(? sf
(3 26,
3S 3
mfoia'ttn 3
acnaxmm*
SJ
sonmt/ md 5
sf
2
0D
Sf
eJ) H.
m?u!iaa'lricj
jrieAff
mdcnitanuafl
emsgamsm
-2491 2500
ffomn uaamy >aim1
nmiliialnon 11fl11 jsmvji acmfuimjt) inm11
^2491 - S3O0
nnilQiS 2175 in uimimiiJrjiWiJgiPifQ iiluu %£1 T1fl llltfta
= ^ ^ ^nuo^m^vtHHuyiTloni ripJuufis ni) mipmuf
iwuiniiniulflmTHnmffmT “infilid " UBJ
^fiitUB'iiwg fnifninifvrsijiJ-js'MTS :ifJ nutnau 2 > 4(J
tamamcu'mjivmufnnuD<niaaimiJMetli. -fiijiirtjfinu
^wiuntnjiJBijaB'uiJTTifnii HuijfeiriuutmJ mn -ii imoibLim ipfmtffmiffTffflS na^iiqifnfftnpSiiirc;
^aufiaonuiouiaalu^ uuuaiJuiirtUomiiinsirii fl'imjirnrn 3 uw lift ^UT rj3 unflirlUfuuin
4YWL awniminiHUA nhulw ydluronilHidu £iini n iirTi in nsifijiRqivy m(feSKiD wfliwuoin 3 *in
nqufiiin lunisulBalingnymi^w 2490 BITU *!UJ -|T fnpnf winlliflinoti^MFnifni unslnTtmiiB
^nsqiJ iJia “ijiiryiwfl* 1ujTuafiUfl:iiKrL!(t 4}h fl cfaniFH ifolfi
rfiiTrmiJ wvh tfirnny ^ltimRi cy’iltitinnttsflfTimtf uimnoiffn
rtf11Hfl Vi lU04 FI lull11if!ill] Lrt1JU IrfU0 I.SuUTUlTHltjl11 rmrtiifai aliiin"inom>¥iirniiiiiiyiy IIQPI in
^ ^il nngm5riini4miiij04UrtE 3fluorminootii4lu frtucfjffifmf iMnOiiunl1iu
.llliTOj [ insvprsahy tif Wr rnri'dn-'VlaijrMHi, I .-SA ;
If J 4lVu w1BUUlliU THlll'Ml'S1Unli)11fl J t LlfTH11f|it)
nu "flfnwui" fifhhiWoaijfljdnudnuunsmart . -iir*dualjKl :Whi>nJ »1 Asian ami African Si uril' fi,
aoiJih{mtriii?idiurnai iimiJuenummit)inTsme4
. -I :mvi'rsrly nf Kyulo ; i rnrcr i! Sni4(hrB¥l Asian
^nasLLsrMBnluuQi^mjfl a m'rmm'wiiniEU '‘FfhHtJi "
lijfnu'mnii'UVad ^ijiiJ fHtiuHimiiu Whiqnfcrii biuttortfi. Untvmkft or kywln. fitpan
^ ^i0vimopia MB4pJia imaualil rmmiuTiwnu ajMnifuliilufifl inn f mutiiHflUflUirtiusT gi
4ffnRUi iiiiintinrlVhifiuiiB4 d1tmtiimsmjlu T.^mmiiiswnwnnillgflniWgiSi ?47 r» rijmifltiENiii
4iuii30inii)Jiia4W ] fui lffiirtmiirini uiniolinlu mHUHuisjihrTsy flu wfl#UWJUIFLUFTUTTMBIIN
^ ^ ^11fl 11 7UiTIBnUJ Th T3J-?ll H mJflfmiNlllrliliiaiJmi iJ ft J urn ?iipjrGiU ) •iiiiu srnun Tn/jjjrJoiJi/jj JmnrPlJ
nnrtrini “nnfiui" lumflLfiiCHimrnj .rw fr i.vi nlCti JIW, *zri5ii'i, ni/jpu7?i i
j1 h (iimiu. za&c*lu
BIW 'Ju^^snn
fts<jii\nnljji1iikiifjwBmu £4*
flfHfrrtiiFMprff . dWwfJTiTJR?3irwnwflfli.- j nijj' j
^ -fxivmj jmwarfnNmvU
ffer ri i?ii«U7
iirriTf nurafl? 24 9Jf 2S0U aminn ,1 iki:
nmiminiiiinInB irttf iiiiiyqpLBfi 'IMI 4I itau
^ ^ . ^rtjl'vju
il, tfijfiffitmu niri£i3L{Mfl'*iBi
-In n ZJil Sr iiiir
euTHLiiuiln : lhrm ff1n\juvf
- --saw «9?i 6 iB 7fl 7 eft T SL
4»
s.BB I 6 7 «17 B ft 1 yr
SuYilmjilflEramjuivfttfiyynHi 2.5 flaeiaifomj waeihi fi.ff. iS48 amjeiijlfn
-iSflflKStiVirifofflU (Bald Eagle, White Head Eagle, American Eagle) llluEityaniJCU'UQJ
^itasmfftu fl.ffL 1782 Ldoflfn TOMiaSUUnTErMIJ (Great Seal of the United States) Llhlflfr
i«rn uwunia uasaLaflerJuiij Snnslumiiju
wininiiwaiiuiiUBjittiflisliifliduiviimi uan^inil?inQiJuimEfiynuiilfuiif)4tm!]*i tiai
uasmimbtmuiiimiwa'tfiittM auHmmrm
^ ^nifsiflu anymeu0'iuvn0iuiti0tJi4£ 0Lu1mfii|u fTu lfln
^mi n tfhehn uaymyniimis
^m LWQo'lvmmejT.Rg’st'UJjTjTamjaosmgQLajfm 2491-2500
cusiAia 1
H
UMOMEffD
mjVlul 2563
%
mmo florin uasmuiSun? 2491-2500
4U
dJjma Iwi
V munfiuvfflitlitnfTu, 2563
w^ uw^ fmn l lioaau iitnu 3,ooo mu nm 500 UTKI
iJmnta qiinu 500 mu 1101 600 uin
mniuiflijiumnails^bwildfo (iJnttoij) -978 616*7667-88-1
-ia iw?siumnay?srimjifto (ilmm ) 978 616-7667-89-8
$0 waiii>iiJ??flii <unisj?jaj0i<wn?i0034fliiii 4ifiH
'll 4 4
mm Isifij.
mftn tfnAui uasv<qp3i4m ; m?tua<ilvitimEjl0?cmt)ulamifi^tmyj0iu1fn
2491-2500 (lJneaiO.-imniji : fliiflEnmi, 2563.
416 vmh.~ (sroiumniJ).
i . linti--ni?iufNuasm?iJnfl?94. 2.1n0-iJ?^TiSfnanl
320.9593
UTjanSmiimnj ^invici fbaqa
minnBfm otyim uufhim
^na uiiontfm ^'Guivm tntrqci ut|ua nssiwenniml iiwn oini'RH'uai 'u
fiffimamfi rfonu 5ruerna
unuTumu ^ ^ivn mimtftfiloiiVm uqua m nennieiu efanw ?7imqa
+
aanuimiln
sinwa enana
nJmu
uqua nisi^miiiWu
ihsm fllnutm
%
mmau ?f*iuWfm ffaau kernel
u4
(hiJnfiu'HfliLfloinu
^si nmiifl'miUufn 28 ermaunmzflra mmmuo-i vneivmviiil liooo
flOlimtUlSmi Ivnmil 0-2965-6430
^iH'uio/uqjS-tttmn : 5?in?£T4 Wunjitus im 5nrmf» 0-2965-6414
tHUfl : [email protected] nu'Wfl ; www.sameskybooks.net
wumi : uliSVi mmim iiftVi
fairmhu : aiEmiififiVlino IvnffVm 0-2225-9536-9
สารบัญ
คำ'นำสำ ,นกพมิ ท์ (9)
คำนา่ เสนอ (14)
(29)
คำน่าผ้เู ขยี น
3
บทท่ี 1 กราวพากย์ : ตวั ตนและประวตั ศิ าสตรน์ ิพนธใทยในยุคสงครามเยน็ 23
บทที่ 2 จากสันติภาพสู่ความขดั นยง้ั : การฌิองไทยหลังสงครามโลกครง้ั ทีส่ อง
บทท่ี 3 รัฐประหาร 2490 : การล่มสลายของกลุ่มปรดิ ี 59
และการแตกรา้ วของพันธมติ รใหม่ 85
บททJ 4 ส่ภู าวะกงึ่ อาณานคิ มในยุคสงครามเยน็ ะ การหนั เข้าหาสหรัฐอเมรกิ า 127
กบั การปราบปรามศัตรทู างการเมือง 149
บทที 5 ถนน,ทุกสายมุ่งสูส่ หรฐั อเมริกา: การสร้างความแขง็ แกรง่ ใหก้ ลมุ่ ทหาร 169
และกลุ่มตำรวจไทย
209
บทที 6 ใกลย้ ามเมอ่ื แสงทองส่อง: สหรฐั ฯกบั แผนสงครามจติ วิทยา
237
ตอ่ ต้านคอมมิวนสิ ต์
265
บทท 7 ถอยหา่ งจากพญาอินทรี: นโยบายเปนี กลางและการเปิดประตู
ส่ปู ระชาธปิ ไตยในฐานะทางออกใหม่ของจอมพลป.พิบลู สงคราม
-บทที 8 ย“จามอเมมพ่ือลลปมพ. ปดั !หดว’ีน: ความพยายามหวนคนื ของมติ รเก่า
บทที 9 การกอ่ ตวั ของ “ไตรภาคี” : ภาวะกงึ่ อาณานคิ ม
และการลม่ สลายของประชาธิปไตยไทย
บทท 10 บทสรปุ
ประทฅผเู้ ขยี น 273
275
บรรณานกุ รม 339
นามานุกรม 365
ดรรชนี
(*)
คำนำสำนักพมิ พ์
ร'้ซิประหาร 2490 เป็นจุดเปสย่ึ นของการเมอื งไทยสมัยใหมท่ ี่หันเหออกจากการ
ปฏิวัติสยาม 24 มถิ นุ ายน 2475 โดยคณะราษฎร ดงั ความคดของปรดี พนมยงค์
มันสมองของคณะราษฎรทบี่ อกว่ายุคสมัยของคณะราษฎรนั้นสน่ิ สดุ เมี่อมกี ารรัฐประหาร
8 พฤศจคิ ายน 2490 ดงั นน้ั สิ่งทเี่ กิดขนหลังจากน้นั ไม่ใช่ความรบั ผด๊ ชอบของ
คณะราษฎรอีกต่อไป1
งานศึกษาการรัฐประหาร 2490 ช้ินบุกเบิกของสุชนิ ตนั ตกิ ุล มีข้อเสนอคลา้ ย
กบั ความคิดข1 องปรีดีศึอช'ี้ว่า “รัฐประหาร 2490 เปน็ จดุ หวั เลีย้ วหวั ต่อของการ
เปลี่ยนแปลงถ่ายทอดอำนาจทางการเมอื งจากคณะราษฎรมาสคู่ ณะรัฐประหาร ซงกA <=£
คอื กลุม่ ทหารบกนน่ั เอง”2
ตอ่ มา งานศกึ ษาชนิ้ สำคญั ของท'กษ์ เฉลมเดียรณ การเมืองระบบพ่อชนุ
อปุ ถมั ภ์แบบเผดจ็ การ* เป็ดประเดน็ ว่ารฐั ประหาร 2490 เป็นการเปดิ ยุคการเมอื ง
เ สมั ภาษณ์พเิ ศบ ฯพณฯ ปรค พนมยงค์ ในโอก!๙ครบรอบ 48 ปแี ห'งทารเปทธ่ี เนแปตงการ
ปกครอง7 24 มดื นายน 2523 ทเ่ี มืองอองโฅปี ชานทJงปารีff โดยสหภ?พเพอ่ื สทิ ธเิ สรภี าพขอ่ ง
ประชาชน (กรงู เทพฯ ะ เกษมการพมิ YJ , 2523)
สชุ ิน คันฅืกุล, รฐประหาร พ ศ. . 2490 (นครหลวง : สมาคมสังคมศาสตรแ์ ห่งประเทศไทย,
2515), 142.
การเมืองระบบฟอ yนชุปถมกแ์ บบเผดจ็ การ, แปล พรรณ ฉัตรพลรกั ษ์ และ
3 ทกษ์ เฉลิมเดยี รณ,
ม.ร.ว. ประกายทอง ส!ี สขุ (กรงู เทพฯ : มหาวทิ ยาลยธรรมศาสตร์, 2526).
-สามเลา้ ทแ่ี ม้จอมพลป.พิบูลสงครามจะเปน็ นายกรฐั มนตรสี มัยทีส่ อง (2491 2500)
-แตไ่ ม่มอี ำนาจมากเทา่ คร้ังเป็นนายกรฐั มนตรสี มยั แรก (2481 2487) เพราะตอ้ งรกั ษา
ดุลยภาพทางอำนาจระหวา่ งสองขนุ ศกึ คือคา่ ยสเื่ สาเทเวศนท์ น่ี ำโดยจอมพลสฤษด
ธนะรัชด์ กบั คา่ ยราชครูท่ีนำโดยจอมพลผนิ ชุณหะวัณ และพล.ต.อ. เผ่า ศรยี านนท์
การชว่ งชงอำนาจจบลงดว้ ยชัยชนะของสฤษดิ้ ธนะรัชด์ ในการรัฐประหาร 2500
อยา่ งไรก็ตาม บทความช้ินสนั้ ๆ โดยสมคกั ดิ้ เจียมธรี สกลุ ซึง่ ตีพมิ พ์คร้ังแรก
ในปิ 2539 โตแ้ ยง้ ว่าเราไมอ่ าจสรปุ ทศวรรษดงั กล่าวว่าเป็นเรึอ่ งการเมืองสามเสา้ เทา่ น้นั
คณะรฐั ประหารยังต้องขบั เค่ยี วกบั พลังการเมอื งทน่ี กั วชิ าการทั่วไปเรียกว่า
“อนุรกั ษน์ ิยม’' (Conservatives) หรอี “นิยมเจ้า” (Royalists) พลังดงั กลา่ วมี
รากฐานทก่ี ว้างขวางถกึ ซ้งึ ในสงั คมไทย แตแ่ สดงออกตอ่ สาธารณะในขณะนั้นทสี่ ำคัญ
โดยผ่านบทบาทของพรรคประชาธิป๋ตย์ซงึ่ คมุ รัฐสภาอย.ู่ ..
ความจริงการเมืองไทยปลายทศวรรษ 2490 ต้องถอึ ว่าเปน็ การเมอื งทม่ี ผี ูเ้ ล่น
สำคญั 5 กล่มุ คร่ึง คือ นอกจากจอมพลป. พล.ต.อ. เผ่า และจอมพลสฤษด๋ึแล้ว
ยงั มีสองกล่มุ สำคัญคือ พลงั อนุรักษน์ ยิ มทก่ี ล่าวดึงขา้ งตน้ และพลงั ฝา่ ยซา้ ยที่มี
พรรคคอมมวิ นสิ ตแ์ ห่งประเทศไทย (พคท.) เป็นแกน สว่ นท่เี รียกว่า “ครึ่งกลุม่ ,'
คอื ปรีคึ พนมยงค์ นัน่ เอง ท่เี ป็นเพียง “ครึง่ ” เพราะมีกำลังและบทบาทไมม่ ากเท่า
กลุม่ อ่ืน และดูเหมอื นจะเป็นฝ่ายถูกดงึ เขา้ ไปเลน่ ดว้ ยมากกว่าโดดเขา้ ไปเอง4
สมคกั ด1้ิโม'่ไต้ใ1ชคั ำว, ่า “สถาบนั กษตั ริย์” ตรงๆ อาจเพราะยงั มไิ ดม้ เี อกสาร
หลกั ฐานสนับสนนุ เพียงพอ แต่กไ็ ดส้ ือ่ เป็นนัยระหว่างบรรทดั ให้คนอ่านฟา้ ใจว่าส่งื ท่ี
อยเู่ บือ้ งหลังพลังอนรุ ักษนิยม ซงึ่ ถอื เป็นผู้เลน่ สำคัญของการเมอื งไทยในทศวรรษ
2490 น้ันหมายถงื “คักดีนา" น่ันเอง
นอกจากนน้ั ทักษ์ เฉลมิ เดยี รณ ช้ิให้เห็นวา่ เมื่อสฤษดี้ ธนะรัชฅ์ ไดร้ ับ
ขยั ชนะภายหลงั รฐั ประหาร 2500 สฤษดละทิง้ มรดกคณะราษฎรทั้งหมด แลว้ หันไป
โปรโมทบทบาทของสถาบันกษตั ริย์ดงั ที่เราคุ้นเคยในปจั จุบนั
อยา่ งไรก็ตาม ธงขยั วนิ จิ จะทลู กลับตงั้ คำถามกบั พล็อตหลกั ของทักษ์ เฉลมิ -
เดียรณ ว่าสถาบนั กษตั ริยท์ ่ีหมดบทบาทไปหลัง 2475 เพิ่งถูกพินท)ุหลงั รัฐประหาร
4 สมศกั ด้ึ เจียมธรี สกลุ , "ปรดื ื พนมยงค '’, จอมพลป., กรณีสวรรคต และรัฐประหาร 2500,” ใน
ประวัตศาสตรท์ ี่เทงItรา้ ง (กรงเทพฯ : 6 ตลุ ารำถึก, 2544), 31-32. (พิมพค์ รง้ั แรกใน กรุงเทพธุรกจิ
17 พฤษภาคม 2539)
( 10 )
2500 จรงิ หรือ โดยธงชัยนำเสนอความเหน็ แย้งนค้ี ร้งั แรกในปาฐกถา 14 ตลุ า ประจำ
ปี 2548 หัวข้อ “ข้ามใหพ้ น้ ประชาธปิ ไตยแบมหลัง 14 ตลุ า” ไว’วา่
รฐั ประหาร 2490 เป็นการปดี ฉากคณะราษฎร นกั ประวัติศาสตร์มกั จะให้ความ
สนใจกับบทบาทของผ้นู ำร์นใหม่ในกองทพั บกอย่างผิน ชุณหะวัณ และเผ่า ศรียานนท้
ข้อเท็จจรงิ ก็คอื รัฐประหารคร้งั นเ้ี กิดขนึ้ จากความรว่ มมอื ระหว่างทหารมกกับฝา่ ย
กษัตริยน์ ยิ มซึง่ มบี ทบาทมากมายเดมี ไปหมด
อาจจัดไดว้ ่าปี 2490-94 เป็นยุคฟินฟูของกษัตริย์นยิ ม หลักฐานชัดเจนประการ
หนงึ่ คือ รฐั ธรรมนูญ พ.ศ. 2492 ทโี่ ปรเข้าอย่างไม่เคยมีมาก่อน เปน็ รฐั ธรรมนญู ฉบับ
แรกที่ระบุว่าประเทศไทยเป็นประชาธปิ ไตยมีพระมหากษัดริย์เป็นประมขุ และเป็น
ฉบบั แรกทร่ี ะบุวา่ ผ้ใู ดจะฟ้องร้องพระมหากษตั ริย์ไม่ได้ และให้อำนาจพระมหากษ*รติ 'ร?>ย๙'
อีกหลายประการ เชน่ ในการเลอื กและแตง่ ต้ังสมาชิกๅฒิสภา ในการประกาศ
viภาวะนจกั ุกปเรฉะินวัตแศิ ลาะสใตนรก1์!าทรยอมนกัมุ เัตสิเนปอลย่ีวนา่ แกปาลรงนนโฟยบูสาถยาขบอันงกรัฐษบัตารลิย์เกเปิด็นขด้ึนน้ ในยุคสฤษด
แตแ่ ห้ท่ีจรงิ เรึ่มในชว่ งนเี้ อมั
ในปื 2552 ถพ่ ู้พล ใจจรงิ ทำวทิ ยานิพนธป์ ริญญาเอกเรอื่ ง “การเมืองไทยสมยั
รฐั บาลจอมพล ป. พบิ ลู สงคราม ภายใตร้ ะเบียบโลกของสหรัฐอเมรกิ า (พ.ศ. 2491-
2500)”b ซง่ึ ได้รับการพจิ ารณาวา่ อยใู่ นระดับดีมาก หนงั สือ ขุนสกั ศกั ดนิ า และ
J Jพณลจั !ุพารลนทใจรจ:ี รงิ กาทวร่อเมย1ือ”ใู่ นงไม”ทือยผก5,้อู า,่ายนใตขร้ ณะะเปนรยี ิ มณโฐัลพกขลอเmรงยี ลบหเรรียรั งูอพ"เมัฒรนกี าาให24้ส9ม1บ-รู2ณ5ร0ขริ 0นิ จโดากย
วิทยานิพนธเ์ ลม่ ดงั กลา่ ว
หากยอ้ นกลบั ไปอา่ นทศั นะของสมศกั ดท้ิ ่วี ่าทศวรรษ 2490 ของการเมอื งไทย
มผี เู้ ลน่ 5 กลมุ่ ครง่ึ ผูอ้ า่ นจะพบว่า ขุนดิก ศกั ดนิ า และพญาอนิ ทรี ช้ีใหเ้ ห็นวา่ ท่จี รงิ
แลว้ มี 6 กลุ่มครง่ึ แถมกลุ่มท่ี 6 คอื “พญาอนิ ทรี” ซงึ่ ก็คอื บทบาทของสหรฐั อเมรกิ า
อย5เ่ หธนงอืชกยั ารวนิน!จิอจงะถ(นูลน“ทขบา้ ุรมี:ใหฟพ้ า้ ้นเดปียรวะกชนั าธ, ปื 2ไ5ต5ย6แ) บ: บ2ห9ล-6งั 3.14 ตุลา," ใน ประชาโ/ปไฅพ่ปี ีกษดรซ์
6 ณฐ์ พล ไจจวิง, “การเนืองไทยสมัยรฐี บาลจอมพลป. พบิ ลุ สงคราม ภายไดร้ ะเบยบไลกของ
สหรีฐอเมรีกา (พ.ศ. 2491-2500) " (วทิ ยานิพนธ์รฐศาสฅรคุษฏบี ณั ฑติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย1
2552) .
(II )
หลงั สงครามโลกครั้งทส่ี องทีม่ ีอำนาจมาเคียงคูก่ บั สหกาพโซทยตนัน้ มอี ำนาจบทบาท
ระดบั พลกิ ผันความเปน็ ไปทางการเมอื งไทยในชว่ งดงกล่าวเลยทเี ดียว ย่ิงไปกว่าน้ัน
อแฐพลยังฉายไหเ้ หน็ รายละเอียดของผ'ู้เล่นแต่ละกล่มอยา่ งมสี ืสนั ละเอียดลออ พร้อม
—ทอา้่กี ง่ออนงิ หเอนก้าสนารีส้ หมลศกัักฐดาใ็ นชมค้ าำกกมวา้ายงๆว;ด่ายเ“ฉสพกั าดะนี บาท,’บแาดท่ดขว้อยงเสอถกสาบารันหกลษักตั ฐรายิ น์แไลดะยเคเฉรพอื าขะา่ ทยี่
ไดจ้ ากหอจดหมายเหตุในตา่ งประเทศทบี่ ันทกึ เรือ่ งราวซง่ึ เอกสารฝ่ายไทยไมไ่ ดบ้ ันทกึ
ไว้ ไม่ว่าจะดว้ ยเหตุผลวา่ เป็นเรือ่ งที่ "พดไมไ่ ด้" หรอื เหตผุ ลอนื่ ใดกต็ าม-ทำให้
ณัฐพลสามารถระบุชอ่ื และพฤตกิ รรมทางการเมอื งของฝ่ายเจ้าในทศวรรษ 2490 ได้
อย่างตรงไปตรงมา ซงึ่ ชัดเจนว่ามืไตอ้ ยู่ “เหนอื ” การเมืองดังวาทกรรมที่ถกู ทำให้เชอ่ื
สงหัวกันมาหลายทศวรรษแตอ่ ยา่ งใด
สำนกั พิมพฟ์ ้าเดียวกนั ภูมใิ จท่ไี ดร้ บั เกยี รตใิ หจ้ ดั พมิ พ์หนังสือเลม่ สำคญั น4T ซ4ง
เป็นอกี หนึ่งเล่มในโครงการหนังสือชดุ "สยามพากษ'์ 1 ทเ่ี ราคัดเสอื กงานทีม่ คี วามสำคญั
ต่อการทำความเขา้ ใจการเปล่ยี นแปลงของสงั คมการเมอื งไทยในอุคสมัยนน้ั ๆ และเป็น
งานทที่ า้ ทาย หกั ล้าง หรือเตมิ เต็มงานศกึ ษาก่อนหน้านนั้ ดว้ ยข้อมูลใหม่และ/หรอ
กรอบคดิ ทฤษฎที แี่ ตกต่างออกไป
ท่วี ่าปัญยญอ้ านคกวลามับรไนูปั้นทจจี่ ะุดงเรอม่ิ กดงน้ามไเรตา้จคาดิ กคกำาวรา่ คดิ"สเชยิงาวมิพพาากกษษ์ ์"ควขา้นึ มมรา้เกจ่ียากวกฐบัานสคยวาามม.ไเทชอื่ย
กเ็ ช่นกนั ต้องถกู วิพากษ์วจิ ารณ์ได้ ดงั ท่นี กั วชิ าการขา้ งตน้ ไมว่ า่ ชะเปน็ สชุ นิ ตนั ตกิ ุล
ทกั ษ์ เฉลมิ เดียรณ สมสกั ด้ิ เจียมธีรสกลุ ธงชัย วนิ จ้ จะกุล และฌฐั พล ไจจริง ได้
กระทำเป็นแบบอยา่ ง โดยเข้ารว่ มถกเถยี งเกยี่ วกบั การเมอื งไทยในทศวรรษ 2490 ดว้ ย
หลักฐานข้อมลู และกรอบคิดใหม่ๆ ควรเน้นยา้ํ ในทนี่ ีด้ ้วยวา่ การวพิ ากษ์ถกเถยี ง
แตกต่างอย่างลิบลับจากการบุง่ จบั ผดิ ท่มี ีวัตถปุ ระสงค์เพือ่ ทำลายหรอื เซ็นเซอรง์ านที่
มขี ้อเสนอต่างจากอดุ มการณค์ วามเชือ่ ของตน
สดุ ท้ายน้ี หากต้องการเข้าใจสงั คมการเมอื งไทยในอุคปัจจบุ นั งานชดุ
“สยามพากษ์" ซง่ึ หมายรวมถงึ ผลงานของฌฐั พล ใจจรงิ เล่มน้ี ท นงานท่ีคนไทย
“ตอ้ งไตอ้ ่าน” ไม่วา่ อา่ นแล้วจะเหน็ พอ้ งหรือเหน็ ต่างกต็ าม
{ 12 )
หมายเหตคุ น้ ฉบบั
เน้ือหาของหนังสือเล่มนื้ครอบคลมุ ระยะเวลาตลอดทศวรรษ 2490 มีตวั แสดง
จำนวนมาก โดยเฉพาะฝา่ ยทหารท่ีมยี ศตามลำดบั เวลา และยศดังกลา่ วส้มพ’นธ์กับ
อำนาจในชว่ งเวลาน้ันๆด้วย ดงั นั้น ยศท่ปี รากฏในหนังสอื เลม่ น้ืจะสัมพันธก์ ับช่วง
เวลานัน้ ๆดว้ ย ดงั เช่น สฤษด้ิ จนะรชั ต
2490 ยศพนั เอก
2491 ยศพลตรื
2493 ยศพลใท
2495 ยศพลเอก
2499 ยศจอมพล
เช่นเดยี วกับการเลอ่ื นกรม ดังเช่น สมเด็จพระเจา้ บรมวงสเ์ ธอ กรมพระยา
-ชัยนาทนเรนทร (พระองค์เจ้ารังสิตประยรู ศักด้ี)
2465 2493 กรมขุนขัยนาทนเรนทร
2493-2495 กรมพระชัยนาทนเรนทร
2495 กรมพระยาชยั นาทนเรนทร (สถาปนาหลงั ส้นิ พระชนม์ไนปี 2494)
{ 13 )
คำนำ เสนอ
หนังสือดี ประวัติศาสตรใ์ หม่ และการเซ็นเซอร์
ขนศึก ศักดนิ า และพญาอนิ ทรี: การเมอื งไทยภพไต้ระเปย็ บโลกของสหรัฐอเมริกา
2491-2500 เป็นการศกึ ษาประวตั ิศาสตร์การเมืองไทยท่ีดีเยยี่ มเล่มหนง
อา่ นเลม่ น้แี ลว้ รู้สึกสว่าง อม่ิ สมองอมิ่ ใจทำนองเดยี วกับท่ไี ด้อ่าน การปฏวิ ตั ิ
สยาม พ.ศ. 24751 โดยนครนทร์ เมฆไตรรตั น์ และ 2475 แตะ 1 ปหี ลังการปฏิวตั ิ2
โดยธำรงศกั ดิ้ เพชรเลิศอนนั ต์
หนงั สอื ดี
ความรู้สึกอมิ่ เกดิ จากการได้เสพหนังสึอลึ ๆทเี่ ปน็ ผลงานทางปญั ญาที่ยากจะ
ทำไต้ แต่สรา้ งสรรฅ์ขนมาได้ด้วยความสามารถพิเศษบางอยา่ งของคนที่ทำงานทมุ่ เท
อยา่ งอดทนเป็นเวลาหลายปี ผูเ้ ขยี นหนังสอื น้ตี อ้ งหำตัวเปน็ “หนูประจำหอเอกสาร”
(archive rat) เพอ่ื สอบสวนเอกสารชน้ั ตน้ จำนวนมากเหลือเกิน ต้องสรา้ งและปรับ
ระบบการประมวลข้อมูลทเี่ หมาะกบั ปริมาณและความซับซ้อนของขอ้ มลู และของเร่ือง
ที่จะเลา่ สุดท้ายต้องสามารถเลา่ เรือ่ งในแบบทีเ่ สมอื นพาผู้อา่ นย้อนเวลาไปติดตามการ
ขา่ วสารรายวันในอดีตด้วยตัวเองได้
1 นครนิ ทร์ ฌฃไตรรัตน์, การปฏวิ ัติสยามท.ศ. 2475 (ก!งเทพฯ : มลู นิธิไครงการตำรา
สงั คมศาสตร์และมบุษยศาสตร,์ 2535).
2 ธำรงศักต้ิ เพชรเลศิ อนนั ต,์ 2475 และ 1 ปี หลังการปฏิวตั ิ (ก!งเทพฯ : สถาบันเอเชียศึกษา
จพุ าลงกรฌ์มหาวิทยาสยั และมลู นิธิโครงการตำราสงั คมศาสตรแ์ ละมนษยศาสตร,์ 2543).
นักประวตั ิศาสตร์ฆหี ลายสไตลห์ ลายแบบในแงว่ ิธีการทเี่ ขาถนัด แมท้ กุ คนจะ
ให้ความสำคญั กับหลกั ฐานและความคดิ ท่ีจะตอ้ งนำมาประกอบการวเิ คราะห์ตีความ
นกั ประวตั ิศาสตร์ไทยมักใหค้ วามสำคัญกบั การทมุ่ เทคน้ คว้าหาหลกั ฐานจำนวนนาก
เข้ามาประกอบกนั งานในแบบนท้ี ่ดี จี ะต้องอาศยั การประมวลข้อมูลท่เี ป็นระบบระเบียบ
สูงและการวิเคราะห์ที่ชับซ้อน ทั้งตอ้ งสามารถเลา่ เรือ่ งราวในอดีตทมี่ ีหลายมิตช็ อ้ นกัน
ออกมาได้ราวกับหลกั ฐานเผยความจรงิ ออกมาเป็นเรือ่ งอย่างหมดจด (ทัง้ ๆทตี่ าม
ปกตหิ ลกั ฐานทุกชน้ิ อยูท่ ่ามกลางความสบั สนย่งู นุงนังไปหมด ไมเ่ คยเรียงรอ้ ยเล่าเรื่อง
ในตัวมนั เอง) ผอู้ า่ นรสู้ ึกเสมอื นทอ่ งกลับไปในอดีตและได้อ่านข่าวตดตามเร่อื งนั้นๆ
ด้วยตนเอง และจะยงิ่ นา่ ตนื่ เตน้ ขน้ึ ไปอกี หากเร่ืองเล่านนั้ ด่างจากความรู้ที่ผอู้ า่ นเคยมี
มากอ่ น อ่านแล้วจืงร้สู ึกเป็ดหูเปด็ ตาสวา่ งโลง่ โจง้ ทเ้ ดียว
นกั ประวตั ิศาสตร์ไทยโดยมากยงั ผลิตงานท่ใี ช้ไดแ้ ตไ่ มด่ ขี นาดที่กลา่ วมาดว้ ย
เหตุปจั จยั สารพดั เข่น การประมวลขอ้ มูลไมซ่ บั ซ้อนหลายมติ ิพอ โดยมากเน่ืองมา
จากเรียนร้แู นวคดิ ต่างๆท่ีขว่ ยการคิดวเิ คราะห'์ ใม่พอ ซึ่งเปน็ เหตุและเป็นผลกันกับ
ระบบการจดั การข้อมูล ขอ้ มูลจำนวนมากที่เขามอี ยู่จึงมักถกู ดีความอย่างง่ายๆและ
นำมาอธบิ ายประเด็นทไี่ ม่ซับชอ้ นนกั แถมโดยมากยงั ผลิตซํ้าความรใู้ นกรอบเดิมๆ
เพราะมกั ไม่รู้ดัววา่ ตนตกอยู่ในกรอบของแนวคิดวิเคราะห์เตมิ ๆ (ทีถ่ ูกสรา้ งมาจาก
อุดมการณเ์ ดมิ ๆ) อกี ทั้งทักษะในการเล่าเรื่องกม็ ากน้อยตา่ งกัน นกั ประวัตศิ าสตร์
จำนวนมากไมส่ ามารถทำได้ดนี กั
ผมอา่ นงานของฌัฐพล ใจจรงิ มาแลว้ แทบทุกช้ิน เหน็ ไดว้ ่าเขาพัฒนาขึน้ อย่าง
มากจากชิน้ แรก ๆ ซึง่ มกั เป็นการตอบคำถามทไ่ี ม่ซับซอ้ นนัก การวจิ ัยระดับปรญิ ญา
เอกท่ีเรยี กรอ้ งการทำงานทีย่ ากกว่าปกติ เปน็ ระบบกว่า ซับช้อนกวา่ คดิ ไตร่ตรอง
อย่างระมดั ระวังมากกว่า น่าจะเป็นเง่อื นไขผลักดนั ใหเ้ ขาต้องยกระดับการทำงาน£ขีน
ไปอกี ซึ่งไมใ่ ชว่ ่านกั สึกษาทกุ คนจะสามารถตอบการท้าทายเช่นนัน้ ได้เสมอไป
ขยา!!พรมแดนความรู้ (1)
ความรูส้ ึกสวา่ งเกิดจากการท่ีผมไดค้ วามรูใ้ หม่ๆ บางอย่างถงึ ขนาดเปล่ียน
ความเข้าใจที่ผมเคยมมี ากอ่ นหนา้ เก่ียวกบั การเมืองไทยชว่ งหลงั สงครามโลกครง้ั ท่ีสอง
ถงึ 2500
ขอเริม่ จากประเดน็ สำคัญที่หนังสอึ นเั้ สนอชัดตลอดทั้งเล่ม ในขณะที่การสกึ ษา
การเมอื งไทยหลัง 2475 กอ่ นหนา้ นี้กลา่ วถงึ บ้าง แตไ่ มเ่ คยเดน่ ซดั นน้ั คอื อทิ ธิพลและ
( 15 )
ใบหท้ทบา้ ายทข1หอง้เงมินหาใอหำอ้นาา'รจธุอยแา่ กงสค่ ห่ขู ดัรัฐแอยเ้งมใรนิกกาาตรอ่ เมกอืารงเไมทือยงไบทายงคทรั้งัง้บทงำกอายร่างชแักอใยบแผฝลงักดแันต่
บ่อยครงั ทำอยา่ งออกหน้าออกตา ประเดน็ นม้ี ืผ้กู ล่าวถงึ มากอ่ น แตน่ ้อยคนนกั ทไ่ี ด้
ยนื ยันด้วยขอ้ มลู อย่างจะแจ้งมากมายลังทป่ี รากฎในเลม่ น ภาวะเช่นนีเ้ องทำให้ณ์ฐพล
เรียกประเทศไทยหลงั สงครามโลกถึง 2500 วา่ เป็น “กึ่งอาณานคิ ม” ซงเป็นข้อเสนอ
ของพวกมารก์ ชิสตใทยมาก่อนก็จริง แต่ทวา่ มักเป็นโวหารหรือการวเิ คราะหต์ ามทฤบฏี
จนแทบเป็นสูตรสำเรจ็ มากกวา่ เป็นการสอบสวนจากหลักฐานข้อมูล3
บทบาทและอทิ ธิพลของสหรัฐอเมริกาในชว่ งดงั กล่าวเป็นผลจากสงคทมโลก
ครังทสื องตอ่ เนืองกับยคุ ตน้ ของสงครามเย็น มหาอำนาจทั้งหลายต้องพยายามวาง
รากฐานและเครือขา่ ยของฝา่ ยตนในการตอ่ สรู้ ะดับโลก ผูอ้ ่านอยา่ งเราท่านคงอดคด
ไม่ได้ว่าแล้วประวตั ศิ าสตร์การเมืองในชว่ งอื่นๆละ่ ? มหาอำนาจอังกฤษในยคุ ก่อน
สงครามโลกคร้งั ที่สองและมหาอำนาจอย่างจนี ในปัจจุบนั กระทา่ การหรอื มพื ฤติกรรบ
ทำนองเดียวกันหรือดา่ งกนั อย่างไรต่อการเมืองภายไนของไทย มหาอำนาจอังกฤษมี
บทบาทเปน็ ทีปรืภษาผู้ลูแลรฐั บาลสยามอยา่ งออกหนา้ มาดลอดปลายศตวรรหที่ 19
บางครง้ั เป็นตวั แปรสำคัญในการเมืองสยาม เช่น ในวกิ ฤตการณว์ ังหน้าเมื่อปี 2417
การหนุนหลังขององั กฤษตลอดชว่ งการเผชญิ หนา้ กับฝร่ังเศสก่อนวิกฤตการณ์ ร.ศ.
112 เป็นปจั จัยทชี่ วนให้สยามแข็งกรา้ วกบั ฝรง่ั เศส แตแ่ ล้วกลับบอกปดั ไม่ให้ความ
ชว่ ยเหลอื ยามคบั ขนั จงึ ทำใหว้ ิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 จบลงอย่างเจบ็ ปวดสำหรับเจ้า
กรงุ เทพฯ เราพอร้อู ีกเช่นกนั ว่าอังกฤษยังมีอทิ ธิพลกบั การเมืองภายในของไทยมา
ตลอดกอ่ นสงคราม๒กครั้งท่ีสอง แตไ่ มม่ ีผูศ้ กึ ษาในประเด็นนหี้ รอื ขุดค้นเอกสารอย่าง
หนักดงั ทีณ่ ฐั พลศกึ ษาอิทธิพลของสหรฐั อเมรกิ าช่วงตน้ สงครามเยน็ ในหนงั สอื เลม่ น้ี
น่าดีดต่อไปอกี วา่ อิทธพิ ลและพฤตกิ รรมรวมถึงวธิ กี ารของมหาอำนาจยังคล้ายๆ
เติม หรือเปลีย่ นแปลงไปมากนอ้ ยอยา่ งไรในหลายทศวรรษต่อมา การทตู เพีอการเมอื ง
ในประเทศต่างๆในชว่ งสงครามเยน็ กับหลังจากนน้ั เปลี่ยนไปอย่างไร เพราะการเมอื ง
ระดับโลกและการเมืองในประเทศท้งั ของไทยและของประเทศมหาอำนาจเหล่านั้น
หเปรลอื ่ียตนง้ั ไเปปน็ เชเขน่ ตเใศนรยษคุ ฐปกจัจิ จพุบเิ ศนั ษอมาจาจกะกอวาา่ ศกัยากราชรกั ลใงยทกุนารเสมัญอื งญซา่งึกมารกั คไา้ด!้ มแลค่ ะม้ กเสารยี เชา่ ทา่ เรือ
' อรญั ญ์ พรหมชมภู, โท0ก่ึงเรองกน่ึ (พระนคร: อดุ มธรรม, 2493).
( 16 )
ขยายพรมแดนคาามรู้ (2)
ความรู้สกึ สวา่ งอย่างมากมาจากความร้ใู หมเ่ กี่ยวกับบทบาทและปฏบิ ตั ิการ
ทางการเมอื งของราชสำนักและฝา่ ยเจา้ ในช่วงสืบกว่าปีนับจากหลงั สงครามจนถงึ 2500
ซ่ึงอา่ นจบแล้วผมตอ้ งขอสารภาพว่า “ไม่นกึ วา่ จะทำถึงขนาดน้ี” !
เราลองมาทบทวนกนั กอ่ นวา่ ประวตั ศิ าสตร์นพิ นธแ์ ละความรวู้ ่าดว้ ยการเมือง
ไทยหลังสงครามโลกครัง้ ท่สี องถึง 2500 ท่ที ำกันใน 50 ปีทผี่ ่านมา (คอื นับจาก
ทศวรรษ 2510) เป็นอยา่ งไร จงึ จะเช้าใจวา่ ความรใู้ หม่ในหนงั สอื เล่มน้ีคอื อะไร
ความรู้แพพีห่ นี่ง ซ่ึงเร่ิมต้นแพร่หลายในทศวรรษ 2510 ภายใต้บรรยากาศ
การตอ่ ต้านเผด็จการทหารที่แพรห่ ลายในหมปู่ ญ้ ญาชนเสรีนิยมซ่ึงนับวา่ เปน็ พวก
หัวกา้ วหนา้ ในด้นทศวรรษ 2510 ควานเขา้ ใจอดตี ในแบบนี้ถอื ว่า 2475 เปน็ การยดึ
อำนาจทำรัฐประหารคร้ังแรกของพวกทหาร สอดคลอ้ งกบั ประกาศสละราชสมบตั ิของ
พระเขา้ อย่หู วั รัชกาลท่ี 7 ทถ่ี อื วา่ 2475 เป็นเพยี งการเปลยนคณะบุคคลทค่ี รองอำนาจ
ขแนค่นภน้ัายเอไงตร้ ทัฐศั บนาะลนฟ้จี าึงสมซักสถือตว์ขา่ อรงะจบออมบพทลหปาร.ขพอบิ งไูลทสยงเครร่ิมาตม้นกเมอ่ ื่อนส2ง4ค7ร5าจมาใกลนกน้ั คแรขง้ั ง็ทแส่ี กอรง่ง
ตามมาด้วยการรฐั ประหารโดยกองทพั อกี หลายคร้งั
ในกรอบและใครงเรื่องประวัตศิ าสตรแ์ บบน้ี การตอ่ สกู้ บั คณะราษฎรเทา่ กบั การ
จึงเทา่ กับเปน็ ฝ่ายประชาธปิ ไตย เช่น กบฎบวรเดชและความพยายาม
ตอ่ สู้กับทหาร
74 แต่ทวา่ การรฐั ประหาร 2490 กลับไมม่ คี วามสำคัญเป็นพเิ ศษแต่
ของรัชกาลที่
อยา่ งใด เพราะเป็นเพยี งการรัฐประหารโค่นรัฐบาลพลเรือนคร้งั หนง่ึ ในหลายคร้งั ท้ัง
กอ่ นหน้าและหลงั จากนน้ั ควานเขา้ ใจอดตี ในแบบนี้ยังเปน็ บริบทสำหรับตคี วาม
ปรากฏการณ์หลายกรณที เี่ กิดขนในช่วงน้ี เช่น หลายคนถือว่ารฐั ธรรมนูญ 2492 เปน็
ฉบบั ที่ก้าวหนา้ ท่สี ดุ ในประวัติศาสตร์ไทยเพราะพวกเจา้ พยายามจำกดั อำนาจทหาร
(การดีความแบบนีม้ องข้ามความจรงิ ท่วี า่ เป็นรฐั ธรรมนูญแรกที่สถาปนาแนวก็ดเรอ่ื ง
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข และเป็นครง้ั แรกทบี่ ัญญัติ
ในรฐั ธรรมนญู วา่ พระมหากษัตริย์อย่ใู นสถานะท่ีจะละเมิดมไิ ด้5) ในประวัตศิ าสตร์นพิ นธ์
แบบทหี่ นึง่ นี้ การเมอื งชว่ ง 2490 ถงึ 2500 จึงเป็นความขัดแยง้ แยง่ อำนาจกันระหว่าง
; ชยั อมนต์ สมทุ วณชิ , 14 สตุ า คต!รราแฏรท์ บั กบฎบวร!ดช (กรุงเทพฯ ะ ชมุ นุมวิชาการอักษร
๓สตร์ จพุ าฯ, 2517).
1องค5 ก์ ลรมจชดั าทยำรปฐั รธีชรารศมิลนปญู กขุลอ. งมไท่ีคย&ื ปm(นแธตา่นพท.หี่ศา. 2ญ4พ75ู่ :-2ข5ร้ 5ถ0ท(แนๆนยทงวบา่ ุรดี :ว้ ‘ยสสาเถดาียนวน. กพนั ร,ะฆ25ห6า1ท)น. ัฅรยิ ่ น
{ 17 )
สฝกืฤษฝ่าดย'้ิ’ใโนดกยอมงสี ทหพั รัฐจอนเมกรลิกาายหเปน็นุนกหาลรังฒทอื กุ งฝสา่ ายมทเ่ีสสาา้ มราะรหถวต่าอ่ งตจา้อนมคพอลมปม.ิวนผสิินต+ไ์เผดา่ด้ ีทแสี่ ลดุะ
แทบไมม่ ใี ครกลา่ วถึงบทบาททางการเมือง‘พองฝา่ ยเจ้าและพระมหากษตั ริยไ์ นการเมือง
ชว่ งน้ันเลย
ความเขา้ ใจประวตั ิศาสตร์นบบนีแ้ พร่หลายในหม่ปญั ญาชนฝ่ายซา้ ยหลงั 2516
ด“ศว้ ักยดเชินน่ าก”นั อใยน่างขแณรงะนก้นั เ็ พพรวากะเศขักาถดือนิ วา่าหศนตั นุ รูตขนุวั หศลกึ กัแลคะอื ทระั้งบหอมบดเทปหน็ าบรรกิวาารรขวอพิ งาชกกัษรว์ วิจรารรดณิ-์
นยมอเมรกิ า ฝา่ ยซ้ายยังไม่เชา้ ใจหรือไม่ไดใ้ ห้นา้ํ หนกั ตอ่ บทบาททางการเมืองโดยตรง
ของพวกเจ้าและแทบไมเ่ อย่ ถึงบทบาทของกลุม่ นีใ้ นช่วง 2490 ถงึ 2500 เลยเชน่ กนั
ไม่น่าแปลกใจเลยทคี่ วามเช้าใจประวตั ศิ าสตรแ์ บบนี้ยงั คงอยใู่ นปจั จุบนั แมวIา
จะเริ่มมาตง้ั แต่ 50 ปกิ อ่ นกต็ าม
ประวตั ศิ าสตรน์ ิพนธแ์ ละ คทมรแ้ พทึ่สอง เรมิ่ ปรากฏตัวในชว่ งลดั มา คือ
นบั จากประมาณครง่ึ หลังของทศวรรษ 2520 เปน็ ดน้ มา ความด่างจากแบบแรกท่ี
สำกญั มากคือความรู้เก่ียวกบั 2475 ทีเ่ ปลี่ยนไปอยา่ งมหนั ต์ สํงผลเปลย่ี นความเข้าใจ
ต่อรัฐประหาร 2490 แต่ทวา่ ความรกู้ ารเมอื งหลังสงครามโลกคร้งั ท่สี องถงึ 2500 ยงั
คงเนน้ วา่ เปน็ การเมอื งสามเส้าระหวา่ งจอมพลป. ผนิ +เผา่ และสฤษด้ิ
ปจั จยั สองประการหรือสาแหรกสองสายท่กี ่อไห้เกีดความเปล่ียนแปลงของ
ความรู้ประวตั ศิ าสตร์คือ หนง่ึ การศึกษาตคี วามการปฏิวัติ 2475 แบบใหมโ่ ดยนัก
ประวัดศิ าสตรห์ ลายคนเชน่ เสกสรรค์ ประเสรฐิ กุล7 ชาญวทิ ย์ เกษตรศึร"ิ ธำรงศักด้ี
' ดน้ แบบในการอจบายคอื งานของทกั บ'ิ เฉลมิ เดียรณ จากวิทยานพิ นธป์ รญญาเอก Thak Cha-
loemtiarana, “The Sarit Regime, 1957-1963: The Formative Years of Modern Thai”
(Ph.D.thesis, Cornell University, 1974). ตอ่ มาลีพิมพ์เป็นหนงั สอื Thak Chaloemtiarana,
Thailand : The Politics of Despotic Paternalism (Bangkok : Social Science Associ-
ation of Thailand, 1979) แล“แปลเปน็ ภาษาไทย หกั ษ์ เฉลมเลียรณ, ทารฌืองระบบพอ่ ขุน
ฤปถม้ ภน์ บบพพ็พ 1ร, แปลโดย พรรณ ฉตั รพลรักษ์ และ ม,ร.ว. ประกายทอง สืรธ[ุข (กรงุ เทพฯ :
มหาวิทยาลยธรรมศาสตร์1 2526).
2471 5เ,ส”กวสารรรสคา์รปธรรระมเสศร' า5สกฅลf,
“ความจำเปน็ ทางประวดศี าสตร์ของการเคล่อื นไหว 24 มิธนุ ายน
ปืที่ 11, ฉบบั ที่ 2 (มธุนายน 2525): 62-68.
K ชาญวิทย์ เกษตรศึรํ, 2475 การบQ่ imองสยาม (กรงุ เทพฯ : ประพันธ์สาสน์ , 2535).
{ 18 )
’เพชรเลิศอนันต์" และสำคญั ทีส่ ุดคือนครินทร์ เมฆไตรรัตน์11 ผูส้ ร้างความรใู้ หม่
เก่ยี วคับการปฏิวตั ิ 2475 ชนดิ ก้าวกระใดดจากเตม็ เขาชัให้เหน็ ว่า 2475 ไม่ใช่การ
รฐั ประหาร ไม่ใช่การปฏิวัตปิ ระชาธิปไตยท่ชี ิงสกุ กอ่ นหา่ ม มิไดเ้ กิดจากอดุ มการณ์
ทางการเมืองจากภายนอกทแี่ ปลกปลอมกับสงั คมไทย แต่ทว่ามีความคิดท่ีจะ
เปลีย่ นแปลงการปกครองและความไมพ่ อใจระบอบกษัตรยิ ด์ ำรงอย่แู ลว้ ในสงั คมไทย
ช่วงน้นั ดังนั้น การปฏวิ ัติ 2475 จงึ ไม่ใช่เป็นเพยี งการลงมอื ของนักเรียนนอกกลมุ่
นิดเดียว แตเ่ ป็นการปฏวิ ตั ทิ ีม่ กี ารสนบั สนนุ ของมวลชนมากพอสมควร 2475 จงึ ไมใ่ ช่
การเริม่ ตน้ ของระบอบทหารในประเทศไทย
อีกปัจจยั หน่ึงทเ่ี กดิ ข้ึนในชว่ งเดียวกันและเก่ียวพันกบั ปจั จัยทห่ี น่ึงด้วยคอื การ
ส้นฟูเกียรตคิ ุณและภาพลกั ษณ์ของปรดี ี พนมยงฅ์ โดยการผลักดนั ของชาญวทิ ย์
เอกยษ่างตยริ่งศใึรนิ หแนลังะสชอําวขธอรงรมมรกศตาสตเจรวห์ จลนิ าดยาส1ํว, น ในเร่ืองนี้มีผู้กลา่ วถงื ไว้แล้ว โดยเฉพาะ
ปจั จัยสองประการน้ีประกอบกนั ทำใหเ้ ร่อื งเลา่ เก่ียวกบั 2475 เปลี่ยนไปอยา่ ง
มาก ท้งั ทำใหเ้ ข้าใจว่า 15 ปแี รกหลัง 2475 น้นั มิ1ชแ่ ค่เปน็ การต่อสูก้ ันระหว่างปีก
พลเรือนกับปกี ทหารของคณะราษฎรดงั ที่รูก้ ันอยตู่ ามความรแู้ บบที่หนึ่ง แตท่ ี่สำคัญ
นกวยิ ่ามคเจือา้ ทเปี่พน็ยากยาารมตส่อ้นสูก้อันำนราะจหกวษ่างตั ครณยิ ์อะีกราฝษ่ายฎหรแนลง่ึ ะผชู้สยั ชนนบั ะสขนอูนงทฝา่ั้งยหใ!ล!าดยหีฝา่ลยงั หสนงค่งึ รกาบั มพโลวกก
คเงที่สองและความพยายามสถาปนาระบอบประชาธิปไตยของคณะราษฎรนับจาก
2475 จบลงดว้ ยการรฐั ประหาร 2490
ในกรอบและเคา้ โครงประวตั ิศาสตร์แบบน้ี การรฐั ประหารใดยกองทพั ทเี่ ปน็ จดุ
เรมิ ตน้ ของระบอบทหารที่ต่อตา้ นประชาธปิ ไตยอยา่ งต่อเนอ่ื งต่อมาน้นั มไิ ช่ 2475 แต่
เป็น 2490 เพราะ 2475 มิใช่การรฐั ประหารตอ่ ตา้ นประชาธปิ ไตย แต่เป็นการปฏิวัติ
เพี่อเรม่ิ ประชาธปิ ไตย แตท่ วา่ ยงั ต้องลม้ ลุกคลุกคลานเผชญิ กับฝา่ ยตอ่ ตา้ นปฏวิ ตั ิ
" ธำรงศักด เพชรเลศิ อนันต,์ 2475 และ 1 ปี ฬลงั การปฏวิ ัติ.
111 นครนิ ทร์ เมฆไตรรัตน1์ การปฏวิ ตั ศิ (ทม พ.ศ. 2475. งานของนครินทรเ์ ปน็ ผลต่อเนื่องจาก
วิทยานิพนธ์ของเขา “ไ)ระวตั ศิ าสตร์ภมู ิปัญญาของการเปลยี่ นระบอบการปกครองสยาม ระหว่าง
พ.ศ, 2470-2480" วิทยานิพนธ์อกั ษรศาสตรมทาบัณฑติ จหุ าสงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, 2528.
เ1 มรกต เจวขินดา, กาพลกั yfuปริติ พนพพ์ กนั การเบิอาไทย พ.ศ. 2475-2526 (กจุงเทพฯ :
ใครงการเฉลมิ ฉลองบุกคลสำคญั ของไทยท่มี ีผลงานดเี ด่นทางวัฒนธรรมระดบั ไลก สำนกั งานคณะ
กรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาต, 2543).
( 19 )
ต่อมาอกี นใน นอกจากน้ี เหตกุ ารณ์หลายอยา่ งหลัง 247 !) เปลีย่ นความหมายไปจาก
รคาวษามฎรรแู้กบบั บพทวกีห่ นนิยีง้ มเเพจ้ารหาะลคงั ว2ร4จ7ะ5ต้อซงึ่งเเขป้าน็ ใบจบริบริบทททข1!ี่ .มอ่มงอีคยวใู่านมแขบดั แบยทง้ ห่ี รนะห่ึง วไ่าดง้แฝก่าย่ คกณบฏะ
บวรเดชเป็นความพยายามตอ่ ตา้ นการปฏวิ ตั ิ ต่อต้านประชาธิปไตย มิใชค่ วาม
พยายามสถาปนาประชาธปิ ไตยท่ีเทยี บเคียงได้กบั 14 ตุลา 2516 อย่างท่ีมนี ทั วิชาการ
พบหางลคฯนเมสิในชอก่ า: ร' รเหฐั ปตรุกะาหรณาร์ทเพีเ่ รื่อียโกคกน่ ันรัฐวบา่ ราัฐลปพรละเรหือานรโเมดือ่ยกเดออื งนทมพั ิสแุนตาเ่ ป2็น4ก7า6รป'เกตใย]พอรงกะยารา
ปฏวิ ตั ิโดยกลุ่มทหารของคณะราษฎร เพ่ือตอบโต้การท่รี ฐั บาลพลเรอื นหันไปเขา้ ขา้ ง
ฝา่ ยเจา้ ทำการล้มล้างรฐั ธรรมนญู 2475 ไปเมอื่ เดือนเมษายนปีเดียวกัน13 พระราช
หตั ถเลขาสละราชสมบตั ขิ องรัชกาลที่ 7 ซงึ่ ถือกนั วา่ เป็น “วรรคทอง” ของฝ่าย
ประชาธิปไตยรวมทงั้ กระบวนการ 14 ตุลาดว้ ย กลบั เปน็ ความเขา้ ไจผดิ แบบกลับหัว
กลับหาง14 กลา่ วคือวรรคทองนั้นเป็นป้จชมิ กถาของกษัตรยิ ์ผู้หนุนชว่ ยการต่อตา้ น
ประชาธปิ ไตยแล้วพา่ ยแพ้ รวมทง้ั กรณสี มดุ ปกเหลืองและการกลา่ วหาปรืดอี ย่างผิดๆ
ว่ามีลว่ นเกีย่ วข้องกบั กรณีสวรรคตของในหลวงรชั กาลที่ 8
อย่างไรกต็ าม บทบาททางการเมืองของฝา่ ยเจา้ ระหว่าง 2490 ถึง 2500 กลบั
ยังลื่นไหลหลดุ รอดถูกมองข้ามไปได้ การเมืองสามเล้าซ่ึงเป็นมรดกมาจากความรู้
ประวัตศิ าสตร์แบบท่หี นง่ึ จืงยังคงเปน็ คำอธบิ ายหลักของประวัตศิ าสตรก์ ารเมอื งไทย
ในช่วงน้ี ตวั อย่างสำคัญไดแ้ ก่หนังรอ แผนชงิ ชาฅไพ' ของสุธา'ชยั ยมประเสริฐ ซงึ่
เขียนถงึ การหเนตัวทางการเมืองของพวก “อนรุ ักษน์ ยิ ม” (หมายถึงพวกเจ้า) เป็นเพียง
ดอนเดยี ว (20 หน้า) ของหนังสอื ท้ังเล่ม (300 กวา่ หนา้ ) เพราะเหน็ ว่าบทบาทหรือ
พลงั อำนาจของฝ่ายเจ้ายังไมส่ งู ารกั ในการเมอื งชว่ งนน้ั หลายเหตุการณ์ทพี่ วกเจา้ อยู่
1? ชัยอนนั ต์ สมุทวณิช, 14 ตุ£ท fttusรพฎร์ก้'นกVQบวร!ตช.
วิช"ากธารำรเรงศีย่ ักงค“ภเาพษชารกเบัลปศิ อรนะวันตั ตศิ ์ า“ส1ตเรม]์ษทายยแนละ2ค4ว7า6ม:เครลรั ่อื ปนรไะหหวารไนครว้งัิชแารปกรข!:อวงัตไิศทายส’’ตกรา์ไรทสยัม"มชนดั าทโดายง
โรงเรียนนายรอ้ ยพระจลุ จอมเกล้า รว่ มกับสมาคมประวตั ิศาสตร์ ณ โรงเรียนนายรอ้ ยพระจุลจอมเกล้า
นครนายก วันที่ 16-18 คมุ กาพันซ 2533
" สมสกั ต เปียมธีรสกลุ และประชกั ษ์ ก้องกรติ, “พระราชหตั กเลขาสละราชย์ ร.7 : ชวี ประวตั ิ
ของเอกสารทบบั หน่งึ ," ไน สมสักด้ิ เจียมธรี สกุล, ประวตั ศิ าสต{ทพ่ี งสรา้ ง (ก งเทพฯ ะ 6 ตลุ า
^รำลึก, 2544), 20-30.
' สุเท1ชยั ยมิ้ ประเสรรี , นพพชังรทตไิ ทย (กเงเทพฯ : สมาพนั ธ, 2534).
( 20 )
เบอื้ งหลัง (ตามคำอธบ๊ าย1ของณฐ้ พถ) จึงยงั ถอี วา่ เปน็ การตอ่ สูก้ ับเผดจ็ การจอมพลป.
(ตามคำอธบิ ายของ แผนชงชาตไทย) ทง้ั ยงั เรยี กระบอบหลงั การรัฐประหาร 2490 พ่ี
ฝา่ ยเจ้ากลบั คืนสอ่ ำนาจ (ดามคำอธบิ าย'ของณัฐพล) ว่าเป็นยุคกงเผดจ็ การของระบอบ
พบิ ูลสงคราม แต่ภายหลังการรัฐประหารปลายปื 2494 ที่จอมพล ป. ลดอำนาจฝา่ ยเจ้า
ไดอ้ ีกครัง้ (ตามคำอธิบายของณัฐพล) ถอื วา่ เป็นยคุ เผด็จการ
ผวู้ พิ ากษว์ ิจารณ์ระบอบกษตั รยี แ์ ละการเมอื งของฝา่ ยน้ยมเจา้ ยงั คงเขา้ ใจกนั
ว่าการสร้างกษตั รยิ แ์ บบใหม่ทีป่ ระชาชนนยิ มและเป็นกษัตริย์คกั ดิ้สืทธ้ดิ ้วยนั้น เรม่ิ ดนั
ดว้ ยการสนับสนนท้ังจากสฤษดิ้และสหรัฐอเมรกิ าเพือ่ ต่อสกู้ ับคอมมวิ นิสต์ ส่วนหนึ่ง
เพราะเปน็ อทิ ธิพลจากหนงั สอื ของทกั ษ์ เฉลมิ เดียรณ ท่ีชว่ ยไห้เราเห็นการเตบิ โต
ทางการเมอื งของกษัตริย์ ไนขณะทบ่ี ทบาทของกษัตรยิ ์และฝ่ายเจา้ ช่วง 2490 ถงื
2500 กลับยังไมน่ ีำารกล่าวถงึ นกั
ราชสำนักกับการเมืองไทย
ศวามรู้แบบทึส่ าม ซง่ึ เริม่ ก่อตัวในวงวชิ าการในปลายทศวรรษ 2540 แต่
แพร่หลายในทศวรรษ 2550 เปดี เผยไหเ้ หน็ บทบาทความสำคัญอย่างมากของกษัตริย์
และฝา่ ยเจา้ หลงั สงครามโลกครั้งท่สี องและเป็นพนั ธมิตรกบั ทหารก่อการรฐั ประหาร
2490 เทา่ กับวา่ ฝา่ ยเจ้าพยายามตอ่ ตา้ นการปฏวิ ตั ิ 2475 จนพ่ายแพร้ าบคาบไป
ประมาณ 2481 แต่เพียงชวั่ ระยะสั้นนดิ เดยี วคอื ประมาณ 2488 หลังสงครามโลกคร้งั ท่ี
สอง พวกเจ้ากส็ ามารถเข้าสว่ งการเมืองได้อีกครั้ง คร้ัน 2490 พวกเจา้ กร็ ่วมก่อการ
รฐั ประหาร นบั จากนัน้ กม็ ิบทบาททางการเมอื งตอ่ เนือ่ งมาโดยตลอด ม<31อoานาจขาเลง
มากน้อย หนนุ ทหารหรือต่อตา้ นทหาร และออกหน้าหรือแอบแฝงตามแต่พลวตั ของ
ดุลอำนาจ กรอบและโครงเรอื่ งของการเมอื งหลังสงครามโลกถงึ 2500 ไม่สามารถ
อธบิ ายได้ด้วยการเมอื งสามเสา้ ระหวา่ งจอมพล ป. ผิน-เผ่า และสฤษดี้ อกี ตอ่ ไป
ปจ้ จยั ทผ่ี ลกั ตันให้ความเขา้ ไจเกี่ยวกบั บทบาททางการเมอื งของกษตั รยิ ์และ
พวกนยิ มเจา้ นับแต่หลงั สงครามโลกครงั้ ท่สี องเปลีย่ นไปคือผลตอ่ เนอื่ งจากอาการ
“ตาสว่าง” ที่ระบาดไปทัว่ ทง้ั สงั คมไทย เรอ่ื งบืม้ ผี ูศ้ กึ ษาและกลา่ วถึงมากมายในระยะ
ไมก่ ี่ปีทผ่ี ่านมา กลา่ วคอื เมื่อ “ตาสวา่ ง” กับปัจจุบัน จงึ ยอ้ นกลับไปสอบสวนอตด็ ก็
พบความรูป้ ระวตั ศาสตร์ 2475 ตามแบบท่ีสอง ทำใหค้ วามเข้าใจท่ีอยู่แค่ในวงวิชาการ
กลายเป็นความเข้าไจอย่างกว้างขวางในหมสู่ าธารณชนผสู้ นใจการเมอื ง จนมผื เู้ รียก'ว่า
( 21 )
การเกดิ ใหม่ของ 2475 และคณะราษฎร16 จงึ นำไปสกู่ ารตรวจสอบบทบาททางการเมอื ง
ของกษตั รยิ ห์ ลงั 2475 ทกุ ชว่ งย่ิงกว่าก่อนหนา้ นี้
ย่งิ ทำลายประชาธปิ ไตยอยา่ งเข้มขน้ ขึน้ ใน 10 กวา่ ปหื ลงั รฐั ประหาร 2549
รวมทง้ั การใชม้ าตรา 112 อยา่ งพรรเพรื่อไรเ้ หตผุ ล จึงกลายเป็นบมู เมอแรงผลกั ดันไห้
ผคุ้ นสงลยั ต่อภาวะคลง่ั ไคล้หลงใหลเจา้ และการเมืองของพวกกษัตริย์น้ยม ไดยเฉพาะ
อยา่ งยงกำเนิดของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์เปน็ ประมขุ และหลัก
กฎหมายท่ีถอื วา่ พระมหากษตั ริย์จะถกู ละเม็ดไมไ่ ด้ ทงั้ สองประการสืบยอ้ น'ใตไ้ ป' ถงื
รฐั ธรรมนญู 2492 และการเมอื งหลังสงครามโลกครัง้ ท่สี องถงึ 2500 นักวชิ าการท431ม
,บสทมชบาายทสปำรคีชัญาใศนึลกปากรลุ ส'อ''' บคสนวสนำปครญั ะทว่ีเัตจศิ าาะสถตึกรถด์ ึงงั ก“ขสาๅ่ ววสนนี อ้ีากเจงนิาก”สกมค็ศอืักณด้ิ ัฐเพจยี ลมธใจีรจสรกงิ ุล1!
นอกจากนี คงต้องกล่าวถงึ หนงั สือ The King Never Smiles20 (TKNS)
ของพอล แฮนด์ลีย์ (Paul Handley) ซ่ึงเปน็ ชีวประวัติทางการเมืองของพระเจา้ อย่หู วั
รชั กาลที 9 TKNS เผยชดั เจนว่าการฟูมฟ้กสร้างกษัตรยิ ใ์ ห้มบื ทบาททางการเมืองเริม่
ข้ึนภายใต้บรบิ ทที่ฝา่ ยเจา้ ปีนอำนาจและมีบทบาททางการเมอื งมากเหลอเกินทลงั การ
รัฐประหาร 2490 แม้ว่าฝ่ายเจา้ จะหลุดรอดจากสายตาของนักประวตั ศิ าสตรท์ ศ่ี ึกษา
การเมืองไทยชว่ ง 2490-2500 แต่ไม่รอดสายตาของแฮนด์ลีย์ และแมว้ ่าเขาจะเม่ได้
อธิบายประวตั ิศาสตรก์ ารเมอื งอย่างเป็นระบบเพราะเพ่งเลง็ ทีช่ วี ประวตั ิ'จอง
พระเจ้าอยหู่ ัวรัชกาลท่ี 9 เป็นหลกั แดผ่ อู้ ่านสามารถเหน็ ได้ไมย่ ากวา่ ฝา่ ยเจา้ มบี ทบาท
ทางการเมืองในช่วงนันมาก ผมเปน็ คนหนงึ่ ท่เี ริ่มเหน็ ถึงบทบาทฝ่ายเจา้ ในช่วงนเ้ี พราะ
อ่าน TKNS จึงชว่ ยให้ผมตระหนกั ถงึ อนั ตรายของวาทกรรม “พระราชอำนาจ” ในปี
ชาตรี ประกติ นนทการ, “คณะราษฎรกบั รัฐประหาร 19 กันยายน" ใน Ifถาปต็ 1เกรรมให0
หลังรฐั ประไท719 กันยา 49 (กรุงเทพฯ: ทา่ น, 2558) ; ธนาพล อำิ ส'กลุ , “การเกดิ คร้ังท่ี 3 ของ
คณะราษฎร 7,” theiOUworld, 4 กรกฎาคม 2560, httpsะ//พพพ.the101,world/the-rebirth-
of-2475-spirit.
สวาคกั ด เจยี มธรี สกลุ , ปนร่ีคะอวปดฌศาิธส7ตนรทท์ พี่เพาญิง่ สjรjงา้ .ง,
สมชาย ปรีชาคิลปกุล,
^7 นไฝในฝ็นอ้นเหลอื เชื่อ: ความเคลือ่ นโหวV
1ฯ ณฐั พล ใจจริน้ี, ขอ องขบวนทารปฏปักบ์ปฏิวัติ
(นนทบรุ ี : ฟาิ เดียวกนั , 2556) .
สยาม (พ.ศ. 2475-2500)
AdulyI>aaudlejM(-NHewandHleayv,enT:heYaKleingUnNievveerrsitSymPilreess;s,A20B0io6g).raphy of Thailand's Bhumibol
{ 22 )
2548-2549 ด้วยเพราะทารทำลายประชาธปิ ไตยในสองอคุ เทยี บเคยี งกนั ได้หลายอย่าง
ถึงกระน้นั กต็ าน ผมก็ยังเข้าใจบทบาทความสำคญั ของราชสำนกั ในชว่ งกอ่ น 2500 ไม่
viมากนกั และเหมือนนักวิชาการคนอืน่ ๆทเ่ี ม่ือพดู ถงึ การ นบทบาททางการเมืองของ
สถาบันกษัตริยแ์ ลว้ กต็ อ้ งเน้นท่ีอคุ สฤษท่ี
ความเข้าใจของผมเปลย่ี นไปเมอื่ ใต้อ่านวิทยานพิ นธป์ รญิ ญาเอกของณัฐพล
ใจจรงิ ซ่ึงเขาได้เขยี นและแลไ้ ขเรยี บเรียงใหม่เป็นหนงั สือ ขนุ ดกิ ศักดนิ า และพญา
อนิ ทรี ในมอื ท่านขณะนี้ ณฐั พลเผยให้เหน็ บทบาทของกลุม่ กษตั รยิ น์ ิยมและราชสำนัก
ท่ีแสวงอำนาจอย่างไม่หยดุ หยอ่ นตงั้ แต่หลังสงครามโลก ไมต่ า่ งจากฝา่ ยอื่นๆ สำเร็จ
บ้างถอยบาั ง แต่ไมเ่ คยอวดอ้างทำตวั สะอาดอย่เู หนอื การเมอื ง ราชสำนกั มบื ทบาท
สำคัญทางการเมอื งในหลายเหตกุ ารณ์เพอ่ี พยายามโค่นรัฐบาลจอมพลป. และเพม่ิ
อำนาจกษัตรยิ ์ ราชสำนกั เปน็ อำนาจที่หนุนสฤษท่ที ำรฐั ประหารปี 2500 ดว้ ย ดังนนั้
ความเชอ่ื ว่าความขัดแยง้ ระหว่างฝา่ ยเจ้ากบั คณะราษฎรยุติลงเมื่อปี 2490 ตานความ
รแู้ บบที่สองนนั้ ก็ไม่เป็นความจรงิ เพราะยังต่อสูก้ นั ต่อมาจนถงึ 2500 เปน็ อยา่ งน้อย
ขนุ ดิก ศักดนิ า และพญาอินทรี เปน็ เรอ่ื งเล่าทตี่ า่ งจาก “การเมอื งสามเล้า”
อย่างมาก น่าจะทำไห้ “การเมอื งสามเลา้ ” เป็นกรอบและโครงเรื่องทีต่ อ้ งสงสัยและอาจ
จะใชไ้ มไ่ ด้อกี ตอ่ ไป ผ้อู า่ นคงตอ้ งใช้วิจารณญาณตดั สินเอง
ขนุ ศึก ศกั ดินา และพญาอินทรี
เราจะถอี วา่ หนังสือเล่มนเ้ี ปน็ การขยายตอ่ ประวัดศาสตรแ์ บบที่สามนี้ให้มี
คณุ ภาพสูงมาก หรือเราจะถอึ ว่าเป็นจุดเริม่ ต้นของกรอบและโครงเร่อื งแบบที่ส่ี คงเป็น
เร่อื งตอ้ งติดตามกนั ตอ่ 1ปว่าหนงั สอื เล่มนี้ขิะกอ่ I,ห้เกิดการสอบสวนประวตั ศิ าสตร์
กระแสใหม่ทเ่ี ป็นผลสบื เนอื่ งจากหนงั สอื นมี้ ากน้อยขนาดไหน
สภาพการเมืองตามทีห่ นังสือเลม่ น้ีเสนอ เป็นบริบทช่วยให้เขา้ ใจปรากฎการณ์
ทางการเมืองและสงั คมอกี หลายอยา่ งในช่วงนั้น ตวั อย่างเช่น ช่วยใหเ้ ราเขา้ ใจวา่ กระแส
การตอ่ สูก้ บั “ศกั ดินา” มิใชเ่ ป็นเรอ่ื งของฝ่ายซ้ายและพรรคคอมมิวนสิ ต์แต่ฝ่ายเดียว
แต่เปน็ ส่วนหนง่ึ ของการเมืองกระแสหลกั ในขณะนนั้ ดว้ ย การวพิ ากษว์ จิ ารณ์ “ศักดินา’'
จึงสามารถทำได้อย่างเปีดเผยแพร่หลาย โดยไมถ่ กู ถอื วา่ เป็นการต่อสู้ของฝา่ ยซ้าย
เสมอไป วาทกรรมว่าด้วยศกั ดนิ าซ่งึ เราเคยเชา้ ใจวา่ เป็นของฝ่ายซ้ายและพบในงาน
{ 23 )
วรรณกรรมของพวกมารก์ ซสิ ตเ์ ทา่ นัน้ 21 แท้ท่จี ริงเป็นวาทกรรมสกธารณะธรรมดา ๆ
คนอย่างเผา่ และจอมพล ป. กก็ ลา่ วถึง “ศกั ดนิ า” ในเช้งลบดว้ ยเช่นกนั
ประเดน็ เล็ก ๆ อีกอยา่ งที่เกีย่ วกันกค็ อื ไม่ก่ีปีทีผ่ า่ นมา เราท่านหลายคนคง
ลำบากใจว่าจะเรยื กพวกเจา้ ในแง่การเมอื งวา่ อยา่ งไรดี เรามักใช้คำวา่ “พวกกษVตรยJ1
นยิ ม” ซึ่งพอใช้ได้แมเ้ ปน็ คำท่ปี ระดีดประดอยไปสกั นิด ไนช่วงก่อน 2500 คำไทยๆ
ที่ใชเ้ รียกพวกเจา้ กันจนเป็นปกต็ ไม่ประดดึ ประดอย สาธารณชนรจู้ กั คำน้ีดี และใน
rความหมายเทมือน “พวกกษัตริยน์ ยิ ม” คอื คำว่า “ศักดินา” บทความอย่าง “โฉมหนา้
ของศักดินาไทยในปัจจุบนั ” ของสมลมัย ศรีศทู รพรรณ นามปากกาของจีตร ภมู ศิ ักด้ิ22
จึงอาจคลู ่อแหลมอนั ตรายน้อยกว่าท่เี รามองจากบรรยากาศใน 20-30 ปหี ลังจากน้ัน
ภายไตค้ วามคล่ังไคลห้ ลงใหลเจ้า (Hyper-royalism) หนงั สือ ฝรั่งศักดินา ของ
คึกฤทช้ิ ปราโมช23 ซ่งึ เราเขา้ ใจกันวา่ เป็นการตอบโต้ฝา่ ยชา้ ยโดยเฉพาะ โฉมหนา้ ฯ
ของจิตร อาจจะเปน็ การตอบโตก้ ารท่ีคำนีก้ ลายเปน็ ศพั ทส์ าอารฒะในทางลบในชว่ ง
ก่อน 2500 ก็เป็นได้
สภาพการเมอื งตามทีห่ นังสอื เล่มนี้เสนอยังช่วยใหเ้ ราเขา้ ใจบรบิ ทของกรณี
สวรรคตรัชกาลท่ี 8 ได้อย่างชัดเจนขึ้นอยา่ งมาก จะเป็นในแงใ่ ดอย่างไร ขอผูส้ นใจ
โปรดพจิ ารณากนั เอง การกล่าวหาปรีดี พนมยงค์ วา่ มสี ัวนในกรณสี วรรคตด้วยการ
ให้คนตะโกนในโรงหนงั นัน้ เปน็ เพยิ งปลายยอดภเู ขานา้ั แขง็ ของกระบวนการทำลาย
ปรดื อี ย่างเป็นระบบกว้างขวางจริงขงั กว่านนั้ มาก ภาพพจน์ของจอมพลป.ท่ีเป็นผรู้ ้าย
ในสายตาคนรุ่นผมกเ็ ปน็ มรดกของพวกศกั ดนิ า จนอดสงสัยไม่ได้วา่ มี “ผูร้ า้ ย'’
คนไหนอกี ท่ีประสบชะตากรรมทำนองเดยี วกนั มไิ ดห้ มายความวา่ จอมพล ป. และ
“ผูร้ า้ ย” ในสายตาของพวกศักดนิ าเหลา่ น้ัน แทท้ จี่ รงิ เปน็ วีรบุจษุ ผุดผ่องน่ายกยอ่ ง แต่
Craig J. Reynolds, Thai Radical Discourse : The Real Race of Thai Feudalism
Today (Ithaca, NY ะ Southeast Asia Program, Cornell University Southeast Asia
Program Publications, Cornell University, 1987) หรอื ในภาษาไทย เครก็ เจ. เรย์ในลสส์ ,
ความคดแ}1วทแนวของไทย : จติ ร ทรศ้กด และโฉมหนา้ ของบัทดนิ าใทยในปจั ๅเบัน, แปล อญชลื
สุสายณห์ (พงุ เทพฯ : มลู นิธิโครงการดำราสังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร,์ 2534)
22 บทความช้ินนตพมิ พใ์ น วารสารนตศาสฅร์ ฉบับรับศตวรรษไหม่ 2500 แลว้ หายไปหลัง
รัฐประหารของสฤษด้ึ ธนะรชั ค์ ในปี 2501 แตห่ ลัง 14 ตลุ า มกี ารดีพมิ พ์ออกมาเปน็ หนงสือเลม่
ภมู ิศก’ั ค้ึ5 โฉมหนาศกดนิ าใทซ 2517),
จติ ร (พงุ เทพฯ ะ ชมรมหนังรอแสงตะวน*
คึกดุทธิ้ปราโมช, ฝร่ัวศกตินา กาั วหไท, 2511),
:! (พระนคร :
( 24 )
หหรมอืาย"ถปงึ ภระาพภาพสจนจข์ าอรุเงสชถนุ ยี ศรึก’,ทนีเ่ ล้นั วรเา้ ขยาเปถูกน็ ทพำิเศไหษท้รา้ม่ี ยักกพว่ว่าทงไคี่ ปวกรบัจะชเือ่ปน็ “หเผรา่ อื เศปรลยี า่านเนพทยิ ์ง'’
เพราะคนเหล่าน้ีลว้ นเข้อเทจ็ จรงิ เกี่ยวกบั กรณีสวรรคตรัชกาลท่ี 8 ด้วยหรอื เปล่า ใน
ทางกลบั กนั พวกศกั ดนิ าทีด่ ูราวกับเป็นเทพมือสะอาด อนั ทจ่ี รงิ กลบั เป็น “สตั ว
การเมอื ขง”ุนอไมกั ต่ า่ศงักจดากินา“ผแรู้ ตา้ ยะ"พญเหาลอ่านิ นmนั้ นา่ จะเปน็ หลักหมายของประวตั ิศาสตร์
การเมอื งไทยเลม่ สำคญั จงึ เหมาะสมแลว้ ที่สำนกั พมิ พฟ์ าิ เดยี วกนั จะถือเป็นเล่มสำคญั
เลม่ หน่งึ ในหนังสือชดุ สยามพากษ์
มหาวทิ ยาลัย “เซน็ เซอร์” ความรู
แต่ในประเทศไทย บอ่ ยคร้งั ทีห่ นังสือดๆี งานวจิ ัยดีๆ กลบั ไม่ได้รับเกียรดิท่ี
สมควรได้ แม้แตจ่ ากสถาบันการศึกษาทถ่ี ือวา่ ดที ส่ี ดุ ในประเทศ
แวดวงวชิ าการด้านสังคมศาสตร์มนุษยศาสตรท์ งั้ โลกรกู้ นั ตว็ ่า วิทยานพิ นธ์
ปริญญาเอกทางต้านนบ้ี อ่ ยคร้งั เป็นผลงานสรา้ งสรรค์อย่างสำคญั ทที่ า้ ทายความรทู้ เ่ี ปน็
อยู่ ผลกั ดนั พรมแดนทางความรแู ละคูมปื ้ญญาให้ขยบั ออกไป แตท่ ว่าในประเทศไทย
กลับถอื ว่าการดพี มิ พว์ ิทยานพิ นธป์ รญิ ญาเอกไม่สำคญั นกั เพราะถอื เป็นการวชิ ัยชนั
เก่าทที่ ำ ปแลว้ จึงนำมานับเปน็ ผลงานเพอ่ื ประกอบการขอตำแหน่งทางวชิ าการไม่ได้
ใครอยากทำเพือ่ ความพอใจของตนกท็ ำไป ผลก็คือวทิ ยานพิ นธ์ดี ๆในภาษาไทยยงั
พอไดร้ บั การดพี มิ พ์บ้างเพราะผวู้ ิจัยตอ้ งการเผยแพร่ (แมว้ ่าจะไม่นับคะแนนก็ตาม)
แต่กม็ ักเปน็ การดพี ิมพโ์ ดยแทบไม่มีการลงแรงเพิม่ เพ่ือแกไขปรับปรุง สวํ นวิทยานพิ นธ์
ท่ีทำเป็นภาษาองั กฤษ จึงมักไม'่ 'ด้รบั การแปลและดพี ิมพ์เปน็ ภาษาไทยเพอื่ สรา้ งเสริม
วทิ ยาการในโลกภาษาไทย เพราะตอ้ งลงแรงอย่างหนกั มากแดม่ หาวิทยาลัยไทยกลับ
ไมเ่ ห็นคฌุ ค่า
ท่เี ลวร้ายไปกวา่ น้ันกคี อื ประเทศนีใ้ มถ่ ือวา่ หนังสือดศี อึ แสงสว่าง แต่กลบั
ถอื ว่าคืออนั ตราย จึงต้องปดี กัน้ ลบลา้ ง
วิทยานิพนธท์ มี่ คี วามรเิ ร่มิ สรา้ งสรรคใ์ หม่ ควรได้รบั การตอ้ นรบั ช่ืนชมเพือ่
ภควาคามภเมูร,ือใี จงปแญั ตญ่ทาวข่าหองาสกไังคปมห้าอทนั ายเปห็นรเือกขียดัรแตยทิ ง้ ี่อกาบัจาอรดุ ยมท์ กป่ี ารรกึณษ์หาลคกั ณขอะงชแาลตะิหสรถือาบหันา้ ทคาวยร
ตอ่ สถาบนั การเมอื งหลกั จะกลบั ถกู ถอื ว่าเปน็ อนั ตราย วทิ ยานิพนธ'์ท่ีดเี ย่ียมอยา่ งเช่น
( 25 )
ของณฐี พถ ใจจริบั4 อนั เปน็ ฐานของหนงั สือเล่มน้ี ก็ถูกจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั
สง่ั หา้ มเผยแพร่หรือ “เซ็นเฃอร์” เชน่ กัน
มหาวิทยาลยั จงึ ทำหนา้ ทีท่ ั้งผลิตความรแู้ ละปิดกั้นทำลายความรู้ด้วย ชา่ งนา่
ละอายนา่ รังเกยี จเหลอื เกนิ ที่มหาวทิ ยาลยั ทอ่ี วดตัวว่าดที ี่สดุ ของประเทศไทยสง่ั
“เซน็ เชอร์” ผลงานดีๆของบัฌช็เตจากสถาบันของตน
นกั วิชาการบางคนจงึ ทำตัวเปน็ ตำรวจความคดิ (Thought Police) คอย
สอดสอ่ งเซ็นเชอรค์ วามรูท้ ่ีเขาเหน็ วา่ อันตราย สง่ ให้ผูบ้ รหิ ารมหาวิทยาลยั จดั การ คังท่ี
ปญั ญาชนฝ่ายเจ้าคนหน่ึงลงมอื แข็งขันที่จะใหเ้ ซน็ เชอร์วทิ ขานพิ นธ์ชิ้นน้ี ทั้งๆที่
วทิ ยานพิ นธเ์ ลม่ นี้ผ่านการสอบและอนมุ ัตปิ รญิ ญาเรยี บร้อยไปแลวั เขาต้งั ขอ้ กลา่ วหา
วา่ วทิ ยานิพนธผ์ ดิ พลาดอย่างแรง ถงึ กับเสนอใหถ้ อดถอนปริญญา ข้อกลา่ วหาของ
เขาเจาะจงลงไปทค่ี วามบกพร่องของณัฐพลแหง่ หนง่ึ แลว้ อ้างว่าฏีความผดิ พลาด
ทำนองเดยี วกนั อีกมากมายราว 30 แห่งด้วยกัน เพ่อื พยายามทำลายความน่าเช่อื ถือ
ชองณฐั พลและของวิทยานิพนธ์ฉบบั นน้ั
ผมมโี อกาสรบั รูแ้ ละตรวจสอบข้อผดิ พลาดทีถ่ ูกกลา่ วหา ผมพบวา่ กรณหี ลักท่ี
นกั วิชาการตำรวจคนนี้กลา่ วทานนั้ เปน็ ความผิดพลาดของพ้ฐพลจริงเพราะเขา้ ใจ
หลักฐานผิดดคี วามเกนิ เลยไป แต่ความผิดพลาดดงั กลา่ ว มิไดส้ ำคญั ต่อวิทยานิพนธ์
ทัง้ เลม่ หรอื บทนั้นหรอื ตอนน้นั แต่อยา่ งใด หมายความวา่ ณฐํ พลไตเ้ สนอหลกั ฐานช้ิน
อนื่ และข้อมลู อีกจำนวนมากในบทตอนนนั้ และตลอดท้งั เลม่ เพือ่ ยืนอันข้อเสนอและ
การวิเคราะห้สำคัญ ๆ หากข้อความทเี่ ปน็ ปญั หานั้นถูกยกออกไปหมดทงั้ ยอ่ หนา้
วิทยานพิ นธ์บทตอนนน้ั และทั้งเลม่ ก็อังนำไปสขํ อ้ วเิ คราะห์และข้อสรุปเหมือนเติม
ทกุ ประการ ดังทฌ่ี ฐั พลไดแ้ สดงไห้เห็ไเไนหนงั สือเล่มนซ้ี ึง่ ไม่มีข้อความทผ่ี ิดพลาด
ดังกล่าวแล้ว
ส่ิงท่ตี ำรวจทางวชิ าการอา้ งวา่ ผดิ พลาดอีกมากมายหลายสิบแหง่ นั้น ไดต้ รวจสอบ
แล้วไมพ่ บความผดิ พลาดลกั แหง่ เคยี ว อยา่ งมากกเ็ ปน็ การดีความทด่ี ้นไดต้ ามแต่
อุดมการณ์และมุมมอง จนตำรวจทางวิชาการทกึ ทกั วา่ เปน็ ความผดิ พลาด
ในธรรมเนียมทางวชิ าการทางสงั คมศาสตรม์ นษุ ยศาสตร์ตามปกตนิ นั้ การ
ถทเถืยงทางวชิ าการควรทำด้วยการถกเถยึ ง นำเสนอข้อวิเคราะหท์ ่ดี กี วา่ และ/หรือ
ณัฐพล ไจจรงิ , "การเมืองไทยสมยั รัฐบาลจอมพลป. พบิ ลู สงคราม ภายใต้ระเบียบโลก‘บอง
สหรัฐอเมรกิ า (พ ศ. . 2491-2500)” (วิทยานพิ นธร์ ัฐศาสตรดษุ ฎีบณั ฑติ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ,
2552).
( 26 )
หลกั ฐานที่ดีกว่าหรือการดีความทตี่ ่างออกไป หากมีขอ้ ผดิ พลาดกเ็ ปีดเผยออกมา
ผวู้ ๊จยั จะยอมรบหรือแยง้ คำกลา่ วหากแ็ ถลงออกมา ผ้อู ่านย่อมได้ประโยชน์ไปด้วย แต่
นักวชิ าการตำรวจความคิดรายนี้มไี ด้พยายามไช้วธิ ทางวิชาการแมแ้ ตน่ อ้ ย กลับว่งื เต้น
! !ให้มกี ารใช้อำนาจของคณะหรอื ของมหาวิทยาลัยจดั การเซ็นเซอร์วิทยานิพนธเ์ สียเลย
น่มี ใิ ช่วิธของนกั วิชาการ หรือตำรวจความคิด ว่าตนใชว้ ิธที างวชิ าการคงไม่ได้ผล แต่
ยงั ตอ้ งการลบล้างความ ทตี่ นไมพ่ อไจไห้ได้ จงวิ่งเข้าหาอำนาจเพือ่ สัง่ ใหว้ ทิ ยานพิ นธ์
ชน้ิ นเ้ี ป็นโมฆะ แดเ่ นอ่ื งจากไดส้ อบผา่ นไปแล้วอนมุ ัตปิ รญิ ญาไปแลว้ จงึ ใช้อำนาจ
สงั่ ห้ามเผยแพร่
!พฤติกรรมเชน่ นีท้ ำให้นึกถงึ คำกลา่ วทว่ี า่ นักวชิ าการฝา่ ยนยิ มเจ้าไม่มีนํ้ายา
เพราะเก่งแตเ่ พียงใช้อำนาจกดปราบความ ที่เขาไม่เห็นด้วยลงไป ในขณะทผี่ ลงานท่ี
!พวกเขาผลิตมกั เป็นงานอาคิรวาทสดุดี (แปลวา่ ประจบสอพลอเจ้า) ทม้ คี ุณค่าทาง
วิชาการตา เพราะ ว่าในระบบวชิ าการของไทย ผลงานดังกลา่ วย่อมได้รับการประเมิาเ
ดว้ ยคะแนนสงู สุดอย่างแน่นอน ความรักเจา้ กบั การหากินกบั เจา้ จึงมักไปดว้ ยกัน แยก
ไม่ออกว่าอยา่ งไหนคอื ศรทั ธา อย่างไหนคอื สอพลอ เพราะศรัทธาต่อกษัตริย์กบั การ
สอพลอต่อกษัตรยิ ด์ ูเหมือนจะเป็นสิง่ เดียวกนั ในประเทศไทย
ผมเคยตรวจวิทยานพิ นธป์ ริญญาเอกมาแลว้ หลายสบิ เล่น เปน็ ของมหาวิทยาลัย
ระดบั นำของโลกนับสิบแหง่ หากวทิ ยานพิ นธม์ ีความผดิ พลาดหนกั หนาสาห้สท่กี ระทบ
ตอ่ การพสิ จู นห์ รอื วิเคราะหก์ ไ็ ม่ควรใหส้ อบผ่าน แต่แทบจะไมม่ เี ลม่ ไหนเลยท่ีไม่มี
ข้อบกพรอ่ งชนิดไม่หนกั หนาทำนองเดียวกบั ณฐั พล หมายถึงข้อผิดพลาดท่ีไม่มผี ล
กระทบตอ่ ขอ้ เสนอหลักและวิธีการพิสูจน์ บ้างกพ็ ลาดเลก็ ๆนอ้ ยๆ ให้ถือว่าสอบผา่ น
อยา่ งมากก็ขอไหแ้ ก้อกึ รอบ บ้างก็น่าอบั อายเพราะไมน่ ่าพลาดขนาดน้ันได้ แตก่ ถ็ อื วา่
ยังไม่สาหัส ควรแก้เสยี ก่อนจงึ จะถือว่าสอบผ่าน
ตวั อยา่ งวทิ ยานพิ นธ์ที่บทพร่องเช่นนเี้ กดิ ซน้ แมแ้ ต่กับวิทยานพิ นธข์ องอาจารย์
ระดบั ผบู้ ริหารของมหาวิทยาลัยทา่ นหน่ึงผมู้ สั ว่ นเก่ยี วขอ้ งไนการเซ็นเชอร์งานของ
ฌัฐพลดว้ ยเหตุผลวา่ มคี วามบกพรอ่ ง (ชงผมขอไม่เอ่ยชอ่ื ) วทิ ยานพิ นธ์ชิ้นน้เี สนอ
ประเดน็ ทีน่ า่ สนใจมากเก่ียวกับการควบคมุ ประชาชนของรัฐไทยผา่ นการเก็บข้อมลู สว่ น
บุคคล แตผ่ ู้คกึ บาตอ้ งการสอบสวนการควบคุมประชาชนนับจากสมัยต้นอยธุ ยา บทที่
สองและสามจึงบรรยายประวตั ศิ าสตร์ไทยกอ่ นยุคสมัยใหม่ ปรากฏวา่ มคี วามผิดพลาด
เต็มไปหมด ที่ผิดพลาดอย่างไม่นา่ เช่ือก็มี เช่น ระบุปที เ่ี สียกรงุ ศรีอยธุ ยาครั้งทห่ี นงึ่
จนถึงปีท่กี ู้อิสรภาพหา่ งกนั ถึง 100 ปีเต็ม แถมยงั เขยี นวา่ พระนเรศวรประกาศอิสรภาพ
( 27 )
และเอาดินแดนทีเสียไปคนื มา อย่างไรก็ตาม ความบกพรอ่ งชนิดน่าอายเหลา่ 'น!ม่มี
ผลใด ๆทังสนิ ตอ่ การวเิ คราะห์และขอ้ เสนอของวทิ ยานิพนธ์ เพราะประวตั ิศาสตร์กอ่ น
ยคุ ปจั จบุ ันในงานชีน้ นไี๋ ม่เก่ยี วอะไรเลยกับการวิเคราะหห์ รือข้อเสนaแด่อยา่ งใด เป็น
แค่เครอี่ งประดับให้วทิ ยานิพนธ์ดดู ขี ้นึ เทา่ นั้น ความบกพร่องนา่ อายแบบนจ้ั งี ไม่ควร
เป็นเหตใุ ห้สอบตก และจะตอ้ งไมเ่ ป็นเหตใุ หโ้ ดนกล่ันแกลง้ เซน็ เซอรอ์ ยา่ งเดด็ ขาด
เพราะข้อเสนอของวิทยานพิ นธย์ งั เปน็ ความเที่ฏีคุณคา่
และการมเซห็นาเวซิทอยราห์ ลา้ยั มสเผ์วนยแ่ใพหรญ่ไ'ใ่มน่เป่โลน็ กทสาง่งเเลสอืรกิมไใมห,ว้เผา่ ยในแพกรรณ1่วิทใี ดยาๆนทพิ งั้ นสธนิ้ ์'ท่สี อบผา่ นแลว้
มหาวิทยาลยั ใดกต็ าม ลา้ หากยินดหี รอื จงใจไปรว่ มมอื ตอ่ ต้านประชาธิปไตย
หรอื ชว่ ยควบคมุ จำกัดเสรภี าพของอาจารยแ์ ละนกศึกษา จำกดั กิจกรรมทางการเมอื ง
ในประชาคมมหาวิทยาลยั ย่อมไมส่ มควรไดอ้ นั ดับสูง
มหาวิทยาลัยใดก็ตาม ล้าหากทำการเซน็ เซอร์ความคิดและผลงานทางวิชาการ
1สดมโ้ คยวนรทถิ้งูกกปารระกณิจาพม้นื แฐลาะนลทงโ่ึสทุดษขออยงา่สงถหานบกั ันทเพารงาวะิชกาากรากรระนทน่ั ำคเชอื น่กนารน้ั สเรทา้า่ งกสบั รมรหค์วาวิทิทยยากาลารัย
เทือแสงสวา่ งทางปญั ญาแก่สงั คม การเซ็นเซอรแ์ ละปีดก้ันทางวชิ าการคอื เปน็ การ
ทำบาปขันมหนั ต์ (cardinal sin) สำหรบั มหาวทิ ยาลัย ชมุ ชนวชิ าการทั้งหมดไมแ่ ด่
เพียงในประเทศไทยแดท่ ้งั โลกดว้ ย จกั ตอ้ งไม่ยอมนง่ั เฉยกบั การกระทำน่ารงั เกียจ
ดังกล่าว สมควรรว่ มมือกนั ทำใหม้ หาวิทยาลยั ทก่ี ระทำดงั กลา่ วรว่ งลงไปอยใู่ นชั้นตาสุด
ของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก
หากยังต้องการอนั ดบั ทสี งู ข้ึนดีข้นึ หรือแม้กระทงั้ คงอนั ดบั ท่ีเปน็ อยใู่ นปัจจุบนั
จะตอ้ งเลกิ การเซ็นเซอร์ หาไมแ่ ลว้ พฤตกิ รรมน่ารงั เกยี จที่มหาวทิ ยาลัยไมพ่ งกระทำจะ
ต้องเป็นที่รกู้ นั ไปท้ัวโลกอย่างแนน่ อน ไม่ช้ากเ็ ร็ว
ธงชยั วินจิ จะกลู
( 28 )
คำนำผเู้ ขยี น
การเมืองไทยชว่ งหลังสงครามโลกคร้งั ท่สี องหรอในยุคสงครามเยน็ ตอนตน้ เปรียบ
เสมอื นยคุ สมัยแหง่ ความคลมุ เครอื ในประวตั ิศาสตรก์ ารเมือง แมจ้ ะมีหนงั สือทศี่ ึกษา
ช่วงเวลาดังกลา่ วอยู่บ้าง แตม่ จี ำนวนน้อยชิ้นและปราศจากการศึกษาอยา่ งเฉพาะ
(เจ2า4ะ7จ5ง-2ท49งั้ 0ๆ) ทีช่ ว่ งสมัยดังกลา่ วถือเปน็ รอยต่อระหว่างยุคร่งุ เรอื งของคณะราษฎร
กับยคุ การเถลิงอำนาจ1ของกองทพั สมัยจอมพลสฤษดื้ ธนะรชั ตํ (2500)
ผู้เป็นทหารกลมุ่ ใหม่ทต่ี คั ขาดจากความเกย่ี วข้องกบั การปฏวิ ตั ิ 2475 และผร/นู่ aาจาก
คณะราษฎร สำหรับผเู้ ขียนแล้วการเมอื งไทยในช่วงเวลาดังกล่าวนา่ พสิ มยั เป็นอย่างย่ิง
สาเหตุท่ชี ่วงสมยั ดงั กล่าวมกี ารศึกษาน้อยอาจเฟนิ ผลมาจากการถูกประเมีนว่า
เป็นเพยี งยุคเผด็จการทหารสมัยหนง ท่เี ปน็ เพยี งรอยตอ่ มาสรํ ะบอบเผดจ็ การทหารของ
จอมพลสฤษดเ้ิ ทา่ นนั้ ประการท่ีสอง อาจเกดิ จากความยากลำบากในการหาหลักฐาน
กล่าวถือ ในไทยมีเอกสารชัน้ ต้นในชว่ งเวลาดังกลา่ วน้อย อีกทงั้ เร่ืองราวสำคญั ๆ บาง
อย่างทีจ่ ะเป็นกญุ แจไขความเข้าใจปรากฎการณช์ ว่ งนน้ั กลบั กลายเปน็ ความลบั ท่รี กู้ นั
ในแวดวงแคบ ๆ และไมม่ กี ารบันทึกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรในเอกสารราชการไทย
เปน็ ตน้ หรอื แม้กระทัง้ เรอ่ื งราวข่าวสารทัว่ ไปทีเ่ กิดชั้นในช่วงปลายสงครามโลกครง้ั ท่สี อง
ท้ควรจะพบในหนงั สอื พิมพ์แตไ่ ม่สามารถเป็นไป ‘ด้ เนื่องจากคณุ ภาพของกระดาษ
หนงั สอื พมิ พข์ ณะนันเกือบท้งั หมดมคี ุณภาพตำ ทำใหห้ นงั สอื พมิ พส์ มยั นัน้ จำนวนมาก
ไม่สามารถรักษารูปทรงเอกสารไวไั ด้ และมกั ย่อยสลายลงเป็นเย่อื กระดาษอยา่ งงา่ ยดาย
ทันทที ่นี กั วจิ ัยหยิบจับชั้นอา่ น หรือไม่กอ็ าจป่นเป็นผงอยใู่ นกลอ่ งเอกสารนัน่ เอง
คงเหลือแตเ่ พียงขา่ วตดั จำนวนหน่ึงทเ่ี ปน็ การสรปู ข่าวตามความสนใจของกระทรวง
ทมวงกรมเท่านัน้ ส่งผลใหข้ าดข้อมลู ในการค้นควา้ ในระดับกว้างไปอยา่ งนา่ เสียดาย
อันดอึ เปน็ ความยากลำบากในการศกึ ษาการเมืองไทยในห้วงเวลานน้ั เปน็ อย่างยงิ่
ไม่แต่เพยี งอปุ สรรคจากขอ้ จำกดั ของเอกสารไทยเท่าน้นั แต่ยงั รวมดงึ ขอ้ จำกัด
ของกรอบการวเิ คราะหข์ องทฤษฏคี วามรู้ทางรฐั ศาสตร์แบบสหรฐั ฯในยุคสงครามเยน็
อนั มีเพดานในการวิเคราะห์ที่ทำใหก้ ารศกึ ษาต่างๆในอดีตท่ีผา่ นมามองขา้ มตัวแสดง
ทางการเมอื งบางตวั ไปอย่างนา่ เสียดาย ดังนัน้ หนังสอื ขุนศึก ศักดินา และพญาอนิ ทรี
เลม่ นัห้ าใชเ่ ปน็ การศกึ ษาการเมอี งไทยโดดๆ แต่เป็นความพยายามในการชดั วาง
การเมืองไทยลงในบรบิ ทหลังสงครามโลกครั้งท่ีสอง หรอห้วงแหง่ สงครามเยน็ (Cold
War) อนั มสี หรัฐอเมริกาเปน็ มหาอำนาจสำคัญของไลก เพอื่ เขา้ ใจความสลบั ซบั ซอ้ น
ของบทบาทมหาอำนาจทีม่ ีตอ่ การดำรงอยูข่ องระบอบการเมอี งหนึง่ ๆ รวมทั้งความ
รงู่ เรืองแทะลงะน๕ร่วแงโหรลย่งขขออ้ งมกูลลทุม่ กีผ่ าูเ้ ขรียเมนอื ใงชต้ศา่ กึงษๆาอคกี น้ ดค้ววยา้ น้ันมาจากเอกสารหลายแหล่ง ทง้ั
เอกสารฝา่ ยไทย เอกสารจดหมายเหตใุ นหอจดหมายเหตุแหง่ ชาตไิ ทยท่ที า่ วาสกุ รื กอง
บรรณสาร กระทรวงการตา่ งประเทศ บันทก่ ความทรงจำในหนังสืองานศพบุคคลสำคญั
หนังสอื พิมห์ เปน็ ต้น นอกเหนอื จากเอกสารฝ่ายไทยแล้ว ผ้เู ขยี นยงั ใชข้ ้อมลู จากหอ
จดหมายเหตไุ นด่างประเทศเพอ่ื ปะดดี ปะต่อภาพให้คมชัดยิง่ ขน เชน่ เอกสารจากหอ
จดหมายเหตุแหง่ ชาตสิ หรฐั ฯ มลรัฐแมรแิ ลนด์ (NARA: National Archives and
.Record Administration) หอจดหมายเหตุประธานาธิบดไี อเซนฮาวร์ (The Dwight
D Eisenhower Presidential Library, Museum and Boyhood Home) มลรัฐ
แคนซัส หอสมดุ แห่งรัฐสภาสหรฐั ฯ (Library of Congress) วอชงิ ตัน ด.ี ซ.ี และหอ
จดหมายเหตุแหง่ สหราชอาณาจกั ร (PRO: Public Records Office) ลอนดอน หรอื
ป้จจบุ ันเรียก TNA : The National Archives ทงั้ นึ่ เอกสารจดหมายเหตจุ ากตา่ ง
ประเทศเปน็ กลุ่มเอกสารท่มี คี วามสำคญั ยง่ิ ในการเตมิ เต็มส่ิงท่ขี าดหายไปจากเอกสาร
ฝา่ ยไทย โดยเฉพาะท่เี อกสารฝา่ ยไทยไม่สามารถบนั ทกึ ใต้ หรือไมร่ บั ทราบข้อมลู
ดงั กลา่ วนนั้ เอกสารในหอจดหมายเหตุต่างประเทศเหล่านั้เปีนรายงานของหนว่ ยงาน
ราชการ ทง้ั เอกสารระดับสูงในระดบั นโยบายและระดับปฎบิ ดั ีการ เช่น เอกสารการจดั
ทำนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บันทึกการสนทนาของประธานาธบิ ดี รฐั มนตรี
ตา่ งประเทศ นกั การเมืองระดบั สูงกบั บคุ คลตา่ งๆ ข้อเสนอแนะจากฝา่ ยการเมืองของ
ประธานาธิบดี รวมทง้ั บันทึกการสนทนา รายงานทางการทตู บันทึกการสนทนากบั
( 30 )
แหล่งข่าวของสถานทูต รายงานของหน่วยสบื ราชการลับ รายงานทางการทหาร ข่าวตัด
ข่าวแปล เอกสารสำคัญท่เี จ้าหนา้ ท่ีสถานทูตจดั เก็บจากประเทศทม่ี ีถิน่ พำนกั เป็นด้น
เอกสารจากหอปีดทมายเหตุในตา่ งประเทศนน้ั บางสวํ นผู้เขียนเดินทางไปเกบ็ รวบรวม
ขอ้ มูลเอง บางส่วนได้รบั การอนเุ คราะหเ์ พิ่มเติมจากนกั ศกึ ษาไทยและคณาจารยช์ าวไทย
ชาวตา่ งประเทศอีกหลายทา่ นทีส่ นใจประวตั ิศาสตรก์ ารเมืองไทย
หนงั สือเล่มนี้ผูเ้ ขียนเขียนและเรียบเรยี งขนใหมโ่ ดยองิ กับวทิ ยานิพนธป์ ริญญา
-เอกเรือ่ ง “การเมือง'ใทขสมยั รัฐบาลจอมพล ป.พิบลู สงคราม ภายใต้ระเบยี บโลกของ
สหรฐั อเมรีกา (พ.ศ. 2491 2500) ” ของผู้เขยี นทีน่ ำเสนอตอ่ คณะรฐั ศาสตร์
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย เม่ือปี 2552 ผเู้ ขียนไดป้ รับปรุงแกไขข้อผิดพลาดตา่ งๆให้
มคี วามถกู ต้องตามขอ้ หว้ งติงของหลายทา่ น
อย่างไรกต็ าม หนงั สือเลม่ ดงั กลา่ วจะไม่สามารถสำเรจี ลงไต้ หากปราศจาก
ดครณ.ากจลุ าลรดยาท์ ่ใี เหกษ้คบวาญุ มชรูู้แมลีด้ะใหศ.้คดวรา.มลเิขมิตตตธารีแเนวคะนนิ ำรผศูเ้ ข.ียดนร.มสาุธอายช่าัยงยยาวม้ิ นปรานะเสไรดิฐแ้ กศ่.รดศร..
.ชเมาฆญไวตทิ รยร์ัตเนก์ษศต.รดสริร.ิรสศิวรฉักลษอ์ งศ.สดุนร.ทไรชายววาฒัณนชิ ์ยค์ า้ํผชศู .ศส.วุ ดมิ รล. นรค่งุ รเินจรทญิ ร์
อาจารยส์ ุลกั ษณ์
อนุสรณ์ ล่มิ มณี
ศ.ดร. ธงชยั วนิ ิจจะกูล ศ. ดร.ชยั วฒั น์ สถาอานนั ห้ ศ. ดร. เกษย์ ร เตชะพรี ะ ศ. ดร.
เอนก เหลา่ ธรรมพัศน์ ศ.ดร.นิติและรศ.ดร.พวงทอง ภวัครพนั ธ์ รศ.ดร.วิระ สมบูรณ์
รศ. ดร. อรทัย กก๊ ผล คณุ เสถยี ร ชันทมิ าธร คุณสพุ จน์ แจ้งเร็ว คณุ จุฬาลกั ษณ์ คูเ่ กิด
Yoshifumi Tamada Seren Ivarsson Eiji Murashima Kevin Hewison Tyrell
. . .Haberkorn รศ ดร สิริพรรณ นกสวน สวสั ดี ผศ ดร.ธำรงคักดิ้ เพชรเลิศอนันต์
ผศ. วันวิชต บุญโปร่ง ผศ. ร.ท.เทอดสกลุ ยุญชานนท์ ผศ. ดร. เกษม เพีญภนิ ันท์
รศ. เวียงรัฐ เนติโพธ้ิ รศ. ดร. ยกุ ติ มุกดาวจิ ติ ร ผศ. ดร. บณั ฑติ จันทรโ์ รจนกจิ
.อาจารย์ชรี พล เกตจุ มุ พล
ล่มิ อภชิ าต คุณกชดิ ิศ
อรนศัน, วทีณนาาธเอรี่ยมอปารจะาไรพย์สอรุ าะจารพยัฒ์สนิวพะลปรลาะชอณอ์งสรกศลุ. ดดรร. ธนาพล
อภิชาต
.สถติ นริ ามยั อาจารยว์ ารุณี โอสถารมย์ ผศ. ดร ฐาปนันท์ นพิ ฎิ ฐกลุ รศ.ดร.ปิยบตุ ร
แสงกนกกลุ ผศ. ดร. พรสันต์ เลีย้ งบุญเลศิ ชัย ผศ. ศรัญญ เทพสงเคราะห์ อาจารย์
ธนภาษ เดชพาวฒุ ิกลุ อาจารยม์ ารดารตั น์ สุขสงา่ อาจารย์ ดร. ตฤฌ ไอยะรา คณุ
นริศ จรสั จรรยาวงศ์ คณุ กมลทพิ ย์ จา่ งกมล คณุ ธนาพล อวิ๋ สกุล คุณเด่นดวง
วดั ละเอียด พ่ึจม หลา David Deitmann และคณุ สื ท่ีใหค้ วามช่วยเหลอแก่ผู้เซียนใน
ดา้ นต่างๆมานานหลายปี ขอบคุณคุณปรัชญากรณ์ ลครพล ท่อื นุเคราะหร์ ปู สวยๆให้
( 31 )
!ขอบพระคณุ ครอบครัวพิบลู สงคราม ท่ีให้การตอ้ นรบั ผูเ้ ขยี นด้วยความเมตตาอยา่ งไม่
เหน็ดเหนอื่ ย ขอบคุณอยา่ งมากสำหรับ อญชล ม(รโรจน์ สงั คม จิรชสู กลุ และนฤมล
กระจา่ งดารารัตน์ ทมึ กองบรรณาธการสำนักพิมพส์ าเดียวกันท่ที ุ่มเทในการทำงาน
จดั ทำต้นฉบับทีย่ ่งุ เหยงใหอ้ ย่างประณีตด้วยความเหนด็ เหน่ือยท่ีสุด รวมทั้งความ
—ชว่ ยเหลอื จากบคุ คลจำนวนมากท่ผี ู้เขียนมอาจเอย่ นามทุกคนใตค้ รบ ดว้ ยควาน
ขอบคณุ อยา่ งสดุ ซงั
-สดุ ท้ายท่จี ะลืมมิได้คอื เอ ผู้เป็นกำลังใจและไดแ้ บ่งเบาภาระงานบา้ นในหลาย
ปทื ี่ผา่ นมา เพลนิ ผเู้ ติมรอยย้มิ ให้ยามออ่ นล้า และคุณคา่ จากงานหนงั สือเลม่ นื
ขอยกใหก้ บั พอ่ และแม่ ผู้เป็นครูคนแรกของผเู้ ขียน
ณฐ์ พล ใจจริง
( 32 )
ขนุ ศกึ ศกึ ดนิ า และพญาอนิ ทรี
ปฎสัมพ้นธ์ชนั ไมเ่ ท่าเทยี มระหวา่ งไทซกบั สหรรั ฯในชุคสงครามเยนทงมรดกอะไรไวก้ ับสงั คม™กไั ร
(ภาพจาก Life )
บทท่ี 1
กราวพากย์
ตวตmละประวัตศาสตร์นิพนธไ์ ทยในยคุ สงครามเย็น
สำนึกเกีย่ วกบั ตัวตนของชาตทิ ีป่ รากฏโนประวตั ิศาสตร์นพิ นธ์ของประเทศตา่ ง =1
ในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใตใ็ นสมยั แห่งการปฏสิ ัมพันธ์กบั เจ้าจกั รวรรดแิ ละภาย
หลังไต้รับเอกราชเมอ่ื สงครามโลกคร้ังท่สี องสนิ้ สุดลง ไต้กลายเปน็ ประเดน็ สำคัญใน
ศกึการษศาึก!1 ษตา่สสวำนหปรรับะนวกัตั วศชิาสากตารร์นทิพ่ีสนนธใ!์จทปยรไะนวชตั ว่ศงาดสงัตกรลภ์ า่ ูมวปิกญัลับญตากแอตยใู่น่ น่าปฅวราะนหเลงาียดบใงจนั ทแ่กี ลาะร
ได้รับผลกระทบจากกระแสคำถามขา้ งต้นน้อย ในทางตรงกันข้าม ประวตั ศาสตร์
นต่อิพไนปธ์ไ(Sทeยaยrังsค1งผ99ล3ติ ,ซ3า-ป4ร;ะวTัตhศoาnสgตcรh์เaอiก2ร0า0ช3ท,ีเ่ น3-น้ 2ย7าํ้) การต่อตา้ นการล่าอาณานคิ ม
ที่ผ่านมาความคลมุ เครอื ของสภาวะกึ่งอาณานิคมของไทยไนสมัยทีเ่ ผชญหน้า
กมบัหเาจก้าษจกััตรรวิย!ร์ นรกดาิสร่งรผกั ลษใาหเลช้ กนรชาช้ันขนอำงไไททยยสขรนา้ ใงนคชำอ่วธงกบิ ลาายงเกพ่ยีทุ วธกศับตคววรารมษสทาี่ ม2า4รถคขำออธงพิบรายะ
ดังกล่าวถกู รกั ษาสืบเนื่องตอ่ มาในประวตั ศิ าสตร์นิพนธ์ไทยจวบจนปจั จบุ ัน กอ่ ใหเ้ กิด
สำนกึ ตวั ตนและความภูมใิ จในลกั ษณะเฉพาะของไทยทไี่ มเ่ คยตกเป็นเมอื งขนของใคร
อยา่ งไรกีตาม การศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์การเมืองไทยในช่วงหลงั ท่ีใชก้ รอบการ
วิเคราะหห์ ลงั อาณานคิ มได้เผยใหเ้ ห็นถึงผลกระทบจากการมีปฏิลัมพันธ์ทางอำนาจท่ี
ไมเ่ ทา่ เทยี มกันระหว่างไทยกบั เจ้าจักรวรรดิ ซ่ึงฝา่ ยหลงั ถอื ครองอำนาจ สว่ นฝ่ายแรก
ตกเปน็ รองทางการเมอื งและเศรษฐกจิ ทำใหเ้ กดิ การตีความใหมเ่ กึ่ยวกบั ผลกระทบ
ของเจา้ จักรวรรดทิ ีม่ ตี อ่ ไทย และทำไหเ้ ห็นวา่ ไทยมิไดม้ ีฐานะเป็นข้อยกเวน้ หรือมี
ชุนศกึ ศกั ดนิ า และพญา£ นทรี
ลักษณะเฉพาะอันเกดิ จากการไมไ่ ดต้ กเปน็ อาณานคิ ม แตไ่ ทยเป็นประเทศกึ่ง
อาณานคิ ม หรีอเปน็ ประเทศที่มีอสิ รภาพแตเ่ พยี งในนามเทา่ นั้น (Jackson 2011, 37)
ไเทยใตเ้ งาสงคราม!ย็น
การสนิ้ สุดลงของสงครามโลกครั้งทส่ี อง พรอ้ มกับการสถาปนาสหประชาชาติ
(United Nations: UN) และหลกั การการกำหนดการปกฅรองด้วยตนเอง กระต้นุ ให้
ขบวนการกชู้ าติในดนิ แดนเอเชียตะวันออกเฉยี งไต้ท่เี คยตกเปน็ อาณานิคมเคลอ่ื นไหว
ต่อด้านเจา้ จกั รวรรดิจนต้องทยอยถอนตวั ออกไป ขณะที่ไทยแม้รอดพ้นจากการกลาย
เป็นผ้แู พ้สงครามร่วมกับญ่ีปนุ่ ไดเ้ พราะขบวนการเสรไี ทย แตก่ ารสน้ิ สุดลงของ
สงครามโลกครง้ั ท่สี องนน้ั กส็ ่งผลให้เกิดการเปล่ยี นแปลงโครงสร้างการเมองภายในดว้ ย1
ไมน่ านหลังจากน้ัน เงาของสงครามเยน็ ได้เคลื่อนตวั เข้าปกคลมุ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยสหรฐั อเมริกากลายเปน็ ผ้นู ำใหม่เหนือประเทศโลกทีส่ ามในลกั ษณะอาณานคิ มแบบ
ใหม่ทเ่ี ส้ิอประโยชน์ไห้กับกลุ่มทนุ ภายไนและภายนอกประเทศตลอดจนชนชันนำของ
ประเทศบรวิ าร (Chomsky 1979, Preface)
นับดั้งแตป่ ลายสงครามโลกครัง้ ทสี่ อง สหรฐั ฯต้องการขยายผลประโยชนท์ าง
การพองและเศรษฐกจิ ของตนออกไปทั้วโลก (Pax Americana) โดยไต้เร่ิมหมายตา
ไทยเพราะเห็นวา่ เปน็ ประเทศที่ม่ทรพั ยากรอดุ มสมบูรณ์ หากมีอทิ ธพิ ลเหนือไทยได้
จะทำให้นโยบายการลดอทิ ธพิ ลขององั กฤษในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตบ้ รรลุผล
สำเรจ็ ได้ เน่อี งจากไทยจะสามารถปอ้ นทรัพยากรธรรมชาติให้สหรัฐฯ แทนทส่ี หรฐั ฯจะ
ต้องซอ้ วัตถดุ ิบจากประเทศอาณานิคมของอังกฤษ อกี ทัง้ การทส่ี ถานะของไทยไม่เคย
ตกเปน็ อาณานิคมของเจ้าจกั รวรรดิใด จะทำใหส้ หรัฐฯไมถ่ ูกมองวา่ เป็นจกั รวรรดนิ ิยม
ใหม่ (Aldrich 2000a, 320-21) ในชว่ งการขยายอำนาจจักรวรรดิของสหรัฐฯนน้ั
สหรฐั ฯประเมนิ ว่าพวกชาดินยิ มสุดข้ัวและคอมมวิ นิสต์เป็นภัยต่อการขยายอิทธพิ ล
ของตน ไมน่ านหลงั จากนัน้ โวหารการต่อตา้ นคอมมิวนสิ ต์ของสหรฐั ฯก็เริ่มดน้ ขั้น
จนทำใหค้ อมมวิ นสิ ตก์ ลายเป็นภัยคกุ คามโลก (Paterson 1972, 93; ชอมสกี 2544,
18-19; Neher 1980, 567)
2490 นนั้ จอมพลป. พบี ูลสงครามได้กลบั คนื สู่
สำหรบั ไทยในต้นทศวรรษ
อำนาจทางการเมอี งอกี คร้ัง เปน็ ชว่ งเวลาเดียวกบั ที่สหรฐั ฯกำลงั ขยายอทิ ธพิ ลเหนือ
ในช่วงปลายสงครามโลกคร้งั ท่สี อง กลุ่มรอข’้ลลิสตก์ ับกลุ่มการเมืองอืน่ ๆในนามของขบวนการ
เสรีไทยได้รว่ มมอื กันโคน่ ลม้ รฐั บาลจอมพลป. พิบูลสงคราม และต่อดา้ นญีป่ นุ ดู สุเนตร (2555, ฟ).
4
กราวพากย็
ปเิ ชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ภายหลงั การล่มสลายลงของรัฐบาลจีนคฒะชาติ สหรฐั ฯได้
จัดประชมุ คณะทูตประจำภูมิภาคตะวนั ออกไกลในกรงุ เทพฯขึ้น เพ่ีอแสวงหาหนทาง
ในการรกั ษาผลประโยชนข์ องตนไนระยะยาวด้วยการตอ่ ตา้ นคอมมวิ นสิ ตแ์ ละอำพราง
•าาามเปันจักรวรรดินิยมของตนเองไว้2 ครน้ั เมอ่ื ไทยไดล้ งนามในข้อตกลงทางการ
ทหารกบั ส'หรฐั ฯ แล้ว สหรัฐฯจงึ ไต้เริ่มเข้ามาจำกัดความเปน็ อสิ ระในการตัดสนิ ใจของ
ไทยมากขนึ้ เร่ือยๆ (Neher 1980, 327)
เบเนดิกท์ แอนเดอร์สัน (Benedict Anderson) นักรัฐศาสตรอ์ เมรืกนั ผู้
เชยี่ วชาญเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ เห็นวา่ ปฏสิ มั พันธร์ ะหว่างไทยกบั สหรฐั ฯในยุค
สงครามเย็นน้นั มคี วามสำคญั อย่างยง่ิ ยวด เนองจากสหรฐั ฯได้เร่มิ เขา้ มาครอบงำการเมอื ง
ำๅยผา่ นการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ต่างๆ อนั มีผลกระทบลกึ ซง้ึ ตอ่ การเมือง เศรษฐกิจ
และสังคมของไทย เขาจงึ เรยี กร้องให้มืการศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์การเมอื งไทยในชว่ ง
เวลาแหง่ “อเมริกันนุวตั ร” (American Era) (Anderson 1985, 19; แอนเดอร์สนั
2553)
การทืเ้ นคำอยมาย “ราชาชาตนิ ิยม” ยุคล่าอาณานคิ มในประวัตศิ าสตรน์ ิพนธ์
ยุคสงครามเยน็
แมว้ า่ การปฏิวตั ิ 2475 จะปดิ ฉากระบอบสมบรู ณาญาสิทธริ าชยล์ งแลว้ ก็ตาม
แต่ประวัติศาสตรน์ พิ นธแ์ บบราชาชาตนิ ิยมว่าดว้ ยการรกั ษาเอกราชโดยชนช้ันนำท่ถี ือ
กำเนดิ ในสมัยสนบรู ณาญาสิทธิราชย์ยงั คงอยู่ โดยมไิ ต้ถูกทา้ ทายอยา่ งสำคัญจาก
ปัญญาชนทต่ี อ่ ต้านระบอบเก่า พวกเขาเพียงทำใหแ้ นวคิดเรื่องชาตมิ คี วามสำคัญขึน้
มาและกลายเปน็ จุดหมายของประวตั ิศาสตร์เทา่ น้ัน (ธงชยั 2559ง, 13) ดว้ ยเหตทุ ี่
,ใม่มีการทา้ ทายคำอธบิ ายแบบราชาชาตนิ ยิ มอยา่ งถึงรากถึงโคน คำอธบิ ายน้ีจงึ มชี วี ิต
สบื ต่อมาอยา่ งทรงพลังถงึ ยุคสงครามเย็นไตั คำถามคอื คำอธบิ ายแบบราชาชาตนิ ยิ ม
เดินทางจากยคุ ลา่ อาณานิคมมาถงึ ยคุ สงครามเยน็ ได้อยา่ งไร ดว้ ยบริบทแวดลอ้ มของ
ยคุ สมยั เชน่ ไร รวมทัง้ ปฎสิ ัมพันธ์ทางอำนาจและปญั ญาระหวา่ งชนช้ันนำไทยกบั สหรัฐฯ
แบบใดท่ีทำให้คำอธิบายดงั กลา่ วยังคงมชี วี ิตสบื ตอ่ มาได้
NARA, RG 84 Box 6 Top Secret General Records 1947-1958, Stanton to Secretary
of State 15 February 1950*
J ดูคำอชบิ ายทำนองดั4กล่า')'ไน Neon (1961) ; Rong (1963) ; Manich (1970) ; แถมสุข
(2514, 1-14 ; 2528ก) ; เพ็ญศรี ดุก (2527); ประภสั สร (2543) เปน็ ตน้ .
5
จนุ คิก สัทดนํ า และพญา['นทา
ควรบันทึกด้วยว่า การสนั สุดลงของสงครามโลกครง้ั ทสี่ องมิได้เปลย่ี นแปลง
โครงสรา้ งอำนาจระดับโลกจากอังกฤห่ไนฐานะเจา้ จกั รวรรดไิ ปส่สู หรัฐฯ เทา่ นั้น แคiยง
มีผลต่อการเปล่ียนแปลงโครงสรา้ งอำนาจภายในการเมอื งไทยอกี ดว้ ย กลา่ วคือ รฐั บาล
จอมพลป.พบิ ูลสงคราม ผู้เปน็ ตัวแทนอำนาจของคณะราษฎรทีม่ คี วามเข้มแข็งไนการ
ปราบปรามกล่มุ รอยัลลีสดท้ ีต่ อ่ ต้านการปฏวิ ัติ 2475 ได้ล้มลง สภาพแวดลอ้ มดงั กล่าว
เปิดโอกาส'ใหก้ ลมุ่ รอยลั ลิสต์,พลกิ พนิ กลบั มามบี ทบาท-ทางการเมอื งอีกครง้ั ผา่ นการ
สนบั สนนุ การรฐั ประหาร 2490 (สุธาชัย 2550ข ; ณัฐพล 2556ก)
การกลับนาครง้ั น้ี กลุ่มรอยลั ลิสตเม่เพยี งมบี ทบาทในการช่วงชิงอำนาจทาง
การเมืองจากคณะราษฎรกลับคนื มายังพวกตนเท่านน้ั แต่ยังไตส้ บื ทอดคำอธิบายแบบ
ราชาชาตินยมใหv้ iนกลับคนื มาอกี คร้ังในยุคสมยั ท่ีสหรัฐฯ เป็นเจา้ จักรารรติอกี ด้วย
โดยพวกเขาเรม่ิ ชว่ งชงิ ความชอบธรรมในเร่อื งท่ไี ทยรอดพน้ จากการสญู เสยี เอกราช
เนอ่ื งจากดกเป็นผ้แู ทส้ งคราม ด้วยmรอชบิ ายยอ้ นหลังกลบั ไปถงึ พระปรีชาสามารถของ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัวและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว
ท่ีทรงเคยเปดิ พระราชไมตรกบั ชาดตะวนั ตกรวมทั้งสหรฐั ฯ ดว้ ย พวกเขาอา้ งวา่ น่ืคอื
สาเหตุทที่ ำใหไ้ ทยรอดท้นจาทการตกเปน็ ผู้แท้สงครามเมื่อสงครามไลทครัง้ ท่ีสองส้ินสดุ
ลง และโยนความผิดพลาดไนชว่ งญี่ป่นอึดครองไทยไวท้ ี่คณะราษฎร'1 กลา่ วโดยสรปุ
พวกเขามีสว่ นสำคญในการฟินฟคำอธบิ ายว่าด้วยการรกั ษาเอกราชของไทยจาทสุคสา่
อาณานคิ มใหม้ ชี ีวิตมาถึงหลังสงครามโลกครั้งท่ีสองนัน่ เอง
4 ดู หลยุ (2493) สว่ นงาณขฃึ นของทลม่ รอยัลรสดท์ ่ีสร้างคำอธบิ ายเก่ยี วลับพระปรชี าสามารถ
ขอ3พระจอมเกลา้ ฯในด้านตา่ งๆ เช่น เป็นนกกฎหมาย นกั ปกครอง นกั วิทยาศาสตร์ นละนกั การ
ดดู มคี วามคํคแบบเสรนิ ยิ มและนำไทm?Jครบั ฅวามทนั สมยั จากมต็ รประเทศ สง่ ผลใหัใทขมคี วาม
viเปน็ สรวยิ ใหม่ ดู Seni and Kuril (1961); Seni (1950, 32-66) ดาั งใน Moffat (1961, x) ท้ังน่ั
พ่นี ัองปราโมชได้แปลพระราชหัตถเลขาและประชมุ ประกาศรชั กาล 4 เป็นภาษาดังกฤมไนช่างปิ
2491 ซ่งึ แสดงถงพระปรชิ าสามารmiaะmะราชคำริทเ่ี ปน็ สมยั ใหม่ ต่อมา ม.ร.ว' . เสนยิ ์ ปราโมช
แสดงปาฐกถาสอ์ ง “King Mongkut as a Legislator" ต่อทีป่ ระชมุ นักการทด ณ สยามสมาคม
1ดขมีพระองคเ์ จา้ ธานนึ วิ ตั ในฐานะนายกสยามสมาคมฯ กล่าวนำปารกถา ตอ่ มาปาฐกถาชิน้ นถทู
ดพมห์ภายใคชอ้ิ คงิ มงQฎในฐานะทรงเป็นนกนฅศาสฅร (2492) หลงจากน่ัน ปาฐกถาดงั กล่าวไค
ถกู ฅพินทไ้ นวารสาร miมสนาฅนในปื 2493
6
ทราวพาทย์
คาามรแู้ บบจักรวรรดิ ะ ทารสร้างตวั ตนเทยในยฅุ สงครามเย็น
ในฐานะที่สหรัฐฯเป็นเข้าจักรวรรดิใหมใ่ นยคุ หลังสงครามโลกครั้งท่ีสอง สหรฐั ฯ
ไมเ่ พียงมงุ่ ขยายอำนาจทางการเมืองในระดับโลกเท่านน้ั แตย่ งั ไดส้ ถาปนาความรูแ้ บบ
จักรวรรดิขนดว้ ย สำหรบั ไทยแลว้ ตง้ั แตป่ ลายสงครามโลกครัง้ ทีส่ อง สหรัฐฯได้เรมิ่
คนหาลกั ษณะประจำชาตไิ ทยเพอ่ื ใช้ในการทำสงครามจิตวทิ ยาต่อไทยในฐานะท่ไี ทย
เปน็ ฝ่ายอักษะและเตรยี มสำหรบั การบรู ฌะประเทศภายหลังสงคราม (เก่งกจี
25:19, 32) ไมน่ านหลังจากนนั้ เมอสงครามเยน็ เรมิ่ ตน้ ขน สหรัฐฯ ต้องการกำหนดแผน
สงครามจิตวิทยาตอ่ ดา้ นคอมมวิ นสิ ตใ์ นไทย จงึ ทมุ่ เทคน้ หาลกั ษณะประจำชาติไทยขึ้น
อีกจนได้ข้อสรุปเท่ียวกับตัวตนของคนไทยวา่ คนไทยเป็นคนมคื วามอ่อนน้อม ไมเ่ อา
จรงิ เอาจัง ชอบความเข้าเล่หเ์ พทบุ าย ไม่สนใจปรชั ญาท่หี นกั หนว่ ง ไม่ทะเยอทะยาน
มคี วามเปน็ ปัจเจกสงู มาก แแดลก่ ะลคับนไยทอยมพจ!ำอนมนทต่จี อ่ ะผแ้มู สีอดำงนกาาจรตม่อฅึตวา้ นามหภันูมทิใํทจใานกมตกีนาเอรทงสวูงง
เป็นคนทีร่ ักษาหน้าตามาก
บุญคุณหรือพบกับความหยิ่งยโส แม้จะมคี นไทยทตี่ ่อตา้ นชาวตะวนั ตกบา้ ง แตค่ น
ไทยส่วนใหญ่นยิ มชมชอบคนอเมริกนั คนไทยมีสำนกึ ภมู ใิ จในตัวตนทผี่ ูกพันหย่ังลกึ
กับพระมหากษัตรยิ ์ ศาสนา และประเทศชาดี ซงความสำนึกภูมิใจในตวั ตนน้ีทำให้
พบุควลกิกเขแาหหง่ ลชอามดขีรวอมงคเปน็นไทปยกี เแชผน่ ่น{ไสทรา้ำงไคหว!้.ทายมมเขีค้มวแามขเง็หภมาายะใสนมชมาาตกิ ไดนว้ กยาขร้อเปสน็ รจุปาเนกปย่ี ฏวกิบับัติ
การจิตวทิ ยาตอ่ ตา้ นคอมมิวนิสต์ ดงั นนั้ สหรัฐฯ จำเปน็ ต้องพัฒนาและขยายความ
สัมพันธก์ ับชนชั้นนำไทยเพ่ือทำให้การตอ่ ด้านคอมมิวนิสต์มีความเขม้ แข็งมากยงิ่ ข้ึน3
ด้วยการวเิ คราะหเ์ ชน่ นผ้ี นวกกบั แนวทางการรณรงคต์ ่อตา้ นคอมมิวนิสต์ของ
รฐั บาลจอมพล ป. แบบชาตนิ ยิ ม ที่เคยใช้ชาตเิ ปน็ แนวคดิ หลกั ในการต่อตา้ น
คอมมวิ นิสต์แตไ่ มป่ ระสบความสำเรจ็ และความนิยมของประชาชนทม่ี ตี อ่ รฐั บาล
จอมพลป. ไนชว่ งท้ายลดน้อยลงมาก สถาบันกษัตรยิ ์ไทยจงึ มีความเหมาะสมท่ีสุดท่ี
ะ> The Dwight D. Eisenhower Library, White House Office, Office of the Special
Assistant for National Security Affaire; Hecord 1952-1961 NSC Series, Briefing
Notes Subseries Box 16, File: Southeast Asia (1953-1961), บ.ร, Psychological Strategy
based on Thailand, ร September 1953; Memorandum for Genera] Smith-Chairman
of Operations Coordinating Board from Robert Cutler-Specia] Assistant to the
President, 10 September 1953,
7
ขนศกึ ศึกดนา และพญาอนิ ทรี
จะเป็นศนู ย์กลางเอกลกั ษณแ์ หง่ ชาตเิ พอ่ื สร้างตวั ตนของคนไทยในการต่อตา้ น
คอมมวิ นิสต์ สถานการณ์สงครามเยน็ เออให้ความตอ้ งการของกล่มุ รอยลลิสตท์ ่ีจะ
สบื ทอดคำอธินายเก่ยี วกับการไมเ่ คยตกเป็นอาณานิคมของไทยลันเนือ่ งมาจากพระ
ปรชี าสามารถของพระมหากษัตริย์ใทยไนอดตี บรรจบเข้ากับความตอ้ งการของสหรฐั ฯ
ที่จะแสวงหาความรเู้ กีย่ วกบั คุณลักษณะของคนไทยเพ่อื ทำสงครามจิตวทิ ยาต่อตา้ น
คอมมิวนสิ ต์ และอำพรางบทบาทครอบงำทม่ี ตี อ่ ไทยในฐานะเชา้ จกั รวรรดิไดอ้ ยา่ ง
ประจวบเหมาะ
นอกจากน้ เพ่อื รกั ษาจักรวรรดใิ หม้ ั่นคง เชา้ จกั รวรรดจิ ำเปน็ ต้องไดม้ าซงความรู้
ต่อสิง่ ทีเ่ ปน็ เปา้ หมาย สหรัฐฯจึงเร่มิ สถาปนาความร้แู บบจกั รวรรดิข๋นึ ด้วยการขัดตงั้
สถาบันวจิ ยั ความรเู้ กี่ยวกบั เอเชยี ตะวันออกเฉยงไตท้ ้งไนและนอกมหาวิทยาลยั ใน
สหรฐั ฯ ฃงมผี ลต่อการสรา้ ง รกั ษา คัดสรร และผลิตฯทความรูท้ ี่สอดคลอ้ งกบั ผล
ประโยชน์ของสหรัฐฯไนยุคสงครามเขน็ ''
ไทยไดก้ ลายเป็นวัตถุแหง่ ความร้ใู นยุคสงครามเย็น และด้วยเหตทุ ี่ไทยมิไตถ้ ูก
ปกครองโดยตรงจากเชา้ จักรวรรดิในยุคล่าอาณานคิ ม การสร้างความเวา่ ด้วยไทยในยุค
สเกงีย่ ควรกาบัมคเยวน็ าจมึงรดู้วกา่ อดย้วูภ่ยาลยงั ใคตม้นตกั า่ วงชิๆากทา่ีเผรยอแเมพรริก่อนั อกซไปึ่งฏทสี่ัวโ่วลนกสำ(คCัญhใoนmกsาkรyสeรt้างaพl.ิม1พ9เ์ ข9ยี7ว;
Robin 2001) ในช่วงทศวรรษ 2500-2510 นกั วิชาทารอฌรกิ นั ไดม้ ีส่วนในการสรา้ ง
ความรวู้ า่ ดว้ ยไทยในหลายสาขาวชิ า อาทิ ประวตั ิศาสตร์ รฐั ศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
6 Bell (1982) และดเู พม่ิ เตมิ ใน เก่งกจิ (2559, 28) ควรบันทึกดว้ ยวา่ หนว่ ยงานทมี่ สี ่วนสำคญั
ไนการใหก้ ารสนบั สนุนการสร้างความรไู้ นยุคสงครามเย็นคือหนว่ ยงานของรฐั บาลสหรฐั ฯ เช่น
(กUรnะทitรedวงกSาtaรtตeา่ sงปOรpะeเทraศtioกnรsะทMรวisงsกioลnาโะหUมSOองMค)ก์ าแรลบะรบิหราบิ รัทวทิเทนุ ศเกอิจกแชทน่งขสนหารดฐั!หอญเมข่ รอกิ งาสหหรรฐัือฯยูชเอชมน่
บวรบัทคารเ้ นกึ้ (Carnegie Corporation) บรรบทั แรนด์ (Rand Corporation) รวมทง้ั
มหาวิทยาลัยชั้นนำ สถาบันวชิ าการ มลู นชเิ อเชยี (Asia Foundation) และมลู นิธืรอกกเฟลเลอร์
(Rockefeller Foundation) เป็นต้น นอกจากน้ึ มกี ารขัดตัง้ สาขาวชิ าอาฌาบริเวสเศกึ ษา (Area
Studies) และขัดตง้ั สถาบันวจิ ัยเกี่ยวกับเอเชยี ตะวันออกเชยี งใตแ้ คะไทยในมหาวทิ ยาลัยขนด้วย
สำหรบั กรณไี ทยนน้ั ไนช่วงแรกของสงครามเยน็ ได้มกี ารเรม่ิ ตน้ โครงการผลติ ความรู้เกย่ี วกับเอเชยี
ตะวนั ออกเฉยี งไตแ้ ละไทยชนั ทีม่ หาวิทยาลยั คอร์แนถเป็นแท่งแรกในปื 2490 และมกี ารจดั ตงั้ โครงการ
ดังกล่าวไนมหาวิทยาลัยอกิ หลายแท่งในเวลาต่อมา
8
กวาวพากย์
สังคมวั ิทยาและมาบบุ ย,วิทยา7 กล่าวได้วา่ รฐั บาทสหรฐั ฯและหนว่ ยงานตา่ งๆ มีสว่ น
ส่>าญในการทมุ่ เทงบประนาณ!นการสรา้ งความรวู้ า่ ด้วยไทยไนยุคสงครามเยน็ ขนเพ่อื
.'กับสนุนนโยบายตอ่ ต้านคอมมิวนิสต์ของตน'*
กอธบิ ายแบบ “ราชาชาตนิ ยิ ม” กบั การต่อต้านคอมมวิ นิสต์
นบั แต่ทศวรรษ 2490 เปน็ ต้นมา การสร้างความรวู้ า่ ด้วยไทยของสหรัฐฯไต้
ขยายตวั อยา่ งมากในหลากหลายสาขาวชิ า9 อยา่ งไรกต็ าม ความรูเ้ หล่า'นมไตส้ รา้ งขน
มาใหม่ทั้งหมด แดฉ่ วย!ชค้ ำอธิบายที่ดำรงอยใู่ นสงั คมไทยด้วย ดงั จะเห็นไดว้ า่
กกั วิชาการอเมรีกนั ไต้นำคำอธบิ ายแบบราชาชาตน็ ยิ มของกลมุ่ รอยัลลิสต์ท่รี อั พื่นขน
บากายหลงั สงครามโลกครั้งทสี่ องมา,ใชอ้ ธิบายความเป็นไทยในยคุ สงครามเยน็ ตวั อยา่ ง
สเชาน่ มากราถรรศกั กึ ษษาาเบอกทรบาาชท'ขขอองง1ไพทรยะ1ใชว!อดม้ไเกนลงาาฯนทป่ีนระำไวทตั ศยปาสรตับรต์,นวั รพิ บั นคธว,์ขาอมงเปแน็อส็บมบยัอ็ ใตหมใจ่ลนว์
มอพ่แฟทิ และเอ. บี. กรีสโวลต์ '1 1 เปน็ ตน้ งานของพวกเขาได้ยนื ยันความสามารถ
ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดตี ว่าเป็นจดุ เรมิ่ ดน้ ของการสร้างความทน้ สมยั ให้กับไทย
ทยการรับความรสู้ มัย ‘หมเี ข้ามาโดยเฉพาะอย่างย็งจากชาวอเมริกัน อนั มผี ลทำไห้
-7 ดรู ายละเอยี ดใน แถมสุข (2525ข, 57 66) ; อานนท์ (2538, 307-47) ; นครนิ ทร์ (2542)
สำหรับนักวชิ าการอเมริกันที่ฏบี ทบาทสำคญั ในการสรา้ งความร้เกีย่ วกบั ไทยในยุคสงครามเยนิ เชน์
เชิมส์ อินแกรม (James Ingram) จอรจ์ วลิ เสยี ม สกินณอร์ (George William Skinner) เควดิ
รยั อาจ (David Wyatt) เฮอร์เบิร์ต พื. ฟลิ สีปส์ (Herbert p. Phillips) เดวิด เอ. วลิ สน (David
A. Wilson) วลิ เสยี ม เจ. ซิฟ่ฟิน (William J. Siffin) แลคด์ เอ็ม. โทมสั (Ladd M. Thomas)
คลาท ดี. แนร์ (Clark Dงา.นNวิจehยั ขerอ)งนแลกั ะวเิชฟาร่ กดารดทับี่ทบำลงา.บร!่ิกหสก์ บั (รFัฐreบdาลพสห.รRัฐฯigแgลsะ)บเรปร็นษตท้นขนาดใหญ่
lS Sears (1993, 4) ;
ไนชวี งทควรรษ 2500 เชี่น Wilson (ใ962a, 1968) Mehden and Riggs (1967) Wilson,
Mehden, and Trescott (1970) เปน็ ต้น
9 เกง่ กจิ (2559, 27-29) และคูตัวอย่างการค้นคว้าอย่างดเี ยย่ี มของเกง่ กจิ (2561) ในประเดน็
miสร้างองคค์ วามรเู ทยี่ วกับชนบทไทยของสหรฐั ฯโนฐานะเจ้าจักรวรรดผิ า่ นงานวชิ ยั มานุษยวิทยา
ในไทยยคุ สงคราฆเยน
1U Mofl'at (1961, x) มอฟแฟิทได้ค้างอิงงานเขียนของกสมุ่ รอยลั ลสิ ตจ้ ากบทความของ Seni
{1950, 32-66) สวํ นกรสิ โวลดใตร้ ับทนุ อุดหนนุ จากมลู นิธิเอเชยี ซี่งไต้รบั การสนบั สนนุ จากสำนัก
ขา่ วกรองกลางสหรัฐฯ (CJA) ทงั้ นี้ งานของกรสิ โวลดใต้รบั การแปลเปน็ ภาษาไทยโดย สภุ ทั รดิศ
(2508) สำนงาน๚องมอฟ่แฟทิ ดู มอฟแฟิท (2520).
9
ชุนคกึ ศกั ดินา และพญาอินทรี
ไทยสามารถรักษาเอกราชเอา1ใ'!เใด้ และมวี ร่ ัยถงี ความสมั พนั ธอ์ ันดรี ะหวา่ งไทยกับ
สหรัฐฯนบั จากอดีตจวบจนยุคสงครามเย็น กล่าวโดยสรปุ นกั วชิ าการอเมรกิ นั ในยุค
สงครามเยน็ ได้สืบทอดคำอธบิ ายแบบราชาชาตนิ ยิ ม ซึ่งไตก้ ลายมาเป็นแม่แบบคำ
อธิบายว่าตว้ ยการรักบาเอกราชของไทยในงานวชิ าการหลากหลายสาชาวชิ า เชน่
รฐั ศาสตรแ์ ละประวตั ศิ าสตร์' 1 กลา่ วไดว้ ่าแทบไม่มีนกั วชิ าการคนใดต้งั ข้อสงสยั กบั
ความรดู งกล่าว จนทำใหค้ วามรวู้ ่าดว้ ยบทบาทของพระมหากษัตรยิ ใ์ นการรักษา
เอกราชของไทยได้กลายเปน็ สัจพจนข์ องความรู้-ตัวตนไทยในยุคสงครามเยน็ ซึง่ ไม่
เพียงอำพรางสภาวะกีง่ อาณานิคมของไทยในยุคอาณานคิ มเท่าน้นั แตย่ ังอำพราง
สภาวะก่ึงอาณานิคมของไทยในยุคสงครามเย็นอกี ดว้ ย1-
ยง็ ไปกว่านัน้ นักวชิ าการอเมริกันเหล่าน๋ึไมเ่ พียงยอมรับคำอธิบายแบบราชา
ชาตนิ ยิ มเท่านั้น แตน่ ักรัฐศาสตร์อเมรกิ นั ยงั ไดส้ ร้างทฤษฎกี ารพฒั นาการเมือง (Polit-
icai Development) และทฤษฎีความทนสมtrmงการเมอื ง (Political Modernization)
เพือ่ ทำให้การเมืองไทยมีความเป็นสมัยใหม่ ดต้วยการมงุ่ เน้นการสรา้ งชาดี (Nation
building) ให้เกิดความเป็นเอกภาพ และสร้างการเมอื งทม่ี ีเสถียรภาพ (stability) ทจ่ี ะ
สง่ ผลตอ่ ดุลยภาพความมั่นคงในภาพรวม และ!เดชอ์ งไม่ให้คอมมิวนิสต์เข้าแทรกซมึ
-11 ดตู }ั อยา่ งงานวิจยั ทางรฐั ศาสตร์ท่อี ธิบายความสามารถของไทยท่ีไม่เกยดกเป็นอาณานกมเจัา
ชกั รวรรดิในอดีตจวบจนไทย สหรัฐฯโต้ร่วมมือกนั ในการรักษาเอกราชของไทยปาี กภยั คอมมานิสต์
ในยคุ สงครามเบน เชน่ Chatrt (1976) ; Wilson (1970) ; Wiwat (1982) ; Vanida (1982) ;
Apichat (1985) ; Adulyasak (1986) ; Randolph ( 1986) ยททนงานของ Surachart
(1988) .
และลูตวั อย่างการอ้างรงสัจพจนล์ ังกลา่ วไปมาไนสาขารัฐศาสตรแ์ ละประาตศ็ าสตร์ เช่น Hall
(1968) ; Nuecterlein (1967) ; Wilson (1962b) ; Wyatt (1984) ; Riggs (1967) แม้งานของ
รกิ สข์ ิะเน้นศกึ ษาบทบาทของกองทพั ในการเมอื งไทย แสเ่ ขาไต้ให้ภาพเปรยี บเทย้ บถงึ วิเทโศบายของ
พขนระช!!ันรนีช้าารสะาหมวาร่าถงพในรกะจารอรมักเกษลาเ้าอฯกกราบั ชพขรอะงเไจท้ามยีนจดางกนโั้นดชยนชว้ีชา่นั้ เมนอำไเจทา้ ยจกกั เ็ รรมวตรรน้ คสกรด้างดคนั วากมษเปต็นรสิยม์สยัยไาหมนมี
ไทเกิดขน ดใน “Chapter 1 The Modernization of Siam and Burma,” 15-64. ทัง้ นร้ั กล้
ใชังานของฮอลลแ์ สะนอฟ่แฟิทเปน็ แหลง่ ข้อมูล โดยออลสแ์ ละมอฟแ่ สท, 1ใตอ้ า้ งรงคำอธบิ ายเรื่องพ1 ระ
ปรีชาสามารถของชนชนั้ นา้ ไทยนาจากงานของกลุ่มรอยลลิสต์ ดเู ชงิ อรรถและบรรณๅบกุ รมของส่ารา
เหลา่ นั้
แอนเดอร์สัน (2558ข, 11) แสะดตู วั อย่างการอธิบายเรองความสืบเนื่องของพระปรชี าสามารถ
ของชนชัน้ นำในวเิ ทโศบายจากยคุ ล่าอาณานิคมถงึ ยุคสงครามเยน็ ใน ธานนึ ทร์ (2519, 49).
10
กราวพาทย์
ไทยไต้ ท้งั นี้ นกั รฐั ศาสตรเ์ หลา่ น้ไี ดเ้ ขา้ มาศกึ ษาการเมืองไทยภายหลังการปฏิวตั ิ 2475
และไดส้ ร้างความรวู้ ่าความไร้เสถียรภาพทางการเมืองของไทยนัน้ เกิดขนจากระแบ
ราชการ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงใเทII เทของกองทัพท่ีเช้าแทรกแซงการเมืองไทยมานบั ตัง้ แต่
การปฏวิ ัติ 2475 จนเปน็ ทม่ี าของวงจรการรฐั ประหาร (coup cycle) ทีไ่ ม่สิน้ สดุ ก่อให้
เกิดระบอบอำมาตยาธปิ ไตย (bureaucratic polity) ในการเมืองไทย (Wilson 1962b ;
Riggs 1967) กลา่ วอีกอยา่ งคือ ความร้วู า่ ดว้ ยการเมอื งไทยในสมัยสงครามเย็นได้
-อำพรางความสำคัญยง็ ของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ไทยให้หายไปจากความรู้ว่าดว้ ย
การเมอื งไทย (แอนเดอรส์ นั 2558ข, 8 14)13
การกอ่ ตวั 'ฃองประวัติศาสตร์นพิ นธแ์ บบ “ราชาชาตินิยมประชาธิปไตย”
ดังทีไ่ ด้กล่าวไปแลว้ วา่ แม้ไทยจะมกึ ารปฏิวัติเปลีย่ นแปลงการปกครองเมอื่ 24
มีถุนายน 2475 จากระบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชย์มาสรู่ ะบอบประชาธิปไตยแลว้ ก็ตาม
แต่การท้าทายประวตั ศิ าสตรน์ พิ นธ์แบบราชาชาตินย้ มกลับมนี อ้ ยมาก (ธงชัย 2559ค,
13) ประวัตศิ าสตร์แบบราชาชาตินยิ มจงึ ถกู สืบทอดตอ่ มาจนถงึ ยคุ สงครามเยน็ ได้
ประกอบกับประวตั ศาสตร์นิพนธ์ท่เี ขยี นโดยนักวชิ าการไทยในยุคสงครามเยน็ นั้นตก
อย่ภู ายไต้อทิ ธพิ ลของทฤษฎีการพฒั นาการเมืองและทฤษฏคี วามทันสมยั ทางการเมือง
ของนักรฐั ศาสตรอ์ เมริกนั จึงฉายภาพปัญหาการเมืองไทยไปยังการปฏวิ ัติ 2475 ของ
-คณะราษฎรว่าเป็นปฐมบทของการแทรกแซงการเมืองใดยกองทัพ (Morell and Chai
-anan 1981; Likhit 1985 ; Suchit 1987, 41 74) นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมของ
สังคมไทยในทศวรรษ 2510 ภายใตส้ งครามเยน็ และระบอบเผดจ็ การทหารของไทย
ทำใหน้ ักศึกษาและบญญาชนเกิดความรสู้ กึ ต่อด้านจกั รวรรตนิ ิยมสหรัฐฯ และไมพ่ อใจ
บรรยากาศทางการเมืองของรัฐบาลเผดจ็ การทหาร จนนำไปสกู่ าร่รอส้นคำอธิบายแบบ
รคาวชาามชทา้นตินสยิมมยั 'วไหา่ ดIท้วยยปสรชิถาาญบานั ณกขษอตั งรอิยด์กตี ลพายรนะมาเหปาน็ กเษคตัรรอยิง์ไยทดยเหทนี่รี่ยกั วษขาอเองกนรสิ าชติ แนลกั ะศสึกรษา้ าง
และประชาชนในการตอ่ ส1ู่กับระบอบเผดจ็ การทหาร ประวตั ิศาสตร์นพิ นธ์แบบราชา
ชาตนิ ิยมว่าด้วยการตอ่ ตา้ นเจา้ จักรวรรดไิ นรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้
ยาธ13ิปนไตอขกใจนากกานร้ีวเิเคควรนิา!:สHิวกวาสิรันเมอื ไงต1!้เทฅยยทดั้งไี่ ,มน่นอำสบงั ทเกบตใถทึงขปอัญงหสถาขาบองนั กพารรไะชมก้ หราอกบษแตั นรวิยคเ์ จิด้าเรฆื่อางพอิจำามร'เฌตา-
ด้วย ดู Hewison ( ไ997, 58-74).
น
*Jนศกึ ศักดนิ า และพญาสินทรื
เช้าอยหู่ วั ผนวกเข้ากบั ความเขา้ ใจผิดในเรื่องบทบาทกษัตรยิ ์นักประชาธิปไตยของ
พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เชา้ อยู่หัวภายหลงั การปฏิวัติ 2475 ไคก้ อ่ ตวั เป็น
ประวตั ศิ าสตร์แบบราชาชาตินิยมประชาธปิ ไตยในชว่ งเหตุการณ์ 14 ตลุ า 2516
นัน่ เอง1,1
คำอธบิ ายใหมเ่ กิดขน้ึ พรอ้ มกับการปะทะกบั ความเปน็ อืน่ ท่อี ยู่ภายในฐย่าง
ชชดัองเจไนทยนนั ทด้าือยคทอ่สี มุดมสิวง่ นผิสลตไฝ์ห่า้สยถชาา้ บยทนั กี่ กำษลตัังเรตยิ บิ!์ ดโตร้ แบั ลกะาพรยาทกายยอ่ คงวสางูมสเช่งอ่ืยิง่ตกลวอ่าดคจรน้งั ตใัวดตในน
ประวัติศาสตร์นบั แต่สินรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เช้าอย่หู วั และกอ่ ให้
เกดิ ลัทธหิ ลงใหลเชา้ (Hyper-royalism) ท่ีขยายตวั อยา่ งมากตั้งแตช่ ่วงทศวรรษ 2510
ซง่ึ เมอื่ ผนวกกับความหวาดกลัวคอมมวิ นิสต์ ในที่สดุ ก็นำใปส่โู ศกนาฏกรรม 6 ตุลา
2519 (ธงชยั 2559ก, [21])
เมอื่ แยงกี้โกโฮฆ ะ รอ่ งรอยของบาดแผลในสังคมไทย
ความเป็นเอกราชของรัฐอธิปไตยไทยในช่วงสงครามเย็นถูกตง้ั คำถามจากการ
ทยกัี่สหษ!รั นัฐฯชส่วงามราฐั รบถาตลงั้ จฐอานมทพพั ลขถน้ึ นใอนมไท(ยแอทนำใเคหอใั ทร์สยเนัป็น2เส55ม8ือกน,เร6ือ7บ)รรททง้ั ุกนเค้ี ใรน่ืองชบว่ ินงขกนลาาดง
ทศวรรษ 2510 มที หารอเมริกนั ในไทยมากถึง 48,000 คน ถงึ แมสั หรฐั ฯจะเรมิ่ ถอน
ทหารออกจากไทยต้ังแต่ปื 2514 แล้วก็ตาม แตภ่ ายหลงั เหตกุ ารณ์ 14 ตุลา 2516
ขบวนการนักศึกษาหวั กา้ วหน้ากเ็ รยี กรอ้ งให้สหรฐั ฯ เรง่ ถอนทหารออกไป โดยพวกเขา
เห็นว่าการมกี องทพั ต่างด้าวในดนิ แดนไทยถอื เป็นการสญู เสียอำนาจอธปิ ไตย ในขอเะ
ทฝี่ า่ ยอนรุ กั ษนยิ ม เชน่ กล่มุ กระทงี แดงและกลุม่ อนึ ๆ กลับมองว่าการดำรงอยู่ของ
-ฐานทัพสหรฐั ฯหรอื กองกำลังต่างด้าว มิไดม้ ีผลตอ่ การสญู เสยี เอกราชของไทยแด่
อยา่ งใด (พวงทอง 2549, 116 47)
อย่างไรก็ตาม แม้สหรฐั ฯจะถอนกำลังทหารออกจากไทยไป แตม่ 'ิ"เด้หมายความ
วา่ อทิ ธิพลของสหรฐั ฯไนไทยจะส้ินสดุ ลงทนั ที และเมอื่ ประเทศเพอื่ นบ้านของไทยเกดิ
ไกปารทเว่ัปสลัง่ยี คนมแไปทลยงทพารงอ้กมารกเมับอืคงวอายมา่หงวฉนั่ับเพกลรันงวา่คไวทายมอหาวจาจดะกเปลน็วั คโอคมม!มิ .นิวนตัวิสถตัด์กไ็แปพรคข่ วยาามย
แนบแนน่ ของปฎิสัมพนั ธ์ระหวา่ งไทยกบั สหรฐั ฯ เปดิ โอกาสใหส้ หรฐั ฯ เข้ามามบี ทบาท
14 คเู พ่ิมเตมึ เกีย่ วกับความสลบั ซบั ซ้อนของเร่ืองดังกล่าวไน ประจทั ย์ (2548).
12
กราวพากย์
-ในการเมอื งไทยระหวา่ งตลุ าคม 2516 ตุลาคม 2519 (Chomsky and Herman
1979, 223) หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯได้ใหก้ ารสนบั สนุนการขัดต้งั กลุ่มขวาจัดอนุรักษ-
นยิ มขน้ึ ในไทย โดยมีพลเอกวัลลภ โรจนวสิ ุทข้ึ ผเู้ คยได้รับการอบรมสงครามจติ วทิ ยา
จากสหรฐั ฯ เป็นหน่งึ ในผู้ก่อต้ังกลมุ่ นวพล และมีพลฅรืสุตสาย หัสดนิ เปน็ หัวหน้า
กลุม่ กระทงิ แดง สำหรบั สมาชิกของกลมุ่ ขวาจัดท้ังสองมาจากอดีตทหารผา่ นศึกใน
ลาวและเวียดนาม ทนเหลา่ นี้มีหนา้ ท่ีสร้างความรนุ แรง ลอบสังหาร ข่มขู่คุกคามด้วย
กำลัง ขวา้ งระฌด และทำทุกวิถที างเพ่ีอทำลายการเดินขบวนประทว้ งของฝ่ายหวั
ก้าวหน้าและการรายงานข่าวสารของหนังสือพมิ พ์ฝา่ ยตรงข้าม โดยมเี ป้าหมายเพ่อี
ขดั ขวางความตื่นตัวทางการเมอื งในไทยทอี่ าจนำไปสู่ความเปลยี่ นแปลงท่คี าดไม่ถงึ
-(ibid., 225 27)
ในทส่ี ดุ เมื่อความหวาดวิตกตอ่ ภยั คอมมวิ นสิ ต์ในยคุ สงครามเยน็ ของไทยพงุ่
ขน้ึ ถึงจดุ สงู สุดในช่วงปลายทศวรรษ 2510 เบเนดีกท์ แอนเดอรสนั ไดส้ ังเกตเห็น
อาการลงแดงทางสังคมอนั เปน็ อาการจิตวิทยารวมหม่ขู องคนไทยทห่ี วาดกลวั การพงั
ทลายของตวั ตนชึ่งมีศนู ย์กลางอยูท่ ีส่ ถาบันกษตั วิย์ จนระฌดอารมณอ์ อกมาเปน็ ความ
รุนแรงทนี่ ่าสยดสยองไนเหตกุ ารณ์ 6 ตลุ า 2519
เมอี่ บ้านเมือง,ของเราสงแดง ะ ประวัตศิ าสตรน์ ิพนธ์ไทยยุคหลงั สงครามเยน็
เบเนดิกท์ นอนเดอร์สัน เสนอวา่ อาการลงแดงทางสังคมจนก่อใหเ้ กดี
โศกนาฎกรรมในเกตุการณ์ 6 ตลุ า 2519 เกดิ จากความวติ กของคนไทยว่าจกั รวาล
วทิ ยาของตนกำลังจะถม่ สลายลง เน่ืองจากการเปล่ยี นแปลงทางการเมืองอยา่ งรวดเร็ว
ในประเทศเพือ่ นบา้ น การถอนทหารอเมริกนั และอุดมการณ์ “ชาติ ศาสน์ กษตริย์'
ทีเ่ คยครอบงำสังคมไทยมาอย่างชา้ นาน''ดถ้ ูกท้าทายจากคำถามใหม่ๆของปญ๋ ญาชน
(แอนเดอร์สนั 2558ก, 57-107) สองปภี ัดมา แอนเดอร์สนั ได้วิจารณ์ความรู้ว่าดว้ ย
ไทยศึกษาของนกั วิช 1ทารอเมริกนั ว่าปราศจากความคิดเชงิ วพิ ากษ์ และมสี ว่ นตอ้ ง
รับผิดชอบในการสรา้ งมายาคตใิ ห้กบั สงั คมไทย อนั กอ่ ใหเ้ กดิ ความลุม่ หลงในตัวตนจน
นำไปส่คู วามรนุ แรงในเหตกุ ารณ์ 6 ตุลา 2519 แอนเดอร์สนั ขวึ้ า่ ความรเู้ กย่ี วกบั 'ทย
ของนักวิชาการอเมรกิ ันมลี กั ษณะอนุรักษนยิ ม โดยเฉพาะอย่างยง่ิ นักรฐั ศาสตร์อเมรกิ ัน
ทเ่ี สนอว่าไทยมีลกั ษณะเฉพาะแตกต่างจากประเทศอนื่ ๆ และเสนอความเข้าใจผิดๆ
เก่ยี วกับบทบาทบrชาตินิยมของพระมหากษัตรยิ ์ไทย โดยเฉพาะพระบาทสมเดจ็ พระ
1^ ร/ 0
1'
13
ชุนศึก ศักดนิ า และพญาอนิ ทรี
เนื่องจากนิเกรัฐศาสตร์อเมริกนั มีความลับสนระหว่างแนวคิดเรอื่ งพระมหากษตั ริย์ (King)
กับชาติ (Nation) วา่ ทัง้ สองสิง่ คือส่งิ เดยี วกัน (แอนเดอรล์ แั 2558ข, 10-13, 46-47)
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเหตุการณ์ 14 ตลุ า 2516 เกิดการเปล่ียนแปลงภูมทิ ศั น์
ประวตั ิศาสตรไ์ ทยทงั้ ในระดับแนวคิดและวธิ ีการศึกษา เน่ืองจากระบอบเผด็จการทหาร
ทเี่ คยเปน็ ศนู ย์กลางข1 องอำนาจ'ใดลม่ สลายลง ปงผลสะเทือนต่อวงวชิ าการไทยอยา่ ง
กวา้ งขวาง นำไปปูกระแสความพยายามโตแ้ ย้งการเขียนประวัตศิ าสตร์แบบจารตี ประเพณี
ทเี่ น้นเรือ่ งพระราชพงศาวดารและราชอาณาจักรที่เคยถกู ใชเ้ ปืนเคร่อื งมือหนงึ่ ในการ
รกั ษาอำนาจและความชอบธรรมของรัฐ มาปูการเขียนประวตั ศิ าสตร์แบบไหมท่ ีห่ า้ ทาย
-และปฏเิ สธความรู้เกยวกับอดตี แบบเดมิ (Thongchai 1995b, 99-114 ; ฉบบั แปล
ภาษาไทย ดู ธงชัย 2562, 17 49) นอกจากน้ี เหตุการณน์ องเลือด 6 ตลุ า 2519
ยงั ส่ันคลอนความคดิ เรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ อนั เปน็ แกน่ ของคัวตนไทย
ตามขนบ (แอนเดอร์สนั 2558ข, 10) ส่งผลสะเทือนใหเ้ กิดกระแสภูมิปญั ญาใหม่
(revisionism) ที่ดคี วามและต้งั คำถามกบั ประวัติศาสตรน์ ิพนธ์แบบเดมิ
นกั วิชาการบางสว่ นได้หนั กลบั มาศึกษาประวตั ิศาสตร์ช่วงการปฏวิ ัติ 2475 ใหม่
และตคี วามเหตกุ ารณ์ดงั กลา่ วในเชิงบวกมากข้นึ นบั แตช่ ่วงปลายทศวรรษ 2520
เป็นต้นมา มีงานประวตั ศิ าสตร์นิพนธช์ นิ้ สำคัญๆท่ีศึกษาการปฏวิ ัติ 2475 เชน่ สำนกั
วิจยั และพัฒนา และคณะศึลปศาสตร์ วทิ ยาลยั เกริก (2528) ชาญวิทย์ เกษตรศรึ ิ
(2535) และนครนิ ทร์ เมฆไตรรตั น์ (2535) ตามมาด้วยการขยายการค้นคว้าเก่ียวกบั
การปฎวิ ัดิ 2475 ออกไปในมิติต่าง ๆ เช่น สพุ จน์ แจง้ เรว็ (2545, 63-80) ชาตรี
ประกิตนนทการ (2548, 2552) พอพันธ์ อยุ ยานนท์ (2549) ษณั ฑต จนั ทรไ์ รจนกจิ
(2549) กิตตคิ ักด้ิ อุไรวงศึ (2552) ใเรีดี หงษสั ตน้ (2556) ชาตชิ าย มกุ สง (2557)
ศราวฒุ ิ วิสาพรม (2559) อบชุ า อชิรเสนา (2559) ปราการ กล่ินพงึ (2560)
ศรญั ญ เทพสงเคราะห์ (2556ข, 2561) ธนาวิ โชตปิ ระดษิ ฐ (Thanavi 2018) และ
นริศ จรัสจรรยาวงศ์ (2561) เปน็ ดน้ ประวตั ิศาสตร์นพิ นธแ์ นวใหมเ่ สนอวา่ ปัญหา
ของการเมอื งไทยหลังการปฏวิ ัติ 2475 ไม่ใชเ่ รื่องกองทพั แทรกแซงการเมืองแตเ่ พียง
อย่างเดยี วดังเช่นประวัติศาสตรน์ พิ นธต์ ามแนวคิดการพัฒนาการเมอื งและความ
ทน้ สมัยทางการเมอื งของนักวิชาการอเมริกันและไทยนำเสนอ ในทางตรงกันข้าม
งานศกึ ษาแนวใหม่นี้ทัาทายประวัตศิ าสตร์นพิ นธแ์ บบ “ราชาชาตนิ ิยมประชาธปิ ไตย”
ทม่ี ีอีทธิพลต่อตัวตนและความเช่อื ของคนไทยตลอดมา ดังเชน่ งานของ สธุ าชัย
ยิ้มประเสรฐิ (2534) สมศกั ค้ิ เจียมธรี สกลุ (2544ข) ธำรงศกั ด้ิ เพชรเลิศอนันต์
14
กราวพากย์
< 2543) ธงชยั วินิจจะทูล (Tbongchai 2008, 11-37 ; ธ25งช56ยั ก2) 5i4f8ย,บุต25ร56แขส)งกณน้ฐกพกลุล
ใจจรงิ (2556ก, 2559) ศรัญณู เทพสงเคราะห์ (2555,
(2559) H(2e0w12is)onก1็น(1ต9้น97น, อ2ก0จ1า5ก)นJ้ี oธrงyชัย(2ว0ิน0จิ 1จ,ะก20ลู 1ไ1ด) ย้ อ้Hนanกrลilับyไป(2ศ0ึก0ษ6าก) ำแเนลิดะ
Ferrara
ตวั ตนไทยท่ีปรากฏขัน้ เมอื่ ไทยเผชิญหน้ากบั เจา้ จกั รวรรดสิ มัยล่าอาณานคิ มดว้ ย เขาได้
ผยให้เห็นถงึ มายาคติเก่ียวกบั ตัวตนไทยทีเ่ ชอ่ื ถอื กันมานานในสองประเดน็ สำคัญคือ
ประการแรก มายาคติในเรือ่ งแผนท่ีกับการเสียดินแดน ประการทีส่ อง ประวัตศิ าสตร์
นิพนธว์ า่ ด้วยการรกั ษาเอกราชโดยชนพนำสยาม หรอื ราชาชาตินยิ ม ในประการแรกนน้ี
ธงชัยขี๋ให้เห็นว่า มายาคติเรอื่ งภูมิกายาหรือตวั ตนไทยท่ยี ดึ โยงกบั แผนทีป่ ระเทศไทย
ชึ่งพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเทล้า"!และเหลา่ ชนขัน้ นำของรฐั สมบรู ณาญาสีทธริ าชย์
ไต้สร้างขนั้ ไนชว่ งการเผชิญหน้ากับเจา้ จกั รวรรดใิ นยุคลา่ อาณานคิ มาทเ หาใชเ่ ปน็ การ
ปกป้องประเทศดา้ ยความรักชาติและความกลา้ หาญ หรอื เป็นการกระทำทม่ี ีความ
สบื เนอื่ งยาวนานมาแด่โบราณแดอ่ ย่างใด ทวา่ เปน็ ไปเพ่ือสง่ เสริมอำนาจของพระองค์
เองใหม้ ิความมัน่ คง กลา่ วอีกอยา่ งคอื พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ "เไมไ่ ดด้ ำเนิน
วเิ ทโศบายในฐานะนกั ชาตินยิ มตามความหมายของคำว่า “ชาติ” ท่หี มายถึงผลรวม
ของคนท้งั หมดแบบสมยั ใหม่ดามท่ีเขา้ ใจในปจั จบุ นั แตอ่ ยา่ งใด เน่ืองจากในสมัย
ดงั กล่าวไทยยงั คงปกครองไนระบอบสมบรู ณาญาสิทธราชย์
อย่างไรกต็ าม แม้ว่าในชว่ งปฏึสมั พันธก์ ับเจ้าจกั รวรรดินัน้ ไทยจะไมถ่ กู
ปกครองโดยตรงจากเจ้าจกั รวรรดิ แตไ่ ทยถูกครอบงำในลกั ษณะก่งึ อาณานิคม อกี ท้ัง
ชนข้ันนำไทยไดเ้ ลยี นแบบวิธกิ ารปกครองอาณานคิ มจากเจ้าจักรวรรดมิ าใช้ในการ
ปกครองดนิ แดนต่างๆในไทยภายหลังการผนวกดินแดนประเทศราชดว้ ยการเจรจา
และการใช้กำลงั ทางการทหาร จนทำให้ใทยมีฐานะประหน่งื เจา้ อาณานคิ มภายไน
-(Thongchai 1994 ดูฉบบั แปลไทยไน ธงชัย 2556ก; Herzfeld 2002, 899 926 ;
Thongchai 2006 ดูฉบบั แปลไทยใน ธงชัย 2559ฉ)
นอกจากนี้ ในห้วงเวลาใกลเ้ คยี งกบั กำเนดิ แผนทีป่ ระเทศไทยนั้นเอง ธงชัยชไห้
เหน็ วา่ ประวตั ศิ าสตร์แบบราชาชาตนิ ิยมถือกำเนดิ ขัน้ จากคำอธิบายของชนขัน้ นำไทย
ที่พยายามแย่งชงิ ดนิ แดนกับเจ้าจักรวรรดิ แด่ไม่สามารถดา้ นทานอำนาจของเจ้า
จักรวรรดไิ ด้ ชนขนั้ นำไทยทง้ั เสยี หน้าและผดิ หวังจึงทำความเข้าไจกับสภาวะดังกล่าว
ดว้ ยการอธบิ ายวา่ ไทยถูกคกุ คามจากเจ้าจกั รวรรดิจนตอ้ งจำใจลงนามในสนธิสัญญา
เบาว็รงป็ 2398 ท่ีไม่เปน็ ธรรม และตดิ คามด้วยการถูกคกุ คามชว่ งชงิ ดินแดนอีกดว้ ย
15
ชนุ ศกึ ศกั ดนา และพญาอินทรี
ดว้ ยการพรรณนาให้ตวั เองเป็นเหยอื่ เช่นนี้ ปฎสัมพนั ธก์ บั เจา้ จักรวรรดีไนสมัย
อาณานิคมจงึ กลายเป็นห้วงเวลาแหง่ ความขมข่ืนของ "ชาดี” ที่ถูกเจา้ จกั รวรรดิ
เอาเปรยี บแตเ่ พยี งฝา่ ยเดียว อย่าง'ไรกด็ ี ปรชี าสามารถของชนชน้ั นำไทยกท็ ำไห้ไทย
ไม่ตอ้ งตกเปน็ อาณานคิ มของเจ้าจักรวรรดิในทา้ ยทส่ี ุด (ธงชยั 2559ฉ, 21-53)
ย่ิงไปกวา่ น้ัน ภายใตส้ ภาวะการจัดชว่ งช้นั ทางอำนาจของจักรวรรดนิ ิยมใน
กลางพทุ ธศตวรรษที่ 24 ซ่ึงไทยมสี ถานะตกอยภู่ ายใต้อาณัติของเจ้าจกั รวรรดิ กอ่ ให้
เกิดความเสึกดอ้ ยเกียรติเชงิ เปรยี บเทียบขน ชนชน้ั นำจึงแสวงหาความดอ้ ยกว่า หรือ
ความเป็นอนทอ่ี ยู่ภายในดินแดนของตน (the others within) เพอ่ื เติมเต็มความ
- -ขาดพร่องของตนด้วยการแสดงตนเป็นผมู้ คี วาม “กวิ ไิ ลซ์” กวา่ คนพนเมอื ง (ชิงชัย
2559ข, 5 35 ; 2559จ, 37 90) ซกี ทง้ พวกเขายังพยายามแสวงหาการยอมรบั จาก
ชาตติ ะวนั ตกด้วยการไปแสดงตนถึงความมี “กิวิไลซ์" ในการเยอื นประเทศต่างๆใน
ยุโรปอนั เปน็ ศนู ย์กลางของอำนาจโลกขณะน้ันเพื่อสร้างการยอมรบั ซีกด้วย (Peleggi
2002) ไชยันต์ รชั ชกลู เสนอว่าเม่ีอไทยเข้าไปมีปฎิสัมพนั ธ์กบั ระบบทุนนิยมโลกอัน
มอี งั กฤษเปน็ เจ้าจักรวรรดิ (Pax liritanica) สง่ ผลใหร้ ัฐสมบูรฌาญาสทิ ธิราชยัใทยถือ
กำเนิดขึน้ และทำให้พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ ฯสามารถเถลิงอำนาจเหนอื กลุม่
การเมอื งอ่ึนไดส้ ำเรจ็ (Chaiyan 1994 ดูฉบับแปลไทยใน ไชยันต์ 2560) กุลลดา
เกษบุญชู น้ดี เสนอเพ่มิ เตมอีกวา่ ชนชนั้ นำไทยหาไดร้ สู้ กึ ขมขนื่ จากการถูกบงั คับให้
เขา้ ไปมืปฏสิ ้นพันธ์กบั เจ้าจกั รวรรดแิ ด่อยา่ งใด ในทางตรงกนั ขา้ ม พระบาทสมเด็จพระ
จอมเกลา้ ฯและกลุม่ ขนุ นางลงนามในสนธสิ ญั ญาเบาวึรงของเจ้าจกั รวรรดิด้วยความเต็มใจ
เนอื่ งจากพวกเขาไดป้ ระโยชนจ์ ากสนธสิ ญั ญานนั้ ด้วย (Kullada 2004 ดูฉบบั แปล
ไทยใน กุลลดา 2562) ถึงแมช้ นชัน้ นำไทยจะสมรู้รว่ มคิดกับลทั ธิล่าอาณานิคมของ
เจา้ จักรวรรดิ แตป่ ระวัติศาสตรน์ ิพนธแ์ บบราชาชาตนิ ยิ มกสบั ั พท้ พการต่อตา้ นการ
ล่าอาณานคิ มแทน ทงั้ ๆทีไ่ ทยไดด้ นิ แดนเพิม่ จากการยดึ ครองประเทศราชด้วยวิธีการ
ลา่ อาณานิคมเช่นกัน ซีกทั้งประวตั ิศาสตร์ชนดิ ดงั กลา่ วยงั ใหภ้ าพประเทศราชทดี่ อ้ ย
กวา่ อันจำเป็นตอ้ งถกู ปฏริ ูปการปกครองซกี ด้วย กระนน้ั ก็ดี ลกั ษณาการท้งั มวลของ
การตกอยภู่ ายใต้อำนาจของเจ้าจกั รวรรดใิ นทางออ้ ม และการกระทำตอ่ ประเทศราชกบั
ชนพนเมืองของตน มีอาจเผยตัวขน้ึ มาในประวตั ศิ าสตรน์ ิพนธ์ไทยได้ (ธงชัย 2559ฉ,
53) ในทางกลบั กัน ประวัตศิ าสตร์นพิ นธ์แบบราชาชาตนิ ยิ มยงั คงเชดิ ชชู นชน้ั นำ
ราวกับว่าพวกเขาเป็นผนู้ ำการต่อต้านเจา้ จกั รวรรดิ จนถงึ กบั กล่าวกนั วา่ เอกราชของ
ไทยจะไม่สามารถดำรงอยูไ่ ต้หากปราศจากความเป็นผู้นำและความสามารถทางการ
ทตู โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าฯ (เรี่องเดียวกนั , 30)
16
กราวพากย์
กล่าวโดยสรปุ การศึกษาประวัตศ็ าสตร์ไทยทีเ่ กิดขนชว่ งหลงั ตามแนวการ
วิ;คราะห์กี่งอาฌานคิ มไตน้ ำเรากลับไปตรวจสอบห้วงยามทีไ่ ทยเข้าไปมปี ฏสิ ม้ พันธ๔กบ
ส1#าจ4/กรวรรติ จนก่อใหเ้ กิดคำอธบิ ายใหม่ท่เี ผยให้เห็นถึงลกั ษณะของสังคมไทย ท่ีแมน้
มิใดต้ กเป็นอาณานคิ มโดยตรงข1 องเจ้าจักรวรรดิ แตก่ ็มสี ถานะเป็นรองเจาจักรวรรดิ
จ้อค้นพบใหมน่ ้ไี ด้หา้ ทายประวตั ิศาสตร์นพิ นธ์แบบราชาชาตนิ ิยมที่มสี ่วนสำคญั ในการ
กอ่ สำนกึ ตัวตนของคนไทยดว้ ย (Jackson 2011, 35, 55)
มรดกตวั ตนไทยจากยคุ สงครามเยน็
แม้สหรฐั สได้ถอนกำลงั ทหารออกไปจากไทยและสงครามเยน็ ไดก้ ลายเป็น
บ่ระวตั ศิ าสตรไ์ ปแลว้ กต็ าม แตค่ วามยาวนานของปฏสิ มั พนั ธอ์ นั ไมเ่ ทา่ เทยี มระหวา่ ง
โทยคบั สหรฐั ฯน้ัน ได้ทิ้งมรดกดกคา้ งจากยุคสงครามเย็นไว้ในสงั คมไทยปัจจุบันดว้ ย
) พวงทอง 2561, 4) สำนึกที่เกดิ ขนภายหลงั สงครามเย็นได้เปีดพนื้ ทีใ่ หเ้ กิดการต้ัง
คำถามและการดคี วามใหม่ต่อปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งไทยคับเจ้าจักรวรรดิในยคุ อาณานิคม
1,ละยคุ สงครามเย็น ดังเหน็ ได้จากการมนี ักวชิ าการไทยและต่างประเทศเร่มิ บุกเบกิ การ
ตั้งคำถามใหม่ ๆ และเผยให้เหน็ ถึงมรดกของรฐั สมบรู ณาญาสิทธริ าชยจ์ ากยคุ อาณานคิ ม
( ธงชย 2556H, 2559ก, 2559ค ; Horzfold 2002 ; Harrison and Jackson 2011
เปน็ ตน้ ) นอกจากน้ั งานวิชาการทีเ่ ข้าไปศึกษาสภาวการณข์ องไทยภายใตย้ ุคสงคราม
เยน็ ยังมสี ่วนสำคญั ในการตงั้ คำถามต่อมรดกไนด้านตา่ งๆของสงครามเยน็ ทตี่ กค้าง
ไนสงั คมไทยดว้ ย เชน่ ความเป็นมาของชนชาติ เอกลกั ษณค์ วามเป็นไทย กรอบ
วิเคราะห์ทางการเมือง บทบาทของสถาบนั การเมอื ง ความมีเสถยี รภาพทางการเมอื ง
การดำรงอยู่ของระบอบเผด็จการทหาร ศัตรูที่อยู่ภายในสังคม บทบาทของรัฐและ
าลไกในการทำลายลา้ งศัตรู ความทรงจำบาดแผล หรอื แม้กระทงั่ ประวัติศาสตร์นพิ นธ์
ไทยสมยั ใหม่ทอี่ ำพรางสภาวะกง่ี อาณานิคมของไทย
ภายใต้ยุคสงครามเยน็ ความรู้วา่ ดว้ ยไทยได้ถูกสร้างขึน้ เพ่ือรักษาอำนาจของ
เจา้ จกั รวรรดิชนิ มผี ลต่อการก่อร่างสร้างตัวฅนอัตลกั ษณข์ องคนไทยอยา่ งกวา้ งขวาง
เมารซิ ิโอ เปเลจจี (Maurizio Peleggi) ชใั หเ้ ห็นว่า นักวิชาการอเมรภันทเี่ ขา้ มาขดุ ค้น
เหลง่ โบราณคดีบ้านเชยี งในยคุ สงครามเยน็ ไดส้ รา้ งความรเู ก่ยี วคับตัวตนของคนไทย
ทอี่ าศัยอยใู่ นดินแดนแหง่ น้ียาวนานถึง 5,000 ปี เคยมไิ ดอ้ พยพมาจากท่ใี ด อกี ท้ังมี
วฒั นธรรมทเี่ กา่ แกต่ ั้งเดมิ มลี ักษณะเฉพาะที่ปลอดจากอที ธพิ ลครอบงำจากจีนและ
อินเดยี ความรวู้ า่ ดว้ ยตวั ตนเชน่ นยี้ อ่ มสง่ ผลสร้างความภูมใิ จในความเป็นชาตเิ กา่ แก่
ท่ตี ้องไมล่ ม่ สลายจากภัยคุกคามของคอมมวิ นสิ ต์ (Peleggi 2016) สหรัฐฯไมเ่ พียงมี
17
ขนุ ศกึ ศักดนิ า และพญาอนึ ทรี
สว่ นในการสร้างตวั ตนอน้ เก่าแกใ่ หก้ ับคนไทบเท่านน้ั เกง่ กิจ: กิติเรยี งลาภ ยงั เสนอ
อีทว่า สหรัฐฯไต้สถาปนาความรูเ้ กย่ี วกับชนบทไทยผ่านการวจิ ัยทางมานษุ ยวิทยา
และความชว่ ยเหลือในการสำรวจจัดทำแผนทีย่ ทุ ธศาสตรท์ างการทหารเพื่อต่อตา้ น
คอมมิวนสิ ต์ การสถาปนาความรูท้ ี่สหรัฐฯไดส้ รา้ งขึ้นน้ีมึสว่ นสำคญั ในการกอ่ ตวั ของ
.สำนกึ ตวั ตนของรัฐไทยในยคุ สงครามเยน็ ดว้ ย (เก่งกิจ 2559 2561) ในทำนอง
เ1ดทยียวทกี่ไนัม่เหแมมอืทนธใวคฟรลิ (ลuิปnสiq์ u(eMneatstsh)ewซ่ืงเPกh่ยี iวllโipยsง)กับเผคยวไาหม้เหสนีามวาา่ รถเอใกนลกกั าษรรณัก์เษฉาพเอาะกขรอาชง
และความรมุ่ รวยของตัวตนอันเกา่ แก่ยาวนานที่แพร่หลายท่วี ไปในปจั จุบันนนั้ เกดิ ข้นึ
จากการสรา้ งความรู้-ตัวตนไทยของสหรฐั ฯในยุคสงครามเยน็ (Phillips 2017) และ
ณ์ฐพล ใจจรัง เสนอวา่ แม้สถาบันกษตั รยิ จ์ ะเป็นสว่ นหนึ่งของอดุ มการณท์ างการเมือง
ทส่ี ำคัญในสงั คมไทย แดค่ วามสำคญั ของสถาบนั กษตั ริย์ถกู ทำใหโ้ ดดเดน่ จนกลายเป็น
สญั ลักษณ์สำคญั ของชไดึไทยโตยสหรัฐฯในชว่ งสงครามเยน็ เพื่อเป็นศนู ย์กลางของ
ความเช่อี ทางสังคมสำหรบั การทำสงครามจตวทิ ยาตอ่ ตา้ นคอมมวิ นสิ ต์ (ณฐั พล
2556ข)
นอกจากนี้ ประจักษ์ กอ้ งกรี ต็ ได้แกะรอยคติราชาชาตินิยมประชาธป์ ไตยท่ยี ัง
ตำรงอย่ใู นสงั คมไทยจนถงึ ทกุ วนั น้ี และพบว่าเกิดข้นึ ภายใตเ้ งื่อนไขบรบิ ทยคุ สงคราม
เย็นทา่ มกลางกระแสการต่อตา้ นสหรฐั ฯทเ่ี ขา้ มาแทรกแชงกจิ การในเอเชยี ตะวันออก
เฉียงใต้ และความเขา้ ไจผิดของเหล่าบ้เญญาชนและนกั ศึกษาไทยต่อบทบาทของ
พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าฯภายหลังการปฏวิ ตั ิ 2475 ผนวกกับกระแสการต่อตา้ น
รัฐบาลเผด็จการทหารในช่วงป็ 2516 นน้ั เอง (ประจักษ์ 2548) สหรฐั ฯไม่เพียงมื
บทบาทไนการสรา้ งความรูว้ า่ ด้วยไทยจนก่อใหเ้ กิดสำนกึ ตัวตนและเอกลักษณ์เฉพาะให้
กับคนไทยและรัฐไทยเท่านั้น แต่สหรฐั ฯยังมีบทบาทต่อเสถียรภาพการดำรงอย่แู ละการ
ล่มสลายของรฐั บาลทหารด้วย ดงั เชน่ งานศกึ ษาของสุรชาติ บำรุงสุข (Surachart
.1988) แดเนยื ล ไฟร่นเมน (Fineman 1997) และกุลลดา เกษบญุ ชู-น้ดี (2550
2552) อีกท้ังณัฐพล ใจจริง และมิดเ,ชล ตนั (Mitchell Tan) ยังได้ชไห้เห็นวา่ ความ
พยายามปรบั เปลีย่ นนใยบายตา่ งประเทศของไทยสมยั รฐั บาลจอนพลป.พิบลู สงคราม
ใหถ้ อยหา่ งออกจากสหรัฐฯ และเปด้ ไมตรกี ับสาธารณรัฐประชาชนจนนัน้ นำไปสู่การ
ล่มสลายของรัฐบาลในทายทส่ี ดุ (ณัฐพล 2551; Tan 2018)
แคทเธอรนิ โบวิ (Katherine A. Bowie) เผยใหเ้ หน็ ถึงความอัปลกั ษณข์ อง
รัฐไทยในการปราบปรามคนไทยทศี่ ึดต่างดว้ ยการจัดต้งั ลกู เสอื ชาวบๅั นเพอ่ื เปน็
18
กราวพากย์
เคร่ืองมือในการปราบปรามศัตรคู ู่ตรงข้าม (Bowie 1997) ชเิ น ฮยอน (Sinae Hyun)
ช้ใี ห้เห็นว่า ตำรวจตระเวนชายแดนท่ีก่:เนหนว่ ยงานหนง่ึ ในการปราบปรามสตั รทู ่อี ยู่
ภายไนตลอดชว่ งสงครามเย็น เป็นหนว่ ยงานทีถ่ ูกสร้างขนึ้ โดยสำนกั ข่าวกรองกลาง
สหรฐั ฯ (CIA) โดยได้รับความรว่ มมือจากชนชนั้ นำไทย (Hyun 2014) ยูจน ฟอร์ด
(Bugene Ford) เผยใหเ้ ห็นว่า บทบาท'ขององคกรสงป1 ในการตอ่ ต้านคอมมวื นิสตช์ น
นำไปสูก่ ำขวญั ทว่ี ่า “ฆา่ คอมมวิ นสึ ตัเม่บาป” น้นั เกิดขึ้นจากการท่ีสหรฐั ฯให้การ
สนับสนนุ ผา่ นสำนักข่าวกรองกลางและมูลนธิ เิ อเชย เพ่ือให้องคก์ รสงฟ้เป็นกลไกหน่งึ
ในการปกป้องอุดมการณห์ ลกั ของไทยในชว่ งสงครามเย็น (Ford 2017) ใจ อง๊ึ ภากรณ์
และสธุ า'ชัย ยมประเสรฐิ ชัใหเ้ ห็นว่า ความโหดรา้ ยป่าเถอ่ื นในการสงั หารนกั ศกึ ษาและ
ประชาชนในเหตกุ ารณ์ 6 ตุลา 2519 เป็นอาชญากรรมโดยรฐั (ใจและคณะ 2544)
และไทเรล ฮาเบอรค์ อรน้ (Tyrell Haberkorn) ชี้ใหเ้ ห็นถึงความตนื่ ตัวทางการเมือง
ชองชาวนาชาวไรผ่ มู้ าจากเนอ้ี งลา่ งของสังคมไทย ซง่ี รวมตวั กนั เพ่อื เรยี กรอ้ งสทธแิ ละ
ความเป็นธรรม'รน่ ชว่ ง 14 ตุลา 2516 ถึง 6 ตลุ า 2519 แตเ่ สียงของผูถ้ กู กดขเ่ี หล่านี้
กลบั ถกู ปราบปรามอยา่ งโหดเห้ียมจากกลไกรฐั และถูกทำให้เลอื นหายไปจากสงั คมไทย
(ฮาเบอร์คอรน้ 2560)
การศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทยในชว่ งหลงั สงครามเย็นยงั ไดเ้ ผยให้เห็น
ถึงการทำลายลา้ งศัตรทู ่อี ยู่ภายใน (the enemy within) จากมรดกความยึดมน่ั ใน
ตัวตนของไทยทถี่ ูกสรา้ งขึ้นในยุคสงครามเย็น ดังเชน่ งานศึกษาของธงชัย วนิ ิจจะกูล
ได้เผยให้เห็นวา่ การสังหารหมู่ประชาชนในเหตุการณ์ 6 ตลุ า 2519 ไม่เพยี งกอ่ ใหเ้ กดิ
ความทรงจำบาดแผลไนสงั คมไทยเท่าน้ัน แต่เม่อื เวลาผ่านไป เหตุการณ์คร้งั นนั้ ยงั
สร้างความกระอักกระอ่วนใหก้ ับกลมุ่ บุคคลผเู้ กี่ยวขอ้ งในโศกนาฏกรรมครง้ั น้ัน ซงึ่
เคยคดวา่ ตนเปงิ เปน็ วรี บรุ ษุ ในการทำลายล้างศัตรดู ว้ ยเช่นกนั (ธงชยั 2550ข, 2558)
นอกจากน้ี พวงทอง ภวคั รพนั ธุ ช้ัไหเ้ ห็นว่า การกระทำของรฐั ไทยต่อประเทศเพื่อน
บา้ นและปราบปรามคนไทยผู้เปน็ ศตั รูทอ่ี ยูภ่ ายในในชว่ งสงครามเยน็ นั้น วางอยูบ่ นการ
นิยามความเปน็ มติ รและศตั รขู องไทยทแ่ี ปรเปลี่ยนไปตามภยั คุกคามและผลประโยชน์
ของรัฐไทยและมหาอำนาจเอง (พวงทอง 2549, 2561)
กล่าวโดยสรปุ ข้อถกเถียงทางวชิ าการและความสำคญั ของสงครามเยน็ ที่
ส่งผลกระทบต่อไทยอย่างยิง่ ยวด กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ ขียนคาดหวังวา่ หนังสือเลม่ น้จี ะเปน็
ส่วนหน่ึงของการรว่ มเปดิ พรมแดนการศกึ ษายุคสงครามเยน็ ในประเทศไทย และรว่ ม
สนทนากบั ประวตั ศิ าสตรน์ พิ นธ์ไทยทเี่ กิดขนึ้ ภายหลังสงครามเย็น ท้งั นี้ ขอบเขต
/9