The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by iyarasakulpan, 2022-09-06 11:33:52

แผนรายวิชาภาษาไทย 3 ท22101

นางสาวโนรี ในจิตร์

รหสั ตวั ช้ีวัด จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระกา
เรยี นร
สัมผัส
ในบทรอ้ ยกรอง (A)

ท ๔.๑ ม. ๒/ ๑. อธบิ ายหลกั การใช้คาตาม การแตง่ บทร้อยกรองต้องมี หลักการแ
๓ ข้อบงั คบั ของกลอนสุภาพ (K) ฉันทลักษณ์ถกู ตอ้ ง ไพเราะท้ังรส กลอน
๒. แต่งกลอนสภุ าพ (P) คาและรสความ
๓. เห็นความสาคัญของการ
เลอื กใช้คาในการแตง่ บทร้อย
กรอง (A)

ท ๔.๑ ม. ๒/ ๑. สรุปขอ้ บังคบั และหลักการ การแตง่ กลอนสภุ าพเปน็ การ การแต่งก
๓ แตง่ กลอนสภุ าพ (K) อนรุ กั ษ์วัฒนธรรมทางภาษาอกี สภุ าพ
๒. แตง่ กลอนสด (P) วธิ ีหนงึ่
๓. เห็นความสาคัญของการ
แตง่ กลอนสุภาพ (A)

าร วธิ กี ารสอน วธิ ีการวดั ผล ห
รู้
เคร่อื งมือการ สอ่ื และ ชน้ิ งาน
วัดผล แหล่งเรยี นรู้ ภาระงาน

แตง่ กระบวนการ ๑) สังเกต ๑) แบบสังเกต ๑.กลอน

สรา้ งความคดิ พฤติกรรมของ พฤติกรรมการเข้า สุภาพ

รวบยอด นักเรียนในการเข้า ร่วมกิจกรรม ๒.บตั รคา

รว่ มกจิ กรรม ๒) แบบสังเกต

๒) ตรวจชิ้นงาน พฤตกิ รรมการเขา้

รว่ มกจิ กรรมกลมุ่

กลอน กระบวนการ ๑) สังเกต ๑) แบบสังเกต ๑. แถบ ใบงาน เรื่อง
ประโยค การเขียน
สร้างความคิด พฤตกิ รรมของ พฤตกิ รรมการเขา้ ๒. กระดาษ แสดงความรู้
สาหรบั แตง่ ความคิดเห็น
รวบยอด นกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม กลอน

รว่ มกิจกรรม

๒) สงั เกต

พฤตกิ รรมของ

นักเรยี นในการเข้า

รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

๓) ตรวจผลงาน

ของนกั เรียน

รหสั ตวั ช้ีวัด จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระสาคญั สาระกา

ท ๑.๑ ม. ๒/ ๑. อธบิ ายหลกั การอภปิ ราย การอภปิ รายและการเขยี น เรยี นร
การอภิปร
๔ เกยี่ วกบั เรอ่ื งท่ีอ่าน (K) วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ เป็นการแสดง เกยี่ วกบั เร
ทอี่ า่ น
ท ๒.๑ ม. ๒/ ๒. อภปิ รายแสดงความคิดเห็น ความคดิ เหน็ ซง่ึ ประกอบดว้ ย

๗ และขอ้ โต้แยง้ เกีย่ วกับบทเสภา เหตผุ ลที่ถูกตอ้ ง มีคุณธรรม

สามคั คเี สวก (P) ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ผรู้ ับสาร

๓. เขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และสงั คม ไม่กอ่ ใหเ้ กิดความ

และแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ ขัดแย้ง

จากบทเสภาสามคั คเี สวก (P)

๔. เหน็ ความสาคญั ของการ

อภิปรายแสดงความคิดเห็น

การเขียนวเิ คราะห์วจิ ารณ์

อย่างมเี หตผุ ล (A)

ท ๑.๑ ม. ๒/ ๑. บอกลกั ษณะการชวนเช่อื โฆษณามีจุดประสงค์เพ่ือให้ผู้รับ ข้อสงั เกตก
๖ การโนม้ นา้ วและความ สารเชอ่ื และคลอ้ ยตาม ผู้อา่ นจึง ชวนเชอื่ ก
สมเหตุสมผลของงานเขยี น (K) ควรวเิ คราะหค์ วามสมเหตสุ มผล โนม้ นา้ ว ห
๒. วิเคราะห์การชวนเชื่อ การ ด้วยใจเป็นธรรม เพอ่ื ใหเ้ ลือกซ้อื ความ
โนม้ นา้ ว และความ สนิ คา้ และบรกิ ารได้ตรงตามความ สมเหตุสม
สมเหตุสมผลของงานเขียน (P) ต้องการมากท่สี ุด ของงานเข



าร วิธกี ารสอน วิธีการวัดผล เคร่อื งมือการ ส่อื และ ช้นิ งาน
รู้ วัดผล แหลง่ เรยี นรู้ ภาระงาน
ใบงาน
ราย การคดิ อย่างมี ๑) สังเกต ๑) แบบสังเกต

ร่ือง วจิ ารณญาณ พฤตกิ รรมของ พฤตกิ รรมการเข้า

นกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม

รว่ มกจิ กรรม ๒) แบบสังเกต

๒) สงั เกต พฤตกิ รรมการเข้า

พฤตกิ รรมของ ร่วมกิจกรรมกลมุ่

นักเรียนในการเข้า

ร่วมกจิ กรรมกลุม่

๓) ตรวจใบงาน

๑) สงั เกต ๑) แบบสังเกต ๑. แถบ ใบงาน เรอื่ ง
ข้อความ การวิเคราะห์
การ กระบวนการ พฤติกรรมของ พฤติกรรมการเขา้ โฆษณา
๒.
การ สรา้ งความคิด นกั เรียนในการเข้า ร่วมกิจกรรม หนงั สือพิมพ์

หรอื รวบยอด รว่ มกจิ กรรม ๒) แบบสังเกต ๓. ใบงาน

๒) สงั เกต พฤติกรรมการเข้า

มผล พฤตกิ รรมของ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่

ขียน นกั เรียนในการเข้า

รหัสตัวช้ีวัด จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระสาคัญ สาระกา
เรียนร
๓. เหน็ ความสาคัญของการ
อ่านงานเขียนอยา่ งมี
วิจารณญาณ (A)

ท ๑.๑ ม. ๒/ ๑. สรปุ ลักษณะการชวนเชื่อ การอ่านงานเขียน ประเภทโนม้ ขอ้ สังเกตก
๖ ชวนเช่อื ก
การโนม้ น้าว และความ นา้ วใจ ต้องสังเกตกลวธิ กี ารโน้ม โน้มน้าว ห
ความ
สมเหตุสมผลของงานเขยี น (K) นา้ วและประเมินความน่าเชอ่ื ถือ สมเหตุสม
ของงานเข
๒. วิเคราะห์การชวนเชอื่ การ จากข้อมูลและเหตุผลท่ีผ้เู ขียน

โน้มน้าว และความ นาเสนอเพ่ือใหไ้ ด้รบั ประโยชน์ที่

สมเหตุสมผลของงานเขียน (P) สามารถนาไปใช้ ในชวี ิตจริงได้

๓. เหน็ ความสาคญั ของการ

อา่ นงานเขยี นอยา่ งมี

วจิ ารณญาณ (A)

ท ๓.๑ ม. ๒/ ๑. อธิบายขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ น การพดู โนม้ น้าวเปน็ การส่งสาร การพดู โน
๔ การพดู โน้มนา้ ว (K) ให้ผูฟ้ ๎ง มีความคดิ เห็นและรู้สึก น้าว
ท ๓.๑ ม. ๒/ ๒. พดู โนม้ นา้ ว (P) คลอ้ ยตามผู้พูด ดังน้นั ผูพ้ ดู จงึ
๖ ๓. เห็นความสาคญั ของการพูด ตอ้ งมคี ุณธรรม โนม้ นา้ วใจอยา่ ง
โน้มน้าวและมมี ารยาทในการ สมเหตุสมผล จรงิ ใจ ผู้พูดจึงจะ
พูด (A) ประสบความสาเร็จในการพูดและ
เปน็ ประโยชน์ทั้งต่อผพู้ ูดและผู้ฟง๎

าร วธิ ีการสอน วธิ ีการวัดผล อ
รู้
เครือ่ งมือการ สอ่ื และ ชิน้ งาน
วัดผล แหลง่ เรียนรู้ ภาระงาน

ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

๓) ตรวจใบงาน

การ กระบวนการ ๑) สงั เกต ๑) แบบสังเกต ๑. แถบ

การ สร้างความ พฤตกิ รรมของ พฤตกิ รรมการเขา้ ข้อความ

หรือ ตระหนัก นกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๒. งานเขยี น

ร่วมกจิ กรรม ๒) แบบสังเกต ประเภทโนม้

มผล ๒) สังเกต พฤตกิ รรมการเขา้ น้าวใจ

ขยี น พฤติกรรมของ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม

นกั เรยี นในการเขา้

ร่วมกจิ กรรมกลมุ่

๓) ตรวจผลงาน

ของนักเรียน

น้ม กระบวนการ ๑) สงั เกต ๑) สงั เกต ๑. คาเชิญ

สรา้ งความ พฤตกิ รรมของ พฤตกิ รรมของ ชวน

ตระหนัก นักเรยี นในการเข้า นกั เรียนในการเข้า ๒. ฉลาก

ร่วมกิจกรรม ร่วมกิจกรรม

๒) สงั เกต ๒) สังเกต

พฤตกิ รรมของ พฤตกิ รรมของ

นักเรยี นในการเข้า นักเรียนในการเข้า

รหสั ตวั ชี้วดั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระสาคัญ สาระกา
เรียนร

ท ๓.๑ ม. ๒/ ๑. บอกประโยชนข์ องการพดู การโต้วาทีเปน็ การพดู เพือ่ โน้ม การพดู
๔ โนม้ นา้ ว (K) นา้ วให้ผูฟ้ ๎งคล้อยตามไปกับ โน้มนา้ ว
ท ๓.๑ ม. ๒/ ๒. โต้วาทโี ดยใช้การพดู โนม้ ความคิดของผู้พดู ซง่ึ ต้องมี
๖ นา้ ว (P) เหตผุ ลและหลกั ฐานทนี่ า่ เชือ่ ถือ
๓. เหน็ ความสาคญั ของการพดู ประกอบ การพดู จงึ จะสัมฤทธผิ ล
โนม้ น้าวและมีมารยาทในการ
ฟง๎ การดู และการพูด (A)

ท ๒.๑ ม. ๒/ ๑. บอกสว่ นประกอบของการ การเขียนรายงานเปน็ การ การเขียน
๕ เขียนรายงานจากการศกึ ษา นาเสนอขอ้ มูล ความรู้ท่ีไดจ้ าก รายงานจา
ท ๒.๑ ม. ๒/ ค้นควา้ (K) การศกึ ษาค้นคว้าโดยเรียบเรยี ง การศึกษา
๘ ๒. วางแผนการเขียนรายงาน อย่างมรี ะบบมหี ลักฐานอา้ งอิง ค้นคว้า
จากการศกึ ษาคน้ คว้า (P) ชัดเจน เพื่อเผยแพรค่ วามรู้ให้
๓. เขยี นรายงานจาก นา่ เชื่อถือและเกิดประโยชนต์ ่อ
การศึกษาคน้ ควา้ (P) ผ้อู า่ น



าร วิธกี ารสอน วธิ กี ารวัดผล เครื่องมอื การ ส่ือและ ช้ินงาน
รู้ วดั ผล แหลง่ เรยี นรู้ ภาระงาน

ร่วมกิจกรรมกลมุ่ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่

๓) ตรวจผลงาน ๓) ตรวจผลงาน

ของนกั เรยี น ของนักเรียน

๑) แบบสงั เกต

บทบาท ๑) สงั เกต พฤตกิ รรมการเขา้ อุปกรณแ์ ละ การโตว้ าที

สมมุติ พฤตกิ รรมของ รว่ มกิจกรรม ส่อื ทีใ่ ช้ในการ

นักเรยี นในการเขา้ ๒) แบบสังเกต โตว้ าที

ร่วมกจิ กรรม พฤตกิ รรมการเข้า

๒) สังเกต ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

พฤตกิ รรมของ

นกั เรียนในการเข้า

ร่วมกจิ กรรมกลมุ่

๓) ตรวจผลงาน

ของนกั เรยี น

กระบวนการ ๑) สงั เกต ๑) แบบสงั เกต ๑. ตวั อยา่ ง รายงานจาก

าก สร้างความคดิ พฤติกรรมของ พฤตกิ รรมการเขา้ รายงาน การศึกษา

า รวบยอด นักเรียนในการเข้า รว่ มกิจกรรม ๒. ฉลาก ค้นควา้

ร่วมกจิ กรรม ๒) แบบสงั เกต

๒) สังเกต พฤตกิ รรมการเขา้

พฤติกรรมของ รว่ มกจิ กรรมกลุม่

นักเรียนในการเข้า

รหสั ตวั ช้ีวัด จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระกา
เรยี นร
๔. เห็นความสาคญั ของการ
เขยี นรายงานจากการศึกษา
ค้นควา้ และมมี ารยาทในการ
เขียน (A)

ท ๓.๑ ม. ๒/ ๑. บอกขอ้ ควรปฏบิ ัติในการ การพูดรายงานเปน็ การพูดทีไ่ ด้ การพูด
๕ รายงาน
ท ๓.๑ ม. ๒/ พูดรายงานทีด่ ี (K) จากการ ศึกษาผ่านการจัด

๒. พูดรายงานจากการศกึ ษา เรยี งลาดบั ขอ้ มลู มา เป็นอย่างดี

ค้นควา้ (P) จึงทาให้เห็นถงึ ความสามารถใน

๓. เห็นความสาคญั ของการพูด การศึกษาคน้ คว้าและข้อมลู ท่ีพูด

รายงานจากการศึกษาค้นควา้ เปน็ ประโยชนต์ ่อผฟู้ ง๎

และมีมารยาทในการพดู (A)

าร วธิ ีการสอน วิธีการวดั ผล กก
รู้
เครื่องมอื การ สือ่ และ ชิน้ งาน
วัดผล แหล่งเรยี นรู้ ภาระงาน

ร่วมกิจกรรมกลมุ่

๓) ตรวจผลงาน

ของนักเรีย

เพ่ือนชว่ ย ๑) สังเกต ๑) แบบสังเกต สอื่ การพดู
เพือ่ น พฤติกรรมของ พฤตกิ รรมการเขา้ ประกอบการ รายงาน
นักเรียนในการเข้า รว่ มกิจกรรม พูดรายงาน
รว่ มกจิ กรรม ๒) แบบสงั เกต
๒) สงั เกต พฤติกรรมการเขา้
พฤติกรรมของ รว่ มกิจกรรมกล่มุ
นักเรียนในการเข้า
ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
๓) ตรวจผลงาน
ของนกั เรียน

ขข

สมรรถนะสาคญั
๑.ความสามารถในการส่ือสาร

- ทักษะการอ่าน
- ทักษะการเขียน
- ทกั ษะการฟง๎ การดู และการพูด
๒.ความสามารถในการคดิ
- การจาแนก
- การใหเ้ หตผุ ล
- การวเิ คราะห์
- การสงั เคราะห์
- การจัดระบบความคดิ เป็นแผนภาพ
- การประยกุ ต์/การปรับปรงุ
- การสรปุ ความรู้
- การประเมินค่า
๓. ความสามารถในการแกป้ ๎ญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
๕.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝุเรยี นรู้
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๑ ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้
ตวั ช้ีวัดที่ ๔.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการ
เลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้
มุง่ มั่นในการทางาน
ตวั ช้วี ดั ที่ ๖.๑ ตั้งใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าทีก่ ารงาน
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปูาหมาย
รักความเป็นไทย
ตวั ชี้วัดที่ ๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม

การออกแบบหนว่ ย

รายวชิ าภาษาไทย

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ศิลาจารกึ หลกั ท่ี ๑

รหสั ตัวชี้วดั จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระการ ว
เรยี นรู้
ท ๑.๑ ม. ๒/๑
ท ๑.๑ ม. ๒/๒ ๑. อธบิ ายแบบอกั ษรและการเขยี น การศกึ ษาทม่ี าของ แบบอักษร เพ
ท ๑.๑ ม. ๒/๘
คาในศิลาจารกึ หลกั ท่ี ๑ (K) เร่อื งศิลาจารึกหลัก และการเขียน เพ

๒. อา่ นออกเสยี งศิลาจารึก ท่ี ๑ แบบอักษร คาในสมยั พ่อ

หลักท่ี ๑ (P) และการเขียนคาใน ขนุ รามคาแหง

๓. เขยี นแบบอักษรในสมัยพอ่ ขุน สมัยพอ่ ขุนราม มหาราช

รามคาแหงมหาราช (P) คาแหงมหาราช

๔. เหน็ ความสาคญั และตระหนักใน อย่างถูกตอ้ งทาให้

คุณค่าของตัวอกั ษรไทย (A) เหน็ ความสาคัญ

และเกดิ ความ

ตระหนักในคณุ คา่

ของตวั อักษรไทย

ท ๑.๑ ม. ๒/๑ ๑. บอกความหมายของคาศพั ท์ใน การอา่ นออกเสียง ๑. คาศัพท์ใน ก
ท ๑.๑ ม. ๒/๒ ศิลาจารึก หลกั ที่ ๑ (K) บทร้อยแกว้ ตอ้ ง ศิลาจารกึ ส
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ ๒. อธบิ ายหลกั การอา่ นออกเสยี ง อ่านให้ถูกต้อง หลักท่ี ๑ ต
ชัดเจน และต้องใช้ ๒. การอ่าน

คค

ยการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ท๒๒๑๐๑

วิธีการสอน ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ – ๒/๑๕
พ่อื นชว่ ย
พอ่ื น เวลา ๑๓ ช่วั โมง คะแนนเตม็ ๑๕ คะแนน

วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมอื การวดั ผล ส่อื และ ชนิ้ งาน
แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน

๑) สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ๑.แถบขอ้ ความ

ของนักเรยี นในการ การเข้าร่วมกจิ กรรม ๒.ใบความรู้

เขา้ ร่วมกิจกรรม

๒) ตรวจผลงานของ

นกั เรยี น

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม ๑.แถบ การอา่ นออก
สร้างความ ของนักเรยี นในการ การเขา้ ร่วมกิจกรรม บนั ทกึ เสยี ง เสยี ง
ตระหนกั เข้าร่วมกจิ กรรม ๒.ยอยศพ่อขนุ ศลิ าจารึก
๒) ตรวจผลงานของ รามคาแหง หลักท่ี ๑

รหสั ตวั ชี้วดั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระการ ว
เรยี นรู้
บทร้อยแก้ว (K)
๓. อา่ นออกเสยี ง ศิลาจารึก นา้ เสียงให้ ออกเสยี งบท
หลกั ที่ ๑ (P)
๔. เห็นความสาคัญของการอ่าน เหมาะสมและ ร้อยแก้ว
ออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และมี
มารยาทในการอ่าน (A) สอดคล้องกับเรื่องท่ี

อ่านทีส่ าคญั ต้องรู้

ความ

หมายของคาศัพท์

เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจเร่อื งได้

อย่างถกู ต้อง

ท ๑.๑ ม. ๒/๒ ๑. อธิบายหลกั การคัดลายมือ (K) การเขียนด้วย ๑. การคัด ก
ท ๒.๑ ม. ๒/๑ ๒. คัดลายมือตัวบรรจงครึง่ บรรทัด ลายมอื ตอ้ งเขยี นตัว ลายมือ ก
ท ๒.๑ ม. ๒/๘ (P) บรรจง เขยี นให้ ๒. การเขยี น
ท ๕.๑ ม. ๒/๑ ๓. เขยี นแผนภาพความคิดเพ่อื สรุป ถูกต้อง สวยงาม ผังความคดิ
เนือ้ หาจากการอ่านศิลาจารึก หลกั และอ่านง่าย เพราะ จากเรอื่ งที่
ที่ ๑ (P) จะทาให้การส่ือสาร อ่าน
๔. เห็นคุณค่าของการมีลายมอื ท่ี สมั ฤทธิผล และการ
สวยงามและมมี ารยาทในการเขียน สรุปเนื้อหาทอ่ี า่ น
(A) เป็นแผนภาพ
๕. เห็นความสาคญั ของการเขียน ความคดิ จะทาให้
แผนภาพความคิดเพอื่ สรุปความ เข้าใจเร่อื งทอ่ี ่านได้
เรือ่ งทีอ่ ่าน (A) เปน็ อยา่ งดี

งง

วธิ ีการสอน วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมอื การวดั ผล ส่อื และ ชน้ิ งาน
นกั เรียน ภาระงาน
แหลง่ เรยี นรู้

๓. ภาพ
๔.พจนานกุ รม
๕. แถบ
ข้อความ

กระบวนการ ๑) สังเกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสงั เกต
กลุ่ม ของนักเรียนในการ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม
เข้าร่วมกจิ กรรม กิจกรรม
๒) สังเกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสังเกต
ของนักเรียนในการ พฤติกรรมการเข้าร่วม
เขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ กจิ กรรมกลมุ่
๓) ตรวจใบงาน

รหสั ตัวช้ีวดั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระการ ว
ท ๔.๑ ม. ๒/๒ เรยี นรู้
๑. อธิบายลักษณะของประโยค (K) ก
๒. วิเคราะหโ์ ครงสร้างของประโยค ประโยคเป็น ก
(P)
๓. เห็นความสาคัญของการใช้ ขอ้ ความท่ีมีใจความ
ประโยคอยา่ งถกู ตอ้ ง (A)
สมบรู ณ์ แต่ละ

ประโยค

ประกอบดว้ ย ภาค

ประธาน และภาค

แสดงประโยคมี

๓ ชนิด ประโยค

สามญั ประโยครวม

และประโยคซอ้ น

การมคี วามรู้เรื่อง

ประโยคจะทาให้

การใช้ภาษาในการ

ส่ือสารมี

ประสทิ ธภิ าพย่งิ ขึ้น

ท ๔.๑ ม. ๒/๒ ๑. อธบิ ายลักษณะของประโยค (K) ประโยคสามัญเป็น ลักษณะของ
๒. วเิ คราะห์โครงสร้างของประโยค ประโยคทมี่ ใี จความ ประโยค
(P) เดยี ว ประโยครวม ก
๓. เหน็ ความสาคญั ของการใช้ เปน็ ประโยคที่มี ค
ประโยคอยา่ งถกู ต้อง (A) คาสันธานเชือ่ มให้ ว

จจ

วธิ กี ารสอน วธิ กี ารวดั ผล เคร่ืองมอื การวัดผล สื่อและ ชน้ิ งาน

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤติกรรม ๑) แบบสงั เกต แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน
กลุ่ม ของนักเรียนในการ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม ๑.ฉลาก
เขา้ ร่วมกิจกรรม กจิ กรรม ๒.แผน่ ปาู ย ใบงาน
๒) สังเกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสังเกต ๓.ใบงาน เรื่อง การ
ของนกั เรียนในการ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม วิเคราะห์
เข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ กิจกรรมกลุ่ม โครงสรา้ ง
๓) ตรวจผลงานของ ของประโยค
นักเรียน

๑) สังเกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสงั เกต แถบประโยค
ของนักเรยี นในการ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม
กระบวนการ เขา้ ร่วมกิจกรรม กจิ กรรม
คิดอย่างมี ๒) สังเกตพฤติกรรม ๒) แบบสงั เกต
วิจารณญาณ ของนกั เรียนในการ พฤติกรรมการเข้ารว่ ม

รหสั ตวั ช้ีวัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการ ว
เรียนรู้

เปน็ ประโยค ส

เดยี วกนั ส่วน

ประโยคซอ้ นเปน็

ประโยคทมี่ ีประโยค

อน่ื แทรก แบง่ เปน็

ประโยคหลกั และ

ประโยคย่อย การ

วเิ คราะหโ์ ครงสร้าง

ของประโยคอยา่ ง

ถกู ต้อง จะทาให้

การสอื่ สารมี

ประสทิ ธิภาพ

ท ๑.๑ ม. ๒/๔ ๑. อธิบายการอภปิ รายเกี่ยวกบั การอภิปราย ชนดิ ของ
เรอ่ื งที่อ่าน (K) เกยี่ วกบั เร่ืองทอี่ า่ น ประโยค
๒. อภปิ รายเกย่ี วกับศลิ าจารกึ หลัก ควรเป็นการแสดง
ที่ ๑ (P) ความคดิ เห็นท่ี
๓. เห็นความสาคญั ของการ ประกอบด้วย
อภิปรายเกี่ยวกบั เร่อื งทอ่ี ่าน (A) เหตุผล ท่ีถูกตอ้ ง มี
คณุ ธรรมกอ่ ใหเ้ กิด
ประโยชนต์ ่อผูร้ บั

ฉฉ

วิธกี ารสอน วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื การวัดผล ส่อื และ ช้ินงาน
แหลง่ เรียนรู้ ภาระงาน

เข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ กจิ กรรมกลุ่ม
๓) ตรวจใบงาน

๑) สังเกต ๑) แบบสังเกต ๑. แถบ ชิน้ งาน เรื่อง
พฤตกิ รรมของ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม ประโยค การเขียน
นกั เรียนในการเขา้ กิจกรรม บรรยาย
ร่วมกจิ กรรม ๒) แบบสังเกต ๒.หนังสอื พมิ พ์
กระบวนการ ๒) สงั เกต พฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม
สรา้ งความคิด พฤติกรรมของ กิจกรรมกล่มุ ๓. นติ ยสาร
รวบยอด นกั เรียนในการเข้า ๔. วารสาร
รว่ มกิจกรรมกล่มุ ๕. ฉลาก
๖. กล่องใส่
ฉลาก

รหสั ตัวชี้วัด จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการ ว
เรียนรู้
สารและสังคม
ไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ความ
ขดั แยง้

ท ๒.๑ ม. ๒/๒ ๑. บอกวธิ กี ารเขยี นบรรยาย (K) การเขียนบรรยาย การอภปิ ราย เก
ท ๒.๑ ม. ๒/๘ ๒. เขียนบรรยายเรื่องทก่ี าหนดให้ เปน็ การเขยี น เกย่ี วกับเรอ่ื งที่ บ
(P) เร่อื งราวตา่ ง ๆ อ่าน ส
๓. เหน็ ความสาคญั ของการเขียน อาจเป็นเรอ่ื งจรงิ
บรรยาย และมีมารยาทในการเขียน หรอื เรอื่ งสมมตุ ิก็ได้
(A) โดยผู้เขียนจะตอ้ ง
เข้าใจวธิ กี ารเขยี น
จึงจะทาให้
การเขยี นบรรยายมี
ประสทิ ธภิ าพ

ท ๒.๑ ม. ๒/๒ ๑. อธิบายวิธกี ารเขียนบรรยาย การเขียนบรรยายที่ การเขียน ก
ท ๒.๑ ม. ๒/๘ (K) ดี ผเู้ ขยี นต้องมี บรรยาย บ
๒. เขยี นบรรยายเรื่องทกี่ าหนดให้ ความรใู้ นเร่อื งทจี่ ะ
(P) บรรยายใช้กลวิธีใน
๓.เห็นความสาคัญของการเขยี น การดาเนนิ เร่ือง
บรรยายและมมี ารยาทใน เหมาะสมเพอื่ ให้

ชช

วิธีการสอน วิธกี ารวัดผล เครื่องมือการวัดผล สื่อและ ชนิ้ งาน
แหล่งเรยี นรู้ ภาระงาน
๓) ตรวจผลงาน ๗. ใบงาน
ของนักเรียน

กม และ ๑) สังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แถบขอ้ ความ ใบงาน
บทบาท ของนักเรียนในการ การเขา้ รว่ มกิจกรรม เรื่อง การ
สมมุตติ เข้าร่วมกิจกรรม วเิ คราะห์
๒) ตรวจผลงานของ สภาพสังคม
นักเรยี น ในสมยั
สุโขทยั จาก
ศลิ าจารกึ

การสอนแบบ ๑) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม หนังสือเรยี น ใบงาน เร่อื ง
บรรยาย ของนักเรยี นในการ การเขา้ รว่ มกจิ กรรม การอธิบาย
เขา้ รว่ มกิจกรรม คุณค่า
๒) ตรวจช้นิ งาน วรรณคดี

รหัสตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการ ว
การเขียน(A) เรยี นรู้
ผูร้ ับสารเข้าใจและ
สนใจอา่ น

ท ๕.๑ ม. ๒/๒ ๑. อธบิ ายหลกั การวเิ คราะห์ การวเิ คราะห์ การเขียน ก
วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรม วิจารณ์ จะต้อง บรรยาย ก
(K) แยกแยะเนือ้ หาให้
๒. วเิ คราะห์ วิจารณ์ สภาพสงั คม เขา้ ใจในสว่ น
ในสมัยสุโขทัยจากศิลาจารึก ตา่ ง ๆ แลว้ จงึ
หลักท่ี ๑ (P) อธิบายเหตุผล
๓. เห็นความสาคญั ของการ ประกอบการ แสดง
วิเคราะห์ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละ ความคิดเหน็ เพอื่
วรรณกรรม (A) นาไปสขู่ อ้ สรุป
ความคิดเห็นท่ี
คล้อยตามและ
โตแ้ ย้งจากเรื่องท่ี
อา่ น

ท ๕.๑ ม. ๒/๓ ๑. อธิบายหลกั การวิเคราะห์ คณุ ค่าของศลิ า การวเิ คราะห์ ก
วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรม จารึกดเี ดน่ ท้ังด้าน วิจารณ์ ก
(K) วรรณศลิ ป์ท่ีใช้คา วรรณคดีและ ก
๒. วิเคราะหค์ ณุ คา่ ของศิลาจารึก งา่ ย ๆ มีสมั ผัส วรรณกรรม ป

ซซ

วธิ ีการสอน วธิ กี ารวดั ผล เคร่อื งมอื การวดั ผล สื่อและ ชนิ้ งาน
แหลง่ เรยี นรู้ ภาระงาน

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤติกรรม ๑) แบบสังเกต ๑. ภาพ ใบงาน เรื่อง
กลมุ่ ของนกั เรยี นในการ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม ๒.แผนภมู ิ การสรุป
เข้ารว่ มกิจกรรม กจิ กรรม ความรู้และ
๒) สงั เกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสงั เกต ข้อคิดจาก
ของนักเรยี นในการ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม ศลิ าจารึก
เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลุม่ หลักท่ี ๑
๓) ตรวจใบงาน

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤติกรรม ๑) แบบสงั เกต ๑. ภาพ ใบงาน เรอ่ื ง
กลุ่ม และ ของนกั เรยี นในการ พฤติกรรมการเข้ารว่ ม ๒. ใบงาน การประเมิน
กระบวนการ เข้าร่วมกจิ กรรม กิจกรรม คณุ ค่าของ
ปฏิบตั ิ ๒) สงั เกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสังเกต ศิลาจารึก

รหัสตวั ช้ีวดั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระการ ว
เรยี นรู้
หลักท่ี ๑ (P) คลอ้ งจองด้าน
๓. ตระหนักในคณุ คา่ ของศิลาจารกึ เนอ้ื หาท่ีสอดแทรก
หลักท่ี ๑ (A) ข้อคดิ ในการดาเนิน
ชีวิตหลายประการ
และด้านสงั คมท่ี
สะท้อนภาพ
สังคมไทย
การตระหนกั ใน
คุณค่าของศิลา
จารกึ ทาให้เกิด
ความรักและหวง
แหนความเปน็ ไทย

ท ๕.๑ ม. ๒/๔ ๑. บอกความรู้และข้อคิดทีไ่ ดจ้ าก การสรุปความรแู้ ละ การพจิ ารณา ก
ศลิ าจารกึ หลกั ท่ี ๑ (K) การนาข้อคดิ ทไี่ ด้ คุณค่าของ ส
๒. สงั เคราะหค์ วามรู้และข้อคดิ จากการอา่ นไป ศิลาจารกึ ร
จากศลิ าจารึก หลักท่ี ๑ (P) ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ หลกั ที่ ๑
๓. เห็นความสาคัญของการสรุป จริงจะทาให้การ
ความรแู้ ละข้อคดิ จากการอ่าน (A) อ่านวรรณคดเี รอื่ ง

ฌฌ

วิธีการสอน วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมอื การวดั ผล สอื่ และ ชน้ิ งาน
แหลง่ เรยี นรู้ ภาระงาน
ของนักเรยี นในการ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม
เขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ กิจกรรมกลุ่ม
๓) ตรวจใบงาน

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสังเกต ๑. แถบ ๑.บตั รขอ้ มลู
สร้างความคิด ของนกั เรยี นในการ พฤติกรรมการเข้ารว่ ม ขอ้ ความ ๒.ชน้ิ งาน
รวบยอด เขา้ รว่ มกจิ กรรม กิจกรรม ๒. ฉลาก เรื่อง บนั ทึก
๒) สงั เกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสงั เกต ๓. ใบงาน การเรยี นรู้
ของนกั เรยี นในการ พฤตกิ รรมการเข้าร่วม
เข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมกลุ่ม

รหสั ตัวช้ีวัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการ ว
เรียนรู้

น้นั ๆ เกดิ ประโยชน์

ในการดาเนนิ ชีวิต

และร้จู กั แก้ป๎ญหาที่

เกิดขน้ึ

ท ๑.๑ ม. ๒/๗ ๑. อธิบายคณุ ค่าหรือแนวคดิ ที่ได้ การอ่านหนงั สือ ก
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ จากการอา่ นวรรณกรรม (K) อย่างหลากหลาย ก
๒. อา่ นวรรณกรรมตามความสนใจ แล้วประเมนิ คณุ ค่า ว
(P) หรอื แนวคิดทีไ่ ด้
๓. ประเมนิ คณุ คา่ หรือแนวคดิ ทไ่ี ด้ เพ่ือนาไปใช้ในการ
จากการอา่ นวรรณกรรม (P) แก้ปญ๎ หาชีวติ
๔. เหน็ ความสาคญั ของการ เป็นการอา่ นทกี่ ่อให้
ประเมินคุณคา่ หรือแนวคิดทไ่ี ด้ไป เกดิ ประโยชนท์ ง้ั ต่อ
ใชแ้ กป้ ๎ญหาในชวี ติ และมมี ารยาท ตนเองและสงั คม
ในการอ่าน (A)

ท ๑.๑ ม. ๒/๒ ๑. อธบิ ายความร้ทู ไ่ี ด้จากการ ความรู้มีอยูท่ วั่ ไปไม่ การสรุป ก
สบื ค้นข้อมลู (K) เฉพาะแต่ใน ความร้แู ละ ค
๒. สืบค้นข้อมูลทีส่ นใจจาก หอ้ งเรยี น การ ขอ้ คิดจากการ ว
แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ (P) แสวงหาความรทู้ มี่ ี อ่าน
๓. แสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ที่ ประโยชน์ดว้ ย

ญญ

วธิ ีการสอน วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมอื การวัดผล สื่อและ ช้ินงาน
๓) ตรวจใบงาน แหล่งเรยี นรู้ ภาระงาน

กระบวน ๑) สงั เกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสังเกต ๑. วรรณกรรม
การคิดอย่างมี ของนักเรยี นในการ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม เรือ่ ง ย่าแดน
วิจารณญาณ เข้ารว่ มกจิ กรรม กิจกรรม มังกร แฮรร์ ่ี
๒) แบบสังเกต พอตเตอร์ กับ
๒) สงั เกตพฤตกิ รรม พฤติกรรมการเขา้ รว่ ม ศลิ าอาถรรพ์
ของนักเรยี นในการ กิจกรรมกลุ่ม
เข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ
๓) ตรวจใบงาน

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสงั เกต ๑.ใบงาน
คิดยา่ งมี ของนักเรยี นในการ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม ๒.ภาพ
วจิ ารณญาณ เข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรม ๓.ฉลาก
๒) สงั เกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสงั เกต ๔.อินเทอรเ์ น็ต
ของนกั เรยี นในการ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม

รหสั ตัวช้ีวัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระการ ว
เรยี นรู้
กาหนด (P) ตนเอง อยเู่ สมอ
๔. เหน็ ความสาคญั ของการ ทาให้เรามีความรู้
แสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง (A) กว้างขนึ้ ทันสมัย
และเปน็ ผู้ใฝุ
เรียนรู้

ฎฎ

วิธีการสอน วธิ ีการวดั ผล เครื่องมือการวัดผล สือ่ และ ชิน้ งาน
แหลง่ เรียนรู้ ภาระงาน

เขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่ กจิ กรรมกลุ่ม
๓) ตรวจชนิ้ งาน

ฏฏ

สมรรถนะสาคญั
๑.ความสามารถในการส่ือสาร

- ทักษะการอ่าน
- ทักษะการเขียน
- ทกั ษะการฟง๎ การดู และการพูด
๒.ความสามารถในการคดิ
- การจาแนก
- การใหเ้ หตผุ ล
- การวเิ คราะห์
- การสังเคราะห์
- การจดั ระบบความคดิ เป็นแผนภาพ
- การประยุกต์/การปรับปรงุ
- การสรปุ ความรู้
- การประเมินค่า
๓. ความสามารถในการแกป้ ๎ญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
๕.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝุเรยี นรู้
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ๔.๑ ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้
ตวั ช้ีวัดที่ ๔.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรูต้ ่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการ
เลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้
มุง่ ม่นั ในการทางาน
ตวั ช้วี ดั ที่ ๖.๑ ตั้งใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าทีก่ ารงาน
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสาเรจ็ ตามเปูาหมาย
รักความเป็นไทย
ตวั ชี้วัดที่ ๗.๒ เห็นคณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม

การออกแบบหน่วย
รายวชิ าภาษาไทย
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ บทละครเร่อื ง รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

รหสั ตวั ชี้วดั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการ ก

ท ๑.๑ ม. ๒/๑ ๑. บอกลักษณะของตวั ละครใน รามเกียรติเ์ ปน็ เรยี นรู้ ต
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ เรอ่ื ง รามเกยี รต์ิ (K) วรรณคดมี รดกเรอ่ื ง ตัวละครใน
๒. หาความสมั พันธข์ องตัวละครใน หนึ่งของไทยทร่ี ู้จกั เร่ือง
เรื่อง รามเกยี รต์ิ (P) กันแพรห่ ลาย จึงทา รามเกยี รต์ิ
๓. เห็นความสาคญั ของการศกึ ษา ใหต้ ัวละครหลายตัว
วรรณคดีมรดกของไทย (A) ในเร่อื งนอ้ี ยู่ใน
ความทรงจาของคน
ไทยสืบตอ่ มา

ท ๑.๑ ม. ๒/๑ ๑. บอกความหมายของคาศพั ท์ใน การเขา้ ใจ ๑. คาศพั ท์ ก
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ บทละครเรือ่ ง รามเกียรติ์ ตอน ส
นารายณ์ปราบนนทก (K) ความหมายของ เร่อื งรามเกียรต์ิ ต
๒. จาแนกสานวนท่ีมาจากเรื่อง
รามเกียรต์ิ (P) คาศัพทแ์ ละสานวน ตอน นารายณ์
๓. วิเคราะห์การส่ือความหมายของ
เปน็ พนื้ ฐานของการ ปราบนนทก

อ่าน การอา่ นออก ๒. สานวน

เสยี งท่ผี ้อู ่านเข้าใจ ทมี่ าจากเรือ่ ง

ยการเรยี นรู้ ฐฐ

รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๑
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒/๑ – ๒/๑๕
เวลา ๑๐ ช่ัวโมง คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน

วธิ ีการสอน วิธกี ารวดั ผล เครอื่ งมือการวัดผล ส่อื และ ชิน้ งาน
ภาระงาน
กระบวนการ ๑) สังเกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสังเกต แหลง่ เรยี นรู้
สรา้ งความ ของนักเรียนในการ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม
ตระหนัก เขา้ รว่ มกจิ กรรม กิจกรรม ๑.ภาพตัว
๒) สงั เกตพฤติกรรม ๒) แบบสังเกต ละครในเร่ือง
ของนักเรยี นในการ พฤติกรรมการเข้าร่วม รามเกยี รติ์
เขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลมุ่ ๒.บตั รคา
๓) ตรวจผลงานของ ๓.แถบ
นักเรียน ปรศิ นา

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสังเกต ๑.วีดิทศั น์การ
สร้างความ ของนกั เรียนในการ พฤติกรรมการเขา้ รว่ ม ราแมบ่ ท
ตระหนัก เขา้ รว่ มกิจกรรม กิจกรรม ๒.บทกลอน
๒) สงั เกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสังเกต จากเรือ่ ง
ของนักเรียนในการ พฤติกรรมการเข้าร่วม รามเกียรติ์
เข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลุ่ม ๓.ภาพท่ารา

รหัสตวั ช้ีวัด จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระการ

ท ๑.๑ ม. ๒/๑ บทกลอนจากท่ารา (P) เนื้อความทาให้ เรียนรู้
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ ๔. เห็นความสาคัญของการเข้าใจ ผอู้ ่านสรา้ งอรรถรส รามเกยี รติ์
ความหมายของคาศัพท์ สานวน ในการอา่ นได้ ๓. ท่ารา
เพือ่ จะนาไปใช้ในการอ่านวรรณคดี แม่บท
(A)

ท ๕.๑ ม. ๒/๕ ๑. อธิบายหลักการอ่านออกเสยี ง การอ่านออก
กลอนบทละคร (K) เสยี งกลอนบท น
๒. อา่ นออกเสียงบทละคร เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี ง ละคร
รามเกยี รต์ิ ตอน นารายณ์ปราบ กลอนบทละครเป็น
นนทก เปน็ ทานองเสนาะ (P) การใช้เสยี ง
๓. เห็นความสาคญั ของการอา่ น ถา่ ยทอดเร่อื งราว
ทานองเสนาะและมีมารยาทใน และอารมณ์
การอา่ น (A) ความรู้สึกของ
ตัวละครใน
วรรณคดีไปยงั ผู้ฟง๎
ซึง่ เปน็ การสบื ทอด
วัฒนธรรมทาง
ภาษาอย่างหนึ่งของ
ไทยทเ่ี ยาวชนไทย
ควรสบื สานต่อไป บทละครเรอ่ื ง

ฑฑ

วธิ กี ารสอน วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมือการวดั ผล สอื่ และ ชนิ้ งาน
ภาระงาน
แหลง่ เรียนรู้
แม่บท
๔.แถบ
ขอ้ ความ

๑) สังเกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสงั เกต
นริ นยั ของนกั เรียนในการ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ ม

เข้าร่วมกจิ กรรม กจิ กรรม
๒) สังเกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสังเกต
ของนกั เรียนในการ พฤติกรรมการเขา้ ร่วม
เข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ กิจกรรมกลมุ่
๓) ตรวจผลงานของ
นกั เรยี น

๑)สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤตกิ รรม

รหสั ตัวช้ีวดั จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการ

ท ๑.๑ ม. ๒/๒ ๑.ทอ่ งจาบทละครเร่อื ง รามเกยี รติ์ บทละครเรื่อง เรียนรู้
ท ๑.๑ ม. ๒/๓ ตอนทีส่ นใจ (K) รามเกยี รติ์ ตอน รามเกยี รต์ิ ก
ท ๕.๑ ม. ๒/๑ ๒.แสดงความคิดเห็นจากบทละคร นารายณ์ปราบน ตอน นารายณ์ ค
ตอนท่เี ลือก (P) นทก มีตอนท่ี ปราบนนทก ว
๓. เห็นคณุ ค่าของบทร้อยกรอง ไพเราะคารม
(A) คมคายและมี
ความดีหลายตอน
จงึ มีคุณคา่ ควรแก่
การท่องจาเพอ่ื
นาไปใช้อา้ งองิ

๑. สรุปเหตกุ ารณส์ าคัญของบท การอ่านวรรณคดี การเขยี น ก
แผนภาพโครง ป
ละครเรอื่ งรามเกยี รติ์ตอน นารายณ์ และวรรณกรรม เรือ่ งจากเรอ่ื ง
ทีอ่ า่ น
ปราบนนทก (K) แลว้ สามารถจับ

๒. วิเคราะหป์ ๎ญหาและข้อคิดของ ใจความสาคญั จน

บทละครเรอื่ ง รามเกยี รติ์ ตอน สรุปเนือ้ หาทอ่ี า่ น

นารายณป์ ราบนนทก (P) เป็นผงั ความคิด

๓. เขยี นแผนภาพโครงเรือ่ งบท ได้จะทาให้เข้าใจ

ละครเรอื่ ง รามเกยี รติ์ ตอน เรอื่ งท่ีอ่านเป็น

นารายณป์ ราบนนทก (P) อย่างดี

๔. เหน็ ความสาคัญของการใชผ้ ัง

ฒฒ

วิธกี ารสอน วิธีการวัดผล เครื่องมือการวัดผล สอ่ื และ ชน้ิ งาน
การเข้าร่วมกิจกรรม
กระบวนการ ของนกั เรียนในการ แหล่งเรยี นรู้ ภาระงาน
คิดอย่างมี เข้ารว่ มกิจกรรม
วจิ ารณญาณ ๒) ตรวจผลงานของ ๑. แถบ การอา่ นออก
นกั เรียน บันทกึ เสยี ง เสยี งบทละคร
๒. ฉลาก เร่ือง
๓.พจนานุ รามเกยี รต์ิ
กรม ตอนนารายณ์
ปราบนนทก

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ๑.ผา้ เช็ดหน้า การท่องจา
ปฏบิ ัติ ของนกั เรียนในการ การเขา้ รว่ มกิจกรรม ๒.ฉลาก บทละครเร่อื ง
เข้าร่วมกจิ กรรม รามเกยี รติ์
๒) ตรวจใบงาน ตอนทส่ี นใจ

รหสั ตวั ช้ีวัด จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระสาคญั สาระการ
เรียนรู้

ความคิดสรปุ เนือ้ หาจากการอ่าน
(A)

ท ๒.๑ ม. ๒/๔ ๑. อธิบายหลกั การและรูปแบบของ การเขียนยอ่ ความ การเขยี นย่อ ก
ท ๒.๑ ม. ๒/๘ การเขียนย่อความ (K) เปน็ การเรียบเรียง ความ ก
๒. จับใจความและสรปุ ความจาก สาระสาคญั ทไ่ี ด้ บ
เร่อื งท่อี า่ น (P) จากการรับสารให้
๓. เขียนผังความคิดจากเรอ่ื งทอ่ี า่ น กระชบั และเขา้ ใจ
(P) ง่าย ซึ่งเป็น
๔. เขียนย่อความ (P) ประโยชนต์ ่อ
๕. เหน็ ความสาคญั ของการเขยี น การศกึ ษาคน้ ควา้
ยอ่ ความและมีมารยาทในการเขียน การฝึกทกั ษะการ
(A) จับใจความสาคัญ
ของเร่ือง และ
การเรยี บเรียง
ขอ้ ความอยเู่ สมอจะ
ทาให้สรุปความได้
รวดเรว็ ครบถ้วน
และเรียบเรยี งได้
กระชับ ชัดเจน

ณณ

วิธีการสอน วิธกี ารวัดผล เครือ่ งมอื การวัดผล ส่อื และ ช้ินงาน
แหลง่ เรียนรู้ ภาระงาน

กระบวนการ ๑) สังเกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสงั เกต ๑.ลูกปงิ ปอง ใบงาน เร่อื ง
กลุ่มและการ ของนกั เรียนใน พฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม และกล่อง การเขยี น
บรรยาย การเขา้ รว่ มกิจกรรม กจิ กรรม ๒.ใบงาน แผนภาพโครง
๒) สังเกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสังเกต เรอื่ งจากบท
ของนกั เรียนในการ พฤติกรรมการเข้ารว่ ม ละครเรื่อง
เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม กจิ กรรมกลุ่ม รามเกยี รติ์
ตอน
นารายณ์
ปราบนนทก

รหัสตวั ช้ีวัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการ ก
ท ๑.๑ ม. ๒/๒ ค
๑.ระบพุ ฤติกรรมที่แสดงถงึ ลกั ษณะ ตวั ละครใน เรยี นรู้ ว
นสิ ยั ของตวั ละคร (K) วรรณคดสี ามารถ
๒. วเิ คราะหล์ ักษณะนิสัยของตวั สะทอ้ นพฤติกรรม การวิเคราะห์
ละครจากพฤติกรรมตา่ ง ๆ (P) ความคดิ และ พฤตกิ รรมของ
๓. เห็นความสาคญั ของการเรียนรู้ ลักษณะนิสยั ของ ตวั ละครจาก
ลักษณะนสิ ัยและพฤตกิ รรมของ มนุษย์การวิเคราะห์ เร่ือง
มนษุ ย์ (A) ลักษณะนิสัยของ รามเกยี รติ์
ตวั ละครจึงเป็น ตอน นารายณ์
การเรียนรู้ ปราบนนทก
ธรรมชาติของ
มนุษยอ์ กี ทางหนึง่
ทาให้เข้าใจตนเอง
และคนรอบข้าง
มากยง่ิ ข้นึ และหาก
นาสิง่ เหล่าน้ันมา
พัฒนาตนก็จะเกิด
ประโยชนส์ ูงสุด

ท ๑.๑ ม. ๒/๔ ๑. อธิบายหลักการอภิปราย การอภิปรายเป็นวิธี การอภิปราย ก

เกย่ี วกับเร่อื งทอี่ ่าน (K) แลกเปล่ยี นความ เก่ียวกบั เรอ่ื งที่ ส

๒.อภิปรายเกี่ยวกับเรื่อง รามเกียรต์ิ คิดเห็นเพือ่ พฒั นา อา่ น ต

ดด

วิธีการสอน วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมือการวัดผล สื่อและ ชนิ้ งาน

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสงั เกต แหลง่ เรียนรู้ ภาระงาน
คิดอย่างมี ของนกั เรียนในการ พฤติกรรมการเข้าร่วม ใบงาน
วจิ ารณญาณ เข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรม ๑.แถบ เร่ือง การ
๒) สังเกตพฤติกรรม ๒) แบบสังเกต ขอ้ ความ เขยี นยอ่ ความ
ของนักเรียนในการ พฤติกรรมการเข้าร่วม ๒.งานเขยี น
เขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ กจิ กรรมกล่มุ ประเภท
๓) ตรวจใบงาน ต่าง ๆ

กระบวนการ ๑) สงั เกตพฤติกรรม ๑.แบบสงั เกต ๑.ใบกิจกรรม ใบงาน เรื่อง

สรา้ งความ ของนักเรยี นในการ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม ๒.ใบงาน การวเิ คราะห์

ตระหนกั และ เข้ารว่ มกจิ กรรม กจิ กรรม พฤตกิ รรม

รหสั ตวั ช้ีวดั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคญั สาระการ
เรียนรู้
ความรคู้ วามคิด
ตอนนารายณป์ ราบนนทก (P) การอภิปราย ก
๓. เห็นความสาคญั ของการ เกี่ยวกบั เรอ่ื งท่อี า่ น ว
อภิปรายเกย่ี วกับเรือ่ งที่อ่านเพือ่ ชว่ ยขยาย
ขยายความคิด (A) ประสบการณ์จาก
การอ่านเพ่อื ไปใช้
ให้เกิดประโยชน์ตอ่
การดาเนนิ ชวี ติ
และพฒั นาสังคมให้
เจรญิ กา้ วหนา้

ท ๑.๑ ม. ๒/๗ ๑. อธบิ ายคุณคา่ ของบทละครเรอื่ ง การอ่านหนังสอื คุณค่าของบท ก
ท ๕.๑ ม.๒/๓ รามเกยี รต์ิ ตอน นารายณป์ ราบ หลายประเภทแล้ว ละครเรือ่ ง ส
นนทก (K) ประเมินคุณคา่ หรอื รามเกียรต์ิ ต
๒. ประเมินคุณคา่ และแนวคิดจาก แนวคดิ ทไี่ ดเ้ พ่อื ตอน นารายณ์ ก
บทละครเรอื่ ง รามเกียรต์ิ ตอน นาไปใช้แก้ป๎ญหา ปราบนนทก ว
นารายณ์ปราบนนทก (P) ในชวี ติ เปน็ การอ่าน
๓. เหน็ คุณค่าของวรรณคดีไทย (A) ท่ีก่อใหเ้ กดิ การสรปุ ก
ประโยชนท์ ้งั ต่อ
ตนเองและสังคม
การสรปุ ความรแู้ ละ

ตต

วธิ กี ารสอน วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมือการวัดผล ส่อื และ ชิน้ งาน
แหล่งเรียนรู้ ภาระงาน
การคดิ อย่างมี ๒) ตรวจใบงาน
วิจารณญาณ ของตวั ละคร

กระบวนการ ๑) สังเกตพฤติกรรม ๑. แบบสังเกต ๑.แถบ ใบงาน เรอื่ ง
สร้างความ ของนักเรียนในการ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม ข้อความ การแสดง
ตระหนักและ เข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรม ๒.ใบงาน ความคิดเห็น
การคดิ อยา่ งมี ๒) ตรวจใบงาน เกยี่ วกับเรื่อง
วจิ ารณญาณ ที่อา่ น

กระบวนการ ๑) สังเกตพฤตกิ รรม ๑) แบบสงั เกต ใบงาน เรอื่ ง

รหสั ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสาคัญ สาระการ

ท ๕.๑ ม.๒/๓ ๑. สรุปความรทู้ ี่ไดจ้ ากการอา่ นบท การนาข้อคดิ ทไ่ี ด้ เรียนรู้
ละคร เรื่อง รามเกยี รติ์ ตอน จากการอ่านไป
นารายณป์ ราบนนทก (K) ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิต ความรแู้ ละ ส
๒. สงั เคราะหข์ อ้ คิดทีไ่ ด้จากการ จรงิ จะทาใหก้ าร ขอ้ คิดจากการ ต
อ่านบทละคร เรือ่ ง รามเกยี รติ์ อา่ นวรรณคดเี รอ่ื ง อ่าน ก
ตอน นารายณ์ปราบนนทก (P) นั้น ๆ เกดิ
๓. เหน็ คณุ ค่าของการอ่านวรรณคดี ประโยชนใ์ นการ ว
(A) ดาเนนิ ชวี ิตและ
สามารถนามาใช้
แก้ปญ๎ หาท่ีเกดิ ข้นึ

ถถ

วิธกี ารสอน วธิ ีการวัดผล เครอื่ งมือการวดั ผล สอ่ื และ ชน้ิ งาน
แหลง่ เรยี นรู้
สร้างความ ของนักเรียนในการ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วม ภาระงาน
ตระหนักและ เข้ารว่ มกจิ กรรม กิจกรรม ๑. บทละคร
การคดิ อย่างมี ๒) สังเกตพฤตกิ รรม ๒) แบบสังเกต เรือ่ ง การอธบิ าย
วิจารณญาณ ของนักเรยี นในการ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ ม รามเกียรต์ิ คุณค่าของบท
เขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ กจิ กรรมกลุ่ม ตอนนารายณ์ ละคร เรื่อง
๓) ตรวจใบงาน ปราบนนทก รามเกียรต์ิ
๒. ใบงาน ตอนนารายณ์
ปราบนนทก

ใบงาน

ทท

สมรรถนะสาคัญ
๑.ความสามารถในการสื่อสาร

- ทักษะการอ่าน
- ทักษะการเขยี น
- ทกั ษะการฟ๎ง การดู และการพูด
๒.ความสามารถในการคิด
- การจาแนก
- การให้เหตุผล
- การวเิ คราะห์
- การสังเคราะห์
- การจดั ระบบความคดิ เป็นแผนภาพ
- การประยกุ ต์/การปรับปรงุ
- การสรุปความรู้
- การประเมินค่า
๓. ความสามารถในการแกป้ ๎ญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
๕.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ใฝเุ รยี นรู้
ตัวชว้ี ดั ท่ี ๔.๑ ตัง้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้
ตัวชี้วดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการ
เลือกใช้สอื่ อย่างเหมาะสม บันทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้
มงุ่ ม่ันในการทางาน
ตัวชว้ี ดั ที่ ๖.๑ ต้ังใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าทีก่ ารงาน
ตัวชีว้ ัดที่ ๖.๒ทางานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพอ่ื ให้งานสาเร็จตามเปูาหมาย
รกั ความเป็นไทย
ตวั ชี้วดั ที่ ๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและใชภ้ าษาไทยในการส่ือสารได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม

ธธ

แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑



แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่ ๑

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เรื่อง เช่ยี วชาญคาศพั ท์

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทยพ้นื ฐาน รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๑

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๑ ชัว่ โมง

สอนวันที่ …………………… เดือน ………………………………… พ.ศ. …………………….. เวลา ……………………..

มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใช้ตัดสินใจ

แก้ป๎ญหาในการดาเนินชวี ิต และมนี ิสัยรกั การอ่าน
ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ม. ๒/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้อง
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้สู ูต่ วั ช้ีวดั

๑. บอกความหมายของคาศพั ท์ในโคลงภาพพระราชพงศาวดาร (K)
๒. คน้ หาคาศพั ท์ท่มี ีความหมายเดยี วกนั (P)
๓. เขียนคาศัพท์ในโคลงภาพพระราชพงศาวดาร (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการเขา้ ใจความหมายของคาศพั ท์เพ่อื จะนาไปใชใ้ นการอ่านวรรณคดี (A)

สาระสาคัญ

การเข้าใจความหมายของคาศพั ท์จะทาใหอ้ า่ นออกเสียงได้ถกู ตอ้ งและยังสามารถเข้าใจเรือ่ งทอ่ี ่านได้

สาระการเรยี นรู้

คาศัพท์ในโคลงภาพพระราชพงศาวดาร

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

๑. ความสามารถในการส่ือสาร
- ทักษะการอา่ น
- ทกั ษะการเขยี น
- ทักษะการฟง๎ การดู และการพดู



๒. ความสามารถในการคดิ
- การจาแนก
- การสรปุ ความรู้

๓. ความสามารถในการแกป้ ๎ญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ใฝุเรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ท่ี ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้
ตวั ชี้วัดท่ี ๔.๒ แสวงหาความร้จู ากแหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
ด้วยการเลอื กใช้สอื่ อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็น
องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้

มงุ่ มั่นในการทางาน
ตวั ชวี้ ัดที่ ๖.๑ ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ทกี่ ารงาน
ตวั ชีว้ ัดท่ี ๖.๒ ทางานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสาเรจ็ ตามเปาู หมาย

รกั ความเปน็ ไทย
ตัวชี้วัดท่ี ๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม

ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความร้)ู

(-)

คาถามทา้ ทาย

นกั เรียนรจู้ กั วรี บรุ ษุ และวรี สตรไี ทยทา่ นใดบา้ ง

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

๑. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ชค้ าถามท้าทาย ดงั น้ี
 นกั เรยี นร้จู กั วรี บรุ ษุ และวีรสตรไี ทยท่านใดบา้ ง

๒. ใหน้ ักเรยี นอา่ นบทนาเรอื่ งและทีม่ าของโคลงภาพพระราชพงศาวดาร จากนั้นครูถามนักเรียนเพื่อ
สรปุ ความเขา้ ใจ ดังน้ี

 โคลงภาพพระราชพงศาวดารท่ีนามาให้นักเรียนได้เรียน มีก่ีเร่ือง อะไรบ้าง (๒ เรื่อง คือ โคลง
พระสุริโยทยั ขาดคอช้าง และโคลงพนั ท้ายนรสงิ หถ์ วายชวี ิต)



 รูปท่ี ๑๐ เป็นเร่อื งเก่ียวกับใคร และมีวีรกรรมอะไรท่ีสาคัญ (สมเด็จพระสุริโยทัยทรงสละพระ
ชนม์ชีพเพ่อื ช่วยสมเด็จพระมหาจักรพรรด)ิ

 รูปท่ี ๕๖ เปน็ เร่อื งเกีย่ วกับใคร และมีวีรกรรมอะไรที่สาคัญ (พันท้ายนรสิงห์ยอมสละชีวิตเพื่อ
รักษาประเพณีและพระเกียรตแิ ห่งพระมหากษัตริย)์

 ใครเปน็ ผู้แต่งโคลงพระสุรโิ ยทัยขาดคอชา้ ง (พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั )
 ใครเป็นผู้แต่งโคลงพันท้ายนรสิงห์ถวายชีวิต (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์
พงศ)์
๓. ครอู ธบิ ายเพ่มิ เติมและตอบขอ้ ซกั ถามของนกั เรียน
๔. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน แข่งขันกันค้นหาคาศัพท์ที่มีความหมายเดียวกับคาท่ี
กาหนดให้ จากพจนานุกรมภายในเวลา ๑๐ นาที
๕. ให้แต่ละกล่มุ ส่งตวั แทนเขยี นคาท่กี ลมุ่ หาได้บนกระดานโดยจาแนกคาให้เปน็ หมวดหมู่ เมื่อครบทุก
กล่มุ แล้ว ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง กลมุ่ ใดหาคาศพั ท์ไดถ้ ูกต้องมากทส่ี ดุ เป็นฝุายชนะ
๖. ให้นักเรียนจับคู่คาศัพท์และความหมายให้สัมพันธ์กัน เมื่อนักเรียนทุกคนทาเสร็จ นาผลงานให้
เพอื่ นตรวจสอบความถกู ต้อง ครเู ฉลยคาตอบอกี ครั้ง ครูชมเชยนกั เรยี นทท่ี าถูกต้องทง้ั หมด
๗. ให้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ อกี คร้ังเพอ่ื เลน่ เกม “คาศัพท์ปรศิ นาหาให้ครบ” โดยให้นักเรียนหาคาศัพท์
จากโคลงภาพพระราชพงศาวดารท่มี ีความหมายตรงกบั ทก่ี าหนดไวใ้ นแนวตง้ั และแนวนอน กลุ่มใดเสร็จกอ่ นให้
ยืนขึ้นทัง้ กล่มุ ครแู ละเพื่อน ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง แล้วใหน้ กั เรียนเขยี นคาศัพท์ลงในตารางปริศนา
อักษรไขว้
๘. ใหน้ ักเรยี นดูภาพอาวุธ บคุ คล และสถานทีส่ าคัญ แลว้ เขยี นคาศพั ทต์ ามภาพท่ีกาหนดภายในเวลา
๕ นาที ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคาถามและอธบิ ายเพ่ิมเตมิ
๙. ให้นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั น้ี
 การเข้าใจความหมายของคาศัพท์จะทาให้อ่านออกเสียงได้ถูกต้องและยังสามารถเข้าใจเรื่องท่ี
อา่ นได้

การจดั บรรยากาศเชงิ บวก

ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ นักเรียนจะได้ร่วมกันทางานด้วยความต้ังใจและเต็มใจ
มีแรงจงู ใจในการเรียน ครใู ห้คาชมเชยเป็นกาลงั ใจให้นกั เรยี นอย่างเหมาะสม

ส่อื การเรยี นรู้

ภาพอาวธุ บุคคล และสถานท่ีสาคญั



การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

๑. วิธกี ารวัดและประเมินผล
๑) สงเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
๒) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
๓) ตรวจผลงานของนกั เรียน

๒. เครอื่ งมือ
๑) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม
๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่

๓. เกณฑก์ ารประเมนิ
๑) การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผา่ น ๑ รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
๒) การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
คะแนน ๙-๑๐ ระดับ ดีมาก
คะแนน ๗-๘ ระดบั ดี
คะแนน ๕-๖ ระดับ พอใช้
คะแนน ๐-๔ ระดับ ควรปรบั ปรงุ

กจิ กรรมเสนอแนะ

ใหน้ กั เรียนช่วยกันทาหนังสือรวบรวมคาท่มี คี วามหมายเหมือนกัน โดยรวบรวมให้ไดม้ ากท่สี ดุ
และใหน้ ักเรียนออกแบบหนังสือได้อย่างอสิ ระ


Click to View FlipBook Version