The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1
สสวท.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tassawan., 2022-04-05 03:19:18

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 สสวท

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ ป.1 เล่ม 1
สสวท.

คมู่ อื ครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนทีม่ ผี ลบวกไม่เกนิ 10
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

2. ครตู ิดบตั รภาพกระตกิ น้�ำ ตามหนังสือเรียนหน้า 70 ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกนั โดยใช้

การถาม-ตอบ ดงั น้ี

- จากบตั รภาพนกั เรียนเห็นอะไรบา้ ง (กระติกน�ำ้ ใบบวั กำ�ลงั จับหรอื วางกระตกิ น้ำ�)

- บนโตะ๊ มีกระติกน้ำ�วางอยกู่ ใ่ี บ (6 ใบ)

- ในมอื ของใบบวั ถอื กระติกนำ�้ อยู่กใี่ บ (2 ใบ)

- นบั กระตกิ นำ้�รวมกันทั้งหมดกใ่ี บ (8 ใบ)

ครูอาจสมุ่ นักเรยี นออกมาแสดงการนับได้กระตกิ นำ้� 8 ใบ

โดยนบั เพิม่ จากท่มี อี ยู่ 6 ใบ เปน็ เจ็ด แปด จะไดว้ ่ามี

กระติกน้�ำ ทงั้ หมด 8 ใบ จากนัน้ ครูแนะนำ�นักเรียนวา่

การนบั รวมกนั หรือการนับเพมิ่ จากท่มี ีอยู่ โดยการน�ำ มา

เพ่มิ อกี เช่น 6 เพิม่ อกี 2 รวมเป็น 8 สามารถเขียนเป็น

ประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกได้ดงั น้ี

6 + 2 = 8 อา่ นวา่ หกบวกสองเทา่ กับแปด +=

ครูเน้นยำ�้ เกีย่ วกบั เครอ่ื งหมายบวก (+) และเครอื่ งหมาย 81 9
เท่ากบั (=) ท่ีปรากฎในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวก

อีกคร้ังว่า + เรยี กวา่ เคร่ืองหมายบวก แสดงการนบั รวมกัน

และ = เรยี กวา่ เครอื่ งหมายเท่ากบั แสดงการเท่ากนั จะได้ 8 เป็นผลบวกของ 6 กบั 2 ครยู กตวั อย่าง

เพม่ิ เตมิ ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั เขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก เช่น มอี ยู่ 5 เพิม่ อีก 2 รวมเปน็ 7

เขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกได้ 5 + 2 = 7 หรือ มีอยู่ 6 เพ่มิ อกี 4 รวมเปน็ 10

เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกได้ 6 + 4 = 10 โดยทุกครั้งท่เี ขียนประโยคสญั ลักษณ์

ครอู าจใช้การถาม-ตอบวา่ จ�ำ นวนใดบวกกบั จ�ำ นวนและ

ไดผ้ ลบวกเปน็ จำ�นวนใด จากนน้ั ครใู ห้นักเรียนจับคชู่ ว่ ยกัน

เขยี นประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกท้ายหนังสอื เรยี น

หน้า 70 ครูสมุ่ นักเรียนออกมาเขยี นประโยสญั ลักษณ์แสดง

การบวก จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

3. ครนู ำ�บตั รภาพตามหนงั สือเรยี นหนา้ 71 ติดบน

กระดาน ครแู ละนกั เรยี นสนทนารว่ มกนั โดยใชก้ ารถาม-ตอบ

วา่ บนโตะ๊ มีถาดอาหารโตะ๊ ละกี่ถาด เมอื่ นักเรยี นตอบ

ค�ำ ถามแลว้ ครูติดบัตรขอ้ ความ ดงั น้ี ถาดอาหาร 4 ถาด

กับถาดอาหาร 5 ถาม ถามนักเรียนว่ารวมเป็นถาดอาหาร +=

ท้งั หมดก่ถี าด นกั เรยี นใชก้ ารนับและตอบไดว้ า่ รวมเปน็ 5 5 10
ถาดอาหาร 9 ถาด ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ วา่ 4 กบั 5

62 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนทมี่ ีผลบวกไม่เกนิ 10 ค่มู อื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

รวมเปน็ 9 จากน้นั ครูแนะนำ�นักเรียนวา่ 4 กับ 5 รวมเป็น 9 สามารถเขียนประโยคสัญลกั ษณ์แสดง
การบวกได้ดงั น้ี 4 + 5 = 9 อ่านวา่ ส่บี วกห้าเท่ากบั เกา้ ครเู นน้ ย้ำ�เก่ยี วกับเครื่องหมายทป่ี รากฏใน
ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกอกี ครง้ั และจะไดว้ า่ 9 เปน็ ผลบวกของ 4 กบั 5 ครยู กตวั อยา่ งเพม่ิ เตมิ
เช่น 2 กบั 7 รวมเปน็ 9 เขยี นเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกได้ 2 + 7 = 9 หรอื 8 กับ 2
รวมเป็น 10 เขียนเป็นประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกได้ 8 + 2 = 10 โดยทุกครั้งทเ่ี ขียนประโยค
สญั ลกั ษณค์ รอู าจใช้การถาม-ตอบว่า จำ�นวนใดบวกกับจ�ำ นวนและได้ผลบวกเปน็ จ�ำ นวนใด
จากนัน้ ครใู ห้นักเรียนจบั คชู่ ว่ ยกนั เขยี นประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกในทา้ ยหนังสือเรียนหน้า 71
ครูสมุ่ นกั เรยี นออกมาเขียนประโยสญั ลกั ษณ์แสดงการบวก ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบ
ความถกู ต้อง

การตรวจสอบความเขา้ ใจ 1+2=3
2+4=6
4. ครตู รวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นเป็น 3+4=7
รายบคุ คล ตามหนงั สือเรียนหนา้ 72 โดยให้นกั เรียนเขียน 2+7=9
ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก ครูและนักเรยี นร่วมกนั 8 + 2 = 10
ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ถ้าพบว่ามีนกั เรียนท่ีไม่สามารถ
เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกได้ ครูให้นักเรยี น
แก้ไขให้ถูกต้อง จากน้ันครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้
เรยี นรู้

สิง่ ท่ีได้เรยี นรู้

จ�ำ นวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ รวมกันสองจ�ำ นวนแสดงได้ด้วย
การบวกของสองจำ�นวนน้ัน จ�ำ นวนของทง้ั หมดเรยี กว่า
ผลบวก และสามารถเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก
ของสองจำ�นวนน้นั ได้ โดยใช้เครอื่ งหมายบวก (+) และ
เคร่ืองหมายเท่ากับ (=)
จากน้ันครใู ห้นกั เรยี นท�ำ แบบฝึกหัด 2.2 หนา้ 48 – 49

| 63สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ ือครู รายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 2 |การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนท่มี ีผลบวกไม่เกิน 10
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

2.3 การหาผลบวกโดยใชก้ ารวาดรปู (1 ชวั่ โมง)

จดุ ประสงค์

หาผลบวกโดยใช้การวาดรปู

สื่อการเรียนรู้

- ดินสอหรอื ปากกา

- ตะกร้า

- บัตรภาพ

- บัตรประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก

- บัตรขอ้ ความ

แนวการจัดการเรยี นรู้

การพฒั นาความรู้

1. ครนู �ำ เขา้ สูบ่ ทเรยี นโดยการทบทวนการน�ำ จ�ำ นวนของส่งิ ตา่ ง ๆ รวมกนั สองจ�ำ นวนพร้อมกบั
เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก โดยครนู ำ�ดินสอท่อี ยูต่ ะกร้า 4 แท่ง ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั นับวา่ มี
กีแ่ ท่ง (4 แทง่ ) พรอ้ มเขยี น “4” บนกระดาน ครูน�ำ ดินสอมาใสใ่ นตะกร้าเพมิ่ อกี 3 แท่ง ครูเขยี น
“เพ่มิ อีก 3” ตอ่ จาก 4 บนกระดาน จากนน้ั ถามนักเรยี นว่ามดี ินสอรวมเป็นกแี่ ท่ง ใหน้ กั เรียนช่วยกัน
นับพรอ้ มกันได้ 7 แทง่ ครเู ขียน “รวมเปน็ 7” ต่อจากข้อความเดิมบนกระดานไดเ้ ปน็ 4 เพมิ่ อีก 3
รวมเปน็ 7 ครแู ละนักเรียนสนทนาร่วมกันโดยใช้การถาม-ตอบ ดงั นี้
- จ�ำ นวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ รวมกนั สองจ�ำ นวนเปน็ การน�ำ จ�ำ นวนสองจ�ำ นวนนน้ั มาบวกกนั ใชห่ รอื ไม่ (ใช)่
- เมอื่ นำ�มาบวกกนั แลว้ ไดจ้ �ำ นวนของท้ังหมดเรยี กวา่ อะไร (ผลบวก)
- 4 เพมิ่ อกี 3 รวมเปน็ 7 เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกอยา่ งไร (4 + 3 = 7)
ครูและนกั เรียนสนทนาเกยี่ วกับเคร่ืองหมายท่ปี รากฎในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและผลบวก
ครยู กตวั อยา่ งเพม่ิ เตมิ เชน่ มสี มดุ สองกอง กองทห่ี นง่ึ มี 5 เลม่ และกองทส่ี องมี 3 เลม่ รวมเปน็ 8 เลม่
ครแู ละนกั เรยี นสนทนาร่วมกนั โดยใช้การถาม-ตอบ ดังนี้
- สมุดแต่ละกองมกี ่ีเลม่ (5 เลม่ กบั 3 เลม่ หรือ 3 เล่มกับ 5 เลม่ )
- มสี มดุ ท้งั หมดก่ีเลม่ (8 เล่ม)
จากน้นั ครูเขียนข้อความบนกระดาน 5 กบั 3 รวมเป็น 8 และ 3 กับ 5 รวมเปน็ 8 ให้นักเรยี น
ชว่ ยกนั เขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก ครูและนกั เรยี นสรุปร่วมกันจะได้ว่า 5 + 3 = 8
และ 3 + 5 = 8 จากนนั้ ครูให้นักเรยี นจบั คูก่ ันทำ�กิจกรรม คดิ ดว้ ยภาพ ตามหนงั สือเรียนหนา้ 73
ครแู จกบตั รภาพและบัตรประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกใหน้ กั เรยี น
คนละ 1 ชุด จากนนั้ ครูหยบิ บัตรภาพสม้ โอและสม้ ดงั น้ี
ครถู ามนกั เรียนวา่ บตั รภาพเปน็ ผลไม้ชนิดใดแต่ละชนิดมจี �ำ นวนเทา่ ไร
(ส้มโอ 1 ผลกบั ส้ม 2 ผล หรอื สม้ 2 ผลกบั สม้ โอ 1 ผล) 1 กับ 2 หรอื
2 กับ 1 รวมเป็นเทา่ ไร (3) ครใู ห้นกั เรียนชบู ัตรประโยคสญั ลักษณ์แสดง

64 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวนท่ีมผี ลบวกไม่เกนิ 10 คูม่ อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1

การบวกที่สอดคลอ้ งกบั บัตรภาพ ดงั นน้ั นกั เรียนจงึ ตอ้ งชูบัตรประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก 2 บตั ร
คือ 1 + 2 = 3 และ 2 + 1 = 3 ครูใหน้ กั เรียนอ่านประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกพร้อมกนั ทีละบตั ร
ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะคผู่ ลัดกนั เล่น ถ้าคนแรก
ชูบัตรภาพ คนทีส่ องจะตอ้ งชูและอา่ นบตั รประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก 2 บตั รท่ีสอดคลอ้ งกับ
บตั รภาพของคนแรก ถา้ คนแรกชแู ละอา่ นบัตรประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก 2 บตั ร คนที่สอง
จะต้องชบู ตั รภาพทส่ี อดคลอ้ งกับประโยคสญั ลักษณ์ของคนแรก ใหน้ กั เรยี นสลับกนั เลน่ จนบตั รหมด
ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปได้วา่ จ�ำ นวนสองจำ�นวนบวกกันสามารถสลบั ทก่ี ันและเขยี นแสดงดว้ ย
ประโยคสญั ลกั ษณไ์ ด้ ซงึ่ เรียกวา่ ประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวก
2. ครูยกตวั อย่างการหาผลบวกโดยใช้การวาดรปู ครตู ิดบัตรข้อความตามหนงั สือเรยี นหนา้ 74
ดงั น้ี มีปู 5 ตัว เดินมาอกี 1 ตัว มีปทู ง้ั หมดกี่ตวั ครูให้นักเรียนอ่านพรอ้ มกัน ครแู ละนกั เรยี นสนทนา
ร่วมกันวา่ มีปู 5 ตวั เดินมาอกี 1 ตัว เป็นการรวมกนั ของจ�ำ นวนส่ิงตา่ ง ๆ สองจ�ำ นวนซึ่งแสดงไดด้ ้วย
การบวก นนั่ คอื 5 รวมกบั 1 เปน็ เทา่ ไร เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ 5 + 1 = ครแู ละนกั เรียน
ช่วยกนั หาผลบวก ครแู นะนำ�การหาผลบวกโดยใชก้ ารวาดรปู สง่ิ ของ 5 สง่ิ รวมกบั 1 สงิ่ โดยนักเรยี น
อาจวาดเป็นรปู อะไรกไ็ ด้ เชน่ วงกลม รูปสามเหลี่ยม รูปสเี่ หลย่ี ม ท่ีมจี �ำ นวน 5 รปู กับ 1 รูป
แล้วหาผลบวกโดยการนับจ�ำ นวนรูปทงั้ หมดรวมกัน เช่น

หรอื

จากน้ันครูถามนกั เรยี นว่า 5 รวมกบั 1 ผลบวกเทา่ กับเทา่ ไร นักเรยี นควรตอบไดว้ า่ ผลบวกเทา่ กบั 6
ครแู ละนกั เรียนสรุปรว่ มกันว่า 5 รวมกบั 1 เท่ากับ 6 ครสู มุ่ นกั เรียนออกมาเขียนประโยคสัญลกั ษณ์
แสดงการบวก 5 + 1= 6 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสนทนารว่ มกันวา่ 6
เปน็ ผลบวกของ 5 กบั 1 ครูยกตัวอยา่ งเพิ่มเตมิ เชน่ แมวสดี �ำ 2 ตวั แมวสขี าว 3 ตวั มแี มวทง้ั หมด
กต่ี วั ครถู ามนกั เรยี นวา่ หาผลบวกไดอ้ ยา่ งไร (โดยใชก้ ารวาด
รปู แสดงจ�ำ นวนแมว) โดยครแู นะน�ำ วา่ ถ้านกั เรยี นวาดรปู
แมวไมไ่ ด้ นกั เรียนอาจวาดรูปอะไรกไ็ ดแ้ ทนแมวแตร่ ูปที่
วาดแทนแมวชนิดเดยี วกันต้องเหมอื นกัน เช่น แมวสีด�ำ
วาด 2 ตัวตอ้ งวาดรปู สองรปู ให้เหมือนกนั ครสู มุ่ นกั เรยี น
หรอื อาสาสมัครออกมาวาดรูปแสดงแมวสีดำ�จ�ำ นวน 2 ตวั
ครใู หน้ ักเรยี นวาดรปู แทนแมวสขี าวจำ�นวน 3 ตวั นกั เรียน
อาจวาดแมวสีขาว 3 ตวั หรือวาดวงกลมสีขาว 3 รูป
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จะไดร้ ปู ดงั น้ี

หรือ

5
5

| 65สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ อื ครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่ีมีผลบวกไม่เกิน 10
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

จากนัน้ ครูถามนกั เรียนว่า 2 รวมกับ 3 ผลบวกเท่ากับเท่าไร

นักเรยี นหาคำ�ตอบโดยการนบั จำ�นวนรปู ท้งั หมดพรอ้ มกนั

ได้ 5 รปู ครูและนักเรยี นรว่ มกนั เขยี นเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์

แสดงการบวกได้ 2 + 3 = 5 นน่ั คอื 5 เปน็ ผลบวกของ 2 กับ 3

ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปวา่ การหาผลบวกโดยใชก้ าร

วาดรูปน้ันให้วาดรปู เท่ากบั จำ�นวนแรกและจำ�นวนที่สอง

แล้วนับจ�ำ นวนรปู ทีว่ าดทัง้ หมดเป็นผลบวก

3. ครยู กตวั อย่างการหาผลบวกโดยใช้การวาดรปู * รูปท่วี าดอาจแตกตา งจากนี้ 10
เพิม่ เติมตามหนงั สือเรียนหนา้ 75 เช่น มีมะม่วงดิบ 5 ผล 10
กับมะม่วงสุก 2 ผล รวมเปน็ มะมว่ งก่ผี ล ครถู ามนกั เรยี นว่า

มะมว่ งดิน 5 ผล ตอ้ งวาดรปู แทนมะมว่ งดบิ กร่ี ปู (5 รูป)

และมะม่วงสกุ 2 ผล ต้องวาดรปู แทนมะม่วงสกุ กรี่ ูป (2 รูป) * รปู ทีว่ าดอาจแตกตางจากนี้ 29
ครสู ุ่มนกั เรียนออกมา 2 คน แสดงการวาดรปู ในการหาผล 7 9

บวกและเขียนประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก ครแู ละ

นกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องจะได้ว่า 5 + 2 = 7

ครูและนักเรียนสรปุ ค�ำ ตอบร่วมกันได้วา่ รวมเปน็ มะมว่ ง 7 ผล ครแู นะน�ำ นักเรียนจากการทีส่ ุม่

นักเรียน 2 คนออกมาวาดรปู ว่าในการวาดรปู นกั เรียนแตล่ ะคนสามารถวาดรูปแบบใดกไ็ ด้

ซ่งึ ไมจ่ ำ�เป็นตอ้ งวาดเหมอื นกัน ครูให้นกั เรยี นจับคหู่ าผลบวกโดยใช้การวาดรูปในข้อ 1 และข้อ 2

ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

การตรวจสอบความเขา้ ใจ 7

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล
โดยใหน้ กั เรยี นหาผลบวกโดยใชก้ ารวาดรปู ตามหนงั สอื เรยี น
หนา้ 76 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ถา้ พบวา่ มนี ักเรียนบางคนใช้การวาดรปู หาผลบวกไดไ้ ม่
ถูกตอ้ ง ครูใหน้ ักเรยี นวาดรูปใหมใ่ นการหาผลบวกให้
ถูกต้อง จากน้นั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้

ส่ิงที่ไดเ้ รียนรู้ 6

จ�ำ นวนสองจำ�นวนบวกกันอาจหาผลบวกโดยวาดรปู
ใหเ้ ทา่ กบั จ�ำ นวนแรกและจ�ำ นวนทส่ี องแลว้ นบั จำ�นวนรูปที่
วาดทั้งหมดเป็นผลบวก
จากนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 2.3 หนา้ 50 - 51

66 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวนท่ีมีผลบวกไมเ่ กนิ 10 คูม่ ือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

2.4 ศูนย์กับการบวก (1 ช่วั โมง)

จุดประสงค์

หาผลบวกของศูนย์

ส่อื การเรียนรู้

- บตั รภาพ

- บตั รข้อความ

แนวการจดั การเรยี นรู้

การพฒั นาความรู้

1. ครนู �ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยการตดิ บตั รขอ้ ความบนกระดาน
เชน่ มีเก้าอ้ี 5 ตวั น�ำ มาเพิ่ม 2 ตัว มเี ก้าอีท้ ัง้ หมดกต่ี วั
ครแู ละนกั เรยี นสนทนารว่ มกนั โดยใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั น้ี
- หาจำ�นวนเก้าอท้ี งั้ หมดได้อย่างไร (การบวก)
- หาผลบวกได้อย่างไร (โดยใช้การวาดรปู หรอื ใช้การนบั )
ครูและนกั เรียนร่วมกนั หาผลบวกโดยใชก้ ารวาดรปู เช่น วาดวงกลม 5 รปู กับวงกลม 2 รปู ครถู าม
นักเรียนว่าหาจำ�นวนวงกลมท้งั หมดไดอ้ ยา่ งไร มจี �ำ นวนเทา่ ไร (โดยการนบั นับจำ�นวนวงกลมทงั้ หมด
ได้ 7 รปู ) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันหาคำ�ตอบได้ว่า มจี ำ�นวนเก้าอท้ี ัง้ หมด 7 ตวั จากนัน้ ครยู กตัวอยา่ ง
ตามหนังสือเรียนหน้า 77 โดยติดบัตรข้อความบนกระดานดังน้ี มีดินสอ 0 แท่ง เพอื่ นใหอ้ กี 1 แท่ง
รวมเป็นดนิ สอกแ่ี ท่ง ครูและนกั เรียนสนทนาร่วมกันวา่ เปน็ การรวมจำ�นวนสองจำ�นวนแสดงไดด้ ้วย
การบวก ครูถามนักเรยี นวา่ หาผลบวกไดอ้ ยา่ งไร (โดยใช้การวาดรูป) จากนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคน
ลองหาผลบวกโดยใชก้ ารวาดรปู ซึง่ อาจจะมีนกั เรยี นบางคนวาดรปู ได้และบางคนอาจวาดรูปไมไ่ ด้
ครตู ดิ บัตรภาพแก้วตาและต้นกลา้ บนกระดาน ตามหนงั สือเรยี นหน้า 77 ให้นกั เรียนพิจารณาร่วมกัน
ว่าแกว้ ตาไม่มีดินสอ ซง่ึ ตรงกบั ข้อความ มดี ินสอ 0 แท่ง ครอู ธบิ ายนักเรยี นวา่ มี 0 แทง่ แสดงวา่ ไม่มี
ส่งิ ของอยู่เลยจงึ ไมต่ อ้ งวาดรูป ครถู ามนกั เรียนว่าตน้ กลา้ มดี นิ สอกแ่ี ทง่ (1 แท่ง) ซึง่ ตรงกบั ข้อความ
เพือ่ นให้ 1 แท่ง จากบัตรภาพครูถามนักเรยี นวา่ รวมมดี ินสอทง้ั หมดก่ีแท่ง (1 แทง่ ) จะไดว้ า่ ดินสอ
0 แทง่ เพอ่ื นใหอ้ กี 1 แทง่ รวมเปน็ ดนิ สอ 1 แทง่ ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวก
ครอู าจสมุ่ นกั เรยี นออกมาเขยี นบนกระดานได้ 0 + 1 = 1 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ครยู กตัวอยา่ งเพ่มิ เติมโดยตดิ บตั รข้อความบนกระดานดงั นี้ กล่องดินสอสีแดงไม่มดี นิ สอ กับ กล่อง
ดินสอสเี หลืองมีดินสอ 4 แทง่ รวมเป็นดนิ สอกีแ่ ทง่ ครูและนักเรียนสนทนารว่ มกนั ครูถามนักเรยี นว่า
กลอ่ งดินสอสแี ดงไมม่ ีดนิ สอ ตอ้ งวาดรูปดนิ สอหรือไม่ (ไม่ตอ้ งวาด) ครูติดบตั รภาพกล่องดินสอสีแดง
ไมม่ ีดนิ สอ กลอ่ งดนิ สอสเี หลอื งมดี ินสอ 4 แทง่ ต้องวาดรูปดนิ สอก่รี ปู (4 รปู ) ครูตดิ บตั รภาพกล่อง
ดินสอสีเหลอื งมีดินสอ 4 แท่ง ครถู ามนักเรียนว่า รวมมดี ินสอทั้งหมดกแี่ ทง่ (4 แท่ง) ครูและนกั เรียน
ร่วมกนั หาค�ำ ตอบไดว้ า่ กล่องดินสอสแี ดงไมม่ ีดินสอ กบั กล่องดินสอสเี หลอื งมีดนิ สอ 4 แทง่ รวมเปน็
ดนิ สอ 4 แทง่ และร่วมกนั เขียนประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกได้ 0 + 4 = 4 จากน้ันครูใหน้ ักเรยี น
สงั เกตประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก ดังนี้ 0 + 1 = 1 และ 0 + 4 = 4 ว่า 0 บวกกับจำ�นวนใด
จะได้ผลบวกเท่ากบั จ�ำ นวนนน้ั

| 67สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ ือครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนทม่ี ผี ลบวกไม่เกิน 10
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

2. ครยู กตัวอย่างการหาผลบวกของศนู ย์

ตามหนังสือเรยี นหน้า 78 โดยตดิ บตั รข้อความบนกระดาน

ดงั น้ี ตู้หนงั สือชัน้ บนมหี นงั สอื นิทาน 6 เล่ม ชั้นลา่ งมีหนังสือ

นทิ าน 0 เล่ม รวมมหี นงั สอื นทิ านกเี่ ลม่ ครูถามนักเรียนว่า

ถา้ จะหาผลบวกโดยใช้การวาดรูป ตหู้ นงั สือชั้นบนมหี นงั สือ

นิทาน 6 เล่ม จะต้องวาดรูปแทนหนังสือนทิ านกี่รูป (6 รูป)

ตชู้ ั้นล่างมหี นงั สือนทิ าน 0 เล่ม จะตอ้ งวาดรปู แทนหนังสือ

นทิ านหรอื ไม่ (ไม)่ จากนน้ั ครูตดิ บตั รภาพตามหนังสอื เรยี น

ครแู ละนกั เรียนสนทนารว่ มกนั โดยใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั นี้

- ในบตั รภาพนักเรียนเห็นอะไรบ้าง (ตวู้ างหนังสือ 5

หนังสอื นักเรยี น)

- ตู้วางหนังสือมีกช่ี นั้ (2 ชั้น)

- แต่ละชน้ั มีหนังสือก่เี ลม่ (ชั้นบน 6 เล่ม ชนั้ ล่าง

ไมม่ ีหนังสือ)

ครูและนกั เรยี นอภิปรายร่วมกนั วา่ บัตรภาพตรงกบั บตั รข้อความ ครูถามนักเรียนว่า จากบัตรภาพรวม

มีหนังสือนิทานกี่เล่ม (6 เล่ม) จะได้ว่า ตหู้ นงั สือช้นั บนมีหนงั สอื นิทาน 6 เลม่ ชนั้ ล่างมหี นังสือนทิ าน

0 เลม่ รวมมีหนงั สอื นิทาน 6 เลม่ ครูให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก อาจสุม่

นักเรียนออกมาเขยี นบนกระดานได้ 6 + 0 = 6 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ครูยกตัวอยา่ งเพ่ิมเติมโดยติดบัตรข้อความบนกระดาน ดังนี้ จานแรกมขี นมเคก้ 5 ชิ้น จานทสี่ อง

ไมม่ ีขนมเค้ก รวมมีขนมเค้กกีช่ นิ้ พร้อมกับตดิ บัตรภาพจาน

2 ใบ ครูสุ่มนกั เรยี นออกมาวาดรปู ใหต้ รงกบั บัตรขอ้ ความ

จานแรกมีรปู 5 รปู จานที่สองไม่มีรูป ครูถามนกั เรียนว่ามีรูป

ทั้งหมดกรี่ ปู (5 รูป) ครูและนกั เรยี นรว่ มกันหาคำ�ตอบจะได้

ว่าจานแรกมีขนมเคก้ 5 ชิน้ จานทสี่ องไมม่ ีขนมเค้ก รวมมี 65

ขนมเค้กทง้ั หมด 5 ชิน้ ครูและนักเรียนรว่ มกันเขยี นประโยค 18

สัญลกั ษณ์แสดงการบวกได้ 5 + 0 = 5 ครูใหน้ กั เรยี นสังเกต 93

วา่ 6 + 0 = 6 และ 5 + 0 = 5 แลว้ รว่ มกนั สรุปวา่ จำ�นวน 27

ใดบวกกบั 0 จะได้ผลบวกเท่ากับจำ�นวนนน้ั 4 10

3. ครใู หน้ กั เรียนจับคแู่ ละช่วยกันหาผลบวกของศูนย์

ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 79 ครใู หต้ วั แทนนักเรยี นแตล่ ะคอู่ อก

มาเขียนคำ�ตอบบนกระดาน ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบ

ความถูกตอ้ ง จากนั้นครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ศนู ยก์ บั การบวก

วา่ จ�ำ นวนใดบวกกบั 0 หรอื 0 บวกกบั จ�ำ นวนใด ผลบวกจะ

เท่ากับจ�ำ นวนนนั้

68 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนท่มี ผี ลบวกไมเ่ กิน 10 คมู่ อื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1
การตรวจสอบความเข้าใจ

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล
โดยให้นักเรยี นหาผลบวกของศนู ย์แล้วจบั คผู่ ลบวกให้
ถกู ตอ้ งตามหนงั สอื เรียนหน้า 80 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ถา้ พบวา่ มีนักเรยี นบางคนหา
ผลบวกไมถ่ กู ต้อง ครใู หน้ ักเรยี นแกไ้ ขใหถ้ กู ต้อง จากน้ัน
ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปสง่ิ ท่ไี ด้เรียนรู้

สง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้

จำ�นวนใดบวกกบั 0 หรอื 0 บวกกับจำ�นวนใด
ผลบวกจะเท่ากบั จำ�นวนนัน้
จากน้นั ครูให้นักเรยี นทำ�แบบฝึกหัด 2.4 หน้า 52 - 53

| 69สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนทมี่ ีผลบวกไมเ่ กิน 10
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

2.5 การบวกจ�ำ นวนเดยี วกนั (1 ช่วั โมง)

จุดประสงค์

หาผลบวกของจำ�นวนเดยี วกันทีผ่ ลบวกไม่เกิน 10

สอื่ การเรยี นรู้

- บัตรภาพ
- บัตรขอ้ ความ
- กรอบสิบและตวั นับ

แนวการจัดการเรียนรู้
การพฒั นาความรู้

1. ครูนำ�เข้าสูบ่ ทเรียนโดยติดบัตรขอ้ ความบนกระดาน
ดังน้ี มเี ส้ืออยู่ 3 ตวั ซ้ือมาเพ่ิมอกี 2 ตวั รวมเป็นเสื้อทัง้ หมด
ก่ตี ัว ครแู ละนกั เรียนสนทนารว่ มกันว่า มเี ส้อื อยู่ 3 ตวั
ซอ้ื มาเพิม่ อกี 2 ตัว เป็นการรวมกันของจำ�นวนส่ิงต่าง ๆ สองจ�ำ นวนซง่ึ แสดงไดด้ ้วยการบวก
นน่ั คอื 3 เพิม่ อีก 2 รวมเปน็ เท่าไร เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวก 3 + 2 =
ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั หาผลบวก อาจหาผลบวกโดยใช้การวาดรูป ส่ิงของ 3 ส่ิง รวมกับ 2 สงิ่
โดยนกั เรียนอาจวาดเปน็ รูปอะไรก็ได้ เช่น วงกลม รปู สามเหลี่ยม รปู สี่เหล่ียม ที่มีจำ�นวน 3 รูป
กบั 2 รูป แล้วหาผลบวกโดยการนบั จำ�นวนรปู ท้งั หมดรวมกนั ได้ผลบวกเท่ากบั 5 ครแู ละนักเรียน
สรุปรว่ มกนั ว่า 3 + 2 = 5 จากนน้ั ครูตดิ บัตรภาพบนกระดานตามหนังสอื เรียนหน้า 81 ดงั นี้

จากบัตรภาพ ครถู ามนักเรยี นว่า นักเรยี นเหน็ อะไรในบตั รภาพบ้าง (รถจักรยาน 2 คัน แมงมมุ 1 ตัว
เชิงเทียน 2 อนั ถงุ มือ 2 ข้าง) สงิ่ ของแต่ละชนิดในบัตรภาพสงั เกตเหน็ อะไรบ้าง (รถจกั รยาน 2 คัน
แตล่ ะคนั มี 2 ลอ้ แมงมมุ 1 ตวั มขี าขา้ งละ 4 ขา เชงิ เทยี น 2 อนั แตล่ ะอนั มเี ทยี น 3 เลม่ ถงุ มอื 2 ขา้ ง
แต่ละข้างมี 5 น้ิว)

70 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนที่มผี ลบวกไมเ่ กิน 10 คูม่ ือครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

2. ครตู ิดบัตรภาพบนกระดานทลี ะภาพตามหนงั สือเรยี น

หนา้ 82 เชน่ จากบัตรภาพรถจักรยาน ครูถามนกั เรียนว่า

รถจกั รยาน 2 คัน แต่ละคันมี 2 ล้อ มลี อ้ ท้งั หมดกล่ี ้อ (มลี อ้

ทงั้ หมด 4 ลอ้ ) หาผลบวกของสองจ�ำ นวนใด (2 ล้อ กบั 2 ลอ้ )

เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกไดอ้ ยา่ งไร

( 2 + 2 = 4) ครูติดบตั รภาพเชงิ เทียน พรอ้ มกับถาม

นักเรยี นวา่ จากบตั รภาพถ้าตอ้ งการหาจ�ำ นวนเทยี นทง้ั หมด

นกั เรยี นหาผลบวกของสองจ�ำ นวนใด (3 เลม่ กบั 3 เล่ม)

เขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกไดอ้ ยา่ งไร

(3 + 3 = 6) ครตู ดิ บัตรภาพถงุ มอื พรอ้ มกบั ถามนักเรยี นวา่

จากบตั รภาพถ้าต้องหาจ�ำ นวนนว้ิ ทง้ั หมด นกั เรยี นหาผลบวก 448
8

ของสองจ�ำ นวนใด ( 5 นว้ิ กบั 5 นว้ิ ) ครใู ห้นักเรียนอาสา

สมคั รหรือสมุ่ นักเรยี นออกมาเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์แสดง

การบวก 5 + 5 = 10 ครตู ดิ บตั รภาพแมงมมุ พรอ้ มกบั ถาม

นกั เรียนว่า จากบตั รภาพถ้าต้องการหาจ�ำ นวนขาทัง้ หมดของแมงมมุ นกั เรยี นหาผลบวกของสองจ�ำ นวน

ใด ( 4 ขา กบั 4 ขา) ครใู ห้นกั เรียนอาสาสมคั รหรือสุม่ นกั เรียนออกมาเขยี นประโยคสัญลักษณแ์ สดง

การบวกไดด้ งั นี้ 4 + 4 = 8 ครูให้นกั เรียนสังเกต

ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกทไ่ี ดด้ งั น้ี 2 + 2 = 4

3 + 3 = 6 4 + 4 = 8 และ 5 + 5 = 10 แล้วให้นักเรียน

สงั เกตว่าเปน็ การบวกกนั ของจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทเ่ี ปน็

จ�ำ นวนเดยี วกนั และมผี ลบวกไม่เกิน 10 4
3. ครใู ห้นักเรยี นจบั คกู่ ันและชว่ ยกันหาผลบวกของ

จำ�นวนสองจำ�นวนที่เป็นจ�ำ นวนเดยี วกัน โดยใชก้ รอบสบิ 6
ดังนี้ ครูแจกกรอบสิบ 1 แผ่นและตวั นบั ให้นักเรยี นค่ลู ะ

10 อนั (สีดำ� 5 อัน สีขาว 5 อนั ) ครูอาจยกตัวอย่างการหา 8
ผลบวกของจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทเี่ ป็นจำ�นวนเดยี วกันโดยใช้

กรอบสิบ เชน่ นำ�ตวั นบั สดี ำ� 1 ตัว สขี าว 1 ตัว วางใน 10

กรอบสบิ แลว้ ใหห้ าผลบวกของตวั นบั ทง้ั หมดจะได้ 1 + 1 = 2

จากนนั้ ครูใหน้ ักเรียนแต่ละค่ชู ่วยกันหาผลบวกของจำ�นวน

สองจ�ำ นวนทเ่ี ป็นจ�ำ นวนเดียวกนั โดยใชก้ รอบสบิ ตาม

หนงั สือเรยี นหน้า 83 เชน่ ครูกำ�หนดตวั นบั ในกรอบสิบ

สดี �ำ 2 ตัว สีขาว 2 ตัว ดงั รูป

| 71สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทมี่ ผี ลบวกไม่เกนิ 10
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั หาจ�ำ นวนตวั นับท้งั หมดโดยเขียน 33
เป็นประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกจะได้ 2 + 2 = 4
ครูจดั กิจกรรมการเรียนการสอนทำ�นองเดียวกันใน 44 11 55
ขอ้ 2 – 4 ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง
ครูสรุปรว่ มกันวา่ 1 + 1 = 2 2 + 2 = 4 3 + 3 = 6
4 + 4 = 8 และ 5 + 5 = 10 เป็นการบวกจำ�นวน
สองจ�ำ นวนทเี่ ป็นจ�ำ นวนเดยี วกนั และมีผลบวกไมเ่ กนิ 10

การตรวจสอบความเข้าใจ

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล
โดยใหน้ กั เรียนเติมตวั เลขแสดงจ�ำ นวนทเ่ี ป็นจ�ำ นวน
เดยี วกนั และมผี ลบวกตามก�ำ หนด ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 84
ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง
ถา้ พบว่ามนี กั เรียนทเี่ ติมตวั เลขใหม้ ีผลบวกตามกำ�หนดได้
ไม่ถูกตอ้ ง ครใู ห้คำ�แนะนำ�และให้นกั เรยี นแกไ้ ขใหมใ่ ห้ถูกต้อง
จากนนั้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปสิ่งทีไ่ ด้เรียนรู้

สิง่ ทไี่ ด้เรียนรู้

จำ�นวนเดยี วกนั บวกกันและมีผลบวกไม่เกิน 10 ไดแ้ ก่ 1 + 1 = 2 2 + 2 = 4 3 + 3 = 6
4 + 4 = 8 5 + 5 = 10
จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 2.5 หน้า 54 – 55

72 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่มี ผี ลบวกไม่เกนิ 10 คมู่ อื ครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

2.6 การบวกท่ีผลบวกเป็น 10 (1 ช่วั โมง)

จดุ ประสงค์

หาจำ�นวนสองจำ�นวนท่บี วกกนั ได้ 10

สื่อการเรียนรู้

- ตวั นบั
- แบบบนั ทึกกิจกรรม
- กรอบสิบ
- ใบกจิ กรรม

แนวการจัดการเรยี นรู้ 28 64
37 0 10
การพฒั นาความรู้ 46 91
55 82
1. ครูนำ�เขา้ สูบ่ ทเรยี นโดยการถามนกั เรียนวา่ จำ�นวน
* คาํ ตอบอาจแตกตางจากนี้

ใดบ้างทีบ่ วกกันได้ 10 นักเรียนบางคนอาจจะตอบได้

บางคนอาจจะตอบไมไ่ ด้ ครูอาจทบทวนการบวกจำ�นวนเดียวกนั จะได้ว่า 1 + 1 = 2 2 + 2 = 4

3 + 3 = 6 4 + 4 = 8 และ 5 + 5 = 10 ครถู ามนักเรยี นว่า จ�ำ นวนสองจำ�นวนใดบวกกนั แล้วได้

ผลบวกเปน็ 10 นกั เรยี นควรตอบไดว้ า่ 5 + 5 = 10 ครถู ามนกั เรยี นวา่ นอกจาก 5 บวก 5 เทา่ กบั 10

แลว้ ยังมจี �ำ นวนสองจำ�นวนใดอีกบา้ งทีบ่ วกกันแลว้ ไดผ้ ลบวกเป็น 10 นักเรยี นบางคนอาจจะตอบได้

บางคนอาจจะตอบไม่ได้ ครูใหน้ ักเรียนทำ�กิจกรรม คสู่ ิบ ตามหนังสือเรยี นหน้า 85 ครใู หน้ กั เรียน

จับคกู่ ัน ครูแจกแบบบันทกึ กิจกรรมใหน้ ักเรียนคูล่ ะ 1 ใบและตัวนับคลู่ ะ 10 อัน ให้นกั เรยี นแตล่ ะคู่

ช่วยกนั หาว่า จำ�นวนสองจ�ำ นวนใดบา้ งที่บวกกันได้ 10 โดยคนแรกวางตัวนับจ�ำ นวนใดก็ไดล้ งบนโตะ๊

คนที่สองวางตวั นบั ทง้ั หมดท่ีเหลือบนโตะ๊ แลว้ บันทกึ

จ�ำ นวนตัวนบั ของแตล่ ะคนลงในแบบบนั ทึกกิจกรรม เช่น

คนแรกวางตวั นับ 1 อนั คนที่สองต้องวางตัวนับทัง้ หมด

ท่ีเหลือคอื 9 อัน แล้วบันทกึ จ�ำ นวนตวั นบั ของท้ังสองคนลง

ในแบบบันทกึ กิจกรรมว่า 1 + 9 = 10 ท�ำ เชน่ น้ไี ปจนครบ

ทุกจำ�นวน จะได้ว่า 1 + 9 = 10 2 + 8 = 10 2

3 + 7 = 10 4 + 6 = 10 5 + 5 = 10 และ

0 + 10 = 10 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบ 7

ความถูกตอ้ ง ในการอธิบายวา่ 0 + 10 = 10 ครูอาจให้

นกั เรยี นคนแรกหรอื คนทีส่ องวางตัวนบั ลงบนโตะ๊ ทัง้ หมด 4

10 อนั แลว้ ถามว่าอกี คนต้องวางตัวนบั หรือไม่ นักเรยี น

ควรตอบได้ว่า อีกคนไมต่ อ้ งวางตวั นบั เพราะไมเ่ หลอื ตวั นบั 55

ใหว้ าง ดังนัน้ จึงได้วา่ 0 + 10 = 10 หรือ 10 + 0 = 10

| 73สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวนท่ีมีผลบวกไมเ่ กนิ 10
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

2. ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันหาจำ�นวนสองจ�ำ นวนทีบ่ วกกัน

แลว้ ไดผ้ ลบวกเปน็ 10 โดยใช้กรอบสิบ ตามหนงั สือเรยี นหน้า

86 และ 87 ครูอาจยกตัวอย่างกอ่ นใหน้ กั เรยี นท�ำ กิจกรรม เช่น

ก�ำ หนดกรอบสิบท่ีวางตวั นบั สีด�ำ 9 อนั สขี าว 1 อนั ในกรอบสบิ

แสดงวา่ จำ�นวนตัวนบั ทั้งหมดมี 10 อัน ทอ่ี ยูใ่ นกรอบสิบซ่งึ 8
ประกอบดว้ ยตวั นบั สดี �ำ 9 อนั สขี าว 1 อัน ดังนัน้ 10 = 9 + 1

หรือ 10 = 1 + 9 จากนนั้ ครูกำ�หนดกรอบสบิ ทีม่ ีตวั นับสดี ำ� 7
8 อัน ตัวนับสขี าว 2 อนั แล้วให้นกั เรยี นแต่ละค่ชู ว่ ยกนั หาวา่

จ�ำ นวนสองจำ�นวนใดท่ีบวกกนั แลว้ ได้ผลบวกเปน็ 10 6

โดยพิจารณาจากจ�ำ นวนตัวนับสดี �ำ และจ�ำ นวนตวั นับสีขาวทอี่ ยู่

ในกรอบสบิ จะไดว้ า่ 10 = 8 + 2 หรอื 10 = 2 + 8 10 0

แล้วใหน้ ักเรยี นเตมิ ตวั เลขแสดงจ�ำ นวนลงในชอ่ งสเี่ หล่ียม

ตามหนังสือเรยี นหน้า 86 ข้อ 1 จากนน้ั ครจู ดั กจิ กรรม

ท�ำ นองเดยี วกนั ในการหาจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทบ่ี วกกนั แลว้ ได้ 10

ในขอ้ 2 – 4 ครสู มุ่ ตวั แทนนกั เรยี นออกมาแสดงการหาจำ�นวนสองจำ�นวนท่บี วกกนั แล้วไดผ้ ลบวก

เปน็ 10 โดยใช้กรอบสิบ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ รว่ มกนั วา่ จ�ำ นวน

สองจำ�นวนทบ่ี วกกันได้ 10 ไดแ้ ก่ 1 กับ 9 9 กับ 1 2 กับ 8 8 กบั 2 3 กบั 7 7 กบั 3 4 กบั 6

6 กบั 4 10 กบั 0 0 กบั 10 5 กบั 5 ครใู ชห้ นงั สอื เรยี นหนา้ 87 โดยให้นกั เรียนทำ�กจิ กรรม

เช่นเดยี วกับการสอนนักเรียนตามหนังสอื เรียนหนา้ 86 ครอู าจใหน้ กั เรียนจับคแู่ ล้วช่วยกันเติมตัวเลข

แสดงจำ�นวน ตามตัวนับในกรอบสิบ ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง

การตรวจสอบความเขา้ ใจ

3. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล
ตามหนังสอื เรยี นหน้า 88 ครูสามารถดาวนโ์ หลดใบกจิ กรรม
จาก QR Code ในหน้าเปดิ บทแล้วแจกใบกิจกรรมใหน้ กั เรยี น
หาว่าหมายเลขใดบ้างทม่ี ผี ลบวกเป็น 10 อาจใหน้ กั เรยี น
ระบายสีหมายเลขท่ีมผี ลบวกเปน็ 10 แลว้ ถามว่าได้รปู เป็นรูป
อะไร ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ถา้ พบว่ามี
นักเรียนคนใดหาจำ�นวนท่มี ผี ลบวกเปน็ 10 ไม่ถกู ตอ้ ง ครใู ห้
นกั เรยี นแก้ไขโดยให้หาผลบวกของจำ�นวนในข้อนน้ั ใหม่อีกครั้ง
ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สงิ่ ที่ไดเ้ รียนรู้

สิง่ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้

จ�ำ นวนสองจำ�นวนท่ีบวกกันได้ 10 ไดแ้ ก่ 1 กบั 9
9 กับ 1 2 กับ 8 8 กบั 2 3 กบั 7 7 กับ 3 4 กบั 6
6 กับ 4 10 กับ 0 0 กับ 10 5 กับ 5

จากนัน้ ให้นักเรยี นท�ำ แบบฝึกหดั 2.6 หนา้ 57 - 59

74 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่มี ีผลบวกไม่เกนิ 10 ค่มู ือครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

2.7 ความสมั พนั ธ์ของจ�ำ นวนแบบส่วนยอ่ ย-สว่ นรวมกบั การบวก (1 ช่วั โมง)

จุดประสงค์

ก�ำ หนดความสมั พันธแ์ บบสว่ นย่อย-สว่ นรวมของ
จำ�นวนสามารถเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก

ส่อื การเรยี นรู้

- ตวั นับ
- แบบบันทกึ กิจกรรม
- ใบกจิ กรรมความสมั พันธแ์ บบส่วนย่อย-ส่วนรวม
- บัตรภาพ

แนวการจัดการเรียนรู้ 05 15
23 33
การพฒั นาความรู้ 32 60
41 42
1. ครูน�ำ เข้าสบู่ ทเรยี นโดยทบทวนเกี่ยวกบั * คําตอบอาจแตกตา งจากนี้
ความสัมพนั ธแ์ บบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรวมของจำ�นวน ดังน้ี
ครตู ดิ ใบกิจกรรมความสมั พันธ์แบบส่วนยอ่ ย-สว่ นรวม
ของจ�ำ นวน 3 บนกระดาน ดงั รูป

ครแู จกตวั นบั ใหน้ กั เรยี นคนละ 3 อัน ครูถามนกั เรียนวา่ สามารถแยกตวั นับ 3 อนั ออกเป็น 2 กอง
ไดอ้ ยา่ งไรบ้าง แล้วให้นักเรยี นเขยี นตัวเลขแสดงจ�ำ นวนลงในแบบบันทึกกจิ กรรม ครอู าจใหน้ ักเรียน
ลองวางตัวนบั ดว้ ยตวั เองกอ่ น เม่ือนกั เรยี นทำ�เสร็จครูและนักเรยี นสนทนารว่ มกนั ว่าสามารถแสดง
ตวั นับจำ�นวน 3 ไดห้ ลายแบบ เช่น 1 กับ 2 2 กบั 1 3 กับ 0 0 กบั 3 ครใู หน้ ักเรียนบนั ทึกจำ�นวน
ตวั นบั ลงในแบบบันทกึ กิจกรรมได้ ดังน้ี

2 3
3 3

10

ครูและนกั เรยี นสนทนาร่วมกันว่าเป็นความสมั พันธแ์ บบส่วนย่อย-สว่ นรวมของ 3 ซง่ึ 3 เปน็ สว่ นรวม
1 กับ 2 เปน็ สว่ นย่อยของ 3 และ 0 กบั 3 เป็นสว่ นย่อยของ 3 จากนั้นครูใหน้ กั เรียนสังเกตสว่ นย่อย
จะไดว้ า่ เมอ่ื น�ำ ส่วนย่อยสองจ�ำ นวนมาบวกกัน ผลบวกจะเปน็ จำ�นวนที่เป็นสว่ นรวม เช่น 1 + 2 = 3
หรอื 2 + 1 = 3 3 + 0 = 3 หรอื 0 + 3 = 3 จากนน้ั ครูใหน้ กั เรยี นท�ำ กจิ กรรม คบู่ วก
ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 89 โดยใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั และสมุ่ หยบิ แบบบนั ทกึ กจิ กรรม นกั เรยี นแตล่ ะคู่

| 75สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ อื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่มี ีผลบวกไมเ่ กิน 10
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1

อาจไดแ้ บบบนั ทกึ กจิ กรรมทม่ี ผี ลบวกตา่ งกนั เชน่ นกั เรยี นบางคอู่ าจไดแ้ บบบนั ทกึ กจิ กรรมทม่ี ผี ลบวก

เปน็ 6 หรอื บางคอู่ าจไดแ้ บบบนั ทกึ กจิ กรรมทม่ี ผี ลบวกเปน็ 8 จากนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคหู่ ยบิ ตวั นบั

ใหเ้ ท่ากับจ�ำ นวนที่เปน็ ผลบวกในแบบบนั ทกึ กจิ กรรมแลว้ ให้นักเรียนช่วยกันหาว่า มจี �ำ นวนสอง

จ�ำ นวนใดบา้ งทบ่ี วกกนั แลว้ ไดผ้ ลบวกเทา่ กบั ผลบวกในแบบบนั ทกึ กจิ กรรมโดยใชต้ วั นบั ทแ่ี ตล่ ะคหู่ ยบิ ไป

เชน่ คู่แรกสมุ่ หยิบไดแ้ บบบนั ทึกกิจกรรมที่มีผลบวกเปน็ 6 ต้องหยบิ ตัวนับ 6 ตวั แลว้ นำ�ไปหาจ�ำ นวน

สองจ�ำ นวนทบ่ี วกกนั แลว้ มผี ลบวกเทา่ กบั 6 และบนั ทกึ จ�ำ นวนสองจ�ำ นวนนน้ั ลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม

จนครบทุกจ�ำ นวน ครสู มุ่ นักเรียนออกมาน�ำ เสนอแบบบนั ทึกกิจกรรมของคู่ตนเองพรอ้ มกับวธิ ีหา

จำ�นวนสองจ�ำ นวนทไ่ี ดใ้ นแบบบนั ทึกกิจกรรม ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง

2. ครยู กตวั อยา่ งความสมั พนั ธแ์ บบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรวม

ของจำ�นวนกบั การบวก โดยก�ำ หนดความสัมพนั ธแ์ บบ

สว่ นย่อย-สว่ นรวมมาให้ แล้วใหน้ กั เรยี นเขียน

ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก ดังนี้ ครูตดิ บัตรภาพ

ตัวอยา่ ง ตามหนังสอื เรียนหนา้ 90 ดงั รูป 0 43
5 43

2 10

5 23 14 05

ครถู ามนกั เรยี นวา่ 5 และ 0 กับ 5 มคี วามสัมพันธก์ นั 52 3
อย่างไร (ความสัมพันธ์แบบส่วนยอ่ ย-สว่ นรวม) 52 3
จากความสมั พนั ธ์แบบส่วนยอ่ ย-สว่ นรวมขา้ งต้น จำ�นวนใด
เปน็ สว่ นรวม (5) สว่ นยอ่ ยของ 5 คอื จ�ำ นวนใด (5 กบั 0) 41 6
สามารถเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกได้อย่างไร 41 6
(นำ�จำ�นวนทเี่ ปน็ ส่วนยอ่ ยมาบวกกัน ผลบวกจะเปน็ จ�ำ นวน
ทเี่ ปน็ สว่ นรวม) ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมาเขยี นประโยค 4
สญั ลักษณ์แสดงการบวกได้ 5 = 0 + 5 หรอื 5 = 5 + 0 4
จากนัน้ ครูให้นักเรียนแต่ละค่ชู ว่ ยกนั เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์
แสดงการบวกจากความสมั พนั ธแ์ บบส่วนย่อย-สว่ นรวมท่ี 792
ก�ำ หนดให้ ครูสามารถดาวนโ์ หลดสือ่ เพ่ิมเตมิ ทีใ่ ชใ้ นการทำ�
กจิ กรรมโดยสแกน QR Code ในหนา้ เปดิ บท เมอื่ นักเรยี น 79 2
ท�ำ เสรจ็ ครอู าสาสมคั รนักเรียนออกมาเขยี นประโยคสญั ลักษณ์
แสดงการบวก ครูและนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 18
และสรุปรว่ มกนั ว่า จำ�นวนที่เปน็ สว่ นยอ่ ย จำ�นวนทเ่ี ป็น 18
ส่วนรวมในความสมั พนั ธแ์ บบส่วนย่อย-ส่วนรวม สามารถ 305
น�ำ มาเขียนประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกได้ โดยน�ำ
จำ�นวนทีเ่ ปน็ สว่ นย่อยบวกกนั ผลบวกจะเป็นจำ�นวนที่เปน็ 36 09 54
สว่ นรวม

76 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนทมี่ ผี ลบวกไม่เกนิ 10 ค่มู ือครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1
3. ครูติดบัตรภาพตัวอย่างตามหนงั สือเรียนหนา้ 91 ดงั รปู

6
9

ครแู ละนักเรียนสนทนารว่ มกันจากภาพแสดงความสัมพันธแ์ บบส่วนยอ่ ย-ส่วนรวม จำ�นวนใดคือ
ส่วนรวม (9) ส่วนยอ่ ยของ 9 คือ 6 กับจ�ำ นวนใด (3) ครใู ห้นักเรียนออกมาเขียน 3 บนกระดาน ดังรปู

6

9

3

ครูและนักเรยี นอภิปรายรว่ มกันว่า จากความสัมพนั ธแ์ บบสว่ นยอ่ ย-ส่วนรวมของ 9 ที่มี 3 กบั 6
เป็นส่วนยอ่ ยสามารถเขยี นเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกได้ 9 = 3 + 6 หรือ 9 = 6 + 3
จากน้ันครูใหน้ ักเรียนแต่ละคชู่ ว่ ยกนั เติมตัวเลขแสดงจ�ำ นวนในความสมั พันธ์แบบสว่ นยอ่ ย-ส่วนรวม
ของจ�ำ นวนแลว้ น�ำ มาเขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกตามหนงั สอื เรียนหนา้ 91
ครสู ามารถดาวนโ์ หลดสอ่ื เพม่ิ เตมิ ทใ่ี ชใ้ นการท�ำ กจิ กรรมโดยสแกน QR Code ในหนา้ เปดิ บท
เมือ่ นกั เรยี นท�ำ เสร็จ ครอู าสาสมัครนักเรียนออกมาเขียนคำ�ตอบ ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งและสรุปรว่ มกนั วา่ หาจำ�นวนทเ่ี ป็นส่วนย่อยอีกจ�ำ นวนหนึ่ง และจากจ�ำ นวนทเ่ี ป็น
ส่วนรวมและจำ�นวนทีเ่ ปน็ สว่ นย่อยในความสมั พนั ธ์แบบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรวม สามารถน�ำ มาเขยี น
เป็นประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกได้ โดยน�ำ จำ�นวนทเ่ี ปน็ สว่ นยอ่ ยบวกกนั ผลบวกจะเปน็ จ�ำ นวน
ท่เี ปน็ ส่วนรวม

การตรวจสอบความเข้าใจ

4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล ตามหนังสือเรยี นหนา้ 92 โดยครสู ามารถ
ดาวนโ์ หลดใบกจิ กรรมจาก QR Code ในหน้าเปิดบท แลว้ แจกใบกจิ กรรมใหน้ กั เรียนเตมิ ตวั เลข
แสดงจ�ำ นวนในความสมั พนั ธแ์ บบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรวมทก่ี �ำ หนดใหแ้ ลว้ น�ำ ไปเขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์
แสดงการบวก ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง ถา้ พบว่ามนี ักเรยี นคนใดเติมตวั เลข
แสดงจ�ำ นวนในความสัมพันธ์แบบส่วนยอ่ ย-ส่วนรวมไม่ถูกตอ้ ง ครูอาจใหน้ ักเรียนใช้ตัวนับเท่ากบั
จำ�นวนทเี่ ป็นสว่ นรวมแลว้ แยกตวั นับออกเป็น 2 กอง กองแรกใหม้ จี ำ�นวนเทา่ กับส่วนย่อยที่ก�ำ หนด
ให้ กองท่เี หลอื จะเทา่ กบั จำ�นวนทเ่ี ปน็ ส่วนย่อยทน่ี ำ�ไปเตมิ ในชอ่ งวา่ ง หรือถ้าพบวา่ นักเรยี นเขียน
ประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกไมถ่ กู ตอ้ ง ครอู าจแนะนำ�นกั เรยี นเกี่ยวกับข้อสรุปวา่ จำ�นวนทเ่ี ป็น
สว่ นยอ่ ยบวกกัน ผลบวกจะเปน็ จ�ำ นวนทีเ่ ป็นสว่ นรวมแล้วให้นักเรียนเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์
แสดงการบวกใหมใ่ หถ้ กู ตอ้ ง ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งทีไ่ ด้เรียนรู้

| 77สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 2 |การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนทมี่ ผี ลบวกไม่เกิน 10
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

ส่งิ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ 21 0
21 0
จ�ำ นวนท่เี ป็นสว่ นยอ่ ยและจ�ำ นวนท่ีเป็นส่วนรวมใน
ความสัมพันธ์แบบส่วนย่อย-ส่วนรวม สามารถเขียน 3 2
ประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกได้ โดยนำ�จำ�นวนทเี่ ปน็ 3 2
สว่ นย่อยมาบวกกัน ผลบวกจะเป็นจ�ำ นวนทเ่ี ป็นส่วนรวม 1 0
เชน่ 4 เปน็ จำ�นวนที่เปน็ สว่ นรวม 1 กบั 3 เปน็ จ�ำ นวนท่ี
เป็นสว่ นยอ่ ยของ 4 สามารถเขยี น 4 = 1 + 3 หรือ 12 03
4=3+1
จากน้นั ใหน้ กั เรียนท�ำ แบบฝึกหดั 2.7 หน้า 59 – 60

78 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนที่มผี ลบวกไมเ่ กนิ 10 คู่มอื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1
2.8 การบวกกับการสลบั ที่ (1 ชั่วโมง)

จุดประสงค์

หาผลบวกของจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนโดยใชก้ ารสลับที่

สอื่ การเรียนรู้

- บตั รภาพ
- บัตรประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกทมี่ ผี ลบวก
ไม่เกิน 10

แนวการจดั การเรยี นรู้
การพฒั นาความรู้

1. ครนู จ�ำ เะขวา้ าสดบู่ แทบเรบยี ไนหโนดกย็ไตดดิ น� บะตั รภาพบนกระดาน ดงั น้ี

หรือ

ครแู ละนกั เรยี นสนทนาร่วมกนั โดยใชก้ ารถาม-ตอบ ดังน้ี
- นกั เรยี นเหน็ อะไรในบตั รภาพบา้ ง (มะมว่ งดบิ และมะมว่ งสกุ )
- มมี ะม่วงดบิ กีผ่ ล (5 ผล) มีมะม่วงสกุ กผี่ ล (2 ผล)
- มมี ะม่วงทั้งหมดก่ีผล (7 ผล)
- เขียนประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกได้อย่างไรบ้าง (5 + 2 = 7 หรือ 2 + 5 = 7)
ครใู หน้ กั เรียนสังเกตประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและสนทนารว่ มกนั วา่ จำ�นวนมะม่วงทั้งหมด
คือ 7 เท่ากัน แตส่ ามารถเขยี นประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกได้เป็น 5 + 2 = 7 หรอื 2 + 5 = 7
ครูให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ และทำ�กจิ กรรม คณิตคดิ สงั เกต ตามหนงั สอื เรียนหน้า 93 โดยครูจัดบัตร
ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกทม่ี ผี ลบวกไม่เกนิ 10 และมกี ารสลบั ที่กันเป็นคู่ จ�ำ นวน 3 คู่
รวม 6 บตั ร เปน็ 1 ชดุ ครูแจกบตั รประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกกลมุ่ ละ 1 ชุด ครยู กตัวอย่าง
การจัดกจิ กรรมดังน้ี ครูตดิ บตั รประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกบนกระดาน เชน่ 0 + 4 = 4
1 + 2 = 3 4 + 0 = 4 2 + 1 = 3 ครูถามนกั เรยี นว่าบัตรประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกใดทมี่ ี
จำ�นวนสองจำ�นวนสลบั ท่กี นั และผลบวกเทา่ กนั (0 + 4 = 4 ค่กู บั 4 + 0 = 4 1 + 2 = 3 คกู่ ับ
2 + 1 = 3) จากนน้ั ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั จบั ค่บู ตั รประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและ
มกี ารสลับทข่ี องจ�ำ นวนสองจำ�นวนและมผี ลบวกเท่ากนั เมอื่ นักเรียนท�ำ เสร็จแลว้ ครูให้ตวั แทน
แต่ละกลมุ่ น�ำ บัตรประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกมาติดบนกระดานและนำ�เสนอผลงานของกล่มุ
ตนเอง ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง

| 79สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่มี ีผลบวกไม่เกิน 10
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

2. ครูยกตวั อย่างบัตรประโยคสัญลกั ษณแ์ สดง

การบวกทม่ี กี ารสลบั ทก่ี นั และมผี ลบวกเทา่ กนั เชน่

1 + 2 = 3 กบั 2 + 1 = 3 จากน้ันครูให้นักเรยี น

แตล่ ะคนยกตวั อย่างบัตรประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวก

ท่มี กี ารสลบั ท่แี ละมีผลบวกเทา่ กนั ตามหนงั สือเรยี น

หนา้ 94 เช่น 1 + 7 = 8 และ 7 + 1 = 8 ครูและนักเรยี น

สนทนารว่ มกนั ว่า ผลบวกของ 1 กับ 7 และ 7 กบั 1

เทา่ กนั ครูและนกั เรียนสรุปร่วมกนั วา่ 1 + 7 = 7 + 1 = 8

หรือ 3 + 5 = 8 และ 5 + 3 = 8 ผลบวกของ 3 กบั 5

และ 5 กบั 3 เท่ากนั ครแู ละนักเรยี นสรปุ ร่วมกันว่า

3 + 5 = 5 + 3 = 8 ครูให้นักเรียนพิจารณา 6 + 2 = 8

และ 2 + 6 = 8 แลว้ ใหช้ ่วยกนั บอกว่า ผลบวกของ

6 กบั 2 และ 2 กับ 6 เทา่ กนั นักเรียนสรปุ ร่วมกันว่า

6 + 2 = 2 + 6 = 8 จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ ง

บตั รประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกทสี่ ลับทกี่ นั และ

มีผลบวกเทา่ กันบนกระดานจนครบทุกกลุ่ม จากน้นั ครูและ

นักเรียนสรปุ รว่ มกนั ว่า จำ�นวนสองจ�ำ นวนบวกกัน

เม่อื สลบั ทก่ี นั ผลบวกยงั คงเท่าเดมิ 99
3. ครยู กตวั อยา่ งจำ�นวนสองจำ�นวนท่สี ลับที่กนั และ 9
มผี ลบวกเทา่ กนั เชน่ 3 + 2 = 5 และ 2 + 3 = 5
ดงั นน้ั 3 + 2 = 2 + 3 = 5 จากตัวอย่างข้างต้นครใู ห้ 10 3
3

นักเรยี นสงั เกตว่า จำ�นวนสองจ�ำ นวนท่ีนำ�มาบวกกนั คอื 1 7
3 กับ 2 และผลบวกของ 3 กบั 2 คอื 5 จากนน้ั ครูให้ 1 7

นักเรียนชว่ ยกันเติมตวั เลขแสดงจำ�นวนในการหาผลบวก 22
ของจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนโดยใช้การสลบั ที่ ตามหนังสอื เรยี น 22

หนา้ 95 เชน่ ขอ้ 1 จาก 4 + 5 = และ 5 + 4 =

ดังน้นั 4 + 5 = 5 + 4 = ครูถามนักเรียนว่า

จ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทนี่ �ำ มาบวกกนั คือจำ�นวนใด (4 กับ 5)

ผลบวกของ 4 กับ 5 คอื จำ�นวนใด (9) ต้องเตมิ จำ�นวนใดในช่องวา่ ง (9) ข้อ 2 จาก 7 + 3 =

และ + 7 = 10 ดังนน้ั 7 + 3 = 3 + 7 = ครถู ามนักเรยี นว่าจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทนี่ ำ�

มาบวกกันคือจำ�นวนใด (7 กับ 3) ผลบวกของ 7 กบั 3 คอื จำ�นวนใด (10) ตอ้ งเติมจ�ำ นวนใดใน

ชอ่ งว่างช่องแรก (10) และช่องทส่ี องและสามจ�ำ นวนใด (3) ครูใช้การถาม-ตอบ ทำ�นองเดยี วกนั

ในการทำ�กิจกรรมขอ้ 3 และข้อ 4 ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและรว่ มกันสรปุ ว่า

นกั เรียนสามารถเติมตัวเลขแสดงจ�ำ นวนในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกได้ เนือ่ งจากจ�ำ นวนสอง

จำ�นวนเมื่อนำ�มาบวกกนั สามารถสลับทกี่ ันและมีผลบวกเท่ากัน

80 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนที่มผี ลบวกไม่เกนิ 10 คูม่ อื ครู รายวิชาพื้นฐาน คณติ ศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1
การตรวจสอบความเข้าใจ
1
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล 1
โดยใหน้ ักเรียนเตมิ ตวั เลขแสดงจ�ำ นวนตามหนังสอื เรียน 4
หนา้ 96 ครอู าจใชค้ ำ�ถามชนี้ �ำ แนวทาง เชน่ จำ�นวนสอง 25
จ�ำ นวนทนี่ ำ�มาบวกกนั คือจำ�นวนใด และผลบวกของ
สองจ�ำ นวนนน้ั คอื เทา่ ไรครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบ 8
ความถูกตอ้ ง ถา้ พบว่ามนี ักเรยี นท่ีเตมิ ตวั เลขแสดงจำ�นวน 39
ไมถ่ ูกต้อง ครใู ห้ค�ำ แนะนำ�โดยใช้คำ�ถามขา้ งต้นอกี ครั้งแล้ว
ใหน้ ักเรียนแก้ไขใหถ้ ูกต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั 2 10
สรุปสิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรู้ 66

สง่ิ ท่ีไดเ้ รียนรู้

จ�ำ นวนสองจ�ำ นวนบวกกนั เมอ่ื สลบั ทก่ี นั ผลบวก
ยงั คงเทา่ เดมิ
จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทำ�แบบฝกึ หัด 2.8 หน้า 61 - 62

| 81สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ อื ครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนทมี่ ีผลบวกไมเ่ กนิ 10
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

2.9 สถานการณ์การบวก (1 ช่ัวโมง)

จุดประสงค์

บอกได้ว่าสถานการณ์ทีก่ �ำ หนดให้เปน็ สถานการณก์ ารบวก

ส่ือการเรียนรู้

-บัตรภาพ

แนวการจัดการเรยี นรู้
การพัฒนาความรู้

1. ครนู ำ�เขา้ สู่บทเรียนโดยการทบทวนความหมายของ
การบวกโดยใชส้ ถานการณท์ ีอ่ ยใู่ นชวี ติ ประจำ�วนั เช่น
สถานการณ์ทีเ่ ก่ยี วกับการรวมจำ�นวนของสิ่งของตา่ ง ๆ
โดยครูตดิ บัตรภาพสง่ิ ของสองส่ิงบนกระดานแลว้ ใหน้ กั เรียน
บอกจ�ำ นวนสิ่งของทัง้ หมด ดังน้ี ครตู ดิ บัตรภาพไขแ่ ละใชก้ ารถาม-ตอบ ดังรปู

- จากบัตรภาพนักเรยี นเหน็ อะไรบา้ ง (ไข่ไก่ ไข่เป็ด)
- ไข่ไก่จ�ำ นวนกฟ่ี อง ไขเ่ ป็ดจ�ำ นวนก่ีฟอง (ไขไ่ ก่ 5 ฟอง ไข่เปด็ 4 ฟอง)
- มไี ขท่ ง้ั หมดกฟ่ี อง หาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร (9 ฟอง หาไดจ้ ากน�ำ จ�ำ นวนไขไ่ ก่ 5 ฟองรวมกบั
ไขเ่ ปด็ 4 ฟอง)
ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายร่วมกันว่าจากภาพไขไ่ ก่ 5 ฟอง รวมกบั ไขเ่ ป็ด 4 ฟอง เป็นไข่ทงั้ หมด 9 ฟอง
เปน็ สถานการณท์ เ่ี กย่ี วกบั ความหมายของการบวก จากนน้ั ครตู ดิ บตั รภาพตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 97
เปน็ ภาพตน้ กลา้ และใบบัวก�ำ ลังช่วยกนั เกบ็ ขวดนม ครูใหน้ ักเรียนเล่าเร่อื งจากภาพ ซ่งึ อาจจะมี
นกั เรียนบางคนเล่าเร่อื งได้ กรณีท่นี ักเรยี นบางคนเลา่ เร่อื งไม่ได้ ครูอาจถามโดยใช้คำ�ถามกระตุน้ ว่า
จากภาพนักเรยี นเห็นอะไรบา้ ง (ต้นกลา้ เกบ็ ขวดนมได้ 5 ขวด ใบบัวเก็บขวดนมได้ 4 ขวด ตน้ กลา้
และใบบวั ชว่ ยกันเกบ็ ขวดนมใสล่ ัง) ครูถามนกั เรียนว่าตน้ กลา้ และใบบัวเกบ็ ขวดนมรวมกนั ได้ทั้งหมด
ก่ีขวด หาคำ�ตอบได้อย่างไร (9 ขวด หาค�ำ ตอบไดจ้ าก 5 + 4 = 9) ครแู ละนักเรียนร่วมกนั เลา่ เรอื่ ง
จากภาพได้ว่า ต้นกล้าเกบ็ ขวดนมได้ 5 ขวด ใบบัวเก็บขวดนมได้ 4 ขวด เกบ็ ขวดนมรวมกันได้ทั้งหมด
9 ขวด ครูแนะน�ำ นักเรยี นวา่ สถานการณใ์ นลักษณะทเ่ี ปน็ การรวมจำ�นวนสองจ�ำ นวนของส่งิ ของ
สองสิ่งเปน็ สถานการณ์การบวก

82 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่มี ผี ลบวกไมเ่ กนิ 10 คู่มือครู รายวิชาพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1
2. ครูทบทวนความหมายของการบวกโดยใช้
สถานการณท์ ี่อยูใ่ นชวี ิตประจ�ำ วนั เช่น สถานการณท์ ่ี
เก่ยี วกับการนำ�ส่งิ ของมาเพิ่มอกี โดยครตู ดิ บตั รภาพถังขยะ
แล้วนำ�ส่ิงของมาทง้ิ เพิ่มอีกบนกระดานแลว้ ให้นกั เรียน
บอกจำ�นวนส่ิงของท้งั หมด และใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั รปู

- จากบตั รภาพนักเรยี นเหน็ อะไรบา้ ง (กระป๋องใน

ถงั ขยะ และกำ�ลังน�ำ มาทิง้ เพม่ิ อีก)

- ในถงั ขยะมกี ระป๋องกีก่ ระป๋อง ( 3 กระปอ๋ ง) 61
- กำ�ลงั น�ำ มาทงิ้ เพ่มิ อีกกี่กระป๋อง ( 4 กระปอ๋ ง) 7

- มกี ระปอ๋ งทงั้ หมดเทา่ ไร หาค�ำ ตอบไดอ้ ย่างไร

(7 กระปอ๋ ง หาได้จากน�ำ 3 บวกกบั 4 )

ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายรว่ มกนั วา่ จากภาพในถงั ขยะมกี ระปอ๋ ง 3 กระปอ๋ ง น�ำ มาทง้ิ เพม่ิ อกี 4 กระปอ๋ ง

รวมเปน็ ทงั้ หมด 7 กระป๋อง เป็นสถานการณ์ท่ีเก่ียวกบั ความหมายของการบวก จากนน้ั ครตู ิดบัตรภาพ

บนกระดานตามหนงั สอื เรยี นหน้า 98 เปน็ ภาพใบบัวกับช้ันวางหนังสอื ครใู ห้นกั เรียนเล่าเรอื่ งที่เป็น

สถานการณก์ ารบวกจากภาพ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกับการเลา่ สถานการณ์การบวก

ครถู ามนกั เรียนว่าจากภาพนักเรยี นเหน็ อะไรบ้าง (ชั้นวางหนังสือมหี นงั สือ 8 เล่ม ใบบัวกำ�ลังจดั

หนังสอื ใส่ชั้นเพ่มิ อกี 2 เล่ม) ครูถามนกั เรยี นว่ามหี นังสอื ทง้ั หมดกเี่ ล่ม (10 เล่ม) ครใู หน้ กั เรยี นออกมา

เลา่ สถานการณก์ ารบวก ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง โดยจากภาพจะได้

สถานการณก์ ารบวก เชน่ มีหนังสืออยู่บนช้นั วางหนงั สือ 8 เลม่ ใบบัวจัดหนังสอื ใส่เพม่ิ อกี 2 เล่ม

มหี นังสือทงั้ หมด 10 เล่ม ครูติดบัตรภาพแก้วตาก�ำ ลังจดั เก้าอต้ี ามหนงั สือเรยี นหนา้ 98 ครูถาม

นักเรยี นวา่ จากภาพนักเรียนเหน็ อะไรบ้าง (มีเกา้ อ้ี 6 ตวั แกว้ ตายกเก้าอี้มาเพมิ่ อีก 1 ตัว) ครูอาสา

สมัครนกั เรยี นออกมาเล่าสถานการณก์ ารบวกจากภาพ ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง

ครถู ามนกั เรยี นวา่ มเี กา้ อท้ี ง้ั หมดกต่ี วั (7 ตวั ) และจากภาพจะไดส้ ถานการณก์ ารบวก เชน่ มเี กา้ อ้ี 6 ตวั

แกว้ ตานำ�มาเพมิ่ อกี 1 ตัว มเี กา้ อท้ี ั้งหมด 7 ตัว ครแู ละนกั เรยี นสนทนารว่ มกนั เกีย่ วกับการเล่า

สถานการณ์การบวกและสรุปร่วมกนั วา่ สถานการณ์ในลกั ษณะทีม่ ีจำ�นวนของส่งิ ของอยู่แล้วและ

น�ำ จำ�นวนของส่ิงของมาเพ่มิ อกี เป็นการรวมจ�ำ นวนของสิง่ ของนน้ั เปน็ สถานการณ์การบวก

3. ครูให้นักเรียนฝึกการเล่าเรื่องจากภาพให้เป็นสถานการณ์การบวก ตามหนังสือเรียน

หน้า 99 ทีละข้อแล้วให้นักเรียนช่วยกันเล่าเรื่องจากภาพให้เป็นสถานการณ์การบวก เช่น

ครูติดบัตรภาพในข้อ 1 บนกระดาน แล้วใช้การถาม-ตอบ ดังรูป

| 83สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนที่มีผลบวกไม่เกิน 10
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1

- จากบตั รภาพนักเรียนเหน็ อะไรบา้ ง (สมดุ สฟี า้ และ * การเลา เร่ืองอาจแตกตา งจากนี้ใหอยูใ นดุลยพินิจของผสู อน
สมดุ สีส้ม)
- มีสมุดสีฟ้ากี่เล่ม ( 2 เล่ม) ขนุ มีสมุดสีฟ�า 2 เลม� สมดุ สแี ดง 6 เลม� ขนุ มีสมุดรวมทั้งหมด 8 เลม�
- มีสมุดสีส้มกี่เล่ม ( 6 เล่ม) แกว� ตาสะสมดาวเดก็ ดีไดแ� ลว� 7 ดวง วนั นคี้ ณุ ครูให�เพิม่ อกี 1 ดวง แก�วตาจงึ มีดาวเด็กดีเป�น 8 ดวง
- มีสมุดทั้งหมดเท่าไร หาคำ�ตอบได้อย่างไร (8 เล่ม ต�นกล�าไม�มดี ินสอในกลอ� งดินสอ ใบบวั ใจดใี หด� ินสอต�นกลา� 1 แทง� ตน� กลา� จงึ มดี นิ สอใช� 1 แทง�
หาได้จากนำ� 2 บวกกับ 6 )
จากนั้นครูให้นักเรียนเล่าเรื่องจากภาพให้เป็นสถานการณ์
การบวกได้ดงั นี้ มสี มดุ สฟี า้ 2 เลม่ และสมดุ สีสม้ 6 เลม่
รวมมีสมุดทัง้ หมด 8 เลม่ จากนั้นครตู ดิ บัตรภาพในขอ้ 2
และบัตรภาพในข้อ 3 ตามล�ำ ดับ โดยจดั กิจกรรมเช่นเดียว
กบั ขอ้ 1 ครอู าจสมุ่ นักเรยี นออกมานำ�เสนอสถานการณ์
การบวก ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
หากมีนักเรยี นทไี่ ม่สามารถเล่าเร่ืองให้เปน็ สถานการณ์
การบวกได้ ครอู าจใชค้ ำ�ถามกระตุน้ เช่น จากภาพนกั เรียน
เห็นอะไรบา้ ง ส่ิงต่าง ๆ ในภาพมจี �ำ นวนเทา่ ไร หาผลรวม
ของจำ�นวนสองจำ�นวนของสิ่งต่าง ๆ ได้เท่าไร เปน็ ตน้
ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปว่า สถานการณ์ในลักษณะทีเ่ ป็น
การรวมจ�ำ นวนสองจำ�นวนเปน็ สถานการณ์การบวก

การตรวจสอบความเข้าใจ

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนเป็นรายบุคคล
โดยให้นกั เรียนเลอื ก ก หรือ ข ทเ่ี ป็นสถานการณก์ ารบวก
ตามหนังสือเรยี นหนา้ 100 จากภาพในขอ้ 1 และขอ้ 2
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง ถ้าพบว่า
มนี ักเรยี นทไี่ มส่ ามารถเลือกสถานการณ์การบวกได้
ครูอาจใช้ค�ำ ถามน�ำ เช่น จากภาพนกั เรยี นเหน็ อะไรบ้าง
ส่งิ ตา่ ง ๆ ในภาพมจี ำ�นวนเท่าไร หาผลรวมของจำ�นวนสอง
จ�ำ นวนของสิ่งตา่ ง ๆ ไดเ้ ท่าไร เปน็ ต้น แลว้ ให้นักเรยี น
คนนน้ั เล่าสถานการณ์การบวกใหมใ่ หถ้ ูกตอ้ ง จากน้นั ครู
และนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรู้

สิ่งทีไ่ ดเ้ รียนรู้

เรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงการรวมจำ�นวนสองจำ�นวนเป็นสถานการณ์การบวก
จากนั้นให้นักเรียนทำ�แบบฝึกหัด 2.9 หน้า 63 – 64

84 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนที่มผี ลบวกไม่เกนิ 10 คู่มอื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 เลม่ 1

2.10 โจทยป์ ญั หาการบวก (1 ชว่ั โมง)

จุดประสงค์

แสดงวิธหี าคำ�ตอบของโจทย์ปญั หาการบวก

ส่ือการเรยี นรู้

- บตั รภาพ
- บัตรขอ้ ความ
- บตั รโจทยป์ ญั หา

แนวการจัดการเรยี นรู้
การพฒั นาความรู้

1. ครนู ำ�เข้าสบู่ ทเรียนโดยการทบทวนสถานการณ์
การบวกท่อี ยใู่ นชีวิตประจำ�วัน เช่น ครมู ขี นมกล้วย 5 ชนิ้
รวมกบั ขนมตาล 3 ช้ิน ครูมีขนมกล้วยและขนมตาลทัง้ หมด
8 ชนิ้ หรือ ตน้ กล้ามขี องเล่น 3 ชนิ้ พอ่ ซอื้ เพ่ิมใหอ้ กี 2 ช้นิ ตน้ กลา้ มขี องเลน่ ทั้งหมด 5 ชิน้ หรือ
แม่มรี ่มสีแดง 2 คนั และสดี ำ� 1 คนั แม่มรี ่มท้งั หมด 3 คนั ครูแนะน�ำ ว่า สถานการณท์ ีย่ กตัวอย่าง
มานี้เปน็ สถานการณ์การบวก แตเ่ มอ่ื เปลยี่ นสถานการณเ์ หลา่ นี้เป็นคำ�ถามจะเรยี กว่า โจทยป์ ัญหา
การบวก เชน่ จากสถานการณ์ ครมู ขี นมกลว้ ย 5 ชิน้ รวมกับขนมตาล 3 ชิ้น ครมู ีขนมกลว้ ยและ
ขนมตาลทง้ั หมด 8 ชิ้น เปลี่ยนเปน็ คำ�ถามจะได้วา่ ครมู ขี นมกล้วย 5 ชน้ิ รวมกับขนมตาล 3 ชนิ้
ครมู ขี นมกล้วยและขนมตาลทงั้ หมดกช่ี ้ิน ซง่ึ เรยี กว่า โจทยป์ ญั หาการบวก สามารถเขยี นประโยค
สัญลกั ษณ์การบวกได้เป็น 5 + 3 = ครอู าจทบทวนเกย่ี วกบั การเขยี นประโยคสญั ลักษณแ์ สดง
การบวกเพ่ือใหน้ กั เรียนได้ฝกึ การแปลงขอ้ ความใหเ้ ป็นประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกดังนี้
ครูตดิ บตั รขอ้ ความบนกระดาน เช่น 4 รวมกบั 1 เปน็ เท่าไร 7 เพ่มิ อีก 3 รวมเปน็ เท่าไร 3 กับ 5
รวมเป็นเทา่ ไร แลว้ ครใู หน้ ักเรียนแต่ละคนเขยี นประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกพรอ้ มกับหาผลบวก
ครสู ุม่ นักเรียนออกมาเขียนประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกและผลบวก แล้วรว่ มกนั ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง จากนัน้ ครูยกตัวอยา่ งโจทย์ปญั หาการบวก ตามหนังสอื เรียนหน้า 101 ครตู ดิ บตั รภาพ
ขนุ ปลูกคะนา้ ครถู ามนักเรยี นจากภาพนักเรยี นเหน็ อะไรบา้ ง (ขุนปลูกคะน้า) ครูและนกั เรียนสนทนา
รว่ มกนั เลา่ เรอื่ งเปน็ สถานการณ์การบวกจากภาพ จากนน้ั ครูตดิ บัตรข้อความ ดงั นี้ ขนุ ปลูกคะนา้ ไว้
7 ตน้ ปลกู เพม่ิ อกี 3 ต้น ขุนปลกู คะน้าทัง้ หมดกต่ี ้น ครูให้นกั เรียนอา่ นข้อความพรอ้ มกัน ครแู นะนำ�
นักเรียนว่าขอ้ ความนเ้ี ป็นโจทยป์ ญั หาการบวก ครแู ละนกั เรียนสนทนาร่วมกันโดยใช้การถาม-ตอบ
ดงั น้ี
- โจทยถ์ ามอะไร (ขนุ ปลูกคะนา้ ทง้ั หมดกต่ี ้น)
- โจทยบ์ อกให้นกั เรยี นทราบอะไรบ้าง (ขนุ ปลกู คะน้าไว้ 7 ตน้ ปลูกเพ่มิ อีก 3 ตน้ )

| 85สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่มี ีผลบวกไม่เกนิ 10
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

- จะหาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร (7 เพิ่มอีก 3 เป็นการรวม 2
จำ�นวนสองจำ�นวน) 5
- เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณไ์ ดอ้ ยา่ งไร (7 + 3 = ) 2+5=
- ค�ำ ตอบทไ่ี ดค้ วรมากกวา่ 7 หรอื นอ้ ยกวา่ 7
เพราะเหตใุ ด ๗
ค�ำ ตอบสดุ ทา้ ยนนี้ ักเรียนบางคนอาจตอบได้ บางคนอาจจะ
ตอบไม่ได้ ครแู ละนักเรยี นอภิปรายรว่ มกันวา่ คำ�ตอบควร
มากกวา่ 7 เน่ืองจากเดมิ มอี ยูแ่ ล้ว 7 เพมิ่ ขน้ึ อีก 3 ค�ำ ตอบ
จะตอ้ งมากกว่า 7 ครูใหน้ กั เรียนหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ญั หา
จากนัน้ ครูสมุ่ นกั เรยี นน�ำ เสนอค�ำ ตอบและวิธีการหาค�ำ ตอบ
ไดค้ ำ�ตอบดังน้ี ปลูกคะนา้ ท้ังหมด 10 ต้น ในการหาคำ�ตอบ
ครูอาจใช้การวาดรูปชว่ ยในการวเิ คราะห์โจทย์วา่ ต้องใช้
การหาคำ�ตอบโดยการบวก เชน่ จากโจทย์ครวู าดรปู
ประกอบการวเิ คราะหโ์ จทยไ์ ด้ ดงั รูป

จากรปู ให้นักเรียนช่วยกนั วิเคราะห์ว่าจะหาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร นกั เรียนควรตอบไดว้ ่าหาค�ำ ตอบโดย
การบวก ครแู ละนักเรียนอภิปรายร่วมกนั วา่ ในการแก้โจทย์ปัญหา ให้นักเรยี นอ่านท�ำ ความเขา้ ใจ
โจทย์ปญั หาแลว้ วิเคราะห์ โจทย์ปญั หาว่าโจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร และจะหาคำ�ตอบไดอ้ ย่างไร
เมอื่ ได้ค�ำ ตอบแลว้ ควรตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำ�ตอบ
2. ครูยกตัวอย่างการแกโ้ จทย์ปัญหาการบวกตามหนงั สอื เรยี นหน้า 102 ครูตดิ บตั รโจทยป์ ัญหา
ผกั กาดขาวต้นใหญ่ 6 ต้น กับผักกาดขาวตน้ เล็ก 3 ตน้ มผี ักกาดขาวทงั้ หมดกี่ตน้ ครูให้นักเรียนอา่ น
โจทยป์ ัญหาพรอ้ มกนั ครูถามนักเรียนว่า โจทยถ์ ามอะไร (ผกั กาดขาวทง้ั หมดกีต่ ้น) โจทยบ์ อกอะไร
(ผักกาดขาวต้นใหญ่ 6 ตน้ กับผกั กาดขาวต้นเล็ก 3 ตน้ ) นกั เรียนจะหาคำ�ตอบได้อยา่ งไร ครูอาจให้
นักเรียนอาสาสมัครหรอื สมุ่ นกั เรียนตอบค�ำ ถาม จากนน้ั ครูอาจใหแ้ นวคดิ ในการหาคำ�ตอบว่า การหา
จำ�นวนผักกาดขาวทงั้ หมดเป็นการน�ำ ผกั กาดขาวมานับรวมกันตอ้ งหาคำ�ตอบด้วยการบวก แล้วให้
นกั เรียนออกมาเขียนประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและร่วมกนั หาคำ�ตอบ ครใู หน้ กั เรียนสรุป
ค�ำ ตอบร่วมกันจะได้ว่า มตี ้นผกั กาดขาวทัง้ หมด 9 ตน้ ครูถามนกั เรยี นวา่ 9 เปน็ ค�ำ ตอบทสี่ มเหตุ
สมผลหรือไม่ เพราะเหตุใด คำ�ตอบทีไ่ ดค้ วรมากกว่า 6 หรือน้อยกวา่ 6 นักเรยี นบางคนอาจจะตอบ
ค�ำ ถามได้ บางคนอาจจะตอบคำ�ถามไมไ่ ด้ ครูและนักเรยี นอภิปรายร่วมกันวา่ 9 เปน็ ค�ำ ตอบที่สมเหตุ
สมผลเพราะ 9 มากกวา่ 6 เน่อื งจากมีผักกาดขาวตน้ ใหญอ่ ยู่ 6 ต้นนำ�มารวมกบั ผักกาดขาวต้นเลก็
3 ต้น เปน็ การเพ่ิมจาก 6 ค�ำ ตอบท่ีไดจ้ ึงควรมากกวา่ 6 ครตู ิดบตั รโจทย์ปญั หาบนกระดานดงั นี้

86 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่ีมีผลบวกไมเ่ กนิ 10 คมู่ ือครู รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

ในตะกร้ามแี ตงกวา 2 ผล เกบ็ ใส่อกี 5 ผล ในตะกร้ามีแตงกวา

ทั้งหมดก่ีผล ครใู หน้ ักเรียนอ่านโจทย์ปญั หาพร้อมกัน ครูถาม

นักเรยี นว่าโจทย์ถามอะไร (ในตะกร้ามแี ตงกวาทง้ั หมดก่ีผล)

โจทยบ์ อกอะไร (ในตะกรา้ มีแตงกวา 2 ผล เกบ็ ใสอ่ กี 5 ผล)

หาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร ครสู ่มุ นกั เรียนตอบค�ำ ถาม จากนนั้ ครูและ

นกั เรยี นอภิปรายรว่ มกนั ว่า จากทโี่ จทยบ์ อก มีอยู่ 2 เพ่มิ อกี 5 7+1=
เป็นการรวมจ�ำ นวนสองจ�ำ นวน หาคำ�ตอบโดยการบวก ครใู ห้


นกั เรยี นเขยี นประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกพรอ้ มกบั หา 5+5=
ค�ำ ตอบ เม่ือนกั เรยี นได้คำ�ตอบแล้ว ครสู มุ่ นกั เรยี นออกมาเขยี น
๑๐

ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวกและคำ�ตอบ ครูและนกั เรียน

รว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง และหาคำ�ตอบรว่ มกนั ได้วา่

ในตะกร้ามีแตงกวาทั้งหมด 7 ผล ครถู ามนกั เรยี นวา่ คำ�ตอบ 7

สมเหตสุ มผลหรอื ไม่ ค�ำ ตอบทไ่ี ดค้ วรมากกวา่ 5 หรอื นอ้ ยกวา่ 5

นักเรียนบางคนอาจจะตอบคำ�ถามได้ บางคนอาจจะตอบคำ�ถามไมไ่ ด้ ครูและนกั เรยี นอภิปรายรว่ มกนั

วา่ 7 เปน็ ค�ำ ตอบทส่ี มเหตสุ มผล เพราะ 7 มากกวา่ 5 เนือ่ งจากมีแตงกวาอยู่ 2 ผล เก็บใสอ่ ีก 5 ผล

เปน็ การบวก ดังนนั้ คำ�ตอบทีไ่ ดค้ วรมากกว่า 5

3. ครใู หน้ กั เรียนฝึกการแกโ้ จทย์ปญั หาการบวก โดยติดบัตรโจทยป์ ญั หาตามหนงั สือเรยี น

หน้า 103 ดังนี้ ในตะกรา้ มีลกู บอลสแี ดง 4 ลกู และลกู บอลสเี ขยี ว 6 ลกู มีลกู บอลท้งั หมดกีล่ ูก

ครใู ห้นกั เรียนอ่านโจทยป์ ัญหาพร้อมกัน ครถู ามนักเรียนว่าโจทยถ์ ามอะไร (มลี ูกบอลท้ังหมดก่ีลกู )

ครถู ามวา่ จากโจทย์นกั เรยี นทราบอะไรบ้าง (ในตะกร้ามลี ูกบอลสแี ดง 4 ลูก และลูกบอลสเี ขยี ว 6 ลกู )

จะหาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร ครูและนักเรียนสนทนารว่ มกันวา่ หาจำ�นวนลกู บอลทัง้ หมดเปน็ การนำ�

ลกู บอลมานบั รวมกนั หาค�ำ ตอบด้วยการบวก ครูอาสาสมัครนกั เรียนออกมาเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์

แสดงการบวกและหาคำ�ตอบ ครูและนกั เรียนสรุปคำ�ตอบรว่ มกนั วา่ มลี กู บอลทง้ั หมด 10 ลูก

ครูให้นักเรียนจบั ค่แู ละชว่ ยกันเขยี นประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและหาค�ำ ตอบจากโจทย์ปญั หา

ตามหนงั สือเรียนหนา้ 103 ขอ้ 1 และขอ้ 2 เมอ่ื นกั เรียนท�ำ เสรจ็ แลว้ ครูสมุ่ นักเรยี นออกมาเขียน

ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและเขียนค�ำ ตอบ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและ

ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำ�ตอบ หากพบวา่ ในหอ้ งเรียนมนี กั เรียนที่ยงั ไมเ่ ข้าใจเก่ียวกบั การ

เขียนประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและหาค�ำ ตอบจากโจทยป์ ัญหา ครูอาจยกตวั อยา่ งเพ่ิมเติม เชน่

ในกล่องดินสอมปี ากกาสแี ดง 2 แทง่ และปากกาสีนำ้�เงิน 4 แทง่ มีปากกาทั้งหมดในกลอ่ งดินสอกแี่ ท่ง

ในตเู้ ย็นมนี มอยู่ 3 กล่อง แม่ซอ้ื มาเพ่มิ อกี 5 กล่อง มีนมในตเู้ ยน็ ทง้ั หมดกี่กลอ่ ง ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกัน

เขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและหาค�ำ ตอบพรอ้ มทง้ั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของค�ำ ตอบ

จากนั้นชว่ ยกันสรุปเกยี่ วกับการแก้โจทยป์ ญั หาการบวกวา่ ต้องอ่านทำ�ความเขา้ ใจโจทย์ปญั หา

วางแผนแก้ปญั หาจากการวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาวา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร จะหาคำ�ตอบได้

อย่างไร เขียนประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกไดอ้ ย่างไร หาค�ำ ตอบ และตรวจสอบความสมเหตุ

สมผลของคำ�ตอบ

| 87สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนทีม่ ผี ลบวกไม่เกนิ 10
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 เลม่ 1

การตรวจสอบความเขา้ ใจ 9
6
4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล 4
โดยให้นกั เรียนหาคำ�ตอบของโจทย์ปัญหาการบวกที่
กำ�หนดให้ ตามหนังสือเรียนหนา้ 104 เมอ่ื นกั เรียนหา ร วย
คำ�ตอบได้แล้วใหน้ กั เรยี นเขียนตวั อักษรทต่ี รงกับค�ำ ตอบ
ท่ีได้ ลงในรูปถงั ขยะแต่ละสใี ห้ถกู ตอ้ งลงในสมดุ ครแู ละ
นักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ถา้ พบวา่ มนี กั เรียน
หาค�ำ ตอบไม่ถูกตอ้ ง ครูอาจใช้ค�ำ ถามช่วยกระตุ้นการคิด
เช่น โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร จะหาค�ำ ตอบได้
อย่างไร แลว้ ให้นักเรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณแ์ สดง
การบวกพร้อมกบั หาค�ำ ตอบใหมใ่ ห้ถูกตอ้ ง จากนั้นครแู ละ
นักเรยี นร่วมกนั สรุปส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้

สงิ่ ท่ีได้เรียนรู้

การแก้โจทย์ปัญหาท�ำ ได้โดย อา่ นทำ�ความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หาซ่งึ อาจใช้การวาดรูป
หาคำ�ตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ
จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 2.10 หนา้ 65 – 67

88 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวนท่มี ผี ลบวกไม่เกนิ 10 คมู่ ือครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

2.11 การสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวก (1 ชัว่ โมง)

จดุ ประสงค์

สร้างโจทยป์ ญั หาการบวก

สอ่ื การเรียนรู้

- บตั รภาพ
- บัตรขอ้ ความ
- บัตรโจทย์ปญั หาการบวก
- บัตรประโยคสญั ลักษณ์

แนวการจดั การเรียนรู้

การพัฒนาความรู้
1. ครนู ำ�เข้าส่บู ทเรยี นโดยการยกตวั อยา่ งโจทยป์ ญั หาการบวก ครตู ิดบัตรโจทย์ปญั หาการบวก

บนกระดาน ดังนี้ ในตู้เส้อื ผา้ มเี สอ้ื สขี าว 5 ตวั และเสอ้ื สีฟา้ 2 ตวั มีเส้ือสีขาวและสีฟา้ ท้งั หมดก่ตี วั

ครใู ห้นักเรียนอ่านโจทย์ปญั หาพร้อมกนั ครถู ามนกั เรียนวา่ โจทยถ์ ามอะไร (มเี สอ้ื สีขาวและสีฟา้

ทง้ั หมดกตี่ วั ) โจทย์บอกอะไร (ในตูเ้ ส้อื ผ้ามเี สื้อสีขาว 5 ตวั และเสื้อสีฟ้า 2 ตวั ) โจทย์ปญั หาประกอบ

ด้วยสองส่วนคืออะไร (ส่วนทโี่ จทย์บอกและส่วนท่โี จทย์ถาม) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันเขียนประโยค

สัญลกั ษณแ์ ละหาค�ำ ตอบพรอ้ มกนั ได้ 5 + 2 = 7 ดงั นนั้ มเี ส้ือสขี าวและสฟี ้าทั้งหมด 7 ตัว โดยครู

อาจขีดเสน้ ใต้ข้อความมเี สื้อสขี าวและเสือ้ สีฟ้าทง้ั หมดก่ีตัว และมสี ว่ นที่โจทยบ์ อก ครูอาจจะขดี เส้นใต้

ข้อความ ในตเู้ สือ้ ผ้ามเี สื้อสขี าว 5 ตัว และเส้อื สีฟา้ 2 ตัว ครอู าจยกตวั อย่างโจทย์ปัญหาการบวกเพม่ิ

อกี 2-3 ตวั อยา่ งเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นคุ้นเคยกับส่วนทโี่ จทยถ์ ามและส่วนท่โี จทย์บอกแล้วน�ำ ไปสกู่ ารสร้าง

โจทย์ปญั หาการบวกต่อไป จากนัน้ ครูตดิ บตั รภาพบนกระดานตามหนังสอื เรียนหน้า 105 ดงั รูป

จากรูปครูใชก้ ารถามตอบดังนี้

- จากภาพนกั เรียนเห็นอะไรบ้าง (นักเรยี นอา่ นหนังสือ

นักเรยี นน่งั อยู่ นักเรยี นยืนอยู่ ตู้หนงั สือ)

- มีนกั เรียนอ่านหนงั สืออย่กู คี่ น ( 5 คน)

- มีนกั เรียนกำ�ลงั เดนิ เข้ามาในหอ้ งกคี่ น ( 2 คน)

ครูให้นกั เรยี นสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวก โดยนกั เรยี นอาจจะสรา้ งโจทย์ปญั หาไม่ได้ ครถู ามนกั เรยี นว่า

จากการแกโ้ จทยป์ ัญหาเมอ่ื นักเรียนอ่านท�ำ ความเข้าใจโจทย์ปัญหาแล้วนักเรยี นวเิ คราะหโ์ จทย์

อยา่ งไร (โจทย์บอกอะไรและโจทย์ถามอะไร) ครูและนกั เรยี นสนทนารว่ มกันว่าโจทย์ปญั หาน้นั

ประกอบด้วยส่วนท่โี จทยถ์ ามและสว่ นทโ่ี จทยบ์ อก จากภาพนักเรยี นเขียนสว่ นท่ีโจทยบ์ อกไดอ้ ย่างไร

(นกั เรียนอ่านหนังสอื อยู่ 5 คน และนักเรยี นกำ�ลงั เดนิ เขา้ มา 2 คน) นกั เรียนเขียนสว่ นท่ีโจทยถ์ ามได้

อย่างไร (มีนักเรยี นท้ังหมดกี่คน) เขยี นเป็นโจทย์ปัญหาการบวกไดอ้ ย่างไร (นกั เรยี นอา่ นหนังสืออยู่

5 คน และนกั เรียนกำ�ลังเดินเขา้ มา 2 คน มีนกั เรียนทง้ั หมดกคี่ น) ครตู ดิ บัตรโจทยป์ ญั หาท่ีสร้างได้

บนกระดาน ดังน้ี นักเรียนอ่านหนังสืออยู่ 5 คน และนักเรยี นก�ำ ลงั เดินเข้ามา 2 คน มนี ักเรยี น

ทง้ั หมดกคี่ น ครูสุม่ นักเรียนออกมาขีดเส้นใต้แสดงส่วนท่โี จทย์ถาม และสว่ นที่โจทย์บอก ครูให้

นกั เรยี นช่วยกนั เขยี นประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกพร้อมทง้ั หาค�ำ ตอบจากโจทยป์ ัญหาท่สี รา้ ง

จะได้ 5 + 2 = และคำ�ตอบที่ได้คือ มนี ักเรียนทัง้ หมด 7 คน
| 89สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

ค่มู ือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจำ�นวนสองจำ�นวนที่มีผลบวกไมเ่ กนิ 10
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

จากน้นั ครูติดบัตรภาพบนกระดานตามหนังสือเรียนหน้า 105 ดงั รปู

ครถู ามนักเรียนวา่ จากภาพนักเรียนเห็นอะไรบา้ ง (ตหู้ นงั สอื 2 ช้ัน) ชั้นบนมีหนงั สอื กเ่ี ล่ม (8 เล่ม)
ช้นั ลา่ งมหี นังสอื กเี่ ลม่ (1 เล่ม) ครูให้นักเรยี นแต่ละคนสรา้ งโจทย์ปัญหา จากนนั้ ครูและนักเรยี น
สนทนาเกย่ี วกบั การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกรว่ มกัน โดยมสี ว่ นที่โจทย์บอกควรเขยี นอยา่ งไร
(ตู้หนังสอื ช้นั บนมีหนงั สอื 8 เล่ม ชนั้ ลา่ งมหี นงั สอื 1 เลม่ ) สว่ นที่โจทย์ถามควรเขียนอยา่ งไร (มีหนงั สือ
ทัง้ หมดก่เี ล่ม) โจทยป์ ัญหาการบวกทีส่ รา้ งได้ควรเปน็ อยา่ งไร (ตหู้ นงั สอื ช้ันบนมีหนังสือ 8 เล่ม และ
ชัน้ ล่างมีหนังสือ 1 เล่ม มหี นังสือท้งั หมดก่เี ล่ม) ครตู ดิ บตั รโจทยป์ ัญหาการบวกทสี่ ร้างไดบ้ นกระดาน
ดังน้ี ตู้หนังสือชั้นบนมีหนังสอื 8 เลม่ และช้นั ลา่ งมีหนังสอื 1 เลม่ มหี นงั สอื ทง้ั หมดก่เี ล่ม ครูสมุ่
นักเรียนออกมาขดี เสน้ ใต้แสดงสว่ นที่โจทย์ถาม และสว่ นท่ีโจทย์บอก ครูให้นักเรียนช่วยกนั เขยี น
ประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวกพรอ้ มทั้งหาคำ�ตอบจากโจทย์ปญั หาทส่ี รา้ งจะได้ 8 + 1 = และ
ค�ำ ตอบท่ีได้คือ มหี นงั สือท้ังหมด 9 เล่ม จากนั้นครแู ละ
นักเรียนร่วมกันสรปุ ว่า การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวกน้นั
ตอ้ งมสี ่วนท่โี จทย์บอกและส่วนท่โี จทยถ์ าม
2. ครใู ห้นักเรียนฝึกการสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวกจาก
ภาพตามหนงั สือเรยี นหนา้ 106 ครูตดิ บัตรภาพบนกระดาน
ดังรปู

ไดเงนิ ทั้งหมดกี่บาท

ครถู ามนักเรยี นว่าจากบตั รภาพนกั เรียนเหน็ อะไรบ้าง (

กระเป๋าหว้ิ กระเป๋าเดินทาง) กระเป๋าหวิ้ มีก่ใี บ และกระเป๋า

ลากมีก่ีใบ (กระเป๋าหิ้วมี 5 ใบ และกระเป๋าลากมี 3 ใบ) มีใบไมแหง ท้งั หมดกใี่ บ
นกั เรียนสามารถสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกได้หรอื ไม่ เพราะ
เหตุใด ครแู ละนักเรียนสนทนารว่ มกันว่าจากภาพเปน็ * อาจเขยี นไดต างจากน้ใี หอยใู นดุลยพินิจของผูสอน

จ�ำ นวนของสิ่งตา่ ง ๆ สองจำ�นวนสามารถหาผลบวกของจำ�นวนสองจ�ำ นวนได้ ครถู ามนกั เรียนว่า

เขยี นสว่ นทโี่ จทยบ์ อกอยา่ งไร (มกี ระเป๋าห้ิว 5 ใบ และกระเปา๋ ลาก 3 ใบ) เขียนสว่ นทโี่ จทยถ์ าม

อยา่ งไร (มีกระเปา๋ ท้งั หมดกีใ่ บ) ครูติดบตั รโจทย์ปญั หาการบวกบนกระดาน ดังน้ี มีกระเป๋าห้วิ 5 ใบ

และกระเปา๋ ลาก 3 ใบ มีกระเป๋าทั้งหมดกี่ใบ ครูเน้นยำ้�นกั เรียนวา่ ในการสรา้ งโจทยป์ ัญหาต้องมสี ่วน

ทโี่ จทยถ์ ามและสว่ นท่โี จทย์บอก ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกนั เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกพรอ้ ม

ทัง้ หาคำ�ตอบจากโจทยป์ ัญหาที่สรา้ งจะได้ 5 + 3 = และคำ�ตอบทไี่ ดค้ ือ มีกระเปา๋ ท้ังหมด 8 ใบ

จากนนั้ ครูให้นกั เรยี นจับคกู่ นั ชว่ ยกนั สร้างโจทยป์ ญั หาการบวกตามหนงั สือเรยี นหนา้ 106 เขียน

ประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการบวก พรอ้ มท้งั หาคำ�ตอบ โดยครกู �ำ หนดส่วนทโ่ี จทยบ์ อกให้แลว้ ให้

นักเรยี นแตล่ ะคู่ช่วยกันเขียนส่วนทีโ่ จทยถ์ ามให้ถกู ตอ้ ง เม่ือนกั เรยี นท�ำ เสร็จแลว้ ครสู ุ่มนักเรียนออก

มาเขยี นโจทย์ปญั หาการบวกทีน่ กั เรียนสรา้ งเขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกพรอ้ มทง้ั หา

ค�ำ ตอบบนกระดาน ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง

90 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจำ�นวนสองจ�ำ นวนทม่ี ีผลบวกไม่เกิน 10 ค่มู ือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

3. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคูช่ ่วยกันสร้างโจทยป์ ญั หาจาก

ภาพตามหนงั สือเรียนหนา้ 107 โดยครูติดบัตรภาพและ

บตั รประโยคสัญลกั ษณ์ในข้อ 1 ครถู ามนักเรยี นวา่ จาก

ภาพนกั เรียนเห็นอะไรบา้ ง (ขนมในจาน ขนมในถงุ ) ครูให้

นักเรียนสังเกตประโยคสญั ลกั ษณ์ 8 + 2 = ว่าจ�ำ นวน

สองจ�ำ นวนทีน่ ำ�มาบวกกนั นน้ั ตรงกบั จ�ำ นวนของขนมปงั

ในจานและขนมปังในถุงท่ีอยใู่ นบัตรภาพ จากนน้ั ครูให้

นกั เรียนแต่ละคู่ชว่ ยกนั สร้างโจทย์ปัญหาการบวกโดยครู มีขนมทงั้ หมดก่ชี นิ้

กำ�หนดส่วนท่โี จทย์บอกให้แล้วใหน้ ักเรยี นเขยี นส่วนทีโ่ จทย์

ถามใหส้ อดคล้องกนั ตามจ�ำ นวนในบัตรภาพและบัตร มดี อกบวั 6 ดอก ดอกชบา 3 ดอก

ประโยคสัญลักษณ์ เม่ือนกั เรียนท�ำ เสร็จแล้ว ครสู ุ่มนกั เรยี น

ออกมาเขยี นโจทยป์ ัญหาการบวกที่คู่ของตนเองสรา้ ง ครู มตี กุ ตาหมี 3 ตัว ตกุ ตาชา ง 3 ตวั
และนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากน้ันให้ มตี กุ ตาหมแี ละตุกตาชางทั้งหมดกต่ี ัว
นกั เรยี นแตล่ ะคู่สรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกในข้อ 2 และขอ้ 3 * อาจเขยี นไดตางจากนีใ้ หอยใู นดุลยพนิ จิ ของผูสอน

โดยครูตดิ บัตรภาพและบตั รประโยคสัญลักษณบ์ นกระดาน

แล้วใหน้ ักเรียนสังเกตจำ�นวนสิ่งของทอี่ ยู่ในบตั รภาพและจ�ำ นวนที่น�ำ มาบวกกนั ในบตั รประโยคสัญลกั ษณ์

แลว้ เขยี นสว่ นท่โี จทย์บอกและส่วนทโ่ี จทยถ์ ามให้สอดคลอ้ งกบั จ�ำ นวนส่งิ ของทีอ่ ยูใ่ นบัตรภาพและ

จ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทอ่ี ยใู่ นประโยคสัญลกั ษณ์ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและ

สรุปร่วมกนั ว่า ในการสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกต้องมีสว่ นท่ีโจทย์บอกและส่วนท่ีโจทย์ถาม

การตรวจสอบความเข้าใจ * อยใู นดุลยพนิ จิ ของผูสอน

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล
โดยให้นักเรยี นสร้างโจทย์ปญั หาการบวกจากภาพ ตาม
หนังสอื เรยี นหน้า 108 เม่อื นักเรยี นสรา้ งโจทย์ปัญหาได้แลว้
ครสู ุ่มนักเรียนอา่ นโจทย์ปัญหาทต่ี นเองสร้าง ครแู ละนักเรียน
รว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ถ้าพบว่ามีนกั เรียนท่ไี ม่
สามารถสร้างโจทย์ปญั หาการบวกได้ ครูอาจใชค้ ำ�ถามชว่ ย
กระต้นุ การคิด เชน่ เขยี นสว่ นทโ่ี จทย์บอกได้อยา่ งไร เขยี น
สว่ นท่โี จทย์ถามได้อยา่ งไร เขยี นเปน็ โจทย์ปัญหาการบวกได้
อยา่ งไร จากโจทยป์ ญั หาท่ีสร้างเขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์
แสดงการบวกไดอ้ ยา่ งไร หาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร แลว้ ใหน้ กั เรยี น
คนนน้ั สรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวกใหม่ จากนน้ั ครูและนกั เรยี น
รว่ มกันสรปุ ส่ิงทไี่ ด้เรยี นรู้

สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้

โจทยป์ ัญหามีสว่ นท่ีโจทย์บอกและสว่ นท่โี จทย์ถาม
จากนั้นใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหดั 2.11 หนา้ 68 – 70

| 91สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครู รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่ีมีผลบวกไมเ่ กนิ 10
ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1

รว่ มคดิ ร่วมทำ� (1 ช่วั โมง)

กิจกรรม งานประดิษฐข์ องนักคณติ น้อย

อปุ กรณ์ 1 ชุด ประกอบด้วย * อยใู นดุลยพนิ จิ ของผูสอน * อยูในดลุ ยพนิ ิจของผูสอน

1. แกนกระดาษทชิ ชู * อยใู นดลุ ยพนิ จิ ของผสู อน
2. กระดาษสี
3. กาว
4. กรรไกร
5. ลวดก�ำ มะหย่ี

วัสดตุ กแตง่ 1 ชุดประกอบดว้ ย
1. ดาว
2. ฝาขวด
3. สตก๊ิ เกอร์
4. เม็ดกระดมุ
5. ลกู ตาพลาสตกิ

เตรียมสถานท่ี

ใชห้ อ้ งเรียนตามปกติ จดั โตะ๊ เปน็ กล่มุ

วธิ ีจดั กิจกรรม

1. ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่ม แจกอปุ กรณแ์ ละวสั ดุตกแต่งกลุ่มละ 1 ชุด
2. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันออกแบบและวาดแบบส่ิงประดิษฐว์ า่ ในกลมุ่ ตอ้ งการประดิษฐ์
อะไรและต้องใช้อุปกรณอ์ ะไรบ้างในการประดิษฐ์และการตกแต่ง จากนนั้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ
ช่วยกนั ประดษิ ฐส์ ิง่ ต่าง ๆ ตามท่ีไดต้ กลงกัน
3. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มบนั ทกึ ส่ิงของทใี่ ชใ้ นการประดษิ ฐ์วา่ ประกอบด้วยอะไรบา้ งและ
บันทึกอปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการประดิษฐแ์ ละจำ�นวนอุปกรณท์ ่ีใช้ในการประดิษฐล์ งในแบบบันทกึ
จากนนั้ ให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ หาว่าจำ�นวนวัสดตุ กแตง่ 2 ชนดิ ใดบ้างที่รวมกนั แล้วไมเ่ กนิ 10 ชิ้น
4. ครูให้นักเรยี นออกมาน�ำ เสนอผลงานและจำ�นวนวสั ดุตกแตง่ 2 ชนิดใดบ้างของกลุ่มตนเอง
ทีร่ วมกันแล้วไม่เกนิ 10 ชนิ้
จากน้ันครูใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั ท้าทายในหนังสือแบบฝึกหัดหนา้ 71

92 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่มี ผี ลบวกไม่เกิน 10 คมู่ ือครู รายวิชาพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เลม่ 1

คณติ คิดทา้ ทาย

1. + = 10
1) คอื .............................................. คือ ..............................................
2) คือ .............................................. คือ ..............................................
3) คอื .............................................. คือ ..............................................
4) คอื .............................................. คอื ..............................................

2. เติมตวั เลขแสดงจำ�นวน

3 + 2 = .... ... + 3 = 8

++

2 52

= =+

5 ... + ... = ... 6

++=

1 ... + ... = ...

= =+

... + ... = 7 ... + ... = 7

=

9

| 93สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 2 |การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่มี ีผลบวกไม่เกิน 10
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

ตวั อยา่ งแบบทดสอบท้ายบท

ตวั อยา่ งแบบทดสอบนใ้ี ชใ้ นการประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นเพอ่ื พฒั นานกั เรยี นหากมนี กั เรยี นคนใด
ท่ไี ม่สามารถทำ�แบบทดสอบนไี้ ดค้ รคู วรให้นกั เรียนคนน้ันฝกึ ทักษะมากขึ้นโดยอาจใชแ้ บบฝกึ เสรมิ
ในหนงั สือเสริมเพิม่ ปัญญาของสสวท. หรือแบบฝกึ อื่นทเี่ หน็ วา่ สมควร ซ่งึ แบบทดสอบท้ายบทนม้ี ี
จำ�นวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการทำ�แบบทดสอบ 20 นาที และวิเคราะห์
เปน็ รายจุดประสงค์ไดด้ งั น้ี

จุดประสงค์การเรียนรู้ ขอ้ ท่ี
1. หาผลบวกในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกของจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 10 และ 0 1-7
2. แสดงวธิ หี าคำ�ตอบของโจทยป์ ัญหาการบวกของจำ�นวนนับไมเ่ กนิ 10 และ 0 8-10

ตวั อยา่ งแบบทดสอบทา้ ยบท บทท่ี 2

เลอื ก ก ข หรือ ค ท่เี ป็นคำ�ตอบที่ถูกต้อง

1. ข้อใดมีความหมายตรงกบั การบวก
ก. 5 เอาออก 3 เหลือ 2 ข. 3 กบั 5 รวมเปน็ 8 ค. 3 น้อยกว่า 5 อยู่ 2

2. ขอ้ ใดมีความหมายไมต่ รงกับ 4 + 3 = 7
ก. มสี ม้ 4 ผล และมะม่วง 3 ผล มสี ้มและมะมว่ งรวมกัน 7 ผล
ข. 4 เพ่ิมอกี 3 รวมเป็น 7
ค. มขี นม 7 ช้นิ ให้เพ่ือนไป 3 ชน้ิ เหลือขนม 4 ช้นิ

3. ข้อใดมผี ลบวกต่างจากขอ้ อน่ื
ก. 7 + 3 ข. 2 + 8 ค. 5 + 4

4. ผลบวกในขอ้ ใดน้อยกว่า 8
ก. 6 + 3 ข. 2 + 4 ค. 4 + 4

5. ข้อใดมีผลบวกไม่เท่ากบั 6 + 4
ก. 2 + 7 ข. 3 + 7 ค. 5 + 5

94 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 2 | การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่ีมผี ลบวกไม่เกนิ 10 คมู่ ือครู รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เลม่ 1

6. 10 จากความสมั พนั ธแ์ บบส่วนย่อย – สว่ นรวมของ 10

เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกไดอ้ ย่างไร

ก. 3 + 6 = 10 ข. 8 + 2 = 10 ค. 7 + 2 = 10

7. จาก 6 + 2 = และ + 6 = 8 แลว้ และ คือจ�ำ นวนใด

ก. = 8 และ = 2 ข. = 8 และ = 3 ค. = 6 และ = 2

8. แกว้ ตามดี นิ สอ 2 แทง่ แมซ่ อ้ื เพม่ิ ใหอ้ กี 3 แทง่ แกว้ ตามดี นิ สอทง้ั หมดกแ่ี ทง่
เขยี นประโยคสญั ลกั ษณไ์ ดต้ รงกบั ขอ้ ใด
ก. 2 + = 3 ข. + 3 = 2 ค. 2 + 3 =

9. ขุนเล้ียงปลาหางนกยงู 5 ตวั กบั ปลาทอง 3 ตัว ขุนเล้ียงปลาทั้งหมดก่ตี ัว

ก. 8 ตัว ข. 6 ตวั ค. 5 ตัว

10. แมม่ ีเสอ้ื 4 ตัว ซอื้ มาเพิ่มอกี 2 ตวั .............................................................................................
เตมิ สว่ นทโ่ี จทย์ถามใหเ้ ปน็ โจทย์ปญั หาการบวกไดต้ ามขอ้ ใด
ก. แมม่ ีเส้ือทง้ั หมดกต่ี ัว
ข. แมซ่ ้ือเสอ้ื มาเพิ่มท้งั หมดกีต่ ัว
ค. เดิมแมม่ เี สือ้ อยู่กี่ตวั

เฉลยแบบทดสอบท้ายบท บทที่ 2
1. ข 2. ค 3. ค 4. ข 5. ก 6. ข 7. ก 8. ค 9. ก 10. ก

| 95สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 3 | การลบจำ�นวนสองจ�ำ นวนที่ตวั ตัง้ ไม่เกิน 10
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

บทที่ 3 การลบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวน
ท่ีตวั ตง้ั ไม่เกนิ 10

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้และสาระส�ำ คัญ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระสำ�คัญ

นกั เรียนสามารถ • การลบจำ�นวนสองจำ�นวนอาจแสดงโดยการเอาออก
การเปรยี บเทยี บ หรอื ความสมั พนั ธข์ องการบวกและ
1. หาผลลบในประโยคสญั ลักษณ์แสดง การลบ สามารถเขยี นแสดงการลบด้วยประโยค
การลบของจ�ำ นวนนบั ไม่เกิน 10 และ 0 สญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ ซง่ึ ประกอบดว้ ยตวั ตง้ั ตวั ลบ
(หวั ข้อ 3.1 ถึง 3.7) และผลลบ โดยใช้เครอ่ื งหมายลบ (-) และ
เครอื่ งหมายเทา่ กบั (=)

• การหาผลลบอาจใชก้ ารวาดรูป เสน้ จำ�นวน
แถบจำ�นวน หรอื กรอบสิบช่วยในการหาผลลบ

2. ใชค้ วามสัมพันธ์ของการบวกและการลบ • การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์
ช่วยในการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ใน แสดงการบวกและประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบ
ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและ อาจใชค้ วามสัมพันธ์ของการบวกและการลบ หรอื
ประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบของ ความสัมพันธ์แบบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรวมของจำ�นวน
จ�ำ นวนนบั ไมเ่ กิน 10 และ 0 ช่วยในการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่
(หัวขอ้ 3.8)

3. แสดงวิธีหาค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหา • โจทยป์ ัญหามีสว่ นท่โี จทย์บอกและส่วนท่ี
การลบของจำ�นวนนบั ไมเ่ กนิ 10 และ 0 โจทย์ถามซ่งึ ในการแกโ้ จทย์ปัญหาท�ำ ได้โดย
(หวั ข้อ 3.9 ถึง 3.12) อ่านท�ำ ความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หา
หาคำ�ตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผล
ของคำ�ตอบ

96 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 3 | การลบจำ�นวนสองจ�ำ นวนทต่ี ัวตง้ั ไม่เกนิ 10 คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

การวิเคราะห์เนือ้ หากบั ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

หัวข้อ เนื้อหา เวลา ทักษะและกระบวนการ
(ชวั่ โมง)
ทางคณติ ศาสตร์

12345

เตรียมความพร้อม 1 

3.1 การลบแสดงโดยการเอาออก 1 

3.2 การลบแสดงโดยการเปรยี บเทียบ 1 
3.3 การลบแสดงโดยความสัมพันธข์ องการบวก 1 
1 
และการลบ 1 
3.4 การลบดว้ ยศูนย์ 1 
3.5 ความสมั พนั ธแ์ บบสว่ นยอ่ ย-สว่ นรวมของจ�ำ นวน

กบั การลบ
3.6 การหาผลลบโดยใชก้ รอบสบิ (Ten Frame)

3.7 การหาผลลบโดยใช้เส้นจ�ำ นวน 1 
3.8 การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์ 1 
1 
แสดงการบวกและประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ
3.9 สถานการณ์การลบ

3.10 โจทยป์ ัญหาการลบ 1 

3.11 การสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบจากภาพ 1  
3.12 การสร้างโจทยป์ ัญหาการลบจากประโยคสัญลกั ษณ์ 1 

รว่ มคดิ ร่วมทำ� 1  

j การแก้ปัญหา k การสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ l การเช่ือมโยง m การให้เหตผุ ล n การคิดสรา้ งสรรค์

| 97สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 3 | การลบจำ�นวนสองจำ�นวนทต่ี วั ตั้งไม่เกิน 10
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เล่ม 1

ค�ำ ส�ำ คัญ

การลบ ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ ตัวตัง้ ตวั ลบ ผลลบ เครอื่ งหมายลบ(-)
เคร่ืองหมายเท่ากับ (=) การลบแสดงโดยการเอาออก การลบแสดงโดยการเปรยี บเทยี บ
การลบแสดงโดยความสมั พนั ธข์ องการบวกและการลบ ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบ
เสน้ จ�ำ นวน ตัวไม่ทราบคา่ คา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ สถานการณก์ ารลบ โจทย์ปัญหาการลบ

ความรู้หรือทักษะพืน้ ฐานของนกั เรยี น

1. จำ�นวนนับไม่เกิน 10 และ 0
2. การนบั และการบอกจ�ำ นวนไม่เกนิ 10 และ 0
3. การอา่ นและเขยี นตัวเลขแสดงจ�ำ นวนนบั 1 ถึง 10 และ 0
4. การใชแ้ ถบจำ�นวน
5. การใชก้ รอบสิบ
6. การบวกจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่ีผลบวกไมเ่ กิน 10
7. ความสัมพันธแ์ บบส่วนย่อย-สว่ นรวมของจ�ำ นวน 1 ถึง 10

ส่ือและแหลง่ เรียนรู้

1. หนงั สือเรยี นหนา้ 110 – 161
2. แบบฝึกหัด หน้า 72 – 101
3. ใบกจิ กรรม แบบบนั ทกึ กจิ กรรม บตั รภาพตา่ ง ๆ และอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ทใ่ี ชป้ ระกอบกจิ กรรม ดงั น้ี

• ต ัวนับ
• บ ัตรภาพ บตั รขอ้ ความ บตั รคำ�
• แถบจ�ำ นวน กรอบสบิ เส้นจ�ำ นวน
• ใบกิจกรรม แบบบันทึกกจิ กรรม
4. สื่อเพมิ่ เติมหน้า 112 115 118 129 130 132 133 135 136 139 143 147 151
152 155 156 และ 157 (Download ไดจ้ าก QR code หน้า 110)
5. AR หนา้ 113

เวลาทีใ่ ช้จัดการเรยี นรู้ 14 ชั่วโมง

98 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 3 | การลบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทต่ี ัวตงั้ ไมเ่ กนิ 10 คูม่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1
การจดั การเรยี นรู้
การเตรยี มความพรอ้ ม (1 ชว่ั โมง)

บทท ี่ 3 การลบจาำ นวนสองจำานวน
ทตี่ ัวต้ังไม่เกิน 10

เรียนจบบทน้แี ล้ว นักเรียนสามารถ

หาผลลบในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบ
ของจาำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 10 และ 0

ใชค้ วามสมั พันธข์ องการบวกและการลบ
ชว่ ยในการหาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยค
สัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยคสญั ลักษณ์
แสดงการลบของจาำ นวนนับไมเ่ กนิ 10 และ 0

แสดงวธิ ีหาคาำ ตอบของโจทย์ปัญหาการลบของ
จาำ นวนนบั ไมเ่ กนิ 10 และ 0

สื่อเพมิ่ เติม

1. ครใู ช้หนังสือเรียนหนา้ เปิดบทสนทนาเกย่ี วกบั งานวัด และกจิ กรรมต่าง ๆ ที่จดั ข้นึ ในงานวดั
โดยครูใช้การถาม-ตอบกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น

• นักเรียนเคยไปเท่ยี วงานวัดกับคณุ พ่อคณุ แมห่ รือไม่
• ถา้ นกั เรยี นเคยไปเทีย่ วงานวัด นกั เรยี นเขา้ รว่ มกิจกรรมใดบา้ งที่จดั ขึ้นในงานวัด
• นกั เรียนท�ำ อะไรบา้ งในกิจกรรมที่เข้ารว่ มนั้น
• จากภาพหน้าเปิดบท นักเรยี นเห็นอะไรบา้ ง
• ขุน แก้วตา ต้นกล้า และใบบัวกำ�ลงั ทำ�กิจกรรมอะไรในงานวดั
• ในงานวัดมกี จิ กรรมกอ่ กองทราย ถา้ ต้องการกอ่ กองทราย 10 กอง ขุน แกว้ ตา ต้นกล้า

และใบบัว ชว่ ยกนั ก่อกองทรายไปแลว้ 3 กอง ถ้านกั เรยี นตอ้ งไปชว่ ยขนุ แกว้ ตา ต้นกลา้
และใบบัว กอ่ กองทราย นกั เรียนต้องกอ่ กองทรายเพมิ่ อีกกี่กองจึงจะได้กองทรายครบ
ตามทตี่ ้องการ
คำ�ถามสดุ ท้ายครอู าจไมค่ าดหวังค�ำ ตอบ แต่อาจจะมนี ักเรยี นบางคนทส่ี ามารถตอบได้ ครอู าจให้
นกั เรียนคนน้นั ออกมาแสดงวธิ คี ดิ และน�ำ เสนอใหเ้ พอ่ื นฟงั หนา้ ชน้ั เรยี น จากนน้ั ครแู นะน�ำ วา่ ในการหา
ค�ำ ตอบของค�ำ ถามนเ้ี ราจะมาเรยี นรกู้ นั ในบทเรยี นน้ี ครูอาจให้ความรู้เพิม่ เตมิ เกี่ยวกับกจิ กรรมและ
การละเลน่ ตา่ ง ๆ ทจ่ี ัดข้นึ ในงานวดั เช่น ท�ำ บญุ ไหวพ้ ระ ก่อกองทราย สาวนอ้ ยตกนำ้� ปาลูกโปง่
ตกั ปลา ยงิ ปืนอัดลม โยนหว่ ง สอยดาว ชิงช้าสวรรค์ ปดิ ตาตีหมอ้ เปน็ ต้น

| 99สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 3 | การลบจำ�นวนสองจำ�นวนที่ตวั ตั้งไม่เกนิ 10
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

2. ครูใหน้ ักเรยี นทำ�กิจกรรมเตรียมความพร้อม

ตามหนงั สือเรยี นหน้า 112 เพือ่ ทบทวนความรูพ้ ้นื ฐานของ

นกั เรียนเกย่ี วกบั ความสัมพนั ธแ์ บบสว่ นย่อย-สว่ นรวม

ของจำ�นวน 1 ถึง 10 โดยครูแบง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ แล้ว

แจกไข่พลาสตกิ กลุ่มละ 10 ฟอง ตะกร้ากลมุ่ ละ 2 ใบ และ

แบบบันทึกกจิ กรรมกลุ่มละ 1 ใบ จากน้นั ครสู มุ่ หยิบบตั ร

ตวั เลขมา 1 ใบ (บัตรตัวเลข 1 ถงึ 10) แล้วให้นักเรียน * กรณที ี่หยิบไดบัตรตัวเลข 9 9 9 9
แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันหยบิ ไข่พลาสติกมาใหเ้ ทา่ กบั จำ�นวนที่ 99 27 36 45
ปรากฎในบตั รตัวเลข แลว้ น�ำ ไข่พลาสติกทีห่ ยบิ มาน้ันใส่
09 18

ในตระกร้า 2 ใบ ใบละก่ฟี องก็ได้ จากนั้นบันทกึ จ�ำ นวน

ไขพ่ ลาสตกิ ทห่ี ยบิ มาและจ�ำ นวนไขพ่ ลาสตกิ ทอ่ี ยใู่ นตระกรา้ * คาํ ตอบอาจแตกตา งจากน้ี
แต่ละใบลงในแบบบันทกึ กิจกรรม เสรจ็ แลว้ เอาไขพ่ ลาสติก

ท้ังหมดออกมาจากตระกรา้ แลว้ จดั ไขใ่ ส่ลงในตระกรา้

แตล่ ะใบใหมใ่ ห้มีจำ�นวนไข่ต่างจากเดมิ และบันทึกจำ�นวนไข่พลาสติกลงในแบบบันทึกกิจกรรม

ท�ำ เชน่ นจ้ี นไมส่ ามารถใสไ่ ขล่ งในตระกรา้ ใหม้ จี �ำ นวนไขต่ า่ งจากเดมิ ได้ จากนน้ั ครแู จกบตั รภาพ

แล้วให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ช่วยกันวาดรูปไข่ลงในตะกรา้ ใหไ้ ดผ้ ลบวกของจำ�นวนไข่เทา่ กับจ�ำ นวน

ที่กำ�หนด เช่น

จ�ำ นวนไข่
10

ก�ำ หนดไข่ในตะกร้า 10 ฟอง มไี ข่ในตะกรา้ ใบแรกแล้ว 4 ฟอง ดังน้นั ต้องวาดรปู ไข่ 6 ฟองในตะกร้า
อีกใบ เพ่ือใหไ้ ข่ทั้งหมดมผี ลรวมเท่ากบั 10 ฟอง ตามจำ�นวนท่กี �ำ หนดให้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกัน
ตรวจสอบความถกู ต้อง และรว่ มกันสรปุ วา่ จำ�นวน 1 ถงึ 10 สามารถเขยี นเป็นความสัมพนั ธ์แบบ
ส่วนย่อย-สว่ นรวมได้ เช่น 10 เป็นส่วนรวม 1 กบั 9 เปน็ ส่วนย่อยของ 10

100 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 3 | การลบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนทต่ี วั ต้ังไมเ่ กิน 10 คมู่ อื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

3.1 การลบโดยการเอาออก (1 ช่ัวโมง) หนังสือเรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.1
บทท่ี 3 | การลบจาำ นวนสองจำานวนท่ีตวั ต้ังไมเ่ กนิ 10
จดุ ประสงค์
3.1 การลบโดยการเอาออก
เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบ
พฒั นาความรู้

ส่อื การเรียนรู้ ในอ่างมีปลาทง้ั หมด 8 ตัว ตกั ปลาออก 3 ตวั เหลือปลาในอา่ ง 5 ตัว

- ตะกรา้

- ไข่พลาสตกิ

- บตั รภาพ 8 เอาออก 3 เหลือ 5
เขียนเป็นประโยคสญั ลกั ษณก์ ารลบ
แนวการจดั การเรียนรู้ 8 – 3 = 5
การพฒั นาความรู้ อา่ นว่า แปดลบด้วยสามเท่ากบั หา้

1. ครูอาจน�ำ เขา้ สบู่ ทเรียนโดยท�ำ กิจกรรมตอ่ 8 – 3 = 5
จากกจิ กรรมเตรยี มความพร้อม ครใู ชต้ ะกรา้ 3 ใบ 8 เปน็ ตัวต้งั 3 เป็นตัวลบ
5 เป็นผลลบ
– เรียกวา่ เคร่อื งหมายลบ
= เรยี กว่า เครื่องหมายเท่ากบั

| 113สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นำ�ไข่พลาสติกใสต่ ะกรา้ ตรงกลาง 5 ฟอง แล้วแยกไข่

พลาสติก 5 ฟองใส่ในตะกรา้ 2 ใบทีเ่ หลอื ใบแรกใส่ 3 ฟอง ใบทสี่ องใส่ 2 ฟอง ดงั รปู

จำ�นวนไข่
5

ครูแนะนำ�วา่ ไข่พลาสตกิ 5 ฟอง แยกออกเป็น 3 ฟอง กบั 2 ฟอง หรอื 5 เป็นส่วนรวม 3 กับ 2
เป็นสว่ นย่อยของ 5 ถา้ เรานำ�ไข่พลาสติก 3 ฟอง มารวมกบั ไข่พลาสตกิ 2 ฟอง จะไดไ้ ขพ่ ลาสตกิ
5 ฟอง หรือ 3 + 2 = 5 แต่ถา้ เรามีไข่พลาสติกอยใู่ นตะกรา้ 5 ฟอง เอาไขพ่ ลาสตกิ ออกไป 3 ฟอง
(ครพู ดู พรอ้ มกบั หยบิ ไขอ่ อกจากตะกรา้ ) เหลอื ไขพ่ ลาสตกิ ในตะกรา้ 2 ฟอง ครูอาจใหน้ ักเรียนช่วยกนั
นับไข่พลาสติกทีเ่ หลืออย่ใู นตะกร้า จากน้ันครแู นะนำ�ว่า การน�ำ สง่ิ ของออกไปจำ�นวนหนึ่งในลักษณะ
เช่นนี้ เราอาจแทนดว้ ยการลบจ�ำ นวนสองจำ�นวน จากนนั้ ครูตดิ บตั รภาพ ต้นกลา้ ตกั ปลา
ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 113 ดงั รูป

| 101สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มือครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 3 | การลบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่ีตวั ตง้ั ไมเ่ กนิ 10
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เล่ม 1

ครใู ช้การถาม – ตอบดงั น้ี
- จากภาพนักเรยี นเห็นอะไรบา้ ง (ต้นกลา้ ก�ำ ลงั ตักปลา)
- มีปลาทง้ั หมดกตี่ ัว (8 ตัว)
- ตน้ กลา้ ตักปลาออกไปกต่ี วั (3ตัว)
- เหลือปลาในอ่างกต่ี วั (5 ตัว)
ครูแนะน�ำ วา่ การตักปลาออกไปในลักษณะเชน่ นี้ อาจแสดงได้ด้วยการลบจำ�นวนสองจ�ำ นวน จะได้วา่
ปลาทั้งหมด 8 ตัว ตักออกไป 3 ตวั เหลือปลาในอา่ ง 5 ตัว หรอื 8 เอาออก 3 เหลอื 5 เขียนเปน็
ประโยคสัญลกั ษณ์การลบได้ 8 – 3 = 5 อา่ นวา่ แปดลบด้วยสามเท่ากบั ห้า จากน้ันครูแนะนำ�
เครื่องหมายลบ (-) และเครอ่ื งหมายเท่ากับ (=) จากสถานการณข์ า้ งต้นเขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์
แสดงการลบทป่ี ระกอบดว้ ยตวั ตง้ั คอื จ�ำ นวนของสง่ิ ของทง้ั หมดในทน่ี ค้ี อื 8 เครอ่ื งหมายลบ (-) ตวั ลบคอื
จ�ำ นวนสง่ิ ของทเ่ี อาออกไปในทน่ี ค้ี อื 3 เครอ่ื งหมายเทา่ กบั (=) และผลลบ คอื จ�ำ นวนของสง่ิ ของทเ่ี หลอื
อยใู่ นทน่ี ค้ี อื 5 (ครพู ดู พรอ้ มกบั เขยี นวงล้อมรอบตรงสว่ นทกี่ �ำ ลงั พดู ถงึ ในประโยคสญั ลักษณแ์ สดง
การลบที่เขยี นไวบ้ นกระดาน)
2. เมือ่ นักเรยี นร้จู ักประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบ
วา่ ประกอบด้วย ตวั ตง้ั เครอื่ งหมายลบ (-) ตัวลบ เครื่องหมาย
เทา่ กับ (=) และผลลบแล้ว ครูยกตวั อย่างเก่ยี วกบั สถานการณ์
ทมี่ ีจำ�นวนของส่ิงของทง้ั หมดแล้วเอาส่งิ ของจำ�นวนหนง่ึ
ออกไปแล้วเหลือสงิ่ ของอยู่จำ�นวนหนึง่ โดยเขียนแสดงได้
ดว้ ยประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ ดังนี้
ครูตดิ บตั รภาพตามหนงั สือเรยี นหน้า 114 ดงั รปู

4
7-3=4

ครใู ช้การถาม – ตอบดังนี้
- จากภาพนกั เรยี นเห็นอะไรบ้าง (ขุนก�ำ ลงั ขายโดนัท)
- มโี ดนทั ที่อยู่ในตูท้ างซ้ายท้งั หมดกี่ช้ิน (5 ชนิ้ )
- ขุนขายไปก่ีชิน้ (2 ชนิ้ )
- เหลอื โดนทั ทอ่ี ยใู่ นตู้ทางขวากช่ี ิน้ (3 ชิ้น)
ครแู นะนำ�ว่าการขายโดนทั ไปในลักษณะเชน่ น้ี อาจแสดงได้ดว้ ยการลบ
จ�ำ นวนสองจ�ำ นวนโดยการเอาออกแสดงการเอาออกดว้ ยรปู ภาพดงั นี้

102 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทท่ี 3 | การลบจำ�นวนสองจ�ำ นวนที่ตวั ต้ังไมเ่ กนิ 10 คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เล่ม 1

จะไดว้ า่ มโี ดนทั ทง้ั หมด 5 ชน้ิ ขายไป 2 ชน้ิ เหลอื โดนทั 3 ชน้ิ หรอื 5 เอาออก 2 เหลอื 3 เขยี นเปน็
ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการลบได้ 5 – 2 = 3 อ่านว่า หา้ ลบดว้ ยสองเท่ากับสาม จากน้ันครูแนะน�ำ
เคร่ืองหมายลบ (-) และเคร่อื งหมายเทา่ กับ (=) จากสถานการณ์ขา้ งตน้ เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์
แสดงการลบทป่ี ระกอบดว้ ยตวั ตง้ั คอื จ�ำ นวนของสง่ิ ของทง้ั หมดในทน่ี ค้ี อื 5 เครอ่ื งหมายลบ (-) ตวั ลบ
คือจำ�นวนสิ่งของทีเ่ อาออกไปในทีน่ ้ีคือ 2 เครื่องหมายเท่ากบั (=) และผลลบคอื จำ�นวนของสิง่ ของ
ท่ีเหลืออยใู่ นทน่ี ้ีคอื 3 (ครพู ดู พรอ้ มกับเขียนวงล้อมรอบตรงสว่ นท่กี ำ�ลงั พดู ถึงในประโยคสัญลกั ษณ์
แสดงการลบที่เขยี นไวบ้ นกระดาน) จากนั้นครยู กตัวอย่างเพม่ิ เตมิ โดยตดิ บตั รภาพตามหนังสือเรียน
หน้า 114 ดังรูป

ครใู ช้การถาม – ตอบดงั นี้
- จากภาพนกั เรียนเห็นอะไรบ้าง (แกว้ ตาแบง่ ขนมลูกชบุ ใหใ้ บบัว)
- จากรูปทางซ้ายแก้วตามขี นมลกู ชบุ ทัง้ หมดกชี่ ้นิ (7 ช้ิน)
- แกว้ ตาแบ่งขนมลูกชบุ ให้ใบบัวกชี่ น้ิ (3 ชน้ิ )
- แกว้ ตาเหลอื ขนมลูกชบุ กชี่ ้ิน (4 ชิน้ )
ครูแนะน�ำ ว่าการแบง่ ขนมลูกชบุ ใหเ้ พอ่ื นในลกั ษณะเช่นนี้
อาจแสดงได้ด้วยการลบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนโดยการเอาออก
แสดงการเอาออกดว้ ยรปู ภาพดังน้ี
จะไดว้ า่ แก้วตามขี นมลูกชุบท้งั หมด 7 ช้ิน ใหใ้ บบวั 3 ชิน้
แกว้ ตาเหลือขนมลกู ชุบ 4 ชนิ้ หรือ 7 เอาออก 3 เหลอื 4 เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดง
การลบได้ 7 – 3 = 4 อา่ นวา่ เจ็ดลบด้วยสามเท่ากับสี่ จากนั้นครูแนะน�ำ เครือ่ งหมายลบ (-) และ
เครือ่ งหมายเท่ากับ (=) จากสถานการณข์ า้ งตน้ เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบทป่ี ระกอบดว้ ย
ตัวต้งั คอื จ�ำ นวนของส่ิงของท้ังหมดในที่นค้ี อื 7 เคร่อื งหมายลบ (-) ตวั ลบคอื จ�ำ นวนสง่ิ ของท่เี อาออก
ไปในที่น้คี ือ 3 เคร่ืองหมายเท่ากบั (=) และผลลบคือจำ�นวนของส่ิงของท่เี หลืออย่ใู นที่นีค้ ือ 4
(ครูพูดพร้อมกบั เขียนวงล้อมรอบตรงสว่ นทีก่ �ำ ลังพูดถึงในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการลบทเ่ี ขยี นไว้
บนกระดาน) ครแู นะนำ�วา่ ในการวาดรปู แสดงการเอาออกนั้นไมจ่ �ำ เปน็ ต้องวาดให้เหมือนของจรงิ
อาจใชร้ ปู เรขาคณติ งา่ ย ๆ แทนสง่ิ ของทจ่ี ะวาดแตต่ อ้ งมจี �ำ นวนเทา่ กบั จ�ำ นวนของสง่ิ ทต่ี อ้ งการวาด เชน่
จากตัวอย่าง แก้วตามีขนมลกู ชุบท้งั หมด 7 ช้นิ แบง่ ให้ใบบวั 3 ชนิ้ แก้วตาเหลอื ขนมลูกชุบ 4 ชน้ิ
หรือ 7 เอาออก 3 เหลอื 4 เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบได้ 7 – 3 = 4 สามารถวาดรปู
ต่อไปนแี้ สดงการเอาออก ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปวา่
การลบจำ�นวนสองจำ�นวนเป็นการนำ�จ�ำ นวนของสงิ่ ของ
ทัง้ หมดคือตวั ต้ังลบดว้ ยจ�ำ นวนของสิง่ ของท่ีเอาออกไปคอื
ตัวลบ จำ�นวนของสง่ิ ของทเ่ี หลืออย่คู อื ผลลบ

| 103สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ อื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 3 | การลบจำ�นวนสองจ�ำ นวนทต่ี วั ตัง้ ไมเ่ กิน 10
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

3. ครใู หน้ กั เรยี นจับคกู่ นั แล้วให้ช่วยกันเตมิ ตวั เลข 6 33
แสดงจำ�นวนเขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบ 6-3=3
ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 115 ครอู าจดาวน์โหลดใบกิจกรรม
จากสอื่ เพิ่มเตมิ หน้าบทเปดิ แล้วแจกให้นกั เรียนคูล่ ะ 1 ใบ 7 25
แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบ 7-2=5
ลงในใบกจิ กรรม ซึง่ ในการท�ำ กิจกรรมครูอาจใชค้ ำ�ถาม
ตอ่ ไปนเี้ พือ่ เป็นแนวทางใหน้ ักเรยี นในการเขยี นประโยค 9 36
สัญลกั ษณ์แสดงการลบ 9-3=6
- จ�ำ นวนของสิ่งของทงั้ หมดเปน็ เท่าไร
- ตัวต้งั คือจำ�นวนใด
- จำ�นวนสงิ่ ของทเี่ อาออกไปเป็นเท่าไร
- ตัวลบคอื จำ�นวนใด
- จ�ำ นวนของส่ิงของท่ีเหลอื อยูเ่ ปน็ เทา่ ไร
- ผลลบคือจำ�นวนใด
ครอู าจสมุ่ ใหน้ ักเรียนบางคอู่ อกมานำ�เสนอใบกจิ กรรมของ
คตู่ นเอง ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง

การตรวจสอบความเขา้ ใจ 5-1=4
7-4=3
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล 8-2=6
โดยให้นักเรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบ 10 - 9 = 1
ตามหนังสือเรียนหน้า 116 ครอู าจดาวน์โหลดใบกจิ กรรม
จากหนา้ เปดิ บท จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบ
ความถกู ต้อง ถา้ พบวา่ มีนักเรยี นคนใดเขยี นประโยค
สญั ลักษณ์แสดงการลบไม่ถูกต้อง ครูอาจใหน้ กั เรียนคนน้นั
แกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง โดยครอู าจใช้คำ�ถาม เช่น จากโจทย์ 5
เอาออก 1 เหลือ 4 ตัวตงั้ คือจ�ำ นวนใด ตวั ลบคือจ�ำ นวนใด
ผลลบคอื จ�ำ นวนใด เมอ่ื นกั เรยี นเขา้ ใจแลว้ ใหน้ กั เรยี นคนนน้ั
เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการลบใหมอ่ ีกครั้ง
จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปสิ่งทีไ่ ด้เรยี นรู้

ส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรู้

จ�ำ นวนท้งั หมดของสิ่งตา่ ง ๆ เม่ือเอาสิ่งตา่ ง ๆ ออกไปจำ�นวนหนึ่ง สามารถหาจ�ำ นวนของทเ่ี หลอื
ได้ดว้ ยการลบโดยจำ�นวนทงั้ หมดเป็นตัวต้ัง จ�ำ นวนท่เี อาออกเป็นตวั ลบ และจ�ำ นวนท่เี หลือเป็นผลลบ
เช่น 5 − 1 = 4

ตวั ตัง้ ตวั ลบ ผลลบ

จากนน้ั ให้นักเรียนท�ำ แบบฝึกหดั 3.1 หน้า 72 - 74
104 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 3 | การลบจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่ีตวั ตง้ั ไมเ่ กนิ 10 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เลม่ 1

3.2 การลบโดยการเปรียบเทียบ (1 ชัว่ โมง)

จดุ ประสงค์

เขียนประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบ

สอ่ื การเรยี นรู้

- ตะกร้า

- ไขพ่ ลาสติก

- บตั รภาพ

แนวการจดั การเรยี นรู้

การพัฒนาความรู้

1. ครนู �ำ เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยการทบทวนการเปรยี บเทยี บ
จ�ำ นวนของส่ิงตา่ ง ๆ โดยการจับคู่ ครหู ยบิ ไข่พลาสติกใส่ใน
ตะกร้า 5 ฟอง โดยใหน้ กั เรยี นนบั จ�ำ นวนไขใ่ นตะกร้าพรอ้ ม
กัน จากนั้นครสู ุ่มนักเรียนออกมายืนเข้าแถวเรยี งกันหน้า
ห้องเรยี น 3 คน ครใู ช้การถาม-ตอบ ดงั นี้
- มไี ขพ่ ลาสตกิ ในตะกรา้ กีฟ่ อง (5 ฟอง)
- มีนกั เรยี นออกมายืนหน้าห้องเรยี นกี่คน (3 คน)
- ไขพ่ ลาสติก 5 ฟอง กบั นกั เรียน 3 คน อะไรมจี �ำ นวนมากกวา่ (ไข่พลาสติกมากกว่า)
ครูแสดงการเปรียบเทยี บไขพ่ ลาสติก 5 ฟอง กบั นักเรียน 3 คน โดยการจบั คู่ ครนู �ำ ไข่พลาสตกิ ใน
ตระกรา้ ใหน้ กั เรียนถือคนละ 1 ฟอง ครแู นะน�ำ ว่า ครูจับค่ไู ข่พลาสตกิ 1 ฟอง กับนกั เรยี น 1 คน
จนครบทกุ คนแล้วแต่ยังเหลอื ไขพ่ ลาสตกิ ในตะกรา้ 2 ฟอง ดงั นน้ั ไขพ่ ลาสตกิ มจี ำ�นวนมากกวา่
นักเรียนและมากกวา่ อยู่ 2 หรือ นกั เรียนมีจำ�นวนน้อยกวา่ ไขพ่ ลาสตกิ และนอ้ ยกวา่ อยู่ 2 เพราะ
เหลือไข่พลาสติกอยู่ 2 ฟอง นน่ั คอื 5 มากกว่า 3 อยู่ 2 หรือ 3 นอ้ ยกวา่ 5 อยู่ 2 จากนัน้ ครแู นะน�ำ
วา่ การเปรยี บเทียบส่งิ ของสองสง่ิ เพื่อที่จะหาว่าสงิ่ หนึง่ มากกวา่ หรือน้อยกวา่ สง่ิ หนึ่งอยู่เทา่ ไรใน
ลักษณะเชน่ นี้ เราอาจแทนด้วยการลบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่นี �ำ มาเปรยี บเทียบกัน จากนั้นครูตดิ
บตั รภาพ ตน้ กล้าก�ำ ลงั เล่นเกมอีตักกบั ขุนตามหนังสอื เรยี นหนา้ 117 ดังรปู

ขนุ ตกั เมล็ดน้อยหน่าได้ 10 เมลด็ ต้นกลา้ ตกั เมลด็ นอ้ ยหน่าได้ 7 เมล็ด

ครูใช้การถาม-ตอบ ดงั นี้
- ขนุ ตักเมลด็ นอ้ ยหนา่ ได้ก่ีเมลด็ (10 เมล็ด)
- ต้นกล้าตกั เมล็ดนอ้ ยหน่าได้ก่ีเมลด็ (7 เมล็ด)

| 105สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 3 | การลบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนที่ตวั ตั้งไมเ่ กนิ 10
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 เลม่ 1

เปรยี บเทยี บ 10 กับ 7 โดยการจับคไู่ ดด้ ังน้ี

ขนุ
ต้นกล้า

- จากภาพเปรียบเทยี บ 10 กับ 7 ไดอ้ ยา่ งไร

(10 มากกวา่ 7 หรอื 7 น้อยกว่า 10)

- 10 มากกวา่ 7 อยู่เทา่ ไร (3)

- 7 น้อยกวา่ 10 อยู่เท่าไร (3) 5
ครูแนะน�ำ ว่าการเปรยี บเทียบจ�ำ นวนของสง่ิ ของสองสิ่งใน 9-4=5
ลักษณะเช่นน้ี อาจแสดงไดด้ ว้ ยการลบจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่นี �ำ

มาเปรยี บเทยี บกัน จะได้ว่า ขนุ ตกั เมลด็ นอ้ ยหน่าได้

10 เมล็ด ต้นกลา้ ตกั เมล็ดนอ้ ยหน่าได้ 7 เมล็ด ขุนตักได้

มากกวา่ 3 เมล็ด หรือตน้ กลา้ ตักไดน้ ้อยกวา่ 3 เมลด็

นนั่ คอื 10 มากกวา่ 7 อยู่ 3 หรอื 7 น้อยกว่า 10 อยู่ 3

เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบได้ 10 – 7 = 3 อา่ นว่า สบิ ลบดว้ ยเจด็ เทา่ กับสาม

จากนั้นครูแนะนำ�เครือ่ งหมายลบ (-) และเครื่องหมายเทา่ กับ (=) จากสถานการณก์ ารเปรยี บเทียบ

จำ�นวนสองจ�ำ นวนข้างต้นเขียนเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการลบทปี่ ระกอบดว้ ย ตัวตัง้ คอื จ�ำ นวน

ทม่ี ากกวา่ ในท่ีนคี้ อื 10 เครอื่ งหมายลบ (-) ตัวลบคอื จ�ำ นวนท่ีนอ้ ยกวา่ ในท่ีนคี้ ือ 7 เครื่องหมาย

เทา่ กับ (=) และผลลบคือจ�ำ นวนท่บี อกวา่ มากกวา่ อยเู่ ท่าไรหรือน้อยกว่าอยู่เทา่ ไรในทน่ี ้คี ือ 3

(ครูพูดพร้อมกบั เขยี นวงล้อมรอบตรงส่วนท่ีกำ�ลังพดู ถงึ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบที่เขียนไว้

บนกระดาน) ครูให้นักเรียนสังเกตว่าตัวตั้งจะมากกว่าตัวลบเสมอ

2. เม่ือนกั เรยี นรจู้ ักประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบวา่ ประกอบดว้ ย ตัวตั้ง เครื่องหมายลบ (-)

ตวั ลบ เครื่องหมายเท่ากับ (=) และผลลบแลว้ ครูยกตวั อย่างเก่ียวกบั สถานการณ์ทเี่ ปรยี บเทียบ

จำ�นวนสง่ิ ของสองส่ิงและจ�ำ นวนของสิง่ หน่ึงมากกวา่ หรือนอ้ ยกว่าจ�ำ นวนของอกี สงิ่ หน่งึ อยเู่ ท่าไร

โดยเขียนแสดงได้ดว้ ยประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบ ดงั น้ี

ครูตดิ บัตรภาพตามหนังสือเรยี นหน้า 118 ดังรปู

ครใู ช้การถาม – ตอบดังนี้

- มปี ลากต่ี วั (6 ตวั )

- มีเต่ากตี่ วั (2 ตัว)

- เปรยี บเทียบจ�ำ นวนปลากบั จ�ำ นวนเตา่ (ปลามากกว่าเต่า หรอื เต่านอ้ ยกวา่ ปลา)

- ปลามากกว่าเต่ากต่ี ัว (4 ตัว)

- เต่าน้อยกว่าปลากตี่ ัว (4 ตัว)

ครูแนะนำ�วา่ การเปรยี บเทียบจ�ำ นวนปลากบั จ�ำ นวนเตา่ ในลกั ษณะเช่นนี้ อาจแสดงได้ด้วยการลบ

จ�ำ นวนสองจ�ำ นวน จะได้ว่า มีปลา 6 ตวั มเี ต่า 2 ตัว มีปลามากกวา่ เต่า 4 ตวั หรอื มีเต่าน้อยกว่าปลา

4 ตวั นน่ั คือ 6 มากกว่า 2 อยู่ 4 หรอื 2 นอ้ ยกวา่ 6 อยู่ 4 เขียนเป็นประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบ

ได้ 6 – 2 = 4 อา่ นว่า หกลบดว้ ยสองเทา่ กบั ส่ี จากนัน้ ครแู นะน�ำ เครือ่ งหมายลบ (-) และเครอื่ งหมาย

เทา่ กับ (=) จากสถานการณข์ า้ งต้นเขียนเป็นประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบท่ปี ระกอบด้วย ตัวตั้งคอื

จ�ำ นวนทม่ี ากกวา่ ในทนี่ ้คี ือ 6 เครอ่ื งหมายลบ (-) ตัวลบคือจำ�นวนทน่ี อ้ ยกวา่ ในที่นคี้ ือ 2

106 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 3 | การลบจ�ำ นวนสองจำ�นวนทต่ี ัวตั้งไมเ่ กิน 10 คมู่ อื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เลม่ 1

เคร่ืองหมายเทา่ กบั (=) และผลลบคือจ�ำ นวนท่บี อกวา่ มากกวา่ อยู่เทา่ ไรหรอื น้อยกวา่ อยเู่ ท่าไรในท่นี ี้

คือ 4 (ครพู ดู พรอ้ มกับเขยี นวงลอ้ มรอบตรงส่วนท่ีกำ�ลงั พดู ถึงในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบที่

เขยี นไวบ้ นกระดาน) ครใู หน้ กั เรียนสงั เกตวา่ ตวั ตั้งจะมากกว่าตัวลบเสมอ จากน้นั ครใู หน้ กั เรียนจบั คู่กัน

ใหช้ ว่ ยกันเขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการลบจากภาพและขอ้ ความทแี่ สดงการเปรียบเทยี บจ�ำ นวน

สองจำ�นวนที่กำ�หนดให้ตามหนังสือเรียนหน้า 119 ครอู าจดาวน์โหลดใบกิจกรรมจากส่อื เพิม่ เติมหนา้

บทเปิด แล้วแจกใหน้ ักเรียนคู่ละ 1 ใบ แล้วให้นกั เรียนช่วยกนั เขียนประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบ

ลงในใบกจิ กรรม ซ่ึงในการทำ�กจิ กรรมครอู าจใช้ค�ำ ถามต่อไปนเ้ี พื่อเป็นแนวทางให้นักเรียนในการเขียน

ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบ

- เปรียบเทยี บจ�ำ นวนใดกับจ�ำ นวนใด

- จ�ำ นวนใดมากกวา่

- ตวั ต้งั คือจำ�นวนใด

- จ�ำ นวนใดน้อยกว่า

- ตัวลบคอื จ�ำ นวนใด

- จ�ำ นวนท่มี ากกว่านนั้ มากกว่าอย่เู ท่าไร 4
- จ�ำ นวนท่ีนอ้ ยกว่านั้นนอ้ ยกวา่ อยู่เทา่ ไร 7-3=4

- ผลลบคือจ�ำ นวนใด 4
ครสู ุ่มนกั เรียนบางคอู่ อกมานำ�เสนอจนครบทุกขอ้ ครแู ละนักเรยี น 7-3=4
รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องและร่วมกันสรปุ วา่ การลบจ�ำ นวน
2
10 - 8 = 2

สองจ�ำ นวนเปน็ การน�ำ จำ�นวนของส่ิงของที่เปรยี บเทียบกันโดย 2
จ�ำ นวนของส่งิ ของที่มากกว่าลบด้วยจำ�นวนของส่ิงของท่นี อ้ ยกวา่ 10 - 8 = 2

ผลลบจะเปน็ จ�ำ นวนทบี่ อกว่าสงิ่ ของนัน้ มากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่

อย่เู ท่าไร

การตรวจสอบความเข้าใจ
3. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คลโดยให้นกั เรียนเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์

แสดงการลบ ตามหนังสือเรียนหน้า 120 ครอู าจดาวนโ์ หลด

ใบกิจกรรมจากหนา้ เปิดบท จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั

ตรวจสอบความถูกต้อง ถ้าพบว่ามีนกั เรยี นคนใดเขียน

ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบไม่ถกู ตอ้ ง ครอู าจใหน้ กั เรยี นคนนน้ั

แกไ้ ขให้ถกู ต้อง โดยครอู าจใช้ค�ำ ถาม เช่น จากโจทย์ 4 น้อยกวา่ 6

อยู่ 2 ตัวตง้ั คอื จ�ำ นวนใด ตัวลบคือจ�ำ นวนใด ผลลบคือจ�ำ นวนใด

เมื่อนักเรียนเขา้ ใจแล้วใหน้ ักเรียนคนนนั้ เขียนประโยคสญั ลักษณ์

แสดงการลบใหมอ่ ีกคร้ัง จากนัน้ ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ

ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ 64
2

ส่ิงท่ไี ดเ้ รยี นรู้ 6-4=2

การเปรยี บเทยี บจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนวา่ จ�ำ นวนหนง่ึ มากกวา่

หรือนอ้ ยกวา่ อีกจำ�นวนหนึ่งอยเู่ ทา่ ไรทำ�ไดด้ ้วยการลบ

โดยจำ�นวนทมี่ ากกวา่ เป็นตัวตง้ั และจำ�นวนที่น้อยกวา่ เป็นตัวลบ

จากนน้ั ให้นักเรียนทำ�แบบฝกึ หัด 3.2 หนา้ 75 - 77
| 107สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คมู่ ือครูรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 3 | การลบจ�ำ นวนสองจำ�นวนทีต่ วั ต้ังไม่เกิน 10
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

3.3 การลบโดยความสมั พนั ธ์ของการบวกและการลบ (1 ชว่ั โมง)

จุดประสงค์

เขียนประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบ

สอ่ื การเรยี นรู้

- ตะกร้า
- ไข่พลาสติก
- บัตรภาพ

แนวการจัดการเรยี นรู้
การพฒั นาความรู้

1. ครอู าจน�ำ เข้าสู่บทเรียนโดยใชก้ ิจกรรมคลา้ ยกบั
กิจกรรมเตรยี มความพร้อม ครใู ช้ตะกร้า 3 ใบ น�ำ ไข่
พลาสติกใสต่ ะกร้าตรงกลาง 10 ฟอง แล้วแยกไขพ่ ลาสตกิ
10 ฟองใส่ในตะกร้า 2 ใบท่ีเหลือ ใบแรกใส่ 4 ฟอง
ใบที่สองใส่ 6 ฟอง ดงั รปู

10

ครแู นะนำ�ว่า ไข่พลาสตกิ 10 ฟอง แยกออกเปน็ 4 ฟอง กับ 6 ฟอง หรือ 10 เป็นส่วนรวม 4 กับ 6
เปน็ สว่ นยอ่ ยของ 10 ถา้ เราน�ำ ไขพ่ ลาสตกิ 4 ฟอง มารวมกบั ไข่พลาสติก 6 ฟอง จะไดไ้ ข่พลาสติก
10 ฟอง หรอื 4 + 6 = 10 แต่ถา้ เรามีไข่พลาสติกอยู่ในตะกร้า 10 ฟอง เอาไข่พลาสติกออกไป 4
ฟอง (ครูพดู พร้อมกบั หยิบไข่ออกจากตะกรา้ ) เหลือไข่พลาสติกในตะกรา้ 6 ฟอง ครอู าจให้นกั เรียน
ช่วยกันนับไข่พลาสติกท่ีเหลอื อย่ใู นตะกรา้ จากน้นั ครูแนะน�ำ วา่ การน�ำ ส่งิ ของออกไปจำ�นวนหนง่ึ ใน
ลกั ษณะเช่นน้ี เราอาจแทนด้วยการลบจำ�นวนสองจ�ำ นวน จะได้ 10 – 4 = 6 แต่ถ้าเรามีไขพ่ ลาสตกิ
อย่ใู นตะกร้า 10 ฟอง เอาไขพ่ ลาสติกออกไป 6 ฟอง (ครูพูดพร้อมกับหยบิ ไข่ออกจากตะกร้า)
เหลอื ไข่พลาสตกิ ในตะกร้า 4 ฟอง ครอู าจให้นักเรยี นชว่ ยกันนับไขพ่ ลาสตกิ ทีเ่ หลืออยู่ในตะกร้า
จากนน้ั ครแู นะน�ำ วา่ การนำ�สิ่งของออกไปจำ�นวนหนง่ึ ในลักษณะเชน่ นี้ เราอาจแทนดว้ ยการลบ
จำ�นวนสองจ�ำ นวน จะได้ 10 – 6 = 4 จากนัน้ ครเู ขียนประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวก
และประโยคสญั ลักษณ์แสดงการลบบนกระดานดงั นี้
4 + 6 = 10
10 – 4 = 6
10 – 6 = 4

108 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 3 | การลบจำ�นวนสองจำ�นวนทีต่ วั ตั้งไม่เกนิ 10 คูม่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 เล่ม 1

จากประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวกและประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบ ครูให้นกั เรยี นสังเกตวา่
10 เปน็ ผลบวกของ 4 กบั 6 เม่ือน�ำ 10 เปน็ ตวั ต้ังลบด้วย 6 จะได้ผลลบเปน็ 4 หรอื เมอื่ นำ� 10
เป็นตวั ตง้ั ลบดว้ ย 4 จะได้ผลลบเปน็ 6 จากนั้นครตู ดิ ภาพลูกแซ็กสแี ดงและลกู แซก็ สีมว่ ง
ตามหนังสอื เรียนหนา้ 121 บนกระดาน ดงั รูป

ครใู ชก้ ารถาม – ตอบดังนี้
- จากภาพนกั เรียนเห็นอะไรบา้ ง (ลกู แซ็กสีแดงและลกู แซ็กสีม่วง)
- มลี กู แซก็ สแี ดงกี่อนั (6 อนั )
- มีลกู แซ็กสีมว่ งก่อี ัน (2 อัน)
- มีลูกแซ็กทัง้ หมดก่ีอนั (8 อัน) หาค�ำ ตอบได้อย่างไร (6 + 2 = 8 อัน)
ครเู ขียน 6 + 2 = 8 บนกระดาน
- จากประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวก 6 + 2 = 8 ผลบวกคือจ�ำ นวนใด (8)
- 8 เป็นผลบวกของสองจำ�นวนใด (6 กับ 2)
- ถ้าน�ำ ผลบวกคอื 8 เปน็ ตวั ตงั้ ลบด้วย 6 จะได้ผลลบเปน็ จ�ำ นวนใด (2)
- เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบไดอ้ ยา่ งไร (8 – 6 = 2)
- ถ้านำ�ผลบวกคอื 8 เปน็ ตวั ตั้งลบด้วย 2 จะได้ผลลบเป็นจ�ำ นวนใด (6)
- เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณแ์ สดงการลบไดอ้ ยา่ งไร (8 – 2 = 6)
ครเู ขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบบนกระดาน ดังน้ี
6 + 2 = 8
8 – 6 = 2
8 – 2 = 6
ครแู นะน�ำ วา่ ประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการลบทเ่ี ขยี นบนกระดานน้ี
เปน็ ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ ครใู หน้ ักเรียนสังเกตวา่ เป็นความสัมพันธข์ องการบวกและ
การลบเพราะ 8 เป็นผลบวกของ 6 กับ 2 และเมอื่ น�ำ 8 เป็นตัวต้ังลบดว้ ย 6 จะได้ผลลบเปน็ 2 หรอื
เมอ่ื น�ำ 8 เป็นตวั ตง้ั ลบด้วย 2 จะไดผ้ ลลบเปน็ 6
2. ครยู กตวั อยา่ งสถานการณท์ เี่ ปน็ ความสัมพันธ์ของการบวกและการลบ ตามหนังสอื เรียน
หนา้ 122 ครตู ิดบัตรภาพ ดงั รูป

ครใู ช้การถาม – ตอบดังน้ี
- จากภาพนักเรียนเหน็ อะไรบ้าง (มลี ูกข่างใหญ่และลกู ข่างเล็ก)
- มลี กู ขา่ งทั้งหมดกีอ่ ัน (5 อัน)
- มลี ูกขา่ งใหญ่ก่อี ัน (3 อัน)

| 109สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   

คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 3 | การลบจ�ำ นวนสองจำ�นวนที่ตวั ต้ังไมเ่ กนิ 10
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 เลม่ 1

- มลี กู ข่างเลก็ ก่อี นั (2 อนั ) หาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร (5 – 3 = 2 อัน)

ครเู ขยี น 5 – 3 = 2 บนกระดาน

- จากประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการลบ 5 – 3 = 2 ตัวต้งั คอื จำ�นวนใด (5)

- ถา้ นำ� 5 เป็นตัวตงั้ ลบดว้ ย 3 จะได้ผลลบเปน็ จำ�นวนใด (2)

- เขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบไดอ้ ยา่ งไร (5 – 3 = 2)

- ถา้ น�ำ 5 เปน็ ตวั ตัง้ ลบดว้ ย 2 จะไดผ้ ลลบเป็นจำ�นวนใด (3)

- เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบไดอ้ ย่างไร (5 – 2 = 3)

- 5 เป็นตัวต้งั ดงั นั้น 5 ตอ้ งเปน็ ผลบวกของสองจ�ำ นวนใด (3 กับ 2)

- เขียนเป็นประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกได้อยา่ งไร (3 + 2 = 5)

ครูเขียนประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยค

สัญลักษณแ์ สดงการลบบนกระดาน ดงั น้ี

5 – 3 = 2

5 – 2 = 3

3 + 2 = 5

ครูแนะน�ำ วา่ ประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยค

สญั ลกั ษณแ์ สดงการลบทีเ่ ขียนบนกระดานนเี้ ปน็ ความ-

สมั พันธข์ องการบวกและการลบ ครูใหน้ กั เรียนสังเกตว่า

เปน็ ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบเพราะ 5 เป็น

ตวั ตง้ั ลบดว้ ย 3 จะไดผ้ ลลบเปน็ 2 หรอื 5 เปน็ ตวั ตง้ั ลบดว้ ย 2 2
จะได้ผลลบเป็น 3 และเม่อื น�ำ 3 บวกกบั 2 จะไดผ้ ลบวก 6-4=2

เปน็ 5 เท่ากับตวั ต้ังน่นั เอง จากนนั้ ครใู ห้นักเรยี นจับคูแ่ ล้ว

ชว่ ยกันเขยี นความสมั พันธ์ของการบวกและการลบในกรอบ

ทา้ ยหนงั สอื เรยี นหนา้ 122 นกั เรยี นออกมาน�ำ เสนอจนครบทกุ ขอ้

ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง

3. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะคชู่ ่วยกันเขียนความสัมพันธข์ องการบวกและการลบตามหนงั สอื เรียน

หน้า 123 ให้ทำ�คูล่ ะ 2 ข้อ ครอู าจใชค้ �ำ ถามต่อไปนีเ้ ป็นคำ�ถามนำ�เพือ่ ใหน้ กั เรยี นสามารถเขยี น

ความสัมพนั ธข์ องการบวกและการลบได้

- จ�ำ นวนใดบวกกบั จ�ำ นวนใด

- ผลบวกคอื จำ�นวนใด

- ตวั ตง้ั คือจำ�นวนใด

- ตัวลบคือจ�ำ นวนใด

- ผลลบคือจ�ำ นวน

110 |    สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทที่ 3 | การลบจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่ตี ัวต้ังไม่เกิน 10 ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1

เชน่ ขอ้ 1 มตี กุ๊ ตาทหารบกและตกุ๊ ตาทหารเรอื ทง้ั หมด 8 ตวั

เป็นตุ๊กตาทหารบก 3 ตัว เป็นตุ๊กตาทหารเรอื 5 ตวั

ครูใช้การถาม-ตอบ ดังน้ี

- จำ�นวนใดบวกกับจำ�นวนใด (3 กบั 5) 5
- ผลบวกคอื จ�ำ นวนใด (8) 8-3=5

- ตวั ตัง้ คือจ�ำ นวนใด (8)

- ตวั ลบคือจ�ำ นวนใด (3 หรอื 5) 2
- ผลลบคอื จ�ำ นวน (5 หรอื 3) 3-1=2

เขียนแสดงความสัมพันธ์ของการบวกและการลบไดด้ งั นี้ 3
3 + 5 = 8 10 - 7 = 3
8 – 3 = 5

8 – 5 = 3

การตรวจสอบความเข้าใจ

4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล

โดยใหน้ ักเรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบตาม

หนังสือเรยี นหน้า 124 ครอู าจใชค้ ำ�ถามตอ่ ไปนี้เป็นค�ำ ถาม

น�ำ เพื่อให้นกั เรยี นสามารถเขียนความสมั พนั ธ์ของการบวก 6 10
และการลบได้ 9 2

- จ�ำ นวนใดบวกกับจำ�นวนใด 4
- ผลบวกคอื จ�ำ นวนใด 10 - 6 = 4

- ตัวต้ังคือจ�ำ นวนใด

- ตวั ลบคือจ�ำ นวนใด 2
- ผลลบคือจำ�นวน 7-5=2

จากนนั้ ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง

ถ้าพบว่ามีนกั เรยี นคนใดเขียนประโยคสญั ลักษณแ์ สดง

การลบไม่ถกู ตอ้ ง ครอู าจใหน้ กั เรยี นคนนั้นแก้ไขให้ถูกต้อง

โดยครอู าจใชค้ �ำ ถาม เชน่ จากโจทย์ มเี ดก็ ผชู้ ายและเดก็ ผหู้ ญงิ

ทง้ั หมด 10 คน เปน็ เด็กผู้ชาย 6 คน เป็นเดก็ ผ้หู ญงิ 4 คน จำ�นวนใดบวกกับจ�ำ นวนใด (6 กับ 4)

ผลบวกคือจ�ำ นวนใด (10) ตัวตง้ั คือจำ�นวนใด (10) ตวั ลบคือจ�ำ นวนใด (6 หรือ 4) และผลลบคือ

จ�ำ นวนใด (4 หรอื 6) เมอื่ นกั เรียนเขา้ ใจแล้วให้นกั เรียนคนนนั้ เขยี นประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบ

ใหม่อีกคร้งั จากนน้ั ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปส่ิงที่ได้เรยี นรู้

สง่ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้

จำ�นวนทเ่ี ป็นผลบวกของจำ�นวนสองจำ�นวน เมื่อลบดว้ ยจำ�นวนหนง่ึ ในสองจำ�นวนนน้ั ผลลบคอื

จำ�นวนอกี จ�ำ นวนหน่ึง

จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นท�ำ แบบฝกึ หัด 3.3 หน้า 78 - 79

| 111สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   


Click to View FlipBook Version