The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การสาธารณสุขไทย 2559-2560

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panpilai_suth, 2022-06-20 22:30:01

การสาธารณสุขไทย 2559-2560

การสาธารณสุขไทย 2559-2560

การสาธารณสุขไทย 2559-2560

ทปี่ รกึ ษา
นพ. สุวทิ ย์ วบิ ุลผลประเสรฐิ
นพ. โอภาส การย์กวินพงศ์

บรรณาธกิ าร
นพ.ววิ ัฒน์ โรจนพทิ ยากร

ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ
ดร.นพ.พงศธร พอกเพม่ิ ดี
นพ. ชยั พร สชุ าตสิ ุนทร

ISBN : 978-616-11-4X0X7X5X--5X
Website : http://www.bps.moph.go.th
จัดทำาโดย : กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สาำ นกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
จำานวนพิมพ์ : 500 เลม่
พิมพท์ ี่ : หา้ งหุ้นส่วนจาำ กัด แสงจันทร์การพมิ พ์
สนบั สนนุ โดย : สาำ นกั งานกองทุนสนับสนนุ การสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.)



การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560

คำ� นำ�

กระทรวงสาธารณสุข โดยกองยุทธศาสตร์และแผนงาน ส�ำนักงานปลัดกระทรวง
สาธารณสุขได้จัดท�ำรายงานการสาธารณสุขไทย (Thailand Health Profile) เป็นประจ�ำทุก 2 ปี และส�ำหรับ
ฉบับนี้เป็นฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2559-2560) ซึ่งเน้ือหายังคงต่อเนื่องจากฉบับก่อนและมีเนื้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาน-
การณ์ดา้ นสุขภาพท่เี ป็นประเด็นสำ� คญั ในปัจจบุ นั
ส�ำหรับสาระส�ำคัญในรายงานฉบับนี้ ได้จากการทบทวนสถานการณ์ท่ีเกี่ยวข้องกับระบบสาธารณสุขทั้ง
ในประเทศและตา่ งประเทศ โดยผา่ นกระบวนการสังเคราะหแ์ ละวิเคราะห์จากผ้ทู รงคุณวฒุ ิ ผเู้ ชย่ี วชาญสาขาต่างๆ
ครอบคลุมทุกมิติ อาทิ ววิ ัฒนาการการสาธารณสขุ ของไทย สถานการณ์และแนวโน้มดา้ นสขุ ภาพ ระบบสุขภาพของ
ประเทศ กรอบนโยบายและยุทธศาสตรด์ า้ นสุขภาพของไทยในยุค 4.0 และขัอมูลสุขภาพด้านอืน่ ๆ อีกมากมาย ซงึ่
จะเป็นประโยชน์ในการสร้างเสริมความรู้เกี่ยวกับงานสาธารณสุขของประเทศไทย และเป็นแหล่งข้อมูลส�ำหรับการ
อา้ งอิงในดา้ นตา่ งๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง
โปรดสังเกตว่า เนื้อหาหลายส่วนในหนงั สอื ได้ผนวกเอาสถานการณ์และการดำ� เนนิ การของปี พ.ศ. 2561
เชน่ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั คณะกรรมการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ระดบั อำ� เภอ (พชอ.) และเหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขนึ้ กบั ทมี ฟตุ บอลเดก็
และเยาวชนที่ถ้�ำหลวงขุนน้ำ� นางนอนในเดอื นมิถุนายน พ.ศ. 2561 เป็นต้น รวมท้งั ข้อมลู เอกสารอ้างอิงของหลาย
บทความก็เปน็ ของปี 2561 เช่นกัน ท�ำให้หนงั สอื มคี วามนา่ สนใจและทนั สมยั
ขอขอบคุณนักวิชาการ ท้ังในกระทรวงสาธารณสุขและจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ท่ีได้ร่วมกันจัด
ท�ำรายงานฉบับน้ี และขอขอบคุณส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ท่ีได้สนับสนุน
งบประมาณส�ำหรับจัดท�ำ กระทรวงสาธารณสุขหวังเป็นอย่างย่ิงว่ารายงานการสาธารณสุขไทย พ.ศ. 2559-2560
(Thailand Health Profile 2016-2017) จะได้นำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการเรยี นรู้ การอา้ งองิ ทางวชิ าการ การน�ำไปใช้
ในการวางแผนดา้ นนโยบายสขุ ภาพ และการด�ำเนินงานดา้ นสาธารณสุข ต่อไป

กองยุทธศาสตรแ์ ละแผนงาน
กนั ยายน 2562

สารบญั

ค�ำน�ำ 1
2
บทท่ี 1 พระราชวงศ์จักรีกบั การสาธารณสขุ ไทย
4
1.1. การแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ไทยกอ่ นยุคกรงุ รัตนโกสินทร์ 6
1.2. การสร้างกรงุ รตั นโกสนิ ทร์และการฟื้นฟูการแพทย์และสาธารณสุขไทยในสมัย 8
9
พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช (พ.ศ. 2325-2352) 11
1.3. รชั สมัยพระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลัย (พ.ศ. 2352-2367) 11
1.4. รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกลา้ เจ้าอยู่หวั (พ.ศ. 2367–2394) 12
1.5. รัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั (พ.ศ. 2394–2411) 12
1.6. รัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั (พ.ศ. 2411–2453) 13
1.7. รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว (พ.ศ. 2453–2468) 14
1.8. รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หัว (พ.ศ. 2465-2477)
1.9. รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล (พ.ศ. 2477-2489) 18
1.10. รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช (พ.ศ. 2489–2559) 19
1.11. รชั สมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู 20
1.12. ภารกจิ ดา้ นสาธารณสุขของพระบรมวงศานวุ งศใ์ นรัชสมัย 20
21
พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช (รัชกาลท่ี 9)
และพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู
(รชั กาลท่ี 10)

บทที่ 2 ขอ้ มลู พนื้ ฐานประเทศไทย

2.1. ทตี่ ้งั อาณาเขต และพรมแดน
2.2. ลกั ษณะภูมิประเทศและภูมอิ ากาศของไทย
2.3. ประชากร ภาษา ศาสนา
2.4. เศรษฐกจิ
2.5. ระบบการปกครองของไทย

สารบญั

บทท่ี 3 ววิ ัฒนาการการสาธารณสขุ ไทย 24
25
3.1. บทน�ำ 27
3.2. วิวัฒนาการการสาธารณสุขโลกโดยสงั เขป 28
3.3. ววิ ฒั นาการการสาธารณสุขไทยก่อนยคุ กรงุ รตั นโกสินทร์ 30
3.4. การสาธารณสขุ ในยุคต้นรัตนโกสนิ ทร์ 32
3.5. การสาธารณสขุ ไทยกับรัฐสมัยใหม่ 34
3.6. การสาธารณสุขไทยยคุ สงครามเยน็ 36
3.7. การสาธารณสขุ ในยุคโลกาภิวตั น์
3.8. บทสรุป 38
42
บทที่ 4 สถานการณแ์ นวโนม้ ของสถานะสุขภาพและปจั จัยตา่ งๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง 46
51
4.1. สถานการณ์แนวโนม้ ดา้ นการพัฒนาเศรษฐกจิ 55
4.2. สถานการณแ์ ละแนวโน้มดา้ นสงั คม
4.3. สถานการณ์และแนวโนม้ ด้านประชากร ครอบครวั และการอพยพย้ายถ่ิน 61
4.4. ปญั หาสุขภาพท่ีส�ำคัญ และคณุ ภาพชีวติ ของคนไทย 66
4.5. สถานการณข์ องปัจจยั ทางสงั คมท่ีก�ำหนดสุขภาพ 72
74
(social determinants of health: SDH) 83

4.6. สถานการณแ์ ละแนวโนม้ ด้านสภาพแวดลอ้ มในการดำ� รงชีวติ
4.7. สถานการณ์และแนวโน้มด้านการเมืองการปกครอง
4.8. สถานการณ์ด้านวฒั นธรรมและประเพณีไทยกบั ปัญหาสขุ ภาพ
4.9. พฤตกิ รรมทเ่ี กย่ี วข้องกับปัญหาสขุ ภาพที่ส�ำคัญของประเทศไทย
4.10. สถานการณ์และแนวโน้มดา้ นเทคโนโลยีทีม่ ีผลตอ่ การสาธารณสุข

สารบญั

บทท่ี 5 ระบบสุขภาพของประเทศไทย 93
95
5.1. ความหมายของระบบสขุ ภาพ 98
5.2. องค์ประกอบของระบบสุขภาพ 103
5.3. การปฏริ ปู แบบการอภบิ าลระบบสขุ ภาพ 114
5.4. หน่วยงานทดี่ ำ� เนินงานด้านสุขภาพ 115
5.5. บทสรุประบบสขุ ภาพของประเทศไทย 116
5.6. ระบบบรกิ ารสขุ ภาพของประเทศไทย 122
5.7. การบริการดา้ นสุขภาพ 132
5.8. กำ� ลงั คนด้านสขุ ภาพ 135
5.9. ยา เวชภณั ฑ์ และเทคโนโลยีด้านสขุ ภาพ 139
5.10. การเงนิ การคลงั ด้านสุขภาพ 141
5.11. ระบบขอ้ มูลขา่ วสารด้านสุขภาพ 143
5.12. การเข้าถงึ บริการสขุ ภาพ 144
5.13. ประสิทธิภาพและคุณภาพของการใช้บรกิ ารสุขภาพ 145
5.14. ความเป็นธรรมของบริการสขุ ภาพ
5.15. การวิจยั และการสร้างความรเู้ กย่ี วกบั ระบบสขุ ภาพ 151
159
บทท่ี 6 กรอบนโยบายและยทุ ธศาสตร์ด้านสุขภาพของไทย 4.0 175
และนโยบายสาธารณะทกุ ภาคส่วน (Health in all)

6.1. การปฏริ ูประบบสาธารณสขุ ภายใตร้ ฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยระบบสขุ ภาพแห่งชาติ
6.2. กรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ดา้ นสุขภาพของไทย 4.0
6.3. บทบาทของภาคสว่ นต่างๆ ในงานพัฒนาสุขภาพ

สารบญั

บทท่ี 7 การพัฒนานโยบายสาธารณะเพือ่ สุขภาพแบบมสี ว่ นร่วม 183
188
7.1. นโยบายสาธารณะเพ่อื สุขภาพแบบมีสว่ นร่วม
7.2. พระราชบญั ญัตสิ ุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 กับการพฒั นานโยบายสาธารณะ 202

เพ่อื สขุ ภาพของไทย 203
7.3. บทสรุป 206
212
บทท่ี 8 การบูรณาการระบบหลักประกันสขุ ภาพถว้ นหนา้ ในประเทศไทย 217
222
8.1. พฒั นาการของระบบประกันสขุ ภาพในประเทศไทย 225
8.2. ผลสมั ฤทธิ์ของการสร้างหลักประกันสุขภาพถว้ นหน้า
8.3. การพัฒนาศกั ยภาพและความเข้มแข็งของระบบสขุ ภาพของประเทศไทย 227
8.4. ความทา้ ทายของระบบประกันสขุ ภาพ 233
8.5. บทสรปุ และการพัฒนาระบบหลกั ประกนั สขุ ภาพไทยในอนาคต 238
8.6. ข้อเสนอแนะ 241
243
บทท่ี 9 การสาธารณสุขชมุ ชนและท้องถนิ่ 247
251
9.1. การมีส่วนรว่ มขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ กบั ระบบสขุ ภาพไทย
9.2. ระบบบริการสุขภาพปฐมภมู เิ ขตเมอื ง
9.3. คณะกรรมการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตระดับอ�ำเภอ
9.4. อ�ำนาจหน้าท่ขี องคณะกรรมการพฒั นาคุณภาพชีวิตระดบั พน้ื ที่
9.5. กองทุนสุขภาพต�ำบล: เครอื่ งมอื สร้างการมสี ว่ นรว่ มในการพฒั นาระบบสุขภาพชุมชน
9.6. สุขภาพภาคประชาชนกบั การพัฒนาระบบสขุ ภาพชมุ ชน
9.7. ระบบการดแู ลสุขภาพในครอบครวั (Home Health Care)

สารบญั

บทท่ี 10 ประเทศไทยกับเปา้ หมายการพฒั นาที่ย่งั ยนื 256
262
10.1. เปา้ หมายการพฒั นาทยี่ ั่งยืนในประเทศไทย 265
10.2. โครงสรา้ งการด�ำเนนิ งานไปสเู่ ป้าหมายการพัฒนาท่ยี ง่ั ยืนด้านสขุ ภาพ
10.3. บทบาทของกระทรวงสาธารณสขุ และภาคเี ครือข่ายในการดำ� เนนิ งานตามเป้าหมาย 269
270
การพฒั นาที่ย่งั ยืนด้านสขุ ภาพ 271
274
บทท่ี 11 ประเทศไทยกับการพัฒนาระบบสุขภาพโลก 279
286
11.1. ปัญหาและแนวโน้มสุขภาพในระดับโลก 290
11.2. เปา้ หมายการพัฒนาท่ยี ่งั ยืนและเปา้ หมายดา้ นสขุ ภาพที่ส�ำคัญในระดบั ภูมภิ าค 292
11.3. นยิ ามและพหุมิตขิ องระบบสขุ ภาพโลก 295
11.4. ภูมิทศั นแ์ ละกลไกการอภิบาลสขุ ภาพโลก 297
11.5. ภูมิทศั น์สขุ ภาพโลกในประเทศไทยและกลไกการอภิบาล
11.6. บทบาทของประเทศไทยดา้ นสุขภาพโลก 298
11.7. กรอบยุทธศาสตร์สุขภาพโลกของประเทศไทย พ.ศ. 2559–2563
11.8. ความกา้ วหนา้ ของงานสุขภาพโลกในประเทศไทย 299
11.9. การพฒั นาขีดความสามารถของประเทศไทยดา้ นสุขภาพโลกอย่างเป็นระบบ 299
11.10. การพัฒนาขีดความสามารถของประเทศไทยดา้ นสุขภาพโลกอยา่ งเป็นระบบ 307

(จากระดบั บคุ คลสรู่ ะดับสถาบนั )
11.11. ก้าวตอ่ ไป

บทท่ี 12 การขับเคล่ือนงานป้องกนั และควบคุมโรคไม่ตดิ ต่อในประเทศไทย

12.1. บทน�ำ
12.2. ความจ�ำเป็นที่จะต้องดำ� เนินการปอ้ งกันและควบคมุ โรคไม่ติดต่อ
12.3. การด�ำเนนิ การปอ้ งกันและควบคมุ โรคไมต่ ิดตอ่

สารบญั

บทท่ี 13 การสง่ เสริมสุขภาพ ปอ้ งกนั โรคและคมุ้ ครองผบู้ ริโภคด้านสุขภาพ 324
ในประเทศไทย 340

13.1. งานสง่ เสรมิ สขุ ภาพของประเทศไทย 373
13.2. งานป้องกนั และควบคมุ โรคติดตอ่ ในประเทศไทยและระบบการจัดการโรคติดตอ่
386
ในประเทศไทย 387

13.3. การคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภคดา้ นสขุ ภาพ 388
388
บทที่ 14 ระบบควบคุมโรคและภยั สุขภาพทเ่ี ปน็ ภาวะฉุกเฉนิ ทางสาธารณสขุ
390
14.1. สาธารณภยั
14.2. การด�ำเนินงานทมี เฝ้าระวงั สอบสวนโรคเคล่อื นที่เรว็ 392

(Surveillance and Rapid Response Team: SRRT) 394

14.3. ภาวะฉกุ เฉนิ ทางสาธารณสุข (Public Health Emergency) 397
14.4. การบริหารจัดการภาวะฉกุ เฉนิ ทางสาธารณสขุ 397
404
(Public Health Emergency Management : PHEM)

14.5. แผนการจดั การภาวะฉกุ เฉินทางการแพทย์และการสาธารณสขุ แบบบรู ณาการ
ทค่ี รบวงจรและมีเอกภาพ พ.ศ. 2560–2564

14.6. กรอบความเชอื่ มโยงในการจัดทำ� แผนการจัดการภาวะฉกุ เฉินทางการแพทย์และ
การสาธารณสุขแบบบรู ณาการ พ.ศ. 2560–2564

14.7. แผนการจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และการสาธารณสุขแบบบรู ณาการ
พ.ศ. 2560–2564

14.8. ระบบบญั ชาการณ์เหตุการณ์
14.9. ความเป็นมาของระบบการบัญชาการเหตุการณ์
14.10. การดำ� เนินงานทมี เฝา้ ระวงั สอบสวนโรคเคลอ่ื นทีเ่ ร็ว

(Surveillance and Rapid Response Team: SRRT)

สารบัญ

บทท่ี 15 ดัชนีช้ีวดั สภาวะสขุ ภาพของคนไทย 409
414
15.1. ดัชนีช้ีวัดสภาวะสุขภาพทว่ั ไป
15.2. ปัญหาสขุ ภาพท่สี �ำคญั 431
433
บทที่ 16 บทสรุปการสาธารณสุขไทย
433
16.1. สถานการณด์ า้ นสุขภาพทเ่ี ปลยี่ นไป
16.2. อุบตั ิการณ์ของปญั หาสาธารณสขุ และการเปลย่ี นแปลงของภาวะความเจบ็ ปว่ ย 435
438
หรอื โรคภัยไขเ้ จบ็ ของประชาชน
16.3. โครงสรา้ งทางสาธารณสขุ ทท่ี ำ� หนา้ ท่ีตอบสนองต่อปญั หาทางสาธารณสขุ 439

ของประชาชน
16.4. ทศิ ทางการด�ำเนนิ งานด้านสาธารณสุขของประเทศ
16.5. การสร้างเสรมิ นวตั กรรมสขุ ภาพเพือ่ การพัฒนางานสาธารณสุขอย่างยง่ั ยนื

บรรณานุกรม

สารบญั ตาราง

บทที่ 4 สถานการณ์แนวโน้มของสถานะสขุ ภาพและปจั จยั ต่างๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง 45
57
ตารางท่ี 4.1 ผลการทดสอบของโครงการ PISA 2015 (หนว่ ย : คะแนน) 59
ตารางท่ี 4.2 ความเข้มข้นของ PM2.5 และจ�ำนวนผูเ้ สยี ชวี ิตด้วยมลพิษทางอากาศ
ตารางที่ 4.3 จ�ำนวนผปู้ ระสบอันตรายหรอื เจ็บปว่ ยเนื่องจากการทำ� งาน จำ� แนกตามความรนุ แรง 68
70
ปี พ.ศ. 2555 - 2560
74
ตารางท่ี 4.4 ความง่ายในการประกอบธุรกจิ (ease of doing business ranking)
ตารางที่ 4.5 ดัชนีภาพลกั ษณค์ อรร์ ัปชนั่ (Corruption Perception Index: CPI) ของประเทศต่างๆ 76

ในกลุ่มประเทศอาเซยี น พ.ศ. 2560 82
82
ตารางท่ี 4.6 อัตรารอ้ ยละของประชากรอายุตั้งแต่ 15 ปขี ึ้นไป จำ� แนกตามพฤตกิ รรมการสบู บหุ ร่ี 83
กลุ่มอายุ เพศ เขตการปกครองและภาค พ.ศ. 2560 91

ตารางที่ 4.7 ประชากรอายตุ งั้ แต่ 15 ปขี ึน้ ไป จำ� แนกตามพฤตกิ รรมในการดื่มสรุ าหรือเคร่ืองดมื่ 117
แอลกอฮอล์ กลุม่ อายุ เพศ และเขตการปกครอง พ.ศ. 2560 119
120
ตารางที่ 4.8 อายเุ ฉล่ียของนักเรยี นเมือ่ มีเพศสัมพนั ธค์ รง้ั แรก
ตารางท่ี 4.9 รอ้ ยละของนักเรยี นท่ีเคยมเี พศสมั พันธ์ 121
ตารางที่ 4.10 รอ้ ยละของการใช้ถงุ ยางอนามยั เม่ือมเี พศสัมพันธ์ครั้งลา่ สดุ กบั แฟนหรือคู่รกั
ตารางท่ี 4.11 ตวั อยา่ งราคายาก่อนและหลงั การตอ่ รองราคา และงบประมาณที่คาดว่าประหยดั ได้ 122

บทที่ 5 ระบบสขุ ภาพของประเทศไทย

ตารางท่ี 5.1 สถานบรกิ ารสาธารณสขุ ภาครัฐ พ.ศ. 2561
ตารางที่ 5.2 จำ� นวนโรงพยาบาลและสดั สว่ นโรงพยาบาลจ�ำแนกตามสงั กดั พ.ศ. 2557 - 2560
ตารางที่ 5.3 จ�ำนวนเตยี งโรงพยาบาลและสัดสว่ นเตยี งโรงพยาบาลจำ� แนกตามสังกดั

พ.ศ. 2557- 2560

ตารางท่ี 5.4 จ�ำนวนเตียงโรงพยาบาลและอัตราส่วนประชากรต่อเตยี งจำ� แนกตามภาค
พ.ศ. 2557-2560

ตารางที่ 5.5 จ�ำนวนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ� บลและอตั ราสว่ นประชากรต่อรพ.สต.
จำ� แนกตามภาค พ.ศ. 2557- 2560

สารบัญตาราง

ตารางที่ 5.6 จ�ำนวนบคุ ลากร 5 สาขาและอัตราสว่ นประชากรต่อบคุ ลากร 5 สาขา 123
พ.ศ. 2557 - 2560
124
ตารางที่ 5.7 จำ� นวนแพทยแ์ ละสัดส่วนแพทยจ์ ำ� แนกตามสงั กดั พ.ศ. 2557-2560 126
ตารางที่ 5.8 127
ตารางที่ 5.9 จ�ำนวนแพทย์และอตั ราส่วนประชากรต่อแพทย์ จ�ำแนกตามภาค พ.ศ. 2557-2560
128
จ�ำนวนทันตแพทย์และอัตราสว่ นประชากรต่อทนั ตแพทย์ จ�ำแนกตามภาค
พ.ศ. 2557 - 2560 129

ตารางที่ 5.10 จำ� นวนเภสชั กรและอตั ราส่วนประชากรต่อเภสัชกร จำ� แนกตามภาค 133
พ.ศ. 2557 - 2560
124
ตารางที่ 5.11 จำ� นวนพยาบาลวิชาชีพและอัตราส่วนประชากรต่อพยาบาลวิชาชพี
จำ� แนกตามภาค พ.ศ. 2557 - 2560 135
138
ตารางที่ 5.12 มูลคา่ การนำ� เข้ายา และการผลิตยาแผนปจั จบุ ันส�ำหรบั มนษุ ย์ จ�ำแนกตามกลุ่มยา
พ.ศ 2557 - 2558 140
149
ตารางที่ 5.13 จำ� นวนรายการยา ทะเบยี นยา และตัวอย่างยาท่ีตรวจ และตัวอยา่ งยาท่ไี มเ่ ขา้
มาตรฐาน พ.ศ. 2555 - 2559 205
211
ตารางที่ 5.14 จ�ำนวนเคร่ืองมอื แพทย์ราคาแพง จำ� แนกตามเขตพ้นื ท่ีสขุ ภาพ ปี 2560 218

ตารางท่ี 5.15 งบประมาณบรกิ ารสขุ ภาพ สิทธปิ ระกนั สงั คม และกองทุนผ้มู ีปญั หาสถานะและสทิ ธิ
พ.ศ. 2558 - 2560

ตารางที่ 5.16 ระบบข้อมลู สุขภาพ และการเชอื่ มโยงกบั ประเดน็ ขอ้ มูลสขุ ภาพและขอ้ จ�ำกดั
ตารางที่ 5.17 การบรหิ ารทุนวิจยั จ�ำแนกตามแผนงานวิจัย ระหว่างปี พ.ศ. 2558 - 2560

บทท่ี 8 การบูรณาการระบบหลักประกนั สุขภาพถ้วนหนา้ ในประเทศไทย

ตารางท่ี 8.1 ขอ้ มูลส�ำคัญของระบบหลักประกันสขุ ภาพภาครัฐ 3 ระบบหลกั
ตารางท่ี 8.2 จำ� นวนผปู้ ่วยที่มีชวี ิตอยแู่ ละเปล่ยี นวธิ ีการรักษาของแต่ละประเภทบรกิ าร พ.ศ. 2560
ตารางท่ี 8.3 สรุป เป้าประสงค์ ตัวช้ีวัด และเปา้ หมายดา้ นการเงินการคลงั ภายในพ.ศ. 2565

สารบญั ตาราง

บทที่ 9 การสาธารณสขุ ชุมชนและท้องถิ่น 228
230
ตารางท่ี 9.1 จ�ำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (แห่ง) จ�ำแนกตามประเภทขององค์กรปกครอง
สว่ นทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2560 257

ตารางที่ 9.2 ววิ ัฒนาการ การมสี ว่ นร่วมของ อปท. และภาคประชาชนในการพัฒนาสาธารณสขุ 272
ของประเทศไทย 273
292
บทท่ี 10 ประเทศไทยกับเปา้ หมายการพัฒนาที่ย่งั ยืน
303
ตารางที่ 10.1 รายงานสถานการณต์ ามตวั ชวี้ ัดเปา้ หมายท่ี SDG 3 ของประเทศไทย ย้อนหลัง 3 ปี 303
309
บทท่ี 11 ประเทศไทยกับการพัฒนาระบบสขุ ภาพโลก

ตารางที่ 11.1 การเปรียบเทียบ ขอบเขต ผ้เู ลน่ และเคร่อื งมอื ท่ใี ช:้ การสาธารณสขุ ระหวา่ งประเทศ
และสขุ ภาพโลก

ตารางที่ 11.2 การเปรียบเทียบการมองสขุ ภาพโลกในมุมมองพหุมิติ 5 ดา้ น
ตารางท่ี 11.3 ความกา้ วหน้าในการด�ำเนินงานดา้ นสุขภาพโลกในประเทศไทย

บทที่ 12 การขบั เคลือ่ นงานปอ้ งกันและควบคุมโรคไมต่ ิดตอ่ ในประเทศไทย

ตารางที่ 12.1 ตารางแสดงจ�ำวนผูเ้ สยี ชีวติ และอัตราการเสียชีวิตตอ่ แสนประชากร ของโรคไมต่ ิดตอ่
และปัจจัยเสี่ยงตา่ งๆ ของปี พ.ศ. 2542, 2547, 2552 และ 2557

ตารางท่ี 12.2 ตารางแสดงจำ� วนปีสุขภาวะท่สี ญู เสียไป (DALYs) และ อตั ราปสี ขุ ภาวะทีส่ ูญเสยี ไปต่อ
แสนประชากร ของโรคไม่ตดิ ตอ่ และปัจจยั เสยี่ งตา่ งๆ ของปี พ.ศ. 2542, 2547, 2552
และ 2557

ตารางที่ 12.3 ตารางแสดงความสัมพนั ธร์ ะหว่างวัตถปุ ระสงค์และดชั นตี า่ งๆของแผนโลกเพื่อการ
ปอ้ งกนั และควบคมุ โรคไม่ติดต่อ ค.ศ. 2013-2020 (พ.ศ. 2558 - 2563)

สารบญั ตาราง

บทที่ 13 การส่งเสรมิ สขุ ภาพ ปอ้ งกันโรคและคุม้ ครองผูบ้ รโิ ภคดา้ นสขุ ภาพ 350
ในประเทศไทย 351
359
ตารางท่ี 13.1 ผ้ปู ่วยและผู้เสยี ชวี ติ จากโรคทปี่ อ้ งกันไดด้ ว้ ยวัคซีนท่สี ำ� คัญ พ.ศ. 2559 - 2560 360
ตารางที่ 13.2 กำ� หนดการให้วคั ซีนในแผนงานสร้างเสรมิ ภมู ิคมุ้ กนั โรค พ.ศ. 2560 369
ตารางที่ 13.3 สถานการณข์ องโรคเรอ้ื นในชาวไทยและชาวตา่ งชาติ พ.ศ. 2556 – 2560 375
ตารางท่ี 13.4 โรคตดิ ตอ่ อบุ ตั ใิ หมท่ ส่ี ำ� คญั ในชว่ งสองทศวรรษท่ีผ่านมา 382
ตารางท่ี 13.5 แผนยุทธศาสตร์ระดบั ชาตทิ ส่ี �ำคัญเก่ียวกับการควบคุมโรคติดตอ่
ตารางที่ 13.6 ผลวิเคราะห์ผลิตภณั ฑ์สุขภาพกลุ่มเส่ียงปี 2560 392
ตารางที่ 13.7 ผลจากการประเมินระบบการจัดการเชือ้ ดือ้ ยาของประเทศไทย
410
บทท่ี 14 ระบบควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพท่ีเปน็ ภาวะฉุกเฉนิ ทางสาธารณสขุ
411
ตารางท่ี 14.1 นโยบายและแผนการจดั การภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ และสาธารณสุข 413

บทท่ี 15 ดชั นีช้วี ัดสภาวะสุขภาพของคนไทย 415

ตารางที่ 15.1 อายุคาดเฉล่ียเมื่อแรกเกดิ และอายคุ าดเฉล่ียของภาวะสขุ ภาพดขี องประชากรไทย 416
เปรยี บเทยี บกับประเทศตา่ งๆ
416
ตารางท่ี 15.2 อายุคาดเฉลี่ยของคนไทยเมอื่ แรกเกิด (Life Expectancy at birth)
ตารางท่ี 15.3 อัตราตายทารกและอตั ราตายของเดก็ ตำ�่ กว่า 5 ปีตอ่ การเกดิ มีชีพ 1,000 คน

เปรยี บเทยี บกบั ประเทศต่างๆ พ.ศ. 2533, 2543, 2556 และ 2559
ตารางที่ 15.4 โรคทีเ่ ปน็ สาเหตสุ �ำคญั ของการสูญเสยี ปีสุขภาวะ (DALYs loss) ในประเทศไทย

พ.ศ. 2557 จ�ำแนกตามเพศ
ตารางท่ี 15.5 โรคทเ่ี ปน็ สาเหตุส�ำคัญของการสญู เสียปสี ขุ ภาวะ (DALYs loss) ในประเทศไทย

พ.ศ. 2557 จำ� แนกตามเพศ ชว่ งอายุ 0-14 ปี
ตารางที่ 15.6 โรคทเ่ี ป็นสาเหตสุ �ำคญั ของการสูญเสียปสี ุขภาวะ (DALYs loss) ในประเทศไทย

พ.ศ. 2557 จ�ำแนกตามเพศ ชว่ งอายุ 15-29 ปี

สารบญั ตาราง

ตารางท่ี 15.7 โรคท่เี ปน็ สาเหตุส�ำคญั ของการสูญเสยี ปีสุขภาวะ (DALYs loss) ในประเทศไทย 417
พ.ศ. 2557 จำ� แนกตามเพศ ชว่ งอายุ 30-59 ปี 417
418
ตารางที่ 15.8 โรคท่เี ป็นสาเหตุสำ� คัญของการสญู เสยี ปสี ขุ ภาวะ (DALYs loss) ในประเทศไทย 419
พ.ศ. 2557 จำ� แนกตามเพศ ช่วงอายุ 60 ปขี ้นึ ไป
420
ตารางที่ 15.9 อัตราตาย (ตอ่ ประชากร 100,000 คน) ของสาเหตุการตายจากการคาดประมาณ 10
อันดบั แรกในเพศชาย อายุ 0-59 ปี ในประชากร พ.ศ. 2552, 2554, 2556 และ 2557 420

ตารางที่ 15.10 อตั ราตาย ตอ่ ประชากร 100,000 คน ของสาเหตุการตายจากการคาดประมาณ 10 422
อนั ดบั แรกในเพศหญิง อายุ 0-59 ปี ในประชากรไทย พ.ศ. 2552, 2554, 2556 และ 422
2557 424
424
ตารางที่ 15.11 อัตราตาย (ตอ่ ประชากร 100,000 คน) ของสาเหตกุ ารตายจากการคาดประมาณ 10 425
อันดบั แรกในเพศชาย อายุ 60 ปีขน้ึ ไป ในประชากรไทย พ.ศ. 2552, 2554, 2556
และ 2557

ตารางที่ 15.12 อตั ราตายตอ่ ประชากร 100,000 คน ของสาเหตุการตายจากการคาดประมาณ 10
อนั ดับแรกในเพศหญิง อายุ 60 ปีข้ึนไป ในประชากรไทย พ.ศ. 2552, 2554, 2556
และ 2557

ตารางที่ 15.13 จ�ำนวนผูป้ ว่ ยที่เข้าพกั รักษาในสถานพยาบาลประเภทตา่ งๆ ทเ่ี ข้าพกั รกั ษาครั้งสดุ ทา้ ย
พ.ศ. 2552, 2554, 2556 และ 2558

ตารางที่ 15.14 อตั ราผู้ปว่ ยนอก 10 ล�ำดบั แรก ตอ่ ประชากร 1000 คน ตามกล่มุ สาเหตุการป่วย
(ไม่รวมกรุงเทพมหานคร) พ.ศ. 2555-2559

ตารางที่ 15.15 อตั ราปว่ ยของผู้ป่วยใน 10 ลำ� ดบั แรก ตอ่ ประชากร 100,000 คน
ตามกลุ่มสาเหตุการป่วย (รวมทกุ การวนิ จิ ฉยั ) พ.ศ. 2555 - 2559

ตารางท่ี 15.16 อัตราปว่ ยของผู้ป่วยใน 10 ลำ� ดับแรก ต่อประชากร 100,000 คน กลุ่มอายุ 15-59 ปี
ตามกลุม่ สาเหตุการปว่ ย (รวมทกุ การวนิ จิ ฉยั ) พ.ศ. 2559

ตารางท่ี 15.17 อตั ราป่วยของผปู้ ว่ ยใน 10 ล�ำดับแรก ต่อประชากร 100,000 คน
กลุม่ อายุ 60 ปีขนึ้ ไป ตามกลุม่ สาเหตุการปว่ ย (รวมทกุ การวนิ ิจฉยั ) พ.ศ. 2559

สารบัญตาราง

ตารางท่ี 15.18 ประชากรพกิ ารอายตุ ัง้ แต่ 7 ปขี ้นึ ไป ทมี่ คี วามลำ� บากหรือปญั หาสุขภาพ จำ� แนกตาม 427
ประเภทความลำ� บากหรอื ปญั หาสุขภาพ 5 ลำ� ดับแรกและระดบั ความรนุ แรง
พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2555 428
429
ตารางที่ 15.19 จำ� นวน(ต่อ1000) และรอ้ ยละของคนพิการไทย พ.ศ. 2517- 2560

ตารางที่ 15.20 การสญู เสียปสี ขุ ภาวะของประชากรไทย พ.ศ. 2547, 2552 และ 2557
จำ� แนกตามเพศและ 3 กลมุ่ โรคหลัก

สารบญั ภาพ

บทท่ี 2 ขอ้ มลู พ้ืนฐานประเทศไทย 18
23
ภาพที่ 2.1 แผนทป่ี ระเทศไทย
ภาพท่ี 2.2 ระบบการปกครองไทยปจั จบุ ัน 38
39
บทท่ี 4 สถานการณแ์ นวโนม้ ของสถานะสุขภาพและปัจจัยตา่ งๆ ท่เี กี่ยวข้อง 40
41
ภาพท่ี 4.1 อตั ราการขยายตัวทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทย (หนว่ ย : รอ้ ยละ) 41
ภาพท่ี 4.2
ภาพท่ี 4.3 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทย (หน่วย : ร้อยละ) 42
ภาพท่ี 4.4 42
ภาพที่ 4.5 รายไดต้ อ่ หัวประชากร (ดอลลาร์สหรฐั )
43
ภาพที่ 4.6 สัดสว่ นประชากรที่อยู่ใต้เส้นความยากจน 44
ภาพที่ 4.7 44
รายได้เฉลย่ี ตอ่ หัวของกลมุ่ ประชากรร้อยละ 40 ลา่ งที่มีรายไดต้ �่ำสุด 46
ภาพท่ี 4.8 (หน่วย : บาท/คน/เดือน) 47
ภาพที่ 4.9 สัมประสทิ ธิ์ความไม่เสมอภาค (Gini Coefficient) ดา้ นรายได้ 49
ภาพที่ 4.10 50
ภาพที่ 4.11 สดั สว่ นการถือครองสินทรพั ย์ทางการเงนิ ของกล่มุ ครัวเรอื นร้อยละ 40 ล่าง
ภาพท่ี 4.12 ที่มรี ายไดต้ ำ่� สดุ 51
ภาพที่ 4.13 กจิ กรรมการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ที่มีผู้ใช้เพิ่มข้ึน ปี พ.ศ. 2561 51
ภาพท่ี 4.14
สัดสว่ นของคนเมืองต่อประชากรทงั้ หมดของประเทศ
ภาพที่ 4.15
ภาพท่ี 4.16 อตั ราการเปน็ ภาระ ตอ่ วยั แรงงาน 100 คน ปีพ.ศ.2553-2560

สัดส่วนประชากรผูส้ งู อายุต่อประชากรรวม ปี พ.ศ. 2533-2573

สดั สว่ นผู้สูงอายุที่อาศัยอย่ตู ามลำ� พัง

รอ้ ยละการย้ายถิน่ ภายในประเทศ ปี พ.ศ. 2560 จ�ำแนกตามสาเหตขุ องการย้ายถน่ิ

จ�ำนวนผูย้ า้ ยถ่นิ จ�ำแนกตามอุตสาหกรรมของผ้ยู า้ ยถ่นิ ปี พ.ศ. 2560
(หนว่ ย : หม่ืนคน)
อายุคาดเฉลี่ยเมอื่ แรกเกิด (life expectancy at birth: LE) พ.ศ. 2553–2561

อายุคาดเฉลี่ยของการมสี ขุ ภาพดี (health adjust life expectancy: HALE)
พ.ศ. 2543–2559

สารบัญภาพ

ภาพที่ 4.17 อายคุ าดเฉลยี่ เมือ่ แรกเกิด (Life expectancy at birth: LE) และ อายคุ าดเฉลี่ยของ 51
การมสี ุขภาพดี (Health Adjust Life Expectancy: HALE) ในกลุ่มประเทศ OECD
ภาพที่ 4.18 52
การสูญเสียปสี ุขภาวะ (Disability Adjusted Life Years: DALYs) พ.ศ. 2553
ภาพที่ 4.19 และ 2559 จำ� แนกตามสาเหตหุ ลัก 52

ภาพท่ี 4.20 การสูญเสยี ปสี ขุ ภาวะ (disability adjusted life years: DALYs) พ.ศ. 2559 53
ภาพที่ 4.21 จำ� แนกตามเพศ 53
ภาพที่ 4.22 55
ภาพที่ 4.23 อัตราตายจากโรคที่ส�ำคญั พ.ศ. 2557-2560 ตอ่ ประชากร 100,000 คน 56
ภาพที่ 4.24 56
ภาพท่ี 4.25 อัตราเจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคทสี่ �ำคญั พ.ศ. 2557-2560 ต่อประชากร 100,000 คน 56

ภาพท่ี 4.26 ปัจจัยทางสังคมท่กี ำ� หนดสุขภาพ (social determinants of health: SDH) 58

ภาพที่ 4.27 อตั ราการสบู บุหร่ขี องประชากรอายุ 15 ปขี ้ึน ปี พ.ศ. 2556-2560 58
ภาพที่ 4.28 60
อตั ราการดื่มสรุ าของประชากรอายุ 15 ขึ้นไป ปี พ.ศ. 2556-2560
ภาพที่ 4.29 61
ภาพที่ 4.30 มลู เหตสุ ันนิษฐานของการเกิดอบุ ัติเหตทุ างถนนของประเทศไทย พ.ศ. 2560 62
(9 อันดบั แรก)
ภาพท่ี 4.31 62
ปรมิ าณและมลู ค่าการนำ� เข้าวตั ถอุ นั ตรายทางการเกษตร ปี 2554-2560
ภาพท่ี 4.32 (หน่วย : ปริมาณ : ตัน) 63
ภาพที่ 4.33 64
อัตราป่วยโรคจากพษิ สารเคมกี ำ� จดั ศัตรพู ืช พ.ศ. 2560 จ�ำนวนรายจังหวดั
ภาพที่ 4.34 64
สดั ส่วนรายไดข้ องประชากร จำ� แนกตามระดบั รายได้ 5 ระดบั (Income Quintile)
ระหวา่ งปี พ.ศ 2554 ถึง พ.ศ. 2558

ปรมิ าณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) 1 ชว่ั โมง (ค่าเฉลยี่ รายป)ี พ.ศ. 2553-2560

ปรมิ าณกา๊ ซโอโซน (O3) คา่ เฉล่ีย 1 ชวั่ โมงสูงสดุ และค่าเฉล่ียรายพืน้ ท่ี
ปี พ.ศ. 2551–2560

ปริมาณฝนุ่ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 10 ไมครอน (PM10) ค่าเฉลี่ยรายปี และค่าเฉลีย่
รายพนื้ ท่ี ปี พ.ศ. 2551-2560

สัดส่วนของเกณฑ์คุณภาพนำ�้ แหล่งน้ำ� ผวิ ดินทสี่ ำ� คญั ท่ัวประเทศ ปี พ.ศ. 2551–2560

ค่าเฉลี่ยระดับเสยี งในกรุงเทพมหานคร และปรมิ ณฑล ปี พ.ศ. 2551-2560
(หน่วย: เดซิเบล)

ปรมิ าณมูลฝอยติดเช้ือ พ.ศ. 2556–2560 (หน่วย : ตัน)

สารบัญภาพ

ภาพที่ 4.35 จำ� นวนชมุ ชนแออัดในพืน้ ท่เี มืองกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2551-2560 (หน่วย : แหง่ ) 65
ภาพท่ี 4.36 อุณหภูมิเฉล่ยี รายปี พ.ศ. 2551-2560 (หน่วย : องศาเซลเซียส) 65
ภาพท่ี 4.37 จ�ำนวนพนื้ ท่ที ป่ี ระสบอุทกภยั พ.ศ. 2551-2560 66
ภาพท่ี 4.38 ปรมิ าณการปลอ่ ยกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อผลิตภัณฑม์ วลรวมในประเทศ 66
ปี พ.ศ. 2551-2560
ภาพที่ 4.39 67
เปรียบเทียบสัดสว่ นการจดั สรรงบประมาณรายจา่ ยตอ่ วงเงินงบประมาณรายจ่าย
ภาพท่ี 4.40 ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558-2562 จำ� แนกตามประเภทงบรายจ่าย 68
ภาพท่ี 4.41 (หน่วย : รอ้ ยละ) 69
ประสิทธิภาพของภาครฐั (Government Efficiency) ปี พ.ศ. 2556–2560
ภาพที่ 4.42 การจัดอนั ดบั ดชั นีภาพลักษณ์คอร์รัปช่นั (corruption perception index, CPI) 71
ภาพที่ 4.43 ของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555-2560 72

ภาพที่ 4.44 กรอบแนวทางการปฏิรปู ระบบราชการ เพอื่ รองรบั ไทยแลนด์ 4.0 72
ความถ่ีของการรบั ประทานอาหารจานดว่ นของประชาชนประเทศไทย เวยี ดนาม
ภาพท่ี 4.45 อนิ โดนีเซยี ปี พ.ศ. 2558 73

ภาพท่ี 4.46 รอ้ ยละของประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไป จำ� แนกตามการบรโิ ภคอาหารว่างและกลมุ่ อายุ 73
ปี พ.ศ. 2560
ภาพที่ 4.47 75
ภาพที่ 4.48 ร้อยละภาวะนำ้� หนกั เกินและภาวะอ้วนในกลุ่มวยั เด็กและวยั รนุ่ กลุ่มประเทศเอเชีย 75
ภาพที่ 4.49 ปี พ.ศ. 2559 77

อตั ราการคลอดบตุ รในหญงิ วัยร่นุ อายุ 15-19 ปีต่อประชากรหญงิ วัยเดียวกัน
1,000 คน ปี พ.ศ. 2561

แนวโนม้ การสูบบหุ รข่ี องประชากรอายุ 15 ปขี ึ้นไป จำ� แนกตามเพศ พ.ศ. 2547-2560
แนวโน้มการสูบบุหรี่ จำ� แนกตามกลม่ อายุ
แนวโนม้ การดม่ื สรุ าหรอื เคร่อื งดมื่ แอลกอฮอล์ของประชากรอายุ 15 ปีข้นึ ไป
จ�ำแนกตามเพศ พ.ศ. 2547-2560

สารบัญภาพ

ภาพท่ี 4.50 รอ้ ยละของประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไป ท่กี ินอาหารแต่ละกลุ่มตั้งแต่ 5 วนั ข้ึนไป 77
ภาพท่ี 4.51 ตอ่ สัปดาห์ พ.ศ. 2556 และ 2560 78
ภาพที่ 4.52 79
ภาพที่ 4.53 ร้อยละของประชากรไทยอายุ 15 ปขี ึน้ ไป ที่กนิ ผักและผลไม้เพยี งพอตามข้อแนะน�ำ 79
ภาพท่ี 4.54 จำ� แนกตามเพศ และอายุ 80
ภาพที่ 4.55 80
ภาพที่ 4.56 รอ้ ยละของประชากรอายุ 15 ปีขน้ึ ไปที่มกี ิจกรรมทางกายไมเ่ พยี งพอ 81
ภาพที่ 4.57 ร้อยละของประชากรไทยอายุ 15 ปีข้ึนไปทีม่ กี จิ กรรมทางกายไม่เพียงพอ 81
ภาพท่ี 4.58 จ�ำแนกตามเพศ และกลมุ่ อายุ 90
ภาพท่ี 4.59 92
ร้อยละของประชากรไทยอายุ 15 ปขี ้นึ ไปท่มี ีกิจกรรมทางกายยามวา่ งระดับปานกลาง
และหนกั จำ� แนกตามอายุ และเพศ 94
99
ร้อยละของการใชอ้ ุปกรณป์ ้องกันการบาดเจ็บจากอุบัตภิ ยั จราจร ของประชากรไทย 100
อายุ 15-59 ปี ในชว่ ง 30 วันท่ีผา่ นมา จ�ำแนกตามเพศ

รอ้ ยละของการใช้อุปกรณป์ ้องกนั การบาดเจบ็ จากอุบตั ภิ ัยจราจร ของประชากรไทย
อายุ 15-59 ปี ในช่วง 30 วนั ที่ผา่ นมา จำ� แนกตามอายุ

รอ้ ยละของประชากรไทยอายุ 15 ปีขึน้ ไป ท่ีไดร้ บั ยาปฏิชวี นะจากอาการหวดั
ท้องเสยี ฉบั พลนั และแผลฉีกขาด/แผลเลอื ดออก

แนวทางการประเมนิ เทคโนโลยเี พื่อสนับสนนุ การพัฒนาชุดสิทธปิ ระโยชน์
ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า

ตวั อย่างของการพัฒนาโจทยว์ จิ ัยใหต้ รงกับความต้องการทางนโยบาย
และสามารถสร้างผลกระทบไดจ้ ริง

บทที่ 5 การบรู ณาการระบบหลกั ประกนั สขุ ภาพถว้ นหน้าในประเทศไทย

ภาพที่ 5.1 ปจั จัยทางสังคมทีก่ �ำหนดสุขภาพ
ภาพที่ 5.2 ความเช่ือมโยงเก่ียวเนอื่ งกันของบทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญ หมวด 3, 5, 6 และ 16
ภาพที่ 5.3 ภาพแสดงความเช่ือมโยงของกลไกตา่ งๆ ในระบบสขุ ภาพแหง่ ชาติ

สารบญั ภาพ

ภาพที่ 5.4 กลไกสำ� คัญในการขบั เคลอื่ นเขตสขุ ภาพเพือ่ ประชาชน 102
ภาพที่ 5.5 โครงสร้างการบรหิ ารงานของกระทรวงสาธารณสุข 104
ภาพที่ 5.6 โครงสรา้ งการบริหารราชการสาธารณสุขในส่วนภูมภิ าค 105
ภาพที่ 5.7 โครงสรา้ งส�ำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแหง่ ชาติ 106
ภาพท่ี 5.8 โครงสร้างหลกั ของสำ� นักงานกองทุนสนับสนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ 109
ภาพท่ี 5.9 โครงสรา้ งการบริหารของส�ำนักงานหลกั ประกันสขุ ภาพแหง่ ชาติ 110
ภาพที่ 5.10 โครงสรา้ งการบรหิ ารงานของสถาบนั รับรองคณุ ภาพสถานพยาบาล 112
ภาพท่ี 5.11 โครงสร้างการบริหารสำ� นักงานของสถาบนั การแพทย์ฉุกเฉนิ แห่งชาติ 114
ภาพท่ี 5.12 ปัจจัยน�ำเขา้ และผลลัพธ์ของการจัดระบบบรกิ ารสขุ ภาพ 115
ภาพที่ 5.13 แนวโน้มสดั สว่ นโรงพยาบาล จ�ำแนกตามสังกัด พ.ศ. 2516-2560 119
ภาพท่ี 5.14 แนวโนม้ สดั สว่ นเตยี งโรงพยาบาล จ�ำแนกตามสงั กดั พ.ศ. 2516-2560 119
ภาพที่ 5.15 แนวโน้มอัตราส่วนประชากรตอ่ เตียงโรงพยาบาล รายภาค พ.ศ. 2522-2560 120
ภาพที่ 5.16 แนวโนม้ อัตราสว่ นประชากรต่อ รพ.สต. รายภาค พ.ศ. 2522-2560 121
ภาพท่ี 5.17 แนวโน้มอัตราสว่ นประชากรต่อกำ� ลังคนด้านสขุ ภาพ 5 สาขา พ.ศ. 2522-2560 122
ภาพท่ี 5.18 แนวโนม้ สดั สว่ นจ�ำนวนแพทย์จำ� แนกตามสงั กดั พ.ศ. 2514-2560 123
ภาพท่ี 5.19 แนวโน้มสดั สว่ นจำ� นวนทันตแพทย์จ�ำแนกตามสังกดั พ.ศ. 2514-2560 124
ภาพท่ี 5.20 แนวโนม้ สัดสว่ นจำ� นวนเภสชั กรจำ� แนกตามสงั กัด พ.ศ. 2514-2560 125
ภาพท่ี 5.21 แนวโน้มสัดสว่ นจำ� นวนพยาบาลวิชาชพี จำ� แนกตามสงั กัด พ.ศ. 2514-2560 125
ภาพที่ 5.22 แนวโน้มอัตราส่วนประชากรต่อแพทย์รายภาค พ.ศ. 2522-2560 126
ภาพท่ี 5.23 แนวโนม้ อัตราส่วนประชากรต่อทันตแพทยร์ ายภาค พ.ศ. 2522-2560 127
ภาพท่ี 5.24 แนวโนม้ อัตราส่วนประชากรตอ่ เภสัชกรรายภาค พ.ศ. 2522-2560 128
ภาพที่ 5.25 แนวโนม้ อตั ราสว่ นประชากรต่อพยาบาลวชิ าชีพรายภาค พ.ศ. 2522-2560 129
ภาพท่ี 5.26 แนวโน้มจ�ำนวนแพทย์ จำ� นวนเตยี ง และอัตราสว่ นเตยี งต่อแพทย์ของโรงพยาบาล 130
ชุมชน พ.ศ. 2522-2560
ภาพที่ 5.27 131
ภาพที่ 5.28 แนวโนม้ จ�ำนวนแพทย์จบใหม่ทีไ่ ดร้ บั ใบอนุญาต พ.ศ. 2539-2560 131
แนวโนม้ จ�ำนวนวุฒิบตั รและอนมุ ัติบตั รของแพทย์เฉพาะทาง พ.ศ. 2514-2560

สารบญั ภาพ

ภาพท่ี 5.29 จ�ำนวนใบวฒุ บิ ตั รและอนมุ ัตบิ ัตร จำ� แนกตามสาขาแพทย์เฉพาะทาง 132
รวมตง้ั แต่ พ.ศ. 2507-2560
ภาพท่ี 5.30 134
ภาพที่ 5.31 สดั สว่ นตัวอยา่ งยาทไ่ี มเ่ ข้ามาตรฐาน ปี 2545-2559 136
ภาพที่ 5.32 แนวโน้มรายจ่ายสุขภาพ และร้อยละของรายจา่ ยสขุ ภาพตอ่ GDP พ.ศ. 2537-2557 136
ภาพที่ 5.33 แนวโน้มสดั ส่วนรายจ่ายสุขภาพภาครฐั และเอกชน พ.ศ. 2537-2557 136
ภาพท่ี 5.34 แนวโน้มรายจา่ ยสขุ ภาพตอ่ คนต่อปี พ.ศ. 2537-2557 137
ร้อยละครวั เรอื นทเ่ี กดิ วิกฤตทางการเงินจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และครวั เรือนที่
ภาพท่ี 5.35 กลายเป็นครัวเรือนยากจนจากการจา่ ยคา่ รักษาพยาบาล ปี 2533-2559 138

ภาพที่ 5.36 งบประมาณหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ แยกเงินเดือนของหน่วยบรกิ ารสุขภาพ 138
ภาพท่ี 5.37 ภาครัฐ ปี 2546-2560 139
ภาพท่ี 5.38 141
รายจ่ายบริการผูป้ ว่ ยนอกและผ้ปู ว่ ยใน สทิ ธสิ วสั ดิการข้าราชการ ปี 2552-2560
ภาพท่ี 5.39 แสดงระบบขอ้ มลู ข่าวสารด้านสขุ ภาพ และการเช่ือมโยงกบั ตวั ชว้ี ัดสขุ ภาพ 141
อตั ราการใช้บรกิ ารผูป้ ว่ ยนอกและผปู้ ่วยในตอ่ ประชากรตอ่ ปี
ภาพที่ 5.40 สิทธหิ ลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ ปี 2549-2560 142

ภาพท่ี 5.41 อัตราการใชส้ ิทธิ กรณผี ู้ปว่ ยนอกและผ้ปู ่วยใน สทิ ธหิ ลกั ประกันสุขภาพแหง่ ชาติ 142
ปี 2546-2560
ภาพที่ 5.42 143
อัตราการได้รับยาละลายลิม่ เลอื ดส�ำหรบั ผูป้ ว่ ยในโรคกล้ามเน้ือหัวใจตายเฉยี บพลัน
ภาพที่ 5.43 (STEMI) และโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออดุ ตัน สทิ ธิหลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ 143
ปี 2548-2560
สดั สว่ นผ้ตู ดิ เชอื้ เอชไอวีรายใหมต่ ามระดบั CD4 คร้ังแรก
สทิ ธหิ ลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2552-2560

วนั นอนเฉลย่ี และน�ำ้ หนักสมั พทั ธ์เฉลย่ี (Adj.CMI) ผ้ปู ่วยใน
สิทธิหลกั ประกนั สุขภาพแหง่ ชาติ ปี 2549-2560

สัดสว่ นผปู้ ว่ ยเบาหวานและความดนั โลหิตสงู ท่ีควบคมุ โรคได้
สิทธิหลักประกนั สขุ ภาพแหง่ ชาติ ปี 2554-2560

สารบัญภาพ

ภาพท่ี 5.44 ร้อยละรายจา่ ยสขุ ภาพตอ่ รายจา่ ยครัวเรือน ของคนจนทีส่ ดุ 10% 144
และคนรวยท่สี ุด 10% ปี 2537-2558
ภาพที่ 5.45 144
สดั ส่วนผูส้ งู อายุทไี่ ด้รบั บรกิ ารสุขภาพ ปี พ.ศ. 2560
ภาพท่ี 5.46 จำ� แนกตามสวสั ดิการรกั ษาพยาบาล 145
ภาพท่ี 5.47 146
ภาพท่ี 5.48 กรอบความคิดระบบสขุ ภาพขององค์การอนามยั โลก 147
ภาพที่ 5.49 ปัจจยั ทางสังคมท่ีกำ� หนดระบบสขุ ภาพ 147
ภาพที่ 5.50 กระบวนการสรา้ งความรู้เพอ่ื พัฒนาระบบและนโยบายสุขภาพ 148
ภาพท่ี 5.51 องคป์ ระกอบหรือระยะการวิจัยท่ตี ้องเชอ่ื มต่อกนั จงึ จะบรรลเุ ป้าหมาย 149
ผลการดำ� เนินการสร้างความรู้ ปีงบประมาณ 2556-2560
การบรหิ ารทนุ วจิ ัยเพือ่ พฒั นาระบบสุขภาพ 179
179
บทท่ี 6 กรอบนโยบายและยุทธศาสตรด์ า้ นสขุ ภาพของไทย 4.0
และนโยบายสาธารณะทกุ ภาคส่วน (Health in all) 186
ภาพที่ 6.1 196
ภาพที่ 6.2 Polycentric Governance (Coproduction) Concept 199
สว่ นขยายของ action situation ในภาพที่ 1
204
บทท่ี 7 การพัฒนานโยบายสาธารณะเพ่ือสขุ ภาพแบบมสี ว่ นรว่ ม
207
ภาพที่ 7.1 ปัจจัยสงั คมกำ� หนดสขุ ภาพ
ภาพท่ี 7.2 แผนผงั ระบบและกลไกการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ
ภาพท่ี 7.3 กลไกและกระบวนการของสมัชชาสุขภาพจงั หวดั

บทที่ 8 การบรู ณาการระบบหลักประกันสขุ ภาพถ้วนหนา้ ในประเทศไทย

ภาพที่ 8.1 รายไดป้ ระชาชาติตอ่ หัวประชากรไทย (GNI per capita)
และการขยายความครอบคลมุ หลักประกันสุขภาพ ระหวา่ งปี 2512–2560
ภาพท่ี 8.2
มิติสามดา้ นของประกันสขุ ภาพถ้วนหน้า (UHC cube)

สารบญั ภาพ

ภาพท่ี 8.3 ความครอบคลุมประชากรของระบบประกนั สขุ ภาพ แยกรายสิทธิประกันสขุ ภาพ 207
ภาพที่ 8.4 ปงี บประมาณ 2545-2560 208
ภาพท่ี 8.5 209
ภาพที่ 8.6 อัตราการใช้บริการผปู้ ่วยนอกและผู้ปว่ ยในของผมู้ สี ิทธิหลักประกนั สขุ ภาพแห่งชาติ 210
พ.ศ. 2549-2560
ภาพท่ี 8.7 211
ภาพท่ี 8.8 พฒั นาการชุดสทิ ธปิ ระโยชน์และการจดั การเพ่มิ การเขา้ ถึงบริการ 212
ภาพที่ 8.9 ในระบบหลักประกนั สุขภาพแห่งชาติ 214

ตราป่วยตายภายใน 30 วนั และอัตราการไดร้ บั ยาละลายลิ่มเลือด 245
ของผู้ปว่ ยโรคหลอดเลือดสมองตบี หรอื อดุ ตันของผมู้ ีสทิ ธหิ ลกั ประกันสุขภาพแห่งชาติ 245
พ.ศ. 2549-2560 245
ครัวเรือนทเี่ กดิ วกิ ฤติทางการเงนิ จากการจา่ ยคา่ รักษาพยาบาล
(Catastrophic health expenditure) พ.ศ. 2533-2560 270
271
ครวั เรือนทตี่ อ้ งกลายเป็นครัวเรอื นยากจนภายหลังจากการจา่ ยคา่ รกั ษาพยาบาล 276
(Health impoverishment) พ.ศ. 2533-2560 277

จำ� นวนสถานพยาบาลภาครัฐและภาคเอกชนในระดับต่างๆของประเทศไทย
พ.ศ. 2558

บทท่ี 9 การสาธารณสขุ ชุมชนและท้องถ่ิน

ภาพท่ี 9.1 แสดงจ�ำนวนกองทุนสุขภาพต�ำบล จ�ำแนกตามปงี บประมาณ
ภาพที่ 9.2 แสดงจำ� นวน อปท. ท่ีมกี ารจัดตง้ั กองทุนสุขภาพตำ� บลและท่มี าของงบประมาณ
ภาพที่ 9.3 แสดงการใช้งบประมาณจากกองทนุ สขุ ภาพตำ� บลตามกลมุ่ เป้าหมายที่ไดร้ ับประโยชน์

บทที่ 11 ประเทศไทยกับการพฒั นาระบบสุขภาพโลก

ภาพท่ี 11.1 ปัญหาและแนวโนม้ สขุ ภาพท่ีส�ำคญั ในปัจจบุ นั
ภาพที่ 11.2 ววิ ฒั นาการของงานสุขภาพโลก
ภาพที่ 11.3 ระบบอภิบาลสขุ ภาพโลก: รัฐ ตลาด และกลไกการมีสว่ นร่วม
ภาพท่ี 11.4 โครงสรา้ งและกลไกการด�ำเนินงานขององค์กรของอาเซียน

สารบัญภาพ

ภาพท่ี 11.5 องคก์ รในระบบสขุ ภาพของประเทศไทย 280
ภาพท่ี 11.6 หน่วยงานหลกั ในระบบสขุ ภาพโลกของประเทศไทย 282
ภาพท่ี 11.7 การปฏิรูปการท�ำงานขององค์การอนามยั โลกกับประเทศไทย 296

บทที่ 12 การขบั เคลือ่ นงานปอ้ งกันและควบคมุ โรคไมต่ ิดตอ่ ในประเทศไทย 308

ภาพที่ 12.1 แผนภาพแสดงลำ� ดับเวลาของเอกสารสำ� คัญต่างๆทีแ่ สดงถึงการขบั เคล่ือน 341
เพอ่ื การปอ้ งกันและควบคมุ โรคไม่ตดิ ตอ่ 343
344
บทท่ี 13 การสง่ เสริมสขุ ภาพ ปอ้ งกนั โรคและคมุ้ ครองผบู้ ริโภคด้านสขุ ภาพ 346
ในประเทศไทย 346
349
ภาพท่ี 13.1 จำ� นวนผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรียรายเดือน ปีงบประมาณ 2556-2560 350
353
ภาพท่ี 13.2 อบุ ัติการณแ์ ละอตั ราป่วยตาย โรคไข้เลอื ดออก ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2501-2560
353
ภาพที่ 13.3 พนื้ ทกี่ ารแพรโ่ รคเท้าชา้ ง ปี พ.ศ. 2545–2560 354

ภาพที่ 13.4 จ�ำนวนผเู้ สยี ชีวิตดว้ ยโรคพษิ สุนัขบา้ เปรียบเทียบกับอัตราตรวจพบการตดิ เชื้อ
โรคพิษสนุ ขั บา้ ในหวั สัตว์ทสี่ ่งตรวจ (รอ้ ยละ) พ.ศ. 2550–2561

ภาพที่ 13.5 การกระจายของโรคพิษสุนัขบา้ ในคนและสตั ว์ พ.ศ. 2558–2561

ภาพที่ 13.6 แนวโนม้ อัตราปว่ ย ของโรคบิดและโรคอาหารเปน็ พษิ ชว่ งปี พ.ศ. 2551-2560
และของไขเ้ อนเทอรคิ กบั โรคอุจจาระร่วงเฉยี บพลัน ชว่ งปี พ.ศ. 2514-2560

ภาพท่ี 13.7 แนวโนม้ ของจ�ำนวนผู้ปว่ ยโรคคอตีบ ไอกรน หัด และโปลโิ อ เปรียบเทียบกับอัตรา
ความครอบคลุมของวคั ซนี ส�ำหรบั โรคนน้ั ๆ ชว่ งเวลาเดียวกนั พ.ศ. 2520-2560

ภาพท่ี 13.8 อัตราความชกุ ของการตดิ เชอ้ื เอชไอวีในกลมุ่ พนกั งานบริการเพศตรง
ภาพท่ี 13.9
(driect sex workers) พนักงานบรกิ ารเพศแฝง (indirect sex workers)

และชายท่ีไปตรวจกามโรค (Male STD) ช่วงปี พ.ศ. 2539-2560 2560
อัตราความชุกของการตดิ เช้อื เอชไอวใี นหญงิ ทีม่ าฝากครรภ์ (ANC)

และผู้บรจิ าคเลอื ด (blood donors) ชว่ งปี พ.ศ. 2539-2560 2560

ภาพท่ี 13.10 คาดประมาณ สถานการณ์เอชไอวี เอดสป์ ระเทศไทย ปี 2560–2561

สารบญั ภาพ

ภาพท่ี 13.11 ผลส�ำรวจอตั ราการเคยมเี พศสัมพนั ธ์แล้ว ในนกั เรียนชนั้ มธั มศกึ ษาปีที่ 5 355
และในนกั ศกึ ษาประกาศนยี บัตรวิชาชีพชน้ั ปีที่ 2 เพศชายและหญิง
ช่วงปี พ.ศ. 2556-2560 (ค.ศ. 2013-2017) 357

ภาพท่ี 13.12 คาดประมาณเทยี บกบั จ�ำนวนการรายงานผูป้ ่วยวณั โรครายใหม่และกลับเปน็ ซ้�ำ 358
ชว่ งปี พ.ศ. 2543-2560
369
ภาพที่ 13.13 ผลการรักษาวณั โรครายใหมแ่ ละกลบั เป็นซ้ำ� ในประเทศไทย
ปงี บประมาณ 2545–2560 376
376
ภาพที่ 13.14 อตั ราความชกุ (PR) และอัตราการตรวจพบผู้ป่วยใหม่ (DR) ของโรคเรื้อน
ต่อประชากร 10,000 คน ปี พ.ศ. 2527-2560 377
378
ภาพท่ี 13.15 การตรวจสอบผลิตภณั ฑ์สุขภาพปี พ.ศ. 2560 379
ภาพท่ี 13.16 ร้อยละของการผ่านมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยของผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพ 380
381
ปี 2556-2560
389
ภาพท่ี 13.17 ร้อยละของการสถานประกอบการท่ีผา่ นการตรวจสอบมาตรฐานปี 2558-2560
ภาพท่ี 13.18 การเฝา้ ระวงั โฆษณาผลิตภณั ฑ์สุขภาพในสื่อต่าง ๆ พ.ศ. 2560 396
ภาพที่ 13.19 น�้ำหนกั ยาเสพตดิ ของกลางรวม (กโิ ลกรัม) จำ� แนกรายปี พ.ศ. 2541-2560 396
ภาพท่ี 13.20 จ�ำนวนรายงานอาการไมพ่ งึ ประสงคจ์ ากการใชย้ า พ.ศ. 2527-2560 399
ภาพที่ 13.21 รอ้ ยละของประชาชนท่ีมคี วามรูแ้ ละพฤตกิ รรมการบรโิ ภคผลติ ภณั ฑ์สุขภาพทีถ่ กู ต้อง

พ.ศ. 2558-2560

บทท่ี 14 ระบบควบคุมโรคและภยั สขุ ภาพทเี่ ปน็ ภาวะฉกุ เฉนิ ทางสาธารณสขุ

ภาพที่ 14.1 แผนการจดั การภาวะฉุกเฉนิ ทางการแพทย์และการสาธารณสุขแบบบรู ณาการ
ทคี่ รบวงจรและมเี อกภาพ พ.ศ. 2560–2564
ภาพท่ี 14.2
ภาพที่ 14.3 ศูนย์ปฏบิ ตั กิ ารภาวะฉกุ เฉินทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุข (PHEOC)
ภาพที่ 14.4
โครงสร้างระบบบัญชาการเหตกุ ารณ์กระทรวงสาธารณสขุ ในทกุ ประเภทภัย

โครงสรา้ งระบบบัญชาการณเ์ หตกุ ารณข์ องกระทรวงสาธารณสุข
ในกรณีสถานการณห์ มอกควัน

สารบัญภาพ

ภาพที่ 14.5 โครงสร้างระบบบัญชาการณ์เหตุการณข์ องกระทรวงสาธารณสขุ 400
ในกรณีงานพระราชพิธถี วายพระเพลงิ พระบรมศพ
ภาพท่ี 14.6 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร 405
ภาพที่ 14.7 406
ภาพท่ี 14.8 ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลือ่ นทเี่ ร็ว (SRRT) ที่จัดต้งั ขน้ึ ในระดบั ตา่ งๆ 407

โครงสรา้ งมาตรฐานงาน SRRT พรอ้ มตัวชีว้ ัด 412
412
ผลการประเมนิ มาตรฐาน SRRT ระดับอ�ำเภอ แสดงร้อยละของ SRRT 414
ทผ่ี า่ นการประเมนิ รบั รองมาตรฐาน โดยส�ำนกั งานป้องกนั ควบคุมโรค 426
ปี พ.ศ. 2552–2559 428

บทที่ 15 ดัชนีช้ีวดั สภาวะสุขภาพของคนไทย

ภาพที่ 15.1 อตั ราตายมารดาต่อการเกดิ มชี พี 100,000 คน ประเทศไทย พ.ศ. 2505-2559
ภาพที่ 15.2 อัตราตายทารกต่อการเกดิ มีชีพ 1,000 คน ประเทศไทย พ.ศ. 2507-2561
ภาพท่ี 15.3 อตั ราตายเด็กต่�ำกวา่ 5 ปตี ่อการเกิดมีชพี 1,000 คน ประเทศไทย พ.ศ. 2533–2559
ภาพที่ 15.4 สัดสว่ นของประชากรพิการ จ�ำแนกตามลกั ษณะความบกพรอ่ ง 5 ลำ� ดบั แรก
พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2555
ภาพท่ี 15.5
อตั ราตายด้วยสาเหตุท่ีสำ� คญั ต่อประชากร 100,000 คน ของประเทศไทย
พ.ศ. 2510-2559



บทท่ี 1

พระราชจักรวี งศแ์ ละการสาธารณสขุ ไทย

1.1 การแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ไทยกอ่ นยคุ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์

ดินแดนอันเป็นท่ีตั้งของประเทศไทยในปัจจุบัน ภาษาไทยและภาษาบาลี ไม่ปรากฏมีข้อความเกี่ยวกับ
เคยเป็นถิ่นฐานของมนุษย์มาแต่โบราณตั้งแต่สมัยก่อน การปลูกสมนุ ไพรและการแพทยแ์ ผนไทย(6)
ประวัติศาสตร์ ดังปรากฏหลักฐานการขุดค้นท่ีบ้านเก่า
จังหวดั กาญจนบุรี และบา้ นเชียง จังหวัดอุดรธานี ตอ่ มา หลักฐานเกี่ยวกับการแพทย์ที่ชัดเจนปรากฏในสมัย
เป็นทีต่ ้งั ของราชอาณาจักรเชยี งแสน ลา้ นนา และสุโขทยั ราชอาณาจกั รอยธุ ยา เรมิ่ จากการอพยพมาตง้ั ราชธานี เมอ่ื
ทางภาคเหนอื ขอม ละโว้ ทวารวดี สุวรรณภูมิ อโยธยาใน พ.ศ. 1893 เพอื่ หนโี รคหา่ ซง่ึ เดมิ เชอื่ กนั วา่ คอื อหวิ าตกโรค
ภาคกลาง และศรวี ิชยั ทางภาคใต้ เปน็ ตน้ และตอ่ มาเชอื่ วา่ เปน็ ไขท้ รพษิ (7) แตป่ จั จบุ นั เชอื่ กนั วา่ นา่ จะ
เปน็ กาฬโรค ซงึ่ เวลานน้ั มกี ารระบาดในหลายประเทศ เชน่
หลักฐานจากโครงกระดูก พบมนุษย์ในสมัยก่อน ในองั กฤษทำ� ให้คนเสียชีวิตไปถึง 1 ใน 3(8)
ประวัติศาสตร์มอี ายุขยั เฉลย่ี สนั้ ไมเ่ กิน 30 ปี จำ� นวนมาก
มโี รคโลหติ จางเรอ้ื รงั (1,2)หลกั ฐานทางการแพทยพ์ บหนิ บด- การแพทย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีรากฐานอัน
ยาสมัยทวารวดีท่ีเมืองอู่ทองและเมืองศรีมโหสถ เป็นต้น มั่นคง ปรากฏต�ำแหน่งแพทย์ในกรมต่างๆ หลายกรม
(3) ในสมยั พระเจา้ ชัยวรมนั ท่ี 7 (พ.ศ. 1724-1762) แห่ง ในพระไอยการต�ำแหน่งนาพลเรือน พ.ศ. 1998(9)
ราชอาณาจกั รขอม มกี ารสรา้ งอาโรคยศาล รวม 102 แหง่ การแพทย์ตะวันตกเข้ามาสู่กรุงศรีอยุธยาพร้อมทูต
อยูใ่ นภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของประเทศไทย 22 แหง่ โปรตุเกส เม่ือพ.ศ. 2054(10) เช่อื กันว่ามีการนำ� ขีผ้ ึ้งรักษา
พบจารึกในอาโรคยศาลบางแห่ง เช่น จารึกด่านประค�ำ แผลเข้ามาในสมัยน้ัน มีการตั้งโรงพยาบาลโดยชาว
จงั หวดั บุรีรัมย์ และจารึกปราสาท จังหวัดสรุ ินทร์ ระบุวา่ โปรตเุ กสด้วย(11) มตี �ำรับยาสำ� คญั ท่ีเหลือตกทอดมาจนถึง
มพี นักงานปฏบิ ตั ิงานในอาโรคยศาลแตล่ ะแห่งถงึ 98 คน ปจั จบุ นั คอื ตำ� ราพระโอสถพระนารายณ์ ซง่ึ รวบรวมตำ� รา
ในจำ� นวนน้ีเปน็ แพทย์ 2 คน ผู้ช่วยแพทย์ชาย 2 คน หญงิ ยาไว้ 81 ต�ำรับของหมอ 9 คน เปน็ หมอไทย 5 คน หมอ
4 คน บรุ ุษพยาบาล 14 คน เป็นต้น(4) แขก 1 คน หมอจนี 1 คน และหมอฝร่งั 2 คน หมอไทย
เป็นหมอหลวง 4 คน และหมอเชลยศกั ด์ิ 1 คน(12) พระ-
ในสมัยสุโขทัยซึ่งรับพุทธศาสนานิกายเถรวาทเข้า สังฆราชหลุยส์ ลาโน มิชชันนารีฝร่ังเศส ประมุขมิซซัง
มาในราชอาณาจักรอย่างมั่นคงถาวร ดังปรากฏวัดวา สยามคนแรกไดส้ รา้ งโรงพยาบาลขนึ้ มคี นไขม้ ารบั บรกิ าร
อารามและพระพทุ ธรปู อนั งดงามจำ� นวนมาก ยอ่ มรบั การ จ�ำนวนมาก(13) ตอ่ มามกี ารตัง้ โรงพยาบาลทีพ่ ิษณุโลกและ
แพทย์ท่ีพัฒนามายาวนานในพุทธอารามเข้ามาไว้ด้วย(5) ที่บางกอกดว้ ย(13)
เคยมีผู้อ้างว่ามีการปลูกสมุนไพรที่เขาสรรพยาโดยอ้าง
ศิลาจารึกสุโขทัยหลักท่ี 1 บ้าง จารึกวัดป่ามะม่วงบ้าง ทูตและบุคคลในคณะทูตของฝร่ังเศสได้บันทึก
แตจ่ ากการตรวจสอบทงั้ ศิลาจารกึ พอ่ ขุนรามค�ำแหง ศลิ า สภาพการณ์รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บและการแพทย์ใน
จารึกวัดศรีชุมและศิลาจารึกวัดป่ามะม่วงทั้งภาษาเขมร ประเทศไทยสมัยนั้นไว้หลายท่าน เช่น เชอวาเลียร์
เดอ ฟอร์บัง(14) นิโคลาส แชร์แวส(15) และ ซีมอง เดอ
ลาลูแบร(์ 16)

การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560 1

เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาเม่ือ พ.ศ. 2310 ในสมัยกรุงธนบุรี มีช่วงระยะเวลาเพียง 14 ปีเศษ
นั้น เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่มากจนถึงข้ันบ้านแตก ตอนต้นรัชกาลหลังปราบดาภิเษกต้องท�ำการปราบ
สาแหรกขาด บา้ นเมอื งถกู ทำ� ลายยอ่ ยยบั แทบทงั้ ประเทศ ชุมนมุ ตา่ งๆ อยู่ราว 3 ปเี ศษ ราษฎรอดอยากยากไร้แสน
เพราะก่อนจะเข้าล้อมตีกรุงศรีอยุธยา พม่าได้ยกกองทัพ สาหัสและตลอดรัชกาลต้องท�ำศึกกับพม่ารวม 10 คร้ัง
ปราบปรามท�ำลายบ้านเมืองท้ังจากทางเหนือและทางใต้ คร้ังที่หนักที่สุดคือ คร้ังอะแซหวุ่นกี้ตีหัวเมืองเหนือเม่ือ
และวางแผนท�ำศึกข้ามฤดูกาลน้�ำหลาก ล้อมกรุงอยู่จน พ.ศ. 2318 ซง่ึ ไทยตอ้ งเสยี เมอื งพษิ ณโุ ลก(17) และหากพมา่
ข้ามปีก่อนจะขุดอุโมงค์เข้ามาและสุมไฟจนก�ำแพงเมือง ไม่เกิดศึกภายในเรียกอะแซหวุ่นก้ีกลับเสียก่อน ก็อาจถึง
ถล่ม พม่ากรูเข้าเมืองและเผาท�ำลายจนพินาศยับเยิน ขั้นเสียกรุงอกี ครงั้ (18) ในพระราชพงศาวดารไม่มกี ารกล่าว
แล้วกวาดต้อนผู้คนเป็นเชลยกลับไปเมืองพม่าครั้งใหญ่ ถึงเรอ่ื งการแพทยแ์ ละสาธารณสุขในสมยั นั้น(6)
หลังจากนั้นก็ยังให้สุกี้พนายกองตั้งค่ายกวาดต้อนผู้คนส่ง
ไปพม่าในภายหลัง เมื่อพระเจ้าตากสินสามารถรวบรวม หลังกรุงธนบุรีเกิดจลาจลและเจ้าพระยามหา
ผู้คนตีฝ่าวงล้อมออกไปสร้างกองทัพกลับเข้ามากู้กรุงคืน กษัตริย์ศึกยกทัพกลับจากกัมพูชา ข้าราชการผู้ใหญ่น้อย
ได้น้ัน กรุงศรีอยุธยาอยู่ในสภาพไม่มีชิ้นดี ไม่สามารถจะ ท้ังปวงได้พร้อมกันกราบทูลวิงวอนอัญเชิญให้เจ้าพระยา-
ฟื้นฟูขน้ึ ได้ ประกอบกับพระเจ้าตากสินมกี ำ� ลังนอ้ ยจึงยก มหากษัตริย์ศึกเสด็จข้ึนผ่านพิภพเป็นพระมหากษัตรา-
กนั มาตงั้ กรุงธนบรุ ขี น้ึ เป็นราชธานีแหง่ ใหม่ ในขนาดทพี่ อ ธิราชทรงปกครองสยามประเทศสบื ไป “ทรงรบั อาราธนา
เหมาะแกก่ องก�ำลังจะรักษาไวไ้ ด้ และพร้อมจะถอยไปตงั้ ด้วยพระอาการดุษณียภาพ”(19) เสด็จปราบดาภิเษก
หลกั หากถกู พมา่ ยกมาตอี กี เพราะกรงุ ธนบรุ อี ยหู่ า่ งปากนำ�้ ประดิษฐานพระบรมราชจักรีวงศ์ด�ำรงประเทศสืบมา
เจา้ พระยาไม่ไกลนัก พระมหากษตั รยิ ท์ กุ พระองคใ์ นพระราชจกั รวี งศไ์ ดท้ รงทำ� นุ
บ�ำรุงการสาธารณสุขของประเทศให้เจริญวัฒนาสถาพร
เปน็ อเนกประการ

1.2 การสรา้ งกรงุ รตั นโกสนิ ทรแ์ ละการฟน้ื ฟกู ารแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ไทยในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้
จฬุ าโลกมหาราช (พ.ศ. 2325-2352)

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จ ทั้งนี้จากประสบการณ์ที่ทรงสู้ศึกอะแซหวุ่นก้ีที่เมือง
ผา่ นพภิ พปราบดาภเิ ษกเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 พิษณุโลกซ่ึงล�ำน�้ำแคบและต้ืนกว่าพอท�ำสะพานเช่ือม
ทรงระงับทุกข์เข็ญในกรุงธนบุรีจนราบคาบ และโปรดให้ ได้ แต่ก็ยังลำ� บาก ทรงพระราชด�ำรวิ ่า แม่น�้ำเจ้าพระยาที่
มสี ารตราใหห้ ากองทพั กลบั มาจากกรงุ กมั พชู าแลว้ กใ็ หเ้ รม่ิ พาดกลางหว่างสองฟากกรุงธนบุรีแม่น้�ำทั้งกว้างและลึก
การย้ายพระนครข้ามฟากจากเมืองธนบุรีมาสร้างทางฝั่ง จะท�ำสะพานข้ามไม่ได้ ถ้าข้าศึกเข้ามาได้ถึงพระนครจะ
กรุงเทพมหานครทางขา้ งฝ่ังตะวนั ออก ไม่สามารถต่อสู้ข้าศึกรักษาพระนครไว้ได้ ทั้งน้ี ทางข้าง
มูลเหตุซึ่งสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ในหนังสือ ฝงั่ ตะวันออกของแมน่ ำ้� เปน็ ชัยภมู ทิ ี่เหมาะกว่าเพราะเปน็
พระราชพงศาวดารกล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธ- หัวแหลม ถ้าสร้างเมืองแต่ฟากเดียวจะได้แม่น้�ำใหญ่เป็น
ยอดฟ้าจุฬาโลกทรงรังเกียจพระราชวังเดิม ด้วยอยู่ใกล้ คเู มอื งทง้ั ดา้ นตะวนั ตกและดา้ นใต้ ตอ้ งขดุ คลองเปน็ คเู มอื ง
ชิดติดอุปจารวัดแจ้งและวัดท้ายตลาดล้อมอยู่ท้ังสองด้าน แตด่ า้ นเหนอื และดา้ นตะวนั ออกเทา่ นนั้ ถา้ ขา้ ศกึ จะเขา้ มา
แต่เหตุที่เป็นข้อส�ำคัญยิ่งกว่า ด้วยทรงพระราชด�ำริว่า ได้ถึงพระนครกจ็ ะตอ่ สู้ได้ง่ายกวา่
พม่าจะยกมาตีเมืองไทยอีก กรุงธนบุรีสร้างป้อมปราการ เร่ืองย้ายพระนครมาต้ังฝั่งเดียว น่าจะถึงได้เคย
ท้ังสองฝั่งแม่น้�ำเจ้าพระยา มีแม่น�้ำกลางเมืองเหมือน เป็นปัญหาปรึกษาหารือในรัฐบาลแต่คร้ังกรุงธนบุรีเม่ือ
พิษณุโลก มีประโยชน์ท่ีจะเอาเรือรบเข้าไว้ในเมือง เมื่อ เสร็จศึกอะแซหวุ่นกี้ และบางทีจะได้ตรวจแผนที่เสร็จ
เวลามีศึกเข้ามาประชิดแต่ย่อมยากแก่การรักษาเมือง แล้ว แต่จะเป็นด้วยพระเจ้ากรุงธนบุรีไม่ทรงเห็นชอบ

2 การสาธารณสุขไทย 2559-2560

ดว้ ยพระราชดำ� รหิ รอื มฉิ ะนนั้ จะตดิ ราชการสงครามอยจู่ งึ “วดั ในวงั ” อยา่ งวดั พระศรสี รรเพชญใ์ นพระนครศรอี ยธุ ยา
ค้างมา เร่ืองนี้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เม่ือสร้างเสร็จโปรดให้เชิญพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกต
ทรงเห็นเป็นการส�ำคัญต่อการอยู่รอดของประเทศจึงทรง จากโรงในพระราชวังเดิมฟากตะวันตก ลงเรือพระที่นั่ง
ดำ� เนนิ การทนั ทหี ลงั เสดจ็ ปราบดาภเิ ษกแลว้ โดยเหน็ เปน็ กิ่งมีเรือแห่เป็นขบวนข้ามมายังพระอารามที่สร้างใหม่
ขอ้ ยตุ วิ า่ จะตง้ั ราชธานอี ยทู่ บี่ างกอกนต้ี อ่ ไป ไมค่ ดิ กลบั คนื แล้วให้นิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะประชุมท�ำสังฆกรรมผูก
ขึ้นไปต้ังท่ีกรุงศรีอยุธยาอย่างโบราณ จึงมีรับส่ังให้ขึ้นไป พทั ธสีมาในวันนน้ั เมอื่ การสร้างพระอารามส�ำเรจ็ บริบูรณ์
รอื้ กำ� แพงกรงุ เกา่ เอาอฐิ ลงมาสรา้ งปอ้ มปราการกรงุ เทพฯ แล้ว จึงพระราชทานนามว่าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
มใิ หก้ รงุ เกา่ เปน็ ทอี่ าศยั ของขา้ ศกึ สรา้ งพระนครอยู่ 3 ปี จงึ ไว้เป็นท่ีประชุมข้าทูลละอองธุลีพระบาท ถือน้�ำพระ-
แล้วเสรจ็ เมอื่ พ.ศ. 2328(17) พิพัฒน์สัตยาธิษฐานปีละ 2 คร้ัง พระอารามแห่งนี้สร้าง
เสร็จเม่ือ พ.ศ. 2327 ก่อนหน้านั้นได้ทรงสร้างปราสาท
นับว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระเทพบิดาแล้วให้อัญเชิญพระเทพบิดร คือ พระรูป
ทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกลและทรงตัดสินพระทัยได้ สมเด็จพระรามาธิบดี (อู่ทอง) ซึ่งเป็นปฐมวงศ์สร้างกรุง-
อย่างถูกต้อง เพราะเวลานั้นยังว่างศึกข้างพม่า ด้วยพม่า เก่ามาแปลงเป็นพระพุทธรูปหุ้มเงินปิดทองประดิษฐาน
เกิดศึกแย่งชิงราชสมบัติภายในอยู่หลายปี พระเจ้าปดุง ไว้ในพระวิหาร(20) นอกจากนี้ ยังทรงด�ำเนินการช�ำระ
ขึน้ ครองราชย์เมือ่ พ.ศ. 2325 ต้องจัดการปัญหาภายใน กฎหมาย ชำ� ระพระไตรปฎิ ก ช�ำระและรวบรวมวรรณคดี
อยู่ 3 ปี เป็นช่วงเวลาเดยี วกนั กับการสรา้ งกรุงเทพฯ เมอื่ ราชสำ� นัก บำ� รุงแบบและบทละคร สรา้ งเคร่ืองราชูปโภค
สมโภชพระนครแล้วในไม่ช้า ในปีนั้นเองพม่าก็ยกทัพ เช่น พระที่นง่ั พระราชยาน เรือพระท่ีน่งั ... รวมถึงความ
ใหญ่มาตีเมืองไทยอีก คือ ศึกเก้าทัพ ท่ีพม่ามีก�ำลังถึง เอาใจใส่กับการสร้างแบบแผนของพระราชพิธีต่างๆ ให้
ราว 144,000 คน ไทยรวบรวมไพร่พลได้เพียง 70,000 ถกู ตอ้ งตามแบบแผนของราชอาณาจกั รอยุธยาอีกด้วย(21)
เศษ แต่ดว้ ยปรชี าสามารถและความเข้มแข็งเดด็ ขาดและ
เชยี่ วชาญการศกึ ของกรมพระราชวงั บวรมหาสรุ สงิ หนาท การสร้างเมืองตลอดจนการฟื้นฟู พัฒนาและ
จงึ ชนะศกึ ทลี่ าดหญ้าได้อยา่ งงดงาม ปฏิรูปกฎหมาย แบบแผนประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ
เหล่าน้ี ล้วนมีผลต่อการสร้างสุขภาวะทั้งทางจิตใจและ
ปีต่อมาพม่ายกทัพใหญ่หวังมาตีไทยให้พินาศ สังคมอย่างยิ่ง ในส่วนท่ีเกี่ยวข้องโดยตรงกับความรู้
ราบคาบเหมือนเมื่อตีกรุงศรีอยุธยาได้เม่ือ พ.ศ. 2310 ทางการแพทย์นั้น เม่ือทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดโพธาราม
เตรียมแก้กลศึกจากที่เสียทีคราวยกมาคร้ังศึกเก้าทัพ แต่ คร้ังใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2332 อันเป็นปีท่ี 8 ในรัชกาล ทรง
ไทยกส็ ามารถชนะศกึ พมา่ ทที่ า่ ดนิ แดงครง้ั นไี้ ดอ้ ยา่ งงดงาม ทอดพระเนตรเห็นวัดโพธาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มีมา
อกี คร้งั แต่สมัยพระเพทราชาเก่าช�ำรุดหักพังเป็นอันมาก ทรง
พระราชศรัทธาจะบูรณะให้บริบูรณ์งามขึ้นกว่าเก่า จึง
ตลอดรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา ทรงเริ่มบูรณะ ได้ชะลอพระพุทธปฏิมากรทรงพระนาม
โลกมศี กึ กบั พมา่ อกี รวม 5 ครั้ง แตม่ ิใช่ศกึ ใหญ่ เป็นพม่า พระศรีสรรเพชญ์ ซ่ึงเป็นพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา จาก
มาตีหัวเมืองทางเหนือท่ีล�ำปางและป่าซางครั้งหนึ่ง และ กรุงศรีอยุธยา หมายจะทรงปฏิสังขรณ์ให้เป็นรูปดีอย่าง
ที่เชียงใหม่คร้ังหน่ึง ที่เหลืออีก 3 ครั้งเป็นฝ่ายไทยยกไป เก่า แต่ด้วยองค์พระช�ำรุดมาก ทรงพระราชด�ำริจะเอา
ตีพม่า 2 ครั้งและอีกครั้งเป็นการขับไล่พม่าออกจากเขต ทองรวมหลอมหล่อเป็นพระพุทธรูปขึ้นใหม่ จึงทรง
ล้านนาไทย มีพระราชปุจฉาแก่พระสงฆ์ราชาคณะ มีสมเด็จพระ-
สังฆราชเป็นประธานพร้อมกันถวายพระพรว่า ที่จะเอา
ช่วงระยะเวลา 27 ปีเศษที่ทรงครองราชย์ทรงใส่ ทองขึ้นเป็นพระพุทธรูปอยู่แล้วกลับหลอมหล่อใหม่ไม่
พระทัยในการสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ให้เหมือน “เมื่อ สมควร จงึ โปรดให้เชิญพระเข้าบรรจไุ วใ้ นพระเจดียถ์ วาย
คร้ังบ้านเมืองยังดี” ในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดวาอาราม
ส�ำคัญที่มีเมื่อคร้ังกรุงศรีอยุธยาได้ทรงสร้างข้ึนใหม่หลาย
วัดโดยเฉพาะวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งสร้างข้ึนเป็น

การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560 3

นามว่า พระเจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณตามพระนาม การสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ การฟื้นฟูโบราณราช
พระพทุ ธปฏมิ ากร ทรงอญั เชญิ พระพทุ ธรปู จำ� นวนมากมา ประเพณี การช�ำระสะสางปัญหาท้ังทางด้านกฎหมาย
ประดษิ ฐานไวใ้ นระเบยี งคดของวดั และการอน่ื อกี เปน็ อนั ศาสนา และอ่ืนๆ ล้วนเป็นการสร้างเสริมสุขภาวะด้าน
มาก ใช้เวลาท้งั สนิ้ 7 ปี 5 เดือน 28 วนั จึงแลว้ เสร็จ โดย จติ ใจและสงั คม การฟน้ื ฟคู วามรดู้ า้ นการแพทยโ์ ดยการตงั้
ทรงโปรดใหส้ รา้ งศาลารวม 5 ห้อง 7 หอ้ ง 9 หอ้ ง เปน็ ตำ� รายาและฤาษดี ดั ตนขน้ึ ทวี่ ดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม
17 ศาลา เขยี นเรอื่ งพระชาดก 550 ชาติ ท้ังตำ� รายาและ ล้วนเป็นการสร้างรากฐานส�ำคัญของการแพทย์และ
ฤาษดี ัดตนไว้เป็นทาน ทำ� ก�ำแพงแก้วล้อมรอบนอก(17) สาธารณสขุ ไทยในยุคกรุงรัตนโกสนิ ทร์สบื ต่อมา

1.3 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั (พ.ศ. 2352-2367)

เม่ือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โดยท่ีศึกข้างพม่าเบาบางลง พระบาทสมเด็จ
มหาราชเสด็จสวรรคตเม่ือ พ.ศ. 2352 เกิดกบฏ พระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงทรงมีโอกาสฟื้นฟูบูรณะ
ก ร ม ขุ น ก ษั ต ร า นุ ชิ ต ค รั้ น ช� ำ ร ะ พ ว ก ก บ ฏ แ ล ้ ว ประเทศ ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ เช่น
พระราชวงศานุวงศ์ เสนาบดี สมเด็จพระสังฆราชและ ทรงส่งราชทตู ไปเมืองจนี เมื่อ พ.ศ. 2352 แต่งสมณทตู ไป
พระราชาคณะใหญ่น้อย พร้อมใจกันเชิญเสด็จเจ้าฟ้า ลงั กาเมอ่ื พ.ศ. 2357 เมือ่ พ.ศ. 2361 โปรตุเกส เมอื งมา
กรมหลวงอิศรสุนทรกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เก๊าแต่งทูตมาเจริญทางไมตรี เวลาต่อมาทรงแต่งก�ำปั่น
พระบัณฑูรใหญ่ขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติปราบดาภิเษก ไปซื้อขายสินค้า ณ เมืองมาเก๊า พ.ศ. 2362 พ่อค้าชาว
เป็นรัชกาลท่ี 2 ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์(20) ในสมัยน้ียัง อเมรกิ ัน คือ กัปตันแฮน (Captain Hale) เขา้ มาค้าขาย
มีศกึ สงครามกบั พมา่ บ้างแต่เบาบางลงมาก แมว้ า่ พมา่ จะ พ.ศ. 2364 อังกฤษที่อินเดียขอเจริญทางไมตรีกับไทย
ยกมาเม่ือสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจะเสด็จผ่าน จอห์น ครอว์ฟอร์ด ได้รับแต่งตั้งเป็นทูตเข้ามาเจรจากับ
พภิ พไดเ้ พียง 2 เดือน แตก่ เ็ ป็นการยกมาตีเมอื งถลางและ ไทยเปน็ ครัง้ แรก(20)
ทรงเอาชนะได้ไม่ยาก หลังจากนั้นอีก 10 ปี ในปี พ.ศ.
2363 พมา่ ไดข้ า่ ววา่ เมอื งไทยเกดิ อหวิ าตกโรค ผคู้ นลม้ ตาย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ระส�่ำระสายมาก เห็นเป็นโอกาส จึงให้เตรียมยกกองทัพ เกดิ อหวิ าตกโรคระบาดครง้ั ใหญ่ มคี นเสยี ชวี ติ ไปประมาณ
เข้ามาตีเมืองไทยหวังให้ปรากฏเกียรติยศ แต่เมื่อทรงตั้ง 30,000 คน โดยแพร่ระบาดมาทางทะเลจากเกาะหมาก
กองทัพ 4 กองทัพเตรียมสู้ มีแม่ทัพท้ัง 4 คือ พระเจ้า (ปนี งั ) เขา้ มาเมอื งสมทุ รปราการแลว้ จงึ เขา้ มาถงึ กรงุ เทพฯ
ลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ พระเจ้าน้องยาเธอ มีการน�ำศพไปท่ีวัดสระเกศ วัดบางล�ำพู วัดบพิตรพิมุข
กรมหมื่นศักดิพลเสพ พระยากลาโหมราชเสนา และ วดั ปทมุ คงคา และวดั อน่ื ๆ บา้ งกท็ งิ้ ศพลงในแมน่ ำ้� ลำ� คลอง
เจ้าพระยานคร (น้อย) เมื่อพม่าแต่งคนเข้ามาสอดแนม เกล่ือนกลาดไปทุกแห่ง พระสงฆ์ต้องหนีออกจากวัด
ได้ความว่าไทยเตรียมกองทัพไว้คอยต่อสู้ทุกทางจึงยั้งอยู่ คฤหสั ถ์กห็ นีออกจากบา้ น น่าอเนจอนาถนกั ถนนหนทาง
หายกเข้ามาไม่ หลังจากนั้นพม่าก็ต้องรับศึกกับอังกฤษ ไม่มีคนเดิน ตลาดก็ไม่ได้ออกซื้อขายกัน ต่างคนต่าง
และอังกฤษได้ขอให้ไทยช่วยตีเมืองพม่าเมื่อ พ.ศ. 2367 รบั ประทานแตป่ ลาแหง้ พรกิ กบั เกลอื เทา่ นน้ั นำ�้ ในแมน่ ำ้� ก็
ปญั หาด้านพมา่ จงึ นบั วา่ เบาบางเป็นอนั มาก กนิ ไม่ได้ เต็มไปด้วยซากศพ

4 การสาธารณสุขไทย 2559-2560

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชด�ำริ ในด้านการฟื้นฟูต�ำราและโรงยา พระบาทสมเด็จ
ว่าความไข้ซึ่งบังเกิดทั่วไปแก่สมณชีพราหมณ์และ พระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงโปรดฯ ให้มีการรวบรวม
ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินคร้ังนี้เพ่ือกรรมของสัตว์ ใช่จะเป็น ต�ำรับยาต้ังแต่ พ.ศ. 2355 โดย “ทรงพระด�ำริห์ว่า
แต่กรุงเทพมหานครก็หาไม่ เมืองต่างประเทศและเกาะ ทุกวันนี้ค�ำภีร์แพทย์ ณ โรงพระโอสถเส่ือมสูญไป มิได้
หมากเมืองไทรก็เป็นเหมือนกัน ซึ่งจะรักษาพยาบาลแก้ เปน็ เรอ่ื งตน้ เรือ่ งปลาย อนงึ่ เลา่ แพทย์ผูเ้ ถา้ ทีช่ �ำนิชำ� นาญ
ไข้ด้วยยาเห็นจะไม่หาย จึงให้ต้ังพิธีอาฏานาฏิยสูตร เมื่อ ใ น ลั ก ษ ณ โ ร ค แ ล ส ร ร พ คุ ณ แ ห ่ ง ย า นั้ น ก็ มี อ ยู ่ น ้ อ ย
วนั ท่ี 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2363 ยิงปืนใหญร่ อบพระนคร ภายหลังยากท่ีกุลบุตรจักเล่าเรียนให้ชัดเจนได้ แล้ว
คืนหนึ่งยันรุ่ง เชิญพระแก้วมรกตและพระบรมธาตุท้ัง ทรงพระมหากรุณาให้เป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่สมณ
พระราชาคณะออกแห่โปรยทรายประพรมน�้ำปริตทั้ง ชีพราหมณ์ อาณาประชาราษฎร์ในขอบขัณฑสีมาสืบ
ทางบกทางเรือสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ก็ทรงศลี ทั้งพระราช ต่อไป จึงมีพระราชโองการมาณพระบัณฑูรสุรสีหนาท
วงศานวุ งศท์ มี่ กี รมแลหากรมมไิ ด้ ข้าราชการผูใ้ หญผ่ ูน้ อ้ ย ด�ำรัสส่ังพระพงษ์ อ�ำมรินทรานุกูลให้สืบเสาะหาต�ำรายา
ฝา่ ยหนา้ ฝา่ ยในกโ็ ปรดสง่ั มใิ หเ้ ขา้ เฝา้ ใหง้ ดกจิ ราชการเสยี ลักษณโรคท้ังปวง ในข้าทูลละอองธุลีพระบาทแลราษฎร
มิให้วา่ มิใหท้ ำ� ให้ต้งั ใจทำ� บุญสวดมนต์ให้ทาน บรรดาไพร่ พระราชาคณะทุกอารามก็ได้ส่งมาทูลเกล้าฯ ถวายหลาย
ซึ่งนอนเวรประจ�ำซองรักษาพระราชวังช้ันในแลช้ันนอกก็ ฉบับ มวี ธิ ีตา่ งๆ”(22)
ใหเ้ ลกิ ปลอ่ ยไปบา้ นเรอื น โดยทรงพระเมตตาวา่ ประเพณี
สตั วท์ วั่ กนั ภยั มาถงึ กย็ อ่ มรกั ชวี ติ บดิ ามารดาแลบตุ รญาติ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า-
พีน่ ้องก็เปน็ ทรี่ ักเหมอื นกนั จะได้ไปรักษาบาดแผล ท่ผี ู้ใด นภาลัยตอ่ ไปจนถึงสมเด็จพระนงั่ เกลา้ เจ้าอยู่หวั เชอ้ื สาย
มีกตัญญูอยู่รักษาพระองค์มิไปน้ันก็พระราชทานเงินตรา ของพระเจา้ กรงุ ธนบรุ ที ีย่ ังมพี ระชนมอ์ ยไู่ ด้เข้ารับราชการ
ให้ความชอบ แลให้จัดซื้อปลาแลสัตว์สี่เท้าสองเท้าท่ีมีผู้ ในกรมหมอ 4 พระองค์ ได้แก่
จะฆ่าซ้ือขายในท้องตลาดในจังหวัดกรุงเทพมหานครทรง
ปลอ่ ย สิน้ พระราชทรัพยเ์ ป็นอนั มาก คนโทษท่ตี อ้ งเวรจ�ำ 1) เจา้ ฟ้าทัศนพงศ์ พระราชโอรสพระองคแ์ รกของ
อยู่นั้นก็ปล่อยออกสิ้น เว้นแต่พม่าข้าศึก บรรดาประชา พระเจ้ากรุงธนบุรีกับกรมบริจาภักดีศรีสุดารักษ์ (เจ้าฟ้า
ราษฎรทั้งปวง มีรับส่ังมิให้ไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตสัตว์ในน�้ำแล ฉมิ ) หลงั สนิ้ พระบดิ าถกู ถอดลงเปน็ พระพงคอ์ มั รนิ ทร์ หรอื
บนบก ให้อยู่แต่บ้านเรือนต่อเมื่อมีการร้อนควรจะต้อง เรียกกนั วา่ พระพงษน์ รทิ ร์ รับราชการในกรมหมอ
ไปจึงให้ไป เดชะอานิสงส์ศีลแลทานบารมีแห่งสมเด็จ
พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระมหากรณุ าแกอ่ าณาประชาราษฎรให้ 2) พระองค์เจ้าหนูแดง พระราชโอรสของพระเจ้า
ท�ำดังนี้ มาจนถึง ณ วนั เสาร์เดือนเจด็ แรมเจด็ คำ่� (วนั ท่ี 3 กรุงธนบุรี ไม่ทราบนามพระมารดา ในรัชสมัยพระบาท
มถิ นุ ายน 2363) ความไขก้ ร็ ะงบั ลงโดยเรว็ บรรดาศพชาย สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวด�ำรงต�ำแหน่งเป็นพระยา
หญงิ ซงึ่ หาญาตจิ ะฝงั จะเผามไิ ดน้ นั้ พระราชทานเงนิ คา่ จา้ ง บ�ำเรอราชแพทย์ ในคราวบูรณะวัดพระเชตุพนฯ ได้
แลฟนื ใหพ้ วกพมา่ คนโทษเกบ็ เผาจนสน้ิ แตพ่ ระบรมญาติ เป็นแพทย์ใหญ่ในการรวบรวมต�ำรับยาและจารึกท่ีวัด
พระองค์เจ้าหญิงสองพระองค์ส้ินพระชนม์ พระราชวงศ์ พระเชตุพนฯ
และข้าราชการฝ่ายหน้าฝ่ายในท่ีเป็นผู้ใหญ่น้ันดีเป็นปกติ
อยู่ ความไข้ครั้งนผี้ ู้หญงิ ตายมากกว่าผชู้ ายสองส่วน(20) 3) พระองค์เจา้ ชายละม่ังพระราชโอรสของพระเจ้า
กรงุ ธนบรุ ี ไมท่ ราบพระนามพระมารดา ไดร้ บั ราชการเปน็
หมอหลวงในต�ำแหน่งพระยาสมบัติธิบาล เป็นผู้ร่วมแต่ง
โคลงอธิบายทา่ ฤาษีดัดตนที่วดั พระเชตพุ นฯ

4) พระอนิ ทรภยั พระราชโอรสของพระเจา้ กรงุ ธนบรุ ี
กบั กรมบรจิ าภกั ดศี รสี ดุ ารกั ษ์ (เจา้ ฟา้ ฉมิ ) เปน็ พระอนชุ า
ของพระพงษน์ รินทร์ ในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระพุทธ-
เลศิ หลา้ นภาลยั รบั ราชการมีตำ� แหนง่ เป็นหมอหลวง(9)

การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560 5

1.4 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั (พ.ศ. 2367–2394)

เม่ือพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และวัดบพิตรพิมุข (วัดตีนเลน) ไข้ทรพิษยังเป็นโรคร้าย
สวรรคตคนื วันพธุ ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 พระเจา้ ท่ีคุกคามแม้คนในราชส�ำนัก ดังสมเด็จกรมศรีสุลาลัย
ลูกยาเธอพระองค์ใหญ่ซึ่งเวลานั้น คือ กรมหมื่น พระพันปีหลวงก็ทรงพระประชวรด้วยโรคน้ี จนสวรรคต
เจษฎาบดินทร์เสด็จประทับอยู่ในพระที่น่ังจักรพรรดิ เมอื่ วนั ท่ี 17 ตลุ าคม พ.ศ. 2380 พระชนมไ์ ด้ 68 พรรษา(20)
พิมาน ตั้งกองล้อมวงท้ังช้ันในชั้นนอก พระราชวงศา
นุวงศ์ต่างกรมผู้ใหญ่ เสนาบดี ข้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้านการต่างประเทศมีการรับรองทูตอังกฤษเม่ือ
ผู้ใหญ่ผู้น้อยนอนประจ�ำอยู่ในพระราชวัง จึงอาราธนา พ.ศ. 2368 สง่ ราชทูตไปเมืองจีนในปีเดยี วกัน พ.ศ. 2375
พระสังฆราช พระราชาคณะผู้ใหญ่มาแล้ว พร้อมด้วย สหรัฐส่งเอ็ดมัน โรเบิร์ต เป็นราชทูตเข้ามาเป็นทาง
พระบรมวงศานวุ งศต์ า่ งกรม เสนาบดี และขา้ ทลู ละอองธลุ ี พระราชไมตรี พ.ศ. 2381 อังกฤษส่ง เดวิด ริชาร์ดสัน
พระบาทผใู้ หญๆ่ ซง่ึ เปน็ ประธานในราชการแผน่ ดนิ ปรกึ ษา (Mr. David Richardson) ถอื อกั ษรสาสน์ เขา้ มาไทยเรยี ก
กนั เหน็ วา่ พระเจา้ ลกู ยาเธอพระองคใ์ หญ่ กรมหมนื่ เจษฎา มสิ เตอรฤ์ ทธส์ิ ซอน พ.ศ. 2385 ทรงสง่ พระสงฆไ์ ทยไปลงั กา
บดินทร์ทรงพระสติปญั ญาเฉลยี วฉลาด ได้วา่ ราชการต่าง ตอนปลายรัชกาล พ.ศ. 2393 สหรัฐสง่ โยเซฟ บาเลสเตยี
พระเนตรพระกรรณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชญิ ราชสาสน์ เขา้ มาขอแกส้ ญั ญาทท่ี ำ� ไวก้ บั เอด็ มนั โรเบริ ต์
มาช้านาน ท้ังข้าทูลละอองธุลีพระบาทก็มีความจงรัก ในปีเดียวกันอังกฤษก็ส่งเซอร์เจมส์ บรู๊ค (Sir James
สวามิภักดิ์ในพระองค์ท่านมาก สมควรจะครอบครองสิริ Brooke) เขา้ มาขอแกส้ ญั ญาทีท่ ำ� ไว้กบั เฮนร่ี เบอรน์ ี่
ราชสมบัติรักษาแผ่นดินสืบพระบรมราชตระกูลต่อไป จึง
พากันเข้าเฝ้าพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ การเปิดความสัมพันธ์กับตะวันตกอย่างกว้างขวาง
ซง่ึ เปน็ พระราชโอรสผใู้ หญเ่ ชญิ เสดจ็ ขน้ึ ครองสริ ริ าชสมบตั ิ ขึน้ ทำ� ให้การแพทยต์ ะวันตกเขา้ มาสู่ประเทศไทยเพิม่ ข้ึน
ดำ� รงราชอาณาจกั รสยามพภิ พสบื ไป จงึ ทรงทำ� พระราชพธิ ี มาก
บรมราชาภิเษกเมอื่ วันท่ี 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 ขณะ
นน้ั พระชนมายุได้ 38 พรรษา(20) นายแพทย์คาร์ล ฟริดริค ออกัสตัส กุตสลาฟพ์
(Dr. Carl Frederick Augustus Gutzlaff) ชาวเยอรมนั ได้
ตลอดรชั สมัย มศี กึ กบั ลาว ญวน เขมร และหัวเมอื ง เดินทางเข้ามาเมืองไทยเมือ่ วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2371
ทางใต้ แต่ศึกส�ำคัญจากพม่าเบาบางลงมาก ย่ิงปลาย เพ่ือเผยแพร่ศาสนาคริสต์โดยการแจกยารักษาโรคด้วย
พระชนมช์ พี เมอ่ื ทรงพระประชวร ทรง “สงั่ เสยี ”กบั พระยา นับเป็นแพทย์มิชชันนารีนิกายโปรเตสแตนต์คนแรกท่ี
ศรีสุริยวงศ์จางวางมหาดเล็กซึ่งทรงไว้วางพระราชหฤทัย เข้ามาในสมัยรตั นโกสนิ ทร์(23)
วา่ “การตอ่ ไปภายหนา้ เหน็ แตเ่ อง็ ทจ่ี ะรบั ราชการเปน็ อธบิ ดี
ผใู้ หญต่ อ่ ไป การศกึ สงครามขา้ งญวนขา้ งพมา่ กเ็ หน็ จะไมม่ ี แพทย์ชาวตะวันตกท่ีมีชื่อเสียงที่สุดท่ีเข้ามาใน
แลว้ จะมอี ยกู่ เ็ หน็ แตข่ า้ งพวกฝรง่ั ใหร้ ะวงั ใหด้ อี ยา่ ใหเ้ สยี ที ยุคนี้ คือ นายแพทย์แดน บชี บรดั เลย์ (Dr. Dan Beach
แก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาท่ีดีควรจะเรียนร�่ำเอาไว้ก็ Bradley) ได้เขา้ มาเปิดรา้ นยาเมอ่ื วนั ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.
เอาอย่างเขา แตอ่ ย่าให้นับถือเล่อื มใสไปทเี ดียว”(20) 2378 สองปตี อ่ มาจงึ ออกไปรกั ษาตามบา้ น ไดท้ ำ� การผา่ ตดั
ใหญ่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2380 ท�ำการ
ปีนั้น มีภัยธรรมชาติเกิดข้ึนในพระนคร คือ เกิด ตัดแขนพระภิกษุท่ีประสบอุบัติเหตุจากพลุไฟพะเนียง
น�้ำท่วมเมื่อปี 2374 ข้าวปีนั้นเสียถึง 6 ส่วนได้เพียง แตก ช่วยคนไข้รอดชีวิตได้ ต่อมายังผ่าตัดต้อกระจกให้
4 สว่ น และเกิดโรคอหวิ าตกโรคระบาดใหญ่ครั้งที่ 2 ใน พระยาพลเทพซงึ่ เปน็ ขา้ ราชการผใู้ หญ่ โดยความทราบถงึ
กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ มคี นตายราว 15,500 ถงึ 20,000 คน พระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั จงึ ทรงพระราชทาน
ในกรุงเทพฯ ศพน�ำไปเผามากท่ีวัดสระเกศ วัดบางล�ำพู พระบรมราชานุญาตมาด้วย หมอบรัดเลย์ยังได้พยายาม
ผลิตหนองฝีป้องกันไข้ทรพิษจนส�ำเร็จ ท�ำการทดลอง
ปลูกฝเี ด็กจำ� นวน 15 คน เม่อื วันท่ี 2 ธันวาคม พ.ศ. 2378

6 การสาธารณสุขไทย 2559-2560

ตอ่ มาพระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกลา้ ฯ ให้ ของประเทศไทย เฉพาะความรู้ด้านการแพทย์ ทรงโปรด
หมอหลวงและหมอเชลยศักด์ิไปหัดปลูกฝีกับพวกมิชชัน ให้สืบเสาะหาต�ำรายาท่ีเชื่อว่าทรงคุณค่าจากหมอพระ
นารี ซ่ึงหมอบรัดเลย์ได้เขียนต�ำราว่าด้วยการปลูกฝีตาม หมอหลวง หมอเชลยศักด์ิ ตลอดจนราษฎร โดยให้หมอ
ค�ำร้องขอของเจ้าพระยาพระคลัง และพระบาทสมเด็จ หลวง คือ พระยาบ�ำเรอราชแพทย์ พระโอรสองค์หนึ่ง
พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดฯ ใหพ้ มิ พใ์ บปลวิ 10,000 ฉบบั ของพระเจ้ากรุงธนบุรี ท�ำการรวบรวม ตรวจสอบ และ
แจกจ่ายประชาชนในกรงุ เทพฯ ชักชวนให้มาปลกู ฝี ให้เจ้าของต้องสาบานว่าต�ำรับยาเหล่านั้นเป็นของดีจริง
ทำ� การจารกึ ในแผ่นศลิ ารวม 317 แผน่ เป็นตำ� รับยาราว
หมอบรัดเลย์ยังได้แปลต�ำราสูติกรรมแบบตะวันตก 1,000 ขนาน และยังมกี ารหลอ่ รูปฤาษีดัดตนทำ� จากดบี ุก
ช่อื คำ� ภีร์ครรภ์ทรักษา ถวายพระบาทสมเดจ็ พระน่งั เกล้า พร้อมให้กวีแต่งโคลงบรรยายท่าต่างๆ จารึกไว้ตามผนัง
เจ้าอยู่หัว 1 เล่ม แจกจ่ายให้แก่หมอหลวง 200 เล่ม พระอุโบสถ ศาลาราย เสา และก�ำแพงวหิ ารคดรอบพระ
นับเป็นต�ำราแพทย์แบบตะวันตกเล่มแรกท่ีมีการแปล เจดีย์ทั้งส่ีองค์ แบ่งเป็น 4 หมวดใหญ่ๆ ได้แก่ วิชาฤาษี
และตีพิมพ์เผยแพร่ในประเทศไทย แต่ยังไม่มีการคลอด ดัดตน เวชศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และแผนนวด ส�ำหรับ
ตามวิธีตะวันตก จนล่วงเข้ารัชสมัยของพระบาทสมเด็จ แผนนวดได้น�ำไปประดับไว้ท่ีคอสองเฉลียง ศาลาราย
พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั จงึ มกี ารเชญิ หมอบรดั เลยเ์ ขา้ เยยี่ ม คู่หน้าพระมหาเจดีย์หลังเหนือมีจ�ำนวน 60 ภาพ แต่ละ
อาการพระมเหสอี งคห์ นง่ึ ทมี่ พี ระประสตู กิ าลและปว่ ยหนกั ภาพมีภาพคนหงายและคว�่ำ แสดงเส้นประธานสิบและ
หมอบรัดเลย์แนะน�ำให้เลิกผทมเพลิง (อยู่ไฟ) รวมทั้งได้ จุดแก้ต่างๆ จารึกวัดโพธ์ิน้ีได้รับยกย่องและข้ึนทะเบียน
ถวายยาตะวนั ตกจนอาการทเุ ลาลง(24) เป็น “มรดกความทรงจ�ำแห่งโลกในระดับภูมิภาคเอเชีย
และแปซฟิ ิก” เม่อื วนั ที่ 21 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และ
หมอเฮาส์เป็นแพทย์มิชชันนารีชาวตะวันตก ต่อมาได้รับข้ึนทะเบียนเป็น “มรดกความทรงจ�ำแห่งโลก
อีกผู้หน่ึงท่ีเข้ามาเมืองไทยสมัยน้ัน และเป็นคนแรกท่ีน�ำ ในระดบั นานาชาต”ิ ของยเู นสโก เมอื่ วนั ที่ 27 พฤษภาคม
ยาสลบ คอื อเี ทอร์ เขา้ มาใชค้ รงั้ แรก นบั เปน็ การใชย้ าสลบ พ.ศ. 2554
คร้งั แรกในเอเชีย
การนวดไทยซง่ึ เป็นวิธกี ารรักษาหลัก (backbone)
ทางด้านต�ำรับยาไทย พระบาทสมเด็จพระน่ัง- ของการแพทย์แผนไทย แต่ถูกตัดออกจากสาขาวิชาชีพ
เกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อคร้ังทรงเป็นกรมหม่ืนเจษฎาบดินทร์ การแพทยแ์ ผนไทยในพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ การประกอบ
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โรคศิลปะ พ.ศ. 2479 ต่อมาได้มีการฟื้นฟูข้ึนใหม่
ทรงปฏิสังขรณ์วัดจอมทองแล้วพระบาทสมเด็จพระพุทธ- ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542
เลิศหล้านภาลัยทรงพระราชทานนามวัดให้ใหม่ว่าวัด หมอนวดไทยรุ่นแรกตามกฎหมายฉบับนี้ ได้มีการท�ำพิธี
ราชโอรสาราม ทรงให้จารึกยาไทยไว้ 108 ขนานบน มอบใบประกอบวชิ าชพี ให้ ณ พระอุโบสถวดั พระเชตุพน
แผ่นศิลา ตดิ ไว้ท้ังบนกำ� แพงพระวหิ าร พระพทุ ธไสยาสน์ วิมลมังคลาราม เม่ือวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2548
และที่ศาลาราย(25) ตอนกลางรัชกาลได้เสด็จไปถวายผ้า- รฐั บาลไทย โดยคณะรฐั มนตรไี ดม้ มี ตเิ มอื่ วนั ที่ 16 มถิ นุ ายน
พระกฐินที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เม่ือวันที่ 29 พ.ศ. 2558 เห็นชอบการถวายพระราชสมัญญา “พระ
ตุลาคม พ.ศ. 2374 โดยทอดพระเนตรเห็นพระอุโบสถ บิดาแห่งการแพทย์แผนไทย” แด่พระบาทสมเดจ็ พระน่งั
พระวิหาร พระระเบียง กุฏิ เสนาสนะต่างๆ ช�ำรุดทรุด เกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า และก�ำหนดให้
โทรมลงมาก จึงทรงด�ำเนินการปฏิสังขรณ์คร้ังใหญ่ และ วนั ท่ี 29 ตลุ าคมของทุกปี ซ่งึ ตรงกับวนั ทเี่ สดจ็ ทรงถวาย
โปรดให้รวบรวมสรรพความรู้ต่างๆ ท่ีไพร่ฟ้าประชาชน ผ้าพระกฐินท่ีวัดโพธิ์ เป็นท่ีมาแห่งการปฏิสังขรณ์วัด
สามารถศึกษาได้โดยง่าย ไม่หวงไว้แต่ในหอสมุดหลวง ครั้งใหญ่จนมีการจารึกต�ำรับยาและต�ำรับต�ำราการแพทย์
ท้ังต�ำรา โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน วรรณคดี ประเพณี ตา่ งๆ เปน็ “วนั ภมู ปิ ญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยแหง่ ชาต”ิ (26)
ศาสนา สภุ าษิต ฯลฯ ท�ำการจารึกไวต้ ามศาลารายต่างๆ
จนถือกันว่าสถานท่ีแห่งน้ีเป็นมหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรก

การสาธารณสุขไทย 2559-2560 7

งานส�ำคัญอีกชิ้นหน่ึงคือ ทรงประกาศห้ามสูบฝิ่น กว้างส่ี ศอกคืบ ซึ่งต่อมา ร.4 ทรงพระราชทานนาม
เมื่อ พ.ศ. 2382 มีการเผาฝิ่นครั้งใหญ่ท่ีสนามชัยหน้า ว่า พระพุทธเสฏฐมุนี อันมีความหมายว่าพระผู้สงบและ
พระทีน่ ่ังสทุ ไธสวรรย์ เปน็ ฝนิ่ ดิบน�้ำหนกั ราว 3,700 หาบ ประเสริฐโดยนัย คือ การเปลี่ยนทองเหลืองจากกลักใส่
ฝนิ่ สกุ 2 หาบ รวมราว 222,120 กิโลกรัม พรอ้ มปราบ อบายมุขเป็นองค์พระผู้ชนะมาร ชาวบ้านเรียกกันว่า
อั้งย่ีท่ีค้าฝิ่น ทรงโปรดให้น�ำทองเหลืองจากกลักฝิ่นมา หลวงพอ่ พระกลกั ฝ่นิ ประดิษฐานอยู่ ณ ศาลาการเปรยี ญ
หลอมสร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก วดั สุทศั นเทพวราราม(27)

1.5 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (พ.ศ. 2394–2411)

พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น่ั ง เ ก ล ้ า เ จ ้ า อ ยู ่ หั ว มิ ไ ด ้ เมอ่ื พ.ศ. 2400 และสง่ ราชทตู ไปฝรง่ั เศส เมอ่ื พ.ศ. 2403
ทรงสถาปนาพระมเหสีและรัชทายาท เม่ือเสด็จ ส่งพระราชสาส์นถงึ พระเจ้ากรุงจนี เม่อื พ.ศ. 2404 และ
สวรรคต เจ้าพระยาพระคลังว่าท่ีสมุหพระกลาโหม พ.ศ. 2409 ทรงขดุ คลองขน้ึ หลายสาย เชน่ คลองมหาสวสั ดิ์
พระยาราชสุภาวดีว่าที่สมุหนายก กับข้าราชการผู้ใหญ่ คลองภาษีเจริญ คลองด�ำเนินสะดวก คลองเจดีย์บูชา
ผู้น้อยพร้อมกันเป็นอันมากพากันออกไปเชิญพระบาท ทรงตดั ถนน ไดแ้ ก่ ถนนเจรญิ กรุง ถนนบ�ำรุงเมือง ถนน
สมเดจ็ พระอนชุ าธริ าช เจา้ ฟา้ มงกฎุ สมมตุ เิ ทววงศพ์ งศอ์ ศิ ร เฟอ่ื งนคร ทรงจา้ งแหมม่ แอนนา เลยี วโนเวนส์ เขา้ มาสอน
กษตั รยิ ์ ซง่ึ สถติ ณ วดั บวรนเิ วศวรวหิ าร พระอารามหลวง หนังสือแกโ่ อรส ธิดา และข้าราชส�ำนักฝ่ายใน ทรงศกึ ษา
บรรดาราษฎรท้ังปวงก็น้อมชมช่ืนรื่นเริงร้องอวยชัยถวาย วิชาความรู้ทางตะวันตกจนสามารถค�ำนวณสุริยุปราคาได้
พระพร ตง้ั เครอื่ งสกั การะบชู า เกบ็ ดอกไมไ้ ปเรยี งรายไวต้ าม อย่างแม่นย�ำ(20)
สถลมารคเปน็ อนั มาก เชญิ เสดจ็ มาประทบั ณ พระอโุ บสถ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ครั้น ณ เวลาย่�ำค�่ำ พระสงฆ์ เกดิ อหิวาตกโรคระบาดครง้ั ที่ 3 ในกรุงรตั นโกสินทร์
ราชาคณะ พระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ผู้น้อย ข้าราชการ เมื่อ พ.ศ. 2403 โดยเร่ิมท่ีเมืองตากแล้วลามลงมาถึงใน
ทหาร พลเรือน พร้อมใจกันปรึกษาอัญเชิญให้เสด็จเถลิง พระนครแตก่ ารระบาดคร้งั นีไ้ มร่ นุ แรงนัก
ถวัลย์ราชย์มไหศวรรย์สืบมหันตมหิศร์ราชวงศ์ ด�ำรง
สิริราชสมบัติ ทรงรับแล้วต้ังพิธีลาพระผนวชเม่ือวันที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสน
3 เมษายน พ.ศ. 2394 และเริม่ ท�ำพิธีบรมราชาภเิ ษกเมอื่ พระทัยในความรู้ต่างๆ ตั้งแต่ครั้งทรงผนวชอยู่ ทรงได้
วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 และมีพระราชพิธีบรม ความรู้ทางการแพทย์จากหมอแคสเวลล์ (Reverend
ราชาภเิ ษกพระบาทสมเดจ็ พระปน่ิ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั เมอ่ื วนั ที่ Jesse Caswell) หมอบรัดเลย์ และหมอเฮาส์ เมื่อทรง
25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 เสวยราชย์แล้วก็ยังสนพระทัยในยาฝรั่ง เห็นได้จาก
พระราชหัตถเลขาท่ีทรงมีไปถึงพระยามนตรีสุริยวงศ์
พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงผนวชอยู่ ราชทูตประจ�ำกรุงลอนดอน และเจ้าหมื่นสรรเพธภักดี
ในสมณเพศยาวนานกวา่ 27 พรรษา ทรงมีโอกาสศึกษา อุปทูต เพ่ือส่ังให้ซื้อยาและอุปกรณ์มาถวาย “อน่ึง หีบ
หาความรู้ทางตะวันตกกับบรรดาสังฆราช นักบวช และ ใส่ยามียามากหลายอย่าง กับหนังสือสมุดเล็กส�ำหรับให้
มชิ ชันนารี และทรงจาริกไปยงั หัวเมืองส�ำคญั ต่างๆ ทำ� ให้ ใช้ยาเหล่านั้น ก็มีก�ำกับอยู่ด้วย เป็นของใช้ตามห้างบ้าง
ทรงมีโอกาสพบปะราษฎรสามัญอย่างใกล้ชิด เมื่อเสด็จ ที่เรือนบ้าง เรือค้าขายบ้าง ขอท่านได้เอาใจใส่ หามาให้
ขึ้นครองราชย์จึงทรงน�ำประเทศสู่ความทันสมัยได้อย่าง ข้าพเจ้าสักหีบหนง่ึ กบั หนังสือส�ำหรับหบี ด้วย”(28)
ดียิ่ง ทรงมีสัญญาทางการค้ากับอังกฤษ คือ สนธิสัญญา
บาวริง เมือ่ พ.ศ. 2398 และตอ่ มาก็มีการแกไ้ ขสญั ญากบั มีหลักฐานในประชุมประกาศรัชกาลท่ี 4 เกี่ยวกับ
ประเทศตะวันตกหลายประเทศ ทรงส่งราชทูตไปอังกฤษ เร่ืองหมอนวดหมอยาว่า“ข้อหนึ่งหมอยาหมอนวดมีคน
จะต้องการไว้ใช้อยู่ด้วยกันทุกแห่ง แต่หมอหลวงนั้นถ้า
ท่านผู้ใดจะต้องการไว้ใช้ที่วังท่ีบ้านก็อย่าให้บังเอาไว้ใช้

8 การสาธารณสุขไทย 2559-2560

เงียบๆ ราชการหลวงกไ็ ม่มารบั ราชการ ถึงคราวเบย้ี หวดั ในสมัยดังกล่าวมีสตรีไทยได้ไปศึกษาวิชาการ
ก็มารับเอาไปเปล่าๆ การหลวงก็ไม่ได้ใช้ มิใช่ว่าในหลวง พยาบาลเป็นคนแรก คือ แม่เต๋อ ประทีปะเสน เดิม
จะทรงหวงแหน หมอนวดหมอยาก็หามิได้ก็ใช้อยู่ด้วย ชื่อรอด เป็นบุตรีของโหรเชลยศักด์ิ ซ่ึงเป็นพราหมณ์
กันต่อไป ถ้าท่านผู้ใดจะต้องการหมอนวดหมอยาไปไว้ใช้ มาจากลังกา เม่ืออายุ 9 ขวบบิดาได้พาไปฝากกับ
ส�ำหรับวังส�ำหรับบ้านท่ีเดียวก็กราบบังคมทูลพระกรุณา หมอมัตตูนและแหม่มมัตตูน ได้เปล่ียนชื่อเป็น
จะพระราชทานให้ จะได้ทรงทราบว่าอย่ทู น่ี น้ั ๆ”(26) เอสเทอร์ (Ester) ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาพร้อม
แหม่มมัตตูน เม่ือ พ.ศ. 2401 กลับมาเมื่อ พ.ศ. 2404
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า แต่งงานกับนายแน ประทีปะเสน เมื่อ พ.ศ. 2405 มี
เจ้าอยู่หัวพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงวงศาธิราชสนิท อาชีพทางเย็บปักถักร้อยและการพยาบาล มักได้รับเชิญ
ได้ทรงแต่งต�ำราสรรพคุณยาฝร่ัง นับเป็นต�ำราทางโอสถ- ไปท�ำการพยาบาลและท�ำคลอดตามบ้านและวังเจ้านาย
สาวทิ ยาหรอื เภสัชวัตถเุ ลม่ แรกของไทย มบี ันทกึ “ยาฝรงั่ ” เช่น สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี เมื่อยังทรงพระเยาว์
42 ชนิด พร้อมทัง้ สรรพคุณเม่ือ พ.ศ. 2403(25) ยาฝร่ังดงั หมอ่ มเจา้ พฒั นายุ ดศิ กลุ พระธดิ าสมเดจ็ กรมพระยาดำ� รง
กลา่ วยังไมเ่ ป็นท่ียอมรับของคนไทย สมเดจ็ ฯ กรมพระยา ราชานภุ าพ(30)
ดำ� รงราชานภุ าพทรงเลา่ วา่ ยาควนิ นิ หรอื “ยาขาวฝรงั่ ” น้ี
กรมหลวงวงศาธริ าชสนทิ ตอ้ งใช้ “อบุ าย” เพอ่ื ใหช้ าวบา้ น ในสว่ นของพระบาทสมเดจ็ พระปน่ิ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัวได้
สมัยนั้นยอมกิน โดยทรงสอดไส้ไว้ในยาเม็ดแก้ไข้ต�ำรับ โปรดเกล้าฯ ให้มีกรมหมอฝร่ังขึ้นในท�ำเนียบข้าราชการ
ยาไทย ซงึ่ หมอไทยอธบิ ายวา่ “ยาควินนิ ดกี ว่ายาไทย แต่ วังหน้ามีตำ� แหนง่ ต่างๆ ไดแ้ ก่ ขุนระงบั พศิ ม์ เจ้ากรมขวา
คนไข้ไม่ยอมกิน ก็ได้แต่ต้องปลอมเป็นยาไทยสุดแต่ให้ไข้ ศกั ดินา 400 ขนุ สนทิ แวทยา เจา้ กรมซา้ ย ศักดนิ า 400
หายเปน็ ปรามาณ”(29) หม่นื แมทรี แวทยา ปลัดกรมขวา ศกั ดนิ า 300 หมื่นชำ�
นาญแมทรี แวทยา ปลดั กรมซา้ ย ศักดนิ า 300(23)

1.6 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (พ.ศ. 2411–2453)

เม่ือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จ 1) ทรงขนึ้ ครองราชยต์ งั้ แตย่ งั ทรงพระเยาว์ “และยงั
สวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซำ�้ เจบ็ เกอื บจะถงึ แกค่ วามตายอนั ไมม่ ผี ใู้ ดสกั คนเดยี วซง่ึ จะ
ทรงมีพระชนมพรรษาเพียง 15 พรรษา 10 วันเท่าน้ัน เชอื่ วา่ จะรอด ยงั ซำ�้ ถกู อนั ตรายอนั ใหญ่ คอื ทลู กระหมอ่ ม
ร.4 ไม่ทรงต้ังรัชทายาท เพราะทรงทราบดีจากคร้ัง เสด็จสวรรคตในเวลาน้ัน เปรียบเหมือนคนที่ศีรษะขาด
กรงุ ศรอี ยธุ ยามพี ระมหากษตั รยิ ท์ ที่ รงพระเยาว์ 5 พระองค์ แล้วจ�ำเอาแต่ร่างกายข้ึนตั้งไว้ในที่สมมติกษัตริย์ เหลือท่ี
ล้วนถูกส�ำเร็จโทษประหารทั้งส้ิน จึงให้เป็นหน้าที่ของ จะพรรณนาถึงความทุกข์อันต้องเป็นก�ำพร้าในอายุเพียง
บรรดาเจ้านายพระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง ข้าราชการ เท่านั้น และความหนักหน่วงของมงกุฎอันเหลือท่ีจะคอ
ผู้ใหญ่ รวมทั้งพระราชาคณะท้ังปวงจะตกลงพร้อมใจกัน จะทานไว้ได้ ทั้งมีศัตรูซ่ึงมุ่งหมายอยู่โดยเปิดเผยรอบข้าง
เห็นสมควร ว่าผู้ใดจะเหมาะสมท่ีจะครองราชย์สืบต่อไป ท้ังหลายในภายนอกหมายเอาท้ังในกรุงและต่างประเทศ
ซง่ึ ครงั้ นนั้ กเ็ กดิ “อเนกนกิ รสโมสรสมมต”ิ ทกุ ฝา่ ยพรอ้ มใจ ทง้ั โรคภยั ภายในเบยี ดเบียนแสนสาหัส”(32)
กันเป็นเอกฉันท์กราบทูลอญั เชญิ สมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ
เจ้าฟ้ากรมขุนพินิตประชานาถขึ้นครองราชย์ เมื่อคืนวัน 2) มีการแต่งตั้งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
ท่ี 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411(31) ทรงครองราชย์ยาวนานกวา่ คือ กรมหมื่นบวรวิไชยชาญ ซ่ึงมีพระชนมพรรษาสูงกว่า
พระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ แม้จะทรงประสบ พระองค์ทา่ นถึง 16 ปี ซึง่ ตอ่ มาเกิดความขัดแยง้ เกือบถึง
ความยากลำ� บากจากเหตปุ ัจจัยส�ำคญั 3 ประการ ได้แก่ ขน้ั จะรบกนั เรยี กว่า วกิ ฤตการณ์วงั หนา้

การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560 9

3) เกดิ วกิ ฤตการณ์ เม่ือ ร.ศ.112 หรอื พ.ศ. 2436 มี ของเจ้าฟ้าศิริราชฯ จากสมเด็จพระศรีพัชรินทราพระบรม
การปะทะกบั ฝรัง่ เศสถงึ ข้ันเกอื บทำ� ใหเ้ สยี แผน่ ดนิ ราชินีไปเป็นทุนประเดิมสร้างโรงพยาบาลศิริราช จน
สำ� เรจ็ เปิดใหบ้ ริการได้เมอื่ พ.ศ. 2431 ในปีเดียวกนั นน้ั มี
ด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จ- การต้ังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งที่หน้าวังบูรพาภิรมย์ช่ือว่า
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท�ำให้ทรงน�ำพาประเทศสู่ โรงพยาบาลเฉลิมป้อมมหาชัย ต่อมาเปล่ียนชื่อเป็นบูรพา
ความเจรญิ กา้ วหนา้ อยา่ งยงิ่ เฉพาะงานดา้ นการแพทยแ์ ละ พยาบาล และมกี ารต้ังกรมพยาบาลขนึ้ ในปีเดียวกันน้ัน
สาธารณสขุ กม็ เี ปน็ อเนกประการพอสรปุ ไดโ้ ดยสงั เขปดงั น้ี
• พ.ศ. 2432 ตั้งโรงเรียนแพทยากรปีเดียวกันนั้น
• พ.ศ. 2413 โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงมีพระประสูติ
เธอกรมหมื่นภูบดีราชหฤทัย จางวางกรมแพทย์ยา และ กาลเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธทรงมีพระอาการไข้ กรมหมื่น-
คณะ ช�ำระคัมภีร์แพทยศาสตร์ต่างๆ จัดท�ำเป็น ต�ำรา บ�ำราบปรปักษ์ทรงแนะน�ำให้ทราบถึงประโยชน์ของการ
เวชศาสตร์ฉบบั หลวง ประกอบดว้ ยคมั ภีร์แพทย์ 10 คัมภรี ์ พยาบาลแบบตะวันตก ทรงขอพระบรมราชานุญาตให้เลิก
ได้แก่ คัมภีร์ปฐมจินดา คัมภีร์ธาตุวิภังค์ คัมภีร์สมุฏฐาน การผทมเพลิง (อยู่ไฟ) ปรากฏผลเป็นที่พอพระราชหฤทัย
วินิจฉัย คัมภีร์มหาโชตรัต คัมภีร์ชวดาร คัมภีร์โรคนิทาน ตอ่ มาจงึ ไดเ้ ลกิ การผทมเพลงิ ในพระบรมมหาราชวงั ไป(23) ในปี
คัมภีร์มุจฉาปักขัณฑา คัมภีร์ตักกสิลา พระคัมภีร์กระษัย เดียวกนั หมอเฮส์ตงั้ โรงพยาบาลบางรัก ตอ่ มากรมพยาบาล
และพระคัมภีร์สรรพคุณ(33) ซึ่งนับเป็นคร่ึงหน่ึงของต�ำรา ได้รับมาบรหิ าร ปจั จบุ ัน คอื โรงพยาบาลเลดิ สนิ ปเี ดียวกนั
การแพทย์แผนไทยทีป่ รากฏสมัยนน้ั ต่อมาในสมยั พมิ พเ์ ม่ือ นั้น ยงั จัดตง้ั โรงพยาบาลคนเสยี จรติ ขน้ึ ทปี่ ากคลองสาน
พ.ศ. 2542 ไดม้ ีเนอ้ื หาคัมภรี อ์ นื่ เพ่มิ เตมิ ไดแ้ ก่ คมั ภรี ์แผน
นวด พระต�ำรับแผนฝีดาษ คัมภีร์มรณญาณศาสตร์ และ • พ.ศ. 2435 เม่ือมีการจัดตั้งมณฑลเทศาภิบาล มี
คัมภีรอ์ ุทรโรค(34) การตั้งแพทย์ประจ�ำเมืองเมืองละ 1 นายท�ำหน้าท่ีรักษา
ขา้ ราชการและครอบครวั ดแู ลรกั ษานกั โทษในเรอื นจำ� และ
• พ.ศ. 2424 เกิดอหิวาตกโรคระบาด ทรงโปรดฯ ให้ ปอ้ งกันโรคระบาด
จัดตง้ั โรงพยาบาลชวั่ คราว เรียกวา่ โรงพยาบาลเอกเทศ 48
แหง่ ในกรุงเทพฯ เมื่อโรคระบาดสงบก็เลิกไป(35) และทรงให้ • พ.ศ. 2436 จัดต้ังโรงพยาบาลสภาอุณาโลมแดง
พระองคเ์ จา้ สายสนทิ วงศจ์ ดั เรอื นำ� คณะหมอหลวงออกปลกู เพ่ือรักษาทหารทั้งไทยและฝรั่งเศสจากการพิพาทด้าน
ฝึให้ประชาชนในจังหวัดอยุธยาและหัวเมืองใกล้เคียง ต่อ แมน่ ำ้� โขง ตอ่ มาไดย้ กเลกิ ไปในปีพ.ศ. 2446
มาโปรดใหห้ มอหลวงออกไปปลกู ฝที ั้งหวั เมอื งเหนอื และหัว
เมอื งใต้เป็นประจ�ำทกุ ปี(23) พ.ศ. 2439 ต้งั โรงเรยี นแพทย์ผดงุ ครรภ์
พ.ศ. 2439-2445 ตั้งโอสถศาลาในหวั เมอื ง
• พ.ศ. 2429 ทรงโปรดฯ ให้จดั ตง้ั คอมมิตตขี นึ้ เพอ่ื พ.ศ. 2440 ต้ังกรมสุขาภบิ าล
จดั ตงั้ โรงพยาบาล มพี ระเจา้ นอ้ งยาเธอกรมหมน่ื สริ ธิ ชั สงั กาศ พ.ศ. 2444 ทดลองทำ� หนองฝใี ชเ้ องในประเทศ
เป็นองค์ประธาน พระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าศรีเสาว พ.ศ. 2445 ยกเลกิ โอสถศาลาเดมิ ตั้งโอสถศาลา
ภางค์เป็นผู้ด�ำเนินงานและรับหน้าที่จัดการในโรงพยาบาล ของรฐั บาล ตง้ั โรงพยาบาลเทพศิรนิ ทร์และโรงพยาบาล
ต่อมาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์พระ สามเสน
โอรสองค์ท่ี 53 ส้ินพระชนม์ด้วยโรคพระบิด เมื่อวันที่ 31 พ.ศ. 2449 ต้ังแพทยป์ ระจ�ำต�ำบล
พฤษภาคม พ.ศ. 2430 ทรงเสยี พระทยั มากทเ่ี หน็ พระโอรสที่ พ.ศ. 2451 ต้งั สถานพยาบาลโรคเร้ือนแหง่ แรกท่ี
ไดร้ บั การดแู ลอยา่ งดตี อ้ งทกุ ขท์ รมานถงึ เพยี งนน้ั ทรงนกึ ถงึ จ.เชียงใหม
ราษฎรว่าจะทุกข์ทรมานมากสักเพียงไหน จึงให้น�ำไม้พระ
เมรุไปก่อสร้างโรงพยาบาล และขอพระราชทานทรัพย์สิน

10 การสาธารณสุขไทย 2559-2560

1.7 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั (พ.ศ. 2453–2468)

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้รับ • พ.ศ. 2457 สร้างโรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์
สถาปนาเป็นพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร • พ.ศ. 2460 ตง้ั โรงเรียนกรมแพทยท์ หารบก
หลงั จากเจา้ ฟา้ มหาวชิรณุ หศิ พระบรมโอรสาธิราช สยาม • พ.ศ. 2461 ตั้งกรมสาธารณสุข
มกุฎราชกุมาร พระองค์แรกเสด็จสวรรคต ทรงเป็นพระ • พ.ศ. 2464 เร่ิมขอความสนับสนุนจากมูลนิธิ
มหากษตั รยิ พ์ ระองคแ์ รกของสยามทที่ รงสำ� เรจ็ การศกึ ษา รอ็ คกเี ฟลเลอร์ เพื่อปรบั ปรงุ โรงเรยี นแพทย์ ซ่ึงมูลนิธิร็อกกี-
จากอังกฤษ และเสด็จขึน้ ครองราชยต์ ามกฎมณเฑียรบาล เฟลเลอรไ์ ดเ้ ขา้ มาดำ� เนนิ การตงั้ แตพ่ .ศ. 2466 จนสน้ิ สดุ เมอ่ื
ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ จึงทรงติดตามข่าวสารและ พ.ศ. 2476
ความเจริญของนานาอารยประเทศได้อย่างดี ทรงตัดสิน • พ.ศ. 2465 ตั้งสมาคมแพทย์ข้ึนครั้งแรกในช่ือ
พระทยั อยา่ งชาญฉลาดในการเขา้ รว่ มกบั ฝา่ ยสมั พนั ธมติ ร แพทยะสมาคมแหง่ กรงุ สยาม ปจั จบุ นั คอื แพทยสมาคมแหง่
ในสงครามโลกครง้ั ท่ี 1 ทัง้ ๆ ท่ีขนุ นางขา้ ราชการส่วนใหญ่ ประเทศไทยฯ ในปเี ดียวกนั มีการก่อตง้ั กองอนุสภากาชาด
ศึกษาจากเยอรมัน และต้องการเข้าร่วมกับฝ่ายเยอรมัน และโรงเรยี นนางพยาบาลของสภากาชาด
ท�ำให้ไทยได้เป็นฝ่ายชนะในมหาสงครามครั้งน้ัน ได้เป็น • พ.ศ. 2466 ต้งั สำ� นักงานคนป่วยโรคเร้อื น
สมาชิกก่อตั้งสันนิบาตชาติ ทรงมีพระราชกรณียกิจเก่ียว พระประแดง และมีการตรา พ.ร.บ.การแพทย์ เพ่ือควบคมุ
กับการแพทย์และสาธารณสุขไทยสรุปได้โดยสังเขป การประกอบโรคศลิ ปะทุกแขนง
ดังนี้(36) • พ.ศ. 2467 ประชุมอบรมแพทยส์ าธารณสขุ
ครัง้ แรกทีส่ ถานเสาวภา
• พ.ศ. 2455 ตั้งปาตุรสภาหรือสถาบันปาสเตอร์ • พ.ศ. 2468 คณะมชิ ชนั นารตี ้ังโรงพยาบาล
ปจั จบุ ัน คอื สถานเสาวภา ในปเี ดยี วกนั ไดต้ ั้งวชริ พยาบาล โรคเร้อื นท่นี ครศรธี รรมราช ได้รับเงินอดุ หนนุ จากรัฐบาล ปี
และตง้ั กรมพยาบาลใหม่ ละ 4,000 บาท

• พ.ศ. 2456 เรมิ่ ตง้ั โอสถสถาน หรือโอสถศาลาขึ้น
ในบางจังหวดั ต่อมาพัฒนาเป็นสขุ ศาลา สถานอี นามัย ศนู ย์
การแพทยแ์ ละอนามยั ชนบท ศนู ยก์ ารแพทยแ์ ละอนามยั โรง
พยาบาลอำ� เภอ ปจั จบุ นั คือ โรงพยาบาลชมุ ชน

1.8 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (พ.ศ. 2465-2477)

ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ เครื่องเอกซเรยเ์ ปน็ ครั้งแรก และมกี ารอบรม “หมอต�ำแย”
หัว เกิดการเปลย่ี นแปลงการปกครองแผ่นดนิ จากระบอบ ครงั้ แรกทว่ี ชริ พยาบาล ตอ่ มาเปลยี่ นชอ่ื เปน็ “ผดงุ ครรภช์ น้ั
สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชยเ์ ปน็ ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระ สอง” จบแลว้ ส่งไปประจำ� ตามสขุ ศาลาประจ�ำอ�ำเภอต่างๆ
มหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ เมื่อ พ.ศ. 2475 หลังจากนน้ั ต่อมา ต้ังเป็นโรงเรียนผดุงครรภ์ชั้นสองท่ีวชิรพยาบาลเม่ือ
ราวสองปกี ท็ รงสละราชสมบตั ิ มเี รอ่ื งสำ� คญั ดา้ นการแพทย์ พ.ศ. 2474
และสาธารณสขุ ทสี่ มควรบนั ทึกไวโ้ ดยสงั เขป ดังน้ี(36)
• พ.ศ. 2472 มีการแบ่งประเภทการประกอบโรค
• พ.ศ. 2470 รบั นสิ ติ หญงิ เขา้ เรยี นเตรยี มแพทยเ์ ปน็ ศิลปะ เปน็ แผนปัจจบุ นั และแผนโบราณ ตงั้ สภาการแพทย์
รนุ่ แรก จำ� นวน 7 คน สำ� เรจ็ การศกึ ษาใน พ.ศ. 2475 จำ� นวน ต้งั กองโรคตดิ ตอ่ และกองสถติ ใิ นกรมสาธารณสุข
3 คน คอื ม.ร.ว.ส่งศรี เกษมศรี น.ส.ฉลอง ไกรจติ ติ และ
น.ส.ไทยเออ้ื ง อรณุ รกั ษ์ ในปี 2470 นี้ มกี ารตรวจผปู้ ว่ ยดว้ ย

การสาธารณสุขไทย 2559-2560 11

1.9 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ล (พ.ศ. 2477-2489)

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พ.ศ. 2483 ต้ังโรงเรียนแพทย์เสนารักษ์ข้ึนใหม่
ทรงข้ึนครองราชย์ต้ังแต่ทรงพระเยาว์ พระชนมพรรษาได้ ในกรมแพทยท์ หารบก เป็นหลกั สตู รแพทย์ 4 ปี ลดจาก
เพียง 8 พรรษา และทรงใช้เวลาส่วนใหญศ่ ึกษาเล่าเรยี น เดมิ ซึง่ เปน็ หลกั สูตร 6 ปี แต่มีการต่อตา้ นมาก จึงผลติ ได้
ในต่างประเทศ เมื่อเสด็จนิวัติพระนครได้ช่วงเวลาส้ันๆ เพียง 4 รุน่ กเ็ ลิกไป
ก็เสด็จสวรรคต งานส่วนใหญ่จึงเป็นบทบาทหน้าที่ของ
รัฐบาล มีเร่อื งสำ� คญั ดา้ นการแพทย์และสาธารณสขุ ท่คี วร พ.ศ. 2484 ปิดโรงเรียนแพทย์ชั่วคราวระหว่าง
บันทึกไว้โดยสังเขป ดงั น(ี้ 36) สงคราม

พ.ศ. 2479 มีการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.การแพทย์ พ.ศ. 2485 ต้ังกระทรวงสาธารณสุขเม่ือวันท่ี
พ.ศ. 2466 เป็น พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ 10 มีนาคม พ.ศ. 2485 กรมประชาสงเคราะห์เข้ามา
ตัดเร่ืองการนวดออกจากนิยามการประกอบโรคศิลปะ สังกัดอยู่ด้วย แต่ถูกโอนกลับไปกระทรวงมหาดไทยใน
ในปีเดียวกัน มีการแยกโรงเรียนเภสัชกรรมไปเป็นแผนก พ.ศ. 2487 กรมการแพทย์รับโอน “สขุ ศาลาช้นั หน่งึ ” ใน
อิสระ ซง่ึ ตอ่ มาพัฒนาเป็นคณะเภสชั ศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ จังหวัดต่างๆ ปรับปรุงเป็นโรงพยาบาลจังหวัด และเริ่ม
มหาวิทยาลัย ในปีเดียวกัน ดร.ตั้ว ลพานุกรม ต้ังกอง การก่อสร้างโรงพยาบาลจังหวัดข้นึ ทัว่ ประเทศ
เภสัชกรรมข้ึนส�ำเร็จ เป็นจุดเร่ิมต้นของอุตสาหกรรมยา
ในประเทศ พ.ศ. 2489 ก่อต้งั คณะแพทยศาสตร์แหง่ ท่ี 2 ของ
ประเทศท่ีโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และพระบาทสมเด็จ
พ.ศ. 2482 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ออกรัฐนิยม พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลสวรรคตจากกระสุนปืน
กอ่ นหนา้ นนั้ ไดก้ ำ� หนดใหใ้ ชภ้ าษาไทยในการเรยี นการสอน จนตอ้ งมีการต้งั “ศาลกลางเมือง” ขึน้ เป็นจดุ เร่มิ ตน้ ของ
และการเขยี นรายงานทางการแพทย์ กอ่ ปญั หาขนึ้ มากมาย การพฒั นาวิชานิติเวชศาสตร์
เพราะต้องมีศพั ท์ทก่ี ำ� หนดขนึ้ ใหม่ เขา้ ใจยากจ�ำนวนมาก

1.10 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช (พ.ศ. 2489–2559)

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช องค์การอนามัยโลกได้รับรองคุณภาพวัคซีนบีซีจีที่ผลิตใน
ทรงครองราชย์ยาวนานท่ีสุด และทรงพระปรีชาสามารถ ประเทศไทย และยนู เิ ซฟไดน้ �ำไปใช้ในตา่ งประเทศด้วย
อยา่ งยงิ่ ทรงครองราชย์ และครองใจประชาชนไดอ้ ยา่ งลำ�้
ลกึ สมกบั พระปฐมบรมราชโองการของพระองคท์ า่ นทท่ี รง • พ.ศ. 2497 โปรดเกล้าฯ ให้ฉายภาพยนตร์ส่วน
ประกาศว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพ่ือประโยชน์ พระองค์ น�ำรายไดท้ งั้ หมดพระราชทานเป็นทุนในการสร้าง
สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ทรงมีพระราชกรณียกิจด้าน ตกึ อานนั ทมหดิ ลทโี่ รงพยาบาลศริ ริ าช ตกึ หลงั นใี้ ชส้ ำ� หรบั รบั
การแพทย์และสาธารณสุขมากมาย สรุปโดยสังเขปได้ เดก็ ทปี่ ว่ ยดว้ ยโรคตดิ ตอ่ มปี ระชาชนรว่ มบรจิ าคจำ� นวนมาก
ดงั น้ี(37) จนมีเงินเหลือน�ำไปพระราชทานสร้างสถาบันฝึกอบรมเจ้า
หน้าทีโ่ รคเรอ้ื นท่สี ถานพยาบาลพระประแดง ต่อมา ได้ทรง
• พ.ศ. 2488 พระราชนิพนธ์เพลงยามเย็น พระราชทานเพ่ิมเติมอีกเป็นอันมาก ก่อตั้งเป็นสถาบันราช
พระราชทานให้วงดนตรีน�ำไปบรรเลงในงานดนตรีการกุศล ประชาสมาสยั มลู นธิ ริ าชประชาสมาสยั และยงั พระราชทาน
หาเงินสมทบทุนช่วยเหลือโครงการต่อต้านวัณโรค พ.ศ. เงินส่วนหนึ่งก่อต้ังมูลนิธิอานันทมหิดลให้ทุนการศึกษาเพ่ือ
2492 พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 300,000 ไปศึกษาวชิ าการชั้นสูงในตา่ งประเทศหลายสาขา
บาท สร้างตึกมหิดลวงศานุสรณ์ ให้สภากาชาดไทยใช้เป็น
ห้องปฏิบัติการผลิตวัคซีนบีซีจี ป้องกันวัณโรค ซึ่งต่อมา

12 การสาธารณสุขไทย 2559-2560

• พ.ศ. 2498 โปรดฯ ใหส้ รา้ งเรอื “เวชพาหน์” เปน็ พระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
หน่วยแพทย์เคลื่อนที่รักษาพยาบาลประชาชนตามสองฝั่ง ทรงพระราชสมภพครบ 100 ปี
แมน่ �ำ้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
• พ.ศ. 2501 เกิดการระบาดของอหิวาตกโรค ทรงได้รับยกย่องอย่างสูงในระดับนานาชาติ ในด้าน
ไดโ้ ปรดฯ พระราชทานเงนิ ตง้ั เปน็ กองทนุ ปราบอหวิ าตกโรค สาธารณสุข ทรงได้รับการถวายรางวัลทรงเกียรติ ได้แก่
และเครื่องผลิตน�้ำกล่ันเพื่อท�ำน้�ำเกลือรักษาผู้ป่วย องค์การอนามัยโลก ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเหรียญ
ทรงจดั ต้ังหน่วยฉดี วคั ซนี และสนบั สนนุ ใหม้ ีการค้นควา้ วิจยั ทองสุขภาพดีถ้วนหน้า เม่ือ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการ
ระหว่างประเทศเพ่ือการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน
• พ.ศ. 2502 ทรงสนบั สนนุ การกอ่ สรา้ งโรงพยาบาล ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองสดุดีพระเกียรติคุณที่ทรง
หลายแหง่ เชน่ อาคารหลงั หนงึ่ ท่ี รพ.แพร่ อาคารคนไขพ้ เิ ศษ พระราชทานแนวคิด และทิศทางในการเผยแพร่ยาเสริม
“ราชสาทิส” ที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา (พ.ศ 2503) ไอโอดีน และสถาบนั แฟรงคลนิ และเอลนี อร์ รสู เวลต์ ได้
ตกึ วจิ ัยประสาทวิทยา ที่ รพ.ประสาทพญาไท (พ.ศ. 2504) ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล Franklin Delano Roosevelt
อาคาร “ราชประชาอนสุ รณ”์ ที่ รพ.ปราจนี บรุ ี (พ.ศ. 2504) International Disability Award เม่ือ พ.ศ. 2544 ใน
อาคาร “ราชทยั ”ท่ี รพ.บรุ รี ัมย์ (พ.ศ. 2505) ฐานะที่ประเทศไทยมีความก้าวหน้าในการด�ำเนินการที่
ส�ำคัญตามเป้าหมายของแผนปฏิบัติการระดับโลกของ
• พ.ศ. 2510 เริ่มต้ังหน่วยแพทย์เคล่ือนที่ องคก์ ารสหประชาชาติว่าดว้ ยคนพกิ าร
พระราชทาน และก่อตัง้ ขึ้นอกี รวม 8 หน่วย

• พ.ศ. 2535 มีการก่อตั้งมูลนิธิรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล
เพื่อพระราชทานรางวัลระดับโลกเทียบเท่ารางวัลโนเบล
แกแ่ พทยแ์ ละนกั การสาธารณสขุ ทวั่ โลก ในวโรกาสทสี่ มเดจ็

1.11 รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราลงกรณ์ หน้าท่ีประธานรัฐสภา ได้กล่าวในนามของปวงชนชาว
บดินทรเทพยวรางกรู ไดท้ รงรับการสถาปนาโปรดเกลา้ ฯ ไทย เชิญข้าพเจ้าข้ึนครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ถ้า
ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามราชกุมาร เมื่อ เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปร
วนั ท่ี 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ทรงถวายสตั ย์ปฏญิ าณใน มินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นไป
พระราชพิธีถือน้�ำพิพัฒน์สัตยา ว่า “ข้าพเจ้าผู้เป็นสยาม ตามบทบัญญัติของกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราช
มกุฎราชกุมาร จะรักษาเกียรติยศและอริยศักด์ิ ซึ่งทรง สันตติวงศ์กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยน้ัน
พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานไวด้ ว้ ยชีวิต จะจงรกั ข้าพเจ้าขอตอบรับเพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพ่ือ
ภกั ดตี ่อชาติบ้านเมอื ง จะซอื่ สัตย์ตอ่ ประชาชน จะปฏิบตั ิ ประโยชนข์ องประชาชนชาวไทยท้ังปวง”
หน้าท่ีทุกอย่างโดยเต็มก�ำลังสติปัญญาความสามารถและ
โดยความเสียสละเพ่ือความเจริญสงบสุขและความม่ันคง ทรงมีพระราชกรณียกิจเก่ียวกับการแพทย์และ
ไพบลู ยข์ องประเทศไทย จนตราบเทา่ ชวี ติ รา่ งกายจะหาไม”่ สาธารณสขุ ตงั้ แตค่ รงั้ ยงั ทรงดำ� รงพระอสิ รยิ ยศเปน็ สมเดจ็
พระบรมโอรสาธริ าชสยามมกฎุ ราชกมุ าร โดยทรงเปน็ องค์
ตอ่ มา เมอ่ื พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ล นายกกติ ตมิ ศกั ดขิ์ องมลู นธิ โิ รงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราช
อดลุ ยเดชพระบรมนาถบพติ ร ไดเ้ สดจ็ สวรรคต เมอ่ื วนั ท่ี 13 ไดเ้ สดจ็ พระราชดำ� เนนิ ทรงเปน็ ประธานในพธิ วี างศลิ าฤกษ์
ตลุ าคม พ.ศ. 2559 ตอ่ มาเมอื่ วนั พฤหสั บดที ่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ. และเปิดโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ซึ่งทุกแห่งอยู่ใน
2559 เวลา 19.16 น. ทรงมีพระราชด�ำรัสตอบรบั การขนึ้ ทอ้ งท่ีหา่ งไกลทรุ กันดาร ทรงสนพระราชหฤทยั ในกจิ การ
ทรงราชย์ วา่ “ตามทป่ี ระธานสภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาตปิ ฏบิ ตั ิ ของโรงพยาบาล และไดเ้ สดจ็ ไปตรวจเยย่ี มเพอ่ื ตดิ ตามผล

การสาธารณสุขไทย 2559-2560 13

การด�ำเนินงานอย่างสม�่ำเสมอ และได้ทรงพระราชทาน สขุ ในการบำ� เพญ็ ประโยชนใ์ หผ้ อู้ น่ื และสว่ นรวมมสี ขุ
พระราโชบายแก่กระทรวงสาธารณสุข เพ่ือใช้เป็น สุขในการเข้าใจและเหน็ ใจผูอ้ นื่
แนวทางในการพฒั นาโรงพยาบาลสมเดจ็ พระยพุ ราชใหม้ ี สขุ ในการให้ ทั้งก�ำลังกาย กำ� ลังใจ ให้ผอู้ ่ืนและส่วน
ประสิทธิภาพสามารถใหบ้ รกิ ารท่ีมคี ณุ ภาพแกป่ ระชาชน รวมมีสขุ
สุขในการพัฒนาร่างกาย จิตใจและปัญญา ในทาง
ทรงมีพระราชปรารถนาให้บา้ นเมืองไทยเปน็ “บา้ น สรา้ งสรรค์ความเจริญใหต้ นเองและผู้อนื่
แสนสขุ ” ประชาชนชาวไทยมคี วามสขุ ความเจรญิ ทว่ั หนา้ การสวดมนตแ์ ละปฏบิ ตั ธิ รรม ทำ� ใหม้ คี วามสงบ มสี ติ
ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณในอันที่จะทรงชี้แนะ สมาธิและปัญญา ตลอดจนเป็นกุศล สิริมงคลต่อทุกคน
พระราชทานแนวทางแหง่ ความสขุ ดงั วธิ กี ารพระราชทาน และจะนำ� มาสคู่ วามเจรญิ และความสขุ ทกี่ ลา่ วมานนั้ แล...”
ที่ปรากฏในพระราชหัตถเลขาซึ่งได้เชิญมาตีพิมพ์บนปก
หนงั สือสวดมนต์ 28 กรกฎาคม 2560 วา่

“ความสุขในตัวเร่ิมจากใจ และทัศนคติท่ีดีต่อผู้อื่น
ส่วนรวม และตนเอง

1.12 ภารกจิ ดา้ นสาธารณสขุ ของพระบรมวงศานวุ งศใ์ นรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
(รชั กาลท่ี 9) และพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู (รชั กาลที่ 10)(38)

1.12.1 สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระองค์แรกท่ีไดร้ บั การทลู เกลา้ ฯ ถวายรางวัลดงั กลา่ ว
ทรงส่งเสริมและสนับสนุนโครงการด้านสุขภาพ นอกจากนี้ ยงั มพี ระราชกรณียกิจในด้านการแพทย์

อนามัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล และสาธารณสุข อาทิ โครงการแพทย์หลวง โครงการ
อดลุ ยเดชมาโดยตลอด ทรงดำ� รงตำ� แหนง่ องคส์ ภานายกิ า หมอหมบู่ า้ น รวมทงั้ ทรงอปุ ถมั ภค์ นไขใ้ นพระบรมราชาน-ุ
สภากาชาดไทย ทรงเป็นองค์อปุ ถัมภ์องคก์ ารสมาคมและ เคราะห์ เป็นตน้
มลู นธิ ติ า่ งๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ 1.12.2 สมเดจ็ พระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี
มากมายหลายแหง่ อาทิ มลู นธิ ชิ ว่ ยเหลอื คนตาบอด มลู นธิ ิ
ชว่ ยเด็กปญั ญาออ่ น มลู นิธอิ นุเคราะหค์ นหูหนวก เป็นตน้ ทรงเป็นพระบรมราชวงศ์ที่ส�ำคัญอีกพระองค์ท่ี
และสงิ่ ทสี่ ำ� คญั คอื ทรงเปน็ องคอ์ ปุ ถมั ภโ์ ครงการรณรงคใ์ ห้ ทรงพระราชกิจนานัปการเก่ียวกับสุขภาพอนามัยของ
วคั ซนี โปลโิ อ ทำ� ใหผ้ ปู้ ว่ ยดว้ ยโรคโปลโิ อลดลงมาเปน็ ลำ� ดบั ประชาชน ดงั ต่อไปนี้
และอยู่ในสภาวะท่ีสามารถจะกวาดล้างโรคนี้ได้หมดไป
จากประเทศไทยในไม่ช้า พ.ศ. 2499 ทรงรับมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการไว้ใน
พระราชูปถัมภ์ โดยทรงพระราชทานพระราชทรัพย์และ
นอกจากนี้ยังมีพระราชกรณียกิจที่ทั่วโลกชื่นชม ทรงรับเป็นพระราชภาระในการติดต่อกับบุคคลและองค์
ยกย่องคือผลงานด้าน “สร้างความสมดุลระหว่าง กรอนื่ ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งทง้ั ในและนอกประเทศ เพือ่ ช่วยเหลอื
เทคโนโลยีกับธรรมชาติ” จึงทรงได้รับรางวัล ลินเบอร์ก ผ้พู ิการทกุ สาขา
อวอร์ด” (Lindbergh Award) เม่ือวนั ที่ 16 พฤษภาคม
พ.ศ. 2538 จาก Charles A and Anne Morrow พ.ศ. 2506 ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิช่วย
Lindbergh Foundation และผลงานด้านการเป็นผู้น�ำ คนโรคเรื้อน จังหวัดล�ำปาง และโรงเรียนจิตต์อารี โดย
ในการสนับสนุนและส่งเสริมการด�ำเนินงานด้านอาหาร พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้าง
ปลอดภัยในระดับประเทศและนานาชาติ จึงทรงได้รับ อาคารเรยี น หอพกั ทุนอุปการะบตุ รผปู้ ่วยโรคเรื้อนและ
รางวัล Food Safety Awards เม่ือวันที่ 9 สิงหาคม พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สนับสนุนการด�ำเนินงาน
พ.ศ. 2548 จากองค์การอนามัยโลก นับเป็นสุภาพสตรี โรงเรยี นจติ ตอ์ ารที ุกปี เปน็ ผลให้บตุ รผ้ปู ว่ ยโรคเรือ้ นและ
ผยู้ ากจนมีคณุ ภาพชีวติ ท่ีดขี น้ึ

14 การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560

พ.ศ. 2510 รบั มลู นิธชิ วี ิตใหม่ไวใ้ นพระอุปถมั ภเ์ พือ่ นอกจากน้ี องค์การอนามัยโลกได้ยกย่องและ
ชว่ ยเหลอื ฟื้นฟสู มรรถภาพแกผ่ ปู้ ่วยจากโรคเรอ้ื นที่พกิ าร ชื่นชมพระเกียรติคุณของพระองค์ท่านท่ีได้ทรงบ�ำเพ็ญ
พระราชกรณียกิจต่างๆ อันเป็นประโยชน์ใหญ่หลวงต่อ
พ.ศ. 2512 เร่มิ ก่อตง้ั หนว่ ยแพทย์เคลอื่ นท่ี พอ.สว. การส่งเสริมสุขภาพประชาชนชาวไทย จึงได้ทูลเกล้าฯ
ซ่ึงเป็นคณะแพทย์อาสาสมัครประกอบด้วยแพทย์ ถวายเหรียญทองสุขภาพดีถ้วนหน้าแด่พระองค์ท่าน ใน
ทันตแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขและอาสา ปี พ.ศ. 2533 นอกจากนี้ องค์การยูเนสโกได้ประกาศ
สมัครสนับสนุนจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคไปปฏิบัติ เกียรติคุณพระองค์ท่านเป็นปูชนียบุคคลส�ำคัญระดับ
งานรักษาป้องกันส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของ โลก เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2543 และในวโรกาส
ประชาชนและเจ้าหนา้ ทใ่ี นทอ้ งถ่นิ ทุรกนั ดาร ครบ 100 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จ-
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระองค์ทรงได้รับ
พ.ศ. 2516 จดั ตัง้ “แพทย์อาสาทางอากาศ” และ การถวายพระสมัญญานามว่า “พระมารดาแห่งการ
ต่อมาได้เปลี่ยนช่ือเป็น “หน่วยแพทย์ทางวิทยุ” โดยใช้ สาธารณสขุ ไทย”
วทิ ยรุ บั สง่ ขา่ วสำ� หรบั แพทยใ์ ชต้ ดิ ตอ่ สงั่ การรกั ษาผปู้ ว่ ยได้ 1.12.3 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช-
โดยตรงตามสถานอี นามยั ทอ่ี ยหู่ า่ งไกลโรงพยาบาลในเขต
ท่ีเป็นจังหวดั พอ.สว. รวม 25 จังหวัด ที่เหลือเป็นหนา้ ที่ กุมารี
ของกระทรวงสาธารณสขุ ซงึ่ เรมิ่ ดำ� เนนิ การเมอ่ื พ.ศ. 2519 ทรงใหค้ วามสนพระทัยเป็นพิเศษต่อการปรบั ปรงุ
และหลังจากน้ันได้โอนงานหน่วยแพทย์ทางวิทยุ พอ.สว. และพัฒนางานด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะในเด็ก
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไว้ด�ำเนินการในปี พ.ศ. 2539 เยาวชนและประชาชนในถ่ินทุรกันดาร โดยได้มีโครงการ
ตามพระราชด�ำริหลายโครงการเกิดข้ึน อาทิ โครงการ
พ.ศ. 2517 ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ จดทะเบยี น เกษตรเพ่ืออาหารกลางวัน เพื่อช่วยเหลือเด็กในท้องถ่ิน
ก่อต้ังเป็นมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทรา- ทรุ กนั ดารใหม้ สี ขุ ภาพดี ซ่ึงต่อมากระทรวงศึกษาธกิ ารได้
บรมราชชนนี และพระราชทานทุนเริ่มแรกให้กับมูลนิธิฯ น�ำไปเป็นรูปแบบการด�ำเนินงานโครงการอาหารกลางวัน
จ�ำนวน 1 ล้านบาท และต่อมารัฐบาลไทย ภาครัฐและ ในโรงเรยี นอน่ื ๆ ทว่ั ประเทศนอกจากนน้ั ไดจ้ ดั ทำ� โครงการ
เอกชนจากต่างประเทศ ให้การสนับสนุนทางการเงิน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งทรงพระราชทานทุนทรัพย์ส่วน
อุปกรณท์ างการแพทยอ์ ยา่ งตอ่ เนื่องตลอดมา พระองค์เพื่อแก้ไขปัญหาโภชนาการในเด็กก่อนวัยเรียน
และโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่
พ.ศ. 2529 รเิ ร่มิ โครงการรกั ษาโรคเฉพาะทางไดแ้ ก่ และเดก็ ในถิน่ ทรุ กันดาร
โรคตาตอ้ กระจก ปากแหวง่ เพดานโหว่ แกว้ หทู ะลุ ในปีพ.ศ. 2549 ได้ทรงด�ำเนินโครงการสุขศาลา
พระราชทานโรงเรยี นตำ� รวจตะเวนชายแดนเพอื่ ใหบ้ รกิ าร
การใส่กายอุปกรณ์เทียม โรคหัวใจรูห์มาติก โรค นกั เรยี นและประชาชนในการเขา้ ถงึ บรกิ ารสาธารณสขุ ขน้ั
หัวใจพิการแต่ก�ำเนิดและโรคฟันคุด ทรงริเร่ิมงานทันต- พ้นื ฐาน และตอ่ มาได้พฒั นาระบบการรักษาพยาบาลดว้ ย
สาธารณสุข พอ.สว. โดยจัดกิจกรรมทันตสาธารณสุข การสื่อสารทางไกล (Telemedicine) และจัดตั้งหน่วย
แห่งชาติในวันท่ี 21 ตลุ าคมของทุกปี แพทย์และหน่วยทันตกรรมพระราชทานเพื่อให้บริการ
ประชาชนทีอ่ ย่ใู นพื้นทีห่ า่ งไกลและทุรกันดาร
พ.ศ. 2535 พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ นอกจากนี้ ยงั ทรงเปน็ องคป์ ระธานคณะกรรมการ
500,000 บาท จดั ตง้ั มลู นธิ ขิ าเทยี มขนึ้ และสมเดจ็ พระเจา้ ควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ซึ่งเป็นโครงการที่
พี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช- ส�ำคัญและทรงสนพระทัยแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเป็นผล
นครินทร์ พระราชทานสมทบอีก 750,000 บาท เพ่ือ
จัดท�ำขาเทียมใหแ้ ก่ผู้ปว่ ยยากจนทุกเชอ้ื ชาติ ศาสนาโดย
ไม่คิดมูลค่า

การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560 15

ให้ภาวะขาดสารไอโอดีนลดลงมาอยู่ในระดับที่ควบคุม นอกจากนี้ ยงั ทรงประกอบพระราชกรณยี กจิ ดา้ น
ไม่ให้เป็นปัญหา และยังทรงปฏิบัติหน้าที่แทนพระบาท ตา่ งๆ ตามโครงการพระราชดำ� รขิ องสมเดจ็ พระศรนี ครนิ -
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จ ทราบรมราชชนนี และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับ
เจา้ ฟา้ มหดิ ลในพระบรมราชปู ถมั ภต์ งั้ แตด่ า้ นความรว่ มมอื เป็นประธานกติ ตมิ ศกั ดิ์ มลู นิธิแพทยอ์ าสาสมเด็จพระศรี
ระหว่างประเทศ ทรงพระราชทานความช่วยเหลอื แกร่ าช นครนิ ทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ตงั้ แตว่ นั ท่ี 22 มถิ นุ ายน
อาณาจกั รกมั พชู าในการควบคมุ โรคมาลาเรยี และโรคอนื่ ๆ พ.ศ. 2552
ทมี่ ยี งุ เปน็ พาหะนำ� โรค นอกจากนนั้ ยงั พระราชทานความ
ช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เยาวชนชาวกัมพูชาโดยมอบ ดา้ นความรว่ มมอื กบั ตา่ งประเทศในปี พ.ศ. 2557
ทนุ การศกึ ษาหลกั สตู รพยาบาลศาสตรบัณฑิต ปลี ะ 5 คน สถาบนั วจิ ยั จฬุ าภรณไ์ ดล้ งนามในขอ้ ตกลงความรว่ มมอื กบั
ต่อเน่อื งเป็นเวลา 10 ปี ซ่ึงเร่มิ ด�ำเนินการในปี พ.ศ. 2559 องคก์ รสาธารณสขุ แหง่ สหราชอาณาจกั ร (Public Health
เป็นตน้ มา England) เพอ่ื ศกึ ษาผลกระทบของมลพิษในสิง่ แวดล้อม
1.12.4 สมเด็จพระเจา้ ลกู เธอ เจ้าฟ้าจฬุ าภรณว์ ลัย- ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพประชาชน
1.12.5 สมเดจ็ พระเจา้ พน่ี างเธอ เจ้าฟา้ กลั ยาณวิ ัฒนา
ลกั ษณอ์ คั รราชกมุ ารี
ทรงมีบทบาทโดดเด่นในฐานะนักวิทยาศาสตร์ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ซ่ึงพระเกียรติคุณเป็นท่ียอมรับอย่างกว้างขวางในระดับ ทรงเปน็ องคป์ ระธานมลู นธิ โิ รคไตแหง่ ประเทศไทย
นานาชาติ ทรงได้รับการทูลเกล้าถวายเหรียญทอง โดยเป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนการรักษาพยาบาล
ไอนส์ ไตนจ์ าก UNESCO และทรงนำ� ความรมู้ าพฒั นางาน การป้องกันโรคไตและทางเดินปัสสาวะการศึกษาค้นคว้า
ด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศและในปี และวิจัย ตลอดจนการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่อง
พ.ศ. 2529 ได้ทรงก่อต้ังมลู นธิ จิ ฬุ าภรณเ์ พอ่ื สง่ เสริมและ โรคดังกลา่ ว
สนบั สนนุ การศกึ ษาวจิ ยั และการดำ� เนนิ งานดา้ นการแพทย์ นอกจากน้ียังทรงประกอบพระราชกรณียกิจ
และสาธารณสขุ ไดท้ รงสถาปนาสถาบนั วจิ ยั จฬุ าภรณเ์ พอื่ ด้านต่างๆ ตามโครงการพระราชด�ำริของสมเด็จ
เป็นศูนย์รวมแห่งความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์และ พระศรีนครินทราบรมราชชนีและได้ทรงพระกรุณา
ผลิตผลงานอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติเพ่ือแก้ไข โปรดเกล้าฯ รับเป็นองค์นายิกากิตติมศักดิ์ มูลนิธิแพทย์
ปัญหาเร่งด่วน เช่น ปัญหาด้านสาธารณสุขส่ิงแวดล้อม อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)
และการเกษตร เปน็ ตน้ นอกจากนนั้ ทรงกอ่ ตงั้ โรงพยาบาล ตงั้ แตว่ ันท่ี 18 สงิ หาคม พ.ศ. 2538 ตราบจนส้ินพระชนม์
จุฬาภรณ์เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งผู้ยากไร้ด้วยเครื่องมือ เม่ือวนั ท่ี 2 มกราคม พ.ศ. 2551 รวมท้ังยังทรงมผี ลงาน
แพทย์ทีม่ ปี ระสิทธิภาพและทนั สมัย สขุ ภาพจติ และยาเสพตดิ ระหวา่ งประเทศดเี ดน่ โดยทรงให้
ในปี พ.ศ. 2531 ทรงกอ่ ตง้ั ศนู ยอ์ นามยั สง่ิ แวดลอ้ ม ความสำ� คญั ของพัฒนาการตงั้ แต่วยั เดก็ อ่อน โดยทรงเปน็
และพิษวิทยานานาชาติข้ึนเพ่ืออบรมด้านพิษวิทยา องค์อุปถัมภ์มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมและเด็กในมูลนิธิอื่นๆ
สง่ิ แวดลอ้ มและความปลอดภยั ของสารเคมใี หแ้ กบ่ คุ ลากร ได้พระราชทานทุนทรัพย์เพื่อจัดต้ังกองทุนอาหารเสริม
ทั้งภาครัฐและเอกชนตลอดท้ังประเทศต่างๆ ในภูมิภาค จัดหาหนังสือและของเล่นส�ำหรับเด็กเป็นการส่งเสริม
เอเชยี และแปซฟิ ิก และในปี พ.ศ. 2556 ไดร้ บั การแตง่ ต้งั ให้เด็กได้มีพัฒนาการตามวัย นอกจากน้ีได้จัดตั้งรางวัล
ให้เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมขององค์การอนามัยโลกใน Mental Health Princess Award ขนึ้ ซง่ึ เปน็ รางวลั ทท่ี รง
ด้านความปลอดภัยของสารเคมีในภูมิภาคเอเชียตะวัน- พระราชทานใหแ้ กผ่ ทู้ มี่ ผี ลงานดเี ดน่ ดา้ นสขุ ภาพจติ และยา
ออกเฉียงใต้ เสพตดิ ระหวา่ งประเทศจากพระเกยี รตคิ ณุ ซง่ึ เปน็ ทย่ี อมรบั
ทรงไดร้ บั ทลู เกลา้ ถวายรางวลั WHO/SEARO Award จาก
องค์การอนามยั โลก เม่อื วนั ท่ี 19 สิงหาคม พ.ศ. 2546

16 การสาธารณสุขไทย 2559-2560

1.12.6 พระเจ้าวรวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี 1.12.7 พระเจา้ หลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิตยิ าภา
พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงให้ความส�ำคัญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจตามเบื้องพระยุคลบาท
ขั้นพื้นฐานท่ีเก่ียวกับปัญหาความรุนแรงต่อสตรี โดยทรง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้า รับเป็นทูตสันถวไมตรีให้กับกองทุนการพัฒนาเพ่ือสตรี
พระบรมราชินีนาถฯ ในกิจกรรมต่างๆ เสมอมา ส�ำหรับ แห่งสหประชาชาติ (United Nations Development
พระกรณียกจิ ในดา้ นการแพทย์และสาธารณสุข พระองค์ Fund for Women: UNIFEM) เพ่ือหยดุ ยง้ั ความรนุ แรง
ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั เกยี่ วกบั โรคเอดสเ์ ปน็ อยา่ งมาก จะเหน็ ได้ ต่อสตรี นอกจากนั้นทรงมอบหมายให้ส�ำนักงานอัยการ
จากการทพ่ี ระองคเ์ สดจ็ เปน็ องคป์ ระธานในงานเทยี นสอ่ ง สงู สดุ จดั ตง้ั สำ� นกั งานกจิ การและโครงการในพระราชดำ� ริ
ใจเป็นประจ�ำเกือบทุกปี ซ่ึงงานนี้สภากาชาดไทยร่วมกับ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (สพภ.)
ชมรมเพื่อนวันพุธซึ่งเป็นชมรมผู้ติดเช้ือเอดส์ ได้จัดขึ้นใน ขึ้น เพ่ือเป็นองค์กรกลางในการประสานการด�ำเนิน
วันท่ี 1 ธันวาคม ตรงกับวันเอดส์โลกทุกปี โดยรเิ ริ่มจัดใน งานกับหน่วยงานต่างๆ ท้ังภายในและต่างประเทศเพื่อ
พ.ศ. 2534 เป็นปีแรก และยงั ทรงพระกรุณาตอ่ โครงการ การด�ำเนินงานโครงการหรือกิจกรรมในการรณรงค์ยุติ
อันเกี่ยวกับสภากาชาดไทยทุกโครงการ เช่น โครงการ การกระทำ� ความรุนแรงต่อผู้หญิง
ปอ้ งกนั การตดิ เช้ือเอดสจ์ ากแมส่ ู่ลกู โครงการเพอ่ื นพง่ึ พา 1.12.8 ทลู กระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา
ยามยาก นอกจากน้ัน ยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิโรค
โลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทยและกองทุนโรค สริ ิวฒั นาพรรณวดี
มะเรง็ ในเด็ก ทรงมีความห่วงใยประชากรและประเทศเป็น
อย่างย่ิง ได้ทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการ To Be
Number One เพ่ือกระตุน้ และปลูกจติ สำ� นึกของปวงชน
ในชาติให้มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงการต่อสู้
เอาชนะปญั หายาเสพตดิ เพื่อสรา้ งโอกาสสนับสนุน และ
ดึงผ้เู สพยาเสพติดกลับสู่สังคม

การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560 17

บทท่ี 2

ขอ้ มูลพื้นฐานประเทศไทย

2.1 ทต่ี งั้ อาณาเขต และพรมแดน
ประเทศไทยตั้งอยู่ในภาคพื้นทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Continental Southeast Asia) เหนือบริเวณ

เสน้ ศูนย์สตู ร โดยเปน็ ส่วนหนึ่งของคาบสมทุ รอนิ โดจนี (ภาพท่ี 2.1)
ภาพที่ 2.1 แผนทป่ี ระเทศไทย

18 การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560

ประเทศไทยมีพ้ืนท่ีประมาณ 514,000 ตาราง ด้านทิศใต้ จุดใต้สุดอยู่ในเขตอ�ำเภอเบตง จังหวัด
กโิ ลเมตร มขี นาดใหญเ่ ปน็ อนั ดบั 3 ในกลมุ่ ประเทศสมาชกิ ยะลา ติดต่อกับพรมแดนประเทศมาเลเซียและอา่ วไทย
เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ รองจากประเทศอินโดนเี ซยี และ
สหภาพพม่า พรมแดนที่เป็นอาณาเขตรอบประเทศไทย ดา้ นทศิ ตะวนั ออก จดุ ตะวนั ออกสดุ อยใู่ นเขตอำ� เภอ
ยาวทงั้ หมดประมาณ 8,031 กโิ ลเมตร เปน็ พรมแดนทางบก พิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ติดต่อกับพรมแดน
5,326 กโิ ลเมตร พรมแดนชายฝงั่ ทะเล 2,705 กิโลเมตร ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และ
โดยเป็นความยาวของทะเลฝั่งอ่าวไทย 1,840 กิโลเมตร กัมพูชาประชาธปิ ไตย
และความยาวทางฝ่ังทะเลอนั ดามนั 865 กโิ ลเมตร
ด้านทิศตะวันตก จุดตะวันตกสุดอยู่ในเขตอ�ำเภอ
ด้านทิศเหนือ จุดเหนือสุดอยู่ที่เขตอ�ำเภอแม่สาย แมส่ ะเรยี ง จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน ตดิ ตอ่ กบั พรมแดนสหภาพ
จงั หวดั เชยี งราย ติดต่อกับพรมแดนของสหภาพพม่า และ พมา่ ทะเลอนั ดามัน และช่องแคบมะละกา
ประเทศสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว
ประเทศไทยทงั้ ประเทศใชเ้ วลาเดยี วกนั และนบั เวลา
ก่อนเวลากลางทีก่ รีนนิชประมาณ 7 ชั่วโมง

2.2 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศและภมู อิ ากาศของไทย ข) ภมู อิ ากาศแบบมรสมุ เมอื งรอ้ นเกอื บตลอดปี ไดแ้ ก่
2.2.1 ภมู ิประเทศ จ�ำแนกได้ 3 ลกั ษณะ คอื บริเวณทางฝง่ั ตะวันตกเฉยี งใต้ และภาคตะวันออกเฉยี งใต้
1) ทร่ี าบ สว่ นใหญอ่ ยใู่ นภาคกลางของประเทศ ไดแ้ ก่ ลกั ษณะภมู อิ ากาศเปน็ แบบมรสมุ ปรมิ าณนำ้� ฝนรวมเฉลย่ี
ตลอดปีสงู มาก
บริเวณที่ราบลุ่มแม่น�้ำเจ้าพระยาและสาขาคือ แม่น�้ำปิง
วงั ยม น่าน นอกจากนยี้ ังมี ทร่ี าบลุ่มแม่น�ำ้ กลอง แมน่ ำ้� ค) ภูมิอากาศแบบฝนเมืองร้อนเฉพาะฤดูหรือภูมิ-
เพชรบรุ ี แมน่ ้�ำบางปะกง แมน่ ้ำ� ท่าจีน และแมน่ �้ำป่าสัก อากาศแบบทงุ่ หญา้ เมอื งรอ้ นหรอื ทงุ่ หญา้ สวนั นา ปรมิ าณ
น้�ำฝนจะมากในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ แห้งแล้งในฤดู
2) ที่สูง ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หนาวคลุมพ้ืนที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ได้แก่ ภาคกลาง
ได้แก่ ที่สูงโคราชซ่ึงบนที่สูงนี้มีที่ราบลุ่มน้�ำที่ส�ำคัญ คือ ภาคเหนอื และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
แม่น�้ำมลู แม่นำ�้ ชี
ง) ลมประจำ� ทพ่ี ดั ผา่ น ไดแ้ ก่ ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี ง
3) ภูเขา ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือและภาคตะวัน ใต้ เร่ิมประมาณกลางเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม
ออกเฉยี งใต้ ทวิ เขาท่ีส�ำคญั ไดแ้ ก่ ทิวเขาแดนลาว หลวง และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เร่ิมประมาณเดือน
พระบาง ถนนธงชัย เพชรบรู ณ์ และตะนาวศรี พฤศจกิ ายน ถงึ เดอื นกุมภาพันธ์

4) ภูมิอากาศ ของประเทศ มี 3 ชนิด โดยสรปุ ประเทศไทยมภี มู ปิ ระเทศและภมู อิ ากาศที่
ก) ภมู อิ ากาศแบบฝนเมอื งรอ้ ยตลอดปี ไดแ้ ก่ บรเิ วณ สงบ รม่ เยน็ มปี ญั หาไมม่ ากในเรอื่ งภยั พบิ ตั ติ ามธรรมชาติ
ทางฝ่ังตะวนั ออกของภาคใต้ ลักษณะภมู อิ ากาศเปน็ แบบ ทรี่ นุ แรง เช่น ภเู ขาไฟระเบิด แผน่ ดนิ ไหวหรอื ความหนาว
ปา่ ดงดิบมีฝนตกชกุ ตลอดปี มปี ่าไมช้ ื้นหนาทบึ เย็น

การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560 19

2.3 ประชากร ภาษา ศาสนา การติดต่อสื่อสารใช้ภาษาไทยเป็นภาษาพูด และ
ในปพี .ศ. 2560 ประเทศไทยมจี �ำนวนประชากรท้งั ภาษาเขยี น แต่ขณะเดยี วกนั แนวโนม้ การใชภ้ าษาอังกฤษ
และภาษาต่างประเทศอ่ืนๆก็เริ่มมีบทบาทมากข้ึน โดย
ประเทศ 66,188,503 คน(1) เฉพาะในทางธุรกจิ
• ชาย มีจ�ำนวน 32,464,906 คน
• หญงิ มจี ำ� นวน 33,723,597 คน ประชากรในประเทศไทยสว่ นใหญน่ บั ถอื ศาสนาพทุ ธ
ประชากรในประเทศไทยเกอื บท้ังหมดรอ้ ยละ 95.9 (ร้อยละ 93.5) รองลงมาเปน็ ศาสนาอสิ ลาม (ร้อยละ 4.2)
ศาสนาครสิ ต์ (รอ้ ยละ 5.4) และอ่นื ๆ (ร้อยละ 0.1)(3)
เป็นผู้มีสัญชาติไทยที่เหลือเป็นผู้มีสัญชาติอ่ืนๆ เช่น จีน
พมา่ และลาว(2)

2.4 เศรษฐกจิ เงินกู้ IMF ท้ังหมดในปี พ.ศ. 2546 ก่อนเวลาที่ก�ำหนด
ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันเป็น ไว้ถึง 2 ปี และเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวอีกคร้ังในช่วง
พ.ศ. 2548 หลงั จากนั้นเกดิ วิกฤตเศรษฐกจิ ครง้ั ที่ 3 ข้นึ ใน
แบบผสมทั้งระบบทุนนิยมและสังคมนิยม มีการพัฒนา ชว่ ง พ.ศ. 2551 - 2552 เศรษฐกจิ ไทยถดถอยอยา่ งรนุ แรง
โดยการวางแผนเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบโดยได้จัด จนตดิ ลบรอ้ ยละ 2.2 ใน พ.ศ. 2552 อันเนือ่ งจากวกิ ฤต
ท�ำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 1 เศรษฐกิจทั่วโลก ราคาน้�ำมันท่ีเพ่ิมสูงขึ้นและการเมือง
(พ.ศ. 2504 - 2509) จนถงึ ปจั จบุ นั เปน็ แผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ ภายในประเทศยังไมร่ าบรน่ื
12 (พ.ศ. 2560 - 2564) ผลจากการพฒั นาทำ� ใหเ้ ศรษฐกจิ
ไทยเตบิ โตเฉลีย่ รอ้ ยละ 7.8 ต่อปี ในช่วงกวา่ 3 ทศวรรษ ในปี 2553 เศรษฐกิจไทยเร่ิมฟื้นตัวและเติบโตได้
ตงั้ แตพ่ .ศ. 2504-2539 โดยมชี ว่ งวกิ ฤตเศรษฐกจิ ครงั้ แรก ถึงร้อยละ 7.8 จากการส่งออกและการท่องเท่ียว และ
ในชว่ งพ.ศ. 2528 - 2529 อนั เกดิ จากนำ�้ มนั ราคาแพงและ ในปี 2554 เศรษฐกิจของประเทศไทยตกต่�ำลงอีกคร้ัง
ไทยต้องเข้ารับการช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่าง จากปัญหาอุทกภัยคร้ังใหญ่ที่เกิดขึ้นภายในประเทศและ
ประเทศ (IMF) เปน็ ครงั้ แรก ต่อมาเศรษฐกิจเติบโตเร็วขนึ้ ปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปัญหาความ
ถงึ รอ้ ยละ 8.3 ตอ่ ปี โดยเฉพาะในชว่ งพ.ศ. 2534 - 2538 ไม่สงบในตะวันออกกลางและปัญหาหน้ีสาธารณะใน
จนกระท้ังประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีรายได้ปาน กลุ่มประเทศยูโรโซน ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจขยาย
กลาง ใน พ.ศ. 2539 - 2540 ไดเ้ กิดภาวะวกิ ฤตเศรษฐกจิ ตัวเพียงร้อยละ 0.1 หลังจากน้ันเศรษฐกิจเริ่มขยาย
ขึ้นคร้ังท่ี 2 ท�ำให้เศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง และ ตัวดีขึ้นเป็นร้อยละ 6.4 ในปี 2555 เนื่องจากมาตรการ
ประเทศไทยตอ้ งขอรับความช่วยเหลอื IMF โดยใหว้ งเงิน ของรัฐบาลในหลายๆ ด้าน อาทิ การจ�ำน�ำสินค้าเกษตร
กูแ้ ก่ประเทศไทย 17,200 พันล้านดอลลาร์สหรฐั พรอ้ ม การปรับค่าจ้างขั้นต�่ำ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและ
กับเง่ือนไขในการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม การทอ่ งเทยี่ ว ในปี 2556 อตั ราการขยายตวั ทางเศรษฐกจิ
มากมาย ลดลงอีกครั้งเหลือเพียงร้อยละ2.9 เน่ืองจากผลกระทบ
จากเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืด
นับต้ังแตว่ ิกฤตเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา เยื้อ จนอตั ราลดลงเหลอื รอ้ ยละ 0.7 ในปี 2557 และใน
พบว่าเศรษฐกิจไทยติดลบร้อยละ 1.7 ใน พ.ศ. 2540 ปี 2558 เรมิ่ มีแนวโน้มดีขึ้นจากปัจจยั ตา่ งๆ ได้แก่ ราคา
และติดลบเพิ่มข้ึนร้อยละ 10.8 ใน พ.ศ. 2541 แต่ใน น้�ำมันที่ลดลง การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนและ
พ.ศ. 2542 - 2543 เศรษฐกิจไทยเร่ิมฟื้นตัวท�ำให้อัตรา การท่องเท่ียว และการเร่งรัดค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินงาน
การขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มข้ึนมากกว่าร้อยละ 4.0 โครงการลงทุนท่สี �ำคญั ของภาครัฐ สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ ไทย
และเร่ิมชะลอตัวลงใน พ.ศ. 2544 แต่กลับเริ่มขยายตัว
สูงกว่ากวา่ ร้อยละ 5.0 ใน พ.ศ. 2545 จนสามารถชำ� ระ

20 การสาธารณสขุ ไทย 2559-2560


Click to View FlipBook Version