The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานวิจัยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในอปท

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สนง.พมจ.บุรีรัมย์, 2021-05-03 05:36:22

สื่อประชาสัมพันธ์ สนง.ป.ป.ช. NACCmedia

รายงานวิจัยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในอปท

Keywords: สื่อประชาสัมพันธ์ สนง.ป.ป.ช. NACCmedia

391

392

393

ภาคผนวก 3 กําหนดจํานวนเงินค่ าใช้ จ่ ายในการเลือกตัง้ ของผู้สมัครรับเลือกตัง้
สมาชิกสภาท้องถ่นิ เเละผู้บริหารท้องถ่นิ จังหวัดนครราชสีมา ปี 2552

ลาํ ดบั ท่ี องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ นายก สมาชกิ

ใช้จา่ ยในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน ใช้จ่ายในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน

1 องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั (อบจ.) 17,000,000 บาท 400,000 บาท

-คา่ สมคั ร 30,000 บาท -คา่ สมคั ร 2,000 บาท

ใช้จา่ ยในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน ใช้จ่ายในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน

2 เทศบาลนคร(ทน.) 2,000,000 บาท 400,000 บาท

-คา่ สมคั ร 10,000 บาท -คา่ สมคั ร 5,000 บาท

ใช้จ่ายในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน ใช้จ่ายในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน

3 เทศบาลเมือง(ทม.) 500,000 บาท 150,000 บาท

-คา่ สมคั ร 8,000 บาท -คา่ สมคั ร 3,000 บาท

ใช้จ่ายในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน ใช้จ่ายในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน

4 เทศบาลตาํ บล(ทต.) 250,000 บาท 100,000 บาท

-คา่ สมคั ร 5,000 บาท -คา่ สมคั ร 2,000 บาท

ใช้จ่ายในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน

อบต.ขนาดเลก็ 300,000 บาท ใช้จา่ ยในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน

5 องค์การบริหารสว่ นตําบล(อบต.) อบต.ขนาดกลาง 400,000 บาท 50,000 บาท

อบต.ขนาดใหญ่ 500,000 บาท -คา่ สมคั ร 500 บาท

-คา่ สมคั ร 2,000 บาท

หมายเหตุ กรณีเลือกตงั้ ใหม่ (กกต.ยงั ไมป่ ระกาศรับรองผลการเลอื กตงั้ )
ผ้สู มคั รเเตล่ ะคนสามารถใช้จา่ ยในเลือกตงั้ ครัง้ ใหมไ่ ด้ไมเ่ กิน 1 ใน 3 เเล้วเเตก่ รณี

394

ลาํ ดบั ท่ี องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ นายก สมาชกิ

ใช้จา่ ยในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน ใช้จา่ ยในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน

1 องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั (อบจ.) 5,666,000 บาท 133,000 บาท

ใช้จา่ ยในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน ใช้จา่ ยในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน

2 เทศบาลนคร(ทน.) 666,000 บาท 133,000 บาท

ใช้จ่ายในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน ใช้จ่ายในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน

3 เทศบาลเมือง(ทม.) 166,000 บาท 50,000 บาท

ใช้จ่ายในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน ใช้จ่ายในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน

4 เทศบาลตําบล(ทต.) 83,000 บาท 33,000 บาท

ใช้จา่ ยในการเลอื กตงั้ ได้ไมเ่ กิน

อบต.ขนาดเลก็ 100,000 บาท ใช้จา่ ยในการเลือกตงั้ ได้ไมเ่ กิน

5 องค์การบริหารสว่ นตาํ บล(อบต.) อบต.ขนาดกลาง 133,000 บาท 16,000 บาท

อบต.ขนาดใหญ่ 166,000 บาท

งานพรรคการเมือง สนง.กกต.จว.นครราชสีมา

395

ภาคผนวก 4 รายละเอยี ดงบประมาณรายจ่ายท่วั ไป ประจาํ ปี งบประมาณ พ.ศ. 2555
องค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งหน่ึงในภาคใต้ รายจ่ายจาํ แนกตามหน่วยงาน กองแผน
และงบประมาณ

**********************

ตัง้ งบประมาณรายจ่ายทงั้ ส้ิน 74,400,540.- บาท แยกเป็ น

1. รายจ่ายประจาํ ตงั้ ไว้รวม 73,395,140.- บาท แยกเป็ น

1.1 หมวดค่าตอบแทน ใช้สอยและวัสดุ ตงั้ ไว้รวม 72,397,240.- บาท แยกเป็ น

ค่าใช้สอย
1.1.1 ประเภทรายจ่ายเพ่ือให้ได้มาซ่ึงบริการ ตัง้ ไว้ 17,280,000.- บาท เพื่อ
จ่ายเป็ นค่าจ้างเหมารถพยาบาลฉกุ เฉินพร้อมอปุ กรณ์ เพื่อใช้ในการบริการการแพทย์ฉกุ เฉินให้กับ
ประชาชนในพืน้ ท่ีจงั หวดั จํานวน 60 คนั ตัง้ จ่ายจากเงินรายได้ (ปรากฏในแผนงานสาธารณสุข
งานบริการสาธารณสขุ และงานสาธารณสขุ อื่น) (00223)
1.1.2 ประเภทรายจ่ายเพ่ือให้ได้มาซ่ึงบริการ ตัง้ ไว้ 80,000.- บาท เพื่อเป็ น
คา่ ใช้จ่ายในการจดั ทําเว็บไซต์ ศนู ย์บริการข้อมลู ขององค์การบริการสว่ นจงั หวดั เช่น คา่ เช่าพืน้ ที่ คา่
ปรับปรุงระบบ คา่ ดแู ลรักษาระบบ ตงั้ จ่ายจากเงนิ รายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไป งาน
บริหารทว่ั ไป) (00111)
1.1.3 ประเภทรายจ่ายเพ่ือให้ได้มาซ่ึงบริการ ตัง้ ไว้ 300,000.- บาท เพ่ือเป็ น
คา่ เช่าเครื่องถ่ายเอกสาร เพื่อใช้ในการปฏิบตั ิงานในภารกิจขององค์การบริหารส่วนจงั หวดั ตัง้ จ่าย
จากเงนิ รายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไป งานบริหารทว่ั ไป) (00111)
1.1.4 ประเภทรายจ่ายเก่ียวเน่ืองกับการปฏิบัตริ าชการท่ีไม่เข้าลักษณะรายจ่าย
หมวดอ่ืนๆ ตัง้ ไว้ 600,000.- บาท เพื่อจ่ายเป็ นค่าดําเนินการในการประชมุ อบรม สมั มนาและ
ทศั นศกึ ษาดงู านบคุ ลากรขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน คณะกรรมการพฒั นาองค์กรปกครองสว่ น
ท้องถ่ิน คณะกรรมการแผนชมุ ชน ประชาคมและประชาชน ฯลฯ ในจงั หวดั เพื่อให้เป็ นไปตามระเบียบ
กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดั ทําและประสานแผนพฒั นาท้องถ่ินและหนงั สือสงั่ การที่เกี่ยวข้อง
ตงั้ จ่ายจากเงนิ รายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไป งานวางแผนสถิตแิ ละวิชาการ) (00112)
1.1.5 ประเภทรายจ่ายเก่ียวเน่ืองกับการปฏิบัติราชการท่ีไม่เข้าลักษณะรายจ่าย
หมวดอ่ืน ๆ ตัง้ ไว้ 300,000.- บาท เพ่ือจ่ายเป็ นค่าใช้จ่ายตามโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ
เจ้าหน้าที่ผ้ดู แู ลศนู ย์คอมพิวเตอร์องค์การบริหารส่วนจงั หวดั ตัง้ จ่ายจากเงินรายได้ (ปรากฏใน
แผนงานบริหารงานทวั่ ไป งานบริหารทวั่ ไป) (00111)

396

1.1.6 ประเภทรายจ่ายเก่ียวเน่ืองกับการปฏิบัติราชการท่ีไม่เข้าลักษณะรายจ่าย
หมวดอ่ืนๆ ตัง้ ไว้ 8,000,000.-บาท เพื่อจ่ายเป็ นค่าดําเนินการจดั ทําโครงการ/กิจกรรม ด้านการ
พฒั นาเศรษฐกิจและการส่งเสริมอาชีพ ได้แก่ การจดั ประชมุ การจดั อบรมสมั มนา ทศั นศกึ ษาดงู าน
การจดั งาน/กิจกรรม เพ่ือเพ่ิมพนู ความรู้ทกั ษะในการประกอบอาชีพ การส่งเสริมการเกษตร สง่ เสริม
การตลาด การสง่ เสริมและพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ชมุ ชน การพฒั นาฝี มือแรงงาน การสง่ เสริมวิชาการและ
เทคโนโลยี ตลอดทงั้ การดําเนินการตา่ ง ๆ เพ่ือสง่ เสริม สนบั สนนุ แก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและการ
ประกอบอาชีพของประชาชน เช่น การอบรมอาชีพหลกั สตู รระยะสนั้ , การจดั อบรมสมั มนาให้ความรู้
ทางวิชาการ, การทัศนศึกษาดงู านด้านการส่งเสริมอาชีพให้แก่เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน เครือข่าย
ผ้ปู ฏิบตั ิงานด้านการพฒั นาชุมชน กล่มุ องค์กร ชมรม เครือข่ายต่าง ๆ ประชาชน, การจดั งานเพื่อ
พฒั นาเศรษฐกิจและสง่ เสริมอาชีพ ฯลฯ โดยดําเนินการเองหรือร่วมดําเนินการกบั องค์กรภาคีต่าง ๆ
ทงั้ ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรประชาชน องค์กรเพ่ือการสาธารณประโยชน์อ่ืนท่ีเก่ียวข้อง ตงั้ จ่ายจาก
เงินรายได้ (ปรากฏในแผนงานสร้ างความเข้มแข็งของชุมชน งานส่งเสริมและสนับสนุนความ
เข้มแข็งชมุ ชน) (00252)

1.1.7 ประเภทรายจ่ายเก่ียวเน่ืองกับการปฏิบัตริ าชการท่ีไม่เข้าลักษณะรายจ่ายหมวด
อ่ืน ๆ ตัง้ ไว้ 42,955,240.- บาท เพ่ือจ่ายเป็ นค่าดําเนินการจัดทําโครงการ/กิจกรรม ด้านการ
พฒั นาสงั คม พฒั นาคณุ ภาพชีวิตการพฒั นาสถาบนั ครอบครัวและสงั คม การสงั คมสงเคราะห์ การ
สาธารณสขุ ได้แก่ การจดั ประชมุ การจดั อบรมสมั มนา ทศั นศกึ ษา ดงู าน การจดั งาน/กิจกรรมตา่ ง ๆ
เพื่อเป็ นการส่งเสริม สนับสนุน ตลอดทัง้ การแก้ ไขปัญหาให้ กับเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ
ผ้ดู ้อยโอกาส ผ้ปู ระสบปัญหาทางสงั คม และเพ่ือสง่ เสริมสขุ ภาพอนามยั การค้มุ ครองผ้บู ริโภค การ
ป้ องกันควบคุมโรค การรักษาพยาบาล การแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก เช่น การจัดงาน/
กิจกรรมวนั สตรีสากล วนั อสม. โครงการตรวจสขุ ภาพเบือ้ งต้น อสม. วนั ผู้สูงอายุ โครงการตรวจ
สขุ ภาพเบือ้ งต้นผู้สูงอายุ วนั แรงงานแห่งชาติ วนั ค้มุ ครองผู้บริโภค การจดั อบรมสมั มนาเพื่อสร้ าง
เครือข่ายการพัฒนาสังคมและการสาธารณสุข การจัดอบรมหลักสูตรนวดแผนไทย ฯลฯ โดย
ดําเนินการเองหรือร่วมดําเนินการกบั องค์กรภาคีต่าง ๆ ทงั้ ภาครัฐภาคเอกชนองค์กรประชาชนองค์กรเพื่อ
การสาธารณประโยชน์อื่นท่ีเกี่ยวข้องตงั้ จ่ายจากเงนิ รายได้ (ปรากฏในแผนงานสร้างความเข้มแข็งของชมุ ชน งาน
สง่ เสริมและสนบั สนนุ ความเข้มแข็งชมุ ชน) (00252)

1.1.8 ประเภทรายจ่ายเก่ียวเน่ืองกับการปฏิบัติราชการท่ีไม่เข้าลักษณะรายจ่าย
หมวด อ่ืน ๆ ตัง้ ไว้ 200,000.- บาท เพื่อจ่ายเป็ นคา่ ใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในราชอาณาจกั ร
และนอกราชอาณาจกั รสําหรับข้าราชการ ลกู จ้างประจําและพนกั งานจ้างท่ีปฏิบตั ิงานในสงั กัดกอง
แผนและงบประมาณ เช่น ค่าเบีย้ เลีย้ งเดินทาง ค่าเช่าที่พกั ค่าพาหนะ ค่าบริการจอดรถ ณ ท่า

397

อากาศยาน คา่ ผา่ นทางดว่ นพเิ ศษ คา่ ธรรมเนียมในการใช้สนามบนิ ฯลฯ โดยเบกิ จ่ายตามที่ระเบียบและหนงั สือ
สงั่ การกําหนด ตงั้ จ่ายจากเงนิ รายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไปงานวางแผนสถิติและวิชาการ)
(00112)

ค่าวัสดุ
1.1.9 ประเภทวัสดุคอมพิวเตอร์ ตัง้ ไว้ 2,682,000.- บาท เพ่ือจ่ายเป็ นค่าวสั ดุ
คอมพิวเตอร์สําหรับใช้ในการปฏิบตั ิงานขององค์การบริหารส่วนจงั หวดั ได้แก่ แผ่นหรือจานบนั ทึก
ข้อมูล แป้ นพิมพ์ เมนบอร์ด เมาส์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์ ฯลฯ ตัง้ จ่ายจากเงินรายได้
(ปรากฏในแผนงานบริหารงานทวั่ ไป งานบริหารทวั่ ไป) (00111)

1.2 หมวดค่าสาธารณูปโภค ตงั้ ไว้ 897,900.- บาท แยกเป็ น
1.2.1 ประเภทค่าโทรศัพท์ ตัง้ ไว้ 135,000.- บาท เพื่อจ่ายเป็ นค่าเช่าและ

บริการโทรศพั ท์ตามโครงการระบบติดตามยานพาหนะขององค์การบริหารส่วนจงั หวดั ตัง้ จ่ายจาก
เงนิ รายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไป งานบริหารทวั่ ไป) (00111)

1.2.2 ประเภทค่าบริการทางด้านโทรคมนาคม ตงั้ ไว้ 762,900.- บาท เพ่ือจ่าย
เป็ นค่าใช้จ่ายเก่ียวกับการใช้บริการระบบอินเตอร์เน็ต และค่าสื่อสารอ่ืน ๆ ตามโครงการปรับปรุง
ระบบเครือข่ายและการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ตัง้ จ่ายจากเงินรายได้
(ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไป งานบริหารทวั่ ไป) (00111)

1.3 หมวดเงนิ อุดหนุน ตงั้ ไว้ 100,000.-บาท แยกเป็ น
1.3.1 ประเภทเงนิ อุดหนุนหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเอกชนในกิจกรรมอัน

เป็ นสาธารณประโยชน์ ตัง้ ไว้ 100,000.-บาท เพ่ืออดุ หนุนโรงพยาบาล สําหรับจดั ซือ้ หุ่นจําลอง
PPR สําหรับใช้อบรมเชิงปฏิบตั ิการช่วยฟื น้ ชีพขนั้ สงู ตัง้ จ่ายจากเงินรายได้ (ปรากฏในแผนงาน
สาธารณสขุ งานบริการสาธารณสขุ และงานสาธารณสขุ อื่น) (00223)

2. รายจ่ายเพ่ือการลงทนุ ตงั้ ไว้ 1,005,400.-บาท แยกเป็ น

2.1 หมวดค่าครุภณั ฑ์ท่ดี นิ และส่ิงก่อสร้าง ตงั้ ไว้ 1,005,400.-บาท แยกเป็ น
ค่าครุภณั ฑ์

2.1.1 ประเภทครุภัณฑ์สํานักงาน ตัง้ ไว้ 20,000.- บาท เพ่ือจ่ายเป็ นค่าจดั ซือ้
เก้าอีท้ ํางานแบบมีล้อเลื่อนมีพนักพิงแบบสวิงมีท่ีท้าวแขน จํานวน10ตวั ตงั้ ตามราคาท้องตลาด เนื่องจาก
ครุภัณฑ์ชนิดนีไ้ ม่มีกําหนดในบญั ชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ปี 2554 สํานักมาตรฐานงบประมาณ
สํานกั งบประมาณตัง้ จ่ายจากเงินรายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไปงานวางแผนสถิติและวิชาการ)
(00112)

398

2.1.2 ประเภทครุภัณฑ์สํานักงาน ตัง้ ไว้ 19,500.-บาท เพ่ือจ่ายเป็ นค่าจดั ซือ้ ตู้
เหล็กชนิด 2 บาน ขนาดไม่ตํ่ากว่า 5 ฟุต จํานวน 3 ตวั ตงั้ ตามราคาท้องตลาด เน่ืองจากครุภณั ฑ์
ชนิดนีไ้ ม่มีกําหนดในบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ปี 2554 สํานักมาตรฐานต้นทุนงบประมาณ
สํานกั งบประมาณ ตัง้ จ่ายจากเงินรายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไป งานวางแผนสถิติ
และวชิ าการ) (00112)

2.1.3 ประเภทครุภัณฑ์สํานักงาน ตัง้ ไว้ 16,400.-บาท เพ่ือจ่ายเป็ นค่ารถเข็น
เอนกประสงค์ชนั้ เดียวแฮนด์พบั ได้ ขนาดไม่น้อยกวา่ 110 x 765 x 915 มม.จํานวน 2 คนั ตงั้ ตาม
ราคาท้องตลาด เน่ืองจากครุภณั ฑ์ชนิดนีไ้ มม่ ีกําหนดในบญั ชีราคามาตรฐานครุภณั ฑ์ปี 2554 สํานกั
มาตรฐานต้นทุนงบประมาณ สํานักงบประมาณ ตัง้ จ่ายจากเงินรายได้ (ปรากฏในแผนงาน
บริหารงานทว่ั ไป งานวางแผนสถิตแิ ละวชิ าการ) (00112)

2.1.4 ประเภทครุภณั ฑ์สาํ นักงาน ตงั้ ไว้ 63,000.-บาท เพื่อจ่ายเป็ นคา่ จดั ซือ้ โต๊ะ
ทํางานแบบไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด ปิ ดผิวด้วยเมลามีน พร้ อมด้วยต่อข้างมีลิน้ ชักสําหรับวางคีย์บอร์ด
เล่ือนเข้าออกได้ จํานวน 7 ตวั ตงั้ ตามราคาท้องตลาด เน่ืองจากครุภณั ฑ์ชนิดนีไ้ ม่มีกําหนดในบญั ชี
ราคามาตรฐานครุภณั ฑ์ ปี 2554 สํานกั มาตรฐานงบประมาณ สํานกั งบประมาณ ตัง้ จ่ายจากเงิน
รายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทวั่ ไป งานวางแผนสถิตแิ ละวิชาการ) (00112)

2.1.5 ประเภทครุภัณฑ์งานบ้านงานครัว ตัง้ ไว้ 6,500.-บาท เพื่อจ่ายเป็ นค่าจดั ซือ้
ตู้เย็น ขนาด 5 คิวบิกฟุต จํานวน 1 ตู้ ตัง้ ตามราคามาตรฐานครุภัณฑ์ปี 2554 สํานักมาตรฐาน
งบประมาณ สํานกั งบประมาณตัง้ จ่ายจากเงนิ รายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทวั่ ไป งานวางแผน
สถิตแิ ละวิชาการ) (00112)

2.1.6 ประเภทครุภัณฑ์โรงงาน ตัง้ ไว้ 10,000.-บาท เพื่อจ่ายเป็ นคา่ จดั ซือ้ สว่าน
ไฟฟ้ า จํานวน 1 ตัว ตัง้ ตามราคาท้องตลาด เน่ืองจากครุภัณฑ์ชนิดนีไ้ ม่มีกําหนดในบัญชีราคา
มาตรฐานครุภณั ฑ์ ปี 2554 สํานกั มาตรฐานงบประมาณ สํานกั งบประมาณ ตัง้ จ่ายจากเงินรายได้
(ปรากฏในแผนงานบริหารงานทว่ั ไป งานวางแผนสถิตแิ ละวิชาการ) (00112)

399

2.1.7 ประเภทครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ตัง้ ไว้ 320,000.-บาท เพ่ือจ่ายเป็ นค่า
จดั ซือ้ อปุ กรณ์ป้ องกนั เครือข่าย(Firewall) ชนิด Stateful Inspection firewall แบบ Appliance
สามารถทํางานในลกั ษณะ Transparent mode และ Route Mode ได้ มี Throughput ของ firewall
Inspection จํานวนไม่น้อยกว่า 250 Mbps ตงั้ ตามราคาท้องตลาด เน่ืองจากครุภณั ฑ์ชนิดนีไ้ ม่มี
กําหนดในบญั ชีราคามาตรฐานครุภณั ฑ์ ปี 2554สํานกั มาตรฐานงบประมาณสํานกั งบประมาณตัง้ จ่ายจากเงนิ
รายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทวั่ ไป งานวางแผนสถิตแิ ละวิชาการ) (00112)

ค่าท่ดี นิ และส่ิงก่อสร้าง
2.1.8 ประเภทค่าต่อเติมหรือดัดแปลงอาคาร ตัง้ ไว้ 550,000.-บาท เพ่ือจ่ายเป็ นค่า
ปรับปรุง ห้องเซริ ์ฟเวอร์ตามโครงการปรับปรุงระบบเครือขา่ ยและการเชื่อมตอ่ อนิ เตอร์เน็ตขององค์การ
บริหารสว่ นจงั หวดั โดยกนั้ ห้องส่วนท่ีเก็บเซิร์ฟเวอร์ พร้อมติดตงั้ ต้เู ก็บอปุ กรณ์แบบ build in พร้อม
ปรับปรุงหลงั คา และเดินสายสญั ญาณต่างๆให้เรียบร้อย ตามแบบแปลนองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั
ตงั้ จา่ ยจากเงินรายได้ (ปรากฏในแผนงานบริหารงานทวั่ ไปงานบริหารทว่ั ไป)(00111)

********************



400

ภาคผนวก 5 ภาพรวมของการปกครองส่วนท้องถ่นิ ในประเทศไทย

1. การปกครองส่วนท้องถ่นิ ในประเทศไทย

1.1 พฒั นาการของการปกครองท้องถ่นิ ของไทย
การปกครองท้องถิ่นของไทยได้เริ่มมีการวางรากฐานมาตงั้ แตใ่ นรัชสมยั ของพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้มีการจัดตงั้ สขุ าภิบาลขึน้ ในกรุงเทพฯ สขุ าภิบาลท่าฉลอม และ
ขยายไปสู่การจัดตัง้ สุขาภิบาลตามหัวเมืองต่าง ๆ ตามมา โดยมีภารกิจทางด้านการจัดบริการ
สาธารณะเพ่ือความสะอาดความเป็ นระเบียบเรียบร้ อยแก่บ้านเมืองมากกว่าการมุ่งหมายให้
ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครอง ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัวได้มีการจัดตัง้ “ดุสิตธานี” ขึน้ เพื่อทดลองและฝึ กสอนการปกครองท้องถิ่นในรูปของ
เทศบาล สว่ นการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบสขุ าภิบาลท่ีมีอย่เู ดมิ นนั้ ไม่ได้รับการสนบั สนนุ ตอ่ จึงทํา
ให้สขุ าภิบาลไมม่ ีการพฒั นาและจํานวนสขุ าภิบาลที่มีอย่ทู วั่ ประเทศจํานวน 55 แห่งก็ไมไ่ ด้เพ่ิมขึน้ แต่
อย่างใด เม่ือมาถึงในรัชสมยั ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั ได้มีการพยายามจดั ตงั้
เทศบาลขนึ ้ แตก่ ็ไมป่ ระสบความสําเร็จเน่ืองจากมีการปฏวิ ตั เิ ปล่ียนแปลงการปกครองเสยี ก่อน
ภายหลังจากที่มีการเปล่ียนแปลงการปกครองเป็ นระบอบประชาธิปไตยใน พ.ศ. 2475
แนวคิดเร่ืองการกระจายอํานาจได้มีความสําคญั มากขึน้ โดยได้มีการจัดตัง้ องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นในรูปแบบตา่ ง ๆ ขนึ ้ โดยเริ่มจากการจดั ตงั้ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาลโดย
รัฐบาลคณะราษฎร ซง่ึ สง่ ผลให้การปกครองในรูปแบบสขุ าภิบาลหมดไป แตใ่ นสมยั รัฐบาลของจอม
พล ป. พิบลู สงคราม ได้มีการนําการปกครองท้องถิ่นรูปแบบสขุ าภิบาลมาใช้อีกครัง้ หนงึ่ ควบคกู่ บั การ
ปกครองท้องถ่ินในรูปแบบเทศบาล รวมทงั้ ได้มีการจดั ตงั้ องค์การบริหารส่วนจงั หวดั การจดั ตงั้ สภา
ตําบล จนกระทั่งใน พ.ศ. 2499 ก็ได้มีการจัดตัง้ องค์การบริหารส่วนตําบลตามพระราชบญั ญตั ิ
องค์การบริหารส่วนตําบล พ.ศ. 2499 ขึน้ แตใ่ นสมยั รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร ได้การยกเลิก
องค์การบริหารสว่ นตําบลดงั กลา่ วและให้มีสภาตําบลเพียงรูปแบบเดียว จนกระทง่ั ใน พ.ศ. 2537 ได้
มีประกาศใช้พระราชบญั ญตั ิสภาตําบลและองค์การบริหารสว่ นตําบล พ.ศ. 2537 ซง่ึ ได้กําหนดให้มี
การจดั ตงั้ องค์การบริหารสว่ นตาํ บลขนึ ้ มาอีกครัง้ หนง่ึ
นอกจากการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบทั่วไปดงั ที่ได้กล่าวมาแล้วยังได้มีการจัดตัง้
ปกครองท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษขึน้ อนั ได้แก่การจดั ตงั้ กรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2518 และเมือง
พทั ยาในปี พ.ศ. 2521 อนั เนื่องมาจากสภาพการณ์ของทงั้ สองแห่งมีลกั ษณะพิเศษท่ีมีความแตกตา่ ง

401

จากท้องถิ่นอื่น ๆ ซึ่งทําให้ต้องใช้รูปแบบการปกครองที่มีความแตกต่างกันออกไปด้วยเพื่อให้เกิด
ความเหมาะสมกบั แตล่ ะท้องถิ่นที่มีลกั ษณะพเิ ศษนนั้

ถึงแม้วา่ ประเทศไทยจะมีการพฒั นาในเรื่องการปกครองท้องถ่ินขนึ ้ มาเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม
การจัดการปกครองดงั กล่าวก็ไม่ได้เป็ นไปในแนวทางหลกั การปกครองตนเองของท้องถิ่นมากนัก
เนื่องจากความที่ประเทศไทยเป็ นรัฐรวมและมีวฒั นธรรมในการรวมศนู ย์อํานาจ อีกทงั้ ตวั ประชาชน
ในท้องถ่ินนนั้ ยงั ขาดความรู้ความสนใจในการมีสว่ นร่วมในปกครองท้องถิ่นของตน และอีกด้านหนึ่ง
ภาครัฐเองก็ไมไ่ ด้มีกฎหมายที่เปิ ดช่องให้ประชาชนเข้าไปมีสว่ นร่วมได้มากนกั ดงั นนั้ เม่ือมีการปฏิรูป
การเมืองอนั นํามาซงึ่ การประกาศใช้รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 จงึ ได้มีบทบญั ญตั ิ
ที่เก่ียวกับท้ องถ่ินในแง่การกระจายอํานาจและแก้ ปัญหาท่ีเกิดขึน้ ในอดีตอันทําให้ เกิดการ
เปล่ียนแปลงในสว่ นของการปกครองสว่ นท้องถ่ิน ดงั นี ้

ในด้านโครงสร้างภายในของการปกครองสว่ นท้องถิ่นได้มีการกําหนดให้องค์กรปกครองสว่ น
ท้องถิ่นต้องประกอบไปด้วยสภาท้องถ่ินและผ้บู ริหารหรือคณะผ้บู ริหารท้องถิ่นซงึ่ ใช้อํานาจแยกจาก
กนั 1 ดงั นนั้ จงึ สง่ ผลให้องค์กรปกครองท้องถ่ินในรูปแบบสขุ าภิบาลต้องถกู ยบุ ไป มีการกําหนดให้ที่มา
ของสมาชิกสภาท้ องถิ่นและองค์กรท่ีทําหน้ าที่บริหารโดยสมาชิกสภาท้ องถ่ินต้ องมาจากการเลือกตงั ้
โดยตรงจากประชาชนและให้คณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถ่ินมาจากการเลือกตงั้ จาก
ประชาชนหรือมาจากความเห็นชอบของสภาท้องถ่ิน นอกจากนีย้ งั มีการเปล่ียนแปลงในเร่ืองวาระใน
การดํารงตําแหน่งของสภาท้องถิ่นและคณะผู้บริหารหรือผู้บริหารท้องถ่ิน ซึ่งเดิมมีวาระการดํารง
ตําแหน่งไม่เท่ากนั รัฐธรรมนูญ ก็ได้กําหนดให้สภาท้องถ่ินและคณะผ้บู ริหารหรือผ้บู ริหารท้องถ่ินมี
วาระดํารงตาํ แหน่งคราวละ 4 ปี 2

ด้านอํานาจหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีการตรากฎหมายกําหนดแผนและ
ขนั้ ตอนการกระจายอํานาจขนึ ้ เพ่ือจดั ตงั้ คณะกรรมการการกระจายอํานาจ ทําหน้าที่ในการจดั สรร
อํานาจหน้าท่ีระหว่างรัฐกบั ท้องถิ่น โดยที่ต้องมีการทบทวนการจดั สรรดงั กล่าวทกุ 5 ปี นอกจากนี ้
รัฐธรรมนญู ยงั ได้บญั ญตั ิอํานาจหน้าท่ีบางประการไว้ในรัฐธรรมนญู เลยว่าหน้าท่ีได้ที่โดยสภาพแล้ว
ควรเป็ นของท้องถิ่น ซ่ึงแบ่งได้เป็ น 2 กรณี คือ ในเร่ืองการบํารุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิ

1 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 285
2 รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 285

402

ปัญญาท้องถิ่น วฒั นธรรมอนั ดีของท้องถ่ิน และการจดั การศึกษาอบรม3 และเรื่องการส่งเสริมและ
รักษาคณุ ภาพสงิ่ แวดล้อม4

ในส่วนของด้านการคลงั ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรัฐธรรมนูญฉบบั พ.ศ. 2540 ได้
กําหนดให้มีคณะกรรมการการกระจายอํานาจเป็ นผ้ทู ําหน้าท่ีจดั สรรสดั สว่ นภาษีและอากรระหว่างรัฐ
กบั องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต่อมาได้มีการกําหนดแผนการกระจายรายได้ให้แก่ท้องถิ่นใน
พระราชบญั ญัติกําหนดแผนและขนั้ ตอนการการกระจายรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. 2542 เพ่ือให้ท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึน้ จากเดิมโดยท่ีรัฐต้องกระจายรายได้จากสว่ นกลางไปให้
ท้องถ่ินด้วย

ด้านการบริหารงานบคุ คลของท้องถ่ิน ซงึ่ เดิมการบริหารงานบคุ คลขององค์กรปกครองสว่ น
ท้องถ่ิน อนั ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตําบล เทศบาล องค์การบริหารส่วนจงั หวดั เมืองพทั ยาและ
กรุงเทพมหานคร จะใช้ระบบในการบริหารงานบคุ คลแยกออกจากกนั รัฐธรรมนญู ฉบบั พ.ศ. 25405
ได้วางแนวทางให้ระบบการบริหารงานบคุ คลของท้องถิ่นที่แยกออกจากกนั มาเช่ือมโยงกนั อย่ภู ายใต้
คณะกรรมการข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ก.ถ.) ทําให้ข้าราชการหรือพนกั งานขององค์กรปกครองสว่ น
ท้องถิ่นแต่ละประเภทมาขึน้ อยู่กับศูนย์กลางเดียวกัน คือ ก.ถ. เพื่อให้การไหลเวียนของบุคลากร
ระหว่างท้องถิ่นเป็ นไปได้อย่างสะดวกมากขึน้ ส่วนองค์ประกอบของคณะกรรมการข้าราชการส่วน
ท้องถิ่นนัน้ ก็ใช้รูปแบบไตรภาคี อันประกอบไปด้วยผู้แทนของรัฐบาล ผู้แทนของท้องถ่ิน และ
ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิที่เป็ นกลางฝ่ ายละเท่าๆกนั อนั ทําให้การควบคมุ การบริหารงานบคุ คลในองค์กรปกครอง
สว่ นท้องถ่ินโดยสว่ นกลางเพียงฝ่ ายเดียวสนิ ้ สดุ ลง

สําหรับด้านการกํากบั ดแู ลท้องถิ่นโดยราชการสว่ นกลางนนั้ รัฐธรรมนญู ฉบบั พ.ศ. 2540 ได้
บญั ญตั ิในส่วนของการกํากบั ดแู ลเพ่ิมเติมจากรัฐธรรมนญู ฉบบั พ.ศ. 2534 โดยการกํากบั ดแู ลโดย
สว่ นกลางนนั้ จะต้องทําเท่าท่ีจําเป็ น เฉพาะตามที่กฎหมายบญั ญตั โิ ดยกฎหมายนีต้ ้องเป็ นกฎหมายที่
ออกโดยฝ่ ายนิติบญั ญัติ การกํากบั ดแู ลนีต้ ้องเป็ นไปเพื่อวตั ถปุ ระสงค์ในการค้มุ ครองประโยชน์ของ
ประชาชนในท้องถิ่น หรือเพ่ือการค้มุ ครองประโยชน์ของประเทศเป็ นส่วนรวม ทงั้ นีก้ ารกํากบั ดแู ลจะ
กระทบถึงสาระสําคญั แห่งหลกั การปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถ่ินไม่ได้
และการกํากบั ดแู ลจะกระทํานอกเหนือจากที่กฎหมายบญั ญตั ไิ มไ่ ด้6

3 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 289
4 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 290
5 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 284 และมาตรา288
6 รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 283

403

นอกจากนีใ้ นสว่ นของการมีสว่ นร่วมของประชาชนในท้องถิ่น รัฐธรรมนญู ฉบบั พ.ศ. 2540
ได้เปิ ดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นสามารถมีสว่ นร่วมในการปกครองท้องถ่ินของตนมากขนึ ้ โดยให้
ประชาชนมีสิทธิท่ีจะเข้าช่ือเพ่ือถอดถอนสมาชิกสภาท้องถ่ินหรือผ้บู ริหารท้องถิ่นหรือคณะผ้บู ริหาร
ท้องถ่ินออกจากตําแหน่ง7 ให้ประชาชนมีสิทธิเข้าช่ือเพ่ือเสนอร่างข้อบญั ญตั ิท้องถ่ินให้สภาท้องถ่ิน
พิจารณา8 ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมลู ข่าวสารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น9และให้
ประชาชนมีสว่ นร่วมในกระบวนการประชาพิจารณ์10

ผลจากการใช้รัฐธรรมนญู ฉบบั พ.ศ. 2540 ทําให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นของไทยได้รับ
การปฏริ ูปให้เป็ นไปตามหลกั การปกครองท้องถิ่นตามหลกั การประชาธิปไตยมากขนึ ้ โดยให้ท้องถิ่นมี
อิสระในการปกครองตนเองมากขึน้ การแทรกแซงจากรัฐส่วนกลางทําได้น้อยลง มีการกระจาย
อํานาจหน้าที่ กระจายรายได้ไปยงั ท้องถ่ิน และเปิ ดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกําหนด
เจตนารมณ์ในการปกครองท้องถ่ินของตนโดยการให้สภาท้องถิ่นและองค์กรฝ่ ายบริหารท้องถิ่นมา
จากการเลือกตงั้ ของประชาชนในท้องถิ่น ในขณะเดียวกนั ประชาชนก็ยงั สามารถเข้ามามีสว่ นร่วมใน
การเสนอความคิดเห็น กําหนดแนวทางในการปกครองตนเองและตรวจสอบองค์กรผู้ใช้อํานาจใน
ท้องถิ่นของตนได้ และจากการปฏริ ูปดงั กลา่ วทําให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินของไทยในปัจจบุ นั มี
อยู่ด้วยกันทัง้ สิน้ 5 รูปแบบ คือ องค์การบริหารส่วนตําบล เทศบาลซ่ึงแบ่งเป็ นเทศบาลตําบล
เทศบาลเมือง และเทศบาลนคร องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั เมืองพทั ยา และกรุงเทพมหานคร

สําหรับรัฐธรรมนูญฉบบั ปัจจบุ นั (พ.ศ. 2550) ในส่วนท่ีเก่ียวกบั การปกครองท้องถ่ินยงั คง
หลักการคล้ายคลึงกับรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2540 ในการมุ่งเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการ
บริหารงานของท้องถิ่นและกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเพิ่มขึน้ แต่มีความ
แตกต่างกันบ้างในรายละเอียดบางประการ โดยในส่วนโครงสร้างภายในขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถ่ินรัฐธรรมนญู ฉบบั ปัจจุบนั ยงั คงกําหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องประกอบไปด้วย
สภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นหรือคณะผู้บริหารท้องถิ่น โดยที่สมาชิกสภาท้องถิ่นมาจากการ
เลือกตงั้ จากประชาชน ส่วนผู้บริหารท้องถ่ินหรือคณะผู้บริหารท้องถิ่นให้มาจากการเลือกตงั้ จาก
ประชาชนหรือได้รับความเห็นชอบจากสภาท้องถ่ิน ในกรณีท่ีมีการเลือกตงั้ ให้ใช้วิธีออกเสียงเลือกตงั้

7 รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 286
8 รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 287
9 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 58
10 รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 59 

404

โดยตรงและลบั และทงั้ สภาท้องถ่ินและผู้บริหารท้องถิ่นหรือคณะผู้บริหารท้องถิ่นมีวาระการดํารง
ตําแหน่งคราวละ 4 ปี 11 เชน่ เดียวกบั รัฐธรรมนญู ฉบบั พ.ศ. 2540

ในส่วนของอํานาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีการขยายอํานาจหน้าที่ของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้มีบทบาทท่ีชดั เจนและกว้างขวางขึน้ โดยกําหนดให้องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นมีอิสระในการบริหารงานของตนเอง และเป็ นหน่วยงานหลักในการจัดทําบริการ
สาธารณะท่ีมีความหลายหลาย12 อีกทงั้ ให้มีสว่ นร่วมในการตดั สินใจแก้ไขปัญหาในพืน้ ท่ี นอกจากนี ้
ยังได้กําหนดบทบาทเฉพาะขององค์กรปกครองส่วนท้ องถ่ิน13 โดยกําหนดให้ มีหน้ าที่ในการ
บํารุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณีภมู ิปัญญาท้องถ่ิน หรือวฒั นธรรมอนั ดีของท้องถ่ิน มีสิทธิในการจดั
การศึกษาอบรมและฝึ กอาชีพตามความเหมาะสม และยงั มีอํานาจหน้าท่ีในการส่งเสริมและรักษา
คณุ ภาพสง่ิ แวดล้อมในเขตพืน้ ที่14

นอกจากนีร้ ัฐธรรมนูญฉบบั ปัจจุบนั ยงั คงไว้ซ่ึงการกําหนดกลไกให้มีการแบ่งแยกอํานาจ
หน้าท่ีระหวา่ งรัฐกบั ท้องถิ่น โดยบญั ญตั ใิ ห้มีกฎหมายกําหนดแผนและขนั้ ตอนการกระจายอํานาจขนึ ้
เพื่อจดั ตงั้ คณะกรรมการการกระจายอํานาจ ซงึ่ มีลกั ษณะเป็ นกรรมการไตรภาคีที่ประกอบด้วยผ้แู ทน
ภาครัฐ ผ้แู ทนท้องถ่ิน และผ้ทู รงคณุ วฒุ ิท่ีเป็ นกลางฝ่ ายละเท่า ๆ กนั ทําหน้าท่ีในการจดั สรรอํานาจ
หน้าที่ระหวา่ งรัฐกบั ท้องถิ่น โดยท่ีต้องมีการทบทวนการจดั สรรดงั กลา่ วทกุ 5 ปี เชน่ เดมิ 15

ในสว่ นของรายได้ของท้องถิ่นนนั้ ยงั คงให้มีกฎหมายที่กําหนดเกี่ยวกบั รายได้ของท้องถ่ิน เพ่ือ
กําหนดอํานาจหน้ าท่ีในการจัดเก็บภาษีและรายได้อื่นขององค์กรปกครองส่วนท้ องถ่ิน โดย
คณะกรรมการการกระจายอํานาจ ตามหลกั การเดียวกบั รัฐธรรมนญู ฉบบั พ.ศ. 2540 16

ทางด้ านการบริ หารงานบุคคลได้ กําหนดให้ มีการปฏิรู ประบบการบริ หารงานบุคคลของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินโดยให้บคุ ลากรของท้องถิ่นมีสถานะเป็ นข้าราชการสว่ นท้องถ่ินเป็ นของ
ตนเองที่อิสระจากสว่ นกลาง โดยให้สามารถโอนย้ายข้าราชการระหว่างองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน

11 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 284
12 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 281 มาตรา 283 วรรค 1และ2
13 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 289
14 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 290
15 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 283 วรรค 3
16 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 283 วรรค 4

405

ได้ และอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการราชการส่วนท้องถิ่น นอกจากนีย้ ังกําหนดให้ มี
คณะกรรมการพิทกั ษ์ระบบคณุ ธรรมระดบั ท้องถ่ินด้วย17

การกํากบั ดแู ลโดยสว่ นกลางยงั คงไว้ซง่ึ หลกั การท่ีวา่ การกํากบั ดแู ลนนั้ จะต้องทําเทา่ ท่ีจําเป็ น
เฉพาะตามท่ีกฎหมายบญั ญตั ิ การกํากบั ดแู ลนีต้ ้องเป็ นไปเพ่ือวตั ถปุ ระสงค์ในการค้มุ ครองประโยชน์
ของประชาชนในท้องถ่ิน หรือเพ่ือการค้มุ ครองประโยชน์ของประเทศเป็ นสว่ นรวม ทงั้ นีก้ ารกํากบั ดแู ล
จะกระทบถึงสาระสําคญั แห่งหลกั การปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่นไม่ได้
และการกํากบั ดแู ลจะกระทํานอกเหนือจากท่ีกฎหมายบญั ญัติไม่ได้ นอกจากนีร้ ัฐธรรมนูญฉบบั
ปัจจบุ นั ได้มีการปรับปรุงระบบการกํากบั ดแู ลองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้มีประสิทธิภาพโดยให้มี
มาตรฐานกลางในการดําเนินงาน เพื่อให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นปฏิบตั ิได้เองโดยคํานึงถึงความ
เหมาะสมตามสภาพการของแตล่ ะท้องถ่ิน18

สําหรับสิทธิในการมีส่วนร่วมในการปกครองในท้องถ่ินของประชาชนนนั้ รัฐธรรมนูญฉบบั
ปัจจบุ นั ได้เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกครองท้องถ่ินของตนโดยให้ประชาชนสามารถ
ลงประชามติในเรื่องท่ีเกี่ยวข้องกบั ท้องถิ่นของตนเองได้19 ลดจํานวนประชาชนท่ีจะเข้าช่ือถอดถอน
นกั การเมืองท้องถ่ินและเสนอร่างข้อบญั ญตั ิท้องถ่ิน20 รวมทงั้ การให้องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นต้อง
รายงานการดําเนินงานต่อประชาชน ในเรื่องการจัดทํางบประมาณ การใช้จ่าย และผลการ
ดาํ เนินงานในรอบปี เพ่ือให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบกํากบั การบริหารจดั การท้องถ่ินได้21

จะเห็นได้ว่ารัฐธรรมนญู ฉบบั ปัจจบุ นั ยงั คงยดึ ถือแนวทางในการสง่ เสริมการปกครองท้องถิ่น
ตามรัฐธรรมนญู ฉบบั พ.ศ. 2540 ซงึ่ ม่งุ เน้นการกระจายอํานาจจากสว่ นกลางไปยงั ท้องถิ่นและเปิ ด
โอกาสให้ประชาชนมีสทิ ธิในการมีสว่ นร่วมในการจดั การท้องถิ่นของตนเช่นเดิม เพียงแตร่ ัฐธรรมนญู
ฉบบั ปัจจุบนั ได้เพิ่มสิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองของประชาชน จัดระบบและ
กําหนดแนวทางการพัฒนาท้ องถ่ินเพื่อให้ การปกครองท้ องถิ่นโดยประชาชนในท้ องถิ่นและเพ่ือ
ประชาชนในท้องถิ่นมีความแขง็ แรงและเป็ นรากฐานท่ีมนั่ คงแก่ประชาธิปไตยในระดบั ชาตติ อ่ ไป

17 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 288
18 รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 282
19 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 287 วรรค1และวรรค 2
20 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 285 และ มาตรา 286
21 รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 287 วรรค 3

406

1.2 อาํ นาจหน้าท่ขี ององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ
จากการศกึ ษากฎหมายท่ีกําหนดถึงอํานาจหน้าท่ีขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น พบว่าใน
ปัจจบุ นั แบง่ ได้เป็ นสามกลมุ่ ด้วยกนั คือ อํานาจหน้าที่ตามพระราชบญั ญตั ิจดั ตงั้ ขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นตามแต่ละประเภท อํานาจหน้าที่ตามพระราชบญั ญัติกําหนดแผนขนั้ ตอนการกระจาย
อํานาจให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และอํานาจหน้าท่ีตามท่ีกําหนดไว้ในกฎหมาย
เฉพาะอื่น ๆ ซง่ึ จําแนกได้ดงั ตอ่ ไปนี ้

1) อาํ นาจหน้าท่ตี ามพระราชบญั ญัตจิ ัดตงั้ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ
• พระราชบัญญัตอิ งค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540
หน้าท่ีตามพระราชบญั ญตั อิ งค์การบริหารสว่ นจงั หวดั พ.ศ. 2540 มาตรา 45

กําหนดให้อํานาจองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั มีหน้าที่ ดงั ตอ่ ไปนี ้
(1) ตราข้อบญั ญตั โิ ดยไมข่ ดั หรือแย้งตอ่ กฎหมาย
(2) จดั ทําแผนพฒั นาองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั และประสานการจดั ทํา

แผนพฒั นาจงั หวดั ตามระเบยี บท่ีคณะรัฐมนตรีกําหนด
(3) สนบั สนนุ สภาตําบลและราชการสว่ นท้องถ่ินอ่ืนในการพฒั นาท้องถ่ิน
(4) ประสานและให้ความร่วมมือในการปฏิบตั ิหน้าที่ของสภาตําบลและ

ราชการสว่ นท้องถิ่นอ่ืน
(5) แบ่งสรรเงินซ่ึงตามกฎหมายจะต้องแบ่งให้แก่สภาตําบลและราชการ

สว่ นท้องถิ่นอื่น
(6) อํานาจหน้าท่ีของจังหวดั ตามพระราชบญั ญัติระเบียบบริหารราชการ

สว่ นจงั หวดั พ.ศ. 2498 เฉพาะภายในเขตสภาตาํ บล
(7) ค้มุ ครอง ดแู ล และบํารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม
(8) บํารุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภมู ิปัญญาท้องถิ่น และวฒั นธรรมอนั

ดขี องท้องถิ่น
(9) จดั ทํากิจการใด ๆ อนั เป็ นอํานาจหน้าที่ของราชการสว่ นท้องถ่ินอ่ืนที่อยู่

ในเขตองค์การบริหารส่วนจงั หวดั และกิจการนนั้ เป็ นการสมควรให้ราชการส่วนท้องถิ่นอื่นร่วมกัน
ดาํ เนินการหรือให้องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั จดั ทํา ทงั้ นี ้ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง

(10) จดั ทํากิจการอื่นใดตามที่กําหนดไว้ในพระราชบญั ญตั ินีห้ รือกฎหมาย
อื่นกําหนดให้เป็ นอํานาจหน้าที่ขององค์การบริหารสว่ นจงั หวดั

407

นอกจากนีอ้ งค์การบริหารส่วนจังหวัดอาจจัดทํากิจการใด ๆ อันเป็ นอํานาจ
หน้าท่ีของราชการส่วนท้องถ่ินอ่ืน หรือองค์การบริหารส่วนจังหวดั อื่นนอกเขตจงั หวดั ได้ เม่ือได้รับ
ความยินยอมจากองค์กรนนั้ ๆ รวมทงั้ อํานาจหน้าท่ีของราชการสว่ นกลาง หรือราชการส่วนภมู ิภาค
อาจมอบให้องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ปฏบิ ตั ไิ ด้ ทงั้ นี ้ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง

• พระราชบญั ญัตเิ ทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2546
เทศบาลตาํ บล มีอํานาจหน้าท่ีตามพระราชบญั ญตั ิเทศบาล พ.ศ. 2496

ดงั นี ้
หน้าที่ต้องทํา (มาตรา 50 ของพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ.2496)
(1) รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน
(2) ให้มีและบํารุงทางบกและทางนํา้
(3) รักษาความสะอาดของถนนหรือทางเดนิ และที่สาธารณะ รวมทงั้ การ

กําจดั มลู ฝอยและสงิ่ ปฏกิ ลู
(4) ป้ องกนั และระงบั โรคตดิ ตอ่
(5) ให้มีเครื่องใช้ในการดบั เพลงิ
(6) ให้ราษฏรได้รับการศกึ ษาอบรม
(7) สง่ เสริมการพฒั นาสตรี เดก็ เยาวชน ผ้สู งู อายแุ ละผ้พู ิการ
(8) บํารุงศลิ ปะ จารีตประเพณี ภมู ิปัญญาท้องถิ่นและวฒั นธรรมอนั ดี

ของท้องถิ่น
(9) หน้าท่ีอื่นตามกฎหมายบญั ญตั ใิ ห้เป็ นหน้าท่ีของเทศบาล
หน้าที่ท่ีอาจจดั ทํา (มาตรา 51 ของพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496)
(1) ให้มีนํา้ สะอาดหรือการประปา
(2) ให้มีโรงฆา่ สตั ว์
(3) ให้มีตลาดทา่ เทียบเรือและทา่ ข้าม
(4) ให้มีสสุ านและฌาปนสถาน
(5) บาํ รุงและสง่ เสริมการทํามาหากินของราษฎร
(6) ให้มีและบาํ รุงสถานท่ีทําการพทิ กั ษ์รักษาคนเจ็บไข้
(7) ให้มีและบาํ รุงการไฟฟ้ าหรือแสงสวา่ งโดยวิธีอืน่
(8) ให้มีและบาํ รุงทางระบายนํา้
(9) เทศพาณิชย์

ดงั นี ้ 408

ท้องถิ่น เทศบาลเมือง มีอํานาจหน้าที่ตามพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496
ดงั นี ้
หน้าที่ต้องทํา (มาตรา 54 ของพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496)
(1) กิจการตามที่กฎหมายระบใุ ห้เทศบาลตําบลต้องกระทํา
(2) ให้มีนํา้ สะอาดหรือการประปา
(3) ให้มีโรงฆา่ สตั ว์
(4) ให้มีและบาํ รุงสถานท่ีทําการพทิ กั ษ์และรักษาคนเจ็บไข้
(5) ให้มีและบาํ รุงทางระบายนํา้
(6) ให้มีและบาํ รุงส้วมสาธารณะ
(7) ให้มีและบาํ รุงการไฟฟ้ า หรือแสงสวา่ งโดยวิธีอ่ืน
(8) ให้มีการดาํ เนินกิจการโรงรับจํานําหรือสถานสนิ เช่ือท้องถ่ิน
หน้าที่ที่อาจจดั ทํา (มาตรา 54 ของพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496)
(1) ให้มีตลาด ทา่ เทียบเรือและทา่ ข้าม
(2) ให้มีสสุ านและฌาปนสถาน
(3) บํารุงและสง่ เสริมการทํามาหากินของราษฎร
(4) ให้มีและบาํ รุงการสงเคราะห์มารดาและเดก็
(5) ให้มีและบาํ รุงโรงพยาบาล
(6) ให้มีการสาธารณปู โภค
(7) จดั ทํากิจการซง่ึ จําเป็ นเพื่อการสาธารณสขุ
(8) จดั ตงั้ และบาํ รุงโรงเรียนอาชีวศกึ ษา
(9) ให้มีและบาํ รุงสถานที่สาํ หรับการกีฬาและพลศกึ ษา
(10) ให้มีและบํารุงสวนสาธารณะ สวนสตั ว์และสถานท่ีพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ
(11) ปรับปรุงแหลง่ เสื่อมโทรม และรักษาความสะอาดเรียบร้อยของ

(12) เทศพาณิชย์
เทศบาลนคร มีอํานาจหน้าที่ตามพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496

หน้าที่ต้องทํา (มาตรา 56 ของพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496)

409

(1) กิจการตามที่กฎหมายระบุให้เทศบาลตําบลและเทศบาลเมืองต้อง
กระทํา

(2) ให้มีการบํารุงการสงเคราะห์แมแ่ ละเดก็
(3) กิจการอย่างอ่ืนซึ่งจําเป็ นเพื่อการสาธารณสขุ การควบคมุ สขุ ลกั ษณะ
และอนามยั ในร้านจําหน่ายอาหาร โรงมหรสพและสถานบริการอ่ืน
(4) จดั การเก่ียวกบั ที่อยอู่ าศยั และการปรับปรุงแหลง่ เสือ่ มโทรม
(5) จดั ให้มีและควบคมุ ตลาด ท่าเทียบเรือ ทา่ ข้าม และท่ีจอดรถ
(6) การวางผงั เมืองและการควบคมุ การก่อสร้าง
(7) การสง่ เสริมกิจการการท่องเที่ยว
หน้าท่ีที่อาจจดั ทํา (มาตรา 57 ของพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496)
(1) ให้มีตลาด ทา่ เทียบเรือและท่าข้าม
(2) ให้มีสสุ านและฌาปนสถาน
(3) บํารุงและสง่ เสริมการทํามาหากินของราษฎร
(4) ให้มีและบาํ รุงการสงเคราะห์มารดาและเดก็
(5) ให้มีและบํารุงโรงพยาบาล
(6) ให้มีการสาธารณปู โภค
(7) จดั ทํากิจการซงึ่ จําเป็นเพื่อการสาธารณสขุ
(8) จดั ตงั้ และบาํ รุงโรงเรียนอาชีวศกึ ษา
(9) ให้มีและบาํ รุงสถานที่สาํ หรับการกีฬาและพลศกึ ษา
(10) ให้มีและบํารุงสวนสาธารณะ สวนสตั ว์และสถานที่พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ
(11) ปรับปรุงแหลง่ เสอ่ื มโทรม และรักษาความสะอาดเรียบร้อยของ
ท้องถิ่น
(12) เทศพาณิชย์

• พระราชบัญญัตสิ ภาตาํ บลและองค์การบริหารส่วนตาํ บล พ.ศ. 2537
แก้ไขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. 2546

พระราชบญั ญตั ิสภาตําบลและองค์การบริหารสว่ นตําบล พ.ศ. 2537 แก้ไข
เพ่ิมเตมิ พ.ศ. 2546 มาตรา 67 กําหนดให้ องค์การบริหารสว่ นตําบล มีหน้าท่ีต้องทําในเขตองค์การ
บริหารสว่ นตาํ บล ดงั ตอ่ ไปนี ้

(1) จดั ให้มีและบาํ รุงรักษาทางนํา้ และทางบก

410

(2) รักษาความสะอาดของถนน ทางนํา้ ทางเดนิ และท่ีสาธารณะ รวมทงั้
กําจดั มลู ฝอยและสงิ่ ปฏิกลู

(3) ป้ องกนั โรคและระงบั โรคตดิ ตอ่
(4) ป้ องกนั และบรรเทาสาธารณภยั
(5) สง่ เสริมการศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
(6) สง่ เสริมการพฒั นาสตรี เดก็ เยาวชน ผ้สู งู อายุ และผ้พู กิ าร
(7) ค้มุ ครอง ดแู ล และบาํ รุงรักษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม
(8) บาํ รุงรักษาศลิ ปะ จารีตประเพณี ภมู ิปัญญาท้องถิ่น และวฒั นธรรมอนั
ดขี องท้องถิ่น
(9) ปฏบิ ตั หิ น้าท่ีอ่นื ตามท่ีทางราชการมอบหมายโดยจดั สรรงบประมาณ
หรือบคุ ลากรให้ตามความจําเป็ น และสมควร
นอกจากนีใ้ นมาตรา 68 ได้กําหนดให้องค์การบริหารสว่ นตําบลอาจจดั ทํา
กิจการในเขตองค์การบริหารสว่ นตําบล ดงั ตอ่ ไปนีไ้ ด้ คอื
(1) ให้มีนํา้ เพื่อการอปุ โภค บริโภค และการเกษตร
(2) ให้มีและบาํ รุงการไฟฟ้ าหรือแสงสวา่ งโดยวิธีอื่น
(3) ให้มีและบํารุงรักษาทางระบายนํา้
(4) ให้มีและบํารุงสถานที่ประชุม การกีฬา การพักผ่อนหย่อนใจและ
สวนสาธารณะ
(5) ให้มีและสง่ เสริมกลมุ่ เกษตรกรและกิจการสหกรณ์
(6) สง่ เสริมให้มีอตุ สาหกรรมในครอบครัว
(7) บาํ รุงและสง่ เสริมการประกอบอาชีพของราษฎร
(8) การคุ้มครองดูแลและรักษาทรัพย์สินอันเป็ นสาธารณสมบัติของ
แผน่ ดนิ
(9) หาผลประโยชน์จากทรัพย์สนิ ขององค์การบริหารสว่ นตําบล

(10) ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือ และทา่ ข้าม
(11) กิจการเก่ียวกบั การพาณิชย์
(12) การทอ่ งเท่ียว
(13) การผงั เมอื ง

411

2) พระราชบญั ญัตกิ าํ หนดแผนขัน้ ตอนการกระจายอาํ นาจให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่นิ พ.ศ.2542

• องค์การบริหารส่วนจังหวดั
มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติกําหนดแผนขนั้ ตอนการกระจายอํานาจ

ให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน พ.ศ. 2542 ได้กําหนดให้องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั มีอํานาจหน้าที่
ในการจดั ระบบบริการสาธารณะเพ่ือประโยชน์ของประชาชนในท้องถ่ินของตนเอง ดงั นี ้

(1) การจัดทําแผนพัฒนาท้ องถิ่นของตนเองและประสานการจัดทํา
แผนพฒั นาจงั หวดั ตามระเบียบท่ีคณะรัฐมนตรีกําหนด

(2) การสนบั สนนุ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นอื่นในการพฒั นาท้องถ่ิน
(3) การประสานและให้ความร่วมมือในการปฏิบตั ิหน้าท่ีขององค์กรปกครอง
สว่ นท้องถิ่นอื่น
(4) การแบง่ สรรเงินซงึ่ ตามกฎหมายจะต้องแบง่ ให้แก่องค์กรปกครองส่วน
ท้องถ่ินอื่น
(5) การค้มุ ครอง ดแู ล และบํารุงรักษาป่ าไม้ ที่ดนิ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
สงิ่ แวดล้อม
(6) การจดั การศกึ ษา
(7) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาคและสิทธิเสรีภาพของ
ประชาชน
(8) การสง่ เสริมการมีสว่ นร่วมของราษฎรในการพฒั นาท้องถ่ิน
(9) การสง่ เสริมการพฒั นาเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม
(10) การจดั ตงั้ และดแู ลระบบบาํ บดั นํา้ เสยี รวม
(11) การกําจดั มลู ฝอยและสงิ่ ปฏิกลู รวม
(12) การจดั การสงิ่ แวดล้อมและมลพษิ ตา่ ง ๆ
(13) การจดั การและดแู ลสถานีขนสง่ ทงั้ ทางบกและทางนํา้
(14) การสง่ เสริมการทอ่ งเที่ยว
(15) การพาณิชย์ การสง่ เสริมการลงทนุ และการทํากิจการ
(16) การสร้างและบํารุงรักษาทางบกและทางนํา้ ท่ีเชื่อมตอ่ ระหวา่ งองค์กรปกครอง
สว่ นท้องถ่ินอ่ืน
(17) การจดั ตงั้ และดแู ลตลาดกลาง

412

(18) การส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงานของ
ท้องถ่ิน

(19) การจดั ให้มีโรงพยาบาลจงั หวดั การรักษาพยาบาล การป้ องกนั และ
ควบคมุ โรคตดิ ตอ่

(20) การจดั ให้มีพิพธิ ภณั ฑ์และหอจดหมายเหตุ
(21) การขนสง่ มวลชนและการวศิ วกรรมจราจร
(22) การป้ องกนั และบรรเทาสาธารณภยั
(23) การจดั ให้มีระบบรักษาความสงบเรียบร้อยในจงั หวดั
(24) จดั ทํากิจการใดอนั เป็ นอํานาจและหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นอื่นที่อยู่ในเขตและกิจการนัน้ เป็ นการสมควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอ่ืนร่วมกัน
ดาํ เนินการหรือให้องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั จดั ทํา ทงั้ นี ้ตามที่คณะกรรมการประกาศกําหนด
(25) สนบั สนนุ หรือช่วยเหลือสว่ นราชการ หรือองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน
อ่ืนในการพฒั นาท้องถ่ิน
(26) การให้บริการแก่เอกชน สว่ นราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
หรือองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินอื่น
(27) การสงั คมสงเคราะห์ และการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา
และผ้ดู ้อยโอกาส
(28) จดั ทํากิจการอื่นใดตามท่ีกําหนดไว้ในพระราชบญั ญตั นิ ีห้ รือกฎหมาย
อื่นกําหนดให้เป็ นอํานาจและหน้าท่ีขององค์การบริหารสว่ นจงั หวดั
(29)กิจการอ่ืนใดท่ีเป็ นผลประโยชน์ของประชาชนในท้ องถิ่นตามที่
คณะกรรมการประกาศกําหนด

• เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาํ บล
มาตรา 16 ของพระราชพระราชบญั ญตั ิกําหนดแผนขนั้ ตอนการกระจาย

อํานาจให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน พ.ศ. 2542 ได้กําหนดให้เทศบาล และองค์การบริหารสว่ น
ตาํ บลมีอํานาจหน้าท่ีในการจดั ระบบการบริการสาธารณะเพ่ือประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของ
ตนเองดงั นี ้

(1) การจดั ทําแผนพฒั นาท้องถิ่นของตนเอง
(2) การจดั ให้มีและบํารุงรักษาทางบก ทางนํา้ และทางระบายนํา้
(3) การจดั ให้มีและควบคมุ ตลาด ท่าเทียบเรือ ทา่ ข้ามและท่ีจอดรถ

413

(4) การสาธารณปู โภคและการก่อสร้างอ่ืน ๆ
(5) การสาธารณปู การ
(6) การสง่ เสริม การฝึก และประกอบอาชีพ
(7) การพาณิชย์ และการสง่ เสริมการลงทนุ
(8) การสง่ เสริมการทอ่ งเท่ียว
(9) การจดั การศกึ ษา
(10)การสังคมสงเคราะห์ และการพฒั นาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา
และผ้ดู ้อยโอกาส
(11) การบํารุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปั ญญาท้ องถิ่น และ
วฒั นธรรมอนั ดีของท้องถ่ิน
(12) การปรับปรุงแหลง่ ชมุ ชนแออดั และการจดั การเก่ียวกบั ที่อยอู่ าศยั
(13) การจดั ให้มีและบํารุงรักษาสถานท่ีพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ
(14) การสง่ เสริมกีฬา
(15) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาคและสิทธิเสรีภาพของ
ประชาชน
(16) สง่ เสริมการมีสว่ นร่วมของราษฎรในการพฒั นาท้องถิ่น
(17) การรักษาความสะอาดและความเป็ นระเบยี บเรียบร้อยของบ้านเมือง
(18) การกําจดั มลู ฝอย สงิ่ ปฏกิ ลู และนํา้ เสยี
(19) การสาธารสขุ การอนามยั ครอบครัว และการรักษาพยาบาล
(20) การจดั ให้มีและควบคมุ สสุ านและฌาปนสถาน
(21) การควบคมุ การเลยี ้ งสตั ว์
(22) การจดั ให้มีและควบคมุ การฆา่ สตั ว์
(23) การรักษาความปลอดภยั ความเป็ นระเบียบเรียบร้อย และการ
อนามยั โรงมหรสพ และสาธารณสถานอื่น ๆ
(24) การจดั การ การบํารุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่ าไม้ ที่ดนิ
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม
(25) การผงั เมือง
(26) การขนสง่ และการวศิ วกรรมจราจร
(27) การดแู ลรักษาท่ีสาธารณะ

414

(28) การควบคมุ อาคาร
(29) การป้ องกนั และบรรเทาสาธารณภยั
(30) การรักษาความสงบเรียบร้อย การสง่ เสริมและสนบั สนนุ การป้ องกนั
และรักษาความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพย์สนิ
(31)กิจการอื่นใดที่เป็ นผลประโยชน์ของประชาชนในท้ องถ่ินตามท่ี
คณะกรรมการประกาศกําหนด

3) อาํ นาจหน้าท่ตี ามกฎหมายเฉพาะอ่ืนๆ
นอกจากอํานาจหน้าท่ีจากพระราชบัญญัติทัง้ สองประเภทข้างต้นแล้ว องค์กร
ปกครองสว่ นท้องถ่ินยงั มีอํานาจหน้าท่ีตามพระราชบญั ญตั ฉิ บบั อ่ืน ๆ ที่ราชการสว่ นกลางได้ถ่ายโอน
ภารกิจมาให้ท้องถิ่นเป็ นผ้ดู าํ เนินการแทนอีกด้วย ได้แก่

(1) พ.ร.บ.ป้ องกนั อนั ตรายอนั เกิดแก่การเลน่ มหรสพ พ.ศ. 2464
(2) พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและท่ีดนิ พ.ศ. 2475
(3) พ.ร.บ.การสาธารณสขุ พ.ศ. 2435
(4) พ.ร.บ.ควบคมุ การใช้อจุ จาระทําป๋ ยุ พ.ศ. 2490 (ปัจจบุ นั ได้แก้เป็ น
พ.ร.บ.ป๋ ยุ )
(5)พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้ เคร่ืองขยายเสียง พ.ศ. 2493
(6) พ.ร.บ.ป้ องกนั และระงบั อคั คีภยั พ.ศ. 2442
(7) พ.ร.บ.ป้ องกนั โรคพิษสนุ ขั บ้า พ.ศ. 2535
(8) พ.ร.บ.การทะเบยี นราษฎร พ.ศ. 2534
(9)พ . ร . บ . ค ว บ คุ ม ก า ร ฆ่ า แ ล ะ จํ า ห น่ า ย เ นื ้อ สั ต ว์ พ . ศ . 2535
(10)พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็ นระเบียบเรียบร้ อยของ
บ้านเมือง พ.ศ. 2535
(11) พ.ร.บ.จดั ระเบียบการจอดยานยนต์ในเขตเทศบาลและสขุ าภิบาล
พ.ศ. 2503
(12) พ.ร.บ.ภาษีบาํ รุงท้องที่ พ.ศ. 2508
(13) พ.ร.บ.ภาษีป้ าย พ.ศ. 2510
(14) พ.ร.บ.การผงั เมือง พ.ศ. 2518
(15) พ.ร.บ.ควบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522
(16) พ.ร.บ.ป้ องกนั ภยั ฝ่ ายพลเรือน พ.ศ. 2522

415

(17) พ.ร.บ.โรคตดิ ตอ่ พ.ศ. 2523
(18) พ.ร.บ.ประถมศกึ ษา พ.ศ. 2523
(19) พ.ร.บ.รักษาคลองประปา พ.ศ. 2526
(20) พ.ร.บ.สสุ านและฌาปนสถาน พ.ศ. 2528
(21) ประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ท่ี 44 ลงวนั ท่ี 11 มกราคม 2502
(22) ประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ที่ 68 ลงวนั ที่ 3 กุมภาพนั ธ์ 2515
(กฎหมายวา่ ด้วยการควบคมุ การจอดเรือในแมน่ ํา้ ลาํ คลอง)
(23) พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535
(24) ประมวลกฎหมายที่ดนิ

1.3 การจัดโครงสร้างการดาํ เนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ
1) องค์การบริหารส่วนจงั หวัด
โครงสร้างองค์การบริหารส่วนจงั หวดั (อบจ.) เป็ นไปตามพระราชบญั ญัติองค์การ

บริหารส่วนจงั หวดั พ.ศ. 2540 (แก้ไขเพ่ิมเติมถึงฉบบั ที่ 4 พ.ศ. 2552) ซ่งึ เป็ นกฎหมายองค์การ
บริหารสว่ นจงั หวดั ฉบบั ลา่ สดุ ที่ใช้อยใู่ นปัจจบุ นั โดยโครงสร้างและองค์ประกอบขององค์การบริหาร
ส่วนจังหวดั ประกอบด้วย สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฝ่ ายนิติบัญญัติ) และนายกองค์การ
บริหารสว่ นจงั หวดั (ฝ่ ายบริหาร) ซง่ึ ทงั้ สองฝ่ ายล้วนมาจากการเลือกตงั้ โดยตรงของประชาชนแยก
จากกนั

(1) สภาองค์การบริหารส่วนจงั หวัด
สภาองค์การบริหารส่วนจงั หวดั ประกอบด้วย สมาชิกองค์การบริหารส่วน
จงั หวดั ซง่ึ มาจากการเลือกตงั้ ของประชาชน มีวาระในการดํารงตําแหน่ง คราวละ 4 ปี โดยในแตล่ ะ
จังหวดั จะมีจํานวนสมาชิกสภาฯไม่เท่ากันขึน้ อยู่กับจํานวนของราษฎรเป็ นเกณฑ์ โดยกําหนดให้
อําเภอหน่ึงมีการเลือกตงั้ สมาชิกสภาฯได้หน่ึงคน หรือให้อําเภอเป็ นเขตเลือกตงั้ เขตหน่ึง ในกรณีท่ี
อําเภอใดมีสมาชิกสภาฯได้มากกว่า 1 คน ให้แบง่ เขตอําเภอให้มีเขตเลือกตงั้ เท่ากบั จํานวนสมาชิก
สภาฯท่ีจะพงึ มีในอําเภอนนั้
หลงั จากที่มีการเลือกตงั้ แล้ว สมาชิกสภาฯ จะดําเนินการเลือกสมาชิกฯ
ด้วยกนั เองเพ่ือดํารงตําแหน่งเป็ นประธานสภาองค์การบริหารส่วนจงั หวดั จํานวน 1 คน และรอง
ประธานสภาองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั อีก จํานวน 2 คน
สาํ หรับอํานาจหน้าที่ของสภาองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั มีดงั นี ้

416

1) อํานาจหน้าที่ ในการเสนอและพิจารณาร่างข้อบัญญัติขององค์การ
บริหารสว่ นจงั หวดั และข้อบญั ญตั ชิ ว่ั คราวเพ่ือใช้ในการบริหารขององค์การบริหารสว่ นจงั หวดั

2) อํานาจในการควบคมุ และตรวจสอบการทํางานของฝ่ ายบริหาร
3) อํานาจในการเสนอข้อสอบถามต่อประธานสภาฯ เพ่ือให้ผ้วู ่าราชการ
จงั หวดั หรือหวั หน้าสว่ นราชการในจงั หวดั มาชีแ้ จงข้อเท็จจริงเก่ียวกบั อํานาจของราชการสว่ นภมู ิภาค
4)มีอํานาจในการเลือกสมาชิกสภาฯเป็ นกรรมการสามญั และเลือกบคุ คลท่ีไมไ่ ด้เป็ น
สมาชิกสภาฯ เป็ นกรรมการวิสามญั เพื่อทํากิจการหรือพิจารณาสอบสวนเร่ืองใด ๆ อนั อย่ใู นงานของ
สภาองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั แล้วรายงานตอ่ สภาองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั
(2) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
นายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั มีฐานะเป็ นผ้นู ําในการบริหารราชการของ
องค์การบริหารส่วนจังหวัด มีท่ีมาจากการเลือกตงั้ โดยตรงของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตงั้ ท่ัวทัง้
จงั หวดั มีวาระการดํารงตําแหนง่ 4 ปี และสามารถดํารงตาํ แหน่งตดิ ตอ่ กนั ได้
นายกองค์การบริหารส่วนจงั หวดั สามารถแต่งตงั้ รองนายกองค์การบริหาร
สว่ นจงั หวดั ซง่ึ ไมใ่ ช่สมาชิกสภาฯ เป็ นผ้ชู ่วยได้ โดยแตล่ ะองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั จะมีจํานวนรอง
นายกองค์การบริหารส่วนจงั หวดั ที่แตกต่างกนั ไปตามเกณฑ์ของจํานวนสมาชิกสภาท่ีแต่ละจงั หวดั
พึงมี นอกจากนีน้ ายกองค์การบริหารส่วนจงั หวดั สามารถแต่งตงั้ เลขานุการนายกองค์การบริหาร
ส่วนจงั หวดั และที่ปรึกษานายกองค์การบริการส่วนจงั หวดั ซ่ึงไม่ใช่สมาชิกสภาได้จํานวนรวมกนั ไม่
เกิน 5 คน
อํานาจหน้าท่ีของนายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั มีดงั นี ้
1) กําหนดนโยบายและดาํ เนินการตามนโยบายที่ได้กําหนดไว้ตลอดจน
รับผิดชอบในการบริหารขององค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ให้เป็ นไปตามกฎหมาย
2) สง่ั อนญุ าต และอนมุ ตั เิ ก่ียวกบั ราชการขององค์การบริหารสว่ นจงั หวดั
3) แตง่ ตงั้ และถอดถอนรองนายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั เลขานกุ าร
นายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั และท่ีปรึกษานายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั
4) วางระเบียบเพ่ือให้งานขององค์การบริหารส่วนจงั หวดั เป็ นไปด้วยความ
เรียบร้ อย
5) รักษาการให้เป็ นไปตามข้อบญั ญตั อิ งค์การบริหารสว่ นจงั หวดั
6) ปฏิบตั หิ น้าที่อ่ืนตามที่บญั ญตั ไิ ว้ในพระราชบญั ญตั ิองค์การบริหารสว่ น
จงั หวดั พ.ศ. 2540 และตามกฎหมายอื่น

417

การจัดโครงสร้างการบริหารภายในองค์การบริหารส่วนจงั หวัด
ในส่วนของการบริหารภายในองค์การบริหารส่วนจงั หวดั มีข้าราชการส่วนจงั หวดั
เป็ นผ้ปู ฏบิ ตั งิ านโดยนายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ข้าราชการสว่ นจงั หวดั เป็ นผ้บู งั คบั บญั ชา และมี
รองนายกองค์การบริหารส่วนจงั หวดั กบั ปลดั องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั เป็ นผ้บู งั คบั บญั ชารองลงมา
จากนายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั
การบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดแต่ละแห่งจะแบ่งโครงสร้ างของ
หน่วยงาน ตา่ งกนั ออกไป แตท่ กุ องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั มกั ประกอบไปด้วยสว่ นงานตา่ งๆ ดงั นี ้

• สว่ นอํานวยการ ทําหน้าที่ในการดแู ลกิจการทวั่ ไปขององค์การบริหารส่วน
จงั หวดั มีหวั หน้าสาํ นกั ปลดั องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั เป็ นผ้บู งั คบั บญั ชาสว่ นงาน

• ส่วนแผนและงบประมาณ เป็ นผ้รู ับผิดชอบเรื่องแผนและงบประมาณของ
องค์การบริหารสว่ นจงั หวดั มีผ้อู ํานวยการกองแผนและงบประมาณเป็ นผ้บู งั คบั บญั ชาสว่ นงาน

• ส่วนโยธา รับผิดชอบทางด้ านงานช่างและการก่อสร้ างโครงการ
สาธารณปู โภค ซงึ่ มีผ้อู ํานวยการกองช่างเป็ นผ้บู งั คบั บญั ชา

• สว่ นการคลงั ทําหน้าท่ีดแู ลด้านการคลงั และการเบกิ จ่ายเงินมีผ้อู ํานวยการ
กองคลงั เป็ นผ้บู งั คบั บญั ชาสว่ นงาน

• ส่วนกิจการสภา รับผิดชอบงานของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวดั ซึ่งมี
ผ้อู ํานวยการกองกิจการสภาองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั เป็ นผ้บู งั คบั บญั ชา

• หนว่ ยตรวจสอบภายใน

2) เทศบาล
การปกครองส่วนท้องถ่ินในรูปแบบเทศบาลยังคงจัดตัง้ และดําเนินงานภายใต้
พระราชบญั ญตั ิเทศบาล พ.ศ. 2496 โดยท่ีได้มีการแก้ไขอย่หู ลายครัง้ ด้วยกนั การแก้ไขครัง้ ลา่ สดุ คือ
การแก้ไขในปี พ.ศ. 2552 อนั เป็ นการแก้ไขในครัง้ ที่ 13 ซงึ่ มีสาระสําคญั ดงั นี ้

• ประเภทของเทศบาล
พระราชบญั ญตั เิ ทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิม่ เตมิ พ.ศ. 2552 มาตรา 9

ถึง มาตรา 11 ได้แบง่ ประเภทของเทศบาลออกเป็ น 3 ประเภท คือ
1) เทศบาลตาํ บล มีหลกั เกณฑ์ในการจดั ตงั้ ดงั นี ้
(ก) มีรายได้จริงโดยไม่รวมเงินอุดหนุนในปี งบประมาณที่ผ่านมา

ตงั้ แต่ 12,000,000 บาทขนึ ้ ไป

418

(ข) มีประชากรตงั้ แต่ 7,000 คน ขนึ ้ ไป
(ค) ความหนาแน่นของประชากรตงั้ แต่ 1,500 คน ต่อตาราง
กิโลเมตร ขนึ ้ ไป
(ง) มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็ นเทศบาลตําบล
2) เทศบาลเมือง มีหลกั เกณฑ์ในการจดั ตงั้ ดงั นี ้
(ก) ท้องถ่ินอนั เป็ นที่ตงั้ ศาลากลางจงั หวดั ทกุ แห่ง ให้ยกฐานะเป็ น
เทศบาลเมืองโดยไมต่ ้องพจิ ารณาถงึ หลกั เกณฑ์อ่ืน ๆ ประกอบ
(ข) ส่วนท้องถิ่นท่ีไม่ใช่เป็ นที่ตงั้ ศาลากลางจงั หวดั จะยกฐานะเป็ น
เทศบาลเมืองต้องประกอบด้วยหลกั เกณฑ์ดงั นี ้

o มีประชากรตงั้ แต่ 10,000 คน ขนึ ้ ไป
o ความหนาแน่นของประชากรไม่ตํ่ากว่า 3,000 คน ตอ่

ตารางกิโลเมตร
o มีรายได้ พอแก่การปฏิบัติหน้ าที่อันต้องทําตามที่

กฎหมายกําหนดไว้
o มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็ นเทศบาลเมือง
3) เทศบาลนคร มีหลกั เกณฑ์ในการจดั ตงั้ ดงั นี ้
(ก) มีประชากรตงั้ แต่ 50,000 คน ขนึ ้ ไป
(ข) ความหนาแน่นของประชากรไมต่ าํ่ กวา่ 3,000 คน ตอ่ ตาราง
กิโลเมตร
(ค) มีรายได้พอแก่การปฏิบัติหน้าท่ีอันต้องทําตามที่กฎหมาย
กําหนดไว้
(ง) มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็ นเทศบาลนคร

• โครงสร้างของเทศบาล
โครงสร้ างของเทศบาลในปัจจุบนั ประกอบด้วยฝ่ ายนิติบญั ญัติหรือสภา

เทศบาล และฝ่ ายบริหารหรือนายกเทศมนตรี
1) สภาเทศบาล
สภาเทศบาลประกอบด้ วยสมาชิกสภาเทศบาลท่ีมีท่ีมาจากการเลือกตงั ้

โดยตรงของประชาชนมีวาระในการดํารงตําแหน่งคราวละ 4 ปี โดยมีจํานวนสมาชิกที่แตกต่างกนั

419

ออกไป ทงั้ นีส้ มาชิกสภาเทศบาลจะทําการเลือกสมาชิกสภา 1 คน เป็ นประธานสภา และอีก 1 คน
เป็ นรองประธานสภา

อํานาจหน้าท่ีของสภาเทศบาล มีดงั นี ้
1) เลือกประธานและรองประธานสภา หรือมีมติให้ประธานหรือรอง
ประธานสภาพ้นจากตาํ แหน่ง หากเห็นวา่ ผ้นู นั้ มีความประพฤตใิ นทางท่ีจะนํามาซง่ึ ความเสื่อมเสียแก่
ศกั ดต์ิ าํ แหนง่ หรือสภาเทศบาล ปฏบิ ตั กิ ารฝ่ าฝื นตอ่ ความสงบเรียบร้อย หรือสวสั ดภิ าพของประชาชน
หรือละเลยไมป่ ฏิบตั กิ ารหรือปฏิบตั กิ ารไมช่ อบด้วยอํานาจหน้าที่
2) เลือกสมาชิกสภาเทศบาลตงั้ เป็ นคณะกรรมการสามญั ของสภาเทศบาล
และเลอื กบคุ คลผ้เู ป็ นหรือไมไ่ ด้เป็ นสมาชิกสภาเทศบาลตงั้ เป็ นกรรมการสามญั ของสภาเทศบาล
3) รับทราบนโยบายที่นายกเทศมนตรีต้องแถลงต่อสภาเทศบาล ก่อนเข้า
รับหน้าที่ โดยไมม่ ีการลงมติ
4) ให้ความเห็นชอบร่างข้อบญั ญัติเทศบาล ร่างข้อบญั ญัติงบประมาณ
รายจ่ายประจําปี และร่างข้อบญั ญตั ริ ายจา่ ยเพิ่มเตมิ ของเทศบาล
5) อนมุ ตั ริ ่างแผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาและแผนพฒั นา 3 ปี ของเทศบาล
6) สิทธิในการตงั้ กระท้ถู ามนายกเทศมนตรี หรือรองนายกเทศมนตรี หรือ
เสนอญัตติขอเปิ ดอภิปรายท่ัวไป เพื่อให้นายกเทศมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นใน
ปัญหาเกี่ยวกบั การบริหารราชการเทศบาลโดยไมม่ ีการลงมติ

2) นายกเทศมนตรี
นายกเทศมนตรีเป็ นหวั หน้าฝ่ ายบริหารของเทศบาลท่ีมาจากการเลือกตงั้
โดยตรงของประชาชน ดํารงตําแหน่งคราวละ 4 ปี นบั ตงั้ แต่วนั เลือกตงั้ และสามารถดํารงตําแหน่ง
ติดต่อกนั ได้โดยไม่จํากดั วาระ ทงั้ นีน้ ายกเทศมนตรีอาจแต่งตงั้ ทีมบริหารของนายกเทศมนตรี ได้แก่
แตง่ ตงั้ รองนายกเทศมนตรีท่ีไมใ่ ชส่ มาชิกสภาเทศบาล เป็ นผ้ชู ่วยในการบริหารงาน และอาจแตง่ ตงั้ ที่
ปรึกษานายกเทศมนตรี เลขานกุ ารนายกเทศมนตรีซง่ึ ไมใ่ ช่สมาชิกสภาเทศบาลได้ โดย
1) เทศบาลตําบล นายกเทศมนตรีแตง่ ตงั้ รองนายกฯ ได้ไม่เกิน 2 คน และ
แตง่ ตงั้ ท่ีปรึกษาหรือเลขานกุ ารรวมกนั ได้ไมเ่ กิน 2 คน
2) เทศบาลเมือง นายกเทศมนตรีแตง่ ตงั้ รองนายกฯ ได้ไม่เกิน 3 คน และ
แตง่ ตงั้ ที่ปรึกษาหรือเลขานกุ ารรวมกนั ได้ไมเ่ กิน 3 คน
3) เทศบาลนคร นายกเทศมนตรีแต่งตงั้ รองนายกฯ ได้ไม่เกิน 4 คนและ
แตง่ ตงั้ ที่ปรึกษาหรือเลขานกุ ารรวมกนั ได้ไมเ่ กิน 5 คน

420

อํานาจหน้าท่ีของนายกเทศมนตรี มีดงั นี ้
1) กําหนดนโยบายโดยไม่ขดั ต่อกฎหมาย และรับผิดชอบในการบริหาร
ราชการของเทศบาลให้เป็ นไปตามกฎหมาย
2) สง่ั อนญุ าต และอนมุ ตั เิ ก่ียวกบั ราชการของเทศบาล
3) แต่งตงั้ และถอดถอนรองนายกเทศมนตรี เลขานุการนายกเทศมนตรี
และที่ปรึกษานายกเทศมนตรี
4) วางระเบียบเพ่ือให้งานของเทศบาลเป็ นไปด้วยความเรียบร้อย
5) รักษาการให้เป็ นไปตามเทศบญั ญตั ิ
6) ปฏิบตั หิ น้าท่ีอื่นตามท่ีบญั ญตั ไิ ว้ในพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล และตาม
กฎหมายอื่น

• การจัดโครงสร้างการบริหารภายในเทศบาล
การจดั โครงสร้างการบริหารงานในแต่ละเทศบาลจะแบ่งออกเป็ นสว่ นต่าง

ๆ ได้แก่

1) สํานักปลดั ซึ่งอาจประกอบด้วย งานธุรการ งานการเจ้าหน้าที่ งาน
ทะเบียนราษฎร งานป้ องกนั และบรรเทาสาธารณภยั งานรักษาความสงบเรียบร้อยและความมนั่ คง
เป็ นต้น

2) กองช่าง อาจประกอบด้วย งานวิศวกรรม งานสถาปัตยกรรม งานผงั
เมืองงานสาธารณปู โภค งานสวนสาธารณะหรืองานสถานท่ีและไฟฟ้ า เป็ นต้น

3) กองวิชาการและแผนงาน ซึ่งอาจประกอบด้วย งานวิเคราะห์นโยบาย
และแผนงานงานนิตกิ ร งานประชาสมั พนั ธ์หรืองานจดั ทํางบประมาณ เป็ นต้น

4) กองการคลงั อาจประกอบด้วย งานแผนที่ภาษี งานผลประโยชน์ งาน
การเงินและบญั ชีงานพัสดุและทรัพย์สินพัฒนา งานรายได้งานเร่งรัดรายได้ หรืองานทะเบียน
ทรัพย์สนิ เป็ นต้น

5) กองการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย งานธุรการ งาน
แผนงานสาธารณสขุ งานสขุ าภิบาลและอนามยั สิง่ แวดล้อม งานรักษาความสะอาด หรืองานเผยแพร่
และฝึกอบรม เป็ นต้น

421

6) กองการศกึ ษาซงึ่ อาจแบ่งเป็ น งานการเจ้าหน้าที่ งานบริหารวิชาการ
งานการเงิน งานโรงเรียนงานนิเทศการศึกษา งานกิจการนกั เรียน และงานการศึกษานอกโรงเรียน
เป็ นต้น

7) กองสวสั ดกิ ารสงั คม อาจประกอบด้วย งานสงั คมสงเคราะห์ งานสวสั ดิ
ภาพเดก็ และเยาวชน

8) หนว่ ยงานตรวจสอบภายใน
ทงั้ นีแ้ ต่ละเทศบาลอาจประกอบด้วยส่วนงานท่ีตา่ งกนั ออกไปได้โดยขึน้ อยู่
กบั ความเหมาะสมของภารกิจของแตล่ ะท้องถ่ิน

3) องค์การบริหารส่วนตาํ บล
องค์การบริหารสว่ นตาํ บลในปัจจบุ นั ดาํ เนินการตาม พระราชบญั ญตั สิ ภาตําบลและ
องค์การบริหารส่วนตําบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2546 โดยได้แบ่งขนาดของ
องค์การบริหารสว่ นตําบลออกเป็ น 3 ขนาด ได้แก่

(1) องค์การบริหารสว่ นตําบลขนาดใหญ่ เป็ นองค์การบริหารสว่ นตําบลที่มี
รายได้ไมร่ วมเงินอดุ หนนุ จํานวน 20 ล้านบาทขนึ ้ ไป

(2) องค์การบริหารสว่ นตาํ บลขนาดกลาง เป็ นองค์การบริหารสว่ นตําบลท่ีมี
รายได้ไมร่ วมเงินอดุ หนนุ จํานวน 6-20 ล้านบาท

(3) องค์การบริหารสว่ นตําบลขนาดเลก็ เป็ นองค์การบริหารสว่ นตําบลท่ีมี
รายได้ไมร่ วมเงินอดุ หนนุ ต่ํากวา่ 6 ล้านบาท

• โครงสร้างขององค์การบริหารส่วนตาํ บล
องค์การบริหารสว่ นตําบลมีโครงสร้างประกอบด้วย 2 ฝ่ าย คือ ฝ่ ายบริหาร

และฝ่ ายนิตบิ ญั ญตั ิ เช่นเดียวกบั โครงสร้างของ อบจ. และเทศบาล อนั มีรายละเอียดดงั นี ้

(1) สภาองค์การบริหารส่วนตาํ บล
สภาองค์การบริหารส่วนตําบลเป็ นฝ่ ายนิติบญั ญัติ สมาชิกสภามีท่ีมาจาก
การเลือกตงั้ โดยตรงของประชาชนในแตล่ ะหม่บู ้าน หม่บู ้านละ 2 คน หากในกรณีที่เขตขององค์การ
บริหารสว่ นตําบลใดมีเพียง 2 หมบู่ ้าน ก็ให้มีสมาชิกสภาฯ หมบู่ ้านละ 3 คน โดยมีวาระคราวละ 4 ปี
สําหรับประธานและรองประธานสภาฯ มาจากการเลือกกนั เองของสมาชิก
สภาฯ ตําแหน่งละหน่ึงคน เพ่ือทําหน้าที่ดําเนินการประชุมและดําเนินกิจการอื่นให้เป็ นไปตาม
ข้อบงั คบั ของกระทรวงมหาดไทย

422

อํานาจหน้าที่ของสภาองค์การบริหารสว่ นตําบล (อบต.) มีดงั นี ้
1) ให้ความเห็นชอบแผนพฒั นาองค์การบริหารสว่ นตําบล เพ่ือเป็ นแนวทาง
ในการบริหารกิจการขององค์การบริหารสว่ นตําบล
2) พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างข้อบญั ญตั อิ งค์การบริหารสว่ นตําบล
ร่างข้อบญั ญตั งิ บประมาณรายจา่ ยประจําปี และร่างข้อบญั ญตั งิ บประมาณรายจา่ ยเพิ่มเตมิ
3) ควบคมุ การปฏิบตั ิงานของนายกองค์การบริหารส่วนตําบลให้เป็ นไป
ตามกฎหมาย นโยบาย แผนพฒั นาองค์การบริหารสว่ นตําบล ข้อบญั ญตั ิ ระเบียบ และข้อบงั คบั ของ
ทางราชการ
4) รับทราบนโยบายของนายกองค์การบริหารส่วนตําบล ซ่ึงจําเป็ นต้อง
แถลงตอ่ สภาองค์การบริหารสว่ นตําบลก่อนเข้ารับตําแหน่งโดยไม่มีการลงมติ และรับทราบรายงาน
การแสดงผลการปฏิบัติงานตามนโยบายท่ีนายกองค์การบริหารส่วนตําบล ได้แถลงไว้ต่อสภา
องค์การบริหารสว่ นตําบลเป็ นประจําทกุ ปี
5) การตงั้ กระทู้ถามต่อนายกองค์การบริหารส่วนตําบล หรือรองนายก
องค์การบริหารสว่ นตําบลเก่ียวกบั งานในหน้าที่
6) การเสนอญัตติของเปิ ดอภิปรายท่ัวไปในที่ประชุมองค์การบริหารส่วน
ตําบลเพื่อให้ นายกองค์การบริ หารส่วนตําบลแถลงข้ อเท็จจริ งหรื อแสดงความคิดเห็นในปั ญหา
เก่ียวกบั การบริหารองค์การบริหารสว่ นตาํ บล โดยไมม่ ีการลงมติ

(2) นายกองค์การบริหารส่วนตาํ บล
นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเป็ นหวั หน้าฝ่ ายบริหารของ อบต. มีท่ีมา
จากการเลือกตงั้ โดยตรงของประชาชน มีวาระในการดํารงตําแหน่งได้คราวละ 4 ปี นบั แต่วนั ที่มีการ
เลือกตงั้ โดยสามารถคํารงตําแหนง่ ตดิ ตอ่ กนั ได้โยไมจ่ ํากดั วาระ และเช่นเดียวกบั องค์กรปกครองสว่ น
ท้องถิ่นอื่นที่นายกองค์การบริหารสว่ นตาํ บลอาจแตง่ ตงั้ รองนายกองค์การบริหารสว่ นตําบลซงึ่ ไม่เป็ น
สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบล เพื่อช่วยในการบริหารงานได้ไม่เกิน 2 คน และอาจแต่งตงั้
เลขานกุ ารนายกองค์การบริหารสว่ นตําบล 1 ซง่ึ ต้องไมเ่ ป็ นสมาชิกสภาฯเช่นเดยี วกนั
อํานาจหน้าท่ีของนายกองค์การบริหารสว่ นตาํ บล มีดงั นี ้คือ
(1) กําหนดนโยบายโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย และรับผิดชอบในการบริหาร
ราชการขององค์การบริหารส่วนตําบลให้เป็ นไปตามกฎหมาย นโยบาย แผนพฒั นาองค์การบริหาร
สว่ นตาํ บล ข้อบญั ญตั ิ ระเบียบ และข้อบงั คบั ของทางราชการ
(2) สงั่ อนญุ าต และอนมุ ตั เิ ก่ียวกบั ราชการขององค์การบริหารสว่ นตําบล

423

(3) แตง่ ตงั้ และถอดถอนรองนายกองค์การบริหารสว่ นตําบลและเลขานกุ าร
นายกองค์การบริหารสว่ นตาํ บล

(4) วางระเบียบเพื่อให้งานขององค์การบริหารส่วนตําบลเป็ นไปด้วยความ
เรียบร้ อย

(5) ควบคมุ และรับผิดชอบในการบริหารราชการขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นตามกฎหมาย และเป็ นผ้บู งั คบั บญั ชาพนกั งานส่วนตําบลและลกู จ้างโดยมี ปลดั อบต. เป็ น
ผู้บงั คบั บญั ชาพนกั งานและลกู จ้าง และรับผิดชอบควบคมุ ดูแลราชการประจําขององค์การบริหาร
ส่วนตําบล และรับผิดชอบควบคมุ ดแู ลข้าราชการประจําของ อบต. ให้เป็ นไปตามนโนบายและมี
อํานาจอ่ืนตามที่กฎหมายกําหนด หรือตามที่นายกองค์การบริการสว่ นตาํ บลได้มอบหมาย

(6) เข้าร่วมประชมุ กบั สภา และมีสทิ ธิแถลงข้อเท็จจริงตลอดจนแสดงความ
คดิ เห็นเกี่ยวกบั งานในหน้าท่ีของตนตอ่ ท่ีประชมุ แตไ่ มม่ ีสทิ ธิลงคะแนนเสียง

(7) รักษาการให้เป็ นไปตามข้อบญั ญตั ขิ ององค์การบริหารสว่ นตาํ บล
(8) ปฏบิ ตั หิ น้าท่ีอ่ืนตามที่บญั ญตั ไิ ว้ในพระราชบญั ญตั นิ ีแ้ ละกฎหมายอ่ืน

• การจดั โครงสร้างการบริหารภายในองค์การบริหารส่วนตาํ บล
การแบง่ โครงสร้างภายในขององค์การบริหารสว่ นตําบลประกอบด้วย
1) สาํ นกั งานปลดั ซง่ึ ประกอบด้วย งานธรุ การ งานนิตกิ ร งานศนู ย์ข้อมลู
2) ส่วนการคลงั ประกอบด้วย งานงบประมาณ งานจดั เก็บรายได้ งาน

การเงินและบญั ชี โครงการแผนที่ภาษี
3) สว่ นงานสาธารณสขุ ประกอบด้วย งานสขุ าภิบาล งานป้ องกนั โรคตดิ ตอ่
4) ส่วนการศกึ ษา ประกอบด้วย ศนู ย์พฒั นาเด็กเล็ก และ การศกึ ษานอก

โรงเรียน
5) สว่ นโยธา ประกอบด้วย งานโยธา และงานป้ องกนั ฯ

อย่างไรก็ตามการจดั โครงสร้างตามที่ได้กลา่ วมาอาจมีความแตกต่างกนั ไปตามแต่
ความเหมาะสมของแตล่ ะองค์การบริหารสว่ นตําบล

424

ภาคผนวก 6 สาระสาํ คัญของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดขุ องหน่วย
บริหารราชการส่วนท้องถ่นิ (ฉบบั ท่ี 9) พ.ศ. 2553

1. แก้ไขคาํ นิยามให้รวมถงึ องค์การบริหารสว่ นตําบล
2. กรณีที่ไมส่ ามารถปฏิบตั ิตามระเบียบได้จะไม่มีการยกเว้นระเบียบโดยการขออนมุ ตั ผิ ้วู ่า
ราชการจงั หวดั ดงั เชน่ ระเบียบฉบบั เก่า แตใ่ ห้มีการทําความตกลงแทน
3. ในกรณีท่ีมีการรับมอบพสั ดทุ ี่มีผ้อู ทุ ิศให้ อปท. สามารถให้สภาท้องถิ่นเห็นชอบโดยไมต่ ้อง
ขออนมุ ตั จิ ากผ้วู า่ ราชการจงั หวดั
4. ตามระเบียบฉบบั เดิมการจดั หาจากเงินรายได้จะต้องมีเงินรายได้เข้าก่อน แตใ่ นระเบียบ
ฉบบั ใหม่ แม้จะยงั ไม่มีรายได้เข้าทางองค์กรปกครองท้องถิ่นก็สามารถดําเนินการหาตวั ผ้ขู ายหรือผู้
รับจ้างรอไว้ก่อนได้ (ยกเลกิ ข้อ 10 ทวิ)
5. แก้ไขข้อ 11 เรื่อง การใช้พสั ดทุ ่ีผลติ ในประเทศ ให้สอดคล้องกบั สว่ นราชการ
6. ในเรื่อง e-Auction ให้ใช้หลกั เกณฑ์ที่กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิ่นกําหนด จากเดิมที่
ให้ถือตามหลกั เกณฑ์ของกระทรวงการคลงั
7. ถ้าไมม่ ีหลกั เกณฑ์ในเร่ืองใด ให้นําระเบยี บ สนร.2549 มาใช้โดยอนโุ ลม
8. ให้ท่ีสถานที่กลางสําหรับเป็ นศนู ย์รวมขา่ วการจดั ซือ้ จดั จ้างตามหลกั เกณฑ์ท่ีกรมสง่ เสริม
การปกครองท้องถ่ินกําหนด
9. เพิ่มหลกั เกณฑ์การซือ้ การจ้างตอ่ เนื่อง (Repeat Order) โดยเพิ่มเตมิ เงื่อนไขการซือ้ การ
จ้างตอ่ เน่ืองจากผ้ขู ายหรือผ้รู ับจ้างรายเดมิ ตามหลกั เกณฑ์ที่กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่ินกําหนด
10. ปรับปรุงคณุ สมบตั ขิ องคณะกรรมการจดั ซือ้ จดั จ้าง โดยการแตง่ ตงั้ คณะกรรมการตา่ งๆ
ให้คํานึงถึงลกั ษณะหน้าท่ีและความรับผิดชอบของผู้ท่ีได้รับแต่งตงั้ เป็ นสําคญั โดยไม่อ้างอิงระดบั
หรือ ซี และในกรณีท่ีจําเป็ นอาจแตง่ ตงั้ บคุ คลอื่นร่วมเป็ นกรรมการได้ไมเ่ กินสองคน
11. แก้ไขเรื่องอํานาจการสง่ั ซือ้ สง่ั จ้างของนายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั

จากไมเ่ กิน 100 ล้านบาท เป็นเกิน 300 ล้านบาท (ข้อ 58)
จากไมเ่ กิน 10 ล้านบาท เป็นไมเ่ กิน 20 ล้านบาท (ข้อ 59)
12. ยกเลกิ การแลกเปลี่ยนพสั ดปุ ระเภทท่ีดนิ และสง่ิ ก่อสร้าง
13. แก้ไข 129 เร่ืองการแก้ไขเพิม่ เติมสญั ญา โดยการแก้ไขสญั ญาจะต้องอยภู่ ายใต้ขอบเขต
วตั ถุประสงค์ของสญั ญาเดิม และการแก้ไขสญั ญาท่ีมีผลเป็ นการเพ่ิมวงเงินให้ปฏิบตั ิตามระเบียบ
กระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยการงบประมาณ

425

14. แก้ไข 155 การให้บคุ คลใดใช้ประโยชน์หรือได้รับสทิ ธิใดๆอนั เก่ียวกบั พสั ดปุ ระเภทท่ีดนิ
หรือสง่ิ ก่อสร้าง ให้สภาท้องถิ่นเห็นชอบ โดยไมต่ ้องให้ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั อนมุ ตั ิ

15. การให้หรือขาย และรับซองสอบราคา 10 วนั แล้วเปิดซองในวนั ที่ 11 (เดมิ อบต. ให้หรือ
ขาย 10 วนั ทําการและเปิ ดซองวนั ที่ 11)

16. การพจิ ารณาให้นิตบิ คุ คลเป็ นผ้ทู งิ ้ งานจะต้องพิจารณาตวั บคุ คลเป็ นผ้ทู งิ ้ งานด้วย

426

ภาคผนวก 7 สรุปความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะจากเวทกี ารระดมความคดิ เหน็ ใน 4 ภาค

คณะผู้วิจยั ได้จดั เวทีระดมความคิดเห็นจากนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ
ประจํา เจ้าหน้าท่ีผ้ปู ฏิบตั งิ าน ใน 4 ภาค ได้แก่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ คอื จงั หวดั ขอนแก่น 2554
ภาคใต้ คือ จงั หวดั ภเู ก็ต ภาคกลาง คือ จงั หวดั กรุงเทพมหานคร และภาคเหนือ คือ จงั หวดั ลําปาง
คณะผ้วู จิ ยั ได้สรุปและรวบรวมความคดิ เห็นจากความคิดเห็นที่ตวั แทนองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินได้
ให้ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะดงั นี ้

1) ประเดน็ ด้านกฎและระเบียบ
• โครงสร้างในองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินให้อํานาจกบั ผ้บู ริหารท้องถิ่นมากเกินไป

เร่ืองการมีสว่ นร่วมของประชาชนก็สามารถถ่วงอํานาจได้ในระดบั หนง่ึ เท่านนั้
• องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินขาดผ้มู ีความรู้ ความสามารถ ความเช่ียวชาญเรื่อง

กฎ ระเบียบท่ีมีข้อปลีกยอ่ ยมาก โดยเฉพาะเร่ืองระเบียบการจดั ซือ้ จดั จ้างมีมกั ประสบปัญหาเสมอ
• บางครัง้ กรณีการทุจริตนัน้ ไม่ได้มีเจตนาก็มี แต่เป็ นลกั ษณะการเข้าใจผิดและ

ปัญหาที่พบคือการตีความผิดของเจ้าหน้าที่ ดงั นัน้ ควรทําความเข้าใจให้ตรงกันในเรื่องกฎและ
ระเบียบ

2) ประเดน็ ด้านการจัดซอื้ จดั จ้าง
• การปฏิบตั ิงานด้านจดั ซือ้ จดั จ้าง ไม่ควรดทู ี่ปลายเหตุ ต้องดทู ี่กระบวนการ

ก่อนที่จะมาจัดซือ้ จัดจ้าง เช่น การจัดทําแผน ข้อบัญญัติงบประมาณ การจัดซือ้ จัดจ้างระบบ
e-Auction ไม่ได้ผล ยงั มีการฮวั้ ประมลู กนั เหมือนเดิม แตก่ ็มีบางส่ิงท่ี e-Auction ทําได้ดีกว่าการ
ประกวดราคา หากมองในภาพของคณะกรรมการนัน้ คนที่โดนแต่งตัง้ เป็ นคณะกรรมการจะ
ปลอดภยั มากกวา่ ระบบเดมิ ท่ีใช้วิธีการประกวดราคา

• โครงสร้างในองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินให้อํานาจกบั ผ้บู ริหารท้องถิ่นมาก ไม่
มีการถว่ งดลุ อาํ นาจในเร่ืองของการป้ องกนั การทจุ ริต

• การกําหนดราคากลาง เสนอวา่ ให้มีการกําหนดราคากลางของกลมุ่ จงั หวดั ท่ี
มีราคาคา่ แรง คา่ พสั ดทุ ี่ใกล้เคยี งกนั

427

• ระเบียบพสั ดขุ ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาจจะเป็ นระเบียบท่ีเอือ้ ต่อการ
ทุจริตก็ได้ ด้วยเหตผุ ลที่ว่า การประมลู ในการจัดซือ้ จดั จ้าง การประกวดราคา มีการกําหนดว่าให้
ผ้รู ับเหมาต้องมาซือ้ เอกสารแบบแปลนจากท้องถ่ิน การกีดกนั ก็จะเกิดจากไมผ่ ้อู ื่นมาซือ้ เอกสารแบบ
แปลน เขาจะเอือ้ ประโยชน์กบั พวกพ้องตนเอง

3) ประเดน็ ด้านการบริหารงานบุคคล
• ควรเพ่ิมและปรับฐานเงินเดือนและเพ่ิมสวสั ดิการแก่เจ้าหน้าที่ท้องถ่ิน เพราะ

ฐานเงินเดอื นของข้าราชการท้องถิ่นตาํ่ กวา่ ข้าราชการพลเรือน สว่ นเร่ืองสวสั ดกิ ารอยากให้มีการปรับ
การเบกิ จ่ายเป็ นการเบกิ จ่ายจากสว่ นกลาง

• การเลื่อนตําแหน่ง การปรับย้ายตําแหน่ง ขอเสนอว่าให้เป็ นมาตรฐานเดียวกบั
ท่ีมาจากสว่ นกลาง

• การเข้ามาทํางานของผ้บู ริหาร ผ้บู ริหารท้องถิ่นยงั ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่อง
บริหาร และการคดั เลือกผ้ทู ี่จะมาทําหน้าที่เป็ นผ้บู ริหารท้องถิ่นนี่ นอกจากกําหนดเรื่องวฒุ กิ ารศกึ ษา
แล้ว ก็น่าจะมีเรื่องจริยธรรม คณุ ธรรมที่ต้องเน้นเป็ นพิเศษ

• โครงสร้ างการบริหารงานบุคคล ต้องใช้ระบบถ่วงดุลอํานาจโดยให้องค์กร
บริหารงานบคุ คลต้องขนึ ้ กบั สาํ นกั นายกรัฐมนตรี

4) ประเดน็ ด้านการทจุ ริตใบอนุญาต
• การให้เจ้าหน้าท่ีท่ีเป็ นลกู จ้างออกไปเก็บใบอนญุ าตนนั้ จะเส่ียงต่อการไม่นําเงิน

สง่ ราชการ ดงั นนั้ ต้องมาตรการในการกํากบั ดแู ล
• ควรเร่งจัดตัง้ ปปช. จังหวัด และการบริหารงานควรให้เจ้าหน้าท่ีในองค์กร

ตรวจสอบมีหารหมนุ เวียนเปลี่ยนให้บอ่ ยครัง้ ขึน้ เพื่อช่วยส่งผลในเชิงจิตวิทยาแตย่ งั มีข้อสงั เกตบาง
ประการว่าหากมาอย่ใู นพืน้ ท่ี การวิ่งเต้นเร่ืองคดีอาจทําได้ง่ายเพราะเจ้าหน้าท่ีมาใกล้ชิดหรืออย่ใู น
พืน้ ที่

5) ประเดน็ ด้านการตรวจสอบ
• มาตรฐานของการตรวจสอบของ สตง. ไม่มีมาตรฐานเดียวกัน ทําให้ผู้ปฏิบตั ิ

งานสบั สน จงึ อยากให้ สตง. จดั การอบรม ให้คาํ แนะนํา ให้การศกึ ษาแก่เจ้าหน้าท่ีถงึ วิธีการตรวจวา่ มี
มาตรฐานอย่างไรตรวจสอบ ซ่ึงคือ ปปช. สตง. และต้องขยายหน่วยงานให้มีในระดบั จงั หวดั และ
กระจายหรือมอบหมาย

428

• ควรสร้างความเข้มแข็งในองค์กรมายอํานาจให้ในระดบั จงั หวดั ว่ามีขอบเขตแค่
ไหน

• การตรวจสอบของ สตง. อยากให้ปรับวิธีการที่ดูผลสําเร็จของงาน มากกว่า
กระบวนการหรือขนั้ ตอนท่ีละเอียดมากเกินไป และควรปรับบทบาทมาทํางานเชิงป้ องกันดีกว่ามา
ปราบปราม คือ การตรวจสอบน่ีทุกอย่างได้ดําเนินการไปเรียบร้ อยหมดแล้ว การตรวจก็มีแต่จะมี
ความผดิ หากหางทางป้ องกนั น่าจะเป็ นวิธีที่ดี โดยการที่ สตง.เข้ามาดกู ระบวนการตงั้ แตเ่ บือ้ งต้น

• การตรวจสอบขององค์กรอิสระคือ กกต. เรื่องการเลือกตัง้ นัน้ หากไม่มีการ
ร้องเรียนก็ไม่สามารถดเู รื่องที่มีแนวโน้มการทจุ ริตการเลือกตงั้ ได้ และหากพบว่าทุจริตการเลือกตงั้
ควรตดั สทิ ธ์ทางการเมืองจาก 4 ปี เป็ น 8 ปี

• หน่วยงานที่เป็ นองค์กรอสิ ระมีมากเกินไป

6) ประเดน็ ด้านการพัฒนาคุณภาพของคนและอ่นื ๆ
• ต้องการให้ ปปช. จัดทําโครงการประชาศึกษาอย่างต่อเน่ือง และควรเพิ่ม

เครือขา่ ยภาคประชาสงั คม
• ประชาชนที่มาเป็ นคณะกรรมการบางท่านไม่มีความรู้ การตรวจรับงานจึงเป็ น

ปัญหา เช่น เร่ืองมาตรฐานของวสั ดหุ รืออปุ กรณ์เฉพาะอยา่ ง ต้องใช้ความรู้ของผ้เู ชียวชาญเท่านนั้
• ในทางปฏิบตั ิงานทัง้ ระบบควรจะทํางานเชิงป้ องกันมากกว่าการปราบปราม

เพราะถ้าระบบการป้ องกนั ไมด่ ี ยงั ไงก็มีโอกาสทจุ ริต
• ระยะสนั้ ควรให้ ปปช.ใช้กระบวนการทางกฎหมายอยา่ งเข้มงวด รวดเร็ว และเห็น

ด้วยท่ีจะมีการขยายหน่วยงานมายงั ภมู ภิ าค สว่ นระยะยาว ต้องปลกู ฝังเยาวชนตงั้ แตเ่ ดก็ นกั เรียนชนั้
อนบุ าลจนถึงมหาวิทยาลยั เน้นเรื่องคณุ ธรรม จริยธรรมเป็ นเร่ืองสําคญั

• การมีส่วนร่วมของประชาชนคือกระบวนการท่ีดีที่สดุ แต่ท่ีผ่านมายงั อ่อนแออยู่
ควรเพ่ิมเร่ืองจิตสํานกึ และที่เห็นว่ามีประโยชน์ตอ่ ทางราชการคือ โครงการของ ป.ป.ช. ที่จดั โครงการ
สายลบั ป.ป.ช.

• ลดองค์ประกอบในเรื่องสดั สว่ นตําแหน่งของผ้บู ริการ เนื่องจากมีมากเกินไปและ
นําเงินเดือนหรืองบประมาณของผู้บริหารเหล่านัน้ มาเพิ่มให้กับข้าราชการท้องถ่ินเพื่อยกระดับ
คณุ ภาพชีวติ



429

ประวัตนิ ักวจิ ยั

ช่ือ ศาสตราจารย์ ดร. สมคดิ เลศิ ไพฑรู ย์

วุฒกิ ารศกึ ษา นิติศาสตรบณั ฑิต (ธรรมศาสตร์) พ.ศ. 2525

เนตบิ ณั ฑิตไทย พ.ศ. 2527

D.E.A. de droit public interne (Paris II, FRANCE) พ.ศ. 2530

Doctorat en droit (Paris II, France) พ.ศ. 2533

ประกาศนียบตั รวา่ ด้วยการปกครองท้องถ่ินจากสถาบนั IIAP.

ประเทศฝรั่งเศส พ.ศ. 2537

ตาํ แหน่ง อธิการบดมี หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์

ศาสตราจารย์ ระดับ 10 ประจําภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ เป็ น

ผ้เู ช่ียวชาญในด้านกฎหมายมหาชน กฎหมายรัฐธรรมนญู กฎหมายการคลงั และภาษีอากร กฎหมายระเบียบ

บริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายปกครอง กฎหมายภาษีทรัพย์สินและความมง่ั คงั่ และกฎหมายว่าด้วยการ

ปกครองท้องถิ่น เป็ นกรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ ิว่าด้วยคณะกรรมการพฒั นากฎหมาย (คณะ10) สมาชิกสภาร่าง

รัฐธรรมนูญ ผ้เู ชี่ยวชาญกฎหมายมหาชน กรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ ิในคณะกรรมการการกระจายอํานาจให้แก่

องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน

ช่ือ อาจารย์ ดร. ศริ ินทร์รัตน์ กาญจนกุญชร

วุฒกิ ารศกึ ษา ศิลปศาสตรบณั ฑิต (ศศบ.) วทิ ยาลยั นานาชาติ (ISDP) มหาวิทยาลยั มหิดล

สังคมสงเคราะห์ ศาสตรมหาบัณฑิต (สังคมสงเคราะห์ ทางการศึกษา)

มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์

สงั คมสงเคราะห์ศาสตรดษุ ฎีบณั ฑิต (การบริหารสงั คม) มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์

ตาํ แหน่ง อาจารย์ประจําคณะสงั คมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์

รับผิดชอบการสอนในระดบั ปริญญาตรี เช่น วิชาสงั คมไทยกบั หลกั การพฒั นาสงั คม

สมั มนาวิชาสงั คมสงเคราะห์ ทฤษฎีการลงโทษและการแก้ไขผ้กู ระทําผิด เป็ นต้น และปริญญาโทในการวิจยั เชิง

ปฏิบตั ิการแบบมีสว่ นร่วมในงานสงั คมสงเคราะห์ ขณะนีก้ ําลงั ทําวิจยั เร่ือง บทบาทสตรีตอ่ การพฒั นาการเมือง

ภาคประชาชนเสนอต่อสถาบันพระปกเกล้า และการส่งเสริมภาคธุรกิจเอกชนต่อการดําเนินงานความ

รับผิดชอบตอ่ สงั คม (CSR) ด้านการศกึ ษา เสนอตอ่ สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาแหง่ ชาติ

430

ช่ือ อาจารย์วไิ ลลกั ษณ์ อยู่สาํ ราญ

ประวตั ศิ กึ ษา วิทยาศาสตรบณั ฑิต (สงั คมวิทยาและมานษุ ยวทิ ยา) เกียรตนิ ิยม อนั ดบั 2

มหาวิทยาลยั เชียงใหม,่ 2542.

สงั คมวิทยาและมานษุ ยวทิ ยามหาบณั ฑติ (สงั คมวิทยา) มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์,

2546.

ตาํ แหน่ง อาจารย์ประจาํ โครงการศกึ ษาศลิ ปศาสตรบณั ฑิตสหวทิ ยาการสงั คมศาสตร์

วิทยาลยั สหวทิ ยาการ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ศนู ย์ลาํ ปาง

รับผิดชอบการสอนในระดับปริญญาตรี เช่น แนวความคิดว่าด้วยการพัฒนาการ

จดั การการท่องเท่ียวอย่างยง่ั ยืน การจดั การทรัพยากรเพื่อการท่องเที่ยวและบริการ การวิจยั เพ่ือพฒั นาการ

ท่องเท่ียวและบริการ เป็ นต้น โดยในปี พ.ศ. 2549 ผลงานวิจยั เรื่อง “การจดั การความรู้เพ่ือพฒั นาองค์กร

การเงินชมุ ชน” ได้รับรางวลั งานวิจยั เดน่ จากสาํ นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวิจยั (สกว.)

ช่ือ นางสาวนิรมยั พศิ แข
ประวัตศิ กึ ษา นิติศาสตรบณั ฑิต (เกียรตินิยมอนั ดบั 2) มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, 2544.
เนติบณั ฑิตไทย (รุ่นท่ี 56) สาํ นกั อบรมศกึ ษากฎหมายแหง่ เนตบิ ณั ฑิตยสภา, 2546.
ตาํ แหน่ง นิติศาสตรมหาบณั ฑิต (กฎหมายมหาชน) มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, 2548.
อาจารย์ประจําภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์

ช่ือ นางสาวอัจจมิ า ฉัตรแก้ว
ประวตั กิ ารศกึ ษา รัฐศาสตรบณั ฑิต สาขาการเมืองการปกครอง (เกียรตนิ ิยมอนั ดบั 2)
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, 2547.
นิตศิ าสตรบณั ฑิต (เกียรตินิยมอนั ดบั 2) มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, 2551.
การอบรมหลกั สตู รวิชาวา่ ความ และได้รับใบอนญุ าตวา่ ความจากสภาทนายความ
พ.ศ. 2553
เนติบณั ฑิตไทย (สมยั ที่ 63) แหง่ สาํ นกั อบรมศกึ ษากฎหมายแหง่ เนติบณั ฑิตยสภา,
พ.ศ. 2554
ปัจจบุ นั กําลงั ศกึ ษาในระดบั ปริญญาโท ท่ีคณะนิตศิ าสตร์ (สาขากฎหมายมหาชน)
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์

 





ผลงานวิจัย โดย

ศาสตราจารย์ ดร.สมคดิ เลศิ ไพฑูรย์ หัวหนา้ คณะผ้วู ิจยั
อาจารย์ ดร.ศิรินทรร์ ตั น์ กาญจนกุญชร
อาจารย์วิไลลักษณ์ อยสู่ ำราญ
อาจารย์นริ มัย พิศแข
นางสาวอัจจมิ า ฉัตรแกว้
ร่วมกบั
สถาบันวจิ ยั และใหค้ ำปรกึ ษาแหง่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นำเสนอตอ่
สำนกั งาน ป.ป.ช.
361 ถ.นนทบรุ ี-สนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000


Click to View FlipBook Version