หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา
ชัน้ มัธยมศึกษาปท� ี่ ๓
คำอธบิ ายรายวิชา
อ๒๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาป�ที่ ๓
ภาคเรยี นที่ ๑
เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ศึกษาการใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายอย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ อ่านออก
เสียงคำศพั ท์ สำนวน ประโยค ข้อความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ไดถ้ ูกต้องตามหลักการอ่าน เลือกระบุ
และเขียนหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญ และสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง รูปแบบต่างๆ แสดงความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟ�งและ
อ่าน พร้อมให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ พูดสนทนาและเขียนบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรื่องต่างๆ ใกล้
ตัว สถานการณ์ ข่าว เรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคมได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ เลือกใช้ภาษา
น้ำเสียง และกิริยาท่าทาง อธิบายเปรียบเทียบเกี่ยวกับชีวิตความเป�นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษากับวัฒนธรรมของไทย เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ ค้นคว้า รวบรวม
และสรุปข้อมูล ข้อเท็จจรงิ แล้วนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขียนที่เกี่ยวข้องกบั กลุม่ สาระการเรียนรูอ้ ื่น จากแหลง่
เรียนรู้และสื่อสารในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม อย่างถูกต้องเหมาะสมตาม
กาลเทศะ
โดยการอ่านออกเสียง เขียน อธิบาย สืบค้น รวบรวม และสรุปข้อมูล หรือข้อเท็จจริง สรุปใจความ
สำคัญ และนำเสนอ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ใช้ทักษะในการสื่อสาร ภาษา น้ำเสียงกิริยา
ท่าทางอย่างเหมาะสม ถูกต้องตามกาลเทศะ เข้าร่วมหรือจัดกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรมตามความสนใจให้
เหมาะสมกบั บุคคล โอกาส และมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
เพ่ือให้เกิดความรู้ความ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสาร มีความสามารถในการ
ตดั สนิ ใจ นำความร้ไู ปใช้ในชวี ติ ประจำวัน มเี จตคตทิ ่ีดตี ่อวชิ าภาษาองั กฤษ รักความเป�นไทยและมจี ิตสาธารณะ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๒๙๐
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา
รหสั ตวั ชว้ี ดั
ต๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔
ต๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
ต๑.๓ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต๒.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒
ต ๓.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๒ ม.๓/๑ , ม.๓/๒
รวมทั้งหมด ๒๑ ตวั ชี้วัด
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๒๙๑
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศึกษา
ช้ันมธั ยมศึกษาป�ท่ี ๓
คำอธบิ ายรายวชิ า
อ๒๓๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ช้นั มัธยมศึกษาปท� ี่ ๓
ภาคเรียนท่ี ๒
เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต
ศึกษาความรเู้ กี่ยวกับคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบาย หลกั การอา่ นออกเสียงสื่อที่ไมใ่ ช่ความเส่ียง
การจับใจความสำคัญ การแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ความต้องการ การเสนอการตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ การขอและให้ข้อมูล
การอธิบาย เปรียบเทียบ การแสดงความรู้สึก การบรรยายเกี่ยวกับตนเอง ประสบการณ์ การจับใจความสำคัญ
การวิเคราะห์เรื่องเหตุการณ์และสถานที่อยู่ในความสนใจ ศึกษาเปรียบเทียบเกี่ยวกับภาษา นํ้าเสียง กิริยาท่าทาง
ชีวติ ความเป�นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรม ของเจา้ ของภาษา ความเหมอื นความแตกตา่ ง การออก
เสียงประโยค ลำดับคำถามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ศึกษาการใช้ภาษาสื่อสารใน
สถานการณ์จรงิ สถานการณจ์ ำลอง การคน้ ควา้ การเผยแพรป่ ระชาสัมพันธข์ ่าวสารของโรงเรียน ชุมชนและสงั คม
โดยใช้กระบวนการทางภาษา คือ ฟ�ง พูด อ่านและเขียน การสื่อสาร การสืบเสาะความรู้ การสืบค้นขอ้ มูล
การฝ�กปฏิบตั ติ ามสถานการณต์ า่ งๆ
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสาร เห็นคุณค่าและประโยชน์ นำความรู้ไป
ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม ตลอดจนมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักความเป�นไทย
ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มน่ั ในการทำงาน
รหสั ตวั ชี้วัด
ต ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔
ต ๑.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕
ต ๑.๓ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓
ต ๒.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒
ต ๓.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๑ ม.๓/๑
ต ๔.๒ ม.๓/๑ , ม.๓/๒
รวมท้งั หมด ๒๑ ตัวชีว้ ัด
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๒๙๒
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา
เกณฑก์ ารจบการศึกษา
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๒๙๓
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา
เกณฑก์ ารจบการศึกษา
หลักสูตรโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร สำนักงานเขตพื้นทีการศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต ๑
พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดเกณฑ์สำหรับ
การจบการศึกษา ดงั นี้
เกณฑ์การจบระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น
(๑) ผู้เรียนต้องเรียนรายวิชาพื้นฐาน จำนวน ๒,๖๔๐ ชั่วโมง (๖๖ หน่วยกิต) และรายวิชา
เพมิ่ เติมไมน่ อ้ ยกวา่ ๖๐๐ ช่วั โมง (๑๕ หน่วยกติ )
(๒) ผเู้ รียนตอ้ งมีผลการประเมินรายวิชาพ้นื ฐานในระดบั ๑ ขนึ้ ไปทุกรายวิชา
(๓) ผูเ้ รียนตอ้ งมผี ลการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมิน
ในระดับ “ผ่าน” ข้นึ ไปทกุ ด้าน
(๔) ผูเ้ รยี นมผี ลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคใ์ นระดบั ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ในระดบั “ผ่าน” ข้ึนไปทุกดา้ น
(๕) ผูเ้ รียนตอ้ งเขา้ ร่วมกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น และมีผลการประเมนิ ในระดับ “ผา่ น” ทกุ กจิ กรรม
การจดั การเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เป�นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน เป�นหลักสูตรที่มีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
เปน� เปา้ หมายสำหรับพัฒนาเดก็ และเยาวชน
ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร กระบวนการเรียนรู้
จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝ�ง
เสรมิ สร้างคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ พัฒนาทกั ษะต่างๆ อันเป�นสมรรถนะสำคัญให้ผเู้ รียนบรรลุตามเปา้ หมาย
๑. หลักการจัดการเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี
ความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
กระบวนการจดั การเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผูเ้ รียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึงความ
แตกต่างระหว่างบคุ คลและพัฒนาการทางสมองเน้นให้ความสำคญั ทัง้ ความรู้ และคุณธรรม
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๒๙๔
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศึกษา
๒. กระบวนการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป�นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย
เป�นเครื่องมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป�นสำหรับผู้เรียน อาทิ
กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม กระบวนการ
เผชิญสถานการณ์และแก้ป�ญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทำจริง
กระบวนการจัดการ กระบวนการวจิ ัย กระบวนการเรียนร้กู ารเรียนรูข้ องตนเอง กระบวนการพฒั นาลักษณะนิสยั
กระบวนการเหล่านี้เป�นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝ�กฝน พัฒนา เพราะจะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังนั้นผู้สอนจึงจำเป�นต้องศึกษาทำความ
เข้าใจในกระบวนการเรยี นรู้ตา่ งๆ เพื่อใหส้ ามารถเลือกใชใ้ นการจัดกระบวนการเรยี นร้ไู ดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
๓. การออกแบบการจดั การเรียนรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญ
ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ
จัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียน
ได้พฒั นาเตม็ ตามศักยภาพและบรรลตุ ามเปา้ หมายทก่ี ำหนด
๔. บทบาทของผสู้ อนและผ้เู รียน
การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ทั้งผู้สอนและผู้เรียน
ควรมบี ทบาท ดังนี้
๔.๑ บทบาทของผ้สู อน
๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป�นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้
ท่ีท้าความสามารถของผเู้ รียน
๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ
ทีเ่ ปน� ความคดิ รวบยอด หลกั การ และความสมั พนั ธ์ รวมท้งั คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ทีตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการ
ทางสมอง เพ่อื นำผเู้ รยี นไปส่เู ป้าหมาย
๔) จดั บรรยากาศทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ และดแู ลชว่ ยเหลอื ผเู้ รียนให้เกิดการเรียนรู้
๕) จัดเตรยี มและเลอื กใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภมู ปิ ญ� ญาท้องถิน่ เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม
มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจัดการเรียนการสอน
๖) ประเมนิ ความก้าวหนา้ ของผเู้ รยี นด้วยวิธีการทีห่ ลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาติ
ของวิชาและระดับพฒั นาการของผ้เู รียน
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๒๙๕
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งปรับปรุงการจัดการ
เรียนการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผ้เู รยี น
๑) กำหนดเปา้ หมาย วางแผน และรบั ผิดชอบการเรยี นรู้ของตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม คิดหา
คำตอบหรอื หาแนวทางแก้ป�ญหาดว้ ยวิธีการตา่ งๆ
๓) ลงมือปฏบิ ตั ิจรงิ สรุปสง่ิ ท่ีได้เรียนรูด้ ้วยตนเอง และนำความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ในสถานการณต์ ่างๆ
๔) มปี ฏสิ มั พนั ธท์ ำงานทำกิจกรรมรว่ มกบั กล่มุ และครู
๕) ประเมนิ และพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ของตนเองอยา่ งต่อเน่ือง
ส่ือการเรยี นรู้
ส่ือการเรยี นรูเ้ ป�นเครอื่ งมอื ส่งเสริมสนับสนุนการจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ใหผ้ ้เู รยี นเขา้ ถึงความรู้ ทกั ษะ
กระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้มีหลากหลาย
ประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่างๆ ที่มีในท้องถิ่น การเลือกใช้สื่อ
ควรเลือกใหม้ ีความเหมาะสมกบั ระดบั พฒั นาการ และลลี าการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลายของผู้เรียน
การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมี
คุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง
สถานศึกษา เขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา หน่วยงานที่เกยี่ วขอ้ งและผูม้ หี นา้ ทีจ่ ดั การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน ควรดำเนินการดงั น้ี
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์
การเรียนรูฝ้ ระหวา่ งสถานศกึ ษา ทอ้ งถิน่ ชุมชน สังคมโลก
๒. จัดทำและจดั หาส่ือการเรียนรสู้ ำหรับการศึกษาค้นควา้ ของผู้เรียน เสรมิ ความรูใ้ ห้ผู้สอน รวมท้ังจัดหา
สิ่งทมี่ อี ยูใ่ นท้องถน่ิ มาประยุกต์ใช้เปน� ส่ือการเรยี นรู้
๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการ
เรยี นรู้ ธรรมชาตขิ องสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบคุ คลของผู้เรียน
๔. ประเมินคุณภาพของสอื่ การเรยี นรู้ทเ่ี ลอื กใช้อยา่ งเปน� ระบบ
๕. ศกึ ษาค้นคว้า วิจัย เพ่อื พัฒนาสอื่ การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของผ้เู รยี น
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ยิ าตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๒๙๖
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา
๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้ส่ือ
การเรียนรูเ้ ปน� ระยะๆ และสม่ำเสมอ
ในการจัดทำการเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษา ควรคำนึงถึงหลักการ
สำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการ
เรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคงของชาติ ไม่ขัดต่อ
ศลี ธรรม มีการใช้ภาษาที่ถูกตอ้ ง รูปแบบการนำเสนอทเี่ ขา้ ใจงา่ ย และนา่ สนใจ
การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการ คือ การประเมิน
เพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จน้ัน
ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะ
สำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป�นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุก
ระดับไม่ว่าจะเป�นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและ
ประเมินผลการเรียนรู้ เป�นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป�นข้อมูลและสารสนเทศที่
แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป�นประโยชน์
ต่อการส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นเกิด การพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มตามศกั ยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป�น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับ
เขตพืน้ ท่กี ารศึกษา และระดับชาติ มีรายละเอยี ด ดงั นี้
๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป�นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน
ดำเนินการเป�นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น
การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน
การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป�นผู้ประเมินเองหรือเป�ดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน
ผปู้ กครองร่วมประเมิน ในกรณที ีไ่ ม่ผา่ นตวั ช้วี ัดใหม้ ีการสอนซอ่ มเสรมิ
การประเมินระดับชั้นเรียนเป�นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้
อันเป�นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนา
ปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยังเป�นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งนี้โดย
สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ัด
๒. การประเมินระดบั สถานศกึ ษา เปน� การประเมินท่สี ถานศึกษาดำเนินการเพ่ือตดั สินผล การเรียนของ
ผู้เรียนเป�นรายป�/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ และ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการ
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๒๙๗
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา
เรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนใน
สถานศกึ ษาเปรยี บเทยี บกับเกณฑ์ระดบั ชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป�นขอ้ มลู และสารสนเทศเพ่ือ
การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัด
การศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พ้นื ฐาน ผปู้ กครองและชมุ ชน
๓. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป�นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป�นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพ
ผลสัมฤทธข์ิ องผเู้ รียนด้วยข้อสอบมาตรฐานท่ีจัดทำและดำเนินการโดยเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา หรอื ด้วยความร่วมมือกับ
หน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมิน
ระดับสถานศกึ ษาในเขตพนื้ ท่กี ารศึกษา
๔. การประเมินระดับชาติ เป�นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียน ในชั้นประถมศึกษาป�ที่ ๓ ช้ัน
ประถมศึกษาป�ที่ ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป�นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาใน
ระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป�นข้อมูลสนับสนุนการ
ตัดสินใจในระดบั นโยบายของประเทศ
ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป�นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา
คุณภาพผู้เรียน ถือเป�นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข
ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตาม
สภาพป�ญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มี
ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นต่ำ กลุ่มผู้เรยี นที่มีป�ญหาด้านวนิ ัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรยี นทป่ี ฏเิ สธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียน
ที่มีป�ญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติป�ญญา เป�นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป�น
หัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ป�ดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและ
ประสบความสำเร็จในการเรียน
สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการ
เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป�นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป�นข้อกำหนดของหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน เพื่อให้บุคลากรทเ่ี กยี่ วขอ้ งทกุ ฝ่ายถือปฏบิ ัติร่วมกนั
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาตาพัชญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๒๙๘
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา
เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการเรียน
การตัดสนิ ผลการเรยี น
ในการตัดสนิ ผลการเรียนของกล่มุ สาระการเรยี นรู้ การอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น คุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนานักเรียนแต่ละคนเป�นหลัก และต้องเก็บ
ขอ้ มูลของนกั เรยี นทุกด้านอยา่ งสม่ำเสมอและตอ่ เนอื่ งในแต่ละภาคเรยี น มเี กณฑ์ดังน้ี
(๑) ผู้เรยี นตอ้ งมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทงั้ หมด
(๒) ผ้เู รียนต้องได้รบั การประเมนิ ทกุ ตวั ช้วี ดั และผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐
ของจำนวนตวั ชี้วดั
(๓) ผ้เู รยี นต้องไดร้ บั การตดั สินผลการเรยี นทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดในการ
อา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๒๙๙
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา
การให้ระดบั ผลการเรยี น
๑๓.๑ การตัดสินผลการเรียนรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้ใช้ระบบตัวเลข แสดงระดับการ
เรยี นในแต่ละกลุ่มสาระ ดงั น้ี
ระดบั ผลการเรียน ความหมาย ชว่ งคะแนนรอ้ ยละ
๔ ผลการเรยี นดเี ยี่ยม ๘๐ - ๑๐๐
๓.๕ ผลการเรยี นดมี าก ๗๕ - ๗๙
๓ ผลการเรียนดี ๗๐ - ๗๔
๒.๕ ผลการเรยี นค่อนข้างดี ๖๕ - ๖๙
๒ ผลการเรยี นน่าพอใจ ๖๐ - ๖๔
๑.๕ ผลการเรียนพอใช้ ๕๕ - ๕๙
๑ ผลการเรียนผ่านเกณฑข์ นั้ ต่ำ ๕๐ - ๕๔
๐ ผลการเรียนตำ่ กวา่ เกณฑ์ ๐ - ๔๙
๑๓.๒ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนเป�นผ่านและไม่ผ่าน ถ้ากรณีที่ผ่าน กำหนด
เกณฑ์การตดั สนิ เป�นดีเยยี่ ม ดี และผา่ น
ดีเยี่ยม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนที่มีคุณภาพดี
เลิศอยู่เสมอ
ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนที่มีคุณภาพเป�นท่ี
ยอมรับ
ผา่ น หมายถึง มีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ที่มีคุณภาพเป�นท่ี
ยอมรบั แต่ยังมขี อ้ บกพร่องบางประการ
ไม่ผ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน หรือถ้ามี
ผลงาน ผลงานนัน้ ยังมขี ้อบกพรอ่ งทตี่ อ้ งไดร้ บั การปรับปรุงแก้ไขหลายประการ
๑๓.๓ การประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รวมทุกคุณลกั ษณะเพ่อื การเล่ือนช้นั และจบการศกึ ษา
เป�นผ่านและไม่ผ่าน ในการผ่านกำหนดเกณฑ์การตัดสินเป�นดีเยี่ยม ดี และผ่าน และความหมายของแต่ละระดับ
ดังนี้
ดีเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป�นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อ
ประโยชน์สุขของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน ๕ - ๘ คุณลักษณะ และ
ไมม่ ีคณุ ลักษณะใดไดผ้ ลการประเมินต่ำกว่าระดับดี
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๐๐
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา
ดี หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เป�นการยอมรับของสังคมโดย
พิจารณาจาก
๑) ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยมจำนวน ๑ - ๔ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ต่ำกวา่ ระดบั ดี หรือ
๒) ได้ผลการประเมินระดับดี เยี่ยมจำนวน ๔ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมิน
ตำ่ กว่าระดบั ผา่ นหรอื
๓) ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน ๕ - ๘ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมิน
ตำ่ กวา่ ระดบั ผ่าน
ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณา
จาก
๑) ได้ผลการประเมินระดับผ่าน จำนวน ๕ - ๘ คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมินต่ำกว่าระดับผา่ น หรอื
๒) ได้ผลการประเมินระดบั ดี จำนวน ๔ คุณลักษณะ และไมม่ คี ณุ ลกั ษณะใดไดผ้ ลการประเมินต่ำกว่า
ระดับผ่าน
ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนดโดย
พจิ ารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ไมผ่ า่ นตั้งแต่ ๑ คุณลักษณะ
๑๓.๔ การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมการปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดและให้ผลการประเมินเป�นผ่าน และไม่ผ่านให้ใช้
ตัวอกั ษรแสดงผลการประเมิน ดังน้ี
“ผ” หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ปฏิบัติกิจกรรม
และมีผลงานเปน� ท่ีประจักษ์
“มผ” หมายถงึ ผูเ้ รียนมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและมผี ลงาน
ไมเ่ ปน� ไปตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากำหนด
ในกรณีที่ผู้เรียนได้ “มผ” ครูผู้ดูแลกิจกรรมต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทำกิจกรรมในส่วนที่ผู้เรียน
ไมไ่ ด้เข้าร่วมหรือไม่ไดท้ ำจนครบถ้วน แล้วจงึ เปลย่ี นผลการเรยี นจาก “มผ” เปน� “ผ” ได้ ทง้ั น้ี ตอ้ งดำเนินการให้
เสร็จสิ้นภายในป�การศึกษานั้น ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยห้อยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับ
มอบหมาย
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๐๑
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา
การเล่อื นชนั้
เมือ่ สน้ิ ปก� ารศกึ ษา ผู้เรียนจะไดร้ บั การเลือ่ นชั้น เม่อื มีคณุ สมบตั ติ ามเกณฑด์ ังตอ่ ไปนี้
(๑) ผเู้ รยี นตอ้ งมีเวลาเรยี นไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทั้งหมด
(๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของจำนวน
ตัวช้วี ดั
(๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา ไม่น้อยกว่าระดับ “ ๑ ” จึงจะถือว่าผ่าน
เกณฑ์ตามที่สถานศึกษากำหนด
(๔) นักเรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนในระดับ “
ผ่าน ” ขึ้นไป มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับ“ ผ่าน ” ขึ้นไป และมีผลการประเมินกิจกรรม
พัฒนานักเรยี นในระดบั “ ผ่าน ”
ทง้ั น้ี ถ้าผู้เรียนมขี อ้ บกพรอ่ งเพยี งเลก็ นอ้ ย และพจิ ารณาเห็นวา่ สามารถพฒั นาและสอน
ซ่อมเสรมิ ได้ใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของสถานศึกษาทจี่ ะผอ่ นผันใหเ้ ลื่อนช้นั ได้
อนึ่ง ในกรณีที่ผู้เรียนมีหลักฐานการเรียนรู้ที่แสดงว่ามีความสามารถดีเลิศ สถานศึกษาอาจให้โอกาส
ผู้เรียนเลื่อนชั้นกลางป�การศึกษา โดยสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการประกอบด้วยฝ่ายวิชาการของสถานศึกษา
และผู้แทนของเขตพื้นที่การศึกษาหรือต้นสังกัดประเมินผู้เรียนและตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วนตามเงื่อนไขทั้ง
๓ ประการต่อไปนี้
๑. มีผลการเรียนในป�การศึกษาที่ผ่านมาและมีผลการเรียนระหว่างป�ที่กำลังศึกษาอยู่ในเกณฑ์ดี
เย่ียม
๒. มวี ุฒิภาวะเหมาะสมที่จะเรยี นในชนั้ ทสี่ งู ข้นึ
๓. ผ่านการประเมินผลความรู้ความสามารถทุกรายวิชาของชั้นป�ที่เรียนป�จจุบัน และความรู้
ความสามารถทกุ รายวิชาในภาคเรียนแรกของชั้นปท� จ่ี ะเลอ่ื นข้ึน
การอนุมัติให้เลื่อนชั้นกลางป�การศึกษาไปเรียนชั้นสูงขึ้นได้ ๑ ระดับชั้นนี้ ต้องได้รับการยินยอม
จากผู้เรยี นและผู้ปกครองและต้องดำเนินการให้เสร็จสิน้ ก่อนเป�ดภาคเรียนที่ ๒ ของป�การศกึ ษานั้น สำหรับในกรณี
ที่พบว่ามีผูเ้ รียนกลุ่มพิเศษประเภทต่างๆ มีป�ญหาในการเรียนรู้ให้สถานศกึ ษาดำเนินงานร่วมกับสำนกั งานเขตพืน้ ที่
การศึกษาเฉพาะความพกิ ารหาแนวทางการแก้ไขและพฒั นา
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๓๐๒
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา
การสอนซอ่ มเสรมิ
การสอนซ่อมเสริม เป�นการสอนเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง กรณีที่ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ กระบวนการ หรือ
คุณลักษณะไม่เป�นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด จะต้องจัดสอนซ่อมเสริมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนเต็มตาม
ศักยภาพ การสอนซอ่ มเสรมิ เปน� การสอนเพื่อแกไ้ ขข้อบกพร่องกรณีที่ผู้เรียนมคี วามรู้ ทักษะ กระบวนการ หรือเจต
คติ/คุณลักษณะไม่เป�นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด สถานศึกษาต้องจัดสอนซ่อมเสริมเป�นกรณีพิเศษ
นอกเหนือไปจากการสอนตามปกติเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่กำหนดไว้
เป�นการให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนา โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและตอบสนองความ
แตกต่างระหวา่ งบุคคล
การเปล่ียนผลการเรียน
การเปล่ยี นผลการเรียน“๐”
สถานศึกษาจัดให้มีการสอนซ่อมเสริมในมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่ผู้เรียนสอบไม่ผ่านก่อน
แล้วจึงสอบแก้ตัวได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่สถานศึกษากำหนดให้อยู่ใน
ดุลยพนิ ิจของสถานศกึ ษาทีจ่ ะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีก ๑ ภาคเรยี น สำหรบั ภาคเรยี นที่ ๒ ตอ้ งดำเนินการให้
เสร็จส้ินภายในปก� ารศึกษานนั้
ถ้าสอบแก้ตัว ๒ ครั้งแล้ว ยังได้ระดับผลการเรียน“๐” อีก ให้สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการ
ดำเนนิ การเก่ยี วกบั การเปล่ยี นผลการเรยี นของผู้เรยี นโดยปฏิบตั ิดงั น้ี
๑) ถ้าเป�นรายวชิ าพื้นฐานให้เรยี นซำ้ รายวิชานน้ั
๒) ถา้ เปน� รายวชิ าเพ่มิ เติมให้เรียนซำ้ หรือเปลีย่ นรายวิชาเรียนใหม่ ทัง้ น้ีให้อยู่ในดุลยพินิจของ
สถานศึกษา ในกรณีทเ่ี ปล่ียนรายวิชาเรียนใหม่ให้หมายเหตุในระเบยี นแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทนรายวิชาใด
การเปล่ยี นผลการเรียน“ร”
การเปลี่ยนผลการเรียน“ร”ให้ดำเนินการดังนี้ ให้ผู้เรียนดำเนินการแก้ไข “ร” ตามสาเหตุ เม่ือ
ผู้เรียนแก้ไขป�ญหาเสร็จแล้วให้ได้ระดับผลการเรียนตามปกติ (ตั้งแต่ ๐ - ๔) ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนินการแก้ไข “ร”
กรณีที่ส่งงานไม่ครบแต่มีผลการประเมินระหว่างภาคเรียนและปลายภาคให้ผู้สอนนำข้อมูลที่มีอยู่ตัดสินผลการ
เรียนยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาค
เรียนสำหรับภาคเรียนที่ ๒ ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในป�การศึกษานั้น เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วให้เรียนซ้ำ หาก
ผลการเรยี นเปน� “๐” ให้ดำเนินการแกไ้ ขตามหลกั เกณฑ์
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓๐๓
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา
การเปล่ียนผลการเรียน “มส”
การเปลีย่ นผลการเรยี น“มส” มี ๒ กรณี ดงั น้ี
๑) กรณีผเู้ รียนไดผ้ ลการเรยี น “มส” เพราะมีเวลาเรียนไมถ่ งึ รอ้ ยละ ๘๐
แต่มีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียนในรายวิชานั้น ให้จัดให้เรียนเพิ่มเติมโดยใช้ชั่วโมงสอนซ่อม
เสรมิ หรือใชเ้ วลาวา่ ง หรือใชว้ ันหยุดหรอื มอบหมายงานใหท้ ำจนมเี วลาเรยี นครบตามท่กี ำหนดไว้สำหรบั รายวิชาน้ัน
แล้วจงึ ใหว้ ดั ผลปลายภาคเปน� กรณพี เิ ศษ
ผลการแก้ “มส” ใหไ้ ด้ระดบั ผลการเรยี นไม่เกนิ “๑” การแก้
“มส” กรณีนี้ให้กระทำให้เสร็จสิ้นภายในป�การศึกษานั้น ถ้าผู้เรียนไม่มาดำเนินการแก้ “มส”
ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ให้เรียนซ้ำ ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะขยายเวลาการ
แก้ “มส” ออกไปอกี ไมเ่ กิน ๑ ภาคเรียน แต่เมื่อพน้ กำหนดนแี้ ล้วให้ปฏบิ ัตดิ งั น้ี
(๑) ถา้ เปน� รายวชิ าพื้นฐานใหเ้ รยี นซำ้ รายวชิ าน้ัน
(๒) ถ้าเป�นรายวิชาเพิ่มเติมให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยน
รายวิชาเรียนใหม่
๒) กรณีผู้เรียนได้ผลการเรีย “มส” เพราะมีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียน
ทัง้ หมดใหส้ ถานศกึ ษาดำเนนิ การดงั น้ี
(๑) ถา้ เปน� รายวิชาพ้นื ฐานให้เรยี นซ้ำรายวิชานั้น
(๒) ถ้าเป�นรายวิชาเพิ่มเติมให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยน
รายวิชาเรียนใหม่ ในกรณีท่ีเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ให้หมายเหตใุ นระเบียนแสดงผลการเรียนวา่ เรยี นแทนรายวิชา
ใด
การเรียนซ้ำรายวิชา ผู้เรียนที่ได้รับการสอนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัว ๒ ครั้งแล้วไม่ผ่านเกณฑ์การ
ประเมินให้เรียนซ้ำรายวิชานั้น ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจัดให้เรียนซ้ำในช่วงใดช่วงหนึ่งที่
สถานศึกษาเหน็ วา่ เหมาะสม เช่น พักกลางวนั วันหยุด ช่วั โมงวา่ งหลังเลิกเรียนภาคฤดูรอ้ นเปน� ต้น
ในกรณีภาคเรียนที่ ๒ หากผู้เรียนยังมีผลการเรียน “๐” “ร” “มส” ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน
เป�ดเรียนป�การศึกษาถัดไป สถานศึกษาอาจเป�ดการเรียนการสอนในภาคฤดูร้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียนของผู้เรียน
ได้
การเปลย่ี นผล“มผ”
กรณีที่ผู้เรียนได้ผล “มผ” สถานศึกษาต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทำกิจกรรมในส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้เขา้
ร่วมหรือไม่ไดท้ ำจนครบถ้วน แล้วจึงเปลี่ยนผลจาก“มผ” เป�น “ผ” ได้ ทั้งนี้ดำเนินการใหเ้ สร็จสิ้นภายในภาคเรียน
นั้นๆ ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรียน
สำหรับภาคเรยี นที่ ๒ ต้องดำเนนิ การใหเ้ สรจ็ สิน้ ภายในป�การศึกษาน้ัน
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๐๔
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา
การเรียนซ้ำชัน้
ผู้เรียนที่ไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป�นป�ญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น
สถานศึกษา ต้องตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชั้นได้ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถ
ของผเู้ รียนเป�นสำคัญ
ผู้เรียนที่ไม่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การเลื่อนชั้น สถานศึกษาควรให้เรียนซ้ำชั้น ทั้งนี้ สถานศึกษาอาจ
ใช้ดุลยพินจิ ให้เลื่อนชัน้ ได้ หากพจิ ารณาว่าผู้เรยี นมคี ณุ สมบัติข้อใดข้อหน่งึ ดงั ตอ่ ไปนี้
๑) มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ อันเนื่องจากสาเหตุจำเป�นหรือเหตุสุดวิสัย แต่มีคุณสมบัติตาม
เกณฑก์ ารเลอ่ื นช้นั ในข้ออื่นๆ ครบถ้วน
๒) ผู้เรียนมีผลการประเมินผ่านมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดไม่ถึงเกณฑ์ตามที่สถานศึกษา
กำหนดในแตล่ ะรายวิชา แต่เหน็ ว่าสามารถสอนซ่อมเสริมได้ในปก� ารศึกษาน้ัน และมคี ุณสมบตั ิตามเกณฑ์การเล่ือน
ชัน้ ในขอ้ อื่นๆ ครบถว้ น
๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินรายวิชาในกลุ่มสาระภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม
ศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมอยใู่ นระดับผา่ น
ก่อนท่ีจะให้ผเู้ รยี นเรียนซำ้ ชัน้ สถานศึกษาต้องแจ้งใหผ้ ปู้ กครองและผ้เู รียนทราบเหตผุ ลของการเรียน
ซำ้ ชนั้
เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
เอกสารหลักฐานการศึกษา เป�นเอกสารสำคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับ
พฒั นาการของผเู้ รยี นในด้านต่างๆ แบง่ ออกเป�น ๒ ประเภท ดงั นี้
๒. เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่ีสถานศึกษากำหนด
เป�นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เกี่ยวกับผู้เรียน
เช่น แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรียน
และเอกสารอนื่ ๆ ตามวัตถุประสงคข์ องการนำเอกสารไปใช้
การเทยี บโอนผลการเรียน
สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรยี นของผเู้ รียนในกรณตี ่างๆได้แก่ การย้ายสถานศกึ ษา การเปลี่ยน
รูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศ
และขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้
อนื่ ๆ เชน่ สถานประกอบการ สถาบนั ศาสนา สถาบันการฝ�กอบรมอาชพี การจดั การศึกษาโดยครอบครัว
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๐๕
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา
การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเป�ดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก ที่
สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป�นผู้เรียน ทั้งนี้ ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่องใน
สถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาที่รับผู้เรียนจากการเทียบโอนควรกำหนด
รายวชิ า/จำนวนหนว่ ยกติ ที่จะรบั เทียบโอนตามความเหมาะสม
การพิจารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนินการได้ ดงั น้ี
๑. พจิ ารณาจากหลักฐานการศกึ ษา และเอกสารอน่ื ๆ ทใี่ ห้ข้อมลู แสดงความรู้ ความสามารถของผูเ้ รยี น
๒. พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรียนโดยการทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งภาคความรู้และ
ภาคปฏบิ ตั ิ
๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏบิ ตั ใิ นสภาพจริง
การเทียบโอนผลการเรยี นใหเ้ ป�นไปตาม ประกาศ หรอื แนวปฏบิ ตั ิ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาทกี่ ระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป�นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของผู้เรียน
ตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ
สถานศึกษา และผลการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน สถานศกึ ษาจะตอ้ งบันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้ให้ผู้เรียน
เปน� รายบุคคล เมือ่ ผู้เรียนจบการศกึ ษาระดับประถมศกึ ษา
๑.๓ แบบรายงานผูส้ ำเรจ็ การศกึ ษา เป�นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทกึ รายชื่อและข้อมูล
ของผูจ้ บการศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๓๐๖
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา
การบริหารจัดการหลักสตู ร
ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตรน้ัน
หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวขอ้ งในแตล่ ะระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับท้องถิ่น จนถึงระดับสถานศึกษา มีบทบาทหน้าที่
และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป�นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เพอ่ื ใหก้ ารดำเนนิ การจัดทำหลักสตู รสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษามปี ระสิทธิภาพสูงสุด
อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกำหนดไว้ในระดับชาติคุณภาพของของ
ผูเ้ รยี นทส่ี ำคญั และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ระดับท้องถ่ิน ไดแ้ ก่ สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา หนว่ ยงานต้นสังกัดอนื่ ๆ เปน� หนว่ ยงานท่ีมีบทบาทใน
การขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป�นตัวกลางที่จะเชื่อมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานที่
กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรของ
สถานศึกษา สง่ เสริมการใชแ้ ละพฒั นาหลักสตู รในระดบั สถานศกึ ษา ให้ประสบความสำเร็จ โดยมภี ารกจิ สำคัญ คอื
กำหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในระดับท้องถิ่นโดยพิจารณาให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป�น
ความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถิ่น รวมทั้ง
เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามผล
ประเมินผล วิเคราะห์ และรายงานผลคณุ ภาพของผเู้ รยี น
สถานศกึ ษามีหน้าท่ีสำคญั ในการพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้หลักสตู ร การ
เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจยั และพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลกั สูตรจดั ทำระเบียบการวัดและ
ประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พืน้ ฐาน และรายละเอียดทเ่ี ขตพืน้ ท่ีการศึกษา หรอื หนว่ ยงาน สังกดั อ่นื ๆ ในระดับท้องถ่ินได้จดั ทำเพิม่ เติม รวมท้ัง
สถานศึกษาสามารถเพิม่ เติมในส่วนทเ่ี กยี่ วกบั สภาพปญ� หาในชุมชนและสงั คม ภูมิป�ญญาท้องถ่นิ และความต้องการ
ของผเู้ รียน โดยทุกภาคส่วนเขา้ มามีสว่ นร่วมในการพฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษา
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ยิ าตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๐๗
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓๐๘
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา
วิสัยทัศนก์ จิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
“ มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนารอบด้านเพื่อความเป�นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติป�ญญา
อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป�นผู้มีจริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝ�งและสร้างจิตสํานึกของการทําประโยชน์
เพอ่ื สังคม สามารถจดั การตนเองไดแ้ ละอยรู่ ว่ มกับผอู้ ื่นอยา่ งมคี วามสุข ” ..
หลกั การกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน พัฒนาผู้เรียนให้ใช้องค์ความรู้ ทักษะและเจตคติ จากการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ และประสบการณ์ของผู้เรียนมาปฏิบัติกิจกรรมเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสําคัญ อันได้แก่
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ป�ญหา ความสามารถในการใช้ทักษะ
ชีวติ และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ซงึ่ จะส่งผลในการพฒั นาผู้เรียนใหม้ คี ณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มีทักษะ
การทํางานและอยู่ร่วมกับผู้อืน่ ได้อย่างมคี วามสุขในฐานะเป�นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก อันได้แก่ รักชาติ ศาสน์
กษัตริย์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั ในการทํางาน รกั ความเปน� ไทยและมจี ติ สํานกึ สาธารณะ.....
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน มหี ลักการสาํ คัญ ดังนี้
๑. มีการกาํ หนดเปา้ หมายของการจัดกิจกรรมท่ีชดั เจน เป�นรูปธรรม และครอบคลมุ นักเรียนทกุ คน
๒. เป�นกจิ กรรมที่ผู้เรยี นไดพ้ ฒั นาตนองอย่างรอบด้านเตม็ ตามศกั ยภาพตามความสนใจ ความถนดั
ความต้องการ และความเหมาะสมกับวยั และวฒุ ภิ าวะ
๓. เปน� กจิ กรรมท่ปี ลูกฝง� และส่งเสริมจิตสํานึกในการบาํ เพ็ญตนให้เปน� ประโยชนต์ ่อสังคมในลักษณะ
ตา่ งๆท่สี อดคล้องกับวถิ ชี วี ิต ประเพณี และวัฒนธรรมอย่างตอ่ เนอื่ งและสมํา่ เสมอ
๔. เปน� กิจกรรมทยี่ ดึ หลกั การมสี ่วนร่วม โดยเปด� โอกาสให้ครู พอ่ แม่ ผู้ปกครอง ผูน้ าํ ชุมชน ปราชญ์
ชาวบ้าน และหน่วยงานอ่นื มสี ว่ นร่วมในการจดั กิจกรรม
เป้าหมายกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ ๕ ประการ ได้แก่ ความสามารถใน
การสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ป�ญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริยซ์ ือ่ สัตย์
สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทํางาน รักความเป�นไทยและมีจิตสาธารณะ ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓๐๙
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา
สมรรถนะของ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ๕ ประการ
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคโิ
๓. ความสามารถในการแก้ปญ� หา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๘ ประการ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ได้แก่
๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซ่อื สตั ย์สุจริต
๓. มีวินยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มุ่งม่ันในการทํางาน
๗. รักความเปน� ไทย
๘. มจี ติ สาธารณะ
แนวการจัดกิจกรรม
โรงเรยี นฐิติยาตาพัชญาพร จัดใหผ้ ู้เรียนทกุ คนเข้ารว่ มกิจกรรม โดยมแี นวการจดั กิจกรรม ดงั นี้
๑. ใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ัตกิ รรมด้วยความสมคั รใจ
๒. ให้ผู้ได้ปฏิบัติกิจกรรมผ่านประสบการณ์ที่หลากหลาย ฝ�กการทํางานที่สอดคล้องกับชีวิตจริง
ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์ของผ้เู รียน
๓. จัดกิจกรรมอยา่ งสมดุลทั้ง ๓ กิจกรรม คือ กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพือ่
สังคมและสาธารณประโยชน์ มีความสมดลุ ในการจัดกิจกรรมรายบคุ คลและกิจกรรมกลุ่ม รวมทั้ง
มีการจัดกจิ กรรมในและนอกสถานศกึ ษา
๔. จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เรียนเป�นผู้ดําเนินการ โดยมีการสํารวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผน
อยา่ งเป�นระบบ เน้นการคดิ วเิ คราะหแ์ ละใช้ความคดิ สรา้ งสรรค์ ในการดําเนนิ กจิ กรรม
๕. ใช้กระบวนการมีส่วนร่วม และการเรียนรู้แบบร่วมมือมากกว่าเน้นการแข่งขนบนพื้นฐานการ
ปฏิบัติตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๑๐
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา
ขอบข่ายกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
โรงเรียนโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้มีความหลากหลายรูปแบบ
วธิ ีการ โดยมีขอบขา่ ยดงั นี้
๑. เปน� กจิ กรรมทีส่ ่งเสรมิ การเรียนรู้ ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ให้กว้างขวางลึกซงึ้ ย่งิ ข้ึน ในลักษณะเปน�
กระบวนการเชิงบูรณาการ โดยยึดหลักคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนสามารถบูรณาการระหว่างกิจรรม
แนะแนว กจิ กรรมนกั เรียน และกิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน์
๒. เปน� กจิ กรรมท่ตี อบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการของผู้เรยี น ตามความแตกต่าง
ระหว่างบุคคลเน้นการให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าของวิชาชีพ ความรู้ อาชีพ และการดําเนินชีวิตที่ดีงาม
ตลอดจนเห็นแนวทางในการศกึ ษาต่อและการประกอบอาชีพ
๓. เปน� กิจกรรมทีป่ ลูกฝง� และสง่ เสริมจติ สาํ นกึ การทาํ ประโยชน์ตอ่ สังคมในลกั ษณะตา่ งๆ สนับสนนุ คา่ นิยมท่ีดี
งามและสร้างเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
๔. เปน� กจิ กรรมท่ฝี ก� การทาํ งานและการให้บรกิ ารด้านต่างๆ ทั้งทเ่ี ป�นประโยชนต์ ่อตนเองและต่อ
สว่ นรวม เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความมีน้ําใจ ความเอ้อื อาทร ความเปน� พลเมอื งดี และความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง
ครอบครัว และสงั คม
การจดั กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
โรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งให้ผู้เรียนได้
พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้าน เพื่อความเป�นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกายสติป�ญญา อารมณ์
และสังคม เสริมสร้างให้เป�นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝ�งและสร้างจิตสํานึกของการทําประโยชน์
เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอย่รู ่วมกับผูอ้ นื่ อย่างมีความสขุ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ใช้
องค์ความรู้ทักษะและเจตคติ จากการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ และประสบการณ์ของผู้เรียนมาปฏิบัติ
กิจกรรมเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสําคัญ อันได้แก่ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ป�ญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ซึ่งจะ
ส่งผลในการพฒั นาผู้เรียน ใหม้ คี ณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มที กั ษะการทํางานและอยูร่ ่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมี
ความสุขในฐานะเป�นพลเมืองไทยและพลโลกอันได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่
อย่างพอเพยี ง ม่งุ มนั่ ในการทาํ งานรักความเป�นไทยและมีจิตสาธารณะ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ท่ีจดั ใหก้ บั นกั เรียนประกอบด้วยกิจกรรม ๓ ลักษณะ ดงั น้ี
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๑๑
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศึกษา
๑. กิจกรรมแนะแนว
เป�นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิด ตัดสินใจ คิด
แก้ป�ญหา กาํ หนดเปา้ หมาย วางแผนชีวิตทงั้ ดา้ นการเรียน และอาชีพ สามารถปรบั ตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากน้ี
ยงั ช่วยให้ครูรู้จักและเขา้ ใจผเู้ รยี น ทัง้ ยงั เป�นกจิ กรรมทีช่ ่วยเหลือและให้คําปรกึ ษาแกผ่ ู้ปกครองใน
การมีส่วนรว่ มพฒั นาผเู้ รยี น จัดให้เรยี น ๑ คาบ/สปั ดาห์
๒. กจิ กรรมนักเรยี น
เป�นกิจกรรมทีม่ ุง่ พฒั นาความมีระเบยี บวินัย ความเป�นผู้นํา ผตู้ ามที่ดี มคี วามรับผิดชอบการทาํ งานร่วมกัน
การรู้จักแก้ป�ญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งป�นเอื้ออาทรและสมานฉันท์ โดยจัด
ให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่
การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทํางานเน้นการทาํ งานร่วมกันเป�นกลุ่มตาม
ความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนและบริบทของโรงเรียนและท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียน
ประกอบดว้ ย
ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ( ม.๑-ม.๓)
๒.๑ กิจกรรมลูกเสือ ผบู้ าํ เพญ็ ประโยชน์ นักเรียนเลือกได้ ๑ กิจกรรม เรียนในวนั พธุ
๑ คาบ/สปั ดาห์
๒.๒ กจิ กรรมชมุ นมุ ต่างๆ ท่คี รูในกล่มุ สาระฯเปด� ให้นกั เรียนเลอื ก นกั เรียนสามารถเลือก
ได้ ๑ ชุมนุม จัดใหเ้ รียนในวนั พฤหสั บดี ๑ คาบ/สปั ดาห์
๓. กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์
เป�นกจิ กรรมทส่ี ่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นบําเพญ็ ตนให้เปน� ประโยชน์ต่อสังคม ชุมชนและทอ้ งถ่นิ ตามความสนใจใน
ลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคมและการมีจิตสาธารณะ เช่น
กิจกรรมอาสาพฒั นาตา่ งๆ กจิ กรรมสร้างสรรคส์ งั คม กจิ กรรมบําเพญ็ ประโยชน์ กิจกรรมวนั สาํ คัญต่างๆโรงเรียนจัด
เวลาให้นักเรยี นไดป้ ฏิบตั กิ จิ กรรม ดังน้ี
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ( ม.๑-ม.๓) จาํ นวน ๑๕ ช่วั โมง/ป� หรอื ๔๕ คาบ/ ๓ ป�
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓๑๒
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา
การจัดหนว่ ยกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ชว่ งช้นั ท่ี ๓ ชนั้ มัธยมศึกษาปท� ี่ ๑
จำนวนหน่วยกิจกรรม ๓๒ หนว่ ย เวลา ๓๖ ชวั่ โมง
• กิจกรรมแนะแนวการศึกษา
การรจู้ ักตนเอง
ความรคู้ วามสามารถทางการเรียน (ฉนั รู้นะ) ๑
ความถนัดทางการเรียน (ชอบอะไรดี) ๑
นสิ ยั ทางการเรียน (เรยี นใหเ้ ก่ง) ๑
โลกกว้างทางการศกึ ษา
การจัดการศึกษาในโรงเรียน (ภาษาไทยสำคญั ) ๑
การวางแผนและพัฒนาทักษะทางการเรยี น
การวางแผนการเรยี น (เลอื กแผนไหนดจี ๊ะ) ๑
การวางแผนการเรยี นรู้ (ร้จู กั หลักสูตรมธั ยม) ๒
การพฒั นาทักษะทางการเรียน
- ความจำ/สมาธิ(จำ…น้ดี อี ย่างไร) ๑
- การกล้าแสดงออก (ขอไดใ้ ห้เลย) ๑
- นสิ ัยรกั การอ่าน (แหล่งความรู)้ ๑
- นิสัยรักการอ่าน (หาคำตอบ) ๑
- การจดบนั ทึก (บนั ทึกทำไม) ๑
- การคดิ อยา่ งมีเหตุผล (เรยี นไมด่ ีเพราะเหตใุ ด) ๑
- การใช้เวลาว่าง (มขี องดมี าฝาก) ๑
• กจิ กรรมแนะแนวอาชีพ
การรจู้ ักตนเอง
ความถนดั ความสามารถ (วาดฝน� ) ๑
คา่ นิยมต่ออาชพี (เป�นใครดี) ๑
โลกกว้างทางอาชีพ
ร้จู ักอาชพี (ดอกไมอ้ าชีพ) ๑
การเตรยี มตวั สอู่ าชพี
วางแผนตดั สนิ ใจเลอื กอาชพี (การเตรยี มตวั ที่ด)ี ๑
เสริมสรา้ งคา่ นิยมและเจตคติตอ่ อาชีพ (เศรษฐเี งินล้าน) ๑
มลพษิ อาชพี (ป้องกันตนเองใหพ้ น้ ภยั ) ๑
ประสบการณ์ในอาชพี (น่าลอง) ๑
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๑๓
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา
• กิจกรรมแนะแนวเพื่อพฒั นาบคุ ลิกภาพ ๑
การรจู้ ักการยอมรับและการปรับปรุงบคุ ลิกภาพของตนเอง ๑
๑
การคดิ และทำอยา่ งมเี หตผุ ล(ร้เู ขา…ร้เู รา) ๑
๑
การมอี ารมณ์มั่นคง (นห่ี รอื คือเรา)
๑
การมองโลกแง่ดี (ดัน้ ดน้ ค้นหาความด)ี ๑
การรจู้ ักพง่ึ ตนเอง (พึง่ ตนเอง) ๑
๒
การเหน็ คุณคา่ ของตนเอง (ภาพประทบั ใจ) ๑
การรจู้ กั สง่ิ แวดลอ้ มที่มีอิทธพิ ลต่อสุขภาพ ๑
๑
การเข้าใจสภาพความเปล่ียนแปลงของสงิ่ แวดล้อม (อยู่อยา่ งเป�นสขุ )
การพัฒนาสง่ิ แวดลอ้ มและการปรับตัวให้เข้ากบั ส่ิงแวดลอ้ ม
(สาธารณสมบัติ)
การเสรมิ สร้างทักษะทางสงั คมเพอื่ อยอู่ ย่างมีความสขุ
การมีมนุษย์สัมพันธ์ (ทายใจเพื่อน)
การมีระเบยี บวินัย (บา้ นแสนสุข)
การทำงานร่วมกัน (ชว่ ยกนั ทำ)
การมจี ิตใจโอบออ้ มการีช่วยเหลือผูอ้ น่ื (เพือ่ นรกั )
การรจู้ กั และปฏบิ ตั ติ ามวฒั ธนธรรมไทย (มารยาทดีมีเสนห่ )์
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓๑๔
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา
การจัดทำหนว่ ยกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น
ช้ันมัธยมศึกษาปท� ่ี ๒
ลำดบั ที่ ชอ่ื หน่วยกจิ กรรม เวลา (ชว่ั โมง)
กิจกรรมแนะแนวการศึกษา ๑๐
๑ การรูจ้ กั ตนเอง ๒
๒ โลกกวา้ ทางการศกึ ษา ๑
๓ การวางแผนและพัฒนาทักษะการศกึ ษาทางการเรยี น ๗
กจิ กรรมแนะแนวอาชีพ ๑๔
๔ รูจ้ ักตนเอง ๔
๕ โลกกว้าทางอาชีพ ๒
๖ เตรียมตวั สู่อาชีพ ๘
กิจกรรมแนะแนวเพือ่ พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ ๑๒
๗ การรู้จกั การยอมรบั และการปรับปรุงบุคลกิ ภาพตนเอง ๕
๘ การรจู้ ักสิง่ แวดล้อมทีม่ ีอิทธพิ ลตอ่ บคุ ลิกภาพ ๒
๙ การเสริมทกั ษะทางสังคมเพือ่ อยอู่ ยา่ งมคี วามสุข ๕
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๑๕
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศึกษา
การจดั หนว่ ยกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ชว่ งชนั้ ท่ี ๓ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท� ี่ ๒
จำนวนหน่วยกจิ กรรม ๓๑ หน่วย เวลา ๓๖ ชวั่ โมง
• กจิ กรรมแนะแนวการศึกษา ๑
การร้จู กั ตนเอง ๑
ความรคู้ วามสามารถทางการเรียน (รว่ มด้วยช่วยกนั ) ๑
ความถนดั ทางการเรยี น (ชอบเรียนอะไรจ๊ะ) ๑
โลกกว้าทางการศึกษา ๒
การจดั การศึกษาในโรงเรยี น (วทิ ยาศาสตร์สำคัญไฉน) ๑
การวางแผนและพัฒนาทกั ษะทางการเรยี น ๑
๑
การวางแผนการเรยี น (มาทำตารา่ งเรียนกันดกี วา่ ) ๑
๑
การวางแผนการเรยี นรู้ (เรยี นต่อท่ีไหนด)ี
การพัฒนาทกั ษะทางการเรยี น
- การกลา้ แสดงออก(พูดดมี หี ลกั )
- นิสัยรักการอา่ น (นกั เขยี นวทิ ย)ุ
- การจดบันทึก (บนั ทกึ มหัศจรรย)์
- การคดิ อย่างมีเหตผุ ล (ไปไหนดี)
- การใชเ้ วลาวา่ ง (ตารางชวี ติ )
• กิจกรรมแนะแนวอาชพี ๑
การรจู้ กั ตนเอง ๒
ความถนดั ความสามารถ (สำรวจความสนใจในอาชพี ) ๑
๑
ค่านยิ มต่ออาชพี (สำรวจคา่ นิยม)
โลกกวา้ งทางอาชพี
ร้จู กั อาชีพ (อาชพี จา๋ )
แหลง่ อาชพี (มารจู้ ักแหลง่ สนเทศด้านอาชพี )
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๓๑๖
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา
การเตรียมตวั ส่อู าชีพ ๑
กฎหมายที่ควรรูเ้ กย่ี วกับอาชพี (กฎหมายหน้ารู้) ๑
เทคนิคการหางานทำ (เตรียมตวั สอบสัมภาษณ)์ ๒
วางแผนตดั สนิ ใจเลือกอาชีพ (อาชพี อะไรดี) ๑
๑
เสริมสรา้ งคา่ นิยมและเจตคติอาชพี (คุณคา่ ของชวี ิต) ๒
มลพษิ จากอาชีพ (รู้แล้ว…รู้แลว้ )
ประสบการณ์ในอาชพี (น่าสนใจ) ๑
• กิจกรรมแนะแนวเพ่อื พัฒนาบคุ ลิกภาพ ๑
การรู้จักการยอมรบั และการปรบั ปรุงบคุ ลิกภาพของตนเอง ๒
๑
การมีอารมณม์ น่ั คง(ฉันทำได)้
๑
การมองโลกแงด่ ี (มองแงด่ มี ีความสขุ ) ๑
การร้จู ักพึ่งตนเอง (พง่ึ ตนเอง)
การเหน็ คุณค่าของตนเอง (ฉันคือบคุ คลสำคัญ) ๑
การรูจ้ ักสงิ่ แวดลอ้ มทม่ี อี ิทธพิ ลต่อสุขภาพ ๑
การเข้าใจสภาพความเปลย่ี นแปลงของสิ่งแวดล้อม (ชีวติ ทม่ี ีความสขุ ) ๑
การพฒั นาส่งิ แวดลอ้ มและการปรบั ตวั ให้เข้ากับส่งิ แวดล้อม ๑
๑
(ไมม่ นี ำ้ ตา)
การเสริมสรา้ งทกั ษะทางสังคมเพื่ออยู่อย่างมีความสขุ
การมมี นษุ ย์สมั พันธ์ (พดู ดมี เี พอื่ น)
การมรี ะเบียบวินัย (ไมบ้ รรทดั แสนกล)
การทำงานรว่ มกนั (ป�นแต่ง)
การมีจิตใจโอบออ้ มการชี ่วยเหลอื ผ้อู ่ืน (เพื่อนท่แี สนด)ี
การร้จู ักและปฏิบัตติ ามวฒั ธนธรรมไทย (สบื สานวฒั นธรรมไทย)
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓๑๗
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา
การจัดทำหนว่ ยกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
ช้ันมัธยมศึกษาปท� ี่ ๓
ลำดบั ที่ ชอ่ื หน่วยกจิ กรรม เวลา (ชัว่ โมง)
กจิ กรรมแนะแนวการศึกษา ๑๒
๑ การร้จู กั ตนเอง ๓
๒ โลกกว้าทางการศกึ ษา ๒
๓ การวางแผนและพัฒนาทักษะการศกึ ษาทางการเรยี น ๗
กิจกรรมแนะแนวอาชีพ ๑๖
๔ รูจ้ กั ตนเอง ๒
๕ โลกกว้าทางอาชีพ ๔
๖ เตรยี มตวั สู่อาชีพ ๑๐
กิจกรรมแนะแนวเพือ่ พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ ๘
๗ การรู้จกั การยอมรบั และการปรับปรุงบคุ ลิกภาพตนเอง ๒
๘ การรจู้ ักสิง่ แวดล้อมทีม่ ีอิทธพิ ลตอ่ บคุ ลิกภาพ ๑
๙ การเสริมทกั ษะทางสังคมเพือ่ อยอู่ ยา่ งมคี วามสุข ๕
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓๑๘
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา
การจดั หน่วยกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ชว่ งชน้ั ที่ ๓ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท� ่ี ๓
จำนวนหน่วยกิจกรรม ๒๙ หน่วย เวลา ๓๖ ช่ัวโมง
• กจิ กรรมแนะแนวการศกึ ษา ๑
การรจู้ ักตนเอง ๑
๑
ความรคู้ วามสามารถทางการเรยี น (ฉนั อยูต่ รงไหน)
๒
ความถนัดทางการเรียน (ฉนั เกง่ นะ)
๑
นสิ ัยทางการเรียน(มคี วามรับผิดชอบหรือยัง) ๑
โลกกวา้ งทางการศึกษา
๑
การจดั การศกึ ษาในระดับทส่ี งู ข้นึ (หลกั สตู รมอี ะไรดจี ๊ะ) ๑
การวางแผนและพฒั นาทกั ษะทางการเรยี น ๑
๑
การวางแผนการเรียนศกึ ษาต่อ (เตรียมตัวอยา่ งไรให้สอบได้) ๑
การวางแผนการเรียนศึกษาตอ่ (สมคั รสอบ)
การพฒั นาทักษะทางการเรียน
- การกลา้ แสดงออก(ภาพปริศนา)
- นสิ ยั รักการอา่ น (ปญ� หาชงิ รางวลั )
- การจดบนั ทึก (บันทึกดีมรสาระ)
- การคดิ อย่างมเี หตุผล (ทางเลอื ก)
- การใช้เวลาว่าง (หอ้ งสมดุ นดี้ นี ะ)
• กิจกรรมแนะแนวอาชีพ ๒
การรจู้ ักตนเอง
๑
ค่านิยมตอ่ อาชพี (ฉนั ยดึ ถืออะไร) ๑
๑
โลกกว้างทางอาชพี
รจู้ กั อาชพี (ปรศิ นาอาชพี )
ภาวะตลาดอาชีพ (ขอ้ มลู ดีมีงานทำ)
ความกา้ วหน้าในการประกอบอาชีพ (บุคลกิ ภาพนนั้ สำคญั ไฉน)
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ยิ าตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๑๙
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา
การเตรียมตัวสู่อาชีพ ๒
กฎหมายท่ีควรร้เู กีย่ วกบั อาชีพ (กฎหมายควรรู้) ๑
เทคนคิ การหางานทำ (จดหมายสมคั รงาน) ๒
วางแผนตดั สินใจเลือกอาชีพ (คดิ ก่อนเลือก) ๑
เสริมสร้างค่านยิ มและเจตคตอิ าชพี (ฉนั เปน� ฉนั เอง) ๑
มลพิษจากอาชพี (รกั สง่ิ แวดล้อม) ๓
ประสบการณใ์ นอาชพี (คิดรเิ ร่มิ เพมิ่ ประสิทธภิ าพ)
• กิจกรรมแนะแนวเพ่ือพัฒนาบุคลกิ ภาพ ๑
การร้จู กั การยอมรับและการปรบั ปรงุ บคุ ลิกภาพของตนเอง ๑
การมีอารมณ์ม่นั คง(รวมใจเป�นหนง่ึ ) ๑
การมองโลกแงด่ ี (ดว้ ยรักและจริงใจ) ๑
การรจู้ กั สิง่ แวดล้อมทีม่ ีอทิ ธพิ ลตอ่ สุขภาพ ๑
๑
การเขา้ ใจสภาพความเปลยี่ นแปลงของสงิ่ แวดลอ้ ม (ถนนชีวิต) ๑
การเสรมิ สรา้ งทักษะทางสงั คมเพอื่ อย่อู ย่างมีความสขุ ๑
การมมี นุษยส์ ัมพันธ์ (ทน่ี มี่ ีเพ่ือน)
การมรี ะเบียบวินยั (เมืองจราจล)
การทำงานร่วมกนั (สร้างรัง)
การมีจติ ใจโอบอ้อมอารชี ว่ ยเหลือผู้อื่น (น้ำใจ)
การรู้จกั และปฏิบตั ิตามวัฒธนธรรมไทย (ความเปน� ไทย)
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิตยิ าตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๒๐
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา
จุดประสงค์ ชมุ นุมอาหาร (ชนั้ มัธยมศกึ ษาปท� ่ี ๑–๓)
๑. ให้นกั เรยี นมีความร้คุ วามสามารถในการประกอบอาหาร
๒. ใหน้ กั เรียนมรี ายไดเ้ สรมิ จากขายอาหาร
๓. ใหน้ กั เรยี นให้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์
๔. ให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ ความสามัคคี ความซื่อสัตย์ การตรงต่อเวลา และการมีสัมมา
คารวะ อนั เปน� คณุ ลักษณอ์ ันพงึ่ ประสงค์ของโรงเรียน
กิจกรรม
๑. ประชาสมั พันธ์จดุ ประสงค์ของชมุ ชน
๒. รับสมคั รสมาชิกชมุ นุม
๓. ดำเนนิ การกจิ กรรมชุมนมุ
ประชมุ เพอื่ เลือกหวั หน้าชุมนมุ รองหัวหน้าชุม และตำแหน่งอน่ื ๆ
ประชมุ ปรกึ ษาวางแผนการจัดกจิ กรรม
จดั กลมุ่ สมาชกิ เพอื่ ประกอบอาหารและขายในแต่ละวัน
ปน� ผลให้สมาชิกแตล่ ะคนทกุ สปั ดาห์
สรปุ ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
๔. ประเมินผลกิจกรรม
๕. รายงานผลการจัดกจิ กรรม
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๓๒๑
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา
จดุ ประสงค์ ชุมนมุ ภาษาตา่ งประเทศ ( ชั้น ม.๑-ม.๓)
๑. เพ่ือฝ�กทกั ษะการอ่าน และการเขียนภาษาองั กฤษ และภาษาจีน
๒. เพ่ือเสริมสร้างความม่นั ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษ และภาษาจีนในการสื่อสาร
๓. เพื่อให้นกั เรียนสนกุ สนานกับการเรยี นภาษาต่างประเทศ
๔. เพ่อื ใหม้ ีเจตคติที่ดตี อ่ การเรยี นวชิ าภาษาตา่ งประเทศ
กจิ กรรม
๑. ประชาสัมพนั ธ์ชุมนุม
๒. รับสมคั รสมาชกิ ชมุ นุม
๓. ดำเนนิ การจกิ รรมชุมนุม
วางแผนดำเนนิ กจิ กรรม
ประเมินความตอ้ งการของสมาชกิ
ทดสอบทกั ษะในการใชภ้ าษา
ฝก� ทกั ษะในการใชภ้ าษา
ประเมินผล
สรปุ ผลการทำกจิ กรรม
๔. ประเมนิ ผลกจิ กรรมชมุ นมุ
๕. รายงานผลการจดั กิจกรรม
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๓๒๒
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา
จดุ ประสงค์ ชุมนุมศลิ ปะดนตรี (ชน้ั ม.๑– ม.๓)
๑. เพื่อให้นกั เรียนมที ักษะทางต้นศลิ ปะ ดนตรี และนาฏศิลป์
๒. เพ่ือให้นกั เรยี นเลน่ ดนตรไี ทย และดนตรีสากลขั้นพ้นื ฐานได้
๓. เพือ่ ใหน้ ักเรียนมีทักษะในการวาดภาพระบายสี
๔. เพ่อื ใหน้ กั เรียนมที กั ษะการแสดงขน้ั พ้ืนฐาน
๕. เพอื่ ให้นักเรียนนำความรทู้ างดา้ นศิลปะ, ดนตรีและนาฏศลิ ป์ไปใช้ ในชวี ติ ประจำวนั ได้
กิจกรรม
๑. ประชาสมั พันธ์จดุ ประสงคข์ องชุมนุม
๒. รับสมคั รสมาชิกชมุ นมุ
๓. ดำเนินการกจิ กรรมชุมนมุ
ประชุมเลอื กต้งั ประธานชุมนุม
ทดสอบความสามารถของสมาชกิ
ให้ความรเู้ ก่ยี วกับดนตรี นาฏศิลป์ (การแสดง)
ฝ�กทกั ษะทางดา้ นดนตรี นาฏศลิ ป์
จดั การแสดงของชุมนมุ
๔. ประเมินผลกิจกรรมชุมนมุ
๕. รายงานผลกิจกรรมชุมนมุ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๒๓
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา
คำสั่งโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร
ท่ี ๐๑๒/๒๕๖๔
เรื่อง ใหใ้ ช้หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร พุทธศกั ราช ๒๔๖๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ๒๕๖๑)
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีคําสั่งให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาชั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในโรงเรียนต้นแบบ
ในป�การศึกษา ๒๕๖๔ เรื่องการใช้มาตรฐานการเรียนรู้ โดยแนวคิดของหลักสูตรฉบับนี้เป�นหลักสูตรอิงมาตรฐานกล่าวคือ กําหนด
มาตรฐานการเรียนรู้เป้าหมายในการพัฒนานักเรียน สถานศึกษาที่มีภารกิจหลักในการจัดการศึกษา ให้กับนักเรียนได้พัฒนาอย่าง
เตม็ ศกั ยภาพ สถานศกึ ษาจงึ มบี ทบาทสาํ คญั ในการจดั ทาํ หลักสตู รสถานศึกษา และ ดาํ เนนิ การนําหลกั สูตรไปส่กู ารปฏิบัติ เพ่อื สรา้ ง
ความมั่นใจต่อผู้ปกครองและชุมชนให้ผู้เรียนมีคุณภาพตาม มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ และเกิดคุณลักษณะอันพ่ึง
ประสงค์ที่กําหนดไว้ในหลักสูตร โรงเรียนได้รับการคัดเลือกจากสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต ๑
ให้เป�นโรงเรียนต้นแบบในการใชห้ ลักสตู รแกนกลางการศึกษาพืน้ ฐาน ๒๕๕๑ ในป�การศกึ ษา ๒๕๖๔ ชน้ั มธั ยมศกึ ษา ปท� ่ี ๑ และช้นั
มัธยมศึกษาป�ที่ ๓ เป�ดโอกาศให้โรงเรียนสามารถกําหนดทิศทางในการจัดทําหลักสูตร การเรียนการสอน ในแต่ละระดับตามความ
พร้อมและจุดเน้น เป�นแนวทางที่ชัดเจน เพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคมคุณภาพ มีความรู้
อยา่ งแท้จรงิ และมีทักษะใน ศตวรรษที่ ๒๑ เปน� คู่มอื ในการนาํ หลกั สตู รไปใชห้ ลักสตู รฉบับนี้ไดผ้ า่ นการเหน็ ชอบของคณะกรรมการ
สถานศกึ ษา ขั้นพนื้ ฐานของโรงเรียนและประกาศใหใ้ ช้หลักสตู รดง้ั แตป่ �การศกึ ษา ๒๕๖๔(ฉบับปรับปรุง๒๕๖๑)
คณะผ้จู ัดทำ
๑.๑ นายพัชระ เทียมเทศ ๖๒๒๑๑๕๔๐๑๓ เลขท่ี ๙ ประธานกรรมการ
๑.๒ นางสาวฐิติมา มลู เชอ้ื ๖๒๒๑๑๕๔๐๐๑ เลขที่ ๑ กรรมการ
๑.๓ นางสาวสทุ ัตตา ศรกี มิ แก้ว ๖๒๒๑๑๕๔๐๐๔ เลขที่ ๓ กรรมการ
๑.๔ นางสาวอมุ าพร หงสพ์ งษ์ ๖๒๒๑๑๕๔๐๑๐ เลขที่ ๗ กรรมการ
๑.๕ นางสาววิชญช์ ยา พลหิรัญนนั ท์. ๖๒๒๑๑๕๔๐๑๕ เลขท่ี ๑๑ กรรมการ
๑.๖ นางสาวสกุ ัญญา ไชยเดช. ๖๒๒๑๑๕๔๐๓๙ เลขท่ี ๒๐ กรรมการและเลขานกุ าร
ขอให้ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับการแต่งตัง้ ปฏิบัตหิ นา้ ทอ่ี ย่างเตม็ ความสามารถกอ่ ประโยชน์สงู สดุ ต่อราชกาลสบื ไป
ส่ัง ณ วนั ที่ ๒ พฤษภาคม๒๕๖๔
(นายพชั ระ เทยี มเทศ)
ผ้อู ำนวยการโรงเรียนฐิติญาตาพัชญาพร
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓๒๔
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศึกษา
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๒๕
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศึกษา
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๓๒๖