The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 2 ภาคเรียนที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 2 ภาคเรียนที่ 1

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 2 ภาคเรียนที่ 1

แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม

คาช้ีแจง ใหค้ รปู ระเมนิ การทางานกลมุ่ ของนกั เรียนตามรายการประเมนิ (คะแนนเต็ม 12 คะแนน)

รายการประเมิน ระดับคะแนน
๓๒๑
1. การกาหนดบทบาทหน้าที่ กาหนดบทบาทหนา้ ที่ กาหนดบทบาทหน้าที่ ไม่มีการกาหนดบทบาท
2. การมสี ว่ นรว่ ม สมาชิกอย่างชดั เจน สมาชิกไมค่ รบถว้ น หนา้ ที่
มีสว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ิ มสี ่วนร่วมในการปฏิบตั ิ มีสว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิ
3. การรบั ฟงั และแสดงความคดิ เหน็ งานกลุ่ม งานกลุ่มบ้าง งานกลมุ่ น้อยมาก
หรือไมม่ สี ่วนร่วม
4. ความรบั ผดิ ชอบ รบั ฟังและแสดงความคดิ เห็น รบั ฟงั และแสดงความคดิ เหน็ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ นื่
อย่างมเี หตผุ ลและสร้างสรรค์ อย่างมีเหตผุ ลและสร้างสรรค์ นอ้ ยมากหรือไมร่ บั ฟงั
อย่างสม่าเสมอ เปน็ บางครงั้ ความคดิ เห็นผอู้ นื่
รบั ผิดชอบงานทีไ่ ดร้ ับ รบั ผิดชอบงานท่ีได้รับ ไม่รับผิดชอบงานท่ไี ดร้ บั
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา มอบหมาย แตเ่ สรจ็ ไม่ทนั มอบหมาย
ทก่ี าหนด ตามกาหนด

* การคิดคะแนน รอ้ ยละ = (คะแนนทีไ่ ด้/คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมิน การแปลผล
ดีมาก
เกณฑ์ของระดบั คะแนน ดี
ร้อยละ 80 - ๑๐๐ พอใช้
ร้อยละ 70 - 79 ปรับปรงุ
ร้อยละ 50 - 69
ร้อยละ ๐ - 49

-42-34-23-

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ สังเกตสื่อบนั ทึกสาร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ เวลา ๑ ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง ลานาบันทกึ (๒) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
รายวชิ า ภาษาไทย
แหล่งเรียนรู้
-424- สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด กิจกรรมการเรียนรู้ ห้องสมุด
บนั ทึกส่วนตวั เป็นบนั ทึกที่ผ้บู นั ทึกจดบนั ทึกกจิ วตั รของ ข้นั นา สอ่ื
๑. นักเรียนอา่ นใบความรู้ “แอนตาร์กติกา: หนาวหน้าร้อน” 1. ใบความรู้ “แอนตาร์กติกา : หนาวหนา้ รอ้ น”
ตนเอง บนั ทึกประสบการณ์หรือความรสู้ กึ นึกคิดของตนเอง จากบันทึกเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนประเทศนวิ ซแี ลนด์ 2. ใบความรู้ “บันทึกการเดินทาง”
ไว้อา่ นเพ่อื ความพึงพอใจ เพื่อกันลมื หรอื เพือ่ เป็นเครอื่ ง และ ขั้วโลกใต้หรือแอนตารก์ ติกา 3. ใบความรู้ “บันทกึ เหตุการณ์สาคัญครัง้ หนึ่งในชวี ติ ”
เตอื นใจ เชน่ บนั ทกึ ประจาวนั บันทกึ การเดินทาง ๒. นักเรียนตอบคาถามจากการอา่ น ดงั น้ี 4. ใบงาน “การเขียนบันทึกประจาวัน”
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ภาระงาน/ช้นิ งาน
ดา้ นความรู้ - นักเรยี นอ่านเร่ืองอะไร การทาใบงาน “การเขยี นบนั ทกึ ประจาวัน”
๑. บอกความหมายของบนั ทึกสว่ นตัวได้ การวดั และประเมินผล
๒. บอกจุดประสงค์ในการเขียนบนั ทกึ สว่ นตวั ได้ คาตอบ แบบประเมินการทางานกลุ่ม
ด้านทักษะและกระบวนการ แอนตารก์ ติกา : หนาวหน้าร้อน
เขียนบนั ทกึ ส่วนตวั ได้
ด้านคุณลักษณะ - ใครคือผู้แตง่ เรือ่ งน้ี
๑. ใฝ่เรียนรู้
๒. ม่งุ มัน่ ในการทางาน คาตอบ
แอนตารก์ ติกา: หนาวหน้าร้อน เป็นพระราชนพิ นธ์
สมรรถนะที่ต้องการใหเ้ กิดกับผ้เู รียน ในสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ
การสอ่ื สาร สยามบรมราชกุมารี

- เหตกุ ารณ์ในเร่ืองเกิดขึ้นเม่ือไหร่

คาตอบ
วันอาทิตย์ท่ี ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๖

- เหตกุ ารณใ์ นเรือ่ งกล่าวถงึ เร่ืองใด

-424-

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ สังเกตสอ่ื บนั ทกึ สาร แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑๐ เวลา ๑ ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย เร่ือง ลานาบนั ทึก (๒) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒
รายวชิ า ภาษาไทย
-425-
แนวคาตอบ
การไปถ้านา้ แข็งที่ Mt.Erebus Glacier Tongue ซ่งึ เปน็ แทง่
น้าแข็งย่ืนลงไปในทะเล ในถ้าเปน็ สฟี ้าสว่างใสเหมือนแก้วผลกึ
เจียระไน

- จากที่นกั เรยี นได้อา่ นเรื่องแอนตาร์กติกา :
หนาวหนา้ ร้อน นักเรยี นคดิ ว่า ผเู้ ขยี นมคี วามรู้สกึ อยา่ งไร
เพราะเหตุใดจงึ คิดเช่นนัน้

แนวคาตอบ
มคี วามประทับใจในสถานท่ีแหง่ นี้ เพราะว่ามีความสวยงาม

- แอนตารก์ ติกา : หนาวหนา้ ร้อน เป็นงานเขียนแบบใด

คาตอบ
บันทึกสว่ นตัว

ขัน้ สอน
3. นกั เรียนจบั กลมุ่ กลุ่มละ ๓ คน จากนัน้ อ่านใบความรู้
“บนั ทกึ การเดินทาง”
4. นกั เรียนแต่ละกล่มุ อภปิ รายคาตอบจากประเดน็ คาถาม
ต่อไปน้ี

- นกั เรียนอ่านเรอ่ื งอะไร

คาตอบ
พระราชนพิ นธ์ เรอ่ื ง ไกลบา้ น

- ใครคอื ผูแ้ ตง่ เรื่องนี้

-425-

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ สังเกตสื่อบันทกึ สาร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๐ เวลา ๑ ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เรื่อง ลานาบันทึก (๒) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
รายวชิ า ภาษาไทย
-426-
คาตอบ
พระราชนิพนธ์ เร่ือง ไกลบ้าน เป็นพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั

- เหตกุ ารณใ์ นเรอ่ื งเกดิ ข้นึ เมอื่ ไหร่

คาตอบ
วันศกุ ร์ ที่ ๒๔ พฤษภาคม รัตนโกสนิ ศก ๑๒๖

- เหตุการณใ์ นเร่อื งกลา่ วถึงเรือ่ งใด

แนวคาตอบ
การเดนิ ทางด้วยรถไฟ ผ่านทะเสสาบ ทาใหเ้ ห็นน้าในทะเลสาบ
ที่ใส สวยงาม เดินทางผ่านเกาะ ไปเขาแอลป์ แม่น้าโรน
และเขอ่ื น

- จากที่นกั เรียนได้อา่ นพระราชนพิ นธ์ เรื่อง ไกลบ้าน
นักเรียนคดิ ว่า ผู้เขียนมีความรู้สกึ อยา่ งไร เพราะเหตุใดจึงคิด
เชน่ น้นั

แนวคาตอบ
มคี วามประทบั ใจในสถานท่ีแห่งน้ี เพราะว่ามีความสวยงาม

- แอนตารก์ ตกิ า : หนาวหน้าร้อนและพระราชนิพนธ์
เร่ือง ไกลบ้าน มีความเหมือนกันอยา่ งไรบา้ ง

แนวคาตอบ
เปน็ การเขียนบนั ทึกส่วนตัวเหมือนกัน

5. นักเรียนจบั กลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน จากนั้นอ่านใบความรู้
“บันทึกเหตุการณส์ าคัญครงั้ หนง่ึ ในชวี ิต”

-426-

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๔ สังเกตส่ือบันทกึ สาร แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๐ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย เร่ือง ลานาบันทึก (๒) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒
รายวชิ า ภาษาไทย
-427-
6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ อภิปราย จากประเด็นคาถามตอ่ ไปนี้
- แอนตารก์ ติกา : หนาวหน้ารอ้ น,พระราชนิพนธ์ เร่ือง

ไกลบ้านและบนั ทึกเหตุการณ์สาคญั ครั้งหนง่ึ ในชีวิต
มคี วามเหมือนและแตกตา่ งกันอย่างไรบ้าง

แนวคาตอบ
แอนตาร์กตกิ า : หนาวหน้ารอ้ น ,พระราชนพิ นธ์
เร่อื ง ไกลบา้ น และบนั ทึกเหตุการณ์สาคญั ครัง้ หน่ึงในชวี ติ เปน็
การเขียนบันทกึ ส่วนตวั เหมอื นกนั แต่เนอื้ หาของบนั ทึก
เหตกุ ารณส์ าคัญครง้ั หน่ึงในชีวิต จะเปน็ การเขยี นถึงอบุ ัตเิ หตทุ ่ี
เกดิ ข้นึ ตา่ งไปจากแอนตาร์กตกิ า: หนาวหน้ารอ้ น,
พระราชนิพนธ์ เรือ่ ง ไกลบ้าน ทเ่ี ป็นการบนั ทกึ ความประทบั ใจ
ของเร่ืองราวท่เี กดิ ข้นึ จากการเดนิ ทางไปทอ่ งเที่ยว)

ขั้นสรุป
นกั เรยี นอภปิ ราย จากประเด็นคาถามดังนี้
- นักเรียนเคยเขียนบันทึกส่วนตัวหรือไม่ และเห็นข้อดี

ของการเขียนบันทกึ สว่ นตัวดงั กลา่ วหรือไมอ่ ยา่ งไร

แนวคาตอบ
ไมเ่ คย/เคย ขอ้ ดคี อื ชว่ ยเตอื นความทรงจา, เป็นกจิ กรรมทีฝ่ กึ
ทักษะการเขยี น ฯลฯ)

- นักเรียนควรทาอย่างไร จึงจะเป็นผู้ท่ีสามารถเขียน
บันทึกสว่ นตัวไดน้ ่าอ่าน

-427-

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๔ สังเกตสือ่ บันทึกสาร แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๑๐ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย เรื่อง ลานาบันทกึ (๒) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒
รายวชิ า ภาษาไทย

แนวคาตอบ
ต้องเปน็ ผู้ทีร่ ู้จกั สงั เกตการใช้คา ภาษา ฝกึ จบั ประเดน็ สาคญั จาก
ข้อความได้อยา่ งครบถ้วนและนามาเรียบเรยี งได้อย่างต่อเน่อื ง
เปน็ ลาดับ เขา้ ใจงา่ ย ฝกึ เขยี นอยา่ งสมา่ เสมอ

- นักเรียนรับใบงาน “เขียนบันทึกประจาวัน” และเขียน
บันทึกประจาวันมาส่งครูเป็นเวลา ๗ วัน (นักเรียนและครูนัด
หมายกาหนดส่งงานตามความเหมาะสม)

-428-

-428-

ใบความรู้
“แอนตาร์กตกิ า : หนาวหนา้ รอ้ น”

แอนตาร์กตกิ า : หนาวหนา้ ร้อน
วันอาทิตยท์ ี่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๖

...เราเดินทางออกจากบ้านของสก๊อต แอนดี้ขับรถแทนเดฟไปได้สักครู่ รถทาท่าจะเสียอีก
หวังว่าจะไม่ต้องเดินกลับ จิลเลียนเข้าใจความคิดของข้าพเจ้า ปลอบว่าไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล
ถึงอย่างไร กย็ ังไม่ค่า จนอีก ๔ - ๕ เดือน

รถไม่เสีย...ไปถึงบริเวณที่มีถ้าน้าแข็ง คือที่ Mt. Erebus Glacier Tongue เป็นแท่งน้าแข็ง
ก้อนมหึมาย่ืนลงไปในทะเล มีถ้าใหญ่น้อยมากมายเกิดจากน้าทะเลไหลกัดเซาะแท่งน้าแข็ง เราปีนขึ้นไป
น้าแข็งล่ืนจนอดไม่ได้ท่ีจะหันกลับมาเล่นล่ืนลงเนินแบบเด็ก ๆ เล่นไม้ลื่นในสนามเด็กเล่นแอนด้ีเป็นคนนา
เข้าไปในถ้า เข้าไปข้างในก็ต้องตะลึงในความตระการตาของถ้า มีน้าแข็งงอกและย้อยเหมือนหินปูน แต่
หากว่าท้ังถา้ เป็นสีฟ้าสว่างใสเหมือนแก้วผลึกเจียระไน เห็นจะเป็นเพราะแสงอาทิตย์ที่ส่องลอดเขา้ มา ผนัง
ถ้ามีน้าแข็งเกาะเป็นฝอย ๆ ลองเอามือไปลูบ เกิดเป็นเสียงดังกรุ๋งกร๋ิงเหมือนเสียงระฆังแก้ว ลองชิมดู
น้าแข็งมรี สเค็ม แต่หิมะเป็นนา้ จืดตกจากฟ้าจึงมีรสเหมือนน้าฝน

เราเพลิดเพลินกับธรรมชาติท่ีดันพบใหม่ได้พักหนึ่ง ก็ถึงเวลาต้องกลับฐาน ภาพของถ้านี้
ข้าพเจ้าบนั ทกึ อยู่ในจติ ใจ เพราะวา่ ถ่ายรูปมาน้าแขง็ จะดสู ีฟา้ ขนุ่ และทึบแสงกว่าท่เี ปน็ จรงิ ในธรรมชาต.ิ ..

สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี
จากหนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ววิ ิธภาษา

ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 หนา้ 60

--442299--

ใบความรู้
“บันทกึ การเดนิ ทาง”

บนั ทึกการเดนิ ทาง
การเขียนประเภทน้ีส่วนใหญ่เป็นการเขียนขนาดยาว ผู้บันทึกจะเล่าเร่ืองราวการเดินทางของตน

ถ่ายทอดแก่ผู้อ่านที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย ผู้บันทึกจะบอกว่าเดินทางเมื่อใด ไปท่ีใด ได้พบใคร ประทับใจ
เรื่องใดบ้าง ดังตัวอย่างบันทึกการเสด็จประพาสข้ัวโลกใต้ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารี ที่ยกมาขา้ งต้น ซ่งึ ทรงเล่าว่าทรงประทบั ใจถ้านา้ แข็งทีข่ วั้ โลกใต้มาก

บนั ทึกการเดินทางทดี่ ี คือ บันทกึ ทีบ่ รรยายความได้ชดั เจน เป็นลาดับขั้นตอน ทาใหผ้ ู้อ่านตดิ ตาม
การเดินทางได้ตลอด พรรณนาส่ิงใดก็ละเอียดลออ ทาให้เห็นภาพได้แจ่มชัด นอกจากพระราชนิพนธ์เร่ือง
แอนตารก์ ติกา : หนาวหน้าร้อน และพระราชนิพนธ์บันทกึ การเดินทางในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารีอีกหลายเร่ืองแล้ว ยังมีตัวอย่างบันทึกการเดินทางท่ีมีลักษณะดังนี้อีกเร่ืองหน่ึง ซึ่งมีผู้
นิยมมาก คือ พระราชนิพนธ์เร่ือง ไกลบ้าน ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ดังตอนท่ีคัดเลือกมาลงไว้ตอ่ ไปน้ี

คนื ท่ี ๕๙
โฮเตลเดซอัลปส์ เตอรเิ ตอร์ สวติ เซอร์แลนด์
วันศุกร์ท่ี ๒๔ พฤษภาคม รตั นโกสินศก ๑๒๖
หญิงนอ้ ย
เวลาก่อน ๔ โมงคร่ึง ไปข้ึนรถไฟท่ีสเตช่ัน รถนี้เปล่ียนใหม่เป็นรถสวิตเซอร์แลนด์ เบาะเป็น
กามะหย่ีแดงกว้างขึ้น นอนค่อยสบาย รถออกเวลา ๔ โมงครึ่ง มาหน่อยหนึ่งถึงทะเลสาบเรียกว่า
ลาโค แมกเคียวรี เป็นทะเลสาบอันหน่ึงในอิตาลีข้างเหนือ มีหลายแห่งด้วยกัน ทะเลนี้ไม่สู้กว้างแต่ยาวมาก
รถไฟเดินเลียบมาตามข้างทะเลสาบงามเสียจริง ๆ มีหมู่บ้านหรือจะเรียกว่าเมืองก็ควร เป็นหมู่ใหญ่ ๆ
มีตาบลอาโรนา เป็นต้น ตามฝ่ังทะเลสาบน้ันมีเขาสูง ๆ น้าในทะเลสาบใสเหมือนน้าทะเล เรียบเป็นหน้า
กระจก ท่ีตามริมฝั่งเป็นหาดกรวด แลเห็นลงไปใต้น้าลึก งามเหมือนแกล้งทาเล่น รถไฟต้องเข้าปล่องใน
เวลาเม่ือถึงเขาตกน้า เป็นแหลมเหล่ือมบังกันเปล่ียนซีนนะรีต่าง ๆ ที่สุดทะเลสาบ แยกออกเป็นสองแยก
ปลายแหลมหว่างที่แยกนั้นเป็นที่ตั้งเมืองเรียกว่า พลันซา ใต้แหลมพลันซาลงมาในหว่างกลางทะเลสอง
แยกมีเกาะสามเกาะ ว่าเป็นสมบัติของมาคิส์บอเมียว จึงเรียกเกาะน้ันว่า เกาะบอเมียวตามช่ือตระกูล
เกาะสามเกาะนมี้ ีตึกใหญ่นอ้ ยบา้ นเรือนเต็มทั้งเกาะ แลดูเหมือนตกึ ลอยอยใู่ นกลางน้า เกาะเล็กนั้นเรียกว่า
เกาะประมง เป็นท่ีพวกหาปลาอยู่ พ้นจากทะเลสาบขึ้นมา บ้านเรือนเปลี่ยนรูปร่างไปหมด กลายเป็น
กอ่ ด้วยหนิ มงุ ด้วยกระดานชนวน แตไ่ ม่ใช่ตดั เป็นเหลี่ยม สักแตว่ า่ เปน็ แผน่ ๆ แลว้ กม็ ุงได้

--443300--

ใบความรู้
“บนั ทกึ การเดินทาง” (ตอ่ )

พื้นแผ่นดินก็กลายเป็นท่ีดอนมีเขาเนอื่ งกันไป ขึ้นเขาเข้าปล่องไม่ได้หยุด จนถึงอีสต์เลดีตราสเควรา ซ่ึงเป็นที่
ตอ่ แดนประเทศอิตาลีกับสวิตเซอร์แลนด์ เปล่ียนโปลิสท่ีสาหรับกากับรับต่อกัน ได้ลงถ่ายรูปแล้วเลยไปข้ึน
รถกินข้าว ทางท่ีจะข้ามเขาแอลป์ช่องน้ีเป็นปล่องท่ีเจาะใหม่ เมื่อคร้ังมาคราวก่อน ข้ึนทางเซนต์โคถาด
ช่องน้ียังไม่ได้เจาะ ช่องที่เจาะใหม่นี้เรียกซิมปลอน รถไฟเดินเกือบ ๓๐ มินิต แต่เขาไม่ได้ใช้รถสติมลาก
เปล่ียนเป็นรถไฟฟ้าเพื่อจะไม่ให้มีควัน แต่ก็ไม่เห็นป้องกันอะไรได้นัก มีกล่ินเหม็นเป็นกลิ่นถ่าน ซ่ึงรถทางานต่าง
ๆ ท่ีใช้ถ่านเดินควันอบอยู่ในปล่องนั้น คงต้องปิดหน้าต่างกระจกรอบด้าน ร้อนจนเป็นเหง่ือจับหน้าต่าง
กลายเป็นกระจกด้านหมด ในรถใช้เปิดพัดลม ตามทางในปล่องมีไฟจุดเป็นระยะเขาแบ่งเปน็ สเตชั่นอยใู่ น
ถ้าน้ัน เขาแอลป์น้ีเป็นเขาเทือกใหญ่ยาวไม่ใช่ลูกเดียวมากยอด สูงกั้นในระหว่างประเทศอิตาลีกับ
สวิตเซอร์แลนด์และฝร่ังเศส เหมือนอย่างกับเขาหิมาลัยและพระสุเมรุกันประเทศฮินดูสตานกับฝ่ายจีน
ข้างเหนือฉะน้ัน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต้ังอยู่บนเขาน้ี เขาที่สูงสุดในสวิตเซอร์แลนด์ คือ มองตาโรซา
ท่ีแท้ถ้าในหมู่เขาแอลป์แล้ว เขามองต์บลังค์เป็นสูงกว่ายอดอ่ืนหมด แต่อยู่ในแดนฝรั่งเศส จึงนับเอาว่า
มองตาโรซาเป็นสูงในสวิตเซอร์แลนด์ เขานี้และเขาอ่ืน ๆ ท่ัวไปในสวิตเซอร์แลนด์มีสโนว์หุ้มยอดขาวอยู่
ทั้งน้ัน ปากปล่อง ซิมปลองข้างฝ่ายสวิตเซอร์แลนด์เรียกว่าบริก พอหลุดปากปล่องออกมาก็แลเห็นต้น
แม่นา้ โรน ซง่ึ เป็นแม่นา้ ระหว่างกลางประเทศสวิตเซอร์แลนด์ลงไปสู่ทะเลสาบอยู่ขา้ งขวามอื มองตาโรซา
อยู่ข้างซ้ายมือ แม่น้าโรนนี้เขาคุมกากับเสียตั้งแต่แรกลงจากเขา คือแต่ก่อนก็เป็นน้าไหลพร่าลงมา
กัดกว้างแลตื้นเช่นที่กล่าวแล้วข้างซันเรโมน้ัน แต่นั่นเป็นส่วนเล็กย่อม น่ีเป็นส่วนใหญ่ ด้วยมีเขาสูง
ซับซ้อนกันมาก แลสโนว์หุ้มอยู่เสมอ จึงเป็นลาธารใหญ่ แม่น้าใหญ่กว่าแถบโน้นหลายเท่า วิธีท่ีคุมน้า
ไม่ให้เที่ยวเพ่นพ่านนั้นทาดังน้ี คือ ก่อเข่ือนสองข้างร่องน้าด้วยศิลาม่ันคง แต่เพียงเท่านั้นจะไม่พอ
เหตุด้วยสายน้าไหลเชี่ยวคงจะกัดเซาะเข่ือนพังร่าไป เขาจึงก่อเป็นคันลาดยื่นลงไปในน้ากว้างประมาณ
สองศอกให้ไปเป็นรอกัน เมื่อน้าลงมากระทบคันทเ่ี ป็นรอนั้น สายน้าก็ปัดออกไปกลางร่อง คันรอเช่นน้ีทา
เสียท้ังสองฟาก ถี่บ้างห่างบ้าง ถ้าท่ีสายน้าเชี่ยวตั้งรอถี่ ๆ กันระยะเพียง 6 วา ๗ วา ถ้าน้าไม่สู้เชี่ยว
ระยะก็ห่างออกไปถึง ๑๐ วา ๑๕ วา สุดแต่กันน้าให้ลงไปกัดกลางร่องอย่างเดียว ทรายที่อยู่กลางร่อง
ทีน่ ้ากดั ปัดข้ึนมาตดิ อยู่ตามรอนัน้ ต้ืนขึ้นมามาก เพราะฉะนน้ั เขื่อนจึงไม่พัง นา้ ในรอ่ งกล็ ึกอยูเ่ สมอ

จุฬาลงกรณ์ จปร.
จากหนังสือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย วิวธิ ภาษา

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 หนา้ 64 - 66

-431-
-431-

ใบความรู้
“บันทกึ เหตุการณส์ าคญั ครัง้ หนึ่งในชีวติ ”

บันทกึ เหตกุ ารณ์สาคญั คร้งั หน่ึงในชวี ิต
บันทึกประเภทน้ี ผู้เขียนจะเล่าประสบการณ์ท่ีประทับใจเป็นเหตุการณ์สาคัญบางตอนในชีวิต และเป็น

อุทาหรณ์เตือนใจผู้อ่านบันทึก ความส้ันยาวของบันทึกอยู่ที่ผู้เขียนว่าจะบรรยายหรือพรรณนาเหตุการณ์ละเอียดลออ
เพยี งใดดังตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี เชน่

สมัยผมเรียนมัธยมผมซ่ามาก ผมมีรถอยู่คันหน่ึงรับมรดกตกทอดมาจากพี่ ๆ อีกที ยางรถจึงเริ่ม
เสื่อมสภาพ คณุ พ่อบอกใหไ้ ปเปล่ียน เพราะอนั ตราย ผมกไ็ มท่ า ตอนน้นั ผม มีความเช่อื ม่ันสงู คิดวา่ ตัวเองมฝี มี ือ
ยงิ่ เพื่อน ๆ ชมวา่ ขับรถเกง่ ย่ิงไดใ้ จ ชอบแข่งบนถนนจี้ท้ายคันหนา้ แซงซ้ายแซงขวาตลอด ยิ่งเสี่ยงยง่ิ มัน

วันหนึ่งก่อนสอบเอ็นทรานซ์ ผมไปเรียนพิเศษ ผมขับรถเร็วมาก ขณะเปลี่ยนเลน จากขวาสุด
มาซ้ายสุด แล้วเร่งเครื่องจะแซงคันหน้าเพอื่ เข้าเลนกลางอกี ที ผมเลี่ยงคอนกรีต ทกี่ ่อล้อมรอบท่อระบายนา้ ไม่
พ้นเพราะมาเร็ว ประกอบกับดอกยางเสื่อม รถจึงเหวี่ยงไปชนเสาไฟฟ้าอย่างแรง ผมสลบไป ฟื้นอีกที่บนแท็กซี่
มีเลือดเต็มตัว อาเจียนเป็นเลือด แต่ตอนน้ันยังไม่รู้สึกเจ็บ แต่ชา ๆเหมือนฝันไป ผมบาดเจ็บสาหัส ต้องอยู่
โรงพยาบาลนานมาก เพราะกระดูกหน้ารอบลกู ตากบั โพรงแกม้ ซีกซ้ายแตกหมดเหตุการณ์คร้ังนั้นเป็นบทเรียน
ที่ล้าค่ามาก ผมได้เรียนรู้ว่าที่ผ่านมาผมทะนงตัวในทางท่ีผิด ทาให้ต้องเจ็บตัว และก่อความเดือดร้อนให้
คุณพ่อคุณแม่ ทาให้ท่านเสียใจ และเสียค่ารักษาพยาบาลสูงมาก รถก็ต้องขายเป็นเศษเหล็ก ทุกวันน้ีผมรู้ซ้ึงถึง
คุณค่าของชีวิต จึงอยากบอกทุกคนว่า อย่าเอาชีวิตไปเส่ียงเลย คุณอาจมีอนาคตท่ีดีมากรออยู่ ถ้าพลาดไป มัน
น่าเสยี ดายจรงิ ๆ

เรยี บเรียงจาก “วนั รา้ ย” ในนติ ยสารแพรว
จากหนงั สือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ภาษาไทย วิวธิ ภาษา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้า 69

-4-3423-2-

ใบงาน
“การเขยี นบันทึกประจาวนั ”

คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นการเขียนบันทกึ ประจาวันเป็นเวลา ๗ วนั
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________

-433-
-433-

แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม

คาชี้แจง ให้ครปู ระเมินการทางานกลุม่ ของนักเรยี นตามรายการประเมนิ (คะแนนเต็ม 12 คะแนน)

รายการประเมิน ระดับคะแนน
๓๒๑
1. การกาหนดบทบาทหน้าท่ี กาหนดบทบาทหนา้ ที่ กาหนดบทบาทหน้าที่ ไม่มีการกาหนดบทบาท
2. การมสี ว่ นร่วม สมาชกิ อยา่ งชัดเจน สมาชกิ ไมค่ รบถ้วน หนา้ ท่ี
มีส่วนรว่ มในการปฏิบตั ิ มีสว่ นร่วมในการปฏิบตั ิ มีสว่ นร่วมในการปฏิบตั ิ
3. การรบั ฟังและแสดงความคดิ เหน็ งานกลุม่ งานกลุ่มบ้าง งานกล่มุ นอ้ ยมาก
หรือไมม่ สี ว่ นร่วม
4. ความรบั ผิดชอบ รับฟงั และแสดงความคดิ เห็น รบั ฟงั และแสดงความคดิ เห็น รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ นื่
อย่างมเี หตผุ ลและสร้างสรรค์ อย่างมเี หตผุ ลและสรา้ งสรรค์ นอ้ ยมากหรอื ไมร่ บั ฟัง
อย่างสม่าเสมอ เป็นบางครัง้ ความคดิ เห็นผอู้ นื่
รบั ผิดชอบงานทไี่ ดร้ บั รบั ผิดชอบงานทไ่ี ด้รบั ไม่รับผดิ ชอบงานท่ไี ดร้ บั
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา มอบหมาย แตเ่ สรจ็ ไม่ทนั มอบหมาย
ที่กาหนด ตามกาหนด

* การคดิ คะแนน ร้อยละ = (คะแนนทไ่ี ด/้ คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมนิ การแปลผล
ดีมาก
เกณฑข์ องระดบั คะแนน ดี
รอ้ ยละ 80 - ๑๐๐ พอใช้
ร้อยละ 70 - 79 ปรับปรงุ
รอ้ ยละ 50 - 69
ร้อยละ ๐ - 49

-434-
-434-

-435- หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๔ สังเกตส่ือบนั ทึกสาร แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๑ เวลา ๑
ช่วั โมง เร่ือง ลานาบันทกึ (๓) ช้ันมัธยมศกึ ษา
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย
ปีที่ ๒ แหล่งเรยี นรู้
สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด กจิ กรรมการเรียนรู้ ห้องสมุด
ขั้นนา สอ่ื
บันทึกประวัติชีวิตเป็นการบันทึกรูปแบบหน่ึง อาจเขียน 1. ใบความรู้ “บันทกึ ประวัติชวี ิต”
เพื่ อ เตื อ น ค ว า ม จ า แ ล ะ ส า ม า ร ถ เป็ น ห ลั ก ฐ า น อ้ า ง อิ ง ได้ ๑. นักเรียนอ่านใบความรู้ “บนั ทึกประวัตชิ วี ติ ” 2. ใบความรู้ “บนั ทกึ เหตุการณ์สาคัญในประวัตศิ าสตร์
สาหรับบันทึกเหตุการณสาคัญในประวัติศาสตร์ เป็น ๒. นกั เรยี นตอบคาถาม จากการอา่ น ดังนี้
การเขยี นบันทึกเพอ่ื เป็นขอ้ มูลอ้างองิ เหตุการณท์ ่ีเกิดขึ้น ภาระงาน/ช้ินงาน
จุดประสงค์การเรยี นรู้ - เหตกุ ารณ์ในเรอื่ งกล่าวถงึ เรื่องใด -
ด้านความรู้ การวดั และประเมินผล
๑. บอกความหมายของบันทึกประวตั ชิ วี ิตและบนั ทึก แนวคาตอบ แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม
เหตุการณส์ าคัญในประวัตศิ าสตร์ ประวตั ิของแม่ ซง่ึ ยายเปน็ ผเู้ ล่าใหผ้ ูเ้ ขียนไดฟ้ ัง ว่า แมไ่ ปเรยี น
๒. บอกจุดประสงคใ์ นการเขียนบนั ทกึ ประวตั ชิ วี ติ และ โรงเรยี นฝร่งั ทบี่ างรัก เพราะจะได้เกง่ ภาษาองั กฤษ แต่แมช่ อบ
บนั ทึกเหตุการณ์สาคัญในประวตั ศิ าสตร์ เรยี นภาษาไทย เพราะไดเ้ รียนหนงั สือดรณุ ศึกษา และแม่กช็ อบ
ด้านทักษะและกระบวนการ เรยี นภาษาอังกฤษ เพราะตาซึ่งเป็นคนขเี้ มื่อยจะให้แมเ่ หยยี บ
ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการรว่ มอภปิ รายคาตอบจากการอา่ น ขาตาไปพร้อมกับทอ่ งศัพทภ์ าษาอังกฤษทุกวนั )
บนั ทกึ
- จากท่นี กั เรยี นได้อา่ นใบความรู้ “บนั ทึกประวัติชีวติ ”
นกั เรียนไดร้ ับความรใู้ นประเด็นใดบา้ ง

แนวคาตอบ
การให้ความสาคัญตอ่ การเรียนภาษาอังกฤษ, การใช้หนังสอื
เรียนของไทย ชอื่ ดรุณศึกษา, วธิ ีการสอนภาษาอังกฤษของครู
ในสมัยก่อนท่ใี ห้ท่องคาศัพทท์ ุกวัน

ขน้ั สอน
3. นกั เรยี นจบั กลุ่ม กลุม่ ละ ๓ คน จากนนั้ อ่านใบความรู้

-435-

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ สังเกตสอ่ื บันทกึ สาร แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เวลา ๑
ช่วั โมง เรื่อง ลานาบันทกึ (๓) ช้ันมัธยมศึกษา
กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย
ปีท่ี ๒
ด้านคุณลักษณะ “บันทึกเหตุการณส์ าคัญในประวัตศิ าสตร์”
๑. ใฝ่เรยี นรู้ 4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มอภปิ รายคาตอบจากประเดน็ คาถาม
๒. มุง่ ม่ันในการทางาน
สมรรถนะทตี่ ้องการให้เกดิ กับผู้เรยี น ตอ่ ไปนี้
การสือ่ สาร - นกั เรยี นอา่ นเรือ่ งอะไร

-436- คาตอบ
การตั้งสถานปาสเตอรร์ ักษาโรคพิษสุนขั บา้ ในหนังสือ นทิ าน
โบราณคดี

- ใครคือผู้บนั ทกึ เร่ืองนี้

คาตอบ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารง
ราชานุภาพ

- เหตกุ ารณใ์ นเร่ืองเกดิ ขน้ึ เม่ือไหร่

คาตอบ
สมยั รชั กาลท่ี ๖

- เหตุการณ์ในเรือ่ งกล่าวถึงเรอื่ งใด

แนวคาตอบ
หญงิ เภา ลูกสาวของสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา
ดารงราชานุภาพ ถกู หมาบา้ กัด จะส่งไปรกั ษาทีเ่ มืองไซ่ง่อน แต่
ตอ้ งรอเรอื อกี ๑๕ วัน จึงรกั ษาตามวธิ ไี ทย จนผา่ นไป ๓ เดือน
กป็ ว่ ย เมอ่ื หมอปัวมาดอู าการ จงึ แจ้งวา่ เป็นโรคกลวั น้าด้วย
พิษหมาบ้า อาการของหญิงเภาทรดุ หนกั และเสียชวี ติ )

- จากทนี่ ักเรียนได้อา่ นบันทึกเหตกุ ารณส์ าคญั ใน

-436-

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ สังเกตสอื่ บนั ทึกสาร แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เวลา ๑
ชว่ั โมง เร่ือง ลานาบนั ทึก (๓) ชั้นมัธยมศึกษา
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ปีท่ี ๒ รายวชิ า ภาษาไทย

-437- ประวตั ิศาสตร์นกั เรียนได้รบั ความรูใ้ นประเดน็ ใดบา้ ง

แนวคาตอบ
สาเหตุของการเปน็ โรคพษิ สนุ ัขบ้า, อาการของผู้ที่ปว่ ยเปน็ โรค
พษิ สนุ ขั บ้า, วิธีการรักษาโรคพษิ สุนขั บา้ ในสมัยอดตี )

ขัน้ สรปุ
นักเรยี นอภปิ ราย จากประเดน็ คาถามดงั น้ี

- บันทึกทั้งสองแบบที่เรียนคือ บันทึกประวัติชีวิตและ
บันทึกเหตุการณ์สาคัญในประวัติศาสตร์ การบันทึกแบบใดมี
ลักษณะของการเป็นบันทกึ ความรชู้ ดั เจนกว่ากัน

คาตอบ
บันทกึ เหตุการณ์สาคัญในประวัตศิ าสตร์

- จุดประสงค์ในการเขยี นบนั ทึกความรู้ คืออะไร

แนวคาตอบ
เพ่ือบันทึกเร่ืองราวความรู้ที่ผู้บันทึกได้พบ ได้ค้นคว้าหรือ
สนใจ

- นักเรียนควรทาอย่างไร จึงจะเป็นผู้ที่สามารถเขียน
บนั ทกึ ความรไู้ ดด้ ี

แนวคาตอบ
ตอ้ งเป็นผทู้ รี่ ู้จักสังเกตการใช้คา ภาษา ฝึกจับประเด็นสาคัญ
จากข้อความไดอ้ ยา่ งครบถว้ นและนามาเรียบเรียงไดอ้ ยา่ ง
ตอ่ เนื่อง เป็นลาดับ เข้าใจง่าย ฝกึ เขยี นอยา่ งสมา่ เสมอ

-437-

ใบความรู้
“บนั ทึกประวตั ิชีวติ ”

บันทึกประวัติชีวติ
การเขียนประวัติชีวิต มีท้ังเจ้าของประวัติเป็นผู้เขียนเอง และผู้อ่ืนเป็นผู้เขียน บันทึกประวัติชีวิตท่ีเจ้าของ

เขียนเองเรียกว่า อตั ชีวประวัติ ไมว่ า่ จะเปน็ แบบใด ผเู้ ขียนมักเลอื กบันทึกเรอ่ื งราวของชวี ิตทน่ี ่าสนใจ นา่ ประทบั ใจ หรือ
ทีค่ ิดวา่ จะเป็นประโยชนแ์ กผ่ ู้อ่านบันทึก คุณคา่ ของบันทึกประวัติชีวิต นอกจากจะใชเ้ ตอื นความจาแล้ว ยังเป็นหลกั ฐาน
อา้ งอิงด้วย บนั ทึกประวตั ิชีวติ ท่ีเขียนได้ดี อ่านสนุก แทรกข้อคิดท่ีน่าสนใจ อาจจดั เป็นงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ประเภท
หน่งึ ได้

ตัวอยา่ งบนั ทกึ ประวัตชิ ีวติ ที่เขยี นจากคาบอกเล่าของผอู้ นื่
ยายบอกว่าแม่เกิดท่ีบ้านวงเวียนใหญ่ พอแม่จาความได้ ตาก็ย้ายบ้านมาอยู่ที่

ถนนตากสินแล้ว ตอนเด็กก่อนเข้าโรงเรียน แม่ก็เล่นสนุกกับเพ่ือน ๆ ไปวัน ๆ ที่ชอบเล่นมากก็คือ
หมากเกบ็ ใชก้ อ้ นหนิ อีตกั ใชเ้ ม็ดนอ้ ยหน่าโปรยทีละกามือ และกระโดดเชือกซง่ึ ครึกคร้ืนมาก ใชเ้ ชือกยาว
ราว ๗ - ๘ เมตร มคี นถือปลายเชอื กสองด้าน แกว่งให้เด็ก ๆ กระโดดกันทีละ ๑๐ คน ๑๕ คน เล่น
กนั ตอนเยน็ ๆ ท่ถี นนหน้าบา้ นแม่

พอถงึ วยั เข้าโรงเรียน พ่สี ะใภแ้ มท่ ท่ี างานอย่ใู กล้ ๆ โรงเรียนฝรัง่ ท่ีบางรกั กแ็ นะนาตาใหส้ ่ง
แมไ่ ปเรยี นที่น่นั บอกวา่ จะได้เกง่ ภาษาองั กฤษ ตากเ็ ชอื่ แม่กเ็ ลยตอ้ งเดนิ ทางไกล ไปเรยี นหนังสือทกุ
วัน เชา้ กน็ ง่ั รถสามล้อจากบ้านตากสินไปวงเวยี นใหญ่ นั่งรถรางไปลงเรอื ที่ท่าปากคลองสาน ขึน้ เรอื ที่
ท่าสี่พระยา เดินไปตามถนนเจริญกรุง ผ่านท่ีทาการไปรษณีย์กลาง เป็นตึกใหญ่มาก ไปโรงเรียนฝรั่งท่ี
บางรัก ตอนเย็นก็เดินกลับทางเดิม ทาอย่างนี้อยู่ ๑๒ ปี แม่ว่าที่เดินทุกวันอย่างน้ี คงเป็นเหตุให้น่อง
แม่โตมากขนาดนอ่ งช้างอย่างทีพ่ ่อชอบลอ้ แมบ่ ่อย ๆ

ที่โรงเรียนฝร่ังแม่ชอบเรียนภาษาไทยมาก เพราะได้เรียนหนังสือ ดรุณศึกษา*
ทีจ่ ะยกสภุ าษิตหรอื คาพงั เพยมาสอนตอนทา้ ยบททกุ บท และมีทายอะไรเอ่ยด้วย ทีแ่ ม่ชอบ อีกอยา่ ง
หนึง่ คอื ภาษาอังกฤษ ครูจะให้นกั เรยี นทอ่ งศัพทเ์ ป็นการบ้านทุกวัน วันละ ๑๐ - ๑5 คา พอ ตอนเช้า
กใ็ หน้ ักเรียนไปยืนท่องศัพทใ์ หฟ้ งั ที่โตะ๊ ครู ใครท่องผดิ ก็ต้อง แบมือให้ครดู ีเผียะ ๆ ๓ ทีแต่แม่ไม่เคย
โดนตี เพราะตาช่วยไว้มาก ตอนค่า ๆ กอ่ นนอน ตาซ่ึงข้ีเมื่อยจะให้แม่เหยียบขาให้ แม่จะขึ้นไปเดิน
เหยยี บขาตาไปมา วันละกว่า ๒๐ เท่ยี ว เหยียบไปด้วยตาก็จะให้แมท่ ่องศพั ท์ท่คี รูใหก้ ารบา้ นไปดว้ ย
แม่จงึ ท่องได้แมน่ ทุกวัน ไมต่ ้องถูกตี แถมบางวนั ไดร้ บั คาชมด้วย

จากหนังสอื เรยี นววิ ธิ ภาษา
มัธยมศึกษาปีที่ 2 หน้า 70 - 71

-4-3483-8-

ใบความรู้
“บันทึกเหตุการณ์สาคญั ในประวตั ิศาสตร์”

บนั ทกึ เหตุการณ์สาคญั ในประวตั ิศาสตร์
การเขียนบันทึกประเภทนี้มักมีลักษณะเป็นบันทึกขนาดยาวเช่นกัน ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็น

ข้อมูลอ้างอิงเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน ดังนั้นจึงต้องมีประเด็นต่าง ๆ ครบถ้วนว่า เกิดอะไรขึ้น ท่ีใด เมื่อใด อย่างไร
เพราะเหตใุ ด ดังเชน่ บนั ทกึ เร่ือง การตั้งสถานปาสเตอร์รักษาโรคพิษสุนัขบ้า ท่สี มเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอกรม
พระยาดารงราชานภุ าพทรงบันทกึ ไวใ้ นนทิ านโบราณคดี มคี วามดังต่อไปนี้

เร่ืองนี้มีกรณี เกิดขึ้นในครัวเรือนของฉันเอง เป็นมูลเหตุในรัชกาลที่ 6 เม่ือ พ.ศ. ๒454
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสดจ็ ออกไปประทับอยูท่ ีพ่ ระราชวังจนั ทร์ ณ พระปฐมเจดยี ์ ฉันยังเป็น
เสนาบดกี ระทรวงมหาดไทย ตามเสดจ็ ไปอยทู่ ่เี รือนบงั กะโลทพ่ี กั ของฉันตามเคย วนั หนึง่ เวลาบ่าย พวกลกู เด็ก ๆ
ลงไปเลน่ กันอยทู่ ่ีสนามหญา้ หน้าเรอื น มหี มาบ้าตัวหนึ่งว่ิงเข้ามาในบ้าน พวกเด็กพากันว่ิงหนี แตล่ ูกหญงิ บรรลุศิ
ริสาร (เรียกกันวา่ หญิงเภา) หกล้มถูกหมาบ้ากัดเอาที่ขา เป็นรอยเข้ียว ๒ แผล ตัวเองก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าใด
นัก แต่พวกผู้ใหญ่ตกใจ ฉันก็ส่ังให้เที่ยวสืบหาหมอ ที่ชานาญการรักษาพิษหมาบ้า แต่ในเวลาน้ัน
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงทราบตรัสแนะนาให้ฉันส่งไปรักษา ณ สถานปาสเตอร์ ที่เมือง
ไซ่ง่อน ฉันก็เห็นชอบด้วยพระราชดาริ แต่ให้สืบถึงเรือท่ีจะรับไปได้ความว่าเรือเพ่ิงออกไปเสียเม่ือวันก่อน
จะต้องรอคอยเรืออีก ๑๕ วัน จึงจะไปได้ ก็ต้องให้หมอซึ่งหามาได้คนหน่ึงรักษาตามวิธีไทย ให้กินยา ทายา
รักษาไม่ก่ีวันแผลก็หาย ตัวเด็กก็สบาย แจ่มใสเหมือนแต่ก่อน จนเช่ือกันว่าหมอคนนั้นสามารถรักษาหายแล้ว
เม่ือกลับมาอย่กู รุงเทพฯ กเ็ ปน็ ปรกติ มาสัก ๓ เดือน จนเกอื บลืมเร่อื งที่เธอถูกหมาบ้ากัด อยู่มาวนั หน่ึงหญงิ เภา
ตื่นนอนขึ้นเช้า ตัวร้อน ก็สาคัญกันว่าเป็นไข้ ให้กินยาตามเคย แต่มีอาการแปลกอย่างหน่ึง ในเวลาเมื่อเธอรับ
ถ้วยยาหรือถว้ ยน้าจะกิน มือส่ันทั้งสองขา้ ง ต่อเม่อื วางถ้วยยาแลว้ มือจงึ หายสนั่ อาการเช่นนั้น ทง้ั ตวั ฉันและใคร
ๆ ท่ีอยู่ด้วยไม่มีใครเคยเห็น แต่ก็ยังไม่ตกใจ ด้วยอาการอย่างอ่ืนไม่ผิดกับไข้สามัญ คร้ันสายเข้าเวลาจะกินยา
หรือกินน้า มือยงิ่ ส่ันหนักข้ึนจนถึงตัวสั่น ฉันก็แปลกใจ จงึ ใหร้ ับหมอปัว (ซึ่งภายหลงั ไดเ้ ปน็ พระยาอัศวินอานวย
เวช) มาดพู อหมอปวั เหน็ อาการกห็ นา้ เสีย เรียกฉนั ไปนัง่ ด้วยกันใหห้ า่ งคนอื่น แลว้ บอกวา่ เปน็ โรคกลัวนา้ ด้วยพิษ
หมาบ้า ไม่มที างจะรกั ษาให้หายเสียแล้ว ฉนั ไดฟ้ ังยังไมอ่ ยากเชื่อ ด้วยเวลาน้ันอาการไขท้ รุดลงเพียงต้องลงนอน
ยังพดู จากนั ได้ แต่อาการทฉี่ ันยังไมเ่ คยเห็นกริ ิยาโรคกลัวนา้ ตรงกับตาราฝรง่ั อย่างหมอปัวว่ากจ็ นใจ ฉันบอกผูอ้ ่ืน
เพียงว่าเป็นโรคเกิดจากพิษหมาบ้า มิได้ให้ใครรู้ว่าจะไม่รอด เพราะเกรงจะเกิดโศกศัลย์พาให้คนไข้เสียใจเพิ่ม
ทุกขเวทนาหนกั ข้ึน แตอ่ าการโรคทรุดเรว็ พอถึงเวลาดึกค่าวนั น้ัน หญิงเภากส็ ้ินชีพ เจ็บอยู่ไมถ่ ึง ๒๔ ชั่วโมง แต่
ไม่มีอาการเช่นเคยได้ยินเขาเล่ากันว่า คนจะตายด้วยพิษหมาบ้ามักร้องเป็นเสียงเห่าหอน หรือน้าลายฟอดฟูม
ปากอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่

เมื่อหญิงเภาถูกหมาบ้ากัดท่ีพระปฐมเจดีย์เป็นเวลาไปตามเสด็จ คนรู้จักมาก ครั้นเธอส้ินชีพจึงมีคน
สงสารจนเป็นเรื่องโจษกนั แพรห่ ลาย มีมิตรของฉันคนหนึ่งเข้าใจวา่ ตัวหมอมาโนสฝ์ รง่ั เศส ซ่งึ เป็นผูท้ าหนองปลูก
ฝดี าษ มาพูดกับฉนั ว่า ท่ีจรงิ หญิงเภาไม่ควรตาย เพราะหมอปาสเตอร์พบวธิ ีรกั ษาโรคกลวั น้าได้แล้ว ถ้าหญิงเภา
อยใู่ นยุโรปหรือแมเ้ พยี งอยทู่ เ่ี มืองไซ่งอ่ น อันมีสถานปาสเตอร์ กจ็ ะรักษาหายได้โดยง่าย ทตี่ ้องตายเพราะไมม่ ียา
ในกรุงเทพฯ เท่านั้น เขาเห็นว่าถ้าหากฉันคิด ต้ังสถานปาสเตอร์ที่ในกรุงเทพฯ ด้วยเหตุที่ลูกตายครั้งนั้น คงจะ
สาเรจ็ ได้เพราะคนสงสารมมี าก

จากหนังสือเรียนววิ ธิ ภาษา
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 หนา้ 67 - 68

-439-
-439-

แบบประเมินการทางานกลุ่ม

คาชี้แจง ให้ครปู ระเมนิ การทางานกลุ่มของนักเรียนตามรายการประเมนิ (คะแนนเตม็ 12 คะแนน)

รายการประเมิน ระดบั คะแนน
๓๒๑
1. การกาหนดบทบาทหนา้ ที่ กาหนดบทบาทหนา้ ท่ี กาหนดบทบาทหนา้ ที่ ไมม่ ีการกาหนดบทบาท
2. การมสี ว่ นรว่ ม สมาชกิ อย่างชัดเจน สมาชิกไมค่ รบถว้ น หน้าท่ี
มีสว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิ มีส่วนรว่ มในการปฏบิ ตั ิ มสี ่วนรว่ มในการปฏบิ ตั ิ
3. การรบั ฟังและแสดงความคดิ เหน็ งานกลมุ่ งานกลุ่มบ้าง งานกลมุ่ น้อยมาก
หรอื ไมม่ สี ่วนรว่ ม
4. ความรบั ผดิ ชอบ รบั ฟังและแสดงความคดิ เหน็ รบั ฟังและแสดงความคดิ เห็น รับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่
อยา่ งมีเหตผุ ลและสร้างสรรค์ อย่างมเี หตผุ ลและสรา้ งสรรค์ นอ้ ยมากหรือไม่รับฟัง
อยา่ งสมา่ เสมอ เป็นบางครั้ง ความคิดเหน็ ผอู้ ่นื
รับผดิ ชอบงานท่ไี ดร้ ับ รบั ผดิ ชอบงานทีไ่ ด้รับ ไมร่ บั ผดิ ชอบงานทไี่ ดร้ ับ
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา มอบหมาย แตเ่ สร็จไมท่ นั มอบหมาย
ท่ีกาหนด ตามกาหนด

* การคิดคะแนน ร้อยละ = (คะแนนทไ่ี ด้/คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมนิ การแปลผล
ดีมาก
เกณฑข์ องระดบั คะแนน ดี
รอ้ ยละ 80 - ๑๐๐ พอใช้
รอ้ ยละ 70 - 79 ปรบั ปรุง
รอ้ ยละ 50 - 69
ร้อยละ ๐ - 49

-44-04-40-

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๔ สังเกตสื่อบนั ทึกสาร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๒ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เร่ือง ลานาบันทกึ (๔) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒
รายวิชา ภาษาไทย

สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้
ห้องสมดุ
บนั ทึกความรู้ เป็นการบันทึกเรือ่ งราวความรู้ท่ีผู้บันทกึ ได้ ขน้ั นา
พบ ได้ค้นคว้าหรือสนใจอาจเขียนเป็นบันทึกส่วนตัว หรือ นกั เรียนทบทวนความรู้เร่ืองการเขียนบนั ทึก โดยการตอบ สอ่ื
จดหมายโต้ตอบกับบุคคลอ่ืน แต่เมื่อบันทึกเป็นข้อความ ค้าถามตอ่ ไปนี้ ใบงาน “การเขยี นบนั ทึกการเดนิ ทางท่มี ีการบันทึกความรู้”
ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆจึงอาจใช้เป็นหลักฐานในการศึกษา - บนั ทกึ ความรหู้ มายถงึ งานเขยี นแบบใด
เร่อื งราวตา่ ง ๆ ได้ คำตอบ
-441- จุดประสงค์การเรียนรู้ บนั ทกึ ควำมรู้ เปน็ กำรเขยี นบันทึก ภาระงาน/ชนิ้ งาน
ด้านความรู้ การท้าใบงาน “การเขยี นบันทึกการเดินทางทมี่ ีการบนั ทึก
๑. บอกความหมายของบันทึกความรู้ - จุดประสงค์ในการเขยี นบันทกึ ความรู้ คอื อะไร ความรู้”
๒. บอกจุดประสงค์ในการเขียนบันทึกความรู้
แนวคำตอบ
เพอ่ื บันทกึ เรอื่ งรำวควำมรทู้ ่ีผู้บันทึกไดพ้ บ ไดค้ ้นคว้ำหรือสนใจ การวดั และประเมนิ ผล
- นักเรียนควรท้าอย่างไร จึงจะเป็นผู้ท่ีสามารถเขียน -
ด้านทักษะและกระบวนการ บันทึกความรไู้ ด้ดี
เขยี นบนั ทึกความรู้ได้
แนวคำตอบ
ต้องเป็นผู้ท่ีรจู้ กั สงั เกตกำรใชค้ ำ ภำษำ ฝกึ จับประเดน็ สำคัญจำก
ด้านคณุ ลักษณะ ข้อควำมไดอ้ ย่ำงครบถว้ นและนำมำเรยี บเรียงได้อยำ่ งต่อเนือ่ ง
๑. ใฝ่เรยี นรู้ เปน็ ลำดับ เขำ้ ใจงำ่ ย ฝกึ เขยี นอย่ำงสม่ำเสมอ
๒. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
สมรรถนะทตี่ ้องการให้เกิดกับผเู้ รียน ข้นั สอน
การสอ่ื สาร ๑. นกั เรยี นท้าใบงาน “การเขยี นบันทกึ การเดนิ ทางที่มี

การบันทึกความรู้” โดยเลือกบันทกึ การเดินทางทีน่ กั เรยี นเคย
เดนิ ทางคร้ังใดคร้งั หนึ่ง คนละ ๑ เรอื่ ง
๒. นกั เรยี นสง่ ใบงาน “การเขยี นบนั ทกึ การเดนิ ทางท่ีมี

-441-

-442- การบันทึกความรู้” ให้ครผู สู้ อนตรวจประเมนิ
ข้ันสรปุ

นกั เรยี นทบทวนหลักการเขียนบนั ทึกความรู้ ดังนี้
- การเขียนบันทึกการเดินทางที่มีการบันทึกความรู้ของ
นักเรยี น ควรมีขอ้ ควรระวงั อย่างไรบ้าง

แนวคำตอบ
ควรเลอื กพิจำรณำเนื้อหำในสว่ นทมี่ ีควำมเหมำะสมควรเลือกนำมำ
เขยี น และเลือกใช้คำให้เหมำะสม

-442-

ใบงาน
“การเขยี นบนั ทกึ การเดนิ ทางท่ีมีการบนั ทึกความรู้”

คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนเลอื กเขียนบนั ทึกการเดินทางทีม่ ีการบนั ทกึ ความรู้มาคนละ ๑ เรือ่ ง
เร่ือง …………………………………………………………………..

___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________

--444433- -

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ สังเกตสื่อบันทึกสาร แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๓ เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เร่ือง ลานาบนั ทึก (๕) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒
รายวชิ า ภาษาไทย

สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด กจิ กรรมการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้
ห้องสมดุ
บนั ทึกความรู้ เป็นการบันทึกเรื่องราวความรทู้ ่ีผู้บันทึกได้ ขนั้ นา
พบ ได้ค้นคว้าหรือสนใจอาจเขียนเป็นบันทึกส่วนตัว หรือ นักเรยี นทบทวนความรู้เรื่องการเขยี นบนั ทึก สอ่ื
จดหมายโต้ตอบกับบุคคลอ่ืน แต่เม่ือบันทึกเป็นข้อความ โดยตอบคาถามต่อไปน้ี ใบงาน “บันทึกความน่าสนใจของผลงานการเขียนบนั ทกึ ”
ความรู้เก่ียวกับสิ่งต่างๆจึงอาจใช้เป็นหลักฐานในการศึกษา - บันทึกความรู้หมายถึงงานเขียนแบบใด
เรือ่ งราวตา่ ง ๆ ได้ คาตอบ ภาระงาน/ชน้ิ งาน
บันทึกความรู้ เปน็ การเขยี นบนั ทกึ
-444- จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. การทาใบงาน “บนั ทึกความนา่ สนใจของผลงานการเขยี น
ดา้ นความรู้ - จดุ ประสงคใ์ นการเขียนบนั ทกึ ความรู้ คืออะไร บันทึก”
๑. บอกความหมายของบันทึกความรู้ได้ 2. แบบทดสอบประจาหน่วยที่ 4 สงั เกตสอื่ บันทึกสาร
๒. บอกจุดประสงคใ์ นการเขียนบันทึกความรู้ได้ แนวคาตอบ
ด้านทกั ษะและกระบวนการ เพื่อบนั ทกึ เร่ืองราวความรทู้ ีผ่ ู้บันทกึ ได้พบ ไดค้ น้ ควา้ หรอื สนใจ
- นักเรียนควรทาอย่างไร จึงจะเป็นผู้ท่ีสามารถเขียน
บนั ทึกความรู้ไดด้ ี การวดั และประเมินผล
-
แนวคาตอบ
เขียนบันทึกความรไู้ ด้ ต้องเปน็ ผทู้ ร่ี ู้จกั สงั เกตการใชค้ า ภาษา ฝึกจบั ประเด็นสาคญั จาก
ขอ้ ความได้อย่างครบถว้ นและนามาเรียบเรยี งไดอ้ ย่างตอ่ เน่ือง
ด้านคุณลกั ษณะ เป็นลาดบั เขา้ ใจง่าย ฝึกเขียนอย่างสมา่ เสมอ
๑. ใฝ่เรยี นรู้
๒. มงุ่ ม่ันในการทางาน
ขั้นสอน
สมรรถนะทตี่ ้องการใหเ้ กิดกับผู้เรยี น ๑. นกั เรยี นทาผลงานของตนเองมาติดบรเิ วณหนา้ ชั้นเรียนหรือ
การส่ือสาร ในพื้นท่ีท่มี ีความเหมาะสม
๒. นักเรียนทกุ คนเดินดผู ลงานของเพอื่ นนักเรยี นทีต่ ิดอยู่

-444-

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ สังเกตสอ่ื บันทึกสาร แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๓ เวลา ๑ ชว่ั โมง
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เรื่อง ลานาบนั ทกึ (๕) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
รายวิชา ภาษาไทย
-445-
บริเวณหน้าช้นั เรียนหรอื ในพื้นทีท่ ม่ี คี วามเหมาะสม
๓. นกั เรยี นเลอื กชนื่ ชมผลงานของเพ่อื น ๑ คนที่มลี ักษณะ
การเขยี นบนั ทึกทด่ี ี /มีความน่าสนใจ
๔. นกั เรยี นบนั ทึกข้อมลู ลงใน “ใบงานบนั ทึกความนา่ สนใจของ
ผลงานการเขียนบันทึก”
ขน้ั สรปุ
5. นักเรียนทบทวนหลักการเขยี นบนั ทกึ ความรู้ ดงั น้ี

- การเขยี นบนั ทึกความรู้ ควรมขี อ้ ควรระวงั อยา่ งไรบ้าง

แนวคาตอบ
ควรเลอื กพิจารณาเน้อื หาในส่วนทีม่ ีความเหมาะสมควรเลอื กนามา
เขยี น และเลือกใช้คาใหเ้ หมาะสม

6. นกั เรียนทาแบบทดสอบประจาหน่วยการเรียนรู้

-445-

คณะผจู้ ดั ทำ

ท่ีปรกึ ษาสำนกั งานโครงการส่วนพระองคส์ มเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารี

คุณหญงิ กษมา วรวรรณ ณ อยธุ ยา ท่ีปรกึ ษาโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา้
นายสมเกียรติ ชอบผล กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
นางมณั ฑนา ศงั ขะกฤษณ์ ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ ระดบั ๑๐
ข้าราชการบำนาญ

ที่ปรึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน
รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน
นายอมั พร พินะสา ขา้ ราชการบำนาญ
นายกวนิ ทรเ์ กียรติ นนธพ์ ละ ผ้ทู รงคุณวุฒิ สำนักนโยบายและแผนการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
นายสุชาติ วงศส์ ุวรรณ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน
นายชัยพฤกษ์ เสรรี ักษ์ ราชบัณฑิต

รองศาสตราจารย์ทิศนา แขมมณี ทป่ี รกึ ษาพเิ ศษ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน
นางเบญจลักษณ์ นำ้ ฟ้า ท่ีปรกึ ษาพิเศษ ศนู ยบ์ ริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ
นางวฒั นาพร ระงับทกุ ข์ ผอู้ ำนวยการสถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ศาตราจารย์ชูกิจ ลิมปจิ ำนงค์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนานาชาติ เซนต์ แอนดรวู ์ส กรงุ เทพ
นางศรินธร วิทยะสิรนิ นั ท์ ผู้อำนวยการสำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
นางสาวรัตนา แสงบัวเผื่อน

ที่ปรกึ ษากล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั
คณะอักษรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศิลปากร
ผชู้ ่วยศาสตราจารยส์ รอ้ ยสน สกลรกั ษ์ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศิลปากร
ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์สมชาย สำเนียงงาม คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุษบา บวั สมบูรณ์ คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สรตี ปรีชาปัญญากลุ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
ผูช้ ่วยศาสตราจารย์รัชนยี ์ญา กล่นิ นำ้ หอม มหาวิทยาลยั ราชภฏั เพชรบรุ ี
นายทรงฤทธ์ิ ฉิมโหมด โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ฝา่ ยมัธยม
โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝ่ายมธั ยม
นายสันตวิ ฒั น์ จันทร์ใด โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ฝา่ ยมัธยม
นางสุวติ รา เลิศวรรณวทิ ย์ ผู้อำนวยการสถาบันภาษาไทย
นางสาวสมุ ติ รา คณุ วฒั น์บณั ฑิต สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
นางสาวดวงใจ บุญยะภาส

-446-

คณะทำงานกลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒

๑. นายทศพล พูลพฒุ ศึกษานิเทศก์
๒. นางสาวมณกิ าร์ ชทู อง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาพจิ ิตร เขต 2
อาจารย์ โรงเรยี นสาธิตจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ฝา่ ยมัธยม

๓. นางสาวอารียา ใจสขุ ครู โรงเรียนมาแตร์เดอวี ทิ ยาลยั

๔. นางอาภาสนิ ี ประสพศักด์ิ ครู โรงเรยี นอนบุ าลสามเสน
๕. นางสาวอรุณศรี ทำบุญ สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร
๖. นายถิรพัฒน์ หล้าเตยี ง ครู โรงเรยี นพิบูลอปุ ถัมภ์
๗. นางสาวธญั ญน์ รี สระทอง สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษากรงุ เทพมหานคร
๘. นายสมุ ติ ร เหพลู อย ครู โรงเรียนวดั สระสี่เหลยี่ ม
๙. นางสาวศภุ ษร นลิ นวล สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1
๑๐. นางสาวนศิ ารัตน์ แสงรี ครู โรงเรียนบา้ นแหลมรงั “ราษฎ์บำรุง”
๑๑. นางสาวจารุวรรณ ย้มิ จันทร์ สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาพิจติ ร เขต 2
๑๒. นายพล พมิ พโ์ พธ์ิ ครู โรงเรยี นวดั ดอนเสลา (ปาน พูน รัฐราษฎรบ์ ำรุง)
๑๓. นางสาวศภุ มาส ธรรมชาติ สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 2
๑๔. นางสาวรัชนานาฎ วราฤทธชิ ยั ครู โรงเรียนบรุ พรัตนว์ ิทยาคาร
๑๕. นางสาวจารวุ รรณ สมคั รศิรกิ ิจ สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาพิจิตร เขต 2
๑๖. นางสาววิชฌญาดา เทยี นขาว ครู โรงเรยี นมัธยมวดั สงิ ห์
๑๗. นายอลงกรณ์ ปลืม้ ชยั ภมู ิ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต ๑
๑๘. นางสาววรรณสิ า จำปาทอง ครู โรงเรยี นศึกษานารวี ิทยา
๑๙. นางสาวขวัญชนก อีหวี สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต ๑
ครู โรงเรียนวดั อนิ ทาราม
สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษากรุงเทพมหานคร เขต ๑
ครู โรงเรียนบางกะปิ
สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร เขต 2
ครู โรงเรยี นเตรียมอดุ มศกึ ษาพัฒนาการ
สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร เขต 2
ครู โรงเรยี นนวมินทราชินทู ศิ บดินทรเดชา
สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศกึ ษากรุงเทพมหานคร เขต 2
ครู โรงเรยี นสตรวี ิทยา 2
สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร เขต 2
ครู โรงเรยี นสตรชี ยั ภูมิ
สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษาชยั ภูมิ
ครู โรงเรียนสตรีนนทบรุ ี
สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศึกษานนทบรุ ี
นกั วชิ าการอิสระ

๒๐. นายอัคนิฤทธ์ิ เปรมพฒั นพนั ธ์ ช่างเขียนอิสระ

-447-

๒๑. นางสาวดวงใจ บุญยะภาส สถาบนั ภาษาไทย สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
๒๒. นางสาวพชั รา ตระกลู สริ พิ ันธ์ุ สถาบนั ภาษาไทย สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา
๒๓. นางสาวอมราลกั ษณ์ วัฒนาปิยรมย์ สถาบนั ภาษาไทย สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา
๒๔. นางสาวสุชาดา สุดาชม สถาบันภาษาไทย สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา

ผ้ปู ระสานงาน สถาบนั ภาษาไทย สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
สถาบันภาษาไทย สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
นางสาวปาริชาติ ศรีจลุ ลา สถาบันภาษาไทย สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
นางสาวนฐั ติยา จงจิตร นสิ ิตฝกึ สหกิจ
นางสาวธนพร นยิ มพานิช มหาวทิ ยาลยั วทิ ยาลัยนเรศวร
นางสาวศศธิ ร กลอ่ มจติ ร นิสติ ฝกึ สหกิจ
มหาวทิ ยาลัยวทิ ยาลยั นเรศวร
นางสาวพงษน์ ภา กลอยเดช นิสติ ฝกึ สหกจิ
มหาวิทยาลัยวิทยาลัยนเรศวร
นายบวร เหลื่อมไทย
รองผ้อู ำนวยการสำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
ผ้รู ับผิดชอบโครงการ ข้าราชการบำนาญ
นักวชิ าการศึกษา
นางผาณิต ทวีศักด์ิ สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
นางสาวพรทพิ ย์ ดนิ ดี นกั วชิ าการศกึ ษา
นางสาวภัทรา ดา่ นววิ ฒั น์ สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
นกั วิชาการศกึ ษา
นางสาวอธิฐาน คงช่วยสถติ ย์ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
นกั วชิ าการศกึ ษา
นายอภิศักด์ิ สทิ ธิเวช สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
พนักงานธรุ การ
นางสาวอัจฉราพร เทยี งภักด์ิ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
นักวชิ าการศกึ ษา
นางสาวปรมาพร เรอื งเจริญ สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา

นางสาววศนิ ี เขยี วเขนิ

-448-


Click to View FlipBook Version