ข้นั Production
1. แบบฝึ กหัด หน้า 65 หัวข้อ Project Time ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนคน้ หาขอ้ มูลเก่ียวกบั
ประเทศของตนเองจากอินเทอร์เน็ต โดยกาหนดหวั ขอ้ ให้นกั เรียนคน้ หา เช่น
the capital famous places traditional dances
traditional clothes traditional food
จากน้นั ใหว้ าดภาพหรือนาภาพมาติด พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม ตอ่ มาใหแ้ ต่ละคนออกมานาเสนอ
ผลงานท่ีหนา้ ช้นั ครูใหน้ กั เรียนแนะนาช่ือตนเอง ช่ือประเทศ ชื่อเมอื งหลวง และขอ้ มลู ทน่ี กั เรียน
ไดค้ น้ ควา้ มานาเสนอให้เพ่ือนฟังดว้ ย เช่น
Hello. My name is Weena. I’m from Thailand. The capital of Thailand is Bangkok.
The famous place in Thailand is the Grand Palace. Its traditional clothes is Thai silk.
Thailand’s traditional food is Somtam.
96
ตอ่ มาให้จบั คู่กบั เพือ่ นฝึกพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ประเทศของตนเอง ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง
เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบท่ีหนา้ ช้นั ครูสงั เกตการออกเสียงของนกั เรียนวา่
ถกู ตอ้ งหรือไม่
2. ครูถามนกั เรียนวา่ การทน่ี กั เรียนพดู ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ประเทศของตนเองเป็นภาษาองั กฤษได้
มปี ระโยชน์อยา่ งไร ให้นกั เรียนช่วยกนั อภิปราย จากน้นั ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียน
บนกระดาน
7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั
ประเมินการพดู ขอและใหข้ อ้ มูล แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เกี่ยวกบั สถานทีจ่ ากเร่ืองทอี่ า่ น
ประเมนิ การเขียนใหข้ อ้ มูล แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เกี่ยวกบั ประเทศไทย แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั อนั พงึ ประสงค์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 บตั รภาพสถานที่ที่มชี ื่อเสียงในโลก
8.3 อินเทอร์เน็ต
97
2 Trick or Treat?
ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 5 เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง
11...
1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสัง่ คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ท่ีฟังและอา่ น
ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน
ง่าย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป. 5/2 ใชค้ าสัง่ คาขอร้อง คาขออนญุ าต และใหค้ าแนะนาง่าย ๆ
1 ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 5/5 พดู /เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ ง ๆ
พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตวั ชีว้ ัด
2 ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
3 ต 1.3 ป. 5/2 เขยี นภาพ แผนผงั และแผนภมู ิแสดงขอ้ มูลต่าง ๆ ตามท่ฟี ังหรืออ่าน
4 ต 1.3 ป. 5/3 พดู แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั
98
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 5/2 ตอบคาถาม/บอกความสาคญั ของเทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง และชีวติ ความ
เป็นอยงู่ า่ ย ๆ ของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ป. 5/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชีว้ ดั
ต 2.2 ป. 5/2 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองของเจา้ ของภาษา
กบั ของไทย
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื และเป็ น
พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตัวชี้วดั
ต 3.1 ป. 5/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และนาเสนอดว้ ย
การพูด/การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
1 ตัวชีว้ ดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอา่ น/เขียนในสถานการณต์ ่าง ๆ ทเี่ กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
99
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั สานวนภาษาทใ่ี ชข้ อและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมที่กาลงั ทา บรรยาย
สิ่งของตา่ ง ๆ ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สิ่งที่สามารถและไม่สามารถทา ช่วยใหพ้ ดู สื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
และเหมาะสม
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Activities) watch a film, eat popcorn, listen to music, play a game, look
outside, visit a friend, wear a costume, play a trick, make a lantern
(Verbs) hold, brush, carry, hear, see, happen, fire, join, celebrate, take
place, gather, offer, cross
(Nouns) costume, ghost door, pumpkin, candle, oxygen, bedtime, treat,
trick, sweet, pumpkin lantern, festival, rocket, bamboo, plastic pipe, crop,
harvesting season, spirit, sports competition, harvest, celebration,
crossing, seatbelt, helmet, matches, strangers, electricity
(Adjectives) dark, heavy, noisy, scary, far, bright
(Adverbs) too, without
(Phrase) have fun
(Preposition) near
in here, any time, late at night
Structure: What are you doing? We’re watching a film.
She’s wearing a costume, Toby is holding an apple. No, he isn’t.
He’s holding a candle.
Can you see anything? No, I can’t. It’s too dark.
Can I open the window? Yes, of course! Sorry, no!
I can hear a noise. I can’t see. It’s too dark outside.
In my room you can listen to music but you can’t take my CDs away!
Can I have some water, please? Yes, of course.
Can I play in the park? Sorry, no.
Halloween is a time for children to have fun in the UK and the USA.
100
Pronunciation: Bun Bang Fai Festival happens in May every year in Thailand and Laos.
Tadau Kaamatan Festival happens in Sabah, Malaysia.
Functions: Kadayawan is a festival in Davao City, the Philippines.
Cross the street at a crossing. Wear bright clothes at night. Wear a
2) Language Skills seatbelt. Wear a helmet for cycling. Don’t play with candles or matches.
Listening: Don’t skateboard on the road. Don’t play near water.
Speaking: Don’t talk to strangers.
Weak forms
Pronouncing words begin with /br/ sound
Pronouncing words ending with /g/ and /k/ sound
Linking sounds
Pronouncing words begin with consonant cluster /tr/ and /st/ sound
Intonation
Pronouncing words begin with and ending with /f/ sound
Talking about activities done in the present
Expressing ability, asking for, giving or refusing permission
Listening and reading comprehension skills through a dialogue
Developing reading and writing skills
Listening comprehension skills through a song
Reading and talking about Halloween and festival in Asean countries
Talking and giving advice about safety
ฟังเพือ่ ความเขา้ ใจ
ตอบคาถามจากการฟัง
พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมทีท่ า, สิ่งของตา่ ง ๆ, ความสามารถ
พูดบทสนทนาในเน้ือเรื่อง
พูดให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สิ่งท่ผี ูอ้ นื่ สามารถและไมส่ ามารถทาในห้องของตนเอง
พูดขอและให้อนุญาต
ถาม-ตอบเกี่ยวกบั เทศกาลฮาโลวีน
พูดนาเสนอเทศกาลในภมู ิภาคอาเซียน
พูดใหค้ าแนะนาเก่ียวกบั ความปลอดภยั
101
Reading: ตอบคาถามจากเร่ืองทอ่ี ่าน
Writing: เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมที่สมาชิกในครอบครวั กาลงั ทา
เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สิ่งทีต่ นเองสามารถและไมส่ ามารถทา
3) Culture: เขียนบตั รเชิญ
เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั สิ่งทผี่ อู้ ่ืนสามารถและไมส่ ามารถทาในหอ้ งตนเอง
แต่งเพลงเกี่ยวกบั การขอและให้อนุญาต
เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั คาแนะนาความปลอดภยั
เทศกาลฮาโลวนี (Halloween)
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ประเมินการเขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมทสี่ มาชิกในครอบครัวกาลงั ทา
2. ประเมนิ การพูดขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั กิจกรรมท่ีสมาชิกในครอบครัวกาลงั ทา
3. ประเมินการพดู นาเสนอประโยค Present continuous
4. ประเมนิ การถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจกรรมทก่ี าลงั ทา
5. ประเมนิ การแต่งประโยคดว้ ยคาว่า too
6. ประเมินการพูดขอและใหอ้ นุญาต
7. ประเมนิ การเขียนประโยคอนุญาตและไม่อนญุ าต, การเขยี นบตั รเชิญมางานสังสรรค,์ การเขยี น
แผ่นป้ายตดิ หนา้ ห้อง This is my room!
8. ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ, การแตง่ เพลง
9. ประเมินชิ้นงานคาศพั ทท์ ีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ และ /g/, คาศพั ทท์ ่ขี ้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /st/, ชิ้นงาน
คาศพั ทท์ ขี่ ้นึ ตน้ และลงทา้ ยดว้ ยเสียง /f/,ชิ้นงานเกี่ยวกบั วนั ฮาโลวนี , การใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั เทศกาล
ในภมู ภิ าคอาเซียน, ขอ้ ควรปฏบิ ตั เิ มือ่ คนอืน่ เขา้ มาในหอ้ งของตนเอง, โปสเตอร์ Safety Smart
102
10. ประเมินการตอบคาถามจากการอ่าน
11. ประเมนิ การพูดใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เคลด็ ลบั ความปลอดภยั
12. สังเกตการออกเสียงคาที่ข้ึนตน้ ดว้ ยเสียง /br/, คาทลี่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ และ /g/, เสียงควบกล้า /tr/,
/st/ และเสียง /f/
13. สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ การเชื่อมคาในประโยค และการข้นึ เสียงสูงในประโยคขออนุญาต
14. สังเกตการอภปิ ราย
15. ตรวจสมุดคาศพั ท์ และแบบฝึกหดั
16. สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้และมงุ่ มนั่ ในการทางาน
7 การวัดและประเมินผล
7.1 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1) ประเมนิ การมสี ่วนร่วมในช้นั เรียน
2) ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.2 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ ชิ้นงานตามหัวขอ้ ทีก่ าหนด
8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพเก่ียวกบั กิจกรรมตา่ ง ๆ และสัตวต์ า่ ง ๆ
8.5 บตั รคาศพั ท์
8.6 กระดาษแผน่ ใหญ่ ดินสอ และสี
8.7 บตั ร Story Cutouts
8.8 อินเทอร์เน็ต
103
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 We’re watching a film.
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ประเทศและสญั ชาติได้
- พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมทีก่ าลงั ทาได้
- เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจกรรมทสี่ มาชิกในครอบครัวกาลงั ทาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ทฟี่ ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชี้วัด
5 ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง/พูด และอา่ น/เขยี นในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
104
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั สานวนภาษาทีใ่ ชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั กิจกรรมที่กาลงั ทา ช่วยใหพ้ ูด
สื่อสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Activities) watch a film, eat popcorn, listen to music, play a game, look
outside, visit a friend, wear a costume, play a trick, make a lantern
Structure: What are you doing? We’re watching a film.
Pronunciation: Weak forms
Functions: Talking about activities done in the present
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื ความเขา้ ใจ
Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมท่ที า
Writing: เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจกรรมที่สมาชิกในครอบครัวกาลงั ทา
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูเดินเขา้ มาในช้นั และกล่าวทกั ทายนกั เรียน เสร็จแลว้ ให้จบั คู่กบั เพอื่ นเพอื่ พูดทกั ทายกนั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ประเทศและสัญชาติท่ีเรียนมาแลว้ ดว้ ยการให้เลน่ เกม What’s missing?
โดยแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม เท่า ๆ กนั ให้แต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนมาท่หี นา้ ช้นั ครูติดบตั รคาศพั ท์
4 ใบ บนกระดาน จากน้นั ให้เวลาจดจาคาศพั ท์ แลว้ ใหน้ กั เรียนหันหนา้ กลบั ไปหาเพือ่ น ต่อมาครูดึง
บตั รคาศพั ทอ์ อก 1 ใบ แลว้ ใหน้ กั เรียนหนั มาทีก่ ระดานและตอบวา่ บตั รคาศพั ทใ์ ดหายไป ครูทา
กิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีอีก 2-3 คร้งั กลมุ่ ท่ีตอบถูก จะได้ 1 คะแนน กลุ่มทไี่ ดค้ ะแนนมากท่ีสุด
เป็นกลุ่มทีช่ นะ
105
3. ทบทวนคากริยาที่เรียนมาแลว้ ดว้ ยการเล่นเกม Vocabulary Review โดยแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่
ให้แตล่ ะกลมุ่ เขียนคากริยาให้ไดม้ ากทส่ี ุด โดยครูเขียนวลี เช่น things we do with our feet
บนกระดาน แลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ เขียนคากริยาที่เก่ียวขอ้ งกบั วลีทคี่ รูเขียน เช่น run, jump, sit, dance,
walk, jog และ kick เสร็จแลว้ ครูตรวจความถูกตอ้ งของคาศพั ทแ์ ละใหค้ ะแนน กลุ่มทไี่ ดค้ ะแนน
มากท่ีสุด เป็นกลุม่ ทช่ี นะ
4. ทบทวนโครงสร้าง Present continuous โดยสุ่มเรียกนกั เรียนออกมา 1 คน ใหน้ กั เรียนคนดงั กลา่ ว
แสดงทา่ ทางให้เพ่ือนดู เช่น เดิน เตน้ อ่านหนงั สือ และ รับประทานอาหาร จากน้นั ครูถามว่า
What is he doing? ให้นกั เรียนตอบโดยใชโ้ ครงสร้าง ประธาน + is, am, are + กริยาเตมิ -ing. เช่น
S1: (ทาท่าเตน้ )
Ss: He is dancing.
S1: (ทาทา่ รบั ประทานอาหาร)
Ss: He is eating.
5. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนดูชื่อบท Trick or Treat? แลว้ ถามวา่ เราจะพดู ประโยคน้ีเมื่อใด
เม่อื ไดค้ าตอบว่า วนั ฮาโลวนี (Halloween) ครูถามนกั เรียนเพ่ิมเตมิ ว่า นกั เรียนชอบทากิจกรรมใด
ในวนั ฮาโลวีน ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนมาเขยี นบนกระดานในรูปแบบของแผนผงั ความคดิ
(Mind map) เช่น
make a
pumpkin
lantern
eat sweets play ‘trick
or treat’
Halloween
watch a wear
film ghost
costumes
106
ข้นั Presentation
1. นาเสนอวลเี ก่ียวกบั กิจกรรมตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ watch a film (ดูหนงั ), eat popcorn (กินขา้ วโพดคว่ั ), listen
to music (ฟังเพลง), play a game (เล่นเกม), look outside (มองออกไปขา้ งนอก), visit a friend (ไป
เยี่ยมเพ่ือน), wear a costume (สวมเคร่ืองแต่งกาย), play a trick (เลน่ มายากล) และ make a lantern
(แกะสลกั โคมไฟ) ดว้ ยการใชบ้ ตั รภาพ จากน้นั ออกเสียงวลแี ละให้นกั เรียนออกเสียงตามพร้อมกนั
ครูเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในวลี ดงั น้ี
watch a film eat popcorn listen to music
play a game look outside visit a friend
wear a costume play a trick make a lantern
ครูให้สงั เกต a, to แลว้ อธิบายเพิม่ เติมว่า คาเหล่าน้ีเมอื่ อยใู่ นประโยค จะไม่ออกเสียงเตม็ เราเรียกว่า
weak form โดยจะเปลยี่ นเป็นเสียงสระ /ə/ แทน เช่น
watch a film /wɑːtʃ ə fɪlm/
listen to music /lɪs.ən tə mjuː.zɪk/
เสียงสระลดรูป (weak form) ในบางพยางคท์ ่ีไม่เนน้ เสียงหนกั เช่น พยางคแ์ รกของคาวา่
about และพยางคท์ ่สี องของคาวา่ given จะแทนดว้ ยเสียงสระ เออะ ซ่ึงมีสญั ลกั ษณเ์ ป็น /ə/
ชาวองั กฤษเรียกภาพยนตร์วา่ film ส่วนชาวอเมริกนั จะเรียกวา่ movie
ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ ห้นกั เรียนเรียนรู้กริยาวลเี พิม่ เติมจากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/flashcards
-free-time-activities.pdf
http://www.mes-english.com/flashcards/files/hobbies1_flash.pdf
2. ทบทวนประโยคทีใ่ ชข้ อและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมท่ีกาลงั ทาโดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1-2 คน
ถามคาถาม ดงั น้ี
T: Malee, what are you doing?
S1: I’m reading.
107
T: What are you doing?
S2: I’m studying.
T: Very good.
จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปโครงสร้าง Present continuous ดงั น้ี
ประธาน + is, am, are + กริยาเตมิ -ing.
ครูถามว่า is, am และ are ใชก้ บั ประธานตวั ใดบา้ ง ให้ผลดั กนั ออกมาเขียนบนกระดาน ดงั น้ี
is - He, She, It am - I
are - They, We, You
ให้นกั เรียนทาใบงาน เร่ือง การเติม -ing หลงั คากริยา จากเวบ็ ไซต์
ตอ่ ไปน้ีhttp://www.pearsonlongman.com/ae/keystone/state/ca/pdf/apar/skill-sharpeners-
3/ss3_u03_p032.pdf
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 16 Ex. 1 ครูพูดส่ังวา่ Open your book to page 16. ใหน้ กั เรียนทาตามคาสงั่ แลว้
ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 3 คร้งั รอบแรกให้ฟังและช้ีภาพตาม คร้ังที่ 2 ให้ฟัง ช้ีภาพ และออกเสียง
ตาม CD ดว้ ย ตอ่ มาครูเปิ ด CD อีกคร้งั และหยดุ CD หลงั จบคาศพั ทแ์ ต่ละคา และสุ่มเรียกนกั เรียน
ออกเสียงตามเป็นรายบคุ คล
watch a film eat popcorn
listen to music play a game
look outside visit a friend
wear a costume play a trick
make a lantern
2. หนังสือเรยี น หน้า 16 Ex. 2 ครูพดู สัง่ ว่า Open your book to page 16. ให้นกั เรียนทาตามคาส่ัง ให้
นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่า Look at the picture. What are they doing?
เมือ่ ไดค้ าตอบวา่ They’re watching TV. ครูให้นักเรียนจบั คู่ ฝึกพดู สนทนาตามตวั อยา่ ง ครูให้เวลา
นกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบใหเ้ พอ่ื นในช้นั ฟัง
108
3. ใหน้ กั เรียนจบั คู่นาขอ้ มลู ในหนงั สือเรียน หนา้ 16 Ex. 1 ขอ้ 2-9 มาแต่งประโยคถาม-ตอบ โดยใช้
ประโยคตวั อยา่ งใน Ex. 2 ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพูดถาม-ตอบจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน
3-4 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบท่หี นา้ ช้นั เช่น
S1: What is she doing?
S2: She is eating popcorn.
S3: What are they doing?
S4: They are playing a trick.
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนวาดภาพสมาชิกในครอบครัวของตนเอง ลงในกระดาษ A4 โดยท่ี
สมาชิกแตล่ ะคนกาลงั ทากิจกรรมแตกตา่ งกนั ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายใตภ้ าพวา่ สมาชิกแตล่ ะคน
กาลงั ทากิจกรรมใดบา้ ง เช่น ทาอาหาร เลน่ เกม ดโู ทรทศั น์ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ฝึกพูดถาม-ตอบ
โดยดูตวั อยา่ งในหนงั สือเรียน หนา้ 16 Ex. 2 ครูใหเ้ วลานกั เรียนฝึกพูดจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูขอ
อาสาสมคั รออกมาพูดถาม-ตอบใหเ้ พ่อื นฟังทหี่ นา้ ช้นั เช่น
S1: What is your mother doing?
S2: She’s watching TV.
S1: What is your father doing?
S2: He’s listening to music.
2. ใหท้ างานกล่มุ คน้ ควา้ หาประโยค Present continuous ในนิตยสารหรือหนงั สือพมิ พม์ ากลมุ่ ละ 5-7
ประโยค จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ เขยี นประโยคลงในกระดาษ เสร็จแลว้ ใหต้ วั แทนแต่ละกลมุ่ ผลดั กนั
ออกมาอา่ นประโยคใหก้ ล่มุ ทเ่ี หลอื ฟัง ครูสงั เกตวา่ แตล่ ะกลมุ่ อา่ นออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่
3. ให้นกั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หมท่ เ่ี รียน โดยใหบ้ อกความหมายลงในสมุดคาศพั ท์ ใหน้ กั เรียนคน้ หา
คาศพั ทต์ ามหมวดทเ่ี รียนในบทน้นั เพมิ่ เติมอีก 4 คา และบอกความหมายดว้ ย
4. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 14 Exs. 1-3 เป็นการบา้ น
Ex. 1 2. look outside 3. make a lantern
1. play a game 5. watch a film 6. visit a friend
4. eat popcorn
109
Ex. 2 3. Wendy is making a lantern.
2. Wendy is looking outside. 5. Wendy is watching a film.
4. Wendy is eating popcorn.
6. Wendy is visiting a friend. 3. They are having a party.
5. You are wearing a costume.
Ex. 3
2. She is running in the park.
4. We are not making a lantern.
6. Patrick is playing a game.
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ประเมนิ การเขยี นให้ขอ้ มลู แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั กิจกรรมทีส่ มาชิก
ในครอบครวั กาลงั ทา
ประเมินการพดู ขอและให้ขอ้ มลู แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เก่ียวกบั กิจกรรมทสี่ มาชิก
ในครอบครวั กาลงั ทา
ประเมินการพดู นาเสนอประโยค แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
Present continuous
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจสมุดคาศพั ท์ สมดุ คาศพั ท์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพเก่ียวกบั กิจกรรมตา่ ง ๆ
8.5 อินเทอร์เนต็
110
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 Is Toby holding an apple?
เวลา 1 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังได้
- ถาม-ตอบเก่ียวกบั กิจกรรมทก่ี าลงั ทาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและ
ขอ้ ความส้นั ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ดั
6 ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอา่ น/เขียนในสถานการณ์ต่าง ๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลยี่ นเรียนรู้กับสังคมโลก
ตัวชีว้ ดั
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ
111
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างท่ีใชใ้ นการขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจกรรมท่กี าลงั ทา
ช่วยให้พูดสื่อสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Verbs) hold, brush
(Nouns) pumpkin, candle
Structure: She’s wearing a costume., Toby is holding an apple. No, he isn’t.
He’s holding a candle.
Pronunciation: Pronouncing words begin with /br/ sound
Functions: Talking about activities done in the present
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมทก่ี าลงั ทา
3) Culture: เทศกาลฮาโลวนี (Halloween)
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
112
2. ทบทวนโครงสร้าง Present continuous ดว้ ยการเล่นเกม Noughts and Crosses หรือ OX ครูวาด
ตาราง 9 ช่อง บนกระดาน แลว้ เขียนกริยา ไดแ้ ก่ watch, eat, make, play, wear, look, study, cook, go
ในตารางแตล่ ะช่อง จากน้นั แบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลุ่ม ครูอธิบายกติกาการเลน่ เกมวา่ ใหผ้ ลดั กนั แต่ง
ประโยค Present continuous โดยใชค้ ากริยาในตาราง กลมุ่ ใดตอบถกู จะมีสิทธ์ิทาเคร่ืองหมาย O
หรือ X ในตารางน้นั กลมุ่ ท่ที าเครื่องหมายครบ 3 ช่อง ติดกนั ในแนวใดกไ็ ด้ เป็นกลมุ่ ท่ชี นะ
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคากริยา ไดแ้ ก่ hold (ถือ) และ brush (หวผี ม) ดว้ ยการแสดงทา่ ทางให้นกั เรียนดู หรือเขียน
คาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ พูดบอกความหมาย จากน้นั ออกเสียงคาศพั ทใ์ ห้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม
ตอ่ มาครูให้นกั เรียนดูคาวา่ brush และใหน้ กั เรียนออกเสียงตามอีกคร้ัง ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสียง
ควบกล้า /br/ ให้ชดั เจน เพราะเป็นเสียงที่ไมม่ ใี นภาษาไทยและคนไทยมกั จะออกเสียงผดิ บ่อย โดย
ครูเขยี นคาศพั ทเ์ พิ่มเติมบนกระดานใหน้ กั เรียนฝึกอ่านออกเสียง ดงั น้ี
brand bread brick bring brown
brush bright break breakfast
ครูเปิ ดคลปิ วดิ ีโอชื่อ How to Make the BR Consonant Cluster ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียง
คาศพั ทท์ ีข่ ้นึ ตน้ ดว้ ยพยญั ชนะควบกล้า /br/ จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=8kIONLMu52w
หรือเขา้ ไปที่ www.youtube.com แลว้ พมิ พค์ าสาคญั เช่น br pronunciation ในช่องคน้ หา
2. นาเสนอคาศพั ท์ ไดแ้ ก่ candle (เทียน) และ pumpkin (ฟักทอง) โดยใชบ้ ตั รภาพ หรือครูเขยี น
ตวั อยา่ งประโยคบนกระดานให้นกั เรียนดู เช่น
We light a candle in the evening.
We make a pumpkin lantern on Halloween.
จากน้นั ครูออกเสียงคาศพั ทใ์ ห้นกั เรียนฟังและพูดตาม ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาทม่ี ีมากกว่า
1 พยางคใ์ ห้ถูกตอ้ ง ดงั น้ี
candle pumpkin
3. ครูนาภาพคนกาลงั ทากิจกรรมต่าง ๆ มาแสดง แลว้ ถามนกั เรียน ดงั น้ี
T: Is she dancing? (แสดงภาพคนกาลงั เตน้ )
Ss: Yes, she is.
T: Is he making a lantern? (แสดงภาพคนกาลงั ร้องเพลง)
113
Ss: No, he isn’t. He’s singing.
T: Very good.
จากน้นั ใหช้ ่วยกนั สรุปโครงสร้างถาม-ตอบแบบ Yes/No บนกระดาน ดงั น้ี
คาถาม: Is, Am, Are + ประธาน + กริยาเติม -ing?
คาตอบ: Yes, I am./No, I’m not.
ครูสามารถดาวน์โหลดภาพคนทากิจกรรมตา่ ง ๆ จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://www.eslgamesplus.com/actions-1-flashcards/
https://www.eslflashcards.com/tag/verbs/
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 17 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนดูภาพขอ้ 1-5 แลว้ สุ่มถามวา่ บุคคลในแต่ละภาพกาลงั ทา
อะไร เช่น
T: Number 1, what are they doing?
Ss: They’re eating popcorn.
เม่ือนกั เรียนตอบถูกแลว้ ให้เขยี นประโยคลงในสมดุ ของตนเอง ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ ท่เี หลอื ดว้ ย
ตนเอง เสร็จแลว้ ใหผ้ ลดั กนั ออกมาเขยี นคาตอบบนกระดาน ครูตรวจคาตอบอีกคร้งั
1. are eating 2. are watching 3. is holding
4. is brushing 5. are playing
2. หนังสือเรียน หน้า 17 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนดูภาพและเดาวา่ เป็นเทศกาลอะไร เมอ่ื ไดค้ าตอบวา่
วนั ฮาโลวนี (Halloween) ครูอธิบายประวตั ิความเป็นมาของเทศกาลน้ีพอสังเขป จากน้นั ครูบอกว่า
นกั เรียนจะไดฟ้ ังบทสนทนา ใหน้ กั เรียนจบั คู่ช่ือกบั บคุ คลในภาพให้สัมพนั ธก์ นั เมอื่ อธิบายเสร็จ
แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง 1 คร้ัง ครูถามว่า เขา้ ใจหรือไม่ ถา้ ยงั ไม่เขา้ ใจ ครูเปิ ด CD ให้ฟัง
อีก 1 คร้งั เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD อีกคร้งั เพื่อเฉลยคาตอบ
114
Man: Can you see Toby?
Girl: No. Where is he?
Man: He’s holding a candle.
Girl: Oh, yes. I can see him. Toby’s holding a candle.
Narrator: Can you see the line? Now, you listen and draw lines.
Man: Can you see Jane? She’s wearing a big black hat.
Girl: Jane? Is she drinking some juice?
Man: No, she’s dancing.
Girl: Where is Simon?
Man: He’s talking on the phone. Can you see him?
Girl: Yes.
Man: Look, Donna is writing. Can you see her?
Girl: Donna? Is she wearing a red dress?
Man: Yes! She’s wearing a red dress and she’s writing!
Jane - a Simon - b Donna - c
วันฮาโลวนี (Halloween)
วนั ฮาโลวีน ตรงกบั วนั ที่ 31 ตลุ าคม ของทุกปี เชื่อกนั ว่า เป็นวนั ที่โลกมนุษยแ์ ละ
โลกวญิ ญาณเชื่อมต่อกนั เหล่าภูตผีวญิ ญาณจะลงมาเที่ยวเลน่ ยงั โลกมนุษย์ ซ่ึงมีท้งั วิญญาณ
ทด่ี รุ ้ายและไมด่ ุร้าย วิธีขบั ไลว่ ิญญาณทดี่ รุ ้าย คือ การสวมชุดและหนา้ กากผี เพอ่ื หลอกว่า
เป็นผดี ว้ ยกนั
ดงั น้นั ในวนั ฮาโลวีนผคู้ นนิยมแต่งกายเป็นผี และตกแต่งบา้ นดว้ ยฟักทองแกะสลกั
เป็น Jack o’ lantern นอกจากน้ี เด็ก ๆ ยงั มีการเล่น trick or treat คอื การเดินเคาะประตู
ตามบา้ นต่าง ๆ เพอื่ ขอขนมอกี ดว้ ย
ทม่ี า: www.educatepark.com
115
3. หนงั สือเรียน หน้า 17 หัวข้อ Let’s play! ครูบอกวา่ จะไดเ้ ลน่ เกม โดยครูพดู ประโยคทีเ่ ก่ียวกบั ภาพ
ในหนงั สือเรียน หนา้ 17 Ex. 4 ให้นกั เรียนบอกวา่ ครูพูดถูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไม่ถูก แกไ้ ขให้ถกู เช่น
T: Toby is holding an apple.
Ss: No, he isn’t. He’s holding a candle.
ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ตวั ละครอน่ื ๆ ดว้ ย แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่ฝึกถาม-ตอบเหมอื นตวั อยา่ ง
4. ครูให้นกั เรียนจบั คู่เลือกขอ้ มลู ในหนงั สือเรียน หนา้ 17 Ex. 3 มา 2 ขอ้ และฝึกพูดถาม-ตอบกนั
โดยใหม้ ที ้งั คาตอบรบั และปฏเิ สธ ครูใหเ้ วลานกั เรียนฝึกซอ้ มถาม-ตอบจนคลอ่ ง แลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบทหี่ นา้ ช้นั เช่น
S1: Are they eating popcorn?
S2: Yes, they are.
S1: Is she holding a pumpkin?
S2: No, she isn’t. She’s brushing her hair.
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนจบั คู่ เลอื กขอ้ มลู ในหนงั สือเรียน หนา้ 17 Ex. 3 มา 2 ขอ้ และฝึกพดู ถาม-ตอบกนั
โดยให้มีท้งั ตอบรบั และปฏิเสธ ครูให้เวลานกั เรียนฝึกซ้อมถาม-ตอบจนคลอ่ ง เสร็จแลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบท่ีหนา้ ช้นั เช่น
S1: Are they eating popcorn?
S2: Yes, they are.
S1: Is she holding a pumpkin?
S2: No, she isn’t. She’s brushing her hair.
2. แบบฝึ กหัด หน้า 15 Ex. 5 ครูบอกวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ัง CD เกี่ยวกบั กิจกรรมทต่ี วั ละครแต่ละตวั กาลงั
ทา จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง ใหน้ กั เรียนจดขอ้ มลู ทสี่ าคญั ตามไปดว้ ย เมอ่ื ฟัง CD เสร็จแลว้
ครูถามว่า เขา้ ใจหรือไม่ ถา้ ไม่เขา้ ใจ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังอกี คร้ัง และหยดุ CD เป็นช่วง ๆ แลว้
ถามคาถามนกั เรียนเพื่อความเขา้ ใจ ต่อมาใหเ้ วลานกั เรียนตอบคาถามขอ้ 1-5 ดว้ ยตนเอง เสร็จแลว้ ครู
เฉลยคาตอบบนกระดาน
116
Narrator: Listen and look. There is one example.
Man: Can you see Donna?
Girl: No. Where is she?
Man: She’s dancing.
Girl: Oh, yes! I can see her. Donna’s dancing.
Narrator: Can you see the line? Now, you listen and draw lines.
Man: Can you see Simon?
Girl: Simon? Is he eating popcorn?
Man: No, he’s playing a computer game.
Girl: Where is John?
Man: He’s eating popcorn. Can you see him?
Girl: Yes.
Man: Can you see Julie and Ted?
Girl: Julie and Ted? Are they playing a game?
Man: No. Mary and Billy are playing a game.
Girl: What are Julie and Ted doing then?
Man: Julie and Ted are watching TV.
Girl: Oh, yes. I can see them.
Simon – playing computer game John – eating popcorn
Mary and Billy – playing a game Julie and Ted – watching TV
3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 15 Exs. 4-5 เป็นการบา้ น
117
Ex. 4
Ex. 5
2. Yes, she is.
3. No, they aren’t. They’re watching TV.
4. No, they aren’t. They’re playing a game.
5. No, he isn’t. He’s playing a computer game.
7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วธิ ีการวดั
ประเมินการถาม-ตอบเก่ียวกบั แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรมท่กี าลงั ทา
สงั เกตการออกเสียงคาทีข่ ้นึ ตน้ ดว้ ย แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เสียง /br/
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมุ่งมน่ั ในการทางาน ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อินเทอร์เน็ต
118
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 Can you see anything?
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ใช้ too ประกอบประโยคได้
- ออกเสียงคาทข่ี ้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง /sk/ ได้
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สิ่งท่สี ามารถทาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาส่งั คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ที่ฟังและอา่ น
ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้ัน ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วัด
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ัด
7 ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
119
ตวั ชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
2 ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอา่ น/เขียนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างที่ใชบ้ รรยายสิ่งตา่ ง ๆ ช่วยใหพ้ ดู ส่ือสารในชีวิตประจาวนั ได้
อยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Nouns) costume, ghost door
(Verbs) carry, hear, see
(Adjectives) dark, heavy, noisy, scary
(Adverb) too
Structure: Can you see anything? No, I can’t. It’s too dark.
Pronunciation: Pronouncing words ending with /g/ and /k/ sound
Functions: Expressing ability
2) Language Skills
Listening: ฟังเพือ่ ความเขา้ ใจ
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สิ่งของต่าง ๆ
Writing: ใช้ too ประกอบประโยค
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
120
5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน แลว้ ถามวา่ How are you? เมือ่ นกั เรียนตอบแลว้ ครูถามว่า นอกจาก How
are you? แลว้ นกั เรียนสามารถกล่าวทกั ทายแบบอืน่ ไดอ้ ีกหรือไม่ ให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็น
จากน้นั ครูอธิบายเพิม่ เตมิ ว่า นอกจาก How are you? แลว้ เราสามารถใช้ How are you doing? และ
How’s everything? ต่อมาใหน้ กั เรียนจบั คู่ฝึกพูดทกั ทายกนั โดยใชป้ ระโยคที่นกั เรียนไดเ้ รียนรู้มา
2. ทบทวนคาศพั ทจ์ ากชว่ั โมงทแี่ ลว้ เช่น costume, popcorn, film, pumpkin, candle ดว้ ยการเลน่ เกม
Spelling Bee ให้เตรียมกระดาษคนละ 5 แผน่ จากน้นั บอกว่า ครูจะพดู คาศพั ท์ คาละ 2 คร้งั ให้เขียน
คาลงในกระดาษให้ถกู ตอ้ ง เมือ่ เขยี นเสร็จแลว้ ครูเดินตรวจว่า นกั เรียนสะกดคาถกู ตอ้ งหรือไม่
นกั เรียนทีส่ ะกดคาไมถ่ กู ตอ้ งจะถูกคดั ออก ใหท้ ากิจกรรมน้ีไปเรื่อย ๆ จนเหลือผูช้ นะเพียงผูเ้ ดียว
3. ทบทวนประโยค Present continuous โดยครูแจกบตั รคากริยา เช่น jump, walk, eat, wear, sing, hold,
dance, brush, watch ให้นกั เรียน คนละ 1 ใบ ครูเตรียมลกู บอลยางขนาดเลก็ 1 ลูก จากน้นั ครูบอกวา่
จะสุ่มโยนลกู บอลไปท่ีนกั เรียนคนหน่ึง เม่ือรับลกู บอลได้ ตอ้ งพูดประโยค Present continuous โดยใช้
คาท่ีไดม้ าแตง่ ประโยค ถา้ นกั เรียนแต่งประโยคถูกตอ้ ง ให้โยนลูกบอลใหเ้ พอื่ นคนตอ่ ไป ครูทา
กิจกรรมน้ีไปเร่ือย ๆ จนไดพ้ ดู ครบทกุ คน
4. ทบทวนโครงสร้างที่ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ความสามารถ โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ออกมา
ยืนท่หี นา้ ช้นั แลว้ ถามคาถามโดยใชโ้ ครงสร้าง Can you + กริยารูป base form หรือช่องท่ี 1? เช่น
T: Can you walk?
S1: Yes, I can.
T: Can you fly?
S2: No, I can’t.
T: Can you climb a tree?
S3: Yes, I can.
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคากริยา ไดแ้ ก่ carry (ถือ) ดว้ ยการทาท่าทางใหน้ กั เรียนดู จากน้นั ให้นกั เรียนออกเสียงตาม
พร้อมกนั ครูเนน้ ให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาใหช้ ดั เจน คอื carry
121
2. นาเสนอคาคณุ ศพั ทท์ ี่ใชบ้ รรยายลกั ษณะของคนและสิ่งของ ไดแ้ ก่ heavy (หนกั ), noisy (เสียงดงั )
และ dark (มดื ) โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ พดู บอกความหมาย จากน้นั ครูอา่ นคาศพั ทใ์ ห้
ฟังและพดู ตาม โดยให้นกั เรียนลงเสียงหนกั ในคาใหถ้ กู ตอ้ ง ดงั น้ี
heavy noisy
3. ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
It’s too dark. The water is too hot.
She’s too small. He’s too fat.
จากน้นั ครูขดี เส้นใตค้ าวา่ too (มากเกินไป) แลว้ อธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ too เป็นกริยาวิเศษณ์ จะวาง
too ไวห้ นา้ คาคณุ ศพั ท์ เพอ่ื บอกระดบั มกั จะมี to ตามหลงั เช่น
It’s too dark to go out. (มนั มดื เกนิ ไปท่จี ะออกไปขา้ งนอก)
The water is too hot to drink. (น้าร้อนเกินไปที่จะด่ืม)
She’s too small to drive a car. (เธอตวั เล็กเกินกว่าจะขบั รถยนต)์
He’s too fat to jump. (เขาอว้ นเกินกวา่ จะกระโดด)
นอกจากน้ีเรามกั จะใชก้ ริยาวเิ ศษณ์คาวา่ very เพื่อบอกระดบั เช่นกนั มคี วามหมายวา่ “มาก ๆ” เช่น
It’s very dark outside. (ขา้ งนอกมดื มาก ๆ)
The weather is very hot. (อากาศร้อนมาก ๆ)
The room is very noisy. (หอ้ งน้ีเสียงดงั มาก ๆ)
This bag is very heavy. (กระเป๋ าใบน้ีหนกั มาก ๆ)
ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ หน้ กั เรียนทบทวนการใช้ too และ very ดงั น้ี
http://www.fmcpenglish.com/หลกั การใช-้ very-too-และ-enough/
ตอ่ มาครูเขียนคาศพั ท์ back และ bag บนกระดาน ให้ฝึกออกเสียงคาทีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ และ /g/
การออกเสียงคาที่ลงท้ายด้วยเสียง /k/ และ /g/
เสียงพยญั ชนะ /k/ และ /g/ ทีท่ า้ ยคา เป็นเสียงท่ีเป็นปัญหาสาหรบั คนไทย เนื่องจากเสียง
เหล่าน้ีไมม่ ีปรากฏในภาษาไทย คนไทยส่วนใหญจ่ ึงใช้เสียงในภาษาไทยท่ใี กลเ้ คยี งกบั เสียง
/k/ และ /g/ แทน เช่น ใชเ้ สียง /ก/ แทนเสียง /k/ และ /g/ ซ่ึงไมถ่ ูกตอ้ ง โดยเสียง /k/ และ /g/
เป็นเสียงพยญั ชนะระเบดิ หรือพยญั ชนะกกั ซ่ึงเกิดข้นึ ท่เี พดานอ่อน
122
ในการออกเสียงพยญั ชนะ /k/ และ /g/ ลน้ิ ส่วนหลงั จะยกข้นึ แตะเพดานออ่ น กระแสลมซ่ึง
ออกมาจากปอดจะถกู กกั อยชู่ ว่ั ขณะหน่ึงตรงส่วนทล่ี ิ้นส่วนหลงั สมั ผสั กบั เพดานอ่อน
กระแสลมจะถูกปล่อยออกมาอยา่ งรวดเร็ว เสียง /k/ และ /g/ ตา่ งกนั ที่เสียง /k/ เป็นเสียงไมก่ อ้ ง
ส่วนเสียง /g/ เป็นเสียงกอ้ ง
ตวั อยา่ งคาศพั ท์ back bag
pick pig
duck dug
ท่ีมา:ปรารมภ์รัตน์ โชติกเสถียร. การออกเสียงพยญั ชนะในภาษาองั กฤษ.
กรุงเทพ ฯ: โครงการตารา คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั , 2537.
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 18 Ex. 5 ครูบอกวา่ ครูจะเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง ช้ีตาม และอา่ นออกเสียง 1 คร้ัง
จากน้นั ครูเปิ ด CD อีกคร้งั ใหน้ กั เรียนจบั ค่ภู าพ a-h กบั ขอ้ ความ 1-8 ใหส้ ัมพนั ธ์กนั เสร็จแลว้ ครู
เฉลยคาตอบ โดยการเปิ ด CD อีกคร้ัง แลว้ หยดุ CD เป็นขอ้ ๆ เพ่ือใหน้ กั เรียนตรวจคาตอบ
1. ghost 2. dark 3. noise 4. I can see
5. costume 6. I can hear 7. scary 8. door
2. d 3. a 4. e 5. b
6. c 7. f 8. h
2. หนงั สือเรียน หน้า 18 Ex. 6 ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน ใหค้ นแรกอ่านบทพูดของเด็กหญิง
ส่วนอีกคนอา่ นบทพูดของเด็กชาย ครูทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั ขอ้ 1-3 ดว้ ย แต่เปล่ยี นเป็น
นกั เรียนคนอนื่ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพูดสนทนาตามตวั อยา่ ง โดยใชข้ อ้ มลู จากขอ้ 1-3
ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพดู จนคล่อง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาสนทนาท่หี นา้ ช้นั เช่น
S1: Can you carry the bag?
S2: No, I can’t. It’s too heavy.
123
ข้นั Production
1. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลุ่ม จากน้นั อธิบายภาระงานวา่ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ทาโปสเตอร์นาเสนอคาศพั ท์
ทีล่ งทา้ ยดว้ ยเสียง /k/ และ /g/ มาอยา่ งละ 10 คา แลว้ ใหน้ กั เรียนตกแตง่ ให้สวยงามและนามาส่งครู
2. ให้นกั เรียนแตง่ ประโยคโดยใชค้ าวา่ too มาคนละ 5 ประโยค ระหว่างที่ให้นกั เรียนทางาน ครูเดิน
สงั เกตรอบ ๆ หอ้ ง เพือ่ ประเมนิ และใหค้ วามช่วยเหลอื เช่น ไวยากรณ์ การสะกดคา เป็นตน้
แลว้ ใหผ้ ลดั กนั ออกมาอ่านประโยคทต่ี นเองแตง่ ให้เพอ่ื นในช้นั ฟัง เช่น
The cat is too big. The weather is too cold.
She is too old. He is too thin.
The box is too small.
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 16 Exs. 6-7 เป็นการบา้ น
Ex. 6
Ex. 7 3. No, I can’t. It’s too noisy.
Ex. 7
2. No, I can’t. It’s too dark.
4. No, I can’t. It’s too scary.
124
7. การวดั และประเมินผล
วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ ช้ินงานคาศพั ทท์ ่ีลงทา้ ยดว้ ย แบบประเมินช้ินงาน
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เสียง /k/ และ /g/
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมินการแตง่ ประโยคดว้ ยคาวา่ แบบประเมินการเขียน
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
too ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาทล่ี งทา้ ยดว้ ย แบบสงั เกตพฤติกรรม
เสียง /k/ และ /g/ การเรียนรู้
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook)
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมินคุณลกั ษณะ
และมุ่งมนั่ ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ
8.5 อนิ เทอร์เน็ต
125
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 She can’t carry the bag.
เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อ่านออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทไ์ ด้
- พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ส่ิงที่สามารถทาได้
- เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ส่ิงทต่ี นเองสามารถและไมส่ ามารถทาได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ที่ฟังและอ่าน
ต 1.1 ป. 5/2 อ่านออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 5/3 ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออา่ น
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนิทาน
งา่ ย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คล
ต 1.2 ป. 5/4 พดู /เขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชี้วัด
ต 1.3 ป. 5/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
126
ตวั ชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอา่ น/เขียนในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างที่ใชข้ อและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ความสามารถ ช่วยใหพ้ ดู /อ่าน
และเขยี นส่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: (Noun) oxygen
(Adverb) without
Structure: can/can’t
Can I open the window? Yes, of course! Sorry, no!
Pronunciation: Linking sounds
Function: Expressing ability, asking for, giving or refusing permission
2) Language Skills
Speaking: พดู ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ความสามารถ
Writing: เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ส่ิงท่ีตนเองสามารถและไมส่ ามารถทา
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคิด
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
127
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ทบทวนการใช้ too ดว้ ยการเลน่ เกม Noughts and Crosses หรือ OX โดยแบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลุ่ม
จากน้นั ครูวาดตาราง 9 ช่อง บนกระดาน แลว้ เขียนคาคณุ ศพั ท์ ไดแ้ ก่ scary, small, heavy, short, long,
dark, noisy, big และ hot ในตารางท้งั 9 ช่อง ตอ่ มาครูอธิบายกตกิ าใหฟ้ ังว่า ให้นกั เรียนแต่ละฝั่ง
ผลดั กนั แตง่ ประโยคโดยใช้ too และคาคุณศพั ท์ในตาราง กลุม่ ทีแ่ ต่งประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง มสี ิทธ์ิทา
เคร่ืองหมาย X หรือ O ลงในตาราง กลมุ่ ท่ีทาเคร่ืองหมายติดกนั 3 ช่อง ในแนวใดกไ็ ด้ เป็นกลมุ่
ทีช่ นะ
3. ทบทวนการขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ส่ิงท่ีสามารถทาได้ โดยครูเขียนคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
watch climb dance jump ride
wash sing play carry
จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คู่เลอื กคาศพั ทบ์ นกระดานมา 2 คา แลว้ แตง่ ประโยคถาม-ตอบ เสร็จแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบทห่ี นา้ ช้นั เช่น
S1: Can you wear a ghost film?
S2: No, I can’t. It’s too scary.
S1: Can you play computer games?
S2: Yes, I can. I really love computer games.
ข้นั Presentation
1. ทบทวนโครงสร้างประโยคขออนุญาตโดยครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน
Can I come in?
Can I play the piano, please?
Can I go out, please?
Can I open the window?
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยคเหลา่ น้ีให้ครูฟัง ครูบอกนกั เรียนวา่ ในภาษาองั กฤษ เราจะออกเสียง
เชื่อมคาในประโยค (linking sounds) เพือ่ ใหก้ ารส่ือสารล่ืนไหลและกระชบั โดยการเชื่อมคาจะ
เกิดข้นึ เมือ่ ตวั สะกดของพยางคห์ นา้ เป็นพยญั ชนะ และคาทต่ี ามหลงั ข้นึ ตน้ ดว้ ยสระ เช่น
Can I borrow your pencil? Can I come in?
Can she sing a song?
128
ให้นกั เรียนสังเกตประโยคเหลา่ น้ี แลว้ ให้ช่วยกนั บอกโครงสร้างประโยค คอื Can I + กริยารูป base
form หรือช่องท่ี 1? ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ วา่ เรามกั จะเติม please ไวท้ า้ ยประโยค เพอื่ แสดงความสุภาพ
ดงั ตวั อยา่ งประโยคท่ี 2 และ 3 จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน พูดขออนุญาตกบั ครู เช่น
S1: Can I go out, please?
T: Sure.
S2: Can I play computer games?
T: Sorry, no.
ครูบอกว่า เมื่อมีคนขออนุญาตเรา ถา้ เราอนุญาต จะพูดวา่ Sure./Sure, you can. หรือ Yes, of course.
ถา้ ไมอ่ นุญาต จะพูดว่า Sorry, no. หรือ I’m afraid you can’t.
ครูเปิ ดคลิปวิดีโอชื่อ Can you help me? Sure, I can. - Education English song for Kids -
Sing a song loudly เพอ่ื ใหน้ กั เรียนฝึกร้องเพลงเกี่ยวกบั ประโยคขอร้องจากเวบ็ ไซต์
ต่อไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=5P-89FdwlGc
หรือครูเขา้ ไปที่ www.youtube.com แลว้ พิมพค์ าสาคญั เช่น asking for permission
ในช่องคน้ หา
2. นาเสนอการใช้ can และ can’t ในประโยคอนุญาตหรือส่ังหา้ ม โดยเขียนตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน
เช่น You can go out. You can’t go out.
You can play here. You can’t play here.
You can read this email. You can’t read this email.
You can come in. You can’t come in.
จากน้นั ครูอธิบายว่า นอกจากเราจะใช้ can บอกความสามารถแลว้ เรายงั สามารถใช้ can ในประโยค
อนุญาตดว้ ย โดยมโี ครงสร้าง คือ You can + กริยารูป base form หรือช่องท่ี 1. ส่วน can’t จะใชบ้ อก
สิ่งท่หี า้ มทา มโี ครงสร้างเป็น You can’t + กริยารูป base form หรือช่องท่ี 1.
ใหน้ กั เรียนทาใบงานเรื่องการใช้ can และ can’t จากเวบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี
https://learnenglishkids.britishcouncil.org/sites/kids/files/attachment/grammar-
games-modals-can-and-cant-worksheet.pdf
129
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 19 Ex. 7 ครูพูดคาส่งั Open your book to page 19. แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นคาสั่งใน
Ex. 7 พร้อมกนั จากน้นั ครูบอกวา่ ใหด้ ูภาพ a-f และอ่านประโยคในขอ้ 1-6 ใหน้ กั เรียนจบั คู่ภาพและ
ประโยคทสี่ ัมพนั ธ์กนั ครูให้เวลานกั เรียนจบั คภู่ าพและประโยคดว้ ยตนเอง แลว้ ให้ช่วยกนั เฉลยคาตอบ
1. f 2. e 3. b
4. c 5. d 6. a
สุดทา้ ยให้นกั เรียนอ่านขอ้ ความในหนงั สือเรียน หน้า 19 กรอบ Grammar และสรุปโครงสร้างอกี คร้ัง
2. หนังสือเรียน หน้า 19 Ex. 8 ให้นกั เรียนดูตวั อยา่ งบทสนทนาของเด็กชาย 2 คน และอา่ นบทสนทนา
ใหน้ กั เรียนฟังและพูดตามพร้อมกนั จากน้นั ให้นกั เรียนดสู ่ิงท่ีสามารถทาและไม่สามารถทาไดใ้ น
กรอบดา้ นลา่ ง แลว้ ถามนกั เรียนว่า Can I play in the park? ใหน้ กั เรียนพดู ตอบวา่ Sorry, no! ครูทา
กิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกบั วลีอื่น ๆ เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนจบั คูก่ นั ฝึกพูดสนทนาตามตวั อยา่ ง โดยเลอื ก
สิ่งท่ีสามารถทาและไมส่ ามาถทา มาอยา่ งละ 1 ขอ้ ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ ง แลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียนหลาย ๆ คู่ ออกมาสนทนาทหี่ นา้ ช้นั เช่น
S1: Can I come in your room?
S2: Yes, of course!
S1: Can I play with your computer?
S2: Sorry, no.
3. หนงั สือเรียน หน้า 19 หัวข้อ Go Green ครูขออาสาสมคั ร 1 คน อา่ นขอ้ ความในกรอบใหน้ กั เรียน
ท่เี หลอื ฟัง จากน้นั ครูอธิบายความหมายของคาศพั ท์ ไดแ้ ก่คาวา่ oxygen (กา๊ ซออกซิเจน), without
(โดยปราศจาก) c]t live (มชี ีวิต) ครูอธิบายเพมิ่ เติมวา่ live เป็นคากริยา นกั เรียนอาจจะคุน้ เคยกบั คา
วา่ live ในประโยค Where do you live? ซ่ึงมีความหมายวา่ คณุ อาศยั อยทู่ ่ีไหน live ยงั หมายความวา่
มีชีวิต
ตอ่ มาครูอธิบายความหมายของขอ้ ความใหน้ กั เรียนฟังว่า ตน้ ไมผ้ ลติ กา๊ ซออกซิเจนให้เรา ถา้ ไม่มี
กา๊ ซออกซิเจน เราไมส่ ามารถมีชีวิตอยไู่ ด้ ให้นกั เรียนช่วยกนั อภิปรายเพ่มิ เติมเกี่ยวกบั ประโยชน์ของ
ตน้ ไม้ เช่น เป็นร่มเงาให้เรา เป็นท่ีอยอู่ าศยั ของสัตว์ และเป็นอาหารของสตั วห์ ลาย ๆ ชนิด
130
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนทางานคู่ แต่งบทสนทนาขอและให้อนุญาต โดยใชต้ วั อยา่ งใน
หนงั สือเรียน หนา้ 19 Ex. 8 เป็นแบบ ครูให้เวลานกั เรียนฝึกพดู จนคลอ่ ง เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน
3-4 คู่ ออกมาสนทนาถาม-ตอบให้เพอ่ื นฟังทหี่ นา้ ช้นั เช่น
S1: Can I play the guitar here?
S2: Yes, of course!
S1: Can I watch TV after 10 o’clock?
S2: Sorry, no!
2. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนทางานกลุ่ม แตง่ ประโยคอนุญาตและสัง่ หา้ ม อยา่ งละ 5 ประโยค
จากน้นั ให้เขียนประโยคในกระดาษแผน่ ใหญ่ พร้อมตกแตง่ ให้สวยงาม เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ
ผลดั กนั ออกมาอา่ นประโยคของกลุม่ ตนเองใหก้ ลมุ่ ที่เหลือฟัง เช่น
You can do homework here. You can go to the toilet.
You can play basketball after school. You can have lunch at a canteen.
You can wear a school uniform.
You can’t run in the classroom. You can’t eat in the classroom.
You can’t wear slippers to school.
You can’t play computer games at a computer lab.
You can’t talk while the teacher is teaching.
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 17 Exs. 8-9 เป็นการบา้ น
Ex. 8
2. Can I play on your computer, please?
Sorry, no!
3. Can I wear this T-shirt, please?
Yes, of course!
4. Can I watch TV, please?
Yes, of course!
5. Can I ride your bike, please?
Sorry, no!
131
6. Can I have some chocolate, please?
Yes, of course!
Ex. 9 3. No, I can’t.
2. Yes, of course. 5. Yes, of course.
4. Yes, I can.
6. Sorry, no!
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู ขอและให้อนญุ าต
ประเมินการเขียนประโยคอนุญาต แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และไมอ่ นุญาต
สังเกตการออกเสียงเชื่อมคา แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ในประโยค
ตรวจแบบฝึ กหัด แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้
และมุ่งมน่ั ในการทางาน ประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 กระดาษแผ่นใหญ่ ดินสอ และสี
8.5 อินเทอร์เน็ต
132
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 It’s Halloween! เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- อา่ นออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทใ์ นเน้ือเร่ืองได้
- ตอบคาถามจากการฟังและการอา่ นได้
- แสดงบทบาทสมมติตามเร่ืองท่ีอา่ นได้
- เขียนบตั รเชิญได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏิบตั ติ ามคาสัง่ คาขอร้อง และคาแนะนาง่าย ๆ ทีฟ่ ังและอ่าน
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ที่ฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนิทาน
งา่ ย ๆ หรือเรื่องส้นั ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วดั
ต 1.2 ป. 5/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบุคคล
ต 1.2 ป. 5/5 พูด/เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่าง ๆ
พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั
133
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชี้วดั
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียงและกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วัด
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พดู และอา่ น/เขยี นในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กบั สังคมโลก
ตวั ชี้วัด
ต 4.2 ป. 5/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาเกี่ยวกบั กิจกรรมท่ีกาลงั ทา ช่วยให้เขา้ ใจเรื่องท่ีฟัง อา่ น
และเขียนสื่อสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Structure: I can hear a noise. I can’t see. It’s too dark outside.
Pronunciation: Pronouncing words begin with consonant cluster /tr/ sound
Function: Listening and reading comprehension skills through a dialogue
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พูดบทสนทนาในเน้ือเร่ือง
Reading: ตอบคาถามจากเร่ืองทอี่ ่าน
Writing: เขยี นบตั รเชิญ
134
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ทบทวนประโยคอนุญาตและสง่ั ห้าม โดยใหผ้ ลดั กนั ออกมาพูดประโยคท่ีนกั เรียนจาได้ เช่น
You can do homework in classroom. You can use a pen.
You can read this email.
You can’t eat in the class. You can’t run in the class.
You can’t talk while the teacher is teaching.
3. ทบทวนประโยคขอร้อง โดยสุ่มเรียกนกั เรียน 1-2 คน ออกมาสลบั กนั พูดประโยคขออนุญาต
และตอบรับท่ีหนา้ ช้นั เช่น
S1: Can I go to the toilet?
S2: Yes, of course!
S1: Can I eat in the classroom?
S2: Sorry, no.
ครูย้าว่า เวลาที่เราขออนุญาตตอ้ งตามดว้ ย please เสมอ เพ่อื แสดงความสุภาพ และเมอื่ นกั เรียน
ไดร้ ับอนุญาต นกั เรียนตอ้ งกลา่ ว Thank you. ดว้ ย
4. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั กิจกรรมต่าง ๆ ดว้ ยการแสดงบตั รภาพ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั พดู บอก
โดยใชโ้ ครงสร้าง Present continous เช่น
T: What is he doing? (แสดงภาพคนกาลงั สวมใส่เส้ือผา้ )
Ss: He’s wearing a costume.
T: What is she doing? (แสดงภาพคนกาลงั มองออกไปขา้ งนอก)
Ss: She’s looking outside.
135
5. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยให้ดเู น้ือเรื่องในหนงั สือเรียน หนา้ 20-21 คร่าว ๆ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ ในเรื่อง
เป็นเทศกาลอะไร เม่ือไดค้ าตอบว่า เทศกาลฮาโลวนี ให้นกั เรียนบอกส่ิงท่ีนึกถงึ ในวนั ฮาโลวนี เช่น
ghost, pumpkin lantern, sweets, scary films และ black cat
ข้นั Presentation
1. นาเสนอคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั วนั ฮาโลวีน ไดแ้ ก่ ghost (ผี) โดยครูเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ พูดบอก
ความหมาย จากน้นั ครูอ่านออกเสียงคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟังและออกเสียงตาม ครูอาจสอนคาศพั ท์
เกี่ยวกบั วนั ฮาโลวนี ที่นกั เรียนควรรู้เพ่มิ เตมิ เช่น mummy (มมั ม่ี), monster (สตั วป์ ระหลาด),
witch (แม่มด) และ spider web (ใยแมงมมุ )
ครูเปิ ดคลปิ วดิ ีโอชื่อ Kids vocabulary - Halloween - Halloween monster costumes -
English educational video for kids ใหน้ กั เรียนเรียนรู้คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั วนั ฮาโลวนี เพม่ิ เติม
ทีเ่ วบ็ ไซตต์ ่อไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=s1yGXu9K7aw
หรือครูเขา้ ไปที่ www.youtube.com แลว้ พมิ พค์ าสาคญั เช่น Halloween vocabulary
ในช่องคน้ หา
2. ครูเขียน Trick or treat? บนกระดาน แลว้ อธิบายความเป็นมาของการละเลน่ น้ีคร่าว ๆ จากน้นั ให้
ออกเสียงควบกล้า /tr/ ในคาดงั กลา่ ว แลว้ บอกว่า เสียงควบกล้า /tr/ เป็นเสียงท่คี นไทยมกั จะมีปัญหา
เน่ืองจากไม่มีเสียงน้ีในภาษาไทย คนไทยส่วนใหญ่จะออกเสียง /t/ เพยี งอยา่ งเดียว ทาให้มีปัญหาใน
การสื่อสารกบั ชาวต่างชาติ โดยเสียงควบกล้า /tr/ เกิดจากการออกเสียงพยญั ชนะ /t/ และ /r/ พร้อมกนั
ต่อมาครูเขียนตวั อยา่ งคาศพั ทเ์ พ่ิมเตมิ ให้นกั เรียนฝึกออกเสียง ดงั น้ี
trick treat
trash tree
true try
trap track
3. ครูอา่ นออกเสียงประโยคในเน้ือเร่ืองใหน้ กั เรียนฟังทีละกรอบ แลว้ ให้นกั เรียนฝึกพูดตาม โดยครู
เนน้ ให้นกั เรียนออกเสียงเชื่อมคา (linking sounds) ในประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง ดงั น้ี
What are you doing?
I can hear a noise.
It’s too dark outside.
136
Is it a ghost?
Wooooh! Trick or treat?
Can you help us?
Yes, of course.
4. ให้นกั เรียนดูบตั รเชิญในแบบฝึกหดั หนา้ 18 Ex. 11 แลว้ อธิบายส่วนประกอบแก่นกั เรียน ดงั น้ี
Come join the fun!
Halloween Costume Party
Place: 13 Hallow Creek Street
Date: 31st October
Time: 7:00 in the evening
Food and drinks, balloons, games, cake,
music and dancing!
Tel.: Kate 8693 2603
Email: [email protected]
1) คาเชิญชวน เช่น Come join the fun! You are invited to…
2) ช่ืองาน เช่น Halloween Costume Party, New Year Party, Birthday Party
3) สถานท่จี ัดงาน เช่น 13 Hallow Creek Street, 3 Blue Street
4) วันที่จดั งาน เช่น 31st October, 31st December, 5th April
5) เวลาท่จี ัดงาน เช่น 7:00 in the evening, 3 o’clock
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 20-21 Ex. 9 ใหน้ กั เรียนอา่ นคาถามขอ้ 1 และ 2 พร้อมกนั จากน้นั เปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟังและดเู น้ือเร่ืองตามไปดว้ ย ต่อมาใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั และอ่านเน้ือเร่ืองอกี คร้ัง เพื่อตอบ
คาถาม แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คู่ พดู คาตอบ แลว้ ครูเฉลยคาตอบอีกคร้ัง
137
1. They’re watching a film.
2. Tom, Oscar and Extra are wearing costumes.
2. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ จากน้นั ครูแจก Story Cutouts ที่ถ่ายเอกสารจากแบบฝึกหัด หนา้ 80โดยครู
ตดั Story Cutouts เป็นช่อง ๆ แลว้ แจกนกั เรียนกลุ่มละ 1 ใบ ครูอธิบายว่า ให้แต่ละกลมุ่ ออกมาเรียง
ลาดบั เน้ือเร่ืองให้ถูกตอ้ ง และให้แต่ละกลมุ่ อา่ นประโยคในช่องท่ไี ดร้ ับมอบหมายเรียงตอ่ กนั จนจบ
3. ครูถ่ายเอกสารเน้ือเร่ืองจากหนงั สือเรียน หนา้ 20-21 แลว้ ตดั แบ่งเป็นช่อง ๆ จากน้นั ให้จบั คกู่ นั ครู
แจกเน้ือเรื่องใหน้ กั เรียน คลู่ ะ 1 ใบ ให้แตล่ ะคฝู่ ึกพูดจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั ร 3-4 คู่
ออกมาสนทนาให้เพือ่ นฟัง ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงเช่ือมคาในประโยคใหถ้ กู ตอ้ ง
4. หนงั สือเรยี น หน้า 21 Ex. 10 ให้นกั เรียนอ่านเน้ือเร่ืองอกี คร้งั แลว้ ตอบวา่ ประโยคในขอ้ 1-4 อยใู่ น
ภาพหมายเลขใด กอ่ นใหน้ กั เรียนอา่ นดว้ ยตนเอง ครูสอนวิธีการอา่ นเร็วเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ
(Scanning reading) ซ่ึงวิธีน้ีจะเป็นวธิ ีการหาขอ้ มลู เฉพาะ เช่น ตวั เลข วนั ที่ สถานที่ ชื่อคน เป็นตน้
จะเป็นขอ้ มลู ที่ปรากฏใหผ้ อู้ ่านเห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจนในเน้ือเรื่อง เมอ่ื นกั เรียนเตมิ คาตอบเสร็จแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน เพ่อื เฉลยคาตอบ
1. picture 2 2. picture 4 3. picture 5 4. picture 7
ข้นั Production
1. ให้นกั เรียนจบั กลมุ่ กล่มุ ละ 6 คน แสดงบทบาทสมมติตามหนงั สือเรียน หนา้ 20-21 ครูเนน้ ใหแ้ สดง
สีหนา้ และท่าทางใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือเร่ือง แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั ออกมาแสดงบทบาทสมมตทิ ี่
หนา้ ช้นั
2. ครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนเขียนบตั รเชิญเพื่อน ๆ ไปงานสงั สรรคว์ นั ฮาโลวนี โดยใชต้ วั อยา่ งใน
Ex. 11 เป็นแบบ ระหวา่ งท่นี กั เรียนกาลงั ทางาน ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ห้อง เพอ่ื ประเมนิ และใหค้ วาม
ช่วยเหลอื ในดา้ นต่าง ๆ เช่น ไวยากรณ์ สะกดคา เครื่องหมายวรรคตอน แลว้ ใหน้ กั เรียนตกแต่ง
บตั รเชิญให้สวยงาม จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ออกมาอ่านบตั รเชิญใหเ้ พ่ือนฟังหนา้ ช้นั
เสร็จแลว้ ให้แต่ละคนนาช้ินงานมาส่งครู
138
3. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 18 Exs. 10-11 เป็นการบา้ น
Ex. 10 4. d 5. drinks 6. music
2. a 3. b 4. evening
Ex. 11
2. Costume 3. October
7. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมินการแสดงละคร/ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
บทบาทสมมติ
ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
และอ่าน
ประเมินการเขียนบตั รเชิญ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
มางานสงั สรรค์ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงควบกล้า /tr/ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
จบั คขู่ อ้ ความกบั ภาพ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั อนั พึงประสงค์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 5 ป. 5
8.4 บตั รภาพ
8.5 บตั ร Story Cutouts
8.6 อินเทอร์เนต็
139
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 Can I come in? เวลา 2 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- พูดบอกส่ิงทอ่ี นุญาตและไม่อนุญาตให้ทาได้
- ออกเสียงคาท่ขี ้ึนตน้ ดว้ ย /st/ ได้
- เขยี นบอกสิ่งท่ผี อู้ นื่ สามารถและไม่สามารถทาในห้องของตนเองได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป. 5/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนางา่ ย ๆ ท่ีฟังและอ่าน
ต 1.1 ป. 5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 5/3 ระบุ/วาดภาพสัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยค
และขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน
ต 1.1 ป. 5/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนิทาน
งา่ ย ๆ หรือเรื่องส้ัน ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 5/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป. 5/4 พูด/เขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพูดและการเขยี น
ตัวชี้วัด
ต 1.3 ป. 5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกลต้ วั
140
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 5/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม
ของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชี้วดั
ต 4.1 ป. 5/1 ฟัง พูด และอา่ น/เขยี นในสถานการณต์ ่าง ๆ ท่เี กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างท่ีใชข้ อและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ส่ิงท่สี ามารถและไม่สามารถ
ทาได้ ช่วยใหพ้ ูด อ่าน และเขียนส่ือสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: take away, in here, any time, late at night
Structure: In my room you can listen to music but you can’t take my CDs away!
Pronunciation: Pronouncing words begin with consonant cluster /st/ sound
Function: Developing reading and writing skills
2) Language Skills
Listening: ตอบคาถามจากการฟัง
Speaking: พดู ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ส่ิงที่ผูอ้ นื่ สามารถและไมส่ ามารถทาในห้องของตนเอง
Writing: เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั สิ่งทผ่ี ูอ้ ืน่ สามารถและไมส่ ามารถทาในหอ้ งตนเอง
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคิด
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้ 141
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั จากน้นั ทบทวนเน้ือเร่ืองในคาบทแ่ี ลว้ โดยถามคาถามนกั เรียน เช่น
T: What are the girls doing?
Ss: They’re watching a film.
T: Who are wearing costumes?
Ss: Oscar, Tom and Extra.
T: Why are they wearing costumes?
Ss: Because it’s Halloween.
T: Very good.
3. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั ว์ เช่น rabbit, dolphin, parrot, penguin, monkey, giraffe, crocodile และ
elephant โดยแสดงบตั รภาพ แลว้ ให้นกั เรียนพดู บอกช่ือสัตวต์ ามภาพทีค่ รูแสดง
4. ทบทวนคากริยาดว้ ยการเลน่ เกม Teacher Says โดยครูอธิบายกตกิ าการเลน่ เกมว่า ครูจะพูดว่า
Teacher says… ตามดว้ ยคากริยา เช่น fly, jump, swim, sing, run ให้ทาทา่ ทางตามท่คี รูบอก
หากครูพูดคากริยาเพียงอยา่ งเดียว ใหน้ กั เรียนทาทา่ อ่นื ท่ไี มต่ รงกบั คากริยาท่ีครูพูด เช่น
T: Teacher says, “Jump!”
Ss: (นกั เรียนกระโดด)
T: Fly!
Ss: (นกั เรียนทาท่าอืน่ ท่ีไมใ่ ช่ทา่ บนิ )
5. ทบทวนการใช้ can และ can’t เพ่ือบอกสิ่งทสี่ ามารถทาและไม่สามารถทา โดยครูเตรียมลูกบอลยาง
1 ลกู จากน้นั ให้นกั เรียนออกมายืนลอ้ มครูเป็นวงกลมท่หี นา้ ช้นั ครูบอกวา่ ครูเปิ ดเพลง ให้นกั เรียน
ส่งลกู บอลให้เพ่อื นคนถดั ไปเรื่อย ๆ เม่ือเพลงหยดุ ลูกบอลอยทู่ นี่ กั เรียนคนใด คนน้นั ตอ้ งพูดประโยค
โดยใช้ can หรือ can’t เช่น I can swim. I can’t fly. เป็นตน้ ให้นกั เรียนทากิจกรรมน้ีอกี 3-4 รอบ
6. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยครูถามวา่ นกั เรียนมีหอ้ งนอนของตนเองหรือไม่ ถา้ มี สิ่งใดทคี่ นอน่ื สามารถทา
และไม่สามารถทาในหอ้ งนอนของนกั เรียน ครูรวบรวมคาตอบของนกั เรียนมาเขียนบนกระดาน
เช่น You can listen to music. You can’t eat in my bedroom.
142
ข้นั Pre-reading
1. ครูสอนคาศพั ทใ์ หม่ ไดแ้ ก่ คาว่า in here (ในน้ี), any time (เวลาใดก็ได)้ และ late at night (ตอนดึก)
โดยครูเขียนคาศพั ทเ์ หลา่ น้ีบนกระดาน แลว้ ครูออกเสียงให้นกั เรียนฟังซ้าหลาย ๆ คร้ัง และให้
นกั เรียนออกเสียงตาม ครูให้นกั เรียนออกเสียงคาศพั ทใ์ หถ้ กู ตอ้ ง
2. นาเสนอกริยาวลี ไดแ้ ก่ take away (เอาไปโดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต) ดว้ ยการเขียนกริยาวลี บนกระดาน
แลว้ พดู บอกความหมาย จากน้นั ครูออกเสียงกริยาวลใี ห้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม โดยครูเนน้ ให้
นกั เรียนออกเสียงเชื่อมระหว่างคาใหถ้ กู ตอ้ ง
take away
ข้นั Reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 22 Ex. 11 ครูพูดสั่ง Open your book to page 22. ให้นกั เรียนอ่านหวั ขอ้ เรื่อง
พร้อมกนั ครูบอกวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ังขอ้ ความท่ี Jake เขียนให้คนที่จะเขา้ มาในหอ้ งของเขา จากน้นั
ครูเปิ ด CD 1 คร้งั ถา้ นกั เรียนฟังไมท่ นั ครูเปิ ดให้ฟังอกี 1 คร้ัง ต่อมาใหอ้ า่ นขอ้ ความในกรอบและ
เตมิ คาให้สมบูรณ์ เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน อา่ นขอ้ ความให้นกั เรียนในช้นั ฟัง เพ่ือเฉลยคาตอบ
This is Jake’s room!!!
Please read this:
In my room, you can listen to music, but you can’t take my CDs away!
You can watch TV, but you can’t eat or drink in here!
You can visit me any time, but not late at night!
WELCOME JAKE!
2. watch 3. drink 4. visit
ข้นั Post-reading
หนงั สือเรยี น หน้า 22 Ex. 12 ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน อ่านขอ้ ความในกรอบคาพดู จากน้นั ให้
นกั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพดู บอกสิ่งท่คี นอนื่ สามารถทาไดใ้ นห้องของตนเอง เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนผลดั กนั
ออกมาพูดสิ่งทค่ี นอน่ื สามารถทาในห้องของตนเองให้นกั เรียนท่ีเหลอื ฟังท่หี นา้ ช้นั เช่น
This is my room. In my room you can read some comic books, but you can’t take them
away! You can watch TV too.
143
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. หนงั สือเรียน หน้า 23 Ex. 13 ให้เล่นเกมทายความสามารถของสัตว์ โดยดูภาพสัตวท์ ้งั 8 ชนิด แลว้ ให้
ช่วยกนั บอกช่ือสตั ว์ ไดแ้ ก่ dolphins, parrots, monkeys, penguins, giraffes, crocodiles, elephants,
rabbits จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านกรอบคาพดู ตามไปดว้ ย ต่อมาครูแบง่ นกั เรียนเป็น
2 กลมุ่ คือ กลมุ่ A และกลมุ่ B จากน้นั ให้แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมายนื หนา้ ช้นั แลว้ ผลดั กนั พดู
บอกความสามารถของสตั ว์ กลมุ่ ใดพูดขอ้ มลู ผิด กลุม่ ตรงขา้ มจะพดู ว่า Wrong. และแกไ้ ขขอ้ มลู ให้
ถูกตอ้ ง ถา้ ถกู กจ็ ะพดู ว่า Right. เช่น
Team A: Monkeys can swim.
Team B: Wrong. Monkeys can’t swim.
Team A: Birds can fly.
Team B: Right. Birds can fly.
Team A: Giraffes can run.
Team B: Right. Giraffes can run.
Team A: Crocodiles can walk.
Team B: Right. Crocodiles can walk.
Team A: Elephants can jump.
Team B: Wrong. Elephants can’t jump.
Team A: Rabbits can play.
Team B: Right. Rabbits can play.
wrong แปลวา่ ผิด ส่วน right แปลว่า ถูก
ข้นั Presentation
1. ครูเขยี นประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน My sister is standing at the bus stop.
ครูขดี เสน้ ใต้ st ในคาศพั ท์ แลว้ อธิบายวา่ st เป็นพยญั ชนะควบกล้า (consonant clusters) ถงึ แมจ้ ะ
เป็นเสียงที่ไมม่ ีในภาษาไทย แต่คนไทยส่วนใหญม่ กั จะไม่มปี ัญหาในการออกเสียงควบกล้าน้ี อาจจะ
มีบางส่วนทอ่ี อกเสียงผิด เนื่องจากเสียง /t/ จะมีการพ่นลมออกมา (aspirated voice) เมอ่ื ตามหลงั
เสียง /s/ จะกลายเป็นเสียงท่ีไม่พ่นลม (unaspirated voice) ซ่ึงจะออกเสียงคลา้ ยเสียง /ต/ ในภาษาไทย
144
ตอ่ มาครูช้ีที่ประโยค แลว้ ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงตามครูพร้อมกนั จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่าน
ประโยคให้ครูฟังทลี ะคน
ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงพยญั ชนะควบกล้า /st/ โดยเปิ ดคลปิ วิดีโอชื่อวา่ ST Word Blend,
Beginning S Blen ST จากเวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
https://www.youtube.com/watch?v=05sQdpkZuNw
หรือครูเขา้ ไปท่ี www.youtube.com จากน้นั พมิ พค์ าสาคญั เช่น st sounds ในช่องคน้ หา
ข้นั Practice
หนังสือเรียน หน้า 23 Sound Spot ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทเ์ สียง /st/ โดยครูเปิ ด CD
ให้นกั เรียนฟังประโยค และฝึกพดู ตามจนคล่อง
My sister is standing at the bus stop.
ข้นั Production
1. ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนเขียนแผ่นป้ายติดหนา้ ห้อง This is my room! เพื่อบอกส่ิงท่ีคนอ่นื
สามารถและไมส่ ามารถทาไดใ้ นห้องของตนเอง โดยใชข้ อ้ ความในหนงั สือเรียน หนา้ 22 Ex. 11
เป็นตน้ แบบ เมอื่ เขียนเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนตรวจความถกู ตอ้ งดา้ นต่าง ๆ เช่น ไวยากรณ์ เครื่องหมาย
วรรคตอน การสะกดคา เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนตกแต่งให้สวยงามและออกมาอา่ นแผน่ ป้ายของตนเอง
ทห่ี นา้ ช้นั เช่น
(ตวั อยา่ งคาตอบ)
This is Aree’s room!
Please read this:
In my room you can watch TV but you can’t play football.
You can listen to music but you can’t eat in here.
You can visit me any time, but not late at night.
WELCOME AREE!
145