ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ให้อาสาสมคั รออกมาสนทนาเกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีเพอื่ นในช้นั ทาวา่
แตล่ ะคนทากิจกรรมอะไรบา้ ง โดยให้ผลดั กนั ถาม-ตอบกนั เป็นลกู โซ่ ครูเริ่มตน้ เป็ นคนถามคนแรก
ดงั น้ี
T: Tim, what do you do?
S1: I’m a baker. I make bread. Ken, what do you do?
S2: I’m a postman. I deliver letters to all the people. Jack, what do you do?
S3: I’m a pilot. I fly planes. etc.
2. หนงั สือเรยี น หน้า 59 Ex. 14 ครูบอกว่า นกั เรียนจะไดเ้ ล่นเกม Memory Game โดยครูใหน้ กั เรียนดู
ภาพในหนงั สือแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกว่า บคุ คลในแต่ละภาพกาลงั ทาอะไร เช่น dance, ride a
bike, read a book, sing, cook ต่อมาครูอธิบายกติกาการเล่นเกมให้นกั เรียนฟังว่า ใหน้ กั เรียนจบั คู่
ให้คนแรกคดิ ชื่อคนในภาพมา 1 คน แลว้ ใหน้ กั เรียนอกี คนทายกิจกรรมทีบ่ คุ คลเหล่าน้นั ชอบทา
โดยการถามคาถามจนกวา่ ทายถกู ครูใหน้ กั เรียน 1 คู่ ออกมาสาธิตการเลน่ เกมใหน้ กั เรียนทเี่ หลือดู
เม่อื นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูให้เวลานกั เรียนเลน่ เกม เช่น
A: What does Mark like doing?
B: He likes riding a bike.
A: Right.
A: What does Nancy like doing?
B: She likes dancing.
A: Right.
A: What does Julie like doing?
B: She likes singing.
A: No, try again.
B: She likes reading.
A: Right.
396
A: What does Laura like doing?
B: She likes singing.
A: Right.
A: What does David like doing?
B: He likes cooking.
A: No, try again.
B: He likes collecting coins.
A: Right.
A: What does Steve like doing?
B: He likes fishing.
A: Right.
A: What does Tim like doing?
B: He likes cooking.
A: Right.
3. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นเร่ืองเก่ียวกบั Mr Mills อีกคร้ัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดขอและให้
ขอ้ มูลเก่ียวกบั Mr Mills ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพูดจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาพดู
ถาม-ตอบท่ีหนา้ ช้นั
S1: What does Mr Mills do?
S2: He’s a postman. He delivers letters.
S1: What time does he get up?
S2: He gets up at half past six.
S1: What does he like doing in free time?
S2: He likes collecting coins and fishing.
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอการออกเสียงสระ /ə/ โดยบอกนกั เรียนว่า ในภาษาองั กฤษมกี ารออกเสียงสระ /ə/ แลว้ ครู
อธิบายวิธีการออกเสียงน้ีเพ่ิมเตมิ แก่นกั เรียน
397
การออกเสียงสระ /ə/
สระเสียงน้ีเมอื่ อกเสียงแลว้ แทบฟังไมอ่ อกว่าเป็นสระอะไร เน่ืองจากเป็นเสียงสระ
ทอ่ี อกเสียงส้นั มาก ฟังดคู ลุมเครือ เสียงสระน้ีเกิดในตาแหน่งหลากหลายในภาษาองั กฤษ
แต่จะเป็นพยางคท์ ่ไี มล่ งเสียงหนกั ท้งั สิ้น
ตวั อยา่ งคาทปี่ รากฎเสียงสระ /ə/
1. ตาแหน่งพยางคเ์ ปิ ดตน้ คา เช่น again, allow, agree, amount
2. ตาแหน่งพยางคเ์ ปิ ดทา้ ยคา เช่น China, Canada, sooner, colour
3. ตาแหน่งอ่นื ๆ เช่น contain, dinner, comfortable, pilot
ที่มา: นันทนา รณเกียรติ. สัทศาสตร์เพ่ือการสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษ.
กรุงเทพฯ: สานกั พิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2555.
2. ครูอธิบายเก่ียวกบั การออกเสียงเชื่อมคา (Linking sound) แกน่ กั เรียน
การอ่านเช่ือมคาในภาษาองั กฤษ (Linking sound)
คือ คาท่ีลงทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะ และจะออกเสียงพยญั ชนะในคาถดั ไปทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ยสระ
เช่น sit on เราอ่านวา่ si-ton
read a book เราอา่ นวา่ reada-book
ข้นั Practice
หนังสือเรียน หน้า 59 Sound Spot ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังการออกเสียงคาศพั ทเ์ สียงสระ /ə/
และการออกเสียงเชื่อมคา 2-3 คร้ัง
/ə/ /ə/ /ə/ /ə/ /ə/
A box of apples is on the table.
/ə/ /ə/ /ə/ /ə/
This is a flower for my mother.
ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทต์ าม CD ให้ถกู ตอ้ ง โดยใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงซ้าหลาย ๆ คร้ัง
ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงเช่ือมคาในประโยคดว้ ย
398
กจิ กรรมเพิ่มเติม
ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทเ์ สียงคาศพั ทเ์ สียงสระ /ə/ จากเวบ็ ไซต์
https://youtu.be/Nco2ifowuTk?t=19ฝึกท่ีหอ้ งคอมพวิ เตอร์ของโรงเรียนหรือทบ่ี า้ น
ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทเ์ สียงสระ /ə/
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนเลอื กอาชีพมา 1 อาชีพ แลว้ ให้นกั เรียนเขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อาชีพ
น้นั โดยใชข้ อ้ ความในหนงั สือเรียน หนา้ 58 Ex. 12 เป็นตน้ แบบ เมอื่ เขียนเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียน
ตรวจความถูกตอ้ งดา้ นตา่ ง ๆ เช่น ไวยากรณ์ เคร่ืองหมายวรรคตอน การสะกดคา เสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนผลดั กนั ออกมาอา่ นงานเขยี นของตนเองท่ีหนา้ ช้นั เช่น
(ตวั อยา่ ง)
Miss Waleeporn is a vet. She gets up at 6 o’clock. She helps animals. She likes
her job very much. In her free time, she likes listening to music and singing.
On Sundays, she goes shopping with her sister.
2. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานกลมุ่ คน้ ควา้ ในอินเทอร์เนต็ เกี่ยวกบั คาศพั ทเ์ สียงสระ /ə/
มากลมุ่ ละ 10 คา จากน้นั ให้แต่ละกล่มุ เขยี นคาศพั ทท์ ้งั หมดลงในกระดาษแผน่ ใหญ่ พร้อมตกแตง่ ให้
สวยงาม เสร็จแลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ผลดั กนั ออกมาพดู นาเสนอคาศพั ทท์ ่ีหนา้ ช้นั
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 49 Exs. 10-11 เป็นการบา้ น
Ex. 10 3. art 4. museums 5. favourite 6. homework
2. ride 3. T 4. F 5. T 6. T
Ex. 11
2. F
399
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมนิ การเขียนใหข้ อ้ มูล แบบประเมนิ งานเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั อาชีพและงานอดิเรก
ประเมินช้ินงานคาศพั ทเ์ สียง แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สระ /ə/
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ทเ์ สียง แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สระ /ə/
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และมุ่งมนั่ ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 อนิ เทอร์เนต็
400
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 Let’s sing!
เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เน้ือเพลงได้
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความคดิ เห็น
อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกบั วยั
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชีว้ ัด
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอา่ น/เขยี นในสถานการณต์ ่าง ๆ ทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
401
ตวั ชีว้ ดั ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
ต 4.2 ป. 5/1
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยคท่ีเก่ียวขอ้ ง ช่วยให้ฟัง พูด/เขียน
สื่อสารและเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสมตามกาลเทศะ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Noun) engine
(Verb) fetch
(Adjective) burning
(Phrase) pour on
Structure: London’s burning. Fetch the engine!
Pour on water!
Pronunciation: Pronouncing vocabularies in the song lyrics
2) Language Skills
Listening: ฟังเพือ่ ความเขา้ ใจ
3) Culture: เหตุการณไ์ ฟไหมใ้ นกรุงลอนดอน ค.ศ. 1666
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพดว้ ยการขออาสาสมคั ร 1 คน ออกมาแสดงทา่ ทางใบค้ าศพั ท์ แลว้ ให้
นกั เรียนทเ่ี หลือทายวา่ เป็นอาชีพอะไร เมอื่ ตอบถกู แลว้ ใหน้ กั เรียนคนอน่ื ผลดั กนั ออกมาใบค้ า
402
3. ทบทวนโครงสร้างท่ีใชข้ อและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อาชีพที่อยากทา โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียนถามคาถาม
T: What do you want to be?
S1: I want to be a vet. I like helping animals.
S2: I want to be a farmer. I like growing things.
S3: I want to be a doctor. I like helping sick people.
4. ทบทวนการออกเสียงคาเสียงคาศพั ทเ์ สียงสระ /ə/ โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ช้ีทคี่ าศพั ท์
ใหน้ กั เรียนออกเสียงพร้อมกนั ดงั น้ี
again allow China colour contain pilot
ครูช้ีท่คี าศพั ทแ์ ตล่ ะคาแลว้ ให้นกั เรียนออกเสียงพร้อมกนั เพือ่ ความสนุกสนานย่ิงข้นึ ครูช้ีคาศพั ท์
สลบั กนั ไปมาและเพ่มิ จงั หวะเร็วย่ิงข้นึ
5. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 60 แลว้ ถามคาถามนกั เรียน เช่น
T: What do you see in the picture?
Ss: Fire.
T: Where does the fire take place?
Ss: London.
T: Good job!
เหตกุ ารณม์ หาอคั คภี ยั ในกรุงลอนดอน(The Great Fire of London) เม่อื ปี ค.ศ. 1666
เพลิงไดล้ กุ ไหมเ้ ป็นเวลา 4 วนั และไดล้ ามไปยงั ทีอ่ ยอู่ าศยั ของชาวบา้ นกวา่ 13,000 หลงั
โบสถป์ ระจาชุมชน 87 แห่ง รวมท้งั โบสถเ์ ซนพอลล์ (St. Paul’s Cathedral) ซ่ึงเป็นโบสถ์
สาคญั ของประเทศองั กฤษ นอกจากน้ีเพลงิ ยงั ลุกลามไปถงึ พระราชวงั ของพระเจา้ ชาร์ลที่ 2
ดว้ ย ซ่ึงตน้ ตอของเพลิงมาจากร้านทาขนมปังชื่อ Farynor ของ Thomas Farriner ในซอยพดุ ดิง
(Pudding) ในขณะท่ีเกิดเหตุ ประชาชนในกรุงลอนดอนพยายามจดั ต้งั กลมุ่ นกั ดบั เพลิง โดยใช้
ถงั น้าตกั น้ามาดบั ไฟ แต่ไม่ประสบความสาเร็จเน่ืองจากไฟไดล้ กุ ลามไปมากแลว้
ท่มี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Great_Fire_of_London
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ อี่ ยใู่ นเน้ือเพลง ไดแ้ ก่ burning (ทก่ี าลงั ลกุ ไหม)้ , fetch (ควา้ ), engine (เครื่องยนต)์
และ pour on (เทใส่) ดว้ ยการเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ บอกความหมาย จากน้นั ครูสอนนกั เรียน
ออกเสียงคาศพั ทด์ งั กล่าว ต่อมาครูช้ีไปทีค่ าวา่ fetch แลว้ ออกเสียงใหน้ กั เรียนฟังแลว้ บอกว่า
403
คนไทยส่วนใหญ่มกั จะออกเสียงท่ลี งทา้ ยดว้ ย tch หรือเสียง /tʃ/ ไมถ่ ูกตอ้ ง มกั จะออกเสียงตวั สะกด
เป็นเสียง “ช” หรือ “ด” เพราะไม่มีเสียงน้ีในระบบภาษาไทย วธิ ีการฝึกออกเสียงทาไดโ้ ดยฝึกออก
เสียง /t/ กอ่ น แลว้ จึงออกเสียง /ʃ/ ตาม โดยฝึกออกเสียงควบกนั ให้เร็วข้นึ จะทาให้การออกเสียงเป็ น
ธรรมชาติมากข้นึ ตวั อยา่ งคาทล่ี งทา้ ยดว้ ย tch มีดงั น้ี
batch catch hatch match
watch pitch witch clutch
2. ครูนาเน้ือเพลงในหนงั สือเรียน หนา้ 60 มาติดบนกระดาน จากน้นั ครูอา่ นเน้ือเพลงทลี ะทอ่ น แลว้ ให้
นกั เรียนออกเสียงตามพร้อมกนั แลว้ ครูพร้อมอธิบายความหมายให้นกั เรียนฟัง จากน้นั ครูเปิ ด CD
ใหน้ กั เรียนฟังและดูเน้ือเพลงตามไปดว้ ย เมื่อนกั เรียนจดจาทานองไดแ้ ลว้ ครูเปิ ด CD อกี คร้งั
โดยคร้งั น้ีครูหยดุ เพลงทลี ะท่อนเพื่อให้นกั เรียนร้องตามจงั หวะ
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 60 Ex. 15 ครูอา่ นเน้ือเพลงให้นกั เรียนฟังและอา่ นตามครูทลี ะท่อน แลว้ ครูเปิ ด
CD ใหน้ กั เรียนฟังและดูเน้ือเพลงตามไปดว้ ย ต่อมาครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กลมุ่ แลว้ อธิบายวา่
ให้กลมุ่ แรกฝึกร้องเพลง 2 บรรทดั แรก กลุม่ ที่สองใหฝ้ ึกร้องบรรทดั ที่ 3-4 กลมุ่ ที่สามฝึกร้องบรรทดั
ที่ 5-6 และกลมุ่ สุดทา้ ยฝึกร้องเน้ือเพลงที่เหลอื ครูให้เวลาแต่ละกล่มุ ฝึกร้องเพลงจนคลอ่ ง พร้อมคดิ
ทา่ ทางประกอบ เสร็จแลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มออกมารอ้ งเพลงและแสดงทา่ ทางทีห่ นา้ ช้นั
2. หนงั สือเรียน หน้า 60 Ex. 16 ครูอธิบายคาส่งั ให้นกั เรียนแปลความหมายของคาศพั ทท์ ่ใี หม้ าเป็น
ภาษาไทย โดยครูนานกั เรียนอา่ นคาศพั ทท์ ีละคา แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู ตอบเป็นภาษาไทย เช่น
T: Burning.
Ss: ลกุ ไหม/้ กาลงั ลกุ ไหม้
T: Fetch.
Ss: ควา้ /เอามา
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีไปเร่ือย ๆ จนครบทุกคา ครูเขยี นคาแปลของนกั เรียนอีกคร้งั
บนกระดาน
ข้นั Production
ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 50 Ex. 12 เป็นการบา้ น
1. burning 2. engine 3. Pour on
404
7. การวัดและประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
สังเกตการร้องเพลง แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียง แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
คาท่ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /tʃ/
ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
และมุ่งมนั่ ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
405
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 School trips!
เวลา 2 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เน้ือเร่ืองได้
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- พดู ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั การเดินทางไปทศั นศกึ ษากบั โรงเรียนในประเทศของตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป. 5/4 ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความคดิ เห็น
อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชี้วัด
ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 5/2 ตอบคาถามเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และวิถีชีวิตความเป็นอยงู่ ่าย ๆ
ของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
406
ตัวชีว้ ดั ฟัง พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
ต 4.1 ป. 5/1
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกบั บทอ่าน ช่วยให้เขา้ ใจเรื่องทอี่ า่ นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Nouns) school trips, tents, campsites, barbeque, camp fire, adventures
(Activities) canoeing, sailing, fishing, horse riding
(Verbs) go out, go away, share
Structure: Children in the UK like going on school trips.
They can try lots of outdoor activities, for example
canoeing, sailing, fishing, climbing or horse riding.
Function: Reading and talking about school trips in the UK
2) Language Skills
Speaking: พดู นาเสนอเกี่ยวกบั การเดินทางไปทศั นศึกษากบั โรงเรียนในประเทศ
ของตนเอง
Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
407
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพดว้ ยการเล่นเกมใบค้ า โดยครูขออาสาสมคั ร 1 คน ออกมายืนหนา้ ช้นั
กบั ครู จากน้นั ครูกระซิบบอกคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนคนดงั กล่าวแสดงทา่ ทางของบุคคลทปี่ ระกอบอาชีพ
น้นั ๆ เมอ่ื นกั เรียนที่เหลือทายคาศพั ทถ์ ูก ให้นกั เรียนคนดงั กล่าวเลือกเพื่อนออกมาใบค้ าศพั ทค์ า
ตอ่ ไป ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีไปเรื่อย ๆ
3. ทบทวนโครงสร้างที่ใชใ้ ห้ขอ้ มูลเก่ียวกบั สิ่งที่ชอบทาและไม่ชอบทาดว้ ยการเลน่ เกม Noughts and
Crosses หรือเกม OX โดยครูวาดตาราง 9 ช่อง บนกระดาน แลว้ แบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลมุ่
จากน้นั ครูอธิบายกตกิ าการเลน่ เกมวา่ ใหก้ ล่มุ แรกแต่งประโยคท่บี อกสิ่งที่ไม่ชอบทา ส่วนกล่มุ
ที่สองแตง่ ประโยคบอกส่ิงท่ีชอบทา ถา้ แต่งประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง จะมสี ิทธ์ิทาเคร่ืองหมาย O หรือ X
ในตาราง กลุ่มทท่ี าเคร่ืองหมายครบ 3 ช่องตดิ กนั ในแนวใดก็ได้ เป็นกลุ่มทชี่ นะ
4. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจกรรมทีท่ าในเวลาว่างดว้ ยการแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม จากน้นั ครู
แบ่งกระดานออกเป็น 2 ฝ่ัง ครูอธิบายกติกาวา่ ให้แตล่ ะกลุม่ ระดมสมองคิดคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั
กิจกรรมทที่ าในเวลาวา่ งใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุด แลว้ ผลดั กนั ออกมาเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน กลมุ่ ทเี่ ขียน
คาศพั ทไ์ ดเ้ ยอะที่สุดเป็นกล่มุ ทีช่ นะ
5. ทบทวนการออกเสียงคาท่ลี งทา้ ยดว้ ยเสียง /tʃ/ โดยครูเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน จากน้นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนออกเสียงคาศพั ท์ ดงั น้ี
batch catch hatch match
watch pitch witch clutch
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีไปเร่ือย ๆ จนนกั เรียนออกเสียงไดค้ ลอ่ ง
6. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยครูอ่านหัวขอ้ School trips ใหน้ กั เรียนฟังและช่วยกนั บอกความหมาย
(การเดินทางไปทศั นศกึ ษาของโรงเรียน) จากน้นั ครูถามคาถามนกั เรียน เช่น
T: Did you ever go on any school trips?
Ss: Yes, we did.
T: Where was it?
Ss: We went to a military camp in Saraburi.
T: Oh, that’s interesting. What did you do there?
Ss: We jumped from the 35-foot tower.
T: Wow, you were very brave! How did you feel?
Ss: We’re excited.
408
ข้นั Pre-reading
1. นาเสนอคาศพั ทท์ ่เี ก่ียวขอ้ งกบั บทอา่ น ไดแ้ ก่ school trips (การเดินทางไปทศั นศกึ ษากบั โรงเรียน),
tents (เตน็ ท)์ , campsites (พ้นื ทีท่ ่ีใชท้ ากิจกรรมเขา้ ค่ายพกั แรม), barbeque (บาร์บคี ิว), camp fire
(กองไฟ) และ adventures (การผจญภยั ) ดว้ ยการเขียนคาศพั ทบ์ นกระดานแลว้ พดู บอกความหมาย
จากน้นั ครูช้ีทีค่ าศพั ทแ์ ต่ละคาแลว้ ออกเสียงให้นักเรียนฝึกฟังและออกเสียงตาม โดยครูเนน้ ให้
นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาศพั ทท์ ีม่ ากกว่า 1 พยางคใ์ หถ้ ูกตอ้ ง ดงั น้ี
campsites barbeque adventures
ชาวออสเตรียเลียนและชาวองั กฤษนิยมเรียก barbeque ส้นั ๆ ว่า barbie
ตวั อยา่ ง We’re having a barbie on Saturday - I hope you can come.
ทมี่ า: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/barbecue
2. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กิจกรรมทท่ี า ณ คา่ ยพกั แรม ไดแ้ ก่ canoeing (กิจกรรมพายเรือแคนู), sailing
(กิจกรรมแล่นเรือใบ), fishing (กิจกรรมตกปลา) และ horse riding (กิจกรรมข่มี า้ ) ดว้ ยการใชบ้ ตั ร
ภาพ จากน้นั ครูสอนนกั เรียนออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกนั โดยครูช้ีท่คี าศพั ทแ์ ตล่ ะคา แลว้ ออกเสียงให้
นกั เรียนฟังและฝึกออกเสียงตาม ดงั น้ี
canoeing sailing fishing horse riding
นอกจากคาศพั ทเ์ หล่าน้ีแลว้ ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ พม่ิ เติมทน่ี กั เรียนควรรู้จกั เมื่อไปเขา้ คา่ ยพกั แรม เช่น
kayaking (กิจกรรมพายเรือคายกั ), rafting (กิจกรรมลอ่ งแพ), rowing (กิจกรรมพายเรือ), hiking
(กิจกรรมเดินป่ า) และ bicycle tour (การท่องเทยี่ วโดยจกั รยาน)
เรามกั จะใช้ go กบั กิจกรรมต่าง ๆ เช่น horse riding, hiking, fishing, sailing
ตวั อยา่ ง We’re going hiking in the Sierra Nevada. My dad loves to go fishing.
3. นาเสนอคากริยาทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั บทอ่าน ไดแ้ ก่ go out (ออกไปขา้ งนอก), go away (เดินทางไกล) และ
share (ใชร้ ่วมกนั ) โดยเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ พดู บอกความหมาย
4. ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
I like canoeing. I quite like canoeing. I hate canoeing.
จากน้นั ครูถามวา่ คาทคี่ รูขีดเสน้ ใตม้ คี วามหมายวา่ อยา่ งไร เม่ือไดค้ าตอบว่า like (ชอบ), quite like
(ค่อนขา้ งชอบ) และ hate (เกลยี ด) ครูถามตอ่ วา่ ระหวา่ ง like กบั quite like คาไหนมคี วามหมายว่า
ชอบ มากกวา่ กนั ครูใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เห็น
409
จากน้นั อธิบายให้นกั เรียนฟังวา่ quite เป็นคากริยาวเิ ศษณ์ มีความหมายวา่ มาก ใชว้ างหนา้ คากริยา
หรือคาคุณศพั ท์ ดงั น้นั quite like จึงแสดงความชอบมากกวา่ คาว่า like
5. ให้นกั เรียนดูบทอา่ น จากน้นั ครูออกเสียงประโยคให้นกั เรียนฟังทีละประโยค แลว้ ใหน้ กั เรียนฝึก
ออกเสียงตาม ครูอธิบายความหมายของแตล่ ะประโยคให้นกั เรียนฟัง เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนอา่ น
ประโยคในบทอ่านใหน้ กั เรียนทเ่ี หลือฟัง
ข้นั Reading
หนงั สือเรยี น หน้า 61 Ex. 17 ใหเ้ วลานกั เรียนอา่ นบทอา่ น School trips อกี คร้ัง เม่อื อ่านจบแลว้
ครูสุ่มถามนกั เรียน ดงั น้ี
T: How long does each school trip last?
S1: A day, a week or a week.
T: Where do students sleep at the campsite?
S2: They sleep in a tent or a room.
T: What do they do at the campsite?
S3: They go canoeing, sailing, fishing, climbing or horse riding.
T: What do they usually cook near the camp fire?
S4: Barbecue.
T: How do they feel after going on a school trip?
S5: They have lots of fun.
ข้นั Post-reading
1. ครูบอกว่า นกั เรียนจะไดเ้ ล่นเกมใบค้ า โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ออกมายนื หนา้ ช้นั กบั ครู
จากน้นั ครูบอกว่า ใหน้ กั เรียนคนดงั กล่าวแสดงท่าทางใบค้ าศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจกรรมท่ที าในบทอา่ น
ไดแ้ ก่ canoeing, horse riding, climbing, fishing และ sailing ตวั อยา่ งเช่น
S1: (ทาทา่ พายเรือ)
Ss: Canoeing!
S1: Correct.
นกั เรียนทที่ ายถูกจะไดอ้ อกมาใบค้ าเป็นคนถดั ไป ให้นกั เรียนทากิจกรรมไปเรื่อย ๆ จนครบทุกคา
2. ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ฝึกพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั การเดินทางไปทศั นศึกษากบั โรงเรียนของตนเอง
โดยครูอาจระบุหัวขอ้ เป็นแนวทางให้นกั เรียน เช่น ระยะเวลาท่ที ากิจกรรม สิ่งท่ที า ทพี่ กั อาหาร
และความรู้สึกจากการเดินทางไปทศั นศกึ ษา ครูใหเ้ วลานกั เรียนฝึกพดู จนคล่อง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดสนทนาทห่ี นา้ ช้นั เช่น
410
S1: How long did the school trip last?
S2: A weekend.
S1: Where did you sleep?
S2: I slept in a tent with two friends.
S1: What did you do?
S2: I went swimming in the sea and had a bicycle tour around the campsite.
S1: What did you usually cook at the campsite?
S2: Noodles.
S1: How did you feel after going on a school trip?
S2: I felt great.
ชั่วโมงท่ี 2
ข้นั Warm Up
ครูทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คูก่ นั ฝึกพูดถาม-ตอบเก่ียวกบั การเดินทางไปทศั นศึกษา
กบั โรงเรียนของตนเอง โดยครูอาจระบหุ ัวขอ้ เป็นแนวทางให้นกั เรียน เช่น ระยะเวลาทท่ี ากิจกรรม
สิ่งทท่ี า ทพ่ี กั อาหาร และความรู้สึกจากการเดินทางไปทศั นศกึ ษา ครูใหเ้ วลานกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ ง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดสนทนาทีห่ นา้ ช้นั เช่น
S1: How long did the school trip last?
S2: A weekend.
S1: Where did you sleep?
S2: I slept in a tent with three friends.
S1: What did you do?
S2: I went swimming in the sea and had a bicycle tour around the campsite.
S1: What did you usually cook at the campsite?
S2: Noodles.
S1: How did you feel after going on a school trip?
S2: I felt great.
ข้นั Prsentation
1. ครูเขียนหวั ขอ้ Hobbies & Free time activities บนกระดาน พร้อมกบั ยกตวั อยา่ งคาศพั ท์ 1 คา ดงั น้ี
Hobbies & Free time activities
swimming
411
แลว้ บอกนกั เรียนว่า วนั น้ีจะเรียนรู้คาศพั ทก์ ิจกรรมยามวา่ งและงานอดิเรก ให้นกั เรียนอา่ นตวั อยา่ ง
คาศพั ท์ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ งคาศพั ทอ์ ื่น ๆ โดยใหอ้ อกมาเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน
2. ครูเขยี นคาถามพร้อมคาตอบบนกระดาน ดงั น้ี
A: What is your favourite?
B: My favourite hobby is…
A: What do you hate doing?
B: I don’t like cooking.
ครูอา่ นออกเสียงทลี ะประโยคและให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตาม ครูอธิบายคาถามและคาตอบ
แก่นกั เรียน แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนใหต้ อบคาถาม
ข้นั Practice
หนังสือเรียน หน้า 61 Ex. 18 ครูถามนกั เรียนวา่ Have you got a hobby? จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่า
What is your favourite hobby? เมื่อนกั เรียนตอบแลว้ ครูใหน้ กั เรียนเขียนคาตอบของตนเองลงใน
หนงั สือเรียน จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ What do you hate doing? ให้นกั เรียนตอบกิจกรรมที่ตนเอง
ไม่ชอบทา เมื่อไดค้ าตอบแลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนคาตอบของตนเองลงในหนงั สือ เมื่อนกั เรียนเขียน
ขอ้ มูลของตนเองเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมาอ่านขอ้ มลู ของตนเอง เช่น
I love cycling. I don’t like horse riding. I quite like canoeing.
ครูสังเกตวา่ นกั เรียนอา่ นออกเสียงและใชไ้ วยากรณ์ถูกตอ้ งหรือไม่ จากน้นั ให้นกั เรียนนาขอ้ มูลของ
ตนเองเขยี นลงในกระดาษ A4 และวาดภาพประกอบ พร้อมตกแต่งให้สวยงาม แลว้ นามาส่งครู
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทาช้ินงาน School trip in my country โดยใชข้ อ้ มูลทนี่ กั เรียนสนทนา
กบั เพอ่ื นมาเขียนบรรยาย โดยให้นกั เรียนร่างขอ้ มูลในกระดาษกอ่ น จากน้นั สลบั กบั เพ่ือนใหเ้ พ่ือน
ช่วยตรวจสอบความถูกตอ้ งดา้ นต่าง ๆ เช่น ไวยากรณ์ การสะกดคา เครื่องหมายวรรคตอน เสร็จแลว้
ใหน้ กั เรียนเขยี นขอ้ มลู ลงในกระดาษ A4 แลtออกมานาพดู นาเสนอหนา้ ช้นั เช่น
In my country, school trips often take a day. We try a lot of outdoor activities,
for example, swimming in the sea, riding a bike around the campsites. We often
sleep in a tent. We have lots of fun!
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 51 Ex. 13-14 เป็นการบา้ น
412
Ex. 13 4. cook
1. trips 2. country 3. activities
Ex. 14
2. FISHING 3. SAILING 4. CANOEING 5. CLIMBING
7. การวดั และประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ประเมินงานเขียน แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
School trips in my country
ประเมินการพูดใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรมที่ชอบทามาก
กิจกรรมทคี่ อ่ นขา้ งชอบ
และกิจกรรมทไ่ี มช่ อบทา
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และประโยคในบทความ
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และมุ่งมน่ั ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 พจนานุกรมออนไลน์
413
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 What’s your dream job?
เวลา 2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เน้ือหาได้
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- เขียนอีเมลถึงเพอื่ นเกี่ยวกบั อาชีพในฝันได้
- เขียนเลา่ กิจวตั รประจาวนั ของผอู้ ื่นได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน
ง่าย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความคิดเหน็
อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชี้วัด
ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถกู ต้อง
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.2 ป. 5/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
414
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอา่ น/เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่เี กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้เก่ียวกบั พิพิธภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์ในภมู ภิ าคอาเซียนและคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ ง ช่วยให้เราเขา้ ใจ
แหลง่ การเรียนรู้ในประเทศภูมภิ าคอาเซียนมากข้นึ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Jobs) teacher, flight attendant, doctor
(Nouns) knowledge, leader, passenger
(Adjectives) kind, patient, creative, healthy, calm, confident,
brave, caring, responsible
Structure: My name is Brandon Lee. I’m from Singapore.
My dream job is a teacher because I like teaching very much.
I’m Weena Rakthai. I live in Bangkok, Thailand. I want to
become a flight attendant in the future because I like travelling
and meeting new people!
What do you want to be in the future?
I want to be a … because …
Pronunciation: Stressing words more than one syllable
2) Language Skills ตอบคาถามจากการอ่าน
Reading:
Writing: เขียนอีเมลถงึ เพอื่ นเกี่ยวกบั อาชีพในฝันของตนเอง
เขยี นเล่ากิจวตั รประจาวนั ของผอู้ นื่
415
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพ เช่น vet, baker, firefighter, postman, pilot, farmer ดว้ ยการเล่นเกม
Invisible man โดยครูแบง่ กระดานออกเป็น 2 ฝ่ัง แลว้ แบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลมุ่ จากน้นั ครูวาด
ภาพคนบนกระดานแตล่ ะฝั่ง โดยประกอบดว้ ยอวยั วะต่าง ๆ ไดแ้ ก่ หวั ลาตวั แขนซา้ ย แขนขวา
ขาซ้าย และขาขวา เสร็จแลว้ ครูอธิบายกติกาวา่ ให้แต่ละกล่มุ ผลดั กนั ทายตวั อกั ษรทีค่ ิดว่ามอี ยใู่ น
คาศพั ทท์ ีค่ รูกาหนด ถา้ ทายถกู ครูจะลบอวยั วะออกทลี ะ 1 ส่วน ครูให้นกั เรียนทากิจกรรม
เช่นเดียวกนั น้ีไปเร่ือย ๆ กลุ่มใดทคี่ รูลบอวยั วะออกหมดกอ่ นเป็นกลมุ่ ท่ีชนะ
3. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กิจกรรมต่าง ๆ เช่น canoeing, hiking, kayaking, sailing, fishing, horse และ
riding ดว้ ยการแสดงบตั รภาพ ให้นกั เรียนพูดคาศพั ท์ พร้อมบอกความหมาย เช่น
T: (แสดงบตั รภาพ canoeing)
Ss: Canoeing. กิจกรรมพายเรือแคนู
T: (แสดงบตั รภาพ fishing)
Ss: Fishing. กิจกรรมตกปลา
4. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยครูเขียนหวั ขอ้ What’s your dream job? บนกระดาน แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน
5-6 คน ตอบคาถามน้ี พร้อมบอกเหตผุ ล เช่น
T: What’s your dream job? And why?
S1: I want to be a baker because I like making bread.
S2: I want to be a soldier because I like helping people.
S3: I want to be a vet because I like helping sick animals.
S4: I want to be a pilot because I like flying planes.
เสร็จแลว้ ครูบอกวา่ ในคาบน้ีเราจะไดอ้ ่านเรื่องเก่ียวกบั Brandon Lee, Weena Rakthai, Chung Phan
เกี่ยวกบั อาชีพท่ีพวกเขาอยากทาในอนาคต
416
ข้นั Pre-reading
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพ ไดแ้ ก่ teacher (ครู), flight attendant (พนกั งานตอ้ นรบั บนเครื่องบนิ )
และ doctor (หมอ) โดยการพูดบอกความหมาย จากน้นั ครูสอนนกั เรียนออกเสียงคาศพั ท์ ดงั น้ี
teacher flight attendant doctor
2. นาเสนอคาศพั ทท์ เี่ ก่ียวขอ้ ง ไดแ้ ก่ knowledge (ความรู้), leader (ผนู้ า) และ passenger (ผโู้ ดยสาร)
โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ บอกความหมาย และคาคุณศพั ท์ ไดแ้ ก่ kind (ใจดี), patient
(อดทน), creative (ทมี่ ีความคิดสร้างสรรค)์ , healthy (สุขภาพดี), calm (สงบ), confident (ท่มี ีความ
มนั่ ใจ), brave (กลา้ หาญ), caring (ที่เอาใจใส่ผอู้ ืน่ ), responsible (ท่มี ีความรับผิดชอบ) โดยการพูด
บอกความหมาย พร้อมเขยี นตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน ดงั น้ี
My teacher is very kind and ready to help me.
Dinner will be ready in half an hour - just be patient!
Someone who is creative is very good at using their imagination to make things
Good food keeps you healthy.
My sister was always calm whereas I was always upset by small things.
We are confident that we will win this year.
He was very brave to jump from the bridge.
Linda is a caring person. She always thinks of others’ feelings.
He is a responsible person. He can make decisions by himself.
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนบอกคาตรงขา้ มทีน่ กั เรียนรู้จกั เพ่ิมเติม เช่น
kind - unkind patient - impatient
healthy - unhealthy confident - shy
brave - coward responsible - irresponsible
3. ครูเขยี นช่ืออาชีพต่าง ๆ บนกระดาน เช่น vet, farmer, DJ, baker, pilot, clown, firefighter
บนกระดาน แลว้ ช้ีไปที่ vet แลว้ ถามนกั เรียน ดงั น้ี
T: What qualities should a vet have?
S1: Caring.
S2: Responsible.
S3: Patient.
S4: Healthy.
T: Well done, everyone. A vet has to be caring, responsible, patient and healthy.
ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขยี นบนกระดาน ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั อาชีพอนื่ ๆ ดว้ ย
417
ข้นั Reading
1. หนังสือเรียน หน้า 62 Welcome to ASEAN countries 5 ใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือเรื่องในหนา้ น้ี
และทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั เร่ืองท่อี ่าน
2. ครูถามคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอ่านเพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจ เช่น
- What’s Brandon Lee’s dream job? And why?
- What’s Weena Rakthai’s dream job? And why?
- What’s Chung Phan’s dream job? And why?
ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ
ข้นั Post-reading
1. ให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเร่ืองในหนงั สือเรียน หนา้ 62 อกี คร้ัง จากน้นั ให้แต่ละคนแต่งประโยคเก่ียวกบั
อาชีพในฝันของตนเอง พร้อมบอกเหตผุ ลดว้ ย แลว้ ออกมาพดู ให้เพื่อนฟังทห่ี นา้ ช้นั
2. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หมท่ ีเ่ รียนในชวั่ โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมุดคาศพั ท์
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั Warm Up
ครูทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ให้อาสาสมคั รออกมาพูดให้เพอ่ื นในช้นั ฟังเกี่ยวกบั อาชีพในฝัน
โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมาพดู หนา้ ช้นั
ข้นั Presentation
ครูเขยี นประโยคถาม-ตอบเกี่ยวกบั อาชีพท่ตี นเองอยากเป็น ใหน้ กั เรียนดบู นกระดาน
What do you want to be in the future?
I want to be a … because …
แลว้ ใหน้ กั เรียน 1 คน ออกมาพดู ถาม-ตอบเป็นตวั อยา่ งให้เพ่อื นในช้นั ฟัง เช่น
T: What do you want to be in the future?
S1: I want to be a teacher because I like teaching.
ครูและนกั เรียนพูดสนทนาซ้า 2-3 คร้งั ใหน้ กั เรียนในช้นั จบั คู่กนั สนทนาจนคลอ่ ง
418
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 1 ครูอธิบายงาน ใหน้ กั เรียนกลบั ไปอา่ นบทความอกี คร้ัง แลว้ ตอบคาถาม
ขอ้ 1-4 โดยก่อนใหน้ กั เรียนทากิจกรรมดว้ ยตนเอง ครูให้ขดี เสน้ ใตค้ าสาคญั จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียน
อา่ นบทอา่ นอยา่ งรวดเร็วเพอ่ื หาคาตอบทต่ี รงกบั คาท่ขี ีดเสน้ ใตไ้ ว้ เม่ือพบแลว้ ให้อ่านเฉพาะ
ประโยคท่มี คี าสาคญั หรืออ่านขอ้ ความแวดลอ้ มประมาณ 1-2 ประโยคก่อนหนา้ หรือถดั ไป เสร็จแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4 คน ออกมาเฉลยคาตอบบนกระดาน
1. a 2. a 3. a 4. b
2. หนงั สือเรียน หน้า 63 Ex. 2 ครูอธิบายคาสงั่ ให้นักเรียนดูบทสนทนาพร้อมกนั จากน้นั ใหน้ กั เรียน
ทางานคู่ เติมขอ้ มลู ของตนเองลงในบทสนทนาใหส้ มบรู ณ์ ตอ่ มาใหเ้ วลานกั เรียนฝึกสนทนา
จนคล่อง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาสนทนาทห่ี นา้ ช้นั เช่น
S1: What do you want to be in the future?
S2: I want to be an engineer because I like building houses.
S1: What subjects should an engineer be good at?
S2: Maths, science and English.
S1: What qualities should an engineer have?
S2: An engineer has to be creative and responsible.
3. ครูให้นกั เรียนจบั ค่กู นั ฝึกพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั อาชีพในฝัน โดยใชข้ อ้ มูลในบทอา่ น ครูให้เวลา
นกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั ร 3 คู่ ออกมาถาม-ตอบทห่ี นา้ ช้นั เช่น
S1: What does Brandon want to be in the future?
S2: He wants to be an English teacher because he likes teaching very much.
S1: What subjects should an English teacher be good at?
S2: English.
S1: What qualities should an English teacher have?
S2: An English teacher has to be patient and creative.
419
ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 63 หัวข้อ Over to you ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนเขียนอเี มลถึงเพอื่ น
เก่ียวกบั อาชีพในฝันของตนเอง โดยให้นกั เรียนใชบ้ ทอ่านในหนงั สือเรียน หนา้ 62 เป็นตวั อยา่ ง
จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนสลบั กนั ตรวจงานเขยี นของเพื่อนในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น ไวยากรณ์ การสะกดคา
เครื่องหมายวรรคตอน เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมาอา่ นงานเขียนของตนเอง
ที่หนา้ ช้นั เช่น
My dream job is a designer because I like drawing and painting. A designer has to be
good at arts. I should be creative and patient.
2. หนงั สือเรียน หน้า 63 หัวข้อ Portfolio ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนเขียนเล่ากิจวตั รประจาวนั
ของผอู้ นื่ เช่น สมาชิกในครอบครัว เพ่ือน หรือคุณครู ครูให้เวลานกั เรียนตรวจสอบงานเขียนตนเอง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คนออกมาอา่ นอเี มลของตนเองที่หนา้ ช้นั เช่น
(ตวั อยา่ ง)
Mrs Anderson is our English teacher.
She gets up at half past six. She has breakfast at 7 o’clock. She goes to school
at half past seven. She teaches English on Mondays and Fridays at 11 o’clock.
She has lunch at half past twelve. She goes home at half past four. She has
dinner at 7 o’clock and she goes to bed at 10 o’clock.
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมทบทวนคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างในแบบฝึ กหัด หน้า 52-53 Exs. 1-6 หัวข้อ
Modular Revision and Assessment 5 ในหอ้ งเรียนพร้อมกนั
แบบฝึ กหัด หน้า 53 Ex. 5
Narrator: Listen and look. There is one example. What does George
like doing?
Female: What do you like doing in your free time, George?
Do you like reading?
Male: Reading? No, I don’t like reading. It’s boring!
Female: Do you like walking in the park?
Male: No. I don’t like walking in the park and I don’t like reading.
I like riding my bike!
420
Narrator: Can you see the example? Now, you listen and tick the box.
One What time is Ann’s History lesson?
Male: What time is our History lesson, Ann? Is it at quarter past one?
Female: At quarter past one? No, that’s when we have our Music lesson!
Male: Is it at two o’clock?
Female: No. Our History lesson is at half past two.
Male: Half past two. OK! Thanks.
Two What does Harry want to be?
Female: What do you want to be, Harry? A chef?
Male: A chef? No, I don’t like cooking. It’s boring!
Female: Do you want to be a pilot?
Male: No. I don’t like planes. I want to be a DJ because I love
listening to music!
Three When does Laura have an English lesson?
Male: What time is your English lesson today, Laura? Is it at quarter to
seven?
Female: At quarter to seven? No.
Male: Is it at seven o’clock?
Female: No. My English lesson is at eight o’clock.
Ex. 1 2. b 3. a 4. c 5. d
1. e 2. is doing 3. grow 4. is cooking 5. plays
Ex. 2
1. listens
421
Ex. 3 2. fishing 3. eating 4. watching 5. taking
1. cooking 2. a 3. b 4. c
Ex. 4 2. A 3. B
1. e 2. yes 3. yes 4. no 5. yes
Ex. 5
1. C
Ex. 6
1. yes
7. การวัดและประเมนิ ผล
วิธีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ประเมนิ การเขยี นอีเมลถงึ เพอ่ื น แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เก่ียวกบั อาชีพในฝันของตนเอง
ประเมินการเขยี นให้ขอ้ มูล แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เกี่ยวกบั กิจวตั รประจาวนั ของผอู้ น่ื
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และมงุ่ มน่ั ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
422
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 CLIL 5 Help the Environment!
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั การอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ มได้
- พูดให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั วธิ ีอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ มได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
ตวั ชี้วดั อย่างมีเหตผุ ล
ต 1.1 ป. 5/3
ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
มาตรฐาน ต 1.2 และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความคิดเหน็
อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพอื่ ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 5/5 พดู /เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ
พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.3 ป. 5/3 พดู แสดงความคิดเห็นงา่ ย ๆ เกี่ยวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกบั วยั
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็ น
พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
423
ตัวชีว้ ดั คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และนาเสนอดว้ ยการ
ต 3.1 ป. 5/1 พดู /การเขียน
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั การอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม ช่วยใหพ้ ูดขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั
สาระการเรียนรู้อน่ื ได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Feathers and Functions
Vocabulary: (Noun) electricity, environment
(Verbs) recycle, plant trees, litter, drop, save
(Phrasal verbs) look after, pick up
Structure: Help the environment! Plant trees or flowers!
Don’t drop litter! Save electricity! Ride a bike or walk! Recycle!
Look after the animals! Save water!
Pronunciation: Stressing words more than one syllable
Functions: Talking about ways to help the environment
2) Language Skills
Speaking: พูดให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั วิธีการอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม
Writing: เขียนส่ิงทต่ี นเองสามารถทาเพือ่ ช่วยอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคิด
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
424
2. ทบทวนโครงสร้างไวยากรณ์ใน Module 5 ดว้ ยการเล่นเกม Grammar Auction โดยครูแบง่ นกั เรียน
ออกเป็น 2 กลุ่ม จากน้นั ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
1. I like going to the beach. 2. She like riding a bike.
3. We like watching films. 4. He likes drinking milk.
5. My father likes help people. 6. They doesn’t like doing homework.
7. Does she likes swimming? 8. Do he like playing basketball?
9. Do they like dancing? 10. Do you like play the guitar?
ตอ่ มาครูแจกกระดาษท่ีทาเป็นธนบตั รใหแ้ ต่ละกลมุ่ เทา่ ๆ กนั ครูอธิบายว่า ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มดูประโยค
ดา้ นบนแลว้ พจิ ารณาว่าถูกหลกั ไวยากรณ์หรือไม่ จากน้นั ครูเริ่มการประมูลโดยการขานจานวนเงนิ
ทแ่ี ตล่ ะกลมุ่ ตอ้ งการ เช่น
T: Fifty dollars, anyone?
Team 1: Fifty dollars!
Team 2: One hundred dollars!
Team 1: One hundred and ten dollars!
Team 2: Two hundred dollars!
ถา้ แตล่ ะกลุ่มมน่ั ใจวา่ ประโยคดงั กลา่ วถกู ตอ้ ง ใหแ้ ข่งกนั ลงเงินเพ่อื ประมลู ประโยคดงั กล่าว
ถา้ กลมุ่ ใดไมล่ งเงินประมูล จะตอ้ งแกไ้ ขประโยคน้นั ใหถ้ ูกตอ้ ง เมอื่ เล่นเกมเสร็จแลว้ กลุ่มที่
เหลอื เงินมากท่ีสุดเป็นกลมุ่ ที่ชนะ
ครูสามารถดาวนโ์ หลดเงินจานวนต่าง ๆ ไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://www.zieak.com/2008/08/19/print-your-own-monopoly-money/
3. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยครูเขียนประโยค How do you help the environment? บนกระดาน แลว้ ขอ
อาสาสมคั ร 1 คน บอกความหมายของประโยคดงั กล่าว จากน้นั ให้เวลานกั เรียนระดมความคดิ
บอกวธิ ีอนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ มของตนเอง เช่น walk to school, ride a bike, turn off the lights, TV and
computer when you’re not using them เป็นตน้
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ ง ไดแ้ ก่ electricity (ไฟฟ้า), environment (ส่ิงแวดลอ้ ม), recycle (การนา
ของเกา่ มาแปรรูปเพ่อื ใชใ้ หม่), plant trees (ปลูกตน้ ไม)้ , litter (ทิง้ ขยะ) และ save (รกั ษา) โดยครู
วาดรูปให้นกั เรียนดบู นกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั เดาความหมาย จากน้นั ครูสอนนกั เรียน
ออกเสียงคาศพั ท์ โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียนลงเสียงหนักในคาศพั ทท์ ม่ี ีมากกวา่ 1 พยางคใ์ หถ้ ูกตอ้ ง ดงั น้ี
425
electricity environment recycle litter
ครูอาจนาเสนอคาศพั ทท์ ี่นกั เรียนรู้เพ่ิมเตมิ เกี่ยวกบั การประหยดั พลงั งาน โดยครูถามนกั เรียนวา่
นอกจากนกั เรียนจะนาของเกา่ มาแปรรูปเพอื่ ใชใ้ หม่แลว้ เรายงั สามารถทาอะไรกบั ส่ิงของทเ่ี ราไมใ่ ช้
แลว้ ไดอ้ ีก ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขยี นบนกระดาน เช่น reuse (ใชซ้ ้า), reduce (ลดการ
ใช)้ , repair (เอาสิ่งของมาซ่อมเพือ่ ให้ใชง้ านไดอ้ ีก) เป็นตน้
ครูสามารถศกึ ษาขอ้ มลู เพ่มิ เติมเกี่ยวกบั วธิ ีจดั การกบั ทรัพยากรจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.blisby.com/blog/reduce-reuse-recycle-repair-upcycle/
2. นาเสนอกริยาวลี ไดแ้ ก่ look after (ดูแล) และ pick up (หยิบข้ึนมา) โดยครูเขียนตวั อยา่ งประโยค
บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั เดาความหมาย ดงั น้ี
If you look after your clothes they last a lot longer.
I picked up the kids’ clothes that were lying on the floor.
จากน้นั ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ว่า กริยาวลี (phrasal verbs) เป็นการนากริยา (verb) มารวมกบั คาบุพบท
(preposition) แลว้ ทาให้ความหมายของคากริยาเปลี่ยนไปจากเดิม ดงั น้นั นกั เรียนตอ้ งจดจาใหไ้ ด้
ต่อมาครูให้นกั เรียนคิดกริยาวลเี พิม่ เตมิ ที่นกั เรียนคนุ้ เคย แลว้ ออกมาเขยี นบนกระดาน เช่น get up
(ลกุ จากทีน่ อน), wake up (ตน่ื นอน), grow up (เตบิ โต), come in (เขา้ มา) และ take off (ถอด)
ครูสามารถศึกษาขอ้ มูลเพิม่ เตมิ เก่ียวกบั กริยาวลี (phrasal verbs) จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://dictionary.cambridge.org/grammar/british-grammar/about-verbs/verbs-multi-
word-verbs
ข้นั Practice
1. แบบฝึ กหดั หน้า 72 Ex. 1 ครูอา่ นประโยค What can we do to help planet Earth? ให้นกั เรียนฟัง
จากน้นั ครูอธิบายคาสงั่ ว่า ใหน้ กั เรียนจบั คูภ่ าพ 1-7 กบั ขอ้ ความ a-g ให้สมั พนั ธ์กนั โดยครูช้ีภาพท่ี 1
ใหน้ กั เรียนดูแลว้ ตอบวา่ ตรงกบั ขอ้ ความใด เม่อื ไดค้ าตอบวา่ c ครูพูดว่า Plant trees or flowers!
ให้นกั เรียนออกเสียงตามครู ตอ่ มาครูถามนกั เรียนว่า Why do we plant trees? ใหน้ กั เรียนจบั กลมุ่
อภปิ รายถึงความสาคญั ของตน้ ไม้ เช่น ผลิตออกซิเจนใหเ้ ราใชห้ ายใจ ใชท้ ากระดาษใหเ้ ราเขียน เป็นตน้
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ภาพอื่น ๆ จนครบ เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบบนกระดานอกี คร้ัง
426
1. c 2. g 3. e 4. f
5. a 6. b 7. d
2. ครูแจกกระดาษ post it ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น จากน้นั ครูอธิบายภาระงานวา่ ใหแ้ ต่ละคนเขยี นวิธีการ
อนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ มคนละ 1 วิธี เช่น
Turn off the lights. Unplug anything when not in use.
Ride a bicycle. Save water.
Reuse plastic bags. Don’t waste food.
จากน้นั ให้นกั เรียนสลบั กนั ตรวจความถกู ตอ้ งดา้ นตา่ ง ๆ เช่น การสะกดคา เครื่องหมายวรรคตอน
กบั เพ่ือน เม่อื ตรวจเรียบร้อยแลว้ ให้นกั เรียนนากระดาษที่เขียนไปตดิ ทส่ี ่วนใดส่วนหน่ึงในบา้ น
เช่น ประตู ตูเ้ ยน็ เพอ่ื นกั เรียนจะไดป้ ฏิบตั ิตาม
3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ฝึกถาม-ตอบเกี่ยวกบั วิธีการอนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ ม โดยครูขออาสาสมคั ร 2 คน
ออกมาสาธิตการถาม-ตอบกบั ครู ดงั น้ี
T: What can you do to help the planet Earth?
S1: I turn off the lights!
T: That’s a great idea. What about you?
S2: I ride a bicycle.
จากน้นั ใหน้ กั เรียนที่เหลอื ฝึกพูดจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คู่ ออกมาถาม-ตอบทหี่ นา้ ช้นั
4. แบบฝึ กหัด หน้า 73 Ex. 2 ครูอธิบายความหมายของเน้ือเพลงให้นกั เรียนฟัง จากน้นั ครูเปิ ด CD
ใหน้ กั เรียนฟังและดเู น้ือเพลงตามไปดว้ ย ครูเปิ ด CD อกี คร้งั คร้งั น้ีให้นกั เรียนฝึกร้องเพลงตามดว้ ย
เสร็จแลว้ ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 3 กลมุ่ ให้กล่มุ แรกร้องเพลงทอ่ นแรก กล่มุ ทสี่ องร้องเพลงทอ่ นกลาง
และกลมุ่ สุดทา้ ยร้องท่อนสุดทา้ ย ครูให้เวลานกั เรียนซอ้ มร้องเพลงทอ่ นท่กี ลมุ่ ตนเองไดร้ ับมอบหมาย
จนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนท้งั หมดออกมาร้องเพลงท่หี นา้ ช้นั
ข้นั Production
แบบฝึ กหดั 73 หวั ข้อ Project Time ครูอธิบายภาระงาน ใหแ้ บง่ กลมุ่ เพือ่ ทาช้ินงานโปสเตอร์ How to
save environment โดยใหน้ กั เรียนระดมความคดิ เก่ียวกบั วิธีอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม โดยแต่ละกลุ่มตอ้ งมี
วธิ ีการอนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ มท่ไี ม่ซ้ากนั เมื่อระดมความคดิ ไดแ้ ลว้ ให้นกั เรียนนาขอ้ ความมาเขียนลงใน
กระดาษแผ่นใหญ่ พร้อมวาดภาพ ระบายสี และตกแต่งใหส้ วยงาม เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมา
นาเสนอผลงานของกลุ่มตนเองทีห่ นา้ ช้นั
427
ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ ห้นกั เรียนไปคน้ ควา้ หาขอ้ มลู เกี่ยวกบั วิธีการอนุรกั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม ดงั น้ี
www.youtube.com โดยพิมพค์ าวา่ how to save environment ในช่องคน้ หา
https://science.howstuffworks.com/environmental/green-science/save-earth-top-ten.htm
http://footprintseducation.org/kidz-zone/how-can-i-help.php
7. การวดั และประเมนิ ผล
วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ประเมินชิ้นงาน แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
How to save environment
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และมงุ่ มน่ั ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 กระดาษ post it
8.3 อนิ เทอร์เนต็
428
6 I Was a Happy Baby!
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 5 เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง
11...
1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ติ ามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ท่ฟี ังและอา่ น
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนิทานง่าย ๆ
หรือเร่ืองส้ัน ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป. 5/2 ใชค้ าสั่ง คาขอร้อง คาขออนุญาต และให้คาแนะนาง่าย ๆ
ต 1.2 ป. 5/3 พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือตอบรับและปฏเิ สธการใหค้ วาม
ช่วยเหลอื ในสถานการณง์ ่าย ๆ
1 ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขียนเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 5/5 พูด/เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
2
429
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตัวชีว้ ดั
3 ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
4 ต 1.3 ป. 5/2 เขียนภาพ แผนผงั และแผนภูมแิ สดงขอ้ มูลต่าง ๆ ตามที่ฟังหรืออ่าน
5 ต 1.3 ป. 5/3 พดู แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชี้วดั
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 5/2 ตอบคาถาม/บอกความสาคญั ของเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยู่
ง่าย ๆ ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วดั
ต 2.2 ป. 5/1 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ
การใชเ้ ครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คา (order) ตามโครงสร้างประโยค
ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ต 2.2 ป. 5/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองของเจา้ ของภาษา
กบั ของไทย
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
430
ตวั ชีว้ ัด
ต 3.1 ป. 5/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และนาเสนอ
ดว้ ยการพูด/การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชีว้ ัด
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตัวชีว้ ัด
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้เก่ียวกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาเกี่ยวกบั บุคลิกลกั ษณะของบคุ คล และสถานท่ีต่าง ๆ ในเมอื ง
และโครงสร้างประโยค Past Simple Tense ซ่ึงช่วยให้สามารถใชภ้ าษาในการส่ือสารในชีวิตประจาวนั
และนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Personality and places in the city
Structure: Past simple tense
Function: Describing people personality
Asking and answering about places in the city
2) Language Skills
Listening: ฟังคาศพั ทแ์ ละบทสนทนาส้นั ๆ
Speaking: พูดเพื่อบอกเก่ียวกบั บุคลกิ ลกั ษณะของบุคคล
พดู เพื่อถาม-ตอบเกี่ยวกบั สถานท่ีต่าง ๆ ในเมือง
Reading: อ่านเน้ือเร่ืองแลว้ ตอบคาถาม
431
4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ประเมินการพดู
2. ประเมนิ ชิ้นงานตา่ ง ๆ
3. สังเกตการร้องเพลงทางภาษา
4. ตรวจแบบฝึกหัด
5. สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่เรียนรู้
7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1) ประเมินการมีส่วนร่วมในช้นั เรียน
2) ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.2 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินชิ้นงานตามหวั ขอ้ ที่กาหนด
8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 บตั ร Story Cutouts
432
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 Look at Wendy. She was very noisy.
เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคาและบอกความหมายคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั บุคลิกลกั ษณะ
- พดู เกี่ยวกบั บุคลกิ ลกั ษณะของเดก็ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ิตามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ทฟ่ี ังและอา่ น
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ที่ฟังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตวั ชีว้ ัด
6 ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
7 ต 1.3 ป. 5/2 เขยี นภาพ แผนผงั และแผนภูมแิ สดงขอ้ มลู ต่าง ๆ ตามที่ฟังหรืออ่าน
433
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
1 ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอา่ น/เขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กับสังคมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้เกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาเกี่ยวกบั บคุ ลิกลกั ษณะของคน ทาใหผ้ ูเ้ รียนพูดส่ือสาร
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และเหมาะสมกบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: People personality
Function: Talking about personality
2) Language Skills
Listening: ฟังบทสนทนาส้ัน ๆ และคาศพั ท์
Speaking: พูดเก่ียวกบั บุคลิกลกั ษณะของคน
434
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ครูทบทวนคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาจากคาบเรียนท่แี ลว้ โดยใหน้ กั เรียนหลาย ๆ คนพูดประโยคส้ัน ๆ
เพอ่ื บอกเกี่ยวกบั งานอาชีพที่นกั เรียนอยากเป็นในอนาคตพร้อมยกเหตุผลประกอบ ดงั ตวั อยา่ ง
I want to be a doctor because I like helping people.
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอคาศพั ทโ์ ดยให้นกั เรียนดูรูปเดก็ หลาย ๆ คน ครูอา่ นออกเสียงคาศพั ทท์ บ่ี อกบุคลกิ ลกั ษณะ
ของเดก็ และใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนใหอ้ ่านออกเสียง เพื่อตรวจสอบ
การออกเสียงของนกั เรียน
cute noisy quiet dirty
naughty happy sad funny
435
2. ครูช้ีทรี่ ูปเด็ก 1 คน แลว้ เขียนประโยคบนกระดานพร้อมกบั อา่ นออกเสียงประโยค ดงั น้ี
Look at this baby. She was cute.
ครูช้ีและอ่านออกเสียงประโยคอกี คร้งั แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตาม ครูแสดงภาพเด็กอกี คน
แลว้ สนทนากบั นกั เรียน ดงั น้ี
T: What was he like?
Ss: He was happy.
ครูช้ีท่ปี ระโยคคาถามแลว้ อธิบายนกั เรียนว่า คาถามน้ีแปลวา่ บุคคลน้นั มีบุคลกิ ลกั ษณะเป็นอยา่ งไร เช่น
happy มีความสุข naughty ซุกซน เป็นตน้ จากน้นั ครูแสดงรูปภาพของเด็กอกี หลาย ๆ ภาพแลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียนหลาย ๆ คนให้ตอบคาถามทลี ะคน
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 64 Ex. 1 นกั เรียนดูรูปภาพ พร้อมกบั ฟังเสียงจากซีดี นกั เรียนฟังเสียงจากซีดีอีกคร้งั
แลว้ ออกเสียงตามพร้อมกบั ช้ีนิ้วทร่ี ูปภาพตามไปดว้ ย จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนให้อ่าน
ออกเสียงเพ่ือตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการออกเสียง
2. หนังสือเรียน หน้า 64 Ex. 2 ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คนอา่ นประโยคตวั อยา่ งทใี่ หม้ า จากน้นั นกั เรียน
ทางานเป็นคู่ นกั เรียนแต่ละคู่ดูรูปภาพ แลว้ ผลดั กนั พูดเพอ่ื บอกบุคลกิ ลกั ษณะของเด็กตามรูปภาพ
ท่ีให้มา ครูเดินไปรอบ ๆ ขณะที่นกั เรียนทากิจกรรมน้ี เมือ่ สังเกตวา่ นกั เรียนฝึกจนคล่องแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนให้พูดประโยคหนา้ ช้นั เรียน
2. Look at Cindy. She was very beautiful.
3. Look at Oscar. He was very funny.
4. Look at Lin. She was very happy.
5. Look at Tom. He was very clever.
436
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 54 Ex. 1 นกั เรียนดรู ูปภาพที่ 1-8 แลว้ เขียนคาศพั ทท์ ี่แสดง
บคุ ลิกลกั ษณะลงในช่องวา่ ง ครูให้เวลานกั เรียนทาสักครู่ แลว้ จึงสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนให้ออกมา
เขยี นคาตอบบนกระดาน และให้เพ่อื นคนอน่ื ๆ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครูจึงค่อยเฉลย
คาตอบที่ถกู ตอ้ งอกี คร้ัง
1. happy 2. dirty 3. naughty 4. cute
5. quiet 6. noisy 7. sad 8. funny
4. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 54 Ex. 2 นกั เรียนดูรูปภาพท่ี 1-3 แลว้ เขียนประโยคเพ่ือ
บรรยายบุคลิกลกั ษณะในวยั เดก็ ของบคุ คลในภาพโดยใชค้ าศพั ทท์ ่ใี ห้มา ครูให้เวลานกั เรียนทาสักครู่
แลว้ จึงสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนให้ออกมาเขยี นคาตอบบนกระดาน จากน้นั ครูจึงคอ่ ยเฉลยคาตอบ
ที่ถูกตอ้ งอกี คร้ัง
2. I was a happy baby! 3. I was a funny baby!
ข้นั Production
1. นกั เรียนทางานเด่ียว ครูอธิบายภาระงานน้ีแกน่ กั เรียนว่า ให้นกั เรียนนารูปภาพในวยั เดก็ ของนกั เรียน
แปะลงบนใบงาน ตกแตง่ ให้สวยงาม พร้อมกบั เขยี นประโยคส้ัน ๆ เพื่อบอกบคุ ลิกลกั ษณะในวยั เด็ก
ของนกั เรียน
ตวั อยา่ ง
I was a funny baby.
437
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ การพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการพูด แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการทาช้ินงาน อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
438
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 Oscar was a funny boy. เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Objectives)
- สะกดคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั บคุ ลิกลกั ษณะได้
- พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั บคุ ลิกลกั ษณะของคนในวยั เดก็ ได้
- พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจกรรมในอดีตโดยใช้ was/were ได้
- เขยี นส้นั ๆ เพ่อื เล่ากิจกรรมในอดีตของตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่ คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ทฟี่ ังและอ่าน
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป. 5/2 ใชค้ าสั่ง คาขอร้อง คาขออนุญาต และใหค้ าแนะนาง่าย ๆ
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูล เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 5/5 พดู /เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ
พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ
439
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป. 5/2 เขยี นภาพ แผนผงั และแผนภมู แิ สดงขอ้ มูลตา่ ง ๆ ตามทีฟ่ ังหรืออ่าน
ต 1.3 ป. 5/3 พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
2 ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกดิ ข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับสังคมโลก
ตัวชีว้ ดั
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้เก่ียวกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาเก่ียวกบั บุคลกิ ลกั ษณะ ตลอดจนมีความรู้ความเขา้ ใจ was/were
สามารถนามาใชส้ ่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามบริบท และเหมาะสมกบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
440
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Personality
Function: Asking and answering about activities in the past
2) Language Skills
Listening: ฟังบทสนทนาส้ัน ๆ และคาศพั ท์
Speaking: พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั บุคลกิ ลกั ษณะ และกิจกรรมในอดีต
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ครูทบทวนคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาจากคาบเรียนทแี่ ลว้ ดว้ ยการเกม Miming Game ใบค้ าศพั ทเ์ ก่ียวกบั
บุคลกิ ลกั ษณะ ครูสาธิตการเลน่ ให้นกั เรียนดูก่อน จากน้นั ครูเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนออกมาทาทา่
ใบค้ าศพั ท์ และให้นกั เรียนทเ่ี หลอื แขง่ ขนั กนั บอกคาศพั ทน์ ้นั นกั เรียนทบี่ อกคาศพั ทถ์ กู คนแรก
จะไดอ้ อกมาหนา้ ช้นั เรียนเพอื่ ทาท่าใบค้ าตอ่ ไป
ข้นั Presentation
1. ครูช้ีท่ีตวั เองแลว้ พดู เสียงดงั ๆ พร้อมกบั เขยี นประโยคบนกระดาน ดงั น้ี
When I was young, I was a noisy baby.
441
ครูขีดเส้นใต้ was แลว้ บอกนกั เรียนวา่ was เป็นกริยาช่องที่ 2 ของ is และ am ใชเ้ พื่อกล่าวถงึ ส่ิงทเ่ี กิดข้นึ
ในอดีต จากน้นั ครูเขยี นประโยคคาถามต่อไปน้ีบนกระดาน
What were you like when you were a baby?
ครูขดี เส้นใตค้ าว่า were แลว้ บอกนกั เรียนวา่ were เป็นกริยาช่องท่ี 2 ของ are ครูอธิบายความแตกตา่ ง
ของ was/were บนกระดาน ดงั น้ี
I was
He/She/It
You/We/They were
จากน้นั ครูจบั สลากเรียกช่ือนกั เรียน 2 คน โดยให้นกั เรียนคนที่ 1 ถามคาถาม และให้นกั เรียนคนท่ี 2
ตอบคาถาม ดงั น้ี
S1: What were you like when you were a baby?
S2: I was quiet.
2. ครูแสดงรูปภาพแลว้ พูดดงั ๆ และให้นกั เรียนออกเสียงตาม ดงั น้ี
I was at the mall yesterday. I was happy.
ครูขีดเสน้ ใตค้ าวา่ was แลว้ อธิบายวา่ เราใช้ was เมื่อพดู ถึงสถานท่ีทเี่ ราไป และความรู้สึกของเรา
ในอดีต จากน้นั ครูแสดงรูปภาพอกี หลาย ๆ ภาพ พร้อมท้งั ประโยคทบ่ี อกสถานท่ี และความรู้สึก
แลว้ อ่านออกเสียงและใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตาม จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียนทีละคนใหพ้ ดู ประโยค
Where were you yesterday?
I was at the zoo. I was excited.
442
I was at the hospital. I was sad.
I was at the playground with my friends. I was happy.
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนแลว้ สนทนากบั นกั เรียน ดงั น้ี
T: Where were you yesterday?
S1: I was at home. etc.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 65 Ex. 3 นกั เรียนอ่านออกเสียงบทกลอน แลว้ เลือก was/were เติมลงในช่องวา่ ง
ที่ 1-8 ใหถ้ ูกตอ้ ง
2. Were 3. was 4. was 5. were
6. were 7. were 8.was
2. หนงั สือเรียน หน้า 65 Ex. 4 นกั เรียนอา่ นประโยคท่ี 1-6 แลว้ วงกลมเลอื ก was/were ให้ถูกตอ้ ง
สอดคลอ้ งกบั ประธาน เมอื่ นกั เรียนทาเสร็จ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คนใหบ้ อกคาตอบ
1. was 2. wasn’t 3. were 4. Were
5. was 6. weren’t
3. หนงั สือเรยี น หน้า 65 Ex. 5 นกั เรียนฟังเสียงจากซีดีแลว้ ออกเสียงตาม ครูตรวจสอบการออกเสียงของ
นกั เรียนโดยสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ให้อา่ นประโยคตวั อยา่ งที่ให้มา จากน้นั นกั เรียนทางานเป็นคู่
นกั เรียนแต่ละคู่ผลดั กนั ถามตอบตามบทสนทนาในแบบฝึกหัด ครูเดินไปรอบ ๆ ห้องขณะทีน่ กั เรียน
443
ทากิจกรรมน้ี เพอ่ื สังเกตการทางาน และตรวจสอบการออกเสียงของนกั เรียน เมอ่ื สังเกตว่านกั เรียน
สนทนาไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คูใ่ หอ้ อกมาแสดงการสนทนาหนา้ ช้นั เรียน
4. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 55 Ex. 3 นกั เรียนดูรูปภาพคนและสถานท่ี แลว้ เติมคา
หรือขอ้ ความลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ ง
2. Was, greengrocer’s 3. Were, they weren’t, were at the library
4. Was, Yes, she was.
ข้นั Production
นกั เรียนทางานเด่ียว ให้นกั เรียนเขียนประโยคส้ัน ๆ เพ่ือบอกสถานที่ทนี่ กั เรียนไปเมอ่ื วนั หยดุ
สุดสัปดาห์ท่ผี ่านมา พร้อมวาดรูปประกอบและตกแต่งให้สวยงาม
ตวั อยา่ ง Last weekend I was at the beach with my family.
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การทาชิ้นงาน แบบประเมินชิ้นงาน
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
และม่งุ มน่ั ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
444
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 There was a greengrocer’s. เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Objectives)
- สะกดคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานที่ตา่ ง ๆ ในเมืองได้
- พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั สถานท่ีทมี่ ใี นเมืองในอดีตได้
- สะกดคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ได้
- เขยี นบรรยายส้นั ๆ เกี่ยวกบั สถานทตี่ ่าง ๆ ในเมอื งในอดีตได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดง
ความคิดเหน็ อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ท่ฟี ังและอ่าน
ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป. 5/2 ใชค้ าสั่ง คาขอร้อง คาขออนุญาต และใหค้ าแนะนางา่ ย ๆ
ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขยี นเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 5/5 พูด/เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ
8
445