หลักสูตรโรงเรียนสมุทรพรรณชัยเทพ

คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ

วชิ า ภาษาจีนในชวี ติ ประจำวนั 4 รหัสวชิ า จ33214 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

จำนวนเวลาเรยี นท้งั ส้ิน 40 คาบ/ชั่วโมง : ภาคเรยี น

ศึกษาวิเคราะห์ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะภาษาทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดย
อา่ นออกเสยี งตวั อกั ษร คำ กลุ่มคำ ประโยคและขอ้ ความง่าย ๆ เลือกและระบุภาพ ตรงตามความหมายของคำ
กลุ่มคำ ประโยคและข้อความสั้น ๆ ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา ข้อความ หรือ บท
อ่านสั้น ๆ พูดโต้ตอบ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เลือก
และใช้คำสั่ง คำชักชวน คำขอร้องง่าย ๆ พูดและเขียนแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆ ขอ
และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ และตารางแสดงข้อมูล ใช้ถ้อยคำ
น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของจีน อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วัน
สำคัญ งานฉลองและชีวติ ความเปน็ อยู่ของชาวจนี

โดยใช้กระบวนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์กระบวนการ
กลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมไทย-จีน ด้วยการ
ถ่ายโอนความรเู้ ปน็ ประโยคงา่ ย ๆ และขอ้ ความสัน้ ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมจีน โดยเข้าร่วม
กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมจีนตามความความสนใจ มุ่งม่นั ในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย มีศักยภาพใน
การคิดและการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เพื่อการศึกษาต่อ
ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปใชใ้ นการประกอบอาชพี ได้

ผลการเรียนรู้
1. อา่ นออกเสียงตวั อักษร คำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความง่าย ๆ ได้
2. เลอื กและระบุภาพใหต้ รงตามความหมายของคำ กลุ่มคำ ประโยคและขอ้ ความส้นั ๆ
3. เลอื กและใช้คำสงั่ คำชักชวน คำขอรอ้ งง่าย ๆ
4. พดู และเขยี นแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆและให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพื่อน
ครอบครัวและเรื่องใกลต้ วั
5. ใชถ้ อ้ ยคำ น้ำเสยี งและกริ ยิ าท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของจนี
6. อธบิ ายเกีย่ วกับเทศกาล วันสำคัญ งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอย่ขู องชาวจีน
7. เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมจีนตามความสนใจ

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 495)

8. บอกความเหมือนและความแตกตา่ งของเสยี ง ตวั อกั ษร คำ กลุม่ คำ ประโยค ขอ้ ความ เคร่อื งหมาย
วรรคตอนและการเรียงลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาจนี และภาษาไทย

9. พดู ภาษาจีนสื่อสารในสถานการณ์จริง หรอื สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในห้องเรียน สถานศกึ ษาและ
ในชวี ิตประจำวนั

รวม 10 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 496)

คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

วชิ า ภาษาญ่ีปนุ่ 1 รหสั วชิ า ญ31211 จำนวน 6 คาบ/สปั ดาห์
จำนวน 3.0 หน่วยกติ
ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4

จำนวนเวลาเรยี นทงั้ สิน้ 120 คาบ/ชัว่ โมง : ภาคเรยี น

ศกึ ษาวเิ คราะหเ์ รยี นรูแ้ ละฝกึ ทกั ษะภาษาทง้ั การฟงั การพดู การอ่าน และการเขียน โดยอา่ นออกเสียง
ตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความง่าย ๆ เลือกและระบุภาพ ตรงตามความหมายของคำ กลุ่มคำ
ประโยคและข้อความสั้น ๆ ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา ข้อความ หรือ บทอ่านสั้น ๆ
พูดโต้ตอบ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เลือกและใช้
คำส่งั คำชกั ชวน คำขอรอ้ งงา่ ย ๆ พูดและเขยี นแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆ ขอและให้
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ และตารางแสดงข้อมูล ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง
และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ
งานฉลอง และชวี ิตความเป็นอยขู่ องชาวญี่ปนุ่

โดยใช้กระบวนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการ
กลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นกับ
วัฒนธรรมไทย ด้วยการถ่ายโอนความร้เู ป็นประโยคง่าย ๆ และขอ้ ความส้ัน ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเข้าร่วม
กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญป่ี นุ่ ตามความความสนใจ มุ่งม่ันในการทำงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย มีศักยภาพ
ในการคิดและการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เพื่อการศึกษาต่อ
ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้

ผลการเรยี นรู้
1. อ่านออกเสยี งตวั อักษร คำ กลมุ่ คำ ประโยคและข้อความงา่ ย ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน
2. ตอบคำถามจากการฟงั และอ่านประโยคบทสนทนา ข้อความ หรือบทอ่านสนั้ ๆ
3. เลือกและระบภุ าพใหต้ รงตามความหมายของคำ กลมุ่ คำ ประโยคและข้อความสั้น ๆ ตามทไ่ี ด้ฟังหรืออา่ น
4. พูดและเขียนด้วยคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว และ
สถานการณใ์ นชีวติ ประจำวนั
5. เลือกและใชค้ ำส่ัง คำชกั ชวน คำขอร้องงา่ ย ๆ
6. พดู และเขียนแสดงความตอ้ งการของตนเองในสถานการณง์ า่ ย ๆ
7. พดู และเขียนเพอื่ ขอและให้ข้อมลู เก่ยี วกับตนเอง เพือ่ น ครอบครัวและเร่ืองใกล้ตัว
8. ใชถ้ ้อยคำ น้ำเสียงและกิริยาทา่ ทางอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของญ่ีปุ่น

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 497)

9. อธิบายอยา่ งง่าย ๆ เก่ยี วกบั เทศกาล วนั สำคัญ งานฉลอง และชีวิตความเปน็ อยขู่ องชาวญี่ปนุ่
10. บอกความเหมือนและความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ เครื่องหมาย

วรรคตอนและการเรยี งลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาญีป่ นุ่ และภาษาไทย
11. บอกคำศัพทท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนร้อู นื่ และนำเสนอดว้ ยการพดู หรือเขียน
12. ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการค้นคว้าความรู้หรือข้อมูล จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และนำเผยแพร่หรือ

ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรยี น โดยใช้ภาษาญีป่ ่นุ อยา่ งง่าย ๆ
รวม 12 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 498)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

วิชา ภาษาญปี่ ุน่ 2 รหสั วชิ า ญ31212 จำนวน 6 คาบ/สปั ดาห์
จำนวน 3.0 หน่วยกติ
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

จำนวนเวลาเรยี นทัง้ ส้ิน 120 คาบ/ชั่วโมง : ภาคเรียน

ศึกษาวเิ คราะห์เรยี นรูแ้ ละฝกึ ทกั ษะภาษาทง้ั การฟัง การพูด การอา่ น และการเขยี น โดยอ่านออกเสียง
ตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความง่าย ๆ เลือกและระบุภาพ ตรงตามความหมายของคำ กลุ่มคำ
ประโยคและข้อความสั้น ๆ ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา ข้อความ หรือ บทอ่านสั้น ๆ
พูดโต้ตอบ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เลือกและใช้
คำสงั่ คำชกั ชวน คำขอรอ้ งงา่ ย ๆ พดู และเขยี นแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆ ขอและให้
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ และตารางแสดงข้อมูล ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง
และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ
งานฉลอง และชีวติ ความเปน็ อยขู่ องชาวญ่ปี นุ่

โดยใช้กระบวนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการ
กลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นกับ
วฒั นธรรมไทย ดว้ ยการถ่ายโอนความรเู้ ป็นประโยคงา่ ย ๆ และขอ้ ความส้ัน ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเข้าร่วม
กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญี่ป่นุ ตามความความสนใจ มุ่งมัน่ ในการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย มีศักยภาพ
ในการคิดและการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เ พื่อการศึกษาต่อ
ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชพี ได้

ผลการเรียนรู้
1. อ่านออกเสยี งตัวอกั ษร คำ กลุม่ คำ ประโยคและข้อความงา่ ย ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น
2. ตอบคำถามจากการฟงั และอ่านประโยคบทสนทนา ข้อความ หรอื บทอ่านสนั้ ๆ
3. เลือกและระบุภาพให้ตรงตามความหมายของคำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความส้นั ๆ ตามที่ได้ฟังหรือ
อ่าน
4. พูดและเขียนด้วยคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว และ
สถานการณ์ในชีวติ ประจำวัน
5. เลือกและใช้คำส่ัง คำชกั ชวน คำขอรอ้ งง่าย ๆ
6. พูดและเขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆ
7. พูดและเขยี นเพือ่ ขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 499)

8. ใช้ถอ้ ยคำ นำ้ เสยี งและกริ ิยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของญี่ปนุ่
9. อธบิ ายอย่างง่าย ๆ เกี่ยวกบั เทศกาล วันสำคญั งานฉลอง และชีวติ ความเปน็ อย่ขู องชาวญีป่ นุ่
10. บอกความเหมือนและความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ เครื่องหมาย

วรรคตอนและการเรียงลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาญ่ปี ุ่นและภาษาไทย
11. บอกคำศัพทท์ ี่เกีย่ วขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนร้อู น่ื และนำเสนอดว้ ยการพดู หรือเขยี น
12. ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการค้นคว้าความรู้หรือข้อมูล จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และนำเผยแพร่หรือ

ประชาสัมพันธข์ อ้ มูล ข่าวสารของโรงเรียน โดยใชภ้ าษาญป่ี นุ่ อย่างง่าย ๆ
รวม 12 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 500)

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ

วิชา ภาษาญี่ปุน่ 3 รหสั วชิ า ญ32211 จำนวน 6 คาบ/สัปดาห์
จำนวน 3.0 หน่วยกิต
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5

จำนวนเวลาเรียนทงั้ สน้ิ 120 คาบ/ชว่ั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาวิเคราะห์ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำอธิบายและคำบรรยายที่ฟังและอ่าน อ่าน
ออกเสียงคำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ และบทอ่านสั้น ๆ ตามหลักการอ่าน ฟังหรืออ่านข้อความที่ไม่ใช่
ความเรยี ง ในรปู แบบตา่ ง ๆ แล้วพดู หรือเขียน ตอบคำถามจากเรอ่ื งทีฟ่ งั หรืออ่าน พูดและเขียนโต้ตอบเกี่ยวกับ
ตนเอง เรื่องใกล้ตัว สถานการณ์ในชีวิตประจำวัน และประสบการณ์ พูดหรือเขียนคำขอร้อง ให้คำแนะนำ
คำขออนุญาต คำชี้แจง และคำอธิบายตามสถานการณ์ พูดและเขียนแสดงความต้องการขอและให้ความ
ช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล
บรรยาย อธิบาย และเปรียบเทียบ เกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง หรืออ่าน พูดและเขียนบรรยาย แสดงความรู้สึกของ
ตนเอง เกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว กิจกรรม และประสบการณ์ พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตร
ประจำวัน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว และประสบการณ์ พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญที่ได้จากเรื่องราว กิจกรรม
เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม หรือ เรื่องใกล้ตัว พร้อมทั้งให้
เหตุผลสั้น ๆ พูดหรืออ่าน โดยใช้น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสมกับระดับบุคคล และโอกาส
ตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรมของญ่ีปนุ่ พดู หรือเขียนจากการค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มลู ข้อเท็จจริง
ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น พูดหรือเขียนโดยใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง และ สถานการณ์
จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา และชุมชน เขียนเรื่องราวง่าย ๆ จากการใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสืบคน้
ข้อมลู จากส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ ใช้ภาษาในการสือ่ สารเพอื่ เผยแพร่ หรอื ประชาสมั พันธ์ข้อมูลข่าวสารเป็น
ภาษาญี่ปนุ่ ไดถ้ กู ต้องตาวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

โดยใช้กระบวนการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการกลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
ญปี่ นุ่ กบั วัฒนธรรมไทย ด้วยการถา่ ยโอนความรู้เป็นประโยคง่าย ๆ และข้อความสั้น ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเข้าร่วม
กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นตามความสนใจ นำภาษาและวัฒนธรรมที่ได้เรียนรู้ไปใช้อย่างมี
วิจารณญาณ และสร้างสรรค์ ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสืบค้น ค้นคว้า สรุปความรู้ หรือ ข้อมูลจากสื่อและแหล่ง
เรียนรู้ต่าง ๆ ใช้ภาษาในการสื่อสารเพื่อเผยแพร่ หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน เป็น
ภาษาญ่ีปุ่นได้ถูกต้องตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มศี ักยภาพในการคิดและการทำงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ ใช้
ภาษาญี่ปุ่นเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เพื่อการศึกษาต่อตลอดจนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการ
ประกอบอาชพี ได้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 501)

ผลการเรียนรู้
1. ปฏิบัตติ ามคำสั่ง คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำอธิบาย และคำบรรยายท่ีฟังและอ่าน
2. อา่ นออกเสียงตวั อักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ และบทอา่ นสน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
3. จบั ใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟงั และบทสนทนา บทอ่านสน้ั ๆ และเร่อื งเลา่
4. สนทนาและเขียนโต้ตอบเกีย่ วกบั ตนเอง เรือ่ งใกลต้ วั สถานการณ์ในชีวิตประจำวัน ประสบการณ์ และ
ส่ือสารอย่างต่อเน่ืองและเหมาะสม
5. พูดและเขียนแสดงความต้องการ ขอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ ปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลือ ใน
สถานการณต์ ่าง ๆ อย่างเหมาะสม
6. พูดและเขียนเพือ่ ขอและให้ข้อมลู เก่ียวกับตนเอง เรื่องใกล้ตวั เปรียบเทียบเกี่ยวกบั เรือ่ งที่ฟงั หรืออ่าน
ตามกิจกรรมและประสบการณอ์ ย่างเหมาะสม มเี หตผุ ล
7. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูล สรุปใจความสำคัญ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน
เรอื่ งใกลต้ วั กิจกรรมทอ่ี ย่ใู นความสนใจ พร้อมทัง้ เหตผุ ลสัน้ ๆ
8. ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ งานฉลอง
และชวี ิตความเป็นอยู่ของญปี่ ุ่น
9. บอกความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ข้อความ การลำดับคำตามโครงสร้างประโยค
ภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทย
10. อธิบายเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วันสำคัญ และชีวิต
ความเป็นอยู่ของญีป่ ุ่นกบั ของไทย
11. พูดภาษาญี่ปุ่นสื่อสารในสถานการณ์จริง หรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา
และชุมชน
12. ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการค้นคว้าความรู้หรือข้อมูล จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และนำเผยแพร่หรือ
ประชาสมั พนั ธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรยี น ชมุ ชน เปน็ ภาษาญ่ีป่นุ

รวม 12 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 502)

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

วิชา ภาษาญี่ปุ่น รหสั วชิ า ญ32212 จำนวน 6 คาบ/สัปดาห์
จำนวน 3.0 หน่วยกิต
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5

จำนวนเวลาเรยี นท้ังสิน้ 120 คาบ/ชวั่ โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาวิเคราะห์ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ คำอธิบายและคำบรรยายที่ฟังและอ่าน อ่าน
ออกเสียงคำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ และบทอ่านสั้น ๆ ตามหลักการอ่าน ฟังหรืออ่านข้อความที่ไม่ใช่
ความเรยี ง ในรูปแบบตา่ ง ๆ แลว้ พดู หรือเขียน ตอบคำถามจากเร่ืองทีฟ่ ังหรืออ่าน พดู และเขยี นโตต้ อบเกี่ยวกับ
ตนเอง เรื่องใกล้ตัว สถานการณ์ในชีวิตประจำวัน และประสบการณ์ พูดหรือเขียนคำขอร้อง ให้คำแนะนำ
คำขออนุญาต คำชี้แจง และคำอธิบายตามสถานการณ์ พูดและเขียนแสดงความต้องการขอและให้ความ
ช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆ พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล
บรรยาย อธิบาย และเปรียบเทียบ เกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง หรืออ่าน พูดและเขียนบรรยาย แสดงความรู้สึกของ
ตนเอง เกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว กิจกรรม และประสบการณ์ พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตร
ประจำวัน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว และประสบการณ์ พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญที่ได้จากเรื่องราว กิจกรรม
เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจ พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม หรือ เรื่องใกล้ตัว พร้อมทั้งให้
เหตุผลสั้น ๆ พูดหรืออ่าน โดยใช้น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสมกับระดับบุคคล และโอกาส
ตามมารยาทสงั คม และวฒั นธรรมของญปี่ นุ่ พดู หรอื เขียนจากการค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล ข้อเท็จจริง
ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น พูดหรือเขียนโดยใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง และ สถานการณ์
จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา และชุมชน เขียนเรื่องราวง่าย ๆ จากการใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสืบคน้
ขอ้ มูลจากสือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ใช้ภาษาในการส่ือสารเพ่ือเผยแพร่ หรอื ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเป็น
ภาษาญีป่ ุ่นได้ถูกต้องตาวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

โดยใช้กระบวนการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการกลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
ญ่ปี ุน่ กับวัฒนธรรมไทย ดว้ ยการถ่ายโอนความรู้เป็นประโยคงา่ ย ๆ และขอ้ ความสนั้ ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเข้าร่วม
กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นตามความสนใจ นำภาษาและวัฒนธรรมที่ได้เรียนรู้ไปใช้อย่างมี
วิจารณญาณ และสร้างสรรค์ ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสืบค้น ค้นคว้า สรุปความรู้ หรือ ข้อมูลจากสื่อและแห ล่ง
เรียนรู้ต่าง ๆ ใช้ภาษาในการสื่อสารเพื่อเผยแพร่ หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน เป็น
ภาษาญป่ี ุ่นได้ถูกต้องตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มศี กั ยภาพในการคดิ และการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ใช้
ภาษาญี่ปุ่นเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เพื่อการศึกษาต่อตลอดจนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการ
ประกอบอาชพี ได้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 503)

ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ัติตามคำสั่ง คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำอธบิ าย และคำบรรยายทฟ่ี งั และอา่ น
2. อา่ นออกเสยี งตวั อักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ และบทอ่านส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
3. จบั ใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟังและบทสนทนา บทอา่ นสั้น ๆ และเรือ่ งเล่า
4. สนทนาและเขียนโต้ตอบเกีย่ วกับตนเอง เรือ่ งใกลต้ วั สถานการณใ์ นชวี ติ ประจำวนั ประสบการณ์ และ
สอ่ื สารอย่างต่อเน่ืองและเหมาะสม
5. พดู และเขียนแสดงความต้องการ ขอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับ ปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือ ใน
สถานการณต์ ่าง ๆ อย่างเหมาะสม
6. พูดและเขียนเพือ่ ขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง เรื่องใกล้ตวั เปรียบเทียบเกีย่ วกับเรื่องท่ีฟงั หรืออ่าน
ตามกิจกรรมและประสบการณอ์ ย่างเหมาะสม มเี หตผุ ล
7. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูล สรุปใจความสำคัญ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน
เรอื่ งใกล้ตวั กิจกรรมทอ่ี ยู่ในความสนใจ พร้อมท้งั เหตุผลสั้น ๆ
8. ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาล วันสำคัญ งานฉลอง
และชีวติ ความเป็นอยู่ของญปี่ ุ่น
9. บอกความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ข้อความ การลำดับคำตามโครงสร้างประโยค
ภาษาญป่ี ุ่นและภาษาไทย
10. อธิบายเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วันสำคัญ และชีวิต
ความเปน็ อยู่ของญป่ี ุ่นกับของไทย
11. พูดภาษาญี่ปุ่นสื่อสารในสถานการณ์จริง หรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา
และชมุ ชน
12. ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการค้นคว้าความรู้หรือข้อมูล จากส่ือและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และนำเผยแพร่หรือ
ประชาสมั พนั ธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรยี น ชมุ ชน เปน็ ภาษาญี่ปนุ่

รวม 12 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 504)

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

วิชา ภาษาญ่ปี นุ่ ในชีวติ ประจำวนั 1 รหัสวชิ า ญ32213 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์
จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5

จำนวนเวลาเรียนทั้งสิ้น 40 คาบ/ช่วั โมง : ภาคเรียน

ศึกษาวิเคราะห์ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะภาษาทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดย
อ่านออกเสียงตวั อักษร คำ กล่มุ คำ ประโยคและขอ้ ความงา่ ย ๆ เลือกและระบภุ าพ ตรงตามความหมายของคำ
กลุ่มคำ ประโยคและข้อความสั้น ๆ ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา ข้อความ หรือ บท
อ่านสั้น ๆ พูดโต้ตอบ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เลือก
และใช้คำสั่ง คำชักชวน คำขอร้องง่าย ๆ พูดและเขียนแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆ ขอ
และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ และตารางแสดงข้อมูล ใช้ถ้อยคำ
น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วัน
สำคญั งานฉลองและชีวิตความเปน็ อยขู่ องชาวญปี่ ุ่น

โดยใช้กระบวนการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเค ราะห์
กระบวนการกลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
ญปี่ ุ่นกับวฒั นธรรมไทยดว้ ยการถ่ายโอนความรูเ้ ป็นประโยคง่าย ๆ และขอ้ ความส้ัน ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเข้าร่ วม
กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญี่ปนุ่ ตามความความสนใจ มุง่ มั่นในการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย มีศักยภาพ
ในการคิดและการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เพื่อการศึกษาต่อ
ตลอดจนสามารถนำความรไู้ ปใชใ้ นการประกอบอาชพี ได้

ผลการเรยี นรู้
1. อ่านออกเสียงตวั อกั ษร คำ กลมุ่ คำ ประโยคและขอ้ ความง่าย ๆ ได้
2. เลอื กและระบุภาพให้ตรงตามความหมายของคำ กลุม่ คำ ประโยคและข้อความสัน้ ๆ
3. เลือกและใชค้ ำสั่ง คำชกั ชวน คำขอร้องง่าย ๆ
4. พดู และเขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเองในสถานการณ์งา่ ย ๆ
5. ขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรือ่ งใกล้ตวั
6. ใชถ้ อ้ ยคำ นำ้ เสียงและกิริยาท่าทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของญ่ปี ่นุ
7. อธบิ ายเกย่ี วกับเทศกาล วนั สำคญั งานฉลอง และชวี ิตความเป็นอยู่ของชาวญปี่ ุ่น
8. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญีป่ ุน่ ตามความสนใจ

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 505)

9. บอกความเหมือนและความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ เครื่องหมาย
วรรคตอนและการเรียงลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาญ่ปี ุ่นและภาษาไทย

10. พูดภาษาญี่ปุ่นสื่อสารในสถานการณ์จริง หรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา
และในชีวิตประจำวนั

รวม 10 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 506)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ

วิชา ภาษาญ่ปี นุ่ ในชีวิตประจำวนั 2 รหัสวชิ า ญ32214 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์
จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5

จำนวนเวลาเรียนทั้งสิ้น 40 คาบ/ช่วั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาวิเคราะห์ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะภาษาทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดย
อ่านออกเสียงตวั อักษร คำ กล่มุ คำ ประโยคและขอ้ ความงา่ ย ๆ เลือกและระบภุ าพ ตรงตามความหมายของคำ
กลุ่มคำ ประโยคและข้อความสั้น ๆ ตอบคำถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา ข้อความ หรือ บท
อ่านสั้น ๆ พูดโต้ตอบ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เลือก
และใช้คำสั่ง คำชักชวน คำขอร้องง่าย ๆ พูดและเขียนแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆ ขอ
และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ และตารางแสดงข้อมูล ใช้ถ้อยคำ
น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วัน
สำคญั งานฉลองและชีวิตความเปน็ อยขู่ องชาวญป่ี ุ่น

โดยใช้กระบวนการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการกลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
ญปี่ ุ่นกับวฒั นธรรมไทยดว้ ยการถ่ายโอนความรเู้ ป็นประโยคงา่ ย ๆ และข้อความสน้ั ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเข้าร่วม
กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญี่ปนุ่ ตามความความสนใจ ม่งุ ม่นั ในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย มีศักยภาพ
ในการคิดและการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เพื่อการศึกษาต่อ
ตลอดจนสามารถนำความรไู้ ปใชใ้ นการประกอบอาชีพได้

ผลการเรยี นรู้
1. อ่านออกเสียงตวั อกั ษร คำ กลมุ่ คำ ประโยคและข้อความง่าย ๆ ได้
2. เลอื กและระบุภาพให้ตรงตามความหมายของคำ กลมุ่ คำ ประโยคและขอ้ ความสนั้ ๆ
3. เลือกและใชค้ ำสั่ง คำชกั ชวน คำขอร้องง่าย ๆ
4. พดู และเขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆ
5. ขอและใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเร่ืองใกล้ตัว
6. ใชถ้ อ้ ยคำ นำ้ เสียงและกิรยิ าท่าทางอยา่ งสภุ าพตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของญปี่ นุ่
7. อธบิ ายเกย่ี วกับเทศกาล วนั สำคญั งานฉลอง และชวี ติ ความเปน็ อยู่ของชาวญี่ปนุ่
8. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญปี่ ่นุ ตามความสนใจ

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 507)

9. บอกความเหมือนและความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ เครื่องหมาย
วรรคตอนและการเรียงลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาญ่ปี ุ่นและภาษาไทย

10. พูดภาษาญี่ปุ่นสื่อสารในสถานการณ์จริง หรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา
และในชีวิตประจำวนั

รวม 10 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 508)

คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

วชิ า ภาษาญี่ปุน่ 5 รหัสวชิ า ญ33211 จำนวน 6 คาบ/สปั ดาห์
จำนวน 3.0 หน่วยกติ
ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6

จำนวนเวลาเรยี นทง้ั ส้ิน 120 คาบ/ชัว่ โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาวิเคราะหม์ ุง่ เน้นใหผ้ ู้เรียนมีความเขา้ ใจเรื่องพื้นฐานทีเ่ ก่ียวกบั เรื่องใกล้ตัว เข้าใจข้อมูล ข่าวสาร
ฟัง พูด อ่าน เขียน ในรูปแบบต่าง ๆ เข้าใจหัวข้อที่โต้แย้งกันอยู่ อย่างช้า ๆ และชัดเจนได้เป็นส่วนใหญ่ เข้า
ใจความเหมือนและความแตกต่างทางภาษา โครงสรา้ ง สำนวน และวฒั นธรรมประเพณีระหว่างภาษาไทยและ
ภาษาญ่ปี ุ่น ฝึกให้ผ้เู รยี นมีทักษะในการใช้ภาษาง่าย ๆ ในการบรรยายเปรียบเทยี บส่ิงต่าง ๆ และเขียนคำศัพท์
สั้น ๆ ที่ตนเองกล่าวถึงได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ฟังแล้วเข้าใจในสิ่งที่ต้องการทราบ สามารถเปลี่ยน หัวเรื่องท่ี
สนทนา จับใจความง่าย ๆ สั้น ๆ จากการฟังและการอ่าน บอกความหมายของคำศัพท์จากบริบท จาก
ประสบการณ์ และเรื่องรอบตัวต่าง ๆ สนทนา โต้ตอบ ถามตอบ ใช้คำขอร้อง และเลือกใช้เทคนิคอย่างง่ายใน
การสนทนาสั้น ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นได้อย่างต่อเนื่องจนจบ ถ่ายทอดความคิดเห็นและข้อมูล เลือกปรับใช้สำนวนที่
เรียนมาให้เหมาะสม พูด คิด เขียน แสดงความรู้สึก แสดงความขอบคุณ ขอโทษ แสดงความเห็นด้วยและไม่
เห็นด้วยจากส่ิงที่อ่านและฟงั ด้วยภาษาที่ง่ายและเหมาะสม เข้าใจ ระบุประเด็น บอกหรือเขียน ใช้คำเช่ือมใน
การเชื่อมประโยคจากสิ่งท่เี ปน็ ความเรียงและไมใ่ ช่ความเรยี ง กิจกรรมของตนเอง บรรยาย ถ่ายทอด เหตุการณ์
หรือกจิ กรรมดว้ ยรปู ประโยคอย่างง่าย นำเสนอ แสดงความคดิ เหน็ การขอรอ้ ง การแลกเปล่ียนขอ้ มูลอย่างง่าย
บรรยายเกี่ยวกับแผนการ การเตรียมการ ประเพณี กิจวัตรประจำวัน เข้าร่วมสนทนาสั้น ๆ ในเรื่องที่ตนเอง
สนใจ อธิบายเรื่องที่เข้าใจด้วยท่าทาง ปฏิบัติตามคำขอร้องทั่วไป สามารถสืบค้นและถ่ายทอดข้อมูลที่เป็น
ข้อเท็จจริงอย่างง่าย แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หาข้อมูลและเขียนประโยค ออกมาในรูปอดีต ปัจจุบัน อนาคต
เกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน สถานการณ์ กิจกรรมที่เกิดขึ้นจริง ประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งของตนเอง
และผู้อื่น

โดยใช้กระบวนการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการกลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
ญ่ีปนุ่ กบั วฒั นธรรมไทย ด้วยการถ่ายโอนความรู้เป็นประโยคงา่ ย ๆ และขอ้ ความสน้ั ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนัก นำความรู้ที่ได้เรียนมาไปสร้างกระบวนการ สังเคราะห์เป็นองค์ความรู้ของ
ตนเอง ในสิ่งที่ผู้เรียนสนใจอย่างสร้างสรรค์ โดยผ่านสื่อเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้
ความเข้าใจ ความสามารถในการสื่อสารในระดับต้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในสถานการณ์ต่าง
ๆ ได้อย่างเหมาะสม และเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นต่อไป มีศักยภาพในการคิดและการ
ทำงานอย่างสรา้ งสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการค้นควา้ หาความรู้ ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปใช้ในการ
ประกอบอาชีพได้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 509)

ผลการเรยี นรู้
1. ปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำ คำช้แี จง คำอธบิ าย และคำบรรยายท่ฟี ังและอ่าน
2. อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง และนิทานถูกต้องตามหลักการอ่าน
3. พูดและเขียนแสดงความต้องการ ขอและเสนอให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความ
ช่วยเหลือในสถานการณ์จำลองหรอื สถานการณ์จริงอยา่ งเหมาะสม
4. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นของตนเอง
เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ อยา่ งมีเหตผุ ลและเหมาะสม
5. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่องและประเด็นต่าง ๆ ท่ี
อยใู่ นความสนใจของสงั คม
6. ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เพื่ออธิบายหรืออภิปราย เกี่ยวกับความเชื่อ และที่มา
ของขนบธรรมเนียมประเพณีของญี่ปนุ่
7. วิเคราะห์และอภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของ
ญปี่ ุ่นกบั ของไทย และนำไปใช้อยา่ งมเี หตุผล
8. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง หรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน
และสังคม
9. ใช้ภาษาญ่ปี ุ่นในการค้นคว้าความรู้หรือขอ้ มูล วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ
ในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ นำเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน
ชุมชนเป็นภาษาญปี่ ่นุ

รวม 9 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 510)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

วชิ า ภาษาญ่ปี ่นุ 6 รหสั วิชา ญ33212 จำนวน 6 คาบ/สัปดาห์
จำนวน 3.0 หนว่ ยกิต
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6

จำนวนเวลาเรยี นทั้งสนิ้ 120 คาบ/ช่วั โมง : ภาคเรียน

ศึกษาวิเคราะห์มุง่ เน้นใหผ้ ู้เรียนมคี วามเข้าใจเรื่องพ้ืนฐานทีเ่ กี่ยวกบั เรือ่ งใกล้ตวั เข้าใจข้อมูล ข่าวสาร
ฟัง พูด อ่าน เขียน ในรูปแบบต่าง ๆ เข้าใจหัวข้อที่โต้แย้งกันอยู่ อย่างช้า ๆ และชัดเจนได้เป็นส่วนใหญ่เ ข้า
ใจความเหมือนและความแตกตา่ งทางภาษา โครงสรา้ ง สำนวน และวฒั นธรรมประเพณรี ะหว่างภาษาไทยและ
ภาษาญี่ปนุ่ ฝึกให้ผูเ้ รยี นมีทักษะในการใชภ้ าษาง่าย ๆ ในการบรรยายเปรียบเทยี บส่ิงต่าง ๆ และเขียนคำศัพท์
สั้น ๆ ที่ตนเองกล่าวถึงได้ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ฟังแล้วเข้าใจในสิ่งท่ีต้องการทราบ สามารถเปลี่ยนหัวเรื่องท่ี
สนทนา จับใจความง่าย ๆ สั้น ๆ จากการฟังและการอ่าน บอกความหมายของคำศัพท์จากบริบทจาก
ประสบการณ์ และเรื่องรอบตัวตา่ ง ๆ สนทนา โต้ตอบ ถามตอบ ใช้คำขอร้อง และเลือกใช้เทคนิคอย่างง่ายใน
การสนทนาสั้น ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นได้อย่างต่อเนื่องจนจบ ถ่ายทอดความคิดเห็นและข้อมูล เลือกปรับใช้สำนวนที่
เรียนมาให้เหมาะสม พูด คิด เขียน แสดงความรู้สึก แสดงความขอบคุณ ขอโทษ แสดงความเห็นด้วยและไม่
เห็นด้วยจากสิ่งที่อ่านและฟัง ด้วยภาษาท่ีง่ายและเหมาะสม เข้าใจ ระบุประเด็น บอกหรือเขียน ใช้คำเชื่อมใน
การเช่ือมประโยคจากสิ่งทเ่ี ปน็ ความเรียงและไม่ใชค่ วามเรียง กจิ กรรมของตนเอง บรรยาย ถา่ ยทอด เหตกุ ารณ์
หรอื กจิ กรรมด้วยรปู ประโยคอย่างง่าย นำเสนอ แสดงความคิดเหน็ การขอร้อง การแลกเปลีย่ นขอ้ มูลอย่างง่าย
บรรยายเกี่ยวกับแผนการ การเตรียมการ ประเพณี กิจวัตรประจำวัน เข้าร่วมสนทนาส้ัน ๆ ในเรื่องที่ตนเอง
สนใจ อธิบายเรื่องที่เข้าใจด้วยท่าทาง ปฏิบัติตามคำขอร้องทั่วไป สามารถสืบค้นและถ่ายทอดข้อมูลที่เป็น
ข้อเท็จจริงอย่างง่าย แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หาข้อมูลและเขียนประโยค ออกมาในรูปอดีต ปัจจุบัน อนาคต
เกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน สถานการณ์ กิจกรรมที่เกิดขึ้นจริง ประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งของตนเอง
และผูอ้ ืน่

โดยใช้กระบวนการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการกลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
ญ่ีปุ่นกบั วฒั นธรรมไทย ด้วยการถา่ ยโอนความรเู้ ป็นประโยคง่าย ๆ และข้อความสนั้ ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนัก นำความรู้ที่ได้เรียนมาไปสร้างกระบวนการ สังเคราะห์เป็นองค์ความรู้ของ
ตนเอง ในสิ่งที่ผู้เรียนสนใจอย่างสร้างสรรค์ โดยผ่านสื่อเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้
ความเข้าใจ ความสามารถในการส่ือสารในระดับตน้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในสถานการณ์ต่าง
ๆ ได้อย่างเหมาะสม และเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นต่อไป มีศักยภาพในการคิดและการ
ทำงานอย่างสรา้ งสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครือ่ งมอื ในการค้นคว้าหาความรู้ ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปใชใ้ นการ
ประกอบอาชีพได้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 511)

ผลการเรยี นรู้
1. ปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำ คำชีแ้ จง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟงั และอา่ น
2. อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง และนทิ านถูกต้องตามหลกั การอ่าน
3. พูดและเขียนแสดงความต้องการ ขอและเสนอให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความ
ช่วยเหลือในสถานการณจ์ ำลองหรือสถานการณจ์ ริงอย่างเหมาะสม
4. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นของตนเอง
เกี่ยวกับเรือ่ งตา่ ง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ อย่างมเี หตุผลและเหมาะสม
5. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่องและประเด็นต่าง ๆ ที่
อยใู่ นความสนใจของสงั คม
6. ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เพื่ออธิบายหรืออภิปราย เกี่ยวกับความเชื่อ และที่มา
ของขนบธรรมเนยี มประเพณขี องญ่ปี ุ่น
7. วิเคราะห์และอภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของ
ญปี่ ุ่นกบั ของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล
8. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง หรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน
และสังคม
9. ใช้ภาษาญี่ปุ่นในการค้นคว้าความร้หู รือข้อมูล วเิ คราะห์และสรปุ ความรู้จากส่ือและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ
ในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ นำเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน
ชุมชนเป็นภาษาญ่ปี นุ่

รวม 9 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 512)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ

วชิ า ภาษาญีป่ นุ่ ในชีวติ ประจำวัน 3 รหัสวชิ า ญ33213 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์
จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6

จำนวนเวลาเรยี นทั้งส้ิน 40 คาบ/ช่ัวโมง : ภาคเรยี น

ศึกษาวิเคราะห์ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะภาษาทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดย
อ่านออกเสียงตวั อักษร คำ กลุ่มคำ ประโยคและขอ้ ความงา่ ย ๆ เลือกและระบภุ าพ ตรงตามความหมายของคำ
กลุ่มคำ ประโยคและข้อความสั้น ๆ ตอบค าถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา ข้อความ หรือ บท
อ่านสั้น ๆ พูดโต้ตอบ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เลือก
และใช้คำสั่ง คำชักชวน คำขอร้องง่าย ๆ พูดและเขียนแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณง์ ่าย ๆ ขอ
และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ และตารางแสดงข้อมูล ใช้ถ้อยคำ
น้ำเสียงและกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วัน
สำคญั งานฉลองและชีวิตความเปน็ อยู่ของชาวญีป่ นุ่

โดยใช้กระบวนการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์
กระบวนการกลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
ญี่ปนุ่ กบั วฒั นธรรมไทยด้วยการถา่ ยโอนความร้เู ป็นประโยคง่าย ๆ และข้อความส้ัน ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเข้าร่วม
กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญีป่ ุน่ ตามความความสนใจ มุ่งม่นั ในการทำงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย มีศักยภาพ
ในการคิดและการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เพื่อการศึกษาต่อ
ตลอดจนสามารถนำความร้ไู ปใช้ในการประกอบอาชพี ได้

ผลการเรียนรู้
1. อ่านออกเสยี งตัวอกั ษร คำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความงา่ ย ๆ ได้
2. เลอื กและระบภุ าพใหต้ รงตามความหมายของคำ กลุ่มคำ ประโยคและข้อความส้นั ๆ
3. เลือกและใชค้ ำส่งั คำชักชวน คำขอรอ้ งง่าย ๆ
4. พูดและเขยี นแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณง์ า่ ย ๆ
5. ขอและใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัวและเรือ่ งใกลต้ วั
6. ใช้ถ้อยคำ นำ้ เสียงและกิริยาท่าทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของญีป่ นุ่
7. อธบิ ายเกี่ยวกบั เทศกาล วนั สำคัญ งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยู่ของชาวญ่ีปุ่น
8. เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญีป่ นุ่ ตามความสนใจ

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 513)

9. บอกความเหมือนและความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ เครื่องหมาย
วรรคตอนและการเรียงลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาญ่ปี ุ่นและภาษาไทย

10. พูดภาษาญี่ปุ่นสื่อสารในสถานการณ์จริง หรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา
และในชีวิตประจำวนั

รวม 10 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 514)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ

วชิ า ภาษาญีป่ นุ่ ในชีวติ ประจำวัน 4 รหสั วชิ า ญ33214 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์
จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6

จำนวนเวลาเรยี นท้งั ส้ิน 40 คาบ/ชว่ั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาวิเคราะห์ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะภาษาทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดย
อ่านออกเสียงตวั อักษร คำ กลุ่มคำ ประโยคและขอ้ ความงา่ ย ๆ เลือกและระบุภาพ ตรงตามความหมายของคำ
กลุ่มคำ ประโยคและข้อความสั้น ๆ ตอบค าถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา ข้อความ หรือ บท
อ่านสั้น ๆ พูดโต้ตอบ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องใกล้ตัว และสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เลือก
และใช้คำสั่ง คำชักชวน คำขอร้องง่าย ๆ พูดและเขียนแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณ์ง่าย ๆ ขอ
และให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ และตารางแสดงข้อมูล ใช้ถ้อยคำ
น้ำเสียงและกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อธิบายเกี่ยวกับเทศกาล วัน
สำคญั งานฉลองและชีวิตความเปน็ อยขู่ องชาวญี่ปุ่น

โดยใช้กระบวนการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเค ราะห์
กระบวนการกลุ่มให้เกิดองค์ความรู้ความเข้าใจ ความเหมือนและความต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของ
ญี่ปนุ่ กบั วฒั นธรรมไทยด้วยการถา่ ยโอนความรู้เปน็ ประโยคง่าย ๆ และข้อความสัน้ ๆ

เพื่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่า และเห็นประโยชน์ของภาษา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเข้าร่วม
กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญี่ปนุ่ ตามความความสนใจ มุง่ ม่นั ในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย มีศักยภาพ
ในการคิดและการทำงานอย่างสร้างสรรค์ ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เพื่อการศึกษาต่อ
ตลอดจนสามารถนำความร้ไู ปใช้ในการประกอบอาชีพได้

ผลการเรียนรู้
1. อ่านออกเสยี งตัวอกั ษร คำ กลมุ่ คำ ประโยคและข้อความงา่ ย ๆ ได้
2. เลอื กและระบภุ าพให้ตรงตามความหมายของคำ กลุ่มคำ ประโยคและขอ้ ความส้นั ๆ
3. เลือกและใชค้ ำส่งั คำชักชวน คำขอรอ้ งงา่ ย ๆ
4. พูดและเขยี นแสดงความต้องการของตนเองในสถานการณง์ า่ ย ๆ
5. ขอและใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครัวและเรื่องใกลต้ ัว
6. ใช้ถ้อยคำ นำ้ เสียงและกิรยิ าทา่ ทางอย่างสุภาพตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของญ่ปี ุ่น
7. อธบิ ายเกี่ยวกบั เทศกาล วนั สำคัญ งานฉลอง และชีวติ ความเป็นอยขู่ องชาวญปี่ นุ่
8. เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นตามความสนใจ

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 515)

9. บอกความเหมือนและความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ เครื่องหมาย
วรรคตอนและการเรียงลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาญ่ปี ุ่นและภาษาไทย

10. พูดภาษาญี่ปุ่นสื่อสารในสถานการณ์จริง หรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา
และในชีวิตประจำวนั

รวม 10 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 516)

คำอธบิ ายรายวิชา
การศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 517)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง

วิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองคค์ วามรู้ รหัสวชิ า I20201 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดับข้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทัง้ สิน้ 40 คาบ / ชั่วโมง : ภาคเรียน

ศกึ ษา วิเคราะห์ ฝกึ ทกั ษะตั้งประเดน็ ปญั หา/ตัง้ คำถามในเรื่องท่ีสนใจโดยเริ่มจากตนเอง เช่ือมโยงจาก
ชุมชน ท้องถิ่นและประเทศ ตั้งสมมุติฐานและให้เหตุผลโดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่างๆ คันคว้าแสวงหา
ความรู้ เกยี่ วกับสมมตุ ฐิ านทต่ี ง้ั ไวจ้ ากแหล่งเรียนรทู้ ี่หลากหลาย ออกแบบวางแผน รวบรวมข้อมูล

โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลที่เหมาะสม ทำงานบรรลุผลตามเป้าหมายภายในกรอบการ
ดำเนนิ งาน ที่กำหนด โดยการกำกับดแู ล ชว่ ยเหลอื ของครูอยา่ งต่อเนอื่ ง สงั เคราะหส์ รปุ องคค์ วามรู้และร่วมกับ
เสนอแนวคิด รแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ด้วยกระบวนการคิด กระบวนการสืบคันข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ
และกระบวนการกล่มุ ในการวิพากษ์

เพื่อให้เกิดทักษะในการคันคว้าแสวงหาความรู้ เปรียบเทียบเชื่อมโยงองค์ความรู้สังเคราะห์ สรุป
อภิปราย เพอื่ ให้เหน็ ประโยชน์และคณุ ค่าของการศึกษาคนั คว้าด้วยตนเอง

ผลการเรยี นรู้
1. ตัง้ ประเด็นปัญหา โดยเลอื กประเดน็ ท่สี นใจ เริ่มจากตนเอง ชุมชนท้องถน่ิ ประเทศ
2. ตงั้ สมมติฐานประเดน็ ปัญหาท่ีตนเองสนใจ
3. ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบวนการรวบรวมขอ้ มลู อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
4. ศกึ ษา คันควา้ แสวงหาความรเู้ กี่ยวกับประเด็นท่เี ลอื ก จากแหล่งเรียนรู้ทีห่ ลากหลาย
5. ตรวจสอบความน่าเชือ่ ถือของแหล่งทม่ี ายองข้อมลู ได้
6. วิเคราะหข์ ้อต้นพบดว้ ยสถิตทิ ี่เหมาะสม
7. สงั เคราะห์สรปุ องค์ความรูด้ ้วยกระบวนการกล่มุ
8. เสนอแนวคดิ การแก้ปญั หาอย่างเป็นระบนตวั องค์ความร้จู ากการคันพบ
9. ใช้กระบวนการกลุ่มในการวพิ ากษข์ ้อสรุปองคค์ วามรู้
10. เห็นประโยชนแ์ ละคณุ ค่าของการศกึ ษาคนั คว้าตวั ยตนเอง

รวม 10 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 518)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

กล่มุ สาระการเรียนรู้ศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง

วิชา การสอื่ สารและการนำเสนอ รหัสวิชา I20202 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

จำนวนเวลาเรียนทงั้ ส้ิน 40 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรียน

ศกึ ษา เรียบเรียง และถา่ ยทอดความคดิ อยา่ งชัดเจน เป็นระบบจากข้อมูลองคค์ วามรจู้ ากการศึกษาคัน
คว้า ในรายวชิ าศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation)

โดยใช้กระบวนการ เขียนโครงร่าง บทนำ เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานเชิงวิชาการ โดยใช้คำ
จำนวน 2,500 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้อย่างหลากหลาย เรียบเรียงและถ่ายทอดอย่างชัดเจน
เป็นระบบ มีการนำเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral Panel
Presentation) โดยใช้ สือ่ ประกอบทห่ี ลากหลาย และเผยแพรผ่ ลงานสู่สาธารณะ

เพื่อให้เกิดทักษะในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็น
ประโยชนแ์ ละ คุณคา่ ในการสรา้ งสรรคง์ านและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรใู้ หเ้ ป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

ผลการเรียนรู้
1. วางโครงรา่ งการเขยี นตามหลกั เกณฑ์ องค์ประกอบและวิธกี ารเขยี นโครงรา่ ง
2. เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าเชงิ วิชาการ ภาษาไทยความยาว 2,500 คำ
3. น้ำเสนอขอ้ คันพบ ขอ้ สรปุ จากประเดน็ ที่เลอื กในรูปแบบเดย่ี ว (Oral Individual Presentation) หรือ
กล่มุ (Oral Pane! Presentation) โดยใชส้ ือ่ อุปกรณ์ในการนำเสนอได้อยา่ งเหมาะสม มีประสทิ ธิภาพ
4. เผยแพร่ผลงานการศึกษาคันคว้าในรูปแบบบทความวิชาการ บทความวิจัย นิทรรศการผลงานสู่
สาธารณะ
5. บอกประโยชน์และคณุ ค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสง่ิ ท่เี รียนรู้แก่สาธารณะ

รวม 5 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 519)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง

วิชา การศกึ ษาคนั ควา้ และสร้างองค์ความรู้ รหัสวชิ า I30201 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทั้งสน้ิ 40 คาบ / ช่วั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษา วิเคราะห์ ฝึกทักษะตั้งประเด็นปัญหา/ตั้งคำถามเกี่ยวกับสถานการณป์ ัจจุบันและสังคมโลก ต้ัง
สมมุติฐานและให้เหตุผลที่สนับสนุนหรือโต้แยังประเด็นความรู้ โดยใช้ความรู้จากศาสตร์สาขาต่างๆ และมี
ทฤษฎี รองรับ ออกแบบ วางแผน รวบรวมข้อมูล ค้นคว้าแสงหาความรู้เกี่ยวกับสมมติฐานที่ตั้งไว้จากแหล่ง
เรียนรู้ทัง้ ปฐมภมู ิ ทุติยภมู ิ และสารสนเทศ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และพิจารณาความนา่ เช่ือถือของแหล่งเรียนรู้
อย่างมี วจิ ารณญาณ เพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ทค่ี รบถว้ นสมบูรณ์

โดยใช้กระบวนการวเิ คราะหข์ ้อมูลที่เหมาะสม สังเคราะห์สรุปองค์ความรู้ร่วมกัน มีกระบวนการกลุ่ม
ในการ วิพากษ์ แลกเปลย่ี นความคิดเห็น โดยใช้ความรู้จากวิชาสาขาต่างๆ เสนอแนวคดิ วธิ กี ารแก้ปัญหาอย่าง
เป็นระบบ ด้วยกระบวนการคดิ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการปฏิบตั ิ

เพื่อให้เกิดทักษะในการค้นคว้า แสวงหาความรู้ สังเคราะห์ สรุป อภิปรายผลเปรียบเทียบเชื่อมโยง
ความรู้ ความเป็นมาของศาสตร์ เขา้ ใจหลกั การและวธิ ีคดิ ในสิ่งที่ศึกษา เห็นประโยชน์และคุณคา่ ของการศึกษา
ด้วยตนเอง

ผลการเรียนรู้
1. ตั้งประเดน็ ปญั หา จากสถานการณป์ ัจจบุ นั และสังคมโลก
2. ต้ังสมมุตฐิ านและใหเ้ หตุผลท่ีสนบั สนุนหรือโต้แย้งประเด็นความรโู้ ดยใช้ความรู้จากวิชา สาขาต่าง ๆ
และมที ฤษฎรี องรบั
3. ออกแบบ วางแผน ใชก้ ระบนการรวบรวมขอ้ มลู อยา่ งมีประสิทธิภาพ
4. ศกึ ษา คันควา้ แสวงหาความรู้เกี่ยวกบั ประเด็นที่เลอื ก จากแหล่งเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
5. ตรวจสอบความน่าเช่อื ถอื ของแหลงทม่ี าของขอ้ มูล
6. วเิ คราะห์ข้อดันพบดว้ ยสถิตทิ ่ีเหมาะสม
7. สังเคราะห์ สรปุ องค์ความรู้ด้วยกระบวนการกลุม
8. เสนอแนวคดิ การแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ระบบดว้ ยองค์ความร้จู ากการคันพบ

รวม 8 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 520)

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง

วชิ า การสือ่ สารและการนำเสนอ รหสั วชิ า I30202 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรยี นทง้ั สิน้ 40 คาบ / ช่ัวโมง : ภาคเรยี น

ศึกษา เรียบเรียง และถ่ายทอดความคิดอย่างสร้างสรรค์จากรายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้า
องค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation) เกีย่ วกับสถานการณป์ จั จบุ ันและสงั คมโลก

โดยใช้กระบวนการ เขียนโครงร่าง บทนำ เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานการศึกษาคันคว้า เชิง
วิชาการเปน็ ภาษาไทยจำนวน 4,000 คำ หรือเป็นภาษาอังกฤษ จำนวน 2,000 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ ที่
เชื่อถือได้อย่างหลากหลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรียบเรียงและถ่ายทอดสื่อสาร นำเสนอความคิด
อย่าง ชัดเจนเป็นระบบ มีการนำเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral
Panel Presentation) โดยใชส้ ือ่ เทคโนโลยีทห่ี ลากหลาย และมีการเผยแพรผ่ ลงานสูส่ าธารณะ

เพื่อให้เกิดทักษะในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นป
และคุณคา่ ในการสรา้ งสรรค์งานและถา่ ยทอตสิง่ ทีเ่ รียนรใู้ ห้เปน็ ประโยชนแ์ กส่ าธารณะ

ผลการเรียนรู้
1. วางโครงร่างการเขยี นตามหลกั เกณฑ์ องค์ประกอบและวธิ ีการเขยี นโครงรา่ ง
2. เขียนรายงานการศึกษาคันคว้าเชิงวิชาการ ภาษาไทยความยาว 4,000 คำ หรือ ภาษาอังกฤษความ
ยาว 2,000 คำ
3. นำเสนอขอ้ คนั พบ ขอ้ สรุปจากประเด็นท่ีเลือกในรปู แบบเดย่ี ว (Oral Individual Presentation) หรือ
กล่มุ (Oral Panel Presentation)
4. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ โดยใช้การสนทนา/วิพากษ์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น e-conference,
social media online
5. บอกประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ในการสร้างสรรค์งานและถา่ ยทอดส่งิ ทเี่ รียนรู้ให้เป็นประโยชน์

รวม 5 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 521)

กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 522)

โรงเรียนสมุทรพรรณชยั เทพ

รายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนตน้

รหสั วิชา รายวิชา หน่วยกติ / ช้ัน ภาค แผนการเรียน
ก21901 ชั่วโมง เรียน
ทุกแผนการเรยี น
แนะแนว 18 ชวั่ โมง ม.1 1 ทุกแผนการเรียน
ทกุ แผนการเรียน
ก21902 แนะแนว 18 ชั่วโมง ม.1 2 ทุกแผนการเรียน
ทกุ แผนการเรยี น
ก21921 ลกู เสอื 18 ชวั่ โมง ม.1 1 ทุกแผนการเรยี น
ทกุ แผนการเรียน
ก21922 ลกู เสือ 18 ชว่ั โมง ม.1 2 ทุกแผนการเรยี น
ทุกแผนการเรยี น
ก21923 เนตรนารี 18 ชั่วโมง ม.1 1 ทุกแผนการเรียน
ทกุ แผนการเรียน
ก21924 เนตรนารี 18 ช่ัวโมง ม.1 2 ทกุ แผนการเรยี น
ทุกแผนการเรยี น
ก21925 ยวุ กาชาด 18 ชั่วโมง ม.1 1 ทกุ แผนการเรยี น
ทกุ แผนการเรียน
ก21926 ยุวกาชาด 18 ชวั่ โมง ม.1 2 ทุกแผนการเรียน
ทุกแผนการเรียน
ก21941 ชมุ นุมวชิ าการ 15 ชั่วโมง ม.1 1 ทกุ แผนการเรยี น

ก21942 ชมุ นมุ วชิ าการ 15 ชั่วโมง ม.1 2

ก21961 กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 9 ชั่วโมง ม.1 1

ก21962 กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 9 ช่ัวโมง ม.1 2

ก22901 แนะแนว 18 ชว่ั โมง ม.2 1

ก22902 แนะแนว 18 ชั่วโมง ม.2 2

ก22921 ลกู เสือ 18 ชั่วโมง ม.2 1

ก22922 ลูกเสอื 18 ชัว่ โมง ม.2 2

ก22923 เนตรนารี 18 ช่ัวโมง ม.2 1

ก22924 เนตรนารี 18 ชั่วโมง ม.2 2

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 523)

โรงเรยี นสมุทรพรรณชยั เทพ

รายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนตน้

รหสั วชิ า รายวิชา หน่วยกิต/ ชั้น ภาค แผนการเรยี น
ก22925 ช่วั โมง เรียน
ทกุ แผนการเรียน
ยุวกาชาด 18 ชว่ั โมง ม.2 1 ทกุ แผนการเรียน
ทกุ แผนการเรียน
ก22926 ยุวกาชาด 18 ช่วั โมง ม.2 2 ทุกแผนการเรียน
ทุกแผนการเรียน
ก22941 ชุมนมุ วชิ าการ 15 ชั่วโมง ม.2 1 ทุกแผนการเรียน
ทุกแผนการเรยี น
ก22942 ชมุ นมุ วชิ าการ 15 ช่ัวโมง ม.2 2 ทุกแผนการเรยี น
ทุกแผนการเรยี น
ก22961 กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 9 ชว่ั โมง ม.2 1 ทกุ แผนการเรยี น
ทกุ แผนการเรยี น
ก22962 กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ 9 ชัว่ โมง ม.2 2 ทกุ แผนการเรยี น
ทุกแผนการเรยี น
ก23901 แนะแนว 18 ชั่วโมง ม.3 1 ทุกแผนการเรยี น
ทกุ แผนการเรยี น
ก23902 แนะแนว 18 ชว่ั โมง ม.3 2 ทกุ แผนการเรยี น
ทุกแผนการเรยี น
ก23921 ลกู เสอื 18 ชั่วโมง ม.3 1 ทุกแผนการเรยี น

ก23922 ลูกเสอื 18 ชั่วโมง ม.3 2

ก23923 เนตรนารี 18 ช่ัวโมง ม.3 1

ก23924 เนตรนารี 18 ชั่วโมง ม.3 2

ก23925 ยวุ กาชาด 18 ชว่ั โมง ม.3 1

ก23926 ยวุ กาชาด 18 ชว่ั โมง ม.3 2

ก23941 ชุมนุมวิชาการ 15 ช่ัวโมง ม.3 1

ก23942 ชุมนุมวิชาการ 15 ช่วั โมง ม.3 2

ก23961 กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 9 ชั่วโมง ม.3 1

ก23962 กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ 9 ชั่วโมง ม.3 2

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 524)

โรงเรียนสมุทรพรรณชยั เทพ

รายวิชากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลาย

รหสั วิชา รายวชิ า หน่วยกิต/ ชน้ั ภาค แผนการเรยี น
ก31901 ช่ัวโมง เรยี น
ทกุ แผนการเรียน
แนะแนว 18 ชว่ั โมง ม.4 1 ทกุ แผนการเรียน
ทกุ แผนการเรียน
ก31902 แนะแนว 18 ชว่ั โมง ม.4 2 ทกุ แผนการเรียน
ทุกแผนการเรียน
ก31921 รักษาดินแดน 15 ชั่วโมง ม.4 1 ทกุ แผนการเรียน
ทกุ แผนการเรียน
ก31922 รักษาดินแดน 15 ช่ัวโมง ม.4 2 ทุกแผนการเรยี น
ทุกแผนการเรยี น
ก31923 กจิ กรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์เพ่ือสาธารณะ 15 ชั่วโมง ม.4 1 ทุกแผนการเรยี น
ทกุ แผนการเรียน
ก31924 กิจกรรมบําเพ็ญประโยชนเ์ พ่อื สาธารณะ 15 ชว่ั โมง ม.4 2 ทกุ แผนการเรียน
ทกุ แผนการเรยี น
ก31941 ชมุ นมุ วิชาการ 15 ช่วั โมง ม.4 1 ทุกแผนการเรยี น
ทุกแผนการเรยี น
ก31942 ชมุ นุมวิชาการ 15 ชว่ั โมง ม.4 2 ทุกแผนการเรยี น
ทุกแผนการเรียน
ก31961 กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ 12 ชั่วโมง ม.4 1 ทุกแผนการเรยี น

ก31962 กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 12 ช่ัวโมง ม.4 2

ก32901 แนะแนว 18 ชว่ั โมง ม.5 1

ก32902 แนะแนว 18 ชั่วโมง ม.5 2

ก32921 รกั ษาดนิ แดน 15 ชั่วโมง ม.5 1

ก32922 รกั ษาดนิ แดน 15 ชั่วโมง ม.5 2

ก32923 กิจกรรมบาํ เพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะ 15 ชว่ั โมง ม.5 1

ก32924 กจิ กรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์เพื่อสาธารณะ 15 ช่วั โมง ม.5 2

ก32925 ชมุ นุมวิชาการ 15 ชั่วโมง ม.5 1

ก32926 ชมุ นุมวชิ าการ 15 ช่ัวโมง ม.5 2

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 525)

โรงเรยี นสมทุ รพรรณชัยเทพ

รายวิชากจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ระดับชนั้ มัธยมศึกษาตอนปลาย

รหัสวชิ า รายวิชา หน่วยกิต/ ชั้น ภาค แผนการเรยี น
ก32941 ชว่ั โมง เรยี น
ทุกแผนการเรยี น
กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 12 ช่ัวโมง ม.5 1 ทกุ แผนการเรียน
ทกุ แผนการเรียน
ก32942 กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 12 ชั่วโมง ม.5 2 ทกุ แผนการเรียน
ทกุ แผนการเรียน
ก33901 แนะแนว 18 ช่วั โมง ม.6 1 ทกุ แผนการเรียน
ทกุ แผนการเรียน
ก33902 แนะแนว 18 ชว่ั โมง ม.6 2 ทุกแผนการเรยี น
ทกุ แผนการเรยี น
ก33921 รกั ษาดินแดน 15 ช่ัวโมง ม.6 1 ทุกแผนการเรียน
ทุกแผนการเรยี น
ก33922 รักษาดินแดน 15 ช่ัวโมง ม.6 2 ทกุ แผนการเรียน

ก33923 กจิ กรรมบําเพญ็ ประโยชนเ์ พ่อื สาธารณะ 15 ชั่วโมง ม.6 1

ก33924 กิจกรรมบาํ เพ็ญประโยชน์เพ่ือสาธารณะ 15 ช่วั โมง ม.6 2

ก33941 ชมุ นมุ วิชาการ 15 ชั่วโมง ม.6 1

ก33942 ชมุ นมุ วชิ าการ 15 ชั่วโมง ม.6 2

ก33961 กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ 12 ช่วั โมง ม.6 1

ก33962 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 12 ชว่ั โมง ม.6 2

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 526)

กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน

กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น มงุ่ ใหผ้ ู้เรยี นได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้าน เพื่อความเป็น
มนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มศี ีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบ
วินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่น
อยา่ งมีความสุข

โรงเรียนสมทุ รพรรณชัยเทพ จัดกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นโดยแบง่ เปน็ ๓ ลกั ษณะ ดังน้ี
๑. กิจกรรมแนะแนว เปน็ กจิ กรรมท่ีส่งเสริมและพฒั นาผู้เรียนให้ร้จู ักตนเอง ร้รู กั ษส์ ง่ิ แวดล้อม สามารถ
คิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่าง
เหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่
ผปู้ กครองในการมีสว่ นร่วมพัฒนาผู้เรยี นโดยนักเรียนทุกคนต้องเข้ารว่ มกิจกรรมแนะแนว ๑๘ ชว่ั โมงตอ่ ภาคเรยี น
๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ความ
รับผิดชอบ การทำงานรว่ มกนั การรู้จักแกป้ ญั หา การตัดสินใจทเ่ี หมาะสม ความมีเหตผุ ล การช่วยเหลือแบ่งปนั
กัน เอื้ออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกบั ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้
ไดป้ ฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ กรศึกษาวิเคราะหว์ างแผน ปฏบิ ัตติ ามแผน ประเมนิ และปรับปรุงการ
ทำงาน เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน บริบทของ
สถานศึกษาและท้องถิ่น โดยนักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมนักเรียน ๔๒ ชั่วโมงต่อภาคเรียน กิจกรรม
นกั เรียนประกอบด้วย

๒.๑ กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารแี ละยุวกาชาด โดยนักเรยี นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นทุกคนต้องเข้า
รว่ มกจิ กรรมลูกเสอื หรือ เนตรนารี หรือ ยวุ กาชาด อยา่ งใดอย่างหนง่ึ ๑๘ ชัว่ โมงต่อภาคเรยี น

๒.๒ กิจกรรมนักศึกษาวิชาทหารและกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะโดยนักเรียนระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลายทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษาวิชาทหาร หรือ กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพ่ือ
สาธารณะ อย่างใดอยา่ งหนง่ึ ๑๕ ชัว่ โมงต่อภาคเรยี น

๒.๓ กิจกรรมชุมนุมวิชาการ โดยนักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมวิชาการ ๑๕ ชั่วโมงต่อ
ภาคเรยี น

๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์และกิจกรรมการนำองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจใน
ลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตสาธารณะ เช่น
กิจกรรมอาสาพฒั นาต่าง ๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม สำหรบั นักเรยี นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นทุกคนต้องเข้า

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 527)

ร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รวม ๔๕ ชั่วโมงตลอดหลักสูตร สำหรับนักเรียนระดับ
มธั ยมศึกษาตอนปลายทุกคนต้องเขา้ ร่วมกจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ รวม ๖๐ ชัว่ โมงตลอดหลักสตู ร

ทั้งนี้ การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน จะพิจารณาทัง้ เวลาการเขา้ รว่ มกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรม
และผลงานของผู้เรยี น ตามเกณฑท์ ่ีกำหนด และให้ผลการเขา้ รว่ มกิจกรรมเปน็ ผา่ น หรอื ไมผ่ า่ น ดังนี้

๑. การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นรายกจิ กรรม มแี นวปฏิบตั ดิ งั นี้
๑.๑ ตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของผเู้ รียนให้เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนด
๑.๒ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะของ

ผเู้ รียนตามกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากำหนดดว้ ยวิธกี ารทีห่ ลากหลาย เน้นการมสี ่วนร่วมในการปฏิบัตกิ จิ กรรม
๑.๓ ผู้เรียนที่มีเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม มีการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ช้ินงาน/คุณลักษณะ

ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดเป็นผู้ผ่านการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนรายกิจกรรมและนำผลการ
ประเมนิ ไปบนั ทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรียน

๑.๔ ผู้เรียนที่มีผลการประเมินไม่ผ่านในเกณฑ์เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและ
ผลงาน/ชิ้นงาน/คุณลักษณะตามที่สถานศึกษากำหนดการประเมินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ครูหรือ
ผู้รับผิดชอบต้องดำเนินการซ่อมเสริมและประเมินจนผ่าน ทั้งนี้ควรดำเนินการให้เสร็จสิ้นในปีการศึกษานั้น
ยกเว้นมีเหตสุ ดุ วิสยั ให้อยใู่ นดุลพินิจของคณะกรรมการบรหิ ารวชิ าการ

๒. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อการตัดสิน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อตัดสิน
เลื่อนชั้นและจบการศึกษาเป็นการประเมินการผ่านกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนเป็นรายปี/รายภาค เพื่อสรุปผลการ
ผ่านในแตล่ ะกจิ กรรม สรุปผลรวม เพ่ือสรปุ ผลการผา่ นในแตล่ ะกิจกรรม สรปุ ผลรวมเพื่อเลอ่ื นช้ันและประมวล
ผลรวมในปีสุดทา้ ยเพอื่ การจบแต่ละระดบั การศกึ ษา โดยการดำเนนิ การดังกลา่ วมแี นวทางปฏิบตั ิ ดังน้ี

๒.๑ กำหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของ
ผู้เรยี นทุกคนตลอดระดบั การศึกษา

๒.๒ ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินผลการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเป็นรายบุคคลตาม
เกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนด เกณฑก์ ารจบแตล่ ะระดบั การศึกษาทส่ี ถานศึกษากำหนด ผู้เรียนต้องผ่านกิจกรรม
๓ กจิ กรรมสำคญั คอื กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรยี น และกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์

๒.๓ ผู้รับผิดชอบเสนอผลการประเมินต่อคณะอนุกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรม
พัฒนาผูเ้ รยี นเพื่อให้ความเห็นชอบ

๒.๔ ผู้รับผิดชอบเสนอผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณาเพื่ออนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพัฒนา
ผู้เรยี นผ่านเกณฑก์ ารจบแตล่ ะระดับการศกึ ษา

๓. เกณฑ์การตัดสนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
๓.๑ เกณฑ์การตดั สนิ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี นรายภาค

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 528)

ผ่าน หมายถึง ผูเ้ รียนมผี ลการประเมินระดับ "ผา่ น" ในกจิ กรรมสำคัญท้ัง ๓ กจิ กรรม คือ กิจกรรม
แนะแนว กจิ กรรมนกั เรียน และกจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์

ไม่ผ่าน หมายถงึ ผเู้ รยี นมีผลการประเมินระดบั "ไมผ่ ่าน" ในกิจกรรมสำคัญใดกจิ กรรมหน่ึงใน
๓ กจิ กรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรียน และกิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์

๓.๒ เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นเพอ่ื จบระดบั การศึกษา
ผ่าน หมายถึง ผเู้ รยี นมีผลการประเมินระดบั "ผา่ น" ทกุ ชน้ั ปีในระดับการศึกษานนั้
ไม่ผ่าน หมายถงึ ผูเ้ รียนมีผลการประเมนิ ระดบั "ไมผ่ า่ น" บางชน้ั ปใี นระดบั การศึกษาน้นั

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 529)

เกณฑ์การจบการศกึ ษา

๑. เกณฑ์การจบระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
๑.๑ ผู้เรียนเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานและเพิม่ เติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๖๖ หน่วยกิต และรายวิชา

เพมิ่ เติมตามท่กี ำหนดในโครงสรา้ งหลักสตู รชั้นปี
๑.๒ ผู้เรียนต้องได้หนว่ ยกิตตลอดหลกั สตู รไม่น้อยกวา่ ๗๗ หน่วยกติ โดยเป็นรายวิชาพืน้ ฐาน ๖๖

หน่วยกิต และรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๑ หนว่ ยกิต
๑.๓ ผ้เู รยี นตอ้ งมผี ลการประเมิน การอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น ในระดับ "ผ่าน" ข้นึ ไป
๑.๔ ผเู้ รียนต้องมผี ลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ในระดับ "ผ่าน" ขน้ึ ไป
๑.๕ ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนครบถ้วนตามที่กำหนด และได้รับการตัดสินผลการ

เรียน "ผ่าน" ทุกกจิ กรรม
๒. เกณฑก์ ารจบระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
๒.๑ ผู้เรียนเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพืน้ ฐาน ๔๑ หน่วยกิต และรายวิชา

เพมิ่ เติมตามทก่ี ำหนดในโครงสร้างหลักสูตรชน้ั ปี
๒.๒ ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวชิ าพืน้ ฐาน ๔๑

หนว่ ยกิต และรายวิชาเพิม่ เติม ไม่นอ้ ยว่า ๓๖ หน่วยกติ
๒.๓ ผู้เรยี นตอ้ งมีผลการประเมิน การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับ "ผา่ น" ขน้ึ ไป
๒.๔ ผู้เรยี นต้องมีผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ในระดับ "ผ่าน" ขึ้นไป
๒.๕ ผู้เรียนต้องเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนครบถ้วนตามที่กำหนด และได้รับการตัดสินผลการ

เรียน "ผ่าน" ทกุ กจิ กรรม

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 530)

คำสงั่ โรงเรยี นสมทุ รพรรณชัยเทพ
ที่ ๐๑๒/๒๕๖๔

เรือ่ ง แต่งตัง้ คณะกรรมการจัดทำหลกั สตู รสถานศึกษา ขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
(ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๑)

……………………………………………………
ตามทีก่ ระทรวงศึกษาธิการได้ออกคำส่ังที่ สพฐ.๑๒๓๙/๒๕๖๐ เรื่องการใชม้ าตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้วี ดั
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ลงวันที่ ๗
สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๐ เพื่อให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรม สภาพแวดลอ้ มและความกา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เปน็ การเสริมสรา้ งศักยภาพคนของชาติ
ยกระดับคุณภาพการศึกษาในระดับสากล สอดคล้องกับประเทศไทย ๔.๐ โลกในศตวรรษที่ ๒๑ และทัดเทียมกับ
นานาชาติ ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขันและดำรงชีวิตอย่างสร้างสรรค์ในประชาคมโลกตามปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง กำหนดให้ทุกโรงเรียนเริ่มใช้หลักสูตรนี้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑, ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ และช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ และให้ครบทุกระดับชั้นในปีการศึกษา ๒๕๖๖ นั้น เพื่อให้โรงเรียนสมุทร
พรรณชัยเทพ สามารถใช้หลักสูตรสถานศึกษาที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางดังกล่าว จึงแต่งตั้งคณะกรรมการ
ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๑) ของโรงเรียนสมุทรพรรณ
ชัยเทพ ดงั ต่อไปนี้

๑. คณะผู้จัดทำ ๖๒๒๑๑๕๔๐๐๖ เลขที่ ๔ ประธานกรรมการ
๖๒๒๑๑๕๔๐๑๙ เลขที่ ๑๓ กรรมการ
๑.๑ นางสาวชุตมิ นต์ จรุงพรโสภา ๖๒๒๑๑๕๔๐๓๒ เลขที่ ๑๘ กรรมการ
๑.๒ นางสาวสุจิตตรา พศิ วงษ์ ๖๒๒๑๑๕๔๐๔๕ เลขท่ี ๒๓ กรรมการ
๑.๓ นางสาวมณีรัตน์ สทิ ธิ ๖๒๒๑๑๕๔๐๔๙ เลขท่ี ๒๔ กรรมการ
๑.๔ นางสาวชลธชิ า ใหม่พระเนตร ๖๒๒๑๑๕๔๐๔๒ เลขท่ี ๒๒ กรรมการและเลขานุการ
๑.๕ นางสาวสกาวเดอื น แต้มทอง
๑.๖ นางสาววิรฎา ทมุ โยมา

ขอให้ผู้ทไ่ี ด้รับการแตง่ ต้งั ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีอยา่ งเต็มความสามารถ ก่อประโยชน์สูงสุดต่อราชการสบื ไป

ส่ัง ณ วันท่ี ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

(นางสาวชตุ มิ นต์ จรงุ พรโสภา)
ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นสมทุ รพรรณชัยเทพ

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 531)

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 532)

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 533)