The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1
สสวท.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tassawan., 2022-04-05 03:19:18

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 สสวท

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1
สสวท.

คูม่ อื ครูรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกนิ 20
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

หรือนักเรียนอาจสร้างโจทย์ปญั หาท่แี ตกตา่ งจากนเ้ี ชน่ โจทย์ปญั หา มเี ปด็ 5 ตัว มีไก่ 2 ตัว มีไก่
นอ้ ยกว่าเป็ดกต่ี ัว ส่วนทโ่ี จทย์ถามคือ มไี ก่นอ้ ยกว่าเป็ดกตี่ ัว สว่ นทโ่ี จทยบ์ อกคือ มเี ป็ด 5 ตัว มไี ก่ 2 ตัว
ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ วา่ การสรา้ งโจทย์ปัญหาจากประโยคสัญลักษณ์ ตอ้ งมีทงั้ ส่วนทโี่ จทย์บอก
และสว่ นท่โี จทยถ์ าม จากนัน้ ครใู หน้ ักเรียนทำ�กจิ กรรม สร้างโจทย์ปัญหา ตามหนังสอื เรียนหนา้ 257
โดยครสู ุ่มนักเรยี นออกมาหนา้ ห้องเรียน 2 คน ให้นกั เรยี นคนทห่ี นึ่ง หยบิ บตั รตัวเลข 1 ถึง 9 ชดุ ท่ี 1
หยบิ มา 1 ใบ และนกั เรยี น คนท่สี อง หยบิ บัตรตัวเลข 1 ถึง 9 ชดุ ที่ 2 หยบิ มา 1 ใบเช่นกัน จากนั้น
ครูสุ่มนกั เรยี นมาอีก 1 คน ให้มาหยบิ ภาพบตั รภาพขึ้นมา 1 ใบ เช่นนักเรยี นคนที่ 1 หยิบบัตรตวั เลข
8 คนท่ี 2 หยบิ บัตรตัวเลข 9 นกั เรียนคนท่ี 3 หยิบบัตรภาพเปน็ รปู ไข่เปด็ และไข่ไก่ ดังรปู

บตั รตวั เลข บัตรภาพ

จากนน้ั ครเู ขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและเขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบบนกระดาน

ดังนี้

9 + 8 =

9 – 8 =

ครูให้นกั เรียนชว่ ยกนั สรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสัญลักษณ์ โดยให้มเี รอ่ื งราวเกี่ยวกับภาพทหี่ ยิบได้

เชน่ ประโยคสัญลกั ษณ์ 9 + 8 = นักเรียนควรเขียนโจทย์ปญั หาไดด้ งั นี้

มไี ขไ่ ก่ 9 ฟอง มีไข่เปด็ 8 ฟอง มไี ขไ่ กแ่ ละไขเ่ ป็ดทั้งหมดก่ีฟอง หรอื มีไขเ่ ปด็ 9 ฟอง มีไขไ่ ก่ 8 ฟอง

มีไข่ไก่และไขเ่ ป็ดรวมกันกีฟ่ อง และประโยคสัญลกั ษณ์ 9 – 8 =

มนี ักเรยี นอาจเขียนโจทย์ปัญหาดงั น้ี มไี ขไ่ ก่ 9 ฟอง มไี ขเ่ ป็ด 8 ฟอง มีไขไ่ ก่มากกวา่ ไขเ่ ปด็ กฟี่ อง หรือ

มีไขเ่ ป็ด 8 ฟองมีไข่ไก่ 9 ฟอง มไี ขเ่ ป็ดน้อยกวา่ ไขไ่ ก่กฟ่ี อง ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง

ของโจทย์ปญั หาทีส่ ร้างขนึ้ พร้อมทั้งตรวจสอบวา่ มีส่วนทโ่ี จทยบ์ อกและส่วนทโี่ จทยถ์ ามครบหรือไม่

และสอดคล้องกบั ประโยคสญั ลกั ษณ์หรือไม่

2. ครใู หน้ กั เรยี นสรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก จากประโยคสญั ลกั ษณ์

แสดงการบวก 14 + 5 = ตามหนังสือเรียนหนา้ 258 เชน่ จากประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวก

14 + 5 = ครอู าจใหน้ กั เรยี นบอกความหมายของการบวกว่า 14 รวมกับ 5 เป็นเทา่ ไร หรือมี 14

เพม่ิ อกี 5 รวมเป็นเทา่ ไร หรอื มี 14 กับ 5 รวมเปน็ เท่าไร ครูตดิ แถบโจทยป์ ญั หา ขุนมีปลาในตูป้ ลา

14 ตัว แม่ซื้อมาเพิม่ อีก 5 ตวั รวมมีปลาในตปู้ ลาทัง้ หมดกต่ี ัว ครถู ามนกั เรียนว่าจากแถบโจทย์ปัญหา

- ส่วนทโ่ี จทย์ถามคอื อะไร (รวมมปี ลาในตู้ปลาทง้ั หมดก่ีตวั )

- สว่ นที่โจทย์บอกคอื อะไร (ขุนมีปลาในตปู้ ลา 14 ตัว แมซ่ อื้ มาเพมิ่ อกี 5 ตัว)

- หาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร (หาคำ�ตอบได้โดยการบวก)

- เขยี นประโยคสัญลักษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร (14 + 5 = )

262 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกิน 20 คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

ครูให้นักเรยี นสงั เกตโจทยป์ ัญหาที่สร้างขน้ึ วา่ โจทย์ปญั หาน้สี อดคล้องกบั ประโยคสญั ลกั ษณท์ ก่ี ำ�หนด

14 + 5 = ครูอาจสมุ่ นักเรียนออกมานำ�เสนอโจทยป์ ัญหาทส่ี ร้างข้ึน เชน่ โจทยป์ ัญหา ใบบวั มี

ลกู โปง่ สแี ดง 14 ลูก มลี กู โป่งสีฟ้ามากกวา่ สแี ดง 5 ลูก ใบบัวมีลูกโป่งสฟี า้ กล่ี กู สว่ นทโ่ี จทยถ์ ามคอื

ใบบวั มลี กู โป่งสฟี ้าก่ลี ูก ส่วนท่โี จทย์บอกคอื ใบบวั มลี กู โป่งสแี ดง 14 ลูก มลี กู โป่งสีฟ้ามากกวา่ สีแดง

5 ลูก จากโจทยป์ ญั หาหาค�ำ ตอบไดโ้ ดยการบวกครยู กตวั อยา่ งเพิม่ เตมิ โดยใหน้ ักเรยี นสรา้ งโจทย์

ปญั หาจากประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ และจากประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ 19 – 6 =

ตามหนงั สือเรียนหนา้ 258 จากประโยคสญั ลักษณแ์ สดง

การลบ 19 - 6 = ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั สร้างโจทย์

ปญั หาการลบ ครอู าจใหน้ ักเรียนบอกความหมายของ

การลบว่า 19 เอาออก 6 เหลือเทา่ ไร หรือ 19 มากกว่า 6

อยู่เทา่ ไรหรือ 6 น้อยกวา่ 19 อย่เู ทา่ ไร จากน้นั ครูติดแถบ

โจทย์ปญั หาการลบตามหนังสอื เรยี นหน้า 258 ต้นกล้ามี

หนังสอื การ์ตนู 19 เล่ม มหี นงั สือนิทาน 6 เล่ม ต้นกล้ามี

หนังสอื นทิ านน้อยกวา่ หนังสอื การ์ตนู ก่ีเล่ม ครใู หน้ ักเรยี น

บอกส่วนทโี่ จทยถ์ ามคอื อะไร (ต้นกล้ามหี นงั สอื นิทานนอ้ ยกว่า

หนังสอื การต์ ูนก่เี ลม่ ) ส่วนทีโ่ จทย์บอกคอื อะไร (ต้นกล้ามี

หนงั สือการ์ตูน 19 เล่ม มหี นงั สือนทิ าน 6 เลม่ )

หาค�ำ ตอบได้อย่างไร (หาคำ�ตอบไดโ้ ดยการลบ) เขยี นเป็น

ประโยคสญั ลกั ษณ์ไดอ้ ยา่ งไร (19 – 6 = ) ครูให้

นกั เรียนสงั เกตโจทย์ปญั หาท่สี รา้ งข้ึนวา่ โจทย์ปัญหานี้

สอดคลอ้ งกบั ประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบทก่ี ำ�หนด

19 – 6 = ครใู ห้นักเรียนจบั ค่ชู ว่ ยกนั สรา้ งโจทย์ปัญหา ฉนั มเี งิน 8 บาท แมใ หอ กี 7 บาท ฉันมีเงินทง้ั หมดกบี่ าท
จากประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ 19 – 6 = ทแ่ี ตกตา่ ง

จากโจทย์ปญั หาท่ีสร้างข้ึนขา้ งตน้ พรอ้ มทงั้ บอกสว่ นที่

โจทยถ์ าม และสว่ นท่โี จทยบ์ อก ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั

ตรวจสอบความถกู ต้อง ครอู าจสุม่ นักเรยี นออกมานำ�เสนอ

โจทยป์ ญั หาทส่ี รา้ งขน้ึ เชน่ โจทยป์ ญั หา แกว้ ตามมี ะมว่ งดบิ พอมีไก 17 ตัว ใหลงุ ไป 8 ตวั พอเหลือไกก ต่ี วั

19 ผล มีมะม่วงดิบมากกว่ามะมว่ งสุก 6 ผล แก้วตามี

มะมว่ งสกุ ก่ีผล สว่ นท่ีโจทยถ์ ามคือ แก้วตามมี ะมว่ งสุกก่ผี ล

ส่วนท่ีโจทย์บอกคอื แกว้ ตามีมะมว่ งดบิ 19 ผล มมี ะมว่ งดิบ

มากกวา่ มะม่วงสกุ 6 ผล จากโจทย์ปัญหาหาค�ำ ตอบได้ * คาํ ตอบอาจแตกตางจากนี้ใหอยูใ นดุลยพินิจของผูสอน

โดยการลบ ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปว่าการสรา้ งโจทย์

| 263สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู อื ครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกนิ 20
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

ปัญหาแสดงการบวก และการสร้างโจทย์ปญั หาแสดงการลบจากประโยคสญั ลักษณ์ทีก่ �ำ หนดต้องมที งั้
สว่ นทโี่ จทยบ์ อกและสว่ นท่ีโจทยถ์ าม
3. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ จากประโยคสญั ลักษณ์
8 + 7 = และ 17 – 8 = ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 259 แลว้ ให้นกั เรยี นระบสุ ่วนที่โจทยบ์ อก
และส่วนทโี่ จทย์ถาม ครคู วรเนน้ ยำ�้ และตรวจสอบวา่ โจทย์ปญั หาทีน่ กั เรียนชว่ ยกนั สร้างขึน้
ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั ประโยคสญั ลกั ษณท์ ก่ี �ำ หนดใหโ้ จทยป์ ญั หาทน่ี กั เรยี นสรา้ งขน้ึ อาจมคี วามแตกตา่ งกนั
ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

การตรวจสอบความเข้าใจ ฉนั มีหนังสอื การต ูน 9 เลม แมซ้ือใหอกี 3 เลม
ฉันมหี นงั สือการต นู ท้งั หมดกเ่ี ลม
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล
โดยให้นกั เรยี นสรา้ งโจทย์ปญั หาจากประโยคสญั ลกั ษณ์ตาม หนูมีขนมเทียน 13 ชิ้น แจกเพ่อื นไป 7 ชิ้น เหลอื ขนมเทียนกช่ี ิ้น
หนงั สอื เรียนหนา้ 260 ครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งและรว่ มกนั สรปุ สิ่งทไ่ี ด้เรียนรู้ ถ้ามนี กั เรยี น * คาํ ตอบอาจแตกตางจากนีใ้ หอ ยใู นดุลยพินจิ ของผูสอน
คนใดสร้างโจทย์ปัญหาการบวก และโจทยป์ ัญหาการลบ
จากประโยคสญั ลักษณ์ไม่ถูกตอ้ ง ครอู าจใหน้ ักเรียนบอก
ความหมายของการบวก และความหมายของการลบ
ตามประโยคสญั ลกั ษณท์ ่ีก�ำ หนดแลว้ ให้บอกว่าโจทย์ปัญหา
มที ัง้ สว่ นทโี่ จทย์บอกและสว่ นที่โจทยถ์ ามแล้วใหส้ รา้ งโจทย์
ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบใหมใ่ ห้ถูกต้อง

สิง่ ท่ีได้เรยี นรู้

การสร้างโจทยป์ ญั หาต้องมีสว่ นท่โี จทย์บอกและ
สว่ นทีโ่ จทยถ์ าม
จากน้นั ใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝกึ หดั 5.15 หนา้ 157

264 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนบั ไม่เกิน 20 ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1

รว่ มคดิ ร่วมทำ� (1ชวั่ โมง)

กิจกรรม รับแลว้ แบง่

สอื่ การเรียนรู้

- บตั รตัวเลข 1 ถึง 19
- เบี้ยบรรจุถุง ถงุ ละ 10 อนั จ�ำ นวนถุงเท่ากบั จำ�นวนนักเรยี น

วธิ ีจดั กจิ กรรม

1. ครูแจกบตั รตัวเลขใหน้ กั เรียนคนละ 1 ใบ ให้
นักเรียนจับคกู่ นั โดยให้ตัวเลขทแี่ สดงจ�ำ นวนบตั รมผี ลบวก
เป็น 20 เชน่ นกั เรียนที่มีบัตรตัวเลข 9 ตอ้ งคกู่ บั นกั เรยี น
ท่ไี ด้บัตรตวั เลข 11 นกั เรียนท่ีมบี ัตรตวั เลข 14 ตอ้ งคกู่ ับ
นกั เรียนทไ่ี ด้บัตรตวั เลข 6 หรอื นักเรยี นทม่ี บี ัตรตัวเลข 5
ตอ้ งค่กู บั นกั เรยี นท่ไี ด้บตั รตัวเลข 15
2. ให้นักเรยี นแตล่ ะค่รู ับถุงเบยี้ 2 ถงุ แลว้ ให้แบง่ เบย้ี
ให้เท่ากับจำ�นวนในบัตรตวั เลขของแตล่ ะคนโดยหาวิธแี บง่
เบย้ี ใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ ครเู นน้ ย�ำ้ กบั นกั เรยี นวา่ เบย้ี แตล่ ะถงุ มี 10 อนั
3. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะคนู่ �ำ เสนอวธิ ีแบ่งเบีย้ ครใู ห้
นกั เรยี นบอกด้วยวา่ การแบง่ เบย้ี ของนักเรียนสามารถเขยี น
ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารบวกหรือเขยี นเป็นประโยค
สัญลกั ษณก์ ารลบได้
เช่น แบ่งเบีย้ ใหเ้ พ่ือน 9 อัน เขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์ 10 – 9 = 1
เพ่ือนให้เบ้ียมา 9 อนั เขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณ์ 10 + 9 = 19
นักเรียนสามารถเลน่ ไดห้ ลาย ๆ รอบ
จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทำ�แบบฝึกท้าทาย หน้า 158

| 265สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกนิ 20
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

คณิตคดิ ท้าทาย

1. ลุงจติ ปลกู กลว้ ยชนดิ ตา่ ง ๆ มจี �ำ นวน ดงั น้ี

ปลกู กลว้ ยน้�ำ ว้า มากกวา่ 5 ต้น ปลกู กลว้ ยหอมนอ้ ยกว่า ปลูกกล้วยไขม่ ากกวา่ กลว้ ยหอม 3 ต้น
แต่น้อยกว่า 7 ต้น กลว้ ยน้ำ�ว้า 1 ตน้

ลุงจติ ปลูกกล้วยน้ำ�วา้ นอ้ ยกว่ากล้วยไข่ ....………… ต้น ลงุ จติ ปลูกกลว้ ยทง้ั หมด………………… ต้น

2. + + = 20

คือ .................
คอื .................
คอื ................
คำ�ตอบมหี ลากหลาย

266 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกนิ 20 คูม่ ือครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

3. น�ำ จำ�นวน 2 3 4 5 6 7 8 9 และ 10 เตมิ ลงใน ใหผ้ ลบวกทุกแนวเทา่ กัน

4. เพ่ือน ๆ ชว่ ยกระตา่ ยหาจำ�นวนเริ่มตน้ หน่อย -
2
จำ�นวนเรม่ิ ตน้ +
9 +8
+
- 3
5
- 10

+2
7

จ�ำ นวนเรมิ่ ต้นคือ .......................

| 267สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไมเ่ กิน 20
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

ตัวอยา่ งแบบทดสอบท้ายบท

ตวั อยา่ งแบบทดสอบทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ เพือ่ พัฒนานกั เรยี น หากมนี กั เรยี นคนใดท่ไี มผ่ า่ น
การทดสอบ ครคู วรใหน้ กั เรยี นคนนน้ั ฝกึ ทักษะมากขึ้นโดยอาจใชแ้ บบฝึกเสริมทักษะจากหนังสือเสรมิ
เพิ่มปัญญาของ สสวท.หรือแบบฝกึ อืน่ ที่เห็นวา่ สมควร ซึ่งแบบทดสอบทา้ ยบทนี้ มี 10 ขอ้
คะแนนเตม็ 10 คะแนนใชเ้ วลาในการท�ำ แบบทดสอบ 20 นาทีและวเิ คราะห์เป็นรายจุดประสงคไ์ ด้
ดงั นี้

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขอ้ ท่ี
1-2
1. หาผลบวกในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกของจ�ำ นวนนับไม่เกิน 20 และ 0 3-4
5-6
2. หาผลลบในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบของจำ�นวนนับไม่เกิน 20 และ 0
3. หาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลกั ษณ์ 7 - 10

แสดงการลบของจ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 20 และ 0
4. แสดงวธิ กี ารหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบของ

จ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 20 และ 0

ตวั อย่างแบบทดสอบท้ายบท บทท่ี 5

เลอื ก ก ข หรือ ค เปน็ ค�ำ ตอบที่ถกู ตอ้ ง

1. ผลบวกของ 2 + 8 + 5 = เท่ากบั คำ�ตอบในข้อใด

ก. 10 + 8 = ข. 5 + 10 = ค. 10 + 2 =

2. ผลบวกในข้อใดมากท่ีสดุ
ก. 9 + 9 = ข. 12 + 6 = ค. 11 + 8 =

3. ขอ้ ใดหาผลลบไม่ถูกต้อง
ก.

17 – 9 = 8
ข.

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

18 – 9 = 9
ค. นบั ตอ่ จาก 11 เป็น 12 13 14 15 16 17 ได้ 6 ครงั้ ดังน้ัน 17 – 12 = 6

268 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 5 | การบวก การลบจำ�นวนนับไม่เกิน 20 คูม่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1
4. ผลลบในขอ้ ใดนอ้ ยท่ีสุด ข. 18 – 8 – 5 =
ก. 16 – 3 – 9 = ค. 15 – 4 – 3 =

5. – 8 = 10 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ตรงกบั ข้อใด ค. 18 - 8 =
ก. 10 - 8 = ข. 8 + 10 =

6. 9 ไม่เปน็ ค�ำ ตอบในขอ้ ใด ข. 18 – = 9 ค. 7 + = 15
ก. + 5 = 14

7. โจทยป์ ัญหาในข้อใดเปน็ โจทย์ปญั หาการบวก
ก. ตน้ กล้ามีดนิ สอ 15 แทง่ แกว้ ตามีดนิ สอ 10 แท่ง แกว้ ตามีดนิ สอนอ้ ยกว่าตน้ กล้ากีแ่ ท่ง
ข. ต้นกล้าปลูกดาวเรืองได้ 12 ต้น ตน้ กลา้ ปลกู ดาวเรอื งไดน้ อ้ ยกว่าขนุ 3 ต้น
ขุนปลูกดาวเรอื งได้ก่ีตน้
ค. ขุนมีต้นไม้ 18 กระถาง ขนุ รถนำ�้ ไปแล้ว 7 กระถาง
เหลือต้นไมท้ ี่ขนุ ยังไมไ่ ด้รดน�้ำ อกี กี่กระถาง

8. แกว้ ตามสี ้ม 16 ผล แก้วตามีส้มมากกว่าใบบวั 4 ผล ใบบัวมีสม้ กผ่ี ล - 16 = 4
เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณไ์ ดต้ รงกบั ขอ้ ใด
ก. 16 + 4 = ข. 16 - 4 = ค.

9. ใบบัวมฝี ร่งั 13 ผล แบง่ ให้ขนุ 7 ผล ใบบวั เหลอื ฝรง่ั ก่ีผล ค�ำ ตอบคือข้อใด

ก. 6 ข. 7 ค. 20

10. โจทยป์ ัญหาในขอ้ ใดตรงกบั ประโยคสญั ลักษณ์ 13 - 4 =
ก. ใบบวั มีมะม่วง 13 ผล ขนุ มมี ะมว่ ง 4 ผล ขนุ มีมะม่วงน้อยกวา่ ใบบัวกผี่ ล
ข. ใบบัวเกบ็ มะม่วงได้ 13 ผล ขนุ เก็บมะมว่ งไดม้ ากกวา่ ใบบวั 4 ผล ขุนเก็บมะม่วงได้กผ่ี ล
ค. ใบบวั มีมะมว่ ง 13 ผล ขุนใหม้ าอีก 4 ผล ใบบัวมมี ะม่วงกผ่ี ล

เฉลยแบบทดสอบท้ายบท บทท่ี 5

1. ข 2. ค 3. ค 4. ก 5. ข 6. ค 7. ข 8. ข 9. ก 10. ก

| 269สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

บทที่ 6 แผนภูมริ ปู ภาพ

จุดประสงค์การเรยี นรแู้ ละสาระส�ำ คญั

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระส�ำ คัญ

นกั เรยี นสามารถ • แผนภูมิรูปภาพเปน็ แผนภูมทิ ี่ใช้รปู ภาพแสดง
จ�ำ นวนของสิ่งตา่ ง ๆ ประกอบด้วย ช่ือแผนภูมิ
1. อ่านขอ้ มลู จากแผนภมู ิรูปภาพ รูปภาพบอกใหร้ วู้ า่ แผนภูมิรูปภาพนน้ั แสดงอะไร
เมอ่ื ก�ำ หนดรปู 1 รปู แทน 1 หนว่ ย และข้อกำ�หนดของแผนภมู ิรปู ภาพ รูปภาพที่
(หัวขอ้ 6.1 ถึง 6.3) แทนสิ่งเดียวกันต้องเป็นรปู ภาพท่เี หมือนกนั และ
มขี นาดเทา่ กนั

• การอ่านแผนภูมริ ปู ภาพ เริม่ จากอา่ นชื่อแผนภมู ิ
รูปภาพและพิจารณาข้อกำ�หนดแล้วอา่ นข้อมูล
แต่ละรายการ

2. ใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมริ ูปภาพในการหา • หาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหาจากแผนภมู ิรูปภาพ
ค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหาเมื่อกำ�หนด โดยใช้การอา่ นแผนภมู ริ ปู ภาพทก่ี ำ�หนดรูป 1 รปู
รปู 1 รปู แทน 1 หนว่ ย แทน 1 หน่วย
(หวั ขอ้ 6.1 ถึง 6.3)

270 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | แผนภูมิรปู ภาพ คูม่ ือครรู ายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

การวิเคราะหเ์ นือ้ หากบั ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

หวั ขอ้ เนือ้ หา เวลา ทกั ษะและกระบวนการทาง
(ช่วั โมง) คณิตศาสตร์

12345

เตรียมความพรอ้ ม 1  
6.1 การอา่ นแผนภูมิรูปภาพอยา่ งงา่ ย 1 

6.2 การอา่ นแผนภูมริ ปู ภาพ 1 

6.3 รอยขีดกับแผนภูมริ ปู ภาพ 1 

รว่ มคดิ ร่วมทำ� 1  

j การแกป้ ญั หา k การสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ l การเชอ่ื มโยง m การใหเ้ หตผุ ล n การคดิ สรา้ งสรรค์

คำ�สำ�คญั

แผนภมู ิรูปภาพ ข้อมูล รายการ ข้อกำ�หนด การสำ�รวจ รอยขีด บันทกึ ข้อมูล

ความรูห้ รือทกั ษะพน้ื ฐานของนกั เรียน

1. การสังเกต การจ�ำ แนก และ การนับ
2. การเขยี นและการอ่านตวั เลขแสดงจำ�นวน
3. การเปรยี บเทยี บจำ�นวน
4. การเรียงลำ�ดบั จ�ำ นวน
5. การบวกและการลบจำ�นวน

สือ่ และแหล่งเรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี นหน้า 262 - 277
2. แบบฝกึ หดั หนา้ 159 - 168
3. บัตรและอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทใ่ี ช้ประกอบกิจกรรม ดังน้ี

• บตั รภาพ
• บตั รขอ้ ความ
• บตั รโจทยป์ ัญหา
4. สอ่ื เพม่ิ เตมิ หนา้ 264 266 267 269 275 และ 277 (Download ไดจ้ าก QR code หนา้ 262)
5. สื่อวดี ทิ ศั น์ (QR code )
• แผนภมู ริ ูปภาพ หน้า 269

เวลาที่ใช้จัดการเรียนรู้ 5 ชัว่ โมง

| 271สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมริ ูปภาพ
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1
สุขสันต�วันป�ใหม�
การจดั การเรียนรู้
การเตรยี มความพรอ้ ม (1ชั่วโมง)

บทที ่ 6 แผนภมู ิรปู ภาพ

เรียนจบบทน้แี ลว้ นกั เรยี นสามารถ

อ่านข้อมูลจากแผนภูมิรปู ภาพ
เม่อื กำาหนด รูป 1 รูป แทน 1 หนว่ ย

ใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมิรปู ภาพในการหาคาำ ตอบ
ของโจทย์ปัญหาเมอ่ื กำาหนด รูป 1 รูป
ส่ือเพ่มิ เติม แทน 1 หน่วย

1. ครูใช้หน้าเปดิ บทสนทนาเกย่ี วกบั การจดั งานเลีย้ งปใี หม่ ฝกึ การสังเกตโดยใหน้ กั เรยี นดภู าพ
จากภาพหน้าเปิดบทแลว้ ครใู ชก้ ารถาม-ตอบกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เชน่
- ภาพหนา้ เปดิ บทเปน็ ภาพเกยี่ วกบั อะไร (งานเลี้ยงปใี หม่)
- ถา้ จะจัดงานเลีย้ งปใี หม่ของนกั เรียนในห้อง นักเรียนอยากให้มกี จิ กรรมอะไรบา้ ง (จบั สลาก
ของขวัญ เล่นเกม รบั ประทานอาหารรว่ มกนั )
- กอ่ นถงึ วนั จดั งานเล้ยี งปใี หม่ ควรเตรยี มอะไรบา้ ง (ตกแตง่ หอ้ งเรียน เตรยี มอาหารและ
เคร่อื งด่ืม เตรียมอุปกรณส์ ำ�หรับกิจกรรมต่าง ๆ)
- ถา้ ตอ้ งการเตรยี มอาหารสำ�หรบั งานเลยี้ งปีใหม่ เพอื่ ไม่ให้อาหารเหลือเปน็ จำ�นวนมาก
เราควรท�ำ อยา่ งไร (ถามเพอ่ื นในห้องวา่ ชอบรบั ประทานอาหารชนิดใดบ้าง เช่น ไส้กรอก ไกท่ อด
ลูกชิ้นป้งิ และเกย๊ี วทอด)
ครูถามนกั เรยี นวา่ ชอบอาหารชนิดใดมากที่สดุ แล้วให้นกั เรียนในห้องช่วยกนั นบั จำ�นวนเพอ่ื นท่ชี อบ
อาหารชนดิ เดยี วกัน จากนั้นครูช้แี จงว่า การทำ�เช่นน้ีเปน็ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการถามเพอ่ื นในห้อง
เปน็ การส�ำ รวจขอ้ มลู ซ่งึ เปน็ พืน้ ฐานในการเรียนในบทเรยี นน้ี

272 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | แผนภูมิรปู ภาพ คูม่ ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1
2. ครูจัดกจิ กรรมเตรียมความพรอ้ มโดยตดิ บตั ร
ภาพหมวกชนดิ ตา่ ง ๆ ท่นี ักเรยี นใสม่ าในงานเลีย้ งปีใหม่ 3
ตามนกั เรียนหน้า 264 สนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกับ
วันขน้ึ ปีใหม่และกจิ กรรมที่รว่ มกันท�ำ กบั ครอบครวั เช่น
การทำ�บุญ กราบไหว้ขอพรจากญาติผูใ้ หญ่ บริจาคเงินและ
สงิ่ ของ และใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั นี้

13
นับจาํ นวนหมวกทนี่ ักเรยี นใสม ารวมงาน
* ขอ1 และขอ3 คาํ ตอบของนกั เรยี นอาจแตกตางจากนี้

- นักเรยี นเห็นอะไรในภาพบ้าง (หมวก) 2

- หมวกมีลักษณะอย่างไรบ้าง (หมวกมีลกั ษณะ * คําตอบอาจแตกตา งจากน้ี

ปลายแหลม และมีลวดลายแตกตา่ งกัน)

โดยครพู ยายามให้นกั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ บอกค�ำ ตอบไดห้ ลากหลาย เชน่ เป็นแถบสีเหลอื งแดง

เขยี ว เปน็ ลายสฟี ้าขาว เป็นลายแดงขาว ปลายหมวกแหลม ปลายหมวกมีจกุ ปลายหมวกมีพู่

ที่สวมหวั มีระบาย ที่สวมหัวไมม่ ีระบาย ครูใหน้ กั เรยี นสังเกตลกั ษณะของหมวกวา่ มีหลายแบบ

หลายสี แตม่ ีหมวกท่เี ปน็ แบบเดียวกัน หรอื สีเดยี วกนั ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันตอบคำ�ถาม ดงั นี้

1 จดั กลมุ่ หมวกทเ่ี หมอื นกนั อยกู่ ลมุ่ เดยี วกนั จะจดั ไดท้ ง้ั หมดกก่ี ลมุ่ ค�ำ ตอบทไ่ี ดอ้ าจแตกตา่ งกนั

ดังนี้ (3 กลุ่ม เป็นแถบสีเหลอื งแดงเขียว เปน็ ลายสฟี า้ ขาว เป็นลายสีแดงขาว 3 กลมุ่ ปลายหมวกมจี ุก

ปลายหมวกมีพู่ ปลายหมวกแหลม 2 กลมุ่ ทีส่ วมหัวมรี ะบาย ที่สวมหวั ไม่มีระบาย)

ครอู าจสมุ่ นกั เรยี นออกมาบอกค�ำ ตอบของตนเอง วา่ จดั ไดก้ ก่ี ลมุ่ กลมุ่ ใดบา้ ง และแตล่ ะกลมุ่ มหี มวกกใ่ี บ

(3 กลมุ่ เปน็ แถบสเี หลอื งแดงเขยี ว 5 ใบ เป็นลายสีฟา้ ขาว 4 ใบ เป็นลายแดงขาว 4 ใบ

3 กลุ่ม ปลายหมวกมีจุก 5 ใบ ปลายหมวกมีพู่ 4 ใบ ปลายหมวกแหลม 4 ใบ

2 กลมุ่ ท่ีสวมหวั มรี ะบาย 4 ใบ ท่สี วมหัวไม่มรี ะบาย 9 ใบ)

2 ถา้ ครูจดั กลมุ่ หมวกเป็น 3 กลุ่ม ดงั น้ี

หมวกแบบใดท่นี กั เรยี นใสม่ ากทีส่ ดุ ( มีนกั เรยี นใส่มากท่สี ดุ )

3 มีนักเรียนใส่หมวกมางานเลีย้ งกค่ี นและร้ไู ดอ้ ยา่ งไร (มีนกั เรยี นใสห่ มวกมางานเลีย้ ง 13 คน
รู้ได้จากการนบั จำ�นวนหมวกทงั้ หมด)

จากนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั หาค�ำ ตอบในกรอบทา้ ยหนงั สอื เรยี นหนา้ 264 โดยครอู าจใชก้ ารถาม-ตอบ
เปน็ แนวทางในการหาค�ำ ตอบดงั น้ี

| 273สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ อื ครรู ายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภูมิรปู ภาพ
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

- มคี นใส่หมวก ก่คี น (4 คน)

- มคี นใสห่ มวก กี่คน (5 คน)

- มคี นใส่หมวก กี่คน (4 คน)

- มีคนใสห่ มวก น้อยกว่า กคี่ น (1 คน)

- ถ้ามคี นใสห่ มวก เท่ากบั แสดงวา่ คนที่มางานเล้ยี งต้องใสห่ มวก
มาเพม่ิ อีกกค่ี น (1 คน)

- ถ้ามคี นใสห่ มวก มากกว่า อยู่ 1 คน แสดงว่าคนทมี่ างานเลยี้ งต้องใสห่ มวก
มาเพิม่ อีกกคี่ น (2 คน) มาเพม่ิ อีกทั้งหมดกค่ี น (2 คน)
ดงั น้ัน คนทมี่ างานเลยี้ งต้องใส่หมวก

จากค�ำ ถามทอ่ี ยใู่ นกรอบทา้ ยหนงั สอื เรยี นหนา้ 264 ครนู �ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยอาจน�ำ รปู หมวกชนดิ ตา่ ง ๆ
มาตดิ เป็นกล่มุ ดังนี้







จากภาพ นกั เรียนอาจเห็นได้โดยงา่ ยวา่ ต้องเพม่ิ รูปหมวก จ�ำ นวน 2 รปู

จงึ จะท�ำ ใหม้ คี นใสห่ มวก มากกว่า คนใสห่ มวก อยู่ 1 คน

274 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | แผนภูมริ ูปภาพ คู่มือครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

6.1 การอา่ นแผนภมู ริ ูปภาพอยา่ งงา่ ย (1 ชัว่ โมง)

จุดประสงค์

อา่ นแผนภมู ริ ูปภาพอยา่ งง่ายและใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมริ ูปภาพในการหาค�ำ ตอบของโจทย์ปญั หา

ส่ือการเรยี นรู้

- บัตรภาพ

แนวการจดั การเรยี นรู้
การพัฒนาความรู้

1. ครนู ำ�เข้าสู่บทเรยี นโดยใชด้ ินสอสตี ่าง ๆ หลายสี
คละกนั จำ�นวน 15 แทง่ และสมุ่ นักเรียน 1 คน ออกมา
จดั กลุ่มดนิ สอตามสีตา่ ง ๆ แลว้ ใหน้ ักเรยี นน�ำ เสนอวธิ ี
การจัดกลุม่ ดนิ สอแตล่ ะกลุ่มว่ามวี ิธกี ารจดั กล่มุ อยา่ งไร และ
แตล่ ะกลุม่ มีจำ�นวนดนิ สอเทา่ ไร จากน้นั สมุ่ นกั เรียน 3 คน
ออกมาช่วยกันจัดกล่มุ ดนิ สอตามสตี ่าง ๆ แล้วให้นักเรียน
น�ำ เสนอวธิ กี ารจัดกล่มุ ดินสอแต่ละกลุ่มว่ามีวิธีการจัดกล่มุ
อย่างไร และแต่ละกล่มุ มีจำ�นวนดินสอเท่าไร ครใู หน้ กั เรยี น
สังเกตวธิ กี ารจัดกลุ่มดนิ สอตามสีต่าง ๆ ของเพื่อนทอี่ อกมา
นำ�เสนอวา่ อาจจะมีวิธีการจัดกลมุ่ ทแี่ ตกต่างกันแตเ่ ม่ือจดั กลุ่มเรยี บร้อยแลว้ จำ�นวนดนิ สอใน
แตล่ ะกลุม่ จะต้องได้เท่ากนั เพราะใชก้ ารจดั กลุ่มโดยมเี ง่อื นไขเดียวกนั คอื จัดกลุม่ ตามสตี า่ ง ๆ จากน้ัน
ครูยกตัวอย่างสถานการณง์ านเลยี้ งปีใหมท่ ี่ต้องตกแตง่ หอ้ งเรยี นดว้ ยลูกโป่งสตี า่ ง ๆ ครูติดบัตรภาพ
ลูกโป่งสีตา่ ง ๆ ท่ใี ชใ้ นการตกแต่งหอ้ งเรียนตามหนังสอื เรียนหนา้ 265

ถามนักเรียนว่า จะทราบได้อย่างไรวา่ นกั เรียนใช้ลูกโป่งสใี ดมากทส่ี ุดในการตกแตง่ หอ้ งเรียน นกั เรียน
อาจนับจ�ำ นวนลูกโปง่ แตล่ ะสีแลว้ ตอบว่าสเี ขียวมากทสี่ ุด ซ่งึ ในการนบั จ�ำ นวนลูกโปง่ แตล่ ะสี นกั เรียน
อาจมีวิธกี ารนับดังน้ี
วิธีที่ 1 จดั กล่มุ ลูกโป่งแยกตามสีแลว้ นับ ครใู หน้ กั เรียนจดั กลุ่มลูกโป่งแยกตามสีแลว้ ชว่ ยกันจ�ำ นวน
ลูกโป่งแตล่ ะสไี ด้ดงั นี้ ลูกโปง่ สีเขียว 5 ลูก ลูกโปง่ สีฟ้า 4 ลูก ลูกโปง่ สสี ้ม 4 ลูก ลูกโป่งสชี มพู 3 ลกู
ดงั นัน้ ลูกโปง่ สเี ขยี วมีจำ�นวนมากท่ีสดุ

| 275สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมิรูปภาพ
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1

วธิ ที ่ี 2 นบั จำ�นวนลกู โป่งทลี ะสี ครใู ห้นักเรยี นนบั จำ�นวนลูกโป่งทลี ะสีโดยการขดี ทบั ลกู โปง่ ทนี่ ับแล้ว

ทลี ะลูกจนครบทุกสี ได้ดังน้ี ลกู โป่งสีเขยี ว 5 ลกู ลูกโป่งสฟี ้า 4 ลกู ลูกโป่งสสี ม้ 4 ลูก ลูกโปง่ สีชมพู

3 ลกู ดังน้ัน ลูกโป่งสเี ขยี วมีจ�ำ นวนมากท่สี ุด จากน้นั ครถู ามนกั เรียนวา่ ในการหาลกู โป่งสใี ดใชต้ กแตง่

หอ้ งเรยี นมากทีส่ ุด นอกจากใช้การนบั จำ�นวนลกู โปง่ แตล่ ะสี และนำ�มา

เปรยี บเทยี บกนั ว่าสใี ดมจี ำ�นวนมากท่ีสดุ แล้ว เราสามารถใชว้ ธิ ีการอื่น

ในการหาว่าลูกโปง่ สีใดใชต้ กแตง่ ห้องเรยี นมากท่สี ุดได้หรอื ไม่ ครอู าจ

ไมค่ าดหวังคำ�ตอบ ครแู นะนำ�วา่ เราสามารถนำ�ลูกโป่งทใ่ี ชใ้ นการตกแต่ง

ห้องเรียนท้ังหมดมาจดั เรยี งแยกตามสี เราเรียกว่า แผนภมู ริ ูปภาพซง่ึ

ประกอบด้วยชอ่ื แผนภูมแิ ละรายการตา่ ง ๆ ตามหนังสอื เรียนหนา้ 266 ดงั น้ี สฟี า้ สสี ม้ สีเขยี ว สีชมพู
2. ครตู ิดบัตรภาพแผนภูมิรูปภาพตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 266

บนกระดาน แล้วให้นักเรยี นตอบค�ำ ถามวา่ นักเรยี นใช้ลกู โป่งสีใดในการตกแตง่ หอ้ งเรยี นมากท่ีสุด

นกั เรยี นดูจากแผนภูมิรปู ภาพแลว้ ตอบคำ�ถามไดอ้ ย่างรวดเร็ววา่ ใชล้ กู โป่งสีเขยี วมากที่สดุ นกั เรยี น

บางคนอาจไม่จำ�เป็นตอ้ งนับจำ�นวนของลกู โป่งแต่ละสี นกั เรียนบางคนอาจนบั จ�ำ นวนลกู โป่งเฉพาะ

สเี ขียว ครถู ามนักเรยี นว่า เพราะอะไรจงึ สามารถตอบค�ำ ถามไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ นกั เรียนอาจตอบวา่

เพราะลูกโปง่ ทนี่ �ำ มาเรียงกันเปน็ แถวตามสีและสเี ขียวอยู่

ในแถวทส่ี งู ทส่ี ดุ ครถู ามนกั เรยี นตอ่ ไปวา่ ลกู โปง่ สใี ดนอ้ ยทส่ี ดุ

นักเรียนควรตอบไดว้ า่ ลกู โป่งสชี มพู ครูถามนักเรยี นวา่

ลูกโปง่ สใี ดเท่ากนั นักเรยี นควรตอบได้วา่ ลูกโปง่ สีฟ้ากบั

ลูกโปง่ สีส้ม จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นสังเกตแผนภมู ริ ูปภาพที่

ตดิ บนกระดานว่าพบขอ้ สังเกตอะไรบ้าง เชน่ แผนภูมิ

รูปภาพนี้มีชอื่ แผนภมู ิว่า ลูกโปง่ สตี า่ ง ๆ ท่ีใช้ตกแต่ง

หอ้ งเรียน ลูกโป่งเรยี งกันเปน็ แถวตามสี สเี ดียวกนั อยใู่ น

แถวเดียวกัน จำ�นวนลูกโป่งแตล่ ะสีเทา่ กบั จ�ำ นวนลูกโปง่ ท่ี

ใช้ตกแตง่ ห้องเรยี น ลูกโป่งแต่ละลกู มขี นาดเทา่ กนั แต่มสี ี

ต่างกนั ระยะหา่ งของลกู โปง่ แตล่ ะลูกในแตล่ ะแถวเท่ากนั

ครูแนะน�ำ ว่า เม่อื เขียนแผนภมู ริ ปู ภาพแสดงจ�ำ นวนลูกโป่ง

สีต่าง ๆ ที่ใชต้ กแตง่ ห้องเรยี นแลว้ นักเรียนสามารถบอกได้ สีชมพู

วา่ จำ�นวนลูกโป่งสีตา่ ง ๆ ที่ใช้ตกแตง่ ห้องเรยี นไดจ้ าก

แผนภูมริ ูปภาพโดยการนบั จ�ำ นวนลูกโปง่ ทีอ่ ยูใ่ นแผนภูมิ

รปู ภาพดงั นี้ ลกู โปง่ สฟี ้า 4 ลูก ลูกโปง่ สสี ้ม 4 ลูก ลกู โป่งสเี ขียว 5 ลูก และลูกโป่งสชี มพู 3 ลูก

ครแู นะน�ำ วา่ การที่เราจัดเรียงลูกโปง่ แต่ละสีและเขยี นเป็นแผนภมู ริ ูปภาพน้ีเพ่ือให้สะดวกและง่าย

ตอ่ การอา่ นข้อมูลตา่ ง ๆ ครอู าจให้นักเรยี นท�ำ กิจกรรมติดบตั รภาพลกู โปง่ ให้เทา่ กบั จำ�นวนลูกโป่งทใ่ี ช้

ในการตกแตง่ ห้องเรยี นโดยครตู ดิ บตั รขอ้ ความ สฟี า้ สีสม้ สเี ขียว สชี มพู บนกระดานแล้วสุม่ นักเรยี น

ออกไปตดิ บัตรลกู โป่งสตี า่ ง ๆ ให้ครบตามจำ�นวนท่ีใช้ตกแตง่ ห้องเรยี นอาจตดิ ในแนวนอนหรือแนวตงั้

ก็ได้ จากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกนั คดิ และตอบค�ำ ถามว่า ถา้ ครูเตรียมลูกโป่งแตล่ ะสีไวจ้ �ำ นวนเท่ากนั

ลูกโปง่ สใี ดเหลอื มากทส่ี ุด (สีชมพ)ู เพราะเหตุใด (เพราะลกู โป่งสชี มพใู ชต้ กแต่งหอ้ งเรยี นน้อยทส่ี ุด)

276 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | แผนภมู ริ ูปภาพ คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1

3. ครยู กตัวอย่างแผนภมู ริ ูปภาพท่ีแสดงจำ�นวน 3 สม
นักเรยี นทกี่ ินผลไม้ชนดิ ต่าง ๆ ในงานเลี้ยงปใี หม่ โดยติด 3 แอปเปล
บัตรข้อความแสดงช่ือแผนภมู ริ ปู ภาพ และบตั รรายการ
ผลไมช้ นดิ ต่าง ๆ บนกระดานดงั รูป แอปเปล 8
2
จ�ำ นวนนักเรียนทีก่ ินผลไม้ชนดิ ต่าง ๆ ในงานเลี้ยงปีใหม่
1
แอปเปลิ

กล้วย

ส้ม

ชมพู่

ครใู ห้นักเรียนอ่านชอ่ื แผนภมู ริ ูปภาพ และบอกชอ่ื ผลไม้
ชนิดตา่ ง ๆ ที่นักเรียนกนิ ในงานเลย้ี งปใี หม่ (แอปเปิล กลว้ ย
สม้ และ ชมพู่) ครูน�ำ บตั รภาพหน้าเดก็ มาสุ่มใหน้ ักเรียน
ออกมาตดิ บตั รภาพหนา้ เดก็ ใหต้ รงกบั ชอ่ื ผลไมท้ เ่ี ดก็ คนนน้ั กนิ ตามหนังสือเรียนหน้า 245 จนครบทกุ คน
จะไดแ้ ผนภมู ิรปู ภาพดงั น้ี

จำ�นวนนกั เรยี นทก่ี ินผลไม้ชนดิ ตา่ ง ๆ ในงานเล้ียงปใี หม่

แอปเปลิ

กล้วย

ส้ม

ชมพู่

จากแผนภูมิรปู ภาพครใู ช้การถาม-ตอบดงั นี้

- ชื่อแผนภูมิคืออะไร (จ�ำ นวนนกั เรยี นทีก่ นิ ผลไมช้ นิดตา่ ง ๆ ในงานเลยี้ งปใี หม่)

- นักเรยี นกนิ ผลไม้ชนดิ ใดบา้ ง แตล่ ะชนดิ มนี กั เรียนกินกค่ี น (มีนกั เรียนกนิ แอปเปิล 5 คน

มนี กั เรยี นกนิ กลว้ ย 3 คน มีนกั เรยี นกินสม้ 3 คน มนี ักเรยี นกินชมพู่ 4 คน)

จากนนั้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบค�ำ ถามตามหนงั สอื เรยี นหน้า 267 พร้อมกัน และร่วมกันตรวจสอบ

ความถกู ต้อง ครใู ห้นักเรียนสงั เกตแผนภูมริ ปู ภาพทีน่ �ำ เสนอในหนังสอื เรยี นหน้า 266 กบั แผนภมู ิ

รูปภาพที่นำ�เสนอในหนา้ 267 ว่าเปน็ แผนภูมริ ูปภาพทน่ี ำ�เสนอในแนวตง้ั และเปน็ แผนภูมริ ูปภาพท่ี

น�ำ เสนอในแนวนอน ซงึ่ ลักษณะการวางเรียงรูปภาพจะแตกต่างกนั โดยแผนภูมิรูปภาพทน่ี ำ�เสนอใน

แนวตงั้ จะวางเรียงรปู ภาพเปน็ แนวจากล่างข้ึนบน ส่วนแผนภูมิรูปภาพท่นี �ำ เสนอในแนวนอนจะวาง

เรยี งรูปภาพเป็นแนวจากซ้ายไปขวา | 277สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมิรูปภาพ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

การตรวจสอบความเข้าใจ วานลิ ลาและสตรอวเบอรร ี่ 8
2
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล ช็อคโกแลต
โดยให้นักเรียนตอบค�ำ ถามจากแผนภูมริ ูปภาพท่ีก�ำ หนดให้
ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 268 โดยครอู าจใชค้ ำ�ถามน�ำ เพ่ือให้ 4
นักเรียนอ่านแผนภมู ริ ูปภาพได้ถกู ตอ้ ง เช่น
- ชอ่ื แผนภมู ิรปู ภาพคอื อะไร (ไอศกรีมรสต่าง ๆ ที่
นักเรียนกนิ )
- นกั เรียนกนิ ไอศกรีมรสอะไรบ้าง อยา่ งละก่คี น
(ชอ็ กโกแลต 5 คน วานิลลา 3 คน สตรอว์เบอร์รี 3 คน)
ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องไปพร้อมกัน
ทีละข้อ ถา้ พบว่ามีนกั เรียนคนใดตอบค�ำ ถามใดไม่ถูกต้อง
ให้แกไ้ ขให้ถกู ต้อง แลว้ ร่วมกนั สรุปสงิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้

ส่ิงที่ได้เรยี นรู้

• แผนภูมิรูปภาพเป็นแผนภมู ิท่ีใช้รปู ภาพแสดงจำ�นวนของส่ิงต่าง ๆ
• ชื่อแผนภูมบิ อกให้รวู้ า่ แผนภมู ิรปู ภาพนั้นแสดงอะไร
จากน้ันให้นกั เรยี นท�ำ แบบฝึกหดั 6.1 หน้า 159 - 161

278 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | แผนภมู ิรูปภาพ ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

6.2 การอา่ นแผนภูมริ ปู ภาพ (1 ช่วั โมง)

จุดประสงค์

อา่ นแผนภมู ริ ูปภาพเมือ่ ก�ำ หนดรปู 1 รปู แทน 1 หนว่ ยและใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมริ ูปภาพในการ
หาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหา

สอื่ การเรยี นรู้ หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.1
บทที่ 6 | แผนภูมิรูปภาพ
- ส่ือวีดทิ ัศน์ เร่ืองแผนภมู ริ ปู ภาพ
- บัตรภาพ 6.2 การอา่ นแผนภมู ิรูปภาพ

พฒั นาความรู้
ครสู อบถามนกั เรยี น “ชอบกนิ อาหารอะไรมากทส่ี ดุ ในงานเลย้ี งปใี หม”่ ไดข้ อ้ มลู ดงั น้ี

- บัตรข้อความ ไกท่ อด ลูกช้นิ ปง้ิ เก๊ียวทอด ไส้กรอก
ต้น แนน ปอ
แนวการจดั การเรยี นรู้ นชิ า จนิ น่ ี ฝน ชมพู ป่าน ไนท ์ ดนี า่
การพฒั นาความรู้ ภีม อลนั นามิ บอย
ขวัญ นวล ฟ้า คีณ
นารา

เขยี นแสดงดว้ ยแผนภมู ริ ูปภาพโดยใช ้ แทนนักเรียนแตล่ ะคน ดังน้ี

จำานวนนกั เรียนที่ชอบกนิ อาหารชนดิ ตา่ ง ๆ ในงานเลี้ยงปีใหม่

1. ครนู �ำ เขา้ สบู่ ทเรียนโดยใชค้ �ำ ถามวา่ ถา้ เราตอ้ งการ ชอ่ื แผนภูมิ แผนภูมริ ูปภาพ

ทราบว่า อาหารกลางวนั ของโรงเรยี นชนดิ ใดทนี่ กั เรียนชอบ

กินมากทส่ี ุด เราต้องทำ�อยา่ งไร ครูน�ำ บัตรรายช่อื อาหาร ข้อกำาหนด ไกท� อด ลกู ช้ินปง� เก๊ียวทอด ไส�กรอก
แต่ละชนดิ ติดบนกระดานดงั น้ี
กำาหนดให้ แทนจำานวนนักเรียน 1 คน

ส่วนท้ายของแผนภูมิรูปภาพคือ ข้อกาำ หนดของแผนภูมริ ปู ภาพ
รูปภาพที่แทนสงิ่ เดยี วกันตอ้ งเปน็ รูปภาพท่ีเหมือนกนั และมีขนาดเท่ากัน

ไขเ่ จียว ตม้ จืดตำ�ลึง ตม้ ย�ำ ก้งุ ผัดผักรวม ไกท่ อด | 269สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ครูแนะนำ�ว่า ถา้ เราตอ้ งการทราบว่า อาหารกลางวันของ

โรงเรียนชนิดตา่ ง ๆ ตามทต่ี ิดบนกระดาน ชนดิ ใดทีน่ ักเรียนชอบกินมากที่สดุ เราต้องทำ�การส�ำ รวจ

ขอ้ มูลโดยการถามเพ่ือนในหอ้ งเรียนหรอื ถามนกั เรียนคนอน่ื ที่อยูใ่ นโรงเรยี น ครยู กตัวอย่างวา่ ถา้ เรา

ถามเฉพาะเพื่อนในหอ้ งเรยี นจะไดข้ ้อมูลอยา่ งไร จากนน้ั ครถู ามนักเรยี นว่า จากรายการอาหาร

บนกระดานนกั เรยี นชอบกนิ อาหารชนดิ ใดมากทส่ี ดุ ครพู ดู ชอ่ื อาหารไปทลี ะชนดิ แลว้ ใหน้ กั เรยี นยกมอื

เม่อื ครพู ดู ช่อื อาหารท่ตี รงกับตนเองชอบ แลว้ ใหเ้ พือ่ นในหอ้ งช่วยกันนบั จ�ำ นวนนักเรยี น แล้วสุ่ม

นกั เรียนออกไปเขยี นจ�ำ นวนทน่ี ับได้ใหต้ รงกับชอื่ อาหารชนดิ นั้น ๆ เมื่อได้ขอ้ มูลครบทกุ ชนดิ แล้ว

ครูให้นกั เรยี นตอบคำ�ถามวา่ อาหารกลางวันของโรงเรยี นทน่ี กั เรียนชอบกนิ มากทส่ี ดุ คืออะไร

อาหารกลางวนั ของโรงเรยี นทนี่ กั เรยี นชอบกินน้อยท่สี ดุ คืออะไร จากนนั้ ครตู ดิ บตั รภาพขอ้ มลู ทไี่ ด้

จากการสำ�รวจว่า นกั เรียนชอบกนิ อาหารอะไรมากที่สดุ ในงานเลย้ี งปใี หม่ ตามหนงั สือเรยี นหน้า 269

บนกระดาน ดังรปู

ไก่ทอด ลูกชน้ิ ป้งิ เกีย๊ วทอด ไส้กรอก
ตน้ แนน ปอ
นิชา จินน่ี ฝน ชมพ ู ป่าน ไนท์ ดีนา่
ภีม อลัน นาม ิ บอย
ขวัญ นวล ฟ้า คณี
นารา

| 279สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมริ ูปภาพ
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

ครใู ช้การถาม-ตอบ ดังนี้
- มอี าหารอะไรบ้างทีน่ ักเรยี นชอบกนิ มากทส่ี ดุ ในงานเลย้ี งปใี หม่ (ไกท่ อด ลูกช้นิ ปง้ิ เก๊ียวทอด
ไสก้ รอก)
- อาหารแต่ละชนดิ มนี ักเรียนชอบมากทีส่ ุดกี่คน (มนี ักเรยี นทีช่ อบกนิ ไก่ทอด 7 คน มีนกั เรียนที่
ชอบกนิ ลูกชิน้ ป้ิง 2 คน มีนกั เรยี นทชี่ อบกินเกยี๊ วทอด 4 คน และมีนักเรียนทชี่ อบกินไส้กรอก 6 คน)
ครสู ่มุ นักเรยี นออกมาเขียนจ�ำ นวนนกั เรยี นทช่ี อบกนิ อาหารแตล่ ะชนิดใหต้ รงกบั ช่ืออาหาร
บนกระดานครูตดิ บตั รภาพท่มี รี ายการอาหารชนิดตา่ ง ๆ บนกระดาน ดงั รปู

ไก�ทอด ลกู ชนิ้ ปง� เกี๊ยวทอด ไสก� รอก

แลว้ สนทนากบั นักเรยี นวา่ ถา้ ก�ำ หนดให้ 1 รปู แทนจ�ำ นวนนกั เรียน 1 คน ครสู มุ่ นักเรยี น

ออกมาติด ในบตั รภาพที่ตรงกบั ชื่ออาหารโดยใหม้ ีรูป เทา่ กับจำ�นวนนักเรยี นทช่ี อบอาหาร

ชนดิ น้นั ๆ ครใู ช้การถาม-ตอบ ดงั นี้

- แผนภูมิรูปภาพนีช้ ื่ออะไร (จ�ำ นวนนักเรียนที่ชอบกินอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ ในงานเลีย้ งปใี หม)่

- มีอาหารอะไรบา้ งที่นักเรยี นชอบกินมากท่ีสุดในงานเลย้ี งปีใหม่ (ไกท่ อด ลูกช้นิ ปิ้ง เกย๊ี วทอด

ไส้กรอก)

- อาหารแตล่ ะชนิดมนี ักเรยี นชอบกินมากทีส่ ุดกค่ี น (มนี กั เรียนที่ชอบกนิ ไกท่ อด 7 คน

มนี ักเรยี นทีช่ อบกนิ ลูกช้ินปิง้ 2 คน มีนักเรยี นที่ชอบกินเกี๊ยวทอด 4 คน และมีนักเรยี นทช่ี อบกิน

ไสก้ รอก 6 คน)

- ถ้าตดิ รปู 1 รปู แทนจำ�นวนนกั เรยี น 1 คน ในรายการไก่ทอดต้องติดก่ีรปู (7 รปู )

- ในรายการลกู ช้นิ ปิ้งต้องตดิ กี่รปู (2 รูป) จ�ำ นวนนกั เรียนทช่ี อบกนิ อาหารชนดิ ต่าง ๆ ในงานเลย้ี งปใี หม่
- ในรายการเก๊ียวทอดตอ้ งตดิ ก่รี ูป (4 รูป)

- ในรายการไส้กรอกตอ้ งตดิ ก่ีรปู (6 รปู )

เม่อื นักเรียนติดรูป ครบตามจ�ำ นวนแล้ว ครูนำ�

ชื่อแผนภมู ิและขอ้ ก�ำ หนดออกมาตดิ บนกระดาน

ให้เปน็ แผนภมู ิรปู ภาพทีส่ มบูรณด์ งั นี้

ไกท� อด ลกู ชนิ้ ปง� เกีย๊ วทอด ไสก� รอก

ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน

280 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | แผนภูมริ ปู ภาพ คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

ครแู นะนำ�วา่ แผนภมู ิรูปภาพประกอบด้วย ชอ่ื แผนภมู ิรูปภาพ ตวั แผนภมู ิรูปภาพ และข้อกำ�หนด

ซ่ึงขอ้ ก�ำ หนดของแผนภมู ริ ูปภาพจะอยสู่ ่วนท้ายของแผนภมู ริ ูปภาพ โดยรูปภาพท่แี ทนสงิ่ เดียวกัน

ต้องเป็นรปู ภาพท่ีเหมือนกันและมขี นาดเท่ากัน หรอื ครอู าจสแกน QR Code เรือ่ งแผนภมู ิรปู ภาพ

ในหนังสือเรยี นหนา้ 269 ใหน้ กั เรยี นฝึกเตมิ รูป ในแผนภมู ริ ูปภาพตามจ�ำ นวนขอ้ มลู ทกี่ �ำ หนด

2. จากแผนภูมริ ูปภาพทีแ่ สดงจ�ำ นวนนักเรยี นทช่ี อบกนิ อาหารชนิดตา่ ง ๆ ในงานเลยี้ งปีใหม่

ในหนังสอื เรยี นหนา้ 269 ครใู หน้ กั เรยี นจบั คูก่ ันและชว่ ยกันตอบคำ�ถามตามหนังสอื เรยี นหน้า 270

ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และรว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกับการอา่ นแผนภูมริ ปู ภาพ

เพื่อตอบค�ำ ถามแตล่ ะคำ�ถามดังน้ี ขอ้ 1 นกั เรยี นทีช่ อบกนิ

ไกท่ อดมีก่ีคน ครอู าจแนะนำ�วา่ เนือ่ งจาก 1 รูป แทน

จ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน โจทยถ์ ามวา่ นกั เรยี นทช่ี อบกนิ ไกท่ อด

มกี ีค่ นจงึ นบั จ�ำ นวนรปู ในชอ่ งไกท่ อดวา่ มีกร่ี ูป

นบั ได้ 7 รปู ดังนัน้ นกั เรียนทีช่ อบกินไกท่ อดมี 7 คน ขอ้ 2

ใช้วธิ ีการเดียวกับขอ้ 1 ขอ้ 3 เรยี งลำ�ดบั อาหารทน่ี ักเรียน ไกท อด ไสก รอก เกี๊ยวทอด ลูกช้นิ ปง

ชอบมากที่สดุ ไปนอ้ ยที่สดุ ครใู ห้นกั เรียนพิจารณาจาก

ความสงู ของรปู ภาพทง้ั หมดในแตล่ ะชอ่ งของอาหารแตล่ ะชนดิ

เรียงลำ�ดับได้ดังนี้ ไกท่ อด ไส้กรอก เกยี๊ วทอด ลกู ชิ้นปิง้

ขอ้ 4 และขอ้ 5 พจิ ารณาจากความสงู ของรปู ภาพ เชน่ เดยี วกบั

ขอ้ 3 ขอ้ 6 เปน็ คำ�ถามแบบเปิด ครอู าจให้นักเรยี นตอบ

แล้วพิจารณาเหตุผลของนกั เรียน จากนัน้ ครใู ห้นักเรียน เพราะมนี กั เรียนชอบกนิ มากกวา 3 คน
สังเกตรปู ทใี่ ช้ในแผนภมู ิรปู ภาพวา่ มคี วามแตกตา่ งกนั * คําตอบของขอ 6 อาจแตกตา งจากน้ี

อยา่ งไรบ้าง ครูติดบัตรภาพแผนภูมิ 3 แผนภูมริ ูปภาพ ดังนี้

แอปเปลิ

กลว้ ย

ส้ม

ชมพู่ ไก�ทอด ลกู ชิ้นปง� เก๊ยี วทอด ไส�กรอก

สีฟ้า สีส้ม สเี ขียว สีชมพู กำ�หนดให้ แทนจ�ำ นวนนักเรียน 1 คน

รูป 1 รปู 2 รูป 3

ครแู นะน�ำ ว่า แผนภูมิรปู ภาพ รูป 1 กับรปู 2 เปน็ แผนภูมิรูปภาพอย่างง่าย ทปี่ ระกอบด้วยช่อื แผนภูมิ
รูปภาพกับตัวแผนภมู ิรูปภาพ และรปู ทใ่ี ชใ้ นแผนภมู ริ ูปภาพอาจเป็นรูปภาพที่เกี่ยวกบั ขอ้ มลู นั้น ๆ
เช่น รูปลกู โปง่ รูปเดก็ สว่ นแผนภูมริ ูปภาพ รปู 3 เป็นแผนภูมิรปู ภาพท่ีประกอบด้วย ชอื่ แผนภมู ิ
รูปภาพกับตัวแผนภูมริ ปู ภาพ และขอ้ ก�ำ หนด มขี อ้ ก�ำ หนดวา่ รูปที่ปรากฎในแผนภมู ิรปู ภาพนน้ั 1 รปู
แทนจ�ำ นวนข้อมูลเทา่ ไร ในทนี่ ก้ี ำ�หนดให้ 1 รปู แทนจำ�นวนนกั เรยี น 1 คน และรปู ที่ใชใ้ นแผนภมู ิ
รูปภาพต้องเหมือนกันและมีขนาดเท่ากัน

| 281สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ิรูปภาพ
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

3. ครูติดบัตรขอ้ ความและบัตรภาพ

งานเล้ยี งปใี หม่ ครเู ตรียมขนมไทยไว้ 3 ชนดิ ชนดิ ละ 10 ชิ้น เมอ่ื งานเลีย้ งเลกิ
มีขนมไทยเหลอื ดังน้ี

ขา้ วตม้ มัด ขนมกลว้ ย ขนมตาล

ครสู นทนากบั นกั เรียนใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั นี้ ขาวตมมดั
- ขนมไทย 3 ชนิด ในงานเล้ียงปใี หมม่ ีขนมอะไรบา้ ง ขนมกลว ย
(ข้าวตม้ มัด ขนมกล้วย ขนมตาล)
- ครเู ตรยี มขนมไทย 3 ชนิด ชนิดละก่ีชนิ้ (10 ชิ้น) ขา วตม มดั
- มขี นมอะไรเหลืออยบู่ า้ ง เหลอื อยา่ งละกีช่ ิ้น ขนมกลวย
(ขา้ วตม้ มัด 7 ชิน้ ขนมกล้วย 3 ชิ้น ขนมตาล 5 ชิ้น)
- นกั เรียนกนิ ขนมแตล่ ะชนดิ ไปอยา่ งละกีช่ น้ิ
(ข้าวต้มมัด 3 ชิน้ ขนมกลว้ ย 7 ชนิ้ ขนมตาล 5 ช้ิน)
ครตู ดิ บตั รภาพแผนภมู ิรปู ภาพ ตามหนังสือเรยี นหน้า 271 ดังนี้

ขนมไทยทเี่ หลอื เมอื่ งานเลี้ยงเลกิ

ขา้ วตม้ มดั แทนจำ�นวนขนมไทย 1 อัน
ขนมกล้วย
ขนมตาล

ก�ำ หนดให้

ครูใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั น้ี
- ชอื่ แผนภูมคิ ืออะไร (ขนมไทยที่เหลือเมอื่ งานเลย้ี งเลกิ )
- ขอ้ ก�ำ หนดคืออะไร (กำ�หนดให้ แทนจำ�นวนขนมไทย 1 ชน้ิ )
- มขี นมอะไรเหลอื อยู่บ้าง (ขา้ วต้มมัด ขนมกลว้ ย ขนมตาล)
- ขา้ วต้มมัด ขนมกล้วย ขนมตาล เหลืออย่างละกช่ี น้ิ (ข้าวตม้ มัด 7 ชิน้ ขนมกล้วย 3 ช้ิน
ขนมตาล 5 ชน้ิ )
จากนน้ั ให้นักเรยี นตอบค�ำ ถามตามหนังสือเรยี นหนา้ 271
1 ขนมไทยชนดิ ใดทเ่ี หลือมากทสี่ ดุ (ขา้ วตม้ มัด)
2 ขนมไทยชนิดใดทเี่ หลอื นอ้ ยทสี่ ดุ (ขนมกล้วย)
3 ขนมไทยชนิดใดทน่ี กั เรยี นเลือกกนิ น้อยทีส่ ดุ (ขา้ วต้มมดั )
4 ขนมไทยชนดิ ใดทน่ี กั เรยี นเลือกกินมากท่ีสดุ (ขนมกล้วย)
ครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องและร่วมกนั สรปุ ว่า ในการอ่านแผนภูมิรปู ภาพต้องอา่ น
ชอื่ แผนภูมิรูปภาพ อ่านข้อก�ำ หนดวา่ รปู ภาพ 1 รปู แทนจ�ำ นวนส่งิ ของเทา่ ไร แล้วพิจารณาตัวแผนภมู ิ

รปู ภาพเพือ่ อ่านข้อมูลในแต่ละรายการว่ามขี ้อมูลจรงิ เทา่ ไร

282 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | แผนภมู ริ ปู ภาพ คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1

การตรวจสอบความเขา้ ใจ ป.1
5 คน
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นเป็นรายบุคคล
โดยให้นักเรียนอ่านและตอบค�ำ ถามจากแผนภมู ริ ูปภาพท่ี มีนักเรยี นช้ัน ป.2 มาทําบญุ กี่คน
กำ�หนด ตามหนงั สือเรียนหน้า 272 โดยครูอาจใช้การถาม-
ตอบ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนเขยี นแผนภูมริ ปู ภาพให้สมบูรณ์ ตอบ ๕ คน * คาํ ตอบอาจแตกตา งจากนีใ้ หอยใู นดุลยพนิ จิ ของผสู อน
ก่อนแล้วจึงตอบค�ำ ถาม ดงั น้ี
- จากขอ้ มลู ทก่ี �ำ หนดให้ มนี กั เรยี นชน้ั ป.2 กค่ี น (5 คน)
- ช่ือแผนภูมิคอื อะไร (นกั เรียนชน้ั ป.1 ถงึ ป.3 ทม่ี า
รว่ มท�ำ บญุ )
- ข้อก�ำ หนดคืออะไร (รปู 1 รปู แทนจำ�นวนนกั เรยี น
1 คน)
จากนั้นใหน้ กั เรียนแต่ละคนตอบค�ำ ถามขอ้ 1 ถงึ ข้อ 2
และตั้งคำ�ถามพรอ้ มค�ำ ตอบ ครูและนักเรียนร่วมกนั
ตรวจสอบความถกู ต้อง ถ้ามีนกั เรยี นทต่ี อบค�ำ ถามไมถ่ กู ตอ้ ง
ครใู หแ้ กไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง จากนน้ั รว่ มกนั สรปุ สงิ่ ทีไ่ ด้เรยี นรู้

ส่ิงที่ได้เรียนรู้

การอา่ นแผนภูมริ ูปภาพ เรมิ่ จากอา่ นชื่อแผนภมู ิ จากน้ันพิจารณาข้อก�ำ หนดแลว้ อา่ นข้อมลู
แตล่ ะรายการ
จากนัน้ ให้นกั เรียนทำ�แบบฝกึ หดั 6.2 หนา้ 162 - 164

| 283สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ิรูปภาพ
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

6.3 รอยขีดกบั แผนภมู ริ ปู ภาพ (1 ช่วั โมง)

จุดประสงค์

อ่านแผนภมู ริ ปู ภาพเมอื่ กำ�หนดรูป 1 รูป แทน 1 หน่วยและใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมริ ูปภาพ
ในการหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา

สอื่ การเรียนรู้

- บัตรข้อความ
- บตั รภาพ

แนวการจดั การเรยี นรู้

การพฒั นาความรู้

1. ครูนำ�เข้าสบู่ ทเรยี นโดยการทบทวนการเกบ็ ขอ้ มลู

โดยการสำ�รวจจำ�นวนนักเรยี นท่ีชอบกีฬาอะไรมากทส่ี ดุ

แลว้ นบั จำ�นวนนักเรียนทีช่ อบกีฬาประเภทตา่ ง ๆ เชน่

มีนักเรยี นท่ชี อบว่ายนำ้� 15 คน นกั เรียนท่ีชอบฟุตบอล รถยนต�

10 คน นักเรียนท่ชี อบปิงปอง 11 คน และอน่ื ๆ 5 คน

ครแู นะน�ำ วา่ การนับจำ�นวนนกั เรียนที่ชอบกีฬาประเภทตา่ ง ๆ

นน้ั ถ้ามีจำ�นวนนักเรยี นมากอาจจะนับจำ�นวนผดิ พลาดได้ จากนั้นครแู นะน�ำ รอยขดี วา่ เปน็ การขีด

เพ่อื แสดงจำ�นวนของนักเรยี นท่ีชอบกฬี าประเภทตา่ ง ๆ โดยการเขียนรอยขีด 1 ขดี แทนจ�ำ นวน

นักเรยี น 1 คน เมื่อครบ 5 คน จะเขียนรอยขีดทบั รอยขีด 4 รอยขดี เชน่ แทนจ�ำ นวนนกั เรียน

1 คน แทนจ�ำ นวนนกั เรียน 5 คน ครใู ห้นกั เรยี นออกมาเขยี นรอยขีดแสดงจำ�นวนนักเรียนท่ีชอบ

กีฬาประเภทตา่ ง ๆ ไดด้ ังนี้ วา่ ยน้ำ�

ฟุตบอล

ปิงปอง

อนื่ ๆ

ครใู ห้นกั เรยี นสังเกตว่า เมอ่ื เขียนรอยขดี แสดงจ�ำ นวนนักเรยี นท่ีชอบกฬี าประเภทต่าง ๆ แล้ว
ใหน้ กั เรียนนบั และบอกจำ�นวนของนักเรยี นทีช่ อบกฬี าประเภทต่าง ๆ จะเห็นว่า สามารถนบั จ�ำ นวน
นักเรยี นไดง้ า่ ยและรวดเรว็ โดยการนับทลี ะ 5 ตามรอยขดี ทแ่ี สดงไว้ จากน้ันครยู กตวั อย่าง
การส�ำ รวจและใชร้ อยขดี ในการแสดงจ�ำ นวนนกั เรยี นทเ่ี ดนิ ทางมาโรงเรยี นดว้ ยวธิ ตี า่ ง ๆ ตามหนงั สอื เรยี น
หน้า 273 โดยครูถามนกั เรยี นวา่ นกั เรียนเดนิ ทางมาโรงเรียนดว้ ยวิธใี ดบ้าง ครตู ดิ บัตรภาพวธิ ีต่าง ๆ

284 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | แผนภูมิรปู ภาพ คู่มือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

ท่นี ักเรยี นเดนิ ทางมาโรงเรยี นบนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นออกมาเขยี นรอยขีดให้ตรงกบั
วธิ ที ต่ี นเองเดนิ ทางมาโรงเรียน อาจได้ขอ้ มูลดงั น้ี

ครใู หน้ ักเรยี นนับจ�ำ นวนนักเรียนท่ีเดินทางมาโรงเรียนด้วยวธิ ตี ่าง ๆ จากรอยขีดแล้วเขียนจ�ำ นวน
กำ�กบั ไว้ด้านหลังดังนี้

4
3
5
8
5

จากข้อมลู ข้างตน้ ครแู นะนำ�วา่ สามารถนำ�เสนอขอ้ มลู เป็นแผนภูมิรปู ภาพ ครูถามนกั เรียนวา่
ช่ือแผนภูมิรปู ภาพนค้ี ืออะไร นักเรียนควรตอบไดว้ ่า แผนภมู ริ ปู ภาพน้แี สดงจ�ำ นวนนักเรียนทีเ่ ดินทาง
มาโรงเรยี นโดยวิธตี ่าง ๆ ครูเขยี นช่อื แผนภูมบิ นกระดาน แลว้ ติดบตั รภาพแผนภมู ทิ ม่ี ีรายการวิธกี าร
เดนิ ทางมาโรงเรยี น ดังน้ี

จ�ำ นวนนักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียนโดยวิธีตา่ ง ๆ

เดิน รถจักรยาน รถจักรยานยนต รถยนต รถประจำทาง

กำ�หนดให้ แทนจ�ำ นวนนักเรียน 1 คน

จากนน้ั ครเู ขียนข้อกำ�หนดว่า กำ�หนดให้ แทนจำ�นวนนักเรยี น 1 คน ครใู ชก้ ารถาม-ตอบดงั น้ี

| 285สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ริ ูปภาพ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1

- นกั เรียนเดินทางมาโรงเรียนด้วยการเดินก่ีคน (4 คน) ครใู หน้ กั เรยี นออกมาติด
บนกระดานแสดงจ�ำ นวนนักเรียนเดนิ มาโรงเรยี น 4 คน
- นักเรยี นเดินทางมาโรงเรียนด้วยรถจกั รยานก่คี น (3 คน)
ครใู หน้ กั เรยี นออกมาตดิ บนกระดานแสดงจ�ำ นวนนกั เรยี นเดนิ ทางดว้ ยรถจกั รยานมาโรงเรยี น 3 คน
- นักเรยี นเดินทางมาโรงเรียนดว้ ยรถจกั รยานยนต์กค่ี น (5 คน) ครูใหน้ กั เรียนออกมาตดิ
บนกระดานแสดงจ�ำ นวนนกั เรยี นเดนิ ทางดว้ ยรถจกั รยานยนต์มาโรงเรียน 5 คน
- นักเรียนเดนิ ทางมาโรงเรยี นดว้ ยรถยนตก์ ี่คน (8 คน) ครูใหน้ ักเรยี นออกมาติด
บนกระดานแสดงจ�ำ นวนนกั เรยี นเดนิ ทางด้วยรถยนต์มาโรงเรียน 8 คน
- นกั เรียนเดนิ ทางมาโรงเรียนด้วยรถประจำ�ทางกคี่ น (5 คน)
ครใู ห้นกั เรยี นออกมาตดิ บนกระดานแสดงจำ�นวนนักเรยี นเดนิ ทางด้วยรถประจำ�ทางมาโรงเรียน
5 คน เมื่อนกั เรยี นตดิ รูปภาพในแผนภมู ิรูปภาพเรียบร้อยแลว้ จะได้แผนภมู ิรปู ภาพดังนี้
2. จากแผนภมู ิรูปภาพ ตามหนังสอื เรยี นหน้า 274 ครใู ชก้ ารถาม-ตอบดังนี้

จำ�นวนนักเรยี นท่ีเดินทางมาโรงเรียนโดยวิธตี ่าง ๆ

เดนิ รถจกั รยาน รถจักรยานยนต รถยนต รถประจำทาง

ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน

- ชอื่ แผนภมู ิรปู ภาพคอื อะไร (จ�ำ นวนนักเรยี นทเ่ี ดินทางมาโรงเรยี นโดยวิธีต่าง ๆ)

- ข้อก�ำ หนดคอื อะไร (ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนนักเรยี น 1 คน)

- นกั เรยี นเดินทางมาโรงเรยี นโดยรถที่มีสองลอ้ กี่คน

(8 คน) ครอู าจให้นกั เรยี นสังเกตว่าพาหนะใดทม่ี สี องล้อ

บ้าง...แล้วใหช้ ว่ ยกนั หาคำ�ตอบ

- นักเรียนเดนิ ทางมาโรงเรียนโดยรถที่มเี คร่อื งยนต์

กคี่ น (18 คน) ครอู าจใหน้ กั เรยี นสังเกตวา่ พาหนะใดที่มี

เครอื่ งยนต์บ้าง...แล้วใหช้ ว่ ยกนั หาคำ�ตอบ

จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบค�ำ ถามพรอ้ มกัน ครแู ละ

นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครอู าจมีคำ�ถามนำ� 8
สำ�หรบั บางขอ้ เช่น ขอ้ 6 ตอ้ งมีนกั เรยี นเดนิ มาโรงเรยี น 18

รถจกั รยาน

เพม่ิ อีกกีค่ นจงึ จะเทา่ กับนักเรยี นทเี่ ดินทางมาโรงเรยี นโดย 5
รถประจำ�ทาง ครูให้นักเรียนสงั เกตรูปภาพของนักเรยี นที่ รถจกั รยานยนต
เดนิ มาโรงเรียนกับนักเรยี นทเ่ี ดินทางมาโรงเรยี นโดยรถ
1

ประจ�ำ ทางในแผนภูมิรปู ภาพ แล้วน�ำ มาเทียบกนั ดังน้ี

286 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | แผนภมู ิรูปภาพ คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

จำ�นวนนกั เรียนที่เดินทางมาโรงเรียนโดยวิธีต่าง ๆ

เดนิ รถจกั รยาน รถจักรยานยนต รถยนต รถประจำทาง

ก�ำ หนดให้ แทนจำ�นวนนกั เรยี น 1 คน

จากรปู จะเห็นวา่ นักเรยี นทเี่ ดินมาโรงเรยี นน้อยกว่านกั เรยี นท่ีเดินทางมาโรงเรยี นโดยรถประจ�ำ ทาง
1 รูป ดังนน้ั ตอ้ งเพิ่มอกี 1 รปู จงึ จะเทา่ กนั จะได้วา่ ต้องมนี ักเรียนเดนิ มาโรงเรียนเพิม่ อกี 1 คนจงึ จะ
เท่ากับนกั เรียนท่ีเดินทางมาโรงเรยี นโดยรถประจำ�ทาง

3. ครยู กตวั อยา่ งการบนั ทกึ ขอ้ มลู ดว้ ยรอยขดี แลว้ น�ำ มาเขยี นเปน็ แผนภมู ริ ปู ภาพตามหนงั สอื เรยี น
หน้า 275 เชน่ ครูส�ำ รวจจำ�นวนนักเรยี นท่ีเข้ารว่ มกิจกรรมต่าง ๆ ในงานเลย้ี งปีใหม่ บันทกึ ขอ้ มูล
ด้วยรอยขดี ได้ดงั น้ี ครูติดบตั รภาพแสดงจำ�นวนนักเรยี นท่เี ขา้ ร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ และรอยขีด ดังรูป

ตักบาตร

แสดงบนเวที

จบั สลาก

จากบตั รภาพครูใช้การถาม-ตอบ ดังน้ี

- มนี กั เรียนเข้ารว่ มกิจกรรมตกั บาตรกค่ี น (12 คน)

- มีนักเรียนเขา้ รว่ มกจิ กรรมแสดงบนเวทีกค่ี น (9 คน) 15
- มนี กั เรยี นเข้าร่วมกิจกรรมจบั สลากกีค่ น (15 คน) แสดงบนเวที

6

โดยใหน้ กั เรียนนับรอยขีดทลี ะ 5 เชน่ กจิ กรรมตกั บาตร 18

นบั รอยขีดเป็น 5 10 11 12 ได้จำ�นวนนกั เรยี น 12 คน

กิจกรรมแสดงบนเวทนี บั รอยขดี เป็น 5 6 7 8 9 ได้

จ�ำ นวนนักเรียน 9 คน กิจกรรมจับฉลากนบั รอยขดี เป็น 5 10 15 ไดจ้ �ำ นวนนกั เรยี น 15 คน

จากน้ันครแู นะน�ำ วา่ จากขอ้ มลู ข้างตน้ สามารถน�ำ เสนอเปน็ แผนภูมริ ปู ภาพ โดยก�ำ หนดรปู แทน

จำ�นวนนักเรยี น 1 คน ดังนี้

| 287สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครรู ายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

จ�ำ นวนนกั เรียนที่เขา้ รว่ มกจิ กรรมงานเล้ียงปีใหม่

ตกั บาตร
แสดงบนเวที
จบั สลาก

ก�ำ หนดให้ แทนจำ�นวนนักเรียน 1 คน

จากแผนภมู ริ ูปภาพครูใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั นี้
- ช่ือแผนภูมริ ปู ภาพคอื อะไร (จำ�นวนนกั เรียนที่เข้ารว่ มกจิ กรรมงานเลี้ยงปใี หม)่
- ข้อก�ำ หนดของแผนภูมริ ูปภาพคอื อะไร (กำ�หนดให้ แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน)
- นับจ�ำ นวนรปู ของนักเรียนทเ่ี ขา้ รว่ มกิจกรรมตกั บาตรไดก้ ่ีรปู (12 รปู )
- แสดงว่ามีนักเรยี นเข้าร่วมกจิ กรรมตกั บาตรกีค่ น (12 คน) รู้ไดอ้ ยา่ งไร (เพราะรปู แทน
จ�ำ นวนนกั เรียน 1 คน หาจ�ำ นวนนักเรียนโดยการนับจำ�นวนรูป ในแผนภูมริ ปู ภาพ)
จากนั้นครใู ห้นกั เรียนช่วยกันตอบคำ�ถามตามหนังสือเรียนหน้า 275 ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

การตรวจสอบความเข้าใจ 15
2
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล
โดยให้นักเรยี นตอบค�ำ ถามตามหนังสือเรยี นหนา้ 276 2
โดยครูใชก้ ารถาม-ตอบเพอ่ื เป็นการทบทวนการอ่านแผนภมู ิ
รูปภาพ ดงั นี้ - ชือ่ แผนภมู ิรูปภาพคืออะไร
(จ�ำ นวนนักเรียนชน้ั ป.1ท่นี ง่ั รถโรงเรยี น)
- ช่ือแผนภูมิรูปภาพบอกให้รอู้ ะไร (บอกให้รวู้ า่ แผนภูมิ
รูปภาพน้นั แสดงจำ�นวนนักเรียนชน้ั ป.1ทน่ี ั่งรถโรงเรียน)
- ส่วนทา้ ยของแผนภมู ิท่จี ะต้องมคี ืออะไร (ขอ้ กำ�หนด)
- ขอ้ ก�ำ หนดคอื อะไร (ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนนกั เรยี น 1 คน)
จากน้ัน ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะคนตอบคำ�ถามจากแผนภูมิรูปภาพ
ที่กำ�หนดใหต้ ามหนงั สอื เรยี นหน้า 276 ครูและนักเรยี นร่วมกนั
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ถา้ พบว่ามีนักเรยี นคนใดตอบค�ำ ถาม
ไมถ่ กู ต้อง ครใู หน้ ักเรยี นแก้ไขให้ถกู ตอ้ ง จากนนั้ ร่วมกันสรุปสง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้

สงิ่ ทไี่ ดเ้ รียนรู้

เราใชร้ อยขดี บนั ทึกข้อมลู แลว้ น�ำ ขอ้ มูลมาแสดงเป็นแผนภูมริ ูปภาพ
จากนนั้ ให้นักเรยี นท�ำ แบบฝกึ หัด 6.3 หนา้ 165 - 167

288 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | แผนภูมริ ปู ภาพ คู่มอื ครรู ายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1
รว่ มคดิ รว่ มทำ� (1 ชวั่ โมง)
crayons cpoelonucrilesd
สอ่ื การเรยี นรู้
ของกนิ (ขนม) 4
- ใบกิจกรรม หนังสอื 4
- บัตรภาพ 5

วธิ จี ัดกจิ กรรม ของกนิ (ขนม)
หนังสอื
ครูให้นักเรียนจับคู่ชว่ ยกนั ท�ำ กจิ กรรมตามหนังสือ
เรียนหนา้ 277 ดังนี้ ครตู ดิ บตั รภาพของขวญั ต่าง ๆ
ทนี่ ักเรยี นจบั สลากได้ ดงั รูป

crayons cpoelonucrilesd

1. จดั กลุ่มประเภทของของขวัญ และบอกจ�ำ นวน
ของขวญั ในแต่ละกล่มุ ทีจ่ ัดประเภทไว้ เช่น

สีชนิดต่าง ๆ 3
รถของเล่น




2. จากขอ้ มลู ทไี่ ด้จากขอ้ 1 ให้นักเรียนแตล่ ะคูน่ �ำ ขอ้ มูลมาเขียนเปน็ แผนภูมิรปู ภาพ
โดยก�ำ หนดรปู 1 รูป แทนจำ�นวนของขวัญ 1 ชิ้น เช่น

จำ�นวนของขวัญแตล่ ะประเภททีน่ ักเรยี นในหอ้ งจับได้

สชี นดิ ตา่ ง ๆ
รถของเลน่



กำ�หนดให้ แทนจำ�นวนของขวัญ 1 ช้นิ

จากนั้นครใู ห้นกั เรยี นแต่ละคู่ออกมานำ�เสนอ ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง

| 289สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมิรปู ภาพ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1

คณิตคดิ ทา้ ทาย

หลังงานเล้ยี งปใี หมม่ นี ำ้�ผลไมช้ นิดต่าง ๆ เหลืออยู่ ดังน้ี
- มีนำ้�สม้ เหลอื อยู่ 5 กล่อง
- มีน้�ำ องุน่ เหลอื อย่มู ากกว่านำ้�สม้ 2 กล่อง
- มนี ้�ำ แอปเปิลเหลอื อยู่นอ้ ยกวา่ น�ำ้ องุน่ 1 กล่อง
ตน้ กล้านำ�ข้อมลู มาเขียนเป็นแผนภูมริ ปู ภาพได้ดงั น้ี
ให้นักเรียนเขียน ในแผนภมู ริ ูปภาพใหส้ มบรู ณ์

จำ�นวนน�ำ้ ผลไมช้ นิดต่าง ๆ ทีเ่ หลือ หลงั งานเล้ียงปใี หม่
น้ำ�ส้ม
นำ�้ องนุ่
น้ำ�แอปเป้ลิ

ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนนำ�้ ผลไม้ 1 กล่อง

เมื่อเขยี นแผนภมู ริ ูปภาพแล้วตอบคำ�ถามต่อไปน้ี
1. มนี ำ้�องุ่นเหลอื ก่ีกล่อง
2. มนี �้ำ แอปเปิลเหลือกกี่ ลอ่ ง
3. ถา้ ครเู ตรยี มน�ำ้ ผลไมแ้ ตล่ ะชนดิ ไวจ้ �ำ นวนเทา่ กนั นกั เรยี นกนิ น�ำ้ แอปเปลิ มากกวา่ น�ำ้ องนุ่ กก่ี ลอ่ ง

290 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | แผนภูมริ ปู ภาพ คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

ตัวอยา่ งแบบทดสอบท้ายบท

ตวั อยา่ งแบบทดสอบนใ้ี ชใ้ นการประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นเพอ่ื พฒั นานกั เรยี นหากมนี กั เรยี นคนใด
ท่ีไม่สามารถทำ�แบบทดสอบนไ้ี ดค้ รูควรให้นกั เรยี นคนนน้ั ฝกึ ทกั ษะมากขึน้ โดยอาจใช้แบบฝกึ เสริมใน
หนงั สือเสริมเพิม่ ปญั ญาของสสวท.หรือแบบฝกึ อื่นที่เหน็ ว่าสมควร ซึง่ แบบทดสอบทา้ ยบทน้มี ี
จ�ำ นวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใชเ้ วลาในการทำ�แบบทดสอบ 20 นาที และวเิ คราะห์
เปน็ รายจุดประสงคไ์ ดด้ งั นี้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้อท่ี
1-5
1. อ่านข้อมลู จากแผนภมู ิรปู ภาพ เมือ่ ก�ำ หนดรปู 1 รปู แทน 1 หน่วย
2. ใช้ขอ้ มลู จากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาเม่ือก�ำ หนด รปู 1 รปู 6 - 10

แทน 1 หนว่ ย

ตวั อย่างแบบทดสอบท้ายบท บทที่ 6

เลือก ก ข หรือ ค ทีเ่ ปน็ คำ�ตอบที่ถกู ต้อง
ครถู ามนกั เรยี นวา่ เกมสนั ทนาการที่นกั เรียนชอบมากท่สี ดุ คืออะไร ได้ขอ้ มลู ดงั นี้

โยนบอลลงตะกร้า เกา้ อี้ดนตรี

เหยยี บลูกโป่ง

เหยยี บลูกโปง่ โยนห่วงลงหลกั โยนห่วงลงหลกั

เก้าอี้ดนตรี

โยนบอลลงตะกรา้ โยนหว่ งลงหลัก
โยนบอลลงตะกร้า
เก้าอี้ดนตรี กล้งิ ลูกปิงปองลงหลุม
เกา้ อี้ดนตรี

เหยยี บลกู โปง่ โยนหว่ งลงหลัก กลง้ิ ลกู ปงิ ปองลงหลมุ
เหยยี บลูกโปง่

โยนบอลลงตะกร้า

โยนห่วงลงหลกั โยนหว่ งลงหลัก

| 291สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมริ ปู ภาพ
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

ใชข้ อ้ มูลนต้ี อบค�ำ ถามข้อ 1 ถึง 5
1. ครบู นั ทกึ ข้อมูลโดยใชร้ อยขีดดงั น้ี

โยนบอลลงตะกร้า
กลิ้งลกู ปิงปองลงหลุม
เหยียบลูกโป่ง
โยนหว่ งลงหลัก
เกา้ อดี้ นตรี

รอยขดี แสดงจำ�นวนนักเรียนทช่ี อบเกมโยนหว่ งลงหลัก ตรงกับข้อใด
ก. ข. ค.

2. รอยขดี แสดงจำ�นวนนกั เรียนทีช่ อบเกมสันทนาการชนิดใดมจี ำ�นวนเท่ากนั
ก. โยนบอลลงตะกรา้ กบั เหยียบลกู โปง่
ข. โยนห่วงลงหลักกับโยนบอลลงตะกร้า
ค. เหยียบลูกโปง่ กบั โยนหว่ งลงหลกั

3. ขอ้ ใดบันทกึ รอยขดี แสดงจ�ำ นวนนกั เรยี นทชี่ อบเกมสนั ทนาการชนิดต่าง ๆ ได้ถูกต้อง
ก. โยนบอลลงตะกรา้

กลง้ิ ลกู ปิงปองลงหลุม
เหยียบลกู โปง่
โยนห่วงลงหลัก
เกา้ อ้ดี นตรี

ข. โยนบอลลงตะกร้า

กลิ้งลกู ปิงปองลงหลมุ
เหยยี บลูกโปง่
โยนห่วงลงหลกั
เกา้ อด้ี นตรี

ค. โยนบอลลงตะกรา้

กล้งิ ลูกปงิ ปองลงหลมุ
เหยยี บลูกโป่ง
โยนหว่ งลงหลกั
เกา้ อด้ี นตริี

292 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 6 | แผนภมู ิรปู ภาพ คูม่ ือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

4. นำ�รอยขดี มาเขียนแผนภมู ิรูปภาพได้ตามขอ้ ใด

ก. เกมสันทนาการที่นกั เรียนชอบมากที่สดุ

เหยียบลูกโป่ง
โยนห่วงลงหลัก

เก้าอ้ีดนตรี
โยนบอลลงตะกร้า
กลง้ิ ลูกปงิ ปองลงหลมุ

ก�ำ หนดให้ แทนจ�ำ นวนนักเรียน 1 คน

ข. เกมสนั ทนาการทนี่ ักเรียนชอบมากทสี่ ดุ

เหยยี บลกู โปง่ แทนจ�ำ นวนนักเรียน 1 คน
โยนห่วงลงหลัก

เกา้ อ้ีดนตรี
โยนบอลลงตะกรา้
กลง้ิ ลกู ปิงปองลงหลมุ

ก�ำ หนดให้

ค. เกมสนั ทนาการทน่ี กั เรียนชอบมากท่สี ดุ

เหยยี บลกู โป่ง แทนจ�ำ นวนนักเรียน 1 คน
โยนห่วงลงหลกั

เกา้ อดี้ นตรี
โยนบอลลงตะกรา้
กล้ิงลูกปงิ ปองลงหลุม

ก�ำ หนดให้

5. จากแผนภูมริ ปู ภาพที่ไดใ้ นข้อ 4 นักเรียนชอบเกมสันทนาการชนดิ ใดนอ้ ยท่ีสดุ
ก. กล้ิงลูกปิงปองลงหลมุ ข. เหยียบลูกโปง่ ค. โยนห่วงลงหลกั

| 293สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | แผนภูมิรูปภาพ
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

ครสู �ำ รวจเก่ยี วกับกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในครอบครวั ท่นี กั เรียนป. 1/1 ชอบมากที่สุด
โดยให้เลือกตอบคนละ 1 กจิ กรรม ครูน�ำ ผลการสำ�รวจมาเขียนเปน็ แผนภมู ิรปู ภาพได้ดังนี้

กิจกรรมตา่ ง ๆ ในครอบครัวที่นกั เรยี นป.1/1ชอบมากทส่ี ดุ








ทำ�อาหาร รดน้�ำ ตน้ ไม้ ซักผ้า ล้างจาน

กำ�หนดให้ แทนจ�ำ นวนนักเรียน 1 คน

ใช้แผนภมู ริ ปู ภาพน้ี ตอบคำ�ถามข้อ 6 ถงึ 10
6. สำ�รวจนักเรียนท้ังหมดกคี่ น
ก. 18 ข. 19 ค. 20

7. กจิ กรรมอะไรท่นี ักเรยี นชอบมากกว่ากจิ กรรมล้างจานอยู่ 2 คน
ก. ทำ�อาหาร ข. รดน�้ำ ต้นไม ้ ค. ซักผา้

8. นักเรยี นชอบกิจกรรมทำ�อาหารน้อยกวา่ กจิ กรรมลา้ งจานกีค่ น
ก. 3 ข. 2 ค. 1

9. ถา้ ครสู ำ�รวจแบบเดยี วกันน้กี บั นกั เรียนป.1/2 พบวา่ นกั เรียนป.1/2 ชอบกิจกรรมท�ำ อาหารเทา่ กบั
นกั เรยี นป.1/1 ชอบกิจกรรมซักผา้ รวมกบั กจิ กรรมล้างจาน ดงั นัน้ นักเรียนป.1/2 ชอบกจิ กรรม
ทำ�อาหารก่คี น

ก. 11 ข. 9 ค. 6

294 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 6 | แผนภูมิรปู ภาพ คู่มือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เล่ม 1

10. ถา้ ครูสำ�รวจแบบเดยี วกนั น้ีกบั นกั เรยี นป.1/2 พบวา่ นักเรียนป.1/2 ชอบกิจกรรมรดน�ำ้ ต้นไม ้
นอ้ ยกว่านกั เรยี น ป.1/1อยู่ 2 คน จะไดว้ ่านกั เรียนป.1/2 ชอบกจิ กรรมรดน้�ำ ตน้ ไม้เท่ากับจ�ำ นวน
นักเรยี นทีช่ อบกิจกรรมใดในป.1/1
ก. ลา้ งจาน ข. ทำ�อาหาร ค. ซกั ผา้

เฉลยแบบทดสอบทา้ ยบท บทที่ 6 6. ค 7. ข 8. ก 9. ข 10. ก
1. ข 2. ก 3. ค 4. ค 5. ก | 295สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | การวดั นำ�้ หนัก
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1
การวัดนำ�้ หนัก
บทท่ี 7

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูแ้ ละสาระสำ�คัญ

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสำ�คัญ

นักเรียนสามารถ • การบอกน�ำ้ หนักวา่ สง่ิ ใดหนักกว่า สง่ิ ใดเบากวา่
1. บอกได้ว่าสิง่ ใด หนักกว่า เบากวา่ ส่ิงใดหนกั เท่ากัน สง่ิ ใดหนกั ที่สดุ และสง่ิ ใด
เบาที่สดุ สามารถบอกไดจ้ ากการวดั นำ�้ หนัก
หนกั เทา่ กนั หนกั ทีส่ ุด เบาที่สุด โดยใชเ้ ครอ่ื งชง่ั สองแขนอยา่ งงา่ ยโดยบอกน�ำ้ หนกั
(หัวขอ้ 7.1 และ 7.2) เปน็ หนว่ ยทีไ่ มใ่ ช่หนว่ ยมาตรฐาน ถา้ ส่ิงใดอยู่
ในระดับต�่ำ กว่า สง่ิ นัน้ จะหนักกว่า ถ้าสง่ิ ใดอยู่
ในระดบั สูงกวา่ ส่งิ นน้ั จะเบากวา่ และถา้ สงิ่ ของ
สองสิ่งใดอยู่ในระดับเดยี วกัน สง่ิ ของสองส่งิ น้ัน
จะหนกั เทา่ กนั

2. วดั และบอกนำ�้ หนักเปน็ กิโลกรัม เป็นขดี • การบอกน�้ำ หนกั ของสง่ิ ของอาจบอกเปน็ กิโลกรมั
(หัวข้อ 7.3 7.4 และ 7.6) หรอื เปน็ ขดี โดยใชเ้ ครือ่ งชัง่ สปริง

• นำ้�หนกั 1 กโิ ลกรัม เท่ากบั น้ำ�หนัก 10 ขีด
• การบอกนำ้�หนกั โดยไม่ใชเ้ คร่ืองชงั่ อาจบอก

น้ำ�หนกั ได้จากการคาดคะเนน้ำ�หนกั ของส่งิ ต่าง ๆ
โดยเทียบกบั น้ำ�หนกั 1 กิโลกรมั

3. เปรยี บเทยี บน้�ำ หนกั เป็นกิโลกรมั เป็นขดี • การเปรียบเทียบนำ้�หนักของส่ิงของ 2 ส่ิง
(หวั ขอ้ 7.5 และ 7.7) เป็นการบอกว่าสง่ิ ใดหนักเทา่ กัน หนกั กว่ากัน
หรือเบากวา่ กันอยู่เท่าไร อาจมีหนว่ ยเปน็
กโิ ลกรมั หรอื เปน็ ขดี

4. แสดงวิธีหาคำ�ตอบโจทย์ปัญหาการบวก • การแกโ้ จทยป์ ัญหาทำ�ไดโ้ ดย อ่านท�ำ ความเข้าใจ
โจทยป์ ญั หาการลบเกย่ี วกบั น�ำ้ หนกั ปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคำ�ตอบและ
(หวั ข้อ 7.8 และ 7.9) ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบ

296 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 7 | การวัดนำ้�หนกั คมู่ อื ครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

การวิเคราะหเ์ นอื้ หากับทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

หัวขอ้ เนอ้ื หา เวลา ทักษะและกระบวนการ
(ชวั่ โมง)
ทางคณิตศาสตร์

12345

เตรยี มความพรอ้ ม 1 
7.1 การเปรยี บเทยี บน�ำ้ หนกั โดยใชเ้ ครอ่ื งชง่ั สองแขน 1 
1 
อยา่ งงา่ ย
7.2 การวัดน�้ำ หนกั โดยใชห้ นว่ ยที่ไม่ใชห่ นว่ ยมาตรฐาน

7.3 การวัดน�ำ้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัมโดยใชเ้ ครื่องช่งั สปริง 1 

7.4 การคาดคะเนน้�ำ หนกั เปน็ กิโลกรัม 1 

7.5 การเปรยี บเทยี บนำ้�หนกั เป็นกโิ ลกรมั 1 

7.6 การวัดน้�ำ หนักเปน็ ขีด 1 

7.7 การเปรียบเทยี บน�ำ้ หนกั เปน็ ขดี 1 

7.8 โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบ (1) 1 

7.9 โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ (2) 1 

รว่ มคิดร่วมท�ำ 1 

j การแกป้ ญั หา k การสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ l การเชอ่ื มโยง m การใหเ้ หตผุ ล n การคดิ สรา้ งสรรค์

| 297สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครูรายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 7 | การวัดน้ำ�หนัก
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

คำ�สำ�คัญ

นำ้�หนัก การเปรียบเทียบน�้ำ หนัก การคาดคะเนนำ้�หนัก การสาธติ การชัง่ เคร่อื งชั่ง
เครอ่ื งชง่ั สองแขนอยา่ งงา่ ย เครอ่ื งชง่ั สปรงิ หนกั เทา่ กนั หนกั กวา่ เบากวา่ หนว่ ยทไ่ี มใ่ ชห่ นว่ ยมาตรฐาน
หนว่ ยมาตรฐาน การวดั น�ำ้ หนกั การบอกนำ�้ หนกั หนว่ ยบอกน้�ำ หนักเปน็ กิโลกรมั
หน่วยบอกน้ำ�หนกั เปน็ ขดี เขม็ ชนี้ �ำ้ หนัก ตัวเลขแสดงน�ำ้ หนกั การอา่ นนำ�้ หนกั

ความรหู้ รอื ทักษะพ้ืนฐานของนกั เรยี น

1. การสังเกต
2. จำ�นวนนับไมเ่ กนิ 20
3. การเปรยี บเทียบจ�ำ นวนนับไมเ่ กิน 20
4. ความสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบของจำ�นวนนับไมเ่ กิน 20
5. การบวกและการลบของจ�ำ นวนนับไม่เกนิ 20
6. การแก้โจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบของจำ�นวนนบั ไม่เกิน 20

สอื่ และแหลง่ เรียนรู้

1. หนังสอื เรยี นหนา้ 278 - 317
2. แบบฝกึ หัดหน้า 169 - 197
3. ใบกจิ กรรม แบบบนั ทกึ กจิ กรรม บตั รภาพตา่ ง ๆ และอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทใ่ี ชป้ ระกอบกจิ กรรม ดงั น้ี

• สือ่ ของจรงิ เชน่ ผลไม้ กล่องนม ลกู แกว้ บลอ็ กไม้
• เคร่อื งช่ังสองแขน
• เครอ่ื งชั่งสปรงิ
• บัตรขอ้ ความ บัตรคำ� บัตรภาพ แถบจ�ำ นวน แถบเสน้ จำ�นวน
• ใบกิจกรรมและแบบบนั ทกึ กิจกรรม
4. สื่อเพ่มิ เตมิ หนา้ 283 286 295 296 299 301 302 303 304 310 312 316
และ 317 (Download ไดจ้ าก QR code หนา้ 278)
5. สือ่ วีดิทัศน์ (QR code )
• เครื่องชั่งสปริง หน้า 289

เวลาทใ่ี ชจ้ ัดการเรียนรู้ 11 ช่วั โมง

298 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 7 | การวดั นำ�้ หนัก คู่มือครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1
การจดั การเรยี นรู้
การเตรยี มความพรอ้ ม (1 ชวั่ โมง)

บทท ่ี 7 การวดั นาำ้ หนัก

เรยี นจบบทนแ้ี ลว้ นกั เรียนสามารถ

บอกได้ว่าสิง่ ใด หนักกวา่ เบากว่า หนักเท่ากนั
หนกั ที่สุด เบาที่สดุ

ชง่ั และบอกนำา้ หนักเป็นกโิ ลกรมั เป็นขีด

เปรยี บเทยี บนา้ำ หนักเป็นกโิ ลกรมั เป็นขีด

สื่อเพิ่มเตมิ แก้โจทย์ปญั หาการบวก โจทย์ปญั หาการลบเกีย่ วกับนำ้าหนัก

1.ครูใช้หน้าเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับเครื่องเล่นชนิดต่าง ๆ ในสนามเด็กเล่น โดยครูใช้การ
ถาม-ตอบกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น
- ท่โี รงเรยี นของนักเรียนมีสนามเดก็ เลน่ หรอื ไม่ สนามเดก็ เล่นของโรงเรยี นมเี ครื่องเลน่ อะไรบ้าง
- นกั เรยี นชอบเล่นเครอ่ื งเลน่ อะไรมากทสี่ ุด
- จากภาพมเี ครือ่ งเล่นอะไรบ้าง นกั เรียนเคยเลน่ หรือไม่
- เครอ่ื งเลน่ ท่เี ด็ก 4 คนเล่นกนั อยู่ เรยี กวา่ อะไร
- นกั เรียนเคยเลน่ กระดานหกหรอื ไม่
ครสู นทนากับนกั เรียนว่า การเลน่ กระดานหกผู้เล่นแต่ละคนจะน่ังอยบู่ นไมก้ ระดานทง้ั 2 ข้าง
แลว้ ผลดั กนั กระดกไม้กระดานใหข้ ึ้นและลงเพือ่ ความสนกุ สนานซ่งึ การเล่นกระดานหกจะเกยี่ วกับ
นำ้�หนกั ของผ้เู ลน่ ครอู าจใชค้ �ำ ถามนำ�เขา้ สบู่ ทเรยี นวา่ ใครหนักกว่า ใครเบากวา่ รูไ้ ดอ้ ยา่ งไร นักเรยี น
อาจตอบว่ารู้ได้จากการช่งั น้�ำ หนัก ซ่งึ จะได้เรยี นในบทเรียนน้ี
2. ครูนำ�เข้าสบู่ ทเรยี นโดยใชก้ ิจกรรมเตรยี มความพรอ้ ม หนกั กว่า เบากว่า ตามหนงั สอื เรยี น
หนา้ 280 เพ่อื เตรยี มความพรอ้ มเกี่ยวกับการวดั นำ�้ หนกั ของสง่ิ ตา่ ง ๆ โดยครเู ตรยี มถงุ ข้าวสารถุงเลก็
1 ถุงและถุงวนุ้ เส้น 1 ถุง ทีไ่ มท่ ราบน�ำ้ หนัก

| 299สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ อื ครูรายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | การวดั น้ำ�หนัก
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 เล่ม 1

ครตู ดิ บัตรข้อความและตดิ บัตรภาพ ถงุ ข้าวสารกบั
ถงุ วุ้นเสน้ บนกระดาน ดงั นี้

ครูให้นกั เรียนทุกคนออกมาถือถุงข้าวสารและถุงวุ้นเสน้
ในมอื ข้างละถงุ ทลี ะคน แล้วใหน้ ักเรยี นบอกวา่ อะไรหนกั
กว่า ถ้านกั เรียนคดิ ว่าถงุ ข้าวสารหนักกวา่ ให้นักเรียนเขียน
รอยขีด 1 ขีด บนกระดานให้ตรงกับถุงขา้ วสาร ถา้ นกั เรยี น
คดิ วา่ ถุงวุ้นเสน้ หนกั กวา่ ใหน้ ักเรียนเขียนรอยขีด 1 ขดี
บนกระดานให้ตรงกับถุงวุ้นเส้น จากน้ันครแู ละนกั เรียน
สนทนาเกยี่ วกบั จ�ำ นวนรอยขีดทป่ี รากฏบนกระดานว่าอะไร
หนกั กว่า ร้ไู ดอ้ ย่างไรว่าส่งิ นั้นหนักกวา่ ครูใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เหน็ โดยสว่ นใหญ่จะตอบวา่
ถุงขา้ วสารหนกั กว่า และรูไ้ ดจ้ ากความรูส้ ึกทอ่ี อกมายกน�้ำ หนักของสองส่ิงนัน้ ซึ่งมนี ้ำ�หนักต่างกัน
อย่างชดั เจน ครูแนะนำ�ว่า สิง่ ของทนี่ ำ�มายกเปรยี บเทยี บนำ�้ หนกั กนั นัน้ ถา้ มีน�ำ้ หนกั ต่างกนั มากเรา
สามารถบอกได้วา่ อะไรหนักกว่าหรอื อะไรเบากวา่ แต่ถ้าสิ่งของทม่ี นี �ำ้ หนกั ใกลเ้ คียงกนั ตอ้ งใชเ้ ครือ่ งชงั่
ในการเปรียบเทยี บนำ้�หนัก

300 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 7 | การวดั น้�ำ หนัก คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1

7.1 การวดั น�ำ้ หนกั โดยใชเ้ ครือ่ งชง่ั สองแขนอยา่ งง่าย (1 ช่ัวโมง)

จุดประสงค์

บอกได้วา่ สิง่ ใด หนกั กว่า เบากวา่ หนกั เท่ากนั

สือ่ การเรียนรู้

- สม้ มะเขอื เทศ
- บัตรภาพ
- บตั รขอ้ ความ
- ไม้แขวนเส้อื
- ถงุ พลาสตกิ ใส

แนวการจัดการเรียนรู้
การพัฒนาความรู้

1. ครูน�ำ เขา้ ส่บู ทเรียนโดยใชก้ จิ กรรมเช่นเดียวกบั
การเตรียมความพร้อม ครูใหน้ ักเรียนถอื ข้าวสาร 1 ถงุ กบั
วนุ้ เสน้ 1 ถุง ข้างละถุง แล้วใช้การถาม-ตอบ ดงั นี้
- ข้าวสาร 1 ถุงกับวุ้นเส้น 1 ถุง สงิ่ ใดหนักกวา่ (ขา้ วสาร)
- รไู้ ด้อยา่ งไรวา่ ข้าวสารหนกั กวา่ (รสู้ กึ ว่าข้าวสารในมือหนักกว่า และรสู้ ึกวา่ วุ้นเส้นเบากวา่ )
ครสู นทนากับนกั เรียนว่าข้าวสาร 1 ถงุ กับวนุ้ เส้น 1 ถงุ มีนำ�้ หนักท่ีตา่ งกนั มากจงึ ท�ำ ใหน้ ักเรียนบอกได้
วา่ ข้าวสารหนกั กว่าวนุ้ เส้น จากนนั้ ครูจดั กิจกรรม หนกั กวา่ เบากว่า หนกั เทา่ กนั โดยครเู ตรยี ม
มะเขอื เทศกบั สม้ แลว้ ใหน้ ักเรยี นทำ�กจิ กรรมตามหนงั สอื เรียนหน้า 281 ครชู ูส้ม 1 ผล กับมะเขือเทศ
1 ผล ใหน้ กั เรยี นคิดว่ามะเขือเทศจะหนกั กว่าสม้ หรอื มะเขอื เทศจะเบากว่าสม้ หรือมะเขือเทศจะ
หนกั เทา่ กบั ส้ม โดยครูติดบัตรขอ้ ความและบตั รภาพสม้ กับมะเขอื เทศ ดังนี้

ครใู หน้ กั เรยี นทกุ คนออกมาถอื สม้ กบั มะเขอื เทศในมอื ขา้ งละผล ทลี ะคน แลว้ ใหน้ กั เรยี นคดิ วา่ มะเขอื เทศ
จะหนกั กวา่ ส้ม หรอื มะเขอื เทศจะเบากว่าส้ม หรอื มะเขอื เทศจะหนกั เทา่ กบั สม้ อย่างใดอยา่ งหนึ่ง
แล้วให้นกั เรียนเขียนรอยขดี 1 ขดี ให้ตรงกบั ความคดิ ของนกั เรียนวา่ อะไรเบากวา่ หนักกวา่ หรือ
หนักเท่ากับ จากนั้นครใู ห้นกั เรยี นสังเกตจ�ำ นวนรอยขีดท่ีปรากฏบนกระดาน แล้วสนทนากนั กับ
นักเรียน เช่น

| 301สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 7 | การวดั น�ำ้ หนัก
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เล่ม 1

- เม่อื นักเรียนมองดูส้มและมะเขือเทศทคี่ รูชูให้ดู นกั เรยี นบอกไดห้ รอื ไมว่ ่าอะไรหนกั กว่า

- เมอื่ นกั เรยี นถือส้มกับมะเขือเทศไวใ้ นมอื นักเรยี นบอกได้หรอื ไม่ว่า อะไรหนกั กวา่ เบากวา่

หรอื หนักเทา่ กนั

- มนี ักเรียนท่คี ดิ วา่ ส้มหนกั กว่ามะเขือเทศกคี่ น

- มีนกั เรยี นท่คี ดิ วา่ ส้มเบากวา่ มะเขอื เทศก่ีคน

- มนี ักเรียนท่ีคดิ วา่ สม้ หนักเท่ากบั มะเขอื เทศก่ีคน

- จำ�นวนรอยขีดของความคิดใดมากทส่ี ุด จ�ำ นวนรอยขีดของความคิดใดนอ้ ยท่สี ุด

- นกั เรยี นคดิ วา่ จำ�นวนรอยขีดของความคดิ ทม่ี ากที่สดุ จะถูกตอ้ งหรือไม่

- นกั เรียนแตล่ ะคนอยากรหู้ รือไมว่ า่ ความคิดของนกั เรียนทค่ี ิดไว้จะถกู ตอ้ งหรอื ไม่

จากนนั้ ครแู นะน�ำ ว่า การบอกน้�ำ หนักว่าส่ิงใดหนักกว่า สิง่ ใดเบากว่า หรือส่ิงใดหนักเท่ากันโดยใช้

ความรสู้ กึ จากการถือสิ่งของไว้ในมอื หรอื จากการมองสงิ่ ต่าง ๆ ของแต่ละคนอาจเหมอื นกันหรอื ต่างกัน

กไ็ ด้ ดังนนั้ เราจึงต้องใชเ้ ครื่องมือสำ�หรบั วดั น�ำ้ หนักของสิง่ ต่าง ๆ เพือ่ บอกน้�ำ หนกั ให้ได้ตรงกันวา่

หนกั กว่า เบากวา่หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.1 หรือหนักเท่ากัน

บทท่ี 7 | การวัดนำา้ หนัก

2. จากนัน้ ครูใช้ไมแ้ ขวนเส้อื สาธติ การเปรยี บเทยี บนำ�้ หนักของส้ม 1 ผลกับมะเขือเทศ 1 ผล

ครสู าธิตกาตรเาปมรยี หบเนทงัียสบ อื เ รยี นหนา้ 2เล8ือก2รูปเทพแี่ ่ือสดตงรผวลกจาสรเอปบรยี คบวนาาำ้ หมนคักดิขอขงอสม้ งแนลักะ เ ร ยี นว่าถกู ตอ้ งหรือไม่ โดยการนำ�ถงุ ใส
1 นำ้าหนกั ของขสน้มแาลดะเมดะยีเขวอื กเทนั ศ 2 ถุงใส่สมม้ะเแขือลเะทศม ะเขอื เทศอย่างละถุง แล้วนำ�ถงุ สม้ ถงุ มะเขอื เทศแขวนไว้ทไ่ี ม้แขวนเส้ือ

ข้างละ 1 ถงุ และถอื ตะขอแขวนของไม้แขวนเสือ้ แล้วให้นกั เรียนสังเกตว่า ถุงสม้ และถุงมะเขอื เทศ

อยใู่ นระดับเดียวกนั หรือไม่ ถ้าไม่อยู่ในระดบั เดียวกนั อะไรอยรู่ ะดบั ต�ำ่ กวา่ และอะไรอยูร่ ะดบั สูงกวา่
ทศ เมละือคเขกรรอื ตูปูเททิดศ่ีแบ สดัตงรผภลกาาพรเปรรปู ียบ1นำ้าบหนตั กั รขภองาสพ้มรแรปู ลปู 1ะ 2 บัตรภาพรรปู ูป 2 3 และบตั รขอ้ ความ ดังนี้

เติมคำ�วา่ หนักเทา่ กับ หนกั กว่า หรือ เบากว่า

รปู 1 รูป 2 รูป 3

จากนั้นครูใช้การถาม-ตเตอิมบคาำใวหา่ ้น หักนเกั รเียทนา่ กทับุก หคนนกั ตกวอา่ บ หพรือรเ้อบมากกวนั า่ ดังน้ี

- ไม้แขวนเสื้อทม่ี ีถงุ ส้มและถุงมะเขือเทศแขวนอย่ตู รงกับบัตรภาพในรูปใด

- ถุงสม้ แรูปล 3ะ ถงุ มะเขือเทศอยใู่ นระดับเดียวกันหรอื ไม่
พจิ ารณาเกตาิม รคเปาำ วรา่ยี บห-เนทถักียา้ เบทไมนา่ กาำ้อ่ หบั ยน หูใ่ ักนนโรดกั ะกยวใดชา่ บั ้เ หคเรรดือ่อื ยี งเบวชางั่กกสนั วอ่าองแะขไนรออยย่าู่รงะง่าดยับต�่ำ กวา่ และอะไรอยรู่ ะดบั สงู กวา่

ครูแนะน�ำ ว่า สิง่ ของทห่ี นักกวา่ จะอยู่ในระดบั ท่ตี ่�ำ กว่า สิ่งของทเี่ บากวา่ จะอยู่ในระดบั ทสี่ ูงกวา่ สงิ่ ของ

ทีอ่ ยใู่ นระดับเดยี วกนั จะหนักเทา่ กัน

น้ำาหนักโดยใชเ้ ค ร่อื งชัง่ -สอมงะแขเขนอื เยท่างศงห่ายนกั เท่ากบั หนกั กวา่ หรอื เบากวา่ สม้

- นักเรียนรไู้ ด้อยา่ งไรว่าบตั รภาพรูป 3 แสดงน้ำ�หนกั ของมะเขือเทศวา่ หนกั กว่าสม้ ซึง่ นกั เรียน
องอ่นุ าแจลตะสอม้ บหไนดกั ห้ เทรอืา่ กอันาจตอบหรไือม่ได้ ครอูนงนุ่ำ�ถหนุงขัก้าเทว่าสกาับรส้ม1 ถงุ และถุงว้นุ เส้น 1 ถุง ทน่ี ักเรียนใชท้ ำ�กจิ กรรม

น�ำ เขา้ สู่บทเรียนมาทดลองเปรียบเทียบนำ้�หนักโดยใช้ไม้แขวนเส้ือแลว้ ใหน้ ักเรยี นสังเกตระดบั ของ

ส่งิ ของทั้งสองส่งิ นนั้ โดยครใู ช้การถาม-ตอบ ดังน้ี

เท่ากัน หรอื องนุ่ หนักเท่ากับสม้

302 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สม้ หนักกว่าองุ่น หรอื องนุ่ เบากวา่ ส้ม

บทที่ 7 | การวัดน�้ำ หนัก คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

- ถงุ ขา้ วสารและถุงวนุ้ เส้นอยูใ่ นระดบั เดียวกนั หรอื ไม่ (ไม่)

- ถ้าไม่อย่ใู นระดับเดยี วกันอะไรอยรู่ ะดับต�่ำ กวา่ และอะไรอยรู่ ะดบั สงู กว่า (ถงุ ขา้ วสารอย่ใู น

ระดับต�ำ่ กวา่ ถุงวุ้นเสน้ อยใู่ นระดับสูงกว่า)

- ถงุ ข้าวสารกับถุงวนุ้ เสน้ สิง่ ใดหนกั กว่า (ถงุ ขา้ วสาร)

- ถงุ ขา้ วสารกับถุงวุน้ เสน้ สงิ่ ใดเบากวา่ (ถุงวุ้นเสน้ )

ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ วา่ วา่ การใชไ้ มแ้ ขวนเส้ือในการ * รูปจากการจดั กิจกรรม
เปรียบเทียบน�ำ้ หนักของสง่ิ ของสองส่ิง สง่ิ ของทหี่ นักกว่าจะ

อยู่ในระดับทีต่ �่ำ กวา่ สงิ่ ของท่เี บากวา่ จะอยู่ในระดับท่ีสูงกวา่

สง่ิ ของทอี่ ย่ใู นระดบั เดียวกนั จะหนักเทา่ กัน

ครสู นทนากบั นกั เรยี นเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกับจ�ำ นวนรอยขดี ท่อี ยู่

บนกระดานแลว้ ใหน้ ักเรยี นตรวจสอบว่าความคดิ ของตนเอง

ตรงกับการเปรียบเทยี บน้ำ�หนกั ของส้มกบั มะเขอื เทศโดยใช้

ไม้แขวนเสือ้ หรอื ไม่ ซง่ึ ครูอาจแนะน�ำ วา่ การเปรียบเทียบ

นำ้�หนักโดยใช้ไม้แขวนเสื้อนนั้ เปน็ การเปรยี บเทยี บนำ�้ หนกั

อยา่ งง่าย และไม้แขวนเสอื้ อาจน�ำ มาใช้เปน็ เครอื่ งช่งั สองแขน

อย่างงา่ ยได้ * คาํ ตอบจากการทาํ กิจกรรม

ครูใชก้ ารถาม-ตอบ เพ่ือใหน้ กั เรียนเข้าใจเกีย่ วกับการ

เปรยี บเทยี บน้�ำ หนกั โดยใชเ้ ครื่องช่ังสองแขนอยา่ งงา่ ยจาก

บัตรภาพสม้ และมะเขอื เทศ ดังน้ี

- จากบตั รภาพรปู 1 มะเขือเทศหนักเท่ากับ หนกั กว่า

หรือเบากว่า สม้ เพราะเหตใุ ด (มะเขือเทศหนักเทา่ กบั สม้

เพราะอยู่ในระดบั เดียวกัน) เบากวา หนกั กวา

- จากบตั รภาพรูป 2 มะเขือเทศหนักเทา่ กับ หนักกวา่

หรือเบากวา่ สม้ เพราะเหตใุ ด (มะเขอื เทศเบากวา่ สม้

เพราะมะเขอื เทศอยู่ในระดบั ท่ีสูงกวา่ ส้ม) หนกั กวา เบากวา

- จากบัตรภาพรูป 3 มะเขอื เทศหนักเทา่ กบั หนักกว่า

หรือเบากว่า ส้ม (มะเขอื เทศหนกั กว่าสม้ เพราะ มะเขือเทศ

อยใู่ นระดับท่ตี ่ำ�กวา่ สม้ ) หนักเทากบั เบากวา

จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ วา่ การใช้เคร่ืองชัง่

สองแขนอย่างง่ายในการเปรียบเทยี บน�ำ้ หนกั ของส่งิ ของ

สองส่ิง สงิ่ ของท่หี นกั เท่ากันแขนทง้ั สองขา้ งของเครือ่ งช่งั

จะอยรู่ ะดับเดียวกนั ส่ิงของทห่ี นกั กว่าแขนของเครอื่ งช่งั จะอยรู่ ะดบั ตำ่�กวา่ และสง่ิ ของทีเ่ บากกว่า

แขนของเครือ่ งช่งั จะอยรู่ ะดบั สูงกวา่ แลว้ ให้นักเรยี นพิจารณาการเปรียบเทียบนำ�้ หนกั โดยใชเ้ คร่อื งชั่ง

สองแขนอยา่ งง่ายตามหนังสอื เรยี นหน้า 282

| 303สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | การวัดน้ำ�หนกั
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กันและแจกบตั รภาพตามหนงั สือเรียนหน้า 283 ให้นักเรียนแต่ละคู่
เปรียบเทียบนำ�้ หนกั ของส่งิ ตา่ ง ๆ โดยใชเ้ ครือ่ งชั่งสองแขนอยา่ งง่ายในบตั รภาพแตล่ ะบัตร
แลว้ เตมิ คำ�วา่ เบากวา่ หนักกว่า หรอื หนกั เทา่ กับ ครูยกตวั อยา่ งขอ้ 1 โดยใชก้ ารถาม-ตอบ เช่น
- ส่ิงของสองสง่ิ ทีน่ �ำ มาเปรียบกันคือสิ่งใด (พรกิ หยวกกบั กลว้ ย)
- พรกิ หยวกอยู่ในระดบั สูงกว่าหรือต่ำ�กว่ากลว้ ย (สงู กวา่ )
- สงิ่ ของทีอ่ ยใู่ นระดบั สงู กว่าจะเบากว่าหรอื หนกั กว่า (เบากวา่ )
- ดงั น้นั พริกหยวก เบากว่าหรือหนักกวา่ กล้วย (เบากวา่ )
ครใู หน้ ักเรียนเตมิ คำ�วา่ เบากว่า ลงในบตั รภาพ จากน้ันครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั เปรียบเทียบน้ำ�หนัก
ของสง่ิ ตา่ ง ๆ โดยใชเ้ ครอ่ื งชง่ั สองแขนอยา่ งงา่ ยในบตั รภาพแตล่ ะบตั ร แลว้ เตมิ ค�ำ วา่ เบากวา่ หนกั กวา่
หรือหนักเทา่ กับ ในขอ้ 2 ถึง 6 ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ครแู ละนักเรยี น
รว่ มกนั สรปุ วา่ การใชเ้ ครอ่ื งชง่ั สองแขนอยา่ งงา่ ยในการเปรยี บเทยี บน�ำ้ หนกั ของสง่ิ ของสองสง่ิ สง่ิ ของท่ี
หนกั เทา่ กันแขนท้ังสองข้างของเคร่อื งชง่ั จะอยูร่ ะดบั เดียวกัน สง่ิ ของท่หี นกั กวา่ แขนของเคร่ืองชงั่
จะอยรู่ ะดบั ต่�ำ กวา่ และสง่ิ ของทเ่ี บากว่าแขนของเครือ่ งชงั่ จะอยูร่ ะดับสงู กว่า

การตรวจสอบความเข้าใจ

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นเป็นรายบุคคล โดยใหน้ กั เรียนเลือกรปู ทใ่ี ช้เครื่องชงั่
สองแขนอยา่ งง่ายในการเปรยี บเทียบน�้ำ หนกั ของสิ่งของสองสง่ิ ที่มีการเปรียบเทียบน�้ำ หนักตามที่
ก�ำ หนด ตามหนงั สือเรียนหน้า 284 ครูอาจทบทวนการเปรยี บเทยี บนำ้�หนักโดยใชเ้ ครอ่ื งชั่งสองแขน
อยา่ งงา่ ย โดยใช้การถาม-ตอบดังนี้
- ส่งิ ของทห่ี นักเทา่ กนั แขนทัง้ สองข้างของเคร่ืองชง่ั จะเปน็ อย่างไร (อย่รู ะดบั เดียวกัน)
- สิง่ ของทหี่ นักกวา่ แขนของเครือ่ งชงั่ จะเปน็ อยา่ งไร (อยรู่ ะดับตำ่�กวา่ )
- ส่งิ ของท่ีเบากวา่ แขนของเคร่ืองช่งั จะเป็นอยา่ งไร (อยู่ระดับสูงกว่า)
จากนั้นครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ถา้ พบว่า
มีนักเรียนคนใดเลือกรปู ทไ่ี ม่ถูกต้องใหน้ ักเรยี นแก้ไขใหถ้ ูกต้อง
โดยอาจใชก้ ารถาม-ตอบใหเ้ ขา้ ใจอกี ครง้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั
สรปุ ส่ิงที่ไดเ้ รียนรู้

สง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้

ส่ิงของสองสง่ิ ทีอ่ ยู่บนเคร่ืองชั่งสองแขนอยา่ งงา่ ย
• ส่ิงใดอย่ใู นระดบั ตำ�่ กวา่ สิ่งนน้ั จะหนกั กว่า
• ส่งิ ใดอยู่ในระดับสงู กว่าส่งิ นั้นจะเบากว่า
• ส่ิงของสองสงิ่ ใดอยูใ่ นอยูร่ ะดบั เดยี วกัน ส่ิงของสองสง่ิ
นัน้ จะหนกั เทา่ กัน

จากน้นั ให้นักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 7.1 หนา้ 169 – 171

304 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 7 | การวัดน�ำ้ หนัก คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

7.2 หน่วยน�้ำ หนักที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน (1 ช่ัวโมง)

จุดประสงค์

วดั น�ำ้ หนกั โดยใช้หน่วยทไี่ มใ่ ชห่ นว่ ยมาตรฐาน

สื่อการเรียนรู้

- เคร่ืองชง่ั สองแขนอย่างงา่ ย
- กลอ่ งนม ลูกแกว้ บลอ็ กไม้

แนวการจัดการเรียนรู้

การพัฒนาความรู้

1. ครูน�ำ เข้าสู่บทเรียนโดยทบทวนการเปรียบเทยี บ

น�ำ้ หนักของสง่ิ ของสองสิ่งโดยใชเ้ ครอ่ื งชัง่ สองแขนอย่างง่าย

โดยการถาม-ตอบดงั น้ี * คาํ ตอบจากการปฏิบัติ
- สิ่งใดอยูใ่ นระดับต่ำ�กวา่ สง่ิ นน้ั จะหนักกวา่ เบากวา่

หรือหนักเทา่ กัน (หนกั กว่า)

- สิง่ ใดอยใู่ นระดบั สูงกวา่ ส่งิ นน้ั จะหนกั กว่า เบากว่า

หรือหนักเท่ากนั (เบากว่า)

- สง่ิ ของสองสง่ิ ใดอยใู่ นอยรู่ ะดบั เดยี วกนั สง่ิ ของสองสง่ิ นน้ั จะหนกั กวา่ เบากวา่ หรอื หนกั เทา่ กนั

(หนักเทา่ กัน)

- สง่ิ ของท่ีหนกั กว่าแขนของเคร่ืองชั่งจะเป็นอยา่ งไร (อยรู่ ะดับต�ำ่ กว่า)

- ส่งิ ของท่เี บากว่าแขนของเคร่ืองชงั่ จะเปน็ อย่างไร (อยู่ระดบั สงู กว่า)

- สง่ิ ของทห่ี นักเท่ากนั แขนทง้ั สองข้างของเครื่องชัง่ จะเป็นอยา่ งไร (อยรู่ ะดบั เดียวกนั )

จากนนั้ ครูให้นกั เรียนทำ�กิจกรรม การคาดคะเนนำ้�หนักด้วยลูกแกว้ ตามหนังสอื เรยี นหน้า 285

เพือ่ ใหน้ ักเรียนคาดคะเนน�ำ้ หนกั ของนม 1 กล่องด้วยลกู แกว้ ว่าจะต้องใชล้ กู แกว้ กล่ี ูกจึงจะมีน�้ำ หนกั

เท่ากบั น้�ำ หนกั ของนม 1 กลอ่ ง โดยครเู ตรยี มเครอ่ื งชั่งสองแขนอย่างงา่ ย นม 1 กล่อง และลูกแกว้ ท่ี

แต่ละลูกมีขนาดและน�ำ้ หนกั เท่ากนั วางไวบ้ นโตะ๊ ท่ีนกั เรียนทุกคนเหน็ ไดช้ ัดเจน ครสู าธิตการช่งั

พรอ้ มกบั ใช้การถาม-ตอบ ดงั น้ี

- ลกู แกว้ 1 ลูกจะมีนำ�้ หนกั เท่ากับนม 1 กล่องหรือไม่ (ไม)่

- นม 1 กล่องกบั ลูกแกว้ 1 ลกู ส่งิ ใดหนกั กว่า (นม 1 กล่อง)

ครนู ำ�ลกู แก้ว 1 ลกู กบั นม 1 กลอ่ ง ชง่ั โดยใช้เครอ่ื งชั่งสองแขนอย่างงา่ ย

- ระดับแขนทงั้ สองข้างของเคร่ืองชั่งจะอยู่ในระดับเดียวกนั หรือไม่ (ไม่)

- ระดบั แขนของเครอื่ งชง่ั ข้างทีม่ นี ม 1 กล่องจะอยูต่ ่ำ�กว่าหรอื สูงกว่า เพราะเหตใุ ด (ต่ำ�กว่า

เพราะนม 1 กล่องหนักกว่า)

- ถ้าตอ้ งการให้ลกู แกว้ มีน�ำ้ หนักเทา่ กบั นม 1 กล่อง ต้องท�ำ อย่างไร (เพมิ่ จ�ำ นวนลกู แกว้ ให้

มากข้นึ จนแขนของเครอื่ งช่ังสองแขนอยา่ งงา่ ยอยู่ในระดับเดียวกนั )

| 305สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 7 | การวดั น้ำ�หนัก
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

จากน้นั ครใู หน้ กั เรยี นคาดคะเนวา่ ตอ้ งใชล้ กู แก้วทงั้ หมดกลี่ ูก แขนทง้ั สองขา้ งของเคร่ืองชั่งจึงจะอยู่ใน
ระดบั เดยี วกนั แล้วใหน้ กั เรยี นออกมาวางลูกแก้วทลี ะลูกจนแขนทัง้ สองขา้ งของเครอ่ื งชงั่ อย่ใู นระดบั
เดียวกัน
- นม 1 กล่องหนกั เท่ากบั ลูกแก้วก่ีลูก นกั เรยี นคาดคะเนถกู ตอ้ งหรอื ไม่ จากน้นั ครูและนักเรยี น
รว่ มกันนบั จ�ำ นวนลูกแกว้ ทีอ่ ย่บู นจานของเครื่องชัง่ ทั้งหมด แล้วรว่ มกนั สรปุ วา่ ต้องใช้ลกู แก้วทง้ั หมดก่ี
ลกู จึงจะมีน้ำ�หนกั เท่ากบั นม 1 กล่อง
2. จากน้ันครูให้นักเรียนคาดคะเนว่า นมกล่องท่มี ขี นาดใหญก่ ว่านมกลอ่ งในข้อ 1 และนมกล่อง
ทม่ี ขี นาดเลก็ กวา่ นมกลอ่ งในขอ้ 1 วา่ จะมนี �ำ้ หนกั เทา่ กบั ลกู แกว้ กล่ี กู ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 286 ดงั รปู

ครูถามนักเรียนวา่ นมกลอ่ งขนาดใดทีน่ กั เรยี นไดช้ ง่ั น้ำ�หนักโดยใชเ้ ครอ่ื งชั่งสองแขนอย่างงา่ ยวา่ หนัก
กลี่ ูกแก้วมาแล้ว (ขนาดกลาง) และมีน�ำ้ หนักเทา่ กับน�ำ้ หนกั ของลกู แกว้ กีล่ ูก (……. ลูก) ครูให้นกั เรียน
วาดรปู ลกู แกว้ ตามจำ�นวนท่ไี ด้ลงในใบกจิ กรรม ครูใช้การถาม-ตอบ ดงั นี้

-ถ้า หนกั กว่า คาดคะเนน้�ำ หนกั ของ ว่าหนักก่ลี กู แกว้

แล้วใหบ้ นั ทึกลงในใบกิจกรรม

-ถ้า เบากวา่ คาดคะเนนำ�้ หนกั ของ ว่าหนักก่ลี กู แกว้

แลว้ ให้บนั ทึกลงในใบกจิ กรรม * คําตอบใหพิจารณาผลการทาํ กิจกรรม
ครใู ห้นกั เรียนชง่ั นมกล่องขนาดใหญ่และขนาดเล็กโดย หนา 285 โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของผูสอน
เครือ่ งชัง่ สองแขนอยา่ งงา่ ยดว้ ยลูกแกว้ ทม่ี ีขนาดเทา่ กัน ลกู แก�ว นมกล�องใหญ�
เพื่อตรวจสอบผลการคาดคะเนของนกั เรยี น ครใู หน้ ักเรียน ตอ� งมากกว�านมกล�องสีฟ�าขนาดกลาง
ร่วมกันบอกวา่ นำ้�หนกั ของนมกล่องขนาดใหญ่มนี ำ้�หนกั ลูกแก�วสำหรับนมกล�องเล็ก
เทา่ กับน้ำ�หนกั ของลกู แก้วก่ีลูก และนำ�้ หนกั ของนมกลอ่ ง ต�องน�อยกว�า นมกลอ� งฟา�
ขนาดเลก็ มนี ำ�้ หนกั เทา่ กับน�ำ้ หนักของลกู แกว้ กลี่ กู แล้วให้
นักเรียนวาดรูปลกู แกว้ ลงในจานของเครื่องช่ังสองแขน
อย่างง่ายลงในกรอบทา้ ยหนังสือเรียนหนา้ 286 ครูแนะนำ�
วา่ การชัง่ โดยใช้เครือ่ งชงั่ สองแขนอย่างงา่ ยดว้ ยลูกแกว้ และ
บอกวา่ นม 1 กล่องหนักเทา่ กับลูกแกว้ กล่ี ูกนน้ั เปน็ การชั่ง
โดยใชห้ นว่ ยท่ีไมใ่ ชห่ นว่ ยมาตรฐาน ซึง่ สามารถช่งั โดยใช้
สิง่ ของอนื่ ๆ ได้ เชน่ ลกู แก้ว บล็อกไม้ เปน็ ต้น

306 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 7 | การวัดนำ้�หนัก คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เล่ม 1

3. ครยู กตวั อยา่ งการชง่ั โดยใชเ้ ครอ่ื งชง่ั สองแขนอยา่ งงา่ ย * ผลจากอปุ กรณท ค่ี รูเตรยี มและกิจกรรมจริง
ทม่ี หี นว่ ยไมใ่ ชห่ นว่ ยมาตรฐานดว้ ยบลอ็ กไมต้ ามหนงั สอื เรยี น ใหอ ยใู นดุลยพนิ จิ ของผสู อน
หนา้ 287 ครใู หน้ กั เรยี นท�ำ กจิ กรรมการคาดคะเนน�ำ้ หนกั
ของนมกลอ่ งทบ่ี อกน�ำ้ หนกั แลว้ วา่ เทา่ กบั ลกู แกว้ กี่ลกู
จากน้ันน�ำ นมกลอ่ งนัน้ มาช่งั นำ้�หนกั ดว้ ยบล็อกไม้
ซึง่ บล็อกไมแ้ ตล่ ะอนั ต้องมขี นาดและนำ�้ หนกั เท่ากัน
โดยใหน้ กั เรียนคาดคะเนก่อนว่านมกล่องน้ีหนักเทา่ กบั
บลอ็ กไมก้ อี่ นั แลว้ ให้นกั เรยี นออกมาชัง่ นำ�้ หนักนมกล่อง
โดยใช้เคร่ืองชั่งสองแขนอย่างง่ายดว้ ยบลอ็ กไม้ นับและ
บอกจำ�นวนบล็อกไมท้ งั้ หมดท่ีอยบู่ นจานของเคร่ืองชัง่
ครูให้นักเรียนรว่ มกันบอกวา่ นมกลอ่ งมนี ำ�้ หนกั เท่ากับ
บล็อกไม้กี่อัน ผลการคาดคะเนเป็นอยา่ งไร
ครแู นะนำ�วา่ การชงั่ โดยใช้เคร่ืองช่ังสองแขนอย่างง่ายด้วย
บล็อกไม้และบอกว่านม 1 กล่องหนกั เท่ากับบล็อกไม้กอ่ี นั
นนั้ เปน็ การชัง่ โดยใช้หน่วยท่ีไม่ใช่หนว่ ยมาตรฐาน
ซึ่งสามารถชั่งโดยใชส้ ิง่ ของอน่ื ๆ ได้ เช่น ลกู แก้ว บลอ็ กไม้ เปน็ ต้น

การตรวจสอบความเขา้ ใจ

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล
โดยให้นักเรียนบอกว่าส่งิ ของที่กำ�หนดใหห้ นักกลี่ ูกแก้ว เมอื่
กำ�หนดส่ิงของอย่างหนงึ่ ให้วา่ หนกั ก่ลี ูกแกว้ ตามหนงั สอื เรยี น
หน้า 288 ครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
ถ้าพบวา่ มีนักเรยี นคนใดตอบค�ำ ถามยังไม่ถกู ตอ้ ง ให้นกั เรยี น
แก้ไขให้ถกู ต้อง โดยอาจใช้การถาม-ตอบใหเ้ ขา้ ใจอีกครงั้
จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ส่ิงท่ไี ด้เรียนรู้

ส่ิงท่ีได้เรยี นรู้

การวัดน้�ำ หนักของสิง่ ของ อาจท�ำ ไดโ้ ดยการช่ังดว้ ย
เครอื่ งชั่งสองแขนอย่างง่ายและบอกน�ำ้ หนักที่มีหนว่ ยไมใ่ ช่
หน่วยมาตรฐานจากการน�ำ วัตถุทมี่ ีน้ำ�หนักเท่า ๆ กนั
มาเป็นหน่วยในการบอกน้�ำ หนัก เช่น ลูกแก้ว ฝาขวดน้�ำ
บล็อกไม้
จากนนั้ ใหน้ กั เรียนทำ�แบบฝึกหัด 7.2 หนา้ 172 – 174

| 307สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | การวัดน้ำ�หนกั
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

7.3 การวดั น�้ำ หนกั เปน็ กโิ ลกรมั โดยใชเ้ ครื่องชงั่ สปรงิ (1 ช่ัวโมง)

จุดประสงค์ หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.1
บทท่ี 7 | การวัดนา้ำ หนกั
บอกน�ำ้ หนกั เปน็ กิโลกรัม
7.3 การวดั นำ้าหนกั เป็นกโิ ลกรัม
ส่ือการเรยี นรู้ โดยใช้เครอื่ งชั่งสปรงิ

- เครื่องชงั่ สปริง พัฒนาความรู้
- ถุงขา้ วสาร 1 กิโลกรมั ถุงส้ม 2 กโิ ลกรัม
ถุงนำ�้ ตาลทราย 3 ถงุ ถุงละ 1 กิโลกรมั กจิ กรรม รูจ้ กั 1 กิโลกรัม
- สอื่ วิดิทัศน์ (QR code) เร่ืองเครื่องชัง่ สปรงิ ชง่ั ขา้ วสารดว้ ยเคร่อื งชั่งสองแขนโดยใชล้ ูกแกว้ และบล็อกไม้
- บัตรภาพ
- บตั รข้อความ ขา้ วสารหนักเท่ากับ 20 ลกู แก้ว ข้าวสารหนกั เท่ากบั 8 บล็อกไม้

แนวการจดั การเรียนรู้ เอ... คำาตอบไดไ้ ม่เทา่ กนั แล้วจะรู้ไดอ้ ยา่ งไรว่าจริง ๆ แลว้ ข้าวสารหนักเท่าใด
การพัฒนาความรู้
รู้จกั เครอ่ื งช่ังสปริง หน้าปดั ประกอบด้วย
1. ครูนำ�เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยทบทวนการชั่งโดยใช้ เข็มชนี้ ้ำาหนัก
เครอื่ งชัง่ สองแขนอย่างง่ายทีม่ ีหนว่ ยไมใ่ ช่หนว่ ยมาตรฐาน จานวางส่งิ ของ
ดงั นี้ ครูติดบัตรภาพ 2 บตั รภาพ ดงั รปู ที่จะชงั่ ตวั เลขแสดงนำ้าหนัก

หน่วยบอกนำ้าหนักเป็นกโิ ลกรมั (kg.) ใช้ตวั ย่อ กก. เครือ่ งชัง้ สปริง
| 289สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขา้ วสารหนกั เท่ากบั 20 ลูกแกว้ ขา้ วสารหนักเทา่ กับ 8 บล็อกไม้

แลว้ ใช้การถาม-ตอบ ดังนี้
- ขา้ วสาร 1 ถุง หนักเทา่ กบั ลกู แกว้ กี่ลกู (20 ลกู แกว้ )
- ข้าวสาร 1 ถงุ หนกั เทา่ กบั บลอ็ กไมก้ บ่ี ลอ็ กไม้ (8 บลอ็ กไม)้
ครูใหน้ กั เรียนสงั เกตวา่ ขา้ วสาร 1 ถุง ซึง่ เป็นสิ่งของเดียวกัน แต่บอกน้ำ�หนกั ได้วา่ 20 ลกู แกว้ กับ
8 บล็อกไม้ ซ่งึ เป็นหน่วยท่ีไมใ่ ช่หนว่ ยมาตรฐานและเปน็ หน่วยท่ีตา่ งกัน ครแู นะนำ�ว่า สิง่ ของเดยี วกัน
ควรจะตอ้ งสามารถบอกน�ำ้ หนกั ไดต้ รงกนั โดยใชเ้ ครอ่ื งวดั น�ำ้ หนกั ทม่ี หี นว่ ยมาตรฐาน เชน่ เครอ่ื งชง่ั สปรงิ
จากน้นั ครูแนะน�ำ เครือ่ งช่งั สปริง โดยใชเ้ ครื่องชั่งสปริงของจรงิ ให้นกั เรยี นสังเกตว่าประกอบด้วย
อะไรบา้ ง ดังนี้ จานวางสิ่งของท่จี ะชัง่ หน้าปัดประกอบด้วย เขม็ ช้นี �ำ้ หนกั และตวั เลขแสดงน้ำ�หนัก
ตามหนังสือเรยี นหน้า 289 ครูอาจใชส้ ่ือวดิ ิทศั น์ (QR code) เรอื่ งเครือ่ งชง่ั สปริงประกอบการสอนได้
ครแู นะน�ำ นกั เรียนว่าเครื่องชงั่ สปรงิ นเ้ี ป็นเคร่ืองชงั่ ที่วัดน�ำ้ หนักโดยใชห้ นว่ ยท่เี ปน็ หน่วยมาตรฐานที่
เรียกว่ากโิ ลกรัมใชอ้ ักษรย่อ กก. (kilogram : kg) และเครือ่ งชั่งแตล่ ะเคร่ืองสามารถวัดน�้ำ หนกั
ไดส้ ูงสดุ ต่างกนั

308 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 7 | การวัดน้ำ�หนัก คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

2. ครูยกตัวอยา่ งการช่งั นำ�้ หนกั ดว้ ยเครือ่ งช่งั สปรงิ

แลว้ ใหน้ ักเรียนบอกน้ำ�หนกั ของส่ิงตา่ ง ๆ เป็นกิโลกรมั

ตามหนังสือเรียนหน้า 290 ครูแนะนำ�นกั เรยี นวา่ เครื่องช่งั

สปรงิ ก่อนชงั่ เช็มช้ีน้ำ�หนักต้องช้ีทตี่ วั เลข 0 จานของเครอื่ งช่งั

จะอยูใ่ นต�ำ แหน่งท่ไี มเ่ อยี งไปข้างใดข้างหน่งึ เม่อื วางสงิ่ ของ

ท่จี ะชั่งลงไปในจานของเครอ่ื งชั่งแลว้ อ่านน�้ำ หนกั ตามตัวเลข

ทเ่ี ข็มชเี้ ป็นกิโลกรัม จากนัน้ ครนู �ำ ข้าวสาร 1 ถุง มาวางบน

จานของเครื่องช่งั ให้นกั เรียนอา่ นตวั เลขท่ีเขม็ ชบ้ี นหน้าปัด

ของเคร่ืองชัง่ ครใู ห้นักเรียนสงั เกตวา่ นกั เรยี นแตล่ ะคนอ่าน

น้ำ�หนกั ได้ 1 กิโลกรมั เทา่ กนั ซึ่งเปน็ การบอกนำ้�หนกั ท่มี ี

หน่วยมาตรฐานคอื ต้องบอกน�ำ้ หนกั ของสง่ิ เดยี วกันใหต้ รงกนั

ครนู ำ�ส้ม 1 ถุงมาวางบนเคร่ืองช่งั สปริง ครสู ุ่มนักเรยี น

2 – 3 คนใหอ้ อกมาอ่านตวั เลขทีเ่ ข็มช้ีบนหน้าปดั ของ

เครอื่ งชง่ั ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตวา่ นักเรียนแตล่ ะคนอ่าน

น�ำ้ หนกั ได้ 2 กโิ ลกรัมเท่ากัน ครูน�ำ น้ำ�ตาลทราย 3 ถงุ

มาวางบนเครอ่ื งชง่ั สปรงิ สมุ่ นกั เรยี น 2 – 3 คน ใหอ้ อกมา

อา่ นตวั เลขทเ่ี ขม็ ช้ีบนหนา้ ปดั ของเครื่องชัง่ ครใู ห้นักเรียน

สงั เกตว่านักเรยี นแต่ละคนอ่านน�้ำ หนกั ได้ 3 กิโลกรัมเท่ากัน

ครูอาจยกตวั อยา่ งเครอ่ื งชง่ั สปริงอื่นท่ีมพี กิ ัดนำ�้ หนักของ 42 3
เครือ่ งช่งั มากกวา่ 5 กโิ ลกรมั และเตรยี มสิง่ ของมาให้นกั เรียน
ปลา กงุ

ช่งั และบอกน้ำ�หนกั เปน็ กิโลกรมั อีก 2 – 3 ตวั อย่าง

โดยส่ิงของทีเ่ ตรียมมาควรมีนำ้�หนกั ไมเ่ กนิ 20 กโิ ลกรัม

ครแู ละนักเรยี นสนทนารว่ มกนั ว่า 20 กิโลกรมั เขยี นโดยใช้ 7 10 4
อกั ษรยอ่ ได้เปน็ 20 กก. 8 กิโลกรมั เขยี นโดยใช้อักษรย่อ น้ําตาล มันเทศ
ไดเ้ ป็น 8 กก. และอาจใหน้ กั เรยี นอ่านน้ำ�หนกั ขององ่นุ และ

ลองกองจากหน้าปดั ของเคร่ืองช่ังในกรอบทา้ ยหนังสอื เรยี น

หนา้ 290

3. ครูให้นกั เรียนจับคู่กนั และแจกบตั รภาพให้

นกั เรียนตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 291 แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันอ่านน้�ำ หนกั ของส่ิงของจากรูปเครือ่ งช่ัง

แล้วเขยี นบอกน�้ำ หนักของสงิ่ น้นั ลงในบัตรภาพ ครูสุ่มนกั เรยี นให้บอกน�้ำ หนักของส่งิ ของ ครแู ละ

นกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนั้นครใู ห้นกั เรยี นสังเกตว่า เครื่องช่ังสปรงิ สามารถช่ัง

น�ำ้ หนักสงู สดุ ไดแ้ ตกตา่ งกนั ขนึ้ อยูก่ บั ส่งิ ของทน่ี ำ�มาชัง่ ถา้ ส่ิงของท่นี �ำ มาชงั่ มนี �ำ้ หนักมากควรเลือก

เคร่อื งชัง่ สปรงิ ทสี่ ามารถชัง่ นำ�้ หนักสงู สดุ ไดต้ ามส่งิ ของน้นั และให้นกั เรียนสงั เกตทีเ่ ข็มชี้น้ำ�หนักของ

เครอ่ื งชง่ั ในบัตรภาพว่า เป็นการชงั่ และบอกนำ้�หนกั เปน็ กโิ ลกรัมซงึ่ ส่ิงของท่ีนำ�มาชั่งแล้วจะมหี นว่ ย

เป็นกโิ ลกรัม ซ่ึงเขม็ ชี้น�ำ้ หนักจะชีต้ รงตวั เลขแสดงนำ้�หนักพอดี

| 309สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครูรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | การวดั น้ำ�หนกั
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

ตรวจสอบความเข้าใจ

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล
โดยให้นักเรียนจับคนู่ ้ำ�หนักของส่ิงของกบั เคร่ืองช่งั สปริงท่ีมี
สิง่ ของหนกั ตรงกบั น�้ำ หนักน้ัน ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 292
ครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง ถ้าพบวา่ มี
นักเรียนจับคไู่ มถ่ กู ตอ้ ง ครใู ห้นักเรยี นแก้ไขโดยใหน้ กั เรียน
อา่ นและบอกน้�ำ หนักของสิง่ ของพร้อมทั้งจบั คกู่ บั นำ้�หนัก
ใหม่อีกครง้ั จนกว่าจะถูกต้อง จากนนั้ ครแู ละนกั เรียน
รว่ มกันสรุปสิ่งที่ไดเ้ รียนรู้

สิ่งที่ได้เรยี นรู้

• การบอกน�ำ้ หนกั ของสิ่งของอาจบอกเป็นกโิ ลกรัม
โดยใช้เครื่องชัง่ สปริง

• การใชเ้ คร่อื งช่ังสปรงิ ก่อนชั่งสง่ิ ของเข็มช้นี ำ้�หนกั
อยทู่ ต่ี วั เลข 0 เมอ่ื ชั่งสิ่งของจะอ่านน�้ำ หนักโดยดตู วั เลขที่เขม็ ชี้

จากนั้นให้นกั เรยี นท�ำ แบบฝึกหัด 7.3 หนา้ 175 – 177

310 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 7 | การวดั น้ำ�หนกั คู่มือครูรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1

7.4 การคาดคะเนน�ำ้ หนักเปน็ กโิ ลกรมั (1 ชัว่ โมง)

จุดประสงค์

คาดคะเนน้�ำ หนกั เปน็ กิโลกรมั

สื่อการเรยี นรู้

- เครอื่ งชัง่ สปริง

- ถุงน้ำ�ตาลทราย 1 กโิ ลกรมั แตงโม ขา้ วสาร ถั่วเขียว

เกลือ และสงิ่ ของอนื่ ๆ ทีห่ นกั มากกวา่ 1 กิโลกรมั และ

หนกั น้อยกวา่ 1 กโิ ลกรมั

- บตั รภาพ

- บัตรข้อความ

- แบบบันทกึ กจิ กรรม *คําตอบขน้ึ อยูกับอปุ กรณท ่ผี ูสอนใช
ใหอ ยูในดลุ ยพนิ ิจของผสู อน
แนวการจัดการเรียนรู้

การพฒั นาความรู้

1. ครนู ำ�เขา้ สู่บทเรยี นโดยการใหน้ กั เรียนคาดคะเนน้�ำ หนกั ของแตงโม 1 ผล จากการทดลองยก

แตงโม แลว้ ให้นกั เรียนแตล่ ะคนบอกวา่ แตงโมหนักก่ีกโิ ลกรัม ซ่งึ นักเรียนแต่ละคนอาจบอกว่าแตงโม

หนัก 1 กิโลกรัม 2 กิโลกรมั หรือ 3 กโิ ลกรมั ก็ได้ จากนน้ั ครูแนะนำ�ว่า ถ้าเราคาดคะเนนำ�้ หนกั ของ

ส่ิงของโดยไม่มีน�้ำ หนักอา้ งอิงอาจทำ�ให้คาดคะเนสงิ่ ของไดย้ าก

จากน้ันครใู หน้ ักเรียนท�ำ กิจกรรมหนกั กว่าหรอื เบากวา่

1 กโิ ลกรมั ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 293 และ 294

ครนู �ำ เครอ่ื งชง่ั สปรงิ ถงุ น�ำ้ ตาลทราย 1 กโิ ลกรมั และแตงโม 1 ผล

วางบนโตะ๊ ให้นกั เรียนเห็นชดั เจน บอกนักเรยี นว่าครูจะให้

นกั เรยี นคาดคะเนน�ำ้ หนกั ของแตงโม 1 ลกู น้ี โดยเทยี บกบั น�ำ้ หนกั

ของน�ำ้ ตาลทราย 1 กโิ ลกรัม จากนน้ั ครูส่มุ นักเรยี น 1 คน

ออกมาช่งั น้�ำ ตาลทรายโดยใช้เครอื่ งช่งั สปริง ใหน้ ักเรียนบอก

นำ�้ หนักของน�ำ้ ตาลทรายวา่ หนกั กก่ี โิ ลกรมั (น�ำ้ ตาลทรายหนกั

1 กโิ ลกรมั ) แลว้ ครใู หน้ ักเรยี นคาดคะเนนำ�้ หนกั ของแตงโม

วา่ หนักมากกวา่ หรอื น้อยกวา่ 1 กโิ ลกรัม โดยให้นกั เรียนทกุ คน

ยกถงุ น�ำ้ ตาลทรายและยกแตงโมงเปรียบเทียบกัน ครตู ิดบตั ร * คําตอบขน้ึ อยกู ับอปุ กรณ (แตงโม)
ข้อความ แตงโมน่าจะหนักกวา่ 1 กโิ ลกรัม และแตงโม ที่ใชในการจัดกิจกรรม
ใหอยใู นดุลยพนิ ิจของผสู อน

น่าจะเบากวา่ 1 กโิ ลกรัม แล้วให้นักเรยี นออกไปเขยี นรอยขดี

บนกระดานตามท่นี ักเรยี นคาดคะเนได้ จากนัน้ ครูให้นกั เรียน

นำ�แตงโมไปช่งั โดยใชเ้ ครื่องชงั่ สปรงิ แล้วใหน้ กั เรยี นตรวจสอบผลการคาดคะเนและเขียนเข็มช้นี �ำ้ หนกั

แสดงนำ้�หนักของแตงโมบนเครอื่ งชง่ั สปรงิ ในกรอบทา้ ยหนังสอื เรยี นหนา้ 294 จากนนั้ ครูให้นกั เรยี น

| 311สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   


Click to View FlipBook Version