The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wirada70, 2021-05-27 10:03:35

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร

ตาพัชญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา

แวดลอ้ มธรรมชาติท่อี ยู่

ความดันทเ่ี หมาะสม ธาตแุ ละ
จะตกผลกึ เปน� แร่ท่มี ลี กั ษณะ
งกัน ซึง่ ต้องใช้วิธตี รวจสอบ
ย่างแตกตา่ งกันไป

พบในประเทศไทยมหี ลาย
ดตรวจสอบทางกายภาพได้
วามถ่วงจำเพาะ ความแขง็
วแตกเรียบ สีและสีผงของแร่
ประโยชนต์ ่างกันเช่นใช้ทำ
ใชใ้ นด้านอุตสาหกรรม

านหิน หนิ น้ำมนั เปน�
มชาติทีเ่ กิดจากกระบวนการ
ทางธรณวี ิทยา ซึ่งแต่ละชนิด
สมบัตแิ ละวิธกี ารนำไปใช้
กตา่ งกัน

กราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

๐๕

วิทยาศาสตร์ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาต
และ
เทคโนโลยี สำรวจ ตรวจสอบ หรอื ศึกษา
ค้นคว้าเรอื่ งทีส่ นใจไดอ้ ยา่ ง
ครอบคลุมและเชอ่ื ถอื ได้

๒. สร้างสมมตฐิ านที่สามารถ
ตรวจสอบ ไดแ้ ละวางแผนการ
สำรวจตรวจสอบหลาย ๆ วิธี

๓. เลอื กเทคนคิ วิธกี ารสำรวจ
ตรวจสอบ ทงั้ เชงิ ปริมาณและ
เชงิ คุณภาพทไี่ ด้ผลเท่ยี งตรงและ
ปลอดภยั โดยใชว้ สั ดแุ ละ

เครื่องมือทีเ่ หมาะสม

๔. รวบรวมข้อมลู จดั กระทำ
ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพ

๕. วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ความ
สอดคลอ้ ง ของประจกั ษ์พยาน
กับข้อสรปุ ทัง้ ท่ี สนบั สนุน หรอื
ขัดแย้งกบั สมมติฐาน

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั

๑๐

ตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๐๖

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาต

และความผดิ ปกติของข้อมูลจาก

การสำรวจตรวจสอบ

สาระที่ ๘ มาตรฐาน ว ๘.๑ ๖. สร้างแบบจำลอง หรืรูปแบบที่
ธรรมชาติของ อธิบายผลหรอื แสดงผลของการ
วิทยาศาสตร์ สำรวจตรวจสอบ
และ
เทคโนโลยี ๗. สร้างคำ ถามท่ีนำ ไปสูก่ าร
สำรวจ ตรวจสอบ ในเร่ืองท่ี
เก่ียวขอ้ ง และนำความรู้ทีไ่ ด้ ไป
ใชใ้ นสถานการณ์ใหม่หรอื ธบิ า
เก่ียวกับแนวคดิ กระบวนการ
และผลของโครงงานหรอื ชน้ิ งาน
ให้ผู้อื่นเข้าใจ

๘. บนั ทึกและอธบิ ายผลการ
สงั เกต การสำรวจ ตรวจสอบ
ค้นคว้าเพิม่ เติม จากแหลง่
ความรตู้ า่ ง ๆ ให้ได้ข้อมูลท่ี
เชอื่ ถือได้ และยอมรับการ
เปลี่ยนแปลงความรทู้ ี่ค้นพบ

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศัก

๑๐

ตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๐๗

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาต

เมือ่ มขี ้อมลู และประจกั ษ์ พยาน
ใหมเ่ พมิ่ ขึ้นหรอื โต้แยง้ จากเดิม
๙. จัดแสดงผลงาน เขียนรายงาน
และ/หรอื อธิบาเกี่ยวกบั แนวคดิ
กระบวนการ และผลของ
โครงงานหรอื ช้ินงานใหผ้ ู้อ่ืน
เขา้ ใจ

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั

๑๐

ตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๐๘

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาต

ชั้นมธั ยมศ

กลุ่มสาระการเรียนร.ู้ .................วิทยา
มจี ำนวน.....๘..... สาระ จำนวนมาตรฐาน...๙...มาตร

สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด

สาระท่ี ๑ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจ ๑.สงั เกตและอธิบายลกั ษณะของ
ส่ิงมชี ีวิตกับ กระบวนการและความสำคญั โครโมโซมทม่ี หี นว่ ยพันธุกรรม
กระบวนการ ของการถา่ ยทอดลักษณะ หรือยีนในนวิ เคลยี ส
ดำรงชวี ิต ทางพันธกุ รรมววิ ฒั นาการ
ของสงิ่ มชี วี ติ ความหลาก
หลายทางชวี ภาพ การใช้

เทคโนโลยีชีวภาพท่ีมผล

กระทบตอ่ มนุษยแ์ ละ

สิ่งแวดล้อม มกี ระบวนการ

สบื เสาะหาความร้แู ละ

จิตวิทยาศาสตร์ สอ่ื สารสง่ิ ที่

เรยี นรู้ และนำความร้ไู ปใช้

ประโยชน์

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศัก

๑๐

ตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา

ศึกษาป�ท่ี ๓

าศาสตร.์ ................ชนั ......ม.๓............

รฐาน และจำนวนตัวช้วี ัด.......๔๐............ตวั ชวี้ ดั ตอ่ ป�

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู้/ หน่วย ชว่ั โมง
เนือ้ หาทส่ี อน

- เมื่อมองเซลล์ผา่ นกล้องจลุ ทรรศน์จะเห็น
เส้นใยเล็กๆพนั กนั อยู่ในนวิ เคลยี ส เมอ่ื เกิด
การแบ่งเซลลเ์ สน้ ใยเหลา่ นี้จะขดสั้นเข้าจน
มีลกั ษณะเปน� ท่อนสัน้ เรยี กวา่ โครโมโซม

- โครโมโซมประกอบด้วยดีเอ็นเอและ
โปรตนี

- ยีนหรือหนว่ ยพันธกุ รรมเปน� สว่ นหนึ่งท่ี
อยบู่ นดีเอน็ เอ

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

๐๙

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาต

๒. อธบิ ายความสำคญั ของสาร
พนั ธกุ รรมหรือดเี อ็นเอ และ
กระบวนการถา่ ยทอดลักษณะ
ทางพันธุกรรม

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศัก

๑๑

ตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา

- เซลลห์ รือสิ่งมชี วี ิต มสี ารพันธกุ รรมหรือดี
เอ็นเอ ทีค่ วบคมุ ลกั ษณะ ของการ
แสดงออก
- ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่คี วบคมุ ด้วยยนี
จากพอ่ และแมส่ ามารถถา่ ยทอดสู่ลกู ผ่าน
ทางเซลล์สบื พนั ธแ์ุ ละการปฏสิ นธิ

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๑๐

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาต

๓. อภปิ รายโรคทางพนั ธุกรรมท่ี
เกิดจากความผดิ ปกตขิ องยีนและ
โครโมโซมและนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

๔. สำรวจและอธบิ ายความ
หลาก
หลายทางชีวภาพในท้องถิน่ ทท่ี ำ
ให้สง่ิ มชี วี ติ ดำรงชีวติ อยู่ไดอ้ ย่าง
สมดุล

๕. อธิบายผลของความ
หลากหลายทางชวี ภาพท่มี ตี ่อ
มนษุ ย์ สตั ว์พืชและสิ่งแวดลอ้ ม

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั

๑๑

ตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา

- โรคธาลสั ซีเมีย ตาบอดสี เปน� โรคทาง
พนั ธกุ รรมทเี่ กดิ จากความผิดปกติของยีน

- กลมุ่ อาการดาวนเ์ ปน� ความผดิ ปกตขิ อง
ร่างกายซง่ึ เกิดจากการท่มี จี ำนวน
โครโมโซมเกินมา

- ความหลากหลายทางชวี ภาพทีท่ ำให้
สิ่งมีชวี ิตอยอู่ ย่างสมดลุ ขน้ึ อยูก่ ับความ
หลากหลายของระบบนเิ วศความ
หลากหลายของชนดิ สง่ิ มชี วี ิต และความ
หลากหลายทางพนั ธกุ รรม

- การตดั ไมท้ ำลายป่าเป�นสาเหตหุ นึง่ ทท่ี ำ
ใหเ้ กิดการสูญเสยี ความหลากหลายทาง
ชวี ภาพซึ่งสง่ ผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
ของมนุษยส์ ตั ว์ พชื และสิง่ แวดล้อม

- การใช้สารเคมใี นการกำจัดศตั รูพืชและ
สัตว์สง่ ผลกระทบต่อสิ่งมชี ีวติ ทั้งมนุษย์
สัตวแ์ ละพืชทำใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลง

กราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

๑๑

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาต

๖. อภิปรายผลของ
เทคโนโลยชี ีวภาพต่อการ
ดำรงชีวิตของมนษุ ย์และ
ส่ิงแวดล้อม

สาระที่ ๒ ชีวิตกบั มาตรฐาน ว ๒. ๑ เข้าใจ ๑. สำรวจระบบนิเวศตา่ งๆใน
สิ่งแวดลอ้ ม ส่งิ แวดล้อมในท้องถน่ิ ความ ทอ้ งถ่นิ และ อธบิ าย
ความสมั พนั ธข์ ององค์ประกอบ
สัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อม ภาย ในระบบนิเวศ
กับสงิ่ มีชวี ิตความสัมพันธ์
ระหวา่ งสง่ิ มีชีวิตตา่ ง ๆ ใน
ระบบนิเวศ มีกระบวนการ
สืบเสาะหาความร้แู ละ
จติ วิทยาศาสตร์ ส่ือสารสิง่ ที่
เรียนรแู้ ละนำความรูไ้ ปใช้
ประโยชน์

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ยิ าตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศัก

๑๑

ตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศึกษา

ความหลากหลายทางชวี ภาพและสง่ ผล
กระทบตอ่ สิง่ แวดล้อม
๖. อภปิ รายผลของเทคโนโลยีชีวภาพต่อ
การดำรงชีวิตของมนษุ ย์และสง่ิ แวดล้อม

- ระบบนเิ วศในแตล่ ะท้องถิ่นประกอบด้วย
องค์ประกอบทางกายภาพและ
องคป์ ระกอบ
ทางชีวภาพเฉพาะถนิ่ ซ่งึ มีความเกย่ี วข้อง
สมั พันธ์กัน

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

๑๒

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาต

๒. วิเคราะห์และอธิบายความ
ของการถ่ายทอดพลังงานของ
ส่ิงมชี วี ติ ในรปู ของโซ่อาหารและ
สายใยอาหาร
๓. อธิบายวัฏจักรนำ้ วฏั จักร
คารบ์ อนและความสำคัญทม่ี ตี ่อ
ระบบนิเวศ

๔. อธบิ ายป�จจัยทมี่ ีผลต่อการ
เปลีย่ นแปลงขนาดของประชากร
ในระบบนิเวศ

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศัก

๑๑

ตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา

- สงิ่ มชี วี ติ มคี วามเกย่ี วข้องสัมพนั ธ์กันโดย
มกี ารถ่ายทอดพลงั งานในรูปของโซ่อาหาร
และสายใยอาหาร

- น้ำ และคารบ์ อนเป�นองคป์ ระกอบใน
สง่ิ มชี วี ิตและสง่ิ ไม่มชี ีวติ

- นำ้ และคาร์บอนจะมีการหมนุ เวยี น
เป�นวฏั จักรในระบบนิเวศ ทำใหส้ ง่ิ มีชวี ิต
ในระบบนเิ วศนำไปใช้ประโยชน์ได้

- น้ำ และคารบ์ อนเปน� องคป์ ระกอบใน
ส่ิงมีชีวิตและสง่ิ ไมม่ ีชีวติ

- น้ำและคาร์บอนจะมกี ารหมนุ เวียน
เป�นวฏั จักรในระบบนเิ วศ ทำใหส้ ่ิงมชี วี ิต
ในระบบนเิ วศนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้

- อตั ราการเกิด อัตราการตาย อตั ราการ
อพยพเข้า และอัตราการอพยพออกของ
สงิ่ มชี ีวิต มผี ลตอ่ การเปล่ียนแปลงขนาด
ของประชากรในระบบ นเิ วศ

กราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

๑๓

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาต

มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา้ ใจ ๑. วิเคราะหส์ ภาพป�ญหา

ความสำคัญของ สิง่ แวดลอ้ มทรพั ยากรธรรมชาติ

ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ ในทอ้ งถิ่นและเสนอแนวทางใน

ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นระดับ การแกไ้ ขปญ� หา

ท้องถน่ิ ประเทศ และโลกนำ

ความรู้ไปใช้ในในการจัดการ

ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ

ส่งิ แวดลอ้ มในทอ้ งถิ่นอยา่ ง

ยงั่ ยืน

๒. อธิบายแนวทางการรกั ษา
สมดลุ ของระบบนิเวศ

๓. อภิปรายการใช้
ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งย่ังยืน

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ยิ าตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั

๑๑

ตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา

- สภาพปญ� หาส่ิงแวดลอ้ มและทรพั ยากร
ธรรมชาติในทอ้ งถนิ่ เกดิ จากการกระทำ
ของธรรมชาติและ มนษุ ย์

-ป�ญหาสง่ิ แวดล้อมและ
ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ี่เกิดขึ้น ควรมี
แนวทางในการดูแลรักษา และป้องกนั

- ระบบนเิ วศจะสมดลุ ได้จะตอ้ งมีการ
ควบคุมจำนวนผผู้ ลติ ผู้บริโภค ผสู้ ลาย
สารอินทรยี ์ใหม้ ปี รมิ าณ สดั สว่ น และการ
กระจายทเี่ หมาะสม

- การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งย่งั ยนื
และการดูแลรกั ษาสภาพแวดลอ้ ม เป�น
การรักษา สมดลุ ของระบบนิเวศ

- การนำทรพั ยากรธรรมชาติมาใช้อยา่ ง
คุม้ ค่าดว้ ยการใชซ้ ำ้ นำกลับมาใช้ใหม่ ลด
การใชผ้ ลติ ภัณฑ์ ใชผ้ ลติ ภัณฑช์ นิดเดิม

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๑๔

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาต

๔. วเิ คราะห์และอธิบายการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติ ตามปรชั ญา
เศรษฐกจิ พอเพียง

๕. อภปิ รายป�ญหาสงิ่ แวดล้อม
และเสนอ แนะแนวทางการ
แกป้ �ญหา

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศัก

๑๑

ตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศึกษา

ซอ่ มแซมสงิ่ ของเครือ่ งใช้ เป�นวธิ ีการใช้
ทรพั ยากร ธรรมชาตอิ ยา่ งยั่งยนื

- การใช้ทรัพยากรธรรมชาติควรคำนงึ ถงึ

ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งบนพ้นื ฐานของ
ทางสายกลาง และความไมป่ ระมาท โดย
คำนึงถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล
และการเตรียมตัวใหพ้ ร้อมท่ีจะรบั
ผลกระทบและการเปลีย่ นแปลงที่เกิดขน้ึ

- ปญ� หาสง่ิ แวดล้อม อาจเกิดจากมลพิษ
ทางนำ้ มลพิษทางเสยี ง มลพษิ ทางอากาศ
มลพษิ ทางดนิ

- แนวทางการแกป้ ญ� หามีหลายวิธี เรม่ิ
จาก

ศกึ ษาแหลง่ ทมี่ าของป�ญหา เสาะหา

กระบวนการในการแก้ปญ� หา และทกุ คนมี

ส่วนร่วมในการปฏบิ ตั ิเพอื่ แก้ป�ญหาน้นั

กราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

๑๕

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิติยาต

๖. อภปิ รายและมสี ่วนรว่ มใน

การดูแลและอนุรักษ์ส่งิ แวดลอ้ ม

ในท้องถ่ินอย่างยงั่ ยนื

สาระที่ ๔ แรง ๑. อธบิ ายความเร่งและผลของ
และการเคล่ือนที่ แรงลพั ธ์ท่ที ำต่อวตั ถุ

มาตรฐาน ว ๔. ๑ เข้าใจ
ธรรมชาติของแรงแม่เหลก็

ไฟฟา้ แรงโน้มถ่วง และแรง
นวิ เคลียรม์ ีกระบวนการสืบ
เสาะหาความรู้ สื่อสารสง่ิ ท่ี
เรยี นรแู้ ละนำความรไู้ ปใช้
ประโยชน์อยา่ งถูกต้องและมี
คณุ ธรรมชั้น

๒. ทดลองและอธบิ ายแรงกริ ยิ า
และแรงปฏิกริ ยิ าระหวา่ งวัตถุ
และนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐิตยิ าตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศัก

๑๑

ตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา

- การดแู ลและอนุรกั ษ์สง่ิ แวดล้อมใน
ท้องถิน่ ใหย้ ่งั ยนื ควรไดร้ ับความรว่ มมือ
จากทกุ ฝ่ายและตอ้ งเปน� ความรับผดิ ชอบ
ของทกุ คน
- วตั ถุเคลอ่ื นทดี่ ว้ ยความเร็วที่
เปลยี่ นแปลงเป�นการเคล่ือนทีด่ ้วย
ความเร่ง เมือ่ แรงลัพธ์มีค่าไม่เท่ากับศูนย์
กระทำตอ่ วัตถุวตั ถุจะเคลื่อนที่ดว้ ย
ความเร่งซ่งึ มีทิศทางเดียวกบั แรงลพั ธ์

- ทุกแรงกริ ิยาจะมีแรงปฏิกริ ิยาโตต้ อบ
ด้วย

กราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

๑๖

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาต

๓. ทดลองและอธิบายแรงพยุง
ของของเหลวทีก่ ระทำต่อวตั ถุ

มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจ ๑. ทดลองและอธิบายความ
ลักษณะการเคลอ่ื นที่แบบ แตกต่างระหว่างแรงเสียดทาน
ตา่ งๆ ของวัตถุในธรรมชาติ สถิตกับแรงเสยี ดทานจลน์ และ
มกี ระบวนการสบื เสาะหา นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ความรแู้ ละจติ วิทยาศาสตร์

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศัก

๑๑

ตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา

ขนาดของแรงเทา่ กนั แต่มีทศิ ทางตรงข้าม

- การนำความร้เู รอื่ งแรงกิรยิ าและแรง
ปฏิกิริยาไปใช้อธิบาย เช่น การชักเยอ่ การ
จุดบง้ั ไฟ

- แรงพยงุ คือ แรงทข่ี องเหลวกระทำต่อ
วตั ถมุ คี ่าเท่ากับนำ้ หนักของของเหลวทมี่ ี
ปรมิ าตรเทา่ กบั ส่วนที่จมของวัตถุ

- ของเหลวท่มี คี วามหนาแน่นมากจะมีแรง
พยุงมาก

- วัตถุทลี่ อยไดใ้ นของเหลวจะมีความ
หนาแน่นน้อยกว่าความหนาแนน่ ของ
ของเหลว

- แรงเสยี ดทานสถติ เป�นแรงเสียดทานท่ี
กระทำตอ่ วัตถุขณะหยุดนิง่ สว่ นแรงเสียด
ทานจลน์เปน� แรงเสยี ดทานท่กี ระทำตอ่
วตั ถขุ ณะเคลื่อนท่ี

- การเพม่ิ แรงเสียดทาน เชน่ การ
ออกแบบพนื้ รองเท้าเพือ่ กนั ลนื่

กราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

๑๗

สอื่ สารสงิ่ ท่เี รยี นรแู้ ละนำ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นฐิติยาต
ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
๒. ทดลองและวิเคราะห์โมเมนต์
ของแรง และนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

๓. สงั เกตและอธิบายการ
เคลอ่ื นทขี่ องวตั ถุท่เี ป�นแนวตรง
และแนวโคง้

สาระท่ี ๕ มาตรฐาน ว ๕. ๑ เข้าใจ ๑. อธบิ ายงาน พลังงานจลน์
พลงั งาน ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง พลงั งานศักย์โนม้ ถ่วง กฎการ
พลงั งานกบั การดำรงชวี ิต อนุรกั ษ์พลังงาน และ
การเปล่ียนรปู พลังงาน ความสัมพนั ธร์ ะหว่างปรมิ าณ
ปฏสิ ัมพันธ์ระหว่างสารและ
พลงั งาน ผลของการใช้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั

๑๑

ตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา

- การลดแรงเสยี ดทาน เช่น การใช้
นำ้ มันหลอ่ ลน่ื ทจี่ ดุ หมุน

- เมอื่ มแี รงทกี่ ระทำต่อวตั ถุ แล้วทำให้เกดิ

โมเมนตข์ องแรงรอบจุดหมุน วตั ถจุ ะ
เปลย่ี นสภาพการหมุน

- การวิเคราะหโ์ มเมนต์ของแรงใน
สถานการณต์ า่ ง ๆ

-การเคลือ่ นที่ของวัตถุมที ้งั การเคลือ่ นท่ใี น
แนวตรงเช่น การตกแบบเสรี และการ
เคล่ือนที่ในแนวโคง้ เช่น การเคลอื่ นท่แี บบ
โพรเจกไทล์ของลูก บาสเกตบอลในอากาศ
การเคลื่อนทแี่ บบวงกลมของวัตถุท่ีผกู
เชอื กแลว้ แกวง่ เป�นตน้

- การให้งานแก่วัตถุเป�นการถา่ ยโอนพลงั
งานใหว้ ตั ถุ พลงั งานนีเ้ ป�นพลงั งานกลซ่งึ
ประกอบด้วยพลังงานศักย์และพลงั งาน
จลนพ์ ลังงานจลนเ์ ป�นพลังงานของวตั ถุ
ขณะวตั ถุเคลื่อนทส่ี ่วนพลงั งานศกั ยโ์ น้ม

กราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

๑๘

พลังงานตอ่ ชวี ิตและ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐติ ิยาต
สงิ่ แวดลอ้ ม มกี ระบวน การ
สืบเสาะหาความรู้ สอื่ สารส่ิง เหลา่ นี้ รวมท้ังนำความรู้ไปใช้
ท่เี รียนรแู้ ละนำความรูไ้ ปใช้
ประโยชน์ ประโยชน์

๒. ทดลองและอธบิ าย
ความสมั พนั ธ์ระหว่างความต่าง
ศกั ย์ กระแสไฟฟ้า

ความตา้ นทาน และนำความรไู้ ป
ใช้ประโยชน์

๓. คำนวณพลงั งานไฟฟ้าของ
เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ และนำความรไู้ ป
ใช้ประโยชน์

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ยิ าตาพัชญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศัก

๑๑

ตาพัชญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา

ถว่ งของวัตถุเป�นพลังงานของวัตถทุ ่อี ยู่สงู
จากพ้ืนโลก

- กฎการอนุรักษพ์ ลงั งานกล่าวว่า พลงั งาน
รวมของวตั ถไุ ม่สญู หาย แต่สามารถเปล่ยี น
จากรปู หนึง่ ไปเป�นอีกรปู หน่งึ ได้

- การนำกฎการอนรุ ักษ์พลังงานไปใช้
ประโยชนใ์ นการอธบิ ายปรากฏการณ์ เช่น
พลังงานนำ้ เหนอื เขื่อนเปลีย่ นรปู จาก
พลงั งานศกั ยโ์ นม้ ถ่วงเป�นพลงั งานจลน,์
ปน� จน่ั ตอกเสาเขม็

- ความต่างศกั ย์ กระแสไฟฟา้ และความ
ต้านทานมคี วามสัมพนั ธ์กันตามกฎของ
โอห์ม

- การนำกฎของโอหม์ ไปใช้วิเคราะห์
วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย

- การคำนวณพลังงานไฟฟ้าของ
เครื่องใชไ้ ฟฟา้ เปน� สว่ นหนงึ่ ของการคดิ ค่า

กราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

๑๙

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาต

๔. สังเกตและอภปิ รายการต่อ
วงจรไฟฟา้ ในบ้านอยา่ งถกู ต้อง
ปลอดภยั และประหยัด

๕. อธิบายตวั ต้านทานไดโอด
ทรานซสิ เตอร์ และทดลองต่อ
วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์เบื้องต้นท่มี ี
ทรานซิสเตอร์

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั

๑๒

ตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา

ไฟฟา้ และเปน� แนวทางในการประหยดั
พลังงานไฟฟ้าในบ้าน

การต่อวงจรไฟฟ้าในบา้ นตอ้ งออกแบบ
วงจร ติดตัง้ เครือ่ งใช้ไฟฟา้ อุปกรณไ์ ฟฟ้า
อยา่ งถูกตอ้ ง โดยการต่อสวิตชแ์ บบ
อนกุ รม ตอ่ เต้ารับแบบขนานและเพื่อ
ความปลอดภัยตอ้ งต่อสายดินและฟว� ส์
รวมทัง้ ตอ้ งคำนงึ ถึงการใชไ้ ฟฟ้าอย่าง
ประหยัด

- ชิน้ สว่ นอิเล็กทรอนิกส์ เชน่ ตัวต้านทาน
ไดโอด ทรานซิสเตอร์ มีสมบตั ิทางไฟฟ้า
แตกต่างกันตวั ตา้ นทานทำหน้าทจี่ ำกดั
กระแสไฟฟ้าในวงจรไดโอดมีสมบัติให้
กระแสไฟฟา้ ผา่ นได้ทศิ ทางเดียวและ
ทรานซิสเตอรท์ ำหนา้ ที่เปน� สวติ ซ์ปด� - เปด�
วงจร

- การประกอบวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์
เบอื้ งตน้ ทมี่ ที รานซสิ เตอร์ ๑ ตวั ทำหนา้ ท่ี
เปน� สวิตซ์

กราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

๒๐

สาระที่ ๗ ดารา มาตรฐาน ว ๗.๑ เขา้ ใจ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาต
ศาสตร์และ ววิ ัฒนาการของระบบสรุ ยิ ะ
อวกาศ กาแล็กซแี ละเอกภพ การ ๑. สบื คน้ แ ล ะ อ ธิ บ า ยค
ปฏสิ มั พนั ธ์ภายในระบบ วามสัมพันธ์ระหวา่ งดวงอาทิตย์
สรุ ิยะและผลตอ่ ส่ิงมีชวี ิตบน โลก ดวงจนั ทร์และดาวเคราะห์
โลก มีกระบวนการสืบเสาะ อนื่ ๆ และผลที่เกิดขน้ึ ต่อ
หาความรแู้ ละจิตวทิ ยา ส่ิงแวดลอ้ มและส่งิ มชี ีวติ บนโลก
ศาสตร์ การส่อื สารสงิ่ ท่ี
เรียนรแู้ ละนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ยิ าตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศัก

๑๒

ตาพัชญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา

- ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทรอ์ ยู่เปน�
ระบบได้ภายใต้แรงโน้มถ่วง
- แรงโน้มถว่ งระหวา่ งโลกกับดวงจนั ทร์
ทำใหด้ วงจนั ทรโ์ คจรรอบโลก แรงโนม้ ถว่ ง
ระหว่างดวงอาทิตย์กบั บรวิ าร ทำให้
บริวารเคลือ่ นรอบดวงอาทติ ย์กลายเป�น
ระบบสรุ ยิ ะ
- แรงโน้มถว่ งท่ีดวงจันทร์ ดวงอาทติ ย์
กระทำต่อโลกทำใหเ้ กิดปรากฏการณน์ ำ้
ขน้ึ น้ำ ลง ซง่ึ สง่ ผลตอ่ ส่ิงแวดลอ้ มและ
สงิ่ มีชีวิตบนโลก

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๒๑

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาต

๒. สบื ค้นและอธบิ าย
องค์ประกอบของเอกภพ
กาแลก็ ซี และระบบสุรยิ ะ

๓. ระบตุ ำแหนง่ ของกลมุ่ ดาว
และนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั

๑๒

ตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศึกษา

- เอกภพประกอบดว้ ยกาแล็กซีมากมาย
นับแสนล้านแห่ง แตล่ ะกาแลก็ ซี
ประกอบด้วยดาวฤกษ์จำนวนมาก ทอ่ี ยู่
เป�นระบบดว้ ยแรงโนม้ ถว่ ง กาแลก็ ซที าง
ช้างเผือกมีระบบสรุ ิยะอยูท่ ่แี ขนของกา
แลก็ ซ่ดี ้านกล่มุ ดาวนายพราน
- กลมุ่ ดาวฤกษป์ ระกอบดว้ ยดาวฤกษ์
หลายดวงที่ปรากฏอย่ใู นขอบเขตแคบๆ
และเรยี งเป�นรูปต่างๆกันบนทรงกลมฟ้า
โดยดาวฤกษท์ ี่อยู่ในกลุ่มเดียวกนั ไม่
จำเป�นตอ้ งอยู่ใกล้กันอยา่ งท่ีตาเหน็ แต่มี

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

๒๒

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาต

มาตรฐาน ว ๗.๒ เขา้ ใจ ๑. สบื คน้ แ ล ะ อ ภปิ ราย

ความสำคญั ของเทคโนโลยี ความ

อวกาศท่นี ำมาใชใ้ นการ ก้าวหน้าของเทคโนโลยอี วกาศท่ี
สำรวจอวกาศและ ใช้สำรวจอวกาศ วัตถทุ ้องฟา้

ทรพั ยากรธรรมชาติ ดา้ น สภาวะอากาศ ทรพั ยากร

การเกษตรและการสือ่ สาร มี ธรรมชาติ การเกษตรและการ

กระบวนการสบื เสาะหา สือ่ สาร

ความรู้และจิตวทิ ยาศาสตร์

สอ่ื สารสิ่งทเ่ี รียนรู้และนำ

ความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์อย่างมี

คุณธรรมต่อชีวิตและ

ส่ิงแวดล้อม

สาระที่ ๘ มาตรฐาน ว ๘.๑ ใช้ ๑. ตง้ั คำถามที่กำหนดประเด็น
ธรรมชาติของ กระบวนการทาง หรอื ตวั แปรท่ีสำคญั ในการ
วิทยาศาสตร์และ วทิ ยาศาสตร์และจติ วทิ ยา สำรวจ ตรวจสอบ หรอื ศกึ ษา
เทคโนโลยี ศาสตรใ์ นการสืบเสาะหา ค้นคว้าเรือ่ งท่ีสนใจไดอ้ ย่าง
ความรู้ การแกป้ ญ� หา รูว้ า่ ครอบคลมุ และเชือ่ ถือได้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศัก

๑๒

ตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา

ตำแหนง่ ทแี่ นน่ อนบนทรงกลมฟา้ จงึ ใช้
บอกทิศและเวลาได้
- มนุษยใ์ ช้กลอ้ ง โทรทรรศน์ จรวด
ดาวเทียม ยานอวกาศ สำรวจอวกาศ วตั ถุ
ท้องฟ้า สภาวะ อากาศ ทรัพยากร
ธรรมชาติ การเกษตรและใช้ในการส่อื สาร

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

๒๓

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาต

ปรากฏการณท์ างธรรมชาติที่ ๒. สร้างสมมตฐิ านที่สามารถ

เกิดข้นึ สว่ นใหญ่มรี ปู แบบท่ี ตรวจสอบ ไดแ้ ละวางแผนการ

แนน่ อนสามารถอธบิ ายและ สำรวจตรวจสอบหลาย ๆ วิธี

ตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมูล ๓. เลือกเทคนคิ วธิ กี ารสำรวจ
และเครือ่ งมือที่มีอย่ใู น ตรวจสอบ ทั้งเชงิ ปริมาณและ
ช่วงเวลา น้นั ๆ เข้าใจว่า เชงิ คุณภาพทไ่ี ด้ผลเทีย่ งตรงและ
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ปลอดภยั โดยใชว้ ัสดแุ ละ
สังคม และสิ่งแวดลอ้ มมี
ความเกย่ี วขอ้ งสัมพนั ธ์กนั เคร่อื งมอื ที่เหมาะสม

๔. รวบรวมข้อมลู จดั กระทำ

ขอ้ มูลเชงิ ปริมาณและคณุ ภาพ

๕. วิเคราะหแ์ ละประเมนิ ความ
สอดคล้อง ของประจกั ษพ์ ยาน
กบั ขอ้ สรปุ ท้งั ทีส่ นับสนนุ หรือ
ขัดแย้งกบั สมมติฐานและความ
ผิดปกติของขอ้ มูล จากการ
สำรวจตรวจสอบ

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนฐิตยิ าตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั

๑๒

ตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๒๔

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาต

๖. สร้างแบบจำลอง หรอื
รูปแบบทอี่ ธบิ ายผลหรือแสดงผล
ของการสำรวจตรวจสอบ

๗. สร้างคำ ถามทน่ี ำ ไปสู่การ
สำรวจ ตรวจสอบ ในเรอื่ งที่
เกีย่ วข้อง และนำความรู้ทไ่ี ด้ ไป
ใช้ในสถานการณใ์ หม่หรืออธบิ าย
เกย่ี วกับแนวคดิ กระบวนการ
และผลของโครงงานหรือชนิ้ งาน
ให้ผูอ้ ืน่ เขา้ ใจ

๘. บนั ทกึ และอธิบายผลการ
สงั เกต การสำรวจ ตรวจสอบ
ค้นควา้ เพิ่มเติม จากแหล่ง
ความรู้ตา่ ง ๆ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ที่
เชอื่ ถอื ได้ และยอมรับการ
เปลย่ี นแปลงความรทู้ ี่ค้นพบ
เมื่อมขี อ้ มลู และประจกั ษ์ พยาน
ใหมเ่ พ่ิมข้ึนหรอื โตแ้ ย้งจากเดิม

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นฐติ ยิ าตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั

๑๒

ตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๒๕

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาต

๙. จัดแสดงผลงาน เขยี น
รายงาน และ/ หรอื อธบิ าย
เก่ียวกับ แนวคดิ กระบวนการ
และผลของโครงงานหรือ ชิ้นงาน
ให้ผ้อู น่ื เขา้ ใจ

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ยิ าตาพัชญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั

๑๒

ตาพชั ญาพร ระดับมธั ยมศกึ ษา

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๒๖

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาต

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศ

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิตยิ าตาพัชญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศัก

๑๒

ตาพชั ญาพร ระดบั มัธยมศกึ ษา

ศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

๒๗

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนฐิติยาต

ลำดบั ที่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ชน้ั มัธยมศ
๑ คณุ ธรรมคำ้ จนุ โลก ช่ือวิชา สงั คมศกึ ษา ศาสนาและว

จำนวน ๑๗ ตัวชว้ี ดั

มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวัด

ส ๑.๑ม.๑/๑

ส ๑.๑ ม ๑/๒

ส ๑.๑ ม๑/๙

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั

๑๒

ตาพัชญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา

ศกึ ษาป�ท่ี ๑ เวลา นำ้ หนกั
(ช่ัวโมง) คะแนน
วฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาป�ท่ี ๑
จำนวน ๖๐ ช่วั โมง ๗ ๕

สาระสำคัญ

● การสงั คายนา
● การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาเขา้ สู่

ประเทศไทย
● ความสำคัญของพระพุทธศาสนา

ตอ่ สังคมไทยในฐานะเปน�
- ศาสนาประจำชาติ
- สถาบนั หลกั ของสงั คมไทย
- สภาพแวดล้อมท่ีกว้างขวาง

และครอบคลมุ สังคมไทย
- การพัฒนาตนและครอบครวั
● ศาสนิกชนของศาสนาตา่ งๆ มกี ารประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ
ตนและวิถีการดำเนนิ ชวี ิตแตกตา่ งกนั ตามหลัก
ความเชอ่ื และคำสอน ของศาสนาทตี่ นนับถอื
● การปฏบิ ตั ิอยา่ งเหมาะสมตอ่
ศาสนกิ ชนอนื่ ในสถานการณต์ า่ งๆ

กราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

๒๘

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาต

ส ๑.๑ ม๑/๑๐
ส๑.๒ ม๑/๑

๒ ส๑.๑ ม๑/๓
พทุ ธประวตั ิและวนั
สำคญั

๓ ส๑.๒ ม๑/๕

ส๑.๑ ม๑/๕

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาตาพชั ญาพร ระดับมัธยมศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศัก

๑๒

ตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา

● การบำเพญ็ ประโยชน์ และ
การบำรงุ รกั ษาวดั

● สรปุ และวเิ คราะห์ พทุ ธประวัติ ๕๕
- ประสูติ ๗๕
- เทวทูต ๔
- การแสวงหาความรู้
- การบำเพญ็ ทุกรกิรยิ า

● ประวัติและความสำคัญของ
วนั ธรรมสวนะ วนั เข้าพรรษา
วนั ออกพรรษา วันเทโวโรหณะ

กราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

๒๙

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นฐิติยาต

หลักธรรมนำชวี ิต

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนฐติ ิยาตาพชั ญาพร ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั

๑๓


Click to View FlipBook Version