The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อัตโนประวัติ ๑ โดย หลวงพ่อทูล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-03-05 21:44:03

อัตโนประวัติ ๑ โดย หลวงพ่อทูล

อัตโนประวัติ ๑ โดย หลวงพ่อทูล

Keywords: อัตโนประวัติ ๑,หลวงพ่อทูล

อัตโนประวัติ ๑
พระอาจารย์ทูล ขิปปฺ ปญฺโ



คำ� ปรารภ

เนอ่ื งดว้ ยมคี ณะศษิ ยห์ ลายทา่ นไดข้ อรอ้ งใหข้ า้ พเจา้ เขยี น
ประวัติส่วนตัวเอาไว้ เพื่อให้ลูกศิษย์ท้ังหลายได้รู้ความเป็นมา
ของชวี ติ วา่ มคี วามเปน็ มาอยา่ งไร และใชอ้ บุ ายการภาวนาปฏบิ ตั ิ
มาอยา่ งไร โดยใหเ้ หตผุ ลวา่ ถา้ หลวงพอ่ ไมเ่ ขยี นเกบ็ เอาไวใ้ นชว่ งนี้
ความไม่แน่นอนของชวี ิตในอนาคตยอ่ มเกดิ ขึ้นได้ เพราะขณะน้ี
มลี กู ศษิ ยห์ ลายระดบั ดว้ ยกนั ทง้ั แกแ่ ละหนมุ่ สมมตวิ า่ ศษิ ยผ์ สู้ งู อายุ
เกิดมีอันเป็นไปในชีวิตโดยคาดไม่ถึง ก็หมดโอกาสที่จะได้รู้จัก
ประวตั ขิ องหลวงพอ่ ทนั ที หรอื ศษิ ยผ์ มู้ อี ายยุ งั นอ้ ยอยกู่ ต็ าม เมอื่
มอี นั เปน็ ไปกห็ มดโอกาสไดอ้ า่ นประวตั ขิ องหลวงพอ่ เชน่ กนั หรอื
หากหลวงพ่อได้จากไปก่อน ทุกคนก็หมดโอกาสด้วยกันทั้งนั้น
ลูกหลานที่เกดิ มาภายหลงั กจ็ ะไม่รเู้ ช่นกนั เมอื่ ได้ฟังเหตผุ ลจาก
คณะลกู ศษิ ยข์ อรอ้ งมาอยา่ งน้ี ประกอบกบั คดิ วา่ อาจจะมปี ระโยชน์
อยู่บ้างไม่มากก็น้อย จึงได้ตัดสินใจเขียนประวัติของตัวเอง
การเขยี นประวตั ใิ นครงั้ น้ี จะเขยี นทง้ั หมดคงไมไ่ ด้ เพราะจะเปน็
หนังสือเล่มใหญ่เกินไป จะเขียนพอเป็นสังเขปพอได้รู้เรื่องพอ

สมควรเท่านั้น และจะเขียนในเรื่องจริงท้ังหมด จะเป็นเร่ือง
สว่ นตวั เปน็ สว่ นใหญ่ และจะมเี รอ่ื งของครอู าจารยอ์ ยใู่ นหนงั สอื
เลม่ นด้ี ว้ ย ประวตั ขิ องขา้ พเจา้ นนั้ พสิ ดารพอสมควร บางคนอาจจะ
คดิ วา่ เหลอื เชอ่ื เปน็ ไปไมไ่ ด้ อาจเกดิ ความปรามาส ขาดความเคารพ
เช่ือถือในตัวข้าพเจ้าก็อาจเป็นได้ แต่ก็ไม่เป็นไร เรื่องอย่างนี้มี
อยปู่ ระจำ� โลกทุกยคุ ทกุ สมัยทผ่ี ่านมา และจะมตี ่อไปในอนาคต
ไม่มที ่ีสน้ิ สดุ

ขอทุกท่านเม่ือได้อ่านประวัติของข้าพเจ้าแล้ว อุบายใด
พอจะนำ� ไปใชใ้ หเ้ ปน็ ประโยชนไ์ ด้ กใ็ หท้ า่ นไดพ้ จิ ารณาดว้ ยตนเอง
อุบายใดทไี่ มถ่ กู กับนสิ ัย ขอใหท้ ่านทงิ้ เสีย อยา่ เอามาคดิ วิพากษ์
วจิ ารณใ์ ห้เสยี เวลา

สดุ ทา้ ยน้ี ขอใหท้ ่านผู้อา่ นทง้ั หลาย ให้มีความเจรญิ ทาง
สตปิ ญั ญา พจิ ารณาในสจั ธรรมใด ขอใหร้ แู้ จง้ เหน็ จรงิ ในสจั ธรรม
นน้ั หากท่านมบี ารมีไดบ้ ำ� เพ็ญมาแล้วในอดตี ชาติ พรอ้ มแล้วที่
จะไดบ้ รรลธุ รรมเปน็ พระอรยิ เจา้ ในชาตนิ ี้ ขอทา่ นจงสมปรารถนา
ดว้ ยเทอญ

พระอาจารยท์ ูล ขิปฺปปญโฺ 

สารบัญ


อตั โนประวัติ พระอาจารยท์ ูล ขิปฺปปญโฺ  ๑
ภมู ลิ ำ� เนาเดมิ ๓
แม่ได้เลา่ เรอ่ื งในอดตี ใหฟ้ งั ๖
ความกังวลใจของแม่ ๑๐
คำ� ท�ำนายของพอ่ ๑๒
ให้ข้าวแก่คนมาขอทาน ๒๕
ความอศั จรรยเ์ กิดขึน้ ๓๒
เลา่ เร่อื งท่ีเกดิ ข้ึนใหพ้ ่อแม่ฟัง ๓๗
บวชเปน็ สามเณร ๔๑
มคี วามละอายคนจนตามดื ๔๕
ฝงั ใจในพระกรรมฐานในครง้ั แรก ๔๘
ใจเปล่ยี นไปในทางบวช ๗๒
ใจหลงตดิ อยกู่ ับตน้ มะม่วง ๘๕
มนี มิ ิตชว่ ยเปน็ ก�ำลงั ใจ ๙๗
นมิ ติ เห็นพอ่ ต้อู ้วน ๑๐๑
การออกบวช ๑๑๓

พรรษาท่ี ๑ พ.ศ. ๒๕๐๔ ๑๑๖
ต้งั สจั จะบงั คับใจตวั เองให้ได ้ ๑๑๘
เกิดนิมิตเตือนใจ ๑๒๑
นิมติ เห็นตาปะขาวมาเตือน ๑๒๔
สลบแลว้ ฟ้ืน ๑๒๗
เขยี นตามค�ำบอกเลา่ ของหมู่คณะ ๑๓๐
ฟน้ื ตวั ข้ึนมาเพราะหมู่คณะชว่ ยเหลอื ๑๓๒
หวนระลกึ ไดใ้ นคำ� เตือนของตาปะขาว ๑๓๕
ตัง้ หลกั ปฏบิ ัติใหม ่ ๑๓๘
การใชป้ ัญญาพจิ ารณาความทุกข์ ๑๔๔
นิมติ เห็นทางเดนิ จงกรมขวางหน้า ๓ เสน้ ๑๕๑
ออกพรรษาแล้วไปธุดงค์ ๑๖๓
นิมติ เห็นคนจำ� นวนมาก ๑๖๗
อยากไปใหพ้ ้นทุกข์ในขณะน้ีทเี ดียว ๑๗๑
พิจารณาดูเรื่องนมิ ิตท่เี กดิ ขึ้น ๑๗๔
ออกธดุ งค์ไปในทีอ่ น่ื ๆ ๑๗๘
พรรษาที่ ๒ จำ� อยทู่ ย่ี อดทอน ๑๘๖

ขอฝากเตือนผูท้ �ำสมาธทิ ั้งหลาย ๑๙๘
อยกู่ บั หมู่เสือจนเคยชนิ ๒๐๓
เสือโคร่งใหญ่ ให้กำ� ลังใจ ๒๐๗
นิมิตเห็นหน้าผาสงู ชัน ๒๑๕
พรรษาท่ี ๓ พ.ศ. ๒๕๐๖ ๒๒๓
นสิ ัยไมช่ อบฟังเทศน์มากนกั ๒๒๖
นมิ ิตวา่ หลวงปูพ่ าข้ามลำ� ธารใหญ่ ๒๓๓
หลวงปบู่ วั บอกวา่ ให้ผา่ นทกุ ข ์ ๒๔๑
อิทธิบาท ๔ ฝังใจในครง้ั นนั้ ๒๕๕
เลน่ กบั ผีกองกอยสนกุ ด ี ๒๕๙
พรรษาท่ี ๔ พ.ศ. ๒๕๐๗ ๒๖๓
กราบลาหลวงปูไ่ ปธุดงคใ์ นทต่ี ่างๆ ๒๗๓
นมิ ิตเหน็ มหาสมทุ รอันกวา้ งใหญ่ ๒๗๗
มองเหน็ ฝั่งมหาสมุทรได้อยา่ งชดั เจน ๒๘๒
พรรษาท่ี ๕ พ.ศ. ๒๕๐๘ ๒๙๒
พรรษาท่ี ๖ พ.ศ. ๒๕๐๙ ๓๐๐
ไปโปรดโยมพ่อ ๓๐๓

ยมทตู น�ำผ้ทู ำ� ผดิ เขา้ มา ๓๑๐
พรรษาที่ ๗ พ.ศ. ๒๕๑๐ ๓๑๖
พรรษาที่ ๘ พ.ศ. ๒๕๑๑ ๓๒๕
นิมติ เหน็ ชาย ๓ คนตามฆา่ ๓๒๘
ดาบ คอื สังขาร เป็นอาวุธของศัตรู ๓๓๙
นิสัยของหลวงปูข่ าว ๓๕๕
พ.ศ. ๒๕๑๒ จำ� พรรษาท่ีบา้ นปา่ ลัน ๓๖๗
วปิ สั สนาไดเ้ กดิ ข้ึน ๓๘๖
วปิ สั สนาญาณไดเ้ กิดขน้ึ ๔๐๓
นิมิตเห็นผหู้ ญิงเข้ามาหา ๔๑๑
นิโรธ ความดับทุกข์ และดบั เหตุแห่งทกุ ข์ ๔๑๙
ความดับน้ี อย่ไู ด้ไม่นาน ๔๒๔
อาสวกั ขยญาณ ได้เกดิ ขึน้ ในขณะนัน้ ๔๒๖

อัตโนประวตั ิ
พระอาจารยท์ ูล ขิปฺปปญฺโ

พระอาจารย์ทูล ขิปฺปปญฺโ เป็นบุตรของนายอุทธา
นางจนั ทร์ นนฤๅชา เปน็ บุตรคนท่ี ๕ มีพีน่ อ้ งรว่ มกนั ๑๐ คน

๑) นายโฮม นนฤๅชา
๒) นางติง่ รว่ มจิต

๒ อัตโนประวตั ิ ภาค ๑

๓) นางบุ่น โสมา
๔) นางบุญน้อย นามคุณ
๕) พระอาจารย์ทูล ขิปปฺ ปญฺโ
๖) นางบับพา อารอ้ น
๗) พระบุญมา สริ ิธมโฺ ม
๘) นายโสภา นนฤๅชา
๙) นางบุญหนา ขนั ธวชิ ยั
๑๐) นางบัวเงิน กองอ�ำไพ

ภมู ิลำ� เนาเดิม

เกดิ ณ บ้านหนองคอ้ ต�ำบลบัวคอ้ อ�ำเภอเมอื ง จังหวดั
มหาสารคาม เกิดเม่ือวนั จันทร์ท่ี ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๘
ในปีพ.ศ. ๒๔๘๕ อายไุ ด้ ๗ ปี พ่อแม่ไดพ้ าอพยพมาอย่ทู ี่บา้ น
หนองแวง (แก้มหอม) ต�ำบลไชยวาน อ�ำเภอไชยวาน จังหวัด
อุดรธานี เรียนจบชั้นประถมปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านหนองแวง
แต่ละชั้นได้รับเลือกเป็นหัวหน้าชั้นทุกชั้นไป มีครูอยู่ ๒ คน
๑) คณุ ครหู สั ๒) คุณครอู กั ษร เมื่อคณุ ครูมนี อ้ ย สอนนกั เรียน
ก็ไม่ทั่วถึง เด็กชายทูลจึงได้รับเลือกให้เป็นครูสอนนักเรียน
ดว้ ยกนั เอง และเปน็ ทยี่ อมรบั ของเพอ่ื นนกั เรยี นดว้ ยกนั เดก็ ชาย
ทลู จึงเป็นท่รี กั แก่เพอ่ื นๆ ทง้ั หลาย เพราะมีความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
ต่อเพ่ือนๆ ตลอดมา ให้ความเมตตาสงสารในหมู่เพ่ือนๆ เป็น

๔ อตั โนประวตั ิ ภาค ๑

นิสัย ใหค้ วามเป็นธรรมอยู่เสมอ
คร้ันเม่ือเรียนจบช้ันประถมปีท่ี ๔ แล้ว คุณครูท้ังสองมี

ความหวงั ดตี อ่ เดก็ ชายทลู เปน็ อยา่ งมาก จงึ ไดม้ าขอตอ่ พอ่ แมว่ า่
อยากให้เด็กชายทูลไปเรียนต่อท่ีจังหวัดอุดรธานี แต่พ่อแม่ยัง
ไมม่ คี วามพร้อม จึงไดพ้ ดู กบั คุณครทู ง้ั สองวา่ ขณะนเี้ พ่งิ มาอยู่
บา้ นใหม่ อะไรยงั ไมส่ มบูรณ์ ในขณะนั้นเดก็ ชายทลู อยากจะไป
เรยี นตอ่ เปน็ อยา่ งมาก เมอื่ พอ่ แมไ่ มม่ เี งนิ พอทจ่ี ะใหไ้ ปเรยี นตอ่ ได้
จึงทำ� ใหเ้ รยี นจบเพยี งชน้ั ประถมปีท่ี ๔ เทา่ นัน้ ต่อมาก็ได้บวช
เปน็ สามเณรในปพี .ศ. ๒๔๙๒ ไดศ้ กึ ษานกั ธรรมชน้ั ตรจี บไดอ้ ยา่ ง
รวดเรว็ คำ� ไหว้พระสวดมนตก์ เ็ รยี นจบอย่างรวดเรว็ เชน่ กัน ใน
ช่วงนัน้ พ่อแมใ่ หล้ าสิกขา จึงไดบ้ วชอยไู่ ด้ ๑ ปเี ท่าน้นั ในปนี นั้ ได้
ทราบขา่ วหลวงปมู่ นั่ มรณภาพ แตก่ ไ็ มม่ เี วลาไปกราบหลวงปมู่ น่ั
เลย

ภมู ลิ ำ� เนาเดมิ ๕

แมไ่ ดเ้ ลา่ เรอ่ื งในอดตี ใหฟ้ งั

ในช่วงน้แี ม่ไดเ้ ลา่ เรื่องอดีตใหฟ้ งั วา่ กอ่ นได้มาเกิดมีเรอื่ ง
ทอ่ี ศั จรรยไ์ ดป้ รากฏ แมเ่ ลา่ ใหฟ้ งั วา่ ในคนื หนง่ึ ในขณะทน่ี อนยงั
ไม่ทันหลับสนทิ เหมอื นกบั ความฝนั เหน็ ส่ิงหนึ่งใสๆ ลอยเข้ามา
ในหอ้ งนอน มแี สงเหมอื นกบั แสงหงิ่ หอ้ ยขนาดใหญล่ อยเขา้ มาหา
แม่กเ็ อามอื ควา้ ไปเพอื่ ท่ีจะกำ� เอา แตก่ ็กำ� เอาไมไ่ ด้ หิง่ หอ้ ยใหญ่
กล็ อยไปมาอยู่ในหอ้ ง หลบไปมาอยู่ในห้องนอนน้นั ในขณะนัน้
เหมอื นจะลกุ ข้ึนไปตะครุบเอาให้ได้ เม่ือต่ืนข้นึ มาก็มองหาส่ิงที่
ใสๆ ลอยอยนู่ นั้ ไมเ่ หน็ เลยคดิ แปลกใจไปวา่ นเี้ ปน็ แสงอะไร จะวา่
แสงห่ิงห้อยหรือก็ใหญ่เกินไป มีความผิดปกติจากแสงหิ่งห้อย
ทวั่ ไป แตก่ ไ็ ม่คดิ กลัวอะไร คิดว่าเปน็ แสงหิง่ หอ้ ยเทา่ นัน้ ถ้าจะ
ตคี วามหมายไปตามเหตกุ ารณท์ ี่เกิดขนึ้ นั่นคือวิญญาณทีจ่ ะเข้า

แมไ่ ด้เลา่ เรื่องในอดตี ใหฟ้ งั ๗

๘ อตั โนประวัติ ภาค ๑

มาเกดิ ในขณะนนั้ แต่แมไ่ ม่เขา้ ใจ กค็ ิดวา่ เป็นแสงหิง่ ห้อยไป
ในหลายวนั ตอ่ มา แมก่ ม็ คี วามฝนั ทแี่ ปลกๆ ขน้ึ มาอกี ฝนั วา่

ตวั เองไดแ้ ตง่ ตวั เหมอื นเทพธดิ า ใสเ่ ครอ่ื งประดบั ประดาสวยงามมาก
มที ง้ั เพชรนลิ จนิ ดา สรอ้ ยสงั วาลยท์ องหอ้ ยตามคอ พวงกำ� ไลทอง
ผูกข้อมือ ผูกตามแขน มีแหวนประดับเพชรใส่น้ิวมือ นุ่งผ้าถุง
หม่ ผา้ แพรทองสดใสแพรวพราวทวั่ กายทงั้ หมด มผี วิ พรรณผอ่ งใส
เปน็ ประกายออกมารอบตัว ทีศ่ รษี ะกม็ ชี ฎาสวมใส่ สวมรองเทา้
ประดบั เงนิ ทอง มคี วามสวยงามมาก ในขณะนนั้ เหมอื นกบั วา่ ได้
เดนิ ไปทไ่ี หนสกั แหง่ หนงึ่ ในขณะทเ่ี ดนิ ไปกม็ คี นเอารม่ ฉตั รขนาด
ใหญ่มากั้นให้ และมีฝูงมหาชนเดินห้อมล้อมเป็นบริวารเป็น
จ�ำนวนมาก ทกุ คนแสดงความเคารพต่อแมเ่ ปน็ อยา่ งมาก และ
มเี สียงป่ีเสยี งกลอง เสยี งดนตรอี ยา่ งอ่ืนอกี มากมาย ในขณะนัน้
แมม่ คี วามสขุ ใจเปน็ อยา่ งมาก ทกุ คนพากนั ไชโยโหร่ อ้ งพรอ้ มกนั
ว่า ขอยกแม่ข้ึนเป็นใหญ่ในหมู่มหาชนท้ังหลาย ขอพระแม่เจ้า
จงเปน็ ทพี่ งึ่ ใหแ้ กป่ วงขา้ พเจา้ ทง้ั หลายดว้ ยเถดิ เสยี งนด้ี งั ประกาศ
กอ้ งอยตู่ ลอดเวลา จากนนั้ แมก่ ไ็ ดต้ น่ื ขน้ึ มา จงึ มคี วามกงั วลใจใน
ชวี ติ เปน็ อย่างมาก

แมไ่ ด้เลา่ เรื่องในอดตี ใหฟ้ งั ๙

ความกงั วลใจของแม่

เม่ือต่ืนนอนขึ้นมา เกิดความตกใจกลัวต่อความตาย
ไมส่ บายใจเลยในขณะนน้ั คิดว่าตวั จะตายจากพ่อและลกู ๆ ไป
เข้าใจว่าวิญญาณของตัวเองได้ออกจากร่างกายไปในขณะน้ัน
จะมีวญิ ญาณอนื่ มารบั เอาวญิ ญาณเราไป จึงคดิ วา่ ตวั เองจะตาย
ไปในเรว็ ๆ น้ี จงึ ไดเ้ รยี กพอ่ กบั ลกู คนโตเขา้ มารวมกนั แลว้ เลา่ เรอ่ื ง
ความฝันท่ีเกิดขึ้นให้ฟังท้ังหมด พ่อกับลูกก็ต้ังใจฟังเป็นอย่างดี
แมบ่ อกว่าชีวิตน้จี ะอยูก่ ับพอ่ ลูกตอ่ ไปอีกไมน่ าน คงจะตายจาก
พอ่ ลกู ไป แมส่ งั่ ตอ่ ไปอกี วา่ เมอื่ แมไ่ ดต้ ายไปแลว้ พอ่ จะไปหาเอา
เมยี ใหม่มาเล้ียงลกู จงพจิ ารณาให้ดี มคี วามระวงั อยา่ ใหแ้ ม่ใหม่
มาบังคับลูกเก่า พ่อเองกอ็ ยา่ หลงใหลในเมียใหม่ลกู ใหมจ่ นเกดิ
ความแตกแยกกนั ใหพ้ อ่ เปน็ คนกลาง ใหม้ คี วามรกั กนั ทง้ั สองฝา่ ย

ความกงั วลใจของแม่ ๑๑

อบรมลูกใหม่และลูกเก่าให้เข้าใจกัน ให้มีความสามัคคีกันใน
ครอบครัว และลกู ๆ ทกุ คนจะต้องฟงั ค�ำส่ังสอนของพอ่ ให้เป็น
ผวู้ ่านอนสอนง่าย เพอ่ื ใหพ้ อ่ มีความสบายใจ ใหช้ ่วยกันท�ำงาน
ให้มีความขยันช่วยกันท�ำมาหากนิ ลกู คนโตก็อยา่ ไปบังคบั น้อง
ผนู้ อ้ ย ใหน้ อ้ งผนู้ อ้ ยตอ้ งเชอ่ื ฟงั คำ� สงั่ สอนของพวกพๆ่ี อยา่ ทะเลาะ
ตบตีกนั ใหม้ ีความรักกนั มอี ะไรแบง่ กนั

ในขณะท่ีแม่ส่ังเสียพ่อลูกอยู่น้ัน น�้ำตาของแม่ก็ไหล
สะอกึ สะอนื้ นำ้� ตานองหนา้ ใชผ้ า้ เชด็ ไปรอ้ งไหไ้ ป พดู คำ� ใดมเี สยี ง
สัน่ เครอื ร้องไห้ไปบน่ ไปด้วยความอาลัยอาวรณใ์ นพอ่ และลูกๆ
ทุกๆ คน แม่นึกอยู่ในใจว่า อายุขัยเรานี้มีน้อยนัก ยังไม่ถึงวัย
อนั ควรกจ็ ะไดต้ ายจากพอ่ ลกู นไ้ี ป เมอ่ื แมไ่ ดต้ าย ไมท่ ราบวา่ ลกู ๆ
จะพากันอยู่กินอย่างไร พากันนอนกันอย่างไร ในความอาลัย
อาวรณ์ระหว่างพ่อแม่และลูกๆ ในขณะนั้นจึงเป็นบรรยากาศ
วังเวงซบเซาเศร้าโศกเสียเหลือเกิน เหมือนกับว่า ต้นไม้ที่ให้
ความร่มเย็นตลอดมา บดั น้จี ะตอ้ งโค่นล้มไปเสียแล้ว ลูกๆ ทย่ี งั
มชี วี ิตอยู่ ไมร่ วู้ า่ จะอย่กู นั อย่างไร จงึ รอ้ งไห้ไปบน่ ไปในขณะน้นั

คำ� ทำ� นายของพอ่

ในชว่ งทแ่ี มเ่ ลา่ ความฝนั อยนู่ นั้ พอ่ กต็ ง้ั ใจฟงั อยา่ งใจจดใจจอ่
และพจิ ารณาตคี วามฝนั ของแม่ไปด้วย ต้งั ใจฟังต้งั แตต่ น้ จนจบ
พอ่ กลบั มคี วามเหน็ ตรงกนั ขา้ มกบั แมเ่ ลยทเี ดยี ว จากนนั้ พอ่ กไ็ ด้
พูดออกมาเป็นประโยคแรกว่า บา้ ความฝนั ที่แมฝ่ ันไปนัน้ ไม่ใช่
เป็นเร่ืองของความตายแต่อย่างใด ลักษณะความฝันอย่างน้ี
มันเป็นเร่ืองของคนจะมีลูกเกิดขึ้น และจะเป็นลูกที่มีบุญลงมา
เกิดด้วย จะเป็นลูกที่พร้อมด้วยวาสนาบารมี จะเป็นท่ีพึ่งแก่
พวกญาติๆ และเป็นทีพ่ ่งึ แกห่ มู่ชนท้ังหลายในยุคนดี้ ้วย ฉะนนั้
ขอแมอ่ ยา่ ไปคดิ วา่ ตวั เองจะตายไปเลย มนั มเี หตปุ จั จยั ตอ่ เนอื่ งกนั
ในวนั กอ่ นมากฝ็ นั เหน็ แกว้ เสดจ็ เขา้ มาในหอ้ งนอน นนั่ กห็ มายถงึ
วิญญาณของผู้มีบุญจะลงมาเกิดด้วย ในคืนน้ีก็ฝันเป็นอย่างนี้

คำ� ท�ำนายของพอ่ ๑๓

จึงเป็นความฝันที่เป็นมงคลเป็นอย่างมาก ลูกที่เกิดมาจะได้ท�ำ
ประโยชน์อันย่ิงใหญ่ คนท้ังหลายจะให้ความเคารพเช่ือถือเป็น
อย่างมากทีเดียว ส่วนแม่ก็ตั้งใจฟังทั้งไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปตาม
ค�ำพดู ของพอ่ หรือไม่ วา่ ตัวเองจะตายไปหรอื ตัวเองจะต้งั ครรภ์
กันแน่ แตก่ อ็ ย่ใู นความไม่ประมาท มีการไหว้พระสวดมนตเ์ ปน็
นิสัย

จากน้ันมาไม่กี่วัน แม่ก็มีการตั้งครรภ์ข้ึนมาตามที่พ่อได้
พูดเอาไว้ แมก่ ็เกิดความโลง่ ใจขึน้ มา คดิ ว่ายังไม่ตายจากพอ่ ลกู
ในขณะน้ี ส่วนพ่อพูดว่า ถ้าฝันอย่างนี้จะมีการต้ังครรภ์นั้น ก็
เพราะวา่ ไดเ้ รยี นในทางโหราศาสตรม์ า เรอื่ งการทำ� นายความฝนั
ตา่ งๆ นัน้ พ่อมีความช�ำนาญเปน็ พิเศษวา่ ความฝันเช่นนัน้ เปน็
อยา่ งนนั้ ความฝนั เชน่ นเี้ ปน็ อยา่ งนี้ จากนนั้ มากร็ กู้ นั ในเครอื ญาติ
วา่ คอยดซู ิ ในเมอ่ื แมม่ คี วามฝัน ไดต้ งั้ ครรภข์ น้ึ มาแลว้ ลูกท่ีเกดิ
มาจะมลี กั ษณะเปน็ อยา่ งไร จะมสี ง่ิ ทผ่ี ดิ แปลกแตกตา่ งเปน็ อยา่ งไร
บา้ ง พอ่ จงึ มใี นความคิดวา่ ต้องตา่ งกบั คนอนื่ แนน่ อน

จากนนั้ มาแมก่ ม็ อี าการทแี่ ตกตา่ งขนึ้ ในใจอยา่ งมากทเี ดยี ว
นนั้ คอื มอี าการแพท้ อ้ งขน้ึ มา การแพท้ อ้ งนนั้ มอี าการแตกตา่ งจาก
การต้งั ครรภ์ลกู คนอื่นๆ ตัง้ ครรภล์ ูกคนอนื่ ๆ ไม่มีอาการแพท้ อ้ ง

๑๔ อัตโนประวตั ิ ภาค ๑

เหมือนอยา่ งนี้ เมือ่ ลกู คนนเ้ี ข้ามาส่คู รรภ์ อะไรหลายๆ อยา่ งมี
อาการเปล่ยี นไป เช่น มอี าการเหมน็ คาวสัตวท์ ุกชนดิ ใตถ้ นุ บา้ น
มีวัวควายจำ� นวนมาก เมอื่ แม่ถกู กลนิ่ วัวควายจึงเกดิ อาเจียนขน้ึ
อยา่ งรนุ แรง จงึ ตอ้ งเอาววั ควายออกจากใตถ้ นุ บา้ นทงั้ หมด อาการ
เหมน็ คาวไมม่ ี กไ็ มไ่ ดเ้ กดิ อาเจยี นอกี ตอ่ ไป แตก่ ม็ อี กี อยา่ งหนง่ึ ท่ี
แมก่ นิ ไมไ่ ด้ เหน็ กไ็ มไ่ ด้ เบอื่ ทส่ี ดุ จนเกดิ อาการอาเจยี นอยา่ งรนุ แรง
นัน้ คอื อาหารคาวทีเ่ ป็นเน้ือสตั ว์ทุกชนดิ นบั แต่ปลารา้ ขึ้นไป จะ
เหน็ ไมไ่ ด้ มอี าการอาเจียนในทันที จะกินขา้ วในพาสำ� รบั ร่วมวง
กบั พ่อลกู ไม่ได้เลย

ฉะน้ัน จึงได้แยกแม่ออกกินต่างหาก ในครอบครัวใคร
อยากกินลาบกอ้ ย ต้องเอาไปท�ำกินท่บี ้านคนอื่น ในบา้ นนไี้ มใ่ ห้
มีอาหารดิบกินกันอยู่เลย แม่จึงได้สั่งลูกไว้ว่า ให้เอาข้าวใน
กลางหวดใส่กลอ่ งข้าวเปน็ ให้พเิ ศษ ปากหวดก็ไม่เอา ที่ก้นหวด
กไ็ มใ่ หเ้ อา ใหเ้ อาเฉพาะขา้ วในกลางหวดเทา่ นน้ั หา้ มกบั ทกุ ๆ คน
วา่ อยา่ ไปกนิ ขา้ วในกล่องข้าวนน้ั เลย ใหเ้ กบ็ ไว้ให้แมก่ ินคนเดยี ว
เทา่ นนั้ อาหารทแ่ี ม่กนิ กบั ข้าวไดม้ ี ๒ อย่างเท่านั้น คือ ๑) เกลอื
๒) ของหวาน มีน้�ำอ้อย กล้วยสุก เท่าน้ัน แล้วก็กินคนเดียว
คนอนื่ กินร่วมไมไ่ ดเ้ ลย

คำ� ทำ� นายของพอ่ ๑๕

๑๖ อตั โนประวัติ ภาค ๑

เมื่อแมต่ ัง้ ครรภ์มาจนครบกำ� หนด จงึ ไดค้ ลอดลูกออกมา
เปน็ ผชู้ าย แม่พดู วา่ เป็นลูกทีค่ ลอดงา่ ยทส่ี ุด ไมม่ คี วามเจ็บปวด
แต่อย่างใด ในขณะที่ออกมาจากท้องแม่ ก็มีความแปลกอีก
อย่างหนง่ึ นนั้ คือสายรกพันตวั ออกมาเป็นองั สะ ก้อนรกก็ออก
มาพร้อมกันเหมือนสะพายบาตร เม่ือพ่อได้เห็นอย่างนี้จึงพูด
เสียงดังข้นึ ว่า พทุ โธ อาจารยญ์ าคูใหญ่กูออกมาแล้ว (ญาคใู หญ่
หมายถึง พระมหาเถระผู้ใหญ่ ผู้บวชตลอดไป) ดูซิ ครองผ้ามี
สะพายบาตรออกมาดว้ ย แมม่ ีอาการปกติไมว่ ิงเวียนแตอ่ ยา่ งใด

จากนนั้ ก็เชญิ ญาตๆิ ผใู้ หญม่ าตัง้ ชอื่ รว่ มกนั การตง้ั ชอ่ื นนั้
ก็มุ่งประเด็นเอาความฝันของแม่มาเป็นหลัก ในคร้ังท่ีแม่ฝันว่า
มมี หาชนยกใหแ้ มเ่ ปน็ ใหญ่ ดงั ทไี่ ดอ้ ธบิ ายมาแลว้ นน้ั ในจดุ นเ้ี อง
ญาตๆิ จึงได้มมี ติว่า ความฝนั นเี้ ปน็ ในลกั ษณะทูลเกล้าท่ียกข้นึ
ไว้ในที่สูง จึงต้ังช่ือไปตามความฝันน้ัน จึงให้ชื่อว่า ทูล นับแต่
วนั นนั้ เปน็ ตน้ มาจนถงึ ปจั จบุ นั จากนนั้ มาพอ่ แมพ่ นี่ อ้ งจบั ตามอง
มาตลอดวา่ เด็กชายทูล นบั แตบ่ ดั น้ีไป เด็กชายทลู จะมีลกั ษณะ
แปลกไปเปน็ อยา่ งไร จะมนี สิ ยั เปน็ อยา่ งไร พอ่ แมแ่ ละญาตๆิ คอย
สงั เกตดเู ดก็ ชายทลู อยา่ งใกลช้ ดิ วา่ เดก็ ชายทลู จะมกี ารแสดงออก
มาอย่างไร

อตั โนประวัติ พระอาจารยท์ ูล ขปิ ฺปปญโฺ  ๑๗

๑๘ อตั โนประวตั ิ ภาค ๑

คำ� ทำ� นายของพอ่ ๑๙

ในวัยเด็กอ่อนก็กินนมแม่เหมือนเด็กทั่วไป ในช่วงที่กิน
อาหารได้เอง ก็แสดงความแปลกออกมาให้คนอืน่ ไดเ้ ห็น นั้นคือ
ไมย่ อมกินขา้ วรว่ มวงรว่ มส�ำรบั กับพอ่ แมแ่ ละพๆี่ ไดแ้ ตอ่ ยา่ งใด
ถา้ จะใหก้ นิ รว่ มวง กต็ อ้ งแบง่ ถว้ ยอาหารกนั และแบง่ กระตบิ ขา้ ว
กันอีกดว้ ย อาหารทเ่ี ปน็ สว่ นของเด็กชายทูล ห้ามใครๆ มาแตะ
ต้องอยา่ งเดด็ ขาด ห้ามมาหยบิ เอาอาหารในถ้วย ห้ามหยิบเอา
ขา้ วในกระติบ ตลอดพอ่ แม่กห็ ้ามมายงุ่ แตะต้องอาหารของเดก็
ชายทูลน้ีเช่นกัน ถ้าใครฝ่าฝืนข้อห้ามนี้ จะท�ำให้พาข้าวแตก
กระจายในทันที ถ้วยจานอาหารกระตบิ ข้าวกจ็ ะถูกพงั กระจาย
ทง้ิ ขวา้ งเสียหมด หลายๆ คร้ังท่ีถูกพี่ๆ มารว่ มกินด้วย ทกุ ครั้ง
เดก็ ชายทลู ก็ยกทมุ่ ลงใสพ่ นื้ ถว้ ยดินแตกกระจายทงั้ หมด ท�ำให้
พอ่ แม่และพีๆ่ มคี วามเดือดร้อนไปตามๆ กนั

จากนนั้ พ่อแมไ่ ดว้ างแผนกนั เสียใหม่ ต้องจดั ให้เดก็ ชาย
ทลู กินข้าวนอกวงคนเดยี ว มอี าหารสุกกแ็ บง่ ออกมาใส่ถ้วยเป็น
พเิ ศษ ถา้ มีอาหารดบิ ถ้วยก็จะแตกทนั ที กระตบิ ข้าวก็แยกออก
มาเปน็ พเิ ศษ หา้ มไม่ให้ใครๆ มาหยบิ ร่วมเช่นกนั แตก่ ม็ ีพส่ี าว
ผู้ถัดกันชอบมาแกล้งอยู่เสมอ เมื่อพ่อแม่เผลอก็ย่ืนมือออกมา
หยบิ เอาอาหารของเดก็ ชายทลู เดก็ ชายทลู กแ็ สดงความไมพ่ อใจ

๒๐ อัตโนประวตั ิ ภาค ๑

ขึ้นมาทันที แล้วยกถ้วยอาหารขึ้นวางกระแทกกับพ้ืนกระดาน
แตกกระจายทนั ที จะไมย่ อมกนิ ขา้ วถา้ พอ่ แมไ่ มแ่ ตง่ สำ� รบั ใหมใ่ ห้
ในสมยั นน้ั มแี ตถ่ ้วยดนิ กระแทกทีเดียวกแ็ ตกกระจาย ถ้าพีม่ า
หยบิ ข้าวในกระติบ กจ็ ะโยนกระตบิ ข้าวลงขา้ งลา่ งอกี ทกุ ๆ คร้งั
ตอ้ งเป็นอยา่ งนี้ เปน็ นสิ ัยใจมีสัจจะมาแต่กำ� เนดิ น่นั เอง

พอ่ เหน็ ทา่ ไมด่ ี ตอ่ ไปถว้ ยจานจะแตกฉบิ หายไปเสยี ทงั้ หมด
พอ่ จงึ ไดต้ ดั กระบอกไมไ้ ผข่ งั ขอ้ ทำ� เปน็ ถว้ ยใสอ่ าหารใหเ้ ดก็ ชายทลู
กนิ เปน็ พเิ ศษ เมอ่ื พส่ี าวมาหยบิ เอาอาหารอกี กย็ กกระบอกไมไ้ ผ่
นน้ั ขน้ึ ทบุ ใสก่ ระดานอกี ถา้ ไมแ่ ตกกโ็ ยนลงขา้ งลา่ งไป พอ่ แมต่ อ้ ง
ลงไปเกบ็ มาลา้ งใสอ่ าหารกนิ ใหมใ่ นครงั้ ตอ่ ไป เดก็ ชายทลู มนี สิ ยั
อยา่ งนแี้ ตว่ ยั เดก็ จะเอาในสง่ิ ใด จะตอ้ งเอาใหไ้ ดต้ ามความตงั้ ใจ
ไมใ่ ห้ใครๆ ขดั ขวาง เอาตามใจทกุ อย่างไป ถา้ ไม่ได้ก็จะรอ้ งไห้
ไมย่ อมหยดุ ในครง้ั หนง่ึ กำ� ลงั คลานไปมาได้ คดิ อยากจะกนิ กลว้ ย
ตากแหง้ แตก่ ลว้ ยตากแหง้ ไมท่ นั แมเ่ อากลว้ ยสกุ ใหก้ ไ็ มย่ อมกนิ
ได้พูดว่า จะเอากล้วยแห้ง ก็ต้องเอากล้วยแห้งให้ได้ แม่ก็อุ้ม
ใส่เอวพาไปหาดูที่กระจาดท่ีตากกล้วย แม่ก็เอากระจาดนั้นมา
ให้ดู เอากระจาดนี้มาให้ดู ดูกระจาดไหนก็ไม่มีกล้วยตากแห้ง
เลยแมแ้ ต่ช้นิ เดยี ว

คำ� ทำ� นายของพอ่ ๒๑

๒๒ อัตโนประวัติ ภาค ๑

ในขณะนน้ั ไมท่ ราบวา่ มอี ะไรบนั ดาลใจ จงึ ไดเ้ กดิ ความสำ� นกึ
ขนึ้ มาในใจวา่ เราเองทำ� ไมจงึ เปน็ ผเู้ อาแตใ่ จตวั เองอยา่ งน้ี ทำ� ให้
แมเ่ ปน็ ทกุ ขใ์ จจากเราเพราะกลว้ ยตากนี้ กลว้ ยตากไมม่ กี จ็ ะบงั คบั
ใหม้ นั มี ซงึ่ เปน็ สง่ิ ทเี่ หลอื วสิ ยั แมจ่ ะหามาใหไ้ ด้ ในขณะนน้ั ดสู หี นา้
ของแม่แล้ว มีในลักษณะไม่สบายใจเลย จึงนึกขึ้นมาในใจว่า
กล้วยสุกก็มีรสหวานเหมือนกัน ในเม่ือกล้วยตากแห้งไม่มี
กล้วยสกุ กก็ นิ ทดแทนกนั ได้ จากนไ้ี ปเราจะไม่ท�ำให้แม่เปน็ ทุกข์
ไม่ให้มีความยุ่งยากกับเราอีกต่อไป มีความละอายตัวเองว่าได้
ทำ� ใหแ้ มเ่ ดอื ดรอ้ น จากนนั้ กห็ ยดุ รอ้ งไห้ แลว้ ดนิ้ ออกจากเอวแม่
แลว้ คลานมาหากลว้ ยสกุ ชม้ี อื ใหแ้ มด่ ู แมก่ เ็ อามาใหแ้ ลว้ กนิ กลว้ ย
ในขณะน้ัน แม่ไดโ้ อบกอดแล้วพูดว่า ลกู หลา้ เปน็ ลกู ทน่ี ่ารกั กิน
กล้วยสุกธรรมดาเป็นแล้ว จากนั้นมาไม่เคยขอกล้วยตากแห้ง
จากแม่อีกเลย มีกล้วยสุกอย่างไรก็กินได้ท้ังหมด ในช่วงน้ัน
เดก็ ชายทูลมอี ายุประมาณปีกวา่ เท่านน้ั จากนน้ั ก็รตู้ วั เองวา่ จะ
ไม่เอาแตใ่ จตัวเองเหมือนทเี่ คยเป็นมา

แต่ก็มีของสองอย่างท่ีจ�ำได้ในวัยเด็ก เป็นนิสัยมาจาก
กำ� เนดิ ตดิ ตวั มา เปน็ ธรรมชาตทิ เี่ กดิ ขนึ้ เฉพาะตวั นน้ั คอื อาหารดบิ
และมงั สะสบิ อยา่ ง ทง้ั สองอยา่ งนใี้ ครจะมาหลอกใหก้ นิ ไมไ่ ดเ้ ลย

คำ� ท�ำนายของพ่อ ๒๓

เชน่ เอาเน้ืองูมาหลอกว่าเป็นเนอ้ื ไก่ เอาเนอื้ มา้ มาหลอกวา่ เป็น
เนื้อวัว เอากุ้งดิบมาต�ำปนกับน�้ำพริกป่นปลา ถ้าเอาส่ิงเหล่านี้
เข้าปากก็จะเกิดอาการอาเจียนข้ึนมาทันที นิสัยอย่างน้ีมี
ประจ�ำตัวมาแต่ก�ำเนิด ถึงจะเป็นวัยหนุ่มแล้วก็ยังเป็นนิสัย
อย่างนี้ตลอดมา ก็ยังรูต้ ัวเองอยูเ่ สมอวา่ อาหารเราไมเ่ หมือนกับ
คนอนื่ เขา ถกู พอ่ แมด่ ดุ า่ หลายครง้ั ใหเ้ หตผุ ลวา่ ถา้ หากมคี รอบครวั
จะเกดิ มปี ญั หาในการกินเกิดข้นึ ไม่มหี ญิงใดจะไปตม้ น้ำ� ปลารา้
ให้สุกมาท�ำแจ่วบอง หรือเอามาใส่ส้มต�ำกินหรอก ไม่มีสาวใด
ท่ีไม่กินของดิบ มีเราคนเดียวในโลกกินอย่างน้ี ในหลายคร้ังได้
ถูกเชิญไปเล้ียงในงาน เอาเงินให้เขาแล้วกลับมากินข้าวบ้าน
เขาหาวานไปทำ� บา้ นกด็ ี วานไปเกย่ี วขา้ วดำ� นากด็ ี จะมวี ธิ อี อกตวั
กลบั มากนิ ขา้ วทบ่ี า้ น ถา้ งานไหนมเี พอ่ื นทรี่ จู้ กั ในการกนิ ของเรา
เขาก็จะไปท�ำให้อาหารสุกให้ จึงไดก้ ิน

ในครอบครัวของข้าพเจ้านี้ ชอบกินอาหารดิบกันท้ังน้ัน
อาหารสกุ กม็ อี ยูใ่ นบางครงั้ เทา่ น้นั เอง ในบางม้ือมนี �้ำต้มกระดูก
ก็พอได้กินน้�ำต้มกระดูกกินกับข้าวไปบ้าง ในบางครั้งไม่มีไฟที่
จะปง้ิ จะเผา กก็ นิ ข้าวกบั เกลือไป ประทงั ชีวิตอยู่ได้ เวลาใดพ่ีๆ
เขาสงสาร กเ็ อาลาบไปคว่ั ไฟใหก้ นิ บา้ ง พอ่ แมเ่ องเกดิ ความรำ� คาญ

๒๔ อตั โนประวัติ ภาค ๑

ก็ใช้ไม้เรียวตีบังคับให้กินดิบ แต่ก็กินไม่ได้เพราะนิสัยเป็นมา
อยา่ งนี้ ในชว่ งทเี่ ปน็ เดก็ นมี้ คี วามทกุ ขอ์ ยมู่ าก อยากกนิ ลาบกอ้ ย
เหมือนพๆ่ี เขาก็กินไมไ่ ด้ อยากจนนำ�้ ลายไหล ก็ได้แตม่ องดพู ี่ๆ
เขากนิ กนั จำ� เปน็ กต็ อ้ งอดทนตอ่ ความหวิ เพราะตวั เองทำ� อาหาร
กนิ ไม่เปน็

เมอ่ื คดิ เรยี บเรยี งชวี ติ ในอดตี ทเี่ ปน็ มาของตวั เอง เปน็ ชวี ติ
ที่ต่อสอู้ ดทนแต่วัยเดก็ มาตลอด พวกพี่ๆ หาวิธีกล่ันแกลง้ บงั คบั
ให้กินอาหารดิบอยู่เสมอ เช่น ใส่ไฟนิดเดียวเขาก็ว่าสุกแล้ว
เมื่อเอาอาหารใส่ปากกเ็ กดิ อาเจยี นออกมา จงึ รวู้ ่าอาหารน้นั ยงั
ไมส่ กุ จริง พวกพีๆ่ เขาไดก้ ุ้ง ปู หอย ก็พากันลาบดิบกินกันอย่าง
หนา้ ตาเฉย มิหน�ำซ้ำ� ยงั พดู ว่าใครไมก่ ินแสดงวา่ ไมอ่ ยาก ที่จริง
พๆี่ เขากร็ ู้อยวู่ า่ เรากินของดิบไมไ่ ด้ แผนของพ่อแม่และพ่ๆี ท่ไี ด้
วางเอาไวน้ น้ั ไมส่ ามารถหลอกเดก็ ชายทลู ใหห้ ลงกลไดเ้ ลย และ
กไ็ มม่ ีใครๆ ในโลกน้ีเปล่ยี นนิสยั นไ้ี ดแ้ ต่อยา่ งใด

ให้ข้าวแกค่ นมาขอทาน

ในชว่ งตอ่ มา ขา้ พเจา้ อายไุ ด้ ๔ ปี ในปนี ้นั เกิดภยั แล้งเปน็
อย่างมาก และแล้งเป็นบริเวณกว้างหลายจังหวัด ทุกคนต้อง
ด้ินรนแสวงหาข้าวปลาอาหาร ส่วนใหญ่จะพากันออกขอทาน
พากันหาบตะกร้า พากันไปเป็นหมู่ๆ หาขอตามบ้านน้อยใหญ่
โดยไมม่ สี ง่ิ ของอะไรไปแลกเปลย่ี นเลย เมอ่ื ไปถงึ บา้ นไหนกพ็ ากนั
นง่ั ลง ยกมอื ใสห่ วั แลว้ พรรณนาเรอ่ื งความทกุ ขย์ ากลำ� บากตา่ งๆ
เจา้ ของบา้ นกใ็ หข้ า้ วและอาหารตามสมควร แลว้ ไปขอบา้ นหลงั อนื่
ตอ่ ไป ในวนั หนง่ึ เดก็ ชายทลู อยบู่ า้ นกบั นอ้ งเลก็ ๆ คนหนงึ่ พอ่ แม่
พๆี่ เขา้ ไปหาขไ้ี ตแ้ ละสง่ิ อน่ื ๆ เพอ่ื จะนำ� ไปแลกกบั ขา้ วและอาหาร
ในบ้านอ่ืน ข้าวสารที่หามาได้แล้วเต็มโอ่งใหญ่ ในวันน้ันมีคน
มาขอขา้ วท่บี า้ น ๕ คน พากันมานง่ั อยูห่ น้าบา้ นแลว้ ประนมมอื

๒๖ อตั โนประวตั ิ ภาค ๑

ใหข้ า้ วแก่คนมาขอทาน ๒๗

ขอข้าว กล่าวพรรณนาความทุกข์เดือดร้อนว่าไม่มีข้าวจะกิน
ขา้ พเจา้ เกดิ ความสงสาร จงึ เรยี กขน้ึ มาบนบา้ น เอาขา้ วสารทพี่ อ่ แม่
หามาไดจ้ ากทต่ี า่ งๆ มีอยเู่ ต็มโอ่ง แล้วตักข้าวสารแจกคนห้าคน
จนขา้ วสารทมี่ อี ยไู่ ดห้ มดไป เขายงั ขอพรกิ ขอเกลอื ขอปลารา้ อกี
เด็กชายทูลก็ขนออกมาให้ทานท้ังหมด ในวันน้ันเด็กชายทูลมี
ความสขุ ใจเปน็ ทสี่ ุด มีความยมิ้ แย้มแจ่มใสอย่ตู ลอดเวลา พอถงึ
เวลาบา่ ยพอ่ แมแ่ ละพๆี่ กลบั มาจากปา่ พากนั หวิ ขา้ วจดั ในขณะนน้ั
พากนั กอ่ ไฟเพอ่ื จะหงุ ขา้ วทำ� อาหารกนิ กนั เมอ่ื ไปเปดิ ดขู า้ วในถงั
ไมม่ ขี า้ วอยเู่ ลย ปลารา้ พรกิ เกลอื หมดเกลยี้ ง ไมม่ อี ะไรเหลอื อยู่
เพ่ือท�ำอาหารกนิ กนั แต่อย่างใด เมอื่ พๆ่ี ถามหาขา้ ว พรกิ เกลือ
ปลารา้ กบ็ อกพเ่ี ขาไปวา่ ใหท้ านไปหมดแลว้ พๆี่ เขากด็ า่ แมร่ เู้ ขา้
กจ็ บั มาตจี นหลงั แดงเตม็ ตวั พอ่ แมส่ งั่ ไวว้ า่ ตอ่ นไี้ ปอยา่ เอาขา้ วสาร
ปลารา้ พริก เกลือ ให้ใครๆ อีกตอ่ ไป

ในวนั น้นั เจ็บปวดร่างกายเปน็ อยา่ งมาก เกิดมาเพ่ิงได้ถกู
แซข่ องแมต่ หี ลงั อยา่ งเจบ็ ปวดทเี ดยี ว นกึ โกรธใหแ้ ม่ อาหารเทยี่ ง
ยังไมไ่ ด้กินเลย จงึ ออกหนีจากบ้านโดยไมบ่ อกใหใ้ ครๆ ได้รู้ ไป
เรอ่ื ยๆ ถงึ เถยี งนาแหง่ หนงึ่ ไกลจากหมบู่ า้ นประมาณ ๑ กโิ ลเมตร
ไปนอนพกั เล่นอยูท่ ีน่ นั่ คนเดยี ว ขณะน้ันหิวขา้ วมาก เพราะเปน็

๒๘ อตั โนประวัติ ภาค ๑

เดก็ ท่ีก�ำลงั กินก�ำลงั นอน ความหวิ ขา้ วจัดแทบจะขาดใจตายใน
เวลานนั้ แตก่ อ็ ดทนตอ่ ไป และหายใจเขา้ ออกมคี วามเหนด็ เหนอื่ ย
มาก ในขณะนั้นก็เกดิ หิวน�ำ้ ขนึ้ มา แล้วเดนิ ไปดสู ระน�้ำแห่งหนงึ่
นำ้� นนั้ เปน็ สเี ขยี วขนุ่ มขี ว้ี วั ขคี้ วายเตม็ ไปหมด ดว้ ยความหวิ นำ้� จดั
จึงดูดกนิ น้ำ� ท่เี หมน็ ๆ นนั้ ก่อนข้นึ จากสระมามีรปู ูขนาดใหญ่ จงึ
เอามอื ลว้ งรเู ขา้ ไปสดุ แขน ในรนู น้ั มกี บตวั ใหญ่ แลว้ ดงึ กบออกมา
ข้ึนจากสระแล้วหาเชอื กมามัดเอวกบเอาไว้

เวลาประมาณห้าโมงเยน็ ได้ยินเสยี งตเี กราะบอกลกู บา้ น
ให้ช่วยกนั หาเด็กชายทูลหาย คนชาวบา้ นแตกตนื่ ช่วยกันคน้ หา
ทกุ หนแหง่ แตไ่ มพ่ บ พอ่ แมพ่ ๆี่ กพ็ ากนั หาทว่ั ในบา้ นญาตใิ กลไ้ กล
แต่ก็ไม่พบวีแ่ ววเดก็ ชายทลู ได้เลย ในเวลาน้นั จวนเวลาจะคำ�่ มืด
เด็กชายทูลก็สะพายกบใหญเ่ ข้าไปบา้ น พอดีไปพบแม่ก�ำลังเดิน
ตะโกนเรยี กหาอยู่ แมร่ อ้ งตะโกนวา่ ตอ่ จากนไ้ี ปแมจ่ ะไมต่ ลี กู อกี
ให้กลับเข้ามาบ้านเสีย ในขณะน้ันเด็กชายทูลก็โผล่หน้าให้แม่
เหน็ พอดี แมก่ ว็ ง่ิ มากอดอมุ้ เอาพอดี กร็ อู้ ยวู่ า่ ในขณะนน้ั แมค่ ดิ ถงึ
ลกู มาก แมต่ ใี นครงั้ นก้ี ต็ ดี ว้ ยความโกรธชว่ั วบู เทา่ นนั้ เดก็ ชายทลู
หนอี อกจากบา้ นไปกโ็ กรธชวั่ วบู เชน่ เดยี วกนั จากนน้ั กม็ คี วามรกั
กันเปน็ ปกติธรรมดา

ใหข้ ้าวแกค่ นมาขอทาน ๒๙

ในปพี .ศ. ๒๔๘๕ พอ่ แม่อพยพย้ายมาอยู่จงั หวัดอดุ รธานี
อยู่ท่ีบ้านหนองแวง (แก้มหอม) ในช่วงสงครามโลกครั้งท่ี ๒
พ่อแมไ่ ดพ้ าวง่ิ หนีเพ่ือหลบภยั จากเครื่องบนิ วิ่งเขา้ ป่าบา้ ง หลบ
ลงหลุมบ้าง ในเวลากลางคนื ในหมู่บ้านเงยี บสงดั ห้ามจุดไฟใน
เวลากลางคืน เม่ือได้ยินเสียงเคร่ืองบินมาก็พากันหาที่หลบภัย
พวกเดก็ ๆ ไมร่ เู้ รอ่ื งกพ็ ากนั รอ้ งไหอ้ ยใู่ นปา่ เตม็ ไปหมด ในชว่ งนน้ั
เดก็ ชายทลู มอี ายไุ ด้ ๘ ปี พอดเี ขา้ โรงเรยี น เดก็ ชายทลู มคี วามจำ�
ดเี ปน็ พเิ ศษ คุณครสู อนอยา่ งไร เดก็ ชายทลู จำ� ไดห้ มด จนคณุ ครู
แปลกใจวา่ จำ� ไดอ้ ยา่ งไร เลอื่ นชน้ั ขนึ้ ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ในชว่ งนนั้
มีการศึกษาถึงช้ันประถมปีท่ี ๔ เท่านั้น ไปโรงเรียนแต่ละวันมี
สมดุ ๑ เล่ม ดนิ สอ ๑ แทง่

มีอะไรเขียนใส่สมุดเล่มเดียว ค�่ำมาก็ท�ำเป็นว่าววิ่งเล่น
เทา่ นน้ั เพอ่ื นนกั เรยี นดว้ ยกนั ถอื สมดุ วชิ าตา่ งๆ ทคี่ ณุ ครใู หเ้ ขยี น
ไปอ่านท่ีบ้าน เด็กชายทูลไม่ต้องเขียนวิชาต่างๆ แต่อย่างใด
คณุ ครเู ขยี นวชิ าอะไร เดก็ ชายทลู จะอา่ นในกระดานไมเ่ กนิ สองรอบ
จะจดจ�ำไดท้ ัง้ หมด ไมต่ ้องเขียนเหมือนเพื่อนอนื่ เขา ในวันหนงึ่
คณุ ครเู ขยี นวชิ าในกระดานแลว้ ใหน้ กั เรยี นเขยี นตาม เดก็ ชายทลู
ไม่มีทางออกก็เอาดินสอขีดในกระดาษท�ำเป็นเขี้ยวหมาหยักๆ

๓๐ อตั โนประวตั ิ ภาค ๑

ให้ขา้ วแกค่ นมาขอทาน ๓๑

เทา่ นน้ั คณุ ครถู ามวา่ เดก็ ชายทลู เขยี นหรอื ยงั กต็ อบวา่ เขยี นแลว้
คุณครูเรียกเอาไปให้ดูแล้วถามว่าเธออ่านได้ไหม ตอบว่าอ่าน
ไม่ได้ ไดบ้ อกกับคณุ ครูว่าผมจ�ำได้หมดแลว้

คณุ ครทู ดสอบวชิ าท่ีสอนไปแล้ว เดก็ ชายทลู ตอบได้หมด
โดยไมต่ อ้ งไปอา่ นในตำ� รา เฉพาะเลขคณติ ศาสตรเ์ ปน็ เยย่ี มทสี่ ดุ
การบวกลบคณู หารในการต่างๆ ไมม่ คี ำ� วา่ ผดิ แตอ่ ย่างใด ในชน้ั
ประถมปีที่ ๔ น้ีเองได้เป็นครูสอนนักเรียนช่วยครูช้ันอนุบาล
ชน้ั ป.๑ เป็นครูสอนแทบทุกวัน การวางตัวเป็นครชู ว่ ยสอนนน้ั
ไม่ยาก ขึ้นกับความสามารถของเรา กีฬาทุกประเภทเป็นที่ ๑
ของโรงเรียน และเปน็ ทหี่ นึ่งของตำ� บลและอำ� เภอ รูจ้ กั วิธเี อาใจ
ในหมู่นักเรียนด้วยกัน เด็กชายทูลลักเอาสิ่งของคนอ่ืนไม่เป็น
เก็บสิ่งของอะไรได้ ส่งให้คุณครูประกาศหาเจ้าของมารับคืน
และตงั้ ใจไวว้ า่ ในชวี ติ นเี้ ราจะไมล่ กั ขโมยสง่ิ ของของคนอนื่ อยา่ ง
เดด็ ขาด มนั มคี วามละอายแกใ่ จตวั เอง ไมก่ ลา้ ทจี่ ะไปขโมยของใคร
จึงท�ำให้เพื่อนนักเรียนด้วยกันมีความรักเช่ือในเด็กชายทูลเป็น
พเิ ศษ เมอ่ื เพอื่ นนกั เรยี นมเี รอื่ งอะไรเกดิ ขน้ึ เดก็ ชายทลู ตอ้ งเขา้ ไป
แก้ไขให้เพอื่ นดีต่อกันได้ในวธิ ีการพดู ทีม่ เี หตผุ ล

ความอศั จรรยเ์ กิดขึน้

ในวนั หนง่ึ ในช่วงโรงเรียนปิด เดก็ ชายทลู ไดไ้ ปเลีย้ งควาย
เมื่ออายุ ๑๑ ปีจึงเกิดมีความอัศจรรย์เกิดข้ึนในชีวิต ในวันนั้น
ได้ไปเลี้ยงควายท่ีนาหนองจาน ไกลจากหมู่บ้าน ๑ กิโลเมตร
ในขณะนน้ั ไดน้ อนเลน่ อยใู่ ตต้ น้ ไมโ้ ดยลำ� พงั ใชส้ ายตาเพง่ ดใู บไม้
เลน่ อยู่ ใบไมถ้ กู ลมพดั ไหวไปมานดิ ๆ ในชว่ งขณะใชส้ ายตาเพง่ ดู
อย่นู ้นั เกดิ เหน็ ใบไม้ไดอ้ ย่างชัดเจน สายตาและใจก็ได้เพง่ จดจ่อ
ดูในใบไม้น้ันเหมือนไม่ได้กระพริบตา ในขณะเพ่งดูใบไม้อยู่น้ัน
มีความเบากายเบาใจผิดปกติ ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ในขณะน้ันไม่มี
ความคิดในเร่อื งอะไร ใจมีความนิ่งแน่วแนอ่ ยกู่ บั ท่ี ไม่มกี ารนึก
บรกิ รรมอะไร เพยี งทำ� ใจใหอ้ ยนู่ ง่ิ ๆ เพง่ ดใู นใบไมเ้ ทา่ นน้ั เมอ่ื เพง่ ดู
ใบไมอ้ ยนู่ านๆ เขา้ เหมอื นกบั ใบไมน้ น้ั มาตดิ อยทู่ ต่ี า ในความรสู้ กึ

ความอัศจรรย์เกดิ ขึ้น ๓๓

๓๔ อตั โนประวัติ ภาค ๑

ว่าเห็นใบไม้ได้ชัดเจนทีเดียว จากนั้นปรากฏว่าใบไม้นั้นเล็กลง
ทุกที ท้ังสายตาและใจก็ได้จดจ้องดูอยู่กับใบไม้นั้นไม่ให้เผลอ
จนใบไม้น้ันเล็กลงๆ จนมองไม่เห็น จนใบไม้นั้นหายไปในท่ีสุด
เมอื่ ใบไมไ้ ดห้ ายไป ใจกเ็ กดิ มอี าการวบู วาบขน้ึ มา แลว้ มแี สงสวา่ ง
เกดิ ขน้ึ มารอบตวั แสงพงุ่ กระจายออกไปในภายนอกสวา่ งไปหมด
เป็นแสงสว่างนุ่มนวลน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก ในชีวิตไม่เคย
เปน็ อยา่ งนีม้ ากอ่ น

ความสว่างนน้ั ไดข้ ยายไปอย่างกวา้ งไกล เมือ่ ความสวา่ ง
พงุ่ ไปถึงไหน ความรเู้ ห็นก็เปน็ ไปในแสงสวา่ งน้ที ั้งหมด ความรู้
ความเหน็ ความสวา่ งนนั้ อยใู่ นทแี่ หง่ เดยี วกนั เมอื่ นกึ วา่ อยากเหน็
สงิ่ ใดอยใู่ นทใี่ ด กำ� หนดจติ ไปดกู ร็ เู้ หน็ ในสง่ิ นนั้ ทง้ั หมด ไมว่ า่ ของ
สงิ่ นนั้ จะอยใู่ กลห้ รอื ไกล จะรเู้ หน็ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน นกึ อยากจะดคู น
ในหมูบ่ า้ นว่าเขาทำ� อะไร ก็รูเ้ ห็นไดท้ ้งั หมดวา่ คนนน้ั ท�ำอย่างนน้ั
คนน้ที �ำอยา่ งนี้ บางคนกน็ อนเล่น บางกลุ่มกน็ ่ังคุยกัน เขาคยุ ใน
เรื่องอะไร ก�ำหนดจิตฟงั ก็รู้ไดท้ กุ คำ� พดู ถา้ อยากรอู้ ยากเห็นใน
สงิ่ ใด ก�ำหนดจติ ไปดกู ็รเู้ หน็ ในส่ิงนัน้ ท้ังหมด ไม่มีสง่ิ ใดมาปดิ บงั
ได้เลย อาการในลักษณะอยา่ งนเ้ี กดิ ข้นึ ไมร่ ู้ว่าเกดิ อยนู่ านเท่าไร
ในขณะที่เป็นอยู่นั้นไม่มีความรู้สึกทางร่างกายเลย จากนั้นไป

ความอศั จรรยเ์ กดิ ข้นึ ๓๕

อาการทเี่ กิดขึ้นกค็ ่อยจางเลอื นลางลงนิดๆ ในที่สดุ กอ็ อกมาอยู่
เป็นปกติ จึงรู้สึกตัวข้ึนมา จึงรู้ว่าเรามาเล้ียงควายอยู่ท่ีน่ีและ
พกั อยทู่ ี่แหง่ นี้

จากนนั้ กไ็ ดเ้ รยี บเรยี งลำ� ดบั เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ วา่ เราเปน็
ในลกั ษณะนไ้ี ดอ้ ยา่ งไร ในชวี ติ ทเ่ี กดิ มากไ็ มเ่ คยมากอ่ น เรมิ่ ลำ� ดบั
เหตุการณ์ตง้ั แตด่ ใู บไมไ้ หวไปตามลม มองดูใบไม้นน้ั ก็ยงั ไหวไป
มาตามลมอยู่ จากนั้นก็นึกได้ว่าเราก�ำหนดจิตไปเพ่งดูใบไม้ที่
ไหวตัวอยู่ ลืมตาเพง่ ตามปกติ แตจ่ ิตกไ็ ปเกาะติดอย่กู บั ใบไม้นน้ั
เหมือนกับว่าไม่กะพริบตาในขณะน้ัน จากนั้นเหมือนกับใบไม้
ลอยลงมาใกล้ตา เห็นได้ชัดทีเดียว ใบไม้น้ันมีลักษณะเล็กลงๆ
ก็ใช้วิธีก�ำหนดจิตตามดูใบไม้น้ัน ความเล็กของใบไม้ก็เล็กลงๆ
เหลอื อย่นู ดิ เดียว ในทส่ี ดุ ใบไมก้ ห็ ายไป ในขณะนั้นจติ มอี าการ
วบู วาบเกดิ ขน้ึ ไมม่ คี วามรสู้ กึ วา่ เราอยใู่ นทไ่ี หน ความสวา่ งไสวได้
เกดิ ขนึ้ เป็นเพราะอะไร ในชว่ งน้ันไม่รเู้ ลยวา่ เป็นอะไร ท่ีกำ� หนด
จติ ไปดสู งิ่ นนั้ สง่ิ น้ี รเู้ หน็ อยา่ งนน้ั อยา่ งนเ้ี ปน็ เพราะอะไร ขา้ พเจา้
กไ็ มร่ เู้ ลยวา่ เปน็ เพราะอะไร ในขณะเรยี บเรยี งดเู หตกุ ารณอ์ ยนู่ นั้
จิตมีความสุขเป็นอย่างมากทีเดียว ความสุขน้ันไม่มีส่ิงใดๆ จะ
มาเปรยี บเทียบได้ ไมเ่ หมือนความสุขในโลกยี สมบตั แิ ตอ่ ยา่ งใด

๓๖ อตั โนประวตั ิ ภาค ๑

จากนนั้ กจ็ ะลกุ เดนิ ไปหาควาย กำ� ลงั ลกุ ขนึ้ ยนื มอี าการวา่
กายเบาใจเบา เหมือนกบั จะเซถลาไป เมอ่ื ตง้ั ใจยืนอย่นู ง่ิ ๆ กย็ นื
น่งิ ได้ ในขณะท่กี า้ วขาออกไป ในความร้สู กึ วา่ เบาขาเบาฝา่ เท้า
ในขณะน้นั เหมือนกบั ฝ่าเทา้ ไมไ่ ดเ้ หยียบดิน ทดลองเอาฝา่ เท้า
เหยยี บดนิ ดวู า่ มรี อยเทา้ หรอื ไม่ กป็ รากฏมรี อยแตไ่ มม่ คี วามรสู้ กึ
ว่าเหยียบดินเท่าน้ัน อีกไม่นานอาการในลักษณะนี้ก็หายไป
ทั้งกายและใจก็อยู่เป็นปกติธรรมดา แต่ใจยังมีความสดช่ืนอยู่
ตลอดวัน ไม่มีความกังวลในส่ิงใดๆ ในโลกนี้ ถึงเวลาจวนค่�ำก็
ไลฝ่ งู ควายกลบั บา้ น เมอื่ กนิ ขา้ วเยน็ เสรจ็ แลว้ กเ็ ลา่ เรอื่ งทเี่ กดิ ขน้ึ
ใหพ้ อ่ แมฟ่ ัง

เลา่ เรอ่ื งทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหพ้ อ่ แมฟ่ งั

ในขณะท่ีเล่าเร่ืองที่เกิดขึ้นอยู่นั้น พ่อแม่มีอาการใน
ลกั ษณะตกใจ และพดู ขน้ึ วา่ ตอ่ ไปอยา่ ไปทนี่ นั้ อกี เพราะแหง่ นนั้
ผดี มุ าก ผเี คยอำ� คนมาแลว้ แตก่ ็ยังดีผีไมท่ �ำใหล้ กู ตาย ถงึ พอ่ แม่
จะว่าผีอำ� เดก็ ชายทลู กย็ ังไม่เช่ืออย่นู ่ันเอง เลยมาคิดทบทวนดู
วา่ ถา้ ผอี ำ� จรงิ ๆ ทำ� ไมเราจงึ มคี วามสขุ กายสขุ ใจอยา่ งนี้ ทำ� ไมจงึ
มแี สงสวา่ งออกรอบตวั เกดิ รเู้ หน็ ในทต่ี า่ งๆ ได้ ใจมคี วามเอบิ อม่ิ
มคี วามเบกิ บานอยูท่ ง้ั วัน จึงไมเ่ ชอ่ื วา่ เปน็ ผีอำ� ตามพอ่ แม่พูดแต่
อยา่ งใด แต่กไ็ ม่เถียงพ่อแมอ่ อกมาทางวาจา แตเ่ ถียงอยู่ภายใน
ใจและรบั ฟงั ไปเทา่ นน้ั จากนน้ั มากฝ็ กึ ทำ� ในลกั ษณะนอ้ี ยคู่ นเดยี ว
เอาใบไม้ เอาดอกไม้ เอาผลไม้ มาทดลองท�ำดู ก็เปน็ ในลกั ษณะ
เดียวกันกับในคร้ังแรก ในลักษณะอาการที่เกิดข้ึนเหมือนกัน

๓๘ อัตโนประวัติ ภาค ๑

ทงั้ หมด พยายามทำ� เล่นอยคู่ นเดยี วบ่อยๆ จนเกิดความเคยชนิ
แต่ไม่เล่าให้พ่อแม่ฟังอีกเลย และไม่เล่าให้ใครๆ ฟังด้วย ใน
ลักษณะเกิดในตัวเร็วมาก ก�ำหนดจิตท�ำในที่ไหนเป็นในท่ีนั้น
เพยี งใชส้ ายตาเพง่ ดใู นสง่ิ ใดใหเ้ ปน็ จดุ เดยี วได้ กำ� หนดจติ ไปผกู ตดิ
อยู่กับของส่ิงน้ัน เพ่งไปในจุดเดียว ก�ำหนดจิตท�ำความรู้เห็น
ให้ชดั เจนจนติดตาติดใจ อาการดังกลา่ วกจ็ ะมคี วามรูส้ กึ ทางใจ
มคี วามแนว่ แน่นิง่ ไมใ่ ห้ใจคดิ แส่สา่ ยไปมา ใช้สายตาและจิตเพ่ง
ไปในทจ่ี ดุ เดยี ว อาการในลกั ษณะนก้ี จ็ ะเกดิ ขน้ึ ในขณะนน้ั ถา้ ไม่
อยากใหเ้ กดิ ขน้ึ กล็ กุ เดนิ ไปมา ใชส้ ายตาไปดใู นสงิ่ อน่ื ๆ อาการใน
ลกั ษณะนก้ี จ็ ะไมเ่ กดิ ขน้ึ แตอ่ ยา่ งใด หรอื ใชว้ ธิ กี ระดกิ มอื กระดกิ เทา้
ทำ� ทา่ โคลงตวั ไปมาก็หายได้เชน่ กัน ส่วนมากชอบทำ� ในลกั ษณะ
อยา่ งนี้ เพราะมคี วามสุขกายสขุ ใจอยตู่ ลอดเวลา

ในบางครง้ั กเ็ กดิ ขน้ึ จากเสยี ง การเกดิ ขนึ้ จากเสยี งนต้ี อ้ งกำ� หนด
เอาเสยี งอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ตง้ั ใจฟงั เสยี งนนั้ ใหม้ คี วามชดั เจน ให้
เป็นเสียงท่ีดังติดต่อกันไปเร่ือยๆ เมื่อตั้งใจก�ำหนดจิตฟังเสียง
อยา่ งจดจอ่ แลว้ เสยี งนนั้ กจ็ ะไดย้ นิ เบาลงๆ และเบาแทบไมไ่ ดย้ นิ
เสียงนั้นเลย เรียกว่าเสียงมีความละเอียดอ่อน ตั้งใจฟังเสียงท่ี
ละเอียดอ่อนนั้นให้ชัดเจน ในเม่ือเสียงละเอียดอ่อนน้ันหมดไป

เล่าเร่ืองท่เี กิดข้ึนใหพ้ อ่ แม่ฟงั ๓๙

เมอ่ื ไร กจ็ ะเกดิ อาการวบู วาบเกดิ ขน้ึ ทใี่ จ ความสวา่ งไสวกจ็ ะเกดิ ขนึ้
ทใี่ จในขณะนน้ั ความรเู้ หน็ ในสง่ิ ตา่ งๆ กเ็ ปน็ เหมอื นดงั ทเี่ คยเปน็ มา

อาการที่เกิดขึ้นในลักษณะน้ีจะเกิดขึ้นอยู่ในช่วงวัยเด็ก
เพราะเด็กใจยังไม่มีความเก่ียวข้องในกามคุณ ใจยังไม่มีความ
เศรา้ หมองในกามทง้ั หลาย ตอ่ มาเมอื่ อายไุ ด้ ๑๕ ปขี น้ึ ไป อาการท่ี
เกดิ ขน้ึ ดงั ทไ่ี ดอ้ ธบิ ายมาเกดิ ขน้ึ ไดย้ ากมาก ตอ้ งใชค้ วามพยายาม
อยา่ งเตม็ ที่ เพราะในชว่ งนี้เร่ิมเข้าสูว่ ยั หน่มุ ใจเร่มิ มีอารมณท์ าง
โลกเข้ามาแอบแฝง ท่ีเรียกว่าใจกระเพื่อมในอารมณ์ทางโลก
อาการทเี่ กดิ ขน้ึ กค็ อ่ ยหมดสภาพไปโดยปรยิ าย ถา้ หากมคี รอู าจารย์
สอนในวธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ถ่ี กู ตอ้ งในวยั เดก็ นน้ั การปฏบิ ตั มิ คี วามตอ่ เนอื่ ง
กนั มาตลอด ผลของการปฏิบตั ิอยา่ งแท้จริง คงหายความสงสยั
ในตวั เอง ในสมยั ทยี่ งั เปน็ วยั เดก็ ไปแลว้ นข่ี า้ พเจา้ ไมม่ คี รอู าจารย์
ช้แี นะแนวทางทีถ่ กู ต้องให้ จงึ ไมร่ ้ใู นแนวทางปฏบิ ตั ิแต่อยา่ งใด
สงิ่ ทเี่ กดิ ขน้ึ ทงั้ หมดนนั้ ไมเ่ คยรจู้ กั มากอ่ น ไมท่ ราบวา่ มคี วามหมาย
ในทางธรรมว่าอยา่ งไร และยงั ไมร่ ้เู ลยว่าส่ิงทเี่ กิดขนึ้ น้นั เรียกว่า
อะไร

การเลา่ เรอ่ื งสว่ นตวั มานี้ อาจจะมปี ระโยชนแ์ กท่ า่ นอยบู่ า้ ง
อย่างน้อยเพ่ือให้ท่านได้ส�ำนึกได้ว่า ในบางทีที่ท่านอาจเป็นใน

๔๐ อัตโนประวัติ ภาค ๑

ลกั ษณะนม้ี าแลว้ ถา้ หากทา่ นเปน็ อยา่ งนี้ ขอใหท้ า่ นไดไ้ ปปรกึ ษา
ครอู าจารยเ์ พอื่ ใหท้ า่ นไดช้ แ้ี นะหาทางออกใหเ้ รา ดกี วา่ เราจะมา
มัวเมาเล่นอยู่กับแสงสว่าง หลงอยู่ในเสียงสีอย่างน้ี ท�ำให้เสีย
เวลาและห่างจากมรรคผลนิพพานไปโดยไม่รู้ตัว เม่ือท่านมี
อภญิ ญา มฌี านสมาบตั เิ พมิ่ ขนึ้ มาอกี ทา่ นกจ็ ะเกดิ ความหลงเพมิ่
ข้ึนมาอีก โอกาสท่ีจะเข้ากระแสธรรมนั้นจึงเป็นของยากมาก
มแี ต่จะเกดิ เปน็ มานะอตั ตา เกดิ เป็นมจิ ฉาทิฏฐิ ความเหน็ ผดิ ไป
เปน็ ผไู้ มย่ อมรบั ฟงั เหตผุ ลของคนอน่ื จะเขา้ ใจวา่ ตวั เองรใู้ นธรรม
ทกุ อยา่ งไป ถอื วา่ ตวั เองมคี วามฉลาดเกง่ กาจในการปฏบิ ตั ธิ รรม
หรอื อาจพยากรณ์ตัวเองวา่ เปน็ ผไู้ ด้บรรลธุ รรมเป็นพระอรยิ เจา้
ขน้ั ใดขนั้ หนงึ่ กเ็ ปน็ ได้ นเี้ ปน็ คำ� เตอื นสตใิ หเ้ ราไดเ้ กดิ ความสำ� นกึ
ตัวเท่าน้ัน เมื่อเด็กชายทูลออกจากโรงเรียนแล้ว ก็ท�ำไร่ท�ำนา
หากินเหมอื นเด็กอื่นๆ ทว่ั ไป


Click to View FlipBook Version