หลักสตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 394
กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ช่ือวิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
ภาคเรยี น รหัสวชิ า วิชา
0.5 20 พื้นฐาน 6/1 – 6/7
ท่ี 0.5 20 พ้ืนฐาน 6/1 – 6/6
1/2566 ศ33101 ศลิ ปะ
2/2566 ศ33102 ศลิ ปะ
กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
ภาคเรยี น รหสั วชิ า ชื่อวิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
วิชา
ท่ี 0.5 20 พน้ื ฐาน 6/1 – 6/8
1.0 40 เพม่ิ เติม 6/7
1/2566 ง33101 การงานอาชีพ 2.0 80 เพม่ิ เติม 6/8
2.0 80 เพมิ่ เติม 6/8
ง30294 การเปน็ ผ้ปู ระกอบการ 2.0 80 เพิ่มเติม 6/8
2.0 80 เพ่มิ เติม 6/8
ง33210 การบรกิ ารอาหารและเครื่องดื่ม 2.0 80 เพ่ิมเติม 6/8
2.0 80 เพมิ่ เติม 6/8
ง33211 ศิลปะการจดั อาหารและการตกแตง่ โตะ๊ อาหาร 0.5 20 พืน้ ฐาน
1.0 40 เพ่มิ เติม 6/1 – 6/8
ง33212 เทคนคิ การสาธิตในวชิ าคหกรรมศาสตร์ 6/7
ง33231 วสั ดุช่างยนต์
ง33232 งานช่างยนต์ทัว่ ไป
ง33233 เครอื่ งยนตเ์ ล็กและจักรยานยนต์
2/2566 ง33102 การงานอาชีพ
ง30295 การบริหารงานคุณภาพและเพ่ิม
ผลผลิตภายในองค์กร
ง30267 เบเกอรี่เบ้ืองตน้ 2.0 80 เพม่ิ เติม 6/8
2.0 80 เพิ่มเติม 6/8
ง33213 ศิลปะการผสมเคร่อื งดื่ม 2.0 80 เพ่มิ เติม 6/8
2.0 80 เพิ่มเติม 6/8
ง33214 การแกะสลักเพอ่ื การตกแต่งจานอาหาร 2.0 80 เพม่ิ เติม 6/8
2.0 80 เพิ่มเติม 6/8
ง33234 งานประปาและสุขภณั ฑ์
ง33235 เทคนคิ ก่อสร้าง
ง33236 ปฏบิ ัติการก่อสรา้ ง
หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 395
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
ภาคเรยี น รหัสวิชา ช่อื วิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
วชิ า
ที่ 1.0 40 เพิ่มเติม 6/1
1.5 60 เพิ่มเติม 6/2 – 6/5, 6/7
1/2566 อ33201 การอ่านเชิงวิเคราะห์ 1.5 60 เพิ่มเติม
0.5 20 เพิม่ เติม 6/5 – 6/6
อ33207 ภาษาอังกฤษรอบรู้ 2.0 80 เพิ่มเติม 6/1
1.0 40 เพิม่ เติม
อ33205 ภาษาองั กฤษอา่ น – เขียน 1.0 40 เพม่ิ เติม 6/5 – 6/6
1.5 60 เพ่มิ เติม 6/5 – 6/6
จ33201 ภาษาจนี เบอื้ งต้น 1.5 60 เพ่ิมเติม
0.5 20 เพ่ิมเติม 6/1
จ33203 สมั ผัสภาษาจนี 2.0 80 เพิม่ เติม 6/2 – 6/5, 6/7
1.0 40 เพม่ิ เติม
จ33205 ภาษาจีนรอบรู้ 6/5 – 6/6
6/1
2/2566 อ33202 การอา่ นเชงิ วเิ คราะห์
6/5 – 6/6
อ33208 ภาษาองั กฤษรอบรู้ 6/5 – 6/6
อ33206 ภาษาอังกฤษอา่ น – เขียน
จ33202 ภาษาจนี เบื้องตน้
จ33204 สัมผัสภาษาจนี
จ33206 ภาษาจีนรอบรู้
หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 396
คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท33101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศึกษาวิเคราะห์พันธกิจของภาษา ธรรมชาติของภาษา ระดับภาษา ราชาศัพท์ ความสัมพันธ์ระหว่าง
ภาษากับความคิด การใช้ภาษาให้งดงาม หลักการเขียนเรียงความเกี่ยวกับโลกจินตนาการและโลกอุดมคติ การ
อ่านวรรณคดีกาพย์เห่เรือ ขุนแผนตอนขุนช้างถวายฎีกา สามก๊กตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ วรรณกรรม
พ้ืนบา้ น บทอาขยาน
โดยใช้กระบวนการทางภาษา การอ่าน การฟัง การดู การพูด การสืบค้น เพ่ือให้เกิดความรู้ความ
เข้าใจ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินคา่ เขียนเรียงความ เขยี นวิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมพื้นบ้าน
วิเคราะห์ธรรมชาติของภาษา พลังของภาษา ความงามกับภาษา แต่งคำประพันธ์ด้วยถ้อยคำที่สะท้อนคุณค่า
ทางด้านความคิดและอารมณ์ ท่องจำบทอาขยานท่ีมีคุณค่าและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มีมารยาทการ
อา่ น การเขยี น การฟัง การดู และการพดู
ตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย มีนิสัยรักการอ่านและการเขียน สามารถนำไปใช้
ประโยชน์ในการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรค์ มีค่านยิ มรกั ความเป็นไทย
พฒั นาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความร้ไู ปใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนรู้หรือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นสิ ยั รักการอา่ น
ตวั ชี้วัด
ท 1.1 ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/7
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6
รวมทั้งหมด 17 ตัวช้ีวดั
หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 397
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวิชา ประวัติวรรณคดี รหัสวิชา ท33201 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง
ศกึ ษาวธิ ีการวเิ คราะห์ วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณเ์ บื้องต้น ศึกษาวรรณคดี
สำคัญสมยั สโุ ขทัยและอยุธยาเกยี่ วกับลักษณะเดน่ ของวรรณคดี เช่อื มโยงกบั การเรียนรทู้ างประวัติศาสตร์และวถิ ี
ชีวิตของสงั คมในอดีต วิเคราะห์และประเมนิ คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ การสงั เคราะหข์ ้อคิดวรรณคดีและวรรณกรรม
ในฐานะท่เี ป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาตเิ พอ่ื นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ
ใชก้ ระบวนการอา่ น วิเคราะห์ สังเคราะห์และอ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ ประเมินค่าวรรณคดี วรรณกรรม
เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถใช้ภาษาในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพเหมาะสม ซาบซ้ึง
ตระหนกั ในคณุ ค่าและรักษาวรรณคดวี รรณกรรมในฐานะมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ
เสริมสร้างใหน้ กั เรยี นเกิดความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงานและรกั ความ
เปน็ ไทย
ผลการเรียนรู้
1. อธิบายลักษณะ ภมู ิหลงั รูปแบบของวรรณคดสี มัยสโุ ขทยั และสมัยอยธุ ยา
2. วเิ คราะห์ จำแนก และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกับลักษณะของวรรณคดีสมยั สโุ ขทัยและอยุธยา
3. วิเคราะห์เชือ่ มโยงวรรณคดีกับการเรยี นร้ทู างประวตั ิศาสตรแ์ ละวิถีชีวิตของคนในอดตี
4. มีส่วนร่วมในการอนรุ ักษแ์ ละเผยแพร่วรรณคดีไทยในสมัยสุโขทยั และสมัยอยุธยา
รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 398
คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท33102 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศึกษาเหตุผลกับภาษา ใช้ภาษาแสดงทรรศนะ ใช้ภาษาในการโต้แย้ง ใช้ภาษาเพ่ือโน้มน้าวใจ ใช้ภาษา
อธิบาย บรรยายและพรรณนา ฉันทลกั ษณ์คำประพันธ์ชนิดต่าง ๆ หลกั การวเิ คราะหว์ ิจารณ์วรรณคดี ลักษณะ
เด่นที่เกย่ี วข้องกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์และวถิ ีชีวิตของคนในสังคมในอดีต ศึกษาวรรณคดีเร่ืองสามัคคีเภทคำ
ฉนั ท์ ไตรภมู พิ ระร่วงตอนมนสุ สภมู ิ ขัตตยิ ะพันธกรณี การท่องจำบทอาขยาน
โดยใช้กระบวนการทางภาษา การอ่าน การฟัง การดู การพูด การสืบค้น เพ่ือให้เกิดความรู้ความ
เข้าใจ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ เขียนวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมพ้ืนบ้าน วิเคราะห์ธรรมชาติของ
ภาษา พลังของภาษา ความงามกับภาษา แต่งคำประพันธ์ด้วยถ้อยคำที่สะท้อนคุณค่าทางด้านความคิดและ
อารมณ์ ท่องจำบทอาขยานที่มีคุณค่าและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มีมารยาทการอ่าน การเขียน การ
ฟัง การดู และการพูด
ตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย มีนิสัยรักการอ่านและการเขียน สามารถนำไปใช้
ประโยชน์ในการสอื่ สารอย่างสรา้ งสรรค์ มีคา่ นยิ มรกั ความเปน็ ไทย
พัฒนาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความรไู้ ปใช้บูรณาการรว่ มกับการเรียนรหู้ รือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นิสัยรักการอา่ น
ตัวชว้ี ัด
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/6
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/4, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/6
รวมท้ังหมด 18 ตัวชี้วัด
หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 399
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
รายวชิ าวรรณคดีมรดก รหัสวิชา ท33202 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศึกษาวรรณคดีมรดก ความหมายของวรรณคดีมรดก ลักษณะของวรรณคดีมรดก การพินิจวรรณคดี
บทอาขยานหรือบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า โครงสร้างของวรรณคดี ความงดงามในศิลปะการแต่งวรรณคดี คุณค่า
ของวรรณคดีในเชิงวรรณศิลป์ การเลือกสรรใช้ถ้อยคำให้เกิดความงามด้วยการใช้สำนวนที่ไพเราะ หลักการการ
พนิ ิจคุณค่าวรรณคดีเฉพาะเรื่อง วิเคราะห์แนวคิดที่สำคัญของเรื่อง วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ตีความ ประเมินค่า
วรรณคดีท่ีสำคัญ ท่องจำบทอาขยานหรือบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถ
วเิ คราะห์วิจารณ์ตามหลักการวจิ ารณ์เบื้องต้น เกิดความซาบซงึ้ ในจิตใจ ไดค้ ติ ข้อคิด เข้าใจสภาพสงั คมของสมัย
โบราณ และอารมณ์ ประเมินคุณค่าของวรรณคดีในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมได้ เพื่อการเรียนรู้ในกลุ่ม
สาระการเรยี นรใู้ นอาชีพ นำไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดำรงชวี ิต และมีความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
พัฒนาทักษะ กระบวนการเรยี นรู้ และสามารถนำความรไู้ ปใช้บูรณาการรว่ มกับการเรียนรหู้ รือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นิสัยรกั การอา่ น
ผลการเรยี นรู้
1. บอกความหมายของวรรณคดมี รดก ลกั ษณะวรรณคดีมรดก โครงสรา้ งของวรรณคดี และหลกั การ
พนิ จิ วรรณคดไี ด้
2. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ตีความ และประเมินคา่ ของวรรณคดีในฐานะท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรมได้
3. วิเคราะหค์ ณุ คา่ ของวรรณคดใี นเชงิ วรรณศลิ ป์ ดว้ ยการเลือกใชถ้ อ้ ยคำ สำนวนทีไ่ พเราะได้
4. สังเคราะห์ คติ ข้อคดิ จากวรรณคดี เพ่ือนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในการดำรงชวี ิตได้
5. ทอ่ งจำบทรอ้ ยกรอง และบอกคณุ คา่ ของบทร้อยกรองได้
รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 400
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 รหัสวิชา ค33101 จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง
ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคิดคำนวณ และฝึกการแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปนี้
สถิตแิ ละข้อมลู สถิติศาสตร์ คำสำคัญในสถิติศาสตร์ ประเภทของข้อมูล สถติ ศิ าสตรเ์ ชิงพรรณนาและ
สถิตศิ าสตรเ์ ชิงอนุมาน การวิเคราะหแ์ ละการนำเสนอข้อมูลเชงิ คณุ ภาพด้วยตารางความถี่ การวเิ คราะห์และการ
นำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแผนภาพ การวิเคราะห์และการนำเสนอขอ้ มลู เชิงปรมิ าณดว้ ยตารางความถี่ การ
วเิ คราะหแ์ ละการนำเสนอข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแผนภาพ คา่ วดั ทางสถติ ิ(คา่ กลางของข้อมูล ค่าวัดการกระจาย
ค่าวัดตำแหน่งที่ของข้อมลู )
โดยจดั ประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัว ใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ การแก้ปัญหา การใหเ้ หตผุ ล การ
ส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการ
เรียนรู้ส่ิงต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์สามารถ
ทำงานอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มคี วามรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ และมคี วามเชื่อม่ันในตนเอง
การวดั และประเมินผล ใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงให้สอดคล้องกับเน้ือหาและทกั ษะท่ี
ตอ้ งการวดั
ซึ่งกระบวนการเหล่าน้ีได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่างๆ ข้างต้น เพื่อให้นักเรียนมี
ความรูค้ วามสามารถตามตวั ช้ีวดั ต่อไปน้ี
ตัวช้วี ัด
ค 3.1 ม6/1
รวมทั้งหมด 1 ตัวช้วี ัด
หลกั สูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 401
รายวิชาคณิตศาสตร์ คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 รหัสวิชา ค33201 จำนวน 2.0 หน่วยกติ
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 80 ชั่วโมง
ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคิดคำนวณ และฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี
ลำดับและอนุกรม ความหมายของลำดับ ลำดับเลขคณิต ลำดับเรขาคณิต ลำดบั ฮาร์มอนิก ลิมติ ของ
ลำดับอนันต์ อนุกรมเลขคณิต อนุกรมเรขาคณิต อนุกรมอนันต์ สัญลักษณ์แสดงการบวก การประยุกต์ของ
ลำดับและอนกุ รม
แคลคูลสั เบื้องตน้ ลิมติ ของฟงั กช์ ัน ความตอ่ เนื่องของฟังก์ชัน อนพุ ันธข์ องฟังก์ชัน การหาอนุพนั ธ์ของ
ฟังก์ชันโดยใช้สูตร อนุพันธ์ของฟังก์ชันประกอบ เส้นสัมผัสเส้นโค้ง อนุพันธ์อันดับสูง การประยุกต์ของ
อนุพันธ์(การเคลื่อนที่แนวเสน้ ตรง ค่าสูงสุดและค่าต่ำสุดของฟังก์ชัน โจทย์ปญั หาเก่ยี วกับค่าสูงสุดหรือค่าต่ำสุด)
ปฏยิ านุพันธ์และปริพนั ธไ์ มจ่ ำกดั เขต ปรพิ ันธ์จำกดั เขต พื้นทีท่ ี่ปิดล้องด้วยเส้นโคง้
โดยจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันท่ีใกล้ตัว ให้ผู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพอื่ พัฒนาทกั ษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ การแกป้ ัญหา การใหเ้ หตผุ ล การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการ
เรียนรู้ส่ิงต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์สามารถ
ทำงานอย่างเป็นระบบระเบยี บ มีความรอบคอบ มคี วามรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมคี วามเช่ือมั่นในตนเอง
การวัดและประเมินผลใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนื้อหาและทักษะท่ี
ต้องการวัด
ซึ่งกระบวนการเหล่าน้ีได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่างๆ ข้างต้น เพ่ือให้นักเรียนมี
ความรู้ความสามารถตามผลการเรยี นรูต้ อ่ ไปนี้
ผลการเรยี นรู้
1. ระบุไดว้ า่ ลำดบั ท่ีกำหนดให้เปน็ ลำดับลู่เข้าหรือลู่ออก
2. หาผลบวก n พจนแ์ รกของอนุกรมเลขคณติ และอนุกรมเรขาคณติ
3. หาผลบวกของอนุกรมอนันต์
4. เขา้ ใจและนำความรู้เกยี่ วกับลำดบั และอนกุ รมไปใช้
5. ตรวจสอบความตอ่ เนื่องของฟังก์ชนั ที่กำหนดให้
6. หาอนพุ นั ธข์ องฟังกช์ นั พชี คณติ ท่ีกำหนดให้และนำไปใช้แกป้ ญั หา
7. หาปริพนั ธ์ไมจ่ ำกดั เขตและจำกดั เขตของฟังก์ชันพีชคณิตที่กำหนดให้ และนำไปใชแ้ กป้ ัญหา
รวมทั้งหมด 7 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 402
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
รายวชิ าคณติ ศาสตรเ์ พ่มิ พนู รหสั วิชา ค33208 กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต
ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแก้ปญั หาในสาระตอ่ ไปนี้
การแยกตัวประกอบของพหุนาม ประกอบด้วย การแยกตัวประกอบของพหุนามกำลังสอง การแยกตัว
ประกอบของพหุนามกำลงั n ทฤษฎีบทตัวประกอบ ขั้นตอนวิธีการหารสงั เคราะห์ สมการพหุนาม ประกอบด้วย
สมการกำลังสอง สมการกำลัง n การหารากของสมการกำลงั สีบ่ างรปู แบบ รากของสมการ
โดยจัดประสบการณ์ หรือสรา้ งสถานการณ์ในชีวติ ประจำวันทีใ่ กล้ตัว ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาโดยการปฏบิ ัตจิ ริง
ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ
ความหมายทางคณติ ศาสตร์และนำประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการทไี่ ด้ไปใช้ในการเรยี นรู้สิ่ง
ต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์สามารถทำงาน
อยา่ งเป็นระบบระเบยี บ มีความรอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และมคี วามเชื่อมั่นในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใชว้ ิธกี ารท่ีหลากหลายตามสภาพความเป็นจรงิ ให้สอดคล้องกับเนื้อหาและทักษะท่ี
ต้องการวัด
ซง่ึ กระบวนการเหล่านไ้ี ดจ้ ัดการเรยี นร้ผู า่ นสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ต่างๆ ขา้ งต้น เพื่อใหน้ กั เรียนมี
ความร้คู วามสามารถตามผลการเรียนรตู้ อ่ ไปน้ี
ผลการเรียนรู้
1. แยกตวั ประกอบของพหุนามได้
2. ใชท้ ฤษฎีบทตวั ประกอบและข้ันตอนวิธีการหารสงั เคราะห์ในการแก้ปญั หาได้
3. แก้สมการพหุนาม พรอ้ มทงั้ หารากของสมการได้
รวมทั้งหมด 3 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 403
คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค33102 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง
ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปน้ี
เสรมิ ทกั ษะคณิตศาสตร์ เซต ตรรกศาสตรห์ ลักการนบั เบอ้ื งต้น ความน่าจะเป็น เลขยกกำลัง ฟังกช์ ัน
ลำดบั และอนกุ รม ดอกเบ้ยี และมลู ค่าของเงิน สถติ ิ
โดยจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชวี ิตประจำวันท่ีใกล้ตัว ให้ผู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการ
เรียนรู้สิ่งต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์สามารถ
ทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ และมคี วามเชื่อมั่นในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใช้วธิ ีการท่ีหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนอื้ หาและทกั ษะ
ทต่ี ้องการวดั
ซ่ึงกระบวนการเหล่าน้ีได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่างๆ ข้างต้น เพื่อให้นักเรียนมี
ความรู้ความสามารถตามตวั ช้วี ดั ตอ่ ไปน้ี
ตัวชีว้ ัด
ค1.1 ม.4/1
ค 3.2 ม.4/1
ค 3.2 ม.4/2
ค 1.1 ม.5/1
ค 1.2 ม.5/1
ค 1.2 ม.5/2
ค 1.3 ม.5/1
ค 3.1 ม.6/1
รวมทั้งหมด 8 ตัวชี้วดั
หลกั สูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 404
รายวชิ าคณิตศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 รหัสวิชา ค33202 จำนวน 2.0 หน่วยกิต
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 80 ชว่ั โมง
ศกึ ษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝกึ การแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้
ความหมายของสถิตศิ าสตรแ์ ละข้อมลู สถิติศาสตร์ คำสำคญั ในสถิติศาสตร์ ประเภทของขอ้ มลู
สถติ ิศาสตร์เชงิ พรรณนาและสถติ ิศาสตรเ์ ชิงอนุมาน
การวเิ คราะหแ์ ละการนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพ การวเิ คราะห์และการนำเสนอข้อมูลเชงิ คุณภาพด้วย
ตารางความถี่ การวเิ คราะห์และการนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพดว้ ยแผนภาพ
การวเิ คราะหแ์ ละการนำเสนอขอ้ มูลเชิงปริมาณ การวเิ คราะห์และการนำเสนอข้อมลู เชิงปริมาณด้วย
ตารางความถ่ี การวิเคราะห์และการนำเสนอข้อมูลเชงิ ปริมาณดว้ ยแผนภาพ คา่ วดั ทางสถิติ
ตวั แปรสุ่มและการแจกแจงความน่าจะเปน็ เบอื้ งตน้ ความหมายและชนดิ ของตัวแปรสมุ่ การแจกแจง
ความนา่ จะเปน็ ของตัวแปรสุ่มไมต่ ่อเนอื่ ง การแจกแจงความน่าจะเปน็ ของตัวแปรสุ่มตอ่ เนอื่ ง
โดยจดั ประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชวี ิตประจำวันที่ใกล้ตัว ใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่อื พฒั นาทักษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ล การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการ
เรียนรู้สิ่งต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์สามารถ
ทำงานอย่างเป็นระบบระเบยี บ มีความรอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และมีความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง
การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ิธีการทห่ี ลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงให้สอดคลอ้ งกับเนอ้ื หาและทักษะ
ทีต่ ้องการวัด
ซ่ึงกระบวนการเหล่านี้ได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่างๆ ข้างต้น เพื่อให้นักเรียนมี
ความรคู้ วามสามารถตามผลการเรียนรูต้ ่อไปนี้
ผลการเรียนรู้
1. เข้าใจและใชค้ วามรทู้ างสถติ ใิ นการนำเสนอขอ้ มูล และแปลความหมายของค่าสถิตเิ พอ่ื ประกอบการ
ตัดสนิ ใจ
2. หาความน่าจะเป็นของเหตกุ ารณท์ ่เี กดิ จากตวั แปรสุ่มท่ีมกี ารแจกแจงเอกรูป การแจกแจงทวนิ าม
และการแจกแจงปกติ และการนำไปใช้
รวมทัง้ หมด 2 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 405
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มพนู รหัสวิชา ค33209 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
จำนวน 0.5 หน่วยกติ
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง
ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแกป้ ัญหาในสาระต่อไปน้ี
ทฤษฎีบทของพหุนาม ประกอบด้วย ความสัมพนั ธ์ของรากและสัมประสิทธข์ิ องพหุนาม รากตรรกยะของ
พหุนาม รากลดทอนได้ของพหุนาม ตัวหารร่วมมากของพหุนาม จำนวนเชิงซ้อน ประกอบด้วย การสร้างจำนวน
เชิงซ้อน สมบัติเชิงพีชคณิตของจำนวนเชิงซ้อน รูปโพลาร์ของจำนวนเชิงซ้อน รากท่ี n ของจำนวน เชิงซ้อน และ
สมการพหนุ าม
โดยจดั ประสบการณ์ หรือสรา้ งสถานการณ์ในชีวิตประจำวันท่ใี กลต้ วั ใหผ้ ู้เรยี นได้ศึกษาโดยการปฏบิ ัติจริง
ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อ
ความหมายทางคณติ ศาสตร์และนำประสบการณด์ ้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการทไ่ี ด้ไปใชใ้ นการเรยี นรู้ส่ิง
ต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์สามารถทำงาน
อยา่ งเปน็ ระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ และมีความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
การวดั และประเมินผล ใชว้ ิธกี ารท่หี ลากหลายตามสภาพความเป็นจริงใหส้ อดคล้องกบั เน้ือหาและทักษะท่ี
ตอ้ งการวดั
ซงึ่ กระบวนการเหลา่ นไี้ ด้จัดการเรียนรผู้ ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตรต์ ่างๆ ข้างตน้ เพ่ือให้นักเรยี นมี
ความรู้ความสามารถตามผลการเรียนรูต้ ่อไปน้ี
ผลการเรียนรู้
1. หาความสมั พันธ์ของรากกับสัมประสทิ ธขิ์ องพหนุ ามได้
2. นำทฤษฎีบทพหนุ ามไปใชแ้ ก้ปัญหาได้
3. หารากที่ n ของจำนวนเชิงซอ้ น โดยใช้ทฤษฎีบทของเดอมัวร์ได้
4. แกโ้ จทยป์ ัญหาของจำนวนเชงิ ซอ้ นได้
รวมทง้ั หมด 4 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 406
คำอธิบายรายวชิ า
รายวิชาวิทยาศาสตร์โลก รหัสวชิ า ว33106 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศกึ ษาเกี่ยวกับการกำเนิดและววิ ัฒนาการของเอกภพ หลักฐานท่ีสนับสนุนทฤษฎีบิกแบง กาแล็กซีและ
กาแล็กซีทางช้างเผือก สมบัติของดาวฤกษ์ การกำเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ กำเนิดระบบสุริยะและการ
แบ่งเขตบริวารรอบดวงอาทิตย์ โครงสร้างและปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ เทคโนโลยีอวกาศและการประยกุ ตใ์ ช้
ศึกษาขอ้ มูลในการศึกษาและแบ่งชน้ั โครงสร้างโลก การแบ่งชั้นโครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมีและสมบัติ
เชิงกล ศึกษาเก่ียวกับแนวคิดทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลักฐานสนับสนุน แนวคิดทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทรและ
หลักฐานสนับสนุน การแปรสัณฐานของแผน่ ธรณี ธรณีสัณฐานและโครงสรา้ งทางธรณที ่ีเกดิ จากการเคลื่อนที่ของ
แผ่นธรณี ทําความเขาใจธรรมชาติของธรณีพิบัติภัยเพื่อเตรียมพรอมรับสถานการณ ศึกษาการเกิดลมฟ้าอากาศ
และภูมิอากาศ ปัจจัยสำคัญท่ีส่งผลต่อการรับรังสีดวงอาทิตย์ของพื้นผิวโลก การหมุนเวียนของอากาศ การ
หมุนเวียนของผวิ น้ำหน้ามหาสมุทร ปรากฏการณ์เอลนโี ญและลานญี า รวมท้ังการการเปลีย่ นแปลงภูมิอากาศท่ีมี
ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่สำคัญจากแผนท่ีอากาศ และนำเสนอ
ข้อมูลสารสนเทศตา่ งๆ มาวางแผนการดำเนินชวี ติ ใหส้ อดคล้องกับสภาพลมฟา้ อากาศ
โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธบิ าย อภปิ รายและสรปุ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ มี
ทักษะปฏิบตั ิการทางวิทยาศาสตร์ รวมทง้ั ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
ดา้ นการคดิ และการแก้ปัญหา ดา้ นการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรยี นรู้และนำความรู้ไปใช้ในชวี ิตของตนเอง มี
จิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม
ตัวชว้ี ัด
ว 3.1 ม.4-6/1,ม.4-6/2,ม.4-6/3, ม.4-6/4,ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ม.4-6/9, ม.4-6/10
ว 3.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2 , ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ม.4-6/9,
ม.4-6/10, ม.4-6/11, ม.4-6/12, ม.4-6/13, ม.4-6/14
รวมทั้งหมด 24 ตัวช้ีวดั
หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 407
คำอธบิ ายรายวชิ า
รายวชิ าวิทยาศาสตร์กายภาพ(เคมี) รหสั วชิ า ว33101 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ การค้นพบธาตุ การจัดกลุ่มธาตุ การจัดเรียงธาตุตามตารางธาตุ การศึกษาสมบัติของ
ธาตุ ธาตุโลหะ ธาตุอโลหะ ธาตุก่ึงโลหะและธาตุกัมมันตรังสี ศึกษาโครงสร้างอะตอม เพื่ออธิบายแบบจำลอง
อะตอม อนภุ าคมูลฐานของอะตอม ความสมั พนั ธ์ระหว่างชนิดของพันธะเคมีกับสมบตั บิ างประการของสาร อธิบาย
ความหมายของโครงสรา้ งพอลิเมอร์ และผลของโครงสรา้ งที่มีต่อสมบัติพอลิเมอร์ การนำ
พอลิเมอร์ไปใช้ จำแนกพลาสติก การเกิดปฏิกิริยาเคมี ปฏิกิริยาเคมีและสมการเคมี สารเคมี ปฏิกิริยาเคมีต่อชีวิต
และสิง่ แวดลอ้ ม
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การข้อมูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทเี่ หมาะสม
ตวั ช้วี ัด ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4, ม.5/5, ม.5/6, ม.5/7, ม.5/8, ม.5/9, ม.5/10 ,ม.5/11, ม.5/12 ,
ว2.1 ม.5/13, ม.5/14, ม.5/15, ม.5/16, ม.5/17, ม.5/18, ม.5/19, ม.5/20, ม.5/21, ม.5/22, ม.
5/23, ม.5/24, ม.5/25
ว4.2 ม.5/1
รวมทั้งหมด 26 ตัวชวี้ ดั
หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 408
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
รายวชิ าฟิสกิ ส์ รหสั วิชา ว33201 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6
ภาคเรียนที่ 1 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2 หน่วยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง หลักการพื้นฐานของ ไฟฟ้าและแม่เหล็ก ความร้อนและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส
สภาพสมดุลและสภาพยืดหยุ่น ในเรื่องแม่เหล็กและสนามแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้าที่ทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก แรง
กระทำตอ่ ขดลวดตัวนำท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่านและอยูใ่ นสนามแม่เหล็ก การประยกุ ต์ผลของสนามแม่เหล็กต่อตัวนำที่
มีกระแสไฟฟ้าผ่าน การนำความรู้ทางแม่เหล็กไฟฟ้าไปใช้ประโยชน์ ความร้อนการเปลี่ยนสถานะของสารทฤษฎี
จลน์ของแก๊สกฎของแก๊สและพลังงานภายในระบบของแก๊ส และของแข็งและสภาพยดื หยุ่นของของแข็ง ความตึง
ผิวและความหนืดของของเหลว ของไหลสถิต และพลศาสตร์ของไหล โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสังเกต การสืบค้นข้อมูล การอธิปราย สรุปเพ่ือให้เกิด
ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิต มีจิต
วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. สำรวจตรวจสอบ วเิ คราะห์ อธบิ ายแรงกระทำต่ออนภุ าค ในสนามแม่เหล็ก และนำปรมิ าณที่
เกย่ี วข้องไปแก้ปญั หาได้
2. สำรวจตรวจสอบ วิเคราะห์ อธิบายโมเมนต์ของแรงคูค่ วบตอ่ ลวดตัวนำ ในบริเวณท่ีมสี นามแม่เหลก็
มอเตอร์ ไดนาโม และนำปรมิ าณท่เี ก่ียวข้องไปแก้ปัญหาได้
3. สบื ค้นข้อมลู อธิบายแรงเคลื่อนไฟฟา้ เหนยี่ วนำ และนำปริมาณทีเ่ กย่ี วข้องไปแก้ปญั หาได้
4. สำรวจตรวจสอบ วเิ คราะห์ อธิบายหลักการทำงานของหมอ้ แปลงไฟฟ้าซง่ึ เปน็ อปุ กรณ์ทใ่ี ชเ้ ปล่ียน
ความตา่ งศักยไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั และนำปรมิ าณทเ่ี ก่ยี วขอ้ งไปแก้ปัญหาได้อธิบายการเกดิ และลกั ษณะเฉพาะของ คลื่น
แม่เหล็กไฟฟา้ แสงไมโ่ พลาไรส์ แสงโพลาไรส์เชิงเสน้ และแผน่ โพลารอยด์
5. สำรวจตรวจสอบ ทดลอง อภปิ รายและคำนวณเก่ยี วกบั ผลของความรอ้ นที่ทำให้สารเปล่ียนแปลงทาง
กายภาพ การถ่ายโอนความร้อน และ สมดลุ ความรอ้ นได้
6. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณสิง่ ทีเ่ ก่ียวข้องกบั สมบตั ขิ องแกส๊ ได้
7. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณสิง่ ที่เกี่ยวข้องกบั ทฤษฎจี ลนข์ องแก๊สได้
8. สบื ค้นข้อมูล อภปิ ราย และคำนวณสงิ่ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั พลังงานภายในระบบ กฎข้อทีห่ นง่ึ ของ อณุ หพล
ศาสตร์ และเครื่องมือท่เี ปลี่ยนความร้อนได้
9. สำรวจ ตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณส่งิ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับสมบตั ทิ ัว่ ไปของของไหล ได้แก่ ความ
หนาแนน่ และความดันได้
10. สำรวจตรวจสอบ อภปิ ราย และคำนวณสงิ่ ทเ่ี ก่ียวข้องกับ กฎของพาสคัลและหลกั ของอาร์คิมีดิสได้
11. สำรวจตรวจสอบ อภิปรายและคำนวณสิง่ ทเ่ี กีย่ วข้องกับ ความตึงผวิ ความหนืด และกฎของสโตกส์
เก่ยี วข้องกบั การเคล่ือนท่ขี องวตั ถุทรงกลมในของไหลที่มีความหนืดได้
12. สำรวจตรวจสอบ อภิปราย และคำนวณส่งิ ทีเ่ กยี่ วข้องกบั สมการของแบร์นลู ลีได้
รวมทง้ั หมด 12 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 409
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม
รายวิชาเคมี รหัสวชิ า ว33221 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเด่ียว พันธะคู่ หรือพันธะสามที่พบใน
ชีวิตประจำวัน เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อและสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบ
อินทรีย์ วิเคราะห์โครงสร้าง และระบุประเภทของสารประกอบอินทรีย์จากหมู่ฟังก์ชัน เขียนสูตรโครงสร้างและ
เรียกชื่อสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่างๆ ท่ีมีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน 1 หมู่ตามระบบ IUPAC เขียนไอโซเมอร์
โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่างๆ วิเคราะห์ และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในน้ำของ
สารประกอบอินทรีย์ท่ีมีหมู่ฟังก์ชันขนาดโมเลกุล หรือโครงสร้างต่างกัน ระบุประเภทของสารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอนและเขยี นผลิตภัณฑจ์ ากปฏิกริ ยิ าการเผาไหมป้ ฏกิ ริ ิยากบั โบรมีน หรือปฏิกริ ิยากับโพแทสเซยี มเปอร์
แมงกาเนต เขียนสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฏิกิริยาการสังเคราะห์เอไมด์ปฏิกิริยา
ไฮโดรลิซิส และปฏิกิริยาสปอนนิฟิเคชัน ทดสอบปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ปฎิกิริยาไฮโดรลิซิส และปฏิกิริยาส
ปอนนิฟิเคชัน สืบค้นข้อมลู และนำเสนอตัวอย่างการนำสารประกอบอินทรยี ์ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวันและ
อุตสาหกรรม ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้างของมอนอเมอร์หรือโพลิเมอร์ วิเคราะห์
และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ รวมท้ังการนำไปใช้ประโยชน์ ทดสอบ และ
ระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ยาง รวมทั้งการนำไปใช้ประโยชน์ อธิบายผลของการปรับเปลี่ยน
โครงสร้างและการสังเคราะห์พอลิเมอร์ที่มีต่อสมบัติของพอลิเมอร์ สืบค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างผลกระทบ
จากการใชแ้ ละการกำจดั ผลติ ภณั ฑพ์ อลเิ มอรแ์ ละแนวทางแก้ไข
โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สามารถ
นำความร้แู ละหลักการไปใช้ประโยชน์ เช่ือมโยง อธิบายปรากฎการณ์ หรอื แกป้ ัญหาในชวี ิตปรำจำวัน สามารถจัด
กระทำและวิเคราะห์ข้อมูล ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารในการตัดสินใจแก้ปัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็น
คุณคา่ ของวทิ ยาศาสตร์ มจี รยิ ธรรม คุณธรรมและค่านิยมทเ่ี หมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. สบื ค้นข้อมูลและนำเสนอตวั อยา่ งสารประกอบอินทรีย์ท่ีมพี ันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพนั ธะสามทพ่ี บใน
ชวี ิตประจำวนั
2. เขียนสูตรโครงสร้างลิวอสิ สตู รโครงสรา้ งแบบย่อและสตู รโครงสรา้ งแบบเส้นของสารประกอบอนิ ทรีย์
3. วิเคราะห์โครงสร้าง และระบุประเภทของสารประกอบอินทรยี ์จากหมู่ฟังกช์ นั
4. เขียนสตู รโครงสรา้ งและเรยี กชือ่ สารประกอบอินทรยี ์ประเภทต่างๆ ท่มี ีหมู่ฟังกช์ ันไมเ่ กิน 1 หมตู่ ามระบบ
IUPAC
5. เขียนไอโซเมอรโ์ ครงสรา้ งของสารประกอบอินทรยี ป์ ระเภทต่างๆ
6. วิเคราะห์ และเปรียบเทียบจดุ เดือดและการละลายในนำ้ ของสารประกอบอนิ ทรียท์ ม่ี ีหมฟู่ ังกช์ ันขนาด
โมเลกุล หรอื โครงสร้างต่างกัน
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 410
7. ระบปุ ระเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภณั ฑ์จากปฏกิ ริ ิยาการเผาไหม้ปฏกิ ิริยากบั
โบรมีน หรอื ปฏกิ ิริยากบั โพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต
8. เขยี นสมการเคมีและอธบิ ายการเกดิ ปฏิกิรยิ าเอสเทอรฟิ ิเคชัน ปฏกิ ิรยิ าการสงั เคราะหเ์ อไมด์ปฏกิ ริ ยิ า
ไฮโดรลิซิส และปฏิกริ ิยาสปอนนฟิ เิ คชนั
9. ทดสอบปฏิกริ ยิ าเอสเทอรฟิ เิ คชัน ปฎกิ ริ ิยาไฮโดรลิซิส และปฏิกริ ยิ าสปอนนฟิ เิ คชัน
10. สบื คน้ ข้อมูล และนำเสนอตัวอยา่ งการนำสารประกอบอนิ ทรยี ์ไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวันและ
อตุ สาหกรรม
11. ระบปุ ระเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอรจ์ ากโครงสร้างของมอนอเมอรห์ รือโพลิเมอร์
12. วิเคราะห์ และอธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหว่างโครงสรา้ งและสมบตั ิของพอลเิ มอร์ รวมทั้งการนำไปใช้
ประโยชน์
13. ทดสอบ และระบุประเภทของพลาสตกิ และผลิตภณั ฑย์ าง รวมท้ังการนำไปใช้ประโยชน์
14. อธบิ ายผลของการปรบั เปลี่ยนโครงสรา้ งและการสงั เคราะห์พอลเิ มอร์ท่ีมีต่อสมบัติของพอลิเมอร์
15. สบื คน้ ขอ้ มลู และนำเสนอตัวอยา่ งผลกระทบจากการใช้และการกำจัดผลติ ภัณฑ์พอลิเมอร์ และแนวทาง
แกไ้ ข
รวมทั้งหมด 15 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 411
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รายวิชา ชีววิทยา รหัสวิชา ว33241 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
ศกึ ษา ค้นคว้า วิเคราะห์ โครงสร้างและการทำงานของระบบประสาท การเคล่ือนที่ของส่ิงมีชีวิต การ
ทำงานและการรักษาสมดุลของระบบต่อมไร้ท่อ การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตของมนุษย์และสัตว์อื่น
พฤตกิ รรมของสตั วแ์ ละกลไกการเกดิ พฤตกิ รรม
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การข้อมูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. สืบค้นขอ้ มูล อธิบาย เปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าทข่ี องระบบประสาทของไฮดรา พลานาเรยี
ไส้เดอื นดิน กุ้ง หอย แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง
2. อธบิ ายเกี่ยวกับโครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องเซลลป์ ระสาท
3. อธบิ ายเกย่ี วกบั การเปลย่ี นแปลงของศักย์ไฟฟา้ ทเี่ ยื่อหุ้มเซลลข์ องเซลลป์ ระสาทและกลไกการ
ถ่ายทอดกระแสประสาท
4. อธบิ าย และสรปุ เก่ียวกับโครงสร้างของระบบประสาทสว่ นกลางและระบบประสาทรอบนอก
5. สืบคน้ ข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหนา้ ท่ีของส่วนต่างๆ ในสมองส่วนหนา้ สมองสว่ นกลาง สมอง
ส่วนหลงั และไขสันหลงั
6. สืบค้นข้อมลู อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอยา่ งการทำงานของระบบประสาทโซมาติกและระ
ประสาทอัตโนมตั ิ
7. สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ ายโครงสรา้ งและหน้าท่ีของ ตา หู จมูก ลนิ้ และผวิ หนงั ของมนุษย์ ยกตัวอย่างโรค
ต่างๆ ท่เี กีย่ วข้อง และบอกแนวทางในการดแู ลป้องกันและรกั ษา
8. สงั เกต และอธบิ ายการหาตำแหนง่ ของจดุ บอด โฟเวยี และความไวในการรบั สมั ผัสของผิวหนัง
9. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บโครงสร้างและหน้าทข่ี องอวยั วะท่เี กย่ี วข้องกับการเคล่ือนทขี่ อง
แมงกะพรุน หมึก ดาวทะเล ไสเ้ ดอื นดนิ แมลง ปลา และนก
10. สบื ค้นขอ้ มลู อธบิ ายโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของกระดูกและกล้ามเนอ้ื ทีเ่ กี่ยวข้องกบั การเคล่ือนไหวและ
การเคลือ่ นท่ีของมนุษย์
11. สังเกต และอธบิ ายการทำงานของขอ้ ต่อชนดิ ตา่ งๆ และการทำงานของกลา้ มเนื้อโครงรา่ งที่เกย่ี วข้อง
กบั การเคลอ่ื นไหวและการเคลอื่ นทีข่ องมนุษย์
12. สบื ค้นขอ้ มลู อธบิ าย และเขียนแผนผงั สรุปหน้าที่ของฮอรโ์ มนจากต่อมไร้ทอ่ และเน้ือเย่ือท่สี ร้าง
ฮอรโ์ มน
หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 412
13. สบื คน้ ขอ้ มลู อธบิ ายและยกตัวอย่างการสืบพนั ธแ์ุ บบไมอ่ าศัยเพศและการสบื พันธแุ์ บบอาศยั เพศ
ในสัตว์
14. สบื ค้นข้อมลู อธบิ ายโครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของอวัยวะในระบบสืบพนั ธุเ์ พศชายและระบบสืบพันธ์ุ
เพศหญงิ
15. อธิบายกระบวนการสรา้ งสเปิร์ม กระบวนการสรา้ งเซลล์ไข่ และการปฏสิ นธใิ นมนษุ ย์
16. อธิบายการเจรญิ เตบิ โตระยะเอ็มบรโิ อและระยะหลังเอ็มบรโิ อของกบ ไก่ และมนุษย์
17. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ าย เปรียบเทยี บและยกตวั อยา่ งพฤติกรรมทเ่ี ปน็ มาแต่กำเนดิ และพฤติกรรม
ท่ีเกิดจากการเรียนรขู้ องสัตว์
18. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย และยกตวั อย่างความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งพฤติกรรมกบั วิวัฒนาการของระบบประสา
19. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบาย และยกตัวอยา่ งการสอ่ื สารระหว่างสตั วท์ ่ที ำให้สตั วแ์ สดงพฤตกิ รรม
รวมทั้งหมด 19 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 413
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม
รายวชิ าเทคนิคปฏบิ ตั กิ ารพ้ืนฐานฟสิ กิ ส์ รหัสวิชา ว33204 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
การศึกษา เพ่ือให้มีความรู้ในการปฏิบัติการเก่ียวกับ การเขียนกราฟของข้อมูลจากการทดลอง การใช้
เวอร์เนียร์แคลิเพอร์ ไมโครมิเตอร์ มัลติมิเตอร์ การวัดด้วยเคร่ืองมือวัดอย่างละเอียด การเคล่ือนทแบบ โพรเจก
ไทล์ การเคล่ือนที่แบบวงกลม การเคล่ือนที่แบบซิมเปิลฮาร์มอนิกของลูกตุ้มและสปริง พลังงานศักย์โน้มถ่วงกับ
เส้นทางการเคล่ือนที่ ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงที่ใช้ดึงสปริงกับยึดออก สมดุลของแรง 3 แรง โมเมนต์
ของแรง การสนพองของเสียงในอากาศ ความดันในของเหลว ความตึงผิวของของเหลว การใช้มัลติมิเตอร์ ในการ
วัดค่าความต้านทาน กระแสไฟฟ้า อิเล็กโทรสโคป เส้นแรงแม่เหล็ก สนามแม่เหล็ก และความตาย ในวงจรไฟฟ้า
ความสวา่ งของแสงทเ่ี มอ่ื ผ่านแผ่นโพลารอยด์ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์
โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การเขยี นขอ้ มูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. ปฏบิ ัตกิ ารทดลองโดยใชเ้ ครือ่ งมือเวอร์เนียรแ์ คลิเพอร์ และไมโครมเิ ตอร์
2. ปฏิบตั ิการทดลองเกี่ยวกบั การหาค่าความเร่งเน่ืองจากแรงโนม้ ถว่ งของโลกจากการเคล่อื นท่ี
แบบฮารม์ อนกิ อย่างง่ายของลูกตุ้มนาฬกิ าได้
3. ปฏิบัติการทดลองเก่ยี วกับการเคลอื่ นท่ีแบบโพรเจกไทล์ การเคลือ่ นท่ีแบบวงกลม
4. ปฏิบัติการทดลองเก่ียวกับพลงั งานศักยโ์ นม้ ถ่วงกบั เส้นทางการเคล่ือนท่ี ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งขนาด
ของแรงทใ่ี ช้ดึงสปริงกบั ยืดออก
5. ปฏิบัตกิ ารทดลองเก่ียวกบั สมดลุ ของแรง 3 แรง โมเมนต์ของแรง
6. ปฏบิ ตั กิ ารทดลองเกย่ี วกับคลืน่ และตัวกลาง การสะท้อนของคล่นื การหกั เห การแทรกสอด
การเลีย้ วเบนของคลนื่
7. ปฏบิ ัติการทดลองเก่ยี วกบั การสั่นพ้องของคลน่ื เสยี งในอากาศ
8. ปฏบิ ตั กิ ารทดลองเก่ยี วกับความดนั ในของเหลว
9. ปฏบิ ตั กิ ารทดลองเกีย่ วกับการความตึงผวิ ของของเหลว
10.ปฏิบัตกิ ารทดลองเกย่ี วกบั การใชม้ ัลติมิเตอรใ์ นการวดั คา่ ความตา้ นทาน กระแสไฟฟ้าและความตา่ ง
ศกั ย์ในวงจรไฟฟ้าได้
11. ปฏิบัตกิ ารทดลองเกีย่ วกบั การทาํ ให้อิเล็กโทรสโคปมปี ระจุโดยการเหน่ยี วนํา
12. ปฏิบัตกิ ารทดลองเกย่ี วกับเส้นแรงแม่เหลก็ สนามแมเ่ หล็ก
13. ปฏิบัตกิ ารทดลองเกยี่ วกับกระแสไฟฟ้าเหน่ยี วนํา
14. ปฏิบัตกิ ารทดลองเกีย่ วกับความสวา่ งของแสงที่เมือ่ ผา่ นแผ่นโพลารอยด์
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 414
15. ปฏบิ ัตกิ ารทดลองเก่ยี วกับความสัมพันธร์ ะหวา่ งกระแสไฟฟา้ และความต่างศกั ย์
16. เขียนรายงานและนําเสนอผลปฏบิ ัติการทดลอง เพื่อตรวจสอบข้อมูลตามกระกราฟ
รวมท้ังหมด 16 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 415
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชาเทคนคิ ปฏบิ ัติการพ้นื ฐานชีววิทยา รหสั วชิ า ว33243 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศกึ ษากระบวนการแก้ปัญหาและสืบค้นขอ้ มูลเก่ียวกับเทคนคิ ปฏิบัตกิ ารพ้นื ฐานทางชีววิทยา เกยี่ วกับการ
ใช้กล้องจุลทรรศน์ การเตรียมสไลด์สำหรับใช้กับกล้องจุลทรรศน์ เนื้อเยื่อพืช การแบ่งเซลล์ การจำแนกชนิดขิง
สิ่งมีชีวิต เทคนิคทางจุลชีววิทยา การเก็บรักษาตัวอย่างสิ่งมีชีวิต การตรวจสอบคุณภาพน้ำ ระบบนิเวศของ
ส่ิงมชี วี ิตและความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิ่งมีชวี ติ ในระบบนิเวศ
เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นผู้ใฝ่รู้ มีความกระตือรือร้นในกระบวนการค้นคว้า มีทักษะในการใช้เคร่ืองมือ ที่
เก่ียวข้องกบั ปฏบิ ัติการพืน้ ฐานทางชีววิทยา
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การ
สำรวจตรวจสอบ และการทดลอง เพ่อื ฝกึ ใหน้ ักเรียนเปน็ ผู้ใฝร่ ู้ มคี วามกระตอื รือร้นในกระบวนการคน้ ควา้ มีทกั ษะ
ในการใช้เคร่ืองมือท่ีเก่ียวข้องกับปฏิบัติการ พ้ืนฐานทางชีววิทยา มีจิวิทยาศาสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และ
ค่านยิ ม ทพี่ ึงประสงค์
ผลการเรยี นรู้
1. สามารถใชแ้ ละเก็บรกั ษากล้องจุลทรรศนไ์ ด้อย่างถกู วิธี
2. สามารถเตรยี มสไลดเ์ พ่ือใชใ้ นการศึกษาดว้ ยกล้องจุลทรรศน์ได้
3. อธบิ ายรปู ร่างลักษณะของเซลล์พชื ที่เหน็ ตามประเภทของเนื้อเยือ่ พชื ได้อย่างถกู ต้อง
4. สามารถบอกระยะในการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสได้อย่างถูกต้อง
5. สามารถบอกระยะในการแบ่งเซลล์แบบไมโอซสิ ได้อย่างถูกตอ้ ง
6. สามารถสกัด DNA จากตัวอย่างส่ิงมชี ีวติ ได้
7. รแู้ ละเขา้ ใจโครงสร้างและการทำงานของหวั ใจได้อย่างถกู ต้อง และสามารถอธิบายได้
8. ร้แู ละเขา้ ใจโครงสร้างและการทำงานของไตได้อยา่ งถกู ต้อง และสามารถอธิบายได้
9. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ และสามารถเกบ็ รักษาตัวอย่างของสงิ่ มีชวี ติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
10. มจี ิวทิ ยาศาสตร์ คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม ท่ีพงึ ประสงค์
รวมทั้งหมด 10 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 416
คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว33281 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศกึ ษาพิกดั ของดาวบนทรงกลมฟา ตามพิกัดขอบฟา พิกัดเสนศูนยสูตรฟา และพิกดั สุริยะวิถเี วลา สรุ ิยคติ
และเวลาดาราคติ แบบจําลองของระบบสุริยะ การเคลื่อนท่ีปรากฏของดาวเคราะหและมุมหางกฎเคพเลอรและ
แรงโนมถวงท่ที ําใหดวงอาทิตยและบริวารอยูเปนระบบศกึ ษาการกําเนิดดาวฤกษ การแผพลังงานและคาดชั นสี ีของ
ดาวฤกษ โชติมาตรปรากฏและโชติมาตรสัมบูรณ ศึกษาวิวัฒนาการของดาวฤกษระบบดาวคู กระจุกดาวกาแล็กซี
และกระจุกกาแล็กซี การขยายตัวของเอกภพโดยใชกฎของฮับเบิล ศึกษาหลักการทํางานของกลองโทรทรรศน
แบบตางๆ ศึกษากําลังแยกกําลังขยาย และกําลังรวมแสงของกลองโทรทรรศน ศึกษาการสังเกตการณทางดารา
ศาสตรและอุปกรณสงั เกตการณในชวงความยาวคลืน่ ตางๆ
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี
ทักษะปฏิบัตกิ ารทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ด้านการคดิ และการแก้ปญั หา ดา้ นการสือ่ สาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรยี นรแู้ ละนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มี
จิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายการกำเนิด และการเปลย่ี นแปลงพลงั งานสสาร ขนาดอุณหภมู ขิ องเอกภพหลังเกดิ บิกแบงใน
ช่วงเวลาต่างๆ ตามวิวัฒนาการของเอกภพ
2. อธิบายหลกั ฐานที่สนับสนนุ ทฤษฎีบิกแบง จากความสมั พนั ธร์ ะหว่างความเรว็ กับระยะทางของ
กาแล็กซี รวมทงั้ ขอ้ มูลการค้นพบไมโครเวฟพน้ื หลงั จากอวกาศ
3. อธบิ ายโครงสร้าง และองค์ประกอบของกาแล็กซีทางชา้ งเผอื ก และระบุตำแหน่งของระบบสุริยะ
พร้อมอธิบายเช่อื มโยงกับ การสังเกตเห็นทางช้างเผือกของคนบนโลก
4. อธิบายกระบวนการเกดิ ดาวฤกษ์ โดยแสดงการเปล่ยี นแปลงความดัน อุณหภูมิ ขนาด จากดาวฤกษ์
ก่อนเกิดจนเป็นดาวฤกษ์
5. อธิบายกระบวนการสรา้ งพลงั งานของดาวฤกษ์และผลทเี่ กิดข้ึน โดยวเิ คราะห์ปฏิกริ ยิ าลกู โซโ่ ปรตอน –
โปรตอน และวัฏจักรคารบ์ อน ไนโตรเจน ออกซิเจน
6. ระบุปจั จยั ทส่ี ง่ ผลต่อความส่องสวา่ งของดาวฤกษแ์ ละอธิบายความสมั พันธร์ ะหวา่ งความสอ่ งสว่างกับ
โชติ มาตรของดาวฤกษ์
7. อธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งสี อณุ หภมู ิผิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์
8. อธบิ ายวธิ กี ารหาระยะทางของดาวฤกษ์ดว้ ยหลกั การแพรลั แลกซ์ พรอ้ มคำนวณหาระยะทางของดาว
ฤกษ์
หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 417
9. อธบิ ายลำดับวิวฒั นาการท่ีสมั พนั ธ์กับมวลต้งั ตน้ และวิเคราะห์การปล่ียนแปลงสมบัตบิ างประการของ
ดาวฤกษใ์ นลำดบั วิวฒั นาการ จากแผนภาพเฮริ ซ์ ปรุง-รัสเซลล์
10. อธิบายกระบวนการเกดิ ระบบสรุ ิยะ การแบง่ เขตบรวิ ารของดวงอาทติ ย์และลักษณะของดาวเคราะห์
ทเ่ี อื้อตอ่ การดำรงชวี ิต
11. อธบิ ายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตยด์ ว้ ยกฎเคพเลอร์ และกฎความโน้มถ่วงของนวิ ตัน
พรอ้ มคำนวณคาบการโคจรของดาวเคราะห์
12. อธบิ ายโครงสร้างของดวงอาทติ ย์ การเกดิ ลมสรุ ยิ ะ พายสุ รุ ิยะ และวเิ คราะห์ นำเสนอปรากฏการณ์
หรอื เหตกุ ารณท์ ีเ่ กย่ี วข้องกบั ผลของลมสุรยิ ะ และพายุสรุ ิยะทีม่ ีต่อโลกรวมทัง้ ประเทศไทย
13. สร้างแบบจำลองทรงกลมฟ้า สังเกต และเชือ่ มโยงจดุ และเสน้ สำคัญของแบบจำลองทรงกลมฟา้ กบั
ท้องฟา้ จรงิ และอธบิ ายการระบพุ ิกัดของดาวในระบบขอบฟ้า และระบบศูนย์สูตร
14. สังเกตท้องฟ้า และอธิบายเสน้ ทางการข้ึนการตกของดวงอาทติ ย์และดาวฤกษ์
15. อธิบายเวลาสุริยคตปิ รากฏ โดยรวบรวมข้อมลู และเปรีบบเทียบเวลาขณะที่ดวงอาทิตย์ผา่ นเมรเิ ดียน
ของผู้สงั เกตในแตล่ ะวนั
16. อธบิ ายเวลาสรุ ยิ คตปิ านกลางและการเปรยี บเทียบเวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก
17. อธิบายมุมห่างทสี่ ัมพนั ธ์กับตำแหนง่ ในวงโคจร และอธิบายเชือ่ มโยงตำแหน่งปรากฏของดาวเคราะห์
ทีส่ งั เกตได้จากโลก
18. สืบค้นข้อมูล อธบิ ายการสำรวจอวกาศ โดยใชก้ ลอ้ งโทรทรรศนใ์ นช่วงความยาวคลนื่ ต่างๆ ดาวเทียม
ยานอวกาศ สถานอี วกาศ และนำเสนอแนวคดิ การนำความรทู้ างด้านเทคโนยีอวกาศมาประยกุ ตใ์ ชใ้ ชวี ติ ประจำวัน
หรือในอนาคต
19. สบื คน้ ข้อมูล ออกแบบ และนำเสนอกิจกรรม การสงั เกตดาวบนท้องฟา้ ดว้ ยตาเปล่าและ/หรือกล้อง
โทรทรรศน์
รวมท้ังหมด 19 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 418
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รายวชิ าการสร้างเว็บเพจ รหสั วิชา ว33273 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต
ศึกษาระบบเครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ ความเป็นมา ความสำคัญ องค์ประกอบของระบบเครือขา่ ย การค้นหา
ขอ้ มูลความรแู้ ละติดต่อส่ือสารผา่ นระบบเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต อธบิ ายภาษาที่ใช้ในการสรา้ งและพัฒนาเว็บเพจ
การนำเสนอผลงานดว้ ยซอฟทแ์ วร์คอมพิวเตอร์ทีเ่ หมาะสม
เลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยสามารถสร้าง Webpage ประเภท Text Editor ในการ
สรา้ งงานรูปแบบการใชค้ ำสั่งต่างๆ ในภาษา HTML แสดงลำดับรายการและจัดการกับรูปภาพด้วยคำส่งั ภาษา
HTML การใชค้ ำส่งั หลักในการสรา้ งตารางในภาษา HTML การใชค้ ำส่งั เช่อื มโยงในภาษา HTML การใช้คำสัง่ สร้าง
เฟรมด้วยภาษา HTML การใชค้ ำสง่ั ฟอร์มในภาษา HTML ในรปู แบบตา่ งๆ
เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจและเหน็ คุณคา่ ของเทคโนโลยีสารสนเทศ มคี วามเข้าใจในเร่อื งอนิ เทอรเ์ นต็ การสอื่ สารข้อมูล
ผา่ นระบบเครือขา่ ย สามารถเลือกเครื่องมือทางเทคโนโลยสี ารสนเทศในการทำงานได้อยา่ งเหมาะสม เขา้ ใจระบบ
เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ รวบรวม สบื คน้ ขอ้ มลู จากระบบเครือข่ายและแหล่งข้อมลู ในท้องถ่นิ สรา้ งสรา้ งช้ินงาน
นำเสนองานในรูปแบบที่เหมาะสมตรงตามวัตถปุ ระสงค์ ประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในชวี ติ ประจำวนั อย่างมี
จติ สำนกึ และรับผิดชอบ
ผลการเรยี นรู้
1. สามารถเขยี นโครงสรา้ งของภาษา HTML ได้
2. สามารถเขยี นโค๊ดคำส่ังสรา้ งเว็บเพจด้วย HTML ได้ถูกต้อง
3. สามารถสรา้ งตารางเพ่ือควบคุมการแสดงผลในหน้าเว็บเพจท่ซี บั ซ้อนได้
4. สามารถสรา้ ง Webpage ประเภท Text Editor ได้
5. สามารถเขยี นเวบ็ ไซด์ของท้องถ่นิ ของตนเองได้
รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 419
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
รายวิชาระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ รหัสวิชา ว33271 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศึกษาบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อมลู และสารสนเทศ การประมวลผลและการจดั การสารสนเทศ
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ ซอฟต์แวร์ บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ เครือข่าย
คอมพิวเตอร์ หลักการแก้ปัญหา หรือสร้างงาน การออกแบบงานโดยใช้คอมพิวเตอร์ การโปรแกรมข้ันพื้นฐาน
อินเตอร์เน็ต ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป แนะนำการใช้ โปรแกรมสำเร็จสำเร็จ เช่น โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรม
กราฟิก โปรแกรมตารางทำงาน โปรแกรมการจัดการข้อมูล จริยธรรมและคุณธรรมเก่ียวกับการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ
ฝึกปฏิบัติการ เกีย่ วกบั บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อมูลและสารสนเทศ การประมวลผลและการ
จดั การสารสนเทศ คอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ประกอบ ซอฟต์แวร์ บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ
สมัยใหม่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หลักการแก้ปัญหา หรือสร้างงาน การออกแบบงานโดยใช้คอมพิวเตอร์ การ
โปรแกรมข้ันพ้ืนฐาน อินเตอร์เน็ต ซอฟต์แวร์สำเร็จรูป การใช้โปรแกรมสำเร็จสำเร็จ เช่น โปรแกรมประมวลคำ
โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมตารางทำงาน โปรแกรมการจัดการข้อมูล เบือ้ งตน้ จริยธรรมและคณุ ธรรมเกี่ยวกบั การ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการทำงาน บทบาท และประโยชน์ของระบบคอมพิวเตอร์ เข้าใจหลักการ
เบ้ืองต้นของการส่ือสารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีความรู้พ้ืนฐานทางด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศ
ประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศได้ เข้าใจหลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยี
สารสนเทศ เข้าใจหลักการทำโครงงานท่ีมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ค้นหาข้อมูล ความรู้และติดต่อส่ือสารผ่าน
คอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนองานในรูปแบบท่ีเหมาะสม ใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างช้ินงาน หรือโครงงานจากจินตนาการ หรืองานท่ีทำในชีวิตประจำวันอย่างมีจิตสำนึกและมี
ความรบั ผดิ ชอบใช้คอมพวิ เตอร์ช่วยสร้างชนิ้ งาน หรือโครงงานจากจินตนาการ หรืองานท่ีทำในชวี ิตประจำวันอยา่ ง
มีจิตสำนกึ และมีความรบั ผดิ ชอบ
ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจความหมายของระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์
2. มีความรู้ ความเขา้ ใจและบอกประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอรไ์ ด้
3. รู้ทักษะรปู แบบ ลักษณะการเช่อื มต่อระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
4. มคี วามรู้ ความเข้าใจและบอกองคป์ ระกอบของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
5. บอกคุณลักษณะของอปุ กรณท์ ่ีใช้ในระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์
6. บอกคณุ ลักษณะส่ือกลางท่ีใชใ้ นระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
7. มีทักษะลักษณะของเครือขา่ ยไรส้ าย
8. บอกโปรโตคอลที่ใช้ในการตดิ ตอ่ ส่อื สารบนระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ได้
รวมทั้งหมด 8 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 420
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวิชา เทคโนโลยีสรา้ งสรรค์ รหัสวิชา ว33275 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศึกษาเก่ียวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย การนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลสารสนเทศ
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ การนำเสนอและแบง่ ปนั ข้อมูลอยา่ งปลอดภัย จริยธรรม จรรยาบรรณ
และกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวัน และผลกระทบ
ของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในดา้ นตา่ ง ๆ
โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบอภิปราย วิธีการสอนแบบกระบวนการทำงานกลุ่ม
และวิธีการสอนแบบบรรยาย เพ่ือเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแก้ปัญหา
วางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงาน เพ่ือให้เกิดทักษะ ความรู้
ความเข้าใจ และทักษะในการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา จนสามารถนำเสนอแนวคิดเชิงคำนวณมาประยุกต์ใช้ใน
โครงงานได้
เพ่ือให้ผู้เรยี นมีความรคู้ วามเข้าใจ มที ักษะการคิดเชงิ คำนวณ การคดิ วิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นข้นั ตอนและ
เป็นระบบมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และสอ่ื สารเบื้องต้นในการแก้ปัญหาที่พบใน
ชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) และนำ
เทคโนโลยีใหม่ท่ีเกิดข้ึนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อสังคม และการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและ
จิตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาการจัดการทักษะในการส่ือสาร ความสามารถในการตัดสินใจ เป็นผู้ท่ีมี
จติ วทิ ยาศาสตร์ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์
ผลการเรียนรู้
1. สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างปลอดภยั ในสงั คม
2. สามารถใชเ้ ทคโนโลยแี บบปญั ญาประดิษฐแ์ ละประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยสี มัยใหมไ่ ด้
3. สามารถเป็นพลเมืองดิจิทัล และจรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยไี ด้
4. สามารถใช้เทคโนโลยีในการสร้างอาชีพทางดา้ นเทคโนโลยีได้
รวมท้ังหมด 4 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 421
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
รายวชิ าฟิสิกส์ รหสั วิชา ว33203 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ
ศึกษาเก่ียวกับ คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า การเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
โพลาไรเซชันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การประยุกต์ใช้คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า การสื่อสารโดยอาศัยคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า
ฟิสิกส์อะตอม สมมติฐานของพลังค์และทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและ
อนุภาค ฟิสิกส์นิวเคลียร์และฟิสิกส์อนุภาค เสถียรภาพของนิวเคลียส กัมมันตภาพรังสี ปฏิกิริยานิวเคลียร์และ
พลังงานนิวเคลียร์ ประโยชน์และการป้องกันอันตรายจากรังสี และฟิสิกส์อนุภาค รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์ให้ผู้เรยี นได้มีการสืบค้นข้อมูล การสืบเสาะความรู้ สำรวจตรวจสอบ ทดลอง อภิปราย อธิบาย สรุป
และ แกป้ ญั หาตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด โดยการใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งทีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
นำความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายการเกิดและลักษณะเฉพาะของคลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า แสงไมโ่ พลาไรส์ แสงโพลาไรส์เชิงเส้น และ
แผ่นโพลารอยด์ รวมทั้งอธบิ ายการนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในชว่ งความถต่ี า่ ง ๆ ไปประยกุ ต์ใช้และหลกั การทำงาน
ของอปุ กรณ์ทีเ่ กี่ยวข้อง
2. สบื คน้ และอธิบายการส่อื สารโดยอาศยั คล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ ในการส่งผ่านสารสนเทศและเปรียบเทยี บ
การสอื่ สารด้วยสัญญาณแอนะล็อกกบั สญั ญาณดจิ ทิ ัล
3. อธบิ ายสมมตฐิ านของพลงั ค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกิดเสน้ สเปกตรมั ของอะตอมไฮโดรเจน
รวมทง้ั คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ยี วข้อง
4. อธิบายปรากฏการณโ์ ฟโตอเิ ล็กทริกและคำนวณพลงั งานโฟตอน พลงั งานจลน์ของโฟโตอิเลก็ ตรอน
และฟงั ก์ชนั งานของโลหะ
5. อธิบายทวภิ าวะของคล่ืนและอนภุ าค รวมท้ังอธิบาย และคำนวณความยาวคล่ืนเดอบรอยล์
6. อธบิ ายกมั มนั ตภาพรังสีและความแตกตา่ งของรงั สีแอลฟา บตี า และแกมมา
7. อธิบาย และคำนวณกมั มันตภาพของนวิ เคลียสกัมมนั ตรังสี รวมท้งั ทดลอง อธิบายและคำนวณ
จำนวนนวิ เคลียสกัมมนั ตภาพรงั สที ี่เหลอื จากการสลาย และครง่ึ ชีวติ
8. อธิบายแรงนิวเคลียร์ เสถยี รภาพของนวิ เคลียส และพลงั งานยดึ เหนี่ยว รวมทั้งคำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ
ที่เกีย่ วข้อง
9. อธบิ ายปฏิกริ ิยานิวเคลยี ร์ ฟิชชันและฟิวชัน รวมทง้ั คำนวณพลังงานนิวเคลียร์
10. อธบิ ายประโยชนข์ องพลังงานนิวเคลยี ร์ และรงั สี รวมทั้งอันตรายและการป้องกนั รงั สใี นด้านต่าง ๆ
หลกั สูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 422
11. อธิบายการค้นควา้ วิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาค แบบจำลองมาตรฐาน และการใช้ประโยชนจ์ ากการ
ค้นควา้ วิจยั ดา้ นฟิสกิ ส์อนุภาคในด้านตา่ ง ๆ
รวมท้ังหมด 11 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 423
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
รายวิชาฟสิ ิกส์ รหสั วชิ า ว33202 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6
ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2 หนว่ ยกิต
ศึกษาการเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า โพลาไรเซชันของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า
การส่ือสารโดยอาศัยคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า สมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทริก
ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค เสถียรภาพของนิวเคลียส กัมมันตภาพรังสี ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลียร์
และ ฟิสิกส์อนุภาค โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ
มีทักษะปฏิบัติการ ทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้าน
การคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต
วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายการเกิดและลักษณะเฉพาะของคล่นื แม่เหล็กไฟฟ้า แสงไมโ่ พลาไรส์ แสงโพลาไรสเ์ ชิงเสน้ และ
แผ่น โพลารอยดร์ วมทัง้ อธิบายการนาํ คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ในช่วงความถีต่ ่าง ๆ ไปประยกุ ต์ใช้ และหลกั การทาํ งาน
ของอปุ กรณ์ท่ีเกี่ยวข้อง
2. สืบค้นและอธบิ ายการสอ่ื สารโดยอาศัยคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้าในการสง่ ผ่านสารสนเทศ และเปรยี บเทยี บ
การสื่อสารดว้ ยสญั ญาณแอนะล็อกกบั สัญญาณดิจิทลั
3. อธบิ ายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกดิ เสน้ สเปกตรมั ของอะตอมไฮโดรเจน
รวมทั้งคาํ นวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง
4. อธบิ ายปรากฏการณโ์ ฟโตอเิ ล็กทริกและคํานวณพลังงานโฟตอน พลงั งานจลน์ของโฟโตอเิ ล็กตรอนและ
ฟงั ก์ชันงานของโลหะ
5. อธิบายทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค รวมท้ังอธิบายและคํานวณความยาวคล่ืนเดอบรอยล์
6. อธบิ ายกมั มนั ตภาพรงั สแี ละความแตกต่างของรงั สีแอลฟา บตี าและแกมมา
7. อธิบายและคาํ นวณกัมมันตภาพของนวิ เคลยี สกัมมันตรังสี รวมท้งั ทดลอง อธบิ าย และคาํ นวณจํานวน
นิวเคลียสกัมมันตรงั สีท่เี หลือจากการสลายและคร่งึ ชีวิต
8. อธบิ ายแรงนิวเคลียร์ เสถียรภาพของนวิ เคลยี ส และพลังงานยึดเหนีย่ ว รวมท้งั คาํ นวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่
เกีย่ วขอ้ ง
9. อธิบายปฏกิ ิริยานวิ เคลียร์ ฟชิ ชนั และฟวิ ชัน รวมท้ังคาํ นวณพลงั งานนวิ เคลียร์
10. อธบิ ายประโยชนข์ องพลังงานนิวเคลียรแ์ ละรังสี รวมทัง้ อนั ตรายและการป้องกนั รังสใี นดา้ นตา่ ง ๆ
11. อธิบายการค้นควา้ วิจัยดา้ นฟิสกิ ส์อนุภาค แบบจําลองมาตรฐาน และการใชป้ ระโยชนจ์ ากการค้นคว้า
วจิ ัยด้าน
รวมทั้งหมด 11 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 424
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
รายวิชาเคมี รหัสวชิ า ว33223 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
กำหนดปัญหาและนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน
ชีวติ ประจำวนั การประกอบอาชพี หรอื อุตสาหกรรมแสดงหลกั ฐานถึงการบรู ณาการความร้ทู างเคมีร่วมกับสาขาวชิ า
อื่นรวมทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมโดยเน้นการคิดวิเคราะห์
การแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรคเ์ พื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นท่ีสนใจนำเสนอผลงานหรือช้ินงาน
ท่ีไดจ้ ากการแกป้ ัญหาในสถานการณ์หรือประเดน็ ท่สี นใจ
โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศโดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้
การสำรวจตรวจสอบ สามารถนำความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฎการณ์ หรือ
แก้ปัญหาในชีวิตปรำจำวัน สามารถจัดกระทำและวิเคราะห์ข้อมูล ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารในการ
ตัดสินใจแก้ปญั หา มีจิตวิทยาศาสตร์ เหน็ คุณคา่ ของวทิ ยาศาสตร์ มจี ริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. กำหนดปญั หาและนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรทู้ างเคมีจากสถานการณ์ทเ่ี กดิ ข้นึ
ในชวี ิตประจำวันการประกอบอาชพี หรืออุตสาหกรรม
2. แสดงหลกั ฐานถงึ การบรู ณาการความรูท้ างเคมีรว่ มกบั สาขาวิชาอืน่ รวมทั้งทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์หรอื กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมโดยเน้นการคดิ วเิ คราะหก์ ารแก้ปญั หาและความคิด
สรา้ งสรรค์เพอ่ื แกป้ ัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นทีส่ นใจ
3. นำเสนอผลงานหรือชิ้นงานทไ่ี ด้จากการแก้ปญั หาในสถานการณ์หรือประเด็นทส่ี นใจโดยใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ
4. แสดงหลักฐานการเข้าร่วมสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการหรอื การแสดงผลงานส่ิงประดษิ ฐใ์ นงาน
นทิ รรศการ
รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 425
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม
รายวิชาเคมี รหัสวชิ า ว33222 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
กำหนดปัญหาและนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน
ชีวติ ประจำวันการประกอบอาชีพหรืออุตสาหกรรมแสดงหลักฐานถงึ การบรู ณาการความรทู้ างเคมรี ่วมกับสาขาวิชา
อื่นรวมทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมโดยเน้นการคิดวิเคราะห์
การแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์เพ่ือแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจนำเสนอผลงานหรือชิ้นงาน
ท่ีไดจ้ ากการแกป้ ัญหาในสถานการณ์หรือประเดน็ ท่ีสนใจ
โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศโดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้
การสำรวจตรวจสอบ สามารถนำความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฎการณ์ หรือ
แก้ปัญหาในชีวิตปรำจำวัน สามารถจัดกระทำและวิเคราะห์ข้อมูล สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารในการ
ตัดสินใจแก้ปญั หา มีจิตวิทยาศาสตร์ เห็นคุณคา่ ของวิทยาศาสตร์ มีจรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. กำหนดปญั หาและนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรทู้ างเคมจี ากสถานการณ์ท่เี กิดข้นึ
ในชวี ิตประจำวันการประกอบอาชพี หรืออุตสาหกรรม
2. แสดงหลกั ฐานถงึ การบรู ณาการความรูท้ างเคมรี ่วมกับสาขาวิชาอน่ื รวมทง้ั ทกั ษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์หรอื กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมโดยเน้นการคดิ วเิ คราะหก์ ารแก้ปญั หาและความคิด
สรา้ งสรรค์เพอ่ื แกป้ ัญหาในสถานการณ์หรือประเดน็ ที่สนใจ
3. นำเสนอผลงานหรอื ชนิ้ งานทไี่ ดจ้ ากการแก้ปญั หาในสถานการณ์หรอื ประเดน็ ทส่ี นใจโดยใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ
4. แสดงหลักฐานการเข้ารว่ มสัมมนา การเข้ารว่ มประชุมวิชาการหรือการแสดงผลงานส่ิงประดิษฐ์ในงาน
นทิ รรศการ
รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 426
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
รายวิชาชีววิทยา รหัสวิชา ว33242 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ศึกษา ค้นควา้ วเิ คราะห์ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ิต ระบบนิเวศ
และประชากร ประเภททรัพยากรธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ ปัญหา การจัดการ และการอนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพ่อื ความย่ังยนื
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การข้อมูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. อภปิ รายความสำคญั ของความหลากหลายทางชวี ภาพ และความเช่อื มโยงระหวา่ งความหลากหลาย
ทางพนั ธุกรรมความหลากหลายของสปีชีส์ และความหลากหลายของระบบนเิ วศ
2. อธิบายการเกิดเซลลเ์ รมิ่ แรกและววิ ฒั นาการของสงิ่ มชี วี ิตเซลลเ์ ดยี ว
3. อธบิ ายลกั ษณะสำคัญและยกตัวอยา่ งสิ่งมีชวี ิตกลุ่มแบคทีเรีย สิ่งมีชีวติ กลมุ่ โพรทิสต์ ส่ิงมีชวี ติ กลุ่มพืช
ส่ิงมชี วี ติ กลุม่ ฟงั ไจ และส่ิงมีชีวติ กลุม่ สตั ว์
4. อธบิ ายและยกตวั อยา่ งการจำแนกสิ่งมชี วี ิตจากหมวดหมู่ใหญจ่ นถึงหมวดหม่ยู ่อย และวธิ ีการเขยี นชือ่
วทิ ยาศาสตร์ ในลำดบั ขัน้ สปีชีส์
5. สรา้ งไดโคโทมัสคีย์ในการระบุสิ่งมีชวี ิตหรือตวั อยา่ งที่กำหน
6. วเิ คราะห์ อธิบายและยกตวั อยา่ งกระบวนการถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ
7. อธบิ าย ยกตวั อย่างการเกดิ ไบโอแมกนิฟเิ คชัน และบอกแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอแมกนฟิ เิ คชนั
8. สบื คน้ ข้อมลู และเขียนแผนภาพ เพ่ืออธบิ ายวฏั จกั รไนโตรเจน วัฏจกั รกำมะถนั และวัฏจักรฟอสฟอรสั
9. สบื คน้ ขอ้ มลู ยกตวั อยา่ ง และอธิบายลักษณะของไบโอมท่ีกระจายอยตู่ ามเขตภมู ิศาสตรต์ ่าง ๆ บน
โลก
10. สืบค้นข้อมูล ยกตวั อย่าง อธิบายและเปรียบเทียบการเปล่ยี นแปลงแทนที่แบบปฐมภูมแิ ละการ
เปลีย่ นแปลงแทนที่แบบทตุ ิยภมู ิ
11. สบื คน้ ข้อมลู อธิบาย ยกตวั อยา่ งและสรุปเก่ยี วกับลกั ษณะเฉพาะของประชากรของสงิ่ มีชีวิตบางชนดิ
12. สืบคน้ ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบและยกตัวอยา่ งการเพม่ิ ของประชากรแบบเอ็กโพเนนเชียลและการ
เพิม่ ของประชากรแบบลอจสิ ตกิ
13. อธิบาย และยกตวั อยา่ งปจั จัยที่ควบคุมการเตบิ โตของประชากร
14. วเิ คราะห์ อภปิ รายและสรุปปัญหาการขาดแคลนนำ้ การเกิดมลพษิ ทางน้ำ ผลกระทบที่มีต่อมนุษย์
และสง่ิ แวดล้อม รวมทั้งเสนอแนวทางการวางแผนการจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหา
หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 427
15. วเิ คราะห์ อภปิ รายและสรุปปัญหาที่เกิดกบั ทรัพยากรดนิ และผลกระทบทม่ี ตี ่อมนุษยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
รวมทั้งเสนอแนวทางการแกไ้ ขปญั หา
16. วิเคราะห์ อภิปรายและสรุปปัญหามลพษิ ทางอากาศ ผลกระทบที่มีตอ่ มนุษยแ์ ละสิง่ แวดลอ้ ม
รวมทง้ั เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา
17. วิเคราะห์ อภิปรายและสรปุ ปัญหาผลกระทบทเี่ กดิ จากการทำลายปา่ ไม้ รวมทงั้ เสนอแนวทางในการ
ป้องกนั การทำลายป่าไม้และการอนุรกั ษ์ป่าไม้
18. วเิ คราะห์ อภิปรายและสรปุ ปัญหาผลกระทบท่ีทำใหส้ ัตว์ป่ามจี ำนวนลดลง และแนวทางในการ
อนุรกั ษส์ ตั ว์ป่า
รวมท้ังหมด 18 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 428
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหัสวิชา ว33281 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศกึ ษาพิกัดของดาวบนทรงกลมฟา ตามพิกัดขอบฟา พิกัดเสนศูนยสูตรฟา และพิกัดสุริยะวิถีเวลา สุริยคติ
และเวลาดาราคติ แบบจําลองของระบบสุริยะ การเคล่ือนที่ปรากฏของดาวเคราะหและมุมหางกฎเคพเลอรและ
แรงโนมถวงทที่ ําใหดวงอาทิตยและบรวิ ารอยูเปนระบบศึกษาการกาํ เนิดดาวฤกษ การแผพลงั งานและคาดัชนีสขี อง
ดาวฤกษ โชติมาตรปรากฏและโชติมาตรสัมบูรณ ศึกษาวิวัฒนาการของดาวฤกษระบบดาวคู กระจุกดาวกาแล็กซี
และกระจุกกาแล็กซี การขยายตัวของเอกภพโดยใชกฎของฮับเบิล ศึกษาหลักการทํางานของกลองโทรทรรศน
แบบตางๆ ศึกษากําลังแยกกําลังขยาย และกําลังรวมแสงของกลองโทรทรรศน ศึกษาการสังเกตการณทางดารา
ศาสตรและอุปกรณสังเกตการณในชวงความยาวคลน่ื ตางๆ
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี
ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ดา้ นการคิดและการแก้ปัญหา ดา้ นการสอ่ื สาร สามารถสื่อสารสง่ิ ที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มี
จิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายการกำเนิด และการเปลี่ยนแปลงพลงั งานสสาร ขนาดอุณหภมู ขิ องเอกภพหลังเกดิ บิกแบงใน
ชว่ งเวลาตา่ งๆ ตามวิวัฒนาการของเอกภพ
2. อธบิ ายหลกั ฐานท่สี นับสนนุ ทฤษฎบี ิกแบง จากความสมั พนั ธ์ระหวา่ งความเรว็ กับระยะทางของ
กาแล็กซี รวมท้ังขอ้ มลู การค้นพบไมโครเวฟพน้ื หลงั จากอวกาศ
3. อธิบายโครงสรา้ ง และองค์ประกอบของกาแลก็ ซีทางช้างเผือก และระบตุ ำแหน่งของระบบสุรยิ ะ
พรอ้ มอธบิ ายเชอ่ื มโยงกบั การสงั เกตเหน็ ทางชา้ งเผือกของคนบนโลก
4. อธิบายกระบวนการเกิดดาวฤกษ์ โดยแสดงการเปลย่ี นแปลงความดัน อุณหภมู ิ ขนาด จากดาวฤกษ์
กอ่ นเกิดจนเป็นดาวฤกษ์
5. อธบิ ายกระบวนการสร้างพลงั งานของดาวฤกษแ์ ละผลที่เกิดข้นึ โดยวิเคราะห์ปฏิกิรยิ าลกู โซ่โปรตอน –
โปรตอน และวฏั จักรคาร์บอน ไนโตรเจน ออกซเิ จน
6. ระบุปัจจัยทส่ี ง่ ผลต่อความสอ่ งสว่างของดาวฤกษ์และอธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างความส่องสวา่ งกบั
โชติมาตรของดาวฤกษ์
7. อธิบายความสมั พันธร์ ะหวา่ งสี อณุ หภูมผิ วิ และสเปกตรัมของดาวฤกษ์
8. อธิบายวิธกี ารหาระยะทางของดาวฤกษ์ด้วยหลกั การแพรลั แลกซ์ พรอ้ มคำนวณหาระยะทางของ
ดาวฤกษ์
หลักสูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 429
9. อธบิ ายลำดับววิ ัฒนาการท่ีสมั พนั ธ์กับมวลตัง้ ต้นและวิเคราะห์การปลย่ี นแปลงสมบตั ิบางประการของ
ดาว ฤกษ์ในลำดับววิ ฒั นาการ จากแผนภาพเฮริ ์ซปรงุ -รสั เซลล์
10. อธิบายกระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบง่ เขตบริวารของดวงอาทิตย์และลกั ษณะของดาวเคราะห์
ที่เอ้ือต่อการดำรงชวี ิต
11. อธิบายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ดว้ ยกฎเคพเลอร์ และกฎความโนม้ ถ่วงของนวิ ตัน
พร้อมคำนวณคาบการโคจรของดาวเคราะห์
12. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสรุ ิยะ พายุสุรยิ ะ และวิเคราะห์ นำเสนอปรากฏการณ์
หรือเหตุการณท์ ่เี กยี่ วข้องกับผลของลมสุรยิ ะ และพายสุ ุริยะทีม่ ีต่อโลกรวมทั้งประเทศไทย
13. สร้างแบบจำลองทรงกลมฟ้า สังเกต และเชื่อมโยงจดุ และเสน้ สำคญั ของแบบจำลองทรงกลมฟ้ากบั
ท้องฟา้ จริง และอธิบายการระบพุ ิกัดของดาวในระบบขอบฟ้า และระบบศูนย์สตู ร
14. สังเกตท้องฟ้า และอธิบายเสน้ ทางการข้ึนการตกของดวงอาทติ ย์และดาวฤกษ์
15. อธิบายเวลาสุรยิ คตปิ รากฏ โดยรวบรวมขอ้ มูลและเปรีบบเทียบเวลาขณะทด่ี วงอาทิตยผ์ า่ นเมริเดียน
ของผสู้ ังเกตในแต่ละวัน
16. อธิบายเวลาสุรยิ คตปิ านกลางและการเปรียบเทยี บเวลาของแตล่ ะเขตเวลาบนโลก
17. อธิบายมมุ ห่างที่สมั พนั ธ์กับตำแหนง่ ในวงโคจร และอธิบายเชอ่ื มโยงตำแหน่งปรากฏของดาวเคราะห์
ท่ีสังเกตได้จากโลก
18. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ ายการสำรวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศนใ์ นช่วงความยาวคลนื่ ต่างๆ ดาวเทียม
ยานอวกาศ สถานอี วกาศ และนำเสนอแนวคดิ การนำความรทู้ างด้านเทคโนยีอวกาศมาประยุกตใ์ ชใ้ น
ชีวติ ประจำวันหรอื ในอนาคต
19. สบื ค้นขอ้ มลู ออกแบบ และนำเสนอกจิ กรรม การสงั เกตดาวบนท้องฟ้าดว้ ยตาเปล่าและ/หรอื กล้อง
โทรทรรศน์
รวมท้ังหมด 19 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 430
คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
รายวิชาระเบียบวจิ ัยเบ้ืองต้น รหสั วิชา ว33284 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
ศึกษา อธิบาย สืบค้นขอ้ มูล วิเคราะห์ สำรวจตรวจสอบ และอภปิ รายเก่ียวกับระเบยี บวิธีวิจัยเบือ้ งตน้
ข้ันตอนการวิจยั การต้ังปัญหาและหัวข้อเร่ือง การตั้งสมมติฐาน การเขียนจดุ ประสงค์ การคน้ ควา้ งานวจิ ัย
การวางแผนการท างานวิจัย การจัดท ารายงาน และการน าเสนองาน สถิติเบ้อื งต้นที่ใชใ้ นการวิจยั คณุ สมบตั ิและ
จรรยาบรรณของนักวิจัย ทัง้ ผลงานวจิ ัยดา้ นวทิ ยาศาสตรค์ ณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยนี าเสนอผลการวิเคราะห์
งานวิจัยทไี่ ด้ศึกษาค้นคว้า การเขียนเคา้ โครงงานวจิ ยั ของตนเองที่สนใจเพื่อเปน็ แนวทางในการวางแผนการทำ
โครงงาน ด้านวิทยาศาสตรค์ ณติ ศาสตร์หรอื เทคโนโลยตี ่อไป
โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การเขียนขอ้ มูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษที่ 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. อธิบายเกีย่ วกับระเบยี บวิธวี ิจยั เบ้อื งตน้ ความหมายการวจิ ัย ขน้ั ตอนการวิจยั การตัง้ ปญั หาและ
หัวข้อเร่อื งสมมติฐาน จุดประสงคก์ ารทำวจิ ัย การค้นคว้า การวางแผน การจัดทำรายงาน การนำเสนองานวิจยั
สถิตเิ บอ้ื งต้นที่ใช้ในการวจิ ยั คณุ สมบัติและจรรยาบรรณของนักวจิ ยั
2. สืบคน้ ขอ้ มูลการวิจยั แหล่งสบื ค้น วธิ ีการสบื ค้น การรวบรวม การนำเสนอข้อมูลท่นี ักเรียนสนใจ
และวิเคราะห์ผลงานวิจัยทางวทิ ยาศาสตร์คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี
3. เขียนเคา้ โครงงานวิจยั โดยระบุปัญหาและหวั ข้อเร่ือง ตัง้ สมมติฐาน จดุ ประสงค์การออกแบบ
การทดลอง การวางแผนการดำเนนิ งาน การออกแบบวธิ ีการจัดการข้อมูล และนำเสนอเค้าโครงงานวจิ ยั ของ
ตนเองในสาขาทสี่ นใจ
รวมทั้งหมด 3 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 431
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม
รายวิชาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว33283 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ทําการศึกษา ค้นคว้า เก่ียวกับ ประเภทของโครงงาน ข้ันตอนการทําโครงงาน กําหนดหัวข้อเรื่อง
การศึกษาเอกสารท่ีเก่ียวข้อง การศึกษาเขียนเค้าโครงงาน การลงมือปฏิบัติงาน การเขียนรายงาน การแสดง
โครงงาน การประเมินผลโครงงาน เพื่อศึกษา การจัดทําโครงงานวิทยาศาสตร์ตามความถนัดและความสนใจ โดย
กระบวนการวิทยาศาสตร์ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ ศึกษาดูงาน ลงมือปฏิบัติ
โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การเขียนขอ้ มูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. อธิบายหลักในการทํางานของนักวิทยาศาสตรโ์ ดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรไ์ ด้
2. สบื คน้ ข้อมลู อภิปราย อธิบายลกั ษณะของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ประเภทต่าง ๆ ได้มีจติ วิทยาศาสตร์
3. ศกึ ษาดงู าน สืบคน้ ข้อมลู อภปิ ราย กําหนดหัวข้อเร่ืองโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้ มีจิตวิทยาศาสตร์
4. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย เขียนเคา้ โครงของโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ด้ มีจิตวทิ ยาศาสตร์
5. สืบคน้ ข้อมลู อภิปราย วางแผนการทาํ โครงงานวิทยาศาสตรไ์ ด้ มีจติ วิทยาศาสตร์
6. สบื ค้นข้อมูล อภปิ ราย ออกแบบการทดลองเพื่อทดสอบสมมตฐิ านได้ มจี ิตวิทยาศาสตร์
7. อภปิ ราย ลงมือปฏิบตั ิงานตามแบบแผนการทดลองทว่ี างไวไ้ ด้ มจี ิตวทิ ยาศาสตร์
8. อภปิ ราย สรปุ และอภิปรายผลผลการทดลองไดถ้ ูกต้องตามวัตถปุ ระสงค์การทดลองได้
มจี ิตวิทยาศาสตร์
รวมทั้งหมด 8 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 432
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวชิ าเสริมทักษะวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว33261 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
ศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพและความย่ังยืนของส่ิงแวดล้อมความหลากหลายมีชีวิต
การศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตกําเนิดของชีวิตอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตความหลากในประเทศไทยการ
สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 13 ทักษะ สังเกต การวัด การคานวณ
การจําแนกประเภท การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา การจัดกระทำและส่ือ
ความหมายข้อมูล การลงความเห็นจากข้อมูล การพยากรณ์ การต้ังสมมติฐาน การกําหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
การกําหนดและควบคุมตัวแปรการทดลอง และการตีความหมายข้อมูลและการลงข้อมูล เพื่อให้มีความรู้ความ
เข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ ข้อมูลและอภิปราย กระบวนการสํารวจ
ตรวจสอบ กระบวนการฝกึ ปฏิบตั ิ เหน็ คุณค่าของวทิ ยาศาสตร์ มจี รยิ ธรรมคณุ ธรรมท่ีพงึ ประสงค์
ศึกษาเก่ียวกับการไทเทรตกรด-เบส การไทเทรตปฏิกิริยารีดอกซ์ การไทเทรตหาความกระด้างของน้ำ
ศึกษาเก่ียวกับเซลล์กัลวานิกส์ ปฏิกิริยารีดอกซ์ และการวิเคราะห์ไอออนลบไอออนบวกแบบคุณภาพ โดยใช้
กระบวนการทดลอง อธิบายและเขียนสมการ อภิปราย สืบค้นข้อมูล มือ แก้ปัญหา คิดอย่างมีวิจารณญาณ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ เพื่อให้เกิดความ สืบค้นข้อมูล ทําการทดลอง วิเคราะห์ เปรียบเทียบ สร้างช้ินงาน
ประเมนิ ผลงาน
ศึกษาวิเคราะห์ ทดลอง และคำนวนเกี่ยวกับ สมดุลกล สภาพสมดุล โมเมนต์ของแรง งาน กําลังงาน
พลังงาน กฎการอนุรักษ์พลังงานกล กฎอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนท่ีในสนามโน้มถ่วงของโลก การเคลื่อนที่
วงกลม การเคลื่อนท่ีแบบหมุน การเคลื่อนท่ีแบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย เสียง สมบัติของเสียง คลื่นนิงและการสน
พอ้ ง อัตราเร็วเสียง ความเข้มเสียงและการได้ยนิ เสียงดนตรี บีตส์และคล่ืนนิ่ง การประยุกต์ความรู้เรื่องเสียง แสง
เชิงเรขาคณติ และแสง เชงิ กายภาพ อตั ราเร็วแสง การสะท้อนของแสง การหักเหของแสง ปรากฏการณท์ ่ีเกย่ี วกับ
แสง การแทรกสอด การเล้ียวเบนของแสง เกรตติง ไฟฟ้าสถิต ไฟฟ้ากระแส ไฟฟ้าและแม่เหล็ก ฟิสิกส์อะตอม
และ ฟิสิกส์นิวเคลียร์ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เจตคติทางวิทยาศาสตร์
กระบวนการสืบค้นข้อมูลและอภิปราย กระบวนการสํารวจตรวจสอบ กระบวนการฝึกปฏิบัติ เห็นคุณค่าของ
วทิ ยาศาสตร์ มีจรยิ ธรรม คณุ ธรรมที่พึงประสงค์
โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การเขยี นขอ้ มูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษที่ 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. สืบค้นขอ้ มูลอภปิ รายและอธบิ ายเกยี่ วกับความหมายและองคป์ ระกอบของความหลากหลายทาง
ชีวภาพ
หลักสตู รโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 433
2. สืบคน้ ขอ้ มลู อภิปรายและอธบิ ายการศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชวี ติ การจดั หมวดหมู่
ของส่งิ มชี ีวิตช่ือของสิ่งมชี ีวติ และการระบุชนดิ สรุปเกณฑ์ทใ่ี ช้ในการจัดจาํ แนกสงิ่ มีชวี ิต
3. สืบค้นข้อมลู อภิปรายอธบิ ายและนําเสนอคุณคา่ ของความหลากหลายทางชีวภาพกับการใช้
ประโยชนข์ องมนุษย์ท่ีมผี ลต่อสงั คมและส่งิ แวดลอ้ ม
4. สืบค้นขอ้ มลู อภิปรายและนาํ เสนอสถานการณ์ความหลากหลายทางชวี ภาพในประเทศไทย
และผลกระทบจากการสูญเสียความหลากหลายทางชวี ภาพ
5. ออกแบบสถานการณจ์ าํ ลองท่แี สดงถึงการเปลี่ยนแปลงปัจจัยตา่ งๆของส่ิงแวดลอ้ มท่ีมีผลต่อการอยู่
รอดของส่งิ มีชวี ิตวเิ คราะหอ์ ภิปรายและสรุปได้ว่าการอยู่รอดของสิ่งมีชวี ิตสัมพันธก์ ับความหลากหลายของสิง่ มชี ีวิต
6. สืบค้นข้อมูลอภปิ รายอธบิ ายและลงข้อสรุปทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 13 ทักษะ
7. หาความเข้มข้นของสารละลายเบสโดยไทเทรตกับสารละลายกรดมาตรฐานได้ หาความเขม้ ข้นของ
สารละลายกรดตวั อย่างได้ ทําการไทเทรตและคํานวณปริมาณความสัมพันธ์ของปฏิกิริยารีดอกซ์ได้
8. สงั เกตการเปลี่ยนสี ตะกอน หรือการเกดิ ฟองแก๊สในสารละลายเพื่อใช้วเิ คราะห์หาชนิดของไอออนลบ
ได้ วิเคราะหไ์ อออนบวกทีม่ ีอยใู่ นสารละลายตวั อยา่ งดว้ ยการตกตะกอน และดสู ีของสารละลายทีเ่ ปล่ียนไป
เม่ือทําปฏิกริ ยิ ากบั รเี อเจนทบ์ างชนิดได้
9. สบื คน้ คํานวณ อธิบายความสมั พนั ธข์ องสมดลุ กล สมดุลของแรง 3 แรง โมเมนต์ของแรงนาํ ความรู้ไป
ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจําวนั อธบิ าย คํานวณปริมาณตา่ ง ๆ เก่ียวกบั โมเมนตัม การดล การชนของวตั ถุ
10. อธบิ าย และคาํ นวณการเคล่อื นที่แบบโพรเจกไทล์ การเคลอ่ื นทแี่ บบวงกลม การเคล่อื นท่แี บบฮาร์
มอนิกส์ และนําความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจําวนั
11. อธิบายการเกิดคลนื่ เสียง การได้ยนิ เสียง ปรากฏการณ์ทีเ่ กดิ จากเสียงและนําความรไู้ ปใช้ประโยชน์
12. สํารวจตรวจสอบเก่ียวกบั สมบัติของแสงเชงิ เรขาคณติ ปรากฏการณ์ท่ีเกี่ยวกับแสง
13. สาํ รวจตรวจสอบ อธบิ าย และคํานวณส่งิ ที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าสถิต และไฟฟ้ากระแส คาํ นวณสงิ่ ที่
เก่ียวข้องกับไฟฟา้ และแม่เหล็ก คาํ นวณสงิ่ ทเี่ กย่ี วข้องกบั ฟิสกิ ส์อะตอม และฟิสกิ สน์ ิวเคลยี ร์
รวมทั้งหมด 13 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 434
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รายวิชาระบบฐานข้อมูล รหัสวชิ า ว33273 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศึกษาโครงสร้างข้อมูล ชนิดข้อมูล ฐานข้อมูล การจัดการฐานข้อมูล โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล
การสร้างแฟ้มข้อมูล การป้อนข้อมูล การแก้ไขข้อมูล การลบ การสำเนา การจัดเรียง การแบ่งแยกข้อมูล การ
ค้นหา การทำรายงาน การคำนวณและสรุปผลจากข้อมูลในฐานข้อมูล ระบบการรักษาความปลอดภัยข้อมูล
ปฏิบตั ิการสร้างแฟม้ ข้อมูล ป้อนข้อมูล แก้ไขข้อมูล ลบ สำเนา จดั เรียง แบ่งแยกข้อมูล ค้นหา ทำรายงาน
คำนวณและสรุปผลจากข้อมูลในฐานข้อมูล รกั ษาความปลอดภยั ข้อมลู ประยกุ ตฐ์ านข้อมูลในงานตา่ ง ๆ
เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการจัดการแฟ้มข้อมูลและฐานข้อมูลเบ้ืองต้น และใช้โปรแกรม
ฐานขอ้ มูลเบอื้ งต้นได้ สามารถการสร้างช้ินงาน สามารถทำงานรว่ มกับผ้อู น่ื ได้อย่างมีความสขุ
มคี วามรบั ผดิ ชอบและนำไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวันได้
ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามรู้และเข้าใจ และสามารถอธบิ ายเกี่ยวกบั ระบบฐานขอ้ มูลได้
2. สามารถออกแบบและสรา้ งฐานขอ้ มูลได้
3. บอกความหมาย ความสำคัญ ลกั ษณะของตาราง สามารถสร้างและใส่ขอ้ มลู ในตารางได้
4. มีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกบั ความหมายและประเภทของแบบสอบถาม และสามารถสร้าง
แบบสอบถามหรือคิวรไี ด้
5. มีความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ยี วกบั ความหมาย ความสำคญั และเคร่อื งมือในการสร้างแบบฟอรม์ และ
สามารถสร้างแบบฟอร์มในลกั ษณะต่าง ๆ ได้
6. สามารถสร้างรายงานในลกั ษณะต่าง ๆ ได้
รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 435
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รายวิชาระบบปฏิบตั กิ าร รหสั วชิ า ว33272 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ศึกษาเกี่ยวกับความหมายและวิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ วิธีการทำงานและส่วนประกอบของ
ระบบปฏบิ ัติการ การทำงานแบบทีละโปรแกรม แบบพร้อมกันหลายโปรแกรม ระบบการแบง่ เวลา บทบาท หน้าที่
ของระบบปฏิบัติการ การจ่ายงาน การจัดสรรหน่วยประมวลผล การบริหารและการจัดการหน่วยความจำ การ
จัดลำดับงานและการจัดสรรทรัพยากร การจัดการรับข้อมูลและการแสดงผล ระบบแฟ้มข้อมูล การใช้
ระบบปฏบิ ัติการท่นี ิยมกันแพรห่ ลายบนเครอ่ื งไมโครคอมพวิ เตอร์
ฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการทำงานและส่วนประกอบของระบบปฏิบัติการ การทำงานแบบทีละโปรแกรม
แบบพร้อมกันหลายโปรแกรม ระบบการแบ่งเวลา บทบาท หน้าที่ของระบบปฏิบัติการ การจ่ายงาน การจัดสรร
หน่วยประมวลผล การบริหารและการจัดการหน่วยความจำ การจัดลำดับงานและการจัดสรรทรัพยากร การ
จัดการรับข้อมูลและการแสดงผล ระบบแฟ้มข้อมูล การใช้ระบบปฏิบัติการท่ีนิยมกันแพร่หลายบนเคร่ือง
ไมโครคอมพิวเตอร์
เพื่อให้มีทักษะในการทำงานอย่างมีระบบ มีความรับผิดชอบ ขยัน ประหยัด ซ่ือสัตย์ อดทน มีความ
มุ่งม่ันในการทำงาน เห็นคุณค่าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นำการมาตรฐาน ภูมิปัญญาท้องถิ่นและกระบวนการ
เทคโนโลยีชีวภาพมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของครอบครวั ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกับผู้อืน่ ได้
อยา่ งมคี วามสุข
ผลการเรียนรู้
1. เพ่ือใหน้ ักเรยี นสามารถบอกความแตกตา่ งของคอมพิวเตอร์ได้อยา่ งถูกต้อง
2. เพื่อใหน้ ักนักเรียนสามารถจำแนกหนา้ ท่ี และองค์ประกอบของระบบปฏิบัติการ
3. เพ่ือใหน้ ักเรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจพฤติกรรมของโปรเซส และเทรดได้
4. เพอ่ื ให้นักเรียนมีทักษะการทำงานของหน่วยความจำ และการจดั เวลาซีพยี ูได้อย่างถูกต้อง
5. เพ่อื ให้นกั เรยี นสามารถบอกความแตกต่างของอุปกรณร์ บั และแสดงผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
6. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมีทกั ษะการทำงานของระบบแฟ้มไดอ้ ย่างถูกต้อง
7. เพือ่ ให้นักเรยี นสามารถใชง้ านระบบปฏิบัติการแบบใหม่ได้
รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 436
คำอธบิ ายรายวิชา
รายวิชาสงั คมศกึ ษา รหัสวิชา ส33101 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศกึ ษาเกย่ี วกบั หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ การบรหิ ารจติ และการเจริญปัญญา วันสำคญั ทาง
พระพุทธศาสนาและศาสนพธิ ี เศรษฐกจิ พอเพียงกับแนวทางการดำรงชวี ติ ตามหลักธรรมพระพุทธศาสนา สัมมนา
พระพทุ ธศาสนา ละอายและไมท่ นต่อการทุจรติ มจี ติ พอเพยี งตา้ นการทจุ ริต และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในเรื่องการประสานประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศ
การแลกเปล่ียนเพื่อชว่ ยเหลือและส่งเสริมด้านวัฒนธรรม การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม ของไทยกับองค์การระหว่าง
ประเทศ ปัญหาการเมืองท่ีสำคัญของไทยและการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ และการคิดแยกแยะและ
ประโยชนต์ ่อตนเองและผลประโยชนต์ ่อส่วนรวม
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ
กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแกป้ ญั หา กระบวนการกลุ่ม
เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับผลประโยชน์ทบั ซ้อนและรปู แบบของผลประโยชนท์ บั ซ้อน
สามารถนำไปปฏบิ ตั ใิ นการดำเนนิ ชีวิต นำไปแก้ปญั หาของตนเองและครอบครวั มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ใน
ด้านรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสัตย์ สจุ ริต มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มงุ่ ม่ันในการทำงาน รักความ
เปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ สามารถอยู่รว่ มกนั ได้อย่างสันตสิ ุข มคี วามละอายและไม่ทนต่อการทจุ รติ มจี ติ พอเพียง
ตอ่ การต้านการทจุ ริต และมีความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม
ตัวชี้วดั ม. 4 - 6/5,11,16,17,18,19,20
ส 1.1 ม. 4 - 6/1,2,3,4
ส 1.2 ม. 4 - 6/1,2,4
ส 2.2
รวมทั้งหมด 14 ตวั ชว้ี ัด
หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 437
คำอธิบายรายวิชา
รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์สากล รหสั วิชา ส33102 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ
ศกึ ษาวเิ คราะห์อารยธรรมของโลกยคุ โบราณท่ีมีผลต่อพัฒนาการและการเปลยี่ นแปลงของโลก ได้แก่
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไทกริส – ยเู ฟรติส แม่นำ้ ไนล์ แม่น้ำ ฮวงโห และแมน่ ำ้ สินธุ และอารยธรรมกรกี - โรมัน
การตดิ ต่อระหว่างโลกตะวนั ออกกับโลกตะวนั ตกท่มี ีอทิ ธพิ ลทางวัฒนธรรมทีม่ ีต่อกนั และกันโดยใชท้ กั ษะการสบื คน้
การตรวจสอบ การวพิ ากษ์ การเปรียบเทียบ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ การสงั เคราะห์
ศึกษาวิเคราะห์ และใช้วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ตามลำดับข้ันตอนอย่างเป็นระบบในการสืบค้นเรื่องราว
ท่ีตนสนใจ เขา้ ใจประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของวิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ในโลกยคุ โลกาภวิ ัตน์ที่มีขอ้ มูลสารสนเทศที่
หลากหลาย จัดทำผลการศกึ ษาหรือโครงงานทางประวัติศาสตร์ และสรา้ งองคค์ วามรู้ใหม่ทางประวัตศิ าสตร์
โดยใช้ทกั ษะการไตร่สวน การตรวจสอบ การวพิ ากษ์ข้อมูล การตีความ การเปรยี บเทียบ การแปลความ การสรปุ
อ้างองิ การใหเ้ หตุผล การสังเคราะห์ และการนำเสนอ ทั้งนเ้ี พ่ือฝึกฝนทักษะตามวธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ใน
การศกึ ษาวิเคราะหข์ ้อมลู อย่างเป็นระบบ และสามารถสรุปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ
เพ่ือให้เข้าใจพฒั นาการของมนษุ ยชาตทิ มี่ ีความเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถงึ ปัจจบุ ันอย่างต่อเน่ือง เขา้ ใจ
และยอมรบั ในความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมทั้งเข้าใจปัญหาทเ่ี กิดขึ้นในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ทั้งดา้ น
การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม สามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ปัจจัย และผลกระทบทเ่ี กิดข้ึน ตระหนักถึง
ความสำคญั และความจำเป็นของการรว่ มมือกนั สรา้ งสนั ตสิ ุข สามารถปรบั ตวั ให้ดำรงชีวิตอยใู่ นโลกยคุ โลกาภิวฒั น์
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตวั ชว้ี ัด
ส 4.1 ม. 4 - 6/2
ส 4.2 ม. 4 - 6/1
รวมทั้งหมด 2 ตัวชี้วดั
หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 438
คำอธบิ ายรายวิชา
รายวิชา ธรรมศกึ ษา รหัสวิชา ส33201 กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศกึ ษา วิเคราะห์ เขยี นอธบิ ายกระท้ธู รรมสภุ าษิตตามแนวทางของธรรมศกึ ษาชน้ั เอก เช่ือม
ความสัมพันธ์ระหวา่ งสภุ าษิตบทตัง้ กับสภุ าษติ อ้างอิงสนบั สนุนจำนวน 3 สุภาษิตไดอ้ ยา่ งสมเหตุผล
ศึกษาค้นคว้าความรู้ท่ีเกี่ยวกับหลักธรรมวิจารณ์ ในส่วนปรมัตถปฏิปทา สมถกัมมัฏฐาน พุทธคุณกถา
และวปิ ัสสนากัมมฏั ฐาน
ศึกษาพุทธานุพุทธประวัติ ในเรื่องที่ว่าด้วยชมพูทวีป การเสด็จออกบรรพชาและการตรัสรู้ การเส วย
วิมุตติสุข การประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทา การประกาศพระศาสนา พระอัครสาวกออกบวช พระมหากัสสปะ
และพระมหากัจจายนะออกบวช การอนุญาตญตั ติจตุตถกรรมวาจา การเสด็จเมืองกบิลพัสดุ์ ศากยวงศอ์ อกบวช
พระโสณโกฬิวิสะและพระรัฐบาลออกบวช และว่าด้วยการเสดจ็ โปรดพุทธบิดา พุทธมารดา และเสด็จดับขันธปริ
นพิ พาน
ศึกษาเก่ียวกับหลักปฏิบัติที่พระองค์ทรงวางไว้ สำหรับผู้ครองเรือน ที่เรียกว่า อาคาริยวินัย ในเร่ือง
อกุศลกรรมบถ 10 (ว่าดว้ ยหลักปฏบิ ัตทิ ีน่ ำไปสู่ทคุ ติ) และ กุศลกรรมบถ 10 (วา่ ดว้ ยหลักปฏิบัติท่ีนำไปส่สู คุ ต)ิ
โดยใช้ทักษะในการจัดการ ทักษะกระบวนการคิด ทักษะในการส่ือสาร จากกระบวนการสืบค้นข้อมูล
กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์กระบวนการแก้ปัญหา และ
กระบวนการกลุ่ม
เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการอธิบายความตามพุทธศาสนสุภาษิต และอ้างสุภาษิต
อ่ืนเพิ่มเตมิ สนับสนุน 3 สภุ าษิต หลักธรรมวจิ ารณ์ พุทธานุพทุ ธประวัติ และกรรมบถมคี ุณธรรมจริยธรรม และ
ค่านิยมท่ีพึงประสงค์ น้อมนำหลักธรรมมาปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธำรงส่งเสริม
พระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาประจำชาติ เห็นคุณค่า นำไปแก้ปัญหาของตนเองและครอบครัว มีคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นใน
การทำงาน รักความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ สามารถอยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ยา่ งสนั ติสขุ
ผลการเรยี นรู้
1. วิเคราะห์และเขียนอธบิ ายกระทู้ธรรมสุภาษิตบทตง้ั เชื่อมต่อระหว่างธรรมสภุ าษิตอน่ื สนบั สนนุ บทตั้ง
จำนวน 3 สภุ าษติ สรปุ ไดส้ นิทติดตอ่ สมเร่ืองกันด้วยเหตผุ ล
2. มคี วามรคู้ วามเข้าใจหลักธรรมวิจารณ์ ในส่วนปรมัตถปฏปิ ทา สมถกัมมฏั ฐาน พุทธคุณกถา และ
วิปัสสนากมั มฏั ฐานอันเปน็ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้อง
3. มคี วามรคู้ วามเข้าใจในเร่ืองพทุ ธานุพุทธประวตั ิ เกิดศรัทธาและเหน็ ความสำคัญในเร่ืองที่ศึกษาใน
การจรรโลงส่งเสริมสบื ทอดพระพุทธศาสนาใหย้ ง่ั ยนื ต่อไปได้
4. มีความรู้ความเข้าใจสามารถปฏบิ ตั ติ น ตามหลักกรรมบถ อันเปน็ หลักธรรมสำหรับผู้ครองเรือน ท่ี
เรยี กว่า อาคาริยวินยั ได้อยา่ งถกู ต้อง
รวมทง้ั หมด 4 ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 439
คำอธิบายรายวชิ า
รายวชิ ากฎหมายทีป่ ระชาชนควรรู้ รหัสวิชา ส33203 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต
ศึกษาความรเู้ บื้องตน้ เก่ยี วกับกฎหมายในเรอื่ ง ความหมาย ความสำคญั ทม่ี า และประเภทของ
กฎหมายศกึ ษากฎหมายไทยในเร่ือง ววิ ฒั นาการ การจัดทำ การบงั คับใชแ้ ละการยกเลกิ กฎหมายหลักในการ
ปกครองประเทศศกึ ษาหลักกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา และกฎหมายอน่ื ทเี่ กยี่ วข้องกับชวี ิตประจำวนั ปญั หา
การใชก้ ฎหมายในสังคมไทยเพ่อื ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจในเรอื่ งทมี่ าของกฎหมาย ความสำคัญของกฎหมายที่
จำเปน็ จะตอ้ งรแู้ ละปฏบิ ัตติ นในสิง่ ทเี่ กี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เพอื่ ใหม้ ีความเข้าใจกฎหมายหลักที่ใช้ปกครอง
ประเทศ เห็นความจำเปน็ ที่จะต้องรกู้ ฎหมายและปฏิบตั ติ นตามกฎหมาย
ทักษะกระบวนการทีใ่ ช้ในการจดั การเรยี นการสอนประกอบด้วย กระบวนการเรยี นรูแ้ บบบูรณา
การ กระบวนการคิด กระบวนการเรยี นรู้จากประสบการณ์จรงิ กระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง กระบวนการกลุ่ม
การบรรยาย การอธบิ าย
ผลการเรยี นรู้
1. เพ่ือใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจในเรอ่ื งท่ีมาของกฎหมาย
2. เข้าใจความสำคัญของกฎหมายท่ีจำเป็นจะต้องรแู้ ละปฏิบัตติ นในส่งิ ท่ีเก่ียวขอ้ งกับชีวิตประจำวนั
3. มคี วามเขา้ ใจกฎหมายหลกั ที่ใช้ปกครองประเทศ
4. มคี วามเข้าใจกฎหมายหลักที่ใชป้ กครองประเทศ
รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 440
คำอธิบายรายวิชา
รายวชิ าสงั คมศึกษา รหัสวิชา ส33103 กล่มุ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
ศกึ ษาวเิ คราะหว์ ิวฒั นาการของการเปดิ เสรที างเศรษฐกิจ และใช้กระบวนการอภปิ รายเพ่ือวเิ คราะห์
ผลกระทบของการเปดิ เสรีทางเศรษฐกจิ ในยุคโลกาภวิ ัตนท์ ี่มีผลตอ่ สังคมไทย วิเคราะห์ผลดี ผลเสียของความ
ร่วมมือทางเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศในรปู แบบต่าง ๆ ท่ีนำไปส่กู ารพึ่งพา การแขง่ ขัน การขัดแย้ง และการ
ประสานประโยชน์ทางเศรษฐกจิ การค้าระหว่างประเทศ ละอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ มจี ิตพอเพียงต้านการ
ทจุ ริต และมีความรับผดิ ชอบต่อสังคม
ศึกษาการเปล่ยี นแปลงเชงิ ภมู ิศาสตรเ์ กี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดลอ้ มของโลก ภัยธรรมชาติใน
ประเทศไทย ศึกษาเกี่ยวกับทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อมกับการพฒั นาทยี่ ั่งยืน
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม วิเคราะห์และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทาง
ภมู ศิ าสตร์ รวมถึงทกั ษะการส่ือสารและการรู้เท่าทันส่ือ
เพือ่ ให้เกดิ ความรคู้ วามเข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์ ปญั หาท่ีเกิดขึน้ แนวทางการแกไ้ ข รู้จกั ใช้
ทรัพยากรธรรมชาติใหเ้ กิดประโยชน์สงู สดุ เปน็ แนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ใหม้ ปี ระสิทธิภาพเพ่ือให้
ประชาชนมชี วี ติ ความเปน็ อยู่ทีด่ ี และสง่ ผลให้ประเทศเจริญก้าวหนา้ เกดิ ความตระหนัก มคี วามสามารถทาง
ภมู ศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทักษะทางภมู ิศาสตร์ และมที ักษะในศตวรรษท่ี 21 มีคณุ ลักษณะด้านรกั
ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอ่ื สตั ย์ สุจริต มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียงมจี ิตสาธารณะ ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มัน่ ในการ
ทำงาน มสี ว่ นรว่ มในการจัดการ พฒั นา ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มอยา่ งยั่งยืน มคี วามละอายและไม่ทน
ตอ่ การทจุ ริต มจี ติ พอเพยี งต่อการตา้ นการทุจริต และมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
ตวั ชี้วัด
ส 3.2 ม. 4 - 6/2 ,3
ส 5.2 ม. 4 - 6/2,3 ,4
รวมท้ังหมด 5 ตัวช้ีวดั
หลกั สตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 441
คำอธิบายรายวชิ า
รายวิชาประวัติศาสตร์สากล รหสั วิชา ส33104 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศึกษาวเิ คราะห์เหตุการณส์ ำคัญตา่ ง ๆ ทส่ี ่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และ
การเมืองของโลก เช่น ระบอบศักดนิ าสวามิภกั ด์ิ สงครามคูเสด การฟ้นื ฟูศลิ ปะวิทยาการ การปฏิวัตทิ าง
วทิ ยาศาสตร์ การสำรวจทางทะเล การปฏริ ูปศาสนา การปฏวิ ัติอตุ สาหกรรม แนวคิดเสรนี ิยม แนวคดิ จักรวรรดิ
นิยม แนวคิดชาตินิยม การขยายอทิ ธพิ ลของประเทศยุโรปไปยังทวีปอเมรกิ า แอฟรกิ า และเอเชีย การล่า
อาณานิคมและผลกระทบ ความรว่ มมอื และความขัดแยง้ ของมนุษยชาติในโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 วเิ คราะห์
สถานการณส์ ำคญั ของโลกในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 21 เช่น เหตุการณ์ระเบิดตึกเวิลด์เทรดเซน็ เตอร์ 11 เมษายน
2001 การกอ่ การ้ายและการตอ่ ตา้ นการก่อการรา้ ย ความขัดแยง้ ทางศาสนา ตลอดจนถึงเหตุการณ์ในโลก
ปจั จบุ นั โดยใช้ทักษะการสืบค้น การตรวจสอบ การวพิ ากษ์ การเปรยี บเทยี บ การให้เหตุผล การวเิ คราะห์
การสังเคราะห์
เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจพัฒนาการของมนุษยชาตทิ ี่มีความเปล่ยี นแปลงจากอดตี จนถึงปัจจุบันอยา่ งต่อเน่ือง
เขา้ ใจและยอมรบั ในความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมทั้งเข้าใจปัญหาทเี่ กดิ ขึน้ ในภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก ทงั้
ดา้ นการเมือง เศรษฐกจิ และสงั คม สามารถวเิ คราะห์ถึงสาเหตุ ปัจจยั และผลกระทบทเี่ กดิ ข้นึ ตระหนักถงึ
ความสำคัญและความจำเป็นของการร่วมมือกนั สรา้ งสันตสิ ุข สามารถปรบั ตัวให้ดำรงชีวิตอยใู่ นโลกยคุ โลกาภวิ ฒั น์
ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชว้ี ัด
ส 4.2 ม. 4 - 6/2 , ม. 4 - 6/3 , ม. 4 - 6/4
รวมท้ังหมด 3 ตัวช้ีวัด
หลกั สูตรโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 442
คำอธบิ ายรายวิชา
รายวิชาธรรมศกึ ษา รหสั วิชา ส33202 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
วิเคราะห์พธิ ีกรรม ระหว่างพิธกี รรมทเี่ ปน็ ศาสนพธิ ี และพิธกี รรมทเี่ กีย่ วกับ พธิ พี ราหมณ์ ท่เี กี่ยวเนื่องกับ
การดำเนินชีวิตของชาวพุทธ
ศึกษาการนิมนต์พระสงฆ์ เน่อื งในงานมงคล และงานอวมงคล วธิ กี ารนิมนตด์ ว้ ยวาจา หรือการเขยี น
ฎีกานิมนตท์ เ่ี ปน็ ลายลกั ษณ์อักษร
ฝึกการอาราธนาศีล 5 ให้ศีล 5 การอาราธนาอโุ บสถศีล ใหอ้ โุ บสถศีล อาราธนาศีล 10 ใหศ้ ลี 10
การอาราธนาธรรมและการให้นสิ สัย
ศกึ ษา ฝกึ ปฏิบัติ อนุโมทนาวธิ กี ารกล่าวอนุโมทนากรวดน้ำ และให้พร ทงั้ แบบปกตแิ ละแบบแปล
ปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การเวยี นเทียนในวนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา ศึกษาหลกั ธรรมทเ่ี ก่ียวข้องกบั ทค่ี วร
นำมาปฏิบตั ิ มาเปน็ คติธรรมนำชวี ติ ได้
ศึกษาและปฏิบัติตนในการสวดมนต์ไหว้พระทำนองสรภัญญะ สำหรบั นกั เรยี นตามระเบยี บวา่ ดว้ ยการ
สวดมนต์ไหว้พระของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
โดยใชท้ กั ษะในการจัดการ ทักษะกระบวนการคิด ทักษะในการสอื่ สาร จากกระบวนการสบื คน้ ขอ้ มลู
กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณก์ ระบวนการแก้ปัญหา และ
กระบวนการกล่มุ
เพ่อื ให้เกิดความรคู้ วามเข้าใจทถี่ กู ต้องฝึกปฏิบัติเกีย่ วกบั พธิ ีกรรมทางศาสนพธิ ี พิธีทางพราหมณ์ตาม
จารีตประเพณใี นชมุ ชนท้องถิ่นสังคมน้ัน ๆ หลกั ปฏบิ ัติในการนิมนต์พระสงฆ์ในงานพิธกี รรมต่าง ๆ ปฏบิ ตั หิ น้าที่
เปน็ ผู้นำดา้ นการอาราธนาศลี การใหศ้ ลี การอนุโมทนา กรวดน้ำให้พรสามารถปฏิบัติตนในการเวยี นเทยี นและ
สามารถสวดมนตไ์ หว้พระไดอ้ ยา่ งถูกต้อง มคี ณุ ธรรมจริยธรรม และคา่ นยิ มที่พงึ ประสงค์ นอ้ มนำหลักธรรมมา
ปฏบิ ตั ใิ นการดำเนินชีวิต มจี ิตสำนกึ ในการอนรุ ักษธ์ ำรงส่งเสรมิ พระพุทธศาสนาอันเปน็ ศาสนาประจำชาติ เห็น
คณุ ค่า นำไปแก้ปญั หาของตนเองและครอบครวั มคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ในดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ซือ่ สัตยส์ จุ รติ มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มงุ่ ม่ันในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ
สามารถอยู่ร่วมกันได้อยา่ งสันตสิ ขุ
ผลการเรยี นรู้
1. วเิ คราะห์พธิ กี รรมท่ีเปน็ ศาสนพธิ ี และพธิ ีพราหมณใ์ นพธิ ีกรรมในปจั จุบนั ได้
2. ปฏิบัติตามหลักทถี่ ูกตอ้ งเกี่ยวกบั การนิมนตพ์ ระสงฆ์ได้ถกู ต้องทัง้ ในงานมงคล และงานอวมงคล
3. ปฏบิ ัตติ นในการอาราธนาศีล อาราธนาธรรมและสามารถให้ศีล 5 , ศลี อุโบสถ และศลี 10 ได้
4. ปฏบิ ัตกิ ารอนุโมทนาวธิ ี การกรวดน้ำ และการให้พรได้ทงั้ แบบปกตแิ ละแบบแปลได้ถกู ต้อง
5. วเิ คราะห์ และปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับการเวียนเทียนในวนั สำคญั ทางพระพุทธศาสนา ศึกษาหลักธรรมที่
เก่ียวข้องกบั ท่ีควรนำมาปฏิบัติ มาเปน็ คติธรรมนำชีวิตได้อย่างถกู ต้อง
6. ฝกึ และปฏบิ ตั ิในการสวดมนตไ์ หวพ้ ระสำหรบั นักเรยี นทำนองสรภัญญะได้อยา่ งถูกต้อง
รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 443
คำอธบิ ายรายวชิ า
รายวชิ ากฎหมายท่ีประชาชนควรรู้ รหัสวิชา ส33204 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ
ศึกษาความรู้เบื้องตน้ เก่ยี วกบั กฎหมายในเรือ่ ง ความหมาย ความสำคัญ ทมี่ า และประเภทของ
กฎหมายศึกษากฎหมายไทยในเร่อื ง ววิ ฒั นาการ การจดั ทำ การบงั คับใช้และการยกเลกิ กฎหมายหลักในการ
ปกครองประเทศศึกษาหลกั กฎหมายแพง่ กฎหมายอาญา และกฎหมายอืน่ ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับชวี ติ ประจำวนั ปัญหา
การใช้กฎหมายในสังคมไทยเพ่อื ให้มคี วามรู้ความเข้าใจในเรอื่ งทีม่ าของกฎหมาย ความสำคัญของกฎหมายที่
จำเป็นจะตอ้ งรแู้ ละปฏบิ ัติตนในส่งิ ทีเ่ กีย่ วข้องกับชีวติ ประจำวัน เพอื่ ใหม้ ีความเข้าใจกฎหมายหลักทีใ่ ช้ปกครอง
ประเทศ เหน็ ความจำเป็นทจี่ ะต้องรูก้ ฎหมายและปฏิบัติตนตามกฎหมาย
ทักษะกระบวนการท่ใี ช้ในการจดั การเรียนการสอนประกอบดว้ ย กระบวนการเรียนรูแ้ บบบูรณา
การ กระบวนการคิด กระบวนการเรียนรจู้ ากประสบการณ์จริง กระบวนการเรียนรูด้ ้วยตนเอง กระบวนการกลุ่ม
การบรรยาย การอธบิ าย
ผลการเรียนรู้
1. เพอื่ ให้มีความรคู้ วามเขา้ ใจในเร่ืองท่ีมาของกฎหมาย
2. เขา้ ใจความสำคัญของกฎหมายที่จำเปน็ จะต้องรแู้ ละปฏิบัติตนในสงิ่ ท่เี กี่ยวขอ้ งกับชวี ิตประจำวัน
3. มีความเข้าใจกฎหมายหลักท่ีใช้ปกครองประเทศ
รวมท้ังหมด 3 ผลการเรยี นรู้