The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตร ปีการศึกษา 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kamonpat, 2022-09-16 09:30:21

หลักสูตร ปีการศึกษา 2564

หลักสูตร ปีการศึกษา 2564

หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 294

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รายวิชาภาษาอังกฤษ (ฟัง - พูด) รหสั วิชา อ31206 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะในการออกเสียง คำ วลี และประโยคได้อย่างถูกต้องตามหลักการออกเสียง
เลือกใช้และปฏิบัติตามคำส่ัง คำแนะนำ คำขอร้อง คำชี้แจง คำอธิบาย พัฒนาให้ผู้เรียนมีสมรรถนะในการฟังเพ่ือ
จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ และตีความส่ิงท่ีฟัง เพ่ือแสดงความคิดเห็น หรือความรู้สึกท่ีได้จาก
การฟงั รวมทั้งแลกเปล่ียนขอ้ มูล พูดโต้ตอบเร่ืองราวต่างๆ เกี่ยวกบั หัวข้อข่าว เหตุการณ์ ประสบการณ์ หรือข้อมูล
ท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระอ่ืนๆ โดยใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางที่เหมาะสมตามกาลเทศะ มารยาททางสังคม
และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ในสถานการณ์จำลอง และสถานการณ์จรงิ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา ตลอดจน
พูดภาษาอังกฤษเพอ่ื เผยแพร่ข้อมลู ข่าวสารของโรงเรยี น และชุมชน

ผลการเรยี นรู้
1. ใช้ภาษาตามมารยาททางสังคม เพ่ือสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและสามารถดำเนินการส่ือสาร

อย่างต่อเนือ่ งโดยใชส้ อ่ื เทคโนโลยีทมี่ อี ยใู่ นแหล่งการเรียนรู้ทงั้ ในและนอกสถานศึกษา
2. ใช้ภาษาแสดงความคิดเห็น แสดงความต้องการ เสนอความช่วยเหลือและ บริการแก่ผู้อื่น และ

วางแผนในการเรยี น โดยใชส้ ่ือเทคโนโลยีทีม่ ีอยูใ่ นแหลง่ การเรยี นรทู้ ้ังในและนอกสถานศึกษา
3. ใช้ภาษาเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย บรรยาย เปรียบเทียบ เรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวันของ

ตนเองโดยใช้ประโยชน์จากส่อื การเรยี นทางภาษาและผลจากการฝกึ ทักษะต่างๆรวมทง้ั การวางแผนในการเรียน
4. ใช้ภาษาเพ่ือแสดงความร้สู ึกของตนเก่ียวกับเรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวนั ทั้งในอดีต ปัจจบุ ัน และ

อนาคต โดยใช้ประโยชน์จากส่อื การเรยี นทางภาษาและผลจากการฝึกทกั ษะต่างๆ
5. นำเสนอขอ้ มลู เรอ่ื งราวส้นั ๆ หรอื กิจวตั รประจำวนั ประสบการณ์และเหตุการณท์ ั่วไป
6. ใชภ้ าษาอังกฤษตามสถานการณ์ต่างๆ ในสถานศึกษาและชมุ ชน ด้วยวธิ ีการและรปู แบบท่หี ลากหลาย
7. ใชภ้ าษาอังกฤษในการปฏิบตั งิ านร่วมกับผูอ้ น่ื อยา่ งมคี วามสขุ โดยร้จู กั ควบคุมตนเอง รบั ฟงั ความ

คดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ แสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างเหมาะสม

รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 295

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม

รายวิชาภาษาอังกฤษ (รอบรู้) รหสั วิชา อ31208 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำในคู่มอื การใช้งานตา่ งๆ คำอธบิ าย คำชีแ้ จง คำอธิบายคำบรรยายทฟี่ ังและอ่าน อ่าน
ออกเสียงข้อความ ข่าวประกาศ ถูกต้องตามหลักการอ่าน อธิบายและเขียนประโยค ข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อท่ี
ไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบตา่ งๆ เลือกคำและภาษามาใช้ในการสนทนาหรือ เขียนข้อมูลเก่ียวกับตนเองรวมถึงเรื่อง
ต่างๆ แสดงความตอ้ งการ ขอร้อง ตอบรับหรือปฏิเสธ อธิบาย บรรยาย เปรียบเทียบ แสดงความคิดเห็น บรรยาย
ความรู้สึก แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องและเหมาะสมท้ังน้ำเสียง กิริยาถูกต้องตาม
กาลเทศะและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและ
ขนบธรรมเนียมประเพณีของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย โดยเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรม รวมทั้งนำมาใช้ได้อย่างเหมาะ ค้นคว้าและนำเสนอข้อมูลที่เช่ือมโยงกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนๆ จาก
แหล่งเรียนรู้ต่างๆ ใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารในสถานการณ์จริงในสถานศึกษา ผู้เรียนใช้ทักษะในการส่ือสาร คิด
วเิ คราะหแ์ ละมีทกั ษะในการใชช้ ีวิต ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ซ่ือสตั ย์สจุ ริตและเรยี นรูต้ ลอดชีวติ

ผลการเรียนรู้
1. ใช้ภาษาตามมารยาททางสงั คมเพือ่ สรา้ งความสัมพนั ธร์ ะหว่างบคุ คลและสามารถดำเนินการสอื่ สาร

อย่างต่อเนือ่ งโดยใช้ส่ือเทคโนโลยที ่มี ีอยใู่ นแหลง่ การเรยี นรู้ทงั้ ในและนอกสถานศึกษา
2. ใช้ภาษาแสดงความคดิ เหน็ แสดงความต้องการเสนอความช่วยเหลือและบรกิ ารแก่ผอู้ น่ื และวางแผน

ในการเรียนโดยใชส้ ือ่ เทคโนโลยที ่ีมีอยใู่ นแหลง่ การเรียนรู้ท้งั ในและนอกสถานศึกษา
3. ใช้ภาษาเพอ่ื ขอและให้ข้อมูลอธิบายบรรยายเปรยี บเทยี บเรือ่ งราวตา่ งๆในชวี ิตประจำวันของตนเอง

โดยใช้ประโยชน์จากสื่อการเรยี นทางภาษา
4. ใช้ภาษาเพอ่ื แสดงความรู้สึกเกย่ี วกับเรอ่ื งราวตา่ งๆในชีวติ ประจำวนั ทัง้ ในอดตี ปัจจบุ นั และอนาคตโดย

ใชป้ ระโยชนจ์ ากส่ือการเรียนทางภาษาและผลจากการฝกึ ทักษะตา่ งๆ
5. นำเสนอเร่ืองราวสนั้ ๆหรือกิจวัตรประจำวันประสบการณแ์ ละเหตกุ ารณท์ วั่ ไป
6. ใชภ้ าษาองั กฤษตามสถานการณ์ต่างๆ ในสถานศึกษาและชมุ ชนดว้ ยวธิ ีการและรปู แบบที่หลากหลาย
7. ใช้ภาษาองั กฤษในการปฏบิ ตั งิ านร่วมกบั ผูอ้ ื่นอยา่ งมีความสุขโดยร้จู กั ควบคุมตนเองรับฟังความคดิ เห็น

ของผ้อู นื่ แสดงความคดิ เห็นอย่างเหมาะสม

รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 296

คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รายวชิ าภาษาจีนเบื้องตน้ รหัสวชิ า จ31202 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ศึกษาและปฏิบัติตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบาย จากส่ือท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ
การเสนอและให้ความช่วยเหลือ การตอบรับและการปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ การขอร้องและการให้ข้อมูล
เกี่ยวกับตนเอง ผู้อื่น จากสถานการณ์จริง สถานการณ์จำลอง ท้ังในห้องเรียน สถานศึกษาและชุมชน รู้ท่ีมา
อธิบาย เปรียบเทียบ ความสำคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมประเพณี เกี่ยวกับเทศกาลวันสำคัญของ
เจ้าของภาษาและของไทย การแสวงหาความรู้โดยการสืบคน้

โดยค้นคว้าข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆใช้ภาษาจีนใน
การเผยแพร่ ประชาสัมพันธข์ อ้ มูลขา่ วสารของโรงเรียน เพื่อใชเ้ ปน็ แนวทางในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่งิ ทเี่ รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ นำ
ความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน มีจติ สาธารณ จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมท่เี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้

1. สนทนาอย่างตอ่ เนอ่ื ง หรือเขียนโต้ตอบข้อมลู ขา่ วสาร เรอ่ื งใกลต้ วั ประสบการณ์ และเร่ืองทีอ่ ยู่ใน
ความสนใจของผูเ้ รียน

2. ประโยคหรือสำนวนภาษาท่ใี ช้ในการสือ่ สารระหวา่ งบุคคล เพ่ือแลกเปลย่ี นข้อมูล ข่าวสาร เช่น การ
พดู แสดงความคิดเห็น การขอความคิดเหน็ จากเพื่อน การยอมรบั และเหน็ ตา่ ง

3. บทสนทนา ประโยค หรอื ข้อความเก่ียวกับขอ้ มูลข่าวสาร ประสบการณ์ และเรอ่ื งท่อี ย่ใู นความสนใจ

ของผู้เรยี นเชน่ ดารา นักร้อง เพลง การแต่งกาย

4. ใช้คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำช้ีแจง และคำอธบิ ายในสถานการณ์ต่าง เชน่ คำขอร้องให้ชว่ ยเหลอื
คำแนะนำสถานที่ทอ่ งเทยี่ ว

5. พูดและเขียนแสดงความต้องการ ขอและเสนอใหค้ วามช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏิเสธในสถานการณ์
ตา่ ง ๆ

6. มคี วามซอื่ สัตย์สจุ ริต มีจิตสาธารณะ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน มคี วามสามารถในการ

ตดั สินใจ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั

รวมท้งั หมด 6 ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 297

คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รายวิชาสัมผสั ภาษาจีน รหัสวิชา จ31204 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต

บอกความรู้สึกของตนเองเก่ียวกับเรื่องใกล้ตัวและกิจกรรมต่าง ๆพร้อมให้เหตุผลสั้นๆ เลือกใช้ภาษา
น้ำเสียง และกิริยาท่าทางให้เหมาะสมกับบุคคล โอกาสและสถานท่ี ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของจีน บอก
ช่ือ/คำศัพท์ และตอบคำถามเก่ียวกับเทศกาล วันสำคัญ งานฉลองและชีวิตความเป็ นอยู่ของจีน บอกความ
แตกต่างระหว่างการออกเสียงตัวอักษร คำ วลี การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลำดับคำตามโครงสร้าง
ประโยคของภาษาจนี กับภาษาไทย

พูดหรือเขียนสรุปใจความสำคัญสาระ หรือหัวเร่ืองท่ีได้จากการวิเคราะห์เร่ืองหรือเหตุการณ์ และ
สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจ พูดและเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองใกล้ตัว พร้อมให้เหตุผลสั้นๆ
ประกอบ ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหล่งเรียนรู้และนำเสนอ
ด้วยการพูดหรือการเขียนใช้ภาษาส่ือสาร ในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและ
สถานศกึ ษา

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ
นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน มจี ติ สาธารณ จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมท่เี หมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. บอกความรู้สึกของตนเองเกยี่ วกับเรือ่ งใกล้ตวั และกิจกรรมต่าง ๆพรอ้ มใหเ้ หตผุ ลส้ัน ๆ เลือกใชภ้ าษา

น้ำเสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางให้เหมาะสมกับบคุ คล โอกาสและสถานท่ี ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของจีน
2. บอกชื่อ/คำศพั ท์ และตอบคำถามเก่ยี วกับเทศกาล วันสำคัญ งานฉลองและชีวิตความเปน็ อยขู่ องจีน
3. บอกความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงตวั อักษร คำ วลี การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอน และการ

ลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาจนี กบั ภาษาไทย
4. พูดหรือเขยี นสรปุ ใจความสำคญั สาระ หรอื หัวเรื่องทไี่ ดจ้ ากการวิเคราะห์เรอื่ งหรือเหตุการณ์และ

สถานการณ์ท่ีอยู่ในความสนใจ พูดและเขียนเพื่อแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองใกล้ตัว พร้อมให้เหตุผลสั้นๆ
ประกอบ

5. ค้นควา้ รวบรวมข้อมูลหรอื ข้อเทจ็ จริงทเ่ี กยี่ วกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหล่งเรยี นรู้และ
นำเสนอด้วยการพูดหรอื การเขียนใช้ภาษาส่ือสาร ในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน
และสถานศึกษา

6. มีความซอื่ สัตยส์ จุ ริต มจี ิตสาธารณะ มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน มีความสามารถในการ
ตัดสนิ ใจ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน

รวมทงั้ หมด 6 ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 298

โครงสรา้ งรายวิชา
และคำอธบิ ายรายวชิ า
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 299

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ภาคเรยี น รหัสวิชา ชอ่ื วิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
วิชา
ที่ 1.0 40 พื้นฐาน 5/1 – 5/7
1.0 40 เพม่ิ เติม 5/5 – 5/7
1/2565 ท32101 ภาษาไทย 1.0 40 พ้ืนฐาน 5/1 – 5/7
1.0 40 เพ่ิมเติม 5/5 – 5/7
ท32201 การแตง่ คำประพันธ์

2/2565 ท32102 ภาษาไทย

ท32202 วรรณกรรมท้องถิ่น

กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ภาคเรยี น รหัสวิชา ชอื่ วิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
วิชา
ที่ 1.0 40 พน้ื ฐาน 5/1 – 5/7
2.0 80 เพม่ิ เติม 5/1 – 5/4
1/2565 ค32101 คณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน 0.5 20 เพมิ่ เติม
1.0 40 พื้นฐาน 5/1
ค32201 คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเติม 2.0 80 เพ่มิ เติม 5/1 – 5/7
0.5 20 เพิม่ เติม 5/1 – 5/4
ค32206 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มพูน
5/1
2/2565 ค32102 คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน

ค32202 คณิตศาสตร์เพม่ิ เติม

ค32207 คณิตศาสตรเ์ พ่มิ พนู

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ภาคเรียน รหสั วชิ า ชือ่ วิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
วิชา
ที่ 1.0 40 พ้ืนฐาน 5/2 – 5/4
0.5 20 เพม่ิ เติม 5/1 – 5/7
1/2565 ว32101 วิทยาศาสตร์โลก 2.0 80 5/1 – 5/4
1.5 60 เพิม่ เติม 5/1 – 5/4
ว32103 วิทยาการคำนวณ 1.5 60 เพิม่ เติม 5/1 – 5/4
1.0 40 เพิ่มเติม
ว32201 ฟิสกิ ส์ 0.5 20 เพม่ิ เติม 5/1
1.0 40 เพิ่มเตมิ 5/2 – 5/7
ว32221 เคมี 1.0 40
1.0 40 เพิม่ เติม 5/6
ว32241 ชวี วิทยา 0.5 20 เพ่ิมเติม 5/6
1.0 40 เพิ่มเตมิ 5/1
ว32286 การเขียนโปรแกรมภาษาซี 2.0 80 พนื้ ฐาน 5/1 – 5/7
1.5 60 พ้นื ฐาน 5/5 – 5/7
ว32276 คอมพวิ เตอร์มลั ตมิ ีเดยี เพม่ิ เติม 5/1 – 5/4
เพิม่ เติม 5/1 – 5/4
ว32271 การเขียนโปรแกรม

ว32272 คอมพวิ เตอร์แอนนเิ มชนั่

2/2565 ว32101 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ (เคมี)

ว32104 การออกแบบและเทคโนโลยี

ว32101 วิทยาศาสตรโ์ ลก

ว32202 ฟสิ กิ ส์

ว32222 เคมี

หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 300

ภาคเรียน รหัสวิชา ชอ่ื วิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
วชิ า
ท่ี เพิ่มเตมิ 5/1 – 5/4
เพม่ิ เติม 5/2 – 5/7
ว32242 ชวี วทิ ยา 1.5 60 เพม่ิ เติม
เพม่ิ เติม 5/6
ว32277 การผลิตส่อื สงิ่ พิมพด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์ 0.5 20 5/6
ประเภท
ว32273 โปรแกรมตารางงาน 1.0 40 วชิ า หมายเหตุ
พน้ื ฐาน
ว32274 เวบโปรแกรมมง่ิ 1.0 40 พื้นฐาน 5/1 – 5/7
เพิ่มเติม 5/1 – 5/7
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม เพม่ิ เติม 5/5 – 5/7
พน้ื ฐาน 5/1 – 5/6
ภาคเรยี น รหัสวชิ า ช่ือวิชา นก. ชม. พื้นฐาน 5/1 – 5/7
เพม่ิ เติม 5/1 – 5/7
ท่ี เพิ่มเติม 5/5 – 5/7
5/1 – 5/7
1/2565 ส32101 สังคมศึกษา 1.0 40 ประเภท
วชิ า หมายเหตุ
ส32102 ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย 0.5 20 พน้ื ฐาน
เพิ่มเติม 5/1 – 5/7
ส32201 ธรรมศกึ ษา 0.5 20 เพม่ิ เติม 5/1 – 5/7
พ้ืนฐาน
ส30233 หน้าทพี่ ลเมอื ง (บูรณาการให้ทป่ี รกึ ษา) 0.5 20 เพม่ิ เติม 5/7
เพิ่มเติม 5/1 – 5/7
2/2565 ส32103 สงั คมศึกษา 1.0 40 5/1 –5/7
ประเภท
ส32104 ประวัตศิ าสตร์ไทย 0.5 20 วิชา 5/7
พน้ื ฐาน
ส32202 ธรรมศึกษา 0.5 20 เพ่มิ เติม หมายเหตุ
พน้ื ฐาน
ส30234 หนา้ ทพี่ ลเมือง (บรู ณาการใหท้ ป่ี รกึ ษา) 0.5 20 เพมิ่ เติม 5/1 – 5/7
5/7
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา
5/1 – 5/7
ภาคเรยี น รหัสวชิ า ชื่อวิชา นก. ชม. 5/7

ท่ี 0.5 20
0.5 20
1/2565 พ32101 สขุ ศึกษา 0.5 20
0.5 20
พ32201 พลศึกษาเพ่ิมเตมิ 0.5 20
0.5 20
พ32203 พลศึกษาเพ่ิมเตมิ

2/2565 พ32102 สขุ ศึกษา

พ32202 พลศึกษาเพิ่มเติม

พ32204 พลศึกษาเพ่ิมเติม

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชือ่ วิชา นก. ชม.
ภาคเรียน รหัสวิชา
0.5 20
ท่ี 1.0 40
1/2565 ศ32101 ศิลปะ 0.5 20
1.0 40
ศ32201 ศิลปะ
2/2565 ศ32102 ศลิ ปะ

ศ32202 ศิลปะ

หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 301

กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ หมายเหตุ

ภาคเรียน รหัสวชิ า ช่ือวิชา นก. ชม. ประเภท 5/1 – 5/7
5/7
ท่ี วชิ า 5/7
5/7
1/2565 ง32101 การงานอาชีพ 0.5 20 พืน้ ฐาน 5/8
5/8
ง30292 การบรหิ ารธุรกิจขนาดย่อม 1.0 40 เพิ่มเติม
5/8
ง32205 การทำเกษตรผสมผสาน 1.0 40 เพิ่มเติม 5/8
5/8
ง30261 อาหารไทย 1.5 60 เพิ่มเติม 5/8
5/8
ง32210 ความรูเ้ บอ้ื งต้นเกย่ี วกับผ้า 1.0 40 เพ่ิมเติม 5/1 – 5/7
5/7
ง32211 และการศกึ ษาความปลอดภัยในครัวเรอื น 1.0 40 เพม่ิ เติม 5/7
5/7
ห้องปฏิบตั กิ าร 5/8
5/8
ง32212 อาหารว่างนานาชาติ 2.0 80 เพิ่มเติม 5/8
5/8
ง32213 ศิลปะการมดั ย้อมผา้ 2.0 80 เพิ่มเติม 5/8
5/8
ง32231 งานอิเลก็ ทรอนิกส์เบอ้ื งตน้ 2.0 80 เพ่ิมเติม 5/8

ง32232 งานตรวจซอ่ มอปุ กรณไ์ ฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 2.0 80 เพ่ิมเติม หมายเหตุ

ง32233 งานตดิ ตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร 2.0 80 เพิ่มเติม 5/1 – 5/7
5/1
2/2565 ง32102 การงานอาชพี 0.5 20 พน้ื ฐาน 5/5
5/1
ง30293 การขายเบื้องต้น 1.0 40 เพม่ิ เติม 5/5

ง32206 การทำเกษตรประณีต 1.0 40 เพิ่มเติม

ง30263 ขนมไทย 1.5 60 เพิ่มเติม

ง32214 การสขุ าภบิ าลอาหาร 1.0 40 เพ่มิ เติม

ง32215 การพัฒนาผลติ ภัณฑ์อาหารและบรรจุภัณฑ์ 1.0 40 เพิ่มเติม

ง32216 การแปรูปอาหาร 2.0 80 เพม่ิ เติม

ง32217 ธุรกิจอาหารเพ่ือสุขภาพ 2.0 80 เพม่ิ เติม

ง32234 เขียนแบบก่อสร้าง 2.0 80 เพม่ิ เติม

ง32235 การออกแบบโครงสร้างไม้และเหล็ก 2.0 80 เพิ่มเติม

ง32236 งานไม้ไผ่และงานหวาย 2.0 80 เพ่ิมเติม

กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ

ภาคเรียนที่ รหสั วิชา ชือ่ วิชา นก. ชม. ประเภท
วิชา
1/2565 อ32101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1.5 60 พ้นื ฐาน
อ32201 ภาษาอังกฤษเสรมิ ทักษะ 1.0 40 เพิ่มเติม
อ32205 ภาษาองั กฤษอ่าน – เขียน 1.5 60 เพม่ิ เติม
จ32205 ภาษาจนี 0.5 20 เพิ่มเติม
จ32203 สัมผัสภาษาจนี 2.0 80 เพมิ่ เตมิ

หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 302

ภาคเรยี น รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
ที่ วิชา
อ32102 ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน 1.5 60 พน้ื ฐาน 5/1 – 5/7
2/2565 อ32202 ภาษาองั กฤษเสริมทกั ษะ 1.0 40 เพิ่มเติม 5/1
อ32206 ภาษาอังกฤษอา่ น – เขยี น 1.5 60 เพม่ิ เติม 5/5
จ32206 ภาษาจีน 0.5 20 เพิ่มเติม 5/1
จ32204 สัมผัสภาษาจนี 2.0 80 เพมิ่ เติม 5/5

IS รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา นก. ชม. ประเภท หมายเหตุ
ภาคเรยี น I30201 1.0 40 วชิ า 5/1 – 5/7
I30202 IS 1 การศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติม 5/1 – 5/7
ที่ และสรา้ งองค์ความรู้
1/2565 IS 2 การสอื่ สารและการนำเสนอ 1.0 40 เพม่ิ เติม

2/2565

หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 303

คำอธิบายรายวิชา

รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท32101 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

อ่านบทร้อยแก้ว บทร้อยกรองประเภทร่ายและฉันท์ ข่าวสารสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเลคทรอนิคส์ แหล่ง
เรียนรู้ในชุมชน วรรณกรรมพื้นบ้าน วรรณคดีในบทเรียน งานเขียนและเรื่องต่าง ๆ เพื่อนำมาพัฒนาตน
พัฒนาการเรียนและพัฒนาความรู้ทางอาชีพ เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์โดยใช้ภาษาเรียบ
เรียงถูกต้องมีข้อมูลและสาระสำคัญที่ชัดเจน และบันทึกความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทีหลากหลาย พูดโดยใช้ภาษา
ถกู ต้องเหมาะสมใชค้ ำกลมุ่ คำในการสรา้ งประโยคไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์

โดยการอ่านออกเสียง อ่านจับใจความสำคัญ อ่านตีความ แปลความ ขยายความ ตอบคำถามจาก
การอ่านภายในเวลาที่กำหนด อ่านวเิ คราะห์วิจารณ์ ประเมินคา่ คาดคะเนเหตุการณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง
และเสนอความคิดใหม่จากเร่ืองท่ีอ่าน และสังเคราะห์ความรู้ ข้อคิดจากเร่ืองที่อ่าน เขียนเชิญชวน เขียน
ประกาศ กรอกแบบฟอร์ม เขียนเรียงความ บันเทิงคดี รายงานเชิงวิชาการ ประเมินการใช้ภาษาจากส่ือ
สิ่งพิมพ์และสื่ออิเลคทรอนิคส์ รวบรวมวรรณกรรมพ้ืนบ้านและอธิบายภูมิปัญญาทางภาษา วิเคราะห์และ
วิจารณ์วรรณคดี

เหน็ ความสำคัญของการอ่านได้อย่างไพเราะถูกต้อง มมี ารยาทในการอา่ น การเขียนโดยการอ้างขอ้ มลู
สารสนเทศ มีมารยาทในการเขียน และมีมารยาทในการพูด

พัฒนาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความรู้ไปใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนรู้หรือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นสิ ยั รกั การอ่าน

ตัวชว้ี ดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/2, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5

รวมท้ังหมด 24 ตัวช้ีวดั

หลักสูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 304

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

รายวิชาการแตง่ คำประพันธ์ รหัสวิชา ท32201 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาความหมาย รูปแบบ ประวัติความเป็นมา ประเภทและวิวัฒนาการของร้อยกรองไทยในอดีตจนถึง
ปัจจบุ ัน โดยสามารถอธิบาย ระบุประเภท เปรยี บเทยี บ ยกตัวอยา่ ง และบอกคุณคา่ ของร้อยกรองได้

ศึกษาความหมายของฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ประเภทต่าง ๆ สามารถอธิบาย ยกตัวอย่าง ฉันท
ลักษณ์ของคำประพนั ธ์แต่ละประเภทได้

ฝึกทักษะการแต่งคำประพันธ์ประเภทกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์และร่าย โดยคำนึงถึงลักษณะบังคับ ความ
งาม ความไพเราะของถ้อยคำ การแสดงออกทางอารมณ์ เนื้อหามีคุณค่าทางความคิด โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ
กระบวนการสังเกต กระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ และกระบวนการกล่มุ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะใน
การเขยี นเป็นพนื้ ฐานในการศึกษาในระดบั ท่สี ูงชนึ้

มีความซาบซึ้ง ตระหนักรักความเป็นไทย ภูมิใจในภูมิปัญญาทางภาษา เป็นการสืบทอดวัฒนธรรมทาง
ภาษาอนั จะนำไปสกู่ ารอนุรกั ษ์และพฒั นาการแต่งร้อยกรองให้คงอย่สู ืบไป

พัฒนาทักษะ กระบวนการเรยี นรู้ และสามารถนำความรู้ไปใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนร้หู รือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต และมี
นิสัยรกั การอา่ น

ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายวิวัฒนาการของรอ้ ยกรองไทยในอดตี จนถึงปจั จบุ นั ได้
2. อธบิ ายความหมาย ประวตั คิ วามเปน็ มา และระบุประเภทของร้อยกรองได้
3. อธิบายคณุ ค่าและความสำคัญของร้อยกรองที่มีตอ่ ผแู้ ตง่ ผูอ้ ่านและสงั คมได้
4. ระบคุ วามงามทางภาษาของร้อยกรองประเภทตา่ ง ๆ ได้
5. อธิบายฉันทลักษณ์หรือลกั ษณะบังคับของร้อยกรองประเภทตา่ ง ๆ ได้
6. แตง่ รอ้ ยกรองประเภทต่าง ๆ ได้

รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้

หลกั สูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 305

คำอธิบายรายวิชา

รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท32102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

อ่าน ศึกษาบทรอ้ ยแก้ว บทร้อยกรองประเภทกาพย์และลิลิต อ่านสารคดี บันเทิงคดี คำขวัญ นวนยิ าย
จากสื่อต่าง ๆ วรรณคดีในบทเรียน งานเขียนและเร่ืองต่าง ๆ เพื่อนำมาพัฒนาตน พัฒนาการเรียนและพัฒนา
ความรู้ทางอาชีพ เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์โดยใช้ภาษาเรียบเรียงถูกต้องมีข้อมูลและ
สาระสำคัญที่ชัดเจน รู้จักการประเมินงานเขียนเกี่ยวกับแนวคิดผู้เขียน การใช้ถ้อยคำ การเรียบเรียงสำนวน
โวหาร กลวิธีในการเขียนเพ่ือนำมาพัฒนางานเขียน รู้จักการพูดแสดงความคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดูอย่างมี
วจิ ารณญาณเพอื่ นำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ และใช้ภาษาถกู ตอ้ งเหมาะสม

โดยการอ่านออกเสียง อ่านจับใจความสำคัญ อ่านตีความ แปลความ ขยายความ ตอบคำถามจาก
การอ่านภายในเวลาท่ีกำหนด อ่านวิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินค่า คาดคะเนเหตุการณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง
และเสนอความคิดใหม่จากเร่ืองท่ีอ่าน และสังเคราะห์ความรู้ ข้อคิดจากเรื่องท่ีอ่าน ฟังและดู เขียนสารคดี
ประเมินงานเขียนของผู้อื่น การพูดสรุปแนวคิดและแสดงความคิดเห็น แต่งบทร้อยกรองประเภทร่ายท่องจำบท
อาขยานและบทรอ้ ยกรองทีม่ คี ุณค่าเพ่อื นำไปใช้อา้ งอิง

เห็นความสำคัญของการอ่านไดอ้ ย่างไพเราะถูกต้อง มมี ารยาทในการอา่ น การเขยี นโดยการอา้ งองิ
ข้อมูลสารสนเทศ มีมารยาทในการเขยี น และมีมารยาทในการพูด บอกคุณคา่ บทอาขยานตามท่ีกำหนด

พฒั นาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความรู้ไปใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนร้หู รือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปญั หาในการดำเนนิ ชีวิต และมี
นิสยั รักการอา่ น

ตวั ชวี้ ัด
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/4
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6

รวมทั้งหมด 22 ตัวชี้วดั

หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 306

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

รายวิชาวรรณกรรมท้องถิ่น รหสั วชิ า ท32202 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 5
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษาความหมายของวรรณกรรมท้องถิ่น ที่มาของวรรณกรรมท้องถ่ิน วรรณกรรมมุขปาฐะ อ่านและ
ทำความเข้าใจกับวรรณกรรมท้องถ่ินภาอีสาน ท่ีมาของวรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน วรรณกรรมท้องถ่ิน
ภาคเหนือ ทมี่ าของวรรณกรรมท้องถ่ินภาคเหนือ วรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ภาคกลาง ทมี่ าของวรรณกรรมท้องถ่ินภาค
กลาง วรรณกรรมท้องถนิ่ ภาคใต้ ท่มี าของวรรณกรรมท้องถ่ินภาคใต้ และศึกษาวิเคราะห์ถงึ ภูมิปญั ญาทางภาษา
ของท้องถิ่น วรรณกรรมของแต่ละท้องถิ่น และวิถีชีวิตของบุคคลในท้องถิ่นจากวรรณกรรม เปรียบเทียบ
วรรณกรรมท้องถ่ินของแต่ละท้องถิ่นในด้านการดำรงชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ฯลฯ และการอนุรักษ์
วรรณกรรมท้องถิน่ เพ่ือเป็นวัฒนธรรมทางภาษาของชาตติ ่อไป

พฒั นาทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำความรู้ไปใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนรู้หรือศึกษางาน
พฤกษศาสตร์โรงเรียน โครงการเศรษฐกิจพอเพียง และทักษะชีวิต เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นสมาคม
อาเซียน และใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปญั หาในการดำเนินชีวิต และมี
นสิ ัยรักการอ่าน

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายถงึ ทม่ี าและความหมายของวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ
2. เข้าใจถงึ ทม่ี าและเขา้ ใจถงึ วรรณกรรมท้องถน่ิ อีสาน
3. เข้าใจถึงที่มาและเข้าใจถงึ วรรณกรรมท้องถน่ิ ภาคเหนอื
4. เข้าใจถึงท่มี าและเขา้ ใจถึงวรรณกรรมท้องถ่ินกลาง
5. เข้าใจถึงท่ีมาและเขา้ ใจถงึ วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้
6. เปรียบเทยี บวรรณกรรมท้องถน่ิ ดา้ นเน้อื หาของเรือ่ ง วัฒนธรรม ประเพณี ความเปน็ อยู่ เป็นต้นของ

แตล่ ะทอ้ งถ่นิ ได้
7. รแู้ นวทางและวธิ กี ารอนรุ กั ษว์ รรณกรรมทอ้ งถ่นิ

รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 307

คำอธบิ ายรายวชิ า

รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค32101 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษา ฝกึ ทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแก้ปญั หาในสาระต่อไปนี้
เลขยกกำลัง เลขยกกำลังท่ีมีเลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนเต็ม รากท่ี n ของจำนวนจริง เลขยกกำลังท่ีมีเลขชี้
กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ
ฟงั กช์ ัน ฟังกช์ ัน ฟงั กช์ นั เชงิ เส้น ฟังก์ชนั กำลังสอง ฟังกช์ นั ขั้นบันได ฟงั กช์ นั เอกซโ์ พเนนเชียล
โดยจดั ประสบการณ์ หรือสรา้ งสถานการณ์ในชีวติ ประจำวันท่ีใกลต้ ัว ให้ผู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ล การ
ส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการ
เรยี นรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสรา้ งสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมเี จตคตทิ ี่ดตี อ่ คณิตศาสตร์สามารถ
ทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มีความรบั ผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ และมีความเช่อื มน่ั ในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใชว้ ิธีการที่หลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเน้ือหาและทักษะ
ทตี่ อ้ งการวดั
ซ่ึงกระบวนการเหล่าน้ีได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่างๆ ข้างต้น เพื่อให้นักเรียนมี
ความรู้ความสามารถตามตวั ชีว้ ัดต่อไปน้ี

ตัวช้ีวัด
ค 1.1 ม.5/1
ค 1.2 ม.5/1

รวมทั้งหมด 2 ตวั ช้ีวดั

หลักสูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 308

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค32201 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต

ศึกษา ฝกึ ทกั ษะการคิดคำนวณ และฝึกการแก้ปญั หาในสาระต่อไปนี้
ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟงั ก์ชนั ไซนแ์ ละโคไซน์ ฟงั กช์ นั ตรโี กณมิตอิ นื่ ๆ ฟังกช์ นั ตรีโกณมติ ิของมุม กราฟ
ของฟังก์ชันตรีโกณมติ ิ ฟังก์ชันตรโี กณมติ ิของผลบวกและผลต่างของจำนวนจริงหรือมมุ ตัวผกผันของฟังกช์ ัน
ตรีโกณมิติ เอกลกั ษณแ์ ละสมการตรโี กณมิติ กฎของโคไซนแ์ ละกฎของไซน์ การหาระยะทางและความสงู
เมทรกิ ซ์ เมทริกซ์ ดเี ทอรม์ ินันตข์ องเมทริกซข์ นาน 2 x 2 และ 3 x 3 เมทริกซผ์ กผัน การหาคำตอบ
ของระบบสมการเชงิ เสน้
เวกเตอร์ เวกเตอร์และสมบัติของเวกเตอร์ ระบบพกิ ัดฉากสามมติ ิ เวกเตอรใ์ นระบบพกิ ัดฉาก ผลคณู เชิงส
เกลาร์ ผลคูณเชงิ เวกเตอร์
โดยจัดประสบการณ์ หรือสรา้ งสถานการณ์ในชวี ติ ประจำวันทใ่ี กล้ตัว ใหผ้ ู้เรยี นได้ศกึ ษาโดยการปฏิบตั ิจริง
ทดลอง สรุป รายงาน เพ่อื พฒั นาทักษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณ
การแก้ปญั หา การให้เหตผุ ล การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณด์ า้ นความรู้ ความคิดทกั ษะ
กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรสู้ ง่ิ ต่าง ๆ และใช้ในชวี ิตประจำวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมทงั้ เหน็ คุณคา่ และมีเจตคติ
ที่ดีตอ่ คณิตศาสตร์สามารถทำงานอยา่ งเป็นระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ และ
มคี วามเช่อื มนั่ ในตนเอง
การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ิธีการท่หี ลากหลายตามสภาพความเปน็ จริงใหส้ อดคล้องกบั เนือ้ หาและทกั ษะที่
ตอ้ งการวัด
ซ่งึ กระบวนการเหลา่ น้ีได้จัดการเรยี นรผู้ า่ นสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ตา่ ง ๆ ขา้ งต้น เพ่ือใหน้ ักเรยี นมี
ความร้คู วามสามารถตามผลการเรียนรู้ตอ่ ไปนี้

ผลการเรยี นรู้
1. เขา้ ใจฟังกช์ นั ตรโี กณมติ ิและลักษณะกราฟของฟงั ก์ชันตรีโกณมิติและนำไปใช้ในการแก้ปญั หา
2. แก้สมการตรโี กณมิติ และนำไปใช้ในการแก้ปัญหา
3. ใชก้ ฎของโคไซนแ์ ละกฎของไซน์ในการแกป้ ัญหา
4. เขา้ ใจความหมาย หาผลลพั ธ์ของการบวกเมทรกิ ซ์ การคณู เมทรกิ ซก์ ับจำนวนจริง การคณู ระหวา่ งเมท

ริกซ์ และหาเมทรกิ ซ์สลับเปลี่ยน หาดีเทอรม์ ินนั ตข์ องเมทริกซ์ n x n เมื่อ n เปน็ จำนวนนบั ที่ไมเ่ กินสาม
5. หาเมทรกิ ซ์ผกผันของเมทรกิ ซ์ 2 x 2
6. แก้ระบบสมการเชงิ เสน้ โดยใชเ้ มทรกิ ซผ์ กผนั และการดำเนินการตามแถว
7. หาผลลัพธ์ของการบวก การลบเวกเตอร์ การคูณของเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ หาผลคณู เชงิ สเกลาร์ และ

ผลคูณเชิงเวกเตอร์
8. นำความรู้เกีย่ วกับเวกเตอรใ์ นสามมิตไิ ปใช้ในการแก้ปัญหา

รวมทั้งหมด 8 ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 309

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

รายวชิ าคณิตศาสตร์เพ่มิ พนู รหัสวิชา ค32206 กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
จำนวน 0.5 หน่วยกติ
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง

ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปนี้
หลกั อุปนัยเชงิ คณิตศาสตร์ จำนวนคู่ และจำนวนค่ี การหารลงตัว ประกอบด้วย ขั้นตอนวิธกี ารหาร นิยาม
การหารลงตัว สมบตั ิเบื้องต้นของการหารลงตวั ตัวหารร่วมมาก ขั้นตอนวิธีแบบยุคลิด ตัวคูณรว่ มน้อย จำนวน
เฉพาะ ประกอบดว้ ย บทนยิ ามของจำนวนเฉพาะ วิธหี าจำนวนเฉพาะ จำนวนเฉพาะสัมพัทธ์
โดยจดั ประสบการณ์ หรอื สร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวนั ที่ใกล้ตัว ใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏบิ ัติจริง
ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ
ความหมายทางคณิตศาสตรแ์ ละนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทกั ษะกระบวนการท่ีได้ไปใชใ้ นการเรียนรู้ส่ิง
ต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์สามารถทำงาน
อย่างเปน็ ระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง
การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ิธกี ารทีห่ ลากหลายตามสภาพความเป็นจริงใหส้ อดคลอ้ งกับเนอ้ื หาและทักษะท่ี
ต้องการวัด
ซ่งึ กระบวนการเหล่าน้ีไดจ้ ัดการเรียนรผู้ ่านสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตรต์ ่าง ๆ ขา้ งตน้ เพอื่ ให้นักเรยี นมี
ความรู้ความสามารถตามผลการเรยี นรูต้ อ่ ไปนี้

ผลการเรียนรู้
1. พสิ ูจน์ข้อความต่าง ๆ ดว้ ยหลกั อปุ นัยเชงิ คณิตศาสตรไ์ ด้
2. พสิ จู น์หรอื หาขอ้ ขดั แยง้ เกีย่ วกบั ทฤษฎีจำนวนได้
3. พสิ ูจน์เก่ยี วกบั การหารลงตัวได้
4. ใช้ขั้นตอนวธิ แี บบยุคลิดในการหาตวั หารรว่ มมากและตัวคณู ร่วมนอ้ ยได้
5. แกป้ ัญหาโดยการประยุกต์ความรู้เร่อื งตวั หารรว่ มมาก และตวั คูณร่วมน้อยได้
6. หาจำนวนเฉพาะและจำนวนเฉพาะสัมพัทธไ์ ด้
7. พสิ จู น์เกี่ยวกับจำนวนเฉพาะได้

รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 310

คำอธบิ ายรายวชิ า

รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหัสวิชา ค32102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝกึ การแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้
ลำดับและอนุกรม ลำดับเลขคณิตและลำดับเรขาคณิต อนุกรมเลขคณิตและอนุกรมเรขาคณิต
การประยกุ ต์ของลำดบั และอนุกรม(ดอกเบี้ย มูลค่าของเงนิ ค่ารายงวด)
โดยจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัว ให้ผู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การ
ส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการ
เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสต ร์
สามารถทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมคี วามเชื่อมั่น
ในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใช้วิธีการท่ีหลากหลายตามสภาพความเป็นจรงิ ให้สอดคล้องกบั เนื้อหาและทกั ษะ
ท่ตี อ้ งการวัด
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่าง ๆ ข้างต้น เพื่อ ให้นักเรียนมี
ความรคู้ วามสามารถตามตัวช้วี ัดต่อไปนี้

ตวั ช้วี ัด
ค 1.2 ม.5/2
ค 1.3 ม.5/1

รวมท้ังหมด 2 ตวั ช้วี ัด

หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 311

คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

รายวชิ าคณิตศาสตร์เพมิ่ เตมิ รหัสวิชา ค32202 กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต

ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคำนวณ และฝึกการแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี
จำนวนเชิงซ้อน จำนวนเชิงซ้อน สมบัติเชิงพีชคณิตของจำนวนเชงิ ซ้อน รากท่ีสองของจำนวนเชิงซ้อน
กราฟและค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเชิงซ้อน รูปเชงิ ข้ัวของจำนวนเชิงซ้อน รากที่ n ของจำนวนเชิงซ้อน สมการพหุ
นามตัวแปรเดยี ว
หลักการนบั เบ้ืองต้น หลักการบวกและหลักการคูณ การเรยี งสับเปล่ียนเชิงเส้นของส่ิงของที่แตกตา่ งกัน
ทั้งหมด การเรียงสับเปล่ียนเชิงเสน้ ของสิง่ ของที่ไม่แตกต่างกันท้งั หมด การเรียงสบั เปลี่ยนเชงิ วงกลมของส่ิงของท่ี
แตกตา่ งกนั ทงั้ หมด การจดั หมขู่ องสงิ่ ของท่แี ตกต่างกันทง้ั หมด ทฤษฎบี ททวินาม
ความน่าจะเป็น การทดลองสมุ่ และเหตกุ ารณ์ ความน่าจะเป็น กฎทีส่ ำคัญบางประการของความน่าจะ
เป็น
โดยจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ใกล้ตัว ให้ผู้เรียนได้ศึกษาโดยการปฏิบัติ
จริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตผุ ล การ
สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการ
เรียนรู้สิ่งต่างๆและใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์สามารถ
ทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และมีความเชอ่ื มั่นในตนเอง
การวัดและประเมินผล ใช้วิธีการท่ีหลากหลายตามสภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนื้อหาและทกั ษะ
ทต่ี อ้ งการวัด
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ได้จัดการเรียนรู้ผ่านสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่างๆ ข้างต้น เพ่ือให้นักเรียนมี
ความรู้ความสามารถตามผลการเรียนร้ตู อ่ ไปนี้

ผลการเรียนรู้
1. เข้าใจจำนวนเชิงซอ้ นและใชส้ มบัตขิ องจำนวนเชงิ ซอ้ นในการแก้ปัญหา
2. หารากท่ี n ของจำนวนเชิงซ้อน เม่อื n เป็นจำนวนนบั ท่มี ากกว่า 1
3. แกส้ มการพหุนามตัวแปรเดยี ว ดีกรไี ม่เกนิ สี่ ท่ีมีสัมประสิทธ์ิเปน็ จำนวนเต็ม และนำไปใช้ในการ

แกป้ ญั หา
4. เข้าใจและใช้หลักการบวกและการคณู การเรยี งสบั เปลี่ยน และการจัดหมใู่ นการแก้ปัญหา
5. หาความนา่ จะเปน็ และนำความร้เู กยี่ วกับความนา่ จะเปน็ ไปใช้

รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 312

คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ

รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพ่มิ พูน รหสั วชิ า ค32207 กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
จำนวน 0.5 หน่วยกติ
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชัว่ โมง

ศึกษา ฝึกทักษะการคดิ คำนวณ และฝกึ การแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้
ฟงั ก์ชันเลขคณิต ประกอบด้วย ฟงั ก์ชันเทา ฟังกช์ ันซกิ มา ฟังกช์ นั ฟี และฟังกช์ ันจำนวนเต็มคา่ มากสุด สม
ภาค ประกอบดว้ ย บทนยิ ามของคอนกรูเอนซ์ สมบัตขิ องคอนกรูเอนซ์ ทฤษฎีบทของออยเลอร์ แฟรม์ าต์ และวิล
สนั สมการคอนกรเู อนซ์และสมการคอนกรูเอนซ์เชิงเส้น สมการไดโอแฟนไทน์ ประกอบด้วย สมการไดโอแฟนไทน์
เชงิ เส้น 2 ตวั แปร
โดยจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวนั ทีใ่ กลต้ ัว ใหผ้ ู้เรียนไดศ้ กึ ษาโดยการปฏบิ ัตจิ ริง
ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ
ความหมายทางคณิตศาสตร์และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะกระบวนการท่ไี ด้ไปใช้ในการเรยี นร้สู ิ่ง
ต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์สามารถทำงาน
อยา่ งเปน็ ระบบระเบียบ มคี วามรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และมคี วามเชอ่ื ม่นั ในตนเอง
การวดั และประเมนิ ผล ใชว้ ธิ ีการทห่ี ลากหลายตามสภาพความเปน็ จรงิ ให้สอดคล้องกบั เน้อื หาและทกั ษะที่
ต้องการวดั
ซง่ึ กระบวนการเหล่านีไ้ ด้จดั การเรยี นรผู้ า่ นสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ต่าง ๆ ขา้ งตน้ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมี
ความรู้ความสามารถตามผลการเรยี นรู้ตอ่ ไปนี้

ผลการเรยี นรู้
1. พิสูจน์และหาค่าของฟังกช์ นั เลขคณิตได้
2. พสิ ูจนเ์ กยี่ วกบั สมภาคได้
3. หาเศษเหลือจากการหารโดยใช้ความรเู้ รื่องสมภาคได้
4. แก้สมการคอนกรเู อนซ์ได้
5. แก้สมการสมการไดโอแฟนไทนเ์ ชงิ เสน้ 2 ตัวแปรได้

รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 313

คำอธิบายรายวิชา

รายวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วิชา ว32104 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ศึกษาเกี่ยวกับความหมายของนวัตกรรม ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรม รูปแบบของ
เทคโนโลยี การพัฒนาอย่างยั่งยืน หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ือการพฒั นาอย่างย่ังยนื ระบบทางเทคโนโลยี
กระบวนการเทคโนโลยี องค์ประกอบท่สี ัมพันธ์กับกระบวนการทางเทคโนโลยี การออกแบบเชงิ วิศวกรรม สะเต็ม
ศึกษา โครงงานสะเต็ม การทำโครงงาน การประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะจากศาสตร์ต่าง ๆ รวมท้ังทรัพยากรใน
การสร้างหรือพัฒนาช้ินงาน เพื่อแก้ปัญหาในการทำงาน การทำโครงงานออกแบบและเทคโนโลยี ผลงาน
โครงงานการออกแบบและเทคโนโลยี

โดยอาศัยกระบวนการเรยี นรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning) และการเรยี นรู้แบบใช้
โครงงานเป็นฐาน(Project–based Learning) เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์
การแก้ปญั หาวางแผนการเรียนรู้ และนำเสนอผ่านการทำกิจกรรมโครงงาน

เพ่ือให้เกิดทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการวิเคราะห์ปัญหา นำไปสู่การสร้างต้นแบบ
ตลอดจนสามารถนำกระบวนการเทคโนโลยี สร้างเทคโนโลยี วิธีการ เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการดำรงชีวิต
รวมท้ังคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญาตลอดจนนำความรู้ความเข้าใจในวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิด
ประโยชน์ต่อสังคมและการดำรงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการ
แก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการส่ือสาร และความสามารถในการตัดสินใจ อีกทั้งยังเป็นผู้ท่ีมีจิตวิทยา
ศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมในการใช้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์

ตัวชว้ี ดั
ว 4.1 ม.5/1

รวมทั้งหมด 1 ตัวช้ีวดั

หลกั สูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 314

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

รายวิชาฟสิ กิ ส์ รหัสวิชา ว32201 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ และอธิบายคำนวณ การเคล่ือนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการ
เคลื่อนท่ีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย แรงกับการส่ันของมวลติดปลายสปริงและลูกตุ้มอย่างง่าย ความถ่ีธรรมชาตขิ อง
วัตถุ และการเกิดการการส่ันพ้อง ธรรมชาติของคลื่น อัตราเร็วของคลื่น หลักการท่ีเกี่ยวกับคลื่น พฤติกรรมของ
คลื่น แนวคิดเก่ียวกับแสงเชิงคลื่น การแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่ การเล้ียวเบนของแสงผ่านสลิตเด่ียว การ
เล้ียวเบนของแสงผ่านเกรตติง การสะท้อนและการหักเหของแสง การมองเห็นและการเกิดภาพ ภาพจากเลนส์
และกระจกเงาทรงกลม แสงสีและการมองเหน็ แสงสี ปรากฏการณ์ธรรมชาติ และการใช้ประโยชน์เกยี่ วกบั แสง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลการ
สังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบายและการอภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทาง
วิศวกรรม ทักษะในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
คา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. ทดลอง และอธิบายการเคลื่อนทแี่ บบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวัตถุตดิ ปลายสปริงและลูกต้มุ

อยา่ งงา่ ยรวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วข้อง
2. อธิบายความถี่ธรรมชาติของวัตถุและการเกิดการสั่นพ้อง
3. อธิบายปรากฏการณ์คล่ืน ชนิดของคล่ืน สว่ นประกอบของคล่นื การแผ่ของหนา้ คล่นื ด้วยหลัก

ของฮอยเกนส์ และการรวมกันของคลืน่ ตามหลกั การซ้องทับ พร้อมทัง้ คำนวณอตั ราเร็ว ความถ่ี และความยาว
คลนื่

4. สงั เกต และอธิบายการสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคล่นื ผวิ น้ำรวมทงั้
คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง

5. ทดลอง และอธบิ ายการแทรกสอดของแสงผา่ นสลิตคู่และเกรตติง การเล้ยี วเบนและการแทรกสอด
ของแสงผ่านสลิตเดี่ยวรวมท้ังคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง

6. ทดลอง และอธบิ ายการสะทอ้ นของแสงที่ผิววตั ถตุ ามกฎการสะท้อน เขียนรังสีของแสงและคำนวณ
ตำแหน่งและขนาดภาพของวตั ถุ เม่ือแสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลมรวมทัง้ อธิบายการนำ
ความร้เู ร่อื งการสะทอ้ นของแสงจากกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลมไปใช้ ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน

7. ทดลอง และอธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนหี กั เห มุมตกกระทบ และมุมหกั เหรวมทั้งอธบิ าย
ความสัมพันธร์ ะหว่างความลึกจรงิ และความลึกปรากฏ มุมวกิ ฤตและการสะท้อนกลับหมดของแสง และคำนวณ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วข้อง

8. ทดลอง และเขยี นรงั สขี องแสงเพ่ือแสดงภาพทเี่ กิดจากเลนส์บาง หาตำแหนง่ ขนาด ชนิดของภาพ
และความสมั พนั ธ์ระหว่างระยะวตั ถรุ ะยะภาพและความยาวโฟกัส รวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่ เก่ยี วข้องและ
อธิบายการนำความรเู้ ร่ืองการหกั เหของแสงผ่านเลนสบ์ างไปใช้ประโยชน์ชวี ติ ประจำวัน

หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 315

9. อธบิ ายปรากฏการณธ์ รรมชาตทิ ่เี กีย่ วกบั แสงเชน่ รงุ้ การทรงกลด มริ าจ และการเห็นทอ้ งฟา้ เปน็ สี
ตา่ ง ๆ ในชว่ งเวลาต่างกัน

10. สงั เกต และอธิบายการมองเหน็ แสงสี สขี องวตั ถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสรี วมท้งั อธบิ าย
สาเหตุของการบอดสี

รวมท้ังหมด 10 ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 316

คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

รายวชิ าเคมี รหสั วชิ า ว32221 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษาและอธบิ ายความสัมพนั ธ์ของปริมาตรความดนั และอณุ หภูมิคำนวณหาปริมาตรความดันหรือภมู ขิ อง
แก๊สตามกฎของบอยล์กฎของชาร์ลกฎของเกย์-ลูสแซกและกฎรวมแก๊สคำนวณหาปริมาตรความดันอุณหภูมิจาน
วนโมลหรือมวลของแกส๊ ตามกฎของอาโวกาโดรและกฎแกส๊ สอุดมคตคิ ำนวณความดนั ย่อยหรือจานวนโมลของแก๊ส
ในแก๊สผสมโดยใช๎กฎความดันย่อยของดอลตันศึกษาและทดลองการแพร่และอัตราการแพร่ของแก๊สคำนวณ
เก่ยี วกับกฎการแพรผ่ ่านของเกรแฮมศึกษาเทคโนโลยีท่ีเก่ียวข้องกบั สมบัติของแกส๊ ศกึ ษาและทดลองเก่ยี วกับอัตรา
การเกิดปฏิกิริยาเคมีคำนวณหาอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสารจากกราฟศึกษาและวิเคราะห์แนวคิดเก่ียวกับ
การเกิดปฏิกิริยาเคมีโดยใช้ทฤษฎีจลน์และการชนกันของอนุภาคศึกษาทดลองและอธิบายผลของความเข้มข้น
พนื้ ท่ีผวิ ของสารต้งั ต้นอุณหภูมแิ ละตัวเร่งปฏิกิรยิ าทม่ี ตี ่ออตั ราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมยี กตัวอย่างและอธบิ ายปัจจยั ท่มี ี
ผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจาวันและอุตสาหกรรมศึกษาการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้าปฏิกิริยา
ย้อนกลับและปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ทดลองเกี่ยวกับปฏิกิริยาท่ีผันกลับได้ศึกษาและทดลองสมดุลเคมีในปฏิกิริยา
วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่างๆณภาวะสมดุลค่าคงท่ีสมดุลกับสมการเคมีคำนวณหา
ค่าคงที่สมดุลและหาความเข้มข้นของสารในปฏิกิริยาณภาวะสมดุลทดลองเพื่อศึกษาผลของความเข้มข้นความดัน
และอุณหภูมิต่อภาวะสมดุลและคำคงท่ีสมดุลศึกษาหลักของเลอชาเตอลิเอและการนาหลักเลอชาเตอลิเอไปใช้
อธิบายสมดุลเคมขี องกระบวนการทเ่ี กดิ ข้ึนในสิ่งมชี ีวิตปรากฏการณ์ในธรรมชาติและกระบวนการในอุตสาหกรรม

โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์การสบื เสาะหาความรู้การสำรวจตรวจสอบสามารถนำ
ความร้แู ละหลักการไปใช้ประโยชน์เชอ่ื มโยงอธิบายปรากฏการณ์หรือแก้ปัญหาในชวี ิตประจาวันสามารถจดั กระทา
และวิเคราะห์ข้อมูลสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้มีความสามารถในการตัดสินใจแก้ปัญหามีจิตวิทยาศาสตร์เห็นคุณค่าของ
วทิ ยาศาสตร์มีจริยธรรมคณุ ธรรมและคำนยิ มที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ายความสัมพันธแ์ ละคำนวณปรมิ าตรความดันหรืออุณหภมู ิของแก๊สทภี่ าวะต่างๆตามกฎของบอยล์

กฎของ ชารล์ กฎของเกย์-ลสู แซก
2. คำนวณปรมิ าตรความดันหรืออุณหภูมขิ องแก๊สทภ่ี าวะต่างๆตามกฎรวมแกส๊
3. คำนวณปรมิ าตรความดนั อุณหภมู จิ ำนวนโมลหรือมวลของแกส๊ จากความสัมพนั ธต์ ามกฎของอาโวกา

โดร และ กฎแกส๊ อดุ มคติ
4. คำนวณความดนั ย่อยหรือจำนวนโมลของแกส๊ ในแก๊สผสมโดยใช้ความดันยอ่ ยของดอลตัน
5. อธบิ ายการแพรข่ องแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊สคำนวณและเปรยี บเทยี บอตั ราการแพรข่ องแกส๊ โดย

ใชก้ ฎ การแพรผ่ ่านของเกรแฮม
6. สืบค้นขอ้ มลู นำเสนอตัวอย่างและอธบิ ายการประยกุ ต์ใชค้ วามรูเ้ กีย่ วกบั สมบัติและกฎต่างๆของแกส๊ ใน

การอธบิ ายปรากฏการณห์ รือแกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวนั และในอุตสาหกรรม
7. ทดลองและเขยี นกราฟการเพิม่ ข้นึ หรือลดลงของสารที่ทำการวดั ในปฏิกริ ยิ า
8. คำนวณอัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีและเขยี นกราฟการลดลงหรือเพ่ิมขึ้นของสารท่ีไม่ได้วัดในปฏิกริ ิยา

หลกั สตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 317

9. เขียนแผนภาพและอธิบายทิศทางการชนกันของอนภุ าคและพลังงานท่ีสง่ ผลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏิกิริยา
เคมี

10. ทดลองและอธิบายผลของความเข้มขน้ พ้นื ทผี่ ิวของสารตั้งตน้ อณุ หภูมิและตวั เร่งปฏิกิรยิ าที่มีต่ออตั รา
การเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี

11. เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าเมื่อมกี ารเปลี่ยนแปลงความเขม้ ขน้ พืน้ ทีผ่ วิ ของสารตงั้ ตน้ อณุ หภมู ิ
และตวั เรง่ ปฏิกริ ยิ า

12. ยกตัวอยา่ งและอธบิ ายปัจจัยที่มผี ลต่ออัตราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมใี นชีวติ ประจำวนั หรืออุตสาหกรรม
13. ทดสอบและอธบิ ายความหมายของปฏิกิรยิ าผันกลบั ได้และภาวะสมดุล
14. อธิบายการเปลีย่ นแปลงความเข้มขน้ ของสารอัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าไปข้างหนา้ และอัตราการ
เกิดปฏกิ ิรยิ าย้อนกลบั เมื่อเรมิ่ ปฏกิ ริ ิยาจนกระทงั่ ระบบอยูใ่ นภาวะสมดุล
15. คำนวณค่าคงทส่ี มดุลของปฏิกิริยา
16. คำนวณความเขม้ ข้นของสารท่ภี าวะสมดลุ
17. คำนวณคา่ คงทีส่ มดุลหรือความเข้มขน้ ของปฏิกิริยาหลายขนั้ ตอน
18. ระบปุ จั จยั ท่มี ีผลต่อภาวะสมดุลและค่าคงทส่ี มดลุ ของระบบรวมท้ังคาดคะเนการเปลยี่ นแปลงที่
เกดิ ข้ึนเมื่อภาวะสมดุลของระบบถกู รบกวนโดยใชห๎ ลักของเลอชา-เตอลิเอ
19. ยกตวั อยา่ งและอธิบายสมดุลเคมขี องกระบวนการท่ีเกิดข้ึนในสงิ่ มชี ีวติ ปรากฏการณ์ในธรรมชาติและ
กระบวนการในอตุ สาหกรรม

รวมท้ังหมด 19 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 318

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

รายวชิ าชีววิทยา รหสั วิชา ว32241 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

ศึกษาเก่ียวกับวัฏจักรชีวิตแบบสลับของพืชดอก กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธ์ุเพศผู้เพศเมียและการ
ปฏิสนธิของพืชดอก การเกิดและโครงสรา้ งของเมล็ดและผล ศึกษาชนิดและลักษณะของเน้ือเย่ือพืช โครงสร้าง
ภายในของราก ลำต้น และใบของพืช ศึกษาการแลกเปล่ียนแก๊สและการคายน้ำของพืช กลไกการลำเลียงน้ำ
ธาตุหาร และอาหารในพืช ศกึ ษาการทดลองของนักวิทยาศาสตรใ์ นอดีตเกย่ี วกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 การตรึงคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C3 , พืช C4 และพืช CAM
ปัจจัยท่ีมีผลต่อการังเคราะห์ด้วยแสงของพืช รวมทั้งศึกษาสภาพพักตัวของเมล็ดและปัจจัยท่ีมีผลต่อการงอกของ
เมล็ด สิ่งเร้าภายในและภายนอกทีม่ ีผลต่อการเจริญเติบโตขงพืชและการนำไปใช้ประโยชน์ในทางการเกษตร โดย
ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ
อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการ
ทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านการคิดและ
การแกป้ ัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารทั้งทเี่ รยี นรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวติ ขิงตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์
จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายวฏั จักรชีวิตแบบสลับของพชื ดอก
2. อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการสรา้ งเซลลส์ บื พันธุเ์ พศผ้แู ละเพศเมียของพชื ดอก และอธบิ ายการ

ปฏสิ นธิของพชื ดอก
3. อธิบายการเกิดเมลด็ และการเกิดผลของพชื ดอก โครงสรา้ งของเมล็ดและผล และยกตัวอย่างการใช้

ประโยชนจ์ ากโครงสรา้ งตา่ ง ๆ ของเมลด็ และผล
4. อธิบายเกย่ี วกับชนดิ และลักษณะของเน้ือเย่ือพชื และเขยี นแผนผงั เพอื่ สรุปชนิดของเนื้อเยอ่ื พืช
5. สงั เกต อธิบาย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ งภายในของรากพชื ใบเล้ยี งเดี่ยวและรากพชื ใบเลย้ี งคู่จากการ

ตดั ตามขวาง
6. สังเกต อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสร้างภายในของลำตน้ พืชใบเล้ียงเด่ยี วและลำต้นพชื ใบเลีย้ งคจู่ าก

การตัดตามขวาง
7. สังเกต และอธิบายโครงสร้างภายในของใบพชื จากการตัดตามขวาง
8. สืบคน้ ข้อมลู สงั เกต และอธิบายการแลกเปลีย่ นแกส๊ และการคานน้ำของพชื
9. สบื ค้นข้อมูลและอธิบายกลไกการลำเลียงนำ้ และธาตุอาหารของพชื
10. สบื ค้นข้อมูล อธบิ ายความสำคญั ของธาตอุ าหาร ยกตวั อย่างธาตอุ าหารทสี่ ำคัญที่มผี ลต่อการ

เจริญเตบิ โตของพชื
11. อธิบายกลไกการลำเลยี งอาหารในพืช
12. สบื คน้ ขอ้ มูลและสรปุ การศกึ ษาทีไ่ ดจ้ ากการทดลองของนกั วิทยาศาสตร์ในอดีตเกี่ยวกบั กระบวนการ

สังเคราะหด์ ว้ ยแสง

หลักสูตรโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 319

13. อธบิ ายข้ันตอนท่ีเกิดขน้ึ ในกระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื C3
14. เปรยี บเทยี บกลไกการตรึงคาร์บอนไดออกไซดใ์ นพชื C3 พืช C4 และพืช CAM
15. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปรายและสรุปปัจจัยความเขม้ ของแสง ความเขม้ ของคารบ์ อนไดออกไซด์ และอุณหภูมิ
ทม่ี ีผลตอ่ การสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื
16. ทดลอง และอธบิ ายเกย่ี วกับปัจจยั ตา่ งๆ ท่ีมีผลต่อการงอกของเมล็ด สภาพพักตวั ของเมลด็ และบอก
แนวทางในการแก้สภาพพกั ตัวของเมลด็
17. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบายบทบาทและหนา้ ท่ีของออกซิน ไซโทไคนิน จิบเบอเรลลิน เอทลิ ีน และกรดแอบไซ
ซิก และอธบิ ายเกี่ยวกับการนำไปใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตร
18. สบื คน้ ข้อมูล ทดลอง และอภปิ รายเกีย่ วกับส่งิ เรา้ ภายนอกทมี่ ผี ลต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื

รวมทั้งหมด 18 ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 320

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาซี รหสั วิชา ว32286 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษาความหมาย ประเภทและการทำงานของภาษาคอมพิวเตอร์ ความสำคัญและประโยชน์ของการ
เขียนโปรแกรม ข้ันตอนการพัฒนาโปรแกรม ได้แก่ การวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบโปรแกรม การเขียน
โปรแกรม การทดสอบโปรแกรมและการจัดทำเอกสารประกอบโปรแกรม ประวัติความเป็นมาของภาษาซี
ข้ันตอนการพัฒนาโปรแกรมภาษาซี โครงสร้างของภาษาซี ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล โอเปอเรเตอร์ และการ
ดำเนินการต่าง ๆ การรับและแสดงผลข้อมูล คำส่ังควบคุม อาร์เรย์ พอยเตอร์ สตรัคเจอร์และยูเนียน การเขียน
โปรแกรมโดยใชผ้ ังงานพ้นื ฐาน รหัสลำลองและขน้ั ตอนวธิ ี สทิ ธิ หน้าท่ีและความรับผิดชอบของนักเขียนโปรแกรม
ที่มตี ่อสว่ นรวม

ฝึกทักษะการเขียนโปรแกรมภาษาซีผ่านตัวอย่าง พัฒนาโปรแกรม จากการวิเคราะห์ปัญหา ออกแบบ
โปรแกรมด้วยผังงาน รหัสลำลองและข้ันตอนวิธี เขียนโปรแกรมด้วยภาษาซี ทดสอบโปรแกรมและจัดทำเอกสาร
ประกอบโปรแกรมเพอื่ ใชน้ ำเสนอ นำเสนอผลงานการพัฒนาโปรแกรม

โดยสามารถนำความรู้ในการเขียนโปรแกรมภาษาซีไปประยุกต์ใช้งานอย่างสร้างสรรค์ ในชีวิตประจำวัน
และมจี รรยาบรรณในการใช้เทคโนโลยี

ผลการเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถบอกหลกั การเบือ้ งตนของการเขยี นโปรแกรมได
2. นักเรียนสามารถบอกลําดับการทํางานและวางแผนผงั การทาํ งานของตนเองได
3. นักเรยี นสามารถบอกหลกั การโปรแกรมแบบโครงสรางได
4. นกั เรียนสามารถบอกและใชเคร่อื งมือชดุ ตางๆ ในการปฏิบตั กิ ารเขยี นโปรแกรมได
5. นกั เรียนสามารถสรางโปรแกรมตามความคิดสรางสรรคของตนเองได

รวมท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 321

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

รายวชิ าคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดีย รหัสวชิ า ว32277 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาระบบคอมพวิ เตอรส์ ำหรบั งานมัลตมิ ีเดีย อปุ กรณ์แสดงผลกราฟิก การแสดงผลด้วยภาพ วีดโี อ
เสียง อปุ กรณป์ ระกอบ เชน่ เคร่อื งขับแผ่นบันทกึ ซีดี การด์ ประมวลผลเสียง วีดโี อ สแกนเนอร์ เครื่องพิมพส์ ี
ฯลฯ การเก็บรวบรวมข้อมลู แบบมลั ตมิ เี ดียภาพ วีดีโอ เสยี ง ข้อมลู การใชโ้ ปรแกรมแบบมลั ติมเี ดีย คำสง่ั ในการ
ดำเนินงาน หลักการกราฟิก การเขยี นรูปภาพ การเกบ็ รูปภาพ การแก้ไข การสรา้ งกราฟิก การสรา้ งงานมลั ติมเี ดีย
การใช้สี การตกแตง่ ภาพ การเชอ่ื มข้อมูล หลักการส่ือหลายมติ ิ การสรา้ งข้อความหลายมิติ งานประยกุ ต์ด้าน

ปฏิบัติการสร้างงานแบบมลั ติมเี ดยี และการใชโ้ ปรแกรมสำหรบั นำเสนองานมัลติมีเดยี เพ่อื นำเสนองาน
ต่าง ๆ
เพ่ือใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจและทกั ษะในการใช้เทคโนโลยสี รา้ งงานแบบมลั ติมเี ดยี ในการนำเสนองาน
ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย มจี ิตสำนึกและรับผิดชอบ

ผลการเรียนรู้
1. เข้าใจและออกแบบการสร้างงานมัลตมิ ีเดียได้
2. สามารถติดตงั้ โปรแกรมและสามารถใชส้ ว่ นควบคมุ ตา่ งๆโปรแกรมสร้างงานมลั ติมีเดียได้
3. สรา้ งภาพกราฟิกโดยใชเ้ ทคนิคในแบบต่างๆได้
4. ใช้โปรแกรมตดั ตอ่ เสียง และใส่ Effect ของ Audioใหก้ ับงานมัลติมเี ดยี ได้
5. สามารถใส่ Effect ของ Video และสามารถ Export ไฟลอ์ อกมาเปน็ ไฟล์ Video ในรูปแบบต่างๆได้

ให้กบั งานมลั ติมีเดยี ได้
6. ใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยสรา้ งชิน้ งานจากจนิ ตนาการหรอื งานทที่ ำในชวี ติ ประจำวนั ตามหลกั การสร้างงาน

มัลตมิ ีเดยี อยา่ งมีจิตสำนึกและความรบั ผดิ ชอบ

รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหนา้ 322

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

รายวิชาการเขียนโปรแกรม รหสั วิชา ว32271 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5
ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศึกษาหลักการโปรแกรมขั้นพ้ืนฐาน การเขียนโปรแกรมภาษา และการพัฒนาโครงงานที่ใช้การเขียน
โปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาหรือสรา้ งชนิ้ งาน

ปฏบิ ัติการเขียนโปรแกรม ศกึ ษาแนวทางการพัฒนาโครงงาน และพัฒนาโครงงานท่ใี ช้การเขียนโปรแกรม
เพอื่ แกป้ ัญหาหรอื สรา้ งชน้ิ งาน นำเสนอผลงานในรปู แบบทเ่ี หมาะสม

เพื่อให้มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ดำเนินการเรียนรู้ด้วยตนเอง คิดแก้ปัญหา และร่วมมือกัน
พฒั นาช้ินงานหรืองานตามหลักการทำโครงงานอย่างมีจิตสำนึกและความรับผดิ ชอบ มีทักษะในการนำเสนองาน
ในรูปแบบท่ีเหมาะสมกบั ลักษณะงาน

ผลการเรียนรู้
1. สามารถเขยี นโปรแกรมโดยใชภ้ าษา Python ได้
2. สามารถประยุกตโ์ ปรแกรมเพอ่ื การใช้งานจริงได้
3. สามารถออกแบบระบบงานได้

รวมทั้งหมด 3 ผลการเรียนรู้

หลกั สูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 323

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ

รายวิชาคอมพิวเตอรแ์ อนเิ มชัน่ รหสั วชิ า ว32272 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ศึกษา อธิบาย ความหมายของ Flash ความสามารถของโปรแกรม Flash ความสามารถของโปรแกรม
Flash และเทคโนโลยีของ Flash สามารถสร้างช้ินงาน จากโปรแกรม Flash การเลือกปรับเปล่ียนขนาดของ
ช้ินงานและสร้างชิ้นงานโดยใช้เคร่ืองมือ ได้อย่างเหมาะสม การสร้างและใส่ลูกเล่นในตัวอักษร เลือกเคร่ืองมือใน
การแต่งแต้มสีภาพด้วยสีเส้นให้สวยงาม ปฏิบัติการ TimeLine และ Frame การใช้งาน Layer เทคนิคในการใช้
Layer Mask และการกำหนดทิศทางการเคลอื่ นทีด่ ้วย Guide Layer

โดยใช้ทักษะการแสวงหาความรู้ การทำงานกลุ่ม การฝึกฝน การแก้ปัญหา การใช้คอมพิวเตอร์ ในการ
สร้างช้ินงาน และนำเสนอผลงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

เพ่ือให้เห็นคุณค่าของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการสร้างช้ินงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่าง
มคี วามสุข มคี วามรบั ผิดชอบและนำไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั ได้

ผลการเรียนรู้
1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับโปรแกรม Flash เบื้องต้น
2. สามารถใชเ้ คร่ืองมือในโปรแกรม Flash ได้
3. สามารถใชโ้ ปรแกรม Flash สร้างภาพเคล่ือนไหว(Animation) ได้
4. สามารถนำไฟล์เสียง และไฟล์วีดโี อมาใชง้ านในโปรแกรม Flash ได้
5. สามารถใชง้ าน Action Script เบือ้ งตน้ ได้
6. มคี วามรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับการใชเ้ ทคนคิ ข้นั สงู
7. สามารถใช้คำสง่ั ในการเผยแพร่ (Publish) ช้นิ งานได้
8. สามารถประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรม Flash สร้างชน้ิ งานได้
9. สามารถนำเสนอผลงานได้

รวมท้ังหมด 9 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 324

คำอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ าวิทยาศาสตร์โลก รหัสวชิ า ว32101 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5
ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาเกยี่ วกับการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพ หลักฐานท่ีสนับสนุนทฤษฎีบิกแบง กาแล็กซีและ
กาแล็กซีทางช้างเผือก สมบัติของดาวฤกษ์ การกำเนิดและวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ กำเนดิ ระบบสุริยะและการ
แบ่งเขตบริวารรอบดวงอาทติ ย์ โครงสร้างและปรากฏการณบ์ นดวงอาทิตย์ เทคโนโลยีอวกาศและการประยกุ ตใ์ ช้
ศึกษาขอ้ มลู ในการศึกษาและแบ่งชั้นโครงสรา้ งโลก การแบ่งช้ันโครงสร้างโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมีและสมบัติ
เชิงกล ศึกษาเก่ียวกับแนวคิดทฤษฎีทวีปเล่ือนและหลักฐานสนับสนุน แนวคิดทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืนสมุทรและ
หลกั ฐานสนับสนนุ การแปรสณั ฐานของแผ่นธรณี ธรณีสณั ฐานและโครงสร้างทางธรณที ่ีเกิดจากการเคล่อื นท่ขี อง
แผ่นธรณี ทําความเขาใจธรรมชาติของธรณีพิบัติภัยเพ่ือเตรียมพรอมรับสถานการณ ศึกษาการเกิดลมฟ้าอากาศ
และภูมิอากาศ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการรับรังสีดวงอาทิตย์ของพื้นผิวโลก การหมุนเวียนของอากาศ การ
หมุนเวยี นของผวิ น้ำหนา้ มหาสมทุ ร ปรากฏการณเ์ อลนีโญและลานีญา รวมทง้ั การการเปลยี่ นแปลงภูมิอากาศทีม่ ี
ต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่สำคัญจากแผนที่อากาศ และนำเสนอ
ข้อมูลสารสนเทศตา่ ง ๆ มาวางแผนการดำเนินชีวติ ใหส้ อดคล้องกับสภาพลมฟา้ อากาศ

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ขอ้ มูล การสงั เกต วิเคราะห์
เปรียบเทยี บ อธิบาย อภปิ รายและสรปุ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มี
ทกั ษะปฏบิ ัตกิ ารทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
ด้านการคิดและการแกป้ ัญหา ดา้ นการสื่อสาร สามารถส่ือสารส่งิ ทเ่ี รียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชวี ติ ของตนเอง มี
จิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม

รหสั ตัวช้ีวดั
ว 3.1 ม.4-6/1,ม.4-6/2,ม.4-6/3, ม.4-6/4,ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8
ม.4-6/9, ม.4-6/10
ว 3.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2 , ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8,
ม.4-6/9, ม.4-6/10, ม.4-6/11, ม.4-6/12, ม.4-6/13, ม.4-6/14

รวมท้ังหมด 24 ตัวช้ีวดั

หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พุทธศักราช 2564 Sหน้า 325

คำอธิบายรายวิชา

รายวิชาวิทยาการคำนวณ รหัสวิชา ว32103 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาและอธิบายองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ แล้วสามารถนำกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ
มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอน ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการประมวลผลและตัดสินใจในการ
ทำงาน ติดต่อส่ือสารและค้นหาขอ้ มลู ผ่านอนิ เทอร์เนต็ อยา่ งมคี ุณธรรมและจริยธรรม

โดยใช้ความรู้และทักษะเก่ียวกับการรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์
สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหา เพื่อเพ่ิมมูลค่าให้กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ในชีวิตจริงอย่าง
สร้างสรรค์

โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการปฏิบัติ เพ่ือให้เกิดความรู้ เกิดทักษะการปฏิบัติ
เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหา เพิ่มมูลค่าให้กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้
ในชวี ติ จรงิ อย่างสร้างสรรค์ และการทำงานได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพมีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม

ตวั ชว้ี ัด
ว 4.2 ม.5/1

รวมท้ังหมด 1 ตวั ชี้วดั

หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 326

คำอธิบายรายวิชา

รายวชิ าวิทยาศาสตร์กายภาพ(เคมี) รหสั วิชา ว32101 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ การค้นพบธาตุ การจัดกลุ่มธาตุ การจัดเรียงธาตุตามตารางธาตุ การศึกษาสมบัติของ
ธาตุ ธาตุโลหะ ธาตุอโลหะ ธาตุก่ึงโลหะและธาตุกัมมันตรังสี ศึกษาโครงสร้างอะตอม เพื่ออธิบายแบบจำลอง
อะตอม อนภุ าคมูลฐานของอะตอม ความสมั พนั ธร์ ะหว่างชนิดของพันธะเคมีกบั สมบัติบางประการของสาร อธิบาย
ความหมายของโครงสร้างพอลเิ มอร์ และผลของโครงสรา้ งท่ีมีต่อสมบตั ิพอลิเมอร์ การนำ
พอลิเมอร์ไปใช้ จำแนกพลาสติก การเกิดปฏิกิริยาเคมี ปฏิกิริยาเคมีและสมการเคมี สารเคมี ปฏิกิริยาเคมีต่อชีวิต
และสิง่ แวดล้อม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การข้อมูลและการ
อภิปราย กระบวนการทางเทคโนโลยี และกระบวนการทางวิศวกรรม ทักษะในศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่เี หมาะสม

ตวั ช้วี ัด ม.5/1, ม.5/2, ม.5/3, ม.5/4, ม.5/5, ม.5/6, ม.5/7, ม.5/8, ม.5/9, ม.5/10 ,ม.5/11, ม.5/12 ,
ว2.1 ม.5/13, ม.5/14, ม.5/15, ม.5/16, ม.5/17, ม.5/18, ม.5/19, ม.5/20, ม.5/21, ม.5/22,
ม.5/23, ม.5/24, ม.5/25
ว4.2 ม.5/1

รวมทั้งหมด 26 ตวั ชี้วดั

หลักสตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 327

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รายวชิ าฟสิ ิกส์ รหัสวชิ า ว32202 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5
ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต

ศึกษา การเกิดเสียง การเคลื่อนท่ีของเสยี ง การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเล้ียวเบน
ของเสียง การได้ยินเสียง ความเข้มเสียง คุณภาพเสียง มลพิษทางเสียง คล่ืนน่ิงของเสียง การส่ันพ้องของเสียง
การเกิดบีต ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คลื่นกระแทกของเสียง ธรรมชาติของไฟฟ้าสถิต การเหนี่ยวนำไฟฟ้าสถิต
กฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า แรงไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความต่างศักย์ความจุและพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ การ
ตอ่ ตัวเกบ็ ประจุ กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนำ กฎของโอห์ม สภาพต้านทาน สภาพต้านทาน การตอ่ ตวั ต้านทาน อีเอ็ม
เอฟของแหล่งกำเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง พลังงานไฟฟ้า กำลงั ไฟฟา้ การตอ่ แบตเตอรี่ การวเิ คราะห์วงจรกระแสตรง
การเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีด้านพลังงาน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ
อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถ
ในการตัดสินใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ร่วมทั้งทักษะแห่งในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และนำความรู้ ไปใช้ในชีวิตประจำวันของ
ตนเอง มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม
ผลการเรยี นรู้

1. อธิบายการเกดิ เสียง การเคล่อื นที่ของเสียง ความสมั พันธร์ ะหว่างคลื่น การกระจดั ของอนุภาค
กับคลื่นความดนั ความสัมพนั ธร์ ะหว่างอตั ราเรว็ ของเสยี งในอากาศท่ีขนึ้ กบั อุณหภมู ิ ในหน่วย องศาเซลเซียส
สมบตั ขิ องคล่ืนเสยี ง ได้แก่ การสะทอ้ น การหกั เห การแทรกสอด การเลยี้ วเบน รวมท้งั คำนวณปรมิ าณต่างๆ ที่
เก่ยี วขอ้ ง

2. อธิบายความเข้มเสยี ง ระดับเสยี ง องคป์ ระกอบของการได้ยิน คุณภาพเสยี ง และมลพิษเสียง
รวมทั้งคำนวณปรมิ าณตา่ งๆ ทีเ่ กยี่ วข้อง

3. ทดลอง และอธิบายการเกิดการส่นั พ้องของอากาศในท่อปลายเปิดหน่ึงด้าน รวมท้งั สังเกตและ
อธบิ าย การเกิดบีต คล่นื น่งิ ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คล่นื กระแทกขของเสียง คำนวณปริมาณ ต่างๆ ท่ีเกีย่ วข้อง
และนำความร้เู ร่ืองเสยี งไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั

4. ทดลอง และอธิบายการทำวัตถุทเี่ ปน็ กลางทางไฟฟ้าให้มปี ระจุไฟฟา้ โดยการขดั สกี ันและการ
เหนย่ี วนำไฟฟา้ สถิต

5. อธบิ าย และคำนวณแรงไฟฟา้ ตามกฎของคลู อมบ์
6. อธบิ าย และคำนวณสนามไฟฟา้ และแรงไฟฟ้าท่ีกระทำกบั อนุภาคท่ีมปี ระจุไฟฟา้ ทอ่ี ยู่ใน
สนามไฟฟ้า รวมท้ังหาสนามไฟฟา้ ลัพธเ์ น่ืองจากระบบจดุ ประจโุ ดยรวมกันแบบเวกเตอร์
7. อธบิ าย และคำนวณพลงั งานศักยไ์ ฟฟ้า ศกั ย์ไฟฟ้าและความตา่ งศักย์ระหว่างสองตำแหน่งใด ๆ
8. อธบิ ายสว่ นประกอบของตวั เก็บประจุความสัมพันธ์ระหวา่ งประจุไฟฟ้า ความตา่ งศักยแ์ ละความจุ
ของตัวเกบ็ ประจุ และอธบิ ายพลังงานสะสมในตวั เกบ็ ประจุ และความจสุ มมลู รวมทง้ั คำนวณ ปริมาณตา่ ง ๆ ที่
เกีย่ วขอ้ ง

หลกั สูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 328

9. นำความรู้เรอื่ งไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทำงานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าบางชนิด และปรากฏการณ์
ในชวี ติ ประจำวนั

10. อธิบายการเคลื่อนที่ของอเิ ลก็ ตรอนอิสระและกระแสไฟฟา้ ในลวดตัวนำ ความสมั พันธร์ ะหว่าง
กระแสไฟฟ้าในลวดตวั นำกับความเรว็ ลอยเลอ่ื นของอิเลก็ ตรอนอิสระ ความหนาแนน่ ของ อเิ ลก็ ตรอนในลวดตวั นำ
และพื้นทหี่ นา้ ตดั ของลวดตวั นำ และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆทเี่ กย่ี วข้อง

11. ทดลอง และอธบิ ายกฎของโอหม์ อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างความต้านทานกบั ความยาว
พ้ืนท่ีหนา้ ตดั และสภาพตา้ นทานของตัวนำโลหะท่ีอุณหภูมคิ งตัว และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆท่ี เกี่ยวข้อง รวมท้งั
อธบิ ายและคำนวณความต้านทานสมมูล เม่ือนำตวั ตา้ นทานมาต่อกันแบบอนกุ รมและแบบขนาน

12. ทดลอง อธิบาย และคำนวณอีเอ็มเอฟของแหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ กระแสตรง รวมทัง้ อธบิ ายและ คำนวณ
พลงั งานไฟฟา้ และกำลังไฟฟ้า

13. ทดลอง และคำนวณอเี อ็มเอฟสมมูลจากการต่อแบตเตอร่แี บบอนุกรมและแบบขนานรวมท้ัง
คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซึง่ ประกอบดว้ ยแบตเตอรแ่ี ละตวั ต้านทาน

14. อธบิ ายการเปลย่ี นพลงั งานทดแทนเปน็ พลงั งานไฟฟา้ รวมทัง้ สบื ค้นและอภปิ รายเกี่ยวกับเทคโนโลยี
ทนี่ ำมาแกป้ ัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางดา้ นพลงั งานไฟฟา้ โดยเนน้ ดา้ น ประสิทธภิ าพและความคุ้มคา่
ดา้ นค่าใชจ้ ่าย

รวมทั้งหมด 14 ผลการเรียนรู้

หลกั สูตรโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 329

คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ

รายวิชาเคมี รหสั วิชา ว32222 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

ศึกษาระบุและอธิบายว่าสารเป็นกรดหรือเบส โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส เบรินสเตดลาวรี
และลิวอิสระบุคู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรีคำนวณและเปรียบเทียบความสามารถ
ในการแตกตัวหรอื ความแรงของกรดและเบสคำนวณคา่   pH  ความเขม้ ข้นของไฮโดรเนยี มไอออนหรือไฮดรอกไซด์
ไอออนของสารละลายกรดและเบสเขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาสะเทิน  และระบุความเป็น กรด-เบสของ
สารละลายหลังการสะเทินเขียนปฏิกิริยาไฮโดรลิซิสของเกลือ และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือ
ทดลองและอธิบายหลักการการไทเทรตและเลือกใช้อินดิเคเตอร์ท่ีเหมาะสมสำหรับการไทเทรตกรด -เบสคำนวณ
ปริมาณสารหรือความเข้มข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรตอธิบายสมบัติ องค์ประกอบ และ
ประโยชน์ของสารละลายบัฟเฟอร์สืบค้นข้อมูลและนำ เสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์และการแก้ปัญหาโดยใช้
ความรู้เกี่ยวกับกรด-เบสคำนวณเลขออกซเิ ดชันและระบุปฏิกิริยาท่ีเป็นปฏิกิริยารดี อกซ์วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง
เลขออกซิเดชันและระบุตัวรีดิวซ์และตัวออกซิไดส์ รวมท้ังเขียนครึ่งปฏิกิริยาออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยารีดักชัน
ของปฏิกิริยารีดอกซ์ทดลองและเปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์  และเขียนแสดง
ปฏิกิริยารีดอกซ์ดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลขออกซิเดชัน และวิธีคร่ึงปฏิกิริยาระบุองค์ประกอบของเซลล์
เคมีไฟฟ้าและเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาท่ีแอโนดและแคโทดปฏิกิริยารวม และแผนภาพเซลล์คำนวณค่า
ศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้า และปฏิกิริยาเคมีท่ีเกิดข้ึนอธิบาย
หลักการทำงานและเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทุติ ยภูมิทดลองชุบโลหะและแยก
สารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าท่ีใช้ในการชบุ โลหะ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า
การทำโลหะให้บริสุทธิ์ และการป้องกันการกัดกร่อนของโลหะสบื ค้นขอ้ มลู และนำเสนอตัวอย่างความกา้ วหนา้ ทาง
เทคโนโลยีทเี่ กย่ี วข้องกบั เซลลเ์ คมีไฟฟ้าในชีวติ ประจำวนั

โดยใช้การเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้การสืบค้นข้อมูล การสังเกต
วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจมี
ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิต
ของตนเอง เรยี นรผู้ า่ นกิจกรรมสะเตม็ มจี ติ วิทยาศาสตร์จรยิ ธรรมคุณธรรมและคา่ นยิ มที่เหมาะสม

ผลการเรียนรู้
1. ระบแุ ละอธิบายว่าสารเปน็ กรดหรอื เบส โดยใช้ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนียส เบรินสเตดลาวรี และ

ลวิ อสิ
2. ระบุคกู่ รด-เบสของสารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรนิ สเตด-ลาวรี
3. คำนวณและเปรยี บเทียบความสามารถในการแตกตัวหรอื ความแรงของกรดและเบส
4. คำนวณคา่  pHความเข้มข้นของไฮโดรเนยี มไอออน หรอื ไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรดและ

เบส

หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 330

5. เขยี นสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาสะเทิน  และระบคุ วามเป็นกรด-เบสของสารละลายหลงั การสะเทิน
6. เขียนปฏิกิริยาไฮโดรลซิ ิสของเกลือ และระบคุ วามเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลอื
7. ทดลองและอธิบายหลกั การการไทเทรตและเลอื กใช้อินดิเคเตอร์ทีเ่ หมาะสมสำ หรับการไทเทรตกรด-
เบส
8. คำนวณปริมาณสารหรือความเขม้ ข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต
9. อธิบายสมบัติองคป์ ระกอบ และประโยชน์ของสารละลายบฟั เฟอร์
10. สบื คน้ ข้อมูลและนำ เสนอตัวอยา่ งการใชป้ ระโยชนแ์ ละการแกป้ ญั หาโดยใช้ความรู้เกีย่ วกับกรด-เบส
11. คำนวณเลขออกซิเดชันและระบปุ ฏิกิริยาที่เปน็ ปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์
12. วเิ คราะหก์ ารเปล่ียนแปลงเลขออกซิเดชนั และระบตุ ัวรดี ิวซ์และตวั ออกซิไดส์ รวมท้งั เขียนครง่ึ
ปฏกิ ิรยิ า ออกซเิ ดชันและครึง่ ปฏกิ ริ ยิ ารดี ักชนั ของปฏิกิริยารีดอกซ์
13. ทดลองและเปรียบเทียบความสามารถในการเปน็ ตัวรีดวิ ซห์ รอื ตัวออกซิไดส์ และเขียนแสดงปฏกิ ริ ยิ ารี
ดอกซ์
14. ดุลสมการรดี อกซ์ด้วยการใช้เลขออกซเิ ดชนั และวิธีคร่ึงปฏิกริ ิยา
15. ระบุองคป์ ระกอบของเซลลเ์ คมีไฟฟา้ และเขียนสมการเคมีของปฏิกิริยาทแี่ อโนดและแคโทด
ปฏกิ ิรยิ ารวม และแผนภาพเซลล์
16. คำนวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขวั้ ไฟฟ้า และปฏิกริ ยิ า
เคมที เ่ี กดิ ขน้ึ
17. อธบิ ายหลักการทำงานและเขียนสมการแสดงปฏกิ ิรยิ าของเซลลป์ ฐมภูมิและเซลลท์ ุติยภูมิ
18. ทดลองชบุ โลหะและแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า    และอธิบายหลกั การทางเคมีไฟฟา้ ที่ใช้ในการชุบ
โลหะการแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า การทำโลหะใหบ้ ริสุทธ์ิ และการป้องกนั การกัดกร่อนของโลหะ
19. สบื ค้นขอ้ มลู และนำเสนอตัวอยา่ งความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยที เ่ี กีย่ วขอ้ งกบั เซลลเ์ คมีไฟฟ้าใน
ชวี ิตประจำวนั

รวมท้ังหมด 19 ผลการเรียนรู้

หลักสตู รโรงเรียนชมุ พวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 331

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รายวิชาชีววิทยา รหัสวชิ า ว32242 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาเก่ียวกับโครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ โครงสร้างและกรบสนการ
แลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์และมนุษย์ การทำงานของปอดและการวัดปริมาตรของอากาศในการหายใจของมนุษย์
ศึกษาระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปดิ และระบบหมนุ เวียนเลือดแบบปดิ ในสัตว์ โครงสร้างและการทำงานของหัวใจ
และหลอดเลือดในมนุษย์ เซลล์เม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ หมู่เลือดและหลักการให้และรับเลือดในระบบ ABO และ
ระบบ Rh ส่วนประกอบและหน้าท่ีของน้ำเหลือง โครงสร้างและหน้าท่ีของหลอดน้ำเหลือง และต่อมน้ำเหลือง
ศึกษากลไกการต่อต้านหรือทำลายส่ิงแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะและแบบจำเพาะ การสร้างภูมิคุ้มกันก่อเองและ
ภมู ิคมุ้ กันรับมา และความผดิ ปกตขิ องระบบภูมิค้มุ กนั รวมทัง้ ศึกษาเก่ยี วกับโครงสร้างและหน้าที่ในการกำจดั ของ
เสียออกจากร่างกายของสัตว์ โครงสร้างและหน้าท่ีของไต กลไกการทำงานของหน่วยไต และโครงสร้างท่ีใช้
ลำเลียงปัสสาวะออกจากร่างกายของมนุษย์ และความผิดปกติของไตจากโรคต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และ
สรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รมท้ัง
ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการ
ส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม
และค่านิยมท่ีเหมาะสม

ผลการเรยี นรู้
1. สืบคน้ ข้อมลู อธิบาย และเปรียบเทยี บโครงสร้างและกระบวนการยอ่ ยอาหารของสัตว์ท่ีไม่มีทางเดิน

อาหาร สตั ว์ท่มี ที างเดินอาหารแบบไมส่ มบูรณ์ และสตั วท์ ่ีมีทางเดนิ อาหารแบบสมบูรณ์
2. สังเกต อธบิ าย การกินอาหารของไฮดราและ พลานาเรีย
3. อธิบายเก่ียวกบั โครงสรา้ งหน้าท่ีและกระบวนการย่อยอาหารและการดูดซมึ สารอาหารภายในระบบย่อย

อาหารของมนุษย์
4. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ ายและเปรยี บเทยี บโครงสรา้ งท่ีทำหน้าท่ีแลกเปล่ยี นแก๊สของฟองน้ำไฮดราพลนาเรยี

ไสเ้ ดือนดินแมลงปลากบและนก
5. สังเกตและอธบิ ายโครงสร้างของปอดในสัตว์ เลี้ยงลกู ด้วยนำ้ นม
6. สืบค้นข้อมลู อธิบายโครงสร้างทใี่ ช้ในการแลกเปลีย่ นแก๊สและกระบวนการแลกเปล่ียน แกส๊ ของ

มนษุ ย์
7. อธิบายการทำงานของปอดและทดลองวดั ปรมิ าตรของอากาศในการหายใจออกของมนุษย์
8. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบายและเปรียบเทยี บระบบ หมุนเวยี นเลือดแบบเปิดและระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด
9. สังเกตและอธิบายทิศทาง การไหลของเลือด และการเคลื่อนท่ีของเซลลเ์ ม็ดเลือดในหางปลาและสรปุ

ความสัมพันธร์ ะหว่างขนาดของหลอดเลือด กบั ความเร็วในการไหลของเลือด
10. อธิบายโครงสร้างและการทำงานของหวั ใจและหลอดเลือดในมนษุ ย์

หลักสตู รโรงเรยี นชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 332

11. สงั เกตและอธิบายโครงสรา้ งหัวใจของสัตว์ เลี้ยงลกู ด้วยนำ้ นมทิศทาง การไหลของเลือด ผ่านหวั ใจของ
มนษุ ย์และเขียนแผนผังสรปุ การหมนุ เวยี นเลือดของมนุษย์

12. สบื คน้ ข้อมูล ระบุความแตกตา่ งของเซลลเ์ มด็ เลือดแดง เซลลเ์ ม็ดเลือดขาว เพลตเลต และพลาสมา
13. อธบิ ายหม่เู ลือดและหลักการใหแ้ ละรับเลอื ด ในระบบ ABO และระบบ Rh
14. อธบิ ายและสรุปเกย่ี วกบั ส่วนประกอบและหน้าที่ของนำ้ เหลอื ง รวมทั้งโครงสรา้ งและหน้าทขี่ องหลอด
น้ำเหลืองและต่อมน้ำเหลอื ง
15. สบื ค้นข้อมูล อธบิ ายและเปรยี บเทยี บกลไก การต่อตา้ นหรือทำลายสง่ิ แปลกปลอมแบบไม่จำเพาะ
และแบบจำเพาะ
16. สืบค้นขอ้ มลู อธิบายและเปรยี บเทียบการสร้างภมู ิคุ้มกันก่อเองและภมู ิคมุ้ กนั รบั มา
17. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธิบายเกยี่ วกับความผิดปกติ ของระบบภูมคิ ุ้มกนั ทีท่ ำให้เกดิ เอดส์ภูมิแพ้การสรา้ งภูมิ
ต้านทานต่อเนื้อเยื่อตนเอง
18. สบื ค้นข้อมลู อธิบายและเปรยี บเทยี บโครงสรา้ งและหน้าทีใ่ นการกำจดั ของเสียออกจากร่างกายของฟองนำ้
ไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดือนดิน แมลงและสัตวม์ ีกระดูกสันหลงั
19. อธิบายโครงสร้างและหนา้ ท่ขี องไตและโครงสร้างทีใ่ ช้ลำเลียงปัสสาวะออกจากร่างกาย
20. อธบิ ายกลไกการทำงานของหนว่ ยไตในการกำจดั ของเสยี ออกจากรา่ งกายและเขียนแผนผงั สรปุ ข้ันตอน
การกำจัดของเสยี ออกจากร่างกายโดยหนว่ ยไต
21. สบื ค้นข้อมูล อธบิ ายและยกตวั อยา่ งเก่ียวกับ ความผิดปกติของไตอันเนื่องมาจากโรคตา่ งๆ

รวมทั้งหมด 21 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 333

คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม

รายวชิ า การผลิตสื่อและสิง่ พิมพด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ รหสั วิชา ว32277 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้อุปกรณ์ท่ีเกี่ยวข้อง การใช้โปรแกรม
ผลิตสื่อส่ิงพิมพ์ การใช้โปรแกรมจัดหน้าสื่อส่ิงพิมพ์ การออกแบบส่ือส่ิงพิมพ์ การทำพาดหัวข้อ การจัดคอลัมน์
และการผสมภาพในสอ่ื สิ่งพมิ พ์

ฝึกปฏบิ ัติโดยใช้กระบวนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้อุปกรณ์ทีเ่ ก่ยี วข้อง การใช้โปรแกรม
ผลิตส่ือสิ่งพิมพ์ การใช้โปรแกรมจัดหน้าสื่อส่ิงพิมพ์ การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ การทำพาดหัวข้อ การจัดคอลัมน์
และการผสมภาพในส่ือสิ่งพิมพ์เพอ่ื สร้างงานท่ีสรา้ งสรรคแ์ ละเกิดประโยชน์

เพ่ือให้เห็นคณุ ค่าของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการสร้างช้ินงาน สามารถทำงานรว่ มกับผู้อ่ืนได้อย่าง
มคี วามสุข มคี วามรบั ผิดชอบและนำไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั ได้

ผลการเรยี นรู้
1. มีความร้คู วามเข้าใจเกย่ี วกับการผลติ ส่ือส่งิ พิมพ์ดว้ ยคอมพวิ เตอร์
2. มีความสามารถผลติ สอื่ สิ่งพมิ พด์ ้วยคอมพวิ เตอร์
3. เหน็ คณุ ค่าความสำคญั ของการผลติ ส่อื สงิ่ พิมพด์ ว้ ยคอมพิวเตอร์

รวมทั้งหมด 3 ผลการเรยี นรู้

หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหน้า 334

คำอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม

รายวชิ าโปรแกรมตารางงาน รหสั วิชา ว32273 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษาบทบาท ความสำคัญ นิยาม ลักษณะสำคัญและผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อมูล
สารสนเทศ ระบบสารสนเทศ การจัดการสารสนเทศ การแทนข้อมูล แฟ้มข้อมูล พัฒนาการคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูลข่าวสารและการจัดการบุคลากรด้าน
คอมพิวเตอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลแบบต่าง ๆ เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่
ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ปฏิบัติการสร้างงานบนตารางทำงาน ป้อน แก้ไข เก็บ และเรียกข้อมูล จัดรูปแบบช้ินงาน สร้างกราฟ
ใชฟ้ ังก์ชันคำนวณ และประยุกตต์ ารางทำงานในงานต่าง ๆ

เพื่อให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะการใช้โปรแกรมตารางทำงาน สามารถประยุกต์ใช้ตารางทำงาน
ในการทำงานได้

ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายเกย่ี วกบั สว่ นตดิ ต่อผู้ใชท้ ี่ปรบั ปรงุ ใหมแ่ ละคุณลักษณะใหมข่ องโปรแกรม Microsoft Excel ได้
2. สามารถอธิบายและใชง้ านสว่ นประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel ได้
3. เข้าใจหลกั การพ้ืนฐานในการใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel
4. สามารถคำนวณโดยการพิมพ์สตู รทางคณิตศาสตร์ และการใชส้ ูตรสำเรจ็ จากการแทรกฟังก์ชันได้
5. สามารถสร้างแผนภมู ิอย่างงา่ ยและสรา้ งแผนภมู ิขั้นสูงได้
6. สามารถจดั การฐานข้อมูลและเช่ือมโยงกบั ฐานข้อมลู อื่นได้

รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 335

คำอธิบายรายวิชาเพ่ิมเตมิ

รายวิชาเว็บโปรแกรมม่ิง รหสั วิชา ว32274 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5
ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษา ปฏิบัติ แนวคิดและหลักการโปรแกรม โครงสร้างโปรแกรม ตัวแปร คำส่ัง การตรวจสอบเง่ือนไข
การโต้ตอบกับฟอร์มแบบต่าง ๆ การจัดการเซสชัน รูปแบบการเข้าถึงฐานข้อมูลผ่านเว็บ การออกแบบโปรแกรม
การเขียนและทดสอบโปรแกรม และการประยกุ ตใ์ ช้งาน Web Programming
ด้วยภาษา PHP, ASP หรอื JSP ได้

เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ ในการเขียน Web Programming สามารถ
ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ในการสรา้ งสรรคง์ าน มคี วามรบั ผิดชอบ มีความสามารถในการคดิ
การแก้ปัญหา สามารถใช้เทคโนโลยไี ดอ้ ย่างเหมาะสม มีเจตคติทีด่ ีตอ่ การทำงาน

เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถ ความคิดวิเคราะห์สังเคราะห์อย่างมีเหตุผล หลักการและวิจารณญาณ
ความรอบคอบ ทำงานอยา่ งมรี ะบบมรี ะเบียบวินยั ความรับผดิ ชอบ มคี ุณธรรมจริยธรรม และเช่อื มั่นในตนเอง

ผลการเรยี นรู้
1. สามารถเข้าใจถงึ หลกั การพฒั นาเว็บไซต์
2. สามารถเขยี นโปรแกรมด้วยภาษา HTML และ PHP
3. สร้างฐานขอ้ มูล ตาราง และจดั การฐานข้อมลู เบื้องต้นได้
4. เขา้ ใจถงึ หลักการจัดการเว็บไซตแ์ ละการเช่ือมต่อฐานข้อมูลเบอ้ื งตน้
5. สามารถนำไปประยกุ ต์ใชง้ านในรูปแบบของ Web Application

รวมท้ังหมด 5 ผลการเรียนรู้

หลักสูตรโรงเรยี นชุมพวงศึกษา พุทธศักราช 2564 Sหนา้ 336

คำอธิบายรายวชิ า

รายวิชาสังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส32101 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

การฝึกตนไม่ใหป้ ระมาท และสนั ตภิ าพแกบ่ ุคคล สงั คมและโลก พระพทุ ธศาสนากับปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง พระพุทธศาสนากับการศกึ ษา การเมือง และสันตภิ าพ พระรัตนตรยั หลักธรรมในกรอบ
อรยิ สจั 4 และพุทธศาสนสุภาษติ ศาสนกิ ชนตวั อยา่ งและชาดก พระไตรปิฎก
ความดี ความชวั่ ศาสนาเปรียบเทียบ ค่านิยมและจรยิ ธรรมความเช่อื และพฤติกรรมทแี่ ตกตา่ งของพลเมืองดี
ละอายและไม่ทนต่อการทุจริต มีจิตพอเพยี งต้านการทจุ ริต และมคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม

ศกึ ษาการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ความสำคญั ของการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ความสำคญั ของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข การเปน็ พลเมืองและการ
รับผิดชอบตอ่ สงั คม รวมถงึ การเปน็ พลเมอื งดีของประเทศชาติและสงั คมโลก

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแกป้ ญั หา กระบวนการกลุ่ม
เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต การเคารพสิทธิของผู้อื่น การเคารพ กฎ
กติกา กฎหมาย การเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่น การแก้ปัญหาของตนเองและครอบครัว มีคุณลักษณะอันพึง
ประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสตั ย์ สุจริต มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพียง มุ่งมัน่ ในการทำงาน
รักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ความละอายและไม่ทนต่อการทุจริต มีจิต
พอเพยี งต่อการต้านการทุจรติ และมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม

ตัวชว้ี ดั ม.4-6/10,11,12,13,14,15,16,17,18
ส 1.1 ม. 4 - 6/3
ส 2.1 ม. 4 - 6/3
ส 2.2

รวมท้ังหมด 11 ตัวชวี้ ดั

หลกั สูตรโรงเรยี นชมุ พวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 337

คำอธิบายรายวิชา

รายวิชาประวัติศาสตรไ์ ทย รหสั วิชา ส32102 กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

ศึกษา วเิ คราะหเ์ กี่ยวกบั ความสำคัญของเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตรท์ ่ีแสดงถึงการ
เปลย่ี นแปลงของมนษุ ยชาติ ตัวอย่างการใชเ้ วลาและยุคสมยั ของประวัตศิ าสตรท์ ่ปี รากฏในเอกสารทาง
ประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตรส์ ากล โดยใชท้ กั ษะการสังเกต การวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การ
เชอ่ื มโยง ทงั้ น้ีเพื่อให้มีความเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะของสงั คมทม่ี ีความสัมพนั ธเ์ ชือ่ มโยงหรือมผี ลกระทบที่มกี าร
เปลีย่ นแปลงหรือมีการพัฒนากรในแต่ละช่วงเวลาและพืน้ ท่ีท่ีแตกต่างกัน

ศึกษาวิเคราะห์ความหมาย คุณคา่ และใชว้ ธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตรต์ ามลำดับขั้นตอนอย่างเปน็
ระบบในการสืบคน้ เรือ่ งราวที่ตนสนใจ เข้าใจประโยชน์และคณุ คา่ ของวิธกี ารทางประวัติศาสตรใ์ นโลกยคุ โลกาภิ
วตั นท์ ีม่ ขี อ้ มลู สารสนเทศทีห่ ลากหลาย จดั ทำผลการศึกษาหรือโครงงานทางประวัตศิ าสตร์ และสรา้ งองค์ความรู้
ใหม่ทางประวตั ิศาสตร์ โดยใช้ทกั ษะการไตร่สวน การตรวจสอบ การวพิ ากษข์ ้อมลู การตีความ การเปรยี บเทียบ
การแปลความ การสรปุ อ้างอิง การให้เหตุผล การสงั เคราะห์ และการนำเสนอ ทงั้ นี้เพ่ือฝึกฝนทกั ษะตามวิธีการ
ทางประวัติศาสตรใ์ นการศึกษาวิเคราะห์ข้อมลู อยา่ งเป็นระบบ และสามารถสรปุ ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้
อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ศกึ ษาวเิ คราะห์ประเดน็ และแนวคดิ สำคัญของประวตั ศิ าสตร์ไทย เชน่ แนวคิดเกี่ยวกบั ความเปน็ มา
ของชนชาตไิ ทย อาณาจักรโบราณในดินแดนไทยและอทิ ธิพลทมี่ ีต่อสงั คมไทย ปจั จยั ท่ีมผี ลตอ่ การสถาปนาและ
พฒั นาการของอาณาจักรไทยในช่วงเวลาต่าง ๆ สาเหตแุ ละผลของการปฏิรูปการปกครองบ้านเมอื ง การเลิกทาส
การเลกิ ระบบไพร่ การเสด็จประภาสยุโรปและหัวเมืองต่าง ๆ ในสมยั รัชกาลท่ี 5 การเปล่ยี นแปลงการปกครอง
พ.ศ. 2475 บทบาทของสตรีไทย การพฒั นาประชาธปิ ไตยในสังคมไทย ศึกษาวิเคราะหค์ วามสำคญั ของสถาบัน
พระมหากษัตริย์ตอ่ การพฒั นาชาติไทยในดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ การปอ้ งกนั และรักษาเอกราชของชาติ การสร้างสรรค์
วัฒนธรรมไทย การส่งเสริมการศกึ ษา และการแก้ปัญหาเศรษฐกจิ และสังคม ทง้ั นี้ เพ่ือให้เขา้ ใจประเดน็ สำคญั
ทางประวตั ศิ าสตร์ไทย เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย พัฒนาการทางประวตั ศิ าสตร์ของไทยทางด้านต่าง ๆ ที่มี
ความเปลย่ี นแปลงตั้งแตอ่ ดีตถึงปัจจุบนั เห็นแบบอย่างในการพฒั นาตน เห็นความมุง่ ม่ันและความพยายามของ
พระมหากษัตรยิ ์และบรรพบรุ ุษของไทยในการปกป้องเอกราช ตระหนักในความสำคัญของสถาบัน
พระมหากษัตริย์ที่มตี ่อสังคมไทยตงั้ แต่อดีตจนถึงปจั จบุ นั

ตัวชว้ี ดั
ส 4.1 ม. 4 - 6/1 , ม. 4 - 6/2
ส 4.3 ม. 4 - 6/1 , ม. 4 - 6/2

รวมท้ังหมด 4 ตัวช้ีวดั

หลกั สตู รโรงเรียนชมุ พวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 338

คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม

รายวชิ าธรรมศกึ ษา รหัสวิชา ส32201 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษา วเิ คราะห์ เขยี นอธิบายกระทู้ธรรมสุภาษิตตามแนวทางของธรรมศกึ ษาชั้นโท เชือ่ มความสัมพนั ธ์
ระหวา่ งสภุ าษติ บทตัง้ กับสุภาษิตอ้างองิ สนบั สนนุ จำนวน 2 สภุ าษติ ได้อยา่ งสมเหตุผล

ศึกษาค้นควา้ ความรู้ท่เี ก่ยี วกับหลกั ธรรมวิภาคตั้งแต่ทกุ ะ หมวด 2 ถึง ทสกะ หมวด 10และ ทวาท
สกะ หมวด 12

ศึกษาอนุพุทธประวัติ 40 องค์ ในเรื่องทเ่ี กี่ยวกับ ชาตกิ ำเนิด ชวี ิตกอ่ นการออกบวช มูลเหตทุ ที่ ำให้ออก
บวชในพระพุทธศาสนา การบรรลธุ รรม การประกาศพระพทุ ธศาสนา การดำรงตำแหน่งเอตทัคคะ การบำเพ็ญ
บารมธี รรม ธรรมภาษิตของทา่ น และการดับขนั ธปรินพิ พาน

ศึกษาและฝกึ ปฏิบัติเก่ียวกบั มรรยาทชาวพทุ ธศาสนพิธี ในเรือ่ งกุศลพธิ ีวา่ ดว้ ยการเขา้ พรรษา การถือ
นิสัย การทำสามจี กิ รรม การทำวตั รสวดมนต์ วันธรรมสวนะ สังฆอโุ บสถ และออกพรรษา บญุ พิธี ว่าด้วยกการตกั
บาตรเทโวโรหณะ การสวดเจรญิ พระพทุ ธมนต์ การสวดพระอภธิ รรม สวดมาติกา สวดแจง ถวายพรพระ ธรรม
เทศนา และอนุโมทนากรณตี ่าง ๆ ทานพธิ ี ว่าดว้ ยการถวายสังฆทาน ถวายสลากภัต ตักบาตรข้าวสาร ตักบาตร
นำ้ ผึ้ง ถวายเสนาสนะ กุฏิ วิหาร ถวายศาลาโรงธรรม และถวายผ้าวสั สิกสาฎก และปกณิ กพิธี วา่ ด้วยการสวด
มนตไ์ หวพ้ ระของนักเรยี น พิธไี หว้ครูของนักเรียน การจับด้ายสายสญิ จน์ วธิ ีบงั สกุ ลุ เป็น และวธิ ีบอกศกั ราชเทศนา

ศึกษาอุโบสถศลี ในเรอ่ื งท่เี กีย่ วกับประเภทและความหมาย การเข้าถงึ ไตรสรณคมภ์ ประวัติความเปน็ มา
และประเภทของอุโบสถ องค์แหง่ อโุ บสถ วธิ สี มาทานอโุ บสถศลี การปฏบิ ตั ิตนในการถืออโุ บสถศีล และอานสิ งน์
ของการถืออุโบสถศีล

โดยใช้ทกั ษะในการจัดการ ทักษะกระบวนการคิด ทักษะในการสอื่ สาร จากกระบวนการสืบค้นข้อมลู
กระบวนการทางสงั คม กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์กระบวนการแก้ปัญหา และ
กระบวนการกลุ่ม

เพอื่ ให้เกิดความร้คู วามเขา้ ใจทีถ่ กู ต้องเกี่ยวกบั การอธิบายความตามพุทธศาสนสุภาษิต อนุพุทธประวัติ
40 องค์ หลกั ธรรมวภิ าค ปฏบิ ตั หิ น้าท่ชี าวพุทธได้อยา่ งถูกต้องตามแบบกศุ ลพธิ ี บญุ พิธี ทานพิธี และองค์แหง่
อุโบสถศลี มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และคา่ นยิ มท่ีพงึ ประสงค์ น้อมนำหลักธรรมมาปฏบิ ัติในการดำเนินชีวิต มี
จติ สำนกึ ในการอนรุ กั ษ์ธำรงส่งเสรมิ พระพทุ ธศาสนาอนั เปน็ ศาสนาประจำชาติ เห็นคุณค่า นำไปแก้ปญั หาของ
ตนเองและครอบครัว มีคณุ ลักษณะอันพึงประสงคใ์ นด้านรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ มีวินยั ใฝ่
เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มุ่งมน่ั ในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ สามารถอย่รู ่วมกนั ได้อยา่ ง
สันตสิ ุข

ผลการเรียนรู้
1. วิเคราะหแ์ ละเขยี นอธิบายกระทูธ้ รรมสภุ าษิตบทต้ัง เชอ่ื มต่อระหว่างธรรมสภุ าษิตอื่นสนับสนุนบทตง้ั

จำนวน 2 สภุ าษิต สรุปได้สนทิ ตดิ ตอ่ สมเรื่องกนั ดว้ ยเหตผุ ล
2. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจหลักธรรมวภิ าค ต้งั แต่ทุกะ หมวด 2 ถงึ ทสกะ หมวด 10 และ ทวาทสกะ

หมวด 12 อันเปน็ หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาได้อย่างถูกต้อง

หลกั สตู รโรงเรยี นชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหนา้ 339

3. มีความรคู้ วามเขา้ ใจในเร่ืองอนพุ ุทธประวัติ 40 องค์ เกิดศรทั ธาและนำแนวทางการปฏิบัติของ
ทา่ นมาเป็นแบบอยา่ งในการดำรงชีวิตใหม้ คี วามสขุ ได้

4. มีทกั ษะในการคดิ และปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ที่ของชาวพุทธตามหลักของศาสนพิธีในส่วนกุศลพิธี ทานพิธี
ปกิณกพิธี อันเป็นพธิ ที างพระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้อง

5. มีความร้คู วามเขา้ ใจสามารถปฏิบัตติ น ครองตนตามหลกั อุโบสถศลี ได้อย่างถูกต้อง และสามารถ
ดำรงชีวติ อยู่ในสงั คมได้อยา่ งปกติสุข

รวมท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศึกษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 340

คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม

รายวชิ าหนา้ ท่พี ลเมือง รหสั วชิ า ส30233 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

แสดงออก แนะนำผ้อู น่ื และยกย่องบุคคลที่มีความเอ้ือเฟื้อเผือ่ แผแ่ ละเสียสละต่อสงั คม ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้
มีวินัยในตนเองในเรอ่ื งใฝห่ าความรู้

ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอยา่ ง มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม และสนับสนุนให้ผู้อื่นแสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึด
ม่นั ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ปฏิบตั ิตนเป็นแบบอย่าง ประยกุ ต์ และเผยแพร่พระบรม
ราโชวาท ในเรื่องการมีระเบียบวินัย ความสามคั คี หลกั การทรงงาน ในเร่ืองระเบดิ จากข้างใน ไม่ติดตำรา บรกิ าร
รวมทจ่ี ุดเดยี ว ใช้อธรรมปราบอธรรม และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ ีวนิ ัยในตนเอง ใน
เรือ่ งความซื่อสัตยส์ ุจรติ ขยันหมน่ั เพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตัง้ ใจปฏิบตั หิ น้าท่ี ยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทำ
ของตนเอง การปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอยา่ ง ประยุกต์และเผยแพร่ พระบรมราโชวาท ตามหลกั การทรงงาน และหลกั
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ปฏิบัติตนเปน็ แบบอยา่ งและส่งเสริมสนบั สนุนให้ผอู้ ื่นเปน็ พลเมืองดตี ามวิถีประชาธปิ ไตย ในเร่ืองการเป็น
ผู้นำและการเป็นสมาชกิ ทดี่ ี การใชส้ ทิ ธแิ ละหนา้ ท่ี การใชเ้ สรีภาพอยา่ งรับผิดชอบ ความกลา้ หาญทางจรยิ ธรรม
การเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาสงั คมต่อสาธารณะ การติดตามและประเมินข่าวสารทางการเมือง และการรู้เท่าทนั
สอ่ื การมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมอื ง ประยกุ ต์ใชก้ ระบวนการประชาธปิ ไตยในการวิพากษป์ ระเด็นนโยบาย
สาธารณะทีต่ นสนใจ มสี ว่ นร่วมและตัดสินใจเลือกต้ังอยา่ งมีวิจารณญาณ รทู้ ันข่าวสารและร้ทู นั สอ่ื คาดการณ์
เหตุการณล์ ว่ งหน้าบนพืน้ ฐานของข้อมูล ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มีวนิ ัยในตนเอง ในเร่ืองความซื่อสตั ย์สุจริต ขยนั หม่นั เพยี ร
อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี ยอมรบั ผลทเี่ กดิ จากการกระทำของตนเอง
การปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่าง ประยุกตแ์ ละเผยแพร่ พระบรมราโชวาท ตามหลักการทรงงาน และหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง

มสี ว่ นร่วมในการแกป้ ัญหาเมื่อเกิดความขัดแย้งโดยสนั ติวธิ ี ด้วยการเจรจาไกลเ่ กล่ยี การเจรจาต่อรอง
การระงบั ความขัดแยง้ และสรา้ งเครือข่ายป้องกันปญั หาความขัดแยง้ ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มีวินยั ในตนเองในเรอ่ื งความ
ซอ่ื สัตย์สุจรติ อดทน และยอมรบั ผลที่เกดิ จากการกระทำของตนเอง การปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอยา่ ง ประยุกต์และ
เผยแพร่ พระบรมราโชวาท ตามหลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชญิ สถานการณ์
กระบวนการแกป้ ัญหากระบวนการสืบเสาะหาความรู้

เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนมลี ักษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภมู ิใจในความเป็นไทย แสดงออกถงึ ความรกั ชาติ ยึดมั่นใน
ศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์ เป็นพลเมอื งดีในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็
ประมขุ มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง มวี จิ ารณญาณในการเลือกตั้ง และการวิพากษ์นโยบายสาธารณะ อยู่
ร่วมกบั ผู้อืน่ อย่างสันติ สามารถจัดการความขัดแย้งด้วยสันตวิ ธิ ี และมีวินัยในตนเอง

หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศักราช 2564 Sหนา้ 341

ผลการเรียนรู้
1. แสดงออก แนะนำผูอ้ ่นื และยกย่องบคุ คลที่มีความเอ้ือเฟื้อเผือ่ แผ่ และเสยี สละ
2. เปน็ แบบอย่าง มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม และสนับสนนุ ให้ผอู้ ่ืนแสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มั่นใน

ศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษัตริย์
3. เป็นแบบอย่าง ประยุกต์และเผยแพร่ พระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี ง
4. เปน็ แบบอยา่ งและสง่ เสริมสนับสนนุ ให้ผู้อน่ื เป็นพลเมืองดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
5. ประยุกตใ์ ช้กระบวนการประชาธปิ ไตยในการวิพากษป์ ระเดน็ นโยบายสาธารณะที่ตนสนใจ
6. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินัยในตนเอง
7. ประยกุ ต์ใช้กระบวนการประชาธิปไตยในการวพิ ากษป์ ระเด็นนโยบายสาธารณะทต่ี นสนใจ
8. มสี ว่ นรว่ มและตัดสินใจเลอื กตั้งอย่างมวี ิจารณญาณ
9. รทู้ นั ขา่ วสารและร้ทู ันสื่อ
10. คาดการณ์เหตุการณล์ ่วงหน้าบนพ้นื ฐานของข้อมลู
11. ยอมรบั ในอตั ลกั ษณ์และเคารพความหลากหลายในสงั คมพหุวัฒนธรรม
12. เหน็ คณุ คา่ ของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพ่ึงพาซึ่งกันและกัน
13. มสี ว่ นร่วมในการแกป้ ัญหาเมอ่ื เกดิ ความขัดแย้งโดยสันตวิ ิธี และสร้างเครอื ข่ายการป้องกนั ปัญหา

ความขัดแย้ง
14. ปฏิบัตติ นเปน็ ผูม้ วี นิ ัยในตนเอง

รวมท้ังหมด 14 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรียนชุมพวงศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2564 Sหน้า 342

คำอธิบายรายวชิ า

รายวชิ าสังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส32103 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5
ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

วเิ คราะหป์ ญั หาทางเศรษฐกิจในชุมชนและเสนอแนวทางแก้ไข บทบาทของรัฐบาลดา้ นนโยบายการเงนิ
การคลังในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ วเิ คราะหส์ าเหตุ และผลกระทบท่ีเกิดจากภาวะทางเศรษฐกิจ และ
บอกแนวทางในการแกป้ ัญหาโดยใชน้ โยบายการเงิน การคลงั ละอายและไมท่ นต่อการทุจริต มีจิตพอเพียงต้าน
การทจุ รติ และมคี วามรับผิดชอบตอ่ สงั คม

ศึกษาเก่ยี วกบั สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตง้ั ถน่ิ ฐาน สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั
กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ของมนุษย์ ภยั พิบัตทิ างธรรมชาติ

โดยใช้กระบวนการคิด คิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตและส่วนรวมกระบวนการสืบค้นข้อมูล
กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม ใช้
ทักษะทางภูมิศาสตร์ การคิดแบบองคร์ วม ใช้ทักษะการสังเกต การแปลความข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ใช้เครอื่ งมอื ทาง
ภมู ศิ าสตร์ การคดิ เชงิ พื้นที่ ใชแ้ ผนท่ีและเครือ่ งมอื ทางภูมิศาสตรใ์ นการสืบค้น

เพอ่ื ให้เกดิ ความร้คู วามเขา้ ใจหลกั เศรษฐศาสตร์ เขา้ ใจเร่อื งผลประโยชนท์ บั ซ้อน รูปแบบของประโยชน์
ทับซ้อน (ตนเอง สังคม โลก) ปญั หาทีเ่ กิดขน้ึ แนวทางการแกไ้ ข รู้จกั ใชท้ รัพยากรธรรมชาตใิ ห้เกิดประโยชน์
สงู สดุ เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้ประชาชนมชี ีวิตความเป็นอยู่ทด่ี ี และส่งผล
ให้ประเทศเจริญกา้ วหนา้ เกิดความตระหนัก มคี วามสามารถทางภมู ิศาสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทักษะ
ทางภมู ศิ าสตร์ และมีทักษะในศตวรรษที่ 21 มีจิตสาธารณะ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทำงาน มสี ว่ นร่วมใน
การจดั การ พฒั นา ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน มคี วามละอายและไมท่ นตอ่ การทุจริต มีจิต
พอเพียงต่อการต้านการทุจริต และมคี วามรบั ผิดชอบต่อสงั คม

ตวั ชวี้ ดั
ส 3.1 ม.4-6/4
ส 3.2 ม.4-6/1
ส 5.1 ม. 4 - 6/2
ส 5.2 ม. 4 - 6/1

รวมท้ังหมด 4 ตัวช้ีวดั

หลักสูตรโรงเรียนชุมพวงศึกษา พุทธศกั ราช 2564 Sหน้า 343

คำอธบิ ายรายวชิ า

รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ไทย รหสั วิชา ส32104 กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาวเิ คราะห์ปจั จัยทส่ี ่งเสรมิ การสรา้ งสรรคภ์ มู ปิ ญั ญาไทยและวัฒนธรรมไทยซึ่งมผี ลตอ่ สังคมไทย
ในยคุ ปัจจบุ ัน ซ่ึงประกอบด้วยปจั จยั ทางภมู ิศาสตร์ ส่ิงแวดล้อมทางสงั คม ความคดิ ความเชื่อ และความเปน็ มา
ทางประวัติศาสตร์รวมทั้งอิทธิพลของวฒั นธรรมตะวนั ตกและตะวันออกที่มีตอ่ สงั คมไทย วถิ ีชวี ิตของคนไทยสมยั
ต่าง ๆ การสบื ทอดและการเปลย่ี นแปลงของวฒั นธรรมไทย วิเคราะห์แนวทางและมสี ่วนรว่ มในการอนรุ ักษภ์ มู ิ
ปัญญาไทยและวัฒนธรรมไทย วางแผนกำหนดแนวทางและการมสี ่วนรว่ มการอนุรักษ์ภูมปิ ัญญาไทยและ
วัฒนธรรมไทย ศึกษาวเิ คราะห์ปัจจยั และบุคคลท่สี ่งเสรมิ และสรา้ งสรรค์ ภมู ิปัญญาไทยทมี่ ีต่อสงั คมไทยใน
ปัจจบุ ัน เชน่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั ภมู ิพลอดลุ ยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ พระบรมราชินีนาถ

ศกึ ษาวิเคราะหผ์ ลงานของบุคคลสำคัญทัง้ ชาวไทยและชาวต่างประเทศทม่ี สี ว่ นสร้างสรรค์วัฒนธรรม
ไทยและประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทยในสมยั ต่าง ๆ เชน่ พระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั ริย์แห่งราชวงศจ์ กั รี
สมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทป่ี รกึ ษา
ชาวต่างประเทศสมัยรัชกาลที่ 5 – 7 สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ สมเดจ็ พระเจ้า
บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ สมเดจ็ เจา้ พระยามหาศรสี ุริยวงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค) ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์
พีระศรี เป็นตน้

โดยใช้ทกั ษะการอา่ น การสำรวจ การรวบรวมขอ้ มูล การวเิ คราะห์ การเปรียบเทียบ การตีความ
การสรุปความ การสงั เคราะห์ การนำเสนอผลงานทางประวตั ิศาสตรด์ ้วยวิธีการต่าง ๆ

ทั้งน้ี เพ่อื ใหเ้ ข้าใจประเด็นสำคัญทางประวตั ิศาสตร์ไทย ความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรมไทย
ภมู ิปญั ญาไทย พฒั นาการทางประวัติศาสตรข์ องไทยทางด้านตา่ ง ๆ ท่ีมคี วามเปลยี่ นแปลงตั้งแตอ่ ดีตถึงปัจจุบัน
เห็นแบบอย่างในการพัฒนาตน เหน็ ความมุง่ มน่ั และความพยายามของพระมหากษัตรยิ ์และบรรพบุรุษของไทยใน
การปกป้องเอกราชและวัฒนธรรมของชาติ ตระหนักในคุณคา่ ของการใช้ภูมิปัญญาในการแก้ปัญหา เพ่อื พฒั นา
สังคมและประเทศชาติ เขา้ ใจเอกลกั ษณท์ างสังคมไทยท่เี ป็นพหสุ ังคมท่มี ีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มคี วาม
รกั และภาคภมู ิใจและมสี ว่ นรว่ มอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาตสิ ืบต่อไป

ตวั ช้ีวดั
ส 4.3 ม. 4 - 6/3 , ม. 4 - 6/4 , ม. 4 - 6/5

รวมท้ังหมด 3 ตัวช้ีวดั


Click to View FlipBook Version