แผนการจดั การเรยี นรู้
รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
เทคโนโลยี
วิทยาการคำนวณ
ว23201
นายฉลอง คณุ ประทุม
ตำแหนง่ ครู
กลุ่มสาระการเรียนรู้
วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โรงเรียนวรราชาทินัดดามาตวุ ทิ ยา
สำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี
โรงเรียนวรราชาทนิ ดั ดามาตุวทิ ยา กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ตอนที่ 1
การวิเคราะหห์ ลักสตู ร
1
โรงเรยี นวรราชาทนิ ัดดามาตวุ ิทยา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความสำคญั ของวิทยาศาสตร์
ในการเรยี นการสอนวทิ ยาศาสตร์มุ่งเนน้ ใหผ้ ู้เรยี นได้คน้ พบความรู้ดว้ ยตนเองมากท่สี ุดเพ่ือให้ได้
ทั้งกระบวนการและความรู้ จากวิธีการสังเกต การสำรวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนำผลที่ได้มา
จัดระบบเป็นหลักการ แนวคิด และองค์ความรู้ การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จึงมเี ป้าหมายที่
สำคญั ดงั นี้
1. เพื่อให้เข้าใจหลกั การ ทฤษฎี และกฎทเ่ี ปน็ พ้นื ฐานในวิชาวิทยาศาสตร์
2. เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของธรรมชาติของวิชาวิทยาศาสตร์และข้อจำกัดในการศึกษาวิชา
วทิ ยาศาสตร์
3. เพือ่ ใหม้ ีทกั ษะท่ีสำคัญในการศกึ ษาค้นควา้ และคิดคน้ ทางเทคโนโลยี
4. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์และ
สภาพแวดลอ้ มในเชงิ ทม่ี ีอิทธิพลและผลกระทบซึ่งกันและกนั
5. เพอ่ื นำความรู้ ความเข้าใจ ในวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ต่อสังคมและการดำรงชวี ิต
6. เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา และการจัดการ
ทกั ษะในการสอ่ื สาร และความสามารถในการตัดสินใจ
7. เพื่อให้เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์
และทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์
เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ทีเ่ นน้ การเชอ่ื มโยงความร้กู ับกระบวนการ มที กั ษะสำคัญในการคน้ คว้าและสร้างองค์ความรู้
โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้ และแก้ปัญหาที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการ
เรยี นรทู้ กุ ขั้นตอน มีการทำกจิ กรรมด้วยการลงมอื ปฏิบัตจิ ริงอย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชนั้ โดย
กำหนดสาระสำคัญ ดังนี้
➢ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต การ
ดำรงชวี ติ ของมนุษย์และสตั ว์ การดำรงชีวติ ของพชื พนั ธุกรรม ความหลากหลายของชีวภาพ และ
วิวฒั นาการของส่ิงมชี ีวิต
➢ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสารการ
เคลอ่ื นที่ พลงงาน และคลน่ื
➢ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับ องค์ประกอบของเอกภพ ปฏิสัมพันธ์ภายใน
ระบบสุริยะ เทคโนโลยีอวกาศ ระบบโลก การเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา กระบวนการ
เปล่ยี นแปลงลมฟ้าอากาศ และผลต่อส่งิ มีชวี ิตและส่งิ แวดลอ้ ม
➢ เทคโนโลยี
2
โรงเรยี นวรราชาทินดั ดามาตวุ ิทยา กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
o การออกแบบและเทคโนโลยี เรยี นรู้เกีย่ วกบั เทคโนโลยเี พื่อการดำรงชีวิตในสงั คมที่มีการ
เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ
ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการ
ออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวติ
สังคม และสิ่งแวดลอ้ ม
o วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับ การคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็น
ขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
สารสนเทศและการส่อื สาร ในการแก้ปญั หาทพี่ บในชีวติ จริงไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
คณุ ภาพผู้เรียน
จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3
❖ เขา้ ใจลกั ษณะท่วั ไปของสงิ่ มีชวี ติ และการดำรงชีวติ ของสง่ิ มชี ีวติ รองตวั
❖ เขา้ ใจลักษณะทปี่ รากฏ ชนดิ และสมบัติบางประการของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุและการเปล่ียนแปลง
ของวสั ดรุ อบตวั
❖ เข้าใจการดึง การผลัก แรงแม่เหล็ก และผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของ
วตั ถุ พลังงานไฟฟา้ และการผลติ ไฟฟา้ การเกดิ เสียง แสงและการมองเห็น
❖ เข้าใจการปรากฏของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาว ปรากฎการณ์การขึ้นและตกของดวง
อาทิตย์ การเกดิ กลางวนั กลางคืน การกำหนดทศิ ลกั ษณะของหิน การจำแนกชนดิ ดนิ และการ
ใช้ประโยชน์ ลกั ษณะและความสำคัญของอากาศ การเกิดลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม
❖ ต้งั คำถามหรือกำหนดปัญหาเก่ียวกับสิ่งที่จะเรยี นรู้ตามทก่ี ำหนดให้หรอื ตามความสนใจ สังเกต
สำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย รวบรวมข้อมูล บันทึก และอธิบายผลการสำรวจ
ตรวจสอบด้วยการเขียนหรือวาดภาพ และสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ด้วยการเล่าเรื่อง หรือด้วยการ
แสดงทา่ ทางเพื่อใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจ
❖ แกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใชข้ ั้นตอนการแกป้ ญั หา มที กั ษะในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการ
สอื่ สารเบอื้ งตน้ รักษาขอ้ มูลสว่ นตวั
❖ แสดงความกระตอื รือรน้ สนใจที่จะเรยี นรู้ มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์เก่ียวกับเรื่องท่ีจะศึกษาตามท่ี
กำหนดใหห้ รือตามความสนใจ มีสว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ และยอมรบั ฟังความคิดเหน็
ผ้อู น่ื
❖ แสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมายอย่างมุ่งมัน่ รอบคอบประหยดั ซื่อสัตย์
จนงานลลุ ่วงเป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกบั ผอู้ ืน่ อยา่ งมคี วามสุข
❖ ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต
ศึกษาหาความร้เู พ่มิ เติม ทำโครงงานหรอื ชิน้ งานตามทก่ี ำหนดให้หรอื ตามความสนใจ
จบชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6
❖ เข้าใจโครงสร้าง ลักษณะเฉพาะการปรับตวั ของสิง่ มีชีวติ รวมทั้งความสัมพันธ์ของสิง่ มีชวี ิตใน
แหล่งที่อยู่ การทำหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของพืช และการทำงานของระบบย่อยอาหารของ
มนุษย์
❖ เข้าใจสมบัติและการจำแนกกลุ่มของวัสดุ สถานะและการเปลีย่ นสถานะของสสารการละลาย
การเปล่ียนแปลงทางเคมี การเปล่ียนแปลงทผี่ นั กลับไดแ้ ละผนั กลบั ไมไ่ ด้ และการแยกสารอย่าง
งา่ ย
3
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตุวทิ ยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
❖ เข้าใจลกั ษณะของแรงโน้มถ่วงของโลก แรงลพั ธ์ แรงเสยี ดทาน แรงไฟฟา้ และผลของแรงตา่ ง ๆ
ผลที่เกิดจากแรงกระทำต่อวัตถุ ความดัน หลักการที่มีต่อวัตถุ วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
ปรากฏการณเ์ บ้อื งต้นของเสียง และแสง
❖ เข้าใจปรากฏการณ์การขึ้นและตก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์
องค์ประกอบของระบบสุริยะ คาบการโคจรของดาวเคราะห์ ความแตกต่างของดาวเคราะห์
และดาวฤกษ์ การขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์ การใช้แผนที่ดาว การเกิดอุปราคาพัฒนาการ
และประโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศ
❖ เข้าใจลกั ษณะของแหลง่ นำ้ วฏั จกั รน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก นำ้ ค้างน้ำค้างแขง็ หยาดน้ำ
ฟ้า กระบวนการเกิดหิน วัฏจักรหิน การใช้ประโยชน์หนิ และแร่ การเกิดซากดึกดำบรรพ์ การ
เกิดลมบก ลมทะเล มรสุม ลักษณะและผลกระทบของภัยธรรมชาติ ธรณีพิบัติภยั การเกิดและ
ผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก
❖ คน้ หาข้อมูลอย่างมปี ระสทิ ธิภาพและประเมนิ ความน่าเชื่อถอื ตดั สนิ ใจเลอื กข้อมูลใช้เหตุผลเชิง
ตรรกะในการแกป้ ัญหา ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการทำงานร่วมกันเขา้ ใจสิทธิ
และหนา้ ทข่ี องตน เคารพสิทธิของผู้อืน่
❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนรู้ตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ
คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สอดคล้องกับคำถามหรือปัญหาที่จะสำรวจ
ตรวจสอบ วางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศท่ี
เหมาะสม ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ท้ังเชงิ ปริมาณและคุณภาพ
❖ วเิ คราะห์ขอ้ มูล ลงความเห็น และสรุปความสัมพันธ์ของขอ้ มูลท่ีมาจากการสำรวจตรวจสอบใน
รูปแบบที่เหมาะสม เพื่อสื่อสารความรู้จากผลการสำรวจตรวจสอบได้อย่างมีเหตุผลและ
หลักฐานอ้างองิ
❖ แสดงถงึ ความสนใจ มงุ่ มั่น ในสิ่งที่จะเรียนรู้ มีความคดิ สรา้ งสรรค์เก่ียวกับเร่ืองที่จะศึกษาตาม
ความสนใจของตนเอง แสดงความคิดเหน็ ของตนเอง ยอมรับในขอ้ มูลท่ีมีหลักฐานอ้างอิง และ
รับฟงั ความคิดเหน็ ผูอ้ น่ื
❖ แสดงความรบั ผดิ ชอบดว้ ยการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมายอยา่ งม่งุ มัน่ รอบคอบ ประหยดั ซ่ือสัตย์
จนงานลลุ ่วงเป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกบั ผู้อื่นอยา่ งสร้างสรรค์
❖ ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ความรู้และกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต แสดงความชืน่ ชม ยกยอ่ ง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น
และศึกษาหาความร้เู พ่มิ เติม ทำโครงงานหรอื ชนิ้ งานตามทกี่ ำหนดให้หรือตามความสนใจ
❖ แสดงถงึ ความซาบซ้ึง ห่วงใย แสดงพฤตกิ รรมเกี่ยวกับการใช้ การดูแลรักษาทรพั ยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอ้ มอย่างรู้คุณค่า
จบช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
❖ เข้าใจลักษณะและองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์สิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของการทำงานของ
ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ การดำรงชีวิตของพืช การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมการ
เปลีย่ นแปลงของยีนหรอื โครโมโซม และตัวอย่างโรคท่ีเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ
ปฏสิ มั พนั ธ์ขององค์ประกอบของระบบนิเวศและการถ่ายทอดพลังงานในสิ่งมีชวี ิต
4
โรงเรยี นวรราชาทนิ ัดดามาตุวทิ ยา กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
❖ เข้าใจองค์ประกอบและสมบัติของธาตุ สารละลาย สารบรสิ ทุ ธิ์ สารผสมหลักการแยกสาร การ
เปลยี่ นแปลงของสารในรูปแบบของการเปลี่ยนสถานะ การเกิดสารละลายและการเกิดปฏกิ ิริยา
เคมี และสมบตั ิทางกายภาพ และการใช้ประโยชนข์ องวัสดุประเภทพอลิเมอรเ์ ซรามิก และวัสดุ
ผสม
❖ เข้าใจการเคล่ือนท่ี แรงลพั ธ์และผลของแรงลพั ธก์ ระทำตอ่ วตั ถุ โมเมนต์ของแรงแรงที่ปรากฏใน
ชีวติ ประจำวัน สนามของแรง ความสัมพนั ธ์ของงาน พลังงานจลน์ พลังงานศักยโ์ น้มถว่ งกฎการ
อนุรกั ษพ์ ลงั งาน การถา่ ยโอนพลงั งาน สมดลุ ความร้อน ความสัมพันธ์ของปรมิ าณทางไฟฟ้าการ
ตอ่ วงจรไฟฟา้ ในบ้าน พลังงานไฟฟ้า และหลักการเบ้อื งต้นของวงจรอิเลก็ ทรอนิกส์
❖ เขา้ ใจสมบัตขิ องคลนื่ และลักษณะของคลนื่ แบบต่าง ๆ แสง การสะทอ้ นการหักเหของแสงและ
ทัศนอุปกรณ์
❖ เข้าใจการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ การเกิดฤดู การเคลื่อนที่ปรากฏของดวง
อาทิตย์ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม การขึ้นและตกของดวงจันทร์ การเกิดน้ำขึ้นน้ำลงประโยชน์
ของเทคโนโลยีอวกาศ และความกา้ วหน้าของโครงการสำรวจอวกาศ
❖ เข้าใจลักษณะของชั้นบรรยากาศ องค์ประกอบและปัจจัยที่มีผลต่อลมฟ้าอากาศการเกิดและ
ผลกระทบของพายุฟ้าคะนอง พายุหมุนเขตร้อน การพยากรณ์อากาศ สถานการณ์การ
เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก กระบวนการเกิดเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และการใช้ประโยชน์
พลงั งานทดแทนและการใชป้ ระโยชน์ ลักษณะโครงสรา้ งภายในโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง
ทางธรณีวทิ ยาบนผิวโลก ลักษณะช้ันหนา้ ตัดดนิ กระบวนการเกดิ ดิน แหลง่ นำ้ ผวิ ดิน แหล่งน้ำ
ใตด้ ินกระบวนการเกิดและผลกระทบของภยั ธรรมชาติ และธรณพี บิ ตั ภิ ยั
❖ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์
วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต
สังคม และสง่ิ แวดล้อม ประยุกต์ใชค้ วามรู้ ทกั ษะ และทรัพยากรเพื่อออกแบบและสร้างผลงาน
สำหรับการแกป้ ญั หาในชีวิตประจำวันหรอื การประกอบอาชีพ โดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิง
วิศวกรรม รวมทั้งเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย
รวมทง้ั คำนงึ ถึงทรัพย์สนิ ทางปญั ญา
❖ นำขอ้ มลู ปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วเิ คราะห์ ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศได้
ตามวัตถุประสงค์ ใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงและเขียน
โปรแกรมอยา่ งงา่ ยเพื่อชว่ ยในการแกป้ ญั หา ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารอย่างรู้เท่า
ทันและรับผดิ ชอบต่อสังคม
❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาที่เชื่อมโยงกับพยานหลักฐาน หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มี
การกำหนดและควบคุมตัวแปร คิดคาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สามารถ
นำไปสู่การสำรวจตรวจสอบ ออกแบบและลงมือสำรวจตรวจสอบโดยใช้วัสดุและเครื่องมือท่ี
เหมาะสม เลอื กใช้เครือ่ งมอื และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลท้ัง
ในเชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพทีไ่ ด้ผลเทยี่ งตรงและปลอดภัย
❖ วิเคราะห์และประเมินความสอดคล้องของข้อมูลที่ได้จากการสำรวจตรวจสอบจาก
พยานหลักฐาน โดยใช้ความรู้และหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการแปลความหมายและลง
5
โรงเรยี นวรราชาทนิ ัดดามาตุวทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ข้อสรุปและสื่อสารความคิด ความรู้ จากผลการสำรวจตรวจสอบหลากหลายรูปแบบ หรือใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อใหผ้ ู้อน่ื เข้าใจได้อย่างเหมาะสม
❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในสิ่งที่จะเรียนรู้มีความคิด
สร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามความสนใจของตนเอง โดยใช้เครื่องมือและวิธีการที่ให้
ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้ ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นของ
ตนเอง รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น และยอมรับการเปลี่ยนแปลงความรู้ทีค่ ้นพบ เม่ือมีข้อมูลและ
ประจักษ์พยานใหม่เพมิ่ ขน้ึ หรอื โตแ้ ย้งจากเดิม
❖ ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวันใช้ความรู้และ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพแสดง
ความชื่นชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น เข้าใจผลกระทบทั้งด้านบวกและ
ดา้ นลบของการพฒั นาทางวทิ ยาศาสตร์ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มและตอ่ บริบทอ่นื ๆ และศึกษาหาความรู้
เพม่ิ เติม ทำโครงงานหรอื สร้างชนิ้ งานตามความสนใจ
❖ แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ
และความหลากหลายทางชีวภาพ
จบช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6
❖ เข้าใจการลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ กลไกการรกั ษาดุลยภาพของมนุษย์ ภูมิคุ้มกันใน
ร่างกายของมนุษย์และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกนั การใชป้ ระโยชน์จากสารต่าง ๆ ที่พืช
สรา้ งขึ้น การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การเปลีย่ นแปลงทางพนั ธกุ รรม วิวฒั นาการที่ทำ
ให้เกิดความหลากหลายของสิ่งมีชีวติ ความสำคัญและผลของเทคโนโลยที างดีเอ็นเอตอ่ มนุษย์
สง่ิ มชี ีวติ และส่ิงแวดล้อม
❖ เข้าใจความหลากหลายของไบโอมในเขตภูมิศาสตร์ตา่ ง ๆ ของโลก การเปลี่ยนแปลงแทนท่ใี น
ระบบนิเวศ ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการ
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการแกไ้ ขปญั หาส่งิ แวดลอ้ ม
❖ เข้าใจชนิดของอนุภาคสำคัญที่เป็นส่วนประกอบในโครงสร้างอะตอม สมบัติบางประการของ
ธาตุ การจัดเรียงธาตใุ นตารางธาตุ ชนิดของแรงยึดเหนย่ี วระหวา่ งอนภุ าคและสมบตั ิต่าง ๆ ของ
สารที่มีความสัมพันธ์กับแรงยึดเหนี่ยว พันธะเคมี โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์การ
เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ปจั จยั ทมี่ ีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี และการเขียนสมการเคมี
❖ เข้าใจปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ ความสัมพันธ์ระหว่างแรง มวลและความเร่งผลของ
ความเร่งที่มีต่อการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ แรงโน้มถ่วง แรงแม่เหล็ก ความสัมพันธ์
ระหว่างสนามแมเ่ หลก็ และกระแสไฟฟา้ และแรงภายในนวิ เคลยี ส
❖ เข้าใจพลังงานนิวเคลียร์ ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน การเปลี่ยนพลังงานทดแทน
เป็นพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีด้านพลังงาน การสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบนและการรวม
คลื่น การได้ยิน ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง สีกับการมองเหน็ สี คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและ
ประโยชน์ของคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า
❖ เขา้ ใจการแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้างโลก สาเหตุ และรูปแบบการเคล่อื นที่ของแผ่นธรณีที่
สัมพนั ธก์ ับการเกดิ ลกั ษณะธรณีสัณฐาน สาเหตุ กระบวนการเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึ
นามิ ผลกระทบ แนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัย
6
โรงเรียนวรราชาทนิ ดั ดามาตุวทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
❖ เข้าใจผลของแรงเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส ที่มีต่อการ
หมุนเวียนของอากาศ การหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อภูมิอากาศ
ความสัมพันธ์ของการหมุนเวียนของอากาศ และการหมุนเวียนของกระแสน้ำผิวหน้าใน
มหาสมุทรและผลตอ่ ลกั ษณะลมฟา้ อากาศ สงิ่ มชี วี ติ และส่งิ แวดล้อม ปัจจัยตา่ ง ๆ ทมี่ ีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และแนวปฏิบัติเพื่อลดกิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลต่อการ
เปลย่ี นแปลงภมู ิอากาศโลกรวมทั้งการแปลความหมายสัญลกั ษณล์ มฟ้าอากาศท่ีสำคัญจากแผน
ทอี่ ากาศ และขอ้ มลู สารสนเทศ
❖ เข้าใจการกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพ หลักฐานท่ี
สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง ประเภทของกาแล็กซี โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทาง
ช้างเผือก กระบวนการเกิดและการสร้างพลงั งาน ปจั จยั ที่สง่ ผลตอ่ ความส่องสว่างของดาวฤกษ์
และความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ ความสัมพันธ์ระหว่างสี
อุณหภูมิผิว และสเปกตรัมของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงสมบัติบางประการ
ของดาวฤกษ์ กระบวนการเกดิ ระบบสุริยะ การแบง่ เขตบรวิ ารของดวงอาทติ ย์ ลกั ษณะของดาว
เคราะหท์ ีเ่ ออ้ื ตอ่ การดำรงชีวิต การเกิดลมสุริยะ พายสุ รุ ยิ ะและผลท่ีมีต่อโลก รวมทัง้ การสำรวจ
อวกาศและการประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ
❖ ระบุปญั หา ต้งั คำถามที่จะสำรวจตรวจสอบ โดยมีการกำหนดความสัมพันธร์ ะหว่างตัวแปรต่าง
ๆ สบื ค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ตั้งสมมติฐานที่เปน็ ไปไดห้ ลายแนวทาง ตดั สนิ ใจเลอื กตรวจสอบ
สมมติฐานทีเ่ ปน็ ไปได้
❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ ที่
แสดงให้เห็นถึงการใช้ความคิดระดับสูงที่สามารถสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่าง
ครอบคลุมและเชือ่ ถือได้ สร้างสมมติฐานทม่ี ีทฤษฎรี องรบั หรือคาดการณ์ส่ิงทจี่ ะพบ เพ่อื นำไปสู่
การสำรวจตรวจสอบ ออกแบบวิธีการสำรวจตรวจสอบตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ได้อย่าง
เหมาะสมมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เลือกวัสดุ อุปกรณ์ รวมทั้งวิธีการในการสำรวจตรวจสอบ
อย่างถกู ตอ้ งทัง้ ในเชงิ ปริมาณและคุณภาพ และบันทกึ ผลการสำรวจตรวจสอบอยา่ งเป็นระบบ
❖ วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุปเพื่อตรวจสอบกับ
สมมติฐานที่ตั้งไว้ ให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงวิธีการสำรวจตรวจสอบ จัดกระทำข้อมูลและ
นำเสนอข้อมูลด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม สื่อสารแนวคิด ความรู้จากผลการสำรวจตรวจสอบ
โดยการพดู เขยี น จดั แสดงหรือใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ ให้ผอู้ ืน่ เข้าใจโดยมีหลักฐานอ้างอิง
หรือมที ฤษฎีรองรบั
❖ แสดงถงึ ความสนใจ มงุ่ ม่ัน รับผิดชอบ รอบคอบ และซ่ือสตั ย์ ในการสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้
เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้ มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์อาจมีการเปล่ียนแปลงได้
❖ แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้ พบคำตอบ หรือแก้ปัญหาได้ทำงาน
รว่ มกบั ผู้อนื่ อย่างสรา้ งสรรค์ แสดงความคิดเห็นโดยมีขอ้ มูลอา้ งองิ และเหตุผลประกอบเกี่ยวกับ
ผลของ การ พ ัฒ น าและ การ ใช้วิทยาศาสตร ์และเทคโน โลยีอย่างมีคุ ณธร รมต่อสังคมและ
ส่ิงแวดลอ้ ม และยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผ้อู ่นื
7
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตวุ ทิ ยา กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
❖ เข้าใจความสัมพันธข์ องความรวู้ ิทยาศาสตร์ทม่ี ีผลตอ่ การพฒั นาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และ
การพัฒนาเทคโนโลยที ส่ี ง่ ผลใหม้ ีการคดิ คน้ ความรู้ทางวิทยาศาสตรท์ ่ีก้าวหนา้ ผลของเทคโนโลยี
ตอ่ ชวี ิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม
❖ ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั ใชค้ วามรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการดำรงชีวิตและ
การประกอบอาชีพ แสดงความชน่ื ชม ภมู ิใจ ยกยอ่ ง อา้ งอิงผลงาน ชิ้นงานทเ่ี ป็นผลมาจากภูมิ
ปัญญาท้องถิ่น และการพัฒนาเทคโนโลยีท่ีทันสมัย ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำโครงงานหรือ
สร้างช้ินงานตามความสนใจ
❖ แสดงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชุมชนในการป้องกัน ดูแล
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของท้องถิ่น
❖ วเิ คราะห์แนวคิดหลกั ของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีท่ซี บั ซ้อนการเปลีย่ นแปลงของ
เทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์หรือ
คณิตศาสตร์ วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึง
ผลกระทบต่อชวี ิต สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ ม ประยกุ ต์ใช้ความรู้ ทักษะ ทรัพยากรเพื่อ
ออกแบบสรา้ งหรือพฒั นาผลงาน สำหรบั แก้ปัญหาท่ีมีผลกระทบต่อสงั คม โดยใช้กระบวนการ
ออกแบบเชิงวิศวกรรม ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนำเสนอผลงาน เลือกใช้วัสดุ
อุปกรณ์ และเครอ่ื งมอื ไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภยั รวมท้ังคำนงึ ถงึ ทรพั ยส์ ินทางปัญญา
❖ ใชค้ วามรู้ทางด้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ิทัล เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร เพ่ือ
รวบรวมข้อมูลในชีวิตจริงจากแหล่งต่าง ๆ และความรู้จากศาสตร์อื่น มาประยุกต์ใช้สร้าง
ความรู้ใหม่ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม
วัฒนธรรม และใชอ้ ยา่ งปลอดภัย มีจรยิ ธรรม
ตวั ช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง (เทคโนโลย)ี
สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์
อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการ
ออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อ
ชีวติ สังคม และส่ิงแวดล้อม
ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
ป.1 - -
ป.2 - -
ป.3 - -
ป.4 - -
ป.5 - -
ป.6 - -
8
โรงเรยี นวรราชาทินดั ดามาตุวิทยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ม.1 1. อธบิ ายแนวคดิ หลักของเทคโนโลยใี น • เทคโนโลยี เป็นสง่ิ ที่มนษุ ย์สรา้ งหรือ
ชีวิตประจำวันและวิเคราะห์สาเหตหุ รอื พฒั นาขึน้ ซงึ่ อาจเป็นได้ทั้งช้ินงานหรอื
ปจั จยั ท่ีส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงของ วิธีการ เพอื่ ใชแ้ กป้ ัญหาสนองความตอ้ งการ
เทคโนโลยี หรอื เพิม่ ความสามารถในการทำงานของ
มนษุ ย์
• ระบบทางเทคโนโลยี เปน็ กลมุ่ ของสว่ น
ตา่ ง ๆต้งั แตส่ องสว่ นข้นึ ไปประกอบเข้า
ด้วยกนั และทำงานรว่ มกันเพือ่ ใหบ้ รรลุ
วัตถปุ ระสงค์ โดยในการทำงานของระบบ
ทางเทคโนโลยีจะประกอบไปดว้ ยตวั ปอ้ น
(input) กระบวนการ (process)และ
ผลผลิต (output) ท่ีสมั พันธก์ ัน นอกจากนี้
ระบบทางเทคโนโลยอี าจมีข้อมลู ย้อนกลับ
(feedback) เพอ่ื ใชป้ รบั ปรงุ การทำงานได้
ตามวตั ถปุ ระสงค์ ซ่งึ การวเิ คราะห์ระบบ
ทางเทคโนโลยีชว่ ยให้เข้าใจองค์ประกอบ
และการทำงานของเทคโนโลยี รวมถงึ
สามารถปรบั ปรุงใหเ้ ทคโนโลยีทำงานได้ตาม
ต้องการ
• เทคโนโลยีมีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา
ต้ังแตอ่ ดีตจนถงึ ปจั จุบัน ซงึ่ มสี าเหตุหรอื
ปจั จยั มาจากหลายดา้ น เชน่ ปญั หา ความ
ตอ้ งการ ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ ่าง ๆ
เศรษฐกิจ สงั คม
2. ระบปุ ญั หาหรอื ความตอ้ งการใน • ปญั หาหรอื ความตอ้ งการในชวี ิตประจำวนั
ชวี ติ ประจำวันรวบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มูลและ พบได้จากหลายบริบทขึ้นกับสถานการณท์ ่ี
แนวคิดท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ปญั หา ประสบเชน่ การเกษตร การอาหาร
• การแก้ปญั หาจำเปน็ ต้องสบื ค้น รวบรวม
ขอ้ มลู ความรจู้ ากศาสตร์ตา่ ง ๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ ง
เพอ่ื นำไปสู่การออกแบบแนวทางการ
แกป้ ญั หา
3. ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ • การวเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ และตดั สนิ ใจ
เปรยี บเทียบ และตดั สนิ ใจเลือกข้อมูลท่ี เลอื กข้อมลู ทจ่ี ำเปน็ โดยคำนึงถึงเง่อื นไข
จำเปน็ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ และทรัพยากรทมี่ อี ยู่ ชว่ ยใหไ้ ดแ้ นวทางการ
ผอู้ ืน่ เข้าใจวางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหา แกป้ ัญหาทเี่ หมาะสม
• การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาทำได้
หลากหลายวิธี เช่น การร่างภาพ การเขียน
แผนภาพการเขยี นผงั งาน
9
โรงเรยี นวรราชาทินัดดามาตุวทิ ยา กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• การกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการ
ทำงานก่อนดำเนินการแกป้ ัญหาจะช่วยให้
ทำงานสำเร็จไดต้ ามเปา้ หมายและลด
ขอ้ ผิดพลาดของการทำงานท่ีอาจเกดิ ขน้ึ
4. ทดสอบ ประเมินผล และระบุ • การทดสอบ และประเมินผลเปน็ การ
ขอ้ บกพร่องท่ีเกดิ ขน้ึ พร้อมทงั้ หาแนว ตรวจสอบช้นิ งานหรือวธิ ีการวา่ สามารถ
ทางการปรับปรงุ แกไ้ ขและนำเสนอผลการ แกป้ ัญหาไดต้ ามวตั ถุประสงค์ภายใตก้ รอบ
แกป้ ญั หา ของปัญหา เพ่ือหาขอ้ บกพร่อง และ
ดำเนินการปรับปรุง โดยอาจทดสอบซ้ำ
เพอื่ ให้สามารถแก้ปัญหาได้
• การนำเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอด
แนวคดิ เพอื่ ให้ผอู้ ่นื เข้าใจเก่ียวกับ
กระบวนการทำงานและช้นิ งานหรอื วธิ ีการ
ทไ่ี ด้ ซงึ่ สามารถทำไดห้ ลายวิธี เชน่ การ
เขียนรายงาน การทำแผ่นนำเสนอผลงาน
การจัดนิทรรศการ การนำเสนอผ่านสอ่ื ออน
ไลน
5. ใช้ความร้แู ละทักษะเก่ียวกับวัสดุ • วสั ดุแต่ละประเภทมีสมบตั แิ ตกต่างกนั
อปุ กรณ์เคร่อื งมอื กลไก ไฟฟา้ หรือ เช่น ไม้ โลหะ พลาสตกิ จึงต้องมกี าร
อิเล็กทรอนกิ สเ์ พ่อื แก้ปัญหาได้อย่างถกู ตอ้ ง วเิ คราะหส์ มบตั ิเพื่อเลอื กใชใ้ ห้เหมาะสมกบั
เหมาะสมและปลอดภัย ลกั ษณะของงาน
• การสรา้ งช้ินงานอาจใช้ความรู้ เร่ืองกลไก
ไฟฟา้ อิเล็กทรอนิกส์ เชน่ LED บซั เซอร์
มอเตอร์วงจรไฟฟ้า
• อุปกรณแ์ ละเคร่อื งมือในการสรา้ งช้นิ งาน
หรอื พัฒนาวธิ ีการมหี ลายประเภท ต้อง
เลือกใช้ให้ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย
รวมทัง้ รู้จกั เกบ็ รกั ษา
ม.2 1. คาดการณแ์ นวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้น • สาเหตุหรอื ปัจจยั ต่าง ๆ เชน่
โดยพจิ ารณาจากสาเหตุหรือปัจจยั ท่ีส่งผล ความกา้ วหน้าของศาสตร์ตา่ ง ๆ การ
ต่อการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี และ เปลยี่ นแปลงทางด้านเศรษฐกิจสงั คม
วิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบ ตัดสินใจเลอื กใช้ วฒั นธรรม ทำใหเ้ ทคโนโลยมี ีการ
เทคโนโลยโี ดยคำนึงถึงผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ เปล่ียนแปลงตลอดเวลา
ตอ่ ชีวิต สังคมและสิง่ แวดลอ้ ม • เทคโนโลยแี ต่ละประเภทมีผลกระทบต่อ
ชีวิตสังคม และสงิ่ แวดล้อมที่แตกตา่ งกนั จงึ
ต้องวิเคราะห์เปรียบเทยี บขอ้ ดี ขอ้ เสีย และ
ตัดสนิ ใจเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสม
10
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตวุ ทิ ยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
2. ระบปุ ัญหาหรอื ความต้องการในชมุ ชน • ปญั หาหรือความต้องการในชมุ ชนหรอื
หรือทอ้ งถ่ิน สรุปกรอบของปญั หา รวบรวม ท้องถิน่ มหี ลายอย่าง ขน้ึ กับบรบิ ทหรอื
วเิ คราะห์ขอ้ มลู และแนวคดิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั สถานการณ์ท่ีประสบ เชน่ ดา้ นพลังงาน
ปัญหา สง่ิ แวดล้อมการเกษตร การอาหาร
• การระบุปัญหาจำเป็นต้องมกี ารวเิ คราะห์
สถานการณ์ของปญั หาเพ่ือสรุปกรอบของ
ปัญหาแล้วดำเนนิ การสบื คน้ รวบรวมขอ้ มูล
ความรจู้ ากศาสตรต์ ่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้อง เพ่ือ
นำไปสูก่ ารออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา
3. ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา โดยวเิ คราะห์ • การวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสนิ ใจ
เปรยี บเทียบ และตัดสนิ ใจเลอื กขอ้ มูลที่ เลอื กขอ้ มูลท่ีจำเป็น โดยคำนงึ ถงึ เงอ่ื นไข
จำเปน็ ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรท่ีมีอยู่ และทรพั ยากร เช่น งบประมาณ เวลา
นำเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาให้ผ้อู นื่ เข้าใจ ข้อมลู และสารสนเทศ วสั ดุ เคร่อื งมือและ
วางแผนข้นั ตอนการทำงานและดำเนนิ การ อุปกรณ์ช่วยให้ได้แนวทางการแกป้ ัญหาที่
แกป้ ญั หาอย่างเป็นขั้นตอน เหมาะสม
• การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทำได้
หลากหลายวิธี เชน่ การร่างภาพ การเขียน
แผนภาพ การเขียนผงั งาน
• การกำหนดขนั้ ตอนระยะเวลาในการ
ทำงานกอ่ นดำเนินการแก้ปัญหาจะชว่ ยให้
การทำงานสำเรจ็ ได้ตามเปา้ หมาย และลด
ขอ้ ผดิ พลาดของการทำงานทอี่ าจเกิดข้ึน
4. ทดสอบ ประเมินผล และอธบิ ายปญั หา • การทดสอบและประเมินผลเป็นการ
หรอื ข้อบกพรอ่ งทเ่ี กิดข้ึน ภายใต้กรอบ ตรวจสอบชน้ิ งาน หรอื วิธีการวา่ สามารถ
เงือ่ นไขพรอ้ มทงั้ หาแนวทางการปรบั ปรงุ แก้ปญั หาได้ตามวัตถุประสงค์ภายใตก้ รอบ
แก้ไข และนำเสนอผลการแกป้ ญั หา ของปญั หา เพอื่ หาข้อบกพรอ่ ง และ
ดำเนินการปรับปรงุ ใหส้ ามารถแก้ไขปญั หา
ได้
• การนำเสนอผลงานเปน็ การถา่ ยทอด
แนวคิดเพ่ือใหผ้ ู้อน่ื เข้าใจเกี่ยวกับ
กระบวนการทำงานและช้ินงานหรือวิธกี าร
ทไี่ ด้ ซึ่งสามารถทำไดห้ ลายวธิ ี เชน่ การ
เขยี นรายงานการทำแผน่ นำเสนอผลงาน
การจดั นทิ รรศการ
5. ใช้ความรู้ และทักษะเก่ียวกับวสั ดุ • วสั ดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกนั
อปุ กรณ์เครื่องมอื กลไก ไฟฟา้ และ เช่น ไม้ โลหะ พลาสตกิ จงึ ตอ้ งมกี าร
อิเลก็ ทรอนกิ สเ์ พอ่ื แก้ปัญหาหรือพฒั นางาน วิเคราะหส์ มบตั เิ พื่อเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสมกับ
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม และปลอดภัย ลักษณะของงาน
11
โรงเรียนวรราชาทนิ ดั ดามาตวุ ทิ ยา กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
• การสรา้ งช้ินงานอาจใช้ความรู้ เรอื่ งกลไก
ไฟฟ้าอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เช่น LED มอเตอร์ บัซ
เซอร์ เฟืองรอก ล้อ เพลา
• อปุ กรณ์และเคร่อื งมือในการสร้างช้นิ งาน
หรือพัฒนาวธิ ีการมหี ลายประเภท ตอ้ ง
เลอื กใช้ใหถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั
รวมทั้งรู้จกั เก็บรกั ษา
ม.3 1. วิเคราะห์สาเหตุ หรอื ปัจจยั ที่สง่ ผลต่อ • เทคโนโลยมี ีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี และ ตง้ั แตอ่ ดตี จนถึงปัจจุบนั ซง่ึ มสี าเหตหุ รือ
ความสมั พันธข์ องเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ น่ื ปัจจัยมาจากหลายดา้ น เชน่ ปญั หาหรอื
โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ ความตอ้ งการของมนษุ ยค์ วามกา้ วหนา้ ของ
เพอ่ื เปน็ แนวทางการแกป้ ัญหาหรอื พฒั นา ศาสตร์ตา่ ง ๆ การเปลยี่ นแปลงทางดา้ น
งาน เศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม ส่ิงแวดลอ้ ม
• เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กบั ศาสตร์อน่ื
โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตร์
เปน็ พ้นื ฐานความรูท้ ่นี ำไปสกู่ ารพัฒนา
เทคโนโลยี และเทคโนโลยที ี่ได้สามารถเป็น
เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการศกึ ษา ค้นควา้ เพอื่ ให้
ได้มาซงึ่ องคค์ วามรูใ้ หม่
2. ระบปุ ญั หาหรือความตอ้ งการของชมุ ชน • ปัญหาหรอื ความตอ้ งการอาจพบได้ในงาน
หรอื ท้องถิน่ เพื่อพัฒนางานอาชพี สรปุ อาชพี ของชุมชนหรือท้องถนิ่ ซึ่งอาจมหี ลาย
กรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะหข์ อ้ มูล ดา้ น เช่น ด้านการเกษตร อาหาร พลงั งาน
และแนวคดิ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา โดย การขนสง่
คำนงึ ถงึ ความถูกต้องดา้ นทรัพย์สนิ ทาง • การวิเคราะหส์ ถานการณป์ ัญหาช่วยให้
ปัญญา เขา้ ใจเง่อื นไขและกรอบของปัญหาได้
ชัดเจน จากน้นั ดำเนนิ การสบื ค้น รวบรวม
ข้อมลู ความรู้จากศาสตรต์ ่าง ๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง
เพ่ือนำไปสกู่ ารออกแบบแนวทางการ
แก้ปัญหา
3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา โดยวเิ คราะห์ • การวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตัดสินใจ
เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลอื กขอ้ มูลท่ี เลอื กขอ้ มลู ท่จี ำเป็น โดยคำนงึ ถงึ ทรพั ยส์ ิน
จำเป็นภายใตเ้ งือ่ นไขและทรพั ยากรท่มี ีอยู่ ทางปัญญาเงอื่ นไขและทรพั ยากร เชน่
นำเสนอแนวทางการแก้ปญั หาให้ผู้อ่ืนเขา้ ใจ งบประมาณ เวลาข้อมูลและสารสนเทศ
ด้วยเทคนคิ หรือวธิ ีการท่หี ลากหลาย วสั ดุ เครือ่ งมอื และอปุ กรณ์ชว่ ยให้ได้แนว
วางแผนข้นั ตอนการทำงานและดำเนนิ การ ทางการแก้ปญั หาที่เหมาะสม
แกป้ ัญหาอย่างเปน็ ขนั้ ตอน • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้
หลากหลายวิธี เชน่ การร่างภาพ การเขยี น
แผนภาพการเขียนผงั งาน
12
โรงเรยี นวรราชาทินัดดามาตุวิทยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
• เทคนิคหรือวธิ ีการในการนำเสนอแนว
ทางการแกป้ ญั หามหี ลากหลาย เช่น การใช้
แผนภูมิตาราง ภาพเคลอ่ื นไหว
• การกำหนดขัน้ ตอนและระยะเวลาในการ
ทำงานก่อนดำเนนิ การแกป้ ญั หาจะช่วยให้
การทำงานสำเร็จไดต้ ามเป้าหมาย และลด
ขอ้ ผดิ พลาดของการทำงานที่อาจเกิดขนึ้
4. ทดสอบ ประเมนิ ผล วิเคราะห์ และให้ • การทดสอบและประเมินผลเปน็ การ
เหตุผลของปญั หาหรือขอ้ บกพร่องท่เี กิดขึ้น ตรวจสอบช้ินงานหรือวธิ ีการวา่ สามารถ
ภายใตก้ รอบเงอ่ื นไข พร้อมทั้งหาแนว แก้ปัญหาได้ตามวตั ถุประสงคภ์ ายใต้กรอบ
ทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข และนำเสนอผลการ ของปญั หา เพื่อหาขอ้ บกพรอ่ ง และ
แกป้ ัญหา ดำเนินการปรับปรงุ โดยอาจทดสอบซ้ำ
เพื่อให้สามารถแก้ไขปญั หาได้
• การนำเสนอผลงานเปน็ การถา่ ยทอด
แนวคิดเพื่อใหผ้ อู้ ่นื เข้าใจเกยี่ วกับ
กระบวนการทำงานและชิน้ งานหรือวิธกี าร
ท่ไี ด้ ซึ่งสามารถทำไดห้ ลายวิธี เช่น การ
เขยี นรายงาน การทำแผน่ นำเสนอผลงาน
การจดั นิทรรศการ การนำเสนอผ่านส่ือ
ออนไลน์
5. ใช้ความรู้ และทกั ษะเกีย่ วกบั วัสดุ • วสั ดแุ ตล่ ะประเภทมีสมบัตแิ ตกต่างกนั
อุปกรณเ์ ครือ่ งมือ กลไก ไฟฟ้าและ เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก เซรามิก จงึ ตอ้ งมี
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ให้ถูกต้องกับลักษณะของงาน การวเิ คราะห์สมบัตเิ พ่ือเลอื กใช้ให้เหมาะสม
และปลอดภยั เพ่ือแกป้ ญั หาหรือพัฒนางาน กบั ลักษณะของงาน
• การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เรื่องกลไก
ไฟฟ้าอิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น LED LDR
มอเตอร์ เฟอื งคาน รอก ลอ้ เพลา
• อุปกรณ์และเครือ่ งมอื ในการสร้างชิ้นงาน
หรอื พัฒนาวิธกี ารมหี ลายประเภท ตอ้ ง
เลือกใช้ใหถ้ ูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย
รวมท้ังรู้จักเกบ็ รกั ษา
ม.4 1. วิเคราะหแ์ นวคดิ หลักของเทคโนโลยี • ระบบทางเทคโนโลยี เปน็ กลมุ่ ของส่วน
ความสัมพันธก์ ับศาสตร์อน่ื โดยเฉพาะ ตา่ ง ๆ ตงั้ แตส่ องส่วนข้นึ ไปประกอบเข้า
วทิ ยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทง้ั ด้วยกันและทำงานร่วมกันเพื่อใหบ้ รรลุ
ประเมินผลกระทบท่จี ะเกิดขน้ึ ตอ่ มนษุ ย์ วตั ถปุ ระสงค์ โดยในการทำงานของระบบ
สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื เปน็ ทางเทคโนโลยีจะประกอบไปด้วยตัวป้อน
แนวทางในการพฒั นาเทคโนโลยี (input) กระบวนการ (process) และ
ผลผลติ (output) ทีส่ ัมพันธ์กันนอกจากน้ี
13
โรงเรียนวรราชาทนิ ดั ดามาตวุ ทิ ยา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ระบบทางเทคโนโลยีอาจมขี อ้ มลู ยอ้ นกลับ
(feedback) เพื่อใช้ปรบั ปรงุ การทำงานได้
ตามวัตถุประสงค์ โดยระบบทางเทคโนโลยี
อาจมีระบบย่อยหลายระบบ (sub-
systems) ทที่ ำงานสมั พนั ธ์กนั อยู่ และหาก
ระบบย่อยใดทำงานผดิ พลาดจะสง่ ผลตอ่
การทำงานของระบบอนื่ ด้วย
• เทคโนโลยีมกี ารเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา
ตั้งแตอ่ ดีตจนถงึ ปัจจุบนั ซึ่งมีสาเหตุหรือ
ปัจจัยมาจากหลายด้าน เช่น ปัญหา ความ
ต้องการความก้าวหนา้ ของศาสตร์ต่าง ๆ
เศรษฐกิจ สังคมวฒั นธรรม ส่งิ แวดลอ้ ม
2. ระบุปญั หาหรอื ความต้องการท่มี ี • ปญั หาหรอื ความตอ้ งการที่มีผลกระทบตอ่
ผลกระทบต่อสังคม รวบรวม วิเคราะห์ สังคมเชน่ ปัญหาด้านการเกษตร อาหาร
ขอ้ มลู และแนวคดิ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ปญั หาทม่ี ี พลังงานการขนส่ง สขุ ภาพและการแพทย์
ความซบั ซอ้ นเพื่อสังเคราะหว์ ิธีการ เทคนคิ การบรกิ ารซงึ่ แตล่ ะด้านอาจมีได้
ในการแก้ปญั หาโดยคำนึงถึงความถูกต้อง หลากหลายปญั หา
ด้านทรพั ยส์ ินทางปัญญา • การวิเคราะหส์ ถานการณ์ปญั หาโดยอาจ
ใชเ้ ทคนคิ หรอื วธิ กี ารวิเคราะห์ทหี่ ลากหลาย
ชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจเง่ือนไขและกรอบของปญั หา
ไดช้ ดั เจน จากนน้ั ดำเนนิ การสืบคน้
รวบรวมข้อมลู ความร้จู ากศาสตรต์ ่าง ๆ ที่
เกีย่ วข้อง เพอื่ นำไปสู่การออกแบบแนว
ทางการแก้ปญั หา
3. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวเิ คราะห์ • การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสนิ ใจ
เปรยี บเทียบ และตดั สนิ ใจเลือกข้อมลู ที่ เลอื กข้อมูลที่จำเปน็ โดยคำนึงถงึ ทรพั ย์สนิ
จำเปน็ ภายใตเ้ งอ่ื นไขและทรัพยากรท่ีมีอยู่ ทางปญั ญาเง่อื นไขและทรพั ยากร เชน่
นำเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ ู้อื่นเขา้ ใจ งบประมาณ เวลาขอ้ มูลและสารสนเทศ
ด้วยเทคนิคหรอื วธิ กี ารท่ีหลากหลาย โดยใช้ วสั ดุ เครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ชว่ ยให้ไดแ้ นว
ซอฟต์แวรช์ ว่ ยในการออกแบบ วางแผน ทางการแก้ปญั หาทีเ่ หมาะสม
ขัน้ ตอนการทำงานและดำเนนิ การแก้ปญั หา • การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาทำได้
หลากหลายวธิ ี เช่น การร่างภาพ การเขยี น
แผนภาพการเขยี นผังงาน
• ซอฟต์แวร์ชว่ ยในการออกแบบและ
นำเสนอมหี ลากหลายชนิดจึงต้องเลือกใช้ให้
เหมาะกับงาน
• การกำหนดข้นั ตอนและระยะเวลาในการ
ทำงานก่อนดำเนินการแกป้ ญั หาจะช่วยให้
14
โรงเรียนวรราชาทนิ ดั ดามาตุวทิ ยา กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การทำงานสำเร็จไดต้ ามเป้าหมาย และลด
ข้อผดิ พลาดของการทำงานท่ีอาจเกิดขนึ้
4. ทดสอบ ประเมนิ ผล วิเคราะห์ และให้ • การทดสอบและประเมินผลเป็นการ
เหตผุ ลของปญั หาหรือขอ้ บกพรอ่ งท่ีเกิดขน้ึ ตรวจสอบช้ินงานหรือวิธีการวา่ สามารถ
ภายใตก้ รอบเงอื่ นไข หาแนวทางการ แกป้ ัญหาได้ตามวตั ถปุ ระสงคภ์ ายใตก้ รอบ
ปรบั ปรงุ แกไ้ ขและนำเสนอผลการแกป้ ญั หา ของปัญหา เพื่อหาข้อบกพร่อง และ
พรอ้ มท้ังเสนอแนวทางการพฒั นาตอ่ ยอด ดำเนนิ การปรบั ปรุง โดยอาจทดสอบซ้ำ
เพื่อใหส้ ามารถแก้ไขปญั หาได้อยา่ งมี
ประสทิ ธภิ าพ
• การนำเสนอผลงานเป็นการถา่ ยทอด
แนวคดิ เพอ่ื ใหผ้ อู้ นื่ เข้าใจเก่ยี วกบั
กระบวนการทำงานและชิน้ งานหรือวิธีการ
ท่ไี ด้ ซ่ึงสามารถทำได้หลายวธิ ี เช่น การทำ
แผ่นนำเสนอผลงาน การจัดนทิ รรศการ
การนำเสนอผา่ นสอ่ื ออนไลน์ หรือการ
นำเสนอต่อภาคธุรกิจ เพ่ือการพฒั นาต่อ
ยอดส่งู านอาชีพ
5. ใช้ความรู้และทกั ษะเกยี่ วกับวัสดุ • วสั ดุแต่ละประเภทมีสมบัตแิ ตกต่างกนั
อปุ กรณเ์ ครอื่ งมอื กลไก ไฟฟา้ และ เช่นไม้สังเคราะห์ โลหะ จงึ ต้องมีการ
อเิ ล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีทซี่ บั ซ้อนใน วเิ คราะห์สมบตั เิ พอ่ื เลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกับ
การแกป้ ญั หาหรือพฒั นางาน ได้อย่าง ลกั ษณะของงาน
ถกู ต้อง เหมาะสมและปลอดภยั • การสร้างชน้ิ งานอาจใช้ความรู้ เรอื่ งกลไก
ไฟฟ้าอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เช่น LDR sensor
เฟือง รอก คาน วงจรสำเรจ็ รปู
• อุปกรณแ์ ละเครอื่ งมอื ในการสร้างชน้ิ งาน
หรอื พฒั นาวิธกี ารมหี ลายประเภท ต้อง
เลือกใช้ให้ถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั
รวมท้งั รูจ้ ักเกบ็ รกั ษา
ม.5 1. ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ • การทำโครงงาน เป็นการประยุกตใ์ ช้
ต่าง ๆ รวมทัง้ ทรัพยากรในการทำโครงงาน ความรู้และทักษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมทง้ั
เพอื่ แกป้ ญั หาหรือพฒั นางาน ทรพั ยากรในการสรา้ งหรอื พฒั นาชนิ้ งาน
หรอื วธิ กี าร เพอ่ื แกป้ ญั หาหรืออำนวยความ
สะดวกในการทำงาน
• การทำโครงงานการออกแบบและ
เทคโนโลยีสามารถดำเนินการได้ โดยเร่มิ
จาก การสำรวจสถานการณ์ปญั หาที่สนใจ
เพื่อกำหนดหัวข้อโครงงาน แลว้ รวบรวม
ขอ้ มูลและแนวคดิ ทีเ่ กยี่ วข้องกับปัญหา
15
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตวุ ทิ ยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ม.6 - ออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา วางแผน
และดำเนินการแกป้ ัญหา ทดสอบ
ประเมนิ ผลปรบั ปรุงแก้ไขวิธีการแกป้ ัญหา
หรอื ชนิ้ งาน และนำเสนอวธิ กี ารแกป้ ญั หา
-
สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชีวิตจรงิ อย่างเป็นข้นั ตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน
และการแก้ปัญหาได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทัน และมจี ริยธรรม
ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.1 1. แกป้ ัญหาอย่างงา่ ยโดยใช้การลองผิดลอง • การแก้ปญั หาใหป้ ระสบความสำเรจ็ ทำได้
ถูกการเปรียบเทยี บ โดยใช้ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา
• ปัญหาอยา่ งงา่ ย เช่น เกมเขาวงกต เกมหา
จดุ แตกต่างของภาพ การจัดหนงั สอื ใส่
กระเป๋า
2. แสดงลำดับขน้ั ตอนการทำงานหรือการ • การแสดงข้นั ตอนการแกป้ ัญหา ทำได้โดย
แกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ์ การเขียน บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้
หรอื ข้อความ สญั ลักษณ์
• ปัญหาอยา่ งง่าย เชน่ เกมเขาวงกต เกมหา
จุดแตกต่างของภาพ การจดั หนงั สือใส่
กระเปา๋
3. เขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ • การเขยี นโปรแกรมเปน็ การสรา้ งลำดับ
ซอฟต์แวรห์ รอื สอ่ื ของคำสง่ั ใหค้ อมพิวเตอร์ทำงาน
• ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรมส่งั
ใหต้ ัวละครย้ายตำแหนง่ ย่อขยายขนาด
เปล่ียนรปู ร่าง
• ซอฟต์แวร์หรอื สือ่ ท่ใี ช้ในการเขียน
โปรแกรม เชน่ ใช้บตั รคำสง่ั แสดงการเขียน
โปรแกรม, Code.org
4. ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จัดเกบ็ เรยี กใช้ • การใชง้ านอุปกรณ์เทคโนโลยีเบ้ืองต้น เช่น
ขอ้ มูลตามวตั ถุประสงค การใช้เมาส์ คีย์บอร์ด จอสมั ผัส การเปิด-
ปดิ อปุ กรณ์เทคโนโลยี
• การใชง้ านซอฟต์แวร์เบอ้ื งตน้ เช่น การ
เข้าและออกจากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์
การจัดเกบ็ การเรียกใช้ไฟล์ ทำไดใ้ น
โปรแกรม เชน่ โปรแกรมประมวลคำ
โปรแกรมกราฟกิ โปรแกรมนำเสนอ
16
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตุวิทยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• การสร้างและจดั เกบ็ ไฟลอ์ ยา่ งเปน็ ระบบ
จะทำให้เรียกใช้ ค้นหาข้อมลู ไดง้ า่ ยและ
รวดเรว็
5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย • การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
ปฏบิ ัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์ ปลอดภยั เชน่ รู้จกั ข้อมูลส่วนตวั อนั ตราย
รว่ มกนั ดแู ลรักษาอุปกรณเ์ บือ้ งต้น ใช้งาน จากการเผยแพรข่ อ้ มูลสว่ นตัว และไมบ่ อก
อย่างเหมาะสม ข้อมลู ส่วนตวั กับบุคคลอ่นื ยกเว้นผู้ปกครอง
หรอื ครู แจ้งผเู้ กย่ี วข้องเมอื่ ต้องการความ
ช่วยเหลอื เกีย่ วกับการใชง้ าน
• ขอ้ ปฏบิ ัติในการใช้งานและการดูแลรกั ษา
อปุ กรณ์ เชน่ ไมข่ ดี เขยี นบนอุปกรณ์ ทำ
ความสะอาดใชอ้ ปุ กรณอ์ ย่างถูกวธิ ี
• การใช้งานอย่างเหมาะสม เชน่ จัดท่าน่งั
ใหถ้ ูกตอ้ งการพักสายตาเม่ือใชอ้ ุปกรณ์เป็น
เวลานานระมัดระวงั อบุ ตั ิเหตุจากการใช้งาน
ป.2 1. แสดงลำดับข้ันตอนการทำงานหรือการ • การแสดงขน้ั ตอนการแก้ปญั หา ทำได้โดย
แก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ การเขียนบอกเล่า วาดภาพ หรอื ใช้
หรอื ขอ้ ความ สญั ลักษณ์
• ปัญหาอยา่ งงา่ ย เชน่ เกมตวั ตอ่ ๖-๑๒ ช้ิน
การแตง่ ตวั มาโรงเรียน
2. เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ • ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ เขียนโปรแกรมสง่ั
ซอฟตแ์ วร์หรือสอ่ื และตรวจหาขอ้ ผิดพลาด ให้ตัวละครทำงานตามท่ีต้องการ และ
ของโปรแกรม ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด ปรับแกไ้ ขใหไ้ ด้ผล
ลพั ธต์ ามทก่ี ำหนด
• การตรวจหาข้อผดิ พลาด ทำได้โดย
ตรวจสอบคำส่ังทแ่ี จ้งข้อผิดพลาด หรือหาก
ผลลัพธไ์ มเ่ ปน็ ไปตามท่ีตอ้ งการใหต้ รวจสอบ
การทำงานทลี ะคำสั่ง
• ซอฟต์แวรห์ รือสอื่ ท่ใี ช้ในการเขียน
โปรแกรม เชน่ ใช้บตั รคำสัง่ แสดงการเขยี น
โปรแกรม, Code.org
3. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ • การใช้งานซอฟต์แวร์เบ้อื งต้น เช่น การ
คน้ หาจดั เกบ็ เรียกใช้ขอ้ มูลตามวตั ถปุ ระ เข้าและออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์
สงค การจัดเกบ็ การเรยี กใชไ้ ฟล์ การแก้ไข
ตกแตง่ เอกสาร ทำไดใ้ นโปรแกรม เชน่
โปรแกรมประมวลคำโปรแกรมกราฟกิ
โปรแกรมนำเสนอ
17
โรงเรยี นวรราชาทินดั ดามาตวุ ทิ ยา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
• การสร้าง คัดลอก ย้าย ลบ เปล่ียนชอื่ จดั
หมวดหม่ไู ฟล์ และโฟลเดอร์อยา่ งเปน็ ระบบ
จะทำให้เรียกใช้ คน้ หาข้อมลู ไดง้ ่ายและ
รวดเรว็
4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพวิ เตอร์ ปลอดภัย เชน่ รู้จกั ขอ้ มลู ส่วนตวั อนั ตราย
ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องตน้ ใชง้ าน จากการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตวั และไมบ่ อก
อย่างเหมาะสม ข้อมลู สว่ นตวั กับบคุ คลอื่นยกเวน้ ผู้ปกครอง
หรือครู แจง้ ผเู้ ก่ยี วขอ้ งเมื่อตอ้ งการความ
ชว่ ยเหลือเก่ยี วกับการใช้งาน
• ข้อปฏิบัติในการใชง้ านและการดูแลรักษา
อปุ กรณ์ เช่น ไม่ขดี เขยี นบนอปุ กรณ์ ทำ
ความสะอาดใช้อุปกรณ์อยา่ งถูกวธิ ี
• การใชง้ านอยา่ งเหมาะสม เช่น จัดทา่ น่ัง
ให้ถกู ต้องการพักสายตาเมื่อใช้อปุ กรณ์เป็น
เวลานานระมดั ระวงั อุบตั เิ หตุจากการใชง้ าน
ป.3 1. แสดงอลั กอริทึมในการทำงานหรอื การ • อลั กอริทมึ เป็นขั้นตอนที่ใชใ้ นการ
แก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ แกป้ ัญหา
หรือข้อความ • การแสดงอลั กอริทมึ ทำไดโ้ ดยการเขยี น
บอกเล่าวาดภาพ หรอื ใช้สัญลกั ษณ์
• ตัวอยา่ งปัญหา เช่น เกมเศรษฐี เกมบนั ได
งูเกม Tetris เกม OX การเดินไปโรงอาหาร
การทำความสะอาดห้องเรียน
2. เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ • การเขยี นโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับ
ซอฟต์แวร์หรือสือ่ และตรวจหาข้อผดิ พลาด ของคำสัง่ ให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
ของโปรแกรม • ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรมท่ี
สัง่ ใหต้ วั ละครทำงานซำ้ ไม่สิน้ สุด
• การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำไดโ้ ดย
ตรวจสอบคำสงั่ ทแ่ี จ้งข้อผดิ พลาด หรือหาก
ผลลพั ธ์ไมเ่ ปน็ ไปตามที่ต้องการให้ตรวจสอบ
การทำงานทลี ะคำสัง่
• ซอฟต์แวร์หรือสอ่ื ทีใ่ ช้ในการเขยี น
โปรแกรม เช่นใชบ้ ัตรคำสัง่ แสดงการเขยี น
โปรแกรม, Code.org
3. ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ • อินเทอร์เนต็ เปน็ เครอื ข่ายขนาดใหญช่ ่วย
ใหก้ ารตดิ ตอ่ สอ่ื สารทำไดส้ ะดวกและ
รวดเรว็ และเป็นแหลง่ ข้อมลู ความรู้ทชี่ ว่ ยใน
การเรียนและการดำเนินชวี ติ
18
โรงเรยี นวรราชาทนิ ดั ดามาตุวทิ ยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
• เวบ็ เบราวเ์ ซอร์เป็นโปรแกรมสำหรบั อา่ น
เอกสารบนเวบ็ เพจ
• การสืบค้นข้อมูลบนอนิ เทอร์เนต็ ทำได้
โดยใชเ้ ว็บไซต์สำหรบั สืบคน้ และตอ้ ง
กำหนดคำคน้ ที่เหมาะสมจงึ จะไดข้ อ้ มลู ตาม
ตอ้ งการ
• ขอ้ มูลความรู้ เช่น วิธีทำอาหาร วิธีพับ
กระดาษเปน็ รปู ตา่ ง ๆ ข้อมลู ประวตั ศิ าสตร์
ชาติไทย(อาจเป็นความรู้ในวิชาอนื่ ๆ หรอื
เรื่องทเี่ ป็นประเด็นที่สนใจในชว่ งเวลานัน้ )
• การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั ควรอยู่
ในการดูแลของครู หรือผู้ปกครอง
4. รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมูล • การรวบรวมข้อมูล ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวขอ้
โดยใช้ซอฟตแ์ วรต์ ามวตั ถุประสงค ท่ีตอ้ งการ เตรยี มอุปกรณใ์ นการจดบันทึก
• การประมวลผลอย่างง่าย เช่น
เปรียบเทียบจดั กล่มุ เรียงลำดบั
• การนำเสนอขอ้ มลู ทำไดห้ ลายลักษณะ
ตามความเหมาะสม เช่น การบอกเล่า การ
ทำเอกสารรายงาน การจดั ทำป้ายประกาศ
• การใชซ้ อฟต์แวรท์ ำงานตามวตั ถุประสงค์
เชน่ ใชซ้ อฟตแ์ วรน์ ำเสนอ หรอื ซอฟตแ์ วร์
กราฟิกสร้างแผนภมู ริ ูปภาพ ใช้ซอฟต์แวร์
ประมวลคำทำป้ายประกาศหรือ
เอกสารรายงาน ใชซ้ อฟต์แวรต์ ารางทำงาน
ในการประมวลผลขอ้ มลู
5. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงในการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ปลอดภยั เชน่ ปกปอ้ งข้อมูลสว่ นตัว
• ขอความช่วยเหลือจากครหู รอื ผู้ปกครอง
เม่ือเกิดปัญหาจากการใชง้ าน เม่อื พบขอ้ มูล
หรอื บุคคลท่ที ำใหไ้ ม่สบายใจ
• การปฏิบัติตามขอ้ ตกลงในการใช้
อินเทอรเ์ น็ตจะทำใหไ้ มเ่ กิดความเสยี หาย
ต่อตนเองและผอู้ ่ืนเชน่ ไมใ่ ช้คำหยาบ
ลอ้ เลียน ด่าทอ ทำให้ผอู้ น่ื เสียหายหรือ
เสียใจ
• ข้อดีและขอ้ เสยี ในการใชเ้ ทคโนโลยี
สารสนเทศและการส่ือสาร
19
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตุวิทยา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ป.4 1. ใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา การ • การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำ
อธบิ ายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ กฎเกณฑ์หรอื เง่อื นไขทคี่ รอบคลุมทกุ กรณี
จากปญั หาอย่างงา่ ย มาใช้พจิ ารณาในการแก้ปญั หา การอธบิ าย
การทำงาน หรือการคาดการณ์ผลลัพธ์
• สถานะเร่มิ ตน้ ของการทำงานทแี่ ตกตา่ ง
กนั จะให้ผลลัพธท์ ่แี ตกต่างกัน
• ตวั อยา่ งปญั หา เชน่ เกม OX โปรแกรมที่
มีการคำนวณ โปรแกรมท่มี ตี ัวละครหลาย
ตวั และมีการสั่งงานทีแ่ ตกตา่ งหรือมกี าร
ส่อื สารระหว่างกนั การเดนิ ทางไปโรงเรียน
โดยวิธีการตา่ ง ๆ
2. ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย • การออกแบบโปรแกรมอย่างง่าย เช่น การ
โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื สื่อ และตรวจหา ออกแบบโดยใช้ storyboard หรอื การ
ขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไข ออกแบบอลั กอริทมึ
• การเขียนโปรแกรมเปน็ การสร้างลำดับ
ของคำสงั่ ใหค้ อมพิวเตอร์ทำงาน เพื่อใหไ้ ด้
ผลลัพธต์ ามความตอ้ งการ หากมี
ข้อผดิ พลาดให้ตรวจสอบการทำงานทลี ะ
คำสัง่ เมื่อพบจดุ ที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่ถกู ต้อง
ใหท้ ำการแก้ไขจนกว่าจะไดผ้ ลลัพธท์ ีถ่ กู ตอ้ ง
• ตัวอย่างโปรแกรมท่มี ีเร่อื งราว เช่น นทิ าน
ที่มีการโตต้ อบกับผู้ใช้ การต์ นู สน้ั เล่า
กจิ วตั รประจำวนั ภาพเคลือ่ นไหว
• การฝกึ ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดจากโปรแกรม
ของผูอ้ น่ื จะช่วยพัฒนาทกั ษะการหาสาเหตุ
ของปญั หาได้ดยี ่งิ ข้นึ
• ซอฟตแ์ วร์ทใ่ี ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น
Scratch, logo
3. ใช้อนิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ และ • การใช้คำค้นที่ตรงประเดน็ กระชับ จะทำ
ประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถือของขอ้ มลู ใหไ้ ด้ผลลัพธท์ รี่ วดเร็วและตรงตามความ
ตอ้ งการ
• การประเมินความนา่ เช่ือถือของข้อมลู
เชน่ พิจารณาประเภทของเวบ็ ไซต์
(หนว่ ยงานราชการสำนักข่าว องค์กร)
ผู้เขียน วนั ทีเ่ ผยแพรข่ ้อมูลการอ้างอิง
• เมอื่ ไดข้ ้อมลู ท่ตี อ้ งการจากเวบ็ ไซตต์ า่ ง ๆ
จะต้องนำเนอ้ื หามาพจิ ารณา เปรียบเทียบ
20
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตวุ ทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4. รวบรวม ประเมิน นำเสนอขอ้ มูลและ แลว้ เลือกข้อมูลทม่ี ีความสอดคล้องและ
สารสนเทศโดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ท่ีหลากหลาย สัมพนั ธ์กนั
เพ่ือแก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวัน • การทำรายงานหรอื การนำเสนอขอ้ มลู
จะต้องนำข้อมูลมาเรยี บเรยี ง สรุป เป็น
5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ภาษาของตนเองทเี่ หมาะสมกบั
เขา้ ใจสทิ ธิและหนา้ ที่ของตน เคารพในสทิ ธิ
ของผู้อ่ืนแจ้งผู้เกยี่ วข้องเม่ือพบขอ้ มูลหรือ กลมุ่ เปา้ หมายและวธิ กี ารนำเสนอ(บูรณา
บุคคลทไี่ ม่เหมาะสม การกับวิชาภาษาไทย)
• การรวบรวมขอ้ มลู ทำไดโ้ ดยกำหนดหวั ขอ้
ที่ตอ้ งการ เตรียมอปุ กรณ์ในการจดบนั ทึก
• การประมวลผลอย่างงา่ ย เช่น
เปรยี บเทียบจัดกลุ่ม เรยี งลำดับ การหา
ผลรวม
• วเิ คราะหผ์ ลและสรา้ งทางเลือกที่เป็นไปได้
ประเมินทางเลือก (เปรียบเทยี บ ตัดสิน)
• การนำเสนอขอ้ มลู ทำไดห้ ลายลักษณะ
ตามความเหมาะสม เช่น การบอกเล่า
เอกสารรายงานโปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ
• การใชซ้ อฟต์แวรเ์ พ่ือแก้ปัญหาใน
ชีวติ ประจำวันเช่น การสำรวจเมนอู าหาร
กลางวันโดยใช้ซอฟตแ์ วรส์ รา้ ง
แบบสอบถามและเกบ็ ข้อมลู ใช้ซอฟต์แวร์
ตารางทำงานเพ่ือประมวลผลข้อมูลรวบรวม
ข้อมลู เก่ียวกับคุณค่าทางโภชนาการและ
สร้างรายการอาหารสำหรับ ๕ วัน ใช้
ซอฟตแ์ วร์นำเสนอผลการสำรวจรายการ
อาหารทีเ่ ปน็ ทางเลอื กและขอ้ มูลด้าน
โภชนาการ
• การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
ปลอดภัย เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ท่ขี องตน
เคารพในสิทธขิ องผูอ้ น่ื เช่น ไม่สร้าง
ข้อความเท็จและสง่ ให้ผ้อู นื่ ไม่สร้างความ
เดอื ดร้อนตอ่ ผ้อู ื่นโดยการสง่ สแปมขอ้ ความ
ลูกโซ่ สง่ ตอ่ โพสตท์ ่มี ีข้อมลู ส่วนตวั ของผ้อู ่นื
สง่ คำเชิญเล่นเกม ไมเ่ ข้าถึงขอ้ มลู สว่ นตวั
หรือการบ้านของบคุ คลอนื่ โดยไมไ่ ด้รบั
อนุญาต ไม่ใช้เคร่อื งคอมพิวเตอร์/ช่ือบญั ชี
ของผอู้ ื่น
• การสือ่ สารอยา่ งมมี ารยาทและรู้กาลเทศะ
21
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตุวทิ ยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• การปกปอ้ งขอ้ มลู ส่วนตัว เช่น การออก
จากระบบเม่ือเลิกใชง้ าน ไมบ่ อกรหสั ผา่ น
ไม่บอกเลขประจำตวั ประชาชน
ป.5 1. ใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การ • การใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะเป็นการนำ
อธบิ ายการทำงาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ กฎเกณฑ์ หรอื เง่ือนไขท่คี รอบคลมุ ทุกกรณี
จากปญั หาอย่างง่าย มาใช้พิจารณาในการแกป้ ัญหา การอธิบาย
การทำงาน หรือการคาดการณ์ผลลัพธ์
• สถานะเรม่ิ ต้นของการทำงานท่แี ตกต่าง
กันจะให้ผลลัพธท์ ่ีแตกตา่ งกนั
• ตัวอย่างปญั หา เช่น เกม Sudoku
โปรแกรมทำนายตัวเลข โปรแกรมสรา้ งรปู
เรขาคณิตตามค่าข้อมูลเข้า การจดั ลำดับ
การทำงานบ้านในช่วงวันหยุด จดั วางของ
ในครวั
2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมทม่ี กี ารใช้ • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำไดโ้ ดย
เหตผุ ลเชงิ ตรรกะอยา่ งง่าย ตรวจหา เขยี นเปน็ ขอ้ ความหรอื ผังงาน
ข้อผดิ พลาดและแกไ้ ข • การออกแบบและเขยี นโปรแกรมทีม่ ีการ
ตรวจสอบเงือ่ นไขทีค่ รอบคลุมทุกกรณี
เพ่อื ให้ไดผ้ ลลัพธท์ ่ถี กู ต้องตรงตามความ
ต้องการ
• หากมขี ้อผดิ พลาดใหต้ รวจสอบการทำงาน
ทลี ะคำส่งั เมื่อพบจดุ ท่ีทำใหผ้ ลลัพธ์ไม่
ถกู ตอ้ งให้ทำการแก้ไขจนกว่าจะไดผ้ ลลัพธท์ ี่
ถูกต้อง
• การฝกึ ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดจากโปรแกรม
ของผู้อืน่ จะชว่ ยพฒั นาทักษะการหาสาเหตุ
ของปัญหาได้ดยี ง่ิ ขึน้
• ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรม
ตรวจสอบเลขคู่เลขค่ี โปรแกรมรบั ข้อมูล
นำ้ หนักหรอื สว่ นสงู แล้วแสดงผลความสม
ส่วนของรา่ งกาย โปรแกรมสง่ั ให้ตัวละครทำ
ตามเงื่อนไขทีก่ ำหนด
• ซอฟตแ์ วรท์ ่ใี ช้ในการเขียนโปรแกรม เชน่
Scratch, logo
3. ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาข้อมลู ติดตอ่ สอ่ื สาร • การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เนต็ และการ
และทำงานร่วมกัน ประเมินความนา่ เชือ่ ถอื พิจารณาผลการค้นหา
ของขอ้ มลู • การตดิ ตอ่ สอ่ื สารผ่านอินเทอรเ์ นต็ เช่น
อีเมลบลอ็ ก โปรแกรมสนทนา
22
โรงเรียนวรราชาทนิ ดั ดามาตุวิทยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• การเขยี นจดหมาย (บรู ณาการกบั วชิ า
ภาษาไทย)
• การใช้อินเทอร์เนต็ ในการตดิ ต่อส่ือสาร
และทำงานรว่ มกัน เชน่ ใชน้ ดั หมายในการ
ประชมุ กลุม่ ประชาสัมพนั ธ์กจิ กรรมใน
หอ้ งเรียน การแลกเปล่ยี นความรู้ ความ
คิดเห็นในการเรียน ภายใต้การดแู ลของครู
• การประเมนิ ความน่าเช่ือถือของขอ้ มลู
เชน่ เปรยี บเทยี บความสอดคลอ้ ง สมบรู ณ์
ของขอ้ มูลจากหลายแหล่ง แหลง่ ต้นตอของ
ข้อมูล ผู้เขียนวันทเ่ี ผยแพรข่ อ้ มูล
• ขอ้ มูลที่ดตี ้องมีรายละเอยี ดครบทุกด้าน
เชน่ ข้อดแี ละขอ้ เสยี ประโยชน์และโทษ
4. รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและ • การรวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล สร้าง
สารสนเทศตามวัตถุประสงคโ์ ดยใช้ ทางเลือกประเมนิ ผล จะทำให้ไดส้ ารสนเทศ
ซอฟต์แวร์หรือบรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ี เพ่อื ใช้ในการแกป้ ญั หาหรอื การตดั สินใจได้
หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวติ ประจำวัน อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
• การใช้ซอฟต์แวรห์ รือบริการบน
อนิ เทอร์เน็ตที่หลากหลายในการรวบรวม
ประมวลผลสร้างทางเลือก ประเมินผล
นำเสนอ จะชว่ ยใหก้ ารแกป้ ัญหาทำได้อย่าง
รวดเร็ว ถกู ต้อง และแมน่ ยำ
• ตวั อยา่ งปัญหา เช่น ถ่ายภาพ และสำรวจ
แผนท่ใี นท้องถนิ่ เพอื่ นำเสนอแนวทางในการ
จดั การพ้นื ที่วา่ งให้เกิดประโยชน์ ทำแบบ
สำรวจความคิดเห็นออนไลน์ และวิเคราะห์
ขอ้ มลู นำเสนอขอ้ มูลโดยการใช้ blog หรอื
web page
5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย • อนั ตรายจากการใช้งานและอาชญากรรม
มีมารยาทเข้าใจสิทธแิ ละหนา้ ทข่ี องตน ทางอนิ เทอรเ์ น็ต
เคารพในสทิ ธิของผู้อนื่ แจ้งผเู้ กีย่ วขอ้ งเม่อื • มารยาทในการติดตอ่ ส่อื สารผ่าน
พบขอ้ มลู หรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม อนิ เทอรเ์ นต็ (บูรณาการกับวชิ าท่เี ก่ยี วขอ้ ง)
ป.6 1. ใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการอธบิ ายและ • การแกป้ ญั หาอย่างเป็นข้นั ตอนจะชว่ ยให้
ออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หาทีพ่ บใน แก้ปัญหาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ชีวิตประจำวัน • การใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะเปน็ การนำ
กฎเกณฑ์ หรือเงอ่ื นไขท่คี รอบคลมุ ทกุ กรณี
มาใช้พจิ ารณาในการแกป้ ัญหา
23
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตุวทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
• แนวคดิ ของการทำงานแบบวนซำ้ และ
เงื่อนไข
• การพิจารณากระบวนการทำงานทมี่ ีการ
ทำงานแบบวนซ้ำหรอื เงอื่ นไขเปน็ วธิ กี ารท่ี
จะชว่ ยให้การออกแบบวิธีการแก้ปญั หา
เปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
• ตัวอย่างปัญหา เช่น การคน้ หาเลขหน้าที่
ตอ้ งการให้เร็วทีส่ ดุ การทายเลข ๑-
๑,๐๐๐,๐๐๐ โดยตอบให้ถกู ภายใน ๒๐
คำถาม การคำนวณเวลาในการเดินทาง
โดยคำนงึ ถงึ ระยะทาง เวลาจุดหยดุ พกั
2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดย
เพอื่ แก้ปัญหาในชวี ิตประจำวัน ตรวจหา เขียนเป็นข้อความหรือผังงาน
ข้อผดิ พลาดของโปรแกรมและแก้ไข • การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่มี ีการ
ใช้ตวั แปรการวนซ้ำ การตรวจสอบเงอื่ นไข
• หากมีข้อผิดพลาดให้ตรวจสอบการทำงาน
ทีละคำส่ัง เมอ่ื พบจุดทีท่ ำใหผ้ ลลพั ธ์ไม่
ถกู ตอ้ งให้ทำการแก้ไขจนกวา่ จะไดผ้ ลลัพธ์ท่ี
ถูกตอ้ ง
• การฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พลาดจากโปรแกรม
ของผูอ้ ่นื จะชว่ ยพฒั นาทักษะการหาสาเหตุ
ของปญั หาได้ดยี ่งิ ข้ึน
• ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมเกม
โปรแกรมหาคา่ ค.ร.น. เกมฝกึ พิมพ์
• ซอฟตแ์ วรท์ ใ่ี ช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น
Scratch, logo
3. ใชอ้ ินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมลู อย่างมี • การค้นหาอยา่ งมีประสิทธภิ าพ เปน็ การ
ประสทิ ธภิ าพ ค้นหาขอ้ มูลท่ไี ด้ตรงตามความต้องการใน
เวลาท่รี วดเรว็ จากแหล่งข้อมูลทน่ี า่ เชอ่ื ถอื
หลายแหลง่ และขอ้ มลู มีความสอดคล้องกัน
• การใชเ้ ทคนิคการคน้ หาขั้นสงู เช่น การใช้
ตวั ดำเนนิ การ การระบุรปู แบบของขอ้ มลู
หรอื ชนิดของไฟล์
• การจดั ลำดบั ผลลพั ธจ์ ากการค้นหาของ
โปรแกรมค้นหา
• การเรยี บเรียง สรปุ สาระสำคัญ (บรู ณา
การกับวชิ าภาษาไทย)
24
โรงเรยี นวรราชาทนิ ดั ดามาตุวทิ ยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานรว่ มกัน • อนั ตรายจากการใชง้ านและอาชญากรรม
อยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธิและหนา้ ทข่ี องตน ทางอินเทอร์เนต็ แนวทางในการป้องกัน
เคารพในสิทธิของผู้อ่นื แจ้งผเู้ กย่ี วขอ้ งเมื่อ • วธิ ีกำหนดรหัสผ่าน
พบข้อมูลหรอื บุคคลทไี่ มเ่ หมาะสม • การกำหนดสิทธิ์การใชง้ าน (สิทธ์ิในการ
เขา้ ถงึ )
• แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมลั แวร์
• อนั ตรายจากการตดิ ตัง้ ซอฟตแ์ วร์ทอ่ี ย่บู น
อินเทอรเ์ น็ต
ม.1 1. ออกแบบอัลกอริทมึ ที่ใช้แนวคิดเชงิ • แนวคดิ เชิงนามธรรม เปน็ การประเมิน
นามธรรมเพื่อแก้ปัญหาหรอื อธบิ ายการ ความสำคัญของรายละเอียดของปญั หา
ทำงานที่พบในชีวติ จรงิ แยกแยะสว่ นท่ีเปน็ สาระสำคัญออกจาก
สว่ นทไี่ ม่ใช่สาระสำคญั
• ตวั อย่างปัญหา เช่น ต้องการปูหญ้าใน
สนามตามพน้ื ทีท่ ก่ี ำหนด โดยหญา้ หน่ึงผืนมี
ความกวา้ ง๕๐ เซนติเมตร ยาว ๕๐
เซนติเมตร จะใชห้ ญ้าทงั้ หมดก่ีผนื
2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย • การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการ
เพอ่ื แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หรือวิทยา ใชต้ วั แปรเง่อื นไข วนซ้ำ
ศาสตร • การออกแบบอลั กอรทิ มึ เพ่ือแก้ปัญหา
ทางคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งง่าย
อาจใช้แนวคิดเชิงนามธรรมในการออกแบบ
เพอื่ ให้การแกป้ ัญหามปี ระสทิ ธภิ าพ
• การแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนจะชว่ ยให้
แกป้ ัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ซอฟตแ์ วร์ทใี่ ช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น
Scratch, python, java, c
• ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น โปรแกรมสมการ
การเคลอื่ นที่ โปรแกรมคำนวณหาพนื้ ที่
โปรแกรมคำนวณดชั นีมวลกาย
3. รวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมิ ประมวลผล • การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งขอ้ มลู ปฐม
ประเมนิ ผลนำเสนอข้อมูล และสารสนเทศ ภูมิประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล
ตามวตั ถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือ จะทำใหไ้ ดส้ ารสนเทศเพือ่ ใช้ในการ
บริการบนอินเทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลาย แกป้ ญั หาหรอื การตัดสินใจไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิภาพ
• การประมวลผลเป็นการกระทำกับข้อมลู
เพ่ือใหไ้ ดผ้ ลลัพธท์ ่มี คี วามหมายและมี
ประโยชนต์ อ่ การนำไปใชง้ าน สามารถทำได้
25
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตวุ ทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หลายวิธี เช่น คำนวณอัตราสว่ น คำนวณ
ค่าเฉลย่ี
• การใช้ซอฟต์แวร์หรอื บริการบน
อนิ เทอรเ์ นต็ ทีห่ ลากหลายในการรวบรวม
ประมวลผลสร้างทางเลอื ก ประเมินผล
นำเสนอ จะช่วยให้แก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งรวดเรว็
ถกู ตอ้ ง และแม่นยำ
• ตัวอยา่ งปัญหา เน้นการบูรณาการกับวิชา
อื่น เช่น ต้มไข่ให้ตรงกับพฤติกรรมการ
บรโิ ภค ค่าดชั นีมวลกายของคนในทอ้ งถน่ิ
การสรา้ งกราฟผลการทดลองและวเิ คราะห์
แนวโน้ม
4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย
ใช้สื่อและแหลง่ ขอ้ มลู ตามข้อกำหนดและ เช่น การปกป้องความเปน็ สว่ นตัวและอตั
ข้อตกลง ลักษณ์
• การจัดการอัตลกั ษณ์ เช่น การตง้ั รหัสผ่าน
การปกปอ้ งขอ้ มูลสว่ นตัว
• การพิจารณาความเหมาะสมของเน้ือหา
เช่น ละเมิดความเป็นสว่ นตัวผู้อน่ื อนาจาร
วจิ ารณผ์ ูอ้ น่ื อย่างหยาบคาย
• ขอ้ ตกลง ขอ้ กำหนดในการใช้สอ่ื หรือ
แหลง่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ เช่น Creative
commons
ม.2 1. ออกแบบอัลกอรทิ ึมท่ีใช้แนวคิดเชงิ • แนวคิดเชงิ คำนวณ
คำนวณในการแกป้ ญั หา หรือการทำงานท่ี • การแกป้ ญั หาโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ
พบในชีวิตจริง • ตวั อยา่ งปัญหา เชน่ การเขา้ แถว
ตามลำดบั ความสูงให้เร็วที่สดุ จัดเรียงเสื้อ
ใหห้ าไดง้ ่ายทสี่ ุด
1. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทใี่ ชต้ รรกะ • ตวั ดำเนินการบูลีน
และฟังก์ชันในการแกป้ ัญหา • ฟงั กช์ ัน
• การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มกี าร
ใชต้ รรกะและฟังกช์ นั
• การออกแบบอลั กอริทมึ เพื่อแกป้ ญั หา
อาจใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการออกแบบ
เพื่อให้การแกป้ ญั หามีประสทิ ธภิ าพ
• การแก้ปญั หาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้
แกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
26
โรงเรยี นวรราชาทนิ ดั ดามาตุวิทยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• ซอฟตแ์ วรท์ ่ใี ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น
Scratch, python, java, c
• ตวั อย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมตดั เกรด
หาคำตอบทั้งหมดของอสมการหลายตวั แปร
3. อภปิ รายองค์ประกอบและหลักการ • องคป์ ระกอบและหลกั การทำงานของ
ทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์ และ ระบบคอมพวิ เตอร์
เทคโนโลยกี ารส่ือสารเพ่อื ประยุกตใ์ ชง้ าน • เทคโนโลยกี ารสื่อสาร
หรือแกป้ ัญหาเบอื้ งต้น • การประยุกต์ใชง้ านและการแกป้ ญั หา
เบือ้ งตน้
4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย
มีความรับผดิ ชอบ สรา้ งและแสดงสิทธิใน โดยเลือกแนวทางปฏบิ ัติเมือ่ พบเนือ้ หาทไี่ ม่
การเผยแพร่ผลงาน เหมาะสม เชน่ แจง้ รายงานผ้เู กีย่ วข้อง
ปอ้ งกนั การเข้ามาของข้อมลู ท่ไี มเ่ หมาะสม
ไมต่ อบโต้ ไม่เผยแพร่
• การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมคี วาม
รับผดิ ชอบเช่น ตระหนกั ถงึ ผลกระทบใน
การเผยแพร่ขอ้ มลู
• การสรา้ งและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจา้ ของ
ผลงาน
• การกำหนดสิทธิการใชข้ ้อมูล
ม.3 1. พฒั นาแอปพลเิ คชนั ที่มกี ารบรู ณาการกับ • ข้นั ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั
วิชาอ่ืนอยา่ งสร้างสรรค • Internet of Things (IoT)
• ซอฟตแ์ วรท์ ใี่ ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชนั
เช่น Scratch, python, java, c,
AppInventor
• ตัวอยา่ งแอปพลิเคชนั เชน่ โปรแกรม
แปลงสกลุ เงนิ โปรแกรมผันเสยี งวรรณยุกต์
โปรแกรมจำลองการแบ่งเซลล์ ระบบรดนำ้
อตั โนมัต
2. รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมินผล • การรวบรวมขอ้ มูลจากแหลง่ ข้อมลู ปฐม
นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตาม ภูมิและทตุ ยิ ภูมิ ประมวลผล สร้างทางเลือก
วัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการ ประเมนิ ผลจะทำใหไ้ ด้สารสนเทศเพ่อื ใชใ้ น
บนอนิ เทอร์เน็ตที่หลากหลาย การแก้ปัญหาหรือการตดั สนิ ใจได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ
• การประมวลผลเปน็ การกระทำกับขอ้ มลู
เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ท่มี คี วามหมายและมี
ประโยชนต์ ่อการนำไปใช้งาน
27
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตวุ ิทยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• การใช้ซอฟต์แวร์หรอื บริการบน
อนิ เทอร์เนต็ ท่ีหลากหลายในการรวบรวม
ประมวลผลสรา้ งทางเลอื ก ประเมนิ ผล
นำเสนอ จะชว่ ยใหแ้ ก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
ถูกต้อง และแม่นยำ
• ตัวอย่างปัญหา เช่น การเลือกโปรโมชนั
โทรศพั ทใ์ หเ้ หมาะกับพฤติกรรมการใชง้ าน
สินค้าเกษตรที่ตอ้ งการและสามารถปลูกได้
ในสภาพดินของทอ้ งถ่ิน
3. ประเมินความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมลู • การประเมนิ ความนา่ เชื่อถอื ของข้อมลู
วิเคราะห์สื่อและผลกระทบจากการให้ เชน่ ตรวจสอบและยืนยันข้อมูล โดย
ขา่ วสารท่ีผดิ เพอ่ื การใช้งานอยา่ งรู้เท่าทัน เทยี บเคยี งจากข้อมูลหลายแหล่ง แยกแยะ
ขอ้ มลู ท่เี ปน็ ขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเห็น หรือ
ใช้ PROMPT
• การสืบคน้ หาแหล่งตน้ ตอของข้อมูล
• เหตุผลวบิ ัติ (logical fallacy)
• ผลกระทบจากขา่ วสารที่ผิดพลาด
• การรเู้ ท่าทันสื่อ เช่น การวเิ คราะหถ์ งึ
จดุ ประสงค์ของขอ้ มูลและผู้ให้ข้อมูล
ตคี วาม แยกแยะเนอ้ื หาสาระของสื่อ เลอื ก
แนวปฏบิ ตั ิได้อยา่ งเหมาะสมเม่อื พบขอ้ มูล
ตา่ ง ๆ
4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง
และมคี วามรับผดิ ชอบต่อสังคม ปฏิบตั ติ าม ปลอดภยั เช่น การทำธรุ กรรมออนไลน์ การ
กฎหมายเกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ ใชล้ ขิ สิทธิ์ ซอ้ื สนิ คา้ ซือ้ ซอฟตแ์ วร์ คา่ บริการสมาชิก
ของผูอ้ ่ืนโดยชอบธรรม ซอ้ื ไอเท็ม
• การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมคี วาม
รับผิดชอบ เช่น ไมส่ รา้ งขา่ วลวง ไมแ่ ชร์
ข้อมลู โดยไมต่ รวจสอบข้อเท็จจริง
• กฎหมายเกีย่ วกบั คอมพวิ เตอร์
• การใช้ลขิ สิทธข์ิ องผู้อื่นโดยชอบธรรม (fair
use)
ม.4 1. ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการ • การพัฒนาโครงงาน
พฒั นาโครงงานที่มีการบูรณาการกับวชิ าอืน่ • การนำแนวคดิ เชิงคำนวณไปพฒั นา
อย่างสร้างสรรค์ และเชือ่ มโยงกบั ชีวิตจริง โครงงานทีเ่ กยี่ วกับชีวิตประจำวนั เช่น การ
จัดการพลังงานอาหาร การเกษตร
การตลาด การค้าขายการทำธรุ กรรม
สุขภาพ และสงิ่ แวดลอ้ ม
28
โรงเรยี นวรราชาทินัดดามาตวุ ิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• ตัวอยา่ งโครงงาน เช่น ระบบดูแลสุขภาพ
ระบบอัตโนมตั คิ วบคมุ การปลูกพชื ระบบ
จดั เส้นทางการขนส่งผลผลิต ระบบแนะนำ
การใช้งานห้องสมดุ ท่มี ีการโตต้ อบกบั ผู้ใช้
และเช่ือมต่อกับฐานข้อมูล
ม.5 1. รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู และใชค้ วามรู้ • การนำความรูด้ ้านวิทยาการคอมพิวเตอร์
ด้านวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ สือ่ ดิจิทลั สอื่ ดจิ ทิ ัล และเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศในการแกป้ ัญหาหรือ แก้ปญั หากบั ชีวติ จริง
เพม่ิ มลู คา่ ใหก้ ับบรกิ ารหรอื ผลิตภณั ฑ์ที่ใช้ • การเพิ่มมลู ค่าใหบ้ ริการหรอื ผลติ ภัณฑ์
ในชีวติ จรงิ อยา่ งสรา้ งสรรค • การเกบ็ ขอ้ มูลและการจัดเตรียมข้อมลู ให้
พรอ้ มกับการประมวลผล
• การวิเคราะห์ขอ้ มูลทางสถิติ
• การประมวลผลข้อมลู และเครอ่ื งมือ
• การทำขอ้ มูลให้เป็นภาพ (data
visualization) เช่น bar chart, scatter,
histogram
• การเลือกใช้แหล่งขอ้ มลู เช่น data.go.th,
wolfram alpha, OECD.org, ตลาด
หลักทรพั ย์ , world economic forum
• คณุ ค่าของข้อมูลและกรณีศึกษา
• กรณีศึกษาและวธิ ีการแก้ปญั หา
• ตวั อย่างปญั หา เช่น
- รปู แบบของบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดความสนใจ
และตรงตามความตอ้ งการผใู้ ชใ้ นแต่ละ
ประเภท
- การกำหนดตำแหนง่ ปา้ ยรถเมล์เพื่อลด
เวลาเดินทางและปญั หาการจราจร
- สำรวจความต้องการรับประทานอาหารใน
ชมุ ชน และเลอื กขายอาหารทจี่ ะไดก้ ำไร
สูงสุด
- ออกแบบรายการอาหาร ๗ วนั สำหรับ
ผปู้ ว่ ยเบาหวาน
ม.6 1. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ • การนำเสนอและแบ่งปนั ขอ้ มูล เช่น การ
และแบ่งปนั ขอ้ มูลอยา่ งปลอดภยั มี เขยี นบล็อก อปั โหลดวิดโี อ ภาพอินโฟ
จรยิ ธรรม และวิเคราะห์การเปล่ียนแปลง กราฟกิ
เทคโนโลยีสารสนเทศท่มี ีผลต่อการดำเนิน • การนำเสนอและแบง่ ปันข้อมูลอย่าง
ชีวติ อาชพี สงั คม และวฒั นธรรม ปลอดภัยเช่น ระมดั ระวงั ผลกระทบที่
ตามมา เมือ่ มกี ารแบง่ ปนั ข้อมูลหรอื เผยแพร่
29
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตวุ ทิ ยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ขอ้ มูล ไมส่ รา้ งความเดอื ดร้อนตอ่ ตนเอง
และผ้อู ่นื
• จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
• เทคโนโลยเี กิดใหม่ แนวโนม้ ในอนาคต
การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี
• นวตั กรรมหรือเทคโนโลยดี ้านต่าง ๆ ท่ี
เกยี่ วข้องกบั ชวี ติ ประจำวนั
• อาชพี เกยี่ วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
• ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อ
การดำเนินชีวติ อาชพี สังคม และ
วัฒนธรรม
30
โรงเรยี นวรราชาทินัดดามาตวุ ิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ตารางการวิเคราะห์ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว23201 รายวิชา วิทยาการคำนวณ
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาทีพ่ บในชีวิตจริงอย่างเป็นข้นั ตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน
และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทัน และมจี รยิ ธรรม
ตัวช้วี ัด/ คำสำคญั (Key word) สมรรถนะสำคัญ
ผลการเรียนรู้ ของผู้เรยี น
เน้อื หา/ความรู้ ทกั ษะ/ คุณลกั ษณะ
กระบวนการ อนั พงึ ประสงค์
ม.3/1 พัฒนา 1. นกั เรียนสามารถ 1. นกั เรียนสบื คน้ 1. มวี ินัย ความสามารถใน
แอปพลเิ คชันทมี่ ี อธบิ ายความหมาย ศึกษาข้อมูล ดาวน์ 2. ใฝ่เรยี นรู้
การบูรณาการกบั ของแอปพลเิ คชนั ได้ โหลดและ สาธติ 3. มุ่งมนั่ ในการ การส่ือสาร
วิชาอื่นอย่าง การใช้งานแอป ทำงาน การคิด
สรา้ งสรรค์ พลเิ คชนั ตามหัวข้อ การแก้ปญั หา
ท่ีไดร้ บั 1. มวี ินยั การใช้ทกั ษะชวี ติ
2. นกั เรียนสามารถ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ การใช้เทคโนโลยี
อธบิ ายความหมาย 1. นกั เรียนคดิ คน้ 3. มุ่งมั่นในการ
แอปพลิเคชนั เพื่อ ทำงาน ความสามารถใน
ของการพัฒนาแอป แก้ปญั หา และ การสอ่ื สาร
พลิเคชันได้ วเิ คราะห์ตาม การคิด
ขนั้ ตอนการพัฒนา การแก้ปญั หา
แอปพลิเคชนั การใชท้ ักษะชีวติ
การใชเ้ ทคโนโลยี
3. นักเรยี นสามารถ 1. นักเรียนศึกษา 1. มีวนิ ยั ความสามารถใน
อธบิ ายความหมาย และวิเคราะหก์ าร 2. ใฝเ่ รยี นรู้ การสอ่ื สาร
ของ Internet of นำ Internet of การคิด
Things ได้ Things มา 3. มุ่งมน่ั ในการ การแกป้ ญั หา
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นด้าน ทำงาน
4. นักเรยี นสามารถ ตา่ ง ๆ แล้วนำมา การใชท้ ักษะชีวติ
อธิบายความหมาย จัดทำลงใน การใชเ้ ทคโนโลยี
ของMIT App PowerPoint
Inventor ได้ 1. มวี นิ ยั ความสามารถใน
1. นักเรียนดาวน์ 2. ใฝ่เรียนรู้ การสือ่ สาร
โหลดและติดตั้ง 3. มงุ่ มน่ั ในการ การคิด
โปรแกรม App
Inventor ทำงาน การแกป้ ัญหา
31
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตุวิทยา กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
5. นกั เรยี นสามารถ 1. นักเรยี นพฒั นา 1. มวี นิ ยั การใชท้ กั ษะชีวิต
การใช้เทคโนโลยี
อธบิ ายความหมาย แอปพลเิ คชัน 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ความสามารถใน
การสื่อสาร
ของวธิ กี ารการพฒั นา โปรแกรมแปลง 3. มุ่งมน่ั ในการ การคิด
การแก้ปัญหา
แอปพลเิ คชัน สกุลเงินดว้ ย App ทำงาน การใช้ทักษะชีวติ
การใช้เทคโนโลยี
โปรแกรมแปลงสกุล Inventor
ความสามารถใน
เงนิ ดว้ ย App การสื่อสาร
การคิด
Inventor ได้ การแกป้ ญั หา
การใช้ทักษะชวี ติ
ม.3/3 ประเมนิ 1. นกั เรยี นสามารถ 1. นักเรยี นต้ัง 1. มวี นิ ัย การใชเ้ ทคโนโลยี
ความนา่ เชอ่ื ถอื อธิบายวิธกี าร คำถามหาข้อมลู ที่ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ความสามารถใน
ของข้อมลู การส่อื สาร
วเิ คราะหส์ ื่อและ พิจารณาความ เกี่ยวขอ้ งกับขอ้ มลู 3. มุ่งมน่ั ในการ การคิด
การแกป้ ญั หา
ผลกระทบจาก น่าเชือ่ ถือของข้อมูล ที่ตอ้ งการโดยใช้ ทำงาน การใชท้ กั ษะชีวติ
การให้ขา่ วสารที่ การใชเ้ ทคโนโลยี
ได้ หลักการ 5W1H
ผิด เพอ่ื การใช้ ความสามารถใน
งานอยา่ งรเู้ ทา่ ทัน 2. นักเรียน การส่ือสาร
การคิด
วิเคราะห์ความ การแก้ปญั หา
การใช้ทักษะชีวิต
น่าเชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล การใช้เทคโนโลยี
ตามหลักการ ความสามารถใน
การสอ่ื สาร
วเิ คราะหข์ ้อมูล การคิด
การแกป้ ญั หา
2. นกั เรียนสามารถ 1. นกั เรียนสืบค้น 1. มวี นิ ัย การใช้ทกั ษะชีวติ
การใช้เทคโนโลยี
อธบิ ายการสบื ค้นหา หาแหล่งต้นทาง 2. ใฝ่เรียนรู้
แหล่งตน้ ทางของ ของขอ้ มูล 3. มุ่งมัน่ ในการ
ขอ้ มลู ได้ 2. นกั เรียน ทำงาน
วเิ คราะหค์ วาม
นา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล
3. นักเรียนสามารถ 1. นักเรยี นสืบคน้ 1. มีวนิ ยั
อธิบายเกย่ี วกับ หรือยกตวั อยา่ ง 2. ใฝเ่ รยี นรู้
เหตุผลวิบัติได้ เหตผุ ลวิบัติ 3. มุ่งมน่ั ในการ
ทำงาน
4. นักเรียนสามารถ 1. นกั เรียนสืบคน้ 1. มวี ินัย
ยกตัวอยา่ ง หรือยกตวั อยา่ งข่าว 2. ใฝ่เรียนรู้
ผลกระทบจาก เกีย่ วกับการกล่นั 3. มุ่งมน่ั ในการ
ขา่ วสารที่ผดิ พลาดได้ แกลง้ กนั บนโลก ทำงาน
ออกไลน์
32
โรงเรยี นวรราชาทนิ ดั ดามาตุวทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
5. นักเรยี นสามารถ ๑. นักเรยี น 1. มวี นิ ัย ความสามารถใน
การสอ่ื สาร
บอกวธิ ีการปฏิบตั ใิ ห้ วิเคราะห์ข้อมูล 2. ใฝเ่ รยี นรู้ การคิด
การแก้ปญั หา
รู้เทา่ ทันสื่อได้ ข่าวสารที่ได้รบั จาก 3. มุ่งมน่ั ในการ การใชท้ ักษะชวี ิต
การใช้เทคโนโลยี
สอ่ื โซเชยี ลมเี ดยี ทำงาน
ความสามารถใน
๒.นกั เรียน การส่อื สาร
การคิด
วเิ คราะห์หาแนว การแกป้ ญั หา
การใชท้ กั ษะชวี ติ
ทางการปฏิบัตใิ น การใช้เทคโนโลยี
การเลอื กรบั ข้อมูล ความสามารถใน
การส่อื สาร
ข่าวสารตา่ ง ๆ การคิด
การแก้ปัญหา
ม.3/4 ใช้ 1. นักเรียนสามารถ 1. นกั เรียน 1. มวี นิ ัย การใช้ทกั ษะชีวิต
เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศอย่าง บอกวิธกี ารใช้ วิเคราะห์และระบุ 2. ใฝ่เรยี นรู้
ความสามารถใน
ปลอดภยั และมี เทคโนโลยีสารสนเทศ วิธีการใชเ้ ทคโนโลยี 3. ม่งุ มน่ั ในการ การสอ่ื สาร
ความรับผดิ ชอบ การคิด
ให้ปลอดภัยได้ สารสนเทศอยา่ ง ทำงาน การแก้ปญั หา
ต่อสังคม ปฏิบตั ิ การใช้ทกั ษะชีวติ
ตามกฎหมาย ปลอดภยั การใช้เทคโนโลยี
เก่ียวกบั
ความสามารถใน
คอมพิวเตอร์ ใช้ การสอ่ื สาร
สทิ ธ์ิของผู้อ่ืนโดย การคิด
การแกป้ ญั หา
ชอบธรรม การใช้ทักษะชวี ิต
การใช้เทคโนโลยี
2.นกั เรียนสามารถ 1. นักเรียนปฏบิ ัติ 1. มวี นิ ัย
อธิบายความหมาย กิจกรรมการศึกษา 2. ใฝเ่ รียนรู้
ของการทำธุรกรรม และอธิบายเก่ียวกับ 3. มงุ่ มั่นในการ
ออนไลนไ์ ด้ การทำธุรกรรม ทำงาน
ออนไลนด์ ้วยการ
เวียนกลมุ่
3. นักเรียนสามารถ 1. นกั เรียนทำ 1. มีวินัย
อธิบายเก่ียวกับ การ กจิ กรรมการ 2. ใฝ่เรยี นรู้
ซ้อื สนิ ค้า และการซอื้ ประกอบธุรกิจใน 3. มุ่งม่ันในการ
ซอฟต์แวร์ได้ การซื้อสนิ คา้ และ ทำงาน
การซอ้ื ซอฟต์แวร์
4. นกั เรียนสามารถ 1. นักเรยี นทำ 1. มีวินยั
อธิบายเกี่ยวกบั 2. ใฝเ่ รียนรู้
ค่าบริการสมาชิกและ กจิ กรรมการสบื คน้ 3. มงุ่ มน่ั ในการ
การซอ้ื ไอเทม และยกตัวอยา่ ง ทำงาน
เกย่ี ว ค่าบรกิ าร
สมาชกิ และการซ้อื
ไอเทม
33
โรงเรยี นวรราชาทินัดดามาตุวทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
5. นักเรยี นสามารถ 1. นกั เรยี น 1. มีวนิ ัย ความสามารถใน
การสอ่ื สาร
อธบิ ายแนวทางการ วเิ คราะห์และคิดหา 2. ใฝเ่ รยี นรู้ การคิด
การแก้ปัญหา
ปฏบิ ัติ การใช้ แนวทางการใช้ 3. มงุ่ มน่ั ในการ การใช้ทักษะชวี ติ
การใช้เทคโนโลยี
เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยี ทำงาน
ความสามารถใน
อย่างมีความ สารสนเทศอย่างมี การสื่อสาร
การคิด
รับผดิ ชอบได้ ความรบั ผดิ ชอบ การแก้ปญั หา
การใช้ทกั ษะชีวติ
6. นกั เรยี นสามารถ 1. นักเรียนแสดง 1. มีวินยั การใช้เทคโนโลยี
อธิบายขอ้ กฎหมาย บทบาทสมมตหิ รอื 2. ใฝ่เรียนรู้ ความสามารถใน
การสือ่ สาร
เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ แสดงละครเกย่ี วกบั 3. มงุ่ มน่ั ในการ การคิด
การแก้ปัญหา
ได้ กฎหมายเกี่ยวกับ ทำงาน การใชท้ กั ษะชีวติ
การใช้เทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์
ความสามารถใน
ม.3/2 รวบรวม 1. นกั เรยี นสามารถ 1. นักเรียนเลือก 1. มวี นิ ยั การสื่อสาร
อธบิ ายรปู แบบการ 2. ใฝเ่ รียนรู้ การคิด
ข้อมูล รวบรวมข้อมูลได้ หวั ขอ้ และสืบค้น 3. มุง่ มัน่ ในการ การแกป้ ัญหา
ประมวลผล ขอ้ มูลจากแหล่ง ทำงาน การใช้ทักษะชวี ิต
การใช้เทคโนโลยี
ประเมินผล ปฐมภูมิ และแหล่ง
นำเสนอข้อมูล ทตุ ิยภมู ิ ความสามารถใน
และสารสนเทศ 2. นักเรียน การสอ่ื สาร
การคิด
ตามวตั ถปุ ระสงค์ วิเคราะห์เปรยี บ การแก้ปญั หา
โดยใช้ซอฟต์แวร์ ขอ้ มูลท่ไี ดจ้ าก การใชท้ กั ษะชวี ติ
การใชเ้ ทคโนโลยี
หรอื บรกิ าร แหล่งปฐมภูมิ และ
อนิ เทอร์เนต็ ที่ แหลง่ ทตุ ยิ ภูมิ
หลากหลาย
2. นกั เรียนสามารถ 1. นักเรียนใช้ 1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
อธิบายวธิ ีการ โปรแกรมในการ 3. มงุ่ ม่ันในการ
ทำงาน
ประมวลผลข้อมลู ได้ ประมวลผลข้อมลู
1. นกั เรียนสามารถ 1. นักเรียนใช้ 1. มวี นิ ัย
ระบซุ อฟตแ์ วรท์ ี่ใชใ้ น ซอฟตแ์ วรใ์ นการ 2. ใฝเ่ รยี นรู้
การแก้ปญั หาได้ แกป้ ญั หา
3. มงุ่ มั่นในการ
ทำงาน
34
โรงเรียนวรราชาทนิ ดั ดามาตวุ ิทยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คำอธบิ ายรายวชิ า
รหัสวิชา ว23201 รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ศึกษา
ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น ๆ ระบุปัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถ่ิน
ออกแบบวิธีการแก้ปญั หาภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรท่ีมีอยู่ดว้ ยเทคนิคหรือวิธีการทีห่ ลากหลายด้วย
การวางแผนขั้นตอนการทำงานเป็นอัลกอริทึม และดำเนินแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน ทดสอบและ
ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไข พร้อมทั้งหา
แนวทางในการปรบั ปรุงแกไ้ ข และนำเสนอผลการแกป้ ญั หา ใชค้ วามร้แู ละทักษะเกีย่ วกับวัสดุอุปกรณ์
เคร่อื งมอื กลไก ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ หเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน ตลอดจนการใช้งานอย่างมี
ความปลอดภัย เพื่อใหใ้ นการแกไ้ ขปัญหาหรอื พัฒนางาน
ใชซ้ อฟตแ์ วรใ์ นการพัฒนาแอปพลิเคชันทบี่ รู ณาการกับสาขาวิชาอ่ืน ๆ อย่างสร้างสรรค์ ศึกษา
ความรู้เกี่ยวกับ Internet of Things (IoT) รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล และนำเสนอ
ข้อมูลสารสนเทศโดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื บรกิ ารทางอินเทอร์เนต็ ท่หี ลากหลาย ประเมินความน่าเช่ือถือ
ของข้อมูล วิเคราะห์สื่อและผลกระทบจากการรับข้อมูลข่าวสาร รู้เท่าทันเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ใช้
ลิขสทิ ธิ์ของผู้อืน่ โดยชอบธรรม และปลอดภยั
ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้
ว 4.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4
รวม 4 ตวั ชี้วดั
35
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตวุ ทิ ยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โครงสร้างรายวชิ า
รหสั วชิ า ว23201 รายวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง
อัตราส่วนคะแนนระหว่างเรยี นกับปลายภาค 80 : 20
ลำดบั ช่อื หน่วยการ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
ท่ี เรียนรู้ (Key Concept) (ช่ัวโมง) (คะแนน)
1 การพัฒนาแอป ม.3/1 พฒั นา การพัฒนาแอปพลิเคชันใน 10 20
8 10
พลเิ คชนั แอปพลิเคชันที่ ด้านการศึกษาเพื่อให้สอดรับกับวิชา 2 20
มกี ารบรู ณาการ และการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้ MIT
กับวิชาอน่ื อย่าง App Inventor ม า ส ร ้ า ง แ ล ะ
สร้างสรรค์ ออกแบบเพอ่ื ใหร้ องรบั กับการใช้งาน
ในรูปแบบตา่ ง ๆ และเชอ่ื มต่อเข้ากับ
Internet of Things
2 การประเมนิ ม.3/3 ประเมิน การสืบคน้ หาแหลง่ ข้อมลู
ความน่าเชอ่ื ถือ ความนา่ เชอ่ื ถือ จากเครือข่ายและแหลง่ ขอ้ มูล
ของข้อมูล ของขอ้ มลู หอ้ งสมุด นำมาตรวจสอบเพ่อื
วเิ คราะห์สอ่ื และ พจิ ารณาขอ้ มูลเพอื่ ไม่ใหเ้ กิดเหตุวิบตั ิ
ผลกระทบจากการ ขนึ้ ในสังคมปัจจุบนั การหาแนวทาง
ให้ขา่ วสารทีผ่ ิด ปอ้ งกัน และรบั มอื กบั การเกดิ ปัญหา
เพือ่ การใชง้ าน ทเ่ี กดิ จากผลกระทบท่ผี ดิ พลาดและ
อยา่ งรูเ้ ท่าทนั การรเู้ ทา่ ทันสอื่
ประเมินผล (สอบกลางภาค)
3 การใช้ ม.3/4 ใช้ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 12 20
6 10
เทคโนโลยี เทคโนโลยี ให้มีความปลอดภยั เกดิ จากการ
สารสนเทศ สารสนเทศ เรียนรูด้ ้านไอทีเพ่อื ใหเ้ หมาะสม
อยา่ งปลอดภัย อย่างปลอดภยั และมคี วามปลอดภัย เพอื่ ไม่ใหเ้ กิด
และมคี วาม และมีความ การป้องกนั ภยั คุกคามในดา้ นตา่ ง ๆ
รับผดิ ชอบ รบั ผิดชอบตอ่ การป้องกนั การทำธุรกรรมออนไลน์
สงั คม ปฏิบัติ การซือ้ สินคา้ การซอ้ื ซอฟตแ์ วร์
ตามกฎหมาย คา่ บริการสมาชกิ การรู้จักกฎหมาย
เกย่ี วกับ เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ และการใช้
คอมพวิ เตอร์ สทิ ธ์ขิ องผู้อ่นื
ใช้สิทธ์ขิ องผูอ้ นื่
โดยชอบธรรม
4 ข้อมูลและ ม.3/2 รวบรวม การรวบรวมข้อมลู จาก
สารสนเทศตาม ข้อมลู แหลง่ ขอ้ มูลนำมาวเิ คราะห์ และ
วัตถปุ ระสงค์ ประมวลผล สรา้ งทางเลอื กแล้วนำไปแก้ปัญหา
ประเมินผล เพ่ือให้เกิดประโยชนต์ ่อผลลัพธ์ และ
36
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตุวิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นำเสนอขอ้ มลู นำไปใชง้ านไดง้ า่ ยดว้ ยซอฟต์แวร์จาก 2 20
และสารสนเทศ บริการบนอนิ เทอร์เน็ต โดยทำ 40 100
ตาม แบบสอบถามใน Google Forms
วตั ถุประสงค์ เพอ่ื ความรวดเร็วในการเก็บข้อมูล
โดยใช้
ซอฟตแ์ วร์หรือ
บริการ
อินเทอรเ์ น็ตที่
หลากหลาย
สรุปทบทวนภาพรวม (สอบปลายภาค)
รวม
37
โรงเรยี นวรราชาทนิ ัดดามาตุวิทยา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ตอนท่ี 2
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
38
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตวุ ิทยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1
หนว่ ยการเรยี นรเู้ รอื่ ง การพฒั นาแอปพลิเคชนั เวลา 10 ชว่ั โมง
จำนวน 1.0 หน่วยกิต
รหสั วชิ า ว23201 รายวชิ า วิทยาการคำนวณ
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่3
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปกี ารศกึ ษา 2564
ภาคเรยี นท่ี 1
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวติ จริงอย่างเป็น
ข้ันตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้
การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมี
จรยิ ธรรม
ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้
1. พัฒนาแอปพลเิ คชันทม่ี กี ารบูรณาการกับวิชาอื่นอย่างสร้างสรรค์
สาระสำคัญ (ความคิดรวบยอด)
การพัฒนาแอปพลิเคชันในด้านการศกึ ษาเพอ่ื ใหส้ อดรับกบั วิชาและการพัฒนาผเู้ รยี นโดยใช้
MIT App Inventor มาสร้างและออกแบบเพ่อื ให้รองรบั กบั การใชง้ านในรูปแบบตา่ ง ๆ และเชอื่ มต่อ
เขา้ กบั Internet of Things
สาระการเรยี นรู้
ความรู้
1. ความหมายของแอปพลิเคชนั
2. การพัฒนาแอปพลิเคชนั
3. ขน้ั ตอนการพฒั นาแอปพลิเคชนั
4. Internet of Things หรอื IoT
5. MIT App Inventor
ทกั ษะ/กระบวนการ
- การสืบค้น ศกึ ษาขอ้ มูล ดาวนโ์ หลดและ สาธิตการใช้งานแอปพลเิ คชนั ตามหวั ขอ้ ทไี่ ด้รับ
- การคดิ คน้ แอปพลเิ คชัน
- การวิเคราะห์ขั้นตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั
- การนำ Internet of Things มาประยุกตใ์ ช้ในด้านต่าง ๆ
- การนำเสนอด้วย PowerPoint
- การพฒั นาแอปพลเิ คชนั ดว้ ยโปรแกรม App Inventor
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551
รักชาติ ศาสนก์ ษัตรยิ ์ ซื่อสตั ย์สจุ รติ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้
อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มนั่ ในการทำงาน รักความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ
39
โรงเรียนวรราชาทินัดดามาตุวทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ดา้ นการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น
การอ่าน ......................................................................................................
การคิดวิเคราะห.์ ..........................................................................................
การเขียน.......................................................................................................
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคดิ
ความสามารถในการแก้ปญั หา
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ช้ินงาน/ภาระงาน
ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ความหมายของแอปพลิเคชนั
ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง การพฒั นาแอปพลิเคชัน
ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง Internet of Things
ใบงานที่ 1.4 เรอื่ ง ความรูเ้ บอ้ื งตน้ เก่ียวกับ MIT App Inventor
ใบงานที่ 1.5 เรอ่ื ง การพัฒนาแอปพลิเคชันโปรแกรมแปลงสกุลเงนิ ดว้ ย App Inventor
การประเมินผล
วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมิน
1. ตรวจประเมินใบ 1. แบบประเมิน - ครูผู้สอน 1. ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินที่ระดบั
งานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ใบงานที่ 1.1 เรื่อง - ครผู ู้สอน คุณภาพปานกลางขึ้นไป
ความหมายของแอป ความหมายของ
พลเิ คชนั แอปพลิเคชนั 1. ผ่านเกณฑ์การประเมินท่รี ะดับ
คณุ ภาพปานกลางขึ้นไป
1. ตรวจประเมินใบ 1. แบบประเมิน
งานที่ 1.2 เรอ่ื ง การ ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง 1. ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ทร่ี ะดบั
พฒั นาแอปพลเิ คชัน การพฒั นาแอป คณุ ภาพปานกลางขน้ึ ไป
พลเิ คชัน
1. ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินทรี่ ะดบั
1. ตรวจประเมนิ ใบ 1. แบบประเมิน - ครผู ู้สอน คณุ ภาพปานกลางข้ึนไป
งานที่ 1.3 เร่ือง ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง - ครูผู้สอน
Internet of Things Internet of
Things
1. ตรวจประเมินใบ
งานท่ี 1.4 เรือ่ ง 1. แบบประเมนิ
ใบงานที่ 1.4 เร่อื ง
40
โรงเรียนวรราชาทนิ ดั ดามาตวุ ทิ ยา กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความรู้เบื้องตน้ ความรเู้ บอื้ งตน้ - ครูผู้สอน 1. ผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดบั
เกยี่ วกบั MIT App เกย่ี วกบั MIT App คณุ ภาพปานกลางข้ึนไป
Inventor Inventor - ครูผู้สอน
1. ตรวจประเมนิ ใบ - ครผู ู้สอน 1. ผ่านเกณฑ์การประเมินทร่ี ะดับ
งานท่ี 1.5 เรือ่ ง การ 1. แบบประเมนิ - ครูผู้สอน คณุ ภาพปานกลางขึ้นไป
พฒั นาแอปพลเิ คชัน ใบงานที่ 1.5 เรื่อง - ครูผู้สอน 1. ผ่านเกณฑก์ ารประเมินที่ระดบั
โปรแกรมแปลงสกุล การพฒั นาแอป คณุ ภาพผ่าน (1) ข้นึ ไป
เงนิ ดว้ ย App พลเิ คชันโปรแกรม - ครผู ู้สอน
Inventor แปลงสกุลเงนิ ดว้ ย - ครูผู้สอน 1. ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ทรี่ ะดับ
1. วเิ คราะหก์ ารตอบ App Inventor - ครูผู้สอน คุณภาพผ่าน (1) ขึ้นไป
คำถามในช้ันเรียน
1. สังเกตพฤตกิ รรม 1. แบบประเมนิ
ในช้นั เรียน การตอบคำถามใน
ช้นั เรียน
1. สังเกตพฤตกิ รรม
ในช้ันเรยี น 1. แบบประเมิน
สมรรถนะทส่ี ำคัญ
ด้านความสามารถ
ในการสื่อสาร
2. แบบประเมิน
สมรรถนะที่สำคญั
ดา้ นความสามารถ
ในการคิด
3. แบบประเมิน
สมรรถนะทีส่ ำคญั
ดา้ นความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี
1. แบบประเมนิ
คุณลักษณะอันพงึ
ประสงค์ดา้ นมวี ินยั
2. แบบประเมิน
คณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์ด้านใฝ่
เรียนรู้
3. แบบประเมนิ
คณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์ดา้ นม่งุ มั่น
ในการทำงาน
41
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตวุ ทิ ยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ขัน้ นำ (10 นาท)ี
1. ครูนำเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยนำภาพแอปพลเิ คชัน เช่น Line Facebook YouTube โดยให้
นกั เรยี นตอบว่าแตล่ ะแอปพลเิ คชนั มีชอ่ื วา่ อะไร และมีไว้สำหรบั ทำอะไร
2. ครูสุ่มตวั แทนนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาเล่าประสบการณ์วา่ ในชวี ติ ประจำวันนกั เรียนใช้แอป
พลิเคชันอะไรบา้ ง โดยครแู ละนักเรียนสนทนาแสดงความคิดเห็นร่วมกนั
ข้ันสอน (30 นาท)ี
3. ครใู ห้นักเรียนแบง่ กลมุ่ 5 กลมุ่ ตามความเหมาะสม จากนัน้ แต่ละกลุ่มรว่ มกันศกึ ษาขอ้ มูล
เกย่ี วกับ ความหมายของแอปพลิเคชัน จากหนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยี ช้ัน ม.3 ของบริษัท
สำนักพิมพเ์ อมพนั ธ์ จำกดั หรอื จากเวบ็ ไซต์
4. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมาจับสลากเลอื กหวั ขอ้ เมือ่ ไดห้ ัวขอ้ แลว้ แตล่ ะกลุ่ม
รว่ มกันสบื ค้นและศกึ ษาข้อมลู ของแอปพลิเคชนั ตามหัวข้อทีไ่ ด้รบั โดยมีหวั ขอ้ ดังนี้
1. แอปพลเิ คชันด้านการเงิน
2. แอปพลเิ คชนั ด้านการศึกษา
3. แอปพลิเคชนั ด้านขา่ วสาร
4. แอปพลิเคชันดา้ นความบันเทงิ
5. แอปพลเิ คชันดา้ นสินค้าและบริการ
ชว่ั โมงท่ี 2 (30 นาที)
5. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการสืบคน้ มาจดั ทำลงใน PowerPoint พร้อมกบั
ดาวนโ์ หลดแอปพลิเคชันนัน้ ลงในสามร์ตโฟน จากนนั้ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอและสาธติ การใช้ แอป
พลิเคชัน หนา้ ชน้ั เรียน
6. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ความหมายของแอปพลิเคชัน
ขน้ั สรปุ (๑๐ นาท)ี
7. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปองคค์ วามรู้ เรื่อง ความหมายของแอปพลเิ คชัน
8. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจและเฉลยใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ความหมายของแอปพลเิ คชนั
9. ครูนดั หมายนักเรียนในการเรียนชัว่ โมงถัดไป เรอื่ ง การพฒั นาแอปพลเิ คชนั
ชว่ั โมงท่ี 3
ขั้นนำ (10 นาที)
1. ครูนำเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยนำตวั อย่างแอปพลิเคชนั 1 อย่างมาใหน้ กั เรียนดู โดยรว่ มกนั สนทนา
เกีย่ วกับแอปพลิเคชนั น้นั
2. ครูกระตุ้นความคิดของนักเรียน โดยการใช้คำถามเกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชัน เช่น
นักเรยี นคิดว่าขนั้ ตอนการพัฒนาแอปพลิเคชนั มอี ะไรบา้ ง
ขั้นสอน (30 นาท)ี
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม ตามความเหมาะสม จากนั้นแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาข้อมลู
เกี่ยวกับ การออกแบบแอปพลิเคชัน และขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน จากหนังสือเรียนวิชา
เทคโนโลยี ชน้ั ม.3 ของบริษทั สำนกั พิมพ์เอมพนั ธ์ จำกัด หรือจากเวบ็ ไซต์
42
โรงเรยี นวรราชาทนิ ดั ดามาตวุ ทิ ยา กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ระดมสมอง โดยคิดค้นแอปพลิเคชนั ที่ช่วยในการแก้ปัญหา
ข้นึ มา 1 อย่าง จากนัน้ นกั เรยี นรว่ มกันวเิ คราะหต์ ามขัน้ ตอนการพฒั นาแอปพลิเคชนั ตามหวั ขอ้ ดังนี้
1. การวางแผน (Plan)
2. การออกแบบ (Design)
3. การพฒั นาและเขียนโปรแกรม (Code)
4. การนำแอปพลเิ คชนั ไปเผยแพร่ (Deploy)
5. การสังเกตการณ์ (Monitor)
ชว่ั โมงที่ 4 (30 นาที)
5. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกลุม่ นำข้อมูลท่ีได้จากการวิเคราะห์ขนั้ ตอนการพฒั นาแอปพลิเคชัน มา
จดั ทำลงใน PowerPoint จากนน้ั ส่งตวั แทนออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรยี น
6. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง การพฒั นาแอปพลิเคชนั
ขั้นสรปุ (10 นาท)ี
7. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ องค์ความรู้ เรือ่ ง การพฒั นาแอปพลเิ คชัน
8. ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจและเฉลยใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง การพฒั นาแอปพลิเคชนั
9. ครูนัดหมายนกั เรยี นในการเรยี นชัว่ โมงถัดไป เรอื่ ง Internet of Things
ชว่ั โมงที่ 5
ขั้นนำ (10 นาท)ี
1. ครูกระตุ้นความสนใจของนกั เรียน โดยนำตัวอยา่ ง Internet of Things มาใหน้ กั เรยี นดู
2. ครูสุ่มถามนักเรียน 5 คน เกี่ยวกับการใช้ Internet of Things ในชีวิตประจำวันที่นักเรียน
เคย
ขน้ั สอน (30 นาท)ี
3. ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม 7 กลุม่ ตามความเหมาะสม จากนั้นแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมาจับ
สลากเลือกหัวข้อเกีย่ วกบั การนำ Internet of Things ไปใช้งานในดา้ นตา่ ง ๆ ดังนี้
1. การจัดการพลังงานและสาธารณูปโภค
2. ระบบสาธารณสขุ อจั ฉรยิ ะ
3. ระบบเทคโนโลยีการเงิน
4. ระบบคมนาคมและการจดั การโลจสิ ติกส์แบบอจั ฉรยิ ะ
5. การเกษตร
6. อินเทอรเ์ นต็ อุตสาหกรรม
7. บา้ นทอี่ ยูอ่ าศัย
จากนัน้ นักเรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกันศึกษาขอ้ มูลเกย่ี วกับการใช้ Internet of Things ใน
ด้านที่กลุ่มของตนเองได้รับ 1 อย่าง แล้วนำข้อมูลมาจัดทำลงใน PowerPoint แล้วส่งตัวแทนออกมา
นำเสนอหน้าช้นั เรียน
ชวั่ โมงที่ 6 (30 นาที)
4. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 1.3 เร่อื ง Internet of Things
ขัน้ สรปุ (10 นาท)ี
5 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ องคค์ วามรู้ เรอ่ื ง Internet of Things
43
โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตวุ ิทยา กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจและเฉลยใบงานท่ี 1.3 เร่ือง Internet of Things
7. ครนู ดั หมายนักเรยี นในการเรียนชวั่ โมงถัดไป เรอื่ ง MIT App Inventor
ชว่ั โมงท่ี 7
ข้นั นำ (10 นาท)ี
1. ครูกระตุ้นความสนใจของนกั เรียน โดยนำตัวอย่างแอปพลิเคชันมาให้นักเรียนดู 2-3 อย่าง
แลว้ สนทนาร่วมกนั
2. ครูยกตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้สร้างแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน MIT App Inventor ขึ้นมา
แลว้ ร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นกับนักเรยี น
ขน้ั สอน (30 นาท)ี
3. ครูให้นักเรยี นแบง่ กล่มุ 5 กล่มุ ตามความเหมาะสม (แบ่งกลุ่มโดยวธิ ีการใหน้ ักเรียนนับ 1-5
วนไปเร่อื ยจนกวา่ จะครบทุกคน จากนั้นคนทน่ี ับเลขเดยี วกันใหไ้ ปอยกู่ ล่มุ เดยี วกนั )
4. ครใู หเ้ รียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศึกษาขอ้ มลู ความรู้เบอ้ื งต้นเก่ียวกบั MIT App Inventor จาก
หนังสือเรียนวิชาเทคโนโลยี ชั้น ม.3 ของบริษัทสำนักพิมพ์เอมพันธ์ จำกัด หรือจากเว็บไซต์เพิ่มเติม
โดยศึกษาตามหวั ขอ้ ดงั น้ี
1. ความเปน็ มาของ MIT App Inventor
2. วิธกี ารดาวนโ์ หลดและตดิ ตง้ั MIT App Inventor
ชวั่ โมงท่ี 8 (30 นาท)ี
5. ครูให้นักเรียนดาวน์โหลดและติดตั้ง MIT App Inventor ลงในคอมพวิ เตอร์ (หมายเหตุ ให้
ครเู ตรียมดาวนโ์ หลดโปรแกรมมาสำรองไวก้ อ่ นการสอน เพื่อป้องกนั กรณกี ารใช้งานอินเทอรเ์ น็ตขดั ขอ้ ง)
6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน ออกมานำเสนอผลการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม
MIT App Inventor ของกลุ่มตนเองหนา้ ชนั้ เรียน โดยครูและนกั เรยี นสนทนาร่วมกัน
7. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำใบงานท่ี 1.4 เร่ือง ความรเู้ บ้อื งตน้ เก่ยี วกับ MIT App Inventor
ขั้นสรปุ (10 นาท)ี
8. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปองคค์ วามรู้ เรือ่ ง ความรู้เบือ้ งตน้ เกีย่ วกับ MIT App Inventor
9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจและเฉลยใบงานท่ี 1.4 เรอ่ื ง ความรเู้ บ้ืองต้นเกยี่ วกบั MIT App
Inventor
10. ครนู ดั หมายนกั เรียนในการเรียนช่วั โมงถัดไป เรอ่ื ง ความรู้เบอื้ งตน้ เก่ียวกบั MIT App
Inventor
ชวั่ โมงที่ 9
ขน้ั นำ (10 นาที)
1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนจากคาบที่แล้ว เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับ MIT App
Inventor
2. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสนทนาเก่ียวกับ การพัฒนาแอปพลเิ คชันโปรแกรมแปลงสกุลเงินด้วย
App Inventor
ขัน้ สอน (30 นาท)ี
3. ครูใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม ๕ กลุ่ม ตามความเหมาะสม
44
โรงเรยี นวรราชาทนิ ัดดามาตวุ ิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4. ครูให้เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศึกษาข้อมลู การพัฒนาแอปพลิเคชนั โปรแกรมแปลงสกุลเงนิ
ด้วย App Inventor จากหนงั สือเรียนวชิ าเทคโนโลยี ชน้ั ม.๓ ของบรษิ ทั สำนักพมิ พ์เอมพนั ธ์ จำกัด
หรอื จากเว็บไซตเ์ พิ่มเติม
5. ครูให้นักเรียนเขียนโปรแกรม การพัฒนาแอปพลิเคชันโปรแกรมแปลงสกุลเงินด้วย App
Inventor
ช่ัวโมงที่ 10 (30 นาที)
6. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลการเขยี นโปรแกรมแปลงสกุลเงินด้วย
App Inventor ของกลุ่มตนเอง หน้าชั้นเรยี น
7. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 1.5 เร่อื ง การพฒั นาแอปพลิเคชันโปรแกรมแปลงสกุล
เงนิ ดว้ ย App Inventor
ข้ันสรุป (10 นาท)ี
8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ เรื่อง การพัฒนาแอปพลิเคชันโปรแกรมแปลงสกุล
เงินด้วย App Inventor
9. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจและเฉลยใบงานท่ี 1.5 เรือ่ ง การพัฒนาแอปพลเิ คชันโปรแกรม
แปลงสกลุ เงนิ ด้วย App Inventor
10. ครูนดั หมายนกั เรยี นในการเรยี นชั่วโมงถดั ไป เรอ่ื ง การประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของข้อมูล
45
โรงเรยี นวรราชาทนิ ดั ดามาตุวิทยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1
รหสั วิชา ว23201 ชือ่ รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้การพัฒนาแอปพลเิ คชัน
แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง ความหมายของแอปพลเิ คชัน เวลา 2 ชวั่ โมง
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวติ จริงอย่างเป็น
ขนั้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้
การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมี
จริยธรรม
ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้
1. พัฒนาแอปพลเิ คชันทีม่ ีการบูรณาการกบั วชิ าอ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรค์
สาระสำคญั (ความคิดรวบยอด)
การพฒั นาแอปพลเิ คชนั ในดา้ นการศกึ ษาเพ่ือให้สอดรับกบั วชิ าและการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้
MIT App Inventor มาสร้างและออกแบบเพื่อใหร้ องรับกับการใชง้ านในรปู แบบตา่ ง ๆ และเชอ่ื มตอ่
เข้ากับ Internet of Things
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ความรู้
นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของการพัฒนาแอปพลิเคชนั ได้
ทักษะ/กระบวนการ
นกั เรียนสืบค้น ศกึ ษาขอ้ มูล ดาวนโ์ หลดและ สาธติ การใช้งานแอปพลิเคชนั ตามหัวข้อทีไ่ ด้รับ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
นกั เรยี นมีวนิ ัยในการทำงาน ใฝ่เรียนรูศ้ ึกษาหาความรูเ้ พม่ิ เติม และมคี วามมงุ่ มั่นในการทำงาน
พัฒนาแอปพลเิ คชนั
สาระการเรยี นรู้
ความรู้
ความหมายของแอปพลิเคชนั
ทักษะ/กระบวนการ
- การสืบคน้ ศึกษาขอ้ มลู ดาวนโ์ หลดและ สาธิตการใชง้ านแอปพลิเคชนั ตามหัวขอ้ ที่ได้รับ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจรติ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้
อยู่อย่างพอเพียง ม่งุ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ
46
โรงเรียนวรราชาทนิ ัดดามาตุวทิ ยา กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ขั้นนำ (10 นาท)ี
1. ครูนำเข้าสบู่ ทเรียนโดยนำภาพแอปพลเิ คชัน เช่น Line Facebook YouTube โดยให้
นักเรยี นตอบว่าแตล่ ะแอปพลิเคชนั มชี ่อื ว่าอะไร และมีไวส้ ำหรับทำอะไร
2. ครูสมุ่ ตวั แทนนกั เรียน 2-3 คน ออกมาเลา่ ประสบการณ์ว่าในชวี ติ ประจำวนั นกั เรียนใชแ้ อป
พลิเคชันอะไรบา้ ง โดยครแู ละนกั เรยี นสนทนาแสดงความคิดเหน็ ร่วมกัน
ขัน้ สอน (30 นาท)ี
3. ครใู หน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ 5 กลุ่ม ตามความเหมาะสม จากนัน้ แต่ละกลมุ่ ร่วมกันศึกษาขอ้ มูล
เกย่ี วกบั ความหมายของแอปพลิเคชนั จากหนังสือเรียนวชิ าเทคโนโลยี ชัน้ ม.3 ของบรษิ ัท
สำนกั พิมพเ์ อมพันธ์ จำกัด หรือจากเว็บไซต์
4. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจับสลากเลือกหัวขอ้ เมอ่ื ได้หวั ข้อแล้วแตล่ ะกลุ่ม
รว่ มกันสบื ค้นและศกึ ษาขอ้ มลู ของแอปพลิเคชันตามหวั ขอ้ ทไ่ี ดร้ บั โดยมีหวั ข้อดงั นี้
1. แอปพลิเคชนั ดา้ นการเงนิ
2. แอปพลิเคชนั ดา้ นการศกึ ษา
3. แอปพลิเคชนั ดา้ นข่าวสาร
4. แอปพลิเคชนั ด้านความบันเทิง
5. แอปพลเิ คชันด้านสนิ ค้าและบรกิ าร
ชั่วโมงที่ 2 (30 นาที)
5. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนำขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ ากการสืบค้นมาจดั ทำลงใน PowerPoint พร้อมกับ
ดาวนโ์ หลดแอปพลิเคชนั น้นั ลงในสามร์ตโฟน จากนัน้ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอและสาธติ การใช้ แอป
พลิเคชัน หน้าช้นั เรียน
6. ครูมอบหมายให้นกั เรียนทำใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ความหมายของแอปพลิเคชัน
ขน้ั สรปุ (๑๐ นาที)
7. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ องคค์ วามรู้ เร่อื ง ความหมายของแอปพลเิ คชนั
8. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจและเฉลยใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ความหมายของแอปพลเิ คชัน
9. ครูนดั หมายนกั เรียนในการเรยี นชั่วโมงถดั ไป เรอ่ื ง การพฒั นาแอปพลเิ คชัน
สือ่ การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้
1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของบริษัท
สำนกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ จำกัด
2. หนังสือเสริมฝึกประสบการณ์รายวิชาเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของ บริษัท
สำนกั พมิ พ์-เอมพันธ์ จำกัด
- ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ความหมายของแอปพลิเคชนั
การวดั ประเมนิ ผล
47
โรงเรยี นวรราชาทินดั ดามาตุวทิ ยา กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
วิธกี ารวัด เครือ่ งมือ ผูป้ ระเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน
1. ตรวจประเมนิ ใบ - ครูผู้สอน 1. ผา่ นเกณฑ์การประเมินทีร่ ะดับ
งานที่ 1.1 เรื่อง 1. แบบประเมนิ คุณภาพปานกลางข้นึ ไป
ความหมายของแอป ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง - ครผู ู้สอน
พลิเคชัน ความหมายของ - ครูผู้สอน 1. ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ทร่ี ะดบั
1. วิเคราะหก์ ารตอบ แอปพลเิ คชัน คณุ ภาพปานกลางขึ้นไป
คำถามในชั้นเรยี น - ครูผู้สอน
1. แบบประเมนิ 1. ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
1. สังเกตพฤตกิ รรม การตอบคำถามใน - ครผู ู้สอน ท่รี ะดบั คณุ ภาพผ่าน (1) ขึ้นไป
ในช้นั เรยี น ชั้นเรยี น
1. แบบประเมิน
สมรรถนะท่ีสำคัญ
ดา้ นความสามารถ
ในการสอื่ สาร
2. แบบประเมนิ
สมรรถนะท่สี ำคญั
ด้านความสามารถ
ในการคดิ
3. แบบประเมิน
สมรรถนะที่สำคัญ
ดา้ นความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี
กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี)
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
48
โรงเรยี นวรราชาทนิ ัดดามาตวุ ทิ ยา กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ใบงานที่ 1.1
เรอ่ื ง ความหมายของแอปพลิเคชนั
ช่อื -นามสกุล............................................................................................ชัน้ ........................เลขที่............
คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1.. จงอธิบายความหมายของแอปพลิเคชนั มาพอสังเขป
...............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
2. Mobile Application แบง่ ออกเป็นกีป่ ระเภท อะไรบ้าง จงอธิบายอย่างละเอียด
...........................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
3. จงยกตัวอยา่ งแอปพลิเคชันเก่ียวกับกล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คณิตศาสตร์
และศิลปะ มากลุ่มสาระการเรียนรู้ละ 1 อย่าง พร้อมทั้งอธิบายคุณลักษณะการใช้งานของแอป
พลเิ คชนั นั้น
...........................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
49