สี่ทศวรรษ การเดินทางของ มูลนิธิผู้หญิง จัดพิมพ์ในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปี มูลนิธิผู้หญิง
สีÉทศวรรษการเดินทาง ของมูลนิธิผ้หู ญิง พิมพครั้งแรก มกราคม ๒๕๖๗ จัดทําโดย มูลนิธิผ้หู ญิง ๒๙๕ ถนนจรัญÿนิทüงý ๖๒ แขüงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมĀานคร ๑๐๗๐๐ โทร. ๐-๒๔๓๓-๕๑๔๙ [email protected] Facebook: มูลนิธิผูĀญิง Foundation for Women ที่ปรึกþา: รังÿิมา ลิมปÿüัÿดิ์, ÿุพัตรา ภูธนานุÿรณ อุþา เลิýýรีÿันทัด, ปนĀทัย Āนูนüล บรรณาธิการ: ýิริพร ÿโครบาเนค ตรüจทานและจัดรูปเลม: ปานจิตต แกüÿüาง ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสาํนักหอสมุดแห่งชาติ ýิริพร ÿโครบาเนค. ÿี่ทýüรรþการเดินทางของมูลนิธิผูĀญิง.-- กรุงเทพฯ : มูลนิธิผูĀญิง, 2567. 416 Āนา. 1. ÿตรี-- การÿงเคราะĀ. I. ชื่อเรื่อง. 362.83 ISBN 978-616-91114-7-4 พิมพท์ ีÉ : ภาพพิมพ โทรýัพท๐-๒๘๗๙-๙๑๕๔
คำนำ เมื่อมูลนิธิผูĀญิงเดินทางครบÿองรอบในปพ.ý. ๒๕๕๑ ไดเลาเรื่องราüของ การเดินทางทํางานในโครงการตาง ๆ เพื่อใĀคüามชüยเĀลือ ÿงเÿริม และคุมครอง ÿิทธิมนุþยชนของĀญิงและเด็ก ไüในĀนังÿือ มูลนิธิผูĀญิง กับการเดินทางที่ยังไม ÿิ้นÿุด และเมื่อมูลนิธิผูĀญิงมีอายุไดÿี่ÿิบป ผานชüงเüลาทุกขยากของมนุþยทั้งโลก นั่นคือการรุกรานของโคüิดที่ไดพราชีüิตทุกüัยทั้งĀญิงและชายไปรüมเจ็ดลานคนใน ทั่üทุกทüีป ในชüงเüลานี้มูลนิธิผูĀญิงไดเริ่มตนทบทüนการทํางานที่ผานมา และได ตัดÿินใจปดมานการเดินทางขององคกร ในüัยที่ชีüิตมนุþยกําลังเริ่มตน Āนังÿือÿี่ ทýüรรþของมูลนิธิผูĀญิงนี้คือ การบันทึกเรื่องราüการเดินทางเพื่อคüามกาüĀนา และคüามเÿมอภาคของĀญิงชาย ที่คนรุนกอนเคยถากถางทางเดินไüเพื่อใĀพüกเรา กาüเดินตอไปและการแปรเปลี่ยนของขบüนการÿิทธิÿตรี มูลนิธิผูĀญิงกอรางในนามแรกคือ ýูนยขาüผูĀญิง พ.ý. ๒๕๒๗ โดยมี ÿมาชิกเริ่มตนทํางานรüมกันÿี่Āาคน และไดเติบโตจนชüงĀนึ่งมีผูรüมงานจาก ĀลากĀลายภูมิĀลังมากกüาÿามÿิบคนที่มีคüามตั้งใจรüมกันในอันที่จะชüยเĀลือ ปกปองคุมครองÿิทธิดานตาง ๆ เพื่อใĀผูĀญิงไดดํารงชีüิตอยางมีýักดิ์ýรี นอกจาก การใĀคüามชüยเĀลือเฉพาะรายแลü มูลนิธิผูĀญิงยังเปนองคกรที่ดําเนินงานดาน üิจัยแบบมีÿüนรüม ผลิตÿิ่งตีพิมพในรูปแบบตาง ๆ ที่ไดÿังเคราะĀจากขอมูลและ ประÿบการณในการทํางาน นํามารณรงคเพื่อÿรางการตระĀนักรูและการเปลี่ยน แปลงทางกฎĀมายและนโยบาย ทั้งยังเปนองคกรประÿานการทํางานในระดับ ภูมิภาคและนานาชาติเพื่อคüามกาüĀนาและÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง รüมทั้งการ ÿรางเครือขายกลุมองคกรผูĀญิงในประเทýไทย Āนังÿือ ÿี่ทýüรรþการเดินทางของมูลนิธิผูĀญิง เปนการเลาเรื่องการทํางาน ดานตาง ๆ โดยรüบรüมบทคüาม งานเขียนในชüงเüลาที่ผานมาทั้งที่ไดรับการตีพิมพ เผยแพรแลü และที่ยังไมไดเผยแพรดüยเĀตุผลบางประการ รüมทั้งขอคิดเĀ็นของ กรรมการและผูรüมงานของมูลนิธิผูĀญิง นอกจากนี้ยังไดเขียนเลาเรื่อง การเดินทาง
ที่แปรเปลี่ยน เพื่อเชื่อมโยงการกอรางขององคกรและการดําเนินงานในชüงÿี่ÿิบปกับ กระแÿการเรียกรองของนักเคลื่อนไĀüÿิทธิÿตรีในระดับÿากล เปนการใĀภาพüาไดมี การประÿานการทํางานรüมกัน และไดใชกรอบการüิเคราะĀที่ผูĀญิงเปนýูนยกลาง ในระบบโครงÿรางคüามÿัมพันธเชิงอํานาจระĀüางĀญิงชาย พัฒนาการของüาท กรรม แนüคิดการทํางานเรื่องผูĀญิงที่แปรเปลี่ยนไปจากเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิง ชายมามุงเนนเรื่องอํานาจและอัตลักþณทับซอน พรอมกับการขับเคลื่อนรณรงคÿิทธิ ของกลุมĀลากĀลายทางเพýที่เริ่มครอบงําพื้นที่งานรณรงคของผูĀญิงจนปรับเปลี่ยน üาระของการเลือกปฏิบัติตอผูĀญิงในปจจุบัน นอกจากการบันทึกรüบรüมการทํางานในÿี่ทýüรรþการเดินทางของมูลนิธิ ผูĀญิงแลü ยังไดมีการจัดทําĀนังÿือ ผูĀญิง เรื่องที่ยินยังไมพอ โดยรüบรüมขอมูล จากในอดีตและปจจุบันนํามาเขียนเลาเรื่องผูĀญิงเพื่อใĀเĀ็นüานับแตในอดีต ĀญิงไทยไดÿามารถแÿüงĀาพื้นที่เพื่อการเรียนรู การทํามาĀากิน การเชื่อมโยง อํานาจ จนเปนที่ประจักþในงานบันทึกของนักเดินทางตางชาติ และแมจะไมไดรับ การýึกþาเลาเรียนอยางเปนทางการในอดีตแตก็มีผูĀญิงที่ÿามารถรจนาเลาเรื่อง ตาง ๆ ไดอยางนาติดตามโดยผลงานĀลายชิ้นมิไดเปดเผยนามของผูประพันธ การ เริ่มตนคนĀาขอมูลเรื่องราüของผูĀญิงในประüัติýาÿตรเปนเÿมือนการเริ่มตนบทใĀม ของการบันทึกประüัติýาÿตรจากมุมมองของผูĀญิงที่นักÿิทธิÿตรีในประเทýกําลัง พัฒนากําลังใÿใจเพื่อตัดแอกจากการครอบงําเลาเรื่องตีคüามของนักคิดนักเขียน ตะüันตก และเปนการแÿดงใĀเĀ็นüาผูĀญิงแตละยุคÿมัยมีüิถีการตอÿูของตนเอง จึง เปนการคลี่คลายใĀเĀ็นüาการเĀมารüมüาพื้นที่ของĀญิงในÿังคมนั้นมีจํากัดและ ครอบงําโดยชายตามที่เปนมานั้นมิไดÿอดคลองกับบทบันทึกทางประüัติýาÿตรและ ผลงานคüามÿามารถของผูĀญิง แมมูลนิธิผูĀญิงจะÿุดÿิ้นการเดินทาง แตผูรüม เดินทางจะยังคงเดินทางคนĀาเลาเรื่องของผูĀญิงตอไป ศิริพร สโครบาเนค ประธานมูลนิธิผู้หญิง
สารบัญ สี่ทศวรรษของมูลนิธิผู้หญิง กับการเดินทางที่แปรเปลี่ยนของขบวนการสิทธิสตรี ๑ I. การย้ายถิ่น การค้าหญิง และการค้าประเวณี การยายถิ่น การคาĀญิง และการคาประเüณี ๒๑ บันทึกไüในประüัติýาÿตรโÿเภณี ๖๙ ใĀโอกาÿเยาüชนบอกเลาถึงอนาคตและคüามĀüัง ýูนยเพื่อนองĀญิง ๗๗ เรื่องเลาของนันทนารี ๘๑ คüามยุติธรรมยังมาไมถึง ๘๓งานตอตานการคามนุþยในประเทýไทย: เงินทุนĀายไปไĀน ๑๒๑ II. การทำงานกับหญิงและเด็กต่างชาติ การทํางานกับĀญิงและเด็กยายถิ่นตางชาติ ๑๕๓ÿไมลเลย บานĀลังใĀญของเด็กพมามุÿลิมแมÿอด ๑๘๑ III. ความรุนแรงต่อผู้หญิง คüามรุนแรงตอผูĀญิง มีüันÿิ้นÿุด ๑๙๙ ประÿบการณรณรงคมาตรา ๒๗๖ ๒๐๙ ผูĀญิงตองคดีฆาÿามี ๒๑๑ เยียüยาเพื่อĀยัดยืน การเดินทางของÿันติภาพและผูĀญิงภาคใต ๒๒๓ บทเรียนจากการทํางานÿานชีüิตĀญิงและเด็กอันดามัน ๒๔๑ เรื่องเลาชีüิตของอาÿาÿมัครผูĀญิง ๒๗๙ IV. บทเรียนการทำงานขับเคลื่อนเครือข่ายผู้หญิง บทเรียนการทํางานขับเคลื่อนเครือขายผูĀญิง ๒๘๗
บทส่งท้าย มูลนิธิผู้หญิงในความทรงจำของกรรมการ และผู้ร่วมงาน คüามทรงจําเกี่ยüกับมูลนิธิผูĀญิง ๓๑๑ ýาÿตราจารย ดร.อมรา พงýาพิชญ คüามÿํานึกที่จะÿรางและดัดแปลงโลก: เรียนรูจากงานมูลนิธิผูĀญิง ๓๑๓ผý.ดร.ปนĀทัย Āนูนüล เÿี้ยüĀนึ่งของชีüิต ๓๑๗ รังÿิมา ลิมปÿüัÿดิ์ บันทึกจากคüามทรงจํา บนเÿนทางเพื่อÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงและ คüามเÿมอภาคระĀüางเพý ๓๒๗ ÿุพัตรา ภูธนานุÿรณ คือโอกาÿ และพื้นที่แĀงการเรียนรู ๓๓๗ อุþา เลิýýรีÿันทัด ÿคูลฟาüนเดชั่นฟอรüีเมน: จากทฤþฎีÿตรีนิยมÿูการลงมือทํา ๓๓๙ ปานจิตต แกüÿüาง บันทึกของฉันยอนรอยจากĀมูบานÿูมูลนิธิผูĀญิง ๓๔๓กฤþณา เÿนทางของฉัน ๓๔๙ ลินดา บันทึกไüในคüามทรงจํา ๓๕๓มัทนา เชตมี ประÿบการณการทํางานรüมกับมูลนิธิผูĀญิง ๓๕๗ พชราพรรณ üีโชคจันทแÿง มูลนิธิผูĀญิงคüามทรงจําที่งดงาม ๓๕๙ พลอยรัýญ Āากยอนเüลากลับไปได ๓๖๑ พิมพธรรม เอื้อเฟอ จากใจคนทํางานอยูเบื้องĀลังคüามÿําเร็จขององคกร ๓๖๕ นภาพร โÿมะคุณานนท บทÿัมภาþณýิริพร ÿโครบาเนค (üารÿารÿตรีและเยาüชนýึกþา มธ.) ๓๖๗ ด้วยความรำลึกและขอบคุณ ๓๗๕ เกี่ยวกับมูลนิธิผู้หญิง ๓๗๗ รายชื่อหนังสือ สิ่งตีพิมพ์ ของมูลนิธิผู้หญิง ๓๗๙ ความเคลื่อนไหวของผู้หญิงในประเทศไทยและสากล ๓๙๓
๑ สี่ทศวรรษของมูลนิธิผู้หญิง กับการเดินทางที่แปรเปลี่ยนของ ขบวนการสิทธิสตรี ศิริพร สโครบาเนค “Fire the flames of memories tell of days that are gone.” จุดประกายเพลิงคüามทรงจํา เลาเรื่องüันüานที่ผานเลย (Nabucco อุปรากรของ Verdi) เมื่อมูลนิธิผูĀญิงเดินทางครบÿองรอบในปพ.ý. ๒๕๕๑ ไดเลาเรื่องราüของ การเดินทางทํางานการใĀคüามชüยเĀลือ ÿงเÿริมและคุมครองÿิทธิมนุþยชนของ Āญิงและเด็กไüในĀนังÿือ มูลนิธิผูĀญิง กับการเดินทางที่ยังไมÿิ้นÿุด และเมื่อมูลนิธิ ผูĀญิงมีอายุไดÿี่ÿิบป (พ.ý. ๒๕๒๗-๒๕๖๗) ผานชüงเüลาทุกขยากของมนุþยทั้งโลก นั่นคือการรุกรานของโคüิดที่ไดพราชีüิตทุกüัยทั้งĀญิงและชายไปรüมเจ็ดลานคนใน ทั่üทุกทüีป มูลนิธิผูĀญิงก็เริ่มตนทบทüนการทํางานที่ผานมา และไดตัดÿินใจปดมาน การเดินทางขององคกรในüัยที่ชีüิตมนุþยกําลังเริ่มตน Āนังÿือÿี่ทýüรรþของมูลนิธิ ผูĀญิงนี้คือการบันทึกเรื่องราüการเดินทางเพื่อคüามกาüĀนาและคüามเÿมอภาคของ
๒ Āญิงชาย ที่คนรุนกอนเคยถากถางทางเดินไüเพื่อใĀพüกเรากาüเดินตอไป และการ แปรเปลี่ยนทิýทางของขบüนการÿิทธิÿตรี พื้นที่ของผู้หญิงวีเมนส คาเฟ่ จุดเริ่มต้นของการเดินทาง ýูนยขาüผูĀญิง เปนโครงการเล็ก ๆ ที่ตองการใĀคüามรู คําแนะนําปรึกþา แกผูĀญิงที่ตองการยายถิ่นแÿüงĀาชีüิตใĀมในตางแดนแตตองจบลงดüยการถูก บังคับคาประเüณี ตอมาไดมีการริเริ่มกับกลุมเพื่อนĀญิงตั้งüีเมนÿ คาเฟ เมื่อเดือน กรกฎาคม ๒๕๒๗ โดยใชĀองแถüในซอยüังĀลังที่เปนÿํานักงานของกลุมเพื่อนĀญิง โดยไดระบุüาเปนพื้นที่ของผูĀญิงเพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุย แนüคิดคลายคลึงกับซาลอง (salon) ในÿังคมตะüันตกที่มีผูใฝรูมาใชพื้นที่แลกเปลี่ยนถกเถียงประเด็นตาง ๆ โดย ในแตละเดือนจะมีการจัดพูดคุยเÿüนาในประเด็นที่เกี่ยüเนื่องกับเรื่องผูĀญิงโดยเปด ใĀมีผูเขารüมทั้งĀญิงและชาย ตอมามีจิตแพทยชายไทยคนĀนึ่งที่รüมเปนüิทยากรใน การเÿüนาเรื่องบุคลิกและÿภาพจิตใจของนักทองเที่ยüทางเพýตางชาติ และไดใĀ ขอคิดเĀ็นüาการระบุüาüีเมนÿ คาเฟ เปนพื้นที่ของผูĀญิงนั้นเปนการเลือกปฏิบัติตอ เพýชายทําใĀเกิดการถกเถียงในĀมูผูกอตั้งและโยงไปถึงเรื่องระดับการมีÿüนรüม ของชายในองคกรผูĀญิง แนüคิดĀนึ่งเĀ็นüานาจะรüมไดทุกระดับรüมทั้งการเปนผูนํา บริĀารจัดการองคกร อีกĀนึ่งแนüเĀ็นตางüาผูĀญิงÿานÿรางกลุมองคกรของตน ขึ้นมาก็เพื่อใชมุมมองของผูĀญิงกําĀนดแนüทางการทํางานและบริĀารจัดการดüย ตนเอง แตไมจํากัดการมีÿüนรüมของผูชายในกิจกรรมตาง ๆ แนüคิดนี้ไดรับการ ÿนับÿนุนนอยกüาแนüแรก ดังนั้น üีเมนÿ คาเฟ จึงไดปดตัüลง และไดมีการขับผูรüม กอตั้งที่เĀ็นตางออกจากกลุมดüยการเลือกตั้งกรรมการชุดใĀม ýูนยขาüผูĀญิงก็ได พัฒนาจากโครงการเล็ก ๆ มาเปนกลุมทํางานเอกเทýขยายพื้นที่ประเด็นการทํางาน เรื่องผูĀญิง และไดจดทะเบียนเปนมูลนิธิผูĀญิงในเüลาตอมา (พ.ý. ๒๕๓๐) พรอม กับคําüิพากþจากคนทํางานในÿังคมüาเปนกลุมผูĀญิงĀัüรุนแรงที่เกลียดชังชาย (radical feminist) แตชüงเüลาÿี่ÿิบปที่ผานมาก็ไดพิÿูจนใĀเĀ็นüาแมจะใชกรอบ การüิเคราะĀเรื่องระบบชายเปนใĀญ และเชื่อมั่นในพลังผูĀญิงในการตอÿูจัดการ แกไขปญĀาของตนแตก็มิไดรังเกียจในการทํางานรüมกับชายและทุกภาคÿüนเพื่อ การเปลี่ยนแปลงปญĀาโครงÿรางทางÿังคม เýรþฐกิจและการเมืองเพื่อใĀเกิดการ เปลี่ยนแปลงและบรรลุคüามเÿมอภาคของĀญิงชาย รานกาแฟของผูĀญิงไดปดตัüลง พรอมกับการเริ่มตนกาüเดินไปขางĀนาของมูลนิธิผูĀญิง พัฒนาโครงการกิจกรรม
๓ ตาง ๆ เพื่อการเคารพ ÿงเÿริมและปกปองÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงที่กําĀนดไüใน ปฏิญญาÿากลüาดüยเรื่องÿิทธิมนุþยชน ผู้หญิงเคลื่อนไหวเรียกร้องสิ่งใด แมทุกüันนี้ก็ยังไมมีใครÿามารถĀาคําตอบเดนชัดไดüา ทําไมผูĀญิงทั่üโลกจึง (ยัง) ถูกจองจําพันธนาการไüในโลกÿüนตัü ขณะที่ผูชายเติบโตครอบงําพื้นที่ ÿาธารณะ จนเกิดระบอบชายเปนใĀญที่กําĀนดชะตากรรมของผูĀญิงตั้งแตแรกเกิด จนถึงüันลาโลกไดอยางเปนระบบ แมในอดีตจะมีเรื่องเลาและรองรอยüาเคยมีผูĀญิง ที่เปนĀัüĀนานักรบและการÿืบทอดตระกูลเผาพันธุยึดÿายเลือดทางมารดา นักüิชาการเรื่องÿิทธิÿตรีไดพยายามใĀคําอธิบายüาการเคลื่อนยายรูปแบบการผลิต จากบานมาÿูโรงงานในชüงปฏิüัติอุตÿาĀกรรมกอใĀเกิดการแบงแยกแรงงานทางเพý ที่เดนชัด ทําใĀผูชายกลายเปนผูĀาเลี้ยงและผูĀญิงเปนฝายผลิตซํ้าดูแลจัดการ เรื่องราüภายในบาน กระบüนการแมบานไดถูกÿรางเพื่อจํากัดบทบาทĀนาที่ของ ผูĀญิงในโลกÿüนตัü และใĀชายโลดแลนอยางเต็มที่ในพื้นที่ÿาธารณะ กําĀนดชะตา กรรมของÿมาชิกในครอบครัü ÿังคม ประเทýชาติและทั้งโลก ซึ่งนักüิชาการÿิทธิÿตรี ถือüาเปนคüามเĀลื่อมลํ้าของทางโครงÿรางของคüามÿัมพันธĀญิงชายและเปนการ แบงแยกการทํางานทางเพýที่ไมเปนธรรม ดํารงไดดüยการผลิตซํ้าของอุดมการณแม ýรีเรือนผานการเลี้ยงดู การýึกþาและüัฒนธรรม กําĀนดบทบาทใĀผูĀญิงเปนเพียง ÿüนประกอบในชีüิตของชายไมมีÿิทธิที่จะเลือกกําĀนดใชชีüิตที่ตนเองเปนเจาของ ผูĀญิงจึงกลายเปนชนชายขอบในทุกÿังคม แนนอนüามีคüามĀลากĀลายในเพýĀญิง ขณะที่ผูĀญิงÿüนĀนึ่งจํานนตอ การเปนแมýรีเรือนและรüมผลิตซํ้าÿงตอรุนลูกĀลาน ใĀยอมจํานนกับระบบชายเปน ใĀญและโครงÿรางที่ไมเปนธรรมนั้นก็มีผูĀญิงอีกมิใชนอยที่อึดอัดเพราะไดรับ ผลกระทบในทุกมิติของชีüิตและพยายามดิ้นรนเพื่อการเปลี่ยนแปลงและÿราง คüามĀมายใĀกับชีüิตของผูĀญิงในฐานะที่เปนมนุþยที่ตองมีโอกาÿพัฒนาýักยภาพ คüามÿามารถของตนในพื้นที่ÿüนตัüและÿาธารณะ รองรอยĀลักฐานประüัติýาÿตร แÿดงใĀเĀ็นüามีผูĀญิงที่คิดตางไดตอÿูดิ้นรนเพื่อปลดเปลื้องพันธนาการจากคüาม เปนĀญิงในทั่üทุกทüีป รüมทั้งÿยามที่นอกจากอําแดงจั่น อําแดงเĀมือนแลüยังมี ผูĀญิงในอดีตอีกĀลายคนที่ตอÿูเพื่อคüามเปนคนของตนในĀลากĀลายพื้นที่ ÿิ่งที่ผูĀญิงเรียกรองมิใชการทําใĀผูĀญิงเปนเĀมือนผูชาย แตÿิ่งที่ตองการ คือการยอมรับüา ผูĀญิงเปนมนุþยที่ÿามารถกําĀนดเลือกüิถีชีüิตของตน และไดรับ
๔ โอกาÿมีÿüนรüมเปนผูกําĀนดและตัดÿินใจทั้งในพื้นที่ÿüนตัüและÿาธารณะ ไมถูก จํากัดไüเพียงคüามเปนเมียและแมเทานั้น ÿิ่งนี้คือĀลักการพื้นฐานที่ผูĀญิงเคลื่อนไĀü เรียกรอง และมูลนิธิผูĀญิงก็กาüรüมเปนÿüนĀนึ่งของการเคลื่อนไĀüนี้เชนกัน คลื่นความเคลื่อนไหว และความคิดของผู้หญิง มูลนิธิผูĀญิงเกิดขึ้นในชüงปลายทýüรรþÿตรี (พ.ý. ๒๕๑๙-๒๕๒๘) ที่ องคการÿĀประชาชาติไดเฉลิมฉลองดüยการจัดประชุมนานาชาติÿุดÿิ้นทýüรรþÿตรี อันเปนการประชุมเรื่องผูĀญิงครั้งที่ÿามที่กรุงไนโรบี ประเทýเคนยา ในการประชุม ครั้งนี้มูลนิธิผูĀญิงในนามของýูนยขาüผูĀญิงไดมีÿüนรüมในการรณรงคเรื่องการคา มนุþยโดยใชคําขüัญüา การคาĀญิงเปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชน นับไดüาเปน จุดเริ่มตนของการรณรงคเคลื่อนไĀüตอตานการคามนุþยอยางเปนระบบ และนําไปÿู การตระĀนักรูของประชาคมโลกจนไดมีการจัดทําอนุÿัญญาปองกัน คุมครองและ ปราบปรามการคามนุþยขององคการตอตานยาเÿพติดและอาชญากรรมของ ÿĀประชาชาติ (United Nations Organisation against Drugs and Crime) เมื่อ พ.ý. ๒๕๔๓ ซึ่งเปนคüามผิดĀüังขององคกรที่ทํางานรณรงคเรื่องนี้ที่ตองการใĀใช กรอบÿิทธิมนุþยชนในการดําเนินงานตอตานการคามนุþยเพื่อÿรางĀลักประกันüา ÿิทธิของผูถูกคาจะไดรับการคํานึงถึงและเปนýูนยกลางของการทํางานมากกüาจะใช แนüทางอาชญากรรมจัดการกับปญĀา และตองการใĀกรรมาธิการÿิทธิมนุþยชน เปนผูริเริ่มจัดทําอนุÿัญญานี้เพื่อแทนที่อนุÿัญญาüาดüยการปราบปรามการคา บุคคลและการแÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณีของผูอื่น พ.ý. ๒๔๙๒ (The Convention for the Suppression of the Traffic in Persons and of Exploitation of Others 1949) ที่ไมมีคํานิยามและจํากัดการคามนุþยไüเพียงเรื่อง การคาประเüณี ในประเด็นเรื่องนี้มูลนิธิผูĀญิงไดรüมกับเครือขายพันธมิตร ÿากลตอตานการคาĀญิง (Global Alliance Against Traffic in Women-GAATW) จัดทําเอกÿารเรื่องมาตรฐานÿิทธิมนุþยชนในการปฏิบัติตอผูถูกคา ที่ไดพัฒนาตอ ยอดจากÿิทธิมนุþยชนขั้นพื้นฐานของผูถูกคามนุþย ซึ่งไดนําเÿนอในรายงานการüิจัย เรื่องการคาĀญิงของมูลนิธิผูĀญิงเมื่อ พ.ý. ๒๕๓๗ โดยใĀคํานิยาม องคประกอบและ üัตถุประÿงคของการคาĀญิงและเด็ก นอกจากนี้ยังไดรüมมือกับองคกรพันธมิตร รณรงคüิเคราะĀใĀเĀ็นถึงคüามแตกตางของการคาประเüณีและการคาĀญิงและเด็ก ที่มีĀลากĀลายüัตถุประÿงค ÿิทธิมนุþยชนของผูเÿียĀายจากการคามนุþยและÿิทธิ ของĀญิงบริการทางเพýจึงคüรเปนýูนยกลางของการดําเนินการทางกฎĀมายและ
๕ ÿังคมในการแกไขปองกันปญĀา แตก็ไมประÿบคüามÿําเร็จเพราะประชาคมโลกใĀ คüามÿนใจปญĀาการคามนุþยในกรอบของการปราบปรามอาชญากรรมขามชาติ มากกüาการพิทักþคุมครองÿิทธิมนุþยชนของผูเÿียĀายจากการคามนุþย ทýüรรþÿตรีถือไดüาเปนชüงเüลาของคลื่นลูกที่ÿองของการรณรงค เคลื่อนไĀüของผูĀญิงที่ใĀคüามÿําคัญในเรื่องÿิทธิพลเมืองและคüามมั่นคงในชีüิต และรางกาย การขจัดทุกรูปแบบของคüามรุนแรงรüมถึงการแÿüงĀาประโยชนทาง เพýจากผูĀญิง ในขณะที่การรณรงคเคลื่อนไĀüของคลื่นลูกที่Āนึ่งในชüงýตüรรþที่ ๑๙ นั้นประเด็นการเคลื่อนไĀüรณรงคมุงเนนเรื่องÿิทธิทางการเมืองที่นําโดยกลุม ผูĀญิงในประเทýอังกฤþ โดยเรียกรองใĀผูĀญิงมีÿิทธิออกเÿียงเลือกตั้ง อันเปนÿิทธิ ชอบธรรมทางกฎĀมาย การรณรงคเรื่องนี้คüบคูไปกับการเรียกรองใĀมีการเลิกทาÿ ในÿĀรัฐอเมริกา แมผูĀญิงจะประÿบคüามÿําเร็จโดยไดรับÿิทธิการเลือกตั้งแตก็มิได ครอบคลุมใĀÿิทธินี้แกผูĀญิงผิüÿี ÿําĀรับĀญิงไทยนั้นไดรับÿิทธิทางการเมืองทั้งลง ÿมัครและออกเÿียงเลือกตั้งโดยไมมีการเรียกรองใด ๆ Āลังจากการเปลี่ยนแปลงการ ปกครอง พ.ý. ๒๔๗๕ ในชüงการเคลื่อนไĀüของคลื่นลูกที่ÿองไดมีการริเริ่มของกรรมาธิการüาดüย ÿถานภาพÿตรี (Commission on the Status of Women–CSW) ที่จัดตั้งขึ้นใน พ.ý. ๒๔๘๙ ภายใตคณะมนตรีเýรþฐกิจและÿังคมแĀงÿĀประชาชาติ (Economic and Social Council–ECOSOC) จัดทํากฎĀมายÿิทธิมนุþยชนระĀüางประเทýเพื่อ ÿงเÿริม ปกปองและคุมครองÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง อันไดแกอนุÿัญญาüาดüยการ ขจัดการเลือกปฏิบัติตอÿตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women–CEDAW) ไดรับการรับรองจาก ÿมัชชาองคการÿĀประชาชาติ เมื่อเดือนธันüาคม พ.ý. ๒๕๒๒ และมีผลบังคับใชใน เดือนกันยายน พ.ý. ๒๕๒๔ ในปจจุบันมีประเทýÿมาชิกขององคการÿĀประชาชาติ รüม ๑๘๙ ประเทýไดเขาเปนรัฐภาคี กฎĀมายระĀüางประเทýเรื่องผูĀญิงนี้นับเปน ĀมุดĀมาย เครื่องมือและกลไกในการÿรางคüามกาüĀนาแกผูĀญิงโดยกําĀนดใĀรัฐมี ภาระĀนาที่รับผิดชอบขจัดการเลือกปฏิบัติ และดําเนินการเพื่อใĀบรรลุคüามเÿมอ ภาคที่แทจริงĀญิงชาย โดยคํานึงถึงคüามแตกตางทางÿรีระและบทบาทĀนาที่อันเกิด จากการเปนเพýมารดา นอกจากอนุÿัญญาเรื่องผูĀญิงซึ่งเปนĀนึ่งในกฎĀมาย ระĀüางประเทýเรื่องÿิทธิมนุþยชนแลü ยังไดมีการรับรองยุทธýาÿตรเพื่อ คüามกาüĀนาแĀงÿตรีจากการประชุมไนโรบีเพื่อใชเปนเครื่องมือใĀรัฐ และ
๖ Āนüยงานตาง ๆ กําĀนดทิýทางการทํางานเรื่องผูĀญิงที่ครอบคลุมทุกมิติ จึงนับüา เปนคüามกาüĀนาของการเคลื่อนไĀüชüงคลื่นลูกที่ÿอง การเคลื่อนไĀüของคลื่นลูกที่ÿาม ชüงปลายýตüรรþที่ ๒๐ ซึ่งเปนชüงเüลา ที่ĀนüยงานขององคการÿĀประชาชาติไดจัดใĀมีการประชุมระดับโลกรüม ๖ เรื่อง และมูลนิธิผูĀญิงรüมทั้งเครือขายภาคเอกชนของไทยไดมีÿüนรüมดüย อันไดแก ๑) การประชุมเรื่องÿิ่งแüดลอมและการพัฒนา พ.ý. ๒๕๓๕ ๒) การประชุมระดับโลก เรื่องÿิทธิมนุþยชน พ.ý. ๒๕๓๖ ๓) การประชุมนานาชาติเรื่องประชากรและการ พัฒนา พ.ý. ๒๕๓๗ ๔) การประชุมครั้งที่ ๔ เรื่องผูĀญิง พ.ý. ๒๕๓๘ ๕) การ ประชุมครั้งที่ÿองเรื่องการตั้งถิ่นฐาน พ.ý. ๒๕๓๙ และ ๖) การประชุมÿุดยอดเรื่อง อาĀาร พ.ý. ๒๕๓๙ กลุมองคกรผูĀญิงที่ทํางานในแตละประเด็นมีบทบาทและÿüน รüมในการประชุมนานาชาติเĀลานี้ โดยเฉพาะการประชุมเรื่องÿิทธิมนุþยชนที่กลุม องคกรผูĀญิงทั่üโลกไดรüมกันขับเคลื่อนรณรงคเรื่องÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงเปน ÿิทธิที่กําĀนดไüในปฏิญญาÿากลüาดüยเรื่องÿิทธิมนุþยชน โดยมีคําขüัญรณรงค รüมกันüา ÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงคือÿิทธิมนุþยชน และความรุนแรงตอผูĀญิง เปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชน ซึ่งไดรับการตอบรับและบรรจุไüในแผนปฏิบัติการ เüียนนา (Vienna Declaration and Programme of Action 1993) และĀลังจาก การประชุมไดมีการริเริ่มจัดทําปฏิญญาขจัดคüามรุนแรงตอผูĀญิง (Declaration on the Elimination of Violence Against Women 20 December 1993) ซึ่ง ผูแทนมูลนิธิผูĀญิงไดมีÿüนรüมในการประชุมผูเชี่ยüชาญจัดโดยÿํานักงานเรื่อง คüามกาüĀนาผูĀญิงของÿĀประชาชาติเพื่อพิจารณาเนื้อĀาในรางปฏิญญาที่ไดใĀคํา นิยามและรูปแบบของคüามรุนแรงตอผูĀญิงอยางครอบคลุม ปฏิญญาฉบับนี้ไดรับ การรับรองจากÿมัชชาองคการÿĀประชาชาติ พ.ý. ๒๕๓๖ และตอมาไดมีการแตงตั้ง ผูตรüจการพิเýþของÿĀประชาชาติเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง (Special Rapporteur on Violence against Women and Girls) üันÿตรีÿากล พ.ý. ๒๕๕๒ ได มีการจัดประชุมในĀองประชุมÿมัชชาÿĀประชาชาติ เรื่องโลกที่ปราýจากคüาม รุนแรงตอผูĀญิง โดยเชิญผูแทนจากแตละภูมิภาคนําเÿนอรูปแบบคüามรุนแรงผาน การถายทอดทางüีดีโอ และผูแทนมูลนิธิผูĀญิงไดรับเชิญนําเÿนอเรื่องการคามนุþย แผนปฏิบัติการเüียนนาไดบรรจุüาระÿําคัญที่เกี่ยüของกับÿิทธิมนุþยชนของ ผูĀญิงไüอยางครอบคลุมนับเปนĀมุดĀมายÿําคัญใชเปนกรอบในการพัฒนาประเด็น การรณรงคเคลื่อนไĀüและจัดทําแผนปฏิบัติการ โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการปกกิ่ง
๗ (Beijing Declaration and Platform for Action 1995) ที่ครอบคลุมเรื่องผูĀญิง ๑๒ ประเด็น ในการเคลื่อนไĀüของกลุมคลื่นลูกที่ÿาม กลุมองคกรผูĀญิงไดมีการ จําแนกใĀเĀ็นคüามĀลากĀลายของผูĀญิงและปญĀาเฉพาะของแตละกลุมจึงได เกิดการเรียกรองใĀตระĀนักถึงปญĀาทับซอนและอัตลักþณทับซอน (inter- sectionality) ผูĀญิงแตละกลุมไดแÿดงตัüตนและเรียกรองพื้นที่ในเüทีตาง ๆ เพื่อใĀ เกิดการมองเĀ็นยอมรับและตระĀนักปญĀาเฉพาะของตนในกรอบคüามรุนแรงและ ÿิทธิมนุþยชน ประเด็นรณรงคจึงĀลากĀลายไมรüมเปนĀนึ่งดังเชนในคลื่นลูกที่Āนึ่ง และÿองที่เริ่มไดรับการüิพากþüาครอบงํากําĀนดโดยนักÿตรีนิยมผิüขาüในโลกที่ Āนึ่ง (โลกตะüันตก) แนüคิดเรื่องĀญิงทั่üโลกเปนพี่นองผองเพื่อน (sisterhood) ที่ ตองการทลายระบบชายเปนใĀญจึงไดรับการทาทาย ในชüงปลายคลื่นลูกที่ÿอง ผูĀญิงผิüÿีจากภูมิภาคตาง ๆ เริ่มแยกตนออกจากนักคิดนักเขียน นักทฤþฎีในโลก ตะüันตกและกอรางพันธมิตรผูĀญิงโลกที่ÿาม การเคลื่อนไĀüในชüงคลื่นที่ÿามมีÿüน รüมและกําĀนดโดยเยาüชนĀนุมÿาüที่เนนเรื่องÿิทธิของกลุมขามเพýภาüะ ภาพลักþณเนื้อตัüรางกายและเพýüิถี (sexuality) โดยทาทายแนüคิดเรื่องการ แÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิงและใĀคüามĀมายใĀม ทาทายขนบ บรรทัด ฐานเดิม ๆ โดยเฉพาะในเรื่องภาพลักþณทางเพý และยอมรับÿิทธิที่ผูĀญิงจะใช รางกายเปนเครื่องมือĀาเลี้ยงชีพ เนื่องจากคüามĀลากĀลายอัตลักþณทําใĀüาระ เรียกรองกระจัดกระจายไปตามคüามÿนใจของแตละกลุมอัตลักþณ ทําใĀไมมีüาระ แจมชัดและเปนĀนึ่งเดียüเĀมือนÿองคลื่นแรก นําไปÿูการถกเถียงเรื่องประเด็นและ แนüทางการตอÿูของผูĀญิงในýตüรรþที่ ๒๑ อันเปนการเริ่มตนÿูการเคลื่อนไĀüของ คลี่นลูกที่ÿี่ ที่ตองพึ่งพาเทคโนโลยีและÿื่อทางÿังคม ผูที่ÿามารถเขาถึงÿื่อเĀลานี้จะ ÿามารถกําĀนดüาระที่เนนเรื่องการเÿริมÿรางพลังใĀแกผูĀญิง (empowerment) กลุมอัตลักþณทับซอน แตไมไดมีแผนรüมเปนĀนึ่งเดียüของการเÿริมÿรางพลังแก Āญิงอยางทั่üถึง ทําใĀผูĀญิงผิüÿีนอกÿังคมตะüันตกกลายเปนชนชายขอบและüาระ เรื่องคüามยุติธรรมทางÿังคม ทางเพýÿภาพก็เลอะเลือน เนื่องจากใĀคüามÿําคัญกับ ปญĀาของคüามรุนแรงตอผูĀญิงผิüÿีในÿังคมตะüันตกละเลยปญĀาที่เกิดจากโครง ÿรางอันไมเปนธรรมของผูĀญิงในซีกโลกอื่น ๆ ตัüอยางคือการรณรงคเรื่อง Me Too ซึ่งแมจะริเริ่มโดยผูĀญิงผิüดํา แตก็ใชอภิÿิทธิ์ชน คนมีชื่อเÿียงเปนเครื่องมือรณรงค เรียกรองตอÿูเรียกรองการเขาถึงคüามยุติธรรม ผานการแบงปนเลาเรื่องของการถูก ทํารายทางเพý การเĀยียดเพýในที่ทํางาน เปนตน การณรงคขยายไปถึงกลุมเด็กชาย ผูชายที่ถูกกระทําเพื่อใĀมีการปรับเปลี่ยนบรรทัดฐานทางÿังคมเรื่องเพýภาüะ การ
๘ เรียกรองของผูĀญิงÿองยุคĀลังนี้ไมÿามารถกําĀนดเรื่องเลา ประเด็นและเปาĀมาย ของการเรียกรองรณรงคเชนในÿองยุคแรกที่ดูเĀมือนจะถูกลืมเลือนไปจากเยาüชน รุนĀลังที่ใĀคüามÿําคัญกับการÿรางพันธมิตรกับกลุมĀลากĀลายทางเพýมากกüา การกําĀนดประเด็นตอÿูรüมกันของผูĀญิง และตองการรื้อฟนดําเนินการทาง กฎĀมายกับผูกระทําคüามรุนแรงแมจะเกิดมานานในอดีตจนไดรับการüิจารณüาเปน การไลลาผูชาย ซึ่งยอนแยงกับงานรณรงคที่ใชคําขüัญ เขาเพื่อเธอ (HeForShe) ริเริ่มใน พ.ý. ๒๕๕๗ ใĀชายและเด็กชายมีÿüนรüมและเปนพันธมิตรในการทํางาน เพื่อคüามเÿมอภาคทางเพýภาüะ โดยยูเอ็นüีเมน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ý. ๒๕๕๓ ดüยการรüมÿี่Āนüยงานที่เกี่ยüของกับการทํางานเรื่องผูĀญิงของÿĀประชาชาติ เขาไüดüยกัน อันไดแก ÿํานักงานคüามกาüĀนาของผูĀญิง (Division for the Advancement of Women-DAW) ÿถาบันการüิจัยและอบรมระĀüางประเทýเพื่อ คüามกาüĀนาของผูĀญิง (International Research and Training Institute for the Advancement of Women-INSTRAW) ÿํานักงานที่ปรึกþาพิเýþเรื่องเพý ภาüะและคüามกาüĀนาของผูĀญิง (Office of the Special Adviser on Gender Issues-OSAGI) กองทุนเพื่อการพัฒนาÿําĀรับผูĀญิง ( United Nations Development Fund for Women-UNIFEM) การรณรงคเรื่องนี้ÿะทอนใĀเĀ็นถึง กรอบการüิเคราะĀที่แปรเปลี่ยนไปในการทํางานขององคกรระดับนานาชาติที่ รับผิดชอบดูแลเรื่องคüามกาüĀนาของผูĀญิงที่ไดเริ่มการรณรงคในกรอบคüาม ยุติธรรมทางเพýภาüะ (Gender Equity) แทนคüามเทาเทียมทางเพýภาüะ (Gender Equality) เพราะคüามĀลากĀลายของประเด็นและแนüทางการรณรงคของคลื่นลูกที่ ÿามและÿี่ที่จํากัดพื้นที่การเคลื่อนไĀüในÿังคมตะüันตกเปนÿüนใĀญ และมุงเนนไป ในแนüตื่นรู (Wokeism) ที่ตองการขจัดคüามเĀลื่อมลํ้าทางเพýในดานตาง ๆ รüมถึง การปรับแกการใชภาþาเĀยียดเพý (sexism) ในงานüรรณกรรมตาง ๆ ของนักเขียน รüมทั้งในอดีตทําใĀเกิดกระแÿüิพากþถึงคüามรุนแรงของการเรียกรองที่อาจไมใช แกนแทของปญĀาที่ผูĀญิงทั่üโลกเผชิญอยู คüามเลอะเลือนไมแจมชัดในการพัฒนา กรอบการüิเคราะĀในการทํางานเรื่องผูĀญิงทําใĀเกิดกระแÿÿตรีนิยมแนüถอนราก จากอาณานิคม (Decolonial Feminism) ที่เริ่มจากนักคิด นักüิชาการÿิทธิÿตรีใน อเมริกาใต ซึ่งตองการÿรางเรื่องเลาจากประÿบการณชีüิตของผูĀญิงในทองถิ่นของ ตนเพื่อใĀเĀ็นคüามĀลากĀลายของการตอÿูของผูĀญิงทุกชนชั้น โดยเฉพาะผูĀญิงที่ เปนชนชายขอบเพื่อใĀแตกตางจากคüามเขาใจกระแÿĀลักที่ครอบงําโดยกลุมÿตรี
๙ ตะüันตกและลืมเลือนละเลยชีüิตและการตอÿูอันĀลากĀลายของผูĀญิงทั่üโลก กรอบการüิเคราะĀของÿตรีนิยมแนüนี้คือการใĀคüามÿําคัญในเรื่องเชื้อชาติ เผาพันธุ พื้นที่ตาง ๆ และเพýภาüะ เปนตน เพื่อใĀชนกลุมนอยและชนเผาไดมีโอกาÿเขาใจ üัฒนธรรมและแนüทางการตอÿูการกดขี่ตาง ๆ จากÿภาüะแüดลอมและภูมิĀลังของ ตน แนüทางนี้เปนการลดอิทธิพลของนักÿตรีนิยมตะüันตกที่มีตอกลุมตาง ๆ รüมถึง การกําĀนดนโยบายแนüทางในการตอÿูและการพัฒนาเรื่องผูĀญิงที่ไมไดคํานึงถึง คüามĀลากĀลายของผูĀญิงและเชื่อมโยงกับโครงÿรางทางการเมือง เýรþฐกิจ ÿังคม ที่กอใĀเกิดการเลือกปฏิบัติและคüามรุนแรงอยางเปนระบบตอผูĀญิง กลุมÿตรีนิยม แนüถอนรากอาณานิคมนี้ตองการเรียนรูบันทึกเรื่องเลาของผูĀญิง เพื่อใĀเกิดการ พัฒนาüิธีการตอÿูที่ไมละเลยผูĀญิงกลุมใด ๆ จึงเทากับüาการเคลื่อนไĀüตาม แนüทางนี้ครอบคลุมทั้งอัตลักþณที่ĀลากĀลายและปญĀาทับซอนของผูĀญิง แตไม ยอมรับแนüการüิเคราะĀที่ครอบงําโดยนักÿิทธิÿตรีตะüันตก ตองการพัฒนาüิถีใĀม เพื่อตอÿูกับการกดขี่และยุทธýาÿตรการรณรงคตอตานที่ทุกกลุมÿามารถนําไปใชได มูลนิธิผูĀญิงเริ่มใชกรอบแนüคิดนี้ในการบันทึกเรื่องราüของการตอÿูของĀญิงไทยนับ แตในอดีตในพื้นที่ตาง ๆ เชน ýาÿนา üรรณกรรม เýรþฐกิจ การเมือง เปนตน จึงดูเĀมือนüาในปจจุบันการจัดเรียงลําดับการตอÿูของผูĀญิงเปนกลุมคลื่น เüลานั้นไมÿามารถทําไดอยางแจมชัดและคüรใĀคüามÿําคัญอีกตอไป ทั้งนี้เพราะ คüามลื่นไĀลของกรอบแนüüิเคราะĀ การปรากฏของอัตลักþณอันĀลากĀลายที่ไม ÿามารถกําĀนดüิเคราะĀไดดüยทฤþฎีĀนึ่งเดียü รüมถึงแนüคิดที่ปฏิเÿธและไม ยอมรับการทํางานของนักüิชาการและนักกิจกรรมในอดีตทําใĀรอยตอของการ ทํางานเคลื่อนไĀüเรื่องผูĀญิงไมแจมชัด และแยกÿüนตามคüามÿนใจของแตละ กลุมอัตลักþณ กรอบความคิดและการวิเคราะห์ เรื่องผู้หญิงและงานพัฒนา กอนการประกาýปÿากลเรื่องผูĀญิง และจัดการประชุมโลกเรื่องผูĀญิงครั้ง ที่ ๑ ณ ประเทýเม็กซิโก (พ.ý. ๒๕๑๘) ไดมีĀนังÿือ เรื่องบทบาทของผูĀญิงในการ พัฒนาเýรþฐกิจ (Women’s Role in Economic Development) ของ Ester Boserup เผยแพรเมื่อ พ.ý. ๒๕๑๕ ชี้ใĀเĀ็นพรอมĀลักฐานเชิงประจักþüางาน พัฒนาไดละเลยคุณคาของงานและÿถานภาพของผูĀญิงโดยเฉพาะในประเทýกําลัง พัฒนา ผูĀญิงไมไดรับประโยชนทั้งทางÿังคมและเýรþฐกิจจากโครงการตาง ๆ ซึ่ง ไมไดคํานึงใĀผูĀญิงมีÿüนรüมและเปนเปาĀมาย ผลกระทบอันเกิดจากĀนังÿือเลมนี้
๑๐ คือทําใĀรัฐบาลและองคกรทุนตาง ๆ ไดกําĀนดนโยบายบูรณาการผูĀญิงเขารüม ในโครงการพัฒนา (Women in Development–WID) โดยไมไดคํานึงถึงคüาม ตองการที่แตกตางกันของĀญิงและชาย คüามÿัมพันธเชิงอํานาจระĀüางĀญิงและ ชายที่เĀลื่อมลํ้า บริบททางüัฒนธรรมอันĀลากĀลาย แตมุงĀüังใĀผูĀญิงไดรับ ประโยชนจากการพัฒนามีÿüนรüมในการผลิตเพื่อปรับปรุงÿภาพชีüิตของตน แนüทางนี้ละเลยĀนาที่ในครัüเรือนของผูĀญิง แตตองการนําผูĀญิงรüมในกิจกรรม ตาง ๆ ในพื้นที่ÿาธารณะ ÿงผลใĀผูĀญิงแบกรับภาระÿองดาน โดยไมไดมีการจัดการ ปรับเปลี่ยนคüามÿัมพันธบทบาทĀญิงชาย และกําĀนดมาตรการพิเýþที่เอื้อใĀ ผูĀญิงมีÿüนรüมในกิจกรรมพัฒนาตาง ๆ ไดอยางแทจริง ตอมาผูĀญิงไดปรับเปลี่ยนกรอบการüิเคราะĀและแนüทางทํางานจาก ผูĀญิงในงานพัฒนา เปนผูĀญิงและงานพัฒนา (Women and Development– WAD) โดยเชื่อมโยงคüามÿัมพันธĀญิงชายและผลกระทบจากระบบทุนนิยมและ เýรþฐกิจที่พึ่งพาÿงผลใĀเกิดการแÿüงĀาประโยชนเปนกรอบการüิเคราะĀระบบ ชายเปนใĀญและระบบทุนนิยม แนüคิดนี้นักüิชาการแนüมารกซิÿตไดพัฒนาเปน กรอบของการจัดการเรียนการÿอนเรื่องÿตรีýึกþาในประเทýตะüันตก เชนใน ประเทýเนเธอรแลนด แนüคิดนี้ชี้ใĀเĀ็นüาผูĀญิงมีÿüนรüมและÿรางประโยชนทาง เýรþฐกิจไมüาจะเปนกิจกรรมในโลกÿüนตัüĀรือÿาธารณะ Āลังการประชุมไนโรบี กลุมผูĀญิงจากซีกโลกภาคใตไดüิพากþแนüทางการพัฒนาแบบบูรณาการผูĀญิงที่ ไมไดตระĀนักถึงคüามตองการที่แตกตางกันของĀญิงชาย และมิไดคํานึงถึงโครงÿราง ที่ไมเปนธรรมทางเýรþฐกิจระĀüางโลกที่Āนึ่งและที่ÿามซึ่งÿงผลกระทบตอผูĀญิง ได มีการจัดตั้งเครือขายทางเลือกการพัฒนาÿําĀรับผูĀญิง (DAWN–Development Alternatives with Women for a New Era) ที่มีบทบาทÿําคัญในการüิเคราะĀ ขบüนการและยุทธýาÿตรของการพัฒนาโดยใชมิติเรื่องเพýภาüะและชนชั้น แผนปฏิบัติการปกกิ่ง ไดเริ่มมีการกลาüถึงเพýภาüะ (gender) ที่นักüิชาการ ÿตรีนิยมไดใĀคําอธิบายüาแตกตางจากเรื่องเพý (sex) ซึ่งเกิดจากการกําĀนดทาง ชีüüิทยาอันเปลี่ยนแปลงไมได ÿüนเพýภาüะเปนผลจากกระบüนการเรียนรูทาง ÿังคมและüัฒนธรรม ดังเชน ที่ ซีโมน เดอ โบüัüรนักคิดนักเขียนĀญิงชาüฝรั่งเýÿได เขียนไüในĀนังÿือ เพýที่ÿองüา เราไมไดเกิดมาเปนผูĀญิง แตถูกทําใĀเปนผูĀญิง เพýภาüะจึงไดนํามาใชเพิ่มเติมจากคําüา เพý และทําใĀเกิดการพัฒนาแนüคิดเรื่อง เพýภาüะกับการพัฒนา (Gender and Development-GAD) เปนแนüทางในการ
๑๑ ดําเนินโครงการดานพัฒนา โดยใĀคํานึงถึงและตอบÿนองคüามตองการอันเกิดจาก คüามแตกตางทางเพýภาüะของĀญิงและชายในการออกแบบโครงการตาง ๆ และใน คลื่นลูกที่ÿามและÿี่ไดขยายแนüคิดเรื่องเพýภาüะครอบคลุมถึงกลุมที่ĀลากĀลายจน เกิดเปนกระแÿเรียกรองเรื่องเพýüิถี (sexuality) ของกลุม LGBTQIB (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Queer, Intersex, Binary) แนüคิดเรื่องเพýภาüะ และการพัฒนาไดรับรองกลาüถึงเปนทางการในเอกÿารขององคการÿĀประชาชาติ และĀนüยงานที่เกี่ยüของนับแตĀลังการประชุมปกกิ่ง ไดมีการพัฒนาคูมือเพื่อÿราง คüามรูคüามเขาใจเรื่องเพý เพýภาüะใĀแกผูปฏิบัติงานที่ทํางานเรื่องผูĀญิงอยาง เปนระบบ พรอมกับการÿรางคüามกระจางเรื่องการเÿริมÿรางพลังใĀแกผูĀญิงที่เปน เปาĀมายของแผนปฏิบัติการปกกิ่ง และการใชมิติเพýภาüะเปนกระแÿคüามคิดใน การกําĀนดüางนโยบายโครงการตาง ๆ ของÿĀประชาชาติ ที่ไดระบุไüในเอกÿารของ คณะกรรมาธิการเรื่องเýรþฐกิจและÿังคม ตลอดจนการกําĀนดมาตรการชี้üัดเรื่อง การเÿริมÿรางพลังอํานาจของผูĀญิง อันไดแกการมีÿüนรüมในการกําĀนดตัดÿินใจ ทางการเมือง การเขาถึงโอกาÿการดําเนินอาชีพและพลังคüามÿามารถในการÿราง รายไดไüดüย นับไดüาเปนคüามÿําเร็จของการรณรงคเคลื่อนไĀüของกลุมองคกร ผูĀญิงที่ริเริ่มขับเคลื่อนเรื่องเพýภาüะจนบรรจุเปนüาระระดับโลก แตคüามÿําเร็จ ของการรณรงคโดยเฉพาะของคลื่นลูกที่ÿองไดมีการตีกลับÿะทอนในĀนังÿือของ คริÿตินา โฮฟ ซอมเมอรÿ (Christina Hoff Sommers) เรื่อง ใครขโมยÿิทธิÿตรี ผูĀญิงไดทรยýผูĀญิงกันอยางไร (Who Stole Feminism 1994) โดยüิพากþนัก ÿิทธิÿตรีอเมริกันüานําเÿนอเรื่องราüของปญĀาคüามรุนแรงในครอบครัü คลาดเคลื่อน เปนนักÿิทธิÿตรีแนüเพýภาüะ (Gender Feminism) ที่เนนผูĀญิงใน การÿรางทฤþฎีและการปฏิบัติโดยüิเคราะĀüาการกดขี่ผูĀญิงเกิดจากüัฒนธรรม ชายเปนใĀญและตองการปรับเปลี่ยนบทบาทดั้งเดิมทางเพýภาüะ เปนกลุมกระแÿ Āลักที่ไดรับการÿนับÿนุนทุนจากรัฐบาลและแĀลงทุนเอกชน มีตําแĀนงการงานทั้ง ในĀนüยงานรัฐและในมĀาüิทยาลัย ซอมเมอรÿไดนําเÿนอนักÿิทธิÿตรีแนüยุติธรรม (Equity Feminism) ที่ตองการใĀมีการปฏิบัติที่เปนธรรมและÿิทธิที่เทาเทียมแกทุก คน แนüคิดนี้นาจะไดรับการขานรับจากการเคลื่อนไĀüของนักÿิทธิÿตรีรุนตอมาที่ มองüาการทํางานüิเคราะĀจําแนกเพýนั้นเปนผูกีดกันทางเพýมากกüาเปนผูตอÿู เรื่องÿิทธิÿตรี รüมถึงการปรับเปลี่ยนแนüทางการตอÿูจากคüามเทาเทียมทางเพý ภาüะ เปนคüามยุติธรรมทางเพýภาüะที่ใชในการทํางานเพื่อคüามกาüĀนาของ ผูĀญิง และการนําเÿนอแนüคิดเรื่องอัตลักþณทับซอน (Intersectionality) ของคิม
๑๒ เบอรลี เครนชอü (Kimberly Crenshaw) นักüิชาการผิüดําที่พัฒนาทฤþฎีทาง กฎĀมายของนักÿิทธิÿตรีผิüดํา เธอไดüิเคราะĀและผูกโยงเรื่องอํานาจกับกลุมชน ชายขอบ โดยจําแนกรูปแบบของอํานาจทับซอนเปนทางโครงÿราง ทางการเมือง และการเปนตัüแทน แนüคิดนี้ไดรับการüิพากþüาเปนการลดปจเจกใĀเปนเพียง ปจจัยการüิเคราะĀกลุมเฉพาะทางประชากร และนํามาใชเปนเครื่องมือทาง อุดมการณตอตานทฤþฎีÿตรีนิยมที่ไดพัฒนาครอบคลุมĀลากĀลายÿาขา เชน มานุþยüิทยา ÿังคม เýรþฐกิจ รัฐýาÿตร เปนตน แตการทํางานดานพัฒนาÿังคมใน ปจจุบันก็ไดรับประเด็นอํานาจและอัตลักþณทับซอนมารüมไüในกรอบการüิเคราะĀ โดยการเรียกรองไมใĀทิ้งใครไüขางĀลังในงานพัฒนา และÿรางพลังอํานาจใĀแกกลุม ชายขอบ มูลนิธิผู้หญิง กับการขับเคลื่อนเรื่องผู้หญิง มูลนิธิผูĀญิงไดมีÿüนรüมในการขับเคลื่อนüาระเรื่องผูĀญิงในÿังคมไทยนับ แตยังเปนýูนยขาüผูĀญิง โดยไดเขารüมในเüทีการประชุมระดับโลกและมีÿüน นําเÿนอประเด็นปญĀาของผูĀญิงในÿังคมไทยในเüทีที่จัดรüมกับองคกรในภูมิภาค อื่น ๆ รüมทั้งการจัดĀาเงินทุนÿนับÿนุนใĀมีผูแทนจากĀลากĀลายกลุมโดยเฉพาะ Āญิงชายขอบไดเขารüมและเรียนรูในเüทีตาง ๆ นอกจากนี้ยังไดมีการพัฒนาÿื่อและ จัดการอบรมเพื่อเÿริมÿรางคüามรูคüามเขาใจใĀแกผูĀญิงในภาคÿüนตาง ๆ ทั้งใน เมืองและชนบทเรื่องระบบชายเปนใĀญและโครงÿรางเýรþฐกิจÿังคมที่ไมเปนธรรม กับบทบาทÿถานภาพของผูĀญิงและคüามเĀลื่อมลํ้าทางเพý คüามรูที่ไดรับจากÿื่อ ตาง ๆ นํามาใชเปนกรอบการüิเคราะĀปญĀาทางเพýภาüะ เชน คüามรุนแรงใน ครอบครัü การแÿüงĀาประโยชนจากรางกายและแรงงานของผูĀญิง เปนตน นอกจากนี้ยังไดผลิตÿื่อÿรุปเนื้อĀาÿาระและผลจากการประชุมตาง ๆ เพื่อเผยแพร ใĀแกกลุมประชาÿังคมและÿาธารณชนเพื่อนําไปใชประโยชนในการทํางาน ขับเคลื่อนของตนและติดตามการดําเนินงานของรัฐ มูลนิธิผูĀญิงใĀคüามÿําคัญกับการเรียนรูจักกลไกระดับÿากล เพื่อการ ขับเคลื่อนจัดทําเครื่องมือกลไกระดับชาติ โดยมีÿüนรüมของผูĀญิงทุกภาคÿüน เชน การจัดอบรมเผยแพรเรื่องอนุÿัญญาผูĀญิง เรื่องÿิทธิมนุþยชน เรื่องเÿาĀลักและ กลไกตาง ๆ ของอาเซียน การจัดทํารายงานทางเลือกเพื่อนําเÿนอตอกรรมาธิการ ตามอนุÿัญญาüาดüยการขจัดการเลือกปฏิบัติตอÿตรีในทุกรูปแบบ (Committee on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women–CEDAW
๑๓ Committee) เปนตน ในชüงระยะเüลาÿี่ÿิบปของการทํางาน มูลนิธิผูĀญิงไดมีÿüน รüมในการจัดทํากฎĀมายĀลายฉบับที่เกี่ยüเนื่องกับผูĀญิง อาทิเชน การปรับปรุง แกไขพระราชบัญญัติปองกันและปราบปรามการคาประเüณี พ.ý. ๒๕๓๙ พระราชบัญญัติมาตรการในการปองกันและปราบปรามการคาĀญิงและเด็ก พ.ý. ๒๕๔๐ พระราชบัญญัติคุมครองผูถูกกระทําดüยคüามรุนแรงในครอบครัü พ.ý. ๒๕๕๐ พระราชบัญญัติคüามเทาเทียมระĀüางเพý พ.ý. ๒๕๕๘ เปนตน และไดมี ผูแทนมูลนิธิผูĀญิงเขารüมในคณะกรรมการติดตามพระราชบัญญัติเĀลานี้ดüย มูลนิธิผูĀญิงไดดําเนินงานใĀคüามชüยเĀลือแกผูĀญิงกลุมตาง ๆ ทั้งไทย และตางชาติที่ไดรับผลกระทบจากคüามรุนแรงรูปแบบตาง ๆ จากโครงÿราง เýรþฐกิจÿังคม üัฒนธรรมที่เĀลื่อมลํ้ากดทับผูĀญิง จากภัยพิบัติ คüามขัดแยงและ การใชคüามรุนแรง การใĀคüามชüยเĀลือกระทําคüบคูไปกับการรüบรüมขอมูล การ ýึกþาüิจัยและจัดทํารายงานเผยแพร โดยใชĀลักการทํางานแนüÿตรีนิยมที่ใĀ คüามÿําคัญกับเรื่องเลา ตัüตน (agency) และพลังในการเปลี่ยนแปลงของผูĀญิง ผานกระบüนการÿังเคราะĀจากการตระĀนักรูüาปญĀาของผูĀญิงมิใชเปนเรื่อง ÿüนตัüแตเกิดจากรากเĀงาโครงÿรางทางเýรþฐกิจ การเมือง ÿังคมและüัฒนธรรมที่ ไมเปนธรรมÿงผลใĀมีการเลือกปฏิบัติ การกระทําคüามรุนแรงตอผูĀญิงอยางเปน ระบบ โครงÿรางที่กลาüถึงนี้มิไดจํากัดเฉพาะในพรมแดนของประเทýแตเปน ปรากฏการณอันเปนÿากล ดังนั้นมูลนิธิผูĀญิงจึงไดมีการทํางานÿรางและรüมกับ เครือขายทั้งในระดับประเทý ภูมิภาคและทั่üโลกขับเคลื่อนüาระผูĀญิงโดยใชกรอบ กติกาของอนุÿัญญาผูĀญิงและกฎĀมายÿิทธิมนุþยชนตลอดจนขอเÿนอแนะตาง ๆ จากการประชุมนานาชาติและภูมิภาค โดยคํานึงถึงบริบทของÿังคมไทย และการมี ÿüนรüมของผูĀญิงโดยเฉพาะชนชายขอบ ในกรอบการüิเคราะĀเรื่องอัตลักþณทับ ซอนมูลนิธิผูĀญิงและเครือขายเพื่อคüามกาüĀนาและÿันติภาพของผูĀญิงไดมีการนํา แนüคิดนี้มาใชพิจารณาแยกแยะปญĀาของกลุมผูĀญิงที่ยังเปนชนชายขอบ เชน Āญิงพิการ Āญิงชนเผา Āญิงยายถิ่นตางชาติ เปนตน เพื่อÿรางคüามเขาใจในปญĀา และแนüทางในการเคลื่อนไĀü รüมทั้งเÿริมÿรางพลังโดยจัดพื้นที่ใĀแกกลุมเĀลานี้ได นําเÿนอปญĀาขอเรียกรองของตนในĀลากĀลายเüที งานผู้หญิงวาระที่แปรเปลี่ยน ในภาพรüมของการทํางานเรื่องผูĀญิงทั้งในระดับÿากลและระดับประเทý แÿดงใĀเĀ็นถึงคüามÿําเร็จในการขับเคลื่อนผลักดันüาระÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง
๑๔ ทั้งÿิทธิทางการเมือง เýรþฐกิจ ÿังคมและüัฒนธรรม การÿรางเครื่องมือ กลไก กฎĀมายระดับÿากล แผนการปฏิบัติงานจากการประชุมระดับโลกที่มีการเชื่อมโยง บรรจุเรื่องผูĀญิงไüดüย เครื่องมือที่ÿําคัญในระดับÿากลคือ อนุÿัญญาüาดüยการ ขจัดการเลือกปฏิบัติตอÿตรีในทุกรูปแบบ (อนุÿัญญาผูĀญิง) จัดทําโดยกรรมาธิการ เรื่องÿถานภาพÿตรี อันเปนกฎĀมายระĀüางประเทýเรื่องÿิทธิมนุþยชนที่ครอบคลุม ÿิทธิตาง ๆ ตามที่กําĀนดไüในปฏิญญาÿากลเรื่องÿิทธิมนุþยชน พ.ý. ๒๔๙๑ ที่นาง Eleanor Roosevelt (พ.ý. ๒๔๒๗-๒๕๐๕) ภริยาของประธานาธิบดีFranklin D.Roosvelt (พ.ý. ๒๔๔๘-๒๔๘๘) มีบทบาทÿําคัญในการออกแบบและใชถอยคําที่ ครอบคลุมเพýĀญิง เชน ใชคําüาทุกคน แทน ผูชาย และชื่อปฏิญญาÿิทธิมนุþยชน แทนปฏิญญาÿิทธิของผูชาย ปฏิญญาฯ นี้ไดใชเปนกรอบĀลักการในการพัฒนา กฎĀมายÿิทธิมนุþยชนฉบับอื่น ๆ และเปนเครื่องมือในการรณรงคเรียกรองÿิทธิ มนุþยชนของกลุมที่ĀลากĀลายใĀไดรับการใÿใจและตระĀนักมองเĀ็นในüาระการ ขับเคลื่อน เชนเรื่องคüามĀลากĀลายทางเพý ที่ดูเĀมือนจะเปนกระแÿĀลักของการ ทํางานรณรงคในýตüรรþที่ ๒๑ แนüคิดเรื่องเพýภาüะและคüามลื่นไĀลทางเพý ภาüะและเพýüิถีทําใĀเกิดการทํางานรüมกันของกลุมที่เรียกüา non-binary ที่มอง üาการแบงเพýĀญิงชายเปนเรื่องฉาบฉüยที่กําĀนดขึ้นเพื่อÿืบทอดอํานาจของกลุมที่ เปนแกนนํา ไดมีการนําแนüคิดคüามยุติธรรมทางเพýภาüะ (gender equity) มาใช เปนกรอบการทํางาน เพื่อใĀบรรลุคüามเÿมอภาคทางเพýภาüะ (gender equality) ในชüงการเคลื่อนไĀüของคลื่นลูกที่ÿองประเทýที่ปกครองโดยระบอบÿังคมนิยมจะ ใชคüามยุติธรรมทางเพýภาüะแทนคüามเÿมอภาคทางเพýภาüะ ซึ่งคณะกรรมการ อนุÿัญญาผูĀญิงไดยืนยันüาคüามเÿมอภาคĀญิงชายคือเปาĀมายของอนุÿัญญา และ ไดจัดทําขอเÿนอแนะลําดับที่ ๒๕ ใĀคําอธิบายมาตรา ๔ (๑) ของอนุÿัญญา กําĀนดใĀรัฐภาคีจัดทํามาตรการพิเýþชั่üคราü (Temporary Special Measures) เพื่อใชในกระบüนการทํางานขจัดการเลือกปฏิบัติตอผูĀญิง เพื่อใĀĀญิงไดรับ ประโยชนอยางเทาเทียมกับชาย โดยอนุÿัญญาผูĀญิงตระĀนักüาĀญิงและชายมี จุดเริ่มตนที่ตางกันอันเนื่องมาจากโครงÿรางระบบชายเปนใĀญและเพื่อใĀบรรลุ คüามเÿมอภาคแทจริง ที่ไมใชเปนเพียงคüามเÿมอภาคทางรูปแบบทางกฎĀมายแต ตองเกิดขึ้นอยางแทจริงในการปฏิบัติดüยรัฐภาคีจะตองกําĀนดมาตรการพิเýþ ชั่üคราüใĀแกผูĀญิงเพื่อÿรางโอกาÿและการเขาถึงเพื่อไดรับประโยชนอยางแทจริง และÿามารถยกเลิกไดเมื่อคüามเÿมอภาคแทจริงเกิดขึ้น ในชุมชนคนทํางานเรื่อง คüามเÿมอภาคทางเพýภาüะในปจจุบันไดÿงเÿริมการใชเรื่องคüามยุติธรรมทางเพý
๑๕ ภาüะ แทนแนüคิดเรื่องมาตรการพิเýþชั่üคราüในกระบüนการบรรลุคüามเÿมอภาค ทางเพýภาüะ ทั้งนี้อาจเปนเพราะอนุÿัญญาผูĀญิงไมไดครอบคลุมถึงคüาม ĀลากĀลายทางเพýภาüะที่เปนกระแÿĀลักของการรณรงคเคลื่อนไĀüในปจจุบันซึ่ง เนนการเมืองเรื่องอํานาจและอัตลักþณทับซอน (intersectionality) แนüคิดเรื่องอํานาจและอัตลักþณทับซอน ไดพัฒนาจากกลุมนักคิดอเมริกัน ผิüดําที่รüมในขบüนการตอตานคüามรุนแรงที่เกิดขึ้นแกคนผิüดําทั้งĀญิงและชาย และไดคนพบüาอัตลักþณที่ĀลากĀลาย อาทิ เพýภาüะ ÿีผิü ชนชั้น คüามเชื่อ เชื่อมโยงกับอํานาจที่กดทับซอนและรูปแบบคüามรุนแรงอันเปนประÿบการณที่ แตกตางกันของแตละกลุมไมไดรับการคํานึงถึงจากกลุมผูĀญิงตะüันตกที่มีการ ýึกþา ในÿังคมอุตÿาĀกรรมรํ่ารüยและเปนประชาธิปไตย (WEIRD–Western, Educated, Industrialised, Rich and Democratic) ซึ่งเปนผูกําĀนดประเด็นüาระ การเคลื่อนไĀüของผูĀญิง ผูĀญิงที่มีอัตลักþณทับซอนจึงตองการปรับเปลี่ยนโดย üิเคราะĀใĀเĀ็นถึงคüามรุนแรงที่เปนระบบและอํานาจที่กดทับตอกลุมที่มีอัตลักþณ ทับซอน การขับเคลื่อนงานเรื่องผูĀญิงของคลื่นลูกที่ÿามและÿี่จึงกลายเปนงาน รณรงคเรื่องÿิทธิมนุþยชนของกลุมที่มีอัตลักþณทับซอนที่ถูกกดทับจากโครงÿราง อํานาจกลายเปนชนชายขอบโดยปฏิเÿธแนüคิดทฤþฎีที่นักüิชาการÿตรีนิยมได พัฒนามาในแตละยุคคüามเคลื่อนไĀüโดยเฉพาะคลื่นลูกที่ÿองที่ไดรับการüิพากþüา ครอบงําโดยĀญิงผิüขาüชนชั้นกลางที่แบงแยกและเกลียดชังชาย และการขับเคลื่อน รณรงคดําเนินไปพรอมกับกลุมĀลากĀลายüิถีทางเพý (LGBTIQ) ใĀÿังคมไดมองเĀ็น และยอมรับตัüตนของพüกเขาทั้งĀญิงและชาย และมีมุมมองเรื่องเนื้อตัüรางกาย เพýüิถี การขมขืน ที่แตกตางไปจากกรอบเดิม ๆ จึงดูเÿมือนจํากัดüาระใĀ คüามÿําคัญตอปญĀาÿถานการณในÿังคมตะüันตก และไมไดครอบคลุมถึงผูĀญิง กลุมอื่นที่ไมไดมีอัตลักþณทับซอนรüมกัน กลุมผูĀญิงในภูมิภาคอื่น ๆ ก็ไดพัฒนา แนüคิดใĀม ๆ มาใชเปนกรอบแนüทางในการทํางานของตน เชน แนüทางÿิทธิÿตรี ตัดขาดจากคüามเปนอาณานิคม (Decolonial Feminism) ในกลุมประเทýอเมริกา ใต ที่ตองการบันทึกเรื่องเลาการตอÿูของผูĀญิงในอดีต เพื่อชี้ใĀเĀ็นคüามĀลาก ĀลายของรูปแบบการตอตานของผูĀญิง ในภูมิภาคเอเชียมีการเคลื่อนไĀüของผูĀญิง กับÿิ่งแüดลอม การพัฒนาที่ยั่งยืน ฯลฯ ที่เชื่อมโยงกับโครงÿรางทางเýรþฐกิจ ÿังคม และการเมืองที่เĀลื่อมลํ้าไมเปนธรรม เปนตน
๑๖ คüามลื่นไĀลของüาระการขับเคลื่อนที่ขึ้นอยูกับคüามÿนใจของกลุมองคกร ผูĀญิงในแตละภูมิภาคที่มีบริบทและคüามÿนใจตางกัน รüมถึงการปฏิเÿธการนําของ Āญิงผิüขาüในโลกตะüันตกที่ครอบงําทั้งทฤþฎีและการปฏิบัติ และกําĀนดüาระใน การเคลื่อนไĀü ทําใĀในปจจุบันไมมีüาระรüมระดับโลกที่เปนĀนึ่งเดียüในการ ขับเคลื่อนรณรงคเรื่องคüามเÿมอภาคกาüĀนาของผูĀญิงที่เชื่อมโยงกับโครงÿรางไม เปนธรรมทางการเมือง เýรþฐกิจ üัฒนธรรมและÿังคม การรณรงค เขาเพื่อเธอ ของ Āนüยงานที่รับผิดชอบการทํางานเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง (UN Women) เปน ตัüอยางĀนึ่งของการรณรงคที่ไมมีมิติทางการเมืองในการปรับเปลี่ยนเพýภาüะ แต ÿนับÿนุนแนüÿิทธิÿตรีเพื่อคüามยุติธรรมĀญิงชาย จึงเĀ็นไดüาคüามÿําเร็จของการ ขับเคลื่อนเรื่องÿิทธิมนุþยชนที่ยืนยันÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงไดนํามาใชเปนพื้นฐาน และĀลักการในการพัฒนาเรียกรองของกลุมตาง ๆ แมüาจํานüนมากจะไมไดคํานึงถึง Āรือนําแผนปฏิบัติการเüียนนา แผนปฏิบัติการปกกิ่ง ฯลฯ มาใชตอยอดการ เคลื่อนไĀüของแตละกลุมที่บางครั้งยังแÿดงใĀเĀ็นถึงระดับชั้นของอํานาจอันเกิดจาก คüามแตกตางทางเพýภาüะ คüามพยายามในการใชกรอบเพýภาüะ ไมจําแนกคüาม แตกตางĀญิงชายมาดําเนินงานเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิงและชายทําใĀคüามใÿใจ ประเด็นคüามกาüĀนาของĀญิงซอนเรนĀรือเลือนĀายจากการüิเคราะĀรากเĀงา ของปญĀาอันไดแกคüามÿัมพันธเชิงอํานาจของĀญิงและชาย และยังปรากฏใĀเĀ็น ในการทํางานรณรงคปญĀาทางÿังคมที่ชั้นเชิงของอํานาจทางเพýภาüะ (gender hierarchy of power) เปนปจจัยÿําคัญที่ทําใĀไมÿามารถจําแนก เจาะจงแนüทาง การแกไขปญĀาเฉพาะของผูĀญิงได มูลนิธิผูĀญิงไดรüมเดินทางบนถนนการทํางานเรื่องผูĀญิงในทุกระดับมารüม ÿี่ทýüรรþ ไดพบเĀ็นแÿงÿüางและเงามืดของเÿนทางÿายนี้ และตระĀนักüาการ เดินทางของมูลนิธิผูĀญิงไดÿุดÿิ้นลงแลüพรอมกับทิýทางที่แปรเปลี่ยนจากการ ทํางานเรื่องคüามเÿมอภาคของผูĀญิง เปนการทํางานเพื่อคüามเÿมอภาคทางเพý ภาüะ และคüามĀลากĀลายทางอัตลักþณ เÿรีภาพในเพýüิถี และการไมกําĀนด ÿาเĀตุรüมของการกดขี่ผูĀญิงแตมุงเนนรณรงคการเมืองเรื่องเฉพาะในบริบทของตน ทําใĀตองยอนไปมองคําถามที่นักเคลื่อนไĀüยุคĀลังเคยĀยิบยกมากลาüüา ÿตรีนิยม ไดตายแลü นั้นจริงĀรือไม
๑๗ “แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดที่ได้มาโดยไม่สูญเสียบางอย่าง ทุกคนรู้ดีว่าในการเติมเต็มตัวเรา เราจำเป็นต้องเสียสละความเป็นไปได้ในบางเรื่อง” (ซีโมน เดอ โบวัวร์)
๑๘
๑๙ I. การย้ายถิ่น การค้าหญิง และการค้าประเวณี
๒๐
๒๑ การย้ายถิ่น การค้าหญิง และการค้าประเวณี บันทึกการเดินทาง ๔๐ ปี ของมูลนิธิผู้หญิง ศิริพร สโครบาเนค ๑. ซอยนานา กรุงเทพมหานคร มกราคม ๒๕๖๓ แÿงÿุดทายของอาทิตยยังไมลาจากไป แตÿองฝงของซอยนานาก็คลาคลํ่า ดüยผูคนĀลากผิüÿี เรามองĀารานอาĀารเอธิโอเปยเพื่อเลี้ยงอําลาเอมĀญิงÿาüจาก แอฟริกาที่กําลังจะเดินทางไปประเทýที่ÿาม Āลังจากพํานักในประเทýไทยเปน เüลานานกüาÿามปเมื่อĀลุดพนจากการถูกกระทําตามอําเภอใจจากนายจางชาติ เดียüกับตนซึ่งทํางานในตําแĀนงระดับÿูงขององคการระĀüางประเทýที่ไมไดเคารพ ปฏิบัติตามกฎĀมายแรงงาน และยังใชคüามรุนแรงตอลูกจางทํางานบานของตน เรื่องราüที่เกิดขึ้นกับเอม ÿะทอนใĀเĀ็นถึงชองüางในการทํางานเรื่องการยายถิ่น และการคาĀญิงซึ่งเปนประเด็นที่มูลนิธิผูĀญิงไดĀยิบยกมารณรงคนับแตเริ่มตนการ
๒๒ เดินทาง เมื่อปพ.ý. ๒๕๒๗ ในชüงนั้นการเติบโตของการทองเที่ยüทางเพýทําใĀ ซอยนานา พัฒนพงý และพัทยา เปนจุดĀมายปลายทางของนักทองเที่ยüโดยเฉพาะ จากซีกโลกตะüันตกและเอเชียตะüันออก ทําใĀประเทýไทยไดรับÿมญาüา “ซอง ของเอเชีย” ในปที่กรุงเทพฯ จัดเตรียมงานฉลองครบ ๒๐๐ ป ของการเปนเมือง Āลüง (พ.ý. ๒๓๒๕-๒๕๒๔) บริþัททองเที่ยüจากเมืองฮอรน ประเทýเนเธอรแลนด ไดจัดพานักทองเที่ยüชายมารüมฉลอง โดยไดระบุในแผนพับเผยแพรüา “นี่คือการ ชüยเĀลือดานการพัฒนาแกประเทýไทย” พรอมทั้งมีเรื่องเลาของคüามยากจนใน ชนบท และพิธีกรรมที่พอจะพาลูกÿาüของตนไปในปาใĀชายĀนุมเปดบริÿุทธิ์ Āากไม มีĀนุมคนใดเลือกเด็กÿาüเปนภรรยาเธอก็จะถูกขับออกจากĀมูบานกลายเปนโÿเภณี ชายĀนุมที่โชคดีในกลุมทองเที่ยüจากเมืองฮอรนจะไดรับ “ทาÿนอย” เปนรางüัล ในชüงทýüรรþที่ ๘๐ กลุมÿิทธิÿตรีในĀลายประเทýเริ่มรณรงคตอตานการทองเที่ยü ทางเพý ดังนั้นนักýึกþาคนĀนุมÿาüจึงไดจัดประทüงที่ÿนามบินÿกิปโฮลประเทý เนเธอรแลนดและÿนามบินดอนเมืองประเทýไทย รัฐมนตรีüาการกระทรüง มĀาดไทย พลเอกÿิทธิ จิรโรจน ไดใĀÿัมภาþณüาจะดําเนินการจับกุมนักทองเที่ยü กลุมนี้เมื่อเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ แตก็ไมมีใครไดพบเĀ็นแมเพียงคนเดียü คüาม พยายามในการรณรงคตอตานการทองเที่ยüทางเพýทั้งในระดับชาติ ภูมิภาคและ นานาชาติ ในชüงทýüรรþ ๑๙๘๐ และ ๑๙๙๐ ÿรางการตระĀนักแกÿาธารณชนตอ ปญĀานี้แตไมÿามารถĀยุดยั้งการĀลั่งไĀลของนักทองเที่ยüชายที่ตองการมีเพý ÿัมพันธกับĀญิงÿาüในประเทýกําลังพัฒนาซึ่งไดแพรกระจายไปในĀลายภูมิภาค และเปนปจจัยĀนึ่งที่นําไปÿูปรากฏการณทางÿังคมอื่น ๆ อันไดแกการยายถิ่นเพื่อ การคาประเüณีในยุโรปและเอเชีย ธุรกิจเมียÿั่งทางไปรþณียและการคาĀญิง ที่ยังคง ดํารงมาจนทุกüันนี้ ภาพที่เĀ็นในคํ่าคืนüันนั้นทําใĀอดคิดไมไดüาคüามพยายามของ กลุมองคกรÿตรีทั้งในระดับชาติ ภูมิภาคและนานาชาติในชüงปลายýตüรรþที่ ๒๐ ไดÿรางการเปลี่ยนแปลงอันใดบางตอปญĀาโÿเภณีและการทองเที่ยüทางเพý เนื่องจากมูลนิธิผูĀญิงกอกําเนิดในชüงทýüรรþÿตรีและเติบโตตอมาในชüงเüลาที่ ÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงไดรับการเอาใจใÿ และเปนüาระขับเคลื่อนในการทํางาน เรื่องผูĀญิง จึงเĀ็นคüรที่จะบันทึกการเดินทางอันยาüนานของมูลนิธิผูĀญิงที่ เกี่ยüของกับเรื่องโÿเภณี การคาประเüณีและการคาĀญิง
๒๓ ๒. จากเม็กซิโก ถึงไนโรบี ทศวรรษสตรี กับ ปัญหาโสเภณี การค้าประเวณี และการค้าหญิง ÿĀประชาชาติไดประกาýใĀปพ.ý. ๒๕๑๘ เปนปÿตรีÿากล ซึ่งเปนป เดียüกับการÿุดÿิ้นÿงครามเพื่อการปลดปลอยในเüียดนาม ลาü และกัมพูชา และได มีการจัดประชุมÿตรีโลกครั้งแรกที่เม็กซิโก การประชุมครั้งนี้ทําใĀมีการประกาý ทýüรรþÿตรี (พ.ý. ๒๕๑๙–๒๕๒๘) ภายใตคําขüัญ คüามเÿมอภาค การพัฒนาและ ÿันติภาพ และกําĀนดÿามüาระที่ตองดําเนินการในการพัฒนาผูĀญิง คือ เรื่องการมี งานทํา ÿุขภาพอนามัยและการýึกþา ในการประชุมÿตรีระดับโลกของÿĀประชาชาติ ครั้งแรกนี้ใĀคüามÿําคัญในเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิงชายและคüามกาüĀนาของÿตรี โดยไดกําĀนดüัตถุประÿงคÿําคัญÿามประการคือเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิงชายและ การขจัดการเลือกปฏิบัติทางเพý การบูรณาการและการมีÿüนรüมอยางเต็มที่ของ ผูĀญิงในการพัฒนา และเพิ่มการมีÿüนรüมของผูĀญิงในการÿรางÿันติภาพของโลก ไดมีการรับรองแผนปฏิบัติการระดับโลกเพื่อดําเนินการใĀบรรลุüัตถุประÿงคที่ กําĀนดไüในเรื่องการจางงาน ÿุขภาพและการýึกþา การประชุมครั้งนี้ไดปรับเปลี่ยน คüามคิดที่มีมาแตเดิมüาการพัฒนานํามาซึ่งคüามกาüĀนาของผูĀญิง เปนการพัฒนา ซึ่งจะเกิดขึ้นไมไดĀากขาดการมีÿüนรüมอยางแทจริงของผูĀญิง และไดมีการจัดตั้ง ĀนüยงานในองคการÿĀประชาชาติเพื่อดําเนินงานเรื่องผูĀญิง คือÿถาบันนานาชาติ ดานการüิจัยและอบรมเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง (INSTRAW–Research and Training Institute for the Advancement of Women) และกองทุนเพื่อÿตรี (UNIFEM–UN Development Fund for Women) ในแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุม เนื้อĀาในดานตาง ๆ เพื่อบรรลุüัตถุประÿงคÿามดานที่üางไüไดบรรจุประเด็นเรื่อง การปองกันการแÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิงและเด็กĀญิงไüดüย แผนปฏิบัติการระดับโลกเม็กซิโกพิจารณาüาโÿเภณี Āรือการคาประเüณี เปนการคุกคามýักดิ์ýรีของผูĀญิงและยืนยันÿนับÿนุนเจตนารมณของอนุÿัญญา พ.ý. ๒๔๙๒ เรื่องการปราบปรามการคามนุþยและการแÿüงĀาประโยชนทางเพý จากการคาประเüณีของผูอื่น โดยตระĀนักüาโÿเภณีและการแÿüงĀาประโยชนจาก Āญิงและเด็กยังพบไดในĀลายประเทý อันเปนผลจากÿภาพเýรþฐกิจและÿังคม ทํา ใĀĀญิงที่ถูกบังคับÿูการเปนโÿเภณีประÿบคüามทุกขยากและการปฏิบัติที่ไมเปน ธรรม ประเทýที่ยังมีการคาประเüณีของĀญิงและเด็กจะตองมีมาตรการที่เขมแข็ง
๒๔ เพื่อยุติโÿเภณีและขจัดการบังคับคาประเüณีและการคาĀญิง นอกจากการปราบ ปรามแลüจําเปนตองมีมาตรการฟนฟูบําบัดĀญิงโÿเภณี และคüรมีการÿํารüจซอง โÿเภณีทั่üโลกที่ยังมีการบังคับทารุณ โดยขอรองใĀเลขาธิการÿĀประชาชาติดําเนิน ตามมติที่ ๓๒๑๘ เมื่อüันที่ ๖ พฤýจิกายน ๒๕๑๗ ของที่ประชุมใĀญÿĀประชาชาติ และรüมมือกับĀนüยงานตาง ๆ ที่เกี่ยüของเพื่อดําเนินการÿํารüจเรื่องนี้ ๓. การประชุมกึ่งทศวรรษสตรีที่นครโคเปนฮาเกน การประชุมÿตรีระดับโลกครั้งที่ÿองเปนการประชุมกึ่งทýüรรþÿตรีที่นคร โคเปนฮาเกน พ.ý. ๒๕๒๓ (ค.ý. ๑๙๘๐) เปนการประชุมที่จัดขึ้นĀลังจากที่ ÿĀประชาชาติไดรับรองอนุÿัญญาüาดüยการขจัดการเลือกปฏิบัติตอÿตรีในทุก รูปแบบ ( Convention for the Elimination of All Forms of Discrimination against Women) ที่เรียกกันüา CEDAW ĀรืออนุÿัญญาผูĀญิง ที่ผานมติÿมัชชา ÿĀประชาชาติเมื่อ พ.ý. ๒๕๒๒ และมีผลบังคับใชใน พ.ý. ๒๕๒๔ ÿงผลผูกพันใĀรัฐ ภาคีตองขจัดการเลือกปฏิบัติตอผูĀญิงในเรื่องÿิทธิพลเมืองและการเมือง ÿิทธิทาง เýรþฐกิจ ÿังคมและüัฒนธรรม อนุÿัญญาผูĀญิงเÿนอแนüคิดüาบทบาทในการใĀ กําเนิดชีüิตไมคüรเปนพื้นฐานของการเลือกปฏิบัติตอผูĀญิง และการเลี้ยงดูบุตรเปน Āนาที่คüามรับผิดชอบของĀญิงชายและของÿังคม ขอ ๖ ของอนุÿัญญากําĀนดใĀรัฐ ภาคีใชมาตรการที่เĀมาะÿมทุกอยาง รüมทั้งการออกกฎĀมายเพื่อปราบปรามการคา ĀญิงและการแÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณีของĀญิง จะเĀ็นüาอนุÿัญญามี เจตนารมณเชนเดียüกับอนุÿัญญาคามนุþย พ.ý. ๒๔๙๒ ที่มิไดแยกแยะการคา มนุþยและการคาประเüณีออกจากกัน แตมิไดกําĀนดใĀขจัดการคาประเüณีแตมุง ปราบปรามบุคคลที่ÿามซึ่งแÿüงĀาประโยชนจากการเปนโÿเภณีของผูอื่น üัตถุประÿงคĀลักของการประชุมที่นครโคเปนฮาเกนคือการประเมิน คüามกาüĀนากึ่งทýüรรþÿตรีของการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติการเรื่องคüามเÿมอ ภาค การพัฒนาและÿันติภาพ โดยไดใĀคüามÿําคัญตอÿิทธิทางดานÿังคมและ เýรþฐกิจของผูĀญิง ÿุขภาพและการýึกþา การเขาถึงตลาดแรงงานและงานในภาค เกþตร รüมถึงการÿงเÿริมบทบาทผูĀญิงในงานพัฒนา และไดกลาüถึงการแÿüงĀา ประโยชนจากโÿเภณีและการคามนุþยโดยพิจารณาüาการคาĀญิงและเด็กเพื่อบังคับ คาประเüณียังคงดํารงอยู ผูĀญิงและเด็กทั้งĀญิงชาย ถูกทํารายทางรางกายและ แÿüงĀาประโยชนทางเพýตกอยูในÿภาพเยี่ยงทาÿ การดําเนินการในระดับชาติตาม แผนปฏิบัติการเม็กซิโกยังไมมีผลเปนที่นาพอใจ และเชื่อüาĀากมีการปรับปรุง
๒๕ และขยายคüามรüมมือระĀüางĀนüยงานในองคการÿĀประชาชาติ กรรมาธิการ ÿถานภาพÿตรี กรรมาธิการปองกันและปราบปรามอาชญากรรม และคณะทํางาน เรื่องการคาทาÿของกรรมาธิการเรื่องÿิทธิมนุþยชนจะชüยใĀเกิดการปองกันการ บังคับคาประเüณี ปราบปรามการแÿüงĀาประโยชนและชüยฟนฟูบําบัดผูตกเปน เĀยื่อไดดีขึ้น รัฐบาลประเทýตาง ๆ คüรพิจารณาเขาเปนภาคีของอนุÿัญญาคามนุþย และจัดทํารายงานเÿนอตอÿมัชชาÿĀประชาชาติ คüรตระĀนักüาĀญิงและเด็กไมได เปนÿินคา และทุกคนมีÿิทธิที่จะไดรับการคุมครองใĀรอดพนจากการถูกลักพาตัü ขมขืน และการคาประเüณี Āญิงและเด็กที่เปนโÿเภณีมีÿิทธิที่จะไดรับการคุมครอง จากการปฏิบัติที่เลüรายของการที่ตองตกเปนโÿเภณี องคการÿĀประชาชาติ องคกร เอกชนที่ไดรับÿถานภาพที่ปรึกþาของÿĀประชาชาติ (Consultative Status) และ องคการระĀüางประเทýทั้งĀลายคüรรüมมือกันรณรงคตอตานการแพรระบาดของ ปญĀานี้อยางมีประÿิทธิภาพ การประชุมครั้งที่ĀกของÿĀประชาชาติเรื่องการปองกัน อาชญากรรมและการปฏิบัติตอผูกระทําผิดคüรมีขอเÿนอแนะที่เดนชัดเรื่องคüาม เกี่ยüเนื่องระĀüางการพัฒนา โÿเภณีและการแÿüงĀาประโยชน และการคามนุþย เลขาธิการÿĀประชาชาติคüรเชื้อเชิญรัฐบาลของรัฐภาคีดําเนินการกับเครือขายของ นักคามนุþยและผูจัดĀา และคüรเÿนอรายงานตอกรรมาธิการÿถานภาพÿตรีในการ ประชุมครั้งที่ ๒๙ รüมถึงการจัดทํารายงานเรื่องระบบโÿเภณีทั่üโลก ÿาเĀตุและ เงื่อนไขทางÿังคมและเýรþฐกิจที่เปนปจจัยใĀเกิดการคาประเüณี ๔. ไนโรบีการประชุมสุดสิ้นทศวรรษสตรี การประชุมÿตรีระดับโลกครั้งที่ÿาม ที่นครไนโรบี พ.ý. ๒๕๒๘ (ค.ý. ๑๙๘๕) เปนการประชุมÿิ้นÿุดทýüรรþÿตรีภายใตĀัüขอเรื่อง คüามเÿมอภาค การ พัฒนาและÿันติภาพ การประชุมครั้งนี้ไดตระĀนักüาคüามแตกตางทางเพýนําไปÿู การเลือกปฏิบัติและเปนอุปÿรรคตอคüามเÿมอภาคĀญิงชาย ไดเนนใĀผูĀญิงมีÿิทธิ ในการตัดÿินใจ และมีการบูรณาการผูĀญิงในดานการพัฒนาเýรþฐกิจและÿังคม ใน ที่ประชุมของภาคเอกชนไดใĀคüามÿนใจในเรื่องการทองเที่ยüทางเพý การคาĀญิง และการคาประเüณี โดยเฉพาะการคาประเüณีของเด็ก Āรือที่เรียกในชüงเüลานั้นüา โÿเภณีเด็ก (Child Prostitution) โดยมูลนิธิผูĀญิงในนามของýูนยขาüผูĀญิงไดรüม นําเÿนอในการประชุมของภาคองคกรเอกชน เรื่องÿถานการณการแÿüงĀาประโยชน ทางเพýจากĀญิงและเด็กĀญิง การทองเที่ยüทางเพýในประเทýไทยและคําขüัญใน งานรณรงคüา การคาĀญิงเปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชน ผูรüมประชุมเĀ็นüาปญĀานี้ จําเปนตองขจัดใĀĀมดÿิ้นไปเพื่อบรรลุคüามกาüĀนาของÿตรีและคüามเÿมอภาค
๒๖ Āญิงชาย การประชุมÿตรีโลกครั้งนี้ไดมีการจัดทําแผนยุทธýาÿตรมองไปขางĀนา จากไนโรบีเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง (๑๙๘๕-๒๐๐๐) เพื่อใชเปนแนüทางที่ เĀมาะÿมและมีประÿิทธิภาพÿําĀรับการลงมือปฏิบัติระดับโลกระยะยาüในบริบท ของระบบเýรþฐกิจโลกใĀม แผนยุทธýาÿตรไนโรบีเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง เรียกรองใĀมีการลงมือปฏิบัติตามแผนอยางเรงดüนและเÿนอใĀÿมัชชา ÿĀประชาชาติจัดการติดตามประเมินผลทุกĀาป แผนยุทธýาÿตรไดรüบรüมกลุม Āญิงที่ตองใĀคüามÿนใจเปนพิเýþ ๑๔ กลุม อันไดแก ๑) Āญิงที่ไดรับผลกระทบ จากคüามแĀงแลง ๒) Āญิงยากจนในเมือง ๓) Āญิงÿูงüัย ๔) เยาüชนĀญิง ๕) Āญิงที่ ถูกกระทําทารุณ ๖) Āญิงที่ยากจนไรอาชีพ ๗) Āญิงที่ตกเปนเĀยื่อของการคามนุþย และคาประเüณีโดยไมÿมัครใจ ๘) Āญิงที่ดํารงชีüิตดüยüิถีดั้งเดิม ๙) Āญิงที่ดูแล ครอบครัüตามลําพัง ๑๐) Āญิงพิการทางรางกายและจิตใจ ๑๑) Āญิงที่ถูกคุมขังและ กระทําคüามผิดทางอาญา ๑๒) Āญิงและเด็กผูลี้ภัยและเรรอน ๑๓) Āญิงยายถิ่น ๑๔) Āญิงชนกลุมนอยและชนเผา แผนยุทธýาÿตรไนโรบีพิจารณาüาการบังคับคาประเüณีเปนรูปแบบĀนึ่งที่ ทําใĀผูĀญิงตกเปนทาÿโดยผูจัดĀานําพา และเปนผลพüงจากการเÿื่อมโทรมทาง เýรþฐกิจที่ทําใĀแรงงาน การทํางานของผูĀญิงตองแตกตางออกไป การเติบโตของ เมืองดึงดูดใĀเกิดการยายถิ่นนําไปÿูการüางงาน การที่ผูĀญิงตองพึ่งพาชาย การบีบ คั้นทางÿังคมและการเมืองทําใĀเกิดผูลี้ภัย บุคคลÿูญĀาย ซึ่งรüมถึงกลุมเปราะบาง ผูĀญิงที่กลายเปนเĀยื่อของพüกพอเลาแมงดา ผูĀญิงถูกลดทอนใĀเปนเพียงüัตถุทาง เพýและÿินคาที่ซื้อขายได โดยการทองเที่ยüทางเพý การบังคับคาประเüณีและÿื่อ ลามกอนาจาร รัฐภาคีขององคการÿĀประชาชาติคüรมีมาตรการจัดการกับการ แÿüงĀาประโยชนจากĀญิงโÿเภณี คüรมีการพิจารณาอยางรีบดüนในการปรับปรุง มาตรการÿากลในการตอÿูกับการคาĀญิงเพื่อการคาประเüณี จัดÿรรทรัพยากรเพื่อ ปองกันการคาประเüณีและใĀคüามชüยเĀลือทางอาชีพ การบูรณาการทั้งรางกาย และÿังคมของĀญิงโÿเภณีโดยใĀโอกาÿทางเýรþฐกิจที่รüมถึงการฝกฝน การมีงาน ทํา การทํางานของตนเอง และการดูแลÿุขภาพของĀญิงและเด็กรัฐบาลคüรพยายาม รüมมือกับองคกรเอกชนเพื่อÿรางงานใĀมากขึ้นแกผูĀญิง และตองมีการบังคับใช กฎĀมายอยางเขมงüดในทุกระดับเพื่อจัดการกับคüามรุนแรงที่เพิ่มขึ้น การใชยาเÿพ ติด และการกระทําคüามผิดที่เกี่ยüของกับการคาประเüณี ดังนั้นจึงจําเปนที่องคกร ตํารüจÿากลจะตองพยายามเพิ่มคüามรüมมือจัดการกับคüามซับซอนของปญĀาการ แÿüงĀาประโยชนและคüามรุนแรงตอผูĀญิงในการคาประเüณี
๒๗ จะเĀ็นไดüาแผนยุทธýาÿตรไนโรบีใĀคüามÿนใจกับปญĀาการคาประเüณี การคาĀญิงโดยรüมĀญิงที่ตกเปนเĀยื่อโดยไมÿมัครใจเปนĀนึ่งกลุมเปาĀมายของ Āญิงที่รัฐตองใĀคüามใÿใจเปนพิเýþ และไดกําĀนดมาตรการทั้งในระดับประเทý และคüามรüมมือระดับÿากลเพื่อจัดการกับการคาĀญิงและการแÿüงĀาประโยชน จากĀญิงที่ถูกบังคับคาประเüณี ที่ครอบคลุมเรื่องการคุมครองชüยเĀลือผูตกเปน เĀยื่อและกําĀนดแนüทางในการฟนฟูÿรางชีüิตใĀมใĀแกĀญิงที่เคยเปนโÿเภณี ใน แผนยุทธýาÿตรไดกลาüถึงคüามเปราะบางของผูĀญิง และการถูกนํามาใชในธุรกิจ การทองเที่ยüทางเพý การบังคับคาประเüณีและÿื่ออนาจาร แผนยุทธýาÿตรไนโรบี จึงเปนแผนปฏิบัติการชุดแรกที่กลาüถึงปจจัยของการเติบโตการคาĀญิง และการ แÿüงĀาประโยชนทางเพýจากĀญิงที่เนนในเรื่องĀญิงและเด็กĀญิงที่เขาÿูการคา ประเüณีโดยไมยินยอมÿมัครใจ แตในÿüนมาตรการระดับชาตินั้นไดกําĀนดใĀรัฐบาล คํานึงการคุมครองĀญิงที่เปนโÿเภณีและการจัดคüามชüยเĀลือทางดานÿังคมและ เýรþฐกิจเพื่อÿามารถดํารงชีüิตใĀมได จึงÿรุปไดüาแผนยุทธýาÿตรไนโรบีได ตระĀนักüาในระบบโÿเภณี Āรือการคาประเüณีนั้นมีĀญิงทั้งที่ถูกบังคับและไมถูก บังคับ และไดใĀคüามÿนใจแกĀญิงที่ถูกบังคับ ในขณะเดียüกันก็เรียกรองใĀรัฐมี มาตรการชüยเĀลือĀญิงที่ไมไดถูกบังคับและใĀโอกาÿไดÿรางชีüิตใĀมแตมิไดยอมรับ การคาประเüณี จะเĀ็นไดüาการประชุมระดับโลกเรื่องผูĀญิงทั้งÿามครั้งนี้ตางใĀคüามÿนใจ ตอปญĀาการคาĀญิง และการนําĀญิงและเด็กมาบังคับคาประเüณี มีการüิเคราะĀ ÿาเĀตุปจจัยและพิจารณากําĀนดแนüทางในการแกไขปองกัน รüมถึงมาตรการที่จะ Āยุดยั้งการเติบโตของปญĀาที่เĀ็นพองรüมกันüาเปนการทําใĀĀญิงและเด็กตองตก เปนทาÿ เปนที่นาÿังเกตüามุมมองการüิเคราะĀปญĀานี้อยูในกรอบเจตนารมณของ อนุÿัญญาปราบปรามการคามนุþยและการแÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณี ของผูอื่น (พ.ý. ๒๔๙๒) และเรียกรองใĀยุติการคามนุþยและปราบปรามกลุมบุคคล ที่แÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณีของĀญิงและเด็ก อันไดแกผูจัดĀา พอเลา แมงดา เปนตน โดยตระĀนักüาในกระบüนการคาประเüณีมีĀญิงและเด็กที่ไมÿมัคร ใจและถูกบังคับซึ่งจําเปนจะตองมีคüามรüมมือในระดับÿากลเพื่อลงโทþผูที่จัดĀา และแÿüงประโยชน แตไมไดกําĀนดมาตรการใด ๆ ในการคุมครองÿิทธิของĀญิงที่ คาประเüณีโดยไมมีการบังคับ ยกเüนการชüยเĀลือฟนฟูบําบัดทางรางกายจิตใจ และ อาชีพแกผูที่ตองการจะออกจากการคาประเüณีและÿรางชีüิตใĀม
๒๘ ๕. ศูนย์ข่าวผู้หญิงจุดเริ่มต้นของมูลนิธิผู้หญิง เมื่อÿุดÿิ้นการประชุมกึ่งทýüรรþÿตรีที่โคเปนฮาเกน ในประเทýไทยนัก กิจกรรม นักüิชาการ นักคิดนักเขียนและผูใชแรงงานĀญิงไดมีการริเริ่มกอตั้งกลุม ผูĀญิง เพื่อเปนพื้นที่ในการขับเคลื่อนเรื่องผูĀญิงในแนüทางÿิทธิÿตรี โดยใชชื่อüา กลุมเพื่อนĀญิง กิจกรรมแรกของกลุมคือการจัดงานüันÿตรีÿากล ๘ มีนาคม ที่กลุม องคกรÿตรีกระแÿĀลักมองüาเปนüันของÿตรีที่มีอุดมการณแบบÿังคมนิยม กลุม เพื่อนĀญิงจึงเปนเĀมือนทางเลือกใĀมในการทํางานเรื่องคüามเÿมอภาคĀญิงชายใน ประเทýไทย และเมื่อÿุดÿิ้นการประชุมทýüรรþÿตรีที่ไนโรบี ในเดือนÿิงĀาคม ๒๕๒๘ ประเทýไทยไดเขารüมเปนภาคีของอนุÿัญญาüาดüยการขจัดการเลือกปฏิบัติ ตอÿตรีในทุกรูปแบบโดยมีขอÿงüนไü ๗ ขอ และไดลดขอÿงüนจนในปจจุบันเĀลือ เพียงขอ ๒๙ เกี่ยüของกับการÿงกรณีพิพาทระĀüางรัฐภาคีใĀýาลยุติธรรมระĀüาง ประเทýพิจารณา กอนการประชุมÿุดÿิ้นทýüรรþÿตรี ที่นครไนโรบี ไดเกิดเĀตุการณÿะเทือน ใจทั้งคนไทยและคนทั่üโลกอันไดแกไฟไĀมยานการคาประเüณีในจังĀüัดภูเก็ตเมื่อ üันที่ ๓๐ มกราคม พ.ý. ๒๕๒๗ และพบüามีเด็กĀญิงเÿียชีüิตจากไฟไĀมซองที่เธอ ถูกกักขังไü เĀตุการณครั้งนี้ทําใĀเกิดการตระĀนักของคนในÿังคมถึงการบังคับ คาประเüณีและขบüนการ “ตกเขียü” อันไดแกการจับจองเด็กĀญิงในüัยเรียนชั้น ประถมทางภาคเĀนือเพื่อลองใตเมื่อเรียนจบชั้นประถมýึกþาÿูการคาประเüณีใน เมืองĀลüงและจังĀüัดอื่น ๆ โดยจายเงินลüงĀนาใĀพอแมเปนคาตัüของเด็กĀญิงที่ จะตองทํางานใĀบริการทางเพýตามระยะเüลาที่ตกลงไü แมประเทýไทยจะมี กฎĀมายปราบปรามการคาประเüณีพ.ý. ๒๕๐๓ และปราบปรามการคาĀญิงและ เด็ก พ.ý. ๒๔๗๑ แตก็ไมÿามารถĀยุดยั้งขบüนการพาเด็กĀญิง “ลองใต” เพื่อการคา ประเüณี จึงทําใĀประเทýไทยตกเปนจําเลยของประชาคมโลกในเรื่องโÿเภณีเด็ก ใน ปเดียüกับเĀตุการณอันนาÿะเทือนใจที่ภูเก็ตโครงการýูนยขาüผูĀญิงไดจัดตั้งขึ้นดüย การÿนับÿนุนจากกองทุนขนาดเล็กของÿถานทูตเนเธอรแลนด เพื่อใĀขอมูลแก Āญิงไทยที่ตองการการยายถิ่นทั้งเพื่อคาประเüณีและแตงงานกับคนตางชาติ ซึ่ง กลายเปนทางเลือกเพื่อปรับปรุงชีüิตของĀญิงทั้งในชนบทและเมืองในชüงเติบโตของ การทองเที่ยüทางเพý ผูĀญิงÿüนĀนึ่งตัดÿินใจเดินทางโดยไดรับการชักชüนจาก นักทองเที่ยüตางชาติโดยไมไดรับขอมูลรอบดาน เมื่อถึงประเทýปลายทางประÿบ ปญĀาทั้งในการใชชีüิตคู และการทํางานบริการทางเพý การยายถิ่นโดยคüามÿมัคร
๒๙ ใจในเบื้องตนไดทําใĀผูĀญิงถูกแÿüงĀาประโยชน ถูกทําราย และบางคนตองจบชีüิต ในตางแดน ýูนยขาüผูĀญิงใĀขอมูลและคําปรึกþาแกĀญิงไทยที่ตองการเดินทางไป ตางประเทý และจัดพิมพเอกÿารตาง ๆ เพื่อเผยแพรแกÿาธารณชน และไดเขารüม ในการประชุมไนโรบีเพื่อนําเÿนอปญĀาการทองเที่ยüทางเพý และการแÿüงĀา ประโยชนทางเพýจากĀญิงและเด็ก กอนการประชุมไนโรบีไดมีการประชุมนานาชาติ เรื่องการคาĀญิงและการแÿüงĀาประโยชนทางเพýที่เมืองรอตเตอรดัม ประเทý เนเธอรแลนดเมื่อ พ.ý. ๒๕๒๗ มีการนําเÿนอแนüคิดจากงานเขียนเรื่อง Āญิงทาÿ ทางเพý (Female Sexual Slavery) ของแคทลีน แบรรี่ ที่นําเÿนอปญĀาการคา Āญิงและการคาประเüณี เปนการแÿüงĀาประโยชนและคüามรุนแรงตอผูĀญิง นัก ÿิทธิÿตรีÿายĀลักในทýüรรþนี้ไมแยกเรื่องการคาĀญิงออกจากเรื่องการคาประเüณี และยืนยันüาการแÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิงจะตองขจัดใĀĀมดไป และมี กลุมรณรงคที่กอตั้งในชüงเüลาตอมาคือเครือขายตอตานการคาĀญิง (Coalition against Trafficking in Women–CATW) เĀตุการณภูเก็ตทําใĀýูนยขาüผูĀญิง และกลุมองคกรÿตรีและองคกรÿิทธิ มนุþยชน ไดจัดÿัปดาĀตอตานการคาĀญิงและการÿัมมนาระดับชาติเรื่องปญĀา การคาĀญิงไทย (๘-๙ มีนาคม ๒๕๒๗) โดยมีคุณĀญิงกนก ÿามเÿน üิล และคุณĀญิง กนิþฐา üิเชียรเจริญ และนักกิจกรรมผูĀญิงĀลายคนประÿานการจัดงาน และไดเชิญ รัฐมนตรีกระทรüงมĀาดไทย พลเอกÿิทธิ จิรโรจน ผูที่ใĀคüามÿนใจคัดคานการ ทองเที่ยüทางเพýเปนผูเปดงานÿัมมนา ÿüนĀนึ่งของคํากลาüเปดงานระบุüา “...ถา คิดกันüาĀญิงเปนÿินคาที่จะขายไดทั้งในเมืองไทยและตางประเทý เÿมือนĀนึ่งเปน ผลิตผลทางการเกþตรĀรือผลิตภัณททางอุตÿาĀกรรมอยางนั้นแลü กระผมก็Āüงใน เกียรติและýักดิ์ýรีของÿตรีüาเรายังมีเĀลืออยูÿักเทาใด...” และอธิบายüาประเทý ไทยพยายามแกไขปญĀาการคาĀญิงในÿามเรื่องคือ ปองกัน ปราบปราม และบําบัด แกไข “ที่Āมายถึงการพยายามที่จะใĀเขาละเลิกประพฤติไปไดอยางเด็ดขาดและจะ กลายเปนพลเมืองĀญิงที่ดีของบานเมืองกันตอไป...” นับเปนครั้งแรกที่มีการประÿาน คüามรüมมือของกลุมองคกรที่ทํางานดานÿตรีและเด็กกับนักüิชาการจาก มĀาüิทยาลัยเรียกรองใĀรัฐบาลขจัดปญĀาการคาĀญิงและเด็กĀญิง และปราบปราม การคาประเüณีตามพระราชบัญญัติปองกันและปราบปรามการคาประเüณี พ.ý. ๒๕๐๓ ที่ลมเลิกการคาประเüณีที่รัฐเคยเขาคüบคุมดüยการจดทะเบียนซองและĀญิง โÿเภณี โดยลงโทþเจาของแĀลงคาประเüณี บุคคลที่จัดĀา และผูคาประเüณี แตไมมี บทลงโทþใด ๆ ตอผูซื้อประเüณี การเติบโตของการคาประเüณีÿะทอนใĀเĀ็นüา
๓๐ กฎĀมายปราบปรามการคามนุþยและการคาประเüณีมิไดมีการบังคับใชอยางจริงจัง เพื่อการĀยุดยั้งการแÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิงและเด็กĀญิงแตอยางใด อาจกลาüไดüา เĀตุการณไฟไĀมภูเก็ต และการจัดÿัมมนาระดับชาติครั้งนี้เปนÿüน Āนึ่งของการขับเคลื่อนเพื่อปรับปรุงแกไขกฎĀมายที่เกี่ยüของกับการคาĀญิงและการ คาประเüณีในเüลาตอมา ýูนยขาüผูĀญิงตอมาไดจดทะเบียนเปนมูลนิธิผูĀญิงใน พ.ý. ๒๕๓๐ เพื่อ คุมครองÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงและคüามเÿมอภาคĀญิงชาย โดยมีโครงการอบรม ใĀคüามรูเพื่อÿรางการตระĀนักแกÿตรีในภาคÿüนตาง ๆ ไดĀยิบยกประเด็นการ แÿüงĀาประโยชนทางเพý และการคาĀญิงและเด็กĀญิงมาดําเนินโครงการของ มูลนิธิ เชน โครงการตอตานโÿเภณีเด็กคําĀลา คําแกü โครงการüิจัยเรื่องการคา มนุþยเพื่อรณรงคใĀÿรางการตระĀนักในชุมชน และการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ระดับชาติ ในชüงแรกของการทํางานในนามýูนยขาüผูĀญิงจะใĀคüามÿนใจเปน พิเýþในเรื่องการทองเที่ยüทางเพý และการยายถิ่นขามชาติของĀญิงไทยเพื่อการคา ประเüณี และการแตงงานที่นําไปÿูธุรกิจเมียÿั่งทางไปรþณีย โดยนําĀญิงจาก ประเทýที่ÿามใĀชายตะüันตกไดคัดเลือกเพื่อแตงงานและ/ĀรือแÿüงĀาประโยชน ทางเพý เชน บังคับคาประเüณี ในชüงปลายทýüรรþ ๑๙๘๐ บริþัทจัดทองเที่ยü ทางเพýในนอรเüย (Scan Thai) ไดฟองรององคกรแนüรüมÿตรี (Kvinnen Front) ที่ประทüงการดําเนินธุรกิจทองเที่ยüทางเพý ýาลไดรับพิจารณาคดี องคกรแนüรüม ÿตรีไดขอใĀผูแทนýูนยขาüผูĀญิงเปนพยานแกฝายองคกรÿตรี เมื่อคดีÿุดÿิ้นลงýาล พิพากþาใĀองคกรÿตรีเปนฝายชนะจึงไมตองจายคาชดเชยตามที่บริþัทจัดทองเที่ยü ทางเพýเรียกรอง แมกระนั้นก็ตามยังคงพบโฆþณาของบริþัทจัดทองเที่ยüทางเพýใน ประเทýตาง ๆ ทั้งในยุโรป และเอเชีย รüมถึงธุรกิจเมียÿั่งทางไปรþณีย ที่การ นําเÿนอไมใชมีเฉพาะĀญิงไทย แตยังรüมถึงĀญิงจากประเทýอื่น ๆ ในเอเชียดüย กลุมองคกรผูĀญิงทั้งในเอเชีย ยุโรป และทüีปอื่น ๆ ไดรüมกันประทüงคัดคานการ ดําเนินธุรกิจแÿüงĀาประโยชนจากĀญิงในประเทýพัฒนา มีการรüมกันจัดประทüง ในĀลายประเทý เชน การรüมมือจัดประทüงนายกรัฐมนตรีซูซูกิของญี่ปุนที่มาเยือน ประเทýในภูมิภาคเอเชียตะüันออกเฉียงใต การยื่นจดĀมายคัดคานการทองเที่ยüทาง เพýตอนายเฮลมุต โคĀล นายกรัฐมนตรีÿĀพันธÿาธารณรัฐเยอรมัน (พ.ý. ๒๕๒๙) นอกจากนี้ยังไดมีการจัดตั้งýูนยใĀคําแนะนําปรึกþาแกผูĀญิงที่ประÿบปญĀาไดรับ ผลกระทบจากธุรกิจเĀลานี้ แนüทางการรณรงคมุงเนนในเรื่องการคุมครองชüยเĀลือ และปองกันไมใĀĀญิงและเด็กตกเปนเĀยื่อของการคามนุþยและถูกบังคับเขาÿู
๓๑ การคาประเüณีทั้งในประเทýและตางแดน แนüทางของการทํางานของมูลนิธิผูĀญิง ในชüงแรกจึงเปนไปตามเจตนารมณของแผนยุทธýาÿตรไนโรบี ที่เรียกรองใĀรัฐบาล ของแตละประเทýดําเนินมาตรการตาง ๆ เพื่อปราบปรามการคาĀญิงและเด็ก และ การบังคับคาประเüณี และใĀคüามชüยเĀลือแกĀญิงและเด็กทั้งทางเýรþฐกิจและ ÿังคมเพื่อÿามารถÿรางชีüิตใĀมของตน องคกรตาง ๆ ทั้งภาคเอกชนและรัฐบาลตาง ก็มีเปาĀมายคลายคลึงกันคือการยุติกระบüนการบังคับคาประเüณีและการคาĀญิง และเด็ก และคüามจําเปนที่จะตองมีการÿํารüจในระดับโลกเพื่อใĀเĀ็นภาพรüมของ ปญĀานี้อันจะนําไปÿูคüามพยายามในการรüมมือแกไขและปองกันการแÿüงĀา ประโยชนทางเพýจากĀญิงและเด็ก ๖. เวียนนา เวทีแห่งความสมานฉันท์สากล และชัยชนะของขบวนการสิทธิสตรี ชüงทýüรรþที่ ๙๐ เปนชüงการÿุดÿิ้นของÿงครามเย็น (พ.ý. ๒๕๓๒) และ การÿูญÿลายของÿĀภาพโซเüียต (พ.ý. ๒๕๓๔) ทําใĀดินแดนที่เคยรüมอยูในÿĀภาพ โซเüียตแยกออกเปนประเทýเกิดใĀมĀลายประเทý ÿĀประชาชาติไดริเริ่มจัดการ ประชุมระดับโลกĀลายเรื่อง อันไดแก การประชุมเรื่องÿิ่งแüดลอมและการพัฒนา ที่ นครรีโอเดจาเนโร ประเทýบราซิล (พ.ý. ๒๕๓๕) เรื่องÿิทธิมนุþยชนที่นครเüียนนา ประเทýออÿเตรีย (พ.ý. ๒๕๓๖) เรื่องการพัฒนาประชากร ที่กรุงไคโร ประเทý อียิปต (พ.ý. ๒๕๓๗) เรื่องผูĀญิงที่กรุงปกกิ่ง ÿาธารณรัฐประชาชนจีน (พ.ý. ๒๕๓๘) การประชุมÿุดยอดเรื่องการพัฒนาÿังคม ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทýเดนมารก (พ.ý. ๒๕๓๘) การประชุมระดับโลกที่เกิดขึ้นตางไดจัดทําแผนปฏิบัติการเพื่อเปนแนüทาง ใĀรัฐภาคีขององคการÿĀประชาชาติดําเนินการใĀบรรลุตามเปาĀมายที่ไดüางไü และเปดโอกาÿใĀภาคประชาÿังคมไดมีÿüนรüมในการนําเÿนอประเด็นปญĀาและ ขอเÿนอแนะโดยจัดประชุมของภาคเอกชนกอนการประชุมของภาครัฐบาล การประชุมระดับโลกเรื่องÿิทธิมนุþยชนที่นครเüียนนาเปนการจัดประชุม ครั้งที่ÿอง โดยครั้งแรกไดจัดใĀมีขึ้นที่กรุงเตĀะราน ประเทýอิĀราน เมื่อ พ.ý. ๒๕๑๑ เพื่อเปนการเฉลิมฉลองüาระครบรอบ ๒๐ ปของการประกาýปฏิญญาÿากล üาดüยเรื่องÿิทธิมนุþยชน การประชุมที่เüียนนามีผูเขารüมถึง ๗,๐๐๐ คน โดยมี ผูแทนจาก ๑๗๑ ประเทýÿมาชิกขององคการÿĀประชาชาติ และองคกรเอกชนทั่ü โลกรüม ๘๐๐ องคกร การประชุมครั้งนี้มุงเนนประเด็นเรื่องÿิทธิมนุþยชนในดาน ÿิทธิทางการเมืองและเýรþฐกิจ ที่เคยเปนประเด็นขัดแยงในชüงÿงครามเย็นระĀüาง ประเทýประชาธิปไตยกับประเทýÿังคมนิยม และประเทýพัฒนาแลüกับที่ยังยากจน
๓๒ ดอยพัฒนา โดยจัดลําดับคüามÿําคัญของÿิทธิใĀเĀมาะÿมตามระบอบการปกครอง ของประเทý นอกจากนี้การประชุมที่เüียนนายังใĀคüามÿําคัญกับเรื่องÿิทธิมนุþยชน ของผูĀญิง ชนเผา ชนกลุมนอยที่มีผูแทนจากทั่üโลกเขารüมในการประชุมครั้งนี้ ปฏิญญาและแผนปฏิบัติการเüียนนายืนยันคüามเปนÿากลของÿิทธิมนุþยชน ที่รอย เรียงกับประชาธิปไตย การพัฒนาเýรþฐกิจ ÿิทธิมนุþยชนดานตาง ๆ เกี่ยüของ เชื่อมโยงกัน ไมอาจลิดรอน แบงแยกÿิทธิพลเมือง ÿิทธิการเมือง ÿิทธิทางเýรþฐกิจ ÿังคมและüัฒนธรรมออกจากกันได ÿิทธิตาง ๆ เกี่ยüของเชื่อมโยงกัน กอนการประชุมที่เüียนนา ผูแทนมูลนิธิผูĀญิงไดเขารüมการประชุมของ ÿถาบันเพื่อคüามเปนผูนําโลกของÿตรี แĀงมĀาüิทยาลัยรัตเกอรÿ (Centre for Women Global Leadership, Rutgers University) เมืองนิüเจอรซี ประเทý ÿĀรัฐอเมริกา ในเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง ที่เปนปญĀาของผูĀญิงทั่üโลก และไมได รับการตอบÿนองแกไขอยางจริงจัง ในการประชุมครั้งนี้ภายใตการนําของชารลอต บันช ผูอํานüยการÿถาบัน และนักเคลื่อนไĀüรüมทั้งนักกฎĀมายเรื่องÿิทธิมนุþยชน จากทุกภูมิภาคไดริเริ่มใĀจัดการรณรงคระยะเüลา ๑๖ üัน (16 Days of Activism) โดยเริ่มจากüันที่ ๒๕ พฤýจิกายน ซึ่งเปนüันที่เกิดการÿังĀารผูĀญิงนักเคลื่อนไĀü ทางการเมืองÿามคนในÿาธารณรัฐโดมินิกัน จนถึงüันที่ ๑๐ ธันüาคม อันเปนüันÿิทธิ มนุþยชน และยังเตรียมการขับเคลื่อนใĀมีÿüนรüมของผูĀญิงทั่üโลกในการรณรงค เรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง โดยใชคําขüัญüา ÿิทธิผูĀญิงคือÿิทธิมนุþยชน คüาม รุนแรงตอผูĀญิงเปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชน และไดจัดýาลจําลองไตÿüนคําใĀการ ของĀญิงที่ไดรับคüามรุนแรงในรูปแบบตาง ๆ จากทั่üโลกในการประชุมที่เüียนนา ผูĀญิงจากทั่üโลกไดรüมกันเรียกรองใĀประชาคมโลกตระĀนักüาปฏิญญาÿากลüา ดüยเรื่องÿิทธิมนุþยชน (พ.ý. ๒๔๙๑) ไดคํานึงถึงและรüมไüซึ่งÿิทธิมนุþยชนของ ผูĀญิงที่ไมอาจลิดรอน แบงแยกและละเมิดได รัฐมีĀนาที่เคารพ ปกปองและคุมครอง ÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง ผลÿําเร็จของคüามÿมานฉันทÿากลนี้คือการยืนยันüาÿิทธิ ของผูĀญิงคือÿิทธิมนุþยชนที่ไมอาจลิดรอน แบงแยก และยอมรับüาคüามรุนแรงตอ ผูĀญิงเปนการละเมิดÿิทธิมนุþยชนไüในปฏิญญาและแผนเüียนนา ตอมาไดมีการ จัดทําปฏิญญาขจัดคüามรุนแรงตอผูĀญิงในทุกรูปแบบซึ่งผูแทนมูลนิธิผูĀญิงไดรüม ในการประชุมผูเชี่ยüชาญที่ประเทýÿĀรัฐอเมริกาเพื่อพิจารณารางปฏิญญานี้Āลังจาก การประชุมที่เüียนนา ปฏิญญานี้ไดนิยามเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิงและรüมเรื่องการ บังคับคาประเüณีและการคามนุþยไüเปนรูปแบบĀนึ่งของคüามรุนแรงตอผูĀญิง และไดรับการรับรองจากมติที่ประชุมÿĀประชาชาติ เมื่อüันที่ ๒๐ ธันüาคม ๒๕๓๖
๓๓ ตอมาไดมีการแตงตั้งผูตรüจการพิเýþเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิงในป ๒๕๓๘ รายงานฉบับแรกไดจัดทําในĀัüขอเรื่องคüามรุนแรงในครอบครัü ÿาเĀตุและผลที่ เกิดขึ้น นําเÿนอตอคณะกรรมาธิการÿิทธิมนุþยชน ในป ๒๕๓๙ รายงานฉบับแรก กลาüถึงการบังคับคาประเüณีและการคามนุþยไüในเรื่องคüามรุนแรงในครอบครัü ดüย มูลนิธิผูĀญิงไดรüมกับองคกรÿิทธิมนุþยชนĀญิงเอเชีย จัดการÿัมมนาเรื่อง การคามนุþยในเüทีภาคองคกรเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนขอคนพบจากการดําเนิน โครงการüิจัยเรื่องการยายถิ่นและการคาĀญิงในประเทýไทย โดยทําการýึกþาใน พื้นที่ภาคเĀนือและภาคอีÿานกับผูแทนกลุมองคกรจากภูมิภาคอื่น ๆ ตอมาได จัดพิมพเผยแพรงานüิจัยในชื่อ การคาĀญิงüิถีÿังคมไทย และÿํานักพิมพ ZED ได แปลและจัดพิมพเปนภาþาอังกฤþ และไดมีการแปลและพิมพในภาþาÿเปน และยัง ไดพัฒนาเอกÿารมาตรฐานขั้นตํ่าในการปฏิบัติตอผูเÿียĀายจากการคามนุþยซึ่งตอมา ไดมีการทํางานรüมกับนักÿิทธิมนุþยชนนานาชาติพัฒนาเปนมาตรฐานÿิทธิมนุþยชน ในการปฏิบัติตอผูเÿียĀายจากการคามนุþย มูลนิธิผูĀญิงไดรüมกับโครงการÿตรี ýึกþา มĀาüิทยาลัยเชียงใĀมจัดประชุมนานาชาติเรื่องการยายถิ่นและการคาĀญิง (พ.ý. ๒๕๓๗) เพื่อนําเÿนอขอมูลที่ไดพบจากงานüิจัย ผูเขารüมประชุมไดเĀ็นพอง รüมกันใĀจัดตั้งพันธมิตรÿากลเพื่อตอตานการคาĀญิง (Global Alliance against Traffic in Women–GAATW) เพื่อรณรงคและประÿานการทํางานในระดับÿากล เรื่องปญĀาการคามนุþยในบริบทของการยายถิ่น โดยใชแนüทางÿิทธิมนุþยชนเปน กรอบในการทํางานรณรงค üิจัย และใĀคüามชüยเĀลือแกĀญิงผูเÿียĀาย มูลนิธิ ผูĀญิงทําĀนาที่ประÿานการดําเนินงานของพันธมิตรÿากลเพื่อตอตานการคาĀญิง เĀตุผลÿําคัญในการจัดตั้งพันธมิตรขึ้นใĀมเพราะผูเขารüมประชุมจากĀลายภูมิภาค พิจารณาเĀ็นüาเครือขายระดับÿากลที่มีอยูใชปญĀาการคาĀญิงเปนเครื่องมือในการ รณรงคขจัดระบบโÿเภณีตามเจตนารมณของอนุÿัญญาการคามนุþยและการ แÿüงĀาประโยชนจากการเปนโÿเภณีของผูอื่น โดยเĀมารüมüาผูĀญิงที่คาประเüณี ตางตกเปนเĀยื่อของการคามนุþย ไมมีการจําแนกเรื่องการบังคับคาประเüณี และ การคาประเüณีโดยไมมีการบังคับ ทําใĀĀญิงกลุมĀลังไมไดรับการคุมครองÿิทธิใน การทํางานบริการทางเพý และเริ่มรüมตัüกันเรียกรองใĀจําแนกการคาĀญิงและการ คาประเüณี ในการüิเคราะĀและกําĀนดมาตรการแกไขในกรอบĀลักการÿิทธิ มนุþยชน โดยมีเปาĀายของการรณรงคคือ ๑) การจัดทํานิยามเรื่องการคามนุþย ๒) จัดทําอนุÿัญญาเรื่องการคามนุþยที่ครอบคลุมกüาอนุÿัญญาการคามนุþย พ.ý.
๓๔ ๒๔๙๒ และ ๓) การใชกรอบĀลักการÿิทธิมนุþยชนในการÿงเÿริมคุมครองโดยใĀ ผูเÿียĀายจากการคามนุþยเปนýูนยกลางของการใĀคüามชüยเĀลือ โดยไดใช เอกÿารมาตรฐานÿิทธิมนุþยชนในการปฏิบัติตอผูเÿียĀายเปนเครื่องมือในการ รณรงคเผยแพรแนüคิดÿิทธิมนุþยชนและคํานิยามเรื่องการคามนุþยที่ครอบคลุมไม เนนเฉพาะเรื่องการแÿüงĀาประโยชนทางเพýเทานั้น ๗. ปักกิ่ง การยืนยันสิทธิมนุษยชนของผู้หญิง และจุดเริ่มต้นของ การทำงานเรื่องโสเภณี การค้าหญิง ในกรอบสิทธิมนุษยชน การประชุมระดับโลกเรื่องÿตรีครั้งที่ÿี่ขององคการÿĀประชาชาติในนคร ปกกิ่ง พ.ý. ๒๕๓๘ แมจะเปนการติดตามการดําเนินงานของรัฐภาคีตามยุทธýาÿตร ไนโรบีในĀัüขอเÿมอภาค พัฒนาและÿันติภาพ แตก็แตกตางจากการประชุมÿตรีโลก ÿามครั้งที่ผานมาคือเปนการÿานตอผลÿําเร็จของผูĀญิงจากการประชุมเรื่องÿิทธิ มนุþยชนที่นครเüียนนาที่ไดÿรางการตระĀนักเรื่องÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิงที่ ครอบคลุมและĀลากĀลาย การประชุมÿตรีโลกครั้งที่ÿี่กําĀนดประเด็นÿําคัญและ Āüงใย ๑๒ เรื่องที่ ครอบคลุมเรื่องเด็กĀญิงไüดüย อันไดแก ๑) ผูĀญิงและคüาม ยากจน ๒) การýึกþาและอบรมของผูĀญิง ๓) ผูĀญิงและÿุขภาพ ๔) คüามรุนแรงตอ ผูĀญิง ๕) ผูĀญิงและคüามขัดแยงทางอาüุธ ๖) ผูĀญิงและเýรþฐกิจ ๗) ผูĀญิง อํานาจและการตัดÿินใจ ๘) กลไกเพื่อคüามกาüĀนาของผูĀญิง ๙) ÿิทธิมนุþยชน ของผูĀญิง ๑๐) ผูĀญิงและÿื่อ ๑๑) ผูĀญิงและÿิ่งแüดลอม ๑๒) เด็กĀญิง จะเĀ็นüา Āัüขอของการประชุมครั้งนี้ครอบคลุมÿิทธิของผูĀญิงที่บรรจุในอนุÿัญญาผูĀญิง แต ไดขยายประเด็นที่อนุÿัญญาผูĀญิงยังไมไดกลาüถึง เชน เรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิงที่ อนุÿัญญากลาüถึงเฉพาะเรื่องการคาĀญิงและการแÿüงĀาประโยชนทางเพý และ ผูĀญิงในÿถานการณขัดแยงทางอาüุธ รüมถึงเรื่องÿิทธิมนุþยชนของผูĀญิง ที่ได รับรองบรรจุไüในแผนปฏิบัติการเüียนนา มูลนิธิผูĀญิงไดนําผูĀญิงจากĀลายภาคÿüนรüมในการประชุมภาคองคกร เอกชนที่จัดในชüง ๓๐ ÿิงĀาคม–๘ กันยายน พ.ý. ๒๕๓๘ กอนการประชุม ภาครัฐบาล ณ เมืองĀüายโĀรü (Huairou) และมีผูเขารüมถึง ๒๕,๐๐๐ คน มูลนิธิ ผูĀญิงไดรüมกับ GAATW (Global Alliance against Traffic in Women) จัด ÿัมมนาเรื่องการคามนุþยในกรอบÿิทธิมนุþยชนของผูถูกคา โดยมีÿüนรüมของ ผูเÿียĀายในการนําเÿนอแลกเปลี่ยนปญĀาและขอเÿนอแนะกับผูเขารüมจาก ประเทýตาง ๆ ในการประชุมภาครัฐและรüบรüมนําเÿนอในการประชุมของ
๓๕ ภาครัฐบาล และตอผูแทนของรัฐบาลบางประเทýโดยยืนยันใĀจําแนกแยกการคา ประเüณีจาการคาĀญิงเพราะจําเปนตองมีกรอบüิเคราะĀและการแกไขปญĀา แตกตางกัน แผนปฏิบัติการปกกิ่ง ไดยืนยันเปาĀมายที่จะÿรางคüามกาüĀนาของผูĀญิง ทุกคนและทั่üโลกในเรื่องคüามเÿมอภาคทางเพý การพัฒนาและÿันติภาพ ที่คüรจะ บรรลุตามแผนยุทธýาÿตรไนโรบีในชüงÿุดÿิ้นýตüรรþที่ ๒๐ แผนปฏิบัติการปกกิ่งได กําĀนดยุทธýาÿตรดําเนินการไüในแตละĀัüขอเพื่อใĀรัฐบาลและองคกรที่เกี่ยüของ ลงมือปฏิบัติ ในÿüนที่เกี่ยüกับเรื่องการคาĀญิงและการแÿüงĀาประโยชนทางเพý ได บรรจุไüในĀัüขอเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง เรียกรองใĀรัฐดําเนินการอยางมี ประÿิทธิภาพขจัดการคาĀญิงและเด็กĀญิงเพื่อเพýพาณิชย ใĀบังคับใชอนุÿัญญา พ.ý. ๒๔๙๒ และกลไกตาง ๆ จัดการกับการใชผูĀญิงในระบบโÿเภณีขามชาติและ เครือขายคามนุþย การขมขืนคุกคามทางเพý การทองเที่ยüทางเพýที่ทําใĀĀญิงและ เด็กกลายเปนเĀยื่อของคüามรุนแรง การตั้งทองที่ไมพึงประÿงค โรคติดตอทาง เพýÿัมพันธรüมทั้งเอชไอüีเอดÿ และกําĀนดยุทธýาÿตรเฉพาะเพื่อขจัดการคาĀญิง และชüยเĀลือผูตกเปนเĀยื่อของคüามรุนแรงอันเกิดจากการคาประเüณีและการคา มนุþย โดยบังคับใชกฎĀมายที่มีอยูอยางจริงจังเพื่อคุมครองÿิทธิของผูĀญิงและเด็ก และลงโทþผูกระทําผิด จัดทําโครงการชüยเĀลือที่ครอบคลุมเพื่อใĀใชชีüิตปกติใน ÿังคมและรüมมือกับองคกรเอกชน กําĀนดนโยบายและโครงการýึกþาอบรมและ ออกกฎĀมายปองกันการทองเที่ยüทางเพýและการคามนุþยที่เนนเรื่องการคุมครอง ผูĀญิงและเด็ก รüมทั้งเขาเปนภาคีของอนุÿัญญาคามนุþยและคาทาÿ นอกจากนี้ยัง ไดมีขอเÿนอแนะใĀผูตรüจการพิเýþเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง จัดทํารายงานฉบับ ตอไปในĀัüขอเรื่องการคาĀญิง ๘. การพัฒนาเกณท์ขั้นต่ำในการปฏิบัติต่อเหยื่อของการค้ามนุษย์ แรงงานบังคับ และ การกระทำเยี่ยงทาส เป็นมาตรฐานทางสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติต่อผู้ถูกค้ามนุษย์ และการกำหนดคำนิยามใหม่เรื่องการค้ามนุษย์ งานüิจัยเรื่องการคาĀญิงในประเทýไทย ชี้ใĀเĀ็นถึงคüามเชื่อมโยงของการ ยายถิ่นและการคามนุþย คüามÿมัครใจในการยายถิ่นเพื่อĀางานทําในและนอก ประเทýที่มิใชการคาประเüณีเพียงอยางเดียü แตเมื่อถึงจุดĀมายปลายทางĀญิงยาย ถิ่นดüยคüามÿมัครใจกลับกลายเปนเĀยื่อของการคามนุþย และการปฏิบัติเยี่ยงทาÿ และไมไดรับการปฏิบัติที่คํานึงถึงÿิทธิที่จะไดรับการคุมครองชüยเĀลือ ดังนั้นมูลนิธิ
๓๖ ผูĀญิงจึงไดเÿนอใĀมีการจัดทํามาตรฐานขั้นพื้นฐานในการปฏิบัติตอĀญิงที่ตกเปน เĀยื่อของการคามนุþยทั้งในประเทýตนทางและปลายทางโดยใชแนüทางĀลักการ ÿิทธิมนุþยชน ตอมาไดรüมมือกับพันธมิตรÿากลตานการคาĀญิง ( GAATW) มูลนิธิ ตานการคาĀญิง (STV) และ International Human Rights Law Group Women in Law Project พัฒนาเปนเอกÿารเกณทมาตรฐานขั้นตํ่าในการปฏิบัติตอผูตกเปน เĀยื่อของการคามนุþยและแรงงานบังคับและการปฏิบัติเยี่ยงทาÿ (Standard minimum rules for the treatment of trafficking in persons and forced labour and slavery-like practices-SMR) อันประกอบดüยคํานิยามที่กลาüถึงการ กระทําดüยüิธีการตาง ๆ เพื่อนําคนมาตกอยูในÿภาüะจํายอมเพื่อใชประโยชนในงาน บาน ทางเพýและงานบริการอื่น ๆ แรงงานบังคับติดĀนี้ Āรือÿภาพเยี่ยงทาÿ และ แนüปฏิบัติตอผูที่ตกเปนเĀยื่อ และใน พ.ý ๒๕๔๒ ไดขยายเปนมาตรฐานÿิทธิ มนุþยชนในการปฏิบัติตอผูถูกคามนุþย (Human Rights Standards for the Treatment of Trafficked Persons–HRS) แมจะมีอนุÿัญญาเรื่องการคามนุþยมา นับแต พ.ý. ๒๔๙๒ แตก็ไมไดใĀคํานิยามüาอะไรคือการคามนุþย เชนเดียüกับ ขอเÿนอแนะเรื่องการคาĀญิงในแผนปฏิบัติการจากการประชุมระดับโลกเรื่องผูĀญิง ทั้งÿี่ครั้งก็ไมกําĀนดคํานิยามแตอางถึงอนุÿัญญาเรื่องการคามนุþยที่ครอบคลุม เฉพาะเรื่องการคาประเüณีเพียงอยางเดียü ดังนั้นจึงกลาüไดüาเปนการริเริ่มครั้งแรก ขององคกรผูĀญิง และองคกรÿิทธิมนุþยชนที่พยายามÿรางคüามเขาใจในระดับ นานาชาติüาอะไรคือการคามนุþยโดยเชื่อมโยงการคามนุþยในบริบทของการยายถิ่น และใĀคüามÿําคัญกับÿภาพปลายทางของการยายถิ่นที่ทําใĀĀญิงยายถิ่นกลายเปน เĀยื่อของการคามนุþย การบังคับใชแรงงานและการปฏิบัติเยี่ยงทาÿ เอกÿารนี้ได พัฒนาจากĀลักการÿิทธิมนุþยชนที่ระบุในอนุÿัญญาÿิทธิตาง ๆ และยึดถือเปน บรรทัดฐานÿากลเพื่อใĀการเคารพ ÿงเÿริมและคุมครองÿิทธิของผูตกเปนเĀยื่อของ การคามนุþย บังคับใชแรงงานและปฏิบัติเยี่ยงทาÿ นับเปนเอกÿารที่ครอบคลุมและ ใĀคํานิยามที่กลาüถึงองคประกอบและรูปแบบของการคามนุþยในบริบทของการ ยายถิ่น ที่มิไดกลาüถึงเฉพาะการคาประเüณีแตรüมถึงการบังคับใชแรงงานและการ ปฏิบัติเยี่ยงทาÿ ที่ครอบคลุมทั้งĀญิงและชาย เอกÿารนี้ไดใชเปนเครื่องมือในการ ÿรางคüามเขาใจแกผูแทนรัฐบาลของประเทýตาง ๆ ที่เขารüมในการประชุมของ UNODC (United Nations Office on Drugs and Crime) ที่กรุงเüียนนา ประเทý ออÿเตรีย เพื่อจัดทําอนุÿัญญาตอตานอาชญากรรมขามชาติและพิธีÿารเพิ่มเติมเรื่อง การคามนุþย
๓๗ ๙. ผู้ตรวจการพิเศษเรื่องความรุนแรงต่อผู้หญิง กับการจัดทำรายงานเรื่อง การค้ามนุษย์ ผูตรüจการพิเýþเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิงคนแรก คือ Raddhika Coomaraswamy ไดจัดทํารายงานเรื่องคüามรุนแรงตอผูĀญิง ÿาเĀตุและผลที่ เกิดขึ้น ในĀัüขอเรื่องการคาĀญิง ตามที่มีขอเÿนอแนะจาการประชุมโลกเรื่องผูĀญิง ที่ปกกิ่ง และไดนําเÿนอตอรายงานเรื่องการคาĀญิง การยายถิ่นของĀญิงและคüาม รุนแรงตอผูĀญิงในเดือนกุมภาพันธ ๒๕๔๓ ในรายงานฉบับนี้ผูตรüจการพิเýþฯ ได กลาüถึงพัฒนาการจุดยืนของตนตอเรื่องการคามนุþยที่ไดเปลี่ยนแปลงจากรายงาน ฉบับแรกที่กลาüถึงการคาĀญิงเพียงการบังคับคาประเüณี มูลนิธิตานการคามนุþยใน เนเธอรแลนดไดรüมกับพันธมิตรÿากลตานการคาĀญิงประÿานงานกับองคกรÿิทธิ มนุþยชนและองคกรผูĀญิงในแตละภูมิภาคทําการýึกþารüบรüมขอมูลเพื่อจัดทํา รายงานเรื่องการคาĀญิง แรงงานบังคับและการปฏิบัติเยี่ยงทาÿในการแตงงาน การ ทํางานบานและการคาประเüณีนําเÿนอตอผูตรüจการพิเýþฯ ที่ไดใĀคüามเĀ็นชอบ ในการจัดทําการýึกþารüบรüมขอมูลครั้งนี้ ในรายงานของผูตรüจการพิเýþฯ ได นําเÿนอปญĀาการคาĀญิงในบริบทของการยายถิ่นทั้งในและนอกประเทý ที่ ครอบคลุมถึงการลี้ภัยและการĀลบĀนีจากคüามขัดแยงรุนแรง โดยใชคํานิยามที่ เÿนอแนะในรายงานและในมาตรฐานÿิทธิมนุþยชนในการปฏิบัติตอผูถูกคาในบริบท ของการยายถิ่น ซึ่งใĀคüามÿําคัญในเรื่องการถูกบังคับใชแรงงานและการปฏิบัติเยี่ยง ทาÿมากกüาที่จะจํากัดอยูเพียงเรื่องการคาประเüณีĀรือการแÿüงĀาประโยชนทาง เพý เนื่องจากรูปแบบการคามนุþยมีĀลากĀลายüัตถุประÿงคที่มิใชมีเฉพาะการคา ประเüณีĀรือการทํางานทางเพý แตยังรüมถึงแรงงานบาน แรงงานฝมือ แรงงานใน ภาคอุตÿาĀกรรม การแตงงาน การรับบุตรบุญธรรมĀรือคüามÿัมพันธอื่น ๆ องคประกอบที่เĀมือนกันในรูปแบบตาง ๆ ของการคามนุþยคือ ๑) การไมไดรับ คüามยินยอม ๒) การมีนายĀนาจัดĀา ๓) การจัดพาเคลื่อนยาย ๔) ÿภาพการทํางาน Āรือคüามÿัมพันธที่ถูกแÿüงĀาประโยชนĀรือตกเปนทาÿ ดังนั้นคํานิยามใด ๆ เกี่ยüกับการคามนุþยจะตองคํานึงถึงองคประกอบทั้งĀมดนี้ และการคุมครอง ผูเÿียĀายจากการคามนุþยไมไดจํากัดอยูเฉพาะในอนุÿัญญาการคามนุþย แตยัง รüมถึงอนุÿัญญาÿิทธิมนุþยชนอื่น ๆ ที่เกี่ยüของดüย และคüรมีการปรับกระบüน ทัýนในการใĀคüามชüยเĀลือผูตกเปนเĀยื่อจากการบุกเขาชüยและบังคับบําบัดฟนฟู เปนการÿงเÿริมคุมครองÿิทธิและการเยียüยา โดยไดĀยิบยกตัüอยางการใĀคüาม ชüยเĀลือผูถูกคามนุþยและแรงงานบังคับตางชาติของมูลนิธิผูĀญิง และพันธมิตร
๓๘ ÿากลตานการคาĀญิง ที่ดําเนินการตามĀลักการÿิทธิมนุþยชน และกลาüถึงการ รüมมือขององคกรภาคเอกชนที่ไดรüมกันจัดทํามาตรฐานÿิทธิมนุþยชนในการปฏิบัติ ตอผูถูกคามนุþย โดยเÿนอแนะใĀรัฐและประชาคมนานาชาติใชเปนแนüทางในการ จัดทํานโยบายและกฎĀมายในเรื่องการคามนุþย คüามพยายามขององคกรผูĀญิงในการรüบรüมขอมูลจัดทํารายงานเรื่อง การคาĀญิงในบริบทของการยายถิ่นเพื่อการจัดทํารายงานของผูตรüจการพิเýþฯ ใน ประเด็นเรื่องการคาĀญิงที่ระบุไüในปฏิญญาขจัดคüามรุนแรงตอผูĀญิงüาเปนคüาม รุนแรงที่เกิดขึ้นในชุมชน ไดกอใĀเกิดประโยชนในการขยายกรอบของการคาĀญิงที่ ไมเนนเพียงเรื่องการคาประเüณีแตไดเชื่อมโยงกับเรื่องการยายถิ่น ที่มีĀลาย üัตถุประÿงค และมีขอเÿนอแนะองคประกอบของการคามนุþยเพื่อพิจารณาในการ จัดทํานิยามของการคาĀญิง และการจัดทํามาตรการนโยบายตาง ๆ ที่คํานึงถึงการ ÿงเÿริม คุมครองÿิทธิมนุþยชนของผูถูกคามนุþย บังคับใชแรงงานและไดรับการ ปฏิบัติเยี่ยงทาÿ รายงานของผูตรüจการพิเýþฯ ในĀัüขอเรื่องการคาĀญิง การยาย ถิ่นของĀญิงและคüามรุนแรง จึงเปนการเริ่มตนในการนําเÿนอคํานิยามเรื่องการคา มนุþยทิ่ไมเคยไดกําĀนดไüทั้งในอนุÿัญญาคามนุþย และขอเÿนอแนะที่ ๑๙ ของ อนุÿัญญาผูĀญิง ตลอดจนแผนปฏิบัติการการของประชุมระดับโลกทั้งเรื่องผูĀญิง และÿิทธิมนุþยชนที่ผานมาซึ่งมีเพียงการเรียกรองใĀดําเนินการปราบปรามการคา Āญิงและเด็กĀญิง และดําเนินการใĀคüามชüยเĀลือแกผูเÿียĀายเทานั้น จึงนับüา เปนคüามกาüĀนาอีกระดับĀนึ่งในการทํางานเรื่องการคาĀญิงที่ริเริ่มพยายามจัดทํา คํานิยามเรื่องการคาĀญิงในบริบทของการยายถิ่นที่ÿามารถกาüเกินการคาประเüณี และการแÿüงĀาประโยชนทางเพýจากผูĀญิง โดยใĀคüามÿําคัญในเรื่องการบังคับใช แรงงานและการปฏิบัติเยี่ยงทาÿ นอกจากนั้น ผูตรüจการพิเýþฯ ยังไดÿนับÿนุนใĀ นําอนุÿัญญาเรื่องการคุมครองÿิทธิของแรงงานยายถิ่นและครอบครัüที่ไดรับการ รับรองมาตั้งแต พ.ý. ๒๕๓๓ แตยังไมมีผลบังคับใชเนื่องจากจํานüนรัฐภาคีที่เปน ÿมาชิกมีเพียง ๑๖ ประเทýในขณะจัดทํารายงาน มาใชในการดําเนินงานในเรื่องนี้ ๑๐. วิวาทะเรื่องการค้ามนุษย์และการค้าประเวณี การคามนุþยโดยเฉพาะการคาĀญิงและเด็กĀญิงเปนประเด็นที่ประชาคม โลกใĀคüามÿนใจมาตั้งแตตนýตüรรþที่ ๒๐ และไดมีการจัดทําอนุÿัญญาĀลายฉบับ เพื่อปราบปรามการคาĀญิงและเด็กĀญิง อนุÿัญญาปราบปรามการคามนุþยและการ แÿüงĀาประโยชนจากการคาประเüณีของผูอื่น พ.ý. ๒๔๙๒ มีเจตนาจัดทําขึ้นเพื่อใช
๓๙ แทนอนุÿัญญาฉบับกอน ๆ ที่เกี่ยüกับเรื่องการคามนุþยแตก็มิไดใĀคํานิยามใด ๆ นอกจากปฏิเÿธระบบโÿเภณีและการคาประเüณี โดยมองüาการคาĀญิงมีเพียง รูปแบบเดียüคือการบังคับคาประเüณี และการแÿüงĀาประโยชนทางเพýแมผู คาประเüณียินยอมก็ตาม อนุÿัญญานี้เรียกรองใĀยกเลิกกฎĀมายในประเทýที่ คüบคุมการจดทะเบียนแĀลงคาประเüณีและผูคาประเüณีโดยÿนับÿนุนใĀรัฐจัด มาตรการปองกันและบริการทางÿังคมเพื่อบําบัดและฟนฟูผูที่ถูกบังคับคาประเüณี อนุÿัญญาฉบับนี้ใชแนüทางการĀามปรามเพื่อลมเลิกระบบโÿเภณี(Abolitionist) โดยใชมาตรการทางอาญาเอาผิดตอบุคคลที่ÿามซึ่งแÿüงĀาประโยชนแตไมลงโทþ ผูคาประเüณี กลุมองคกรที่ทํางานเรื่องการคามนุþยและการคาประเüณีในชüง ทýüรรþÿตรีทั่üโลกตางดําเนินการรณรงคในแนüทางของอนุÿัญญานี้ โครงการคํา ĀลาของมูลนิธิผูĀญิงที่ตองการขจัดการนําเด็กĀญิงมาคาประเüณีก็เชนเดียüกัน แนüทางนี้มองüาการคาประเüณีลบĀลูýักดิ์ýรีคüามเปนมนุþยของผูĀญิงที่ถูกนํามา แÿüงĀาประโยชนทางเพýโดยการนําพา บังคับและลอลüง แนüคิดนี้ไดยืนยันระบุไü ในขอ ๖ ของอนุÿัญญาผูĀญิง และปฏิญญาขจัดคüามรุนแรงตอผูĀญิงที่ไดกําĀนดüา การคาประเüณีเปนรูปแบบĀนึ่งของคüามรุนแรงตอผูĀญิง แนüคิดนี้ไมแยกเรื่อง การคาĀญิงและการคาประเüณีออกจากกัน ตอมาไดมีการรüมตัüกันของĀญิงโÿเภณี ในÿังคมตะüันตกที่เริ่มโตแยงüาการคาประเüณีเปนรูปแบบĀนึ่งของการทํางาน โดย เรียกüาเปนงานบริการทางเพý (sex work) และเรียกตนเองüาคนทํางานบริการทาง เพý (sex worker) ที่ตองไดรับการคุมครองÿิทธิทางแรงงาน และคüามรุนแรงจาก การทํางาน การเคลื่อนไĀüรณรงคเรื่องการคามนุþยÿงผลตอĀญิงบริการทางเพý และเกิดการเĀมารüมüาĀญิงที่ทํางานบริการทางเพýลüนเปนเĀยื่อของการคามนุþย Āญิงที่ทํางานใĀบริการทางเพýไดจัดประชุมโÿเภณีระดับโลกÿองครั้ง ใน พ.ý. ๒๕๒๘ ที่กรุงอัมÿเตอรดัม ประเทýเนเธอรแลนด และครั้งที่ÿองใน พ.ý. ๒๕๒๙ ที่ รัฐÿภาประชาคมยุโรป กรุงบรัÿเซล ประเทýเบลเยี่ยม โดยมีผูแทนจากĀลาย ประเทýเขารüมรüมทั้งผูแทนจากýูนยขาüผูĀญิงและĀญิงโÿเภณีจากประเทýไทย ที่ ประชุมมีขอเรียกรองใĀรัฐไมเอาผิดตอผูĀญิงที่คาประเüณี และคัดคานการจด ทะเบียนโÿเภณี ตอมามูลนิธิผูĀญิงและพันธมิตรทั่üโลกตานการคาĀญิงไดจัดใĀมี การÿัมมนาแลกเปลี่ยนคüามคิดเĀ็นระĀüางกลุมองคกรที่ทํางานเรื่องการคาĀญิงกับ กลุมĀญิงบริการทางเพý ÿงผลใĀเกิดการตระĀนักถึงคüามจําเปนที่จะตองแยก ปญĀาการคามนุþยและการคาประเüณีออกจากกันในการüิเคราะĀและจัดทําแนü ทางแกไขในกรอบของĀลักการÿิทธิมนุþยชนที่จะตองÿงเÿริมคุมครองÿิทธิของผูที่