The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by coach.pranalee36, 2022-10-08 09:31:19

แผนการสอน อ 22101

รวมแผนหน่วย1-4

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรื่อง At Work, at Play

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ

ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 15 ชั่วโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ ังและอ่านจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตผุ ล
ตัวช้วี ดั
ต 1.1 ม. 2/2 อ่านออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวข้อเรอื่ ง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนุน (supporting detail) และ

แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับเรอื่ งทฟ่ี ังและอ่านพรอ้ มทั้งให้เหตุผลและยกตัวอยา่ ง ง่าย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปล่ียนข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ใน
ชวี ิตประจำวันอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/2 ใช้คำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธิบายตามสถานการณ์
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เรื่องที่ฟังหรอื
อา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกย่ี วกับตนเอง กิจวตั รประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณท์ ่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/2 พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรื่อง (topic) ท่ไี ด้จากการวิเคราะห์
เร่อื ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชวี้ ัด
ต 2.1 ม. 2/1 ใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เข้ารว่ ม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

ตวั ชวี้ ดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยค

ชนิดต่าง ๆ และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม

ตวั ช้วี ัด
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองที่เกดิ ขนึ้ ในห้องเรยี น สถานศกึ ษา

และชมุ ชน

2 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

การเรยี นรแู้ ละเข้าใจเกยี่ วกบั เนือ้ หาทศี่ ึกษา จะชว่ ยใหส้ ามารถนำคำศพั ท์ ประโยคต่าง ๆ ไปใช้ใน
การพดู /เขียนส่ือสารได้อย่างถูกตอ้ ง ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

3 สาระการเรยี นรู้

3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Jobs (fashion designer, nurse, secretary, dentist, pilot, police
officer, hairdresser, shop assistant)
Job qualities (sociable, creative, caring, intelligent, calm,
cheerful, patient, fit, organised, brave)
Verbs (adopt, last, play against, team, competition, match, field,
championship, get up, make, play, celebrate, help, visit, stay,
relax, broaden, survive)
Nouns (amusement park, rides, attractions, ghost train,
experience, buddy, wildlife project, contraction, punctuation,
capital letters, opportunity, advantage, race, hub, investor,
infrastructure, cooperation, industry)
Adjectives (rare, brave, professional, diamond-shaped, available,
multilingual, fluent, beneficial)
Adverb (peacefully)
Phrases ((be) crazy about, all year round)
Making suggestion (Why don’t we …?, How about …?, Do you
fancy …?, Let’s …, What do you think …?)
Agreeing (Yes, that’s a good idea., That sounds great., I’d like
that., Why not?)

Disagreeing (I don’t think so., No, I don’t feel like it., That’s not a

good idea., I’d rather not.)

Grammar: Present simple & Present continuous

Adverbs of frequency

-ing form & to-infinitive

Functions: Describing character

Fashion designers need to be intelligent, creative and organised.

Talking about daily routines

I get up early, have a shower and get dressed.

Talking about free-time activities

I watch some TV programmes or listen to music.

Talking about a leisure park

I’d like to see all the animals and go on the rides there.

Making suggestions

Why don’t we go bowling instead?

Describing sports teenagers play

Basketball is one of the most popular sports in Thailand and

many teenagers are crazy about it.

Describing a typical weekend

I have a dance lesson. After that I help my mum around the

house and then we have lunch.

Discussing language that we should learn

I think we should learn Mandarin because there are lots of

Chinese companies in Asia.

Pronunciation: /s/, /z/, /Iz/

walks, eats, tidies, reads, watches, finishes

/eI/

playing, sailing, painting, Friday

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ, ฟังเพอื่ จับใจความสำคญั

Speaking: สมั ภาษณเ์ กี่ยวกบั อาชพี ของสมาชิกในครอบครวั ,

สนทนาแลกเปลยี่ นข้อมูลของบุคคลอนื่ ,

เปรียบเทียบ Safari และ Leisure Park ในประเทศไทยกบั เร่ืองท่ีอา่ น,

พูดให้คำแนะนำ ตอบรบั และปฏเิ สธคำแนะนำ,

แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั ภาษาทน่ี กั เรียนไทยควรเรยี นรู้

Reading: อ่านเพ่ือหาข้อมลู เฉพาะ

Writing: เขียนบรรยายคุณสมบัติที่จำเป็นของอาชพี ต่าง ๆ, เขียนบทสมั ภาษณเ์ กยี่ วกับ

อาชพี ของบคุ คลในครอบครัว, เขยี นใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง, เขียนโฆษณา,

แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี ำหนด, เขียนเกี่ยวกบั กีฬาทีว่ ัยรนุ่ ไทยนยิ ม

3) Cultures เลน่ , เขียน blog เกย่ี วกับวันหยดุ สุดสปั ดาห,์ เขยี นสรปุ ผลการอภิปรายใน
ประเด็นที่กำหนด
กีฬาในท้องถนิ่

4 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1) ใฝเ่ รียนรู้
2) มุ่งมัน่ ในการทำงาน
3) อยู่อย่างพอเพียง
4) มีจติ สาธารณะ
5) ซ่ือสัตยส์ จุ รติ
6) มวี ินัย
7) รกั ความเป็นไทย
8) รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์

5 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
4) ความสามารถในการแก้ปัญหา
5) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6 ด้านคณุ ลกั ษณะของผ้เู รยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล
1) เปน็ เลิศวิชาการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด
4) ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกันรับผิดชอบตอ่ สังคมโลก

7 บูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. หลกั ความพอประมาณ
2. หลักความมเี หตผุ ล
3. หลกั ภมู ิคุ้มกนั
4. เง่อื นไขความรู้
5. เง่ือนไขคณุ ธรรม

8 ชนิ้ งาน/ภาระงาน (หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้)

ชิ้นงาน

1) บทสัมภาษณเ์ กย่ี วกับอาชพี ของบุคคลในครอบครัว
2) ช้นิ งานโฆษณา

3) ทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนด
4) บทสนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณท์ ีก่ ำหนด
5) เรียงความเก่ยี วกบั กฬี าทวี่ ัยร่นุ ไทยนยิ มเลน่

7) บทตวาม blog เกย่ี วกบั วันหยดุ สดุ สัปดาห์
8) แบบสรุปผลการอภิปรายในประเดน็ ท่ีกำหนด

ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขยี นบทสัมภาษณ์เกย่ี วกบั อาชีพของบุคคลในครอบครัว
2) การเขยี นบทความงานโฆษณา

3) อ่านออกเสยี งบทสนทนา
4) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี ำหนด

5) พูดสนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ท่ีกำหนด
6) เขียนเรียงความเกี่ยวกับกีฬาทว่ี ยั รุน่ ไทยนยิ มเลน่
7) เขียน blog เกี่ยวกบั วนั หยุดสดุ สปั ดาห์

8) เขียนสรุปผลการอภปิ รายในประเด็นทกี่ ำหนด
9 การวัดและการประเมนิ ผล

ส่งิ ท่วี ดั วิธกี ารวดั เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้ (K) ตรวจการตอบคำถามจากการ แบบฝึกหดั ร้อยละ 60
อา่ นหรอื การฟัง (Workbook)
ดา้ นทกั ษะและ สังเกตการอภิปรายเกี่ยวกับ แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ
กระบวนการ (P) กจิ กรรมทชี่ อบทำเวลาว่าง การเรยี นรู้ พอใช้

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึง สงั เกตการณ์พดู อธบิ าย แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ
ประสงค์ (A) พอใช้
กจิ กรรมทชี่ อบ การเรียแบบประเมิน ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ด้านสมรรถนะสำคญั
ของผูเ้ รยี น (C) สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความ คุณลักษณะ ระดับคณุ ภาพ
พอใช้
10 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน อันพึงประสงค์นรู้

ประเมนิ การเขยี นโปสการด์ แบบประเมนิ การพูด

ประเมนิ การพูดสนทนาใน สนทนา โต้ตอบ

ชีวิตประจำวันก่ียวกับกจิ กรรม แบบทดสอบอาชีพ

ท่ีชอบทำ และอาชพี ของบุคคล

ในครอบครัว

10 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

กิจกรรมการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี1 เรื่อง At Work, at Play (เวลา 15 ช่วั โมง)

บนั ทึกผลหลงั หน่วยการเรยี นรู้

รหัสวชิ า อ22101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง At Work, at Play

1. สรปุ ผลการเรียนรู้ (นักเรยี น……41…….คน)

1.1 ด้านความรู้ (K) – เกง่ นกั เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในบทเรียนท่ีเรยี น สามารถทำแบบฝึกหดั

ได้ผา่ นเกณฑท์ ก่ี ำหนด .

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…..

1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) – ดี นักเรียนมีทักษะ กระบวนการ ทั้งด้านการฟัง การพูด การ

อ่าน การเขียน สามารถทำชิ้นงานทีค่ รูมอบหมาย ได้ผ่านเกณฑท์ ี่กำหนด .

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…..

1.3 ด้านคณุ ลักษณะที่อันพึงประสงค์ (A)– มสี ขุ นักเรียนมคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มคี วามใฝ่

เรยี นรู้ และมีความมุง่ ม่ันในการทำงาน อยู่ในระดบั คุณภาพผา่ น .

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (C) นักเรียนมีสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน มีความสามารถใน

การคดิ และการสื่อสารได้อยา่ งถูกตอ้ ง ผ่านเกณฑท์ ่ีกำหนด .

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…..

2. ปัญหา/ส่งิ ทพ่ี ฒั นา/แนวทางแก้ปัญหา/แนวทางการพฒั นา

ปัญหา/สงิ่ ทพี่ ฒั นา สาเหตุของปัญหา/ แนวทางแกไ้ ข/ วธิ ีแก้ไข/พัฒนา ผลการแก้ไข/
พฒั นา
สง่ิ ท่ีพฒั นา พัฒนา
นกั เรยี นสามารถ
นกั เรียนบางคน นกั เรียนมคี วามรู้ ใช้วธิ ีครยู กตวั อย่าง ครชู ่วยแนะนำ/ เขยี นใช้คำได้
ถูกตอ้ ง
เขยี นประโยคใน พ้ืนฐานน้อย และทบทวนเน้อื หา ฝึกฝน จนสามารถ

การนำเสนองานไม่ ทำได้ จนผา่ น

ถูกต้อง เกณฑ์

ลงชอ่ื .............................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชอื่ .............................................รองผอู้ ำนวยการ ลงช่อื ...........................................ผู้อำนวยการโรงเรยี น

(นายมนูญ กลบั กล่อม) (นายนราวธุ สุจิตะพนั ธ์)

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง Reading 1a & Vocabulary 1a

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่ือง At Work, at Play เวลา 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี/ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตุผล
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ นพร้อมทง้ั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง ง่าย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ และ
ความคดิ เห็นอย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลีย่ นข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เร่อื งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ า่ ง ๆ ใน
ชวี ติ ประจำวนั อย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เรอื่ งท่ฟี งั หรอื
อา่ นอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งต่าง ๆ โดยการ
พูดและการเขยี น
ตวั ช้ีวัด
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกย่ี วกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณท์ ่ีอยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม

ตัวช้วี ดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองที่เกิดขน้ึ ในห้องเรยี น สถานศกึ ษา
และชุมชน

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การจับใจความสำคัญและรายละเอยี ดของข้อมูลทีอ่ า่ นและฟัง เป็นความสามารถที่สำคัญประการหน่งึ

ของทักษะการรับสาร ซง่ึ จะนำไปส่กู ารสรปุ สารทรี่ ับได้ นอกจากนีก้ ารมคี วามรู้เกี่ยวกบั คำศัพท์และประโยคต่าง
ๆ ตามเนื้อหา จะช่วยให้สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูด/เขียนสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนมีความ

เขา้ ใจในวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

จุดประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพือ่ ให้บรรลตุ ามตัวช้วี ัด)

1. อา่ นเรอื่ ง จับใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดเกยี่ วกับเรอ่ื งทอ่ี ่าน และยกตวั อย่างประกอบได้
2. พดู และเขยี น ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเร่ืองที่ฟังและอ่านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Jobs (fashion designer, nurse, secretary, dentist, pilot, police

officer, hairdresser, shop assistant)

Job qualities (sociable, creative, caring, intelligent, calm,

cheerful, patient, fit, organised, brave)

Functions: Describing character

Fashion designers need to be intelligent, creative and organised.

Talking about daily routines

I get up early, have a shower and get dressed.

Talking about free-time activities

I watch some TV programmes or listen to music.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟงั เพอื่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Speaking: สัมภาษณเ์ กย่ี วกับอาชีพของบุคคลในครอบครวั

Reading: อ่านเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียนบรรยายคณุ สมบตั ทิ ี่จำเป็นของอาชพี ต่าง ๆ,

เขียนบทสัมภาษณเ์ ก่ียวกบั อาชีพของบุคคลในครอบครวั

3.2 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1) ใฝ่เรียนรู้

2) ม่งุ ม่ันในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น

1) ความสามารถในการสือ่ สาร

2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคุณลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เปน็ เลิศวชิ าการ
2) สอ่ื สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคดิ
4) ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกนั รับผดิ อบตอ่ สังคมโลก

4. ชิน้ งาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความร)ู้
ช้ินงาน
1) บทสมั ภาษณ์เกย่ี วกบั อาชพี ของบคุ คลในครอบครัว
2) บทความงานโฆษณา
3) บทสนทนาตามสถานการณท์ กี่ ำหนด

ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขยี นบทสมั ภาษณเ์ กย่ี วกับอาชพี ของบคุ คลในครอบครวั
2) ชิ้นงานโฆษณา
3) อ่านออกเสยี งบทสนทนา
4) แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ กี่ ำหนด

5. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

ส่งิ ที่วัดผล วิธกี ารวดั เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์การ

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60

การอ่านหรอื การฟัง

ดา้ นทักษะและ สังเกตการอภิปรายเกีย่ วกับ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) สถานทท่ี ี่ชอบในเรือ่ งทอี่ ่าน เรยี นรู้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึง สงั เกตความใฝ่เรยี นรูแ้ ละ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดับคุณภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความมุ่งมั่นในการทำงาน อันพงึ ประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคัญของ ตรวจการเขยี นบรรยาย สมุดนกั เรียน -

ผูเ้ รียน ( C ) คณุ สมบัตทิ ่ีจำเปน็ ของอาชพี

ต่าง ๆ

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ขนั้ Warm up
1. นกั เรียนอ่านชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ (At work, at Play) ในหนงั สอื เรยี น หน้า 9 แลว้ ร่วมกันแสดงความ

คิดเหน็ วา่ นา่ จะเกย่ี วขอ้ งกับอะไร
2. Find the page Number for หน้า 9 ครูอธิบายคำวา่ blog

blog (n) = a web page containing information or opinions from a particular
person or about a particular subject, to which new information
is added regularly (also web log) (เว็บไซต์ที่ใหบ้ ริการบันทึกขอ้ มลู สว่ นตัว
ซ่ึงอาจจะเป็นขอ้ ความ ความคิดเห็น รปู ภาพ ซึ่งบุคคลทว่ั ไปสามารถเขา้ มาเย่ียม
ชม ตลอดจนใส่ความคิดเหน็ ต่อเจา้ ของบนั ทกึ ได้)

จากนั้นให้นกั เรียนหาว่าภาพทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับท้ัง 3 คำนีอ้ ยูใ่ นหนังสอื เรยี นหนา้ ใด เมอ่ื หาพบแลว้ ครูถาม
คำถามเพอ่ื สนทนากบั นักเรียน

a blog entry (p. 17)
Do you write/read a blog? If yes, what’s it called? What’s it about?
If no, would you like to? Why (not)?
a song (p. 20)
Do you like listening to music? What’s your favourite song?
What’s your favourite kind of music?
a joke (p. 20)
Do you know any English jokes?
Do you think English jokes are funny? Why (not)?

ขน้ั Pre-reading
1. หนงั สือเรยี น หนา้ 9 Ex. 1 ครูเขยี นหัวขอ้ Daily routines และ Free-time activities บนกระดาน

แลว้ ใหน้ ักเรยี นอ่านกจิ กรรมท่ีอยูใ่ ต้ภาพ 1-12 และช่วยกนั ระบุว่าแตล่ ะกิจกรรมอยใู่ ต้หวั ข้อใด ครเู ขียน
คำตอบของนกั เรียนบนกระดาน จากนั้นเปิด CD ให้นักเรียนฟงั เพื่อตรวจคำตอบ

Daily routine: get up early, eat breakfast, catch the bus to school,
do homework, have lessons, go to bed
Free-time activities: watch TV, chat on the phone, hang out with friends,
play arcade games, surf the Net, play sport

จากนนั้ ครูเปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฝกึ ออกเสยี งตามพร้อมกันและทลี ะคน เสร็จแล้วชว่ ยกนั บอกความหมาย
โดยเดาความหมายจากภาพ

2. หนังสอื เรียน หนา้ 9 Ex. 2 ครูให้นกั เรยี นจบั คผู่ ลัดกนั ถาม-ตอบเกีย่ วกับกิจวัตรประจำวันและกจิ กรรม
ในเวลาว่าง โดยใช้คำถามท่ีใหม้ าและวลใี น Ex. 1 ครคู อยสังเกต แล้วสุ่มเรียกนกั เรียนบางคพู่ ดู ถาม-ตอบ
ใหเ้ พอื่ นฟงั

A: What do you do in the morning?
B: I get up early, eat breakfast, and then I catch the bus to school.
A: What do you do in the afternoon?
B: I do my homework, then I watch TV or chat on the phone. etc.

3. หนังสอื เรียน หนา้ 10 Ex. 1a ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3-5 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มเขียนชอื่ อาชีพท่ี
รู้จักใหไ้ ด้มากทส่ี ุดภายในเวลา 1 นาที เมอ่ื ครบกำหนดเวลาครูใหต้ ัวแทนแต่ละกลุ่มอา่ นอาชีพที่เขียน
จากนั้นนกั เรียนสรุปอาชพี ทงั้ หมดจากทุกกลุ่ม

4. หนงั สอื เรยี น หนา้ 10 Ex. 1b นกั เรียนอา่ นชื่อเรอ่ื ง “Jobs with a difference” และดภู าพประกอบ
แลว้ ชว่ ยกันเดาว่าอาชีพ 2 อาชีพที่เกีย่ วขอ้ งกับภาพคอื อาชีพใดบ้าง จากนนั้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตั้งคำถา
เกี่ยวกับอาชีพดังกล่าว แล้วครูเขยี นคำถามบนกระดาน

I think the jobs are a chocolate maker or taster and a magician or a
magician’s assistant.
What qualifications do you need to be a chocolate taster? (a degree in
nutrition or food science)
What qualities do you need to be a magician’s assistant? (you need to be
cheerful, patient and careful)

5. หนงั สือเรยี น หน้า 10 Ex. 2 ครแู บ่งนักเรียนเปน็ กลุ่มย่อย แล้วให้นักเรียนอ่านประโยคขอ้ 1-5 พรอ้ ม
กัน และบอกคำสำคญั ในแตล่ ะประโยค ครเู ขยี นคำทนี่ ักเรยี นบอกบนกระดาน จากนนั้ ให้แต่ละกลุม่
ชว่ ยกันเดาว่าประโยคแต่ละขอ้ เป็นคุณลักษณะของอาชีพใดระหว่าง Chocolate taster และ
Magician’s assistant พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตุผล

6. นักเรยี นอา่ นบทอ่านอย่างรวดเร็วเพื่อหาคำสำคัญทน่ี ักเรยี นบอกครู แล้วให้แต่ละกลมุ่ ดูคำตอบของกลมุ่
ตนทตี่ อบไว้ และปรบั แก้

7. นักเรยี นอ่านออกเสียงคำศพั ท์และวลใี นกรอบ Check these words ถ้าคำใดอ่านไม่ได้ใหอ้ ่านตามครู
จากน้นั ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกความหมายของคำศพั ท์ ถ้าคำใดทีไ่ มร่ ู้ ใหน้ ักเรยี นเปิดหาความหมายใน
พจนานกุ รม

ขน้ั Reading
1. ครูเปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านบทอา่ นตามไปด้วย เมอื่ อ่านจบครถู ามนกั เรียนวา่ คุณลักษณะใดเปน็

คณุ ลักษณะของอาชีพ Chocolate taster และคุณลกั ษณะใดเป็นคณุ ลักษณะของอาชีพ Magician’s
assistant ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ

1 M 2 C, M 3 C 4 M 5 C

2. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ตอบคำถามที่ช่วยกนั ตง้ั บนกระดาน จากนั้นครูใหต้ ัวแทนแต่ละกล่มุ บอกคำตอบ

ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 10 Ex. 3 นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ อภิปรายร่วมกนั วา่ ต้องการทำอาชพี ใดและ

ไม่ตอ้ งการทำอาชีพใด ระหวา่ ง Chocolate taster และ Magician’s assistant พรอ้ มใหเ้ หตุผล
แล้วเขยี นสรุป จากนน้ั ใหแ้ ต่ละกลุ่มอ่านให้เพ่ือนกล่มุ อ่ืนฟงั เพอ่ื จดบันทึกเหตผุ ลท่ีต้องการทำ และ
ไมต่ อ้ งการทำ

I would like to be a chocolate taster because I think it would be fun and I like
chocolate a lot. It would be great to travel too. / I wouldn’t like to be a
chocolate taster because I think it would be boring and I don’t like chocolate
at all.
I would like to be a magician’s assistant because I think it would be interesting
and exciting and it would be great to travel a lot. / I wouldn’t like to be a
magician’s assistant because I think it would be dangerous and scary.

2. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ เหตผุ ลของนักเรยี นในชัน้ โดยใช้ mind map
3. แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 4 Exc. 1-2 ให้นกั เรียนทำเป็นการบ้าน

7. ส่ือ/อปุ กรณ/์ แหลง่ เรียนรู้
1) หนังสอื เรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่อื ฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานกุ รมอังกฤษ-องั กฤษ
5) พจนานกุ รมออนไลน์
6) บัตรคำศัพท์อาชีพ
7) สมาชิกในครอบครวั ของนักเรียน

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคิดเห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ / ผู้บรหิ าร / ผู้ท่ีไดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชื่อ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวิทย์)
ตำแหน่ง ครู
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทึกผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวิชา อ22101 รายวิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1

เรอ่ื ง Reading 1a & Vocabulary 1a
**********************************************************************************
บันทกึ วัน เดือน ปที ีใ่ ชส้ อน

ชัน้ /กลมุ่
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่ีอันพงึ ประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สิ่งท่ีพัฒนา วิธีแกไ้ ข/พัฒนา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปัญหา/สงิ่ ทพ่ี ัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ.............................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ...........................................หัวหน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงช่ือ.............................................รองผ้อู ำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผู้อำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกล่อม) (นายนราวุธ สุจติ ะพนั ธ)์

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง Reading 1a & Vocabulary 1a

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่ือง At Work, at Play เวลา 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี/ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตุผล
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ข้อเรื่อง ใจความสำคัญ บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ นพร้อมทง้ั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง ง่าย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความร้สู กึ และ
ความคดิ เห็นอย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลีย่ นข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เร่อื งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ า่ ง ๆ ใน
ชวี ติ ประจำวนั อย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เรอื่ งท่ฟี งั หรอื
อา่ นอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งต่าง ๆ โดยการ
พูดและการเขยี น
ตวั ช้ีวัด
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกย่ี วกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณท์ ่ีอยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม

ตัวช้วี ดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองที่เกิดขน้ึ ในห้องเรยี น สถานศกึ ษา
และชุมชน

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การจับใจความสำคัญและรายละเอยี ดของข้อมูลที่อ่านและฟัง เป็นความสามารถที่สำคัญประการหน่งึ

ของทักษะการรบั สาร ซงึ่ จะนำไปสู่การสรปุ สารทีร่ ับได้ นอกจากน้ีการมคี วามรู้เกี่ยวกบั คำศัพท์และประโยคต่าง

ๆ ตามเนื้อหา จะช่วยให้สามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูด/เขียนสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนมีความ
เขา้ ใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพือ่ ใหบ้ รรลุตามตัวช้วี ดั )

1. อ่านเรอื่ ง จบั ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดเกยี่ วกับเรือ่ งทอ่ี ่าน และยกตวั อย่างประกอบได้
2. พดู และเขยี น ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่ืองท่ีฟังและอ่านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Jobs (fashion designer, nurse, secretary, dentist, pilot, police

officer, hairdresser, shop assistant)

Job qualities (sociable, creative, caring, intelligent, calm,

cheerful, patient, fit, organised, brave)

Functions: Describing character

Fashion designers need to be intelligent, creative and organised.

Talking about daily routines

I get up early, have a shower and get dressed.

Talking about free-time activities

I watch some TV programmes or listen to music.

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Speaking: สมั ภาษณเ์ กย่ี วกับอาชีพของบคุ คลในครอบครวั

Reading: อ่านเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียนบรรยายคุณสมบัติท่ีจำเป็นของอาชพี ต่าง ๆ,

เขยี นบทสัมภาษณเ์ กย่ี วกับอาชีพของบุคคลในครอบครวั

3.2 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรยี นรู้
2) ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1) ความสามารถในการสือ่ สาร

2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคณุ ลกั ษณะของผเู้ รียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวชิ าการ
2) สอ่ื สารสองภาษา
3) ลำ้ หน้าทางความคดิ
4) ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์
5) ร่วมกนั รับผิดอบตอ่ สังคมโลก

4. ช้ินงาน/ภาระงาน (หลกั ฐานร่องรอยแสดงความร)ู้
ช้ินงาน
1) บทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี ำหนด
2) บทสนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ทก่ี ำหนด
3) เรียงความเก่ียวกับกีฬาท่ีวยั รนุ่ ไทยนิยมเล่น
4) บทความ blog เกย่ี วกับวนั หยุดสุดสัปดาห์

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู สนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด
2) เขียนเรยี งความเก่ียวกับกฬี าท่วี ัยรุ่นไทยนยิ มเลน่
3) เขยี น blog เกีย่ วกับวันหยุดสดุ สัปดาห์
4) เขยี นสรุปผลการอภปิ รายในประเดน็ ทก่ี ำหนด

5. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

สิ่งท่ีวดั ผล วธิ กี ารวัด เครื่องมอื วัดผล เกณฑ์การ

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ประเมนิ การเขยี นบท แบบฝึกหัด (Workbook) รอ้ ยละ 60

สมั ภาษณเ์ ก่ียวกบั อาชีพของ

บคุ คลในครอบครัว

ดา้ นทักษะและ ตรวจการเขยี นอธิบายเหตุผล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) เกี่ยวกับอาชพี ท่ีต้องการทำ เรียนรู้

และไมต่ อ้ งการทำจากเร่ืองที่

อ่าน

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง สังเกตความใฝเ่ รียนรู้และ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความม่งุ ม่นั ในการทำงาน อันพงึ ประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ ตรวจการเขียนบรรยาย สมดุ นักเรียน -

ผเู้ รยี น ( C ) คณุ สมบัตทิ ่ีจำเปน็ ของอาชีพ

ตา่ ง ๆ

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้ัน Warm up
1. ครูให้นักเรยี นเลน่ เกม Hangman เก่ยี วกบั คำศัพท์ที่เรยี นไปในชวั่ โมงทแ่ี ลว้ ประมาณ 8-10 คำ

โดยแบ่งทีมตามแถว
2. นักเรยี นอา่ นคำศัพท์และวลใี นกรอบ Check these words หนงั สอื เรยี น หน้า 10 พร้อมกัน

ขน้ั Presentation
1. ครูแสดงบัตรคำศพั ทอ์ าชีพ fashion designer, nurse, secretary, dentist, pilot, police officer,

hairdresser, shop assistant ให้นักเรยี นดู (หรือถ้ามีคอมพิวเตอร์ในห้องเรยี น ครูอาจจะพิมพค์ ำศัพท์
ใหด้ )ู แล้วใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสียงตามครู 2 คร้ัง และอ่านออกเสยี งพรอ้ มกนั
2. ครใู หน้ กั เรยี นดูภาพอาชีพตา่ ง ๆ ในหนงั สือเรยี น หนา้ 11 และชว่ ยกนั บอกชือ่ อาชพี ตามภาพ โดยครู
ขึ้นต้นพยญั ชนะตัวแรกให้
3. หนังสือเรยี น หน้า 11 Ex. 4 ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี นเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 3-5 คน แลว้ ใหก้ ลมุ่ เลขคูอ่ ่าน
ประโยคท่ี 1-4 ส่วนกลุ่มเลขค่อี า่ นประโยคที่ 5-8 จากนน้ั ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ จับคู่ประโยคกบั ภาพอาชีพภายใน
เวลา 2 นาที แล้วครูสมุ่ เรียกตวั แทนกลุ่มบอกคำตอบกล่มุ ละ 1 ข้อ ให้นกั เรยี นตรวจคำตอบของกลุ่มตน
และรว่ มกนั แก้ไขคำตอบท่ีไม่ถกู ต้อง

1B 2G 3C 4A
5E 6F 7H 8D

4. ครูอธิบายวลี look after และ earn salary เพิ่มเติม และให้นกั เรียนสังเกตการใช้วลีดังกล่าว
look after (phrv)= to take care of someone by helping them, giving them what
they need, or keeping them safe (ดูแล)
e.g. Don’t worry, I’ll look after the kids tomorrow.
earn salary (v) = to receive money for the work that you do (ได้เงินเดือน)
e.g. She’s now earning a good salary as an interpreter.

5. ครูขออาสาสมัคร (หรือครูเรยี กแบบเจาะจง) ให้อ่านคำศัพท์ท่กี ำหนดให้ในหนังสือเรยี น หน้า 11 Ex.
5a และใหน้ กั เรียนในช้ันอา่ นตาม จากนั้นใหน้ กั เรียนบอกความหมาย ถ้าคำใดท่ไี มร่ ู้ ครูชว่ ยอธบิ าย
caring (adj) = thinking about what other people need or want and trying to
help them (ทหี่ ว่ งใยผู้อน่ื )
fit (adj) = strong and healthy (แข็งแรงและมีสขุ ภาพดี)
organised (adj)= working in an effective, ordered and sensible way (ซ่งึ เป็นระบบ
ระเบียบ)
จากน้ันครอู ธิบายว่า คำเหล่านี้ คือ adjective แล้วครถู ามว่า เม่ือนำ adjective ไปใชใ้ นประโยคจะวาง
ไวท้ ่ใี ด (หลงั verb to be และหน้าคำนาม)

6. หนงั สอื เรยี น หนา้ 11 Ex. 5a ครูให้นกั เรียนกลมุ่ เดิมจาก Ex. 4 กลมุ่ เลขคีอ่ า่ นประโยคท่ี 1-4 และกลุม่
เลขคูอ่ ่านประโยคท่ี 5-10 แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเตมิ คำคณุ ศัพท์ลงในประโยค จากนั้นครขู อตวั แทนกลุ่ม 2
กลุ่มออกมาเขยี นคำตอบบนกระดาน และตรวจคำตอบพรอ้ มกัน

1 creative 2 sociable 3 intelligent 4 caring
7 brave 8 patient
5 cheerful 6 calm
9 organised 10 fit

ขัน้ Practice
1. หนังสอื เรยี น หนา้ 11 Ex. 5b ครใู ห้นกั เรยี นเขียนประโยคบรรยายคุณสมบัติของแต่ละอาชีพใน Ex. 4

โดยใช้ adjectives จาก Ex. 5a เสรจ็ แลว้ ครขู ออาสาสมัครอ่านประโยค

Fashion designers need to be intelligent, creative and organised.
Secretaries need to be intelligent, cheerful and calm.
Dentists need to be intelligent, cheerful and calm.
Pilots need to be intelligent, fit, calm and brave.
Police officers need to be intelligent, fit, calm and brave.
Hairdressers need to be creative, cheerful and sociable.
Shop assistants need to be cheerful, patient and sociable.

2. หนังสือเรยี น หนา้ 11 Ex. 6 ครอู ธบิ ายนกั เรียนวา่ จะไดฟ้ งั Nicky พูดเกี่ยวกบั ชีวติ ของเขา ซง่ึ เปน็
ช่างตัดผม ให้นกั เรียนฟังและจดบันทกึ สิง่ ท่ี Nicky ชอบและไม่ชอบเกยี่ วกับกจิ วตั รประจำวนั ของเขา
และกิจกรรมท่ี Nicky ทำเพ่อื ผ่อนคลาย
ครูเขียนตารางบนกระดาน และใหน้ ักเรียนลอกลงในสมุดเพอื่ บนั ทึกข้อมูล จากนนั้ ครูใหน้ กั เรยี นฟัง CD
2 คร้งั ครัง้ แรกใหต้ ั้งใจฟงั โดยไมต่ ้องจดบนั ทึก คร้ังท่ี 2 ใหฟ้ งั และจดบนั ทึกขอ้ มูลลงในตาราง

Things he likes
Things he doesn’t like
How to relax

3. ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกข้อมูล แล้วครเู ขียนลงในตารางบนกระดาน จากนน้ั ครถู ามคำถาม What
does Nicky like about daily routine? What does he not like about daily routine? How
does he relax in the evening? ให้นักเรยี นบอกคำตอบโดยใชข้ อ้ มูลจากตาราง

Nicky loves his job. He likes meeting people and talking to them.
He doesn’t like sweeping the floor and cleaning up.
He relaxes in the evenings by watching TV or listening to music.

ข้ัน Production
1. หนงั สอื เรยี น หน้า 11 Ex. 7 ครอู ธิบายภาระงานว่าให้นักเรียนไปสมั ภาษณ์บุคคลในครอบครัว 1 คน โดย

ใชค้ ำถามทีก่ ำหนดให้ (ครอู าจจะใหน้ กั เรียนถา่ ยคลปิ ขณะสมั ภาษณ์ดว้ ย) แลว้ เขียนบทสัมภาษณม์ าส่งครู

เมอ่ื นักเรียนเขา้ ใจสง่ิ ทต่ี อ้ งทำแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านคำถามท่ีกำหนดให้พรอ้ มกนั ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ
สำหรับคำถามที่นักเรยี นไมเ่ ขา้ ใจ

A: What time do you get up for work?
B: I get up at 7.30 am.

A: How do you go to work?
B: I drive to work.

A: What do you do at work?
B: I answer the phone and type letters.
A: Do you wear a uniform at work?

B: No, I don’t.
A: Do you earn a good salary?

B: Yes, I do.
A: Do you work 9 to 5?
B: Yes, I do.

A: What qualities are necessary for work?
B: I need to be intelligent, organized and cheerful.

A: Do you work indoors/outdoors?
B: I work indoors.

2. นกั เรียนทำ Language Review 1a Ex. 1-2 ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 105 ร่วมกันในชน้ั
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 4-5 Ex. 3-8 ให้นักเรยี นทำเป็นการบ้าน

7. ส่อื /วสั ดุอุปกรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

สอื่ 1) หนังสือเรยี น SPARK 2 ม. 2
วัสดุอุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสอ่ื ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรียนรู้
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
1) พจนานกุ รมองั กฤษ-องั กฤษ

2) พจนานุกรมออนไลน์
3) บัตรคำศพั ท์อาชพี
1) หอ้ งสมุด

ลงช่อื ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคิดเห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ / ผบู้ รหิ าร / ผู้ท่ีไดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอื่ ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวทิ ย์)
ตำแหน่ง ครู
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565

บันทกึ ผลหลงั แผนการจดั การเรยี นรู้

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2

เร่ือง Reading 1a & Vocabulary 1a
**********************************************************************************
บันทกึ วัน เดือน ปที ีใ่ ชส้ อน

ชัน้ /กลมุ่
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่ีอันพงึ ประสงค์ (A)– มีสขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สิ่งท่ีพัฒนา วิธีแกไ้ ข/พัฒนา และผลการแกไ้ ข/พัฒนา
ปัญหา/สงิ่ ทพ่ี ัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ.............................................ครูผูส้ อน ลงชอื่ ...........................................หัวหน้ากล่มุ สาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงช่ือ.............................................รองผอู้ ำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนูญ กลับกล่อม) (นายนราวุธ สุจติ ะพันธ)์

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรื่อง Grammar 1b

รหสั วชิ า อ22101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เร่อื ง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และ
ความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวชวี้ ดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณต์ ่าง ๆ ใน
ชีวติ ประจำวันอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขียน
ตัวชวี้ ัด
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง ประโยค
ชนิดตา่ ง ๆ และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย

สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรยี น สถานศึกษา
และชุมชน

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเรยี นรแู้ ละเข้าใจโครงสร้างทางภาษา จะช่วยใหส้ ามารถพูดและเขียนประโยคตา่ ง ๆ ได้ถูกต้องและ

เหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเข้าใจในความเหมือนและความต่างของภาษาอังกฤษและ
ภาษาไทย

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมเพอ่ื ให้บรรลุตามตัวชว้ี ัด)

1. เขยี นประโยคโดยใช้โครงสรา้ ง Present simple & Present continuous ได้
2. พดู และเขยี น ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ชวี ิตประจำวนั ของตนเองและผ้อู ่นื ได้อยา่ ง

เหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Grammar: Present simple & Present continuous

Adverbs of frequency

-ing form & to-infinitive

Pronunciation: /s/, /z/, /Iz/

walks, eats, tidies, reads, watches, finishes

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: สนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ของบุคคลอ่นื

Writing: เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง

3.2 คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ ม่นั ในการทำงาน
3) อยู่อย่างพอเพียง

3.3 สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
1) ความสามารถในการส่อื สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคุณลกั ษณะของผู้เรยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวชิ าการ
2) สอ่ื สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด
4) ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์
5) ร่วมกนั รบั ผดิ อบต่อสังคมโลก

4. ช้ินงาน/ภาระงาน (หลกั ฐานร่องรอยแสดงความร)ู้
ช้ินงาน
1) บทสนทนาตามสถานการณท์ กี่ ำหนด
2) บทสนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ที่กำหนด
3) เรียงความเกี่ยวกบั กฬี าท่วี ัยรุน่ ไทยนิยมเลน่
4) บทความ blog เกีย่ วกับวนั หยุดสดุ สัปดาห์ของตนเอง

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู สนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ที่กำหนด
2) เขียนเรียงความเกยี่ วกบั กฬี าที่วัยรุน่ ไทยนิยมเล่น
3) เขยี น blog เกี่ยวกับวันหยุดสุดสปั ดาห์ของตนเอง

4) เขยี นสรปุ ผลการอภปิ รายในประเด็นที่กำหนด

5. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

ส่งิ ทีว่ ัดผล วธิ กี ารวดั เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์การ

ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการเขยี นประโยค แบบฝกึ หัด (Workbook) ร้อยละ 60

เกี่ยวกับตนเองโดยใชค้ ำ

ข้ึนตน้ ที่กำหนด

ด้านทักษะและ สงั เกตการเปรียบเทียบความ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) เหมือนและความแตกต่าง เรียนรู้

ของตำแหนง่ คำวเิ ศษณ์ใน

ประโยคภาษาองั กฤษและ

ภาษาไทย

ด้านคุณลักษณะอนั พงึ สังเกตความใฝเ่ รียนรู้และ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคณุ ภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความมุง่ มัน่ ในการทำงาน อนั พึงประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคัญของ สงั เกตการพดู ขอและให้ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ -

ผ้เู รียน ( C ) ข้อมูลของบคุ คลอื่น เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ Warm up
1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน แล้วแจกแถบประโยคใหก้ ลมุ่ ละ 10 ประโยค ใหน้ ักเรียน
เรียงคำใหเ้ ปน็ ประโยคท่ีถูกต้อง โดยใหก้ ลุม่ เลขคู่ทำข้อคู่และกลุม่ เลขคี่ทำข้อค่ี
2. ครขู ออาสาสมคั รเขียนประโยคทเี่ รียงคำใหม่แล้วบนกระดาน กลมุ่ ละ 2 ประโยค จากนนั้ ครูและนักเรยี น
รว่ มกันตรวจคำตอบ และแกไ้ ขประโยคให้ถกู ตอ้ ง เสรจ็ แล้วใหน้ ักเรยี นอา่ นประโยคทง้ั หมดพรอ้ มกัน

แถบประโยค

1 gets up / my sister / early / every day / .
2 doing / homework / in / the children / the living room / are / .
3 have / at 7 am / I / breakfast /always / .
4 washing / the car / is / Dad / ?
5 to work / drive / doesn’t / Jim / .
6 like / football / Jim and James / playing / do / ?
7 the patients / help / and / the nurses / the doctors / look after / .
8 singing / they / dancing / are / and / ?
9 walk / every morning / my brother / I / to school / and / .
10 am / in / my brother’s / I / farm / this week / working / .

1 My sister gets up early every day.
2 The children are doing homework in the living room.
3 I always have breakfast at 7 am.
4 Is dad washing the car?
5 Jim doesn’t drive to work.
6 Do Jim and James like playing football?
7 The nurses help the doctors and look after the patients.
8 Are they singing and dancing?
9 My brother and I walk to school every morning.
10 I am working in my brother’s farm this week.

ขนั้ Presentation
1. นักเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันพิจารณาคำกริยาในแต่ละประโยค และอภปิ รายร่วมกนั ในกลมุ่ ว่าคำกริยา

ทงั้ หมดสามารถจดั กลุ่มตามโครงสรา้ งไดก้ ีก่ ลมุ่ แตล่ ะกลุม่ ประกอบดว้ ยคำกรยิ าอะไรบา้ ง จากนน้ั ครสู ุม่
เรยี กตัวแทนกล่มุ 2-3 กล่มุ นำเสนอผลการจัดกลุ่ม

แบง่ ได้ 2 กลมุ่
กลมุ่ ท่ี 1 ไดแ้ ก่ gets up, have, doesn’t drive, Do … like, help, look after, walk
กลมุ่ ท่ี 2 ได้แก่ are doing, Is … washing, Are … singing, dancing, am working

2. ครูสรปุ ใหน้ กั เรียนฟังว่า คำกรยิ าในประโยคเหล่าน้อี ย่ใู นรปู Present simple และ Present
continuous

3. หนงั สอื เรยี น หน้า 12 Ex. 1 นักเรียนแต่ละกลุม่ อา่ นหลักการใช้ Present simple และ Present
continuous หลังจากนัน้ ให้แต่ละกลมุ่ ตรวจและปรับแกก้ ารจัดกลมุ่ คำกริยาในกิจกรรมขอ้ 1 แล้วครู
เฉลยคำตอบ

4. ครอู ธิบาย stative verb วา่ มกั จะใช้ใน Simple tense จะไมใ่ ช้ใน Continuous tense โดยมกั เป็น
คำกริยาทเ่ี กยี่ วกับความรสู้ กึ นกึ คดิ ประสาทสัมผัสทั้งหา้ เชน่ appear, agree, hate, hear, taste

5. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มบอกความหมายของประโยคกลุ่มละ 2 ประโยค แลว้ นักเรียนรว่ มกันสรุป
โครงสรา้ งและการใช้ Present simple และ Present continuous

6. ครอู ธิบายการออกเสียงคำกรยิ ารูป third person singular โดยยกตวั อย่างคำกรยิ าบนกระดาน เชน่
gets, works, drives, runs, kisses, washes แลว้ ออกเสยี งให้นักเรียนฟงั ทลี ะคำ ใหน้ ักเรยี นตั้งใจฟัง
เสยี งตัว s ทา้ ยคำ จากนัน้ ครถู ามนกั เรยี นว่าได้ยินครูออกเสียงท้ายคำกรยิ าเป็นเสียงอะไรบ้าง ให้
นักเรยี นช่วยกนั ตอบ แลว้ ครูจึงสรปุ ให้ฟัง

คำกริยาที่เติม -s หรือ -es จะออกเสยี งได้ 3 เสียง คือ
1) ออกเสยี ง /s/ เม่ือคำกรยิ าลงท้ายด้วยเสียงไม่ก้อง (voiceless sound) ไดแ้ ก่ /p/, /t/,

/k/, /f/ เช่น tap, get, talk, laugh
2) ออกเสยี ง /z/ เมอ่ื คำกรยิ าลงทา้ ยด้วยเสยี งกอ้ ง (voiced sound) ได้แก่ /b/, /d/, /ɡ/,

/m/, /n/, /v/ เชน่ rob, read, dig, swim, open, live
3) ออกเสียง /Iz/ เมอ่ื คำกริยาลงท้ายด้วย s, z, ch, sh เช่น cross, sneeze, watch,

wash

7. หนงั สอื เรยี น หน้า 12 Ex. 2 นกั เรยี นอา่ นคำกริยาท่กี ำหนดให้พร้อมกัน แลว้ เขียนรูป third person
singular ของคำกริยาเหลา่ น้ีลงในตารางตามการออกเสยี ง จากนัน้ ครใู ห้นักเรยี นฟัง CD เพ่อื ตรวจ
คำตอบ แลว้ ครใู หน้ กั เรยี นฟัง CD อกี ครั้งและออกเสียงตาม

/s/ /z/ /Iz/
watches, finishes
walks, eats, wakes tidies, reads, enjoys,
up, sleeps does, goes, plays

8. หนงั สือเรียน หนา้ 12 Ex. 3 นักเรยี นเตมิ คำกริยาจาก Ex. 2 ลงในข้อความ เสรจ็ แล้วครูขออาสาสมัคร
2-3 คน อ่านประโยค แลว้ นักเรียนในชนั้ ตรวจคำตอบ จากนั้นครใู หน้ กั เรยี นอา่ นขอ้ ความพร้อมกัน

1 wakes up 2 goes 3 finishes 4 walks
5 eats 6 watches 7 reads

ขัน้ Practice
1. หนงั สอื เรียน หน้า 12 Ex. 4 นกั เรียนจบั คู่กนั พดู ถาม-ตอบ โดยใชค้ ำถาม Yes/No question ครเู ดิน

สังเกตและให้คำแนะนำ หลังจากนั้นครสู ุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบทห่ี นา้ ชั้น

A: Does Kelly live in Bond Street?
B: No, she doesn’t. She lives in Simon Street. Does Kelly play tennis?
A: No, she doesn’t. She plays basketball. Does Kelly speak Russian?
B: No, she doesn’t. She speaks Polish. Does Kelly like fish?
A: No, she doesn’t. She likes burgers.

2. หนงั สือเรียน หน้า 12 Ex. 5 นกั เรียนดูภาพและเติมคำกริยาลงในประโยค โดยเปลี่ยนให้อยู่ในรปู Past
continuous เสร็จแล้วครขู ออาสาสมัครออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน

1 are playing 2 aren’t doing 3 is lying
4 is sitting 5 aren’t wearing

3. หนงั สอื เรียน หน้า 12 Ex. 6 ครูสุม่ เรยี กนักเรียน 4 คน เป็นผู้ถามคำถามคนละ 1 ขอ้ แลว้ ใหน้ กั เรียน
เลือกเพ่อื นทีจ่ ะเปน็ ผ้ตู อบคำถาม โดยให้นักเรียนทีเ่ หลือตรวจวา่ เพื่อนถามและตอบคำถามถกู ต้อง
หรอื ไม่ ถา้ ไม่ถกู ใหช้ ่วยกันแกไ้ ข จากนัน้ ครใู หน้ กั เรยี นสะกดรูป -ing ของคำกรยิ า

1 Are Lucy and Liam watching TV?
No, they aren’t. They are drawing.

2 Is Tom listening to music?
No, he isn’t. He’s surfing the Net.

3 Is the dog sleeping?
No, it isn’t. It is eating the newspaper.

4 Is Jane chopping vegetables?
No, she isn’t. She’s washing the dishes.

4. หนงั สือเรยี น หนา้ 13 Ex. 7 นกั เรียนเติมประโยคด้วยคำกริยาในวงเลบ็ โดยเปล่ียนให้อยใู่ นรูปท่ีถูกต้อง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนักเรียนเป็นคใู่ ห้อ่านประโยคคูล่ ะ 1 ข้อ เพอ่ื ตรวจคำตอบ แลว้ ให้นักเรียนช่วยกนั
ระบวุ ่าคำใดเปน็ stative verb

1 are you doing, ’m waiting 2 Do you play, is raining
3 helps, wants 4 are you hurrying, leaves
5 Is Tom sleeping, ’s reading 6 look, ’m studying
7 works, isn’t working 8 Do you fancy, ’m doing

stative verbs: wants, look, fancy

ข้ัน Production
1. ครูให้นกั เรียนแตง่ บทสนทนาส้ัน ๆ เหมือนใน Ex. 7 มา 3 บทสนทนา โดยให้ใช้คำกริยาทั้งรูปPresent

simple และ Present continuous

2. แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 6 Exc. 1-3 ใหน้ ักเรียนทำร่วมกนั ในชน้ั เรียน
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 6-7 Exc. 4-5 ให้นกั เรยี นทำเปน็ การบ้าน

7. สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้

สอ่ื 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
วัสดุอปุ กรณ์ 3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรยี นรู้
1) พจนานุกรมอังกฤษ-องั กฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์

1) ห้องสมุด

ลงชอ่ื ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ (รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ทไี่ ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวทิ ย์)
ตำแหนง่ ครู
วันท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บันทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

รหัสวชิ า อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3

เร่อื ง Grammar 1b
**********************************************************************************
บันทึกวนั เดือน ปที ี่ใชส้ อน

ชน้ั /กลุ่ม
วนั /เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่อี นั พงึ ประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สงิ่ ที่พัฒนา วิธแี กไ้ ข/พฒั นา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปญั หา/ส่งิ ท่ีพฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ แี กไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครูผูส้ อน ลงชอ่ื ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผูอ้ ำนวยการ ลงชอ่ื ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนญู กลับกล่อม) (นายนราวธุ สุจติ ะพันธ)์

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 4 เรื่อง Grammar 1b

รหสั วชิ า อ22101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เร่อื ง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และ
ความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวชวี้ ดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณต์ ่าง ๆ ใน
ชีวติ ประจำวันอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขียน
ตัวชวี้ ัด
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง ประโยค
ชนิดตา่ ง ๆ และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรยี น สถานศึกษา
และชุมชน

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเรยี นรแู้ ละเข้าใจโครงสร้างทางภาษา จะช่วยใหส้ ามารถพูดและเขียนประโยคตา่ ง ๆ ได้ถูกต้องและ

เหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเข้าใจในความเหมือนและความต่างของภาษาอังกฤษและ
ภาษาไทย

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมเพอ่ื ให้บรรลตุ ามตวั ชีว้ ัด)

1. เขยี นประโยตโดยใชโ้ ครงสรา้ ง Present continuous และกริยาทเ่ี ติม ing ได้
2. บรรยาย และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับชวี ติ ประจำวนั ของตนเองได้อย่างเหมาะสม

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Grammar: Present simple & Present continuous

Adverbs of frequency

-ing form & to-infinitive

Pronunciation: /s/, /z/, /Iz/

walks, eats, tidies, reads, watches, finishes

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมูลของบุคคลอืน่

Writing: เขียนใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับตนเอง

3.2 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรยี นรู้
2) ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
3) อยู่อย่างพอเพียง

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคุณลักษณะของผู้เรยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เปน็ เลศิ วิชาการ
2) สือ่ สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคดิ
4) ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกันรับผิดอบต่อสังคมโลก

4. ช้นิ งาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความร)ู้
ช้ินงาน
1) บทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี ำหนด

2) บทสนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ที่กำหนด
3) เรียงความเกี่ยวกับกีฬาทวี่ ยั รนุ่ ไทยนยิ มเลน่

4) บทความ blog เก่ยี วกับวนั หยดุ สดุ สัปดาห์ของตนเอง

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู สนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ท่ีกำหนด
2) เขยี นเรียงความเกยี่ วกบั กฬี าที่วัยรุน่ ไทยนิยมเลน่
3) เขียน blog เกย่ี วกบั วนั หยุดสุดสัปดาห์ของตนเอง

4) เขียนสรปุ ผลการอภปิ รายในประเด็นท่กี ำหนด

5. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ส่งิ ท่ีวัดผล วิธกี ารวดั เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การ

ประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K ) ตรวจการเขยี นประโยค แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60

เกี่ยวกับตนเองโดยใช้

adverb of frequency

ด้านทักษะและ สงั เกตการเปรียบเทียบความ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) เหมือนและความแตกต่าง เรยี นรู้

ของตำแหน่ง คำวิเศษณใ์ น

ประโยคภาษาองั กฤษและ

ภาษาไทย

ด้านคณุ ลักษณะอนั พึง สังเกตความใฝเ่ รยี นรแู้ ละ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความมุ่งมัน่ ในการทำงาน อันพงึ ประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคญั ของ สังเกตการพดู ขอและให้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ -

ผู้เรยี น ( C ) ข้อมูลของตนเองและบคุ คล เรยี นรู้

อื่น

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ัน Warm up
1. ครพู ดู คำกรยิ ารปู -ing ให้นกั เรียนสะกดคำพรอ้ มกนั (sitting, walking, dying, eating, sleeping,
getting, chopping, playing, listening, raining)

2. ครูสุม่ เรยี กนกั เรยี น 3-4 คู่ ให้พูดถาม-ตอบบทสนทนาสั้น ๆ ทน่ี กั เรยี นแตง่ ไวเ้ มอ่ื ชว่ั โมงทีแ่ ล้ว

ขนั้ Presentation

1. หนังสือเรียน หนา้ 13 Ex. 8 นกั เรยี นอา่ นประโยคพร้อมกนั แล้วขดี เสน้ ใต้คำกรยิ าในแต่ละประโยค ครู

สุม่ ถามนักเรียนว่าคำใดบา้ งทีเ่ ป็นคำกรยิ า นกั เรยี นตรวจคำตอบของตนเอง

2. ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตคำทพี่ ิมพต์ วั หนาในแต่ละประโยคและอา่ นออกเสียงตามครูพรอ้ มกนั แล้วให้

นกั เรียนสงั เกตสีเ่ หลย่ี มเล็ก ๆ ท้ายประโยคแตล่ ะประโยค ครูถามนกั เรียนว่าส่ีเหลย่ี มเลก็ ๆ น้ีสัมพนั ธ์

กบั คำท่ีพิมพต์ ัวหนาอย่างไร

3. ครสู รปุ วา่ คำท่ีพิมพต์ วั หนาเหล่านี้เปน็ คำท่ีใช้บอกความถีข่ องการกระทำ เรียกวา่ adverb of

frequency

always = สม่ำเสมอ usually = ปกติ

often = บ่อย ๆ, บอ่ ยคร้งั sometimes = บางคร้ัง

never = ไม่เคย
สำหรบั คำถามท่ใี ช้ถามความถีข่ องการกระทำ คือ How often

4. นกั เรียนอ่านขอ้ ความในกรอบสีฟา้ และเติมข้อความใหถ้ ูกตอ้ ง เสรจ็ แลว้ ครูใหน้ ักเรยี นบอกคำตอบ
พรอ้ ม ๆ กัน

1 before 2 after

5. ครูสมุ่ ถามนักเรยี น 4-5 คน ว่า How often do you go shopping? แลว้ ครเู ขยี นคำตอบของนกั เรียน
บนกระดาน เชน่ I often go shopping. I always go shopping. ใหน้ กั เรียนในช้ันชว่ ยกนั ตรวจวา่
เพื่อนใช้ adverb of frequency ในประโยคถูกต้องหรือไม่

6. ครสู มุ่ เรียกนักเรยี น 4-5 คน ให้ถามเพอื่ นดว้ ยคำถาม How often do you …? ครูเขยี นคำตอบ
บนกระดาน และใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตรวจคำตอบ เช่น
S1: How often do you watch a film?
S2: I often watch a film.

S3: How often do you cook dinner?
S4: I never cook dinner.
7. ครเู ขียนคำว่า now, every day, on Mondays, at the moment บนกระดาน และอธิบายว่าคำ
เหล่าน้ีใชข้ ยายคำกริยา เพ่อื บอกชว่ งเวลาในการกระทำ เรียกวา่ adverb of time เชน่ I go shopping
on Sundays. I am doing homework now. โดยส่วนมากนิยมวาง adverb of time ไวท้ า้ ยประโยค
ครยู ำ้ ว่า now และ at the moment จะใชก้ ับ Present continuous
8. ครใู ห้นักเรยี นจับคู่ช่วยกันปรับประโยคคำตอบที่ครูเขยี นไวบ้ นกระดานใหม่ โดยใช้ adverb of time
จากนั้นครูส่มุ เรยี กนกั เรยี นอา่ นประโยคทปี่ รบั ใหม่ เชน่ I go shopping on Mondays. I’m cooking
dinner at the moment.
9. ครูเขียนประโยคตามน้ีบนกระดาน
- I always go shopping because I love shopping.
- I usually swim at weekends because I enjoy swimming.
ครูขีดเส้นใต้ love shopping และ enjoy swimming แล้วถามความหมายจากนักเรยี น
10. หนังสอื เรยี น หน้า 13 Ex. 11 นกั เรยี นอา่ นขอ้ ความในกรอบสีฟ้า แล้วครูอธบิ ายวา่ คำกรยิ าท่ีเกย่ี วกบั
ความรสู้ กึ เชน่ รกั ชอบ ไม่ชอบ เกลยี ด รวมถึง go จะใชก้ บั คำกรยิ า -ing สว่ นคำกริยา want จะตาม
ด้วย to-infinitive

ข้ัน Production
1. หนงั สือเรยี น หนา้ 13 Ex. 13 นักเรยี นเขียนประโยคเก่ยี วกบั ตนเอง โดยใช้คำขึ้นตน้ ที่กำหนดให้

1 I like swimming.

2 I don’t like doing the washing-up.
3 I don’t mind washing the car.
4 I want to be a lawyer when I grow up.

5 I enjoy painting.
6 I don’t want to go out tonight.

2. นกั เรียนทำ Grammar Bank 1 ในแบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 69 Exc. 1-4, หนา้ 71 Exc. 5-9,

หน้า 73 Exc. 10-14 ร่วมกันในชนั้
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 7 Exc. 6-9 ให้นกั เรยี นทำเปน็ การบ้าน

7. สื่อ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู้

ส่อื 1) หนงั สือเรยี น SPARK 2 ม. 2

วสั ดอุ ปุ กรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสือ่ ฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรยี นรู้ 3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2

1) พจนานุกรมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์
1) ห้องสมุด

ลงชอ่ื ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บริหารวชิ าการ / ผ้บู ริหาร / ผู้ท่ไี ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่อื ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวิทย)์
ตำแหนง่ ครู
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565

บันทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

รหัสวชิ า อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 4

เร่อื ง Grammar 1b
**********************************************************************************
บันทึกวนั เดือน ปที ี่ใชส้ อน

ชน้ั /กลุ่ม
วนั /เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่อี นั พงึ ประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สงิ่ ที่พัฒนา วิธแี กไ้ ข/พฒั นา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปญั หา/ส่งิ ท่ีพฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ แี กไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครูผูส้ อน ลงชอ่ื ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผูอ้ ำนวยการ ลงชอ่ื ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรียน

(นายมนญู กลับกล่อม) (นายนราวธุ สุจติ ะพันธ)์

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 5 เรื่อง Grammar 1b

รหสั วชิ า อ22101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เร่อื ง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ กึ และ
ความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตัวชวี้ ดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณต์ ่าง ๆ ใน
ชีวติ ประจำวันอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขียน
ตัวชวี้ ัด
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง ประโยค
ชนิดตา่ ง ๆ และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย

สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรยี น สถานศึกษา
และชุมชน

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเรยี นรแู้ ละเข้าใจโครงสร้างทางภาษา จะช่วยใหส้ ามารถพูดและเขียนประโยคตา่ ง ๆ ได้ถูกต้องและ

เหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเข้าใจในความเหมือนและความต่างของภาษาอังกฤษและ
ภาษาไทย

จุดประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเพ่ือใหบ้ รรลตุ ามตวั ชว้ี ดั )

1. เขียนประโยคเก่ียวกบั ตนเอง adverb of frequency ได้

2. บรรยายแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับชีวติ ประจำวันของตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Grammar: Present simple & Present continuous

Adverbs of frequency

-ing form & to-infinitive

Pronunciation: /s/, /z/, /Iz/

walks, eats, tidies, reads, watches, finishes

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: สนทนาแลกเปลีย่ นข้อมลู ของบุคคลอน่ื

Writing: เขียนใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง

3.2 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรยี นรู้

2) มุง่ มัน่ ในการทำงาน
3) อยู่อย่างพอเพียง

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร

2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคณุ ลกั ษณะของผู้เรยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลศิ วชิ าการ
2) สื่อสารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคดิ
4) ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
5) รว่ มกนั รับผดิ อบต่อสังคมโลก

4. ช้ินงาน/ภาระงาน (หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความร้)ู
ชิน้ งาน
1) บทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี ำหนด
2) บทสนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณท์ ก่ี ำหนด

3) บทความ blog เก่ยี วกับวันหยดุ สดุ สัปดาห์ของตนเอง

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู สนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ทกี่ ำหนด

2) เขียน blog เกี่ยวกบั วันหยุดสดุ สัปดาห์ของตนเอง
3) เขยี นสรุปผลการอภปิ รายในประเดน็ ที่กำหนด

5. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

สิง่ ทว่ี ัดผล วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมอื วัดผล เกณฑก์ าร

ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการเขียนประโยค แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60

เก่ยี วกบั ตนเองโดยใช้

adverb of frequency

ด้านทักษะและ สังเกตการเปรียบเทยี บความ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดับคณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) เหมือนและความแตกต่าง เรยี นรู้

ของตำแหนง่ คำวเิ ศษณใ์ น

ประโยคภาษาอังกฤษและ

ภาษาไทย

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ สงั เกตความใฝ่เรยี นรแู้ ละ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคณุ ภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความมงุ่ มัน่ ในการทำงาน อันพงึ ประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคัญของ สงั เกตการพูดขอและให้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ -

ผ้เู รยี น ( C ) ขอ้ มลู ของตนเองและบคุ คล เรยี นรู้

อื่น

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ Warm up

1. ครพู ดู คำกรยิ ารปู -ing ใหน้ กั เรียนสะกดคำพรอ้ มกัน (sitting, walking, dying, eating, sleeping,
getting, chopping, playing, listening, raining)

2. ครสู ่มุ เรียกนกั เรยี น 3-4 คู่ ให้พดู ถาม-ตอบบทสนทนาส้ัน ๆ ทน่ี กั เรียนแตง่ ไว้เมอ่ื ชัว่ โมงทีแ่ ล้ว

ข้นั Presentation

1. หนังสือเรยี น หน้า 13 Ex. 8 นกั เรียนอ่านประโยคพรอ้ มกนั แล้วขีดเส้นใต้คำกรยิ าในแต่ละประโยค ครู

สุ่มถามนกั เรียนว่าคำใดบ้างทเ่ี ป็นคำกริยา นกั เรยี นตรวจคำตอบของตนเอง

2. ครใู หน้ กั เรียนสังเกตคำที่พิมพ์ตวั หนาในแต่ละประโยคและอ่านออกเสยี งตามครพู รอ้ มกนั แล้วให้

นักเรียนสงั เกตสเ่ี หล่ยี มเลก็ ๆ ท้ายประโยคแต่ละประโยค ครถู ามนกั เรยี นว่าสเ่ี หลยี่ มเล็ก ๆ นสี้ มั พนั ธ์

กับคำทพ่ี มิ พ์ตวั หนาอยา่ งไร

3. ครูสรปุ ว่าคำทพ่ี ิมพ์ตวั หนาเหล่านเ้ี ป็นคำที่ใช้บอกความถ่ีของการกระทำ เรยี กวา่ adverb of

frequency

always = สม่ำเสมอ usually = ปกติ

often = บอ่ ย ๆ, บอ่ ยครง้ั sometimes = บางคร้งั

never = ไม่เคย

สำหรบั คำถามท่ใี ช้ถามความถขี่ องการกระทำ คือ How often
4. นกั เรียนอ่านขอ้ ความในกรอบสฟี ้า และเติมข้อความใหถ้ กู ตอ้ ง เสรจ็ แล้วครใู ห้นกั เรียนบอกคำตอบ

พร้อม ๆ กนั

1 before 2 after

5. ครสู มุ่ ถามนักเรียน 4-5 คน ว่า How often do you go shopping? แล้วครเู ขียนคำตอบของนักเรียน
บนกระดาน เชน่ I often go shopping. I always go shopping. ใหน้ ักเรยี นในชน้ั ชว่ ยกนั ตรวจว่า
เพื่อนใช้ adverb of frequency ในประโยคถกู ต้องหรือไม่

6. ครสู ุม่ เรยี กนักเรยี น 4-5 คน ใหถ้ ามเพ่ือนดว้ ยคำถาม How often do you …? ครเู ขยี นคำตอบ
บนกระดาน และให้นักเรียนร่วมกนั ตรวจคำตอบ เชน่
S1: How often do you watch a film?
S2: I often watch a film.

S3: How often do you cook dinner?
S4: I never cook dinner.
7. ครูเขียนคำว่า now, every day, on Mondays, at the moment บนกระดาน และอธิบายว่าคำ
เหลา่ นีใ้ ชข้ ยายคำกรยิ า เพ่ือบอกช่วงเวลาในการกระทำ เรียกว่า adverb of time เช่น I go shopping
on Sundays. I am doing homework now. โดยส่วนมากนยิ มวาง adverb of time ไว้ทา้ ยประโยค
ครูย้ำว่า now และ at the moment จะใช้กบั Present continuous
8. ครูให้นักเรียนจับค่ชู ่วยกนั ปรบั ประโยคคำตอบที่ครเู ขียนไว้บนกระดานใหม่ โดยใช้ adverb of time
จากน้ันครสู มุ่ เรียกนกั เรียนอา่ นประโยคทปี่ รับใหม่ เช่น I go shopping on Mondays. I’m cooking
dinner at the moment.
9. ครเู ขียนประโยคตามน้บี นกระดาน
- I always go shopping because I love shopping.
- I usually swim at weekends because I enjoy swimming.
ครูขีดเส้นใต้ love shopping และ enjoy swimming แล้วถามความหมายจากนักเรยี น
10. หนงั สอื เรยี น หน้า 13 Ex. 11 นักเรียนอ่านขอ้ ความในกรอบสฟี ้า แลว้ ครูอธบิ ายว่าคำกรยิ าทเ่ี กีย่ วกบั
ความรู้สึก เชน่ รัก ชอบ ไม่ชอบ เกลยี ด รวมถึง go จะใชก้ ับคำกรยิ า -ing สว่ นคำกริยา want จะตาม
ดว้ ย to-infinitive

ขนั้ Practice
1. หนังสือเรยี น หนา้ 13 Ex. 9 นักเรยี นเขยี นประโยคบอกความถ่ีของการกระทำที่กำหนดให้ เสร็จแลว้ ครู

สุ่มเรยี กนกั เรยี นอา่ นประโยคคนละ 1 ประโยค

2 I sometimes spend too much money on clothes.
3 I sometimes play my MP3 player too loudly.
4 I am never late for school.
5 I often go to the park.
6 I never talk back to my parents.
7 I always help with the housework.
8 I usually exercise in the morning.
9 I often visit my grandparents.
10 I often surf the Net.

2. หนังสอื เรยี น หน้า 13 Ex. 10 นักเรียนเขียนประโยคโดยใช้ adverbs of frequency และ adverbs
of time ท่กี ำหนดให้ เสร็จแลว้ ครูสมุ่ เรียกนกั เรยี นอา่ นประโยค

I go to school every day.
I’m learning how to cook these days.
I sometimes walk to school.
I have piano lessons on Mondays.
I am writing sentences at the moment.
I usually play football on Saturdays.
I never get up early on Sundays.

3. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ การใช้ adverbs of frequency, adverbs of time และการใช้ v-ing
4. นกั เรียนร่วมกนั เปรียบเทยี บตำแหน่งของคำวิเศษณบ์ อกความถ่ีในประโยคภาษาไทยและภาษาองั กฤษ

รวมทง้ั เปรียบเทยี บวา่ ในประโยคภาษาไทยมกี ารเปลยี่ นรปู คำกริยาเมือ่ เป็นประโยคแสดงความรู้สกึ
หรือไม่ พรอ้ มทงั้ ยกตวั อย่าง

ในภาษาไทยมีคำวิเศษณ์ทีใ่ กล้เคียงกบั adverb of frequency คอื ประมาณวเิ ศษณ์ เปน็
คำวเิ ศษณบ์ อกจำนวน หรือปริมาณ เชน่ หนง่ึ สอง สาม มาก น้อย บอ่ ย หลาย บรรดา ตา่ ง
บา้ ง เปน็ ตน้
ตำแหนง่ ของคำวเิ ศษณ์บอกปรมิ าณในประโยคภาษาไทยมกั จะอยทู่ า้ ยประโยค เช่น เขา
มาหาฉันบ่อย ๆ
ทมี่ า: http://www.silpathai.net/คำวเิ ศษณ/์

ขน้ั Production
1. ครูใหน้ ักเรียนเขียนประโยคเก่ยี วกับตนเอง 5 ประโยค โดยใช้ adverb of frequency จากนน้ั ครู

ส่มุ เรยี กนกั เรยี นอา่ นประโยค คนละ 1 ประโยค

1 I sometimes cook dinner.
2 I always help my mum.
3 I never eat some beef.
4 I usually play computer games.
5 I often chat with friends after dinner.

2. นกั เรยี นทำ Grammar Bank 1 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 69 Exc. 1-4, หนา้ 71 Exc. 5-9,
หน้า 73 Exc. 10-14 ร่วมกันในช้นั

4. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 7 Exc. 6-9 ใหน้ ักเรยี นทำเป็นการบา้ น

7. สือ่ /อปุ กรณ/์ แหล่งเรยี นรู้

สือ่ 1) หนังสือเรยี น SPARK 2 ม. 2

วัสดุอุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรียนรู้ 3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2
1) พจนานกุ รมองั กฤษ-องั กฤษ

2) พจนานุกรมออนไลน์
1) ห้องสมุด

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวิชาการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ที่ไดร้ บั หมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอื่ ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวิทย์)
ตำแหนง่ ครู
วันท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทกึ ผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

รหัสวชิ า อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5

เรอื่ ง Grammar 1b
**********************************************************************************
บันทึกวนั เดือน ปที ี่ใชส้ อน

ชน้ั /กลุ่ม
วนั /เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่อี นั พงึ ประสงค์ (A)– มีสุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สงิ่ ที่พัฒนา วิธแี กไ้ ข/พฒั นา และผลการแกไ้ ข/พฒั นา
ปญั หา/ส่งิ ท่ีพฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ แี กไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครูผูส้ อน ลงช่ือ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผู้อำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนญู กลับกล่อม) (นายนราวุธ สุจติ ะพันธ)์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 เรอ่ื ง Skills 1c

รหัสวชิ า อ22101 รายวิชา ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรื่อง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัดชั้นป/ี ผลการเรียนรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่อื งที่ฟงั และอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชี้วัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรือ่ งท่ีฟังและอา่ น พรอ้ มทัง้ ให้เหตุผลและยกตัวอยา่ ง ง่าย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องตา่ ง ๆ โดยการ
พูดและการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเกย่ี วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณ์ทอี่ ยู่ในความสนใจของสงั คม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวชว้ี ัด

ต 2.2 ม. 2/2 เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างชีวติ ความเป็นอย่แู ละ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั ของไทย

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกับใจความสำคัญ ใจความสนับสนุน และเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบต่าง ๆ ในการเขียน

จะช่วยใหส้ ามารถนำคำศพั ท์และประโยคไปใชใ้ นการเขียนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามโครงสร้างของการเขียน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมเพอ่ื ใหบ้ รรลตุ ามตัวชวี้ ัด)

1. อ่านบทความ บอกความหมายคำศัพท์ในเร่ืองท่อี ่าน ได้
2. อา่ นเรื่องแลว้ จับใจความสำคัญและตอบคำถามจากการอ่านได้

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verb (adopt)

Nouns (amusement park, rides, attractions, ghost train,

experience, buddy, wildlife project)

Adjectives (rare, brave)

Functions: Talking about the leisure park

I’d like to see all the animals and go on the rides there.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพอื่ หาข้อมูลเฉพาะ

Speaking: เปรยี บเทียบ Safari และ Leisure Park ในประเทศไทยกับ West Midland

Safari and Leisure Park

Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียนโฆษณา

3.2 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ ม่ันในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร

2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคุณลกั ษณะของผ้เู รียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลศิ วิชาการ
2) ส่อื สารสองภาษา
3) ลำ้ หน้าทางความคดิ
4) ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์
5) ร่วมกันรบั ผิดอบตอ่ สังคมโลก

4. ชิน้ งาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความร้)ู
ชน้ิ งาน

1) บทสนทนาตามสถานการณท์ ี่กำหนด
2) บทสนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ท่ีกำหนด

3) บทความ blog เกีย่ วกับวนั หยุดสุดสปั ดาห์ของตนเอง

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู สนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ที่กำหนด
2) เขยี น blog เกยี่ วกบั วันหยดุ สดุ สัปดาห์ของตนเอง
3) เขียนสรปุ ผลการอภปิ รายในประเด็นทก่ี ำหนด

5. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สิ่งท่ีวัดผล วิธีการวดั เครอื่ งมือวดั ผล เกณฑก์ าร

ประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60

การอา่ น

ดา้ นทกั ษะและ สังเกตการเปรียบเทยี บขอ้ มลู แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) ทอี่ ่านกับขอ้ มูลของไทย เรยี นรู้

ดา้ นคุณลักษณะอนั พึง สงั เกตความใฝเ่ รียนร้แู ละ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน อันพึงประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ ประเมนิ ชิ้นงานโฆษณา แบบประเมินช้นิ งาน ระดบั คุณภาพ พอใช้

ผเู้ รียน ( C )

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้นั Warm up
1. นกั เรียนดภู าพในหนงั สอื เรียน หน้า 14 แลว้ ครูถามว่า What animals can you see on this page?

Have you ever seen them?
2. ครเู ขียน Safari and Leisure Park บนกระดาน ให้นกั เรยี นอ่านพร้อมกนั

ขัน้ Presentation
1. หนังสือเรียน หน้า 14 Ex. 1a ครถู ามคำถาม What do you think a safari and leisure park is?

ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น

I think a safari and leisure park is a place where you can see wild animals and
other amusements.

2. หนังสอื เรียน หนา้ 14 Ex. 1b นกั เรยี นอ่านกจิ กรรมที่กำหนดให้พรอ้ มกนั แลว้ ครแู บง่ นกั เรียนเป็นกล่มุ
กลมุ่ ละ 3-5 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ พิจารณาวา่ กิจกรรมใดที่สามารถทำใน West Midland Safari and
Leisure Park ได้

3. ครูบอกนกั เรียนว่าจะได้ฟงั เรื่อง Welcome to West Midland Safari and Leisure Park ให้นกั เรียน
ฟังและจดบนั ทึกกิจกรรมทส่ี ามารถทำใน West Midland Safari and Leisure Park จากน้ันครเู ปดิ
CD ใหน้ ักเรยี นฟงั

4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มอภิปรายรว่ มกันเก่ยี วกับกจิ กรรมท่ไี ด้ยิน จากน้นั ครูสุ่มถามแต่ละกลุม่ และเขยี น
คำตอบบนกระดาน

I can drive through the park, watch animals, go river rafting, feed the
animals, have a fun water experience and adopt animal.
5. นกั เรียนอา่ นออกเสียงคำศพั ท์ในกรอบ Check these words และช่วยกนั บอกความหมาย ถา้ คำใดท่ี
ไม่รใู้ หเ้ ปดิ พจนานกุ รมหาความหมาย
rare (adj) = not seen or found very often (ซึ่งหายาก)
ride (n) = a large machine that people ride on for fun at a fair (เครื่องเล่น

ในสวนสนกุ )
adopt (v) = to accept (รับ)
buddy (n) = a friend (เพือ่ น)
6. หนังสือเรยี น หนา้ 14 Ex. 1c นกั เรียนบอกช่ือสตั ว์ท่เี ห็นในภาพ และสะกดคำศพั ท์พร้อมกัน

1 A giraffe 2 A rhino 3 An elephant 4 The zebras

ขัน้ Practice
1. THINK! หนังสอื เรียน หน้า 14 ครอู ธบิ ายวา่ ให้นักเรยี นสมมติว่าตอ้ งการไป West Midland Safari

and Leisure Park แล้วเขียนประโยคบอกเหตุผลท่ตี ้องการไปตามความคิดเห็นของตนเอง

... I’d like to see all the animals and go on the rides there. It sounds like a
great place.

2. ครูสมุ่ เรยี กนักเรียน 3-4 คน อา่ นประโยคให้เพื่อนฟงั ครูเขยี นประโยคบนกระดาน จากน้นั ถามนักเรยี น
ในชน้ั ว่าใครมีเหตุผลต่างไปจากเพ่อื น ใหน้ ักเรยี นคนดงั กลา่ วบอกเหตุผลของตนเอง

ขน้ั Production
1. หนังสอื เรียน หนา้ 14 Ex. 3 ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกนั บอกช่ือของ Safari และ Leisure Park ในประเทศ

ไทย จากนน้ั ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มระดมสมองเกี่ยวกับสัตวแ์ ละกจิ กรรมทม่ี ใี น Safari ในประเทศไทย
และกิจกรรมทีส่ ามารถทำใน Leisure Park ให้แต่ละกลมุ่ จดบนั ทึกขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการระดมสมอง
2. ครูใหต้ วั แทนกลมุ่ แตล่ ะกลุม่ นำเสนอข้อมูลทไี่ ด้จากการระดมสมอง แลว้ ให้นักเรียนเปรยี บเทียบขอ้ มูล
ของกลุ่มตนเองกบั กลมุ่ อ่นื และบนั ทกึ ขอ้ มูลเพิ่มเตมิ หากเหน็ ด้วยกบั ขอ้ มลู ทีก่ ลุม่ อนื่ นำเสนอ จากนน้ั ให้
นักเรยี นร่วมกนั เปรยี บเทยี บ Safari และ Leisure Park ในประเทศไทยกับ West Midland Safari and
Leisure Park เกี่ยวกับสตั ว์และกิจกรรมทีส่ ามารถทำได้
3. ครูให้แต่ละกลุ่มเก็บข้อมูลไวเ้ พ่ือทำกิจกรรมในช่วั โมงหนา้

7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

สอ่ื 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2
วัสดอุ ุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสือ่ ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรียนรู้ 3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2

1) พจนานุกรมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์

3) ตวั อย่างโฆษณาสถานทท่ี ่องเทยี่ ว
1) หอ้ งสมดุ

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลุม่ บริหารวชิ าการ / ผู้บริหาร / ผู้ทไี่ ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวทิ ย)์
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6

เร่ือง Skills 1c
**********************************************************************************
บันทกึ วัน เดอื น ปีทใ่ี ช้สอน

ชัน้ /กลุ่ม
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นักเรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลกั ษณะที่อนั พึงประสงค์ (A)– มีสขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/สง่ิ ทพ่ี ัฒนา วิธีแกไ้ ข/พฒั นา และผลการแกไ้ ข/พัฒนา
ปญั หา/สง่ิ ท่ีพัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ.............................................ครูผู้สอน ลงชือ่ ...........................................หัวหนา้ กลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผอู้ ำนวยการ ลงชือ่ ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนญู กลับกล่อม) (นายนราวธุ สุจติ ะพันธ์)

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรื่อง Skills 1c

รหัสวิชา อ22101 รายวิชา ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน
ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัดชัน้ ปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี งั และอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตุผล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวข้อเรอื่ ง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเร่ืองทฟี่ ังและอา่ น พร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง งา่ ย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการ
พูดและการเขียน
ตัวชว้ี ัด
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณ์ท่ีอยู่ในความสนใจของสังคม
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ช้วี ัด

ต 2.2 ม. 2/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งชีวิตความเปน็ อย่แู ละ
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั ของไทย

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกับใจความสำคัญ ใจความสนับสนุน และเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบต่าง ๆ ในการเขียน

จะชว่ ยใหส้ ามารถนำคำศพั ท์และประโยคไปใชใ้ นการเขยี นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตามโครงสรา้ งของการเขียน

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพ่ือให้บรรลุตามตัวชีว้ ดั )

1. อา่ นบทความ บอกความหมายคำศพั ทใ์ นเรอ่ื งทอ่ี า่ น ได้
2. อา่ นเรอื่ งแลว้ จบั ใจความสำคญั และตอบคำถามจากการอา่ นได้

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verb (adopt)


Click to View FlipBook Version