The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่มบทที่ 6 การเขียนเค้าโครงการวิจัย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suphang.pi62, 2021-11-02 18:23:29

รวมเล่มบทที่ 6 การเขียนเค้าโครงการวิจัย

รวมเล่มบทที่ 6 การเขียนเค้าโครงการวิจัย

วิธีการสร้างเครื่องมือในการวิจยั

การวิจัยครั้งนี้ผวู้ ิชยั สร้างเครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการวิจัยได้แก่ แผนการจดั การเรียนรทู้ ีเ่ น้น

ทกั ษะกระบวนการ 9 ข้ันแบบทคสอบวดั ทักษะกระบวนการทำงาน แบบทดสอบวคั ผลสมั ฤทธิ์ทางการ
เรียน และแบบวดั ความพึงพอใจ เรื่องการสร้างสรรคง์ านประดิษฐจ์ ากวัสดเุ หลือใช้ โดยดำเนินการตาม
ข้ันตอนดงั น้ี

1. วิธีการพัฒนาแผนการจดั การเรียนรู้

1.1 แผนการจดั การเรียนรู้ทีเ่ น้นทักษะกระบวนการ 9 ข้ัน

1.1.1 ศกึ ษาหลักสตู ร ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง ขอบขา่ ยเน้ือหาและเวลากล่มุ

สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 จากหลักสตู รสถานศกึ ษาและ

หลักสูตรการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2544

1.1.2ศกึ พารายละเอียดของเน้ือนาที่จะนำมาพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้จากำหนดการสอน เอกสาร
ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีสาระที1่ การดำรงชีวิตและ
ครอบครัว (งานประดิษฐ)์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6

1.1.3 วิเคราะห์ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั เนือ้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้จากคำอธิบายรายวิชา ในหลักสูตร
สถานศกึ พาและหลักสตู รการศกึ มาข้ันพ้ืนฐาน พุทธสกั ราช 2544 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี

1.1.4 ศกึ ษางานเอกสารและวิจัยทีเ่ กี่ยวข้องกบั การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้พ้นทกั ษะกระบวนการ
เพื่อเปน็ แนวทางในการจดั การเรียนรู้เพ่ือพฒั นากระบวนการทำงานและผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน

1.1.5 ศกึ ษาแนวคิดหลกั การเกี่ยวกับทักษะกระบวนการทำงานในหลกั สูตรกล่มุ

สาระการเรียนรู้การงานอชีพและเทคโนโถยี ทักษะกระบวนการทำงาน หมายถึง การลงมือทำงานทั้ง
การทำงานเปน็ รายบุคคล การทำงานด้วยตนเอง โดยม่งุ เน้นการฝึกวิธีการทำงานอย่างสม่ำเสมอเปน็
รายกลุ่ม ซึง่ จะทำให้สามารถทำงานได้บรรถเป้าหมาย ได้แก่ การวิเคราะห์งาน การวางแผนในการ
ทำงาน การปฏิบัติงาน และการประเมนิ ผลการทำงาน

1.1.6 เขียนแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่เน้นทักษะกระบวนการ 9 ข้ัน เรอ่ื งการสร้างสรรค์งานประดิษฐ์
จากวสั ดเุ หลือใช้ จำนวน 10 แผนซึ่งแผนการจัดการเรียนรู้แตล่ ะแผนประกอบด้วย ใบความรู้ ใบ
กิจกรรม แบบทคสอบหลังเรียน จำนวน 20 ชว่ั โมง ดังนี้
แผนที่ 1 งานประดิษฐ์
แผนที่ 2 วสั ดุเหลอื ใช้
แผนที่ 3 การออกแบบและสร้างสรรคง์ านประดิษฐ์
แผนที่ 4 กระบวนการออกแบบและกระบวนการเทคโนโลยี
แผนที่ 5 อปุ กรณ์ เคร่อื งมือ เครื่องใช้ ในงานประดิษฐ์
แผนที่ 6 การสร้างสรรค์งานประดิษฐเ์ ป็นของเลน่
แผนที่ 7 การแก้ปญั หาในการทำงานประดิษฐ์
แผนที่ 8 การสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ตามเศรษฐกิจพอเพียง
แผนที่ 9 การประดิษฐ์ของใช้จากแหล่งเรียนรู้
แผนที่ 10 วันแม่"การเรียนรู้แบบบูรณาการ
แผนการจดั การเรียนรู้ทีผ่ ู้วิจยั สร้างข้ึนมีองคป์ ระกอบดังน้ี
1. ชือ่ เร่ือง
2. สาระสำคัญ
3. ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง
4. สาระการเรียนรู้
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
6. สือ่ การเรียนรู้
7. การวดั ผลประเมินผล
8. กิจกรรมเสนอแนะ
1. 1.7 นำแผนการจดั การเรียนรู้ทีเ่ ขียนแล้ว เสนอต่ออาจารย์ทีป่ รึกษา

วิทยานิพนธ์ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความเหมาะสม เรื่องสาระการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่
คาดหวัง กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล และให้ข้อเสนอแนะ ในเรื่องผลการเรียนรู้ที่
คาคหวงั ไมส่ อดคล้องกบั ถึงกรรมการเรียนรู้กิจกรรม จำนวนข้อคำถาม แบบทคสอบหลังเรยี น ความ
เหมาะสมของขอ้ คำถามกับความสามารถของผู้เรยี น

1.1.8 นำแผนการจัดการเรียนรไู้ ปปรบั ปรุงแก้ไข แล้วนำเสนอกณะผเู้ ชีย่ วชาญ

จำนวน 5 ท่าน เพื่อพิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง และความเหมาะสม ในเรื่องผลการเรียนรู้ที่
คาดหวงั กระบวนการจดั การเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ซึ่งผเู้ ชี่ยวชาญประกอบด้วย

1)ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ดิเรก สุขสนุ ยั อาจารยป์ ระจำคณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราภัฏธนบุรี
ผเู้ ช่ยี วชาญด้านสถิติและวิจัย

2) ดร.กฤษณีย์ อทุ มุ พร ศกึ ษานิเทศกเ็ ช่ยี วชาญอาชีวศึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนการจดั การเรียนรู้

3) นางธีรนุช รอดแก้ว ศกึ ษานิเทศก็ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษานครนายก
ผเู้ ช่ยี วชาญด้านการวัคและประเมินผล

4) นางณฐั กานต์ นวนสำเนียง ศกึ ษานิเทศกช็ ำนาญการพิเศษ สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษานครนาก
ผเู้ ช่ยี วชาญด้านแผนการจดั การเรียนรู้

5) นางประภาศรี พระสนชุ่ม ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดโพธิ์ สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา
นครนายกผเู้ ชีย่ วชาญด้านแผนการจัดการเรยี นรู้

1.1.9 นำแผนการจัดการเรียนรู้มาปรบั ปรงุ ตามข้อเสนอแนะของผู้เช่ยี วชาญ

1.1.10 นำแผนการจัดการเรียนรู้และแบบประเมินแผนแผนเสนอต่อผู้เชีย่ วชาญ

เพื่อตรวจสอบความถกู ต้อง และความความเหมาะสมขององคป์ ระกอบแผน

โดยประเมินความสอดคล้อง ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง สาระการเรียนรู้ กระบวนการจดั การเรียนรู้
กระบวนการ วัดผลประเมินผล สือ่ และแหลง่ เรียนรู้ แล้วนำขอ้ เสนอต่างๆ มาปรบั ปรงุ ใหท้ มาะสมยิง่ ขึ้น
โดยใช้หลักประเมินของ ลิเคอร์ท (Liker) เป็นมาตราสว่ นประเภทต่างๆ (raling scale)ซึ่งมีระดับ คือ
เหมาะสมมากที่สดุ เหมาะสมมาก เหมาะสมปานกลางเหมาะสมน้อย และเทมาะสมมั้งยทีส่ ดุ (บุญชม
ศรสี ะอาด 2535. หน้า 99-100) โคยใช้เกณฑ์ประเมินดังน้ี

4.50-5.00หมายถึง เหมาะสมมากที่สดุ

3.50-4.49 หมายถึง เหมาะสมมาก

1.50-2.49 หมายถึง เหมาะสมน้อย

1.00 - 1.49 หมายถึง เหมาะสมนอ้ ย

1.1.1 1 การวิเคราะห์คะแนนการประเมินความเหมาะสม จากผู้เชีย่ วชาญ ในการ

ประเมินแผนการจดั การเรยี นรู้เรือ่ งการสร้างสรรคง์ านประดิษฐ์จากวัสดเุ หลือใช้ กล่มุ สาระการเรียนรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ทีเ่ น้นทักษะ
กระบวนการ 9ขั้น ผลปรากฏว่ามีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.85 ถือว่าอยใู่ นระดบั มากที่สดุ และผวู้ ิจัยได้
ปรับปรงุ และเสนอต่ออาจารยท์ ีป่ รึกษาต่อไป

1.1.12 ปรับปรุงตามคำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษาและ จดั พิมพ์แผนการจดั การ

เรียนรู้เพือ่ นำไปทคลองตอ่ ไป

1.1.13 นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ปรบั ปรงุ แล้วไปทดลองใช้กับนักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6โรงเรียน
บ้านคงแขวน อำเภอปากพลี จงั หวดั นครนายก จำนวน 3 คนโดยเลือก

แบบเจาะจงคือนักเรียนเก่ง 1 ปานกลาง 1 และออ่ น 1 แล้วคำเนินการทดลองตามลำดบั ข้ันตอนในแผน
เพือ่ ศกึ ษาความเหมาะสม ในเรื่องของภาษาและสภาพทั่วไป จากการทดลองพบว่าผวู้ ิจยั จดั กิจกรรมไม่
เหมาะสมกับระยะเวลา และการใช้ภามาไมเ่ หมาะสม ควรจดั กิจกรรมเน้นให้นกั เรียนกลุ่มป่านกลางและ
ออ่ น ได้รว่ มกิจกรรมได้ทนั เวลา ในการทคลองคร้ังน้ไี ด้ค่าประสิทธิภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ที่เน้น
ทกั ษะกระบวนการ 9 ข้ัน ( 1/ 2) เทา่ กับ 84.33/84. ปรับปรงุ แก้ไขข้อบกพร่องก่อนนำไปหา
ประสิทธิภาพกลมุ่ เลก็

1.1.14 นำแผนการจดั การเรียนที่ทคลองแล้วมาปรับปรุงแก้ไข แล้วนำไปทดลองกลมุ่ เล็ก โดยทคลอง
กับนักเรียนชั้น ประถมศกึ ษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโคกสว่าง อำเภอบางพลี จงั หวดั นครนายก จำนวน 10
คน โดยเลือกแบบเจาะจง คือนักเรียนเก่ง 3 คน ปา่ นกลาง 4 และออ่ น 3 คน เพื่อดูความเหมาะสมของ
ภายาและเนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ การวดั ผล ประเมินผลผลการทดลองพบวา่ กิจกรรมบาง
กิจกรรมไมเ่ หมาะสมกับระเวลาที่กำหนด ในการทคลองคร้ังนีไ้ ด้ค่าประสิทธิภาพของแผนการจัดการ
เรียนรู้ที่เน้นทกั ษะกระบวนการ9ข้ัน ( 1/ 2) 83.75/84.40 ผวู้ ิจยั จงึ ปรับปรงุ แก้ไขเพือ่ ใหแ้ ผนการ
จดั การเรยี นรู้มีความเหมาะสมยิง่ ข้ึน

1. 1. 15 นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทกั ษะกระบวนการ 9 ข้ันที่ผ่านการ

ทคลองคร้ังที่1และครั้งที่ 2 แล้วเสนตอ่ อาจารยท์ ี่ปรึกยาเพือ่ ดูความเหมาะสม และปรับปรุ

เพิ่มเติมในส่วนที่ไม่สมบูรณ์

1.1.16 นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ 9 ขั้นที่ปรับปรงุ ตามคำแนะนำไปทคลอง
ภาคสนามกับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดโพธิ์ อำเภอบางพลีจังหวัดนครนายก จำนวน
24 คน เพื่อดคู วามามเหมาะสมและปรับปรุงใหเ้ หมาะกับนกั เรียนและนำไปหาประสิทธิภาพแผนการ
จดั การเรยี นรู้ทีเ่ น้นทักษะกระบวนการขั้นในการทดลองคร้ังนไี้ ด้ค่าขั้น( 1/ 2)เทา่ กับ84.35/85.33
ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการและนำไปใช้ทคลองกับกลมุ่ ตัวอยา่ ง
ตอ่ ไป

2. การสร้างแบบทดสอบวดั กระบวนการทำงาน

2.1 ศกึ ษาและวิเคราะห์หลกั สูตร เอกสารเสริมความรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและ
เทคโนโลยีหนงั สือแนวการสอนกล่มุ การงานอาชีพและเทคโนโลยีดามหลักสูตรการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
พทุ ธศักราช 2544 เกี่ยวกับทกั ษะกระบวนการทำงานเพื่อให้สามารถทำงาน ได้บรรลุตามเป้าหมาย
ได้แก่ การวิเคราะห์งาน คือ ความสามารถมองงานอยกโคยภาพรวมว่าต้องทำอะไร การวางแผนในการ
ทำงาน คือ ความสามารถวางแผนและกำหนดวิธีทำงานให้เปน็ ข้ันตอนจนงานสำเร็จ การปฏิบัติงาน คือ
ความสามารถตรวจสอบการทำงานของตนเปน็ ระยะๆ การประเมินการทำงาน คือ ความสามารถ
ประเมินผลทั้งการวางแผนกอ่ นทำงาน ขณะปฏิบตั ิงาน และเมื่อทำงานเสร็จแล้ว เพื่อจะได้ปรบั ปรุง
ผลงานของตนให้ดีข้นึ

2.2 สร้างแบบทคสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตวั เลือก ซึ่งมีคำตอบถกู 1 ตัวเลือก ต้ังคำถามจาก
สถานการณ์ 12 สถานการณ์ โดยเรียงลำดับตามกระบวนการทำงานทั้ง 4 ขั้น ในแต่ละสถานการณ์
รวม 48 ข้อ

2.3 ตรวจสอบคณุ ภาพของแบบทคสอบวดั ทกั ษะกระบวนการทำงาน โคยนำ

แบบทคสอบไปให้ผู้เชีย่ วชาญ พิจารณาความสอดคล้องระหว่างคำถามของแบบทคสอบกบั

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เพือ่ ปรบั ปรุงแก้ไขข้อบกพรอ่ งและคดั เลือกข้อสอบที่มคี า่ ดัชนี IOC

0.80-1.00

2.4 นำแบบทดสอบที่ปรับปรุงแก้ไขแลว้ ไปทคลองกับนักเรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่
6 ภาคเรียนที่ ! ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนอนุบาลอำเภอปากพลื อำเภอปากพลี จงั หวัดนครนายก
จำนวน 24 คนแล้วนำแบบทดสอบมาตรวจสอบคำตอบโดยใหค้ ะแนน 1 คะแนน สำหรบั ข้อทีต่ อบ
ถูก และใหค้ ะแนน 0 คะแนน สำหรบั ข้อที่ตอบผดิ หรอื ไมต่ อบหรือตอบเกิน 1 คำตอบ
2.5 นำผลการทดสอบมาวิเคราะห์รายข้อ หาคา่ ดัชนีความยากง่ายและค่าอำนาจ
จำแนกของขอ้ สอบ แล้วตัดเลือกข้อสอบทีม่ คี า่ ความยากง่าย (p) ตั้งแต่ 0.20 - 0.80 และค่าอำนาจ
จำแนก (๔)ต้ังแต่ 0.20 ข้ึนไป (ด้วน สายยศ และอังกณา สายยศ, 2548, หน้า 197) ปรากฎว่าได้
แบบทดสอบวดั ทักษะกระบวนการทำงาน จำนวน 40 ข้อที่มคี ่าดัชนีความยากง่าย (p) ต้ังแต่ 0.41 -
0.79และค่าดัชนีอำนาจจำแนก (3) ต้ังแต่ 0.21 -0.79
2.6 นำแบบทดสอบทีม่ คี วามยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกอยู่ในเกณฑค์ รอบคลมุ เนือ้ หา มาหาค่า
ความเชือ่ ม่ันโดยใช้สูตร KR - 20 ของ Kuder Richardson (ด้วน สายอศ และอังคณา สายยศ. 2548,
หน้า 197- 199) ปรากฏวา่ แบบทคสอบวัดทักษะกระบวนการทำงานมีค่าความเชือ่ ม่นั 0.93
2.7 นำแบบทดสอบวดั ทักษะกระบวนการทำงาน จำนวน 40 ข้อ ไปทดลองใช้กบั
กลมุ่ ตัวอย่างต่อไป
3. การสร้างแบบทคสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนองการสร้างสรรคง์ านประดิษฐ์
วัสดุเหลอื ใช้ เป็นข้อสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีข้ันตอ
สร้างแบบทดสอบ ดังนี้ ศกึ ษาการสร้างแบบทดสอบ จากหนงั สอื หลกั การวดั และประเมินผลการ
ของ พิชิต ฤทธิจ์ รญู (2545) เพือ่ เปน็ แนวทางในการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น
3.2 ทำการวิเคราะห์หลกั สูตรและสร้างตารางวิเคราะหห์ ลักสตู รจากหน่วยการเรียนรแู้ ละพฤติกรรมที่
ต้องการวัดตามหลักของ Bloom ดังน้ี
มาตรฐานที่ ง 1.1 เข้าใจมคี วามคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะ มีคณุ ธรรม มีจิตสำนึกในการใชพ้ ลังงาน
ทรพั ยากรและส่ิงแวดถ้อมในการทำงาน เพือ่ การดำรงชีวิต และครอบครัว ที่เกีย่ วข้องกบั งานบ้าน งาน
เกษตร งานช่าง งานประดิษฐ์ และงานธรุ กิจ

มาตรฐานที่ ง 1.2 มีทักษะ กระบวนการทำงาน และการจัดการ การทำงานเป็น

กลุ่ม การแสวงหาความรู้ สามารถแก้ปญั หาในการทำงาน รักการทำงาน และมีเจตคติที่ดีต่อคนงาน

ตารางท่ี 3.2 วิเคราะห์สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง กลุ่ม
สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6

สาระที่1การดำรงชีวติ และครอบครัว ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง

มาตรฐานท่ี ง 1.1 1.เข้าใจความหมายความสำคัญประโยชน์

1. ความหมายความสำคญั ประโยชน์หลักการ หลักการข้ันตอนกระบวนการทำงานการจัดการ

ขั้นตอนกระบวนการทำงานการจดั การและ และสามารถทำงานตามข้ันตอน

สามารถทำงานตามข้ันตอน 2.เลือกใช้เก็บบำรุงรกั ษาเครอ่ื งมอื เครื่องใชว้ สั ดุ

2. การใช้เก็บบำรงุ รักษาเครอ่ื งมอื เครือ่ งใชว้ สั คู อุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นการทำงานได้ถูกต้อง

อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการทำงาน 3. มคี วามคิดรเิ ริ่มในการทำงาน

3. ความคิดรเิ ริ่มในการทำงาน M h 4.ทำงานด้วยความรับผดิ ชอบขยนั ชือ่ สัตว์

4. ความรบั ผิดชอบ ขข้น ชือ่ สตั ย์ ประหยัด อด ประหยดั อดออมอดทน

ออม อดทน ในการทำงาน 5.ใชพ้ ลงั งานทรพั ยากรธรรมชาติและ

5.การใช้หลังงานทรัพยากรธรรมชตแิ ละ สิ่งแวดล้อมในการทำงานอยา่ งคมุ้ ค่าและถูกวิธี

สิ่งแวดล้อมในการทำงานอย่างคุ้มค่าและถูกวิธี

มาตรฐานที่ ง !.2 การทำงานอย่างคมุ้ ค่าและถูกวิธี

1.การวิเคราะห์งานวางแผนการดำเนินงาน 1. สามารถวิเคราะหง์ านวางแผนการดำเนินงาน

ปฏิบัติงานตามแผนและประเบินการคำเป็นงาน ปฏิบตั ิงานตามแผนและประเมินการดำเนินงาน

มาตรฐานท่ี ง 1.2 2. สามารถทำงานในฐานะผนู้ ำ/สมาชิกกลุม่ และ

1.การวิเคราะห์งานวางแผนการดำเนินงาน สร้างสัมพันธภาพทีด่ ใี นกลุ่ม

ปฏิบัติงาตามแผนและประเมินการดำเนินงาน 3.สามารถค้นคว้ารวบรวมข้อมูลเกีย่ วกบั การ

2. การทำงานในฐานะผู้นำสมาชิกกลุ่มและสร้าง ทำงานจากแหล่งความรดู้ ้วยวิธีการต่างๆ

ส้มพันธภาพทีด่ ีในกลมุ่ 4.สามารถวิเคราะหป์ ัญหาสาเหตุของปัญหาและ

3. การค้นคว้ารวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับการทำงาน แก้ปญั หาด้วยวิธีการทีเ่ หมาะสม

จากแหล่งความรดู้ ้วยวิธีการตา่ ง

4. การวิเคราะห์ปัญหา สาเหตุของปญั หาและ

แก้ปญั หาด้วยวิธีการที่เหมาะสม

ตารางท่ี 3.2 วิเคราะหส์ าระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง กลุ่ม
สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 (ต่อ)

สาระที่1การดำรงชีวติ และครอบครัว ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง

5. ความต้ังใจเอาใจใส่และทำงานจนสำเรจ็ พอใจ 5. มีความต้ังใจ เอาใจใส่และทำงานจนสำเร็จ

และขอมรับการทำงานทำงานอย่างมคี วามสขุ มี พอใจและขอมรบั การทำงานทำงานอยา่ งมี

กิจนสิ ยั ในการทำงานด้วยความประณีตรอบคอบ ความสขุ มกี ิจนิสัยในการทำงานด้วยความ

ปลอดภัยและสะ อาด ปลอดภัยและสะอาด

ท่คี าดหวงั กลมุ่ สาระตารางที่ 3.3 วิเคราะหพ์ ฤติกรรมการเรียนรู้ของ Bloom ตามผลการเรียนรู้

การเรียนร้กู ารงานอาชีพและ เทคโนโลยี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

ข้อ ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง พฤติกรรมเรียนรู้ของกลุม่ ด้านพทุ ธิพิสัย

ร้-ู จำ เข้าใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมิน

ค่า

1 มาตรฐานที่ง.1.1 ✓✓ ✓ ✓

เข้าใจความหมาย

ความสำคญั ประโยชน์

หลกั การข้ันตอนกระบวนการ

ทำงานการจัดการและ

สามารถทำงานตามข้ันตอน

2 เลือกใช้เกบ็ บำรงุ รกั ษา ✓ ✓✓ ✓

เครือ่ งมือเครือ่ งใชว้ สั ดุ

อปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการทำงานได้

ถูกต้อง

3 มีความคดิ ริเร่ิมในการทำงาน ✓✓ ✓ ✓

4 ทำงานด้วยความรบั ผดิ ชอบ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓

ขยนั ชือ่ สตั ยป์ ระหยัดอดออบ

อดทน

5 ใช้พลงั งาทรัพยากรธรรมชาติ ✓✓ ✓ ✓

และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน

อยา่ งคมุ้ คำและถูกวิธี

ตารางท่ี 3.3 วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ของ Blo0m คามผลการเรียนรู้ท่คี าคหวังกลมุ่ สาระ

การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 (ต่อ)

ข้อ ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง พฤติกรรมเรียนรู้ของกลมุ่ ด้านพุทธิพิสยั

ร้-ู จำ เข้าใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่า

1 มาตรฐานที่ ง 1.2 ✓ ✓✓ ✓

สามารถวิเคราะห์งานวาง

แผนกวรจำเนินงานปฏิบตั ิ

งาบตามแผนและประเมิน

การคำเนินงาน

2 สามารถทำงานในฐานะผู้นำ/ ✓✓ ✓

สมาชิกกลุ่มและสร้าง

สัมพนั ธุ์ภาพทีด่ ใี นกลุ่ม

3 สามารถค้นคว้ารวบรวม ✓ ✓✓

ข้อมูลเกีย่ วกับการทำงาน

จากแหล่งความรดู้ ้วยวิธีการ

ตา่ งๆ

4 สามารถวิเคราะห์ปัญหา ✓✓ ✓

สาเหตขุ องปัญหาและ

แก้ปญั หาด้วยวิธีการที่

เหมาะสม

5 มีความตั้งใจเอาใจใส่และ ✓✓ ✓

ทำงานจนสำเรจ็ พอใจและ

ยอมรับการทำงานทำงาน

อย่างมีความสขุ มกี ิจนสิ ัยใน

การทำงานด้วยความ

ปลอดภัยและสะอาด

3.3 สรา้ งแบบทคสอบวัคผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นตามหน่วยการเรียนรู้ที่ใชใ้ นการ

ทคลอง โดยแบบทคสอบที่สรา้ งเป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก และครอบคลุมเนือ้ หาทีส่ อบ

จำนวน 50 ขอ้

3.4 ตรวจสอบคุณภาพของแบบทคสอบวัดผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น โดยนำ
แบบทคสอบไปให้ผู้เชี่ยวชาญ พิจารณาความสอดคล้องระหว่างคำถามของแบบทคสอบกับ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เพือ่ ปรับปรงุ แก้ไขข้อบกพรอ่ งและกดั เลือกข้อสอบทีม่ คี ำดัชนี IOC ต้ังแต่
0.80-1.00
3.5 นำแบบทคสอบทีต่ รวจและแก้ไขข้อบกพร่องแล้ว ไปทคลองกับนักเรียนช้ัน
ประถศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกยา 2552 โรงเรียนอนบุ าลอำเภอปากพลี อำเภอปากถึง
จังหวัดนครนายก จำนวน 24 คน แล้วนำแบทคสอบมาตรวจสอบคำตอบโดยให้คะแนน ! คะแนน
สำหรบั ข้อทีต่ อบถกู และ ใหค้ ะแน่น O คะแนน สำหรบั ข้อที่ตอบผดิ หรอื ไมค่ อบ หรือตอบเกิน 1
คำตอบ ทีไ่ ม่ใชก่ ลมุ่ ตัวอย่าง
3.6 นำผลสอบมาวเิ คราะห์ร้ายข้อ หาค่าดชั นีความยากงา่ ยและดา่ อำนาจจำแนกของ
ข้อสอบ แลว้ คดั เลือกข้อสอบทีม่ คี า่ ความยากงา่ ย (p) ต้ังแต่ 0.20-0.80 และคา่ อำนางจำแนก (1)
ตั้งแต่ 0.20 ขึน้ ไป (ถ้วน สายยศ และองั คณสาย ช.ศ, 2338, หน้า 197) ปรากฎว่าได้แบบทคสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีคำความขากง่าย (p) ต้ังแต่ 0.45-79 และคา่ อำนาจจำแนก (3) ต้ังแต่
0.22-0.78
3.7 นำแบบทดสอบที่มคี ่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกอยใู่ นเกณฑ์ครอบคลมุ
เนือ้ หามาหาคา่ ความเชื่อมนั่ โดยใช้สตู ร KR - 20 ของ Kuder Richardson (ถ้วน สายยศ และองั คณา
สายยศ. 2548. หนา้ 197-199) ปรากฎว่าแบบทตสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนมคี วามเช่ือม่ัน
0.91
3.8 นำแบบทคสอบวดั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อไปทดลองใช้กับกลมุ่
ตวั อย่างต่อไป

4สร้างแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนทีม่ ีต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ โคยใช้ารเรียนรู้ทีเ่ น้นทักษะ
กระบวนการๆ ข้ันเรอ่ื งการสร้างสรรค์ประดิษฐ์จากวัสดเุ หลือใชป้ ระถมศกึ ษาปีที่ 6 ได้คำเนินการสร้าง
ตามแบบวดั ของ Liker ดำเนนิ การสร้างตามขั้นตอนดงั น้ีศกึ ษาวิธีสร้างแบบวดั ความพึงพอใจ จาก
เอกสารและงานวิจยั ที่เกีย่ วข้อง

4.2 เขียนและเรียบเรียงข้อความหลายๆข้อความ เพื่อใช้วัดความพึงพอใจในการเรียน โดยใช้แผนการ
จดั การเรยี นรู้ที่เน้นทกั ษะกระบวนการ 9 ข้ัน จำนวน 30 ข้อ

4.3 คำตอบของข้อความแต่ละข้อความมที างเลือกอยู่ 5 ทาง คือ ความหงึ พอใจมากทีส่ ุด ความพึง
พอใจมาก ความพึงพอใจป่านกลาง ความหงึ พอใจน้อย ความพึงพอใจน้อยที่สุด การให้คะแนนคำตอบ
ของขอ้ ความ เปน็ ดงั นี้ ความพึงพอใจมากทีส่ ดุ ให้ 5 คะแนน ความพึงพอใจมากให้ 4 คะแนน ความพึง
พอใจปานกลาง ให้ 3 คะแนน่ ความพึงพอใจน้อย ให้ 2 คะแนน ความพึงพอใจน้อยทีส่ ุด ให้ 1 คะแนน
โดยกำหนดเกณฑ์ในการแปลความหมายคะแบนดงั นี้

4.50- 5.00 หมายถึงความ พึงพอใจมากทีส่ ุด

3.50 -4.49 หมายถึง พงึ พอใจมาก

2.50 -3.49 หมายถึง ความพึงพอใจปานกลาง

1.50 - 2.49 หมายถึง ความพึงพอใจน้อย

1.00 - 1.49 หมายถึง ความพอใจนอ้ ยทีส่ ดุ

4.4 นำแบบวัดความพึงพอใจทีส่ รา้ งข้ึนใหอ้ าจารยท์ ีป่ รึกษาวิทยานิพนธแ์ ละผเู้ ช่ยี วชาญตรวจพิจารณา
ความถกู ต้อง ความชดั เจนของภาษา ความครอบคลุมแนวคิด เนือ้ หาสาระทีส่ ำคัญแล้วนำไปปรับปรุง
แก้ไข

4.5 นำแบบวัคความพึงพอใจไปทคถองใชก้ ับนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6

รงเรยี นอนบุ าลอำเภอปากพลี อำเภอปากพลี จังหวดั นครนายก จำนวน 24 คน

4.6 ตรวจและรวมคะแนนที่ได้จากคำตอบของทกุ ข้อความเป็นคะแนนที่วัคความพึงพอใจ

4.7 นำผลคะแนนทีไ่ ด้ มาวิเคราะห์หาค่าอำนาจจำแนก และหาค่าความเชอ่ื มั่นโดย

ใช้สูตรของ Cronbach ปรากฏวา่ แบบวดั ความพึงพอใจมีค่าอำนาจจำแนก (2) ตั้งแต่ 0.22-0.75 และ
มคี ่าความเช่อื ม่ัน 0.93

4.8 นำแบบวัดความพึงพอไจไปใช้กบั กลุ่มตวั อย่างที่เปน็ กลุ่มทคลองตอ่ ไป
5. การจดั การเรียนรตู้ ามแผนทีเ่ น้นทักษะกระบวนการ 9 ข้ัน
5.1 ข้ันเตรียมการจัดการเรียนรู้
5. 1.1 ครตู อ้ งเตรยี มสิ่งต่างๆ ทีต่ อ้ งใชใ้ นการจัดการเรียนรไู้ ว้ล่วงหน้า ได้แก่
1) สือ่ การเรียนรู้
2) แผนการจัดการเรียนรู้ทีเ่ น้นทักษะกระบวนการ 9 ข้ัน เร่อื ง การ
สร้างสรรคง์ านประดิษฐจ์ ากวสั ดเุ หลือใช้ จำนวน 10 แผ่น
3) แบบฝกึ กิจกรรมเพือ่ ฝกึ ทักษะกระบวนการทำงาน ท้ายแผน
4) แบบทดสอบวดั ทกั ษะกระบวนการทำงาน
5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น
6) แบบวดั ความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้แผนการจดั การเรียนรทู้ ีเ่ น้นทกั ษะกระบวนการ 9 ข้ัน
5.1.2 ตรูตอ้ งศึกษาแผนการจดั การเรีนรถู้ ่วงหนา้ ให้เข้าใจกอ่ นจัดการเรียนรู้
5.2 ขั้นการจัดการเรียนรู้
5.2. 1 นกั เรียนทำแบบทดสอบคัดทักษะกระบวนการทำงาน
5.2.2 นกั เรียนทำแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียน
5.2.3 นกั เรียนฝกึ ทกั ษะกระบวนการทำงานโดยแบบฝึกกิจกรรมท้ายแผน ตามทักษะกระบวนการ
9 ข้ัน ทีละแผนจนครบทกุ แผน
5.2.4การสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ ได้แก่
1) เปิดโอกาสให้ผเู้ รียนได้เลือกวิธีทำงานตามความสนใจ
2) เป็นกนั เอง
3) อบอุ่น
4) มีความสขุ

5) กระตนุ้ และจงู ใจในการทำงาน

5.2.5 สงั เกตพฤติกรรมในการเรียนรู้ และการปฏิบัติกิจกรรมเปน็ รายบคุ คลและ

รายกลุม่ บนั ทึกคะแนน

5.3 ขั้นสรุปการจดั การเรยี นรู้

5.3.1 นักเรียนทำแบบทคสอบวัดทักษะกระบวนการทำงานหลังเรยี น

5.3.2 นักเรียนทำแบบทคสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียน

แบบทดสอบมาวิเคราะหผ์ ลทางสถิติ

5.3.3 นำคะแนนจากการทำ

การเก็บรวบรวมขอ้ มลู

ในการวิจยั ครั้งนี้ มขี ั้นตอนการทคลองและการเกบ็ รวบรวมข้อมูลตามลำดบั ข้ัน ดังน้ี

1.ทดสอบความรกู้ ่อนเรียนกับกลมุ่ ทคลองด้วยแบบทคสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการ
สร้างสรรคง์ านประดิษฐจ์ ากวสั ดเุ หลือใช้ จำนวน 30 ข้อ และทำแบบทคสอบวัดทักษะกระบวนการ
ทำงาน จำนวน 40 ข้อ

2.ทำการทคลองสอนตามแผนการจดั การเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ทีเ่ น้นทกั ษะ
กระบวนการ 9 ขน้ั ระยะเวลา 20 ช่วั โมง

3. หลังจากเสร็จสนิ้ การทคลอง ทำการ ทดสอบหลังเรียน โดยใช้แบบทคสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการ
เรียน เรื่องก ารสร้างสรรค์งานประดิษฐ์จากวัสดเุ หลือใช้ แบบทคสอบวดั ทักษะกระบานการทำงาน เรือ่ ง
การสรา้ งสรรค์งานประดิษฐจ์ ากวสั ดุเหลือใช้กล่มุ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี โคชใช้
แผนการจดั การเรีบนรู้ทีเ่ น่ันหกั พะกระบวนการ 9 ข้ัน ขั้นประถมศึกมาปีที่ 6 ประเมินทกั ษะกระบวนการ
ทำงาน

4. ตรวจคะแนนจากการทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เรื่องการสร้างสรรค์งานประดิษฐ์จาก
วสั ดเุ หลอื ใช้ และแบบทดสอบวัคทักษะกระบวนการทำงาน แล้วบันทึกคะแนนเปน็ คะแนนการทคสอบ
หลังเรยี น นำผลคะแนนที่ได้จากการทคสอบกอ่ นเรียนและการทคสอบหลังเรียน และนำผลคะแนนจาก
การวัดความพึ่งพอใจในการเรียนโดยใช้ แผนการจดั การเรียนรู้ที่เน้นทกั ษะกระบวนการ 9 ข้ัน มา
วิเคราะห์ผลทางสถิติเพอ่ื ทดสอบสมมตุ ฐิ านทีต่ ้ังไว้

การวเิ คราะห์ข้อมูล

ในการวิเคราะห์ขอ้ มูลผู้วจิ ัยได้คำเนินการดังน้ี

1. หาค่าสถิตพิ ืน้ ฐานของคะแนนทีไ่ ด้จากแบบทคสอบวัดทกั พะกระบวนการทำงาน

2. หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียน

ทีเ่ น้นทักษะกระบวนการ 9 ขั้น

3. เปรียบเทียบคะแนนทกั ษะกระบวนการทำงานของนักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6

โดยการทดสอบค่าที แบบไมเ่ ปน็ อิสระต่อกนั (I-test for dependent sample)

4. เปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ

เทคโนโลยี เรือ่ งการสรา้ งสรรค์งานประดิษฐ์จากวสั ดเุ หลือใช้ ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6

โดยการทคสอบค่าที แบบไม่เปน็ อิสระต่อกับ (I-test tor dependent sample)

5. หาคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจในการเรียน โดยใช้เผนการจดั การเรียนรู้ที่เน้นทกั ษะ

กระบานการ ๆ ขนั้ เร่อื งการสร้าสรรค์งานประดินจัด เก็บวสั ดเุ ผลอื ใช้ของนักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปี

สถิติทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มูล

ในการวิจัยใช้สถิตกิ ารวิเคราะห์ข้อมลู คังนี้

1. สถิตพิ ืน้ ฐาน

1.1 หาค่าเฉลีย่ (mean) (ล้วน สาย ข.ศ และ องั คณา สายยศ, 2548, หน้า 73)

̅=∑ แทนคะแนนเฉลี่ย



เมือ่ ̅

∑ แทนผลรวมของคะแนนท้ังหมด

N แทนจำนวนนักเรียนในกลมุ่

1.2 หาค่าความเ#ยงเขนมาตรฐาน โดยใชส้ ูตร (ถ้วน สายยศ และอังคณา สาย ข.ศ, 2548,
หน้า 79)

S= √ ∑ 2−(∑ )2

( −1)

เมื่อ S แทนค่าเบีย่ งเบนมาตรฐาน

∑ แทนผลรวมของคะแนนทั้งหมด

∑ 2 แทนผลรวมของกะแนนแตล่ ะตวั ยกกำลังสองแทน

แทนจำนวนนกั เรียนท้ังหมด

แทนคะแบนของนักเรียนแตล่ ะคน

2. สถิตที่ใชใ้ นการตราจสถาคณุ ภาพเคร่อื งมอื

2.1 หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สูตร การหาประสิทธิภาพเพือ่ ประเมินส่อื ของ
กลมวิชาการ (254ร. พม้า 57-58) ใช้สูตรดังน้ี

∑X

1 = N × 100

A

1 แทนประสิทธิภาพของกระบวนการ

∑ แทนผลรวมของคะแนนทีไ่ ด้จากการวัดระหว่างเรียน

แทนจำนวนผเู้ รียน

A แทนคะแนนเต็มจากการวดั ระหว่างเรียน

∑Y

2 = N × 100

B

2 แทนประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่ได้จากคะแนนเฉลี่ยงากการทำแบบสอบหลังเรยี นของ
ผเู้ รียนทั้งหมด

∑ แทนผลรวมของคะแนนทีไ่ ด้จากการทดสอบหลังเรียน

แทน จำนวนผู้เรยี น

B แทน คะแนบเต็มของการสอบหลงั เรยี น

2.2 หาค่าดชั นี ความสอดกล้องระหวา่ งคำถาม กับจุดประสงค์การเรียนรู้ตามวิธีการของ Rowinclli
and Hambleton เปน็ รายข้อจากสตู ร (ล้วน สายยศ และ อังคณา สายยศ, 2548, หนา้ 249)

ICO = ∑



เมื่อ ICO แทนดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับจุดประสงค์การเรียนรู้

∑ แทนผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผเู้ ช่ียวชาญแตล่ ะคน

แทนจำนวนผเู้ ชย่ี วชาญ

2.3 หาค่าความยากงา่ ย (p) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น เรื่อง การ

สร้างสรรค์งานประดิษฐจ์ ากวสั คุเหลอื ใช้ และแบบทคสอบวดั ทกั ษะกระบวนการทำงานจากสตู ร

(ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ, 2548, หน้า 210)

P = แทน ด่าความยากง่าย



เมื่อ P

แทนจำนวนคนที่ทำขอ้ นี้ถกู

แทนจำนวนคนที่ทำขอ้ นั้นท้ังหมด

2.4 หาค่าอำนาจจำแนก (r) ของแบบทคสอบวัดผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น เรื่องการสร้างสรรคง์ าน
ประดิษฐ์จากวสั ดุเหลือใช้ และแพบทดสอบวัคทกั ษะกระบวนทำงาน จากสตู ร (ด้วนสายยศ และอังคณา
สายยศ, 2548, หน้า 210-21 1)

D = −



2

เมื่อ D แทนคา่ อำนาจจำแนก
แทนจำนวนนกั เรียนทีต่ อบถูกในกล่มุ เกง่
แทนจำนวนนกั เรียนที่ตอบถกู ในกลมุ่ ออ่ น
แทนจำนวนนกั เรียนในกลุม่ เกง่ และกลุม่ อ่อน

2.5 หาด่าความเชื่อม่ัน (reliabiliy) ท้ังฉบบั ของแบบทดสอบโดยใช้สูตร KR -20(ถ้วน สายยศ และ
องั คณา สายยศ. 2548, หนา้ 198)

= [1 − ∑ 12 ]
−1

เมื่อ แทนความเช่ือมน่ั ของแบบทดสอบ
n แทน จำนวนข้อของแบบทตสอบ
p แทน สัดส่วนของผู้ทีท่ ำใด้ในข้อหน่งึ ๆ
q แทน สดั ส่วนของผู้ทีท่ ำผิดในข้อหนึ่งๆ หรือ คือ !- p
12 แทนคะแนนความแปรปรวนของเครือ่ งมอื ทั้งฉบับ

2.6 หาค่าอำนาจจำแนกแบบวัดความพึงพอใจในการเรียน โดยวิธีการแจกแจงคา่ ที (t -
distribution) ใช้สตู ร (ล้วน สายศ และอังคณา สายยศ, 2548, หน้า 215)

t = ̅ ̅ ̅ ̅ −̅ ̅ ̅ ̅

√ +

เมือ่ t แทน ค่าอำนาจจำแนกของขอ้ สอบ

̅̅ ̅ ̅ แทนค่าคะแนนเฉลีย่ สูงสุด
1̅ แทนคา่ เฉลีย่ ของกลุม่ ตำ่
2 แทน คะแนนความแปรปรวนของกลุ่มสูง
2 แทน คะแนนความแปรปรวนของกลมุ่ ต่ำ
แทน จำนวนของกลุ่มตัวอยา่ งในกลุม่ สงู

1 แทน จำนวนของกลมุ่ ตวั อย่างในกลุ่มตำ่
2.7 หาค่าความเชื่อมน่ั (reliability) ของแบบวดั ความพึงพอใจในการเรียน โคยใช้สตู รของ
Cronbach (ถ้วน สายยศ และ องั คณา สายยศ, 2548, หนา้ 200)

= 1 [1 − ∑ 2 2 ]


เมื่อ แทนค่าสมั ประสิทธิข์ องความเชือ่ มนั่

แทนจำนวนข้อของเครือ่ งมอื วดั

2 แทนคะแนนความแปรปรวนเป็นรายข้อ
2 แทนคะแนนความแปรปรวนของเคร่อื งมอื นั้นท้ังฉบับ

3. สถิตทิ ี่ใชใ้ นการทคสอบสมมตฐิ าน

3.1 เปรียบเทียบคะแนนทักษะกระบวนการทำงานกอ่ นและหลังการใช้แผนการ

จดั การเรยี นรู้ทีเ่ น้นทักษะกระบวนการ 9 ข้ัน ของกลุม่ ตัวอย่างโดยใช้สตู ร I - test for dcpendentsample

3.2 เปรียบเทียงคะแนนผลสมั ฤทธิ์ก่อนและหลังการใช้เผนการจัดการเรียนรู้ที่เนั้น

ทักษะกระบวนการ 9 ขนั้ ของกล่มุ ตวั อย่างโดยใช้สูตร - rest for dependent sample

สมมตฐิ านข้อที่ 1 และ 2 ใช้สตู ร -test แบบ dependent sample (ด้วน สายยศ

และอังคณา สายยศ, 2548, หนา้ 104)

= ∑
√ ∑ 2−(∑ )2
−1

= − 1

เมื่อ t แทนคา่ ทีใ่ ชใ้ นการพิจารณา ,-distribution

D แทนคะแนนความแตกตา่ งของคะแนนแค่ละคู่

N แทน จำนวนคู่

3.3 หาค่าเฉลีย่ ความพึ่งพอใจในการเรียนโดยใช้แผนการจดั การเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ 9 ข้ัน

กลุ่ม 10
1.นางสาวนีระนุช วรชินา รหัส62115267203
2.นายอรงคเ์ ดช ศรีชมภู รหัส62115267215
3.นางสาวสิริขจร งานฉมัง รหสั 62115267216


Click to View FlipBook Version