The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สี่ทศวรรษการเดินทางของมูลนิธิผู้หญิง
ปีที่พิมพ์ ๒๕๖๗ จำนวนหน้า ๔๑๖ หน้า
รวบรวมเล่าเรื่อง สะท้อนการทำงานของผู้หญิงในช่วงระยะเวลา ๔๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๒๗-๒๕๖๗) ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองช่วยเหลือ และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของหญิงและเด็กทั้งไทยและต่างชาติ รวมทั้งกระบวนการสร้างเครือข่ายการทำงานเรื่องผู้หญิงในประเทศไทย ผลสำเร็จ ความก้าวหน้าและความท้าทายในการทำงาน รวมถึงการเดินทางที่แปรเปลี่ยนในการทำงานเรื่องผู้หญิง ประสบการณ์ความคิดเห็นของกรรมการและผู้ร่วมงานกับมูลนิธิผู้หญิง รายชื่อองค์กร หน่วยงานที่สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิผู้หญิง รวมทั้งสิ่งตีพิมพ์ของมูลนิธิผู้หญิง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by LibraryFFW, 2024-04-28 23:41:40

สี่ทศวรรษการเดินทางของมูลนิธิผู้หญิง

สี่ทศวรรษการเดินทางของมูลนิธิผู้หญิง
ปีที่พิมพ์ ๒๕๖๗ จำนวนหน้า ๔๑๖ หน้า
รวบรวมเล่าเรื่อง สะท้อนการทำงานของผู้หญิงในช่วงระยะเวลา ๔๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๒๗-๒๕๖๗) ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองช่วยเหลือ และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของหญิงและเด็กทั้งไทยและต่างชาติ รวมทั้งกระบวนการสร้างเครือข่ายการทำงานเรื่องผู้หญิงในประเทศไทย ผลสำเร็จ ความก้าวหน้าและความท้าทายในการทำงาน รวมถึงการเดินทางที่แปรเปลี่ยนในการทำงานเรื่องผู้หญิง ประสบการณ์ความคิดเห็นของกรรมการและผู้ร่วมงานกับมูลนิธิผู้หญิง รายชื่อองค์กร หน่วยงานที่สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิผู้หญิง รวมทั้งสิ่งตีพิมพ์ของมูลนิธิผู้หญิง

Keywords: การทำงานของผู้หญิง,women's rights in Thailand

สี่ทศวรรษ การเดินทางของ มูลนิธิผู้หญิง จัดพิมพ์ในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปี มูลนิธิผู้หญิง


สีÉทศวรรษการเดินทาง ของมูลนิธิผ้หู ญิง พิมพครั้งแรก มกราคม ๒๕๖๗ จัดทําโดย มูลนิธิผ้หู ญิง ๒๙๕ ถนนจรัญÿนิทüงý ๖๒ แขüงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมĀานคร ๑๐๗๐๐ โทร. ๐-๒๔๓๓-๕๑๔๙ [email protected] Facebook: มูลนิธิผูĀญิง Foundation for Women ที่ปรึกþา: รังÿิมา ลิมปÿüัÿดิ์, ÿุพัตรา ภูธนานุÿรณ อุþา เลิýýรีÿันทัด, ปนĀทัย Āนูนüล บรรณาธิการ: ýิริพร ÿโครบาเนค ตรüจทานและจัดรูปเลม: ปานจิตต แกüÿüาง ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสาํนักหอสมุดแห่งชาติ ýิริพร ÿโครบาเนค. ÿี่ทýüรรþการเดินทางของมูลนิธิผูĀญิง.-- กรุงเทพฯ : มูลนิธิผูĀญิง, 2567. 416 Āนา. 1. ÿตรี-- การÿงเคราะĀ. I. ชื่อเรื่อง. 362.83 ISBN 978-616-91114-7-4 พิมพท์ ีÉ : ภาพพิมพ โทรýัพท๐-๒๘๗๙-๙๑๕๔


คำนำ เมื่อมูลนิธิผูĀญิงเดินทางครบÿองรอบในปพ.ý. ๒๕๕๑ ไดเลาเรื่องราüของ การเดินทางทํางานในโครงการตาง ๆ เพื่อใĀคüามชüยเĀลือ ÿงเÿริม และคุมครอง ÿิทธิมนุþยชนของĀญิงและเด็ก ไüในĀนังÿือ มูลนิธิผูĀญิง กับการเดินทางที่ยังไม ÿิ้นÿุด และเมื่อมูลนิธิผูĀญิงมีอายุไดÿี่ÿิบป ผานชüงเüลาทุกขยากของมนุþยทั้งโลก นั่นคือการรุกรานของโคüิดที่ไดพราชีüิตทุกüัยทั้งĀญิงและชายไปรüมเจ็ดลานคนใน ทั่üทุกทüีป ในชüงเüลานี้มูลนิธิผูĀญิงไดเริ่มตนทบทüนการทํางานที่ผานมา และได ตัดÿินใจปดมานการเดินทางขององคกร ในüัยที่ชีüิตมนุþยกําลังเริ่มตน Āนังÿือÿี่ ทýüรรþของมูลนิธิผูĀญิงนี้คือ การบันทึกเรื่องราüการเดินทางเพื่อคüามกาüĀนา และคüามเÿมอภาคของĀญิงชาย ที่คนรุนกอนเคยถากถางทางเดินไüเพื่อใĀพüกเรา กาüเดินตอไปและการแปรเปลี่ยนของขบüนการÿิทธิÿตรี มูลนิธิผูĀญิงกอรางในนามแรกคือ ýูนยขาüผูĀญิง พ.ý. ๒๕๒๗ โดยมี ÿมาชิกเริ่มตนทํางานรüมกันÿี่Āาคน และไดเติบโตจนชüงĀนึ่งมีผูรüมงานจาก ĀลากĀลายภูมิĀลังมากกüาÿามÿิบคนที่มีคüามตั้งใจรüมกันในอันที่จะชüยเĀลือ ปกปองคุมครองÿิทธิดานตาง ๆ เพื่อใĀผูĀญิงไดดํารงชีüิตอยางมีýักดิ์ýรี นอกจาก การใĀคüามชüยเĀลือเฉพาะรายแลü มูลนิธิผูĀญิงยังเปนองคกรที่ดําเนินงานดาน üิจัยแบบมีÿüนรüม ผลิตÿิ่งตีพิมพในรูปแบบตาง ๆ ที่ไดÿังเคราะĀจากขอมูลและ ประÿบการณในการทํางาน นํามารณรงคเพื่อÿรางการตระĀนักรูและการเปลี่ยน แปลงทางกฎĀมายและนโยบาย ทั้งยังเปนองคกรประÿานการทํางานในระดับ ภูมิภาคและนานาชาติเพื่อคüามกาüĀนาและÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง รüมทั้งการ ÿรางเครือขายกลุมองคกรผูĀญิงในประเทýไทย Āนังÿือ ÿี่ทýüรรþการเดินทางของมูลนิธิผูĀญิง เปนการเลาเรื่องการทํางาน ดานตาง ๆ โดยรüบรüมบทคüาม งานเขียนในชüงเüลาที่ผานมาทั้งที่ไดรับการตีพิมพ เผยแพรแลü และที่ยังไมไดเผยแพรดüยเĀตุผลบางประการ รüมทั้งขอคิดเĀ็นของ กรรมการและผูรüมงานของมูลนิธิผูĀญิง นอกจากนี้ยังไดเขียนเลาเรื่อง การเดินทาง


ที่แปรเปลี่ยน เพื่อเชื่อมโยงการกอรางขององคกรและการดําเนินงานในชüงÿี่ÿิบปกับ กระแÿการเรียกรองของนักเคลื่อนไĀüÿิทธิÿตรีในระดับÿากล เปนการใĀภาพüาไดมี การประÿานการทํางานรüมกัน และไดใชกรอบการüิเคราะĀที่ผูĀญิงเปนýูนยกลาง ในระบบโครงÿรางคüามÿัมพันธเชิงอํานาจระĀüางĀญิงชาย พัฒนาการของüาท กรรม แนüคิดการทํางานเรื่องผูĀญิงที่แปรเปลี่ยนไปจากเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิง ชายมามุงเนนเรื่องอํานาจและอัตลักþณทับซอน พรอมกับการขับเคลื่อนรณรงคÿิทธิ ของกลุมĀลากĀลายทางเพýที่เริ่มครอบงําพื้นที่งานรณรงคของผูĀญิงจนปรับเปลี่ยน üาระของการเลือกปฏิบัติตอผูĀญิงในปจจุบัน นอกจากการบันทึกรüบรüมการทํางานในÿี่ทýüรรþการเดินทางของมูลนิธิ ผูĀญิงแลü ยังไดมีการจัดทําĀนังÿือ ผูĀญิง เรื่องที่ยินยังไมพอ โดยรüบรüมขอมูล จากในอดีตและปจจุบันนํามาเขียนเลาเรื่องผูĀญิงเพื่อใĀเĀ็นüานับแตในอดีต ĀญิงไทยไดÿามารถแÿüงĀาพื้นที่เพื่อการเรียนรู การทํามาĀากิน การเชื่อมโยง อํานาจ จนเปนที่ประจักþในงานบันทึกของนักเดินทางตางชาติ และแมจะไมไดรับ การýึกþาเลาเรียนอยางเปนทางการในอดีตแตก็มีผูĀญิงที่ÿามารถรจนาเลาเรื่อง ตาง ๆ ไดอยางนาติดตามโดยผลงานĀลายชิ้นมิไดเปดเผยนามของผูประพันธ การ เริ่มตนคนĀาขอมูลเรื่องราüของผูĀญิงในประüัติýาÿตรเปนเÿมือนการเริ่มตนบทใĀม ของการบันทึกประüัติýาÿตรจากมุมมองของผูĀญิงที่นักÿิทธิÿตรีในประเทýกําลัง พัฒนากําลังใÿใจเพื่อตัดแอกจากการครอบงําเลาเรื่องตีคüามของนักคิดนักเขียน ตะüันตก และเปนการแÿดงใĀเĀ็นüาผูĀญิงแตละยุคÿมัยมีüิถีการตอÿูของตนเอง จึง เปนการคลี่คลายใĀเĀ็นüาการเĀมารüมüาพื้นที่ของĀญิงในÿังคมนั้นมีจํากัดและ ครอบงําโดยชายตามที่เปนมานั้นมิไดÿอดคลองกับบทบันทึกทางประüัติýาÿตรและ ผลงานคüามÿามารถของผูĀญิง แมมูลนิธิผูĀญิงจะÿุดÿิ้นการเดินทาง แตผูรüม เดินทางจะยังคงเดินทางคนĀาเลาเรื่องของผูĀญิงตอไป ศิริพร สโครบาเนค ประธานมูลนิธิผู้หญิง


สารบัญ สี่ทศวรรษของมูลนิธิผู้หญิง กับการเดินทางที่แปรเปลี่ยนของขบวนการสิทธิสตรี ๑ I. การย้ายถิ่น การค้าหญิง และการค้าประเวณี การยายถิ่น การคาĀญิง และการคาประเüณี ๒๑ บันทึกไüในประüัติýาÿตรโÿเภณี ๖๙ ใĀโอกาÿเยาüชนบอกเลาถึงอนาคตและคüามĀüัง ýูนยเพื่อนองĀญิง ๗๗ เรื่องเลาของนันทนารี ๘๑ คüามยุติธรรมยังมาไมถึง ๘๓งานตอตานการคามนุþยในประเทýไทย: เงินทุนĀายไปไĀน ๑๒๑ II. การทำงานกับหญิงและเด็กต่างชาติ การทํางานกับĀญิงและเด็กยายถิ่นตางชาติ ๑๕๓ÿไมลเลย บานĀลังใĀญของเด็กพมามุÿลิมแมÿอด ๑๘๑ III. ความรุนแรงต่อผู้หญิง คüามรุนแรงตอผูĀญิง มีüันÿิ้นÿุด ๑๙๙ ประÿบการณรณรงคมาตรา ๒๗๖ ๒๐๙ ผูĀญิงตองคดีฆาÿามี ๒๑๑ เยียüยาเพื่อĀยัดยืน การเดินทางของÿันติภาพและผูĀญิงภาคใต ๒๒๓ บทเรียนจากการทํางานÿานชีüิตĀญิงและเด็กอันดามัน ๒๔๑ เรื่องเลาชีüิตของอาÿาÿมัครผูĀญิง ๒๗๙ IV. บทเรียนการทำงานขับเคลื่อนเครือข่ายผู้หญิง บทเรียนการทํางานขับเคลื่อนเครือขายผูĀญิง ๒๘๗


บทส่งท้าย มูลนิธิผู้หญิงในความทรงจำของกรรมการ และผู้ร่วมงาน คüามทรงจําเกี่ยüกับมูลนิธิผูĀญิง ๓๑๑ ýาÿตราจารย ดร.อมรา พงýาพิชญ คüามÿํานึกที่จะÿรางและดัดแปลงโลก: เรียนรูจากงานมูลนิธิผูĀญิง ๓๑๓ผý.ดร.ปนĀทัย Āนูนüล เÿี้ยüĀนึ่งของชีüิต ๓๑๗ รังÿิมา ลิมปÿüัÿดิ์ บันทึกจากคüามทรงจํา บนเÿนทางเพื่อÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงและ คüามเÿมอภาคระĀüางเพý ๓๒๗ ÿุพัตรา ภูธนานุÿรณ คือโอกาÿ และพื้นที่แĀงการเรียนรู ๓๓๗ อุþา เลิýýรีÿันทัด ÿคูลฟาüนเดชั่นฟอรüีเมน: จากทฤþฎีÿตรีนิยมÿูการลงมือทํา ๓๓๙ ปานจิตต แกüÿüาง บันทึกของฉันยอนรอยจากĀมูบานÿูมูลนิธิผูĀญิง ๓๔๓กฤþณา เÿนทางของฉัน ๓๔๙ ลินดา บันทึกไüในคüามทรงจํา ๓๕๓มัทนา เชตมี ประÿบการณการทํางานรüมกับมูลนิธิผูĀญิง ๓๕๗ พชราพรรณ üีโชคจันทแÿง มูลนิธิผูĀญิงคüามทรงจําที่งดงาม ๓๕๙ พลอยรัýญ Āากยอนเüลากลับไปได ๓๖๑ พิมพธรรม เอื้อเฟอ จากใจคนทํางานอยูเบื้องĀลังคüามÿําเร็จขององคกร ๓๖๕ นภาพร โÿมะคุณานนท บทÿัมภาþณýิริพร ÿโครบาเนค (üารÿารÿตรีและเยาüชนýึกþา มธ.) ๓๖๗ ด้วยความรำลึกและขอบคุณ ๓๗๕ เกี่ยวกับมูลนิธิผู้หญิง ๓๗๗ รายชื่อหนังสือ สิ่งตีพิมพ์ ของมูลนิธิผู้หญิง ๓๗๙ ความเคลื่อนไหวของผู้หญิงในประเทศไทยและสากล ๓๙๓


๑ สี่ทศวรรษของมูลนิธิผู้หญิง กับการเดินทางที่แปรเปลี่ยนของ ขบวนการสิทธิสตรี ศิริพร สโครบาเนค “Fire the flames of memories tell of days that are gone.” จุดประกายเพลิงคüามทรงจํา เลาเรื่องüันüานที่ผานเลย (Nabucco อุปรากรของ Verdi) เมื่อมูลนิธิผูĀญิงเดินทางครบÿองรอบในปพ.ý. ๒๕๕๑ ไดเลาเรื่องราüของ การเดินทางทํางานการใĀคüามชüยเĀลือ ÿงเÿริมและคุมครองÿิทธิมนุþยชนของ Āญิงและเด็กไüในĀนังÿือ มูลนิธิผูĀญิง กับการเดินทางที่ยังไมÿิ้นÿุด และเมื่อมูลนิธิ ผูĀญิงมีอายุไดÿี่ÿิบป (พ.ý. ๒๕๒๗-๒๕๖๗) ผานชüงเüลาทุกขยากของมนุþยทั้งโลก นั่นคือการรุกรานของโคüิดที่ไดพราชีüิตทุกüัยทั้งĀญิงและชายไปรüมเจ็ดลานคนใน ทั่üทุกทüีป มูลนิธิผูĀญิงก็เริ่มตนทบทüนการทํางานที่ผานมา และไดตัดÿินใจปดมาน การเดินทางขององคกรในüัยที่ชีüิตมนุþยกําลังเริ่มตน Āนังÿือÿี่ทýüรรþของมูลนิธิ ผูĀญิงนี้คือการบันทึกเรื่องราüการเดินทางเพื่อคüามกาüĀนาและคüามเÿมอภาคของ


๒ Āญิงชาย ที่คนรุนกอนเคยถากถางทางเดินไüเพื่อใĀพüกเรากาüเดินตอไป และการ แปรเปลี่ยนทิýทางของขบüนการÿิทธิÿตรี พื้นที่ของผู้หญิงวีเมนส คาเฟ่ จุดเริ่มต้นของการเดินทาง ýูนยขาüผูĀญิง เปนโครงการเล็ก ๆ ที่ตองการใĀคüามรู คําแนะนําปรึกþา แกผูĀญิงที่ตองการยายถิ่นแÿüงĀาชีüิตใĀมในตางแดนแตตองจบลงดüยการถูก บังคับคาประเüณี ตอมาไดมีการริเริ่มกับกลุมเพื่อนĀญิงตั้งüีเมนÿ คาเฟ เมื่อเดือน กรกฎาคม ๒๕๒๗ โดยใชĀองแถüในซอยüังĀลังที่เปนÿํานักงานของกลุมเพื่อนĀญิง โดยไดระบุüาเปนพื้นที่ของผูĀญิงเพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุย แนüคิดคลายคลึงกับซาลอง (salon) ในÿังคมตะüันตกที่มีผูใฝรูมาใชพื้นที่แลกเปลี่ยนถกเถียงประเด็นตาง ๆ โดย ในแตละเดือนจะมีการจัดพูดคุยเÿüนาในประเด็นที่เกี่ยüเนื่องกับเรื่องผูĀญิงโดยเปด ใĀมีผูเขารüมทั้งĀญิงและชาย ตอมามีจิตแพทยชายไทยคนĀนึ่งที่รüมเปนüิทยากรใน การเÿüนาเรื่องบุคลิกและÿภาพจิตใจของนักทองเที่ยüทางเพýตางชาติ และไดใĀ ขอคิดเĀ็นüาการระบุüาüีเมนÿ คาเฟ เปนพื้นที่ของผูĀญิงนั้นเปนการเลือกปฏิบัติตอ เพýชายทําใĀเกิดการถกเถียงในĀมูผูกอตั้งและโยงไปถึงเรื่องระดับการมีÿüนรüม ของชายในองคกรผูĀญิง แนüคิดĀนึ่งเĀ็นüานาจะรüมไดทุกระดับรüมทั้งการเปนผูนํา บริĀารจัดการองคกร อีกĀนึ่งแนüเĀ็นตางüาผูĀญิงÿานÿรางกลุมองคกรของตน ขึ้นมาก็เพื่อใชมุมมองของผูĀญิงกําĀนดแนüทางการทํางานและบริĀารจัดการดüย ตนเอง แตไมจํากัดการมีÿüนรüมของผูชายในกิจกรรมตาง ๆ แนüคิดนี้ไดรับการ ÿนับÿนุนนอยกüาแนüแรก ดังนั้น üีเมนÿ คาเฟ จึงไดปดตัüลง และไดมีการขับผูรüม กอตั้งที่เĀ็นตางออกจากกลุมดüยการเลือกตั้งกรรมการชุดใĀม ýูนยขาüผูĀญิงก็ได พัฒนาจากโครงการเล็ก ๆ มาเปนกลุมทํางานเอกเทýขยายพื้นที่ประเด็นการทํางาน เรื่องผูĀญิง และไดจดทะเบียนเปนมูลนิธิผูĀญิงในเüลาตอมา (พ.ý. ๒๕๓๐) พรอม กับคําüิพากþจากคนทํางานในÿังคมüาเปนกลุมผูĀญิงĀัüรุนแรงที่เกลียดชังชาย (radical feminist) แตชüงเüลาÿี่ÿิบปที่ผานมาก็ไดพิÿูจนใĀเĀ็นüาแมจะใชกรอบ การüิเคราะĀเรื่องระบบชายเปนใĀญ และเชื่อมั่นในพลังผูĀญิงในการตอÿูจัดการ แกไขปญĀาของตนแตก็มิไดรังเกียจในการทํางานรüมกับชายและทุกภาคÿüนเพื่อ การเปลี่ยนแปลงปญĀาโครงÿรางทางÿังคม เýรþฐกิจและการเมืองเพื่อใĀเกิดการ เปลี่ยนแปลงและบรรลุคüามเÿมอภาคของĀญิงชาย รานกาแฟของผูĀญิงไดปดตัüลง พรอมกับการเริ่มตนกาüเดินไปขางĀนาของมูลนิธิผูĀญิง พัฒนาโครงการกิจกรรม


๓ ตาง ๆ เพื่อการเคารพ ÿงเÿริมและปกปองÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงที่กําĀนดไüใน ปฏิญญาÿากลüาดüยเรื่องÿิทธิมนุþยชน ผู้หญิงเคลื่อนไหวเรียกร้องสิ่งใด แมทุกüันนี้ก็ยังไมมีใครÿามารถĀาคําตอบเดนชัดไดüา ทําไมผูĀญิงทั่üโลกจึง (ยัง) ถูกจองจําพันธนาการไüในโลกÿüนตัü ขณะที่ผูชายเติบโตครอบงําพื้นที่ ÿาธารณะ จนเกิดระบอบชายเปนใĀญที่กําĀนดชะตากรรมของผูĀญิงตั้งแตแรกเกิด จนถึงüันลาโลกไดอยางเปนระบบ แมในอดีตจะมีเรื่องเลาและรองรอยüาเคยมีผูĀญิง ที่เปนĀัüĀนานักรบและการÿืบทอดตระกูลเผาพันธุยึดÿายเลือดทางมารดา นักüิชาการเรื่องÿิทธิÿตรีไดพยายามใĀคําอธิบายüาการเคลื่อนยายรูปแบบการผลิต จากบานมาÿูโรงงานในชüงปฏิüัติอุตÿาĀกรรมกอใĀเกิดการแบงแยกแรงงานทางเพý ที่เดนชัด ทําใĀผูชายกลายเปนผูĀาเลี้ยงและผูĀญิงเปนฝายผลิตซํ้าดูแลจัดการ เรื่องราüภายในบาน กระบüนการแมบานไดถูกÿรางเพื่อจํากัดบทบาทĀนาที่ของ ผูĀญิงในโลกÿüนตัü และใĀชายโลดแลนอยางเต็มที่ในพื้นที่ÿาธารณะ กําĀนดชะตา กรรมของÿมาชิกในครอบครัü ÿังคม ประเทýชาติและทั้งโลก ซึ่งนักüิชาการÿิทธิÿตรี ถือüาเปนคüามเĀลื่อมลํ้าของทางโครงÿรางของคüามÿัมพันธĀญิงชายและเปนการ แบงแยกการทํางานทางเพýที่ไมเปนธรรม ดํารงไดดüยการผลิตซํ้าของอุดมการณแม ýรีเรือนผานการเลี้ยงดู การýึกþาและüัฒนธรรม กําĀนดบทบาทใĀผูĀญิงเปนเพียง ÿüนประกอบในชีüิตของชายไมมีÿิทธิที่จะเลือกกําĀนดใชชีüิตที่ตนเองเปนเจาของ ผูĀญิงจึงกลายเปนชนชายขอบในทุกÿังคม แนนอนüามีคüามĀลากĀลายในเพýĀญิง ขณะที่ผูĀญิงÿüนĀนึ่งจํานนตอ การเปนแมýรีเรือนและรüมผลิตซํ้าÿงตอรุนลูกĀลาน ใĀยอมจํานนกับระบบชายเปน ใĀญและโครงÿรางที่ไมเปนธรรมนั้นก็มีผูĀญิงอีกมิใชนอยที่อึดอัดเพราะไดรับ ผลกระทบในทุกมิติของชีüิตและพยายามดิ้นรนเพื่อการเปลี่ยนแปลงและÿราง คüามĀมายใĀกับชีüิตของผูĀญิงในฐานะที่เปนมนุþยที่ตองมีโอกาÿพัฒนาýักยภาพ คüามÿามารถของตนในพื้นที่ÿüนตัüและÿาธารณะ รองรอยĀลักฐานประüัติýาÿตร แÿดงใĀเĀ็นüามีผูĀญิงที่คิดตางไดตอÿูดิ้นรนเพื่อปลดเปลื้องพันธนาการจากคüาม เปนĀญิงในทั่üทุกทüีป รüมทั้งÿยามที่นอกจากอําแดงจั่น อําแดงเĀมือนแลüยังมี ผูĀญิงในอดีตอีกĀลายคนที่ตอÿูเพื่อคüามเปนคนของตนในĀลากĀลายพื้นที่ ÿิ่งที่ผูĀญิงเรียกรองมิใชการทําใĀผูĀญิงเปนเĀมือนผูชาย แตÿิ่งที่ตองการ คือการยอมรับüา ผูĀญิงเปนมนุþยที่ÿามารถกําĀนดเลือกüิถีชีüิตของตน และไดรับ


๔ โอกาÿมีÿüนรüมเปนผูกําĀนดและตัดÿินใจทั้งในพื้นที่ÿüนตัüและÿาธารณะ ไมถูก จํากัดไüเพียงคüามเปนเมียและแมเทานั้น ÿิ่งนี้คือĀลักการพื้นฐานที่ผูĀญิงเคลื่อนไĀü เรียกรอง และมูลนิธิผูĀญิงก็กาüรüมเปนÿüนĀนึ่งของการเคลื่อนไĀüนี้เชนกัน คลื่นความเคลื่อนไหว และความคิดของผู้หญิง มูลนิธิผูĀญิงเกิดขึ้นในชüงปลายทýüรรþÿตรี (พ.ý. ๒๕๑๙-๒๕๒๘) ที่ องคการÿĀประชาชาติไดเฉลิมฉลองดüยการจัดประชุมนานาชาติÿุดÿิ้นทýüรรþÿตรี อันเปนการประชุมเรื่องผูĀญิงครั้งที่ÿามที่กรุงไนโรบี ประเทýเคนยา ในการประชุม ครั้งนี้มูลนิธิผูĀญิงในนามของýูนยขาüผูĀญิงไดมีÿüนรüมในการรณรงคเรื่องการคา มนุþยโดยใชคําขüัญüา การคาĀญิงเปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชน นับไดüาเปน จุดเริ่มตนของการรณรงคเคลื่อนไĀüตอตานการคามนุþยอยางเปนระบบ และนําไปÿู การตระĀนักรูของประชาคมโลกจนไดมีการจัดทําอนุÿัญญาปองกัน คุมครองและ ปราบปรามการคามนุþยขององคการตอตานยาเÿพติดและอาชญากรรมของ ÿĀประชาชาติ (United Nations Organisation against Drugs and Crime) เมื่อ พ.ý. ๒๕๔๓ ซึ่งเปนคüามผิดĀüังขององคกรที่ทํางานรณรงคเรื่องนี้ที่ตองการใĀใช กรอบÿิทธิมนุþยชนในการดําเนินงานตอตานการคามนุþยเพื่อÿรางĀลักประกันüา ÿิทธิของผูถูกคาจะไดรับการคํานึงถึงและเปนýูนยกลางของการทํางานมากกüาจะใช แนüทางอาชญากรรมจัดการกับปญĀา และตองการใĀกรรมาธิการÿิทธิมนุþยชน เปนผูริเริ่มจัดทําอนุÿัญญานี้เพื่อแทนที่อนุÿัญญาüาดüยการปราบปรามการคา บุคคลและการแÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณีของผูอื่น พ.ý. ๒๔๙๒ (The Convention for the Suppression of the Traffic in Persons and of Exploitation of Others 1949) ที่ไมมีคํานิยามและจํากัดการคามนุþยไüเพียงเรื่อง การคาประเüณี ในประเด็นเรื่องนี้มูลนิธิผูĀญิงไดรüมกับเครือขายพันธมิตร ÿากลตอตานการคาĀญิง (Global Alliance Against Traffic in Women-GAATW) จัดทําเอกÿารเรื่องมาตรฐานÿิทธิมนุþยชนในการปฏิบัติตอผูถูกคา ที่ไดพัฒนาตอ ยอดจากÿิทธิมนุþยชนขั้นพื้นฐานของผูถูกคามนุþย ซึ่งไดนําเÿนอในรายงานการüิจัย เรื่องการคาĀญิงของมูลนิธิผูĀญิงเมื่อ พ.ý. ๒๕๓๗ โดยใĀคํานิยาม องคประกอบและ üัตถุประÿงคของการคาĀญิงและเด็ก นอกจากนี้ยังไดรüมมือกับองคกรพันธมิตร รณรงคüิเคราะĀใĀเĀ็นถึงคüามแตกตางของการคาประเüณีและการคาĀญิงและเด็ก ที่มีĀลากĀลายüัตถุประÿงค ÿิทธิมนุþยชนของผูเÿียĀายจากการคามนุþยและÿิทธิ ของĀญิงบริการทางเพýจึงคüรเปนýูนยกลางของการดําเนินการทางกฎĀมายและ


๕ ÿังคมในการแกไขปองกันปญĀา แตก็ไมประÿบคüามÿําเร็จเพราะประชาคมโลกใĀ คüามÿนใจปญĀาการคามนุþยในกรอบของการปราบปรามอาชญากรรมขามชาติ มากกüาการพิทักþคุมครองÿิทธิมนุþยชนของผูเÿียĀายจากการคามนุþย ทýüรรþÿตรีถือไดüาเปนชüงเüลาของคลื่นลูกที่ÿองของการรณรงค เคลื่อนไĀüของผูĀญิงที่ใĀคüามÿําคัญในเรื่องÿิทธิพลเมืองและคüามมั่นคงในชีüิต และรางกาย การขจัดทุกรูปแบบของคüามรุนแรงรüมถึงการแÿüงĀาประโยชนทาง เพýจากผูĀญิง ในขณะที่การรณรงคเคลื่อนไĀüของคลื่นลูกที่Āนึ่งในชüงýตüรรþที่ ๑๙ นั้นประเด็นการเคลื่อนไĀüรณรงคมุงเนนเรื่องÿิทธิทางการเมืองที่นําโดยกลุม ผูĀญิงในประเทýอังกฤþ โดยเรียกรองใĀผูĀญิงมีÿิทธิออกเÿียงเลือกตั้ง อันเปนÿิทธิ ชอบธรรมทางกฎĀมาย การรณรงคเรื่องนี้คüบคูไปกับการเรียกรองใĀมีการเลิกทาÿ ในÿĀรัฐอเมริกา แมผูĀญิงจะประÿบคüามÿําเร็จโดยไดรับÿิทธิการเลือกตั้งแตก็มิได ครอบคลุมใĀÿิทธินี้แกผูĀญิงผิüÿี ÿําĀรับĀญิงไทยนั้นไดรับÿิทธิทางการเมืองทั้งลง ÿมัครและออกเÿียงเลือกตั้งโดยไมมีการเรียกรองใด ๆ Āลังจากการเปลี่ยนแปลงการ ปกครอง พ.ý. ๒๔๗๕ ในชüงการเคลื่อนไĀüของคลื่นลูกที่ÿองไดมีการริเริ่มของกรรมาธิการüาดüย ÿถานภาพÿตรี (Commission on the Status of Women–CSW) ที่จัดตั้งขึ้นใน พ.ý. ๒๔๘๙ ภายใตคณะมนตรีเýรþฐกิจและÿังคมแĀงÿĀประชาชาติ (Economic and Social Council–ECOSOC) จัดทํากฎĀมายÿิทธิมนุþยชนระĀüางประเทýเพื่อ ÿงเÿริม ปกปองและคุมครองÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง อันไดแกอนุÿัญญาüาดüยการ ขจัดการเลือกปฏิบัติตอÿตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women–CEDAW) ไดรับการรับรองจาก ÿมัชชาองคการÿĀประชาชาติ เมื่อเดือนธันüาคม พ.ý. ๒๕๒๒ และมีผลบังคับใชใน เดือนกันยายน พ.ý. ๒๕๒๔ ในปจจุบันมีประเทýÿมาชิกขององคการÿĀประชาชาติ รüม ๑๘๙ ประเทýไดเขาเปนรัฐภาคี กฎĀมายระĀüางประเทýเรื่องผูĀญิงนี้นับเปน ĀมุดĀมาย เครื่องมือและกลไกในการÿรางคüามกาüĀนาแกผูĀญิงโดยกําĀนดใĀรัฐมี ภาระĀนาที่รับผิดชอบขจัดการเลือกปฏิบัติ และดําเนินการเพื่อใĀบรรลุคüามเÿมอ ภาคที่แทจริงĀญิงชาย โดยคํานึงถึงคüามแตกตางทางÿรีระและบทบาทĀนาที่อันเกิด จากการเปนเพýมารดา นอกจากอนุÿัญญาเรื่องผูĀญิงซึ่งเปนĀนึ่งในกฎĀมาย ระĀüางประเทýเรื่องÿิทธิมนุþยชนแลü ยังไดมีการรับรองยุทธýาÿตรเพื่อ คüามกาüĀนาแĀงÿตรีจากการประชุมไนโรบีเพื่อใชเปนเครื่องมือใĀรัฐ และ


๖ Āนüยงานตาง ๆ กําĀนดทิýทางการทํางานเรื่องผูĀญิงที่ครอบคลุมทุกมิติ จึงนับüา เปนคüามกาüĀนาของการเคลื่อนไĀüชüงคลื่นลูกที่ÿอง การเคลื่อนไĀüของคลื่นลูกที่ÿาม ชüงปลายýตüรรþที่ ๒๐ ซึ่งเปนชüงเüลา ที่ĀนüยงานขององคการÿĀประชาชาติไดจัดใĀมีการประชุมระดับโลกรüม ๖ เรื่อง และมูลนิธิผูĀญิงรüมทั้งเครือขายภาคเอกชนของไทยไดมีÿüนรüมดüย อันไดแก ๑) การประชุมเรื่องÿิ่งแüดลอมและการพัฒนา พ.ý. ๒๕๓๕ ๒) การประชุมระดับโลก เรื่องÿิทธิมนุþยชน พ.ý. ๒๕๓๖ ๓) การประชุมนานาชาติเรื่องประชากรและการ พัฒนา พ.ý. ๒๕๓๗ ๔) การประชุมครั้งที่ ๔ เรื่องผูĀญิง พ.ý. ๒๕๓๘ ๕) การ ประชุมครั้งที่ÿองเรื่องการตั้งถิ่นฐาน พ.ý. ๒๕๓๙ และ ๖) การประชุมÿุดยอดเรื่อง อาĀาร พ.ý. ๒๕๓๙ กลุมองคกรผูĀญิงที่ทํางานในแตละประเด็นมีบทบาทและÿüน รüมในการประชุมนานาชาติเĀลานี้ โดยเฉพาะการประชุมเรื่องÿิทธิมนุþยชนที่กลุม องคกรผูĀญิงทั่üโลกไดรüมกันขับเคลื่อนรณรงคเรื่องÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงเปน ÿิทธิที่กําĀนดไüในปฏิญญาÿากลüาดüยเรื่องÿิทธิมนุþยชน โดยมีคําขüัญรณรงค รüมกันüา ÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงคือÿิทธิมนุþยชน และความรุนแรงตอผูĀญิง เปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชน ซึ่งไดรับการตอบรับและบรรจุไüในแผนปฏิบัติการ เüียนนา (Vienna Declaration and Programme of Action 1993) และĀลังจาก การประชุมไดมีการริเริ่มจัดทําปฏิญญาขจัดคüามรุนแรงตอผูĀญิง (Declaration on the Elimination of Violence Against Women 20 December 1993) ซึ่ง ผูแทนมูลนิธิผูĀญิงไดมีÿüนรüมในการประชุมผูเชี่ยüชาญจัดโดยÿํานักงานเรื่อง คüามกาüĀนาผูĀญิงของÿĀประชาชาติเพื่อพิจารณาเนื้อĀาในรางปฏิญญาที่ไดใĀคํา นิยามและรูปแบบของคüามรุนแรงตอผูĀญิงอยางครอบคลุม ปฏิญญาฉบับนี้ไดรับ การรับรองจากÿมัชชาองคการÿĀประชาชาติ พ.ý. ๒๕๓๖ และตอมาไดมีการแตงตั้ง ผูตรüจการพิเýþของÿĀประชาชาติเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง (Special Rapporteur on Violence against Women and Girls) üันÿตรีÿากล พ.ý. ๒๕๕๒ ได มีการจัดประชุมในĀองประชุมÿมัชชาÿĀประชาชาติ เรื่องโลกที่ปราýจากคüาม รุนแรงตอผูĀญิง โดยเชิญผูแทนจากแตละภูมิภาคนําเÿนอรูปแบบคüามรุนแรงผาน การถายทอดทางüีดีโอ และผูแทนมูลนิธิผูĀญิงไดรับเชิญนําเÿนอเรื่องการคามนุþย แผนปฏิบัติการเüียนนาไดบรรจุüาระÿําคัญที่เกี่ยüของกับÿิทธิมนุþยชนของ ผูĀญิงไüอยางครอบคลุมนับเปนĀมุดĀมายÿําคัญใชเปนกรอบในการพัฒนาประเด็น การรณรงคเคลื่อนไĀüและจัดทําแผนปฏิบัติการ โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการปกกิ่ง


๗ (Beijing Declaration and Platform for Action 1995) ที่ครอบคลุมเรื่องผูĀญิง ๑๒ ประเด็น ในการเคลื่อนไĀüของกลุมคลื่นลูกที่ÿาม กลุมองคกรผูĀญิงไดมีการ จําแนกใĀเĀ็นคüามĀลากĀลายของผูĀญิงและปญĀาเฉพาะของแตละกลุมจึงได เกิดการเรียกรองใĀตระĀนักถึงปญĀาทับซอนและอัตลักþณทับซอน (inter- sectionality) ผูĀญิงแตละกลุมไดแÿดงตัüตนและเรียกรองพื้นที่ในเüทีตาง ๆ เพื่อใĀ เกิดการมองเĀ็นยอมรับและตระĀนักปญĀาเฉพาะของตนในกรอบคüามรุนแรงและ ÿิทธิมนุþยชน ประเด็นรณรงคจึงĀลากĀลายไมรüมเปนĀนึ่งดังเชนในคลื่นลูกที่Āนึ่ง และÿองที่เริ่มไดรับการüิพากþüาครอบงํากําĀนดโดยนักÿตรีนิยมผิüขาüในโลกที่ Āนึ่ง (โลกตะüันตก) แนüคิดเรื่องĀญิงทั่üโลกเปนพี่นองผองเพื่อน (sisterhood) ที่ ตองการทลายระบบชายเปนใĀญจึงไดรับการทาทาย ในชüงปลายคลื่นลูกที่ÿอง ผูĀญิงผิüÿีจากภูมิภาคตาง ๆ เริ่มแยกตนออกจากนักคิดนักเขียน นักทฤþฎีในโลก ตะüันตกและกอรางพันธมิตรผูĀญิงโลกที่ÿาม การเคลื่อนไĀüในชüงคลื่นที่ÿามมีÿüน รüมและกําĀนดโดยเยาüชนĀนุมÿาüที่เนนเรื่องÿิทธิของกลุมขามเพýภาüะ ภาพลักþณเนื้อตัüรางกายและเพýüิถี (sexuality) โดยทาทายแนüคิดเรื่องการ แÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิงและใĀคüามĀมายใĀม ทาทายขนบ บรรทัด ฐานเดิม ๆ โดยเฉพาะในเรื่องภาพลักþณทางเพý และยอมรับÿิทธิที่ผูĀญิงจะใช รางกายเปนเครื่องมือĀาเลี้ยงชีพ เนื่องจากคüามĀลากĀลายอัตลักþณทําใĀüาระ เรียกรองกระจัดกระจายไปตามคüามÿนใจของแตละกลุมอัตลักþณ ทําใĀไมมีüาระ แจมชัดและเปนĀนึ่งเดียüเĀมือนÿองคลื่นแรก นําไปÿูการถกเถียงเรื่องประเด็นและ แนüทางการตอÿูของผูĀญิงในýตüรรþที่ ๒๑ อันเปนการเริ่มตนÿูการเคลื่อนไĀüของ คลี่นลูกที่ÿี่ ที่ตองพึ่งพาเทคโนโลยีและÿื่อทางÿังคม ผูที่ÿามารถเขาถึงÿื่อเĀลานี้จะ ÿามารถกําĀนดüาระที่เนนเรื่องการเÿริมÿรางพลังใĀแกผูĀญิง (empowerment) กลุมอัตลักþณทับซอน แตไมไดมีแผนรüมเปนĀนึ่งเดียüของการเÿริมÿรางพลังแก Āญิงอยางทั่üถึง ทําใĀผูĀญิงผิüÿีนอกÿังคมตะüันตกกลายเปนชนชายขอบและüาระ เรื่องคüามยุติธรรมทางÿังคม ทางเพýÿภาพก็เลอะเลือน เนื่องจากใĀคüามÿําคัญกับ ปญĀาของคüามรุนแรงตอผูĀญิงผิüÿีในÿังคมตะüันตกละเลยปญĀาที่เกิดจากโครง ÿรางอันไมเปนธรรมของผูĀญิงในซีกโลกอื่น ๆ ตัüอยางคือการรณรงคเรื่อง Me Too ซึ่งแมจะริเริ่มโดยผูĀญิงผิüดํา แตก็ใชอภิÿิทธิ์ชน คนมีชื่อเÿียงเปนเครื่องมือรณรงค เรียกรองตอÿูเรียกรองการเขาถึงคüามยุติธรรม ผานการแบงปนเลาเรื่องของการถูก ทํารายทางเพý การเĀยียดเพýในที่ทํางาน เปนตน การณรงคขยายไปถึงกลุมเด็กชาย ผูชายที่ถูกกระทําเพื่อใĀมีการปรับเปลี่ยนบรรทัดฐานทางÿังคมเรื่องเพýภาüะ การ


๘ เรียกรองของผูĀญิงÿองยุคĀลังนี้ไมÿามารถกําĀนดเรื่องเลา ประเด็นและเปาĀมาย ของการเรียกรองรณรงคเชนในÿองยุคแรกที่ดูเĀมือนจะถูกลืมเลือนไปจากเยาüชน รุนĀลังที่ใĀคüามÿําคัญกับการÿรางพันธมิตรกับกลุมĀลากĀลายทางเพýมากกüา การกําĀนดประเด็นตอÿูรüมกันของผูĀญิง และตองการรื้อฟนดําเนินการทาง กฎĀมายกับผูกระทําคüามรุนแรงแมจะเกิดมานานในอดีตจนไดรับการüิจารณüาเปน การไลลาผูชาย ซึ่งยอนแยงกับงานรณรงคที่ใชคําขüัญ เขาเพื่อเธอ (HeForShe) ริเริ่มใน พ.ý. ๒๕๕๗ ใĀชายและเด็กชายมีÿüนรüมและเปนพันธมิตรในการทํางาน เพื่อคüามเÿมอภาคทางเพýภาüะ โดยยูเอ็นüีเมน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ý. ๒๕๕๓ ดüยการรüมÿี่Āนüยงานที่เกี่ยüของกับการทํางานเรื่องผูĀญิงของÿĀประชาชาติ เขาไüดüยกัน อันไดแก ÿํานักงานคüามกาüĀนาของผูĀญิง (Division for the Advancement of Women-DAW) ÿถาบันการüิจัยและอบรมระĀüางประเทýเพื่อ คüามกาüĀนาของผูĀญิง (International Research and Training Institute for the Advancement of Women-INSTRAW) ÿํานักงานที่ปรึกþาพิเýþเรื่องเพý ภาüะและคüามกาüĀนาของผูĀญิง (Office of the Special Adviser on Gender Issues-OSAGI) กองทุนเพื่อการพัฒนาÿําĀรับผูĀญิง ( United Nations Development Fund for Women-UNIFEM) การรณรงคเรื่องนี้ÿะทอนใĀเĀ็นถึง กรอบการüิเคราะĀที่แปรเปลี่ยนไปในการทํางานขององคกรระดับนานาชาติที่ รับผิดชอบดูแลเรื่องคüามกาüĀนาของผูĀญิงที่ไดเริ่มการรณรงคในกรอบคüาม ยุติธรรมทางเพýภาüะ (Gender Equity) แทนคüามเทาเทียมทางเพýภาüะ (Gender Equality) เพราะคüามĀลากĀลายของประเด็นและแนüทางการรณรงคของคลื่นลูกที่ ÿามและÿี่ที่จํากัดพื้นที่การเคลื่อนไĀüในÿังคมตะüันตกเปนÿüนใĀญ และมุงเนนไป ในแนüตื่นรู (Wokeism) ที่ตองการขจัดคüามเĀลื่อมลํ้าทางเพýในดานตาง ๆ รüมถึง การปรับแกการใชภาþาเĀยียดเพý (sexism) ในงานüรรณกรรมตาง ๆ ของนักเขียน รüมทั้งในอดีตทําใĀเกิดกระแÿüิพากþถึงคüามรุนแรงของการเรียกรองที่อาจไมใช แกนแทของปญĀาที่ผูĀญิงทั่üโลกเผชิญอยู คüามเลอะเลือนไมแจมชัดในการพัฒนา กรอบการüิเคราะĀในการทํางานเรื่องผูĀญิงทําใĀเกิดกระแÿÿตรีนิยมแนüถอนราก จากอาณานิคม (Decolonial Feminism) ที่เริ่มจากนักคิด นักüิชาการÿิทธิÿตรีใน อเมริกาใต ซึ่งตองการÿรางเรื่องเลาจากประÿบการณชีüิตของผูĀญิงในทองถิ่นของ ตนเพื่อใĀเĀ็นคüามĀลากĀลายของการตอÿูของผูĀญิงทุกชนชั้น โดยเฉพาะผูĀญิงที่ เปนชนชายขอบเพื่อใĀแตกตางจากคüามเขาใจกระแÿĀลักที่ครอบงําโดยกลุมÿตรี


๙ ตะüันตกและลืมเลือนละเลยชีüิตและการตอÿูอันĀลากĀลายของผูĀญิงทั่üโลก กรอบการüิเคราะĀของÿตรีนิยมแนüนี้คือการใĀคüามÿําคัญในเรื่องเชื้อชาติ เผาพันธุ พื้นที่ตาง ๆ และเพýภาüะ เปนตน เพื่อใĀชนกลุมนอยและชนเผาไดมีโอกาÿเขาใจ üัฒนธรรมและแนüทางการตอÿูการกดขี่ตาง ๆ จากÿภาüะแüดลอมและภูมิĀลังของ ตน แนüทางนี้เปนการลดอิทธิพลของนักÿตรีนิยมตะüันตกที่มีตอกลุมตาง ๆ รüมถึง การกําĀนดนโยบายแนüทางในการตอÿูและการพัฒนาเรื่องผูĀญิงที่ไมไดคํานึงถึง คüามĀลากĀลายของผูĀญิงและเชื่อมโยงกับโครงÿรางทางการเมือง เýรþฐกิจ ÿังคม ที่กอใĀเกิดการเลือกปฏิบัติและคüามรุนแรงอยางเปนระบบตอผูĀญิง กลุมÿตรีนิยม แนüถอนรากอาณานิคมนี้ตองการเรียนรูบันทึกเรื่องเลาของผูĀญิง เพื่อใĀเกิดการ พัฒนาüิธีการตอÿูที่ไมละเลยผูĀญิงกลุมใด ๆ จึงเทากับüาการเคลื่อนไĀüตาม แนüทางนี้ครอบคลุมทั้งอัตลักþณที่ĀลากĀลายและปญĀาทับซอนของผูĀญิง แตไม ยอมรับแนüการüิเคราะĀที่ครอบงําโดยนักÿิทธิÿตรีตะüันตก ตองการพัฒนาüิถีใĀม เพื่อตอÿูกับการกดขี่และยุทธýาÿตรการรณรงคตอตานที่ทุกกลุมÿามารถนําไปใชได มูลนิธิผูĀญิงเริ่มใชกรอบแนüคิดนี้ในการบันทึกเรื่องราüของการตอÿูของĀญิงไทยนับ แตในอดีตในพื้นที่ตาง ๆ เชน ýาÿนา üรรณกรรม เýรþฐกิจ การเมือง เปนตน จึงดูเĀมือนüาในปจจุบันการจัดเรียงลําดับการตอÿูของผูĀญิงเปนกลุมคลื่น เüลานั้นไมÿามารถทําไดอยางแจมชัดและคüรใĀคüามÿําคัญอีกตอไป ทั้งนี้เพราะ คüามลื่นไĀลของกรอบแนüüิเคราะĀ การปรากฏของอัตลักþณอันĀลากĀลายที่ไม ÿามารถกําĀนดüิเคราะĀไดดüยทฤþฎีĀนึ่งเดียü รüมถึงแนüคิดที่ปฏิเÿธและไม ยอมรับการทํางานของนักüิชาการและนักกิจกรรมในอดีตทําใĀรอยตอของการ ทํางานเคลื่อนไĀüเรื่องผูĀญิงไมแจมชัด และแยกÿüนตามคüามÿนใจของแตละ กลุมอัตลักþณ กรอบความคิดและการวิเคราะห์ เรื่องผู้หญิงและงานพัฒนา กอนการประกาýปÿากลเรื่องผูĀญิง และจัดการประชุมโลกเรื่องผูĀญิงครั้ง ที่ ๑ ณ ประเทýเม็กซิโก (พ.ý. ๒๕๑๘) ไดมีĀนังÿือ เรื่องบทบาทของผูĀญิงในการ พัฒนาเýรþฐกิจ (Women’s Role in Economic Development) ของ Ester Boserup เผยแพรเมื่อ พ.ý. ๒๕๑๕ ชี้ใĀเĀ็นพรอมĀลักฐานเชิงประจักþüางาน พัฒนาไดละเลยคุณคาของงานและÿถานภาพของผูĀญิงโดยเฉพาะในประเทýกําลัง พัฒนา ผูĀญิงไมไดรับประโยชนทั้งทางÿังคมและเýรþฐกิจจากโครงการตาง ๆ ซึ่ง ไมไดคํานึงใĀผูĀญิงมีÿüนรüมและเปนเปาĀมาย ผลกระทบอันเกิดจากĀนังÿือเลมนี้


๑๐ คือทําใĀรัฐบาลและองคกรทุนตาง ๆ ไดกําĀนดนโยบายบูรณาการผูĀญิงเขารüม ในโครงการพัฒนา (Women in Development–WID) โดยไมไดคํานึงถึงคüาม ตองการที่แตกตางกันของĀญิงและชาย คüามÿัมพันธเชิงอํานาจระĀüางĀญิงและ ชายที่เĀลื่อมลํ้า บริบททางüัฒนธรรมอันĀลากĀลาย แตมุงĀüังใĀผูĀญิงไดรับ ประโยชนจากการพัฒนามีÿüนรüมในการผลิตเพื่อปรับปรุงÿภาพชีüิตของตน แนüทางนี้ละเลยĀนาที่ในครัüเรือนของผูĀญิง แตตองการนําผูĀญิงรüมในกิจกรรม ตาง ๆ ในพื้นที่ÿาธารณะ ÿงผลใĀผูĀญิงแบกรับภาระÿองดาน โดยไมไดมีการจัดการ ปรับเปลี่ยนคüามÿัมพันธบทบาทĀญิงชาย และกําĀนดมาตรการพิเýþที่เอื้อใĀ ผูĀญิงมีÿüนรüมในกิจกรรมพัฒนาตาง ๆ ไดอยางแทจริง ตอมาผูĀญิงไดปรับเปลี่ยนกรอบการüิเคราะĀและแนüทางทํางานจาก ผูĀญิงในงานพัฒนา เปนผูĀญิงและงานพัฒนา (Women and Development– WAD) โดยเชื่อมโยงคüามÿัมพันธĀญิงชายและผลกระทบจากระบบทุนนิยมและ เýรþฐกิจที่พึ่งพาÿงผลใĀเกิดการแÿüงĀาประโยชนเปนกรอบการüิเคราะĀระบบ ชายเปนใĀญและระบบทุนนิยม แนüคิดนี้นักüิชาการแนüมารกซิÿตไดพัฒนาเปน กรอบของการจัดการเรียนการÿอนเรื่องÿตรีýึกþาในประเทýตะüันตก เชนใน ประเทýเนเธอรแลนด แนüคิดนี้ชี้ใĀเĀ็นüาผูĀญิงมีÿüนรüมและÿรางประโยชนทาง เýรþฐกิจไมüาจะเปนกิจกรรมในโลกÿüนตัüĀรือÿาธารณะ Āลังการประชุมไนโรบี กลุมผูĀญิงจากซีกโลกภาคใตไดüิพากþแนüทางการพัฒนาแบบบูรณาการผูĀญิงที่ ไมไดตระĀนักถึงคüามตองการที่แตกตางกันของĀญิงชาย และมิไดคํานึงถึงโครงÿราง ที่ไมเปนธรรมทางเýรþฐกิจระĀüางโลกที่Āนึ่งและที่ÿามซึ่งÿงผลกระทบตอผูĀญิง ได มีการจัดตั้งเครือขายทางเลือกการพัฒนาÿําĀรับผูĀญิง (DAWN–Development Alternatives with Women for a New Era) ที่มีบทบาทÿําคัญในการüิเคราะĀ ขบüนการและยุทธýาÿตรของการพัฒนาโดยใชมิติเรื่องเพýภาüะและชนชั้น แผนปฏิบัติการปกกิ่ง ไดเริ่มมีการกลาüถึงเพýภาüะ (gender) ที่นักüิชาการ ÿตรีนิยมไดใĀคําอธิบายüาแตกตางจากเรื่องเพý (sex) ซึ่งเกิดจากการกําĀนดทาง ชีüüิทยาอันเปลี่ยนแปลงไมได ÿüนเพýภาüะเปนผลจากกระบüนการเรียนรูทาง ÿังคมและüัฒนธรรม ดังเชน ที่ ซีโมน เดอ โบüัüรนักคิดนักเขียนĀญิงชาüฝรั่งเýÿได เขียนไüในĀนังÿือ เพýที่ÿองüา เราไมไดเกิดมาเปนผูĀญิง แตถูกทําใĀเปนผูĀญิง เพýภาüะจึงไดนํามาใชเพิ่มเติมจากคําüา เพý และทําใĀเกิดการพัฒนาแนüคิดเรื่อง เพýภาüะกับการพัฒนา (Gender and Development-GAD) เปนแนüทางในการ


๑๑ ดําเนินโครงการดานพัฒนา โดยใĀคํานึงถึงและตอบÿนองคüามตองการอันเกิดจาก คüามแตกตางทางเพýภาüะของĀญิงและชายในการออกแบบโครงการตาง ๆ และใน คลื่นลูกที่ÿามและÿี่ไดขยายแนüคิดเรื่องเพýภาüะครอบคลุมถึงกลุมที่ĀลากĀลายจน เกิดเปนกระแÿเรียกรองเรื่องเพýüิถี (sexuality) ของกลุม LGBTQIB (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Queer, Intersex, Binary) แนüคิดเรื่องเพýภาüะ และการพัฒนาไดรับรองกลาüถึงเปนทางการในเอกÿารขององคการÿĀประชาชาติ และĀนüยงานที่เกี่ยüของนับแตĀลังการประชุมปกกิ่ง ไดมีการพัฒนาคูมือเพื่อÿราง คüามรูคüามเขาใจเรื่องเพý เพýภาüะใĀแกผูปฏิบัติงานที่ทํางานเรื่องผูĀญิงอยาง เปนระบบ พรอมกับการÿรางคüามกระจางเรื่องการเÿริมÿรางพลังใĀแกผูĀญิงที่เปน เปาĀมายของแผนปฏิบัติการปกกิ่ง และการใชมิติเพýภาüะเปนกระแÿคüามคิดใน การกําĀนดüางนโยบายโครงการตาง ๆ ของÿĀประชาชาติ ที่ไดระบุไüในเอกÿารของ คณะกรรมาธิการเรื่องเýรþฐกิจและÿังคม ตลอดจนการกําĀนดมาตรการชี้üัดเรื่อง การเÿริมÿรางพลังอํานาจของผูĀญิง อันไดแกการมีÿüนรüมในการกําĀนดตัดÿินใจ ทางการเมือง การเขาถึงโอกาÿการดําเนินอาชีพและพลังคüามÿามารถในการÿราง รายไดไüดüย นับไดüาเปนคüามÿําเร็จของการรณรงคเคลื่อนไĀüของกลุมองคกร ผูĀญิงที่ริเริ่มขับเคลื่อนเรื่องเพýภาüะจนบรรจุเปนüาระระดับโลก แตคüามÿําเร็จ ของการรณรงคโดยเฉพาะของคลื่นลูกที่ÿองไดมีการตีกลับÿะทอนในĀนังÿือของ คริÿตินา โฮฟ ซอมเมอรÿ (Christina Hoff Sommers) เรื่อง ใครขโมยÿิทธิÿตรี ผูĀญิงไดทรยýผูĀญิงกันอยางไร (Who Stole Feminism 1994) โดยüิพากþนัก ÿิทธิÿตรีอเมริกันüานําเÿนอเรื่องราüของปญĀาคüามรุนแรงในครอบครัü คลาดเคลื่อน เปนนักÿิทธิÿตรีแนüเพýภาüะ (Gender Feminism) ที่เนนผูĀญิงใน การÿรางทฤþฎีและการปฏิบัติโดยüิเคราะĀüาการกดขี่ผูĀญิงเกิดจากüัฒนธรรม ชายเปนใĀญและตองการปรับเปลี่ยนบทบาทดั้งเดิมทางเพýภาüะ เปนกลุมกระแÿ Āลักที่ไดรับการÿนับÿนุนทุนจากรัฐบาลและแĀลงทุนเอกชน มีตําแĀนงการงานทั้ง ในĀนüยงานรัฐและในมĀาüิทยาลัย ซอมเมอรÿไดนําเÿนอนักÿิทธิÿตรีแนüยุติธรรม (Equity Feminism) ที่ตองการใĀมีการปฏิบัติที่เปนธรรมและÿิทธิที่เทาเทียมแกทุก คน แนüคิดนี้นาจะไดรับการขานรับจากการเคลื่อนไĀüของนักÿิทธิÿตรีรุนตอมาที่ มองüาการทํางานüิเคราะĀจําแนกเพýนั้นเปนผูกีดกันทางเพýมากกüาเปนผูตอÿู เรื่องÿิทธิÿตรี รüมถึงการปรับเปลี่ยนแนüทางการตอÿูจากคüามเทาเทียมทางเพý ภาüะ เปนคüามยุติธรรมทางเพýภาüะที่ใชในการทํางานเพื่อคüามกาüĀนาของ ผูĀญิง และการนําเÿนอแนüคิดเรื่องอัตลักþณทับซอน (Intersectionality) ของคิม


๑๒ เบอรลี เครนชอü (Kimberly Crenshaw) นักüิชาการผิüดําที่พัฒนาทฤþฎีทาง กฎĀมายของนักÿิทธิÿตรีผิüดํา เธอไดüิเคราะĀและผูกโยงเรื่องอํานาจกับกลุมชน ชายขอบ โดยจําแนกรูปแบบของอํานาจทับซอนเปนทางโครงÿราง ทางการเมือง และการเปนตัüแทน แนüคิดนี้ไดรับการüิพากþüาเปนการลดปจเจกใĀเปนเพียง ปจจัยการüิเคราะĀกลุมเฉพาะทางประชากร และนํามาใชเปนเครื่องมือทาง อุดมการณตอตานทฤþฎีÿตรีนิยมที่ไดพัฒนาครอบคลุมĀลากĀลายÿาขา เชน มานุþยüิทยา ÿังคม เýรþฐกิจ รัฐýาÿตร เปนตน แตการทํางานดานพัฒนาÿังคมใน ปจจุบันก็ไดรับประเด็นอํานาจและอัตลักþณทับซอนมารüมไüในกรอบการüิเคราะĀ โดยการเรียกรองไมใĀทิ้งใครไüขางĀลังในงานพัฒนา และÿรางพลังอํานาจใĀแกกลุม ชายขอบ มูลนิธิผู้หญิง กับการขับเคลื่อนเรื่องผู้หญิง มูลนิธิผูĀญิงไดมีÿüนรüมในการขับเคลื่อนüาระเรื่องผูĀญิงในÿังคมไทยนับ แตยังเปนýูนยขาüผูĀญิง โดยไดเขารüมในเüทีการประชุมระดับโลกและมีÿüน นําเÿนอประเด็นปญĀาของผูĀญิงในÿังคมไทยในเüทีที่จัดรüมกับองคกรในภูมิภาค อื่น ๆ รüมทั้งการจัดĀาเงินทุนÿนับÿนุนใĀมีผูแทนจากĀลากĀลายกลุมโดยเฉพาะ Āญิงชายขอบไดเขารüมและเรียนรูในเüทีตาง ๆ นอกจากนี้ยังไดมีการพัฒนาÿื่อและ จัดการอบรมเพื่อเÿริมÿรางคüามรูคüามเขาใจใĀแกผูĀญิงในภาคÿüนตาง ๆ ทั้งใน เมืองและชนบทเรื่องระบบชายเปนใĀญและโครงÿรางเýรþฐกิจÿังคมที่ไมเปนธรรม กับบทบาทÿถานภาพของผูĀญิงและคüามเĀลื่อมลํ้าทางเพý คüามรูที่ไดรับจากÿื่อ ตาง ๆ นํามาใชเปนกรอบการüิเคราะĀปญĀาทางเพýภาüะ เชน คüามรุนแรงใน ครอบครัü การแÿüงĀาประโยชนจากรางกายและแรงงานของผูĀญิง เปนตน นอกจากนี้ยังไดผลิตÿื่อÿรุปเนื้อĀาÿาระและผลจากการประชุมตาง ๆ เพื่อเผยแพร ใĀแกกลุมประชาÿังคมและÿาธารณชนเพื่อนําไปใชประโยชนในการทํางาน ขับเคลื่อนของตนและติดตามการดําเนินงานของรัฐ มูลนิธิผูĀญิงใĀคüามÿําคัญกับการเรียนรูจักกลไกระดับÿากล เพื่อการ ขับเคลื่อนจัดทําเครื่องมือกลไกระดับชาติ โดยมีÿüนรüมของผูĀญิงทุกภาคÿüน เชน การจัดอบรมเผยแพรเรื่องอนุÿัญญาผูĀญิง เรื่องÿิทธิมนุþยชน เรื่องเÿาĀลักและ กลไกตาง ๆ ของอาเซียน การจัดทํารายงานทางเลือกเพื่อนําเÿนอตอกรรมาธิการ ตามอนุÿัญญาüาดüยการขจัดการเลือกปฏิบัติตอÿตรีในทุกรูปแบบ (Committee on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women–CEDAW


๑๓ Committee) เปนตน ในชüงระยะเüลาÿี่ÿิบปของการทํางาน มูลนิธิผูĀญิงไดมีÿüน รüมในการจัดทํากฎĀมายĀลายฉบับที่เกี่ยüเนื่องกับผูĀญิง อาทิเชน การปรับปรุง แกไขพระราชบัญญัติปองกันและปราบปรามการคาประเüณี พ.ý. ๒๕๓๙ พระราชบัญญัติมาตรการในการปองกันและปราบปรามการคาĀญิงและเด็ก พ.ý. ๒๕๔๐ พระราชบัญญัติคุมครองผูถูกกระทําดüยคüามรุนแรงในครอบครัü พ.ý. ๒๕๕๐ พระราชบัญญัติคüามเทาเทียมระĀüางเพý พ.ý. ๒๕๕๘ เปนตน และไดมี ผูแทนมูลนิธิผูĀญิงเขารüมในคณะกรรมการติดตามพระราชบัญญัติเĀลานี้ดüย มูลนิธิผูĀญิงไดดําเนินงานใĀคüามชüยเĀลือแกผูĀญิงกลุมตาง ๆ ทั้งไทย และตางชาติที่ไดรับผลกระทบจากคüามรุนแรงรูปแบบตาง ๆ จากโครงÿราง เýรþฐกิจÿังคม üัฒนธรรมที่เĀลื่อมลํ้ากดทับผูĀญิง จากภัยพิบัติ คüามขัดแยงและ การใชคüามรุนแรง การใĀคüามชüยเĀลือกระทําคüบคูไปกับการรüบรüมขอมูล การ ýึกþาüิจัยและจัดทํารายงานเผยแพร โดยใชĀลักการทํางานแนüÿตรีนิยมที่ใĀ คüามÿําคัญกับเรื่องเลา ตัüตน (agency) และพลังในการเปลี่ยนแปลงของผูĀญิง ผานกระบüนการÿังเคราะĀจากการตระĀนักรูüาปญĀาของผูĀญิงมิใชเปนเรื่อง ÿüนตัüแตเกิดจากรากเĀงาโครงÿรางทางเýรþฐกิจ การเมือง ÿังคมและüัฒนธรรมที่ ไมเปนธรรมÿงผลใĀมีการเลือกปฏิบัติ การกระทําคüามรุนแรงตอผูĀญิงอยางเปน ระบบ โครงÿรางที่กลาüถึงนี้มิไดจํากัดเฉพาะในพรมแดนของประเทýแตเปน ปรากฏการณอันเปนÿากล ดังนั้นมูลนิธิผูĀญิงจึงไดมีการทํางานÿรางและรüมกับ เครือขายทั้งในระดับประเทý ภูมิภาคและทั่üโลกขับเคลื่อนüาระผูĀญิงโดยใชกรอบ กติกาของอนุÿัญญาผูĀญิงและกฎĀมายÿิทธิมนุþยชนตลอดจนขอเÿนอแนะตาง ๆ จากการประชุมนานาชาติและภูมิภาค โดยคํานึงถึงบริบทของÿังคมไทย และการมี ÿüนรüมของผูĀญิงโดยเฉพาะชนชายขอบ ในกรอบการüิเคราะĀเรื่องอัตลักþณทับ ซอนมูลนิธิผูĀญิงและเครือขายเพื่อคüามกาüĀนาและÿันติภาพของผูĀญิงไดมีการนํา แนüคิดนี้มาใชพิจารณาแยกแยะปญĀาของกลุมผูĀญิงที่ยังเปนชนชายขอบ เชน Āญิงพิการ Āญิงชนเผา Āญิงยายถิ่นตางชาติ เปนตน เพื่อÿรางคüามเขาใจในปญĀา และแนüทางในการเคลื่อนไĀü รüมทั้งเÿริมÿรางพลังโดยจัดพื้นที่ใĀแกกลุมเĀลานี้ได นําเÿนอปญĀาขอเรียกรองของตนในĀลากĀลายเüที งานผู้หญิงวาระที่แปรเปลี่ยน ในภาพรüมของการทํางานเรื่องผูĀญิงทั้งในระดับÿากลและระดับประเทý แÿดงใĀเĀ็นถึงคüามÿําเร็จในการขับเคลื่อนผลักดันüาระÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง


๑๔ ทั้งÿิทธิทางการเมือง เýรþฐกิจ ÿังคมและüัฒนธรรม การÿรางเครื่องมือ กลไก กฎĀมายระดับÿากล แผนการปฏิบัติงานจากการประชุมระดับโลกที่มีการเชื่อมโยง บรรจุเรื่องผูĀญิงไüดüย เครื่องมือที่ÿําคัญในระดับÿากลคือ อนุÿัญญาüาดüยการ ขจัดการเลือกปฏิบัติตอÿตรีในทุกรูปแบบ (อนุÿัญญาผูĀญิง) จัดทําโดยกรรมาธิการ เรื่องÿถานภาพÿตรี อันเปนกฎĀมายระĀüางประเทýเรื่องÿิทธิมนุþยชนที่ครอบคลุม ÿิทธิตาง ๆ ตามที่กําĀนดไüในปฏิญญาÿากลเรื่องÿิทธิมนุþยชน พ.ý. ๒๔๙๑ ที่นาง Eleanor Roosevelt (พ.ý. ๒๔๒๗-๒๕๐๕) ภริยาของประธานาธิบดีFranklin D.Roosvelt (พ.ý. ๒๔๔๘-๒๔๘๘) มีบทบาทÿําคัญในการออกแบบและใชถอยคําที่ ครอบคลุมเพýĀญิง เชน ใชคําüาทุกคน แทน ผูชาย และชื่อปฏิญญาÿิทธิมนุþยชน แทนปฏิญญาÿิทธิของผูชาย ปฏิญญาฯ นี้ไดใชเปนกรอบĀลักการในการพัฒนา กฎĀมายÿิทธิมนุþยชนฉบับอื่น ๆ และเปนเครื่องมือในการรณรงคเรียกรองÿิทธิ มนุþยชนของกลุมที่ĀลากĀลายใĀไดรับการใÿใจและตระĀนักมองเĀ็นในüาระการ ขับเคลื่อน เชนเรื่องคüามĀลากĀลายทางเพý ที่ดูเĀมือนจะเปนกระแÿĀลักของการ ทํางานรณรงคในýตüรรþที่ ๒๑ แนüคิดเรื่องเพýภาüะและคüามลื่นไĀลทางเพý ภาüะและเพýüิถีทําใĀเกิดการทํางานรüมกันของกลุมที่เรียกüา non-binary ที่มอง üาการแบงเพýĀญิงชายเปนเรื่องฉาบฉüยที่กําĀนดขึ้นเพื่อÿืบทอดอํานาจของกลุมที่ เปนแกนนํา ไดมีการนําแนüคิดคüามยุติธรรมทางเพýภาüะ (gender equity) มาใช เปนกรอบการทํางาน เพื่อใĀบรรลุคüามเÿมอภาคทางเพýภาüะ (gender equality) ในชüงการเคลื่อนไĀüของคลื่นลูกที่ÿองประเทýที่ปกครองโดยระบอบÿังคมนิยมจะ ใชคüามยุติธรรมทางเพýภาüะแทนคüามเÿมอภาคทางเพýภาüะ ซึ่งคณะกรรมการ อนุÿัญญาผูĀญิงไดยืนยันüาคüามเÿมอภาคĀญิงชายคือเปาĀมายของอนุÿัญญา และ ไดจัดทําขอเÿนอแนะลําดับที่ ๒๕ ใĀคําอธิบายมาตรา ๔ (๑) ของอนุÿัญญา กําĀนดใĀรัฐภาคีจัดทํามาตรการพิเýþชั่üคราü (Temporary Special Measures) เพื่อใชในกระบüนการทํางานขจัดการเลือกปฏิบัติตอผูĀญิง เพื่อใĀĀญิงไดรับ ประโยชนอยางเทาเทียมกับชาย โดยอนุÿัญญาผูĀญิงตระĀนักüาĀญิงและชายมี จุดเริ่มตนที่ตางกันอันเนื่องมาจากโครงÿรางระบบชายเปนใĀญและเพื่อใĀบรรลุ คüามเÿมอภาคแทจริง ที่ไมใชเปนเพียงคüามเÿมอภาคทางรูปแบบทางกฎĀมายแต ตองเกิดขึ้นอยางแทจริงในการปฏิบัติดüยรัฐภาคีจะตองกําĀนดมาตรการพิเýþ ชั่üคราüใĀแกผูĀญิงเพื่อÿรางโอกาÿและการเขาถึงเพื่อไดรับประโยชนอยางแทจริง และÿามารถยกเลิกไดเมื่อคüามเÿมอภาคแทจริงเกิดขึ้น ในชุมชนคนทํางานเรื่อง คüามเÿมอภาคทางเพýภาüะในปจจุบันไดÿงเÿริมการใชเรื่องคüามยุติธรรมทางเพý


๑๕ ภาüะ แทนแนüคิดเรื่องมาตรการพิเýþชั่üคราüในกระบüนการบรรลุคüามเÿมอภาค ทางเพýภาüะ ทั้งนี้อาจเปนเพราะอนุÿัญญาผูĀญิงไมไดครอบคลุมถึงคüาม ĀลากĀลายทางเพýภาüะที่เปนกระแÿĀลักของการรณรงคเคลื่อนไĀüในปจจุบันซึ่ง เนนการเมืองเรื่องอํานาจและอัตลักþณทับซอน (intersectionality) แนüคิดเรื่องอํานาจและอัตลักþณทับซอน ไดพัฒนาจากกลุมนักคิดอเมริกัน ผิüดําที่รüมในขบüนการตอตานคüามรุนแรงที่เกิดขึ้นแกคนผิüดําทั้งĀญิงและชาย และไดคนพบüาอัตลักþณที่ĀลากĀลาย อาทิ เพýภาüะ ÿีผิü ชนชั้น คüามเชื่อ เชื่อมโยงกับอํานาจที่กดทับซอนและรูปแบบคüามรุนแรงอันเปนประÿบการณที่ แตกตางกันของแตละกลุมไมไดรับการคํานึงถึงจากกลุมผูĀญิงตะüันตกที่มีการ ýึกþา ในÿังคมอุตÿาĀกรรมรํ่ารüยและเปนประชาธิปไตย (WEIRD–Western, Educated, Industrialised, Rich and Democratic) ซึ่งเปนผูกําĀนดประเด็นüาระ การเคลื่อนไĀüของผูĀญิง ผูĀญิงที่มีอัตลักþณทับซอนจึงตองการปรับเปลี่ยนโดย üิเคราะĀใĀเĀ็นถึงคüามรุนแรงที่เปนระบบและอํานาจที่กดทับตอกลุมที่มีอัตลักþณ ทับซอน การขับเคลื่อนงานเรื่องผูĀญิงของคลื่นลูกที่ÿามและÿี่จึงกลายเปนงาน รณรงคเรื่องÿิทธิมนุþยชนของกลุมที่มีอัตลักþณทับซอนที่ถูกกดทับจากโครงÿราง อํานาจกลายเปนชนชายขอบโดยปฏิเÿธแนüคิดทฤþฎีที่นักüิชาการÿตรีนิยมได พัฒนามาในแตละยุคคüามเคลื่อนไĀüโดยเฉพาะคลื่นลูกที่ÿองที่ไดรับการüิพากþüา ครอบงําโดยĀญิงผิüขาüชนชั้นกลางที่แบงแยกและเกลียดชังชาย และการขับเคลื่อน รณรงคดําเนินไปพรอมกับกลุมĀลากĀลายüิถีทางเพý (LGBTIQ) ใĀÿังคมไดมองเĀ็น และยอมรับตัüตนของพüกเขาทั้งĀญิงและชาย และมีมุมมองเรื่องเนื้อตัüรางกาย เพýüิถี การขมขืน ที่แตกตางไปจากกรอบเดิม ๆ จึงดูเÿมือนจํากัดüาระใĀ คüามÿําคัญตอปญĀาÿถานการณในÿังคมตะüันตก และไมไดครอบคลุมถึงผูĀญิง กลุมอื่นที่ไมไดมีอัตลักþณทับซอนรüมกัน กลุมผูĀญิงในภูมิภาคอื่น ๆ ก็ไดพัฒนา แนüคิดใĀม ๆ มาใชเปนกรอบแนüทางในการทํางานของตน เชน แนüทางÿิทธิÿตรี ตัดขาดจากคüามเปนอาณานิคม (Decolonial Feminism) ในกลุมประเทýอเมริกา ใต ที่ตองการบันทึกเรื่องเลาการตอÿูของผูĀญิงในอดีต เพื่อชี้ใĀเĀ็นคüามĀลาก ĀลายของรูปแบบการตอตานของผูĀญิง ในภูมิภาคเอเชียมีการเคลื่อนไĀüของผูĀญิง กับÿิ่งแüดลอม การพัฒนาที่ยั่งยืน ฯลฯ ที่เชื่อมโยงกับโครงÿรางทางเýรþฐกิจ ÿังคม และการเมืองที่เĀลื่อมลํ้าไมเปนธรรม เปนตน


๑๖ คüามลื่นไĀลของüาระการขับเคลื่อนที่ขึ้นอยูกับคüามÿนใจของกลุมองคกร ผูĀญิงในแตละภูมิภาคที่มีบริบทและคüามÿนใจตางกัน รüมถึงการปฏิเÿธการนําของ Āญิงผิüขาüในโลกตะüันตกที่ครอบงําทั้งทฤþฎีและการปฏิบัติ และกําĀนดüาระใน การเคลื่อนไĀü ทําใĀในปจจุบันไมมีüาระรüมระดับโลกที่เปนĀนึ่งเดียüในการ ขับเคลื่อนรณรงคเรื่องคüามเÿมอภาคกาüĀนาของผูĀญิงที่เชื่อมโยงกับโครงÿรางไม เปนธรรมทางการเมือง เýรþฐกิจ üัฒนธรรมและÿังคม การรณรงค เขาเพื่อเธอ ของ Āนüยงานที่รับผิดชอบการทํางานเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง (UN Women) เปน ตัüอยางĀนึ่งของการรณรงคที่ไมมีมิติทางการเมืองในการปรับเปลี่ยนเพýภาüะ แต ÿนับÿนุนแนüÿิทธิÿตรีเพื่อคüามยุติธรรมĀญิงชาย จึงเĀ็นไดüาคüามÿําเร็จของการ ขับเคลื่อนเรื่องÿิทธิมนุþยชนที่ยืนยันÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงไดนํามาใชเปนพื้นฐาน และĀลักการในการพัฒนาเรียกรองของกลุมตาง ๆ แมüาจํานüนมากจะไมไดคํานึงถึง Āรือนําแผนปฏิบัติการเüียนนา แผนปฏิบัติการปกกิ่ง ฯลฯ มาใชตอยอดการ เคลื่อนไĀüของแตละกลุมที่บางครั้งยังแÿดงใĀเĀ็นถึงระดับชั้นของอํานาจอันเกิดจาก คüามแตกตางทางเพýภาüะ คüามพยายามในการใชกรอบเพýภาüะ ไมจําแนกคüาม แตกตางĀญิงชายมาดําเนินงานเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิงและชายทําใĀคüามใÿใจ ประเด็นคüามกาüĀนาของĀญิงซอนเรนĀรือเลือนĀายจากการüิเคราะĀรากเĀงา ของปญĀาอันไดแกคüามÿัมพันธเชิงอํานาจของĀญิงและชาย และยังปรากฏใĀเĀ็น ในการทํางานรณรงคปญĀาทางÿังคมที่ชั้นเชิงของอํานาจทางเพýภาüะ (gender hierarchy of power) เปนปจจัยÿําคัญที่ทําใĀไมÿามารถจําแนก เจาะจงแนüทาง การแกไขปญĀาเฉพาะของผูĀญิงได มูลนิธิผูĀญิงไดรüมเดินทางบนถนนการทํางานเรื่องผูĀญิงในทุกระดับมารüม ÿี่ทýüรรþ ไดพบเĀ็นแÿงÿüางและเงามืดของเÿนทางÿายนี้ และตระĀนักüาการ เดินทางของมูลนิธิผูĀญิงไดÿุดÿิ้นลงแลüพรอมกับทิýทางที่แปรเปลี่ยนจากการ ทํางานเรื่องคüามเÿมอภาคของผูĀญิง เปนการทํางานเพื่อคüามเÿมอภาคทางเพý ภาüะ และคüามĀลากĀลายทางอัตลักþณ เÿรีภาพในเพýüิถี และการไมกําĀนด ÿาเĀตุรüมของการกดขี่ผูĀญิงแตมุงเนนรณรงคการเมืองเรื่องเฉพาะในบริบทของตน ทําใĀตองยอนไปมองคําถามที่นักเคลื่อนไĀüยุคĀลังเคยĀยิบยกมากลาüüา ÿตรีนิยม ไดตายแลü นั้นจริงĀรือไม


๑๗ “แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยไม่สูญเสียบางอย่าง ทุกคนรู้ดีว่าในการเติมเต็มตัวเรา เราจำเป็นต้องเสียสละความเป็นไปได้ในบางเรื่อง” (ซีโมน เดอ โบวัวร์)


๑๘


๑๙ I. การย้ายถิ่น การค้าหญิง และการค้าประเวณี


๒๐


๒๑ การย้ายถิ่น การค้าหญิง และการค้าประเวณี บันทึกการเดินทาง ๔๐ ปี ของมูลนิธิผู้หญิง ศิริพร สโครบาเนค ๑. ซอยนานา กรุงเทพมหานคร มกราคม ๒๕๖๓ แÿงÿุดทายของอาทิตยยังไมลาจากไป แตÿองฝงของซอยนานาก็คลาคลํ่า ดüยผูคนĀลากผิüÿี เรามองĀารานอาĀารเอธิโอเปยเพื่อเลี้ยงอําลาเอมĀญิงÿาüจาก แอฟริกาที่กําลังจะเดินทางไปประเทýที่ÿาม Āลังจากพํานักในประเทýไทยเปน เüลานานกüาÿามปเมื่อĀลุดพนจากการถูกกระทําตามอําเภอใจจากนายจางชาติ เดียüกับตนซึ่งทํางานในตําแĀนงระดับÿูงขององคการระĀüางประเทýที่ไมไดเคารพ ปฏิบัติตามกฎĀมายแรงงาน และยังใชคüามรุนแรงตอลูกจางทํางานบานของตน เรื่องราüที่เกิดขึ้นกับเอม ÿะทอนใĀเĀ็นถึงชองüางในการทํางานเรื่องการยายถิ่น และการคาĀญิงซึ่งเปนประเด็นที่มูลนิธิผูĀญิงไดĀยิบยกมารณรงคนับแตเริ่มตนการ


๒๒ เดินทาง เมื่อปพ.ý. ๒๕๒๗ ในชüงนั้นการเติบโตของการทองเที่ยüทางเพýทําใĀ ซอยนานา พัฒนพงý และพัทยา เปนจุดĀมายปลายทางของนักทองเที่ยüโดยเฉพาะ จากซีกโลกตะüันตกและเอเชียตะüันออก ทําใĀประเทýไทยไดรับÿมญาüา “ซอง ของเอเชีย” ในปที่กรุงเทพฯ จัดเตรียมงานฉลองครบ ๒๐๐ ป ของการเปนเมือง Āลüง (พ.ý. ๒๓๒๕-๒๕๒๔) บริþัททองเที่ยüจากเมืองฮอรน ประเทýเนเธอรแลนด ไดจัดพานักทองเที่ยüชายมารüมฉลอง โดยไดระบุในแผนพับเผยแพรüา “นี่คือการ ชüยเĀลือดานการพัฒนาแกประเทýไทย” พรอมทั้งมีเรื่องเลาของคüามยากจนใน ชนบท และพิธีกรรมที่พอจะพาลูกÿาüของตนไปในปาใĀชายĀนุมเปดบริÿุทธิ์ Āากไม มีĀนุมคนใดเลือกเด็กÿาüเปนภรรยาเธอก็จะถูกขับออกจากĀมูบานกลายเปนโÿเภณี ชายĀนุมที่โชคดีในกลุมทองเที่ยüจากเมืองฮอรนจะไดรับ “ทาÿนอย” เปนรางüัล ในชüงทýüรรþที่ ๘๐ กลุมÿิทธิÿตรีในĀลายประเทýเริ่มรณรงคตอตานการทองเที่ยü ทางเพý ดังนั้นนักýึกþาคนĀนุมÿาüจึงไดจัดประทüงที่ÿนามบินÿกิปโฮลประเทý เนเธอรแลนดและÿนามบินดอนเมืองประเทýไทย รัฐมนตรีüาการกระทรüง มĀาดไทย พลเอกÿิทธิ จิรโรจน ไดใĀÿัมภาþณüาจะดําเนินการจับกุมนักทองเที่ยü กลุมนี้เมื่อเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ แตก็ไมมีใครไดพบเĀ็นแมเพียงคนเดียü คüาม พยายามในการรณรงคตอตานการทองเที่ยüทางเพýทั้งในระดับชาติ ภูมิภาคและ นานาชาติ ในชüงทýüรรþ ๑๙๘๐ และ ๑๙๙๐ ÿรางการตระĀนักแกÿาธารณชนตอ ปญĀานี้แตไมÿามารถĀยุดยั้งการĀลั่งไĀลของนักทองเที่ยüชายที่ตองการมีเพý ÿัมพันธกับĀญิงÿาüในประเทýกําลังพัฒนาซึ่งไดแพรกระจายไปในĀลายภูมิภาค และเปนปจจัยĀนึ่งที่นําไปÿูปรากฏการณทางÿังคมอื่น ๆ อันไดแกการยายถิ่นเพื่อ การคาประเüณีในยุโรปและเอเชีย ธุรกิจเมียÿั่งทางไปรþณียและการคาĀญิง ที่ยังคง ดํารงมาจนทุกüันนี้ ภาพที่เĀ็นในคํ่าคืนüันนั้นทําใĀอดคิดไมไดüาคüามพยายามของ กลุมองคกรÿตรีทั้งในระดับชาติ ภูมิภาคและนานาชาติในชüงปลายýตüรรþที่ ๒๐ ไดÿรางการเปลี่ยนแปลงอันใดบางตอปญĀาโÿเภณีและการทองเที่ยüทางเพý เนื่องจากมูลนิธิผูĀญิงกอกําเนิดในชüงทýüรรþÿตรีและเติบโตตอมาในชüงเüลาที่ ÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงไดรับการเอาใจใÿ และเปนüาระขับเคลื่อนในการทํางาน เรื่องผูĀญิง จึงเĀ็นคüรที่จะบันทึกการเดินทางอันยาüนานของมูลนิธิผูĀญิงที่ เกี่ยüของกับเรื่องโÿเภณี การคาประเüณีและการคาĀญิง


๒๓ ๒. จากเม็กซิโก ถึงไนโรบี ทศวรรษสตรี กับ ปัญหาโสเภณี การค้าประเวณี และการค้าหญิง ÿĀประชาชาติไดประกาýใĀปพ.ý. ๒๕๑๘ เปนปÿตรีÿากล ซึ่งเปนป เดียüกับการÿุดÿิ้นÿงครามเพื่อการปลดปลอยในเüียดนาม ลาü และกัมพูชา และได มีการจัดประชุมÿตรีโลกครั้งแรกที่เม็กซิโก การประชุมครั้งนี้ทําใĀมีการประกาý ทýüรรþÿตรี (พ.ý. ๒๕๑๙–๒๕๒๘) ภายใตคําขüัญ คüามเÿมอภาค การพัฒนาและ ÿันติภาพ และกําĀนดÿามüาระที่ตองดําเนินการในการพัฒนาผูĀญิง คือ เรื่องการมี งานทํา ÿุขภาพอนามัยและการýึกþา ในการประชุมÿตรีระดับโลกของÿĀประชาชาติ ครั้งแรกนี้ใĀคüามÿําคัญในเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิงชายและคüามกาüĀนาของÿตรี โดยไดกําĀนดüัตถุประÿงคÿําคัญÿามประการคือเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิงชายและ การขจัดการเลือกปฏิบัติทางเพý การบูรณาการและการมีÿüนรüมอยางเต็มที่ของ ผูĀญิงในการพัฒนา และเพิ่มการมีÿüนรüมของผูĀญิงในการÿรางÿันติภาพของโลก ไดมีการรับรองแผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อดําเนินการใĀบรรลุüัตถุประÿงคที่ กําĀนดไüในเรื่องการจางงาน ÿุขภาพและการýึกþา การประชุมครั้งนี้ไดปรับเปลี่ยน คüามคิดที่มีมาแตเดิมüาการพัฒนานํามาซึ่งคüามกาüĀนาของผูĀญิง เปนการพัฒนา ซึ่งจะเกิดขึ้นไมไดĀากขาดการมีÿüนรüมอยางแทจริงของผูĀญิง และไดมีการจัดตั้ง ĀนüยงานในองคการÿĀประชาชาติเพื่อดําเนินงานเรื่องผูĀญิง คือÿถาบันนานาชาติ ดานการüิจัยและอบรมเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง (INSTRAW–Research and Training Institute for the Advancement of Women) และกองทุนเพื่อÿตรี (UNIFEM–UN Development Fund for Women) ในแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุม เนื้อĀาในดานตาง ๆ เพื่อบรรลุüัตถุประÿงคÿามดานที่üางไüไดบรรจุประเด็นเรื่อง การปองกันการแÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิงและเด็กĀญิงไüดüย แผนปฏิบัติการระดับโลกเม็กซิโกพิจารณาüาโÿเภณี Āรือการคาประเüณี เปนการคุกคามýักดิ์ýรีของผูĀญิงและยืนยันÿนับÿนุนเจตนารมณของอนุÿัญญา พ.ý. ๒๔๙๒ เรื่องการปราบปรามการคามนุþยและการแÿüงĀาประโยชนทางเพý จากการคาประเüณีของผูอื่น โดยตระĀนักüาโÿเภณีและการแÿüงĀาประโยชนจาก Āญิงและเด็กยังพบไดในĀลายประเทý อันเปนผลจากÿภาพเýรþฐกิจและÿังคม ทํา ใĀĀญิงที่ถูกบังคับÿูการเปนโÿเภณีประÿบคüามทุกขยากและการปฏิบัติที่ไมเปน ธรรม ประเทýที่ยังมีการคาประเüณีของĀญิงและเด็กจะตองมีมาตรการที่เขมแข็ง


๒๔ เพื่อยุติโÿเภณีและขจัดการบังคับคาประเüณีและการคาĀญิง นอกจากการปราบ ปรามแลüจําเปนตองมีมาตรการฟนฟูบําบัดĀญิงโÿเภณี และคüรมีการÿํารüจซอง โÿเภณีทั่üโลกที่ยังมีการบังคับทารุณ โดยขอรองใĀเลขาธิการÿĀประชาชาติดําเนิน ตามมติที่ ๓๒๑๘ เมื่อüันที่ ๖ พฤýจิกายน ๒๕๑๗ ของที่ประชุมใĀญÿĀประชาชาติ และรüมมือกับĀนüยงานตาง ๆ ที่เกี่ยüของเพื่อดําเนินการÿํารüจเรื่องนี้ ๓. การประชุมกึ่งทศวรรษสตรีที่นครโคเปนฮาเกน การประชุมÿตรีระดับโลกครั้งที่ÿองเปนการประชุมกึ่งทýüรรþÿตรีที่นคร โคเปนฮาเกน พ.ý. ๒๕๒๓ (ค.ý. ๑๙๘๐) เปนการประชุมที่จัดขึ้นĀลังจากที่ ÿĀประชาชาติไดรับรองอนุÿัญญาüาดüยการขจัดการเลือกปฏิบัติตอÿตรีในทุก รูปแบบ ( Convention for the Elimination of All Forms of Discrimination against Women) ที่เรียกกันüา CEDAW ĀรืออนุÿัญญาผูĀญิง ที่ผานมติÿมัชชา ÿĀประชาชาติเมื่อ พ.ý. ๒๕๒๒ และมีผลบังคับใชใน พ.ý. ๒๕๒๔ ÿงผลผูกพันใĀรัฐ ภาคีตองขจัดการเลือกปฏิบัติตอผูĀญิงในเรื่องÿิทธิพลเมืองและการเมือง ÿิทธิทาง เýรþฐกิจ ÿังคมและüัฒนธรรม อนุÿัญญาผูĀญิงเÿนอแนüคิดüาบทบาทในการใĀ กําเนิดชีüิตไมคüรเปนพื้นฐานของการเลือกปฏิบัติตอผูĀญิง และการเลี้ยงดูบุตรเปน Āนาที่คüามรับผิดชอบของĀญิงชายและของÿังคม ขอ ๖ ของอนุÿัญญากําĀนดใĀรัฐ ภาคีใชมาตรการที่เĀมาะÿมทุกอยาง รüมทั้งการออกกฎĀมายเพื่อปราบปรามการคา ĀญิงและการแÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณีของĀญิง จะเĀ็นüาอนุÿัญญามี เจตนารมณเชนเดียüกับอนุÿัญญาคามนุþย พ.ý. ๒๔๙๒ ที่มิไดแยกแยะการคา มนุþยและการคาประเüณีออกจากกัน แตมิไดกําĀนดใĀขจัดการคาประเüณีแตมุง ปราบปรามบุคคลที่ÿามซึ่งแÿüงĀาประโยชนจากการเปนโÿเภณีของผูอื่น üัตถุประÿงคĀลักของการประชุมที่นครโคเปนฮาเกนคือการประเมิน คüามกาüĀนากึ่งทýüรรþÿตรีของการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติการเรื่องคüามเÿมอ ภาค การพัฒนาและÿันติภาพ โดยไดใĀคüามÿําคัญตอÿิทธิทางดานÿังคมและ เýรþฐกิจของผูĀญิง ÿุขภาพและการýึกþา การเขาถึงตลาดแรงงานและงานในภาค เกþตร รüมถึงการÿงเÿริมบทบาทผูĀญิงในงานพัฒนา และไดกลาüถึงการแÿüงĀา ประโยชนจากโÿเภณีและการคามนุþยโดยพิจารณาüาการคาĀญิงและเด็กเพื่อบังคับ คาประเüณียังคงดํารงอยู ผูĀญิงและเด็กทั้งĀญิงชาย ถูกทํารายทางรางกายและ แÿüงĀาประโยชนทางเพýตกอยูในÿภาพเยี่ยงทาÿ การดําเนินการในระดับชาติตาม แผนปฏิบัติการเม็กซิโกยังไมมีผลเปนที่นาพอใจ และเชื่อüาĀากมีการปรับปรุง


๒๕ และขยายคüามรüมมือระĀüางĀนüยงานในองคการÿĀประชาชาติ กรรมาธิการ ÿถานภาพÿตรี กรรมาธิการปองกันและปราบปรามอาชญากรรม และคณะทํางาน เรื่องการคาทาÿของกรรมาธิการเรื่องÿิทธิมนุþยชนจะชüยใĀเกิดการปองกันการ บังคับคาประเüณี ปราบปรามการแÿüงĀาประโยชนและชüยฟนฟูบําบัดผูตกเปน เĀยื่อไดดีขึ้น รัฐบาลประเทýตาง ๆ คüรพิจารณาเขาเปนภาคีของอนุÿัญญาคามนุþย และจัดทํารายงานเÿนอตอÿมัชชาÿĀประชาชาติ คüรตระĀนักüาĀญิงและเด็กไมได เปนÿินคา และทุกคนมีÿิทธิที่จะไดรับการคุมครองใĀรอดพนจากการถูกลักพาตัü ขมขืน และการคาประเüณี Āญิงและเด็กที่เปนโÿเภณีมีÿิทธิที่จะไดรับการคุมครอง จากการปฏิบัติที่เลüรายของการที่ตองตกเปนโÿเภณี องคการÿĀประชาชาติ องคกร เอกชนที่ไดรับÿถานภาพที่ปรึกþาของÿĀประชาชาติ (Consultative Status) และ องคการระĀüางประเทýทั้งĀลายคüรรüมมือกันรณรงคตอตานการแพรระบาดของ ปญĀานี้อยางมีประÿิทธิภาพ การประชุมครั้งที่ĀกของÿĀประชาชาติเรื่องการปองกัน อาชญากรรมและการปฏิบัติตอผูกระทําผิดคüรมีขอเÿนอแนะที่เดนชัดเรื่องคüาม เกี่ยüเนื่องระĀüางการพัฒนา โÿเภณีและการแÿüงĀาประโยชน และการคามนุþย เลขาธิการÿĀประชาชาติคüรเชื้อเชิญรัฐบาลของรัฐภาคีดําเนินการกับเครือขายของ นักคามนุþยและผูจัดĀา และคüรเÿนอรายงานตอกรรมาธิการÿถานภาพÿตรีในการ ประชุมครั้งที่ ๒๙ รüมถึงการจัดทํารายงานเรื่องระบบโÿเภณีทั่üโลก ÿาเĀตุและ เงื่อนไขทางÿังคมและเýรþฐกิจที่เปนปจจัยใĀเกิดการคาประเüณี ๔. ไนโรบีการประชุมสุดสิ้นทศวรรษสตรี การประชุมÿตรีระดับโลกครั้งที่ÿาม ที่นครไนโรบี พ.ý. ๒๕๒๘ (ค.ý. ๑๙๘๕) เปนการประชุมÿิ้นÿุดทýüรรþÿตรีภายใตĀัüขอเรื่อง คüามเÿมอภาค การ พัฒนาและÿันติภาพ การประชุมครั้งนี้ไดตระĀนักüาคüามแตกตางทางเพýนําไปÿู การเลือกปฏิบัติและเปนอุปÿรรคตอคüามเÿมอภาคĀญิงชาย ไดเนนใĀผูĀญิงมีÿิทธิ ในการตัดÿินใจ และมีการบูรณาการผูĀญิงในดานการพัฒนาเýรþฐกิจและÿังคม ใน ที่ประชุมของภาคเอกชนไดใĀคüามÿนใจในเรื่องการทองเที่ยüทางเพý การคาĀญิง และการคาประเüณี โดยเฉพาะการคาประเüณีของเด็ก Āรือที่เรียกในชüงเüลานั้นüา โÿเภณีเด็ก (Child Prostitution) โดยมูลนิธิผูĀญิงในนามของýูนยขาüผูĀญิงไดรüม นําเÿนอในการประชุมของภาคองคกรเอกชน เรื่องÿถานการณการแÿüงĀาประโยชน ทางเพýจากĀญิงและเด็กĀญิง การทองเที่ยüทางเพýในประเทýไทยและคําขüัญใน งานรณรงคüา การคาĀญิงเปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชน ผูรüมประชุมเĀ็นüาปญĀานี้ จําเปนตองขจัดใĀĀมดÿิ้นไปเพื่อบรรลุคüามกาüĀนาของÿตรีและคüามเÿมอภาค


๒๖ Āญิงชาย การประชุมÿตรีโลกครั้งนี้ไดมีการจัดทําแผนยุทธýาÿตรมองไปขางĀนา จากไนโรบีเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง (๑๙๘๕-๒๐๐๐) เพื่อใชเปนแนüทางที่ เĀมาะÿมและมีประÿิทธิภาพÿําĀรับการลงมือปฏิบัติระดับโลกระยะยาüในบริบท ของระบบเýรþฐกิจโลกใĀม แผนยุทธýาÿตรไนโรบีเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง เรียกรองใĀมีการลงมือปฏิบัติตามแผนอยางเรงดüนและเÿนอใĀÿมัชชา ÿĀประชาชาติจัดการติดตามประเมินผลทุกĀาป แผนยุทธýาÿตรไดรüบรüมกลุม Āญิงที่ตองใĀคüามÿนใจเปนพิเýþ ๑๔ กลุม อันไดแก ๑) Āญิงที่ไดรับผลกระทบ จากคüามแĀงแลง ๒) Āญิงยากจนในเมือง ๓) Āญิงÿูงüัย ๔) เยาüชนĀญิง ๕) Āญิงที่ ถูกกระทําทารุณ ๖) Āญิงที่ยากจนไรอาชีพ ๗) Āญิงที่ตกเปนเĀยื่อของการคามนุþย และคาประเüณีโดยไมÿมัครใจ ๘) Āญิงที่ดํารงชีüิตดüยüิถีดั้งเดิม ๙) Āญิงที่ดูแล ครอบครัüตามลําพัง ๑๐) Āญิงพิการทางรางกายและจิตใจ ๑๑) Āญิงที่ถูกคุมขังและ กระทําคüามผิดทางอาญา ๑๒) Āญิงและเด็กผูลี้ภัยและเรรอน ๑๓) Āญิงยายถิ่น ๑๔) Āญิงชนกลุมนอยและชนเผา แผนยุทธýาÿตรไนโรบีพิจารณาüาการบังคับคาประเüณีเปนรูปแบบĀนึ่งที่ ทําใĀผูĀญิงตกเปนทาÿโดยผูจัดĀานําพา และเปนผลพüงจากการเÿื่อมโทรมทาง เýรþฐกิจที่ทําใĀแรงงาน การทํางานของผูĀญิงตองแตกตางออกไป การเติบโตของ เมืองดึงดูดใĀเกิดการยายถิ่นนําไปÿูการüางงาน การที่ผูĀญิงตองพึ่งพาชาย การบีบ คั้นทางÿังคมและการเมืองทําใĀเกิดผูลี้ภัย บุคคลÿูญĀาย ซึ่งรüมถึงกลุมเปราะบาง ผูĀญิงที่กลายเปนเĀยื่อของพüกพอเลาแมงดา ผูĀญิงถูกลดทอนใĀเปนเพียงüัตถุทาง เพýและÿินคาที่ซื้อขายได โดยการทองเที่ยüทางเพý การบังคับคาประเüณีและÿื่อ ลามกอนาจาร รัฐภาคีขององคการÿĀประชาชาติคüรมีมาตรการจัดการกับการ แÿüงĀาประโยชนจากĀญิงโÿเภณี คüรมีการพิจารณาอยางรีบดüนในการปรับปรุง มาตรการÿากลในการตอÿูกับการคาĀญิงเพื่อการคาประเüณี จัดÿรรทรัพยากรเพื่อ ปองกันการคาประเüณีและใĀคüามชüยเĀลือทางอาชีพ การบูรณาการทั้งรางกาย และÿังคมของĀญิงโÿเภณีโดยใĀโอกาÿทางเýรþฐกิจที่รüมถึงการฝกฝน การมีงาน ทํา การทํางานของตนเอง และการดูแลÿุขภาพของĀญิงและเด็กรัฐบาลคüรพยายาม รüมมือกับองคกรเอกชนเพื่อÿรางงานใĀมากขึ้นแกผูĀญิง และตองมีการบังคับใช กฎĀมายอยางเขมงüดในทุกระดับเพื่อจัดการกับคüามรุนแรงที่เพิ่มขึ้น การใชยาเÿพ ติด และการกระทําคüามผิดที่เกี่ยüของกับการคาประเüณี ดังนั้นจึงจําเปนที่องคกร ตํารüจÿากลจะตองพยายามเพิ่มคüามรüมมือจัดการกับคüามซับซอนของปญĀาการ แÿüงĀาประโยชนและคüามรุนแรงตอผูĀญิงในการคาประเüณี


๒๗ จะเĀ็นไดüาแผนยุทธýาÿตรไนโรบีใĀคüามÿนใจกับปญĀาการคาประเüณี การคาĀญิงโดยรüมĀญิงที่ตกเปนเĀยื่อโดยไมÿมัครใจเปนĀนึ่งกลุมเปาĀมายของ Āญิงที่รัฐตองใĀคüามใÿใจเปนพิเýþ และไดกําĀนดมาตรการทั้งในระดับประเทý และคüามรüมมือระดับÿากลเพื่อจัดการกับการคาĀญิงและการแÿüงĀาประโยชน จากĀญิงที่ถูกบังคับคาประเüณี ที่ครอบคลุมเรื่องการคุมครองชüยเĀลือผูตกเปน เĀยื่อและกําĀนดแนüทางในการฟนฟูÿรางชีüิตใĀมใĀแกĀญิงที่เคยเปนโÿเภณี ใน แผนยุทธýาÿตรไดกลาüถึงคüามเปราะบางของผูĀญิง และการถูกนํามาใชในธุรกิจ การทองเที่ยüทางเพý การบังคับคาประเüณีและÿื่ออนาจาร แผนยุทธýาÿตรไนโรบี จึงเปนแผนปฏิบัติการชุดแรกที่กลาüถึงปจจัยของการเติบโตการคาĀญิง และการ แÿüงĀาประโยชนทางเพýจากĀญิงที่เนนในเรื่องĀญิงและเด็กĀญิงที่เขาÿูการคา ประเüณีโดยไมยินยอมÿมัครใจ แตในÿüนมาตรการระดับชาตินั้นไดกําĀนดใĀรัฐบาล คํานึงการคุมครองĀญิงที่เปนโÿเภณีและการจัดคüามชüยเĀลือทางดานÿังคมและ เýรþฐกิจเพื่อÿามารถดํารงชีüิตใĀมได จึงÿรุปไดüาแผนยุทธýาÿตรไนโรบีได ตระĀนักüาในระบบโÿเภณี Āรือการคาประเüณีนั้นมีĀญิงทั้งที่ถูกบังคับและไมถูก บังคับ และไดใĀคüามÿนใจแกĀญิงที่ถูกบังคับ ในขณะเดียüกันก็เรียกรองใĀรัฐมี มาตรการชüยเĀลือĀญิงที่ไมไดถูกบังคับและใĀโอกาÿไดÿรางชีüิตใĀมแตมิไดยอมรับ การคาประเüณี จะเĀ็นไดüาการประชุมระดับโลกเรื่องผูĀญิงทั้งÿามครั้งนี้ตางใĀคüามÿนใจ ตอปญĀาการคาĀญิง และการนําĀญิงและเด็กมาบังคับคาประเüณี มีการüิเคราะĀ ÿาเĀตุปจจัยและพิจารณากําĀนดแนüทางในการแกไขปองกัน รüมถึงมาตรการที่จะ Āยุดยั้งการเติบโตของปญĀาที่เĀ็นพองรüมกันüาเปนการทําใĀĀญิงและเด็กตองตก เปนทาÿ เปนที่นาÿังเกตüามุมมองการüิเคราะĀปญĀานี้อยูในกรอบเจตนารมณของ อนุÿัญญาปราบปรามการคามนุþยและการแÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณี ของผูอื่น (พ.ý. ๒๔๙๒) และเรียกรองใĀยุติการคามนุþยและปราบปรามกลุมบุคคล ที่แÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณีของĀญิงและเด็ก อันไดแกผูจัดĀา พอเลา แมงดา เปนตน โดยตระĀนักüาในกระบüนการคาประเüณีมีĀญิงและเด็กที่ไมÿมัคร ใจและถูกบังคับซึ่งจําเปนจะตองมีคüามรüมมือในระดับÿากลเพื่อลงโทþผูที่จัดĀา และแÿüงประโยชน แตไมไดกําĀนดมาตรการใด ๆ ในการคุมครองÿิทธิของĀญิงที่ คาประเüณีโดยไมมีการบังคับ ยกเüนการชüยเĀลือฟนฟูบําบัดทางรางกายจิตใจ และ อาชีพแกผูที่ตองการจะออกจากการคาประเüณีและÿรางชีüิตใĀม


๒๘ ๕. ศูนย์ข่าวผู้หญิงจุดเริ่มต้นของมูลนิธิผู้หญิง เมื่อÿุดÿิ้นการประชุมกึ่งทýüรรþÿตรีที่โคเปนฮาเกน ในประเทýไทยนัก กิจกรรม นักüิชาการ นักคิดนักเขียนและผูใชแรงงานĀญิงไดมีการริเริ่มกอตั้งกลุม ผูĀญิง เพื่อเปนพื้นที่ในการขับเคลื่อนเรื่องผูĀญิงในแนüทางÿิทธิÿตรี โดยใชชื่อüา กลุมเพื่อนĀญิง กิจกรรมแรกของกลุมคือการจัดงานüันÿตรีÿากล ๘ มีนาคม ที่กลุม องคกรÿตรีกระแÿĀลักมองüาเปนüันของÿตรีที่มีอุดมการณแบบÿังคมนิยม กลุม เพื่อนĀญิงจึงเปนเĀมือนทางเลือกใĀมในการทํางานเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิงชายใน ประเทýไทย และเมื่อÿุดÿิ้นการประชุมทýüรรþÿตรีที่ไนโรบี ในเดือนÿิงĀาคม ๒๕๒๘ ประเทýไทยไดเขารüมเปนภาคีของอนุÿัญญาüาดüยการขจัดการเลือกปฏิบัติ ตอÿตรีในทุกรูปแบบโดยมีขอÿงüนไü ๗ ขอ และไดลดขอÿงüนจนในปจจุบันเĀลือ เพียงขอ ๒๙ เกี่ยüของกับการÿงกรณีพิพาทระĀüางรัฐภาคีใĀýาลยุติธรรมระĀüาง ประเทýพิจารณา กอนการประชุมÿุดÿิ้นทýüรรþÿตรี ที่นครไนโรบี ไดเกิดเĀตุการณÿะเทือน ใจทั้งคนไทยและคนทั่üโลกอันไดแกไฟไĀมยานการคาประเüณีในจังĀüัดภูเก็ตเมื่อ üันที่ ๓๐ มกราคม พ.ý. ๒๕๒๗ และพบüามีเด็กĀญิงเÿียชีüิตจากไฟไĀมซองที่เธอ ถูกกักขังไü เĀตุการณครั้งนี้ทําใĀเกิดการตระĀนักของคนในÿังคมถึงการบังคับ คาประเüณีและขบüนการ “ตกเขียü” อันไดแกการจับจองเด็กĀญิงในüัยเรียนชั้น ประถมทางภาคเĀนือเพื่อลองใตเมื่อเรียนจบชั้นประถมýึกþาÿูการคาประเüณีใน เมืองĀลüงและจังĀüัดอื่น ๆ โดยจายเงินลüงĀนาใĀพอแมเปนคาตัüของเด็กĀญิงที่ จะตองทํางานใĀบริการทางเพýตามระยะเüลาที่ตกลงไü แมประเทýไทยจะมี กฎĀมายปราบปรามการคาประเüณีพ.ý. ๒๕๐๓ และปราบปรามการคาĀญิงและ เด็ก พ.ý. ๒๔๗๑ แตก็ไมÿามารถĀยุดยั้งขบüนการพาเด็กĀญิง “ลองใต” เพื่อการคา ประเüณี จึงทําใĀประเทýไทยตกเปนจําเลยของประชาคมโลกในเรื่องโÿเภณีเด็ก ใน ปเดียüกับเĀตุการณอันนาÿะเทือนใจที่ภูเก็ตโครงการýูนยขาüผูĀญิงไดจัดตั้งขึ้นดüย การÿนับÿนุนจากกองทุนขนาดเล็กของÿถานทูตเนเธอรแลนด เพื่อใĀขอมูลแก Āญิงไทยที่ตองการการยายถิ่นทั้งเพื่อคาประเüณีและแตงงานกับคนตางชาติ ซึ่ง กลายเปนทางเลือกเพื่อปรับปรุงชีüิตของĀญิงทั้งในชนบทและเมืองในชüงเติบโตของ การทองเที่ยüทางเพý ผูĀญิงÿüนĀนึ่งตัดÿินใจเดินทางโดยไดรับการชักชüนจาก นักทองเที่ยüตางชาติโดยไมไดรับขอมูลรอบดาน เมื่อถึงประเทýปลายทางประÿบ ปญĀาทั้งในการใชชีüิตคู และการทํางานบริการทางเพý การยายถิ่นโดยคüามÿมัคร


๒๙ ใจในเบื้องตนไดทําใĀผูĀญิงถูกแÿüงĀาประโยชน ถูกทําราย และบางคนตองจบชีüิต ในตางแดน ýูนยขาüผูĀญิงใĀขอมูลและคําปรึกþาแกĀญิงไทยที่ตองการเดินทางไป ตางประเทý และจัดพิมพเอกÿารตาง ๆ เพื่อเผยแพรแกÿาธารณชน และไดเขารüม ในการประชุมไนโรบีเพื่อนําเÿนอปญĀาการทองเที่ยüทางเพý และการแÿüงĀา ประโยชนทางเพýจากĀญิงและเด็ก กอนการประชุมไนโรบีไดมีการประชุมนานาชาติ เรื่องการคาĀญิงและการแÿüงĀาประโยชนทางเพýที่เมืองรอตเตอรดัม ประเทý เนเธอรแลนดเมื่อ พ.ý. ๒๕๒๗ มีการนําเÿนอแนüคิดจากงานเขียนเรื่อง Āญิงทาÿ ทางเพý (Female Sexual Slavery) ของแคทลีน แบรรี่ ที่นําเÿนอปญĀาการคา Āญิงและการคาประเüณี เปนการแÿüงĀาประโยชนและคüามรุนแรงตอผูĀญิง นัก ÿิทธิÿตรีÿายĀลักในทýüรรþนี้ไมแยกเรื่องการคาĀญิงออกจากเรื่องการคาประเüณี และยืนยันüาการแÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิงจะตองขจัดใĀĀมดไป และมี กลุมรณรงคที่กอตั้งในชüงเüลาตอมาคือเครือขายตอตานการคาĀญิง (Coalition against Trafficking in Women–CATW) เĀตุการณภูเก็ตทําใĀýูนยขาüผูĀญิง และกลุมองคกรÿตรีและองคกรÿิทธิ มนุþยชน ไดจัดÿัปดาĀตอตานการคาĀญิงและการÿัมมนาระดับชาติเรื่องปญĀา การคาĀญิงไทย (๘-๙ มีนาคม ๒๕๒๗) โดยมีคุณĀญิงกนก ÿามเÿน üิล และคุณĀญิง กนิþฐา üิเชียรเจริญ และนักกิจกรรมผูĀญิงĀลายคนประÿานการจัดงาน และไดเชิญ รัฐมนตรีกระทรüงมĀาดไทย พลเอกÿิทธิ จิรโรจน ผูที่ใĀคüามÿนใจคัดคานการ ทองเที่ยüทางเพýเปนผูเปดงานÿัมมนา ÿüนĀนึ่งของคํากลาüเปดงานระบุüา “...ถา คิดกันüาĀญิงเปนÿินคาที่จะขายไดทั้งในเมืองไทยและตางประเทý เÿมือนĀนึ่งเปน ผลิตผลทางการเกþตรĀรือผลิตภัณททางอุตÿาĀกรรมอยางนั้นแลü กระผมก็Āüงใน เกียรติและýักดิ์ýรีของÿตรีüาเรายังมีเĀลืออยูÿักเทาใด...” และอธิบายüาประเทý ไทยพยายามแกไขปญĀาการคาĀญิงในÿามเรื่องคือ ปองกัน ปราบปราม และบําบัด แกไข “ที่Āมายถึงการพยายามที่จะใĀเขาละเลิกประพฤติไปไดอยางเด็ดขาดและจะ กลายเปนพลเมืองĀญิงที่ดีของบานเมืองกันตอไป...” นับเปนครั้งแรกที่มีการประÿาน คüามรüมมือของกลุมองคกรที่ทํางานดานÿตรีและเด็กกับนักüิชาการจาก มĀาüิทยาลัยเรียกรองใĀรัฐบาลขจัดปญĀาการคาĀญิงและเด็กĀญิง และปราบปราม การคาประเüณีตามพระราชบัญญัติปองกันและปราบปรามการคาประเüณี พ.ý. ๒๕๐๓ ที่ลมเลิกการคาประเüณีที่รัฐเคยเขาคüบคุมดüยการจดทะเบียนซองและĀญิง โÿเภณี โดยลงโทþเจาของแĀลงคาประเüณี บุคคลที่จัดĀา และผูคาประเüณี แตไมมี บทลงโทþใด ๆ ตอผูซื้อประเüณี การเติบโตของการคาประเüณีÿะทอนใĀเĀ็นüา


๓๐ กฎĀมายปราบปรามการคามนุþยและการคาประเüณีมิไดมีการบังคับใชอยางจริงจัง เพื่อการĀยุดยั้งการแÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิงและเด็กĀญิงแตอยางใด อาจกลาüไดüา เĀตุการณไฟไĀมภูเก็ต และการจัดÿัมมนาระดับชาติครั้งนี้เปนÿüน Āนึ่งของการขับเคลื่อนเพื่อปรับปรุงแกไขกฎĀมายที่เกี่ยüของกับการคาĀญิงและการ คาประเüณีในเüลาตอมา ýูนยขาüผูĀญิงตอมาไดจดทะเบียนเปนมูลนิธิผูĀญิงใน พ.ý. ๒๕๓๐ เพื่อ คุมครองÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงและคüามเÿมอภาคĀญิงชาย โดยมีโครงการอบรม ใĀคüามรูเพื่อÿรางการตระĀนักแกÿตรีในภาคÿüนตาง ๆ ไดĀยิบยกประเด็นการ แÿüงĀาประโยชนทางเพý และการคาĀญิงและเด็กĀญิงมาดําเนินโครงการของ มูลนิธิ เชน โครงการตอตานโÿเภณีเด็กคําĀลา คําแกü โครงการüิจัยเรื่องการคา มนุþยเพื่อรณรงคใĀÿรางการตระĀนักในชุมชน และการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ระดับชาติ ในชüงแรกของการทํางานในนามýูนยขาüผูĀญิงจะใĀคüามÿนใจเปน พิเýþในเรื่องการทองเที่ยüทางเพý และการยายถิ่นขามชาติของĀญิงไทยเพื่อการคา ประเüณี และการแตงงานที่นําไปÿูธุรกิจเมียÿั่งทางไปรþณีย โดยนําĀญิงจาก ประเทýที่ÿามใĀชายตะüันตกไดคัดเลือกเพื่อแตงงานและ/ĀรือแÿüงĀาประโยชน ทางเพý เชน บังคับคาประเüณี ในชüงปลายทýüรรþ ๑๙๘๐ บริþัทจัดทองเที่ยü ทางเพýในนอรเüย (Scan Thai) ไดฟองรององคกรแนüรüมÿตรี (Kvinnen Front) ที่ประทüงการดําเนินธุรกิจทองเที่ยüทางเพý ýาลไดรับพิจารณาคดี องคกรแนüรüม ÿตรีไดขอใĀผูแทนýูนยขาüผูĀญิงเปนพยานแกฝายองคกรÿตรี เมื่อคดีÿุดÿิ้นลงýาล พิพากþาใĀองคกรÿตรีเปนฝายชนะจึงไมตองจายคาชดเชยตามที่บริþัทจัดทองเที่ยü ทางเพýเรียกรอง แมกระนั้นก็ตามยังคงพบโฆþณาของบริþัทจัดทองเที่ยüทางเพýใน ประเทýตาง ๆ ทั้งในยุโรป และเอเชีย รüมถึงธุรกิจเมียÿั่งทางไปรþณีย ที่การ นําเÿนอไมใชมีเฉพาะĀญิงไทย แตยังรüมถึงĀญิงจากประเทýอื่น ๆ ในเอเชียดüย กลุมองคกรผูĀญิงทั้งในเอเชีย ยุโรป และทüีปอื่น ๆ ไดรüมกันประทüงคัดคานการ ดําเนินธุรกิจแÿüงĀาประโยชนจากĀญิงในประเทýพัฒนา มีการรüมกันจัดประทüง ในĀลายประเทý เชน การรüมมือจัดประทüงนายกรัฐมนตรีซูซูกิของญี่ปุนที่มาเยือน ประเทýในภูมิภาคเอเชียตะüันออกเฉียงใต การยื่นจดĀมายคัดคานการทองเที่ยüทาง เพýตอนายเฮลมุต โคĀล นายกรัฐมนตรีÿĀพันธÿาธารณรัฐเยอรมัน (พ.ý. ๒๕๒๙) นอกจากนี้ยังไดมีการจัดตั้งýูนยใĀคําแนะนําปรึกþาแกผูĀญิงที่ประÿบปญĀาไดรับ ผลกระทบจากธุรกิจเĀลานี้ แนüทางการรณรงคมุงเนนในเรื่องการคุมครองชüยเĀลือ และปองกันไมใĀĀญิงและเด็กตกเปนเĀยื่อของการคามนุþยและถูกบังคับเขาÿู


๓๑ การคาประเüณีทั้งในประเทýและตางแดน แนüทางของการทํางานของมูลนิธิผูĀญิง ในชüงแรกจึงเปนไปตามเจตนารมณของแผนยุทธýาÿตรไนโรบี ที่เรียกรองใĀรัฐบาล ของแตละประเทýดําเนินมาตรการตาง ๆ เพื่อปราบปรามการคาĀญิงและเด็ก และ การบังคับคาประเüณี และใĀคüามชüยเĀลือแกĀญิงและเด็กทั้งทางเýรþฐกิจและ ÿังคมเพื่อÿามารถÿรางชีüิตใĀมของตน องคกรตาง ๆ ทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลตาง ก็มีเปาĀมายคลายคลึงกันคือการยุติกระบüนการบังคับคาประเüณีและการคาĀญิง และเด็ก และคüามจําเปนที่จะตองมีการÿํารüจในระดับโลกเพื่อใĀเĀ็นภาพรüมของ ปญĀานี้อันจะนําไปÿูคüามพยายามในการรüมมือแกไขและปองกันการแÿüงĀา ประโยชนทางเพýจากĀญิงและเด็ก ๖. เวียนนา เวทีแห่งความสมานฉันท์สากล และชัยชนะของขบวนการสิทธิสตรี ชüงทýüรรþที่ ๙๐ เปนชüงการÿุดÿิ้นของÿงครามเย็น (พ.ý. ๒๕๓๒) และ การÿูญÿลายของÿĀภาพโซเüียต (พ.ý. ๒๕๓๔) ทําใĀดินแดนที่เคยรüมอยูในÿĀภาพ โซเüียตแยกออกเปนประเทýเกิดใĀมĀลายประเทý ÿĀประชาชาติไดริเริ่มจัดการ ประชุมระดับโลกĀลายเรื่อง อันไดแก การประชุมเรื่องÿิ่งแüดลอมและการพัฒนา ที่ นครรีโอเดจาเนโร ประเทýบราซิล (พ.ý. ๒๕๓๕) เรื่องÿิทธิมนุþยชนที่นครเüียนนา ประเทýออÿเตรีย (พ.ý. ๒๕๓๖) เรื่องการพัฒนาประชากร ที่กรุงไคโร ประเทý อียิปต (พ.ý. ๒๕๓๗) เรื่องผูĀญิงที่กรุงปกกิ่ง ÿาธารณรัฐประชาชนจีน (พ.ý. ๒๕๓๘) การประชุมÿุดยอดเรื่องการพัฒนาÿังคม ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทýเดนมารก (พ.ý. ๒๕๓๘) การประชุมระดับโลกที่เกิดขึ้นตางไดจัดทําแผนปฏิบัติการเพื่อเปนแนüทาง ใĀรัฐภาคีขององคการÿĀประชาชาติดําเนินการใĀบรรลุตามเปาĀมายที่ไดüางไü และเปดโอกาÿใĀภาคประชาÿังคมไดมีÿüนรüมในการนําเÿนอประเด็นปญĀาและ ขอเÿนอแนะโดยจัดประชุมของภาคเอกชนกอนการประชุมของภาครัฐบาล การประชุมระดับโลกเรื่องÿิทธิมนุþยชนที่นครเüียนนาเปนการจัดประชุม ครั้งที่ÿอง โดยครั้งแรกไดจัดใĀมีขึ้นที่กรุงเตĀะราน ประเทýอิĀราน เมื่อ พ.ý. ๒๕๑๑ เพื่อเปนการเฉลิมฉลองüาระครบรอบ ๒๐ ปของการประกาýปฏิญญาÿากล üาดüยเรื่องÿิทธิมนุþยชน การประชุมที่เüียนนามีผูเขารüมถึง ๗,๐๐๐ คน โดยมี ผูแทนจาก ๑๗๑ ประเทýÿมาชิกขององคการÿĀประชาชาติ และองคกรเอกชนทั่ü โลกรüม ๘๐๐ องคกร การประชุมครั้งนี้มุงเนนประเด็นเรื่องÿิทธิมนุþยชนในดาน ÿิทธิทางการเมืองและเýรþฐกิจ ที่เคยเปนประเด็นขัดแยงในชüงÿงครามเย็นระĀüาง ประเทýประชาธิปไตยกับประเทýÿังคมนิยม และประเทýพัฒนาแลüกับที่ยังยากจน


๓๒ ดอยพัฒนา โดยจัดลําดับคüามÿําคัญของÿิทธิใĀเĀมาะÿมตามระบอบการปกครอง ของประเทý นอกจากนี้การประชุมที่เüียนนายังใĀคüามÿําคัญกับเรื่องÿิทธิมนุþยชน ของผูĀญิง ชนเผา ชนกลุมนอยที่มีผูแทนจากทั่üโลกเขารüมในการประชุมครั้งนี้ ปฏิญญาและแผนปฏิบัติการเüียนนายืนยันคüามเปนÿากลของÿิทธิมนุþยชน ที่รอย เรียงกับประชาธิปไตย การพัฒนาเýรþฐกิจ ÿิทธิมนุþยชนดานตาง ๆ เกี่ยüของ เชื่อมโยงกัน ไมอาจลิดรอน แบงแยกÿิทธิพลเมือง ÿิทธิการเมือง ÿิทธิทางเýรþฐกิจ ÿังคมและüัฒนธรรมออกจากกันได ÿิทธิตาง ๆ เกี่ยüของเชื่อมโยงกัน กอนการประชุมที่เüียนนา ผูแทนมูลนิธิผูĀญิงไดเขารüมการประชุมของ ÿถาบันเพื่อคüามเปนผูนําโลกของÿตรี แĀงมĀาüิทยาลัยรัตเกอรÿ (Centre for Women Global Leadership, Rutgers University) เมืองนิüเจอรซี ประเทý ÿĀรัฐอเมริกา ในเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง ที่เปนปญĀาของผูĀญิงทั่üโลก และไมได รับการตอบÿนองแกไขอยางจริงจัง ในการประชุมครั้งนี้ภายใตการนําของชารลอต บันช ผูอํานüยการÿถาบัน และนักเคลื่อนไĀüรüมทั้งนักกฎĀมายเรื่องÿิทธิมนุþยชน จากทุกภูมิภาคไดริเริ่มใĀจัดการรณรงคระยะเüลา ๑๖ üัน (16 Days of Activism) โดยเริ่มจากüันที่ ๒๕ พฤýจิกายน ซึ่งเปนüันที่เกิดการÿังĀารผูĀญิงนักเคลื่อนไĀü ทางการเมืองÿามคนในÿาธารณรัฐโดมินิกัน จนถึงüันที่ ๑๐ ธันüาคม อันเปนüันÿิทธิ มนุþยชน และยังเตรียมการขับเคลื่อนใĀมีÿüนรüมของผูĀญิงทั่üโลกในการรณรงค เรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง โดยใชคําขüัญüา ÿิทธิผูĀญิงคือÿิทธิมนุþยชน คüาม รุนแรงตอผูĀญิงเปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชน และไดจัดýาลจําลองไตÿüนคําใĀการ ของĀญิงที่ไดรับคüามรุนแรงในรูปแบบตาง ๆ จากทั่üโลกในการประชุมที่เüียนนา ผูĀญิงจากทั่üโลกไดรüมกันเรียกรองใĀประชาคมโลกตระĀนักüาปฏิญญาÿากลüา ดüยเรื่องÿิทธิมนุþยชน (พ.ý. ๒๔๙๑) ไดคํานึงถึงและรüมไüซึ่งÿิทธิมนุþยชนของ ผูĀญิงที่ไมอาจลิดรอน แบงแยกและละเมิดได รัฐมีĀนาที่เคารพ ปกปองและคุมครอง ÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง ผลÿําเร็จของคüามÿมานฉันทÿากลนี้คือการยืนยันüาÿิทธิ ของผูĀญิงคือÿิทธิมนุþยชนที่ไมอาจลิดรอน แบงแยก และยอมรับüาคüามรุนแรงตอ ผูĀญิงเปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชนไüในปฏิญญาและแผนเüียนนา ตอมาไดมีการ จัดทําปฏิญญาขจัดคüามรุนแรงตอผูĀญิงในทุกรูปแบบซึ่งผูแทนมูลนิธิผูĀญิงไดรüม ในการประชุมผูเชี่ยüชาญที่ประเทýÿĀรัฐอเมริกาเพื่อพิจารณารางปฏิญญานี้Āลังจาก การประชุมที่เüียนนา ปฏิญญานี้ไดนิยามเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิงและรüมเรื่องการ บังคับคาประเüณีและการคามนุþยไüเปนรูปแบบĀนึ่งของคüามรุนแรงตอผูĀญิง และไดรับการรับรองจากมติที่ประชุมÿĀประชาชาติ เมื่อüันที่ ๒๐ ธันüาคม ๒๕๓๖


๓๓ ตอมาไดมีการแตงตั้งผูตรüจการพิเýþเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิงในป ๒๕๓๘ รายงานฉบับแรกไดจัดทําในĀัüขอเรื่องคüามรุนแรงในครอบครัü ÿาเĀตุและผลที่ เกิดขึ้น นําเÿนอตอคณะกรรมาธิการÿิทธิมนุþยชน ในป ๒๕๓๙ รายงานฉบับแรก กลาüถึงการบังคับคาประเüณีและการคามนุþยไüในเรื่องคüามรุนแรงในครอบครัü ดüย มูลนิธิผูĀญิงไดรüมกับองคกรÿิทธิมนุþยชนĀญิงเอเชีย จัดการÿัมมนาเรื่อง การคามนุþยในเüทีภาคองคกรเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนขอคนพบจากการดําเนิน โครงการüิจัยเรื่องการยายถิ่นและการคาĀญิงในประเทýไทย โดยทําการýึกþาใน พื้นที่ภาคเĀนือและภาคอีÿานกับผูแทนกลุมองคกรจากภูมิภาคอื่น ๆ ตอมาได จัดพิมพเผยแพรงานüิจัยในชื่อ การคาĀญิงüิถีÿังคมไทย และÿํานักพิมพ ZED ได แปลและจัดพิมพเปนภาþาอังกฤþ และไดมีการแปลและพิมพในภาþาÿเปน และยัง ไดพัฒนาเอกÿารมาตรฐานขั้นตํ่าในการปฏิบัติตอผูเÿียĀายจากการคามนุþยซึ่งตอมา ไดมีการทํางานรüมกับนักÿิทธิมนุþยชนนานาชาติพัฒนาเปนมาตรฐานÿิทธิมนุþยชน ในการปฏิบัติตอผูเÿียĀายจากการคามนุþย มูลนิธิผูĀญิงไดรüมกับโครงการÿตรี ýึกþา มĀาüิทยาลัยเชียงใĀมจัดประชุมนานาชาติเรื่องการยายถิ่นและการคาĀญิง (พ.ý. ๒๕๓๗) เพื่อนําเÿนอขอมูลที่ไดพบจากงานüิจัย ผูเขารüมประชุมไดเĀ็นพอง รüมกันใĀจัดตั้งพันธมิตรÿากลเพื่อตอตานการคาĀญิง (Global Alliance against Traffic in Women–GAATW) เพื่อรณรงคและประÿานการทํางานในระดับÿากล เรื่องปญĀาการคามนุþยในบริบทของการยายถิ่น โดยใชแนüทางÿิทธิมนุþยชนเปน กรอบในการทํางานรณรงค üิจัย และใĀคüามชüยเĀลือแกĀญิงผูเÿียĀาย มูลนิธิ ผูĀญิงทําĀนาที่ประÿานการดําเนินงานของพันธมิตรÿากลเพื่อตอตานการคาĀญิง เĀตุผลÿําคัญในการจัดตั้งพันธมิตรขึ้นใĀมเพราะผูเขารüมประชุมจากĀลายภูมิภาค พิจารณาเĀ็นüาเครือขายระดับÿากลที่มีอยูใชปญĀาการคาĀญิงเปนเครื่องมือในการ รณรงคขจัดระบบโÿเภณีตามเจตนารมณของอนุÿัญญาการคามนุþยและการ แÿüงĀาประโยชนจากการเปนโÿเภณีของผูอื่น โดยเĀมารüมüาผูĀญิงที่คาประเüณี ตางตกเปนเĀยื่อของการคามนุþย ไมมีการจําแนกเรื่องการบังคับคาประเüณี และ การคาประเüณีโดยไมมีการบังคับ ทําใĀĀญิงกลุมĀลังไมไดรับการคุมครองÿิทธิใน การทํางานบริการทางเพý และเริ่มรüมตัüกันเรียกรองใĀจําแนกการคาĀญิงและการ คาประเüณี ในการüิเคราะĀและกําĀนดมาตรการแกไขในกรอบĀลักการÿิทธิ มนุþยชน โดยมีเปาĀายของการรณรงคคือ ๑) การจัดทํานิยามเรื่องการคามนุþย ๒) จัดทําอนุÿัญญาเรื่องการคามนุþยที่ครอบคลุมกüาอนุÿัญญาการคามนุþย พ.ý.


๓๔ ๒๔๙๒ และ ๓) การใชกรอบĀลักการÿิทธิมนุþยชนในการÿงเÿริมคุมครองโดยใĀ ผูเÿียĀายจากการคามนุþยเปนýูนยกลางของการใĀคüามชüยเĀลือ โดยไดใช เอกÿารมาตรฐานÿิทธิมนุþยชนในการปฏิบัติตอผูเÿียĀายเปนเครื่องมือในการ รณรงคเผยแพรแนüคิดÿิทธิมนุþยชนและคํานิยามเรื่องการคามนุþยที่ครอบคลุมไม เนนเฉพาะเรื่องการแÿüงĀาประโยชนทางเพýเทานั้น ๗. ปักกิ่ง การยืนยันสิทธิมนุษยชนของผู้หญิง และจุดเริ่มต้นของ การทำงานเรื่องโสเภณี การค้าหญิง ในกรอบสิทธิมนุษยชน การประชุมระดับโลกเรื่องÿตรีครั้งที่ÿี่ขององคการÿĀประชาชาติในนคร ปกกิ่ง พ.ý. ๒๕๓๘ แมจะเปนการติดตามการดําเนินงานของรัฐภาคีตามยุทธýาÿตร ไนโรบีในĀัüขอเÿมอภาค พัฒนาและÿันติภาพ แตก็แตกตางจากการประชุมÿตรีโลก ÿามครั้งที่ผานมาคือเปนการÿานตอผลÿําเร็จของผูĀญิงจากการประชุมเรื่องÿิทธิ มนุþยชนที่นครเüียนนาที่ไดÿรางการตระĀนักเรื่องÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงที่ ครอบคลุมและĀลากĀลาย การประชุมÿตรีโลกครั้งที่ÿี่กําĀนดประเด็นÿําคัญและ Āüงใย ๑๒ เรื่องที่ ครอบคลุมเรื่องเด็กĀญิงไüดüย อันไดแก ๑) ผูĀญิงและคüาม ยากจน ๒) การýึกþาและอบรมของผูĀญิง ๓) ผูĀญิงและÿุขภาพ ๔) คüามรุนแรงตอ ผูĀญิง ๕) ผูĀญิงและคüามขัดแยงทางอาüุธ ๖) ผูĀญิงและเýรþฐกิจ ๗) ผูĀญิง อํานาจและการตัดÿินใจ ๘) กลไกเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง ๙) ÿิทธิมนุþยชน ของผูĀญิง ๑๐) ผูĀญิงและÿื่อ ๑๑) ผูĀญิงและÿิ่งแüดลอม ๑๒) เด็กĀญิง จะเĀ็นüา Āัüขอของการประชุมครั้งนี้ครอบคลุมÿิทธิของผูĀญิงที่บรรจุในอนุÿัญญาผูĀญิง แต ไดขยายประเด็นที่อนุÿัญญาผูĀญิงยังไมไดกลาüถึง เชน เรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิงที่ อนุÿัญญากลาüถึงเฉพาะเรื่องการคาĀญิงและการแÿüงĀาประโยชนทางเพý และ ผูĀญิงในÿถานการณขัดแยงทางอาüุธ รüมถึงเรื่องÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง ที่ได รับรองบรรจุไüในแผนปฏิบัติการเüียนนา มูลนิธิผูĀญิงไดนําผูĀญิงจากĀลายภาคÿüนรüมในการประชุมภาคองคกร เอกชนที่จัดในชüง ๓๐ ÿิงĀาคม–๘ กันยายน พ.ý. ๒๕๓๘ กอนการประชุม ภาครัฐบาล ณ เมืองĀüายโĀรü (Huairou) และมีผูเขารüมถึง ๒๕,๐๐๐ คน มูลนิธิ ผูĀญิงไดรüมกับ GAATW (Global Alliance against Traffic in Women) จัด ÿัมมนาเรื่องการคามนุþยในกรอบÿิทธิมนุþยชนของผูถูกคา โดยมีÿüนรüมของ ผูเÿียĀายในการนําเÿนอแลกเปลี่ยนปญĀาและขอเÿนอแนะกับผูเขารüมจาก ประเทýตาง ๆ ในการประชุมภาครัฐและรüบรüมนําเÿนอในการประชุมของ


๓๕ ภาครัฐบาล และตอผูแทนของรัฐบาลบางประเทýโดยยืนยันใĀจําแนกแยกการคา ประเüณีจาการคาĀญิงเพราะจําเปนตองมีกรอบüิเคราะĀและการแกไขปญĀา แตกตางกัน แผนปฏิบัติการปกกิ่ง ไดยืนยันเปาĀมายที่จะÿรางคüามกาüĀนาของผูĀญิง ทุกคนและทั่üโลกในเรื่องคüามเÿมอภาคทางเพý การพัฒนาและÿันติภาพ ที่คüรจะ บรรลุตามแผนยุทธýาÿตรไนโรบีในชüงÿุดÿิ้นýตüรรþที่ ๒๐ แผนปฏิบัติการปกกิ่งได กําĀนดยุทธýาÿตรดําเนินการไüในแตละĀัüขอเพื่อใĀรัฐบาลและองคกรที่เกี่ยüของ ลงมือปฏิบัติ ในÿüนที่เกี่ยüกับเรื่องการคาĀญิงและการแÿüงĀาประโยชนทางเพý ได บรรจุไüในĀัüขอเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง เรียกรองใĀรัฐดําเนินการอยางมี ประÿิทธิภาพขจัดการคาĀญิงและเด็กĀญิงเพื่อเพýพาณิชย ใĀบังคับใชอนุÿัญญา พ.ý. ๒๔๙๒ และกลไกตาง ๆ จัดการกับการใชผูĀญิงในระบบโÿเภณีขามชาติและ เครือขายคามนุþย การขมขืนคุกคามทางเพý การทองเที่ยüทางเพýที่ทําใĀĀญิงและ เด็กกลายเปนเĀยื่อของคüามรุนแรง การตั้งทองที่ไมพึงประÿงค โรคติดตอทาง เพýÿัมพันธรüมทั้งเอชไอüีเอดÿ และกําĀนดยุทธýาÿตรเฉพาะเพื่อขจัดการคาĀญิง และชüยเĀลือผูตกเปนเĀยื่อของคüามรุนแรงอันเกิดจากการคาประเüณีและการคา มนุþย โดยบังคับใชกฎĀมายที่มีอยูอยางจริงจังเพื่อคุมครองÿิทธิของผูĀญิงและเด็ก และลงโทþผูกระทําผิด จัดทําโครงการชüยเĀลือที่ครอบคลุมเพื่อใĀใชชีüิตปกติใน ÿังคมและรüมมือกับองคกรเอกชน กําĀนดนโยบายและโครงการýึกþาอบรมและ ออกกฎĀมายปองกันการทองเที่ยüทางเพýและการคามนุþยที่เนนเรื่องการคุมครอง ผูĀญิงและเด็ก รüมทั้งเขาเปนภาคีของอนุÿัญญาคามนุþยและคาทาÿ นอกจากนี้ยัง ไดมีขอเÿนอแนะใĀผูตรüจการพิเýþเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง จัดทํารายงานฉบับ ตอไปในĀัüขอเรื่องการคาĀญิง ๘. การพัฒนาเกณท์ขั้นต่ำในการปฏิบัติต่อเหยื่อของการค้ามนุษย์ แรงงานบังคับ และ การกระทำเยี่ยงทาส เป็นมาตรฐานทางสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติต่อผู้ถูกค้ามนุษย์ และการกำหนดคำนิยามใหม่เรื่องการค้ามนุษย์ งานüิจัยเรื่องการคาĀญิงในประเทýไทย ชี้ใĀเĀ็นถึงคüามเชื่อมโยงของการ ยายถิ่นและการคามนุþย คüามÿมัครใจในการยายถิ่นเพื่อĀางานทําในและนอก ประเทýที่มิใชการคาประเüณีเพียงอยางเดียü แตเมื่อถึงจุดĀมายปลายทางĀญิงยาย ถิ่นดüยคüามÿมัครใจกลับกลายเปนเĀยื่อของการคามนุþย และการปฏิบัติเยี่ยงทาÿ และไมไดรับการปฏิบัติที่คํานึงถึงÿิทธิที่จะไดรับการคุมครองชüยเĀลือ ดังนั้นมูลนิธิ


๓๖ ผูĀญิงจึงไดเÿนอใĀมีการจัดทํามาตรฐานขั้นพื้นฐานในการปฏิบัติตอĀญิงที่ตกเปน เĀยื่อของการคามนุþยทั้งในประเทýตนทางและปลายทางโดยใชแนüทางĀลักการ ÿิทธิมนุþยชน ตอมาไดรüมมือกับพันธมิตรÿากลตานการคาĀญิง ( GAATW) มูลนิธิ ตานการคาĀญิง (STV) และ International Human Rights Law Group Women in Law Project พัฒนาเปนเอกÿารเกณทมาตรฐานขั้นตํ่าในการปฏิบัติตอผูตกเปน เĀยื่อของการคามนุþยและแรงงานบังคับและการปฏิบัติเยี่ยงทาÿ (Standard minimum rules for the treatment of trafficking in persons and forced labour and slavery-like practices-SMR) อันประกอบดüยคํานิยามที่กลาüถึงการ กระทําดüยüิธีการตาง ๆ เพื่อนําคนมาตกอยูในÿภาüะจํายอมเพื่อใชประโยชนในงาน บาน ทางเพýและงานบริการอื่น ๆ แรงงานบังคับติดĀนี้ Āรือÿภาพเยี่ยงทาÿ และ แนüปฏิบัติตอผูที่ตกเปนเĀยื่อ และใน พ.ý ๒๕๔๒ ไดขยายเปนมาตรฐานÿิทธิ มนุþยชนในการปฏิบัติตอผูถูกคามนุþย (Human Rights Standards for the Treatment of Trafficked Persons–HRS) แมจะมีอนุÿัญญาเรื่องการคามนุþยมา นับแต พ.ý. ๒๔๙๒ แตก็ไมไดใĀคํานิยามüาอะไรคือการคามนุþย เชนเดียüกับ ขอเÿนอแนะเรื่องการคาĀญิงในแผนปฏิบัติการจากการประชุมระดับโลกเรื่องผูĀญิง ทั้งÿี่ครั้งก็ไมกําĀนดคํานิยามแตอางถึงอนุÿัญญาเรื่องการคามนุþยที่ครอบคลุม เฉพาะเรื่องการคาประเüณีเพียงอยางเดียü ดังนั้นจึงกลาüไดüาเปนการริเริ่มครั้งแรก ขององคกรผูĀญิง และองคกรÿิทธิมนุþยชนที่พยายามÿรางคüามเขาใจในระดับ นานาชาติüาอะไรคือการคามนุþยโดยเชื่อมโยงการคามนุþยในบริบทของการยายถิ่น และใĀคüามÿําคัญกับÿภาพปลายทางของการยายถิ่นที่ทําใĀĀญิงยายถิ่นกลายเปน เĀยื่อของการคามนุþย การบังคับใชแรงงานและการปฏิบัติเยี่ยงทาÿ เอกÿารนี้ได พัฒนาจากĀลักการÿิทธิมนุþยชนที่ระบุในอนุÿัญญาÿิทธิตาง ๆ และยึดถือเปน บรรทัดฐานÿากลเพื่อใĀการเคารพ ÿงเÿริมและคุมครองÿิทธิของผูตกเปนเĀยื่อของ การคามนุþย บังคับใชแรงงานและปฏิบัติเยี่ยงทาÿ นับเปนเอกÿารที่ครอบคลุมและ ใĀคํานิยามที่กลาüถึงองคประกอบและรูปแบบของการคามนุþยในบริบทของการ ยายถิ่น ที่มิไดกลาüถึงเฉพาะการคาประเüณีแตรüมถึงการบังคับใชแรงงานและการ ปฏิบัติเยี่ยงทาÿ ที่ครอบคลุมทั้งĀญิงและชาย เอกÿารนี้ไดใชเปนเครื่องมือในการ ÿรางคüามเขาใจแกผูแทนรัฐบาลของประเทýตาง ๆ ที่เขารüมในการประชุมของ UNODC (United Nations Office on Drugs and Crime) ที่กรุงเüียนนา ประเทý ออÿเตรีย เพื่อจัดทําอนุÿัญญาตอตานอาชญากรรมขามชาติและพิธีÿารเพิ่มเติมเรื่อง การคามนุþย


๓๗ ๙. ผู้ตรวจการพิเศษเรื่องความรุนแรงต่อผู้หญิง กับการจัดทำรายงานเรื่อง การค้ามนุษย์ ผูตรüจการพิเýþเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิงคนแรก คือ Raddhika Coomaraswamy ไดจัดทํารายงานเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง ÿาเĀตุและผลที่ เกิดขึ้น ในĀัüขอเรื่องการคาĀญิง ตามที่มีขอเÿนอแนะจาการประชุมโลกเรื่องผูĀญิง ที่ปกกิ่ง และไดนําเÿนอตอรายงานเรื่องการคาĀญิง การยายถิ่นของĀญิงและคüาม รุนแรงตอผูĀญิงในเดือนกุมภาพันธ ๒๕๔๓ ในรายงานฉบับนี้ผูตรüจการพิเýþฯ ได กลาüถึงพัฒนาการจุดยืนของตนตอเรื่องการคามนุþยที่ไดเปลี่ยนแปลงจากรายงาน ฉบับแรกที่กลาüถึงการคาĀญิงเพียงการบังคับคาประเüณี มูลนิธิตานการคามนุþยใน เนเธอรแลนดไดรüมกับพันธมิตรÿากลตานการคาĀญิงประÿานงานกับองคกรÿิทธิ มนุþยชนและองคกรผูĀญิงในแตละภูมิภาคทําการýึกþารüบรüมขอมูลเพื่อจัดทํา รายงานเรื่องการคาĀญิง แรงงานบังคับและการปฏิบัติเยี่ยงทาÿในการแตงงาน การ ทํางานบานและการคาประเüณีนําเÿนอตอผูตรüจการพิเýþฯ ที่ไดใĀคüามเĀ็นชอบ ในการจัดทําการýึกþารüบรüมขอมูลครั้งนี้ ในรายงานของผูตรüจการพิเýþฯ ได นําเÿนอปญĀาการคาĀญิงในบริบทของการยายถิ่นทั้งในและนอกประเทý ที่ ครอบคลุมถึงการลี้ภัยและการĀลบĀนีจากคüามขัดแยงรุนแรง โดยใชคํานิยามที่ เÿนอแนะในรายงานและในมาตรฐานÿิทธิมนุþยชนในการปฏิบัติตอผูถูกคาในบริบท ของการยายถิ่น ซึ่งใĀคüามÿําคัญในเรื่องการถูกบังคับใชแรงงานและการปฏิบัติเยี่ยง ทาÿมากกüาที่จะจํากัดอยูเพียงเรื่องการคาประเüณีĀรือการแÿüงĀาประโยชนทาง เพý เนื่องจากรูปแบบการคามนุþยมีĀลากĀลายüัตถุประÿงคที่มิใชมีเฉพาะการคา ประเüณีĀรือการทํางานทางเพý แตยังรüมถึงแรงงานบาน แรงงานฝมือ แรงงานใน ภาคอุตÿาĀกรรม การแตงงาน การรับบุตรบุญธรรมĀรือคüามÿัมพันธอื่น ๆ องคประกอบที่เĀมือนกันในรูปแบบตาง ๆ ของการคามนุþยคือ ๑) การไมไดรับ คüามยินยอม ๒) การมีนายĀนาจัดĀา ๓) การจัดพาเคลื่อนยาย ๔) ÿภาพการทํางาน Āรือคüามÿัมพันธที่ถูกแÿüงĀาประโยชนĀรือตกเปนทาÿ ดังนั้นคํานิยามใด ๆ เกี่ยüกับการคามนุþยจะตองคํานึงถึงองคประกอบทั้งĀมดนี้ และการคุมครอง ผูเÿียĀายจากการคามนุþยไมไดจํากัดอยูเฉพาะในอนุÿัญญาการคามนุþย แตยัง รüมถึงอนุÿัญญาÿิทธิมนุþยชนอื่น ๆ ที่เกี่ยüของดüย และคüรมีการปรับกระบüน ทัýนในการใĀคüามชüยเĀลือผูตกเปนเĀยื่อจากการบุกเขาชüยและบังคับบําบัดฟนฟู เปนการÿงเÿริมคุมครองÿิทธิและการเยียüยา โดยไดĀยิบยกตัüอยางการใĀคüาม ชüยเĀลือผูถูกคามนุþยและแรงงานบังคับตางชาติของมูลนิธิผูĀญิง และพันธมิตร


๓๘ ÿากลตานการคาĀญิง ที่ดําเนินการตามĀลักการÿิทธิมนุþยชน และกลาüถึงการ รüมมือขององคกรภาคเอกชนที่ไดรüมกันจัดทํามาตรฐานÿิทธิมนุþยชนในการปฏิบัติ ตอผูถูกคามนุþย โดยเÿนอแนะใĀรัฐและประชาคมนานาชาติใชเปนแนüทางในการ จัดทํานโยบายและกฎĀมายในเรื่องการคามนุþย คüามพยายามขององคกรผูĀญิงในการรüบรüมขอมูลจัดทํารายงานเรื่อง การคาĀญิงในบริบทของการยายถิ่นเพื่อการจัดทํารายงานของผูตรüจการพิเýþฯ ใน ประเด็นเรื่องการคาĀญิงที่ระบุไüในปฏิญญาขจัดคüามรุนแรงตอผูĀญิงüาเปนคüาม รุนแรงที่เกิดขึ้นในชุมชน ไดกอใĀเกิดประโยชนในการขยายกรอบของการคาĀญิงที่ ไมเนนเพียงเรื่องการคาประเüณีแตไดเชื่อมโยงกับเรื่องการยายถิ่น ที่มีĀลาย üัตถุประÿงค และมีขอเÿนอแนะองคประกอบของการคามนุþยเพื่อพิจารณาในการ จัดทํานิยามของการคาĀญิง และการจัดทํามาตรการนโยบายตาง ๆ ที่คํานึงถึงการ ÿงเÿริม คุมครองÿิทธิมนุþยชนของผูถูกคามนุþย บังคับใชแรงงานและไดรับการ ปฏิบัติเยี่ยงทาÿ รายงานของผูตรüจการพิเýþฯ ในĀัüขอเรื่องการคาĀญิง การยาย ถิ่นของĀญิงและคüามรุนแรง จึงเปนการเริ่มตนในการนําเÿนอคํานิยามเรื่องการคา มนุþยทิ่ไมเคยไดกําĀนดไüทั้งในอนุÿัญญาคามนุþย และขอเÿนอแนะที่ ๑๙ ของ อนุÿัญญาผูĀญิง ตลอดจนแผนปฏิบัติการการของประชุมระดับโลกทั้งเรื่องผูĀญิง และÿิทธิมนุþยชนที่ผานมาซึ่งมีเพียงการเรียกรองใĀดําเนินการปราบปรามการคา Āญิงและเด็กĀญิง และดําเนินการใĀคüามชüยเĀลือแกผูเÿียĀายเทานั้น จึงนับüา เปนคüามกาüĀนาอีกระดับĀนึ่งในการทํางานเรื่องการคาĀญิงที่ริเริ่มพยายามจัดทํา คํานิยามเรื่องการคาĀญิงในบริบทของการยายถิ่นที่ÿามารถกาüเกินการคาประเüณี และการแÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิง โดยใĀคüามÿําคัญในเรื่องการบังคับใช แรงงานและการปฏิบัติเยี่ยงทาÿ นอกจากนั้น ผูตรüจการพิเýþฯ ยังไดÿนับÿนุนใĀ นําอนุÿัญญาเรื่องการคุมครองÿิทธิของแรงงานยายถิ่นและครอบครัüที่ไดรับการ รับรองมาตั้งแต พ.ý. ๒๕๓๓ แตยังไมมีผลบังคับใชเนื่องจากจํานüนรัฐภาคีที่เปน ÿมาชิกมีเพียง ๑๖ ประเทýในขณะจัดทํารายงาน มาใชในการดําเนินงานในเรื่องนี้ ๑๐. วิวาทะเรื่องการค้ามนุษย์และการค้าประเวณี การคามนุþยโดยเฉพาะการคาĀญิงและเด็กĀญิงเปนประเด็นที่ประชาคม โลกใĀคüามÿนใจมาตั้งแตตนýตüรรþที่ ๒๐ และไดมีการจัดทําอนุÿัญญาĀลายฉบับ เพื่อปราบปรามการคาĀญิงและเด็กĀญิง อนุÿัญญาปราบปรามการคามนุþยและการ แÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณีของผูอื่น พ.ý. ๒๔๙๒ มีเจตนาจัดทําขึ้นเพื่อใช


๓๙ แทนอนุÿัญญาฉบับกอน ๆ ที่เกี่ยüกับเรื่องการคามนุþยแตก็มิไดใĀคํานิยามใด ๆ นอกจากปฏิเÿธระบบโÿเภณีและการคาประเüณี โดยมองüาการคาĀญิงมีเพียง รูปแบบเดียüคือการบังคับคาประเüณี และการแÿüงĀาประโยชนทางเพýแมผู คาประเüณียินยอมก็ตาม อนุÿัญญานี้เรียกรองใĀยกเลิกกฎĀมายในประเทýที่ คüบคุมการจดทะเบียนแĀลงคาประเüณีและผูคาประเüณีโดยÿนับÿนุนใĀรัฐจัด มาตรการปองกันและบริการทางÿังคมเพื่อบําบัดและฟนฟูผูที่ถูกบังคับคาประเüณี อนุÿัญญาฉบับนี้ใชแนüทางการĀามปรามเพื่อลมเลิกระบบโÿเภณี(Abolitionist) โดยใชมาตรการทางอาญาเอาผิดตอบุคคลที่ÿามซึ่งแÿüงĀาประโยชนแตไมลงโทþ ผูคาประเüณี กลุมองคกรที่ทํางานเรื่องการคามนุþยและการคาประเüณีในชüง ทýüรรþÿตรีทั่üโลกตางดําเนินการรณรงคในแนüทางของอนุÿัญญานี้ โครงการคํา ĀลาของมูลนิธิผูĀญิงที่ตองการขจัดการนําเด็กĀญิงมาคาประเüณีก็เชนเดียüกัน แนüทางนี้มองüาการคาประเüณีลบĀลูýักดิ์ýรีคüามเปนมนุþยของผูĀญิงที่ถูกนํามา แÿüงĀาประโยชนทางเพýโดยการนําพา บังคับและลอลüง แนüคิดนี้ไดยืนยันระบุไü ในขอ ๖ ของอนุÿัญญาผูĀญิง และปฏิญญาขจัดคüามรุนแรงตอผูĀญิงที่ไดกําĀนดüา การคาประเüณีเปนรูปแบบĀนึ่งของคüามรุนแรงตอผูĀญิง แนüคิดนี้ไมแยกเรื่อง การคาĀญิงและการคาประเüณีออกจากกัน ตอมาไดมีการรüมตัüกันของĀญิงโÿเภณี ในÿังคมตะüันตกที่เริ่มโตแยงüาการคาประเüณีเปนรูปแบบĀนึ่งของการทํางาน โดย เรียกüาเปนงานบริการทางเพý (sex work) และเรียกตนเองüาคนทํางานบริการทาง เพý (sex worker) ที่ตองไดรับการคุมครองÿิทธิทางแรงงาน และคüามรุนแรงจาก การทํางาน การเคลื่อนไĀüรณรงคเรื่องการคามนุþยÿงผลตอĀญิงบริการทางเพý และเกิดการเĀมารüมüาĀญิงที่ทํางานบริการทางเพýลüนเปนเĀยื่อของการคามนุþย Āญิงที่ทํางานใĀบริการทางเพýไดจัดประชุมโÿเภณีระดับโลกÿองครั้ง ใน พ.ý. ๒๕๒๘ ที่กรุงอัมÿเตอรดัม ประเทýเนเธอรแลนด และครั้งที่ÿองใน พ.ý. ๒๕๒๙ ที่ รัฐÿภาประชาคมยุโรป กรุงบรัÿเซล ประเทýเบลเยี่ยม โดยมีผูแทนจากĀลาย ประเทýเขารüมรüมทั้งผูแทนจากýูนยขาüผูĀญิงและĀญิงโÿเภณีจากประเทýไทย ที่ ประชุมมีขอเรียกรองใĀรัฐไมเอาผิดตอผูĀญิงที่คาประเüณี และคัดคานการจด ทะเบียนโÿเภณี ตอมามูลนิธิผูĀญิงและพันธมิตรทั่üโลกตานการคาĀญิงไดจัดใĀมี การÿัมมนาแลกเปลี่ยนคüามคิดเĀ็นระĀüางกลุมองคกรที่ทํางานเรื่องการคาĀญิงกับ กลุมĀญิงบริการทางเพý ÿงผลใĀเกิดการตระĀนักถึงคüามจําเปนที่จะตองแยก ปญĀาการคามนุþยและการคาประเüณีออกจากกันในการüิเคราะĀและจัดทําแนü ทางแกไขในกรอบของĀลักการÿิทธิมนุþยชนที่จะตองÿงเÿริมคุมครองÿิทธิของผูที่


Click to View FlipBook Version