The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนสมุทรพรรณชัยเทพ เป็นหลักสูตรจำลอง ที่มีเรฟมาจากหลักสูตรแกนกลางมาตรฐาน และได้ดราฟมากจากหลักสูตรโรงเรียนบดินทร์เดชาฯ เพื่อส่งในรายวิชาพัฒนาหลักสูตร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wirada70, 2021-05-25 08:55:14

หลักสูตรโรงเรียนสมุทรพรรณชัยเทพ

หลักสูตรโรงเรียนสมุทรพรรณชัยเทพ เป็นหลักสูตรจำลอง ที่มีเรฟมาจากหลักสูตรแกนกลางมาตรฐาน และได้ดราฟมากจากหลักสูตรโรงเรียนบดินทร์เดชาฯ เพื่อส่งในรายวิชาพัฒนาหลักสูตร

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศเพม่ิ เติม 1 รหสั วิชา ว31271 จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์

ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรียนทัง้ ส้นิ 20 คาบ / ช่ัวโมง : ภาคเรียน

ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์โลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก ใช้ความรู้เรื่องสมบัติทางกายภาพ

และทางเคมีในการจำแนกแร่ และหิน ศึกษาการหาอายุทางธรณีวิทยา ตารางธรณีกาล และกลุ่มหินที่สำคัญ

ของประเทศไทย ศึกษาธรณีโครงสร้างจากแนวแตกแนวเลื่อน หรือแนวโค้ง ที่เกิดจากความเค้นดึง ความเค้น

บีบอัด และความเค้นเฉอื น แปลความหมายของแผนทีภ่ ูมิประเทศ แผนที่ธรณีวทิ ยา และแผนที่อืน่ ๆ หาเสน้

ชั้นความสูง ประยุกต์ความรู้เกี่ยวกับแผนที่ ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ศึกษาแหล่งทรัพยากรพลังงาน

ทรัพยากรโลหะ และทรัพยากรอโลหะ ประยุกต์ความรู้เร่ืองทรัพยากรไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ศึกษา

เกี่ยวกับแผ่นดินไหว สึนามิ แผ่นดินถล่ม แผ่นดินทรุด หลุมยุบ น้ำท่วม และภัยแล้ง ทำความเข้าใจธรรมชาติ

ของธรณีพิบัติภัยเพ่อื เตรยี มพร้อมรับสถานการณ์

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การสงั เกต การ

วิเคราะหก์ ารอภิปราย การอธิบายและสรปุ ทกั ษะดา้ นการอา่ น (Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ

(Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking &

Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์(Creativity) ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และ

ภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

และการสอ่ื สาร (Computing & Media Literacy) ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning Self-reliance)

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำ

ความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ถูกต้องเหมาะสม โดย

ม่งุ เน้นความเปน็ ไทยควบคกู่ ับความเปน็ สากล

ผลการเรยี นรู้
1. สืบค้นข้อมูล และอธิบายความหมายของวิทยาศาสตร์โลก และกระบวนการต่าง ๆ ทางธรณีวิทยาที่
เกดิ ขน้ึ ทำใหโ้ ลกมีการเปลี่ยนแปลงตงั้ แตอ่ ดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน
2. สืบค้นข้อมูล อภิปรายความหมาย สมบัตแิ ละการเกดิ แรแ่ ละหนิ
3. สบื ค้น อภิปรายและอธิบายเกยี่ วกบั การแบง่ เวลาของโลกและการทำธรณปี ระวัติของโลก
4. ทดลองเลียนแบบ อภปิ ราย และอธิบายการเปลี่ยนลกั ษณะของธรณโี ครงสร้าง

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 195)

5. สืบค้น และอภิปรายเกี่ยวกับความหมายของสัญลักษณ์ต่าง ๆ การสร้างแผนที่ภูมิประเทศ แผนท่ี
ธรณวี ิทยาและแผนที่อ่นื ๆ รวมถึงประโยชน์ของแผนท่ีดังกลา่ ว

6. สบื คน้ ข้อมูล และอภิปรายเกยี่ วกับทรพั ยากรธรณขี องประเทศไทยกลุ่มต่าง ๆ และการใชป้ ระโยชน์
7. สืบค้นข้อมูล และอภิปรายเกี่ยวกับแผ่นดิน สึนามิ แผ่นดินถล่ม น้ำท่วม สาเหตุและการปฏิบัติตนให้

ปลอดภยั จากการเกดิ ธรณีพิบัติดังกลา่ ว
รวม 7 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 196)

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศเพิ่มเติม 2 รหสั วิชา ว31272 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรียนทั้งสนิ้ 40 คาบ / ชวั่ โมง : ภาคเรียน

ศึกษาองค์ประกอบของอากาศ ชั้นบรรยากาศ การหมุนเวียนของระบบลมของโลก ปัจจัยการเกิดลม

แบบจำลองการหมุนเวียนของระบบลมของโลก การหมนุ เวียนของนำ้ ในมหาสมุทร การแบ่งชั้นนำ้ ในมหาสมุทร

เมฆ และการเกิดเมฆ เสถียรภาพของอากาศ แนวปะทะอากาศ พายฝุ นฟา้ คะนอง ทอรน์ าโด พายุหมนุ เขตร้อน

การเกิดมรสุม อิทธิพลของมรสุมต่อประเทศไทย ร่องมรสุม ปรากฏการณ์เอลนีโญ และลานีญา ปรากฏการณ์

เรือนกระจก คลื่นความร้อน การตรวจอากาศ ขั้นตอนในการพยากรณ์อากาศ วิธีการพยากรณ์อากาศ แผนท่ี

อากาศ แสงและสมบตั ิทางแสง สขี องท้องฟา้ ร้งุ อาทิตยท์ รงกลดจนั ทร์ทรงกลด และมิราจ

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสบื ค้นข้อมลู การสังเกต การ

วิเคราะห์ การอภิปราย การอธิบายและสรุป ทักษะด้านการอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การคิด

คำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking

& Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์(Creativity) ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทีม และ

ภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

และการสอ่ื สาร (Computing & Media Literacy) ทักษะการเรียนรู้ (Learning Self-reliance)

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนำ

ความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ถูกต้องเหมาะสม โดย

มุ่งเน้นความเปน็ ไทยควบคู่กบั ความเป็นสากล

ผลการเรียนรู้
1. สบื คน้ ขอ้ มลู วิเคราะห์ อภิปราย และอธิบายเก่ียวกบั องคป์ ระกอบของอากาศ การแบง่ ช้ันบรรยากาศ
และอทิ ธพิ ลของชนั้ บรรยากาศทมี่ ตี อ่ โลก
2. ทดลอง สบื ค้น อภปิ ราย และอธบิ ายระบบลมของโลก พรอ้ มระบปุ ัจจัยท่ีเก่ยี วขอ้ ง
3. ทดลอง สืบค้น อภิปราย และอธิบายการหมุนเวียนของกระน้ำในมหาสมุทร พร้อมทั้งระบุปัจ จัยท่ี
เก่ยี วขอ้ ง
4. ทดลอง สบื ค้น อภิปราย และอธิบายการเกิดเมฆ เสถียรภาพของอากาศและแนวปะทะอากาศ
5. สบื ค้น อภปิ ราย และอธิบายการเกิดพายฝุ นฟา้ คะนอง ทอร์นาโด พายุหมนุ เขตรอ้ น มรสุม ผลกระทบ
และแนวทางปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั จากพายตุ า่ ง ๆ

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 197)

6. สบื คน้ อภปิ ราย และอธบิ ายการเกดิ ความแปรปรวนของอากาศ และผลต่อส่งิ มชี ีวติ และสิ่งแวดล้อม
7. สืบคน้ อภปิ ราย และอธบิ ายการพยากรณอ์ ากาศ และลกั ษณะอากาศจากแผนที่อากาศ
8. ทดลอง สืบค้น อภิปรายและอธิบายปรากฏการณ์ทางแสงในทอ้ งฟา้
รวม 8 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 198)

คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา พน้ื ฐานการเขยี นโปรแกรม รหัสวิชา ว31285 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1.0 หน่วยกิต

จำนวนเวลาเรียนท้ังสิ้น 40 คาบ / ช่ัวโมง : ภาคเรียน

ศึกษาหลักการและขั้นตอนการเขียนโปรแกรม โดยใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ในการแก้ปัญหาหรือสร้าง

ผลงานต่าง ๆ เช่น การทำแอนิเมชัน การจำลองทางวิทยาศาสตร์ เกม ดนตรี ศิลปะ และการสร้างสื่อแบบมี

ปฏิสัมพันธ์ ด้วยหลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น แบบมีโครงสร้างและส่วนประกอบของโปรแกรม การใช้

ชุดคำสั่งพ้นื ฐาน

สามารถติดตั้งโปรแกรม ออกแบบสร้างชิ้นงาน และสร้างโครงงาน โดยการเขียนโปรแกรมด้วย

โครงสร้างแบบลำดบั เงอื่ นไข และวนซ้ า การใช้งานตัวแปร ตัวดำเนินการ

เพื่อให้มีความรู้และสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหา การสร้าง การนำเสนอ

ช้ินงานจากจนิ ตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ อย่างมีคณุ ธรรมและจริยธรรม

ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายข้ันตอนและเขียนโปรแกรมส่ังงานคอมพวิ เตอร์
2. ใช้คำสงั่ พ้ืนฐานในการเขียนโปรแกรม
3. กำหนดและใช้งานตัวแปร
4. ใชโ้ ครงสร้างแบบลำดับ เงอ่ื นไข และวนซ้ า
5. สรา้ งชนิ้ งานจากจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์

รวม 5 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 199)

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา คอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ รหสั วชิ า ว31286 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรียนท้ังสนิ้ 40 คาบ / ช่วั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาวิเคราะห์ความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก การใช้งานซอฟต์แวร์ด้าน

กราฟกิ ออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานด้านศลิ ปะ อยา่ งมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม

โดยใช้กระบวนการปฏิบัติการออกแบบ และสร้างสรรค์งานด้านศิลปะ โดยใช้ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก

อยา่ งมคี ุณธรรมและจริยธรรม

เพอื่ ใหเ้ กิดความสามารถใช้ซอฟต์แวรด์ ้านกราฟิกออกแบบและสรา้ งสรรคผ์ ลงานด้านศลิ ปะ ได้อย่างมี

คุณธรรมและจริยธรรม

ผลการเรียนรู้
1. สามารถอธิบายเกยี่ วกับความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก ซอฟต์แวรด์ ้านกราฟิก
2. สามารถใชซ้ อฟตแ์ วร์ด้านกราฟิกออกแบบและสรา้ งสรรคง์ านดา้ นศิลปะ
3. มีคุณธรรมและจริยธรรมในการใชซ้ อฟตแ์ วร์ด้านกราฟกิ ออกแบบและสรา้ งสรรคผ์ ลงานดา้ นศิลปะ

รวม 3 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 200)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา การออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ รหสั วิชา ว31287 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทงั้ สิน้ 40 คาบ / ชั่วโมง : ภาคเรียน

ศกึ ษาวเิ คราะห์การออกแบบและสรา้ งงานสามมิติ การใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือการออกแบบและ

สร้างชิ้นงานโดยใช้กระบวนการการติดตัง้ โปรแกรม การใช้เครื่องมือสร้างงานสามมิติ การสร้างรูปทรงพื้นฐาน

การตกแตง่ ชิน้ งาน ออกแบบและสร้างสรรคผ์ ลงานจากรปู ทรงพืน้ ฐานและการสรา้ งภาพเคล่อื นไหว

โดยใช้กระบวนการปฏิบัติงานฝึกทักษะ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการออกแบบและสร้าง

ชน้ิ งานสามมติ ิและการสรา้ งภาพเคล่ือนไหว

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการออกแบบ

งานสามมติ ิ อย่างสร้างสรรค์ มีประสทิ ธิภาพ ประสิทธิผล และมีคุณธรรม จริยธรรม

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายหลกั การ ส่วนประกอบและเครือ่ งมือของโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พ่ือการออกแบบงานสามมิติ
2. สามารถใช้เคร่อื งมอื ของโปรแกรมเพื่อสรา้ งผลงานรูปทรงพนื้ ฐาน
3. ออกแบบและสร้างผลงานสามมิติได้ตรงตามวัตถุประสงค์อย่างสร้างสรรค์ อย่างมีคุณธรรมและ
จริยธรรม

รวม 3 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 201)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า ฟสิ กิ สเ์ พ่ิมเติม 3 รหัสวชิ า ว32211 จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์

ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.5 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทั้งส้นิ 60 คาบ / ชัว่ โมง : ภาคเรียน

ศึกษาวิเคราะห์หลักการของคลื่นในเรื่อง องค์ประกอบและการเคลื่อนที่ของคลื่น สมบัติของคล่ืน

ธรรมชาติของเสียง สมบัติของคลื่นเสียง การอธิบายปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับคลื่นเสียง การสั่นพ้องของเสียง

บีตส์ ปรากฎการณ์ดอปเพลอร์และคลื่นกระแทก หูและการได้ยิน ความเข้มของเสียงและมลพิษของเสียง

ธรรมชาติของแสง แสงเชิงเรขาคณติ กระจกเงาโค้ง เลนสบ์ างและหลกั การของทัศนอปุ กรณ์บางชนิด การรับรู้

สขี องนัยน์ตาคน แสงเชงิ ฟสิ กิ ส์และการอธบิ ายปรากฏการณ์ท่ีเกย่ี วกบั คลื่นแสง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา มี

ความสามารถในการสำรวจ ตรวจสอบ การสบื คน้ ขอ้ มลู และการอภปิ ราย ทักษะด้านการอ่าน (Reading) การ

เขียน (Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการ

แก้ปัญหา (Critical Thinking & Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ (Creativity) ทักษะด้านความ

ร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้าน

คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing & Media Literacy) ทักษะการเรียนรู้

(Learning Self-reliance)

เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการสอ่ื สารสิ่งทเ่ี รยี นรู้ การตัดสนิ ใจ การนำความรู้

ไปใช้ในชีวิตประจำวนั มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรมคุณธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายการเคล่อื นทแี่ บบคลนื่ และการเกิดคลืน่ กล
2. อธิบายสมบตั ขิ องคลื่น ไดแ้ ก่ การสะท้อน การหักเห การแทรกสอดและการเลีย้ วเบน
3. อธบิ ายการเกิดคล่ืนนง่ิ
4. อธิบายการเกิดเสียงและสมบัติของเสียง ได้แก่ การสะท้อน การหักเห การแทรกสอดและการ
เลยี้ วเบน
5. อธิบายเกี่ยวกับการได้ยิน ได้แก่ระดับเสียง ระดับสูงต่ำของเสียง คุณภาพเสียงและผลของมลพิษทาง
เสยี งตอ่ การได้ยนิ
6. อธิบายความถ่ีธรรมชาติและการส่นั พอ้ งของวัตถุ
7. อธิบายปรากฏการณบ์ างอยา่ งของเสียงและการนำความรูม้ าประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านตา่ ง ๆ

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 202)

8. อธิบายการสะท้อนของแสง การหาตำแหน่ง ขนาดและชนิดของภาพที่เกิดจากกระจกเงาราบและ
กระจกโคง้ ทง้ั โดยการเขียนภาพและการคำนวณ

9. อธิบายการหกั เหของแสงเม่อื ผา่ นรอยต่อระหว่างตัวกลางสองชนิด
10. อธิบายการหาตำแหนง่ ขนาดและชนดิ ของภาพทีเ่ กดิ เลนส์บาง ท้งั โดยการเขยี นภาพและการคำนวณ
11. อธิบายปรากฏการณท์ ี่เกี่ยวกบั แสงได้แก่ การกระจายแสง การสะท้อนกลับหมดของแสง รุ้งและมิราจ
12. อธิบายการทำงานของทัศนอุปกรณ์บางชนิด ได้แก่ เครื่องฉายภาพนิ่ง กล้องถ่ายรูป กล้องจุลทรรศน์

และกลอ้ งโทรทัศน์
13. อธบิ ายความสวา่ งและการมองเห็น
14. อธิบายการเล้ียวเบนและการแทรกสอดของแสงทผี่ า่ นชอ่ งเลก็ ๆ (หรือสลติ )และการใช้เกรตตงิ
15. อธบิ ายการกระเจิงแสง
รวม 15 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 203)

คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา ฟสิ กิ ส์เพม่ิ เติม 4 รหสั วิชา ว32212 จำนวน 4 คาบ/สปั ดาห์ ระดับช้ัน

มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 2.0 หน่วยกิต

จำนวนเวลาเรยี นทง้ั สนิ้ 80 คาบ / ช่วั โมง : ภาคเรียน

ศึกษาหลักการของไฟฟ้าและแม่เหล็กในเรื่อง กฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้าความจุและตัว

เก็บประจุ กฎของโอห์ม สภาพต้านทานและสภาพนำไฟฟ้า การวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรงอย่างง่าย การ

หาพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างแม่เหล็กและไฟฟ้า หลักการของ

มอเตอร์กฎการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าของฟาราเดย์และกฎของเลนซ์หลักการของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ไฟฟ้า

กระแสสลบั การแปลงไฟฟ้ากระแสสลบั เป็นไฟฟา้ กระแสตรง แนวคิดทฤษฎแี ม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์คล่ืน

แม่เหล็กไฟฟา้ และสเปกตรัมคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การสำรวจตรวจสอบ ทักษะด้านการอ่าน

(Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ

ทักษะในการแกป้ ญั หา(Critical Thinking & Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ (Creativity)ทักษะ

ด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้าน

คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing & Media Literacy) ทักษะการเรียนรู้

(Learning Self-reliance)

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ความคิด มีความสามารถในการสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ การ

ตัดสนิ ใจ การนำความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นยิ มท่เี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายการเหนี่ยวนำไฟฟา้
2. อธิบายแรงกระทำระหว่างอนภุ าคทม่ี ปี ระจุไฟฟา้
3. อธบิ ายสนามไฟฟา้ สนามไฟฟา้ ของจดุ ประจแุ ละสนามไฟฟา้ ของตวั นำทรงกลม
4. อธิบายพลงั งานศักย์ไฟฟ้า ศกั ย์ไฟฟ้า และความตา่ งศักย์ระหวา่ งสองตำแหน่ง
5. อธิบายความจหุ ลักการทำงานของตัวเก็บประจแุ ละผลการต่อตวั เก็บประจุแบบอนุกรม ขนาน
6. อธบิ ายหลักการทำงานของอปุ กรณบ์ างชนดิ โดยใช้ความรู้เกย่ี วกบั ไฟฟ้าสถิต
7. อธิบายการเกดิ กระแสไฟฟ้าในตัวกลางและวเิ คราะห์หากระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำโลหะ
8. อธบิ ายกฎของโอหม์ ความต้านทาน และการใชก้ ฎของโอห์ม
9. อธิบายความหมายของแรงเคลื่อนไฟฟา้ และความตา่ งศักย์ระหว่างขว้ั

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 204)

10. อธิบายพลงั งานไฟฟา้ และกำลงั ไฟฟ้าในวงจร
11. วเิ คราะหแ์ ละหาปริมาณทางไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้ กระแสตรงอยา่ งง่าย
12. อธิบายแรงกระทำต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนที่เข้าไปในสนามแม่เหลก็ และแรงกระทำต่อลวด

ตัวนำท่ีมีกระแสไฟฟา้ ผา่ นและอยใู่ นสนามแมเ่ หลก็
13. อธิบายการหมุนของขดลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและอยู่ในสนามแม่เหล็กและการนำหลักการนี้ไป

สรา้ งและอธบิ ายการทำงานของแกลแวนอมเิ ตอรแ์ ละมอเตอร์ไฟฟ้า
14. อธิบายแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำกฎของฟาราเดย์และการนำหลักการนี้ไปสร้างและอธิบายการ

ทำงานของเคร่อื งกำเนดิ ไฟฟา้
15. อธิบายลกั ษณะของไฟฟ้ากระแสสลบั การผลิตไฟฟา้ กระแสสลบั และปรมิ าณท่ีเกยี่ วข้อง
16. อธบิ ายหลกั การทำงานของหมอ้ แปลง
17. อธิบายการเกดิ คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าและสเปกตรมั คล่นื แมเ่ หล็กไฟฟา้
18. อธิบายโพลาไรเซชันของแสงแสงโพลาไรสแ์ ละแสงไมโพลาไรส
รวม 18 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 205)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา เคมีเพ่ิมเติม 3 รหสั วิชา ว32231 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1.0 หน่วยกิต

จำนวนเวลาเรียนทัง้ ส้ิน 40 คาบ / ชัว่ โมง : ภาคเรียน

ศึกษาความหมายของอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ทดลองเพื่อศึกษาอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี การ

คำนวณหาอัตราการเกิดปฏิกิริยาของสารจากกราฟ ศึกษาและวิเคราะห์แนวคิดเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี

โดยใช้ทฤษฎีจลน์และการชนกันของอนุภาค การเกิดสารเชิงซ้อนกัมมันต์ พลังงานกับการดำเนินไปของ

ปฏิกิริยาเคมี ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิว อุณหภูมิ ตัวเร่งปฏิกิริยาและตัวหน่วง

ปฏิกิริยาต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมบัติของตัวเร่งปฏิกิริยา และการใช้ทฤษฎีจลน์อธิบายผลของปัจจัย

ต่าง ๆ ที่มีต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ศึกษาปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ การเกิดปฏิกิริยาไป

ข้างหน้า ปฏิกิริยาย้อนกลับและปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ ทดลองเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ศึกษาการ

เปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดภาวะสมดุลระหว่างสถานะ สมดุลในสารละลายอิ่มตัว สมดุลไดนามิก ศึกษาและ

ทดลองสมดุลเคมีในปฏิกิริยาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่าง ๆ ณ ภาวะสมดุล

ค่าคงที่สมดุลกับสมการเคมี คำนวณหาค่าคงที่ของสมดุลและหาความเข้มข้นของสารในปฏิกิริยา ณ ภาวะ

สมดุล ทดลองเพื่อศึกษาผลของความเขม้ ข้น ความดัน อุณหภูมิต่อภาวะสมดุลและค่าคงที่สมดุล หลักของเลอ

ชาเตอลิเอและการนำหลักของเลอชาเตอลิเอไปใช้ในกระบวนการอุตสาหกรรม กระบวนการต่าง ๆ ของ

สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมศึกษาและทดลองสมบัติบางประการของสารละลายอิเล็กโทรไลต์และสารละลาย

นอนอเิ ลก็ โทรไลต์ ประเภทของสารละลายอเิ ล็กโทรไลต์ ศกึ ษาไอออนในสารละลาย กรด และเบส ทฤษฎีกรด-

เบสของอาร์เรเนียส เบรินสเตด–ลาวรี และลิวอิส ศึกษาและทดลองเกี่ยวกับการถ่ายโอนโปรตอนของ

สารละลายกรด-เบส ศึกษาคู่กรด–เบส การคำนวณและการเขียนสมการการแตกตัวของกรด-เบส การคำนวณ

ค่าคงที่การแตกตัวเป็นไอออนของกรดอ่อนและเบสอ่อน ศึกษาและทดลองการแตกตัวเป็นไอออนของน้ำการ

คำนวณค่าคงที่การแตกตัวของน้ำpH ของสารละลาย และการคำนวณค่า pH อินดิเคเตอร์สำหรับกรด-เบส

สารละลายกรด-เบสในชีวิตประจำวนั และในสิ่งมชี ีวิต ศึกษาและทดลองเรื่องปฏิกิรยิ าสะเทินและปฏิกิริยาการ

เกิดเกลือจากปฏิกิริยาระหว่างสารละลายกรดกับสารละลายเบส ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเกลือ ศึกษาเกี่ยวกบั

การไทเทรตสารละลายกรด-เบส การเขียนกราฟและการหาจดุ สมมูลจากกราฟของการไทเทรต และคำนวณหา

ความเขม้ ขน้ ของสารละลายกรด-เบสศกึ ษาหลกั การเลอื กใชอ้ นิ ดิเคเตอรส์ ำหรบั ไทเทรต กรด-เบส การประยุกต์

ความร้เู รือ่ งการไทเทรตไปใช้ในชวี ติ ประจำวันศกึ ษาและทดลองสมบัติความเปน็ บฟั เฟอรข์ องสารละลาย

โดยใชก้ ารเรยี นรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความร์การสำรวจตรวจสอบ ทักษะ

ด้านการอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมี

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 206)

วิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking & Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์
( Creativity) ท ั ก ษ ะ ด ้ า น ค ว า ม ร ่ ว ม ม ื อ ก า ร ท า ง า น เ ป ็ น ท ี ม แ ล ะ ภ า ว ะ ผ ู ้ น ำ ( Collaboration,
Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing
& Media Literacy) ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Self-reliance)

เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลเคมีในสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
และสารละลายกรด-เบส สามารถนำความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณ์หรือ
แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน สามารถจัดกระทำและวิเคราะห์ข้อมูล สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้มีความสามารถในการ
ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็นคุณคา่ ของวิทยาศาสตร์ มีจรยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มท่เี หมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. คำนวณและเปรียบเทยี บอัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมไี ด้
2. เขียนและแปลความหมายกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารกับเวลา รวมท้ัง
สามารถหาอตั ราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมีจากกราฟได้
3. อธบิ ายแนวคิดเกย่ี วกับการเกิดปฏิกิริยาเคมโี ดยใช้ทฤษฎจี ลน์และการชนกันของอนุภาค และการเกิด
สารเชิงซอ้ นกมั มนั ตไ์ ด้
4. แปลความหมายกราฟแสดงการเปลี่ยนแปลงพลังงานกับการดำเนินไปของปฏิกิริยาเคมีและสามารถ
ระบุได้ว่าเปน็ ปฏิกริ ยิ าดดู หรือคายพลงั งานได้
5. ระบุปัจจยั ตา่ ง ๆ ทีม่ ีผลตอ่ อตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีได้
6. อธบิ ายผลของความเขม้ ข้นและพืน้ ที่ผิวของสาร อุณหภูมิ ตัวเรง่ และตัวหน่วงปฏิกริ ิยาทมี่ ีตอ่ อัตราการ
เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมไี ด้
7. อธิบายความหมายของปฏิกิริยาผันกลับ ภาวะสมดุล สมดลุ ระหว่างสถานะ สมดลุ ในสารละลายอิ่มตัว
สมดุลในปฏิกริ ยิ าเคมี และค่าคงท่สี มดุลได้
8. อธิบายสมบตั ติ า่ ง ๆ ของระบบ ณ ภาวะสมดุลได้
9. เขียนความสัมพันธ์ระหวา่ งความเขม้ ขน้ ของสารตั้งตน้ กับผลติ ภัณฑ์ ณ ภาวะสมดุลได้
10. คำนวณค่าคงทสี่ มดุลและความเขม้ ข้นของสารต่าง ๆ ณ ภาวะสมดลุ ได้
11. ระบุปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลของระบบ พร้อมทั้งอธิบายการเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อภาวะสมดลุ
ของระบบถูกรบกวนได้
12. ระบุปจั จัยทม่ี ีผลตอ่ คา่ คงท่สี มดลุ พรอ้ มท้งั อธิบายเหตผุ ลได้
13. อธิบายการปรับตัวของระบบเพื่อเข้าสู่ภาวะสมดุลโดยใช้หลักของเลอชาเตอลิเอ รวมทั้งการเลือก
ภาวะทเ่ี หมาะสมเพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลิตภณั ฑ์สงู ในอุตสาหกรรมได้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 207)

14. อธิบายการเกิดสมดุลเคมีในกระบวนการตา่ ง ๆ ของสิ่งมีชีวิต และปรากฏการณต์ ่าง ๆ ในธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอ้ มได้

15. เปรยี บเทยี บสมบัตขิ องสารละลายอิเล็กโทรไลต์กบั สารละลายนอนอิเล็กโทรไลต์ และระบุประเภทของ
สารละลายอเิ ลก็ โทรไลต์ได้

16. อธิบายการเปลี่ยนแปลงเมอ่ื กรดหรอื เบสละลายในนำ้ พร้อมทัง้ ระบชุ นดิ ของไอออนทีท่ ำใหส้ ารละลาย
แสดงสมบัติเปน็ กรดหรือเบสได้

17. อธิบายความหมายของกรดและเบสตามทฤษฎีกรด–เบสอาร์เรเนียส เบรินสเตด–ลาวรี และลิวอิส
พรอ้ มทงั้ อธิบายสมบัติของกรดหรอื เบสตามทฤษฎีกรด–เบสเหลา่ น้ไี ด้

18. ระบโุ มเลกุลหรอื ไอออนที่เป็นคูก่ รด – เบสในปฏกิ ิริยาตามทฤษฎกี รด – เบสเบรินสเตด – ลาวรีได้
19. อธิบายความสามารถในการแตกตัวของกรดแก่ เบสแก่ กรดอ่อน เบสอ่อน รวมทั้งคำนวณหาร้อยละ

ของการแตกตัว และค่าคงที่การแตกตัวของกรดอ่อนหรือเบสอ่อนได้
20. เปรียบเทียบปรมิ าณการแตกตวั ของกรดหรือเบส และคำนวณหาความเขม้ ขน้ ของ H3O+และ OH- โดย

ใช้ค่าคงทกี่ ารแตกตัวของกรดและเบสได้
21. อธิบายการเปล่ยี นแปลงภาวะสมดลุ ของนำ้ เมื่อเติมกรดหรือเบส พรอ้ มทง้ั คำนวณหาความเข้มข้นของ

H3O+และ OH- ในสารละลายได้
22. คำนวณหา pH ของสารละลายเมื่อทราบความเข้มข้นของ H3O+และ OH- และบอกความเป็นกรด –

เบสของสารละลายจากคา่ pH ได้
23. อธิบายเหตุผลที่ทำให้อินดิเคเตอร์เปลี่ยนสี และใช้ช่วงของการเปลี่ยนสีของอินดิเคเตอร์บอกค่า pH

หรือความเปน็ กรด – เบสของสารละลายได้
24. อธบิ ายความสำคญั ของ pH หรอื ความเป็นกรด – เบสของสารละลายในส่งิ มีชีวติ และส่ิงแวดล้อมได้
25. อธิบายการเกิดเกลือจากปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส และกรดหรือเบสกับสารบางชนิด พร้อมท้ัง

เขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ าและบอกสมบตั ขิ องเกลือทีเ่ กิดขนึ้ ได้
26. อธบิ ายความหมายของปฏิกริ ยิ าการสะเทิน พร้อมทั้งเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาได้
27. อธิบายการเกิดปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลซิ สิ ของเกลือในน้ำ พรอ้ มทง้ั เขยี นสมการแสดงปฏิกริ ยิ าได้
28. อธิบายวิธีการไทเทรต การเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมในการไทเทรตกรด – เบส ตลอดจน

คำนวณหาความเข้มขน้ ของสารละลายจากการไทเทรตได้
29. เขียนกราฟของการไทเทรตและหาจุดสมมูลจากกราฟ พร้อมทั้งบอกค่า pH ของสารละลาย ณ จุด

สมมลู ได้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 208)

30. อธิบายการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นเมื่อเติมกรดหรือเบสลงในระบบบัฟเฟอร์เขียนสมการแสดงปฏิกิรยิ า
การควบคุม pH ของสารละลายบัฟเฟอร์ได้

รวม 30 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 209)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา เคมีเพิม่ เติม 4 รหัสวิชา ว32232 จำนวน 3 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.5 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทงั้ สนิ้ 60 คาบ / ชวั่ โมง : ภาคเรียน

ศึกษา วิเคราะห์ เกี่ยวกับพันธะของคาร์บอน การเขียนสูตรโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ ไอโซ

เมอร์ริซึม หมู่ฟังก์ชัน สารประกอบไฮโดรคาร์บอน สมบัติบางประการของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน แอล

เคน แอลคีน แอลไคน์อะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน สารประกอบอินทรีย์ที่มีธาตุออกซิเจนเป็นองค์ประกอบ

แอลกอฮอล์ ฟีนอล และอีเทอร์แอลดีไฮน์และคโี ตน กรดคาร์บอกซาลิก เอสเทอร์สารประกอบอินทรียท์ ี่มีธาตุ

ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ เอมีน สารประกอบอินทรีย์ที่มีธาตุออกซิเจนและไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบเอ

ไมด์เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์การเกิดถ่านหนิ การใช้ประโยชนจ์ ากถา่ นหิน การเกิดหินน้ำมนั การใช้ประโยชน์

จากหินน้ำมัน การเกิดปิโตรเลียม การสำรวจปิโตรเลียม การกลั่นน้ำมันดิบ การแยกแก๊สธรรมชาติปิโตร

เคมีภัณฑ์พอลิเมอร์ปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ พลาสติก เส้นใย ยาง พอลิ

เมอร์สังเคราะห์ ภาวะมลพิษที่เกิดจากการผลิต และการใช้ผลิตภัณฑ์จากเชื้อเพลิง ซากดึกดำบรรพ์มลภาวะ

ทางอากาศ มลภาวะทางน้ำ มลภาวะทางดิน สารชีวโมเลกลุ โปรตีน กรดอะมิโนและพันธะเพปไทด์โครงสร้าง

ของโปรตีน ชนิดและหน้าที่ของโปรตีน เอนไซม์การแปลงสภาพโปรตีน ชนิดและโครงสร้างของคาร์โบไฮเดรต

สมบัติและปฏิกิริยาของคาร์โบไฮเดรต ลิพิด สมบัติ โครงสร้าง และปฏิกิริยาของไขมันและน้ำมันฟอสโฟลิพิด

ไข สเตรอยดแ์ ละโครงสรา้ งของนิวคลโี อไทด์ DNA และ RNA

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล

และการอภิปราย ทักษะด้านการอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะ

ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking & Problem Solving) ทักษะ

ด้านการสร้างสรรค์ (Creativity) ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration,

Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing

& Media Literacy) ทักษะการเรียนรู้ (Learning Self-reliance)

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ

เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ

ค่านยิ มท่ีเหมาะสม

ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 210)

1. อธบิ ายความหมายของสารประกอบอนิ ทรียแ์ ละเคมีอินทรีย์
2. อธิบายเหตุผลท่ที ำให้มีสารประกอบอินทรยี ์เปน็ จำนวนมาก
3. เขียนสูตรโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ ลิวอิส แบบย่อ แบบผสม แบบ

ใชเ้ สน้ และมุม
4. เขียนไอโซเมอรโ์ ครงสร้างของสารประกอบอินทรยี ์ประเภทต่าง ๆ
5. ระบปุ ระเภทของสารประกอบอนิ ทรยี โ์ ดยใชห้ มฟู่ ังก์ชนั เปน็ เกณฑ์ พร้อมท้งั ยกตัวอยา่ ง
6. บอกประเภทของสารประกอบไฮโดรคารบ์ อนโดยใชพ้ นั ธะในโมเลกลุ และสมบัตบิ างประการเป็นเกณฑ์

พร้อมทง้ั ยกตวั อย่าง
7. อธิบายความแตกตา่ งระหว่างซิสไอโซเมอร์กบั ทรานส์ไอโซเมอร์ พร้อมทัง้ ยกตัวอยา่ ง
8. เรียกชื่อสารประกอบอนิ ทรยี ์ประเภทต่าง ๆ
9. สรปุ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างการละลายในน้ำ จดุ หลอมเหลวและจุดเดอื ดกับจำนวนอะตอมของคาร์บอน

ในโมเลกุลของสารประกอบอินทรยี ์
10. เปรียบเทยี บจดุ เดือดของสารประกอบอินทรยี ช์ นิดตา่ ง ๆ ท่ีมมี วลโมเลกลุ ใกลเ้ คียงกัน
11. อธิบายการเกิดปฏิกิริยาบางชนิดของสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ พร้อมทั้งเขียนสมการเคมี

แสดงปฏิกริ ิยาทเี่ กดิ ขน้ึ
12. บอกประโยชน์หรือโทษของสารประกอบอนิ ทรยี บ์ างชนิด
13. ทำการทดลอง รวบรวมขอ้ มูล แปลความหมายขอ้ มูล และสรุปผลการทดลอง เกีย่ วกบั

- การจัดเรียงอะตอมของคารบ์ อนในสารประกอบอินทรีย์
- สมบตั บิ างประการของเอทานอลและกรดแอซตี ิก
- สมบัตบิ างประการของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
- ปฏกิ ิริยาระหว่างกรดคารบ์ อกซิลิกกบั แอลกอฮอล์
- ปฏิกริ ยิ าของเอสเทอร์
14. อธบิ ายการเกิดองค์ประกอบทางเคมี และการสำรวจหาแหลง่ เชอื้ เพลิงซากดึกดำบรรพ์ชนดิ ตา่ ง ๆ
15. อธิบายการใช้ประโยชนจ์ ากถ่านหนิ และหนิ นำ้ มัน
16. อธิบายกระบวนการกลั่นนำ้ มนั ดิบและการแยกแกส๊ ธรรมชาติ พรอ้ มทงั้ ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้และ
การนำไปใช้ประโยชน์
17. อธิบายความหมายของเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ ปิโตรเลียม เลขออกเทน เลขซีเทน ปิโตรเคมีภัณฑ์
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่อง พอลิเมอร์ มอนอเมอร์ พลาสติก
เส้นใยธรรมชาติ เสน้ ใยสังเคราะห์ ยางธรรมชาติ ยางสงั เคราะห์ และกระบวนการวัลคาไนเซชนั
18. อธบิ ายการเกดิ พอลเิ มอรแ์ ละความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโครงสร้างกบั สมบัติของพอลเิ มอร์

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 211)

19. อธิบายสมบตั ิของผลิตภัณฑพ์ อลเิ มอรแ์ ตล่ ะชนิด รวมทงั้ การนำไปใช้ประโยชน์
20. อธิบายความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์สังเคราะห์ และ

ยกตัวอย่างการใช้ประโยชนจ์ ากผลติ ภณั ฑ์พอลเิ มอรส์ ังเคราะห์
21. อธิบายผลที่เกิดจากการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์จากเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ ต่อชีวิตและ

สง่ิ แวดลอ้ ม
22. อธิบายวิธีการนำผลิตภัณฑ์จากเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ไปใช้อย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความ

ปลอดภยั ต่อตนเอง ผอู้ ่ืน และส่ิงแวดล้อม
23. ทำการทดลอง รวบรวมข้อมูล แปลความหมายข้อมูล และสรุปผลการทดลอง เกี่ยวกับสมบัติ บาง

ประการของพลาสตกิ ชนิดต่าง ๆ และการเตรียมเส้นใยสังเคราะห์
24. อธบิ ายโครงสร้างของโปรตนี คารโ์ บไฮเดรต ลพิ ดิ และกรดนิวคลอี กิ
25. บอกสมบตั แิ ละวิธีทดสอบไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต
26. บอกประโยชน์ของโปรตนี คาร์โบไฮเดรต ลิพิด และกรดนวิ คลอี ิก
27. ทำการทดลอง รวบรวมขอ้ มลู แปลความหมายข้อมูล และสรปุ ผลการทดลอง ในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้

- การทดสอบโปรตนี ในอาหาร
- การแปลงสภาพโปรตีน
- สมบตั ขิ องเอนไซม์
- สมบัติบางประการของคารโ์ บไฮเดรต
- การละลายของไขมันและน้ำมัน ในตัวทำละลายบางชนิด
- ปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ สิ นำ้ มนั พชื ดว้ ยโซเดยี มไฮดรอกไซด์
รวม 27 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 212)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า ชีววทิ ยาเพมิ่ เติม 3 รหสั วิชา ว32251 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทัง้ สิ้น 40 คาบ / ช่ัวโมง : ภาคเรียน

ศึกษาวิเคราะห์และสำรวจตรวจสอบ โครงสร้างและหน้าที่ของรากลำต้นใบ ดอก ผล และเมล็ด ตาม

แนวทางงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จ

พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การคายน้ำ การลำเลียงน้ำ การลำเลียงธาตุอาหาร และการ

ลำเลียงอาหารของพืช การสังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอก การเจริญเติบโต และการตอบสนอง

ของพชื

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การอภิปราย การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การ

สืบค้นข้อมูล ทักษะด้านการอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้าน

การคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking & Problem Solving)ทักษะด้าน

การสร้างสรรค์ (Creativity) ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration,

Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing

& Media Literacy) ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning Self-reliance)

เพ่อื ให้เกิดความคดิ ความเข้าใจ สามารถสอ่ื สารส่งิ ท่ีเรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้

ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม ค่านิยม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตระหนักถึง

ความสำคญั ของชวี วิทยาตอ่ การดำรงชวี ติ ของสตั ว์และมนษุ ย์

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายและเปรยี บเทียบลักษณะของราก ลำตน้ ใบ ดอก ผล และเมล็ดของพชื ดอก
2. บอกลกั ษณะเซลลค์ ุมอธิบายกลไกการคายน้ำทางปากใบ การคายน้ำเป็นหยด และวัดอตั ราการคายนำ้
3. อธบิ ายลักษณะ หน้าท่ี ตำแหนง่ ทีพ่ บเซลล์พืชประเภทต่าง ๆ และเรยี งลำดบั ช้นั เน้ือเย่ือของรากและลำต้น
4. เปรียบเทียบโครงสร้างภายในระหวา่ งรากพืชใบเล้ียงเดี่ยวและพืชใบเล้ียงคู่ และระหว่าง ลำต้นพืชใบ
เล้ยี ง เด่ียวและพืชใบเลีย้ งคู่
5. อธบิ ายการเจรญิ เติบโตขั้นปฐมภูมแิ ละการเจรญิ เติบโตข้นั ทุตยิ ภมู ขิ องพืช
6. อธบิ ายการลำเลยี งนำ้ ธาตอุ าหารและอาหารในพชื
7. อธิบายความสำคัญของธาตุอาหารและผลท่ีเกดิ จากการขาดธาตุอาหาร
8. สรุปขัน้ ตอนของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงและวเิ คราะห์ผลการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดตี

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 213)

9. อธิบายโครงสรา้ งของคลอโรพลาสต์และระบบุ ริเวณทเี่ กิดการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
10. เปรยี บเทยี บโครงสร้างภายในของใบพืช C3 และใบพืช C4
11. เปรยี บเทียบการตรึงคาร์บอนไดออกไซดข์ องพืช C3 พชื C4 และพชื CAM
12. อธบิ ายผลของปัจจยั บางประการตอ่ การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง
13. อธิบายกระบวนการสรา้ งเซลลส์ ืบพันธุ์ของพืชดอก การเกดิ ผลและการงอกของเมลด็
14. เขียนกราฟและอธิบายกราฟการเจริญเตบิ โตของพืช
15. จำแนก บอกหน้าทแี่ ละยกตวั อยา่ งสารควบคุมการเจริญเติบโตของพชื
16. อธิบายและยกตัวอย่างการตอบสนองของพืชที่เกิดจากสิ่งเร้า การเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลง

แรงดันเต่ง
รวม 16 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 214)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา ชวี วิทยาเพมิ่ เติม 4 รหสั วชิ า ว32252 จำนวน 3 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.5 หน่วยกิต

จำนวนเวลาเรยี นทัง้ สิ้น 60 คาบ / ชัว่ โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาเกี่ยวกับพันธุศาสตร์และวิวัฒนาการ การถ่ายทอดทางพันธุกรรม การศึกษาพันธุศาสตร์ของ

เมนเดล กฎของความน่าจะเป็น กฎแห่งการแยก และกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระการผสมเพื่อทดสอบ

ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล การศึกษาเกี่ยวกับยีนและโครโมโซม การ

ถา่ ยทอดยีนและโครโมโซม การค้นพบสารพนั ธกุ รรม โครโมโซม องค์ประกอบทางเคมขี อง DNA โครงสรา้ งของ

DNA สมบัติของสารพันธุกรรม มิวเทชัน ศึกษาเกี่ยวกับพันธุศาสตร์และเทคโนโลยีทาง DNA พันธุวิศวกรรม

การวิเคราะห์ DNA และการศึกษาจีโนม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทาง DNA ความปลอดภัยของเทคโนโลยี

ทาง DNA และมมุ มองทางสังคมและจริยธรรม ศกึ ษาเก่ยี วกับววิ ฒั นาการ หลักฐานที่บ่งบอกถึงววิ ัฒนาการของ

สิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต พันธุศาสตร์ประชากร ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ความถขี่ องแอลลลี และกำเนดิ ของสปชี สี ์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต

วิเคราะห์ การทดลอง การอภิปราย การอธิบาย และสรุป ทักษะด้านการอ่าน (Reading) การเขียน (Writing)

การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical

Thinking & Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์(Creativity) ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงาน

เป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี

สารสนเทศและการส่อื สาร (Computing & Media Literacy) ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Self-reliance)

เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตดั สินใจ ส่ือสารส่งิ ที่เรยี นรู้ไปใช้ในชีวิต

ของตนเอง มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ ม

ผลการเรยี นรู้
1. สบื คน้ ข้อมูล วเิ คราะห์ อภิปราย อธิบาย และสรุปการคน้ พบกฎการถา่ ยทอดทางพันธุกรรมของเมน
เดล
2. สืบคน้ ขอ้ มลู วิเคราะห์ อภิปราย อธิบาย และสรปุ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมที่เป็นสว่ นขยาย
ของพันธุ ศาสตรเ์ มนเดลและความแปรผันทางพนั ธุกรรม
3. สบื คน้ ขอ้ มูล วิเคราะห์ และอธิบายเก่ยี วกบั โครโมโซม โครงสร้างและหนา้ ท่ีของสารพันธุกรรม
4. สบื คน้ ข้อมลู วเิ คราะห์ อธิบาย และสรปุ เกีย่ วกบั สมบัติของสารพันธุกรรม

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 215)

5. สบื คน้ ข้อมูล วิเคราะห์ อภิปราย อธิบาย และสรุปเก่ียวกับการเกิดมวิ เทชัน และผลของการเกดิ มิวเทชนั
6. สบื ค้นขอ้ มลู วเิ คราะห์ อภปิ ราย และอธิบายเกยี่ วกับเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอและการนำความรู้ไป

ประยุกต์ใชใ้ นดา้ น ต่าง ๆ อย่างพอเพียง
7. สบื คน้ ข้อมูล วเิ คราะห์ อภปิ ราย อธิบาย และสรุปเกีย่ วกับหลักฐานการเกิดวิวัฒนาการ และแนวคิด

เกีย่ วกับ วิวฒั นาการ
8. สืบค้นขอ้ มลู วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเกยี่ วกบั พันธุศาสตร์ประชากรและการกำเนดิ สปีชีส์
9. สบื ค้นข้อมลู วิเคราะห์ อธบิ าย และสรุปเก่ยี วกับววิ ฒั นาการของมนุษย์
รวม 9 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 216)

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน 1 รหัสวชิ า ว 32253 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรยี นท้งั สิน้ 40 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรียน

ศึกษาเกี่ยวกับการกำหนดขอบเขตพื้นที่ศึกษา สำรวจพรรณไม้ทำและติดป้ายรหัสประจำต้น

บันทกึ ภาพพรรณไมว้ าดภาพทางพฤกษศาสตร์ ต้งั ช่ือ สอบถามขอ้ มูลพรรณไม้ ทำปา้ ยชือ่ พรรณไม้ชวั่ คราว ทำ

ผัง แสดงตำแหน่งพรรณไม้ศกึ ษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (ก.7-003) ทำตวั อยา่ งพรรณไมเ้ ปรียบเทียบ ข้อมูล

กับเอกสาร เรียนรู้ชื่อที่เป็นสากล ทำทะเบียนพรรณไม้(ก.7-005) ตรวจสอบความถูกต้องของ ทะเบียนพรรณ

ไม้และจัดทำป้ายชื่อพรรณไม้สมบูรณ์เพื่อให้รู้จักรู้ประโยชน์ของพรรณไม้เรียนรู้พืชพรรณ และสภาพพื้นที่

วิเคราะห์พื้นที่พิจารณาคุณค่า และสุนทรียภาพพรรณไม้ทำผังภูมิทัศน์ จัดหาพรรณไม้ปลูกดูแลรักษาและ

ออกแบบบันทกึ การเปลยี่ นแปลงเพื่อใหเ้ หน็ รู้คณุ คา่ ของพืชพรรณ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์

เปรยี บเทียบ อธบิ าย อภิปราย และสรุป

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์

รวมทั้งทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา

ด้านการสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช

และทรัพยากร มีข้อมูลการเรียนรู้ทรัพยากรที่สามารถสื่อกันได้ทั่วประเทศ มีคุณธรรมจริยธรรมเป็นฐานของ

วิทยาการและปัญญา เกิดนักอนุรักษ์ พัฒนาบนฐานคุณธรรม เสริมสร้างการเรียนรู้บนฐานหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียง

ผลการเรียนรู้
1. กำหนดพน้ื ทศี่ ึกษา
2. สำรวจพรรณไม้ในพน้ื ที่ศึกษา
3. ทำและตดิ ป้ายรหัสประจำตน้
4. ตง้ั ชอ่ื หรือสอบถามชื่อ และศึกษาข้อมูลพน้ื บ้าน (ก.7-003 หนา้ 1)
5. ทำผงั แสดงตำแหน่งพรรณไม้
6. ศกึ ษาและบันทึกลักษณะทางพฤกษศาสตร์(ก.7-003 หน้า 2-7)
7. บนั ทึกภาพหรือวาดภาพทางพฤกษศาสตร์
8. ทำตวั อยา่ งพรรณไม(้ แหง้ / ดอง/ เฉพาะส่วน)

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 217)

9. เปรยี บเทยี บข้อมูลท่สี รปุ (ก.7-003 หนา้ 8) กบั ขอ้ มูลที่สบื ค้นจากเอกสาร แลว้ บนั ทึกใน ก.7-003
หนา้ 9 – 10

10. จดั ระบบข้อมูลทะเบียนพรรณไม้(ก.7-005)
11. ทำรา่ งปา้ ยช่ือพรรณไม้สมบูรณ์
12. ตรวจสอบความถูกต้องทางวิชาการด้านพฤกษศาสตร์
13. ทำปา้ ยชื่อพรรณไมส้ มบูรณ์
14. ศกึ ษาขอ้ มลู จากผังพรรณไมเ้ ดมิ และศึกษาธรรมชาติของพรรณไม้
15. สำรวจ ศึกษา วิเคราะห์สภาพพน้ื ที่
16. พจิ ารณาคณุ ค่า และสนุ ทรยี ภาพของพรรณไม้
17. กำหนดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่
18. กำหนดชนดิ พรรณไม้ทจ่ี ะปลูก
19. ทำผงั ภมู ิทศั น์
20. จัดหาพรรณไม้ วสั ดุปลกู
21. การปลกู และดูแลรกั ษาพชื พรรณ
22. ศกึ ษาคณุ ประโยชน์ของพชื พรรณทีป่ ลกู ออกแบบบันทึกการเปลย่ี นแปลง
รวม 22 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 218)

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน 2 รหัสวชิ า ว 32254 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรียนท้งั สิ้น 40 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาเกี่ยวกับการนำทรัพยากรธรรมชาติมาเป็นปัจจัยในการเรียนรู้โดยการใช้ปัจจัยหลายปัจจัยใน

ชนิด เดียวกันหรอื ต่างชนิดกัน เพื่อให้เห็นความต่าง เมื่อเห็นความต่างก็จะเกิดจินตนาการอันจะนำไปสู้การใช้

ประโยชน์ในงานแต่ละด้าน วิเคราะห์องคค์ วามรู้ธรรมชาตขิ องปจั จัยหลัก การเรียนรู้ธรรมชาติของปัจจัยที่เขา้

มาเก่ยี วข้อง การเรยี นรูธ้ รรมชาตขิ องความพันเก่ียวระหว่างปจั จยั การวเิ คราะห์สัมพนั ธภาพระหวา่ งปัจจัยเพ่ือ

เขา้ ใจดลุ ยภาพและความพนั เกยี่ วของสรรพสงิ่

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์

เปรียบเทยี บ อธบิ าย อภิปราย และสรุป

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์

รวมทั้งทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา

ดา้ นการส่อื สารสิ่งทเ่ี รียนรู้และนำความรู้ไปใชใ้ นชวี ิตของตนเอง เกิดจติ สำนกึ ในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และ

ทรัพยากร มีข้อมูลการเรียนรู้ทรัพยากรที่สามารถสื่อกันได้ทั่วประเทศ มีคุณธรรมจริยธรรมเป็นฐานของ

วิทยาการและปัญญา เกิดนักอนุรักษ์ พัฒนาบนฐานคุณธรรม เสริมสร้างการเรียนรู้บนฐานหลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพยี ง

ผลการเรียนรู้
1. การศึกษาพรรณไม้ในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น (ก.7-003) ครบตามทะเบียนพรรณไม้
2. การศึกษาพรรณไมท้ ่สี นใจ
3. เรียนรูธ้ รรมชาตขิ องปัจจัยชีวภาพอ่นื ทเี่ ขา้ มาเก่ียวข้องกบั ปัจจัยหลัก
4. เรียนร้ธู รรมชาติของปัจจัยกายภาพ (ดิน น้ำ แสง อากาศ)
5. เรยี นรธู้ รรมชาตขิ องปัจจัยอ่นื ๆ (ปจั จัยประกอบ เชน่ วสั ดุอปุ กรณ์ อาคารสถานที่)
6. เรียนรู้ธรรมชาตขิ องความพันเก่ียวระหวา่ งปัจจัย
7. สรปุ ผลการเรียนรู้ ดุลยภาพของความพันเกย่ี ว

รวม 7 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 219)

คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศเพมิ่ เติม 3 รหสั วชิ า ว32271 จำนวน 1 คาบ/สปั ดาห์

ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทงั้ สิน้ 20 คาบ / ช่วั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาพิกัดของดาวบนทรงกลมฟ้าตามพิกัดขอบฟ้า พิกัดเส้นศูนย์สูตรฟ้า และพิกัดสุริยะวิถี เวลา

สุริยคติ และเวลาดาราคติ แบบจำลองของระบบสุริยะ การเคลื่อนที่ปรากฏของดาวเคราะห์ และมุมห่าง

กฎเคพเลอร์ และแรงโน้มถ่วงที่ทำใหด้ วงอาทิตย์และบริวารอยู่เป็นระบบ การกำเนิดดาวฤกษ์ การแผ่พลังงาน

และค่าดัชนีสีของดาวฤกษ์ โชติมาตรปรากฏและโชติมาตรสัมบูรณ์ วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ ระบบดาวคู่

กระจุกดาวกาแล็กซีและกระจุกกาแล็กซี การขยายตัวของเอกภพโดยใช้กฎของฮับเบิล หลักการทำงานของ

กล้องโทรทรรศน์แบบต่าง ๆ กำลังแยก กำลังขยาย และกำลังรวมแสงของกลอ้ งโทรทรรศน์ การสังเกตการณ์

ทางดาราศาสตร์ และอุปกรณส์ งั เกตการณใ์ นช่วงความยาวคล่นื ตา่ ง ๆ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การสำรวจตรวจสอบ ทักษะด้านการอ่าน

(Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ

ทักษะในการแก้ปญั หา(Critical Thinking & Problem Solving) ทกั ษะด้านการสร้างสรรค(์ Creativity) ทักษะ

ดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้าน

คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing & Media Literacy) ทักษะการเรียนรู้

(Learning Self-reliance)

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการส่ือสารสิ่งทเี่ รียนรู้ การตัดสินใจการนำ

ความรูไ้ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวัน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทีถ่ ูกต้องเหมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. วเิ คราะห์ อธิบายการหาพิกัดของดาวบนทรงกลมฟา้ ตามพกิ ดั ขอบฟา้ พกิ ัดศูนย์สตู ร และพิกัดสุรยิ วถิ ี
2. สบื ค้นและอธิบายเกี่ยวกบั เวลาสรุ ยิ คตแิ ละเวลาดาราคติ
3. อธิบายแบบจำลองของระบบสรุ ิยะ การเคลอื่ นที่ปรากฎของดาวเคราะห์และมมุ ห่าง
4. อธิบายและคำนวณการโคจรของดาวเคราะหโ์ ดยใชก้ ฎเคพเลอร์ และการนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
5. สืบค้น อธิบาย และคำนวณแรงโน้มถ่วงที่ทำให้ดวงอาทิตย์และบริวารอยู่ในระบบ และแสดงการ
คำนวณในปัญหาที่เกี่ยวข้องกบั กฎนวิ ตันได้
6. สืบค้นและอธิบายการเกิดของดาวฤกษ์ การแผ่พลังงานและค่าดัชนีสีของดาวฤกษ์ โชติมาตรปรากฏ
และโชติมาตรสมั บูรณ์ รวมท้งั แสดงการคำนวณในกรณีที่เกย่ี วขอ้ ง
7. สืบคน้ และอธบิ ายการอยูร่ วมกันของดาวคู่ กระจกุ ดาว กาแลก็ ซี่ และกระจกุ กาแล็กซี่

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 220)

8. สบื คน้ และอธบิ ายการขยายตวั ของเอกภพ โดยใชก้ ฎของฮับเบิล
9. สืบค้นและอธิบายหลักการทำงานของกล้องโทรทรรศน์แบบต่าง ๆ และอธิบายความก้าวหน้าของ

เทคโนโลยอี วกาศ
10. สืบค้น อธิบาย และคำนวณ กำลงั แยก กำลังขยาย และกำลงั รวมแสงของกล้องโทรทรรศน์
11. สืบค้น อธิบาย และยกตัวอย่างการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ และอุปกรณ์สังเกตการณ์ในช่วง

ความยาวคล่นื ตา่ ง ๆ
รวม 11 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 221)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศเพ่ิมเติม 4 รหัสวชิ า ว32272 จำนวน 1 คาบ/สปั ดาห์

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ

จำนวนเวลาเรยี นท้ังส้ิน 20 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษาองค์ประกอบของอากาศ การแบ่งชั้นบรรยากาศ และอิทธิพลของชั้นบรรยากาศที่มีต่อโลก

ระบบของโลก พร้อมระบุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง การหมุนเวียนของน้ำในมหาสมุทรพร้อมทั้งระบุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

การเกิดเมฆ เสถียรภาพของอากาศและแนวปะทะอากาศ การเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทอร์นาโด พายุหมุนเขต

ร้อน มรสุม ผลกระทบ และแนวทางปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากพายุต่าง ๆ การเกิดความแปรปรวนของอากาศ

และผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม การพยากรณ์อากาศ และลักษณะอากาศจากแผนที่อากาศ ปรากฏการณ์

ทางแสงในทอ้ งฟา้

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต

การวิเคราะห์ การอภปิ ราย การอธบิ ายและสรุป

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่งิ ทเ่ี รยี นรู้และนำความรู้

ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นเผ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร์

จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่ถี กู ต้องเหมาะสม โดยมงุ่ เนน้ ความเป็นไทยควบคู่กับความเป็นสากล

ผลการเรียนรู้
1. สืบค้นข้อมูล วเิ คราะห์ อภปิ ราย และอธบิ ายเกี่ยวกับองค์ประกอบของอากาศ การแบ่งชัน้ บรรยากาศ
และอิทธิพลของช้นั บรรยากาศที่มีต่อโลก
2. ทดลอง สืบค้น อภิปราย และอธบิ ายระบบของโลก พร้อมระบปุ จั จยั ทเี่ กี่ยวข้อง
3. ทดลอง สืบค้น อภิปราย และอธิบายการหมนุ เวียนของน้ำในมหาสมทุ รพร้อมทงั้ ระบุปัจจัยทเ่ี กย่ี วข้อง
4. ทดลอง สบื ค้น อภปิ ราย และอธบิ ายการเกิดเมฆ เสถียรภาพของอากาศและแนวปะทะอากาศ
5. สบื คน้ อภปิ ราย และอธิบายการเกิดพายุฝนฟา้ คะนอง ทอร์นาโด พายหุ มนุ เขตร้อน มรสุม ผลกระทบ
และแนวทางปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัยจากพายตุ า่ ง ๆ
6. สบื คน้ อภิปราย และอธบิ ายการเกิดความแปรปรวนของอากาศและผลตอ่ สง่ิ มชี วี ิตและสิ่งแวดล้อม
7. สบื ค้น อภิปราย และอธิบายการพยากรณ์อากาศ และลกั ษณะอากาศจากแผนทีอ่ ากาศ
8. ทดลอง สบื คน้ อภิปราย และอธิบายปรากฏการณ์ทางแสงในท้องฟา้

รวม 8 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 222)

คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า วิศวกรรมพน้ื ฐาน 1 รหัสวชิ า ว32281 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรียนทั้งส้นิ 40 คาบ / ช่วั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษา วิเคราะห์ สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกบั ไฟฟ้ากระแสตรง ไฟฟ้ากระแสสลับ ไฟฟ้าแม่เหล็ก สมบัติของ

ของเหลว สมบัตขิ องแก๊ส นำองคค์ วามรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชก้ ับวิศวกรรมศาสตร์พ้ืนฐาน

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การตรวจสอบขอ้ มูลทำ

การทดลองและอภิปราย ทักษะด้านการอา่ น (Reading) การเขียน (Writing) การคดิ คำนวณ (Arithmatics) มี

ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking & Problem Solving)

ทักษะด้านการสร้างสรรค์(Creativity) ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้ นำ

(Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการ

ส่ือสาร (Computing & Media Literacy) ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Self-reliance)

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง เกิดทักษะทางวิทยาศา สตร์ มี

ความสามารถในการตัดสินใจ ใคร่ครวญอย่างรอบคอบอย่างมีเหตุผล นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต

วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านยิ มท่พี งึ ประสงค์

ผลการเรยี นรู้
1. เพื่อให้เกิดความเขา้ ใจ รอบรู้ ประยุกต์ใช้เน้ือหาเกยี่ วกบั ธรรมชาติ ของเหลว แกส๊ ไฟฟ้าชนดิ ต่าง ๆ
กับวศิ วกรรมพื้นฐาน
2. เพ่ือให้เกิดทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการแสวงหาองค์ความรูใ้ หม่ด้านวศิ วกรรม
3. เพ่ือใหเ้ กดิ จิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีพ่ ึงประสงค์

รวม 3 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 223)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา วศิ วกรรมพ้นื ฐาน 2 รหัสวิชา ว32282 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.0 หน่วยกิต

จำนวนเวลาเรยี นทง้ั สิน้ 40 คาบ / ช่ัวโมง : ภาคเรยี น

ศึกษา วิเคราะห์ สืบค้นข้อมูลเกีย่ วกบั ไฟฟ้ากระแสตรง ไฟฟ้ากระแสสลับ ไฟฟ้าแม่เหล็ก สมบัติของ

ของเหลว สมบัติของแก๊ส นำองคค์ วามรูไ้ ปประยุกตใ์ ชก้ ับวศิ วกรรมศาสตร์พน้ื ฐาน

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การตรวจสอบขอ้ มูลทำ

การทดลองและอภิปราย ทักษะดา้ นการอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มี

ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking & Problem Solving)

ทักษะด้านการสร้างสรรค์(Creativity) ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ

(Collaboration, Teamwork &Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการ

สือ่ สาร (Computing & Media Literacy) ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Self-reliance)

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง เกิดทักษะทางวิทยาศาสตร์ มี

ความสามารถในการตัดสินใจ ใคร่ครวญอย่างรอบคอบอย่างมีเหตุผล นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต

วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทีพ่ งึ ประสงค์

ผลการเรยี นรู้
1. เพื่อให้เกิดความเข้าใจ รอบรู้ ประยุกต์ใช้เนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติ ของเหลว แก๊ส ไฟฟ้า ชนิดต่าง ๆ
กับวิศวกรรมพ้ืนฐาน
2. เพือ่ ใหเ้ กดิ ทักษะ กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการแสวงหาองค์ความรใู้ หมด่ ้านวิศวกรรม
3. เพือ่ ใหเ้ กดิ จติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทพี่ งึ ประสงค์

รวม 3 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 224)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า ยาและเครอื่ งสำอาง รหสั วิชา ว32283 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรียนทัง้ สน้ิ 40 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรียน

สืบคน้ ขอ้ มลู สำรวจตรวจสอบ อภิปราย วิเคราะห์ อธิบายความหมาย ของสารเคมีและยาท่ีเกี่ยวข้อง

กับสุขภาพ เครื่องสำอาง อาหาร และสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน จำแนกประเภทและระบุชนิดของสารเคมี

ในยาและเครื่องสำอาง การเลือกใช้เครื่องยาและสำอางในชีวิตประจำวัน ผลที่เกิดจากการใช้ยาและ

เครื่องสำอาง ยาและเครื่องสำอางจากการโฆษณา การประยุกต์และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตนเอง

อย่างถูกตอ้ ง ปลอดภยั

โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะแสวงหาความรู้

การสำรวจตรวจสอบ สังเกต คิดวเิ คราะห์ อภปิ ราย ใช้เทคโนโลยีสบื ค้นข้อมูล วเิ คราะห์ สรปุ ผล

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสือ่ สารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ มี

การเลือกรับข้อมูลอย่างมีเหตุมผี ลรอบคอบ สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ มีจิตวิทยาศาสตร์และ

จริยธรรม

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายความหมาย สมบัติประโยชน์และอันตรายของสารเคมีและยาทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับสุขภาพ และ
สง่ิ แวดล้อมในชวี ติ ประจำวันได้
2. จำแนกประเภทและระบชุ นดิ ของสารเคมใี นยาและเคร่ืองสำอางทีเ่ ก่ียวข้องกับสุขภาพ และ
สิ่งแวดล้อมในชีวติ ประจำวันได้
3. สืบค้นข้อมลู สำรวจตรวจสอบและอธิบายผลิตภณั ฑ์และเทคโนโลยีเก่ยี วกบั ความงามประเภทตา่ ง ๆ
4. สบื ค้นขอ้ มลู สำรวจตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเกยี่ วกบั ยาและเครื่องสำอางจากการโฆษณา
ผลิตภณั ฑ์
5. เลือกและประยุกต์ใช้สารเคมีและยาทเ่ี ก่ยี วข้องกบั สขุ ภาพมาใช้ได้อย่างถูกต้องเพือ่ ให้เกิดประโยชน์
คมุ้ ค่าและได้รบั ความปลอดภยั สูงสดุ
6. แนะนำการเลอื กใช้ผลิตภณั ฑ์เคมีและยาซึง่ มีจำหน่ายในท้องตลาดได้อยา่ งเหมาะสม อนั เปน็ การ
คุ้มครองผ้บู ริโภคใหไ้ ดร้ ับประโยชนจ์ ากผลติ ภณั ฑ์น้ัน ๆ เพอ่ื เสรมิ สร้างคุณภาพชวี ิตทดี่ ีและไม่ตก
เป็นทาสของการโฆษณาชวนเชอื่

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 225)

7. ส่อื สารส่งิ ทีเ่ รยี นรู้ เกี่ยวกับสารเคมีและยาท่ีเก่ียวขอ้ งกับสขุ ภาพแกส่ งั คมใหต้ ระหนักถงึ การนำสารเคมี
และยาไปใชใ้ นการผลติ และการจำหนา่ ยอยา่ งมีคุณธรรมและจริยธรรม

รวม 7 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 226)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา วิทยาศาสตร์ในชีวติ ประจำวัน รหสั วชิ า ว3284 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทัง้ สิน้ 40 คาบ / ชวั่ โมง : ภาคเรยี น

การสืบค้น คิดวิเคราะห์ ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน โดยใช้ทักษะกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีสมรรถนะสำคัญ มี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ นำความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้

อยู่อยา่ งพอเพียง และแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ การคดิ อยา่ งเป็นเหตเุ ปน็ ผล คิดวิเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ และมี

จติ วิทยาศาสตร์

ผลการเรยี นรู้
1. สบื คน้ เก่ียวกบั วิทยาศาสตรใ์ นชีวติ ประจำวนั
2. คิด วเิ คราะห์ เกย่ี วกบั วทิ ยาศาสตรใ์ นชวี ติ ประจำวนั
3. ศึกษาเกีย่ วกบั วทิ ยาศาสตร์ในชวี ติ ประจำวนั โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

รวม 3 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 227)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า การเขยี นโปรแกรมขนั้ สงู รหสั วชิ า ว32285 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์ ระดับช้นั

มัธยมศึกษาปที ี่ 5 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

จำนวนเวลาเรยี นท้ังส้ิน 40 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรยี น

เป็นรายวิชาต่อเนื่องจากรายวิชาการโปรแกรม 1 ศึกษาเกี่ยวกับ ตัวแปรตัวชี้ โปรแกรมย่อย ฟังก์ชัน

ตัวแปรโครงสร้าง การจัดการไฟล์ โครงสร้างข้อมูล และการประยุกต์การเขียนโปรแกรมศึกษาและปฏิบัติการ

วิเคราะห์โจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับ ตวั แปรตวั ช้ี โปรแกรมย่อย ฟงั ก์ชนั ตัวแปรโครงสรา้ ง การจดั การไฟล์ โครงสรา้ ง

ข้อมูล และการประยุกต์การเขียนโปรแกรมเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการแก้ปัญหา

เกี่ยวกับตัวแปรตัวชี้ โปรแกรมย่อย ฟังก์ชัน ตัวแปรโครงสร้าง การจัดการไฟล์ โครงสร้างข้อมูล และการ

ประยุกต์การเขียนโปรแกรม

ผลการเรียนรู้
1. สามารถอธิบายเกี่ยวกับ ความรู้เรื่องขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมและภาษาคอมพิวเตอร์ 1 ภาษา
โครงสร้างข้อมูล แฟ้มข้อมูล ขั้นตอนวิธี ตัวแปรหมวด คำสั่งจัดการตัวแปรหมวด คำสั่งจัดการ
แฟ้มข้อมลู ฟังกช์ นั โปรแกรมยอ่ ย กราฟกิ
2. สามารถพฒั นาโปรแกรมโดยใช้คำส่ังจดั การตัวแปรหมวด คำสง่ั จัดการแฟ้มข้อมูล ฟังก์ชนั ต่าง ๆ เขียน
โปรแกรมทมี่ โี ปรแกรมย่อย เขียนโปรแกรมกราฟกิ เขียนโปรแกรมเพื่อประยุกต์กบั งานด้านต่าง ๆ
3. สามารถพฒั นาโปรแกรมภาษาใดภาษาหน่ึงเพอ่ื ใชง้ านต่าง ๆ ได้

รวม 3 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 228)

คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า การสร้างเว็บไซต์ รหัสวชิ า ว32286 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรียนทงั้ ส้นิ 40 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรียน

ศึกษาคุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานระบบอินเทอรเ์ น็ต องค์ประกอบของเว็บไซต์ คำสั่งของการ

สร้างเว็บไซต์ การใช้โปรแกรมสำเร็จในการสร้างเว็บไซต์ การสร้างเว็บไซต์โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมสำเร็จ สร้าง

เว็บไซต์ที่มีลักษณะสวยงาม มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปแบบลีลาลูกเล่นต่าง ๆ ของเว็บเพจ และมี

ปฏิสัมพันธร์ ะหว่างผูเ้ ย่ียมชมกับเว็บไซต์ มีการจัดการฐานข้อมูล ป้ายประกาศ การทำแบบสำรวจ การบริการ

จดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ ศกึ ษาตัวอย่างเวบ็ ไซต์ท่คี วรศกึ ษา

ปฏิบัติการสร้างเว็บไซต์ เว็บเพจ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จและไม่ใช้โปรแกรมสำเร็จ สร้างเว็บไซต์ที่มี

ลักษณะสวยงาม มีลีลา และรูปแบบต่าง ๆ ของเว็บเพจ มีการจัดการข้อมูล และปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ดูแล

เว็บไซต์กับผู้เยี่ยมชม การทำป้ายประกาศ การบริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การทำแบบสำรวจ ศึกษา

ตัวอยา่ งเว็บไซตเ์ พื่อนำมาพัฒนาการสร้างเวบ็ ไซต์

เพ่อื ให้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะและเจตคติท่ีดีในการสร้างเวบ็ ไซตโ์ ดยใชโ้ ปรแกรมสำเร็จและไม่

ใชโ้ ปรแกรมสำเร็จ เพอ่ื สรา้ งเว็บไซต์

ผลการเรียนรู้
1. มีความร้คู วามเข้าใจเก่ยี วกับ คุณสมบตั ขิ องคอมพวิ เตอร์ท่ใี ช้งานระบบอินเทอรเ์ น็ต องค์ประกอบของ
เวบ็ ไซต์ คำสง่ั ของการสร้างเวบ็ เพจ
2. สามารถใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ ในการสรา้ งเวบ็ ไซตแ์ ละเว็บเพจ
3. สามารถสรา้ งเวบ็ ไซต์และเวบ็ เพจโดยไม่ต้องใชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ สร้างเว็บไซต์และเวบ็ เพจ ที่มีลักษณะ
สวยงาม มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปแบบลีลาลูกเล่นต่าง ๆ ของเว็บเพจ และมีปฏิสัมพันธ์
ระหว่างผู้เยี่ยมชมกับเว็บไซต์ มีการจัดการฐานข้อมูล ป้ายประกาศ การทำแบบสำรวจ การบริการ
จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ฯลฯ
4. ติดตามศึกษาตวั อย่างเว็บไซตอ์ ่นื เพอื่ นำมาพัฒนาเว็บไซต์

รวม 4 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 229)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า การสรา้ งแอนิเมชั่น รหสั วชิ า ว32287 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1.0 หน่วยกิต

จำนวนเวลาเรยี นทัง้ สน้ิ 40 คาบ / ชัว่ โมง : ภาคเรยี น

ศกึ ษาวเิ คราะห์หลักการทำงานของโปรแกรม วิธกี ารสร้างแอนเิ มชัน การกำหนดปัญหาและการศึกษา

ความต้องการและคุณลักษณะเฉพาะของชิ้นงาน ด้วยการใช้เครื่องมือ การสร้างชิ้นงาน การตกแต่งแก้ไข

ช้นิ งาน โดยใชซ้ อฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และหลักการเบื้องต้นในการจดั เกบ็ ขอ้ มลู โครงสรา้ ง สุนทรียศาสตร์ และ

การ ออกแบบทางกายภาพ การทดสอบและพัฒนาชิ้นงาน การใช้เส้นในการสร้างภาพเคลื่อนไหว การแปลง

ชน้ิ งานเพ่ือใชใ้ นการเผยแพร่ชน้ิ งานและประยกุ ต์ใช้กบั งานด้านอ่นื ๆ ได้

โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์หลักการสร้างภาพเคลื่อนไหว ลักษณะสำคัญของงานแอนิเมชัน

ปฏิบัติการวิเคราะห์ปัญหา การกำหนดโครงสร้าง การออกแบบชิ้นงานให้เหมาะสมกับประเภทและลักษณะ

ของงานที่ทำ ปฏิบัติการใช้เครื่องมือในการสร้างภาพเคลื่อนไหว การวาดเส้น การออกแบบชิ้นงานด้วย

โปรแกรมแกรมเฉพาะ และประยุกต์พัฒนาชิ้นงานจากโปรแกรมที่ใช้ในงานแอนิเมชันแต่ละประเภทได้อย่าง

เหมาะสม

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในกระบวนการวิเคราะห์งานแอนิเมชัน และ เลือกใช้เทคโนโลยีที่

เหมาะสมกบั ชวี ิตประจำวนั อย่างสรา้ งสรรคต์ ่อชวี ติ สังคม และส่ิงแวดล้อม และสามารถแกป้ ญั หาแลว้ ถ่ายทอด

ความคิดในการแก้ปญั หาอย่างมขี ั้นตอน

ผลการเรยี นรู้
1. มีความร้คู วามเข้าใจเก่ียวกบั หลักการการทำงานของโปรแกรมทใี่ ช้สร้างแอนิเมชนั
2. ร้จู กั วธิ ีการสร้างแอนิเมชัน
3. วเิ คราะห์และกำหนดปัญหาและการศึกษาความต้องการและคุณลักษณะเฉพาะของช้ินงาน
4. ออกแบบชิ้นงานใหเ้ หมาะสมกบั ประเภทและลกั ษณะของงานทท่ี ำ
5. สามารถสร้างช้นิ งาน การตกแต่งแก้ไขชิน้ งาน โดยใชซ้ อฟต์แวรค์ อมพิวเตอร์และหลกั การเบ้ืองตน้ ใน
การสรา้ งแอนิเมชัน
6. ทดสอบและพฒั นาช้ินงานเพ่ือใช้ในการเผยแพร่และประยุกต์ใช้กับงานด้านอื่น ๆ

รวม 6 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 230)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา ฟสิ ิกสเ์ พ่ิมเติม 5 รหัสวชิ า ว33211 จำนวน 3 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1.5 หน่วยกิต

จำนวนเวลาเรียนทั้งส้ิน 60 คาบ / ช่วั โมง : ภาคเรียน

ศึกษาหลักการของสสารและฟสิ ิกส์แผนใหม่ในเร่อื ง ความรอ้ น การเปลยี่ นสถานะของสาร ทฤษฎีจลน์

ของแกส๊ กฎของแกส๊ และพลังงานภายในระบบของแก๊ส ความดันในของไหลและกฎพาสคลั แรงพยุงและหลัก

อาร์คิมีดีส ความตึงผิว การเคลื่อนที่ในของไหลและหลักแบร์นูลลีการค้นพบอิเล็กตรอน แนวคิดเกี่ยวกับ

แบบจำลองอะตอม สมมติฐานของพลังค์ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค

กัมมันตภาพรังสี การสลายกัมมันตรังสี ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลียร์รังสีในธรรมชาติ การป้องกัน

อันตราย และการใช้ประโยชน์จากกัมมันตภาพรังสี และพลังงานนิวเคลียร์ แนวคิดทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าของ

แมกซ์เวลล์ คล่นื แม่เหล็กไฟฟ้าและสเปกตรัมคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้า

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การสำรวจตรวจสอบ ทักษะด้านการอ่าน

(Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ

ทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking & Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ (Creativity)

ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership)

ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing & Media Literacy) ทักษะ

การเรียนรู้ (Learning Self-reliance)

เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการส่ือสารสิง่ ทเ่ี รยี นรู้ การตัดสนิ ใจ การนำ

ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวนั มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านิยมทเี่ หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายความดัน หลักการของเครื่องวดั ความดนั
2. อธบิ ายหลกั อารค์ มิ ีดิส และนำไปใช้อธบิ ายเกย่ี วกบั การลอยของวัตถใุ นของไหล
3. อธิบายความตึงผวิ ของของเหลวและความหนืดในของเหลว
4. อธบิ ายการไหลของของไหลอุดมคตซิ ึง่ เปน็ การเคล่ือนทีท่ ่ีเป็นไปตามกฎการอนรุ กั ษ์พลงั งาน
5. อธบิ ายผลของความรอ้ นทที่ ำให้สารเปลี่ยนอุณหภูมแิ ละเปล่ียนสถานะ
6. อธบิ ายแก๊สอุดมคติกฎของแกส๊ และใชก้ ฏของแกส๊ อธิบายพฤตกิ รรมของแกส๊
7. อธิบายทฤษฎีจลน์ของแกส๊ และใช้ทฤษฎีจลน์ของแกส๊ อธบิ ายสมบตั ิทางกายภาพของแก๊สได้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 231)

8. อธิบายพลงั งานภายในระบบ และความสัมพันธร์ ะหวา่ งพลงั งานความร้อน พลังงานภายในระบบ และ
งานที่ระบบทำหรอื รบั จากสงิ่ แวดล้อม

9. อธิบายการค้นพบอิเล็กตรอน และโครงสร้างอะตอมตามแบบจำลองอะตอมของทอมสันและ
รทั เทอร์ฟอร์ด

10. อธบิ ายสมมติฐานของพลงั ค์
11. อธิบายทฤษฎีอะตอมของไฮโดรเจนของโบรแ์ ละระดับพลังงานของอะตอม
12. อธิบายปรากฏการณโ์ ฟโตอเิ ล็กทรกิ และปรากฏการณ์คอมป์ตันซง่ึ เปน็ ปรากฏการณ์ทสี่ นบั สนุนว่าแสง

แสดงสมบตั ขิ องอนภุ าคได้
13. อธิบายสมมติฐานของเดอบรอยล์และทวภิ าวะของคล่นื และอนภุ าค
14. อธิบายโครงสร้างอะตอมตามทฤษฎกี ลศาสตร์ควอนตัม
15. อธบิ ายกัมมนั ตภาพรังสีและการเปลย่ี นสภาพนวิ เคลียสของธาตกุ มั มนั ตรังสี
16. อธิบายหลักการท่เี กี่ยวข้องการสลายของธาตกุ ัมมนั ตรงั สี
รวม 16 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 232)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า ฟสิ กิ ส์เพ่ิมเติม 6 รหสั วชิ า ว33212 จำนวน 4 คาบ/สัปดาห์

ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทัง้ สน้ิ 80 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรยี น

ศึกษา วิเคราะห์ สำรวจ ตรวจสอบเนื้อหา และข้อสอบ O-Net เก่ยี วกบั การเคล่ือนที่ในแนวราบ แบบ

วงกลม โพรเจกไทล์ ฮาร์มอนิก สนามของแรง คลื่นเสียง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กัมมันตภาพรังสีและปฏิกิริยา

นิวเคลียร์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ

วิเคราะห์การทดลองการอภิปราย การอธิบาย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจสามารถ

สอ่ื สารสิง่ ทีเ่ รยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นำความรูไ้ ปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั

ผลการเรียนรู้
1. คำนวณหาปรมิ าณท่ีเกี่ยวขอ้ งกับการเคลือ่ นท่ใี นแนวตรง แนวราบ และแนวดิง่
2. อธบิ ายลักษณะการเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์ แบบวงกลมและฮารม์ อนกิ
3. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแรงกับการเคลื่อนที่ของอนุภาพวัตถุ ในสนามแม่เหล็กและ สนามแรง
โนม้ ถว่ ง
4. อธิบาย วเิ คราะห์ลกั ษณะคลืน่ อตั ราเร็ว ความถี่ ความยาวคล่ืน คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ และคลืน่ กล
5. อธบิ ายความหมายของกมั มันตภาพพรงั สี แรงนวิ เคลยี ร์ ฟชิ ชัน พลังงานนิวเคลียรแ์ ละปฏกิ ริ ิยาลกู โซ่

รวม 5 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 233)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า เคมเี พมิ่ เติม 5 รหสั วชิ า ว33231 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรยี นทง้ั สนิ้ 40 คาบ / ชั่วโมง : ภาคเรยี น

ศึกษาข้อมูลและทดลองปฏิกิริยาการถ่ายโอนอิเล็กตรอน ปฏิกิริยาออกซิเดซัน ปฏิกิริยารีดักชันและ

ปฏิกิริยารีดอกซ์ ฝึกเขียนและสมดุลสมการรีดอกซ์ ศึกษาหลักการทดลอง ต่อเซลล์กัลวานิก หาศักย์ไฟฟ้า

มาตรฐานของครึ่งเซลล์ ศึกษาส่วนประกอบและปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นภายในเซลล์อิเล็กโทรไลต์ การนำหลักการ

ของเซลลอ์ ิเล็กโทรไลต์ ไปใชป้ ระโยชน์ในการแยกสารเคมีการทำโลหะให้บริสุทธิ์ การถลุงแร่ การชุบโลหะด้วย

ไฟฟ้า และการอะโดไดซ์ ศึกษาปฎิกิริยาการผุกรอ่ นของโลหะและทดลองเพือ่ ศึกษาภาวะที่ทำให้โลหะผุกร่อน

รวมทง้ั ศึกษาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยที เี่ ก่ียวขอ้ งกับเซลล์ไฟฟ้าเคมไี ด้

สืบค้นข้อมูลอุตสาหกรรมแร่ อุตสาหกรรมเซรามิกส์ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับโซเดียมคลอไรด์ และ

อุตสาหกรรมปุ๋ย โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์ การ

เปรียบเทียบ การสำรวจตรวจสอบ การทำนาย และการทดลอง ทักษะด้านการอ่าน (Reading) การเขียน

(Writing) การคิดคำนวณ (Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา

(Critical Thinking & Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ (Creativity) ทักษะด้านความร่วมมือ

การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และ

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing & Media Literacy) ทักษะการเรียนรู้ (Learning Self-

reliance) เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ

นำความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายของปฏิกิริยาออกซิเดชัน รีดักชัน รีดอกซ์ ตัวรีดิวซ์ ตัวออกซิไดซ์ ในด้านการถ่ายโอน

อเิ ลก็ ตรอน และการเปล่ยี นแปลงเลขออกซเิ ดชัน
2. จัดลำดับความสามารถในการรบั อิเล็กตรอนของธาตหุ รือไอออน และเปรยี บเทยี บความสามารถในการเป็น

ตัวรดี วิ ซ์หรือตัวออกซไิ ดซ์
3. ดลุ สมการรดี อกซโ์ ดยใชเ้ ลขออกซเิ ดชันและคร่ึงปฏิกิรยิ าต่อเซลล์กลั วานิกจากคร่ึงเซลล์ที่กำหนดให้ พร้อม

ทง้ั บอกขวั้ แอโนด ข้วั แคโทด และเขียนสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ า
4. เขียนแผนภาพเซลล์กลั ป์วานกิ
5. อธบิ ายวธิ หี ารคา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ มาตรฐานของครง่ึ เซลล์ โดยการเปรยี บเทยี บกับครงึ่ เซลลไ์ ฮโดรเจนมาตรฐาน

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 234)

6. ใช้ค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครึ่งเซลล์ คำนวณหาค่าศักย์ไฟฟ้าของเซลล์ และทำนายการเกิดปฏิกิริยารี
ดอกซ์

7. อธิบายหลักการทำงานของเซลล์กลั วานิก เซลล์ปฐมภูมิ เซลลท์ ุติยภูมิ และเซลลอ์ ิเลก็ โทรไลต์
8. อธิบายหลักการทำงาน พร้อมทั้งเขียนสมการแสดงปฏกิ ิรยิ าที่เกิดขึ้นในถ่านไฟฉาย เซลล์อัลคาไลน์ เซลล์

ปรอท เซลล์เงิน เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน-ออกซิเจน เซลล์เชื้อเพลิงโพแทสเซียม-ออกซิเจน เซลล์สะสม
ไฟฟ้าแบบตะกว่ั เซลลน์ กิ เกลิ -แคดเมียม และเซลลโ์ ซเดียม-ซัลเฟอร์
9. อธิบายหลักการของการแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การชุบโลหะด้วยกระแสไฟฟ้า และการทำโลหะให้
บริสุทธิ์ พรอ้ มท้งั เขยี นสมการแสดงปฏิกิรยิ า
10. อธิบายสาเหตุหรอื ภาวะที่ทำใหโ้ ลหะเกิดการผุกรอ่ น พรอ้ มทงั้ เขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ า
11. อธิบายวธิ ปี ้องกนั การผุกร่อนของโลหะดว้ ยวิธีอะโนไดซ์ การรมดำ วิธีแคโทดกิ การเคลอื บผวิ ด้วยพลาสติก
สีนำ้ มนั และการชบุ ดว้ ยโลหะ
12. อธิบายหลักการทำงานของแบตเตอรี่ อิเล็กโทรไลต์แข็ง แบตเตอรี่อากาศ และการทำอิเล็กโทรอะลิซิสนำ้
ทะเล
13. ทำการทดลอง บันทกึ ผลการทดลอง แปลความหมายขอ้ มูล และสรุปผลการทดลอง ในเร่ืองต่อไปน้ี
14. ปฏกิ ริ ิยาระหว่างโลหะกบั สารละลายของโลหะไอออน

การถา่ ยโอนอเิ ลก็ ตรอนในเซลล์กัลวานกิ
เซลล์สะสมไฟฟา้ แบบตะก่ัว
การแยกสารละลายคอปเปอร(์ II)ซลั เฟตดว้ ยกระแสไฟฟ้า
การชบุ ตะปดู ว้ ยโลหะสังกะสี
การปอ้ งกนั การผกุ ร่อนของเหลก็
15. อธบิ ายการถลงุ แร่หรือการสกดั แร่ดบี ุก ทองแดง สังกะสี แคดเมยี ม ทงั สเตน พลวง แทนทาลัม ไนโอเบียม
และเซอร์โคเนียม พร้อมทง้ั เขียนสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ าทเี่ กดิ ขน้ึ
16. บอกประโยชน์ของทองแดง สังกะสี แคดเมียม ดีบุก ทังสเตน พลวง แทนทาลัม ไนโอเบียม และ
เซอร์โคเนียม
17. อธิบายสมบัตแิ ละประโยชนข์ องแรร่ ัตนชาตชิ นิดตา่ ง ๆ
18. อธบิ ายวธิ พี ัฒนาคณุ ภาพของแรร่ ตั นชาติ
19. อธิบายข้ันตอนสำคัญของการทำผลิตภณั ฑ์เซรามิกส์
20. บอกประโยชน์ของผลติ ภณั ฑเ์ ซรามกิ ส์ พรอ้ มทั้งยกตัวอยา่ ง
21. อธบิ ายวธิ กี ารผลติ แกว้ และปนู ซเี มนต์
22. อธบิ ายวธิ ีการผลติ เกลอื สมุทรและเกลอื สินเธาว์

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 235)

23. อธิบายการเกิดโซเดียมไฮดรอกไซด์และแก๊สคลอรีนจากโซเดียมคลอไรด์ โดยใช้เซลล์เยื่อแลกเปลี่ยน
ไอออน เซลล์ไดอะแฟรม และเซลล์ปรอท พรอ้ มท้ังเขียนสมการแสดงปฏิกริ ยิ าที่เกิดข้นึ

24. อธิบายกระบวนการผลิตโซดาแอชและสารฟอกขาว พรอ้ มทัง้ เขียนสมการแสดงปฏกิ ิริยาทเ่ี กดิ ข้ึน
25. อธิบายกระบวนการผลิตปุ๋ยไนโตรเจน ปุ๋ยฟอสเฟต ปุ๋ยโพแทส และปุ๋ยผสม ตลอดจนผลกระทบต่อ

สิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้ปยุ๋
26. อธิบายผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มที่เกดิ จากอุตสาหกรรมประเภทตา่ ง ๆ
27. ทำการทดลอง รวบรวมข้อมูล แปลความหมายข้อมูล และสรุปผลการทดลอง ในเรื่องต่อไปนี้ แยก

สารละลายโซเดยี มคลอไรดด์ ้วยกระแสไฟฟา้
28. การเตรียมสารละลายฟอกขาวโซเดียมไฮโปคลอไรด์
29. สืบค้นข้อมูลในชุมชนหรือจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับกระบวนการผลิตและการใช้ประโยชน์ของแร่

การทำผลติ ภณั ฑ์เซรามกิ สก์ ารผลิตปยุ๋ รวมทงั้ ผลกระทบในด้านต่าง ๆ ท่เี กิดข้ึน
รวม 29 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 236)

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา เคมีเพม่ิ เติม 6 รหัสวิชา ว33232 จำนวน 3 คาบ/สัปดาห์ ระดับช้ัน

มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

จำนวนเวลาเรียนทง้ั สน้ิ 60 คาบ / ชัว่ โมง : ภาคเรียน

วิเคราะห์เนื้อหา และขอ้ สอบ O-Net เกีย่ วกับแบบจำลองอะตอม การจดั เรียงอเิ ล็กตรอน การจดั เรียง

ธาตุใน ตารางธาตุพันธะเคมี ปฏิกิริยาเคมี สารชีวโมเลกุล พอลิเมอร์และปิโตรเลียม โดยใช้กระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์การทดลองการอภิปรายการ

อธิบาย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจสามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ

ตดั สินใจ นำความรูไ้ ปใชใ้ นชีวิตประจำวัน มีจติ วิทยาศาสตร์จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. สำรวจตรวจสอบ อธบิ ายเกย่ี วกับโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงอเิ ลก็ ตรอนในระดบั พลงั งานต่าง ๆ
2. อธบิ ายการจดั เรยี งธาตใุ นตารางธาตุสมบตั ิของธาตุในตารางธาตกุ ารเกิดพันธะเคมใี นโมเลกุล
3. อภปิ รายและเขียนสมการของปฏกิ ิริยาเคมี ปจั จัยทคี่ วบคุมอัตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี
4. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายเกย่ี วกับพอลเิ มอร์ การเกดิ ปิโตรเลยี ม และการกลัน่ ลำดับส่วน
5. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายเกีย่ วกับสารชวี โมเลกุล

รวม ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 237)

คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม

กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา ชวี วทิ ยาเพิ่มเตมิ 5 รหัสวิชา ว33251 จำนวน 3 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1.5 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรียนท้ังสน้ิ 60 คาบ / ช่ัวโมง : ภาคเรียน

ศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายของ

สิ่งมีชีวิต การศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต กำเนิดของชีวิต อาณาจักรของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย

ทางชีวภาพในประเทศไทย การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ศึกษาเกี่ยวกับประชากร ความหนาแน่น

การแพร่กระจายของประชากร ขนาดของประชากร รูปแบบการเพิ่มของประชากร การรอดชีวติ ของประชากร

ประชากรมนุษย์ ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์กับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ประโยชน์

ปัญหาและการจัดการ หลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ส่งผลกระทบต่ อ

สภาพแวดล้อม

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสังเกต

การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย สรุป ทักษะด้านการอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) การคิดคำนวณ

(Arithmatics) มีทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking &

Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์(Creativity) ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และ

ภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork&Leadership) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

และการสอ่ื สาร (Computing & Media Literacy) ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning Self-reliance)

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ นำความรู้

ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร์

จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยม

ผลการเรียนรู้
1. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายเกี่ยวกับความหมายและองค์ประกอบของความหลากหลายทาง
ชวี ภาพ
2. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายการศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต การจัดหมวดหมู่ของ
สิง่ มีชวี ติ ช่ือของสงิ่ มีชีวติ และการระบชุ นิด
3. สบื คน้ ข้อมลู อภิปราย อธบิ ายและสรปุ เกี่ยวกับกำเนิดของชวี ิต กำเนิดของเซลล์โพรคาริโอตและเซลล์
ยูคาริโอต

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 238)

4. สืบค้นข้อมูล ทดลอง อภิปราย อธิบาย และสรุปเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดจำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็นโดเมน
และอาณาจักรลักษณะที่เหมือนและแตกต่างกันของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอรา อาณาจักร
โพรทิสตา อาณาจกั รพชื อาณาจกั รฟังไจ และอาณาจกั รสตั ว์

5. สืบค้นข้อมูล อภิปราย อธิบาย และนำเสนอคุณค่าของความหลากหลายทางชีวภาพกับการใช้
ประโยชน์ของมนุษย์ทีม่ ีผลต่อสังคมและส่ิงแวดลอ้ ม

6. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และนำเสนอสถานการณ์ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทยและ
ผลกระทบจากการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

7. ออกแบบสถานการณจ์ ำลองที่แสดงถงึ การเปลี่ยนแปลงปัจจยั ต่าง ๆ ของส่งิ แวดลอ้ มท่มี ีผลต่อการอยู่
รอดของสงิ่ มีชีวติ

8. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรปุ ไดว้ ่าการอย่รู อดของส่ิงมชี ีวติ สัมพันธ์กบั ความหลากหลายของส่งิ มชี วี ิต
9. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายเกี่ยวกับความหมายของประชากร ความหนาแน่นของประชากร

อัตราการเปลี่ยนแปลงขนาดของประชากร และปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงขนาดของ
ประชากร
10. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องประชากรมนุษย์ การเติบโต และโครงสร้าง
อายุของประชากรมนุษย์
11. สบื ค้นข้อมูล อภิปราย และอธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ บั การใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ
12. อภปิ ราย อธบิ าย และสรปุ แนวทำงกำรจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม รวมท้ังการอนุรักษ์
และพัฒนาท่ยี ั่งยนื พร้อมทั้งเสนอแนวทำงในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
13. สบื ค้นข้อมลู อภิปราย และอธบิ ายเก่ียวกบั ชนดิ พันธ์ตุ า่ งถ่นิ ท่ีสง่ ผลกระทบต่อสภาพแวดลอ้ ม
รวม 13 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 239)

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า ชวี วทิ ยาเพิ่มเติม 6 รหัสวิชา ว33252 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรียนท้ังส้ิน 40 คาบ / ช่วั โมง : ภาคเรียน

ศกึ ษา วเิ คราะหเ์ น้ือหา และขอ้ สอบ O-Net เกยี่ วกบั การรักษสมดลุ ยภาพ กลไก การรักษดุลยภาพใน

สิ่งมีชีวิต การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม มิวเทชัน เทคโนโลยีชวี ภาพ ระบบนิเวศ ความ หลากหลายของ

สิ่งมีชีวิต ทรัพยกรและสิ่งแวดล้อม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้น

ข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์การทดลองการอภิปราย การอธิบาย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด

ความเข้าใจสามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิต

วทิ ยาศาสตรจ์ รยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ผลการเรยี นรู้
1. สำรวจ ตรวจสอบ อธิบายการลำเลยี งสารผ่านเซลล์ การรักษาดลุ ยภาพและกลไกการรักษา ดุลยภาพ
ของส่งิ มีชีวิต
2. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธิบายเกยี่ วกบั การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสง่ิ มชี ีวิต
3. อธบิ ายการเกดิ มวิ เทชนั และประโยชนจ์ ากเทคโนโลยีชีวภาพ
4. สำรวจตรวจสอบ สืบคน้ ข้อมลู เก่ยี วกับระบบนเิ วศ ความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ติ
5. สืบคน้ ข้อมลู อภิปราย อธิบายการใชท้ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม การพฒั นาอยา่ งยั่งยนื
6. เกิดความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับ หลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง

รวม 6 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 240)

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วิชา สวนพฤษศาสตร์โรงเรยี น 3 รหสั วชิ า ว33253 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรยี นทัง้ สิ้น 40 คาบ / ช่ัวโมง : ภาคเรยี น

ศึกษาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลพื้นฐานในท้องถิ่น การเก็บข้อมูลการประกอบอาชีพในท้องถิ่น การเก็บ

ข้อมูลด้านกายภาพในท้องถิ่น การเก็บข้อมูลประวัติหมู่บ้าน ชุมชน วิถีชุมชน การเก็บข้อมูลการใช้ประโยชน์

ของพืชและสัตว์ในท้องถิ่น การเก็บข้อมูลการใช้ประโยชน์ของชีวภาพอื่น ๆ ในท้องถิ่น การเก็บข้อมูลภูมิ

ปัญญาในทอ้ งถนิ่ การเกบ็ ข้อมูลแหล่งทรัพยากรและโบราณคดใี นท้องถ่ิน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้

เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการ

เรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ และการแก้ปญั หา ดา้ นการสื่อสารส่ิงท่ี

เรียนรแู้ ละนำความรไู้ ปใชใ้ นชวี ิตของตนเอง มีเกิดจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์พันธกุ รรมพืช และทรัพยากร มีข้อมูล

การเรียนรทู้ รพั ยากรทสี่ ามารถส่ือกันไดท้ ่วั ประเทศ มีคณุ ธรรมจริยธรรมเปน็ ฐานของวทิ ยาการและปัญญา เกิด

นกั อนรุ กั ษ์ พฒั นาบนฐานคุณธรรม เสรมิ สร้างการเรยี นรู้บนฐานหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรยี นรู้
1. เก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อให้ทราบข้อมูลทางด้านศาสนา ประชากร
สถานศึกษา และการบริหารขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่
2. เก็บข้อมูลการประกอบอาชีพในท้องถิ่น เพื่อทราบข้อมูลการประกอบอาชีพ ปัญหาและแนวทางการ
แกป้ ญั หา กำหนดแนวทางการอนรุ กั ษ์และพัฒนาในดา้ นการประกอบอาชีพในท้องถนิ่
3. เก็บข้อมูลด้านสภาพภูมิประเทศ ลักษณะดิน แหล่งน้ำ อุณหภูมิ ปริมาณแสง และตำแหน่งทาง
ภมู ศิ าสตรข์ องทรัพยากรกายภาพในทอ้ งถ่นิ
4. เก็บข้อมูลประวัติหมู่บ้าน ที่มาการตั้งถิ่นฐานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นวิถีการดำรงชีวิตของ
คนในท้องถนิ่
5. เก็บข้อมูลพชื ท่ีมีความสำคัญ และมีลักษณะพเิ ศษ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในดา้ นตา่ ง ๆ
6. เก็บขอ้ มลู สตั วท์ ีม่ คี วามสำคัญ และมีลักษณะพเิ ศษ สามารถนำมาใชป้ ระโยชนใ์ นด้านตา่ ง ๆ
7. เก็บข้อมูลการใช้ประโยชน์ ชนิดและการกระจายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ นอกจากพืชและสัตว์ เช่น
เห็ด ราสาหร่าย ไลเคน ฯลฯ ในท้องถิ่น

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 241)

8. เก็บข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นสาขาต่าง ๆ เช่น สาขาเกษตรกรรม สาขาอุตสาหกรรมและหัตถกรรม
สาขาการแพทยแ์ ผนไทย สาขาการจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม สาขากองทนุ และธุรกิจ
ชุมชน สาขาสวัสดิการ สาขาศิลปกรรม สาขาการจัดการองค์กร สาขาภาษาและวรรณกรรม สาขา
ศาสนาและประเพณี

9. เก็บขอ้ มูลแหล่งทรพั ยากรทเี่ กิดข้นึ ตามธรรมชาติและมนุษย์สรา้ งขน้ึ เช่น อุทยานแหง่ ชาติ น้ำตก สวน
เฉลิมพระเกียรติ สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุกขชาติ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ฯลฯ

10. นำพืช สตั ว์หรือชวี ภาพอ่นื ๆ ในทอ้ งถิ่นมาใชป้ ระโยชน์ โดยการประดษิ ฐ์หรือแปรรูปอย่างสร้างสรรค์
และเกิดประโยชน์

รวม 10 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 242)

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า สวนพฤษศาสตรโ์ รงเรยี น 4 รหัสวิชา ว33254 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์

ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 จำนวน 1.0 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรียนทง้ั สิน้ 40 คาบ / ช่วั โมง : ภาคเรียน

ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติของชีวติ การเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างด้านรูปลกั ษณ์การเปลี่ยนแปลง

และความแตกต่างด้านคุณสมบัติ การเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างด้านพฤติกรรม การประยุกต์ใช้ความรู้

เกี่ยวกับธรรมชาติของชีวิตในการดำเนินชวี ิต โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การ

สืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มี

ความสามารถในการตัดสินใจ มที กั ษะปฏิบตั กิ ารทางวิทยาศาสตร์ รวมทงั้ ทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 ใน

ด้านการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ดา้ นการคดิ และการแกป้ ัญหา ดา้ นการส่ือสารส่ิงทเ่ี รียนรู้และนำความรู้ไปใช้

ในชีวิตของตนเอง มีเกิดจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และทรัพยากร มีข้อมูลการเรียนรู้ทรัพยากรที่

สามารถสื่อกันไดท้ ่ัวประเทศ มคี ณุ ธรรมจริยธรรมเป็นฐานของวิทยาการและปัญญา เกิดนักอนุรักษ์ พัฒนาบน

ฐานคณุ ธรรม เสริมสรา้ งการเรียนรู้บนฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ผลการเรยี นรู้
1. ศกึ ษาดา้ นรูปลักษณไ์ ด้ขอ้ มลู การเปล่ยี นแปลงและความแตกตา่ งด้านรปู ลักษณ์
2. ศกึ ษาดา้ นคณุ สมบัติไดข้ ้อมูลการเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างด้านคุณสมบตั ิ
3. ศกึ ษาดา้ นพฤติกรรม ได้ข้อมูลการเปลีย่ นแปลงและความแตกต่างด้านพฤติกรรม
4. เปรยี บเทียบการเปล่ียนแปลงและความแตกต่างด้านรปู ลกั ษณก์ บั รปู กายตน
5. เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างด้านคุณสมบตั กิ บั สมรรถภาพของตน
6. เปรียบเทียบการเปล่ยี นแปลงและความแตกตา่ งดา้ นพฤติกรรมกบั จติ อารมณ์และพฤติกรรมของตน
7. สรุปองคค์ วามรู้ท่ไี ดจ้ ากการศึกษาธรรมชาติแห่งชวี ติ
8. สรปุ แนวทางเพ่ือนำไปสู่การประยุกตใ์ ชใ้ นการดำเนินชีวติ

รวม 8 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 243)

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

วชิ า โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศเพ่ิมเติม 5 รหัสวชิ า ว33271 จำนวน 1 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 0.5 หน่วยกติ

จำนวนเวลาเรียนทั้งสน้ิ 20 คาบ / ชว่ั โมง : ภาคเรียน

ศึกษาองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสรุ ยิ ะความสมั พันธ์ของดาราศาสตรก์ ับมนุษย์จากการศึกษาต าแหน่งดาวบนทรงกลมฟ้าและปฏิสัมพันธ์

ภายในระบบสรุ ิยะ รวมทงั้ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มูล การสงั เกต การ

วิเคราะห์ การอภปิ ราย การอธิบายและสรปุ

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจมีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำ

ความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นเผ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิต

วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งเน้นความเป็นไทยควบคูก่ ับความเป็น

สากล

ผลการเรียนรู้
1. อธิบายการกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสารขนาดอุณหภูมิของเอกภพหลังเกิดบิ๊กแบงใน
ช่วงเวลาตา่ ง ๆ ตามวิวฒั นาการของเอกภพ
2. อธิบายหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิ๊กแบง จากความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับระยะทางของ
กาแล็กซี รวมทั้งขอ้ มลู การค้นพบไมโครเวฟพนื้ หลงั จากอวกาศ
3. อธิบายโครงสรา้ งและองคป์ ระกอบของกาแล็กซีทางช้างเผอื ก และระบตุ ำแหน่งของระบบสุริยะพร้อม
อธิบายเชือ่ มโยงกับ การสงั เกตเหน็ ทางชา้ งเผอื กของคนบนโลก
4. อธิบายกระบวนการเกิดดาวฤกษโ์ ดยแสดงการเปลย่ี นแปลงความดัน อุณหภูมขิ นาดจากดาวฤกษ์ก่อน
เกดิ จนเป็นดาวฤกษ์
5. อธิบายกระบวนการสร้างพลังงานของดาวฤกษ์และผลที่เกิดขึ้น โดยวิเคราะห์ปฏิกิริยาลูกโซ่โปรตอน-
โปรตอน และวัฏจักรคาร์บอนไนโตรเจน ออกซิเจนระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อความส่องสว่างของดาวฤกษ์
และอธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งความส่องสวา่ งกับโชติมาตรของดาวฤกษ์
6. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสีอุณหภูมิผิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์อธิบายวิธีการหาระยะทางของ
ดาวฤกษ์

หลกั สตู รโรงเรียนสมทุ รพรรณชยั เทพ s (หนา้ 244)


Click to View FlipBook Version