The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by coach.pranalee36, 2022-10-08 09:31:19

แผนการสอน อ 22101

รวมแผนหน่วย1-4

Nouns (amusement park, rides, attractions, ghost train,

experience, buddy, wildlife project)

Adjectives (rare, brave)

Functions: Talking about the leisure park

I’d like to see all the animals and go on the rides there.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพอื่ หาข้อมูลเฉพาะ

Speaking: เปรยี บเทียบ Safari และ Leisure Park ในประเทศไทยกับ West Midland

Safari and Leisure Park

Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียนโฆษณา

3.2 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ ม่ันในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคุณลกั ษณะของผ้เู รียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลศิ วิชาการ
2) ส่อื สารสองภาษา
3) ลำ้ หน้าทางความคดิ
4) ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์
5) ร่วมกันรบั ผิดอบตอ่ สังคมโลก

4. ชิน้ งาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความร้)ู
ชน้ิ งาน

1) บทสนทนาตามสถานการณท์ ี่กำหนด
2) บทสนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ท่ีกำหนด

3) บทความ blog เกีย่ วกับวนั หยุดสุดสปั ดาห์ของตนเอง
ภาระงาน (รวบยอด)
1) พดู สนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ที่กำหนด

2) เขยี น blog เกยี่ วกบั วันหยดุ สดุ สัปดาห์ของตนเอง
3) เขียนสรปุ ผลการอภปิ รายในประเด็นทก่ี ำหนด

5. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

ส่งิ ที่วัดผล วิธีการวดั เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑก์ าร

ประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60

การอา่ น

ด้านทักษะและ สงั เกตการเปรียบเทียบขอ้ มลู แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) ท่อี า่ นกบั ขอ้ มูลของไทย เรยี นรู้

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง สังเกตความใฝ่เรียนรแู้ ละ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความมุง่ มนั่ ในการทำงาน อันพงึ ประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคัญของ ประเมินช้นิ งานโฆษณา แบบประเมินชนิ้ งาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้

ผู้เรยี น ( C )

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้ัน Warm up
ขน้ั Warm up
1. ครใู ห้นักเรยี นจบั กลุ่มเดมิ จากชั่วโมงท่แี ล้ว แล้วให้แต่ละกลมุ่ บอกกิจกรรมที่สามารถทำใน West

Midland Safari and Leisure Park หรือสัตว์ท่อี ยใู่ น West Midland Safari and Leisure Park
มากลุ่มละ 1 อย่าง และครูเขียนข้อมูลบนกระดาน
2. ครขู ออาสาสมคั รจากแต่ละกลมุ่ กล่มุ ละ 1 คน พูดประโยค I want to visit West Midland Safari
and Leisure Park because … โดยเลอื กเหตผุ ลจากขอ้ มูลทเ่ี ขยี นบนกระดาน

ขน้ั Presentation
1. นกั เรียนเปิดหนังสือเรยี น หน้า 14 แลว้ ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟังเรือ่ ง Welcome to West Midland

Safari and Leisure Park และอา่ นออกเสยี งตาม
2. ครูสมุ่ เรยี กนักเรียน 2-3 คน อา่ นเรื่อง Welcome to West Midland Safari and Leisure Park

สำหรับนกั เรียนท่ียงั อา่ นออกเสยี งไมถ่ กู ต้องใหอ้ า่ นตามครู
3. หนังสอื เรียน หนา้ 14 Ex. 2 ครูบอกนกั เรียนวา่ เดก็ ผู้หญิงในภาพ คือ Martha แลว้ ให้นักเรียนอ่าน

คำถามของ Martha เม่ือเข้าใจคำถามแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มอ่านเรื่อง Welcome to West Midland Safari
and Leisure Park อีกคร้งั แลว้ ตอบคำถาม จากนัน้ ครูขออาสาสมัครตอบคำถาม และตรวจคำตอบ
ร่วมกัน

1 You can see rare animals such as elephants, giraffes, lion, zebras and rhinos.
2 There are 30 rides and attractions there.

3 You can help the animals by adopting one.

4. ครสู นทนากับนักเรียนเกี่ยวกบั ประเภทของข้อความทอ่ี ่านวา่ เป็นขอ้ ความประเภทใด เชน่ บทความ
จดหมาย บันทึก โฆษณา เป็นตน้ แลว้ ครูสรุปหลังจากนกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ว่า คือ บทความ

5. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ดรู ูปแบบการเขียนของเรอ่ื ง Welcome to West Midland Safari and
Leisure Park และสรปุ รว่ มกนั

ข้นั Practice
1. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ปรบั เปลีย่ นกิจกรรมตา่ ง ๆ ในเรือ่ ง Welcome to West Midland Safari and

Leisure Park รวมทัง้ ตั้งช่ือ Safari and Leisure Park ใหม่

Welcome to Wild Animal Safari and Leisure Park
Our Safari and Leisure Park is for everyone! Families and other visitors can
watch and feed animals. Other exciting activities include horse-back and
elephant-back safaris. Visit the amusement park with its 30 rides and
attractions. Go on the ghost train or go white-water rafting. Be a brave
firefighter and have a fun water experience. Adopt a “buddy” and help
wildlife projects in Africa. Have a great time.

2. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลุ่มอ่านข้อความที่ปรับใหม่ โดยใหก้ ลุม่ อ่ืนจดบนั ทึกวา่ ขอ้ ความท่เี พือ่ นอา่ นน้นั มี
การปรับกจิ กรรมอะไรบ้าง

3. ครูสมุ่ เรียกนักเรียน 3-4 กลมุ่ ใหบ้ อกกจิ กรรมใหม่ของกล่มุ อนื่ มา 1 กจิ กรรม นักเรียนสามารถเลือก
ขอ้ มลู ของกลมุ่ ใดมารายงานกไ็ ด้ แลว้ ครเู ขียนกิจกรรมท่ีนกั เรยี นบอกบนกระดาน จากนัน้ ใหน้ กั เรยี น
อา่ นกจิ กรรมบนกระดานพร้อมกัน

ขั้น Production
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 14 Ex. 4 นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั เขียนโฆษณา Safari หรือ Leisure Park ใน

ประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลท่ีได้จากการระดมสมองเม่อื ชั่วโมงทแ่ี ลว้ จากนัน้ ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ อ่าน
โฆษณาของกลมุ่ ตนเอง
2. ครใู หแ้ ต่ละกลุ่มนำโฆษณาท่เี ขยี นในวนั น้ไี ปทำเปน็ ชน้ิ งานโฆษณา โดยออกแบบและใส่ภาพประกอบให้
สวยงามและนา่ สนใจ โดยครูอาจจะเตรยี มตวั อยา่ งโฆษณาสถานท่ที อ่ งเทีย่ ว 2-3 โฆษณา มาใหน้ กั เรียน
ดเู ปน็ ตัวอยา่ ง
3. แบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 9 Ex. 6 ให้นักเรียนฟัง CD แล้วเลอื กคำตอบทถ่ี ูกต้อง
4. แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 9 Ex. 7 ใหน้ กั เรียนฟงั CD แลว้ เตมิ คำลงในชอ่ งวา่ ง
5. แบบฝกึ หัด (Workbook) หนา้ 9 Exs. 4-5 ใหน้ ักเรียนทำเปน็ การบา้ น

7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

สอ่ื 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2
วัสดอุ ุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสือ่ ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรียนรู้ 3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2

1) พจนานุกรมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์

3) ตวั อย่างโฆษณาสถานทท่ี ่องเทยี่ ว
1) หอ้ งสมดุ

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลุม่ บริหารวชิ าการ / ผู้บริหาร / ผู้ทไี่ ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวทิ ย)์
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทกึ ผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7

เรื่อง Skills 1c
**********************************************************************************
บันทกึ วัน เดอื น ปีทใ่ี ช้สอน

ชัน้ /กล่มุ
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นักเรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลกั ษณะที่อนั พึงประสงค์ (A)– มีสขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/สง่ิ ทพ่ี ัฒนา วิธีแกไ้ ข/พฒั นา และผลการแกไ้ ข/พฒั นา
ปญั หา/สง่ิ ท่ีพัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ.............................................ครผู ูส้ อน ลงชอื่ ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผอู้ ำนวยการ ลงชอื่ ...........................................ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนญู กลับกล่อม) (นายนราวธุ สุจติ ะพันธ์)

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เร่อื ง Everyday English 1d

รหสั วิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง At Work, at Play เวลา 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั ชั้นป/ี ผลการเรียนรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟงั และอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตุผล
ตัวชวี้ ดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรองสน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เรื่อง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั เรื่องที่ฟงั และอ่าน พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่าง งา่ ย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง เร่อื งต่าง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ใน
ชวี ิตประจำวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/2 ใช้คำขอรอ้ ง ใหค้ ำแนะนำ คำชแี้ จง และคำอธิบายตามสถานการณ์
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้
ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชว้ี ดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตัวช้วี ดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่เี กิดขึ้นในห้องเรียน สถานศกึ ษา
และชุมชน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจเกีย่ วกบั เนื้อหาที่ศกึ ษา จะช่วยให้สามารถนำคำศพั ท์ ประโยคต่าง ๆ ไปใช้ในการ

พดู /เขยี นส่อื สารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจในวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

จุดประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเพ่อื ให้บรรลตุ ามตัวชีว้ ัด)

1. สามารถนำคำศพั ท์ ประโยคตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นการพดู ส่ือสารได้อยา่ งถูกต้อง

2. สามารถนำคำศพั ท์ ประโยคต่าง ๆ ไปใช้ในการเขียนสอ่ื สารได้อย่างถกู ต้อง

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Making suggestions (Why don’t we …?, How about …?, Do you

fancy …?, What time …?, Let’s meet at …, What do you think …?)

Agreeing (Yes, that’s a good idea., That’s sounds great., I’d like

that., Why not?)

Disagreeing (I don’t think so., No, I don’t feel like it., That’s not a

good idea., I’d rather not.)

Functions: Making suggestions

Why don’t we go to the cinema?

How about having a picnic in the park?

Pronunciation: /eI/

playing, sailing, painting, Friday

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟงั เพ่อื จบั ใจความสำคญั

Speaking: พูดใหค้ ำแนะนำ ตอบรบั และปฏิเสธคำแนะนำ

Reading: อ่านเพอ่ื หาข้อมูลเฉพาะ

Writing: แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ ำหนด

3.2 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มน่ั ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคณุ ลกั ษณะของผูเ้ รยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวิชาการ
2) สือ่ สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด
4) ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์
5) รว่ มกันรับผดิ อบต่อสงั คมโลก

4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้)
ช้นิ งาน
1) บทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี ำหนด
2) บทสนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณท์ ่ีกำหนด
3) บทความ blog เกย่ี วกับวันหยดุ สุดสัปดาห์ของตนเอง
ภาระงาน (รวบยอด)
1) พูดสนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ทก่ี ำหนด
2) เขียน blog เกีย่ วกับวนั หยุดสุดสปั ดาห์ของตนเอง
3) เขยี นสรปุ ผลการอภปิ รายในประเด็นที่กำหนด

5. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

สง่ิ ท่ีวดั ผล วิธีการวดั เคร่อื งมือวัดผล เกณฑก์ าร
ประเมินผล
ดา้ นความรู้ (K ) ประเมนิ การอ่านออกเสียง แบบประเมินการอ่าน ระดับคณุ ภาพ พอใช้
บทสนทนา ออกเสยี ง
ดา้ นทกั ษะและ ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
กระบวนการ ( P ) การอ่าน บทสนทนา
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึง ประเมินการแตง่ บทสนทนา แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประสงค์ ( A ) ตามสถานการณท์ ี่กำหนด
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของ สงั เกตความใฝเ่ รียนรแู้ ละ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ ผา่ น
ผเู้ รยี น ( C ) ความม่งุ มน่ั ในการทำงาน อันพงึ ประสงค์
ประเมินการพดู สนทนาให้ แบบประเมินการแสดง ระดับคุณภาพ พอใช้
คำแนะนำตามสถานการณ์ที่ บทสนทนา/บทบาท
กำหนด สมมติ

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั Warm up

1. ครูถามนกั เรียนวา่ What day is today? ครูเขียนคำตอบบนกระดาน แลว้ ถามตอ่ วา่ What day do
you like? ครเู ขยี นคำตอบบนกระดาน จากนัน้ เขียนคำว่า weekend และ weekday

2. ครูถามนกั เรียนว่า Do you come to school on weekend or weekday? Do you go to the sea
on weekday? Do your parents go to work on weekday?

3. ครูถามความหมายของ weekend และ weekday นักเรียนช่วยกนั บอกความหมาย จากนั้นให้นักเรยี น

อา่ นออกเสยี ง weekend และ weekday พร้อมกนั
ขนั้ Presentation

1. ครเู ขียนคำตอ่ ไปน้ีบนกระดาน say, snail, May, day, bay, faint บนกระดาน แลว้ ออกเสียงให้
นกั เรียนฟงั ทลี ะคำ ให้นกั เรยี นบอกว่าคำเหลา่ นอ้ี อกเสียงสระอยา่ งไร (/eI/) จากนนั้ ครใู ห้นกั เรียนอา่ น
ออกเสียงคำศพั ท์บนกระดาน 2 ครง้ั แล้วครสู มุ่ เรียกนักเรียนอา่ นออกเสยี งทลี ะคน

2. หนังสือเรียน หนา้ 15 Ex. 6 ครูเปิด CD ใหน้ ักเรียนฟังประโยคและขดี เสน้ ใต้พยางค์ที่ออกเสยี ง /eI/
จากนน้ั ตรวจรว่ มกัน แล้วครเู ปิด CD อีกครั้ง ให้นักเรยี นฟังและออกเสยี งตาม

1 Do you like playing football? 2 I love painting.

3 Let’s go sailing! 4 Is it Friday already?

3. หนังสือเรียน หนา้ 15 Ex. 1a ครูเปดิ CD โดยหยุดทีละประโยค ใหน้ กั เรยี นฟงั และขดี เส้นใต้พยางค์ที่

เนน้ เสยี ง แล้วครูเปิด CD อีกครั้ง ให้นกั เรยี นออกเสยี งตาม จากนน้ั ใหน้ กั เรียนชว่ ยกันระบพุ ยางคท์ ี่เน้น

เสยี งในแตล่ ะประโยค

Are you busy this weekend? Not really, why?

How about going to the cinema?

I’d rather not. Why don’t we go bowling instead?

What time is good for you? Great! See you there!

4. ครสู ุ่มเรียกนกั เรยี นอา่ นออกเสียงคนละ 1 ประโยค โดยใหน้ ักเรยี นออกเสียงเนน้ หนกั ใหถ้ กู ตอ้ ง

5. หนงั สือเรยี น หน้า 15 Ex. 1b ครูบอกนักเรียนวา่ จะไดฟ้ ังบทสนทนาระหว่าง Tim และ Emily
ใหน้ ักเรียนปดิ หนงั สอื เรียน และตงั้ ใจฟังบทสนทนาวา่ ทั้ง 2 คนคุยเกีย่ วกบั เรื่องอะไร

The dialogue is about free-time activities and suggesting what to do.

6. ครูให้นกั เรยี นฟังบทสนทนาอกี คร้ัง โดยจดบันทึกประโยคท่เี ปน็ ประโยคแนะนำ ถา้ นักเรียนฟัง ไมท่ ันครู
ให้ฟงั อกี ครัง้ จากนัน้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันบอกประโยคท่ไี ดย้ ิน แล้วครเู ขยี นประโยคบนกระดาน

7. นักเรียนเปิดหนงั สือเรยี น หนา้ 15 อา่ นออกเสยี งบทสนทนาพร้อมกนั เสร็จแล้วให้นกั เรยี นตรวจประโยค

บนกระดาน
ข้ัน Practice

1. หนังสอื เรยี น หน้า 15 Ex. 2 นกั เรยี นอ่านคำถามท่กี ำหนดให้ ขีดเสน้ ใต้คำสำคญั แลว้ อา่ นบทสนทนา
เพอื่ หาสว่ นท่เี กยี่ วขอ้ งกับคำท่ีขีดเสน้ ใต้ จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นตอบคำถาม ครขู ออาสาสมัครบอกคำตอบ
แล้วใหน้ กั เรียนตรวจคำตอบของตนเอง

1 He suggests going to an amusement park or the cinema.
2 She doesn’t like roller coaster.
3 They agree to go bowling.

4 7 pm.

2. นกั เรยี นฝกึ อา่ นออกเสยี งบทสนทนา โดยครูแบ่งนักเรยี นเป็น 2 กลุ่ม ใหก้ ลุม่ ท่ี 1 อา่ นบทของ Tim และ
กลุม่ ที่ 2 อ่านบทของ Emily จากน้ันสลับกนั

3. ครสู ุ่มเลขทเ่ี พอ่ื เรยี กนกั เรียนให้อา่ นบทสนทนา 4-5 คู่
ขน้ั Production

1. หนังสอื เรยี น หน้า 15 Ex. 3 นกั เรยี นจบั คฝู่ กึ สนทนาตามบทสนทนา โดยแสดงสหี น้า ท่าทาง และใช้
น้ำเสียงให้เขา้ กับสถานการณ์ ครเู ดนิ สงั เกตรอบ ๆ ชนั้ เรียน จากน้นั ครูสมุ่ เรยี กนักเรียน 3-4 คู่ แสดง
บทบาทสมมติเปน็ Tim และ Emily แล้วครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะค่มู าอา่ นบทสนทนาให้ครฟู ัง

นอกเวลาเรยี น
2. นักเรยี นอา่ นประโยคใน Ex. 1a อีกครง้ั พรอ้ มกัน แล้วช่วยกนั บอกความหมายของประโยค

3. นกั เรยี นทำ Language Review 1d Ex. 4 ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 105 รว่ มกนั ในช้นั

7. ส่ือ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้

สื่อ 1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
วสั ดุอุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสอื่ ฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรยี นรู้
3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2
1) พจนานกุ รมอังกฤษ-อังกฤษ

2) พจนานกุ รมออนไลน์
3) ตวั อยา่ งโฆษณาสถานทที่ อ่ งเทย่ี ว
1) หอ้ งสมดุ

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคดิ เหน็ (รองผ้อู ำนวยการกลุม่ บรหิ ารวชิ าการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ท่ีได้รบั หมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอื่ ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวิทย)์
ตำแหน่ง ครู
วนั ที่ 12 พฤษภาคม 2565

บันทกึ ผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
รหสั วิชา อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษพื้นฐาน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8

เร่ือง Everyday English 1d
**********************************************************************************
บันทึกวนั เดือน ปที ีใ่ ชส้ อน

ชน้ั /กลมุ่
วัน/เดอื น/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นกั เรียน…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคณุ ลักษณะทอี่ นั พงึ ประสงค์ (A)– มีสขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/ส่ิงท่ีพัฒนา วิธแี กไ้ ข/พัฒนา และผลการแกไ้ ข/พฒั นา
ปัญหา/ส่งิ ท่พี ฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธแี ก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครูผูส้ อน ลงชื่อ...........................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผู้อำนวยการ ลงชอ่ื ...........................................ผู้อำนวยการโรงเรยี น

(นายมนูญ กลับกลอ่ ม) (นายนราวุธ สุจติ ะพนั ธ)์

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เร่อื ง Everyday English 1d

รหสั วิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง At Work, at Play เวลา 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั ชั้นป/ี ผลการเรียนรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟงั และอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตุผล
ตัวชวี้ ดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรองสน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เรื่อง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั เรื่องที่ฟงั และอ่าน พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่าง งา่ ย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง เร่อื งต่าง ๆ ใกล้ตวั และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ใน
ชวี ิตประจำวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/2 ใช้คำขอรอ้ ง ใหค้ ำแนะนำ คำชแี้ จง และคำอธิบายตามสถานการณ์
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้
ไดอ้ ย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชว้ี ดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใช้ภาษา น้ำเสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทงั้ ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ตัวช้วี ดั

ต 4.1 ม. 2/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จำลองท่เี กิดขึ้นในห้องเรียน สถานศกึ ษา
และชุมชน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจเกีย่ วกบั เนื้อหาที่ศกึ ษา จะช่วยให้สามารถนำคำศพั ท์ ประโยคต่าง ๆ ไปใช้ในการ

พดู /เขยี นส่อื สารไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจในวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมเพอ่ื ใหบ้ รรลุตามตวั ช้ีวัด)

1. สามารถนำคำศพั ท์ ประโยคต่าง ๆ ไปใชใ้ นการพดู สื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
2. สามารถนำคำศัพท์ ประโยคต่าง ๆ ไปใช้ในการเขยี นส่ือสารได้อย่างถกู ต้อง

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Making suggestions (Why don’t we …?, How about …?, Do you

fancy …?, What time …?, Let’s meet at …, What do you think …?)

Agreeing (Yes, that’s a good idea., That’s sounds great., I’d like

that., Why not?)

Disagreeing (I don’t think so., No, I don’t feel like it., That’s not a

good idea., I’d rather not.)

Functions: Making suggestions

Why don’t we go to the cinema?

How about having a picnic in the park?

Pronunciation: /eI/

playing, sailing, painting, Friday

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพอ่ื จบั ใจความสำคัญ

Speaking: พดู ให้คำแนะนำ ตอบรบั และปฏเิ สธคำแนะนำ

Reading: อา่ นเพื่อหาข้อมลู เฉพาะ

Writing: แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี ำหนด

3.2 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1) ใฝ่เรยี นรู้
2) มุ่งมัน่ ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคุณลกั ษณะของผ้เู รยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลศิ วิชาการ
2) สอ่ื สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคดิ
4) ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์
5) รว่ มกันรับผดิ อบตอ่ สงั คมโลก

4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (หลักฐานร่องรอยแสดงความรู้)
ช้นิ งาน
1) บทสัมภาษณเ์ กย่ี วกบั อาชพี ของบุคคลในครอบครัว
2) บทความงานโฆษณา

3) บทสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ ำหนด

ภาระงาน (รวบยอด)

1) เขียนบทสมั ภาษณเ์ กีย่ วกับอาชพี ของบุคคลในครอบครัว
2) ชิ้นงานโฆษณา
3) อ่านออกเสียงบทสนทนา
4) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด

5. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ส่งิ ทวี่ ัดผล วิธกี ารวดั เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
ด้านความรู้ (K ) ประเมินการอา่ นออกเสยี ง แบบประเมนิ การอา่ น ระดบั คุณภาพ พอใช้
ออกเสยี ง
บทสนทนา แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60

ตรวจการตอบคำถามจาก แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

การอา่ นบทสนทนา แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดับคณุ ภาพ ผา่ น
อันพึงประสงค์
ดา้ นทักษะและ ประเมนิ การแตง่ บทสนทนา แบบประเมินการแสดง ระดับคณุ ภาพ พอใช้
บทสนทนา/บทบาท
กระบวนการ ( P ) ตามสถานการณท์ ่กี ำหนด สมมติ

ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ สงั เกตความใฝ่เรยี นรู้และ

ประสงค์ ( A ) ความมุง่ ม่นั ในการทำงาน

ด้านสมรรถนะสำคัญของ ประเมินการพูดสนทนาให้

ผ้เู รยี น ( C ) คำแนะนำตามสถานการณ์ท่ี

กำหนด

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้น Warm up
ครสู นทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกับประโยคแนะนำทเ่ี รยี นเม่ือชวั่ โมงท่แี ลว้ และขออาสาสมัครยกตัวอย่าง
ประโยคแนะนำ 2-3 คน

ข้ัน Presentation
1. ครูใหน้ กั เรยี นเปดิ หนังสอื เรยี น หน้า 15 แล้วอา่ นประโยคในกรอบสแี ดงพรอ้ มกัน ซึง่ เปน็ ประโยคให้

คำแนะนำ ตอบรับและปฏเิ สธคำแนะนำ แล้วครยู กตัวอย่างประโยคแนะนำบนกระดาน เชน่
Why don’t we go to the cinema?
How about having a picnic in the park?
Do you fancy going out for dinner?
Let’s go shopping.

ใหน้ ักเรยี นสงั เกตคำทต่ี ามหลงั Why don’t we, How about, Do you fancy, Let’s แลว้ บอกครูวา่
วลีเหลา่ นต้ี ามด้วยคำประเภทใด จากนน้ั ครูสรุปให้ฟงั อีกคร้ัง

Why don’t we + v 1
How about + v -ing
Do you fancy + v -ing
Let’s + v 1
2. ครูบอกนักเรียนว่าครจู ะพดู ข้นึ ตน้ ประโยคแนะนำ และขออาสาสมัครต่อประโยคของครใู ห้สมบรู ณ์ และ
เรียกเพ่ือนอกี 1 คน ใหเ้ ป็นผตู้ อบ จะตอบรับหรอื ปฏเิ สธคำแนะนำก็ได้ เช่น
T: How about …?
S1: How about having pizza?
S2: I’d rather not.
T: Why don’t we …?
S1: Why don’t we go to swimming pool?
S2: That sounds great.
ในขณะที่นักเรยี นพดู ถาม-ตอบ ครูเขียนประโยคของนักเรยี นบนกระดาน
3. ครแู บ่งนกั เรียนเปน็ 2 กล่มุ ให้กล่มุ ท่ี 1 อา่ นประโยคแนะนำ และกลมุ่ ท่ี 2 อ่านประโยคคำตอบ จากนน้ั
สลับบทบาทกัน

ขนั้ Practice
1. หนงั สอื เรียน หน้า 15 Ex. 4 นักเรียนอา่ นประโยค 1-4 พร้อมกนั แลว้ หาประโยคในบทสนทนาทมี่ ี

ความหมายเหมือนกบั ประโยคเหล่านี้

1 Are you doing anything this weekend? - Are you busy this weekend?
2 When is a convenient time? - What time is good for you?
3 I will meet you there. - See you there!
4 I would prefer to do something else. - I’d rather not.

2. หนังสอื เรียน หน้า 15 Exc. 5 นกั เรยี นจบั คกู่ ันแต่งบทสนทนา โดยเปลย่ี นขอ้ มูลในบทสนทนา Ex. 1b
ท่ีพิมพด์ ว้ ยสีฟา้ เปน็ ข้อมลู ของนกั เรียนเองตามสถานการณท์ ่กี ำหนด ครใู หน้ กั เรียนเลือกใช้คำแนะนำ
คำตอบรับและตอบปฏิเสธจากกรอบสีแดง ครเู ดินสงั เกตการทำงานของนกั เรยี นและคอยใหค้ ำแนะนำ

3. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะค่ฝู กึ สนทนากัน ครูเดินสงั เกตการสนทนาของนกั เรยี น

ขั้น Production
1. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะคู่ออกมาสนทนาท่หี น้าชน้ั เรียน โดยใหน้ กั เรยี นใช้นำ้ เสียงใหเ้ หมาะสมกับ

สถานการณ์
2. แบบฝกึ หดั (Workbook) หนา้ 10 Exc. 4-5 ให้นักเรยี นทำเป็นการบา้ น

7. สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

สอ่ื 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2
วัสดอุ ุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสือ่ ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรียนรู้ 3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2

1) พจนานุกรมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์

3) ตวั อย่างโฆษณาสถานทท่ี ่องเทยี่ ว
1) หอ้ งสมดุ

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลุม่ บริหารวชิ าการ / ผู้บริหาร / ผู้ทไี่ ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวทิ ย)์
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บันทึกผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้
รหสั วิชา อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9

เร่ือง Everyday English 1d
**********************************************************************************
บันทึกวนั เดือน ปที ีใ่ ชส้ อน

ชน้ั /กลมุ่
วัน/เดอื น/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นกั เรียน…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคณุ ลักษณะทอี่ นั พงึ ประสงค์ (A)– มีสุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/ส่ิงท่ีพัฒนา วิธแี กไ้ ข/พัฒนา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปัญหา/ส่งิ ท่พี ฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธแี ก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...........................................หัวหนา้ กลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผู้อำนวยการ ลงชอ่ื ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกลอ่ ม) (นายนราวธุ สุจิตะพันธ์)

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 เรือ่ ง Across cultures 1e

รหสั วิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั ชนั้ ป/ี ผลการเรียนรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่อื งท่ีฟังและอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชวี้ ดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ขอ้ เรอ่ื ง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ น พรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ ง ง่าย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอื่ งต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตัวช้วี ดั

ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตุการณ์
ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกับใจความสำคัญ ใจความเฉพาะ และเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของบทอา่ น จะช่วยให้

สามารถเขยี นขอ้ ความไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมเพ่ือให้บรรลุตามตัวชว้ี ัด)

1. สามารถบอกความหมายคำศัพท์ ประโยคตา่ ง ๆ สำนวนจากการอ่านบทความได้อยา่ งถูกตอ้ ง
2. สามารถนำคำศัพท์ ประโยคต่าง ๆ ไปใช้ในการเขยี นขอ้ ความได้อยา่ งถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (last, play against)
Nouns (team, competition, match, championship, field)
Adjectives (professional, diamond-shaped)
Phrases ((be) crazy about, all year round)
Functions: Describing sports teenagers play
Basketball is one of the most popular sports in Thailand and
many teenagers are crazy about it.

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Reading: อ่านเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี นเกยี่ วกบั กีฬาที่วัยรุ่นไทยนิยมเล่น

3) Cultures กีฬาในทอ้ งถิ่น

3.2 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรยี นรู้

2) มุ่งมน่ั ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคณุ ลักษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวิชาการ
2) สอ่ื สารสองภาษา
3) ล้ำหนา้ ทางความคดิ
4) ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกันรับผิดอบต่อสงั คมโลก

4. ช้ินงาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้)

ช้ินงาน
1) บทสัมภาษณเ์ ก่ียวกบั อาชีพของบุคคลในครอบครัว
2) บทความงานโฆษณา

3) บทสนทนาตามสถานการณท์ ่ีกำหนด
4) บทสนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด

5) เรียงความเกีย่ วกบั กีฬาที่วยั รุ่นไทยนิยมเลน่
6) บทความ blog เก่ียวกับวนั หยดุ สุดสปั ดาห์

ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขียนบทสมั ภาษณเ์ กี่ยวกับอาชีพของบุคคลในครอบครวั
2) ช้นิ งานโฆษณา

3) อา่ นออกเสียงบทสนทนา
4) แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ่กี ำหนด

5) พดู สนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ที่กำหนด
6) เขยี นเรยี งความเก่ียวกับกีฬาท่วี ัยรนุ่ ไทยนยิ มเล่น
7) เขียน blog เก่ียวกับวันหยดุ สุดสัปดาห์

8) เขียนสรปุ ผลการอภิปรายในประเด็นทก่ี ำหนด

5. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

สงิ่ ทว่ี ดั ผล วิธกี ารวดั เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การ

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60

การอ่านตรวจการตอบ

คำถามจากการอ่านบท

สนทนา

ดา้ นทักษะและ ตรวจการเขยี นประโยค สมุดนกั เรียน -

กระบวนการ ( P ) เกยี่ วกับกฬี าท่รี ู้จกั

ดา้ นคุณลักษณะอันพึง สังเกตความใฝ่เรียนรแู้ ละ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความมุ่งม่นั ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของ ประเมนิ การเขียนเรยี งความ แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้

ผู้เรยี น ( C ) เก่ยี วกับกฬี าทว่ี ัยรนุ่ ไทยนิยม

เล่น

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ัน Warm up

1. ครูสนทนากับนกั เรียนเกยี่ วกับกจิ กรรมที่คนไทยสว่ นใหญ่ทำในเวลาวา่ ง
2. ครถู ามนกั เรยี นว่า ใครบ้างที่เล่นกีฬาในเวลาวา่ ง และสว่ นใหญ่นักเรียนเลน่ กีฬาอะไร

3. ครถู ามนกั เรียนวา่ กีฬาอะไรบ้างที่เปน็ ท่นี ยิ มของคนไทย
ขัน้ Presentation
1. ครเู ขียนคำว่า National Pastimes บนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรยี นเดาว่าจากคำดงั กล่าวนกั เรียนจะได้

เรยี นเกี่ยวกบั อะไร
2. ครเู ขียนหวั ขอ้ “India: crazy about cricket” และ “USA: baseball nation” ครูถามนกั เรียนว่า 2

หัวข้อนม้ี อี ะไรทค่ี ล้ายกัน (ช่ือประเทศ และชอื่ กีฬา) จากนั้นให้นักเรยี นคาดเดาใหมว่ า่ จากทงั้ 2 หัวข้อ
นักเรยี นจะได้เรยี นเกีย่ วกบั อะไร
3. หนังสอื เรียน หน้า 16 Ex. 1 ครูถามนักเรยี นวา่ ใครชอบกฬี าครกิ เกต็ และเบสบอลบ้าง และใครเล่น

กฬี าทงั้ 2 ชนดิ นไ้ี ด้ (ใหน้ กั เรยี นยกมือ หากมีนกั เรยี นท่ีสามารถเลน่ กฬี าดงั กลา่ วได้ ครูอาจจะให้นักเรยี น
สรปุ วธิ ีการเล่นให้เพอื่ นในหอ้ งฟัง)

I like/don’t like cricket/baseball.
You play cricket with a bat, a ball and two wickets on a pitch. There are
two teams of eleven players.
You play baseball with a bat, a ball and four bases on a diamond-shaped
field. There are two teams with nine players each.

4. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน แล้วแจก Worksheet 1 และ 2 (อย่ทู ้ายแผน ฯ Across
cultures 1e) ให้ทกุ กลุม่ ซึ่ง Worksheet 1 จะเป็นประโยคจากเร่อื ง National Pastimes จำนวน 8

ประโยค ใหน้ ักเรียนจัดกลมุ่ ประโยคเป็น 2 กลุ่ม ตามหัวข้อ “India: crazy about cricket” และ
“USA: baseball nation” สว่ น Worksheet 2 ให้นกั เรียนดูประโยคใน Worksheet 1 ซ่งึ คำศพั ท์บาง
คำจะมหี มายเลข 1-11 กำกบั ไว้ ให้นกั เรยี นจบั คู่คำศัพทด์ ังกลา่ วกบั ความหมาย

Worksheet 1
“India: crazy about cricket” sentence no. 2, 3, 6, 7
“USA: baseball Nation” sentence no. 1, 4, 5, 8

Worksheet 2 3g 4a 5c 6i
9 b 10 d 11 e
1h 2f
7k 8j

5. นกั เรยี นอ่านออกเสยี งประโยคตามครทู ีละประโยคตัง้ แตป่ ระโยคที่ 1-8 แล้วครูสุม่ เรยี กนกั เรียนให้อ่านที
ละกลุ่มพร้อมกัน

6. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มจดั กลมุ่ ประโยค และจับคู่คำศัพทก์ บั ความหมาย โดยครขู ีดเส้นใตค้ ำศัพทแ์ ละใส่
หมายเลขคำศัพทก์ ำกบั ในแถบประโยค เพอ่ื ชว่ ยใหน้ ักเรียนเดาความหมายได้

7. ครขู ออาสาสมคั รจากแต่ละกลุม่ นำเสนอการจัดกลุ่มประโยคและการจับคู่คำศพั ทก์ ับความหมาย

ข้นั Practice
1. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มฝกึ อา่ นคำศพั ท์และประโยค
2. ครสู ุม่ เรยี กนกั เรียน 2-3 กลมุ่ อา่ นประโยคของหวั ขอ้ “India: crazy about cricket” และสุม่ เรยี กอีก

2-3 กลุ่ม อา่ นประโยคของหวั ข้อ “USA: baseball nation”
3. ครูให้นักเรียนอา่ นคำศัพท์ท้ังหมดพร้อมกนั

ขน้ั Production
1. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ชว่ ยกนั เขียนประโยค 5- 6 ประโยค เก่ียวกบั กฬี าทน่ี ักเรยี นร้จู ักมากลุ่มละ 1

ประเภท โดยดูบทอา่ นหัวขอ้ “India: crazy about cricket” หรือ “USA: baseball nation” เป็น
ต้นแบบ
2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ อา่ นประโยคของกลุ่มตนเอง ครใู ห้กลุ่มท่ีเปน็ ผ้ฟู ังตรวจประโยคของกลุม่ ท่นี ำเสนอ

Worksheet 1

Classify the sentences under two headings “India: crazy about cricket” or “USA:
baseball nation”.
1 In the USA, many children learn baseball from a very young age.
2 In cricket, there are two teams of eleven players and a match1 can last2 from one day

to four or five days.
3 Schools often have their own cricket team3 and competitions4 take place all year

round5.
4 In baseball, there are two teams of nine players and they play on a diamond-shaped6

field7.
5 Schools often have their own baseball team and they play against8 one another in

championships9.
6 Many teenagers dream of becoming a professional10 cricketer and playing for their

country.
7 Cricket is the most popular sport in India and many teenagers are crazy about11.
8 Many American kids have their own favourite baseball hero and love wearing their

favourite team colours.

India: crazy about cricket

____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________

USA: baseball nation

____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
___________________________________________________________________________

Worksheet 2

Match the words with their meanings.

_____ 1 a match a การแขง่ ขัน
_____ 2 last b ผู้ชนะเลศิ

_____ 3 team c ตลอดท้ังปี
_____ 4 competition d อย่างมอื อาชีพ

_____ 5 all year round e คลั่งไคล้
_____ 6 diamond-shaped f ตอ่ เนือ่ ง
_____ 7 field g ฝา่ ยเดยี วกนั

_____ 8 play against h การแขง่ ขันกฬี า
_____ 9 championship i รปู ทรงเพชร

_____ 10 professional j ลงเลน่ แขง่ ขนั
_____ 11 crazy about k สนาม

Complete the crossword. Worksheet 3

2 6

4 3
10
1
8

9

5

7

Across 4, 5, 7, 8, 9, 10 Down 1, 2, 3, 6

1. Cricket is the most popular sport in India, and many teenagers are (1) __________ about

it.
2. In India, schools often have their own cricket (2) __________ and (3) __________s take

place all year round.
3. In cricket, there are two teams of eleven players and a (4) __________ can (5) _______

from one day to four or five days.

4. Many teenagers dream of becoming a (6) __________ cricketers.
5. In the USA, schools often have their own baseball team and they play (7) __________

one another in (8) __________s.
6. In baseball, there are two teams of nine players and they play on a (9) __________-

shaped (10) __________ .

7. สอื่ /อปุ กรณ/์ แหล่งเรยี นรู้

ส่อื 1) หนังสอื เรียน SPARK 2 ม. 2
วสั ดุอปุ กรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบส่อื ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรียนรู้ 3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2

1) พจนานกุ รมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์

3) ตัวอยา่ งโฆษณาสถานท่ีท่องเที่ยว
4) Worksheet 1-3
1) ห้องสมุด

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผู้อำนวยการกลุม่ บรหิ ารวิชาการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ทีไ่ ดร้ บั หมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอื่ ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวทิ ย์)
ตำแหนง่ ครู
วนั ที่ 12 พฤษภาคม 2565

บันทกึ ผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพื้นฐาน แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 10

เรอื่ ง Across cultures 1e
**********************************************************************************
บนั ทกึ วัน เดอื น ปีที่ใช้สอน

ชนั้ /กลมุ่
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นักเรยี น…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลกั ษณะทอ่ี ันพึงประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/ส่ิงทพี่ ฒั นา วธิ ีแก้ไข/พัฒนา และผลการแกไ้ ข/พฒั นา
ปัญหา/สง่ิ ท่ีพัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื .............................................ครูผู้สอน ลงช่ือ...........................................หัวหน้ากลมุ่ สาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงช่อื .............................................รองผ้อู ำนวยการ ลงชือ่ ...........................................ผู้อำนวยการโรงเรยี น

(นายมนูญ กลับกลอ่ ม) (นายนราวธุ สุจิตะพันธ)์

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11 เรือ่ ง Across cultures 1e

รหสั วิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั ชนั้ ป/ี ผลการเรียนรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่อื งท่ีฟังและอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชวี้ ดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ขอ้ เรอ่ื ง ใจความสำคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ น พรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ ง ง่าย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอื่ งต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตัวช้วี ดั

ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตุการณ์
ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกับใจความสำคัญ ใจความเฉพาะ และเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของบทอา่ น จะช่วยให้

สามารถเขยี นขอ้ ความไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมเพ่ือให้บรรลุตามตัวชว้ี ัด)
1. สามารถบอกความหมายคำศัพท์ ประโยคตา่ ง ๆ สำนวนจากการอ่านบทความได้อยา่ งถูกตอ้ ง
2. สามารถนำคำศัพท์ ประโยคต่าง ๆ ไปใช้ในการเขยี นขอ้ ความได้อยา่ งถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (last, play against)
Nouns (team, competition, match, championship, field)
Adjectives (professional, diamond-shaped)
Phrases ((be) crazy about, all year round)

Functions: Describing sports teenagers play
Basketball is one of the most popular sports in Thailand and

many teenagers are crazy about it.

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Reading: อา่ นเพือ่ หาข้อมลู เฉพาะ

Writing: เขยี นเกย่ี วกับกีฬาท่ีวัยรุ่นไทยนยิ มเล่น

3) Cultures กีฬาในท้องถิน่

3.2 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1) ใฝ่เรยี นรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคณุ ลักษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เปน็ เลิศวชิ าการ
2) สอ่ื สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด
4) ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
5) รว่ มกนั รับผิดอบต่อสงั คมโลก

4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความร)ู้
ชน้ิ งาน
1) บทสัมภาษณ์เกยี่ วกับอาชีพของบุคคลในครอบครัว
2) บทความงานโฆษณา
3) บทสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี ำหนด
4) บทสนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณท์ กี่ ำหนด
5) เรยี งความเกี่ยวกับกีฬาทว่ี ัยร่นุ ไทยนยิ มเล่น
6) บทความ blog เก่ยี วกบั วันหยุดสุดสปั ดาห์

ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขียนบทสมั ภาษณเ์ ก่ยี วกบั อาชีพของบุคคลในครอบครวั
2) ช้ินงานโฆษณา
3) อ่านออกเสียงบทสนทนา
4) แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด
5) พดู สนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ทก่ี ำหนด
6) เขยี นเรยี งความเกยี่ วกับกฬี าท่ีวยั รุน่ ไทยนิยมเล่น
7) เขยี น blog เกย่ี วกับวันหยดุ สุดสปั ดาห์
8) เขยี นสรปุ ผลการอภปิ รายในประเด็นท่ีกำหนด

5. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สง่ิ ท่วี ัดผล วธิ กี ารวัด เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑก์ าร

ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝึกหัด (Workbook) รอ้ ยละ 60

การอ่านตรวจการตอบ

คำถามจากการอา่ นบท

สนทนา

ดา้ นทกั ษะและ ตรวจการเขยี นประโยค สมุดนักเรยี น -

กระบวนการ ( P ) เกีย่ วกบั กีฬาทร่ี ูจ้ กั

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึง สงั เกตความใฝเ่ รียนรู้และ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน อนั พึงประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคญั ของ ประเมินการเขียนเรยี งความ แบบประเมนิ การเขียน ระดับคุณภาพ พอใช้

ผู้เรยี น ( C ) เกย่ี วกับกฬี าที่วยั ร่นุ ไทยนยิ ม

เล่น

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขั้น Warm up
1. นกั เรยี นเลน่ เกม crossword เพอื่ ทบทวนคำศพั ท์ทเ่ี รียนไปเม่ือชวั่ โมงทแ่ี ลว้ โดยครถู ่ายเอกสาร

Worksheet 3 (ท้ายแผน ฯ Across cultures 1e) แจกใหน้ ักเรียนเลน่ เป็นคู่หรอื กลมุ่ ครูให้เวลา
นักเรียนเลน่ เกม 5 นาที

1 crazy 2 team 3 competition
4 match 5 last 6 professional
7 against 8 championship 9 diamond
10 field

6

2p

tr

e3 o
4m a t c h f

m o 10 f i e l d

1 ms
8c h a m p i o n s h i p

rei
ato

z d i amo n d

yta

i 5l a s t

o
7a g a i n s t

2. ครูขออาสาสมคั รอา่ นประโยคคนละ 1 ประโยค นกั เรียนทีเ่ หลือสะกดคำศัพท์พร้อมกนั และตรวจ
คำศพั ท์ในตาราง ทำเชน่ นีท้ ีละข้อจนครบ

ขัน้ Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาประโยคทน่ี ักเรียนจดั กล่มุ เมอ่ื ชว่ั โมงทแ่ี ล้ว และพิจารณาว่าประโยคใดเป็นประโยค

ใจความสำคัญของแต่ละเรอ่ื ง ทำไมจงึ เลือกประโยคดังกลา่ ว
2. ครูสมุ่ เรียกตวั แทนกลุ่ม 2-3 กล่มุ ให้บอกคำตอบ พรอ้ มบอกเหตุผล จากนน้ั ครเู ฉลยคำตอบและอธิบาย

วา่ ประโยคใจความสำคัญ คือ ประโยคทมี่ ีใจความครอบคลมุ ประโยคอื่น ๆ ในข้อความ สว่ นใหญ่ ซงึ่
ประโยคแรกในย่อหน้ามักจะเปน็ ประโยคใจความสำคัญ
3. ครูเปิด CD ใหน้ กั เรยี นฟงั เร่อื ง “India: crazy about cricket” 1 ครัง้ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ช่วยกันเรียง
ประโยคที่จัดกลมุ่ แล้วตามทไี่ ด้ฟัง จากนัน้ นักเรียนฟงั เร่อื ง “India: crazy about cricket” อีกครงั้ และ
ตรวจประโยคท่เี รยี งไว้
4. ครูอธิบายเพม่ิ เติมว่า ประโยคที่ 1 เปน็ ประโยคใจความสำคญั ประโยคท่ี 2-3 เปน็ ประโยคที่ขยายความ
ส่วนประโยคสุดท้ายเปน็ ประโยคสรุปความ ดังนั้น ในย่อหนา้ หน่ึง ๆ จะประกอบดว้ ยประโยคใจความ
สำคัญ ประโยคขยายความ และประโยคสรุปความ
ขน้ั Practice
1. นักเรียนแต่ละกล่มุ ช่วยกันเรยี งประโยคจากเร่ือง “USA: baseball nation” โดยพิจารณาตาม
โครงสร้างที่ครูอธบิ าย เสรจ็ แล้วช่วยกนั บอกลำดับการเรยี งประโยค
2. ครเู ปิดเรอ่ื ง “USA: baseball nation” ใหน้ กั เรยี นฟงั แล้วตรวจการเรยี งประโยค
3. หนงั สอื เรียน หนา้ 16 Ex. 2 นักเรียนอ่านประโยคทใ่ี หม้ า และขดี เสน้ ใต้คำสำคญั ในแต่ละประโยค
เสร็จแล้วให้อ่านบทอ่าน เพ่ือมองหาคำพ้องความหมาย (synonym) คำทมี่ ีความหมายตรงกันขา้ ม
(opposite) หรอื กลมุ่ คำ/วลี ทีม่ คี วามหมายเหมือนกนั หรือตา่ งกนั กบั คำสำคญั ทข่ี ดี เสน้ ใตไ้ ว้ จากนั้น
ตอบคำถาม เสร็จแลว้ ตรวจคำตอบร่วมกัน

1 F They are crazy about baseball.
2T
3 F It can last up to four or five days.
4 F Many Indian children play cricket.
5T

ข้นั Production
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 16 Ex. 3 นักเรยี นจบั คกู่ นั เขยี นเรยี งความส้ัน ๆ เกยี่ วกับกฬี าทวี่ ยั รนุ่ ไทยนยิ มเล่น

พรอ้ มทง้ั ตง้ั ชื่อเรือ่ งด้วย

Thailand: popular sport
Basketball is one of the most popular sports in Thailand and many
teenagers are crazy about it. There are two teams of five players and a
game lasts 40 minutes with a break after every ten minutes. The aim is to
throw the ball into the opposing team’s round net which is fitted to a
metal ring to score points. The team with the most points wins. Many
teenagers dream of becoming a professional player and playing for their
country.

2. ครูส่มุ เรียกนักเรียน 3-4 คู่ อ่านเร่ืองที่เขียนให้เพ่อื นฟัง
3. ครูใหน้ ักเรียนนำเรือ่ งที่เขยี นไปออกแบบและหาภาพประกอบตกแตง่ ใหส้ วยงาม แล้วนำมาสง่ ในชั่วโมง

ตอ่ ไป
4. นกั เรยี นทำ Language Review 1e & Prepositions Exc. 5-6 ในหนงั สือเรียน หน้า 105 รว่ มกนั ในชั้น
5. นกั เรียนทำ Vocabulary Bank 1 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 92 Ex. 1 เปน็ การบา้ น
6. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 10 Exc. 1-3 ให้นกั เรยี นทำเปน็ การบ้าน

7. สอ่ื /อปุ กรณ/์ แหล่งเรยี นรู้

สอ่ื 1) หนงั สอื เรยี น SPARK 2 ม. 2
วัสดุอปุ กรณ์
แหลง่ เรียนรู้ 2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2

1) พจนานกุ รมอังกฤษ-อังกฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์
3) ตัวอย่างโฆษณาสถานทที่ ่องเท่ยี ว

4) Worksheet 1-3
1) ห้องสมุด

ลงช่อื ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคิดเห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ / ผบู้ รหิ าร / ผู้ท่ีไดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอื่ ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวทิ ย์)
ตำแหน่ง ครู
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565

บันทกึ ผลหลงั แผนการจดั การเรียนรู้
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 11

เร่อื ง Across cultures 1e
**********************************************************************************
บนั ทกึ วัน เดอื น ปีที่ใช้สอน

ชนั้ /กลมุ่
วัน/เดือน/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นักเรยี น…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคุณลกั ษณะทอ่ี ันพึงประสงค์ (A)– มีสุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/ส่ิงทพี่ ฒั นา วธิ ีแก้ไข/พัฒนา และผลการแกไ้ ข/พฒั นา
ปัญหา/สง่ิ ท่ีพัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื .............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...........................................หวั หนา้ กลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงช่อื .............................................รองผู้อำนวยการ ลงชอื่ ...........................................ผ้อู ำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกลอ่ ม) (นายนราวธุ สุจติ ะพนั ธ)์

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 12 เรื่อง Writing 1f

รหสั วชิ า อ22101 รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วดั ช้นั ป/ี ผลการเรียนรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรือ่ งท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมีเหตผุ ล
ตัวช้วี ัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เรอื่ ง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนับสนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับเรื่องทฟ่ี ังและอา่ น พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง งา่ ย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองตา่ ง ๆ โดยการ
พดู และการเขียน
ตัวชวี้ ดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเกยี่ วกับตนเอง กิจวตั รประจำวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณ์ที่อยู่ในความสนใจของสงั คม
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ชี้วดั

ต 2.2 ม. 2/1 เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ
ต่าง ๆ และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ การใช้เครื่องหมายตา่ ง ๆ ในการเขียนประโยค

รวมท้ังความสามารถในการสะกดคำศัพท์ การเรยี นรู้เทคนิคในการตรวจงานเขียน และรูปแบบการเขียนทง้ั ทเี่ ป็น
ทางการและไมเ่ ป็นทางการ จะชว่ ยใหส้ ามารถเขียนสือ่ สารได้ถกู ตอ้ งและมปี ระสทิ ธิภาพ

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรมเพอ่ื ใหบ้ รรลุตามตวั ชว้ี ัด)
1. สามารถใชเ้ ครือ่ งหมายต่าง ๆ ในการเขยี นประโยค สะกดคำศัพท์ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
2. สามารถเขียนสอื่ สารรปู แบบการเขยี นท้ังทีเ่ ป็นทางการและไม่เป็นทางการไดอ้ ยา่ งถูกต้อง

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (get up, make, play, celebrate, help, visit, stay, relax)

Nouns (contraction, punctuation, capital letters)

Functions: Describing a typical weekend

I have a dance lesson. After that I help my mum around the

house and then we have lunch.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ

Reading: อ่านเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี น blog เกยี่ วกบั วนั หยดุ สุดสปั ดาห์

3.2 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรยี นรู้
2) มุ่งม่ันในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคณุ ลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เปน็ เลิศวชิ าการ
2) สอ่ื สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด
4) ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกนั รับผดิ อบตอ่ สังคมโลก

4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู้)
ชนิ้ งาน

1) บทสัมภาษณเ์ กยี่ วกบั อาชพี ของบคุ คลในครอบครัว
2) บทความงานโฆษณา
3) บทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด

4) บทสนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ทกี่ ำหนด
5) เรยี งความเกี่ยวกับกีฬาท่วี ยั รุน่ ไทยนยิ มเลน่

6) บทความ blog เก่ียวกบั วนั หยดุ สดุ สัปดาห์

ภาระงาน (รวบยอด)

1) เขยี นบทสัมภาษณ์เกี่ยวกบั อาชพี ของบุคคลในครอบครัว
2) ช้นิ งานโฆษณา
3) อา่ นออกเสยี งบทสนทนา

4) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ที่กำหนด
5) พดู สนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด
6) เขียนเรียงความเกยี่ วกบั กีฬาท่ีวยั รุน่ ไทยนิยมเลน่
7) เขยี น blog เก่ยี วกบั วนั หยุดสดุ สปั ดาห์
8) เขยี นสรุปผลการอภปิ รายในประเด็นทกี่ ำหนด

5. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

สงิ่ ทีว่ ดั ผล วิธีการวดั เครื่องมอื วัดผล เกณฑก์ าร

ประเมินผล

ด้านความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60

การอา่ นหรอื การฟงั

ดา้ นทักษะและ ตรวจการเขยี นประโยค สมดุ นกั เรียน -

กระบวนการ ( P ) เกีย่ วกับกิจกรรมท่ีทำใน

วันหยดุ สุดสัปดาห์

สงั เกตการเปรียบเทียบความ แบบประเมินการเขยี น ระดับคณุ ภาพ พอใช้

แตกตา่ งของโครงสร้าง

ประโยคภาษาองั กฤษและ

ภาษาไทย

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึง สังเกตความใฝ่เรียนร้แู ละ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความม่งุ มั่นในการทำงาน อนั พึงประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคัญของ ประเมินการเขยี น blog แบบประเมินการเขยี น ระดับคณุ ภาพ พอใช้

ผู้เรยี น ( C ) เก่ยี วกับวันหยดุ สุดสัปดาห์

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
1. ครใู ห้นักเรยี นเล่นเกม Funny weekend Happy weekday โดยพูดจับค่กู ิจกรรมกับวนั หยดุ สดุ สัปดาห์
หรือวันธรรมดาให้ถกู ต้อง เช่น go to school, have lessons, go to the cinema, watch a DVD
2. ครอู ธิบายการเลน่ เกม โดยแบง่ นักเรียนออกเปน็ 2 ทมี แต่ละทีมสง่ ตวั แทนออกมา 8 คน ตวั แทนของแต่
ละทมี จะพูดสลับกัน ระหวา่ งกิจกรรมกบั วันหยดุ สดุ สปั ดาหห์ รือวันธรรมดา หากคนท่ี 1 ของทีมA พูด
กจิ กรรม คนที่ 1 ของทีม B ต้องพูด weekend หรือ weekday ใหส้ มั พนั ธ์กบั กจิ กรรมนน้ั หลงั จากนนั้
สลับให้คนที่ 2 ของทมี B พูดกอ่ น หากคนท่ี 2 ของทมี B พดู weekend คนที่ 2 ของทมี A ต้องพูด
กจิ กรรมท่ที ำในวนั หยุดสุดสัปดาหม์ า 1 กิจกรรม จึงจะไดค้ ะแนน หากบอกกิจกรรมผดิ หรือพดู
weekend เหมือนทีม B ทมี A จะไม่ได้คะแนน แต่ทีม B จะได้คะแนนแทน
Team A S1: Go to school
Team B S1: Weekday
T: Team B gets 1 point.

Team B S2: Weekend

Team A S2: Have lessons
T: Wrong! Team B gets 1 point.

ขั้น Presentation
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 17 Ex. 1 ครูบอกนกั เรียนวา่ จะได้อา่ น Mary’s Blog โดย Mary ต้งั ชอ่ื หัวขอ้ blog

ของตนเองว่า Sundays are the best! ใหน้ ักเรยี นคิดว่า Mary ทำกิจกรรมอะไรทกุ วนั อาทติ ย์

I think Mary plays football on Sundays.

2. ครูเขียนตารางในหนงั สอื เรยี น หน้า 17 Ex. 2 บนกระดาน ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกกจิ กรรมท่คี ิดว่า
Mary ทำในแต่ละช่วงเวลาของวนั แล้วครเู ขียนกจิ กรรมทน่ี กั เรยี นบอกลงในตาราง

3. ครูเปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟงั เรื่อง Mary’s Blog ก่อนเปดิ CD ครูบอกให้นกั เรียนตั้งใจฟงั ว่าแต่ละช่วงเวลา
ของวัน Mary ทำอะไรบา้ ง พรอ้ มทง้ั จดบนั ทกึ ข้อมลู เมื่อฟงั จบใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตรวจกิจกรรมใน
ตารางบนกระดานและปรับแก้

4. หนังสอื เรียน หน้า 17 Ex. 2 นักเรียนอา่ น Mary’s Blog ในใจ และตรวจคำตอบในตารางอีกคร้ัง

Morning Afternoon Evening

get up late, eat breakfast, visit her grandparents go to the cinema or stay
home and watch DVD,
play football, help her have fun and relax

mum in the kitchen

5. ครูสุ่มเรยี กนักเรียนพูดบอกกิจกรรมที่ Mary ทำ โดยใชข้ ้อมูลจากตาราง ครพู ดู ข้ึนตน้ ประโยควา่ On
Sundays, Mary …

On Sundays, Mary gets up late. She eats breakfast and then plays
football. She helps her mum in the kitchen.
In the afternoon, she sometimes visits her grandparents.
In the evening, she goes to the cinema or stays home and watches a DVD.
She has fun and relaxes.

ขน้ั Practice
1. ครูใหน้ กั เรียนขีดเสน้ ใต้คำกริยาใน blog แล้วชว่ ยกนั ตอบว่ามคี ำอะไรบ้าง และคำกริยาเหล่าน้ีเขียนใน

รูปของ tense อะไรบ้าง

Present simple: ’s, get up, eat, makes, go, play, ’m, help, cooks, ’s, visit,
go, stay, watch, do, have, relax
Present continuous: ’m celebrating

2. ครูเขียนประโยคด้านล่างนี้บนกระดาน (หรอื พมิ พใ์ ส่กระดาษแจกนกั เรยี น) แลว้ ใหน้ ักเรียนทำงานคู่
ช่วยกันแก้ไขประโยคให้ถกู ตอ้ ง
1 My favourite day Sunday.
2 My mother always making delicious hamburgers.
3 In the picture, I am dance with my friends and my brother sings.
4 My uncle usually drive to my home on Sundays.
5 My mum and dad cook in the kitchen now.
6 We are wait for our lunch.

3. ครขู ออาสาสมัครอา่ นประโยคทแ่ี กไ้ ขแลว้ คนละ 1 ประโยค พรอ้ มทง้ั อธิบายเหตผุ ล

1 My favourite day is Sunday.
2 My mother always makes delicious hamburgers.
3 In the picture, I dance with my friends and my brother sings.
4 My uncle usually drives to my home on Sundays.
5 My mum and dad are cooking in the kitchen now.
6 We are waiting for our lunch.

ขัน้ Production
1. นกั เรียนจบั คกู่ ันแต่งประโยคเกย่ี วกับกจิ กรรมทีท่ ำในวันหยุดสุดสปั ดาหค์ ู่ละ 5 ประโยค เสร็จแลว้ ครู

ใหน้ ักเรยี นแลกเปล่ยี นกนั ตรวจระหว่างคู่ ถ้าประโยคของเพอ่ื นผิดให้นักเรียนปรบั แก้ใหเ้ พ่ือน
2. ครสู ุ่มถามนักเรยี นท่เี พอื่ นแก้ไขประโยคให้ โดยให้อ่านประโยคเดิมและอ่านประโยคที่เพื่อนแก้ไขให้ แลว้

นกั เรียนคนอืน่ ๆ ช่วยกันตรวจวา่ ถูกตอ้ งหรอื ไม่
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 11 Exc. 1-2a ให้นักเรียนทำเป็นการบา้ น

7. สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้

สอ่ื 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
วัสดุอปุ กรณ์ 3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรยี นรู้
1) พจนานุกรมอังกฤษ-องั กฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์

1) ห้องสมุด

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคดิ เหน็ (รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ / ผูบ้ รหิ าร / ผู้ท่ไี ดร้ บั หมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……

………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชื่อ............................................................

(นางชไมพร อรา่ มวทิ ย์)
ตำแหนง่ ครู

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 12

เรื่อง Writing 1f
**********************************************************************************
บันทึกวนั เดือน ปที ่ใี ช้สอน

ช้ัน/กล่มุ
วนั /เดอื น/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคุณลกั ษณะทีอ่ ันพึงประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/ส่ิงทีพ่ ัฒนา วธิ แี ก้ไข/พฒั นา และผลการแก้ไข/พัฒนา
ปัญหา/สง่ิ ที่พฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ แี กไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครูผู้สอน ลงชือ่ ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผู้อำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผู้อำนวยการโรงเรียน

(นายมนญู กลับกลอ่ ม) (นายนราวุธ สุจติ ะพนั ธ์)

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 13 เร่อื ง Writing 1f

รหัสวชิ า อ22101 รายวิชา ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน
ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง At Work, at Play เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชีว้ ัดชั้นป/ี ผลการเรียนรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอา่ นจากสือ่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตัวชวี้ ัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ข้อเร่ือง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนับสนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเรอ่ื งทีฟ่ ังและอ่าน พรอ้ มท้ังให้เหตุผลและยกตัวอย่าง งา่ ย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการ
พูดและการเขียน
ตวั ช้วี ดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณท์ อี่ ยู่ในความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถกู ตอ้ งและเหมาะสม
ตวั ช้วี ัด

ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิด
ต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเข้าใจเกีย่ วกับการใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ การใช้เครื่องหมายต่าง ๆ ในการเขียนประโยค

รวมทัง้ ความสามารถในการสะกดคำศพั ท์ การเรยี นร้เู ทคนิคในการตรวจงานเขียน และรูปแบบการเขียนทงั้ ท่เี ป็น
ทางการและไม่เป็นทางการ จะช่วยให้สามารถเขียนส่อื สารไดถ้ ูกตอ้ งและมีประสิทธภิ าพ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมเพื่อใหบ้ รรลตุ ามตัวชวี้ ดั )
1. สามารถใช้เคร่อื งหมายต่าง ๆ ในการเขียนประโยค สะกดคำศัพท์ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
2. สามารถเขียนสือ่ สารรูปแบบการเขยี นทัง้ ท่เี ป็นทางการและไม่เปน็ ทางการไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (get up, make, play, celebrate, help, visit, stay, relax)
Nouns (contraction, punctuation, capital letters)

Functions: Describing a typical weekend

I have a dance lesson. After that I help my mum around the

house and then we have lunch.

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพื่อหาข้อมลู เฉพาะ

Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขยี น blog เกี่ยวกับวันหยดุ สุดสัปดาห์

3.2 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรยี นรู้
2) ม่งุ มั่นในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคณุ ลักษณะของผเู้ รียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เปน็ เลิศวชิ าการ
2) ส่ือสารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคดิ
4) ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์
5) ร่วมกนั รบั ผิดอบต่อสังคมโลก

4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้)
ช้ินงาน

1) บทสมั ภาษณเ์ ก่ียวกบั อาชีพของบุคคลในครอบครัว
2) บทความงานโฆษณา
3) บทสนทนาตามสถานการณท์ กี่ ำหนด

4) บทสนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ท่กี ำหนด
5) เรียงความเกย่ี วกับกีฬาที่วยั รนุ่ ไทยนิยมเล่น

6) บทความ blog เกย่ี วกับวันหยุดสดุ สปั ดาห์

ภาระงาน (รวบยอด)

1) เขยี นบทสัมภาษณเ์ กย่ี วกบั อาชพี ของบคุ คลในครอบครัว
2) ชน้ิ งานโฆษณา
3) อ่านออกเสยี งบทสนทนา

4) แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ ำหนด
5) พูดสนทนาให้คำแนะนำตามสถานการณ์ท่ีกำหนด

6) เขยี นเรยี งความเกย่ี วกับกีฬาท่วี ยั รนุ่ ไทยนยิ มเล่น
7) เขียน blog เก่ียวกบั วันหยุดสุดสัปดาห์
8) เขยี นสรปุ ผลการอภิปรายในประเดน็ ท่กี ำหนด

5. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

สิง่ ท่วี ัดผล วธิ กี ารวัด เคร่อื งมอื วัดผล เกณฑก์ าร

ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หัด (Workbook) รอ้ ยละ 60

การอา่ นหรอื การฟัง

ดา้ นทักษะและ ตรวจการเขยี นประโยค สมุดนักเรียน -

กระบวนการ ( P ) เก่ียวกับกิจกรรมทที่ ำใน

วันหยุดสุดสัปดาห์

สังเกตการเปรยี บเทยี บความ แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

แตกตา่ งของโครงสร้าง

ประโยคภาษาองั กฤษและ

ภาษาไทย

ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ สงั เกตความใฝ่เรยี นรแู้ ละ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน อันพึงประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคัญของ ประเมินการเขยี น blog แบบประเมินการเขยี น ระดับคุณภาพ พอใช้

ผ้เู รียน ( C ) เก่ียวกบั วนั หยุดสดุ สัปดาห์

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขัน้ Warm up
1. ครูสนทนากับนกั เรียนว่า ปัจจบุ นั นกั เรียนสามารถส่ือสารกันดว้ ยช่องทางใดบ้าง ในการส่อื สารกนั นนั้

นักเรียนมคี ำศพั ทเ์ ฉพาะที่ใช้สอ่ื สารกนั ในกลมุ่ หรอื ไม่ มีการใชค้ ำย่ออะไรบา้ ง มกี ารรวบคำเขา้ ด้วยกัน
หรือไม่ แลว้ ครอู ธิบายว่าการส่อื สารดว้ ยภาษาองั กฤษก็มีคำศัพท์เฉพาะกลมุ่ เช่นกัน รวมท้ังการใช้รูปยอ่
ซ่งึ ผใู้ ช้จะใช้ในการสอ่ื สารทไี่ ม่เป็นทางการ

2. ครใู หน้ กั เรยี นบอกคำย่อในภาษาองั กฤษและคำทีเ่ กิดจากการรวบคำทีน่ ักเรียนใชใ้ นการส่อื สารกนั
บอ่ ย ๆ

Abbreviation r = are IC = I see
U = you RIP = Rest in Peace CU = See you.

OMG = Oh my god! ’d like = would like don’t = do not
Contraction

isn’t = is not
hasn’t = has not

ข้นั Presentation
1. ครูอธิบายนกั เรียนวา่ การเขยี นมี 2 แบบ คอื แบบเปน็ ทางการและแบบไมเ่ ปน็ ทางการ ใหน้ ักเรียน

ยกตัวอยา่ งการเขียนท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการ พร้อมท้งั บอกเหตผุ ล

2. หนังสอื เรยี น หนา้ 17 Ex. 3 นักเรียนอ่าน Mary’s Blog และพิจารณาวา่ เป็นการเขยี นอยา่ งเปน็
ทางการหรือไมเ่ ป็นทางการ โดยพจิ ารณาวา่ มีการเขียนแบบใช้รูปยอ่ ใช้ภาษาพูด หรอื มกี ารละคำสรรพ
นามหรอื ไม่

Contractions: Sunday’s, I’m, It’s
Everyday language: Sundays are the best, my dad, my mum, lots of, stay
home, have fun and relax
Pronouns that are omitted: Hope you do the same!

3. ครูถามนกั เรียนว่า ในการเขยี นนัน้ นอกจากการคำนงึ ถึงรปู แบบการเขยี นแล้ว นกั เรยี นยงั ตอ้ งคำนงึ ถงึ
อะไรอีก ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั คิด

4. หนงั สือเรียน หนา้ 17 Ex. 4 ครใู ห้นกั เรยี นเขยี นแก้ไขประโยคใหถ้ กู ตอ้ ง เสร็จแล้วเปรียบเทียบกับ
เพือ่ น จากน้ันครูขออาสาสมัครอธิบายประเด็นการแกไ้ ขคนละ 1 ข้อ

1 I like taking pictures and I love painting.
2 We’ve got a cat, a dog and two hamsters.
3 Rosa’s from Madrid, Spain.
4 Wow! This Sunday lunch is delicious.

5. ครูอธบิ ายนักเรียนว่า เพ่ือใหข้ ้อความทเ่ี ขียนมคี วามถูกต้องมากท่สี ุด ทุกครงั้ หลงั การเขียนนกั เรียนต้อง
ตรวจงานเขียนว่ายังมีข้อบกพร่องหรอื ผิดพลาดอะไรบ้าง และแกไ้ ข ซึง่ การอา่ นตรวจทานงานเขียน
เรยี กวา่ proofread หลงั จากนน้ั ครถู ามนักเรยี นวา่ ความผิดพลาดที่มกั เกดิ ขนึ้ ในการเขยี นได้แก่
อะไรบา้ ง

6. นกั เรยี นอ่าน Study Skills และสรุปรว่ มกัน จากนน้ั ครใู ห้นักเรียนเปรยี บเทียบว่าโครงสร้างประโยค
ภาษาอังกฤษและภาษาไทยแตกตา่ งกันอย่างไรบา้ ง เชน่ การใชเ้ ครื่องหมายต่าง ๆ การใชต้ วั อกั ษร ตวั
ใหญ่ การผันคำกริยาตามประธาน

ขนั้ Practice
1. ครูให้นกั เรียนจับค่กู ัน แล้วครูแจกข้อความให้คู่ละ 1 แผน่ ให้นกั เรียนแก้ไขการเขยี นทไี่ ม่ถูกต้อง

this Summer I’m takeing a trip to Thailand with some friends. First, we’re
going to spent a few days in 114rain114k. I have some Thai friends there,
and they might take us on a tour of the city after that, we’re going to
take a 114rain to Chiang Mai and go camping for a couple of weeks. Its
going to be a perfect vacation? See you all when I get back.
Mayuko

2. ครูขออาสาสมัครอ่านประโยคที่มีการแกไ้ ข พรอ้ มทงั้ อธิบายส่งิ ที่แก้ไข

This summer I’m taking a trip to Thailand with some friends. First, we’re going to
spend a few days in Bangkok. I have some Thai friends there, and they might take us
on a tour of the city. After that, we’re going to take a train to Chiang Mai and go

camping for a couple of weeks. It’s going to be a perfect vacation. See you all when
I get back.
Mayuko

ขัน้ Production
1. หนงั สือเรียน หนา้ 17 Ex. 5 ครูให้นักเรยี นเขียน blog เก่ยี วกบั วันหยดุ สดุ สปั ดาห์ของตนเอง ความยาว

80-100 คำ โดยเขยี นเก่ียวกับกิจกรรมท่ีทำในช่วงเวลาเช้า บ่าย และเยน็ จนถึงค่ำ ครใู ห้นักเรยี น ต้ังชอ่ื
เรอ่ื งเอง เมอื่ เขียนเสร็จแล้วใหน้ ักเรียนอา่ นตรวจทานงานเขียนของตนเอง
2. ครูใหแ้ ลกเปลย่ี นกับเพอ่ื นเพ่อื ตรวจความถกู ต้อง จากน้นั ครขู ออาสาสมัครอา่ นงานของตนเอง 1-2 คน

และบอกประเด็นบกพรอ่ งทเี่ พอื่ นชว่ ยแกไ้ ขให้

Weekends are the best!
Saturday’s my favourite day. In the morning, I have a dance lesson. After

that I help my mum around the house and then we have lunch. In the
afternoon, we go shopping. In the evenings, I go to the cinema or watch a

DVD.
On Sundays, I like to relax and have fun. In the morning, I get up late and
have a big breakfast. In the afternoon, I visit my grandparents or go to the

park with my friends. In the evening, I listen to music or read a book and
have an early night.

3. นักเรียนทำ Self-Check 1 ในหนังสอื เรยี น หน้า 113
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 11 Exs. 2b-5 ให้นกั เรยี นทำเป็นการบ้าน

7. สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้

สอ่ื 1) หนงั สือเรยี น SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
วัสดุอุปกรณ์
แหล่งเรียนรู้ 3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2
1) พจนานกุ รมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์

1) ห้องสมุด

ลงช่อื ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคิดเห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ / ผบู้ รหิ าร / ผู้ท่ีไดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอื่ ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวทิ ย์)
ตำแหน่ง ครู
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 13

เรื่อง Writing 1f
**********************************************************************************
บันทึกวนั เดือน ปที ่ใี ช้สอน

ช้ัน/กล่มุ
วนั /เดอื น/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)
1.1 ด้านความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคุณลกั ษณะทีอ่ ันพึงประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/ส่ิงทีพ่ ัฒนา วธิ แี ก้ไข/พฒั นา และผลการแก้ไข/พัฒนา
ปัญหา/สง่ิ ที่พฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ แี กไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครูผู้สอน ลงชือ่ ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผู้อำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผู้อำนวยการโรงเรียน

(นายมนญู กลับกลอ่ ม) (นายนราวุธ สุจติ ะพนั ธ์)

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 14 เรือ่ ง ASEAN corner 1

รหสั วชิ า อ22101 รายวิชา ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง At Work, at Play เวลา 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั ช้นั ปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ข้อเรอ่ื ง ใจความสำคัญ บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั เรอ่ื งที่ฟังและอ่าน พรอ้ มท้ังใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ ง ง่าย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และ
ความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ตัวชวี้ ัด
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เรอ่ื งทฟ่ี งั หรอื
อ่านอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตัวช้ีวดั

ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสำคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรอ่ื ง (topic) ท่ีไดจ้ ากการวิเคราะห์
เร่อื ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ท่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของภาษา โดยเฉพาะภาษาที่ใช้ในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน

ช่วยให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดผลประโยชน์และโอกาสทั้งทางด้านเศรษฐกิจและ
การศกึ ษา

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมเพ่ือให้บรรลตุ ามตวั ชีว้ ดั )
1. สามารถบอกความหมายคำศพั ท์ ประโยคต่าง ๆ สำนวนจากการอ่านบทความได้อยา่ งถกู ต้อง
2. สามารใชภ้ าษาในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซยี นในการสื่อสารไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (broaden, survive)

Nouns (opportunity, advantage, race, hub, investor,

infrastructure, cooperation, industry)

Adjectives (available, multilingual, fluent, beneficial)

Adverb (peacefully)

Functions: Discussing about language you should learn

I think we should learn Mandarin because there are lots of

Chinese companies in Asia.

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั ภาษาที่นักเรียนไทยควรเรียนรู้

Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี นสรปุ ผลการอภปิ รายในประเด็นท่กี ำหนด

3.2 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1) ความสามารถในการส่อื สาร

2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคณุ ลักษณะของผู้เรียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เปน็ เลศิ วชิ าการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด
4) ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
5) ร่วมกันรบั ผดิ อบตอ่ สงั คมโลก

4. ช้นิ งาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความร)ู้
ช้นิ งาน
1) บทสมั ภาษณ์เก่ียวกบั อาชีพของบุคคลในครอบครัว
2) บทความงานโฆษณา
3) บทสนทนาตามสถานการณท์ กี่ ำหนด
4) บทสนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณท์ ก่ี ำหนด
5) เรียงความเกี่ยวกับกฬี าทว่ี ัยรุน่ ไทยนิยมเลน่
6) บทความ blog เก่ียวกบั วนั หยุดสดุ สัปดาห์

ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขียนบทสมั ภาษณ์เกี่ยวกบั อาชีพของบุคคลในครอบครัว
2) ชิ้นงานโฆษณา
3) อ่านออกเสียงบทสนทนา

4) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ ำหนด
5) พดู สนทนาใหค้ ำแนะนำตามสถานการณ์ที่กำหนด
6) เขยี นเรยี งความเก่ียวกับกีฬาท่วี ยั รนุ่ ไทยนยิ มเลน่
7) เขยี น blog เกีย่ วกับวันหยุดสดุ สปั ดาห์

8) เขยี นสรุปผลการอภปิ รายในประเดน็ ทกี่ ำหนด

5. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

สงิ่ ทว่ี ดั ผล วิธีการวัด เครอื่ งมือวดั ผล เกณฑก์ าร

ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60

เรือ่ งทีอ่ ่าน

ดา้ นทกั ษะและ ประเมนิ การเขียนสรปุ ผลการ แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคณุ ภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) อภปิ รายในประเดน็ ที่กำหนด

ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ สงั เกตความใฝ่เรยี นร้แู ละ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น

ประสงค์ ( A ) ความมุง่ ม่ันในการทำงาน อันพึงประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ สังเกตการแสดงความคดิ เหน็ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดับคณุ ภาพ พอใช้

ผ้เู รยี น ( C ) เกยี่ วกบั ภาษาที่นกั เรยี นไทย เรียนรู้

ควรเรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นักเรยี นเกีย่ วกับประเทศกลุ่มประชาคมอาเซยี น ภาษาที่ใชใ้ นประเทศกลุม่ ประชาคม

อาเซยี น และนอกจากภาษาไทยแลว้ นกั เรยี นสามารถพดู ภาษาของประเทศใดในกลุม่ ประชาคมอาเซยี น

ขั้น Presentation

1. ครูใหน้ กั เรียนดภู าพและอา่ นชอื่ เรอื่ ง Why do we learn languages? ในหนงั สือเรียน หน้า 18 แลว้ ให้
นกั เรียนแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับความสำคญั ของภาษา

2. หนังสอื เรียน หนา้ 18 Ex. 1 ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นคำถามและขีดเส้นใต้คำว่า multilingual, economy,
education system ครูถามนกั เรียนว่าจากคำถามและคำศัพทท์ ่ีขดี เส้นใต้นักเรยี นคิดว่าจะได้เรียน
เกยี่ วกับอะไร

3. ครูให้นักเรียนอา่ นออกเสยี งคำศัพทท์ งั้ 3 คำ ตามครู จากน้ันนกั เรยี นอา่ นออกเสียงคำศัพท์พรอ้ มกัน
แล้วหาความหมายของคำศพั ทจ์ ากพจนานกุ รม

multilingual (adj) = using, speaking, or writing in several different languages
(ซ่งึ พดู /เขยี นไดห้ ลายภาษา)

economy (n) = the system by which a country’s money and goods are

produced and used, or a country considered in this way
(เศรษฐกจิ )


Click to View FlipBook Version