The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เข้าสู่แดนนิพพาน หลวงตามหาบัว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-05-19 22:53:25

เข้าสู่แดนนิพพาน หลวงตามหาบัว

เข้าสู่แดนนิพพาน หลวงตามหาบัว

Keywords: เข้าสู่แดนนิพพาน,หลวงตามหาบัว

๙๖

หลักธรรมของพระแทอันดับหนึ่ง รกุ ขฺ มลู เสนาสนํ นสิ สฺ าย ปพฺพชฺชา. ตตฺถ
เต ยาวชีวํ อสุ สฺ าโห กรณีโย บรรพชาอปุ สมบทในพระพทุ ธศาสนาแลว ใหเ ธอทง้ั หลาย
เที่ยวอยูตามรุกขมูล รม ไม ชายปาชายเขา ตามถ้ํา เงื้อมผา ทแ่ี จง ลอมฟาง อนั เปน
สถานทเ่ี หมาะสมแกก ารฆา กเิ ลสทาํ ลายกเิ ลสใหส น้ิ ซากไปจากใจเถดิ จงอตุ สา ห
พยายามทําอยางนี้จนตลอดชีวิตนะ นอกนน้ั เปน สง่ิ เหลอื เฟอ ดังที่วา อติเรกลาโภ
เปนตน เปน สง่ิ นอกจากความจาํ เปน อนั ดบั แรก

งานที่ทรงใหทําก็ เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสา
นอกจากนั้นก็วาไปถึงอาการ ๓๒ ผม ขน เลบ็ ฟน หนงั เนื้อ เอ็น กระดูก เยอ่ื ใน
กระดูก มา ม หวั ใจ ตบั ปอด พังผืด ไสใ หญ ไสนอย อาหารใหม อาหารเกา ซึ่งมีอยูกับ
ตวั เรา ทา นทง้ั หลายจงพยายามคลค่ี ลายสง่ิ เหลา นใ้ี หเ หน็ แจง ชดั เจนตามหลกั ความจรงิ
ที่มันมีอยูเปนอยูดวยปญญา ทา นทง้ั หลายเมอ่ื ไดท าํ งานนใ้ี หส าํ เรจ็ ลลุ ว งไปดว ยสติ
ปญ ญาอันเต็มภูมิของวรี บุรุษแลว ความหลดุ พน จากทกุ ขอ นั เปน สมบตั มิ หาศาลนน้ั จะ
เปนของทานทั้งหลายเอง นั่นฟงซิ มนั หา งไกลกันไหมกับพวกเราทีช่ อบสะดวกสบายกบั
ของเศษ ๆ เดน ๆ ที่ทานสอนใหละใหทิ้งดวยธรรมทุกบททุกบาททุกปฎกนะ

พวกเรานม่ี นั เปน คแู ขง ศาสนธรรมเสยี เอง อะไรทธ่ี รรมตาํ หนมิ นั กลบั หรหู ราไป
หมด ประชาชนญาติโยมสูไมได ของดิบของดีเขาเอามาทําบุญใหทาน เขากินอะไรใช
อะไรก็พอทําเนา ขอใหไดของดีมาทําบุญใหทานพระก็เปนที่พอใจตามนิสัยของนัก
แสวงบญุ แตพ ระเรากลบั เปน นกั หรหู รา กุฏิก็อยูดี ๆ เครื่องใชไมสอยก็มีแตของดิบ
ของดี นอกจากน้นั ยงั มวี ทิ ยุ ยังมีเทวทัตโทรทัศน และยังมีรถยนตกลไกแถมเขาไปอีก
ดตู ามหลกั ธรรมวนิ ยั ของพระเราแลว นา สลดสงั เวชเหลอื ประมาณ ทําไมพากันคิดฆา
พระพทุ ธเจา แบบสด ๆ รอน ๆ ไดลงคอ ดวยความโออาทาใหญของพระ อนั เปน ความ
ดือ้ ดานไมย อมรสู ึกตวั เลย มนั นา ละอายทส่ี ดุ

ทกุ ทา นขอใหค าํ นงึ เรอ่ื งเหลา นใ้ี หม าก ถาเราบวชเพื่ออุทิศตอพระพุทธเจา พระ
ธรรม พระสงฆ จรงิ ๆ มใิ ชบวชมาเพอ่ื เปน คกู รรมคูเ วรตอศาสนธรรมของพระพุทธเจา
ขอใหคํานึงถึงอรรถถึงธรรม ถึงการดําเนินของพระพุทธเจายิ่งกวาเรื่องใด ๆ สมัยใดก็
ตามไมมีเยี่ยมยิ่งกวาพุทธสมัย ธรรมสมยั สังฆสมัย ท่พี าดําเนนิ มา อนั นเ้ี ปนหลกั ใหญ
โตมาก ใหทานทั้งหลายจงประพฤติปฏิบัติตามหลักพุทธสมัยเถิด ผลอนั ชมุ เยน็ พงึ ใจจะ
เปน ทย่ี อมรบั กบั หลกั แหง สวากขาตธรรม นยิ ยานกิ ธรรม ไมมีทางสงสัย

นี่ก็ไดปฏิบัติมาพอสมควร เปนผนู อยผมก็เคยไดเปน ไปศกึ ษาอบรมกบั ครบู า
อาจารย เฉพาะอยา งย่ิงทานอาจารยม นั่ ฟงจริง ๆ ฟงทานพูด ทานจะพดู ทเี ลน ทจี ริง
เปนธรรมดาของลกู ศิษยกบั อาจารย เราจะไมม ฟี ง เลน จะมีแตฟงจริงอยางฝงใจตลอด

เขา สแู ดนนพิ พาน ๙๖

๙๗

มา มคี วามเคารพรกั ความเลอ่ื มใส ความกลวั ทา นมากทส่ี ดุ ยึดเอาทุกแงทุกมุม ทจ่ี ะ
พึงประพฤติปฏิบัติได ไดม าสง่ั สอนลกู ศษิ ยล กู หานก้ี เ็ พราะอาํ นาจครบู าอาจารยท ท่ี า น
ใหก ารสง่ั สอนมา

เพราะฉะนน้ั การปฏบิ ตั ใิ นวดั ของเราน้ี แมจะผดิ แผกแตกตา งกับวดั ทั้งหลายบาง
ผมกแ็ นใ จตามหลกั เหตผุ ลและหลกั ธรรมวนิ ยั จึงไมสะทกสะทาน ผมไมไ ดค ิดวา เปน
การทาํ ผดิ เพราะมแี บบมฉี บบั ทไ่ี ดร บั มาจากศาสนธรรม และจากครบู าอาจารยท กุ สง่ิ
ทุกอยาง อนั เปน แบบฉบบั มาดง้ั เดมิ อยแู ลว จงึ ไดพาหมเู พ่อื นดําเนินเร่ือยมาอยางน้ี
ผิดถูกประการใดจะตองพูดกันตามหลักเหตุผล ความเกรงอกเกรงใจกนั นน้ั เปน เรอ่ื ง
ของโลกเปนเรื่องของบุคคล ไมใชเร่อื งของธรรมของวนิ ยั อนั เปนหลกั ดําเนนิ ตายตัวดวย
กัน การพดู กนั โดยอรรถโดยธรรมเพื่อใหเปนที่เขาใจและปฏิบัติถูกน้นั เปนธรรมแท
เพราะฉะนน้ั คาํ วา ลูบหนาปะจมูกจึงไมมีในธรรมทั้งหลายของผูมุงตอธรรมดวยกัน

การแสดงธรรมก็เห็นสมควรขอยุติเพียงแคน ี้

<<สารบญั

เขา สแู ดนนพิ พาน ๙๗

๙๘

เทศนอ บรมพระ ณ วดั ปา บา นตาด
เมอ่ื วนั ท่ี ๒๓ เมษายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๒

ยาแกก เิ ลส

ผูใครในธรรมปฏิบตั เิ พ่อื ความรแู จง เห็นจรงิ ดังครัง้ พุทธกาล สมยั นม้ี นี อ ยรอ ย
หรอเต็มที ดังที่เห็นกันอยูนี้แล แตผ ใู ครใ นการปฏบิ ตั คิ วามสงบสขุ จะมมี ากกวา กนั
เพราะศาสนธรรมเปน ธรรมท่สี อนโลกเพือ่ ความสงบสุขโดยถูกตอง พระพุทธเจากอน
จะสั่งสอนโลก ก็ทรงทําพระองคใหมีความสงบสุขอยางเต็มภูมิมากอน แลวจึงได
ประกาศสอนธรรมท้ังเหตุทที่ รงดําเนินมา ทั้งผลที่ทรงไดรับคือความสงบสุขเต็มภูมินั้น
วา เปน สง่ิ ทพ่ี งึ ปรารถนาสาํ หรบั สตั วโ ลกมากมายเพยี งไร พระองคไดนําทั้งเหตุทั้งผล
ออกแสดงโดยพระองคเปนผูรับประกันในคุณธรรมทั้งหลาย

เมอ่ื เรม่ิ ประกาศสอนธรรม ผูไดรบั ความเชื่อความนบั ถอื ตามหลักความจริงท่ี
พระองคท รงดาํ เนนิ และทรงรเู หน็ มาแลว ก็ไดประพฤติปฏิบัติตามในทันทีทันใด เชน
พระเบญจวัคคยี ท ้งั หา นน่ั คอื การปฏบิ ตั ติ ามทางดา นจติ ใจ ในขณะทก่ี าํ ลงั สดบั ธรรม
ของพระพุทธเจาที่ทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และแสดงอนัตตลักขณสูตรใหฟง
จติ คลอ ยตามหลกั ความจรงิ ของธรรม และไดบ รรลธุ รรมเปน ขน้ั ๆ ไป จนถึงข้ันอรหตั
ภูมิซึ่งเปนขั้นที่สงบอยางเต็มภูมิ

จากน้ันตา งองคกต็ า งประกาศศาสนาแกโลก ดว ยความเมตตาสุดสว นไมมี
โลกามิสแมนอยเจือปน ทั้งนี้มีพระพุทธเจาผูทรงพระเมตตาองคเอกในโลกไมมีใคร
เสมอเหมือน เปน ผนู าํ พระศาสนา และมีพระสาวกเปนผูสนองกตัญูกตเวทิตาคุณ
ชว ยพทุ ธภาระในการประกาศพระศาสนาแกห มชู น ใหกวางขวางออกไปอยางรวดเร็ว
ศาสนาจึงไดกระจายไปสูจิตใจของประชาชนอยางกวางขวางไมมีประมาณ

กริ ยิ าอาการแหง การเสาะแสวงของประชาชน ซึ่งกําลงั ไขวค วา หาหลกั เกณฑ หา
ทย่ี ดึ เหนย่ี วอยเู เลว อยา งเตม็ ใจ เม่อื ไดทราบของจรงิ ทเ่ี ขา สมั ผสั ใจเชนน้ันตา งกน็ อมรบั
และยึดถือ พรอมทั้งการปฏิบัติตามเปนลําดับไมทอถอยปลอยวาง และไดส าํ เรจ็ มรรค
ผลเปนที่พอใจตามลําดับภมู คิ วามสามารถวาสนาของตน ในเวลาทพ่ี ระองคท รงพระ
ชนมอ ยสู ส่ี บิ หา พระพรรษา ทรงประกาศพระศาสนาแผกระจายออกไปอยางกวางขวาง
ประชาชนไดร บั ความสงบสขุ มากมาย

เขา สแู ดนนพิ พาน ๙๘

๙๙

ศาสนธรรมทท่ี รงสง่ั สอนโลกลว นแตเ ปน สนั ตธิ รรม ผูนําธรรมออกประกาศ
สอนโลกก็เปน ผทู รงไวซงึ่ สนั ติธรรมโดยสมบรู ณใ นพระทัย คือ พระพุทธเจา ธรรมทส่ี ง่ั
สอนโลกก็เพื่อสันติ คอื ความสงบเยน็ เปน ทต่ี ง้ั

โรคในกายถา กาํ เรบิ ยอ มทาํ ใหค นไขร ะสาํ่ ระสายกระวนกระวาย ในอิริยาบถทั้งสี่
ไมมีเวลาตั้งตัวสงบได เต็มไปดวยความทุกขทรมาน ราวกบั โลกสงสารมารวมเปน ไฟทง้ั
กองเผาลนเราคนเดยี ว หาทผ่ี อ นคลายไมไ ดเ ลย

เมอ่ื โรคสงบลงเพราะถกู ยา คนไขก็ไดหลับนอน ไดพักผอนตัวสะดวกสบายเทา
ทค่ี วร เม่อื หมอหรือผมู าเย่ยี มคนไขถามวา เปน อยา งไร เมื่อคืนนี้ไดพักบางหรือเปลา
บอกวา เมอ่ื คนื นไ้ี ดพ กั สบายบา ง ไดพ กั เปน ครง้ั คราวบา ง บางรายไมไ ดพ กั เลย นน่ั
หมายวา โรคไมส งบ คนกไ็ มส งบ เมอ่ื โรคสงบคนไขก็สงบ สงบมากนอยคนไขก็มคี วาม
สงบสบาย ถงึ กบั หายจากโรคไปเพราะอาํ นาจแหง ยาถกู กบั โรค

โรคของจิตแหงสัตวโลกก็ยอมเปนเชนนั้นเหมือนกัน โรคอนั นป้ี ราชญท า นเรยี ก
วา “โรคเรอ้ื รงั ” เคยฝง ใจมาเปน เวลานาน ไมอ าจนบั ตน สายปลายเหตไุ ด วา เปน มาแต
เมื่อไร ถา เปน รากแกว กท็ ะลดุ นิ ทห่ี นาแสนหนาไปแลว เพราะฝง ลกึ แสนลกึ หยั่งลงพื้น
พภิ พ ฝง รากฝง ฐานภายในจติ ใจสตั วโ ลกใหเ วยี นวา ยตายเกดิ ในวฏั สงสาร ไมทราบวา
ภพนอยภพใหญ ภพไหนตอ ภพไหนแลว เพราะความเกดิ ตายซาํ้ ๆ ซาก ๆ เชน เดียว
กบั ตามรอยโคในคอก ไมอาจทราบไดเลยวารอยโคในคอกไปยังไงมายังไง เพราะ
เหยยี บยาํ่ วนไปเวยี นมาแหลกไปหมด นเ่ี พราะความเปน มาแหง ภพชาติ ซง่ึ เนอ่ื งมาจาก
กเิ ลสตวั กอ เหตตุ วั ผลกั ดนั ใหเ ปน ไปเปน มาอยอู ยา งนน้ั ไมม คี าํ วา จบสน้ิ ถา ไมช าํ ระหรอื
ฆาเชื้อวัฏวนออกจากใจเสีย ตอ งทาํ จติ ใจของสตั วโ ลกใหท กุ ขร อ นนอนครางหาเวลาวา ง
จากทุกขไมได เมื่อตั้งภพตั้งชาติขึ้นมาแลว เพราะอาํ นาจของกเิ ลสประเภทหนง่ึ ๆ สว น
ประเภทท่ฝี งอยภู ายในจติ ใจนนั้ ก็กอ กวนวุนวายอยเู สมอ จึงทําใหสัตวโลกทั้งหลายได
รบั ความวนุ วายเดอื ดรอ น หาความสงบเยน็ ใจไมไ ด เพราะกเิ ลสกอ กวน ไมมีสิ่งใดกอ
กวนทาํ ลายนอกจากกเิ ลสอยา งเดยี ว

กเิ ลสมหี ลายประเภท ถา เรยี กวา โรคกโ็ รคหลายชนดิ ภายในใจของคนแตล ะคน
ไมเหมือนคนไขที่ไปรักษาตามโรงพยาบาลตาง ๆ ซง่ึ บางคนกม็ โี รคเดยี ว บางคนก็มี
หลายโรค แตภ ายในจติ ใจของสตั วโ ลกมโี รคหลายชนดิ มากทเี ดยี ว

โรคใหญ ๆ ที่ตั้งรากตั้งฐานใหเห็นอยางชัดเจนก็คือ โรคแหง ความโลภ โรคแหง
ความโกรธ โรคแหง ความหลง โรคแหง ราคะตณั หา สามสี่ประเภทนี้เปนเเมทัพใหญ
และมใี จเปน สถานท่อี ยู มใี จเปน สถานทท่ี าํ งาน มีใจเปน พน้ื ฐานของโรคคือกิเลสชนดิ
นน้ั ๆ อยตู ลอดเวลา

เขา สแู ดนนพิ พาน ๙๙

๑๐๐

เมือ่ จิตใจมแี ตโ รคชนิดที่จะทําความกาํ เริบแกใจอยเู สมอ โดยเจาของไมนําพา
ไมเ หลยี วแลเยยี วยารกั ษาบา ง หรอื ไมร วู ธิ รี กั ษาเลยนน้ั ใจดวงใดกต็ ามจะหาความสงบ
สุขไมไ ดเ พราะโรคชนดิ น้เี สยี ดแทงอยตู ลอดเวลา และผใู ดทจี่ ะมีความสามารถฉลาดรู
หาโอสถอนั สาํ คญั มาแกโ รคชนดิ นใ้ี หเ บาบางและหมดสน้ิ ไปจากใจได ในสามโลกธาตุนี้
จึงมีพระพุทธเจาพระองคเดียวเทานั้น ทท่ี รงสามารถฉลาดแหลมคม ทันกลมายาของ
โรคคอื กเิ ลสประเภทตา ง ๆ และปราบใหห ายซากจากพระทยั ได แตขณะที่พระองคทรง
บาํ เพญ็ เพอ่ื วชิ าปราบกเิ ลสตวั ขา ศกึ อยนู น้ั ไมม คี รมู อี าจารยแ นะนาํ สง่ั สอน พยายาม
ดาํ เนนิ ตะเกยี กตะกายไปตามพระกําลงั ความสามารถ จนไดต รสั รธู รรมทง้ั หลายแลว จงึ
ไดนําธรรมนี้ออกมาสั่งสอนโลกใหกวางขวางออกไปโดยลําดับลําดา

ผูที่ไดประพฤติปฏิบัติตามพระพุทธเจา ก็ไดระงบั ดบั โรคชนิดตาง ๆ ไปโดย
ลาํ ดบั ๆ จนกระทงั่ เปนใจท่ีบรสิ ุทธิ์ หลดุ พนจากโรคชนิดน้ีโดยประการท้งั ปวง เมื่อตัว
เหตุอันจะพาใหเกิดแกเจ็บตายและสั่งสมกองทุกขขึ้นมามาก ๆ สิ้นไปจากใจแลว ใจก็
หมดทกุ ขห มดความลําบากทรมานตา ง ๆ หมดการจบั จองปา ชา ตายสถานทน่ี น่ั เกิด
สถานทน่ี ่ี วกเวยี นไปมาจนหาตน หาปลายไมไ ดก ล็ บลา งไปหมด เพราะลบลา งตวั สาํ คญั
คือกิเลส อนั เปน ตวั พาใหเ กดิ แกเ จบ็ ตายภายในจติ ใจไดโ ดยสน้ิ เชงิ

ธรรมโอสถเหลา นพ้ี ระพทุ ธเจา เปน ผทู รงคน พบดว ยสยมั ภู ทรงรูเองเหน็ เองท้งั
ฝายเหตุฝายผล นอกนน้ั ไมม ใี ครสามารถจงึ เรยี กวา สาวก สาวะกะ แปลวา ผสู ดบั
ตรับฟงเสียกอน กอนที่จะไดประพฤติปฏิบัติตนใหถึงธรรมขั้นตาง ๆ จนถึงความ
บริสุทธิ์วิมุตติพระนิพพาน ตองอาศัยการไดยินไดฟงมาทั้งนั้น ไมจากพระโอษฐของ
พระพุทธเจาโดยตรง ก็จากครูจากอาจารยที่เปนพระสาวกองคใดองคหนึ่งเรื่อยมาเปน
ลาํ ดบั ลาํ ดา ดงั ทเ่ี ราทง้ั หลายไดย นิ ไดฟ ง จากครจู ากอาจารยม าโดยลาํ ดบั เชน น้ี

ธรรมนี้คือโอสถเครื่องแกกิเลส เครอ่ื งระงบั หรอื เครอ่ื งปราบปรามกเิ ลสทง้ั มวล
จงึ เปน สิ่งทีห่ าไดย าก และยากทบ่ี คุ คลจะสามารถคน ควา มาทาํ ประโยชนเ ตม็ ภมู ไิ ด ทั้งนี้
เพราะกเิ ลสอยา งเดยี วนน่ั แลขดั ขวางนะ จะมีอะไรที่ไหนมาขัดขวาง

เมอ่ื ใจไดร บั การเหลยี วแลดว ยอรรถธรรม ประพฤติปฏิบัติมีธรรมเปนหลัก
เกณฑ คือ มเี หตุมีผลเปน เคร่ืองประพฤตเิ ปน เครอื่ งดําเนนิ อยโู ดยสมํา่ เสมอ ชื่อวาผูมี
ศาสนา ความมศี าสนานน้ั คอื ความมสี ง่ิ อารกั ขาภายในจติ ใจ มเี ครอ่ื งประกนั ตวั อยภู าย
ในใจ จติ ใจยอ มมคี วามสงบ แมกิเลสยังมีอยูก็ยังมีขอบเขต ไมผ าดโผนโลดเตน เสยี จน
เลยเหตเุ ลยผล ถึงขนาดที่วาดูไมได

ดงั สมัยทกุ วนั นี้เห็นไหม ความเคลอ่ื นไหวของคนยคุ ปจ จบุ นั เปน อยา งไร ดูเอา
ไมตองเดาก็พูดถูก ทง้ั นเ้ี พราะความหา งเหนิ ยา คอื ธรรม กเิ ลสจงึ ไดก าํ เรบิ เสบิ สาน พา

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๐

๑๐๑

คนใหเ สยี คนอยา งสด ๆ รอน ๆ ไมกระดากอาย ดังเขาออกทางหนังสือพิมพแทบไม
เวน แตล ะฉบบั แตล ะวนั เพราะภาพชนดิ นน้ั เรอ่ื งราวชนดิ นน้ั สตั วโ ลกทม่ี โี รคชนดิ เหลา
นี้เปนเชือ้ อยูแ ลว มันติดไดงา ยกาํ เริบไดเ ร็ว เหมือนกับไฟที่มีเชื้อไฟอยูภายในเตา แลว
โยนฟนเขาไปมันก็ติดและสงเปลวขึ้นทันทีไมชักชา

มนั มมี ากมายอยา งทเ่ี ราไมเ คยพบเคยเหน็ กม็ ขี น้ึ แลว เวลาน้ี กาํ ลงั เรยี นวชิ าสตั ว
กันมากมาย วชิ ามนษุ ยก เ็ คยเรยี นมา วชิ าธรรมกเ็ คยเรยี นมา แตเ วลานม้ี ักจะเปนวชิ า
สตั วเ สยี มาก ถือเปนแฟชั่นแฟเชิ่น ถือเปนศิลโปะศิลปะไป พลิกแพลงเปลี่ยนแปลงพูด
เอาตามเพลงของกเิ ลสเจา ราคะตณั หา เจา ตาหนั ตามองไมเบื่อและอิ่มพอ มนั แตง ให
ขับรองตามเนื้อเพลงของมัน ถาเปน ศลิ ปะก็คือวชิ าและเนือ้ เพลงของกิเลสนน่ั แล เนอื้
เพลงนั้นมันจะผิดอะไรกับเนื้อเพลงของ…….ทเ่ี ขาหอน “เอย” เขารองในฤดูที่เขาคึก
คะนอง เดก็ ๆ ดู-ฟงก็ยังเขาใจ ทาํ ไมโลกและธรรมจะไมเ ขา ใจ

ตาดูก็รู หูฟงก็ชัด เพราะหนู เ้ี ปน หมู นษุ ย ตาเปน ตามนษุ ย มันแสลงหูแสลงตา
มนุษย มนุษยทําไมจะไมทราบ แสลงใจมนษุ ย มนษุ ยท าํ ไมจะไมท ราบ ถา ไมเ ปน เรอ่ื ง
หยาบโลนของผมู กี เิ ลสอนั หนาแนน หรอื อนั หยาบทรามนน้ั คยุ เขย่ี ขดุ คน ขน้ึ มาประจาน
ตวั เอง และทาํ ใหโ ลกเสยี หายไปตาม ๆ กนั เปน จาํ นวนมากนบั ประมาณไมไ ดเ ทา นน้ั ไม
เห็นมีอะไรที่จะเปนขอยกเวน วา เปน ศลิ ปะบา ง เปน แฟชน่ั แฟเชน่ิ อะไรบา ง นเ้ี ราเหน็
กันทุกวัน นเ้ี ปน สง่ิ ทท่ี าํ โลกใหเ สยี หายเสอ่ื มทรามไดม ากมาย เสยี ทางดา นจติ ใจเสยี ดว ย
ถาเปนตนไมก็โคนรากแกวของมันเลย ไมตองไปตัดกิ่งตัดกานของมัน เมื่อตนไมที่ถูก
โคน รากแกว แลว มันจะทนไดเ หรอ ตองลมครืนลงไปโดยไมตองสงสัย

คนเราสาํ คญั อยทู จ่ี ติ ใจ อะไรจะเอนเอียงไปบาง ขาดตกบกพรองไปบาง เจรญิ
บา งเสอ่ื มบา งภายนอก ไมสําคัญเทาจิตใจที่เสื่อมไป ถา จติ ใจมหี ลกั ธรรมเปน ทย่ี ึด
เหนย่ี วบา ง โลกจะไมแ สดงกริ ยิ าอาการทน่ี า ทเุ รศแบบนน้ั และใจก็มหี ลกั ยดึ คือ เบญจ
ศลี เบญจธรรม เปนตน สาํ หรบั โลกทม่ี กี เิ ลส การแสดงออกก็พองามตาไมแสลงแทงใจ
จนเลยขอบเขตเหตผุ ลของมนษุ ย ใจที่มีหลักธรรมยึดยอมทรงตัวได ไมเสือ่ มโทรมจน
นา เวทนา สิ่งใดขาดตกบกพรองไปบาง ไดบ า งเสยี บา ง สุขบางทุกขบางก็พออดพอทน

ถา ใจหาหลกั ไมไ ดแ ลว ลม เหลว เหมือนกับรากแกวที่ถูกถอนพรวดขึ้นมาแลว
ตนไมน ้ันกม็ ีแตตายทาเดียว จิตใจถาลงสง่ิ เหลา นไี้ ดขุดรากแกว ขึ้นมาแลว กม็ แี ตว นั จะ
แหลกลาญไปเทา นน้ั เอง เพราะเหตใุ ด เพราะความหา งเหนิ ศลี ธรรมจงึ เปน อยา งนน้ั มี
แตก เิ ลสตณั หาอาสวะลอ มรมุ สมุ ใจอยตู ลอดเวลา หลบั ต่นื ลืมตามแี ตเ รื่องอันเดยี ว
กลุมรุมอยูทั้งวันทั้งคืนยืนเดินนั่งนอน ทุกรูปทุกนามทุกเพศทุกวัย สบั สนปนเปคละ
เคลากันอยูด วยเรือ่ งอยางนี้ มีแตเอาเรื่องนี้มาโปะกันเขา ๆ แลวมนั จะทนไดอ ยางไร

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๑

๑๐๒

นัดหนึ่งไมตายนัดที่สองมันก็ตายได เพราะมนั เปน ยาพษิ อยแู ลว นเ่ี ราพดู ภายนอกเพอ่ื
เปนเครื่องเทียบเคียงภายในของผูปฏิบัติ นโ่ี ลก ๆ เปน อยา งนน้ั ใหเ ราดเู อา และดตู าม
สภาพความจริงเพ่ือปลงตก อยาดูอยาฟงเพื่อพกมาเผาหัวใจ จะกลายเปนไฟทั้งกองขึ้น
มาที่หัวอก ตกเปนทาสของมันตลอดไปไมมีวันฟนตัว

ภายในจิตจะคิดออกไปในแงใดจะเปนการทําลายสังหารตน แมจะไมแสดงออก
มาทางกริ ยิ าอาการกต็ าม แตพ งึ ทราบวา น้นั กาํ ลงั พยายามโคนรากแกว ของตนอยูแ ลว
โดยไมตองสงสัย ตองพยายามระมัดระวัง ความคดิ เปน สง่ิ สาํ คญั มาก และใจเปนสมบตั ิ
อนั ลาํ้ คา เสยี ดว ย ถาไมใ ชสตปิ ญ ญาระมัดระวงั พินจิ พจิ ารณาจริง ๆ แลว เราจะไมได
ครองจติ ทเ่ี ปน สมบตั อิ นั ลาํ้ คา นด้ี ว ยอรรถดว ยธรรมเลย แตจะเปนเรื่องความพินาศฉิบ
หาย รา ยกาจทส่ี ดุ เลวทรามทส่ี ดุ เพราะใจดวงถกู ทาํ ลายจากกเิ ลสทง้ั หลายเหลา น้ี ขอ
ใหพ ากนั พิจารณาใหดี ระมดั ระวงั ใหม ากตลอดเวลาอริ ยิ าบถ อยาไดชินชาชะลาใจกับ
กิเลสตัวใดวา ไมเ ปนภยั ตอจิตใจ แตมันคือขาศึกทั้งมวล นบั แตล กู เตา หลานเหลนขน้ึ ไป
ถึงปูยาตาทวดของกิเลส

ความสงบสขุ ของใจเปนส่ิงสําคัญทีจ่ ะตอ งเสาะแสวง ตองรักตองสงวน เชน เดียว
กับความไมสงบ เปน ภยั อนั หนง่ึ ทเ่ี ราจะตอ งระมดั ระวงั เพราะมนี าํ้ หนกั เทา กนั ความ
เหน็ ภยั กบั ความเหน็ คณุ ใหเ หน็ อยา งถงึ ใจเทา ๆ กัน จงละจงถอดถอนดวยความเหน็
โทษอยางถึงใจ ขณะเดยี วกนั จงพยายามเพอ่ื สมาธธิ รรม ปญ ญาธรรม วมิ ตุ ตธิ รรม ดว ย
ความเหน็ คณุ อยา งถงึ ใจเชน เดยี วกนั

พระพุทธเจาสอนไวทุกแงทุกมุมตามหลักธรรมหลักวินัย ลว นแลว แตเ ปน อบุ าย
วิธีปองกันตัวและรักษาตัว วธิ หี ลบหลกี ปลกี ตวั จากสง่ิ ชว่ั ชา ลามกทง้ั หลาย ดว ยพระ
ปญญาสามารถทั้งสิ้นไมมีที่ตองติ เพราะพระองคเคยไดรบราฆาฟนกับกิเลสมาแลว
อยางโชกโชน ไมมีใครที่จะเกินพระองคไปไดถาพูดถึงเรื่องความสมบุกสมบัน ความ
ทุกขความทรมานดวยการประกอบความเพยี ร เพอ่ื หาํ้ หน่ั กบั กเิ ลสทง้ั หลายใหพ งั พนิ าศ
ไปจากพระทัย

โลกราํ่ ลอื กนั ทว่ั ดนิ แดนวา พระพุทธเจาเปนพระองคหนึ่งที่ทรหดอดทนไมมีใคร
เสมอเหมือน จึงทรงทราบทุกอุบายวิธีที่เคยตอ สูกบั กิเลสประเภทตาง ๆ ดว ยกลเมด็
เดด็ พรายใด หรอื ดวยธรรมาวธุ ประเภทใดวา เปน ธรรมเหมาะสม จงึ ทรงนาํ ธรรมเหลา
นน้ั มาสง่ั สอนพวกเรา ทานทรงสอนไวแงใดมุมใด ขอใหยึดมาเปน หลกั เกณฑเ ปน
เครื่องปองกันตัวรักษาตัว และตอ สกู บั กเิ ลสเพอ่ื ชยั ชนะในอวสานสดุ ทา ย

ในอริ ยิ าบถตา ง ๆ อยา ใหเ ผลอสตเิ ปน ความชอบธรรม สมกับเปนนักปฏิบัติ
เพอ่ื ธรรมทง้ั หลาย และสมกับเปนนักปฏิบัติเพื่อกําจัดกิเลสออกจากใจจนไมมีเหลือ ใจ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๒

๑๐๓

กลายเปน สนั ตธิ รรมอยา งเตม็ ภมู ขิ น้ึ มาดว ยความพากเพยี ร ตนเองจะเปนที่ชมเชยตน
เอง โดยไมตองหาผูอื่นใดมาชมเชย

การไดร บั ความชมเชยจากลมปากของคนนน้ั มันไมผิดอะไรกับลมโชยไมพัดไป
พัดมา ไมว า จะเปน ความนนิ ทา ความสรรเสรญิ มันก็เหมือนกับลมพัดผานหูไปครูเดียว
ยามเดยี วเทา นน้ั กห็ ายไป ไมเ หมอื นเราตาํ หนติ เิ ตยี นเราและชมเชยเราดว ยความสนใจ
ใครตอเหตุตอผล การตาํ หนกิ ต็ าํ หนดิ ว ยเหตผุ ล แลวชําระแกไขดัดแปลงตนเองดวย
เหตผุ ล การชมก็ชมดวยเหตุผลอรรถธรรมไมลําเอียงไปทางกิเลส อันเปนการเขา กับตวั
ผเู ชน นเ้ี ปน ผมู เี จตนาเปน ธรรมอยา งเตม็ ภมู ิ ที่จะกําจัดกิเลสเพื่ออรรถเพื่อธรรมทั้ง
หลาย และมวี นั ทจ่ี ะผา นพน จากทกุ ขภ ายในใจไปไดเ พราะกเิ ลสราบคาบลงไป ดวยการ
ปราบปรามของผมู คี วามเพยี รกลา สตไิ มล ดละในอริ ยิ าบถตา ง ๆ

ฉะนน้ั จงเปน ผหู นกั แนน สมกบั เราเปน นกั ปฏบิ ตั ิ พึงเปนผูหนักแนนทุกแงทุก
มุม อยาไดออนแอทอถอย ทาํ กจิ นอกการในใด ๆ กต็ ามใหพ งึ ทราบวา เรากาํ ลงั ทาํ คํา
วา เรานเ้ี ปน ตวั ตง้ั เปน ตวั ประธานแลว ทาํ เพอ่ื ใครกค็ อื ทาํ เพอ่ื เรา ทําไมด ีเราดีไหม ถาทํา
ไมดีเราก็ไมดี แสดงไปจากเรานี่ไมดีจึงทําไมดี ทําแบบขอไปที เราก็เปน คนเพียงขอไป
ที เปน เศษคนเศษพระเศษเณร ไมไ ดเ ปน คนเปน พระเปน เณรเตม็ เมด็ เตม็ หนว ย เปน
แบบเพียงขอไปที เรยี กวา เปน เหมอื นกบั เศษพระเศษเณรเคลอ่ื นทเ่ี ทา นน้ั

ดว ยเหตนุ จ้ี งึ สาํ คญั ทว่ี า ทาํ อะไรกต็ ามใหถ อื คาํ วา เราเปน หลกั ใจไวเ สมอ ทํา
อะไรกเ็ ราเปนผูทาํ เพื่ออะไร กท็ าํ เพอ่ื เรา เมอ่ื ทาํ เพอ่ื เราแลว สง่ิ ใด ๆ กเ็ พอ่ื เรา เราตอง
เปนผูจดจอตอเนื่องดวยเหตุดวยผลดวยสติปญญา ตง้ั จติ ตง้ั ใจทาํ สง่ิ นน้ั ใหส าํ เรจ็ ลลุ ว ง
ไปไดด วยความมเี หตผุ ล ดว ยความมเี จตนา ดว ยความเรยี บรอ ยสมบรู ณจ ากสง่ิ นน้ั จรงิ
ๆ เมอ่ื ยอ นเขา มาสภู ายในใจ คอื การประกอบความพากเพยี รภายในใจ กส็ ง่ิ เหลา นน้ั
แหละซง่ึ เปน นสิ ยั ของเรา ทีเ่ คยฝกหดั ดัดแปลงดวยดมี าแลวกบั หนา ท่ีการงานภายนอก
ประมวลเขา มาสงู านภายในกเ็ อาจรงิ เอาจงั มีเหตุมีผลมีสติสตัง ปญ ญาใครค รวญจน
ทะลุปรุโปรงไปได ดว ยคาํ วา เราทาํ เพอ่ื เรา

หลกั นสิ ยั เปน สาํ คญั มาก ขอใหพ ยายามฝก หดั นสิ ยั ใหเ ปน คนจรงิ จงั อยาออน
แอเหลาะแหละ สง่ิ เหลา นเ้ี ปน เรอ่ื งของกเิ ลส เปน เศษเปน เดนของกเิ ลส เราไมใ ชพ ระ
เศษพระเดนอยา นาํ เขา มาดม่ื มาคละเคลา ใจ ใหจ ิตใจด่มื หรอื คลุกเคลากับความออ นแอ
ทอแท เพราะนเ่ี ปน เศษเปน เดนของกเิ ลสประเภทตา ง ๆ เราไมใ ชเ ปน คน เปน พระเปน
เณรเศษเดน ตองกําจัดสิ่งเหลานี้ออกไปใหพน อยาสนิทติดจมกับมันถาไมอยากจมดิ่ง
ไมม วี นั โผลห วั นะ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๓

๑๐๔

สมาธภิ าวนาทา นเขยี นไวต ามตาํ รบั ตาํ ราเกลอ่ื นไปหมด อธบิ ายไวเ สยี จนเปน คงุ
เปน แคว สมาธเิ ปน อยา งนน้ั สมาธเิ ปน อยา งน้ี เรามาปฏบิ ตั ใิ หเ หน็ องคข องสมาธจิ รงิ ๆ
จะอยูที่ไหนแน พระพทุ ธเจา ทรงชเ้ี ขา มาในหวั ใจนเ่ี เล สมาธคิ อื ความสงบเยน็ ใจ ความ
ตั้งมั่นของใจ ถาใจไมมีสมาธิทําอะไรอันเปนฝายเหตุก็ไมจริงไมจัง ผลทจ่ี ะเปน ความตง้ั
มั่นขึ้นมาใหมีความสงบเย็นใจก็เปนไปไมได เมอ่ื มคี วามสนใจใครต อ สมาธจิ รงิ ๆ หรอื
ทาํ ใหถงึ เหตุถงึ ผลตามหลักทีท่ านสอนไวจ ริง ๆ แลว คาํ วา สมาธซิ ง่ึ เราเคยไดย นิ แตช อ่ื
ไดอ า นแตใ นตาํ รบั ตาํ รา กจ็ ะมาเหน็ ภายในจติ ใจของเราเอง เพราะสมาธิแทอ ยูทใ่ี จผตู ้งั
มั่น

อยา เขา ใจวา มรรคผลนพิ พานอยทู ไ่ี หน นอกไปจากใจดวงที่กําลังไฟโลภโกรธ
หลงครอบงาํ อยนู เ้ี ผาอยเู วลาน้ี จงแกเสียใหได ดับไฟเหลานี้ลงไดดวยตปธรรม เอาไฟ
ดับไฟ ตปธรรมคอื ความแผดเผากเิ ลส กเิ ลสเปน สง่ิ ทท่ี าํ ใหจ ติ ใจรอ น ตปธรรมกค็ อื
ความแผดเผากเิ ลส รอ นตอ รอ นเผากนั เปนขาศึกกัน เมอ่ื กเิ ลสดบั แลว กก็ ลายเปน
ความเยน็ ขน้ึ มา คาํ วา ตปะ คอื ความแผดเผากเิ ลสดว ยอาํ นาจแหง ความเพยี รนน่ั แล

วริ ยิ ะ เพยี รเสมอ เพียรไมถ อยจนกระท่ังกิเลสมนั ราบไป
ขนั ติ อดทน ฟงดูซิ ขันติคือความอดความทนตอหนาที่การงานของตน ไมได
อดทนตออะไรละ ทนตอ สกู บั กเิ ลสทเ่ี ปน ขา ศกึ ตอ หวั ใจเราตา งหาก
จติ ตะ มคี วามรกั ใครใ ฝใ จในความเพยี รอยเู สมอ ไมหางเหินจากงานของตน
วมิ งั สา ความใครค รวญ เปนเรื่องของปญญา อยา ลดละ ใหน าํ มาใชเ สมอในกจิ
นอกการในไมละเวน
นี่คือผูที่จะทรงสมาธิ จะเปนเจาของของสมาธิภายในใจ จะเปน เจา ของของ
ปญ ญาภายในใจ จะเปนเจา ของของวิมตุ ติหลุดพนจากกเิ ลสทง้ั หลายภายในใจตวั เอง
จะเปน เจาของแหงมหาสมบัติ คอื นิพพานสมบัติภายในใจโดยไมตองไปถามผูอื่นผูใด
เลย ขอแตไดเปดสิ่งที่ปดบังหุมหอจิตใจนี้ออกใหหมด ความเตียนโลงของใจที่ไมมี
อะไรเขามาเกี่ยวของยุงกวนไดเลย จะแสดงตัวอยางเต็มที่ในขณะนั้น
เทาที่จิตแสดงตัวไมไดก็เพราะถูกสิ่งเหลานี้ครอบงําไวหมด จนมืดมิดปดตาหา
ทางออกไมได ฉายแสงออกมานิดหนึ่งก็ไมได แสงเบ้อื งตน ก็คือสมาธคิ วามสงบใจ แสง
ที่สองก็คือปญญา เริ่มแสดงออกมาเรื่อย ๆ ตามขั้นของปญญา ฉายแสงไปเรอ่ื ยจน
กระทั่งรอบจิต ชําระกิเลสออกหมดเพราะอํานาจของปญญาที่ทันสมัยแลว จติ กส็ วา ง
กระจางแจงออกมาโดยหลักธรรมชาติ เพราะโดยปกตจิ ิตเปนอยา งนัน้ อยูแลว เปนแต
เพียงสิ่งที่มืดมิดปดตานั้นมันไปครอบจิต กเ็ ลยกลายเปน จิตมดื จติ ดาํ ไปเสีย จิตโงเขลา
เบาปญ ญา เลยกลายเปน จติ ตาํ่ ทรามไปเสยี ทั้ง ๆ ที่จิตแทไมไดต่ําทรามอยางนั้น ไมได

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๔

๑๐๕

ต่ําไมไดเลว ซึ่งที่เลวนั้นแหละเขาไปเกี่ยวของพัวพันกับจิตเลยกลายเปนจิตเลวไปได

เมื่อชําระออกดวยความพากเพียรแลว สง่ิ เหลา นก้ี ค็ อ ยจางหายไป ๆ ใจมคี วามสวา ง

กระจางแจง ขน้ึ มาโดยลําดบั จนรอบตวั ในทส่ี ดุ กลายเปนวิมุตติหลุดพนขึ้นมาที่ตรงนั้น

นน่ั แหละคอื ผทู รงคณุ สมบตั ทิ ท่ี า นเขยี นไวแ ตช อ่ื ในตาํ รบั ตาํ รา วา ศลี วาสมาธิ

วา ปญ ญา วา นพิ พาน วิมุตติหลุดพน เขยี นไวน น้ั มแี ตช อ่ื ในคมั ภรี  ตาํ ราตา ง ๆ อันแท

จริงตัวจริงแลวก็คืออยูที่จิต สมาธิก็อยูที่จิต ปญญาก็อยูที่จิต วิมุตติหลุดพนก็หลุดพนที่

จิต พนไปที่จิต ไมพนไปจากจิตนี้ได

จติ จงึ เปน จดุ รวม รวมทั้งกิเลสทุกประเภทในเมื่อแกยังไมได รวมทง้ั มรรคผล

นพิ พานทกุ ประเภท เมื่อแกหรือถอดถอนไดแลวดวยอํานาจของความเพียร มรรคผล

นพิ พานจงึ มีอยทู ่ตี รงนเ้ี ทานน้ั ไมม อี ยกู บั กาลเวลาชา นานกาลใด ๆ ไมมีอยูกับสถานที่

โนน ทน่ี ่ี มีอยูกับใจนี้ จึงตองใหจอสติลงไปที่ใจ ความเพยี รลงสใู จตามทท่ี า นสอนไวจ ะ

ไมผิดหวัง เอาใหจ รงิ ใหจ งั กแ็ ลว กนั อยาพากันมาเปนผีหลอกเพศของตนและหลอก

ศาสนาใหบ อบชาํ้ มวั หมอง เพราะโลกชาวพทุ ธทห่ี วงั พง่ึ ศาสนธรรมของพระพทุ ธเจา

อยางถึงใจฝากเปนฝากตายยังมีอยูมาก

จงพยายามฝกหดั สติใหด อี ยา ใหเผลอ เคยพจิ ารณาอยา งไรกใ็ หม สี ตติ ดิ ตาม

อยางนอยก็ใหเปนสัมปชัญญะ มคี วามรสู กึ ตวั อยใู นขณะทาํ งาน คือรูสึกอยูในตัว ไมได

จาํ เพาะเจาะจงในจดุ ใดจดุ หนง่ึ แหง รา งกาย หรอื แหง อวยั วะสว นใดสว นหนง่ึ มคี วามรู

สึกตัวประจําอยู ทา นเรยี กวา สมั ปชญั ญะ เมื่อจอเขาไปตรงจุดใดจุดหนึ่งเรียกวาสติ

ทนี เี้ มื่อสตมิ ีความชํานชิ าํ นาญขนึ้ ไป ก็กลายเปนสัมปชัญญะอีกทีหนึ่ง แลว กลาย

เปน มหาสตกิ ลายเปน มหาปญ ญา ขน้ึ จากสตขิ น้ึ จากปญ ญาทเ่ี คยลม ลกุ คลกุ คลานนน่ั

แหละไมไปจากไหน เมอ่ื ฝก หลายครง้ั หลายหน ฝก จนเกรยี งไกรแลว กช็ าํ นชิ าํ นาญ

คลอ งแคลว แกลว กลา สามารถปราบปรามกเิ ลสไดท กุ ประเภท ไมว า กเิ ลสประเภทไหน

เหนือสติปญญานี้ไปไมได เพราะสตปิ ญ ญาเปน ตน น้ี พระพทุ ธเจา แลพระสาวกทง้ั หลาย

เคยใชป ราบกเิ ลสใหห มอบราบคาบ ไดผ ลเปนที่พอพระทัยและใจมาแลวจนสะเทือน

โลกธาตุ จงึ ไมป ระสงคใ หท า นนักปฏบิ ัตทิ ัง้ หลายมานอนข้ึนเขียง คอยใหก เิ ลสประเภท

ตา ง ๆ สับยําแบบไมเปนทา หาทางตอ สูไมไ ดดงั ทเ่ี ปนอยู โดยลักษณะแพมัน ในทางสติ

ปญญา ศรัทธา ความเพยี ร ไมมีอะไรเขมแข็งพอ จึงขอไดพยายามฟต สติธรรม

ปญญาธรรม วิริยธรรม ขนั ตธิ รรม เปนตน ข้นึ ใหพ อกับความจําเปน ผลท่พี ึงหวังจะ

ไดครองในวนั หนึ่งแนนอนไมส งสัย

จึงขอยุติ

<<สารบญั

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๕

๑๐๖

เทศนอ บรมพระ ณ วดั ปา บา นตาด
เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๒

คนจรงิ ยอ มถงึ ธรรมของจรงิ

นี้พูดถึงสาเหตุที่เราจะออกบวชซึ่งไมเคยคาดฝนมากอนคือ เยน็ วนั หนง่ึ ครอบ
ครวั เรามพี อ แมแ ละลกู ชายหญงิ หลายคนรว มรบั ประทานกนั อยอู ยา งเงยี บๆ ขณะนั้น
พอพูดขึ้นชนิดไมมีอะไรเปนตนเหตุเลยวา เรามลี กู หลายคนทง้ั หญงิ ทง้ั ชาย แตก็ไมพน
ความวติ กกงั วลในเวลาเราจะตาย เพราะจะไมมีลกู คนใดใจเปน ผชู าย คดิ บวชใหพ อเรา
ไดเ หน็ ผา เหลืองกอนตาย ไดค ลายความกงั วลใจในเวลานน้ั แลวตายไปอยา งเปน สุข
หายหว ง

“ลกู เหลา นน้ั กกู ไ็ มว า มนั แหละ หมายถึงลูกผูชาย สวนลูกผูหญิงกูก็ไมเกี่ยวของ
มัน ลกู ผชู ายกกู ม็ หี ลายคน แตนอกนั้นกูก็ไมสนใจอะไรพอจะอาศัยมันได แตไอบัว
(หมายถงึ เรา) นี่ซิ ที่กูอาศัยมันไดนะ” ปกตพิ อ ไมเ คยชมเรา อะไรๆ ก็ไมเคยชมมีแต
กดลงเรื่อยๆ นสิ ยั พอ กบั แมเ ราเปน อยา งนน้ั “ไอนี่ลงมันไดทําการทํางานอะไรแลว กูไว
ใจมันไดทุกอยาง กูทํายังสูมันไมได ลกู คนน้กี ไู วใจทส่ี ดุ วาอยางนั้น ถาลงมันไดทํา
อะไรแลวตอ งเรียบไปหมด ไมม ีที่นา ตาํ หนติ เิ ตยี น กูยังสูมันไมได ถาพูดถึงเรื่องหนาที่
การงานแลว มนั เกง จรงิ กูยกให ลูกกูทั้งหมดก็มีไอนี่แหละเปนคนสําคัญ เรื่องการงาน
ตางๆ น้ันกไู วใ จมันได

แตที่สําคัญตอนกูขอใหมันบวชใหทีไร มันไมเคยตอบไมเคยพูดเลยเหมือนไมมี
หู ไมมีปากนั่นเอง บทเวลากตู ายแลว จะไมม ีใครลากกขู นึ้ จากหมอนรกเลยแมคนเดยี ว
เลี้ยงลูกไวหลายคนเทาไรกูพอจะไดอาศัยมันก็ไมไดเรื่อง ถากอู าศัยไอบัวนไ้ี มไ ดแ ลว กู
กห็ มดหวงั เพราะลกู ชายหลายคนกหู วงั ใจอาศยั ไอน เ่ี ทา นน้ั ”

พอวาอยางนั้น โฮย นาํ้ ตาพอ รว งปบุ ปบ ๆ เรามองไปเหน็ แมเองพอมองไปเห็น
พอ นาํ้ ตารว ง แมก เ็ ลยนาํ้ ตารว งเขา อกี คน เราเห็นอาการสะเทือนใจทนดูอยไู มได ก็โดด
ออกจากที่รับประทาน ปบุ ปบ หนไี ปเลย นน่ั แหละเปน ตน เหตใุ หเ ราตดั สนิ ใจบวช มันมี
เหตุอยางน้นั

นาํ ไปคิดอยตู ง้ั สามวนั ไมห ยุด ไมย อมมารบั ประทานรว มพอ แมอ กี เลยในสาม
วนั นน้ั แตก็คิดไมหยุดไมถอย คิดเทียบเคียงถึงเพื่อนฝูงที่เขาบวชกัน ตลอดถงึ ครบู า
อาจารยท บ่ี วชเปน จาํ นวนมาก ทานยังบวชกันไดทั่วโลกเมืองไทย

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๖

๑๐๗

การบวชนี่ก็ไมเหมือนการติดคุกติดตะราง แมเขาติดคุกติดตะราง เชน ตดิ
ตลอดชีวิต เขาก็ยังพนโทษออกมาได เราไมใชติดคุกติดตะรางนี่ หมเู พอ่ื นบวชเขายงั
บวชได เขาเปน คนเหมือนกนั และครบู าอาจารยท ง้ั หลายทท่ี า นบวชจนเปน สมภารเจา
วดั ทานยังอยูได เหตใุ ดเราเปน คนทง้ั คน พอ แมเ ลย้ี งมาเหมอื นคนทง้ั หลาย อยางอื่นๆ
เรายังอดไดทนได แตก ารบวชนม่ี นั เหมอื นตดิ คกุ ตดิ ตะรางเชยี วเหรอ เราถงึ จะบวชไม
ไดทนไมได เราทาํ ไมถงึ จะดอยเอาเสยี นกั หนา ตาํ่ ชา เอานกั หนา กวา เพอ่ื นฝงู ทง้ั หลาย
ถงึ ขนาดพอ แมตองนํ้าตารว งเพราะเรานี่ ไมสมควรอยา งยงิ่

คดิ วกไปเวยี นมาอยนู น้ั ไดส ามวนั เอาละทน่ี ่ี ตดั สินใจปุบ เอา ทําไม จะบวชไม
ได ตายก็ตายไปซิ เขาบวชกนั มาไมเ หน็ ตาย พอแมก็ไมไดบอกใหบวชจนถึงวันตาย
หรือบอกใหบวชถึงปสองป พอ แมก็ไมเ หน็ วานี่ แลวทําไมถึงจะบวชไมไดละ เราก็
คนๆ หนง่ึ แทๆ เอา ตองบวช

เมอ่ื พจิ ารณาเปน ทล่ี งใจแลว จึงไดมาบอกกับแมวา เรอ่ื งการบวชจะบวชให
แตว า ใครจะมาบงั คับไมใ หสกึ ไมไ ดนะ บวชแลว จะสกึ เมอ่ื ไรกส็ กึ ใครจะมาบงั คบั วา
ตองเทานั้นปเทานี้เดือน ไมไ ดน ะ มนั หาทางออกไวแลว นน่ั ดูซิ ทิฐิมานะของมันนะ แต
แมฉ ลาดกวา ลกู น่ี “โถ แมไ มว าหรอก ขอใหลูกไปบวชใหแมเห็นตอหนาตอตาแมที
เถอะ แลวสึกออกมาทั้งๆ ที่คนที่ไปบวชยังไมกลับบานก็ตาม สึกตอหนาตอตาคน
มากๆ นั้นแมก็ไมวา” แมใ สเ ขา ไปอยา งนเ้ี ลย กใ็ ครจะเปน พระหนา ดา นมาสกึ ตอ หนา
ตอตาคนมากๆ ทไ่ี ปบวชเราได ไมบวชเสียมันดีกวา เมื่อบวชแลวมาสึกตอหนาตอตา
คน มนั ยง่ิ ขายขห้ี นา กวา อะไรเสยี อกี นน่ั เมอ่ื ตดิ ปญ หาแมแ ลว กเ็ ลยไปบวช

แตว า เรามนั นสิ ยั จรงิ จงั แตเ ปน ฆราวาสมาแลว เวลาบวชกต็ ง้ั ใจบวชเอาบญุ เอา
กศุ ลจรงิ ๆ และพราํ่ สอนตวั เองวา บดั นเ้ี ราบวชแลว พอแมไมไดมาคอยติดสอยหอย
ตาม คอยตักคอยเตอื นเราอีกเหมอื นแตกอ นแลวนะ แมเ วลานอนหลบั กไ็ มม ใี ครมา
ปลกุ นะ แตบ ดั นน้ั มากท็ าํ ความเขา ใจกบั ตวั เองราวกบั วา อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ นะ
อยา งนน้ั แหละ

แตก อ นเราจะไปไหนแตเ ชา ๆ สวนมากมีแตบอกแมใหปลุกวา พรุงนี้เชาจะออก
ไปธุระแตเชา แมก็ปลุกแตเชา แลวก็ไป แลว ก็ลมนอนตมู เหมือนตาย ทอดอาลัยหมด
เพราะคดิ แลว วา แมจ ะปลกุ ไมสนใจเรื่องการตื่นนอน พอถึงเวลาแมก็ปลุกเอง ทีนี้แม
คงจะเหน็ อยา งนน้ั จงึ เปน หว งในเวลาไปบวช เพราะผิดกันกับพี่ชาย สาํ หรบั พช่ี ายวา
พรงุ นเ้ี ชา ใหแ มป ลกุ แตแมยังไมไดปลุกเขากลับตื่นเสียกอน ไปกอนแลว

แมว า “ไอลูกกูคนนั้นมันกด็ ีแบบหนึง่ แตลกู กคู นนเี้ รือ่ งการงานอะไรแลว ยกให
ไมม ใี ครสใู นลกู ทง้ั หลาย แตเ วลานอนมนั เหมอื นตายนซ่ี ิ จึงคิดหนักอกหนักใจกับมัน

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๗

๑๐๘

เวลาไปเปน พระใครจะไปปลกุ มนั นา น่แี หละกูหนักใจตรงนี้ ไมม ีทไี รละวา มนั จะตืน่ ขน้ึ
มากอ นแลว ไปเลยโดยเราไมไ ดป ลกุ ถา ลงมนั ไดบ อกวา จะไปงานโนน งานน้ี ตองได
ปลุกทุกทีลูกคนนี้ นี่ซิเปนขอหนักใจ” แมเอาไปวิพากษวิจารณกับคนอื่น แตเ ราก็ไมพดู
เราไดย นิ คนอน่ื เลา ใหฟ ง เราไมค า น แมว า “เราอยากใหมันเปนผูหญิงเสียเองแมจะได
เบามอื นพ่ี อ แสนสบายเพราะมคี นชว ยใหเ บามอื สว นเราทกุ ขจ ะตาย”

พอกา วออกจากบา นเขาวัด ก็เตือนตัวเองทันที เอาละนะทน่ี ่ี ไมมีใครจะตาม
แนะนําตักเตือนเรา ตลอดถึงการหลับการตื่นไมมีใครปลุกละนะ เราตอ งเปน เราเตม็ ตวั
ตั้งแตบัดนี้ไป ไมหวังพึ่งพอแมดังแตกอนอีกแลว เรยี นหนงั สอื ตสี องบา ง ตสี ามบา ง
เปน ประจาํ ตหี า บา งเปน บางคนื ตหี ากส็ วาง เดือนมิถุนายน กรกฎาคม พอสวางก็ลงทํา
วตั รแตเ ชา กอ นแลว จงึ คอ ยออกบณิ ฑบาต มันตื่นทัน ดูซิ ผมกแ็ ปลกเหมือนกันนะ มัน
ตั้งทาของมันอยางจริงจังไมเคยพลาดเลย จะนอนตีสองตีสามตีสี่ เรอ่ื งทาํ วตั รนน้ั ใน
เวลาพรรษานต้ี ง้ั สจั อธษิ ฐานไวเ ลย วา จะไมใหข าดท้ังเชาทัง้ เย็นการทาํ วัตร และกราบ
เรยี นทา นพระครไู วด ว ย หากวา ทา นสง่ั ใหเ ราไปในทน่ี มิ นต วา ใหท า นรอจนเรากลบั มา
ถึงคอยทําวัตร เราขอทา นไวอ ยา งนน้ั นห่ี มายถงึ ทาํ วตั รสว นรวม สวนที่กุฏิเราทําอีกที
หนง่ึ นเ่ี ราอธษิ ฐานไวเ ปน สว นรวม ทาํ วตั รสว นรวมไมใ หข าดทง้ั เชา และเยน็ ในพรรษา

เวลาบวชแลว กต็ ง้ั หนา ตง้ั ตาปฏบิ ตั ิ ตง้ั หนา ตง้ั ตาเรยี นหนงั สอื นเ่ี ลา เปน คตใิ ห
หมูเพื่อนฟงเรอื่ งความจรงิ จัง เรยี นๆ จรงิ ๆ ไมถอย แตส าํ คญั ทเ่ี รยี นธรรมะไปตรง
ไหนมันสะดดุ ใจ เอะๆ ชอบกลๆ เขา ไปเรอ่ื ยๆ ธรรมกเ็ ขา กบั เราซง่ึ เปน คนจรงิ อยแู ลว
ไดงาย ธรรมะเปนของจริงอยูแลว กบั นสิ ยั จรงิ กเ็ ลยเขา กนั ไดส นทิ เอะ ชอบกลๆ

เวลาอา นพทุ ธประวตั แิ ละอา นสาวกประวตั เิ ขา ไปอกี โอโฮ ทนี ใ้ี จหมนุ ตว้ิ ๆ นน่ั
แลเรื่องที่จะอยูไปได เรื่องภายนอกก็คอยจืดไปจางไปๆ เร่อื งธรรมะกห็ มุนติ้วๆ ดูดดื่ม
เขาไปเรื่อยๆ จนกระทง่ั ไดต ง้ั สจั อธษิ ฐานเวลาเรยี นหนงั สอื วา จบเปรยี ญสามประโยค
แลว เราจะออกปฏบิ ตั โิ ดยถา ยเดยี วเทา นน้ั ไมมีขอแมไมมีเงื่อนไข เพราะอยากพน
ทุกขเหลือกําลัง พูดงายๆ อยากเปน พระอรหันตนน่ั เอง เหน็ พระพทุ ธเจา กเ็ ปน พระ
อรหนั ต สาวกท้งั หลายออกมาจากสกลุ ตางๆ สกลุ พระราชา มหาเศรษฐี กุฎมพี พอคา
ประชาชน ตลอดคนธรรมดา องคไหนออกมาจากสกุลใดก็ไปบําเพ็ญในปาในเขา หลงั
จากไดรับพระโอวาทจากพระพุทธเจาแลว เดย๋ี วองคน น้ั สาํ เรจ็ พระอรหนั ตอ ยทู น่ี น่ั องค
นน้ั สาํ เรจ็ อยปู า นน้ั อยใู นเขาลกู นน้ั อยใู นทาํ เลน้ี มีแตที่สงบสงัด

การประกอบความพากเพยี รของทานทาํ อยา งเอาจริงเอาจัง เปน เนอ้ื เปน หนงั
เอาเปน เอาตายเขา วา จรงิ ๆ ทา นไมท าํ เหลาะๆ แหละๆ เลน ๆ ลบู ๆ คลําๆ เหมอื น

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๘

๑๐๙

อยา งเราทง้ั หลายทาํ กนั ผลของทานแสดงออกมาเปนความอัศจรรย เปนพระอรหันต
วิเศษๆ นล่ี ะมนั ถงึ ใจ

ทีนจ้ี ติ เลยมงุ ม่ันถงึ อรหัตบุคคล อยากเปน พระอรหันตองคห นง่ึ ในสมัยปจจบุ ัน
น้ี คิดย้ําลงอีกวา เอา ขอใหแ นใ จเถอะวาในธรรมนี้มรรคผลนิพพานยังมอี ยู แลว เราจะ
เอาใหได ไมไดเอาตาย มีเทานั้นไมมีอยางอื่น ขอใหมีผูหนึ่งผูใด ครบู าอาจารยอ งคใ ด
หรอื ผใู ดกต็ ามมาชแ้ี จงแสดงใหเ ราทราบ วา มรรคผลนพิ พานยงั มอี ยเู ปน ทถ่ี งึ ใจเรา
แลว นน้ั ละการปฏบิ ตั เิ พอ่ื มรรคผลนพิ พานจะทาํ ใหถ งึ ใจ เอา ใหต ายไมต ายใหร ู มีเทา
นน้ั

พอออกจากเรียนแลว จึงโดดผงึ เลย อยูตอไปไมได กเ็ รยี นประโยคสามจบแลว น่ี
เรยี นประโยคสก่ี ผ็ ดิ ละซจิ ะวา ไง เรียนไปสอบไปก็ยิ่งผิด มันผิด ฝนเรียนตอไปไมได ถา
ลงคําสัตยไ ดตั้งขนาดน้ันแลว ไมมอี ะไรใหญย งิ่ กวา คําสัตย ใหต ายเสยี ดกี วา ถา ลงคาํ
สัตยไดขาดไป นสิ ยั ของเราเปน อยา งนน้ั มาดง้ั เดมิ

จึงตองขโมยหนีจากสมเด็จพระมหาวีรวงศองคที่อยูวัดพระศรีมหาธาตุ มุงหนา
ตอพอแมครูอาจารยมั่น พอถงึ ทานเทา นั้น ทานชี้แจงแสดงเรื่องอะไร ไมว า ดทู า นทาง
ตา ฟงทานทางหู อะไรไมม ีคลาดมเี คลอ่ื นจากหลักธรรมหลกั วนิ ัย พดู อะไรตรงไปตรง
มา เปงๆ ใจออกอุทานวา โอโห นล่ี ะอาจารยข องเรา นน่ั ลงละ แสดงเรอ่ื งมรรคผล
นพิ พาน ไมร เู อามาจากไหน ถอดออกมาจากหัวใจเหมือนวา นี่นะๆ มรรคผลนพิ พาน
เหน็ ไหม เหมอื นกบั ทา ทายอยตู ลอดเวลาในการแสดงดว ย ทา ทายความจรงิ จงั ของทาน
ทา ทายดว ยความจรงิ ของธรรม

ความจริงจังของทา นกห็ มายถงึ ทานเปน ผูร ูผ เู หน็ เอง ไมใชผ อู นื่ ผูใดเปนผเู ห็น
แลว ทา นหยบิ ยมื มาพดู มาเทศนใ หเ ราฟง น่ี ทา นเปน ผรู เู องเหน็ เองในธรรมทง้ั หลาย
เวลามาแสดงใหเ ราฟง จงึ ถงึ ใจ พอเขา ถงึ ใจแลว ทนี เ้ี ราจะจรงิ ไหม มรรคผลนพิ พานจะ
สงสัยอีกไหมที่นี่ ไมมีทางสงสัย หมดแลว เรอ่ื งมรรคผลนพิ พาน ยังมีอยูหรือไมนั้น
เปน อนั วา หมดปญ หาแลว โดยประการทง้ั ปวง ไมม ีเหลอื อยูแมเ ปอรเซ็นตเดียวเลย เชื่อ
แนว า มรรคผลนพิ พานมอี ยรู อ ยเปอรเ ซน็ ต เอาละทนี เ้ี ราจะจรงิ ไหม จรงิ ซิ ไมจริงให
ตายเสยี อยาอยูหนักศาสนาและหนักแผนดินตอไป ตั้งแตบัดนั้นมาก็ฟดกันใหญเลย

ฉะนั้น จงึ สมบกุ สมบนั มากในการประกอบความพากเพยี รของผม ทั้งมีนิสัย
อยางนี้ดวย ไปไหนไมเอาหมูเอาเพื่อนไปดวย อยูคนเดียวดีดผึงๆ จนกระทง่ั ไดมาเปน
ครเู ปน อาจารยส อนหมเู พอ่ื น เพราะนสิ ยั ของเรามนั นสิ ยั คนเดยี วแทๆ ไมป รารถนา
เรื่องมักใหญใฝสูง มนั ไมเ คยปรากฏภายในจติ ใจวา อยากเปน ใหญเ ปน โต อยากเปน นน้ั
เปน น้ี มแี ตส บายๆ ไปตามประสาปาอยางนั้นเอง

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๐๙

๑๑๐

การเดนิ จงกรมถาอยูในวงหมเู พื่อน เชน มาอยบู า นหนองผอื อยา งน้ี ผมจะเดนิ
จงกรมใหหมูเพื่อนเห็นไมได โนน ตองเวลาสงัดสี่ทุมหาทุมลวงไปแลว หมูเ พ่อื นเงียบ
หมดแลวถึงจะลงเดินจงกรม กลางวันก็เขา ไปอยูใ นปา โนน ถาวนั ไหนออกมาแตว นั
เชน หาโมงเย็นออกมาอยางนี้ ก็เขานง่ั สมาธเิ สยี ในกฎุ ี จนกระทั่งหมูเพื่อนเงียบไปหมด
แลวถึงจะลงทางจงกรม เปนนิสัยอยางน้นั มาดงั้ เดิม ไมใ หใ ครมาเหน็ การประกอบ
ความเพยี รของเราวา มากนอ ยขนาดไหน แตธ รรมดาใครกร็ ู ทางจงกรมจนเปน ขมุ เปน
เหวไปใครจะไมรู เดินจงกรมกี่ชั่วโมงมันถึงจะเปนขนาดนั้น อยูในปาก็ดีอยูภายในวัดก็
ดีมองดูก็รู แตห ากนสิ ยั เปน อยา งนน้ั ถา ภาษาอสี านเขาวา นสิ ยั คนหลกั ความ ลักๆ
ลอบๆ ทําอยูคนเดียว แตเ รามนั ไมส นทิ ใจทจ่ี ะทาํ ความเพยี รใหใ ครๆ เหน็ อยา ง
โจงแจง

แตอะไรจะบังคับบัญชายากยิ่งกวาจิตไมมี ถึงยังไงก็ตามไมหนีความมุงมั่น ไม
หนคี วามฝกความทรมานไปได ตอ งเอาจรงิ เอาจงั กับจิต กเิ ลสมนั เอาเรามนั เอาจรงิ เอา
จัง ทาํ ไมเราเวลาจะแกก เิ ลสไมจ รงิ ไมจ งั มนั จะทนั กนั เหรอ ตองคิดขอนี้เสมอผูปฏิบัติ
ธรรมะ นี่กไ็ ดทาํ มาแลวจงึ ไดม าสอนหมเู พื่อน ความเขม แข็งนัน้ แหละเปนส่งิ ทจี่ ะให
กิเลสคอยหลุดลอยไปโดยลําดับ แตความทอถอยออนแอนี้ไมมีทาง นอกจากเปนการ
เพม่ิ กเิ ลสเทา นน้ั จงจําไวอยางถึงใจ

อยาไปสงสัยวากิเลสจะหมดไปตามอัธยาศัย ประกอบความเพียรก็ตามอัธยาศัย
ตามอธั ยาศยั นน้ั เปน อธั ยาศยั กเิ ลส กิเลสลากไวด ึงไวไ มใ หเ ดิน ไมใ หน ง่ั ไมใหมีสติสตัง
เผอเรออยตู ลอดเวลา น่นั เร่อื งของกิเลสเปนอยางน้ัน เรื่องของธรรมตองเปนผูเขมแข็ง

อยูที่ไหนใหมีสติเสมอ นี้พูดอยูเสมอ เราเหน็ คณุ คา ของสตมิ ากทเี ดยี ว สตเิ ปน
ธรรมสาํ คญั มากในการทจ่ี ะใหง านไหนจกั รตวั ใดวง่ิ หมนุ ตว้ิ ก็ตองใหจักรตัวสตินี้หมุน
ไปกอน สตติ อ งเปน ผคู วบคมุ งาน งานมีกี่มากนอยที่จะทํา หนกั เบาขนาดไหน มคี น
งานกี่คน ตองมีคนคุมคนหนึ่งจนไดเปนอยางนอย นต่ี อ งมสี ตเิ ปน เครอ่ื งควบคมุ งาน
ของตน อยาทอถอยออนแอ

ไปไหนก็ตามอยาไปหวังอะไรๆ กบั โลกอันน้ี โลกนเ้ี ราทราบอยา งถงึ ใจวา โลก
อนจิ จฺ ํ รอบโลกธาตุ เตม็ ไปหมด ไมมสี ่งิ ใดท่ีจะเวน จากความเปน อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา
ไปได เมื่อความเปนอนจิ จฺ ํ ทุกฺขํ อนตฺตา มีอยใู นสถานทใี่ ด สถานทน่ี น้ั ไมเ ปน ฟน เปน
ไฟจะเปนอะไร ไวใจกันไดที่ไหน สง่ิ ทเ่ี ปน นาํ้ ใหค วามรม เยน็ แกเ รา คอื นาํ้ อรรถนาํ้
ธรรม ใหเ รง เขา ไปความพากเพยี ร ใหจ รงิ ใหจ งั ใหมีสติอยูกับงานตลอดไป อยา เสยี
ดายความพลง้ั เผลอวา จะใหเ ราวเิ ศษวโิ ส นอกจากพาใหจมงมทุกข

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๐

๑๑๑

เดินจงกรมก็ใหมีสติ อยา ไปสนใจกับเร่อื งอ่นื ใดวาจะมีคุณคา มรี าคา อยาไป
เพลนิ กบั ความคดิ ความปรงุ ในเรอ่ื งตา งๆ เชน เรอ่ื งโลกเรอ่ื งสงสารทเ่ี คยเปน มาแลว ใน
อดีตก็ดี ที่จะเปนไปในอนาคตก็ดี หรือมันเอาเรื่องอดีตมายุงอยูในวงปจจุบันนี้ก็ดี มี
แตเรื่องของกิเลสทั้งมวล ทั้งๆ ทเ่ี ราเดนิ จงกรมอยนู น้ั แหละ นง่ั สมาธภิ าวนานน้ั แหละ
แตก เิ ลสมนั ทาํ งานอยบู นหวั ใจเรา ตัวสมุทัยไดแกความคิดความปรุงแตง เรื่องอดีต
อนาคตวุนไปหมด ถาคดิ ไปเพอื่ ความวนุ เชน นน้ั ไมใชทาง เปน เรอ่ื งการสง เสรมิ กเิ ลส
หรือสั่งสมกิเลสขึ้นอีก

ตองอาศัยหลักปจจุบัน คอื สติ ตดั ความเสยี ดาย ความหว งใยอาลยั ทง้ั หมดใน
เร่ืองอดีตซึง่ เปนโลกลวนๆ เรอ่ื งอนาคตถา เปน โลกลว นๆ เมื่ออดีตเปนโลกลวนๆ
อนาคตมนั ก็ตองเปนโลกลว นๆ เหมือนกัน ขาดสติเปนไปไดทั้งอดีตอนาคต หมุนติ้ว
อยภู ายในหวั ใจนน่ั แหละ ใหไ ดร บั ความทกุ ขค วามลาํ บาก ถา สตจิ อ ลงตรงไหนปจ จบุ นั
มีอยูตรงนั้น เราหกั หา มกนั ไดท ต่ี รงนน้ั เคยหกั หา มมาแลว น่ีไมใชม าสอนหมูเพื่อน
เฉยๆ เคยฟาดกันลงบางครั้งถึงน้ําตารวงก็มี จนกเิ ลสมนั ทว งตงิ เราวา เฮอ เอาถงึ
ขนาดนเ้ี ชยี วเหรอ ถาไมถึงขนาดนี้กิเลสมันจะหลุดลอยไปเหรอ วา อะไรเพยี งนาํ้ ตารว ง
เทา นว้ี ะ ตายก็ยังไมถอยนี่ อยา มาพดู เลยเพยี งนาํ้ ตารว ง เพียงกินเผ็ดน้ําตามันก็รวงไม
เห็นไดเรื่องอะไร ถูกควันไฟมันก็รวง หวั เราะมนั กร็ ว ง รอ งไหมนั กร็ วง มันไดเรื่องอะไร
ประสานาํ้ ตา น้าํ ไมเ ปนทา เปนทางกค็ อื น้ําตาน่นั เอง ผจู ะฆากเิ ลสไปสนใจเสียดายน้าํ ตา
อะไรกัน เรื่องจริงเรอื่ งจังท่จี ะเปนสาระแกนสารแกต วั คอื อะไร มนั เหนอื เรอ่ื งเหลา น้ี
เปนไหนๆ ฟาดกันลงไปใหหนักมือผูปฏิบัติเพื่อเอาตัวรอดนะ อยาฟงเสียงกิเลสยิ่งกวา
เสยี งธรรม

เราเหน็ โทษเรอ่ื งความเกลอ่ื นกลน วนุ วายกบั หมคู ณะ ในเวลาอยศู กึ ษาอบรมกบั
ครบู าอาจารย มาทาํ เหลาะๆ แหละๆ ใหเ หน็ ตอ หนา ตอตา เคยเหน็ มาแลว อยา ใหเ หน็
อีกนะ นไ่ี ดเ หน็ มาแลว ตอ หนา ตอ ตา ถึงขนาดที่เคยพูดกันอยางเต็มเม็ดเต็มหนวยกับ
หมคู ณะในเวลานน้ั มันก็เปนอยางที่พูดไมเห็นผิดไปนี่ เวลาอยกู บั ครบู าอาจารยม นั
ซอนเล็บนะ มันไมกางเล็บออกมา แตก เ็ หน็ เลบ็ ทซ่ี อ นอยจู นไดน น่ั แหละ

เวลาปราศจากครบู าอาจารยห รอื หา งเหนิ จากครบู าอาจารยไ ปแลว มนั จะกาง
เลบ็ ออกเลน เตม็ เพลงนน่ั แหละ “เพลงของกิเลส” นะ ใครมีของดิบของดีอยูในอุงเล็บที่
เขา ใจวา วเิ ศษวโิ สยงั ไง กจ็ ะนาํ ออกแสดงใหเ ต็มภูมินน่ั แหละ ทั้งๆ ทม่ี นั ไมว เิ ศษ คอยดู
ก็รูกัน แลว มนั กเ็ ปน แลว อยา งทกุ วนั น้ี นี่ถึงวาไมอยากพบไมอยากเห็นอีก กลัวอกแตก
ตาย

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๑

๑๑๒

มีจํานวนมากจํานวนนอย ใครอยาถอื ใครเปนตัวอยา งนอกเหนือไปจากหลกั
ธรรม ธรรมเทา นน้ั ทจ่ี ะทาํ ใหไ ดร บั ความรม เยน็ เปน สขุ สันติสุขในหมูคณะดวยกัน อยา
เขา ใจวา เรยี นมากรมู าก อยา เขาใจวา มฐี านะดี อยา เขา ใจวา เปน คนชน้ั นน้ั ชน้ั นน้ี า เกรง
ขาม มสี งา ราศี ซง่ึ เปน เรอื่ งของโลกเสกสรรกนั ตามอาํ นาจของวัฏวน อยา นาํ เขา มาเกย่ี ว
ของในวงของพระซึ่งมีแตธรรม คอื ความถูกตองดีงามลวนๆ เอาตรงนน้ั เปน แบบฉบบั
ของผูจะหนีทุกขคือวัฏวน

อยดู ว ยกนั ใครพดู ใหฟ งโดยเหตุโดยผล ผูพูดก็ใหพูดโดยเหตุโดยผล ผูฟงฟง
หาความจรงิ อยา ฟง หาเอาเรอ่ื งความมาทะเลาะกนั อยาฟงเอาทิฐิมานะ เมอ่ื ทฐิ มิ านะ
มนั เกดิ ขน้ึ ภายในใจแลว มันอัดอั้นตันใจในหัวใจตัวเอง เดี๋ยวมันก็กระเด็นออกมา
ระบาดออกมา ทะลักออกมาใหไดรับความกระทบกระเทือนตอเพื่อนฝูงดวยกันจํานวน
มากนอยจนได

วงปฏบิ ตั นิ ต้ี อ งเปนเหมือนอวัยวะเดยี วกนั มันถึงอยกู ันไดดว ยความผาสกุ ถา
ไมเหมือนอวัยวะเดียวกันแลวอยูดวยกันไมได ธรรมนนั้ แหละทจ่ี ะทําจติ ใจของแตล ะ
ทา นแตล ะองคท่อี ยจู าํ นวนมากน้ี ใหรวมเปนอันหนึ่งอันเดียวกันได ดวยความสัตย
ความจรงิ ดว ยความมงุ อรรถมุงธรรม ไมใชอ ะไรจะพาใหรวม อยา งอืน่ อยาเอาเขามา
เก่ียวของ

แมแตผมเองผูปกครองหมูเพื่อนอยูที่นี่ ทห่ี มเู พอ่ื นเสกสรรปน ยอวา เปน ครเู ปน
อาจารย เขา มาอาศยั ใหแ นะนาํ ตกั เตอื นสง่ั สอน ผมกไ็ มเคยถอื อํานาจวาสนาใหน อก
เหนอื ไปจากหลกั ธรรมหลกั วนิ ยั นเ้ี ลย ผมประกาศตัวตอหมูเพื่อนอยูเสมอ ถาผมผิด
แลว ใหว า ไดเ ลยไมต อ งเกรงอกเกรงใจ เพราะธรรมเหนอื ผมน่ี ทา นผนู าํ ธรรมมา
ตักเตือนสั่งสอนผม ผมจะไปขัดของหาสมบัติอะไร ถาขัดของก็ไมเปนธรรม ก็ไมค วร
จะอยูกับหมูกับเพื่อนตอไปละซิ สอนหมูเพอื่ นเพ่ือประโยชนอ ะไรเจาของไมเ ปน ธรรม
ถือทิฐิมานะ เอาทฐิ มิ านะมาเหยยี บยาํ่ ทาํ ลายธรรม แลว จะสอนหมเู พอ่ื นใหเ ปน สริ ิ
มงคลไดยังไง นเ่ี ราตระหนกั เสมอในใจของเรา เราจะใหส ง่ิ เหลา นเ้ี กดิ ขน้ึ มาไมไ ดท ง้ั ใน
ตวั เราและในวงคณะทอ่ี ยรู ว มกนั ฉะน้ันการสอนหมูเ พ่ือนทอ่ี ยูด ว ยกัน ตนเองก็พึง
ปฏิบัติอยางนั้น โดยถอื หลกั ธรรมเปน สาํ คญั และใหอภัยกันเสมอ เมตตากันเปน พน้ื
ฐาน

อยามองกันในแงร า ย ใหมองกันในแงเหตุผลและเมตตาตอกันเสมอ เพราะคน
เราความรแู ละอธั ยาศยั ใจคอไมเ หมอื นกนั ผูมีความรูมากก็มี ความรูนอยก็มี ผูโงผู
ฉลาดมสี บั ปนกันไป ผูหยาบผูละเอียดมี ใหต า งคนตา งระมดั ระวงั สิ่งใดที่มีอยูในตัว
เรา ยิ่งสิ่งใดที่เปนภัยตอหมูเพื่อนดวยแลว ใหระมัดระวงั และกาํ จดั ใหได อยาหวงไว

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๒

๑๑๓

เผาตวั เองและวงคณะ และอยาแสดงออกมาเปนอันขาด ซงึ่ เปน การขายตัวอยางเลว
รา ยทส่ี ดุ ใหอ ภยั ไมไ ดเ ลย นี่แหละคือหลักของการปกครอง ของการอยูรวมกนั เปน
อยา งน้ี จึงตองไดระมัดระวังเสมอ ประมาทไมไดตลอดไป

และเคยพูดเสมอวาการปกครองเปนของสําคัญ ไมใชมีเทาไรมาเทาไรก็เออๆ
อยูไปๆ มันไมใชอยางนั้น ตา งคนตา งหามตา งคนตา งหาบกเิ ลสเตม็ หวั ใจมาดว ยกนั ทกุ
คน เพราะเปนปุถุชนคนมกี เิ ลส ทาํ ไมจะไมห าบกเิ ลสหามกเิ ลสมาเตม็ หวั ใจละ และ
กิเลสมนั เคยลงกบั อะไรทไ่ี หนเม่ือไหร กับธรรมมันยังตอสู แมจะแพธรรมมันยังไม
ยอมถอยงายๆ สูจนมันตายทลายลงไปหมดทุกตัว เรื่องของมันกับธรรมจึงยุติ แม
ขนาดมนั ตายตอ หนา ตอ ตาของธรรม มีสตปิ ญ ญาเปน ตน มันยังไมยอมออกปากพูดวา
ยอมแพเ ลย ฟงซิ

กิเลสมันไมกลัวอะไรนอกเหนือไปจากธรรม เพราะฉะนน้ั จงึ ตอ งอาศยั ธรรม คือ
สตเิ ปน สาํ คญั ปญญาเปนเครื่องไตรตรองทดสอบพิจารณา เบกิ ทางเดนิ ไปเพอ่ื ความ
สงบเยน็ ใจแกต นเอง

ทางการปฏบิ ตั กิ เ็ อาใหจ รงิ จงั อยา เหลาะๆ แหละๆ อยา เลน อยา สาํ คญั วา วนั
คืนเดือนปเปนของมีคามีราคา มนั มคี า มรี าคาทไ่ี หน มดื กบั แจง เอาราคาํ่ ราคามาจาก
ไหน สถานท่ีโลกอนั นก้ี ม็ แี ตแผน ดิน ไปที่ไหนอยูที่ไหนก็อยูแผนดิน ใครสงู ใครตา่ํ ที่
ไหนกอ็ ยูกับแผน ดนิ ดวยกนั น้ี ใครจะวเิ ศษวโิ สไปทไ่ี หนถา ไมท าํ จติ ใจใหว เิ ศษวโิ สดว ย
ธรรม ซึ่งเปนของประเสริฐอยูแลว และเปนของคูควรกบั ใจ นอกนั้นไมมีสิ่งใดคูควรกัน
ใจเปน ภาชนะอนั เหมาะสมอยา งยง่ิ กบั ธรรม มเี ทา น้ี ใหพากันสนใจต้ังหลกั ตั้งเกณฑลง
ใหด ี

จติ ใจอยา งนอ ยใหไ ดร บั ความสงบ ทําไมจะสงบไมได เราฝก ฝนอบรมใจดว ย
ธรรมเพอ่ื ความสงบ พระพุทธเจา สงบไดดว ยธรรม ระงบั ไดด ว ยธรรม ปราบกเิ ลสให
ฉบิ หายวายปวงไปไดด ว ยธรรม พระสงฆส าวกทเ่ี ราถอื เปน สรณะ ทา นก็ทุกขล ําบาก
เพราะการปราบกเิ ลส ดว ยอรรถดว ยธรรมเหมอื นกนั การเขาสูสงครามจะไมทุกขได
อยางไร ตองทุกขดวยกัน จนไดเปนพระอรหันตขึ้นมา ใจบรสิ ทุ ธพิ์ ุทโธเหมอื นพระ
พุทธเจา เปน แตเ พยี งไมเ รยี กศาสดา สว นความบรสิ ทุ ธน์ิ น้ั เสมอกนั เหมือนกนั หมด
แตอ าํ นาจวาสนาความลกึ ตน้ื หนาบางนน้ั ตางกันกับพระพุทธเจา แตอยางไรก็ตาม นตฺ
ถิ เสยฺโยว ปาปโย หาความยง่ิ ความหยอ นตา งกนั ไมม ใี นความบรสิ ทุ ธ์ิ นั่นแลครูของ
พวกเรา สรณะของพวกเราทา นดาํ เนนิ อยา งนน้ั ตองยอมรับ คือรบั มาเปนคติเตือนใจ
ตวั เอง อยาใหลดละทอถอย

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๓

๑๑๔

จิตอยา ใหด ิ้นไปไหนได เราเปน ผฝู ก จติ จะยอมใหจ ติ ดน้ิ เหยยี บหวั เราไปตอ
หนา ตอ ตามเี หรอ ถาเปนอยางนั้นก็ไมใชนักปฏิบัติ กเิ ลสรนุ แรงขนาดไหน เรากร็ นุ แรง
ขนาดนน้ั เอา เปน กเ็ ปน ตายกต็ าย กิเลสมันดื้อขนาดไหนไมกินก็ไดขาวนี่วะ มแี ตท า จะ
ฝกทรมานมัน เอาจนอยหู มดั นน่ั แหละสมใจ

พระพุทธเจาทานยกอุปมาเรื่องนายสารถีฝกหัดมา มามีถึงสี่ประเภท ประเภท
ทห่ี นง่ึ เยย่ี ม เกอื บจะพดู ไดว าเปน ประเภทอาชาไนย ฝกไดงาย ใชไ ดป ระโยชนม ากมาย
รวดเรว็ ทนั ใจ ประเภทที่สอง ลดกันลงมา ประเภททส่ี าม ฝกยากพอประมาณ แตไมได
หนกั หนานกั พอฝกไดทําประโยชนได ประเภททสี่ ี่ ไมไ ดเ รอื่ งเลย ตองฆา นายสารถวี า
เพราะไมเ กดิ ประโยชน

เราตถาคตกเ็ หมือนกนั พอถึงตอนสุดทายก็บอกเราตถาคตก็ฆา เอะ พระพุทธ
เจาฆาไดยังไง พระพุทธเจา เปนศาสดาไมไดไปฆาสัตว ก็ชักสะพานยังไงละ ทา นวา
ปทปรมะ มืดแปดทิศแปดดานเหมือนไมมีหูมีตา ใจกม็ แี ตค วามมดื บอดอยภู ายในนน้ั
จะสอนใหเ ปน อรรถเปน ธรรม รอู รรถรธู รรม รูบาปบุญคุณโทษไดอยางไร กเ็ หมือนกบั
คนตายแลว ทง้ั ๆ ที่มีชีวิตอยูนั้นแล นน้ั จงึ ชกั สะพานไมส อนใหเ สยี เวลาและอรรถธรรม
ไปเปลา ๆ ออ ฆา อยา งนน้ั เทยี บกนั กบั สารถฝี ก หดั มา สป่ี ระเภท

เราไมใ ชป ระเภทปทปรมะนน่ี า เปนประเภทที่ฝกฝนอบรมได แตเ อาใหห นกั
หนอย ใหม นั ได ฝกเรา เราฝกคนอื่นวาคนอื่นยังมีเหตุมีอะไรๆ ภายในใจ ตวั เราเองผู
วา กย็ งั มคี วามเกรงอกเกรงใจกนั บา ง เราเองฝก ทรมานเราน้ี เอาใหไดเต็มเม็ดเต็ม
หนว ยอยา งใจหวงั นน้ั เลย ไมไ ดเ กรงอกเกรงใจตวั เอง เพราะเหน็ วา กเิ ลสคอื ตวั แสบท่ี
ขวางตัวเองตางหาก ไมใ ชเ ราขวางเรา กเิ ลสขวางเรา เราตอ งสู เอาใหจ รงิ ใหจ งั ใหพ งั
ทลาย จะไดชมตัวเองวาเกงจริง สมนามวา นกั บวชคอื นกั รบ

ถาลงไดต้งั ทาสกู นั ขนาดน้ันแลว ยังไงกิเลสก็ตองหมอบใหเห็น ใจสงบจนได
เหน็ ไหมเขาอยใู นโลก เคยพูดใหฟงเสมอ โลกนห้ี มุนไปตามสิ่งทีช่ อบใจทงั้ น้ันแหละ
รปู เสยี ง กลิ่น รส เครอ่ื งสมั ผสั เปนสิ่งที่โลกตองการและรักชอบที่สุดไมมีวันอิ่มพอ
และโลกกไ็ ดร บั ความฉบิ หายลม จม และบนเพอละเมอกันอยูทุกหยอมหญา เพราะสง่ิ
เหลา นเี้ องทาํ พษิ นะ แลว เราจะเอาคณุ คา อะไรจากสง่ิ เหลา น้ี

สวนผูเหน็ ธรรมแลว ไมมีใครท่ีจะบน นอกจากออกอุทานเทานัน้ อยางพระมหา
กปั ปนทา นวา สขุ ํ วต สขุ ํ วต สขุ หนอๆ นท่ี า นเคยเปน พระมหากษตั รยิ ม าแตก อ น
เสดจ็ ออกบวชจนไดเ ปน พระอรหนั ตข น้ึ มาแลว ทา นเปลง อทุ านวา สุขํ วต สุขํ วต สขุ
หนอๆ นน่ั แตกอนทานอยูในพระราชวังไมเคยเห็นออกอุทานวา สุขหนอๆ เวลาเสดจ็

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๔

๑๑๕

ออกจากสิ่งพัวพันทั้งหลายและสลัดภายในใจออกอีก จนกลายเปน ใจทบ่ี รสิ ทุ ธแ์ิ ลว อยู
ไหนกส็ ขุ หนอๆ สุขํ วต สุขํ วต

เรากเ็ อาใหไ ดซ ิ อยูที่ไหนก็ สขุ ํ วต ซิ ทานมหากัปปนมิไดผูกขาดนี่ นี่อยูกับผู
ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตั้งใจประพฤติปฏิบัติดวยสติปญญาอยานอนใจ นแ่ี ลทางแหง สุขํ
วต อยูตรงนี้ กเิ ลสจะตายไปดว ยความเพยี ร หรือกเิ ลสจะคอ ยหมดไปดว ยความเพียร
ไมไดหมดไปดวยสิ่งใด ใหท าํ ความเขา ใจกบั ตนไวเ สมอ อยาออนแอในการปฏิบัติ

สมาธิที่เคยไดยินแตชื่อก็จะปรากฏขึ้นที่ใจ มคี วามสงบเยน็ ภายในใจ มคี วาม
แนน หนามน่ั คงขน้ึ ทใ่ี จ ปญ ญาเมอ่ื มคี วามสงบพอเปน ปากเปน ทางเปน บาทเปน ฐาน
แลว ใหพ จิ ารณาอยา ขเ้ี กยี จ อยาติดสุขในสมาธิ อยา เขา ใจวา สมาธจิ ะทรงคณุ คา ใหเ ปน
ของเลอเลิศประเสรฐิ เพยี งแตค วามสงบตะลอ มกเิ ลสเขา มาสจู ดุ รวม เพอ่ื งา ยแกก าร
ถอดถอนดวยปญญาเทานั้นเอง ถาไมฆามันก็เพนพานไปไดอีก เมื่อตะลอมเขามาสม
ควรแลวก็คลี่คลายออกไปฆาทีละตัวสองตัว เหมอื นกบั เราไลส ตั วเ ขา คอก แลว จะฆา มนั
ทีละตัวสองตัว ฆา เรอ่ื ยๆ ฆาจนหมดคอกก็ไดเมื่อไลเขาคอกแลว น่สี มาธเิ หมอื นกับไล
สัตวเขาคอก คอื ไลก เิ ลสเขา มาสคู วามสงบ แลวคลี่คลายออกไปดวยปญญา แยกนน้ั
แยกนี้ออกพิจารณา

ดใู หเ หน็ อนจิ จฺ เํ ต็มรา งกายเตม็ จิตใจทาํ ไมจะไมรู รูปทั้งรูปนี้มีอาการใดที่ไมเปน
อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตตฺ า เหน็ เปน พน้ื อยชู ดั ๆ อยา งน้ี จะคา นความจรงิ ไปไหน อนจิ จฺ ํ แปร
สภาพอยูตลอดเวลา ทกุ ขํ ใครเปนทุกข กค็ อื ผแู บกผหู ามอยูนีแ้ หละ เวลานม้ี นั เปน
ทุกข อะไรจะเปนทุกข นอกจากผูแบกผูหามเปนทุกข คือ หวั ใจเราเอง เหน็ โทษแหง
ความหลงของตัวเองที่ไปแบกไปหามแลวเกิดทุกขขึ้นมา อนตตฺ า ปราศจากคาํ วา เปน
สตั วเ ปน บคุ คล เปน เราเปน เขา เปน ของเราของเขาไปหมดแลว ภายในรา งกายกด็ ี ภาย
ในจิตเจตสิกธรรมที่แสดงออกมาก็ดี ลว นแลว แตต วั อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา หากหลงไป
ตามมัน เจตสิกธรรมที่แสดงมานี้ก็เปนตัวสมุทัย กอ ตวั เปน พษิ เปน ภยั ขน้ึ มาแกเ รานน่ั
แหละ

ถา ใชป ญ ญาพจิ ารณาใครค รวญเขา ไป ใหเ หน็ เปน อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตตฺ า ชัดแลว
ส่ิงเหลานีก้ ็ระงบั ดับไปๆ ดบั ไปเรอ่ื ยๆ ไมพ น จากความจรงิ ขอใหพ ิจารณาหย่ังสติ
ปญญาลงไปถึงพื้นฐานแหงความจริง คอื อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา เถดิ นเ้ี ปน ความจรงิ ซง่ึ
เปน พน้ื ฐานอยภู ายในรา งกายจติ ใจของเรา ในขันธทงั้ หาน้ีมอี ันน้เี ปนพ้ืนฐานอยตู ลอด
กาล ที่จะตอ งพจิ ารณาใหเ ห็นตามความจรงิ ของมัน เรยี กวา ปญญา

หรอื จะพจิ ารณาเรอ่ื งอสภุ ะ ก็เอาใหม นั เหน็ ชดั ๆ ซิ ในตวั ของเราน้ี มันมีชิ้นไหน
เปนของดีที่หอมหวนชวนใหดม มีที่ตรงไหน แมแ ตผ วิ หนงั มนั กเ็ หมน็ จะวา ไง แลว เยม้ิ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๕

๑๑๖

เขาไปขางในมีอะไรอีก หนงั มนั บางยิง่ กวากระดาษ กระดาษยังหนากวา ผิวหนังท่ีหลอก
ตาเสยี อกี พจิ ารณาเขา ไปซิ อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา แลวยงั ไมแ ลว ดคู วามอสภุ ะอสภุ งั ปา
ชาผีดิบ ไมท ราบวา เปด วาไก วา หมู วา ววั วา ควาย วาอะไร เตม็ อยใู นนห้ี มดนน่ั แหละ
ในปา ชา ผดี บิ น้ี มนั รวมอยตู รงปา ชา ผดี บิ น้ี เรายงั ไมตาย เอา พวกนนั้ ตายแลว เขามา
ฝงอยูในนี้ เมอ่ื เราตายแลว กเ็ ปน ปา ชา ผตี าย ดูใหชัดซิ สติปญญามียอมอับจนอยูทําไม

แยกสว นแบง สว นดใู หม นั ชดั จติ หมนุ ตว้ิ ๆ อยูกับงานที่ทํา อยาใหออกไป
เพนพาน บังคับใหได ตายก็ตาย ในขณะที่จะประกอบความเพียรก็เหมือนกับขึ้นเวที
เผลอไมไดเดี๋ยวถูกน็อก ชักหรือตายไปเลยไมเพียงแตสลบ อันนี้ก็ทําอยางนั้นนัก
ปฏิบัติ อนจิ จฺ ํ กใ็ หเหน็ อยา งถึงใจ ดูขางนอกก็เหมือนกัน ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา ดอู นั นก้ี บั ขา ง
นอกก็เหมือนกัน ไมเห็นมีอะไรผิดกัน เพราะโลกนเ้ี ปน โลก อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา คาํ วา
อสุภะอสุภัง พจิ ารณาดเู ราแลว กเ็ หมอื นกนั อกี

โลกวิทูเปน คณุ สมบตั ขิ องสาวกดว ย โลกวิทู คอื รแู จง เหน็ จรงิ ภายในภายนอก
เพราะเปน สภาพเหมอื นกนั หมด อยา งนเ้ี รยี กวา โลกวทิ ู มไี ดท ว่ั ไปในสาวกทง้ั หลาย
คอื เปน คณุ สมบตั ขิ องสาวกดว ย สวนคุณสมบัติของพระพุทธเจาไมมีแตเพียงเทานี้ ยงั
หย่งั ทราบความจริงของสิ่งทง้ั หลายและสัตวทง้ั หลายทวั่ โลกธาตอุ กี ดวย โลกวิทู มี
หลายขน้ั หลายตอน

เราไมต อ งคดิ ไปโนน ไปนก้ี วา งขวางใหเ สยี เวลาํ่ เวลา หนา ทีข่ องเรามีแตจ ะให
เปน โลกวิทู รแู จง เหน็ จรงิ ในธาตขุ นั ธท ม่ี อี ยภู ายในตวั ที่ถูกกิเลสผูกมัดรัดรึงอยูดวย
อุปาทาน เพราะความลมุ หลงนเ้ี ทา นน้ั โดยไปสําคัญมั่นหมายเอาเอง ทางทานบอกไว
ไมยอมไป ชอบปลีกชอบแวะ ชอบปนสองขางทาง หกลมกมกราบขนาดไหนก็ยังไม
ยอมถอย ไมยอมไปตามทาง นน่ั แหละทเ่ี รยี กวา เปนขาศึกตอมัชฌิมาปฏิปทา ฉะนั้น
ตองฝนมัน ตอสูมันลงไปซิ ถอยเอาประโยชนอะไร

เมอ่ื รแู จง เหน็ จรงิ ในเรอ่ื งธาตเุ รอ่ื งขนั ธแ ลว กิเลสมันจะไปไหน กเิ ลสเกดิ ขน้ึ จาก
ความสาํ คญั เมอ่ื แกค วามสาํ คญั ดว ยความจรงิ แลว มันก็ถอนตัวไปๆ ฟาดกนั ใหส ะบน้ั
หน่ั แหลกลงไป กิเลสถอนเขาไปไหน กเ็ ขา ไปหาจติ ดวงเดยี วเทา นน้ั แหละ เมอ่ื มนั หมด
ท่ยี ึดทเี่ กาะเขา ไปโดยลําดับแลว เพราะอํานาจของสติปญญาตีตะลอมเขาไปๆ วงแคบ
เขา ไปๆ สุดทายมันก็ไปกองอยูในจิต ปลอยนิวเคลียรห ยอ นลงในจิตอีกซิ สติปญญา
อัตโนมัติอยางไรละ ธรรมนวิ เคลยี ร

นวิ เคลยี ร หมายถึงอะไร ปรมาณู หมายถึงอะไร จะทาํ ลายขา ศกึ วาระสดุ ทา ยเอา
ชยั ชนะ ก็คือ มหาสติ มหาปญญา ละซิ หยั่งลงไปตรงนนั้ ใหก ิเลสขาดสะบั้นแตก
กระจายไปหมด ทีนี้ภพชาติอยูที่ไหน เมื่อกิเลสซึ่งเปนตัวภพ เปนตัวใหกอภพกอชาติ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๖

๑๑๗

ถูกทําลายลงไปหมดดวยอํานาจของอาวุธที่ทันสมัยไดแก มหาสติ มหาปญ ญา แลว
ขา ศกึ กห็ มดเทา นน้ั แหละ นี่ละงานของพระ

งานของผูตองการพนจากกองทุกขในวัฏสงสาร ไมตองมาเกิดแกเจ็บตายอีก
คอื งานการประกอบความพากเพยี ร นับแต เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ ทพ่ี ระ
อุปชฌายะมอบใหแตเบื้องตนจนถึงวาระสุดทาย ตีแตกกระจายไปหมด งานนน้ั แตก
แขนงไปเรือ่ ยๆ ตามความฉลาดความสามารถของตัวเอง จะทาํ งานใหไ ดม ากและกวา ง
ขวางขนาดไหนไดทั้งนั้นเมื่อสติปญญามีแลว เอาจนกระทั่งไมมีอะไรเหลือเลย สน้ิ สดุ
วมิ ตุ ตพิ ระนิพพานภายในจติ ใจ นน่ั แหละเรยี กวา เสรจ็ งาน งานไดท าํ สาํ เรจ็ แลว ไมตอง
ทําเพื่อการถอดถอนกิเลสตัวใดอีก นี่แลงานของพระ ใหพ ากนั จาํ ใหถ ึงใจ วา งานนค้ี อื
งานแทข องพระเรา

อยา ไปคดิ วา บวชมาแลว ไดไ ปกอ นน้ั สรา งนไ้ี วเ ปน ทร่ี ะลกึ สรา งวดั สรา งวาแลว
ยังไมแลว สรา งพระพทุ ธรปู ปฏมิ ากร สรางโบสถ สรา งวหิ าร สรา งศาลาโรงธรรม สรา ง
เจดียมหาเจดียยุงไปหมด กอกวนบานเมืองยุงไปหมดดวยเงินดวยทอง วา เปน งานเนอ้ื
งานหนังของพระ วา เปน สมั มาทฏิ ฐิ สมั มาสังกัปโป น่ันมันเปนงานของประชาชนเปน
สว นใหญจ ะขวนขวายกนั นน่ั เปน มรรคขน้ั หยาบสาํ หรบั ประชาชนทอ่ี ยใู นฐานะจะทาํ ได
เพราะเกีย่ วกับสมบตั เิ งินทอง สว น สัมมาสงั กัปโป ขน้ั ละเอยี ดทจ่ี ะฆา กเิ ลสภายในจติ
ใจ เลยกลายเปน มจิ ฉาสงั กปั ปะ ในมรรคสวนละเอยี ดไปเสยี โดยไมร ูสกึ ตัว เพราะ
ความกงั วลวนุ วาย ขยายกิเลสใหออกวิ่งเพนพานเขาบานเขาเมือง กนไมติดพื้นกุฎีแต
ละวนั เวลาทผ่ี า นไป ยน เขา มาซิ ถา อยากทราบทห่ี ลบซอ นของกเิ ลสดว ยความฉลาดตาม
องคม รรคจรงิ ๆ

สมั มาทฏิ ฐิ ความเหน็ ชอบ เหน็ อะไรเหน็ ชอบ ใหเ หน็ ชอบตามงานทท่ี า นสอน
ไวซ วิ า เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มันคืออะไร หยั่งลงไปทั้ง อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา
หยั่งลงไปทั้งอสภุ ะอสภุ งั ใหเ ห็นชอบตามที่ทานสอนไวน ซ้ี ิ งานเพอ่ื ความเหน็ ชอบ
อยางแทจริงอยูตรงนี้กอนอื่น

สมั มาสงั กปั ปะ ความดําริเพื่อออกจากเครื่องผูกพัน อะไรเปนเครื่องผูกพัน ก็
ความหลงสง่ิ เหลา นแ้ี หละเปน เครอ่ื งผกู พนั พจิ ารณาใหเ ขา ใจดว ยปญ ญาแลว มนั ถอน
ตัวเองโดยไมตองบังคับขับไสแหละ

สมั มากมั มนั ตะ เดนิ จงกรมบา ง นง่ั สมาธภิ าวนาบา ง อยใู นทาใดอริ ยิ าบถใด มี
แตก ารทาํ งานดว ยความมสี ติ เพื่อการถอดถอนกิเลสโดยถายเดียว นน่ั แหละ
สัมมากัมมันตะ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๗

๑๑๘

สมั มาอาชวี ะ เลี้ยงชีพชอบ ดว ยอารมณอนั เปน ธรรมของจติ อยาไปคิดอารมณ
ท่เี ปนพษิ เปน ภยั ขึน้ มาเผาลนตนเอง มีแตอารมณแหงอรรถแหงธรรมเปนเครื่องถอด
ถอนกิเลส เปน เครอ่ื งเลย้ี งจติ ใจใหม คี วามรน่ื เรงิ บนั เทงิ มคี วามสงบเยน็ ใจ มคี วามสงา
ผาเผย มคี วามฉลาดรอบตวั ไมน าํ อารมณอ ันเปน พษิ เขา สูใจ นั่นแลสัมมาอาชีวะแท

สมั มาวายามะ เพียรชอบ ทา นกบ็ อกวา เพยี รในทส่ี ส่ี ถาน เพยี รละบาป บาํ เพญ็
บญุ เพียรปองกันบาปที่ยังไมเกิดไมใหเกิดขึ้น เพยี รละกเิ ลสทม่ี นั เกดิ ขน้ึ แลว ใหม นั ดบั
ไป แลวอบรมธรรมที่ยังไมเกิดใหเกิดขึ้น ธรรมทเ่ี กดิ ขน้ึ แลว ใหเ จรญิ ยง่ิ ขน้ึ โดยลาํ ดบั ลาํ
ดา ไมใหเสื่อมเสียไป ปธาน ความเพยี รสอ่ี ยา ง ทานกพ็ ดู ไวแ ลว

สมั มาสติ ระลึกอยูที่ไหน ทา นบอก ถาจะไปทางสติปฏ ฐานสี่ก็ระลกึ อยูในกาย
กาเย กายานปุ สสฺ ี วหิ รต.ิ อธิ ภิกฺขุ อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานปุ สสฺ ี วิหรต,ิ พหิทฺธา
วา กาเย กายานปุ สสฺ ี วหิ รต.ิ อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา กาเย กายานปุ สสฺ ี วิหรต,ิ
สมทุ ยธมมฺ านปุ สสฺ ี วา กายสมฺ ึ วิหรต,ิ วยธมมฺ านปุ สสฺ ี วา กายสมฺ ึ วิหรต,ิ
สมทุ ยวยธมมฺ านปุ สสฺ ี วา กายสมฺ ึ วิหรต.ิ พจิ ารณากายในกายไปเรอ่ื ย กายนอกก็มี
กายในก็มี พิจารณาใหเห็นกายนอกก็ดี เหน็ กายในกด็ ี พิจารณาเห็นกายในกายของตัว
เองก็ดี ไลล งไปโดยลาํ ดบั ๆ เมอ่ื เหน็ แลว กอ็ ยู อยดู ว ยความสงบสขุ ๆ นเ่ี รยี กวา
พจิ ารณากายในกาย

ในบทสดุ ทา ยทา นยน เขา มาวา อตถฺ ิ กาโยติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฐิตา โหต,ิ
ยาวเทว ญาณมตตฺ าย ปตสิ สฺ ตมิ ตตฺ าย. อนสิ สฺ โิ ต จ วิหรติ น จ กิฺจิ โลเก อุปาทิ
ยติ. เอวํ โข ภิกฺขุ กาเย กายานปุ สสฺ ี วิหรต.ิ ทานพูดถึงเรื่องสติหยั่งลงไหน หยง่ั ลง
กาย ถา จะพจิ ารณากายพจิ ารณาจรงิ ๆ ใหม สี ตริ อู ยกู บั กายเทา นน้ั สติควบคุมอยูกับ
กายนเ้ี ทา นน้ั จะแยกไปสวนใดอวัยวะใดแงใดของกาย ใหมสี ตสิ ืบเนือ่ งไปโดยลําดับ

แลวพิจารณาเวทนาก็เหมือนกัน ใหส ตติ ดิ แนบไปกบั งานเลย ใหมีความรอู ยู
จาํ เพาะกบั เวทนาเทา นน้ั ไมใหแยกใหแยะไปไหน

เรื่องธรรมเรื่องจิตก็เหมือนกันกับกาย เวทนา ไมผิดกันอะไรเลย ลงอันเดียวกัน
อตถฺ ิ กาโยต,ิ อตถฺ ิ เวทนาติ, อตถฺ ิ จติ ตฺ นตฺ ิ, อตถฺ ิ ธมมฺ าติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฐิ
ตา โหต.ิ เหมอื นกนั นน่ั แหละ ลงอันเดียวๆ กันหมด คอื สตใิ หร ะลกึ อยูในสถานทนี่ ้ี
สถานใดสถานหนง่ึ กต็ าม ใหจริงจังในสถานที่พึงเปนที่ระลึกของสติ นเ่ี รยี กวา ระลกึ
ชอบและถูกตองดวย หาความผดิ เพย้ี นไปไมไ ดเ ลย

หรอื จะพจิ ารณาถงึ เรอ่ื ง ทุกข สมทุ ัย นโิ รธ มรรค มันก็อยูในวงสติปฏฐานสี่อัน
เดียวกัน พูดอะไรก็เหมือนกัน เหมือนกับดูขางหนาขางหลังของคนๆ เดยี วนน่ั แหละ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๘

๑๑๙

ขางหลังก็ของคนๆ นน้ั เสยี ขางหนาก็ของคนๆ นน้ั เสยี ขางซายขางขวาก็ของคนๆ นน้ั
เสยี คนๆ เดยี วนน่ั แหละ วงสัจธรรมเหมอื นกนั พจิ ารณาใหจ รงิ จงั สําคัญอยูที่สติผู
ตามรบั รงู านนน้ั ๆ นี่แตกอนก็ไมเหมือนทุกวันนี้ มาพิจารณามันยอนไปทุกแหงทุกหน
นน่ั แหละตามประสปี ระสาของเรา นอ่ี า นดู สติปฏฐาน นแ่ี ลว กาํ หนดตาม แหมจิตมัน
คลอ ยตาม

ตามความรูสึกของผม ผมพูดตามความจริงทางการปฏิบัติมา อนัตตลักขณสูตร
จิตใจยังขัดกัน มนั เปน จรงิ ๆ ผมจงึ ทาํ ความเขา ใจเอาวา ผรู จนาน้อี าจตัดออกเสียตอน
ใดตอนหนึ่ง หรอื จะวา เทศนซ าํ้ ๆ ซากๆ ปกิณกะอะไรอยางที่ทานวาซ้ําๆ ซากๆ เลยข้ี
เกยี จ ทานยน เอายอ ๆ เสยี บา ง

จะพูดไปตามแถว เวทนา สญั ญา สังขาร วญิ ญาณ มนั กไ็ มเ หนอื จติ ตองไปเขา
จิตจนไดอยูโดยดี รปู สสฺ มปึ  นพิ พฺ ินฺทติ, เวทนายป นพิ ฺพินทฺ ติ, สญฺ ายป นพิ ฺพนิ ทฺ ติ
, สงขฺ าเรสปุ  นพิ พฺ ินทฺ ต,ิ วิ ญฺ าณสมฺ ปึ  นพิ พฺ นิ ทฺ ต.ิ เบอ่ื หนา ยในรปู ในเวทนา
สัญญา สังขาร วญิ ญาณ นพิ พฺ ินฺทํ วิรชฺชติ. ยอ มคลายกาํ หนดั เมอ่ื คลายกาํ หนดั จติ
ยอมหลุดพน เมื่อจิตหลุดพนแลว ญาณความรแู จง วา จติ หลดุ พน แลว ยอ มมี

เวลาเรามาเทยี บมาพจิ ารณาตามน้ี มันไปไมได เมื่อไปถึงแคขันธหา คือรูเทา
ขันธหาพูดงายๆ รเู ทา ในขนั ธห า คอื รปู เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรอื เบอ่ื หนา ย
ก็หมายถึงความเห็นโทษของมันอยางชัดเจนนั้นเอง จะวา การพจิ ารณานน้ั เหน็ ชดั จาก
เหน็ โทษแลว กเ็ หน็ เปน ความจรงิ แตล ะอยา งๆ แลว มันยังไมแลว

การพจิ ารณาเหน็ ความจรงิ แตล ะอยา งๆ ไมยึดถือแลว มันวิ่งเขาไปถึงใจ ไปยึด
อยูในใจจนได เมื่อกิเลสวิ่งเขาไปอยูที่ใจ ความยึดมั่นถือมั่นมันยังมีอยูที่ใจนั่นอีก จงึ
ตองพิจารณาฟาดฟนลงในจิตอีกทีหนึ่ง จนกเิ ลสในจติ พงั ทลายลงไปแลว มนั ถงึ หมด
ปญ หา นล่ี ะการปฏิบัติของเรามนั ขดั ตรงน้ี เราเคยแยม ๆ ถามพวกปฏิบัติทั้งหลาย พูด
ไปแบบสมุ ๆ เดาๆ เราขเ้ี กยี จพดู และฟง เลยหยดุ เสยี

ที่หาที่คานไมไดก็คือ อาทิตตปริยายสูตร นเ่ี ราคา นไมไ ดเ ลย การปฏบิ ตั ิเวลา
เอาสตู รนม้ี าเทยี บเคยี งกนั แลว กราบสนทิ คือมันลงไดอยางสนิท อะไรๆ ทานกว็ า ไป
อยา งละเอยี ด จกฺขสุ มปึ  นพิ พฺ นิ ทฺ ต,ิ รูเปสุป นพิ ฺพินฺทต,ิ จกขฺ วุ ิ ญฺ าเณป นิพฺพนิ ทฺ ต,ิ
จกขฺ สุ มผฺ สเฺ สป นพิ พฺ นิ ฺทต,ิ ยมฺปทํ จกขฺ สุ มผฺ สสฺ ปจจฺ ยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ, สขุ ํ วา
ทกุ ขฺ ํ วา อทกุ ขฺ มสขุ ํ วา, ตสมฺ ปึ  นิพฺพินทฺ ติ. คอื เบอ่ื หนา ยในตา แลว กเ็ บอ่ื หนา ยใน
รปู เบอ่ื หนา ยในวญิ ญาณทเ่ี กดิ จากน้ี เบอ่ื หนา ยในสมั ผสั ในเวทนา สุขก็ดี ทุกขก็ดี ไม
สขุ ไมทุกขก็ดี นเ่ี ราจะสรปุ ไปเลย คอื ตา หู จมกู ลน้ิ กาย ใจ กับ รปู เสยี ง กลิ่น รส
เครอ่ื งสมั ผสั ธรรมารมณ เปนคๆู กันไป

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๑๙

๑๒๐

เมอ่ื เบอ่ื หนา ยในตากเ็ บอ่ื หนา ยในรปู เบอ่ื หนา ยในหกู เ็ บอ่ื หนา ยในเสยี ง ออก
ไปอยางนี้เลย ตลอดถงึ ความสัมผัสทเ่ี กดิ เวทนา เปน สขุ เปนทกุ ข เปน เฉยๆ เบอ่ื หนา ย
เปน ลาํ ดบั ๆ สุดทาย มนสสฺ มปึ  นพิ พฺ นิ ทฺ ติ นน่ั ตรงนแ้ี หละเบอ่ื หนา ยในจติ ธมเฺ มสปุ 
นิพพฺ นิ ทฺ ติ เบอ่ื หนา ยในธรรมารมณท เ่ี กดิ ภายในจติ ออกจากนน้ั ก็เบ่อื หนายทั้งเวทนา
สุขทุกขไปเรื่อยๆ จนไมม อี ะไรเหลอื เลย

เบอ่ื หนา ยในจติ แลว ยงั เบอ่ื หนา ยสง่ิ ทเ่ี ขา มาเกย่ี วขอ งกบั จติ ทั้งจิตแสดงออกมา
เปนผล คือเปนสุข เปนทุกข เปน เฉยๆ ออกจากน้ันพอเสร็จแลวก็ นิพฺพินทฺ ํ วิรชฺชติ
แลวกเ็ รอื่ ยไปจนตลอดสาย วริ าคา วิมจุ ฺจต,ิ วมิ ตุ ตฺ สมฺ ึ วมิ ตุ ตฺ มติ ิ ญาณํ โหติ, ขีณา
ชาต,ิ วสุ ติ ํ พรฺ หมฺ จรยิ ,ํ กตํ กรณยี ํ, ไปเรื่อย อนั นน้ั เหมอื นกนั แตสําคัญไปลงที่จิตนะ
ซิ

จิตเปนของสําคัญ เปนท่รี วมของกเิ ลสทกุ ประเภท จะพจิ ารณาประเภทใดกต็ าม
ลงไปอยูที่นั่นหมด หลักปฏบิ ัติเปน อยา งน้ี นเ่ี ราพดู จรงิ ๆ เราพดู อยา งอาจหาญ เพราะ
เราปฏบิ ตั มิ าอยา งนน้ั เวลาปฏบิ ตั มิ นั คา นกนั ทต่ี รงไหน มันแยกกันที่ตรงไหน เราพดู
ไดต ามความแยก สว นถกู หรอื ผดิ แลว แตใ ครจะนาํ ไปพจิ ารณา

แตส าํ หรบั อนัตตลักขณสูตร เราเปน ความไมส นทิ ใจอยา งนน้ั แหละตามความรู
สึกของเรา เรายกไวเ สยี ก็ไมเห็นจะไดเรื่องไดราวอะไร อันไหนที่มันลงกันอยูแลวก็
ยอมรบั กันไป เชน อาทิตตปริยายสูตร น้ลี งกนั รอ ยเปอรเซ็นตหาทค่ี านกนั ไมได ตั้งแต
ตน จนอวสาน มนสสฺ มปึ  นพิ ฺพนิ ฺทติ, ธมเฺ มสปุ  นพิ พฺ นิ ทฺ ติ เรื่อย…..มโนวิ ญฺ าเณป
นิพฺพินทฺ ติ, มโนสมผฺ สเฺ สป นพิ พฺ นิ ทฺ ติ, ยมฺปทํ มโนสมผฺ สสฺ ปจจฺ ยา อุปฺปชฺชติ เวทยิ
ต,ํ สุขํ วา ทกุ ขฺ ํ วา อทกุ ขฺ มสขุ ํ วา, ตสมฺ ปึ  นพิ ฺพินทฺ ต.ิ นน่ั รวมยอดมากเ็ บอ่ื หนา ย
เหลา นห้ี มด

คาํ วา ตสมฺ ึ นห้ี มายถงึ โยคเอาตวั ทพ่ี ดู มาแลว นน้ั มาเปน สรรพนาม โยคเอาวา
เขา คาํ เดยี วนน้ั เชน นาย ก, นาย ข, นาย ค, นาย ง, พอสดุ ทา ยกเ็ ขาเหลา นน้ั หรอื เขา
เทา นน้ั นี่ก็เหมือนกัน รวมปุบปบ ตสมฺ ปึ  นพิ ฺพินทฺ ติ ลงหมด นพิ พฺ ินทฺ ํ วิรชฺชต,ิ วิ
ราคา วมิ จุ จฺ ต,ิ ตลอดสายเลย

นเ่ี วลาปฏบิ ตั ขิ องเราเปน อยา งนน้ั จรงิ ๆ ก็เคยพูดใหหมูเพื่อนฟงแลวนี่ ตอมา
พิจารณาอะไรกพ็ จิ ารณาไมไดเรือ่ ง รปู พจิ ารณากไ็ มไดเร่ือง อสุภะอสภุ ังเคยพิจารณา
เสยี จนแหลกกระจดั กระจาย ชาํ นชิ าํ นาญคลอ งแคลว แกลว กลา พิจารณาไปๆ เลยหมด
อสุภะก็เลยหมดไมมีเหลือที่จะพิจารณา ทีแรกมันไมหมด พอยอนเขามาถึงภาพภายใน
นแ้ี ลว อสุภะภายนอกมันก็หมด ภายในมนั ก็หมด มนั เลยวา ง จะพจิ ารณาอะไรมนั กไ็ ม

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๐

๑๒๑

ทัน มนั ดบั ไปเสยี กอ น ถึงทันมันก็ไมสนใจที่จะพิจารณา มนั เปน อยา งนน้ั อะไรๆ มันก็
วางไปหมดในรางกาย และหมดความสนใจที่จะพิจารณารา งกายอีกตอไป

สุดทา ยกิเลสก็ไปอยทู ่จี ติ ก็ไปหลงอยูที่จิต งงอยูที่จิต สงวนอยูที่จิต จะวาแบกก็
แบกหามอยูที่จิตไมรูตัว รกั สงวนจติ มีอะไรมาแตะตองไมได ความสงา ผา เผยกต็ วั นน้ั
แหละ ตวั รกั สงวนกอ็ ยนู น้ั แหละ อยางอน่ื มันพจิ ารณาหมดแลว ปลอยไปหมดไมสนใจ
กับอะไร แตตรงจิตนั้นมันไมปลอย มันยึดที่จิต

ปลอ ยนอกแลว กม็ ายดึ ใน ปลอยนอก รปู เสยี ง กลิ่น รส เครอ่ื งสมั ผสั เปนนอก
อนั หนง่ึ ปลอยนอก คอื รปู เวทนา สัญญา สังขาร วญิ ญาณ นี่เปนนอกอันหนึ่ง แลว มา
ยดึ ภายในซง่ึ เปน ตวั การสาํ คญั คือยึดใจ นน่ั กเิ ลสเขา ไปรวมอยใู นนน้ั หลอกใหย ึดอีก
แลว ใครจะวา อวชิ ชาไมล ะเอยี ดเหรอพจิ ารณาดซู ิ ละเอียดขนาดไหนอวิชชา นน้ั ละตวั
การสาํ คญั จรงิ ๆ ทาํ ใหห ลงไมว า สตปิ ญ ญาขนาดไหน มันจะตองงงไปเสียกอน แตห ลง
ไมน านเทา นน้ั แหละ เมื่อฟาดฟนลงไปตรงจุดนั้นพังทลายลงไปแลว ทนี ไ้ี มเ หน็ วา อะไร
มีอะไรที่จะใหพิจารณา มีอะไรที่ตกคาง มีอะไรที่ใหสงสัย ไมม เี ลย

จะแยกไปถึงพระพุทธเจา พระพุทธเจานิพพานกี่ปกี่เดือนแลวคืออะไร นพิ พาน
อยูที่ไหน ตัวนิพพานนั้นคืออะไร มันก็หมดปญหาโดยประการทั้งปวง พระสงฆส าวกจะ
กี่หมื่นกี่ลานองคก็ไมมีปญหาอะไร พอเขา ถงึ ตรงนน้ั แลว เทา นน้ั เปน อนั วา ลบไปหมด
เรอ่ื งความสาํ คญั มน่ั หมายตา งๆ ไมม ีอะไรเหลอื ขน้ึ ชอ่ื วา สมมตุ ใิ นโลกนเ้ี ขา ครอบจติ
นั้นไมได นอกจากความจรงิ ลวนๆ ทเ่ี ปน ความจรงิ อนั วเิ ศษเทา นน้ั

จะวาอยูก็อยู จะวาไปก็ไป ไมคานใคร น่แี ลผลของงานที่ปฏบิ ัติอยา งเอาจริงเอา
จัง ไปไหนไมไดตองมาลงตรงนี้ ฉะนน้ั จงเชอ่ื ธรรม อยาเชื่อกิเลส เราเคยเชอ่ื กเิ ลสมาก่ี
กัปกี่กัลปแลว ไมเ ฉพาะอตั ภาพนเ้ี รากเ็ คยเชอ่ื มนั มาแลว ความโลภมนั เคยพาใครดี
ความโกรธ ความหลงมนั เคยพาเราไดด บิ ไดด อี ะไรบา ง ราคะตัณหามันพาเราไดดิบได
ดอี ะไรบา ง การแกส ิ่งเหลา น้ีถงึ จะยากลาํ บากขนาดไหนก็ไมถงึ ตายหรอกนะ พระพุทธ
เจา ไมเ หน็ ตาย สาวกไมเ หน็ ตาย ทาํ ไมเราจะตายคนเดยี ว มปี า ชา แตเ ราคนเดยี วใน
เวลาประกอบความเพยี รนห้ี รอื มนั เปน เพราะเหตไุ ร ซกั เจา ของเขา ไปซถิ า เปน นกั
ปฏิบัติ นกั สตปิ ญ ญาทจ่ี ะคน ควา หาความจรงิ ตองขุดตองคนเขาไป ใหเปนอุบายวิธี
ของแตละทาน ๆ ที่พูดนี้เพียงแตหยิบยกไมชิ้นใหญหรือไมทั้งดุนไมทั้งทอนใหไป
เจยี ระไนเอง ใหไปเลื่อย ไปไสกบลบเหลย่ี มกนั เอง นย่ี กใหเ ทา นน้ั

เอาใหจ รงิ ใหจ งั มรรคผลนพิ พานคอยอยกู บั หวั ใจทกุ คนนน่ั แหละ ไมไดอยูที่
ไหน อยูที่ใจ เปนแตเพียงตัวสมุทัยนี่มันครอบไวหมด มนั ไมใ หเ หน็ ตวั มรรคผล
นพิ พานทอ่ี ยภู ายในนน้ั มันปดมานไวหมดเสีย หมุ หอ ไวห มดเสยี ไมใ หเ หน็ หลอกเรา

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๑

๑๒๒

เรอ่ื ยมา อันไหนจะเปนไปตามมัน มนั หลอกเราไปลากจงู เราไป จงเขา ใจใหด นี ะ อยา

เสยี กลใหก เิ ลสอกี

เอาเทา นก้ี อ น

<<สารบัญ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๒

๑๒๓

เทศนอ บรมพระ ณ วดั ปา บา นตาด
เมอ่ื วนั ท่ี ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๒๒

ยดึ แบบฉบบั ของผเู หน็ ภยั

ผูทรงประเพณี อันเปนทางดําเนินเพื่อความพนทุกขของพระพุทธเจาไวไดคง
เสนคงวาไมออนขอยอหยอน ตองเปนผูเดินตามทางศาสดา ไมปลีกไมแวะออกนอกลู
นอกทาง เฉพาะอยา งยงิ่ งานจิตตภาวนาอนั เปน งานชนั้ เอกของศาสดาและสาวกทงั้
หลาย ตองถือเปนงานสําคัญมากยิ่งกวางานอื่นใด นั่งก็ใหเห็นโทษของกิเลสภายในตัว
อยเู สมอ ยนื เดนิ นอน ขบฉนั ตลอดอาการเคลอื่ นไหวทุกสงิ่ ทกุ อยางใหม ีความรูสกึ
คือสติ อนั เปน ลักษณะของผเู ห็นภยั อยูเสมอ นน่ั แหละเปน ความถกู ตอ ง เพราะฉะนน้ั
จึงไดพูดกับทานสิงหทองวา มันเปนยังไงกันนี่ จึงพากนั ซดซา ยซดขวาอยา งสนกุ
เพลดิ เพลนิ นไ่ี มใ ชพ ากนั ลมื ครอู าจารยแ ละธรรมไปหมดแลว หรอื มองดูถวยวางเปน
แถวกันอยางนี้ นบั แตพ ระเถระเถโรลงมาจนถงึ เณรหวั เทา กาํ ปน ไมมีเวนที่ไมซดกัน
นะ ไปเอาแบบไหนมาใช จงึ วางไวเ ปน ถว ยๆ แลว ซดกันเปน แถวๆ อยา งน้ี อรอยดี
ไหม รสน้ําแกงพอจะกลอ มลิ้นใหเคลิ้มหลบั ในขณะกําลังน่งั ฉนั นงั่ ซดเพลนิ ๆ ไดไ หม
ลน้ิ นบั วา เกง มากธรรมตามไมท นั เลย

เราเคยอยกู บั ทา นอาจารยม น่ั มาแลว ดว ยกนั ทําไมจึงตองใหเปนอยางนี้ เขา ใจ
วา ทา นอาจารยม น่ั โงไ มฉ ลาดเหมอื นเราอยา งนน้ั หรอื นั่นมันโงตอรสของตัณหา โงตอ
ลิ้นตอปากตอทองตางหากนี่ นน่ั คอื ความเพลนิ ในรส นน่ั คอื ความไมเ หน็ ภยั ตาม
ปฏิสงฺขา โยนิโส ปณฺฑปาตํ ปฏเิ สวามฯิ ทท่ี า นตไี วข นาบไวน ่ี นน่ั คอื ความตดิ รสตดิ
ชาติ ความเหน็ แกค วามเอรด็ อรอ ยอนั เปน ขา ศกึ ตอ ธรรมตา งหาก เรอื่ งธรรมแลว
ละเอียดสุขุมมากสุดจะกลาวไดถูกตองกับความจริง นเ่ี ราอยา เขา ใจวา เปน ธรรมดา
ของโลกนิยม นอกจากจะเปน ธรรมดาของผูดื้อดานสนั ดานเลวไมยอมฟงครอู าจารยผู
มธี รรมนยิ มเตม็ หวั ใจเทา นน้ั อยาพากันเอากิเลสมาแขงธรรมอวดครูอาจารย จะเปน
พระสันดานดื้อแตกปลอกแหวกแนวแบบสัตวไมมีเจาของและขึ้นเขียงไดอยางงายๆ

อยางทานอาจารยมั่นทานแสดงออกมา เราซึ้งใจมากและฝงลึกไมมีวันถอน ยง่ิ
ซึ้งเขาไปทุกวัน ทา นวา ผมไมทราบเปนยังไง พอเอาชอ นตกั ลงไปในบาตรมนั ขวางใน
จิตทันทีเลย นน่ั ฟง ซคิ าํ วา “ขวางในจติ ” จติ ทา นอาจารยม น่ั กบั จติ เรามนั เปน ยงั ไง
พจิ ารณาซถิ า อยากทราบความจรงิ จิตทานเปนจิตไมมีกิเลส สง่ิ ทเ่ี ปน กเิ ลสกริ ยิ าอนั
เปน กเิ ลสแทรกเขา ไปทา นรทู นั ที การทาํ อยา งนัน้ มันไมใชล กั ษณะของความเหน็ ภัย
ทา นวา มีอะไรก็ฟาดมนั ลงไปในบาตรใบเดยี วน้ัน มีมากมีนอยไมสนใจกับอาหารดีไม

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๓

๑๒๔

ดี มีมากมีนอยเทาไรก็ฉันไปตามเรื่องของธาตุของขันธ พอยงั ชีวติ ใหเ ปนไปเทานนั้
ไมฉนั เพราะอํานาจปากล้นิ ฉุดลากไป นน่ั จงึ ชอ่ื วา ผเู หน็ ภยั

ระหวางคําพูดของทานผูไมมีกิเลสพูด กบั ความรสู กึ ของเราการกระทาํ ของเรา
ทมี่ ีกิเลส มันขัดแยงกันอยูตลอดเวลาดังที่รูๆ เหน็ ๆ อยนู แี่ ล จงพากันฟงอยางถึงใจ
ถา เราจะเอา พทุ ธฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ เปน หลกั ใจ สงฆฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ พระสงฆที่เปน
สรณะในวงปจ จบุ นั น้ี กม็ ที า นอาจารยม น่ั เปน หลกั สาํ คญั เปน สรณํ คจฉฺ ามิ ไดอยาง
ตายใจไมมีสงสัย เราไปอยกู บั ทา นแลว หายสงสยั ไมม ีอะไรเลยภายในจติ จึงไดนอม
รบั ถงึ รอ ยเปอรเ ซน็ ต ตายกม็ อบถวายทา นเลย กิริยาอาการของทานที่แสดงออกทุก
อยาง เปนลักษณะของผูเห็นภัยคือตื่นตัวอยูเสมอ นน้ั แลคอื ผเู หน็ ภยั รภู ยั และพน ภยั
แท

การขบการฉันมีอะไรใชสอยไปตามเรื่องตามราวที่เกิดที่มี เมื่อความมุงมั่นอยู
กับธรรมแลวอะไรก็ไมกังวล การขบการฉนั อะไรฉนั ไดห มด อาหารประเภทใดไมข ดั
กบั หลกั ธรรมวนิ ยั กบั ธาตขุ นั ธ ไมแสลงกับโรคภยั แลวฉนั ไดห มด นน่ั คอื ผเู หน็ ภยั ดงั
พระพุทธเจาเสด็จออกทรงผนวช จากความเปนกษัตริยลงถึงขั้นเปนคนขอทาน
ธรรมดาทว่ั ๆ ไปเหมือนโลกเขาซึ่งเปนตัวอยางอันยอดเยี่ยม เพราะแตกอนไมมี
ศาสนาน่ี ทําไมพระองคทําไดคิดดูซิ เวลาจะฉันเหมือนกับวาลําไสจะทะลักออกมา
เพราะมนั ฝน ทานกม็ อี ุบายวธิ ีแกด ว ยความฉลาดแหลมคมของทาน ก็สิ่งของลงใน
บาตรวาเปนของปฏิกูล แลว อยใู นทอ งจะไมเ หน็ วา เปน ปฏกิ ลู หรอื มนั รา ยยง่ิ กวา นน้ั
นน่ั ทา นแกป บ ทนั ทแี ละเสวยไดใ นอาหารทว่ั ๆ ไปไมทรงเลือก

อาหารของคนขอทาน เขาจะไดของดิบของดีแตที่ไหนมาใหทานทาน เนอ่ื ง
จากศาสนาทส่ี อนวา ทาํ บญุ ใหท านมอี านสิ งสม ากอยา งนน้ั อยา งนย้ี งั ไมม ี นกั บวชทเ่ี ปน
หลกั เปนเกณฑอ ยางพุทธศาสนานีใ้ นระยะนน้ั ยังไมมี มีเพยี งเปนนักบวชอยางทเ่ี หน็
นน่ั แหละ เดยี รถรี น คิ รนถบ า ง ฤาษีดาบสบาง อยา งนน้ั หาขอทานกนิ ธรรมดาๆ เขาก็
ใหแ บบธรรมดาๆ นน่ั แหละ ไมไ ดใ หด ว ยศรทั ธาความเชอ่ื ความเลอ่ื มใสความเคารพ
นับถืออะไร ไมเหมือนคนใหทานแกพระเจาพระสงฆที่อยูในพุทธศาสนาดังที่เปนอยู
ทกุ วนั นเ้ี ลย แลวทานจะไดของดีและเหลือเฟอมาจากไหน

เราอยา ใหก เิ ลสเหยยี บยาํ่ ทาํ ลายจติ ใจได เปนนักปฏิบัติตองเปนนักคนควา
เปน นกั เหตผุ ล เปน ผมู คี วามรสู กึ เรว็ ตอ เหตกุ ารณต า งๆ ทเ่ี กย่ี วกบั ตน ผทู า นพน จาก
ทุกขและเปน สงฆฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ ของพวกเราทา นดาํ เนนิ อยา งนน้ั ในครั้งพุทธกาล
พระสงฆสาวกท่ีออกมาบวชจากสกลุ ใดบา งเรากเ็ หน็ กนั ทุกคนในตาํ รา เปนพระมหา
กษัตริยก็เยอะ เชื้อพระวงศกษัตริยก็ไมนอย เศรษฐี มหาเศรษฐี กุฎมพี รองกันลงมา

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๔

๑๒๕

จนกระทั่งพอคาประชาชนคนธรรมดา เมื่อออกมาบวชแลว เข็มทิศทางเดินของทาน
ตรงแนว ตอ มรรคผลนพิ พานเหมอื นกนั หมด ในเมอ่ื เขม็ ทศิ ทางเดนิ ตรงแนว อยา งนน้ั
ความพากเพียรทุกสิ่งทุกอยาง อากัปกิริยาที่แสดงออกจะไมตรงแนวไดยังไง เพราะ
เข็มทิศคือความมุงมั่นนั้นเปนเหมือนแมเหล็กเครื่องดึงดูดใหเปนไปตามนั้น เครอ่ื ง
สนบั สนนุ คอื ความเพยี ร ความพออกพอใจ ความอดความทน เครื่องบุกเบิกคือสติ
กับปญญาบุกเบิกไปเรื่อยฟาดฟนไปเรื่อย จนทะลุดงหนาปากิเลสทั้งมวลถึงแดนพน
ทุกข และกลายมาเปน สงฆฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ ของพวกเรา นน้ั แลครง้ั พทุ ธกาลทา น
ดาํ เนนิ อยา งนน้ั พวกเราไมย ดึ เอาทา นเปน สรณะและดาํ เนนิ ตามแลว จะหวังอะไรเปน
สาระภายในใจของพระ อนั รสๆ ลน้ิ ๆ นน้ั แมใ นสตั วเ ดรจั ฉานกม็ เี กลอ่ื นไปไมเ ปน
ของแปลก อยา เอามาอวดธรรม

แบบฉบบั ของทา นเราตอ งคาํ นงึ เสมอ อยาสงจิตออกไปคิดไปดู สิ่งที่
จอมปลอมและอยา นาํ เขา มาเปน อารมณแ ละเปน แบบฉบบั เพราะสง่ิ เหลา นน้ั เคยมี
เตม็ โลก อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺตา มานาน ไมเคยพาใหใครพนทุกขถึงแดนวิเศษได นอก
จากผฉู ลาดนาํ มาเปน หนิ ลบั ปญ ญา ส่งิ เหลานนั้ จึงจะเกดิ ประโยชนตามคุณภาพของ
ตนและกําลังสติปญญาของผูนํามาใช พระพุทธเจาไมใชศาสดาจอมปลอม ธรรมไมใช
ธรรมจอมปลอม พระสงฆที่เรานับถือเปนสรณะก็ไมใชพระสงฆที่จอมปลอม ทา นเปน
หลกั ใจไดอ ยา งแนใ จแมน ยาํ ไมม เี คลอ่ื นคลาด ไมมีสิ่งใดที่นาสงสัย ทา นเหลา นเ้ี ปน
ทา นผวู เิ ศษตามหลกั ธรรมชาตดิ ว ย เปน ผวู เิ ศษตามคาํ เลา ลอื ทท่ี า นรจู ากหลกั ธรรม
ชาตนิ น้ั ดว ย เราจงึ ยดึ ทา นนน้ั เปน หลกั ใจไวเ สมอ อยา หนั เหเรร อ นจะตายเปลา ไมม ี
หลกั ยดึ

หลักธรรมวินยั นน้ั แลคือหลกั ศาสดา หลักของพระสงฆสาวกหรือดวงพระทัย
ของพระพุทธเจาและดวงใจของสาวกอรหันตทั้งหลาย อยทู ี่พระธรรมพระวนิ ยั ไมอยู
กับกาลสถานท่หี รอื สิง่ หน่งึ สง่ิ ใด ใหย ดึ นเ้ี ปน หลกั อานไปตรงไหนทา นบอกไวว า ควร
หรือไมควร ใหถือเหมือนพระพุทธเจาทรงชี้บอกอยูตอหนาตอตานั้น หรือพระสงฆ
สาวกทานชี้บอกอยูตอหนาตอตา วา อนั นค้ี วรอนั นน้ั ไมค วร อันนั้นทําอนั น้ันอยาทํา
เหมอื นประทานดว ยพระโอษฐอ ยตู อ หนา เราในขณะนน้ั ทา นประทานไวว า “ธรรม
วนิ ยั ทเ่ี ราตถาคตบญั ญตั ไิ วน แ้ี ล จะเปน ศาสดาของทา นทง้ั หลายแทนเราตถาคต
เมอ่ื เวลาเราผา นไปแลว ” พระวาจานไ้ี มม อี ะไรเคลอ่ื นคลาดแมน ดิ หนง่ึ เลย ซาบซง้ึ
มาก พระธรรมก็ดีพระวินัยก็ดีที่ประทานไว เหมือนองคศาสดาชี้บอกอยูตอหนาตอตา
นน่ั แล นค่ี อื ทางดาํ เนนิ เพอ่ื ความมน่ั ใจของพวกเรา จงึ อยา ถือใครเปน ศาสดาเปน เนติ
แบบฉบบั

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๕

๑๒๖

ดังทที่ านอาจารยม ัน่ ทา นสอนไวในมุตโตทัย ตอนนน้ั ทา นไดร บั ความกระทบ
กระเทือนทางโลกธรรม เพราะทา นอาจารยม น่ั เปน ผเู รม่ิ บกุ เบกิ ไปที่ไหนจึงมักไดรับ
ความกระทบกระเทอื นเสมอ เพราะทแี รกเขาไมเ คยรเู คยเหน็ ก็ตองคัดตองคานทาน
ตองกีดตองขวาง แตท า นเปน จอมปราชญ ทานมีอุบายสติปญญาหลบหลีกจนได ทาน
ไมใหกระทบกระเทือนองคทานเองและผูหนึ่งผูใด บางทีจิตใจก็มีลักษณะแปลกๆ ขน้ึ
มาที่ถือวาเปนขาศึกแกตัวเอง ทานก็แกปุบปบไมรั้งรอใหอารมณนั้นฝงจมในจิตไป
นาน บางครั้งอุบายตางๆ กแ็ สดงขน้ึ ภายในจติ ทา นวา ใหถ อื เราตถาคตผบู รสิ ทุ ธห์ิ มด
จดจากกิเลสเปนศาสดา อยาไปถือปากสกปรกปากที่เต็มไปดวยกิเลสโสมมเปน
ศาสดา เรอ่ื งเขาสรรเสรญิ นนิ ทาเปน เรอ่ื งของโลกธรรมซง่ึ มมี าแตด ง้ั เดมิ

ตถาคตก็เกิดในทามกลางแหงโลกธรรม แตตถาคตไมตื่นโลกธรรมไมติดโลก
ธรรมอันเปน เหมอื นกอนเมฆทพี่ ดั ไปผา นมาเทา นนั้ เราเปน ลกู ศษิ ยต ถาคตตอ ง
ดาํ เนนิ แบบตถาคต อยาตื่นอยาลุมหลงกับสิ่งใดที่มาสัมผัสสัมพันธ สง่ิ เหลา นน้ั มนั คอื
โลกธรรมนน่ั แล นค่ี อื อบุ ายทส่ี อนทา นเวลาจาํ เปน ซึ่งเปนความถูกตอง เพราะโลกหา
ประมาณไมได ธรรมวนิ ยั นน้ั แลคอื ประมาณอนั เหมาะสมอยา งยง่ิ ใหย ดึ เปน หลกั อยา
ไปยึดส่ิงสกปรกโสมมทงั้ หลายเหลา นัน้

ทเ่ี ขยี นไวใ นมตุ โตทยั นน้ั สน้ั นดิ เดยี ว ทา นพดู ใหฟ ง หลายเรอ่ื งและยดื ยาวนา
จับใจมากทุกๆ ตอน เพราะอยกู บั ทา นมาเปน เวลาหลายป ทําไมจะไมไดฟงเรื่อง
สําคัญๆ ธรรมอนั สาํ คญั ๆ เลา นแ่ี หละหลกั ทา นดาํ เนนิ ทา นดาํ เนนิ อยา งน้ี ขอใหพา
กันยึดหลักเหลานี้ใหดี อยา ไปสนใจกบั ส่งิ ใดในโลกมาเปนเคร่อื งกีดขวางถวงธรรม
ภายในใจใหเ นน่ิ ชา ใหมุงตออรรถตอธรรมที่พระองคทรงแสดงไวแลวอยางเดียว ยดึ
เปน หลกั เปน เกณฑ อยคู นเดยี วเปน ความสขุ รน่ื เรงิ ตางองคที่อยูดวยกันมีจํานวนมาก
นอย มคี วามรคู วามเหน็ อยา งเดยี วกนั มคี วามรน่ื เรงิ ในธรรมเปน เครอ่ื งประดบั กนั ให
มคี วามสวยงาม และเปนเคร่อื งคาํ้ ชูหนุนกันใหม ีความอบอนุ ตอกัน สาํ คญั ทจี่ ิตใจเปน
อรรถเปน ธรรมแลว อยดู ว ยกนั เปน ผาสกุ ทง้ั นน้ั แหละคนเรา

อยูที่ไหนก็คนอยูที่ไหนก็พระ เราเขา ใจเรอ่ื งคนเรอ่ื งพระดว ยดแี ลว ยอ มอยู
ดวยกันได เฉพาะเราไมใ ชโ ลก เราเปน ลกู ศษิ ยต ถาคต เกิดที่ไหนก็คน เกิดในบานก็
คน เกิดในปาก็คน เกิดในเมืองก็คน เกิดในกรุงก็คน เกิดนอกกรุงก็คน เกดิ ในปา ใน
เขาก็คน เกิดประเทศเขตแดนใดกค็ น หลกั แหง คาํ วา คนนค้ี อื ความสมบรู ณเ ตม็ ทแ่ี หง
ความเปน มนษุ ยแ ลว ถือเอาตรงนี้ นแ่ี หละพระพทุ ธเจา พาดาํ เนนิ มาอยา งนน้ั ไมได
ถอื ชาติชนั้ วรรณะใดท้ังนั้น เพราะฉะนน้ั ลกู ศษิ ยต ถาคตจึงมีทกุ ชาติชัน้ วรรณะ เปนลกู
ตถาคตทั้งนั้น ผูใดมคี วามเชอ่ื ความเลือ่ มใสปฏบิ ตั ิตามพระองคท า นแลว ไมว า จะเกดิ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๖

๑๒๗

ในทใ่ี ดชาตชิ น้ั วรรณะใด สามารถทจ่ี ะบรรลถุ งึ จดุ หมายปลายทางไดเ ชน เดยี วกนั หมด
และตถาคตก็ทรงโปรดเต็มที่เชนเดียวกัน ไมท รงแยกเปน สดั เปน สว นฝา ยนน้ั ฝา ยน้ี
แบบคนทะนงตวั แลว เหยยี บคนนน้ั ดถู กู คนน้ี เพ่ือยกตวั ขึ้นใหเหนือมนษุ ยตาดําๆ
ดว ยกัน ราวกบั ตนเปน เทวดามาจากแดนสวรรคช น้ั พรหมไหนกไ็ มร ู

นั่นมันแบบอึ่งอางพองตัว แบบโลกทเ่ี ตม็ ไปดว ยความหยง่ิ ยโส ทั้งอยากเดน
อยากดัง อยากจะมีเกียรติยศชื่อเสียง อยากมชี าตชิ น้ั วรรณะอนั สงู สง แตธ รรมชาตทิ ่ี
แทก็คือคนซึ่งตองทําดีจึงจะเปนคนดี ตองทําชั่วจึงจะเปนคนชั่วได มไิ ดเ ปน ไดเ พราะ
ความเสกสรรปน ยอเอาเฉยๆ สง่ิ เหลา นน้ั เปน เครอ่ื งเสกสรรกนั ขน้ึ มาตา งหาก ไมใช
เปน เรอ่ื งความจรงิ ความจริงตามสมมุติอันแทจริงก็คือคน ยอ มมคี วามเสมอภาคแหง
ความเปน มนุษยดวยกันหมด

คาํ วา คนดว ยกนั แลว ถงึ จะเปน ภาษาใด กต็ าม อยูบานใดเมืองใดก็มีภาษาของ
ตนเปนเครื่องใชตอกัน เขาใจกันไดก็เปนอันใชไดดวยกัน แมแตนกและสัตวตางๆ
เขายังมีภาษาของเขาเอง เขาก็ใชตอกันอยางสะดวกสบายและเขาใจซึ่งกันและกันได
เหตุใดมนุษยเราพูดรูเรื่องของกันและกันดีอยูแลวจะไมเขาใจกันได ฉะนน้ั มนษุ ยเ รา
จะเกิดมาจากสถานที่ใดๆ กต็ าม เมอ่ื เขา สหู ลกั ธรรมวนิ ยั แลว ยอ มสนทิ แนบเนยี นตอ
กันไปหมด เพราะธรรมวินัยเปนสิ่งที่กลมกลอมหลอหลอมจิตใจใหมีความสนิทแนบ
เนียนตอกัน

การปฏิบตั เิ คยพูดใหฟ งเสมอ นอกจากหลกั การแหงการปฏิบัตทิ ี่อธบิ ายมา
แลว เบ้อื งตน ที่พระพทุ ธเจาและพระสงฆสาวกทา นพาดาํ เนิน ทา นดาํ เนนิ อยา งนน้ั
ถอื จติ ตภาวนาเปน สาํ คญั ยง่ิ กวา งานใด สําหรับที่อยูอาศัยพอบังแดดบังฝนพักผอน
นอนหลบั เทานน้ั แมแ ตสัตวเ ขายังทํารวงทาํ รังเพ่อื อยอู าศัยตามสภาพของเขา มนุษย
เราทม่ี าบวชเปน พระกม็ าจากคน คนมีบานมีเรือนมีที่อยูอาศัยมีเครื่องใชไมสอย พระ
ก็จําตองมีตามสภาพของสมณะ อะไรขาดตกบกพรองก็จําเปนตองขวนขวายในกิจที่
สมควรแกส มณะทค่ี วรจดั ควรทาํ แตไมถ งึ กบั เปนกจิ การพรํา่ เพรื่อวนุ วาย จนถงึ กบั
เปน อารมณข นุ มวั มว่ั สมุ กบั งานนน้ั จรงิ ๆ ซง่ึ ในขณะเดยี วกนั กเ็ ปน การเหยยี บยาํ่
ทําลายจิตใจของตนลงไป เพราะความกงั วลกบั งานภายนอก จนกลายมาเปน ขา ศกึ ตอ
งานจิตตภาวนา ผูปฏิบัติตองระวังใหมากไวนั่นแลพอดี เพราะพระเราสว นมากชอบ
เลยเถดิ จนกลายเปนเตลิดเปดเปงแหวกแนวซึ่งมีมากตอมากในวงปฏิบัติ

นจี่ งึ ไดพยายามระวงั เสมอ ทค่ี ดิ ไวก แ็ นใ จวา ไมผ ดิ เชน มที า นผศู รทั ธาจะ
ถวายเงนิ เพอ่ื สรา งโบสถท ง้ั หลงั เรายังไมอาจรับได นน่ั เคยมีบางไหมในประเทศไทย
และองคไหนทมี่ ีผถู วายเงินสรางโบสถท ัง้ หลงั แลว ไมร ับ นอกจากขรวั ตาวาสนานอ ยน้ี

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๗

๑๒๘

เทา นน้ั จึงไมอาจรับได ทไี่ มอ าจรับไดน ั้นก็มีเหตผุ ลเหมอื นกัน แตเ วลาพดู กบั วงภาย
นอก กพ็ ูดวา ไมม ีวาสนาจงึ ไมอาจรบั ได พูดเลี่ยงไปเสยี พอใหเร่อื งผานไป ความจรงิ
หลักธรรมทเี่ ราเลง็ อยยู ึดถอื อยู กราบไหวบ ชู าเปน ขวญั ใจและเทดิ ทนู สดุ จติ สดุ ใจอยู
ตลอดเวลานน้ั เปนสิ่งที่ใหญโตมากยิ่งกวาสิ่งใดในโลกธาตุ

สง่ิ เหลา นน้ั เราไมไ ดเ ทดิ ทนู เหมอื นธรรม เพราะเปนเพียงปจจัยเครื่องอาศัยไป
เปนวันๆ เทา นน้ั สว นธรรมเปน เรือ่ งใหญโ ตมากที่ตองรกั สงวน เรอ่ื งการสรา งโบสถ
สาํ หรบั วดั นย้ี งั ไมม คี วามจาํ เปน ส่ิงใดท่จี ําเปน ก็ทาํ ส่งิ นั้น เชน จติ ตภาวนาเปน งานจาํ
เปนอยางยิ่ง นี่ตองทํา การทําอุโบสถสังฆกรรมทําที่ไหนก็ได ตามรม ไมช ายเขาทไ่ี หน
ก็ไดไมขัดของอะไร ตามหลักพระวินัยจริงๆ แลว ไมมีอะไรขัดของ การสรา งโบสถ
สรา งวหิ ารควรใหเ ปน ทเ่ี ปน ฐานทเ่ี หมาะทค่ี วร ไมใชจะสรางดะไปหมด

การสรา งโบสถห ลงั หนง่ึ เปน ยงั ไง นบั ตง้ั แตเ รม่ิ แรกตกลงกบั ชา งในการสรา ง
โบสถเปนยังไง ถนนหนทางเขา ไปในวดั จนถงึ บรเิ วณทจ่ี ะสรา งโบสถ จะตอ งเปด โลง
ตง้ั แตบ ดั นน้ั จนกระทง่ั ถงึ วนั สรา งโบสถส าํ เรจ็ ตองบุกเบิกไปหมดยิ่งกวาโรงงาน คน
งานก็ตองมีทั้งหญิงทั้งชายจํานวนมากมายที่จะเขามานอนกองกันอยูนี้ ทั้งชางทั้งคน
งานไมท ราบมาจากแหง หนตาํ บลใด บางรายหรอื สว นมากกไ็ มเ คยรเู ลยวา ศาสนาเปน
ยังไง พระเณรในวดั ทา นปฏบิ ตั ยิ งั ไง แลว เขาจะมคี วามเปน ระเบยี บเรยี บรอ ย พอเปน
ความสงบงามตาแกพ ระเณรในวัดไดย งั ไง มันตองเหมือนกับเอายักษเอาเปรตเอาผี
เขา มาทาํ ลายวดั นน่ั เอง

ในขณะทเ่ี ปด โอกาสตกลงกนั เรยี บรอ ยแลว นน้ั นะ ไมวาผูคนหญิงชาย รถรา
ตางๆ ตองเขาตองออกกันตลอดเวลา ประตูวัดปดไมไดเลย และสถานทท่ี จ่ี ะสรา ง
โบสถข ้ึนมาใหเปน ของสงางามแกวดั แกพ ระสงฆใ นวดั แตพระกลับตายกันหมดจาก
จติ ตภาวนา จากมรรคจากผลนิพพานทีค่ วรจะไดจะถงึ จากสมณธรรมคือจติ ตภาวนา
แลว จะเอาอะไรมาเปน ความสงา งามอรา มตา ลองพจิ ารณาดซู ิ นเ่ี ราคดิ อยา งนน้ั และ
พูดอยางนี้นะ จะเปนความคิดผิดพูดผิดหรือถูกประการใดบาง

ธรรมเปน ส่ิงสาํ คัญมากมาตลอดอนันตกาล พระพุทธเจาก็ดีสาวกก็ดี ไมใชนัก
สรา งโบสถส รา งวหิ าร สรา งสง่ิ รโหฐานสาํ ราญตาอะไรเลย แตเ วลาทา นรอู รรถรธู รรม
ภายในใจของทา นแลว เปนยังไงบางการประกาศธรรมสอนโลกของทานนะ ยกตัว
อยางสมัยปจจุบัน ทา นอาจารยม น่ั ทา นสรา งอะไร นอกจากทา นสรา งจติ สรา งใจทา น
อยา งเตม็ เมด็ เตม็ หนว ย เตม็ สตกิ าํ ลงั ความสามารถดว ยจติ ตภาวนา จนเปน ผฉู ลาด
แหลมคมเต็มภูมแิ ลวยอนมาสัง่ สอนโลกอยางเตม็ ภมู ิ เปน ยงั ไงเราดเู อา คนนบั ถอื
ทา นอาจารยมน่ั ทว่ั ประเทศไทยเราจนตลอดถึงเมอื งนอก นน่ั ผลแหง การปฏบิ ตั ธิ รรม

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๘

๑๒๙

รธู รรมเหน็ ธรรม มใี จเปน หลกั เปน เกณฑด ว ยอรรถดว ยธรรมแลว สั่งสอนโลกไดลึก
ซึ้งกวางขวางขนาดไหน พจิ ารณาดซู ิ นล่ี ะธรรมภายในใจ สมบตั ภิ ายในใจแทเ ปน
อยา งน้ี ผิดกับสมบัติกาฝากเปนไหนๆ

ใจเปน สง่ิ สาํ คญั มอี าํ นาจมาก สามารถทาํ ประโยชนไ ดม ากมายเมอ่ื มคี ณุ
สมบตั อิ ยภู ายในใจแลว แลว โบสถห ลงั ไหนทม่ี อี าํ นาจวาสนามากไปเทย่ี วประกาศ
ศาสนาสอนโลกสงสารใหค นเขา ถงึ ธรรม ธรรมถึงใจซาบซ้ึงเปน คนดขี ้นึ มาได เราเคย
เหน็ โบสถห ลงั ไหนบา ง ทั้งนี้เราไมไดประมาท แตแยกมาเทยี บเคยี งตามหลักเหตผุ ล
เราไมไดป ระมาทและไมไดหา มวาไมใ หสรา งโบสถ สถานทค่ี วรสรา งเราไมว า แต
สถานทท่ี ไ่ี มค วรสรา งกไ็ มค วรมาทาํ ลาย สถานทน่ี เ่ี ปน สถานทส่ี รา งจติ ใจ ดว ยจติ ต
ภาวนาใหม หี ลกั ฐานมน่ั คง พระองคหนึ่งๆ ไดป ระโยชนท างดา นจติ ใจแลว จะทํา
ประโยชนใหโลกไดร บั กวา งขวางมากมายเพียงไร เราคดิ หมดแลว เรอ่ื งเหลา น้ี

เพราะฉะนน้ั บรรดาทา นทง้ั หลายทม่ี าสสู ถานทน่ี ่ี มาจากภาคตา งๆ กนั ผมจงึ
เหน็ ใจและอตุ สา หพ ยายามอบรมสง่ั สอนอยเู สมอ ไมละไมปลอยไมวาง แมจ ะสอน
ประชาชนไมไดในบางกาลเพราะเกี่ยวแกสขุ ภาพไมอ าํ นวย ผมกพ็ ยายามหาเวลาํ่ เวลา
อบรมพระ ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชนของพระโดยตรง เวลาพระไดร บั ประโยชนจ ากการได
ยนิ ไดฟงแลว ปฏิบตั ติ นเต็มเมด็ เตม็ หนวย จนเปน หลกั เปน เกณฑภ ายในจติ ใจแลว
การประกาศศาสนานน้ั หากเปน ไปเองตามภมู นิ สิ ยั วาสนา เมอื่ มีสมบัตแิ ลวยอมแจก
จายไดอยางไมอัดไมอั้น ตามแตเ หตกุ ารณส ถานทจ่ี ะอาํ นวย แตแ บบขายกอ นซอ้ื
แบบสกุ กอ นหา มนน้ั มนั จมทง้ั นน้ั แหละ ตนยังไมรูเรื่องอะไร สอนตนก็ยังไมได แต
อวดฉลาดแหวกแนวไปสอนคนอน่ื นน้ั ตนและธรรมเลยกลายเปน โลก แลว กร็ า ยยง่ิ
กวาโลกไปอีก จะจัดวา เปนอุบายวิธที ่นี า ชมเชยไดย ังไง นั้นไมใชทางของพระพุทธเจา
ไมใชทางของสาวกทานที่พาดําเนินมา

ทา นรเู สยี กอ น องคไหนๆ ก็เหมือนๆ กัน กอนที่จะนําธรรมไปสอนโลก รเู หน็
เสียกอน ไมอยางนั้นเอาอะไรไปสอนเขา เอาแตคําพูดเฉยๆ ไปสอนเขามีหลักมี
เกณฑอะไร ก็ไมมีที่ซึมซาบ ไมมีที่ยึดที่เหนี่ยว ไมเปนเครื่องดึงดูดจิตใจของผูฟง ไม
เหมอื นผมู คี ณุ ธรรมเตม็ หวั ใจแลว ไปสอนคน นั่งอยูเฉยๆ ก็เปนคุณสมบัติอยูในตัว ผู
มธี รรมภายในใจอยไู หนกม็ ธี รรมอยนู น้ั แหละ การอบรมจติ ใจมคี ณุ คา อยา งน้ี ฉะนั้น
ขอใหพากันตั้งอกตั้งใจ เอาใหจ รงิ ใหจ งั ฝงใจลงใหถึงธรรม นับแตสมาธิธรรมขึ้นไป
โดยลาํ ดบั

มรรคผลนพิ พานอยาไปคาดไปหมายทใี่ ด มีอยูในวงกายกบั จิตนี้ อยูในวงขันธ
หา น้ี เอาใหด ี ส่งิ ใดมสี ว นเกยี่ วขอ งกบั ใจกพ็ จิ ารณาไป เชน รปู เสยี ง กลน่ิ รส เครอ่ื ง

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๒๙

๑๓๐

สัมผัส เพราะความสมั ผสั ความพวั พนั ความตดิ ทั้งรักทั้งชัง มันติดไดทั้งนั้นแหละจิต
ใจ มันติดทั้งรักติดทั้งชัง ติดทั้งโกรธทั้งเกลียด ติดไปหมดติดไมเลือก กินไมเลือก
เพราะฉะนั้นจึงตองแยกแยะคลี่คลายออกใหรูเรื่องของมันดวยสติปญญา จนจติ หาย
สงสยั แลว ถอนตวั เขา มาทเ่ี รยี กวา ปลอ ยวาง เพราะความเขา ใจแลว ดว ยการพจิ ารณา
ผลสุดทายก็ไมไปที่ไหน ลงมารวมที่ใจ เมอ่ื ใจไมก งั วลวนุ วายเพราะปญ ญาหวา นลอ ม
ใหท ราบเรอ่ื งราวหมดแลว ใจกห็ ายกงั วล ทนี จ้ี ะทาํ สมาธภิ าวนาเมอ่ื ไร ใจก็สงบ
สะดวกสบาย ใจมแี ตค วามสงบรม เยน็ เปน เรอื นอยู

เอา คลค่ี ลายทางดา นปญ ญา อยา อยเู ฉยๆ เมอ่ื ถงึ กาลเวลาทค่ี วรพจิ ารณาตอ ง
พจิ ารณา ปญญาเปนสิ่งสําคัญอยูมาก สตเิ ปน ภาคพน้ื เปน เครอ่ื งควบคมุ งานใหเ ปน
ไปดว ยความเจาะจง เปนไปดวยความรูสึกตัว เปน ไปดวยเจตนา ปญญาก็ทําหนาที่
เตม็ เมด็ เตม็ หนว ย เมอ่ื เหน็ ผลแหง การพจิ ารณามากนอ ยแลว ปญญาก็เขยิบไป
เรอ่ื ยๆ เพราะความมแี กใ จ เหมือนกับเราคาขายทม่ี กี าํ ไรขึ้นมา นกั การคา กม็ คี วาม
ขยนั หมนั่ เพยี ร ถาคาอะไรก็มีแตลักษณะซื้อสิบขายหาๆ ขาดทุนๆ คนเรากข็ เ้ี กยี จ
เมอ่ื ซอ้ื หา ขายสบิ ๆ ไดกําไรก็ขยันไปเอง

ใจก็เหมือนกัน เมื่อพยายามตั้งอกตั้งใจภาวนาแลว จะตองเปนลักษณะซื้อหา
ขายสบิ ไมส งสยั แตก ารนง่ั อยเู ฉยๆ เหมอื นหวั ตอ ไมมีความรูสึกอะไร ใจลอยไมมีสติ
กบั อรรถกบั ธรรม แตใจไปวนุ วายอยกู ับโลกภายนอกซ่งึ เปนเรือ่ งของกิเลสตัณหา
ลว นๆ นน้ั แหละเปน งานสง่ั สมกเิ ลสมาทบั ถมจติ ใจใหม คี วามอบั เฉายง่ิ ขน้ึ ไป แถมยัง
มวั เมาเสยี ดว ยซาํ้ คือมัวคิดมัวอานกับอารมณอันเปนพิษอยูอยางนั้น ไมรูอรรถรู
ธรรมวา เปน ยงั ไง เดินจงกรมก็มีแตกาวขาไป นง่ั สมาธกิ ส็ กั แตว า กริ ยิ า มีแตกิริยา
ความทําจรงิ ๆ คือจิต มนั เปน ไปตามโลกตามสงสาร รปู เสยี ง กลิ่น รส เครื่องสัมผัส
อดีต อนาคตวนุ ไปหมดภายในใจ จะเอาอะไรมาเปนกําไร ก็มีแตขาดทุนปนปละซิ

ทีนี้เจาของก็ขี้เกียจ เพราะเจาของหากทําทางข้ีเกียจใหต วั เองเจา ของก็เดินเอง
ผลแหงความขี้เกียจคือกองทุกขถมหัวใจทุกภพทุกชาติไมมีที่สิ้นสุด เพราะจิตที่ขี้
เกียจทางหนึ่งยอมขยันในอีกทางหนึ่ง เมอ่ื ขเ้ี กยี จทางความเพยี รเพอ่ื การชาํ ระกเิ ลส ก็
ตองขยันในการสงั่ สมกเิ ลสไมมีทางหยดุ หยอ นเกียจครา นเลย ผลคือกองทุกขทางใจ
จึงตองพอกพูนหนาแนน เพราะฉะนน้ั จงเหน็ ความขเ้ี กยี จเปน โทษแกเ ราเอง แลว
พยายามพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงสติปญญา เพื่อลบลางความขี้เกียจดวยอุบายตางๆ
นน้ั แหละจงึ จะมวี นั รเู หน็ ธรรมไปโดยลาํ ดบั

การสรา งตวั เราเองนแ่ี หละสาํ คญั มากยง่ิ กวา สรา งสง่ิ อน่ื ใด จะหนกั จะเบากช็ า ง
เถอะ มนั เทา ตวั ของเรานแ่ี หละ ไมสุดวิสัยกําลังของเราไปได พระพุทธเจาทรงสอนไว

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๐

๑๓๑

ใหพ อเหมาะพอสมกบั เราอยูแ ลว ปริมาณแหงธรรมที่พอประมาณก็ ๘๔,๐๐๐ พระ
ธรรมขันธ สรุปลงแลว ก็คือ ศลี สมาธิ ปญญา หรอื โพธิปกขิยธรรม ๓๗ ประการ ก็
ไมเ หน็ มากมายจนเกนิ ความสามารถ และอยใู นวงกายกบั จิตของเราน้ที ง้ั นัน้ ทําไมเรา
จะทําไมไดรูไมไดเลา

เดนิ จงกรมกใ็ หสบื เนื่องไปโดยลําดบั ดว ยสติ นง่ั สมาธิกใ็ หสบื เน่อื งไปโดย
ลาํ ดบั ดว ยสติ การบงั คบั บญั ชาตนอยเู สมอนน้ั แลคอื ผมู คี วามเพยี ร ความเหน็ วา การ
บงั คบั บญั ชาจติ ใจเปน เสย้ี นเปน หนามแลว ไมอ ยากทาํ อยากอยูเฉยๆ เหมอื นคนสน้ิ
ทาและปลอยตามอําเภอใจนั้นเปนคุณงามความดี นั้นแหละคือกองทัพกองแทรกแซง
ของกเิ ลสมนั เขา กระซบิ กระซาบภายในใจ จนหลงเคลิ้มไปตามมันและลืมเนื้อลืมตัว
ไปแลว กลบั เหน็ วา ความเพยี รเปน ขา ศกึ แกต น เหน็ วา กเิ ลสนน้ั เปน มติ รเปน สหาย
นน้ั แหละคอื หนทางเกดิ -ตายไมมีหยุดมียั้ง เกดิ แลว ตาย ตายแลว เกดิ วกไปเวียนมา
เพราะถูกมนตขลังของกิเลสเขาเต็มเปา เขลาไมม วี นั สรา ง ธรรมซึ่งเปนยาแกแตกลับ
เหน็ วา เปน ยาพษิ สง่ิ ทผ่ี ดิ เหน็ วา เปน คณุ นี่คือมนตขลังของกิเลสทําแกสัตวโลกเรื่อย
มาอยางไดผลเกนิ คาด พากนั ทราบเสยี ถา ไมต อ งการใหมันกลอมอยเู ร่ือยไป และ
นอนจมอยูในกองทุกขร่ําไป

สถานท่ีอยูน ี้กร็ สู กึ วาพอเหมาะสม แมว า จะไมเ ปน มหาวทิ ยาลยั ดงั ครง้ั
พุทธกาลที่ทานอยูตามปาตามเขาอันเหมาะสมอยางยิ่ง แตก เ็ ปน ปา เปน ทเ่ี หมาะสม
พอประมาณ เราก็พยายามชว ยเหลอื ทุกดา นทุกทาง เพราะเหน็ ใจหมเู พอ่ื นผมู า
บาํ เพญ็ เราพอพดู ไดไ มวา ชาตชิ น้ั วรรณะใดท่ีเขามาเกยี่ วขอ งท่นี ี่ เหตุผลที่ควรพูดมี
อยเู ราพดู ได เราไมเ กรงผูใดในโลกอนั นใี้ หนอกเหนือธรรมไป เคารพธรรมมากยง่ิ
กวา เคารพผใู ดสง่ิ ใดในโลก เมื่อถึงกาลที่จะพูดโดยอรรถโดยธรรมแลวเราพูดได เพื่อ
ไมใ หใ ครไปรบกวน เวลานท้ี า นภาวนาอยา ไปกวนทา น เวลานท้ี า นกาํ ลงั ทาํ งานคอื เดนิ
จงกรมบา งนง่ั สมาธภิ าวนาบา ง เวลาแสดงเสยี งเอด็ ตะโรโฮเฮไป ทา นไดย นิ เสยี งทา น
กห็ ลบหลกี หนเี สยี นง่ั ภาวนาอยกู ห็ ลกี หนเี สยี กําลังเดินจงกรมก็หลีกหนีไปเสีย ทาํ ให
เสยี งานเสยี การของทา น ไมค วรไปรบกวนในเวลาเชน น้ี

เวลาไหนทเ่ี หมาะสมเรากบ็ อกเขาใหเ ปน ทเ่ี ขา ใจ ใครจะโกรธจะเคยี ดเราไมต ดิ
ใจ เพระถือวาการพูดลงไปดวยเหตุดวยผลนั้นเปนความถูกตองดีงามแลวทั้งฝายเขา
ฝายเรา ไมม อี ะไรเปน ความเสยี หาย หากจะเกดิ เปน ความเสยี หายภายในใจเขา ก็
เพราะเหตุของเขาคิดขึ้นในทางไมดีของเขาตางหาก แตใครจะไปถือโกรธถือเคียดเลา
แนใ จวา ไมม ี เพราะตางก็มามุงอรรถมุงธรรมอยูแลว การบอกเตอื นกบ็ อกเตอื นโดย
ธรรมยอมเขากันไดสนิทไมสงสัย

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๑

๑๓๒

เวลานง่ั ถา รสู กึ รา งกายมนั หนกั ใหเ ดนิ มากๆ ไมไดทํางานก็ใหเดินมากๆ เปน
การทาํ งาน ตั้งสติใหดี ความเพยี รอยกู บั สตเิ ปน สาํ คญั การพจิ ารณากถ็ อื รา งกายของ
เราหรือรางกายของสัตวของคนหญิงชายไดทั้งสิ้น เปน เปา หมายแหง การพจิ ารณา
เวลาพจิ ารณาใหเ หน็ ตามความจรงิ ของสง่ิ นน้ั ๆ จรงิ ๆ ดวยสติปญญา มรรคมีไดท ัง้
ภายนอกภายใน เพราะสมุทัยคือตัวกิเลสมันมีไดเกิดไดทั้งภายนอกภายใน เชน ตดิ
รปู ตดิ เสยี ง กลิ่น รส เปนตน กเ็ ปน สมทุ ยั แลว รปู เสยี ง กลิ่น รส ท้งั หลายมนั อยขู า ง
นอก จิตไปติดสิ่งนั้นไปติดสิ่งนี้ ไปติดคนนั้นไปติดคนนี้ แกเหตุติดของนั้นดวย
ปญ ญาจนเปน ทเ่ี ขา ใจกเ็ ปน มรรค เพราะฉะนน้ั การพจิ ารณาจะพจิ ารณารปู ใด หญงิ ใด
ชายใด สัตวตัวใดไดทั้งนั้น พิจารณาใหเปนธรรม เชน พจิ ารณาใหเ ปน อสภุ ะอสภุ งั
ปฏิกูลโสโครกปาชาผีดิบ หรอื พจิ ารณาเปน อนจิ จฺ ํ ทุกฺขํ อนตฺตา ซึ่งเปนความจริงดวย
กันไดทั้งนั้น ขางนอกก็ไดขางในก็ไดถาพิจารณาเปนมรรค

การพิจารณาตอ งขัดตอ งขนื กนั ฟด เหวี่ยงกันระหวา งกเิ ลสกบั ธรรม เพราะทง้ั
สองนีเ้ ปนขาศึกกันมาแตก าลไหนๆ อยใู นใจดวงเดยี วกันมันกเ็ ปนขา ศึกกันอยูอ ยาง
นน้ั สวนมากมแี ตก เิ ลสเปนฝายไดเ ปรยี บอยูเสมอโดยเราไมร ูสึกตวั ถา รสู กึ ตวั อยบู า ง
วา เออ..วนั นเ้ี ราแพก เิ ลสประเภทนน้ั ๆ ก็จะพอมีอุบายวิธีหรือมีแกใจฟตสติปญญา
ศรทั ธา ความเพียรขึ้นใหก ลา แข็งและตอ สกู นั จนไดชยั ชนะ ยอ มสมนามวา นกั รบ

การข้ึนเวทไี มร ูแพร ูชนะ มีแตถูกน็อกลงไปๆ สลบลงไปไมร เู นอ้ื รตู วั มันดูได
หรอื อยา งนน้ั เอาใหเ หน็ ความแพค วามชนะบา ง จึงชื่อวาผูมีสติปญญาทดสอบตัวเอง
วนั ไหนเดนิ จงกรมนง่ั สมาธภิ าวนาเทา นน้ั ๆ แตไมไดเรื่องอะไรเปนเครื่องสะดุดใจ
ความสงบกไ็ มป รากฏใหเ ปน เครอ่ื งสะดดุ ใจ อุบายสติปญญาควรที่คิดขึ้นมาก็ไมพอ
เปน ผลใหเปนเครอื่ งสะดุดใจ จะเรยี กวา ทาํ งานไดผ ลอยา งไรกนั เพราะมแี ตขาดทนุ
โดยถา ยเดยี ว

ตองฟตสติปญญาขึ้นมาใหม พลิกอุบายขึน้ มาใหมและพิจารณาตอไปใหมจ น
เหน็ ผลประจกั ษใ จ ไมมีคําวาถอยหลังนั่งเซอตาเหมอมองแบบถูกน็อกจากกิเลส
เพราะไมใชวิถีทางของนักรบเพื่อชัยชนะ ถงึ กาลเวลาเดด็ กต็ อ งเดด็ เวลาธรรมดาก็
ธรรมดาบา ง เมอ่ื กเิ ลสมนั โผนออกมาเรากโ็ ผนเขา ใสก นั และรบกนั เอา จะตายกต็ าย
อยาเสียดายชีวิตธาตุขันธยิ่งกวาธรรมคือแดนพนทุกข ซง่ึ รอรบั นกั รบผกู ลา หาญชาญ
ชยั อยแู ลว นเ่ี คยเปน มาแลว ไมไดพูดแบบลมๆ แลง ๆ นะ ถงึ เวลาควรจะเอากนั อยา ง
เตม็ ที่สดุ เหวย่ี งกท็ ําอยา งนน้ั จรงิ ๆ ถา ไดท าํ อยา งนน้ั แลว มนั แนใ จจใุ จทกุ ๆ ครั้งที่ทํา
และพูดไดอยางเต็มปากวาไดผลคุมคา ไมเ สยี ทขี องการพลชี พี แบบสตู าย พรอมทั้งรู
หนา กเิ ลสตัวผาดโผนไดอยางเต็มตาเต็มใจ (สติปญญา)

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๒

๑๓๓

ฉะนั้นอุบายตางๆ ทส่ี อนนจ้ี งนาํ ไปแยกแยะไปพจิ ารณาเอาเอง ผปู ฏบิ ตั มิ จี รติ
นิสัยไมเหมือนกัน แตพ งึ ทราบวา กเิ ลสมนั ชอบความออ นแอเสมอนะ ธรรมะชอบ
ความเขม แขง็ ความเขมแข็งเครื่องชนะความออนแอคืออุบายของกิเลส ความฉลาด
เปน เครอ่ื งชนะความโง กเิ ลสพาคนใหโ งพ าจติ ใจใหโ ง ตวั กิเลสน้ันไมไ ดโง สติปญญา
จึงตองนําไปใชเพื่อปราบปรามความโงอันเปนตัวกิเลสฝงใจนั้นใหหมดไปๆ ความ
สงางามของใจไมตองถามไมตองบอกละ จะคอยปรากฏขึ้นมาเอง

ธรรมสมบตั เิ ปน สง่ิ สาํ คญั มาก โลกขาดธรรมสมบัตินี้แลโลกถึงไดรอน สมบัติ
ภายนอกไมเปน ประโยชนอ ะไรพอทจ่ี ะใหโ ลกไดรบั ความรมเย็น ถาไมมีธรรมสมบัติ
อยภู ายในใจเปน คเู คยี งกนั จะรักษาตัวรักษาโลกใหมีความสงบรมเย็นไปไมไดมนุษย
เรา ดวยเหตนุ ศ้ี าสนาจงึ เปนความจําเปน อยา งยิ่งตอ มนษุ ยทกุ เพศทกุ วยั

อยา งทพ่ี วกทาํ ลายโลกทาํ ลายความเปนมนษุ ยลงใหเปน สตั วเสมอกนั หมด เขา
โจมตีนั้น ชาวพุทธบางรายก็แกเขาไมได ทเ่ี ขาหาวา ศาสนาเปน ยาเสพตดิ เหมือนกับ
ศาสนามคี วามบกพรอ ง ท้ังทไ่ี มม อี ะไรผใู ดจะสมบรู ณเทยี มเทา ศาสนาเลย ถาคนไม
เคยอา นไมเ คยปฏบิ ตั ศิ าสนาไมเ คยรศู าสนา กไ็ มท ราบความจรงิ ของศาสนาและหา
ทางแกเขาไมได วาพระกนิ แรงงานสวนเกนิ ของคนอยางนั้นอยางน้ี พระอยเู ฉยๆ ไม
ไดทําประโยชนอะไรแกโ ลกเขาวาอยา งนั้น หมอ แกงไปไถนาใหค นเหรอ แตเวลาได
ขาวไดอาหารมาก็มาหุงตมที่หมอแกง มนั งานคนละหนา ทๆ่ี เชน ไฟฟาเครอื่ งชารจ
แบตเตอรี่มันไปทํางานใหใคร กระแสไฟที่สองสวางทั่วดินแดนนั้นมันออกจากไหนถา
ไมออกจากที่ชารจหรือโรงไฟฟานะ การสง่ั สอนอบรมคนใหม หี ลกั เกณฑใ หร คู วามผดิ
ถูกชั่วดี และเพอ่ื เปน กาํ ลงั ใจในการประกอบกจิ การตา งๆ เปน สง่ิ จาํ เปนมาแตไหนแต
ไร โดยที่ผูสั่งสอนไมจําตองไปประกอบกิจการตาง ๆ ดังผูมาศึกษาอบรม การอบรม
สั่งสอนเพื่อผลของงานอันถูกตองดีงามไมผิดพลาดซึ่งเหมือนกับชารจแบตเตอรี่ ถา
ไมใ ชเ รื่องศาสนาจะเปนเรื่องอะไร

คนไขไมติดยาไมติดหมอ ไมเกี่ยวของกับยาไมเกี่ยวของกับหมอ จะหายจาก
โรคกลับเปนคนดีไดย งั ไง ยง่ิ กวา นน้ั มนั กเ็ ปน คนตายเทา นน้ั เอง พจิ ารณาดซู ิ คนไข
ตองพัวพันกับยาพัวพันกับหมอ เพราะเปนสิ่งจําเปนที่ตองเกี่ยวของกัน ถาคนไขถือ
วา การรับประทานยาจากหมอการติดตอ เก่ียวขอ งกบั หมอเปน ยาเสพติดแลว คนไข
คนนั้นมันก็ตองตาย คนมกี เิ ลสกเ็ ปน คนไขแ ตล ะคนแตล ะประเภทๆ เพราะมคี วาม
ผิดเต็มตัวมีโทษเต็มใจ ไมม ยี าธรรมโอสถคอื ศาสนาชว ยบาํ บดั รกั ษา ไมม คี รอู าจารย
แนะนาํ สง่ั สอนแลว มนั จะหาความดงี ามมาจากไหนคนเรา โรคคอื ความโลภมนั กร็ นุ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๓

๑๓๔

แรง โรคคอื ความโกรธกร็ นุ แรง โรคคอื ความหลงไมม ขี อบเขตเหตผุ ลกร็ นุ แรง จนทํา
โลกใหแตกไดถาไมมียาคือธรรมบําบัดรักษาเลย

เมอ่ื นาํ ศาสนาเขา มาแกไ ขดดั แปลง หรือชะลางสิ่งที่เปนขาศึกตอความสงบสุข
ของโลกใหเบาบางลงพอมนษุ ยอ ยูด ว ยกันไดด ว ยความสงบสุข มนั เปน ความเสยี หาย
ที่ตรงไหน คนดขี ้นึ ทกุ วนั อาการทุกสิ่งทุกอยางดีขึ้น โลกไดร บั ความรม เยน็ เพราะ
ศาสนธรรมกลอ มเกลาขดั ถู แลว ศาสนาเปน ยาเสพตดิ ทาํ ใหค นเสยี คนทต่ี รงไหน
เหมอื นอยา งคนไขห ายจากโรคดว ยยา หายจากโรคดวยหมอ มนั เปน ยาเสพตดิ ทาํ ให
คนเสียคนทตี่ รงไหน หาที่ตําหนิวาไมถูกไมดีที่ตรงไหน นอกจากคาํ กลา วหาเหลา นน้ั
เปน การอตุ รหิ าเรอื่ งกอ กวน และทาํ ลายความสงบสขุ ของโลกใหฉ บิ หายโดยถา ยเดยี ว
ไมม สี ารคณุ แมแ ตน ดิ เลย จะเปน คาํ พดู วเิ ศษวโิ สมาจากเทวดาตนใด จึงจะพอลงใจ
เชื่อถือได

ยาเสพตดิ เปน สง่ิ ทท่ี าํ ใหค นเสยี คนตา งหาก ศาสนาไมไ ดท าํ ใหค นเสยี คน นอก
จากทาํ คนใหด แี ละดเี ยย่ี มโดยถา ยเดยี วเทา นน้ั ผูไมถืออะไรเลยนั่นแหละคือคนตาย
หมดสารคณุ ผูไมไดติดอะไรไมไดเกี่ยวของกับอะไรเลยคือคนตายไรคุณคา เพราะ
คนตายไมรสู กึ สนใจกับอะไรท้งั สิน้ เราเปน คนดๆี ยังมีชีวิตอยู ตอ งมคี วามจาํ เปน ใน
สง่ิ ทเ่ี หน็ วา จาํ เปน อยรู าํ่ ไปทว่ั โลกดนิ แดน จนชีวิตหาไมแลวจึงไมถืออะไรไมสนใจกับ
อะไรเพราะสดุ วสิ ยั

รางกายมคี วามจาํ เปน กบั วตั ถุ เชน ขาว อาหาร เครื่องนุงหม ที่อยูอาศัยปจจัย
ประเภทตา งๆ สว นใจมคี วามจาํ เปน กบั ศาสนธรรมเปน อยา งยง่ิ ทเี ดยี ว เพราะธรรม
เปน เครอ่ื งเสวยของใจโดยตรง วัตถุไมใชวิสัยของใจ ธรรมเปนทั้งเครื่องสองทางเปน
ท้งั เครอื่ งเสวย เปนที่อบอุนของใจ ใจตองพึ่งพิงธรรมตลอดไปจนถึงจุดที่หมายซึ่งไม
ตอ งอาศยั อะไรมาสง เสรมิ เพม่ิ เตมิ เหมือนคนเดนิ ทาง เม่ือยงั ไมถงึ จดุ หมายปลาย
ทางเมื่อไร ทางยอมมีความจําเปนตลอดไป หรอื เชน เดยี วกบั คนไขเ มอ่ื ยงั ไมห ายจาก
โรค ยากับหมอตองมีความจําเปนที่คนไขจะตองเกี่ยวของอยูตลอดไป จะวา ตดิ หรอื
ไมติดความจริงก็เปนอยางนี้ นน้ั มนั เปน เรอ่ื งใจสกปรก ปากสกปรก ใจมืดใจบอดใจ
ไมไสระกํา ใจไมม ีความรไู มมคี วามหมาย จงึ ไมร จู ักคิดสนใจในสง่ิ ทเ่ี ปน สารคณุ จงึ
พูดเพื่อทําลายมนุษยผูมีจิตเปนกุศลใหขาดผลขาดประโยชน ย่ิงกวา นั้นกท็ ําใหค นโง
หลงและเสยี ไปดว ยอยา งนา เสยี ดาย

จติ คนเราเมอ่ื ยงั มกี เิ ลสตณั หาอาสวะครอบงาํ อยู เรากําลังดําเนินเพื่อการแกไข
ถอดถอนยังไมถึงจุดหมายปลายทางตราบใด ธรรมตองเปนของจําเปน อยูตราบนน้ั
เพ่อื เปนเคร่ืองช้ีแนวทางอยูเ รือ่ ยไป จนกระทั่งถึงที่สุดจุดหมายปลายทางแลว ปุญญ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๔

๑๓๕

ปาป ปหนิ บคุ คล นั่น ใจยอมปลอยเอง เพราะเปน ผมู บี ญุ และบาปอนั ละเสยี แลว
เหมอื นเราเดนิ ขน้ึ มาบนศาลาน้ี เมื่อขึ้นถึงที่แลวบันไดก็หมดปญหาไปเอง ใครไปกอด
บันไดไวมีไหมเมื่อถึงที่แลว นศ่ี าสนากไ็ มไ ดส อนใหค นกอดแบบนน้ั น่ี คนทห่ี ายจาก
โรคแลวก็ไมใชจะมากอดยากอดหมอไว เมื่อหายจากโรคแลวก็ปลอยวางกันไปเองกับ
ยากับหมอ นเี่ ม่ือธรรมเขา ถงึ ใจอยางเตม็ ภมู แิ ลว ก็เปนเหมอื นคนไขกับยากบั หมอ
นน่ั เอง หากปลอ ยวางกนั เอง แลว ศาสนาเปน ยาเสพตดิ ทต่ี รงไหน

เวลานศ้ี าสนธรรมกบั ใจเรา จงเอาใหเ ตม็ ท่ี ใหต ดิ พันกันอยูอยางน้ันอยาลดละ
สตปิ ญ ญาเอาใหต ดิ พันกบั กเิ ลสตัวแสบ ตัวเปนยาเสพตดิ กันทว่ั โลกธาตุ กเิ ลสพาให
สัตวทําชั่วมัวหมองถึงกับมืดบอดไมมองเห็นบุญเห็นบาปอะไรเลย ไมอายเด็กๆ ที่เขา
มศี าสนาประจาํ ใจบา งกน็ บั วา เปน โรคประเภทไอ.ซ.ี ย.ู หมดหวังทั้งที่ลมหายใจยัง
ฟอดๆ อยู กิเลสมันเปนยาเสพตดิ ทําคนใหเ ปนสัตวไ ปมากตอ มากไมเหน็ พดู กนั
สว นธรรมะทน่ี าํ มาแกก เิ ลสจะกลบั เปน ยาเสพตดิ ทต่ี รงไหน ตวั กเิ ลสมนั เปน ยาเสพตดิ
ตา งหาก มันติดมาตั้งกัปตั้งกัลปแลวจนนับภพนับชาติไมได ผูหนึ่งมันกี่กัปกี่กัลป
เรอ่ื งเกดิ เรอ่ื งตาย เพราะอาํ นาจของกเิ ลสพาใหเ ปน ไป นั่นมันเปนยาเสพติดหรือไม
ตดิ ใครปลอ ยกเิ ลสไดส กั คน เบอ่ื หนา ยในกเิ ลสไดส กั คน หลุดพนจากกิเลสไดสักกี่
คน ไมเห็นมี กเิ ลสมนั ตดิ อยใู นหวั ใจนจ่ี นมองดใู จไมเ หน็ เลย ทําไมไมพูดตรงนี้ไม
ตาํ หนิตรงน้ีไมแ กต รงน้ี ถาเปนนักกีฬาจริงตองพูดตองยอมรับความจริงกัน โลกเขา
โลกเราจะไดม วี นั สงบเยน็ บา งสมกบั มมี นษุ ยค รองโลก ไมป ลอ ยใหค วามชว่ั ครอบหวั
ใจมนุษยโดยถายเดียวดังที่เปนอยูทั่วดินแดน

สติเปนของสําคัญ พูดเสมอสติ ปลอยไมไดเพราะเปนธรรมจําเปนอยางยิ่งกับ
ตวั เราผปู ระกอบความเพยี รเพอ่ื ความหลดุ พน ไมใ ชเ พยี รเพอ่ื อยใู นวฏั วน จงมีสติ
ประจาํ ตวั อบุ ายวธิ เี ปลย่ี นแปลงของการภาวนานน้ั มนั แลว แตจ ะปลุกใจตนเองดว ย
อบุ ายวธิ ใี ด ท่จี ิตจะมคี วามสนใจจดจอและสตจิ ะสืบเน่ืองกนั ตองพลิกแพลงเปลี่ยน
แปลงหลายทา หลายทาง แมค าํ บรกิ รรมกม็ ใิ ชจ ะเปน คาํ เดยี วแตต น จนตลอดไป ผู
ฉลาดตอ งหาอบุ ายเปลย่ี นแปลงไปตามทเ่ี หน็ ควรในจงั หวะนน้ั ๆ ทง้ั นแ้ี ลว แตอ บุ าย
ของสติปญญา นีก่ เ็ คยทาํ มาอยา งนัน้ เหมือนกันไมใชไ มเ คยทํา สงิ่ ท่นี ํามาสอนมีแตสิง่
ทเ่ี คยปฏบิ ตั ดิ าํ เนนิ และเหน็ ผลมาแลว ทง้ั สน้ิ จงึ กลา สอนตามความเปน จรงิ ไมคิดกลัว
วา จะผดิ ไป

การพจิ ารณาทางดา นปญ ญากไ็ มว า ภายนอกภายในในสตปิ ฏ ฐานส่ี กาเยกายา
นปุ สสฺ ี วหิ รต.ิ อชฺฌตฺตา วา กาเยกายานปุ สสฺ ี วหิ รต,ิ พหทิ ธฺ า วา กาเยกายานปุ สฺ
สี วิหรต.ิ อชฌฺ ตตฺ พหทิ ธฺ า วา กาเย กายานปุ สสฺ ี วิหรต.ิ พิจารณาทั้งกายนอกกาย

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๕

๑๓๖

ใน พจิ ารณากายนอกบา งกายในบา ง พิจารณาทั้งกายนอกกายใน ยอ มเปน มรรคทง้ั
นั้นถูกตองทั้งนั้นแหละ เวทนากเ็ หมอื นกนั เวทนานอกเวทนาใน เวทนานอกทเ่ี ขาเปน
ทุกขกัน แตเวทนานอกของคนอื่น เวลาเปนทุกขเปนสุขถาเขา ไมแสดงอาการออกมา
เรากไ็ มร ู แตส าํ หรบั การปฏบิ ตั แิ ลว เราถอื กายเวทนาเปน เวทนานอก จิตเวทนาเปน
เวทนาใน สาํ หรบั การปฏบิ ตั เิ รามคี วามรสู กึ แนใ จอยา งน้ี

ก็ไมปฏิเสธเรื่องเวทนานอก เชน เขารองหมรองไหแสดงทุกขเวทนาขึ้นมา แต
อันนั้นมันหางไกลมากตอสติปฏฐาน ๔ ที่มีอยูกับตัวของเราอยางสมบูรณอยูแลว ถา
เวทนาในเวทนานอกไมม อี ยใู นกายในจติ น้ี จะมีอยูที่ไหน สติปฏฐาน ๔ ก็ไมสมบูรณ
ละซิ น่สี ติปฏ ฐาน ๔ มสี มบรู ณแ ตล ะคนๆ นอกจากไมฟ น ขน้ึ มาพจิ ารณาใหเ หน็ เดน
ชดั เทา นน้ั เชน ทุกข สมทุ ยั นโิ รธ มรรค ก็มีอยูในกายในจิตอันเดียวกันนี้มีสมบูรณ
อยูแลว สติปฏฐาน ๔ ก็มีอยูในกายในจิตสมบูรณอ ยแู ลว ถา ลงเปน ทแ่ี นใ จวา สมบรู ณ
อยแู ลว น้ี แมจะพิจารณาเรื่องนอกเขามาประกอบกันดังที่เคยไดอธิบายไวแลวก็ไมมี
อะไรขัดของ แตใ หเ หน็ อยา งนน้ั อยาไปเห็นขดั แยงตอ ธรรม ใครจะพจิ ารณาไปทาง
ไหนไดท ั้งนั้นขึน้ อยูกบั ความฉลาด พระพุทธเจาไมไดสอนคนใหโง

เอาใหจริงใหจังซิ ใหเ ห็นกิเลสหลดุ ลอยไปดวยสตปิ ญญาของเราจริงๆ เพราะ
เปนไปไดจริงๆ เชน พจิ ารณาอสภุ ะกเ็ อาจรงิ ๆ จนเกดิ ความสลดสงั เวชนาํ้ ตารว ง
อสุภะเปนอยางนี้เหรอๆ เหน็ กายเหน็ อยา งนเ้ี หรอ มนั ออกอทุ านภายในใจขึ้นมาเอง
เพราะมนั เปน จรงิ ๆ รเู หน็ จรงิ ๆ และสลดสงั เวชขน้ึ มาภายในใจ แลว รา งกายกเ็ ปอ ย
พังทลายลงไปๆ สติปญญาจอลงไปตรงไหนเหมือนกับเอาไฟเผาพรอมๆ กันไป
กระจายลงไปเปอ ยลงไปใหเ หน็ อยา งชัดเจน จากอสุภะก็แปรลงไปเปนธาตุ มีแตธาตุ
กบั จติ เทา นน้ั เมื่อรางกายสลายลงไปหมดแลว

แตอยาไปคิดคาดคิดหมายกับการอธิบายนี้นะไมถูก จะเปน สญั ญาอารมณ
พิจารณาจนมันลงถึงที่สุดของมันในขั้นนี้แลว จิตจะเขาใจไดอ ยางชดั เจนพรอมดว ย
ความอศั จรรยเ กนิ คาด วา .โธมีแตของปฏิกูลเต็มรางกายทุกสวน จากนน้ั กแ็ ปรเปน
ธาตุดิน นาํ้ ลม ไฟ มันหลงอะไรเมื่อเปนอยางนี้ ไปเสกสรรปนยอมันหาอะไร ความ
จรงิ มนั มไิ ดเ ปน ไปตามความเสกสรรนน่ั เลย มนั เปน ดงั ทพ่ี จิ ารณารเู หน็ อยเู ดย๋ี วนต้ี า ง
หาก ความเสกสรรน้ันมันคือของปลอมจากกเิ ลสลวนๆ เพราะกเิ ลสมอี าํ นาจมาก
แหลมคมมากทเี ดียว ของไมส วยไมง ามมนั กเ็ สกสรรวา สวยวา งาม เราก็เชื่อมัน ของ
อนจิ จฺ ํ เปนของไมเ ที่ยงแปรสภาพอยูตลอดเวลา มันก็เสกเปา วา เปนของจีรงั ถาวร
เปน สตั ว เปนบุคคล เปน เราเปน เขาไปไดอ ยา งไมอ ายความจรงิ คอื ธรรมบา งเลย ทุกฺขํ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๖

๑๓๗

อนตฺตา พระพุทธเจา สอนไวว าเปน ทกุ ข ไมใ ชเ ราไมใ ชข องเรา ไมใชเขาไมใชของเขา
ไมใชของใคร กเิ ลสกไ็ ปลบลา งใหเ ปน ตามมนั เสยี สน้ิ

เหมอื นเทวทตั ทล่ี บลา งศาสดาลบลา งศาสนานน่ั แล ทกุ วนั นม้ี นั กาํ ลงั ลบลา ง
อยา งนน้ั แหละ เชน หาวา ศาสนาเปน ยาเสพตดิ เปน ตน มนั ลบลา งแบบกเิ ลสลบลา ง
ธรรมนน่ั แล ปากวา อนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตตฺ า แตจ ติ ไมไ ดร เู หน็ ไปตามอนจิ จฺ ํ ทกุ ขฺ ํ อนตฺ
ตา แตมันไปตามแบบกิเลสกนั ทง้ั น้นั และลบลางธรรมของตัวเองใหงอกเงยขึ้นไมได
อสุภะอสุภังความจริงก็เห็นกันอยางชัดๆ ไมปดบังเลย มอี ยูทกุ ตวั สตั วบ คุ คล แตใจก็
ไมเ หน็ วา เปน อสภุ ะอสภุ งั มันเห็นเปนของสวยของงามไปเสีย จึงเปนเรื่องของกิเลส
ลบลา งธรรมทง้ั นน้ั ถาไดรูตามเรื่องของธรรมจริงๆ ทท่ี า นสอนไว ใครจะมาฝน แบก
หามอุปาทานใหมันกดถวงจิตใจ ใหทุกขรอนแทบลมแทบตายทั้งวันทั้งคืนอยูอยางนี้
ละ มันตองสลัดปดทิ้งดวยกันทั้งนั้นแหละคนเรา ถา เหน็ โทษเหน็ ภยั จากการพจิ ารณา
จรงิ ๆ ตามหลกั ธรรมไมส งสยั แลว เมื่อไมมีกิเลสตัวจอมปลอมรายแรงขัดแยงหลัก
ธรรมภายในใจแลว จะเหน็ ความจรงิ โดยลาํ ดบั ๆ ใจจะปลอ ยวางวา งเปลา ไปเรอ่ื ยๆ มี
ความสบาย หววิ ปญญาก็พุงตัวไดสะดวก เอา มันขัดที่ตรงไหน มันของที่ตรงไหน
ตามแกตามปลดมันจนได

รูป กายทั้งกายก็คือกองรูปอยูแลว แยกแยะออกดูทั้งเรื่องอสุภะอสุภังตลอด
เสน เอน็ ชน้ิ เลก็ ชน้ิ นอ ยทต่ี อ กนั เปน รา งกาย มันก็เห็นทุกชิ้นทุกอันนะซิ อวยั วะสว น
ตางๆ ทตี่ ิดตอกนั เปน กอนเปนกลมุ จนเปนรางเปน กายอยูเ วลานี้ กอ็ าศยั เสน เอน็ รดั
รงึ ไว หนงั หมุ หอ ไวเ ทา นน้ั มนั เหมอื นผา คลมุ ศพนน้ั แล ผาคลุมศพมันเปนของดิบ
ของดีอะไรบาง ฟงวาศพๆ อันนี้มันก็หนังหุมกระดูก หมุ เนอ้ื หมุ ของสกปรกโสโครก
ไว มนั จงึ เหมอื นผา หอ ศพไวน น้ั แหละ ผิดอะไรกับผาหุมหอศพ พจิ ารณาหย่งั ปญญา
ลงใหถ งึ ความจรงิ ใหเ หน็ ความจรงิ อยา งนซ้ี ิ ใจก็ถอนของมันเอง อุปาทานจะหนาแนน
ขนาดไหน มนั ก็เหมอื นกับความมืดนแี่ หละ จะมืดขนาดไหน มืดมานานกี่กัปกี่กัลปก็
ตาม พอเปดไฟจาขึ้นเทานั้นความมืดแตกกระจายไปหมด นี่เมื่อปญญาความสวางได
หยั่งลงตรงไหนแลว ความมืดคือกิเลสมันแตกกระจายไปหมด นตถฺ ิ ปญฺ าสมา
อาภา ทานวา แสงสวางเสมอดว ยปญญาน้ีไมม ี ไมมีอะไรสวางเสมอดวยปญญา พระ
อาทิตยก็สองมาแตที่แจงเทานั้น แตที่มืดพระอาทิตยไมตามสองได สว นปญ ญานส้ี อ ง
ไดตลอดทะลุปรุโปรงไปหมด จงึ เรยี กวา โลกวิทู รแู จง เหน็ จรงิ โลกทง้ั สาม

เราพจิ ารณารเู หน็ ในขนั ธใ นใจเราแจง ชดั ฉนั ใด สง่ิ ภายนอกเหลา นน้ั กฉ็ นั นน้ั
เหมือนกันไปหมด แทงทะลุไปหมดดวยปญญาที่ซึ้งภายในใจ การพิจารณากาย
พจิ ารณาอยา งทว่ี า น้ี กายในกายนอกเหมือนๆ กัน รใู นรนู อกทะลุถงึ กันหมด เราถนดั

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๗

๑๓๘

ทางไหน ถนัดทางอสุภะก็ฟาดลงไปใหเห็นเปนกองอสุภะอสุภังปฏิกูลโสโครกเต็มเนื้อ
เตม็ ตวั ไปหมด มีแตกองอสุภะทั้งนั้น ถาเราไมนอนใจถกู กลอ มจากกิเลสใหหลบั อยู
ตลอดเวลาเทา นน้ั มนั ตอ งรู เวลาพจิ ารณาเขา ใจแลว กป็ ลอ ย มันไมฝนถือตอไปได
หรอก ที่ยึดถือก็เพราะความไมรู เพราะความสาํ คญั มน่ั หมายไปตามกเิ ลสใหม นั มดั
แนน โดยสาํ คญั วา เปน สตั วเ ปน บคุ คล เปน เราเปน ของเราเสยี ทกุ ชน้ิ ทกุ อนั อะไรก็
เหมาวา เปน เราเปน ของเรา อุปาทานเขาไปแทรกไปสิงอยูหมดทุกสรรพางครางกาย
ธรรมเลยหาทแ่ี ทรกไมไ ด ใจทั้งดวงกายทั้งราง สิ่งเกี่ยวของทั้งมวลมีแตกิเลสตัวเปน
เราเปน ของเราเขา มดั ไวห มด ไมม องเหน็ ของจริงแมน ดิ บา งเลย

เมื่อปญญาสอดแทรกเขาไปตามที่ทานสอนไวแลว สง่ิ เหลา นน้ั กค็ อ ยกระจาย
ออกไปๆ สดุ ทา ยกเ็ ขา ใจไดอ ยา งเตม็ เมด็ เตม็ หนว ย รรู อบขอบชดิ สละคืน ปฏนิ สิ สฺ คฺ
โค ตามของเดมิ เขาเสยี อนาลโย หมดความหว งใยอาลยั เสยี ดาย เพยี งขน้ั นี้กเ็ ปน
ความสขุ มากแลว ใจเบาแลว ใจเบาแสนเบา ถาพูดถึงการคาขายก็มีกําไรมาก ตั้งตน
เปน เศรษฐไี ดแ ลว ในขน้ั น้ี

ที่นขี่ ัน้ มหาเศรษฐี เอา สติ ปญญา ศรทั ธา ความเพยี ร ฟาดลงไป ความสขุ
ความทุกขมันมีอยูในขันธ มันก็สักแตเวทนา ฟงซิทานพูด เวทนาคอื ความเสวย มัน
แสดงขน้ึ มาใหเ ราผยู งั หลงยงั ยดึ เสวย สุขเกิดขึ้นก็ดับไป แนะ เอาสาระอะไรกบั มนั
ทุกขเกิดขึ้นตั้งอยูดับไป อุเบกขาเฉยๆ เกิดขึ้นตั้งอยูดับไป ทั้งทางกายและจิตใจ เอา
เปน สตั วเ ปน บคุ คล เอาเปน เราเปน ของเราทไ่ี หนได ถาหยง่ั ลงดวยปญ ญาแลว มัน
ตอ งเห็นเปนความจริงแตล ะอยางๆ ไปโดยลําดับไมสงสัย

สญั ญา สญั ญานเ้ี ปน ของละเอยี ดมาก ในวงขันธหารูสึกสัญญาละเอียดมากที
เดียว ในวงผูปฏิบัติทั้งหลายตองไดพิจารณาอยางละเอียดลออกวาจะเขาใจและปลอย
วางได มันคอยซึมซาบออกไปวาดภาพหลอกเจาของไดอยางแยบยลมาก สังขารยังมี
กระเพื่อม ขณะที่จะปรุงมันรูสึกมีอะไรๆ ภายในจติ แลวกระเพื่อมตัวออกมาเปน
ความปรงุ แตส ญั ญานี้ไมกระเพอ่ื มเลย คอยๆ ซึมซาบออกไปดวยความละเอียด
เวลากาํ หนดลงไปจะปรากฏเปน ภาพหลอกเจา ของอยูแ ลว

จติ ใจก็อยกู ับขนั ธห า นแี้ หละ เอาขันธห านเ่ี ปนเครื่องหลอกตัวเอง หลอกเรอ่ื ง
นัน้ หลอกเรื่องน้ี หลอกเร่ืองสัตวเ ร่อื งบคุ คล เรื่องอะไรตออะไร สญั ญานห่ี มายวาด
ภาพไว สงั ขารก็คิดไปปรุงไปตามมัน โนน เวลาถงึ ขน้ั ทค่ี วรรไู ดม นั รเู องเพราะอาํ นาจ
ของปญญานั่นแล สัญญาจะวาดภาพไปไหน พอกําหนดรูทันดวยปญญามันก็ถอยตัว
เขา มา เขา มาอยทู จ่ี ติ น้ี ภาพกห็ ายไป ภาพอะไรขึ้นมาปรากฏ เวลาตามกาํ หนด
พจิ ารณาเขา จรงิ ๆ ภาพเหลา นน้ั จะยน เขา มาๆ สูจิต จงึ เปน ความจรงิ วา ภาพเหลา น้ี

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๘

๑๓๙

ออกไปจากจิต เหน็ ไดอ ยา งชดั เจน จะภาพอะไรๆ ก็ตามมันออกไปจากใจ ใจเปนผู
ไปปรุงหลอกตัวเองตางหาก ภาพอันแทจริงนั้นไมมี มันมีอยูกับสัญญา สงั ขารทป่ี รงุ
หลอกตัวเองตางหาก ภาพทเ่ี ราวาดขน้ึ นน้ั มนั เปน ขน้ึ จากใจ แลว กห็ ลงและตน่ื เงาจาก
ภาพที่เกิดขึ้นกับตนไมมีวันเบื่อหนายอิ่มพอ ใจถือเอาอาการของขันธหาที่แสดงอยูนี้
มาเปน เครอ่ื งเพลดิ เพลนิ ลมุ หลงเศรา โศกเสยี ใจ เปนอยูอยางนี้ตลอดกัปตลอดกัลป

วญิ ญาณกร็ แู ยบ็ ๆ ขณะที่สัมผัสกับสิ่งภายนอก พอรบั รูแ ลวกด็ บั ไปขณะที่สิ่ง
ภายนอกดบั ไป และดับไปพรอมๆ เหมอื นแสงหง่ิ หอ ยหรอื แสงฟา แลบ คิดไป
พจิ ารณาไปทวนไปทวนมา ทวนกระแส พลิกหนายอนหลังดวยอุบายของปญญา
เพราะความไมไ วใ จในสง่ิ เหลา น้ี เพอ่ื ทราบความจรงิ ของสง่ิ เหลา นด้ี ว ยความสนใจ
พจิ ารณาไมห ยดุ กร็ จู นได เมอ่ื รแู ลว กเ็ ปน ขนั ธห า อยอู ยา งนน้ั แหละ เราไมร มู นั กเ็ ปน
ของมันอยูนั้น แตมันเปนเรื่องของสมุทัยถาไมรูไมเขาใจ เพราะมันออกมาจากใจ
สมทุ ยั โนน สมทุ ยั แทๆ กเิ ลสแทๆ อยูที่ใจ

การพจิ ารณาธรรมขน้ั นเ้ี ปน ความเพยี รอตั โนมตั ิ คือหมุนตัวไปเองไมตอง
บังคับเหมือนข้ันเรมิ่ แรกที่กําลังลมลุกคลกุ คลาน เพราะกเิ ลสมีกาํ ลงั มากมันฉดุ ลาก
เอาไวไ มใ หพ ากเพยี ร พอมาถึงขั้นกิเลสตาย ที่ยังเหลือก็หมอบและซอนตัว สติปญญา
มีกําลังมากจึงหมุนตัวไปเองโดยไมมีกิเลสตัวใดมาคัดคานตานทาน สติปญญา
พิจารณาเขา ไปตีตะลอ มเขา ไป เขมงวดกวดขันเขาไปโดยลําดับๆ จนเขา ใจเปน
ระยะๆ เปน วรรคเปน ตอน กิเลสก็แคบ งานกม็ วี งแคบเขา ไปตามๆ กนั และแคบเขา
ไปๆ สุดทายกิเลสท่เี หลือกร็ วมตัวเขาไปกองอยใู นหวั ใจดวงเดียว แยบ็ ออกมากร็ ูวา
มันออกจากใจนั้นเสีย ออกไปทางดานสัญญาก็ไปไมได ออกไปทางดานสังขารเปน
เรื่องเปนราวก็ไปไมได เพราะสติปญญาทันอยูทุกระยะ พอปรุงแย็บออกมาเหมือน
แสงหิ่งหอยมันก็ดับไปพรอม เมือ่ สติทนั แลว เร่อื งราวก็ไมสบื ตอ กนั ไปยืดยาว สตริ ทู นั
ก็ดับของมันรูทันกับรูเทาพรอมอยูดวย สติปญญาก็ฟาดฟนหั่นแหลกกันลงไปตรงนั้น
สดุ ทา ยกเ็ หลอื แตอวิชชา

อวชิ ชากบั จิตมันเปนอนั เดียวกนั ถา สงวนจติ ก็สงวนอวิชชาดว ยนัน่ แล เพราะ
กําลังกลมกลืนเปนอันเดียวกัน รกั จิตสงวนจติ ก็รกั อวชิ ชาสงวนอวิชชา ติดจิตก็ติด
อวิชชา หลงจิตก็หลงอวิชชาเพราะมันอยูดวยกัน ถึงขั้นนี้แลวสติปญญาทํางานไมตอง
บังคับ นอกจากรง้ั เอาไวใ หอ ยใู นความพอดแี ละใหเ ขา พกั สงบในสมาธติ ามเวลาทค่ี วร
ไมใ หบ ุกงานจนเกินไป จติ ขน้ั นม้ี แี ตจ ะไปทาเดียว มีแตจะเอาใหทะลุทาเดียว ทจ่ี ะ
ถอยยอนไปขางหลังไมมีเลย เปน อกุปฺปฯๆ มาโดยลาํ ดบั จนกระทั่งถึงจุดพอตัวแลว
กล็ งนวิ เคลยี รห รอื ปรมาณซู ิ ปญญาขนั้ นวิ เคลยี รขน้ั ปรมาณตู ูมลงไปตรงน้ัน อวิชชาก็

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๓๙

๑๔๐

แหลกแตกกระจายไปหมดราวกบั โลกธาตหุ วน่ั ไหว (ความจรงิ โลกธาตภุ ายในจติ ถนดั
กวาที่อื่นๆ)

ทนี ีห้ มดละ เชื้อที่เคยเกิดเคยตายมากี่ภพกี่ชาติกี่กัปกี่กัลป ก็เห็นไดอ ยา ง
ประจักษ วาบดั นี้ไมม อี ีกแลวเรอื่ งความเกิดความตายตอไป เพราะเชอื้ ทจี่ ะพาใหเ กิด
ใหต ายคือ อวชิ ชานไี้ ดถกู ทาํ ลายโดยส้ินเชงิ แลว นน่ั แลทท่ี า นวา วสุ ติ ํ พรฺ หมฺ จรยิ ,ํ วิ
มตุ ตฺ สมฺ ึ วมิ ตุ ตฺ มติ ิ ญาณํ โหต,ิ เสรจ็ งานทแ่ี สนลาํ บากแสนตะเกยี กตะกาย แทบจะ
ไปจะอยู สน้ิ เสรจ็ ในขณะอวชิ ชาตกบลั ลงั กจ ากใจ เมื่อจิตหลุดพนแลว ญาณความรู
แจงชัดวา จิตหลดุ พน แลวยอ มปรากฏขน้ึ ในขณะนน้ั นง่ี านของพระเราสน้ิ สดุ ลงทต่ี รง
น้ี ไมสิ้นสุดที่ตรงไหน สน้ิ สดุ ตรงนเ้ี อง อวชิ ชาแตกกระจายลงไปแลว ก็เรียกวา ขา ศกึ ท่ี
รบกันนั้นหมดฤทธิ์และตายเกลี้ยงไมมีเหลือแลว สติปญญาที่หมุนตัวเปนเกลียวก็
หมดภาระไปเอง หมดปญหาไปเองเพราะไมไดฆากิเลสตัวใดอีกแลว กเิ ลสตวั ไหนจะ
มาใหฆาอีก เพราะมนั ฉบิ หายหมดแลว จอมวัฏจักรสิ้นสุดลงไปแลวกห็ มดเทาน้นั

ผลแหง งานของเราทท่ี าํ มามากนอ ยหนกั เบาขนาดไหนเปน ธรรมเกนิ คา เมื่อ
มาถึงตรงนี้แลวหมดอดีตอนาคตไมสําคัญมั่นหมาย ปจ จบุ นั กร็ เู ทา ชดั เจนทกุ อยา ง
แลว หมดทั้งอดีตทั้งอนาคตทั้งปจจุบัน ปญหาไมมี แมยังมีชีวิตอยูทานก็ไมมีปญหา
ตายทา นกไ็ มม ปี ญ หาสาํ หรบั ทา นทร่ี อู ยา งนน้ั แลว จะตายดว ยเหตผุ ลกลไกอะไรกต็ าม
ไมมีปญหา เมอ่ื ถงึ ขน้ั หมดปญ หาแลว ไมม ปี ญ หาทง้ั นน้ั สาํ หรบั พระอรหนั ตท า นตาย
ดวยเหตนุ เ้ี องทานจะยืนนพิ พานก็ได เดนิ นพิ พานกไ็ ด นั่งนิพพานก็ได นอนนิพพานก็
ได ตามอัธยาศัยแหงความถนัดใจของทานแตละองคๆ ทท่ี า นจะทาํ ในวาระสดุ ทา ย
แหงขันธจะแตกสลาย

ดงั ทา นอาจารยม น่ั ทา นแสดงทเ่ี ราเขยี นไวใ นประวตั ทิ า นนน้ั เพราะเหตไุ ร
เพราะทุกขเวทนาอันเปนสมมตุ ิภายนอกนี้ ไมส ามารถเขา ไปเหยยี บยาํ่ ทาํ ลายจติ ใจ
ของทา นใหก าํ เรบิ ใหห วน่ั ไหวได แลวทําไมทานจะทํานิพพานตามอัธยาศัยของทานไม
ได เพราะจติ ทา นอยเู หนอื สมมตุ แิ ลว น่ี เวทนาก็เปนสมมุติ ทุกขเวทนามันมีอยูเพียง
รา งกายนเ้ี ทา นน้ั ไมส ามารถเขาไปทับถมจติ ใจของทา นใหห ว่ันไหวไปไดเลย ทาน
ทําไมจะทําตามอัธยาศัยของทานไมไดละ นิพพานทา ไรก็เอาซิ ในวาระสดุ ทา ยกเิ ลส
ตัวใดจะมาขัดขวางทานไดอีก เมอ่ื มนั ตายดว ย กุสลา ทา นปราบเรยี บแลว พวกเรามนั
พวกตาบอดหหู นวก ใจหองนํ้าหองสว มที่แสนสกปรกโสมม ยงั ไปกลา ใหค ะแนนทา น
ตดั คะแนนทา นวา เปน ไปไมไ ด ที่ถูกควรเปน อยางนัน้ อยางน้ี ไมอายตาบอดของตัว
บางหรอื ท่กี ลาไปจงู คนตาดนี ะ

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๔๐

๑๔๑

ทไ่ี ดม าเปน ครเู ปน อาจารยส อนหมเู พอ่ื นน้ี ผมเคยเปน มาแลว ตอนที่จิตมันยัง
ไมไดเรื่องไดราว มนั ฝน เราอยา งหนกั ทง้ั ๆ ที่จิตเราตั้งอกตั้งใจขนาดนั้นยังเปนได
กิเลสมันถอยใครเมื่อไร พอจากทานอาจารยมั่นไปได ๒-๓ วนั จิตมันดีดมันดิ้นหา
เขยี งสบั ยาํ เพอ่ื เปน อาหารกเิ ลสอยา งเหน็ ไดช ดั ถึงทราบไดชัดวา ออ…นม่ี นั กาจบั ภู
เขาทอง….วา เจา ของ อยกู บั ครบู าอาจารยจ ติ สงบรม เยน็ พอออกจากทานมาแลวไม
ไดเรอ่ื งไดราว ทาํ ความเพยี รกเ็ ดนิ ไปเฉยๆ ไมมีอุบายอะไรที่จะแกกิเลสไดสักตัว
เดียว มแี ตค วามฟงุ ซา นภายในใจ นบั วนั รนุ แรงขน้ึ ทกุ วนั ๆ อยหู างทา นไมไ ด ถาเปน
อยา งน้ี เรารแู ลว นห่ี นจี ากครบู าอาจารยไ มไ ดเ มอ่ื เปน แบบน้ี เรารบี กลบั คนื ไปหาทาน
ทันที แตเ ดชะบญุ เวลากลบั คนื ไป ทา นไมเ คยตาํ หนติ เิ ตยี น ทา นไมเ คยขบั ไลไ สสง เลย
ความจรงิ เรากไ็ ปภาวนา คดิ วาประมาณเดอื นนนั้ เดือนนก้ี ็จะกลบั มา แตมันไมทันถึง
เดอื นนน้ั เดอื นนน้ี น่ี า ไฟนรกในใจมนั เผาขน้ึ มากอ นน่ี ก็ตองรีบกลับมา นี่ก็ไดเอา
เรอ่ื งทเ่ี คยผา นมาแลว นแ้ี หละมาสอนหมเู พอ่ื น เพราะจติ ใจเราเหมอื นๆ กัน

เรื่องของกิเลสแลวจะไมเดินนอกลูนอกทางของกิเลสไป จะตองไปตามทาง
ของกิเลสโดยตรง ใครอบุ ายทนั กไ็ ด ใครอุบายไมทันก็จมไปเพราะมัน อาจริโย เม
ภนเฺ ต โหหิ, อายสฺมโต นสิ สฺ าย วจฉฺ าม.ิ ทานถงึ ไดวา …พึ่งตัวเองยังไมไดตองอาศัย
ครูบาอาจารยเปนที่พึ่งไปกอน ๕ พรรษานน้ั ทา นพดู ไวพ อประมาณ ถา ๕ พรรษา
ลวงแลวยังเปนไปไมไดก็ตองอยูเพื่อศึกษาอบรมกับทานผูดีกวาตนตอไป คิดดูซิ พระ
๖๐ พรรษาที่ยังไมมีหลักเกณฑก็ยังตองมาขอนิสัยจากผู ๑๐ พรรษา แตม หี ลกั จติ
หลกั ธรรมวนิ ยั ทา นบอกไวแ ลว ในพระวนิ ยั เพราะมนั ไมส าํ คญั อยกู บั พรรษา แตส าํ คญั
ที่ความทรงตัวไดหรือไมได สาํ คญั ตรงนต้ี า งหาก

อยาเชื่อมันงายๆ กเิ ลส เราเคยเชอ่ื มนั มานานแลว ไดผ ลอะไรจากการเชอ่ื กเิ ลส
นเ้ี ราตง้ั ใจจะมาเชอ่ื ธรรม การเชื่อธรรมตองฝนกิเลสถึงจะจัดวาเชื่อธรรมและปฏิบัติ
ตามธรรมได ถา ยงั ไมฝ น กเิ ลสกแ็ สดงวา เราเชอ่ื กเิ ลส ยอมจํานนตอ กิเลสรํ่าไป ทั้งๆ ที่
วา เราปฏบิ ตั ธิ รรมนน้ั แล เมื่อจิตยังตั้งหลักไมไดตองเปนอยางนั้นดวยกันนักปฏิบัติ
เรา แมต ง้ั หลกั ไดแ ลว กย็ งั มคี วามจาํ เปน โดยลาํ ดบั เกย่ี วกบั ครบู าอาจารยท ต่ี นจะตอ ง
ศึกษาตอไป ไมใ ชว า ตง้ั หลกั ไดแ ลว จะไมม คี วามจาํ เปน กบั ครอู าจารย มนั จาํ เปน ตาม
ขั้นของจิตของธรรมนั่นแล

เมื่อพูดตามความจริงแลวมันหนีจากทานไมได ย่ิงจําเปน มากขึ้นตามข้นั ของ
จติ ของธรรมภายในใจ นผ่ี มกเ็ คยเปน มาแลว ในขั้นที่พอตั้งตัวได เชน จติ มีความสงบ
เปน สมาธเิ ปน หลกั เปน เกณฑใ นจติ ใจ ไมว นุ วายสา ยแสก บั สง่ิ ภายนอก แตเ ราหวงั จะ
กา วหนาละซจิ ะทํายงั ไงจึงจะกา วหนา เพราะอบุ ายวธิ ตี างๆ จะพิจารณามันไมคอยได

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๔๑

๑๔๒

ความอะไร ลําพังตนทําเองไมมีผูบอกแนะ มนั ตอ งมาอาศยั ทา นอกี นน่ั แหละ บางที
พิจารณาทางดานปญญามันติดขัดอะไรตออะไร อุบายวิธีเจาของที่จะแกความติดขัด
ซึ่งเปนเรื่องของกิเลสนั้น มันไมทันมันไมพอมันก็แกไมได เมอ่ื เวลามาเลา ถวายทาน
ทา นใสป บุ เดยี วเทา นน่ั ปญหาขอของใจนั้นๆ แตกกระจายไปในทันทีทนั ใดเลย นี่ก็
กิเลสหลดุ ลอยไปเพราะทาน เมอ่ื เปน เชน นน้ั กเ็ หน็ คณุ คา ในการอยกู บั ทา นนะ ซิ จงึ
เปน ความจําเปนไปเรือ่ ยๆ

ดงั ทว่ี า กเิ ลสมนั มารวมตวั อยใู นจติ ดวงเดยี วนน้ั ถงึ ๘ เดือน นี่ถาสมมุติวาพอ
แมค รูจารยย งั มีชีวิตอยูมนั จะไมต ิดอยนู านขนาดนั้นเลย โนน มันจะพังทลายลงตั้งแต
ขณะที่เริ่มปรากฏอยูที่วัดดอยฯ โนน วนั เดอื นสามแรม พอถวายเพลงิ ทา นเรยี บรอ ย
แลวก็ขึ้นไปวัดดอยฯ ไปภาวนาอยนู น่ั ตอนนน้ั จติ ของเรามนั สวา งไสว กอ็ ยา งวา นน่ั
แหละ คนเปน บา อศั จรรยต วั เอง ไมม ใี ครอศั จรรยเ ทา เจา ของอศั จรรยบ า ในตวั เอง ไม
ใชอ ศั จรรยธ รรมแตเ ปน อศั จรรยบ า ความหลงความยึดจิตอวชิ ชา มันจึงอัศจรรยตัว
เอง เวลาเดินจงกรมอุทานออกมาในใจวา แหม…จติ เราทาํ ไมสวา งเอานกั หนานะ รา ง
กายเรามองดูมันเห็นพอเปนรางๆ เปน เงาๆ เพราะความรูทะลุไปหมด สวา งไปหมด
เลยกอ็ ศั จรรยล ะ ซิ เราถงึ วา อศั จรรยบ า วนั นน้ั เปน วนั จะฉนั จงั หนั

ระยะนั้นไมไดอดอาหารมากนะเพราะทองไมดีมาแลว อดเพียง ๓ วนั มาฉนั
มันก็ถายแลว นั่นก็อด ๓ วนั ตอนนั้นพรรษา ๑๖ เพราะเรอ่ื งอดอาหารเราเรม่ิ
สมบุกสมบันมาตั้งแตเ ร่ิมปฏบิ ตั อิ ยแู ลว นสิ ยั ของเราเองมนั ถกู กบั การทรมานดว ย
การอดอาหาร วนั นน้ั ไมไ ดบ ณิ ฑบาต ทา นอาจารยก งมาทา นอนญุ าตใหช าวบา นมาใส
บาตรวนั พระในวดั ทกุ ๆ วนั พระทว่ี ดั วันนัน้ พอดีเปนวนั ท่ีจะฉนั พอไดอรุณแลวก็
ออกจากกุฏิไปเดินจงกรมทางดานตะวันตก เดนิ อยจู นกระทง่ั ถงึ เวลาบณิ ฑบาต เดนิ
ไปเดินมาและรําพึงขนึ้ มาวา เอ….จติ นท่ี าํ ไมอศั จรรยน กั หนานะ มนั สวา งไสวเอามาก
น่ถี าพอ แมค รูจารยย งั อยู จิตอวิชชาดวงสวางไสวมันจะพังทลายลงไปตั้งแตระยะนั้น
แหละ มนั จะขาดสะบน้ั ไปเลย นก่ี เ็ พราะอบุ ายเราไมท นั มหิ นาํ ยงั ตดิ ยงั ยดึ มนั เขา เสยี
อีก

พอนึกวา จติ อัศจรรยน กั หนาอยา งนนั้ ขณะจิตหนึ่งผุดขึ้นมาอยางไมคาดไมฝน
วา “ถามีจุดมีตอมแหงผูรูอยูที่ไหน นน้ั แลคอื ตวั ภพ” เพยี งเทา นเ้ี ราเลยงงเปน ไกต า
แตกไปเลย แทนทีจ่ ะไดอ ุบายจากอุบายนัน้ เลยไมไ ด ยงั กลบั เพม่ิ ความสงสยั เขา ไปอกี
แหม…เมอ่ื เรามาพจิ ารณาทหี ลงั อุบายนี้ถูกตองจริงๆ แตป ญ ญาเรามนั โงต า งหากจงึ
ไมทันกับอุบายที่ผุดขึ้นมาบอกนั้น เมื่อรําพึงถึงเรื่องความอัศจรรยของจิตพอหยุดลง

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๔๒

๑๔๓

เทา นน้ั อุบายก็ผุดข้ึนมาเปนคาํ ๆ เปน ประโยคๆ ทเี ดยี วนะ (นถ่ี า เปน ทา นผรู ผู ฉู ลาด
ทา นกว็ า “ธรรมเกดิ ” แตเรามันโงจึงไมอาจคิดขึ้นได) จากนน้ั มาไมล มื เลยวา “ถามจี ดุ
มีตอมแหงผูรูอยูตรงไหน นน้ั แลคอื ตวั ภพ” วา อยา งนเ้ี รางงเหมอื นไกต าแตก แทนที่
จะเขา ใจ ก็จุดสวางไสวนะซิ มันมีจุดอยูนั้นนะ นั่นแหละคือจุดคือตอมแหงผูรู ก็มัน
อยูท ่ีผรู นู ่นั เอง

ถามีจุดมีตอมแหงผูรูอยูตรงไหน นน้ั แลคอื ตวั ภพ นน่ั บอกชดั ๆ เลยนะ แต
เรามันงงเปนไกตาแตกไปได เอ…จุดที่ไหน ตอมที่ไหน เอาอกี แหละ ก็มองเห็นชัดๆ
อยแู ลว เพราะจดุ สวา งมนั เหน็ เปน ดวงอยใู นจติ สวา งจา อยภู ายในจติ น้ี พูดงายๆ ก็
เหมอื นตะเกยี งเจา พายุ มนั สวา งจากไสต ะเกยี ง นนั่ ตัวไสมันละคือท่จี ดุ ท่ีสวาง มันก็
เหน็ อยแู ลว นก้ี เ็ ปน อยา งนน้ั มนั สวา งจา อยกู บั จติ จดุ แหง ความสวา งมนั กเ็ หน็ ไดอ ยา ง
ชัดๆ แตมันไมจี้เขาตรงนี้ซิ กลบั ลบู คลาํ ไปทไ่ี หนตามประสาความโงน น่ั แล อบุ ายผดุ
ขน้ึ มาขนาดนน้ั แลว นา จะยดึ ได มันยังไมเห็นยึดได โงข นาดไหนพระเรานะ

กแ็ บกปญ หานไ้ี ปคนเดยี วทางอาํ เภอบา นผอื ทา บอ ในปาในเขา ทแี รกทา น
เจา คณุ ธรรมเจดยี ท า นไปดว ย เรากจ็ าํ เปน ใหท า นไปดว ย แตเ วลาอยดู ว ยกนั เรากค็ อย
หลกี เลีย่ งทา นอยูเร่ือย เพราะกลวั ขาดการสบื ตอ ทางความเพยี ร ไมค อยมาสนทนา
ธรรมกบั ทา นบอ ยนกั ทา นจงึ ไดใ สป ญ หาเราวา “เธอเอย เรากลบั ไปแลว เธอกจ็ ะสบาย
หรอก เธอยงุ เพราะเรา” ทา นวา อยา งนน้ั คอื เรามนั ไมส ะดวกจะอยูด ว ยใครๆ เวลา
นน้ั ทานก็มีเรื่องจะพูดจะคุยอะไรกับเราอยูเรื่อย สว นเรามนั ขาดความเพยี รไมอ ยาก
ใหเ สยี เวลา เวลาพูดคุยกับทานมันก็ชะงักไปบางในทางความเพียร พอออกจากทาน
ไปมันดีดผึงๆ

จึงตองกลับมาที่วัดดอยฯ อีก เดอื นเมษายนมาบวชหลวงตาเรญิ พอบวชแลว
ก็ขึ้นวัดดอยฯ อีก จุดตอมนี้มันถึงไดไปเขาใจกันที่ตรงนั้นแหละ ที่วัดเกาวัดที่เกิด
ปญ หานน่ั แล เปน แตเ พยี งคนละกฎุ เี ทา นน้ั พอเขา ใจอันนีแ้ ลว โฮย คาํ วา จดุ วา ตอ ม
มันไมมีปญหาอะไรเลย ถา สมมตุ วิ า มาเลา ถวายทา นอาจารยม น่ั ตรงนป้ี บ ถาพอแมค รู
จารยย งั อยนู ะทา นจะใสผ างมาทนั ที ทนี จ้ี ะเขาใจปุบ เดยี วจุดนนั้ กพ็ งั ทลายไปเลย นี่
มันไมเขาใจ ปญหาก็บอกชัดอยูแลว นซ่ี ิถึงไดวา ความจําเปน มีอยทู กุ ระยะนา ยง่ิ
ละเอียดลออเขาไปถาจะพูดตามแบบโลกผมมันทิฐิสูงนี่นะ ใครจะมาสอนสมุ สส่ี มุ หา
ไดเ หรอ สมมตุ วิ า เราเลา ใหท า นผนู น้ั ฟง ตามความจรงิ แหง จติ ของเราน้ี ถาผูไมเขาใจก็
จะมาสอนเราสมุ สส่ี มุ หา แลว ประกาศภมู ใิ หเ ราเหน็ หอื .ภมู ขิ นาดนม้ี าสอนเราได
อยางไร นน่ั มนั บอกในตวั ถา ผสู งู กวา นน้ั ทา นจป้ี บ เราเขา ใจทนั ที ยอมๆ ราบเลย

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๔๓

๑๔๔

เรอ่ื งจติ นจ่ี งึ สาํ คญั ทค่ี รทู อ่ี าจารยผ ใู หก ารอบรมสง่ั สอน ผูที่ทานรูแลวไมตองพูดมาก
เลย ทา นใสป บ เดยี วไดค วาม ใครจะมาสุมครอบทั้งหนองทั้งบึงไมได จะโยนยาใสก นั
ทั้งตูทั้งหีบมันไมได เรอ่ื งความจาํ เปน กบั ครอู าจารยม นั จาํ เปน อยา งนไ้ี มว า ขน้ั ไหนๆ

แตมันตางกันที่เราจะออกไปอยูคนเดียวที่หนึ่งที่ใดตามระยะกาล เมื่อมีขอ
ของใจอะไรจึงคอยมาถามทาน นี่ก็ได มนั ไมยงุ วุนวายเก่ยี วกบั เร่ืองโลกเมื่อจิตมหี ลกั
แลว เปน แตเ พยี งวา ความกา วหนา ของเรามนั ชา .ผิดกัน ปญหาบางอยางแกกันอยู ๒
วนั ๓ วันแกกันยังไมตก น่ันซมิ นั จะตาย ไมตกมันก็ไมถอย จะตองแกใหตกจนได นี่
ซิ มนั จะตาย เพราะคาํ วา แพน น้ั มไี มไ ด ถาจะแพใหต ายเสยี ดกี วา นอกจากตองทะลุ
โดยถา ยเดยี ว ถาไมทะลุก็ตองเจาะกันอยูอยางนั้น หมนุ ตว้ิ ๆ อยูน้ัน ปญ หาเหลา นพ้ี อ
เลา ใหค รบู าอาจารยฟ ง ทา นจป้ี บ เดยี วเทา นน้ั ทะลไุ ปเลย ผมเคยไดอุบายจากทานมา
แลว

ก็มีทานอาจารยขาวองคหนึ่งสามารถแกไดตลอดทั่วถึงทางดานจิตใจ เดย๋ี วน้ี
ทา นกไ็ มเ อาเรอ่ื งกบั ใครแลว ประการหน่งึ กไ็ มมใี ครไปเลา ใหท านฟง ทา นขเ้ี กยี จยงุ
กบั เรอ่ื งขห้ี มรู าขห้ี มาแหง ทา นกอ็ ยสู บายๆ ลองมผี ูม ีภูมจิ ติ ภูมิธรรมมีความรคู วาม
เหน็ ตา งๆ ทางดา นปฏบิ ัติไปเลา ใหทานฟงดซู ิ ไมตองสงสัยวาเสียงทานจะไมขึ้นปง
ปงๆ เพราะทา นอยกู บั ธรรมเทา นน้ั ถึงไมติดธรรมทานก็อยูกับธรรม เปน เครอ่ื งรน่ื
เริงระหวา งขนั ธกบั จติ ท่ีครองตัวอยู

อยา งคราวทแ่ี ลว ผมเอาปญ หาไปแหยห ลวงปแู หวน พอเราสอดปบทานก็ตอบ
ผงึ มาเลย เพราะปญ หานี้ไปหาในพระไตรปฎกก็ไมม เี พราะเปน ปญหาปา ถาผูไมรู
ตอบไมได พอถามทานปบ ทา นตอบผงึ มาเลย โฮย….ทานคึกคักตึงตังนะ ประมาณ
๑๐ นาทีจบ พอจบก็ถามทานเขาอีก คราวนท้ี า นกไ็ ปใหญเ ลยนานประมาณ ๔๕ นาที
พอจบลงแลวทานพูดวา “เอา..ทา นมหาคา นนะ ถา ผดิ ตรงไหนคา นนะ” “กระผมไม
คา น กระผมหาฟงอยางนแ้ี หละ” ในขณะเดยี วกนั ปญ หานท้ี า นกท็ ราบถา ไมร ปู ญ หาปา
เอามาถามไมได เพราะฉะน้ันทา นจงึ ไมจ าํ เปน ตองมาถามเราอีก

นจ่ี งึ ทาํ ใหเ ราเชอ่ื ในหนงั สอื ทม่ี อี ยใู นธรรมบททก่ี ลา ววา กลั ยาณชนไมส ามารถ
ตอบปญหาของพระโสดาบันได พระโสดาฯ ไมสามารถตอบปญหาของพระสกิทาคามี
ได พระสกิทาคามีไมสามารถตอบปญหาของพระอนาคามีได พระอนาคามีไมสามารถ
ตอบปญหาของพระอรหันตได แมพระอรหันตก็ไมสามารถตอบปญหาของพระโมค
คลั ลาน, สารบี ตุ รได ถงึ พระสารบี ตุ ร, โมคคัลลานก็ไมสามารถตอบปญหาของพระ
พุทธเจาได คือความสามารถตางกัน พอถึงขั้นอรหัตก็พอแลว สว นทว่ี า พระสารบี ตุ ร,

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๔๔

๑๔๕

โมคคัลลานไมส ามารถตอบปญหาพระพทุ ธเจา ไดน ้นั หมายถึง ความกวา งแคบลกึ ตน้ื
แหง ความรนู น้ั ตา งกนั นอกจากความบริสุทธไิ์ ปแลว ยงั มคี วามลกึ ตนื้ ตา งกัน กวา ง
แคบตางกัน ภูมิของพระพุทธเจาเปนพุทธวิสัย ภมู ขิ องพระสารบี ตุ ร, โมคคลั ลานเ ปน
สาวกวสิ ยั จึงตางกัน สามญั วสิ ยั กับอริยวิสัยก็ผดิ กัน แตละขั้นละภมู ิมีเคลด็ ลบั ประจาํ
ขน้ั ภมู นิ น้ั ๆ

แตก อ นเรากไ็ มร ไู มเ ขา ใจวา มเี คลด็ ถามเคล็ดปบ กต็ ดิ ดงั พระเรยี นจบพระ
ไตรปฎกครั้งพุทธกาล แตลืมเนื้อลืมตัวดูถูกเหยียดหยามพระปฏิบัติ หาวา นง่ั หลบั หู
หลับตาไมทําประโยชนอ ะไรใหแกโ ลก เลยจะเอาปญ หามาถามพระปฏบิ ตั ทิ า น หา
อบุ ายไลพ ระปฏบิ ตั นิ น่ั เอง พระพทุ ธเจา ทรงทราบจงึ เสดจ็ มาทามกลางสงฆท กี่ าํ ลงั
สนั นบิ าตนน้ั วา พวกนก้ี าํ ลงั จะมาทาํ ลายลกู ศษิ ยเ ราตถาคต แลวมันจะไปตกนรกกนั
ทั้งหมด ทา นไมไ ดวากลวั พระปฏิบตั ิจะเสีย ทานวาพวกนี้จะตกนรกกันทั้งหมด พอ
เสดจ็ ถงึ พระองคทรงตั้งปญหาขึ้นปบถามพวกใบลานเปลา ตอบไมได รบั สง่ั ถามพระ
ปฏิบัติปุบ ตอบไดผึง ยกปญหาขึ้นปบถามพวกนั้น นง่ิ เหมอื นคนตายแลว ตอบไมได
วกกลับมาถามพระปฏิบัติ ตอบไดปุบๆ ตลอด

จากนนั้ พระพทุ ธเจา ก็แสดงธรรมขนาบเสยี อยา งเต็มที่วา “พวกเธอนน้ั นะ
เหมอื นกบั ลกู จา งเลย้ี งโคใหเ ขา ไดค า จา งเพยี งรายวนั ๆ เทา นน้ั ไมเหมือนลูกของเรา
หมายถึงพระปฏิบัติซึ่งเปนเจาของโค โคก็เปนสมบัติของตัว น้ํานมโคก็ไดดื่มเต็มเม็ด
เต็มหนวยตามความตองการ พูดถึงเรื่องธรรมก็เปนเจาของธรรม เปน ธรรมสมบตั ิ
เปน มหาสมบตั ิ พวกเธอนเ้ี พยี งแตเ รยี นและจดจาํ มาเฉยๆ ธรรมสมบตั อิ นั แทจ รงิ ยงั
ไมเคยไดด ่ืมบา งเลย สวนลูกเราตถาคตทั้งไดปฏิบัติทั้งไดดื่มธรรมรสโดยสมบูรณ จงึ
ไมค วรประมาท”

ปญ หาทพ่ี ระพทุ ธเจา ทรงรบั ส่งั ถามเปนปญ หาทางดานจิต ถามพวกปริยัติไม
ไดเรื่อง พอมาถามพวกปฏิบัติตอบไดผึงๆ เลย ปญ หาเราถามหลวงปแู หวนเปน
ปญ หาปา ตา งหาก ทานไมรูทานไมเคยอยูในปาทานจะตอบไดยังไง เพราะพดู อยา ง
ตรงไปตรงมาแบบคนโงๆ ก็ไปอานหัวใจกันนั่นเอง เราไปหลายหนแลวพลาดมาทุกที
เพราะคนมาก ไปคราวนี้จึงจะใหพลาดไมได ทานเองก็อยากทราบภูมิจิตภูมิธรรมของ
พระปฏบิ ตั ขิ องครบู าอาจารยท ง้ั หลายเหมอื นกนั จงึ มกี ารถามถงึ ครอู าจารยท ง้ั หลาย
บา ง

เราอยากใหห มเู พอ่ื นปฏบิ ตั ใิ หร ภู ายในจติ ใจแลว มาเลา ใหฟ ง นา ผลเปน ยงั ไง
เราอยากรผู ลแหงการอบรมส่ังสอนหมูเ พ่ือนและการปฏบิ ัตขิ องหมูเ พอ่ื น มีแตผา
เหลือง มแี ตร ปู พระเฉยๆ ไมมีอรรถมีธรรมในหัวใจไวเปนสมบัติของตนออกโชวกัน

เขา สแู ดนนพิ พาน ๑๔๕


Click to View FlipBook Version