The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ เทอม 2 ปี 2564 กนกวรรณ 115P

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sai28534, 2022-03-04 23:30:03

แผนการจัดการเรียนรู้ เทอม 2 ปี 2564 กนกวรรณ 115P

แผนการจัดการเรียนรู้ เทอม 2 ปี 2564 กนกวรรณ 115P

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9

กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 คลืน่ เวลา 7 ช่ัวโมง

เรอื่ ง ประโยชน์ของคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า เวลา 2 ช่ัวโมง

ภาคเรยี นท่ี 2 วนั ทส่ี อน.............................................. ครูผูส้ อน นางสาวกนกวรรณ รกั พรม

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด/สาระการเรยี นรู้

สาระท่ี มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้

สาระที่ 2 มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมาย 12. ตระหนกั ถึง - เลเซอร์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มี

วทิ ยาศาสตร์ ของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและ ประโยชนแ์ ละอันตราย ความยาวคล่นื เดยี ว เป็นลำแสงขนาน

กายภาพ ถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ จาก คลนื่ และมีความเข้มสูง นำไปใช้ ประโยชน์

ร ะ ห ว ่ า ง ส ส า ร แ ล ะ พ ล ั ง ง า น แมเ่ หล็กไฟฟ้าโดย ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการสื่อสาร

พ ล ั ง ง า น ใ น ช ี ว ิ ต ป ร ะ จ ำ วั น นำเสนอการใช้ มีการใช้เลเซอร์สำหรับส่งสารสนเทศ

ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่ ประโยชน์ในดา้ นตา่ ง ผ่าน เส้นใยนำแสงโดยอาศัยหลักการ

เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่น ๆ และอนั ตรายจาก การสะท้อนกลับหมด ของแสง ด้าน

แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไป คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ใน การแพทย์ใช้ในการผ่าตัด

ใชป้ ระโยชน์ ชีวติ ประจำวนั - คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านอกจากจะ

สามารถนำไปใช้ ประโยชน์แล้ว ยังมี

โทษตอ่ มนษุ ยด์ ้วย เช่น ถ้ามนุษย์ได้รับ

รังสอี ลั ตราไวโอเลตมากเกินไป อาจจะ

ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง หรือถ้าได้รังสี

แกมมาซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มี

พลังงานสูง และสามารถทะลุผ่าน

เซลล์และอวัยวะได้ อาจทำลาย

เนื้อเยื่อหรืออาจทำให้เสียชีวิตได้ เม่ือ

ได้รับรงั สแี กมมาในปริมาณสูง

1. การกำหนดเป้าหมายการจดั กระบวนการเรยี นรู้
1.1 สาระสำคญั /Concept
เลเซอร์เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่น เดียว เป็นลำแสงขนานและมีความเข้มสูง นำไปใช้

ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น ดา้ นการสอื่ สาร มีการใชเ้ ลเซอรส์ ำหรับสง่ สารสนเทศผ่าน เสน้ ใยนำแสงโดยอาศัย
หลักการการสะท้อนกลับหมด ของแสง ด้านการแพทย์ใช้ในการผ่าตัด • คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านอกจากจะ
สามารถนำไปใช้ ประโยชน์แล้ว ยังมีโทษต่อมนุษย์ด้วย เช่น ถ้ามนุษย์ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตมากเกินไป
อาจจะทำให้เกดิ มะเร็งผิวหนัง หรือถา้ ได้รงั สี แกมมาซงึ่ เป็นคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ทม่ี ีพลังงานสงู และสามารถทะลุ
ผ่านเซลลแ์ ละอวัยวะได้ อาจทำลายเนอื้ เย่อื หรอื อาจทำให้เสยี ชีวติ ได้ เมอ่ื ไดร้ บั รังสีแกมมาในปริมาณสงู

1.2 สาระการเรียนรู้/เน้อื หา/Contents
1.2.1 ประโยชนข์ องคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า

1.3 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1.3.1 อธบิ ายและยกตวั อย่างประโยชนข์ องคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ ได้ (K)
1.3.2 นำเสนอการใช้ประโยชนใ์ นดา้ นต่างๆ และอันตรายจากคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้ ในชวี ติ ประจำวัน (P)
1.3.3 มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ มั่นในการทำงาน (A)

2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
การจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใชร้ ปู แบบ 5E

ชัว่ โมงท่ี 1

ขั้นที่ 1 ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement)
1.1 ครสู ่มุ ถามนักเรยี นในห้องจำนวน 4-5 คน เกย่ี วกบั คล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ มีประโยชนอ์ ย่างไร
(แนวคำตอบ หลากหลาย)
1.2 ครูตั้งประเด็นคำถามกระตุ้นความสนใจนักเรียนว่า “ถ้านักเรียนต้องการจะประหยัดพลังงาน

ไฟฟ้า นักเรียนจะมีหลักในการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร และทราบหรือไม่ว่าพฤติกรรมการใช้พลังงาน
ไฟฟ้ามีความหมาะสมหรือเกิดการสิ้นเปลืองอย่างไร” โดยให้นักเรียนแต่ละคนร่วมกันอภิปรายแสดงความ
คิดเหน็ อยา่ งอสิ ระ

ขน้ั ที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration)
2.1 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน จากนั้นร่วมกันศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าอย่าง

ประหยดั และปลอดภยั จากหนงั สอื เรยี นหรอื แหลง่ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ เชน่ อนิ เตอรเ์ นต็ หอ้ งสมดุ
2.2 นักเรียนร่วมกันอภิปรายเรื่องที่ได้ศึกษาจากนั้นเขียนสรุปความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าลงใน

สมุดประจำตัวนกั เรียน
2.3 แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมเรื่อง ความประมาทในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วมกันพูดคุยและคิด

สถานการณจ์ ำลองเกี่ยวกับการเกิดอุบตั เิ หตุเนื่องจากความประมาทในการใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟ้า โดยบันทึกข้อมูลที่
ได้ลงในกระดาษ A4 ซึง่ มขี ้อมูลและลำดับเนื้อหา ดังนี้

- กำหนดช่ือสถานการณ์
- สาเหตขุ องการเกดิ อุบตั เิ หตุ
- ผลของการการเกิดอุบัตเิ หตุ
- การแกไ้ ขเม่ือเกดิ อุบตั เิ หตุ
- วิธีการป้องกนั ไมใ่ ห้เกดิ อบุ ตั ิเหตุ
จากน้นั แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน

ข้นั ที่ 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)
3.1 ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปและอภิปรายผลกิจกรรม จนได้ข้อสรุปว่า การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย

ควรเลือกใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่ ความจำเป็นทีต่ อ้ งใช้ และจำนวนสมาชิกภายใน
บ้าน ซึ่งวิธปี ระหยดั พลงั งานในบ้าน เช่น เปดิ เคร่ืองปรับอากาศ 25 องศาเซลเซียส ติดตัง้ ตู้เย็นออกหา่ งผนงั ดึง
ปลก๊ั เครื่องใชไ้ ฟฟา้ เมื่อไม่ไดใ้ ช้งาน ดงึ ปลัก๊ ก่อนรีดผา้ เสรจ็ 3 นาที

ช่วั โมงท่ี 3

ข้ันที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration)
4.1 ครขู ยายความร้โู ดยการอธิบายเพิ่มเติมเก่ยี วกบั รงั สีอินฟราเรดว่า รงั สอี นิ ฟราเรดสามารถแบ่งช่วง

ความยาวคลื่นได้เป็น 3 ชว่ ง ไดแ้ ก่
- รงั สอี นิ ฟราเรดช่วงคลนื่ ส้ัน มีความยาวคล่ืนประมาณ 0.7-1.5 ไมโครเมตร มักประยกุ ต์ใช้ในงาน

ถ่ายภาพความร้อน
- รังสีอินฟราเรดช่วงคลื่นกลาง มีความยาวคลืน่ ประมาณ 1.5-5.6 ไมโครเมตร มักประยุกต์ใช้กับ

ระบบนำวิถขี องจรวดมสิ ไซส์

- รังสีอินฟราเรดช่วงคลื่นยาว มีความยาวคลื่นประมาณ 5.6 ไมโครเมตรขึ้นไป รังสีอินฟราเรด
ประเภทนมี้ ีความรอ้ นไม่มากนัก นิยมใช้ในการบำบดั ผปู้ ่วย เช่น อาการปวดเม่ือยเร้ือรัง ผูป้ ่วยดว้ ยโรคความดัน
โลหติ

ขัน้ ที่ 5 ประเมิน (Evaluation)

5.1 นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ที่ 2.4 2.5 และ2.6 คล่นื แม่เหล็กไฟฟ้า ในหนงั สอื แบบฝึกหัดเรียนรายวิชา
พนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 2

5.2 ครปู ระเมนิ นักเรียนโดยการทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 คล่นื

3. สอื่ การเรยี นการสอน และแหล่งการเรยี นรู้

3.1 หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
3.2 หนังสือแบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
3.3 แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 คลน่ื

4. วิธกี ารวัดและประเมินผล การวดั /เครอ่ื งมือการวดั ภาระงาน/ชิน้ งาน เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล
ผา่ นเกณฑร์ ะดับดี
อธิบายและยกตัวอย่าง - แบบประเมินการตอบคำถาม - การตอบคำถาม
ผา่ นเกณฑร์ ะดบั ดี
ป ร ะ โ ย ช น ์ ข อ ง ค ลื่ น - ตรวจแบบฝึกหดั เรอื่ ง คลื่น - แบบฝึกหดั
ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดี
แม่เหลก็ ไฟฟ้าได้ (K) เรอ่ื ง คล่นื

นำเสนอการใช้ประโยชน์ - แบบประเมินกจิ กรรม - กจิ กรรม ความ

ใ น ด ้ า น ต ่ า ง ๆ แ ล ะ - แบบประเมนิ การนำเสนอ ประมาทในการใช้

อ ั น ต ร า ย จ า ก ค ล่ื น เคร่ืองใช้ไฟฟ้า

แม่เหล็กไฟฟ้าใน

ชวี ติ ประจำวนั (P)

มีวินัยใฝ่เรียนรู้และ - แบบประเมินคุณลักษณะ - มีวินัย

มุ่งมัน่ ในการทำงาน (A) อนั พงึ ประสงค์ - ใฝเ่ รยี นรู้

- มุ่งมั่นในการทำงาน

แบบฝึกหัด เรอ่ื ง ประโยชนของคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้

แบบฝึกหดั ที่ 2.4 สืบค้นประโยชนแ์ ละอนั ตรายจากคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าที่กำหนดให้

คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า ประโยชน์ อันตราย
1. คลนื่ วิทยุ .................................................................. ..............................................................
2. คล่นื ไมโครเวฟ .................................................................. ..............................................................
3. รงั สอี นิ ฟราเรด .................................................................. ..............................................................
4. แสงทมี่ องเหน็ ได้ .................................................................. ..............................................................
5. รังสีอัตราไวโอเลต .................................................................. ..............................................................
6. รังสีเอกซ์ .................................................................. ..............................................................
.................................................................. ..............................................................
7. รงั สแี กมมา .................................................................. ..............................................................
.................................................................. ..............................................................
.................................................................. ..............................................................
.................................................................. ..............................................................
.................................................................. ..............................................................
.................................................................. ..............................................................
.................................................................. ...............................................................
................................................................. ...............................................................
................................................................. ................................................................
................................................................. ................................................................
................................................................. ................................................................
................................................................. ................................................................
................................................................. ................................................................
................................................................. ................................................................
................................................................. ................................................................
.................................................................. ................................................................

แบบฝกึ หดั ที่ 2.5 ตอบคำถามต่อไปน้ี

1. เพราะเหตใุ ด สถานวี ทิ ยุ BBC ท่ีสง่ คลน่ื วิทยรุ ะบบ AM สามารถสง่ สัญญาณขา้ มทวปี ได้ ในขณะท่ีสถานีวทิ ยุ
ภายในประเทศท่ีสง่ คลน่ื วทิ ยรุ ะบบ FM ไม่สามารถส่งสัญญาณขา้ มจังหวดั ได้
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

2. การฉายรังสีเอกซ์เพ่อื ใช้ในการวนิ จิ ฉยั ทางการแพทย์ ช่วยให้มองเหน็ อวยั วะภายในได้อย่างไร
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................... ...............
.................................................................................................................... ..........................................................

3. การเลือกใช้รังสแี กมมาทม่ี ีอำนาจในการทะลุทะลวงสูงมากแทนรงั สีเอกซ์ มขี ้อดีและข้อเสยี อยา่ งไรบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

แบบฝกึ หดั ท่ี 2.6 คำนวณหาผลลัพธจ์ ากโจทยท์ ่กี ำหนดให้

1. คลื่นวิทยุ FM ความถ่ี 91.5 เมกะเฮิรตซ์ มคี วามยาวคล่ืนเทา่ ใด (อตั ราเรว็ ของคลนื่ วิทยุในอากาศเทา่ กบั 3 x
108 เมตรตอ่ วนิ าที)
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................................... .....
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

2. ถ้าสง่ คลืน่ วทิ ยุจากโลกไปยังดวงจนั ทร์ด้วยความถ่ี 10,000 เฮริ ตซ์ ใช้เวลา 12 นาที จงหาระยะหา่ งระหว่าง
โลกและดวงจนั ทรข์ ณะนน้ั
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

3. สายอากาศที่สามารถรับคลืน่ วทิ ยไุ ด้ดี จะต้องมีความยาวเป็นครง่ึ หนึ่งของความยาวคล่นื ถา้ สายอากาศเสน้
หน่ึงยาว 3 เมตร จะสามารถรับคลื่นวิทยทุ ่ีมีความถี่คล่นื เทา่ ใดไดด้ ีทส่ี ุด
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................ ......
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................................................................................................................. ...............

แบบฝกึ หัด เร่ือง ประโยชนของคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้ เ ลย

แบบฝึกหดั ท่ี 2.4 สบื ค้นประโยชนแ์ ละอนั ตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ ที่กำหนดให้

คลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ ประโยชน์ อนั ตราย
1. คล่นื วิทยุ
2. คลน่ื ไมโครเวฟ .................................................................. ....-......ใ....ช....้ค....ล......น่ื ....ว......ิท....ย......ใุ ..น......เ.ช....งิ....ก....่อ......ก....า....ร....ร....า้....ย.....ห.....ร....ือ...............
-...ใ.ช..้ใ..น...ร..ะ..บ..บ...ส..่อื...ส..า..ร..ท...ง้ั ..ใ.น...ร..ะ.ย..ะ..ใ..ก..ล...แ้ ..ล..ะ...ไ.ก...ล.
3. รังสอี นิ ฟราเรด -...ส..ง่..ข..า่..ว..ส..า..ร..แ...ล..ะ..ส...า..ร..ะ..บ...ัน..เ.ท...ิง...................... ..อ...า..ช..ญ...า..ก...ร..ร..ม.........................................
4. แสงทีม่ องเหน็ ได้ ....-...ใ..ช..้ใ.น...ก..า..ร..ส...่อื ..ส..า..ร..ผ...า่ ..น..ด. .า..ว..เ.ท...ีย..ม............... ...-...ห..า..ก...ร..า่ ..ง.ก...า..ย..ไ..ด..ร้..บั...ป..ร..มิ...า..ณ...ม...า..ก..อ..า..จ.....

5. รังสอี ัตราไวโอเลต ....-...เ.ป...็น...แ..ห...ล..ง่..ก..ำ..เ.น...ิด..ค...ว..า..ม..ร..้อ...น................... ...ส..ง่..ผ..ล...เ.ส..ยี...ต.่อ...ร..า่ ..ง.ก...า..ย...เ..ช..่น....ป...ว..ด..ศ...รี ..ษ..ะ.....

6. รงั สีเอกซ์ ....-...ต...ร..ว..จ..ส..อ...บ..ต...ำ..แ..ห...น..ง่...(..เ.ร..ด..า..ร..์)................. ...ก..า..ร..เ.ส...อื่ ..ม...ส..ม...ร..ร..ถ..ภ...า..พ..ข...อ..ง..อ..ว..ัย...ว..ะ..........

7. รงั สีแกมมา ....-...G...P..S...................................................... ...ส..ืบ...พ...นั ..ธ..ุ์...............................................
-...ห..า..ก...ร..่า.ง..ก..า..ย..ไ..ด..ร้..ับ...ป..ร..มิ...า..ณ...ม...า..ก..อ..า..จ...ส..ง่..ผ..ล.... ..............................................................
เ.ส..ยี...ต..อ่...ร..่า.ง..ก...า..ย...เ..ช..น่....ป...ว..ด..ศ..รี..ษ...ะ....ก..า..ร..เ.ส...ือ่ ..ม.... ...-...ใ..ช..้ใ.น...ก..ิจ...ก.ร..ร..ม...เ.พ...อ่ื ..ก...่อ..ก..า..ร..ร..้า..ย...ข..อ..ง..ผ..ู้...
ส..ม...ร..ร..ถ..ภ...า..พ..ข...อ..ง..อ..ว..ยั...ว..ะ..ส..บื...พ...นั ..ธ..์ุ.................. ...ไ..ม..ห่...ว..งั..ด..ี..............................................
...-...ก...า.ร..ม...อ..ง..เ.ห...น็........................................... ..............................................................
...-...เ.ก...บ็ ..ข...้อ..ม...ลู ..โ..ด..ย..ใ..ช.้แ..ส...ง.............................. ....-...ส..ง่..ผ..ล..ต...อ่ ..ก...า..ร..ท..ำ..ง..า..น...ข..อ..ง..ด...ว..ง..ต..า..ห...า.ก...
...-...ใ..ช..เ้.ล...เ.ซ..อ...ร..์ใ.น...ก..า..ร..เ.ช...อื่ ..ม....ต..ดั....เ.จ...า..ะ............ ....ไ.ด...ร้ ..บั ..ใ..น..ป...ร..ิม...า..ณ...ม..า..ก...ห.ร..อื...ไ.ด...้ร..ับ..............
...-...ผ...่า.ต...ัด..เ..น..อ้ื...ง.อ...ก...ศ...ัล..ย...ก..ร..ร..ม..ต...ก..แ...ต..ง่........... ....โ.ด...ย..ต..ร..ง................................................

....-...ก..ร..ะ...ต..ุน้...ใ.ห. .ร้..่า..ง..ก..า..ย..ส...ร..้า..ง..ว..ติ ..า..ม..ิน...ด...ซี ..ึง่....... ..............................................................
....ส...่ง..ผ..ล..ด...ตี ..่อ...เ.ม..็ด...เ.ล..ือ...ด..แ..ล...ะ..ก..ร..ะ...ด..ูก............... ...............................................................
....-...ใ..ช..ใ้.น...ก..า..ร..ฆ...่า..เ.ช..อ้ื...โ.ร..ค.............................. ............. ..................................................
....-...ว..ิเ.ค...ร..า..ะ..ห...โ์ .ค...ร..ง.ส...ร..้า..ง.ผ...ล..กึ..ข...อ..ง..ส..ส...า..ร....... .-...อ..า..จ..ท...ำ..ใ..ห..เ้.ซ...ล..ล...เ์ .ส..ื่อ...ม..ส..ภ...า..พ.....................
...-..ช...ว่ ..ย..ร..กั...ษ..า..โ..ร..ค..ม...ะ..เ.ร..ง็..ต..่อ...ม..ไ..ท..ร..อ...ย..ด..์........ .-...ส..่ง..ผ..ล...ใ.ห...้อ..ว..ยั...ว..ะ..ต..่า..ง..ๆ....ท...ำ..ง.า..น...ไ..ม..่ม..ี.........
...-..เ..พ..อื่...บ..ำ..บ...ดั..เ..น..้ือ...ง..อ..ก..ส...่ว..น..ท...ีเ่.ก...่ยี ..ว..ก. .ับ..ช...่ว..ง.... .ป...ร..ะ..ส..ทิ...ธ..ิภ...า..พ..ห...ร..อื...ไ.ม...่ส..า..ม..า..ร..ถ...ท..ำ..ง..า..น...ไ.ด...้ ..

...อ..ก..แ...ล..ะ..ท...้อ..ง.............................................. ..-...เ.ป...็น..อ...นั ..ต...ร..า..ย..ต..่อ...ส..ิง่..ม...ชี ..วี..ติ..ท...ุก...ช..น..ิด...ห...า..ก...

...-..ฆ...า่..เ.ช...้อื ................................................... ..ไ..ด..ร้..ับ...ใ.น...ป..ร...ิม..า..ณ...ม...า..ก................................

...-..ช...ว่ ..ย..ร..กั..ษ...า..โ..ร..ค..ม..ะ...เ.ร..ง็..ต..่อ...ม..ไ..ท..ร..อ...ย..ด..์........ ................................................................
...-..เ..พ..อื่...บ..ำ..บ...ัด..เ..น..ื้อ...ง.อ...ก..ส...ว่ ..น..ท...ี่เ.ก...่ีย..ว..ก..ับ...ช..่ว...ง... ..-..เ..ป..น็...อ..นั...ต..ร..า..ย...ต..อ่..ส...่งิ ..ม..ีช..วี...ิต..ท...กุ ..ช..น...ดิ..ห...า..ก....
...อ..ก..แ...ล..ะ..ท...้อ..ง.............................................. ..ไ.ด...้ร..ับ..ใ..น..ป...ร..มิ...า..ณ...ม..า..ก.................................

...-..ฆ...่า..เ.ช..อ้ื.................................................... ................................................................

แบบฝกึ หดั ท่ี 2.5 ตอบคำถามต่อไปน้ี

1. เพราะเหตใุ ด สถานวี ทิ ยุ BBC ทส่ี ง่ คลื่นวทิ ยรุ ะบบ AM สามารถสง่ สัญญาณข้ามทวีปได้ ในขณะทีส่ ถานวี ทิ ยุ
ภายในประเทศทส่ี ง่ คลืน่ วทิ ยุระบบ FM ไมส่ ามารถสง่ สัญญาณข้ามจังหวัดได้
......ก.ข.า..้อร..ดส...ี่ง.เส.ช..ญั .่น..ญ...า..ณ....เ.ส..ีย...ง.ท...่ีถ..ูก...แ..ป...ล..ง..เ.ป...น็ ..ส...ัญ...ญ...า..ณ....ไ.ฟ...ฟ...า้ ..ไ.ป...ก..บั...ค..ล...ื่น..ว..ิท...ย..รุ..ะ..บ...บ....A...M....ส..า..ม...า.ร...ถ..ส..่ง..ส..ญั....ญ...า..ณ...ไ..ด..้ไ..ก..ล.........
..ก.-.ว..แา่..รห..ะ.ล..บ่ง..บก...ำ.F.เ.นM..ดิ...รเ.น.งั..ส่ือ..ีแง..จก..า.ม.ก.ม..ก.า.า.เ.ปร..ส.น็ ..ง่ ก.ค..อ้ .ล.น.่ืน..ส.ว.า.ิท.ร..ยข..รุน..ะ.า.บ.ด..บเ..ล..A็ก..M..ท..ำค..ใ.ลห..่นื.้ส..สา..มา..ม.า..าร..รถ..ถเ.ค.เ.ด.ล..นิอ่ื..ท.น..าย..งา้..ถย..ึง.แ.เ.หค...รล..ือ่ง่..กง..รำ..ับเ..นว..ิด.ิท..คย..ล.ไุ .ดน่ื...้ไ.2.ด..้งท..า่ .า.ย.ง.ก..คว..า่.ือ...ส...ง่ ......
..ค.-.ล..ร.่ืน.งั.ว.ส.ิท.ีแ..ย.ก.ไุ.ม.ป.ม..ย.า.ัง.ม.ช.ีพ.ั้น..ล.บ.ัง.ร.ง.ร.า.ย.น..า.ส.ก.ูง.า.จ.ศ.ึง.แ.ม..ล.ีอ.ว้.ำ.ส.น..ะา..ทจ..อ้.ใ.น.น..กท..า.ี่บ.ร..รท..ร.ะ.ย.ล.า.ุท.ก..ะา..ลศ...วช..ง้นั..ส.อ.งู .โ.ก.อ.ว.โ.่าน...ส..เ..ฟ..ยี...ร..์ก..ล...ับ..ส...ู่ผ..ิว..โ.ล..ก....(.ค...ล..ื่น...ฟ..า้..)...ท...ำ..ใ.ห...เ้ .ด..ิน...ท..า..ง.....
..ไ.-ด...้ไร.ก.ัง..ลส..แแี..ล.ก..ะม..สม..า.า.ม.ใ.ช.า..้ใร.น.ถ..กอ..า.อ้ .ร.ม.ร.ส.กั..ิง่ .ษ.ก.า.ดี.โ.ข.ร..คว..าไ..ดง..ไ้ง.ด.่า..้ย.เ.ชแ...น่ล..ะ.ภ.ส..เูะ.ข..ด.า.ว..ตก..กึ.ก..สว..่าูง...นค...ืออ..ก..ใ.จช..าไ้..ดก..ท้น...ี้้งั.ย.ว..งัิธ.ม.กี..ีกา..รา..รก..ส.ิน..่ง.ค.ก.ลา..ร.ื่น.ฉ.ว..ีดทิ...ยห..จุ.ร..าอื..ก.ฝ.ส.งั .ถ..ไ.า.ม.น.ต่.ีไ.อ้.ป..งย..น.งั .อ...น.........
..เ.คห...รร..ือ่ือ..งย..ร.ืน.ับ.อ.ใ..ยน..นู่.ท..งิ่ิศ.ๆ..ข..น...า..น..ก...บั ..ิว..โ..ล..ก...ด..้ว..ย....(.ค..ล...่นื ..ด...ิน..)...ส..่ว..น...ก..า..ร..ส..่ง..ค..ล...่ืน..ว...ิท..ย...รุ ..ะ..บ..บ....F...M....ค...ล..่นื...ว..ิท...ย..จุ..ะ..ม...ีค..ว..า..ม...ถ..่สี..ูง....จ..ึง..ท..ะ...ล..ุ..
..บ...ร..รข..ย.อ้ .า.เ.กส..า.ยี .ศ..เ.ช.ช.ั้น.่น..ไ.อ..โ..อ..โ..น..ส...เ.ฟ...ยี ..ร..์อ...อ..ก..ไ..ป...ย..งั ..ช..นั้...อ..ว..ก..า..ศ....ท...ำ..ใ.ห...ไ้..ม..เ่.ก...ดิ ..ค...ล..น่ื ..ฟ...้า....จ..งึ ..ส..่ง..ไ.ด...เ้ ฉ...พ..า..ะ...ค..ล..ื่น...ด...ิน..ใ..น..ท...ิศ..ข...น..า..น...ก..ับ......
..ผ.-.วิ..ไโ..มล..่สก..า.เ.ทม...่าา..นร..ถัน้..ป...ร..ับ..เ..ป..ล...่ยี ..น...ค..่า..พ...ล..ัง..ง..า..น..ไ..ด..้..เ.น...อ่ื ..ง..จ..า..ก..ร..งั..ส...ีแ..ก..ม...ม..า..เ..ก..ดิ..จ...า..ก..ก..า..ร..ส...ล..า..ย..ต..วั..ข...อ..ง..ธ..า..ต..ุก...มั ..ม...ัน..ต...ร..งั .ส...ี .............
...-...ก...า.ร..ผ...ล..ติ...ธ..า..ต..ทุ...ี่ใ.ห...้ร..งั ..ส..แี..ก...ม..ม...า..ท..ำ..ไ..ด..ย้...า.ก...แ..ล..ะ..ม...คี..า่..ใ..ช..จ้...่า.ย...ส..ูง..ก..ว..่า..ก...า..ร..ส..ร..า้..ง..แ..ห...ล..่ง..ก..ำ..เ..น..ดิ...ร..ัง..ส..ีเ.อ...ก..ซ..์.........................
...-...ส..า..ร..ก...มั ..ัน...ต..ร..งั..ส..ที...เ่ี.ป...น็...แ..ห...ล..่ง..ก..ำ..เ.น...ดิ..ร..ัง..ส...ีแ..ก..ม...ม..า....ป..ล...่อ..ย..ร..ัง..ส...ีแ..ก..ม...ม..า..อ...อ..ก..ม...า..ต..ล...อ..ด..เ.ว..ล...า..จ..ึง..ท..ำ..ใ..ห..ส้...ิ้น..เ..ป..ล...อื ..ง..ก..ว..า่.........
...ก...า..ร..ใ.ช...ร้ ..ัง.ส...เี .อ..ก...ซ..์..................................................................................................................................................
...-...ร..งั..ส..ีแ...ก..ม..ม...า..เ.ป...็น..อ...ัน..ต...ร..า..ย..ม...า..ก..ก..ว..า่..ร..งั..ส...เี .อ..ก...ซ..์.เ..น..่ือ...ง.จ...า..ก..ส..า..ร..ก...ัม..ม...นั ..ต...ร..ัง..ส..ที...ี่ส..ล..า..ย...ต.วั..ใ..ห...ร้ ..ัง.ส...แี ..ก...ม..ม..า....จ..ะ..ส...ล..า..ย..ต...ัว......
...ไ..ด..ร้..ัง..ส...ีแ..อ..ล...ฟ..า..แ...ล..ะ..บ...ีต..า..ซ...่งึ .จ...ะ..เ.ป...็น...อ..ัน...ต..ร..า..ย..ต...่อ..ร..า่..ง..ก..า..ย...ด..ว้..ย....................................................................................

2. การฉายรงั สีเอกซ์เพอ่ื ใช้ในการวนิ ิจฉยั ทางการแพทย์ ช่วยใหม้ องเห็นอวยั วะภายในได้อย่างไร
.......ก...า..ร..ส..่ง..ส..ญั....ญ...า..ณ...เ.ส...ยี ..ง..ท..ี่.ถ..กู ..แ...ป..ล...ง.เ..ป..็น...ส..ญั....ญ...า..ณ...ไ..ฟ..ฟ...้า..ไ..ป..ก...บั ..ค...ล..ื่น...ว..ิท..ย...ุร..ะ..บ...บ....A..M....ส...า..ม..า..ร..ถ..ส...ง่ ..ส..ญั ...ญ...า..ณ....ไ.ด..้.ไ.ก..ล...ก..ว..า่.
...ร..ะ...บ..บ....F..M.....เ.น...อ่ื..ง..จ...า..ก..ก..า..ร..ส...ง่ .ค...ล..ืน่...ว..ทิ...ย..ุร..ะ..บ...บ....A..M.....ค..ล...ื่น..ส...า..ม..า..ร..ถ...เ.ด..นิ...ท..า..ง..ถ...งึ .เ..ค..ร..ื่อ...ง.ร..ับ..ว..ิท...ย..ุไ..ด..้..2...ท...า..ง...ค...อื ...ส...่ง...........
...ค...ล..่ืน...ว..ิท...ย..ไุ.ป...ย..งั..ช...้ัน..บ...ร..ร..ย..า..ก..า..ศ...แ..ล...้ว.ส...ะ..ท...้อ..น...ท..่ีบ...ร..ร..ย..า..ก...า..ศ..ช..ั้น...อ..โ..อ..โ..น..ส...เ.ฟ...ีย..ร..ก์..ล...ับ..ส...่ผู ..วิ..โ..ล..ก....(.ค..ล...่ืน..ฟ...้า..)...ท..ำ..ใ..ห..เ้..ด..ิน...ท..า..ง..ไ.ด้
...ไ..ก..ล...แ..ล..ะ...ส..า..ม..า..ร..ถ...อ..้อ..ม...ส..ิ่ง..ก...ดี ..ข..ว..า..ง..ไ..ด..้.เ..ช..น่....ภ...เู .ข..า....ต..ึก..ส...ูง...น..อ...ก..จ...า..ก..น...ี้ .ย..งั..ม..กี...า..ร..ส..่ง..ค..ล..ืน่...ว..ิท...ย..จุ ..า..ก..ส...ถ..า..น...ไี .ป...ย..ัง..เ.ค...ร..อ่ื ..ง..ร..บั..
...ใ..น..ท...ศิ...ข..น...า..น..ก..ับ...ิว..โ..ล..ก..ด...้ว..ย....(.ค..ล...ื่น..ด...ิน..)...ส..ว่..น...ก..า..ร..ส...่ง.ค...ล..นื่...ว..ิท..ย...รุ ..ะ..บ...บ....F..M.....ค..ล..ื่น...ว..ทิ...ย..ุจ..ะ..ม..ีค...ว..า..ม..ถ...ี่ส..ูง...จ...ึง.ท...ะ..ล...ุบ..ร..ร..ย...า..ก..า..ศ
...ช...้นั ..ไ..อ..โ..อ..โ..น..ส...เ.ฟ...ยี ..ร..์อ..อ...ก..ไ..ป..ย...ัง.ช...น้ั ..อ...ว..ก..า..ศ....ท..ำ..ใ..ห..้ไ..ม..่เ..ก..ิด...ค..ล..น่ื...ฟ...า้ ...จ..ึง..ส...ง่ .ไ..ด..้เ.ฉ...พ...า..ะ..ค..ล...น่ื ..ด...นิ ..ใ..น..ท...ิศ..ข...น...า.น...ก..ับ...ผ..วิ...โ.ล..ก...เ.ท...า่ .น...นั้

3. การเลือกใช้รังสีแกมมาที่มีอำนาจในการทะลทุ ะลวงสงู มากแทนรงั สเี อกซ์ มีข้อดีและข้อเสยี อยา่ งไรบ้าง
..ค..ล...นื่ ..ว..ิท...ย..ุไ..ป..ย...ัง..ช..น้ั..บ...ร..ร..ย..า..ก...า..ศ..แ...ล..้ว..ส..ะ...ท..อ้...น..ท...่ีบ...ร..ร..ย..า..ก..า..ศ...ช..นั้...อ..โ..อ..โ.น...ส..เ..ฟ..ยี...ร..ก์ ..ล..บั...ส..่ผู..วิ..โ..ล..ก....(.ค..ล...นื่ ..ฟ...า้..)...ท..ำ..ใ..ห..เ้..ด..นิ...ท..า..ง..ไ..ด.้
..ไ.ก...ล..แ..ล...ะ..ส..า..ม...า..ร..ถ..อ..อ้...ม..ส...่ิง..ก..ดี ..ข...ว..า..ง..ไ.ด..้..เ.ช..น่....ภ...ูเ.ข...า...ต..กึ...ส..ูง...น...อ..ก...จ..า..ก..น...ี้.ย...งั .ม...ีก..า..ร..ส...ง่ .ค...ล..น่ื ..ว..ทิ...ย..ุจ..า..ก...ส..ถ...า..น..ไี..ป..ย...ัง.เ..ค..ร..่ือ..ง..ร..บั....
..ใ.น...ท...ศิ ..ข..น...า..น..ก...ับ..ิว...โ.ล..ก...ด..ว้..ย....(.ค..ล...ื่น..ด...นิ ..)...ส..่ว..น...ก..า..ร..ส...่ง..ค..ล..นื่...ว..ทิ...ย..รุ..ะ..บ...บ....F..M.....ค..ล...ื่น..ว..ิท...ย..ุจ...ะ..ม..ีค...ว..า..ม..ถ...ี่ส..งู...จ..งึ..ท...ะ..ล..ุบ...ร.ร..ย...า..ก..า..ศ..
..ช..น้ั...ไ.อ...โ.อ..โ..น...ส..เ.ฟ...ีย..ร..์อ...อ..ก..ไ..ป...ย..ัง..ช..ัน้...อ..ว..ก...า..ศ...ท...ำ..ใ.ห...ไ้..ม..่เ.ก...ิด..ค...ล..นื่...ฟ..้า....จ..ึง..ส..่ง..ไ.ด...เ้ .ฉ..พ...า..ะ..ค..ล...นื่ ..ด...ิน..ใ..น..ท...ิศ...ข..น...า.น...ก..ับ...ผ..วิ...โ.ล..ก...เ.ท...า่ ..น..้นั..

แบบฝึกหัดที่ 2.6 คำนวณหาผลลพั ธจ์ ากโจทย์ท่ีกำหนดให้

1. คล่นื วทิ ยุ FM ความถ่ี 91.5 เมกะเฮริ ตซ์ มคี วามยาวคลื่นเท่าใด (อตั ราเรว็ ของคลื่นวิทยุในอากาศเทา่ กับ 3 x
108 เมตรตอ่ วินาที)
....................................ว......ธิ ......ที ......ำ...............จ......า......ก.........ส......ม......ก.........า......ร................................................................................................................................. ...... ........==.=.........9..3.vf...1..3....2.....5..x.8.....x.1.....m.0..1....80......6..................................................................................................................................................................................................................
........................ด..งั ..น..้นั....ม...คี ..ว..า..ม...ย..า..ว..ค...ล..ื่น...เ.ท...่า..ก..ับ....3....2..8....เ.ม...ต..ร...................................... .................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ถ้าสง่ คลน่ื วิทยจุ ากโลกไปยังดวงจนั ทร์ด้วยความถ่ี 10,000 เฮริ ตซ์ ใชเ้ วลา 12 นาที จงหาระยะหา่ งระหว่าง
โลกและดวงจันทร์ขณะนั้น
.........ว..ิธ..ีท...ำ.....ค..ล..น่ื...ใ..ช..เ้.ว..ล...า..เ.ด..ิน...ท...า..ง...1..2...น...า..ท...ี .เ.ท...า่..ก..ับ....1...2...x...6...0...=....7..2...0...s...................................................................
.....................จ...า.ก...ส..ม...ก..า..ร............................................s...=....v..t................................... .................................................
...................................................................................=....(.3...x....1..0..8..)...(.7..2..0..)......................................................... ......
...................................................................................=....2...1..6....x...1..0...1.1....m................ .................................................
.....................ด...ัง.น...ั้น....ร..ะ..ย...ะ..ห..่า..ง..โ..ล..ก..แ...ล..ะ..ด...ว..ง..จ..นั...ท..ร..ข์...ณ...ะ..น...้ัน..เ..ท..่า..ก...บั ....2...1..6.....x...1...0..1..1...เม...ต..ร............................................

3. สายอากาศท่ีสามารถรบั คลื่นวทิ ยุไดด้ ี จะต้องมีความยาวเป็นครง่ึ หนงึ่ ของความยาวคลื่น ถ้าสายอากาศเสน้
หนงึ่ ยาว 3 เมตร จะสามารถรับคลืน่ วิทยุท่มี ีความถ่คี ล่นื เทา่ ใดได้ดีท่ีสดุ
....ว..ิธ...ีท..ำ.....ค..ว..า..ม...ย..า..ว..ข...อ..ง..ส..า..ย..อ...า..ก..า..ศ...ท..่สี...า.ม...า..ร..ถ..ร..ับ...ค..ล...่นื ..ไ..ด..้ด...ีท..่ีส...ุด..เ.ท...า่..ก..ับ....... 2. ................ .............................................
..............................ฉ....ะ......น....ัน้........................................................................................................................ 3.... ....=.=....... 2.6. ......m................................................................................................................................................................
...............จ..า..ก...ส..ม...ก..า..ร....................................................f..=....v.................................... .................................................
..............................................................................................................................................................=........3......x...6...1λ...0....8...................................................................................................................................................................
...............................................................................=....5...0...M....H..z.............................. .................................................
................ด...งั..น..้ัน....ส...า..ย..อ..า..ก...า..ศ..จ..ะ..ส...า..ม..า..ร..ถ...ร..บั ..ค..ล...่นื ..ว..ิท...ย..ุท...มี่...คี ..ว..า..ม..ถ...ี่ค..ล...ื่น..เ.ท...า่..ก..ับ....5...0...เ..ม..ก..ะ...เ.ฮ..ิร..ต...ซ..์.ไ..ด..ด้...ีท..ี่ส...ุด...................

















แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 10

กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง พนั ธุกรรม เวลา 20 ชว่ั โมง

เรอ่ื ง การดดั แปรทางพันธกุ รรม เวลา 3 ช่ัวโมง

ภาคเรียนท่ี 1 วนั ทสี่ อน.............................................. ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ รกั พรม

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด/สาระการเรียนรู้

สาระท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้

สาระที่ 1 ม า ต ร ฐ า น ว 1 . 3 เ ข ้ า ใ จ 7 . อ ธ ิ บ า ย ก า ร ใ ช้ • มนุษย์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของ

วทิ ยาศาสตร์ กระบวนการและความสำคัญของ ประโยชน์จากส่งิ มีชีวติ ดัด สิ่งมีชีวิตตาม ธรรมชาติเพื่อให้ได้

ชีวภาพ ก า ร ถ ่ า ย ท อ ด ล ั ก ษ ณ ะ ท า ง แปร พันธุกรรม และ สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตาม ต้องการ

พันธุกรรม สารพันธุกรรม การ ผลกระทบที่อาจมีต่อ เรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่าสิ่งมีชีวิตดัดแปร

เปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมท่ีมีผล มนุษย์ และสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม

ต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย โดยใชข้ ้อมลู ท่รี วบรวมได้ • ในปัจจุบันมนุษย์มีการใช้ประโยชน์

ทางชีวภาพและวิวัฒนาการของ 8. ตระหนักถึงประโยชน์ จากสิ่งมีชีวิต ดัดแปรพันธุกรรมเป็น

สิ่งมีชีวิต รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ แ ล ะ ผ ล ก ร ะ ท บ ข อ ง จำนวนมาก เช่น การผลิต อาหาร

ประโยชน์ สิ่งมีชีวิต ดัดแปร การผลิตยารักษาโรคการเกษตร

พันธุกรรมที่อาจมีต่อ อย่างไรก็ดี สังคมยังมีความกังวล

มนุษย์และสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับผลกระทบของ สิ่งมีชีวิตดัด

โดยการเผยแพร่ความรู้ท่ี แปรพันธุกรรมที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและ

ได้จากการโต้แย้งทาง สิ่งแวดล้อม ซึ่งยังทำการติดตาม

วิทยาศาสตร์ซึ่งมีข้อมูล ศึกษาผลกระทบ ดงั กลา่ ว

สนบั สนุน

1. การกำหนดเป้าหมายการจดั กระบวนการเรียนรู้
1.1 สาระสำคญั /Concept
มนุษย์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตตาม ธรรมชาติเพื่อให้ได้สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตาม ต้องการ

เรียกสิ่งมชี วี ิตนว้ี า่ สิง่ มชี วี ติ ดัดแปรพนั ธุกรรม
ในปัจจบุ นั มนุษยม์ ีการใช้ประโยชน์จากสงิ่ มชี ีวติ ดัดแปรพนั ธุกรรมเปน็ จำนวนมาก เช่น การผลิต

อาหารการผลติ ยารักษาโรคการเกษตรอยา่ งไรกด็ ี สังคมยงั มคี วามกังวลเกยี่ วกบั ผลกระทบของ สง่ิ มชี ีวิตดดั
แปรพนั ธุกรรมท่ีมตี ่อสิง่ มชี วี ิตและ สงิ่ แวดลอ้ ม ซึ่งยงั ทำการติดตามศึกษาผลกระทบ ดังกล่าว

1.2 สาระการเรยี นรู้/เนื้อหา/Contents
การดัดแปรทางพันธกุ รรม

1.3 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1.3.1 อธบิ ายการใชป้ ระโยชน์จากส่ิงมชี ีวติ ดดั แปรพันธุกรรมและผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์และ

สงิ่ แวดลอ้ มได้ (K)
1.3.2 เปรยี บเทยี บประโยชนแ์ ละผลกระทบของส่ิงมีชีวติ ดัดแปรพันธกุ รรมได้ (P)
1.3.3 มวี นิ ัยใฝ่เรยี นรูแ้ ละมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)

2. การจัดกจิ กรรมกรบวนการเรียนรู้
การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใชร้ ูปแบบ 5E

ช่ัวโมงท่ี 1

ขน้ั ท่ี 1 การสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1.1 ครูเปิดวิดีทัศน์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เรื่อง What Is a Genetically Modified

Food? จาก Youtube เวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=JMPE5wlB3Zk
1.2 ครจู ดั กจิ กรรมแบบ TGT โดยใชค้ ำถาม 5 ข้อ เก่ยี วกับการดดั แปรพันธกุ รรม

ขั้นที่ 2 การสำรวจและคน้ หา (Exploration)
2.1 ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน โดยแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมเรื่อง สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม

โดยใหส้ มาชิกในกลุ่มแบ่งภาระหน้าทร่ี ับผิดชอบในการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสิง่ มีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม
2.2 ให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลแล้วจัดทำเป็นรายงาน เรื่อง สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมพร้อมนำเสนอ

หน้าช้นั เรียน โดยมีประเดน็ ในการนำเสนอ ดังนี้
- ส่งิ มีชีวติ ทนี่ ำมาดัดแปรพนั ธกุ รรมคืออะไร
- ประโยชน์และผลกระทบจากสิง่ มีชีวติ ดดั แปรพันธุกรรม

2.3 ครูส่มุ เรียกตัวแทนกลุ่ม กลุม่ ละ 2 คน ออกมานำเสนอหน้าช้นั เรยี น
2.4 ครูให้นักเรียนศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในหนังสือรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3
เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การดัดแปรทางพันธุกรรม พร้อมทั้งศึกษาเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ตเรื่อง
การดัดแปรพนั ธกุ รรม

ชัว่ โมงที่ 2-3

ข้นั ท่ี 3 การอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
3.1 นกั เรียนและครูร่วมกันอธิปรายผลกจิ กรรมเพ่ือให้ได้ข้อสรุปตรงกันว่า สงิ่ มชี ีวิตดัดแปรพันธุกรรม

คือ สิ่งมีชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ โดยมนุษย์จะใช้เทคโนโลยีชีวภาพและกระบวนการทางพันธุ

วศิ วกรรมถ่ายทอดยนี ที่มีลักษณะตามต้องการจากสิ่งมชี วี ติ หน่ึง เพือ่ ให้สิ่งมชี ีวิตชนิดนั้นเกิดการแสดงออกของ
ยนี ทต่ี อ้ งการและลกั ษณดงั กลา่ วสามารถถา่ ยทอดไปยงั ร่นุ ต่อไปได้

3.2 ครแู ละนักเรียนรม่ กันสรุปองค์ความรทู้ ไ่ี ด้จากการศกึ ษาเรื่อง การดดั แปรทางพนั ธุกรรม ดงั นี้
- สงิ่ มีชวี ติ ดัดแปรพนั ธกุ รรม (GMOs) คืออะไร
แนวทางอภิปราย GMOs (genetically modified organisms) คือ สิ่งมีชีวิตที่ผ่านการดัดแปร

พันธุกรรม เป็นหนึ่งในพันธุวิศวกรรมสมัยใหม่ โดยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้แก่ พืช สัตว์หรือแม้แต่จุลินทรีย์ซึ่งใน
กระบวนการทดลองน้นั นักวจิ ัยจะคดั เลือกยีนท่ีดีของสิ่งมีชีวิตมาผ่านกระบวนการทางพันธุวิศวกรรม (genetic
engineering) และตัดต่อใส่เข้าไปในยีนของสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งคุณสมบัติพิเศษของการตัดต่อทาง
พันธุกรรมนี้คือการนำยีนของสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถนำมาผสมพันธุ์กันได้ตามธรรมชาติมาตัดต่อเข้าด้วยกัน
เพ่อื ให้ได้ผลผลติ ทมี่ ีคณุ ลกั ษณะหรอื คุณสมบัติจำเพาะตรงตามความต้องการ

- สง่ิ มีชีวติ ดดั แปรพันธุกรรม ทีน่ กั เรียนรูจ้ ักได้แกอ่ ะไรบ้าง
แนวทางอภิปราย ฝ้าย GMOs ทำให้ได้ฝ้ายที่สามารถฆ่าหนอนที่เป็นศัตรูของฝ้ายได้ โดยได้ใส่ยีน

(gene)ของแบคทีเรียที่ชื่อ Bacillus thuringiensis var. kurataki (B.t.k) แทรกเข้าไปในโครโมโซม
(chromosome)ของต้นฝ้าย ทำให้ฝ้ายสามารถที่จะสร้างโปรตีน Cry 1A ที่สามารถฆ่าหนอนที่เป็นศัตรูของ
ฝา้ ยได้

มะเขือเทศ GMOs ทำให้ได้มะเขือเทศมีลักษณะที่ดีขึ้น มีความทนทานต่อโรคมากขึ้น จากการที่
ใ ส่ antisense gene ข อ ง ย ี น ( gene)ท ี ่ ผ ล ิ ต เ อ น ไ ซ ม ์ polygalacturonase (PG) ท ำ ใ ห ้ เ อ น ไ ซ ม์
polygalacturonase ถกู รบกวนการแสดงออก มีผลทำใหเ้ นอ้ื ของมะเขือเทศมคี วามแขง็ มากขึ้นทำให้ลดความ
เสยี หายหรอื การบอบช้ำขณะทำการขนส่งลง ทำให้มะเขือเทศเนา่ ชา้ ลงหลังจากทเี่ กบ็ เกี่ยวแล้ว

Glofish หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ ปลาม้าลายเรืองแสงที่เกิดจากการนำยีนจากแมงกระพรุนหรือ
ดอกไม้ทะเลชนิดพิเศษไปใส่ในDNAของปลาม้าลาย ซึ่งผลที่ได้ทำให้ปลาม้าลายมีลักษณะเรืองแสงได้ โดย
เหตุผลที่นำปลาม้าลายมาดัดแปลงเพื่อที่ต้องการให้ปลาม้าลายเรืองแสงนี้เป็นตัวเปลี่ยนสภาพความเป็นพิ ษ
ของแหล่งน้ำ

- การดดั แปรพนั ธุกรรมของสิ่งมชี วี ิต ทำได้อยา่ งไร
แนวทางอภิปราย วิธีการทางพันธุวิศวกรรมในพืชโดยใช้ Agrobacteriumtumefaciens มีวิธีการ

ดังน้ี
1. ใส่ดีเอ็นเอท่มี ยี ีนทตี่ อ้ งการ เข้าไปในบรเิ วณ T-DNA ของ Ti plasmid
2. ใส่พลาสมิดเขา้ ไปในเซลลแ์ บคทีเรียด้วยกระแสไฟฟ้า
3. เลยี้ งแบคทเี รียนร้ี ่วมกบั ชน้ิ ส่วนของพชื
4. เล้ียงชิ้นสว่ นของพืชน้ีในอาหารทม่ี ยี าปฏิชวี นะ
5. นำเน้ือเยื่อที่เจริญเติบโตไปกระตุ้นใหเ้ จริญเป็นตน้ และนำไปปลูกพันธวุ ศิ วกรรมในสัตว์

ข้ันท่ี 4 การขยายความรู้ (Elaboration)
4.1 ครูกำหนดสถานการณ์เกี่ยวกับปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้มีการปลูกและจำหน่าย

แอปเปิล GMOs ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษสามารถชะลอการเน่าเสีย ถ้าหากวันหนึ่งประเทศไทยจะมีการนำเข้า
แอปเปิลสายพันธุ์นี้ นักเรียนจะสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกและจำหน่ายหรือไม่ โดยให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม
ออกเป็น 2 กลุ่ม รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์หรือนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาเรื่อง
ส่ิงแวดลอ้ มดดั แปรพันธุกรรมมาโต้วาทีภายใตญ้ ัตติ ควรใหม้ กี ารปลูกและวางจำหน่ายแอปเปิล GMOs หรือไม่
โดยใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเห็นลงในสมดุ แลว้ นำมาสง่ ครผู สู้ อน

ขั้นท่ี 5 การประเมนิ (Evaluation)
5.2 นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 3.1 และ3.2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พันธุกรรม เรื่อง การแบ่งเซลล์ของ

ส่ิงมีชีวติ ในหนงั สือแบบฝกึ หัด รายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1

3. สื่อการเรียนการสอน และแหล่งการเรียนรู้
3.1 หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
3.2 หนงั สือแบบฝกึ หดั รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
3.3 วิดีทัศน์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เรื่อง What Is a Genetically Modified Food?

จาก Youtube เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=JMPE5wlB3Zk
3.4 กิจกรรมแบบ TGT โดยใชค้ ำถาม 5 ข้อ เกย่ี วกับการดัดแปรพันธุกรรม

4. วธิ ีการวดั และประเมินผล

จดุ ประสงค์ การวดั /เคร่อื งมอื การวัด ภาระงาน/ชนิ้ งาน เกณฑ์การ
ประเมินผล
อธิบายการใช้ประโยชน์จาก - แบบประเมินการตอบคำถาม - การตอบคำถาม ผา่ นเกณฑ์ระดับดี

สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม - ตรวจแบบฝึกหดั เร่ือง การดัด - แบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑ์ระดับดี

และผลกระทบที่อาจมีต่อ แปรทางพนั ธุกรรม เรื่อง การดัดแปรทาง ผ่านเกณฑ์ระดับดี

มนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้ (K) พันธกุ รรม

เปรียบเทียบประโยชน์และ - แบบประเมินกจิ กรรม - กิจกรรม สิง่ มชี วี ิตดัด

ผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัด - แบบประเมนิ การนำเสนอ แปรทางพันธุกรรม

แปรพันธุกรรมได้ (P)

มีวินัยใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นใน - แบบประเมินคุณลักษณะ - มวี ินยั

การทำงาน (A) อันพึงประสงค์ - ใฝเ่ รียนรู้

- มุ่งมน่ั ในการทำงาน

ใบกิจกรรม
เรอ่ื ง สงิ่ มชี วี ิตดดั แปรพนั ธุกรรม

กลมุ่ ท่ี ....................................
รายชอื่ สมาชิก

1. ...........................................................................ชน้ั ......................เลขที่.............หอ้ ง...........
2. ...........................................................................ช้นั ......................เลขท่.ี ............ห้อง...........
3. ...........................................................................ชัน้ ......................เลขท่.ี ............ห้อง...........
4. ...........................................................................ชั้น......................เลขท.ี่ ............หอ้ ง...........
5. ...........................................................................ชนั้ ......................เลขที่.............ห้อง...........

จุดประสงค์ อธบิ ายการใช้ประโยชน์จากสิง่ มชี ีวิตดัดแปรพนั ธกุ รรมได้ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
• การสงั เกต
วิธปี ฏบิ ตั ิ • การสอ่ื ความหมายข้อมลู
• การลงความเห็นจากขอ้ มลู
1. แบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน แล้วรว่ มกันสืบคน้ ขอ้ มูลเก่ยี วกับสิง่ มีชีวติ
ดัดแปรพันธุกรรมมาอยา่ งน้อย 2 ชนดิ จิตวทิ ยาศาสตร์
• ความสนใจใฝร่ ู้
2. รวบรวมขอ้ มลู และรว่ มกันอภิปรายถึงประโยชน์ท่ีไดจ้ ากส่งิ มีชวี ติ • ความรบั ผดิ ชอบ
ดดั แปรพนั ธุกรรม และลกระทบทอี่ าจเกิดขึ้นตอ่ มนษุ ยแ์ ละสงิ่ แวดล้อม • การทำงานรว่ มกับผ้อู น่ื ได้อยา่ ง
แล้วสง่ ตัวแทนกลุม่ ออกมานำเสนอหน้าชนั้ เรียน สร้างสรรค์

บนั ทึกผลกจิ กรรม

ตัวอย่างส่งิ มชี ีวติ ที่ดัดแปรพนั ธุกรรม

1. …………………………………………………… 2. ……………………………………………………
ประโยชน์ทไี่ ด้จากส่ิงมีชวี ติ ดดั แปรพันธกุ รรม ประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากสง่ิ มีชีวติ ดดั แปรพันธุกรรม
…………………………………………………….......... ……………………………………………………........
…………………………………………………….......... ……………………………………………………........
ผลกระทบท่ีอาจเกดิ ข้ึนต่อมนุษยแ์ ละส่ิงแวดล้อม ผลกระทบทีอ่ าจเกดิ ข้ึนตอ่ มนษุ ย์และสิ่งแวดล้อม
…………………………………………………….......... ……………………………………………………........
…………………………………………………….......... ……………………………………………………........

3. …………………………………………………… 4. ……………………………………………………
ประโยชนท์ ่ีได้จากส่ิงมชี วี ิตดดั แปรพันธุกรรม ประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากสิง่ มีชีวติ ดดั แปรพันธุกรรม
…………………………………………………….......... ……………………………………………………........
…………………………………………………….......... ……………………………………………………........
ผลกระทบที่อาจเกิดข้นึ ต่อมนุษย์และสง่ิ แวดล้อม ผลกระทบท่ีอาจเกดิ ขึ้นตอ่ มนษุ ย์และสิ่งแวดล้อม
…………………………………………………….......... ……………………………………………………........
…………………………………………………….......... ……………………………………………………........

อภปิ รายผลกจิ กรรม
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

คำถามท้ายกิจกรรม

1. ยกตวั อย่างสง่ิ มชี วี ิตทมี่ นุษยน์ ำมาดัดแปรพันธกุ รรม
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. มนุษย์นำส่ิงมชี วี ติ ดดั แปรพันธกุ รรมมาใช้ประโยชน์ในด้านใดบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
..................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ....................................................................................
3. ยกตวั อย่างผลกระทบที่เกิดข้นึ จากการใชป้ ระโยชน์จากสิ่งมชี ีวิตดัดแปรพนั ธุกรรมที่มีตอ่ มนุษย์และ
สง่ิ แวดล้อม
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

เ ลย

กลุ่มท่ี ....................................
รายช่อื สมาชิก

1. ...........................................................................ชัน้ ......................เลขที.่ ............หอ้ ง...........
2. ...........................................................................ชน้ั ......................เลขที.่ ............หอ้ ง...........
3. ...........................................................................ช้นั ......................เลขท.่ี ............ห้อง...........
4. ...........................................................................ชัน้ ......................เลขท่.ี ............หอ้ ง...........
5. ...........................................................................ชน้ั ......................เลขท.่ี ............หอ้ ง...........

จุดประสงค์ อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งมชี ีวิตดดั แปรพนั ธกุ รรมได้

วธิ ีปฏิบัติ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
• การสังเกต
1. แบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน แล้วรว่ มกนั สืบคน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ส่งิ มีชวี ิต • การสอ่ื ความหมายขอ้ มลู
ดดั แปรพันธุกรรมมาอย่างน้อย 2 ชนิด • การลงความเห็นจากข้อมลู

2. รวบรวมขอ้ มูลและรว่ มกันอภิปรายถึงประโยชน์ที่ได้จากสง่ิ มชี วี ติ จิตวทิ ยาศาสตร์
ดัดแปรพนั ธุกรรม และลกระทบท่อี าจเกิดขึน้ ต่อมนุษย์และสงิ่ แวดล้อม • ความสนใจใฝร่ ู้
แลว้ ส่งตวั แทนกล่มุ ออกมานำเสนอหนา้ ช้ันเรียน • ความรับผดิ ชอบ
• การทำงานร่วมกบั ผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ ง
บนั ทึกผลกจิ กรรม สรา้ งสรรค์

ตัวอย่างสง่ิ มีชีวติ ทดี่ ดั แปรพันธกุ รรม

1. …………………………………………………… 2. …สุก…ร…G…M…O…s……………………………………

ประโยชนท์ ีไ่ ด้จากสง่ิ มีชีวิตดดั แปรพันธุกรรม ประโยชนท์ ่ีได้จากส่งิ มีชวี ิตดัดแปรพนั ธุกรรม
……เพ…ิม่…ป…ร…ิม…าณ…ผ…ล…ผ…ล…ิตแ…ล…ะ…ล…ดต…น้ …ท…นุ …ให...้ก..บั...
…………………………………………………….......... ……ป…ศ…สุ …ัตว…์ ……………………………………........
…ก…า…ร…ผล…ิต…ฮ…อ…ร์โ…ม…นอ…นิ …ซ…ลู …นิ …จา…ก…แ…บ…คท…ีเ.ร..ยี.......
ผลกระทบที่อาจเกดิ ขึ้นตอ่ มนษุ ย์และสิง่ แวดล้อม
ผลกระทบที่อาจเกดิ ขึน้ ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ……ส…ัต…วอ์…า…จ…เจ…บ็ …ป…่วย…เป…็น…โ…รค…ห…ัว…ใจ……ตบั…........
…ใ…ช…ร้ ัก…ษ…า…ผ…ปู้ ว่…ย…โร…ค…เบ…า…ห…ว…าน…………….......... ……อ…ัก…เส…บ…ห…ร…ือ…โร…ค…ไต…ได…้ …………………........

……………………………………………………..........

แบคทีเรยี อาจเกิดการกลายพันธุ์ได้

3. …ข…้าว…ส…ีท…อ…ง …………………………………… 4. ……วัว……G…M…O…s …………………………………

ประโยชน์ท่ไี ด้จากสิง่ มชี วี ิตดัดแปรพนั ธุกรรม ประโยชนท์ ่ไี ด้จากสง่ิ มีชีวิตดดั แปรพนั ธุกรรม
………เป…็น…อ…าห…า…รใ…ห…ผ้ …ู้ป…่วย…ท…เ่ี ป…น็ …โ…รค…ข…า…ดว..ติ...า.ม...ัน. ………ส…า…ม…าร…ถ…ผล…ิต…น…ำ้ …นม…ท…่ีม…คี …ณุ …ภ…า…พด…ขี ..ึ้น......

………เอ…………………………………………….......... ……………………………………………………........

ผลกระทบที่อาจเกิดขึน้ ต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม ผลกระทบทีอ่ าจเกดิ ข้ึนต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม
…………………………………………………….......... ………ส…ัต…ว…์อา…จ…เจ…็บ…ป…ว่ ย…เ…ป…น็ โ…ร…คห…วั…ใ…จ…ต.ับ.......
………อา…จ…ส…่งผ…ล…ก…ระ…ท…บ…ต…อ่ ร…ะ…บ…บ…น…เิ ว…ศแ…ล..ะ..ค...ว..า.ม ………อ…กั …เส…บ…ห…ร…อื …โร…ค…ไต…ไ…ด้………………........

หลากหลายทางชีวภาพของข้าวสายพันธุ์

อื่นๆ
อภิปรายผลกจิ กรรม

............................................................................................................................. .................................................
............จ...า..ก..ก...ิจ..ก..ร...ร..ม....พ...บ..ว...่า...ส...ิ่ง..ม..ี.ช..ีว..ิต...ท...ี่ม..น...ุษ...ย..์.น..ำ..ม...า..ด..ัด...แ..ป...ร..พ...ัน...ธ..ุก..ร...ร..ม..ม...ีท...ั้ง..พ...ืช..แ...ล..ะ...ส..ัต...ว..์ ..โ.ด...ย..อ..า...ศ..ัย...ค..ว..า..ม...ร..ู้ท...า. ง
........เ..ท..ค...โ..น..โ..ล..ย...ีช...ีว..ภ...า..พ...ห..ร...ือ..พ...ัน...ธ..ุว...ิศ..ว...ก..ร..ร..ม...ใ.น...ก...า..ร..ต...ัด..ต...่อ..ย...ีข..อ...ง..ส..ิ.่ง..ม..ีช...ีว..ิต....เ..พ...ื่อ..ใ.ห...้ส...ิ่ง..ม...ีช..ีว...ิต..ด...ัด...แ..ป...ร..พ...ัน...ธ..ุก..ร..ร...ม..มี
........ล...ัก..ษ...ณ...ะ..ต...า..ม...ท..ี่ต...้อ..ง..ก...า..ร...แ...ล..ะ..ก...่อ..ใ..ห...้เ.ก..ิด...ป...ร..ะ..โ..ย..ช..น...์ท...ั้ง..ท...า..ง.ด...้า..น...ก..า..ร..แ...พ...ท..ย...์ .ด...้า.น...เ.ก...ษ..ต...ร...แ...ล..ะ..ด...้า..น...อ..ุต...ส..า..ห...ก..ร..ร..ม
........แ...ต..่เ.น...ื่อ...ง.จ...า..ก..ส...ิ่ง..ม..ีช...ว..ิต..ด...ัด..แ...ป...ร..พ..ัน...ธ..ุก...ร..ร..ม..เ.ป...็น...ส..ิ่ง..ม...ีช..ีว...ิต..ท...ี่ม..ี.พ..ัน...ธ..ุก...ร..ร..ม..แ...ต..ก...ต..่า..ง..ไ..ป..จ...า..ก..ธ..ร..ร...ม..ช...า..ต..ิ ..ซ..ึ่ง..อ..า..จ...ส..่ง..ผ..ล
........ก...ร..ะ..ท..บ...ต...่อ..ค..น...ใ.น...ส..ัง..ค...ม....ค..ว..า..ม...ป..ล...อ..ด...ภ..ัย..ต...อ่ ..ก...า..ร..บ..ร..ิโ..ภ..ค...ร..ว..ม..ถ...ึง..ก..า..ร..เ.ป...น็ ...พ..า..ห...ะ..ข. .อ..ง..ส...า.ร..พ...ษิ.....แ..ล..ะ..ก...า..ร..แ..พ...ร..่ก..ร..ะ...จ..า. ย
........ข...อ..ง..ส..ิง่..ม..ีช...ีว..ติ ..ด...ัด..แ..ป...ร..พ...นั..ธ...กุ ..ร..ร..ม....ซ..ึ่ง..ส..่ง..ผ...ล..ก..ร..ะ..ท...บ...ต..อ่...ค..ว..า..ม...ห..ล...า..ก..ห...ล..า..ย..ข...อ..ง..ส..ิง่.ช...วี ..ติ ..ใ..น..ธ..ร..ร..ม...ช..า..ต...ิ ......................

คำถามท้ายกจิ กรรม

1. ยกตวั อยา่ งส่ิงมีชวี ติ ทีม่ นุษยน์ ำมาดดั แปรพนั ธุกรรม
.................1..)...แ..บ...ค..ท...ีเ.ร..ยี................4..)...ข..า้ ..ว..โ..พ..ด........................................................... .................................................
.................2..)...ว..ัว............................5..)..ข...า้ ..ว.................................................................................................................
.................3..)...ม..ะ...เ.ข..ือ...เ.ท..ศ..................................................................................................................................... .....

2. มนุษย์นำส่ิงมชี ีวิตดัดแปรพันธกุ รรมมาใช้ประโยชนใ์ นด้านใดบ้าง
......1...)..ด...า้ .น...ก..า..ร..แ...พ...ท..ย..์..เ.ป...น็ ..ก...า..ร..ใ.ช...้ค..ว..า..ม...ร..ทู้ ..า..ง..พ...นั ..ธ..ุว...ศิ ..ว..ก..ร..ร..ม....เ..พ..ื่อ...ส..ร..า้..ง..ผ..ล...ติ ..ภ...ณั ...ฑ...ท์ ..า..ง..เ.ภ..ส...ชั..ก...ร..ร..ม...เ..ช..น่....ก..า..ร..ผ...ล..ติ......
......ฮ...อ..ร..์โ.ม...น...อ..นิ ..ซ...ลู ..นิ...จ..า..ก..แ...บ..ค...ท..ีเ..ร..ีย....ก..า..ร..ผ..ล...ติ ..ว..ัค...ซ..ีน..ป...้อ...ง.ก...นั ..โ..ร..ค..ต...ับ..อ...กั ..เ.ส...บ..บ...ี................................ ...........................
......2...)..ด...้า.น...ก..า..ร..เ..ก..ษ...ต..ร....เ.ป..็น...ก..า..ร..ใ..ช..้ค...ว..า..ม..ร..ทู้...า..ง..พ..นั...ธ..ุว..ศิ...ว..ก..ร..ร..ม...ม..า..ป...ร..บั ..ป..ร..งุ..พ...นั...ธ..ขุ์ ..อ..ง..ส...่ิง.ม...ชี..วี..ติ....เ.พ...ื่อ...เ.พ...ิ่ม..ป...ร..มิ ..า..ณ....แ..ล..ะ....
......ค...ุณ...ภ...า..พ..ข...อ..ง..ผ..ล...ผ..ล..ติ....เ.ช...น่....ก..า..ร..ป...ร..ับ...ป..ร..ุง..พ...นั ..ธ..ุ์ส...ตั ..ว..์..ก..า..ร..ป...ร..บั ..ป...ร..ุง..พ...ัน..ธ..์ุพ...ืช.............................................................

3. ยกตัวอย่างผลกระทบท่เี กิดขึ้นจากการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชวี ติ ดัดแปรพันธุกรรมทมี่ ีต่อมนุษย์และ

สิง่ แวดลอ้ ม
...........ก..า..ร...ป..ร...ับ..ป...ร..ุ.ง.พ...ัน...ธ..ุ.์พ...ืช..ป...ร..ะ...เ.ภ...ท....G...M...O...s...ม...ีผ...ล..ก...ร..ะ..ท..บ...ต...่อ..ค...ว..า..ม...ห...ล..า..ก...ห..ล...า..ย...ท..า..ง..ช...ีว..ภ...า..พ.....เ.ช...่น....ท...ำ..ใ.ห...้เ..ก..ิด...
.......ส..่ิง..ม...ชี ..วี..ติ..ส...า..ย..พ...นั ..ธ...ใุ์ .ห...ม..่ท...่ีม..ีล...ัก..ษ...ณ...ะ..เ..ด..่น...เ.ห...น..ือ...ก..ว..่า..ส..า..ย...พ...ัน..ธ..เ์ุ..ด..ิม..ใ..น...ธ..ร..ร..ม..ช...า..ต..ิม..า..ก..จ..น...ก..ล...นิ ..ส...า..ย..พ...นั...ธ..์ุเ.ด..ิ.ม..ใ..ห..้ล...ด..ล..ง...
.......ห...ร..ือ..ส...ูญ...พ...ัน..ธ..ุ์ไ..ป...ล..ัก..ษ...ณ....ะ..เ.ด...่น..บ...า..ง..อ..ย..่า..ง..ถ...กู ..ถ..่.า.ย...ท...อ..ด..ไ..ป...ย..งั..ส..า..ย...พ..ัน...ธ..ุ์ท...ี่ไ.ม...่ต..้อ...ง..ก..า.ร....ห..ร..ือ...อ...า..จ..ท...ำ..ใ.ห...้ศ..ัต...ร..ูพ...ืช..ด..้ือ...ต..อ่...
.......ส..า..ร..เ.ค...ม..ปี...ร..า..บ...ศ..ัต..ร..ูพ...ืช...จ..น..เ..ก..ิด....“..ส...ดุ ..ย..อ...ด..ว..ัช...พ..ืช..”..................................................................................................

แบบฝึกหดั เรอ่ื ง การดดั แปรทางพันธุกรรม

แบบฝกึ หดั ที่ 5.1 สบื ค้นข้อมลู เกย่ี วกบั ความก้าวหนา้ ของการดัดแปรทางพันธุกรรม แล้วเขียนสรุปเป็นผัง
ความคิด

แบบฝึกหดั ท่ี 5.2 ตอบคำถามต่อไปนี้

ถา้ ในอนาคตเกษตรกรและปศุสตั วใ์ นประเทศไทยนำกระบวนการดดั แปรพันธกุ รรมมาใช้มากขึ้น
นักเรยี นเหน็ ด้วยหรือไม่ พร้อมอธิบายเหตุลประกอบ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................... ..........
......................................................................................................................... .....................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................... .....................

แบบฝึกหัด เรอื่ ง การดดั แปรทางพันธกุ รรม เ ลย

แบบฝึกหัดที่ 5.1 สบื ค้นข้อมูลเกยี่ วกบั ความกา้ วหนา้ ของการดัดแปรทางพันธุกรรม แล้วเขยี นสรุปเป็นผัง
ความคิด

แบบฝกึ หดั ท่ี 5.2 ตอบคำถามต่อไปน้ี

ถ้าในอนาคตเกษตรกรและปศุสัตวใ์ นประเทศไทยนำกระบวนการดดั แปรพันธกุ รรมมาใชม้ ากขึน้
นกั เรียนเห็นดว้ ยหรือไม่ พร้อมอธบิ ายเหตุลประกอบ
...เ..ห..น็...ด..้ว..ย....เ.พ...ร..า..ะ..ก...า..ร..ด..ัด..แ...ป..ร..พ...ัน...ธ..กุ..ร..ร..ม...ช..่ว..ย...แ..ก..้ป...ญั...ห...า..ก..า..ร..ข..า..ด...แ..ค...ล..น...อ..า..ห...า..ร...แ..ล...ะ.ช...่ว..ย..ป...ร..ับ..แ...ต..่ง..พ...นั ..ธ..ุก...ร..ร..ม..ข..อ...ง......
...พ...ชื...เ.ศ..ร..ษ...ฐ..ก..จิ...ใ.ห...้ม..ีล...กั ..ษ...ณ...ะ..ท...า..ง..พ...นั ..ธ..กุ...ร..ร..ม..ท...ี่ด..ีข...น้ึ ....ร..ว..ม..ท...ั้ง..ย..ัง..ช..ว่..ย...ล..ด..ต...น้ ..ท...นุ...ก..า..ร..ผ..ล..ิต..ใ..ห...้ก..ับ...เ.ก..ษ...ต..ร..ก...ร..แ..ล...ะ..ป..ศ...สุ ..ตั...ว..์ ...
...ไ..ด..้ม...า..ก...แ...ต..่ย...ัง.ไ..ม..ม่...ผี ..ล...ว..จิ ..ัย..ย..นื...ย..ัน...ไ.ด...ว้ ..่า..ก..า..ร..ด...ัด..แ..ป...ร..พ...ัน..ธ...ุก..ร..ร..ม..ม...ีค..ว..า..ม...ป...ล..อ..ด...ภ..ยั....1..0..0...%.....ห..า..ก...น..ำ..ม...า..ใ.ช...้อ..ย..่า..ง..ไ..ม.่.........
...ร..ะ...ม..ัด..ร...ะ..ว..งั ..อ..า..จ..ส...ง่ .ผ...ล..ก...ร..ะ..ท..บ...ต..่.อ..ส..ง่ิ..ม...ีช..วี..ิต....เ.ช..น่....ผ...ล..ติ..ภ...ัณ...ฑ...ท์...ผ่ี..่า..น...ก..า..ร..ด...ัด..แ..ป...ร..พ..นั...ธ..ุก..ร..ร..ม...ม..า..ใ..ช..้ม...า..ก..ข..ึ้น...ใ.น...อ..น...า..ค..ต......
...ผ...ู้ผ..ล..ิต...ต..อ้...ง..ม..ีก..า..ร..ต...ิด..ฉ...ล..า..ก..ผ...ล..ิต..ภ...ัณ...ฑ...์..G..M....O...s...ไ.ว..ท้...ีอ่ ..า..ห...า..ร...เ..พ..่ือ...ใ.ห...ผ้ ..ู้บ...ร..โิ .ภ...ค...ท..ร..า..บ...ข. .้อ..ม..ูล...เ.ก..่ีย...ว..ก..ับ...อ..า..ห...า..ร..ป..ร..ะ...เ.ภ...ท......
...G...M...O...s....ส..ำ..ห...ร..ับ..ใ..ช..ใ้.น...ก..า..ร..ต...ัด..ส...นิ ..ใ..จ..เ.ล...อื ..ก..ซ...ื้อ..อ...า.ห...า..ร............................................................................ .....................

กจิ กรรมแบบ TGT
โดยใช้คำถาม 5 ข้อ เกีย่ วกับการดัดแปรพนั ธกุ รรม
1. GMOs คืออะไร

ก. สิง่ นชี้ วี ิตทเี่ กดิ ข้ึนได้เองตามธรรมชาติ
ข. สงิ่ นชี้ วี ติ ทม่ี ีลกั ษณะพนั ธุกรรมแปรผันได้ง่าย
ค. สิง่ มชี วี ติ ที่เกิดจากส่ิงมีชีวติ ต่างชนดิ ตา่ งชนิดกนั ผสมพันธุ์กนั
ง. ส่งิ มชี วี ติ ท่ีผ่านการดัดแปรพันธกุ รรม
(เฉลย ง. สิ่งมชี วี ติ ทผ่ี ่านการดัดแปรพันธกุ รรม)
2. ข้อใดเป็นสาเหตุทที่ ำให้มกี ารดดั แปรพนั ธกุ รรม
ก. เป็นการคดั เลือกพนั ธุ์ท่ีเกดิ ตามธรรมชาติ
ข. เป็นการทดลองนำความรหู้ ลายๆ สาขามาใช้
ค. การผสมพนั ธุ์พืชแต่ละชนิดให้ไดพ้ ืชพนั ธ์ุทด่ี ี
ง. จำนวนประชาชนท่ีเพิ่มข้นึ และการขาดแคลนอาหาร
(เฉลย ค. การผสมพนั ธุพ์ ชื แต่ละชนดิ ให้ได้พชื พนั ธุ์ท่ีดี)
3. ขอ้ ใดจัดเปน็ ส่งิ มีชวี ติ ดดั แปรพันธกุ รรม
ก. แตงโมไมม่ ีเมลด็
ข. กล้วยไมท้ ี่ไดจ้ ากการเพาะเล้ยี งเน้ือเยือ่
ค. แบคทเี รียทีส่ ามารถผลิตฮอรโ์ มนอนิ ซูลนิ
ง. กลว้ ยไมพ้ ันธุใ์ หมท่ ีไ่ ด้จากการฉายรงั สีแกมมา
(เฉลย ค. แบคทีเรียที่สามารถผลติ ฮอร์โมนอินซลู นิ )
4. การสร้างพชื GMOs มขี อ้ ดีอย่างไร
ก. เพิม่ ผลผลิตได้อย่างรวดเรว็
ข. ชว่ ยลดการใชส้ ารเคมีฆ่าแมลง
ค. ทำให้ต้นทนุ การผลติ ลดลง
ง. ถูกทกุ ข้อ
(เฉลย ง. ถูกทุกข้อ)
5. ข้อใดอาจเปน็ อันตรายทเ่ี กิดจากการสร้างสง่ิ มีชวี ิตดัดแปรพันธกุ รรม
ก. ทำให้ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นท้องถ่นิ เพ่มิ จำนวนขนึ้
ข. ทำใหร้ ะบบนเิ วศเสียสมดุลธรรมชาติ
ค. ทำให้สิ่งแวดล้อมในท้องถ่นิ ดูสวยงามขนึ้
ง. ทำให้ผู้บริโภคมที างเลือกในการบรโิ ภค
(เฉลย ง. ทำให้ผบู้ รโิ ภคมที างเลือกในการบรโิ ภค)

















แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 แสงและการมองเห็น เวลา 16 ช่ัวโมง

เรื่อง การเกดิ ภาพจากกระจกเงา เวลา 2 ชั่วโมง

ภาคเรยี นท่ี 2 วนั ที่สอน.............................................. ครูผ้สู อน นางสาวกนกวรรณ รักพรม

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด/สาระการเรียนรู้

สาระท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้

สาระที่ 2 มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมาย 14. เขยี นแผนภาพการ - เม่อื แสงตกกระทบวตั ถุจะเกิดการ

วิทยาศาสตร์ ของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและ เคล่ือนท่ีของแสง สะทอ้ นซ่ึงเปน็ ไปตามกฎการสะท้อน

กายภาพ ถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ แสดง การเกิดภาพ ของแสง โดยรังสตี กกระทบ เสน้ แนว

ร ะ ห ว ่ า ง ส ส า ร แ ล ะ พ ล ั ง ง า น จากกระจกเงา ฉาก รงั สีสะท้อนอย่ใู นระนาบเดียวกนั

พ ล ั ง ง า น ใ น ช ี ว ิ ต ป ร ะ จ ำ วั น และมุมตกกระทบเทา่ กบั มมุ สะท้อน

ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่ ภาพจาก กระจกเงาเกิดจากรังสี

เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่น สะทอ้ นตัดกนั หรือตอ่ แนว รังสีสะทอ้ น

แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไป ใหต้ ดั กนั โดยถา้ รงั สสี ะท้อนตัดกนั จริง

ใช้ประโยชน์ จะเกิดภาพจริง แต่ถา้ ตอ่ แนวรงั สี

สะท้อนให้ ไปตัดกัน จะเกดิ

ภาพเสมอื น

1. การกำหนดเป้าหมายการจดั กระบวนการเรยี นรู้
1.1 สาระสำคัญ/Concept
เมื่อแสงตกกระทบวัตถุจะเกิดการสะท้อนซึ่งเป็น ไปตามกฎการสะท้อนของแสง โดยรังสีตกกระทบ

เส้นแนวฉาก รังสีสะท้อนอยู่ในระนาบเดียวกัน และมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน ภาพจาก กระจกเงาเกิด
จากรังสสี ะท้อนตัดกนั หรือต่อแนว รงั สสี ะทอ้ นใหต้ ดั กัน โดยถา้ รังสสี ะทอ้ นตัดกันจริง จะเกิดภาพจริง แต่ถ้าต่อ
แนวรงั สสี ะทอ้ นให้ ไปตดั กัน จะเกดิ ภาพเสมอื น

1.2 สาระการเรยี นรู้/เนื้อหา/Contents
1.2.1 การเกิดภาพจากกระจกเงาราบ
1.2.2 การเกดิ ภาพจากกระจกเงาเวา้
1.2.3 การเกิดภาพจากกระจกเงานูน

1.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้
1.3.1 อธบิ ายการเกดิ ภาพจากกระจกเงาราบและกระจกเงาโค้งได้ (K)
1.3.2. อธบิ ายลกั ษณะของภาพที่เกิดจากสะทอ้ นแสงของวัตถุทม่ี ีผวิ ราบได้ (K)
1.3.3 เขียนเส้นรังสีการสะท้อนของแสงเพื่อหาตำแหน่งและลักษณะของภาพที่เกิดจากกระจกเงาเวา้

และกระจกเงานนู ได้ (P)
1.3.4 มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุ่งม่ันในการทำงาน (A)

2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ 5E
ชว่ั โมงท่ี 1

ขน้ั ที่ 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
1.1 ครูนำภาพกระจกเงา กระจกรถ แว่นขยายหมอฟัน และกระจกขยายข้างถนน มาให้นักเรียน

พจิ ารณา จากน้ันสุม่ ถามนกั เรียนภายในหอ้ งเรียนว่า ภาพที่เกดิ จากกระจกท้ัง 4 นตี้ า่ งกันอยา่ งไร
(แนวคำตอบ ภาพมีขนานต่างกัน เนือ่ งจากเปน็ กระจกคนละชนิด)

ข้นั ท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration)
2.1 นักเรียนแต่ละคนศึกษาเรื่อง การเกิดภาพจากกระจกเงา ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน

วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2
2.2 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน เท่า ๆกัน เพ่อทำกิจกรรมภาพจากการสะท้อนของแสงของ

วัตถทุ ี่มีผิวราบ จากนั้นตวั แทนกลุ่มออกมารับอุปกรณ์การทำกจิ กรรมกับครหู นา้ ชั้นเรยี น
2.3 นักเรียนอ่านจุดประสงค์ ตรวจเช็กวัสดุอุปกรณ์ที่ได้รับ และอ่านขั้นตอนปฏิบัติ จากนั้นลงมือทำ

ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
2.4 เมื่อได้ข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว แต่ละกลุ่มอภิปรายผลกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรมให้ถูกต้อง

จากน้ันสง่ ตัวแทนนำเสนอหน้ช้ันเรยี น
2.5 ครคู อยใหค้ ำแนะนำและขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติมในการนำเสนอ เพ่อื ใหน้ ักเรียนมีความเขา้ ใจที่ถูกต้อง

ชว่ั โมงที่ 2

ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)
3.1 ครูและนักเรียนรว่ มกันอภิปรายผลกิจกรรมจนได้ข้อสรปุ ว่า ภาพที่เกิดจากการสะท้อนของวัตถุท่ี

มีผิวราบจะเป็นภาพที่เกิดในแผ่นพลาสติก ขนาดของภาพจะเท่ากับขนาดของวัตถุ และระยะภาพจะเท่ากับ
ระยะวัตถุ

3.2 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคำถามท้ายกิจกรรม โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดงความ
คดิ เห็นเพอ่ื หาคำตอบ จากนน้ั ครสู ุ่มนักเรยี นเพ่อื ตอบคำถามท้ายกิจกรรม

ขน้ั ที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration)
4.1 ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะการเกิดภาพจากกระจกเงาโค้งว่า ภาพที่เกิดจากการสะท้อน

ของแสงแบง่ ออกเป็น 2 ชนดิ คือ ภาพจรงิ เปน็ ภาพเกดิ จากรงั สีของแสงตัดกันจริง ณ จุดทีเ่ กดิ ภาพจริงใช้ฉาก
รับไม่ได้มีลักษณะหัวกลับกับวตั ถุ และภาพเสมือน เป็นภาพที่ไม่ได้เกิดจากรังสีของแสงไปตัดกันจริง แต่มีรังสี
เสมอนซึ่งเปน็ เส้นสมมติอท่ีลากต่อจากแนวรังสจี ริงไปตดั กัน ณ จดุ ทีเ่ กิดภาพลักษณะภาพท่ีเกิดจากกระจกเงา
นนู เปน็ ภาพเสมือน ขนาดภาพเล็กกวา่ ขนาดวัตถุเสมอ ส่วนลกั ษณะภาพท่เี กิดจากกระจกเงาเว้า มีทั้งภาพจริง
และภาพเสมือนมขี นาดเลก็ กว่า เท่ากนั และใหญก่ ว่าขนาดวัตถุ ขนึ้ อยู่กบั ตำแหน่งของวัตถทุ ว่ี างหนา้ กระจก

ข้นั ที่ 5 ประเมิน (Evaluation)
5.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 1.2 และ1.3 การสะท้อนของแสง ในหนังสือแบบฝึกหัดเรียนรายวิชา

พนื้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ม.3 เล่ม 2

3. ส่ือการเรียนการสอน และแหลง่ การเรยี นรู้
3.1 หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
3.2 หนังสือแบบฝึกหดั รายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.3 เลม่ 1
3.3 ภาพกระจกเงา กระจกรถ แว่นขยายหมอฟัน และกระจกขยายข้างถนน

4. วธิ กี ารวดั และประเมินผล

จดุ ประสงค์ การวดั /เครือ่ งมือการวัด ภาระงาน/ช้ินงาน เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
- อธิบายการเกิดภาพ - แบบประเมินการตอบคำถาม - การตอบคำถาม ผา่ นเกณฑ์ระดับดี

จากกระจกเงาราบและ - ตรวจแบบฝกึ หัด เรื่อง การ - แบบฝกึ หดั ผ่านเกณฑ์ระดับดี

กระจกเงาโคง้ ได้ (K) สะท้อนของแสง เรื่อง การสะท้อนของ ผ่านเกณฑร์ ะดับดี

- อธิบายลักษณะของ แสง

ภาพที่เกิดจากสะท้อน

แสงของวัตถุที่มีผิวราบ

ได้ (K)

- เขียนเส้นรังสีก า ร - แบบประเมินกิจกรรม - กจิ กรรม ภาพจากการ

สะท้อนของแสงเพื่อหา - แบบประเมินการนำเสนอ สะท้อนของแสงของวตั ถุ

ตำแหน่งและลักษณะ ที่มผี ิวราบ

ของภาพที่เกิดจาก

กระจกเงาเว้าและ

กระจกเงานนู ได้ (P)

- มีวินัยใฝ่เรียนรู้และ - แบบประเมินคุณลักษณะ - มวี ินัย

มุ่งม่ันในการทำงาน (A) อนั พงึ ประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้

- ม่งุ ม่ันในการทำงาน

ใบกิจกรรม

เร่อื ง ภาพจากการสะท้อนแสงของวตั ถทุ ่ีมผี ิวราบ

กลุม่ ที่ ....................................

รายชือ่ สมาชกิ

1. ...........................................................................ชัน้ ......................เลขที.่ ............หอ้ ง...........
2. ...........................................................................ช้ัน......................เลขที่.............ห้อง...........
3. ...........................................................................ชั้น......................เลขที่.............หอ้ ง...........
4. ...........................................................................ช้นั ......................เลขท่.ี ............ห้อง...........
5. ...........................................................................ชน้ั ......................เลขท.่ี ............ห้อง...........

จุดประสงค์ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
• การวัด
ทดลองและบอกลกั ษณะของภาพทเ่ี กิดจากการสะท้อนแสงของวัตถุ • การสังเกต
ท่รี าบได้ • การทดลอง
• การลงความเหน็ จากขอ้ มลู
วัสดอุ ุปกรณ์
จิตวทิ ยาศาสตร์
ชดุ ศกึ ษาความสมั พันธ์ระหว่างระยะวตั ถุกับระยะภาพ ทีป่ ระกอบ • ความรอบคอบ
ดว้ ยฐานแผ่นพลาสตกิ และแทง่ พลาสตกิ รปู ทรงลกู บาศก์ขนาด 1 X 1 เซนตเิ มตร • ความอยากรอู้ ยากเหน็
วธิ ีปฏบิ ัติ

1. จัดวางอปุ กรณข์ องชดุ ศกึ ษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระยะวตั ถุกับระยะภาพ โดยนำแผน่ พลาสตกิ
2. นำแท่งพลาสติกรูปทรงลูกบาศก์วางบนตารางด้านใดด้านหนึ่ง ดังภาพ สังเกตลักษณะภาพของแท่ง
พลาสตกิ ในแผน่ พลาสตกิ

3. บันทึกระยะห่างจากแท่งพลาสติกถึงผิวแผ่นพลาสติก และบันทึกระยะห่างจากผวิ แผ่นพลาสติกถึงตำแหนง่
ภาพโดยสังเกตระยะหา่ งนจี้ ากตารางทอ่ี ย่ตู รงข้ามกบั แท่งพลาสติก
4. เปลีย่ นระยะหา่ งจากแทง่ พลาสตกิ ถึงผวิ แผน่ พลาสตกิ อีก 3 ครง้ั โดยสังเกตและบันทึกระยะห่างจากภาพถึง
ผวิ แผน่ พลาสตกิ ทุกคร้งั
5. ทำซ้ำข้อ 2. แล้วนำแท่งพลาสติกรูปทรงลูกบาศก์อีกแทง่ หนึ่งวางด้านหลงั แผ่นพลาสติก โดยวางให้ซ้อนทบั
กับภาพของแท่งพลาสติก แลว้ สังเกตภาพในแผน่ พลาสตกิ

ตารางบันทกึ กจิ กรรม

ครัง้ ที่ ลกั ษณะภาพ ระยะห่างจากแทง่ พลาสตกิ ถึง ระยะหา่ งจากผิวแผ่นพลาสติก
ผวิ แผน่ พลาสตกิ (cm) ถึงตำแหน่พลาสติก (cm)

1
……………………………….……………………………….

2
……………………………….……………………………….

3
……………………………….……………………………….

เม่อื วางแท่งพลาสติกไวด้ ้านหลังแผ่นพลาสตกิ โดยวางให้ซ้อนทบั กับภาพของแท่งพลาสตกิ พบว่า
............................................................................................................................. .................................................

อภปิ รายผลกจิ กรรม

............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
..................................................................................................... ............................................................... ..........
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

คำถามท้ายกิจกรรม

1. ภาพในแผ่นพลาสตกิ มีลกั ษณะเป็นอย่างไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................

2. เมอื่ วางแท่งพลาสตกิ ห่างจากผวิ แผ่นพลาสติกมากข้ึน ตำแหนง่ ภาพของแท่งพลาสติกเปลย่ี นแปลงหรือไม่
อย่างไร

........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
3. ระยะจากแท่งพลาสตกิ ถงึ ผวิ แผน่ พลาสตกิ และระยะจากภาพถงึ ผิวแผน่ พลาสติกแตกต่างกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................
4. ภาพของแทง่ พลาสติกกบั แท่งพลาสติกทว่ี างหลงั แผน่ พลาสติกซอ้ นทบั กันได้พอดีหรือไม่ อยา่ งไร
....................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. ...........................................
5. ขนาดของวตั ถกุ บั ขนาดภาพมคี วามสัมพันธ์กันอยา่ งไร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................

ใบกิจกรรม เ ลย

เร่อื ง ภาพจากการสะท้อนแสงของวตั ถทุ ี่มีผวิ ราบ

กล่มุ ท่ี ....................................

รายช่ือสมาชิก

1. ...........................................................................ชั้น......................เลขที.่ ............ห้อง...........
2. ...........................................................................ชน้ั ......................เลขท.่ี ............ห้อง...........
3. ...........................................................................ชนั้ ......................เลขที่.............ห้อง...........
4. ...........................................................................ช้ัน......................เลขที่.............หอ้ ง...........
5. ...........................................................................ชนั้ ......................เลขท.ี่ ............ห้อง...........

จุดประสงค์ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
• การวัด
ทดลองและบอกลักษณะของภาพทเ่ี กิดจากการสะท้อนแสงของวัตถุ • การสังเกต
ทีร่ าบได้ • การทดลอง
• การลงความเห็นจากขอ้ มลู
วสั ดุอุปกรณ์
จติ วิทยาศาสตร์
ชดุ ศึกษาความสัมพนั ธร์ ะหว่างระยะวัตถุกบั ระยะภาพ ทป่ี ระกอบ • ความรอบคอบ
ดว้ ยฐานแผน่ พลาสติก และแท่งพลาสติกรปู ทรงลูกบาศก์ขนาด 1 X 1 เซนตเิ มตร • ความอยากรอู้ ยากเห็น
วธิ ปี ฏบิ ัติ

1. จัดวางอปุ กรณ์ของชดุ ศึกษาความสมั พันธร์ ะหวา่ งระยะวัตถุกบั ระยะภาพ โดยนำแผน่ พลาสตกิ
2. นำแท่งพลาสติกรูปทรงลูกบาศก์วางบนตารางด้านใดด้านหนึ่ง ดังภาพ สังเกตลักษณะภาพของแท่ง
พลาสตกิ ในแผน่ พลาสติก


Click to View FlipBook Version