The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

๑๐๖๒ นายกิจติ ขัตติยะวงค์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanokwantandee, 2022-06-08 02:22:12

๑๐๖๒ นายกิจติ ขัตติยะวงค์

๑๐๖๒ นายกิจติ ขัตติยะวงค์

พฤติกรรม เสมอๆ บอ่ ยๆ เปน็ นอ้ ย ไมม่ ี
บางคร้งั มาก
N
ดา้ นการไดย้ นิ (Auditory System) AO S R
N
1. บตุ รของท่านมคี วามลาบากในการเขา้ ใจความหมายเม่อื บคุ คลอน่ื พูดดว้ ยหรือไม่  N

2. บุตรของท่านถูกรบกวนโดยเสยี งตา่ งหรือ อุปกรณ์งานบ้านตา่ งๆหรอื ไม่ เช่น เครอื่ งดดู 

ฝุ่น เครือ่ งเปา่ ผม หรอื เสียงชกั โครกของโถส้วม

3. บุตรของท่านแสดงพฤติกรรมทไี่ ม่เหมาะสมต่อเสยี งดงั หรอื ไม่ เชน่ การวงิ่ หนี 

การรอ้ งไห้ หรือยกมือปิดหู

4. บตุ รของทา่ นแสดงพฤติกรรมการไม่ได้ยินตอ่ เสียงเรยี ก 

5. บตุ รของท่านแสดงพฤตกิ รรมหันเหความสนใจง่ายตอ่ เสยี งซ่งึ ปกตจิ ากบุคคลอ่นื จะไม่ถูก 

รบกวน

6. บุตรของท่านแสดงพฤตกิ รรมตกใจกลวั ต่อเสยี งซงึ่ เด็กคนอนื่ ๆในวัยเดียวกนั จะไมร่ สู้ กึ 

กลวั หรอื ตกใจ

7. บตุ รของทา่ นแสดงพฤตกิ รรรมตอบสนองตอ่ เสียงดงั ๆ ค่อนขา้ งนอ้ ย 

8. บตุ รของทา่ นมีความลาบากในการแปลความหมายของคาพดู ง่ายๆ หรือคาส่งั ง่ายๆ 

9. บตุ รของทา่ นหันเหความสนใจงา่ ยต่อเสียงทีไ่ ม่นา่ ใสใ่ จเลย เช่น เสยี งตัดหญา้ ขา้ งนอก 

เสยี งคนคุยกันหลังหอ้ ง เสยี งแอรค์ อนดิชัน่ เสียงตเู้ ยน็ เสียงหลอดไฟนีออน เสียงขยุม้

กระดาษ ฯลฯ

10. บุตรของท่านดเู หมอื นมพี ฤติกรรม ที่ไวต่อเสยี งมากเกนิ ไป 

ดา้ นการรบั รส/กลิ่น (Gustatory/Olfactory System) AO S R

1. บตุ รของทา่ นแสดงพฤตกิ รรมการสารอก อาเจียน หรือบน่ คลืน่ ไส้ เมือ่ ไดก้ ลิ่นตา่ งๆ เชน่ 

กล่นิ สบู่ กลน่ิ นา้ หอม หรือ กลน่ิ นา้ ยาทาความสะอาด

2. บุตรของท่านบน่ เกีย่ วกับรสอาหารวา่ จดื เกินไป หรอื ปฏเิ สธไม่ยอมรบั ประทานอาหาร 

รสจดื ๆ

3. บุตรของทา่ นชอบรบั ประทานอาหารรสเคม็ จดั 

4. บตุ รของท่านชอบชิมวัตถุทีไ่ ม่ใช่อาหาร เชน่ กาว หรือ สี 

5. บุตรของท่านจะสารอกเม่อื ไดร้ บั ประทานอาหารทไ่ี ม่ชอบ เช่น ผดั ผกั คะน้า ตม้ มะระ 

ด้านการรับรเู้ อน็ ขอ้ ตอ่ และกลา้ มเนื้อ (Proprioceptive System) AO S R

1. บตุ รของท่านมกี ารจบั วตั ถแุ นน่ มากซ่งึ ทาใหย้ ากต่อการใชง้ านวัตถนุ นั้ 

2. บุตรของท่านมีพฤตกิ รรมกัดฟันกรอดๆ 

3. บตุ รของทา่ นแสดงหา/ชอบเลน่ กจิ กรรม ทีต่ ้องมีการกระโดด การผลัก การดัน การดึง 

การลากถไู ถ การยกส่งิ ของขึ้น

4. บตุ รของท่านแสดงพฤตกิ รรมไมค่ อ่ ยแนใ่ จวา่ จะยดื ตวั หรอื ก้มตวั มากน้อยเท่าใด 

ระหวา่ งการเคลอื่ นไหว เช่น การนงั่ ลง หรอื การกา้ วข้ามสิ่งกีดขวาง

5. บตุ รของท่านมีการจบั วตั ถุแบบหลวมๆ ซง่ึ ทาให้ยากลาบากในการใช้วตั ถนุ ัน้ 

6. บตุ รของท่านมลี ักษณะการใช้แรงคอ่ นข้างมากในการทางาน เชน่ การเดนิ กระแทกเทา้ 

การปิดประตเู สียงดัง การกดแรงเกนิ ไป ในขณะใช้ดินสอหรอื สเี ทียน

7. บุตรของท่านมีพฤตกิ รรมกระโดดบอ่ ยครั้งมาก 

8. บุตรของท่านมพี ฤติกรรมการเลน่ กบั สตั วเ์ ลี้ยงไมเ่ หมาะสม เช่น เล่นกบั สตั วเ์ ลยี้ งโดยใช้ 

แรงมากเกินไป

9. บุตรของท่านมีความยากลาบาก ในการจดั ตัวเองใหน้ งั่ บนเกา้ อี้ 

10. บุตรของทา่ นชอบซนหรอื ชอบผลกั เพอื่ น 

11. บตุ รของทา่ นมีลักษณะเหมือนคนอ่อนแอ 

12. บุตรของทา่ นชอบเค้ยี ว ของเลน่ เสื้อผ้า วตั ถอุ ื่นทไี่ มใ่ ช่ของกินได้ 

พฤติกรรม เสมอๆ บ่อยๆ เปน็ นอ้ ย ไมม่ ี
บางคร้ัง มาก

ดา้ นการสมั ผัส (Tactile System) AO S RN

1. บตุ รของท่านถอยหนตี อ่ การถกู สัมผัสแบบแผว่ เบา 

2. บุตรของทา่ นไมต่ ระหนกั ตอ่ การถกู สมั ผสั 

3. บุตรของทา่ นไมย่ อมใส่ หรือ ปฏเิ สธ ต่อการใสเ่ ส้อื ผา้ ใหมๆ่ 

4. บตุ รของทา่ นไม่ชอบการหวผี ม หรอื ถ/ู เช็ดตัว 

5. บตุ รของทา่ นชอบสัมผสั คนอ่ืนมากกว่าการทีจ่ ะให้คนอ่นื สมั ผสั 

6. บตุ รของทา่ นแสดงพฤติกรรมชอบมากๆ ต่อการสัมผัสพ้นื ผิวท่แี ตกตา่ งกัน 

7. บุตรของทา่ นปฏิเสธต่อการใสห่ มวก แวน่ ตา หรอื เครื่องประดบั อ่นื ๆ 

8. บุตรของท่านราคาญต่อการตดั เลบ็ 

9. บุตรของทา่ นด้ินรนขดั ขืนต่อการอมุ้ /การกอด 

10. บตุ รของทา่ นมแี นวโนม้ ชอบสมั ผสั /แตะวตั ถุส่งิ ของตา่ งๆ เป็นประจา 

11. บตุ รของทา่ นหลกี เลี่ยงการเล่นตอ่ วตั ถุ/สิ่งของลกั ษณะเปน็ ก้อนกรวด หรือ ฝนุ่ แป้ง 

12. บุตรของท่านชอบสัมผสั พนื้ ผวิ ของเสือ้ ผา้ ชนดิ ใดชนดิ หน่งึ 

13. บตุ รของท่านแสดงความไมพ่ อใจ ตอ่ การถูกสัมผสั บรเิ วณใบหน้า 

14. บุตรของทา่ นแสดงความไมพ่ อใจ ตอ่ การถูกล้างหนา้ 

15. บุตรของทา่ นตอ่ ต้าน/ไมช่ อบการใส่เส้ือแขนยาวหรือกางเกงขายาว 

16. บุตรของท่านไมช่ อบการรบั ประทานอาหารชนิดทเ่ี ปยี กแฉะ 

17. บุตรของท่านหลีกเลย่ี งอาหารชนิดใดชนดิ หน่ึงอย่างชัดเจนสมา่ เสมอ 

18. บตุ รของทา่ นหลกี เลี่ยงการเลน่ แปง้ กาว ทราย ดนิ น้ามัน การระบายสี ด้วยมอื 

19. บตุ รของท่านแสดงความไม่พอใจตอ่ การถกู ตดั ผม 

20. บตุ รของท่านแสดงความเจ็บปวดมากตอ่ การบาดเจ็บเพยี งเล็กน้อย 

21. บุตรของท่านมคี วามรู้สึกทนทานตอ่ การบาดเจบ็ สูงมาก(ไม่คอ่ ยรสู้ ึกตอ่ การเจ็บปวด) 

ดา้ นการรกั ษาสมดลุ ของรา่ งกาย (Vestibular System) AO S RN

1. บตุ รของทา่ นหวาดกลัวมากตอ่ พฤตกิ รรมการเคลอื่ นไหว เชน่ การขนึ้ -ลงบนั ใด การน่ัง 

ชงิ ชา้ มา้ กระดก สะพานลนื่ หรอื ของเล่นอน่ื ๆในสนามเด็กเลน่

2. บุตรของท่านไม่ชอบ/อดึ อดั เมื่อถกู จบั เคล่ือนไหวไปมา หรือ นั่งบนอปุ กรณโ์ ยก/แกว่ง 

3. บุตรของทา่ นมีการทรงตัวไดเ้ ปน็ อยา่ งดเี มอ่ื อยู่บนพืน้ ทีไ่ มม่ ั่นคง 

4. บตุ รของท่านหลีกเลี่ยงกจิ กรรมการทรงทา่ เชน่ การเดนิ บนขอบถนน ขอบบอ่ หรือ 

พนื้ ทไี่ มเ่ คยชนิ

5. บุตรของท่านชอบกิจกรรมการเลน่ แบบหมนุ ๆ แบบเร็วๆ เช่น มา้ หมนุ เป็นวงกลม 

6. บุตรของทา่ นไมส่ ามารถร้ังตวั เองไวเ้ วลาจะหกลม้ 

7. บตุ รของท่านไมร่ ู้สกึ เวยี นศีรษะในกิจกรรมการเล่นที่คนอน่ื ๆจะรู้สึกเวยี นศีรษะ 

8. บุตรของท่านดูเหมือนจะทาอะไรชา้ ไม่เข้มแขง็ 

9. บุตรของทา่ นแสดงพฤติกรรม การหมนุ ตัวเองบ่อยคร้ังมากกว่าเดก็ คนอนื่ 

10. บุตรของท่านแสดงพฤติกรรมการโยกตนเองเม่อื มภี าวะเครียด 

11. บุตรของทา่ นชอบกจิ กรรมหกคะเมน ตลี ังกา การปีนป่ายทห่ี ้อยศรี ษะลง 

12. บตุ รของทา่ นมคี วามกลัวต่อการแกว่ง การกระโดด คล้ายเดก็ เล็ก 

13. บตุ รของทา่ นถา้ เปรียบเทยี บกับเดก็ ในวยั เดยี วกนั แลว้ บุตรของทา่ นมคี วามยากลาบาก 

ในการเล่นอปุ กรณ/์ ของเล่นสนามกลางแจง้ ในสนามเด็กเล่น เชน่ ชิงชา้ เก้าอีห้ มนุ

14. บุตรของทา่ นแสดงพฤตกิ รรมกระวนกระวาย/หงดุ หงิด เมอ่ื มีการเปล่ียนแปลงท่าของ 

ศีรษะในท่าอนื่ ๆ เชน่ การเอยี งศรี ษะไปดา้ นหลัง การก้มศรี ษะลง

พฤติกรรม เสมอๆ บอ่ ยๆ เปน็ น้อย ไม่มี
บางคร้งั มาก

การมองเหน็ (Visual System) A O S RN

1. บุตรของท่านไมส่ ามารถแยกแยะตวั อักษรทใี่ กล้เคียงกนั ได้ เชน่ ภ ถ หรอื + x เป็นตน้ 

2. บุตรของท่านถกู รบกวนด้วยแสง/มคี วามไวตอ่ แสง โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ แสงจ้าๆ (แสดง 

พฤติกรรมโดยการกะพรบิ ตา หลบั ตา หรี่ตา หรอื ร้องไห)้

3. เม่อื มองดรู ปู ภาพ บุตรของทา่ นใหค้ วามสนใจในรายละเอยี ดมากกวา่ องค์รวมของภาพ 

4. บุตรของท่านมีความยากลาบากในการมองตามกจิ กรรมต่างๆ ในขณะทางาน 

5. บุตรของทา่ นมกี ารหันเหความสนใจงา่ ยต่อสง่ิ เรา้ ทางตาทมี่ ากระตนุ้ 

6. บตุ รของท่านมีความลาบากตอ่ การค้นหาส่งิ ของ เมอื่ สิง่ ของน้นั ปนอยู่กบั สงิ่ ของอ่ืนๆ 

7. บตุ รของท่านมกี ารปดิ ตาขา้ งหน่งึ หรือเอียงศรี ษะไปดา้ นหลังเมอื่ จ้องมองสงิ่ ของ หรอื 

บคุ คลใดบคุ คลหนง่ึ

8. บุตรของทา่ นมคี วามลาบาก/อดึ อดั เม่อื อย่ใู นสงิ่ แวดลอ้ มทม่ี สี ่งิ เรา้ ทางสายตาทไ่ี ม่ 

คุน้ เคย เชน่ ในหอ้ งทีส่ ว่างจ้า หรอื ห้องทมี่ ดึ สลัว

9. บตุ รของทา่ นมีความยากลาบากในการควบคุมการเคลอื่ นไหวของตาเมอ่ื มองตามวตั ถุ 

ที่เคลือ่ นไหวได้

10. บุตรของท่านมีความยากลาบากในการแยกแยะหรอื จบั คู่ สี/รปู ทรง/ขนาด ของวัตถุ 

*** ถา้ บุตรของทา่ นมีอายุ ๖ ขวบ หรอื มากกว่า ๖ ขวบ***

กรุณาตอบคาภาม ๓ ขอ้ ต่อไปนี้

๑๑. บตุ รของท่านเขียนตัวหนังสือกลับหรือ อ่านคากลบั บ่อยๆ หลงั จากอยู่ ป.๑ แล้ว 

๑๒. บตุ รของทา่ นมกั หาตาแหนง่ ท่ตี นกาลัง อา่ น/ลอกข้อความ/หาจดุ ทกี่ าลงั แก้โจทย์ 

ปัญหา/หาจุดที่กาลงั เขียน ไมเ่ จอ

๑๓. ในโรงเรียนบตุ รของท่านมคี วามยากลาบากในการปรับสายตาจากกระดานมายงั 

กระดาษท่ีเขียน เมอ่ื ใหล้ อกคาต่างๆ บนกระดาน

แบบประเมินประสิทธภิ าพการทาหนา้ ท่ีของสมองในการบรู ณาการความรู้สึก

พฤติกรรม/การแสดงออก การแปลผล หมายเหตุ
พบ (poor integration) ไม่พบ (good integration)
Hyperactive
Distractivity 
Tactile Defensiveness
Gravitational Insecurity 
Visual Defensiveness
Auditory 
Defensiveness





*ใช้แบบประเมินพฤติกรรมการประมวลความรู้สกึ *

การประเมนิ การใชส้ ตปิ ัญญา ความคดิ ความเข้าใจ

1. ระดบั ความรู้สึกตัว :  ปกติ □ ผิดปกติ

2. การรับรู้วนั เวลา สถานท่ี และบคุ คล .................รับรบู้ คุ คลที่ใกลช้ ิด................................................................

.......................................................................................................................................................................................

3. การจดจา....................จดจาในส่งิ ทีค่ นุ้ เคย.............................................................................................................

4. ชว่ งความสนใจหรือสมาธิ  มี .....๕.........นาที □ ไมม่ ี

5. ความจา □ มี  ไม่มี

6. การเรียงลาดับ □ มี  ไม่มี

7. การจดั หมวดหมู่ □ มี  ไม่มี

8. ความคดิ รวบยอด □ มี  ไม่มี

(นายเอกนรินทร์

แบบแจกแจงปัญหาและการตง้ั เปา้ ประสงค์

 สรุปปญั หาของนักเรียน
๑. ความตงึ ตัวของกลา้ มเนือสว่ นสะโพก แขน และขาผดิ ปกติ
๒. มขี อ้ จา้ กัดในด้านทักษะการชว่ ยเหลอื ตนเองในชีวิตประจา้ วัน
๓. มคี วามยากลา้ บากในการเคลือ่ นท่หี รือเคล่ือนย้ายตนเองไปยงั สถานท่ีต่างๆ

 เปา้ ประสงค์
- ส่งเสริมการปรับส่ิงแวดล้อม และหรือการดัดแปลง และปรับสภาพบ้าน (home and Environment
modification) เป็นต้น โดยอาศัยเทคนิค วิธกี าร และกิจกรรมต่างๆท่ีเกยี่ วขอ้ งทางกิจกรรมบา้ บัดมาเป็นส่ือ
การรักษา เพื่อใหเ้ ดก็ ช่วยเหลือตนเองได้อยา่ งเต็มศักยภาพของตนเองมากทสี่ ดุ และพ่งึ พาผู้อน่ื น้อยท่ีสดุ

(ลงช่ือ)
( นางสาวปุณยนชุ คาจติ แจ่ม )
นกั กจิ กรรมบาบดั
วันที่ ๑๐ ม.ิ ย. ๖๔

แบบสรปุ การรับบริการกิจกรร

ช่อื -สกุล นายกิจติ ขัตยิ ะวงศ หนวยบรกิ าร อาํ เภอแมเมาะ
วนั เดือนป ที่ประเมินกอ นการรับบริการกิจกรรมบาํ บัด ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๔

สรปุ ปญ หาของนกั เรยี น ผลการประเมินกอน เปาปร
การรบั บรกิ าร

Short attention span & นกั เรยี นไมส ามารถทาํ กิจกรรมที่ นกั เรยี นสามาร
distractivity กาํ หนดใหเ สร็จไดด ว ยตนเอง ทก่ี าํ หนดใหเส
ตนเองนาน ๑๐

Poor Cognition นักเรยี นไมส ามารถลําดับเหตกุ ารณ นักเรยี นสามาร

กอ นหลงั ได เหตกุ ารณก อน

เหตุการณข้นึ ไ

สรปุ ผลการใหบรกิ ารกิจกรรมบาํ บดั

๑. เปา ประสงคท้ังหมด ๒ ขอ

๒. ผลการพัฒนา บรรลุเปา ประสงค ๒ ขอ ไมบรรลุเปาประสงค - ข

ขอเสนอแนะในปต อ ไป ควรไดร บั การกระตุน พฒั นาการอยางตอ เน่ือง โดยเฉพา

รมบาํ บัด ปการศึกษา ๒๕๖๔

วนั เดอื นป ทปี่ ระเมินหลังการรับบริการกิจกรรมบาํ บดั ๘ เมษายน ๒๕๖๕

ผลการประเมินหลัง ผลการพฒั นาตามเปา ประสงค

ระสงค การรบั บรกิ าร บรรลุ/ผา น ไมบ รรล/ุ ไม

ผาน

รถทํากิจกรรม นักเรียนสามารถทาํ กจิ กรรมท่ี

สร็จไดด วย กาํ หนดใหเ สรจ็ ไดด วยตนเอง √
๐ นาที นาน ๑๐ นาที

รถลําดบั นกั เรยี นสามารถลาํ ดบั √
นหลัง ๒ เหตุการณก อ นหลงั ๒
ไปได เหตกุ ารณไ ด

ขอ
าะการฝกการทาํ กิจกรรมใหเ สรจ็ ตามท่ีกําหนด

(ลงชอ่ื )
( นางสาวปุณยนชุ คําจติ แจม )
ครกู ิจกรรมบาํ บดั



แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั

ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัดลาปาง

วันทร่ี บั การประเมนิ ...๑..๔..........น..า..ย...น....6...ป๔
ผ้ปู ระเมนิ ..น..า..ย..อ....ช..า..โ...ส...ม....ก...บ................

๑. ข้อมลู ทั่วไป

ชื่อ……น…า…ย…จ…………ต……ย…ะ…วง………….....………… ชอ่ื เลน่ ...ไ..อ.....ว...................... เพศ า/ชาย หญงิ

วัน เดอื น ปเี กิด..๑...๙.....ม.....ค.......6..ร...๔...๗....... อายุ .๑..๗....ปี...๕.......เดอื น โรคประจาตวั ...-..............................

การวนิ ิจฉัยทางการแพทย์………คค…ล…อ..อ....ส.....ก...........................................................................................
อาการสาคัญ (Chief complaint) …ไ…ส…าม…ารถ.…ว…ย…า…อ…ต…น…เอ…งไ……แ...ร…าม…าเ…ก …เ …อ…นไห…ว……น…เ…น…ไ ………..………

ขอ้ ควรระวงั ....-.......................................................................................................................................
หอ้ งเรียน ...แ....เ..ม..า..ะ...๒..........................................ครปู ระจาชัน้ ...น..า..ง..ส.า..ว..ก...น..ก..ว..ร..ร..ณ.........น.....................

๒. การสังเกตเบอ้ื งตน้ ปกติ ผิดปกติ การสงั เกต ปกติ ผดิ ปกติ
๙. เท้าปกุ
การสังเกต r ๑๐. เทา้ แบน r
๑. ลกั ษณะสีผวิ ๑๑. แผลกดทบั
๒. หลังโกง่ . ๑๒. การหายใจ .
๓. หลังคด . ๑๓. การพดู .
๔. หลงั แอ่น ๑๔. การมองเหน็ .
๕. เข่าชดิ . ๑๕. การเค้ยี ว
๖. เขา่ โก่ง ๑๖. การกลนื .
๗. ระดับข้อสะโพก .
๘. ความยาวขา ๒ ขา้ ง . .

. .
r
r

เพิม่ เติม
......-...................................................................
.........................................................................
.........................................................................
.........................................................................

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครง้ั ท่ี ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

ีด้ต่ม้ดิดืย่ืพ่ต้ดีผ่ช่มิติทุบิค์กิตัขิติกุนุถิม



๓. พัฒนาการตามวัย

ความสามารถ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ความสามารถ ทาได้ ทาไม่ได้
๖. นั่งทรงตวั
:๑. ชนั คอ ๗. ลุกขน้ึ ยืน น
๘. ยนื ทรงตวั
๒. พลกิ ควา่ พลิกหงาย ๙. เดิน
๑๐. พดู
๓. คบื . .

๔. คลาน . .

๕. ลกุ ขนึ้ นั่ง . .

เพม่ิ เติม ....-.............................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................... .................................

๔. การประเมนิ ทางกายภาพบาบัด

มาตรฐานที่ ๑ การเพิ่มหรอื คงสภาพองศาการเคลื่อนไหวของข้อต่อ

ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ขอ้ สงั เกต

๑.๑ เพิ่มหรือคง ๑. ยกแขนขึน้ ได้ /เตม็ ช่วงการเคลือ่ นไหว

สภาพองศาการ ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว
เคล่ือนไหวของ จากัดการเคลื่อนไหว
รา่ งกายสว่ นบน เพม่ิ เตมิ .................................
................................................

๒. เหยียดแขนออกไป / เต็มชว่ งการเคลือ่ นไหว

ดา้ นหลังได้ ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว
จากัดการเคล่อื นไหว

เพิม่ เตมิ .................................

................................................

๓. กางแขนออกได้ / เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว

ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว

จากดั การเคลอื่ นไหว

เพมิ่ เตมิ .................................

................................................

๔. หุบแขนเข้าได้ -เตม็ ช่วงการเคล่อื นไหว

ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว

จากดั การเคลอ่ื นไหว

เพ่ิมเตมิ .................................

................................................

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครงั้ ท่ี ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓



ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต

๕. งอขอ้ ศอกเขา้ ได้ เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว
๖. เหยยี ดข้อศอกออกได้ ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว
จากดั การเคล่ือนไหว
เพิ่มเตมิ .................................
เต็มช่วงการเคลื่อนไหว
ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว

:/จากดั การเคล่ือนไหว
เพ่มิ เตมิ .................................

................................................

๗. กระดกข้อมือลงได้ เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว

ไม่เตม็ ช่วงการเคลอื่ นไหว

จากดั การเคลือ่ นไหว

เพมิ่ เตมิ .................................

๘. กระดกข้อมือขนึ้ ได้ ................................................

rเตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว

ไม่เตม็ ช่วงการเคล่อื นไหว

จากัดการเคลอ่ื นไหว

เพม่ิ เตมิ .................................

๙. กามอื ได้ ................................................
/เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว

ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว

จากดั การเคลอ่ื นไหว

เพิ่มเตมิ .................................

................................................

๑๐. แบมอื ได้ / เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว

ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว

จากัดการเคล่ือนไหว

เพม่ิ เตมิ .................................

๑.๒ เพม่ิ หรอื คง ๑. งอข้อสะโพกเข้าได้ ................................................

r เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว

สภาพองศาการ ไม่เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว
เคลื่อนไหวของ จากัดการเคลอ่ื นไหว
รา่ งกายสว่ นล่าง เพม่ิ เตมิ .................................
................................................

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ คร้ังท่ี ๓ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓



ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต
๒. เหยียดขอ้ สะโพก
กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ rเตม็ ช่วงการเคล่อื นไหว
ออกได้
๓. กางขอ้ สะโพกออกได้ ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอื่ นไหว

๔. หบุ ขอ้ สะโพกเข้าได้ จากัดการเคลื่อนไหว

๕. งอเข่าเข้าได้ เพิ่มเตมิ .................................

๖. เหยยี ดเข่าออกได้ ................................................
/เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว
๗. กระดกข้อเทา้ ลงได้
ไม่เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว
๘. กระดกข้อเทา้ ข้นึ ได้
จากัดการเคลอ่ื นไหว

เพิ่มเตมิ .................................

................................................

:/เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว
ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว
จากดั การเคลอื่ นไหว
เพม่ิ เตมิ .................................
................................................

เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว
ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว
จากดั การเคลือ่ นไหว
เพิม่ เตมิ .................................

................................................

เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว

ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว

จากดั การเคล่อื นไหว

เพมิ่ เตมิ .................................

................................................

เต็มชว่ งการเคลอ่ื นไหว

ะไม่เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว
จากัดการเคล่อื นไหว
เพม่ิ เตมิ .................................
................................................
เต็มช่วงการเคลอื่ นไหว

ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอื่ นไหว

จากัดการเคลอ่ื นไหว

เพ่ิมเตมิ .................................

................................................

แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ ครง้ั ที่ ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓



ตัวบง่ ชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสงั เกต

๙. หมุนขอ้ เท้าได้ -เตม็ ช่วงการเคลือ่ นไหว

ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว

จากดั การเคล่อื นไหว

เพม่ิ เตมิ .................................

................................................

๑๐. งอนิว้ เท้าได้ เต็มชว่ งการเคลอ่ื นไหว

มาตรฐานที่ ๒ การปรับสมดุลความตงึ ตัวของกลา้ มเนอื้ ะไม่เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว
จากดั การเคลอื่ นไหว
เพิ่มเตมิ .................................
................................................
ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสังเกต

๒.๑ ปรบั สมดลุ ๑. ปรับสมดุลความ ระดบั ๐ ระดับ ๑

ความตงึ ตัว ตงึ ตัวกลา้ มเนื้อ ระดับ ๑+ ระดับ ๒
ของกล้ามเน้ือ ยกแขนข้ึนได้
รา่ งกายสว่ นบน ระดับ ๓ ระดบั ๔

เพ่มิ เตมิ .................................

.................................................
rระดับ ๐
๒. ปรบั สมดลุ ความ ระดับ ๑

ตงึ ตัวกล้ามเนื้อ ระดบั ๑+ ระดบั ๒
เหยยี ดแขนออกไป ระดบั ๓ ระดับ ๔
ด้านหลังได้ เพ่ิมเตมิ .................................
.................................................

๓. ปรบั สมดุลความ ะระดบั ๐ ระดบั ๑
ตงึ ตวั กล้ามเน้ือ ระดับ ๑+ ระดบั ๒
กางแขนออกได้ ระดับ ๓ ระดบั ๔
เพิ่มเตมิ .................................
๔. ปรับสมดลุ ความ .................................................
ระดบั ๐ ระดับ ๑

ตงึ ตัวกล้ามเนื้อ ระดบั ๑+ ระดับ ๒
หุบแขนเข้าได้ ระดับ ๓ ระดับ ๔
เพม่ิ เตมิ .................................

.................................................

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครงั้ ท่ี ๓ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓



ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต

๕. ปรบั สมดลุ ความ -ระดับ ๐ ระดบั ๑

ตงึ ตัวกลา้ มเนื้อ ระดับ ๑+ ระดับ ๒
งอข้อศอกเข้าได้ ระดบั ๓ ระดบั ๔
เพม่ิ เตมิ .................................

.................................................

๖. ปรบั สมดุลความ /ระดับ ๐ ระดับ ๑

ตงึ ตัวกล้ามเน้ือ ระดบั ๑+ ระดบั ๒
เหยยี ดข้อศอกออกได้ ระดับ ๓ ระดับ ๔
เพม่ิ เตมิ .................................

.................................................

๗. ปรบั สมดุลความ rระดบั ๐ ระดับ ๑

ตงึ ตวั กล้ามเนื้อ ระดบั ๑+ ระดับ ๒
กระดกข้อมือลงได้ ระดับ ๓ ระดบั ๔
เพ่มิ เตมิ .................................

.................................................

๘. ปรบั สมดลุ ความ / ระดับ ๐ ระดับ ๑

ตึงตัวกลา้ มเนื้อ ระดับ ๑+ ระดับ ๒
กระดกข้อมือขึ้นได้ ระดับ ๓ ระดบั ๔
เพม่ิ เตมิ .................................

.................................................

๙. ปรับสมดุลความ :/ระดับ๐ ระดบั ๑
ตึงตัวกลา้ มเนื้อ ระดบั ๑+ ระดับ ๒
กามือได้ ระดบั ๓ ระดับ ๔
เพิ่มเตมิ .................................
๑๐. ปรับสมดุลความ .................................................
ตึงตัวกล้ามเน้ือ
แบมือมอื ได้ ระดับ ๐ ระดับ ๑
ระดับ ๑+ ระดับ ๒
ระดับ ๓ ระดบั ๔
เพมิ่ เตมิ .................................
.................................................

๒.๒ ปรับสมดุล ๑. ปรับสมดุลความตงึ ตัว ระดบั ๐ ระดับ ๑

ความตึงตัว กล้ามเน้ืองอสะโพก ระดับ ๑+ ระดับ ๒
ของกล้ามเน้ือ เข้าได้ ระดับ ๓ ระดับ ๔
รา่ งกายส่วนลา่ ง เพิ่มเตมิ .................................
.................................................

กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงคร้ังที่ ๓ วันท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓



ตัวบ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สงั เกต

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ๒. ปรบั สมดุลความตึงตัว /ระดบั ๐ ระดับ ๑

กล้ามเนอื้ เหยียด ระดบั ๑+ ระดับ ๒
สะโพกออกได้ ระดับ ๓ ระดบั ๔
เพ่มิ เตมิ .................................

.................................................

๓. ปรับสมดุลความตึงตัว -ระดับ ๐ ระดับ ๑

กลา้ มเนือ้ กางสะโพก ระดับ ๑+ ระดับ ๒
ออกได้ ระดับ ๓ ระดบั ๔
เพม่ิ เตมิ .................................

.................................................

๔. ปรับสมดุลความตึงตัว r ระดบั ๐ ระดบั ๑
กล้ามเนอ้ื หุบสะโพก
เข้าได้ ระดบั ๑+ ระดับ ๒

ระดับ ๓ ระดบั ๔

เพิ่มเตมิ .................................

.................................................

๕. ปรบั สมดุลความตึงตวั rระดับ ๐ ระดับ ๑

กล้ามเน้ืองอเขา่ เขา้ ได้ ระดบั ๑+ ระดับ ๒
ระดบั ๓ ระดับ ๔

เพม่ิ เตมิ .................................

.................................................
r ระดบั ๐
๖. ปรับสมดลุ ความตงึ ตัว ระดับ ๑

กลา้ มเน้ือเหยียดเขา่ ระดับ ๑+ ระดับ ๒
ออกได้ ระดับ ๓ ระดับ ๔
เพม่ิ เตมิ .................................

.................................................

๗. ปรบั สมดลุ ความตงึ ตัว ระดับ ๐ ระดบั ๑
กล้ามเนื้อกระดก
ข้อเท้าลงได้ ะระดับ ๑+ ระดับ ๒
ระดับ ๓ ระดับ ๔
๘. ปรบั สมดุลความตงึ ตวั เพม่ิ เตมิ .................................
.................................................
ระดบั ๐ ระดับ ๑

กลา้ มเนอ้ื กระดก ระดบั ๑+ ระดบั ๒
ข้อเท้าขนึ้ ได้ ระดับ ๓ ระดับ ๔
เพิ่มเตมิ .................................

.................................................

แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ ครงั้ ที่ ๓ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓



หมายเหตุ
๐ หมายถงึ ความตงึ ตัวของกล้ามเนอื้ ไมม่ กี ารเพิ่มขน้ึ
๑ หมายถึง ความตึงตัวของกลา้ มเนื้อสูงขน้ึ เลก็ น้อย (เฉพาะช่วงการเคล่อื นไหวแรกหรอื สดุ ท้าย)
๑+ หมายถึง ความตึงตวั ของกล้ามเน้ือสงู ขน้ึ เล็กนอ้ ย
(ช่วงการเคลื่อนไหวแรกและยงั มอี ยู่แตไ่ มถ่ งึ ครึ่งของช่วงการเคลอื่ นไหว
๒ หมายถงึ ความตึงตัวของกลา้ มเนอื้ เพ่มิ ตลอดชว่ งการเคล่อื นไหว แตส่ ามารถเคล่อื นไดจ้ นสดุ ชว่ ง
๓ หมายถงึ ความตึงตัวของกลา้ มเน้ือมากขึน้ และทาการเคล่อื นไหวไดย้ ากแต่ยงั สามารถเคลือ่ นได้จนสดุ
๔ หมายถงึ แขง็ เกร็งในท่างอหรือเหยียด

มาตรฐานท่ี ๓ การจัดทา่ ใหเ้ หมาะสมและการควบคุมการเคลือ่ นไหวในขณะทากจิ กรรม

ตัวบง่ ช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสังเกต

๓.๑ จัดทา่ ให้ ๑. จดั ท่านอนหงาย rทาได้ด้วยตนเอง

เหมาะสม ได้อยา่ งเหมาะสม มผี ชู้ ่วยเหลือเล็กนอ้ ย
มผี ชู้ ว่ ยเหลอื ปานกลาง

มผี ้ชู ว่ ยเหลอื มาก

เพมิ่ เตมิ .........................................

๒. จดั ทา่ นอนคว่า .......................................................

/ทาไดด้ ว้ ยตนเอง

ได้อย่างเหมาะสม มผี ชู้ ว่ ยเหลอื เล็กนอ้ ย
มีผชู้ ว่ ยเหลือปานกลาง

มีผชู้ ว่ ยเหลือมาก

เพิ่มเตมิ .........................................

๓. จัดท่านอนตะแคง .......................................................

/ ทาไดด้ ้วยตนเอง

ได้อย่างเหมาะสม มีผู้ช่วยเหลอื เลก็ น้อย
มผี ชู้ ว่ ยเหลือปานกลาง

มผี ู้ช่วยเหลอื มาก

เพิ่มเตมิ .........................................

.......................................................

๔. จดั ท่านงั่ ขาเปน็ วง rทาไดด้ ้วยตนเอง

ได้อยา่ งเหมาะสม มีผชู้ ว่ ยเหลือเล็กน้อย
มผี ชู้ ว่ ยเหลือปานกลาง

มีผู้ชว่ ยเหลอื มาก

เพิม่ เตมิ .........................................

.......................................................

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครง้ั ที่ ๓ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓



ตัวบ่งชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต

๓.๒ ควบคมุ การ ๕. จัดท่านง่ั ขัดสมาธิ ทาไดด้ ว้ ยตนเอง
เคล่ือนไหว
ในขณะ ไดอ้ ย่างเหมาะสม มีผู้ช่วยเหลอื เลก็ นอ้ ย
ทากจิ กรรม มีผู้ชว่ ยเหลือปานกลาง
๖. จัดทา่ นงั่ เก้าอี้ มีผู้ช่วยเหลอื มาก
ได้อยา่ งเหมาะสม เพมิ่ เตมิ .........................................
.......................................................
ทาไดด้ ว้ ยตนเอง
มีผู้ชว่ ยเหลอื เลก็ นอ้ ย

:/มีผู้ชว่ ยเหลือปานกลาง
มีผ้ชู ว่ ยเหลอื มาก
เพิ่มเตมิ .........................................

.......................................................

๗. จัดท่ายนื เข่า ทาได้ดว้ ยตนเอง

ไดอ้ ย่างเหมาะสม มีผู้ช่วยเหลือเลก็ น้อย
มผี ูช้ ่วยเหลือปานกลาง

มีผชู้ ว่ ยเหลอื มาก

เพิ่มเตมิ .........................................

.......................................................

๘. จดั ท่ายืนได้เหมาะสม rทาได้ดว้ ยตนเอง

มีผู้ช่วยเหลือเล็กน้อย

มีผูช้ ่วยเหลือปานกลาง

มผี ชู้ ว่ ยเหลือมาก

เพ่ิมเตมิ .........................................

.......................................................

๙. จัดทา่ เดนิ ไดเ้ หมาะสม -ทาได้ดว้ ยตนเอง
มีผู้ช่วยเหลือเลก็ น้อย

มผี ชู้ ว่ ยเหลอื ปานกลาง

มผี ชู้ ่วยเหลือมาก

เพม่ิ เตมิ .........................................

.......................................................

๑. ควบคมุ การเคลื่อนไหว Loss Poor

ขณะนอนหงายได้ Fair Good
rNormal

เพม่ิ เตมิ .................................

.................................................

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ ครั้งท่ี ๓ วันท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

๑๐

ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต

กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ๒. ควบคุมการเคล่ือนไหว Loss Poor

ขณะนอนคว่าได้ Fair Good

rNormal
เพิ่มเตมิ .................................

.................................................

๓. ควบคมุ การเคล่ือนไหว Loss Poor

ขณะลุกขน้ึ นงั่ จาก Fair Good
ท่านอนหงายได้
:/Normal
๔. ควบคมุ การเคล่ือนไหว
ขณะลุกข้นึ น่งั จากทา่ เพม่ิ เตมิ .................................
นอนหงายได้ .................................................

๕. ควบคุมการเคล่ือนไหว Loss Poor
Fair Good
Normal
เพมิ่ เตมิ .................................
.................................................
Loss Poor

ขณะน่ังบนพน้ื ได้ Fair Good
Normal

เพิ่มเตมิ .................................

.................................................

๖. ควบคมุ การเคล่ือนไหว Loss Poor

ขณะน่ังเกา้ อไี้ ด้ Fair Good

๗. ควบคุมการเคลื่อนไหว :/Normal
ขณะคืบได้
เพม่ิ เตมิ .................................
๘. ควบคมุ การเคล่ือนไหว .................................................

Loss Poor
Fair Good
Normal
เพมิ่ เตมิ .................................
.................................................
Loss Poor

ขณะคลานได้ Fair Good
Normal

เพิ่มเตมิ .................................

.................................................

แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงคร้ังท่ี ๓ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

๑๑

ตวั บ่งชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สงั เกต

๙. ควบคมุ การเคลื่อนไหว Loss Poor

ขณะยนื เขา่ ได้ Fair Good

/Normal
เพิ่มเตมิ .................................

.................................................

๑๐. ควบคมุ การ Loss Poor

เคล่อื นไหว Fair Good
ขณะลุกขึน้ ยนื ได้ rNormal
เพิ่มเตมิ .................................

.................................................

๑๑. ควบคมุ การ Loss Poor

เคลอ่ื นไหว Fair Good
ขณะยนื ได้ Normal

๑๒. ควบคมุ การ ะเพมิ่ เตมิ .................................
เคล่ือนไหว
ขณะเดนิ ได้ .................................................
Loss Poor
Fair Good
Normal

เพิ่มเตมิ .................................

.................................................

หมายเหตุ หมายถึง ไมสามารถควบคุมการเคลือ่ นไหวไดเลย
Loss หมายถงึ ควบคมุ การเคลอ่ื นไหวไดเพียงบางสว่ น
Poor หมายถึง สามารถควบคุมการเคลอื่ นไหวไดดพี อควร
Fair หมายถงึ สามารถควบคุมการเคลอื่ นไหวได้ใกล้เคียงกับปกติ
Good หมายถงึ สามารถควบคมุ การเคลอื่ นไหวได้ปกติ
Normal

กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ ครั้งท่ี ๓ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

๑๒

มาตรฐานท่ี ๔ การเพ่มิ ความสามารถการทรงท่าในการทากิจกรรม

ตวั บ่งชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ขอ้ สงั เกต

๔.๑ ควบคุมการ ๑. น่งั ทรงทา่ ได้มั่นคง Zero Poor

ทรงท่าทาง Fair Good
ของร่างกาย -Normal
ขณะอยูน่ ิง่ เพม่ิ เตมิ .................................
.................................................

๒. ตั้งคลานได้มน่ั คง Zero Poor

๓. ยนื เขา่ ได้มัน่ คง Fair Good

๔. ยืนทรงท่าไดม้ น่ั คง :/Normal

เพิ่มเตมิ .................................
.................................................

Zero Poor
Fair Good
Normal
เพม่ิ เตมิ .................................
.................................................
Zero Poor

Fair Good

Normal

เพ่ิมเตมิ .................................

.................................................

๕. เดนิ ทรงท่าไดม้ ่นั คง Zero Poor

Fair Good

๔.๒ ควบคมุ การ ๑. นั่งทรงท่าขณะ Normal

ทรงทา่ ทาง ทากจิ กรรมได้ม่ันคง ะเพิ่มเตมิ .................................

ของรา่ งกาย .................................................

ขณะเคลือ่ นไหว Zero Poor
Fair Good
Normal
เพม่ิ เตมิ .................................
.................................................

กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรงุ คร้ังท่ี ๓ วันที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

๑๓

ตัวบ่งชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สงั เกต
๒. ตัง้ คลานขณะ
Zero Poor
ทากิจกรรมได้มนั่ คง
Fair Good
๓. ยนื เข่าขณะ
ทากิจกรรมได้มัน่ คง รNormal

๔. ยืนทรงทา่ ขณะ เพม่ิ เตมิ .........................................
ทากจิ กรรมได้มน่ั คง
.......................................................
๕. เดินทรงทา่ ขณะ
ทากิจกรรมได้ม่นั คง Zero Poor

Fair Good

:/Normal

เพิ่มเตมิ .................................
.................................................

Zero Poor
Fair Good
Normal
เพม่ิ เตมิ .................................
.................................................
Zero Poor

Fair Good

Normal

เพ่ิมเตมิ .................................

.................................................

หมายเหตุ
Zero หมายถึง ไมส่ ามารถทรงตัวไดเ้ อง ตอ้ งอาศัยการช่วยเหลือทัง้ หมด
Poor หมายถงึ สามารถทรงตวั ไดโ้ ดยอาศัยการพยงุ
Fair หมายถึง สามารถทรงตวั ได้โดยไมอ่ าศยั การพยงุ แตไ่ มส่ ามารถทรงตวั ไดเ้ ม่ือถกู รบกวน
และไมส่ ามารถถ่ายนา้ หนักได้
Good หมายถงึ สามารถทรงตัวได้ดโี ดยมตี ้องอาศัยการพยุง และสามารถรกั ษาสมดลุ ได้ดพี อควร
เมื่อมกี ารถ่ายนา้ หนกั
Normal หมายถึง สามารถทรงตวั ไดด้ ีและมัน่ คงโดยไมต่ อ้ งอาศยั การพยงุ และสามารถรกั ษาสมดลุ ได้ดี
เมื่อมีการถา่ ยนา้ หนกั

กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครง้ั ที่ ๓ วันที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

๑๔

๕. สรุปข้อมลู ความสามารถพืน้ ฐานของผ้เู รียน

จุดเด่น จุดดอ้ ย
........................................................................... ...........................................................................
.......น..ั.ก...เ.ร.ี.ย...น...ม..ี..พ.ั..ฒ....น..า...ก..า...ร...ด.้..า.น....ล...ำ..ม..า...น.ี.้.อ........ .......................................-....................................
.ม..ั.ใ...ห..ญ..่....แ...ล..ะ...ก..ท...ภ...พ.ื..่.อ....น...1..ข...อ..ใ.....ห..้.../.ก..ั..น....ป...ก..ต..ิ ...........................................................................
............................................................................ ............................................................................
............................................................................ ............................................................................
............................................................................ ............................................................................
............................................................................. .............................................................................
............................................................................. .............................................................................

๖. การสรปุ ปญั หาและแนวทางการพัฒนาทางกายภาพบาบัด

ปัญหา แนวทางการพัฒนาทางกายภาพบาบดั
........................................................................... ...........................................................................
......น.ั.ก...เ.ร.ี.ย...น...ม..ี..พ.ั..ฒ...น...า..ก...า..ร....ด.้.า..น...ล...ำ..ม..า...น.ี.้.0........... ..................................-.........................................
ม.ั..ใ..ห...ญ..่....แ..ล..ะ...ก..ท...ภ...พ.ื.่..อ...น...1...ข..อ...ใ....ห..้.../.ก..ั..น....ป...ก..ต..ิ... ...........................................................................
..จ.ึ.ง...ไ..ม..่..จ..ำ..เ.ป.็..น....ต.้.อ...ง...รั.บ....บ...ริ.ก...า..ร..ท..า..ง..ก..า..ย..ภ...า..พ..บ..ำ...บ.ั.ด. ............................................................................
............................................................................ ............................................................................
............................................................................ ............................................................................
............................................................................. .............................................................................
............................................................................. .............................................................................
............................................................................ ............................................................................
............................................................................ ............................................................................
........................................................................... ...........................................................................
............................................................................. .............................................................................

๛ลงชือ่ ................................................ผู้ประเมนิ

(นายอนชุ า โสสม้ กบ)
ตาแหนง่ คร/ู ครกู ายภาพบาบัด

กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรงุ คร้ังท่ี ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง

รายงานผลการประเมนิ พัฒนาการทางจิตวทิ ยา

ชอ่ื - สกลุ นายกิจติ ขตั ตยิ ะวงศ์
วันเดือนปีเกิด ๑๙ มกราคม ๒๕๔๗
อายจุ ริง ๑๗ ปี ๖ เดือน
ประเภทความพิการ บกพร่องทางสตปิ ญั ญา
วนั ที่ทาการประเมิน ๑๖ มถิ ุนายน ๒๕๖๔
แบบทดสอบทใ่ี ช้ แบบทดสอบพัฒนาการ Denver II ฉบบั ภาษาไทย
ผสู้ ่งตรวจ ครผู สู้ อน
เหตสุ ง่ ตรวจ ตอ้ งการทราบพฒั นาการ เพอื่ วางแผนการดูแลและปรบั การเรียนการสอนให้เหมาะสม

ลักษณะทวั่ ไปและพฤตกิ รรมขณะทดสอบ
เพศชาย รปู รา่ งใหญ่ ผิวสองสี และสามารถทาตามคาส่ังอย่างงา่ ยได้

ผลการประเมิน
จากการประเมินพัฒนาการ พบว่า นักเรียนมีพัฒนาการด้านสังคมและการช่วยเหลือตัวเอง

ด้านกล้ามเนื้อมัดเลก็ และการปรบั ตัว ด้านภาษา และด้านกล้ามเน้ือมัดใหญ่ลา่ ชา้ โดยมรี ายละเอยี ด ดงั นี้
ทักษะด้านสังคมและการช่วยเหลือตัวเอง ประเมินได้เทียบเท่ากับอายุ ๓ ปี คือ นักเรียนสามารถล้าง

และเชด็ มอื แปรงฟันโดยตอ้ งช่วยเหลอื ใสเ่ ส้ือผ้าได้
ทักษะด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กและการปรับตัว ประเมินได้เทียบเท่ากับ ๒ ปี ๖ เดือน คือ นักเรียน

สามารถหยบิ จบั สง่ิ ของ และตอ่ กอ้ นไม้ได้
ทักษะด้านภาษา ประเมินได้เทียบเท่ากับอายุ ๗ เดือน คือ นักเรียนสามารถตอบสนองต่อเสียง

คนรอบข้าง ทาเสยี งพยางค์เดยี ว และหนั ตามเสียงเรียกได้
ทักษะด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ประเมินได้เทียบเท่ากับอายุ ๓ ปี คือ นักเรียนสามารถโยนบอล กระโดด

อย่กู ับที่ เตะบอลได้

แนวทางแก้ไข/ขอ้ เสนอแนะ
นักเรยี นควรได้รับการฝึกทากจิ วัตรประจาวันของตนเอง ฝึกทกั ษะการใชภ้ าษาอย่างสม่าเสมอเพ่ือให้

เข้าใจและสามารถส่ือสารความต้องการของตนเองได้ โดยเน้นคาศัพท์ท่ีต้องใช้ในชีวิตประจาวัน และส่งเสริม
การใช้กลา้ มเนื้อมดั เลก็ และกลา้ มเนือ้ มดั ใหญต่ ามศักยภาพของนักเรียน

ลงชอื่ .............................................
(นางสาวศศิกมล ก๋าหลา้ )
ผูป้ ระเมิน

หมายเหตุ ผลการประเมินฉบับนใ้ี ชป้ ระกอบการวางแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล ไม่ใชใ่ บรบั รองแพทย์ ในกรณี
เด็กที่มคี วามพิการหรือความบกพรอ่ งใดใดทางการศึกษา

ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง
____________________________________________________________________________________________

สรุปผลการประเมนิ พัฒนาการทางจิตวิทยา

ชอ่ื - สกลุ นายกจิ ติ ขตั ติยะวงศ์

วันเดือนปีเกิด ๑๙ มกราคม ๒๕๔๗

อายุ ๑๘ ปี ๓ เดอื น

ประเภทความพกิ าร บกพรอ่ งทางสติปญั ญา

วันท่ที าการประเมนิ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๕

ผลการประเมิน

นักเรียนมีพัฒนาการด้านสังคมและการช่วยเหลือตัวเอง ด้านกล้ามเน้ือมัดเล็กและการปรับตัว

ด้านภาษา และด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ล่าช้า ฝึกทากิจวัตรประจาวันของตนเอง ฝึกด้านการใช้ภาษาอย่าง

สม่าเสมอเพื่อให้เข้าใจและสามารถสือ่ สารความต้องการของตนเองได้ โดยเนน้ คาศพั ท์ทตี่ อ้ งใช้ในชวี ิตประจาวัน

และส่งเสรมิ การใชก้ ล้ามเนอ้ื มดั เลก็ และกลา้ มเน้ือมัดใหญ่ตามศักยภาพของนักเรียน

ลงชื่อ.............................................
(นางสาวศศิกมล ก๋าหล้า)
ครผู ู้ชว่ ย
จติ วทิ ยาคลินกิ

ก่อนเรียน หลงั เรยี น

แบบประเมินทักษะความสามารถพนื้ ฐานกจิ กรรมเสริมวชิ าการ
กจิ กรรมเทคโนโลยสี ารสนเทศ และการส่อื สาร (ICT)

ชื่อ นายกิจติ ขัตตยิ ะวงศ์ ชื่อเล่น อคิ คิว
ห้องเรียน แมเ่ มาะ ๒
เพศ ชาย  หญิง อายุ ๑๖ ปี ๖ เดือน
ผูป้ ระเมนิ นางสาวกนกวรณ ตันดี ตาแหนง่ พนักงานราชการ
วนั ทีป่ ระเมิน ๒/กรกฎาคม/๒๕๖๔

คาชแี้ จง ใหใ้ สเ่ คร่อื งหมาย √ ลงในชอ่ งระดับคะแนนทตี่ รงกับความสามารถของผ้เู รยี น ตามรายการประเมิน

ดา้ นล่าง ให้ตรงกับความจริงมากทสี่ ดุ

เกณฑ์การประเมนิ ๑ หมายถงึ ทาไดโ้ ดยผ้อู ่ืนพาทา

๒ หมายถึง ทาได้โดยมกี ารช่วยเหลือจากผู้อน่ื

๓ หมายถึง ทาไดโ้ ดยมกี ารช่วยเหลอื จากผอู้ ่นื บ้างเลก็ น้อย

๔ หมายถึง ทาได้ดว้ ยตนเอง

๕ หมายถึง ทาไดด้ ้วยตนเองและเป็นแบบอย่างใหผ้ ู้อน่ื ได้

ข้อ รายการ ระดบั ความสามารถ หมายเหตุ
๑ ๒๓๔๕

มาตรฐานท่ี ๑ รจู้ กั สว่ นประกอบและหนา้ ทขี่ องคอมพวิ เตอร์ รวมถงึ อนั ตรายจากอปุ กรณไ์ ฟฟา้

๑ รู้จกั ส่วนประกอบคอมพวิ เตอร์  ทาไม่ได้

๒ รูจ้ ักหน้าทขี่ องคอมพวิ เตอร์  ทาไม่ได้

๓ รจู้ ักการป้องกนั อนั ตรายจากอปุ กรณ์ไฟฟา้  ทาไม่ได้

มาตรฐานท่ี ๒ การใชง้ านคอมพวิ เตอร์ และโปรแกรมเบอื้ งตน้

๑ รวู้ ิธี เปดิ – ปดิ เคร่อื งคอมพิวเตอร์ หรือแทบ็ เล็ต  ทาไม่ได้
ทาไม่ได้
๒ สามารถใชเ้ มาสใ์ นการเลอื่ น และพิมพ์ตัวอักษรบนคยี บ์ อร์ด 
ทาไม่ได้
อย่างอสิ ระได้ ทาไม่ได้
ทาไม่ได้
๓ สามารถทากจิ กรรมบนโปรแกรมหรอื แอปพลิเคช่ันตามท่ีกาหนด 

๔ สามารถใช้งานโปรแกรม Paint เบือ้ งตน้ ได้ 

๕ รจู้ กั การดแู ลรกั ษาอปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ 

มาตรฐานที่ ๓ พ้ืนฐานการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื และขา่ วสาร

ลงชอื่ ................................................ผู้ประเมิน
(นางสาวกนกวรรณ ตันดี)
ตาแหนง่ พนกั งานราชการ

แบบประเมนิ กจิ กรรมศลิ ปะบาบดั

ชอ่ื -สกลุ นายกิจติ ขตั ติยะวงศ์ ชอื่ เลน่ อคิ ควิ

วนั ทป่ี ระเมนิ ๒๒ มิถนุ ายน ๒๕๖๔ อายุ ๑๖ ปี ๖ เดอื น

ลักษณะความความพกิ าร เดก็ ผชู้ ายรปู ร่างอว้ น ไม่สามารถบอกความต้องการโดยใช้ภาษาพูดได้ แต่สามารถรบั

ฟังและเขา้ ใจในภาษาที่ผู้อืน่ พูดได้

ระดบั

กิจกรรม เนื้อหา พัฒนาการทค่ี าดหวงั ความสามารถ

ได้ ไมไ่ ด้

การปั้น เพิ่มสร้างการประสาน ๑. รู้จักดินน้ามนั ดนิ เหนียว และแป้งโดว์ 

สัมพนั ธร์ ะหวา่ ง ๒. ใช้มือดึง ดินน้ามนั ดินเหนียว 
ประสาทตากับ และแป้งโดว์ 
กลา้ มเนอ้ื นว้ิ มือ
๓. ใช้มือทบุ ดินนา้ มนั ดนิ เหนียว

และแป้งโดว์

๔. ใช้มือนวด ดินนา้ มัน ดินเหนยี ว 

และแป้งโดว์

๕. ป้ันอิสระได้ 

เพิ่มสง่ เสริม ๑. ปน้ั รูปทรงวงกลม 

จินตนาการด้านรปู ทรง ๒. ปน้ั รูปทรงสี่เหลยี่ ม

๓. ปั้นรปู สามเหลยี่ ม 

๔. ปน้ั รูปทรงเส้นตรง 

๕. ปั้นรูปทรงกระบอก 

๖. ปน้ั รูปทรงหวั ใจ 

๗. นารปู ทรงท่ปี นั้ มาประกอบเป็นรปู ร่าง 
จิตนาการ 

๘. สามารถเล่าเร่ืองผลงานป้ันของตนเองได้

กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง ปรับปรุงคร้ังท่ี ๒ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

กจิ กรรม เนอ้ื หา พฒั นาการทค่ี าดหวงั ระดบั
พิมพภ์ าพ ความสามารถ
เพ่ิมสรา้ งจินตนาการ ๑. พมิ พ์ภาพด้วยสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย ได้ ไม่ได้
ประดษิ ฐ์ และความคดิ น้ิวมือ 

เพ่มิ การใช้จินตนาการ ๒. พิมพ์ภาพดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย 
ผา่ นส่งิ ของรอบ ๆ ฝามือ
ตัวเอง 
๓. พิมพภ์ าพดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย
สารวจความคดิ แขนและ ข้อศอก 
สรา้ งสรรค์
๑. พมิ พ์ภาพจากวัสดุธรรมชาติตา่ ง ๆ เชน่ 
พชื ผกั ผลไม้

๒. พิมพ์ภาพจากวัสดเุ หลอื ใช้ตา่ ง ๆ เชน่
หลอด ฝาน้าอัดลม ขวดนา้ 

๓. พมิ พ์ภาพด้วยการขยากระดาษ 
การขูดสี เชน่ ใหเ้ ดก็ วางกระดาษ
บนใบไม้หรือเหรียญ แล้วใช้สขี ูดลอก 
ลายออกมาเป็นภาพตามวสั ดุนัน้

๑. งานพับกระดาษสอี ิสระ

๒. งานพบั กระดาษสีรปู สตั ว์

เสริมสร้างสมาธสิ รา้ ง ๓. งานพับกระดาษสรี ปู สตั ว์ ผกั ผลไม้
ความมั่นใจและ ตามจินตนาการ
ภาคภมู ใิ จในตวั เอง
นาวสั ดเุ หลอื ใช้ เช่น กลอ่ งนม เศษ
กระดาษ กระดาษห่อของขวัญ แกน
กระดาษทชิ ชู่ ฯลฯ มาประดิษฐ์เปน็
ส่งิ ตา่ ง ๆ ตามแบบอย่างหรือตาม
จนิ ตนาการได้อย่างอิสระ

กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง ปรับปรุงครง้ั ท่ี ๒ วนั ที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

กิจกรรม เน้ือหา พฒั นาการทค่ี าดหวงั ระดบั
ความสามารถ
วาดภาพระบาย เพิ่มทักษะการวาดรปู ๑. เขียนเสน้ ตรง ได้ ไม่ได้

สี และขีดเขียน ๒. เขยี นเส้นโคง้

๓. วาดวงกลม วาดวงรี

๔. วาดสามเหล่ียม

๕. วาดสีเ่ หลย่ี ม

เพม่ิ พฒั นาด้าน ๑. กจิ กรรมการสร้างภาพ ๒ มติ ิ
สติปญั ญา อารมณ์ ๒. กจิ กรรมการเลน่ กบั สีน้า 
สมาธิ และความคิด ๓. การเป่าสี
สรา้ งสรรค์ 

๔. การหยดสี 

๕. การเทสี 

๖. หรอื การกล้งิ สี 



ลงช่ือ................................. .................ผู้ประเมนิ
(นางสาวกนกวรรณ ตันด)ี
ตาแหน่ง พนักงานราชการ

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง ปรับปรงุ ครง้ั ที่ ๒ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

ผลการวิเค

ชอ่ื – สกลุ นักเรยี น นายกจิ ติ ขตั ตยิ ะวงศ์ อายุ ๑๗ ปี ประเภทความพกิ าร บกพร่องท
ความสามารถในปจั จบุ นั และแผนการพฒั นา

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรู้พนื้ ฐาน
ความสามารถในปจั จบุ นั ความสามารถในปจั จบุ นั

ดป ๑๑๐๑ รายวชิ าสขุ อนามยั และ รพ ๑๑๐๑ รายวชิ าการสอื่ สารและ สพ
ความปลอดภยั ในชวี ติ ๑ ภาษาในชวี ติ ประจาวนั ๑

ดป ๑.๑/๑ รู้และเขา้ ใจการดูแล รพ ๑.๑/๑ การใชป้ ระสาทสมั ผัสตา่ ง
สขุ อนามัยและกจิ วัตร ๆ ในการรบั รเู้ สยี ง การ สพ

ประจาวนั พ้ืนฐาน นกั เรยี น แสดงพฤติกรรมของบุคคล

สามารถทาได้ดว้ ยตนเอง สิ่งแวดลอ้ มตามธรรมชาติ

บางขัน้ ตอน มีอีกหลาย และตอบสนองต่อสง่ิ

ขัน้ ตอนทย่ี ังต้องใหค้ วาม เหลา่ นัน้ ได้ นักเรียน

ชว่ ยเหลอื อยบู่ ้าง สามารถรบั ร้ไู ดบ้ ้าง แต่

ดป ๑.๑/๒ ปฏิบตั กิ ิจวตั รประจาวนั ส่วนใหญย่ งั ตอ้ งไดร้ บั การ

พื้นฐาน นักเรียนสามารถ กระตุ้นเตือนและการ

กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจัง

คราะหผ์ ้เู รยี น

ทางสตปิ ัญญา ลกั ษณะ ไม่สามารถสื่อสารเป็นคาพดู ที่มคี วามหมายได้

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพนื้ ฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเ่ี ขม้ แขง็ ความสามารถในปจั จบุ นั
ความสามารถในปจั จบุ นั

พ ๑๑๐๑ หนา้ ทพี่ ลเมือง สทิ ธิ และ กอ ๑๑๐๑ การทางานบา้ น ๑

การแสดงออกตามบทบาท กอ ๑.๑/๑ ดแู ลเสอื้ ผา้ และเคร่ืองแตง่

หนา้ ท่ี ๑ กายของตนเองหรอื

พ ๑.๑/๑ รแู้ ละเข้าใจบทบาทหน้าที่ สมาชิกในครอบครวั

ของตนเองในการเป็น จนเปน็ สขุ นิสยั นกั เรียนไม่

สมาชิกทดี่ ขี องครอบครัว สามารถทาได้ดว้ ยตนเอง

นกั เรยี นยังไมเ่ ขา้ ใจ ผู้ดแู ลเป็นผ้ทู าให้

บทบาทของสมาชิกใน

ครอบครวั และยังมีการ

แสดงอาการหรอื

พฤติกรรมที่ไม่พงึ กระทา

งหวดั ลาปาง ปรับปรุงคร้งั ท่ี ๔ วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรู้พน้ื ฐาน

ทาไดด้ ้วยตนเอง บาง ชว่ ยเหลือจากผูด้ ูแล ไม่

ขัน้ ตอน มีอกี หลาย สามารถทาไดเ้ องทุก

ข้นั ตอนที่ยังต้องให้ความ ขัน้ ตอน

ชว่ ยเหลืออยบู่ า้ ง รพ ๑.๓/๑ การลากเสน้ อิสระนกั เรยี น สพ

ดป ๑.๒/๑ รู้และเข้าใจวธิ กี ารแตง่ กาย ไม่สามารถทาไดด้ ว้ ย สพ

และการสวมใส่ ตนเองทุกข้ันตอน ต้อง

เครือ่ งประดับ นักเรียน ไดร้ บั การกระตนุ้ เตอื น

สามารถทาไดด้ ้วยตนเอง

บางขนั้ ตอน มอี ีกหลาย รพ ๑๑๐๕ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ๑

ข้ันตอนทยี่ ังต้องใหค้ วาม จานวนและการดาเนนิ การ

ช่วยเหลอื อยู่บ้าง ทางคณติ ศาสตร์

ดป ๑.๒/๒ ถอดเครอื่ งแตง่ กาย รพ ๒.๑.๑/๑ นบั จานวน ๑-๑๐ ดว้ ย

ประเภทต่าง ๆ นกั เรียน วธิ ีการหรือรปู แบบที่

สามารถทาได้เองแต่ต้อง หลากหลาย นกั เรยี นไม่

ดูแลเร่ืองความเหมาะสม สามารถทาไดเ้ ลย

ของสถานที่ เนื่องจาก

นกั เรียนเร่มิ เปน็ วัยรุ่น มี

ความเปลยี่ นแปลงของ

กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพน้ื ฐานอาชพี
และเปน็ พลเมอื งทเ่ี ขม้ แขง็

กับบุคคลอ่นื เช่น การ กอ ๑๑๐๓ การประกอบอาชพี ที่

หยิก ตี กดั เปน็ ต้น หลากหลายในชมุ ชน ๑
กอ ๒.๑/๑ บอกอาชีพตา่ ง ๆ ของ

พ ๑๑๐๖ วฒั นธรรมประเพณี ๑ ครอบครัว และในชมุ ชน
พ ๑.๑/๓ รู้บทบาทหน้าทีข่ องตนเอง ได้อยา่ งถูกตอ้ ง นกั เรยี น
ไมส่ ามารถทาได้ดว้ ย
ในการเปน็ สมาชิกทด่ี ขี อง ตนเอง ผู้ดแู ลเป็นผทู้ าให้
โรงเรียน นักเรยี นยังไม่

เข้าใจบทบาทของสมาชกิ

ในครอบครัว และยังมีการ

แสดงอาการหรือ

พฤติกรรมที่ไม่พึงกระทา

กบั บคุ คลอ่นื ยงั ไมร่ ้จู ัก

การทักทายหรือการทา

ความเคารพ ผู้ดแู ลยงั ตอ้ ง

ใหก้ ารกระตุน้ เตือนอยู่

งหวดั ลาปาง ปรับปรุงครั้งที่ ๔ วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความร้พู นื้ ฐาน

อวยั วะ แต่ไม่รูจ้ กั การ รพ ๑๑๑๔ รายวชิ าเทคโนโลยีใน

ป้องกนั และเปลยี่ นเสื้อผ้า ชวี ติ ประจาวนั ๑

ในสถานทีเ่ หมาะสม รพ ๖.๑/๑ รู้จัก อุปกรณ์ เทคโนโลยี

ดป ๑.๒/๓ สวมใส่ เครอ่ื งแต่งกาย ในชวี ติ ประจาวัน โดยการ

ประเภทตา่ ง ๆ นกั เรียน บอก ชี้ หยบิ หรือรูปแบบ

สามารถทาได้เองแตต่ ้อง การสือ่ สารอ่ืน ๆ นักเรียน

ดแู ลเรอ่ื งความเหมาะสม ไมส่ ามารถทาได้ดว้ ย

ของสถานที่ เนื่องจาก ตนเอง ผดู้ แู ลเป็นผทู้ าให้

นกั เรยี นเรม่ิ เป็นวยั รนุ่ มี หรือคอยให้ความ

ความเปลยี่ นแปลงของ ชว่ ยเหลือและกระตุ้น

อวยั วะ แต่ไม่รู้จกั การ เตอื น

ปอ้ งกันและเปลี่ยนเสื้อผ้า

ในสถานท่ีเหมาะสม

ดป ๑.๓/๑ รู้หรือแสดงความต้องการ

เมื่อต้องการเขา้ ห้องน้า

นกั เรียนสามารถทาได้ด้วย

ตนเองแต่ต้องคอยดูแล

ชว่ ยเหลอื ในบางข้ันตอน

กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจัง

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพื้นฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเี่ ขม้ แขง็

งหวดั ลาปาง ปรับปรงุ ครั้งที่ ๔ วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรู้พนื้ ฐาน

ดป ๑.๓/๒ บอกเลอื กใช้อปุ กรณแ์ ละ

หอ้ งนา้ ภายในบ้าน

หอ้ งน้าสาธารณะได้อยา่ ง

ถกู ต้อง ตรงตามเพศของ

ตนเอง นกั เรยี นสามารถ

ทาไดด้ ว้ ยตนเองแต่ต้อง

คอยดูแลช่วยเหลอื ในบาง

ขั้นตอน

ดป ๑.๓/๓ ทาความสะอาดตนเองและ

ห้องนา้ หลงั ใช้หอ้ งนา้ และ

แต่งกายให้แลว้ เสร็จก่อน

ออกจากห้องนา้ นกั เรียน

สามารถทาไดด้ ว้ ยตนเอง

แต่ต้องคอยดูแลชว่ ยเหลอื

ในด้านการชาระทาความ

สะอาดหลงั การขับถ่าย

ดป ๑.๔/๑ รวู้ ธิ ีการเลือกและเตรยี ม

ภาชนะอปุ กรณ์ รวมถึง

กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจัง

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพื้นฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเี่ ขม้ แขง็

งหวดั ลาปาง ปรับปรงุ ครั้งที่ ๔ วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรพู้ น้ื ฐาน

วิธีการรับประทานอาหาร

นักเรียนสามารถทาได้ด้วย

ตนเองแต่ต้องคอยดูแล

ชว่ ยเหลอื ในบางข้นั ตอน

ดป ๑.๔/๒ เลอื กและเตรยี ม ภาชนะ

อปุ กรณ์รับประทาน

อาหารได้ ชาม จาน เปน็

ตน้ นกั เรยี นสามารถทาได้

ด้วยตนเองแตต่ ้องคอย

ดแู ลช่วยเหลือในบาง

ขนั้ ตอน

ดป ๑.๔/๓ ใชภ้ าชนะ อปุ กรณไ์ ด้

เหมาะสมกับประเภท

อาหารเช่น ชอ้ น สอ้ ม

ตะเกยี บ แกว้ นา้ ถ้วย

นกั เรยี นสามารถทาได้ด้วย

ตนเองแต่ต้องคอยดูแล

ชว่ ยเหลือในบางขน้ั ตอน

กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจัง

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพื้นฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเี่ ขม้ แขง็

งหวดั ลาปาง ปรับปรงุ ครั้งที่ ๔ วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรู้พน้ื ฐาน

ดป ๑.๔/๔ ตักอาหารและเคร่อื งดื่ม
สาหรับตนเองในปริมาณท่ี
เหมาะสม นักเรียน
สามารถทาไดด้ ว้ ยตนเอง
แตต่ ้องคอยดูแลชว่ ยเหลือ
ในบางขั้นตอน

ดป ๑.๕/๒ เคลือ่ นยา้ ยตนเองไปยงั ท่ี
ตา่ ง ๆ ในบา้ นได้ตาม
ความตอ้ งการและ
ปลอดภยั นักเรียน
สามารถทาได้ดว้ ยตนเอง
แตต่ ้องคอยดูแลช่วยเหลือ
ในบางขน้ั ตอน

ดป ๑๑๐๖ รายวชิ าสขุ ภาพจติ และ
นนั ทนาการ ๑

ดป ๓.๑/๑ เขา้ ใจอารมณ์และรับรู้

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจาจัง

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพื้นฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเี่ ขม้ แขง็

งหวดั ลาปาง ปรับปรงุ ครั้งที่ ๔ วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรู้พน้ื ฐาน
ความรู้สกึ ของตนเองและ
ผู้อนื่ นักเรยี นไมส่ ามารถ แผนการพฒั นา
ทาไดต้ ้องมผี ู้คอยกระตนุ้
เตือน

แผนการพฒั นา

ดป ๑๑๐๑ รายวชิ าสขุ อนามยั และ รพ ๑๑๐๑ รายวชิ าการสอ่ื สารและ สพ
ความปลอดภยั ในชวี ติ ๑ ภาษาในชวี ติ ประจาวนั ๑

ดป ๑.๑/๑ รแู้ ละเขา้ ใจการดูแล รพ ๑.๑/๑ การใช้ประสาทสัมผัสตา่ ง
สขุ อนามัยและกจิ วตั ร ๆ ในการรับร้เู สียง การ สพ

ประจาวันพื้นฐาน นกั เรยี น แสดงพฤตกิ รรมของบุคคล

ใหค้ วามร่วมมือในการทา สง่ิ แวดล้อมตามธรรมชาติ

กจิ กรรมโดยมีผู้คอย และตอบสนองต่อส่งิ

กระตนุ้ เตือนเล็กน้อย เหลา่ นั้นได้ นกั เรยี นให้

ดป ๑.๑/๒ ปฏิบัตกิ ิจวัตรประจาวนั ความร่วมมอื ในการทา

พ้ืนฐานนกั เรยี นให้ความ กจิ กรรมโดยมีผคู้ อย

รว่ มมือในการทากจิ กรรม กระตนุ้ เตือนเลก็ น้อย

กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจัง

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพืน้ ฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเี่ ข้มแขง็

แผนการพฒั นา แผนการพฒั นา

พ ๑๑๐๑ หนา้ ทพ่ี ลเมือง สทิ ธิ และ กอ ๑๑๐๑ การทางานบา้ น ๑

การแสดงออกตามบทบาท กอ ๑.๑/๑ ดูแลเสอ้ื ผา้ และเครอื่ งแต่ง

หนา้ ที่ ๑ กายของตนเองหรือ

พ ๑.๑/๑ รแู้ ละเข้าใจบทบาทหน้าท่ี สมาชิกในครอบครัว

ของตนเองในการเป็น จนเป็นสุขนิสยั นักเรียน

สมาชิกที่ดีของครอบครวั ให้ความรว่ มมือในการทา

นักเรยี นใหค้ วามรว่ มมอื ใน กจิ กรรมโดยมผี ูค้ อย

การทากิจกรรมโดยมผี ู้ กระตนุ้ เตือนเลก็ น้อย โดย

คอยกระตุ้นเตือนเล็กน้อย ใช้อปุ กรณ์ชว่ ยในการ

โดยใชอ้ ุปกรณ์ช่วยในการ สอ่ื สารรว่ มด้วย

สื่อสารรว่ มด้วย

งหวดั ลาปาง ปรับปรงุ ครงั้ ท่ี ๔ วนั ท่ี ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรพู้ น้ื ฐาน

โดยมีผู้คอยกระตุน้ เตือน โดยใช้อุปกรณ์ช่วยในการ สพ

เล็กน้อย ส่ือสารรว่ มดว้ ย สพ

ดป ๑.๒/๑ ร้แู ละเข้าใจวธิ กี ารแตง่ กาย รพ ๑.๓/๑ การลากเส้นอิสระ นกั เรียน

และการสวมใส่ ใหค้ วามรว่ มมือในการทา

เครอื่ งประดบั นักเรยี นให้ กิจกรรมโดยมีผู้คอย

ความรว่ มมือในการทา กระต้นุ เตือนเล็กน้อย

กิจกรรมโดยมีผูค้ อย

กระต้นุ เตือนเลก็ น้อย รพ ๑๑๐๕ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ๑

ดป ๑.๒/๒ ถอดเคร่อื งแตง่ กาย จานวนและการดาเนนิ การ

ประเภทต่าง ๆนักเรียนให้ ทางคณติ ศาสตร์

ความรว่ มมือในการทา รพ ๒.๑.๑/๑ นบั จานวน ๑-๑๐ ด้วย

กจิ กรรมโดยมผี ู้คอย วธิ กี ารหรือรูปแบบท่ี

กระตุ้นเตือนเลก็ น้อย หลากหลาย นกั เรยี นให้

ดป ๑.๒/๓ สวมใส่ เครอื่ งแต่งกาย ความรว่ มมือในการทา

ประเภทต่าง ๆนักเรยี นให้ กจิ กรรมโดยมผี ู้คอย

ความรว่ มมอื ในการทา กระตนุ้ เตือนเลก็ น้อย โดย

กจิ กรรมโดยมผี ู้คอย ใชอ้ ปุ กรณ์ชว่ ยในการ

กระตุน้ เตือนเล็กน้อย สอ่ื สารร่วมด้วย

กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพืน้ ฐานอาชพี
และเป็นพลเมืองทเี่ ข้มแขง็

พ ๑๑๐๖ วฒั นธรรมประเพณี ๑ กอ ๑๑๐๓ การประกอบอาชพี ที่

พ ๑.๑/๓ ร้บู ทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง หลากหลายในชมุ ชน ๑

ในการเปน็ สมาชิกท่ดี ขี อง กอ ๒.๑/๑ บอกอาชพี ต่าง ๆ ของ

โรงเรยี น นักเรยี นใหค้ วาม ครอบครวั และในชุมชน

ร่วมมอื ในการทากจิ กรรม ได้อย่างถกู ตอ้ ง นกั เรยี น

โดยมีผคู้ อยกระตนุ้ เตือน ใหค้ วามร่วมมือในการทา

เล็กนอ้ ย โดยใช้อุปกรณ์ กิจกรรมโดยมีผู้คอย

ชว่ ยในการสอื่ สารรว่ มดว้ ย กระตุ้นเตือนเล็กน้อย โดย

ใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในการ

สอ่ื สารรว่ มดว้ ย

งหวดั ลาปาง ปรบั ปรุงคร้ังที่ ๔ วนั ท่ี ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรู้พน้ื ฐาน

ดป ๑.๓/๑ รหู้ รือแสดงความตอ้ งการ รพ ๑๑๑๔ รายวชิ าเทคโนโลยใี น

เม่อื ต้องการเข้าห้องนา้ ชวี ติ ประจาวนั ๑

นกั เรยี นให้ความร่วมมอื ใน รพ ๖.๑/๑ รู้จกั อปุ กรณ์ เทคโนโลยี

การทากจิ กรรมโดยมผี ู้ ในชีวิตประจาวัน โดยการ

คอยกระตนุ้ เตือนเลก็ น้อย บอก ชี้ หยบิ หรือรูปแบบ

ดป ๑.๓/๒ บอกเลือกใช้อุปกรณแ์ ละ การสือ่ สารอ่นื ๆ นักเรยี น

ห้องนา้ ภายในบา้ น ให้ความร่วมมือในการทา

หอ้ งน้าสาธารณะได้อยา่ ง กจิ กรรมโดยมีผคู้ อย

ถูกต้อง ตรงตามเพศของ กระตนุ้ เตือนเลก็ น้อย โดย

ตนเองนักเรียนใหค้ วาม ใช้อุปกรณช์ ่วยในการ

รว่ มมอื ในการทากจิ กรรม สื่อสารรว่ มด้วย

โดยมีผคู้ อยกระตุ้นเตือน

เล็กน้อย

ดป ๑.๓/๓ ทาความสะอาดตนเองและ

ห้องน้า หลังใช้ห้องนา้ และ

แตง่ กายให้แลว้ เสรจ็ กอ่ น

ออกจากห้องนา้ นักเรียน

ให้ความรว่ มมือในการทา

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจาจงั

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพื้นฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเี่ ขม้ แขง็

งหวดั ลาปาง ปรับปรงุ ครั้งที่ ๔ วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความร้พู น้ื ฐาน

กิจกรรมโดยมีผู้คอย

กระตนุ้ เตือนเล็กน้อย

ดป ๑.๔/๑ รวู้ ธิ กี ารเลือกและเตรียม

ภาชนะอุปกรณ์ รวมถงึ

วิธกี ารรบั ประทานอาหาร

นกั เรยี นใหค้ วามร่วมมอื ใน

การทากิจกรรมโดยมผี ู้

คอยกระต้นุ เตือนเลก็ น้อย

ดป ๑.๔/๒ เลอื กและเตรียม ภาชนะ

อุปกรณ์รบั ประทาน

อาหารไดช้ าม จาน เป็น

ตน้ นกั เรยี นให้ความ

ร่วมมอื ในการทากจิ กรรม

โดยมีผคู้ อยกระต้นุ เตือน

เล็กน้อย

ดป ๑.๔/๓ ใช้ภาชนะ อุปกรณ์ได้

เหมาะสมกบั ประเภท

อาหารเช่น ช้อน สอ้ ม

กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจัง

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพื้นฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเี่ ขม้ แขง็

งหวดั ลาปาง ปรับปรงุ ครั้งที่ ๔ วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓

กลมุ่ สาระการดารงชวี ติ ประจาวนั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
และการจดั การตนเอง และความรู้พน้ื ฐาน
ตะเกยี บ แก้วน้า ถ้วย
นักเรยี นให้ความร่วมมอื ใน
การทากิจกรรมโดยมผี ู้
คอยกระตุ้นเตือนเล็กน้อย

ดป ๑.๔/๔ ตกั อาหารและเคร่ืองดืม่
สาหรับตนเองในปริมาณที่
เหมาะสม นักเรียนให้
ความรว่ มมอื ในการทา
กิจกรรมโดยมผี ู้คอย
กระตุ้นเตือนเล็กน้อย

ดป ๑.๕/๒ เคลื่อนย้ายตนเองไปยงั ท่ี
ตา่ ง ๆ ในบ้านได้ตาม
ความตอ้ งการและ
ปลอดภยั นกั เรยี นให้
ความรว่ มมอื ในการทา
กจิ กรรมโดยมีผูค้ อย
กระตนุ้ เตือนเลก็ น้อย

กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั

กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ างสงั คม กลมุ่ สาระการงานพื้นฐานอาชพี
และเปน็ พลเมืองทเี่ ขม้ แขง็

งหวดั ลาปาง ปรับปรงุ ครั้งที่ ๔ วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๖๓


Click to View FlipBook Version