The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.5
หนังสือ Extra and Friends

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:54:48

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.5
หนังสือ Extra and Friends

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.5

2. ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ราคาอาหารในภาพทน่ี กั เรียนวาด ใหเ้ วลานกั เรียน
ฝึกพดู จนคล่อง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู สนทนาทีห่ นา้ ช้นั เช่น
S1: How much does it cost for a kilo of oranges?
S2: It’s 80 baht.
S1: How much does it cost for a slice of strawberry cake?
S2: It’s 59 baht.

3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 31 Ex. 15 เป็นการบา้ น

2. yes 3. no 4. yes

5. yes 6. yes

7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบฝึ กหัด ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ชิ้นงาน My stall แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มลู
เกี่ยวกบั ราคาสินคา้ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
และประโยคในบทความ อนั พึงประสงค์
ตรวจแบบฝึ กหัด
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 อินเทอร์เน็ต

246

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 Let’s go shopping!

เวลา 2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เน้ือหาได้
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- พดู นาเสนอแหล่งซ้ือขายสินคา้ ในประเทศของตนเองได้
- เขียนโปสเตอร์ประชาสมั พนั ธ์งาน School bazaar ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วดั

ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน

งา่ ย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ตวั ชี้วดั

ต 2.2 ป. 5/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองของเจา้ ของภาษา

กบั ของไทย

247

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปล่ยี นเรียนรู้กบั สังคมโลก

ตวั ชี้วัด

ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
การรู้เก่ียวกบั แหล่งซ้ือขายสินคา้ ในภมู ภิ าคอาเซียนและคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ ง ช่วยให้เขา้ ใจวฒั นธรรม

ในภูมภิ าคอาเซียน

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Nouns) night market, tourist, local, product, painting, silver item,

bamboo lamp, textile, street food, medicine, jewellery, jade, ruby

Structure: Luang Prabang Night Market is a good place for shopping in Laos.

Bogyoke Aung San Market is in Rangoon, Myanmar.

Pronunciation: Pronouncing words begin with consonant cluster /str/

Function: Describing about markets in Asean countries

2) Langage Skills

Speaking: พูดนาเสนอแหลง่ ซ้ือขายสินคา้ ในประเทศของตนเอง

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขยี นโปสเตอร์ประชาสมั พนั ธง์ าน School bazaar

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคิด
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 248
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนทกั ทายกนั จากน้นั ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารและเคร่ืองดื่ม ดว้ ยการให้เลน่ เกม
What’s missing? โดยใหน้ กั เรียน 1 คน มายืนที่หนา้ ช้นั แลว้ หนั หลงั ให้กระดาน จากน้นั นาบตั รภาพ
อาหารและเครื่องดื่มตดิ บนกระดาน คร้งั ละ 4 ใบ ให้เวลานกั เรียนดบู ตั รภาพ 5 วินาที เมอ่ื หมดเวลา
ให้นกั เรียนหันหนา้ กลบั ไปหาเพ่อื น แลว้ ครูดึงบตั รภาพออก 1 ใบ ให้นกั เรียนหันมาดอู กี คร้ังและ
บอกวา่ บตั รภาพใดหายไป ถา้ นกั เรียนตอบถูก ครูสุ่มเรียกนกั เรียนคนอ่ืนออกมาทากิจกรรมเดียวกนั
2. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยถามนกั เรียน เช่น
T: Do you like to go shopping?
Ss: Yes, I do. / No, I don’t.
T: Where do you usually go for shopping?
Ss: A market. / A shopping mall.
T: What do you buy at the market/shopping mall?
S1: Clothes.
S2: Food.
T: That’s interesting.
ใหน้ กั เรียนบอกชื่อตลาดท่ีชอบไปซ้ือของ ครูรวบรวมคาตอบ แลว้ บอกวา่ ประเทศเพอ่ื นบา้ นของเรา
กม็ ตี ลาดเช่นกนั นน่ั คอื ตลาดหลวงพระบางในประเทศลาว และตลาดบอ็ กโยคในประเทศพมา่

ตลาดกลางคืน เมอื งหลวงพระบาง (Luang Prabang Night Market) ต้งั อยบู่ นถนน
ศรีสว่างวงศ์ ในเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ตลาดแห่งน้ีเปิ ดเวลา 17.00 - 23.00 น.
ทุกวนั เสาร์ สินคา้ ที่นามาขายในตลาดส่วนใหญ่ เช่น เครื่องป้ันดินเผา โคมไฟท่ที าจากไมไ้ ผ่
และกระดาษสา เส้ือผา้ พ้นื เมือง ผา้ ไหม เป็นตน้

ตลาดบ็อกโยค (Bogyoke Market) หรือเรียกว่า ตลาดสกอ็ ตต์ (Scott’s Market)
ต้งั อยใู่ นเมืองยา่ งกุง้ ประเทศพม่า เป็นแหล่งซ้ือขายของท่ีระลกึ ท่ีมีชื่อเสียงทส่ี ุดในพมา่
สินคา้ ทีน่ ามาขายส่วนใหญ่เป็นสินคา้ พ้ืนเมือง เช่น ของเกา่ เครื่องประดบั ยาตาหรับโบราณ
สมุนไพร หรือภาพวาด ตลาดแห่งน้ีเปิ ดทุกวนั ต้งั แตเ่ วลา 8.00 - 16.30 น. ทุกวนั
ท่มี า: http://www.louangprabang.net/content.asp?id=167&lang_user=eng

https://en.wikipedia.org/wiki/Bogyoke_Market

249

ข้นั Pre-reading

1. นาเสนอคาศพั ทใ์ นบทอา่ น เช่น night market (ตลาดกลางคืน), tourists (นกั ท่องเที่ยว), locals

(คนทอ้ งถน่ิ ), products (ผลติ ภณั ฑ)์ , paintings (ภาพวาด), silver items (เคร่ืองเงนิ ), bamboo lamp

(โคมไฟไมไ้ ผ่), textiles (ผา้ ทอ), street food (อาหารทข่ี ายริมถนน), medicine (ยา), jewellery

(เคร่ืองประดบั ), jade (หยก) และ ruby (ทบั ทมิ ) โดยการเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดานและบอก

ความหมาย จากน้นั ครูให้นกั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคาศพั ทท์ ่ีมีมากกวา่ 1 พยางค์ ใหถ้ กู ตอ้ ง ดงั น้ี

night market tourists locals

products paintings silver items

bamboo lamp textiles street food

medicine jewellery ruby

ต่อมาครูช้ีที่คาวา่ street อีกคร้ัง แลว้ บอกนกั เรียนว่า ตอ้ งฝึกอา่ นคาน้ีบอ่ ย ๆ เพราะเป็นคาท่ี

ออกเสียงยาก คนไทยส่วนใหญม่ ปี ัญหาในการออกเสียงน้ี เน่ืองจากในภาษาไทย คาควบกล้าเกิดจาก

พยญั ชนะ 2 ตวั รวมกนั เท่าน้นั เช่น เสียง /sl/, เสียง /sp/ และเสียง /tw/ แต่ในภาษาองั กฤษ คาศพั ท์

อาจข้นึ ตน้ ดว้ ยพยญั ชนะควบกล้ามากกว่า 2 ตวั เช่น

stray strong stress

string stroll strawberry

ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอช่ือ Fun Word Pattern “str” (Fun Phonics) ให้นกั เรียนดแู ละฝึกออกเสียง
ตามเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=BnsTJF23dHc
หรือครูเขา้ ไปที่ www.youtube.com แลว้ พมิ พค์ าสาคญั เช่น pattern “str” ในช่องคน้ หา

ข้นั Reading

1. หนงั สือเรียน หน้า 38 Welcome to ASEAN countries 3 ให้นกั เรียนอ่านเน้ือเรื่องในหนา้ น้ี และทา

ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั เร่ืองทอ่ี ่าน

2. ครูถามคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองทอี่ ่านเพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจ เช่น

- Where is Luang Prabang Night Market?

- When does Luang Prabang Night Market open?

- Where is Bogyoke Aung San Market?

- When does Bogyoke Aung San Market open? etc.

ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ

250

ข้นั Post-reading
1. ใหน้ กั เรียนอา่ นเน้ือเรื่องในหนงั สือเรียน หนา้ 38 อีกคร้ัง จากน้นั ให้แต่ละคนแต่งประโยคเกี่ยวกบั
ตลาดในทอ้ งถ่นิ ของตนเอง โดยเลียนแบบประโยคที่อ่าน แลว้ ออกมาพดู ใหเ้ พื่อนฟังทหี่ นา้ ช้นั
2. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หม่ทเี่ รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm Up
ครูทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ให้อาสาสมคั รออกมาพดู ให้เพื่อนในช้นั ฟังเก่ียวกบั ตลาดในทอ้ งถิ่นของ
ตนเอง โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมาพดู หนา้ ช้นั

ข้นั Presentation
ครูเขยี นประโยคถาม-ตอบเกี่ยวกบั เร่ืองทอ่ี า่ น ให้นกั เรียนดูบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียน 1 คน
ออกมาพูดถาม-ตอบเป็นตวั อยา่ งให้เพอื่ นในช้นั ฟัง เช่น
T: Where is Luang Prabang Night Market?
S1: In Laos.
T: When does Luang Prabang Night Market open?
S1: It opens every day from about 5 pm to 11 pm.
ครูและนกั เรียนพดู สนทนาซ้า 2-3 คร้งั ให้นกั เรียนในช้นั จบั คู่กนั สนทนาเกี่ยวกบั ขอ้ มูลของตลาด
อ่ืน ๆ จนคลอ่ ง

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 38 Ex. 1 ครูอธิบายงาน ใหน้ ักเรียนทางานคู่ อา่ นประโยคขอ้ 1-4 แลว้ ตอบว่า
ประโยคทอ่ี ่านเป็นจริงหรือเท็จ โดยก่อนทางาน ให้นกั เรียนอา่ นประโยค 1-4 ทีก่ าหนดให้ และขีด
เส้นใตค้ าสาคญั จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นบทอ่านอยา่ งรวดเร็วเพอ่ื หาคาพอ้ งความหมาย (synonym)
หรือคาที่มคี วามหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) กบั คาทีข่ ีดเส้นใตไ้ ว้ เมอื่ พบแลว้ ใหอ้ ่านเฉพาะประโยค
ทม่ี คี าสาคญั หรืออา่ นขอ้ ความแวดลอ้ มประมาณ 1-2 ประโยคก่อนหนา้ หรือถดั ไป ถา้ มขี อ้ มลู เหมอื น
ประโยคที่ให้มา ให้เขียน T (True) ลงในสมุด หรือถกู เพียงบางส่วน ให้เขียน F (False) พร้อมกบั
แกไ้ ขขอ้ มลู ใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบพร้อมนกั เรียน

1. T 2. T 3. F 4. F
251

2. ครูวาดตารางตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

Location Opening hours What to buy

Luang Prabang
Night Market

Bogyoke Market

จากน้นั แบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลุม่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มอ่านเน้ือเรื่องอีกคร้งั แลว้ นาขอ้ มูลทไี่ ดม้ าเตมิ ในตาราง
3. หนงั สือเรียน หน้า 39 Ex. 2 ครูอธิบายว่า ให้นกั เรียนจบั คู่คาศพั ทใ์ นเน้ือเร่ือง 1-5 และภาพ a-e ให้

สัมพนั ธก์ นั ครูให้เวลานกั เรียนทากิจกรรมดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบพร้อมกนั กบั นกั เรียน
T: Look at the word “silver items.” Which picture is it?
Ss: Picture b.
T: Good.

1. b 2. c 3. a 4. e 5. d

4. หนงั สือเรยี น หน้า 39 Ex. 3 ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนจบั ค่กู นั อา่ นบทสนทนาแลว้ นาขอ้ มลู
ในบทอา่ นมาเติมในบทสนทนาใหส้ มบรู ณ์ ตอ่ มาใหน้ กั เรียนฝึกพูดบทสนทนาดงั กล่าวจนคล่อง
เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั ร 2-3 คู่ ออกมาสนทนาที่หนา้ ช้นั

S1: I’m going to Bogyoke Market.
S2: That sounds fun! Where is the market?
S1: It’s in Rangoon, Myanmar.
S2: What do they sell at the market?
S1: They sell traditional medicine, local food, handmade products and jewellery.
S2: When does the market open?
S1: It opens at 8 am.

252

ข้นั Production

1. หนงั สือเรียน หน้า 39 Ex. 4 ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทางานกลุม่ คน้ ควา้ ขอ้ มลู ใน

อินเทอร์เนต็ หรือหนงั สือเกี่ยวกบั ตลาดหรือแหล่งขายสินคา้ ทม่ี ีช่ือเสียงในประเทศของตนเองมา

กล่มุ ละ 1 ที่ โดยใหม้ ขี อ้ มูลตอ่ ไปน้ี

- Name of the market - Location

- Opening hours - Products sold here

จากน้นั ให้แต่ละกลุ่มหาภาพตลาดดงั กล่าวมาตดิ พร้อมเขียนรายละเอียดใตภ้ าพ เสร็จแลว้ ให้ตวั แทน

แต่ละกลมุ่ ออกมาพูดนาเสนอท่หี นา้ ช้นั เช่น

Chatuchak Market is in Bangkok, Thailand. It opens on Friday-Sunday at 5-10 pm.

There are clothes, handicrafts, pets, ceramics and food here.

2. หนังสือเรียน หน้า 39 Portfolio ครูอธิบายภาระงาน ให้ทางานกลมุ่ ทาโปสเตอร์ประชาสัมพนั ธ์

กิจกรรม School bazaar ทก่ี าลงั จะจดั ข้นึ เร็ว ๆ น้ี โดยใหน้ กั เรียนใชต้ วั อยา่ งในหนงั สือเรียน

เป็นตน้ แบบ พร้อมตกแตง่ ให้สวยงาม เสร็จแลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานทีห่ นา้ ช้นั

(ตวั อยา่ ง)

Welcome to Aksornwittaya School Bazaar!
On 5 October 2018 at 6 o’clock.
You can buy home-made pumpkin pie, sweets and toys.

3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมทบทวนคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างในแบบฝึ กหดั หน้า 32-33 Exs. 1-7
หวั ข้อ Modular Revision and Assessment 3 ในห้องเรียนพร้อมกนั

แบบฝึ กหัด หน้า 33 Ex. 6
Narrator: This is an example.
Female: How much is a bottle of oil?
Male: It’s two pounds fifteen.
Female: Two pounds fifty?
Male: No. Two pounds fifteen.

253

Narrator: Now, you listen and choose.
One
Female: How much is a packet of cocoa? Eighty-seven pence?
Male: Yes, that’s right. A packet of cocoa is eighty-seven pence.
Two
Female: How much is a pot of yoghurt?
Male: It’s one pound, forty-six pence.
Female: Forty-six pence?
Male: No. One pound, forty-six pence.
Three
Female: How much is a box of chocolates?
Male: It’s two pounds eighteen.
Female: Two pounds eighty?
Male: No. Two pounds eighteen.

Ex. 1

1. jam 2. soup 3. peanuts

4. oil 5. yoghurt

Ex. 2 3. a jar of jam
1. a pot of yoghurt 2. a can of lemonade
4. a box of chocolates 5. a bowl of soup

Ex. 3 2. boxes 3. wolves
1. mice 5. children 6. feet
4. babies

Ex. 4 2. cans 3. women
1. Wolves 5. teeth
4. men
254

Ex. 5 3. B
Answers: 5, 1, 6, 4, 2, 3 3. no

Ex. 6
1. A 2. A

Ex. 7
1. yes 2. yes
4. yes 5. yes

7. การวัดและประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหดั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

ประเมนิ ช้ินงานโปสเตอร์ แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์

ประชาสมั พนั ธง์ าน School bazaar ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู นาเสนอแหลง่ แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

ซ้ือขายสินคา้ ในประเทศของตนเอง

สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook)

สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมินคุณลกั ษณะ

ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 อนิ เทอร์เน็ต

255

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 CLIL 3 Different Tastes

เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั รสชาตอิ าหารได้
- พูดใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั รสชาตขิ องอาหารได้
- เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั อาหารและรสชาตขิ องอาหารได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตุผล

ตัวชีว้ ดั

ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ัด

ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั

ต 1.2 ป. 5/5 พูด/เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ

พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตัวชี้วดั

ต 1.3 ป. 5/3 พดู แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชี้วดั

ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

256

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น

พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

ตัวชีว้ ดั

ต 3.1 ป. 5/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่นและนาเสนอ

ดว้ ยการพูด/การเขยี น

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารและรสชาตขิ องอาหาร ช่วยใหพ้ ูดขอและใหข้ อ้ มูล

เกี่ยวกบั สาระการเรียนรู้อนื่ ได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Nouns) popcorn, lime, olive, medicine, tongue

(Tastes) sweet, sour, salty, bitter

Structure: Can you name some foods that are sweet?

Pronunciation: Pronouncing words begin with consonant cluster /sw/

Function: Talking about tastes of food

2) Language Skills

Speaking: พูดใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั รสชาตขิ องอาหาร

Writing: เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั อาหารและรสชาตขิ องอาหาร

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน

257

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร เช่น lemon, chocolate, sweets, peanut, cake และ sandwich

ดว้ ยการเล่นเกม Spelling Bee โดยครูใหน้ กั เรียนเตรียมกระดาษข้นึ มา คนละ 1 แผน่ จากน้นั
ครูบอกนกั เรียนวา่ ครูจะพดู คาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟัง 2 คร้ัง ใหน้ กั เรียนฟัง และเขยี นสะกดคาลงใน
กระดาษที่เตรียมไว้ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนชูกระดาษข้ึน ครูเดินตรวจว่านกั เรียนสะกดคาศพั ทถ์ กู ตอ้ ง
หรือไม่ ถา้ ไมถ่ กู ตอ้ ง นกั เรียนจะถกู คดั ออก ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีไปเร่ือย ๆ จนเหลอื ผชู้ นะ
เพียงคนเดียว
3. ครูทบทวนลกั ษณะนามโดยครูเตรียมบตั รภาพอาหาร เช่น bread, cake, chocolate, sweets, yoghurt,
potatoes, tomatoes และ carrots หยอ่ นไวใ้ นกลอ่ งขนาดกลาง 1 ใบ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
ออกมาหยิบบตั รภาพทลี ะคน เมอ่ื หยิบแลว้ ให้นกั เรียนคนดงั กลา่ วแสดงบตั รภาพใหน้ กั เรียนที่เหลือ
ดู แลว้ พดู บอกลกั ษณะนาม เช่น

S1: A slice of bread. (หยิบไดภ้ าพขนมปัง)
S2: A pot of yoghurt. (หยบิ ไดภ้ าพถว้ ยโยเกิร์ต)
S3: A bag of carrots. (หยบิ ไดภ้ าพแคร์รอต)
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีไปเรื่อย ๆ จนกวา่ จะครบทกุ ภาพ
4. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยครูนาบตั รภาพอาหารมาแสดงอกี คร้ัง แลว้ ถามวา่ นกั เรียนคิดว่า
อาหารเหลา่ น้ีมีรสชาติอยา่ งไร ให้นกั เรียนช่วยกนั อภปิ ราย

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาคณุ ศพั ทท์ ่ใี ชบ้ รรยายรสชาตอิ าหาร ไดแ้ ก่ sweet (หวาน), sour (เปร้ียว), salty (เคม็ ) และ

bitter (ขม) ดว้ ยการเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ พูดบอกความหมาย หรือครูนาอาหารทมี่ รี สชาติ
ดงั กลา่ วมาแสดงทีห่ นา้ ช้นั อาจใหน้ กั เรียนออกมาชิมอาหารแตล่ ะรสชาติ เช่น ลูกกวาด มะนาว เกลือ

258

การออกเสียงคาศัพท์ทขี่ นึ้ ต้นด้วย sw
คนไทยส่วนใหญไ่ ม่มปี ัญหาในการออกเสียงพยญั ชนะ /w/ เนื่องจากออกเสียงคลา้ ยกบั
เสียง “ว” ในภาษาไทย แต่คนไทยมกั มีปัญหาในการออกเสียงพยญั ชนะ /w/ ควบกล้า
เสียงพยญั ชนะ /s/ เช่น ในคา sweet /swiːt/, swim /swɪm/ และ swan /swɔn/ ซ่ึง
เป็นพยางคค์ าเดียว แต่คนไทยมกั จะออกเสียงสระ “-ะ” แทรกเขา้ ไประหว่างเสียง /s/
และ /w/ ทาให้มีพยางคเ์ พิ่มข้ึนอีกหน่ึงพยางค์ ซ่ึงไม่ถกู ตอ้ ง เพราะในภาษาไทยไมม่ ี
เสียงพยญั ชนะควบกล้า /sw-/ ดงั น้นั นกั เรียนควรจาไวว้ า่ เมื่อออกเสียงคาในภาษา
องั กฤษท่ีมีเสียงพยญั ชนะควบกล้า /sw-/ ตอ้ งไมแ่ ทรกเสียงสระ “-ะ” เขา้ ไประหว่าง
เสียงพยญั ชนะ /s/ และ /w/
ท่มี า: ปรารมภ์รัตน์ โชติกเสถียร. การออกเสียงพยญั ชนะในภาษาอังกฤษ. กรุงเทพ ฯ:

โครงการตารา คณะอักษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั , 2537.

ตอ่ มาครูช้ีทคี่ าศพั ทบ์ นกระดาน จากน้นั ออกเสียงให้นกั เรียนฟังและฝึกออกเสียงตาม ครูเนน้ ออกเสียง
คาวา่ sour ใหช้ ดั เจน ครูอธิบายวา่ sour (/saʊər/) ออกเสียงคลา้ ยกบั hour (/aʊər/) ทีห่ มายความว่า
ชว่ั โมง

ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ ห้นกั เรียนศกึ ษาขอ้ มลู เพิม่ เติมเกี่ยวกบั รสชาตติ ่าง ๆ ของอาหาร
ดงั ตอ่ ไปน้ี
http://www.macmillandictionary.com/thesaurus-category/british/words-used-to-
describe-specific-tastes-and-flavours

2. นาเสนอคาศพั ทท์ นี่ กั เรียนควรรู้เพิ่มเตมิ ไดแ้ ก่ popcorn (ขา้ วโพดควั่ ), olive (มะกอก), lime (มะนาว

ลูกสีเขยี ว), medicine (ยารกั ษาโรค) ดว้ ยการใชบ้ ตั รภาพ เช่น

T: (แสดงภาพขา้ วโพดคว่ั ) What is this?

Ss: It’s popcorn.

T: (แสดงภาพมะกอก) What are these?

Ss: They’re olives.

จากน้นั ครูนานกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกนั โดยครูเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาศพั ท์

(word stress) ทม่ี มี ากกวา่ 1 พยางคใ์ ห้ถูกตอ้ ง ดงั น้ี

popcorn olive medicine

259

3. ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
Chocolate is sweet.
Popcorn is salty.
Lemons are sour.
Olives are bitter.

จากน้นั ครูบอกนกั เรียนว่า เม่ือเราตอ้ งการบอกว่า อาหารชนิดต่าง ๆ มรี สชาตอิ ยา่ งไร เราจะใช้
โครงสร้าง อาหาร + verb to be + คาคณุ ศพั ทท์ ีใ่ ชบ้ รรยายรสชาติ.
เมื่อนกั เรียนเขา้ ใจโครงสร้างแลว้ ครูแสดงบตั รภาพอาหาร เช่น limes, strawberry yoghurt, apples,
sugar, coffee, cake และ cheese แลว้ ถามคาถามนกั เรียน ดงั น้ี

T: Is strawberry yoghurt sweet?
Ss: Yes, it is. / No, it isn’t. It’s sour.
T: Are apples bitter?
Ss: No, they aren’t. They are sweet.
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเร่ือย ๆ จนนกั เรียนพูดไดค้ ลอ่ ง
4. ครูทบทวนโครงสร้างที่ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั สิ่งท่ชี อบและไม่ชอบ โดยสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน
ถามคาถาม ดงั น้ี
T: What’s your favourite food?
S1: I like bananas.
T: Are they salty?
S1: No, they aren’t. They’re sweet.
จากน้นั ครูสรุปโครงสร้างให้นกั เรียนดบู นกระดานอีกคร้ัง คือ
A: What’s your favourite food?
B: I like + ชื่ออาหาร. / My favourite food is + ช่ืออาหาร.

ข้นั Practice
1. แบบฝึ กหัด หน้า 68 Ex. 1 ครูอธิบายคาสัง่ ให้นกั เรียนดภู าพอาหาร แลว้ ทาเครื่องหมาย ✓ ลงใน
ช่องรสชาตอิ าหารน้นั ๆ เม่ืออธิบายเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนดภู าพและเครื่องหมายในขอ้ 1 แลว้ พูด
วา่ A cake is sweet. ให้นกั เรียนออกเสียงตามครูพร้อมกนั ตอ่ มาครูให้นกั เรียนดูภาพในขอ้ 2 แลว้ ให้
นกั เรียนลองพดู ประโยค A lemon is sour. ดว้ ยตนเอง เม่อื นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ให้นกั เรียนทา
ขอ้ ทีเ่ หลอื ดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง เพ่ือตรวจสอบความถูกตอ้ งและเฉลย
คาตอบ

260

A cake is sweet.
A lemon is sour.
Popcorn is salty.
Olives are bitter.
A lime is sour.
Chocolates are sweets.
Cocoa is bitter.
Peanuts are salty.
Honey is sweet.
Medicine is bitter.

1. cake – sweet 2. lemon – sour
3. popcorn – salty 4. olives – bitter
5. lime – sour 6. chocolates – sweet
7. cocoa – bitter 8. peanuts – salty
9. honey – sweet 10. medicine – bitter

2. แบบฝึ กหัด หน้า 69 Ex. 2 ใหน้ กั เรียนดภู าพเดก็ หญิงในแบบฝึกหัด แลว้ ให้ช่วยกนั บอกว่า เด็กหญงิ
คนน้ีกาลงั ทาอะไร เช่น She’s cooking. She’s tasting food. จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและดู
เน้ือเพลงตาม ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง คร้ังน้ีให้นกั เรียนร้องเพลงตามไปดว้ ย เม่อื นกั เรียนร้องคลอ่ งแลว้
ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 5-6 คน ฝึกร้องเพลงจนคล่อง โดยใหค้ ิดทา่ ทางประกอบดว้ ย
เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุม่ ออกมาร้องเพลงทีห่ นา้ ช้นั และกลมุ่ ทเ่ี หลอื ปรบมอื ใหจ้ งั หวะ

3. ครูแบง่ กระดานเป็น 4 ส่วน แลว้ เขยี น sour, bitter, sweet และ salty ในแตล่ ะช่อง จากน้นั ครูให้
นกั เรียนแบ่งกลมุ่ เป็น 4 กลุ่ม ให้กล่มุ แรกคิดช่ืออาหารและเคร่ืองดื่มท่มี รี สเปร้ียว กลมุ่ ท่สี องคดิ ช่ือ
อาหารและเคร่ืองด่ืมทีม่ รี สขม กลมุ่ ท่ีสามคิดช่ืออาหารและเคร่ืองดื่มทม่ี รี สหวาน กลมุ่ สุดทา้ ยคดิ ชื่อ
อาหารและเคร่ืองด่ืมท่ีมีรสเคม็ ใหเ้ วลานกั เรียนระดมความคิดประมาณ 5 นาที เสร็จแลว้ ใหแ้ ตล่ ะ
กลมุ่ ออกมาเขียนช่ืออาหารและเครื่องดื่มบนกระดาน ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งอกี คร้งั เมอ่ื ถูกตอ้ ง
แลว้ ใหน้ กั เรียนจดคาศพั ทล์ งในสมุดของตนเอง

261

4. ใหน้ กั เรียนฝึกถาม-ตอบเก่ียวกบั รสชาตขิ องอาหารและเคร่ืองด่ืม โดยให้นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้
ออกมาหยบิ บตั รภาพอาหารและเครื่องดื่ม ค่ลู ะ 2 ใบ เมื่อนกั เรียนหยิบครบทุกคแู่ ลว้ ครูอธิบายว่า
ใหน้ กั เรียนผลดั กนั พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั รสชาติอาหารและเครื่องด่ืมทแี่ ต่ละคไู่ ด้ ครูใหเ้ วลาแต่ละคู่
ฝึกพดู จนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเลอื กนกั เรียน 1 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบให้เพือ่ นในช้นั ฟัง เช่น
S1: Is cola sweet?
S2: Yes, it is.

S2: Are chips sour?
S1: No, they aren’t. They are salty.

ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพเก่ียวกบั อาหารและเคร่ืองด่ืมไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://esl-kids.com/flashcards/food.html
http://www.mes-english.com/flashcards/food.php
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/th/flashcards/food-flashcards

ข้นั Production
1. แบบฝึ กหดั 69 หวั ข้อ Project Time ใหน้ กั เรียนทางานคู่ ทาชิ้นงาน Taste โดยให้แต่ละคู่คดิ ช่ือ
อาหารหรือเคร่ืองด่ืมทม่ี รี สชาติ sweet, sour, bitter และ salty แลว้ วาดภาพประกอบและเขยี นรสชาติ
ใตภ้ าพให้เรียบร้อย จากน้นั ให้นกั เรียนตกแต่งภาพให้สวยงาม ให้แต่ละคู่ส่งตวั แทนออกมานาพูด
นาเสนอรสชาตขิ องอาหารหรือเครื่องดื่มแตล่ ะชนิดท่ีหนา้ ช้นั เช่น
Donuts are sweet. Lemonade is sour. Chocolate is bitter. Chips are salty.
2. ครูถามนกั เรียนว่า การทนี่ กั เรียนไดเ้ รียนรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั รสชาติตา่ ง ๆ มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร
ในชีวติ ประจาวนั ให้นกั เรียนช่วยกนั อภิปราย เช่น การส่งั อาหารในร้านอาหาร เป็นตน้
ครูเขียนความเห็นของนกั เรียนบนกระดาน

262

7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงาน Taste
ประเมินการพดู ให้ขอ้ มลู แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เกี่ยวกบั รสชาตขิ องอาหาร แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการอภิปราย แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด อนั พึงประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 อินเทอร์เนต็

263

4 I Don’t Like Science!

ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 5 เวลาเรียน 12 ชั่วโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ติ ามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ทฟี่ ังและอ่าน

ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ที่ฟังหรืออา่ น

ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนิทาน

ง่าย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วดั

ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป. 5/2 ใชค้ าส่งั คาขอร้อง คาขออนุญาต และใหค้ าแนะนางา่ ย ๆ

1 ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

ต 1.2 ป. 5/5 พดู /เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ

พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตวั ชี้วัด

2 ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

3 ต 1.3 ป. 5/2 เขยี นภาพ แผนผงั และแผนภูมแิ สดงขอ้ มลู ต่าง ๆ ตามทีฟ่ ังหรืออา่ น

264

4 ต 1.3 ป. 5/3 พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชี้วดั

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 5/2 ตอบคาถาม/บอกความสาคญั ของเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความ

เป็นอยงู่ ่าย ๆ ของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ตัวชีว้ ัด

ต 2.2 ป. 5/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองของเจา้ ของภาษา

กบั ของไทย

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น

พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตวั ชีว้ ดั

ต 3.1 ป. 5/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื และนาเสนอดว้ ย

การพูด/การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณต์ ่าง ๆ ทเ่ี กดิ ข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลยี่ นเรียนรู้กับสังคมโลก

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

265

2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั สานวนภาษาทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั วิชาเรียน เวลา คาศพั ท์
โครงสร้างที่ใชใ้ นการขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั กิจกรรมทท่ี า รวมถึงการใชค้ ากริยาวเิ ศษณ์
บอกความถ่ี คาบพุ บทบอกเวลา สานวนภาษาเกี่ยวกบั วิชาเรียน ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั วนั ท่ีตนเองชอบ ช่วยใหพ้ ูด
ส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม และการรู้เกี่ยวกบั พพิ ิธภณั ฑ์วิทยาศาสตร์ในภมู ภิ าคอาเซียน ช่วยให้เรา
เขา้ ใจแหล่งการเรียนรู้ในประเทศภูมภิ าคอาเซียนมากข้ึน

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Subjects) science, art, history, music, English, PE

It’s quarter past one. It’s half past one. It’s quarter to one.

(Adjectives) interesting, boring, home-made, permanent, temporary

(Verbs) drop, shake, add, open, attend, start, end, experiment

(Phrases) do experiments, do homework, go to bed, watch me

(Education system) nursery, primary school, secondary school

(Nouns) exhibition, animated film, flying machine, experiment,

parents, aquarium, water animals

(Adverb) daily

(Paintings) abstract, portrait, landscape, still life

Structure: What time is it? It’s quarter past nine. It’s time for our Science lesson!

Do you like history? Yes, I like history! It’s interesting. No, I don’t like

history! It’s boring!

What do you do in the Science lesson? We do experiments.

They always have Science on Mondays. They never eat breakfast

at noon. Blake always watches TV in the evening!

We have Science on Mondays. I don’t like Science. Let’s do an

experiment. Shake the bottle. Then add five drops from the red bottle.

This is what I do on Mondays. I get up at quarter to eight, I eat my

breakfast and at half past eight I go to school.

266

Pronunciation: I go to school on Mondays. I have PE on Tuesdays.
Function: In the UK children start school when they are four years old.
They attend school from Monday to Friday and they don’t go to school
2) Language Skills on Saturday or Sunday.
Listening: Tomorrow I will go to the ArtScience Museum at Marina Bay Sands.
The museum opens every day from 10 am to 7 pm. Here you can learn
about science and art.
I will go to Kuala Lumpur’s Science Museum. Some people call it the
National Science Centre.
A still life shows things that do not move.
An abstract shows something that doesn’t look real.
A portrait shows a person.
A landscape shows things in the country.
Pronouncing weak forms
Pronouncing /s/ and /es/ at the end of verb
Blend (cluster) /dr/
Linking sounds
/f/, /v/ sounds
Word stress
Talking about school subjects, telling about the time, daily routines
Giving information about daily routines
Developing listening and reading comprehension skills
through a dialogue
Developing reading and writing skills
Developing listening comprehension skills through a song
Reading and talking about schools in the UK
Reading and talking about museums
Learning about different art styles

ฟังเพื่อความเขา้ ใจ

267

Speaking: ตอบคาถามจากการฟัง
พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั เวลาและวิชาเรียน
Reading: พูดสนทนาเก่ียวกบั วิชาท่ีชอบ
Wrting: ออกเสียงคากริยาเตมิ s และ es
พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ที าในแต่ละช่วงเวลา
3) Culture: พูดให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความถ่ขี องการทากิจกรรมต่าง ๆ
ใชค้ าบุพบทบอกเวลา
แสดงบทบาทสมมติ
พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั วนั ทีต่ นเองชอบ พร้อมใหเ้ หตผุ ล
พูดให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ระบบการศกึ ษาในประเทศของตนเอง
พดู ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ภาพวาด
ตอบคาถามจากการอ่าน
เขยี น My study timetable
แต่งประโยค Present simple tense บอกเลา่ กิจวตั รประจาวนั
แต่งบทสนทนาเกี่ยวกบั กิจกรรมทีท่ าในช่วงเวลาต่าง ๆ
แต่งประโยคบอกความถข่ี องกิจกรรมทตี่ นเองทาในแต่ละวนั
เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั วนั ทตี่ นเองชอบและกิจวตั รประจาวนั ที่ทา
แต่งเพลงตามท่กี าหนด
เขยี นจดหมายถึงเพือ่ นเกี่ยวกบั พพิ ิธภณั ฑท์ ่ชี ่ืนชอบ
เขียนบรรยายเก่ียวกบั วนั ที่ตนเองช่ืนชอบ
วาดภาพตามทก่ี าหนด
การศึกษาในสหราชอาณาจกั ร

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน

268

6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ประเมินการพูดถาม-ตอบเก่ียวกบั วิชาเรียนและเวลา
2. ประเมินงานเขียน My study timetable และ School in my country
3. ประเมนิ การทาสมุดสะสมคาศพั ท์ My subjects
4. สังเกตการออกเสียงคากริยาเตมิ s และ es, คาควบกล้า dr, ที่ข้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /f/ และ /v/, คาศพั ท์
และประโยคในเน้ือเร่ือง
5. ตรวจการตอบคาถามจากการฟังและอ่าน
6. ประเมินการพูดสนทนาวชิ าท่ชี อบ
7. ประเมนิ การแตง่ ประโยค Present simple บอกเล่ากิจวตั รประจาวนั และการแตง่ เพลง
8. ประเมนิ การพดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ที าในแต่ละช่วงเวลา, ความถ่ขี องการทา
กิจกรรมตา่ ง ๆ, วนั ที่ตนเองชอบ พร้อมให้เหตุผล และระบบการศกึ ษาในประเทศของตนเอง
9. ประเมนิ การแต่งบทสนทนาเก่ียวกบั กิจกรรมทท่ี าในช่วงเวลาต่าง ๆ, ประโยคเก่ียวกบั กิจกรรมทท่ี า
10. สังเกตการใชค้ าบุพบทบอกเวลา และการออกเสียงคาศพั ท์
11. ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ
12. ประเมนิ การเขียนบอกวนั ท่ตี นเองชอบ และกิจวตั รประจาวนั ทที่ า
13. ประเมินชิ้นงานคาศพั ทท์ ีข่ ้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /f/ และ /v/ และภาพวาด still life
14. ประเมินการพูดให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ภาพวาด
15. ตรวจสมุดคาศพั ท์ แบบฝึกหัด
16. สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน

7 การวัดและประเมนิ ผล
7.1 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1) ประเมนิ การมสี ่วนร่วมในช้นั เรียน
2) ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.2 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ชิ้นงานตามหวั ขอ้ ทกี่ าหนด

269

8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 บตั ร Story Cutouts
8.6 ลูกบอลยางหรือลูกบอลทท่ี าจากกระดาษ
8.7 ภาพวาดของศลิ ปิ นตา่ ง ๆ
8.8 อนิ เทอร์เน็ต

270

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 It’s quarter past nine.

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั วชิ าเรียนได้
- พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั เวลาและวชิ าเรียนได้
- ตอบคาถามจากการฟังได้
- เขยี น My study timetable ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมเี หตุผล

ตวั ชี้วดั

ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตวั ชี้วัด

5 ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ดั

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง/พูดและอา่ น/เขยี นในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

271

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั สานวนภาษาทีใ่ ชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั วชิ าเรียนและเวลา ช่วยใหพ้ ูด

ส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Subjects) science, art, history, music, English, PE

It’s quarter past one. It’s half past one. It’s quarter to one.

Structure: What time is it? It’s quarter past nine. It’s time for our Science lesson!

Pronunciation: Pronouncing weak forms

Function: Talking about school subjects, telling about the time

2) Language Skills

Listening: ฟังเพ่ือความเขา้ ใจ, ตอบคาถามจากการฟัง

Speaking: พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั เวลาและวชิ าเรียน

Wrting: เขียน My study timetable

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคิด
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารและเครื่องด่ืม ดว้ ยการเล่นเกม Bingo โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น
2-3 กลุ่ม จากน้นั ให้แตล่ ะกลมุ่ วาดตาราง 9 ช่อง ลงในสมดุ แลว้ เขยี นคาศพั ทไ์ ดแ้ ก่ chocolate,
pineapple, cheese, potato, mango, sandwich, carrot, yoghurt และ peanuts ลงในตาราง ต่อมาครู
อธิบายกตกิ าการเลน่ เกมว่า ครูจะพูดคาศพั ทใ์ หแ้ ต่ละกลมุ่ ฟัง 2 คร้ัง ให้แต่ละกลมุ่ วงรอบคาศพั ท์
ในตารางตามทไ่ี ดย้ ิน กล่มุ ใดวงกลมคาศพั ทค์ รบ 3 คา ตดิ กนั ในแนวใดก็ไดใ้ ห้ตะโกนว่า บงิ โก
และเป็นกลมุ่ ที่ชนะ

272

3. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั วิชาเรียนโดยครูเขยี นคาว่า Subject บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนผลดั กนั
ออกมาเขยี นช่ือวชิ าทีน่ กั เรียนรู้จกั ใหไ้ ดม้ ากทีส่ ุด เช่น maths, English, art, music และ PE เป็นตน้

4. ทบทวนการขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั เวลา โดยครูวาดหนา้ ปัดนาฬิกาบนกระดาน จากน้นั วาดเขม็ ส้นั
และเขม็ ยาวช้ีเวลาตา่ ง ๆ แลว้ ถามคาถามนกั เรียน เช่น

T: What time is it?
Class: It’s 2 o’clock.

T: What time is it?
Class: It’s 6 o’clock.

ครูทากิจกรรมต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่านกั เรียนจะพูดบอกเวลาไดค้ ลอ่ ง
5. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนดูช่ือบท I Don’t Like Science! แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั เดาวา่

ในบทน้ีจะไดเ้ รียนเกี่ยวกบั อะไร เช่น การเรียน วิชาทีช่ อบและไมช่ อบ เป็นตน้

ข้นั Presentation

1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั วิชาเรียน ไดแ้ ก่ history (วิชาประวตั ศิ าสตร์), science (วชิ าวทิ ยาศาสตร์),

art (วิชาศิลปะ), PE (วชิ าพลศึกษา), music (วิชาดนตรี) และ English (วชิ าภาษาองั กฤษ) โดยการ

แสดงบตั รภาพหรือบตั รคา ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูดบอกความหมาย จากน้นั ให้นกั เรียนออกเสียง

ชื่อวิชาตามครูอีกคร้งั โดยเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคา (word stress) ให้ถกู ตอ้ ง ดงั น้ี

history music English

เปิ ดคลปิ วิดีโอชื่อ Kids vocabulary - School Subjects - favorite subject - English
educational video ใหฝ้ ึกฟังช่ือวิชาเรียนและออกเสียงตามจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=AnZxeX_8mVk

273

เนน้ ใหอ้ อกเสียงคาว่า history ใหถ้ กู ตอ้ ง เพราะส่วนใหญ่มกั จะออกเสียงเป็น
“ฮิสตอรี” ซ่ึงไม่ถูกตอ้ ง ทีถ่ กู ตอ้ งจะอา่ นวา่ /ˈhɪstəri/
ทมี่ า: http://dictionary.cambridge.org/dictionary/learner-english/history

2. นาเสนอสานวนท่ีใชบ้ อกเวลา โดยครูวาดตารางต่อไปน้ีบนกระดาน

Our School Timetable

Subject Time
PE 8.15
10.30
science 11.45
Lunch 14.00
English

จากน้นั ครูช้ีใหน้ กั เรียนดูเวลา 8.15, 10.30 และ 11.45 แลว้ อา่ นออกเสียงให้นกั เรียนฟัง ดงั น้ี
It’s quarter past eight.
It’s half past ten.
It’s quarter to twelve.

ให้นกั เรียนสงั เกตสานวน quarter past …, half past …, quarter to … แลว้ อธิบายว่า ในภาษาองั กฤษ
จะมีสานวนท่ใี ชบ้ อกเวลาทม่ี ีเศษนาที คือ หากเวลาเลยมา 15 นาที หรือเขม็ ยาวช้ีท่ีเลข 3 เราจะใช้
สานวน It’s quarter past … หากเวลาเลยมาเป็นเวลา 30 นาที หรือเขม็ ยาวช้ีเลข 6 เราจะใชส้ านวน
It’s half past … สุดทา้ ย หากเข็มยาวจะช้ีเลข 9 เราจะพดู วา่ It’s quarter to …

ครูสอนนกั เรียนบอกเวลาอืน่ ๆ โดยดาวนโ์ หลดบตั รภาพจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-time.pdf

3. ครูให้นกั เรียนดูตาราง Our School Timetable อกี คร้ัง จากน้นั ช้ีไปท่เี วลา 8.15 น. แลว้ พูดวา่ It’s
quarter past eight. It’s time for PE. แลว้ ใหน้ กั เรียนฝึกพูดตาม 1-2 คร้ัง จากน้นั อธิบายวา่ โครงสร้าง
It’s time for… ใชบ้ อกวา่ เป็นเวลาเรียนวิชาอะไร ตอ่ มาครูช้ีทเ่ี วลา 10.30 แลว้ ให้นกั เรียนพดู บอก
วิชาเรียนดว้ ยตนเอง ดงั น้ี It’s half past ten. It’s time for … (science) ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ี
จนครบทุกวิชาเรียน

274

กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมเก่ียวกบั เวลาในประเทศต่าง ๆ โดยใหน้ กั เรียนจบั กลมุ่ กนั 5-6 กลมุ่
อา่ นเร่ืองส้ัน One moment around the world จากเวบ็ ไซต์
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/short-stories-one-moment-
around-the-world-transcript.pdf
จากน้นั ครูถามคาถามให้แต่ละกลมุ่ ตอบ เช่น

- If it’s 10 o’clock in London, what time is it in São Paulo? (7 o’clock)
- If it’s 2 o’clock in Mexico, what time is it in London? (8 o’clock)
- If it’s 9 o’clock in Alaska, what time is it in São Paulo? (12 o’clock)

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 40 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 1-2 รอบ รอบแรกให้นกั เรียนฟังและช้ีภาพ
ตาม รอบที่ 2 ให้ฟังและช้ีภาพ และออกเสียงตาม CD ดว้ ย ต่อมาครูเปิ ด CD อกี คร้ัง และหยดุ CD
หลงั จบคาศพั ทแ์ ต่ละคา และสุ่มเรียกนกั เรียนให้ออกเสียงตามเป็นรายบุคคล
2. หนงั สือเรยี น หน้า 40 Ex. 2 ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนจบั คู่ ฝึกพูดถาม-ตอบเก่ียวกบั เวลา
โดยกอ่ นใหน้ กั เรียนฝึกพดู ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ออกมาพดู ตอบครู เมอื่ นกั เรียนเขา้ ใจแลว้
ใหเ้ วลานกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบท่หี นา้ ช้นั

2. A: What time is it?
B: It’s half past one. It’s time for our PE lesson!

3. A: What time is it?
B: It’s quarter to twelve. It’s time for our English lesson!

4. A: What time is it?
B: It’s half past ten. It’s time for our art lesson!

5. A: What time is it?
B: It’s quarter past two. It’s time for our music lesson!

6. A: What time is it?
B: It’s quarter to three. It’s time for our history lesson!

275

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงาน My study timetable โดยวาดตารางของตนเองข้นึ มา
แลว้ เขียนเวลาและวิชาทต่ี นเองเรียนลงไป โดยครูกาหนดให้มีเวลาที่ลงทา้ ยดว้ ย 15, 30 และ
45 นาที ดว้ ย เมื่อนกั เรียนทาตารางเสร็จแลว้ ให้จบั คู่กนั ฝึกพูดถาม-ตอบจนคลอ่ ง เสร็จแลว้
ให้นกั เรียนผลดั กนั ออกมาพดู ถาม-ตอบท่ีหนา้ ช้นั เช่น
S1: What time is it?
S2: It’s quarter past two. It’s time for our PE lesson!
S2: What time is it?
S1: It’s half past nine. It’s time for our maths lesson!
2. ให้นกั เรียนทาสมดุ สะสมคาศพั ท์ My subjects พร้อมวาดภาพประกอบดว้ ย เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียน
ตกแต่งใหส้ วยงาม แลว้ นามาส่งครู
3. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาศพั ทล์ งในสมุด และคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดทเ่ี รียนในบทน้นั เพม่ิ เติมอกี
4 คา และบอกความหมายดว้ ย จากน้นั ให้นกั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทท์ ่ีเรียนในชว่ั โมงน้ี
4. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 34 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น

Ex. 1

2. … is on Monday at 10:30. 3. … is on Tuesday at 9:15.
4. … is on Tuesday at 10:30. 5. … is on Wednesday at 9:15.
6. … is on Wednesday at 10:30.

276

Ex. 2 3. It’s quarter past two.
2. It’s quarter to nine.
4. It’s half past ten.

7. การวัดและประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดถาม-ตอบ แบบประเมนิ การพูด
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เก่ียวกบั เวลาและวิชาเรียน
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ งานเขียน แบบประเมินการเขียน
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
My study timetable ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการทาสมุดสะสม แบบประเมินช้ินงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
คาศพั ท์ My subjects

สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้

ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหัด

ตรวจสมดุ คาศพั ท์ สมุดคาศพั ท์

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook)

สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 อนิ เทอร์เนต็

277

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 He goes to school at nine o’clock.

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- พดู สนทนาเกี่ยวกบั วิชาที่ชอบได้
- แตง่ ประโยค Present simple tense บอกเลา่ กิจวตั รประจาวนั ได้
- ออกเสียงคากริยาเติม -s และ -es ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตุผล

ตวั ชี้วัด

ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ดั

6 ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มูล เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตัวชีว้ ัด

ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วดั

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษา

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

278

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง/พูดและอ่าน/เขยี นในสถานการณต์ ่าง ๆ ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
มาตรฐาน ต 4.2 และการแลกเปลีย่ นเรียนรู้กับสังคมโลก

ตัวชี้วดั ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ
ต 4.2 ป. 5/1

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างทใี่ ชใ้ นการขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั

และโครงสร้างทใี่ ชใ้ นการแสดงความคดิ เห็น ช่วยให้พดู สื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Adjectives) interesting, boring

Structure : Do you like history? Yes, I like history! It’s interesting. No, I don’t like

history! It’s boring!

Pronunciation: Pronouncing /s/ and /es/ at the end of verb

Functions: Talking about school subjects

Telling about the time

Giving information about daily routines

2) Language Skills

Speaking: พดู สนทนาเกี่ยวกบั วชิ าที่ชอบ

ออกเสียงคากริยาเตมิ s และ es

Writing: แตง่ ประโยค Present simple tense บอกเลา่ กิจวตั รประจาวนั

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 ม่งุ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 279

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั แลว้ ให้ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั วชิ าเรียนดว้ ยการเล่นเกม What’s

missing? โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลมุ่ ให้แตล่ ะกลมุ่ ต้งั ชื่อกลมุ่ และส่งตวั แทนออกมายืน

หนา้ ช้นั กลมุ่ ละ 1 คน ใหต้ วั แทนยืนหนั หลงั ใหก้ ระดาน ตอ่ มาครูนาบตั รคาวิชาเรียนต่าง ๆ เช่น

history, art, music, science และ English มาตดิ บนกระดาน คร้งั ละ 4 คา แลว้ ให้ตวั แทนหนั มาดู เพ่อื

จาคาศพั ท์ ครูให้เวลานกั เรียนจดจาคาศพั ทป์ ระมาณ 5 วนิ าที จากน้นั ครูดึงบตั รคาออก 1 คา แลว้ ให้

ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ หันมาดูอกี คร้ัง แลว้ บอกวา่ คาศพั ทใ์ ดหายไป เมอ่ื ตอบแลว้ ใหน้ กั เรียนทา 2-3

คร้งั โดยแตล่ ะกลุ่มเลอื กตวั แทนคนใหม่ แลว้ ออกมาทากิจกรรมทห่ี นา้ ช้นั

2. ทบทวนการพูดบอกเวลา โดยครูเตรียมบตั รภาพนาฬกิ าบอกเวลาตา่ ง ๆ เช่น 8.15, 1.30 และ 3.45

สุ่มแจกให้นกั เรียน จากน้นั ให้นกั เรียนพูดบอกเวลาตามบตั รภาพทไี่ ด้ เช่น

T: What time is it? S1: It’s quarter past eight.

T: What time is it? S2: It’s half past one.

ข้นั Presentation

1. ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน I eat breakfast every morning. ครูออกเสียงประโยคดงั กล่าว

ให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตามพร้อมกนั จากน้นั ครูขดี เสน้ ใตค้ าว่า eat แลว้ อธิบายวา่ โครงสร้างคือ

ประธาน + กริยาช่องท่ี 1. เป็นโครงสร้าง Present simple ที่เราใชพ้ ดู เก่ียวกบั เหตุการณ์ทเ่ี กิดข้นึ

เป็นปกติ หรือกิจวตั รประจาวนั

ต่อมาครูเขียน teach, wash, go, tidy บนกระดาน แลว้ อธิบายวา่ โดยปกตแิ ลว้ คากริยาที่ตามหลงั

ประธานเอกพจน์จะเติม -s ไดเ้ ลย เช่น eats, sleeps, walks, talks, plays, drinks แต่จะมีคากริยา

ส่วนหน่ึงทจี่ ะเติม -es ทา้ ยคากริยาน้นั ไดแ้ ก่ คากริยาท่ลี งทา้ ยดว้ ย s, sh, ch, x, z, และ o เช่น kisses,

washes, teaches, fixes, buzzes, goes ส่วนคากริยาท่หี นา้ y เป็นพยญั ชนะ เช่น study, tidy, fly, try ให้

เปลีย่ น y เป็น i แลว้ เติม -es เช่น studies, tidies, flies, tries เป็นตน้ ครูอาจเขียนตวั อยา่ งประโยค ดงั น้ี

She walks to school every day. He watches a movie every Saturday.

She tidies her room on Fridays.

การออกเสียง s หรือ es ทา้ ยคากริยา ออกเสียงไดด้ งั น้ี

1. ออกเสียง s เป็น /s/ เมอื่ คากริยาเหลา่ น้นั ลงทา้ ยดว้ ย /f/, /k/, /p/, /t/

ตวั อยา่ ง work → works sit → sits

280

2. ออกเสียง s เป็น /z/ เม่อื คากริยาน้นั ลงทา้ ยดว้ ยเสียงกอ้ ง (voiced)

ตวั อยา่ ง read → reads swim → swims

know → knows drive → drives

3. ออกเสียง s เป็นเสียง /iz/ เม่ือคากริยาน้นั ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /s/,/ʃ/, /t /, /dʒ/ และ /z/

ตวั อยา่ ง change → changes close → closes

kiss → kisses watch → watches

mix → mixes wash → washes

ทีม่ า: https://sites.google.com/site/presentsimpletenses/hlak-kar-teim-s-es/kar-xxk-
seiyng-verb-hlang-kar-teim-s-es

เมอ่ื อธิบายการเตมิ -s, -es หลงั คากริยาเสร็จแลว้ ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ี
I don’t eat breakfast every morning.

ให้นกั เรียนออกเสียงพร้อมครู จากน้นั ครูขดี เสน้ ใต้ don’t eat แลว้ อธิบายว่า ประโยคดงั กล่าวเป็น
ประโยคปฏิเสธ มโี ครงสร้างคือ ประธาน + doesn’t/don’t + กริยารูป base form (ช่องท่ี 1). โดย
doesn’t (does not) จะตามหลงั ประธานที่เป็นเอกพจน์ เช่น He, She, It ส่วน don’t (do not) จะตาม
หลงั ประธานทีเ่ ป็นพหูพจน์ เช่น We, They, You รวมท้งั I ครูเขยี นตวั อยา่ งให้ดูเพิ่มเติม ดงั น้ี

He doesn’t eat breakfast every morning. She doesn’t eat breakfast every morning.
You don’t eat breakfast every morning. They don’t eat breakfast every morning.

ประโยค Present simple มกั จะมีคากริยาวเิ ศษณบ์ อกความถี่ (adverbs of frequency)
เช่น every day, every week, always โดยจะวางไวก้ ่อนกริยาแท้ หรือทา้ ยประโยค
เพื่อบอกกิจวตั รประจาวนั เช่น

I always go to school at 7 o’clock. She cleans her room every week.
We study English every Monday.

2. ครูสุ่มถามนกั เรียนวา่ Do you eat breakfast at 7 o’clock? เม่ือนกั เรียนตอบว่า Yes, I do. หรือ
No, I don’t. ครูเขียนคาถามดงั กลา่ วบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปโครงสร้างประโยค
คาถาม คอื Does/Do + ประธาน + กริยารูป base form (ช่องที่ 1)? ครูอธิบายเพ่มิ เติมวา่ เราจะนากริยา
Does หรือ Do มาช่วยในการแตง่ ประโยคคาถาม จากน้นั ใหน้ กั เรียนอธิบายว่า Does และ Do ใชก้ บั
ประธานอะไรบา้ ง เพอ่ื ทบทวนความเขา้ ใจของนกั เรียน ต่อมาครูเขียนคากริยาอกี 3-4 คา ไดแ้ ก่
study, drink, sleep, play แลว้ ให้ช่วยกนั แตง่ ประโยคคาถาม เช่น

281

Does he study English? Yes, he does. / No, he doesn’t.

Do you drink cola? Yes, I do. / No, I don’t.

Do they sleep at 10 o’clock? Yes, they do. / No, they don’t.

Does she play the piano? Yes, she does. / No, she doesn’t.

สุดทา้ ยให้นกั เรียนดกู รอบ Grammar ในหนงั สือเรียน หนา้ 41 พร้อมกนั แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน

อา่ นประโยคในกรอบ ครูสรุปโครงสร้างประโยคบอกเลา่ ปฏิเสธ และคาถามให้นกั เรียนฟังอกี คร้ัง

ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ หไ้ ปศึกษาหลกั การใช้ Present simple tense เพิม่ เติม ดงั น้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/grammar-practice/present-simple-and-
present-continuous
https://www.dailyenglish.in.th/present-simple-tense/

3. ครูใหน้ กั เรียนดูตวั อยา่ งบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 41 ดงั น้ี
A: Do you like history?
B: Yes, I like history! It’s interesting!
C: No, I don’t like history! It’s boring!

ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3 คน ออกมายนื หนา้ ช้นั เป็น A, B และ C ให้นกั เรียนท้งั 3 คน สนทนาให้
นกั เรียนที่เหลือฟัง จากน้นั ครูบอกวา่ โครงสร้าง Do you like…? ใชถ้ ามวา่ คุณชอบ... หรือไม่
เช่น Do you like history? (คณุ ชอบวิชาประวตั ศิ าสตร์หรือไม)่ เวลาตอบ เราจะตอบว่า Yes, I like
history. หรือ No, I don’t like history. พร้อมกบั บอกเหตผุ ล เช่น It’s interesting. (มนั น่าสนใจ)
It’s boring. (มนั น่าเบ่ือ) เสร็จแลว้ ครูถามวา่ นอกจากคาวา่ interesting และ boring แลว้ มีคาคณุ ศพั ท์
คาอนื่ ทใี่ ชบ้ รรยายวชิ าเรียนอีกหรือไม่ ครูรวบรวมคาศพั ทจ์ ากนกั เรียนมาเขยี นบนกระดาน เช่น
difficult (ยาก), easy (ง่าย), useful (มปี ระโยชน)์ และ fun (สนุก)

interesting และ interested เป็นคาคณุ ศพั ทเ์ ช่นเดียวกนั แต่มีความหมายไมเ่ หมือนกนั

โดย interesting มีความหมายวา่ น่าสนใจ ส่วน interested มคี วามหมายว่า รู้สึกสนใจ

เช่น History is interesting. (วชิ าประวตั ิศาสตร์น่าสนใจ)

I’m interested in history. (ฉันรู้สึกสนใจวชิ าประวตั ศิ าสตร์)

เช่นเดียวกบั คาว่า boring และ bored โดย boring มคี วามหมายว่า น่าเบ่ือ ส่วน bored

มีความหมายวา่ รู้สึกเบ่อื

282

เช่น Science is boring. (วชิ าวิทยาศาสตร์น่าเบือ่ )

I’m bored. (ฉนั รู้สึกเบ่อื )

นอกจากน้ียงั มคี าว่า excited (รู้สึกตน่ื เตน้ ) และ exciting (น่าตืน่ เตน้ )

เช่น I’m excited to see the film. (ฉันรู้สึกตน่ื เตน้ ทจ่ี ะไดช้ มภาพยนตร์)

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 41 Ex. 3 ครูอธิบายว่า ใหน้ กั เรียนดูภาพ แลว้ บอกกิจวตั รประจาวนั ของบุคคล
ในภาพ โดยเปลี่ยนคากริยาในวงเล็บให้อยูใ่ นรูปทถ่ี กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ โดยสุ่มเรียก
นกั เรียนอา่ นประโยค 1-5 ให้นกั เรียนท่เี หลือฟัง ครูเขียนคาตอบท่ถี กู ตอ้ งบนกระดาน

1. gets up 2. eats 3. goes 4. doesn’t go 5. visits

Weak classes: กอ่ นให้นกั เรียนทากิจกรรมดว้ ยตนเอง ครูทบทวนว่า ถา้ ประธานเป็นเอกพจน์
เช่น He, She, It เราจะเติม -s หรือ -es หลงั คากริยาท่ตี ามหลงั ประธาน ถา้ ประธานเป็นพหูพจน์
เช่น You, We, They ให้คงรูปกริยาไว้ ไม่ตอ้ งเติม -s หรือ -es ถา้ เป็นประโยคปฏิเสธ เราจะใช้
does not กบั ประธานเอกพจน์ ส่วน do not จะใชก้ บั ประธานพหูพจน์ แลว้ ตามดว้ ยคากริยารูป
base form ครูอาจทาขอ้ 1 ใหน้ กั เรียนดูเป็นตวั อยา่ ง
2. หนังสือเรียน หน้า 41 Ex. 4 ครูอา่ นบทสนทนาใหน้ กั เรียนฟังและออกเสียงตาม จากน้นั ใหน้ กั เรียน
จบั คู่กบั เพื่อน ฝึกสนทนาตามตวั อยา่ ง โดยเปลย่ี นจาก history เป็นวิชาอืน่ เช่น English, PE, art และ
music ให้เวลานกั เรียนฝึกสนทนาจนคลอ่ ง แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาสนทนาทีห่ นา้ ช้นั

A: Do you like music?
B: Yes, I like music! It’s interesting!

A: Do you like science?
B: No, I don’t like science! It’s boring! etc.

283

3. หนังสือเรียน หน้า 41 หวั ข้อ Go Green ครูเขยี น Earth Day บนกระดาน จากน้นั ถามนกั เรียนว่า รู้จกั
Earth Day หรือไม่ ถา้ นกั เรียนไม่รู้จกั ครูอธิบายวา่ Earth Day คอื วนั รักษโ์ ลก จดั ข้นึ วนั ท่ี 22
เมษายนของทกุ ปี (Earth Day is a special day that celebrates the Earth, celebrated on April 22)
ตอ่ มาให้นกั เรียนแบง่ เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน คิดกิจกรรมทม่ี กั จะทาในวนั Earth Day ครูเขยี น
คาตอบของนกั เรียนบนกระดาน เช่น plant trees (ปลูกตน้ ไม)้ , recycle (นาของเก่ากลบั มาใชใ้ หม)่ ,
switch off the lights (ปิ ดไฟ) และ save water (ประหยดั น้า)

4. ครูเตรียมบตั รคากริยา เช่น go, eat, drink, ride, watch, wash, clean, work, cook และลูกบอลยาง 1 ลูก
หรือลกู บอลทที่ าจากกระดาษ จากน้นั แจกบตั รคาให้นกั เรียนคนละ 1 ใบ แลว้ บอกว่า ครูจะสุ่มโยน
ลกู บอล ให้นกั เรียนท่ีรับลูกบอลพดู ประโยค Present simple โดยใชค้ ากริยาทไี่ ดม้ าแต่งประโยค เช่น
S1: I drink milk every day.
S2: My mom cooks food in the morning.
S3: I wash my dog on Sundays.
S4: My brother goes to bed at 10 o’clock.
ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนนกั เรียนเขา้ ใจหลกั การแตง่ ประโยค Present simple tense

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทาช้ินงาน My everyday life โดยใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยคบอกเลา่
เก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั ของตนเอง คนละ 5 ประโยค เช่น ตน่ื นอนเวลาใด รับประทานอาหารเช้า
เวลาใด ไปโรงเรียนเวลาใด เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนสลบั ช้ินงานของตนเองกบั เพื่อน เพื่อช่วยกนั
ตรวจสอบความถกู ตอ้ งดา้ นต่าง ๆ เช่น ไวยากรณ์ การสะกดคา เคร่ืองหมายวรรคตอน สุดทา้ ยครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมาอ่านประโยคทีต่ นเองแตง่ ให้เพอื่ นฟัง เช่น
I get up at half past six. I eat breakfast at seven. I go to school at half past seven.
I have English class at quarter past eleven. I finish school at half past three.
2. ครูให้นกั เรียนคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดท่ีเรียนในบทน้ีเพ่มิ เตมิ อกี 4 คา และบอกความหมายดว้ ย
จากน้นั ให้นกั เรียนบนั ทึกคาศพั ทล์ งในสมุดคาศพั ท์
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 35 Exs. 3-5 เป็นการบา้ น

284

Ex. 3 3. works 4. visits 5. does
7. flies 8. goes
2. teaches
6. eats

Ex. 4 3. play 4. don’t like 5. loves
2. doesn’t go
6. doesn’t play

Ex. 5 3. Does she listen, she does
2. Does he play basketball, he doesn’t
4. Does he tidy, he doesn’t

7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ การพูดสนทนาวิชาทช่ี อบ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการแต่งประโยค Present
simple บอกเลา่ กิจวตั รประจาวนั แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคากริยาเตมิ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
s และ es แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น อนั พึงประสงค์
ตรวจแบบฝึ กหัด
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.4 ลูกบอลยางหรือลกู บอลทีท่ าจากกระดาษ
8.5 อนิ เทอร์เน็ต

285

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 What do you do in the science lesson?

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียงคาควบกล้า dr ได้
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมท่ที าในแต่ละช่วงเวลาได้
- แตง่ บทสนทนาเก่ียวกบั กิจกรรมทีท่ าในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตุผล

ตัวชีว้ ดั

ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ที่ฟังหรืออ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วัด

ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล

7 ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชี้วดั

ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

286

ตวั ชี้วัด

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษา

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง/พดู และอา่ น/เขียนในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่เี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กับสังคมโลก

ตัวชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างทีใ่ ชใ้ นการขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมท่ที า

ช่วยให้พดู ส่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Verbs) drop, shake, add, open

(Phrases) do experiments, do homework, go to bed

Structure: What do you do in the Science lesson? We do experiments.

Pronunciation: blend (cluster) /dr/

Function: talking about daily routines

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมท่ีทาในแตล่ ะช่วงเวลา

Writing: แตง่ บทสนทนาเก่ียวกบั กิจกรรมท่ที าในช่วงเวลาตา่ ง ๆ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 287

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน Good morning. How are you today? เมอ่ื นกั เรียนพูดตอบ ครูถามนกั เรียน

วา่ ถา้ จะพดู ว่าเราสบายดี จะพูดไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน เช่น I’m good.

I’m fine. I’m OK. และ I’m great.

2. ทบทวนเวลาในช่วงตา่ ง ๆ โดยครูถามนกั เรียนว่า เวลาในช่วงเชา้ เราพดู เป็นภาษาองั กฤษว่า

อยา่ งไร เม่ือไดค้ าตอบว่า morning ครูถามช่วงเวลาอ่นื ๆ เช่น เทีย่ ง (at noon), บ่าย (afternoon),

เยน็ (evening) และกลางคนื (at night) สุดทา้ ยครูอธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ เราจะใชค้ าบพุ บท (preposition)

in กบั morning, afternoon และ evening ส่วน at เราจะใชบ้ อกเวลาทเี่ ฉพาะเจาะจง เช่น เวลา

เท่ยี งตรง หรือเวลากลางคืน

3. ทบทวนโครงสร้าง Present simple tense โดยครูแจกบตั รคากริยา เช่น drink, eat, jump, run, drive,

ride, study, do homework และ sleep ใหน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ จากน้นั ครูอธิบายวา่ ให้นกั เรียน

แตง่ ประโยค Present simple โดยใชค้ ากริยาทีไ่ ด้ คนละ 1 ประโยค เม่อื อธิบายเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก

นกั เรียนพูดประโยคท่ตี นเองแต่ง เช่น

I drive to school every day. I drink milk every night.

I study PE on Fridays. I do homework after school.

สานวนทใี่ ชบ้ อกวา่ ทาการบา้ น เราจะใช้ do กบั homework เทา่ น้นั ไมใ่ ชค้ าวา่ make
homework เพราะ do homework เป็นคาท่ปี รากฏร่วมกนั (collocation) เช่นเดียวกบั
do (my) hair (ทาผม), do the shopping (ซ้ือของ) และ do the laundry (ซกั ผา้ )

ให้นกั เรียนไปศกึ ษาคาท่ปี รากฏคกู่ นั (collocation) เพม่ิ เตมิ จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.englishclub.com/vocabulary/collocations-common.htm
https://www.espressoenglish.net/difference-between-do-and-make-60-collocations/

288

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั การทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ ไดแ้ ก่ drop (หยด), open (เปิ ด), shake (เขยา่ )
และ add (เตมิ ) โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน พร้อมบอกความหมาย ครูออกเสียงแตล่ ะคา
ใหน้ กั เรียนฟังและฝึกออกเสียงตาม 2 คร้งั จากน้ันครูนาขวดพลาสติกหรือขวดแกว้ 2 ขวด ที่มนี ้า
อยคู่ ร่ึงขวดมาแสดงท่หี นา้ ช้นั จากน้นั ครูบอกนกั เรียนวา่ Everyone, we are going to do an
experiment today. Are you ready? OK, watch me. First, I will take a bottle of water from the table
and open it. Then, I will drop colour in it and shake shake shake! (ทาท่าทางเขยา่ ). I will add it in
another bottle. Look, the water turns blue! เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนลองออกมาทดลองดว้ ยตนเอง
2. ใหน้ กั เรียนดคู าวา่ drop บนกระดาน จากน้นั ครูอธิบายว่า drop เกิดจากการออกเสียง /d/ และ /r/
ควบกนั เป็นเสียงท่คี นไทยออกเสียงยาก เพราะไมม่ รี ะบบเสียงน้ีในภาษาไทย คนไทยมกั จะ
ออกเสียง /d/ โดยไมม่ ีเสียง /r/ ควบ ทาให้การออกเสียงไม่เป็นธรรมชาติเทา่ ทีค่ วร นอกจากคาวา่
drop ยงั มคี าอืน่ อกี เช่น
draw dream drink drum
drive dry drip dress

ครูเปิ ดคลปิ วดิ ีโอชื่อ Fun Word Pattern "dr" (Fun Phonics) ให้นกั เรียนฝึกออกเสียงพยญั ชนะ
ควบกล้า dr จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=AiEp0iGOWHQ
หรือครูเขา้ ไปท่ีเวบ็ ไซต์ www.youtube.com แลว้ พิมพค์ าสาคญั (key word) เช่น
dr fun phonics ในช่องคน้ หา
3. ครูสุ่มถามนกั เรียนวา่ What do you do in the morning? แลว้ รวบรวมคาตอบของนกั เรียน เขยี นบน
กระดาน เช่น take a shower, watch TV, eat breakfast, get dressed, cook food ครูอธิบายว่า
โครงสร้าง What do you do in/at + ช่วงเวลา? ใช้ถามว่า คณุ ทากิจกรรมอะไรในวชิ าช่วงเวลาน้นั ๆ
เวลาตอบ จะตอบโดยใชโ้ ครงสร้าง ประธาน + กริยา (s, es). ซ่ึงเป็นโครงสร้าง Present simple
ที่บอกสิ่งท่ีเราทาเป็นประจา จากน้นั ครูช้ีท่ตี วั อยา่ งบนกระดาน แลว้ พูดวา่ I take a shower. แลว้ ให้
นกั เรียนฝึกออกเสียงตาม เมอ่ื นกั เรียนพูดไดค้ ลอ่ งแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมายืนทห่ี นา้ ช้นั 1 คู่
เพอื่ สลบั กนั ถาม-ตอบเป็นตวั อยา่ งใหน้ กั เรียนทเ่ี หลือฟัง เช่น

S1: What do you do in the morning?
S2: I eat breakfast.
S2: What do you do in the afternoon?
S1: I read a comic book.

289

กิจกรรมเพ่มิ เตมิ
ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพกิจวตั รประจาวนั ไดจ้ ากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-daily-routines.pdf
จากน้นั ครูสุ่มแจกบตั รภาพใหน้ กั เรียนแตล่ ะคน แลว้ ให้นกั เรียนพูดบอกกิจวตั รประจาวนั ของบุคคล
ในภาพ เช่น

S: (แสดงภาพเดก็ หญงิ กาลงั จะเขา้ นอน)
T: What does she do?
S: She goes to bed.

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 42 Ex. 5 ครูอธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนดูคากริยาดา้ นบนท้งั 4 คา จากน้นั ให้นกั เรียน
ดูภาพท่ี 1 แลว้ ใหน้ กั เรียนเตมิ คากริยาท่ีสัมพนั ธก์ บั ภาพลงไป คอื คาว่า shake ครูทากิจกรรมน้ีกบั
ภาพทเ่ี หลือดว้ ย เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD 1 คร้ัง ใหน้ ักเรียนฟังและดูตาม ครูเปิ ด CD อกี คร้ัง
ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตามพร้อมกนั
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 50 Exs. 6-7 ร่วมกนั ในช้นั เรียน

1. shake 2. open 3. watch me
4. drop 5. take 6. add

1. shake 2. open 4. drop 6. add

3. หนังสือเรยี น หน้า 42 Ex. 6 ครูให้นกั เรียนดูตวั อยา่ งบทสนทนาในหนงั สือเรียน แลว้ อ่านบทสนทนา
ดงั กล่าวให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม จากน้นั ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนจบั ค่กู บั เพื่อนฝึกพดู
สนทนาตามตวั อยา่ ง โดยเลอื กใชข้ อ้ มลู ในขอ้ 1-4 ระหวา่ งท่นี กั เรียนฝึกพดู ครูเดินรอบ ๆ หอ้ ง
เพอ่ื สงั เกตวา่ นกั เรียนออกเสียงไดถ้ ูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ออกเสียงไม่ถกู ตอ้ ง ครูให้นกั เรียนฝึกพูดคาท่ี
นกั เรียนมปี ัญหาจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คู่ ออกมาสนทนาท่ีหนา้ ช้นั เช่น
S1: What do you do in the afternoon?
S2: We do our homework.

290

1. A: What do you do in the morning?
B: We eat breakfast.

2. A: What do you do in the afternoon?
B: We do our homework.

3. A: What do you do in the evening?
B: We watch TV.

4. A: What do you do at night?
B: We go to bed.

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทางานคู่ แตง่ บทสนทนาเกี่ยวกบั กิจกรรมที่ทาในช่วงเวลาตา่ ง ๆ
โดยกิจกรรมตอ้ งไม่ซ้ากบั กิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 42 Ex. 6 ครูกาหนดวา่ แตล่ ะคู่ตอ้ งถาม
กิจกรรมท่ีทาใน 2 ช่วงเวลาข้นึ ไป เช่น ตอนเชา้ ตอนเยน็ ตอนกลางคนื ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพูด
จนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคู่ผลดั กนั ออกมาสนทนาที่หนา้ ช้นั เช่น
S1: What do you do in the evening?
S2: I play games with my brother. What do you do at night?
S1: I listen to music.
2. ครูให้นกั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หม่ทีเ่ รียนในชวั่ โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมุดคาศพั ท์
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 36 Exs. 6-7 ร่วมกนั ในช้นั เรียน

Ex. 7 Hello! Can I ask you some questions, please?
Male: Yes, of course.
Female: What’s your name?
Male: Angela.
Female: Angela? Can you spell that, please?
Male: A-N-G-E-L-A
Female: OK.
Male:
291

Narrator: Can you see the answer? This is an example. Now, listen and write.
Male: How old are you, Angela?
Female: I’m eleven.
Male: Eleven? Alright.
Male: And what’s your favourite subject at school?
Female: My favourite subject … let me see … Music!
Male: Do you like Music?
Female: Yes, I love Music!
Male: And what time do you start school?
Female: I always start school at eight o’clock in the morning.
Male: At eight?
Female: Yes. I start school at eight o’clock.

Ex. 6 3. drops 4. bottle 5. shake
2. blue 3. music
4. eight o’clock (in the morning)
Answer: purple

Ex. 7
2. eleven

292

7. การวดั และประเมินผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มลู แบบประเมนิ การพูด
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั กิจกรรมท่ีทา
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ในแตล่ ะช่วงเวลา ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการแตง่ บทสนทนา แบบประเมินการเขยี น

เกี่ยวกบั กิจกรรมทท่ี า

ในช่วงเวลาต่าง ๆ

สงั เกตการออกเสียงคาควบกล้า /dr/ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook)

สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

และม่งุ มน่ั ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อนิ เทอร์เน็ต

293

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 They always have science on Mondays.

เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ใชค้ ากริยาวิเศษณบ์ อกความถ่ี (adverbs of frequency) กบั กิจกรรมที่ทาได้
- ใชค้ าบพุ บท (prepositions) เพ่อื บอกเวลาได้
- แต่งประโยคบอกความถ่ขี องกิจกรรมทีต่ นเองทาในแตล่ ะวนั ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ที่ฟังหรืออ่าน

ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน

งา่ ย ๆ หรือเรื่องส้นั ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบคุ คล

ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มูล เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

294

ตัวชีว้ ดั

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษา

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง/พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณต์ ่าง ๆ ทีเ่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั คากริยาวิเศษณ์บอกความถี่ คาบุพบทบอกเวลา และโครงสร้างท่ีใช้

ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมที่ทาในแต่ละวนั ช่วยให้พูด/อ่าน และเขียนส่ือสารในชีวติ ประจาวนั
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: shake, open, watch me, drop, take, add, experiment

Structure: They always have Science on Mondays. They never eat breakfast at

noon. Blake always watches TV in the evening!

Function: Talking about daily routines

2) Language Skills

Speaking: พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ความถี่ของการทากิจกรรมต่าง ๆ

ใชค้ าบพุ บทบอกเวลา

Writing: แตง่ ประโยคบอกความถข่ี องกิจกรรมท่ตี นเองทาในแต่ละวนั

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคิด
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้

295


Click to View FlipBook Version