หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 194
รายวิชาการงานอาชีพ คำอธบิ ายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพ
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 รหสั วิชา ง23102 จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง
ศกึ ษาความสำคัญและขน้ั ตอนการทำงาน การวิเคราะห์ข้ันตอนการทำงานตามทักษะกระบวนการ
ความหมายและความสำคญั ของกระบวนการกลมุ่ ขนั้ ตอนการทำงานโดย ใชก้ ระบวนการกลุ่มความสำคญั ของ
การเสียสละขั้นการทำงาน การตดั สนิ ใจแก้ปัญหาการาทำงานอย่างมเี หตผุ ล แนวทางการเลอื กอาชีพและเหน็
ความสำคญั ของการสรา้ งอาชีพ ฝกึ ทักษะ วิเคราะห์ข้ันตอนกระบวนการและวิธกี ารทำงาน การเลือกใช้
เครื่องมอื วสั ดอุ ปุ กรณ์ อย่างสรา้ งสรรคแ์ ละเหมาะสมกับงานโดยคำนึงถึงความคุ้มคา่ มปี ระสทิ ธิภาพ อนรุ กั ษ์
ส่งิ แวดล้อมและสังคม โดยผลติ ชน้ิ งานเก่ยี วกบั การจัดการงานบ้าน งานเกษตร งานชา่ ง งานประดิษฐ์ งาน
ธรุ กิจ โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม นำเสนอผลงาน
เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจ และทกั ษะ เจตคติทด่ี ีต่อการประกอบอาชีพเห็นความสำคัญของการสรา้ ง
อาชพี ทำงานดว้ ยความเสียสละ และการแก้ปญั หาอย่างมีเหตผุ ล มจี ิตสำนกึ ในการรักพลงั งาน ทรัพยากร และ
ส่งิ แวดล้อม เพ่ือการดำรงชีวติ
ตวั ชว้ี ัด
ง 1.1 ม.3/1-3
ง 2.1 ม.3/1-3
รวมทั้งหมด 6 ตวั ช้ีวดั
หลกั สตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 195
คำอธิบายรายวชิ า
รายวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ23101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง การบอกทิศทาง ป้ายประกาศ พูดและเขียนข้อความ
เก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร เครื่องด่ืม การซื้อ – ขายสินค้า ลมฟ้าอากาศ การศึกษา อาชีพ
การบริการ ประสบการณ์ ข่าวและเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม เช่น กีฬา ดนตรี การจับใจความ
สำคัญ การวิเคราะห์ข่าวและเหตุการณ์ท่ีอยู่ในความสนใจ พูดสนทนาและเขียนเกี่ยวกับการทักทาย การกล่าว
ลา การขอบคุณ การกล่าวคำขอโทษ การเชิญชวน การแสดงความชอบไม่ชอบ เรื่องเกี่ยวกับตนเองและเรื่อง
ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคต่าง ๆ ของ
เจ้าของภาษากับของไทย ใชภ้ าษาองั กฤษส่ือสารในสถานการณ์จริงและสถานการณจ์ ำลองในสถานศกึ ษา ชมุ ชน
สังคม ใช้ภาษาอังกฤษในการสืบค้นข้อมูล สรุปข้อมูล เป็นเคร่ืองมือในการศึกษาต่อ แสวงหาความรูเ้ พ่ิมเติมและ
เชือ่ มโยงกบั กลมุ่ สาระการเรียนร้อู ืน่
โดยกระบวนการทางภาษา เช่น การสอนภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ
การจัดการการเรียนรู้แบบร่วมมือ การเรียนรู้จากการทำโครงงาน การเรียนรู้ที่เน้นภาระงาน เพ่ือให้เกิดความรู้
ความเข้าใจ สามารถวิเคราะห์ และนำภาษาไปใช้เพ่ือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ตลอดจนมีความรักชาติ
ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริตมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจิต
สาธารณะ รักการอ่านและเรยี นรูต้ ลอดชวี ิต
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ม.3/1 และ ม.3/3
ต 1.2 ม.3/1 ,ม.3/2 และ ม.3/4
ต 2.1 ม.3/1
ต 2.2 ม.3/1
ต 3.1 ม.3/1
ต 4.1 ม.3/1
ต 4.2 ม.3/1
รวมทั้งหมด 10 ตัวช้ีวัด
หลักสตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 196
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน - เขียน รหสั วิชา อ23201 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ฝึกทักษะอ่าน-เขียนข้อความ แลกเปลี่ยนข้อมูลเก่ียวกับตนเอง กิจกรรมและสถานการณ์ต่างๆใน
ชีวิตประจำวัน ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ และคำชี้แจงตามสถานการณ์ ใช้ภาษาแสดงความต้องการขอความ
ช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆอย่างเหมาะสม เขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์และ
ส่ิงแวดล้อมใกล้ตัว ใช้ภาษา น้ำเสียง และกริยาท่าทางทสี่ ุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมเจ้าของ
ภาษา เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง
การออกเสียงประโยคต่างๆ การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และลำดับคำตามโครงสรา้ ง ประโยคภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย ใช้ภาษาในสถานการณ์จริงและสถานการณ์จำลองในห้องเรียนรวมทั้งนักเรียนมีความสามารถใ น
การส่ือสาร คิด แก้ปัญหา ใช้ทักษะชีวิต ใช้เทคโนโลยี ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน ซ่ือสัตย์สุจริต จิตสาธารณะ
รักการอา่ น และเรียนรู้ตลอดชวี ติ
ผลการเรียนรู้
1. ความรคู้ วามแตกต่างระหวา่ งภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ในเรื่อง คำ วลี สำนวน ในประโยค
2. มวี ิจารณญาณในการใช้ภาษา สามารถนำความรู้ไปใช้
3. เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาและไทย
4. มคี วามเขา้ ใจอันดีต่อวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาสามารถนำไปใช้อย่างเหมาะสม
5. ใชภ้ าษาอังกฤษเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้สามารถนำไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนไ์ ด้
6. มคี วามสนใจและเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาพัฒนาทักษะทางภาษา
7. ตระหนกั ในคุณคา่ ของภาษา นำความรไู้ ปใช้ได้
8. ใชภ้ าษาอังกฤษเป็นเครื่องมอื ในการเรยี นร้กู ลมุ่ สาระอื่นบรู ณาการเรียนรู้ได้
9. ใช้ภาษาเพ่ือการสือ่ สารในการกรอกใบสมัครต่าง ๆ ได้
10. สอ่ื สารอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งหมด 10 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 197
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวชิ าภาษาจนี เบือ้ งตน้ รหัสวิชา จ23201 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ
ศึกษา คำ ประโยค ข้อความ บทความง่ายๆ นทิ าน บทร้อยกรองสั้นๆ คำแนะนำ หรอื การตอบ
คำถามให้สมั พันธ์กบั ส่อื ท่ีไมใ่ ชค่ วามเรยี งที่อ่าน จบั ใจความสำคญั สรุป และตอบคำถามง่ายๆ จากเร่ืองทฟ่ี ังหรือ
อ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ
โดยใชก้ ารปฏบิ ตั ติ ามคำสั่ง คำแนะนำ คำขอร้อง คำชแ้ี จง คำอธิบายท่ีฟงั และอ่าน การอ่านออกเสยี ง
ประโยคข้อความ บทสนทนา นทิ านงา่ ยๆ การสนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มลู เพ่ือสื่อสารอย่างต่อเน่ืองเกยี่ วกับตนเอง
กจิ กรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวัน ใช้คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำชี้แจง ตามสถานการณ์ พดู หรือเขยี น
แสดงความต้องการ ขอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธ ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ พดู และเขยี นเพ่ือขอและ
ให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั เรอ่ื งใกล้ตวั และกิจวัตรประจำวนั พูดและเขียนแสดงความรสู้ กึ ความ
คดิ เหน็ ของตนเอง เก่ยี วกบั เร่ืองราวใกล้ตัวพร้อมท้ังใหเ้ หตุผลประกอบ
เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงทเ่ี รยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
นำความร้ไู ปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั มจี ติ สาธารณ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. พดู หรอื เขียนข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน และเร่ืองใกลต้ ัว ประโยคและสำนวนภาษาทใี่ ช้ในการพูด
หรือเขียนข้อมลู เก่ยี วกบั ความสามารถ ทักษะของตนเอง และบอกระดับขั้น
2. พดู หรอื เขียนแสดงความรูส้ ึกของตนเอง และเพอื่ นแบบง่ายๆ ประโยคและสำนวนภาษาการแสดง
ความดใี จหรอื ความไมพ่ อใจ คำ กลุม่ คำ หรือบทสนทนาท่มี ภี าพประกอบ
3. พดู หรอื เขยี นเพ่ือขอและใหข้ ้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง เพื่อน ประโยคและสำนวนภาษาทีใ่ ช้แสดง
ความคิดเห็น เตือน หรือใหข้ ้อมลู เรือ่ งใกล้ตวั
4. เขยี นบรรยายใหข้ ้อมูลความเหมือนหรือแตกต่างเกย่ี วกบั ตนเองและเพ่ือนแบบง่ายๆ คำ กลุ่มคำ
และประโยคสั้นๆ ที่ใหข้ อ้ มูลการเปรยี บเทียบความชอบหรือกจิ วัตรประจำวนั เกี่ยวกบั ตนเองและเพื่อน
5. พูดหรือเขยี นแสดงข้อมลู กิจวัตรประจำวนั เกยี่ วกับตนเองและเรือ่ งใกล้ตัว ประโยคและสำนวนภาษา
แสดงการอุทาน แสดงความคิดความรู้สึกของตนเอง กลุม่ คำ และประโยคส้นั ๆ ในการบอกลกั ษณะของ
สถานที่หรือสิง่ ของรอบตัว
6. นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั มจี ิตสาธารณ จรยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ ม
ทีเ่ หมาะสม
รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 198
คำอธิบายรายวชิ า
รายวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวชิ า อ23102 กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3
ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต
อา่ นออกเสยี งข้อความ ข่าว บทรอ้ ยกรองสั้น ๆ เน้นหนักเบา สูงต่ำในประโยคถูกต้องตามหลักการออก
เสียง การจับใจความสำคญั ของเรื่องจากการอ่านและฟังสื่อประเภทตา่ ง ๆ เช่น หนังสือพมิ พ์ วิทยุ โทรทศั น์ พูด
และเขียนเก่ียวกับการให้ความช่วยเหลือ การแสดงความคิดเห็น ความชอบ ไม่ชอบการดีใจ เสียใจ พูดและเขียน
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ต่าง ๆ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรม ระหว่างเจ้าของภาษากับของไทย
ค้นคว้า สรุปและนำเสนอข้อมูลท่ีเกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงหรือ
สถานการณ์จำลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน ชุมชน และ สังคม ตลอดจนใช้ภาษาอังกฤษในการเผยแพร่
ประชาสมั พันธ์ ข้อมูล ข่าวสารโรงเรียน ชุมชน และท้องถ่นิ ในรปู แบบต่าง ๆ เชน่ การทำหนังสอื เล่มเล็ก แผ่น
ปลวิ แนะนำโรงเรียนและสถานทส่ี ำคญั ในชมุ ชน และท้องถ่นิ
โดยกระบวนการทางภาษา เช่น การสอนภาษาเพ่ือการสื่อสาร การเรียนรู้แบบบูรณาการการจัดการ
การเรียนรู้แบบร่วมมือ การเรียนรู้จากการทำโครงงาน การเรียนรู้ท่ีเน้นภาระงาน เพ่ือให้เกิดความรู้ ความ
เข้าใจ สามารถวิเคราะห์ และนำภาษาไปใช้เพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ตลอดจนมีความรักชาติ ศาสน์
กษตั ริย์ ซ่ือสัตย์สุจรติ มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ รัก
การอ่านและเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ม.3/2 และ ม.3/4
ต 1.2 ม.3/3 และ ม.3/5
ต 1.3ม. 3/1-3/3
ต 2.1 ม.3/2
ต 2.2 ม.3/2
ต 3.1 ม.3/1
ต 4.1 ม.3/1
ต 4.2 ม.3/2
รวมทั้งหมด 12 ตัวช้ีวัด
หลักสูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 199
คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวชิ าภาษาอังกฤษอา่ น - เขียน รหสั วิชา อ23202 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ฝึกทกั ษะอ่าน-เขียน ข้อความ แลกเปลย่ี นขอ้ มูลเก่ียวกับตนเอง กิจกรรมและสถานการณต์ า่ ง ๆ
ในชีวิตประจำวัน ใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ และคำช้ีแจงตามสถานการณ์ ใช้ภาษาแสดงความต้องการขอความ
ชว่ ยเหลือในสถานการณ์ต่าง ๆอย่างเหมาะสม เขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง กิจวัตรประจำวนั ประสบการณ์และ
ส่ิงแวดล้อมใกล้ตัว ใช้ภาษา น้ำเสียง และกริยาท่าทางท่สี ุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมเจ้าของ
ภาษา เข้าร่วม/จัดกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง
การออกเสียงประโยคต่าง ๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และลำดับคำตามโครงสร้าง ประโยคภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย ใช้ภาษาในสถานการณ์จริงและสถานการณ์จำลองในห้องเรียน รวมท้ังนักเรียนมีความสามารถใน
การส่ือสาร คิด แก้ปัญหา ใช้ทักษะชีวิต ใช้เทคโนโลยี ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน ซื่อสัตย์สุจริต จิตสาธารณะ
รักการอา่ น และเรยี นรู้ตลอดชีวิต
ผลการเรียนรู้
1. ความรคู้ วามแตกต่างระหว่างภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ในเร่ือง คำ วลี สำนวน ในประโยค
2. มวี จิ ารณญาณในการใชภ้ าษา สามารถนำความร้ไู ปใช้
3. เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและไทย
4. มคี วามเข้าใจอนั ดีต่อวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาสามารถนำไปใช้อย่างเหมาะสม
5. ใช้ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมอื แสวงหาความรู้สามารถนำไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ได้
6. มีความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาพัฒนาทักษะทางภาษา
7. ตระหนักในคุณค่าของภาษา นำความรู้ไปใช้ได้
8. ใช้ภาษาอังกฤษเปน็ เครื่องมอื ในการเรยี นรู้กลมุ่ สาระอื่นบูรณาการเรยี นรู้ได้
9. ใช้ภาษาเพ่ือการสอ่ื สารในการกรอกใบสมัครต่าง ๆ ได้
10. สื่อสารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
รวมทั้งหมด 10 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2ค5ำ6อ4ธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม Sหนา้ 200
รายวชิ าภาษาจนี เบื้องต้น รหัสวิชา จ23202 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศึกษา ความเหมือน หรือความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การลำดับคำตาม
โครงสร้างประโยคของภาษาจีนและภาษาไทย เปรยี บเทียบ และอธบิ ายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่าง
ชวี ติ ความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของจนี กบั วัฒนธรรมของไทย และนำไปใชอ้ ย่างถกู ต้อง
โดยใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ยิ าท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมจนี
บรรยายเกี่ยวกบั เทศกาล วันสำคัญ ชวี ิตความเป็นอยู่ และประเพณีของจนี เข้ารว่ มหรือจดั กจิ กรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรมของจนี ตามความสนใจ ใชภ้ าษาจนี สอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ หรอื สถานการณ์จำลองท่เี กิดขน้ึ ใน
ห้องเรยี น สถานศึกษา ชุมชน ใชใ้ นการสืบค้น รวบรวม นำเสนอและสรุปความรูห้ รือข้อมูลตา่ ง ๆ จากสื่อและ
แหล่งการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชพี
เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ
นำความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั มีจิตสาธารณ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมทเี่ หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. พดู หรือเขยี นข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน และเรื่องใกล้ตัว ประโยคและสำนวนภาษาที่ใช้ในการพูด
หรอื เขยี นข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน เพอื่ น ส่งิ แวดล้อมใกลต้ วั ประโยคคำถามและคำตอบในการ
สนทนา
2. พดู หรือเขียนเพ่ือแสดงความคิดเห็นหรือขอให้แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั
และเร่ืองใกล้ตัว ประโยคและสำนวนภาษาท่ีใช้ในการพูดหรือเขียนข้อมูลเสนอแนะเกี่ยวกับตนเอง เพื่อน หรือ
บุคคลใกลต้ ัว
3. พดู หรือเขยี นใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั การเปรียบเทยี บจากสิง่ แวดล้อมใกล้ตัวแบบงา่ ยๆ ราคาส่งิ ของ คา่ เงนิ
คำ กลมุ่ คำ และประโยคสั้นๆ ท่ีให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง และเรื่องใกล้ตวั
4. เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของจนี ทีเ่ หมาะสมกบั วยั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม
ของจีน เช่น การเล่นเกม การรอ้ งเพลง การแสดงท่าทางประกอบเพลง การออกกำลงั กาย
5. พูดหรอื เขียนขอ้ มลู เก่ยี วกบั ตนเอง กิจวตั ร เร่อื งใกล้ตัว ประโยคและสำนวนภาษาทีใ่ ชใ้ ห้ขอ้ มลู
เก่ียวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตวั เช่น งานอดิเรก กิจกรรมท่ีชื่นชอบ คำ กลุ่มคำ และประโยคส้ันๆ
ทใ่ี ช้ในการบอกระดบั ข้ันของความร้สู กึ เกยี่ วกบั ตนเอง และเร่อื งใกลต้ วั
6. นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจำวนั มีจิตสาธารณ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ ม
ทเี่ หมาะสม
รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 201
โครงสร้างรายวิชา
และคำอธบิ ายรายวชิ า
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4
หลกั สูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 202
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชือ่ วิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
ภาคเรียน รหสั วิชา วชิ า
1.0 40 พื้นฐาน 4/1 – 4/7
ที่ 0.5 20 เพิ่มเติม 4/1 – 4/6
1/2564 ท31101 ภาษาไทย 1.0 40 เพมิ่ เติม 4/5 – 4/7
1.0 40 พืน้ ฐาน 4/1 – 4/7
ท31203 ห้องสมดุ 0.5 20 เพม่ิ เติม 4/2 – 4/7
ท31201 การเขียน 1.0 40 เพิ่มเติม 4/5 – 4/7
2/2564 ท31102 ภาษาไทย
ท31204 ห้องสมดุ หมายเหตุ
ท31202 การเขียน
4/1 – 4/7
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ 4/1 – 4/4
ภาคเรยี น รหสั วิชา ชื่อวิชา นก. ชม. ประเภท 4/1
วิชา 4/1 – 4/7
ที่ 1.0 40 พน้ื ฐาน 4/1 – 4/4
2.0 80 เพิ่มเติม
1/2564 ค31101 คณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน 0.5 20 เพิ่มเติม 4/1
1.0 40 พน้ื ฐาน
ค31201 คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ 2.0 80 เพม่ิ เติม หมายเหตุ
0.5 20 เพ่มิ เติม
ค31205 คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมพูน 4/5 – 4/7
4/2 – 4/4
2/2564 ค31102 คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน 4/1 – 4/7
4/1 – 4/4
ค31202 คณิตศาสตร์เพิ่มเตมิ 4/1 – 4/4
4/1 – 4/4
ค31206 คณติ ศาสตรเ์ พ่ิมพูน
4/1
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4/2 – 4/7
ภาคเรียน รหัสวชิ า ช่อื วิชา นก. ชม. ประเภท 4/6
วิชา 4/6
ที่ 1.0 40 พื้นฐาน
1.0 40 พน้ื ฐาน
1/2564 ว31102 วิทยาศาสตร์กายภาพ 1 (ฟสิ ิกส)์ 0.5 20 พื้นฐาน
2.0 80 เพม่ิ เติม
ว31101 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ 1.5 60 เพิ่มเติม
1.5 60 เพม่ิ เติม
ว31103 การออกแบบและเทคโนโลยี 1.0 40 เพิม่ เติม
0.5 20 เพม่ิ เติม
ว31201 ฟิสิกส์ 1.0 40 เพ่มิ เติม
1.0 40 เพม่ิ เติม
ว31221 เคมี
ว31241 ชีววิทยา
ว31243 เทคนิคปฏิบัติการพนื้ ฐานชีววิทยา
ว31275 การสร้างและตกแต่งภาพ
ว31271 คณิตศาสตร์คอมพวิ เตอร์
ว31272 คอมพวิ เตอร์กราฟกิ
หลกั สตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 203
ภาคเรยี น รหสั วชิ า ช่ือวิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
ที่ วิชา
ว31102 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ 1 (ฟิสิกส)์ 1.0 40 พน้ื ฐาน 4/1 – 4/4
2/2564 ว31101 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ 1.0 40 พ้นื ฐาน 4/5 – 4/7
ว31104 วิทยาการคำนวณ 0.5 20 พืน้ ฐาน 4/1 – 4/7
ว31202 ฟิสิกส์ 2.0 80 เพิ่มเติม 4/1 – 4/4
ว31222 เคมี 1.5 60 เพิ่มเติม 4/1 – 4/4
ว31242 ชวี วทิ ยา 1.5 60 เพม่ิ เติม 4/1 – 4/4
ว31282 เทคนคิ ปฏิบัติการพื้นฐานเคมี 1.0 40 เพิ่มเติม
ว31276 การสรา้ งและตกแต่งภาพ 0.5 20 เพม่ิ เติม 4/1
ว31273 คอมพวิ เตอร์กราฟกิ 1.0 40 เพม่ิ เติม 4/2 – 4/7
ว31274 การเขยี นโปรแกรม 1.0 40 เพม่ิ เติม
4/6
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ประเภท 4/6
วิชา
ภาคเรยี น รหัสวชิ า ชื่อวิชา นก. ชม. พื้นฐาน หมายเหตุ
เพิ่มเติม
ที่ เพิ่มเติม 4/1 – 4/8
เพิ่มเติม 4/1 – 4/8
1/2564 ส31101 สังคมศึกษา 1.0 40 พื้นฐาน 4/1 – 4/8
เพิ่มเติม 4/5 – 4/7
ส31201 ธรรมศกึ ษา 0.5 20 เพ่มิ เติม 4/1 – 4/8
เพิ่มเติม 4/1 – 4/8
ส30231 หน้าท่พี ลเมอื ง (บูรณาการใหท้ ีป่ รกึ ษา) 0.5 20 4/1 – 4/8
ประเภท 4/5 – 4/7
ส31203 อาเซียนศึกษา 0.5 20 วชิ า
พื้นฐาน หมายเหตุ
2/2564 ส31102 สังคมศึกษา 1.0 40 เพิ่มเติม
เพิ่มเติม 4/1 – 4/8
ส31202 ธรรมศึกษา 0.5 20 เพม่ิ เติม 4/1 – 4/8
เพ่มิ เติม
ส30232 หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง (บูรณาการให้ทป่ี รกึ ษา) 0.5 20 4/8
4/8
ส31204 อาเซยี นศึกษา 0.5 20 4/8
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
ภาคเรยี น รหัสวชิ า ชือ่ วิชา นก. ชม.
ท่ี 0.5 20
0.5 20
1/2564 พ31101 สุขศึกษา 2.0 80
2.0 80
พ31201 พลศกึ ษา 2.0 80
พ31203 พลศึกษา (ฟตุ บอล)
พ31205 พลศกึ ษา (ฟุตซอล)
พ31207 พลศึกษา (กรีฑา)
หลกั สูตรโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 204
ภาคเรียน รหสั วิชา ชื่อวิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
ท่ี วชิ า
พ31102 สุขศกึ ษา 0.5 20 พ้ืนฐาน 4/1 – 4/8
2/2564 พ31202 พลศกึ ษา 0.5 20 เพม่ิ เติม 4/1 – 4/8
พ31204 พลศึกษา (ดาบ 2 มอื ) 2.0 80 เพิ่มเติม
พ31206 พลศกึ ษา (เซปักตะกร้อ) 2.0 80 เพิม่ เติม 4/8
พ31208 พลศึกษา (แฮนดบ์ อล) 2.0 80 เพม่ิ เติม 4/8
4/8
กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ชื่อวิชา นก. ชม. ประเภท
ภาคเรยี น รหัสวชิ า วชิ า หมายเหตุ
0.5 20 พน้ื ฐาน
ที่ 0.5 20 พ้นื ฐาน 4/1 – 4/7
1/2564 ศ31101 ศลิ ปะ 4/1 – 4/7
2/2564 ศ31102 ศลิ ปะ ประเภท
วิชา หมายเหตุ
กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี พืน้ ฐาน
เพ่ิมเติม 4/1 – 4/8
ภาคเรยี น รหัสวชิ า ชือ่ วิชา นก. ชม. เพิ่มเติม 4/8
เพิ่มเติม 4/8
ที่ เพม่ิ เติม 4/8
เพิ่มเติม 4/8
1/2564 ง31101 การงานอาชพี 0.5 20 เพมิ่ เติม 4/8
เพม่ิ เติม 4/8
ง31210 แนะนำคหกรรมศาสตร์ 1.0 40 พน้ื ฐาน 4/8
เพิม่ เติม
ง31211 การจดั การทรัพยากรครอบครัว 1.0 40 เพิ่มเติม 4/1 – 4/8
เพิ่มเติม 4/8
ง31212 อาหารไทยเบอื้ งต้น 2.0 80 เพม่ิ เติม 4/8
เพม่ิ เติม 4/8
ง31213 ศลิ ปะการจับผา้ 2.0 80 เพิ่มเติม 4/8
เพ่ิมเติม 4/8
ง31231 งานเชือ่ มโลหะเบื้องตน้ 2.0 80 4/8
4/8
ง31232 งานเชอื่ มไฟฟ้า 2.0 80
ง31233 งานโลหะประดษิ ฐ์ 2.0 80
2/2564 ง31102 การงานอาชพี 0.5 20
ง31214 โภชนาศาสตร์เบ้ืองต้น 1.0 40
ง31215 โภชนาศาสตรส์ ำหรับบคุ คลแต่ละวัย 1.0 40
ง31216 ขนมไทยเบอื้ งต้น 2.0 80
ง30230 การจดั ดอกไม้ 2.0 80
ง31234 งานไฟฟ้า 2.0 80
ง31235 งานปนู คอนกรีต 2.0 80
ง31236 งานไฟฟ้าเบื้องต้น 2.0 80
หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 205
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ
ภาคเรียน รหสั วิชา ช่ือวิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
วชิ า
ท่ี 1.5 60 พื้นฐาน 4/1 – 4/8
1.0 40 เพม่ิ เติม 4/1
1/2564 อ31101 ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน 1.5 60 เพม่ิ เติม
1.0 40 เพิ่มเติม 4/5 -4/6
อ31201 ภาษาองั กฤษเสริมทักษะ 0.5 20 เพิ่มเติม 4/5 – 4/6
2.0 80 เพม่ิ เติม
อ31205 ภาษาอังกฤษฟัง – พูด 1.5 60 พื้นฐาน 4/1
1.0 40 เพิม่ เติม 4/5 – 4/6
อ31207 ภาษาอังกฤษรอบรู้ 1.5 60 เพม่ิ เติม 4/1 – 4/7
1.0 40 เพม่ิ เติม
จ31201 ภาษาจีนเบ้ืองตน้ 0.5 20 เพมิ่ เติม 4/1
2.0 80 เพิ่มเติม 4/5
จ31203 สมั ผัสภาษาจีน 4/5
4/1
2/2564 อ31102 ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน 4/5 - 4/6
อ31202 ภาษาอังกฤษเสริมทักษะ
อ31206 ภาษาองั กฤษฟงั – พูด
อ31208 ภาษาองั กฤษรอบรู้
จ31202 ภาษาจีนเบ้ืองตน้
จ31204 สมั ผัสภาษาจีน
หลกั สูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 206
คำอธบิ ายรายวิชา
รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท31101 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ฝึกทักษะการอา่ น การฟัง การดู การพูด การเขียน การวเิ คราะห์ และประเมินค่าวรรณคดีวรรณกรรม
โดยการศกึ ษาเกี่ยวกับการอ่านออกเสยี ง การรับสารและการสง่ สารด้วยการอ่าน วิเคราะห์วจิ ารณ์เร่อื งท่ีอา่ นอย่างมี
เหตผุ ล ฝกึ ทักษะการเขยี นสะกดคำ เขียนบนั ทกึ ความรู้ เขียนเรยี งความ ย่อความ จดหมาย และการเขยี นอธิบาย
วเิ คราะห์ ประเมนิ ค่า และข้อคดิ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเรอ่ื ง คำนมสั การคณุ านุคุณ นิทานเวตาล
เรอ่ื งท่ี 10 ทุกข์ของชาวนาในบทกวี และหัวใจชายหนุ่ม ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และบทรอ้ ยกรองที่มี
คณุ ค่าตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการฟัง การดู การพูด กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร สรา้ งสรรค์ความรู้
และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวิต เพ่ือใหเ้ ข้าใจธรรมชาติของภาษา ภูมิปัญญา
ทางภาษา แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ และประเมินค่าวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง รักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ และมีนิสัยรักการอ่านการเขียน มี
มารยาทในการอ่าน การฟัง การดู
พัฒนาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความร้ไู ปใช้บูรณาการรว่ มกับการเรียนรู้หรือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นิสยั รกั การอา่ น
ตวั ช้ีวัด
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/5 /ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/5
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4 / ม.4-6/6
รวมท้ังหมด 19 ตวั ชว้ี ดั
หลกั สูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 207
คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
รายวิชาการเขยี น รหสั วิชา ท31201 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
การเขยี นเป็นการถา่ ยทอดสื่อสารความรูส้ ึกนึกคิด ประสบการณ์ ความรู้ ความต้องการข้อมูล ความรู้หรือ
จินตนาการเพ่ือให้ผู้อ่านได้รู้ได้ทราบ โดยอาศัยรูปแบบการเขียนท่ีหลากหลายตามเจตนา เช่น เขียนจดบันทึก
รายงาน จดหมาย ประกาศ ย่อความ เรียงความหรือร้อยกรองประเภทต่าง ๆ ผู้เขียนจำเป็นต้องมีพื้นฐานความรู้
เกยี่ วกับการเขยี นท่ัวไปไมว่ า่ จะเปน็ การเขียนสะกดคำ การใช้คำ สำนวน โวหาร กลุ่มคำ ประโยคหรอื กลุ่มข้อความ
ขั้นตอนกระบวนการเขียนและลักษณะงานเขียนที่ดี เพื่อท่ีจะนำความรู้ดังกล่าวข้างต้นไปกำหนดวางแผนในการ
เขยี นตัดสนิ ประเมินคา่ หรือพัฒนาทกั ษะการเขยี นตามความสามารถของตนอยา่ งสร้างสรรค์เหน็ คุณค่า
มีความรักในการเขียน สามารถเขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ โดยอาศัยข้อมูลพ้ืนฐานในบริบทท้องถ่ิน
ชุมชนของตนหรือใกล้เคียง โดยการสืบค้นด้วยการพูด อ่าน ดู ฟังส่ือ ส่ิงพิมพ์ เทคโนโลยีท่ีทันสมัย หรื อ
ประสบการณ์ตรงของนักเรียนผสมผสานเนื้อหา เร่ืองราว ข้อมูล ความคิด ความรู้ จินตนาการ เพ่ือส่ือสะท้อน
วฒั นธรรม แสดงความเป็นไทยโดยการใช้ภาษาไทย เลขไทยอย่างมีมารยาทเหมาะสม ถูกต้องตามรูปแบบการ
เขียน นำความรู้เกี่ยวกับข้ันตอนกระบวนการเขียนลักษณะงานเขียนท่ีดีไปใช้ฝึกฝนทักษะและพัฒนาการเขียนใน
ชวี ิตประจำวันไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ เพือ่ เปน็ ประโยชน์ท้ังสว่ นตนและสว่ นรวม
พัฒนาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความร้ไู ปใช้บูรณาการรว่ มกับการเรียนร้หู รือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นิสัยรกั การอา่ น
ผลการเรยี นรู้
1. เขียนสอ่ื สารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ โดยใช้ภาษาเรียบเรยี งถูกต้อง มีขอ้ มูล
และสาระสำคญั ชดั เจน
2. เขยี นเรยี งความ
3. เขียนยอ่ ความจากส่ือที่มรี ูปแบบ และเนื้อหาหลากหลาย
4. ผลิตงานเขยี นของตนเองในรปู แบบต่าง ๆ
5. ประเมินงานเขยี นของผอู้ ่ืนแล้วนำมาพัฒนางานเขยี นของตนเอง
6. เขยี นรายงานการศึกษาค้นควา้ เรือ่ งท่สี นใจตามหลกั การเขียนเชงิ วิชาการ และใชข้ ้อมลู สารสนเทศ
อา้ งอิงอยา่ งถูกตอ้ ง
7. บันทึกการศึกษาคน้ ควา้ เพื่อนำไปพฒั นาตนเองอย่างสมำ่ เสมอ
8. มีมารยาทในการเขยี น
รวมทั้งหมด 8 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 208
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม
รายวชิ าการใช้ห้องสมดุ รหัสวชิ า ท31203 กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต
ศึกษาหาความรู้จากหนังสือและสื่ออื่น ๆ จากห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนและแหล่ง
เรียนรู้อื่นอย่างกว้างขวาง ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ เลือกใช้สารนิเทศประเภท
ต่าง ๆ เพื่อการเรียนรู้ตามความสนใจ ความสามารถและความถนัดของตน มีจิตสำนึกที่ดี มีมารยาทและ
คุณธรรมในการใช้ห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ เห็นความสำคัญของการอ่าน เขียนบันทึกการอ่านและ
นำเสนอข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่นการเขียนรายงานและการใช้เทคโนโลยีนำเสนอข้อมูลฯลฯ
ปฏิบัติการใช้ห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ ใช้สารนิเทศ
ประเภทต่าง ๆ การอ่านและเขียนบันทึกการอ่าน และนำเสนอข้อมูลด้วยวิธีต่าง ๆ
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาค้นคว้าจากห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ มีทักษะในการ
ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ เลือกใช้สารนิเทศเพื่อการเรียนรู้ นำเสนอข้อมูลด้วยวิธี
ต่าง ๆ รักการค้นคว้าด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มีความกระตือรือร้น ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และ วิธี
เรียนรู้ สามารถนำความรู้ไปพัฒนาตนเอง และใช้เป็นพื้นฐานการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
ผลการเรียนรู้
1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ห้องสมุดหรือแหล่งเรียนรู้
2. ปฏิบัติตนตามระเบียบและมีมารยาทในการใช้ห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้
3. ใช้ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้อย่างเหมาะสม
4. ใช้เครื่องมือสืบค้นข้อมูลสารสนเทศจากสื่อต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. รักการอ่าน รักการเขียน และเห็นคุณค่าของการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้
6. ใช้บริการของห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ เพื่อการศึกษาค้นคว้า และสามารถนำความรู้ไปใช้ใน
การพัฒนาตนเอง
รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 209
คำอธบิ ายรายวิชา
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท31102 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ฝึกทักษะการอ่าน การฟัง การดู การพูด การเขียน การวิเคราะห์และประเมินค่าวรรณคดีวรรณกรรม
โดยการศึกษาเก่ยี วกับธรรมชาติของภาษา ลักษณะของภาษา สามารถเลือกเรอ่ื งท่ีฟังและดูได้อยา่ งมีวิจารณญาณ
เพ่ือพัฒนาไปสู่การพูดแสดงความรู้ ความคิดในโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ เหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ
และบุคคล รวมท้ังสามารถเลือกใช้คำได้อย่างเหมาะสมกับรูปแบบงานเขียนแต่ละประเภทและสามารถแต่งคำ
ประพนั ธป์ ระเภทกาพย์และโคลงไดถ้ กู ต้องตามฉนั ทลกั ษณ์ของคำประพันธน์ ัน้ ๆ
วเิ คราะห์ ประเมินค่า และข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม บทละครในเร่ือง อิเหนา ตอนศกึ กะห
มังกุหนิง นิราศนรินทร์ มงคลสูตรคำฉันท์ มหาชาติหรือเวสสันดรชาดก ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และ
บทรอ้ ยกรองทีม่ ีคุณค่าตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการฟัง การดู การพูด กระบวนการเขียนเขียนส่ือสารสร้างสรรค์ความรู้ และ
กระบวนการคิดวิเคราะห์ เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติของภาษา ภูมิ
ปัญญาทางภาษา เลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ
อย่างมีวิจารณญาณ แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ และประเมินค่าวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า
และนำมาประยุกต์ ใช้ในชีวิตจริง รักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติและมีนิสยั รกั การอ่าน การเขียน มีมารยาท
ในการอ่าน การฟงั การดู
พัฒนาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความรูไ้ ปใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนรหู้ รือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นิสัยรกั การอา่ น
ตวั ชี้วัด
ท 1.1 ม.4-6/4, ม.4-6/6, ม.4-6/8, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/6, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 5.1 ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5 , ม.4-6/6
รวมท้ังหมด 20 ตัวช้ีวัด
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 210
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
รายวชิ าการเขยี น รหัสวิชา ท31202 กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
ศึกษาหลักการเขียน เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ เขียนเรียงคราม เขียน
บทความ เขียนบทสนทนา เขียนคำกล่าวในโอกาสตา่ ง ๆ เขียนย่อความจากสื่อท่ีมรี ูปแบบ และเน้ือหลากหลาย
เขียนบันทึกการศึกษาค้นคว้า เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเร่ืองที่สนใจตามหลักการเขียนเชิงวิชาการ โดยใช้
สำนวน โวหาร การเรียงประโยค หรือข้อความในการเขียนอย่างพิถีพิถัน เพื่อแทรกอารมณ์ ความรู้สึก
แนวคิดที่สร้างสรรค์ ความไพเราะ งดงาม คมคาย สะเทือนอารมณ์ จินตนาการต่าง ๆ ก่อให้เกิดความ
เพลดิ เพลนิ และชว่ ยพัฒนาความคดิ
แต่งคำประพันธ์อย่างมศี ิลปะในการประพนั ธ์ มเี สยี งเสนาะและความหมายดอี ันเปน็ คณุ ค่าทางวรรณศลิ ป์
มีความไพเราะเพราะพริ้งและให้ข้อคิดท่ีดีงาม ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ประเมินงานเขียนของ
ผู้เขยี น แล้วนำมาพัฒนางานเขียนของตนเอง ใช้กระบวนการเขยี นพฒั นางานเขียนของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ใช้
ภาษาเรียบเรียงถูกต้อง มีข้อมูลและสาระสำคัญชัดเจน ใช้ข้อมูลสารสนเทศอ้างอิงอย่างถูกต้อง และมีมารยาท
ในการเขยี นและการศกึ ษาคน้ คว้า
พัฒนาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความรไู้ ปใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนรหู้ รือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นสิ ยั รกั การอา่ น
ผลการเรียนรู้
1. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจในความหมายของถ้อยคำ สำนวนโวหาร กลุม่ คำข้อความหรือประโยคทใ่ี ช้ใน
การเขยี นเพื่อจดุ มุ่งหมายต่าง ๆ ได้
2. เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าเรอ่ื งท่ีสนใจตามหลักการเขยี นเชงิ วิชาการไดถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม และ
มีสำนวนโวหารสละสลวย
3. วางแผน ออกแบบ ผลติ งานเขยี นของตนเองในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ถูกต้อง เหมาะสม และตรงตาม
วัตถุประสงค์ของผู้เขยี น
4. แต่งคำประพนั ธช์ นดิ ต่าง ๆ ได้อยา่ งมีศิลปะในการประพันธ์ได้
5. มีมารยาทในการเขยี น เหน็ คุณค่าของการเขยี นไทยและเลขไทย
รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 211
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวชิ าการใชห้ ้องสมุด รหสั วิชา ท31204 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศึกษาเกี่ยวกับห้องสมุดโรงเรียน มาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน การดำเนินงานเทคนิค งานบริการ
และการประชาสัมพันธห์ ้องสมุด ปฏิบัติงานกำหนดเลขหมู่ เตรียมวัสดุหอ้ งสมุดออกบริการ จัดวสั ดุข้ึนชน้ั ซ่อม
หนังสือสำรวจวัสดุห้องสมุด บริการยืม - คืนหนังสือ บริการห้องสมุดเคล่ือนท่ี จัดทำบรรณานุกรมหนังสือจัด
นิทรรศการ จดั ทำแผ่นพับทางวชิ าการเพื่อประชาสัมพันธง์ านหอ้ งสมดุ
เพอ่ื ใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจ มีทักษะ ประสบการณ์ เกีย่ วกับการการดำเนินงานบริการ งานกิจกรรม
งานเทคนิค และการประชาสัมพันธ์ห้องสมุด มีสมาธิในการทำงาน จนสามารถทำงานสำเร็จตามเป้าหมายและ
นำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
ผลการเรยี นรู้
1. มีความรคู้ วามเข้าใจ เก่ียวกับห้องสมดุ โรงเรยี น และมาตรฐานห้องสมุดโรงเรยี น
2. มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั งานเทคนคิ สามารถกำหนดเลขหมู่ เตรยี มวัสดุหอ้ งสมุดออกบริการ
3. จดั เรยี งหนงั สอื หรอื สง่ิ พมิ พ์ข้ึนชน้ั ซอ่ มหนงั สอื สำรวจวสั ดหุ ้องสมุดได้
4. มีความร้คู วามเข้าใจเกี่ยวกับงานบรกิ ารสามารถบรกิ ารยมื - คืน หนงั สอื
5. สามารถใหบ้ รกิ ารหอ้ งสมุดเคลอ่ื นที่ หรอื จัดทำบรรณานุกรมหนังสอื ได้
6. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับงานประชาสมั พนั ธ์ห้องสมดุ สามารถจัดนทิ รรศการ และจัดทำแผน่ พบั ทาง
วิชาการได้
รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 212
คำอธิบายรายวชิ า
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค31101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง
ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคิดคำนวณ และฝกึ การแก้ปญั หาในสาระต่อไปน้ี
เซต เซต การดำเนินการระหว่างเซต(อินเตอร์เซกชัน ยูเนียน คอมพลีเมนต์ และผลต่างระหว่าง
เซต) การแกป้ ญั หาโดยใชเ้ ซต
ตรรกศาสตร์เบือ้ งต้น ประพจน์ การเชอื่ มประพจน(์ นเิ สธ และ หรอื ถ้า...แล้ว... ก็ตอ่ เมอ่ื )
โดยจดั ประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันท่ีใกล้ตัว ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จริง ทดลอง สรุป รายงาน เพือ่ พฒั นาทกั ษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ การแกป้ ัญหา การใหเ้ หตผุ ล การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการ
เรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อย่างสรา้ งสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณติ ศาสตรส์ ามารถ
ทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มคี วามรบั ผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ และมีความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใช้วธิ ีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนอ้ื หาและทกั ษะ
ท่ีตอ้ งการวดั
ซ่ึงกระบวนการเหล่านี้ได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่าง ๆ ข้างต้น เพ่ือให้นักเรียนมี
ความรคู้ วามสามารถตามตัวช้ีวัดต่อไปน้ี
ตวั ช้ีวัด
ค 1.1 ม.4/1
รวมทั้งหมด 1 ตวั ชีว้ ัด
หลกั สูตรโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 213
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ
รายวิชาคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค31201 กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต
ศึกษา ฝึกทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝึกการแกป้ ัญหาในสาระตอ่ ไปนี้
เซต เซต การดำเนินการระหว่างเซต(อินเตอร์เซกชัน ยูเนียน คอมพลีเมนต์ และผลต่างระหว่างเซต)
การแกป้ ญั หาโดยใช้เซต
ตรรกศาสตร์ ประพจน์ การเช่ือมประพจน์(และ หรือ ถ้า...แล้ว... ก็ต่อเมื่อ นิเสธ) การหาค่าความ
จริงของประพจน์ การสร้างตารางค่าความจริง รูปแบบของประพจน์ท่ีสมมูลกัน สัจนิรันดร์ การอ้างเหตุผล
ประโยคเปิด ตัวบ่งปริมาณ ค่าความจริงของประโยคท่ีมีตัวบ่งปริมาณตัวเดียว สมมูลและนิเสธของประโยคที่มี
ตัวบง่ ปรมิ าณ
จำนวนจริง จำนวนจริง ระบบจำนวนจริง พหุนามตัวแปรเดียว การแยกตัวประกอบของพหุนาม
สมการพหุนามดีกรีเดียว เศษส่วนของพหุนาม สมการเศษส่วนของพหุนาม การไม่เท่ากันของจำนวนจริง
อสมการพหุนามตวั แปรเดยี ว คา่ สมั บูรณ์ สมการและอสมการค่าสมั บูรณข์ องพหนุ ามตัวแปรเดยี ว
โดยจดั ประสบการณ์ หรือสรา้ งสถานการณ์ในชีวติ ประจำวันทีใ่ กลต้ ัว ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ ึกษาโดยการปฏิบตั ิจริง
ทดลอง สรปุ รายงาน เพอื่ พัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ
การแก้ปัญหา การใหเ้ หตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการท่ีไดไ้ ปใช้ในการเรยี นรู้ส่ิงต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจต
คติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มี
วิจารณญาณ และมีความเช่อื มนั่ ในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใชว้ ิธกี ารที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนื้อหาและทกั ษะที่
ต้องการวดั
ซ่ึงกระบวนการเหล่านี้ได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่าง ๆ ข้างต้น เพ่ือให้นักเรียนมี
ความรคู้ วามสามารถตามผลการเรยี นร้ตู ่อไปนี้
ผลการเรยี นรู้
1. เขา้ ใจและใชค้ วามรเู้ กีย่ วกับเซตในการสื่อสารและสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
2. เข้าใจและใชค้ วามรูเ้ กยี่ วกบั ตรรกศาสตร์เบื้องต้นในการสอื่ สาร ส่อื ความหมายและอา้ งเหตุ
3. เข้าใจจำนวนจริงและใชส้ มบตั ิของจำนวนจรงิ ในการแก้ปญั หา
4. แก้สมการและอสมการพหนุ ามตัวแปรเดียว ดีกรไี มเ่ กนิ สแ่ี ละนำไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา
5. แกส้ มการและอสมการเศษสว่ นของพหนุ ามตัวแปรเดยี วและนำไปใช้ในการแกป้ ญั หา
6. แกส้ มการและอสมการค่าสมั บรู ณ์ของพหนุ ามตวั แปรเดยี ว และการนำไปใช้ในการแกป้ ัญหา
รวมทั้งหมด 6 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 214
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพม่ิ พูน รหัสวชิ า ค31205 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์
จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง
ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี
รูปแบบของ วิธีการพิสูจน์ ความหมาย ข้นั ตอนของวิธกี ารพิสจู น์ ประกอบด้วย รปู แบบ p → q โดยตรง
รูปแบบแยง้ สลบั ท่ี รูปแบบ p q
โดยจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณใ์ นชีวติ ประจำวันที่ใกล้ตวั ใหผ้ ้เู รียนไดศ้ ึกษาโดยการปฏิบัตจิ ริง
ทดลอง สรปุ รายงาน เพือ่ พัฒนาทกั ษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ
การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตรแ์ ละนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการที่ไดไ้ ปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจต
คติที่ดีต่อคณิตศาสตร์สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มี
วจิ ารณญาณ และมีความเชือ่ ม่นั ในตนเอง
การวดั และประเมินผล ใชว้ ิธีการท่หี ลากหลายตามสภาพความเป็นจรงิ ใหส้ อดคล้องกับเนื้อหาและทกั ษะที่
ตอ้ งการวดั
ซง่ึ กระบวนการเหลา่ น้ีไดจ้ ัดการเรียนรผู้ ่านสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ต่าง ๆ ข้างตน้ เพ่อื ใหน้ ักเรียนมี
ความรคู้ วามสามารถตามผลการเรยี นรู้ต่อไปนี้
ผลการเรยี นรู้
1. พิสูจน์ข้อความรูปแบบ p → q โดยตรง (Direct Proof) ได้
2. พสิ จู น์ขอ้ ความรปู แบบ แย้งสลบั ที่ (Contra-Positive) ได้
3. พสิ ูจน์ขอ้ ความรูปแบบ p q (If-And-Only-If) ได้
รวมท้ังหมด 3 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 215
คำอธิบายรายวิชา
รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค31102 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง
ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคิดคำนวณ และฝกึ การแกป้ ัญหาในสาระต่อไปนี้
หลักการนับเบ้ืองต้น หลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ียนเชิงเส้นของส่ิงของที่แตกต่างกัน
ท้ังหมด การจัดหมู่ของส่ิงของแตกต่างกันทั้งหมด
ความน่าจะเปน็ การทดลองสุ่มและเหตกุ ารณ์ ความน่าจะเปน็ ของเหตุการณ์
โดยจดั ประสบการณ์ หรือสรา้ งสถานการณใ์ นชีวติ ประจำวันท่ีใกล้ตัว ใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัตจิ ริง
ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อ
ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้
ส่ิงต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์สามารถ
ทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มคี วามรับผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ และมีความเชื่อม่ันในตนเอง
การวดั และประเมินผล ใชว้ ิธีการทห่ี ลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงให้สอดคล้องกับเนื้อหาและทักษะที่
ตอ้ งการวัด
ซึ่งกระบวนการเหล่าน้ีได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่าง ๆ ข้างต้น เพื่อให้นักเรียนมี
ความรูค้ วามสามารถตามตัวชี้วัดตอ่ ไปนี้
ตัวชี้วัด
ค3.2 ม.4/1
ค3.2 ม.4/2
รวมท้ังหมด 2 ตัวช้วี ัด
หลกั สตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 216
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค31202 กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4
ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 80 ชัว่ โมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต
ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝกึ การแก้ปญั หาในสาระต่อไปนี้
ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน การใช้ฟังก์ชันในชีวิตจริง กราฟของฟังก์ชัน การ
ดำเนินการของฟังก์ชัน ฟงั ก์ชันผกผนั
ฟังกช์ นั เอกซโ์ พแนนเซียลและฟงั ก์ชันลอการทิ ึม เลขยกกำลัง(เลขยกกำลังทม่ี เี ลขชก้ี ำลงั เป็นจำนวน
เตม็ รากที่สองในระบบจำนวนจริง รากท่ี n ในระบบจำนวนจรงิ และจำนวนจริงในรปู กรณฑ์ เลขยกกำลังทมี่ ี
เลขช้ีกำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ) ฟงั กช์ นั เอกซ์โพแนนเซียล ฟงั ก์ชันลอการทิ ึม การหาค่าลอการิทึม การเปลีย่ น
ฐานของลอการทิ ึม สมการและอสมการลอการิทมึ การประยกุ ต์ของฟงั กช์ ันเอกซ์โพเนนเชียลและฟงั กช์ นั
ลอการิทึม
เรขาคณิตวิเคราะห์ ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับเรขาคณิตวิเคราะห์(ระยะห่างระหว่างจุดสองจุด จุด
กึ่งกลางของส่วนของเส้นตรง ความชันของเส้นตรง เส้นขนาน เส้นตั้งฉาก ความสัมพันธ์ที่มีกราฟเป็นเส้นตรง
ระยะห่างระหวา่ งเส้นตรงกบั จดุ ) ภาคตัดกรวย(วงกลม วงรี พาราโบลา ไฮเพอรโ์ บลา การเล่อื นกราฟ)
โดยจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชวี ิตประจำวันท่ีใกล้ตัว ให้ผู้เรยี นได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่อื พฒั นาทกั ษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ การแก้ปัญหา การใหเ้ หตผุ ล การ
ส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการ
เรียนรู้ส่ิงต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์สามารถ
ทำงานอยา่ งเป็นระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และมคี วามเชอื่ มั่นในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใช้วธิ ีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนอ้ื หาและทกั ษะ
ที่ต้องการวดั
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่าง ๆ ข้างต้น เพื่อให้นักเรียนมี
ความรคู้ วามสามารถตามผลการเรยี นรตู้ ่อไปนี้
ผลการเรียนรู้
1. หาผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคณู การหารฟังกช์ นั หาฟังก์ชนั ประกอบและฟงั กช์ ันผกผัน
2. ใชส้ มบตั ขิ องฟงั ก์ชนั ในการแกป้ ัญหา
3. เข้าใจลักษณะกราฟของฟังกช์ นั เอก็ โพแนนเซียลและฟงั กช์ นั ลอการิทึม และนำไปใชใ้ นการแก้ปญั หา
4. แก้สมการเอกซ์โพเนนเซียลและสมการลอการิทมึ และนำไปใช้ในการแกป้ ญั หา
5. เข้าใจและใช้ความรู้เก่ียวกบั เรขาคณติ วเิ คราะห์ในการแกป้ ญั หา
รวม 5 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 217
คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพิ่มพูน รหัสวิชา ค31206 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ
ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี
รูปแบบของ วิธีการพิสูจน์ ความหมาย ข้ันตอนของวิธีการพิสูจน์ ประกอบด้วย รูปแบบการแจงกรณี
รูปแบบโดยข้อขัดแย้ง รูปแบบ การยกตัวอย่างค้าน รูปแบบว่ามีอย่างน้อยหนึ่ง และรูปแบบโดยใช้หลักอุปนัยเชิง
คณติ ศาสตร์
โดยจัดประสบการณ์ หรือสรา้ งสถานการณใ์ นชีวิตประจำวันทใี่ กล้ตัว ให้ผ้เู รยี นได้ศึกษาโดยการปฏบิ ัติจริง
ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ
การแก้ปัญหา การใหเ้ หตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตรแ์ ละนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ
กระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรยี นรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจต
คติที่ดีต่อคณิตศาสตร์สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มี
วจิ ารณญาณ และมคี วามเช่ือมั่นในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใชว้ ิธกี ารทีห่ ลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ใหส้ อดคล้องกบั เน้ือหาและทกั ษะท่ี
ตอ้ งการวัด
ซึ่งกระบวนการเหลา่ นี้ได้จดั การเรียนรผู้ า่ นสาระการเรียนรู้คณิตศาสตรต์ ่าง ๆ ขา้ งต้น เพอื่ ใหน้ ักเรียนมี
ความร้คู วามสามารถตามผลการเรยี นรู้ต่อไปน้ี
ผลการเรยี นรู้
1. พิสูจน์ข้อความรูปแบบ การแจงกรณี (Proof by Cases) ได้
2. พิสจู นข์ ้อความรูปแบบ โดยข้อขัดแย้ง (Proof by Contradiction) ได้
3. พสิ จู น์ข้อความรูปแบบ การยกตวั อย่างค้าน (Disproof by Counter Example) ได้
4. พสิ จู นข์ ้อความรปู แบบ ว่ามีอย่างนอ้ ยหนึ่ง (Proof by Existence) ได้
5. พสิ จู นข์ ้อความรูปแบบ โดยใช้หลักอุปนัยเชงิ คณติ ศาสตร์ (Mathematical Induction) ได้
รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 218
คำอธบิ ายรายวชิ า
รายวชิ าวิทยาศาสตรช์ ีวภาพ รหัสวิชา ว31101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ศึกษาความสัมพันธ์ของสภาพทางภูมิศาสตร์บนโลกกับความหลากหลายของไบโอมไบโอมชนิดตา่ ง ๆการ
เปล่ียนแปลงแทนท่ีของระบบนิเวศการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบทางกายภาพและทางชีวภาพท่ีมีผลต่อการ
เปล่ียนแปลงขนาดของประชากรสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโครงสร้างและสมบัติของ
เย่ือหมุ้ เซลลท์ ่ีสัมพนั ธ์กบั การลำเลียงสาร การเปรียบเทยี บการลำเลียงสารผ่านเยอ่ื หุม้ เซลลแ์ บบต่าง ๆการควบคุม
ดุลยภาพของน้ำและสารในเลือดโดยการทำงานของไตการควบคุมดุลยภาพของกรด-เบสของเลือดโดยการทำงาน
ของไตและปอดการควบคุมดลุ ยภาพอุณหภูมภิ ายในร่างกายโดยระบบหมุนเวยี นเลอื ด ผิวหนัง และกล้ามเนื้อโครง
ร่างการตอบสนองของร่างกายแบบไม่จำเพาะ และแบบจำเพาะต่อส่ิงแปลกปลอมโรคหรืออาการท่ีเกิดจากความ
ผดิ ปกติของระบบภมู ิคุ้มกันภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องท่ีมีสาเหตุมาจากการติดเช้ือ HIVสารอาหารท่ีพืชสังเคราะห์ได้
และการใช้ประโยชน์จากสารต่าง ๆ ท่ีพืชบางชนิดสร้างขึ้นออกแบบการทดลอง ทดลอง และอธบิ ายเกี่ยวกับปัจจัย
ภายนอกที่มีผลต่อการเจรญิ เติบโตของพืชสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นและการนำมา
ประยุกต์ใช้ทางด้านการเกษตรของพืชการตอบสนองของพืชต่อส่ิงเร้าในรูปแบบต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการดำรงชีวิต
ความสัมพันธ์ระหว่างยีน การสังเคราะห์โปรตีน และลักษณะทางพันธุกรรมการถา่ ยทอดลักษณะที่ถูกควบคุมด้วย
ยีนท่อี ยบู่ นโครโมโซมเพศ และมลั ตเิ ปิลแอลลีลการเปลี่ยนแปลงลำดับนิวคลีโอไทด์ในดีเอ็นเอต่อการแสดงลักษณะ
ของส่ิงมีชีวิตการนำมิวเทชันไปใช้ประโยชน์ผลของเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมความ
หลากหลายของส่ิงมชี ีวิต ซงึ่ เป็นผลมาจากววิ ัฒนาการ
โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มลู การสังเกต วเิ คราะห์
เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภิปรายและสรปุ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ มี
ทักษะปฏบิ ัติการทางวทิ ยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสอื่ สาร สามารถส่ือสารส่งิ ท่เี รียนรู้และนำความรูไ้ ปใช้ในชวี ิตของตนเอง มี
จิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
รหัสตวั ชี้วดั
ว 1.1 ม 4/1-4/-4/4 , ว 1.2 ม 4/1-4/-4/12, ว 1.3 ม 4/1-4/-4/6, ว 4.1ม.4/1 , ว 4.2 ม.4/1
รวมทั้งหมด 24 ตัวชวี้ ัด
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 219
คำอธบิ ายรายวิชา
รายวิชาวิทยาการคำนวณ รหัสวิชา ว31104 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคำนวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบการคิด
เชิงนามธรรม ตัวอย่างและประโยชน์ของแนวคิดเชิงคำนวณเพ่ือแก้ปัญหาในชีวติ ประจำวันประยุกต์ใช้แนวคิดเชิง
คำนวณในการออกแบบข้ันตอนวิธีสำหรับแก้ปัญหา การแก้ปญั หาด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมูลเข้า ข้อมูลออก
และเงื่อนไขของปัญหา การออกแบบข้ันตอนวิธี การทำซ้ำ การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล ตัวอย่างการออกแบบ
ขั้นตอนวิธีเพ่ือแก้ปัญหาด้วยคอมพวิ เตอร์ การศึกษาตวั อย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การกำหนดปญั หา
ศึกษา วางแผน ดำเนินงาน สรุปผลและเผยแพร่ ในการพัฒนาโครงงานท่ีมีการบูรณาการร่วมกับวิชาอ่ืนและ
เชอื่ มโยงกับชวี ิตจริง
โดยใชท้ ักษะกระบวนการปฏิบัตกิ ระบวนการกลมุ่ กระบวนการทำงานทักษะการทำงานรว่ มกันทักษะการ
แสวงหาความรู้ ทักษะการจัดการกระบวนการแกป้ ญั หา
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจหลักการทำงานมีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน
ทักษะการจัดการทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทักษะการทำงานร่วมกันและทักษะการแสวงหาความรู้ สามารถ
ดำรงชีวิตไดอ้ ย่างเหมาะสมมีคณุ ธรรมและมลี ักษณะนสิ ยั รกั การทำงาน
ตัวชีว้ ัด
ว 4.2 ม.4/1
รวมท้ังหมด 1 ตวั ช้ีวดั
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 220
คำอธิบายรายวชิ า
รายวชิ าวิทยาศาสตรก์ ายภาพ (ฟิสิกส)์ รหสั วิชา ว31102 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง การเคลื่อนที่ของวัตถุ ความเร็ว ความเร่ง ปริมาณเวกเตอร์ แรง แรงลัพธ์
แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ มวล แรงปฏิกิริยา การเคล่ือนท่ีแนวตรง การเคลื่อนท่ีแนวโค้ง การเคลื่อนที่แบบส่ัน
สนามโน้มถ่วง แรงโนม้ ถ่วง แรงดงึ ดดู ของโลกท่ีกระทำต่อวัตถุ กระแสไฟฟ้า สนามแม่เหลก็ ไฟฟา้ การเคล่ือนท่ี
ของกระแสไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก กฎมือขวา นิวเคลียส แรงยึดเหน่ียว อนุภาคบีต้าของธาตุ กัมมันตรังสี ฟิช
ชัน ฟิวชัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ การสะท้อน การหักเห การเล้ียวเบน ความถ่ี การสั่นพ้อง เสียงสูง เสียงต่ำ
การเกิดบีต ปรากฎการณ์ดอปเพลอร์ คล่ืนเสียง การส่ันพ้องเสียง อัลตร้าซาวด์ แสงสี การผสมแสงสี แสงสี
ปฐมภูมิ และแสงขาว
โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การเขียนข้อมูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษท่ี 21 เพื่อให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
ตวั ช้ีวัด
ว 2.2 ม.4/1-10
ว 2.3 ม.4/1-12
ว 4.1 ม.4/5
รวมท้ังหมด 23 ตัวชี้วดั
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 221
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รายวชิ าฟิสิกส์ รหัสวชิ า ว31201 กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต
ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา การวัดปริมาณทางฟิสิกส์ การแปล
ความหมายจากกราฟเส้นตรง ปริมาณทางกายภาพ การใช้หน่วยในระบบเอสไอ(SI) ปริมาณสเกลาร์ ปริมาณ
เวกเตอร์ การกระจัด ความเร็ว ความเร่ง การเคล่ือนที่ในแนวเส้นตรง กฎการเคล่ือนที่ของนิวตัน แรงดึงดูด
ระหว่างมวล แรงเสยี ดทาน การหาเวกเตอร์ลัพธ์ สมดุลกลของวตั ถุ โมเมนต์ แรงคคู่ วบ แรงสามแรง
โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การเขยี นข้อมูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษที่ 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. สืบคน้ และอธิบายการค้นหาความรูท้ างฟสิ ิกส์ ประวตั ิความเป็นมา รวมท้งั พฒั นาการของหลักการและ
แนวคิดทางฟสิ กิ ส์ท่ีมผี ลต่อ การแสวงหาความรู้ใหมแ่ ละการพฒั นาเทคโนโลยี
2. วดั และรายงานผลการวัดปรมิ าณทางฟิสิกส์ได้ถูกต้องเหมาะสม โดยนำความคลาดเคลอ่ื นในการวดั มา
พจิ ารณาในการนำเสนอผล รวมท้งั แสดงผลการทดลองในรูปของกราฟ วิเคราะห์และแปลความหมายจากกราฟ
เสน้ ตรง
3. ทดลอง และอธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่างตำแหน่ง การกระจัด ความเรว็ และความเร่งของการ
เคลือ่ นท่ีของวตั ถใุ นแนวตรงท่ีมีความเร่งคงตัวจากกราฟและสมการ รวมท้ังทดลองหาคา่ ความเร่งโน้มถ่วงของโลก
และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
4. ทดลอง และอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงที่ทำมมุ ต่อกนั
5. เขยี นแผนภาพของแรงทีก่ ระทำต่อวัตถุอสิ ระ ทดลอง และอธบิ ายกฎการเคล่ือนทข่ี องนิวตนั และการใช้
กฎการเคลื่อนที่ของนวิ ตันกบั สภาพการเคล่ือนทีข่ องวตั ถุ รวมท้งั คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วข้อง
6. อธบิ ายกฎความโน้มถว่ งสากลและผลของสนามโนม้ ถว่ งทที่ ำให้วัตถุมนี ้ำหนกั รวมทั้งคำนวณปริมาณ
ตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง
7. วเิ คราะห์ อธบิ าย และคำนวณแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผสั ของวตั ถุคู่หน่ึง ๆ ในกรณีทว่ี ัตถุหยดุ นิ่ง
และวัตถุเคล่ือนท่ี รวมท้ังทดลองหาสมั ประสิทธ์ิความเสียดทานระหวา่ งผิวสัมผัสของวตั ถุคหู่ นึง่ ๆ และนำความรู้
เรื่องแรงเสยี ดทานไปใช้ในชีวติ ประจำวนั
8. อธบิ ายสมดลุ กลของวัตถุ โมเมนต์ และผลรวมของโมเมนต์ทีม่ ตี ่อการหมนุ แรงคคู่ วบและผลของแรงคู่
ควบท่ีมตี ่อสมดลุ ของวตั ถุ เขียนแผนภาพของแรงท่ีกระทำต่อวตั ถอุ ิสระเม่ือวตั ถุอย่ใู นสมดุลกล และคำนวณ
ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง รวมทง้ั ทดลองและอธบิ ายสมดุลของแรงสามแรง
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 222
9. อธิบาย และคำนวณกฎการเคลือ่ นท่ีของนิวตนั และการใชก้ ฎการเคล่อื นท่ีของนวิ ตนั กับสภาพการ
เคลือ่ นที่ของวตั ถแุ ละปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง
รวมทง้ั หมด 9 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 223
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
รายวชิ าเคมี รหัสวิชา ว31221 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4
ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต
อธิบายข้อปฏิบัติเบื้องต้น และปฏิบัติตนท่ีแสดงถึงความตระหนักในการทำปฏิบัติการเคมีเพื่อให้มีความ
ปลอดภัยท้ังต่อตนเอง ผู้อ่ืนและสิ่งแวดล้อม และเสนอแนวทางแก้ไขเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เลือกและใช้อุปกรณ์หรือ
เคร่ืองมือในการทำปฏิบัติการ และวัดปริมาณต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม นำเสนอแผนการทดลอง ทดลองและเขียน
รายงานการทดลอง ระบุหน่วยวัดปริมาณต่างๆ ของสารและเปล่ียนหน่วยวัดให้เป็นหน่วยในระบบเอสไอด้วยการ
ใชแ้ ฟกเตอร์เปลีย่ นหน่วย สบื ค้นข้อมลู สมมตฐิ าน การทดลอง หรือผลการทดลองท่ีเปน็ ประจักษ์พยานในการเสนอ
แบบจำลองอะตอมของนักวิทยาศาสตร์และอธิบายวิวัฒนาการของแบบจำลองอะตอม เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์
ของธาตุ และระบุจำนวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอมจากสัญลักษณ์นิวเคลียร์ รวมท้ังบอก
ความหมายของไอโซโทป อธิบาย และเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักและระดับพลังงานย่อย
เมื่อทราบเลขอะตอมของธาตุ ระบุหมู่ คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ ของธาตุเรพรีเซนเททีฟและ
ธาตุแทรนซิชันในตารางธาตุ วิเคราะห์ และบอกแนวโน้มสมบัติของธาตุเรพรีเซนเททีฟตามหมู่และตามคาบ บอก
สมบตั ขิ องธาตโุ ลหะ แทรนซชิ ัน และเปรียบเทียบสมบัตกิ บั ธาตโุ ลหะในกลมุ่ ธาตุเรพรเี ซนเททีฟ อธิบายสมบตั ิ และ
คำนวณคร่ึงชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี สืบค้นข้อมูล และยกตัวอย่างการนำธาตุมาใช้ประโยชน์ รวมท้ัง
ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดล้อม อธิบายการเกิดไอออนและการเกิดพันธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรือ
สัญลักษณ์แบบจุดของลวิ อิส เขยี นสูตร และเรียกช่ือสารประกอบไอออนกิ คำนวณพลงั งานท่เี ก่ียวข้องกบั ปฏิกิริยา
การเกิดสารประกอบไอออนิกจาก วัฏจักรบอร์น-ฮาเบอร์ อธิบายสมบัติของสารประกอบไอออนิก เขียนสมการ
ไอออนิกและสมการไอออนิกสุทธิของปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก อธิบายการเกิดพันธะโคเวเลนต์แบบ
พันธะเด่ียว พันธะคู่ และพันธะสาม ด้วยโครงสร้างลิวอิส เขียนสูตร และเรียกชื่อสารโคเวเลนต์ วิเคราะห์ และ
เปรียบเทียบความยาวพันธะ และพลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์ รวมท้ังคำนวณพลังงานที่เก่ียวข้องกับปฏิกิริยา
ของสารโคเวเลนต์จากพลังงานพันธะคาดคะเนรูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ โดยใชท้ ฤษฎีการผลักระหวา่ งคอู่ ิเล็กตรอน
ในวงเวเลนซ์และระบุสภาพขั้วของโมเลกุลโคเวเลนต์ ระบุชนิดของแรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และ
เปรียบเทียบจุดหลอมเหลว จุดเดือด และการละลายน้ำของสารโคเวเลนต์ สืบค้นข้อมูล และอธิบายสมบัติของ
สารโคเวเลนต์โครงรา่ งตาข่ายชนิดต่างๆ อธิบายการเกิดพันธะโลหะและสมบัติของโลหะ เปรียบเทียบสมบัติบาง
ประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์
ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ ได้อยา่ งเหมาะสม
โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะการ
เรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 การสืบคน้ ขอ้ มูลและการอภิปราย เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสาร
ส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 224
ผลการเรยี นรู
1. อธิบายข้อปฏิบัติเบ้ืองต้น และปฏิบัติตนท่ีแสดงถึงความตระหนักในการทำปฏิบัติการเคมีเพื่อให้มี
ความปลอดภัยท้ัง ตอ่ ตนเอง ผ้อู ่นื และสง่ิ แวดลอ้ ม และเสนอแนวทางแกไ้ ขเมือ่ เกิดอบุ ตั เิ หตุได้
2. อธิบายการเลือกใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือในการทำปฏิบัติการ และวัดปริมาณต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
ได้
3. ระบุหน่วยวัดปริมาณต่างๆ ของสาร และเปล่ียนหน่วยวัดให้เป็นหน่วยในระบบเอสไอด้วยการใช้แฟก
เตอร์เปลย่ี นหน่วยได้
4. นำเสนอแผนการทดลอง ทดลองและเขียนรายงานการทดลองได้
5. สืบค้นข้อมูลสมมติฐาน การทดลอง หรือผลการทดลองท่ีเป็นประจักษ์พยานในการเสนอแบบจำลอง
อะตอมของนกั วิทยาศาสตร์และอธบิ ายววิ ฒั นาการของแบบจำลองอะตอมได้
6. เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ และระบุจำนวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอมจาก
สัญลกั ษณน์ ิวเคลยี ร์ไดร้ วมท้งั บอกความหมายของไอโซโทปได้
7. อธิบาย และเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลัก และระดับพลังงานย่อยเม่ือทราบเลข
อะตอมของธาตุได้
8. ระบุหมู่ คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ ของธาตุเรพรีเซนเททีฟ และธาตุแทรนซิชันใน
ตารางธาตไุ ด้
9. วิเคราะห์ และบอกแนวโน้มสมบตั ขิ องธาตุเรพรีเซนเททฟี ตามหมู่ และตามคาบได้
10. บอกสมบตั ิของธาตโุ ลหะแทรนซชิ นั และเปรียบเทียบสมบัตกิ บั ธาตุโลหะในกลมุ่ ธาตเุ รพรีเซนเททฟี
11. อธิบายสมบตั ิ และคำนวณครง่ึ ชวี ิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี
12. สืบค้นข้อมูล และยกตัวอยา่ งการนำธาตุมาใช้ประโยชน์ รวมท้ังผลกระทบตอ่ ส่ิงมชี ีวิตและส่งิ แวดลอ้ ม
ได้
13. อธิบายการเกิดไอออนและการเกิดพันธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรือสัญลักษณ์แบบจุดของลิวอิส
ได้
14. เขยี นสตู ร และเรยี กชื่อสารประกอบไอออนิกได้
15. คำนวณพลังงานทเ่ี ก่ยี วข้องกบั ปฏิกริ ิยาการเกดิ สารประกอบไอออนิกจากวฏั จกั รบอรน์ -ฮาเบอรไ์ ด้
16. อธิบายสมบตั ขิ องสารประกอบไอออนกิ ได้
17. เขยี นสมการไอออนกิ และสมการไอออนิกสทุ ธิของปฏกิ ิรยิ าของสารประกอบไอออนิกได้
18. อธบิ ายการเกดิ พนั ธะโคเวเลนตแ์ บบพันธะเด่ียว พันธะคู่ และพนั ธะสาม ด้วยโครงสรา้ งลิวอิสได้
19. เขยี นสูตร และเรยี กช่อื สารโคเวเลนตไ์ ด้
20. วิเคราะห์ และเปรียบเทียบความยาวพันธะและพลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์ รวมทั้งคำนวณ
พลงั งานทเ่ี กย่ี วข้องกับปฏกิ ริ ิยาของสารโคเวเลนต์จากพลงั งานพันธะได้
21. คาดคะเนรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ โดยใช้ทฤษฎีการผลักระหว่างคู่อิเล็กตรอนในวงเวเลนซ์และระบุ
สภาพขวั้ ของโมเลกุลโคเวเลนตไ์ ด้
หลกั สูตรโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 225
22. ระบุชนิดของแรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และเปรียบเทียบจุดหลอมเหลว จุดเดือด และ
การละลายน้ำของสารโคเวเลนตไ์ ด้
23. สืบคน้ ข้อมลู และอธิบายสมบัติของสารโคเวเลนต์โครงรา่ งตาขา่ ยชนดิ ต่างๆได้
24. อธบิ ายการเกดิ พนั ธะโลหะและสมบตั ิของโลหะได้
25. เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ โลหะ และสืบค้นข้อมูล
นำเสนอตัวอยา่ งการใช้ประโยชน์ของสารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนต์ และโลหะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
รวมท้ังหมด 25 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 226
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
รายวิชาชีววิทยา รหสั วชิ า ว31241 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรยี น 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศกึ ษาเก่ียวกับธรรมชาติของสิ่งมชี ีวติ ลักษณะเฉพาะของส่ิงมีชีวิต แขนงวิชาทเี่ ก่ียวข้องกับชวี วิทยาและ
การใช้ความร้ทู างชวี วิทยาทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ชวี วิทยากับการดำรงชีวิตของสิ่งมีชวี ติ ความ
ตระหนักในเรื่องของชีวจริยธรรม การศึกษาชีววิทยาโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังการศึกษาวิธีการ
ทำงานของนักวทิ ยาศาสตร์ และการนำความรู้เกี่ยวกบั ชีววิทยามาประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวัน การทำกจิ กรรมสะ
เตม็ ศึกษาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมเพ่ือแก้ปญั หาในชีวิตจริง ศกึ ษาเคมที ีเ่ ปน็ พื้นฐานของส่ิงมชี วี ิต
โครงสร้างและหน้าท่ีของสารต่าง ๆ ท่ีเป็นองค์ประกอบในเซลล์ของส่ิงมีชีวิต และปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของ
ส่ิงมีชีวิต ศึกษาส่วนประกอบของกล้องจุลทรรศน์ใช้แสง หลักการทำงาน วิธีการใช้ รวมทั้งการดูแลและเก็บ
รักษา ศึกษาโครงสร้างและหน้าที่ของส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาซึมและนิวเคลียส การลำเลียงสารเข้าและ
ออกจากเซลล์ การหายใจระดับเซลล์ซ่ึงเป็นกระบวนการท่ีเซลล์สร้างพลังงานจากการสลายสารอาหารสำหรับ
นำไปใชใ้ นกิจกรรมต่าง ๆ ของเซลล์ และการแบง่ เซลล์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี
ทักษะปฏบิ ัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ดา้ นการ
คิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต
วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม
ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายและสรุปสมบตั ิทสี่ ำคัญของส่ิงมีชีวิต และความสมั พนั ธข์ องการจัดระบบในส่ิงมีชวี ติ ท่ที ำให้
ส่ิงมชี ีวิตดำรงชีวติ อยูไ่ ด้
2. อภิปรายและบอกความสำคญั ของการระบปุ ัญหา ความสมั พันธร์ ะหว่างปญั หา สมมตฐิ าน และวิธกี าร
ตรวจสอบสมมติฐาน รวมทัง้ ออกแบบการทดลองเพ่ือตรวจสอบสมมตฐิ าน
3. สบื ค้นข้อมลู อธบิ ายเก่ียวกบั สมบัติของนำ้ และบอกความสำคญั ของนำ้ ที่มตี ่อส่ิงมีชวี ิตและยกตวั อย่าง
ธาตชุ นิดตา่ ง ๆ ท่ีมีความสำคัญตอ่ ร่างกายสิ่งมชี วี ิต
4. สบื ค้นข้อมลู อธบิ ายโครงสรา้ งของคาร์โบไฮเดรต ระบุกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต รวมท้งั ความสำคัญของ
คาร์โบไฮเดรตท่มี ตี ่อส่งิ มีชวี ิต
5. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายโครงสรา้ งของโปรตนี และความสำคัญของโปรตนี ท่ีมตี ่อสิง่ มีชีวิต
6. สบื ค้นข้อมูล อธบิ ายโครงสรา้ งของลิพิดและความสำคญั ของลิพิดที่มีต่อส่ิงมชี ีวติ
7. อธิบายโครงสรา้ งของกรดนิวคลอิ กิ และระบชุ นิดของกรดนวิ คลอิ ิก และความสำคัญของกรด
นวิ คลิอิกท่ีมตี ่อสง่ิ มีชวี ติ
8. สบื ค้นขอ้ มลู และอธิบายปฏิกิรยิ าเคมีท่เี กดิ ขึ้นในสิ่งมีชวี ติ
หลกั สตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 227
9. อธิบายการทำงานของเอนไซม์ในการเร่งปฏิกริ ยิ าเคมีในสงิ่ มีชวี ติ และระบุปจั จยั ที่มผี ลต่อการ
ทำงานของเอนไซม์
10. บอกวิธกี าร และเตรยี มตวั อย่างสิ่งมชี ีวิตเพ่อื ศกึ ษาภายใต้กล้องจลุ ทรรศน์ใช้แสงวดั ขนาด
โดยประมาณ และวาดภาพท่ีปรากฏภายใต้กลอ้ ง บอกวิธีการใช้ และการดูแลรักษากลอ้ งจุลทรรศนใ์ ช้แสงทถี่ ูกต้อง
11. อธบิ ายโครงสรา้ งและหน้าท่ีของสว่ นทหี่ อ่ หุ้มเซลล์ของเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์
12. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ าย และระบุชนดิ และหน้าที่ของออร์แกเนลล์
13. อธิบายโครงสรา้ งและหน้าท่ขี องนวิ เคลียส
14. อธบิ าย และเปรยี บเทยี บการแพร่ ออสโมซิส การแพรแ่ บบฟาซิลเิ ทต และแอกทีฟทรานสปอรต์
15. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ ายและเขียนแผนภาพ การลำเลียงสารโมเลกุลใหญอ่ อกจากเซลล์ ดว้ ย
กระบวนการเอกโซไซโทซิสและการลำเลียงสารโมเลกุลใหญเ่ ขา้ สู่เซลล์ด้วยกระบวนการ เอนโดไซโทซสิ
16. สังเกตการแบง่ นิวเคลยี สแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิสจากตวั อย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์ พร้อมท้งั
อธิบายและเปรียบเทยี บการแบ่งนวิ เคลียสแบบไมโทซสิ และแบบไมโอซสิ
17. อธบิ าย เปรยี บเทียบ และสรุปขน้ั ตอนการหายใจระดับเซลล์ในภาวะท่มี ีออกซเิ จนเพียงพอ และภาวะ
ทมี่ อี อกซิเจนไมเ่ พยี งพอ
รวมทั้งหมด 17 ผลการเรยี นรู้
หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 228
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวชิ า การสรา้ งและตกแต่งภาพ รหสั วิชา ว31275 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ
ศึกษาพื้นฐานงานออกแบบ ความหมายของการออกแบบกราฟิก วิธีและกระบวนคิดสร้างสรรค์ ในการ
ออกแบบ การออกแบบกราฟิกที่เป็นการส่ือสารผ่านภาพ โดยเน้นหลักการพื้นฐานทฤษฎี การออกแบบ ทฤษฎี
สุนทรียภาพทางศิลปะ ทฤษฎีสี หลักการจัดวางองค์ประกอบในงานออกแบบ การจัดรูปแบบตัวอักษร การฝึกใช้
ความคิดและจินตนาการในการแก้ไขปัญหาทางการส่ือสาร ทฤษฎีการสร้างสารสนเทศทางกราฟิก การออกแบบ
สารสนเทศและทำให้เห็นภาพเชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบดิจิทัล ฝึกปฏิบัติการออกแบบในรูปแบบดิจิทัลกราฟิกด้วย
โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป เพ่ือการประยุกต์ใช้ในการออกแบบงานส่ือสารสาขาต่าง ๆ เช่น ตัวอักษร
สอ่ื สงิ่ พมิ พ์ อินฟอร์เมช่นั ดไี ซน์ อนิ เตอร์แอค็ ทีฟกราฟิก เว็บไซต์ แอนเิ มชัน่ มลั ตมิ เี ดีย
เห็นคุณค่าในการใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนรู้ การส่ือสาร การใช้เทคโนโลยีอย่าง
ชาญฉลาดเพ่ือใช้ในงานธุรกิจ รักและภาคภูมิใจในถิ่นของตนเอง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย
ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มนั่ ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทยและ มจี ิตสาธารณะ
ผลการเรียนรู้
1. นักเรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั ความหมาย และการนำ Infographic ไปใช้งาน
2. นักเรยี นมที กั ษะในการใชโ้ ปรแกรมกราฟิกสำเร็จรปู ในการทำงานออกแบบ สรา้ ง Infographic
3. นกั เรยี นมีทกั ษะการออกแบบ Infographic ดว้ ยโปรแกรมออนไลน์
4. สามารถนำเสนอผลงาน นำมาประยุกต์ใชง้ านไดอ้ ย่างเหมาะสม และเห็นคุณค่าในการเรยี นรู้
คอมพวิ เตอรเ์ พื่องานออกแบบ
รวมทั้งหมด 4 ผลการเรียนรู้
หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 229
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
รายวิชา คณิตศาสตรค์ อมพิวเตอร์ รหัสวิชา ว31271 กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับระบบจำนวน ตรรกศาสตร์และการพิสูจน์ เซต ความสำพันธ์และฟังก์ชัน
การเวียนบังเกิด กราฟต้นไม้ และการนับ พีชคณิตเส้นตรงและทฤษฎีเมตริกซ์ คอมพิวเตอร์กับเลขฐาน ตรรกะ
กับคอมพิวเตอร์ และหลักการคำนวณของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
เพื่อให้รู้หลักการเกี่ยวกับระบบจำนวน ตรรกศาสตร์และการพิสูจน์ เซต ความสำพันธ์และฟังก์ชัน
การเวียนบังเกิด กราฟต้นไม้ และการนับ พีชคณิตเส้นตรงและทฤษฎีเมตริกซ์ คอมพิวเตอร์กับเลขฐาน
ตรรกะกับคอมพิวเตอร์ และหลักการคำนวณของเครือ่ งคอมพิวเตอร์
ผลการเรยี นรู้
1. รหู้ ลกั การเกยี่ วกับระบบจำนวน ตรรกศาสตร์และการพสิ จู น์ เซต ความสมั พันธแ์ ละฟงั กช์ นั พีชคณิต
บูลนี พชี คณิตเสน้ ตรงและทฤษฎีเมตรกิ ซ์
2. เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหวา่ งคณิตศาสตรก์ ับการทำงานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์
3. มที ักษะในการคำนวณทางคณติ ศาสตร์คอมพวิ เตอร์
4. คำนวณเลขฐาน พีชคณติ บูลีน พีชคณิตเส้นตรง ทฤษฎเี มทริกซ์ได้
5. อธิบายความสมั พนั ธ์ระหว่างคณติ ศาสตร์คอมพวิ เตอร์กับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 230
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวชิ า คอมพิวเตอร์กราฟิก รหัสวิชา ว31272 กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ศึกษาความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก หลักการ วิธีการออกแบบกราฟิก ซอฟต์แวร์ด้าน
กราฟิก ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับงานคอมพิวเตอร์กราฟิก การใช้งานซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ใช้เคร่ืองมือและ
อปุ กรณ์ต่าง ๆ รวมถงึ คำส่ังท่ีสำคญั ในการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิก ในโปรแกรมกราฟิกได้อย่างชำนาญ การ
นำภาพจากแหล่งภาพต่างๆ มาสร้างสรรค์งานกราฟิกให้มีจินตนาการตามความคิดริเร่ิม ทั้งยังศึกษาหลักการ
ออกแบบเทคนิคการใช้โปรแกรมการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกได้จากเว็บไซต์ต่างๆ เพ่ือนำมาประยุกต์ใช้ใน
การสร้างสรรค์งาน ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบคอมพวิ เตอร์กราฟกิ ดว้ ยโปรแกรมกราฟกิ
ปฏบิ ัตกิ ารสร้างภาพ ตกแตง่ ภาพ โดยใช้คำส่ังพนื้ ฐานจากโปรแกรมกราฟิก เกบ็ ภาพ แกไ้ ขภาพ ทำสำเนา
ภาพ สร้างรูปแบบตัวอักษร การพิมพ์ป้ายประกาศ การนำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จประกอบด้วยภาพ
ข้อความ ภาพเคล่ือนไหว ลีลาในการนำเสนอโดยใช้คำสั่งจากโปรแกรมประกอบกับความคิดและจินตนาการ
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิกออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานด้านกราฟิก เผยแพร่สู่
สาธารณะชนได้อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม มีความรับผิดชอบ มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีได้อย่าง
เหมาะสม มีเจตคติทีด่ ีต่อการทำงาน
ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจความเป็นมา ความหมาย และบทบาทความสำคัญของงานกราฟิกได้
2. เขา้ ใจถึงลกั ษณะของคอมพิวเตอร์ที่ใชส้ ำหรับงานกราฟิก และการนำเสนอข้อมูลได้
3. สามารถนำเสนอข้อมูลดว้ ยคอมพวิ เตอร์ได้
4. สามารถสรา้ งงานกราฟกิ ด้วยโปรแกรม Photoshop ได้
5. สามารถสร้างแนวความคิดเกี่ยวกับงานกราฟิกได้
รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 231
คำอธิบายรายวชิ า
รายวชิ าวิทยาศาสตร์กายภาพ (ฟิสกิ ส)์ รหัสวิชา ว31102 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ
ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง การเคล่ือนท่ีของวัตถุ ความเร็ว ความเร่ง ปริมาณเวกเตอร์ แรง แรงลัพธ์
แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ มวล แรงปฏิกิริยา การเคล่ือนที่แนวตรง การเคลื่อนท่ีแนวโค้ง การเคล่ือนที่แบบสั่น
สนามโน้มถ่วง แรงโน้มถ่วง แรงดงึ ดดู ของโลกที่กระทำตอ่ วัตถุ กระแสไฟฟ้า สนามแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า การเคล่ือนท่ี
ของกระแสไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก กฎมือขวา นิวเคลียส แรงยึดเหนี่ยว อนุภาคบีต้าของธาตุ กัมมันตรังสี ฟิช
ชัน ฟิวชัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ การสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบน ความถ่ี การส่ันพ้อง เสียงสูง เสียงต่ำ
การเกิดบีต ปรากฎการณ์ดอปเพลอร์ คล่ืนเสียง การสั่นพ้องเสียง อัลตร้าซาวด์ แสงสี การผสมแสงสี แสงสี
ปฐมภูมิ และแสงขาว
โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การเขียนขอ้ มูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม
ตวั ชี้วัด
ว 2.2 ม.4/1-10
ว 2.3 ม.4/1-12
ว 4.1 ม.4/5
รวมท้ังหมด 23 ตัวชี้วดั
หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 232
คำอธิบายรายวิชา
รายวชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วิชา ว31103 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์กับศาสตร์อ่ืนโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์
รวมทั้งประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา
เทคโนโลยี ศึกษาการระบุปัญหาหรือความต้องการท่ีมีผลกระทบต่อสังคม รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดท่ี
เกี่ยวข้องกับปัญหาท่ีมีความซับซ้อนเพื่อสังเคราะห์วิธีการ เทคนิคในการแก้ปัญหา โดยคำนึงถึงความถูกต้องด้าน
ทรัพย์สินทางปัญญา ศึกษาการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ี
จำเป็นภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรท่ีมีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อ่ืนเข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการที่
หลากหลาย โดยใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบ วางแผนข้ันตอนการทำงานและดำเนินการแก้ปัญหา การ
ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบเง่ือนไข หาแนวทาง
การปรบั ปรุงแก้ไข พร้อมทั้งเสนอแนวทางการพัฒนาต่อยอด ใช้ความร้แู ละทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ
กลไกไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยที ี่ซับซ้อนในการแกป้ ัญหาหรือพฒั นางานได้อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม และ
ปลอดภัย
โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning) และการเรียนรู้แบบ
ใช้โครงงานเป็นฐาน (Project – based Learning) เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์
การแก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ และนำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงาน
เพื่อให้เกิดทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการวิเคราะห์ปัญหา นำไปสู่การสรา้ งต้นแบบ ตลอดจน
สามารถนำกระบวนการเทคโนโลยี สร้างเทคโนโลยี วิธีการ เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการดำรงชีวิต รวมทั้งคำนึงถึง
ทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ
สังคม และการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและ
การจัดการทักษะในการส่ือสาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม
จรยิ ธรรม และคา่ นิยมในการใชว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์
ตัวชีว้ ัด
ว. 4.1 ม.4/1 ม.4/2 ม.4/3 ม.4/4 ม.4/5
รวมทั้งหมด 5 ตวั ช้ีวัด
หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 233
คำอธิบายรายวชิ า
รายวชิ าวิทยาศาสตร์ชีวภาพ รหสั วิชา ว31101 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรยี น 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศึกษาความสัมพันธ์ของสภาพทางภูมศิ าสตรบ์ นโลกกับความหลากหลายของไบโอมไบโอมชนิดตา่ ง ๆการ
เปล่ียนแปลงแทนที่ของระบบนิเวศการเปล่ียนแปลงขององค์ประกอบทางกายภาพและทางชีวภาพท่ีมีผลต่อการ
เปล่ียนแปลงขนาดของประชากรส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโครงสร้างและสมบัติของ
เยอื่ หมุ้ เซลลท์ ี่สมั พันธก์ ับการลำเลียงสาร การเปรียบเทียบการลำเลยี งสารผา่ นเยื่อหมุ้ เซลล์แบบต่าง ๆการควบคุม
ดุลยภาพของน้ำและสารในเลือดโดยการทำงานของไตการควบคุมดุลยภาพของกรด-เบสของเลือดโดยการทำงาน
ของไตและปอดการควบคมุ ดลุ ยภาพอุณหภูมภิ ายในร่างกายโดยระบบหมุนเวยี นเลือด ผิวหนัง และกล้ามเน้ือโครง
ร่างการตอบสนองของร่างกายแบบไม่จำเพาะ และแบบจำเพาะต่อสิ่งแปลกปลอมโรคหรืออาการท่ีเกิดจากความ
ผดิ ปกติของระบบภูมิคุ้มกันภาวะภูมิคุ้มกนั บกพร่องท่ีมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ HIVสารอาหารที่พืชสังเคราะห์ได้
และการใชป้ ระโยชน์จากสารตา่ ง ๆ ท่พี ืชบางชนิดสร้างข้ึนออกแบบการทดลอง ทดลอง และอธบิ ายเกี่ยวกบั ปัจจัย
ภายนอกท่ีมีผลต่อการเจรญิ เติบโตของพืชสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นและการนำมา
ประยุกต์ใช้ทางด้านการเกษตรของพืชการตอบสนองของพืชต่อสิ่งเร้าในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีผลต่อการดำรงชีวิต
ความสัมพันธร์ ะหว่างยีน การสังเคราะห์โปรตีน และลักษณะทางพันธุกรรมการถา่ ยทอดลักษณะที่ถกู ควบคุมด้วย
ยนี ท่อี ยู่บนโครโมโซมเพศ และมัลติเปิลแอลลลี การเปลี่ยนแปลงลำดับนิวคลโี อไทด์ในดีเอ็นเอต่อการแสดงลักษณะ
ของสิ่งมีชีวิตการนำมิวเทชันไปใช้ประโยชน์ผลของเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอที่มีต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อมความ
หลากหลายของส่งิ มชี ีวิต ซงึ่ เป็นผลมาจากววิ ฒั นาการ
โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสบื ค้นข้อมูล การสงั เกต วิเคราะห์
เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ มี
ทกั ษะปฏิบตั ิการทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทัง้ ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
ด้านการคดิ และการแก้ปัญหา ดา้ นการสือ่ สาร สามารถส่ือสารสิ่งท่เี รยี นรู้และนำความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ของตนเอง มี
จิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม
รหสั ตวั ช้ีวัด
ว 1.1 ม 4/1-4/-4/4 , ว 1.2 ม 4/1-4/-4/12, ว 1.3 ม 4/1-4/-4/6, ว 4.1ม.4/1 , ว 4.2 ม.4/1
รวมทั้งหมด 24 ตัวชีว้ ัด
หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 234
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม
รายวชิ าฟสิ กิ ส์ รหสั วชิ า ว31202 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ
ศกึ ษาวเิ คราะห์เกี่ยวกับแรง งาน กำลงั พลังงาน พลงั งานจลน์ พลังงานศักย์โน้มถ่วง พลังงานศักย์ยืดหยุ่น
พลงั งานกล กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล เครอื่ งกล โมเมนตัมของวัตถุ การดล
แรงดล การชนกันของวัตถุในหน่ึงมิติ การชนแบบยืดหยุ่น การชนแบบไม่ยืดหยุ่น กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การ
เคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์ การเคลือ่ นที่แบบวงกลม อัตราเรว็ เชงิ เสน้ อัตราเร็วเชิงมุม
โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การเขยี นขอ้ มูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มจี ติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. วเิ คราะห์ และคำนวณงานของแรงคงตัว จากสมการและพื้นทีใ่ ตก้ ราฟความสัมพนั ธ์ระหว่างแรงกับ
ตำแหนง่ รวมท้งั อธบิ าย และคำนวณกำลังเฉลยี่
2. อธิบายและคำนวณพลงั งานจลน์ พลงั งานศกั ย์ พลังงานกล ทดลองหาความสัมพันธ์ระหวา่ งงานกบั
พลังงานจลน์ความสมั พนั ธ์ระหว่างงานกบั พลังงานศักย์โนม้ ถว่ งความสัมพนั ธ์ระหว่างขนาดของแรงทใ่ี ชด้ งึ สปรงิ กับ
ระยะทสี่ ปริงยืดออกและความสมั พันธ์ระหว่างงานกับพลงั งานศักยย์ ืดหย่นุ รวมทัง้ อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่าง
งานของแรงลพั ธแ์ ละพลงั งานจลน์ และคำนวณงานทเ่ี กิดข้ึนจากแรงลพั ธ์
3. อธิบายกฎการอนุรักษ์พลังงานกล รวมท้งั วเิ คราะห์ และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่เี กีย่ วข้องกับการ
เคลอื่ นท่ีของวตั ถใุ นสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยใช้กฎการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานกล
4. อธิบายการทำงาน ประสทิ ธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลของเครื่องกลอยา่ งงา่ ยบางชนิด โดยใชค้ วามรู้
เรอ่ื งงานและสมดลุ กล รวมทง้ั คำนวณประสทิ ธภิ าพและการได้เปรยี บเชงิ กล
5. ทดลอง และอธบิ ายการหาแรงลพั ธ์ของแรงสองแรงที่ทำมุมต่อกัน
6. ทดลอง อธิบาย และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วกับการชนของวตั ถใุ นหนงึ่ มิติ ทง้ั แบบยดื หยนุ่
ไม่ยดื หยนุ่ และการดีดตัวแยกจากกันในหน่งึ มิติซึ่งเปน็ ไปตามกฎการอนุรกั ษโ์ มเมนตมั
7. อธิบาย วิเคราะห์ และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเี่ ก่ยี วข้องกบั การเคลอื่ นที่แบบโพรเจกไทล์ และทดลอง
การเคล่ือนที่แบบโพรเจกไทล์
8. ทดลอง และอธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างแรงสู่ศนู ย์กลาง รัศมีของการเคลือ่ นท่ี อตั ราเร็วเชิงเส้น
อตั ราเร็วเชิงมุม และมวลของวัตถุ ในการเคล่ือนทแ่ี บบวงกลมในระนาบระดบั รวมทั้งคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่
เกย่ี วขอ้ ง และประยุกต์ใช้ความรูก้ ารเคลื่อนท่แี บบวงกลม ในการอธิบายการโคจรของดาวเทยี ม
หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 235
9. อธิบายสมดลุ กลของวตั ถุ โมเมนตแ์ ละผลรวมของโมเมนต์ที่มตี ่อการหมนุ แรงค่คู วบและผลของแรง
คูค่ วบทมี่ ตี ่อสมดุลของวัตถุ เขยี นแผนภาพวตั ถุอิสระเม่ือวัตถุอยใู่ นสมดลุ กล และคำนวณปรมิ าณต่างๆ ที่
เกี่ยวขอ้ ง รวมท้งั ทดลองและอธิบายสมดุลของแรงสามแรง
10. สังเกตและอธิบายสภาพการเคลื่อนที่ของวตั ถุ เม่ือแรงทีก่ ระทำต่อวตั ถุผา่ นศนู ย์กลางมวลของวตั ถุ
และผลของศูนย์ถ่วงที่มตี ่อเสถียรภาพของวัตถุ
รวมทั้งหมด 8 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 236
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวชิ าเคมี รหสั วชิ า ว31222 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศึกษาความหมายและคำนวณมวลอะตอม มวลอะตอมสัมพัทธ์ มวลอะตอมเฉล่ียของธาตุ โมล มวลต่อ
โมล มวลโมเลกุลและมวลสูตร ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนโมล อนุภาค มวลและปริมาตรของแก๊สท่ี STP
ศึกษากฎสัดส่วนคงที่ คำนวณอัตราส่วนโดยมวล อัตราส่วนโดยโมล ร้อยละโดยมวล สูตรโมเลกุลและสูตรเอมพิริ
คลั ศึกษาหน่วยความเข้มข้นและการคำนวณความเขม้ ข้นของสารละลายในหน่วยรอ้ ยละ ส่วนในลา้ นส่วน ส่วนใน
พันล้านส่วน โมลาริตี โมแลลิตี และเศษส่วนโมล ศึกษาการเตรียมสารละลายจากสารบริสุทธ์ิ และการเจือจาง
สารละลายเข้มข้น เปรียบเทียบจุดเดือดและจุดหลอมเหลวของสารบรสิ ุทธ์ิและสารละลาย ศึกษาการเขยี นและดุล
สมการเคมี อัตราส่วนโดยโมลของสารในปฏิกิริยาเคมี แปลความหมายสัญลักษณ์ในสมการเคมี คำนวณปริมาณ
ของสารในปฏิกิริยาเคมีตามกฎทรงมวล ศึกษากฎการรวมปริมาตรแก๊สของเกย์- ลูสแซก และสมมติฐานของอาโว
กาโดร คำนวณปริมาณของสารในปฏิกิริยาเคมีโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างโมล มวล ความเข้มข้น และปริมาตร
แก๊ส คำนวณปริมาณสารในปฏิกริ ิยาเคมีหลายขั้นตอน ปรมิ าณสารเมื่อมสี ารกำหนดปรมิ าณ และผลได้ร้อยละ
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ
ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและ
การแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์
จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ และคำนวณมวลอะตอมเฉลย่ี ของธาตุ มวลโมเลกุล และมวล
สตู ร
2. อธบิ ายและคำนวณปริมาณใดปรมิ าณหนึ่งจากความสัมพันธข์ องโมล จำนวนอนุภาค มวล และ
ปรมิ าตรของแก๊สที่ STP
3. คำนวณอัตราส่วนโดยมวลของธาตุองคป์ ระกอบของสารประกอบตามกฎสดั ส่วนคงท่ี
4. คำนวณสูตรอย่างง่ายและสตู รโมเลกลุ ของสาร
5. คำนวณความเข้มข้นของสารละลายในหน่วยตา่ งๆ
6. อธิบายวิธกี ารเตรยี มสารละลายให้มคี วามเขม้ ข้นในหน่วยโมลาริตี และปริมาตรของสารละลายตามที่
กำหนด
7. เปรยี บเทียบจดุ เดือดและจุดเยือกแข็งของสารละลายกบั สารบริสุทธ์ิ รวมทง้ั คำนวณจุดเดือดและจดุ
เยือกแขง็ ของสารละลาย
8. แปลความหมายของสญั ลกั ษณ์ในสมการเคมี เขยี นและดุลสมการเคมีของปฏกิ ิริยาเคมีบางชนดิ
9. คำนวณปริมาณของสารในปฏิกริ ยิ าเคมีทีเ่ ก่ียวข้องกับมวลสาร
หลกั สตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 237
10. คำนวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ริ ิยาเคมีท่เี กยี่ วข้องกบั ความเขม้ ข้นของสารละลาย
11. คำนวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมที เี่ กี่ยวข้องกับปรมิ าตรแก๊ส
12. คำนวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ริ ิยาเคมีหลายขั้นตอน
13. ระบสุ ารกำหนดปริมาณ และคำนวณปริมาณสารต่างๆ ในปฏิกิริยาเคมี
14. คำนวณผลไดร้ ้อยละของผลติ ภัณฑ์ในปฏกิ ิรยิ าเคมี
รวมทั้งหมด 14 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 238
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม
รายวิชาชีววิทยา รหัสวชิ า ว31242 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4
ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ
ศึกษาเก่ียวกับโครโมโซม และสารพันธุกรรม โครงสร้างของ DNA การจำลอง DNA การควบคุม
ลักษณะทางพันธุกรรมของ DNA มิวเทชันและการเกิดมิวเทชัน ศึกษาการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
การศึกษาพันธุกรรมของเมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม ลักษณะทางพันธุกรรมท่ีเป็นส่วนขยายของพันธุ
ศาสตร์เมนเดล การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ ยีนบนโครโมโซมเดียวกนั ศึกษาเทคโนโลยีทางดีเอน็ เอ พันธุ
วิศวกรรมและการโคลนยีน การหาขนาดของ DNA และการหาลำดับของนิวคลีโอไทด์ การประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี
ทางดีเอ็นเอและเทคโนโลยีทางดเี อ็นเอกับความปลอดภัยทางชีวภาพและชีวจริยธรรม ศึกษาเก่ียวกับวิวัฒนาการ
หลักฐานและข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต พันธุ
ศาสตร์ประชากร ปจั จัยที่ทำใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลงความถีข่ องแอลลีล และกำสปีชีส์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์
เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี
ทกั ษะปฏบิ ัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทงั้ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ในดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการ
คิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสารสามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต
วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบายสมบตั ิและหน้าทข่ี องสารพนั ธุกรรม โครงสรา้ งและองคป์ ระกอบทางเคมขี อง
DNA และสรุปการจำลอง DNA
2. อธิบายและระบุขั้นตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตนี และหนา้ ที่ของ DNA และ RNA แต่ละ
ชนดิ ในกระบวนการสังเคราะหโ์ ปรตนี
3. สบื ค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระดบั ยนี และระดับโครโมโซม สาเหตกุ ารเกดิ มิวเทชัน
รวมทง้ั ยกตัวอย่างโรคและกลุ่มอาการทเี่ ป็นผลของการเกิดมวิ เทชนั
4. สบื คน้ ข้อมูล อธิบายและสรปุ ผลการทดลองของเมนเดล
5. สรุปความสัมพนั ธ์ระหว่างสารพันธุกรรม แอลลลี โปรตนี ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม และเชือ่ มโยงกบั
ความรูเ้ ร่อื งพันธุศาสตร์ของเมนเดล
6. อธิบายและสรปุ กฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลุม่ อยา่ งอิสระ และนำกฎของเมลเดลนไ้ี ป
อธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมและใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกดิ ฟีโนไทด์และจีโนไทดแ์ บบต่าง ๆ
ของ F1 และ F2
7. สืบคน้ ข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเก่ียวกบั การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมท่ีเป็นส่วน
ขยายของพนั ธศุ าสตร์เมนเดล
หลกั สตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 239
8. สืบคน้ ขอ้ มูล วิเคราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมทม่ี ีการแปรผันไม่ต่อเนอื่ งและ
ลกั ษณะทางพันธกุ รรมที่มีการแปรผันตอ่ เนอ่ื ง
9. อธบิ ายการถ่ายทอดยนี บนโครโมโซม และยกตัวอยา่ งลักษณะทางพนั ธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนบน
ออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ
10. อธบิ ายหลักการสร้างสิง่ มชี ีวติ ดัดแปรพันธกุ รรมโดยใช้ดเี อน็ เอรคี อมบิแนนท์
11. สบื ค้นขอ้ มูล ยกตวั อยา่ ง และอภปิ รายการนำเทคโนโลยที างดีเอ็นเอไปประยกุ ต์ใชท้ ้ังในด้าน
สิ่งแวดล้อม นติ ิวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตรและอุตสาหกรรม และข้อควรคำนงึ ถึงด้านชวี จรยิ ธรรม
12. สบื ค้นขอ้ มูลและอธบิ ายเกี่ยวกับหลักฐานท่ีสนับสนุนและข้อมูลท่ใี ช้อธบิ ายการเกดิ วิวฒั นาการของ
สง่ิ มชี ีวิต
13. อธบิ ายและเปรียบเทียบแนวคิดเก่ียวกบั วิวฒั นาการของส่ิงมีชีวติ ของฌอง ลามารก์ และทฤษฎี
เกีย่ วกบั วิวัฒนาการของสิ่งมชี ีวติ ของชาลส์ ดาร์วนิ
14. ระบสุ าระสำคัญและอธบิ ายเง่ือนไขของภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยทท่ี ำให้เกดิ การ
เปล่ียนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร พร้อมท้ังคำนวณหาความถีข่ องแอลลลี และจีโนไทป์ของประชากรโดย
ใช้หลกั ของฮารด์ ี-ไวน์เบริ ์ก
15. สืบค้นขอ้ มลู อภิปราย และอธบิ ายกระบวนการเกิดสปชี ีส์ใหม่ของสิ่งมีชวี ิต
รวมท้ังหมด 15 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 240
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ
รายวิชาเทคนคิ ปฏบิ ตั กิ ารพื้นฐานเคมี รหสั วิชา ว31282 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศึกษาเกี่ยวกับการไทเทรตกรด-เบส การไทเทรตปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ การไทเทรตหาความกระด้างของน้ำ
ศึกษาเก่ยี วกบั เซลล์กลั วานกิ ส์ ปฏิกริ ิยารดี อกซ์ และการวิเคราะห์ไอออนลบไอออนบวกแบบคุณภาพ
โดยใช้กระบวนการทดลอง อธบิ ายและเขยี นสมการ อภิปราย สืบค้นข้อมูล ฝึกปฏบิ ตั ิคดิ วิเคราะห์ คิด
แก้ปญั หา คิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ เพือ่ ให้เกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ มที ักษะในการ
สืบคน้ ขอ้ มูล ทำการทดลอง วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ สร้างชนิ้ งาน ประเมนิ ผลงาน
มจี ติ สาธารณะ และเหน็ คุณค่า ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของปฏกิ ริ ยิ าเคมีท่วั ไปท่ีพบในชวี ิตประจำวนั
หรอื ศกึ ษาต่อ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ชว่ ยอนรุ กั ษด์ ูแลส่งิ แวดล้อม และสาธารณะสมบัตเิ พอื่ ประโยชน์
สว่ นรวมของประเทศชาติ มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1. หาความเข้มขน้ ของสารละลายเบสโดยไทเทรตกบั สารละลายกรดมาตรฐานได้
2. หาความเข้มขน้ ของสารละลายกรดตวั อยา่ งได้
3. ทำการไทเทรตและคำนวณปริมาณความสัมพนั ธข์ องปฏกิ ิริยารีดอกซ์ได้
4. ทำการไทเทรตหาความกระด้างของน้ำได้
5. ตอ่ เซลล์กลั วานิกและเขยี นแผนผงั ของเซลล์ชนิดตา่ งๆ ได้
6. คำนวณหาค่าศกั ย์ไฟฟา้ โดยใช้สมการของเนินสทไ์ ด้
7. ทำการทดลองศึกษาปฏกิ ริ ยิ ารีดอกซ์ระหว่างสารชนิดต่างๆ ได้
8. สงั เกตการเปลี่ยนสี ตะกอน หรอื การเกดิ ฟองแก๊สในสารละลายเพื่อใชว้ ิเคราะหห์ าชนิดของไอออนลบได้
9. วิเคราะห์ไอออนบวกทีม่ ีอยใู่ นสารละลายตวั อยา่ งด้วยการตกตะกอน และดสู ีของสารละลายทเ่ี ปลย่ี นไป
เมอ่ื ทำปฏกิ ิริยากับรเี อเจนท์บางชนิดได้
รวมท้ังหมด 9 ผลการเรียนรู้
หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 241
คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
รายวิชาการสร้างและตกแตง่ ภาพ รหสั วิชา ว31276 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต
ศึกษาความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก หลักการ วิธีการออกแบบกราฟิก ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก
ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับงานคอมพิวเตอร์กราฟิก การใช้งานซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์
ต่าง ๆ รวมถึงคำสั่งท่ีสำคัญในการออกแบบคอมพิวเตอรก์ ราฟิก ในโปรแกรมกราฟิกได้อย่างชำนาญ การนำภาพ
จากแหล่งภาพต่างๆ มาสร้างสรรค์งานกราฟิกให้มีจินตนาการตามความคิดริเร่ิม ท้ังยังศึกษาหลักการออกแบบ
เทคนิคการใช้โปรแกรมการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกได้จากเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการ
สรา้ งสรรค์งาน
ปฏบิ ัติการออกแบบคอมพิวเตอรก์ ราฟิกด้วยโปรแกรมกราฟิก ใชก้ ระบวนการ สรา้ งความรู้ ความเข้าใจ
การคิด วิเคราะห์ การฝึกทักษะและปฏิบัติงาน การแก้ปัญหา การทำงานกลุ่ม การเสริมสร้างเจตคติ และ
กระบวนการเสริมสรา้ งคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
เพ่ือให้ผู้เรียนเกิด ความตระหนักและเห็นคุณค่า มีทักษะในการสรร้างช้ินงาน และการประกอบอาชีพ
อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สร้างผลงานในการ
ดำรงชวี ิต ใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมอย่างมคี ุณค่าถูกวธิ ี
ผลการเรยี นรู้
1. บอกความหมายของกราฟิก และคอมพิวเตอร์กราฟิกได้
2. บอกประโยชน์ของคอมพวิ เตอรก์ ราฟกิ กับการประยุกตใ์ ชง้ านด้านตา่ ง ๆ ได้
3. อธบิ ายโปรแกรมสำหรบั งานกราฟิก
4 .บอกความสามารถของโปแกรม Adobe Photoshop ได้
5. สรา้ งผลงานจากโปแกรม Adobe Photoshop ได้ด้วยความประณตี รอบคอบและปลอดภัย ตระหนกั
ถึงคุณภาพของงาน และมีจริยธรรมในงานอาชีพ
รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 242
คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
รายวิชาการเขยี นโปรแกรม รหสั วิชา ว31274 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ศึกษาความรู้ความเข้าใจกระบวนการแก้ปัญหา การจำลองความคิด โครงสร้างแบบต่างๆ สำหรับการ
เขียนโปรแกรม โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี คำส่ังรับค่าและแสดงผล โครงสร้างแบบมีทางเลือก โครงสร้าง
แบบทำซำ้ และการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ตวั แปรชดุ
ใช้กระบวนการฝึกทกั ษะการเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ท่ีมหี ลักการและกระบวนการคดิ อย่าง
เป็นระบบ และรจู้ ักโครงสร้างของขอ้ มลู ในรปู แบบตา่ งๆ ทใ่ี ชท้ ำงานในระบบคอมพิวเตอร์
พัฒนาสมรรถนะความสามารถในการคิด นำเอาความรดู้ า้ นการเขียนโปรแกรมมาแก้ปญั หาได้อย่าง
เหมาะสมและมีคณุ ธรรม
ผลการเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถบอกหลกั การเบอ้ื งตน้ ของการเขียนโปรแกรมได้
2. นักเรยี นสามารถบอกลำดับการทำงานและวางแผนผังการทำงานของตนเองได้
3. นักเรียนสามารถบอกหลักการโปรแกรมแบบโครงสรา้ งได้
4. นักเรียนสามารถบอกและใช้เคร่อื งมือชดุ ตา่ งๆในการปฏบิ ตั กิ ารเขยี นโปรแกรมได้
5. นกั เรยี นสามารถสร้างโปรแกรมตามความคิดสรา้ งสรรค์ของตนเองได้
รวมท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 243
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวชิ า คอมพิวเตอร์กราฟิก รหัสวิชา ว31273 กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ
ศึกษาความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก หลักการ วิธีการออกแบบกราฟิก ซอฟต์แวร์ด้าน
กราฟิก ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับงานคอมพิวเตอร์กราฟิก การใช้งานซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ใช้เครื่องมือและ
อปุ กรณ์ต่าง ๆ รวมถึงคำส่ังท่สี ำคญั ในการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิก ในโปรแกรมกราฟิกได้อย่างชำนาญ การ
นำภาพจากแหล่งภาพต่างๆ มาสร้างสรรค์งานกราฟิกให้มีจินตนาการตามความคิดริเร่ิม ท้ังยังศึกษาหลักการ
ออกแบบเทคนิคการใช้โปรแกรมการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกได้จากเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ใน
การสร้างสรรค์งาน ปฏบิ ตั ิการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟิก
ปฏิบัตกิ ารสร้างภาพ ตกแต่งภาพ โดยใช้คำสั่งพนื้ ฐานจากโปรแกรมกราฟกิ เกบ็ ภาพ แกไ้ ขภาพ ทำสำเนา
ภาพ สร้างรูปแบบตัวอักษร การพิมพ์ป้ายประกาศ การนำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จประกอบด้วยภาพ
ข้อความ ภาพเคล่ือนไหว ลีลาในการนำเสนอโดยใช้คำสั่งจากโปรแกรมประกอบกับความคิดและจินตนาการ
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิกออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานด้านกราฟิก เผยแพร่สู่
สาธารณะชนได้อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม มีความรับผิดชอบ มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีได้อย่าง
เหมาะสม มีเจตคติทีด่ ตี อ่ การทำงาน
ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจความเป็นมา ความหมาย และบทบาทความสำคัญของงานกราฟิกได้
2. เขา้ ใจถงึ ลักษณะของคอมพิวเตอร์ท่ีใช้สำหรบั งานกราฟิก และการนำเสนอข้อมูลได้
3. สามารถนำเสนอข้อมลู ดว้ ยคอมพิวเตอร์ได้
4. สามารถสรา้ งงานกราฟกิ ด้วยโปรแกรม Photoshop ได้
5. สามารถสร้างแนวความคิดเกยี่ วกับงานกราฟิกได้
รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้