อง
ก. ความสูง, การมีลักยิม้
ข. นำ้ หนกั , สีผวิ ของคน
ค. การมตี ิ่งห,ู การงอนวิ้
ง. การห่อล้ิน, สติปญั ญา
4. เหตุใดการถา่ ยทอดลกั ษณะของเสน้ ผมในคนจึงเปน็ การข่มไมส่ มบูรณ์
ก. เพราะแอลลีลท่ีควบคุมลกั ษณะเส้นผมในคนมมี ากกวา่ 2 แอลลีลใน 1 ลักษณะ
ข. เพราะแอลลีลของผมตรง ผมหยกิ และผมหยกั ศก ตา่ งเป็น แอลลีลดอ้ ยทงั้ หมด
ค. เพราะแอลลีลที่ควบคมุ ลักษณะผมต่างกแ็ สดงลักษณะเทา่ ๆ กนั
ง. เพราะแอลลีลแต่ละแอลลีลเปน็ ลักษณะเด่นไม่สมบูรณ์

261

5. ลักษณะท่ีไม่ได้เปน็ sex – linkage คอื
ก. โรคเลือดไม่หยดุ
ข. ตาบอดสี
ค. หมู่เลอื ด
ง. สตี าแมลงหวี่

6. ชายผวิ เผอื กมลี ักษณะผิวเผือกแท้ แต่งงานกับหญิงผวิ ปกตมิ ีลกั ษณะผวิ ปกตแิ ท้ ลูกทอี่ อกมาจะมีผิว
เผอื กกีเ่ ปอรเ์ ซ็นต์

ก. 0
ข. 25
ค. 50
ง. 75
7. เมล็ดข้าวสาลีถูกควบคุมด้วยพอลยี ีน นกั เรยี นคิดว่าสาเหตใุ ดทสี่ ง่ ผลต่อความเข้มของเมล็ดขา้ วสาลี
ก. จำนวนแอลลีลในจีโนไทป์
ข. อุณหภมู ิของสภาพแวดลอ้ ม
ค. จำนวนแอลลีลทีค่ วบคุมลกั ษณะของสี
ง. จำนวนแอลลลี เด่นในจีโนไทป์
8. ชายที่มหี มู่เลือด AB แตง่ งานกบั หญงิ ทม่ี ีหม่เู ลอื ด AB จะมโี อกาสไดล้ ูกคนแรกมีหมเู่ ลือด AB รอ้ ย
ละ
ก.25
ข.50
ค.75
ง. 100
9. ขอ้ ใดตอ่ ไปนีก้ ลา่ วถกู ตอ้ ง
ก. B′B′ จะแสดงอาการศีรษะลา้ นท้งั ในเพศหญิงและเพศชาย
ข. BB จะแสดงอาการศีรษะลา้ นเฉพาะในเพศชายเท่านั้น
ค. BB′ จะไมแ่ สดงอาการศรี ษะลา้ นในเพศหญงิ
ง. BB′ จะไม่แสดงอาการศีรษะล้านในเพศชาย

262

10. โรคทางพนั ธกุ รรมที่เกิดจากยนี เดน่ บนโครโมโซม X ขอ้ ใดถกู ตอ้ ง
ก. โรคตาบอดสี
ข. โรคภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD
ค. โรคฮีโมฟิเลยี
ง. มนษุ ยห์ มาป่า

263

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 11

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอื่ ง การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม 15 ชว่ั โมง

เร่ือง ยนี บนโครโมโซมเดยี วกัน 3 ชว่ั โมง

ครผู สู้ อน นางสาวสุภาวิณี เพม่ิ ทอง ภาคเรยี นท่ี 2/2564

ผลการเรยี นรู้และสาระการเรียนรู้เพ่ิมเตมิ

สาระชีววิทยา 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ

และหน้าที่ของสารพันธกุ รรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูล และแนวคิด

เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความ

หลากหลายทางชีวภาพ กำเนดิ ของสิง่ มชี วี ติ ความหลากหลายของส่งิ มีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้ง

นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ชั้น ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเตมิ

ม.4 อ ธ ิ บ า ย ก า ร ถ ่ า ย ท อ ด ย ี น บ น  เมื่อมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ยีนบนโครโมโซม

โครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะ เดียวกันทีอ่ ย่ใู กลก้ ันมักจะถกู ถ่ายทอดไปดว้ ยกันแต่การ

ทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีน เกิดครอสซิงโอเวอร์ในการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสอาจ

บนออโตโซมและยีนบนโครโมโซม ทำให้ยีนบนโครโมโซมเดียวกนั แยกจากกันได้ ส่งผลให้

เพศ รูปแบบของเซลล์สืบพันธ์ุที่ได้แตกต่างไปจากกรณีที่ไม่

เกดิ ครอสซงิ โอเวอร์

1. กำหนดเปา้ หมายของการจัดการเรียนรู้
1.1 สาระการเรยี นร้/ู เนอื้ หาการเรยี นรู้
เรื่อง ลักษณะทางพันธุกรรมทีเ่ ปน็ ส่วนขยายของพนั ธุศาสตรเ์ มนเดล 2
1) ยีนบนโครโมโซมเดียวกัน
1.2 สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดของเรอ่ื งที่เขยี น
พอลิยีน (polygene) เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนหลายยีน และมี

ส่งิ แวดลอ้ มมาเก่ยี วขอ้ ง เชน่ สผี ิว สีตา
ลักษณะทางพันธุกรรมบางลักษณะมีความแตกต่างกันชัดเจน เช่น การมีติ่งหูหรือไม่มีติ่งหู

ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่อง แต่บางลักษณะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย

264

และลดหลั่นกันไป เช่น ความสูงและสีผิวของมนุษย์ถูกควบคุมโดยยีนหลายคู่ ซึ่งเป็นลักษณะทาง

พนั ธุกรรมทมี่ กี ารแปรผันตอ่ เนื่องและส่งิ แวดลอ้ มอาจมผี ลตอ่ การแสดงลกั ษณะนั้น

โครโมโซมภายในเซลล์ร่างกายแบ่งเป็นออโตโซมและโครโมโซมเพศ ยีนบนโครโมโซมจะ

ถ่ายทอดสรู่ ่นุ ถัดไปผ่านเซลล์สืบพนั ธุ์ ลกั ษณะทางพันธุกรรมสว่ นใหญ่ถูกควบคมุ ด้วยยีนบนออโตโซม

ซึ่งยีนที่ควบคุมลักษณะต่างๆ จะอยู่กันเป็นคู่ บางลักษณะถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมเพศ

ซึ่งทำใหโ้ อกาสในการแสดงลกั ษณะในเพศชายและเพศหญิงแตกตา่ งกัน

1.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้: เมอ่ื ผ้เู รียนจบกิจกรรมการเรยี นรู้ ผเู้ รียนสามารถ

ด้านความรู้ (K: Knowledge)  อธบิ ายการถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซมเดียวกัน

และการเกิดครอสซิงโอเวอร์ในการแบ่งเซลล์

แบบไมโอซิส

 อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และ

ยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุม

ดว้ ยยนี บนออโตโซมและยีนบนโครโมโซมเพศ

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P: Process) สืบค้นข้อมูลเกีย่ วกับยีนบนโครโมโซมเดยี วกนั

ได้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A: Attribute) ทำงานร่วมกบั ผู้อน่ื , รับผิดชอบต่อการทำงาน,

แสดงคงามคิดเหน็ , นำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น

ได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

(Sc.P: Science Process Skill)

 การสงั เกต  การลงความเห็นจากข้อมูล

 การวดั  การกำหนดและควบคมุ ตัวแปร

 การคำนวณ/การใช้ตวั เลข  การกำหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบัตกิ าร

 การจำแนกประเภท  การตั้งสมมติฐาน

 การจัดกระทำและสอื่ ความหมายขอ้ มลู  การทดลอง

 การหาความสมั พันธ์ระหวา่ งสเปสกบั สเปส  การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรุป

และสเปสกบั เวลา  การสร้างแบบจำลอง

 การพยากรณ/์ การทำนาย

265

2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 5E รว่ มกับ STAD
2.1 ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement)
2.1.1 ครูอาจตั้งคำถามวา่ ยีนที่ควบคุมลักษณะต่าง ๆ ของสิ่งมชี ีวิตแต่ละชนิดมจี ำนวนมาก

ยนี ที่อย่บู นโครโมโซมเดยี วกันจะมีหลักการการถ่ายทอดเหมือนกับการทดลองของเมนเดลหรือไม่ ครู
เปิดโอกาสให้นักเรียนอภิปรายอย่างอิสระ โดยใช้ความรู้เดิมที่นักเรียนได้เรียนมาแล้วเกี่ยวกับการ
ถา่ ยทอดยนี ทอ่ี ยบู่ นโครโมโซมตา่ งคู่กัน (แนวคำตอบ : ยีนเหล่านี้จะถกู ถา่ ยทอดไปดว้ ยกนั ได้

2.1.2 จากนั้นครูให้ความรู้เกี่ยวกับลิงเกจ (linkage) ว่า การที่ยีน 2 โลคัสหรือมากกว่า 2
โลคัสมกี ารถา่ ยทอดไปด้วยกนั พร้อม ๆ กัน ยีนเหล่าน้ันเรยี กว่า ลิงเกจ)

2.2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration)
2.2.1 แบง่ นกั เรียนออกเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 5-6 คน คละความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน
2.2.2 ให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ศึกษาและร่วมกันอภปิ รายภายในกลุม่ เรื่อง ยนี บนโครโมโซม
เดยี วกนั ในหนงั สอื เรียนชีววิทยา 2 หนา้ 101 – 104
2.2.3 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลของกิจกรรมและองค์ความรู้ที่สรุปได้จาก

การศกึ ษาในหนังสือเรียนชวี วทิ ยา 2 เพ่อื นำเสนอหน้าชั้นเรยี น

2.3 ข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
2.3.1 ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลของกิจกรรมและองค์ความรู้ท่ีสรปุ ได้ หน้าชั้น

เรียน
2.3.2 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายผลของกจิ กรรม และนำสรุปองคค์ วามรู้ ดงั นี้

1) โครโมโซมเป็นแหล่งรวมของยีนดังนั้น แต่ละโครโมโซมซ่ึงมียีนจำนวนมาก และจากการผสมพันธ์ุ
แมลงหวี่ตัวสีน้ำตาลปีกปกติที่มีจีโนไทป์ที่เป็นเฮเทอโรไซกัสในรุ่นพ่อแม่จะสร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้ 2
แบบ คือ b+ vg+ และ b vg เมื่อผสมกับแมลงหวี่ตัวสีดำปีกกดุ ซึ่งสร้างเซลล์สืบพันธ์ุแบบเดียวคือ b
vg จะไดร้ นุ่ F2 ทม่ี ีฟโี นไทป์ 2 แบบ คอื ตวั สนี ้ำตาลปกี ปกติและตวั สดี ำปกี กดุ ในอตั ราสว่ น 1 : 1

266

2) ยีนบนโครโมโซมเดียวกันจะถ่ายทอดไปด้วยกัน แต่การเกิดครอสซิงโอเวอร์ที่มีการแลกเปลี่ยน
ชิ้นส่วนของโครมาทดิ จะมผี ลทำให้ยนี บนโครโมโซมเดียวกันที่เคยถา่ ยทอดไปดว้ ยกันบางส่วนจะตอ้ ง
แยกออกจากกันและเกิดรีคอมบิเนชัน (recombination) ไปปรากฏในเซลล์สืบพันธุ์เดียวกันได้เม่ือ
เกดิ การผสมพนั ธุ์จงึ ก่อให้เกดิ ลักษณะท่ีมีความแปรผนั ซึง่ มความสำคัญตอ่ วิวฒั นาการ

2.4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration)
2.4.1 ครูใชถ้ ามเพอ่ื ขยายความรู้ โดยการใหน้ กั เรยี นตอบคาถามลงในสมดุ ดงั นี้
• หมู่เลือดระบบ ABO ในมนุษย์ควบคุมด้วยยีนบนออโตโซม โรคตาบอดสีควบคุมด้วย

แอลลีลด้อย บนโครโมโซมเพศ พ่อและแม่มีเลือดหมู่ A และตาปกติทั้งคู่ มีลูกชายคน
หนึ่งมีเลือดหมู่O และ ตาบอดสีพ่อแม่คู่นี้จะมีโอกาสให้กำเนิดลูกในกรณีต่อไปนี้เป็น
เท่าใด
1 ลูกสาวมีเลอื ดหมู่ O และตาปกติ
2 ลกู ชายมีเลอื ดหมู่ A และตาบอดสี

267

แนวคำตอบ :
1. ลูกสาวมีเลอื ดหมู่ O และตาปกตใิ นอตั ราสว่ น หรือ 1/8
2. ลกู ชายมีเลือดหมู่ A และตาบอดสีในอัตราสว่ นจากขอ้ มลู สามารถสรุปได้ว่า จีโนไทป์ของพ่อและแม่
เลอื ดหมู่ A จะเป็น IAi จากขอ้ มลู วา่ ลูกมเี ลอื ดหมู่ O แสดงวา่ ไดร้ บั แอลลีล i จากพ่อและแม่ ส่วนจีโน
ไทป์ตาปกติของพ่อและแม่จะเป็น XCY และ XCXc ตามลำาดับ เนื่องจากมีลูกชายตาบอดสีซึ่งได้
แอลลลี โรคตาบอดสีจากแม่ท่ีเปน็ พาหะ พอ่ แม่คนู่ ม้ี โี อกาสมีลูกที่มีจโี นไทป์ต่างๆ ดงั น้ี

2.5 ขั้นประเมิน (Evaluation)
2.5.1 ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน บทที่ 5 เรื่อง การถ่ายทอด

ลักษณะทางพันธุกรรม ซึ่งเป็นการทดสอบรวบยอดและนำคะแนนของตนไปหาคะแนนพัฒนาการ
กลมุ่ ใดไดค้ ะแนนพัฒนาการของกลุ่มสงู สดุ กลมุ่ นนั้ ได้รับรางวลั จากครู

268

3. ส่อื /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้
3.1 หนงั สอื เรยี นรายวิชาเพม่ิ เตมิ ชีววิทยา 2 ม.4
3.2 PowerPoint เร่อื ง ยีนบนโครโมโซมเดยี วกนั
3.4 บบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น บทท่ี 5 เรื่อง การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

4. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีการวัดผลการเรียนรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K: Knowledge) การนำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่า

 อ ธ ิ บ า ย ก า ร ถ ่ า ย ท อ ด ย ี น บ น การถามตอบ รอ้ ยละ 75

โครโมโซมเดียวกัน และการเกิดครอส การทำแบบทดสอบ

ซิงโอเวอร์ในการแบ่งเซลล์แบบไมโอ สังเกตพฤตกิ รรมในการทำงาน

ซิส

 อธิบายการถ่ายทอดยีนบน

โครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะ

ทางพนั ธุกรรมทถ่ี ูกควบคุมดว้ ยยีนบน

ออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P: Process) การทำแบบทดสอบ ผ่านเกณฑไ์ ม่น้อยกว่า

สืบค้น ข้อมูลเก ี่ยว ก ับย ี น บ น การตรวจแบบฝกึ หดั รอ้ ยละ 75

โครโมโซมเดียวกันได้

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A: สังเกตพฤติกรรมในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ไมน่ ้อยกวา่

Attribute) ร้อยละ 75

ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ื่น, รับผิดชอบต่อ

การทำงาน, แสดงความคดิ เห็น,

นำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรียนได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการทาง สังเกตพฤติกรรมในการทำงาน ผา่ นเกณฑ์ไมน่ ้อยกว่า

วทิ ยาศาสตร์ รอ้ ยละ 75

(Sc.P: Science Process Skill)

 การคำนวณ/การใช้ตัวเลข

 การพยากรณ์/การทำนาย

 การลงความเห็นจากขอ้ มูล

269

แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

เรือ่ ง ยนี บนโครโมโซมเดยี วกัน

คำชี้แจง จงทำเครื่องหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมที่ผู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ

พฤตกิ รรมการแสดงออกไว้เป็น 3 คะแนน ดงั น้ี

3 คะแนน หมายถึง ผเู้ รียนมีพฤตกิ รรมในระดับดี

2 คะแนน หมายถงึ ผเู้ รยี นมพี ฤติกรรมในระดบั ปานกลาง

1 คะแนน หมายถงึ ผูเ้ รียนมพี ฤตกิ รรมในระดบั ปรบั ปรุง

ชือ่ -สกลุ รายการประเมิน คะแนน ร้อย สรปุ ผลการ

ความใส่ใจ การเสนอ ความ การยอมรับ รวม ละ ประเมิน

เลขท่ี ในการ ความ รว่ มมอื ใน ฟังคนอ่นื

ทำงาน คดิ เห็น การทำงาน

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผ่าน ไม่
ผา่ น

1 นายณฐั นนท์สธุ รรมฤทธ์ิ

2 นายระพีธาดา วงศค์ ุลี

3 นายจักรกฤษ สีลาแดง

4 นายจกั รภัทร จนั ทรแ์ กว้

5 นายนรภทั ร ศรีทอง

6 นายปรชั ญา ใจบุญ

7 นายประสทิ ธชิ ยั อามาตย์

สมบัติ

8 นายจกั รภทั ร สขุ ณรงค์

9 นายฉัตรดนัย สภุ า

10 นายณัฐพล จันทฤาชา

11 นายณฐั วศั พนมธีร-
เกียรติ

12 นายถริ ะวัฒน์ แตงเอ่ียม

13 นายทธั ดนัย สแตนลยี ์

14 นายธรี ัตเดช น้อยมนตรี

15 นายนันทวฒุ ิ สุขเกิด

270

ชื่อ-สกลุ รายการประเมิน คะแนน ร้อย สรปุ ผลการ
การยอมรบั รวม ละ ประเมนิ
เลขท่ี ความใส่ใจ การเสนอ ความ ฟังคนอ่ืน
ในการ ความ ร่วมมือใน
ทำงาน คิดเห็น การทำงาน

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผา่ น ไม่
ผ่าน

16 นายนันทศร หไู ธสง

17 นายวชริ วิชญ์ พันพินิจ

18 นายวีรภัทร ครศู รี

19 นายสริ วิชญ์ สมั ฤทธ์ิ

20 น.ส.ปยิ ธิดา อม้ วชิ า

21 น.ส.จรี ะนนั ท์ เเหลย้ ัง

22 น.ส.ปนดั ดา คนดี

23 น.ส.จฑุ ารัตน์ คำเดช

24 น.ส.ชยธิดา สงวนพร

25 น.ส.ณฐั กฤตา หาญโก-
กรวด

26 น.ส.ตติยา อปุ ระโคตร

27 น.ส.ธิดารตั น์ ตอ้ นโสกี

28 น.ส.นครินทร์ สารโี ท

29 น.ส.นภัสสร สำราญบุญ

30 น.ส.ปนดั ดา วรรณบูลย์

31 น.ส.ปิน่ ภทั รา ชินคำ

32 น.ส.ปุณยาพร ทองไชย

33 น.ส.พิชญน์ าฏ ขนั ธวิชัย

34 น.ส.พมิ พร ละดาดาษ

35 น.ส.ภัทรภรณ์ สายสุข

36 น.ส.มณฑาทิพย์ ใจสุข

271

ชอื่ -สกุล รายการประเมนิ คะแนน รอ้ ย สรุปผลการ
การยอมรบั รวม ละ ประเมิน
เลขท่ี ความใสใ่ จ การเสนอ ความ ฟงั คนอื่น
ในการ ความ รว่ มมือใน
ทำงาน คิดเหน็ การทำงาน

3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 100 ผ่าน ไม่
ผ่าน

37 น.ส.ณัฏฐธดิ า อุปะทะ

38 น.ส.รจุ ี บุตรนนท์

39 น.ส.วภิ วานี แสนโสภา

40 น.ส.สริ ิกญั ญา บตุ รน้อย

41 น.ส.สกุ ฤตา บรรเรอื ง-
ทอง

42 น.ส.นันทิพร โอนากุล

เกณฑก์ ารประเมิน
รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป ( 9 - 12 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกว่ารอ้ ยละ 75 ( 0 – 8 คะแนน ) ไม่ผา่ นเกณฑ์

ลงชื่อ ........................................................ ผูส้ อน
(นางสาวสุภาวิณี เพิ่มทอง)

วันท่ี ............ เดือน ........................ พ.ศ..............

272

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ประเด็นทป่ี ระเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน

321

ความใสใ่ จในการ เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่ ส่ว น ใหญ ่เมื่อเกิด เมื่อเกิดปัญหาหรือไม่

ทำงาน เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง ปัญหาหรือไม่เข้าใจ เข้าใจบทเรียนทุกคร้ัง

มักซักถามและมีความ บทเรียนทุกครั้งมัก มักซักถามและมีความ

พยายามในการค้นหา ซักถามและมีความ พยายามในการค้นหา

คำตอบอยู่เสมอ พยายามในการค้นหา คำตอบเปน็ บางคร้ัง

คำตอบ

การเสนอความคดิ เหน็ ส ่ ว น ใ ห ญ ่ เ ส น อ เสนอความคิดเห็น ไม่เสนอความคิดเห็น

ความคิดเห็น กล้า กล้าแสดงออกที่จะพูด กล้าแสดงออกที่จะพูด

แสดงออกที่จะพูดใน ใน สิ่ง ที่ถูก หร ือ ดี ในสิง่ ที่ถกู หรอื ดี

ส่งิ ทีถ่ ูกหรอื ดี บางครั้ง

ความรว่ มมือในการ ใหค้ วามร่วมมอื ในการ ส่วนใหญ่ให้ค ว าม ใหค้ วามร่วมมอื ในการ

ทำงาน ทำงานกลมุ่ และ ร่วมมือในการทำงาน ทำงานกลุ่มและ

ปฏบิ ัตงิ านทีส่ มาชิกใน กลุ่มและปฏิบัติงานที่ ปฏิบตั งิ านที่สมาชิกใน

กลมุ่ มอบหมายดว้ ย ส ม า ช ิ ก ใ น ก ลุ่ ม กลุ่มมอบหมายได้เป็น

ความเต็มใจทกุ ครั้ง มอบหมายได้ บางคร้ัง

การยอมรับฟังคนอ่นื ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ย อ ม ร ั บ ฟ ั ง ค ว า ม ไม่ยอมรับฟังความ

คิดเห็น ที่ดีและ มี คิดเห็น ที่ดีและ มี คิดเห็น ที่ดีและ มี

เหตุผลของผู้อื่นทุก เหตุผลของผู้อื่นบ้าง เหตุผลของผู้อื่น มัก

ค ร ั ้ ง ไ ม ่ ย ึ ด ค ว า ม แต่บาง คร ั้ง จะ ยึ ด ยึดความคิดเห็นของ

คิดเห็นของตนแต่ฝ่าย ความคิดเห็นของตน ตนแต่ฝ่ายเดียว

เดียว

273

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

ชื่อกลุม่ ...............................................................................................................ช้ัน............................

รายชือ่ สมาชิก 1. .............................................................................................เลขที.่ ..........................

2. .............................................................................................เลขท.่ี ..........................

3. .............................................................................................เลขที่...........................

4. .............................................................................................เลขที่...........................

5. .............................................................................................เลขที่...........................

6. .............................................................................................เลขที.่ ..........................

คำชแ้ี จง จงทำเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั พฤติกรรมท่ผี ู้เรียนแสดงออก โดยจำแนกระดับ

พฤติกรรมการแสดงออกไวเ้ ปน็ 3 คะแนน ดงั น้ี

3 คะแนน หมายถึง ผู้เรียนมพี ฤตกิ รรมการแสดงออกอยา่ งสมำ่ เสมอ

2 คะแนน หมายถึง ผู้เรยี นมีพฤติกรรมการแสดงออกเปน็ ครง้ั คราว

1 คะแนน หมายถงึ ผูเ้ รียนมพี ฤตกิ รรมการแสดงออกนอ้ ยครัง้

ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเหน็

32 1

1 การเตรยี มความพร้อม

2 เนื้อหาสาระครอบคลมุ ชัดเจน

3 ความถกู ต้องของเนื้อหา

4 การมสี ่วนร่วมของสมาชิกใน

กลมุ่

5 รูปแบบการนำเสนอ

รวม

เกณฑ์การประเมิน
รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป ( 11 - 15 คะแนน) ผ่านเกณฑ์
น้อยกว่าร้อยละ 75 ( 0 – 10 คะแนน ) ไม่ผ่านเกณฑ์

ลงช่อื ........................................................ ผูส้ อน
(นางสาวสภุ าวณิ ี เพิม่ ทอง)

วันท่ี ............ เดือน ........................ พ.ศ..............

274

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ประเด็นท่ปี ระเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

321

การเตรียมความพรอ้ ม ดาเนินการตามแผนที่ ดาเนินการตามแผนที่ ไม่สามารถดาเนินการ

วางไว้ ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละส่ือ วางไว้ ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละสื่อ ตามแผนทว่ี างไว้

ป ร ะ ก อ บ ไ ด้ถู ก ต้ อ ง ประกอบได้ถูกต้อง แต่

คล่องแคล่ว และเสร็จ ไมค่ ล่องแคล่ว

ทนั เวลา

เนอื้ หาสาระ เ นื้ อ ห า ถู ก ต้ อ ง มี เ นื้ อ ห า ถู ก ต้ อ ง มี เนื้อ หาถูกต้อ งแ ต่ ใ ห้

ครอบคลมุ ชดั เจน สาระสาคัญครบถ้วน สาระสาคัญ แต่ยังไม่ สาระสาคัญน้อยมาก

และระบุแหล่งท่ีมาของ ค ร บ ถ้ว น มี ก า ร ร ะ บุ และไม่ระบุแหล่งที่มา

ความรูช้ ดั เจน แหล่งที่มาของความรู้ ของความรู้

ความถูกต้องของ เนอ้ื หาสาระถูกต้อง ส่วนใหญ่เนื้อหาสาระ เนอื้ หาสาระไมถ่ ูกต้อง
เนื้อหา
ครบถ้วน ถกู ต้อง
การมีส่วนรว่ มของ
สมาชกิ ในกลุ่ม มสี ่วนร่วมสมำ่ เสมอ มีสว่ นร่วมบางคร้ัง มีส่วนร่วมน้อยครั้ง/

รูปแบบการนำเสนอ ขาดการมีสว่ นร่วม

มีรูปแบบน่าสนใจ มี ร ู ป แ บ บ มี ไม่มีรูปแบบน่าสนใจ

ค ว า ม ส ั ม พ ั น ธ ์ กั บ ค ว า ม ส ั ม พ ั น ธ ์ กั บ มีความสัมพันธ์กับ

ห ั ว ข ้ อ ท ี ่ ก ำ ห น ด หัวข้อที่กำหนด แต่ไม่ หัวข้อที่กำหนดน้อย

ระบายสไี ดส้ วยงาม ดึงดดู ความสนใจ มาก

275

276

277

แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น บทท่ี 5 เร่อื ง การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม

ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4

รายวชิ าชีววิทยา 2 รหัสวชิ า ว31242 เวลาสอบ 1 ช่ัวโมง

คำชแ้ี จง: แบบทดสอบทง้ั หมดประกอบด้วย ขอ้ สอบปรนยั 4 ตวั เลอื ก จำนวน 30 ขอ้

1. ลักษณะของถ่วั ลนั เตาในขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีท่เี มนเดลนำมาศึกษา

1. สีของเมล็ด

2. รูปร่างของใบ

3. ความสงู ของลำต้น

4. รปู ร่างของเมล็ด

5. ตำแหน่งของดอก

ก. 1, 2, 3 ข. 2, 3, 4

ค. 1, 3, 4, 5 ง. 1, 2, 3, 4, 5

2. ขอ้ ใดอธบิ ายความหมายของ “ฟโี นไทป”์ ได้ถูกตอ้ งท่สี ดุ

ก. ลักษณะท่ีถ่ายทอดจากพ่อแมม่ าสู่ลกู

ข. ยนี ท่คี วบคุมลกั ษณะพนั ธกุ รรมของส่ิงมีชีวิต

ค. หนว่ ยท่ีควบคุมลักษณะพันธุกรรมของสิ่งมชี ีวิต

ง. ลกั ษณะทางพันธุกรรมที่ปรากฏออกมาภายนอกของส่งิ มีชวี ิต

3. homozygous และ heterozygous มีความหมายเหมือน หรือแตกต่างกนั อย่างไร

ก. เหมอื นกัน หมายถงึ คขู่ องแอลลลี ท่ตี ่างกัน เช่น Aa

ข. เหมอื นกัน หมายถึง คูข่ องแอลลีลทเ่ี หมือนกนั เชน่ AA aa

ค. ต่างกนั เพราะ homozygous หมายถงึ คู่ของแอลลีลที่เหมอื นกนั เช่น AA aa แต่

heterozygous หมายถึง คู่ของแอลลีลที่ตา่ งกัน เช่น Aa

ง. ตา่ งกัน เพราะ homozygous หมายถงึ คูข่ องแอลลีลที่ต่างกัน เช่น Aa แต่heterozygous

หมายถึง คู่ของแอลลีลที่เหมอื นกัน เชน่ AA aa

4. หากนำถัว่ ลันเตาพันธุท์ างดอกสีมว่ งผสมกันจะได้ลกู ท่มี ีลกั ษณะอยา่ งไร

ก. ดอกสมี ว่ งทง้ั หมด

ข. ดอกสมี ว่ ง และดอกสีขาว ในอตั ราสว่ น 1 : 1

278

ค. ดอกสีมว่ ง และดอกสขี าว ในอัตราส่วน 1 : 3
ง. ดอกสมี ว่ ง และดอกสีขาว ในอัตราสว่ น 3 : 1
อา่ นข้อความเหล่าน้แี ลว้ ตอบคำถามข้อ 5

1. Ss
2. SS
3. เมลด็ กลม
4. เมลด็ ขรขุ ระ
5. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีจดั เป็น heterozygous genotype ได้
ก. ข้อ 1 และ 3
ข. ข้อ 1 และ 4
ค. ขอ้ 2 และ 3
ง. ข้อ 2 และ 4
6. ขอ้ ใดต่อไปนี้กล่าวไมถ่ ูกต้องเกี่ยวกับกฎของเมนเดล
ก. กฎข้อท่ี 1 คอื กฎการรวมกลุ่มอยา่ งอสิ ระ
ข. กฎแหง่ การแยก คอื กฎขอ้ ที่ 1
ค. low of segregation คือ กฎแหง่ การแยก
ง.low of independent assortment คือ กฎการรวมกลุ่มอยา่ งอิสระ
7. กำหนดให้ยีน T แทนตน้ สูง(ลักษณะเดน่ ) t แทนต้นเตยี้ (ลกั ษณะด้อย) นำตน้ สูง(TT) ผสมกับตน้
เตย้ี (tt) รุ่นลูก (F1) จะมจี ีโนไทปแ์ ละฟีไทป์ เป็นอย่างไร(ตามกฎเมนเดล)
ก.TT , ต้นสงู
ข. Tt , ตน้ สงู
ค.Tt , ตน้ เตย้ี
ง. tt , ตน้ เต้ีย
8. เมื่อนำถั่วลันเตาต้นสูง (เป็นเฮเทอโรไซกัส) ทำการผสมตัวเอง แล้วนำเมล็ดไปเพาะเกิดต้นใหม่
จำนวน 100 ตน้ จะมตี น้ เต้ยี ประมาณกต่ี น้
ก. 75 ต้น
ข. 25 ต้น
ค. 50 ตน้
ง. 12 ตน้


Click to View FlipBook Version