2. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทางานกลมุ่ คน้ ควา้ ในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกบั คาศพั ทท์ ขี่ ้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง
/st/ มากลมุ่ ละ 10 คา จากน้นั ให้แตล่ ะกลุม่ เขยี นคาศพั ทล์ งในกระดาษแผ่นใหญ่ และตกแตง่ ให้
สวยงาม เสร็จแลว้ ผลดั กนั ออกมาพูดนาเสนอคาศพั ทท์ ่หี นา้ ช้นั
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 19 Ex. 12 เป็นการบา้ น
Ex. 12
2. b 3. c 4. b 5. a
Activities to be ticked: play computer games, listen to music, watch TV
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง
ประเมนิ การพูดให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สิ่งที่ผอู้ นื่ สามารถ และไม่สามารถ
ทาในห้องของตนเอง แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การเขียนแผน่ ป้าย
ติดหนา้ ห้อง This is my room! แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานคาศพั ทท์ ีข่ ้นึ ตน้
ดว้ ยเสียง /st/ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงพยญั ชนะ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ควบกล้า /st/ อนั พึงประสงค์
ตรวจแบบฝึ กหดั
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพสตั วต์ ่าง ๆ
8.5 อินเทอร์เน็ต
146
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 Let’s sing! เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เน้ือหาได้
- พูดขอและใหอ้ นุญาตได้
- แตง่ เพลงเก่ียวกบั การขอและใหอ้ นุญาตได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชีว้ ัด
ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
147
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างประโยคขอและให้อนุญาต ช่วยใหฟ้ ัง
พดู /เขียนส่ือสารและเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสมตามกาลเทศะ
3. สาระการเรียนรู้
3.1ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Noun) bedtime
(Adjective) far
Structure: Can I have some water, please? Yes, of course.
Can I play in the park? Sorry, no.
Pronunciation: Intonation
Function: Listening comprehension skills through a song
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและใหอ้ นุญาต
Writing: แตง่ เพลงเก่ียวกบั การขอและให้อนุญาต
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
148
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจกรรมต่าง ๆ เช่น play a game, listen to new CD, go outside, watch TV
ดว้ ยการสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน ออกมาวาดภาพบนกระดาน ใหน้ กั เรียนทเี่ หลอื ช่วยกนั ทายว่า
เป็ นกิจกรรมใด
3. ทบทวนโครงสร้างท่ีใชข้ ออนุญาต ดว้ ยการเล่นเกม Noughts and Crosses หรือ OX โดยครูวาด
ตาราง 9 ช่อง บนกระดาน แลว้ เขียนคาศพั ทท์ ่ีเรียนแลว้ ลงในตาราง ไดแ้ ก่ room, TV, park, open,
piano, kite, read, toilet และ computer จากน้นั แบ่งนกั เรียนเป็น 2 กลุ่ม ให้แตล่ ะกลุ่มผลดั กนั
แตง่ ประโยค ขออนุญาต โดยใชค้ าศพั ทท์ ่ีกาหนดไวใ้ นตาราง กลุ่มใดแตง่ ประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง
จะมีสิทธ์ิทาเครื่องหมาย O หรือ X ในตาราง กลมุ่ ท่ที าเคร่ืองหมายได้ 3 ช่อง ติดกนั ในแนวใดก็ได้
กอ่ นเป็นกลมุ่ ที่ชนะ
4. ทบทวนการออกเสียงคาศพั ทท์ ข่ี ้ึนตน้ ดว้ ยเสียงควบกล้า /st/ โดยครูเขียนคาศพั ทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน
stand star start
stop still stone
steal storm stick
ครูช้ีทคี่ าศพั ทแ์ ตล่ ะคา ให้นกั เรียนออกเสียงพร้อมกนั ตอ่ มาครูสุ่มช้ีคาศพั ทไ์ ปเรื่อย ๆ จนนกั เรียน
ออกเสียงไดค้ ลอ่ ง ครูอาจเพิ่มจงั หวะการช้ีใหเ้ ร็วข้ึนเพือ่ ความสนุกสนาน
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคากริยาวเิ ศษณใ์ นเน้ือเพลง ไดแ้ ก่ far (อยา่ งมาก) โดยครูเขยี นประโยค It’s far too dark.
บนกระดาน แลว้ อธิบายว่า far เป็นไดท้ ้งั คาคุณศพั ทแ์ ละกริยาวิเศษณ์ ถา้ เป็นคาคณุ ศพั ท์ จะมี
ความหมายวา่ ไกล แตถ่ า้ เป็นคากริยาวเิ ศษณ์ มีความหมายเช่นเดียวกบั คาว่า very ซ่ึงแปลว่า มาก
ครูเขยี นตวั อยา่ งประโยคเพิม่ เติมบนกระดาน เช่น
This car is far better than our old one.
I don’t like playing ice hockey because it’s far too dangerous.
2. นาเสนอคาศพั ทเ์ พม่ิ เตมิ ไดแ้ ก่ bedtime (เวลาเขา้ นอน) โดยครูยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน ดงั น้ี
It’s bedtime soon.
Put your toys away now, it’s bedtime.
I like to have a hot drink at bedtime.
ครูอธิบายวา่ เราสามารถนาคาวา่ bedtime ผสมกบั คาอน่ื ไดอ้ กี เช่น bedtime story (นิทานกอ่ นนอน)
149
3. นาเสนอคากริยาวิเศษณ์ ไดแ้ ก่ nearly (เกือบจะ) โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ พูดบอก
ความหมาย จากน้นั ใหน้ กั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคา (word stress) ไดแ้ ก่ nearly
4. ครูเขยี นเน้ือเพลงบางส่วนบนกระดาน แลว้ สอนนกั เรียนออกเสียงสูงท่ที า้ ยประโยค (intonation)
ดงั น้ี
Can I have some water, please? Can I watch TV?
Can I play in the park? Can I play?
จากน้นั ครูช้ีท่แี ต่ละประโยคและอ่านออกเสียงใหน้ กั เรียนฟังและพูดตาม ให้นกั เรียนสังเกตวา่ เรามกั
จะข้ึนเสียงสูงทา้ ยประโยคคาถามที่ข้นึ ตน้ ดว้ ย Can รวมถึงประโยค Yes/No questions อ่ืน ๆ ทีข่ ้ึนตน้
ดว้ ย Verb to be หรือ Do และ Does ตอ่ มาครูถามว่า ในภาษาไทย มกี ารข้นึ เสียงสูงที่ทา้ ยประโยค
หรือไม่ ครูอาจเขยี นประโยคท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษเพ่ือให้นกั เรียนเปรียบเทียบ ดงั น้ี
Can I go out? ฉนั ขออนุญาตออกไปขา้ งนอกไดไ้ หม
Can I open the window? ฉันขออนุญาตเปิ ดหนา้ ตา่ งไดไ้ หม
เสร็จแลว้ ครูช้ีประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนออกเสียงพร้อมกนั อีกคร้งั ครูทากิจกรรมน้ีกบั
นกั เรียนเป็นรายบุคคลดว้ ย
การขนึ้ เสียงสูงในภาษาองั กฤษ (rising intonation)
ในภาษาองั กฤษจะมีการข้นึ เสียงสูงที่ทา้ ยประโยค ซ่ึงต่างกบั ภาษาไทยทล่ี งเฉพาะเสียงต่า
ที่ทา้ ยประโยค ซ่ึงการข้ึนเสียงสูงมีวิธีการ ดงั น้ี
1. คาถาม Yes/No questions คือ คาถามทต่ี อ้ งการคาตอบเป็น Yes หรือ No เทา่ น้นั
ไม่ใช่คาถามทตี่ อ้ งการรายละเอียด เช่น
Do you like it? Yes, I do./No, I don’t.
Are you coming now? Yes, I am./No, I’m not.
Can you help? Yes, of course./Sorry, no.
150
2. ประโยคบอกเล่าทเี่ ราตอ้ งการให้เป็นคาถาม เช่น
You like it? You’re coming to the party?
It means I can’t go?
ทม่ี า : http://www.pasaangkit.com/การออกเสียงสูงตา่ ในภาษ
ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอช่ือ Rising Intonation - English Pronunciation with JenniferESL ใหน้ กั เรียน
ดแู ละฝึกข้นึ เสียงสูงจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=pT6aGkt4czQ
หรือครูเขา้ ไปท่ี www.youtube.com แลว้ พมิ พค์ าสาคญั เช่น rising intonation ในช่องคน้ หา
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 24 Ex. 14 ครูอา่ นเน้ือเพลงให้นกั เรียนฟังและอา่ นตามทลี ะทอ่ น จากน้นั ครูเปิ ด
CD ให้นกั เรียนฟังและดเู น้ือเพลงตามไปดว้ ย ต่อมาครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ให้กลุ่มแรก
รบั ผิดชอบเน้ือเพลงท่อนท่ี 1-2 ส่วนกล่มุ ท่ี 2 รบั ผิดชอบเน้ือเพลงทอ่ นที่ 3-4 ครูให้เวลานกั เรียน
ฝึกร้องเพลงจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูเปิ ดเพลงใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร้องท่อนที่กลมุ่ ของตนเองไดร้ ับมอบหมาย
ให้นกั เรียนปรบมือตามจงั หวะดว้ ย
2. ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั และดูเน้ือเพลงในหนงั สือเรียน หนา้ 24 อีกคร้งั จากน้นั เลอื กประโยคในเน้ือเพลง
มาฝึกถาม-ตอบ โดยใหม้ ีท้งั คาตอบทีอ่ นุญาตและปฏเิ สธ ให้เวลานกั เรียนฝึกพูดจนคล่อง แลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาถาม-ตอบท่ีหนา้ ช้นั โดยเนน้ ให้นกั เรียนข้นึ เสียงสูงทา้ ยประโยค
3. ให้เลน่ เกมเรียงบตั รคาให้เป็นประโยค โดยครูแจกบตั รคาให้คนละ 1 คา จากน้นั ครูบอกว่า ครูพูด
ประโยค ให้นกั เรียนที่มบี ตั รคาตามประโยคทีค่ รูพูด มาเรียงใหถ้ ูกตอ้ ง
ข้นั Production
1. หนงั สือเรยี น หน้า 24 Ex. 15 ให้ทาแบบฝึกหัดทบทวนเพลงทร่ี ้อง โดยให้นกั เรียนทางานคู่ เลอื ก
คาตอบในกรอบดา้ นขวามาเติมใตค้ าถามดา้ นซา้ ยให้ถูกตอ้ ง ครูช่วยเหลือนกั เรียนโดยให้นกั เรียนดู
คาทา้ ยประโยค Can I listen to my new CD? ให้นกั เรียนดูประโยคในกรอบดา้ นขวาและถามว่า
What word rhymes with ‘CD’? เมอ่ื ไดค้ าตอบวา่ TV ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ทเี่ หลอื
จากน้นั ให้แต่ละค่แู ตง่ เพลงจากคาถามเหลา่ น้ี โดยใชเ้ น้ือเพลงในหนงั สือเรียน Ex. 14 เป็นแบบ ครูให้
เวลานกั เรียนฝึกร้องเพลงจนคล่อง เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาร้องเพลงท่หี นา้ ช้นั
โดยให้นกั เรียนคดิ ท่าทางประกอบเพลงดว้ ย เช่น
151
Can I play a game in my room? Sorry, no! It’s bedtime soon!
Can I listen to my new CD? Sorry, no! But you can watch TV!
Can I go outside again? Sorry, no! It’s nearly ten!
2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 20 Ex. 13 เป็นการบา้ น
2. play in the park 3. watch TV
4. play my new CD
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วธิ กี ารวดั แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมินชิ้นงานการแต่งเพลง แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพูดขอและใหอ้ นุญาต
สงั เกตการข้นึ เสียงสูงในประโยค แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ขออนญุ าต แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั ประสงค์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รคา
8.5 อินเทอร์เนต็
152
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 Halloween fun!
เวลา 2 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เทศกาลฮาโลวนี ได้
- ตอบคาถามจากการอา่ นเน้ือเรื่องได้
- พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั เทศกาลฮาโลวีนได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนิทาน
งา่ ย ๆ หรือเร่ืองส้นั ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตัวชีว้ ัด
ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป. 5/2 เขียนภาพ แผนผงั และแผนภมู ิแสดงขอ้ มลู ต่าง ๆ ตามทีฟ่ ังหรืออา่ น
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ป. 5/2 ตอบคาถาม/บอกความวนั สาคญั ของเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวิตความ
เป็นอยงู่ ่าย ๆ ของเจา้ ของภาษา
153
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วัด ฟัง พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทเี่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
ต 4.1 ป. 5/1
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั เทศกาลฮาโลวนี ช่วยใหอ้ ่าน พดู /เขยี นนาเสนอเก่ียวกบั
เทศกาลในประเทศของตนเองไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Nouns) treat, trick, sweet, pumpkin lantern
(Phrase) have fun
Structure: Halloween is a time for children to have fun in the UK and the USA.
Function: Reading and talking about Halloween
2) Language Skills
Speaking: ถาม-ตอบเก่ียวกบั เทศกาลฮาโลวนี
Reading: ตอบคาถามจากเรื่องทอ่ี ่าน
3) Culture: เทศกาลฮาโลวีน (Halloween)
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุง่ มน่ั ในการทางาน
154
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทท์ ี่เรียนมาแลว้ เช่น ghost, costume, scary และ noise ดว้ ยการเล่นเกม What’s
missing? ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 กลุม่ ให้แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนมายืนหนา้ ช้นั และหันหลงั ใหก้ ระดาน
ต่อมาครูนาบตั รคามาเรียงบนกระดาน คร้ังละ 3-4 ใบ ใหต้ วั แทนนกั เรียนหนั มาดู ครูให้เวลานกั เรียน
จาคาศพั ท์ 5 วนิ าที จากน้นั ใหต้ วั แทนหันกลบั ไปหาเพื่อน ครูนาบตั รคาออก 1 ใบ ให้ตวั แทนหันมา
ดูอีกคร้ัง และบอกวา่ บตั รคาใดหายไป กลุ่มใดตอบถูกก่อน ได้ 1 คะแนน กลุ่มทไ่ี ดค้ ะแนนมากทส่ี ุด
กลมุ่ น้นั ชนะ
3. ทบทวนการข้ึนเสียงสูงในประโยคขออนุญาต (rising intonation) โดยครูแจกบตั รคาท่เี ขียนประโยค
ขออนุญาตให้นกั เรียนคนละ 1 ใบ เช่น
Can I watch TV? Can I stay outside?
Can I have some water? Can I play a game in my room?
Can I listen to my new CD? Can I play in the park?
จากน้นั ให้นกั เรียนออกเสียงประโยคให้ครูฟัง โดยเริ่มจากนกั เรียนทีน่ งั่ แถวหลงั กอ่ น ครูให้ทา
กิจกรรมน้ีจนครบทกุ คน
4. ทบทวนเพลงในคาบทีแ่ ลว้ โดยให้นกั เรียนร้องเพลงในหนงั สือเรียน หนา้ 24 พร้อมกนั
5. ครูให้นกั เรียนอา่ นช่ือเร่ือง Halloween fun! และดภู าพในหนงั สือเรียน หนา้ 25 Ex. 16 แลว้ ครูถาม
คาถามนกั เรียน เช่น
T: What do you see in the picture?
S1: I see a spiderman.
S2: I see a ghost.
S3: I see a jack o’ lantern.
จากน้นั ครูอธิบายว่า เทศกาลฮาโลวีนเป็นเทศกาลเกี่ยวกบั ภตู ผี โดยชาวตะวนั ตกเช่ือกนั ว่า ในวนั น้ี
โลกมนุษยแ์ ละโลกหลงั ความตายจะเช่ือมต่อกนั ทาใหว้ ิญญาณกลบั มายงั โลกมนุษยเ์ พ่อื มาหา
ครอบครวั ของตนหรือหาร่างสิง ดงั น้นั คนเป็นจึงตอ้ งแต่งกายเหมอื นภูตผเี พอ่ื หลอกใหว้ ิญญาณ
เช่ือว่าเป็นวิญญาณดว้ ยกนั จะไดไ้ ม่สิงร่างตนเอง
ต่อมาครูถามนกั เรียนว่า ในประเทศไทยมเี ทศกาลท่เี กี่ยวกบั ภตู ผปี ี ศาจหรือไม่ ใหน้ กั เรียนอภิปราย
เสร็จแลว้ ครูเขยี นคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน เช่น เทศกาลผีตาโขน อ.ดา่ นซา้ ย จ.เลย
155
ข้นั Pre-reading
1. นาเสนอคาศพั ทท์ น่ี ่าสนใจในบทอา่ น ไดแ้ ก่ treat (เล้ียง) และ trick (หลอก) โดยครูเขยี นคาศพั ทบ์ น
กระดาน แลว้ ออกเสียงคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟังและออกเสียงตามจนคลอ่ ง
ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ treat เป็นท้งั คานามและคากริยา ถา้ เป็นคากริยา จะมคี วามหมายว่า
“เล้ยี ง” หากเป็นคานาม จะหมายความว่า การจ่ายเงนิ เพอ่ื คนอน่ื เช่น
No, you paid for dinner last time - this is my treat.
(คุณจ่ายคา่ อาหารเยน็ ไปคร้ังทีแ่ ลว้ ม้อื น้ีฉันขอจา่ ยเอง)
2. ครูนาเสนอสานวนในบทอา่ น ไดแ้ ก่ have fun (มีความสนุกสนาน) โดยครูยกตวั อยา่ งประโยค
บนกระดาน พร้อมกบั บอกความหมาย ดงั น้ี
Halloween is a time for children to have fun.
We have (a lot of) fun playing ‘Trick or Treat?’
ครูอธิบายวา่ fun นอกจากจะเป็นคาคณุ ศพั ทท์ ม่ี ีความหมายว่า สนุกสนานแลว้ ยงั เป็นคานามไดด้ ว้ ย
ซ่ึงมคี วามหมายวา่ ความสนุก
นอกจากน้ี สานวน Have fun. ใชก้ ล่าวคาอวยพรไดด้ ว้ ย ซ่ึงมีความหมายว่า ขอให้สนุกนะ เช่น
A: I’m going to the UK next week.
B: OK. Have fun!
from house to house มีความหมายว่า จากบา้ นหน่ึงไปอกี บา้ นหน่ึง
ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 25 Ex. 16 ครูพูดสัง่ Open your book to page 25. ให้นกั เรียนทาตามคาส่ัง และอ่าน
คาถามและตวั เลอื กขอ้ 1-5 และอธิบายคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟัง เช่น put on (สวมใส่) และ picnics
(การนาอาหารงา่ ย ๆ ออกมาน่ังรับประทานนอกบา้ น เช่น สวนสาธารณะ) แลว้ ใหน้ กั เรียนขดี เสน้ ใต้
คาสาคญั เช่น costume และ lantern
ข้นั Post-reading
1. ใหน้ กั เรียนทางานคู่อา่ นเน้ือเร่ือง Halloween fun! แลว้ ตอบคาถามขอ้ 1-5 เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ
โดยถามนกั เรียน ดงั น้ี
156
T: When is Halloween?
Ss: It’s on 31st October.
T: What kind of costumes do children put on?
Ss: They put on scary costumes.
T: What do children play on Halloween?
Ss: They play ‘Trick or Treat?’.
T: What do children use to make a special lantern?
Ss: They use a pumpkin.
T: What do people also do on Halloween?
Ss: They have a Halloween party.
ครูเฉลยคาตอบอีกคร้งั บนกระดาน
1. a) 31st October 2. b) scary 3. a) ‘Trick or Treat?’
4. b) pumpkin 5. a) parties
ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมเพอื่ ฝึกฝนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั วนั ฮาโลวนี จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.eslgamesplus.com/halloween-vocabulary-esl-memory-game-ghost-
mask-pumpkin/
2. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม ให้ช่วยกนั สรุปกิจกรรมทีท่ าในวนั ฮาโลวนี ออกมาในรูปของแผนผงั ความคดิ
พร้อมวาดภาพและระบายสีให้สวยงาม แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาพูดนาเสนอทห่ี นา้ ช้นั
have Halloween wear scary
Halloween costumes
parties
make play ‘Trick
pumpkin or Treat?’
lantern
157
กิจกรรมเพม่ิ เตมิ
ครูเปิ ดคลปิ วดิ ีโอชื่อ The Haunted House ใหน้ กั เรียนดูจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/short-stories/the-haunted-house
จากน้นั ครูดาวนโ์ หลดใบงานให้นกั เรียนทาจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/stories-the-haunted-house-
worksheet-final-2012-10-10.pdf
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั Warm Up
ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั และให้นกั เรียนทบทวนเน้ือเร่ืองทอ่ี า่ น และตอบคาถามครู เช่น
T: When is Halloween?
Ss: It’s on 31st October.
T: What kind of costumes do children put on?
Ss: They put on scary costumes
ข้นั Presentation
ครูให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ วาดภาพฟักทองบนกระดาน แลว้ คอ่ ย ๆ เตมิ ตา ปาก และจมูก
ทีละอยา่ ง เพ่อื ให้นกั เรียนแขง่ ขนั กนั ทายว่า คืออะไร ขณะวาดภาพครูถามนกั เรียนว่า
T: What is this?
Ss: It’s a pumpkin lantern.
ครูใหน้ กั เรียนออกเสียงประโยค It’s a pumpkin lantern. แลว้ อธิบายนักเรียนว่า pumpkin lantern คือ
ตะเกียงทที่ าข้ึนมาเป็นพเิ ศษจากฟักทองเพ่อื ใชใ้ นการเฉลิมฉลองคืนวนั ฮาโลวนี
ข้นั Practice
ครูอธิบายภาระงาน ให้ทางานกลุม่ คน้ ควา้ คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั วนั ฮาโลวนี เพมิ่ เติมมากลุ่มละ 10 คา
จากน้นั ให้นกั เรียนเขียนใส่กระดาษแผ่นใหญ่ พร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงาม เสร็จแลว้ ให้แต่ละกลุ่ม
ออกมานาเสนอคาศพั ทข์ องกลุม่ ตนเองท่ีหนา้ ช้นั ใหน้ กั เรียนจดบนั ทกึ คาศพั ทล์ งในสมุดของตนเอง
ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ หน้ กั เรียนสืบคน้ คาศพั ท์ ดงั น้ี
https://www.esolcourses.com/content/topics/autumn-festivals/halloween/halloween-
vocabulary-uk-english.html
https://www.youtube.com/watch?v=s1yGXu9K7aw
158
ข้นั Production
ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 21 Ex. 14 เป็นการบา้ น
2. parties 3. lanterns 4. candle
5. costumes 6. window 7. October
8. treat 9. pumpkin
7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธกี ารวดั
ประเมินชิ้นงานคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วนั ฮาโลวีน แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด อนั พงึ ประสงค์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 อินเทอร์เนต็
159
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 Festival Time in ASEAN countries!
เวลา 2 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เร่ืองทอ่ี า่ นได้
- ตอบคาถามจากการเรื่องที่อ่านได้
- พูดนาเสนอเทศกาลในภูมิภาคอาเซียนได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ติ ามคาสัง่ คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ท่ีฟังและอ่าน
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน
ง่าย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบุคคล
ต 1.2 ป. 5/2 ใชค้ าส่งั คาขอร้อง คาขออนุญาต และให้คาแนะนางา่ ย ๆ
ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขียนเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชี้วัด
ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้ได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชีว้ ดั
ต 2.2 ป. 5/2 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองของเจา้ ของภาษา
กบั ของไทย
160
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปล่ยี นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชีว้ ัด
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้เกี่ยวกบั เทศกาลทจี่ ดั ข้นึ ในภมู ภิ าคอาเซียนและคาศพั ทท์ เี่ กี่ยวขอ้ ง ช่วยใหเ้ ราเขา้ ใจวฒั นธรรม
ในภมู ิภาคอาเซียน
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Nouns) festival, rocket, bamboo, plastic pipe, crop, harvesting
season, spirit, sports competition, harvest, celebration
(Verbs) happen, fire, join, celebrate, take place, gather, offer
Structure: Bun Bang Fai Festival happens in May every year in Thailand
and Laos.
Tadau Kaamatan Festival happens in Sabah, Malaysia.
Kadayawan is a festival in Davao City, the Philippines.
Pronunciation: Pronouncing words begin with and ending with /f/ sound
Function: Reading and talking about festival in Asean countries
2) Language Skills
Speaking: พูดนาเสนอเทศกาลในภูมภิ าคอาเซียน
Reading: ตอบคาถามจากเรื่องทอ่ี ่าน
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 161
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ทบทวนเน้ือหาเกี่ยวกบั เทศกาลฮาโลวีน (Halloween) โดยแบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลมุ่ เพื่อเล่นเกมตอบ
ปัญหา (quiz show) ให้แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมายนื ทหี่ นา้ ช้นั ครูบอกวา่ ครูจะอ่านคาถาม
ให้ตวั แทนแต่ละกลมุ่ ยกมือตอบ เช่น
T: When is Halloween?
Team 1: It’s on 31st October.
T: What kind of costumes do children wear on Halloween?
Team 2: They wear scary costumes.
ตวั แทนกลมุ่ ทยี่ กมอื ก่อน มสี ิทธ์ิตอบก่อน ถา้ ตอบถกู จะได้ 1 คะแนน กลุม่ ทีม่ คี ะแนนรวมมากทส่ี ุด
เป็นกลุม่ ทช่ี นะ
3. ทบทวนประโยคขออนุญาต โดยครูเขยี น Can I…? บนกระดาน ให้นกั เรียนช่วยกนั แตง่ ประโยค
ขออนญุ าตจากโครงสร้างน้ี เช่น
Can I go to the toilet? Can I sit here?
Can I watch TV? Can I listen to music?
Can I borrow your pen? Can I come in?
ครูช้ีทแ่ี ตล่ ะประโยคแลว้ ให้นกั เรียนอา่ นพร้อมกนั โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียนข้นึ เสียงสูงท่ีทา้ ยประโยค
(rising intonation) ให้ถูกตอ้ ง ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั พูดและทาตามประโยคท่คี ู่ของตนพดู จนคลอ่ ง
4. นาภาพเทศกาลบุญบ้งั ไฟของไทย, เทศกาล Tadau Kaamatan ของมาเลเซีย และเทศกาล Kadayawan
ของฟิลิปปิ นส์ มาใหน้ กั เรียนดู ให้ช่วยกนั ระดมความคดิ บอกคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั ภาพ เช่น
T: What do you see in this picture? (แสดงภาพเทศกาลบุญบ้งั ไฟ)
S1: Rocket.
S2: Women are dancing.
S3: Women are wearing beautiful costumes.
T: Do you know where does the Rocket Festival take place?
162
Ss: Is it in the northeast of Thailand?
T: Yes, it is. Very good.
ครูอาจเปิ ดคลปิ วดิ ีโอเก่ียวกบั เทศกาลดงั กลา่ วให้นกั เรียนดจู ากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
เทศกาลบุญบ้งั ไฟ - https://www.youtube.com/watch?v=l_OPSryHG60
เทศกาล Tadau Kaamatan - https://www.youtube.com/watch?v=YQyaBBLtnt8
เทศกาล Kadayawan - https://www.youtube.com/watch?v=sOwwtidNJKA
เทศกาล Rocket Festival (บญุ บ้งั ไฟ) จดั ข้ึนในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
รวมถึงลาว โดยจะจดั ข้ึนในสปั ดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมของทกุ ปี กิจกรรมที่ทาใน
เทศกาลน้ี คอื การแห่บ้งั ไฟและจดุ บ้งั ไฟข้นึ สู่ทอ้ งฟ้า โดยชาวบา้ นมคี วามเชื่อว่า พระยาแถน
มหี นา้ ทีค่ อยดูแลให้ฝนตกถูกตอ้ งตามฤดูกาล และมคี วามช่ืนชอบไฟเป็นอยา่ งมาก หาก
หมบู่ า้ นใดไม่จดั ทาการจดั งานบญุ บ้งั ไฟบชู า ฝนก็จะไมต่ กถกู ตอ้ งตามฤดกู าล อาจกอ่ ใหเ้ กิด
ภยั พิบตั ิกบั หมู่บา้ นได้ นอกจากขบวนแห่บ้งั ไฟแลว้ ยงั มกี ารฟ้อนรา และการประกวด
กองเชียร์ของบ้งั ไฟแตล่ ะหมู่บา้ นดว้ ย
เทศกาล Tadau Kaamatan เป็นเทศกาลแห่งกาลเกบ็ เกี่ยว จดั ข้ึนในเดือนพฤษภาคมทร่ี ฐั
ซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย เป็นเทศกาลขอบคณุ ภตู แห่งขา้ ว นามว่า Huminodun ในเทศกาลน้ี
ชาวพ้ืนเมืองจะเตน้ ราและร้องเพลง มีการประกวดนางงาม เรียกว่า Unduk Ngadau รวมท้งั
การแข่งกีฬาดว้ ย
เทศกาล Kadayawan จดั ข้ึนในสัปดาห์ท่ี 3 ของเดือนสิงหาคมของทกุ ปี ทีเ่ มอื ง Davao
ประเทศฟิลิปปิ นส์ เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองชีวติ ธรรมชาติ และการเกบ็ เก่ียว กิจกรรมท่ีทา
ในเทศกาลน้ี คือ การนาอาหารไปถวายแกพ่ ระเจา้ Manama ทีภ่ ูเขา Apo โดยอาหารทถ่ี วาย
คือ ผลไมส้ ด ผกั ใบเขยี ว และขา้ ว โดยจะถวายบนเสื่อ นอกจากน้ีชาวฟิ ลิปปิ นส์ยงั ร้องเพลง
และเตน้ ราในเทศกาลดว้ ย
ทีม่ า : https://th.wikipedia.org/wiki/บญุ บ้ังไฟ
https://en.wikipedia.org/wiki/Kaamatan
https://en.wikipedia.org/wiki/Kadayawan_Festival
163
ข้นั Pre-reading
1. นาเสนอคาศพั ทใ์ นบทอา่ น ไดแ้ ก่ rocket (กระสวย, จรวด), festival (เทศกาล), plastic pipe
(ทอ่ พลาสตกิ ), bamboo (ไมไ้ ผ่), god (พระเจา้ ), crop (พชื ), harvest (การเก็บเกี่ยว), celebration
(การเฉลมิ ฉลอง), spirit (วิญญาณ) และ sports competition (การแขง่ ขนั กีฬา) โดยเขยี นคาศพั ท์
บนกระดาน ให้นกั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ในคาศพั ทท์ ่มี ีมากกวา่ 1 พยางค์ ให้ถูกตอ้ ง ดงั น้ี
rocket festival plastic pipe
bamboo harvest celebration
spirit sports competition
ตอ่ มาครูเขียนคาวา่ festival บนกระดาน ให้นกั เรียนออกเสียงอีกคร้ัง แลว้ สอนวิธีการออกเสียง /f/
ทีต่ น้ พยางคแ์ ละทา้ ยพยางค์ เช่น
fat fun find feel
puff laugh enough cuff
ครูอธิบายการออกเสียงใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ครูช้ีคาศพั ทใ์ ห้นกั เรียนออกเสียงตาม ครูช้ีคาศพั ท์
สลบั ไปมาจนนกั เรียนออกเสียงไดช้ ดั เจน
การออกเสียง /f/ ในภาษาอังกฤษ
คนไทยมกั จะไม่มปี ัญหาในการออกเสียง /f/ ทตี่ น้ พยางค์ เน่ืองจากเสียง “ฟ” มใี น
ภาษาไทย แตม่ กั จะออกเสียง /f/ ทท่ี า้ ยพยางคไ์ มถ่ กู ตอ้ ง เพราะเป็นเสียงทีไ่ มม่ ใี น
ภาษาไทย และบ่อยคร้งั คนไทยจะออกเสียงเป็นเสียง แมก่ บ แทน
เสียง /f/ เป็นเสียงเสียดแทรก เกิดจากฟันบนกบั ริมฝีปากล่าง โดยริมฝีปากล่าง
เคล่ือนข้ึนสัมผสั กบั ขอบฟันบน กระแสลมจากปอดจะเสียดแทรกผา่ นช่องแคบ ๆ
ระหวา่ งริมฝีปากล่างกบั ฟันบนออกมา
ท่มี า: ปรารมภ์รัตน์ โชติกเสถยี ร. การออกเสียงสระและเสียงพยัญชนะในภาษาอังกฤษ.
กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั , 2547.
ครูเปิ ดคลิปวดิ ีโอช่ือ Letter /f/ Sound - Phonics by TurtleDiary ให้นกั เรียนดแู ละฝึกออกเสียง
ตามเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=jqxcv-k4gYA
หรือครูเขา้ ไปท่ี www.youtube.com แลว้ พมิ พค์ าสาคญั เช่น /f/ pronunciation ในช่องคน้ หา
164
2. นาเสนอกริยาทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั เทศกาล ไดแ้ ก่ celebrate (เฉลิมฉลอง), fire (ยิง), happen (เกิดข้ึน),
gather (รวมตวั กนั ) และ offer (เสนอ, ให)้ ดว้ ยการเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ พูดบอกความหมาย
จากน้นั ให้นกั เรียนดคู าว่า happen ใหน้ กั เรียนดูบทอา่ นแลว้ หาคาหรือวลที ีม่ ีความหมายคลา้ ยกบั คาน้ี
เมื่อนกั เรียนตอบวา่ take place ใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ทพ์ ร้อมกนั โดยใหน้ กั เรียนลงเสียงหนกั
ในคาศพั ท์ (word stress) ให้ถูกตอ้ ง ดงั น้ี celebrate happen gather offer
3. ให้นกั เรียนดบู ทอ่าน แลว้ ถามคาถาม ดงั น้ี
T: Where does Rocket Festival take place?
Ss: It takes place in Thailand and Laos.
T: When does it happen?
Ss: It happens in May every year.
T: Why do people celebrate it?
Ss: To ask for rain and thank the rain god ‘Phya Thaen’.
ตอ่ มาให้นกั เรียนจบั คู่ฝึกพูดถาม-ตอบ โดยใชข้ อ้ มูลจากท้งั 3 เทศกาลในหนงั สือเรียน หนา้ 26
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คู่ พูดถาม-ตอบให้เพือ่ นในช้นั ฟัง
ข้นั Reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 26 Welcome to ASEAN countries 2 ใหน้ กั เรียนอา่ นเน้ือเรื่องในหนา้ น้ี และทา
ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั เรื่องท่ีอา่ น
2. ครูถามคาถามเก่ียวกบั เร่ืองทีอ่ า่ นเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ เช่น
- Where does Rocket Festival take place? - When does it happen?
- Why do people celebrate it?
ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ
ข้นั Post-reading
1. ใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือเรื่องในหนงั สือเรียน หนา้ 62 อกี คร้งั จากน้นั ครูอธิบายภาระงานใหน้ กั เรียน
ทางานกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มูลทางอินเทอร์เนต็ หรือหนงั สือเก่ียวกบั เทศกาลทม่ี ีช่ือเสียงในประเทศของ
ตนเองมากลมุ่ ละ 1 เทศกาล และครอบคลมุ ขอ้ มลู ตอ่ ไปน้ี
- เทศกาลน้ีจดั ข้ึนที่ประเทศใด - จดั ข้ึนเมื่อไร
- จดั ข้นึ เพอื่ อะไร - มีกิจกรรมอะไรบา้ ง
จากน้นั เขียนบรรยายใส่กระดาษ พร้อมตดิ ภาพประกอบดว้ ย เสร็จแลว้ ให้ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มออกมา
พดู นาเสนอท่หี นา้ ช้นั
2. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หมท่ เ่ี รียนในชวั่ โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์
165
ชั่วโมงท่ี 2
ข้นั Warm Up
ครูทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ให้อาสาสมคั รออกมาพูดใหเ้ พอ่ื นในช้นั ฟังเกี่ยวกบั เทศกาลที่มชี ื่อเสียงใน
ประเทศ โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 กลมุ่ ออกมาพูดหนา้ ช้นั
ข้นั Presentation
ครูเขยี นประโยคถาม-ตอบเกี่ยวกบั เทศกาล ให้นกั เรียนดบู นกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียน 1 คน ออกมา
พดู ถาม-ตอบเป็นตวั อยา่ งให้เพ่อื นในช้นั ฟัง เช่น
T: Where does Rocket Festival take place?
S1: It takes place in Thailand and Laos.
T: When does it happen?
S1: It happens in May every year.
T: Why do people celebrate it?
S1: To ask for rain and thank the rain god ‘Phya Thaen’.
ครูและนกั เรียนพูดสนทนาซ้า 2-3 คร้ัง ใหน้ กั เรียนในช้นั จบั คกู่ นั ฝึกพูดสนทนาจนคลอ่ ง
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 27 Ex. 1 ครูอธิบายคาถามขอ้ 1-5 และตวั เลอื กใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ให้นกั เรียน
อา่ นขอ้ มูลของแต่ละเทศกาลอีกคร้งั และเลอื กคาตอบท่ถี ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ
และครูเฉลยคาตอบใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้งั
1. b 2. a 3. b 4. a 5. b
กจิ กรรมเพ่มิ เติม
ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 3 กลมุ่ เพอ่ื อา่ นออกเสียงบทอา่ น โดยให้กลุ่มแรกรับผดิ ชอบอ่านเร่ืองเทศกาล
Rocket Festival กล่มุ ที่ 2 อ่านเรื่อง the Harvest Festival และกลุม่ ที่ 3 อา่ นเรื่อง Kadayawan Festival
กอ่ นอา่ น ครูอา่ นออกเสียงเน้ือเร่ืองทลี ะยอ่ หนา้ ให้นกั เรียนฟังและอา่ นตาม เสร็จแลว้ ให้แต่ละกลมุ่
อา่ นเน้ือเร่ืองที่กลมุ่ ตนเองไดร้ บั มอบหมาย ครูสังเกตว่า นกั เรียนออกเสียงไดถ้ ูกตอ้ งหรือไม่
2. หนังสือเรียน หน้า 27 Ex. 2 ใหน้ กั เรียนดูบทสนทนา จากน้นั บอกว่า ใหน้ าขอ้ มลู จากบทอ่านมาเติม
ใหส้ มบรู ณ์ โดยเลือกมา 1 เทศกาล สาหรบั ตอบคาถาม ครูให้เวลานกั เรียนทาแบบฝึกหัด ต่อมาครู
และนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ แลว้ ให้นกั เรียนจบั ค่สู นทนากนั เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมา
สนทนาท่ีหนา้ ช้นั 2-3 คู่ เช่น
166
S1: When and where does Rocket Festival take place?
S2: It takes place in Thailand and Laos.
S1: Why do people celebrate it?
S2: To ask for rain and thank the rain god ‘Phya Thaen’.
S1: Why do people celebrate it?
S2: To ask for rain and thank the rain god ‘Phya Thaen’.
3. ใหน้ กั เรียนจบั คู่ฝึกพูดถาม-ตอบโดยใชข้ อ้ มลู ของเทศกาลท้งั 3 ในหนงั สือเรียน หนา้ 26 ครูให้เวลา
นกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ ง เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบท่หี นา้ ช้นั เช่น
S1: Where does Kadayawan Festival take place?
S2: It takes place in Davao City, the Philippines.
S1: When does it take place?
S2: It takes place on the third week of August every year.
S1: What do people do during Kadayawan Festival?
S2: They bring food to the god ‘Manama’ at Mount Apo. They also dance and
sing too.
S1: What kind of food do they offer?
S2: They offer fresh fruit, green vegetables and rice.
ข้นั Production
1. หนงั สือเรียนหน้า 27 Ex. 3 ครูอธิบายภาระงาน โดยสมมติสถานการณว์ า่ มีเพอื่ นมาหานกั เรียนทบ่ี า้ น
ให้นกั เรียนเขียนกฎหรือขอ้ ห้ามในห้องของตนเอง พร้อมระบายสีและตกแตง่ ใหส้ วยงาม เสร็จแลว้
ออกมานาเสนอท่ีหนา้ ช้นั
(ตวั อยา่ ง)
This is my room!
Please read this:
In my room, you can listen to my CD, but you cannot watch TV.
167
2. ครูอธิบายภาระงาน ใหจ้ บั กลมุ่ ทาช้ินงานคาศพั ทท์ ขี่ ้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง /f/ และลงทา้ ยดว้ ยเสียง /f/ มา
อยา่ งละ 10 คา จากน้นั ใหเ้ ขียนคาศพั ทล์ งบนกระดานแผ่นใหญ่ โดยเรียงคาศพั ทต์ ามลาดบั ตวั อกั ษร
(alphabetical order) เสร็จแลว้ ให้แต่ละกล่มุ ส่งตวั แทนออกมาอา่ นคาศพั ทใ์ ห้เพือ่ นฟัง
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมทบทวนคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างในแบบฝึ กหดั หน้า 22-23 Exs. 1-6 หวั ข้อ
Modular Revision and Assessment 2
แบบฝึ กหัด หน้า 23 Ex. 5
Female: Hello, children. Let’s talk about what we can and what we can’t
do in our classroom. First of all, can we eat in our classroom?
Child 1: No, Miss. We can’t eat any food in our classroom.
Female: That’s right. Can we make noise?
Child 2: No, Miss. We can’t make noise, but we can ask questions.
Female: Excellent. How about listening to music?
Child 3: We can’t listen to music and we can’t run in the classroom.
Female: Excellent, children. Now …
Ex. 1 3. I can see 4. noise 5. scary
1. ghost 2. costume 3. are looking
Ex. 2 2. is visiting
1. are listening 5. is wearing
4. is eating
Ex. 3 3. a
1. c 2. d
Ex. 4 3. A
1. B 2. A
Ex. 5 3. 4.
1. 2. ✓
Ex. 6 3. no 4. yes
1. no 2. yes 168
7. การวดั และประเมินผล
วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการถาม-ตอบเกี่ยวกบั แบบสังเกตพฤตกิ รรม
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เทศกาลฮาโลวีน การเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบฝึกหัด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมินช้ินงานการให้ขอ้ มูล แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เกี่ยวกบั เทศกาลในภูมภิ าคอาเซียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานขอ้ ควรปฏิบตั ิ แบบประเมินช้ินงาน
เมื่อคนอื่นเขา้ มาในหอ้ งของตนเอง
ประเมนิ ชิ้นงานคาศพั ทท์ ่ีข้ึนตน้ แบบประเมนิ ชิ้นงาน
และลงทา้ ยดว้ ยเสียง /f/
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 อินเทอร์เน็ต
169
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 CLIL 2 Dos and Dont’s
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ส่ิงของได้
- พดู ใหค้ าแนะนาเก่ียวกบั ความปลอดภยั ได้
- เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ความปลอดภยั ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ติ ามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ทฟี่ ังและอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ที่ฟังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 5/5 พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ป. 5/3 พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
170
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น
พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตัวชี้วดั
ต 3.1 ป. 5/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื และนาเสนอ
ดว้ ยการพดู /การเขียน
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สิ่งของตา่ ง ๆ โครงสร้างท่ีใชใ้ นการใหค้ าแนะนา ช่วยให้
พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั สาระการเรียนรู้อื่นได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functionss
Vocabulary: (Nouns) crossing, seatbelt, helmet, matches, strangers, electricity
(Verb) cross
(Adjective) bright
(Preposition) near
Structure: Cross the street at a crossing. Wear bright clothes at night.
Wear a seatbelt. Wear a helmet for cycling. Don’t play with candles
or matches. Don’t skateboard on the road. Don’t play near water.
Don’t talk to strangers.
Function: Talking and giving advice about safety
2) Language Skills
Speaking: พดู ให้คาแนะนาเกี่ยวกบั ความปลอดภยั
Writing: เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั คาแนะนาความปลอดภยั
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.3ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
171
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทจ์ ากคาบที่แลว้ เช่น festival, rocket, bamboo, crop ดว้ ยการเล่นเกม Spelling Bee
โดยให้นกั เรียนเตรียมกระดาษข้นึ มา คนละ 1 แผ่น จากน้นั บอกนกั เรียนวา่ ครูจะพดู คาศพั ทใ์ ห้
นกั เรียนฟัง 2 คร้งั ให้นกั เรียนเขยี นคาลงในกระดาษที่เตรียมไว้ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนชูกระดาษข้นึ
ครูเดินตรวจวา่ นกั เรียนสะกดคาศพั ทถ์ กู ตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไมถ่ ูกตอ้ ง นกั เรียนจะโดนคดั ออก ครูทา
กิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีไปเร่ือย ๆ จนเหลอื ผูช้ นะเพยี งคนเดียว
3. ทบทวนโครงสร้างประโยคขออนุญาตดว้ ยการเลน่ เกม Noughts and Crosses หรือ OX โดยแบง่
นกั เรียนเป็น 2 กลุม่ เท่า ๆ กนั จากน้นั ครูวาดตาราง 9 ช่อง บนกระดาน ตอ่ มาครูอธิบายกตกิ าการ
เลน่ เกมวา่ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ผลดั กนั แต่งประโยคขออนุญาต กลุ่มใดแต่งประโยคถกู ตอ้ ง มสี ิทธ์ิทา
เครื่องหมาย O หรือ X ลงในตาราง ทมี ที่ทาเครื่องหมายครบ 3 ช่อง ติดกนั ในแนวใดกไ็ ด้ เป็นกลุ่ม
ท่ชี นะ
4. ทบทวนเน้ือหาเก่ียวกบั เทศกาลในภมู ภิ าคอาเซียนโดยถามคาถาม เช่น
T: Where does Rocket Festival take place?
Team 2: It takes place in Thailand and Laos.
T: When is Kadayawan Festival?
Team 1: It’s on the week of August.
5. ทบทวนการออกเสียงคาทขี่ ้ึนตน้ และลงทา้ ยดว้ ยเสียง /f/ โดยครูเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ช้ีท่ี
คาศพั ทใ์ ห้นกั เรียนออกเสียงพร้อมกนั และเป็นรายบคุ คล เช่น
face fine fat film far
family tough calf laugh puff
cuff staff
6. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยครูเขียน Safety บนกระดาน จากน้นั ให้ช่วยกนั บอกความหมาย แลว้ ครูถามวา่
นกั เรียนปฏิบตั ิตนอยา่ งไรใหต้ นเองปลอดภยั ครูรวบรวมคาตอบมาเขยี นบนกระดาน เช่น
Dos Don’ts
Wear a helmet. Don’t play with knives.
Wear a seatbelt. Don’t play with fire.
172
safety เป็นคานาม ถา้ เป็นคาคณุ ศพั ท์ เราจะใชค้ าวา่ safe ซ่ึงมีความหมายวา่ ปลอดภยั
ส่วนคากริยาคือ save ซ่ึงมีความหมายวา่ รักษา หรือทาให้ปลอดภยั ครูยกตวั อยา่ งประโยค
บนกระดาน ดงั น้ี
For your safety, we recommend you keep your seat belt loosely fastened during the flight.
It isn’t safe to leave the house after dark.
Wearing seat belts has saved many lives.
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ ง ไดแ้ ก่ crossing (ทางขา้ มถนน), bright clothes (เส้ือผา้ สีสวา่ ง), seatbelt
(เขม็ ขดั ที่ติดกบั ทนี่ ง่ั ), helmet (หมวกนิรภยั ), cycling (การป่ันจกั รยาน), matches (ไมข้ ดี ไฟ),
skateboard (สเกตบอร์ด), strangers (คนแปลกหนา้ ) และ electricity (ไฟฟ้า) โดยครูแสดงบตั รภาพ
แลว้ ใหช้ ่วยกนั บอกความหมาย จากน้นั ครูเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน ใหน้ กั เรียนฝึกลงเสียงหนกั ใน
คาศพั ทท์ ี่มมี ากกว่า 1 พยางค์ ดงั น้ี
crossing seatbelt helmet electricity
cycling skateboard strangers
seatbelt เรียกอีกอยา่ งหน่ึงว่า safety belt
2. ครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
Dos
Cross the street at a crossing. (ขา้ มถนนตรงทางขา้ ม)
Wear bright clothes at night. (สวมใส่เส้ือผา้ สีสวา่ ง)
Wear a seatbelt. (คาดเขม็ ขดั นิรภยั )
Wear a helmet for cycling. (สวมหมวกนิรภยั เม่อื ป่ันจกั รยาน)
Don’ts
Don’t play with candles or matches. (หา้ มเล่นเทียนหรือไมข้ ดี ไฟ)
Don’t skateboard on the road. (ห้ามเลน่ สเกตบอร์ดบนถนนใหญ่)
Don’t play near water. (หา้ มเลน่ ใกลน้ ้า)
Don’t talk to strangers. (ห้ามคยุ กบั คนแปลกหนา้ )
ครูช้ีทีแ่ ตล่ ะประโยคและอา่ นให้นกั เรียนฟังและพูดตาม จากน้นั ครูบอกว่า ประโยคดงั กลา่ วเป็น
ประโยคทใ่ี ชใ้ ห้คาแนะนา ต่อมาครูให้นกั เรียนดูประโยคแลว้ ช่วยกนั สรุปเป็นโครงสร้าง ดงั น้ี
173
กริยารูป base form (ช่องท่ี 1) + … .
Don’t + กริยารูป base form (ช่องที่ 1) + … .
3. ครูเขยี นบทสนทนาส้นั ๆ ต่อไปน้ี บนกระดาน
A: Don’t play near water.
B: Okay.
จากน้นั ครูอธิบายว่า เม่อื มคี นใหค้ าแนะนาแก่เรา เราจะตอบรบั โดยพูดวา่ Okay. ตอ่ มาครูสุ่มเรียก
นกั เรียนมา 1 คน พดู ตอบรับกบั ครูเป็นตวั อยา่ ง
ข้นั Practice
1. แบบฝึ กหดั หน้า 66 Ex. 1 ให้นกั เรียนอ่านคาส่ังในแบบฝึกหดั น้ีพร้อมกนั แลว้ ใหน้ กั เรียนสารวจว่า
มคี วามรอบรู้เร่ืองความปลอดภยั หรือไม่ โดยทาเครื่องหมาย ✓ หนา้ ประโยคที่ใหม้ า จากน้นั ครูขอ
อาสาสมคั ร 1 คน อ่านประโยค Cross the street at a zebra crossing. ให้เพ่ือนฟัง แลว้ ถามนกั เรียน
คนดงั กลา่ วว่า Do you cross the street at a zebra crossing? เมือ่ นกั เรียนตอบแลว้ ครูทากิจกรรม
เช่นเดียวกนั น้ีกบั ประโยคอ่นื ๆ ดว้ ย แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบอกี คร้งั
174
2. แบบฝึ กหัด หน้า 67 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาสั่ง Look and give advice. พร้อมกนั แลว้ อธิบาย
สานวน give advice (ใหค้ าแนะนา) จากน้นั ใหน้ กั เรียนดภู าพในแบบฝึกหัด และบอกประโยคทใ่ี ห้
คาแนะนาบคุ คลในภาพ ดงั น้ี
T: Look at picture 1. What is he doing?
Ss: He’s playing with electricity.
T: Yes. So, what advice should we give him?
Ss: Don’t play with electricity.
T: Well done.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ ทีเ่ หลอื
2. Don’t touch a hot pan. 3. Don’t play with matches.
4. Don’t play with knives. 5. Don’t play with candles.
6. Don’t skateboard in the house.
กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ
ครูเปิ ดคลปิ วิดีโอเกี่ยวกบั ความปลอดภยั ใหน้ กั เรียนดูจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
Basic safety Knowledge for kids - Kids Learn how to Save yourselves from dangerous
incidents
https://www.youtube.com/watch?v=IZ4nJRKDglA
Kids Learn Safety | Drowning - Accident Prevention | Safety Knowledge for kids
https://www.youtube.com/watch?v=YC0mKBgwtQA
หรือครูเขา้ ไปท่ี www.youtube.com แลว้ พมิ พค์ าสาคญั เช่น safety tips for kids ในช่องคน้ หา
4. ให้นกั เรียนจบั คู่ และผลดั กนั พูดใหค้ าแนะนา โดยใชป้ ระโยคใน Ex. 2 เป็นแบบ ครูใหเ้ วลานกั เรียน
ฝึกพดู จนคล่อง เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาผลดั กนั พูดให้คาแนะนาที่หนา้ ช้นั เช่น
S1: Don’t play with candles.
S2: Okay.
175
ข้นั Production
1. แบบฝึ กหัด 67 หวั ข้อ Project Time ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนแบง่ กล่มุ เพอ่ื ทาช้ินงาน
โปสเตอร์ Safety Smart โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ เขยี นเคลด็ ลบั ความปลอดภยั (safety tips) ลงในกระดาษ
แผ่นใหญ่ จากน้นั ให้วาดภาพหรือตดิ ภาพประกอบ เสร็จแลว้ ให้แต่ละกล่มุ ออกมาพูดนาเสนอผลงาน
ของกลมุ่ ตนเองที่หนา้ ช้นั
2. ครูถามนกั เรียนวา่ การทน่ี กั เรียนไดเ้ รียนรู้เคล็ดลบั ความปลอดภยั มีประโยชน์ตอ่ นกั เรียนอยา่ งไร
ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อภิปราย ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียนสรุปบนกระดาน
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วิธีการวดั
ประเมินช้ินงานโปสเตอร์ แบบประเมนิ การพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
Safety Smart
ประเมนิ การพูดให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ความปลอดภยั
ประเมนิ การเขียนใหข้ อ้ มลู แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั ความปลอดภยั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการอภิปราย แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั อนั พึงประสงค์
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 อินเทอร์เน็ต
176
3 Let’s Go Shopping!
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 5 เวลาเรียน 12 ช่ัวโมง
11...
1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ิตามคาสัง่ คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ท่ฟี ังและอ่าน
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน
งา่ ย ๆ หรือเรื่องส้นั ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล
1 ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูล เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 5/5 พดู /เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชี้วัด
2 ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
3 ต 1.3 ป. 5/3 พดู แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั
177
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.2 ป. 5/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองของเจา้ ของภาษา
กบั ของไทย
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระเรียนรู้อื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น
พืน้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ชีว้ ัด
ต 3.1 ป. 5/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื และนาเสนอดว้ ย
การพดู /การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
1 ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอา่ น/เขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกดิ ข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตัวชีว้ ัด
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ
178
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั คาศพั ท์ และโครงสร้างที่ใชใ้ นการขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั อาหารและ
เคร่ืองด่ืม โครงสร้างท่ีใชข้ อร้องให้ผูอ้ ่ืนทาส่ิงใดส่ิงหน่ึงให้กบั เรา โครงสร้างที่ใชข้ อและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั
สิ่งทส่ี ามารถและไม่สามารถทาได้ การรู้เกี่ยวกบั แหล่งซ้ือขายสินคา้ ในภมู ิภาคอาเซียนและคาศพั ทท์ ่ี
เก่ียวขอ้ ง ช่วยให้พูด อา่ น และเขียนสื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Food) cocoa, jam, yoghurt, oil, potato, carrot, peanut, chocolate, peas
(Drinks) lemonade, milk, cola
(Quantifying nouns) a packet of, a jar of, a pot of, a bottle of, a can of,
a bag of, a kilo of, a box of, a carton of
(Verbs) decorate, guess, try, forget, hold, sell, invite
(Adverb) certainly
(Nouns) biscuits, basket, meat, fridge, flower pot, knife, fork, plate,
market, school bazaar, peanut, shell, a go, coconut, pineapple, mango,
competition, display, charity, stall, plants, night market, tourist, local,
product, painting, silver item, bamboo lamp, textile, street food,
medicine, jewellery, jade, ruby, popcorn, lime, olive, tongue
(Currency) pence, penny, pound
(Adjectives) delicious, home-made
(Expression) make money
(Tastes) sweet, sour, salty, bitter
(Phrases) join us
Structure: Can you buy a kilo of carrots, please? Yes, of course!
A and some
There is a carrot. There is some oil.
How much is a glass of milk? It’s thirty-five pence, please.
Singular/Plural nouns
I’d like a slice of chocolate cake and a cup of tea, please!
179
Pronunciation: That’s two pounds and thirty pence, please.
Function: Can I help you? Yes. A kilo of peanuts, please!
I’d like a cup of tea and a slice of chocolate cake, please.
Welcome to Greenhill School Bazaar.
On Saturday 1st December at 2 o’clock! You can buy toys and games.
Let’s go to the market and buy all we need! Let’s buy some coconuts,
mangoes and peas, lemons and pineapples, chocolate and cheese!
In the UK, lots of schools hold a bazaar at Christmas, Easter or before
the summer holidays. There is usually a cake stall where you can buy
home-made cakes, biscuits and jam. You can buy a cup of tea and a slice
of cake there too.
Luang Prabang Night Market is a good place for shopping in Laos.
Bogyoke Aung San Market is in Rangoon, Myanmar.
Can you name some foods that are sweet?
Pronouncing words begin with /dʒ/, /b/ and /p/ sound
Linking sounds
Pronouncing words begin and ending with /m/ sound
I’d contraction
Word stress
Pronouncing words begin with consonant cluster /str/ and /sw/
Talking about food/containers, asking people to buy items of food
Asking and answering questions about prices, buy/order food
Ordering food, talking about prices
Developing listening and reading comprehension skills
through a dialogue
Developing reading and writing skills
Listening comprehension skills through a song
Reading and talking about school bazaars in the UK
Describing markets in Asean countries
Talking about tastes of food
180
2) Language Skills ฟังเพ่ือความเขา้ ใจ
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: ขอร้องให้ผูอ้ น่ื ทาสิ่งใดสิ่งหน่ึงให้ตนเอง
ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สิ่งท่มี ีและไมม่ ี
Reading: พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ราคาของอาหารและเครื่องด่ืม
Writing: พดู สัง่ อาหารในร้านอาหาร
แสดงบทสนทนาในเน้ือเร่ือง
3) Culture: พูดเชิญชวนให้ผอู้ ื่นมาร่วมงานโรงเรียน
พดู นาเสนอเก่ียวกบั แผงขายสินคา้ ของตนเอง
พดู นาเสนอแหลง่ ซ้ือขายสินคา้ ในประเทศของตนเอง
พดู ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั รสชาตขิ องอาหาร
ตอบคาถามจากการอา่ น
เขยี นบรรยายส่ิงท่อี ยูใ่ นตะกร้า
เขียนบรรยายสิ่งท่ีอยู่ในตะกร้า
เขียนโปสเตอร์เชิญชวนให้ผอู้ น่ื มาร่วมงานโรงเรียน
แต่งเพลงเก่ียวกบั การซ้ือของทตี่ ลาด
เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาหารและรสชาติของอาหาร
เขยี นโปสเตอร์ประชาสมั พนั ธง์ าน School bazaar
สกุลเงนิ ท่ีใชใ้ นสหราชอาณาจกั ร
มารยาทบนโตะ๊ อาหาร
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
181
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ประเมินชิ้นงานสมดุ คาศพั ทท์ ่ีข้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /dʒ/, คาศพั ทท์ ีข่ ้ึนตน้ และลงทา้ ยดว้ ยเสียง /b/, /p/
และคาศพั ทท์ ่ีข้ึนตน้ และลงทา้ ยดว้ ยเสียง /m/
2. ประเมินการพูดขอร้องใหผ้ อู้ ื่นทาสิ่งใดส่ิงหน่ึงให้ตนเอง
3. ประเมนิ ช้ินงานคาลกั ษณะนาม, โปสเตอร์โฆษณางานการกุศลของโรงเรียน, My stall,
Different Tastes, โปสเตอร์ประชาสมั พนั ธ์งาน School bazaar
4. สงั เกตการออกเสียงคาศพั ทท์ ี่ข้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง /dʒ/, คาศพั ทท์ ีข่ ้ึนตน้ และลงทา้ ยดว้ ยเสียง /b/, /p/,
พยญั ชนะควบกล้า /m/ และการออกเสียงเชื่อมระหวา่ งคา
5. ประเมินการเขียนบรรยายส่ิงท่อี ยใู่ นตะกร้า, ส่ิงท่ีอยใู่ นร้านอาหาร
6. ประเมนิ การพดู ถาม-ตอบราคาของอาหารและเครื่องด่ืม, รสชาตขิ องอาหารและเครื่องด่ืม
7. ประเมนิ การพดู ส่ังอาหารในร้านอาหาร
8. สงั เกตการออกเสียงเช่ือมคาในประโยค และรูปยอ่ ของ would
9. ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ
10. สงั เกตการออกเสียงประโยคในเน้ือเรื่อง และบทความ
11. ประเมนิ การแต่งเพลง
12. ประเมินการพูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ราคาสินคา้
13. ประเมินการพูดนาเสนอตลาดหรือแหลง่ ซ้ือขายสินคา้ ในประเทศของตนเอง
14. สังเกตการอภิปราย
15. ตรวจสมดุ คาศพั ท์ และแบบฝึกหัด
16. สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทางาน
7 การวัดและประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1) ประเมนิ การมสี ่วนร่วมในช้นั เรียน
2) ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
7.2 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ชิ้นงานตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนด
182
8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร เครื่องดื่ม และผลไม้
8.5 ลูกบอลยาง 1 ลูก
8.6 บตั ร Story Cutouts
8.7 อินเทอร์เนต็
183
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 Let’s go shopping!
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารได้
- พูดขอให้ผอู้ น่ื ทาสิ่งใดสิ่งหน่ึงใหต้ นเองและตอบรบั ได้
- ออกเสียงคาศพั ทท์ ข่ี ้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /dʒ/ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ดั
ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชีว้ ัด
4 ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
184
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหาร และโครงสร้างท่ใี ชข้ อร้องใหผ้ อู้ ่ืนทาสิ่งใดสิ่งหน่ึงให้กบั เรา
ช่วยให้พูดส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสมตามกาลเทศะ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Food) cocoa, jam, yoghurt, oil, potato, carrot, peanut, chocolate
(Drinks) lemonade, milk, cola
(Quantifying nouns) a packet of, a jar of, a pot of, a bottle of, a can of,
a bag of, a kilo of, a box of, a carton of
Structure: Can you buy a kilo of carrots, please? Yes, of course!
Pronunciation: Pronouncing words begin with /dʒ/ sound
Function: Talking about food/containers, asking people to buy items of food
2) Language Skills
Listening: ฟังเพื่อความเขา้ ใจ
Speaking: ขอร้องใหผ้ ูอ้ ืน่ ทาส่ิงใดส่ิงหน่ึงให้ตนเอง
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
185
2. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีเรียนมาแลว้ ดว้ ยการให้นกั เรียนเลน่ เกม What’s
missing? โดยครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลุม่ กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมา
ท่ีหนา้ ช้นั จากน้นั ครูติดบตั รคาศพั ทบ์ นกระดาน 4 ใบ แลว้ ให้เวลาตวั แทนนกั เรียนจดจาคาศพั ท์
จากน้นั ใหน้ กั เรียนหนั หนา้ กลบั ไปหาเพอ่ื น ตอ่ มาครูดึงบตั รคาศพั ทอ์ อก 1 ใบ แลว้ ให้นกั เรียน
หันมาท่กี ระดาน และตอบวา่ บตั รคาศพั ทใ์ บใดหายไป ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีอีก 2-3 คร้ัง
กลุ่มที่ตอบถกู จะได้ 1 คะแนน กลมุ่ ทไ่ี ดค้ ะแนนมากท่สี ุดจะเป็นกลมุ่ ทช่ี นะ
3. ครูทบทวนโครงสร้าง Present continuous ดว้ ยการให้เล่นเกม โดยครูเตรียมลกู บอลยางขนาดเลก็
1 ลกู จากน้นั ครูบอกวา่ ครูจะสุ่มโยนลูกบอลไปท่ีนกั เรียน โดยนกั เรียนคนท่ีไดร้ บั ลกู บอลจะตอ้ ง
แต่งประโยค Present continuous คนละ 1 ประโยค ถา้ นกั เรียนแต่งประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง ให้โยน
ลกู บอลไปทนี่ กั เรียนคนอื่น ครูอาจกาหนดเวลาใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยค คนละประมาณ 10 วินาที
ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมไปเร่ือย ๆ จนครบทกุ คน
4. ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหารท่ีนกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ จากช้นั กอ่ นหนา้ น้ี โดยครูแบ่งนกั เรียน
ออกเป็น 2 กลุ่ม จากน้นั ครูแบ่งกระดานเป็น 2 ฝ่ัง โดยเขยี น Group 1 และ Group 2 บนกระดานของ
แตล่ ะฝ่ัง ตอ่ มาครูบอกว่า ให้แต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนคร้ังละ 1 คน ออกมาเขียนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อาหาร
กล่มุ ทเี่ ขยี นคาศพั ทไ์ ดม้ ากท่สี ุดเป็นกลมุ่ ท่ีชนะ
5. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนดูชื่อบท Let’s go shopping! ครูถามนกั เรียนว่า Do you like going
shopping? ถา้ นกั เรียนตอบว่า Yes, I do. ครูถามนกั เรียนเพมิ่ เติมวา่ Where do you like to go for
shopping? หรือ What do you like to buy? แลว้ ครูรวบรวมคาตอบมาเขียนบนกระดาน
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารและเคร่ืองดื่ม ไดแ้ ก่ cocoa (ผงโกโก)้ , jam (แยมทาขนมปัง),
yoghurt (โยเกิร์ต), oil (น้ามนั ), lemonade (น้ามะนาว), potatoes (มนั ฝรง่ั ), carrots (แครอต), peanuts
(ถวั่ ลสิ ง), peas (ถวั่ ซ่ึงเป็นถว่ั ในฝักที่มเี มล็ดกลม เช่น ถวั่ ลนั เตา), cola (น้าอดั ลม) และ tea (ชา)
ดว้ ยการแสดงบตั รภาพให้นกั เรียนดูและให้ช่วยกนั บอกความหมาย จากน้นั ครูช้ีที่คาศพั ทแ์ ตล่ ะคา
แลว้ อา่ นออกเสียงให้นกั เรียนฟังและพดู ตาม โดยครูเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาศพั ทท์ ่มี ี
มากกว่า 1 พยางคใ์ ห้ถกู ตอ้ ง ดงั น้ี
cocoa yoghurt lemonade
potatoes carrots peanuts
186
คาวา่ โยเกิร์ต สามารถเขยี นได้ 3 แบบ คือ yogurt, yoghurt และ yoghourt (UK)
ที่มา: http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/yogurt
ครูสามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพเก่ียวกบั อาหารและเครื่องด่ืมจากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/flashcards/food-flashcards
ตอ่ มาครูเขยี นคาวา่ jam บนกระดาน แลว้ อา่ นออกเสียงให้นกั เรียนฟัง เสร็จแลว้ ครูอธิบายการ
ออกเสียง /dʒ/ แกน่ กั เรียน
การออกเสียงคาศัพท์ท่ีขนึ้ ต้นด้วยเสียง /dʒ/
คนไทยมกั จะมีปัญหาในการออกเสียง /dʒ/ เนื่องจากเป็นเสียงทีไ่ มม่ ใี นภาษาไทย และ
คนไทยส่วนใหญม่ กั จะออกเสียงดงั กล่าวคลา้ ยกบั เสียง “จ” ซ่ึงไมถ่ กู ตอ้ ง โดยเสียง /dʒ/
เป็นเสียงกอ้ ง เวลาออกเสียง กระแสลมจากปอดจะถูกกกั อยทู่ ่ีบริเวณหลงั ป่ มุ เหงือกอยู่
ชว่ั ขณะหน่ึง ริมฝีปากห่อกลมและยน่ื ออกมาขา้ งหนา้ เลก็ นอ้ ย จากน้นั กระแสลมที่ถูก
กกั ไวจ้ ะถกู ปล่อยใหเ้ สียดแทรกออกมาในลกั ษณะของเสียง /ʒ/ อยา่ งชา้ ๆ
ต่อมาครูเขียนคาศพั ทเ์ พม่ิ เตมิ บนกระดานเพอื่ ให้นกั เรียนฝึกออกเสียง ดงั น้ี
jar jeans job
joy jump gym
Jane Joe George
ทมี่ า: ปรารมภ์รัตน์ โชติกเสถยี ร. การออกเสียงสระและเสียงพยญั ชนะในภาษาอังกฤษ.
กรุงเทพฯ: สานกั พิมพ์แห่งจฬุ าลงกรณมหาวิทยาลัย, 2547.
ครูเปิ ดคลปิ วดิ ีโอช่ือ Letter /j/ Sound - Phonics by TurtleDiary ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียง
คาศพั ทท์ ี่ข้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง /dʒ/ จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=YdPBqNA_BZ4
หรือครูเขา้ ไปท่ี www.youtube.com แลว้ พิมพค์ าสาคญั เช่น /j/ sound ในช่องคน้ หา
187
2. ครูเขยี นคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ีบนกระดาน
jam yoghurt sugar milk
จากน้นั ครูช้ีที่คาศพั ทแ์ ลว้ ถามวา่ Are these words countable or uncountable nouns? เมอ่ื ไดค้ าตอบ
วา่ uncountable nouns ครูถามตอ่ วา่ ทาไมเราถึงเรียกวา่ คานามนบั ไมไ่ ด้ เมอ่ื ไดค้ าตอบวา่
เราไมส่ ามารถบอกปริมาณคานามเหล่าน้ีเป็นชิ้น อนั หรือเม็ดได้ ครูอธิบายเพมิ่ ว่า เราจะเรียกปริมาณ
ของสิ่งของเหล่าน้ีจากภาชนะท่ีบรรจแุ ทน ดงั น้ี
I’d like to buy a jar of jam. (ฉันตอ้ งการซ้ือแยมทาขนมปัง 1 กระปกุ )
I’ll have a pot of yoghurt. (ฉันจะรับประทานโยเกิร์ต 1 กระปกุ )
I’d like a kilo of sugar. (ฉนั อยากไดน้ ้าตาล 1 กิโลกรัม)
I want to buy a carton of milk. (ฉนั อยากซ้ือนม 1 กลอ่ ง)
I’d like to buy a bag of peanuts. (ฉนั อยากซ้ือถวั่ ลสิ ง 1 ถงุ )
ครูให้นกั เรียนสังเกตคาทขี่ ีดเส้นใตแ้ ลว้ อธิบายว่า คาดงั กลา่ วเรียกว่า ลกั ษณะนาม (quantifying noun)
ซ่ึงหมายถึง คาทเ่ี ราใชแ้ สดงรูปลกั ษณะ หรือขนาดของคานามน้นั ให้ชดั เจนมากยิ่งข้นึ ใชไ้ ดท้ ้งั กบั
คานามนบั ได้ (countable nouns) และคานามนบั ไม่ได้ (uncountable nouns) โดยถา้ นาหนา้ คานาม
นบั ได้ คานามดงั กลา่ วตอ้ งอยใู่ นรูปพหูพจน์เทา่ น้นั เสร็จแลว้ ครูเขียนลกั ษณะนามเพม่ิ เตมิ บนกระดาน
เพอ่ื ใหน้ กั เรียนนาไปใช้ ดงั น้ี
a packet of (... 1 ห่อ) a bottle of (… 1 ขวด)
a can of (... 1 กระป๋ อง) a kilo of (... 1 กิโลกรมั )
a box of (... 1 กล่อง) a cup of (... 1 ถว้ ย)
a bowl of (... 1 ชาม) a glass of (... 1 แกว้ )
นกั เรียนสามารถศกึ ษาการใชล้ กั ษณะนามเพ่ิมเตมิ จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
http://www.ubonac.com/2015/05/ภาษาองั กฤษ-ลกั ษณะนาม/
3. ครูนาเสนอโครงสร้างท่ีใชข้ อร้องให้ผูอ้ ื่นทาส่ิงใดส่ิงหน่ึงให้กบั ตนเอง โดยเรียกนกั เรียนทคี่ รู
ไดเ้ ตรียมไวแ้ ลว้ มาถาม-ตอบกบั ครูท่ีหนา้ ช้นั ดงั น้ี
T: Can you buy a can of cola, please?
S1: Yes, of course!
188
จากน้นั ครูอธิบายว่า ถา้ เราตอ้ งการขอร้องให้ผอู้ ืน่ ทาส่ิงใดสิ่งหน่ึงให้กบั เรา เราจะใชโ้ ครงสร้าง
Can you + กริยารูป base form (ช่องท่ี 1)? ส่วนคาตอบจะเป็น Yes, of course. หรือ Sorry, I can’t.
ต่อมาครูเขียนประโยค Could you please buy a can of cola? แลว้ อธิบายวา่ ประโยคน้ีมีความหมาย
เหมือนกบั ประโยค Can you buy a can of cola, please? แตก่ ารใช้ could จะสุภาพมากกวา่ และ
นกั เรียนตอ้ งไม่ลืมเติม please เขา้ ไปในประโยคดว้ ย และเมอื่ ผอู้ ื่นทาอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงใหเ้ รา
นกั เรียนควรกล่าวขอบคณุ ว่า Thank you (very much). เสมอ
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 28 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 1-2 รอบ รอบแรกใหน้ กั เรียนฟังและช้ีภาพ
ตาม รอบที่ 2 ใหฟ้ ังและช้ีภาพ แลว้ ออกเสียงตาม CD ดว้ ย ตอ่ มาครูเปิ ด CD อกี คร้งั และหยดุ หลงั จบ
คาศพั ทแ์ ต่ละคา ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงตามเป็นรายบุคคล
2. หนงั สือเรยี น หน้า 28 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนดคู าศพั ทใ์ นขอ้ 1 จากน้นั ใหน้ กั เรียนดบู ทสนทนาตวั อยา่ ง
ในหนงั สือเรียน ครูอธิบายให้นกั เรียนฟังวา่ ใหน้ กั เรียนจบั คู่แตง่ บทสนทนา โดยใชล้ กั ษณะนาม
และคาศพั ทท์ ก่ี าหนดใหใ้ นแต่ละขอ้ ครูใหเ้ วลานกั เรียนฝึกพูดจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบทีห่ นา้ ช้นั เช่น
S1: Can you buy a jar of jam?
S2: Yes, of course!
Weak classes: ครูเขยี นลกั ษณะนามแตล่ ะขอ้ ให้นกั เรียนดู จากน้นั เขยี นโครงสร้าง แลว้ ใหน้ กั เรียน
นาลกั ษณะนามไปเติมเพื่อแต่งบทสนทนา ดงั น้ี
A: Can you buy _____________, please?
B: Yes, of course!
2. a can of cola 3. a carton of milk
4. a bottle of lemonade 5. a jar of jam
6. a packet of peas
189
2. A: Can you buy a can of cola, please?
B: Yes, of course!
3. A: Can you buy a carton of milk, please?
B: Yes, of course!
4. A: Can you buy a bottle of lemonade, please?
B: Yes, of course!
5. A: Can you buy a jar of jam, please?
B: Yes, of course!
6. A: Can you buy a packet of peas, please?
B: Yes, of course!
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนจบั กล่มุ กนั เพ่อื ทาชิ้นงานสมุดคาศพั ทท์ ข่ี ้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง /dʒ/ และวาด
ภาพประกอบดว้ ย เสร็จแลว้ ให้ตวั แทนกลมุ่ ออกมานาเสนอคาศพั ทท์ หี่ นา้ ช้นั
2. ครูอธิบายภาระงาน และแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ยอ่ ยหลาย ๆ กลมุ่ จากน้นั ครูแจกบตั รคา
ลกั ษณะนามใหแ้ ต่ละกลมุ่ เช่น a kilo of, a packet of และ a box of แลว้ บอกวา่ ใหแ้ ต่ละกล่มุ คดิ
คาศพั ทท์ ่ีใชร้ ่วมกบั ลกั ษณะนามท่ีกลมุ่ ตนเองได้ แลว้ จึงนามาเขยี นลงในกระดาษแผน่ ใหญ่ พร้อม
ตกแต่งให้สวยงาม ครูเดินสังเกตรอบ ๆ หอ้ ง เพอื่ ประเมนิ และใหค้ วามช่วยเหลอื เท่าที่จาเป็น เสร็จ
แลว้ ให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอคาศพั ทท์ ห่ี นา้ ช้นั เช่น
a kilo of
a kilo of potatoes a kilo of oranges
a kilo of sugar a kilo of carrots
a kilo of pork a kilo of broccoli
a kilo of peanuts a kilo of beef
3. ครูให้นกั เรียนจบั คู่ แตง่ บทสนทนาตามตวั อยา่ งในหนงั สือเรียน หนา้ 28 Ex. 2 โดยให้มที ้งั ประโยค
ตอบรับและปฏเิ สธ และใหน้ กั เรียนใชค้ าศพั ทน์ อกเหนือจากในบทเรียน จากน้นั ใหเ้ วลาแตล่ ะคู่
ฝึกพดู จนคล่อง เสร็จแลว้ ครูใหแ้ ตล่ ะคู่ออกมาสนทนาทหี่ นา้ ช้นั เช่น
190
S1: Can you buy a bag of salt, please?
S2: Yes, of course!
S1: Can you buy a bottle of orange juice, please?
S2: Sorry, I can’t.
4. ครูให้นกั เรียนบนั ทึกคาศพั ทล์ งในสมดุ และคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดที่เรียนในบทน้นั เพิม่ เตมิ อีก
4 คา และบอกความหมายดว้ ย จากน้นั ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทท์ เ่ี รียนในชว่ั โมงน้ี
5. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 24 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น
Ex. 1 3. c o l a 4. p e a n u t s
2. j a m 6. c h o c o l a t e
5. c a r r o t s 4. A bottle of oil
3. A cup of tea 7. A pot of yoghurt
Ex. 2 6. A box of chocolates
2. A jar of jam
5. A kilo of potatoes
8. A packet of peas
7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วธิ กี ารวดั
ประเมนิ ชิ้นงานสมดุ คาศพั ท์ แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /dʒ/
ประเมนิ การพดู ขอร้องใหผ้ อู้ ื่น แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ทาส่ิงใดสิ่งหน่ึงให้ตนเอง แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมินชิ้นงานคาลกั ษณะนาม
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ สมดุ คาศพั ท์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ที่ข้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง /dʒ/ แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจสมุดคาศพั ท์ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั อนั พึงประสงค์
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทางาน
191
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารและเคร่ืองด่ืม
8.5 ลูกบอลยาง 1 ลูก
8.6 อินเทอร์เนต็
192
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 There is some oil.
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารและเครื่องดื่มได้
- เขียนบรรยายส่ิงที่อยูใ่ นตะกร้าได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบคุ คล
5 ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขยี นเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชี้วัด
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
193
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอา่ น/เขยี นในสถานการณต์ า่ ง ๆ ที่เกิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลยี่ นเรียนรู้กบั สังคมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างท่ีใชใ้ นการขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อาหาร
และเคร่ืองดื่ม ช่วยให้พูดส่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Verb) decorate
(Nouns) biscuits, basket, meat, fridge, flower pot
Structure: There is a carrot. There is some oil.
Pronunciation: Pronouncing words begin with /b/ sound
Function: Talking about food/containers
2) Language Skills
Speaking: ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ส่ิงที่มแี ละไมม่ ี
Writing: เขยี นบรรยายสิ่งท่อี ยูใ่ นตะกร้า
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 194
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ครูทบทวนคาลกั ษณะนามดว้ ยการเล่นเกม Noughts and Crosses หรือ OX โดยครูแบ่งนกั เรียน
ออกเป็น 2 กลุ่ม จากน้นั ครูวาดตาราง 9 ช่องบนกระดาน แลว้ เขยี นคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อาหารลงไป
ไดแ้ ก่ oil, yoghurt, jam, milk, carrots, lemonade, chocolate, cola และ cocoa ต่อมาครูบอกวา่
ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ แตง่ ประโยคโดยเลอื กใชค้ าลกั ษณะนามท่เี หมาะกบั คาศพั ทใ์ นตาราง กลมุ่ ใดแต่ง
ประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง จะมสี ิทธ์ิทาเครื่องหมาย O หรือ X ในตารางดงั กลา่ วก่อน กลมุ่ ทท่ี าเครื่องหมาย
ครบ 3 ช่องตดิ กนั ในแนวใดก็ไดจ้ ะเป็นกลมุ่ ท่ชี นะ
3. ครูทบทวนคานามนบั ไดแ้ ละนบั ไมไ่ ด้ โดยครูแจกบตั รภาพอาหารและเครื่องด่ืมใหน้ กั เรียนคนละ
1 ใบ จากน้นั ครูแบ่งตารางเป็น 2 ฝ่ัง ฝั่งแรกเขียนวา่ Countable nouns และอกี ฝั่งเขยี นว่า
Uncountable nouns ครูบอกนกั เรียนวา่ ใหน้ กั เรียนนาบตั รภาพทไ่ี ดม้ าตดิ บนกระดานให้ถูกตอ้ ง เช่น
lemonade เป็นคานามนบั ไมไ่ ด้ ใหน้ กั เรียนนามาตดิ ทฝี่ ่ัง Uncountable nouns เป็นตน้ เสร็จแลว้ ครู
และนกั เรียนช่วยกนั ตรวจความถูกตอ้ ง
4. ครูทบทวนคาศพั ทท์ ีข่ ้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /dʒ/ โดยครูสุ่มเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน โดยใหน้ กั เรียน
ออกเสียงใหค้ รูฟัง เช่น jam, jar, jeans, George และ Jane เป็นตน้ ครูอาจช้ีคาศพั ทส์ ลบั ไปมา
และเพ่ิมจงั หวะให้เร็วข้ึนเพื่อความสนุกสนาน นกั เรียนคนใดยงั ออกเสียงไม่ถกู ตอ้ ง ใหน้ กั เรียนฝึก
เพม่ิ เตมิ นอกเวลากบั ครู
5. ทบทวนประโยคขอร้องโดยครูถามนกั เรียนวา่ ถา้ เราตอ้ งการขอร้องให้ผอู้ ่ืนทาสิ่งใดสิ่งหน่ึงใหก้ บั
เรา มีโครงสร้างอยา่ งไร เม่อื ไดค้ าตอบว่า Can you + กริยารูป base form (ช่องที่ 1)? ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 5-6 คน ออกมาแต่งประโยคบนกระดาน เช่น
Can you clean our room, please?
Can you buy a bag of salt, please?
Can you please buy a bag of potatoes, please?
Can you buy a cup of coffee for me?
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่สลบั กนั พดู ถาม-ตอบประโยคท่ีตนเองแตง่ กบั คูข่ องตน เช่น
S1: Can you buy a bag of potatoes?
S2: Yes, of course!
195