184 มิลินทปญั หาปกรณแ์ ปล [๒.มิลนิ ทปญั ห
พระเจา้ มลิ ินท์ตรัสว่า “พระคุณเจา้ นาคเสน ถา้ หากวา่ สัตว์ผู้เคลือ่ นจากกายนสี้ ่กู ายอื่น
ไม่มไี ซร้ กจ็ กั เปน็ ผพู้ น้ จากกรรมช่วั ทงั้ หลายได้ มิใช่หรอื ?”
‘‘อาม มหาราช, ยทิ น ปฏสิ นทฺ เหยยฺ , มตุ โฺ ต ภวิสสฺ ติ ปาปเกห ิ กมเฺ มหีต,ิ ยสฺมา
จ โข มหาราช ปฏิสนทฺ หต,ิ ตสฺมา น ปริมตุ ฺโต ปาปเกหิ กมฺเมห’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ใชแ่ ลว้ ขอถวายพระพรมหาบพิตร ถา้ หากว่าเขาไม่
ปฏสิ นธิ เขาจกั เป็นผพู้ น้ จากกรรมชัว่ ท้ังหลายได้ ขอถวายพระพรมหาบพิตร แต่เพราะเหตุที่
เขายังจะปฏิสนธิ เพราะฉะน้นั จึงหาเปน็ ผ้พู น้ จากกรรมชวั่ ท้งั หลายได้ไม”่
‘‘โอปมมฺ ํ กโรห’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรัสวา่ “ขอท่านจงช่วยอุปมาให้หนอ่ ยเถอะ”
‘‘ยถา มหาราช โกจเิ ทว ปุริโส อ ฺ ตรสสฺ ปรุ สิ สสฺ อมพฺ ํ อวหเรยยฺ , ก ึ โส
ทณฑฺ ปปฺ ตโฺ ต ภเวยฺยา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร เปรียบเหมือนว่า บรุ ษุ บาง
คนขโมยมะม่วงของบรุ ุษคนใดคนหนึ่งไป บรุ ษุ ผูน้ ัน้ ควรเป็นผ้ตู ้องโทษมใิ ช่หรอื ?”
‘‘อาม ภนฺเต ทณฺฑปปฺ ตโฺ ต ภเวยฺยา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รสั วา่ “ใช่ พระคณุ เจา้ เขาควรเปน็ ผ้ตู อ้ งโทษ”
‘‘น โข โส มหาราช ตาน ิ อมฺพาน ิ อวหร,ิ ยาน ิ เตน โรปติ าน,ิ กสฺมา ทณฑฺ ปฺ-
ปตฺโต ภเวยยฺ า’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร บรุ ษุ ผู้น้ันมไิ ด้ขโมยมะม่วงที่
บรุ ษุ ผเู้ ปน็ เจ้าของนน้ั ปลกู ไว้ เพราะเหตอุ ะไร เขาจึงควรเปน็ ผูต้ ้องโทษเล่า ?”
‘‘ตาน ิ ภนฺเต อมพฺ าน ิ นิสสฺ าย ชาตานิ, ตสฺมา ทณฑฺ ปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รัสวา่ “พระคณุ เจา้ มะม่วง (ท่ีถกู ขโมยไป) เหล่านนั้ อาศยั มะม่วง (ท่ี
บุรุษผ้เู ป็นเจ้าของปลูกไว)้ เหล่าน้นั จงึ เกดิ ได้ เพราะฉะนน้ั เขาควรเป็นผ้ตู ้องโทษ”
‘‘เอวเมว โข มหาราช อมิ นิ า นามรูเปน กมฺม ํ กโรติ โสภนํ วา อโสภนํ วา, เตน
กมฺเมน อ ฺ ํ นามรปู ํ ปฏสิ นทฺ หต,ิ ตสฺมา น ปรมิ ตุ ฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ก็เหมอื นกนั อย่างนนั้ น่นั
กัณฑ]์ ๒.๕ พุทธวรรค 185
แหละ บุคคลท�ำกรรมดบี า้ ง ช่ัวบา้ ง ด้วยนามรปู นี้ นามรูปอน่ื ยอ่ มปฏสิ นธเิ พราะกรรมนั้น
เพราะฉะน้ัน จงึ หาเป็นผูพ้ ้นจากกรรมชัว่ ทงั้ หลายได้ไม”่
‘‘กลฺโลส ิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ท์ตรสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
อญฺกายสงกฺ มนปญฺโห สตฺตโม ฯ
จบอัญญกายสังกมนปัญหาข้อที่ ๗
________
๘. กมฺมผลอตถฺ ิภาวปญหฺ
๘. กัมมผลอัตถภิ าวปัญหา
ปัญหาวา่ ดว้ ยภาวะทก่ี รรมมผี ล
[๘] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน อมิ ินา นามรเู ปน กมมฺ ํ กต ํ กสุ ล ํ วา อกุสล ํ วา,
กหุ ึ ตานิ กมฺมาน ิ ติฏ ฺ นฺตี’’ติ ?
[๘] พระราชาตรัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน กศุ ลกรรมก็ตาม อกุศลกรรมกต็ ามท่สี ัตว์
ได้ท�ำไว้ดว้ ยนามรูปนี้ กรรมทง้ั หลายเหล่านน้ั ด�ำรงอยู่ ณ ท่ไี หน ?”
‘‘อนพุ นฺเธยฺยํุ โข มหาราช ตานิ กมมฺ านิ ฉายาว อนปายิน’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร กรรมท้ังหลายเหลา่ น้ันพงึ
ตามตดิ พันไป เหมือนเงาท่ตี ดิ ตามตัวไป ฉะนนั้ ”
‘‘สกฺกา ปน ภนฺเต ตาน ิ กมฺมานิ ทสเฺ สตํ ุ ‘อิธ วา อธิ วา ตานิ กมมฺ าน ิ
ติฏฺ นฺต’ี ’ติ ?
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รัสวา่ “พระคุณเจา้ ท่านสามารถทจ่ี ะแสดงกรรมทงั้ หลายเหล่านนั้ ได้
หรือไม่วา่ ‘กรรมทัง้ หลายเหลา่ น้นั ด�ำรงอยู่ ณ ทตี่ รงนี้ หรือวา่ ณ ท่ตี รงน้ี ?’
‘‘น สกกฺ า มหาราช ตานิ กมฺมาน ิ ทสเฺ สตุํ ‘อิธ วา อธิ วา ตานิ กมมฺ านิ
ตฏิ ฺ นฺตี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ใคร ๆ ก็ไมส่ ามารถท่จี ะ
แสดงกรรมท้ังหลายเหล่านั้นไดว้ ่า ‘กรรมเหล่านัน้ ด�ำรงอยู่ ณ ทตี่ รงน้ี หรือวา่ ณ ท่ตี รงน้ี’
186 มลิ ินทปญั หาปกรณแ์ ปล [๒.มิลนิ ทปัญห
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รสั วา่ “ขอทา่ นจงชว่ ยอปุ มาใหห้ น่อยเถอะ”
‘‘ต ํ ก ึ ม ฺ สิ มหาราช, ยานิมานิ รุกขฺ าน ิ อนิพพฺ ตตฺ ผลานิ, สกฺกา เตส ํ ผลาน ิ
ทสเฺ สตุํ ‘อิธ วา อธิ วา ตาน ิ ผลาน ิ ติฏ ฺ นฺตี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร พระองคจ์ ะทรงส�ำคัญความ
ข้อนนั้ วา่ อย่างไร ต้นไม้ทีย่ งั ไม่มอี อกผล พระองค์ทรงสามารถที่จะแสดงผลไมเ้ หล่านน้ั ได้หรอื
ไมว่ า่ ‘ผลท้ังหลายเหล่านัน้ จะต้งั อยู่ ณ ที่ตรงน้ี หรือว่า ณ ท่ีตรงนี้ ?”
‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ทต์ รสั ว่า “ไม่สามารถที่จะแสดงได้หรอก พระคณุ เจ้า”
‘‘เอวเมว โข มหาราช อพโฺ พจฺฉนิ ฺนาย สนตฺ ติยา น สกฺกา ตาน ิ กมมฺ านิ ทสฺเสต ุํ
‘อิธ วา อธิ วา ตาน ิ กมมฺ านิ ติฏ ฺ นตฺ ี’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ก็เหมือนกันอยา่ งน้ันนน่ั
แหละ เมอ่ื ความสบื ต่อ (แห่งนามรปู ) ยังไม่ขาดสาย ใคร ๆ กไ็ มส่ ามารถทจี่ ะแสดงกรรมทั้ง
หลายเหลา่ น้นั ได้ว่า ‘กรรมทง้ั หลายเหลา่ นน้ั ด�ำรงอยู่ ณ ทีต่ รงนี้ หรอื ว่า ณ ทต่ี รงน’ี้
‘‘กลฺโลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน ทา่ นตอบสมควรแลว้ ”
กมมฺ ผลอตฺถิภาวปญโฺ ห อฏฺ€โม ฯ
จบกมั มผลอัตถิภาวปัญหาข้อท่ี ๘
________
๙. อุปปฺ ชชฺ ติชานนปญฺห
๙. อปุ ปัชชตชิ านนปัญหา
ปญั หาว่าดว้ ยสัตว์ผ้จู ะเกดิ ย่อมรไู้ ดห้ รอื
[๙] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน โย อุปฺปชชฺ ติ, ชานาต ิ โส ‘อุปฺปชฺชิสสฺ าม’ี ’ติ ?
[๙] พระราชาตรสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน สัตวผ์ ู้จะเกดิ ยอ่ มรไู้ ดห้ รอื ไมว่ า่ ‘เราจัก
เกดิ ?’
กณั ฑ]์ ๒.๕ พุทธวรรค 187
‘‘อาม มหาราช โย อปุ ฺปชชฺ ติ, ชานาต ิ โส ‘อปุ ปฺ ชชฺ สิ ฺสาม’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ใช่ สัตวผ์ ูจ้ ะเกดิ ย่อมรู้ไดว้ า่
เราจักเกิด”
‘‘โอปมฺมํ กโรห’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรสั ว่า “ขอทา่ นจงช่วยอปุ มาให้หน่อยเถอะ”
‘‘ยถา มหาราช กสสฺ โก คหปตโิ ก พีชานิ ปถวยิ ํ นกิ ฺขิปิตฺวา สมมฺ า เทเว
วสฺสนฺเต ชานาติ ‘ธ ฺ ํ นพิ ฺพตฺติสฺสตี’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร เปรยี บเหมอื นวา่ คฤหบดี
ชาวนา ฝังเมลด็ พืชท้ังหลายไวท้ พ่ี ืน้ ดนิ เม่อื ฝนตกดี ยอ่ มรูห้ รือไม่ว่า ‘ธญั ญพืชจกั งอกข้ึน ?’
‘‘อาม ภนฺเต ชาเนยฺยา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินทต์ รัสว่า “ใช่ พระคณุ เจ้า เขาพงึ รไู้ ด”้
‘‘เอวเมว โข มหาราช โย อุปปฺ ชฺชติ, ชานาติ โส ‘อุปปฺ ชฺชิสสฺ าม’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ก็เหมอื นกันอย่างนั้นน่ัน
แหละ สตั วผ์ จู้ ะเกิดย่อมรู้ไดว้ า่ ‘เราจักเกดิ ’
‘‘กลโฺ ลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รัสวา่ “พระคุณเจ้านาคเสน ทา่ นตอบสมควรแลว้ ”
อุปฺปชชฺ ติชานนปญโฺ ห นวโม ฯ
จบอปุ ปัชชติชานนปญั หาขอ้ ที่ ๙
________
๑๐. พุทธฺ นิทสสฺ นปญฺห
๑๐. พุทธนทิ สั สนปัญหา
ปัญหาวา่ ด้วยการแสดงว่าพระพทุ ธเจ้ามีจริงหรอื ไม่
[๑๐] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน พุทฺโธ อตถฺ ’ี ’ติ ?
[๑๐] พระราชาตรัสว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน พระพุทธเจา้ มจี ริงหรอื ?”
188 มลิ นิ ทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มิลนิ ทปัญห
‘‘อาม มหาราช ภควา อตถฺ ’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ใช่ พระผมู้ พี ระภาคเจ้ามีอยู่
จริง”
‘‘สกฺกา ปน ภนเฺ ต นาคเสน พทุ ฺโธ นทิ สฺเสตุํ อธิ วา อธิ วา’’ติ ?
พระเจ้ามลิ ินท์ตรัสวา่ “พระคณุ เจ้านาคเสน ก็แต่วา่ ทา่ นสามารถทจี่ ะแสดงพระพทุ ธเจ้า
ได้หรอื ไม่ว่า ประทับอยู่ ณ สถานทแี่ ห่งน้ี หรอื ว่า ณ สถานที่แหง่ นี้ ?”
‘‘ปรนิ ิพฺพุโต มหาราช ภควา อนปุ าทิเสสาย นพิ พฺ านธาตยุ า, น สกฺกา ภควา
นทิ สฺเสตํ ุ ‘อิธ วา อธิ วา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร พระผ้มู พี ระภาคเจ้า ทรง
ปรนิ พิ พานแลว้ ด้วยอนุปาทเิ สสนิพพานธาตุ ใคร ๆ กไ็ มส่ ามารถทแี่ สดงได้วา่ พระผมู้ พี ระ
ภาคเจา้ ประทบั อยู่ ณ สถานทแ่ี ห่งนี้ หรือว่า ณ สถานที่แห่งนี้”
‘‘โอปมมฺ ํ กโรหี’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ท์ตรัสวา่ “ขอทา่ นจงช่วยอปุ มาให้หน่อยเถอะ”
‘‘ต ํ ก ึ ม ฺ สิ มหาราช, มหโต อคคฺ กิ ฺขนฺธสสฺ ชลมานสสฺ ยา อจจฺ ิ อตถฺ งฺคตา,
สกกฺ า สา อจจฺ ิ ทสเฺ สตํุ ‘อธิ วา อิธ วา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร พระองคจ์ ะทรงส�ำคญั ความ
ข้อน้นั วา่ อย่างไร เปลวไฟแห่งกองไฟใหญท่ ี่ลุกโพลง ถึงความดับไปแลว้ พระองคส์ ามารถทจี่ ะ
แสดงเปลวไฟนั้นไดห้ รือไม่วา่ อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ หรอื วา่ ณ สถานทแ่ี ห่งนี้ ?”
‘‘น ห ิ ภนเฺ ต, นิรทุ ฺธา สา อจจฺ ิ อปฺป ฺ ตตฺ ึ คตา’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ ินทต์ รสั วา่ “ไมส่ ามารถทจ่ี ะแสดงไดห้ รอก พระคณุ เจา้ เปลวไฟที่ดบั ไปแล้ว
น้นั ถึงความไม่ปรากฏแล้ว”
‘‘เอวเมว โข มหาราช ภควา อนปุ าทิเสสาย นิพฺพานธาตยุ า ปรนิ ิพฺพุโต
อตถฺ งฺคโต, น สกฺกา ภควา นิทสฺเสตํ ุ ‘อธิ วา อิธ วา’ ต,ิ ธมฺมกาเยน ปน โข มหาราช
สกฺกา ภควา นทิ สเฺ สตํุ ฯ ธมโฺ ม หิ มหาราช ภควตา เทสโิ ต’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ก็เหมอื นกันอยา่ งนั้นนั่น
แหละ พระผ้มู พี ระภาคเจา้ ทรงปรนิ ิพพานแล้ว ทรงถงึ ความดบั แล้ว ด้วยอนุปาทเิ สสนพิ พาน
กัณฑ์] ๒.๖ สตวิ รรค 189
ธาตุ ใคร ๆ กไ็ มส่ ามารถทจ่ี ะแสดงได้ว่า พระผมู้ ีพระภาคเจ้าประทบั อยู่ ณ สถานทีแ่ ห่งนี้ หรือ
ว่า ณ สถานที่แห่งนี้ ขอถวายพระพร กแ็ ต่วา่ บคุ คลสามารถทีจ่ ะแสดงพระผมู้ ีพระภาคเจ้า (ว่า
มีอยู่จรงิ ) ไดด้ ้วยพระธรรมกาย ขอถวายพระพร เพราะว่า พระธรรม พระผู้มพี ระภาคเจ้าได้
ทรงแสดงไวแ้ ลว้ ”
‘‘กลโฺ ลส ิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รัสวา่ “พระคุณเจ้านาคเสน ทา่ นตอบสมควรแลว้ ”
พุทฺธนิทสสฺ นปญโฺ ห ทสโม ฯ
จบพุทธนทิ ัสสนปัญหาข้อที่ ๑๐
พุทธฺ วคโฺ ค ปญจฺ โม ฯ
จบพุทธวรรคท่ี ๕
อมิ สฺมึ วคฺเค ทส ปญฺหา ฯ
ในวรรคนี้ มปี ัญหา ๑๐ ข้อ
________
๒.๖ สติวคฺค
๒.๖ สตวิ รรค วรรควา่ ดว้ ยสติ
๑. กายปิยายนปญฺห
๑. กายปิยายนปัญหา
ปัญหาว่าด้วยความประพฤติดจุ ว่ารา่ งกายเปน็ ท่ีรัก
[๑] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน ปโิ ย ปพฺพชิตาน ํ กาโย’’ติ ?
[๑] พระราชาตรสั วา่ “พระคุณเจ้านาคเสน ร่างกายเปน็ ที่รักของพวกบรรพชิตหรือ ?”
‘‘น โข มหาราช ปโิ ย ปพฺพชิตาน ํ กาโย’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร รา่ งกายหาเป็นที่รกั ของ
พวกบรรพชติ ท้ังหลายไม่”
190 มลิ ินทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มิลินทปญั ห
‘‘อถ กสิ ฺส น ุ โข ภนเฺ ต เกลายถ มมายถา’’ติ ?
พระเจา้ มลิ นิ ทต์ รัสถามวา่ “เมอื่ เป็นเชน่ นั้น พระคณุ เจา้ เพราะเหตอุ ะไร พวกบรรพชิต
จึงยงั คงปรนนิบัตริ ่างกาย ยงั คงยึดรา่ งกายวา่ เป็นของเราอยเู่ ลา่ ?”
‘‘ก ึ ปน เต มหาราช กทาจิ กรหจิ สงคฺ ามคตสฺส กณฺฑปปฺ หาโร โหตี’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร นักรบของพระองคผ์ ู้ไปใน
สงครามในบางคราว ในบางโอกาสถูกท�ำรา้ ยด้วยธนู ก็มีอยู่ มใิ ชห่ รอื ?”
‘‘อาม ภนฺเต โหตี’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ ินทต์ รสั ว่า “ใช่ มีอยู่ พระคณุ เจา้ ”
‘‘กนิ ฺนุ โข มหาราช โส วโณ อาเลเปน จ อาลมิ ฺปียต ิ เตเลน จ มกขฺ ียต ิ สุขเุ มน
จ โจฬปฏฺเฏน ปลเิ ว ยี ตี’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร บาดแผลนนั้ เขาต้องใช้ยา
ทาแผลทาไว้ ใชน้ ้�ำมันลบู ไลไ้ ว้ และใชแ้ ผ่นผา้ เนือ้ ละเอยี ดพนั ไว้ มใิ ชห่ รอื ?”
‘‘อาม ภนฺเต อาเลเปน จ อาลมิ ฺปียติ เตเลน จ มกฺขยี ต ิ สขุ เุ มน จ โจฬปฏเฺ ฏน
ปลเิ ว ียต’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ ินท์ตรสั วา่ “ใช่ พระคุณเจา้ เขาตอ้ งใช้ยาทาแผลทาไว้ ใชน้ ำ้� มันลบู ไลไ้ ว้
และใชแ้ ผ่นผ้าเนอ้ื ละเอยี ดพันไว”้
‘‘กนิ นฺ ุ โข มหาราช ปิโย เต วโณ, เตน อาเลเปน จ อาลมิ ปฺ ียติ เตเลน จ
มกฺขียต ิ สุขุเมน จ โจฬปฏเฺ ฏน ปลเิ ว ียต’ี ’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร กบ็ าดแผลเป็นที่รกั ของ
พระองคห์ รอื ไร พระองค์จงึ ต้องใช้ยาทาแผลนนั้ ทาไว้ ใช้นำ�้ มันลูบไลไ้ ว้ และใชแ้ ผ่นผ้าเนื้อ
ละเอียดพันไว้ ?”
‘‘น เม ภนฺเต ปโิ ย วโณ, อปจิ มสํ สฺส รุหนตถฺ าย อาเลเปน จ อาลิมฺปียต ิ
เตเลน จ มกฺขยี ต ิ สขุ เุ มน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเว ยี ตี’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินทต์ รัสว่า “บาดแผลจะเป็นท่รี กั ของโยม กห็ ามิได้ พระคณุ เจา้ อีกอยา่ ง
หน่ึง โยมตอ้ งใช้ยาทาแผลทาไว้ ใชน้ �้ำมันลูบไล้ไว้ และใชแ้ ผ่นผา้ เนอื้ ละเอียดพันไว้ เพอื่
ประโยชนแ์ ก่การใหเ้ น้อื งอกขึน้ ”
กัณฑ]์ ๒.๖ สติวรรค 191
‘‘เอวเมว โข มหาราช อปปฺ โิ ย ปพพฺ ชิตาน ํ กาโย, อถ จ ปพพฺ ชิตา อนชฺโฌสิตา
กาย ํ ปริหรนตฺ ิ พฺรหฺมจริยานคุ คฺ หาย ฯ อปิจ โข มหาราช วณูปโม กาโย วตุ โฺ ต
ภควตา, เตน ปพฺพชติ า วณมิว กายํ ปรหิ รนฺต ิ อนชฺโฌสิตา ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ก็เหมือนกันอยา่ งนนั้ น่ัน
แหละ ร่างกายมไิ ดจ้ ะเปน็ ทร่ี ักของพวกบรรพชิตหรอก พวกบรรพชิตทั้งหลายผไู้ ม่สยบใน
ร่างกาย ย่อมบรหิ ารร่างกาย เพ่ืออนเุ คราะห์พรหมจรรย,์ ขอถวายพระพร อีกอย่างหน่ึง พระผู้
มีพระภาคเจ้าตรัสถงึ รา่ งกายวา่ มอี ุปมาเหมอื นบาดแผล เพราะเหตนุ ้ัน พวกบรรพชติ ทงั้ หลาย
ผู้ไมส่ ยบในร่างกาย จึงบรหิ ารรา่ งกายดจุ รักษาแผล ฉะน้ัน
ภาสติ มเฺ ปตํ มหาราช ภควตา –
‘‘อลลฺ จมฺมปฏิจฺฉนฺโน นวทฺวาโร มหาวโณ
สมนฺตโต ปคฺฆรติ อสจุ ิปูติคนธฺ ิโย’’ติ ฯ
ขอถวายพระพร พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ทรงภาษิตความข้อนไี้ วว้ า่
“รา่ งกายอันถกู ห่อหุ้มด้วยหนังสด มีทวาร ๙ เปน็ แผลใหญ่
เป็นสง่ิ สกปรก มีกลิน่ เหมน็ ยอ่ มไหลออกจากรา่ งกายท่วั
ทัง้ ตวั ” ดังน้ี
‘‘กลฺโลส ิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ ินทต์ รัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน ทา่ นตอบสมควรแล้ว”
กายปิยายนปญฺโห ป€โม ฯ
จบกายปยิ ายนปัญหาข้อท่ี ๑
________
๒. สพพฺ ญฺญภู าวปญหฺ
๒. สพั พญั ญูภาวปัญหา
ปัญหาว่าด้วยความเป็นพระสพั พญั ญู
[๒] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน พุทฺโธ สพพฺ ฺ ู สพฺพทสสฺ าว’ี ’ติ ?
[๒] พระราชาตรสั ว่า “พระคุณเจ้านาคเสน พระพทุ ธเจา้ ทรงเป็นพระสัพพัญญู (ผรู้ ู้
ทุกสิง่ ทุกอยา่ ง) เป็นพระสัพพทสั สาวี (ผเู้ ห็นทกุ ส่งิ ทกุ อย่าง) หรอื ?”
192 มิลินทปัญหาปกรณ์แปล [๒.มลิ ินทปัญห
‘‘อาม มหาราช ภควา สพฺพ ฺ ู สพฺพทสฺสาว’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ใช่ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
เป็นพระสัพพญั ญู ทรงเปน็ พระสัพพทัสสาวี”
‘‘อถ กิสฺส น ุ โข ภนฺเต นาคเสน สาวกาน ํ อนปุ ุพฺเพน สกิ ขฺ าปท ํ ป ฺ เปสี’’ติ ?
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน เมื่อเป็นเชน่ นั้น เพราะเหตุอะไรหนอ จึง
คอ่ ย ๆ ทรงบญั ญัติสกิ ขาบทเพือ่ พระสาวกทงั้ หลายไปตามล�ำดับเล่า ?”
‘‘อตถฺ ิ ปน เต มหาราช โกจิ เวชโฺ ช, โย อิมิสฺสํ ปถวยิ ํ สพพฺ เภสชชฺ านิ
ชานาต’ี ’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร หมอบางคนของพระองค์
รูจ้ ักยาทุกชนิดในแผน่ ดินน้ี ก็มีอยู่ มใิ ช่หรือ ?”
‘‘อาม ภนเฺ ต อตฺถี’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินท์ตรสั วา่ “ใช่ มีอยู่ พระคณุ เจา้ ”
‘‘กนิ นฺ ุ โข มหาราช โส เวชฺโช คลิ านกํ สมปฺ ตฺเต กาเล เภสชฺช ํ ปาเยติ, อุทาห ุ
อสมฺปตฺเต กาเล’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร หมอผ้นู ั้น ย่อมใหค้ นไขก้ นิ
ยาในเวลาที่ถงึ คราวป่วยไข้ หรือวา่ ในเวลาที่ยังไม่ถึงคราวป่วยไขเ้ ล่า ?”
‘‘สมฺปตฺเต กาเล ภนเฺ ต คลิ านก ํ เภสชชฺ ํ ปาเยต,ิ โน อสมปฺ ตเฺ ต กาเล’’ติ ?
พระเจา้ มลิ ินท์ตรสั วา่ “พระคุณเจา้ หมอผนู้ ั้นยอ่ มให้คนไข้กนิ ยาในเวลาทถี่ ึงคราวป่วย
ไข้ ไมใ่ ช่ในเวลาทีย่ งั ไม่ถงึ คราวป่วยไข้”
‘‘เอวเมว โข มหาราช ภควา สพพฺ ฺ ู สพพฺ ทสสฺ าวี น อสมฺปตฺเต กาเล สาวกาน ํ
สกิ ขฺ าปทํ ป ฺ าเปต,ิ สมฺปตฺเต กาเล สาวกานํ สิกขฺ าปทํ ป ฺ าเปต ิ ยาวชีวํ
อนติกกฺ มนยี น”ฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ก็เหมอื นกนั อย่างนน้ั นนั่
แหละ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นพระสัพพัญญู เปน็ พระสัพพทัสสาวี ไม่ทรงบญั ญตั ิสิกขาบท
เพ่ือพระสาวกท้ังหลาย ในเวลาทย่ี ังไม่ถึงคราว ทรงบัญญตั สิ ิกขาบทเพื่อพระสาวกทง้ั หลายใน
เวลาท่ีถึงคราวแล้ว เปน็ สกิ ขาบทที่เหล่าพระสาวกทั้งหลายไมค่ วรล่วงละเมิดเลย ตลอดชวี ิต”
กณั ฑ]์ ๒.๖ สติวรรค 193
‘‘กลฺโลส ิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ทต์ รสั ว่า “พระคุณเจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแล้ว”
สพพฺ ญญฺ ูภาวปญฺโห ทตุ โิ ย ฯ
จบสพั พญั ญภู าวปัญหาขอ้ ที่ ๒
________
๓. มหาปรุ สิ ลกฺขณปญหฺ
๓. มหาปรุ ิสลกั ขณปญั หา
ปัญหาวา่ ดว้ ยลกั ษณะของมหาบุรุษ
[๓] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน พุทโฺ ธ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกขฺ เณห ิ สมนฺนาคโต
อสตี ิยา จ อนุพยฺ ชฺ เนห ิ ปริร ชฺ ิโต สวุ ณณฺ วณโฺ ณ ก ฺจนสนนฺ ภิ ตฺตโจ พฺยามปฺปโภ’’ติ ?
[๓] พระราชาตรสั ว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน พระพทุ ธเจา้ ทรงเปน็ ผปู้ ระกอบด้วยพระ
มหาปรุ สิ ลักษณะ ๓๒ ประการ และประดับดว้ ยพระอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ มสี พี ระวรกาย
ดจุ ดังทองค�ำ มพี ระฉววี รรณดจุ ดังทองค�ำ มพี ระรัศมีแผ่สรา้ นออกไปประมาณ ๑ วา จริงหรือ?”
‘‘อาม มหาราช ภควา ทฺวตตฺ สึ มหาปรุ สิ ลกขฺ เณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ
อนพุ ยฺ ฺชเนหิ ปรริ ฺชิโต สุวณณฺ วณฺโณ ก ฺจนสนนฺ ภิ ตตฺ โจ พยฺ ามปฺปโภ’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ใช่ พระผู้มพี ระภาคเจ้าทรง
เปน็ ผปู้ ระกอบด้วยพระมหาปรุ ิสลักษณะ ๓๒ ประการ และประดับด้วยพระอนพุ ยญั ชนะ ๘๐
ประการ มีสีพระวรกายดจุ ดังทองค�ำ มพี ระฉวีวรรณดจุ ดงั ทองค�ำ มีพระรัศมแี ผ่สรา้ นออกไป
ประมาณ ๑ วา”
‘‘ก ึ ปนสสฺ ภนฺเต มาตาปติ โรป ิ ทฺวตตฺ ึสมหาปุรสิ ลกขฺ เณหิ สมนฺนาคตา อสตี ิยา จ
อนพุ ฺย ฺชเนหิ ปรริ ชฺ ิตา สุวณณฺ วณฺณา ก ฺจนสนฺนภิ ตฺตจา พฺยามปปฺ ภา’’ติ ?
พระเจา้ มลิ ินทต์ รัสว่า “พระคณุ เจา้ ก็แตว่ า่ แม้พระชนกและชนนีของพระองคก์ ท็ รง
เป็นผปู้ ระกอบดว้ ยพระมหาปุรสิ ลกั ษณะ ๓๒ ประการ และประดบั ดว้ ยพระอนพุ ยัญชนะ ๘๐
ประการ มสี พี ระวรกายดจุ ดังทองค�ำ มพี ระฉวีวรรณดจุ ดงั ทองค�ำ มพี ระรศั มีแผส่ รา้ นออกไป
ประมาณ ๑ วา หรอื ไร ?”
194 มลิ นิ ทปญั หาปกรณแ์ ปล [๒.มิลินทปัญห
‘‘โน จสฺส มหาราช มาตาปิตโร ทฺวตฺตึสมหาปุรสิ ลกฺขเณห ิ สมนฺนาคตา อสีติยา จ
อนพุ ยฺ ชฺ เนหิ ปริร ฺชติ า สวุ ณณฺ วณฺณา ก จฺ นสนฺนิภตตฺ จา พฺยามปฺปภา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร พระชนกและชนนีของ
พระองค์ หาทรงเป็นผปู้ ระกอบด้วยพระมหาปรุ สิ ลกั ษณะ ๓๒ ประการ และประดบั ด้วยพระ
อนพุ ยัญชนะ ๘๐ ประการ มสี ีพระวรกายดจุ ดงั ทองค�ำ มีพระฉววี รรณดุจดงั ทองค�ำ มพี ระรัศมี
แผ่สรา้ นออกไปประมาณ ๑ วา ไม”่
‘‘เอว ํ สนฺเต โข ภนฺเต นาคเสน น อปุ ฺปชชฺ ติ พุทโฺ ธ ทฺวตตฺ ึสมหาปุรสิ ลกฺขเณหิ
สมนนฺ าคโต อสีตยิ า จ อนพุ ฺย ฺชเนหิ ปรริ ชฺ โิ ต สุวณฺณวณโฺ ณ ก ฺจนสนนฺ ภิ ตตฺ โจ
พยฺ ามปฺปโภติ, อปิจ มาตุสทโิ ส วา ปตุ ฺโต โหติ มาตปุ กโฺ ข วา, ปติ ุสทโิ ส วา ปุตโฺ ต
โหติ ปิตุปกโฺ ข วา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ท์ตรัสว่า “พระคณุ เจา้ นาคเสน เมือ่ เป็นอยา่ งนี้ พระพุทธเจ้าทรงเปน็ ผู้
ประกอบดว้ ยพระมหาปรุ สิ ลกั ษณะ ๓๒ ประการ และประดับด้วยพระอนพุ ยญั ชนะ ๘๐
ประการ มสี พี ระวรกายดุจดังทองค�ำ มีพระฉวีวรรณดุจดังทองค�ำ มพี ระรศั มแี ผส่ ร้านออกไป
ประมาณ ๑ วา ทรงอบุ ตั ขิ นึ้ ได้อยา่ งไร ? เพราะวา่ ผเู้ ปน็ บุตร ยอ่ มเปน็ ผู้เหมือนกบั มารดา
หรือเปน็ ขา้ งเดยี วกับมารดา เปน็ ผู้เหมือนกบั บิดา หรือเป็นข้างเดียวกับบดิ า ?”
เถโร อาห ‘‘อตถฺ ิ ปน มหาราช ก ิ จฺ ิ ปทมุ ํ สตปตฺตน’ฺ ’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ปทมุ ร้อยกลบี บางชนิด มอี ยู่
มใิ ชห่ รือ ?”
‘‘อาม ภนเฺ ต อตฺถ’ี ’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินทต์ รสั ว่า “ใช่ มอี ยู่ พระคุณเจา้ ”
‘‘ตสสฺ ปน กหุ ึ สมฺภโว’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ก็ ปทมุ ชนดิ น้นั เกดิ ขึน้ ในท่ไี หน ?”
‘‘กทฺทเม ชายต ิ อุทเก อาสยี ต’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรัสวา่ “ยอ่ มเกิดในเปือกตม อาศัยอยใู่ นนำ้� ”
‘‘กินฺน ุ โข มหาราช ปทมุ ํ กทฺทเมน สทิสํ วณเฺ ณน วา คนเฺ ธน วา รเสน
วา’’ติ ?
กณั ฑ์] ๒.๖ สติวรรค 195
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ปทุมมสี กี ็ดี มีกลิ่นกด็ ี มรี ส
ก็ดี เหมือนกนั กบั เปลือกตมหรอื ไร ?”
‘‘น ห ิ ภนเฺ ต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรสั ว่า “หามไิ ด้ พระคุณเจา้ ”
‘‘อถ อทุ เกน สทิสํ วณฺเณน วา คนฺเธน วา รเสน วา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “เมอ่ื เป็นเช่นน้นั ปทุมนนั้ มสี กี ด็ ี มีกลน่ิ ก็ดี มรี สก็ดี
เหมือนกับน�้ำหรือ ?”
‘‘น หิ ภนเฺ ต’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ทต์ รสั วา่ “หามไิ ด้ พระคณุ เจา้ ”
‘‘เอวเมว โข มหาราช ภควา ทวฺ ตฺตสึ มหาปรุ ิสลกขฺ เณหิ สมนฺนาคโต อสีตยิ า จ
อนพุ ยฺ ฺชเนหิ ปรริ ชฺ ิโต สวุ ณฺณวณโฺ ณ ก ฺจนสนฺนภิ ตตฺ โจ พยฺ ามปฺปโภ, โน จสสฺ
มาตาปิตโร ทวฺ ตฺตสึ มหาปรุ สิ ลกขฺ เณห ิ สมนฺนาคตา อสตี ยิ า จ อนพุ ฺย ฺชเนหิ ปริร ชฺ ติ า
สุวณณฺ วณฺณา ก จฺ นสนนฺ ิภตฺตจา พยฺ ามปฺปภา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร กเ็ หมือนกันอย่างนั้นนนั่
แหละ พระผู้มพี ระภาคเจา้ ทรงเปน็ ผู้ประกอบด้วยพระมหาปรุ สิ ลักษณะ ๓๒ ประการ และ
ประดับด้วยพระอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ มีสีพระวรกายดุจดงั ทองค�ำ มพี ระฉววี รรณดุจดงั
ทองค�ำ มพี ระรศั มแี ผส่ รา้ นออกไปประมาณ ๑ วา พระชนกและชนนขี องพระองคน์ ้ัน หาเปน็ ผู้
ประกอบดว้ ยด้วยพระมหาปุรสิ ลักษณะ ๓๒ ประการ และประดบั ดว้ ยพระอนพุ ยัญชนะ ๘๐
ประการ มีสพี ระวรกายดจุ ดังทองค�ำ มพี ระฉวีวรรณดุจดังทองค�ำ มพี ระรศั มแี ผ่สร้านออกไป
ประมาณ ๑ วา ไม่”
‘‘กลโฺ ลสิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน ทา่ นตอบสมควรแล้ว”
มหาปรุ ิสลกฺขณปญฺโห ตติโย ฯ
จบมหาปุริสลักขณปญั หาขอ้ ท่ี ๓
________
196 มลิ นิ ทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มลิ นิ ทปญั ห
๔. ภควโต พฺรหมฺ จารปิ ญหฺ
๔. ภควโต พรหมจารปี ัญหา
ปญั หาว่าดว้ ยความเป็นพรหมจารขี องพระผ้มู พี ระภาค
[๔] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน พุทฺโธ พฺรหฺมจาร’ี ’ติ ?
[๔] พระราชาตรสั วา่ “พระคณุ เจ้านาคเสน พระพทุ ธเจา้ ทรงเป็นผู้ประพฤติเย่ยี ง
อยา่ งพรหมหรอื ?”
‘‘อาม มหาราช ภควา พฺรหมฺ จารี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ใช่ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ทรง
เป็นผ้ปู ระพฤตเิ ย่ียงอยา่ งพรหม”
‘‘เตนห ิ ภนเฺ ต นาคเสน พุทโฺ ธ พรฺ หมฺ โุ น สิสฺโส’’ติ ?
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรสั วา่ “ถา้ อย่างนน้ั พระคุณเจ้านาคเสน พระพุทธเจา้ ก็ช่ือว่าทรงเป็น
ศิษยข์ องพรหมนะซิ ?”
‘‘อตฺถิ ปน เต มหาราช หตฺถิปาโมกโฺ ข’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ชา้ งประธานของพระองค์ มี
อยู่ มใิ ช่หรือ ?”
‘‘อตฺถ ิ ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ท์ตรสั วา่ “มอี ยู่ พระคณุ เจ้า”
‘‘กินฺน ุ โข มหาราช โส หตถฺ ี กทาจ ิ กรหจ ิ โก จฺ นาท ํ นทตตี ิ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ช้างเชอื กนั้น บางครั้งบาง
คราวกบ็ ันลอื โกญจนาท (ส่งเสียงรอ้ งอยา่ งเสียงนกกระเรยี น) มใิ ช่หรอื ?”
‘‘อาม ภนฺเต นทต’ี ’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ทต์ รัสวา่ “ใช่ พระคณุ เจ้า ย่อมบนั ลอื ”
‘‘เตนหิ มหาราช โส หตฺถี โก ฺจสกณุ สฺส สิสฺโส’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ถา้ อย่างน้ัน ช้างเชือกนัน้
กไ็ ด้ช่อื ว่าเป็นศษิ ย์ของนกกระเรียนนะซิ ?”
กัณฑ]์ ๒.๖ สตวิ รรค 197
‘‘น ห ิ ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินทต์ รัสวา่ “หามิได้ พระคณุ เจา้ ”
‘‘กึ ปน มหาราช พฺรหมฺ า สพทุ ฺธิโก อพทุ ฺธโิ ก’’ติ ? พรหมเป็นผทู้ ี่ต้องมี
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร
พระพทุ ธเจ้า หรือว่าไมต่ อ้ งมีพระพทุ ธเจา้ เล่า ?”
‘‘สพุทธฺ โิ ก ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ ินทต์ รัสว่า “เป็นผตู้ ้องมพี ระพทุ ธเจ้า พระคุณเจา้ ”
‘‘เตนหิ มหาราช พรฺ หฺมา ภควโต สสิ โฺ ส’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ถ้าเชน่ นนั้ พรหมก็ต้องเปน็
ศษิ ยข์ องพระพทุ ธเจา้ นะซิ”
‘‘กลโฺ ลสิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ท์ตรัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน ทา่ นตอบสมควรแลว้ ”
ภควโต พฺรหฺมจาริปญโฺ ห จตตุ ฺโถ ฯ
จบภควโต พรหมจารปี ัญหาข้อท่ี ๔
________
๕. ภควโต อุปสมปฺ ทาปญหฺ
๕. ภควโต อุปสมั ปทาปญั หา
ปัญหาวา่ ด้วยการอปุ สมบทของพระผมู้ ีพระภาคเจ้า
[๕] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน อุปสมปฺ ทา สุนทฺ รา’’ติ ?
[๕] พระราชาตรัสว่า “พระคุณเจ้านาคเสน การอุปสมบทเป็นสง่ิ ทีด่ ีหรือ ?”
‘‘อาม มหาราช อุปสมฺปทา สุนฺทรา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ใช่ การอุปสมบทเปน็ สิ่งท่ดี ี”
‘‘อตฺถิ ปน ภนเฺ ต พุทฺธสฺส อปุ สมปฺ ทา อุทาหุ นตถฺ ’ี ’ติ ?
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รสั ว่า “พระคุณเจ้า พระพทุ ธเจ้าทรงมีการอปุ สมบท หรอื วา่ ไม่มีเล่า ?”
198 มลิ นิ ทปญั หาปกรณแ์ ปล [๒.มิลนิ ทปญั ห
‘‘อปุ สมฺปนโฺ น โข มหาราช ภควา โพธิรกุ ฺขมูเล สห สพพฺ ฺ ตุ าเณน, นตถฺ ิ
ภควโต อปุ สมฺปทา อ เฺ ห ิ ทินนฺ า, ยถา สาวกาน ํ มหาราช ภควา สิกขฺ าปท ํ ป ฺ เปติ
ยาวชีวํ อนติกกฺ มนียน”ฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร พระผู้มพี ระภาคเจ้ากท็ รงได้
อุปสมบทท่โี คนตน้ โพธิ์ พรอ้ มกับพระสพั พญั ญุตญาณ ไม่มผี ้อู ื่นถวายการอปุ สมบทแก่พระผูม้ ี
พระภาคเจ้า เปน็ เหมอื นอยา่ งที่พระผมู้ ีพระภาคเจ้าทรงบัญญัตสิ ิกขาบทแก่เหลา่ พระสาวกทงั้
หลาย อันเปน็ สิกขาบททีพ่ ระสาวกทั้งหลายไม่ควรล่วงละเมิดตลอดชีวติ ฉะน้ัน”
‘‘กลฺโลสิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รสั ว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน ทา่ นตอบสมควรแล้ว”
ภควโต อุปสมปฺ ทาปญฺโห ปญจฺ โม ฯ
จบภควโต อุปสมั ปทาปัญหาขอ้ ที่ ๕
________
๖. อสสฺ ุเภสชชฺ าเภสชฺชปญฺห
๖. อสั สุเภสัชชาเภสชั ชปัญหา
ปัญหาว่าดว้ ยน้�ำตาทเ่ี ป็นยาและท่ไี ม่เปน็ ยา
[๖] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน โย จ มาตริ มตาย โรทต,ิ โย จ ธมมฺ เปเมน
โรทต,ิ อภุ ินฺน ํ เตสํ โรทนตฺ านํ กสสฺ อสสฺ ุ เภสชชฺ ,ํ กสฺส น เภสชฺชน”ฺ ติ ?
[๖] พระราชาตรัสว่า “พระคณุ เจา้ นาคเสน คนหน่ึง เมื่อมารดาตาย รอ้ งไห้ อีกคน
หนงึ่ ร้องไห้เพราะความรกั ในธรรม บรรดาคนท้ัง ๒ ผู้ทรี่ ้องไหอ้ ยูเ่ หล่านั้น น�ำ้ ตาของคนไหน
จดั เป็นยา ของคนไหน ไม่จัดเปน็ ยา ?”
‘‘เอกสฺส โข มหาราช อสฺสุ ราคโทสโมเหห ิ สมลํ อณุ หฺ ํ, เอกสสฺ ปีตโิ สมนสฺเสน
วมิ ลํ สีตลํ ฯ ย ํ โข มหาราช สตี ลํ, ตํ เภสชฺช,ํ ย ํ อณุ หฺ ํ, ตํ น เภสชชฺ น”ฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร นำ้� ตาของคนหน่ึงมีมลทนิ
รอ้ นเพราะไฟคือราคะ โทสะ และโมหะ น้ำ� ตาของอกี คนหนึง่ ปราศจากมลทิน เยน็ เพราะปตี ิ
และโสมนัส ขอถวายพระพร น้ำ� ตาทเ่ี ยน็ จัดเป็นยา น้ำ� ตาท่รี อ้ น ไม่จัดเป็นยา”
กัณฑ์] ๒.๖ สตวิ รรค 199
‘‘กลโฺ ลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รัสว่า “พระคุณเจ้านาคเสน ทา่ นตอบสมควรแล้ว”
อสฺสุเภสชฺชาเภสชชฺ ปญโฺ ห ฉฏโฺ € ฯ
จบอัสสุเภสชั ชาเภสชั ชปญั หาข้อที่ ๖
________
๗. สราควตี ราคนานากรณปญหฺ
๗. สราควตี ราคนานากรณปญั หา
ปัญหาวา่ ดว้ ยความแตกต่างกันระหวา่ งคนผมู้ รี าคะกบั ผู้ปราศจากราคะ
[๗] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน ก ึ นานากรณํ สราคสสฺ จ วตี ราคสสฺ จา’’ติ ?
[๗] พระราชาตรัสว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน บคุ คลผมู้ รี าคะ กบั บุคคลผู้ปราศจากราคะ
มีอะไรเปน็ ขอ้ ทที่ �ำใหแ้ ตกต่างกัน ?”
‘‘เอโก โข มหาราช อชโฺ ฌสิโต, เอโก อนชโฺ ฌสโิ ต’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร บคุ คลหนึ่งเปน็ ผสู้ งบ กบั อกี
บคุ คลหนงึ่ เปน็ ผูไ้ ม่สงบ”
‘‘กึ เอต ํ ภนเฺ ต อชฺโฌสโิ ต อนชโฺ ฌสิโต นามา’’ติ ?
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รัสวา่ “พระคุณเจา้ ที่ช่ือวา่ เปน็ ผูส้ งบ เป็นผไู้ ม่สงบ นคี้ อื อะไร ?”
‘‘เอโก โข มหาราช อตถฺ โิ ก, เอโก อนตฺถโิ ก’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร คือ บุคคลหนงึ่ แล มีความ
ต้องการ กับอีกบคุ คลหนง่ึ ไมม่ คี วามต้องการ”
‘‘ปสฺสามหํ ภนเฺ ต เอวรปู ํ โย จ สราโค, โย จ วตี ราโค, สพโฺ พเปโส โสภนํเยว
อจิ ฉฺ ติ ขาทนยี ํ วา โภชนยี ํ วา, น โกจิ ปาปก ํ อิจฉฺ ตี’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินท์ตรสั ว่า “พระคุณเจ้า โยมยอ่ มเหน็ บุคคลเช่นนีเ้ หมอื น ๆ กนั คือ บุคคล
ผูม้ ีราคะ กบั บคุ คลผู้ปราศจากราคะ ทุกคนแมน้ ลี้ ว้ นแต่ต้องการส่งิ ดี ๆ ทัง้ นัน้ ไมว่ า่ จะเป็นของ
เคย้ี ว หรอื วา่ ของกิน ใคร ๆ ก็ไม่ตอ้ งการของไม่ดี”
200 มิลนิ ทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มิลนิ ทปญั ห
‘‘อวตี ราโค โข มหาราช รสปฏสิ ํเวที จ รสราคปฏิสเํ วท ี จ โภชน ํ ภ ุ ฺชต,ิ
วีตราโค ปน รสปฏิสํเวท ี โภชน ํ ภ ุ ฺชติ, โน จ โข รสราคปฏิสเํ วที’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร บคุ คลผยู้ งั ไมป่ ราศจากราคะ
บรโิ ภคอาหาร ก็เปน็ ผ้รู ู้จกั รสและรูจ้ ักยนิ ดใี นรส สว่ นบคุ คลผู้ปราศจากราคะ บริโภคอาหาร
เป็นผ้รู จู้ กั รสเพียงอยา่ งเดียว หาเปน็ ผูร้ ้จู กั ยินดีในรสดว้ ยไม่”
‘‘กลโฺ ลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินท์ตรัสวา่ “พระคุณเจ้านาคเสน ทา่ นตอบสมควรแล้ว”
สราควีตราคนานากรณปญฺโห สตฺตโม ฯ
จบสราควีตราคนานากรณปญั หาขอ้ ที่ ๗
________
๘. ปญฺ าปติฏฺานปญฺห
๘. ปัญญาปติฏฐานปัญหา
ปญั หาวา่ ด้วยที่ตัง้ แห่งปัญญา
[๘] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน ป ฺ า กหุ ึ ปฏิวสต’ี ’ติ ?
[๘] พระราชาตรสั ว่า “พระคุณเจ้านาคเสน ปญั ญายอ่ มอาศยั อยู่ ณ ทไี่ หน ?”
‘‘น กตถฺ จิ มหาราชา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ปัญญาหาได้อาศัยอยู่ ณ
ทไ่ี หนไม”่
‘‘เตนห ิ ภนเฺ ต นาคเสน นตฺถ ิ ป ฺ า’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รัสวา่ “พระคุณเจ้านาคเสน ถา้ เชน่ น้นั ปัญญากไ็ มม่ ีจรงิ ”
‘‘วาโต มหาราช กหุ ึ ปฏิวสตี’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ลมย่อมอาศัยอยู่ ณ ที่ไหน?”
‘‘น กตฺถจิ ภนเฺ ต’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินท์ตรสั ว่า “พระคุณเจ้า ลมหาไดอ้ าศยั อยู่ ณ ที่ไหนไม่”
กณั ฑ์] ๒.๖ สตวิ รรค 201
‘‘เตนหิ มหาราช นตถฺ ิ วาโต’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ถา้ เชน่ นั้น ลมก็ไมม่ ีจรงิ
นะซ”ิ
‘‘กลฺโลสิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ท์ตรัสวา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
ปญฺ าปติฏ€ฺ านปญโฺ ห อฏ€ฺ โม ฯ
จบปญั ญาปติฏฐานปัญหาขอ้ ท่ี ๘
________
๙. สํสารปญหฺ
๙. สงั สารปัญหา
ปัญหาว่าด้วยสงั สารวฏั
[๙] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน ย ํ ปเนต ํ พฺรสู ิ ‘สํสาโร’ติ, กตโม โส
สสํ าโร’’ติ ?
[๙] พระราชาตรัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน สง่ิ ทท่ี า่ นเรียกว่า ‘สังสารวัฏ’ นใ้ี ด
สังสารวฏั น้ัน เปน็ ไฉน ?”
‘‘อิธ มหาราช ชาโต อิเธว มรติ, อธิ มโต อ ฺ ตรฺ อปุ ปฺ ชชฺ ติ, ตห ึ ชาโต
ตหเึ ยว มรต,ิ ตห ึ มโต อ ฺ ตรฺ อุปปฺ ชชฺ ติ, เอว ํ โข มหาราช สสํ าโร โหตี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร บคุ คลที่เกดิ ในโลกนแ้ี ล้ว
กต็ ายในโลกน้ีนัน่ แหละ คร้นั ตายในโลกน้ีแลว้ ก็เกดิ ขน้ึ ในโลกอืน่ เกดิ ในโลกนนั้ แลว้ กต็ าย
ในโลกนนั้ นั่นแหละ ครนั้ ตายในโลกน้นั แล้ว กเ็ กดิ ขึ้นในโลกอืน่ อกี ขอถวายพระพร สงั สารวฏั
เป็นอยา่ งนีแ้ ล”
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ ินท์ตรัสวา่ “ขอทา่ นจงชว่ ยอปุ มาใหห้ น่อยทีเถอะ”
202 มิลินทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มลิ นิ ทปัญห
‘‘ยถา มหาราช โกจิเทว ปุรโิ ส ปกกฺ ํ อมพฺ ํ ขาทิตวฺ า อฏฺ ึ โรเปยยฺ , ตโต มหนโฺ ต
อมฺพรุกโฺ ข นิพพฺ ตตฺ ติ วฺ า ผลานิ ทเทยยฺ , อถ โส ปุริโส ตโตปิ ปกกฺ ํ อมพฺ ํ ขาทติ ฺวา อฏฺ ึ
โรเปยฺย, ตโตปิ มหนโฺ ต อมฺพรุกโฺ ข นพิ พฺ ตฺติตฺวา ผลานิ ทเทยยฺ , เอวเมเตสํ รุกฺขานํ
โกฏ ิ น ป ฺ ายติ, เอวเมว โข มหาราช อิธ ชาโต อเิ ธว มรติ, อธิ มโต อ ฺ ตฺร
อุปปฺ ชฺชติ, ตหึ ชาโต ตหเึ ยว มรติ, ตห ึ มโต อ ฺ ตฺร อุปฺปชฺชต,ิ เอว ํ โข มหาราช
สสํ าโร โหต’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร เปรยี บเหมือนว่า บุรุษคน
หนงึ่ เคย้ี วกนิ ผลมะมว่ งสุกแล้ว เพาะเมลด็ มะม่วงนนั้ ไว้ ต่อจากเมล็ดมะม่วงทเ่ี พาะไวน้ ้ัน พึง
บังเกิดเป็นตน้ มะมว่ งใหญแ่ ลว้ กใ็ ห้ผล ล�ำดับนั้น บรุ ุษน้ันกจ็ ะพงึ เคี้ยวกินผลมะมว่ งสกุ แมจ้ าก
ตน้ มะม่วงตน้ ท่ี ๒ แลว้ กเ็ พาะเมล็ดมะม่วงไว้ แม้ต่อจากเมลด็ มะม่วงท่เี พาะไว้นน้ั พึงบงั เกิด
เปน็ ตน้ มะมว่ งใหญ่แล้วใหผ้ ล เมอ่ื เป็นอยา่ งนี้ ต้นแรกสดุ แห่งบรรดาตน้ มะมว่ งเหลา่ นน้ั ก็ยอ่ ม
ไม่ปรากฏ ฉันใด ขอถวายพระพร บุคคลเกดิ ในโลกนแ้ี ลว้ กต็ ายในโลกนนี้ นั่ แหละ ครัน้ ตายใน
โลกนแ้ี ลว้ ก็เกดิ ขึ้นในโลกอน่ื เกดิ ขนึ้ ในโลกน้ันแล้ว ก็ตายในโลกนัน้ นนั่ แหละ คร้ันตายในโลก
น้ันแลว้ ก็เกดิ ขนึ้ ในโลกอน่ื อีก ขอถวายพระพร สงั สารวัฏยอ่ มมีตามประการดังกล่าวมาฉะน้ี
แล”
‘‘กลโฺ ลสิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ท์ตรัสว่า “พระคุณเจ้านาคเสน ทา่ นตอบสมควรแลว้ ”
สํสารปญฺโห นวโม ฯ
จบสังสารปญั หาขอ้ ท่ี ๙
________
๑๐. จิรกตสรณปญหฺ
๑๐. จิรกตสรณปญั หา
ปญั หาว่าด้วยการระลกึ ถงึ กจิ ทีไ่ ดท้ �ำไว้นานแล้ว
[๑๐] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน เกน อตตี ํ จิรกตํ สรต’ี ’ติ ?
[๑๐] พระราชาตรัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน บุคคลย่อมระลึกถึงกิจท่ีลว่ งไปแลว้ ทีไ่ ด้
ท�ำไว้นานแล้ว ไดด้ ้วยอะไร ?”
กัณฑ]์ ๒.๖ สตวิ รรค 203
‘‘สตยิ า มหาราชา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ยอ่ มระลึกไดด้ ้วยสต”ิ
‘‘นนุ ภนเฺ ต นาคเสน จิตเฺ ตน สรต ิ โน สติยา’’ติ ?
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รัสถามว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน เขายอ่ มระลึกได้ดว้ ยจิตมใิ ช่หรือ ไมใ่ ช่
ดว้ ยสติหรอก”
‘‘อภชิ านาสิ นุ ตวฺ ํ มหาราช, กิ จฺ ิเทว กรณียํ กตฺวา ปมฏุ ฺ น”ฺ ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร พระองค์กท็ รงทราบดีมใิ ช่
หรอื วา่ พระกรณียกจิ บางอยา่ งทีพ่ ระองคท์ รงท�ำแล้วหลงลมื ไป ก็มีอยู่ ?”
‘‘อาม ภนเฺ ต’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ท์ตรัสวา่ “ใช่ พระคณุ เจา้ ”
‘‘กนิ นฺ ุ โข ตฺวํ มหาราช ตสมฺ ึ สมเย อจติ ฺตโก อโหสี’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร กใ็ นสมยั นั้น พระองค์ได้ทรง
เป็นผไู้ ม่มีจติ หรอื ไรหนอ ?”
‘‘น หิ ภนฺเต สต ิ ตสฺมึ สมเย นาโหส’ี ’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินท์ตรสั วา่ “หามิได้ พระคณุ เจ้า ในสมัยนัน้ ไมม่ สี ตติ า่ งหาก”
‘‘อถ กสฺมา ตฺวํ มหาราช เอวมาห ‘จติ ฺเตน สรต,ิ โน สตยิ า’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร เมอ่ื เปน็ เช่นนัน้ เพราะเหตุ
อะไร พระองคจ์ งึ ตรสั อย่างน้ีว่า ‘เขาย่อมระลึกได้ดว้ ยจติ ไม่ใชด่ ้วยสติหรอก’ ดงั นีเ้ ล่า”
‘‘กลฺโลส ิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ท์ตรัสวา่ “พระคุณเจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
จริ กตสรณปญโฺ ห ทสโม ฯ
จบจริ กตสรณปญั หาขอ้ ที่ ๑๐
________
204 มิลินทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มิลนิ ทปัญห
๑๑. อภชิ านนตฺ สติปญฺห
๑๑. อภชิ านนั ตสติปัญหา
ปัญหาว่าดว้ ยสติพอเกดิ ขึ้นมาก็รูท้ นั ที
[๑๑] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน สพฺพา สต ิ อภชิ านนตฺ ี อุปปฺ ชฺชต ิ อทุ าห ุ
กฏุมิกาว สต’ี ’ติ ?
[๑๑] พระราชาตรัสว่า “พระคณุ เจา้ นาคเสน สตทิ ั้งปวงเมื่อเกดิ ข้นึ มากร็ ู้ทันที หรือวา่
มีแต่สติท่ีเปน็ เหตใุ ห้รภู้ ายหลังท�ำไปแล้วเทา่ น้ัน ?”
‘‘อภิชานนตฺ ปี ิ มหาราช กฏมุ กิ าป ิ สต’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร สติแมท้ รี่ ้ทู นั ที ก็มี แมท้ ่ีเป็น
เหตุให้รภู้ ายหลังท�ำไปแล้ว กม็ ี”
‘‘เอว หฺ ิ โข ภนฺเต นาคเสน สพฺพา สติ อภิชานนฺตี, นตถฺ ิ กฏมุ ิกา สตี’’ติ ?
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รัสว่า “เปน็ อยา่ งนเ้ี ทา่ นัน้ แล พระคุณเจา้ นาคเสน สติทงั้ ปวงล้วนมีแต่
รทู้ ันที สตทิ ี่เป็นเหตุให้รูภ้ ายหลังท�ำไปแล้ว ไมม่ หี รอก”
‘‘ยท ิ นตถฺ ิ มหาราช กฏมุ กิ า สติ, นตฺถิ กิ ฺจ ิ สิปปฺ กิ าน ํ กมฺมายตเนห ิ วา
สิปปฺ ายตเนหิ วา วชิ ฺชาฏฺ าเนห ิ วา กรณียํ, นริ ตฺถกา อาจริยา, ยสฺมา จ โข มหาราช
อตถฺ ิ กฏุมกิ า สต,ิ ตสฺมา อตฺถ ิ กมฺมายตเนห ิ วา สปิ ปฺ ายตเนหิ วา วชิ ชฺ าฏ ฺ าเนหิ วา
กรณียํ, อตโฺ ถ จ อาจรเิ ยห’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ถ้าหากวา่ สตทิ ่เี ปน็ เหตใุ ห้รู้
ภายหลงั ท�ำไปแลว้ ไม่มีไซร้ พวกศกึ ษางานศลิ ปะทงั้ หลาย ก็ไม่มีกิจอะไร ๆ ที่ควรท�ำ โดย
เปน็ การงานท่คี วรท�ำ โดยเปน็ ศลิ ปะท่คี วรท�ำ หรือโดยเปน็ ฐานะแห่งวิชา ท้ังพวกอาจารยท์ ้ัง
หลาย กย็ อ่ มเป็นคนไร้ประโยชน์ ขอถวายพระพร แตเ่ พราะเหตุทสี่ ติทเ่ี ป็นเหตุใหร้ ภู้ ายหลงั ท�ำ
ไปแลว้ ก็มีอยู่ เพราะฉะนนั้ จึงมีกิจท่คี วรท�ำ โดยเปน็ การงานท่ีควรท�ำ โดยเป็นศลิ ปะทีค่ วรท�ำ
หรือโดยเปน็ ฐานะแห่งวิชา และประโยชน์ดว้ ยอาจารยท์ ้งั หลาย กม็ อี ยู”่
‘‘กลโฺ ลสิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน ท่านตอบสมควรแล้ว”
กณั ฑ]์ ๒.๖ สตวิ รรค 205
อภชิ านนตฺ สตปิ ญโฺ ห เอกาทสโม ฯ
จบอภิชานนั ตสตปิ ัญหาข้อที่ ๑๑
สตวิ คฺโค ฉฏโฺ € ฯ
จบสตวิ รรคท่ี ๖
อมิ สมฺ ึ วคฺเค เอกาทส ปญหฺ า ฯ
ในวรรคนี้ มปี ัญหา ๑๑ ข้อ
________
206 มิลนิ ทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มิลนิ ทปญั ห
๒.๗ อรูปธมฺมววตถฺ านวคฺค
๒.๗ อรูปธมั มววตั ถานวรรค วรรควา่ ดว้ ยการกำ� หนดอรูปธรรม
๑. สตอิ ปุ ฺปชฺชนปญหฺ
๑. สตอิ ุปปัชชนปญั หา
ปญั หาวา่ ดว้ ยการเกดิ ขนึ้ แห่งสติ
[๑] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน กติหากาเรห ิ สต ิ อปุ ปฺ ชฺชต’ี ’ติ ?
[๑] พระราชาตรสั วา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน สตยิ ่อมเกิดขึ้นโดยอาการเทา่ ไร ?”
‘‘สตฺตรสหากาเรหิ มหาราช สต ิ อุปฺปชฺชตี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร สติย่อมเกิดขนึ้ โดยอาการ
๑๗”
‘‘กตเมหิ สตตฺ รสหากาเรห’ี ’ติ ?
พระเจา้ มลิ ินทต์ รสั วา่ “สติย่อมเกดิ ขนึ้ โดยอาการ ๑๗ อะไรบ้าง ?”
‘‘อภิชานโตปิ มหาราช สต ิ อปุ ฺปชฺชติ, กฏุมกิ ายปิ สต ิ อปุ ฺปชชฺ ติ, โอฬารกิ -
วิ ฺ าณโตป ิ สต ิ อุปปฺ ชชฺ ติ, หติ วิ ฺ าณโตปิ สต ิ อุปฺปชฺชติ, อหิตว ิ ฺ าณโตปิ สติ
อุปปฺ ชชฺ ต,ิ สภาคนมิ ติ ฺตโตปิ สติ อปุ ฺปชฺชต,ิ วสิ ภาคนิมติ ฺตโตป ิ สติ อปุ ปฺ ชฺชติ,
กถาภ ิ ฺ าณโตปิ สติ อุปฺปชฺชต,ิ ลกฺขณโตป ิ สติ อุปปฺ ชฺชต,ิ สารณโตปิ สติ อปุ ฺปชชฺ ต,ิ
มุททฺ าโตป ิ สต ิ อปุ ปฺ ชฺชติ, คณนาโตป ิ สติ อุปฺปชฺชต,ิ ธารณโตปิ สต ิ อุปปฺ ชชฺ ติ,
ภาวนโตปิ สติ อุปฺปชชฺ ติ, โปตฺถกนิพนฺธนโตปิ สต ิ อุปปฺ ชชฺ ติ, อปุ นิกฺเขปโตป ิ สต ิ
อุปปฺ ชฺชติ, อนภุ ตู โตป ิ สต ิ อปุ ปฺ ชฺชตตี ิ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร สติย่อมเกิดขึ้น แมเ้ พราะ
เปน็ คนคงแก่เรียน, สติย่อมเกดิ ขึน้ แมเ้ พราะเปน็ คนทผ่ี อู้ นื่ กระตุ้นเตอื นใหร้ ู้สงิ่ ที่ได้ท�ำไปแล้ว,
สติยอ่ มเกดิ ข้ึน แมเ้ พราะวญิ ญาณโอฬาร, สติยอ่ มเกิดขน้ึ แม้เพราะวญิ ญาณท่ีเกอื้ กลู , สตยิ ่อม
เกิดข้นึ แม้เพราะวญิ ญาณทไี่ มเ่ ก้อื กูล, สตยิ ่อมเกดิ ขึน้ แมเ้ พราะนมิ ิตทมี่ สี ่วนเหมือนกนั , สติ
ยอ่ มเกิดข้นึ แม้เพราะนมิ ติ ทม่ี ีส่วนทไ่ี ม่เหมือนกัน, สติยอ่ มเกดิ ขน้ึ แมเ้ พราะการเขา้ ใจค�ำพูด,
สติย่อมเกิดข้ึน แม้เพราะลักษณะ, สตยิ ่อมเกิดขึ้น แมเ้ พราะการท่ผี อู้ ืน่ บอกใหร้ ะลกึ , สตยิ ่อม
เกดิ ขึน้ แม้เพราะการบันทึก, สตยิ อ่ มเกดิ ขึน้ แม้เพราะการนับ, สตยิ อ่ มเกิดขนึ้ แมเ้ พราะการ
กณั ฑ]์ ๒.๗ อรปู ธมั มววตั ถานวรรค 207
ทรงจ�ำ, สติยอ่ มเกดิ ขนึ้ แม้เพราะภาวนา, สตยิ ่อมเกดิ ขน้ึ แม้เพราะค�ำบนั ทกึ ไว้ในสมุด, สติ
ย่อมเกดิ ข้ึน แม้เพราะการเก็บไว,้ สติย่อมเกดิ ขนึ้ เพราะเป็นอารมณท์ ่ีเคยเสวย ฉะนแ้ี ล”
‘‘กถ ํ อภิชานโต สต ิ อุปปฺ ชชฺ ติ ?
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รัสถามวา่ “สตยิ ่อมเกิดขึน้ เพราะเปน็ คนคงแก่เรยี นอยา่ งไร ?”
“ยถา มหาราช อายสฺมา จ อานนฺโท ขชุ ชฺ ุตตฺ รา จ อุปาสกิ า, เย วา ปน อ ฺเ ป ิ
เกจ ิ ชาตสิ สฺ รา ชาตึ สรนฺติ, เอว ํ อภิชานโต สติ อุปปฺ ชชฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร สตยิ ่อมเกิดขนึ้ เพราะเป็นผู้
คงแก่เรยี น ก็เหมอื นกับท่านพระอานนท์ และนางขชุ ชตุ ตราอบุ าสกิ า หรือแม้แตค่ นอ่นื ๆ บาง
พวกผรู้ ะลึกชาติไดท้ ั้งหลาย ย่อมระลึกชาตไิ ด”้
‘‘กถ ํ กฏุมิกาย สติ อปุ ฺปชฺชติ ?
พระเจ้ามิลินท์ตรสั ถามว่า “สตยิ ่อมเกิดขึน้ เพราะเป็นคนทผี่ ูอ้ ืน่ กระตุ้นเตือนใหร้ ู้สิ่งท่ี
ไดท้ �ำไปแลว้ อย่างไร ?”
โย ปกติยา มฏุ ฺ สฺสติโก, ปเร จ ตํ สราปนตฺถ ํ นพิ นฺธนตฺ ิ, เอวํ กฏมุ กิ าย สต ิ
อปุ ปฺ ชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “บคุ คลผู้มกั หลงลมื สติ พอผู้อืน่ กระตุน้ เตือนเพื่อใหร้ ะลกึ
ถึงสิ่งทไี่ ดท้ �ำไปแลว้ น้ัน กย็ อ่ มระลึกได้ สติย่อมเกดิ ขน้ึ แม้เพราะเป็นคนท่ีผอู้ ืน่ กระต้นุ เตอื นให้รู้
ส่งิ ทไี่ ดท้ �ำไปแลว้ อย่างนี้
‘‘กถ ํ โอฬารกิ ว ิ ฺ าณโต สต ิ อปุ ฺปชฺชติ ?
พระเจา้ มลิ ินท์ตรัสถามว่า “สติย่อมเกดิ ขึ้น เพราะวญิ ญาณโอฬารอยา่ งไร ?”
ยทา รชฺเช วา อภสิ ิตโฺ ต โหติ, โสตาปตตฺ ิผล ํ วา ปตโฺ ต โหต,ิ เอวํ โอฬาริก-
ว ิ ฺ าณโต สต ิ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “สติยอ่ มเกิดข้ึนเพราะวิญญาณอนั โอฬาร ก็เหมอื นอยา่ ง
ในคราวทบ่ี ุคคลไดอ้ ภิเษกในราชสมบตั ิ หรอื บรรลโุ สดาปัตตผิ ล ฉะนนั้
‘‘กถ ํ หิตวิ ฺ าณโต สติ อุปฺปชชฺ ติ ?
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรสั ถามว่า “สติย่อมเกดิ ขึ้นเพราะวิญญาณท่ีเกื้อกลู อยา่ งไร ?”
208 มลิ ินทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มลิ ินทปัญห
“ยมฺหิ สขุ าปโิ ต, ‘อมุกสมฺ ึ เอวํ สขุ าปิโต’ต ิ สรต,ิ เอว ํ หติ วิ ฺ าณโต สต ิ
อุปฺปชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “บคุ คลเป็นผเู้ ป่ยี มด้วยความสุขในท่ใี ด ก็ย่อมระลกึ ได้ว่า
‘เราเปน็ ผเู้ ป่ียมด้วยความสุขแลว้ อย่างนใ้ี นท่โี นน้ ’ ดังน้ี สตยิ อ่ มเกดิ ข้นึ เพราะวิญญาณท่ี
เก้อื กูลอยา่ งน้ี
‘‘กถํ อหติ วิ ฺ าณโต สติ อปุ ฺปชฺชติ ?
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รัสวา่ “สติย่อมเกิดข้นึ เพราะวิญญาณทีไ่ มเ่ กอ้ื กลู อย่างไร ?”
“ยมฺห ิ ทุกขฺ าปิโต, ‘อมุกสมฺ ึ เอว ํ ทุกขฺ าปิโต’ติ สรติ, เอวํ อหติ วิ ฺ าณโต สติ
อปุ ฺปชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “บคุ คลเปน็ ผูเ้ ปยี่ มไปด้วยความทุกข์ในท่ใี ด กย็ ่อมระลึก
ไดว้ า่ ‘ในทีโ่ น้น เราเปน็ ผ้เู ป่ียมไปด้วยความทกุ ขแ์ ล้วอย่างน้ี’ ดงั นี้ สตยิ ่อมเกดิ ขึน้ เพราะ
วิญญาณทีไ่ มเ่ กอ้ื กลู อย่างน้ี
‘‘กถ ํ สภาคนมิ ติ ตฺ โต สต ิ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ?
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รสั ว่า “สติย่อมเกดิ ขน้ึ เพราะนิมิตท่ีมสี ่วนเหมอื นกันอย่างไร ?”
“สทสิ ํ ปุคฺคล ํ ทิสวฺ า มาตรํ วา ปิตรํ วา ภาตรํ วา ภคนิ ึ วา สรต,ิ โอฏฺ ํ วา
โคณ ํ วา คทฺรภํ วา ทิสวฺ า อ ฺ ํ ตาทสิ ํ โอฏ ฺ ํ วา โคณํ วา คทฺรภํ วา สรต,ิ เอว ํ
สภาคนมิ ติ ตฺ โต สต ิ อุปฺปชชฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “บุคคลเห็นบุคคลทเี่ หมือนกับมารดาเปน็ ตน้ ยอ่ มระลึก
ถึงมารดาหรือบิดา พีน่ ้องชายหรอื พีน่ อ้ งหญิง เห็นอูฐ โค หรอื ลา ย่อมระลึกถงึ อฐู โค หรอื ลา
อื่น ๆ ทเี่ หมอื นกนั สตยิ อ่ มเกิดขึ้น เพราะนมิ ติ ท่มี สี ่วนเหมือนกนั อย่างน้ี
‘‘กถํ วสิ ภาคนมิ ตฺตโต สต ิ อปุ ฺปชฺชติ ?
พระเจ้ามลิ ินทต์ รัสว่า “สติยอ่ มเกดิ ข้นึ เพราะนิมิตทมี่ ีส่วนไม่เหมือนกนั อยา่ งไร ?”
“อสุกสสฺ นาม วณฺโณ เอทิโส, สทโฺ ท เอทโิ ส, คนฺโธ เอทโิ ส, รโส เอทโิ ส,
โผฏ ฺ พฺโพ เอทิโสต ิ สรติ, เอวมฺป ิ วสิ ภาคนมิ ติ ฺตโตปิ สต ิ อปุ ฺปชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “คอื ย่อมระลึกได้วา่ ‘สิง่ โน้น มสี เี ช่นน้ี มเี สียงเชน่ นี้ มี
กลิ่นเช่นนี้ มีรสเชน่ น้ี มีโผฏฐพั พะเช่นน’้ี ดงั น้ี สติย่อมเกิดข้นึ แมเ้ พราะนมิ ิตทีม่ สี ่วนไมเ่ หมอื น
กัณฑ์] ๒.๗ อรูปธมั มววตั ถานวรรค 209
กนั อยา่ งน้ี
‘‘กถํ กถาภ ิ ฺ าณโต สต ิ อปุ ฺปชชฺ ติ ?
พระเจา้ มิลนิ ท์ตรสั ถามว่า “สตยิ อ่ มเกดิ ขึ้น เพราะการเข้าใจค�ำพูดอย่างไร ?”
“โย ปกตยิ า มุฏ ฺ สฺสติโก โหติ, ต ํ ปเร สราเปนตฺ ิ, เตน โส สรต,ิ เอวํ กถา-
ภิ ฺ าณโต สต ิ อุปปฺ ชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ผู้ท่ีมักหลงลืม พอถกู ผอู้ ืน่ บอกให้ระลกึ เขาย่อมระลึกได้
เพราะค�ำพดู นนั้ สติยอ่ มเกดิ ข้ึนเพราะการเขา้ ใจค�ำพดู อย่างน้ี
‘‘กถํ ลกฺขณโต สติ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ?
พระเจา้ มิลินท์ตรสั ถามวา่ “สตยิ ่อมเกิดขึ้น เพราะลักษณะอย่างไร ?”
“โย ปกติยา พลีพททฺ านํ องเฺ คน ชานาติ, ลกขฺ เณน ชานาต,ิ เอว ํ ลกขฺ ณโต สต ิ
อุปฺปชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ผ้รู ู้จักโคถกึ ทัง้ หลายโดยอวยั วะตามปกติ ชอื่ วา่ ยอ่ มรู้
โดยลักษณะ สตยิ ่อมเกดิ ขึน้ เพราะลักษณะอยา่ งน้ี
‘‘กถํ สารณโต สต ิ อุปปฺ ชฺชติ ?
พระเจา้ มลิ ินทต์ รัสถามว่า “สติยอ่ มเกดิ ข้ึน เพราะการใหร้ ะลกึ อยา่ งไร ?”
“โย ปกตยิ า มุฏ ฺ สฺสติโก โหติ, โย ตํ ‘สราหิ โภ, สราห ิ โภ’ติ ปุนปฺปนุ ํ สราเปติ,
เอวํ สารณโต สต ิ อุปฺปชชฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ผทู้ มี่ กั หลงลืม พอผูอ้ ่นื มาบอกใหร้ ะลึกอยูบ่ อ่ ย ๆ ว่า ‘จง
ระลกึ เข้าเถิดนะ พอ่ มหาจ�ำเรญิ จงระลึกเข้าเถดิ นะ พอ่ มหาจ�ำเรญิ ’ ดังน้ี (ก็ยอ่ มระลกึ ได)้ , สติ
ยอ่ มเกดิ ขน้ึ เพราะการถกู ผอู้ ื่นบอกใหร้ ะลกึ อย่างนี้
‘‘กถํ มทุ ทฺ าโต สติ อุปฺปชชฺ ติ ?
พระเจ้ามลิ ินทต์ รสั ถามวา่ “สติย่อมเกดิ ข้นึ เพราะการบันทกึ อยา่ งไร ?”
210 มิลนิ ทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มลิ ินทปัญห
“ลิปยิ า สกิ ขฺ ติ ตตฺ า ชานาติ ‘อิมสฺส อกขฺ รสสฺ อนนตฺ ร ํ อมิ ํ อกขฺ รํ กาตพฺพน’ฺ ต ิ เอว ํ
มทุ ฺทาโต สต ิ อปุ ปฺ ชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “เพราะได้ศกึ ษาวิธเี ขยี นไว้แลว้ จึงรู้ว่า ‘อกั ษรนตี้ ้องท�ำ
ไวต้ ิดกบั อกั ษรตวั น้ี เป็นต้น’ สติยอ่ มเกดิ ขน้ึ เพราะการบันทึกอยา่ งน้ี
‘‘กถํ คณนาโต สติ อปุ ฺปชฺชติ ?
พระเจา้ มลิ ินท์ตรสั ถามว่า “สตยิ ่อมเกิดขนึ้ เพราะการนับอย่างไร ?”
“คณนาย สิกฺขติ ตตฺ า คณกา พหมุ ฺป ิ คเณนตฺ ิ, เอวํ คณนาโต สติ อปุ ปฺ ชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “เพราะได้ศึกษาการนับเอาไว้แลว้ พวกคนผู้นบั จึงนบั
จ�ำนวนแมม้ ากมายได้ สตยิ อ่ มเกดิ ขนึ้ เพราะการนบั อยา่ งน้ี
‘‘กถ ํ ธารณโต สต ิ อุปฺปชฺชติ ?
พระเจ้ามิลินท์ตรสั ถามวา่ “สติยอ่ มเกิดขึน้ เพราะการทรงจ�ำอยา่ งไร ?”
“ธารณาย สกิ ขฺ ิตตตฺ า ธารณกา พหมุ ปฺ ิ ธาเรนตฺ ,ิ เอว ํ ธารณโต สติ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “คือ เพราะศึกษาการทรงจ�ำไว้แล้ว พวกคนผูท้ รงจ�ำจึงจ�ำ
ไดแ้ ม้มากมาย สติยอ่ มเกดิ ขน้ึ เพราะการทรงจ�ำอย่างนี้
‘‘กถํ ภาวนาโต สต ิ อปุ ฺปชฺชติ ?
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รัสถามวา่ “สติยอ่ มเกดิ ขนึ้ เพราะการภาวนาอยา่ งไร ?”
“อธิ ภกิ ฺข ุ อเนกวหิ ิต ํ ปพุ เฺ พนวิ าสํ อนุสสฺ รต,ิ เสยฺยถิทํ, เอกมปฺ ิ ชาตึ เทวฺ ปิ
ชาตโิ ย… เป.… อิติ สาการ ํ สอทุ เฺ ทสํ ปุพเฺ พนิวาสํ อนุสสฺ รติ, เอว ํ ภาวนาโต สต ิ
อุปฺปชชฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “คอื ภกิ ษุในพระศาสนานี้ ย่อมตามระลึกถงึ ขันธท์ ี่เคยอยู่
ในภพก่อนไดเ้ ป็นอนั มาก คอื ยอ่ มระลึกไปชาตหิ น่งึ บ้าง สองชาตบิ า้ ง ฯลฯ ยอ่ มระลึกถงึ ขนั ธท์ ่ี
เคยอย่ใู นภพกอ่ น พรอ้ มทั้งอาการ พร้อมทง้ั อุทเทส อย่างน,ี้ สตยิ อ่ มเกิดข้นึ เพราะการภาวนา
อย่างนี้
‘‘กถ ํ โปตถฺ กนพิ นธฺ นโต สต ิ อุปปฺ ชชฺ ติ ?
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “สตยิ ่อมเกดิ ขึ้น เพราะค�ำบันทึกไวใ้ นสมดุ อยา่ งไร ?”
กณั ฑ์] ๒.๗ อรูปธัมมววัตถานวรรค 211
“ราชาโน อนุสาสนยิ ํ อสฺสรนตฺ า ‘เอตํ โปตฺถกํ อาหรถาติ, เตน โปตฺถเกน
อนุสฺสรนฺต,ิ เอวํ โปตฺถกนิพนฺธนโต สต ิ อปุ ปฺ ชฺชติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “คือ พระราชาทงั้ หลาย เม่ือทรงระลกึ ในอนศุ าสนไี มไ่ ด้
จึงรับส่ังวา่ ‘จงเอาสมดุ เลม่ น้ีมา’ ทรงระลึกถงึ อนศุ าสนไี ด้ เพราะสมุดเลม่ นน้ั สตยิ อ่ มเกดิ ข้นึ
เพราะค�ำบนั ทึกไว้ในสมดุ อย่างน้ี
‘‘กถ ํ อปุ นกิ เฺ ขปโต สติ อปุ ฺปชฺชติ ?
พระเจ้ามลิ ินทต์ รสั ถามว่า “สตยิ อ่ มเกดิ ขน้ึ เพราะการเกบ็ ไว้อย่างไร ?”
“อปุ นกิ ฺขิตฺต ํ ภณฺฑ ํ ทสิ ฺวา สรต,ิ เอว ํ อุปนิกเฺ ขปโต สต ิ อุปปฺ ชชฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “คอื พอเห็นสิง่ ของที่เก็บไว้ กย็ อ่ มระลกึ ได้ สตยิ อ่ มเกดิ
ขน้ึ เพราะการเกบ็ ไวอ้ ยา่ งนี้
‘‘กถํ อนุภูตโต สติ อปุ ฺปชฺชติ ?
พระเจ้ามลิ ินทต์ รสั ถามวา่ “สติย่อมเกิดข้ึน เพราะเปน็ อารมณ์ทเ่ี คยเสวยอย่างไร ?”
“ทิฏฺ ตตฺ า รปู ํ สรต,ิ สตุ ตฺตา สททฺ ํ สรต,ิ ฆายติ ตตฺ า คนธฺ ํ สรต,ิ สายิตตตฺ า รสํ
สรติ, ผฏุ ฺ ตตฺ า โผฏ ฺ พพฺ ํ สรต,ิ ว ิ ฺ าตตฺตา ธมมฺ ํ สรติ, เอว ํ อนุภูตโต สติ อปุ ปฺ ชชฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “คอื ย่อมระลกึ ถงึ รูปได้ เพราะเคยเหน็ ยอ่ มระลึกถงึ เสียง
ได้ เพราะเคยไดย้ ิน ยอ่ มระลึกถึงกลนิ่ ได้ เพราะเคยดม ย่อมระลึกถึงรสได้ เพราะเคยล้ิม ย่อม
ระลกึ ถงึ โผฏฐพั พะได้ เพราะเคยสมั ผัส ย่อมระลกึ ถึงธรรมได้ เพราะเคยรู้ สตยิ อ่ มเกิดขึน้
เพราะเป็นอารมณ์ที่เคยเสวยอยา่ งนี้
อิเมหิ โข มหาราช สตฺตรสหากาเรห ิ สติ อุปปฺ ชฺชต’ี ’ติ ฯ
ขอถวายพระพรมหาบพติ ร สตยิ ่อมเกดิ ข้นึ โดยอาการ ๑๗ อยา่ ง เหลา่ นี้แล”
‘‘กลโฺ ลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรสั วา่ “พระคุณเจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแล้ว”
สตอิ ปุ ฺปชฺชนปญโฺ ห ป€โม ฯ
จบสตอิ ุปปัชชนปัญหาข้อที่ ๑
________
212 มลิ ินทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มลิ ินทปัญห
๒. พทุ ธฺ คณุ สตปิ ฏลิ าภปญหฺ
๒. พทุ ธคณุ สติปฏลิ าภปญั หา
ปัญหาว่าดว้ ยการไดส้ ตริ ะลึกถึงพระพุทธคณุ
[๒] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน ตุมฺเห เอตํ ภณถ ‘โย วสฺสสตํ อกสุ ลํ กเรยฺย,
มรณกาเล จ เอกํ พทุ ฺธคุณํ สตึ ปฏิลเภยยฺ , โส เทเวสุ อปุ ปฺ ชเฺ ชยฺยา’ต ิ เอต ํ น
สททฺ หาม,ิ เอว จฺ ปน วเทถ ‘เอเกน ปาณาติปาเตน นริ เย อุปปฺ ชฺเชยฺยา’ติ เอตมฺป ิ น
สททฺ หาม’ี ’ติ ฯ
[๒] พระราชาตรสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน พวกท่านพากนั กลา่ วค�ำนีว้ า่ ‘บุคคลใดท�ำ
แต่อกศุ ลไปตลอด ๑๐๐ ปี แต่ในเวลาใกลต้ าย กลบั ไดส้ ตริ ะลึกถึงพระพุทธคณุ บคุ คลน้ัน พงึ
ไดเ้ กดิ ในหมเู่ ทวดาทั้งหลาย’ ดงั น้ี โยมไมเ่ ชื่อค�ำที่วา่ นห้ี รอก อกี อย่างหน่งึ แมค้ �ำทพ่ี วกท่าน
กล่าวกนั อย่างนวี้ ่า ‘บุคคลพงึ เกดิ ขึน้ ในนรกได้ เพราะปาณาติบาตที่ไดท้ �ำไว้แลว้ ครั้งเดียว’ แม้
เรอื่ งนี้ โยมกไ็ ม่เช่ือหรอก”
‘‘ตํ ก ึ ม ฺ ส ิ มหาราช, ขุททฺ โกป ิ ปาสาโณ วินา นาวาย อุทเก
อุปฺปลิ เวยฺยา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร พระองค์จะทรงส�ำคญั ความ
ข้อนน้ั วา่ อย่างไร กอ้ นหินแม้เลก็ ๆ เวน้ จากการใชเ้ รอื กพ็ งึ ลอยอยเู่ หนือน้ำ� ได้หรือไร ?”
‘‘น หิ ภนเฺ ต’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ทต์ รัสวา่ “หามไิ ด้หรอก พระคุณเจา้ ”
‘‘กนิ นฺ ุ โข มหาราช วาหสตมปฺ ิ ปาสาณานํ นาวาย อาโรปิตํ อุทเก
อุปปฺ ลิ เวยยฺ า’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร กอ้ นหนิ แมข้ นาด ๑๐๐ เล่มเกวียน ที่
เขาบรรทกุ ไว้ในเรือ พงึ ลอยอยูเ่ หนือน�้ำได้หรอื ไม่ ?”
‘‘อาม ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รสั วา่ “ได้ พระคณุ เจ้า”
‘‘ยถา มหาราช นาวา, เอว ํ กุสลานิ กมฺมานิ ทฏ ฺ พพฺ าน’ี ’ติ ฯ
กัณฑ์] ๒.๗ อรูปธัมมววัตถานวรรค 213
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร บุคคลพึงเหน็ กุศลกรรมทงั้
หลายว่า เปรยี บเหมือนเรือเถดิ ”
‘‘กลฺโลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ท์ตรัสวา่ “พระคณุ เจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
พทุ ธฺ คุณสตปิ ฏิลาภปญฺโห ทุตโิ ย ฯ
จบพทุ ธคุณสตปิ ฏิลาภปัญหาขอ้ ท่ี ๒
________
๓. ทุกฺขปปฺ หานวายมปญฺห
๓. ทุกขปั ปหานวายมปัญหา
ปัญหาว่าดว้ ยความพยามเพอื่ ละทกุ ข์
[๓] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน กึ ตมุ ฺเห อตตี สสฺ ทกุ ขฺ สฺส ปหานาย
วายมถา’’ติ ?
[๓] พระราชาตรัสวา่ “พระคณุ เจ้านาคเสน พวกทา่ นย่อมพยายามเพ่ือละทกุ ข์ที่เป็น
อดตี หรือไร ?”
‘‘น ห ิ มหาราชา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “หามิได้ มหาบพติ ร”
‘‘ก ึ ปน ภนฺเต อนาคตสฺส ทุกขฺ สสฺ ปหานาย วายมถา’’ติ ?
พระเจา้ มลิ ินท์ตรสั ถามวา่ “พระคณุ เจ้า พวกทา่ นพากันพยายามเพื่อจะละทกุ ขท์ ีเ่ ป็น
อนาคตหรอื ?”
‘‘น หิ มหาราชา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “หามิได้ มหาบพติ ร”
‘‘ก ึ ปน ปจฺจปุ ฺปนฺนสฺส ทกุ ฺขสฺส ปหานาย วายมถา’’ติ ?
พระเจา้ มิลนิ ท์ตรัสถามว่า “พวกท่าน ย่อมพยายามเพื่อจะละทกุ ข์ท่ีเปน็ ปจั จุบันหรอื ?”
214 มิลินทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มิลนิ ทปัญห
‘‘น ห ิ มหาราชา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “หามิได้ มหาบพิตร”
‘‘ยท ิ ตุมเฺ ห น อตตี สฺส ทกุ ขฺ สสฺ ปหานาย วายมถ, น อนาคตสฺส ทุกขฺ สฺส
ปหานาย วายมถ, น ปจฺจปุ ปฺ นนฺ สฺส ทกุ ฺขสฺส ปหานาย วายมถ, อถ กิมตฺถาย
วายมถา’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รสั วา่ “ถ้าหากว่า พวกทา่ นมไิ ด้พยายามเพื่อละทุกข์ท่ีเปน็ อดตี มไิ ด้
พยายามเพอื่ ละทุกขท์ ี่เปน็ อนาคต มิไดพ้ ยายามเพื่อละทุกข์ทีเ่ ปน็ ปัจจุบนั ไซร้ เมอ่ื เป็นเช่นน้ี
พวกท่านพยายามไปเพอ่ื ประโยชนอ์ ะไร ?”
เถโร อาห “กนิ ตฺ ิ มหาราช ‘อิท ฺจ ทกุ ฺข ํ นริ ชุ ฺเฌยฺย, อ ฺ ฺจ ทุกฺขํ
นุปฺปชฺเชยยฺ า’ติ เอตทตฺถาย วายมามา’’ติ ฯ
พระเถระถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร เพือ่ ประโยชน์อะไรนะหรือ
พวกอาตมภาพยอ่ มพยายามเพือ่ ประโยชน์แกส่ ง่ิ นี้คอื ‘ทกุ ขน์ ีพ้ งึ ดบั ไปเสยี และทกุ ข์อืน่ กไ็ ม่
พงึ เกิดขนึ้ ’
‘‘อตฺถิ ปน เต ภนเฺ ต นาคเสน อนาคต ํ ทกุ ฺขน”ฺ ติ ?
พระเจา้ มิลินท์ตรสั ถามว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน กแ็ ตว่ า่ ทกุ ข์ทีเ่ ป็นอนาคตของทา่ น
มีอยหู่ รอื ?”
‘‘นตฺถิ มหาราชา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ไมม่ หี รอก มหาบพติ ร”
‘‘ตุมฺเห โข ภนฺเต นาคเสน อตปิ ณฺฑิตา, เย ตุมเฺ ห อสนตฺ าน ํ อนาคตาน ํ ทุกขฺ านํ
ปหานาย วายมถา’’ติ ?
พระเจา้ มลิ ินทต์ รัสว่า “พระคุณเจ้านาคเสน พวกท่านแลลว้ นเป็นผฉู้ ลาดเกิน ทพี่ ากนั
พยายามเพอื่ ละทุกขท์ ี่เปน็ อนาคต ซ่ึงยังไม่มอี ย่”ู
‘‘อตฺถิ ปน เต มหาราช เกจ ิ ปฏิราชาโน ปจฺจตฺถิกา ปจฺจามิตฺตา ปจฺจปุ ฏ ฺ ติ า
โหนฺตี’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร พระราชาฝ่ายตรงกนั ข้ามท้งั หลายบาง
พระองค์ผูเ้ ป็นข้าศึก ศัตรู ผู้รกุ ราน ของพระองค์ มีอย่หู รือไม่ ?”
กณั ฑ์] ๒.๗ อรูปธัมมววัตถานวรรค 215
‘‘อาม ภนเฺ ต อตถฺ ’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรสั วา่ “ใช่ มอี ยู่ พระคณุ เจา้ ”
‘‘ก ึ น ุ โข มหาราช ตทา ตุมเฺ ห ปริขํ ขณาเปยฺยาถ, ปาการํ จินาเปยยฺ าถ, โคปุร ํ
การาเปยฺยาถ, อฏฺฏาลก ํ การาเปยฺยาถ, ธ ฺ ํ อตหิ ราเปยฺยาถา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร พระองคท์ รงรับสงั่ ให้ขดุ คเู มอื ง ใหก้ อ่
ก�ำแพง ให้สร้างประตเู มือง ใหส้ ร้างป้อม ใหเ้ กบ็ เกยี่ วธญั ญาหารไว้ ในคราวน้นั หรือหนอ ?”
‘‘น ห ิ ภนฺเต ปฏกิ จฺเจว ต ํ ปฏิยตตฺ ํ โหต’ี ’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินทต์ รัสว่า “หามิได้ พระคุณเจา้ กิจมกี ารให้ขุดคูเมอื งไว้เป็นตน้ นน้ั จ�ำเป็น
ตอ้ งเตรียมการเสียแต่เนิ่น ๆ เลย”
‘‘กึ ตมุ ฺเห มหาราช ตทา หตถฺ ิสฺม ึ สกิ ฺเขยฺยาถ, อสฺสสมฺ ึ สิกเฺ ขยฺยาถ, รถสฺม ึ
สิกฺเขยยฺ าถ, ธนสุ มฺ ึ สิกฺเขยฺยาถ, ถรุสมฺ ึ สกิ เฺ ขยฺยาถา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร พวกพระองคท์ รงศึกษาในเรอื่ งช้าง
ทรงศกึ ษาในเรอ่ื งมา้ ทรงศึกษาในเรื่องรถ ทรงศึกษาในเร่ืองธนู ทรงศกึ ษาในเรื่องหอก ก็ใน
คราวนน้ั หรอื ?”
‘‘น หิ ภนเฺ ต, ปฏิกจฺเจว ตํ สิกฺขิต ํ โหต’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รสั ว่า “หามไิ ด้ พระคุณเจา้ กิจมีการศึกษาในเรอ่ื งช้างเป็นตน้ น้นั
จ�ำเป็นต้องเตรียมการเสยี แต่เน่นิ ๆ เลย”
‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “เพอ่ื ประโยชนอ์ ะไรหรือ ?”
‘‘อนาคตาน ํ ภนเฺ ต ภยาน ํ ปฏพิ าหนตฺถายา’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินทต์ รัสว่า “เพอื่ ประโยชนค์ ือการปอ้ งกันภัยทง้ั หลายทีย่ ังมาไมถ่ งึ ”
‘‘กินนฺ ุ โข มหาราช อตถฺ ิ อนาคตํ ภยนฺ”ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร ภัยทเ่ี ป็นอนาคตมอี ยหู่ รือหนอ ?”
‘‘นตถฺ ิ ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินทต์ รสั ว่า “ยังไมม่ หี รอก พระคณุ เจา้ ”
216 มลิ ินทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มลิ ินทปญั ห
‘‘ตมุ เฺ ห จ โข มหาราช อตปิ ณฺฑิตา, เย ตมุ เฺ ห อสนตฺ าน ํ อนาคตาน ํ ภยาน ํ
ปฏิพาหนตถฺ าย ปฏยิ าเทถา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร กพ็ วกพระองคแ์ ล ล้วนทรง
เป็นผ้ฉู ลาดเกนิ ที่ทรงเตรยี มการเพอ่ื ปอ้ งกนั ภยั ท่ีเป็นอนาคต ซึ่งยงั ไมม่ ”ี
‘‘ภิยฺโย โอปมมฺ ํ กโรหตี ิ ฯ
พระเจา้ มลิ ินทต์ รสั วา่ “ขอทา่ นจงช่วยอุปมาใหย้ งิ่ ขึ้นอีกหนอ่ ยเถิด”
‘‘ต ํ กึ ม ฺ สิ มหาราช, ยทา ตวฺ ํ ปปิ าสโิ ต ภเวยยฺ าส,ิ ตทา ตวฺ ํ อุทปานํ
ขณาเปยฺยาส,ิ โปกขฺ รณึ ขณาเปยฺยาสิ, ตฬากํ ขณาเปยยฺ าสิ ‘ปานยี ํ ปิวิสฺสาม’ี ’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร พระองค์จะทรงส�ำคัญความ
ขอ้ นน้ั ว่าอย่างไร พระองคท์ รงเกิดกระหายน้�ำในเวลาใด พระองค์ก็รบั สั่งใหเ้ ขาขดุ บ่อน�้ำ ให้ขดุ
สระโบกขรณี ใหข้ ุดตระพังน้ำ� ดว้ ยทรงด�ำริวา่ ‘เราจกั ดื่มน�ำ้ ในเวลาน้นั หรอื ?’
‘‘น ห ิ ภนเฺ ต, ปฏกิ จฺเจว ต ํ ปฏิยตตฺ ํ โหต’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรสั ว่า “หามไิ ด้ พระคณุ เจา้ กจิ มีการใหข้ ดุ บ่อน�้ำเปน็ ต้นนน้ั จ�ำเป็น
ต้องเตรยี มการเสยี แตเ่ น่นิ ๆ เลย”
‘‘กิสสฺ ตฺถายา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “เพือ่ ประโยชน์อะไรหรอื ?”
‘‘อนาคตานํ ภนฺเต ปปิ าสานํ ปฏิพาหนตถฺ าย ปฏิยตตฺ ํ โหต’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินทต์ รสั ว่า “มีการเตรียมการเพือ่ ประโยชน์คอื การป้องกันความหิวกระหาย
ทจ่ี ะเกิดในอนาคต พระคุณเจ้า”
‘‘อตถฺ ิ ปน มหาราช อนาคตา ปิปาสา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร กค็ วามหิวกระหายท่ีเปน็
อนาคต มีอยู่หรอื ?”
‘‘นตถฺ ิ ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ท์ตรสั ว่า “ยังไม่มหี รอก พระคณุ เจา้ ”
กัณฑ์] ๒.๗ อรูปธมั มววัตถานวรรค 217
‘‘ตมุ เฺ ห โข มหาราช อติปณฑฺ ติ า, เย ตุมเฺ ห อสนฺตาน ํ อนาคตาน ํ ปิปาสานํ
ปฏพิ าหนตถฺ าย ต ํ ปฏยิ าเทถา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร พวกพระองค์แล ล้วนทรงเปน็ ผฉู้ ลาด
เกนิ ทต่ี ระเตรียมกิจมกี ารให้ขุดบ่อน้ำ� เป็นตน้ นั้นไว้ เพอื่ ประโยชน์คอื การป้องกนั ความหิว
กระหายทีเ่ ปน็ อนาคต ซึง่ ยังไมม่ ี”
‘‘ภยิ โฺ ย โอปมฺมํ กโรห’ี ’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ท์ตรัสวา่ “ขอทา่ นจงช่วยอุปมาให้ยง่ิ ขน้ึ อีกหนอ่ ยเถดิ ”
‘‘ตํ ก ึ ม ฺ สิ มหาราช, ยทา ตฺวํ พภุ ุกขฺ โิ ต ภเวยยฺ าสิ, ตทา ตวฺ ํ เขตฺตํ
กสาเปยยฺ าส,ิ สาล ึ วปาเปยฺยาสิ ‘ภตฺตํ ภุ ฺชิสสฺ ามี’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร พระองค์จะทรงส�ำคญั ความขอ้ นน้ั ว่า
อยา่ งไร พระองคท์ รงเกดิ หิวขา้ วขึน้ มาในเวลาใด พระองคก์ ็รับส่ังให้ไถนา ใหห้ วา่ นข้าวสาลี
ดว้ ยทรงด�ำรวิ ่า ‘เราจักกินขา้ ว’ ดงั น้ี ในเวลาน้นั หรอื ?”
‘‘น ห ิ ภนเฺ ต, ปฏกิ จเฺ จว ตํ ปฏยิ ตตฺ ํ โหตี’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินท์ตรัสวา่ “หามิได้ พระคุณเจา้ กจิ มีการใหไ้ ถนาเป็นต้นนัน้ จ�ำเป็นตอ้ ง
เตรยี มการเสียแต่เน่ิน ๆ เลย”
‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “เพอื่ ประโยชนอ์ ะไรหรอื ?”
‘‘อนาคตานํ ภนเฺ ต พุภกุ ฺขาน ํ ปฏพิ าหนตฺถายา’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ ินท์ตรัสว่า “เพอ่ื ประโยชน์คอื การปอ้ งกันความหิวทเ่ี ป็นอนาคต”
‘‘อตฺถิ ปน มหาราช อนาคตา พุภกุ ขฺ า’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร กค็ วามหิวทเ่ี ปน็ อนาคต มีอยหู่ รือ ?”
‘‘นตถฺ ิ ภนเฺ ต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รสั ว่า “ยังไมม่ หี รอก พระคณุ เจา้ ”
218 มิลนิ ทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มลิ ินทปญั ห
‘‘ตมุ เฺ ห โข มหาราช อติปณฺฑิตา, เย ตุมเฺ ห อสนฺตานํ อนาคตาน ํ พภุ ุกขฺ านํ
ปฏพิ าหนตถฺ าย ปฏิยาเทถา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร พวกพระองคแ์ ล ล้วนทรงเปน็ ผฉู้ ลาด
เกิน ที่ตระเตรียมการเพ่ือประโยชน์คือการป้องกันความหวิ ท่เี ป็นอนาคต ซงึ่ ยงั ไม่ม”ี
‘‘กลฺโลสิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินทต์ รสั ว่า “พระคุณเจา้ นาคเสน ทา่ นตอบสมควรแลว้ ”
ทุกฺขปปฺ หานวายมปญฺโห ตตโิ ย ฯ
จบทกุ ขัปปหานวายมปัญหาข้อท่ี ๓
________
๔. พฺรหมฺ โลกปญฺห
๔. พรหมโลกปญั หา
ปัญหาว่าดว้ ยระยะทางไปพรหมโลก
[๔] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน กีวทูโร อโิ ต พรฺ หมฺ โลโก’’ติ ?
[๔] พระราชาตรัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน พรหมโลกอยไู่ กลจากน้ีไปเทา่ ไร ?”
‘‘ทโู ร โข มหาราช อิโต พฺรหฺมโลโก กฏู าคารมตฺตา สลิ า ตมหฺ า ปติตา
อโหรตฺเตน อฏ ฺ จตตฺ าลสี โยชนสหสฺสาน ิ ภสสฺ มานา จตูหิ มาเสหิ ปถวิย ํ ปตฏิ ฺ เหยยฺ า’’ติฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร พรหมโลกอยู่ไกลจากน้ไี ป
ชัว่ ก้อนหินขนาดเทา่ เรือนยอด ตกจากพรหมโลกน้ัน ลอยเคว้งคว้างไปทั้งวนั ทั้งคืน ส้นิ ระยะ
ทาง ๔๘,๐๐๐ โยชน์ โดยใชเ้ วลา ๔ เดือน กต็ กถึงพ้ืนดิน”
‘‘ภนเฺ ต นาคเสน ตุมเฺ ห เอวํ ภณถ ‘เสยฺยถาป ิ พลวา ปุรโิ ส สม ิ ฺชิต ํ วา พาห ํ
ปสาเรยฺย, ปสาริต ํ วา พาหํ สม ิ เฺ ชยยฺ , เอวเมว อิทธฺ มิ า ภกิ ขฺ ุ เจโตวสิปปฺ ตฺโต ชมฺพุทเี ป
อนตฺ รหโิ ต พรฺ หฺมโลเก ปาตภุ เวยยฺ า’ติ เอต ํ วจนํ น สททฺ หาม,ิ เอว ํ อตสิ ฆี ํ ตาว พหนู ิ
โยชนสตาน ิ คจฺฉิสฺสต’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรสั วา่ “พระคุณเจ้านาคเสน พวกทา่ นกล่าวกันอย่างน้วี ่า ‘ภกิ ษผุ ูม้ ีฤทธิ์
ผไู้ ดเ้ จโตวสี พึงหายตวั ทชี่ มพทู วปี ไปปรากฏตัวทีพ่ รหมโลก ชั่วระยะเวลาดุจบุรษุ ผ้มู ีก�ำลัง
กัณฑ์] ๒.๗ อรปู ธมั มววัตถานวรรค 219
เหยียดแขนทคี่ อู้ อกไป หรือคูแ้ ขนทีเ่ หยยี ดอยูเ่ ขา้ มา ฉะนัน้ ’ โยมไมเ่ ชอ่ื ค�ำท่ีว่านีห้ รอก ภิกษุ
จักไปส้นิ ทางหลายรอ้ ยโยชนถ์ ึงเพียงน้ัน ได้เร็วยิง่ อย่างน้ีเชยี วหรอื ”
เถโร อาห ‘‘กหุ ึ ปน มหาราช ตว ชาตภูม’ี ’ติ ?
พระเถระกล่าวถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร ชาตภมู ขิ องพระองค์อยทู่ ไี่ หน ?”
‘‘อตฺถ ิ ภนเฺ ต อลสนฺโท นาม ทโี ป, ตตถฺ าห ํ ชาโต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ท์ตรสั วา่ “มเี กาะแหง่ หน่งึ ชอ่ื วา่ อลสันทะ โยมเกิดทเี่ กาะนัน้ ”
‘‘กีวทูโร มหาราช อิโต อลสนฺโท โหตี’’ติ ?
พระเจ้านาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร เกาะอลสนั ทะ อยู่ไกลจากทน่ี ไ้ี ปสกั
เทา่ ไร ?”
‘‘ทฺวิมตฺตานิ ภนฺเต โยชนสตาน’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ไกลจากท่นี ไ้ี ปประมาณ ๒๐๐ โยชน์ พระคณุ เจ้า”
‘‘อภชิ านาสิ น ุ ตวฺ ํ มหาราช, ตตถฺ ก ิ จฺ เิ ทว กรณยี ํ กรติ วฺ า สริตา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร พระองค์ก็ทรงทราบมใิ ช่หรือวา่
พระองคก์ ท็ รงระลึกถงึ พระราชกรณยี กจิ บางอย่างท่ีทรงกระท�ำไวแ้ ลว้ ณ ท่เี กาะแหง่ นน้ั ได้ ?”
‘‘อาม ภนฺเต สราม’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรสั ว่า “ใช่ พระคณุ เจ้า โยมระลึกได”้
‘‘ลห ุํ โข ตวฺ ํ มหาราช คโตส ิ ทฺวิมตฺตานิ โยชนสตาน’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร พระองคเ์ สดจ็ ไปสนิ้ ระยะทางประมาณ
๒๐๐ โยชน์ไดเ้ ร็วเสยี จริงหนอ”
‘‘กลฺโลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินท์ตรัสว่า “พระคุณเจา้ นาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
พรฺ หมฺ โลกปญฺโห จตุตฺโถ ฯ
จบพรหมโลกปัญหาขอ้ ท่ี ๔
________
220 มลิ นิ ทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มลิ นิ ทปญั ห
๕. ทวฺ ินนฺ ํ โลกปุ ฺปนฺนานํ สมกภาวปญหฺ
๕. ทวินนงั โลกปุ ปันนานงั สมกภาวปัญหา
ปัญหาวา่ ด้วยภาวะทีบ่ ุคคล ๒ คนใช้เวลาอบุ ัติในโลกเทา่ กัน
[๕] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน โย อิธ กาลงฺกโต พฺรหมฺ โลเก อุปฺปชเฺ ชยฺย,
โย จ อธิ กาลงฺกโต กสมฺ ีเร อุปปฺ ชฺเชยยฺ , โก จิรตรํ โก สีฆตรนฺ”ติ ?
[๕] พระราชาตรัสว่า “พระคุณเจ้านาคเสน บุคคลผู้ท่ีตายในเมอื งน้ี แล้วเกิดข้นึ ที่
พรหมโลก กบั บุคคลทตี่ ายในเมอื งนแ้ี ล้ว เกิดขึ้นในเมืองกัสมรี ะ ใครช้าเร็วกวา่ กัน ?”
‘‘สมกํ มหาราชา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “เท่ากนั มหาบพิตร”
‘‘โอปมมฺ ํ กโรหี’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรสั ว่า “ขอทา่ นจงช่วยอปุ มาให้หน่อยเถอะ”
‘‘กหุ ึ ปน มหาราช ตว ชาตนครนฺ”ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร พระนครที่ประสตู ขิ องพระองค์ อยู่
ท่ไี หน ?”
‘‘อตถฺ ิ ภนฺเต กลสคิ าโม นาม, ตตฺถาหํ ชาโต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รัสวา่ “มีหมบู่ า้ นแหง่ หนง่ึ ช่อื ว่ากลสิ โยมเกดิ ท่ีนั่น”
‘‘กวี ทูโร มหาราช อิโต กลสิคาโม โหต’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร หมูบ่ า้ นช่อื วา่ กลสิ อยหู่ ่างไกลจากท่นี ้ี
ไปเทา่ ไร ?”
‘‘ทฺวิมตตฺ าน ิ ภนเฺ ต โยชนสตาน’ี ’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินทต์ รสั ว่า “ประมาณ ๒๐๐ โยชน์ พระคณุ เจ้า”
‘‘กีวทรู ํ มหาราช อิโต กสฺมีร ํ โหตี’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร เมอื งกัสมีระอย่หู ่างไกลไปจากทีน่ ้เี พียง
ไร ?”
กณั ฑ์] ๒.๗ อรปู ธัมมววตั ถานวรรค 221
‘‘ทวฺ าทส ภนเฺ ต โยชนาน’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรัสว่า “ประมาณ ๑๒ โยชน์ พระคุณเจ้า”
‘‘อิงฆฺ ตวฺ ํ มหาราช กลสคิ ามํ จินเฺ ตห’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “เอาละ มหาบพิตร ขอพระองค์จงทรงนึกถงึ หมบู่ า้ นชอื่
วา่ กลสเิ ถิด”
‘‘จินตฺ โิ ต ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินทต์ รสั วา่ “โยมนกึ แลว้ พระคุณเจา้ ”
‘‘องิ ฆฺ ตฺว ํ มหาราช กสฺมีร ํ จินฺเตหี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “เอาละ มหาบพิตร ขอพระองคจ์ งทรงนึกถึงเมืองกสั มีระ
เถิด”
‘‘จินฺติตํ ภนเฺ ต’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รัสว่า “โยมนึกแลว้ พระคุณเจา้ ”
‘‘กตมํ น ุ โข มหาราช จิเรน จินตฺ ติ ,ํ กตม ํ สีฆตรน”ฺ ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร สถานที่แหง่ ไหนหนอ เป็นสถานที่ที่
พระองคท์ รงใช้เวลาในการนกึ ชา้ เร็วกว่ากัน ?”
‘‘สมก ํ ภนเฺ ต’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ ินท์ตรัสว่า “เทา่ กัน พระคณุ เจ้า”
‘‘เอวเมว โข มหาราช โย อิธ กาลงฺกโต พฺรหฺมโลเก อปุ ปฺ ชฺเชยยฺ , โย จ อธิ
กาลงฺกโต กสฺมเี ร อุปฺปชเฺ ชยยฺ , สมกํเยว อุปฺปชชฺ นตฺ ’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร กเ็ หมอื นกนั อยา่ งน้ันนัน่
แหละ บคุ คลผทู้ ี่ตายในเมอื งนีแ้ ลว้ ไปเกดิ ข้ึนในพรหมโลก กับบุคคลที่ตายในเมืองนแี้ ล้ว ไป
เกิดขึน้ ในเมืองกัสมรี ะ ยอ่ มเกดิ ขน้ึ ใช้เวลาเท่ากนั น่นั แหละ”
‘‘ภิยโฺ ย โอปมฺมํ กโรห’ี ’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ ินทต์ รัสว่า “ขอทา่ นจงช่วยอปุ มาใหย้ ่ิงขึ้นอกี หน่อยเถิด”
222 มิลินทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มลิ ินทปญั ห
‘‘ตํ กึ ม ฺ สิ มหาราช, เทฺว สกณุ า อากาเสน คจฺเฉยยฺ ุ,ํ เตส ุ เอโก อจุ ฺเจ รุกฺเข
นสิ เี ทยฺย, เอโก นเี จ รกุ ฺเข นสิ เี ทยยฺ , เตสํ สมก ํ ปติฏฺ ิตาน ํ กตมสฺส ฉายา ป มตรํ
ปถวยิ ํ ปตฏิ ฺ เหยฺย, กตมสฺส ฉายา จิเรน ปถวยิ ํ ปติฏฺ เหยฺยา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร พระองค์จะทรงส�ำคญั ความ
ขอ้ น้ันว่าอย่างไร นก ๒ ตัว บินไปทางอากาศ ในนก ๒ ตัวน้ัน ตัวหนง่ึ จบั ทต่ี น้ ไมก้ ่งิ สงู อกี ตัว
จับท่ีเกาะต้นไม้กิ่งต�่ำ บรรดานก ๒ ตัวท่ีลงจับใชเ้ วลาเทา่ กนั เงาของนกตวั ไหนถึงพ้นื ดนิ ก่อน
เงาของนกตวั ไหนใชเ้ วลาถงึ พนื้ ดินชา้ กวา่ ?”
‘‘สมก ํ ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ใช้เวลาเทา่ กัน พระคุณเจ้า”
‘‘เอวเมว โข มหาราช โย อิธ กาลงฺกโต พรฺ หมฺ โลเก อุปฺปชเฺ ชยฺย, โย จ อิธ
กาลงกฺ โต กสมฺ เี ร อปุ ปฺ ชฺเชยฺย, สมกํเยว อปุ ฺปชชฺ นตฺ ’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร กเ็ หมอื นกันอย่างนน้ั นัน่ แหละ บคุ คล
ผู้ท่ตี ายในเมืองน้ีแล้วไปเกิดขน้ึ ในพรหมโลก กบั บคุ คลผู้ทีต่ ายในเมอื งนี้แลว้ ไปเกดิ ขน้ึ ในเมอื ง
กสั มรี ะ ย่อมเกิดขนึ้ ใช้เวลาเท่ากนั นน่ั แหละ”
‘‘กลฺโลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินทต์ รัสว่า “พระคณุ เจา้ นาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
ทวฺ นิ ฺนํ โลกุปปฺ นฺนานํ สมกภาวปญโฺ ห ปญจฺ โม ฯ
จบทวินนัง โลกปุ ปันนานัง สมกภาวปัญหาข้อท่ี ๕
________
๖. โพชฌฺ งคฺ ปญฺห
๖. โพชฌงั คปัญหา
ปญั หาวา่ ดว้ ยองคแ์ ห่งโพชฌงค์
[๖] ราชา อาห ‘‘กต ิ นุ โข ภนฺเต นาคเสน โพชฺฌงคฺ า’’ติ ?
[๖] พระราชาตรสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน โพชฌงค์มีเท่าไรหนอ ?”
กัณฑ์] ๒.๗ อรูปธมั มววัตถานวรรค 223
‘‘สตตฺ โข มหาราช โพชฌฺ งฺคา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร โพชฌงค์มี ๗ อย่าง”
‘‘กติหิ ปน ภนฺเต โพชฺฌงฺเคห ิ พชุ ฌฺ ต’ี ’ติ ?
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรสั วา่ “พระคณุ เจา้ บุคคลย่อมตรัสรดู้ ว้ ยโพชฌงคเ์ ท่าไร ?”
‘‘เอเกน โข มหาราช โพชฌฺ งเฺ คน พุชฺฌติ ธมฺมวจิ ยสมฺโพชฌฺ งเฺ คนา’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร บคุ คลยอ่ มตรัสร้ดู ว้ ยโพชฌงคอ์ ยา่ ง
เดียว คือ ดว้ ยธัมมวจิ ยสมั โพชฌงค์”
‘‘อถ กิสฺส นุ โข ภนฺเต วจุ จฺ นฺต ิ ‘สตฺต โพชฌฺ งคฺ า’’ติ ?
พระเจ้ามิลินทต์ รสั ว่า “เมือ่ เปน็ เช่นน้นั เพราะเหตุอะไรหนอ พระพทุ ธองค์จงึ ตรัสวา่
‘โพชฌงค์มี ๗ อย่างเล่า’ พระคณุ เจา้ ”
‘‘ต ํ ก ึ ม ฺ สิ มหาราช, อสิ โกสยิ า ปกฺขติ ฺโต อคคฺ หิโต หตเฺ ถน อุสสฺ หต ิ เฉชชฺ ํ
ฉนิ ทฺ ิตุน’ฺ ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร พระองคท์ รงส�ำคญั ความขอ้ น้นั ว่า
อย่างไร ดาบทส่ี อดไวใ้ นฝกั มิได้ใชม้ ือชักออกมา สามารถทจี่ ะฟนั ให้ขาดไดห้ รอื ?”
‘‘น ห ิ ภนฺเต’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รัสว่า “มิไดห้ รอก พระคุณเจา้ ”
‘‘เอวเมว โข มหาราช ธมฺมวจิ ยสมโฺ พชฌฺ งเฺ คน วินา ฉห ิ โพชฺฌงเฺ คหิ น
พชุ ฌฺ ต’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร ก็เหมือนกนั อยา่ งน้ันนน่ั แหละ เวน้
ธมั มวจิ ยสมั โพชฌงคเ์ สยี บคุ คลจะตรัสรดู้ ว้ ยโพชฌงค์ ๖ อยา่ ง (ทเี่ หลอื ) หาได้ไม่”
‘‘กลโฺ ลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ท์ตรัสวา่ “พระคณุ เจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแล้ว”
โพชฺฌงฺคปญฺโห ฉฏโฺ € ฯ
จบโพชฌงั คปัญหาข้อท่ี ๖
________
224 มิลนิ ทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มลิ ินทปญั ห
๗. ปาปปญุ ฺ านํ อปปฺ านปปฺ ภาวปญหฺ
๗. ปาปปุญญานงั อัปปานปั ปภาวปญั หา
ปญั หาวา่ ดว้ ยบาปมนี อ้ ย บญุ มีได้มาก
[๗] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน กตร ํ น ุ โข พหตุ รํ ป ุ ฺ ํ วา อปุ ฺ ํ วา’’ติ ?
[๗] พระราชาตรัสว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน อย่างไหนหนอแลมีได้มากกว่ากัน บญุ
หรือบาป ?”
‘‘ปุ ฺ ํ โข มหาราช พหตุ รํ, อป ุ ฺ ํ โถกน”ฺ ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร บุญมไี ด้มากกวา่ บาปมีได้
หน่อยเดยี ว”
‘‘เกน การเณนา’’ติ ?
พระเจา้ มิลนิ ท์ตรัสว่า “เพราะเหตอุ ะไรหรือ ?”
‘‘อปุ ฺ ํ โข มหาราช กโรนโฺ ต วิปปฺ ฏสิ าร ี โหต ิ ‘ปาปกมมฺ ํ มยา กตนฺ’ติ, เตน
ปาป ํ น วฑฒฺ ติ ฯ ป ุ ฺ ํ โข มหาราช กโรนฺโต อวิปปฺ ฏสิ าร ี โหต,ิ อวปิ ปฺ ฏิสารโิ น
ปาโมชฺช ํ ชายต,ิ ปมุทติ สฺส ปตี ิ ชายต,ิ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภต,ิ ปสสฺ ทธฺ กาโย สขุ ํ
เวเทติ, สุขิโน จติ ตฺ ํ สมาธยิ ต,ิ สมาหโิ ต ยถาภูตํ ปชานาติ, เตน การเณน ปุ ฺ ํ
วฑฺฒติ ฯ ปุริโส โข มหาราช ฉินนฺ หตถฺ ปาโท ภควโต เอก ํ อุปปฺ ลหตฺถํ ทตวฺ า เอกนวตุ ิ-
กปปฺ าน ิ วนิ ิปาตํ น คจฉฺ ิสสฺ ติ ฯ อมิ นิ าป ิ มหาราช การเณน ภณาม ิ ‘ป ุ ฺ ํ พหุตร,ํ
อปุ ฺ ํ โถกนฺ”ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร บุคคลเมือ่ ท�ำบาป ย่อมเป็นผมู้ ีความ
เดือดรอ้ นใจวา่ ‘เราไดท้ �ำกรรมช่ัวไวแ้ ลว้ หนอ’ เพราะเหตนุ ้นั บาปจึงไม่เจริญ ขอถวายพระพร
เม่ือไดท้ �ำบุญ กห็ าความเดอื ดรอ้ นใจมไิ ด้ บคุ คลผหู้ าความเดือดรอ้ นใจมิได้ ยอ่ มเกิดความ
บนั เทิง บคุ คลผู้บนั เทิง ยอ่ มเกิดความอ่มิ เอบิ ใจ กายของบคุ คลผมู้ ีใจอิ่มเอบิ ยอ่ มระงบั บุคคล
ผู้มีกายระงบั ยอ่ มเสวยสขุ จิตของบุคคลผ้มู คี วามสขุ ยอ่ มตง้ั มัน่ โดยชอบ บุคคลผู้มีจิตต้ังมน่ั
โดยชอบ ยอ่ มรู้ชดั ได้ตามความเปน็ จรงิ เพราะเหตนุ ัน้ บุญยอ่ มเจรญิ ได้ ขอถวายพระพร บรุ ษุ
ผู้มีมอื และเท้าดว้ น ได้ถวายดอกอบุ ลก�ำมอื เดียวแด่พระผ้มู ีพระภาคเจ้า แลว้ จกั ไมไ่ ปสวู่ ินิบาต
ภมู ิตลอด ๙๑ กัป ขอถวายพระพร แม้เพราะเหตุนี้ อาตมภาพจึงกลา่ ววา่ ‘บญุ มไี ด้มากกวา่
กณั ฑ]์ ๒.๗ อรปู ธัมมววัตถานวรรค 225
บาปมไี ด้นิดหน่อย’
‘‘กลฺโลสิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินท์ตรัสว่า “พระคณุ เจา้ นาคเสน ทา่ นตอบสมควรแล้ว”
ปาปปุญฺ านํ อปปฺ านปปฺ ภาวปญโฺ ห สตฺตโม ฯ
จบปาปปญุ ญานัง อปั ปานัปปภาวปญั หาข้อท่ี ๗
________
๘. ชานนตฺ าชานนฺตปาปกรณปญหฺ
๘. ชานนั ตาชานันตปาปกรณปัญหา
ปัญหาวา่ ด้วยการท�ำกรรมชั่วแห่งบคุ คลผ้รู ู้อยูแ่ ละผทู้ ่ีไมร่ อู้ ยู่
[๘] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน โย ชานนโฺ ต ปาปกมฺมํ กโรต,ิ โย อชานนฺโต
ปาปกมฺม ํ กโรต,ิ กสสฺ พหตุ ร ํ อป ุ ฺ นฺ”ติ ?
[๘] พระราชาตรสั ว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน บคุ คลหน่ึงร้อู ยู่ ท�ำกรรมชัว่ บคุ คลหนงึ่
ไม่รูอ้ ยู่ ท�ำกรรมช่วั บาปของใครมีมากกวา่ กนั ?”
เถโร อาห ‘‘โย โข มหาราช อชานนฺโต ปาปกมมฺ ํ กโรติ, ตสสฺ พหุตร ํ
อป ุ ฺ นฺ”ติ ฯ
พระเถระถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร ผู้ที่ไม่รอู้ ยู่ ท�ำกรรมช่วั บาปของ
บคุ คลนนั้ ย่อมมีมากกวา่ ”
‘‘เตนหิ ภนฺเต นาคเสน โย อมหฺ ากํ ราชปตุ ฺโต วา ราชมหามตโฺ ต วา
อชานนโฺ ต ปาปกมมฺ ํ กโรต,ิ ตํ มย ํ ทคิ ุณํ ทณฺเฑมา’’ติ ?
พระเจ้ามลิ นิ ท์ตรัสว่า “ถา้ อยา่ งนนั้ พระคณุ เจ้านาคเสน ผใู้ ดเปน็ ราชโอรส หรือเปน็
ราชมหาอ�ำมาตยข์ องโยม ไม่รู้อยู่ กระท�ำกรรมช่ัว โยมก็ต้องใหล้ งโทษผนู้ ั้นเป็น ๒ เท่าละซิ”
‘‘ต ํ ก ึ ม ฺ สิ มหาราช, ตตฺตํ อโยคฬุ ํ อาทติ ฺตํ สมฺปชฺชลติ ํ สโชตภิ ูตํ, เอโก
ชานนฺโต คณเฺ หยยฺ , เอโก อชานนฺโต คณเฺ หยยฺ , กตโม พลวตร ํ ฑยฺเหยยฺ า’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร พระองคจ์ ะทรงส�ำคญั ความข้อน้ันว่า
อย่างไร ก้อนเหล็กทีถ่ กู เผาจนรอ้ นโพลงโชติช่วงชชั วาล, คนหน่ึงรู้อยู่ พึงจบั , คนหนง่ึ ไมร่ ูอ้ ยู่
226 มิลนิ ทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มลิ นิ ทปัญห
พงึ จับ คนไหน พึงถกู ไฟไหมม้ ากกว่า ?”
‘‘โย โข ภนเฺ ต อชานนฺโต คณฺเหยยฺ , โส พลวตร ํ ฑยเฺ หยยฺ า’’ติ ฯ
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รสั วา่ “พระคุณเจ้า ผใู้ ดไม่รอู้ ยู่ พึงจับ, ผูน้ ้ันพงึ ถูกไฟไหมม้ ากกวา่ ”
‘‘เอวเมว โข มหาราช โย อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรต,ิ ตสฺส พหุตร ํ อป ุ ฺ นฺ”ติฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร ก็เหมอื นกนั อย่างนัน้ นัน่ แหละ บคุ คล
ผไู้ ม่รู้อยู่ ท�ำกรรมช่ัว บาปของเขาย่อมมีมากกวา่ ”
‘‘กลโฺ ลสิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ทต์ รัสวา่ “พระคณุ เจา้ นาคเสน ท่านตอบสมควรแล้ว”
ชานนตฺ าชานนฺตปาปกรณปญโฺ ห อฏฺ€โม ฯ
จบชานันตาชานันตปาปกรณปัญหาข้อท่ี ๘
________
๙. อตุ ตฺ รกุรุกาทคิ มนปญหฺ
๙. อตุ ตรกรุ ุกาทิคมนปญั หา
ปัญหาวา่ ด้วยการไปสู่อุตตรกรุ ุทวีปเป็นตน้
[๙] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน อตถฺ ิ โกจ,ิ โย อมิ ินา สรีเรน อุตฺตรกรุ ํ ุ วา
คจเฺ ฉยฺย พฺรหมฺ โลก ํ วา อ ฺ ํ วา ปน ทปี น’ฺ ’ติ ?
[๙] พระราชาตรสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน บุคคลบางคนผูไ้ ปอตุ ตรกรุ ทุ วีป หรอื
พรหมโลก กห็ รือว่าพึงไปทวีปอน่ื ดว้ ยร่างกายน้ี มอี ย่หู รือ ?”
‘‘อตฺถ ิ มหาราช โย อมิ ินา จาตุมฺมหาภูติเกน กาเยน อุตฺตรกรุ ุํ วา คจเฺ ฉยยฺ ,
พรฺ หมฺ โลก ํ วา, อ ฺ ํ วา ปน ทปี น’ฺ ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร บุคคลผู้ทไ่ี ปอตุ ตรกุรุทวีป
หรือพรหมโลก ก็หรือว่าพึงไปทวีปอ่นื ดว้ ยรา่ งกายท่ปี ระกอบด้วยมหาภตู รูป ๔ นี้ มีอยู่”
‘‘กถ ํ ภนฺเต นาคเสน อิมนิ า จาตมุ มฺ หาภูติเกน กาเยน อตุ ฺตรกรุ ํุ วา คจเฺ ฉยยฺ ,
พรฺ หฺมโลกํ วา, อ ฺ ํ วา ปน ทีปนฺ’’ติ ?
กณั ฑ์] ๒.๗ อรปู ธัมมววัตถานวรรค 227
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รสั ว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน เขาไปอุตตรกุรุทวีป หรือพรหมโลก กห็ รือ
วา่ พึงไปทวปี อ่นื ด้วยรา่ งกายทป่ี ระกอบด้วยมหาภูตรปู ๔ นี้ ไดอ้ ย่างไร ?”
‘‘อภิชานาสิ น ุ ตฺว ํ มหาราช อมิ สิ ฺสา ปถวยิ า วทิ ตถฺ ึ วา รตน ํ วา ลงฆฺ ิตา’’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร พระองค์ทรงทราบหรอื ไหมวา่ พระองค์
ก็ทรงกระโดดจากพนื้ ดินน้ีสูงข้ึนไปคืบหนึง่ กไ็ ด้ ศอกหน่งึ กไ็ ด้ ?”
‘‘อาม ภนเฺ ต อภิชานามิ ‘อห ํ ภนฺเต นาคเสน อฏ ฺ ป ิ รตนโิ ย ลงเฺ ฆมี’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินทต์ รสั วา่ “ใช่ พระคณุ เจ้า โยมย่อมทราบดวี ่า ‘พระคณุ เจา้ นาคเสน โยม
กระโดดไดส้ งู ถึง ๘ ศอกทเี ดียว’
‘‘กถํ ตวฺ ํ มหาราช อฏ ฺ ป ิ รตนิโย ลงเฺ ฆส’ี ’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรถามวา่ “ขอถวายพระพร พระองคท์ รงกระโดดสงู ถึง ๘ ศอก
ได้อย่างไร ?”
‘‘อห หฺ ิ ภนเฺ ต จติ ตฺ ํ อปุ ฺปาเทมิ ‘เอตถฺ นปิ ติสฺสามี’ต ิ สห จติ ตฺ ุปปฺ าเทน กาโย เม
ลหโุ ก โหตี’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ท์ตรัสวา่ “พระคุณเจา้ พอโยมเกดิ ความคดิ ขน้ึ วา่ ‘เราจกั กระโดด ณ ทนี่ ี้’
ดงั น้ี ร่างกายของโยมกเ็ ป็นอนั เบาไปทนั ทพี รอ้ มกบั ความคดิ ทเี่ กิดขึ้น”
‘‘เอวเมว โข มหาราช อิทธฺ ิมา ภกิ ขฺ ุ เจโตวสปิ ปฺ ตโฺ ต กาย ํ จติ ฺเต สมาโรเปตฺวา
จติ ฺตวเสน เวหาสํ คจฺฉตี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร ก็เหมือนกนั อยา่ งน้ันนัน่ แหละ ภกิ ษุผู้มี
ฤทธิ์ ไดเ้ จโตวสี ยกรา่ งกายเขา้ ไวใ้ นจิตแล้ว ย่อมไปสอู่ ากาศได้ดว้ ยอ�ำนาจจติ ”
‘‘กลโฺ ลสิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รสั ว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
อุตตฺ รกรุ ุกาทิคมนปญฺโห นวโม ฯ
จบอุตตรกุรุกาทคิ มนปัญหาขอ้ ที่ ๙
________
228 มิลนิ ทปญั หาปกรณ์แปล [๒.มลิ ินทปัญห
๑๐. ทฆี ฏฺปิ ญฺห
๑๐. ทีฆฏั ฐปิ ัญหา
ปัญหาว่าด้วยโครงกระดูกท่ยี าว
[๑๐] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน ตุมเฺ ห เอวํ ภณถ ‘อฏ ฺ กิ านิ ทฆี านิ โยชน-
สติกานิป’ี ติ, รกุ โฺ ขป ิ ตาว นตฺถ ิ โยชนสติโก, กุโต ปน อฏ ฺ ิกาน ิ ทฆี าน ิ โยชนสติกาน ิ
ภวสิ สฺ นฺตี’’ติ ?
[๑๐] พระราชาตรสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน พวกท่านกลา่ วกันอยา่ งนว้ี า่ ‘โครงกระดกู
แม้ยาวถึง ๑๐๐ โยชน์’ ก็มีอยู่ แม้แต่ตน้ ไมท้ สี่ ูงถงึ ๑๐๐ โยชน์ กย็ ังไมม่ เี ลย โครงกระดกู ทจ่ี ะ
ยาวถงึ ๑๐๐ โยชน์ จักมไี ดแ้ ต่ทไี่ หนกนั เล่า ?”
‘‘ต ํ กึ ม ฺ สิ มหาราช, สุต ํ เต ‘มหาสมทุ ฺเท ป ฺจโยชนสตกิ าป ิ มจฺฉา อตถฺ ’ี ’ต?ิ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร พระองคจ์ ะทรงส�ำคัญความ
ข้อน้ันว่าอย่างไร พระองคไ์ ดท้ รงสดับมาบ้างหรือไม่วา่ ‘ในมหาสมทุ ร ปลาแมท้ ่ียาวถึง ๕๐๐
โยชน์ กม็ อี ยู่ ?’
‘‘อาม ภนเฺ ต สตุ นฺ’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรสั ว่า “ใช่ พระคุณเจา้ โยมก็เคยไดย้ ิน”
‘‘นนุ มหาราช ป ฺจโยชนสติกสสฺ มจฉฺ สสฺ อฏ ฺ ิกาน ิ ทฆี าน ิ ภวสิ สฺ นฺติ โยชน-
สติกานปิ ’ี ’ติ ?
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร ปลาท่มี ลี �ำตวั ยาวถึง ๕๐๐ โยชน์ ก็ยงั
มไี ด้ โครงกระดูกแมท้ ีย่ าวเพียง ๑๐๐ โยชน์ ก็จกั มไี ด้เหมือนกนั มิใช่หรอื ?”
‘‘กลฺโลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินทต์ รัสว่า “พระคุณเจา้ นาคเสน ทา่ นตอบสมควรแลว้ ”
ทฆี ฏ€ฺ ิปญฺโห ทสโม ฯ
จบทฆี ฏั ฐิปัญหาข้อที่ ๑๐
________
กัณฑ]์ ๒.๗ อรูปธมั มววตั ถานวรรค 229
๑๑. อสฺสาสปสสฺ าสนโิ รธปญฺห
๑๑. อสั สาสปสั สาสนิโรธปัญหา
ปญั หาว่าดว้ ยการดบั ลมอัสสาสะและปัสสาสะ
[๑๑] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน ตมุ ฺเห เอวํ ภณถ ‘สกกฺ า อสฺสาสปสสฺ าเส
นโิ รเธตุน’ฺ ’ติ ?
[๑๑] พระราชาตรัสว่า “พระคณุ เจา้ นาคเสน พวกทา่ นพากนั กล่าวอยา่ งนว้ี ่า ‘บคุ คล
สามารถที่จะดับลมอัสสาสะและปัสสาสะได’้ จริงหรือ ?”
‘‘อาม มหาราช สกกฺ า อสสฺ าสปสฺสาเส นโิ รเธตุนฺ’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “จริง มหาบพติ ร บุคคลสามารถท่จี ะดับลมอสั สาสะและ
ปัสสาสะได้”
‘‘กถ ํ ภนเฺ ต นาคเสน สกฺกา อสฺสาสปสสฺ าเส นิโรเธตุน’ฺ ’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รสั ถามว่า “พระคุณเจ้านาคเสน บคุ คลสามารถท่ีจะดบั ลมอสั สาสะและ
ปสั สาสะได้อย่างไร ?”
‘‘ตํ กึ ม ฺ ส ิ มหาราช, สตุ ปพุ ฺโพ เต โกจิ กากจฺฉมาโน’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร พระองคจ์ ะทรงส�ำคญั ความข้อนั้นวา่
อยา่ งไร พระองคเ์ คยทรงสดับบา้ งหรือไมว่ ่า คนบางคนนอนกรน ?”
‘‘อาม ภนเฺ ต สตุ ปุพฺโพ’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินทต์ รสั ว่า “ใช่ พระคณุ เจา้ โยมเคยไดย้ ิน”
‘‘กนิ ฺนุ โข มหาราช โส สทโฺ ท กาเย นมเิ ต วริ เมยยฺ า’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรถามวา่ “ขอถวายพระพร เมื่อเขาพลิกกาย เสียง(กรน)นั้น
พึงระงบั ไป ใชห่ รือไมห่ นอ ?”
‘‘อาม ภนฺเต วริ เมยฺยา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รัสว่า “ใช่ พึงระงบั ไป พระคุณเจ้า”
230 มิลินทปัญหาปกรณแ์ ปล [๒.มิลนิ ทปญั ห
‘‘โส หิ นาม มหาราช สทโฺ ท อภาวิตกายสสฺ อภาวติ สลี สฺส อภาวติ จติ ตฺ สสฺ
อภาวติ ป ฺ สสฺ กาเย นมเิ ต วริ มสิ สฺ ติ, กึ ปน ภาวติ กายสสฺ ภาวติ สีลสสฺ ภาวิตจิตฺตสสฺ
ภาวติ ป ฺ สฺส จตุตฺถชฺฌาน ํ สมาปนฺนสสฺ อสฺสาสปสสฺ าสา น นิรุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพร ส�ำหรับคนทย่ี งั ไม่ไดอ้ บรมกาย มไิ ด้
อบรมศลี มไิ ด้อบรมจติ มิไดอ้ บรมปญั ญา เม่ือเพยี งแต่พลิกกาย เสยี งกรนกย็ งั ระงับไปได้ ลม
อสั สาสะและปัสสาสะของภกิ ษผุ ู้ได้อบรมกายแล้ว ได้อบรมศลี แลว้ ไดอ้ บรมจติ แลว้ ไดอ้ บรม
ปัญญาแล้ว ผู้เข้าฌานท่ี ๔ จักไม่ดับไปได้เล่า”
‘‘กลฺโลส ิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลนิ ทต์ รัสว่า “พระคุณเจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
อสสฺ าสปสฺสาสนิโรธปญโฺ ห เอกาทสโม ฯ
จบอัสสาสปัสสาสนโิ รธปญั หาขอ้ ที่ ๑๑
________
๑๒. สมทุ ทฺ ปญฺห
๑๒. สมทุ ทปัญหา
ปญั หาว่าด้วยทะเล
[๑๒] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน ‘สมุทโฺ ท สมุทฺโท’ต ิ วจุ ฺจต,ิ เกน การเณน
อทุ ก ํ ‘สมุทฺโท’ต ิ วจุ ฺจตี’’ติ ?
[๑๒] พระราชาตรสั ว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน บุคคลเรยี กน�ำ้ ว่า ‘ทะเล ทะเล’ เพราะ
เหตุอะไร จึงเรยี กน้�ำวา่ ‘ทะเล ?’
เถโร อาห ‘‘ยตตฺ กํ มหาราช อทุ ก,ํ ตตฺตก ํ โลณํ ฯ ยตฺตก ํ โลณํ, ตตฺตกํ อุทกํ ฯ
ตสฺมา ‘สมุทโฺ ท’ติ วจุ ฺจต’ี ’ติ ฯ
พระเถระถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพติ ร น�ำ้ มีเท่าใด ความเคม็ ก็มีเท่าน้ัน
ความเค็มมีเท่าใด น้�ำก็มีเท่านั้น เพราะฉะนั้น เขาจึงเรียกวา่ ‘ทะเล’
‘‘กลโฺ ลสิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มลิ นิ ท์ตรสั วา่ “พระคุณเจา้ นาคเสน ท่านตอบสมควรแล้ว”
กณั ฑ์] ๒.๗ อรูปธมั มววัตถานวรรค 231
สมุทฺทปญฺโห ทฺวาทสโม ฯ
จบสมทุ ทปญั หาข้อที่ ๑๒
________
๑๓. สมุททฺ เอกรสปญหฺ
๑๓. สมทุ ทเอกรสปัญหา
ปญั หาวา่ ดว้ ยทะเลมีรสเดยี ว
[๑๓] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน เกน การเณน สมุทฺโท เอกรโส โลณรโส’’ติ ?
[๑๓] พระราชาตรัสวา่ “พระคณุ เจ้านาคเสน เพราะเหตุอะไร ทะเล จึงมรี สเดียวคอื รส
เค็มเล่า”
‘‘จริ สณฺ ิตตตฺ า โข มหาราช อุทกสสฺ สมทุ ฺโท เอกรโส โลณรโส’’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรวา่ “ขอถวายพระพรมหาบพิตร ทะเลมีรสเดียวคือรสเคม็
เพราะว่าน้ำ� ขังอยู่ยาวนานแล”
‘‘กลโฺ ลสิ ภนฺเต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจา้ มิลินท์ตรสั วา่ “พระคุณเจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแล้ว”
สมุททฺ เอกรสปญโฺ ห เตรสโม ฯ
จบสมทุ ทเอกรสปญั หาขอ้ ท่ี ๑๓
________
232 มิลนิ ทปัญหาปกรณ์แปล [๒.มลิ นิ ทปญั ห
๑๔. สขุ ุมปญหฺ
๑๔. สุขมุ ปญั หา
ปญั หาว่าดว้ ยสิ่งท่ีละเอยี ด
[๑๔] ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน สกกฺ า สพฺพ ํ สขุ มุ ํ ฉนิ ฺทิตุนฺ’’ติ ?
[๑๔] พระราชาตรัสว่า “พระคุณเจา้ นาคเสน บุคคลสามารถท่ีจะตดั สิง่ ทล่ี ะเอยี ดกว่า
ทุกส่ิงไดห้ รอื ไม่ ?”
‘‘อาม มหาราช สกฺกา สพฺพ ํ สขุ มุ ํ ฉนิ ทฺ ิตนุ ’ฺ ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ได้ มหาบพิตร บคุ คลสามารถทีจ่ ะตัดสง่ิ ท่ีละเอียดกว่า
ทกุ ส่ิงได”้
‘‘กึ ปน ภนฺเต สพฺพ ํ สุขมุ นฺ”ติ ?
พระเจ้ามิลนิ ทต์ รสั วา่ “พระคณุ เจา้ ก็อะไรเลา่ ชื่อวา่ เปน็ สิ่งที่ละเอยี ดกวา่ ทุกส่ิง”
‘‘ธมโฺ ม โข มหาราช สพพฺ สุขโุ ม, น โข มหาราช ธมมฺ า สพเฺ พ สขุ มุ า, ‘สุขมุ นฺ’ติ
วา ‘ถลู น’ฺ ติ วา ธมมฺ านเมตมธิวจนํ ฯ ย ํ กิ ฺจิ ฉนิ ทฺ ิตพฺพํ, สพพฺ ํ ต ํ ป ฺ าย ฉนิ ฺทต,ิ
นตถฺ ิ ทุติย ํ ป ฺ าย เฉทนนฺ”ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพร ธรรมแล ชือ่ ว่าเป็นส่ิงทีล่ ะเอียดกวา่
ทุกสิ่ง ขอถวายพระพร ธรรมท้งั หลายก็ไมใ่ ชว่ า่ จะละเอียดไปเสยี ทกุ อย่าง ค�ำวา่ ‘ละเอยี ด’ ก็ด ี
‘หยาบ’ กด็ ี นี้ เปน็ ชอ่ื ของธรรมท้ังหลาย สิง่ ใดส่ิงหนึง่ พงึ ถกู ตดั บุคคลย่อมตดั สง่ิ น้นั ทง้ั หมดได้
ด้วยปญั ญา การตัดดว้ ยปญั ญาอย่างทสี่ อง ยอ่ มไม่ม”ี
‘‘กลฺโลส ิ ภนเฺ ต นาคเสนา’’ติ ฯ
พระเจ้ามิลินท์ตรสั ว่า “พระคณุ เจ้านาคเสน ท่านตอบสมควรแลว้ ”
สุขุมปญฺโห จทุ ทฺ สโม ฯ
จบสขุ มุ ปัญหาข้อที่ ๑๔
________
กัณฑ์] ๒.๗ อรูปธมั มววัตถานวรรค 233
๑๕. วิญฺาณนานตถฺ ปญฺห
๑๕. วญิ ญาณนานตั ถปญั หา
ปญั หาวา่ ด้วยความตา่ งกนั แหง่ ธรรมมีวญิ ญาณเป็นต้น
[๑๕] ราชา อาห ‘‘ภนเฺ ต นาคเสน ‘ว ิ ฺ าณน’ฺ ต ิ วา ‘ป ฺ า’ต ิ วา ‘ภตู สมฺ ึ
ชีโว’ติ วา อิเม ธมมฺ า นานตฺถา เจว นานาพยฺ ฺชนา จ อุทาหุ เอกตถฺ า พยฺ ชฺ นเมว
นานน’ฺ ’ติ ?
[๑๕] พระราชาตรสั วา่ “พระคณุ เจ้านาคเสน สิ่งทีเ่ รยี กว่า ‘วญิ ญาณ’ กด็ ี ว่า ‘ปัญญา’
ก็ดี วา่ ‘ชวี ะในภูต’ กด็ ี ธรรมเหล่าน้ี มอี รรถตา่ งกันและมีพยญั ชนะตา่ งกัน หรอื ว่ามีอรรถ
เหมอื นกัน ตา่ งกันเฉพาะพยัญชนะเท่านน้ั เลา่ ?”
‘‘วชิ านนลกฺขณํ มหาราช ว ิ ฺ าณํ, ปชานนลกฺขณา ป ฺ า, ภตู สมฺ ึ ชีโว
นุปลพฺภต’ี ’ติ ฯ
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร วญิ ญาณมคี วามร้ตู า่ ง ๆ
เป็นลกั ษณะ ปญั ญามีความรู้โดยประการทว่ั ไปเปน็ ลกั ษณะ ชีวะในภตู ย่อมไม่ถูกได”้
‘‘ยทิ ชีโว นุปลพฺภต,ิ อถ โก จรหิ จกฺขุนา รูปํ ปสสฺ ต,ิ โสเตน สททฺ ํ สณุ าติ,
ฆาเนน คนธฺ ํ ฆายติ, ชิวฺหาย รสํ สายต,ิ กาเยน โผฏ ฺ พฺพํ ผสุ ติ, มนสา ธมมฺ ํ
วิชานาต’ี ’ติ ?
พระเจ้ามลิ นิ ทต์ รัสว่า “ถา้ หากวา่ ชีวะย่อมไมถ่ ูกไดไ้ ซร้ เมอ่ื เปน็ เช่นนนั้ ใครเล่าเหน็ รปู
ด้วยจกั ษุ ไดย้ นิ เสยี งดว้ ยหู ดมกลนิ่ ดว้ ยจมูก ลมิ้ รสดว้ ยล้นิ ถกู ตอ้ งโผฏฐัพพะด้วยกาย รธู้ รรม
ด้วยใจ”
เถโร อาห ‘‘ยท ิ ชโี ว จกขฺ นุ า รปู ํ ปสฺสต…ิ เป.… มนสา ธมมฺ ํ วิชานาติ, โส ชโี ว
จกฺขทุ วฺ าเรสุ อปุ ปฺ าฏเิ ตส ุ มหนฺเตน อากาเสน พหมิ ุโข สุฏ ฺ ุตร ํ รปู ํ ปสเฺ สยฺย, โสเตสุ
อุปฺปาฏิเตส,ุ ฆาเน อุปฺปาฏิเต ชิวหฺ าย อปุ ฺปาฏติ าย, กาเย อปุ ฺปาฏเิ ต มหนเฺ ตน อากาเสน
สฏุ ฺ ตุ รํ สททฺ ํ สเุ ณยฺย, คนธฺ ํ ฆาเยยยฺ , รส ํ สาเยยยฺ , โผฏ ฺ พพฺ ํ ผเุ สยยฺ า’’ติ ?
พระเถระถวายพระพรว่า “ถา้ หากว่าชีวะเหน็ รูปดว้ ยจกั ษุ ฯลฯ รธู้ รรมด้วยใจไซร้ เมื่อ
ตาทง้ั ๒ ขา้ งถูกควักออกไป ชวี ะน้นั ก็พึงโผล่หนา้ ไปภายนอก ทางอากาศอันกว้างใหญ่ เหน็
รูปได้ชัดเจนยิ่ง เมื่อหูท้ัง ๒ ถกู ทะลวง เมือ่ จมกู ถูกควา้ นออก เม่ือลน้ิ ถกู กระชากออก เม่อื กาย