The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by coach.pranalee36, 2022-10-08 09:31:19

แผนการสอน อ 22101

รวมแผนหน่วย1-4

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: พูดแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะวธิ แี ก้ปญั หาสิ่งแวดล้อม

พูดสุนทรพจนเ์ กย่ี วกบั การอนุรกั ษส์ ่ิงแวดล้อมในบ้านของตนเอง

Reading: อ่านเพ่อื หาข้อมลู เฉพาะ

Writing: เขียนเกีย่ วกับวิธีการอนรุ ักษ์สิ่งแวดล้อม

3) Cultures การใช้เคร่ืองทำความรอ้ น

3.2 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1) ความสามารถในการสอื่ สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคณุ ลักษณะของผเู้ รยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวชิ าการ
2) ส่ือสารสองภาษา
3) ลำ้ หนา้ ทางความคดิ
4) ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์
5) ร่วมกันรับผิดอบต่อสังคมโลก

4. ช้นิ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความร้)ู
ชิ้นงาน
1) พดู สุนทรพจนเ์ กีย่ วกับการอนรุ กั ษส์ ่งิ แวดล้อมในบ้านของตนเอง
ภาระงาน (รวบยอด)
1) ค้นควา้ ข้อมลู เกย่ี วกบั วิธีการอนุรักษ์สิง่ แวดลอ้ มและเขยี นนำเสนอ

5. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

สงิ่ ท่วี ดั ผล วธิ กี ารวัด เครื่องมอื วัดผล เกณฑ์การ

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) รอ้ ยละ 60
การอา่ น
ด้านทกั ษะและ แบบประเมนิ การพดู ระดับคุณภาพ พอใช้
กระบวนการ ( P ) ประเมินการพดู สุนทรพจน์
เกย่ี วกบั การอนรุ กั ษ์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ สง่ิ แวดล้อมในบา้ นของ อันพงึ ประสงค์
ประสงค์ ( A ) ตนเอง

สังเกตความใฝเ่ รยี นรู้และ
ความมุ่งมัน่ ในการทำงาน

สิง่ ทวี่ ดั ผล วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื วดั ผล เกณฑก์ าร

ประเมนิ ผล

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ สังเกตการแสดงความคดิ เหน็ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ผเู้ รียน ( C ) และเสนอแนะวิธีแกป้ ญั หา เรยี นรู้

ส่ิงแวดลอ้ ม

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั Warm up
1. ครูใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเหน็ โดยถามนักเรียนว่า พลงั งานสำคัญอย่างไร
2. ครูให้นักเรียนดภู าพบ้าน 2 หลังดา้ นล่าง แลว้ ถามนกั เรียนว่า บ้านหลังใดทนี่ ักเรียนคิดวา่ ช่วยประหยดั

พลังงานมากกวา่ เพราะอะไร

The first house is more energy saving because it consists of lots of
glass windows, so we don’t have to turn on lights at daytime. Its roof

also consists of solar cells which can convert solar energy into
electricity.

ภาพจาก: https://www.socalsolarbrokers.com/single-post/2016/08/01/Are-my-appliances-using-too-much-power

ภาพจาก: http://in.mymymyband.com/small-house-plans-with-simple-style/floor-plans-for-small-houses/

ขั้น Pre-reading
1. ครถู ามนักเรยี นวา่ นักเรียนมวี ธิ ีในการประหยดั พลงั งานท่ีบ้านอยา่ งไรบ้าง โดยให้นักเรียนรว่ มกนั

อภปิ ราย
2. ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นชอ่ื เรือ่ งของบทอ่านและดูภาพประกอบในหนังสือเรียน หนา้ 52 แลว้ ใหน้ กั เรียนคาด

เดาว่าเรือ่ งท่จี ะไดอ้ ่านต่อไปน้ีนา่ จะเกยี่ วกบั อะไร (Eco-friendly Houses – การประหยดั พลงั งาน
ภายในบา้ น)
3. หนงั สือเรียน หนา้ 52 Ex. 1 ครถู ามคำถาม What’s an eco-friendly house? ใหน้ ักเรยี นบอก
คำตอบท่นี ่าจะเป็นไปได้ จากนน้ั ครูเปิด CD ใหน้ ักเรียนฟังและอา่ นบทอา่ นตามเพอ่ื หาคำตอบ

An eco-friendly house doesn’t waste water or electricity. It uses solar
energy, collects rainwater and recycles, repairs and reuses as much as
possible.

4. ครูนำเสนอคำศพั ทท์ จ่ี ะพบในบทอ่าน โดยอ่านออกเสียงคำศพั ท์ในหนงั สอื เรียน หนา้ 52 กรอบ Check
these words และใหน้ ักเรยี นอ่านตาม จากนั้นแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 4-6 คนและ
มอบหมายใหน้ ักเรียนในแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั หาความหมายของคำศพั ท์จากพจนานกุ รมหรือพจนานกุ รม
ออนไลน์ แล้วให้แต่ละกล่มุ ช่วยกันบอกความหมาย จากน้ันครูจึงบอกความหมายทถ่ี กู ต้อง
eco-friendly (adj) = not harmful to the environment (เปน็ มติ รกบั สิง่ แวดล้อม)
pollute (v) = to make air, water, soil etc. dangerously dirty and not
suitable for people to use (กอ่ ให้เกิดมลพิษ)
environment (n) = the air, water, and land in or on which people, animals,
and plants live (สิ่งแวดล้อม)
on standby (adj) = to be ready to be used if necessary (พร้อมใชง้ าน)
put on (v) = to move something you wear onto your body (สวมใส่)
tap (n) = a device that controls the flow of liquid, especially water,
from a pipe (กอ๊ กน้ำ)
recycle (v) = to sort and collect rubbish in order to treat it and
produce useful materials that can be used again (นำ
กลบั มาใชใ้ หม่)
charity (n) = any organisation that has the purpose of providing money
or helping those who are in need (หน่วยงานการกุศล)
factory (n) = a building or set of buildings where large amounts of
goods are made using machines (โรงงาน)
protect (v) = to keep someone or something safe from injury, damage,
or loss (ปกป้อง)
turn off (v) = to make a machine or piece of electrical equipment such
as a television, engine, light etc. stop operating by
pushing a button, turning a key etc. (ปดิ เครื่อง)

turn down (v) = to turn the switch on a machine such as an oven, radio

etc. so that it produces less heat, sound etc. (หรี่, ลด)

solar panel (n) = a device that changes energy from the sun into electricity

(แผงเซลลแ์ สงอาทิตย์)

throw away (v) = to get rid of something that you do not want or need (ท้งิ )

donate (v) = to give money or goods to help a person or organization

(บรจิ าค)

grow (v) = to increase in size or amount (ปลกู , เจรญิ เติบโต)

ความแตกต่างของคำว่า turn off และ close
turn off = to make a machine or piece of electrical equipment stop

operating by pushing a button, turning a key
Example: turn off a television, engine, light

close = to shut something in order to cover an opening, or to become shut
in this way
Example: close a curtain, door, window, eye

ขั้น Reading
หนงั สือเรยี น หน้า 52 Ex. 2 ครใู ห้นักเรียนอ่านคำถามท่ีกำหนดให้ มา เมื่ออา่ นคำถามจนเข้าใจแล้ว ให้

นักเรยี นสังเกตคำหรือวลใี นคำถาม แล้วอ่านบทอ่าน เพอื่ ดูว่าคำหรอื วลีในคำถามนน้ั เก่ียวกบั เนอ้ื เร่อื ง
ส่วนใด เม่ือพบแล้วใหอ้ ่านเฉพาะประโยคหรือข้อความที่คำถามนั้นพาดพิงไปถงึ หรืออาจจะอ่านขอ้ ความ
แวดลอ้ มประมาณ 1-2 ประโยคก่อนหนา้ หรอื ถดั ไปทีม่ ีขอ้ มูลพาดพิงไปถึง เม่อื เขา้ ใจแลว้ จงึ ตอบคำถามท่ี

ให้มา โดยครูแนะนำนกั เรียนว่า หากพบคำทไ่ี มร่ คู้ วามหมายในระหว่างที่อ่าน ใหใ้ ช้การเดาความหมาย
จากบรบิ ท จากนน้ั ครูให้นักเรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบ

1 Cars, factories, people and our homes pollute the environment.

2 We can save electricity by turning off the lights when we are not in a
room, not leaving computers, DVD players and TVs on standby and

putting solar panels on our roofs.
3 We can save water by not running the tap when we clean our teeth or

wash vegetables. We can also collect rainwater to clean the car and

water the garden.
4 The three Rs are reuse, repair and recycle.

5 We should grow our own vegetables in our garden because it’s eco-
friendly and healthy.

ขัน้ Post-reading
1. ครูถามนักเรยี นวา่ คำแนะนำในบทอ่านขอ้ ใดทีไ่ มต่ รงกับบรบิ ทของประเทศไทย และสามารถ

ปรบั เปลย่ี นไดอ้ ยา่ งไรบ้าง (turn down the heating – turn down the air conditioner เนื่องจาก
ประเทศไทยเปน็ เมืองรอ้ น ไมม่ กี ารใช้เคร่ืองทำความรอ้ น)
2. หนังสือเรียนหน้า 52 Ex. 3 ครใู ห้นกั เรียนนำความรทู้ ่ีได้จากบทอา่ นมาพดู สนุ ทรพจนเ์ กย่ี วกบั การ
อนรุ กั ษส์ ่งิ แวดล้อมในบ้านของตนเองโดยใช้ should/shouldn’t ครูแนะนำนกั เรียนว่าการพูด
สนุ ทรพจน์ควรประกอบไปดว้ ยส่วนต่าง ๆ ดงั นี้

a. start with a greeting (Hello!, Good morning, etc.)
b. state the topic of the speech (I would like to talk to you about ...), present

points as clearly as possible
c. end the speech thanking the audience (Thank you for listening)
จากน้ันครูแบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุ่มย่อย และใหเ้ วลานกั เรียนเตรียมตวั แล้วในแต่ละกลุ่มออกมา
นำเสนอสุนทรพจนเ์ ก่ยี วกับการประหยดั พลังงานในบา้ นของตนเอง

Hello. I would like to talk to you about how we can save the planet
by doing things at home.

Firstly, you should turn off the lights when you aren’t in a room
and you should turn the heating down. You can put a jumper on if you
are cold. There are other things you should do, too. You should be
careful about running the tap too much because this wastes water. You
should collect rainwater and use it to clean the car and water your
garden. You should grow your own vegetables in your garden too. It’s
eco-friendly and healthy. Finally, don’t forget to reuse, repair and recycle.
You shouldn’t throw things away. You should repair them, recycle them
or donate them to someone else. Thank you for listening.

3. นกั เรยี นทำ Language Review 4e & Prepositions Exs. 5-6 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 108 ร่วมกันในช้นั
แบบฝกึ หดั (Workbook) หน้า 34 Exs. 1-2 ให้นักเรยี นทำเป็นการบา้ น

7. สือ่ /อปุ กรณ/์ แหลง่ เรยี นรู้

ส่อื 1) หนงั สอื เรียน SPARK 2 ม. 2
วสั ดอุ ุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสอ่ื ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
แหลง่ เรียนรู้ 3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2

1) พจนานกุ รมองั กฤษ-องั กฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์

3) ภาพการต์ นู
4) คลิปวดิ ีโอ
1) ห้องสมุด

2) อนิ เทอรเ์ น็ต

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคิดเหน็ (รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ที่ไดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวิทย)์
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทึกผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้
รหัสวชิ า อ22101 รายวิชาภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10

เรอื่ ง Across the curriculum 4e
**********************************************************************************

บันทกึ วนั เดือน ปีที่ใช้สอน

ชัน้ /กลุม่
วัน/เดอื น/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นักเรยี น…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคุณลกั ษณะทอ่ี ันพงึ ประสงค์ (A)– มีสขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/สงิ่ ทพ่ี ฒั นา วิธีแกไ้ ข/พฒั นา และผลการแกไ้ ข/พฒั นา
ปัญหา/สิง่ ที่พฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธแี ก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื .............................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชื่อ.............................................รองผู้อำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกล่อม) (นายนราวธุ สุจิตะพนั ธ์)

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 11 เร่ือง Across the curriculum 4e
รหสั วิชา อ22101 รายวิชา ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน

ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง Sports & Chores เวลา 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัดช้นั ป/ี ผลการเรียนรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอ่ื งทฟ่ี ังและอ่านจากส่อื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อยา่ งมีเหตุผล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวข้อเรอื่ ง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนบั สนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเร่ืองทีฟ่ ังและอ่าน พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตวั อยา่ งงา่ ย ๆ
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ช้วี ัด
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขยี นเพ่ือขอและให้ข้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเร่ืองท่ฟี งั หรอื
อ่านอย่างเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สกึ และความคดิ เห็นของตนเองเก่ยี วกับเรอ่ื งต่าง ๆ กจิ กรรม
และประสบการณ์ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตุผลประกอบอย่าง เหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอ่ื งต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตัวช้วี ดั
ต 1.3 ม. 2/2 พูดและเขียนสรุปใจความสำคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรอ่ื ง (topic) ทีไ่ ด้จากการวิเคราะห์
เรื่อง/ข่าว/เหตุการณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/3 พดู และเขียนแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับกิจกรรม เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และประสบการณ์
พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตุผลสั้น ๆ ประกอบ

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ตัวชว้ี ดั
ต 2.2 ม. 2/2 เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างชวี ติ ความเป็นอยแู่ ละ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ นื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่ืน และเปน็

พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน
ตวั ชวี้ ัด

ต 3.1 ม. 2/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ข้อเท็จจรงิ ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่ จาก
แหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครอ่ื งมอื พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และ

การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กับสังคมโลก
ตวั ช้วี ดั

ต 4.2 ม. 2/2 เผยแพร่/ประชาสมั พนั ธ์ข้อมลู ขา่ วสารของโรงเรยี นเปน็ ภาษาต่างประเทศ

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การเรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยให้สามารถเข้าใจเรื่องที่อ่าน บอก
รายละเอยี ด และแสดงความคดิ เหน็ รวมทงั้ สามารถใช้ส่อื เทคโนโลยีคน้ คว้าข้อมูลเกยี่ วกบั ส่งิ แวดล้อม และพูด/
เขยี นนำเสนอได้

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพือ่ ให้บรรลุตามตัวชีว้ ัด)

1. สามารถบอกความหมายคำศพั ท์ ประโยคตา่ ง ๆ สำนวนจากการอา่ นบทความไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง
2. สามารถนำคำศพั ท์ ประโยคตา่ ง ๆ ไปใช้ในการเขยี นข้อความไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (pollute, protect, turn off, turn down, put on, throw away,
recycle, donate, grow)
Nouns (factory, environment, solar panel, tap, charity)
Adjective (eco-friendly)
Phrase (on standby)
Environmental problems (acid rain, air pollution, animal
extinction, deforestation, global warming, natural resource
depletion, overpopulation, soil pollution, waste disposal, water
pollution)

Functions: Talking about protection of the environment
You should turn off the lights when you aren’t in room.

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: พูดแสดงความคิดเหน็ และเสนอแนะวธิ แี ก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

พูดสุนทรพจนเ์ กย่ี วกับการอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มในบา้ นของตนเอง

Reading: อ่านเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขยี นเกย่ี วกบั วธิ ีการอนุรกั ษ์ส่ิงแวดลอ้ ม

3) Cultures การใช้เครือ่ งทำความรอ้ น

3.2 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งม่นั ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคุณลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวชิ าการ
2) ส่อื สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคดิ
4) ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์
5) ร่วมกันรบั ผิดอบตอ่ สงั คมโลก

4. ชิ้นงาน/ภาระงาน (หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความร)ู้
ชิ้นงาน
1) พูดสนุ ทรพจน์เก่ียวกบั การอนรุ ักษส์ ง่ิ แวดล้อมในบ้านของตนเอง
ภาระงาน (รวบยอด)
1) ค้นควา้ ขอ้ มูลเก่ียวกับวิธีการอนุรักษ์สง่ิ แวดลอ้ มและเขยี นนำเสนอ

5. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สิ่งที่วดั ผล วธิ กี ารวดั เคร่อื งมือวัดผล เกณฑก์ าร

ประเมนิ ผล

ด้านความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60
การอา่ น
ดา้ นทักษะและ แบบประเมนิ การสำรวจ/ ระดบั คุณภาพ พอใช้
กระบวนการ ( P ) ประเมินการค้นคว้าขอ้ มูล คน้ ควา้ ข้อมูล
เก่ยี วกับวิธีการอนรุ ักษ์
ด้านคุณลักษณะอันพงึ สงิ่ แวดล้อมและเขียน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
ประสงค์ ( A ) นำเสนอ อนั พงึ ประสงค์

สงั เกตความใฝเ่ รียนรู้และ
ความมุ่งมนั่ ในการทำงาน

สง่ิ ท่ีวดั ผล วธิ กี ารวัด เครื่องมอื วดั ผล เกณฑก์ าร

ประเมินผล

ด้านสมรรถนะสำคญั ของ สงั เกตการแสดงความคดิ เหน็ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ผู้เรยี น ( C ) และเสนอแนะวธิ แี ก้ปญั หา เรยี นรู้

ส่งิ แวดลอ้ ม

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ Warm up

1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านการ์ตูนตอ่ ไปนี้ และแสดงความคดิ เหน็ วา่ การ์ตูนดงั กล่าวเกยี่ วกบั อะไร ต้องการส่อื สาร
อะไร

ภาพจาก: http://matthewjamestaylor.com/comics/graeme-frontbum

2. ครถู ามนกั เรียนว่า คิดวา่ ขยะพลาสติกเปน็ ปัญหาต่อส่ิงแวดล้อมมากน้อยเพียงใด และใหน้ ักเรยี นเลา่
ปญั หาท่เี คยพบเก่ยี วกับขยะพลาสติก พร้อมทัง้ เสนอแนะวธิ ีการแกไ้ ข

ขนั้ Presentation
1. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน ให้แตล่ ะกลมุ่ อภิปรายว่าปญั หาส่งิ แวดลอ้ มในปัจจุบันนี้มี

อะไรบ้าง จากนัน้ ครใู ห้แต่ละกลมุ่ นำเสนอ และครูเขียนความคิดเห็นของนกั เรียนบนกระดาน
2. ครนู ำเสนอคำศพั ทเ์ กย่ี วกบั ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มบนกระดาน และให้นกั เรียนอ่านตามครู จากน้นั ให้

นกั เรยี นช่วยกนั บอกความหมาย โดยครชู ว่ ยสรุปความหมายท่ีถูกตอ้ ง
Environmental Problems
1. acid rain (ฝนกรด)
2. air pollution (มลพิษทางอากาศ)
3. animal extinction (การสูญพันธ์ของสตั ว์)
4. deforestation (การตัดไม้ทำลายป่า)
5. global warming (ภาวะโลกรอ้ น)
6. natural resource depletion (การลดลงของทรัพยากรธรรมชาต)ิ
7. overpopulation (การมีจำนวนประชากรมากเกนิ ไป)
8. soil pollution (มลพิษทางดิน)
9. waste disposal (การกำจดั ของเสีย)
10. water pollution (มลพษิ ทางน้ำ)

ขน้ั Practice
1. ครใู หน้ ักเรยี นดคู ลปิ วดิ โี อจาก https://www.youtube.com/watch?v=hufC33MvmSw เก่ยี วกบั

ปัญหาสิง่ แวดล้อมปญั หาหนึง่ ในประเทศไทย โดยก่อนเปดิ คลิปวดิ ีโอครูเขียนตัง้ คำถามตอ่ ไปนี้บน
กระดาน

• What is the problem?
• Who will be affected the most? Why?
เมอื่ ดคู ลิปวิดีโอจบครใู ห้นักเรยี นตอบคำถามบนกระดาน

• What is the problem? (Waste.)
• Who will be affected the most? Why? (The poor. Because they cannot

afford to move.)

2. ครูถามนักเรียนว่า What can we do to help solve the problem? ใหน้ ักเรยี นเสนอแนะวธิ ีการ
แกไ้ ขปญั หาท่ีตนเองสามารถทำได้ เช่น Reuse papers. Reduce using plastic bags.

3. ครูชใี้ หน้ ักเรยี นเหน็ ว่าปัญหาส่งิ แวดลอ้ มนน้ั มีอย่มู ากมาย ซึ่งเราทกุ คนมสี ่วนทำให้เกิดปญั หาเหลา่ นั้น
อย่างไรก็ตาม เราสามารถร่วมมือกนั ปรบั เปลีย่ นวิถีการใช้ชวี ติ เพื่อชว่ ยอนุรักษส์ ่งิ แวดล้อมได้ โดยให้เริ่ม
จากตนเองกอ่ น

4. ครูใหน้ กั เรยี นเข้ากลุม่ เดมิ และทบทวนส่งิ ที่ไดร้ ว่ มกันอภิปรายเกี่ยวกับการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม และบท
อา่ นทไ่ี ดอ้ ่านในช่ัวโมงทแี่ ล้วเกย่ี วกับการอนรุ กั ษ์พลังงานภายในบ้าน

ข้ัน Production
1. หนังสือเรยี น หนา้ 52 Ex. 4 ครูมอบหมายให้แต่ละกล่มุ ค้นคว้าขอ้ มูลจากอนิ เทอร์เนต็ เกีย่ วกับวธิ ีการ

อนรุ ักษ์ส่งิ แวดล้อมทท่ี กุ คนสามารถนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ครแู นะนำให้นกั เรยี นใช้คำสำคญั protect the
environment ในการค้นคว้า แลว้ เขยี นสรุปขอ้ มูล

You can protect the environment in many ways.
• You should always recycle.
• If there are no recycle bins on your street, ask your local council to

put some there.
• Make sure that you put recyclable items in the correct bins. You can

often find places to recycle batteries and mobile phones in electronics
stores.
• You could start a recycling scheme at your school.
• Instead of going somewhere by car, you should walk, use your bicycle
or use public transport as much as you can. Fumes from cars cause a
lot of pollution in the air.

• You should try to save electricity. Don’t leave your mobile phone
charger in the plug. Even though your phone is not attached, the

charger will still use electricity.
We can all help in lots of ways!

2. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอทหี่ นา้ ชนั้ เรียน จากน้นั ให้นกั เรยี นทุกคนร่วมกนั แสดง ความ
คดิ เห็นเก่ยี วกับวธิ กี ารท่ีเพ่ือนแต่ละกลุม่ นำเสนอวา่ สามารถนำไปปฏิบัติจริงในชวี ิตประจำวันได้หรอื ไม่

และควรมีการปรับเปล่ยี นอย่างไรบา้ ง
ครบู อกนกั เรยี นว่าเพือ่ เปน็ การประชาสัมพนั ธ์เกีย่ วกับการอนรุ กั ษส์ ่งิ แวดลอ้ ม ให้

นกั เรียนโพสต์ข้อความทน่ี ักเรยี นไดน้ ำเสนอเก่ยี วกบั การอนุรักษส์ ิง่ แวดลอ้ มนีล้ งในส่อื
สงั คมออนไลนท์ ่ีนกั เรียนใช้

7. สอ่ื /อุปกรณ/์ แหล่งเรียนรู้

สือ่ 1) หนังสอื เรียน SPARK 2 ม. 2
วสั ดอุ ุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรยี นรู้ 3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2

1) พจนานกุ รมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์
3) ภาพการต์ ูน
4) คลิปวดิ โี อ
1) ห้องสมุด
2) อินเทอร์เนต็

ลงชื่อ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)

ครูผู้สอน

ความคิดเห็น (รองผูอ้ ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ท่ีได้รับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชื่อ............................................................
(นางชไมพร อรา่ มวิทย)์
ตำแหน่ง ครู
วันท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทกึ ผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
รหัสวชิ า อ22101 รายวชิ าภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 11

เรือ่ ง Across the curriculum 4e
**********************************************************************************

บันทกึ วนั เดือน ปีที่ใช้สอน

ชัน้ /กลุม่
วัน/เดอื น/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นักเรยี น…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคุณลกั ษณะทอ่ี ันพึงประสงค์ (A)– มีสขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/สงิ่ ทพ่ี ฒั นา วิธีแกไ้ ข/พฒั นา และผลการแกไ้ ข/พัฒนา
ปัญหา/สิง่ ที่พฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธแี ก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื .............................................ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชื่อ.............................................รองผู้อำนวยการ ลงชือ่ ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนูญ กลับกล่อม) (นายนราวธุ สุจิตะพนั ธ์)

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 12 เรือ่ ง Writing 4f
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพื้นฐาน
ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เร่อื ง Sports & Chores เวลา 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัดชน้ั ปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องที่ฟงั และอา่ นจากสอื่ ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเรื่องที่ฟังและอ่าน พรอ้ มทั้งให้เหตุผลและยกตัวอยา่ ง งา่ ย
ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและความ
คดิ เหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ตัวชว้ี ดั
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูล บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเรอื่ งทีฟ่ งั หรอื
อา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ ง ๆ โดยการ
พูดและการเขียน
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณท์ ี่อยู่ในความสนใจของสังคม

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุม่ สาระการเรียนรอู้ น่ื และเป็น

พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
ตวั ชี้วดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจรงิ ท่เี ก่ียวข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ื่นจาก

แหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เครอ่ื งมอื พน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และ

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั สังคมโลก
ตวั ชว้ี ดั

ต 4.2 ม. 2/2 เผยแพร่/ประชาสัมพันธข์ อ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรียนเป็นภาษาต่างประเทศ

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรยี นรูแ้ ละเขา้ ใจเก่ียวกบั คำศัพท์ การลำดับเหตุการณ์ และโครงร่างในการเขียน ชว่ ยให้ฟงั และอ่าน

ได้เข้าใจ รวมทั้งการเรียนรู้เทคนิคในการตรวจงานเขียน จะช่วยให้สามารถเขียนสื่อสารได้ถูกต้องและมี
ประสิทธภิ าพ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมเพ่ือให้บรรลุตามตัวช้วี ัด)
1. สามารถใชเ้ ครื่องหมายต่าง ๆ ในการเขยี นประโยค สะกดคำศัพท์ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

2. สามารถเขียนสอื่ สารรปู แบบการเขยี นทัง้ ทเ่ี ป็นทางการและไมเ่ ป็นทางการได้อย่างถูกต้อง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)
1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (travel, move from side to side, wonder, step back)
Nouns (legend, journey, edge, log)

Adjectives (excited, misty)
Phrase (in horror)
Functions: Narrating a story

First, they started their journey to Loch Ness. Then they reached
the lake and John walked to the lake to take pictures.

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขียนสรุปเร่ืองทีอ่ ่าน, เขียนเร่ืองเล่า

3.2 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้

2) มุ่งมั่นในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

1) ความสามารถในการสอ่ื สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคณุ ลักษณะของผู้เรยี นตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวิชาการ
2) ส่อื สารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด
4) ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกันรบั ผิดอบต่อสังคมโลก

4. ช้ินงาน/ภาระงาน (หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความร)ู้
ชนิ้ งาน
1) โปสเตอร์เกีย่ วกับ Loch Ness
ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขียนเรื่องเลา่

5. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

สิง่ ทว่ี ดั ผล วิธีการวัด เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑ์การ

ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60

การอา่ นหรอื การฟงั

ดา้ นทักษะและ ประเมนิ การเขียนเร่ืองเล่า แบบประเมินการเขยี น ระดับคุณภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P )

ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ สังเกตความใฝ่เรียนรูแ้ ละ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ ผ่าน
อนั พงึ ประสงค์
ประสงค์ ( A ) ความมุ่งม่นั ในการทำงาน
แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของ ประเมินชน้ิ งานโปสเตอร์

ผ้เู รยี น ( C ) เกี่ยวกบั Loch Ness

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั Warm up
1. ครเู ขียนคำวา่ Monster บนกระดาน แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั บอกชอื่ สตั ว์ประหลาดท่นี ักเรียนรจู้ กั ครู
อาจจะนำภาพสัตวป์ ระหลาดต่าง ๆ มาใหน้ กั เรียนดู เพือ่ ให้นักเรยี นบอกชอื่ เชน่ Kraken (คราเค่น),
Yeti (เยต)ิ , Bigfoot (บ๊กิ ฟตุ )
2. ครใู ห้นักเรยี นเดาว่าบทเรยี นน้ีนกั เรียนจะได้เรยี นเก่ียวกับเรอ่ื งอะไร

ข้ัน Pre-reading
1. ครูเขียนคำวา่ Nessie บนกระดาน อ่านให้นกั เรยี นฟงั แล้วถามวา่ นักเรยี นเคยไดย้ นิ ชื่อนหี้ รอื ไม่ ครใู ห้

นกั เรยี นชว่ ยกันบอกขอ้ มลู ท่ีนกั เรียนรู้เกย่ี วกบั Nessie จากนนั้ ครใู หข้ ้อมูลเพ่ิมเติมเก่ียวกบั Nessie
2. ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นคำศพั ท์ในกรอบ Check these words หนงั สือเรยี น หนา้ 41 แลว้ ช่วยกันอธบิ าย

ความหมาย ถ้าคำใดนักเรยี นไม่รู้ให้เปิดหาความหมายจากพจนานุกรม
3. ครูใหน้ ักเรียนดภู าพ A-D ในหนงั สือเรียน หน้า 41 แล้วช่วยกันพดู บรรยายภาพ เช่น

Picture A: A man pointing to a log talks with a boy.
Picture B: A family is having a picnic.
Picture C: A boy sees something in the water.
Picture D: A family is driving into the park.

ข้นั Reading
1. หนงั สือเรยี น หน้า 41 Ex. 1 ครูอธบิ ายว่าภาพ A-D เป็นภาพจากเหตุการณข์ องเร่อื งท่นี ักเรยี นจะได้

อ่าน ให้นักเรยี นเรยี งลำดบั ภาพให้ถกู ต้องตามเหตุการณ์ จากน้นั ครใู หน้ กั เรียนฟัง CD และอา่ น บท
อา่ นตามไปด้วย แลว้ สมุ่ เรยี กนกั เรยี นบอกคำตอบ

1D 2C 3A 4B
2. หนงั สอื เรียน หนา้ 41 Ex. 2 นักเรยี นเรียงลำดับเหตุการณ์จาก A-H โดยยงั ไม่ต้องอ่านบทอา่ น ประโยค

ใดทไ่ี ม่แน่ใจใหน้ ักเรยี นขดี เสน้ ใต้ไว้ จากน้ันครูให้นกั เรียนอา่ นบทอ่าน แลว้ ดกู ารเรียงลำดบั เหตุการณ์
และปรบั แก้ เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ

A2 B1 C3 D7
E 4 F 8 G6 H5

ขั้น Post-reading
1. ครูให้นกั เรียนเขียนสรุปเรอื่ ง The Monster โดยใช้ประโยค A-H จาก Ex. 2 และคำลำดับ

เหตกุ ารณ์first, then, next และ after that จากน้นั ครูสุ่มเรยี กนักเรียน 2 อ่านให้เพอ่ื นฟัง

First, they started their journey to Loch Ness. Then they reached the lake
and John walked to the lake to take pictures. Next a long neck appeared
and John started shouting. His dad laughed and John realised his mistake.
It was a log. After that they had their picnic.

2. นักเรียนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 3-4 คน ใหแ้ ต่ละกล่มุ ตั้งคำถาม Wh-questions เกย่ี วกบั เรื่อง The
Monster มากลุ่มละ 3 คำถาม จากนนั้ ครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลอื กคำถาม 1 ข้อ เพ่อื ถามเพ่ือนในชน้ั โดยแต่
ละกลุ่มต้องไมถ่ ามคำถามซำ้ กัน เช่น
Group 1: Where is Loch Ness?
Class: Scotland.
Group 1: That’s correct.
Group 2: Why did John’s family travell to Scotland?
Class: Because they wanted to go to the Edinburgh festival and visited
Loch Ness.
Group 2: That’s correct.

3. ครใู หน้ ักเรยี นกล่มุ เดมิ ชว่ ยกนั คน้ คว้าขอ้ มูลเพ่ิมเติมเกี่ยวกับ Loch Ness จากอินเทอรเ์ นต็ แลว้ จัดทำ
โปสเตอร์ โดยครใู หน้ ักเรยี นระดมสมองคิดหัวข้อท่ีอยา่ งเกี่ยวกบั Loch Ness แล้วครเู ขยี นบนกระดาน
เช่น location, width, length, depth, activities

4. แบบฝึกหดั (Workbook) หน้า 27 Exs. 1-4 ให้นกั เรยี นทำเปน็ การบา้ น

7. สื่อ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

ส่อื 1) หนงั สอื เรียน SPARK 2 ม. 2
วัสดอุ ุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสอ่ื ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรยี นรู้ 3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2

1) พจนานกุ รมอังกฤษ-องั กฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์

3) ภาพสัตว์ประหลาดต่าง ๆ
1) หอ้ งสมดุ
2) อนิ เทอรเ์ น็ต

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคิดเหน็ (รองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ที่ไดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงช่ือ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวิทย)์
ตำแหน่ง ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 12

เรื่อง Writing 3f
**********************************************************************************

บันทึกวัน เดือน ปีที่ใช้สอน

ช้ัน/กล่มุ
วนั /เดอื น/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นักเรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะทอ่ี นั พึงประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/ส่ิงทพ่ี ัฒนา วิธีแกไ้ ข/พฒั นา และผลการแก้ไข/พัฒนา
ปัญหา/สง่ิ ท่พี ัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ ีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครผู ู้สอน ลงชือ่ ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผู้อำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผู้อำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกลอ่ ม) (นายนราวุธ สุจติ ะพนั ธ์)

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 13 เรื่อง Writing 4f
รหสั วชิ า อ22101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน

ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง Sports & Chores เวลา 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ัดชน้ั ป/ี ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ นจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ชว้ี ัด
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวข้อเร่อื ง ใจความสำคัญ บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั เรอื่ งท่ฟี งั และอา่ น พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างงา่ ย ๆ
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่อื งต่าง ๆ โดยการ
พูดและการเขยี น
ตัวช้วี ัด

ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกยี่ วกับตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์
ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสังคม

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรคู้ ำศพั ทแ์ ละโครงสร้าง ชว่ ยให้สามารถเขา้ ใจเรือ่ งท่ีฟงั และเขียนสอ่ื สารได้อยา่ งถกู ตอ้ ง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมเพื่อให้บรรลุตามตวั ชว้ี ดั )

1. สามารถเรยี นร้คู ำศพั ทแ์ ละโครงสร้างได้อย่างถกู ต้อง
2. สามารถเข้าใจเร่ืองท่ีฟงั และเขยี นสอ่ื สารได้อย่างถูกต้อง

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (arrive, choose, hang out)

Nouns (group leader, midnight)

Adjectives (friendly, cool)

Phrase (so far so good)

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มลู เฉพาะ

Reading: อ่านและเตมิ คำ

Writing: เขียนอเี มลเล่าเกี่ยวกับกฎระเบยี บของโรงเรียน

3.2 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มน่ั ในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคณุ ลกั ษณะของผเู้ รยี นตามหลักสตู รมาตรฐานสากล
1) เป็นเลศิ วิชาการ
2) สอื่ สารสองภาษา
3) ลำ้ หน้าทางความคิด
4) ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์
5) ร่วมกนั รับผิดอบต่อสังคมโลก

4. ชิน้ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐานร่องรอยแสดงความรู)้
ช้นิ งาน
1) โปสเตอรเ์ กีย่ วกับ Loch Ness
ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขยี นเรือ่ งเลา่

5. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

สง่ิ ทีว่ ัดผล วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การ

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก แบบฝกึ หดั (Workbook) ร้อยละ 60

การอา่ นหรือการฟัง

ดา้ นทักษะและ ประเมินการเขียนอเี มล แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) เก่ยี วกับกฎระเบียบของ

โรงเรียน

ดา้ นคุณลักษณะอันพึง สงั เกตความใฝเ่ รียนรู้และ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความม่งุ มน่ั ในการทำงาน อนั พึงประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของ สังเกตการฟังบทสนทนาและ แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดับคุณภาพ พอใช้

ผู้เรียน ( C ) จดบนั ทึกขอ้ มลู เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
1. ครถู ามนักเรียนวา่ เคยมปี ระสบการณ์การไปเข้าคา่ ยหรอื ไม่ ให้นักเรยี นแบง่ ปันประสบการณก์ บั เพ่ือน
รว่ มชั้นว่าไดท้ ำกจิ กรรมอะไรบา้ ง และไดเ้ รยี นร้อู ะไรบ้าง
2. ครบู อกนักเรียนว่า ในช่วั โมงนี้นกั เรยี นจะได้เขียนอเี มลถงึ เพือ่ นเพือ่ เลา่ เก่ยี วกับการเรยี นในภาคฤดูรอ้ น

ข้ัน Pre-writing
1. ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันบอกส่วนประกอบของอเี มล โดยดูอเี มลในหนงั สอื เรยี น หนา้ 53 Ex. 1

opening remarks

closing remarks

name of sender

2. ครูถามนกั เรยี นว่า นอกจากคำขนึ้ ต้น Hi และคำลงท้าย See you soon นกั เรียนสามารถใช้คำใดได้
อีกบา้ ง ให้นกั เรียนชว่ ยกนั คิดและบอก โดยครูเขยี นตามบนกระดาน จากนนั้ ครูเพิ่มเติมวลีอืน่ ๆ ท่ี

นักเรียนมกั จะคุ้นเคย
Opening remarks

• Dear …,
• Hello …,
• What’s up …,

Closing remarks
• Best wishes,

• I hope to hear from you soon,
• I am looking forward to meeting you,
3. ครใู หน้ กั เรียนทบทวนการใช้ have to, must, mustn’t และ can เพ่อื นำไปใชใ้ นการเขียนเกย่ี วกับ

กฎระเบยี บของโรงเรียน
4. ครอู ธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 53 Ex. 4 วา่ นักเรยี นจะได้เขยี นอีเมล โดยสมมตวิ ่าตนเองอย่ทู ่ี

โรงเรียนสำหรับภาคเรียนฤดูร้อน ใหน้ กั เรยี นเขียนอเี มลถงึ เพ่อื นเพ่ือเล่าเกย่ี วกบั กฎระเบยี บของโรงเรยี น

ขน้ั Writing
หนงั สือเรียน หน้า 53 Ex. 4 ครูให้นักเรยี นเขียนอเี มลตามโครงรา่ งทีก่ ำหนดให้ ความยาว 60-80 คำ

Hi Peter,
I’m here at a summer school in England. I arrived here a few days ago. It’s great.
There are lots of things to do and I’m learning lots of English.
We have to get up at 8 am every day, but we can eat whatever we want for
breakfast. Our first class starts at 10 am and we mustn’t be late. After class there are
a lot of activities to do. We can play lots of sports and go horse riding or canoeing.
In the evening, we have to be in bed before midnight. After the lights are out we
mustn’t talk. There are a lot of rules, but actually the camp is fun!
See you soon,

Panos

ขัน้ Post-writing
1. เม่อื นักเรยี นเขียนอเี มลเสร็จแล้ว ครูให้นกั เรยี นจับคกู่ ันแลกเปลย่ี นกันตรวจ โดยดกู ารสะกดคำไวยากรณ์

และการใชเ้ คร่อื งหมาย จากนั้นให้นกั เรียนแกไ้ ขอีเมลของตนเองใหถ้ กู ตอ้ ง
2. ครูให้นักเรียนพมิ พ์อีเมลลงในโทรศัพทม์ อื ถือหรือคอมพิวเตอร์ แล้วสง่ อีเมลถึงครู

3. นกั เรียนทำ Self-Check 4 ในหนงั สือเรียน หน้า 116
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 35 Ex. 4 ให้นกั เรยี นทำเป็นการบ้าน

7. สอื่ /อุปกรณ/์ แหล่งเรยี นรู้

สอ่ื 1) หนงั สอื เรียน SPARK 2 ม. 2
วัสดอุ ปุ กรณ์
2) Class Audio CDs ประกอบสอื่ ฯ ชดุ SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรียนรู้ 3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2

1) พจนานกุ รมองั กฤษ-องั กฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์
3) ภาพแผนที่แสดงท่ีตัง้ เกาะซาร์ดเิ นยี (Sardinia)

4) ภาพเรือ canoe และ kayak
5) โทรศพั ทม์ ือถอื หรือคอมพิวเตอร์

1) หอ้ งสมดุ
2) อนิ เทอรเ์ น็ต

ลงช่ือ............................................................

(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครูผู้สอน

ความคดิ เห็น (รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวชิ าการ / ผู้บรหิ าร / ผู้ทไี่ ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชือ่ ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวิทย)์
ตำแหน่ง ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บันทกึ ผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้
รหัสวิชา อ22101 รายวิชาภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 13

เรื่อง Writing 4f
**********************************************************************************

บันทึกวัน เดือน ปีที่ใช้สอน

ช้ัน/กล่มุ
วนั /เดอื น/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นักเรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะที่อนั พงึ ประสงค์ (A)– มีสขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/สงิ่ ทพ่ี ัฒนา วิธีแกไ้ ข/พัฒนา และผลการแก้ไข/พัฒนา
ปัญหา/สง่ิ ท่พี ัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วธิ ีแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครผู ู้สอน ลงชือ่ ...........................................หวั หน้ากลุ่มสาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรเี ทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผ้อู ำนวยการ ลงชื่อ...........................................ผ้อู ำนวยการโรงเรียน

(นายมนูญ กลับกลอ่ ม) (นายนราวุธ สุจิตะพนั ธ์)

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 14 เร่อื ง ASEAN corner 4
รหัสวิชา อ22101 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน
ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรื่อง Sports & Chores เวลา 1 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชว้ี ดั ชน้ั ปี/ผลการเรยี นรู้
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอ่ื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอ่ื งทฟี่ งั และอ่านจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อยา่ งมีเหตุผล
ตัวชว้ี ดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ข้อเรอ่ื ง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนับสนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรือ่ งทฟี่ ังและอ่าน พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างงา่ ย ๆ
ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และ
ความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชวี้ ัด
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สกึ และความคิดเหน็ ของตนเองเกย่ี วกับเรื่องต่าง ๆ กจิ กรรม
และประสบการณ์ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตุผลประกอบอย่างเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขียน
ตัวช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/2 พูดและเขียนสรปุ ใจความสำคญั แกน่ สาระ หวั ข้อเรอื่ ง (topic) ท่ไี ด้จากการวเิ คราะห์
เรื่อง/ขา่ ว/เหตกุ ารณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม เรอื่ งต่าง ๆ ใกล้ตวั และประสบการณ์
พรอ้ มทั้งให้เหตุผลสั้น ๆ ประกอบ

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวัด
ต 2.2 ม. 2/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างชีวิตความเปน็ อยแู่ ละ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรยี นร้อู นื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรยี นร้อู ืน่ และเป็น

พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั น์ของตน
ตัวชีว้ ัด

ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงที่เกย่ี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ จาก
แหลง่ การเรียนรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกับกฬี าที่เป็นที่นิยมในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน จะช่วยให้เข้าใจความคลา้ ยคลึง

ดา้ นวฒั นธรรมและวถิ ชี วี ิตความเปน็ อยู่ในภมู ิภาคอาเซยี น

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมเพอื่ ใหบ้ รรลตุ ามตวั ช้วี ดั )

1. สามารถบอกความหมายคำศพั ท์ ประโยคต่าง ๆ สำนวนจากการอา่ นบทความได้อย่างถกู ต้อง

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ด้านความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Nouns (court, rattan ball, opponent, aim, evidence, existence,

relationship, formation)

Adjectives (unreturnable, creative)

2) ทักษะ /กระบวนการ (Process)

Speaking: พูดแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั กีฬาทเ่ี ปน็ ท่ีนิยมในประเทศไทยและภมู ิภาค

อาเซยี น

Reading: อา่ นเพือ่ หาข้อมูลเฉพาะ

Writing: เขียนเก่ยี วกับส่ิงท่ีประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซยี นมคี ล้ายกนั

3.2 คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) มจี ติ สาธารณะ
2) มงุ่ ม่ันในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ดา้ นคุณลกั ษณะของผู้เรียนตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เป็นเลิศวชิ าการ
2) สื่อสารสองภาษา
3) ล้ำหน้าทางความคิด
4) ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์
5) ร่วมกนั รับผดิ อบตอ่ สังคมโลก

4. ช้ินงาน/ภาระงาน (หลักฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้)
ช้นิ งาน
1) ชิ้นงานเกยี่ วกบั สิ่งท่ีประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนมีคล้ายกัน

ภาระงาน (รวบยอด)
1) ค้นควา้ เก่ียวกบั ส่งิ ที่ประเทศในกล่มุ ประชาคมอาเซยี นมคี ลา้ ยกัน และเขียนนำเสนอ

5. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

สิง่ ทีว่ ดั ผล วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื วดั ผล เกณฑก์ าร

ประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการตอบคำถามจาก สมุดนกั เรยี น รอ้ ยละ 60

การอ่าน

ด้านทกั ษะและ ประเมินการคน้ คว้าเกย่ี วกบั แบบประเมินการสำรวจ/ ระดบั คุณภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) สิ่งท่ีประเทศในกลุม่ ค้นคว้า

ประชาคมอาเซียนมีคล้ายกนั

และเขียนนำเสนอ

ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ สังเกตความใฝ่เรยี นรแู้ ละ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความมุ่งม่ันในการทำงาน อันพึงประสงค์

ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของ นำเสนอชน้ิ งานเกย่ี วกบั สิง่ ที่ แบบประเมนิ การพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้

ผเู้ รียน ( C ) ประเทศในกลุ่มประชาคม

อาเซียนมีคลา้ ยกัน

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ Warm up
ครถู ามนกั เรยี นวา่ เคยดกู ารแขง่ ขนั กฬี าซีเกมสซ์ งึ่ เป็นการแข่งขนั กีฬาระหว่างกลุ่มประเทศในภูมภิ าค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือไม่ กฬี าชนิดใดท่นี กั เรียนชอบดู

ขัน้ Pre-reading
1. ครูให้นกั เรียนดภู าพกีฬาในหนงั สือเรยี น หนา้ 54 และบอกวา่ คอื กีฬาชนดิ ใด (Sepak Takraw)
2. ครบู อกนักเรยี นวา่ จะได้อา่ นบทอ่านเกยี่ วกับกีฬาเซปกั ตะกรอ้ ซงึ่ เป็นหนึ่งในกีฬาทเี่ ปน็ ทน่ี ยิ มในภูมิภาค

อาเซยี น
3. ครูนำเสนอคำศพั ท์ท่ีนักเรยี นควรรกู้ อ่ นอา่ นโดยเขียนบนกระดาน และใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียงตามครู

court, rattan ball, opponent, unreturnable, aim, creative, evidence, existence,
relationship, formation
จากนัน้ ครแู บง่ นักเรียนออกเปน็ กลมุ่ ยอ่ ย และให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันหาความหมายจากพจนานุกรมหรอื
พจนานกุ รมออนไลน์
4. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ อ่านออกเสยี งพร้อมกัน พร้อมทง้ั บอกความหมายของคำศพั ท์แต่ละคำ
court (n) = an area drawn out on the ground that is used for playing

sports such as tennis and basketball (สนาม)
rattan (n) = a tropical climbing plant with thin, tough stems (หวาย)
opponent (n) = a person who someone is competing against in a sports

event (คูแ่ ขง่ )
unreturnable (adj) = cannot be returned (กลับมาไมไ่ ด)้

aim (n) = a result that your plans or actions are intended to achieve

(จดุ มุ่งหมาย)

creative (adj) = producing or using original and unusual ideas (มคี วามคิด

สรา้ งสรรค์)

evidence (n) = one or more reasons for believing that something is or is not

true (หลกั ฐาน)

existence (n) = the fact of something or someone existing (การดำรงอย่)ู

relationship (n) = the way in which two things are connected (ความสมั พันธ์)

formation (n) = the development of something into a particular thing (การ

สร้าง)

5. ครูให้นักเรยี นอ่านประโยคทีก่ ำหนดใหใ้ นหนังสือเรยี น หน้า 54 Ex. 1 และขดี เส้นใตค้ ำสำคญั ในแต่ละ

ประโยค

ขน้ั Reading

หนงั สอื เรียน หน้า 54 Ex. 1 ครูให้นักเรียนอ่านบทอา่ นเพ่ือมองหาคำพอ้ งความหมาย (synonym)
คำท่ีมีความหมายตรงกันข้าม (opposite) หรือกลุ่มคำ/วลที ่ีมคี วามหมายเหมอื นกันหรือต่างกันกับ คำ
สำคญั ที่ขีดเส้นใตไ้ ว้ เพือ่ หาคำตอบ เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบ

1T 2F 3T 4F 5F

ขน้ั Post-reading
1. ครบู อกนักเรยี นว่า กีฬาเป็นส่วนหน่ึงของวัฒนธรรม โดยจะเห็นได้วา่ ประเทศที่มีวฒั นธรรมคล้ายคลึงกนั

อยา่ งประเทศในภูมิภาคอาเซียนจะเล่นกฬี าท่มี ลี ักษณะคลา้ ยกันอย่างเซปักตะกรอ้ จากนัน้ ครูใหน้ กั เรียน
แสดงความคิดเหน็ วา่ เซปักตะกร้อเป็นทน่ี ยิ มในประเทศตะวันตกหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด และกีฬาชนดิ
ใดบา้ งท่ีนักเรียนคิดวา่ เป็นท่ีนยิ มในประเทศตะวันตก
2. หนงั สือเรยี น หนา้ 54 Ex. 2 ครใู ห้นักเรยี นศึกษาวิธกี ารเลน่ เซปกั ตะกร้อในบทอ่านอีกคร้ัง แล้วจับคู่กับ
เพ่ือนผลัดกันบอกวธิ เี ล่นเซปกั ตะกร้อ ครเู ดินสังเกตรอบ ๆ ชนั้ เรยี น เมอ่ื แนใ่ จวา่ นกั เรยี นเขา้ ใจวิธเี ล่น
แล้วครูให้นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ วิธเี ลน่ เซปักตะกรอ้
3. หนงั สือเรียน หนา้ 54 Ex. 3 ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กล่มุ กลุม่ ละ 4-5 คน ใหแ้ ต่ละกลุม่ อภปิ รายคำถามที่
กำหนดให้ จากน้ันครูใหแ้ ตล่ ะกลุม่ รายงานผลการอภปิ ราย
4. หนงั สือเรยี น หน้า 54 Ex. 4 ครูแบง่ นักเรียนออกเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 4-5 คน และมอบหมายให้แต่ละ
กล่มุ เลือกค้นคว้าขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ เกี่ยวกบั สิ่งที่ประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซยี นมีคล้ายกนั มา 1
หวั ข้อจากทกี่ ำหนดให้
จากน้นั ครใู ห้นักเรยี นเขียนสรปุ ข้อมูลท่ีค้นควา้ พร้อมทง้ั หาภาพมาตดิ ประกอบ พร้อมตกแตง่ ใหน้ า่ สนใจเพื่อ
นำเสนอต่อเพื่อนร่วมชนั้

7. ส่ือ/อุปกรณ/์ แหล่งเรียนรู้

สื่อ 1) หนังสอื เรยี น SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสอ่ื ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
วัสดุอุปกรณ์ 3) แบบฝกึ หดั SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรยี นรู้
1) พจนานกุ รมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานุกรมออนไลน์

1) หอ้ งสมุด
2) อินเตอรเ์ น็ต

ลงช่ือ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคดิ เหน็ (รองผู้อำนวยการกลมุ่ บริหารวชิ าการ / ผบู้ ริหาร / ผู้ทไี่ ดร้ บั หมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอื่ ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวิทย์)
ตำแหน่ง ครู
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทกึ ผลหลงั แผนการจดั การเรียนรู้
รหสั วิชา อ22101 รายวชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 14

เรอื่ ง ASEAN corner 4
**********************************************************************************

บันทกึ วนั เดือน ปีทีใ่ ช้สอน

ช้นั /กลุ่ม
วัน/เดอื น/ปี

1. ผลการเรยี นรู้ (นกั เรยี น…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เก่ง……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะท่ีอนั พึงประสงค์ (A)– มสี ขุ ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปญั หา/ส่งิ ท่พี ฒั นา วธิ ีแก้ไข/พัฒนา และผลการแกไ้ ข/พัฒนา
ปัญหา/สิ่งท่พี ัฒนา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พัฒนา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ .............................................ครผู ู้สอน ลงชื่อ...........................................หัวหนา้ กลุม่ สาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผ้อู ำนวยการ ลงชอ่ื ...........................................ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนญู กลับกลอ่ ม) (นายนราวธุ สุจิตะพันธ)์

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 15 เรือ่ ง O-NET practice & Fun time 4
รหัสวิชา อ22101 รายวิชา ภาษาองั กฤษพื้นฐาน

ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 เร่อื ง Sports & Chores เวลา 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้ีวดั ชั้นปี/ผลการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่อื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชว้ี ดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวข้อเรอ่ื ง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนนุ (supporting detail) และ
แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เรือ่ งทีฟ่ ังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างง่าย ๆ
ประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชี้วัด

ต 2.1 ม. 2/3 เข้ารว่ ม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรแู้ ละเข้าใจคำศัพท์ โครงสร้างภาษา ชว่ ยใหพ้ ูด/เขียนส่อื สาร และเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาไดอ้ ย่าง

เหมาะสม

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมเพือ่ ให้บรรลตุ ามตวั ชี้วัด)
1. สามารถบอกความหมายคำศัพท์ ตอบคำถามจากการอา่ นไดถ้ กู ต้อง

2. สามารถพูดและเขยี นส่อื สารตามโครงสร้างของภาษาไดถ้ ูกตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)

1) Language Features and Functions

Vocabulary: คำศพั ท์ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4

Grammar: ไวยากรณใ์ นหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4

2) ทกั ษะ /กระบวนการ (Process)

Listening: ฟงั เพอ่ื หาข้อมูลเฉพาะ

Writing: เขียน quiz เกี่ยวกับเนอื้ หาที่เรียนมาแลว้

3.2 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรยี นรู้
2) มุง่ ม่ันในการทำงาน

3.3 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1) ความสามารถในการสือ่ สาร
2) ความสามารถในการคิด

3.4 ด้านคุณลักษณะของผเู้ รยี นตามหลักสตู รมาตรฐานสากล

1) เป็นเลศิ วชิ าการ
2) สอ่ื สารสองภาษา
3) ลำ้ หน้าทางความคดิ
4) ผลติ งานอย่างสร้างสรรค์
5) รว่ มกนั รบั ผดิ อบตอ่ สงั คมโลก

4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐานรอ่ งรอยแสดงความรู้)
ช้นิ งาน
1) เขยี นสรปุ quiz เกี่ยวกบั เน้อื หาในหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เป็น mind mapping

ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขียน quiz เกี่ยวกบั เนอ้ื หาในหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4

5. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

สง่ิ ทวี่ ัดผล วิธีการวัด เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑ์การ

ประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K ) ตรวจการเขียน quiz แบบฝึกหัด (Workbook) รอ้ ยละ 60

เก่ยี วกับเน้ือหาในหนว่ ยการ

เรยี นร้ทู ่ี 4

ด้านทักษะและ ประเมนิ การเขียนสรุปผลการ แบบประเมินการเขียน ระดับคุณภาพ พอใช้

กระบวนการ ( P ) อภิปรายในประเด็นท่กี ำหนด

ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ สังเกตความใฝเ่ รยี นรูแ้ ละ แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ ผ่าน

ประสงค์ ( A ) ความม่งุ ม่ันในการทำงาน อันพงึ ประสงค์

ด้านสมรรถนะสำคญั ของ นำเสนอ quiz เกีย่ วกับ แบบประเมินการพูด ระดับคุณภาพ พอใช้

ผูเ้ รียน ( C ) เนอ้ื หาในหน่วยการเรยี นรู้

ท่ี 4 เป็น mind mapping

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้น Warm up
ครูถามนกั เรียนว่า สามารถจดจำเน้ือหาทเี่ รยี นไปแลว้ ในหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 ไดห้ รอื ไม่ มีหัวข้อ
อะไรบ้าง โดยใหน้ ักเรยี นแลกเปลีย่ นสิ่งทต่ี นเองจำได้กบั เพ่อื นรว่ มช้นั

ข้นั Presentation
1. ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกนั บอกคำศัพท์ท่ีเรยี นในหนว่ ยการเรยี นร้นู ี้ตามหัวข้อทีค่ รเู ขยี นบนกระดาน ไดแ้ ก่

chores, free-time activities, sports
2. นกั เรยี นปิดหนังสือเรียน ครูทบทวนไวยากรณ์ท่ีเรียนในหน่วยการเรยี นรนู้ ้ี โดยใหน้ ักเรยี นบอกไวยากรณ์

ท่ีเรียนและหลักการใช้ ครูเขยี นในรูป mind mapping

must/mustn’t -
have to/don’t

have to

ไวยากรณ์ can/could -
หน่วยการ may/might -
เรียนรู้ที่ 4
should -
relative ought to
pronouns

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 56 Ex. 1 นักเรียนทบทวนวลเี กีย่ วกบั งานบา้ น โดยสลับท่ีคำท่ีพมิ พ์ตวั หนาใหเ้ ป็นวลี

ท่ถี กู ตอ้ ง จากนั้นครขู ออาสาสมัครบอกคำตอบ

 take out the rubbish  do the shopping
 cook my dinner  hoover the carpet

 clean the windows  lay the table
 mop the floor  iron the clothes

2. หนังสือเรียน หน้า 56 Ex. 2 ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพอ่ื น ชว่ ยกนั ทำ quiz โดยห้ามเปิดดเู นอ้ื หา
เสรจ็ แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบคำตอบกับคู่อืน่ จากนน้ั ครจู ึงเฉลยคำตอบ

1F 2T 3F 4T 5F

3. หนงั สือเรียน หน้า 56 GAME ครสู ุม่ เรยี กนกั เรียนออกมาแสดงทา่ ทางใบค้ ำเก่ยี วกบั งานบ้าน แลว้ ให้
เพ่ือนรว่ มชน้ั ชว่ ยกันบอกวา่ คนทใ่ี บ้คำต้องทำงานบ้านอะไร หรอื ครูอาจให้นักเรียนเลน่ เปน็ คู่กไ็ ด้

4. หนังสอื เรยี น หนา้ 56 Ex. 4 ครูเปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟังเพลง เพอ่ื หาคำตอบของคำถาม What are
rules for? เม่ือฟงั จบให้ชว่ ยกนั บอกคำตอบ จากนัน้ ครูถามนกั เรียนวา่ Do you agree with the
singer’s opinion?

• What are rules for?
Rules are kept to keep us safe, make our lives easier, keep us out of
trouble and help us be good people.

• Do you agree with the singer’s opinion?
I agree with the singer’s opinion because I also believe that we must
follow rules to be safe and to respect other people.

5. หนังสอื เรยี น หนา้ 56 Ex. 5 ครูใหน้ ักเรยี นเขียนแสดงความคิดเห็นวา่ กฎระเบยี บสำคญั เพราะอะไร
จากน้ันครสู มุ่ เรยี กนกั เรียนหลาย ๆ คน บอกความคิดเห็นของตนเอง

Rules are important because they protect us from danger and help us to
respect other people and always do what is right.

6. หนงั สอื เรยี น หน้า 55 O-NET practice ครูใหเ้ วลานักเรียนทำขอ้ สอบ เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกนั
ถา้ นักเรยี นไม่เข้าใจ ให้ครูอธิบายเพิม่ เติม

Ex. 1 1 A b, B c 2 A d, B d 3 A c, B a 5b
Ex. 2 1 c 2 b 3 d 4 b

ข้ัน Production
หนังสอื เรยี น หนา้ 56 Ex. 3 นักเรยี นจบั คกู่ นั แล้วครแู จกกระดาษใหค้ ู่ละ 1 แผ่น ให้แต่ละคู่คดิ คำถาม

quiz เกย่ี วกบั เนือ้ หาในหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ครใู หน้ กั เรียนเปดิ ดูเน้อื หาได้ และให้นกั เรยี นเขยี นคำตอบ
ไว้ด้านหลงั กระดาษ เมอื่ ทกุ คู่คู่คดิ คำถามเสร็จแลว้ ให้แลกกนั ทำ quiz กบั คู่อ่ืน

1. The three Rs of being eco-friendly are reuse, repair and redo. (F)
2. You cannot use a toy iron to do extreme ironing. (T)

3. At night-time you don’t need to have a light on your bike. (F)
4. There is an extreme ironing competition twice every year. (F)
5. It’s not a good idea to wear loose clothes for cycling. (T)

(In Dinant,
Belgium)

6 When does the Monkey Festival take place? (In November)

7. สือ่ /อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้

สือ่ 1) หนังสือเรียน SPARK 2 ม. 2

วสั ดุอุปกรณ์ 2) Class Audio CDs ประกอบสือ่ ฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
แหล่งเรียนรู้ 3) แบบฝกึ หัด SPARK 2 ม. 2

1) พจนานกุ รมองั กฤษ-อังกฤษ
2) พจนานกุ รมออนไลน์
1) ห้องสมุด

ลงชือ่ ............................................................
(นางสาวประณาลี เมฆาระ)
ครผู ู้สอน

ความคิดเหน็ (รองผูอ้ ำนวยการกล่มุ บรหิ ารวชิ าการ / ผบู้ รหิ าร / ผู้ท่ไี ดร้ ับหมอบหมาย)
………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………

ลงชอ่ื ............................................................
(นางชไมพร อร่ามวทิ ย)์
ตำแหนง่ ครู
วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2565

บนั ทกึ ผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้
รหสั วชิ า อ22101 รายวิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 15

เรอ่ื ง O-NET practice & Fun time 4
**********************************************************************************

บนั ทึกวัน เดือน ปีที่ใช้สอน

ช้ัน/กลมุ่
วนั /เดือน/ปี

1. ผลการเรียนรู้ (นักเรียน…………………….คน)
1.1 ดา้ นความรู้ (K) – เกง่ ……………………………………………………………………………….……………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) – ด…ี …………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.3 ด้านคุณลักษณะท่ีอันพึงประสงค์ (A)– มสี ุข ……………………………………………...…………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

1.4 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น (C) ………….……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ปัญหา/ส่ิงทพี่ ัฒนา วธิ แี ก้ไข/พฒั นา และผลการแก้ไข/พฒั นา
ปญั หา/ส่งิ ที่พฒั นา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

วิธีแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ผลการแก้ไข/พฒั นา
…………………………………………………………………………………………………………………….………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื .............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...........................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระ
(นางสาวประณาลี เมฆาระ) (นางสมใจ ศรีเทพ)

ลงชือ่ .............................................รองผอู้ ำนวยการ ลงช่อื ...........................................ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

(นายมนูญ กลับกล่อม) (นายนราวธุ สุจติ ะพันธ์)


Click to View FlipBook Version