The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaimath2514, 2021-11-05 09:49:54

คณิตศาสตร์ 4 ม.2

2_64_M2_term2

P a g e | 230

แผนการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2

รายวชิ า คณิตศาสตร์พืน้ ฐาน รหสั วชิ า ค 22102

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง เสน้ ขนาน จำนวน 10 ชว่ั โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง เส้นขนานและมุมภายใน (2) จำนวน 1 ช่วั โมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั

สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต

มาตรฐานการเรียนรู้

ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ขิ องรูปเรขาคณิต ความสมั พันธร์ ะหว่างรูปเรขาคณิต

และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตวั ช้ีวัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความรู้เกี่ยวกบั สมบตั ิของเส้นขนานและรูปสามเหลย่ี มไปใช้ในการแก้ปัญหา

คณติ ศาสตร์

2. จดุ ประสงค์การเรียนร้สู ู่ตวั ช้ีวัด
จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ่ตู วั ช้ีวดั
1. นำความรเู้ ก่ยี วกบั สมบัติของเสน้ ขนานและรูปสามเหลยี่ มไปใช้ในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์
จดุ ประสงค์การเรยี นรทู้ ่ีองิ เนอ้ื หา
1. ใช้สมบัติของเสน้ ขนานและรูปสามเหลย่ี มในการให้เหตผุ ลและแก้ปญั หาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคญั
บทนยิ าม
- เสน้ ตรงสองเสน้ ที่อยู่บนระนาบเดียวกัน ขนานกัน กต็ อ่ เมื่อ เสน้ ตรงสองเส้นนน้ั ไมต่ ดั กนั
สมบตั ขิ องเสน้ ขนาน
- ถา้ เส้นตรงสองเส้นขนานกันและมีเสน้ ตัด แล้วขนาดของมุมภายในทอ่ี ย่บู นขา้ งเดียวกนั ของเส้นตดั

รวมกันได้ 180 องศา
- ถา้ เส้นตรงเส้นหนงึ่ ตัดเส้นตรงคหู่ นงึ่ ทำให้ขนาดนของมมุ ภายในที่อย่บู นข้างเดียวกนั ของเส้นตัด

รวมกนั เท่ากบั 180 องศา แลว้ เสน้ ตรงคู่น้นั จะขนานกนั

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ดา้ นความรู้ : นกั เรียนสามารถ
1. บอกสมบัติของเสน้ ขนานและนำไปแกป้ ัญหาได้
4.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
1. การแก้ปัญหา
2. การให้เหตุผล
3. การส่อื สาร สือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ

P a g e | 231

4.3 ด้านเจตคต/ิ คุณลักษณะอันพึงประสงค/์ คุณธรรมจริยธรรมทสี่ อดแทรก
1. นักเรียนมีความซือ่ สตั ย์ แก้โจทย์ปัญหาไดด้ ว้ ยตวั เอง
2. นกั เรยี นมคี วามรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา
3. นักเรียนมีระเบยี บวนิ ยั รกั การเรยี นรู้

5. สมรรถนะของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
6. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
1. ใบงานท่ี 2 เรอื่ ง เสน้ ขนานและมมุ ภายใน

7. คำถามสำคัญ
1. นกั เรยี นสามารถระบุมมุ ภายในบนข้างเดียวกนั ของเสน้ ตัดได้หรอื ไม่

8. กระบวนการจัดกิจกรรมเรยี นรู้
ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครสู อดแทรกความรเู้ กย่ี วกับคุณธรรม เรอื่ ง พหสู ูต 5 (เจนใจ)
2. สุม่ นักเรียนออกมาสรา้ งเส้นตรง 2 เสน้ ทีไ่ มต่ ดั กนั และสรา้ งเส้นตรงอีกเสน้ ทีต่ ดั เส้นตรง 2 เส้น

ทสี่ ร้างไว้ แลว้ สอบถามนักเรยี นรายบุคคลเพอื่ ทราบ มุมภายในบนข้างเดียวกนั มุมภายนอก มมุ แยง้ ภายในและ
มมุ แยง้ ภายนอก

ขน้ั จดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1. นักเรียนค้นหาสมบตั ิของเส้นขนาน แล้วบนั ทกึ ลงใน ใบงานท่ี 2 ข้อที่ 1 และสุ่มนักเรียนนำเสนอ
เพื่อสรปุ สิง่ ทไี่ ด้ โดยครคู อยให้คำแนะนำเพ่มิ เติม โดยใช้ โปรแกรม GSP เร่อื ง เสน้ ขนานช่อื หนา้ ผลบวกของ
มมุ 1 และ 2, มุมแยง้ 1 และ 2, มมุ ภายนอกภายใน 1 และ 2 เชน่

P a g e | 232

(รายละเอยี ด การซอ่ น/แสดง คือการแสดงว่าผลบวกของมุม = 180 องศา)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
2. สุม่ นักเรียนตอบคำถามเพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจ โดยมีครูคอยให้คำแนะนำตามสถานการณ์
แล้วให้ทำแบบฝึกในใบงานท่ี 2 โดยมีครคู อยให้คำแนะนำ

ข้นั สรุป
1. ครูใช้คำถามเพ่อื นำสู่การสรปุ ดงั น้ี

- สมบัตขิ องเสน้ ขนานมีอะไรบา้ ง
(1. ถา้ เสน้ ตรงสองเสน้ ขนานกนั และมีเสน้ ตัด แล้วขนาดของมุมภายในท่ีอย่บู นขา้ งเดยี วกัน

ของเสน้ ตัด รวมกันได้ 180 องศา
2. ถา้ เสน้ ตรงเสน้ หน่ึงตดั เส้นตรงคู่หนึ่ง ทำใหข้ นาดของมมุ ภายในท่ีอยู่บนข้างเดยี วกันของ

เส้นตัด รวมกนั เท่ากบั 180 องศา แล้ว เส้นตรงคนู่ น้ั จะขนานกนั )

9. การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (3 ห่วง 2 เง่อื นไข)

หลักความพอประมาณ การใชเ้ วลาในการศกึ ษาหาความร้แู ละทำงานเหมาะกบั เวลา

หลกั มีเหตผุ ล อภิปราย เรื่องกฎ ระเบียบ เง่ือนไขในการเรียน ในชนั้ เรียนอยา่ งเหมาะสมและ

ถูกต้อง

หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน มหี ลักการปฏบิ ตั ติ นทถี่ กู ตอ้ งทั้งในห้องเรยี นและนอกห้องเรียน

ตัวท่ดี ี รว่ มกนั วางแผนในการปฏิบตั ติ นและการทำงานเป็นกลมุ่

เง่ือนไขความรู้ การสรุปผลและสร้างความคิดรวบยอด เร่ืองของกฎ ระเบียบ เง่ือนไขในการ

เรียนในช้นั เรยี น

เง่อื นไขคณุ ธรรม รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่อื สตั ย์ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง

P a g e | 233

การบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เงือ่ นไข
พอประมาณ ความรู้
มีเหตุผล คุณธรรม
มีภมู คิ ุ้มกันในตัวทดี่ ี

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4 มิติ

เศรษฐกจิ สงั คม สงิ่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม

10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี นคณติ ศาสตรพ์ ้ืนฐาน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 2 (สสวท.)
2. ใบงานที่ 2 เร่ือง เส้นขนานและมุมภายใน
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
11. หลักฐานและวิธกี ารประเมิน วธิ ีการประเมนิ
ตรวจใบงาน
หลักฐาน
1. ใบงานที่ 2 เร่ือง เสน้ ขนานและมุมภายใน

12. เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน
ความสามารถในการทำใบงาน 4
3
ระดับคุณภาพ 2
1. นกั เรยี นทำใบงานถูกต้องมากกวา่ 90% (7 รายการ) 1
2. นกั เรียนทำใบงานไดถ้ กู ตอ้ ง70 – 89% (5 – 6 รายการ)
3. นักเรยี นทำใบงานไดถ้ ูกตอ้ ง 50 – 69% (4 รายการ)
4. นกั เรยี นทำใบงานถูกตอ้ งนอ้ ยกวา่ 50% (0 – 3 รายการ)

ความสามารถในการตอบคำถามและการมสี ว่ นรว่ มในการจดั การเรยี นการสอน

ระดับคุณภาพ คะแนน
นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ และตอบคำถามในชั้นเรียนบ่อยครงั้ 3
นกั เรียนมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถามในชน้ั เรยี นบางคร้ัง 2
นักเรียนมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถามในชัน้ เรยี นนอ้ ยครั้ง 1

ลงชอ่ื ..................................................ครูผสู้ อน
(นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี)
.........../.............../..................

P a g e | 234

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน ม.2
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่านกั เรียน

ผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทีก่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.......................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้……………………….........................พบว่านักเรยี น
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................
ไดแ้ ก่ ..........................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……………………..................................
พบว่านกั เรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ.......……. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ...............
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ............................................................ ผ้สู อน
( นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี )

วันท่ี......../.................../.................
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 235

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง  ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผู้เรยี น
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา  ทยี่ งั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา

ตอ่ ไป ต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงช่อื .......................................................

(นายศภุ ชัย เรอื งเดช) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 236

แผนการจดั การเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2

รายวิชา คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหสั วชิ า ค 22102

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่อื ง เสน้ ขนาน จำนวน 10 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 3 เร่ือง เส้นขนานและมมุ แย้ง (1) จำนวน 1 ชัว่ โมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ดั

สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต

มาตรฐานการเรียนรู้

ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ิของรปู เรขาคณิต ความสัมพนั ธ์ระหว่างรปู เรขาคณติ

และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตวั ชี้วัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความรูเ้ กี่ยวกบั สมบัตขิ องเสน้ ขนานและรปู สามเหลย่ี มไปใช้ในการแก้ปญั หา

คณติ ศาสตร์

2. จุดประสงค์การเรยี นร้สู ตู่ ัวชี้วัด
จุดประสงค์การเรียนรู้สตู่ ัวชี้วดั
1. นำความรู้เกีย่ วกับสมบัติของเสน้ ขนานและรปู สามเหล่ียมไปใช้ในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์
จุดประสงค์การเรียนร้ทู ีอ่ งิ เนื้อหา
1. ใชส้ มบตั ขิ องเสน้ ขนานและรปู สามเหล่ียมในการใหเ้ หตุผลและแกป้ ญั หาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคญั
ทฤษฎีบท
- ถ้าเสน้ ตรงสองเสน้ ขนานกันและมีเส้นตัด แลว้ มมุ แยง้ มีขนาดเท่ากัน
- ถ้าเส้นตรงเส้นหนงึ่ ตัดเสน้ ตรงคู่หนึ่ง เส้นตรงคู่นนั้ ขนานกัน กต็ อ่ เมื่อ มมุ แยง้ มีขนาดเท่ากัน

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้ : นักเรยี นสามารถ
1. บอกความสัมพันธข์ องเสน้ ขนานกบั มมุ แย้งและทฤษฎีของเส้นขนานกับมุมแยง้ ได้
4.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
1. การแกป้ ญั หา
2. การใหเ้ หตผุ ล
3. การสอื่ สาร ส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ
4.3 ดา้ นเจตคติ/คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์/คุณธรรมจรยิ ธรรมท่สี อดแทรก
1. นักเรยี นมคี วามซื่อสตั ย์ แก้โจทย์ปญั หาได้ด้วยตวั เอง
2. นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบ ตรงต่อเวลา
3. นกั เรยี นมีระเบยี บวินยั รกั การเรียนรู้

P a g e | 237

5. สมรรถนะของผ้เู รยี น
5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
5.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
5.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้
1. ใบงานที่ 3 เรือ่ ง เส้นขนานและมุมแยง้ (1)

7. คำถามสำคัญ
1. นักเรยี นสามารถระบมุ มุ แย้งไดห้ รือไม่

8. กระบวนการจัดกจิ กรรมเรยี นรู้
ข้ันนำเขา้ สู่บทเรียน
1. ครูสอดแทรกความรเู้ ก่ยี วกบั คุณธรรม เร่ือง พหสู ูต 5 (ทะลุปรโุ ปร่ง)
2. ครูสรา้ งรูปบนกระดาน ให้นักเรยี นพิจารณารปู ภาพต่อไปนี้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
แลว้ ตอบคำถามต่อไปนี้ ใช้เวลา 5 นาที จากรูปที่ 1 และ รูปที่ 2
เรยี ก 2 , 3 , 5 , 8 และ c , d , e , f วา่ .............มุมภายใน....................
เรยี ก 1 , 4 , 6 , 7 และ a , b , g , h ว่า ............มมุ ภายนอก..............
เรียก 2 กับ 8 3 กับ 5 c กบั f และ d กับ e ว่า........มุมแย้ง..................

ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูและนักเรียนร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกับมุมแย้ง โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้
- นักเรยี นคดิ วา่ เสน้ ตรงสองเสน้ ถา้ มีเสน้ ตรงตัดแลว้ นอกจากจะเกดิ มุมภายในบนข้างเดียวกนั
ของเสน้ ตัดแลว้ ยงั เกิดมุมอะไรขน้ึ อกี (มุมแย้ง)
2. ครยู กตัวอยา่ งอธบิ ายเกีย่ วกับความสมั พนั ธข์ องเสน้ ขนานกบั มุมแยง้ ทีละกรณี โดยครูใชค้ ำถาม
ดังนี้

P a g e | 238

พจิ ารณาเส้นตรงที่ขนานกนั และมเี สน้ ตรงตดั ต่อไปนี้
กำหนด AB // CD มี EF เปน็ เสน้ ตดั

1. จากรูป สิง่ ที่กำหนดให้คอื อะไร (เส้นตรงเส้นหนึ่งตัดเสน้ ตรงสองเสน้ ท่ีขนานกัน)

2. AXY BXY เทา่ กับเทา่ ใด เพราะเหตุใด (180° เพราะเป็นขนาดของมุมตรง)
3. DYX BXY เท่ากับเทา่ ใด เพราะเหตุใด (180° เพราะมมุ ภายในบนขา้ งเดียวกนั ของเสน้ ตัด

รวมกนั ได้ 180°)
4) AXY BXY = DYX BXY เพราะเหตใุ ด (ต่างเท่ากบั 180°)

5) AXY = DYX เพราะเหตุใด (จากขอ้ 4)
6) AXY กบั DYX มีลกั ษณะเป็นมมุ ประเภทใด (มมุ แยง้ )
สรปุ ได้ว่าอยา่ งไร (ถ้ามีเส้นตรงสองเส้นขนานกนั และมเี สน้ ตดั แล้วมมุ แย้งมีขนาดเทา่ กัน)

3. ใหน้ กั ทำแบบฝึกหดั ในใบงานท่ี 3 โดยมีครูคอยใหค้ ำแนะนำรายบคุ คลตามสถานการณ์
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ขน้ั สรปุ

1. นักเรยี นและครูรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี
ทฤษฎีบท ถา้ เสน้ ตรงสองเสน้ ขนานกันและมเี สน้ ตดั แล้วมมุ แยง้ มีขนาดเท่ากนั

9. การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 ห่วง 2 เง่ือนไข)

หลกั ความพอประมาณ การใชเ้ วลาในการศกึ ษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา

หลกั มีเหตุผล อภปิ ราย เรือ่ งกฎ ระเบียบ เงอ่ื นไขในการเรียน ในช้ันเรยี นอย่างเหมาะสมและ

ถูกตอ้ ง

หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน มีหลกั การปฏิบตั ิตนทถี่ กู ตอ้ งท้งั ในห้องเรยี นและนอกห้องเรยี น

ตวั ทดี่ ี รว่ มกันวางแผนในการปฏิบัตติ นและการทำงานเป็นกล่มุ

เงอ่ื นไขความรู้ การสรุปผลและสร้างความคิดรวบยอด เรื่องของกฎ ระเบียบ เงื่อนไขในการ

เรยี นในช้ันเรยี น

เง่ือนไขคณุ ธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซือ่ สตั ย์ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง

P a g e | 239

การบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3 ห่วง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เง่ือนไข
พอประมาณ ความรู้
มีเหตุผล คุณธรรม
มีภูมิค้มุ กนั ในตวั ท่ีดี

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มติ ิ

เศรษฐกิจ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม

แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน10. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

1. หนังสือเรยี นคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 เล่ม 2 (สสวท.)
2. ใบงานที่ 3 เร่ือง เสน้ ขนานและมุมแย้ง (1)

11. หลักฐานและวิธกี ารประเมนิ วิธกี ารประเมนิ
ตรวจใบงาน
หลกั ฐาน
1. ใบงานที่ 3 เรือ่ ง เสน้ ขนานและมมุ แยง้ (1)

12. เกณฑ์การประเมิน คะแนน
ความสามารถในการทำใบงาน 4
3
ระดบั คณุ ภาพ 2
1. นักเรยี นทำใบงานถกู ต้องมากกวา่ 90% (3 ข้อ) 1
2. นกั เรยี นทำใบงานไดถ้ กู ต้อง70 – 89% (2 ข้อ)
3. นักเรยี นทำใบงานไดถ้ กู ต้อง 50 – 69% (1 ข้อ)
4. นกั เรยี นทำใบงานถูกต้องนอ้ ยกว่า 50% (0 ข้อ)

ความสามารถในการตอบคำถามและการมีสว่ นรว่ มในการจดั การเรียนการสอน

ระดบั คุณภาพ คะแนน
นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในชนั้ เรียนบอ่ ยครั้ง 3
นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในช้ันเรียนบางครัง้ 2
นักเรียนมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในชั้นเรียนนอ้ ยคร้งั 1

ลงชอ่ื ..................................................ครูผสู้ อน
(นางสาววลิ าสนิ ี แทนทว)ี
.........../.............../..................

P a g e | 240

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน ม.2
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่านกั เรียน

ผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทีก่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.......................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้……………………….........................พบว่านักเรยี น
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................
ไดแ้ ก่ ..........................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……………………..................................
พบว่านกั เรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ.......……. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ...............
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ............................................................ ผ้สู อน
( นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี )

วันท่ี......../.................../.................
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 241

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง  ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผู้เรยี น
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา  ทยี่ งั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา

ตอ่ ไป ต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงช่อื .......................................................

(นายศภุ ชัย เรอื งเดช) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 242

แผนการจดั การเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2

รายวิชา คณิตศาสตรพ์ ้นื ฐาน รหสั วิชา ค 22102

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง เสน้ ขนาน จำนวน 10 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง เส้นขนานและมุมแย้ง (2) จำนวน 1 ชว่ั โมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด

สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต

มาตรฐานการเรยี นรู้

ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณิต สมบัตขิ องรปู เรขาคณิต ความสมั พนั ธ์ระหว่างรปู เรขาคณติ

และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตัวชวี้ ัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความร้เู กีย่ วกบั สมบตั ิของเส้นขนานและรูปสามเหล่ียมไปใช้ในการแกป้ ญั หา

คณติ ศาสตร์

2. จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ู่ตวั ชว้ี ดั
จุดประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตัวช้ีวดั
1. นำความรเู้ กย่ี วกับสมบัติของเส้นขนานและรูปสามเหลีย่ มไปใช้ในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์
จดุ ประสงค์การเรียนรูท้ ่อี งิ เน้ือหา
1. ใช้สมบัติของเส้นขนานและรปู สามเหลย่ี มในการใหเ้ หตผุ ลและแก้ปัญหาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคัญ
ทฤษฎบี ท
- ถา้ เส้นตรงสองเส้นขนานกนั และมีเส้นตดั แล้วมุมแยง้ มขี นาดเท่ากัน
- ถา้ เสน้ ตรงเส้นหนง่ึ ตดั เส้นตรงคหู่ นึ่ง เสน้ ตรงคู่น้นั ขนานกัน ก็ต่อเมอื่ มมุ แยง้ มีขนาดเท่ากัน

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ดา้ นความรู้ : นกั เรียนสามารถ
1. บอกความสมั พันธข์ องเสน้ ขนานกับมมุ แยง้ และทฤษฎขี องเส้นขนานกับมุมแย้งได้
4.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
1. ระบขุ นาดของมุมแย้งและใชท้ ฤษฎีของเสน้ ขนานกับมุมแย้งในการให้เหตุผลและแกป้ ัญหา
4.3 ด้านเจตคติ/คุณลักษณะอันพงึ ประสงค/์ คุณธรรมจริยธรรมที่สอดแทรก
1. นักเรยี นมคี วามซอ่ื สัตย์ แก้โจทย์ปัญหาได้ดว้ ยตัวเอง
2. นักเรยี นมคี วามรับผดิ ชอบ ตรงต่อเวลา
3. นกั เรียนมรี ะเบียบวนิ ัย รกั การเรียนรู้

P a g e | 243

5. สมรรถนะของผูเ้ รยี น

5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ

5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
1. ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง เสน้ ขนานและมุมแย้ง (2)

7. คำถามสำคัญ
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกี่ยวกบั มุมแยง้ ได้หรือไม่
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
8. กระบวนการจัดกิจกรรมเรยี นรู้
ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครสู อดแทรกความรูเ้ กยี่ วกับคุณธรรม เรอ่ื ง มรรคมอี งค์ 8 (สัมมาทิฏฐิ)
2. ครทู บทวนความรู้โดยใช้คำถามเกยี่ วกบั มมุ ภายในและมมุ แย้ง ให้นกั เรียนรว่ มกันตอบ ดังน้ี

นกั เรียนคดิ วา่ เส้นตรงสองเส้น ถา้ มีเสน้ ตรงเส้นหนึ่งตัดแล้วนอกจากจะเกดิ มุมภายในบนขา้ งเดยี วกันของ
เส้นตดั แลว้ ยงั เกดิ มมุ อะไรขึ้นอกี (มุมแย้ง, มมุ ภายนอก)

ข้นั จดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครยู กตวั อยา่ งอธบิ ายเกี่ยวกบั เส้นขนานและมุมแยง้ แล้วตั้งคำถามเพ่ือให้นกั เรยี นรว่ มกันตอบ
ดงั น้ี
พจิ ารณามมุ แยง้ ท่เี กิดจากเสน้ ตรงตดั เสน้ ตรงสองเส้นตอ่ ไปนี้

ครูกำหนด AB และ CD เปน็ เสน้ ตรงสอง ที่มี XY เปน็ เสน้ ตดั และ 1 = 3 บนกระดาน ดงั นี้

1. จากรปู ส่ิงที่โจทยก์ ำหนดใหค้ อื อะไร (ส่วนของเส้นตรง XY ตัดเสน้ ตรง AB และ CD)
2. ส่ิงที่จะต้องพิสูจน์คอื อะไร (เสน้ ตรงสองเส้นขนานกันหรอื ไม่)

3. 1 2 เทา่ กับเทา่ ใด (180°)

4. 1 เทา่ กับ 3 หรอื ไม่ (เทา่ กนั )

5. 2 3 เท่ากบั เท่าใด (180°)

6. AB และ CD ขนานกนั หรอื ไม่ (ขนานกัน เพราะมุมภายในบนข้างเดยี วกันรวมกันได้ 180°)

ดังนน้ั อาจสรุปได้หรือไมว่ า่ “ถา้ เส้นตรงเสน้ หนึง่ ตัดเสน้ ตรงคหู่ นึง่ ทำให้ขนาดของมุมแย้งเทา่ กนั แล้ว
เสน้ ตรงคู่น้นั ขนานกัน” (ได้)

P a g e | 244

2. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกบั เสน้ ตรงคูห่ น่งึ ทมี่ ีเส้นตรงเส้นหนึ่งตดั

(ทฤษฎีบท ถ้าเส้นตรงเสน้ หนึง่ ตัดเส้นตรงคูห่ นึง่ ทำใหม้ ุมแย้งมีขนาดเทา่ กนั แล้วเส้นตรงคู่นน้ั ขนานกนั )
3. ใหน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 4 โดยมคี รูคอยใหค้ ำแนะนำรายบคุ คล ตามสถานการณ์ในช้ันเรียน

ข้นั สรุป
1. ใช้คำถามเพ่อื นำสู่การสรุป ดังน้ี
- นักเรียนมคี วามเข้าใจเกี่ยวกบั เส้นขนานกบั มมุ แย้งอย่างไร
(ทฤษฎีบท ถา้ เสน้ ตรงเสน้ หนึง่ ตัดเสน้ ตรงค่หู น่ึง เสน้ ตรงคู่น้นั ขนานกนั ก็ตอ่ เมอ่ื มมุ แยง้ มี
ขนาดเทา่ กัน) แลว้ สรปุ ลงในสมุด

9. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (3 หว่ ง 2 เงือ่ นไข)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความร้แู ละทำงานเหมาะกบั เวลา

หลกั มีเหตุผล อภิปราย เร่ืองกฎ ระเบียบ เงอื่ นไขในการเรียน ในชั้นเรยี นอย่างเหมาะสมและ

ถูกตอ้ ง

หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน มีหลักการปฏบิ ตั ติ นท่ีถูกต้องทัง้ ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน

ตัวที่ดี รว่ มกันวางแผนในการปฏบิ ตั ติ นและการทำงานเป็นกล่มุ

เง่ือนไขความรู้ การสรุปผลและสร้างความคิดรวบยอด เร่ืองของกฎ ระเบียบ เงื่อนไขในการ

เรียนในช้นั เรยี น

เงอื่ นไขคุณธรรม รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง

การบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงอื่ นไข
พอประมาณ ความรู้
มีเหตุผล คุณธรรม
มีภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ท่ดี ี

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มติ ิ

เศรษฐกจิ สังคม ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรม

10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 เล่ม 2 (สสวท.)
2. ใบงานที่ 4 เรอื่ ง เส้นขนานและมุมแย้ง (2)

P a g e | 245

11. หลักฐานและวิธกี ารประเมนิ วิธีการประเมนิ
ตรวจใบงาน
หลกั ฐาน
1. ใบงานท่ี 4 เรื่อง เส้นขนานและมุมแย้ง (2)

12. เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนน
ความสามารถในการทำใบงาน 4
3
ระดับคุณภาพ 2
1. นักเรยี นทำใบงานถกู ต้องมากกว่า 90% (3 ข้อ) 1
2. นกั เรยี นทำใบงานได้ถูกต้อง70 – 89% (2 ข้อ)
3. นกั เรียนทำใบงานได้ถูกต้อง 50 – 69% (1 ข้อ)
4. นกั เรยี นทำใบงานถูกตอ้ งนอ้ ยกว่า 50% (0 ข้อ)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ความสามารถในการตอบคำถามและการมสี ่วนรว่ มในการจดั การเรียนการสอน

ระดับคณุ ภาพ คะแนน
นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เห็นและตอบคำถามในช้นั เรียนบอ่ ยคร้งั 3
นักเรียนมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็นและตอบคำถามในชนั้ เรยี นบางครั้ง 2
นักเรยี นมีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเหน็ และตอบคำถามในชั้นเรียนน้อยครัง้ 1

ลงช่ือ ..................................................ครูผู้สอน
(นางสาววิลาสนิ ี แทนทว)ี
.........../.............../..................

P a g e | 246

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน ม.2
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่านกั เรียน

ผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทีก่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.......................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้……………………….........................พบว่านักเรยี น
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................
ไดแ้ ก่ ..........................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……………………..................................
พบว่านกั เรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ.......……. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ...............
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ............................................................ ผ้สู อน
( นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี )

วันท่ี......../.................../.................
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 247

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง  ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผู้เรยี น
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา  ทยี่ งั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา

ตอ่ ไป ต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงช่อื .......................................................

(นายศภุ ชัย เรอื งเดช) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 248

แผนการจัดการเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2

รายวชิ า คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวชิ า ค 22102

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง เสน้ ขนาน จำนวน 10 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เร่ือง การแก้ปัญหาเส้นขนานและมมุ แย้ง จำนวน 1 ช่วั โมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด

สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณิต

มาตรฐานการเรยี นรู้

ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ขิ องรูปเรขาคณิต ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งรปู เรขาคณิต

และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตวั ช้ีวัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความรเู้ กย่ี วกับสมบตั ิของเส้นขนานและรปู สามเหลีย่ มไปใช้ในการแก้ปญั หา

คณติ ศาสตร์

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรูส้ ู่ตวั ชี้วัด
จดุ ประสงค์การเรียนรูส้ ู่ตวั ชี้วัด
1. นำความรู้เก่ยี วกบั สมบัติของเสน้ ขนานและรปู สามเหล่ียมไปใช้ในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์
จุดประสงค์การเรยี นรทู้ ่อี งิ เนอื้ หา
1. ใชส้ มบตั ิของเสน้ ขนานและรูปสามเหล่ียมในการใหเ้ หตผุ ลและแก้ปัญหาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคญั
ทฤษฎบี ท
- ถ้าเสน้ ตรงสองเสน้ ขนานกนั และมีเส้นตดั แลว้ มุมแย้งมีขนาดเท่ากนั
- ถ้าเสน้ ตรงเส้นหนงึ่ ตดั เส้นตรงค่หู น่งึ เสน้ ตรงค่นู นั้ ขนานกัน กต็ ่อเมอ่ื มมุ แย้งมขี นาดเทา่ กนั

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้ : นกั เรยี นสามารถ
1. บอกความสมั พันธข์ องเส้นขนานกับมุมแย้งและทฤษฎีของเสน้ ขนานกบั มุมแย้งได้
4.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ
1. แสดงการพสิ ูจน์และหาคำตอบเกยี่ วกบั เสน้ ขนานโดยใชม้ มุ แยง้ ได้
4.3 ดา้ นเจตคต/ิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค/์ คุณธรรมจรยิ ธรรมทส่ี อดแทรก
1. นกั เรยี นมีความซ่อื สัตย์ แก้โจทย์ปญั หาได้ด้วยตวั เอง
2. นกั เรียนมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา
3. นกั เรียนมีระเบียบวินัย รกั การเรยี นรู้

P a g e | 249

5. สมรรถนะของผเู้ รยี น

5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
5.2 ความสามารถในการคิด

5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู
1. ใบงานท่ี 5 เรอ่ื ง การแกป้ ญั หาเสน้ ขนานและมุมแย้ง

7. คำถามสำคญั
1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายเก่ยี วกบั มุมแย้งได้หรอื ไม่
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
8. กระบวนการจัดกิจกรรมเรียนรู้
ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ครสู อดแทรกความรู้เกี่ยวกับคุณธรรม เรอื่ ง มรรคมีองค์ 8 (สมั มาสังกปั ปะ)
2. นำเข้าสู่บทเรียนด้วยการถามนักเรียนเกย่ี วกับ ทฤษฎีบทของเส้นขนานและมุมแย้ง

(ทฤษฎีบท ถา้ เสน้ ตรงเสน้ หนง่ึ ตัดเสน้ ตรงคหู่ นง่ึ เสน้ ตรงคู่นั้นขนานกนั ก็ต่อเมื่อ มมุ แย้งมีขนาดเท่ากนั )

ขั้นจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครนู ำเสนอตวั อย่าง ใหน้ ักเรยี นรว่ มพจิ ารณาในการพสิ จู น์ทฤษฎขี องเสน้ ขนานและมุมแย้ง ดังนี้
ตวั อยา่ งท่ี 1 จากรูปตอ้ งการพิสูจน์ว่า AB // CD

วธิ ที ำ ต้องการพสิ จู น์วา่ AB // CD

พิสจู น์ 1. CML LMN NMD = 180° (ขนาดของมุมตรง)

2. NMD = 180° – 64° – 70° = 46°

3. NMD = 46°

เนือ่ งจาก LNM และ NMD เป็นมุมแยง้

4. AB // CD (ถา้ เส้นตรงเสน้ หนึง่ ตัดเส้นตรงคูห่ นง่ึ มมี มุ แย้งเท่ากัน แล้วเส้นตรงคูน่ ้นั
ขนานกัน)

2. ให้นักเรียนทำใบงานท่ี 5 โดยมีครคู อยใหค้ ำแนะนำรายบคุ คล ตามสถานการณ์ในช้นั เรียน

P a g e | 250

ขน้ั สรุป
1. ใช้คำถามเพื่อนำสกู่ ารสรปุ ดงั น้ี
- นักเรยี นสามารถสรุปทฤษฎบี ทเกีย่ วกบั เสน้ ขนานกบั มุมแยง้ ว่าอย่างไร
(ทฤษฎีบท ถา้ เส้นตรงเส้นหนงึ่ ตดั เส้นตรงคูห่ น่งึ เส้นตรงคูน่ ั้นขนานกนั ก็ต่อเมือ่ มมุ แยง้ มขี นาดเท่ากัน)

9. การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (3 หว่ ง 2 เงอื่ นไข)

หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศกึ ษาหาความรแู้ ละทำงานเหมาะกบั เวลา

หลักมีเหตผุ ล อภิปราย เรอ่ื งกฎ ระเบียบ เงื่อนไขในการเรยี น ในชั้นเรียนอย่างเหมาะสมและ

ถูกตอ้ ง

หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน มหี ลักการปฏบิ ัติตนทถี่ กู ต้องท้ังในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรยี น
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตัวที่ดี ร่วมกันวางแผนในการปฏบิ ตั ิตนและการทำงานเปน็ กลุม่

เง่ือนไขความรู้ การสรุปผลและสร้างความคิดรวบยอด เร่ืองของกฎ ระเบียบ เงื่อนไขในการ

เรียนในช้นั เรียน

เงอ่ื นไขคุณธรรม รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ย่างพอเพียง

การบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 ห่วง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เง่อื นไข
พอประมาณ ความรู้
มเี หตุผล คุณธรรม
มีภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มติ ิ

เศรษฐกิจ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม

10. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 2 (สสวท.)
2. ใบงานที่ 5 เรื่อง การแกป้ ญั หาเส้นขนานและมมุ แยง้

11. หลักฐานและวธิ ีการประเมนิ วธิ ีการประเมนิ
ตรวจใบงาน
หลกั ฐาน
1. ใบงานที่ 5 เรือ่ ง การแก้ปัญหาเสน้ ขนานและมุมแยง้

P a g e | 251

12. เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน
ความสามารถในการทำใบงาน 4
3
ระดับคณุ ภาพ 2
1. นกั เรยี นทำใบงานถกู ต้องมากกวา่ 90% (4 ขอ้ ) 1
2. นกั เรยี นทำใบงานได้ถกู ตอ้ ง70 – 89% (3 ข้อ)
3. นักเรียนทำใบงานไดถ้ กู ตอ้ ง 50 – 69% (2 ขอ้ )
4. นกั เรียนทำใบงานถกู ต้องน้อยกว่า 50% (0 – 1 ข้อ)

ความสามารถในการตอบคำถามและการมีสว่ นร่วมในการจดั การเรียนการสอน

ระดับคุณภาพ คะแนน
นกั เรียนมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็นและตอบคำถามในชน้ั เรยี นบอ่ ยคร้งั 3
นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถามในช้ันเรยี นบางครงั้ 2
นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในชนั้ เรยี นนอ้ ยคร้งั 1
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ลงชอ่ื ..................................................ครูผู้สอน
(นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี)

.........../.............../..................

P a g e | 252

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน ม.2
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่านกั เรียน

ผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทีก่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.......................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้……………………….........................พบว่านักเรยี น
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................
ไดแ้ ก่ ..........................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……………………..................................
พบว่านกั เรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ.......……. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ...............
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ............................................................ ผ้สู อน
( นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี )

วันท่ี......../.................../.................
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 253

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง  ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผู้เรยี น
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา  ทยี่ งั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา

ตอ่ ไป ต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงช่อื .......................................................

(นายศภุ ชัย เรอื งเดช) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 254

แผนการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2

รายวิชา คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน รหัสวิชา ค 22102

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง เสน้ ขนาน จำนวน 10 ชัว่ โมง

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 6 เรื่อง เสน้ ขนานและมมุ ภายนอกกับมุมภายใน (1) จำนวน 1 ชวั่ โมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด

สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต

มาตรฐานการเรียนรู้

ค 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งรปู เรขาคณิต

และทฤษฎบี ททางเรขาคณติ และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตัวชวี้ ัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความรู้เกี่ยวกับสมบัตขิ องเส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมไปใช้ในการแกป้ ัญหา

คณติ ศาสตร์

2. จุดประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ ัวช้ีวัด
จุดประสงค์การเรยี นร้สู ูต่ ัวชี้วัด
1. นำความรเู้ กยี่ วกบั สมบตั ิของเส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมไปใช้ในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตร์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ที่อิงเน้ือหา
1. ใชส้ มบตั ขิ องเส้นขนานและรปู สามเหลยี่ มในการให้เหตุผลและแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคัญ
ทฤษฎีบท
- ถา้ เสน้ ตรงสองเสน้ ขนานกนั และมเี ส้นตัด แล้วมุมภายนอกและมมุ ภายในท่อี ยูต่ รงขา้ มบนข้างเดยี วกัน

ของเส้นตดั มีขนาดเท่ากัน
- เม่อื เสน้ ตรงเสน้ หน่งึ ตัดเสน้ ตรงคู่หน่ึง เสน้ ตรงค่นู นั้ ขนานกนั ก็ตอ่ เมอ่ื มุมภายนอกและมมุ ภายในทอี่ ยู่

ตรงข้ามบนขา้ งเดียวกันของเสน้ ตัดมีขนาดเท่ากัน

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ด้านความรู้ : นักเรยี นสามารถ
1. อธบิ ายเก่ียวกบั เสน้ ขนานกับมุมภายในและมมุ ภายนอกและทฤษฎีของเสน้ ขนานกับมมุ ภายในและ

มุมภายนอกได้
4.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
1. การแกป้ ัญหา
2. การใหเ้ หตผุ ล
3. การสื่อสาร สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนำเสนอ

P a g e | 255

4.3 ดา้ นเจตคต/ิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค/์ คณุ ธรรมจริยธรรมท่สี อดแทรก
1. นกั เรยี นมีความซือ่ สัตย์ แก้โจทย์ปัญหาไดด้ ว้ ยตวั เอง
2. นักเรียนมคี วามรบั ผิดชอบ ตรงต่อเวลา
3. นักเรยี นมีระเบยี บวนิ ัย รกั การเรยี นรู้

5. สมรรถนะของผเู้ รยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
6. ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้
1. ใบงานท่ี 6 เรื่อง เสน้ ขนานและมุมภายนอกกับมุมภายใน (1)

7. คำถามสำคญั
1. นกั เรยี นสามารถอธิบายเกยี่ วกบั เสน้ ขนานและมมุ ภายนอกกบั มุมภายในได้หรือไม่

8. กระบวนการจัดกิจกรรมเรียนรู้
ขนั้ นำเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ครสู อดแทรกความรเู้ กยี่ วกับคุณธรรม เรือ่ ง มรรคมอี งค์ 8 (สมั มาวาจา)
2. ครูใช้คำถามให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ดงั น้ี
นักเรียนคิดวา่ เส้นตรงสองเสน้ ถา้ มีเสน้ ตรงเสน้ หน่งึ ตดั แลว้ จะเกิดมุมอะไรได้บา้ ง (มุมภายใน

บนขา้ งเดยี วกันของเส้นตัด มมุ ภายนอกและมมุ แย้ง)

ขั้นจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครูกำหนด AB และ CD เปน็ เสน้ ตรงสอง ที่มี XY เปน็ เส้นตดั บนกระดาน ดังน้ี

แลว้ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับมุมภายในและมุมภายนอกทีอ่ ยบู่ นขา้ งเดียวกันของ
เสน้ ตัด โดยครใู ช้คำถาม ดงั นี้

P a g e | 256

มุมคู่ใดบ้างท่ีเปน็ มมุ ภายในและมุมภายนอกท่อี ยบู่ นขา้ งเดียวกันของเส้นตดั XY
( 3 เปน็ มมุ ภายนอกและ 1 เป็นมุมภายในบนข้างเดียวกนั ของเส้นตดั XY ,
4 เป็นมมุ ภายนอกและ 2 เป็นมมุ ภายในบนข้างเดียวกันของเสน้ ตัด XY )
2. ครูกำหนด AB และ CD เป็นเสน้ ตรงสอง มี MN เปน็ เส้นตัด บนกระดาน ดังนี้

แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั พสิ ูจน์วา่ 3 = 7 และ 2 = 6 ดงั น้ี

1) 3 = 5 และ 4 = 6 (มมุ แยง้ )

2) 7 = 5 และ 4 = 2 (มมุ ตรงขา้ มของเสน้ ตัดมีขนาดเท่ากัน)

3) 3 = 7 และ 2 = 6 (จากขอ้ 1 และ 2)
ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ มุมดงั กล่าว เปน็ มมุ ภายนอกและมมุ ภายในบนข้างเดียวกันของเสน้ ตัด

แลว้ ให้นกั เรยี นพิสูจน์ 1 = 5 และ 4 = 8 ลงในสมดุ โดยมคี รคู อยให้คำแนะนำตามสถานการณ์
ในห้องเรยี น

3. ให้นักเรียนทำใบงานที่ 6 โดยมีครคู อยใหค้ ำแนะนำเพิ่มเติม

ขนั้ สรปุ
1. ครสู มุ่ นักเรียนเฉลยคำตอบใบงานท่ี 6 โดยครคู อยใหค้ ำแนะนำเพ่ิมเตมิ
2. ใช้คำถามเพ่ือนำส่กู ารสรปุ ดงั นี้

- นกั เรียนจะเรยี นสรปุ ความสมั พนั ธ์ท่ีเกดิ ข้ึนเป็นทฤษฎไี ดอ้ ย่างไร
(ทฤษฎี ถ้าเส้นตรงสองเสน้ ขนานกนั และมีเสน้ ตัด แล้วมุมภายนอกและมุมภายในทอ่ี ยูต่ รงข้าม

บนข้างเดียวกนั ของเส้นตดั มขี นาดเท่ากนั )

9. การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข)

หลักความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรแู้ ละทำงานเหมาะกับเวลา

หลกั มีเหตุผล อภปิ ราย เรือ่ งกฎ ระเบียบ เง่ือนไขในการเรียน ในชั้นเรียนอย่างเหมาะสมและ

ถกู ต้อง

หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน มีหลักการปฏิบตั ิตนท่ถี กู ต้องทัง้ ในหอ้ งเรยี นและนอกห้องเรียน

ตัวทีด่ ี รว่ มกนั วางแผนในการปฏบิ ัติตนและการทำงานเปน็ กล่มุ

เงือ่ นไขความรู้ การสรุปผลและสร้างความคิดรวบยอด เรื่องของกฎ ระเบียบ เง่ือนไขในการ

เรยี นในชั้นเรียน

เง่ือนไขคุณธรรม รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่อื สัตย์ มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง

P a g e | 257

การบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงื่อนไข
พอประมาณ ความรู้
มีเหตุผล คุณธรรม
มภี มู ิคุ้มกนั ในตัวที่ดี

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มิติ

เศรษฐกิจ สังคม สงิ่ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม

10. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 2 (สสวท.)
2. ใบงานท่ี 6 เรื่อง เสน้ ขนานและมุมภายนอกกบั มุมภายใน (1)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
11. หลักฐานและวธิ ีการประเมนิ

หลักฐาน วธิ ีการประเมนิ

1. ใบงานที่ 6 เร่ือง เสน้ ขนานและมุมภายนอกกบั มุมภายใน (1) ตรวจใบงาน

12. เกณฑ์การประเมนิ คะแนน
ความสามารถในการทำใบงาน 4
3
ระดับคณุ ภาพ 2
1. นกั เรียนทำใบงานถกู ตอ้ งมากกว่า 90% (4 ข้อ) 1
2. นกั เรยี นทำใบงานได้ถกู ตอ้ ง70 – 89% (3 ขอ้ )
3. นักเรยี นทำใบงานได้ถูกต้อง 50 – 69% (2 ข้อ)
4. นกั เรียนทำใบงานถูกตอ้ งน้อยกวา่ 50% (0 – 1 ขอ้ )

ความสามารถในการตอบคำถามและการมีสว่ นรว่ มในการจดั การเรยี นการสอน

ระดับคุณภาพ คะแนน
นักเรียนมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถามในชนั้ เรียนบอ่ ยคร้ัง 3
นักเรียนมีสว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ และตอบคำถามในชั้นเรยี นบางครง้ั 2
นักเรยี นมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในชน้ั เรียนนอ้ ยคร้ัง 1

ลงชือ่ ..................................................ครูผู้สอน
(นางสาววิลาสินี แทนทวี)
.........../.............../..................

P a g e | 258

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน ม.2
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่านกั เรียน

ผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทีก่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.......................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้……………………….........................พบว่านักเรยี น
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................
ไดแ้ ก่ ..........................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……………………..................................
พบว่านกั เรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ.......……. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ...............
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ............................................................ ผ้สู อน
( นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี )

วันท่ี......../.................../.................
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 259

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง  ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผู้เรยี น
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา  ทยี่ งั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา

ตอ่ ไป ต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงช่อื .......................................................

(นายศภุ ชัย เรอื งเดช) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 260

แผนการจดั การเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2

รายวชิ า คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน รหัสวิชา ค 22102

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 เร่อื ง เส้นขนาน จำนวน 10 ช่วั โมง

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 7 เรอื่ ง เสน้ ขนานและมมุ ภายนอกกบั มุมภายใน (2) จำนวน 1 ชวั่ โมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด

สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณิต

มาตรฐานการเรียนรู้

ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณิต สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณติ

และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตวั ชว้ี ัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความรูเ้ ก่ียวกบั สมบตั ขิ องเส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมไปใช้ในการแกป้ ญั หา

คณติ ศาสตร์

2. จุดประสงค์การเรียนรูส้ ่ตู วั ชีว้ ัด
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สตู่ วั ชี้วดั
1. นำความร้เู ก่ียวกับสมบตั ิของเส้นขนานและรูปสามเหลีย่ มไปใช้ในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์
จดุ ประสงค์การเรยี นร้ทู อ่ี ิงเนอ้ื หา
1. ใช้สมบัตขิ องเสน้ ขนานและรูปสามเหล่ยี มในการใหเ้ หตผุ ลและแก้ปัญหาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคัญ
ทฤษฎบี ท
- ถ้าเส้นตรงสองเสน้ ขนานกันและมเี ส้นตดั แล้วมมุ ภายนอกและมมุ ภายในท่ีอยู่ตรงขา้ มบนขา้ งเดยี วกัน

ของเส้นตดั มีขนาดเท่ากัน
- เมอ่ื เสน้ ตรงเส้นหนงึ่ ตดั เสน้ ตรงคหู่ นึ่ง เสน้ ตรงคู่นนั้ ขนานกัน กต็ ่อเมื่อ มุมภายนอกและมมุ ภายในทอ่ี ยู่

ตรงขา้ มบนขา้ งเดียวกันของเส้นตดั มีขนาดเท่ากนั

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้ : นกั เรยี นสามารถ
1. อธิบายเกีย่ วกับเสน้ ขนานกับมุมภายในและมมุ ภายนอกและทฤษฎขี องเส้นขนานกบั มมุ ภายในและ

มุมภายนอกได้
4.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
1. นำความรูเ้ ก่ียวกบั เสน้ ขนานและมุมภายในกับมุมภายนอกมาแกป้ ญั หาได้

P a g e | 261

4.3 ดา้ นเจตคติ/คุณลักษณะอนั พึงประสงค์/คณุ ธรรมจริยธรรมท่สี อดแทรก
1. นกั เรียนมีความซอื่ สตั ย์ แก้โจทย์ปัญหาไดด้ ้วยตวั เอง
2. นกั เรยี นมีความรับผดิ ชอบ ตรงตอ่ เวลา
3. นักเรยี นมีระเบยี บวนิ ยั รกั การเรียนรู้

5. สมรรถนะของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ
5.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
6. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)
1. ใบงานที่ 7 เร่อื ง เส้นขนานและมมุ ภายนอกกบั มมุ ภายใน (2)

7. คำถามสำคญั
1. นกั เรยี นสามารถอธิบายเกี่ยวกบั เสน้ ขนานและมุมภายนอกกบั มมุ ภายในได้หรอื ไม่

8. กระบวนการจัดกิจกรรมเรียนรู้
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครสู อดแทรกความร้เู กยี่ วกบั คุณธรรม เรื่อง มรรคมอี งค์ 8 (สัมมากมั มันตะ)
2. ครูใช้คำถามใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น ดังนี้
นกั เรียนคิดวา่ เสน้ ขนานและมุมภายนอกกับมุมภายในเก่ยี วขอ้ งกันอยา่ งไร
(ทฤษฎีบท ถ้าเสน้ ตรงสองเสน้ ขนานกันและมเี สน้ ตัด แลว้ มุมภายนอกและมมุ ภายในทอี่ ย่ตู รงข้าม

บนขา้ งเดยี วกันของเส้นตัด มขี นาดเทา่ กัน)

ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. ครยู กตวั อยา่ ง เพ่ือสร้างความเข้าใจเพมิ่ เตมิ
ตวั อย่าง กำหนด AB และ CD ที่มี MN เป็นเสน้ ตัด โดยมี 1 = 5 บนกระดาน ดังน้ี

แลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกนั พิสจู น์ วา่ AB // CD โดยครคู อยให้คำแนะนำในขนั้ ตอนต่าง ๆ ดงั นี้

P a g e | 262

วิธที ำ ตอ้ งการพิสจู น์วา่ AB // CD
พสิ ูจน์ 1. 1 + 4 = 180° (เป็นมุมตรง)

2. 1 = 5 (กำหนดให้)

3. 5 + 4 = 180° (จากข้อ 1 แทน 1 เป็น 5 )

4. เนอ่ื งจาก 4 และ 5 เปน็ มมุ ภายในท่ีอยบู่ นขา้ งเดยี วกันของเส้นตัด MN

5. AB // CD (ถา้ เส้นตรงเสน้ หนึง่ ตัดเสน้ ตรงคู่หนึ่ง ทำใหม้ มุ ภายในทอ่ี ยู่บนข้าง
เดียวกนั ของเส้นตัด รวมกันได้ 180° แล้วเส้นตรงคู่นั้นขนานกนั )

2. จากตัวอย่าง ครใู ห้นักเรียนรว่ มกนั สรุปความรทู้ ่ไี ดเ้ ป็นทฤษฎีบท ได้ว่า “ทฤษฎีบท เมือ่ เส้นตรง
เสน้ หนึ่งตดั เสน้ ตรงคู่หนึ่ง เสน้ ตรงคู่นนั้ ขนานกัน ก็ต่อเมือ่ มุมภายนอกและมมุ ภายในท่อี ยูต่ รงขา้ ม

บนข้างเดยี วกนั ของเสน้ ตดั มขี นาดเท่ากนั ”
3. ใหน้ กั เรยี นทำใบงานที่ 7 โดยมีครคู อยใหค้ ำแนะนำเพิม่ เติม
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ขน้ั สรุป
1. ครูสมุ่ นักเรยี นเฉลยคำตอบใบงานท่ี 7 โดยครูคอยให้คำแนะนำเพิ่มเตมิ

2. ใชค้ ำถามเพอื่ นำสู่การสรุป ดังน้ี
นักเรียนจะเรียนสรปุ ความสมั พนั ธท์ เ่ี กดิ ขน้ึ เป็นทฤษฎบี ท ไดอ้ ย่างไร
(ทฤษฎีบท เมือ่ เส้นตรงเสน้ หนึ่งตดั เสน้ ตรงคูห่ นงึ่ เส้นตรงคนู่ ้ันขนานกนั กต็ อ่ เมื่อ มุมภายนอกและ

มมุ ภายในท่ีอยู่ตรงขา้ มบนขา้ งเดียวกันของเสน้ ตดั มีขนาดเทา่ กัน)

9. การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข)

หลกั ความพอประมาณ การใช้เวลาในการศึกษาหาความรแู้ ละทำงานเหมาะกับเวลา

หลักมีเหตุผล อภปิ ราย เรอื่ งกฎ ระเบียบ เง่อื นไขในการเรยี น ในชนั้ เรียนอยา่ งเหมาะสมและ

ถูกต้อง

หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน มหี ลกั การปฏิบัติตนท่ีถูกตอ้ งทง้ั ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน

ตวั ทีด่ ี รว่ มกนั วางแผนในการปฏิบตั ติ นและการทำงานเปน็ กลมุ่

เงื่อนไขความรู้ การสรุปผลและสร้างความคิดรวบยอด เร่ืองของกฎ ระเบียบ เง่ือนไขในการ

เรียนในชน้ั เรยี น

เงื่อนไขคุณธรรม รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียง

การบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 2 เง่อื นไข
พอประมาณ ความรู้
มเี หตุผล คุณธรรม
มภี ูมิค้มุ กันในตัวท่ดี ี

P a g e | 263

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มติ ิ

เศรษฐกิจ สงั คม สงิ่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม

10. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 เล่ม 2 (สสวท.)
2. ใบงานท่ี 7 เรื่อง เส้นขนานและมมุ ภายนอกกบั มุมภายใน (2)

11. หลักฐานและวธิ กี ารประเมิน วิธกี ารประเมนิ
ตรวจใบงาน
หลักฐาน
1. ใบงานที่ 7 เร่ือง เส้นขนานและมมุ ภายนอกกบั มมุ ภายใน (2)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
12. เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนน
ความสามารถในการทำใบงาน 4
3
ระดับคุณภาพ 2
1. นกั เรยี นทำใบงานถกู ตอ้ งมากกว่า 90% (4 รายการ) 1
2. นกั เรียนทำใบงานไดถ้ กู ตอ้ ง70 – 89% (3 รายการ)
3. นักเรียนทำใบงานได้ถูกต้อง 50 – 69% (2 รายการ)
4. นักเรียนทำใบงานถูกต้องน้อยกว่า 50% (0 – 1 รายการ)

ความสามารถในการตอบคำถามและการมีส่วนร่วมในการจดั การเรยี นการสอน

ระดบั คณุ ภาพ คะแนน
นกั เรยี นมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในชั้นเรียนบ่อยคร้ัง 3
นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็นและตอบคำถามในช้นั เรียนบางครัง้ 2
นักเรยี นมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นและตอบคำถามในช้ันเรียนน้อยครั้ง 1

ลงช่ือ ..................................................ครูผสู้ อน
(นางสาววลิ าสนิ ี แทนทว)ี
.........../.............../..................

P a g e | 264

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน ม.2
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่านกั เรียน

ผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทีก่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.......................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้……………………….........................พบว่านักเรยี น
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................
ไดแ้ ก่ ..........................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……………………..................................
พบว่านกั เรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ.......……. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ...............
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ............................................................ ผ้สู อน
( นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี )

วันท่ี......../.................../.................
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 265

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง  ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผู้เรยี น
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา  ทยี่ งั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา

ตอ่ ไป ต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงช่อื .......................................................

(นายศภุ ชัย เรอื งเดช) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 266

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2

รายวิชา คณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน รหัสวชิ า ค 22102

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง เส้นขนาน จำนวน 10 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 เร่ือง เส้นขนานและรูปสามเหล่ียม (1) จำนวน 1 ชว่ั โมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั

สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต

มาตรฐานการเรียนรู้

ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพนั ธร์ ะหว่างรูปเรขาคณิต

และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตัวชว้ี ัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความร้เู ก่ยี วกบั สมบัตขิ องเสน้ ขนานและรูปสามเหลย่ี มไปใช้ในการแกป้ ญั หา

คณิตศาสตร์

2. จุดประสงค์การเรียนร้สู ูต่ ัวชี้วดั
จุดประสงค์การเรียนรู้สตู่ วั ช้ีวดั
1. นำความรู้เก่ียวกบั สมบตั ิของเสน้ ขนานและรปู สามเหลีย่ มไปใช้ในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์
จุดประสงค์การเรียนรทู้ ่ีอิงเนอ้ื หา
1. ใช้สมบัตขิ องเส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมในการให้เหตุผลและแก้ปญั หาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคญั
ทฤษฎบี ท
- ขนาดของมุมภายในทัง้ สามมุมของรูปสามเหล่ยี มรวมกันเทา่ กบั 180 องศา
- ถ้าต่อด้านใดด้านหนึง่ ของรปู สามเหลย่ี มออกไปมุมภายนอกท่ีเกิดข้นึ จะมีขนาดเท่ากับผลบวกของ

ขนาดมมุ ภายในทีไ่ มใ่ ชม่ ุมประชดิ ของมุมภายนอกนน้ั

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ด้านความรู้ : นักเรยี นสามารถ
1. บอกความสัมพันธข์ องเส้นขนานและรปู สามเหลยี่ มได้
4.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
1. นำทฤษฎีบทของรปู สามเหลยี่ มไปหาขนาดของมุมได้
4.3 ดา้ นเจตคติ/คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค/์ คุณธรรมจรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก
1. นักเรียนมีความซ่ือสตั ย์ แกโ้ จทย์ปัญหาไดด้ ว้ ยตัวเอง
2. นักเรียนมีความรบั ผิดชอบ ตรงต่อเวลา
3. นกั เรยี นมรี ะเบยี บวนิ ัย รักการเรยี นรู้

P a g e | 267

5. สมรรถนะของผูเ้ รยี น

5.1 ความสามารถในการสื่อสาร
5.2 ความสามารถในการคดิ

5.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร้)ู
1. ใบงานที่ 8 เรือ่ ง เสน้ ขนานและรปู สามเหลีย่ ม (1)

7. คำถามสำคญั
1. นกั เรยี นสามารถอธิบายเก่ียวกับเสน้ ขนานและรูปสามเหลีย่ มได้หรือไม่
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
8. กระบวนการจัดกิจกรรมเรยี นรู้
ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครสู อดแทรกความรเู้ กีย่ วกบั คุณธรรม เร่อื ง มรรคมีองค์ 8 (สมั มาอาชีวะ)
2. นำเขา้ สู่บทเรียนด้วยการทบทวนทฤษฎบี ททางเรขาคณิต “ขนาดของมุมภายในทงั้ สามมุมของ

รูปสามเหลีย่ มรวมกันเท่ากับ 180 องศา” ซึ่งเป็นทฤษฎบี ทสำคัญท่ตี ้องนำมาใช้ในเรอื่ ง เสน้ ขนานและ
รูปสามเหลีย่ ม

ขั้นจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

1. สุ่มนักเรยี นมาแสดงวิธีการพสิ ูจนว์ า่ ขนาดของมุมภายในรูปสามเหลี่ยม รวมกนั เทา่ กบั 180°

โดยมคี รคู อยให้คำแนะนำเพม่ิ เตมิ
เชน่ 1. จงใช้สมบัติของเส้นขนานหาผลรวมของขนาดของมมุ ท้ังสามของรูป ΔABC

วิธที ำ 4 + 1 + 5 = 180° (มมุ ตรง) ............(1)
(มมุ แยง้ มขี นาดเทา่ กัน) ............(2)
4=2 (มมุ แยง้ มีขนาดเทา่ กนั ) ............(3)
(จาก (1), (2) และ(3))
5=3

ดงั นน้ั 1 + 2 + 3 = 180°

P a g e | 268

2. จงหาคา่ x

วธิ ที ำ ABC +BAC + ACB = 180° (ผลบวกมมุ ภายในของรปู สามเหลีย่ ม เท่ากบั 180°)
ABC = 28° และ BAC = 38° (กำหนดให)้

ดังนนั้ ( 28°+ 38°) + ACB = 180° (จากโจทย์) ...............(1)

เนอื่ งจาก ACB + x = 180° (ขนาดของมุมตรง) ............... (2)
จาก (1) และ(2) จะได้

( 28°+ 38°) + ACB = ACB + x (สมบัตกิ ารเท่ากัน)

นนั่ คือ x = 66°

2. ให้นักเรยี นสรปุ ทฤษฎบี ททีส่ อดคล้องกับตวั อย่างที่ 2 (ถ้าต่อดา้ นใดดา้ นหน่งึ ของรปู สามเหลย่ี ม
ออกไปมมุ ภายนอกท่เี กิดข้นึ จะมขี นาดเท่ากับผลบวกของขนาดมุมภายในที่ไมใ่ ชม่ ุมประชดิ ของมมุ ภายนอกนั้น)

3. ใหน้ ักเรยี นทำใบงานที่ 8 โดยนำทฤษฎบี ทเกย่ี วกับผลรวมของมุมภายในของรปู สามเหลย่ี ม
และสมบตั ขิ องเสน้ ขนานในการหาคำตอบ โดยมีครูคอยใหค้ ำแนะนำเพิม่ เติม
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ข้นั สรปุ

1. ครูสมุ่ นกั เรียนเฉลยคำตอบใบงานท่ี 8 โดยครคู อยให้คำแนะนำเพิม่ เติม
2. ใชค้ ำถามเพื่อนำสู่การสรุป ดงั น้ี
นักเรียนจะเรยี นสรปุ ความสมั พนั ธท์ ีเ่ กิดข้ึนเปน็ ทฤษฎบี ท ได้อยา่ งไร

(ทฤษฎีบท ถา้ ตอ่ ด้านใดดา้ นหนง่ึ ของรปู สามเหลี่ยมออกไปมมุ ภายนอกท่ีเกิดขึน้ จะมีขนาดเท่ากบั
ผลบวกของขนาดมมุ ภายในทไ่ี มใ่ ชม่ ุมประชิดของมุมภายนอกน้ัน)

9. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (3 ห่วง 2 เงือ่ นไข)

หลักความพอประมาณ การใชเ้ วลาในการศึกษาหาความรู้และทำงานเหมาะกับเวลา

หลักมเี หตุผล อภปิ ราย เรอ่ื งกฎ ระเบียบ เง่อื นไขในการเรยี น ในชั้นเรยี นอยา่ งเหมาะสมและ

ถูกตอ้ ง

หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน มหี ลักการปฏิบตั ิตนทถ่ี ูกตอ้ งทงั้ ในหอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรียน

ตวั ที่ดี ร่วมกนั วางแผนในการปฏิบตั ติ นและการทำงานเป็นกลุม่

เง่ือนไขความรู้ การสรุปผลและสร้างความคิดรวบยอด เร่ืองของกฎ ระเบียบ เงื่อนไขในการ

เรียนในชั้นเรียน

เงือ่ นไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สัตย์ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง

P a g e | 269

การบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เง่อื นไข
พอประมาณ ความรู้
มีเหตุผล คุณธรรม
มภี ูมคิ ุ้มกันในตัวทดี่ ี

ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 4 มติ ิ

เศรษฐกิจ สงั คม สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม

10. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 เลม่ 2 (สสวท.)
2. ใบงานท่ี 8 เรอื่ ง เส้นขนานและรปู สามเหลี่ยม (1)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
11. หลักฐานและวธิ กี ารประเมนิ วธิ ีการประเมนิ
ตรวจใบงาน
หลักฐาน
1. ใบงานท่ี 8 เรือ่ ง เส้นขนานและรปู สามเหลยี่ ม (1)

12. เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน
ความสามารถในการทำใบงาน 4
3
ระดบั คุณภาพ 2
1. นกั เรยี นทำใบงานถูกตอ้ งมากกว่า 90% (3 ข้อ) 1
2. นกั เรียนทำใบงานได้ถกู ตอ้ ง70 – 89% (2 ข้อ)
3. นักเรยี นทำใบงานได้ถูกต้อง 50 – 69% (1 ขอ้ )
4. นกั เรยี นทำใบงานถกู ต้องน้อยกว่า 50% (0 ข้อ)

ความสามารถในการตอบคำถามและการมสี ว่ นรว่ มในการจัดการเรยี นการสอน คะแนน
3
ระดบั คุณภาพ 2
นักเรียนมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็ และตอบคำถามในชน้ั เรยี นบ่อยครัง้ 1
นกั เรียนมสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเหน็ และตอบคำถามในช้ันเรยี นบางครั้ง
นักเรยี นมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในชน้ั เรยี นนอ้ ยคร้งั

ลงช่อื ..................................................ครูผสู้ อน
(นางสาววิลาสินี แทนทวี)

.........../.............../..................

P a g e | 270

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน ม.2
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่านกั เรียน

ผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทีก่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.......................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้……………………….........................พบว่านักเรยี น
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................
ไดแ้ ก่ ..........................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……………………..................................
พบว่านกั เรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ.......……. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ...............
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ............................................................ ผ้สู อน
( นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี )

วันท่ี......../.................../.................
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 271

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง  ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผู้เรยี น
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา  ทยี่ งั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา

ตอ่ ไป ต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงช่อื .......................................................

(นายศภุ ชัย เรอื งเดช) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 272

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2

รายวิชา คณิตศาสตร์พ้ืนฐาน รหสั วชิ า ค 22102

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง เสน้ ขนาน จำนวน 10 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 9 เรอ่ื ง เสน้ ขนานและรปู สามเหลยี่ ม (2) จำนวน 1 ช่ัวโมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั

สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต

มาตรฐานการเรยี นรู้

ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณิต สมบัตขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพนั ธ์ระหว่างรปู เรขาคณิต

และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตวั ชว้ี ัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความรู้เกยี่ วกับสมบัตขิ องเสน้ ขนานและรูปสามเหลีย่ มไปใช้ในการแกป้ ญั หา

คณิตศาสตร์

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ู่ตัวช้ีวัด
จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ วั ช้ีวดั
1. นำความรู้เก่ียวกับสมบัติของเสน้ ขนานและรปู สามเหลยี่ มไปใช้ในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์
จุดประสงค์การเรียนรทู้ ่อี งิ เนื้อหา
1. ใชส้ มบัติของเสน้ ขนานและรปู สามเหลี่ยมในการให้เหตุผลและแก้ปัญหาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคญั
ทฤษฎีบท
- ขนาดของมมุ ภายในทงั้ สามมุมของรูปสามเหล่ยี มรวมกนั เทา่ กบั 180 องศา
- ถา้ ตอ่ ด้านใดด้านหนึง่ ของรปู สามเหล่ยี มออกไปมุมภายนอกท่เี กิดขนึ้ จะมขี นาดเท่ากับผลบวกของ

ขนาดมุมภายในทไ่ี มใ่ ชม่ มุ ประชดิ ของมมุ ภายนอกนนั้

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ด้านความรู้ : นกั เรยี นสามารถ
1. บอกความสัมพนั ธ์ของเสน้ ขนานและรูปสามเหลี่ยมได้
4.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
1. สามารถแสดงการพสิ ูจนแ์ ละแกป้ ญั หาโดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องรูปสามเหลยี่ มและเสน้ ขนานได้
4.3 ด้านเจตคต/ิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค/์ คุณธรรมจรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก
1. นักเรยี นมคี วามซ่อื สัตย์ แก้โจทย์ปญั หาได้ด้วยตวั เอง
2. นกั เรยี นมีความรบั ผิดชอบ ตรงต่อเวลา
3. นกั เรียนมรี ะเบียบวนิ ยั รักการเรยี นรู้

P a g e | 273

5. สมรรถนะของผู้เรยี น

5.1 ความสามารถในการส่ือสาร
5.2 ความสามารถในการคดิ

5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้
1. ใบงานท่ี 9 เร่อื ง เสน้ ขนานและรปู สามเหลีย่ ม (2)

7. คำถามสำคัญ
1. นกั เรยี นสามารถอธิบายเกยี่ วกบั เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมได้หรอื ไม่
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
8. กระบวนการจัดกิจกรรมเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครูสอดแทรกความร้เู กี่ยวกบั คุณธรรม เรอื่ ง มรรคมอี งค์ 8 (สมั มาวายามะ)
2. นำเขา้ สู่บทเรียนดว้ ยการทบทวนทฤษฎบี ทเก่ยี วกบั เส้นขนานและรปู สามเหลี่ยม “ทฤษฎีบท

ถา้ ต่อดา้ นใดด้านหนึง่ ของรูปสามเหล่ียมออกไปมุมภายนอกทเ่ี กดิ ขึ้นจะมขี นาดเท่ากบั ผลบวกของ
ขนาดมุมภายในทีไ่ มใ่ ช่มุมประชดิ ของมุมภายนอกน้ัน” โดยครสู ุ่มสอบถามนกั เรยี น

ขนั้ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครูแบ่งนักเรยี นเป็น 2 กลุ่ม เพอื่ แข่งกันหาคำตอบของโจทยท์ ก่ี ำหนด โดยครูคอยแนะนำคำตอบ
ท่ถี ูกตอ้ งใหก้ บั นักเรียน
1. 2.

3. 4.

P a g e | 274

2. ครยู กตัวอย่างการแก้ปัญหาการประยุกตข์ องรปู สามเหลย่ี มและเสน้ ขนาน ดงั นี้
ตวั อย่าง กำหนด AB // CD จงหาขนาด AOC

วิธที ำ ABO = DCO (มุมแยง้ )
ABO = 83° (โจทย์กำหนดให้)
DCO = 83° (สมบัติการถ่ายทอด)
CDO = 24° (โจทย์กำหนดให้)
AOC = DCO + CDO (มมุ ภายนอกทเ่ี กดิ ขึ้นจากการต่อด้านของรปู สามเหล่ยี มจะมีขนาด
เท่ากับผลบวกของขนาดมุมภายในทีไ่ ม่ใชม่ ุมประชิดของ
มมุ ภายนอกน้นั )
AOC = 83° + 24° = 107°

2. ให้นกั เรยี นทำใบงานท่ี 9 โดยนำทฤษฎขี องเส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม และสมบัติของเส้นขนาน
ในการหาคำตอบ โดยมีครูคอยให้คำแนะนำเพ่มิ เติม
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ขั้นสรปุ
1. ครสู ุม่ นักเรียนเฉลยคำตอบใบงานท่ี 9 โดยครคู อยใหค้ ำแนะนำเพม่ิ เตมิ

2. ครูแบ่งกลุ่มให้นักเรียนกล่มุ ละ 3–4 คน ใหว้ างแผนการแก้ปญั หาเก่ียวกบั เสน้ ขนาน พร้อมทั้ง
วางแผนสรา้ งช้นิ งานในชั่วโมงถดั ไป

9. การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (3 หว่ ง 2 เงือ่ นไข)

หลกั ความพอประมาณ การใชเ้ วลาในการศึกษาหาความรแู้ ละทำงานเหมาะกับเวลา

หลักมเี หตผุ ล อภปิ ราย เร่ืองกฎ ระเบียบ เงอ่ื นไขในการเรยี น ในชนั้ เรียนอย่างเหมาะสมและ

ถูกตอ้ ง

หลักสร้างภูมิคุ้มกันใน มีหลกั การปฏบิ ัตติ นท่ีถกู ต้องทั้งในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน

ตวั ทดี่ ี ร่วมกันวางแผนในการปฏิบตั ติ นและการทำงานเป็นกลมุ่

เง่อื นไขความรู้ การสรุปผลและสร้างความคิดรวบยอด เร่ืองของกฎ ระเบียบ เงื่อนไขในการ

เรยี นในชัน้ เรียน

เงอื่ นไขคุณธรรม รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สัตย์ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง

P a g e | 275

การบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 หว่ ง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2 เงอ่ื นไข
พอประมาณ ความรู้
มีเหตุผล คุณธรรม
มีภูมิคุม้ กนั ในตัวท่ดี ี

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 มิติ

เศรษฐกิจ สงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม วฒั นธรรม

10. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 2 (สสวท.)
2. ใบงานที่ 9 เรื่อง เส้นขนานและรปู สามเหล่ียม (2)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
11. หลักฐานและวธิ กี ารประเมิน วธิ ีการประเมนิ
ตรวจใบงาน
หลักฐาน
1. ใบงานที่ 9 เรือ่ ง เส้นขนานและรูปสามเหลย่ี ม (2)

12. เกณฑก์ ารประเมิน
ความสามารถในการทำใบงาน

ระดบั คุณภาพ คะแนน
1. นกั เรียนทำใบงานถูกตอ้ งมากกว่า 90% (4 รายการ) 4
2. นักเรียนทำใบงานได้ถูกตอ้ ง70 – 89% (3 รายการ) 3
3. นักเรยี นทำใบงานไดถ้ กู ต้อง 50 – 69% (2 รายการ) 2
4. นักเรยี นทำใบงานถกู ตอ้ งน้อยกวา่ 50% (0 – 1 รายการ) 1

ความสามารถในการตอบคำถามและการมสี ว่ นรว่ มในการจัดการเรียนการสอน คะแนน
3
ระดบั คุณภาพ 2
นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นและตอบคำถามในชนั้ เรยี นบ่อยคร้ัง 1
นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ และตอบคำถามในชน้ั เรียนบางครง้ั
นักเรียนมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามในชัน้ เรยี นน้อยครัง้

ลงชื่อ ..................................................ครูผสู้ อน

(นางสาววลิ าสินี แทนทว)ี
.........../.............../..................

P a g e | 276

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ช้ัน ม.2
 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไม่ไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ เน่อื งจาก ..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกบั ผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช้………………………..................................พบว่านกั เรียน

ผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ น้ั ต่ำทีก่ ำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.......................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้……………………….........................พบว่านักเรยี น
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ.......................
ไดแ้ ก่ ..........................................................................................................................................................

3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ เรียน โดยใช…้ ……………………..................................
พบว่านกั เรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ.......……. ไม่ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำท่กี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ...............
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................
3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไมส่ นใจเรียน
 อน่ื ๆ .............................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ......................................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ..................................................................................
 .......................................................................................................................................................
 ไม่มีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ............................................................ ผ้สู อน
( นางสาววิลาสนิ ี แทนทวี )

วันท่ี......../.................../.................
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 277

ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหวั หน้างานวิชาการ
1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง
2.การจัดกิจกรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
 ที่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง  ทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกตา่ งกันของผูเ้ รยี น เหมาะสมกับศกั ยภาพท่ีแตกตา่ งกันของผู้เรยี น
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา  ทยี่ งั ไม่เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา

ตอ่ ไป ต่อไป
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ 3.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้
นำไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
4.ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………….

ลงช่ือ....................................................... ลงช่อื .......................................................

(นายศภุ ชัย เรอื งเดช) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน

P a g e | 278

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

รายวชิ า คณิตศาสตร์พืน้ ฐาน รหสั วชิ า ค 22102

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง เส้นขนาน จำนวน 10 ช่วั โมง

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 10 เรื่อง การนำไปใช้ จำนวน 1 ช่ัวโมง

.............................................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั

สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต

มาตรฐานการเรียนรู้

ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะห์รูปเรขาคณิต สมบตั ิของรูปเรขาคณิต ความสัมพนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณติ

และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนำไปใช้
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
ตวั ชีว้ ัด
ค 2.2 ม.2/2 นำความรเู้ กย่ี วกับสมบตั ขิ องเสน้ ขนานและรูปสามเหล่ียมไปใช้ในการแก้ปัญหา

คณิตศาสตร์

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สตู่ ัวชว้ี ดั
จุดประสงค์การเรียนรู้ส่ตู วั ช้ีวดั
1. นำความรู้เกี่ยวกบั สมบตั ิของเสน้ ขนานและรปู สามเหล่ยี มไปใช้ในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์
จุดประสงค์การเรยี นรทู้ ี่องิ เน้อื หา
1. ใชส้ มบตั ขิ องเสน้ ขนานและรูปสามเหลี่ยมในการใหเ้ หตุผลและแก้ปัญหาคณิตศาสตร์

3. สาระสำคัญ
ทฤษฎีบท
- ขนาดของมุมภายในท้งั สามมมุ ของรปู สามเหลยี่ มรวมกันเท่ากบั 180 องศา
- ถ้าตอ่ ด้านใดด้านหนง่ึ ของรูปสามเหลีย่ มออกไปมมุ ภายนอกท่ีเกิดข้นึ จะมขี นาดเท่ากับผลบวกของ

ขนาดมุมภายในท่ไี มใ่ ช่มมุ ประชดิ ของมุมภายนอกน้ัน

4. สาระการเรียนรู้
4.1 ด้านความรู้ : นักเรยี นสามารถ
1. บอกความสมั พันธข์ องเสน้ ขนานและรูปสามเหล่ยี มได้
4.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
1. นำสมบตั ิของเสน้ ขนานมาแกป้ ัญหาได้
4.3 ด้านเจตคติ/คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์/คณุ ธรรมจริยธรรมท่สี อดแทรก
1. นกั เรยี นมคี วามซือ่ สตั ย์ แกโ้ จทย์ปญั หาไดด้ ้วยตวั เอง
2. นกั เรยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบ ตรงตอ่ เวลา
3. นักเรียนมรี ะเบียบวนิ ัย รักการเรยี นรู้

P a g e | 279

5. สมรรถนะของผู้เรียน

5.1 ความสามารถในการส่อื สาร
5.2 ความสามารถในการคดิ

5.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
5.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
5.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้)
1. ใบงานที่ 10 เร่ือง การนำไปใช้

7. คำถามสำคัญ
1. นักเรียนสามารถอธิบายเกย่ี วกับการนำสมบตั ิของเสน้ ขนานไปใช้ได้หรอื ไม่
แผนการ ัจดการเ ีรยน ู้รค ูรวิลาสิ ีน
8. กระบวนการจัดกจิ กรรมเรยี นรู้
ขน้ั นำเขา้ สูบ่ ทเรียน
1. ครูสอดแทรกความรูเ้ กี่ยวกับคุณธรรม เรื่อง มรรคมอี งค์ 8 (สมั มาสติ)
2. ทบทวนความรู้เรื่องเส้นขนานและสมบัติของเส้นขนาน โดยใชก้ ารถามตอบ

ขนั้ จดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. ใหน้ กั เรียนจบั กลุม่ 3–4 คน เพอื่ สบื ค้นโจทยเ์ ก่ียวกบั เสน้ ขนาน แลว้ เขียนลงในใบงานท่ี 10
แลว้ ทำใบงานท่ี 10 ขอ้ ท่ี 1 โดยมีครูคอยให้คำแนะนำรายบุคคลหรือรายกลมุ่ ตามสถานการณท์ ่ีเกดิ ขน้ึ
2. นักเรยี นวางแผนสร้างผลงาน/ชิ้นงาน ในใบงานท่ี 10 ข้อท่ี 2 โดยเนน้ การใชว้ ัสดทุ ี่มีอยู่ในท้องถ่นิ
เน้นความประหยดั และพอเพยี งในการสรา้ งช้นิ งาน
3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอแผนทว่ี างไว้ โดยครูคอยใหค้ ำแนะนำ

ข้ันสรุป
1. ใช้คำถามเพือ่ นำสู่การสรุป ดงั น้ี

ส่งิ ท่ไี ด้จากการวางแผนก่อนทีจ่ ะลงมอื ทำงาน มขี ้อดี/ข้อด้อยอย่างไร
2. ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มสร้างผลงาน/ช้นิ งาน ตามท่ีได้วางแผนไว้


Click to View FlipBook Version