แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.5

ภาพวาด Starry Night เป็นภาพวาดของ Vincent van Gogh ศิลปิ นแนว post-
impressionism ชาวดตั ช์ เป็นภาพวาดแนวทศั นียภาพ ในภาพแสดงใหเ้ ห็นทศั นียภาพ
จากหอ้ งของเขาในเมือง Saint Rémy ช่วงก่อนที่พระอาทิตยข์ ้ึน โดยมีฉากหลงั เป็น
หมบู่ า้ นและตน้ ไซเปรสอยทู่ างดา้ นซา้ ย ปัจจบุ นั ภาพวาด Starry Night ไดร้ บั การจดั
แสดงทพี่ พิ ิธภณั ฑศ์ ลิ ปะสมยั ใหม่ (Museum of Modern Art) เมอื งนิวยอร์ก ประเทศ
สหรัฐอเมริกา

ภาพวาด Four Dancers เป็นภาพวาดของ Edgar Degas ศลิ ปิ นชาวฝรัง่ เศส เป็นภาพวาด
แนว portrait ในภาพเป็นนกั เตน้ บลั เลต์ 4 คน ภาพวาดน้ีไดร้ ับการจดั แสดงทห่ี อศิลป์
แห่งชาติ (National Gallery of Art) กรุงวอชิงตนั ดีซี ประเทศสหรฐั อเมริกา

ภาพวาด Green Apples เป็นภาพวาดของ Paul Cézanne ศิลปิ นแนว post-impressionism
ชาวฝรง่ั เศส ภาพวาดสีน้ามนั Green Apples ของเขาเป็นแนว Still life ซ่ึงเป็นภาพ
แอปเปิ ลเขยี ว ภาพวาดน้ีไดร้ บั การจดั แสดงท่พี ิพิธภณั ฑศ์ ิลปะแห่งมหานครนิวยอร์ก
(Metropolitan Museum of Art) ประเทศสหรัฐอเมริกา
ท่มี า: https://en.wikipedia.org/wiki/The_Starry_Night

https://www.nga.gov/Collection/art-object-page.46597.html
https://www.1000museums.com/art_works/paul-cezanne-green-apples

กจิ กรรมเพ่มิ เติม
ครูนาภาพวาดของศลิ ปิ นท่านอนื่ ๆ ที่มีแนวภาพวาดแตกต่างกนั มาแสดงให้นกั เรียนดู แลว้ ให้
นกั เรียนบอกวา่ ภาพวาดดงั กล่าวเป็นภาพวาดแนวใด เช่น ภาพวาดแนว portrait ชื่อ Girl with a Pearl
Earring ของ Johannes Vermeer, ภาพวาดแนว landscape ช่ือ The Harvesters ของ Pieter Brueghel,
ภาพวาดแนว still life ช่ือ Breakfast Table with Blackberry Pie ของ Willem Claeszoon Heda และ
ภาพวาดแนว abstract ช่ือ Woman V, 1953 โดย Willem de Kooning
ทมี่ า: https://en.wikipedia.org/wiki/Girl_with_a_Pearl_Earring

https://en.wikipedia.org/wiki/The_Harvesters_(painting)
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Heda,_Willem_Claeszoon_-
_Breakfast_Table_with_Blackberry_Pie_-_WGA.jpg
https://nga.gov.au/exhibition/abstractexpress/Default.cfm?IRN=47761&
BioArtistIRN=25281&MnuID=3&GalID=2&ViewID=2

346

ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หม่ทเ่ี รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์
2. แบบฝึ กหัด 71 หวั ข้อ Project Time ครูนาชามใส่ผลไมม้ าวางไวท้ ่ีหนา้ ช้นั จากน้นั ครูแจกกระดาษ
A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น พร้อมพู่กนั และสีน้า แลว้ อธิบายภาระงานวา่ ให้นกั เรียนวาดภาพแนว
still life ของตนเอง ครูให้เวลานกั เรียนวาดภาพและตกแต่งใหส้ วยงาม เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนนา
ภาพวาดของตนเองมาจดั แสดงนิทรรศการ

7. การวัดและประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั แบบประเมินการพดู
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ภาพวาด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานภาพวาด still life แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook)

สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

และมงุ่ มนั่ ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 ภาพวาดของศลิ ปิ นตา่ ง ๆ
8.3 อนิ เทอร์เนต็

347

5 Jobs

ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 5 เวลาเรียน 13 ชั่วโมง
11...

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตวั ชี้วดั

ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ิตามคาส่งั คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ทฟี่ ังและอ่าน

ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

ต 1.1 ป. 5/4 และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น
บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนิทาน

ง่าย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล

ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั

ต 1.2 ป. 5/5 พดู /เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ

พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชีว้ ัด

1 ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

2 ต 1.3 ป. 5/3 พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั

348

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้

ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

3 ตัวชีว้ ัด

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 5/2 ตอบคาถาม/บอกความสาคญั ของเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความ

เป็นอยงู่ ่าย ๆ ของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถกู ต้อง

ตัวชีว้ ดั

ต 2.2 ป.5/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น

พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

1 ตัวชีว้ ัด

ต 3.1 ป. 5/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และนาเสนอ

ดว้ ยการพูด/การเขยี น

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

2 ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอา่ น/เขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ ทีเ่ กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กับสังคมโลก

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ

349

2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั สานวนภาษาท่ใี ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั วิชาเรียนและเวลา การขอและให้

ขอ้ มลู เก่ียวกบั อาชีพ งานอดิเรก กิจวตั รประจาวนั และกิจกรรมทีช่ อบและไมช่ อบทา รวมท้งั โครงสร้างที่ใช้
บอกอาชีพทอี่ ยากทาในอนาคต รวมท้งั การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั บทอ่าน ช่วยให้เขา้ ใจเร่ืองทอี่ ่าน
ช่วยใหพ้ ดู สื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม และการรู้เก่ียวกบั พิพิธภณั ฑว์ ิทยาศาสตร์ในภูมิภาคอาเซียน
และคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ ง ช่วยใหเ้ ขา้ ใจแหล่งการเรียนรู้ในประเทศภมู ิภาคอาเซียนมากข้นึ และการรู้และเขา้ ใจ
คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั การอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม ช่วยใหพ้ ูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สาระการเรียนรู้อ่นื ได้

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Jobs) firefighter, vet, baker, farmer, bus driver, postman, pilot, DJ,

teacher, flight attendant, doctor

(Phrases) drive buses, fly planes, make bread, grow vegetables, deliver

letters, play music, take a photo, collect coins, pour on, look after,

pick up

(Nouns) clown, photographer, clown, people, fire engine, engine,

school trips, tents, campsites, barbeque, camp fire, adventures,

knowledge, leader, passenger, electricity, environment

(Verbs) grow, fetch, go out, go away, share, recycle, plant trees, litter,

drop, save

(Adjectives) burning, kind, patient, creative, healthy, calm, confident,

brave, caring, responsible

(Activities) canoeing, sailing, fishing, horse riding

Structure: I’m a bus driver. I drive buses.

She usually plays the piano.

She is playing the guitar today.

A postman delivers letters!

What do you like doing?

I like watching TV but I don’t like going to bed.

350

Pronunciation: He likes playing basketball. What do you want to be?
I want to be a firefighter!
Why? Because I like helping people!
What do firefighters do? Well, we fight fires!
Why do you want to be a firefighter?
Because I like helping people and I want to drive a fire engine.
Mr Mills is our postman.
He delivers letters to all the people in our street.
In his free time, Mr Mills collects coins!
London’s burning. Fetch the engine!
Pour on water!
Children in the UK like going on school trips.
They can try lots of outdoor activities, for example canoeing, sailing,
fishing, climbing or horse riding.
My name is Brandon Lee. I’m from Singapore.
My dream job is a teacher because I like teaching very much.
I’m Weena Rakthai. I live in Bangkok, Thailand. I want to become
a flight attendant in the future because I like travelling and meeting
new people!
What do you want to be in the future?
I want to be a … because …
Help the environment! Plant trees or flowers!
Don’t drop litter! Save electricity! Ride a bike or walk! Recycle!
Look after the animals! Save water!
Stressing words more than one syllable
Word stress
Blend (cluster) /kl/
Blend (cluster) /gr/
Pronouncing words ending with /ks/ sound
Linking sounds
/ə/ vowel

351

Function: Pronouncing vocabularies in the song
2) Language Skills Talking about jobs and daily routines
Talking about likes and dislikes, free time activities and future jobs
Listening: Reading and talking about school trips in the UK
Speaking: Talking about ways to help the environment

Reading: ฟังเพื่อความเขา้ ใจ
Writing: ตอบคาถามจากการฟัง
พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาชีพ
3) Culture: พูดให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั สิ่งที่ชอบและสิ่งท่ีไมช่ อบ
พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั อาชีพทีอ่ ยากทาในอนาคต พร้อมบอกเหตผุ ล
แสดงบทสนทนาในเน้ือเร่ือง
พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพ งานอดิเรก และกิจวตั รประจาวนั
พดู นาเสนอเกี่ยวกบั การเดินทางไปทศั นศึกษากบั โรงเรียนในประเทศของ
ตนเอง
พูดให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั วธิ ีการอนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ ม
ตอบคาถามจากการอ่าน
เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อาชีพและกิจกรรมท่ีทา
เขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีชอบทา
เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อาชีพ งานอดิเรก และกิจวตั รประจาวนั ของบคุ คล
ใกลต้ วั
เขยี นอีเมลถงึ เพื่อนเกี่ยวกบั อาชีพในฝันของตนเอง
เขียนเล่ากิจวตั รประจาวนั ของผอู้ ่ืน
เขียนส่ิงท่ีตนเองสามารถทาเพ่ือช่วยอนุรกั ษส์ ่ิงแวดลอ้ ม
เหตกุ ารณไ์ ฟไหมใ้ นกรุงลอนดอน ค.ศ. 1666

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

352

5 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มนั่ ในการทางาน

6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาชีพ
2. ประเมินชิ้นงาน The Jobs และ How to save environment
3. จบั คู่ภาพกบั คาศพั ท์
4. ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน และแบบฝึกหดั
5. ประเมนิ การเขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั อาชีพและกิจกรรมทที่ าและชอบทา และงานอดิเรก
6. สังเกตการออกเสียงคากริยาทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /kl/, คาศพั ทท์ ่ลี งทา้ ยดว้ ยเสียง /ks/, /tʃ/ และคาศพั ท์
เสียงสระ /ə/
7. ประเมนิ การพดู ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สิ่งทชี่ อบและส่ิงท่ไี มช่ อบ และอาชีพทีอ่ ยากทาในอนาคต
พร้อมบอกเหตผุ ล
8. ประเมินช้ินงานสมดุ คาศพั ทท์ ่ีข้ึนตน้ ดว้ ยเสียงควบกล้า /gr/, คาศพั ทท์ ่ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /ks/
และคาศพั ทเ์ สียงสระ /ə/
9. ชิ้นงานสมุดคาศพั ทท์ ่ีข้นึ ตน้ ดว้ ยเสียงควบกล้า /gr/, คาศพั ทท์ ล่ี งทา้ ยดว้ ยเสียง /ks/ และคาศพั ท์
เสียงสระ /ə/
10. ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ
11. ประเมนิ การพูดนาเสนอการสัมภาษณ์เกี่ยวกบั อาชีพ
12. สังเกตการร้องเพลง การออกเสียงคาศพั ท์ และประโยคในเน้ือเร่ืองและบทความ
13. ประเมนิ งานเขียน School trips in my country
14. ประเมินการพดู ใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีชอบทามาก กิจกรรมที่คอ่ นขา้ งชอบ และกิจกรรม
ทไี่ มช่ อบทา
15. ประเมนิ การเขยี นอีเมลถึงเพอื่ นเก่ียวกบั อาชีพในฝันของตนเอง และการเขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั
กิจวตั รประจาวนั ของผอู้ ่นื
16. สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่เรียนรู้และมุ่งมน่ั ในการทางาน

353

7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1) ประเมินการมีส่วนร่วมในช้นั เรียน
2) ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.2 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ช้ินงานตามหัวขอ้ ทก่ี าหนด

8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 กล่องกระดาษ
8.6 บตั ร Story Cutouts
8.7 กระดาษ post it
8.8 อนิ เทอร์เนต็
8.9 พจนานุกรมออนไลน์

354

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 Jobs เวลา 1 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาชีพได้
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟังหรืออา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ัด

ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตัวชีว้ ดั

4 ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ัด

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

355

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั สานวนภาษาทใ่ี ชข้ อและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั วชิ าเรียนและเวลา ช่วยใหพ้ ูด

ส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Jobs) firefighter, vet, baker, farmer, bus driver, postman, pilot, DJ

(Phrases) drive buses, fly planes, make bread, grow vegetables,

deliver letters, play music

Structure: I’m a bus driver. I drive buses.

Pronunciation: Stressing words more than one syllable

Function: Talking about jobs and daily routines

2) Language Skills

Listening: ฟังเพ่อื ความเขา้ ใจ

Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั อาชีพ

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูและนกั เรียนทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั วิชาเรียนดว้ ยการเล่นเกม Chain โดยครูอธิบายกติกาว่า ให้นกั เรียนคนแรก

พดู คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั วชิ าเรียน 1 คา นกั เรียนคนถดั ไปพดู คาศพั ทท์ เ่ี พ่ือนคนแรกพูดและคาศพั ทข์ อง
ตนเอง เช่น

356

S1: Art
S2: Art, history
S3: Art, history, English
S4: Art, history, English, PE
S5: Art, history, English, PE, music
S6: Art, history, English, PE, music, maths
ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมเช่นน้ีไปเร่ือย ๆ จนกวา่ จะมนี กั เรียนท่ีจาคาศพั ทไ์ ม่ได้
3. ทบทวนการบอกเวลาและกิจวตั รประจาวนั ดว้ ยการเล่นเกม Noughts and Crosses หรือ OX ในไทย
โดยครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม จากน้นั ครูวาดตาราง 9 ช่อง บนกระดาน แลว้ เขียนเวลาต่าง ๆ
เช่น 9.00, 10.15, 3.45, 4.30, 7.45, 6.30, 11.30, 1.15, 12.00 ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั แต่ง
ประโยคบอกเวลา และกิจกรรมทท่ี าในเวลาน้นั เช่น I go home at half past four. I have lunch at
twelve o’clock. ถา้ กลุ่มใดแต่งประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง จะมีสิทธ์ิทาเครื่องหมาย X หรือ O ลงในตาราง
กลมุ่ ใดท่ีทาเครื่องหมายครบ 3 ช่องตอ่ กนั ในแนวใดกไ็ ด้ เป็นกลมุ่ ทช่ี นะ
4. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยถามนกั เรียนว่า What would you be when you get older? ครูรวบรวมคาตอบ
จากนกั เรียนมาเขยี นบนกระดาน เช่น singer, actor, dancer, teacher, doctor, soldier เป็นตน้

ข้นั Presentation

1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาชีพ ไดแ้ ก่ firefighter (นกั ดบั เพลงิ ), vet (สัตวแพทย)์ , baker (คนทา

ขนมปัง), farmer (ชาวนา), bus driver (พนกั งานขบั รถโดยสาร), postman (บรุ ุษไปรษณีย)์ , pilot

(นกั บิน) และ DJ (คนเปิ ดเพลง) โดยการแสดงบตั รภาพ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั พูดบอกความหมาย

ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพท่ีนกั เรียนควรรู้จกั เพ่ิมเตมิ เช่น astronaut (นกั บนิ อวกาศ), plumber

(ช่างประปา), nurse (พยาบาล), artist (ศิลปิ น), chef (พอ่ ครัว) และ dentist (ทนั ตแพทย)์ จากน้นั ให้

นกั เรียนออกเสียงคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพตามครูอกี คร้งั โดยเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคา

(word stress) ใหถ้ ูกตอ้ ง ดงั น้ี

firefighter baker farmer bus driver

postman pilot DJ astronaut

plumber artist dentist

ครูสามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพอาชีพต่าง ๆ จากเวบ็ ไซต์
ตอ่ ไปน้ีhttps://learnenglishkids.britishcouncil.org/es/node/2617

357

DJ ยอ่ มาจากคาวา่ Disc Jockey ซ่ึงหมายถึง คนเปิ ดแผ่นเสียงหรือคนเปิ ดเพลง
ท่มี า: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/dj?q=DJ

ชาวองั กฤษจะเรียกบรุ ุษไปรษณียว์ า่ postman แต่ชาวอเมริกนั จะเรียกวา่ mailman
ท่มี า: https://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/postman

2. ครูเขียนประโยค I am a teacher. I teach students. บนกระดาน แลว้ ช้ีมาทตี่ นเองแลว้ พดู ประโยค
ดงั กล่าว จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียน 1 คน ดงั น้ี
T: I am a teacher. What about you?
S1: I am a student.
T: What do you do?
S1: I study.
T: Great job!
ครูอธิบายเพิม่ เติมวา่ เม่อื เราตอ้ งการถามผูอ้ นื่ วา่ ประกอบอาชีพอะไร เราจะพดู วา่ What’s your job?
หรือ What do you do? เช่น
A: What’s your job?
B: I’m a pilot. I fly planes. What about you?
A: I’m a bus driver. I drive buses.
ครูช้ีท่ีประโยค What about you? แลว้ อธิบายวา่ เป็นประโยคท่ีใชถ้ ามกลบั ในเร่ืองเดียวกนั
มีความหมายวา่ แลว้ คุณละ่ เราสามารถใช้ What about you? หรือ How about you? กไ็ ด้

ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 52 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง 1-2 คร้ัง คร้งั แรกใหน้ กั เรียนฟังและช้ีภาพ
ตาม คร้ังที่ 2 ใหฟ้ ังและช้ีภาพ และออกเสียงตาม CD ดว้ ย ต่อมาครูเปิ ด CD อกี คร้งั และหยดุ CD
หลงั จบคาศพั ทแ์ ตล่ ะคา และสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงตามเป็นรายบุคคล

firefighter vet baker farmer
bus driver postman pilot DJ

358

จากน้นั จบั คภู่ าพกบั คาศพั ทท์ ่สี มั พนั ธก์ นั แลว้ ใหช้ ่วยกนั เฉลยคาตอบ

1. b 2. e 3. g 4. c
5. h 6. d 7. a 8. f

2. หนงั สือเรยี น หน้า 52 Ex. 2 ให้นกั เรียนอา่ นขอ้ ความในกรอบคาพดู แลว้ ฝึกพดู ตาม 1-2 คร้ัง จากน้นั
ครูอธิบายว่า ให้นกั เรียนเลอื กอาชีพในขอ้ 2-6 มาคนละ 1 อาชีพ จากน้นั ใหพ้ ดู อาชีพของตนเอง
พร้อมอธิบายลกั ษณะของอาชีพดงั กลา่ ว เม่ือนกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ให้เวลานกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ออกมาพูดทห่ี นา้ ช้นั เช่น

2. I’m a pilot. I fly planes. 3. I’m a baker. I make bread.
4. I’m a farmer. I grow vegetables. 5. I’m a postman. I deliver letters.
6. I’m a DJ. I play music.

3. ใหน้ กั เรียนฝึกฝนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาชีพดว้ ยการเล่นเกม Chinese whispers โดยใหน้ กั เรียนเขา้ แถว
ตอนลกึ 2 แถว จากน้นั ครูอธิบายกติกาการเลน่ เกมว่า ครูจะบอกคาศพั ทน์ กั เรียนคนแรกของแตล่ ะ
แถว นกั เรียนจะตอ้ งกระซิบคาศพั ทก์ บั นกั เรียนท่ีอยถู่ ดั ไปเร่ือย ๆ แถวใดกระซิบถึงคนสุดทา้ ยก่อน
ใหย้ กมอื ตอบ แถวทีต่ อบถูกจะได้ 1 คะแนน ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั คาศพั ทอ์ น่ื ๆ
อกี 3-4 คา แถวท่ีไดค้ ะแนนมากที่สุดเป็นแถวทช่ี นะ

กิจกรรมเพ่มิ เติม
ครูดาวนโ์ หลดใบงานให้นกั เรียนฝึกฝนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพและการออกเสียงคาศพั ท์
ทอ่ี อกเสียงไมต่ รงรูป (Tricky spelling) จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/spell-the-super-
jobs-worksheet-v1.pdf

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานคู่ แต่งบทสนทนาเกี่ยวกบั อาชีพ โดยใชค้ าศพั ทใ์ นบทเรียน
หรือนอกเหนือจากบทเรียนกไ็ ด้ จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียนฝึกพดู จนคล่อง แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนออกมา
ถาม-ตอบท่หี นา้ ช้นั เช่น

359

S1: What do you do?
S2: I’m a farmer. I grow vegetables. What about you?
S1: I’m a dentist. I check your teeth and keep them clean.
2. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน เพ่ือทาสมุดคาศพั ท์ The Jobs โดยให้
แตล่ ะกลมุ่ คน้ ควา้ หาอาชีพนอกเหนือจากบทเรียนมากล่มุ ละ 10 อาชีพ พร้อมกบั วาดภาพประกอบ
และตกแต่งใหส้ วยงาม เสร็จแลว้ ให้แต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอท่หี นา้ ช้นั
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 44 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น

Ex. 1 4. postman 5. DJ 6. baker
2. bus driver 3. pilot
Ex. 2 4. ballerina 5. pilot
2. bus driver 3. doctor 8. nurse 9. chef
6. DJ 7. postman
Thr secret word is policeman.

7. การวดั และประเมินผล

วิธกี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มูล แบบประเมินการพูด
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เกี่ยวกบั อาชีพ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินชิ้นงาน The Jobs แบบประเมินช้ินงาน ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้

จบั คภู่ าพกบั คาศพั ท์ แบบฝึ กหัด

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook)

สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

และมุ่งมน่ั ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 อินเทอร์เน็ต

360

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 She usually plays the piano. เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- เขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพและกิจกรรมทีท่ าได้
- ตอบคาถามจากการอ่านได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตุผล

ตัวชี้วดั

ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วัด

ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล

5 ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตวั ชี้วดั

ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

และนาไปได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชี้วัด

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรม

ของเจา้ ของภาษา

361

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วดั

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอา่ น/เขยี นในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเี่ กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้กับสังคมโลก

ตัวชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างทใ่ี ช้ในการขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั อาชีพ

และกิจวตั รประจาวนั ช่วยให้พูดส่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Noun) clown

(Phrases) grow, deliver letters

Structure: She usually plays the piano.

She is playing the guitar today.

A postman delivers letters!

Pronunciation: Word stress

Blend (cluster) /kl/

Functions: Talking about jobs and daily routines

2) Language Skills

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

Writing: เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพและกิจกรรมทที่ า

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด

362

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั

2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพดว้ ยการเล่นเกมใบค้ า Who am I? โดยครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม

และใหแ้ ตล่ ะกลุ่มต้งั ช่ือกลมุ่ ของตนเอง แลว้ ครูอธิบายกติกาการเล่นเกมวา่ ครูจะใบก้ ิจกรรมเกี่ยวกบั

อาชีพต่าง ๆ ใหน้ กั เรียนฟัง เช่น

T: I milk cows and I shear sheep. I feed corn to the chickens. Who am I?

Team 1: A farmer!

T: You sit in my chair. I check your teeth and give them a clean.

Who am I?

Team 2: A dentist!

T: I cut and curl hair. I colour it dark or fair. Who am I?

Team 1: A hairdresser!

T: Well done.

ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั คาศพั ทอ์ กี 3-4 คา กล่มุ ใดทรี่ ู้คาตอบให้ยกมือข้นึ กลมุ่ ทย่ี กมอื

เร็วทส่ี ุดจะมีสิทธ์ิตอบก่อน ถา้ ตอบถกู จะได้ 1 คะแนน กลมุ่ ทีไ่ ดค้ ะแนนมากที่สุดเป็นกลมุ่ ท่ีชนะ

3. ทบทวนโครงสร้าง Present simple และ Present continuous ดว้ ยการให้นกั เรียนช่วยกนั บอก

โครงสร้างของไวยากรณ์ท้งั 2 น้ี คอื

Present simple: ประธาน + กริยาช่องที่ 1 (s,es).

Present continuous: ประธาน + is, am, are + กริยาเติม -ing.

จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คน ออกมาแตง่ ประโยคบนกระดาน โดยแบ่งเป็น Present simple

3 ประโยค และ Present continuous 3 ประโยค เช่น

Present simple Present continuous

I go to school on Mondays. I’m watching TV.

She rides a bike every day. She’s listening to music.

They have lunch at half past eleven. They are dancing.

363

ข้นั Presentation

1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาชีพ ไดแ้ ก่ clown (ตวั ตลก) ดว้ ยการใชบ้ ตั รภาพ แลว้ ให้นกั เรียนบอก

ความหมาย เสร็จแลว้ ครูออกเสียงคาศพั ท์ ให้นกั เรียนฝึกออกเสียงตามพร้อมกนั หรือเป็นรายบคุ คล

ตอ่ มาครูสอนการออกเสียง cl ในคาวา่ clown โดยเนน้ ว่านกั เรียนตอ้ งออกเสียงควบกล้า /kl/

ใหถ้ กู ตอ้ ง แมว้ า่ เสียงน้ีจะเป็นเสียงทมี่ ใี นระบบภาษาไทยกต็ าม (เช่นในคาว่า คลา้ ยคลึง) เพราะ

คนส่วนใหญม่ กั จะละเลยการออกเสียงพยญั ชนะควบ /l/ ซ่ึงอาจทาใหก้ ารสื่อสารผิดได้ จากน้นั

ครูเขยี นคาศพั ทท์ ่สี ะกดดว้ ยเสียง /kl/ เพมิ่ เติมบนกระดาน ดงั น้ี

clap click

clip climb

clue cloud

clear club

clock clean

เสร็จแลว้ ครูช้ีที่คาศพั ทแ์ ต่ละคา แลว้ ออกเสียงให้นกั เรียนฝึกออกเสียงตามพร้อมกนั

2. นาเสนอวลเี ก่ียวกบั กิจกรรมที่อาชีพต่าง ๆ ทา ไดแ้ ก่ grow vegetables (ปลกู ผกั ) และ deliver letters

(ส่งจดหมาย) โดยใชบ้ ตั รภาพ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย จากน้นั ครูเขียนตวั อยา่ ง

ประโยคใหน้ กั เรียนดเู พ่ิมเติม ดงั น้ี

A farmer grows vegetables. A postman delivers letters.

3. ครูเขียนประโยค He usually plays music. บนกระดาน จากน้นั ครูขีดเส้นใตค้ าวา่ usually และ plays

แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงพร้อมกนั ต่อมาครูเขียนประโยค Today he is playing basketball.

พร้อมขดี เส้นใต้ Today และ playing แลว้ ให้นกั เรียนบอกความแตกตา่ งของโครงสร้างประโยค

เม่อื ไดค้ าตอบวา่ ประโยคแรกเป็นโครงสร้าง Present simple ส่วนประโยคท่ีสองเป็นโครงสร้าง

Present continuous ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า โครงสร้าง Present simple ใชบ้ อกกิจกรรมทท่ี าบ่อย ๆ

หรือกิจกรรมทีท่ าจนเป็นกิจวตั รประจาวนั (repeated actions) โดยมกั จะมีกริยาวิเศษณ์ในประโยค

เช่น usually, always, often ส่วน Present continuous ใชบ้ อกกิจกรรมทีท่ าอยู่ ณ ขณะน้นั (temporary

action) มกั จะมกี ริยาวิเศษณ์ในประโยค เช่น now และ today เป็นตน้

ครูเขยี นตวั อยา่ งเพม่ิ เตมิ ใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน ดงั น้ี

I usually play the piano. Today I am playing the guitar.

She usually has lunch at half past six. Today she is having lunch at twelve o’clock.

They usually eat fish and chips. Today they are eating Tomyum Goong.

สุดทา้ ยให้นกั เรียนดูหนังสือเรียน หน้า 53 กรอบ Grammar พร้อมกนั อีกคร้ัง เพอื่ ทบทวน

โครงสร้าง

364

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 53 Ex. 3 ครูอธิบายว่า ให้นกั เรียนดภู าพในขอ้ 1 แลว้ บอกกิจกรรมทบี่ คุ คล
ในภาพทา โดยเลอื กใชก้ ริยา play, ride, have หรือ drive มาเติมในประโยคใหส้ มบูรณ์ โดยกอ่ นให้
นกั เรียนทากิจกรรมดว้ ยตนเอง ครูทบทวนว่า usually ใชก้ บั tense ใด และ today ใชก้ บั tense ใด
เม่ือไดค้ าตอบแลว้ ให้เวลานกั เรียนทาขอ้ 2-4 ดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนบอกคาตอบ
ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน

2. rides, is riding 3. drives, is driving 4. has, is having

ครูอธิบายความแตกตา่ งระหวา่ งสานวน have a shower และ have a bath ใหน้ กั เรียนฟังว่า
have a shower หมายถึง การอาบน้าจากฝักบวั ส่วน have a bath หมายถงึ การอาบน้า
ในอา่ งอาบน้า
ทีม่ า: https://www.ajarnadam.tv/blog/take-a-shower-take-a-bath#signup1

2. หนังสือเรียน หน้า 53 Ex. 4 ครูอธิบายคาส่งั ใหน้ กั เรียนดูภาพ จากน้นั ให้อา่ นขอ้ ความในตวั อยา่ ง
และพิจารณาว่า ประโยคที่อ่านน้นั ถูกตอ้ งหรือไม่ ต่อมาให้นกั เรียนดูภาพและประโยคตวั อยา่ ง
แลว้ ถามนกั เรียน ดงั น้ี
T: Does a postman grow vegetables?
Ss: No, he doesn’t.
T: So, what does a postman do?
Ss: He delivers letters!
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ อ่นื ๆ จากน้นั ครูเขยี นคาตอบบนกระดาน เพือ่ ให้นกั เรียน
ตรวจทานคาตอบอกี คร้งั

2. Wrong! A clown doesn’t wear small shoes. A clown wears big shoes!
3. Wrong! A firefighter doesn’t make bread. A firefighter fights fires!
4. Wrong! A pilot doesn’t drive buses. A pilot flies planes!

365

3. หนงั สือเรียน หน้า 53 หัวข้อ Go Green ให้นกั เรียนอ่านขอ้ ความในกรอบพร้อมกนั จากน้นั ครู
อธิบายว่า ไฟ คอื ส่ิงท่ีเป็นอนั ตรายตอ่ ป่ าไม้ เพราะไฟสามารถลกุ ลามไปทวั่ ป่ าไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ทาให้
ป่ าไมถ้ กู ทาลาย ต่อมาใหน้ กั เรียนแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 4-5 คน อภิปรายเกี่ยวกบั วิธีท่ีช่วยอนุรกั ษป์ ่ าไม้
ใหอ้ ยกู่ บั เราไปนาน ๆ ครูให้เวลานกั เรียนอภิปรายในกลุม่ เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกพดู
นาเสนอที่หนา้ ช้นั

4. ครูให้นกั เรียนเลน่ เกมใบค้ า โดยครูขออาสาสมคั รออกมายืนท่ีหนา้ ช้นั กบั ครู 1 คน จากน้นั ครูบอกวา่
ให้นกั เรียนคนดงั กล่าวนึกคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาชีพมา 1 คา นกั เรียนทเ่ี หลอื ถามคาถามเก่ียวกบั อาชีพ
เช่น
S1: Do you deliver letters?
S2: No, I don’t.
S3: Do you grow vegetables?
S2: No, I don’t.
S4: Do you fly planes?
S2: Yes, I do.
S4: Are you a pilot?
S2: Yes, I am!
นกั เรียนทท่ี ายคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง จะไดอ้ อกมาเป็นคนใบค้ าคนถดั ไป

5. ครูเตรียมกล่องเปล่า 1 ใบ แลว้ ใส่บตั รคาลงไปในกลอ่ ง เช่น bike, plane, bus, car, tennis, basketball,
dance, music และ sing จากน้นั ครูอธิบายว่า ใหน้ กั เรียนหยบิ บตั รคาจากกลอ่ ง คนละ 1 ใบ ให้
นกั เรียนแตง่ ประโยคโดยใช้ Present simple หรือ Present continuous และใชก้ ริยาวิเศษณ์ usually
และ today เม่อื อธิบายเสร็จแลว้ ครูเดินไปรอบ ๆ หอ้ ง เพ่อื ให้นกั เรียนไดห้ ยบิ บตั รคา ครูให้เวลา
นกั เรียนแต่งประโยค เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนพดู ประโยคท่ตี นเองแต่ง เช่น
I usually play basketball.
Today I am riding a bike to school.
I usually listen to music.
Today I am singing.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีไปเรื่อย ๆ จนนกั เรียนพดู ไดค้ ลอ่ ง

366

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทางานคู่ แตง่ ประโยค Present simple ท่ีใชก้ ริยาวเิ ศษณ์ usually
และประโยค Present continuous ทใ่ี ชก้ ริยาวิเศษณ์ today อยา่ งละ 5 ประโยค ครูให้เวลานกั เรียนแต่ง
ประโยค เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาอา่ นประโยคทค่ี ู่ตนเองแตง่ ให้เพือ่ นในช้นั ฟัง
2. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มเพื่อทาสมดุ รวบรวมคาศพั ทท์ ขี่ ้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง /kl/ มา
กล่มุ ละ 10 คา พร้อมวาดภาพประกอบ เสร็จแลว้ ให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอคาศพั ทท์ ห่ี นา้ ช้นั
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 45 Ex. 3 เป็นการบา้ น

2. plays 3. are eating 4. goes 5. are playing
b5 c4 d3 e2

7. การวัดและประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์

ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหัด ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ประเมินการเขียนให้ขอ้ มลู แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

เก่ียวกบั อาชีพ และกิจกรรมท่ที า

สังเกตการออกเสียงคากริยา แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

ท่ีข้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง /kl/

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

และมุ่งมน่ั ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.4 กลอ่ งกระดาษ
8.5 อนิ เทอร์เน็ต

367

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 What do you like doing? เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพได้
- พูดใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ส่ิงท่ีชอบและไมช่ อบทาได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตุผล

ตวั ชี้วัด

ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วัด

ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล

6 ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชี้วัด

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา

368

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณต์ ่าง ๆ ทีเ่ กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กบั สังคมโลก

ตัวชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างท่ีใชใ้ นการขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั อาชีพ

และกิจกรรมท่ชี อบและไม่ชอบทา ช่วยใหพ้ ูดสื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Nouns) photographer, clown, people, fire engine

(Verb) grow

(Phrase) take a photo

Structure: What do you like doing?

I like watching TV but I don’t like going to bed.

Pronunciation: Blend (cluster) /gr/

Function: Talking about likes/dislikes

2) Language Skills

Speaking: พูดให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ส่ิงทชี่ อบและส่ิงท่ไี ม่ชอบ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 369

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน

2. ทบทวนคาส่งั ท่ใี ชใ้ นห้องเรียน โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม ครูให้เวลานกั เรียนระดมความคดิ

เก่ียวกบั คาส่งั ทใี่ ช้ในหอ้ งเรียนเป็นประจา เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนออกมาเขียนคาส่งั บนกระดาน เช่น

Do not eat in the class. Listen to the teacher.

Do not run in the class. Be quiet.

Write an answer. Look at the whiteboard.

3. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพ เช่น pilot, bus driver, singer, baker, vet และ firefighter ดว้ ยการให้

เลน่ เกม Invisible Man โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลุม่ และแบ่งกระดานเป็น 2 ฝั่ง แต่ละฝ่ังวาด

รูปคน ให้ภาพคนประกอบดว้ ยส่วนหัว ลาตวั แขนซา้ ย แขนขวา ขาซา้ ย และขาขวา จากน้นั ครู

อธิบายกตกิ าวา่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ผลดั กนั ทายตวั อกั ษรภาษาองั กฤษท่ีคิดวา่ จะปรากฏอยใู่ นคาทีค่ รู

กาหนด ถา้ ทายถูก 1 ตวั ครูจะลบอวยั วะ 1 ส่วน กลุ่มใดทาให้ภาพคนหายไปไดก้ อ่ น กลมุ่ น้นั เป็น

กล่มุ ท่ชี นะ

4. ทบทวนโครงสร้าง Present simple และ Present continuous โดยครูถามนกั เรียนว่า เมื่อใดเราควรจะ

ใช้ Present simple และเมือ่ ใดเราควรใช้ Present continuous และมีกริยาวิเศษณค์ าใดที่เราใชก้ บั

ไวยากรณ์เหลา่ น้ี เมือ่ นกั เรียนตอบว่า usually และ today แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมา

แตง่ ประโยคให้นกั เรียนทีเ่ หลอื ดูบนกระดาน เช่น

I usually play tennis on Sundays. Today I’m playing football.

I usually ride a bike to school. Today I’m riding a car to school.

I usually take a shower. Today I’m taking a bath.

My father usually drives a car. Today my father is driving a van.

My brother usually sings. Today my brother is dancing.

We usually read books. Today we are watching cartoons.

ฝึกหลกั ไวยากรณ์ Present simple และ Present continuous โดยดาวน์โหลดใบงานจาก
เวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/grammar-practice-
present-simple-and-present-continuous.pdf

จากน้นั ครูนาใบงานไปถา่ ยเอกสารแลว้ แจกให้นักเรียนฝึกทาดว้ ยตนเอง
370

ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาชีพ ไดแ้ ก่ photographer (ช่างถา่ ยภาพ) และ clown (ตวั ตลก) ดว้ ยการ
แสดงบตั รภาพ แลว้ ให้นกั เรียนบอกความหมาย ครูออกเสียงแต่ละคาใหน้ กั เรียนฟังและฝึกออกเสียง
ตาม 2 คร้งั ครูเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาวา่ photographer ใหถ้ กู ตอ้ ง ดงั น้ี
photographer
2. นาเสนอคากริยา ไดแ้ ก่ grow (ปลกู ) โดยยกตวั อย่างประโยคบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนบอก
ความหมาย เช่น A farmer grows vegetables. จากน้นั ครูอธิบายว่า grow เกิดจากการออกเสียง /g/
และ /r/ ควบกนั คลา้ ยกบั การออกเสียงควบกล้า “กร” ในภาษาไทย เช่นคาวา่ เกร้ียวกราด, กราบ,
กร่ิง แตใ่ นภาษาองั กฤษจะออกเสียง /r/ แตกต่างจากเสียง “ร” โดยเสียง /r/ จะห่อล้ินเขา้ ไปเลก็ นอ้ ย
เช่นในตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี
grab grass grape
great green grill
grow ground group

ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอช่ือ Phonics: GR Words ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงพยญั ชนะควบกล้า
/gr/ จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=Dqw3zLM-IdA
หรือครูเขา้ ไปท่ีเวบ็ ไซต์ www.youtube.com แลว้ พิมพค์ าสาคญั (key word) เช่น gr fun
phonics ในช่องคน้ หา จากน้นั จะปรากฏผลการคน้ หาข้ึนมา

3. ครูสุ่มถามนกั เรียน 3-4 คน วา่ What do you like doing? ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขยี น

บนกระดาน เช่น

I like watching TV. I like playing football.

I like cooking. I like playing games.

I like listening to music. I like dancing.

จากน้นั ครูอธิบายวา่ ประโยค What do you like doing? ใชถ้ ามวา่ ชอบทากิจกรรมอะไร ให้นกั เรียน

สงั เกตวา่ คาท่ตี ามหลงั like ตอ้ งเป็นคากริยาเติม -ing เม่อื นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูถามต่อว่า

What do you dislike doing? โดยอธิบายว่า dislike มคี วามหมายว่า ไม่ชอบ แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกวา่

ตนเองไม่ชอบทากิจกรรมใด เช่น

I don’t like taking a bath. I don’t like walking the dog.

371

I don’t like getting up early. I don’t like tidying my room.

I don’t like studying maths. I don’t like running.

ครูอธิบายวา่ ถา้ ตอ้ งการบอกว่า เราไม่ชอบกิจกรรมใด ๆ เราจะใชโ้ ครงสร้าง I don’t like + กริยาเตมิ

-ing. หรือ I dislike + กริยาเตมิ -ing. ก็ได้

ตอ่ มาครูนาประโยคทเ่ี ขยี นบนกระดาน มาเขียนเป็นประโยค ดงั น้ี

I like watching TV, but I don’t like taking a bath.

I like playing football, but I don’t like tidying my room.

I like cooking, but I don’t like walking the dog.

ครูถามนกั เรียนว่า คาทีค่ รูขีดเสน้ ใตท้ าหนา้ ทอี่ ะไร เมือ่ ไดค้ าตอบว่า ทาหนา้ ท่เี ช่ือมประโยค

เขา้ ดว้ ยกนั ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า คาที่ขีดเสน้ ใตเ้ รียกวา่ conjunction ใชเ้ ช่ือมประโยค 2 ประโยค

เขา้ ดว้ ยกนั โดย but จะให้ความหมายท่ขี ดั แยง้ เหมอื นคาวา่ “แต่” ในภาษาไทย

กิจกรรมเพิม่ เตมิ

ครูสอนนกั เรียนสร้างคา (word building) โดยการเติมคาอุปสรรค (prefix) เบ้อื งตน้ โดยครูเขียนคาวา่

dislike บนกระดาน จากน้นั อธิบายว่า dis- เป็นคาอุปสรรคทเี่ ตมิ ขา้ งหนา้ คากริยา ซ่ึงจะทาใหค้ ากริยา

น้นั ๆ มีความหมายตรงกนั ขา้ ม ในท่นี ้ี like มีความหมายว่า ชอบ หากเตมิ dis- ขา้ งหนา้ จะมี

ความหมายวา่ ไมช่ อบ

ครูอาจจะสอนคาศพั ทท์ ่ปี ระกอบดว้ ยคาอปุ สรรคให้นกั เรียนเพิ่มเติม เช่น disagree (ไม่เห็นดว้ ย)

ทีต่ รงขา้ มกบั คาวา่ agree (เห็นดว้ ย), disappear (ไมป่ รากฏ) ท่ตี รงขา้ มกบั คาวา่ appear (ปรากฏ)

ข้นั Practice

1. หนังสือเรยี น หน้า 54 Ex. 5 ครูอา่ นคาสัง่ และอธิบายวา่ ให้นกั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน จากน้นั ให้
นกั เรียนอา่ นคาศพั ทท์ ้งั หมดพร้อมกนั 1 คร้งั แลว้ บอกความหมาย ตอ่ มาครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง
และช้ีคาศพั ทต์ ามไปดว้ ย เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD อีกคร้งั ให้นกั เรียนช้ีคาศพั ทแ์ ละฝึกออกเสียงตาม CD
พร้อมกนั

2. หนังสือเรยี น หน้า 54 Ex. 6 ให้นกั เรียนดตู วั อยา่ งบทสนทนาในหนงั สือเรียน แลว้ อา่ นบทสนทนา
ดงั กล่าวให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม จากน้นั ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนจบั คกู่ บั เพอื่ น
ฝึกสนทนาตามตวั อยา่ ง โดยเลอื กใชข้ อ้ มูลในขอ้ 1-4 ระหวา่ งท่ีนกั เรียนฝึกพูด ครูเดินรอบ ๆ ช้นั
เพือ่ สงั เกตวา่ นกั เรียนออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ ถา้ ออกเสียงไมถ่ กู ตอ้ ง ครูให้นกั เรียนฝึกพดู คาท่ี
นกั เรียนมีปัญหาจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาสนทนาทีห่ นา้ ช้นั

372

2. A: What do you like doing?
B: I like visiting friends, but I don’t like washing Dad’s car.

3. A: What do you like doing?
B: I like reading my books, but I don’t like tidying my room.

4. A: What do you like doing?
B: I like riding my bike, but I don’t like waiting for the bus.

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทางานคู่ แต่งบทสนทนาเกี่ยวกบั กิจกรรมทชี่ อบทาและไมช่ อบทา
โดยกิจกรรมตอ้ งไมซ่ ้ากบั กิจกรรมในหนงั สือเรียน หนา้ 54 Ex. 6 ครูใหเ้ วลานกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ ง
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละคผู่ ลดั กนั ถาม-ตอบทหี่ นา้ ช้นั เช่น
S1: What do you like doing?
S2: I like playing computer games, but I don’t like doing homework.
S2: What do you like doing?
S1: I like painting, but I don’t like dancing.
2. ครูอธิบายภาระงานใหน้ กั เรียนทาช้ินงานสมุดคาศพั ท์ โดยให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม คน้ ควา้ หาคาศพั ท์
ทข่ี ้ึนตน้ ดว้ ยเสียงควบกล้า /gr/ มากลุม่ ละ 10 คา พร้อมบอกความหมาย จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลมุ่
ส่งตวั แทนออกมานาเสนอท่หี นา้ ช้นั
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 46 Exs. 4-5 ร่วมกนั ในช้นั เรียน

Ex. 4 4. ... doesn’t like cooking.
a - 4, b - 2, c - 6, e - 5, f - 3 6. ... likes singing.

Ex. 5
3. ... likes fishing.
5. ... don’t like playing tennis.

373

7. การวดั และประเมินผล

วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพูดให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั แบบประเมินการพดู
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ส่ิงทีช่ อบและส่ิงที่ไม่ชอบ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

ประเมนิ ช้ินงานสมุดคาศพั ท์ แบบประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ท่ขี ้นึ ตน้ ดว้ ยเสียงควบกล้า /gr/

สังเกตการลงเสียงหนกั ในคาศพั ท์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้

ที่มากกวา่ 1 พยางค์ และการ

ออกเสียงคาศพั ทท์ ี่ข้นึ ตน้ ดว้ ย gr

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook)

สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ

และม่งุ มน่ั ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 อินเทอร์เน็ต

374

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 He likes playing basketball. เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั เน้ือหาได้
- เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมที่ชอบทาได้
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพท่ีอยากทาในอนาคต พร้อมบอกเหตผุ ลได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตุผล

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาท่ีฟังและอา่ น

ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน

ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนาและนิทาน

ง่าย ๆ หรือเร่ืองส้นั ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ดั

ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตัวชี้วัด

ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

375

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้

ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชีว้ ดั

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ัด

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั โครงสร้างท่ีใชข้ อและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั กิจกรรมทช่ี อบทา รวมท้งั โครงสร้าง

ทใี่ ชบ้ อกอาชีพที่อยากทาในอนาคต ช่วยให้พูด/อ่าน และเขยี นสื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
และเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Structure: He likes playing basketball. What do you want to be?

I want to be a firefighter!

Why? Because I like helping people!

Pronunciation: Pronouncing words ending with /ks/ sound

Function: Talking about likes and dislikes, free time activities and future jobs

2) Language Skills

Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพทอี่ ยากทาในอนาคต พร้อมบอกเหตผุ ล

Writing: เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีชอบทา

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

376

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทจ์ ากคาบทีแ่ ลว้ ดว้ ยการเลน่ เกม Spelling Bee โดยครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียน

คนละ 1 ใบ จากน้นั ครูอธิบายวา่ ครูจะพดู คาศพั ท์ คาละ 2 คร้งั ให้นกั เรียนเขียนคาศพั ทล์ งใน
กระดาษ เม่อื นกั เรียนเขยี นเสร็จแลว้ ครูเดินรอบ ๆ หอ้ ง เพื่อตรวจสอบวา่ นกั เรียนคนไหนสะกดคา
ถกู ตอ้ งบา้ ง คนท่ีสะกดคาไดถ้ ูกตอ้ งจะมีสิทธ์ิเลน่ เกมตอ่ ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ จนกว่า
จะไดผ้ ชู้ นะเพยี งผูเ้ ดียว
3. ทบทวนคาศพั ทท์ ่ขี ้นึ ตน้ และคาศพั ทท์ ี่ข้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /gr/ โดยครูแสดงบตั รคา เช่น grow, green,
grab, grill และ ground ใหน้ กั เรียนดคู ร้ังละ 1 ใบ แลว้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงพร้อมกนั ครูสงั เกตว่า
นกั เรียนออกเสียงถกู ตอ้ งหรือไม่ ถา้ ยงั ออกเสียงไม่ถูกตอ้ ง ครูออกเสียงใหน้ กั เรียนฟังแลว้ ให้
นกั เรียนมาฝึกออกเสียงใหค้ รูฟังนอกเวลาเรียน
4. ทบทวนโครงสร้างท่ีใชข้ อและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมที่ชอบทาและไมช่ อบทา โดยครูสุ่มถาม
นกั เรียน เช่น

T: What do you like doing?
S1: I like taking a bath, but I don’t like brushing my teeth.
T: What do you like doing?
S2: I like playing the piano, but I don’t like playing the guitar.
T: Very good.

ข้นั Presentation
1. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1-2 คน และถามคาถาม What do you like doing? เมื่อไดค้ าตอบแลว้ เช่น
I like playing football. I like dancing. ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
He likes playing football.
She likes dancing.

377

จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนสังเกตคาท่ีขีดเสน้ ใต้ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ เหตุใดคากริยา like ตอ้ งเติม -s
เมอ่ื ไดค้ าตอบว่า เพราะประธานเป็นเอกพจน์ ครูสอนนกั เรียนออกเสียงคาวา่ likes โดยครูอธิบายว่า
คนไทยส่วนใหญ่มกั จะมปี ัญหาในการออกเสียงทา้ ย /ks/ เพราะเป็นเสียงทไ่ี ม่มีในภาษาไทย
คนส่วนใหญ่จึงเลยี่ งทจ่ี ะออกเสียง /ks/ หรือออกเสียงเพียง /k/ หรือ /s/ อยา่ งเดียว หากไม่ออกเสียง
/k/ จะทาใหค้ วามหมายของคาผดิ เพ้ียนไป จาก likes (/laiks/) เป็น lice (/lais/) ซ่ึงมคี วามหมายว่า เหา
และหากไมอ่ อกเสียง /s/ จะทาใหป้ ระโยคไมถ่ กู ตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์
ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงควบ /k/ และ /s/ อยา่ งชา้ ก่อน แลว้ จึงเพิม่ จงั หวะใหเ้ ร็วข้ึน

ครูเปิ ดคลิปวดิ ีโอช่ือ Phonemes: /ks/ and /gz/ เพื่อให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาทลี่ งทา้ ย
ดว้ ยเสียง /ks/ จากเวบ็ ไซตไ์ ปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=1BevH9AODnk
หรือครูเขา้ ไปท่ี www.youtube.com แลว้ พิมพค์ าสาคญั เช่น phonemes /ks/ ในช่องคน้ หา

สุดทา้ ยให้นกั เรียนไปทบทวนหลกั การใชค้ ากริยาวิเศษณใ์ นหนังสือเรียน หน้า 55 กรอบ Grammar

2. ทบทวนหลกั การเติม -ing หลงั คากริยา โดยครูเขียนคากริยาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

eat sit dance

drink run ride

play swim take

sleep get make

จากน้นั ครูขออาสาสมคั รออกมาเตมิ -ing ทา้ ยคากริยาเหลา่ น้ี เมื่อเติมเสร็จแลว้ ครูตรวจสอบวา่

นกั เรียนเติม -ing ไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ แลว้ อธิบายหลกั การเตมิ -ing ส้นั ๆ ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี

1) คากริยาทวั่ ไป สามารถเตมิ -ing ทา้ ยคาไดเ้ ลย เช่น eating, drinking, playing, sleeping,
walking, talking

2) คากริยาที่มีสระเสียงส้นั ตวั เดียวและตวั สะกดตวั เดียว ให้เติมตวั สะกดอกี 1 ตวั
แลว้ จึงเตมิ -ing เช่น sitting, running, swimming, stopping, getting

3) คากริยาท่ลี งทา้ ยดว้ ย e ให้ตดั e ทิง้ แลว้ เตมิ -ing เช่น riding, dancing, taking, making,
baking, putting

378

Advanced Classes:
ครูสอนหลกั การเตมิ -ing ทา้ ยคากริยาเพิ่มเติมวา่ นอกเหนือจากหลกั การ 3 ขอ้ น้ีแลว้ ยงั มหี ลกั การ
อ่ืน ๆ อกี เช่น คากริยาทีล่ งทา้ ยดว้ ย ie เช่น die, tie ให้เปลย่ี น ie เป็น y แลว้ จึงเติม -ing หรือถา้
คากริยามีการลงเสียงหนกั ที่พยางคห์ นา้ เช่น visit, deliver เราสามารถเตมิ -ing ไดเ้ ลย แต่หากมกี าร
ลงเสียงหนกั ทีพ่ ยางคห์ ลงั เช่น refer, admit ตอ้ งเติมตวั สะกดอีก 1 ตวั แลว้ จึงเตมิ -ing เป็น referring,
admitting
ทีม่ า: http://ภาษาองั กฤษออนไลน.์ com/หลกั การเตมิ -ing-ทท่ี า้ ยคากริยา-present-continuous-tense/
3. ครูสุ่มถามนกั เรียน 3-4 คน วา่ What do you want to be? พร้อมถามเหตผุ ล ดงั น้ี

T: What do you want to be?
S1: I want to be a doctor.
T: Why?
S1: I like helping people.
จากน้นั ครูบอกวา่ What do you want to be? หมายความว่า คุณอยากเป็นอะไร ใชถ้ ามเกี่ยวกบั อาชีพ
ท่ีอยากทาในอนาคต เวลาตอบจะตอบว่า I want to be (a/an) + อาชีพ.

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 55 Ex. 7 ครูอธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนดภู าพ a-f แลว้ จบั ค่กู บั ประโยคในขอ้ 1-6
ใหถ้ กู ตอ้ ง โดยครูสาธิตการทาขอ้ แรกใหน้ กั เรียนดู ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน อา่ นประโยคในขอ้ 1
ให้นกั เรียนในช้นั ฟัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูภาพแลว้ ตอบว่าตรงกบั ภาพใด เมือ่ ไดค้ าตอบแลว้ ครูให้
เวลานกั เรียนทากิจกรรมดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบพร้อมกนั กบั นกั เรียน

2. d 3. a 4. f 5. e 6. c

2. หนงั สือเรียน หน้า 55 Ex. 8 ครูอธิบายคาส่ัง ให้นกั เรียนเปลี่ยนคากริยาในวงเลบ็ เป็นกริยาท่ีเตมิ -ing
ใหถ้ กู ตอ้ ง จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นประโยคท่ีสมบรู ณ์แลว้ อกี คร้งั แลว้ ตอบคาถาม ครูให้เวลานกั เรียน
ทากิจกรรมดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบบนกระดานและสุ่มถามนกั เรียน 5-6 คน เช่น
T: Do you like playing football?
S1: Yes, I do.
T: Do you like swimming?
S2: No, I don’t. I like playing basketball.

379

1. Yes, I do. / No, I don’t. 2. listening - Yes, I do. / No, I don’t.
3. watching - Yes, I do. / No, I don’t. 4. dancing - Yes, I do. / No, I don’t.
5. going - Yes, I do. / No, I don’t. 6. swimming - Yes, I do. / No, I don’t.

3. หนังสือเรยี น หน้า 55 Ex. 9 ครูอา่ นคาส่งั แลว้ อา่ นตวั อยา่ งบทสนทนาในหนงั สือเรียนใหน้ กั เรียนฟัง
และออกเสียงตาม จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพูดถาม-ตอบตามตวั อยา่ ง โดยใชข้ อ้ มูลในขอ้
1-4 ให้เวลานกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4 คู่ ออกมาสนทนาท่ีหนา้ ช้นั ดงั น้ี
S1: What do you want to be?
S2: I want to be a farmer.
S1: Why?
S2: Because I like growing vegetables!

S1: What do you want to be?
S2: I want to be a pilot!
S1: Why?
S2: Because I like flying planes!

S1: What do you want to be?
S2: I want to be a vet!
S1: Why?
S2: Because I like helping animals!

S1: What do you want to be?
S2: I want to be a photographer!
S1: Why?
S2: Because I like taking pictures!

S1: What do you want to be?
S2: I want to be a cook!
S1: Why?
S2: Because I like cooking food!

380

ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานคู่ แตง่ บทสนทนาเก่ียวกบั อาชีพทีต่ นเองอยากทาในอนาคต
พร้อมบอกเหตผุ ล โดยให้ใชค้ าศพั ทน์ อกเหนือจากในตวั อยา่ งในหนงั สือเรียน ระหว่างทนี่ กั เรียน
ช่วยกนั แตง่ ประโยค ครูเดินรอบ ๆ หอ้ ง เพื่อประเมินและให้ความช่วยเหลือเท่าทจ่ี าเป็น เสร็จแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คู่ ออกมาสนทนาท่หี นา้ ช้นั เช่น
S1: What do you want to be?
S2: I want to be an engineer.
S1: Why?
S2: Because I like building houses.
S2: What do you want to be?
S1: I want to be an artist.
S2: Why?
S1: Because I like drawing and painting.
2. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ เพื่อคน้ ควา้ หาคาศพั ทท์ ี่ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /ks/ มากลมุ่ ละ 10
คา จากน้นั ให้เขียนใส่กระดาษแผน่ ใหญ่ พร้อมตกแตง่ ให้สวยงาม เสร็จแลว้ ครูให้แตล่ ะกล่มุ ออกมา
อ่านคาศพั ทข์ องกลมุ่ ตนเองทีห่ นา้ ช้นั
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 47 Exs. 6-7 เสร็จแลว้ ครูและนกั เรียนเฉลยคาตอบ

แบบฝึ กหดั หน้า 47 Ex. 7
Narrator: There is one example.
One
Female: Do you like walking in the park?
Male: Oh, yes! I love walking in the park.
Narrator: Can you see the example? Now, you listen and draw.
Two
Female: Do you like listening to music?
Male: Yes! I love listening to music. I want to be a DJ!

381

Three Do you like riding your bike in your free time?
Female: Yes! I always ride my bike in the afternoons!
Male:
Four And what about cooking? Do you like cooking?
Female: Cooking? No, I don’t like cooking.
Male:
Five Do you like swimming?
Female: Yes, I do! I love swimming! I always go swimming in summer!
Male:
Six And what about pizza? Do you like pizza?
Female: Pizza? No, I don’t like pizza. Yuk!
Male:

Ex. 6 3. watching 4. eating
2. reading 6. cooking
5. swimming

382

Ex. 7 4.
2. 3.

5. 6.

7. การวดั และประเมินผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มลู แบบประเมนิ การพดู
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เก่ียวกบั อาชีพทอ่ี ยากทาในอนาคต ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
พร้อมบอกเหตุผล ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขียนให้ขอ้ มูล แบบประเมินการเขยี น

เกี่ยวกบั กิจกรรมทีช่ อบทา

ประเมนิ ช้ินงานสมุดคาศพั ท์ แบบประเมนิ ชิ้นงาน

ทลี่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /ks/

สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้

ทีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /ks/

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook)

สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ

และมงุ่ มน่ั ในการทางาน อนั พึงประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 อนิ เทอร์เน็ต

383

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 What do firefighters do? เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทใ์ นเน้ือเร่ืองได้
- ตอบคาถามจากการฟังและการอ่านได้
- แสดงบทบาทสมมตไิ ด้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดง

ความคิดเห็นอย่างมเี หตผุ ล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ติ ามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนาท่ฟี ังและอ่าน

ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น

ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา

และนิทานงา่ ย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วดั

ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป. 5/5 พดู /เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ

พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั

384

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้

ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชี้วัด

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง/พดู และอา่ น/เขียนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับสังคมโลก

ตัวชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาเก่ียวกบั อาชีพ โครงสร้างทใี่ ชบ้ อกส่ิงทช่ี อบ

และไมช่ อบ ช่วยให้เขา้ ใจเร่ืองท่ีฟังและอ่าน และเขยี นส่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Structure: What do firefighters do? Well, we fight fires!

Why do you want to be a firefighter?

Because I like helping people and I want to drive a fire engine.

Pronunciation: Linking sounds

2) Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Speaking: แสดงบทสนทนาในเน้ือเร่ือง

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

385

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคิด
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาชีพต่าง ๆ เช่น firefighter, baker, photographer และ pilot โดยครูแสดง

บตั รภาพใหน้ กั เรียนดูทลี ะใบ แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู บอกชื่อวิชา

ครูสามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพเกี่ยวกบั อาชีพตา่ ง ๆ จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/th/flashcards/jobs-flashcards

3. ทบทวนหลกั การเตมิ -ing ทา้ ยคากริยา โดยครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

1. I like _______ (go) to the beach.

2. I like _________ (sleep) in the afternoon.

3. He likes ________ (ride) a bicycle.

4. She likes _________ (fly) a kite.

5. We like __________ (swim) in the pool.

6. They like _________ (sit) under the tree.

จากน้นั ครูขออาสาสมคั รผลดั กนั ออกมาเขียนคาตอบ คนละ 1 ขอ้ เม่ือนกั เรียนเขียนเสร็จแลว้ ครูให้

นกั เรียนท่เี หลอื ช่วยกนั ตรวจคาตอบอกี คร้ัง ครูตรวจคาตอบอีกคร้ัง

เฉลย: 1. going 2. sleeping 3. riding 4. flying

5. swimming 6. Sitting

4. ทบทวนโครงสร้างท่ีใชข้ อและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สิ่งทชี่ อบโดยครูสุ่มถามนกั เรียน 3-4 คน เช่น

T: Do you like taking photos?

S1: Yes, I do.

T: Do you like taking a bath?

S1: No, I don’t.

ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั นกั เรียนคนอืน่ ๆ ดว้ ย

386

5. ทบทวนการออกเสียงคาศพั ทท์ ีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /ks/ โดยครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
He walks to school every day.
He takes a shower twice a day.
She likes doing homework with friends.
She speaks three languages.

จากน้นั ครูช้ีทีแ่ ตล่ ะประโยค แลว้ ให้นกั เรียนออกเสียงพร้อมกนั ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเรื่อย ๆ
จนกว่านกั เรียนจะออกเสียงไดค้ ลอ่ ง
6. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนดเู น้ือเรื่องคร่าว ๆ แลว้ ถามคาถาม เช่น

T: Look at the picture. Where is this?
Ss: It’s a fire station.
T: So what is the story about?
Ss: Firefighter.
T: Good job, everyone.

ข้นั Presentation
1. นาเสนอเน้ือเรื่องโดยครูถา่ ยเอกสารหนา้ 56-57 จากน้นั นามาตดั แบง่ เป็นฉาก ๆ แลว้ ติดบนกระดาษ-
แขง็ จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลมุ่ ครูมอบหมายให้กลุ่มแรกอ่านเน้ือเรื่องในหนา้ 56 และ
กลมุ่ ท่สี องอา่ นเน้ือเร่ืองในหนา้ 57 ครูให้เวลานกั เรียนทาความเขา้ ใจเน้ือหา เสร็จแลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่
ส่งตวั แทนออกมาเลา่ เร่ืองทก่ี ลมุ่ ตนเองไดอ้ า่ น โดยครูย้าให้แตล่ ะกลุ่มต้งั ใจฟังเน้ือเรื่องที่เพ่ือนเล่า
เพราะครูจะถามคาถาม ตอ่ มาครูถามคาถามเพอ่ื ทดสอบว่า แตล่ ะกลมุ่ เขา้ ใจเรื่องท่อี ีกกล่มุ หน่ึง
นาเสนอหรือไม่ เช่น
T: Group 2, what do firefighters do?
Group 2: They fight fire!

T: Group 1, why does Oscar want to be a firefighter?
Group 1: Because he likes helping people and he wants to drive a fire engine.
T: Great job!
สุดทา้ ยให้แตล่ ะกลมุ่ อ่านเน้ือเรื่องทีต่ นเองไดร้ ับมอบหมายอกี คร้งั แลว้ ช่วยกนั หาคาเช่ือมในประโยค
(Linking sounds) เช่น

387

What are you doing here?

I start work at 8 o’clock in the morning.

I like my job because I like helping people.

There’s a fire somewhere.

What about you, Tom?
2. นาเสนอคาศพั ทท์ นี่ ่าสนใจในเน้ือเรื่อง ไดแ้ ก่ school project (โครงงานของโรงเรียน) ดว้ ยการบอก

ความหมาย จากน้นั ครูสอนนกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกนั โดยเนน้ ใหน้ กั เรียนลงเสียงหนกั
ในคาศพั ทใ์ ห้ถูกตอ้ ง ดงั น้ี school project

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 56 Ex. 10 ครูอธิบายคาส่งั วา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ัง CD แลว้ เติมคาตอบลงในประโยค
ให้สมบูรณแ์ ละถกู ตอ้ ง จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านประโยคทีย่ งั ไมส่ มบูรณพ์ ร้อมกนั แลว้ ถามนกั เรียน
ว่า นกั เรียนตอ้ งเตมิ ขอ้ มูลอะไรลงไป เมอ่ื ไดค้ าตอบวา่ เวลาเริ่มงานของ Mr Black ครูเปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟัง 1 คร้งั ครูให้เวลานกั เรียนตรวจคาตอบของตนเองใหเ้ รียบร้อย เสร็จแลว้ ครูและนกั เรียน
เฉลยคาตอบพร้อมกนั โดยครูถามนกั เรียนวา่ คาตอบอยใู่ นฉากใด

Mr Black starts work at 8 o’clock in the morning.

2. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ท่ถี ่ายเอกสารมาจากแบบฝึกหดั หนา้ 83
โดยครูตดั แบง่ Story Cutouts เป็นช่อง ๆ แลว้ แจกใหน้ กั เรียนกลุ่มละ 1 ใบ ครูอธิบายว่า ให้แต่ละ
กลุ่มออกมาเรียงลาดบั เน้ือเร่ืองให้ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มอา่ นประโยคในช่องท่ไี ดร้ ับ
มอบหมายเรียงตอ่ กนั ไปจนจบเร่ือง หากมกี ลมุ่ ทยี่ งั อ่านไมถ่ กู ครูให้นกั เรียนกลมุ่ อืน่ ช่วยออกเสียง
ให้นกั เรียนกล่มุ ดงั กลา่ วฟัง

3. ครูถ่ายเอกสารเน้ือเร่ืองจากหนงั สือเรียน หนา้ 56-57 แลว้ ตดั แบ่งเป็นช่อง ๆ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่
กนั ครูแจกเน้ือเรื่องใหน้ กั เรียนคู่ละ 1 ใบ ใหแ้ ต่ละคฝู่ ึกพดู จนคลอ่ ง แลว้ ครูขออาสาสมคั ร 3-4 คู่
ออกมาสนทนาให้เพอ่ื นฟัง โดยครูเนน้ ให้นกั เรียนแสดงสีหนา้ ทา่ ทางให้เหมาะสมกบั เน้ือเรื่อง
388

4. หนังสือเรียน หน้า 57 Ex. 11 ครูอา่ นประโยคในขอ้ 1-4 ให้นกั เรียนฟัง จากน้นั อธิบายว่า ใหน้ กั เรียน
กลบั ไปอา่ นเน้ือเร่ืองอกี คร้ังเพอื่ หาคาตอบในขอ้ 1-4 ครูให้เวลานกั เรียนอ่านเน้ือเร่ืองดว้ ยตนเอง
เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั ร 4 คน เฉลยคาตอบให้นกั เรียนทเ่ี หลือฟัง โดยให้บอกดว้ ยว่าคาตอบอยู่
ฉากใด

1. (They’re doing) a school project about jobs.
2. (They) fight fires.
3. (He wants to be) a firefighter.
4. (She wants to be) a photographer.

ข้นั Production

1. ใหน้ กั เรียนจบั กลุม่ กนั แสดงบทบาทสมมตติ ามหนงั สือเรียน หนา้ 56-57 โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียน

แสดงสีหนา้ และทา่ ทางให้สอดคลอ้ งกบั เน้ือเรื่อง เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มผลดั กนั ออกมาแสดง

บทบาทสมมติทห่ี นา้ ช้นั

2. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกล่มุ จากน้นั อธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนเลอื กสัมภาษณ์ 1 อาชีพ

โดยอาจจะเป็นสมาชิกในครอบครวั หรือบุคคลท่นี กั เรียนรู้จกั กไ็ ด้ โดยครูเขยี นคาถามที่ใช้

สัมภาษณ์บนกระดาน เพอ่ื เป็นแนวทางใหน้ กั เรียนนาไปใช้ ดงั น้ี

What do you do? What do + อาชีพ (s) + do?

When do you start work? Why do you like your job?

เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนรวบรวมขอ้ มลู แลว้ ส่งตวั แทนออกมาพดู นาเสนอท่ีหนา้ ช้นั เช่น

My uncle is a vet. He makes animals feel better. He starts work at half past eight.

He likes his job because he likes helping animals.

3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 48 Exs. 8-9 เป็นการบา้ น

Ex. 8 4. morning 5. helping
2. Black 3. 8 o’clock

Ex. 9
a - 2, b - 3, c - 1

389

7. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์

ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมินการแสดงละคร/ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์

บทบาทสมมติ

ประเมินการพดู นาเสนอ แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์

การสมั ภาษณเ์ ก่ียวกบั อาชีพ

สังเกตการออกเสียงประโยค แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

ในเน้ือเรื่อง

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

และม่งุ มน่ั ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ/บตั รคา
8.5 บตั ร Story Cutouts
8.6 อนิ เทอร์เน็ต

390

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 Work and free time

เวลา 2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาชีพและงานอดิเรกได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพ งานอดิเรก และกิจวตั รประจาวนั ได้
- เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั อาชีพ งานอดิเรก และกิจวตั รประจาวนั ของบคุ คลใกลต้ วั
- ออกเสียงคาท่ีมีสระ /ə/ และออกเสียงเช่ือมคาได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ิตามคาสง่ั คาขอร้อง และคาแนะนาท่ฟี ังและอ่าน

ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค

และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น

ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนาและนิทาน

ง่าย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบุคคล

ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชี้วัด

ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั

391

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้

ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชี้วดั

ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง/พูดและอา่ น/เขยี นในสถานการณต์ ่าง ๆ ท่เี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างทใ่ี ชใ้ หข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพ งานอดิเรก และกิจวตั ร

ประจาวนั ช่วยให้พูด/อา่ น และเขยี นสื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: (Phrases) collect coins, deliver letters

Structure: Mr Mills is our postman.

He delivers letters to all the people in our street.

In his free time, Mr Mills collects coins!

Pronunciation: /ə/ vowel and linking sounds

Function: Talking about jobs and daily routines

2) Language Skills

Listening: ฟังเพ่ือความเขา้ ใจ

Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาชีพ งานอดิเรก และกิจวตั รประจาวนั

Writing: เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั อาชีพ งานอดิเรก และกิจวตั รประจาวนั ของบุคคล

ใกลต้ วั

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 392

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั งานอดิเรก หรือกิจกรรมทีท่ าในเวลาว่าง โดยครูแบง่ กระดานเป็น 2 ฝ่ัง
แลว้ แบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กล่มุ จากน้นั ครูอธิบายวา่ ให้แต่ละกลมุ่ ระดมความคิดเก่ียวกบั งาน
อดิเรกท่ีนกั เรียนรู้จกั ครูให้เวลานกั เรียนช่วยกนั ระดมความคิด เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ
ผลดั กนั ส่งตวั แทนออกมาเขียนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั งานอดิเรกบนกระดาน ในรูปแบบแผนผงั ความคิด
(mind map) เช่น

play the

collect guitar read
stamps comic
books

play Free time watch TV
computer activities
games

draw listen to ride a
pictures music bike

3. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพ เช่น baker, vet, postman, doctor, clown, firefighter ดว้ ยการเล่นเกม
สะกดคา Spelling Bee โดยครูใหแ้ จกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น จากน้นั ครูอธิบายวา่
ครูจะพดู คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาชีพ คาละ 2 คร้ัง ให้นกั เรียนฟัง และเขยี นคาดงั กลา่ วลงบนกระดาษ
เมือ่ นกั เรียนเขยี นเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนสลบั กระดาษกบั เพือ่ นท่นี ง่ั ถดั ไป ครูเฉลยการสะกดคา
ถกู ตอ้ ง หากนกั เรียนสะกดผิด จะถูกคดั ออกจากการแข่งขนั ครูทากิจกรรมเช่นน้ีไปเร่ือย ๆ
จนกว่าจะไดผ้ ชู้ นะ

393

4. ทบทวนเน้ือเร่ืองจากคาบที่แลว้ โดยสุ่มถามนกั เรียน 2-3 คน เช่น
T: What do firefighters do?
S1: They fight fire.
T: When do they start work?
S1: They start work at 8’clock.
T: What does Oscar want to be?
S2: He wants to be a firefighter?
T: Why does Oscar want to be a firefighter?
S3: Because he likes helping people and he likes driving a fire engine.

ข้นั Pre-reading

1. นาเสนอวลเี กี่ยวกบั อาชีพและกิจกรรมยามว่าง ไดแ้ ก่ collect coins (สะสมเหรียญ), deliver letters

(ส่งจดหมาย) ดว้ ยการพดู บอกความหมาย จากน้นั ครูสอนนกั เรียนออกเสียงวลีดงั กล่าวให้ถกู ตอ้ ง

โดยเนน้ ลงเสียงหนกั ในคาใหถ้ ูกตอ้ ง ดงั น้ี

collect coins deliver letters

2. ครูเขยี น Work and free time บนกระดาน จากน้นั ช้ีท่ีตนเองแลว้ พดู วา่ I am a teacher. I teach

students. I start work at half past 7. ต่อมาครูพดู วา่ In my free time, I like playing the piano. I like

painting too! I don’t like playing sports. แลว้ อธิบายวา่ free time หมายถงึ เวลาวา่ ง มกั จะใชก้ บั

activity ซ่ึงหมายความว่า กิจกรรมท่ีทาเวลาวา่ งหรืองานอดิเรก เมื่อเราตอ้ งการบอกกิจกรรมที่เรา

ชอบทาในเวลาว่าง เราจะพดู ว่า In my free time, I like + กริยาเตมิ -ing.

ตอ่ มาครูเขยี นคาว่า hobby บนกระดาน แลว้ อธิบายเพ่ิมเติมว่า นอกจาก free time activity แลว้

เรายงั สามารถใช้ hobby เพ่ือบอกงานอดิเรกไดเ้ ช่นกนั เช่น My hobby is coin collecting. Her hobby

is painting. เป็นตน้

ครูแนะนาคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจกรรมทท่ี าเวลาว่างจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards-free-
time-activities.pdf

394

ครูดาวนโ์ หลดใบงานเก่ียวกบั free time activities ให้นกั เรียนฝึกฝนคาศพั ทจ์ ากเวบ็ ไซต์
ต่อไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/worksheets-free-
time-activities.pdf

ข้นั Reading
1. หนงั สือเรียน หน้า 58 Ex. 12 นกั เรียนจะไดอ้ ่านเร่ืองเก่ียวกบั Mr Mills ใหน้ กั เรียนฟังอ่าน และจบั คู่
ภาพ a-g กบั คาศพั ท์ 1-7 จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านในใจตามไปดว้ ย
2. ครูบอกให้นกั เรียนจบั คภู่ าพ a-g กบั คาศพั ทใ์ นขอ้ ความในหนงั สือเรียน ครูให้เวลานกั เรียนอา่ น
ขอ้ ความ และจบั คู่ภาพดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน

a - 1, b - 4, c - 3, d - 2, e - 5, f - 6, g - 7

ข้นั Post-reading
1. ใหน้ กั เรียนฝึกพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั อาชีพ กิจวตั รประจาวนั และงานอดิเรกท่ีคนแตล่ ะอาชีพชอบทา
โดยใชค้ าศพั ทท์ เี่ รียนในการสนทนา
2. หนังสือเรยี น หน้า 58 Ex. 13 ครูขออาสาสมคั ร 2 คน ออกมาสนทนาตามขอ้ ความในกรอบคาพดู ให้
นกั เรียนทเี่ หลือฟัง จากน้นั ครูใหอ้ ธิบายภาระงานว่า ใหน้ กั เรียนจบั คู่ แต่งประโยคเกี่ยวกบั อาชีพ
กิจวตั รประจาวนั และงานอดิเรกท่คี นอาชีพน้นั ชอบทา ระหว่างทน่ี กั เรียนทางานคู่ ครูเดินสงั เกต
รอบ ๆ ช้นั เพอ่ื ประเมินและใหค้ วามช่วยเหลอื เท่าทจี่ าเป็น ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ ง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพดู ทหี่ นา้ ช้นั เช่น
A: What do you do?
B: I’m a baker. I make bread.
A: What time do you get up?
B: I get up at four o’clock.
A: What do you do in your free time?
B: I go fishing.
A: What do you do on Sundays?
B: I sleep late.
395