The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

242 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ข้ันตอน การด�ำ เนนิ การสอน สอ่ื การเรียนร้ ู หลักการและเหตผุ ล

เกริน่ น�ำ ครูแนะนำ�บทเรยี น การสรุปเนือ้ หาของบทเรยี น
[10 นาที] 1. สรปุ ข้อมูลที่จ�ำ เป็นจากบทเรียนที่แลว้ ทแี่ ล้ว และการเกรนิ่ นำ�
2. อธบิ ายกับนกั เรียนว่าในชว่ งศตวรรษ ของครชู ่วยใหบ้ ริบทเนื้อหา
ที่ 16 - 18 เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตย้ งั คง แกน่ กั เรียน
เชือ่ มสัมพนั ธ์กับส่วนอ่นื ของโลก และการค้า
กบั สว่ นอ่นื ของโลกกย็ งั เตบิ โตตอ่ ไป
แต่มีพลวตั ที่ซบั ซอ้ นมากขน้ึ
3. ชาวยุโรปมีบทบาทเป็นพอ่ ค้าคนกลาง
และเป็นเพยี งพ่อค้ากล่มุ หนง่ึ ในบรรดา
หลายกลมุ่ ในภมู ภิ าคน้ี แตใ่ นศตวรรษท่ี 16,
17 และ 18 ชาวดตั ชแ์ ละชาวองั กฤษเริ่ม
พยายามท่ีจะมอี ำ�นาจควบคมุ การค้ามากข้นึ
4. เว้นช่วงและบอกใหน้ ักเรียนคิดว่าทำ�ไม
ชาวยุโรปจึงมีแรงจูงใจที่จะควบคุมการคา้
เคร่อื งเทศ ถามใหน้ ักเรียนตอบ
พัฒนา กจิ กรรมจิก๊ ซอว์ • สือ่ การเรียนรู้ 1 - 6 กจิ กรรมจิก๊ ซอว์ช่วยให้
บทเรียน 1. อธบิ ายว่านกั เรยี นจะศกึ ษาการท่ีชาว (ควรจะสำ�เนาส่ือ นักเรียนพฒั นาทักษะ
[25 นาที] โปรตุเกส ดัตช์ และองั กฤษพยายามควบคุม การเรียนออกมา การท�ำ งานร่วมกนั และ
การคา้ เคร่ืองเทศในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ และวางไว้หลายๆ จุด ทำ�ให้พวกเขาสามารถ
ในศตวรรษที่ 16 - 18 ในหอ้ งเรยี น) ปะตดิ ปะต่อข้อมลู จนเหน็
2. แบง่ นกั เรยี นออกเปน็ สองกลุ่ม กลุ่มแรก • แบบฝกึ หัด ภาพรวมของความสมั พนั ธ์
เปน็ กล่มุ ที่ใหท้ ำ�งานตามมอบหมาย (เชน่ ทซ่ี ับซ้อนของประวตั ิศาสตร์
ใชก้ ารนบั เลขแบ่งกลมุ่ ) และกลมุ่ ฐาน เอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
(แบง่ ตามตวั อักษร) โดยให้มีกลุ่มท�ำ งาน ช่วงน้ัน
สามกลุ่ม และกลมุ่ ฐานสามกลมุ่ เพราะมี
ส่อื การเรยี นรูส้ ามชดุ เก่ยี วกับชาวโปรตุเกส
ชาวดตั ช์ และชาวอังกฤษ
3. หนา้ ทีข่ องนักเรยี นแตล่ ะคนในกลุ่มทำ�งาน
คอื ใหศ้ กึ ษาสอ่ื การเรียนรู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย
เมอื่ ศึกษาสอ่ื แลว้ กใ็ หจ้ ดขอ้ ค้นพบไวใ้ น
ผังมโนทศั น์ และพูดคุยแลกเปลี่ยนกบั สมาชิก
ในกลมุ่ เพือ่ ไมใ่ ห้ขอ้ มูลส�ำ คัญๆ ตกหลน่
ไป เมอื่ ไปนำ�เสนอเนื้อหาตอ่ กลมุ่ ฐาน
4. หลังจากที่กลมุ่ ท�ำ งานไดม้ คี วามเขา้ ใจ
เรอื่ งราวทีจ่ ะตอ้ งนำ�เสนออยา่ งดแี ลว้ ให้

หน่วยที่ 3 ข้าวและเครื่องเทศ u แผนการเรียนร้ทู ่ี 4 การคา้ เครอ่ื งเทศ การควบคมุ ของยุโรป และปฏกิ ริ ยิ าของภมู ภิ าค

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 243

ข้ันตอน การด�ำ เนินการสอน สอ่ื การเรยี นรู ้ หลักการและเหตุผล
รายงานช่วยให้นักเรยี นได้
นักเรียนจบั กลุ่มตามกลมุ่ ฐาน โดยให้แตล่ ะคน สงั เคราะห์ความรทู้ ่ีได้จาก
ผลัดกนั น�ำ เสนอข้อมูลทีไ่ ด้เรยี นรู้มาจาก แผนการเรียนรทู้ ี่ 3 และ 4
การพดู คุยในกลุ่มทำ�งาน และทำ�ให้ครสู ามารถประเมิน
5. แต่ละกลุ่มแลกเปลย่ี นขอ้ คน้ พบกบั ไดว้ ่านกั เรียนเข้าใจ
เพอื่ นร่วมชน้ั และครูอาจเสริมเติมความรู้ ความเชือ่ มสัมพันธ์ระหวา่ ง
ให้กบั นกั เรยี นด้วยข้อมลู จากบทความ เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้
เกรน่ิ นำ�หากจำ�เปน็ และตะวนั ตก และผลกระทบ
สรุป 1. ในหนังสอื The Modern World-System • แบบฝกึ หัด ท่ตี ะวนั ตกมตี ่อภมู ภิ าค
บทเรียน I : Capitalist Agriculture and the • การบ้าน หรือไม่
[15 นาท]ี Origins of the European World-
Economy in the Sixteenth Century
(Orlando, 1974) และ The Modern
World System II : Mercantilism and
the Consolidation of the European
World-Economy, 1600 - 1750 (New
York, 1980), อมิ มานูเอล วอลเลอร์สไตน์
(Immanuel Wallerstein) เสนอว่า
เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตก้ ่อนปี พ.ศ. 2293
อยชู่ ายขอบของการคา้ ยุโรป และกลา่ วว่า
ภูมิภาคน้ีกอ่ นปี พ.ศ. 2143 จนถึง
ปี พ.ศ. 2293 ยงั คงติดต่อกับชาวยุโรปอยู่
2. อธิบายใหน้ ักเรยี นฟังวา่ เปน็ เรอื่ งปกติ
ทน่ี ักประวตั ิศาสตร์จะเห็นไมต่ รงกัน
ในประเด็นตา่ งๆ เน่อื งจากอาจมีข้อมลู
ต่างกัน ตคี วามเหตกุ ารณแ์ ละขอ้ มูล
ไม่เหมอื นกนั
3. ถามนกั เรยี นว่าตคี วามข้อมลู จาก
แผนการเรียนรทู้ ่ี 3 และ 4 อยา่ งไร พวกเขา
เหน็ ด้วยกบั คำ�กลา่ วของวอลเลอรส์ ไตน์
หรอื ไม่
4. ใหน้ ักเรียนอภิปรายเรื่องนี้ในกลมุ่
ใหก้ ารบ้านโดยใหเ้ ขียนรายงานวา่ เหน็ ด้วย
กบั คำ�กลา่ วของวอลเลอร์สไตนห์ รือไม่ กระตุ้น
ให้นักเรียนอ่านเพิ่มเติมเพอ่ื เสริมความเข้าใจ

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ี่ 4 การคา้ เครื่องเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏิกริ ยิ าของภูมิภาค

244 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

หน่วยที่ 3 ขา้ วและเครื่องเทศ
แผนการเรียนรู้ที่ 4 การคา้ เครื่องเทศ การควบคมุ ของยุโรป และปฏิกริ ยิ าของภมู ิภาค

ส่ือการเรยี นรูแ้ ละแบบฝกึ หัด
สอ่ื การเรียนชดุ นเ้ี ปน็ เรือ่ งเกีย่ วกบั การค้าของชาวโปรตเุ กสในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
ในศตวรรษที่ 16

ส่อื การเรยี นรู้ 1 - เมืองท่าและโรงงานของโปรตเุ กสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในช่วงหลายปีของต้นศตวรรษที่ 16 ชาวโปรตุเกสค้นพบแหล่งเคร่ืองเทศสำ�คัญคือ
หมเู่ กาะเครอื่ งเทศ* ทโ่ี ดง่ ดงั แหง่ อสี ตอ์ นิ ดสี และเมอ่ื เขา้ ควบคมุ หมเู่ กาะเครอ่ื งเทศไดก้ ส็ ถาปนา
อำ�นาจตนเองในอีสต์อินดีสได้ในไม่ช้า** พวกเขาปักหลักอย่างมั่นคงที่มะละกาและควบคุม
ชอ่ งแคบ และสรา้ งปอ้ มปราการทอ่ี มั บอยนา ฮลั มาเฮรา เซเลเบส เตอเนท และทลิ ดอร์ ทพ่ี วกเขา
มีโรงงานค้าเครือ่ งเทศ

* หมเู่ กาะเครอื่ งเทศ หมายถงึ หมเู่ กาะมาลกู หู รอื โมลกุ กะ ซงึ่ ปจั จบุ นั เปน็ สว่ นหนง่ึ ของอนิ โดนเี ซยี ทไี่ ดช้ อ่ื วา่ หมเู่ กาะเครอื่ งเทศ
เนอื่ งจากเป็นถน่ิ กำ�เนิดของลกู จันทน์ ดอกจนั ทน์ และกานพลู
**อสี ต์อินดสี เปน็ ค�ำ ที่ใช้เรยี กหมูเ่ กาะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะหมเู่ กาะมาเลย์

สอื่ การเรยี นรู้ 2 - ระดับอำ�นาจควบคุมของโปรตุเกส
ชาวโปรตุเกสกำ�ลังอ่ิมหมีพีมันจากการค้าเครื่องเทศท่ีเจริญรุ่งเรืองในอีสต์อินดีส
พวกเขามสี ว่ นแบง่ ในการคา้ ของเมอื งบนั เตนในชวาทสี่ ง่ พรกิ ไทยปรมิ าณสามลา้ นหา้ แสนปอนด์
ไปยังจีนและอินเดียทุกปี และประสบความสำ�เร็จในการทำ�สนธิสัญญากับสุลต่านแห่งบรูไน
ที่ไม่เพียงแต่เปิดการค้าพริกไทยของบอร์เนียวเท่าน้ัน แต่ยังทำ�ให้พวกเขาสามารถใช้เส้นทาง
ท่ีดีกว่าจากมะละกาไปยังหมู่เกาะโมลุกกะและค้าขายกับหมู่เกาะเซเลเบสได้ มะละกา
ได้กลายเปน็ ศนู ย์กลางการค้าเครอื่ งเทศ ท่ีส�ำ คญั ทีเ่ รือทกุ ลำ�ไมว่ ่าเล็กหรือใหญ่ที่แลน่ ในน่านนํ้า
อินเดียตะวันออกจะต้องมุ่งหน้ามา และต้องจ่ายค่าศุลกากรให้กับโปรตุเกส จากเมืองท่านี้
โปรตุเกสผูกขาดการค้ากานพลูของหมู่เกาะโมลุกกะ และลูกจันทน์และดอกจันทน์ของ
หมเู่ กาะบันดา

หนว่ ยที่ 3 ขา้ วและเครอ่ื งเทศ u แผนการเรียนรู้ท่ี 4 การค้าเครอื่ งเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏิกริ ยิ าของภูมภิ าค

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 245

สือ่ การเรียนรู้ 3 - เส้นทางการคา้ ของชาวโปรตุเกสในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (ศตวรรษที่ 16)

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเคร่ืองเทศ u แผนการเรียนรู้ที่ 4 การคา้ เคร่ืองเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏิกริ ิยาของภมู ิภาค

246 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

สอ่ื การเรยี นร้ชู ดุ น้เี กี่ยวกับการมอี �ำ นาจควบคุมการค้าเครอ่ื งเทศของชาวดตั ช์
ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตใ้ นศตวรรษท่ี 16 - 17

สอ่ื การเรียนรู้ 4 - จดุ เรม่ิ ต้นของการมอี ำ�นาจควบคมุ ของชาวดตั ช์
ในปี พ.ศ. 2138 ชาวดตั ชใ์ ชเ้ รอื และเงนิ เพอ่ื สง่ คณะเดนิ ทางมาส�ำ รวจอสี ตอ์ นิ ดสี ภายใต้
การนำ�ของคอรเ์ นลอิ ุส แวน โฮทแมน (Cornelius Van Houtman)
สองปีถัดมา เขานำ�พริกไทยและลูกจันทน์กลับบ้านเต็มเรือสามลำ� ความสำ�เร็จของ
แวน โฮทแมน ปลุกเร้าจินตนาการของผู้คนในประเทศบ้านเกิด และกระตุ้นให้พ่อค้าของ
อัมสเตอร์ดัมขยบั ตวั ในทันที พรกิ ไทยและอบเชยของสุมาตรา ชวา และบอรเ์ นียว กานพลูของ
เตอเนท ทลิ ดอร์อมั บอยนา และเกาะอื่นๆ ของหมเู่ กาะโมลุกกะ ลกู จนั ทน์และดอกจนั ทนข์ อง
หมูเ่ กาะบันดา ตอนนอี้ ย่แู ค่เอ้อื ม
ในปี พ.ศ. 2141 มคี ณะเดนิ ทางไมต่ าํ่ กวา่ หา้ คณะทอี่ อกจากฮอลแลนดไ์ ปยงั อสี ตอ์ นิ ดสี
มีเรือยี่สิบสองลำ� โดยสิบสามลำ�ไปตามเส้นทางเคป และอีกเก้าลำ�พยายามไปตามเส้นทาง
ผ่านช่องแคบแม็กเจลแลน คณะเดินทางเหล่าน้ีสร้างความประทับใจท่ีดีให้กับบรรดาสุลต่าน
ท้องถิ่น เปิดจุดการค้าในที่ต่างๆ และวางรากฐานโดยท่ัวไปสำ�หรับการเข้ามามีอำ�นาจควบคุม
อีสตอ์ ินดสี ของชาวดัตชใ์ นอนาคต
คอร์เนลิอุส แวน โฮทแมน เป็นนักสำ�รวจชาวดัตช์ท่ีค้นพบเส้นทางใหม่จากยุโรป
ไปยงั อนิ โดนเี ซยี และดงั นนั้ จงึ เปน็ ผเู้ รมิ่ การคา้ เครอ่ื งเทศของชาวดตั ชใ์ นเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้

สอ่ื การเรยี นรู้ 5 - การมอี ำ�นาจควบคมุ ของชาวดัตช์ในศตวรรษท่ี 17
บริษัทบริติชอีสต์อินเดียได้รับการก่อต้ังในปี พ.ศ. 2143 เพ่ือหาผลประโยชน์
ในการค้าเคร่ืองเทศ ในการรับมือกับการแข่งขันที่เป็นภัยคุกคามน้ี เหล่าพ่อค้าชาวดัตช์
ของอัมสเตอร์ดัมรวมตัวกันจัดต้ังบริษัทดัตช์อีสต์อินเดียที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันขึ้นมา หลังจาก
การแข่งขันกับโปรตุเกส อังกฤษ และคนพ้ืนเมือง ในที่สุดพ่อค้าชาวดัตช์ก็มีอำ�นาจควบคุม
ภูมิภาคน้ีท่ีเป็นแหล่งพริกไทย อบเชย กานพลู ขิง ดอกจันทน์ และลูกจันทน์ ที่ทุกฝ่าย
ต่างพากันพยายามผูกขาด ในปี พ.ศ. 2164 พวกเขาก็อยู่ในจุดท่ีสามารถเปล่ียนชื่อจาคาร์ตา
(Jacarta) บนเกาะชวากลายเป็นปัตตาเวีย (Batavia) หลังจากนั้นไม่นาน มีการออกคำ�ส่ัง
จากสำ�นักงานใหญ่ของชาวดัตช์ในปัตตาเวียที่ส่งผลต่อการปลูกกานพลูและต้นจันทน์
ในอสี ต์อนิ ดสี

หนว่ ยท่ี 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ่ี 4 การค้าเครือ่ งเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏกิ ริ ยิ าของภูมภิ าค

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 247

สอื่ การเรยี นรู้ 6 - ชาวดตั ชพ์ ยายามจ�ำ กัดปรมิ าณเครื่องเทศทป่ี อ้ นให้กับตลาด
ในทุกเกาะ ยกเว้นอัมบอยนาและเตอเนทในหมู่เกาะโมลุกกะและบันดา มีคำ�สั่ง
ให้ถอนทำ�ลายต้นกานพลูและต้นจันทน์ การจงใจทำ�ลายต้นไม้ท่ีต้องใช้เวลาหลายปีจึงจะ
ออกดอกผลเปน็ เครอ่ื งเทศเช่นน้ี เพอื่ ลดปรมิ าณผลิตผลของกานพลู ลูกจันทน์ และดอกจนั ทน์
ลงเหลือหนึ่งในส่ีของปริมาณก่อนการมาถึงบริเวณอีสต์อินดีสของชาวดัตช์ น่ีเป็นวิธีการของ
ชาวดัตช์ในการทำ�ให้เกิดการขาดแคลนของเครื่องเทศท่ีมีกลิ่นหอมและเป็นท่ีต้องการอย่างสูง
เพอ่ื โกง่ ราคาขนึ้ ในตลาดยโุ รป เพอ่ื ประโยชนข์ องผบู้ รหิ ารและผถู้ อื หนุ้ ของบรษิ ทั ดตั ชอ์ สี ตอ์ นิ เดยี
สอื่ การเรยี นรชู้ ดุ นเี้ กย่ี วกบั ความพยายามขององั กฤษในการท�ำ ลายอ�ำ นาจควบคมุ การคา้ เครอื่ งเทศ
ของชาวดตั ช์ในศตวรรษท่ี 17 - 18
ส่อื การเรียนรู้ 7 - ความพยายามขององั กฤษในการท�ำ ลายการครอบง�ำ ของดตั ช์
เรอ่ื งราวของการเสอื่ มถอยและลม่ สลายของอ�ำ นาจโปรตเุ กสในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้
และความขัดแย้งระหว่างดัตช์และอังกฤษในการควบคุมการค้าเคร่ืองเทศ ความสำ�เร็จใน
การเดนิ ทางของแวน โฮทแมน ในปี พ.ศ. 2140 ปลกุ เรา้ จนิ ตนาการของผคู้ นในประเทศบา้ นเกดิ
และกระตุ้นให้พ่อค้าของอัมสเตอร์ดัมขยับตัวในทันที แต่ก็ยังไม่มีบริษัทท่ีจัดต้ังขึ้นเพ่ือ
รวมกลุ่มพ่อค้าดัตช์เข้าไว้ด้วยกัน มีการรีบเร่งเตรียมเรือให้พร้อมสำ�หรับการเดินทางยาวนาน
และในปี พ.ศ. 2141 มกี ารเดินทางไมต่ า่ํ กวา่ ห้าครัง้ จากฮอลแลนด์ไปยงั อสี ต์อินดสี
ดว้ ยการเปน็ สว่ นหนง่ึ ของความพยายามชว่ งชงิ และไมพ่ อใจกบั การทช่ี าวดตั ชต์ งั้ ราคา
เครื่องเทศไว้สูง อังกฤษจึงจัดตั้งบริษัทอีสต์อินเดียอันโด่งดังข้ึนมาเพื่อดำ�เนินบทบาทในการค้า
เครื่องเทศในเดือนกนั ยายน พ.ศ. 2146 คณะเดินทางชดุ หนึ่งของบริษัทน�ำ พริกไทยกลบั ไปยงั
อังกฤษในปริมาณมากพอท่ีจะทำ�ลายการกุมตลาดของชาวดัตช์ กานพลูหน่ึงลำ�เรือถูกซื้อจาก
หมเู่ กาะเครื่องเทศมาในราคา 2,948 ปอนด์ ในปี พ.ศ. 2149 และถูกขายในอังกฤษสองปตี อ่ มา
ด้วยราคา 36,287 ปอนด์

หนว่ ยท่ี 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรูท้ ี่ 4 การค้าเครอ่ื งเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏกิ ิรยิ าของภมู ภิ าค

248 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ส่ือการเรยี นรู้ 8 - การผูกขาดของชาวดัตชถ์ กู ท�ำ ลายลงไปอย่างไร
ราวกลางศตวรรษท่ี 18 โชคลาภเริ่มเปลี่ยนแปลงไปสำ�หรับบริษัทดัตช์อีสต์อินเดีย
ซึ่งมีสาเหตุหลายประการด้วยกัน หลักๆ ก็คือ การดำ�เนินการของฝรั่งเศสและอังกฤษ
ในการท�ำ ลายการผกู ขาดของชาวดตั ชด์ ว้ ยการน�ำ ตน้ เครอื่ งเทศเขา้ ไปปลกู ในอาณานคิ มโพน้ ทะเล
ของตน การสูญเสียอำ�นาจครอบครองอินเดียหลายส่วนของชาวดัตช์ การส่งออกเคร่ืองเทศ
จากอินเดียโดยบริษัทอีสต์อินเดียของอังกฤษ การปิดก้ันท่าเรือบริเวณอินเดียตะวันออกของ
ดัตช์โดยอังกฤษ และปัญหาโจรสลดั และการลกั ลอบในนา่ นนํา้ ของอสี ตอ์ ินดีส

สอ่ื การเรียนรู้ 9 - การพงุ่ ผงาดขององั กฤษ
ในปี พ.ศ. 2331 อังกฤษยึดครองเกาะปีนังของมลายู และราวแปดปีต่อมา
ก็ประสบความสำ�เร็จในการปลูกต้นกานพลูที่นำ�มาจากหมู่เกาะโมลุกกะ พอถึงปี พ.ศ. 2342
การพุ่งผงาดของอังกฤษคืบหน้าไปจนบริษัทดัตช์อีสต์อินเดียถูกยุบและกิจการของบริษัท
ถกู รับชว่ งไปโดยรัฐบาลดัตช์
สื่อการเรยี นรู้ชดุ นเ้ี กย่ี วกบั ปฏิกริ ิยาของทอ้ งถ่ินที่มตี ่อการครอบงำ�ของยโุ รป
ในช่วงศตวรรษท่ี 16 - 18
ส่อื การเรยี นรู้ 10 - การตอ่ ตา้ นอำ�นาจโปรตุเกส
โปรตุเกสไม่ประสบความสำ�เร็จเท่าใดนักในการปกป้องผลประโยชน์ของพวกตน
ในหมู่เกาะบันดาและเนื่องจากการต่อต้านที่ยืดเยื้อและบ่อยคร้ังก็รุนแรงจากคนพื้นเมือง
พวกเขาไม่สามารถปกป้องสุมาตราและชวาท่ีเป็นเกาะขนาดใหญ่ได้ บนเกาะสุมาตรา
โดยเฉพาะในทางภาคเหนือ ชาวมุสลิมพ้ืนเมืองต่อสู้อย่างไม่ลดราวาศอกกับโปรตุเกสเพ่ือ
ช่วงชิงการควบคุมการค้าพริกไทยของเกาะ บนเกาะชวาก็มีสภาพคล้ายกัน ความเกลียด
ชังระหว่างผู้รุกรานชาวคริสเตียนกับผู้ต่อต้านชาวมุสลิมมีมากเหลือเกิน และในแทบทุกที่
ชาวโปรตเุ กสกพ็ บแตค่ วามคับขอ้ ง เลห่ เ์ พทุบาย หรอื ไม่กค็ วามรนุ แรง

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเครื่องเทศ u แผนการเรยี นรู้ที่ 4 การคา้ เคร่ืองเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏกิ ริ ยิ าของภมู ภิ าค

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 249

สื่อการเรยี นรู้ 11 - การตอ่ ตา้ นจากอาเจะหแ์ ละพอ่ ค้าอ่นื ๆ
จากมะละกา โปรตุเกสผูกขาดการค้ากานพลูของหมู่เกาะโมลุกกะ และลูกจันทน์
และดอกจันทน์ของหมู่เกาะบันดา แต่มีปัญหาความขัดแย้งกับคนพ้ืนเมือง ในบริเวณแหล่ง
พริกไทยทางตอนเหนือของสุมาตรา กษัตริย์อาเจะห์ต่อต้านโปรตุเกสอย่างแข็งขัน และ
ประสบความส�ำ เรจ็ ในการด�ำ เนนิ การคา้ พรกิ ไทยและเครอื่ งเทศอนื่ ๆ กบั พอ่ คา้ มสุ ลมิ จากเมกกะ
พ่อค้ามุสลิมในชวาก็ลอบทำ�การค้ากับหมู่เกาะเครื่องเทศอย่างต่อเน่ือง และขนกานพลู
ลูกจันทน์ และดอกจันทน์ไปยังทะเลแดง ความโลภของโปรตุเกสก่อให้เกิดการลุกขึ้นสู้
ในหมเู่ กาะโมลกุ กะ และในปี พ.ศ. 2117 ปอ้ มปราการของพวกเขาทเี่ ตอเนทกต็ กไปอยู่ในมอื
ของชาวมสุ ลมิ
สอ่ื การเรยี นรู้ 12 - ปฏิกิริยาของทอ้ งถิ่นตอ่ การครอบง�ำ การค้าเคร่ืองเทศของชาวยุโรป
ในศตวรรษที่ 16 - 17 เมืองท่าของชาวมุสลิมคือบันเตนในทางตะวันตกของชวา
มากัสซาร์ในสุลาเวสีตอนใต้ และบรูไนในทางตอนเหนือของบอร์เนียว พยายามเก็บเกี่ยว
ผลประโยชน์จากการกระจายของการค้าด้วยการจัดต้ังหรือขยายคลังสินค้าของตน ชาวดัตช์
ที่ดำ�เนินการแบบรวมศูนย์ เงินทุนที่มากกว่า และความเหนือกว่าทางการทหารทั้งทางบก
และทางทะเล ก็ส่งผลสะเทอื นไดม้ ากกว่า โดยอาศยั ท้ังการโจมตอี ยา่ งรนุ แรง และการเดนิ เรือ
ลาดตระเวนอย่างต่อเน่ือง บริษัทดัตช์อีสต์อินเดียก็ประสบความสำ�เร็จในจุดท่ีโปรตุเกส
ล้มเหลวในการจัดต้ังการผูกขาดการผลิตและการจำ�หน่ายเคร่ืองเทศแห่งโมลุกกะ เมื่อรัฐ
แห่งมากัสซาร์ท่ีเพ่ิงผงาดขึ้นมาไม่นานพยายามท้าทายระบบใหม่ ชาวดัตช์ก็เดินหน้าทำ�ลาย
ศูนย์กลางการค้าท่ีมีพลังสร้างสรรค์โดดเด่นแห่งนี้ลงไปในช่วงปี พ.ศ. 2209 - 2212 ไม่นาน
ต่อมาบนั เตน เมืองทา่ คา้ พริกไทยท่มี ่งั คง่ั ในชวาตะวนั ตกก็ประสบชะตากรรมแบบเดยี วกัน

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเครือ่ งเทศ u แผนการเรยี นร้ทู ่ี 4 การค้าเครือ่ งเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏิกิริยาของภูมิภาค

250 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

สือ่ การเรยี นรู้ 13 - อาเจะหใ์ นฐานะภยั คุกคามต่อโปรตเุ กส
ศัตรูหลักของมะละกาเกือบตลอดช่วงเวลา 130 ปีท่ีอยู่ในการครอบครองของ
โปรตเุ กสคอื รฐั สลุ ตา่ นแหง่ อาเจะหใ์ นตอนเหนอื ของเกาะสมุ าตรา พอถงึ ปี พ.ศ. 2128 เรอ่ื งราว
การปิดล้อมมะละกาของอาเจะห์หลายต่อหลายคร้ังในช่วงต้นทศวรรษ 1570 แสดงให้เห็นว่า
อาเจะห์เป็นภัยคุกคามที่น่าเกรงขามต่อสถานะของโปรตุเกส ไม่เพียงแต่ในมะละกาเท่าน้ัน
แตต่ ลอดทวั่ ทง้ั เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตแ้ ละไกลกว่าน้ัน
ท่ีต้ังของอาเจะห์ท่ีอยู่บนปลายเหนือสุดของเกาะสุมาตราทำ�ให้มีความได้เปรียบ
ทางยทุ ธศาสตรเ์ หนอื เปดีร์ (Pedir) และบริเวณใกล้เคียง เนือ่ งจากว่าไมเ่ พียงแต่ทำ�ให้อาเจะห์
สามารถควบคุมทางเข้าช่องแคบได้เท่านั้น แต่ยังทำ�ให้มีเส้นทางสื่อสารคมนาคมทางทะเล
โดยตรงกบั ซกี ตะวนั ตกของมหาสมทุ รอนิ เดยี อกี ดว้ ย พอถงึ ปี พ.ศ. 2128 อาเจะหก์ ไ็ ดก้ ลายเปน็
คู่แข่งหลกั ด้านการคา้ ของโปรตุเกสและเปน็ ศัตรทู กี่ ลา้ แข็งทสี่ ดุ ในภูมิภาค
สื่อการเรียนรู้ 14 - มากัสซารใ์ นฐานะภัยคกุ คามตอ่ สถานะของชาวดัตช์
อาณาจกั รมากสั ซารม์ อี �ำ นาจครอบง�ำ สลุ าเวสใี ตม้ ากขน้ึ เรอ่ื ยๆ หลงั กลางศตวรรษท่ี 16
ในตอนแรก ชาวดัตช์พยายามเจรจากับชาวมากัสซาร์เพ่ือรักษาสถานะของตน พวกเขาขอให้
สลุ ต่านเลิกค้าขายกับหมู่เกาะเคร่อื งเทศ แตก่ ารปฏิเสธของสุลต่านท�ำ ใหช้ าวดัตชท์ �ำ การปดิ ก้ัน
เส้นทางการค้า ความขัดแย้งดำ�เนินไปจนกระท่ังปี พ.ศ. 2180 ในท่ีสุดมากัสซาร์ยอมรับ
ผลประโยชน์ของบริษัทดัตช์อีสต์อินเดีย แต่เงื่อนไขในสนธิสัญญาไม่ได้รับการเคารพ และ
ชาวดัตช์จึงพยายามหามาตรการรับประกันอีกคร้ัง ชาวมากัสซาร์ได้ปฏิเสธอีกคร้ังหน่ึง และ
ยืนยันสิทธิท่ีจะทำ�การค้ากับเซราม (Seram) และอัมบนที่ตอนนั้นกำ�ลังลุกฮือ การปฏิเสธน้ี
ทำ�ให้ฝ่ายดัตช์ประกาศสงครามในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2196 โดยทำ�การปิดกั้นท่าเรือของ
มากัสซาร์อกี ครั้ง

หน่วยที่ 3 ขา้ วและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ี่ 4 การค้าเครื่องเทศ การควบคุมของยุโรป และปฏกิ ริ ิยาของภูมภิ าค

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 251

สื่อการเรยี นรู้ 15 - ปฏิกริ ยิ าและการต่อตา้ นของท้องถน่ิ ตอ่ การควบคมุ การค้าเครอื่ งเทศ
ของยโุ รป

หน่วยที่ 3 ข้าวและเคร่ืองเทศ u แผนการเรียนร้ทู ี่ 4 การคา้ เครื่องเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏกิ ริ ิยาของภูมภิ าค

252 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

เอกสารอา้ งองิ :
1. สอื่ การเรียนรู้ 1 : Parry, John. W. 1953. The Story of Spices. Chemical Publishing
Company, Inc., 212 Fifth Ave., New York 10. 1953.
2. สื่อการเรียนรู้ 2 : เพงิ่ อา้ ง.
3. สื่อการเรียนรู้ 3 : ดดั แปลงจากแผนที่โลกแบบวา่ งๆ จาก
http://www.clker.com/clipart-blank-world-map-large-.html
4. ส่อื การเรยี นรู้ 4 : Parry, John. W. ‘The Story of Spices’. Economic Botany, Vol. 9,
No. 2 (Apr.-Jun., 1955), pp. 190 - 207.
5. ส่ือการเรยี นรู้ 5 : เพง่ิ อา้ ง.
6. ส่ือการเรียนรู้ 6 : เพง่ิ อ้าง.
7. สอ่ื การเรียนรู้ 7 : Parry, John. W. 1953. The Story of Spices. Chemical Publishing
Company, Inc., 212 Fifth Ave., New York 10. 1953.
8. สอ่ื การเรยี นรู้ 8 : เพิง่ อ้าง.
9. สอ่ื การเรยี นรู้ 9 : Parry, John. W. ‘The Story of Spices’. Economic Botany, Vol. 9,
No. 2 (Apr.-Jun., 1955), pp. 190 - 207.
10. สอื่ การเรียนรู้ 10 : Parry, John. W. 1953. The Story of Spices. Chemical Publishing
Company, Inc., 212 Fifth Ave., New York 10. 1953.
11. สอ่ื การเรียนรู้ 11 : เพิง่ อา้ ง.
12. ส่ือการเรียนรู้ 12 : Lieberman, Victor. 1990. ‘Wallerstein’s System and the
International Context of Early Modern Southeast Asian History’. Journal of Asian
History, Vol. 24, No. 1 (1990), pp. 70 - 90.
13. ส่ือการเรียนรู้ 13 : Villiers, John. 2001. ‘Aceh, Melaka and the “Hystoria dos cercos
de Malaca” of Jorge de Lemos’. Portuguese Studies, Vol. 17, HOMAGE TO CHARLES
BOXER (2001), pp. 75 - 85.
14. สอื่ การเรยี นรู้ 14 : Carey, Daniel. 2003. ‘The Political Economy of Poison : The Kingdom
of Makassar and the Early Royal Society’. Renaissance Studies, Vol. 17, No. 3,
Special Issue : Asian Travel in the Renaissance (September 2003), pp. 517 - 543.
15. สื่อการเรยี นรู้ 15 : ดดั แปลงจากแผนท่ีโลกแบบว่างๆ จาก
http://www.clker.com/clipart-blank-world-map-large-.html

หน่วยที่ 3 ขา้ วและเครอื่ งเทศ u แผนการเรียนรทู้ ี่ 4 การค้าเครื่องเทศ การควบคมุ ของยุโรป และปฏิกริ ยิ าของภมู ภิ าค

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 253

แบบฝึกหดั

คำ�ถามหลัก : ชาวยุโรปควบคุมการค้าเคร่ืองเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไร และท้องถิ่น
มีปฏกิ ิรยิ าอยา่ งไร
ในบทเรียนท่ีผ่านมา เราได้เรียนรู้ว่าสังคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปลี่ยนแปลงอย่างไร
ด้วยความเชอื่ มสมั พันธ์ท่เี กิดจากการค้าเครอ่ื งเทศจากศตวรรษที่ 14 - 16
ระหว่างศตวรรษที่ 16 - 18 เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตย้ ังคงเชอื่ มสมั พันธก์ ับสว่ นอน่ื ๆ ของโลก
และการค้ากับโลกก็เติบโตต่อไป แต่มีพลวัตที่ซับซ้อนมากขึ้น ก่อนหน้าน้ี ชาวยุโรปมีบทบาท
เป็นพ่อค้าคนกลางและเป็นพ่อค้าเพียงกลุ่มหน่ึงในบรรดาหลายกลุ่มท่ีมีอยู่ในภูมิภาค แต่ในศตวรรษ
ที่ 16, 17 และ 18 โปรตุเกส ดตั ช์ และองั กฤษเร่ิมแสวงหาอำ�นาจครอบง�ำ การคา้ มากขึ้น
ในบทเรียนนี้ เราจะได้เรียนรู้เก่ียวกับความพยายามของโปรตุเกส ดัตช์ และอังกฤษท่ีจะ
ควบคุมการค้าเคร่ืองเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในศตวรรษที่ 16 - 18 และปฏิกิริยาของท้องถ่ิน
ต่อพลวตั ทเี่ ปลย่ี นแปลงไปน้ใี นภูมภิ าค
ค�ำ สง่ั ส�ำ หรับกจิ กรรมจ๊ิกซอว์ :
1. นักเรยี นจะท�ำ งานในสองกลมุ่ ส�ำ หรบั กิจกรรมนี้ คอื กลุม่ ทไี่ ด้รับมอบหมาย กบั กลุ่มฐาน
2. ทำ�ตามคำ�ส่ังของครูและเข้าไปในกลุ่มที่ได้รับมอบหมาย ภารกิจคือศึกษาแหล่งข้อมูล
ท่กี �ำ หนดให้ ขณะศกึ ษาขอ้ มูล บนั ทึกข้อค้นพบลงในแผ่นจัดกราฟิก
3. เมือ่ ได้รบั คำ�สง่ั จากครู ย้ายไปเขา้ กลุ่มฐาน
4. ในกิจกรรมจิ๊กซอว์ นักเรียนมีข้อมูลท่ีเป็นตัวต่อหนึ่งชิ้นในกลุ่มฐาน สมาชิกท้ังหมด
จะร่วมกัน “ต่อช้ินส่วนรวมกัน” เป็นภาพท่ีชัดเจนของการควบคุมการค้าเครื่องเทศของยุโรปใน
เอเชยี ตะวันออกเฉียงใตแ้ ละปฏกิ ริ ยิ าของท้องถ่นิ ตอ่ การกระทำ�ดงั กล่าว
5. เม่ือสมาชิกในกลุ่มฐานแลกเปลี่ยนสิ่งท่ีได้เรียนรู้มาจากกลุ่มที่ได้รับมอบหมาย บันทึก
สิ่งที่เพ่ือนพูดลงในแผ่นจัดกราฟิก เพ่ือเติม “ภาพ” ให้สมบูรณ์ เม่ือนักเรียนบอกเล่าส่ิงท่ีนักเรียน
ได้เรียนรู้กับกลุ่มฐานของตัวเอง ให้กระตุ้นให้เพ่ือนๆ ให้ความสนใจและเติม “ภาพ” ให้สมบูรณ์
ด้วยเช่นกนั

หน่วยที่ 3 ขา้ วและเครื่องเทศ u แผนการเรยี นรู้ท่ี 4 การคา้ เครอ่ื งเทศ การควบคุมของยโุ รป และปฏกิ ิรยิ าของภมู ิภาค

  254 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์4. 1.
การผูกขาดของชาวดัตช์ ป้อมและโรงงานของ
6.หนว่ ยท่ี 3 ข้าวและเครอื่ งเทศ u แผนการเรยี นรู้ท่ี 4 การค้าเคร่อื งเทศ การควบคมุ ของยุโรป และปฏิกริ ยิ าของภมู ภิ าคถูกชาวองั กฤษทําลาย โปรตุเกสอยทู่ ่ีไหน
เมืองทา่ ของชาวมุสลมิ คอื ลงไปได้อย่างไร ในอสี ต์อนิ ดีส
บันเตน็ มากัสซาร์ และ
บรไู นทาํ อย่างไร 5. 2.
ในการตอบโต้การควบคุม สว่ นใดของเอเชยี ตะวันออก
ของชาวดตั ช์ เใrIAnฉeนssiียwสaisงวh่tdaใiนicตndhใcท้ ดtephีโ่ขaefปrอrotPรsงmoตเorอุเtftกuเhชSgสeouยี เuleตผotshcะชea-วญิElmsนัa?seอteอtก เฉียงใตท้ ี่มคี วามสมั พนั ธ์ทาง
7. กในาสร่วตนอ่ ใตด้าขนอจงเาอกเชคียนตทะ้อวนังถอ่ินอก การค้ากบั โปรตเุ กส นกั เรยี น
อาณาจกั รอาเจะห์มี สามารถระบทุ ่ตี ง้ั บนแผนที่
ปฏกิ ิรยิ าตอ่ การควบคุม เฉยี งใตท้ ่ีโปรตุเกสเผชญิ ได้หรอื ไม่
ครอบงาํ ของโปรตเุ กส การตอ่ ตา้ นจากคนท้องถ่นิ 3.
อยา่ งไร ชาวดัตชท์ ําอย่างไรในการ
Brunei  จาํ กัดปริมาณเครื่องเทศ
8. ท่ปี อ้ นตลาด ทําไมจึงตอ้ ง
รฐั สลุ ตา่ นแห่งมากัสซาร์ Banten  Makassar  Ban da  มีการจาํ กดั ปริมาณ
มปี ฏิกริ ยิ าต่อการครอบงํา
ของชาวดัตชอ์ ย่างไร Sumatra  JAVA SEA

BANDA 

SEA 

หน่วยท่ี 3 ข้าวและเครือ่ งเทศ
แผนการเรยี นรทู้ ี่ 4 การค้าเครื่องเทศ การควบคมุ ของยุโรป และปฏกิ รยิ าของภมู ภิ าค

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 255

การบา้ น
สงั เคราะหค์ วามรู้
นักประวัติศาสตรช์ ่ือ อิมมานูเอล วอลเลอรส์ ไตน์ เสนอในปี พ.ศ. 2517 วา่ เอเชียตะวนั ออก
เฉียงใต้ก่อนทศวรรษ 1750 ไม่มีความสำ�คัญต่อการค้าของยุโรป และผลกระทบของยุโรปต่อเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้มีน้อยมาก (เป็นเรื่องปกติที่นักประวัติศาสตร์จะเห็นไม่ตรงกันในประเด็นต่างๆ
เนือ่ งจากอาจตคี วามเหตุการณ์และแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ งๆ แตกตา่ งกันออกไป)
นักเรยี นตคี วามข้อมลู ท่ีได้จากบทเรียนที่ 3 และ 4 อย่างไร นักเรยี นเหน็ ดว้ ยกับค�ำ กล่าวของ
วอลเลอรส์ ไตน์หรอื ไม่
อภิปรายเร่ืองน้ีกับเพ่ือนในกลุ่มและนำ�กลับไปทำ�เป็นการบ้าน เขียนรายงานอธิบายว่า
ทำ�ไมนักเรียนจึงเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคำ�กล่าวของวอลเลอร์สไตน์ นักเรียนอาจต้องการค้นคว้า
เพิม่ เตมิ เพ่ือสนับสนนุ ความคดิ ของตนเอง

เหน็ ด้วยกับคำ�กล่าวของวอลเลอร์สไตน์ เพราะ... ไม่เห็นดว้ ยกบั คำ�กล่าวของวอลเลอรส์ ไตน์ เพราะ...

หนว่ ยที่ 3 ข้าวและเครือ่ งเทศ u แผนการเรยี นร้ทู ี่ 4 การคา้ เคร่อื งเทศ การควบคมุ ของยุโรป และปฏิกริ ิยาของภูมภิ าค

256 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

หน่วยที่ 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ
แผนการเรียนรูท้ ี่ 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรกั ษา

วชิ า : ประวัตศิ าสตร/์ สังคมศกึ ษา
หวั ข้อ : อาหารในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตส้ มั พนั ธก์ บั ความอยดู่ มี สี ขุ ของผคู้ น
อย่างไร
ระดบั : มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
จ�ำ นวนคาบ/แผนการเรียนรู้ : 1 หรือ 2 แผนการเรียนรู้ ข้ึนกับว่าสามารถเชิญหมอตำ�แยพ้ืนบ้าน
มาในบทเรียนท่ี 2 ไดห้ รือไม่ (50 - 100 นาท)ี
อุปกรณท์ จ่ี ำ�เป็น : ไมต่ อ้ งใช้อปุ กรณ์พเิ ศษ
ความรู้พืน้ ฐาน : ไมจ่ ำ�เป็นตอ้ งมคี วามรู้พื้นฐานมาก่อน
วตั ถุประสงค์การเรยี นรู้ :
เมอื่ จบบทเรยี น นกั เรยี นสามารถ

ความรู้ ทกั ษะ เจตคติ

1. บรรยายระบบ 1. ศึกษาแหลง่ ขอ้ มลู เพ่อื เรยี นร้เู กย่ี วกบั 1. เข้าใจว่าเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้
เช่ือมสมั พันธ์กบั ส่วนอื่นๆ ของโลก
ความเช่ือเร่อื งธาตหุ รือ ระบบความเชื่อเร่อื งธาตหุ รอื ของเหลว อยา่ งเช่น อินเดยี จีน และตะวันออกกลาง
ของเหลวในรา่ งกายทมี่ ี ในร่างกายจากการแพทยก์ รกี โบราณ อย่างไรดว้ ยความรเู้ ก่ียวกับการแพทย์
อิทธิพลตอ่ ความรทู้ าง อายรุ เวทของอนิ เดยี และการแพทย์ แผนโบราณ
การแพทยแ์ ผนโบราณของ ของอิสลาม เพอ่ื จะได้ทราบว่าระบบ 2. เห็นคุณคา่ ของผูอ้ าวโุ สในชมุ ชน
เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ความเชอ่ื เหล่าน้ีสง่ อทิ ธิพลอย่างไร (ผู้อาวุโสและหมอต�ำ แย) ส�ำ หรับความรู้
2. บรรยายอิทธิพลของ ต่ออาหารการกนิ ของคนเหล่านน้ั มากมายทเี่ ปน็ ผลมาจากประสบการณ์
ระบบความเชอื่ เร่ืองธาตุ 2. ศึกษาแหลง่ ข้อมลู เพอ่ื เรยี นรู้เกย่ี วกบั สว่ นตัว การสังเกต และการแบง่ ปนั ข้อมูล
หรือของเหลวดงั กล่าว สว่ นประกอบพื้นฐานใน jamu ผ่านการบอกเลา่
ในการกนิ อาหารของ (ยาบำ�รงุ แผนโบราณของอนิ โดนีเซยี )
ชาวเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ และต�ำ รับเคร่อื งดม่ื สำ�หรับแม่เพิง่ คลอด
ระบสุ ่วนประกอบอาหาร (Jamu Kunyit) เพ่ือสังเกตว่าผ้คู น
ทใ่ี ช้ในการทำ�อาหารของ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใตพ้ ่ึงพาความรู้
ชาวเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ท่ีสบื ทอดกันมาเกย่ี วกับสมุนไพรส�ำ หรบั
ท่มี สี รรพคณุ ในการรักษา การรกั ษาและบำ�รงุ อยา่ งไร

หนว่ ยที่ 3 ขา้ วและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ี่ 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรักษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 257

ขั้นตอน การดำ�เนนิ การสอน ส่ือการเรยี นร ู้ หลกั การและเหตุผล

เกร่นิ น�ำ กจิ กรรมกระต้นุ ความสนใจ กจิ กรรมกระตุน้ ความสนใจ

[5 นาที] 1. ถามนักเรยี นวา่ ปกติท�ำ อย่างไรเวลา ชว่ ยให้นกั เรยี นเกดิ ความสนใจ

มีอาการเจ็บป่วยเลก็ ๆ น้อยๆ เช่น เจ็บคอ เกี่ยวกับหวั ขอ้ และตระหนักว่า

ปวดฟัน ท้องเฟอ้ ฯลฯ พวกเขาไปหาแพทย์ หัวขอ้ นเี้ ก่ยี วขอ้ งอยา่ งไรกับ

แผนตะวนั ตกหรือรา้ นยาเลย หรือว่าผใู้ หญ่ ชวี ิตประจำ�วันของตน

ในครอบครวั แนะนำ�การรกั ษาด้วยสมุนไพร

เคร่ืองเทศ และอาหารอ่ืนๆ ท่ีสามารถ

หาไดง้ ่ายๆ ในครวั หรือสวนหลังบ้าน

2. นอกจากการรกั ษาในครวั เรอื นแลว้ นกั เรยี น

ยังถูกบอกใหห้ ลกี เล่ียงหรอื ทานอาหาร

บางชนดิ มากขนึ้ เพือ่ บรรเทาอาการหรือไม่

หมายเหตุ : หากนกั เรยี นไมม่ ีคำ�ตอบ ครสู ามารถ

ใช้เรื่องเลา่ ของตัวเองเพ่อื อธิบายใหเ้ หน็ ว่าถงึ จะมี

การแพทย์ตะวนั ตกแล้วก็ตาม ผู้คนในเอเชีย

ตะวันออกเฉยี งใต้ก็ยังคงใชแ้ นวทางดงั้ เดมิ ใน

การดูแลสขุ ภาพและการรักษา

พัฒนา 1. ครบู รรยาย • สอื่ การเรียนรู้ 1 - 9 • การใชส้ ือ่ การเรยี นรู้

บทเรียน 1 1.1 ระบบความเชื่อดา้ นสขุ ภาพของ • แบบฝึกหดั 1 เพ่อื เสรมิ การบรรยายของครู
[40 นาท]ี ทอ้ งถิน่ จำ�นวนมากท่ใี ช้อาหารการกนิ • แบบฝึกหัด 2 ท�ำ ใหน้ กั เรียนสามารถ

สามารถโยงกลับไปไดถ้ ึงระบบความเชื่อ • แบบฝึกหดั 3 ทำ�ความเข้าใจขอ้ มลู ไดด้ ีขน้ึ

เรอื่ งธาตหุ รอื ของเหลวในรา่ งกายที่มาจาก • [ทางเลือก] • การจบั คทู่ ำ�งานกระตนุ้

อนิ เดีย อาระเบีย และจนี ส่วนตา่ งๆ ของขม้ิน ใหเ้ กิดการเรยี นร้รู ว่ มกนั

1.2 โดยท่ัวไป ระบบธาตุในรา่ งกายถอื ว่า เพอื่ แสดงใหน้ ักเรียนดู และทำ�ใหน้ กั เรียนได้

มนุษย์ประกอบดว้ ย ดนิ นาํ้ ลม ไฟ และ หรอื อกี ทางเลือกหนึง่ แลกเปลีย่ นกัน

อาหารถูกแบ่งเป็นร้อนหรอื เยน็ และ คือ ครนู ำ�ขม้นิ บดมาให้

เมื่อจำ�เปน็ องค์ประกอบของมนุษย์สามารถ นักเรยี นได้เหน็ สสี นั

ปรับเปลี่ยนไดด้ ว้ ยการกินอาหาร ดงั น้ัน ในการแพทย์แบบ

หวั ใจสำ�คัญของระบบธาตุในร่างกายจึงเปน็ อายุรเวท ขม้ินบดผสม

การแสวงหาระบบท่ีสมดุล ทั้งไม่รอ้ นและ (ผงขมนิ้ ผสมน้าํ อนุ่

ไมเ่ ย็น ในการปรบั สมดลุ ดงั กลา่ ว เชือ่ กันว่า นมอุน่ หรอื นํ้ามันงา)

โรคเยน็ ควรถกู รักษาดว้ ยอาหารอนุ่ หรือ มกั ถูกใชล้ ้างแผล

การให้ความร้อน และโรคร้อนควรรักษา ลดการอกั เสบ และ

ด้วยอาหารเยน็ หรือการลดอุณหภมู ิ

หนว่ ยท่ี 3 ขา้ วและเครือ่ งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ่ี 5 อาหาร สุขภาพ และการรักษา

258 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ข้นั ตอน การด�ำ เนนิ การสอน สื่อการเรียนร ู้ หลักการและเหตผุ ล

1.3 ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ มักจะ สมานแผล พงึ สังเกต
เนน้ ธาตุลมอยา่ งในโรคทเี่ กีย่ วกับลม วา่ ขมิน้ จะทงิ้ คราบ
ในประเทศไทยและอางิน (angin)
สเี หลืองไวบ้ นผิวหนัง
ในมาเลเซีย เลอื ด (ของเหลวท่ีร้อน) และ หลังจากพอกหรือ
เสมหะ (ของเหลวทีเ่ ย็น) จะต้องอยูใ่ นสมดลุ ทาลงไป
ความเจบ็ ป่วยและการเจรญิ พนั ธ์รุ ะยะต่างๆ

จะรบกวนสมดลุ และต้องมีการดูแล

เรื่องอาหารการกินเปน็ พิเศษ

สนับสนนุ การอธบิ ายระบบความเชอื่

เรื่องธาตุหรือของเหลวในร่างกายด้วย

สอื่ การเรยี นรู้ 1 - 5

1.4 ถามนักเรียนว่าครอบครัวของพวกเขา

มีความเช่อื ในเรื่องระบบธาตุในรา่ งกายทเ่ี นน้

ความรอ้ น/เย็นหรือไม่ ยกตัวอยา่ งเชน่ ผูใ้ หญ่

ในครอบครวั เตรยี มหรอื แนะนำ�อาหารรอ้ น

ในช่วงเดือนท่ีหนาวเย็นหรือท�ำ ตรงข้าม

ในช่วงเดือนที่ร้อนหรือไม่

2. การจบั คู่ทำ�งาน

2.1 นกั เรียนศึกษารายการอาหาร

ในแบบฝึกหดั 1 และจดั จ�ำ แนกว่าเปน็ ‘รอ้ น’

‘เยน็ ’ หรอื ‘กลาง’ ในแผนภาพ

Venn diagrame กระต้นุ ใหน้ ักเรียน

เพิ่มเตมิ รายช่อื อาหารเขา้ ไปในแผนภาพ

2.2 กระตุ้นคำ�ตอบจากนกั เรยี นและ

ชใ้ี ห้เหน็ วา่ แมว้ า่ จะยังไม่มีรายการมาตรฐาน

ของอาหารทใ่ี หค้ วามร้อนและความเยน็

เนอ่ื งจากภูมภิ าคนม้ี ีความหลากหลายและ

ได้รับอิทธิพลจากหลายประเทศ แต่ถึงอยา่ งไร

ก็ยงั มีมาตรฐานในการจดั จำ�แนก

2.3 ยกตวั อย่างเชน่ มะละกอเปน็ ผลไม้

ที่ใหค้ วามร้อนขณะทีผ่ ลไม้และผกั สว่ นใหญ่

(โดยเฉพาะท่มี นี า้ํ ฉ่าํ ) ให้ความเย็น

หน่วยท่ี 3 ข้าวและเครอื่ งเทศ u แผนการเรียนรทู้ ี่ 5 อาหาร สุขภาพ และการรกั ษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 259

ข้ันตอน การดำ�เนินการสอน ส่อื การเรยี นร ู้ หลกั การและเหตุผล

ผลไมเ้ ปร้ยี วใหค้ วามเย็น กระเจยี๊ บเขียว

และฟักใหค้ วามเยน็ แต่ผัก (และยา)

ท่มี รี สขมใหค้ วามรอ้ น ไขมันใหค้ วามร้อน

เชน่ เดียวกบั เนอ้ื สัตวแ์ ละปลาเคม็ ขา้ วและ

อาหารหลักประเภทแปง้ อน่ื ๆ สว่ นใหญ่

เป็นกลาง เชน่ เดียวกบั ปลาสดที่เป็นอาหาร

หลักเกือบทั่วทั้งเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้

3. ครูบรรยาย

3.1 นอกจากน้ี ในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้

ใชอ้ าหารเพื่อวัตถปุ ระสงคท์ างการแพทย์และ

พิธีกรรม และตัวอยา่ งหนงึ่ คอื ขมิ้น ใช้ในทาง

ศาสนาและพธิ ีกรรมในอนิ เดียมายาวนาน

และใช้ในทางการแพทย์และพิธีกรรม

อยา่ งกว้างขวางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยเฉพาะในชว่ งการคลอดและเดก็

ยงั เป็นทารก สนบั สนนุ การอธิบายดว้ ย

ส่ือการเรียนรู้ 6 - 8

3.2 ใหน้ กั เรยี นอ่านสอื่ การเรยี นรู้

ในแบบฝึกหัด 2 เพอื่ เรียนรเู้ พ่ิมเตมิ ว่า

มกี ารใชข้ ม้นิ ในทางศาสนาและพิธีกรรม

มายาวนานในอนิ เดีย ใช้เป็นยาและใช้

ในพธิ กี รรมในช่วงการคลอดและเด็กเปน็

ทารก ชีใ้ ห้นักเรยี นเห็นวา่ ความรู้ท่สี ืบทอด

กันมาดงั ท่แี สดงให้เหน็ ในสื่อการเรยี นรู้

ขา้ งตน้ นั้น ได้รบั การถ่ายทอดกันมา

โดยผอู้ าวโุ สหรือหมอต�ำ แย และจาก

แม่ส่ลู กู ผา่ นการบอกเล่า ก่อนจะมกี าร

แพร่หลายและการยอมรบั การแพทยต์ ะวนั ตก

พวกเขาคอื แหล่งความรู้หลกั ดา้ นสขุ ภาพ

ส�ำ หรับผหู้ ญิงในหม่บู า้ น และสะท้อน

ภูมิปัญญาและประสบการณข์ องบรรพบรุ ษุ

ของเรา

หนว่ ยท่ี 3 ข้าวและเครื่องเทศ u แผนการเรียนรูท้ ่ี 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรกั ษา

260 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ขั้นตอน การด�ำ เนินการสอน ส่ือการเรยี นรู ้ หลกั การและเหตุผล

3.3 ใชส้ ่ือการเรยี นรู้ 6 เพ่ือแสดงว่าผู้คน การสมั ภาษณ์กระตนุ้ ให้
นักเรียนมปี ฏสิ ัมพันธก์ บั
ยงั คงพ่ึงพาความรู้ทางการแพทยแ์ ผนโบราณ คนในชมุ ชนดว้ ยการตง้ั ค�ำ ถาม
และเห็นคุณคา่ ของความรู้
จากบรรพบุรษุ เพ่อื สขุ ภาพท่ดี ี ที่คนในชมุ ชนมีอยู่

3.4 ใชส้ อ่ื การเรยี นรู้ 9 และส่ือ

การเรยี นรู้ 10 เพอื่ แสดงใหเ้ ห็นลักษณะ

การใช้อาหารเป็นยาในอนิ โดนเี ซีย Jamu

(เดิมสะกด Djamu) เปน็ ยาแผนโบราณ

ในอนิ โดนีเซีย เป็นยาสมุนไพรทีท่ �ำ จาก

สว่ นต่างๆ ของพชื (ราก เปลอื ก ดอก เมลด็

ใบ และผล) บางคร้งั กผ็ สมผลติ ภัณฑจ์ ากสตั ว์

เข้าไปด้วย (น้าํ ผงึ้ นมผงึ้ นม และไข)่

3.5 ให้นักเรยี นอ่านแบบฝึกหดั 3

อธิบายว่าความรู้เรื่องสมนุ ไพรไดถ้ า่ ยทอด

จากคนรุ่นหนงึ่ ไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่งในระหวา่ ง

การเดินในป่า อยา่ งไรกต็ าม ดว้ ยการขยาย

พนื้ ที่เมอื ง การท�ำ ลายปา่ การเขา้ ถงึ การรกั ษา

พยาบาลแบบตะวันตก และปจั จยั อน่ื ๆ

ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านีแ้ ละความรู้

ท่ีสบื ทอดกันมาก�ำ ลังสูญหายไปอยา่ งรวดเร็ว

แมว้ า่ jamu อาจจะยงั ไดร้ ับความนยิ ม

ในหม่คู นรุ่นใหม่ในฐานะยาบ�ำ รงุ แตก่ ็บรโิ ภค

jamu ในรปู แบบเมด็ แทนทีจ่ ะซอ้ื จาก Mbok

Jamu ในส่อื การเรียนรู้ 8

เนน้ ความส�ำ คญั ของการรกั ษาประเพณี

และความรเู้ หลา่ น้เี นอื่ งจากเป็นสว่ นสำ�คญั

ของวฒั นธรรมและมรดกสืบทอดของเรา

พฒั นา สมั ภาษณ์ • แบบฝกึ หัด 4

บทเรยี น 2 1. เชญิ หมอตำ�แยมาให้ความร้กู บั นักเรียน
[50 นาท]ี ในช่วงน้ขี องบทเรยี น

2. ก่อนเข้าบทเรียน ใหน้ กั เรยี นใชต้ าราง

ในแบบฝกึ หัด 4 เพ่ือเตรียมคำ�ถามทจี่ ะใช้

สมั ภาษณห์ มอต�ำ แย กระต้นุ ให้นักเรยี น

ถามคำ�ถาม เช่น :

หน่วยที่ 3 ข้าวและเครื่องเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ่ี 5 อาหาร สุขภาพ และการรกั ษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 261

ข้นั ตอน การด�ำ เนินการสอน สือ่ การเรยี นรู้ หลักการและเหตผุ ล

• ผใู้ ห้สมั ภาษณ์มาเป็นหมอตำ�แย • การใช้การบา้ นช่วยให้
นักเรยี นรวบรวมและขยาย
ไดอ้ ย่างไร ความร้ทู ี่ได้มา และยงั ส่งเสรมิ
• ท�ำ หนา้ ที่เป็นหมอตำ�แยมานาน การแลกเปลีย่ นของคนต่างรุ่น
เพยี งไหนแลว้ ท�ำ ใหน้ ักเรียนได้ตระหนกั วา่
• ไดค้ วามรู้มาจากไหน ผูอ้ าวโุ สในชมุ ชนของเรา
มีความร้สู �ำ คัญทจ่ี ะแบ่งปัน
• พชื ทีใ่ ช้ในการท�ำ คลอด • รายงานนท้ี �ำ ใหค้ รูสามารถ
• มกี ารประกอบพธิ ีกรรมที่ใชส้ มนุ ไพรกอ่ น ตรวจสอบไดว้ า่ นักเรยี นได้รบั
ในระหวา่ งและหลังจากการคลอดหรอื ไม่ ความร้พู ้นื ฐานเก่ียวกบั ระบบ
ธาตใุ นรา่ งกายที่มีอทิ ธพิ ล
สรุป 1. ให้นกั เรียนดูแบบฝกึ หัด 5 ถามนกั เรยี นวา่ • แบบฝกึ หัด 5 ต่อความรทู้ างการแพทย์
บทเรยี น ร้จู กั ยา jamus อ่นื ๆ ท่ีใช้ส�ำ หรบั อาการ • การบ้าน 1 แผนโบราณของเอเชีย
[10 นาที] เจ็บป่วยเฉพาะอะไรบ้างหรือไม่ หรอื • การบ้าน 2 ตะวนั ออกเฉียงใตแ้ ละพชื
บางชนดิ ทถี่ กู ใชเ้ ป็นยา
มยี าสมุนไพรอะไรในวฒั นธรรมของพวกเขา ในภูมภิ าคนหี้ รอื ไม่

ท่ที �ำ จากส่วนประกอบธรรมชาติท่ีใช้รักษา
อาการเจบ็ ป่วยทว่ั ไป เช่น หวดั เจบ็ คอ ไข้
ท้องอืด ฯลฯ หรือไม่

2. ใหน้ ักเรยี นทำ�การบ้าน 1 และ 2

3. ให้นกั เรียนดูแบบฝกึ หัด 5 นักเรียน
ตอ้ งสมั ภาษณผ์ อู้ าวโุ สในครอบครัวและ
เขยี นรายงานเกย่ี วกับยาและการรักษา

แผนโบราณท่ีใช้กนั ทัว่ ไปในชุมชน นักเรียน
ยังตอ้ งทบทวนเก่ียวกับความสำ�คัญของขอ้ มลู
และความรดู้ ังกลา่ วอีกด้วย

หน่วยท่ี 3 ข้าวและเครื่องเทศ u แผนการเรยี นรู้ท่ี 5 อาหาร สุขภาพ และการรักษา

262 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเครื่องเทศ

แผนการเรยี นร้ทู ่ี 5 อาหาร สุขภาพ และการรักษา
สอ่ื การเรียนรแู้ ละแบบฝึกหดั

ส่ือการเรียนรู้ 1 - ระบบของเหลวในการแพทย์กรีก

ของเหลว อารมณ์ ธาตุ ฤดู ลักษณะ
นาํ้ ดีสดี ำ� เศร้าสร้อย ดิน ฤดใู บไม้รว่ ง เยน็ และแหง้

นํา้ ดีสีเหลือง ฉนุ เฉียว ไฟ ฤดูร้อน อนุ่ และแห้ง

เลอื ด ร่าเริง ลม ฤดูใบไมผ้ ลิ อุ่นและช้ืน

เสมหะ เฉือ่ ยชา นาํ้ ฤดหู นาว เย็นและช้ืน

หนว่ ยที่ 3 ขา้ วและเครือ่ งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ี่ 5 อาหาร สุขภาพ และการรกั ษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 263

ส่อื การเรยี นรู้ 2 - ภาพฤๅษีในสมยั โบราณก�ำ ลงั เรียนวชิ าอายรุ เวทจากพระอตรยี า (บนสดุ )
และสสุ รุตะ พระอตรียาเปน็ หนึง่ ในปราชญ์ทย่ี งิ่ ใหญ่ของฮนิ ดแู ละเปน็ ผเู้ ชีย่ วชาญ
เรือ่ งอายรุ เวท สสุ รุตะเปน็ แพทย์อินเดยี โบราณและถือว่าเปน็ บดิ าแห่งศลั ยกรรมพลาสตกิ

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเครื่องเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ี่ 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรักษา

264 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

สื่อการเรียนรู้ 3 - ของเหลวหรือธาตุ (โทษะ) ในระบบอายรุ เวทของอินเดีย

วาตะ ปติ ตะ กผะ
ลม อากาศ
ไฟ น้ําดี น้ํา เสมหะ
เป็นสาเหตขุ องความเจ็บปวด
แห้ง กงั วล หดหู่ ท้องผกู เปน็ สาเหตขุ องผืน่ คัน โรคเลอื ด เปน็ สาเหตุของความอว้ น
ปวดขอ้ ฯลฯ ตับอกั เสบ ตดิ เชอื้ โกรธ ฯลฯ เบาหวาน เชอื่ งชา้ บวม ฯลฯ

สอ่ื การเรียนรู้ 4 - ระบบของเหลวในการแพทย์อสิ ลาม

ของเหลว อารมณ์ อาการท่ีเกดิ จากการมขี องเหลวมากเกนิ ไป
หรอื ของเหลวทำ�งานมากเกนิ ไป
นํ้าดสี ีดำ�
เศรา้ ผวิ หนงั ดูหยาบกรา้ น ชพี จรเตน้ อ่อน ปัสสาวะน้อย
เลือด (Ghalba-el-Sauda) คนป่วยบ่นวา่ ไมอ่ ยากอาหารและปวดคอ คนปว่ ย
นํ้าดสี เี หลือง
พล่งุ พลา่ นด้วยจนิ ตนาการเพอ้ เจ้อและดหู วาดกลวั
เสมหะ โดยไม่มสี าเหตุ

ร่าเริง สผี วิ กลายเป็นสีแดง เส้นเลอื ดปดู เหน็ ชดั ขนึ้ ชีพจร
(Ghalba-e-Dam) เตน้ เตม็ ท่ี และปัสสาวะมสี ีคลํา้ คนปว่ ยบ่นว่าหายใจ
ตดิ ขัด ปวดศรี ษะ และฝนั เห็นเลอื ด

ฉนุ เฉยี ว ผวิ เปน็ สีเหลือง ชีพจรเต้นเร็วกวา่ ปกติ และปสั สาวะ
(Ghalba-e-Safra) สคี ลํ้า คนปว่ ยดหู งดุ หงดิ โดยไมม่ สี าเหตชุ ดั เจน
และบ่นว่าปวดศรี ษะ นอนหลบั ๆ ตน่ื ๆ คอขม
และฝันเหน็ ไฟ ฟา้ แลบ ความโกรธ และการตอ่ สู้

เฉ่ือยชา ผิวซีดขาวและเย็น ชีพจรเต้นช้าและลกึ และ
(Ghalba-Balgham) ปัสสาวะน้อยและสีออ่ น คนปว่ ยบน่ ว่าจำ�อะไร
ไม่คอ่ ยได้ ไม่อยากอาหาร นอนมาก ข้เี กียจ
และฝันเหน็ น้ํา

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเครอ่ื งเทศ u แผนการเรียนร้ทู ี่ 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรกั ษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 265

สอ่ื การเรียนรู้ 5 - ขอ้ ความของ Ibn Hindu จากต�ำ รากญุ แจสูก่ ารแพทยแ์ ละแนวทาง
ส�ำ หรบั นักศึกษา (The Key to Medicine and a Guide to Students) Ibn Hindu
เปน็ นักปรัชญา ขา้ ราชสำ�นัก และแพทย์ชาวมุสลิม จบการแพทย์จากแบกแดดและท�ำ งาน
ในราชส�ำ นกั บูยิด ในราวีใกล้เตหะรานในปัจจบุ นั
คำ�อภิปรายเรื่องของเหลวในร่างกาย (akhlat) : ของเหลวในร่างกายเป็นพ้ืนฐาน
ของโลกขนาดเล็กซ่ึงก็คือมนุษย์ เทียบเท่ากับธาตุต่างๆ ในโลกขนาดใหญ่ เนื่องจากร่างกาย
ประกอบด้วยของเหลวเหล่านี้ เช่นเดียวกันกับที่ทุกสิ่งในโลกแห่งการสร้างและการสื่อ
การเรยี นรู้ประกอบด้วยธาตุต่างๆ น่ันเอง
สอื่ การเรียนรู้ 6 - ขม้นิ ซงึ่ ใช้ในทางศาสนาและพิธีตา่ งๆ ในอินเดียมายาวนาน กถ็ ูกใช้
อย่างกวา้ งขวางในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ในทางการแพทย์และพธิ ีกรรมในชว่ งการต้ังครรภ์
การคลอด แต่งงาน และงานศพ
นักเรียนรหู้ รือไม่...
1. ขมน้ิ มีรสชาตเิ ผด็ รอ้ นและขม และมีกลิน่ หอมอ่อนๆ
2. ขมน้ิ เปน็ สว่ นรากของต้นขมิ้น และมเี ปลือกหยาบสนี ํ้าตาลและมีเนื้อสีสม้
3. ขม้นิ เปน็ พชื พ้นื เมอื งของอนิ โดนีเซียและอนิ เดียใตท้ มี่ กี ารเพาะปลูกมานานกว่า 5,000 ปี
4. ขมนิ้ ถกู ใชใ้ นการแพทยจ์ นี และอนิ เดยี มายาวนาน เปน็ ยาแกอ้ กั เสบส�ำ หรบั รกั ษาอาการตา่ งๆ
เช่น ทอ้ งอืด ดซี ่าน ปวดฟัน ฟกช้ํา เจบ็ หน้าอก เสยี ดทอ้ ง ฯลฯ
5. ขมน้ิ ถูกเรียกวา่ “หญ้าฝรนั่ อินเดีย” เนอื่ งจากสีเหลอื งส้มและถกู ใช้เปน็ เครือ่ งปรงุ ยารกั ษา
และสยี ้อมผา้ มาตลอดประวตั ิศาสตร์
6. เช่ือกันว่าขม้ินมีสรรพคุณท้ังเย็นและร้อน ทำ�หน้าที่ต้านการอักเสบในระยะสั้น (ซ่ึงเป็น
การทำ�ให้เย็น) นอกจากน้ียังถูกใช้ในพิธีกรรมการเพาะปลูกเพ่ือทำ�ให้ผืนดิน “เย็น” ก่อน
การปลกู ขา้ ว แต่ในระยะยาวแลว้ มนั ใหค้ วามรอ้ นและทำ�ใหแ้ ห้ง
สือ่ การเรียนรู้ 7 - ต้นขม้นิ

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเคร่ืองเทศ u แผนการเรยี นรู้ที่ 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรักษา

266 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

สื่อการเรยี นรู้ 8 - ตำ�รบั ยา Jamu Kunyit (ยาบำ�รุงสำ�หรบั ผหู้ ญงิ คลอดของอนิ โดนเี ซยี )
เพ่อื ลดลมและความเย็นทคี่ ุณแม่มอื ใหม่กลัวกนั
สว่ นผสม :
• ขม้นิ (kunyit) 2 ก�ำ มือ
• นํ้าตาลมะพร้าว (gulamelaka) 1 1/2 กอ้ น (ประมาณ 85 กรมั )
• มะขาม (asamjawa) 1/2 หอ่
• นํ้า 500 มลิ ลลิ ติ ร
วิธีท�ำ :
1. ต้มนํา้ 500 มลิ ลิลติ ร ให้เดอื ดและละลายมะขาม

2. ปอกและหัน่ ขมน้ิ ผสมนํา้ พอประมาณ

3. เทขมนิ้ ผสมน้ําลงไปในหมอ้ ตง้ั ไฟ

4. กรองนํา้ มะขามจากขัน้ ตอนที่ 1 ลงไปในหม้อเพื่อไมใ่ หเ้ มด็ มะขาม
ปนลงไป

5. เติมน้ําตาลมะพรา้ วทส่ี บั แล้วลงไป
6. ตม้ ส่วนผสมให้เดอื ด ปดิ ไฟ และกรองเอาแตน่ ้ําใส่ขวดแก้ว
7. ดื่มเมอ่ื ตอ้ งการ

หน่วยท่ี 3 ข้าวและเคร่ืองเทศ u แผนการเรียนรูท้ ี่ 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรกั ษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 267

ส่ือการเรยี นรู้ 9 - Jamu (เดิมสะกด Djamu)
Jamu เป็นยาแผนโบราณของอินโดนีเซีย โดยมากแล้วเป็นยาสมุนไพรทำ�จาก
ส่วนตา่ งๆ ของพืช (ราก เปลือก ดอก เมล็ด ใบ และผล) บางทกี ม็ ีการผสมผลิตภณั ฑจ์ ากสตั ว์
(น้าํ ผึ้ง นมผ้งึ นม และไข)่ เขา้ ไปดว้ ย ตอ่ ไปนี้คือรายการสมุนไพรที่พบมากที่สดุ ใน jamu และ
สรรพคุณ

ขมิน้ ลา้ งพษิ หยดุ การกรน บรรเทาอาการปวดประจ�ำ เดอื น
และลดกล่นิ ตัว

ขา่ แก้อาการเมาเรือและเจ็บคอ นักรอ้ งมักใชผ้ สมเป็น
เครอ่ื งดม่ื เพ่อื ดแู ลรักษาเสยี ง

ขงิ ลา้ งพิษ อาการแพท้ ้อง และท�ำ ให้ร่างกายอบอุน่
กระตนุ้ เลอื ดลม

ตะไคร้ สรา้ งความกระปรก้ี ระเปรา่ ระงบั เลอื ดออกตามไรฟนั
และไล่ยงุ

มะขาม แก้ทอ้ งผูกและท�ำ ใหผ้ วิ ออ่ นนมุ่

กำ�มะถัน แก้ผ่ืนคนั ใชใ้ นเครอื่ งสำ�อาง

หน่วยที่ 3 ขา้ วและเคร่อื งเทศ u แผนการเรียนรูท้ ี่ 5 อาหาร สุขภาพ และการรกั ษา

268 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ส่ือการเรยี นรู้ 10 : Jamu
สามารถพบได้ท่ัวไปในอินโดนีเซีย แต่มีแพร่หลายมากท่ีสุดในชวาท่ี Mbok Jamu
(ผหู้ ญงิ ชวารนุ่ สาวไปจนถงึ วยั กลางคนนงุ่ ชดุ พน้ื เมอื ง kebaya บาตกิ หาบตะกรา้ ไมไ้ ผเ่ ตม็ ไปดว้ ย
ขวด jamu เร่ขายตามหมู่บ้านและตามตรอกซอกซอยในเมือง) ตามเมืองใหญ่ๆ ยาสมุนไพร
jamu ถูกหาบเร่ขายตามท้องถนนพร้อมเคร่ืองด่ืมสร้างความสดชื่นที่ปกติมีรสขมแต่ผสม
ดว้ ยน้ําผ้งึ หรือไมก่ ็น้าํ ตาลมะพรา้ ว การหาบเร่ jamu ในตะกร้าไม้ไผเ่ รยี กว่า Jamu Gendong
(แปลตรงตัวคือ jamu ที่ถูกหาบ) นอกจากนี้ยังมีการต้ังแผงเล็กๆ ข้างถนนขาย jamu
เป็นการเฉพาะ

หนว่ ยท่ี 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ี่ 5 อาหาร สุขภาพ และการรักษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 269

อภิธานศพั ท์ :
อายุรเวท (Ayurveda) - หนึ่งในระบบการแพทย์แบบองค์รวมที่เก่าแก่ที่สุดของโลกท่ีพัฒนาขึ้นมา
เมื่อหลายพันปีก่อนในอินเดีย มีพ้ืนฐานบนความเช่ือว่าสุขภาพท่ีแข็งแรงสมบูรณ์ข้ึนอยู่กับ
สมดลุ ท่ลี ะเอยี ดออ่ นของจิตใจ ร่างกาย และวญิ ญาณ
ไขข้ออักเสบ (Arthritis) - โรคท่ีเจบ็ ปวดที่ขอ้
asamjawa - มะขาม
batikkebaya - หมายถึง ชุดเส้ือผ้าท่ีมีที่มาจากอินโดนีเซีย และสวมใส่โดยผู้หญิงในอินโดนีเซีย
มาเลเซีย บรูไน เมียนมา สิงคโปร์ ภาคใตข้ องไทย กัมพูชา และภาคใต้ของฟิลปิ ปินส์ บาตกิ
คือเทคนิคการสร้างลวดลายบนผ้าด้วยการใชข้ ผ้ี ้ึง
นาํ้ ดี - ของเหลวสีเขียวคลํ้าไปจนถงึ นาํ้ ตาลเหลอื งจากตับ ช่วยยอ่ ยอาหาร
ฉุนเฉียว (choleric) - อารมณไ์ ม่ดหี รือร�ำ คาญ
อยู่ไฟ (confinement) - คำ�ใช้เรียกช่วงเวลาท่ีผู้หญิงคลอดลูก การอยู่ไฟหลังคลอดเป็นวิธีปฏิบัติ
ในบางวฒั นธรรมเอเชยี
curcuma longa - ช่ือวทิ ยาศาสตร์ของตน้ ขมิ้น
เบาหวาน - โรคเกยี่ วกบั การเผาผลาญอาหารในรา่ งกายทคี่ นปว่ ยมรี ะดบั นาํ้ ตาลในเลอื ดสงู ทง้ั เนอ่ื งจาก
ผลิตอนิ ซลู นิ ไมเ่ พียงพอ หรือเซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออนิ ซลู นิ ไม่ดพี อ หรอื ทัง้ สองอย่าง
ขา่ - พชื หัวในตระกูลขงิ
gulamelaka - นา้ํ ตาลมะพร้าว
ตับอักเสบ - ตบั อกั เสบติดเชือ้
ระบบของเหลวในร่างกาย - ระบบการแพทยท์ ใ่ี หร้ ายละเอยี ดเร่ืององคป์ ระกอบและการท�ำ งานของ
ร่างกายมนุษย์ เป็นที่ใช้กันในอายุรเวทและแพทย์ และนักปรัชญากรีกและโรมันโบราณ
ระบบน้ีเช่ือว่าการมีของเหลวในร่างกายส่ีอย่างมากหรือน้อยเกินไปในร่างกายมนุษย์
(humors) จะสง่ ผลต่ออารมณ์และสขุ ภาพของคนนัน้
humors - ในระบบของเหลวในร่างกาย humors หมายถงึ ของเหลวในรา่ งกายมนษุ ย์
jamu - ยาสมุนไพรในอนิ โดนเี ซยี
Jamu Gendong - gendong แปลวา่ หาบ JamuGendong หมายถึง jamu ท่ถี กู หาบ
kunyit - ขม้ิน
ตะไคร้ - พืชในตระกูลหญ้า มีกล่ินเปรี้ยวอ่อนๆ และใช้เป็นสมุนไพรประกอบอาหารทั่วไปในเอเชีย
และยังใช้เป็นยาสมนุ ไพรในอินเดียด้วย

หนว่ ยที่ 3 ขา้ วและเครือ่ งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ่ี 5 อาหาร สุขภาพ และการรกั ษา

270 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

Mbok Jamu - Mbok เปน็ ค�ำ ชวาใช้เรียกผหู้ ญิงท่ีมีอายุมากกว่า Mbok Jamu หมายถงึ ผู้หญิงชวา
ทมี่ อี ายุทีข่ าย jamu
เศรา้ โศก (melancholic) - รูส้ กึ หดหู่
เฉ่ือยชา (phlegmatic) - ไมม่ คี วามรู้สกึ และไม่แสดงความรสู้ ึก
หลงั คลอด (post-natal) - ชว่ งเวลาหลังคลอดบุตร
ไขขอ้ อักเสบ (rheumatism) - โรคท่มี ีการอกั เสบและความเจ็บปวดตามขอ้ กล้ามเน้ือ หรือเน้ือเยื่อ
เสน้ ใย
พืชประเภทหัว (rhizome) - หัวที่อยใู่ ตด้ ิน
รา่ เริง (sanguine) - มองโลกในแงด่ ี
ก�ำ มะถัน (sulphur) - สารเคมีสเี หลืองใส เปน็ ของแข็งในอุณหภูมหิ ้อง
มะขาม - ผลไม้เปน็ ฝกั ที่ใช้กันท่วั ไปในการประกอบอาหาร มรี สหวานและเปรยี้ ว
เอกสารอา้ งองิ :
1. สอื่ การเรยี นรู้ 1 : Keirsey, David. 1998. Please Understand Me II : Temperament,
Character, Intelligence. Del Mar, CA : Prometheus Nemesis Book Company.
2. สอื่ การเรียนรู้ 2 : Image retrieved from :
http://ayurvedadosha.org/what-is-ayurveda#axzz4D3MLUPEh.
ภาพโดย colros [CC-BY-SA-2.0].
3. สอ่ื การเรยี นรู้ 3 : ดัดแปลงจากขอ้ มูลจาก
http://www.mindbodygreen.com/0-1117/Ayurveda-Dosha-Types-for-Beginners.html
และ http://www.sanatansociety.org/ayurveda_home_remedies/ayurveda_three_
doshas.htm#.V2n_UBJwv69
4. ส่ือการเรียนรู้ 4 : Saad, Bashar and Said, Omar. 2011. Greco-Arab and Islamic
Herbal Medicine : Traditional System, Ethics, Safety, Efficacy, and Regulatory
Issues. John Wiley & Sons.
5. สอ่ื การเรียนรู้ 5 : Savage-Smith, Emily. 2013. ‘Were the Four Humours Fundamental
to Medieval Islamic Medical Practice?’ In : The Body in Balance : Humoral Theory
in Practice, ed. by Elisabeth Hsu and Peregrine Horden. [Epistemologies of
Healing, vol. 6] (Oxford : Berghahn Books), 89 - 106.

หนว่ ยท่ี 3 ขา้ วและเครื่องเทศ u แผนการเรียนรู้ท่ี 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรักษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 271

6. สอ่ื การเรียนรู้ 6 : อา้ งแลว้
ภาพถา่ ยจาก http://www.thekitchn.com/7-ways-to-eat-drink-turmeric-198696
(ภาพโดย : MSPhotographic/Shutterstock)
ขอ้ มลู ดดั แปลงจาก http ://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=78
และ David E. Sopher. 1964. ‘Indigenous Uses of Turmeric (Curcuma domestica) in
Asia and Oceania’. Anthropos, Bd. 59, H. 1./2., pp. 93 - 127.
7. สื่อการเรยี นรู้ 7 : อ้างแล้ว
ภาพถ่ายเรยี งตามเข็มนาฬิกาจากซ้าย มาจาก :
https://jerry-coleby-williams.net/2012/01/01/in-production-today-january-2012/
best-shot-turmeric-curcuma-longa-6/
http://www.perennialsolutions.org/hardy-gingers-for-the-food-forest-understory
http://growerjim.blogspot.kr/2014/01/golden-turmeric-curcuma-longa.html
8. สื่อการเรียนรู้ 8 : ดดั แปลงจากขอ้ มูลจาก
http://travel.cnn.com/explorations/drink/power-jamu-gods-350690/
ภาพถ่ายจากบนลงลา่ ง มาจาก :
http://www.homeremediesweb.com/turmeric-health-benefits.php
http://www.angelamay.net/green-curry-paste/img_7332/natureandnutrition.com
http://www.gourmetsleuth.com/articles/detail/lemon-grass
http://www.huffingtonpost.com/2014/10/20/tamarind_n_5999376.html
(uksao 999 via Getty Images)
http://periodictable.com/Elements/016/
9. สอื่ การเรยี นรู้ 9 : สตู รอาหารและภาพถ่าย มาจาก :
http://fukienchaw.blogspot.kr/2015/03/indonesian-confinement-turmeric-drink.html
10. ส่อื การเรยี นรู้ 10 : ดดั แปลงจากขอ้ มลู จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Jamu
ภาพถ่ายจากซา้ ย มาจาก :
http://kendhilkencana.blogspot.kr/2012/02/jamu-gendong-3.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Jamu
http://www.medanthrotheory.org/read/5291/animating-anthropology

หนว่ ยที่ 3 ข้าวและเคร่ืองเทศ u แผนการเรียนรูท้ ่ี 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรกั ษา

272 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

แบบฝกึ หดั 1
อาหารและสขุ ภาพสัมพันธก์ นั อย่างไรในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
เกร่นิ น�ำ :
ระบบความเชื่อเร่ืองสุขภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ท่ีให้ความสำ�คัญกับอาหาร
การกิน สามารถเชื่อมโยงย้อนกลับไปถึงระบบความเชื่อเรื่องของเหลวในร่างกายจากอายุรเวทของ
อินเดีย นกั ปรัชญากรกี และโรมันโบราณ
โดยทั่วไปแล้ว ระบบความเช่ือเรื่องของเหลวในร่างกายมองว่ามนุษย์มีองค์ประกอบเฉพาะ
ของดิน ไฟ น้ํา และลม และจัดจำ�แนกส่ิงต่างๆ ออกเป็นร้อนกับเย็น โรคและอาหารถูกจำ�แนก
ออกเป็นร้อนหรือเย็น และองค์ประกอบของมนุษย์สามารถปรับเปล่ียนได้ด้วยการกินอาหารเม่ือ
จำ�เป็น ดังน้ัน หัวใจสำ�คัญของระบบความเชื่อเร่ืองของเหลวในร่างกายท้ังหมดคือการแสวงหาระบบ
ท่ีสมดุล คือไม่ร้อนไม่เย็น เพ่ือให้ได้สมดุลดังกล่าว เช่ือกันว่าโรคเย็นควรถูกรักษาโดยอาหารร้อน
หรอื การใหค้ วามร้อน และโรครอ้ นควรถูกรักษาโดยอาหารเยน็ หรือการลดอุณหภมู ิ
ระบบความเชื่อเรื่องของเหลวในร่างกายท่ีเน้นเร่ืองร้อน/เย็นอาจมีท่ีมาจากอินเดียไป
อาระเบยี กรีซ และยุโรป และเขา้ มายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในภมู ิภาคนี้ มักจะเนน้ ธาตุลม เชน่
โรคท่ีขึ้นต้นด้วยลมต่างๆ ในประเทศไทย และ angin ในมาเลเซีย เลือดท่ีเป็นของเหลวร้อนและ
เสมหะทเ่ี ปน็ ของเหลวเย็นจะต้องอยู่ในระดบั สมดลุ ความเจ็บป่วยและระยะต่างๆ ของการเจริญพนั ธุ์
รบกวนสมดลุ ของธาตุและจ�ำ เปน็ ต้องดูแลเร่อื งอาหารการกิน
1. ร้อน เย็น หรอื เป็นกลาง
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้รับความคิดบางอย่างจากอินเดีย (ระบบอายุรเวท) และจีน
(ระบบหยนิ และหยาง ซง่ึ หมายถงึ เย็นและร้อนตามลำ�ดับ) เก่ียวกบั คณุ สมบตั เิ ย็นหรอื ร้อนของอาหาร
และการทอี่ าหารสง่ ผลต่อปจั เจกบคุ คลในแต่ละช่วงวัยในแตล่ ะฤดกู าล
ศึกษาอาหารตามรายการข้างล่าง ให้พิจารณาส่ิงท่ีผู้ใหญ่ในครอบครัวพูดเกี่ยวกับ
คณุ สมบตั ขิ องอาหาร นกั เรยี นจะจดั จ�ำ แนกอาหารเหลา่ นเ้ี ปน็ รอ้ น (ใหค้ วามรอ้ น) เยน็ (ท�ำ ใหร้ า่ งกายเยน็ )
หรือเป็นกลาง จัดกลุ่มในแผนภาพ Venn ในหน้าถัดไป มีอาหารที่อาจอยู่ได้มากกว่าหน่ึงประเภท
หรือไม่ เพิ่มอาหารเข้าไปในแต่ละส่วนของแผนภาพหากท�ำ ได้และแลกเปลยี่ นความรู้กบั เพ่อื นๆ

หนว่ ยที่ 3 ข้าวและเครือ่ งเทศ u แผนการเรียนร้ทู ี่ 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรกั ษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 273

พรกิ มะละกอ ขา้ ว ไขมนั ปลาสด
ปลาเคม็ ถว่ั ลสิ ง กระเจย๊ี บเขียว แตงกวา มะพรา้ ว
สับปะรด (และถ่ัวอนื่ ๆ) มะเขือ มะระ
พรกิ ไทย กล้วย ขม้นิ
ฝรง่ั
ขงิ เน้อื แดง กะหลํ่าปลี แตงโม มะมว่ ง

กระเทียม ผักโขม หอมหัวใหญ่

ร้อน

เยน็ กลาง

หน่วยที่ 3 ข้าวและเครื่องเทศ u แผนการเรยี นรู้ท่ี 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรักษา

274 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

แบบฝึกหัด 2
อาหารเป็นยา : ขม้ิน
คนท่มี สี ุขภาพดสี ่วนมากมกั จะไมใ่ ส่ใจกบั เรอ่ื งธาตุหรือของเหลว จนกวา่ จะป่วยหรือตั้งท้อง
ผูห้ ญิงหลังคลอดยังอยูใ่ นภาวะเย็นที่อนั ตราย และต้องได้รบั ความรอ้ นในทางพิธีกรรมและทางปฏิบัติ
ด้วยอาหารและยาทีใ่ หค้ วามรอ้ นเพอ่ื ขบั “เลอื ดเสีย” ออกไป และฟ้นื สมดลุ ภายใน
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขม้ินที่ถูกใช้ในทางศาสนาและพิธีต่างๆ มายาวนาน ถูกใช้
อย่างกว้างขวางในทางการแพทย์และพิธีกรรมในช่วงการคลอดและการเป็นทารก อ่านข้อมูลต่อไปน้ี
เพิม่ เติม
การใช้ขมิ้นบดหรือผงสำ�หรับแมแ่ ละเด็กในช่วงคลอดหรือเปน็ ทารกเป็นเร่ืองท่ีพบได้
ท่วั ไปในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ ไมว่ ่าจะเปน็ ในหมูช่ าวพมา่ และตะเลง (มอญ) ในพมา่ กัมพชู า
โคชินจีน และในหมู่ชาวมลายู กล่าวกันว่าชาวมอย (Moi) บนพ้ืนท่ีสูงในทางใต้ของอินโดจีน
กใ็ ชข้ งิ ในลกั ษณะน้ี ชาวดายคั (Dayak) บนเกาะบอรเ์ นยี วใชข้ มนิ้ ขาวเพอ่ื การนเ้ี ชน่ กนั ชาวโตเบโล
(Tobelo) แห่งฮาลมาเฮราเหนือ (North Halmahera) ใช้ขมิ้นนวดแม่และลูกหลังคลอด
บางครั้งก็มีการเอาขมิ้นแง่งหน่ึงวางไว้ใต้สายสะดือเวลาตัดด้วยไม้ไผ่ โดยทั้งสายสะดือและ
แงง่ ขมน้ิ จะถกู ตดั ขาดไปพรอ้ มกนั มกี ารปฏบิ ตั แิ บบเดยี วกนั ในอาชนิ (Achin) ในทางตอนเหนอื
ของสุมาตรา โดยหมอตำ�แยยังเคี้ยวขมิ้นและถ่มไปท่ัวร่างทารกเป็นการเสร็จสิ้นพิธี ในเขต
โคเอลากาโพเอส (Koealakapoeas) ในทางใต้ของบอร์เนียว มีการฝังขมิ้นแง่งหน่ึงไปกับ
สายสะดือด้วย

ดดั แปลงจาก David E. Sopher. 1964. ‘Indigenous Uses of Turmeric (Curcuma domestica) in Asia and Oceania’.
Anthropos, Bd. 59, H. 1./2., pp. 93 - 127.

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเคร่ืองเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ี่ 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรกั ษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 275

แบบฝึกหดั 3
การครนุ่ คดิ ทบทวน : รักษาภมู ิปญั ญาของผอู้ าวุโส
ก่อนท่ีจะมีการรักษาพยาบาลแบบตะวันตก ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำ�นวนมาก
พ่ึงพาสมุนไพรในการรักษาอาการเจ็บป่วย พืชและส่วนประกอบหลายอย่างที่ใช้ในการทำ�อาหาร
ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสรรพคุณทางยาด้วย ยกตัวอย่างเช่น กระเทียม ตะไคร้ และผักชี
เป็นท่ีรู้กันว่ามีฤทธ์ิป้องกันและรักษาการติดเชื้อ พริกถูกใช้เสริมระบบภูมิคุ้มกัน และส่วนประกอบ
อาหารอย่างอื่น เชน่ ขมิน้ และโหระพา ก็มีสรรพคณุ ทางยาทสี่ ำ�คญั โดยเฉพาะสำ�หรับอาการเจบ็ ปว่ ย
เก่ยี วกับระบบทางเดนิ อาหาร
ความรู้เร่ืองสมุนไพรถูกถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่งระหว่างการเดินในป่า
อย่างไรก็ตาม ด้วยการขยายพื้นที่เมือง การทำ�ลายป่า การเข้าถึงการรักษาพยาบาลแบบตะวันตก
และปัจจัยอน่ื ๆ ทรพั ยากรธรรมชาตเิ หล่าน้แี ละความร้ทู ่ีสบื ทอดกนั มาก�ำ ลังสญู หายไปอยา่ งรวดเร็ว
นักเรียนได้เรียนรู้เก่ียวกับ jamu ท่ีเป็นยาแผนโบราณของอินโดนีเซีย ใช้รักษาอาการ
เจ็บป่วย บำ�รุงเพ่ิมความงามและพละกำ�ลัง และยังได้รู้วิธีการทำ� jamu ที่ปรุงสำ�หรับแม่เพ่ิงคลอด
เป็นการเฉพาะ
นักเรียนรู้จักยาแบบ jamu ที่ใช้สำ�หรับอาการเจ็บป่วยเฉพาะหรือไม่ มียาแผนโบราณ
ท่ที �ำ จากสว่ นประกอบธรรมชาติท่ีใชส้ ำ�หรบั อาการเจ็บป่วยท่วั ไป อยา่ งเช่น หวัด เจ็บคอ ไข้ ทอ้ งอดื
ฯลฯ บา้ งหรอื ไม่
สัมภาษณ์ผู้ใหญ่ในครอบครัวและเขียนรายงานเก่ียวกับยาและการรักษาแผนโบราณ
ท่ใี ชก้ ันทว่ั ไปในชมุ ชนของนักเรียน

หน่วยที่ 3 ขา้ วและเครอื่ งเทศ u แผนการเรยี นรู้ที่ 5 อาหาร สุขภาพ และการรกั ษา

276 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ ค�ำ ตอบ :

แบบฝึกหดั 4
สมั ภาษณห์ มอตำ�แย

ค�ำ ถาม :
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

หน่วยที่ 3 ข้าวและเครือ่ งเทศ u แผนการเรยี นร้ทู ่ี 5 อาหาร สขุ ภาพ และการรักษา

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 277

การบ้าน 1 : อาหารทางความคดิ

ในวฒั นธรรมของนกั เรียน วิธีการท�ำ อาหารสง่ ผลหรอื เปลี่ยนแปลงคุณสมบตั ิของอาหาร
หรือไม่ ยกตวั อย่างเชน่ ปลาสดมักจะถูกถอื วา่ เปน็ กลาง การทอดหรือปิง้ จะเปล่ยี น
คณุ สมบัตขิ องปลาหรือไม่ ถามเรือ่ งนก้ี บั ผใู้ หญใ่ นครอบครัวและบนั ทกึ ค�ำ ตอบข้างลา่ ง






การบา้ น 2 :

ความรู้ทสี่ ืบทอดกันมาดงั ทีแ่ สดงใหเ้ หน็ ในส่อื การเรยี นขา้ งตน้ นัน้ ได้รบั การถ่ายทอดกนั มา
โดยผูอ้ าวุโสหรอื หมอต�ำ แย และจากแม่ส่ลู กู ผา่ นการบอกเล่า กอ่ นจะมีการแพรห่ ลาย
และการยอมรบั การแพทย์ตะวันตก พวกเขาคอื แหลง่ ความรู้หลักด้านสขุ ภาพ
สำ�หรับผู้หญงิ ในหมูบ่ า้ น และสะท้อนภมู ปิ ัญญาและประสบการณ์ของบรรพบรุ ษุ ของเรา
นกั เรยี นรู้จกั ใครในครอบครัวหรือชุมชนท่เี ปน็ หมอต�ำ แยหรือไม่ ให้สมั ภาษณ์เธอ
เกยี่ วกับการทำ�คลอด

หน่วยที่ 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรู้ท่ี 5 อาหาร สุขภาพ และการรักษา

278 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเครอ่ื งเทศ
แผนการเรียนร้ทู ่ี 6 ทนุ หนี้ และการสูญเสียทด่ี ินในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตติยาร์ (Chettiars) เป็นต้นเหตุของการสญู เสยี ทีด่ นิ ในพม่าหรือไม่

วชิ า : ประวตั ิศาสตร์/สังคมศกึ ษา
หัวขอ้ : ทนุ หน้ี และการสูญเสียทด่ี นิ ในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้
(ศตวรรษท่ี 19 - 20) : ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เปน็ ต้นเหตุ
ของการสูญเสียทดี่ ินในพม่าหรือไม่
ระดับ : มัธยมศกึ ษาตอนตน้
จำ�นวนคาบ/แผนการเรยี นรู้ : 2 แผนการเรยี นรู้ (100 นาท)ี
อปุ กรณท์ ่จี ำ�เป็น : ไม่ตอ้ งใชอ้ ุปกรณพ์ เิ ศษ
ความรู้พื้นฐาน : นักเรียนควรผ่านบทเรียนที่ 1, 3 และ 4 มาแล้วเป็นอย่างน้อย
และมีความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมข้าวและความเชื่อมสัมพันธ์ภายใน
ภูมภิ าค
วัตถปุ ระสงคก์ ารเรยี นรู้ :
เมื่อจบบทเรยี น นักเรยี นสามารถ

ความรู ้ ทักษะ เจตคติ

1. บรรยายการสูญเสยี 1. ศกึ ษาสอื่ การเรียนรแู้ ละมีสว่ นรว่ ม 1. ตระหนกั ว่าพัฒนาการของ
ที่ดินท่ีเกดิ ขึ้นในพม่า ในการเลน่ ตามบทบาทสมมติ (role อุตสาหกรรมการสง่ ออกขา้ ว
และการที่ชาวนาพมา่ play) เพอ่ื จะไดเ้ ห็นมุมมองต่างๆ ในปลายศตวรรษท่ี 19 และต้นศตวรรษ
พุ่งความโกรธแคน้ จาก ขณะสำ�รวจประเดน็ ที่มีความขดั แย้ง ที่ 20 เปน็ ดาบสองคมอย่างไร
การสูญเสียที่ดนิ ไปที่ 2. ปลกู ฝงั ความรคู้ วามเข้าใจทาง
คนปล่อยเงนิ กู้ (คือ ประวัตศิ าสตรใ์ ห้ตระหนักถงึ สภาพ
ชาวเชตตยิ าร)์ เงอื่ นไขของความเป็นไปได้ และทางเลือก
2. ระบสุ าเหตุอ่ืนๆ ที่มี ท่มี อี ยสู่ �ำ หรบั บุคคลในประวัตศิ าสตร์
ส่วนท�ำ ใหเ้ กดิ ปัญหา
การสญู เสยี ท่ีดิน
3. มองเห็นแรงขับต่างๆ
ที่อยู่เบอ้ื งหลงั ประเดน็
การสูญเสยี ที่ดนิ

หน่วยที่ 3 ขา้ วและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรูท้ ่ี 6 ทนุ หน้ี และการสูญเสียท่ีดินในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เป็นตน้ เหตขุ องการสญู เสยี ที่ดินในพมา่ หรือไม่

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 279

ข้ันตอน การด�ำ เนินการสอน สือ่ การเรยี นรู้ หลักการและเหตผุ ล

เกริน่ นำ� ให้นกั เรียนดูแบบฝึกหดั 1 เกร่นิ น�ำ • แบบฝกึ หดั 1 การบรรยายของครใู ห้บริบท
เนอื้ หาแก่นักเรียนไดอ้ ย่าง
[10 นาท]ี ครูบรรยาย • สื่อการเรยี นรู้ 1 รวดเรว็

1. โลกาภิวตั น์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • ส่ือการเรียนรู้ 2

ไม่ไดเ้ ป็นปรากฏการณ์ทเี่ พงิ่ เกดิ ขน้ึ

ในช่วงไมก่ ีป่ ีมาน้ี ในเนอ้ื หากอ่ นหน้าของ

หน่วยนี้ นักเรียนไดเ้ รียนรูแ้ ลว้ ว่าภูมภิ าคน้ี

มีความเชอ่ื มสัมพันธก์ ับส่วนอ่นื ๆ ของโลก

ดว้ ยการค้าเครื่องเทศอยา่ งไร

2. บทเรียนนีใ้ ช้การปลูกข้าวเปน็ กรณศี กึ ษา

ทางประวัติศาสตรเ์ กี่ยวกบั โลกาภวิ ตั น์ใน

เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ในศตวรรษที่ 19 - 20

โดยมีฉากหลังเป็นการล่าอาณานคิ มและ

การผงาดของทนุ นิยม จากกรณีศึกษาทาง

ประวตั ิศาสตรน์ ี้ นักเรยี นสามารถสำ�รวจ

ประเด็นค�ำ ถามท่เี กดิ จากโลกาภวิ ตั นใ์ น

บริบทของปจั จุบันต่อไปไดอ้ ีก

3. ในปลายศตวรรษที่ 19 และตน้ ศตวรรษ

ที่ 20 พัฒนาการของอตุ สาหกรรมขา้ ว

ชใ้ี หเ้ ห็นว่าเศรษฐกจิ ของเอเชยี ตะวันออก

เฉียงใต้เปลยี่ นแปลงไปอย่างไรจากศตวรรษ

กอ่ นหน้า ในดา้ นหนึง่ ภูมภิ าคน้ียงั คง

เช่ือมสมั พันธ์กับส่วนอนื่ ของโลก และมี

พฒั นาการทางเศรษฐกิจและสงั คมอย่างมาก

ตลอดท้งั ภูมิภาค (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วน

ทอ่ี ย่บู นแผน่ ดนิ ใหญ่ คอื พมา่ ไทย และ

อินโดจีนของฝร่งั เศส) ชาวบ้านจ�ำ นวนมาก

กลายเปน็ ชาวนา ซ่ึงเกิดการอพยพย้ายถิ่น

อย่างใหญ่โตภายในประเทศเพอ่ื ไปปลูกขา้ ว

ในพื้นท่ีใหมๆ่ เช่น ชาวพม่ายา้ ยไปบรเิ วณ

ปากแม่นํ้าอิรวดี และคนเวียดนามย้ายไปยงั

ปากแมน่ ํ้าแดง สนับสนุนค�ำ อธิบายดว้ ย

สื่อการเรียนรู้ 1 และสอื่ การเรียนรู้ 2

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเครอ่ื งเทศ u แผนการเรียนรทู้ ่ี 6 ทุน หน้ี และการสูญเสียที่ดนิ ในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เป็นตน้ เหตุของการสูญเสยี ท่ีดินในพมา่ หรอื ไม่

280 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ขัน้ ตอน การด�ำ เนนิ การสอน ส่อื การเรยี นรู้ หลักการและเหตุผล

พัฒนา 1. ครูบรรยาย • แบบฝึกหดั 2 • การใช้ส่อื การเรียนรู้เพอ่ื
บทเรียน 1 1.1 ในอกี ด้านหนึง่ การเติบโตทาง • สอื่ การเรยี นรู้ 3 ถงึ เสริมการบรรยายของครู

[40 นาท]ี เศรษฐกิจไมไ่ ดเ้ ป็นประโยชนต์ อ่ ชาวเอเชยี สื่อการเรียนรู้ 8 ทำ�ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจข้อมูล

ตะวันออกเฉียงใตส้ ว่ นใหญ่ สว่ นหนง่ึ ไดด้ ีข้ึน

เป็นเพราะธรรมชาตทิ ไ่ี ม่แน่นอนของเศรษฐกจิ • การใชแ้ ผน่ จดั แผนภาพ 3 -

สง่ ออก และอีกส่วนหน่ึงเปน็ เพราะสถานะ 2 - 1 ในเอกสารประกอบ 2

ทอี่ อ่ นแอของเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ช่วยใหน้ กั เรยี นได้รวบรวม

ในเศรษฐกจิ น้ี การปลกู ขา้ วเพ่อื ส่งออก ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้มาต้งั แต่

ผกู ชาวนาเขา้ กบั เศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ บทเรียนแรก และกำ�หนด

ท่ตี อ้ งอาศัยเงินทุน และพวกเขานา่ จะประเมิน บรบิ ทส�ำ หรับบทเรียน

ความเสี่ยงตา่ํ เกินไป ชาวนากเู้ งนิ มาซ้อื ชว่ งทส่ี อง

เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย อปุ กรณพ์ ้ืนฐาน และแรงงาน

และส�ำ หรับค่าใช้จ่ายสว่ นตัวและครอบครัว

อย่างเชน่ งานแตง่ งาน งานศพ พธิ ที างศาสนา

ฯลฯ ในการกู้เงินจากคนปลอ่ ยเงนิ ก้ชู าวจีน

อินเดยี และคนพ้ืนเมืองในทอ้ งถ่ิน พวกเขา

ตอ้ งวางท่ดี ินเป็นหลักประกัน การกู้ท�ำ ให้

ชาวนาเปน็ หนเ้ี ปน็ สนิ และตกอยู่ในภาวะเสย่ี ง

หากความตอ้ งการขา้ วตกตํ่า เสรมิ การอธบิ าย

ดว้ ยสื่อการเรียนรู้ 3 - 5

1.2 คนปล่อยกู้ชาวอินเดีย (เชตตยิ าร์ -

Chettiars) เป็นทีจ่ งเกลียดจงชงั เมอื่ ราคาข้าว

ตกตา่ํ ในช่วงเศรษฐกจิ ตกตํ่าครัง้ ใหญใ่ น

ทศวรรษ 1930 และพวกเขาเรม่ิ ยดึ ทด่ี นิ ของ

ชาวพม่าที่ไมส่ ามารถจา่ ยหนีไ้ ด้ ดว้ ยเหตนุ ้ี

เชตติยาร์จึงครอบครองที่ดินเกือบหนงึ่ ในส่ี

ของพน้ื ทเ่ี พาะปลูกในพมา่ ตอนลา่ ง

1.3 ชาวนาพม่าตอนนีไ้ ม่ได้เป็นเจา้ ของ

ที่นาและลดชน้ั ไปเป็น “ผูเ้ ช่า” ทเี่ ชา่ ทีด่ ิน

ของคนอ่ืนเพอื่ ท�ำ การเพาะปลูก คนปลอ่ ย

เงินกู้กลายเป็น “เจา้ ของทดี่ นิ ทีไ่ ม่อย่ใู นทดี่ ิน”

ไม่เหมือนเจา้ ของท่ดี นิ ธรรมดาทว่ั ไป

เนื่องจากพวกเขาไมไ่ ดอ้ าศยั อยใู่ นพนื้ ท่นี นั้

ห น่วยท่ี 3 ขา้ วและเครอ่ื งเทศ u แผนการเรียนรู้ที่ 6 ทุน หน้ี และการสญู เสยี ที่ดินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ศตวรรษท่ี 19 - 20) :
ชาวเชตติยาร์ (Chettiars) เป็นตน้ เหตุของการสญู เสยี ท่ดี ินในพมา่ หรอื ไม่

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 281

ขั้นตอน การดำ�เนนิ การสอน ส่อื การเรียนรู้ หลักการและเหตุผล

แต่เก็บรายได้จากคา่ เชา่ นา พอถึงปี พ.ศ. 2482

ท่เี พาะปลูกร้อยละ 59 ในพม่าตอนล่าง

เป็นนาเช่า ซึ่งแสดงให้เหน็ ถึงความรนุ แรง

ของปัญหาการสูญเสยี ท่ดี นิ ในพม่า

1.4 ประเด็นการสญู เสียที่ดนิ ก่อใหเ้ กิด

ปญั หาในสงั คมพมา่ ทีข่ ึ้นถึงจุดแตกหักในช่วง

ภาวะเศรษฐกจิ ตกตํ่าครั้งใหญเ่ มือ่ เกิด

การจลาจลต่อต้านชาวอินเดียในพม่าตอนล่าง

เสริมประเดน็ ข้างบน ดว้ ยส่ือการเรียนรู้ 6

ถึงส่ือการเรยี นรู้ 8

2. ตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจ

2.1 ใหน้ กั เรียนครนุ่ คดิ เก่ียวกบั สิง่ ทีไ่ ด้

เรยี นรมู้ าด้วยการเติมตารางในเอกสาร

ประกอบ 2 กระตุ้นให้นกั เรยี นตอบ

เพ่ือช่วยใหร้ วบรวมสิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้

2.2 ทบทวนใหน้ กั เรียนฟังวา่ เศรษฐกจิ

ดงั้ เดิมกอ่ นยุคอาณานคิ มทีเ่ คยตอบสนอง

ตอ่ คนท้องถน่ิ ได้เปลี่ยนแปลงไปเพ่อื สนอง

ผลประโยชน์ของประเทศอตุ สาหกรรม

ตะวนั ตก ดว้ ยเหตุน้ี เศรษฐกจิ ของเอเชยี

ตะวันออกเฉยี งใตจ้ งึ ไม่ได้มีขนาดเล็ก

พึ่งตนเองได้ หรอื เปน็ อิสระอกี ต่อไปแล้ว

แตข่ ยายเปน็ เศรษฐกิจทม่ี ุง่ การส่งออกที่

เตบิ โต และขนึ้ กับปัจจยั ทางเศรษฐกจิ จาก

ท่อี ่นื ของโลก โดยเฉพาะตะวนั ตก เอเชีย

ตะวันออกเฉียงใตใ้ นฐานะแหลง่ ปอ้ นวัตถดุ ิบ

และผลติ ภณั ฑ์ชั้นต้นจึงอยู่ในภาวะเสี่ยง

อย่างมากต่อความผนั ผวนของราคาของ

สนิ ค้าเหลา่ นี้ในตลาดโลก นอกจากนี้

เศรษฐกิจของเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้

ยงั ต้องพ่งึ พาสนิ ค้าอยา่ งเดยี วหรอื ไม่กอ่ี ยา่ ง

มากเกนิ ไป และไมม่ ีความหลากหลายมากพอ

ราคาท่ีผนั ผวนของสนิ ค้าเหลา่ น้ีจงึ กระทบ

หน่วยที่ 3 ขา้ วและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรูท้ ี่ 6 ทุน หน้ี และการสูญเสยี ท่ีดนิ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตติยาร์ (Chettiars) เปน็ ตน้ เหตขุ องการสูญเสยี ท่ีดินในพม่าหรือไม่

282 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ขั้นตอน การดำ�เนินการสอน สอื่ การเรยี นร ู้ หลกั การและเหตุผล

ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้

อยา่ งรุนแรง

2.3. เกรนิ่ น�ำ เนอื้ หาส่วนตอ่ ไปดว้ ย

การบอกนกั เรียนว่าจะไดเ้ รยี นร้มู ากข้ึน

เกย่ี วกบั การสญู เสียท่ีดินในพม่า และไดเ้ ห็น

ปัจจยั และผูก้ ระท�ำ ตา่ งๆ ทเี่ ปน็ พลังผลกั ดนั

ประเดน็ น้ี

พัฒนา การเล่นบทบาทสมมติ • แบบฝึกหัด 3

บทเรยี น 2 หมายเหตุ : มบี ทบาทสมมติสองชดุ ชุดแรก • สือ่ การเรยี นรู้ 10

[35 นาที] เป็นชาวนาพมา่ และคนปล่อยเงินกู้ชาวเชตติยาร์ และ 11

ชดุ ท่ีสองเป็นเจ้าหนา้ ที่อาณานิคมของอังกฤษสองคน • สือ่ การเรียนรู้ 12

พอ่ ค้าชาวยุโรปหนงึ่ คน และเจ้าของท่ดี นิ ชาวพม่า แผ่นบทบาท

หน่ึงคน ใหน้ ักเรยี นดูรายละเอยี ดในแบบฝกึ หดั 3 (พมิ พแ์ จกให้นักเรียน

1. บทบาทสมมติ 1 ทร่ี ว่ มเลน่ บทบาทสมมติ

1.1 ใหน้ กั เรียนท่เี ล่นบทชาวนาพม่า ก่อนบทเรียน)

และคนปลอ่ ยเงนิ กชู้ าวเชตตยิ ารอ์ อกมาหนา้ ชน้ั

1.2 แนะนำ�ตวั ละครใหน้ กั เรยี นรู้จกั และ

บอกพวกเขาวา่ จะต้องสมั ภาษณ์ชาวนาพมา่

และคนปลอ่ ยเงินกชู้ าวเชตตยิ าร์ (เน้นกบั

นักเรยี นว่าไมไ่ ดม้ แี ตช่ าวเชตตยิ าร์อนิ เดยี

เท่านั้นที่เป็นคนปลอ่ ยเงนิ กใู้ นพมา่ ยงั มี

ชาวจีนและคนพ้นื เมอื งอีกดว้ ย)

1.3 ให้นกั เรยี นระดมสมองคิดค�ำ ถาม

3 ข้อที่จะถามตัวละครแตล่ ะตัว

1.4 เร่ิมกิจกรรม ด�ำ เนินไปตามข้ันตอน

และสามารถแทรกขัดไดเ้ มื่อจ�ำ เปน็

หรอื นักเรียนตอ้ งการความชว่ ยเหลอื

1.5 หลังจากกิจกรรม กระตุน้ ให้นกั เรียน

ตอบเก่ยี วกับสง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ อธิบายใหน้ ักเรยี น

ฟังวา่ พฒั นาการของอุตสาหกรรมข้าวท�ำ ให้

การปลกู ขา้ วขนานใหญ่เป็นท่ดี ึงดูดสำ�หรบั

ชาวนาพม่า และพวกเขาอาจไมเ่ ขา้ ใจว่า

การปลกู ข้าวเพอ่ื สง่ ออกน้นั ผูกพวกเขาเข้ากบั

หน่วยท่ี 3 ขา้ วและเคร่อื งเทศ u แผนการเรียนร้ทู ี่ 6 ทนุ หน้ี และการสูญเสยี ท่ดี นิ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (ศตวรรษท่ี 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เป็นตน้ เหตุของการสูญเสยี ท่ีดนิ ในพม่าหรือไม่

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 283

ขัน้ ตอน การดำ�เนินการสอน สอ่ื การเรียนรู้ หลกั การและเหตุผล

เศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศทเ่ี ส่ียงตอ่
ความผันผวนของราคา
1.6 ก่อนคริสตทศวรรษ 1880 ชาวเชตตยิ าร์
อินเดยี ปลอ่ ยเงินกใู้ ห้กบั การเพาะปลูก
โดยออ้ ม ดว้ ยการให้เงินกูก้ ับคนปล่อยเงินกู้
ทเี่ ปน็ คนพ้นื เมอื งที่จากนนั้ กไ็ ปปล่อยก้ใู ห้กับ
ชาวนาอีกทอดหน่ึงดว้ ยดอกเบี้ยท่ีสงู ขึน้ ไปอกี
จริงๆ แลว้ พวกเขาปล่อยกู้ให้กับชาวนา
โดยตรงนอ้ ยมาก เมอื่ ระบอบอาณานิคมของ
อังกฤษกำ�หนดระบบการถือครองทดี่ ินใหม่
ก็ท�ำ ให้เกดิ ความต้องการสินเชือ่ ด้านการเกษตร
มากขนึ้ เสริมการอธบิ ายด้วยสอื่ การเรยี นรู้ 10
และส่อื การเรียนรู้ 11
2. บทบาทสมมติ 2
2.1 ใหน้ กั เรียนทร่ี ว่ มเลน่ บทบาทออกมา
หนา้ ชน้ั
2.2 ใหบ้ รบิ ทกับนักเรียนดว้ ยการอธิบายวา่
รฐั บาลอาณานคิ มของอังกฤษจริงๆ แล้ว
ตระหนกั ถงึ อนั ตรายของการสูญเสียที่ดิน
และตอ้ งการออกกฎหมายมาควบคมุ ปัญหานี้
อยา่ งไรก็ตาม มีผูก้ ระทำ�อืน่ ๆ ที่ตอ่ ต้าน
ความพยายามออกกฎหมายดงั กล่าวด้วย
เหตผุ ลตา่ งๆ นักเรียนจะต้องถามตัวละครวา่
ทำ�ไมพวกเขาจงึ ตอ่ ต้านการออกกฎหมาย
ดงั กล่าว
2.3 เร่ิมกจิ กรรม ด�ำ เนนิ ไปตามขัน้ ตอน
และสามารถแทรกขดั ไดเ้ มอ่ื จ�ำ เปน็
หรอื นกั เรยี นตอ้ งการความช่วยเหลือ
2.4 หลงั กจิ กรรม กระต้นุ ให้นกั เรยี น
ตอบคำ�ถามเกี่ยวกบั สงิ่ ทไี่ ดเ้ รียนรู้
2.5 อธบิ ายกับนกั เรยี นวา่ ในบางกรณี
รัฐบาลอาณานิคมไมส่ ามารถลังเลหรอื ไม่
เต็มใจท่ีจะดำ�เนนิ มาตรการเพื่อลดความเสี่ยง
ของชาวนาในเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ

หน่วยที่ 3 ข้าวและเคร่ืองเทศ u แผนการเรียนรู้ที่ 6 ทนุ หน้ี และการสญู เสยี ท่ดี นิ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตติยาร์ (Chettiars) เป็นต้นเหตุของการสูญเสยี ท่ดี ินในพมา่ หรือไม่

284 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ขัน้ ตอน การด�ำ เนนิ การสอน ส่อื การเรียนร ู้ หลกั การและเหตุผล

เนือ่ งจากมาตรการดังกล่าวอาจส่งผลเสีย • การใชแ้ ผนภาพภเู ขาน้าํ แข็ง
ชว่ ยใหน้ กั เรียนตระหนักถึง
ต่ออตุ สาหกรรมข้าว ยกตวั อยา่ งเชน่ ปัจจัยต่างๆ ทกี่ ่อใหเ้ กิด
การสญู เสียท่ดี นิ
ในพมา่ โรงสขี า้ วท่ีองั กฤษเปน็ เจา้ ของ ภาพภูเขาน้ําแขง็
ช่วยให้นกั เรยี นระลกึ ได้ว่า
พยายามกดราคาขา้ วเปลือกให้ตา่ํ ต้องมองใหล้ กึ กวา่ สง่ิ ทเ่ี หน็
ในระดบั พื้นผวิ เพ่อื ทจ่ี ะเข้าใจ
เพอ่ื ให้ไดก้ ำ�ไรสูงสุด รัฐบาลอาณานคิ มใน เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ในอดีต
(หรอื ปัจจุบัน) ไดด้ ขี ึน้
เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้หลายประเทศ • การใช้รายงานการคร่นุ คดิ
ทบทวนทำ�ให้ครูสามารถ
ก็ลงั เลเชน่ กันท่จี ะทำ�ให้เศรษฐกิจมีความ วดั ความเขา้ ใจของนกั เรียนได้
เกย่ี วกบั การท่วี ่าพัฒนาการ
หลากหลายมากขน้ึ นอกจากสินคา้ พ้ืนฐาน ของอุตสาหกรรมสง่ ออกขา้ ว
ในปลายศตวรรษที่ 19 และ
เช่นว่า พฒั นาการผลิตสินคา้ อุตสาหกรรม ต้นศตวรรษที่ 20 เปน็
ดาบสองคมอย่างไร และ
เนื่องจากจะเป็นการสรา้ งการแขง่ ขันให้กับ ยังช่วยให้ครปู ระเมินไดว้ ่า
นักเรียนตระหนกั หรอื ไมว่ า่
ผผู้ ลติ ของตะวนั ตก • แบบฝกึ หดั 4 ในประเดน็ ทีเ่ ปน็ ขอ้ ขดั แย้งนั้น
มหี ลายมมุ มอง
สรปุ 1. ให้นักเรยี นดูแผนภาพภูเขานํ้าแข็ง • แบบฝึกหัด 5

บทเรียน ในแบบฝกึ หัด 4
[15 นาท]ี 2. อธิบายกับนกั เรยี นว่าปกตแิ ลว้ การเกิด

ปรากฏการณ์หนึ่งๆ จะมสี าเหตตุ ่างๆ

มากมาย สงิ่ ท่เี ราเหน็ อยูเ่ หนือผิวนา้ํ เปน็ เพียง

ยอดของภเู ขานา้ํ แขง็ บ่อยครั้งท่ีเรายาก

จะมองเหน็ สาเหตใุ หญ่ๆ ทีอ่ ยู่ “ใตผ้ วิ น้ํา”

3. ให้นักเรียนกรอกข้อความลงในแผนภาพ

ภูเขาน้ําแข็ง และตัดสนิ ใจว่าชาวเชตติยาร์

อินเดียคอื ตน้ เหตขุ องการสญู เสยี ที่ดนิ ในพมา่

หรือไม่ โดยพิจารณาจากส่อื การเรยี นรู้ที่มี

และขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากกจิ กรรมการเล่นบทบาท

สมมติ

4. ให้เวลานกั เรียนกรอกข้อความลงใน

แผนภาพภูเขานา้ํ แขง็ และกระตุน้ ใหน้ กั เรยี น

ตอบคำ�ถาม

5. รวบรวมส่ิงทนี่ ักเรยี นไดเ้ รยี นรู้ และ

ใหท้ ำ�แบบฝึกหัด 5 - คดิ ทบทวน

หนว่ ยที่ 3 ขา้ วและเครือ่ งเทศ u แผนการเรียนรทู้ ่ี 6 ทนุ หน้ี และการสูญเสียทดี่ นิ ในเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ (ศตวรรษท่ี 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เปน็ ตน้ เหตุของการสญู เสยี ท่ีดนิ ในพมา่ หรอื ไม่

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 285

หน่วยที่ 3 ข้าวและเครอื่ งเทศ

แผนการเรียนรทู้ ี่ 6 ทุน หน้ี และการสูญเสียที่ดนิ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ (ศตวรรษท่ี 19 - 20) :
ชาวเชตติยาร์ (Chettiars) เปน็ ตน้ เหตขุ องการสูญเสียทดี่ ินในพม่าหรอื ไม่

สอ่ื การเรยี นรู้และแบบฝกึ หดั

สอ่ื การเรยี นรู้ 1 - ความเฟอ่ื งฟูของอุตสาหกรรมส่งออกในเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้
พอถึงปี พ.ศ. 2483 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแหล่งป้อนวัตถุดิบต่างๆ ที่สำ�คัญ
ของโลก เชน่ ยางพารา ปอ พริกไทย เปลอื กตน้ ซิงโคนา และไม้สักเกอื บท้ังหมด สามในสขี่ อง
มันสำ�ปะหลงั และเนือ้ มะพรา้ วแหง้ กวา่ ครง่ึ ของน้ํามนั ปาล์ม กว่าหนึง่ ในสามของไหมสบั ปะรด
และนํา้ ตาล ดบี กุ ชา ยาสบู เครอื่ งเทศ ยางเรซนิ ธรรมชาติ ยางไมแ้ ละไขมัน ปิโตรเลียม เหล็ก
แมงกานสี และโครเมียมในปรมิ าณมาก

สื่อการเรียนรู้ 2 - พฒั นาการของอตุ สาหกรรมขา้ วในพม่า
เนื่องจากยุโรปและที่อื่นๆ ต้องการข้าวจากพม่าอย่างมากและมีเพ่ิมขึ้นเร่ือยๆ
เศรษฐกจิ ของบริเวณปากแม่นา้ํ อริ วดจี ึงขยายตวั อยา่ งรวดเร็วในชว่ งครึ่งหลงั ของศตวรรษที่ 19
ในช่วงเวลาจากกลางคริสตทศวรรษ 1850 - 1900 พม่าตอนล่างมีพื้นท่ีปลูกข้าวเพ่ิมขึ้น
ห้าล้านเอเคอร์ และปริมาณการส่งออกข้าวของพม่าเพิ่มข้ึนจากไม่ถึงสองแสนตันเป็น
กว่าสองล้านตันต่อปี การเติบโตเช่นนี้ได้รับการสนับสนุนด้วยราคาข้าวเปลือกที่เพิ่มข้ึน
อย่างต่อเนอ่ื งจาก 45 รูปี ถงึ 95 รูปี ตอ่ หน่งึ รอ้ ยหาบ (46 ปอนด)์ ในรา่ งก้งุ

ส่อื การเรียนรู้ 3 - ขอ้ สงั เกตของนักประวัติศาสตร์เกย่ี วกับว่าการขยายตัวของการปลกู ขา้ ว
เป็นเรอ่ื งท่ที ง้ั ดีและไมด่ ีสำ�หรบั พมา่ อย่างไร
พม่าเจริญมั่งค่ังมากข้ึนเร่ือยๆ จากการเป็นส่วนหนึ่งในเศรษฐกิจของตะวันตก
โดยอาศัยตลาดและวิสาหกิจของตะวันตก ขณะท่ีประชาชนยังคงค่อนข้างยากจนและ
ไมส่ ามารถควบคุมพลังทางเศรษฐกจิ ขนาดใหญต่ า่ งๆ ทส่ี ่งผลกระทบต่อพวกเขาได้

หน่วยที่ 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ี่ 6 ทุน หนี้ และการสญู เสียทีด่ ินในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เปน็ ต้นเหตุของการสูญเสียทีด่ ินในพมา่ หรือไม่

286 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

สื่อการเรียนรู้ 4 - คำ�อธิบายของนกั ประวัติศาสตรว์ า่ ทำ�ไมชาวนาจึงเปน็ หนี้
สาเหตุสำ�คัญที่สุดท่ีทำ�ให้เกิดการสูญเสียที่ดิน คือชาวนาก่อหนี้จนไม่สามารถ
จ่ายคืนได้ การเป็นหนี้มีสาเหตุหลายประการ เช่น ความไร้ประสบการณ์และความไม่เท่าทัน
ของผู้กู้ที่อยู่ในกระแสของความเปลี่ยนแปลงท่ีรวดเร็ว จากเศรษฐกิจแบบยังชีพมาเป็น
เศรษฐกจิ เงินตรา สถานการณย์ า่ํ แยต่ ่างๆ เช่น ความแห้งแล้ง นา้ํ ท่วม ศตั รพู ชื ความเจบ็ ป่วย
และโรคของสัตว์เล้ียง การใช้เงินที่กู้มาไปใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ เช่น จัดพิธีประเพณีต่างๆ
อย่างหรูหรา การใช้เงินกู้ไปลงทุนในกิจการเก็งกำ�ไรแล้วล้มเหลว และเง่ือนไขเงินกู้ที่ขูดรีด
เช่น อัตราดอกเบ้ียท่ีสูงมาก และการท่ีคนปล่อยกู้ชักจูงคนกู้ให้กู้จนเต็มมูลค่าที่ดินท่ีนำ�มา
ค้าํ ประกัน

สอ่ื การเรียนรู้ 5 - คำ�อธบิ ายของนกั ประวัตศิ าสตรว์ า่ ทำ�ไมชาวนาจงึ กเู้ งนิ จากชาวเชตตยิ าร์
บางทีชาวนากก็ เู้ งนิ มาอย่างไม่ฉลาดเนือ่ งจากต้องการเงนิ ไมม่ ที างเลอื กอื่นนอกจาก
ยอมรับเง่ือนไขของเชตติยาร์ พวกเขาต้องซื้อเมล็ดและจ้างแรงงานสำ�หรับการเพาะปลูก
เก็บเกยี่ ว และซ่อมแซมคนั นา

หนว่ ยที่ 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ u แผนการเรียนร้ทู ่ี 6 ทุน หนี้ และการสญู เสียที่ดินในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตติยาร์ (Chettiars) เปน็ ต้นเหตุของการสูญเสยี ทด่ี นิ ในพม่าหรือไม่

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 287

ส่ือการเรียนรู้ 6 - ตารางแสดงแนวโนม้ ของการเป็นเจ้าของทด่ี ินในพื้นท่ปี ลกู ข้าวสิบสาม
อ�ำ เภอของพม่า ซึง่ ประกอบดว้ ย พะโค ธาราวดี หัตถวดี อนิ เสน โปรเม บัสเสน เฮนซาดา
เมยี วมา โมบิน พยาพน ท่าตอน แอมเฮรสต์ และตองอู
ในปี พ.ศ. 2473 เชตตยิ ารเ์ ปน็ เจา้ ของทด่ี นิ ราวรอ้ ยละ 6 ของพนื้ ทที่ ม่ี กี ารครอบครอง
ท้ังหมด แต่พอถึงปี พ.ศ. 2480 สัดส่วนนี้ก็เพิ่มเป็นร้อยละ 25 ซ่ึงมีสาเหตุโดยมากมาจาก
มลู คา่ ทดี่ นิ ทรี่ ว่ งลงหลงั จากการตกตา่ํ ของราคาธญั พชื ทว่ั ทงั้ โลก (รวมถงึ ขา้ ว และขา้ วเปน็ สนิ คา้
สง่ ออกหลกั ของพมา่ ) ในช่วงเศรษฐกิจตกตํ่าครง้ั ใหญ่ในต้นทศวรรษ 1930

การแจกแจงที่ดนิ สำ�หรับการเพาะปลกู ตามประเภทของเจา้ ของในพื้นท่ปี ลกู ขา้ วหลัก
สบิ สามอำ�เภอในพม่าตอนลา่ ง พ.ศ. 2473 - 2480

ปี พน้ื ทเ่ี พาะปลกู พืน้ ทท่ี ี่เจา้ ของ พน้ื ทท่ี ี่เชตตยิ าร์ ร้อยละของพื้นที่ท่ี ร้อยละของพืน้ ท่ี
ท้ังหมด ไมใ่ ช่เกษตรกร เป็นเจ้าของ เปน็ ของผูท้ ่ีไม่ใช่ ท่เี ปน็ ของเชตติยาร์
เกษตรกรต่อพื้นที่ ตอ่ พ้ืนทเี่ พาะปลูก
(พนั เอเคอร)์ เพาะปลกู ทงั้ หมด
ทั้งหมด

2473 9,249 2,943 570 32 6

2474 9,305 3,212 806 34 9

2475 9,246 3,770 1,367 41 15

2476 9,266 4,139 1,782 45 19

2477 9,335 4,460 2,100 48 22

2478 9,408 4,687 2,293 50 24

2479 9,499 4,873 2,393 51 25

2480 9,650 4,929 2,446 51 25

ท่มี า : รายงานของคณะกรรมการทีด่ นิ และการเกษตร (2481) ส่วนที่ 2 หนา้ 39
Source : Report of the Land and Agriculture Committee (1938), Part II, P. 39.

หนว่ ยที่ 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นรทู้ ่ี 6 ทนุ หนี้ และการสูญเสยี ทดี่ นิ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ศตวรรษท่ี 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เปน็ ต้นเหตุของการสญู เสยี ท่ีดินในพม่าหรอื ไม่

288 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

ส่อื การเรยี นรู้ 7 - คำ�อธิบายของนักประวตั ศิ าสตร์เกยี่ วกับการท่คี นท้องถนิ่ เกลียดชัง
คนปลอ่ ยเงินกูช้ าวเชตติยาร์
ความคบั แคน้ ใจของชาวนาพมา่ ทท่ี กุ ขร์ อ้ นในพมา่ ตอนลา่ งมเี ปา้ หมายหลกั อยทู่ ค่ี นปลอ่ ย
เงินกู้ชาวเชตติยาร์ แทบท้ังหมดของพ้ืนที่ปลูกข้าวที่มีการบุกเบิกเพ่ิมข้ึนใหม่ทุกปีถูกนำ�ไป
ค้ําประกันเงินกู้จากคนปล่อยกู้ชาวอินเดียเหล่าน้ันตั้งแต่ต้น คนปล่อยกู้ชาวเชตติยาร์คิด
ดอกเบย้ี ในอตั รารอ้ ยละสบิ หา้ ถงึ สามสบิ หกตอ่ ปี เมอ่ื ไดเ้ ปน็ หนเ้ี ปน็ สนิ แลว้ มชี าวนานอ้ ยรายนกั
ที่จะสามารถไถ่ถอนตัวเองได้ หลังจากชาวเชตติยาร์เจ้าของที่ดิน คนเก็บภาษี และพ่อค้าจีน
ชกั สว่ นแบง่ จากผลผลติ แลว้ ชาวนากม็ กั จะเหลอื ไมพ่ อกนิ ส�ำ หรบั ครอบครวั ไปจนถงึ การเกบ็ เกยี่ ว
ครง้ั หนา้
ความเกลียดชังที่ชาวนามีต่อเชตติยาร์เข้มข้นมากย่ิงขึ้นเมื่อมีการยึดท่ีนาคํ้าประกัน
ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ําในต้นทศวรรษ 1930 ท่ีราคาข้าวลดลงไปตํ่ากว่าต้นทุนการผลิต
เม่ือเชตติยาร์เรียกเก็บหนี้ และชาวนาไม่สามารถจ่ายคืนได้และต้องยอมให้ที่ดินถูกยึดไป
กลุ่มเชตติยาร์ได้ครอบครองท่ีนามากถึงสองล้านห้าแสนเอเคอร์ เท่ากับหนึ่งในส่ีของพ้ืนท่ี
เพาะปลกู ในพม่าตอนลา่ ง

สือ่ การเรยี นรู้ 8 - เจา้ ของท่ีดนิ ท่ี “ไมอ่ ยูใ่ นท่ดี นิ ”
ตามธรรมดา เจ้าของท่ีดินที่ไม่อยู่อาศัยในท่ีดินแทบไม่ทำ�อะไรที่จะพัฒนาปรับปรุง
ท่ีดิน หรือส่งเสริมให้คนเช่าปรับปรุงวิธีการเพาะปลูก ยิ่งเป็นเช่นน้ีในกรณีเจ้าของที่ดินจาก
ต่างถ่ินที่ไม่ได้ต้ังใจจะเก็บที่ดินไว้เป็นเวลานาน และไม่สนใจอะไรนอกจากเก็บค่าเช่า
ให้ไดม้ ากท่ีสุดระหวา่ งที่ทดี่ ินยงั อยู่ในมอื

หนว่ ยท่ี 3 ข้าวและเครอื่ งเทศ u แผนการเรยี นร้ทู ่ี 6 ทุน หนี้ และการสญู เสียท่ีดินในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เปน็ ตน้ เหตขุ องการสูญเสียทีด่ ินในพมา่ หรือไม่

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 289

ส่อื การเรยี นรู้ 9 - บตั รแสดงบทบาทส�ำ หรบั กิจกรรมการเลน่ บทบาทสมมตทิ ่ี 1
บทบาทท่ี 1 : นักเรยี นเป็นชาวนาในพม่า
l นกั เรยี นกำ�ลงั คิดท่ีจะทำ�นาขนาดใหญ่เพราะขา้ วกำ�ลงั มีราคาสงู ข้นึ
l นกั เรยี นตอ้ งการเงนิ มากข้ึนเพอ่ื ซือ้ ท่ีนาเพม่ิ ชาวนาคนอื่นๆ กก็ �ำ ลังขยายที่นาเช่นกนั ดังนน้ั
ราคาท่ีนาจึงก�ำ ลังถบี ตวั สูงข้นึ
l นอกจากนี้ นกั เรียนยังต้องซอื้ พันธขุ์ ้าว ปยุ๋ เครือ่ งมอื พน้ื ฐาน และจ้างแรงงาน
l นอกจากนี้ นกั เรียนยงั มคี า่ ใช้จา่ ยต่างๆ ส�ำ หรับครอบครัวอีกด้วย (เชน่ งานแตง่ งาน งานศพ)
l นักเรียนกำ�ลังจะกู้เงินจากเชตติยาร์ในท้องถ่ินคนหนึ่ง และจะต้องใช้ที่ดินค้ําประกัน
หากนกั เรยี นไม่สามารถชำ�ระหน้ไี ด้ กจ็ ะต้องมอบท่ีดินใหก้ บั เชตตยิ าร์คนน้ันไป
l นกั เรียนรู้วา่ เป็นเร่อื งเส่ียง แตก่ ็คิดวา่ ผลตอบแทนจากการขายข้าวจะช่วยได้
บทบาทท่ี 2 : นกั เรยี นเป็นคนปลอ่ ยเงินกชู้ าวเชตตยิ าร์ในพม่า
l ก่อนหน้านี้ นักเรียนจะจำ�กัดการปล่อยกู้อยู่แต่ในบริเวณเมืองร่างกุ้งและพื้นท่ีใกล้เคียง
เป็นหลกั
l กอ่ นหนา้ น้ี นกั เรยี นมสี ว่ นใหส้ นิ เชอ่ื ในการเกษตรทางออ้ ม โดยใหเ้ งนิ กกู้ บั คนปลอ่ ยกพู้ น้ื เมอื ง
ทจ่ี ากนน้ั กจ็ ะไปปลอ่ ยกใู้ หก้ บั ชาวนาอกี ทอดหนง่ึ ดว้ ยอตั ราดอกเบย้ี ทท่ี บขน้ึ ไปอกี จรงิ ๆ แลว้
นักเรียนปล่อยกูใ้ หก้ ับชาวนาโดยตรงน้อยมาก
l รฐั บาลอาณานิคมขององั กฤษได้ก�ำ หนดระบบการถอื ครองที่ดนิ ใหม่
l ตอนน้ชี าวนาสามารถน�ำ ท่ดี ินของตนไปค้าํ ประกนั เงนิ ก้จู ากคนปล่อยกไู้ ดแ้ ลว้
l ประกอบกับมีความต้องการข้าวของพม่าเพิ่มมากขึ้น จึงมีชาวนามาขอกู้เงินจากนักเรียน
มากขนึ้ เพ่ือขยายท่ีนา และนักเรียนกไ็ ดข้ ยายการปล่อยกจู้ ากเมืองร่างกุง้ และพ้ืนทใี่ กล้เคียง
ออกมาสูพ่ นื้ ทช่ี นบท

หน่วยท่ี 3 ข้าวและเคร่ืองเทศ u แผนการเรียนรู้ท่ี 6 ทนุ หนี้ และการสูญเสยี ทดี่ นิ ในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (ศตวรรษที่ 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เปน็ ตน้ เหตุของการสญู เสียทดี่ ินในพมา่ หรือไม่

290 u ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์

สื่อการเรียนรู้ 10 - บทบาทของเชตตยิ ารก์ ่อนทศวรรษ 1880
เชตติยาร์จำ�กัดกิจการธนาคารและการปล่อยกู้อยู่แต่ในตัวเมืองร่างกุ้งและพื้นที่
ใกล้เคียงเป็นหลัก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้มีส่วนในการให้สินเชื่อแก่การเกษตรทางอ้อม
ด้วยการให้เงินกู้กับคนปล่อยกู้พ้ืนเมืองที่จากน้ันก็จะนำ�ไปปล่อยกู้ให้กับชาวนาต่ออีกทอดหนึ่ง
ด้วยอัตราดอกเบ้ียท่ีทบขึ้น แต่เชตติยาร์ก็ปล่อยกู้ให้กับชาวนาโดยตรงน้อยมากในช่วงเวลาน้ี
ความเก่ียวข้องในระดับต่ําเช่นนี้ของเชตติยาร์ในช่วงการขยายตัวของการเกษตรในช่วงแรก
ขัดแย้งกับการสันนิษฐานท่ีสำ�คัญจำ�นวนมากเก่ียวกับบทบาทของคนเหล่าน้ีในการพัฒนา
ของพมา่

สื่อการเรยี นรู้ 11 - รฐั บาลอาณานคิ มขององั กฤษส่งเสรมิ การพัฒนาเศรษฐกจิ
ตั้งแต่ครสิ ตทศวรรษ 1880 อยา่ งไร
องั กฤษจดั ตงั้ สถาบนั ทางกฎหมายและการเมอื งตา่ งๆ ขน้ึ มาเพอื่ มงุ่ สเู่ ศรษฐกจิ ทนุ นยิ ม
และใช้งบประมาณจำ�นวนมากไปกับการปรับปรุงการคมนาคมขนส่ง การสร้างเข่ือน ทำ�นบ
และสาธารณูปโภคอื่นๆ นักลงทุนเอกชนชาวอังกฤษสร้างโรงสีข้าวที่จะกลายมาเป็นสินค้า
ส่งออกหลักของพมา่ และพอ่ คา้ ชาวยโุ รปก็ท�ำ หน้าที่เปน็ ตัวเช่อื มกับตลาดตา่ งประเทศ

หน่วยที่ 3 ข้าวและเครอ่ื งเทศ u แผนการเรยี นรู้ท่ี 6 ทุน หน้ี และการสญู เสยี ท่ีดินในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ (ศตวรรษท่ี 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เปน็ ต้นเหตขุ องการสูญเสียทีด่ ินในพมา่ หรอื ไม่

ประวัติศาสตร์ร่วมรากอุษาคเนย์ u 291

ส่ือการเรียนรู้ 12 - บตั รแสดงบทบาทส�ำ หรบั กิจกรรมการเลน่ บทบาทสมมตทิ ่ี 2
บทบาท ก : นกั เรยี นเป็นเจ้าหน้าที่รฐั บาลอาณานิคมของอังกฤษในพมา่
l นักเรยี นกงั วลเร่ืองการสูญเสยี ทด่ี ินจากชาวนาไปอย่ใู นมอื คนทีไ่ ม่ใช่ชาวนาอย่างต่อเนอ่ื ง
l นักเรียนเช่ือวา่ ควรออกกฎหมายเพือ่ จ�ำ กัดการสูญเสยี ทีด่ ิน
l ทง้ั นเ้ี ป็นเพราะวา่ คนท่ีไม่ใชช่ าวนาบางสว่ นนั้น ไม่ใชค่ นพืน้ เมอื งของพม่า ดอกผลจากทดี่ นิ
จำ�นวนมากจงึ ถูกสง่ กลับไปยังประเทศบา้ นเกิดของคนเหล่าน้นั ทกุ ปี
บทบาท ข : นักเรยี นเปน็ เจ้าหน้าทรี่ ฐั บาลอังกฤษ
l นกั เรียนคัดคา้ นการออกกฎหมายจ�ำ กดั การสญู เสยี ทด่ี ิน
l นักเรียนเชื่อว่ากฎหมายดงั กล่าว จะสรา้ งภาระอยา่ งมากใหก้ ับกลไกบริหารงานของอังกฤษ
บทบาท ค : นักเรียนเปน็ พ่อคา้ ชาวยโุ รปในพม่า
l นกั เรียนท�ำ ธรุ กิจเก่ยี วกบั การสขี า้ ว ส่งออกข้าว และน�ำ เข้าสิ่งทอ
l มคี วามพยายามออกกฎหมายจ�ำ กดั การสูญเสยี ทดี่ ิน
l นกั เรยี นกงั วลวา่ หากชาวนาไมส่ ามารถกเู้ งนิ ไดม้ ากพอ กอ็ าจจะปลอ่ ยทน่ี ารกรา้ งจ�ำ นวนมาก
เน่อื งจากไมส่ ามารถซื้อเครอ่ื งมือและจ้างแรงงาน จะสง่ ผลการผลิตข้าวลดนอ้ ยลง
l เรื่องน้ีจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าข้าวของนักเรียน การค้าสิ่งทอของนักเรียนก็จะได้รับ
ผลกระทบเชน่ กันเน่ืองจากกำ�ลังซ้ือของชาวนาลดนอ้ ยลงไป
บทบาท ง : นกั เรยี นเป็นเจา้ ของทด่ี ินชาวพม่า
l นกั เรียนเป็นคนปล่อยเงินกู้ และกลายเปน็ เจา้ ของท่ดี ินเนอื่ งจากการปลอ่ ยกู้
l นกั เรียนคดั ค้านกฎหมายจำ�กดั การสูญเสยี ท่ีดนิ
l นักเรียนกงั วลว่าหากมีกฎหมายน้ีออกมา ทด่ี นิ ก็จะไม่สามารถถกู นำ�มาใช้คํา้ ประกันเงนิ กไู้ ด้
และการปลอ่ ยกกู้ จ็ ะตอ้ งดำ�เนนิ การในระดับทีเ่ ล็กลงไปมากโดยมีความเสี่ยงเพ่ิมขนึ้

หนว่ ยที่ 3 ข้าวและเคร่อื งเทศ u แผนการเรยี นร้ทู ่ี 6 ทนุ หน้ี และการสูญเสยี ทดี่ ินในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ (ศตวรรษท่ี 19 - 20) :
ชาวเชตตยิ าร์ (Chettiars) เป็นตน้ เหตุของการสูญเสียทีด่ นิ ในพมา่ หรอื ไม่


Click to View FlipBook Version