The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by coach.pranalee36, 2022-10-08 09:31:19

แผนการสอน อ 22101

รวมแผนหน่วย1-4

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 เรอื่ ง ASEAN corner 2

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง Myths & Legends เวลา 1 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้วี ัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ข้อเร่อื ง ใจความสำคัญ บอกรายละเอยี ดสนบั สนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เรื่องท่ฟี งั และอ่าน พรอ้ มทง้ั ให้เหตุผลและยกตวั อย่าง งา่ ย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ชวี้ ัด
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขยี นเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเรอ่ื งทฟี่ งั หรือ
อา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตัวชี้วัด

ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรปุ ใจความสำคัญ/แกน่ สาระ หัวขอ้ เร่อื ง (topic) ท่ไี ดจ้ ากการวิเคราะห์
เรื่อง/ข่าว/เหตกุ ารณ์ที่อยู่ในความสนใจของสงั คม

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของภาษา โดยเฉพาะภาษาที่ใช้ในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน

ช่วยให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดผลประโยชน์และโอกาสทั้งทางด้านเศรษฐกิจและ
การศกึ ษา

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมเพ่ือให้บรรลตุ ามตวั ชว้ี ัด)
1. สามารถเขยี น ประโยคตา่ ง ๆ และบทความเกยี่ วกับบุคคลได้อยา่ งถูกตอ้ ง
2. สามารใชภ้ าษาในประเทศกลุม่ ประชาคมอาเซียนในการสือ่ สารไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (launch, adapt, pray, transform, celebrate)
Nouns (festival, gratitude, drought, famine, tradition)

Adjectives (diverse, embarrassed)

Phrase (pay respect)

3.2 ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียนการต์ นู ช่องเกย่ี วกับตำนานในประเทศไทยหรือประเทศกล่มุ ประชาคม

อาเซยี น

Cultures ประเพณที เ่ี กย่ี วข้องกับตำนาน

3.2 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมั่นในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน

1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคณุ ลักษณะของผูเ้ รียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เป็นเลศิ วิชาการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ลำ้ หน้าทางความคดิ
4) ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์
5) รว่ มกันรบั ผดิ อบต่อสังคมโลก

4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้)
ช้ินงาน
1) บทความเก่ยี วกบั ชุมชนอารยธรรมโบราณ
2) สรุปชีวประวตั ขิ อง Abraham Lincoln จากข้อความทอ่ี ่าน
3) ชวี ประวัตโิ ดยย่อของ Queen Victoria

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พูดบรรยายลักษณะและนสิ ัยของบุคคลอนื่
2) เขียนสรปุ เร่อื ง

3) เขยี น paragraph เกี่ยวกับกจิ กรรมท่ีตนเองทำในวนั สดุ สปั ดาห์ทีผ่ ่านมา
4) เขยี นอเี มล

5) แต่งบทสนทนาเก่ยี วกบั ภาพยนตรท์ ี่ดูทางโทรทัศน์
6) แสดงบทบาทสมมติ

5. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

ส่งิ ทวี่ ัดผล วธิ กี ารวดั เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การ

ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝึกหดั (Workbook) รอ้ ยละ 60

เรื่องท่ีอา่ น

ดา้ นทักษะและ ประเมินชิ้นงานการ์ตนู ช่อง แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) เกี่ยวกบั ตำนานของไทยหรอื

ประเทศกลุ่มประชาคม

อาเซียน

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ สังเกตความใฝ่เรียนรู้และ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความม่งุ ม่ันในการทำงาน อันพงึ ประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ สงั เกตการแสดงความคิดเห็น แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดับคณุ ภาพ พอใช้

ผ้เู รียน ( C ) เกย่ี วกบั ภาษาทีน่ ักเรยี นไทย เรียนรู้

ควรเรียนรู้

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั Warm up
ครูสนทนากับนักเรยี นเกีย่ วกบั ตำนานตา่ ง ๆ ซึง่ เป็นท่ีมาของประเพณไี ทย

ขั้น Presentation

1. ครใู หน้ ักเรียนดภู าพและอ่านชื่อเรือ่ งในหนงั สือเรยี น หน้า 30 แลว้ ครูสนทนากับนักเรียนเก่ยี วกับ
ประเพณที เ่ี กีย่ วขอ้ งกบั ภาพและช่อื เร่ืองดังกล่าว รวมทง้ั จังหวัดทมี่ กี ารจดั กจิ กรรมเก่ียวกับประเพณนี ี้

2. ครูให้นักเรียนอ่านย่อหนา้ ท่ี 1 และยอ่ หนา้ สุดทา้ ย แล้วบอกใจความสำคัญของแต่ละยอ่ หน้า
3. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุม่ กลุม่ ละ 4 คน ให้แต่ละกลุ่มอ่านเร่อื ง Asking for rain และขดี เสน้ ใต้คำศัพท์

ยาก ครูสมุ่ เรยี กนกั เรียนใหอ้ า่ นคำศัพท์ทีข่ ีดเส้นใต้กล่มุ ละ 1 ยอ่ หน้า คำใดทน่ี กั เรยี นอ่านไม่ถกู ตอ้ ง ให้

อ่านตามครูพร้อมกนั จากนั้นให้นกั เรียนช่วยกนั เดาความหมายของคำศัพท์ ถา้ คำใดนกั เรยี นไม่รู้ใหห้ า
ความหมายจากพจนานกุ รม

launch (v) = to send a weapon or spacecraft into the sky or into space
(ปล่อย)

gratitude (n) = the feeling of being grateful (ความรู้สกึ สำนึกในบญุ คณุ )

diverse (adj) = very different from each other (หลากหลาย)
4. หนังสือเรยี น หน้า 30 Ex. 1 ครูสมุ่ เรียกนกั เรียนอ่านคำถามกลุม่ ละ 1 ขอ้ พร้อมท้งั บอก Key words

ในคำถามของคำถามทอี่ า่ น

5. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันตอบคำถามใน Ex. 1 เสรจ็ แลว้ ครขู อตวั แทนกล่มุ บอกคำตอบ

1 To ask for rain and show gratitude to the rain god.
2 He was Lord Buddha.
3 Eight years and eight months.
4 People adapt stories to their culture.
5 Fancy parades. (or a stage performance of the love story ‘Phadaeng -

Nang Ai’/ outdoor cinema/Morlam)

ขั้น Practice
1. นักเรยี นอา่ นเร่อื ง Asking for rain อกี ครั้ง หลงั จากนนั้ ปดิ หนังสือเรยี น
2. ใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมใน Worksheet 1 (อยทู่ ้ายแผน ฯ ASEAN corner 2) โดยเติมคำในประโยค

เสรจ็ แลว้ ครูเฉลยคำตอบ หลงั จากนัน้ ครขู ออาสาสมัครอา่ นประโยคท่เี ติมคำสมบรู ณ์แล้ว

1 festival 2 gratitude 3 respectful

4 golden 5 jealous 6 had prayed
9 traditional
7 embarrassed 8 drought, famine

10 celebrate, fancy parades

ขน้ั Production
1. หนังสือเรยี น หนา้ 30 Ex. 2 ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ค้นคว้าข้อมูลเกย่ี วกบั ตำนานในประเทศไทยหรอื

ในประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียนจากอินเทอรเ์ น็ต กลมุ่ ละ 1 ตำนาน แล้วนำขอ้ มูลมาจัดทำเปน็ การต์ ูน
ชอ่ งเพื่อนำเสนอในครงั้ ต่อไป
7. ส่ือ/อุปกรณ/์ แหลง่ เรยี นรู้

สือ่ 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่อื ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
วัสดุอปุ กรณ์ 3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรียนรู้
1) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์

1) ห้องสมดุ

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคิดเห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ / ผบู้ รหิ าร / ผู้ท่ีได้รบั หมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชื่อ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวิทย)์
ตำแหนง่ ครู
วนั ที่ 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทกึ ผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
รหสั วชิ า อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 14

เรื่อง ASEAN corner 2
**********************************************************************************
บันทกึ วนั เดือน ปที ี่ใชส้ อน

ช้นั /กลุ่ม
วนั /เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่ีอนั พึงประสงค์ (A)– มีสุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สง่ิ ทพ่ี ัฒนา วธิ ีแก้ไข/พัฒนา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปัญหา/สิ่งที่พฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครผู สู้ อน ลงชอื่ ...........................................หวั หน้ากลุม่ สาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผ้อู ำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรียน

(นายมนญู กลับกลอ่ ม) (นายนราวธุ สุจติ ะพันธ)์

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 เรอ่ื ง O-NET practice & Fun time 2

รหัสวชิ า อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง Myths & Legends เวลา 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั ชัน้ ป/ี ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งท่ฟี งั และอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ข้อเร่ือง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนบั สนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรือ่ งที่ฟงั และอา่ น พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง ง่าย
ๆ ประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชว้ี ัด

ต 2.1 ม. 2/3 เข้ารว่ ม/จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การรูแ้ ละเข้าใจคำศัพท์ โครงสรา้ งภาษา ช่วยให้พูด/เขียนส่ือสาร และเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสม

จุดประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมเพ่อื ใหบ้ รรลุตามตัวชีว้ ดั )

1. สามารถบอกความหมายคำศพั ท์ ตอบคำถามจากการอ่านไดถ้ กู ตอ้ ง
2. สามารถเขยี นบรรยายลกั ษณะตนเองและบคุ คลอื่นได้

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: คำศัพท์ในหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1
Grammar: ไวยากรณใ์ นหนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพ่อื หาข้อมูลเฉพาะ

Writing: เขยี น quiz เก่ยี วกับเน้ือหาท่เี รยี นมาแลว้

3.2 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคุณลกั ษณะของผูเ้ รียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เปน็ เลศิ วิชาการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ลำ้ หนา้ ทางความคดิ
4) ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์
5) รว่ มกันรับผิดอบต่อสงั คมโลก

4. ช้นิ งาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความร้)ู
ชนิ้ งาน
1) บทความเกย่ี วกับชมุ ชนอารยธรรมโบราณ
2) สรุปชวี ประวตั ขิ อง Abraham Lincoln จากข้อความทอ่ี า่ น
3) ชวี ประวัตโิ ดยย่อของ Queen Victoria

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู บรรยายลกั ษณะและนิสยั ของบคุ คลอน่ื
2) เขียนสรปุ เรือ่ ง
3) เขยี น paragraph เกี่ยวกบั กจิ กรรมท่ีตนเองทำในวันสดุ สปั ดาหท์ ผี่ ่านมา
4) เขียนอีเมล
5) แตง่ บทสนทนาเกย่ี วกบั ภาพยนตร์ทด่ี ูทางโทรทัศน์
6) แสดงบทบาทสมมติ

5. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

สิ่งที่วัดผล วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์การ

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการเขียน quiz แบบฝกึ หัด (Workbook) ร้อยละ 60

เกยี่ วกับเน้อื หาในหนว่ ยการ

เรียนรู้ท่ี 2

ด้านทักษะและ ประเมนิ การเขยี นสรุปผลการ แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) อภปิ รายในประเด็นทกี่ ำหนด

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ สังเกตความใฝ่เรยี นรแู้ ละ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคณุ ภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน อนั พึงประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคญั ของ สังเกตการแสดงความคิดเหน็ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ ระดับคุณภาพ พอใช้

ผเู้ รียน ( C ) เกย่ี วกบั ภาษาที่นักเรยี นไทย เรียนรู้

ควรเรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
นักเรยี นเปิดดูหนงั สอื เรยี น หน้า 31-32 แล้วบอกครวู า่ กจิ กรรมท่ีนักเรียนคิดวา่ จะได้ทำในชวั่ โมงนี้ มี

อะไรบ้าง

ข้นั Presentation
1. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกคำศพั ทท์ ่ีเรยี นในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ้ี โดยแยกตามหมวดหมู่คำศัพท์
2. นกั เรยี นปดิ หนงั สอื เรยี น ครทู บทวนไวยากรณ์ทีเ่ รียนในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ี้ โดยให้นกั เรียนบอกโครงสร้าง

และหลักการใช้ ครูเขยี นในรูป mind map จากน้นั ส่มุ เรียกนักเรยี นแต่งประโยคโดยใชไ้ วยากรณ์ท่เี รียน

Past simple
(regular &
irregular verbs

Prepositions ไวยากรณ์
of หน่วยการ
เรียนรู้ท่ี 2
movement
Used to

ขั้น Practice
1. หนังสอื เรียน หนา้ 32 Ex. 1 ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มแข่งกนั เลน่ เกม โดย
อ่านคำใบ้ที่ใหม้ าแล้วทายว่าคือใคร กลุ่มใดทายได้ครบทุกขอ้ ก่อนให้ยกมอื ขึ้น แล้วครูอา่ นคำใบ้ ให้กลมุ่
ดังกล่าวบอกชอ่ื บคุ คล โดยใหก้ ลุ่มทเ่ี หลอื ชว่ ยกนั ตรวจว่าถูกหรอื ไม่

1 Marie Curie 2 the Romans 3 Finn MacCool
4 Pocahontas 5 Abraham Lincoln

2. หนังสือเรียน หน้า 32 Ex. 2 ครูให้นักเรียนทำ quiz โดยห้ามเปดิ ดเู นือ้ หา เพอื่ ทดสอบความจำของ
นักเรียน จากนนั้ ครูเฉลยคำตอบ และใหน้ กั เรยี นปรบมอื ชมเชยเพือ่ นคนทต่ี อบถูกมากท่ีสุด

1 an American president 2 enemy 3 science-fiction
4 real name 5 1865

3. หนงั สอื เรียน หน้า 32 GAME ครแู บง่ นกั เรยี นเป็น 5 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มใช้คำท่ีกำหนดให้ในกรอบทงั้ สอง
แต่งประโยคภายในเวลาที่ครูกำหนด เมอ่ื หมดเวลาครูใหต้ วั แทนกลุ่มอา่ นประโยคทแ่ี ต่ง ถ้าแตง่ ประโยค
ถูกต้องจะได้ประโยคละ 1 คะแนน กลมุ่ ท่มี ีคะแนนมากทีส่ ดุ จะเปน็ ผู้ชนะ

 Pocahontas tried to promote peace.
 Good parents teach their children to have good manners.
 Ash from the volcanic eruption filled the atmosphere.
 Angelina Jolie is famous for her full lips.
 My sister has curly hair.
 The Maya built magnificent stone buildings.
 The Giant’s Causeway is a true wonder of nature.
 The Maya was an ancient civilisation around Central America.
 Of all Britain’s myths and legends, King Arthur is probably the most famous.
 My brother is an honest person.

4. หนังสือเรียน หนา้ 32 Ex. 4 นักเรียนจบั คูก่ นั อ่านเนอ้ื เพลง และเตมิ คำลงในช่องวา่ ง จากนน้ั ครเู ปดิ CD
ให้นักเรยี นฟังเพลง เม่อื ฟงั จบครสู มุ่ เรยี กนักเรยี นบอกคำตอบ

1 fight 2 around 3 true
4 strong 5 place

5. หนงั สือเรียน หน้า 31 O-NET Practice ครใู หเ้ วลานกั เรยี นทำขอ้ สอบ เสรจ็ แลว้ ตรวจคำตอบรว่ มกนั ถ้า
นกั เรียนไมเ่ ข้าใจ ใหค้ รอู ธิบายเพมิ่ เติม

Ex. 1 1 A d, B b 2 A c, B a
Ex. 2 1 c 2 b 3 d 4 c 5 a

ข้นั Production
หนังสอื เรียน หนา้ 32 Ex. 3 นกั เรยี นจบั คูก่ นั แล้วครูแจกกระดาษใหค้ ู่ละ 1 แผ่น ใหแ้ ต่ละค่เู ขยี น quiz 5-6
ขอ้ เก่ียวกบั เนอ้ื หาในหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 โดยดู Ex. 2 เป็นต้นแบบ ครใู ห้นกั เรียนเปิดดูเนอื้ หาได้ และ
ยกตวั อย่างใหด้ ูบนกระดาน เช่น Pocahontas was from … . (Virginia, USA) โดยให้นกั เรียนเขยี นคำตอบ

ไว้ด้านหลังกระดาษ เมอ่ื ทุกคู่เขยี นเสร็จแล้วให้แลกกนั ทำ quiz กับคู่อืน่

1 The Mayan civilisation lasted for … . (over 2,000 years)
2 Powhatan was … . (Pocahontas’ father and an important Indian chief)

3 John Cusack stars in … . (2012)
4 Benandonner was from ... . (Scotland)
5 Pocahontas married ... . (John Rolfe)

6 Abraham Lincoln was … President of the USA. (the 16th)

7. ส่อื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรียนรู้

ส่อื 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
วสั ดอุ ุปกรณ์ 3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรยี นรู้
1) พจนานุกรมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์

1) ห้องสมุด

ลงช่อื ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บริหารวชิ าการ / ผบู้ รหิ าร / ผู้ท่ีได้รบั หมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอ่ื ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวิทย์)
ตำแหนง่ ครู
วนั ที่ 12 พฤษภาคม 2565

บันทึกผลหลงั แผนการจดั การเรยี นรู้
รหสั วชิ า อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 15

เรอ่ื ง O-NET practice & Fun time 2
**********************************************************************************
บนั ทึกวนั เดอื น ปีทใี่ ช้สอน

ช้นั /กลุ่ม
วนั /เดือน/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นกั เรียน…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่ีอันพึงประสงค์ (A)– มีสุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/ส่ิงทพ่ี ัฒนา วธิ แี ก้ไข/พฒั นา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปญั หา/สงิ่ ทพ่ี ัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธแี กไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ.............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...........................................หวั หนา้ กลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผอู้ ำนวยการ ลงชอื่ ...........................................ผู้อำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกล่อม) (นายนราวุธ สุจติ ะพนั ธ์)

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง Let’s Party!

รหสั วิชา อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 15 ชั่วโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อยา่ งมีเหตผุ ล
ตัวชีว้ ัด
ต 1.1 ม. 2/2 อ่านออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ม. 2/3 ระบ/ุ เขยี นประโยคและข้อความให้สมั พนั ธก์ บั สอ่ื ทไ่ี ม่ใชค่ วามเรยี งรูปแบบตา่ ง ๆ ทีอ่ ่าน
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่อื ง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และ

แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรอ่ื งทฟี่ งั และอ่านพร้อมทงั้ ให้เหตุผลและยกตวั อย่าง งา่ ย ๆ
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมลู เกีย่ วกับตนเอง เรือ่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ ่าง ๆ ใน
ชีวติ ประจำวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่อื งทีฟ่ ังหรอื
อา่ นอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกับเร่อื งตา่ ง ๆ กจิ กรรม
และประสบการณ์ พรอ้ มทัง้ ให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตา่ ง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตวั ชี้วดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวัน ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณ์ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสำคัญ/แกน่ สาระ หวั ข้อเรื่อง (topic) ที่ไดจ้ ากการวเิ คราะห์
เรอ่ื ง/ขา่ ว/เหตุการณท์ ี่อยู่ในความสนใจของสังคม

ต 1.3 ม. 2/3 พดู และเขียนแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับกจิ กรรม เร่อื งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์
พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลสน้ั ๆ ประกอบ

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ ได้

อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชว้ี ัด
ต 2.1 ม. 2/1 ใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกริ ิยาท่าทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/2 อธบิ ายเกี่ยวกบั เทศกาล วันสำคญั ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณขี องเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เข้าร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ช้วี ดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี ง ประโยค

ชนิดตา่ ง ๆ และการลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย
ต 2.2 ม. 2/2 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างชีวติ ความเป็นอยแู่ ละ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธก์ บั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ืน่ และเปน็
พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจริงท่ีเก่ียวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่ืนจาก
แหลง่ การเรียนรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสมั พันธก์ ับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม
ตวั ชวี้ ัด
ต 4.1 ม. 2/1 ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่เี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี น สถานศึกษา
และชุมชน
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครือ่ งมือพนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และ
การแลกเปลี่ยนเรยี นรูก้ บั สังคมโลก
ตัวช้วี ัด
ต 4.2 ม. 2/2 เผยแพร่/ประชาสมั พนั ธ์ขอ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรียนเปน็ ภาษาต่างประเทศ

2 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

การเรียนรู้และเขา้ ใจคำศัพท์ ประโยค โครงสร้างภาษา และการเรยี งลำดบั เหตุการณ์ ช่วยให้เข้าใจ
ใจความสำคัญ รายละเอยี ด และสรุปเรอื่ งท่อี า่ นและฟัง และสามารถแลกเปลีย่ นความคิดเห็น นำส่ิงที่
เรยี นรู้ไปใชใ้ นการพูดและเขยี นสอื่ สารเกี่ยวกบั เทศกาลและการเฉลมิ ฉลองไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม
ตลอดจนเข้าใจในความเหมอื นและความต่างของภาษาอังกฤษและภาษาไทย และเขา้ ใจในมารยาทและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา รวมถงึ เขา้ ใจในวฒั นธรรมและประเพณีในประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียน

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions

Vocabulary: Festivals/Celebrations (eat a traditional meal, wear masks,

watch a street parade, wear traditional costumes, dance to
music, open presents, listen to a band, paint their faces, watch

a fireworks display)
Feelings (thrilled, happy, disappointed, surprised, sad, tired,
bored)

Expressing surprise (Incredible, isn’t it?, Are you kidding?, That’s
shocking., You must be kidding/joking., No way.)

Expressing regret/sympathy (Oh dear!, That’s too bad., I’m really
sorry., That’s awful/terrible.)
Verbs (prepare, come alive, greet, come to life, organise, race,

take place, travel, move from side to side, wonder, step back,
rely on, gather, apologise)

Nouns (celebration, nut, feast, temple, snapshot, live music,
parade, mask, icing, bean, boat ride, fairytale castle, haunted
house, parade, pirate ship, roller coaster, merry-go-round,

cartoon character, guest, cowboy, ride, speed, buddy, wildlife
project, regatta, competitor, decoration, race, lake, bathtub,

banks of the river, prize, winner, bucket, legend, journey, edge,
log, gratitude, famine, cerebration, harvest, respect, crop,
harmony, purpose, pollution, campaign)

Adjectives (brilliant, gigantic, ancient, colourful, oval, scary,
exhausted, wet, giant, excited, misty)

Grammar: Phrases (believe my eyes, hold your breath, in horror)
Past simple

Past continuous

Functions: Past simple & Past continuous
Asking for opinions

Do you like the party?
What did you think of the party?

Expressing opinions

I was happy. I really liked it.
It was boring.

Describing actions were happening at a certain time in the past

Last Monday morning I was having an English lesson at school.

Describing Disneyland

I liked the parade. It was amazing with colourful clothes.

Narrating past events

We were celebrating Gibraltar National Day and we went

walking around the famous Gibraltar Rock. Everyone was

wearing red and white and holding hands.

Describing festivals

The International Bathtub Regatta takes place every August in

Dinant, Belgium.

Narrating a story

First, they started their journey to Loch Ness. Then they reached

the lake and John walked to the lake to take pictures.

Pronunciation: Intonation (high rising tone to express disbelief & great surprise)

Wow!, That’s great!, Really?, How interesting!

2) Language Skills

Listening: ฟงั เพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังเพ่อื จบั ใจความสำคัญ

Speaking: พูดขอและแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเทศกาล, สนทนาเกี่ยวกบั สง่ิ ทบ่ี คุ คล

กำลังทำในอดตี ทรี่ ะบุเวลาแน่นอน, พดู แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั การ ไป

เทย่ี ว Disneyland, พูดสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนด, แสดงความคดิ เห็น

เกี่ยวกบั การรักษาสง่ิ แวดล้อมในโรงเรียน

Reading: อ่านเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียนอเี มล, เขยี นบรรยายสงิ่ ท่ีบคุ คลกำลังทำในอดีตทรี่ ะบเุ วลาแน่นอน,

เขียนโฆษณาเกย่ี วกบั สวนสนกุ , แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนด,

เขียนเกย่ี วกับเทศกาล, เขยี นสรุปเร่ืองท่อี า่ น, เขียนเร่อื งเล่า, เขียนสรุปผลการ

อภปิ ราย

3) Cultures เทศกาล

4 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

1) ใฝเ่ รยี นรู้
2) มงุ่ ม่ันในการทำงาน
3) อยู่อย่างพอเพียง
4) มจี ิตสาธารณะ
5) ซื่อสตั ยส์ ุจริต
6) มวี นิ ัย
7) รักความเปน็ ไทย
8) รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์

5 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสือ่ สาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6 ดา้ นคุณลกั ษณะของผูเ้ รยี นตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล
1) เป็นเลศิ วชิ าการ
2) ส่ือสารสองภาษา
3) ลำ้ หนา้ ทางความคดิ
4) ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์
5) ร่วมกันรบั ผิดชอบต่อสงั คมโลก

7 บรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. หลักความพอประมาณ
2. หลกั ความมีเหตผุ ล
3. หลกั ภูมิคุ้มกัน
4. เง่ือนไขความรู้
5. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม

8 ชิน้ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้)
1) เขยี นอเี มลเล่าเหตุการณเ์ ก่ียวกบั งานเทศกาล
2) พูดสนทนาขอและแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับงานเลย้ี งหรือเทศกาลทเี่ ข้ารว่ ม
3) เขียนบรรยายส่งิ ท่ีสมาชกิ ในครอบครวั ทำ
4) ชิ้นงาน Mini book
5) พดู แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับการไปเทย่ี ว Disneyland
6) ชน้ิ งานโฆษณาสวนสนุก
7) เขียนอีเมลเล่าเกี่ยวกับการไปเทย่ี วสวนสนุก
8) แสดงบทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด
9) เขียนนำเสนอเก่ยี วกบั เทศกาลของไทย
10) ช้นิ งานโปสเตอร์เก่ยี วกบั Loch Ness
11) เขียนเร่อื งเลา่
12) ชิน้ งานโปสเตอร์รณรงค์รกั ษาสภาพแวดลอ้ มในโรงเรียน

9 การวดั และการประเมินผล

ส่ิงทว่ี ดั วิธีการวัด เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์การ
ประเมินผล
ด้านความรู้ (K) ตรวจการตอบคำถามจากการ แบบฝึกหดั ร้อยละ 60
อา่ นหรือการฟงั (Workbook)
ด้านทกั ษะและ สังเกตการพูดสนทนาขอและ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ
กระบวนการ (P) แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับงาน การเรียนรู้ พอใช้
เลย้ี งหรอื เทศกาลทีเ่ ข้าร่วม
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึง สงั เกตการณ์พดู อธบิ าย แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ
ประสงค์ (A) กจิ กรรมทีช่ อบ การเรยี แบบประเมนิ พอใช้
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
ดา้ นสมรรถนะสำคัญ ม่งุ มั่นในการทำงาน อันพึงประสงคน์ รู้
ของผเู้ รยี น (C) ประเมนิ การเขยี นอีเมลเล่า แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ
เกีย่ วกบั การไปเท่ียวสวนสนกุ พอใช้

10

10 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้

กิจกรรมการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่3 เร่ือง Let’s Party! (เวลา 15 ชั่วโมง)

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง Reading 3a & Vocabulary 3a
รหสั วชิ า อ22101 รายวิชา ภาษาองั กฤษพื้นฐาน

ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง Let’s Party! เวลา 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั ช้นั ปี/ผลการเรียนรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ฟี ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เรื่องท่ีฟังและอา่ นพรอ้ มท้งั ให้เหตุผลและยกตัวอยา่ ง ง่าย ๆ
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั
ต 1.2 ม. 2/4 พดู ละเขียนเพือ่ ขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรอ่ื งท่ฟี งั หรอื
อ่านอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สกึ และความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม
และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ ง ๆ โดยการ
พูดและการเขียน
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง กิจวัตรประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับกิจกรรม เรือ่ งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และประสบการณ์
พร้อมทงั้ ให้เหตุผลส้นั ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พันธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กิดขนึ้ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา
และชุมชน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คำศัพทแ์ ละประโยคต่าง ๆ เกยี่ วกบั เทศกาลและการเฉลิมฉลอง ช่วยในการจับใจความสำคัญ

และรายละเอียดของข้อมูลที่อ่านและฟัง รวมถึงสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูด/เขียนสื่อสารได้อย่าง
ถูกตอ้ ง ตลอดจนมีความเข้าใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

จุดประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมเพ่ือใหบ้ รรลตุ ามตวั ชวี้ ัด)

1. อ่านเรอ่ื ง จบั ใจความสำคัญบอกรายละเอยี ดเกย่ี วกับเร่อื งท่ีอา่ น และยกตัวอยา่ งประกอบได้
2. พูดและเขียน ขอ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่อื งท่ฟี ังและอ่านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Festivals/Celebrations (eat a traditional meal, wear masks,
watch a street parade, wear traditional costumes, dance to
music, open presents, listen to a band, paint their faces, watch
a fireworks display)
Feelings (thrilled, happy, disappointed, surprised, sad, tired,
bored)
Verbs (prepare, come alive)
Nouns (celebration, nut, feast, temple, snapshot, live music,
parade, mask, icing, bean)
Adjectives (brilliant, gigantic, ancient, colourful, oval)
Grammar: Past simple
Functions: Asking for opinions
Do you like the party?
What did you think of the party?
Expressing opinions
I was happy. I really liked it.
It was boring.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)
Listening: ฟงั เพอ่ื หาข้อมลู เฉพาะ
Speaking: พูดขอและแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเทศกาล

Reading: อ่านเพือ่ หาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขยี นอเี มล

3.2 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1) ใฝ่เรยี นรู้

2) มุ่งมั่นในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3.4 ดา้ นคุณลกั ษณะของผ้เู รียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลศิ วิชาการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด

4) ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกนั รับผดิ อบตอ่ สงั คมโลก

4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (หลักฐานร่องรอยแสดงความร)ู้
ชนิ้ งาน
1) บทสนทนาขอและแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับงานเลย้ี งหรือเทศกาลท่ีเข้าร่วม

ภาระงาน (รวบยอด)

1) เขยี นอีเมลเล่าเหตุการณเ์ กี่ยวกับงานเทศกาล

5. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

สิ่งที่วดั ผล วธิ ีการวัด เครือ่ งมือวัดผล เกณฑก์ าร

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60

การอ่านหรือการฟงั

ด้านทักษะและ สงั เกตการพดู สนทนาขอและ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดับคณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั เรียนรู้

งานเล้ยี งหรือเทศกาลที่เขา้

ร่วม

ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึง สงั เกตความใฝ่เรยี นรู้และ แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน อันพึงประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ ตรวจการเขียนอีเมลเล่า สมุดนกั เรยี น -

ผู้เรยี น ( C ) เหตุการณเ์ ก่ยี วกับงาน

เทศกาล

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขั้น Warm up
1. นกั เรยี นอา่ นช่ือหน่วยการเรยี นรู้ (Let’s Party!) ในหนังสือเรียน หนา้ 33 แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็

ว่าน่าจะเกย่ี วข้องกับอะไร
2. Find the page numbers for หนา้ 33 จากนัน้ ให้นักเรียนหาวา่ ภาพทเี่ กยี่ วข้องกบั ทั้ง 3 คำน้ีอยูใ่ น

หนงั สอื เรียนหนา้ ใด เมอื่ หาพบแลว้ ครูถามคำถามเพ่อื ดึงความสนใจของนกั เรยี นเขา้ สูบ่ ทเรยี น

an email (p. 35)
Do you write emails? How often? Who to? Why (not)?
a story (p. 41)
Do you like stories? What is your favourite type of story? Why?
funny boats (p. 40)
Do you have any funny boats in your country?
Where can you see them? How many types of boats do you know of?

ข้ัน Pre-reading
1. ครูเขียนคำวา่ celebrations บนกระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกันบอกคำศพั ทท์ เ่ี ก่ียวข้อง เช่น street

parade, costumes, dance
2. หนังสอื เรียน หน้า 33 Ex. 1 ครูเปิด CD ให้นกั เรียนฟังวลีเกีย่ วกบั ประเพณแี ละการเฉลิมฉลอง แล้ว

ออกเสยี งตาม จากนั้นครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงดว้ ยตนเองพร้อมกัน แลว้ ช่วยกันนบอกความหมาย
ของวลีเหลา่ นี้
3. หนังสือเรยี น หนา้ 33 Ex. 2 ครูพูดบรรยายภาพที่ 1-2 เป็นตวั อย่าง และเขยี นประโยคบนกระดาน
They ate a traditional meal. They wore masks. ให้นกั เรยี นสงั เกตคำกริยาในประโยคว่าใช้
tense ใด (Past simple) เมอ่ื นกั เรียนเขา้ ใจแล้วว่าตอ้ งใชค้ ำกรยิ าในรูปใด ครใู ห้นกั เรียนพูดบรรยายท่ี
เหลอื

3 They watched a street parade.
4 They wore traditional costumes.
5 They danced to music.
6 They opened presents.
7 They listened to a band.
8 They painted their faces.
9 They watched a fireworks display.
4. หนงั สอื เรียน หน้า 34 Ex. 1a ครใู หน้ กั เรยี นนกึ ถงึ งานประเพณคี รัง้ สุดทา้ ยท่ีนักเรียนเขา้ รว่ ม นกั เรียน
ทำอะไรและเห็นอะไรในงานนน้ั บ้าง และนกั เรยี นชอบงานประเพณนี ั้นหรือไม่ จากนัน้ ครูส่มุ เรียก
นกั เรยี น 3-4 พูดให้เพ่ือนในชน้ั ฟงั

5. นกั เรยี นอ่าน Study Skills แลว้ ครูสรปุ ให้ฟงั วา่ การอา่ นชอื่ เรือ่ ง คำเกร่ินนำ และประโยคแรกของ แต่
ละยอ่ หน้าจะชว่ ยให้เราคาดเดาไดว้ า่ เรอื่ งทีจ่ ะอา่ นนน้ั เก่ยี วกับอะไร

6. หนังสือเรยี น หน้า 34 Ex. 1b นักเรยี นอ่านชอื่ เรอื่ ง คำเกร่ินนำ และประโยคแรกของบทอ่านในแต่ละ
กรอบ แล้วแสดงความคิดเหน็ ว่าบทอ่านในแต่ละกรอบนา่ จะเกย่ี วกบั อะไร

The first text is about Monkey Festival in Lopburi and another one is
about the Mardi Gras in New Orleans.

7. ครูให้นักเรียนปิดหนังสือเรียน แลว้ ช่วยกนั ตัง้ คำถามเกยี่ วกับประเพณีทงั้ สองในบทอา่ น ครูเขียนคำถาม
บนกระดาน จากน้ันให้นักเรยี นฟงั CD และจดบนั ทกึ ข้อมูลที่เกย่ี วข้องกบั คำถาม เมอ่ื ฟังจบครูถามว่าจด
ข้อมูลทนั หรือไม่ ถ้าไม่ทนั ครใู ห้นักเรยี นฟังอีกครั้ง แลว้ ร่วมกนั ตอบคำถาม

- What do people do at Mardi Gras? (They have parades, wear colourful

costumes and carnival masks and dance in the streets to music. They also

eat King Cake.)

- Is there any special food for the festival? (Yes, It’s King Cake.)

- Are there real monkeys at the Monkey Festival? (Yes, there are.)

- What do people do at the Monkey Festival? (They prepared a gigantic feast

for monkeys.)

8. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งคำศพั ทแ์ ละวลีในกรอบ Check these words ถ้าคำใดอ่านไม่ได้ให้อ่านตามครู

จากนั้นใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกความหมายของคำศพั ท์ ถ้าคำใดท่ีไมร่ ู้ ให้นกั เรยี นเปิดหาความหมายใน

พจนานกุ รม

gigantic (adj) = extremely big (ย่ิงใหญ)่

feast (n) = a large meal where a lot of people celebrate a

special occasion (อาหารทนี่ ำมาจดั เล้ยี ง)

snapshot (n) = a photograph taken quickly and often not very skill fully

(ภาพที่ถา่ ยอย่างรวดเร็ว)

come alive (idioms)= (of a subject or an event) to become interesting and

seems real (มชี ีวิตชวี า)

oval (adj) = shaped like an egg (วงรี หรือรปู ไข่)

icing (n) = a mixture made from very fine light sugar and liquid, used

to cover cakes (นำ้ ตาลหรอื ครมี โรยหน้าขนม)

9. หนงั สือเรยี น หนา้ 34 Ex. 2 นักเรียนจับคกู่ ัน อ่านคำถาม แล้วขดี เสน้ ใต้คำสำคัญในคำถามแต่ละขอ้

จากนั้นครูสุ่มเรียกนักเรยี น 6 คู่ บอกคำสำคัญในคำถามคู่ละ 1 ข้อ

ข้นั Reading
1. ครใู หน้ กั เรียนอา่ นบทอ่านในหนังสอื เรยี น หนา้ 34 เพื่อหาเนอื้ เรื่องส่วนทเ่ี กย่ี วข้องกบั คำสำคัญในคำถาม

จากน้ันจงึ ตอบคำถามท่ใี ห้มา
2. ครขู ออาสาสมัคร 2 คู่ บอกคำตอบ ให้คูแ่ รกบอกคำตอบข้อ 1-3 และค่ทู ี่ 2 บอกคำตอบข้อ 4-6 แลว้ ให้

นักเรยี นในชัน้ ช่วยกันตรวจคำตอบ

1 He went to the Monkey Festival in Lopburi, Thailand.
2 They prepare a gigantic feast for the monkeys and they have a big

parade with children in monkey costumes and play live music.
3 They wear monkey costumes.
4 In February
5 She watched parades, danced and tried the King Cake.
6 I buy the cake the next time.

ขนั้ Post-reading
1. หนงั สือเรยี น หนา้ 35 Ex. 3 ครใู ห้นักเรียนเติมคำกรยิ าที่กำหนดให้ลงในประโยค โดยใชร้ ปู Past

simple เสรจ็ แล้วครขู ออาสาสมัครออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน แลว้ ครูตรวจความถูกต้อง

1 had 2 came 3 wore 4 tried
5 were 6 prepared 7 took 8 was

2. หนงั สอื เรียน หน้า 35 Ex. 4a ครูใหน้ ักเรยี นหาคำกริยารูป Past simple ในบทอา่ น หน้า 34 แลว้
ชว่ ยกันพูดบอกครู ครเู ขยี นบนกระดาน จากนั้นใหน้ ักเรียนระบุว่าคำใดเปน็ irregular

went, was, were, prepared, put, climbed, pulled, hurt, took, listened, had,
came, danced, tried
Irregular: went, was, were, put, hurt, took, had, came

3. หนังสอื เรียน หน้า 35 Ex. 4b ครใู หน้ ักเรยี นเติมคำกริยาท่ีกำหนดใหล้ งในประโยค โดยใช้รูป Past
simple เสรจ็ แลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขยี นคำตอบบนกระดาน จากนน้ั ครูตรวจความถกู ต้อง แล้ว
ให้นกั เรียนอ่านประโยคพร้อมกนั

1 danced 2 laughed 3 celebrated
4 prepared 5 climbed

4. THINK! หนงั สือเรยี น หนา้ 35 ครูใหเ้ วลานกั เรียน 3 นาที เขียนแสดงความคิดเหน็ วา่ นกั เรียนต้องการ
เข้าร่วมประเพณีใดในบทอา่ น พรอ้ มบอกเหตผุ ล จากนั้นครูสุม่ เรยี กนักเรยี น 3-4 คน อ่านใหเ้ พอื่ นฟัง

I would like to go to the Monkey Festival in Lopburi. I like monkeys and I
love watching parades. It sounds like fun.
I would like to attend Mardi Gras in New Orleans. I love watching parades
and dancing. It sounds very exciting.

5. หนงั สอื เรียน หนา้ 35 Ex. 7 ครูใหน้ กั เรียนสมมตวิ า่ ตนเองไปงาน Monkey Festival แลว้ เขยี นอเี มล
เลา่ เหตกุ ารณ์ใหเ้ พอ่ื นฟัง

Dear Sue,
I had a great time in Lopburi, Thailand. It was the Monkey Festival and I
had a wonderful time. People prepared a feast and they put lots of nuts
and fruit on tables for the monkeys at an ancient temple. I watched an
amazing parade of children in monkey costumes. I was very happy.
Yours
Jane

6. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 20-21 Exs. 1-5 ใหน้ ักเรียนทำเป็นการบา้ น

7. สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2
4) พจนานกุ รมอังกฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) Power Point

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวชิ าการ / ผู้บรหิ าร / ผู้ทไี่ ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชือ่ ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวิทย์)
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทึกผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวิชา อ22101 รายวิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1

เรอ่ื ง Reading 3a & Vocabulary 3a
**********************************************************************************
บันทกึ วัน เดือน ปที ีใ่ ชส้ อน

ชัน้ /กลมุ่
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่ีอันพงึ ประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สิ่งท่ีพัฒนา วิธีแกไ้ ข/พัฒนา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปัญหา/สงิ่ ทพ่ี ัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ.............................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ...........................................หัวหน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงช่ือ.............................................รองผ้อู ำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกล่อม) (นายนราวุธ สุจติ ะพนั ธ)์

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง Reading 3a & Vocabulary 3a
รหสั วชิ า อ22101 รายวิชา ภาษาองั กฤษพื้นฐาน

ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง Let’s Party! เวลา 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั ช้นั ปี/ผลการเรียนรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอื่ งท่ฟี ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั เรื่องท่ีฟังและอา่ นพรอ้ มท้งั ให้เหตุผลและยกตัวอยา่ ง ง่าย ๆ
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั
ต 1.2 ม. 2/4 พดู ละเขียนเพือ่ ขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรอ่ื งท่ฟี งั หรอื
อ่านอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สกึ และความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม
และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ ง ๆ โดยการ
พูดและการเขียน
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกีย่ วกับตนเอง กิจวัตรประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกับกิจกรรม เรือ่ งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และประสบการณ์
พร้อมทงั้ ให้เหตุผลส้นั ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ ได้
อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ชี้วัด
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พันธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทงั้ ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กิดขนึ้ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา
และชุมชน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คำศัพทแ์ ละประโยคต่าง ๆ เกยี่ วกบั เทศกาลและการเฉลิมฉลอง ช่วยในการจับใจความสำคัญ

และรายละเอียดของข้อมูลที่อ่านและฟัง รวมถึงสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในการพูด/เขียนสื่อสารได้อย่าง
ถูกตอ้ ง ตลอดจนมีความเข้าใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

จุดประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมเพ่ือใหบ้ รรลตุ ามตวั ชวี้ ัด)

1. อ่านเรอ่ื ง จบั ใจความสำคัญบอกรายละเอยี ดเกย่ี วกับเร่อื งท่ีอา่ น และยกตัวอยา่ งประกอบได้
2. พูดและเขียน ขอ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่อื งท่ฟี ังและอ่านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Festivals/Celebrations (eat a traditional meal, wear masks,
watch a street parade, wear traditional costumes, dance to
music, open presents, listen to a band, paint their faces, watch
a fireworks display)
Feelings (thrilled, happy, disappointed, surprised, sad, tired,
bored)
Verbs (prepare, come alive)
Nouns (celebration, nut, feast, temple, snapshot, live music,
parade, mask, icing, bean)
Adjectives (brilliant, gigantic, ancient, colourful, oval)
Grammar: Past simple
Functions: Asking for opinions
Do you like the party?
What did you think of the party?
Expressing opinions
I was happy. I really liked it.
It was boring.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)
Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ
Speaking: พดู ขอและแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับเทศกาล

Reading: อ่านเพือ่ หาข้อมลู เฉพาะ

Writing: เขยี นอเี มล

3.2 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1) ใฝ่เรียนรู้

2) มุ่งมนั่ ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
3.4 ดา้ นคุณลกั ษณะของผเู้ รยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวชิ าการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ล้ำหนา้ ทางความคิด

4) ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์
5) ร่วมกนั รับผดิ อบต่อสังคมโลก

4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้)
ชนิ้ งาน
1) บทสนทนาขอและแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั งานเลย้ี งหรือเทศกาลทเี่ ข้าร่วม

ภาระงาน (รวบยอด)

1) เขยี นอีเมลเล่าเหตกุ ารณเ์ ก่ียวกบั งานเทศกาล

5. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

สิ่งที่วดั ผล วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมอื วัดผล เกณฑก์ าร

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60

การอ่านหรอื การฟงั

ด้านทักษะและ สังเกตการพูดสนทนาขอและ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ ระดับคณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับ เรียนรู้

งานเลีย้ งหรือเทศกาลท่ีเข้า

รว่ ม

ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึง สังเกตความใฝ่เรียนรแู้ ละ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน อันพงึ ประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ ตรวจการเขยี นแสดงความ สมุดนกั เรียน -

ผู้เรยี น ( C ) คิดเห็นเก่ยี วกบั เร่ืองทอี่ ่าน

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้น Warm up
1. ครทู บทวนคำศพั ท์ท่ีเรียนเมือ่ ชั่วโมงท่ีแลว้ โดยแบ่งนักเรียนเป็น 2 ทีม แล้วครเู ขยี นคำศัพท์บนกระดาน

ซึ่งเวน้ ชอ่ งว่างไว้ ให้เตมิ ตวั อักษร เช่น p _ e _ a _ e (prepare) p _ r _ d _ (parade) ให้แตล่ ะ
ทีมสง่ ตวั แทนออกมาเขียนคำศัพท์ท่สี มบรู ณ์ พรอ้ มทัง้ อา่ นออกเสียง และบอกความหมาย ทีมที่ทำ
ถูกต้องทง้ั หมดจะไดค้ ำละ 1 คะแนน ทีมใดมคี ะแนนมากกวา่ จะเปน็ ผูช้ นะ
2. ครูให้นักเรยี นอ่านออกเสียงคำศพั ท์บนกระดานพร้อมกัน

ขั้น Presentation
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 35 Ex. 5 นักเรยี นดูภาพใบหน้าแสดงความรสู้ ึกต่างๆ แลว้ อา่ นออกเสยี งคำศัพทใ์ ต้

ภาพตามครูคำละ 2 ครัง้ ครอู ธิบายว่าคำเหลา่ น้ีคือคำคุณศัพท์ทีใ่ ช้บรรยายความรู้สึก
2. ครเู ขียนหัวข้อ Positive และ Negative บนกระดาน ครูใหน้ กั เรยี นทำความเขา้ ใจ 2 หัวข้อน้ี โดยเขียน

เครอื่ งหมาย + และ – ข้างหลังหวั ข้อ จากน้ันให้นักเรยี นจดั กลุม่ คำคุณศัพท์ตามหวั ข้อ แล้วครูเปดิ CD
ใหฟ้ ังเพือ่ ตรวจวา่ นกั เรียนจดั กลุ่มถกู ต้องหรือไม่

Positive Negative
thrilled disappointed
happy surprised

surprised sad
tired

bored

3. ครูให้นักเรยี นช่วยกันบอกความหมายของคำคุณศัพท์เหลา่ น้ี โดยเดาความหมายจากภาพใบหน้า happy
(มีความสขุ ), bored (รสู้ ึกเบอ่ื ), excited (รู้สึกตนื่ เต้น), disappointed (รู้สกึ ผดิ หวัง), tired (รู้สึก
เหนือ่ ย), thrilled (รู้สกึ ตืน่ เต้น, พอใจ), surprised (รู้สึกประหลาดใจ) ถ้าคำใดนักเรียนไมร่ ใู้ หห้ า

ความหมายจากพจนานุกรม แลว้ ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียงคำคณุ ศพั ท์ พรอ้ มทัง้ บอกความหมายอกี
ครง้ั
4. ครูใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยคบอกเหตุการณ์ท่ีทำให้ตนเองเกดิ ความรสู้ ึกต่าง ๆ เหลา่ นี้ จากนั้นครูขอ

อาสาสมัครอา่ นประโยคใหเ้ พ่ือนฟัง

I felt happy when I opened my presents.
I felt disappointed when I failed my test.

I felt surprised when he showed me his costume.
I felt sad when we moved house.

I felt tired when we finished the game.
I felt bored at the party.

5. ครเู ขียนตัวอย่างบทสนทนาบนกระดาน
A: Where did you go last weekend?
B: I went to Dinosaur Planet.
A: How was it?
B: It was exciting.

นกั เรียนอ่านบทสนทนาพร้อมกนั แล้วครูถามวา่ ประโยคใดเปน็ การถามความคิดเห็น (How was it?)
ประโยคใดเปน็ การแสดงความคิดเห็น (It was exciting.) จากนนั้ ครใู ห้นกั เรยี นอ่านสำนวนท่ีใช้ในการ
ขอและแสดงความคิดเหน็ ในหนังสือเรียน หน้า 35 Ex. 6
6. ครูเขียนประโยคบนกระดาน และขดี เสน้ ใต้คำคุณศัพท์

I’m excited. (ฉนั รูส้ ึกตืน่ เตน้ ) The film is exciting. (ภาพยนตรเ์ ร่อื งน้ีนา่ ตื่นเต้น)
She’s bored. (ฉนั รูส้ ึกเบื่อ) The book is boring. (หนงั สอื เลม่ นน้ี ่าเบื่อ)
ให้นักเรยี นสังเกตวา่ คำคุณศัพท์ท่ีลงทา้ ยดว้ ย -ed และ -ing ใช้ต่างกันอย่างไร แลว้ ครสู รุปให้ฟงั วา่
คำคุณศัพท์ท่ลี งทา้ ยดว้ ย -ed ใชบ้ รรยายความรู้สึกหรอื อารมณข์ องเราที่มีตอ่ บางสง่ิ สว่ นคำคุณศพั ท์ท่ี
ลงท้ายดว้ ย -ing ใช้บรรยายลกั ษณะของคน ส่ิงของ หรือสถานการณ์ จากนนั้ ครบู อกความหมายของ
ประโยคแถวแรกเพื่อใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจยง่ิ ขนึ้ แล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกความหมายประโยคแถวที่ 2

ข้ัน Practice
1. หนังสือเรียน หนา้ 35 Ex. 6 ครูอธบิ ายภาระงานวา่ ให้นกั เรยี นเลอื กงานเล้ยี งหรอื เทศกาลจากที่

กำหนดมา 1 งาน/เทศกาล แล้วสมมตวิ ่าตนเองไดไ้ ปรว่ มงาน/เทศกาลนน้ั เม่อื วนั หยดุ สุดสปั ดาห์ทผี่ ่าน
มา จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั และเตรียมข้อมูลเพ่อื ใชพ้ ดู สนทนาขอและแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับงาน
เล้ยี งหรอื เทศกาลดังกล่าว
2. นกั เรยี นแต่ละคู่กันฝกึ พูดสนทนากัน โดยครเู ดินสังเกตนักเรยี นและให้ข้อมลู ยอ้ นกลับ (feedback) เรือ่ ง
การใชภ้ าษาของนักเรียน เชน่ ไวยากรณ์ การออกเสียง น้ำเสียง กิรยิ าท่าทาง เพอื่ ให้นกั เรยี นนำไป
ปรบั ปรุงแกไ้ ขในคร้ังต่อไป
3. ครใู หน้ กั เรยี นจบั คูก่ บั เพื่อนคนใหม่ และฝกึ พดู สนทนา โดยครเู ดนิ สงั เกตและใหข้ ้อมูลยอ้ นกลับ
(feedback) จากน้นั ใหเ้ วลานักเรียนฝึกซ้อมเพ่อื ปรับปรงุ แก้ไขตามคำแนะนำของครู

ขัน้ Production
1. ครใู ห้แต่ละคอู่ อกมาพดู สนทนาทีห่ น้าชัน้ โดยเนน้ ให้นักเรียนแสดงท่าทางและใช้น้ำเสยี งใหเ้ หมาะกับ

สถานการณ์

A: Where were you last weekend?
B: I was at a wedding.
A: Did you enjoy yourself?
B: Oh yes. I was thrilled and I really liked it.
A: Where were you last weekend?
B: I was at the spring festival.
A: How was the festival?
B: It was disappointing.

A: Where were you last weekend?
B: I was at the fancy dress party.
A: What did you think of the party?
B: I was happy. I really liked it.

A: Where were you last weekend?
B: I was at the New Year’s Eve party.
A: What was the party like?
B: It was fun. I was thrilled.

2. นักเรียนทำ Language Review 3a Exs. 1-2 ในหนังสือเรียน หน้า 107 รว่ มกันในชัน้
3. แบบฝกึ หัด (Workbook) หน้า 21 Exs. 6-9 ใหน้ ักเรยี นทำเป็นการบ้าน
7. สือ่ /อปุ กรณ/์ แหล่งเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสือ่ ฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2
4) พจนานกุ รมอังกฤษ-อังกฤษ
5) พจนานกุ รมออนไลน์
6) Power Point

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวชิ าการ / ผู้บรหิ าร / ผู้ทไี่ ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชือ่ ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวิทย)์
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บันทกึ ผลหลงั แผนการจดั การเรยี นรู้

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2

เร่ือง Reading 3a & Vocabulary 3a
**********************************************************************************
บันทกึ วัน เดือน ปที ีใ่ ชส้ อน

ชัน้ /กลมุ่
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่ีอันพงึ ประสงค์ (A)– มสี ขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สิ่งท่ีพัฒนา วิธแี กไ้ ข/พัฒนา และผลการแกไ้ ข/พัฒนา
ปัญหา/สงิ่ ทพ่ี ัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่ือ.............................................ครูผูส้ อน ลงชอื่ ...........................................หัวหน้ากล่มุ สาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงช่ือ.............................................รองผอู้ ำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผูอ้ ำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกล่อม) (นายนราวุธ สุจิตะพันธ)์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง Grammar 3b
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่อื ง Let’s Party! เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั ชนั้ ปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ งั และอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ม. 2/3 ระบ/ุ เขียนประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พันธ์กบั สอื่ ที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี งรูปแบบต่าง ๆ ทอี่ า่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณต์ า่ ง ๆ ใน
ชีวิตประจำวนั อย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งตา่ ง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจำวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตกุ ารณ์ทอี่ ยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง ประโยค

ชนดิ ต่าง ๆ และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจโครงสร้างทางภาษา จะชว่ ยให้สามารถพดู และเขยี นประโยคตา่ ง ๆ ได้ถกู ต้องและ

เหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเข้าใจในความเหมอื นและความต่างของภาษาอังกฤษและ
ภาษาไทย

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเพื่อใหบ้ รรลตุ ามตวั ชวี้ ดั )

1. เขียนประโยคโดยใชโ้ ครงสรา้ ง Past simple & Past continuous ได้
2. พดู และเขียน ข้อมูล บรรยาย เกี่ยวกบั สง่ิ ที่บคุ คลกำลงั ทำในอดีตที่ระบเุ วลาแนน่ อนและแสดงความ

คดิ เหน็ เก่ียวกบั ชวี ิตประจำวันของตนเองและผอู้ ่นื ได้อย่างเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Grammar: Past continuous

Past simple & Past continuous

Functions: Describing actions were happening at a certain time in the past

Last Monday morning I was having an English lesson at school.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: สนทนาเก่ียวกับส่งิ ทบี่ คุ คลกำลังทำในอดีตที่ระบุเวลาแน่นอน

Writing: เขยี นบรรยายส่งิ ท่ีบคุ คลกำลังทำในอดีตที่ระบุเวลาแนน่ อน

3.2 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1) ความสามารถในการสือ่ สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคณุ ลักษณะของผเู้ รยี นตามหลักสตู รมาตรฐานสากล
1) เป็นเลิศวิชาการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ล้ำหนา้ ทางความคิด
4) ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์
5) รว่ มกนั รบั ผดิ อบต่อสังคมโลก

4. ช้นิ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้)
ชิ้นงาน
1) ชิ้นงาน Mini book
2) เขียนบรรยายส่งิ ท่ีสมาชิกในครอบครวั ทำ

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู สนทนาเกย่ี วกับสง่ิ ท่ีบุคคลกำลังทำในอดีตทร่ี ะบเุ วลาแน่นอน
2) เขยี นเกย่ี วกับสง่ิ ทีบ่ ุคคลกำลังทำในอดตี ทร่ี ะบเุ วลาแนน่ อน

5. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

สงิ่ ท่วี ดั ผล วิธีการวัด เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การ
ดา้ นความรู้ (K )
ดา้ นทักษะและ ตรวจการเขยี นประโยคใชค้ ำ ประเมนิ ผล
กระบวนการ ( P ) ท่ีกำหนดให้
สงั เกตการเปรยี บเทยี บ แบบฝึกหดั (Workbook) รอ้ ยละ 60
ด้านคุณลกั ษณะอนั พึง โครงสร้างภาษาไทยกบั
ประสงค์ ( A ) ภาษาอังกฤษในการกลา่ วถงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ การกระทำทก่ี ำลงั ดำเนนิ อยู่ เรยี นรู้
ผเู้ รยี น ( C ) ณ เวลาช่วงหนงึ่ ช่วงใดใน
อดตี แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ ผ่าน
สงั เกตความใฝ่เรยี นร้แู ละ อนั พงึ ประสงค์
ความมุง่ ม่ันในการทำงาน
สงั เกตการพูดบรรยายส่งิ ที่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ -
สมาชกิ ในครอบครวั ทำ เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm up
ครทู บทวน Past simple โดยใหน้ กั เรียนพูดบอกกจิ กรรมทีต่ นเองทำเม่ือวานนี้ตอนเยน็ ครูเริ่มต้น
เป็นตัวอยา่ ง เช่น I went to the shopping mall yesterday evening.

ขั้น Presentation
1. ครแู จกเนอื้ เพลง Jealous Guy ของ John Lennon จาก

https://www.siamzone.com/music/lyric/41824 ใหน้ ักเรียนทกุ คน แลว้ ใหน้ ักเรียนขดี เส้นใต้ Past
continuous
2. ครูอธบิ ายวา่ โครงสร้าง Past continuous คือ was/were + v-ing แลว้ ให้นกั เรียนดูว่าตนเองขดี เส้นใต้
เนอ้ื เพลงถูกต้องหรอื ไม่
3. หนงั สือเรยี น หน้า 36 Ex. 1 ครใู ห้นกั เรียนอา่ นประโยคในตาราง โดยสังเกตประโยคปฏเิ สธและคำถาม
ครตู ง้ั คำถามใหน้ ักเรยี นคิดว่าจะทำเป็นประโยคปฏเิ สธและคำถามอย่างไร แลว้ สมุ่ เรยี กนักเรียน 2-3 คน
บอกคำตอบ (ทำเป็นปฏิเสธโดยการเติม not หลัง was/were และทำเปน็ คำถามโดยยา้ ย was/were
มาขึ้นตน้ ประโยค) จากนนั้ ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ โครงสร้าง Past continuous
4. ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เปรยี บเทยี บว่า ในภาษาไทยมีโครงสร้างเฉพาะเมือ่ กลา่ วถึงการกระทำที่กำลงั
ดำเนินอยู่ ณ เวลาช่วงหน่ึงชว่ งใดในอดีตเหมอื นกบั ในภาษาอังกฤษหรอื ไม่ (ภาษาไทยไมม่ ีการเปลย่ี นรูป
คำกรยิ าเมอ่ื กลา่ วถึงอดีต ปจั จุบนั และอนาคต แตจ่ ะใชค้ ำวิเศษณ์บอกเวลาทีเ่ รียกวา่ กาลวเิ ศษณ์ และ
วลบี อกกาล ซึ่งเป็นคำหลายคำเรยี งกัน เช่น วันน้ี เดอื นนี้ ปีกลายนี)้

กาลวเิ ศษณ์ คือ คำวเิ ศษณ์ท่ีประกอบบอกเวลา เช่น เช้า สาย บ่าย เท่ยี ง เย็น ค่ำ อดีต
ปัจจบุ นั อนาคต ฯลฯ
ทีม่ า: กำชัย ทองหล่อ. หลกั ภาษาไทย. พมิ พค์ รั้งท่ี 54. บริษัท รวมสาสน์ (1977) จำกัด.
กรงุ เทพฯ

5. ครูอธบิ ายการใช้ Past continuous พร้อมท้งั ยกตวั อย่างบนกระดาน
- ใช้กับเหตกุ ารณ์ที่กำลังเกิดขนึ้ ในอดีต ซงึ่ ปกตจิ ะมีเวลากำกบั ไว้แนน่ อน
I was doing my homework at nine o’clock last night.
- ใชก้ บั เหตุการณ์ 2 เหตกุ ารณ์ซ่ึงกำลงั เกิดข้ึนพรอ้ มกันในอดตี โดยมคี ำว่า while เชอ่ื ม
ระหวา่ ง 2 เหตกุ ารณ์
I was sleeping while my sister was doing her homework at ten last night.

6. ครูหาภาพบคุ คลกำลงั ทำส่ิงต่าง ๆ จากอนิ เทอรเ์ น็ตหรอื นิตยสารมาใหน้ ักเรยี นดู 3-4 ภาพ โดยครแู สดง
ภาพให้นกั เรียนดูทลี ะภาพ พรอ้ มทั้งพดู เวลา ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั แตง่ ประโยค เช่น ครแู สดงภาพเด็ก ๆ
กำลงั เลน่ ฟตุ บอล และพดู เวลา at five yesterday
- They were playing football at five yesterday.

7. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 4 คน แลว้ ครูแจกกระดาษทม่ี ีรายการคำให้กล่มุ ละ 1 แผ่น ให้แต่ละกล่มุ
เรียงคำใหเ้ ป็นประโยค Present continuous ท่ีถูกตอ้ ง เสร็จแล้วครเู ฉลยคำตอบบนกระดาน ให้
นักเรียนแลกกันตรวจกับกล่มุ อืน่ จาดนั้นให้นกั เรียนอ่านออกเสียงประโยคพรอ้ มกนั

1 homework / was / last night / his / Bill / doing / at / ten o’clock / .
2 was / this / morning / at / Jill / seven / o’clock / playing tennis /.
3 at / were / last Sunday / you / 9 am / watching TV / ?
4 ten / was / pictures / at / yesterday morning / Laura / painting / .
5 nine / and / singing / not / last night / Bob / at / Bill / were / .

1 Bill was doing his homework at ten o’clock last night.
2 Jill was playing tennis at seven o’clock this morning.
3 Were you watching TV at 9 am last Sunday?
4 Laura was painting pictures at ten yesterday morning.
5 Bob and Bill were not singing at nine last night.

ขน้ั Practice
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 36 Ex. 2 นักเรียนดูภาพ แล้วเขียนประโยคบรรยายสงิ่ ทบ่ี ุคคลในภาพกำลงั ทำ โดย

ใช้คำกริยาทก่ี ำหนดให้ในรูป Past continuous เสรจ็ แล้วครขู ออาสาสมคั รพูดประโยค ครตู รวจความ
ถูกตอ้ ง แล้วใหน้ ักเรียนอ่านประโยคพรอ้ มกัน

1 Jane was drinking Coke.
2 Paul and Laura were dancing.
3 John was taking pictures.
4 Jim and Bob were eating sandwiches.
5 The clown was painting Jessie’s face.
2. หนังสอื เรยี น หนา้ 36 Ex. 3 นกั เรียนดภู าพใน Ex. 2 แล้วเขยี นประโยคท่กี ำหนดให้ใหมใ่ หถ้ กู ตอ้ งตาม
ภาพ เสร็จแล้วครูส่มุ เรยี กนกั เรยี น 4 คน อา่ นประโยค แล้วให้นกั เรียนในชั้นช่วยกนั ตรวจความถูกต้อง

2 Paul wasn’t eating. He was dancing.
3 Jim and Bob weren’t dancing. They were eating sandwiches.
4 John wasn’t painting Jessie’s face. He was taking pictures.
5 Jane wasn’t dancing. She was drinking Coke.

3. หนังสือเรยี น หน้า 36 Ex. 4 นกั เรยี นแตง่ ประโยคคำถามจากคำทกี่ ำหนดให้ พรอ้ มตอบคำถาม เสร็จ
แล้วครูสุ่มเรยี กนักเรยี น 4 คู่ พดู ถาม-ตอบกัน แล้วให้นกั เรียนในชน้ั ช่วยกนั ตรวจความถูกต้อง

2 Were John and Lucy watching a DVD?
No, they weren’t. They were playing computer games.

3 Was Tom eating a meal with his family?
No, he wasn’t. He was walking in the park with friends.

4 Was Jane sleeping?
No, she wasn’t. She was reading a book.

5 Were Andy and Mark playing football?
No, they weren’t. They were visiting a wildlife park.

3. หนงั สือเรยี น หน้า 36 Ex. 5 ครูใหน้ ักเรยี นนึกถงึ สถานที่ท่ีตนเองอยเู่ มอ่ื วนั อาทติ ยท์ ่ีผ่านในเวลา 9 am,
2 pm, 6 pm และสงิ่ ทต่ี นเองกำลังทำในเวลาดังกล่าว แลว้ ใหน้ ักเรียนอา่ นตวั อยา่ งการถาม-ตอบพรอ้ ม
กนั จากนั้นให้นกั เรยี นจบั คู่กันพดู ถาม-ตอบเพือ่ หาว่าคขู่ องตนกำลงั ทำอะไร

A: Last Sunday at 2 pm I was at the park.

B: Were you playing football? A: Yes, I was.

B: Last Sunday at 6 pm I was in the city centre.
A: Were you watching a film at the cinema?

B: No, I wasn’t.
A: Were you bowling at a bowling alley? B: Yes, I was.
ขนั้ Production

1. ครใู ห้นักเรยี นวาดภาพหรือหาภาพกจิ กรรมทค่ี รอบครวั ของนกั เรียนทำเมือ่ วนั อาทติ ยท์ ่ีผ่านมา ในเวลา
6 โมงเย็น แลว้ เขียนบรรยายส่ิงทส่ี มาชกิ ในครอบครัวทำโดยใช้ Past continuous

2. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 22 Exs. 1-4 ใหน้ กั เรียนทำเป็นการบ้าน

7. สอ่ื /อุปกรณ/์ แหล่งเรียนรู้

ส่อื 1) หนังสอื เรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
วสั ดุอุปกรณ์
แหลง่ เรยี นรู้ 3) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2
4) Power Point

1) พจนานุกรมอังกฤษ-องั กฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์
1) ห้องสมดุ

ลงชอ่ื ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคิดเหน็ (รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ / ผ้บู ริหาร / ผู้ท่ีได้รับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่อื ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวิทย)์
ตำแหน่ง ครู
วันท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บันทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

รหัสวชิ า อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3

เร่อื ง Grammar 3b
**********************************************************************************
บันทึกวนั เดือน ปที ี่ใชส้ อน

ชน้ั /กลุ่ม
วนั /เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลักษณะท่อี นั พงึ ประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สงิ่ ที่พัฒนา วิธแี กไ้ ข/พฒั นา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปญั หา/ส่งิ ท่ีพฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ แี กไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครูผูส้ อน ลงชอ่ื ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผูอ้ ำนวยการ ลงชอ่ื ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนญู กลับกล่อม) (นายนราวธุ สุจติ ะพันธ)์

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง Grammar 3b
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่อื ง Let’s Party! เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั ชนั้ ปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ งั และอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ม. 2/3 ระบ/ุ เขียนประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พันธ์กบั สอื่ ที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี งรูปแบบต่าง ๆ ทอี่ า่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณต์ า่ ง ๆ ใน
ชีวิตประจำวนั อย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งตา่ ง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจำวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตกุ ารณ์ทอี่ ยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง ประโยค

ชนดิ ต่าง ๆ และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจโครงสร้างทางภาษา จะชว่ ยให้สามารถพดู และเขยี นประโยคตา่ ง ๆ ได้ถกู ต้องและ

เหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเข้าใจในความเหมอื นและความต่างของภาษาอังกฤษและ
ภาษาไทย

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเพื่อใหบ้ รรลตุ ามตวั ชวี้ ดั )

1. เขียนประโยคโดยใชโ้ ครงสรา้ ง Past simple & Past continuous ได้
2. พดู และเขียน ข้อมูล บรรยาย เกี่ยวกบั สง่ิ ที่บคุ คลกำลงั ทำในอดีตที่ระบเุ วลาแนน่ อนและแสดงความ

คดิ เหน็ เก่ียวกบั ชวี ิตประจำวันของตนเองและผอู้ ่นื ได้อย่างเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Grammar: Past continuous

Past simple & Past continuous

Functions: Describing actions were happening at a certain time in the past

Last Monday morning I was having an English lesson at school.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: สนทนาเก่ียวกับส่งิ ทบี่ คุ คลกำลังทำในอดีตที่ระบุเวลาแน่นอน

Writing: เขยี นบรรยายส่งิ ท่ีบคุ คลกำลังทำในอดีตที่ระบุเวลาแนน่ อน

3.2 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1) ความสามารถในการสือ่ สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคณุ ลักษณะของผเู้ รยี นตามหลักสตู รมาตรฐานสากล
1) เป็นเลิศวิชาการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ล้ำหนา้ ทางความคิด
4) ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์
5) รว่ มกนั รบั ผดิ อบต่อสังคมโลก

4. ช้นิ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้)
ชิ้นงาน
1) ชิ้นงาน Mini book
2) เขียนบรรยายส่งิ ท่ีสมาชิกในครอบครวั ทำ

ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู สนทนาเกย่ี วกับสง่ิ ท่ีบุคคลกำลังทำในอดีตทร่ี ะบเุ วลาแน่นอน
2) เขยี นเกย่ี วกับสง่ิ ทีบ่ ุคคลกำลังทำในอดตี ทร่ี ะบเุ วลาแนน่ อน

5. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สง่ิ ทว่ี ัดผล วิธกี ารวัด เคร่ืองมอื วดั ผล เกณฑก์ าร
ด้านความรู้ (K ) แบบประเมนิ การเขยี น ประเมินผล
ดา้ นทักษะและ ตรวจการเขียนบรรยายสิง่ ที่ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
กระบวนการ ( P ) สมาชิกในครอบครัวทำ
สังเกตการเปรยี บเทยี บ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดับคุณภาพ พอใช้
ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ โครงสรา้ งภาษาไทยกับ เรยี นรู้
ประสงค์ ( A ) ภาษาอังกฤษในการกล่าวถึง
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ การกระทำทีก่ ำลงั ดำเนนิ อยู่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ ผา่ น
ผเู้ รยี น ( C ) ณ เวลาช่วงหนึ่งชว่ งใดใน อันพึงประสงค์
อดีต
สงั เกตความใฝ่เรียนร้แู ละ แบบสงั เกตพฤติกรรมการ -
ความมุ่งมัน่ ในการทำงาน เรยี นรู้
สังเกตการพดู บรรยายส่งิ ท่ี
สมาชกิ ในครอบครัวทำ

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้น Warm up
ครใู ห้นกั เรียนเลม่ เกมทบทวน Past continuous โดยแบ่งนักเรียนเปน็ 2 ทีม ให้แต่ละทมี ผลัดกนั ส่ง
ตัวแทนออกมาแสดงท่าทางใหอ้ กี ทีมหน่ึงดู และทายว่ากำลังทำอะไร จากนัน้ ครถู ามนักเรียนทีแ่ สดง
ท่าทางว่ากำลังทำเหมอื นทเ่ี พ่อื นพูดใช่หรือไม่ เชน่
Team A S1: แสดงท่าทางวาดภาพ
Team B S1: He’s painting a picture.
T: (ask Team A S1) Were you painting a picture?
Team A S1: Yes, I was.

ข้นั Presentation
1. ครูเขยี นประโยคบนกระดาน

1) The baby slept two hours ago.
2) She was playing volleyball yesterday evening.
3) I watched TV last night.
4) They were watching a film at 2 pm last Sunday.
ให้นักเรยี นระบุว่าประโยคใดคือ Past simple (ประโยคที่ 1, 3) และประโยคใดคอื Past continuous
(ประโยคท่ี 2, 4) จากน้ันให้นกั เรยี นบอกโครงสรา้ งของ Past simple และ Past continuous
2. ครูอธบิ ายวา่ เราสามารถใช้ Past simple ควบค่กู ับ Past continuous ได้ในกรณีท่ตี ้องการช้ีให้เห็นว่า
เกิดการกระทำ 2 อยา่ งในช่วงเวลาเดยี วกนั ในอดีต โดยการกระทำทใี่ ช้ Past simple จะเป็นการกระทำ

ที่มาขัดจงั หวะในระหวา่ งที่การกระทำอีกอย่างหนงึ่ กำลงั ดำเนนิ อยูอ่ ย่างตอ่ เนื่อง ซงึ่ การกระทำที่กำลงั
ดำเนนิ อย่จู ะใช้ Past continuous

จากนนั้ ครูยกตัวอย่างประโยค I was studying English when the bell rang. ครถู ามนักเรยี นวา่
เหตกุ ารณใ์ ดกำลงั ดำเนินอยู่ (I was studying English) และเหตกุ ารณใ์ ดท่ีมาขัดจังหวะ (the bell

rang)
3. หนงั สือเรยี น หน้า 37 Ex. 6 นกั เรียนอา่ นการใช้ Past simple และ Past continuous ในกรอบ แลว้

ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปการใช้ จากนน้ั ให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของประโยคตัวอยา่ งเป็น

ภาษาไทย
4. นักเรยี นหาตัวอย่าง Past simple และ Past continuous ในบทอ่านหนา้ 34 แลว้ ชว่ ยกันพูดบอกครู

Past simple: went, was, were, prepared, put, climbed, pulled, hurt, took,
listened, had, came, danced, tried
Past continuous: were wearing

ขั้น Practice
1. หนงั สอื เรียน หนา้ 37 Ex. 7 ครใู หน้ กั เรียนเปลย่ี นคำกริยาในวงเลบ็ ใหอ้ ยใู่ นรูป Past simple เสร็จแล้ว

ครูสุ่มเรียกนกั เรยี นเขยี นคำตอบบนกระดาน ให้นกั เรยี นในชั้นชว่ ยกันตรวจความถูกตอ้ ง แล้วครถู ามว่า
คำกริยาคำใดเปน็ irregular จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสียงจดหมายพรอ้ มกัน

1 went (I) 2 was (I) 3 snowed
4 had (I) 5 were (I) 6 danced
7 sang (I) 8 took (I) 9 wore (I)
10 let off (I) 11 enjoyed 12 did (I)

2. หนังสือเรยี น หนา้ 37 Ex. 8 ครูใหน้ ักเรยี นเปลยี่ นคำกริยาในวงเลบ็ ให้อยใู่ น tense ท่ีถูกต้อง
เสรจ็ แล้วครสู ุ่มเรียกบอกคำตอบ พร้อมท้ังบอกเหตผุ ลท่เี ลอื กใช้ tense นัน้

1 were dancing, arrived 2 were watching, started
3 left, got, drove 4 arrived, was watching

5 saw, was walking 6 painted
7 were you doing 8 was cooking, was washing

ขน้ั Production
1. หนงั สือเรียน หนา้ 37 Ex. 9 ครูใหน้ กั เรียนใช้คำท่กี ำหนดใหเ้ ขียนประโยคใหไ้ ดม้ ากท่ีสดุ ภายในเวลา 3

นาที เมอ่ื ครบกำหนดเวลาให้นกั เรยี นแลกเปลยี่ นกนั อา่ นประประโยคของเพอื่ น จากนั้นครสู มุ่ เรียก
นักเรียนอา่ นประโยคท่เี ขียน

I finished my homework, then I watched TV.
Last Monday morning I was having an English lesson at school.
I was sitting on the school bus when I saw my friend’s brother.
Last Friday evening at 8:00, I was having fun at a party.
I was laughing and dancing while my friend was singing karaoke.
2. นกั เรียนเขยี นประโยค Past simple และ Past continuous โดยใช้ when และ while เปน็ คำเช่ือม
ให้เขยี นคำละ 1 ประโยค เสรจ็ แล้วนำมาสง่ ให้ครูตรวจความถูกตอ้ ง
เมอื่ นกั เรยี นได้รับงานคืนแล้วให้จบั กลุม่ กลุ่มละ 5 คน ทำชิ้นงาน Mini book โดยเขยี นประโยคใส่
กระดาษขนาด 15×15 เซนติเมตร ให้เขยี น 1 แผ่น ตอ่ 1 ประโยค และตดิ ภาพหรอื วาดภาพประกอบ
ประโยค หลงั จากท่ีทกุ คนทำเสรจ็ แลว้ ให้รวบรวมทำเลม่ พร้อมท้งั ตกแตง่ ให้น่าสนใจ

While we were having a picnic, it rained.

Jane was painting a picture while Emma was reading a book.
ภาพ picnic จาก: https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Our_pre-July_4th_picnic_NOLA.jpg

3. นกั เรียนทำ Grammar Bank 3 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 76-77 Exs. 1-5 รว่ มกันในช้นั
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 23 Exs. 5-7 ใหน้ ักเรยี นทำเปน็ การบ้าน

7. สื่อ/อปุ กรณ์/แหล่งเรียนรู้

สือ่ 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสือ่ ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
วัสดอุ ุปกรณ์
แหล่งเรียนรู้ 3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2
4) Power Point

1) พจนานกุ รมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์
1) หอ้ งสมุด

ลงช่ือ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บริหารวชิ าการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ที่ไดร้ บั หมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวิทย)์
ตำแหนง่ ครู
วันท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บันทกึ ผลหลังแผนการจดั การเรยี นรู้
รหัสวิชา อ22101 รายวิชาภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4

เร่อื ง Grammar 3b
**********************************************************************************
บันทึกวัน เดอื น ปีทใี่ ช้สอน

ช้นั /กลมุ่
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)

1.1 ด้านความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะท่อี นั พงึ ประสงค์ (A)– มสี ขุ ……………………………………………...…………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/ส่ิงท่ีพัฒนา วิธแี กไ้ ข/พฒั นา และผลการแกไ้ ข/พัฒนา

ปัญหา/ส่ิงที่พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ แี ก้ไข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ผลการแก้ไข/พัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ.............................................ครูผสู้ อน ลงชอื่ ...........................................หัวหนา้ กลมุ่ สาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชื่อ.............................................รองผู้อำนวยการ ลงชอ่ื ...........................................ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนูญ กลับกลอ่ ม) (นายนราวธุ สุจติ ะพนั ธ์)

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง Grammar 3b
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่อื ง Let’s Party! เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วดั ชนั้ ปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ งั และอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ม. 2/3 ระบ/ุ เขียนประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พันธ์กบั สอื่ ที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี งรูปแบบต่าง ๆ ทอี่ า่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณต์ า่ ง ๆ ใน
ชีวิตประจำวนั อย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่อื งตา่ ง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจำวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตกุ ารณ์ทอี่ ยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ชี้วดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง ประโยค

ชนดิ ต่าง ๆ และการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจโครงสร้างทางภาษา จะชว่ ยให้สามารถพดู และเขยี นประโยคตา่ ง ๆ ได้ถกู ต้องและ

เหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเข้าใจในความเหมอื นและความต่างของภาษาอังกฤษและ
ภาษาไทย


Click to View FlipBook Version