The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 2 ภาคเรียนที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 2 ภาคเรียนที่ 1

ชุดกิจกรรมสำหรับ ครู ม. 2 ภาคเรียนที่ 1

ใบความรู้
“หลกั สงั เกตคาบาลี”

การสงั เกตคาไทยทีม่ าจากภาษาบาลีมีวธิ กี าร ดงั นี้
๑. ภาษาบาลีมีการใช้ตัวสะกดและตัวตาม
๑.๑ พยัญชนะแถวที่ ๑ สะกด พยญั ชนะแถวที่ ๑,๒ ตาม เชน่ อกุ กาบาต ทุกข์ มัจฉา
๑.๒ พยัญชนะแถวท่ี ๓ สะกด พยัญชนะแถวท่ี ๓,๔ ตาม เชน่ อัคคี พยัคฆ์ มัชฉิม ทัพพี
๑.๓ พยัญชนะแถวท่ี ๕ สะกด พยัญชนะทุกแถวตาม เช่น สมั ผัส บญั ญัติ วิญญาณ
๒. ภาษาบาลที ใี่ ช้พยญั ชนะวรรค ฎะ สะกดนิยมตดั ตัวสะกดเดมิ แล้วใช้ตวั ตามสะกดแทน เช่น

รัฎฐ-รัฐ ทฏิ ฐิ-ทิฐิ อฏั ฐิ-อฐั ิ วฑั ฒน-วฒั น วุฑฒิ-วุฒิ
๓.ภาษาบาลี ถา้ ตวั สะกดและตวั ตามเป็นพยญั ชนะตวั เดยี วกนั บางทีตดั ออกเสียตัวหนึง่ เช่น

รัชชกาล-รชั กาล อัญญประเทศ-อัญประเทศ บุญญ-บญุ วิชชา-วิชา
๔. ภาษาบาลีนิยมใช้ ฬ เม่ือคาไทยท่ีมาจากภาษาสนั สกฤตใช้ ฑ เชน่ กีฬา จฬุ า โอฬาร
๕. ภาษาบาลีไมม่ ี ศ ษ
๖. ภาษาบาลไี ม่มี ฤ ฤา ฦ ฦา
๗. ภาษาบาลไี ม่มีการใช้ รร แต่ใช้ ริ เช่น ภริยา
๘. คาไทยท่ีมาจากภาษีไม่นยิ มใชค้ วบกลา้
คาทมี่ าจากภาษาบาลี มีหลักเกณฑ์การสะกดแนน่ อน กวา่ คาที่มาจากภาษาสันสกฤต พยัญชนะใน

ภาษาบาลีและสันสกฤต แบง่ ออกเปน็ ๕ วรรค และเศษวรรค ตามฐานที่เกิดและลักษณะการออกเสียง ดงั น้ี

พยัญชนะวรรคในภาษาบาลี ตวั ท่ี ๕ เศษวรรค
ตัวที่ ๑ ตวั ท่ี ๒ ตวั ที่ ๓ ตัวท่ี ๔ ง ห
วรรค กะ (กัณฑชะ) กข ค ฆ ญ ยศ
วรรค จะ (ตาลุชะ) จฉ ช ฌ ณ
วรรค ฏะ (มทุ ธขะ) ฏฐ ฑ ฒ น รษศ
วรรค ตะ (ทนั ตชะ) ตถ ท ธ ม ลส
วรรค ปะ (โอษฐชะ) ป ผ พ ภ ว
เศษวรรค ย ร ล ว ศ ษ ส ห ฬ (องั )

--222233--

ใบงาน

“ค้นหาภาษาบาลี”
คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นหาคาภาษาบาลีจากตารางต่อไปนี้ แลว้ นาไปเขียนในช่องวา่ ง

บุปฝา ศานติ สตั ย์ ราชนิ ี ลัทธิ

เดอื น เมตตา ปรัชญา ปญั ญา อัคนี

ทุกข์ ศรทั ธา สทั ธา ศรี วิญญาณ

มัจฉา สนั ติ บุษบา บัญญตั ิ สริ ิ

…………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………

-224-
-224-

(เฉลย) ใบงาน
“ภาษาบาลี”
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนหาคาภาษาบาลจี ากตารางต่อไปนี้ แลว้ นาไปเขียนในชอ่ งวา่ ง

บุปฝา ศานติ สัตย์ ราชนิ ี ลทั ธิ

เดือน เมตตา ปรัชญา ปัญญา อคั นี

ทกุ ข์ ศรัทธา สัทธา ศรี วญิ ญาณ

มจั ฉา สนั ติ บุษบา บญั ญตั ิ สริ ิ

คาตอบ เมตตา ปัญญา ทุกข์
บุปฝา วญิ ญาณ มัจฉา สันติ
สัทธา สริ ิ
บญั ญัติ

-2-2252-5-

แบบประเมินการทางานกลุ่ม

คาชแ้ี จง ให้ครปู ระเมนิ การทางานกลมุ่ ของนักเรียนตามรายการประเมิน (คะแนนเต็ม 12 คะแนน)

รายการประเมิน ระดับคะแนน
๓๒๑
1. การกาหนดบทบาทหนา้ ท่ี กาหนดบทบาทหนา้ ท่ี กาหนดบทบาทหนา้ ท่ี ไม่มกี ารกาหนดบทบาท
2. การมสี ่วนรว่ ม สมาชกิ อยา่ งชัดเจน สมาชกิ ไมค่ รบถว้ น หน้าท่ี
มีส่วนรว่ มในการปฏิบตั ิ มสี ว่ นร่วมในการปฏิบตั ิ มีสว่ นรว่ มในการปฏิบตั ิ
3. การรบั ฟงั และแสดงความคดิ เหน็ งานกลุ่ม งานกลุ่มบา้ ง งานกลุ่มนอ้ ยมาก
หรือไมม่ สี ่วนรว่ ม
4. ความรบั ผดิ ชอบ รับฟังและแสดงความคดิ เห็น รบั ฟงั และแสดงความคดิ เห็น รบั ฟังความคิดเหน็ ของผ้อู ่ืน
อยา่ งมีเหตผุ ลและสรา้ งสรรค์ อยา่ งมเี หตผุ ลและสรา้ งสรรค์ นอ้ ยมากหรือไมร่ บั ฟงั
อย่างสม่าเสมอ เป็นบางคร้ัง ความคดิ เหน็ ผู้อืน่
รบั ผดิ ชอบงานทไี่ ดร้ ับ รับผิดชอบงานทีไ่ ด้รับ ไมร่ ับผดิ ชอบงานทไี่ ดร้ บั
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา มอบหมาย แตเ่ สร็จไมท่ ัน มอบหมาย
ท่กี าหนด ตามกาหนด

* การคดิ คะแนน ร้อยละ = (คะแนนทไี่ ด้/คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมนิ การแปลผล
ดมี าก
เกณฑข์ องระดบั คะแนน ดี
ร้อยละ 80 - ๑๐๐ พอใช้
รอ้ ยละ 70 - 79 ปรบั ปรงุ
ร้อยละ 50 - 69
รอ้ ยละ ๐ - 49

-226-
-226-

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ โนม้ นา้ วใจให้เชอ่ื ถือ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๖ เวลา ๑ ช่วั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย เรอ่ื ง พินจิ บาลีและสันสกฤต (2) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒

รายวชิ า ภาษาไทย

สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้
ภาษาสนั สกฤตมีหลกั การสังเกตที่แตกต่างจาก ขนั้ นา ห้องสมดุ
นกั เรียนอาสาสมัครเขียนช่อื เพ่ือนบนกระดาน 2 - 3 ชอื่ (หรือจะใช้ สอ่ื
ภาษาบาลี คอื จานวนสระและพยัญชนะ ไม่มีกฎ ชื่อบคุ คลสมมุติ เช่น ปรัชญา อจั ฉรยิ ะ) จากนนั้ ร่วมกันแสดงความ 1. ใบความรู้ “หลกั สังเกตคาภาษา
ตัวสะกดตัวตาม มักมตี ัวควบกล้า คาท่มี ีคาว่าเคราะห์ คิดเหน็ วา่ ชอื่ เพื่อนดังกล่าวเป็นคาภาษาไทยหรอื เป็นคาจาก สันสกฤต”
คาท่ใี ช้พยัญชนะ ฑ และคาทใี่ ช้ รร การศกึ ษา ภาษาต่างประเทศ 2. ใบงาน “ข้อเปรียบเทยี บภาษาบาลกี บั
หลักการสงั เกตคาภาษาสนั สกฤต ช่วยทาให้สามารถ ภาษาสนั สกฤต”
-227- จาแนกได้วา่ คาศัพท์ท่ปี รากฏใชใ้ นภาษาไทยคาใด ขัน้ สอน
เปน็ ภาษาสนั สกฤต ๑. นักเรียนแบ่งกลมุ่ ความสมัครใจ กลุ่มละ 3 - 4 คน แตล่ ะกลมุ่ ภาระงาน/ชน้ิ งาน
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ร่วมกันศึกษาใบความรู้ “หลกั สังเกตคาภาษาสนั สกฤต” จากนัน้ การทาใบงาน “ข้อเปรยี บเทียบภาษาบาลีกบั
ดา้ นความรู้ สรปุ ความร้ทู ี่ไดร้ บั จากการศึกษา ภาษาสนั สกฤต”
๑. อธิบายทมี่ าของภาษาสนั สกฤตในภาษาไทย ๒. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ทาใบงาน “ข้อเปรียบเทยี บภาษาบาลีกับภาษา
๒. บอกหลกั การสงั เกตคาภาษาสนั สกฤตในภาษาไทย สันสกฤต”
ด้านทกั ษะและกระบวนการ 3. ผูแ้ ทนกล่มุ ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน เม่อื นาเสนอครบ การวัดและประเมนิ ผล
วเิ คราะห์ภาษาบาลีกับภาษาสันสกฤตทใ่ี ช้ใน นกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบ โดยครูให้คาแนะนาเพม่ิ เติม การประเมินการทางานกลุ่ม
ภาษาไทย
ด้านคุณลักษณะ ข้นั สรุป
๑. ใฝ่เรียนรู้ นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้เร่ืองภาษาสันสกฤตเป็นแผนภาพความคิด
๒. มงุ่ มน่ั ในการทางาน บนกระดาน

-227-

-228- สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผ้เู รยี น
การส่อื สาร

-228-

ใบความรู้
“หลักสงั เกตคาภาษาสนั สกฤต”

หลกั สังเกตคาภาษาสนั สกฤต

๑. ภาษาสนั สกฤตมสี ระ ๑๔ ตัวคอื อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ไอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦา
๒. ภาษาสันสกฤตมีพยญั ชนะ ๓๕ ตวั โดยเพิ่ม ศ ษ คาทมี่ ี ศ ษ จงึ มาจากภาษาสนั สกฤต ยกเวน้

คาไทยแท้บางคา เช่น ศอ ศอก ศกึ เศิก เศร้า ดาษ ฯลฯ
๓. คาภาษาสันสกฤตไมม่ ีหลกั ตวั สะกด ตัวตามเหมือนคาภาษาบาลี
๔. นยิ มตวั ควบกลา้ ทง้ั พยญั ชนะตน้ เชน่ ประถม และตวั สะกด เชน่ มิตร
๕. มีคาว่า เคราะห์ อยู่ในภาษาสนั สกฤต เช่น วิเคราะห์ (หมายถึง ใคร่ครวญ แยกเปน็ ส่วน ๆ

เพอื่ ศกึ ษาให้ ถ่องแท้) สังเคราะห์ (หมายถงึ ทีส่ รา้ งขนึ้ โดยกรรมวธิ ที างเคม)ี
๖. คาทใี่ ช้ ฑ มกั มาจากภาษาสนั สกฤต เชน่ กรฑี า จุฑา
๗. คาท่ใี ช้ รร มักมาจากภาษาสันสกฤต เชน่ กรรม บรรพต ภรรยา

ตัวอย่างคาภาษาสนั สกฤต คฤหัสถ์ บรบิ ูรณ์ สวรรค์ ศึกษา
กษตั ริย์ ขรรค์ ทฤษฎี ไอศวรรย์ จักร อาศัย
วิทยุ นติ ย์ วเิ ศษ มธั ยม ปรัชญา อมฤต
ปราศรยั ฤษี รัศมี ภรรยา บษุ บา ราษฎร
จักษุ สถาน แพทย์ ราตรี สตรี อารยะ
ศรี อัศจรรย์ ตฤณ พฤกษ์ ลักษณะ วัสดุ
อัปสร เพชร ศฤงคาร อกั ษร อรรถ ปราชญ์
สตั ย์ ปรตั ยุบนั

-2-2292-9-

ใบงาน
“ขอ้ เปรยี บเทียบภาษาบาลกี ับภาษาสันสกฤต”

คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนเขียนข้อเปรียบเทยี บภาษาบาลกี บั ภาษาสันสกฤต

ภาษาบาลี ภาษาสนั สกฤต
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
............................................................................... ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................
................................................................................ ................................................................................

-2-23300--

(เฉลย) ใบงาน
“ขอ้ เปรียบเทยี บภาษาบาลีกบั ภาษาสันสกฤต”

คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนเขียนข้อเปรียบเทียบภาษาบาลีกบั ภาษาสนั สกฤต

ภาษาบาลี ภาษาสนั สกฤต
- ใช้ ฬ - ใช้ ฑ
- มสี ระ ๘ ตวั - มสี ระ ๑๔ ตัว (เพ่มิ สระ ไอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦา
- มีพยัญชนะ ๓๓ ตัว จากภาษาบาลี)
- มีตวั สะกด ตัวตาม - มพี ยัญชนะ ๓๕ ตัว (เพ่ิมพยัญชนะ ศ ษ
- ไม่ควบกลา้ จากภาษาบาล)ี
- มคี าว่า “ริ” อยู่ระหวา่ งคา - ไมม่ ีตัวสะกด ตวั ตาม
- นยิ มควบกล้า
- ใช้ รร
- มีคาว่า “เคราะห์”

--223311--

แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม

คาช้ีแจง ใหค้ รูประเมนิ การทางานกลมุ่ ของนกั เรียนตามรายการประเมนิ (คะแนนเต็ม 12 คะแนน)

รายการประเมิน ระดับคะแนน
๓๒๑
1. การกาหนดบทบาทหน้าท่ี กาหนดบทบาทหนา้ ที่ กาหนดบทบาทหน้าที่ ไม่มีการกาหนดบทบาท
2. การมสี ว่ นรว่ ม สมาชิกอย่างชดั เจน สมาชิกไมค่ รบถว้ น หนา้ ท่ี
มีสว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ิ มสี ่วนร่วมในการปฏิบตั ิ มีสว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ิ
3. การรบั ฟงั และแสดงความคดิ เหน็ งานกลุ่ม งานกลุ่มบ้าง งานกลมุ่ นอ้ ยมาก
หรือไมม่ สี ่วนร่วม
4. ความรบั ผดิ ชอบ รบั ฟังและแสดงความคดิ เห็น รบั ฟงั และแสดงความคดิ เห็น รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ นื่
อย่างมเี หตผุ ลและสร้างสรรค์ อย่างมีเหตผุ ลและสร้างสรรค์ นอ้ ยมากหรอื ไมร่ บั ฟงั
อย่างสม่าเสมอ เปน็ บางครงั้ ความคดิ เห็นผอู้ นื่
รบั ผิดชอบงานทีไ่ ดร้ บั รบั ผิดชอบงานท่ีได้รับ ไม่รับผิดชอบงานท่ีไดร้ บั
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา มอบหมาย แตเ่ สรจ็ ไม่ทนั มอบหมาย
ทก่ี าหนด ตามกาหนด

* การคิดคะแนน รอ้ ยละ = (คะแนนทีไ่ ด้/คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมิน การแปลผล
ดีมาก
เกณฑ์ของระดบั คะแนน ดี
ร้อยละ 80 - ๑๐๐ พอใช้
ร้อยละ 70 - 79 ปรับปรงุ
ร้อยละ 50 - 69
ร้อยละ ๐ - 49

-23-22-32-

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๓ โน้มน้าวใจให้เชอ่ื ถือ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๗ เวลา ๑ ช่ัวโมง
กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย เรื่อง ชวนคดิ จากบทประพนั ธ์ (1) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒

รายวชิ า ภาษาไทย

สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้
โคลงสภุ าษิตโสฬสไตรยางค์ ขัน้ นา ห้องสมุด
นักเรียนร่วมกนั ยกตวั อย่างตามประเด็นต่อไปน้ี พร้อมระบเุ หตผุ ล สอ่ื
เปน็ โคลงสภุ าษิตทีจ่ าแนกเนอื้ ความเป็น ๑๖ หมวด 1. บทนา
หมวดละ ๓ ขอ้ รวมเป็น ๔๘ ข้อ อธิบายสุภาษิต - ส่ิงท่ีนกั เรยี นควรรกั 3 ประการ
ทเ่ี กีย่ วกับนามธรรม ซึง่ เป็นเร่ืองใกลต้ วั ทเี่ กี่ยวข้อง - สงิ่ ทน่ี กั เรียนควรเกลยี ด 3 ประการ “โคลงสภุ าษิตภาษิตโสฬสไตรยางค์”
กบั คนทุกคน ทุกฐานะ ทุกอาชพี ไดน้ าไปเป็น 2. ใบงานหมายเลข 1 - 8
-233- เครอื่ งโน้มนาใหป้ ระพฤติชอบอยา่ งผู้มีสติ ข้ันสอน
และเพ่ิมความเจริญกา้ วหนา้ แก่ตนเอง 1. นักเรียนรว่ มกันอา่ นบทนา “โคลงสภุ าษติ ภาษติ โสฬสไตรยางค์” ภาระงาน/ช้ินงาน
ทต่ี ิดบนกระดาน จากนัน้ หาว่าคาศัพทใ์ ดเปน็ ภาษาบาลี คาใดเป็นภาษา การทาใบงานหมายเลข 1 - 8
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สันสกฤต การวดั และประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้ การประเมนิ การทางานกลุ่ม
๑. บอกความหมายของคาศพั ท์โคลงสภุ าษติ โสฬส ปราชญ์แสดงดาริดว้ ย ไตรยางค์
ไตรยางค์ โสฬสหมดหมวดปาง กอ่ นอา้ ง
2. จาแนกคาภาษาบาลี และภาษาสันสกฤต เป็นมาติกาทาง บณั ฑิต แสวงเฮย
จากโคลงสภุ าษิตโสฬสไตรยางค์ หวังสวสั ด์ขิ จัดทุกขส์ ร้าง สืบส้อง ศุภ ผล
ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ
วเิ คราะห์เนอ้ื หาของโคลงสภุ าษิต
โสฬสไตรยางค์กบั การนาไปปรบั ใช้ใน
การดาเนนิ ชีวติ

-233-

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ โน้มนา้ วใจให้เชอื่ ถือ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๗ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย เร่ือง ชวนคดิ จากบทประพันธ์ (1) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒
ด้านคณุ ลกั ษณะ
๑. ใฝ่เรียนรู้ รายวชิ า ภาษาไทย
๒. มงุ่ ม่ันในการทางาน คาตอบ

สมรรถนะท่ีต้องการให้เกดิ กับผู้เรียน ภาษาบาลี
การส่อื สาร ๑. โสฬส (โส-ลด) แปลว่า สบิ หก
๒. มาติกา (มาด-ต-ิ กา) แปลวา่ บาลที ี่เป็นแม่บท, แมบ่ ท,
-234-
เหมอื ง, ทางน้าไหล
๓. ทกุ ข์ (ทกุ ) แปลวา่ ความยากลาบาก, ความไมส่ บายกาย

ไมส่ บายใจ, ความทนได้ยาก, ความทนอยใู่ นสภาพเดมิ ไม่ได้
ภาษาสันสกฤต
๑. ปราชญ์ (ปราฺ ด) แปลว่า ผู้มีปัญญารอบรู้
๒. ไตรยางค์ (ไตรฺ-ยาง) แปลว่า สามระดบั
๓. สวสั ดิ์ (สะ-หวัด) แปลว่า ขอความดีความงามจงมีแดท่ า่ น
๔. ศภุ (สบุ -พะ) แปลวา่ ความงาม, ความดีงาม, ความเจรญิ
คาศพั ท์ทใ่ี ชเ้ หมือนกันทงั้ ภาษาบาลแี ละภาษาสันสกฤต
๑. บณั ฑติ (บัน-ดิด) แปลว่า ผู้ทรงความรู้, ผมู้ ปี ัญญา,นกั ปราชญ์
๒. ผล (ผน) แปลวา่ สว่ นของพชื ท่ีเจริญมาจากรงั ไข,่ ส่ิงทเี่ กิด

จากการกระทา, ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ
2. นักเรยี นรว่ มกนั บอกความหมายของโคลงดงั กลา่ ว

คาตอบ
ผมู้ ีความรู้แสดงความคิดด้วยองคส์ าม (สามสิ่งของโคลงแตล่ ะบท)
มสี ิบหกบทเปน็ แม่บทและเป็นแนวทางให้ผู้มปี ัญญาแสวงหาความรู้
หวังให้ความดีกาจดั ความยากลาบาก เพื่อกา้ วต่อไปขา้ งหน้าแล้วร้อง

-234-

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๓ โนม้ นา้ วใจให้เช่ือถือ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๗ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง ชวนคิดจากบทประพนั ธ์ (1) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒

-235- รายวชิ า ภาษาไทย
สรรเสรญิ ตอ่ ผลของความดีงาม
3. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ ตามความสมคั รใจ จานวน ๘ กลุ่ม แต่ละกล่มุ เลอื ก
หมายเลขใบงาน 1 - 8 จากน้ันช่วยกันทาใบงานตามหมายเลข
ทเ่ี ลือก

หมายเลข 1 สามสิ่งควรรัก
หมายเลข 2 สามส่งิ ควรชม
หมายเลข 3 สามสิ่งควรเกลยี ด
หมายเลข 4 สามส่ิงควรรังเกยี จติเตยี น
หมายเลข 5 สามสงิ่ ควรเคารพ
หมายเลข 6 สามสิ่งควรยินดี
หมายเลข 7 สามสิง่ ควรปรารถนา
หมายเลข 8 สามสิ่งควรอ้อนวอนขอ
4. ผู้แทนกลุม่ ออกมานาเสนอ เพอื่ น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบ โดยครใู ห้
คาแนะนาเพ่ิมเตมิ

ขั้นสรปุ
นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายในประเดน็ “การนาความรู้จาก
โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์ไปปรับใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ิต”

-235-

บทนา
“โคลงสภุ าษิตภาษิตโสฬสไตรยางค์”

ปราชญแ์ สดงดารดิ ้วย ไตรยางค์
โสฬสหมดหมวดปาง กอ่ นอ้าง
เป็นมาติกาทาง บัณฑติ แสวงเฮย
หวงั สวัสดข์ิ จัดทุกขส์ รา้ ง สืบสอ้ ง ศุภ ผล

--223366--

ใบงาน หมายเลข 1
“สามสิ่งควรรกั ”

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นบททประพันธท์ ีก่ าหนด จากน้นั หาความหมายของคาศัพท์ที่นักเรียนสนใจ
และถอดคาประพันธ์ดังกลา่ ว

สามสง่ิ ควรรกั
ความกล้า ความสภุ าพ ความรักใคร
ควรกลา้ กล้ากลา่ วถ้อย ทงั้ หทยั แทแ้ ฮ
สวุ ภาพพจน์ภายใน จิตพร้อม
ความรกั ประจักษ์ใจ จริงแน่ นอนฤา
สามสิ่งควรรกั น้อม จิตให้สนทิ จรงิ
คาศพั ท์นา่ รู้
............................................................................................................................. ..........
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........
..................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................
ถอดคาประพันธ์
............................................................................................................................. ..........
............................................................................................................................. ..........
........................................................................................................................ ...............
............................................................................................................................. .....

เหตผุ ลท่ีนักเรยี นคดิ ว่าบทประพนั ธบ์ ทน้ีเป็นบทที่ใช้ภาษาเขียนพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

--223377- -

ใบงาน หมายเลข 2
“สามสงิ่ ควรชม”

คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอ่านบททประพันธท์ ีก่ าหนด จากนั้นหาความหมายของคาศัพท์ท่นี กั เรียนสนใจ
และถอดคาประพันธ์ดงั กลา่ ว

สามสิ่งควรชม
อานาจปญั ญา เกียรติยศ มีมารยาทดี
ปัญญาสตลิ ้า เลิศญาณ
อ้านาจศักดศิ์ ฤงคาร ม่งั ขง้ั
มารยาทเรียบเสี่ยมสาน เสงี่ยมเงื่อน งามนอ
สามสิ่งควรจกั ต้ัง แตซ่ อ้ งสรรเสริญ
คาศัพท์น่ารู้
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........
................................................................................................................................... ...
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพันธ์
............................................................................................................................. .........
.................................................................................................... ..................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................

เหตุผลท่นี ักเรยี นคดิ วา่ บทประพนั ธบ์ ทนเี้ ปน็ บทที่ใช้ภาษาเขยี นพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

-238-2-38-

ใบงาน หมายเลข 3
“สามสิง่ ควรเกลียด”

คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนอ่านบททประพนั ธท์ กี่ าหนด จากน้ันหาความหมายของคาศัพท์ท่นี กั เรียนสนใจ
และถอดคาประพันธด์ ังกล่าว

สามส่ิงควรเกลียด
ความดรุ ้าย ความหย่ิงกาเริบ อกตัญญู
ใจบาปจิตหยาบรา้ ย ทารณุ
กา้ เรบิ เอิบเกนิ สกลุ หย่งิ กอ้
อีกหนง่ึ ห่อนรู้คุณ ใครปลูก ฝงั แฮ
สามสิง่ ควรเกลยี ดท้อ จติ แท้อยา่ สมาน
คาศพั ทน์ ่ารู้
.......................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. .........
.............................................................................................................. ........................
............................................................................................................................. ........
................................................................................................. .....................................
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพนั ธ์
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........

เหตุผลทน่ี ักเรียนคิดวา่ บทประพันธบ์ ทนเ้ี ป็นบททีใ่ ชภ้ าษาเขียนพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

-2-3293-9-

ใบงาน หมายเลข 4
“สามสงิ่ ควรรงั เกยี จติเตียน”

คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นบททประพันธ์ท่กี าหนด จากนนั้ หาความหมายของคาศัพท์ท่ีนกั เรยี นสนใจ
และถอดคาประพนั ธด์ ังกลา่ ว

สามส่ิงควรรังเกียจตเิ ตยี น
ชั่วเลวทราม มารยา ฤษยา
ใจชัว่ ชาติต้า่ ช้า ทรชน
ทุจริตมารยาปน ปกไว้
หงึ จติ คิดเกลียดคน ดกี วา่ ตัวแฮ
สามส่วนควรเกียจใกล้ เกลยี ดซอ้ งสมาคม
คาศัพท์น่ารู้
............................................................................................................................. .........
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................
ถอดคาประพนั ธ์
............................................................................................................................. .........
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................

-2-4204- 0-

ใบงาน หมายเลข 5
“สามสิ่งควรเคารพ”

คาช้ีแจง ให้นักเรยี นอ่านบททประพันธท์ ีก่ าหนด จากนน้ั หาความหมายของคาศัพท์ที่นกั เรยี นสนใจ
และถอดคาประพันธด์ ังกลา่ ว

สามสงิ่ ควรเคารพ
ศาสนา ยุตธิ รรม สละประโยชน์ตนเอง
ศาสนาสอนสั่งให้ ประพฤติดี
หน่ึงยตุ ธิ รรมไปม่ ี เลอื กผู้
ประพฤตเิ พื่อประโยชนศ์ รี สวัสดท์ิ ่วั กันแฮ
สามสง่ิ ควรรอบรู้ เคารพเร้ืองเจริญคุณ
คาศัพท์น่ารู้
............................................................................................................................. .........
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพนั ธ์
....................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .........
........................................................................................... ...........................................
............................................................................................................................. ........

-2-4214-1-

ใบงาน หมายเลข 6
“สามส่งิ ควรยนิ ดี”

คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นอา่ นบททประพันธท์ ก่ี าหนด จากนั้นหาความหมายของคาศัพท์ทีน่ กั เรียนสนใจ
และถอดคาประพันธด์ งั กล่าว

สามสิง่ ควรยนิ ดี
งาม ตรงตรง ไทยแก่ตน
สรรพางค์โสภาคพร้อม ธัญลักษณ์
ภาษิตจติ ประจกั ษ์ ซ่อื พร้อม
เปน็ สุขโสดตนรัก การชอบ ธรรมนา
สามส่ิงควรชักน้อม จิตใหย้ นิ ดี
คาศัพทน์ า่ รู้
............................................................................................................................. .........
................................................................................................................................. .....
............................................................................................................................. .........
............................................................................................................................. ........
................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพนั ธ์
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........

เหตผุ ลท่ีนักเรยี นคดิ ว่าบทประพนั ธ์บทนีเ้ ปน็ บททใ่ี ชภ้ าษาเขยี นพรรณนา
คือ………………………………………………………-…2-4…22…4-2…-………………………………..

ใบงาน หมายเลข 7
“สามสงิ่ ควรปรารถนา”

คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอา่ นบททประพันธท์ ีก่ าหนด จากน้ันหาความหมายของคาศัพท์ที่นกั เรียนสนใจ
และถอดคาประพนั ธ์ดังกลา่ ว

สามส่ิงควรปรารถนา
ความสุขสบาย มิตรสหายที่ดี ใจสบายปรโุ ปร่ง
สุขกายวายโรคร้อน รา้ คาญ
มากเพือ่ นผูว้ านการ ชีพได้
จติ แผว้ ผ่องสา้ ราญ รมยสขุ เกษมแฮ
สามสงิ่ ควรจกั ให้ รบี รอ้ นปรารถนา
คาศพั ทน์ า่ รู้
............................................................................................................................. ..........
......................................................................................... ..............................................
............................................................................................................................. ..........
..................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................
ถอดคาประพันธ์
............................................................................................................................. ..........
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........
..................................................................................................................................

เหตผุ ลท่นี ักเรยี นคดิ วา่ บทประพันธบ์ ทนเี้ ป็นบทท่ีใช้ภาษาเขยี นพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

-2-4234-3-

ใบงาน หมายเลข 8
“สามส่งิ ควรออ้ นวอนขอ”

คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอ่านบททประพนั ธท์ ีก่ าหนด จากนั้นหาความหมายของคาศัพท์ที่นักเรยี นสนใจ
และถอดคาประพนั ธ์ดังกล่าว

สามสง่ิ ควรออ้ นวอนขอ
ความเชือ่ ถือ ความสงบ ใจบรสิ ทุ ธ์ิ
ศรทั ธาท้าจิตหมนั้ คงตรง
สงบระงบั ดับประสงค์ ส่งิ เศรา้
จิตสะอาดปราศสิง่ พะวง วุน่ ขนุ่ หมองแฮ
สามสว่ นควรใฝ่เฝา้ แตต่ ง้ั อธิษฐาน
คาศพั ทน์ ่ารู้
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพนั ธ์
............................................................................................................................. .........
........................................................................................................................ ..............
............................................................................................................................. .........
............................................................................................................ .........................

--224444--

(เฉลย)
(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 1

“สามสิง่ ควรรัก”

สามสง่ิ ควรรัก
ความกล้า ความสภุ าพ ความรกั ใคร
ควรกลา้ กลา้ กล่าวถ้อย ท้ังหทัย แทแ้ ฮ
สุว ภาพ พจน์ ภายใน จิต พรอ้ ม
ความรกั ประจักษ์ใจ จรงิ แน่ นอนฤา
สามสง่ิ ควรรักน้อม จิตใหส้ นทิ จริง
คาศัพทน์ า่ รู้
๑. หทยั แปลว่า หวั ใจ, ใจ
๒. สุว (สุ-วะ) เปน็ ค้าอุปสรรคในภาษาบาลีและสนั สกฤต แปลวา่ ดี, งาม, ง่าย,
สา้ หรับเติมหน้าค้า เชน่ สุวคนธ์
* สุวภาพ ในโคลงนหี้ มายถึงค้าว่า สุภาพ แปลว่า เรียบรอ้ ย
๓. ภาพ แปลว่า ความ, ความมี, ความเป็น, มกั ใชป้ ระกอบเปน็
สว่ นทา้ ยของค้าสมาส, รูปท่ปี รากฏเหน็ หรือนึกเหน็
๔. พจน์ แปลวา่ คา้ พดู , ถอ้ ยค้า
๕. จติ แปลว่า ใจ, สง่ิ ที่มีหน้าท่ีรู้ คิดและนกึ
๖. ประจักษ์ แปลวา่ ปรากฏชดั
๗. สนิท แปลวา่ เสน่หา, รักใคร่, ชิด
ถอดคาประพันธ์ สามส่ิงที่ควรรัก คือ การพูดความจริงจากใจทั้งหมด การมีความสุภาพทาง
ค้าพูดหรือวาจา ทางกาย ทางใจ การมีความรักท่ีแน่ชัดให้กับผู้อ่ืน สามส่ิงน้ีควรให้ผู้อ่ืนอย่าง
จรงิ ใจ แบบประเมนิ การตรวจ ใบงาน “โคลงสภุ าษิตโสฬสไตรยางค์”

เหตุผลที่นักเรียนคิดวา่ บทประพนั ธ์บทนเี้ ปน็ บทท่ีใชภ้ าษาเขยี นพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

-24-52- 45-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 2
“สามสิ่งควรชม”

สามส่ิงควรชม
อานาจปัญญา เกียรตยิ ศ มีมารยาทดี
ปญั ญาสติลา้ เลศิ ญาณ
อ้านาจศักด์ิศฤงคาร มงั่ ขัง้
มารยาทเรยี บเสยี่ มสาน เสง่ยี มเง่ือน งามนอ
สามสิง่ ควรจกั ต้งั แต่ซ้องสรรเสริญ
คาศพั ทน์ า่ รู้
๑. ปญั ญา แปลว่า ความรอบร,ู้ ความรู้ท่วั , ความฉลาด
๒. สติ แปลวา่ ความรูส้ ึก, ความร้สู ึกตัว
๓. ญาณ แปลว่า ปัญญาหยง่ั รหู้ รอื กา้ หนดร้ทู เ่ี กิดจากอ้านาจสมาธิ
๔. ศักด์ิ แปลวา่ อ้านาจ, ความสามารถ, กา้ ลงั , ฐานะ, หอก, หลาว
๕. ศฤงคาร แปลวา่ สิ่งใหเ้ กิดความรัก, บริวารหญิงผู้บ้าเรอความรัก
๖. มารยาท แปลวา่ มรรยาท, กิรยิ าวาจาทีถ่ อื วา่ สุภาพเรียบร้อยถูกกาลเทศะ
ถอดคาประพันธ์ สามสิ่งที่ควรจะชื่นชม บุคคลท่ีมีท้ังสามสิ่งน้ี คือ ผู้ท่ีมีปัญญาล้าเลิศ ผู้ที่มี
เกยี รตยิ ศ และผู้ท่มี ีมารยาทงาม และควรจะมีสามส่งิ นดี้ ้วยเชน่ กันเพ่ือจะไดเ้ ปน็ ทชี่ ื่นชมของผ้อู นื่

เหตผุ ลที่นักเรียนคิดว่าบทประพนั ธ์บทนี้เปน็ บทท่ีใชภ้ าษาเขียนพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

--224466--

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 3
“สามสิ่งควรเกลยี ด”

สามสง่ิ ควรเกลียด
ความดรุ า้ ย ความหย่งิ กาเริบ อกตัญญู
ใจบาป จติ หยาบร้าย ทารุณ
ก้าเริบเอิบเกินสกุล หยิง่ กอ้
อีกหน่งึ ห่อนรู้คุณ ใครปลูก ฝงั แฮ
สามส่งิ ควรเกลียดท้อ จติ แท้อยา่ สมาน
คาศัพท์นา่ รู้
๑. อกตญั ญู แปลว่า ผไู้ มร่ ู้อุปการคณุ ท่ีท่านท้าแกต่ น
๒. จติ แปลว่า ใจ, สง่ิ ทมี่ หี น้าท่ีรู้ คดิ และนึก
๓. บาป แปลวา่ การกระทา้ ผิดหลักคา้ สอนหรือข้อห้ามในศาสนา, ความชวั่ ,
ความมัวหมอง, ชวั่ , มัวหมอง
๔. ทารณุ แปลวา่ ดรุ า้ ย, โหดรา้ ย, รา้ ยกาจ
๕. คุณ แปลวา่ ความเกื้อกูล
ถอดคาประพันธ์ สามสิ่งที่ควรเกลียด ไม่ควรท้า ไม่ควรท่ีจะมี สามสิ่งน้ี คือ ความดุร้าย
ความหย่ิงก้าเริบ และ ความอกตญั ญรู คู้ ุณ

เหตุผลทน่ี ักเรียนคดิ วา่ บทประพนั ธ์บทนเี้ ป็นบททใ่ี ช้ภาษาเขียนพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

--224477- -

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 4
“สามสงิ่ ควรตเิ ตียน”

สามสิง่ ควรรังเกยี จตเิ ตยี น
ช่ัวเลวทราม มารยา ฤษยา
ใจช่วั ชาติต่า้ ช้า ทร ชน
ทุจริตมารยาปน ปกไว้
หึงจติ คิดเกลียดคน ดกี ว่า ตัวแฮ
สามส่วนควรเกยี จใกล้ เกลียดซอ้ งสมาคม
คาศัพทน์ ่ารู้
๑. รษิ ยา แปลว่า อาการท่ีไม่อยากให้คนอืน่ ไดด้ ี, เหน็ เขาได้ดีแลว้
ทนอยู่น่ิงไมไ่ ด้, เปน็ ค้าเดยี วกับ ฤษยา (ค้าโบราณ)
๒. ชาติ แปลวา่ การเกดิ กาเนดิ เหลา่ กอ เทือกเถา เผ่าพันธ์ุ
๓. ทร (ทอ-ระ) แปลว่า ชวั่ , ยาก, ลา้ บากคา้ อุปสรรค
๕. ชน แปลวา่ คน (มักใช้ในภาษาหนงั สือ)
๔. ทุจรติ แปลวา่ ความประพฤติชว่ั
๕. สมาคม แปลวา่ การประชมุ , การเข้ารว่ มพวกรว่ มคณะ, การคบค้า, แหลง่
หรือที่ประชมุ ของบคุ คลหลายคนมาร่วมกันด้วยมีจุดประสงค์
เพื่อประโยชนบ์ างประการ, นิติบคุ คลท่ีก่อต้ังขน้ึ เพื่อกระทา
การใด ๆ อันมลี ักษณะต่อเนื่องร่วมกนั และมิใช่เป็นการหา
ผลกาไรหรอื รายได้มาแบง่ ปนั กัน, คบค้า, คบหา
ถอดคาประพนั ธ์ สามสง่ิ ท่ีควรรังเกียจ ไม่ชอบใจ ไม่ควรท้า ไมค่ วรท่ีจะมี สามสงิ่ น้ี คอื
เปน็ คนชว่ั เป็นคนเจ้าเลห่ ์หลอกลวง และไม่อยากใหผ้ ูอ้ ื่นไดด้ ี ไมค่ วรคบหาคนสามประเภทนี้

เหตผุ ลทีน่ กั เรยี นคิดวา่ บทประพันธบ์ ทนีเ้ ปน็ บทท่ีใช้ภาษาเขยี นพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

-24-82-48-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 5
“สามสง่ิ ควรเคารพ”

สามสิง่ ควร เคารพ
ศาสนา ยุตธิ รรม สละประโยชนต์ นเอง
ศาสนาสอนสัง่ ให้ ประพฤตดิ ี
หน่ึงยุติธรรมไป่มี เลือกผู้
ประพฤติเพ่ือประโยชน์ศรี สวัสด์ทิ ่ัว กนั แฮ
สามสง่ิ ควรรอบรู้ เคารพเรื้องเจริญคุณ
คาศพั ทน์ า่ รู้
๑. เคารพ แปลวา่ แสดงอาการนับถอื , ไมล่ ว่ งเกิน, ไม่ลว่ งละเมดิ
๒. ศาสนา แปลว่า ลทั ธิความเชือ่ ถอื ของมนุษย์อันมหี ลัก คือแสดงกา้ เนิด
และความสิ้นสุดของโลกเปน็ ตน้
๓. ประโยชน์ แปลว่า สิง่ ที่มผี ลใชไ้ ดด้ ีสมกับทีค่ ิดมุง่ หมายไว้, ผลท่ไี ด้ตาม
ต้องการ, สงิ่ ทเี่ ป็นผลดีหรือเป็นคุณ
๔. ประพฤติ แปลวา่ ความเปน็ ไปอันเกยี่ วด้วยการกระท้าหรือปฏบิ ตั ิตน
๕. ศรี แปลวา่ มงิ่ , สิรมิ งคล, ความรุ่งเรอื ง, ความสวา่ งสุกใส, ความงาม,
ความเจรญิ
๖. สวัสดิ์ แปลวา่ ความด,ี ความงาม, ความเจริญร่งุ เรอื ง
๗. คุณ แปลว่า ความเก้ือกูล
ถอดคาประพนั ธ์ สามส่ิงควรเคาระ คือ ศาสนา ความยุติธรรม และความเสียสละ ควรเคารพ
ศาสนา เพราะศาสนาสอนให้คนประพฤติตนเป็นคนดี ความยุติธรรมที่ควรมีต่อทุกคน
ไมเ่ ข้าข้างฝา่ ยใดฝา่ ยหนึ่ง และควรจะประพฤติตนใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อสว่ นรวม

เหตุผลท่นี ักเรียนคดิ ว่าบทประพันธ์บทน้ีเปน็ บทท่ีใชภ้ าษาเขยี นพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

--224499--

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 6
“สามสิ่งควรยินดี”

สามสงิ่ ควรยนิ ดี
งาม ตรงตรง ไทยแกต่ น
สรรพางคโ์ สภาคพร้อม ธัญลกั ษณ์
ภาษติ จิตประจักษ์ ซ่ือพร้อม
เปน็ สุขโสดตนรกั การชอบ ธรรมนา
สามส่ิงควรชกั นอ้ ม จติ ให้ยนิ ดี
คาศพั ท์น่ารู้
๑. สรรพางค์ แปลวา่ ทงั้ ตัว, ท่วั ตัว, มกั ใชเ้ ขา้ คกู่ ับค้า กาย
๒. ธญั แปลว่า ขา้ วเปลือก
๓. ภาษติ แปลว่า ถ้อยคา้ หรือข้อความทกี่ ล่าวสืบต่อกันมาช้านานแล้ว
มคี วามหมายเปน็ คติ
๔. จติ แปลวา่ ใจ, สิ่งที่มหี น้าท่ีรู้ คิดและนึก
๕. ประจักษ์ แปลวา่ ปรากฏชัด อาจเปน็ ทางตาหรือใจก็ได้
๖. สุข แปลว่า ความสบายกายสบายใจ
๗. ธรรม แปลว่า คณุ ความด,ี ค้าสัง่ สอนในศาสนา, กฎ, กฎเกณฑ์
ถอดคาประพันธ์ สามส่ิงท่ีควรยนิ ดี คือ ความงามพร้อม พูดปากกับใจตรงกัน และเป็นอิสระแก่
ตวั ในการทจี่ ะทา้ อะไรในทางท่ชี อบธรรม

เหตุผลทีน่ กั เรียนคิดวา่ บทประพันธบ์ ทนเ้ี ปน็ บททีใ่ ชภ้ าษาเขียนพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

-2-5205- 0-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 7
“สามสงิ่ ควรปรารถนา”

สามส่งิ ควรปรารถนา
ความสุขสบาย มิตรสหายทด่ี ี ใจสบายปรุโปร่ง
สขุ กายวายโรครอ้ น ร้าคาญ
มากเพ่อื นผ้วู านการ ชีพได้
จิตแผ้วผ่องส้าราญ รมยสขุ เกษมแฮ
สามส่ิงควรจักให้ รีบร้อนปรารถนา
คาศพั ทน์ ่ารู้
๑. สบาย แปลวา่ อยดู่ ีกินด,ี สะดวก
๒. มติ ร แปลว่า เพอ่ื นรักใคร่คุ้นเคย
๓. สหาย แปลว่า เพ่อื นรว่ มทุกข์ร่วมสขุ
๔. กาย แปลว่า ไม่มีผ้าพนั กาย, มักใชเ้ ขา้ คู่กับค้าร่าง เป็น ร่างกาย
๕. โรค แปลว่า ภาวะท่ีร่างกายท้างานไม่เปน็ ปรกติ เน่ืองจากชื่อโรคเป็นตน้
๖. ชีพ แปลว่า ชวี ติ
๗ จิต แปลวา่ ใจ, สง่ิ ทมี่ หี น้าท่รี ู้ คิดและนึก
๘. สขุ แปลวา่ ความสบายกายสบายใจ
๙. เกษม แปลว่า ความสุขสบาย ความปลอดภยั
๑๐. ปรารถนา แปลว่า มงุ่ หมาย, อยากได้
ถอดคาประพันธ์ สามสิ่งที่ควรปรารถนา คือ ความสุขสบายปราศจากโรคภัยมาเบียดเบียน
มมี ิตรสหายที่ดตี ายแทนเราได้ และจิตใจผ่องใส

เหตุผลท่ีนกั เรยี นคิดว่าบทประพันธ์บทนี้เปน็ บททใี่ ชภ้ าษาเขยี นพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

-2-5215-1-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 8
“สามส่งิ ควรออ้ นวอนขอ”

สามสิ่งควรออ้ นวอนขอ
ความเชอ่ื ถือ ความสงบ ใจบริสทุ ธิ์
ศรทั ธาทา้ จิตหมั้น คงตรง
สงบระงบั ดับประสงค์ สิ่งเศรา้
จิตสะอาดปราศสงิ่ พะวง ว่นุ ขนุ่ หมองแฮ
สามส่วนควรใฝ่เฝ้า แตต่ ้ังอธษิ ฐาน
คาศัพท์นา่ รู้
๑. บรสิ ทุ ธิ์ แปลว่า แทไ้ มม่ ีอะไรเจือปน
๒. ศรทั ธา แปลวา่ ความเชอ่ื ความเลอ่ื มใส
๓. จติ แปลวา่ ใจ, สง่ิ ท่มี หี นา้ ท่รี ู้ คิดและนึก
๔. ประสงค์ แปลวา่ ตอ้ งการ อยากได้
๕. อธิษฐาน แปลวา่ ตั้งใจมุ่งผลอย่างใดอย่างหนง่ึ , ตงั้ จิตปรารถนา
ถอดคาประพันธ์ สามส่ิงท่ีควรอ้อนวอน คือ ความเช่ือถือ ความสงบ และใจบริสุทธ์ิ
ความเช่ือถือท้าให้จิตใจมั่นคงไม่วอกแวก ม่ันคงอยู่กับส่ิงที่จดจ่อ ไม่คิดฟุ้งซ่านไปกับเร่ืองต่าง ๆ
ความสงบจะท้าให้ยับย้ังความต้องการในสิ่งต่าง ๆ ที่ท้าให้เป็นทุกข์ระทมใจ และใจบริสุทธ์ิไม่มี
ส่ิงเศรา้ หมอง กงั วลใจ สามสง่ิ นีค้ วรมุ่งดูแลรกั ษาและตงั้ ใจอธิษฐาน

เหตผุ ลทนี่ ักเรียนคิดวา่ บทประพันธ์บทน้เี ป็นบทท่ีใช้ภาษาเขยี นพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

-2-5225-2-

แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม

คาช้ีแจง ใหค้ รปู ระเมนิ การทางานกล่มุ ของนักเรยี นตามรายการประเมนิ (คะแนนเต็ม 12 คะแนน)

รายการประเมนิ ระดับคะแนน
๓๒๑
1. การกาหนดบทบาทหนา้ ที่ กาหนดบทบาทหนา้ ที่ กาหนดบทบาทหน้าที่ ไมม่ กี ารกาหนดบทบาท
2. การมสี ่วนร่วม สมาชกิ อยา่ งชัดเจน สมาชกิ ไมค่ รบถ้วน หน้าที่
มีสว่ นรว่ มในการปฏิบตั ิ มีสว่ นร่วมในการปฏิบตั ิ มสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิ
3. การรบั ฟงั และแสดงความคดิ เหน็ งานกลุม่ งานกลุ่มบ้าง งานกลมุ่ นอ้ ยมาก
หรอื ไมม่ ีส่วนรว่ ม
4. ความรบั ผิดชอบ รับฟงั และแสดงความคดิ เห็น รบั ฟงั และแสดงความคดิ เหน็ รบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น
อย่างมเี หตผุ ลและสร้างสรรค์ อย่างมเี หตผุ ลและสรา้ งสรรค์ น้อยมากหรือไมร่ บั ฟงั
อยา่ งสม่าเสมอ เป็นบางครัง้ ความคิดเหน็ ผู้อนื่
รับผิดชอบงานทไี่ ดร้ บั รบั ผิดชอบงานทไ่ี ด้รบั ไม่รับผิดชอบงานทีไ่ ดร้ ับ
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา มอบหมาย แตเ่ สรจ็ ไม่ทนั มอบหมาย
ทกี่ าหนด ตามกาหนด

* การคดิ คะแนน ร้อยละ = (คะแนนทีไ่ ด้/คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมิน การแปลผล
ดีมาก
เกณฑ์ของระดับคะแนน ดี
ร้อยละ 80 - ๑๐๐ พอใช้
ร้อยละ 70 - 79 ปรับปรุง
รอ้ ยละ 50 - 69
ร้อยละ ๐ - 49

-25-32-53-

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๓ โน้มน้าวใจให้เช่ือถือ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๘ เวลา ๑ ช่ัวโมง
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เร่ือง ชวนคิดจากบทประพนั ธ์ (2) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒
รายวิชา ภาษาไทย แหล่งเรียนรู้
หอ้ งสมดุ
สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นา สอ่ื
โ ค ล ง สุ ภ า ษิ ต โ ส ฬ ส ไ ต ร ย า ง ค์ นักเรยี นร่วมกนั ยกตัวอย่างตามประเดน็ ต่อไปน้ี พร้อมระบุเหตุผล ใบงานหมายเลข 9 - 16
เป็ น โค ล ง สุ ภ า ษิ ต ท่ี จ า แ น ก เน้ื อ ค ว า ม
เป็น ๑๖ หมวด หมวดละ ๓ ข้อ รวมเป็น - สิง่ ที่นักเรียนควรกระทา 3 ประการ ภาระงาน/ชนิ้ งาน
๔๘ ข้อ อธิบายสุภาษิตท่ีเกี่ยวกับนามธรรม - สิง่ ท่ีนักเรียนควรละเวน้ 3 ประการ การทาใบงานหมายเลข 9 - 16

-254- ซึ่ ง เป็ น เร่ื อ ง ใก ล้ ตั ว ท่ี เกี่ ย ว ข้ อ กั บ ค น ทุ ก ค น ขน้ั สอน การวัดและประเมินผล
ทุกฐานะ ทุกอาชีพ ได้นาไปเป็นเคร่ืองโน้มนา 1. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ตามความสมัครใจ จานวน ๘ กลมุ่ แต่ละกลุ่มเลอื ก การประเมินการทางานกลุ่ม
ให้ประพฤติชอบ อย่างผู้มีสติและเพ่ิมความ หมายเลขใบงาน 9 - 16 จากน้ันช่วยกนั ทาใบงานตามหมายเลขทเี่ ลอื ก
เ จ ริ ญ ก้ า ว ห น้ า แ ก่ ต น เ อ ง
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ หมายเลข 9 สามสงิ่ ควรนับถือ
ด้านความรู้ หมายเลข 10 สามสง่ิ ควรจะชอบ
๑. บอกความหมายของคาศพั ท์โคลงสุภาษติ หมายเลข 11 สามสง่ิ ควรสงสัย
โสฬสไตรยางค์ หมายเลข 12 สามสงิ่ ควรละ
2. จาแนกคาภาษาบาลี และภาษาสันสกฤต หมายเลข 13 สามสงิ่ ควรจะกระทาให้มี
จากโคลงสภุ าษติ โสฬสไตรยางค์ หมายเลข 14 สามสง่ิ ควรจะหวงแหนฤๅต่อสู้เพื่อรักษา
ดา้ นทักษะและกระบวนการ หมายเลข 15 สามสง่ิ ควรครองไว้
วเิ คราะห์เน้ือหาของโคลงสภุ าษิต หมายเลข 16 สามสง่ิ ควรเตรยี มเผอ่ื
โสฬสไตรยางค์กบั การนาไปปรบั ใชใ้ น 4. ผูแ้ ทนกลุ่มออกมานาเสนอ เพือ่ น ๆ ช่วยกนั ตรวจสอบ โดยครใู ห้
การดาเนินชีวิต คาแนะนาเพ่ิมเติม

-254-

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ โนม้ นา้ วใจใหเ้ ช่อื ถือ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ เวลา ๑ ชั่วโมง
กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒
ดา้ นคุณลกั ษณะ เรื่อง ชวนคดิ จากบทประพันธ์ (2)
๑. ใฝเ่ รยี นรู้ รายวิชา ภาษาไทย
๒. ม่งุ มัน่ ในการทางาน ข้ันสรุป
นกั เรียนร่วมกันอภิปรายในประเด็น “การนาความรู้จาก
สมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรยี น โคลงสภุ าษิตโสฬสไตรยางค์ไปปรบั ใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ ”
การสอื่ สาร

-255-

-255-

ใบงาน หมายเลข 9
“สามส่ิงควรนบั ถือ”

คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนอา่ นบททประพันธท์ ี่กาหนด จากน้ันหาความหมายของคาศัพท์ที่นักเรียนสนใจ
และถอดคาประพันธด์ งั กลา่ ว

สามสง่ิ ควรนบั ถอื
ปญั ญา ฉลาด มั่นคง
ปัญญาตรองตริล้า ลึกหลาย
ฉลาดยิง่ สิ่งแยบคาย คาดรู้
มัน่ คงไมค่ นื คลาย คลอนกลับ กลายแฮ
สามสิง่ ควรกอบกู้ กับผูน้ บั ถือ
คาศพั ทน์ ่ารู้
............................................................................................................................. ..........
............................................................................................................................. ..........
.................................................................................................................. .....................
............................................................................................................................. .....
....................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพันธ์
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....

-2-5265-6-

ใบงาน หมายเลข 10
“สามสงิ่ ควรจะชอบ”

คาชแี้ จง ให้นักเรยี นอ่านบททประพันธท์ ี่กาหนด จากนั้นหาความหมายของคาศัพท์ท่ีนักเรียนสนใจ
และถอดคาประพันธด์ งั กล่าว

สามสิง่ ควรจะชอบ
ใจอารสี จุ รติ ใจดี ความสนุกเบกิ บานพร้อมเพรียง
สจุ ริตจติ โอบออ้ ม อารี
ใจโปรง่ ปราศราคี ขนุ่ ข้อง
สง่ิ เกษมสขุ เปรมปรี- ดาพรัง่ พร้อมแฮ
สามส่งิ สมควรต้อง ชอบต้องยนิ ดี
คาศัพทน์ า่ รู้
............................................................................................ ............................................
............................................................................................................................. ...........
........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพันธ์
........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........
........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..

-2-5275-7-

ใบงาน หมายเลข 11
“สามสิ่งควรสงสยั ”

คาชี้แจง ให้นักเรียนอา่ นบททประพันธ์ทีก่ าหนด จากนนั้ หาความหมายของคาศัพท์ทีน่ กั เรยี นสนใจ
และถอดคาประพันธ์ดงั กลา่ ว

สามสิ่งควรสงสัย
ยอ หน้าเน้อื ใจเสอื พลันรกั พลนั จดื
ค้ายอยกยอ่ งเพีย้ น ทกุ ประการ
พักตร์จติ ผดิ กันประมาณ ยากรู้
เร็วรัดผลดั พลันขาน คา้ กลบั พลนั ฤา
สามสว่ นควรแล้วผู้ พะพอ้ งพงึ แคลง
คาศัพทน์ า่ รู้
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพนั ธ์
................................................................................................................................... ....
............................................................................................................................. ..........
............................................................................................................................. ..........
................................................................................................................. .................

--225588--

ใบงาน หมายเลข 12
“สามสิง่ ควรละ”

คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นอา่ นบททประพันธท์ กี่ าหนด จากนน้ั หาความหมายของคาศัพท์ทนี่ ักเรียนสนใจ
และถอดคาประพันธด์ งั กลา่ ว

สามสง่ิ ควรละ
เกียจครา้ น วาจาฟั่นเฝือ หยอกหยาบแลแสลงฤาขัดคอ
เกยี จคร้านการท่านทั้ง การตน กด็ ี
พดู มากเปล่าเปลอื งปน ปดเหล้น
คา้ แสลงเสียดแทงระคน คา้ หยาบ หยอกฤา
สามสิ่งควรท้ิงเวน้ ขาดส้ินสันดาน
คาศัพทน์ ่ารู้
................................................................................................................................... ....
............................................................................................................................. ..........
............................................................................................................................. ..........
................................................................................................................. .................
............................................................................................................................. .........
...................................................................................................... ...............................
ถอดคาประพนั ธ์
............................................................................................................................. ..........
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........
..................................................................................................................................

--225599--

ใบงาน หมายเลข 13
“สามส่ิงควรจะกระทาใหม้ ี”

คาช้แี จง ให้นักเรียนอา่ นบททประพนั ธ์ทีก่ าหนด จากน้ันหาความหมายของคาศัพท์ท่นี กั เรยี นสนใจ
และถอดคาประพนั ธด์ ังกล่าว

สามส่ิงควรจะกระทาให้มี
หนังสือดี เพ่ือนดี ใจเย็นดี
หนังสือสอนส่งั ข้อ วิทยา
เวน้ บาปเสาะกัลยาณ์ มติ รไว้
หนง่ึ ขาดปราศโทสา คตหิ อ่ ใจเฮย
สามสิง่ ควรมีให้ มากยง้ั ยืนเจริญ
คาศพั ทน์ า่ รู้
............................................................................................................................. ...........
................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. ...........
................................................................................. ..............................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................
ถอดคาประพันธ์
............................................................................................................................. ...........
........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........
...............................................................................................................................

-2-6206-0-

ใบงาน หมายเลข 14
“สามสิ่งควรจะหวงแหนฤๅต่อสู้เพือ่ รกั ษา”

คาชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่านบททประพนั ธ์ทีก่ าหนด จากนั้นหาความหมายของคาศัพท์ทน่ี ักเรยี นสนใจ
และถอดคาประพนั ธด์ งั กล่าว

สามสิง่ ควรจะหวงแหนฤๅต่อสเู้ พอื่ รกั ษา
ชื่อเสียงยศศักดิ์ บา้ นเมืองของตน มิตรสหาย
ความดมี ชี ่อื ทัง้ ยศถา ศักด์เิ ฮย
ประเทศเกดิ กูลพงศา อยู่ยั้ง
คนรักรว่ มอธั ยา- ศัยสขุ ทุกข์แฮ
สามสิ่งควรสงวนตง้ั ต่อสูผ้ เู้ บียน
คาศัพท์น่ารู้
............................................................................................................................. ...........
........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........
...............................................................................................................................
............................................................................................................................. .........
.....................................................................................................................................
ถอดคาประพนั ธ์
................................................................................................................... .....................
............................................................................................................................. ...........
................................................................................................... .....................................
............................................................................................................................. ..

-26-12- 61-

ใบงาน หมายเลข 15
“สามสิ่งควรครองไว”้

คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนอ่านบททประพนั ธท์ ก่ี าหนด จากน้นั หาความหมายของคาศัพท์ทนี่ ักเรยี นสนใจ
และถอดคาประพันธด์ ังกล่าว

สามสิง่ ควรครองไว้
กริ ิยาท่ีเปน็ ในใจ มกั ง่าย วาจา
อาการอันเกิดดว้ ย น้าใจ แปรฤา
ใจซึ่งรีบเร็วไว ก่อนรู้
วาจาจักพูดใน กจิ สบ สรรพแฮ
สามส่งิ จา้ ทวั่ ผู้ พทิ กั ษ์หมน้ั ครองระวัง
คาศัพทน์ า่ รู้
............................................................................................................................. ..........
............................................................................................................................. ..........
..................................................................................................................... ..................
............................................................................................................................. .....
.......................................................................................................... ............................
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพันธ์
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........
.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....

-2-6226-2-

ใบงาน หมายเลข 16
“สามสิง่ ควรจะเตรยี มเผอ่ื ”

คาชี้แจง ให้นักเรยี นอ่านบททประพันธ์ทีก่ าหนด จากนัน้ หาความหมายของคาศัพท์ทีน่ ักเรียนสนใจ
และถอดคาประพันธด์ ังกล่าว

สามส่ิงควรจะเตรยี มเผื่อ
อนจิ จงั ชรา มรณะ
สงิ่ ใดใดในโลกล้วน เปลี่ยนแปลง
หนึง่ ชราหย่อนแรง เร่งรน้
ความตายติดตามแสวง ท้าชีพ ประลัยเฮย
สามส่วนควรคดิ ค้น คติรเู้ ตรยี มคอย
คาศัพทน์ า่ รู้
....................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. ...........
....................................................................................... .................................................
............................................................................................................................. ..
......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ........
ถอดคาประพนั ธ์
........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........
........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..

-26-32-63-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 9
“สามสง่ิ ควรนับถอื ”

สามสง่ิ ควรนบั ถือ
ปญั ญา ฉลาด ม่นั คง
ปญั ญาตรองตริลา้ ลกึ หลาย
ฉลาดยิ่งสง่ิ แยบคาย คาดรู้
มน่ั คงไมค่ ืนคลาย คลอนกลับ กลายแฮ
สามสง่ิ ควรกอบกู้ กบั ผู้นับถือ
คาศัพทน์ า่ รู้
ปัญญา แปลว่า ความรอบร,ู้ ความรู้ทั่ว, ความฉลาดเกดิ แต่เรียนและคดิ
ถอดคาประพันธ์ สามส่ิงที่ควรนับถือ คือ ปัญญาที่จะไตร่ตรองด้วยความความรอบรู้ ความฉลาดท่ี
จะนา้ ความรูไ้ ปใช้ และจิตใจมน่ั คงเช่ือถอื ได้

เหตุผลท่ีนักเรยี นคดิ ว่าบทประพนั ธ์บทน้ีเป็นบททใ่ี ชภ้ าษาเขยี นพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

-2-6246-4-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 10
“สามสิ่งควรจะชอบ”

สามสงิ่ ควรจะชอบ
ใจอารีสจุ รติ ใจดี ความสนุกเบิกบานพร้อมเพรียง
สุจรติ จิตโอบอ้อม อารี
ใจโปร่งปราศราคี ข่นุ ข้อง
ส่งิ เกษมสุขเปรมปรี- ดาพรั่ง พร้อมแฮ
สามสง่ิ สมควรต้อง ชอบตอ้ งยนิ ดี
คาศพั ทน์ า่ รู้
๑. สุจริต แปลว่า ความประพฤติชอบ
๒. จติ แปลว่า ใจ, ส่ิงท่ีมหี น้าท่รี ู้ คิดและนึก
๓. ราคี แปลวา่ ความมัวหมอง, มลทิน, ผมู้ ีความกา้ หนดั
๔. เกษม แปลวา่ ความสขุ สบาย ความปลอดภยั
๕. สุข แปลว่า ความสบายกายสบายใจ
๖. เปรม แปลว่า สบาย ร่นื เรงิ อิม่ ใจ
๗. ปรีดา แปลว่า อิม่ ใจ, ปลืม้ ใจ, ยนิ ดี
ถอดคาประพันธ์ สามสิ่งที่ควรชอบ คือ จิตใจท่ีสุจริต โอบอ้อมอารี ใจดี มีความสนุกสนาน
และเบิกบาน

เหตุผลทนี่ กั เรยี นคิดว่าบทประพนั ธบ์ ทนีเ้ ปน็ บทท่ใี ช้ภาษาเขียนพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

-2-6256- 5-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 11
“สามส่ิงควรนับถือ”

สามสิ่งควรสงสัย
ยอ หนา้ เน้อื ใจเสือ พลันรักพลนั จดื
คา้ ยอยกย่องเพี้ยน ทุกประการ
พกั ตร์ จิต ผิดกนั ประมาณ ยากรู้
เรว็ รดั ผลัดพลันขาน ค้ากลบั พลนั ฤา
สามสว่ นควรแล้วผู้ พะพอ้ งพงึ แคลง
คาศัพท์นา่ รู้
๑. สงสยั แปลวา่ ไม่แน่ใจในข้อเทจ็ จริง, ทราบไมไ่ ดแ้ น่ชัด, เคลือบแคลง
๒. ประการ แปลวา่ อยา่ ง, ท้านอง, แบบ
๓. พักตร์ แปลวา่ หน้า
๔. จติ แปลว่า ใจ, ส่ิงที่มหี นา้ ท่รี ู้ คิดและนึก
๕. ประมาณ แปลว่า กะหรอื คะเนให้ใกลเ้ คยี งจ้านวนจริงหรือให้พอเหมาะ
พอควร, ราว ๆ
ถอดคาประพันธ์ สามส่ิงนี้ควรตั้งข้อสงสัยเอาไว้ คือ ค้ายกยอ การรู้หน้าไม่รู้ใจ และการพูด
กลบั คา้ อยา่ งรวดเร็ว

เหตุผลท่ีนกั เรียนคดิ วา่ บทประพันธ์บทน้เี ปน็ บทที่ใช้ภาษาเขียนพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

--226666- -

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 12
“สามส่งิ ควรละ”

สามสิ่งควรละ
เกยี จคร้าน วาจาฟ่นั เฝือ หยอกหยาบแลแสลงฤาขดั คอ
เกียจคร้านการทา่ นทั้ง การตน กด็ ี
พดู มากเปล่าเปลอื งปน ปดเหล้น
คา้ แสลงเสียดแทงระคน คา้ หยาบ หยอกฤา
สามสง่ิ ควรท้ิงเวน้ ขาดส้นิ สนั ดาน
คาศพั ทน์ า่ รู้
๑. วาจา แปลวา่ ถ้อยคา, คากลา่ ว, คาพดู
๒. สนั ดาน แปลว่า อปุ นสิ ัยทีม่ ีมาแต่กาเนิด มักใชใ้ นทางไมส่ ู้จะดี
ถอดคาประพันธ์ สามส่ิงควรละ คือ ความขี้เกียจ ท้ังข้ีเกียจในเรื่องของการทางานท้ังของตนเอง
และของคนอ่ืน คาพูดที่เช่ือถือไม่ได้ ทาได้ก็แค่พูดโกหก ไร้สาระ ไม่มีประโยชน์ และคาพูด
ทหี่ ยาบคาย เสียดแทงคนรอบขา้ ง

เหตุผลทีน่ ักเรยี นคดิ วา่ บทประพันธ์บทนเี้ ปน็ บททใี่ ชภ้ าษาเขยี นพรรณนา
คอื …………………………………………………………………………………………………..

-2-6276-7-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 13
“สามสิ่งควรจะกระทาใหม้ ี”

สามสงิ่ ควรจะกระทาใหม้ ี
หนงั สอื ดี เพ่ือนดี ใจเย็นดี
หนังสือสอนสัง่ ข้อ วทิ ยา
เวน้ บาปเสาะกลั ยาณ์ มติ รไว้
หนึ่งขาดปราศโทสา คติหอ่ ใจเฮย
สามสิ่งควรมใี ห้ มากย้งั ยนื เจริญ
คาศัพทน์ ่ารู้
๑. วทิ ยา แปลวา่ ความรู้ มักใช้ประกอบค้าอ่นื
๒. บาป แปลว่า การกระทา้ ผิดหลกั คา้ สอนหรือข้อห้ามในศาสนา, ความชั่ว
๓. กลั ยาณ์ แปลว่า งาม, ดี, ใชเ้ ปน็ สว่ นหน้าของค้าสมาส
๔. มติ ร แปลว่า เพ่ือนรกั ใคร่คนุ้ เคย
๕. โทสา แปลวา่ ความโกรธ, ความฉนุ เฉียว
๖. คติ แปลว่า การไป, ความเป็นไป

ถอดคาประพันธ์ สามสงิ่ ทีค่ วรจะมี คอื หนงั สอื ที่ให้ความรู้ มิตรท่ีดี และจติ ใจทีด่ ี ไม่มีความโกรธ

เหตผุ ลทีน่ กั เรียนคดิ ว่าบทประพันธบ์ ทนเี้ ป็นบทท่ีใช้ภาษาเขียนพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

-2-6286- 8-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 14
“สามส่ิงควรจะหวงแหนฤๅต่อสู้เพื่อรกั ษา”

สามสง่ิ ควรจะหวงแหนฤๅตอ่ สเู้ พ่ือรกั ษา
ชอ่ื เสยี งยศศักดิ์ บ้านเมอื งของตน มิตรสหาย
ความดมี ีชอื่ ทัง้ ยศถา ศักดเ์ิ ฮย
ประเทศเกดิ กลู พงศา อยยู่ ้ัง
คนรักรว่ มอัธยา- ศัยสุข ทกุ ข์แฮ
สามสิ่งควรสงวนต้ัง ต่อส้ผู ู้เบียน
คาศัพท์นา่ รู้
๑. รักษา แปลว่า ระวัง, ดแู ล
๒. ยศ แปลวา่ ความยกย่องนบั ถือเกียรติของตน, เกยี รตคิ ณุ , ฐานันดร
ทีพ่ ระมหากษัตรยิ ท์ รงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานแกบ่ ุคคลใดบคุ คลหน่งึ มีสงู ต้่าตามลา้ ดับ
กันไป, เคร่ืองหมายพเิ ศษท่ีพระมหากษัตรยิ ์
ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ใหส้ รา้ งข้นึ เพ่ือพระราชทาน
แกผ่ มู้ ีฐานันดรมีสูงตา้่ ตามลา้ ดับกันไป, เครื่องก้าหนด
ฐานะหรอื ชั้นของบคุ คล
๓. ศกั ด์ิ แปลวา่ อา้ นาจ, ความสามารถ, ก้าลัง, ฐานะ, หอก, หลาว
๔. มิตร แปลวา่ เพอ่ื นรักใคร่คุ้นเคย
๕. สหาย แปลว่า เพื่อนรว่ มทุกข์รว่ มสุข
๖. ประเทศ แปลวา่ บ้านเมือง, แว่นแควน้ , ถ่ินที่อยู่
๗. พงศา แปลวา่ เชื้อสาย, เทอื กเถา, เหล่ากอ, สกุล
๘. อัธยาศยั แปลวา่ นสิ ยั ใจคอ
๙. สุข แปลวา่ ความสบายกายสบายใจ
๑๐. ทุกข์ แปลว่า ความยากลา้ บาก, ความไมส่ บายกายไมส่ บายใจ,
ความทนไดย้ าก, ความทนอยใู่ นสภาพเดิมไมไ่ ด้
ถอดคาประพันธ์ สามสิ่งที่ควรจะหวงแหนหรือต่อสู้เพ่ือรักษา คือ ความดี ประเทศชาติ
และเพ่อื นที่ร่วมทุกข์รว่ มสุขกนั มา

-2-6296-9-

เหตผุ ลท่นี กั เรียนคิดว่าบทประพันธบ์ ทนเี้ ป็นบททีใ่ ช้ภาษาเขยี นพรรณนา

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 15
“สามส่ิงควรครองไว”้

สามส่ิงควรครองไว้
กิรยิ าที่เป็นในใจ มกั งา่ ย วาจา
อาการอนั เกิดด้วย นา้ ใจ แปรฤา
ใจซ่งึ รีบเร็วไว กอ่ นรู้
วาจาจักพดู ใน กิจสบ สรรพแฮ
สามสิ่งจา้ ทั่วผู้ พทิ ักษห์ มัน้ ครองระวงั
คาศพั ท์นา่ รู้
๑. กริ ยิ า แปลว่า การกระท้า, อาการที่แสดงออกมาทางกาย, มารยาท
๒. วาจา แปลวา่ ถอ้ ยค้า, คา้ กลา่ ว, ค้าพดู
๓. อาการ แปลว่า สภาพท่ีเปน็ อยหู่ รือที่เปน็ ไป, กิริยาท่าทาง, ความรสู้ กึ
สงิ่ ทป่ี รากฏ, ภาวะผิดปรกติในรา่ งกายที่บ่งบอกความมโี รค
๔. กจิ แปลวา่ ธุระ, งาน
๕. สรรพ แปลว่า ทุกสง่ิ , ทงั้ ปวง, ท้งั หมด
๖. พิทักษ์ แปลวา่ สันทัด
ถอดคาประพันธ์ สามสง่ิ ควรต้องระวัง ไดแ้ ก่ กริ ยิ าท่ีแสดงการเปล่ยี นแปลง ความมกั งา่ ย
และค้าพูด

เหตุผลที่นักเรยี นคิดว่าบทประพันธบ์ ทน้เี ป็นบทที่ใช้ภาษาเขียนพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

-2-2707-0-

(เฉลย) ใบงาน หมายเลข 16
“สามส่ิงควรนบั ถือ”

สามส่งิ ควรจะเตรียมเผ่ือ
อนจิ จงั ชรา มรณะ
สง่ิ ใดใดในโลกลว้ น เปลี่ยนแปลง
หนง่ึ ชราหย่อนแรง เรง่ รน้
ความตายติดตามแสวง ท้าชพี ประลัยเฮย
สามส่วนควรคดิ ค้น คติร้เู ตรยี มคอย
คาศพั ทน์ า่ รู้
๑. อนิจจงั แปลว่า ไมเ่ ท่ียง, ไมแ่ น่นอน, เปล่ียนแปลงอย่เู สมอ
๒. ชรา แปลว่า แก่ด้วยอายุ, ชา้ รดุ ทรุดโทรม
๓. มรณะ แปลว่า ความตาย, การตาย, ตาย
๔. ชีพ แปลวา่ ชีวติ , ความเปน็
๕. ประลยั แปลวา่ ความตาย, ความฉบิ หาย, ความปน่ ป้ี, ความยอ่ ยยับไป
๖. คติ แปลวา่ การไป, ความเป็นไป, แบบอย่าง, วิธี, แนวทาง
ถอดคาประพนั ธ์ สามสงิ่ ที่ควรเตรียมไว้ เพราะทกุ ส่ิงบนโลกล้วนมกี ารเปลีย่ นแปลง ได้แก่ ความ
ไม่เทีย่ งไม่แนน่ อน ความชรา และความตาย

เหตุผลทนี่ กั เรียนคดิ ว่าบทประพนั ธ์บทนเ้ี ป็นบทท่ใี ช้ภาษาเขยี นพรรณนา
คือ…………………………………………………………………………………………………..

-2-7217- 1-

แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม

คาชีแ้ จง ให้ครปู ระเมนิ การทางานกลุ่มของนักเรียนตามรายการประเมนิ (คะแนนเต็ม 12 คะแนน)

รายการประเมนิ ระดับคะแนน
๓๒๑
1. การกาหนดบทบาทหน้าที่ กาหนดบทบาทหน้าที่ กาหนดบทบาทหน้าที่ ไม่มกี ารกาหนดบทบาท
2. การมสี ่วนร่วม สมาชิกอยา่ งชัดเจน สมาชกิ ไม่ครบถ้วน หนา้ ที่
มีสว่ นร่วมในการปฏิบตั ิ มสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ิ มีส่วนรว่ มในการปฏบิ ตั ิ
3. การรบั ฟงั และแสดงความคดิ เหน็ งานกลุ่ม งานกลมุ่ บ้าง งานกลุ่มน้อยมาก
หรือไมม่ ีส่วนรว่ ม
4. ความรบั ผิดชอบ รับฟังและแสดงความคดิ เห็น รบั ฟังและแสดงความคดิ เหน็ รับฟังความคดิ เหน็ ของผูอ้ ่ืน
อย่างมีเหตผุ ลและสรา้ งสรรค์ อย่างมีเหตผุ ลและสร้างสรรค์ น้อยมากหรือไม่รับฟงั
อยา่ งสม่าเสมอ เปน็ บางคร้งั ความคดิ เหน็ ผอู้ ืน่
รบั ผดิ ชอบงานที่ไดร้ บั รับผดิ ชอบงานทีไ่ ด้รับ ไมร่ บั ผิดชอบงานที่ไดร้ ับ
มอบหมายและเสรจ็ ตามเวลา มอบหมาย แตเ่ สรจ็ ไม่ทัน มอบหมาย
ทก่ี าหนด ตามกาหนด

* การคิดคะแนน ร้อยละ = (คะแนนท่ีได/้ คะแนนเตม็ ) x 100

การแปลผลการประเมิน การแปลผล
ดีมาก
เกณฑ์ของระดบั คะแนน ดี
รอ้ ยละ 80 - ๑๐๐ พอใช้
ร้อยละ 70 - 79 ปรับปรุง
ร้อยละ 50 - 69
ร้อยละ ๐ - 49

-27-22-72-


Click to View FlipBook Version