ส่อื การเรยี นรแู้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2: ส่อื แผนภำพ
แผนภาพแสดง สารละลายโซเดียมคารบ์ อเนต สารละลายแคลเซยี มคลอไรด์ และสารละลายกรดไฮโดรคลอริก
โซเดยี มคารบ์ อเนต
แคลเซยี มคลอไรด์
กรดไฮโดรคลอริก
สอ่ื การเรียนร้แู ผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2: ใบกจิ กรรมท่ี 5.2
ใบกจิ กรรมท่ี 5.2 มวลรวมของสารก่อนและหลงั เกดิ ปฏกิ ิริยาเคมเี ป็นอย่างไร
หนงั สือเรยี นรำยวชิ ำพน้ื ฐำนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ 3 เลม่ 2 ตำมหลกั สตู รแกนกลำง
กำรศึกษำข้ันพน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช 2551 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษำธิกำร หน้ำ 9
กิจกรรมท่ี 5.2 มวลรวมของสารก่อนและหลังเกดิ ปฏิกิริยาเคมเี ปน็ อย่างไร?
จุดประสงค์
วสั ดุอุปกรณ์ สังเกตและเปรียบเทยี บมวลรวมของสารกอ่ นและหลงั เกิดปฏิกริ ยิ าเคมี
วิธดี ำเนนิ กิจกรรม วัสดทุ ีใ่ ช้ตอ่ กลุม่
1. สารละลายโซเดยี มคารบ์ อเนต 20 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร
2. สารละลายแคลเซยี มคลอไรด์ 20 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร
3. สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ หรือสารละลาย 20 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร
กรดเกลอื ความเข้มข้น 0.6 โมลตอ่ ลติ ร
4. บีกเกอรข์ นาด 250 cm3 1 ใบ
5. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 4 หลอด
6. จุกยางเบอร์สบิ 4 จกุ
7. ชอ้ นตักสารเบอรห์ นง่ึ 1 คัน
8. แวน่ ตานริ ภยั เทา่ จำนวนนักเรียนในกลมุ่
9. ถงุ มือยาง เท่าจำนวนนักเรยี นในกลมุ่
วัสดุท่ใี ชต้ ่อหอ้ ง
1. แคลเซยี มคารบ์ อเนตแบบเมด็ 1 กระปกุ
2. เครื่องช่งั 2 เครอื่ ง
ตอนท่ี 1 มวลรวมของสำรก่อนและหลงั เกิดปฏกิ ิรยิ ำเคมี
1. ช่ังภำชนะและอุปกรณ์ทัง้ หมดท่ีใช้ในกจิ กรรม ดงั ภำพ อำ่ นคำ่ มวล และบนั ทกึ ผล
2. รินสำรละลำยแคลเซยี มคลอไรด์ลงในหลอดทดลองที่ 1 ประมำณ 1 ใน 3
ของหลอด และรนิ สำรละลำยโซเดยี มคำร์บอเนตปรมิ ำณเท่ำกนั ลงในหลอดทดลอง
ที่ 2 สังเกตลกั ษณะสำรและบันทกึ ผล
3. ปิดหลอดทดลองทงั้ สองดว้ ยจกุ ยำง นำหลอดทดลองท้ังสองใส่ในบกี เกอร์
แลว้ ชัง่ มวลรวมอกี ครัง้ อำ่ นค่ำมวลและบันทึกผล
4. รนิ สำรละลำยแคลเซียมคลอไรด์จำกหลอดทดลองท่ี 1 ลงในสำรละลำย
โซเดียมคำร์บอเนตในหลอดทดลองท่ี 2 เขยำ่ แล้วปดิ ด้วยจุกยำง
สังเกตกำรเปลยี่ นแปลงและบนั ทกึ ผล
5. ชัง่ มวลรวมของผลิตภัณฑ์ทเี่ กดิ ขึน้ พร้อมภำชนะและอปุ กรณท์ ง้ั หมดท่ใี ชใ้ น
กิจกรรม อำ่ นคำ่ มวล และบนั ทกึ ผล
กิจกรรมท่ี 5.2 มวลรวมของสารก่อนและหลังเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมเี ป็นอย่างไร?
ตอนท่ี 2 มวลรวมของสารก่อนและหลงั เกิดปฏิกิรยิ าเคมี เมอ่ื ผลติ ภัณฑ์ท่ีไดเ้ ป็นแกส๊
1. คำดคะเนและบันทกึ ว่ำมวลรวมของสำรกอ่ นและหลังเกดิ ปฏิกริ ิยำเคมรี ะหวำ่ ง
แคลเซียมคำร์บอเนตและกรดไฮโดรคลอรกิ เปล่ียนแปลงหรอื ไม่ อยำ่ งไร
2. ออกแบบวธิ ตี รวจสอบกำรคำดคะเนและตำรำงบันทึกผล
3. ทำกจิ กรรมตำมท่อี อกแบบไว้ สงั เกตกำรเปลีย่ นแปลงและบนั ทกึ ผล
4. นำเสนอผลกำรทำกจิ กรรม
กำรเตรียมตัว • กำรเตรียมสำรละลำยโซเดียมคำร์บอเนต ปรมิ ำตร 160 ลกู บำศกเ์ ซนติเมตร
ลว่ งหนำ้ สำหรบั ครู (สำหรบั 8 กลมุ่ ) เตรยี มไดโ้ ดยตักโซเดยี มคำร์บอเนตจำนวน 16 ชอ้ นเบอร์สอง
ใสใ่ นภำชนะ เตมิ น้ำปรมิ ำตร 160 ลกู บำศก์เซนตเิ มตร แล้วคนให้เข้ำกัน
• กำรเตรียมสำรละลำยแคลเซยี มคลอไรด์ ปรมิ ำตร 160 ลกู บำศก์เซนติเมตร
(สำหรับ 8 กล่มุ ) เตรียมไดโ้ ดยตกั แคลเซยี มคลอไรดจ์ ำนวน 16 ช้อนเบอรส์ อง
ใส่ในภำชนะ เตมิ นำ้ ปริมำตร 160 ลกู บำศก์เซนติเมตร แล้วคนให้เข้ำกัน
• กำรเตรียมสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริกควำมเข้มขน้ 0.6 โมลต่อลิตร
ปริมำตร 160 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร (สำหรบั 8 กลุ่ม) เตรียมไดโ้ ดยรนิ นำ้ ประมำณ
80 ลกู บำศกเ์ ซนตเิ มตร ลงในภำชนะ จำกน้นั รินสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริก
เขม้ ข้น 6 โมลต่อลติ ร ปริมำตร 16 ลกู บำศก์เซนตเิ มตร ลงในภำชนะ แลว้ เติมน้ำ
จนมีปริมำตรรวมเปน็ 160 ลูกบำศกเ์ ซนตเิ มตร
ข้อเสนอแนะใน • ตอนที่ 1 ครูสำมำรถให้นกั เรยี นทดลองใน 2 ลกั ษณะคือ กำรทดลองแบบเปิดและ
กำรทำกิจกรรม แบบปิดหลอดทดลอง เพอ่ื ให้เกิดกำรอภิปรำยเก่ียวกับมวลของสำรกอ่ นและหลงั
เกดิ ปฏกิ ิริยำเคมี ในกรณีที่ไมม่ แี ก๊สเปน็ ผลติ ภัณฑ์ ซ่ึงจะใช้เป็นแนวทำงในกำร
ออกแบบกิจกรรมในตอนที่ 2 ซง่ึ เป็นกรณที ม่ี แี ก๊สเปน็ ผลติ ภัณฑ์
• ตอนที่ 2 ควรใชแ้ คลเซียมคำรบ์ อเนตปริมำณ 1-2 เม็ด ในกรณที ี่เป็นผงใหใ้ ช้
ปรมิ ำณครึ่งชอ้ นเบอรห์ นึ่ง เพอื่ ปอ้ งกันกำรเกิดแกส๊ ในปรมิ ำณมำก ซงึ่ จะดันจกุ
ทีป่ ิดอยใู่ หก้ ระเด็นออกอย่ำงรวดเร็ว และอำจเกดิ อนั ตรำยต่อนกั เรยี นได้
• ครคู วรทบทวนกำรใช้เคร่อื งชั่งและวิธเี กบ็ เคร่ืองชง่ั เชน่ เคร่ืองชง่ั แบบคำนสำมแขน
เครอ่ื งชัง่ แบบดิจิทัล
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
ตอนท่ี 1 มวลรวมของสารก่อนและหลงั เกิดปฏิกริ ยิ าเคมี
1. เมื่อรินสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ลงในสารละลายโซเดียมคาร์บอเนต มีปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้นหรือไม่
ทราบไดอ้ ย่างไร
2. มวลรวมของสารก่อนและหลงั เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมมี คี า่ เทา่ ใด หาไดอ้ ยา่ งไร
3. มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีมีการเปลย่ี นแปลงหรือไม่ อย่างไร
4. จากกิจกรรม ตอนท่ี 1 สรปุ ไดว้ า่ อยา่ งไร
ตอนท่ี 2 มวลรวมของสารกอ่ นและหลงั เกิดปฏกิ ิริยาเคมี เม่ือผลติ ภณั ฑ์ทไี่ ดเ้ ปน็ แก๊ส
1. เม่อื ผลติ ภณั ฑ์ที่ได้เปน็ แก๊ส จะมวี ธิ ีการหามวลของสารท่ีไดห้ ลังจากเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมีไดอ้ ยา่ งไร
2. มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี มีการเปลย่ี นแปลงหรือไม่ อย่างไร
3. จากกิจกรรม ตอนท่ี 2 สรปุ ได้วา่ อย่างไร
4. จากกจิ กรรมท้งั 2 ตอน สรุปไดว้ ่าอยา่ งไร
สือ่ การเรียนร้แู ผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2: แบบบันทกึ กำรค้นคว้ำกจิ กรรมท่ี 5.2
แบบบันทกึ กำรค้นควำ้ กจิ กรรมที่ 5.2 มวลรวมของสารก่อนและหลังเกิดปฏิกิริยาเคมเี ปน็ อยา่ งไร
ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................ชน้ั .................เลขท่ี...........กลุ่มท.่ี ...........
ตอนท่ี 1 มวลรวมของสารก่อนและหลงั เกิดปฏิกิรยิ าเคมี ผลท่สี ังเกตได้
ตารางบันทึกผล
สาร
แคลเซียมคารบ์ อเนต ………………..……………………………………………………………
สารละลายกรดไฮโดรคลอริก ………………..……………………………………………………………
แคลเซยี มคารบ์ อเนต + สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ ………………..……………………………………………………………
………………..……………………………………………………………
ตารางบนั ทึกผล มวลรวมก่อนเกิดปฏิกริ ยิ า (g) มวลรวมหลงั เกิดปฏกิ ิริยา (g)
สงิ่ ทชี่ ่งั
ภาชนะเปล่า
สารพรอ้ มภาชนะ
สาร
คำถามท้ายกิจกรรม ตอนที่ 1
1. เม่อื รนิ สารละลายแคลเซียมคลอไรดล์ งในสารละลายโซเดยี มคาร์บอเนต มปี ฏกิ ิริยาเคมีเกิดขึน้ หรอื ไม่
ทราบไดอ้ ย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. มวลรวมของสารกอ่ นและหลงั เกดิ ปฏกิ ิริยาเคมมี คี ่าเท่าใด หาไดอ้ ยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมมี กี ารเปลีย่ นแปลงหรอื ไม่ อยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. จากกิจกรรม ตอนที่ 1 สรุปได้วา่ อย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ส่ือการเรียนรแู้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2: แบบบันทกึ กำรค้นคว้ำกิจกรรมท่ี 5.2
แบบบนั ทกึ กำรคน้ ควำ้ กิจกรรมท่ี 5.2 มวลรวมของสารก่อนและหลงั เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีเปน็ อยา่ งไร
ชอื่ -นามสกลุ ..........................................................................................ชนั้ .................เลขที่...........กลุ่มท.่ี ...........
ตอนท่ี 2 มวลรวมของสารก่อนและหลงั เกิดปฏิกิริยาเคมี เม่อื ผลิตภัณฑ์ท่ไี ด้เป็นแกส๊
ตารางบันทกึ ผล ผลทีส่ ังเกตได้
สาร
ผลการคาดคะเน ………………..……………………………………………………………
………………..……………………………………………………………
ผลการตรวจสอบการคาดคะเน ………………..……………………………………………………………
………………..……………………………………………………………
ตารางบันทกึ ผล มวลรวมกอ่ นเกดิ ปฏกิ ิรยิ า (g) มวลรวมหลังเกิดปฏิกิริยา (g)
ส่งิ ทีช่ ง่ั
ภาชนะเปลา่
สารพรอ้ มภาชนะ
สาร
คำถามท้ายกิจกรรม ตอนที่ 2
1. เมอ่ื ผลิตภณั ฑ์ทีไ่ ดเ้ ปน็ แก๊ส จะมวี ิธกี ารหามวลของสารท่ไี ด้หลังจากเกิดปฏิกริ ยิ าเคมไี ด้อย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี มกี ารเปลยี่ นแปลงหรือไม่ อย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากกจิ กรรม ตอนที่ 2 สรุปไดว้ ่าอย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. จากกิจกรรมท้ัง 2 ตอน สรุปได้ว่าอยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบทา้ ยแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2: การใหค้ ะแนนด้านกระบวนการ (P)
แนวทางบันทกึ การคน้ คว้ากจิ กรรมท่ี 5.2 มวลรวมของสารกอ่ นและหลงั เกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมเี ป็นอยา่ งไร
ตอนที่ 1 มวลรวมของสารก่อนและหลงั เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
ตารางบันทกึ ผล ผลทส่ี งั เกตได้
สาร ของเหลว ใส ไม่มสี ี
ของเหลว ใส ไม่มสี ี
แคลเซียมคาร์บอเนต เกิดตะกอนสีขาว
สารละลายกรดไฮโดรคลอริก
แคลเซยี มคาร์บอเนต + สารละลายกรดไฮโดรคลอริก
ตารางบนั ทกึ ผล
สง่ิ ที่ชัง่ มวลรวมก่อนเกดิ ปฏิกิรยิ า (g) มวลรวมหลงั เกิดปฏิกิรยิ า (g)
ภาชนะเปล่า 203 203
สารพรอ้ มภาชนะ 229 229
สาร 26 26
หมายเหตุ มวลรวมของสารคำนวณไดจ้ ากการนำมวลของสารพร้อมภาชนะ ลบดว้ ยมวลของภาชนะเปล่า
ดงั สมการมวลรวมของสาร = มวลของสารพรอ้ มภาชนะ – มวลของภาชนะเปล่า
ตอนท่ี 2 มวลรวมของสารก่อนและหลังเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี เมือ่ ผลิตภัณฑท์ ไ่ี ด้เป็นแกส๊
ตารางบนั ทกึ ผล ผลท่สี งั เกตได้
สาร นกั เรียนสามารถตอบไดต้ ามความคิดของตนเอง เชน่ มวลรวมของ
สารจะเปลี่ยนแปลง โดยมวลรวมของสารหลงั เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี
ผลการคาดคะเน จะน้อยลง เม่ือเทยี บกับมวลรวมของสารก่อนเกิดปฏิกิริยาเคมี
มวลรวมของสารก่อนและหลังเกิดปฏิกิรยิ าเคมีไม่เปลีย่ นแปลง
ผลการตรวจสอบการคาดคะเน
ตารางบนั ทึกผล มวลรวมก่อนเกิดปฏิกิริยา (g) มวลรวมหลงั เกิดปฏกิ ิรยิ า (g)
204 204
สงิ่ ทีช่ ่ัง 217 217
ภาชนะเปลา่ 13 13
สารพรอ้ มภาชนะ
สาร
แนบท้ายแผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 2: การให้คะแนนดา้ นความรู้ (K)
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 5.2 มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกิดปฏิกริ ยิ าเคมเี ป็นอยา่ งไร
เฉลยคำถามทา้ ยกจิ กรรม
ตอนที่ 1 มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี
1. เมอ่ื รนิ สารละลายแคลเซียมคลอไรดล์ งในสารละลายโซเดยี มคาร์บอเนต มีปฏิกริ ยิ าเคมเี กิดข้นึ หรอื ไม่
ทราบได้อย่างไร
แนวคำตอบ มปี ฏิกิรยิ าเคมีเกิดขน้ึ ทราบไดจ้ ากมีสารใหมเ่ กดิ ขนึ้ ซ่ึงมีลกั ษณะเป็นตะกอนสขี าว
2. มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมีมคี ่าเท่าใด หาได้อย่างไร
แนวคำตอบ คำตอบข้นึ อยู่กับผลการทำกิจกรรมของนักเรียน เชน่ มวลรวมของสารกอ่ นและหลัง
เกิดปฏิกิรยิ าเคมเี ป็น 26 กรมั มวลรวมของสารก่อนเกิดปฏิกิรยิ าเคมี คำนวณได้จากการนำมวลของสาร
พรอ้ มภาชนะก่อนเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีมาหักลบกบั มวลของภาชนะเปลา่ มวลรวมของสารหลงั เกิดปฏิกิริยาเคมี
หาได้จากการนำมวลของสารพร้อมภาชนะหลงั เกิดปฏิกิรยิ าเคมมี าหักลบกบั มวลของภาชนะเปล่า ซง่ึ จะมคี ่า
เท่าใดนน้ั ขน้ึ อย่กู บั ปรมิ าณของสารตั้งต้นทใี่ ช้
3. มวลรวมของสารก่อนและหลังเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมมี ีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
แนวคำตอบ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกิดปฏิกริ ิยาเคมีมีคา่ เท่ากัน
4. จากกจิ กรรม ตอนที่ 1 สรปุ ได้ว่าอยา่ งไร
แนวคำตอบ มวลรวมของสารละลายแคลเซยี มคลอไรด์และสารละลายโซเดยี มคารบ์ อเนต เท่ากับ
มวลรวมของสารท้ังหมดหลงั เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
แนบท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2: การให้คะแนนด้านความรู้ (K)
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 5.2 มวลรวมของสารก่อนและหลังเกิดปฏิกิรยิ าเคมีเป็นอย่างไร
เฉลยคำถามทา้ ยกิจกรรม
ตอนที่ 2 มวลรวมของสารก่อนและหลังเกิดปฏิกิริยาเคมี เมือ่ ผลติ ภัณฑ์ทไ่ี ด้เปน็ แกส๊
1. เมอ่ื ผลติ ภัณฑท์ ไ่ี ดเ้ ป็นแก๊ส จะมีวิธกี ารหามวลของสารทไี่ ด้หลงั จากเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมไี ด้อย่างไร
แนวคำตอบ ตอ้ งทำกิจกรรมในภาชนะปิด โดยชงั่ มวลของภาชนะและจุกยางทใ่ี ช้ท้ังหมด จากนน้ั
นำแคลเซียมคารบ์ อเนตและสารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ มาใสใ่ นภาชนะคนละภาชนะ ปิดจุกยางแล้วนำภาชนะ
และสารทงั้ หมดไปชัง่ มวลรวมกนั จากน้ันรนิ สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ ลงในแคลเซยี มคาร์บอเนต และ
ปดิ จุกยางทนั ที แล้วนำไปชงั่ มวลรวมกันอกี ครัง้ หนงึ่ นำมวลรวมของสารหลังเกิดปฏิกิริยาพร้อมภาชนะมาหักลบ
กบั มวลของภาชนะและจกุ ยางท่ีใช้ท้งั หมดจะไดม้ วลของสารหลังเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
2. มวลรวมของสารกอ่ นและหลังเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี มีการเปลย่ี นแปลงหรอื ไม่ อยา่ งไร
แนวคำตอบ ไมม่ ีการเปลยี่ นแปลง มวลรวมของสารก่อนและหลังเกิดปฏิกิรยิ าเคมมี ีค่าเท่าเดิม
(ในกรณีท่นี กั เรียนไมไ่ ดป้ ิดหลอดทดลอง หรือปดิ หลอดทดลองชา้ หลังจากรนิ สารละลายกรดไฮโดรคลอริกลงใน
แคลเซยี มคาร์บอเนต จะทำใหม้ วลรวมของสารทช่ี ่ังไดห้ ลงั เกิดปฏกิ ิรยิ าเคมีนอ้ ยลง)
3. จากกิจกรรม ตอนที่ 2 สรปุ ได้ว่าอยา่ งไร
แนวคำตอบ มวลรวมของแคลเซยี มคารบ์ อเนตและสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเท่ากบั มวลรวมของ
สารท้ังหมดหลังเกิดปฏิกริ ิยาเคมี
4. จากกิจกรรมทั้ง 2 ตอน สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร
แนวคำตอบ ถา้ สารทำปฏิกิรยิ ากันในภาชนะทปี่ ิดมิดชดิ มวลรวมของสารกอ่ นเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีและ
หลังเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมีจะมคี า่ เทา่ กนั
แนบทา้ ยแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2: VDO ปฏบิ ตั ิการทางวทิ ยาศาสตรส์ ำหรับครผู ้สู อน
อา้ งอิงจาก https://www.scimath.org/video-science/item/9902-2019-02-28-08-14-10
เวบ็ ไซต์คลังความรู้ SciMath สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธิการ เผยแพรเ่ มือ่ : วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562
สาธิตการทดลองเร่ือง ปฏิกิริยาเคมสี ง่ ผลตอ่ มวลสารอยา่ งไร
ตวั อยา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เพอื่ ให้นกั เรียนหาคำตอบวา่ ปฏิกริ ิยาเคมสี ง่ ผล
ตอ่ มวลของสารอย่างไร โดยใหท้ ำกิจกรรมเพ่อื สังเกตการเปล่ยี นแปลงทเี่ กิดปฏิกริ ิยาเคมแี ละเปรียบเทยี บมวล
ของสารกอ่ นและหลงั ปฏกิ ิรยิ าเคมี เหมาะสำหรบั นักเรียนระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้
ลิขสิทธ์ิ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
ผู้แต่ง หรอื เจ้าของผลงาน สาขาวิทยาศาสตร์ภาคบงั คบั
สาขาวิชา/กลมุ่ สาระวิชา วทิ ยาศาสตรท์ ั่วไป
ระดับชนั้ ม.3
กล่มุ เปา้ หมาย ครู
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3
เรอ่ื ง การถา่ ยโอนความรอ้ นของปฏิกิรยิ าเคมี รหัสวิชา ว23102 เวลา 2 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ปฏิกิริยาเคมีและวัสดุในชีวติ ประจำวัน รวม 17 ช่วั โมง
กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 2
สาระที่ 2 ช่ือสาระ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหว่างสมบตั ขิ องสสารกบั โครงสร้าง
และแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารการเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี
ตัวชีว้ ัด
ว 2.1 ม.3/5 วเิ คราะห์ปฏิกริ ยิ าดูดความร้อน และปฏิกริ ยิ าคายความร้อน จากการเปลย่ี นแปลงพลงั งาน
ความร้อนของปฏิกริ ิยา
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
1) เมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี มีการถ่ายโอนความร้อนควบคู่ไปกับการจัดเรียงตัวใหม่ของอะตอมของสาร
ปฏกิ ริ ยิ าท่ีมีการถ่ายโอนความรอ้ นจากสิ่งแวดล้อมเขา้ สู่ระบบเป็นปฏิกิรยิ าดดู ความรอ้ น ปฏิกิรยิ าทมี่ ีการถ่ายโอน
ความร้อนจากระบบออกสู่ส่ิงแวดล้อมเปน็ ปฏิกิรยิ าคายความร้อน โดยใชเ้ ครอื่ งมอื ท่ีเหมาะสมในการวัดอุณหภูมิ
เช่น เทอร์มอมเิ ตอรห์ วั วัดทส่ี ามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของอณุ หภูมไิ ด้อยา่ งตอ่ เน่ือง
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรยี นระบุประเภทของปฏกิ ริ ิยาจากการเปล่ยี นแปลงพลงั งานความร้อนได้
1) ด้านความรู้ (K) เป็นปฏกิ ิรยิ าดดู ความรอ้ น และปฏกิ ิรยิ าคายความรอ้ น
นักเรียนใช้ทกั ษะการสงั เกต โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงอณุ หภูมิและ
2) ด้านทักษะ (P) การเปล่ยี นแปลงอืน่ ๆ ของสาร แล้วบันทกึ ส่งิ ท่ีสงั เกตได้
นกั เรียนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้อุปกรณ์การทำกิจกรรมได้
3) ด้านเจตคติ (A)
4. คุณลักษณะผ้เู รียน
4.1 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซือ่ สัตยส์ จุ รติ มงุ่ ม่ันในการทำงาน
มีวนิ ัย รักความเป็นไทย ใฝเ่ รียนรู้ มีจิตสาธารณะ
5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
ความสามารถในการสอ่ื สาร: นักเรยี นสามารถสื่อสาร โดยการนำเสนอข้อมูลท่ไี ด้จากการสงั เกตเพอ่ื
อธิบายประเภทของปฏกิ ริ ยิ าเคมจี ากการเปล่ียนแปลงพลังงานความร้อน
6. สาระการเรียนรู้
เม่ือเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี นอกจากจะมีการจดั เรียงตวั ใหม่ของอะตอมแล้ว ยังมีการถ่ายโอนความร้อนอกี
ด้วย ทำใหพ้ ลงั งานของสารมกี ารเปล่ยี นแปลง ในการศกึ ษาการถา่ ยโอนความร้อนของปฏกิ ริ ยิ าเคมี ตอ้ งกำหนด
ขอบเขตท่ตี อ้ งการศึกษา ส่วนทีอ่ ยู่ภายในขอบเขตทต่ี ้องการศกึ ษา เช่น สารตั้งต้น และผลติ ภัณฑ์ในปฏิกิรยิ า
เรยี กวา่ ระบบ (system) ส่วนที่อยู่นอกระบบ เช่น ภาชนะ เทอร์มอมิเตอร์ อปุ กรณ์อื่น ๆ ผู้ทำการทดลอง
เรยี กว่า สงิ่ แวดล้อม (environment)
การถ่ายโอนความร้อนของปฏิกิริยาเคมีมีทั้งการถ่ายโอน
ความร้อนจากสิ่งแวดล้อมเขา้ สูร่ ะบบ และการถ่ายโอนความร้อนจากระบบ
ไปยังสิ่งแวดล้อม ถ้าเกิดปฏิกิริยาแล้วมีการถ่ายโอนความร้อนจาก
สงิ่ แวดล้อมเข้าส่รู ะบบ ดงั ภาพแสดง การถา่ ยโอนความร้อนและปฏิกิริยาดูด
ความร้อน ส่งผลให้อุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมต่ำลง ปฏิกิริยาเคมีประเภทนี้
เรียกว่า ปฏิกิริยาดูดความร้อน (endothermic reaction) เมื่อใช้มือจับ
ภาชนะจะรสู้ ึกว่าเย็นลง เนอื่ งจากเกิดการถ่ายโอนความรอ้ นจากมือเขา้ สูส่ าร
เชน่ เดียวกับการใช้เทอร์มอมิเตอร์วัดอุณหภมู ิ จะเกดิ การถ่ายโอนความร้อน ภาพแสดง การถา่ ยโอนความรอ้ น
จากเทอร์มอมิเตอร์สู่สาร ทำให้อุณหภูมิที่อ่านได้จากเทอร์มอมิเตอร์มี และปฏิกริ ิยาดูดความร้อน
ค่าลดลง
ปฏกิ ิรยิ าดดู ความรอ้ น เช่น ปฏกิ ิริยาระหว่างกรแอชตี ิกับโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต ถา้ พิจารณา
ความรอ้ นในปฏกิ ิริยา สามารถเขียนสมการขอ้ ความแสดงการเกดิ ปฏิกริ ิยาได้ ดังน้ี
กรดแอซีติก + โซเดียมไฮโดรเจนคารบ์ อเนต + ความร้อน → โซเดยี มแอซีเตต + น้ำ + แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์
สารตง้ั ต้น + ความรอ้ น → ผลติ ภัณฑ์
ปฏิกิริยาเคมีที่มีการถ่ายโอนความร้อนจากระบบไปยัง
สิ่งแวดล้อมดังภาพ การถ่ายโอนความรอ้ นและปฏิกริ ยิ าคายความรอ้ น ส่งผล
ให้อุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมสูงข้ึน ปฏิกิริยาเคมีประเภทน้ีเรยี กว่า ปฏิกิริยา
คายความร้อน (exothermic reaction) เมื่อใช้มือจับภาชนะจะรู้สึกว่า
ร้อนขึ้น เนื่องจากเกิดการถ่ายโอนความร้อนจากสารเข้าสู่มือ เช่นเดียวกับ
การใช้เทอร์มอมิตอร์วัดอุณหภูมิ จะเกิดการถ่ายโอนความร้อนจากสารสู่
เทอร์มอมเิ ตอร์ ทำใหอ้ ณุ หภมู ิทอ่ี า่ นไดจ้ ากเทอร์มอมิเตอร์มคี า่ เพิม่ ขนึ้ ภาพแสดง การถา่ ยโอนความรอ้ น
และปฏกิ ริ ยิ าคายความร้อน
ปฏิกิริยาคายความร้อน เช่น ปฏิกิริยาระหว่างกรดแอชีติกกับโซเดียมไฮดรอกไซด์ ถ้าพิจารณาความร้อนใน
ปฏกิ ิรยิ า สามารถเขียนสมการข้อความแสดงการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาได้ ดังนี้
กรดแอชีตกิ + โซเดียมไฮดรอกไซด์ → โซเดียมแอชีเตต + นำ้ + ความร้อน
สารตง้ั ตน้ → ผลิตภัณฑ์ + ความร้อน
การเปลี่ยนแปลงความร้อนของปฏิกิริยาเคมี สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น การเผาไหม้ของ
เชื้อเพลิงต่าง ๆ ทั้งถ่านไม้ แก๊สธรรมชาติ แอลกอฮอล์ และน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสามารถนำความร้อนที่ได้ไปใช้
ในการหุงต้มอาหาร
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ใช้รปู แบบการจัดการเรยี นการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ชว่ั โมง; 120นาที)
ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) (10 นาที)
1) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เกี่ยวกับเรื่อง การถ่ายโอนความร้อนของปฏิกิริยาเคมี
โดยยกตัวอย่างสถานการณ์ แล้วให้เลือกตอบว่า เป็นปฏิกิริยาคายความร้อน หรือ ปฏิกิริยาดูดความร้อน
โดยตอบตามความเขา้ ใจในสถานการณ์ดงั น้ี
- การเผาไหมข้ องสารตา่ งๆ (คำตอบคือ ปฏกิ ิรยิ าคายความร้อน)
- การหายใจ (คำตอบคอื ปฏิกริ ยิ าดดู ความรอ้ น)
- การยอ่ ยอาหารหรอื สันดาปอาหารในรา่ งกาย (คำตอบคอื ปฏิกิริยาคายความร้อน)
- การเคลอื่ นไหวของร่างกาย (คำตอบคอื ปฏกิ ริ ิยาดูดความร้อน)
- การระเบดิ การจุดพลุ (คำตอบคือ ปฏกิ ิริยาคายความร้อน)
- การขบั ถ่ายของร่างกาย (คำตอบคือ ปฏิกริ ิยาดูดความร้อน)
2) ครูเช่อื มโยงเขา้ สู่กิจกรรมที่ 5.3 การถ่ายโอนความร้อนของปฏิกิริยาเคมีเป็นอย่างไร โดยใช้
คำถามว่า รู้หรือไม่ว่าการเกิดปฏิกิริยาเคมีเกี่ยวข้องกับพลังงานความร้อนหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตาม
ความเข้าใจของตนเอง)
ข้ันท่ี 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) (50 นาที)
3) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 12 และครูตรวจสอบความ
เข้าใจการอ่าน โดยใช้คำถามดังต่อไปนี้
- กิจกรรมน้เี กย่ี วกับเรอ่ื งอะไร (การถา่ ยโอนความรอ้ นของปฏิกิริยาเคม)ี
- กจิ กรรมน้มี ีจุดประสงค์อะไร (สังเกตและอธิบายการถา่ ยโอนความร้อนของปฏิกริ ยิ าเคม)ี
- วธิ ีดำเนินกจิ กรรมมีข้ันตอนโดยสรปุ อย่างไร (เปรียบเทียบอุณหภูมกิ อ่ นและหลังปฏิกิริยาเคมี
ระหวา่ งสารละลายโซเดยี มไฮโดรเจนคาร์บอเนตและสารละลายกรดแอซตี ิก และปฏิกริ ิยาเคมีระหวา่ งสารละลาย
โซเดียมไฮดรอกไซด์กบั สารละลายกรดแอซีติก)
- ขอ้ ควรระวังในการทำกิจกรรมมอี ะไรบ้าง (ระวังการสมั ผสั สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ใน
กรณีทส่ี ัมผสั สารละลายดงั กล่าว ใหป้ ล่อยนำ้ ปริมาณมากไหลผา่ นบรเิ วณทส่ี ัมผัส)
- นักเรียนต้องสังเกตหรือรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (สังเกตลักษณะของสารที่ใช้ในกิจกรรม
การเปลีย่ นแปลงของสารและอณุ หภูมิกอ่ นและหลังเกิดปฏิกิริยาเคมี)
4) ขณะที่นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกจิ กรรมของนักเรียนแต่ละกลุม่
และใหค้ ำแนะนำ ถ้านักเรียนมขี อ้ สงสัยในประเดน็ ตา่ ง ๆ ที่อาจเป็นปัญหา เชน่ การใชเ้ ทอรม์ อมเิ ตอร์วดั อณุ หภูมิ
ของสาร ควรตั้งเทอร์มอมิเตอร์ให้ตรง และให้กระเปาะสัมผัสกับสารที่ต้องการวัดเท่านั้น ใช้เทอร์มอมิเตอร์
อันเดมิ ในการวดั อุณหภูมขิ องสารก่อนและหลังเกิดปฏกิ ิริยาเคมี และควรเช็ดทำความสะอาดเทอรม์ อมิเตอร์และ
รอให้อุณหภมู กิ ลับมาท่ีอุณหภมู ิห้องก่อนวัดในครั้งถัดไป ซงึ่ ครูควรรวบรวมปญั หา และขอ้ สงสัยที่พบจากการทำ
กจิ กรรมของนักเรียนเพ่อื ใช้เป็นขอ้ มลู ประกอบการอภิปรายหลงั จากการทำกิจกรรม
ขน้ั ที่ 3 ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) (20 นาที)
5) นักเรียนบันทึกการทำกิจกรรมลงในแบบบันทึกการค้นคว้ากิจกรรมที่ 5.3 การถ่ายโอน
ความรอ้ นของปฏิกริ ยิ าเคมีเป็นอย่างไร โดยสรุปผลของกจิ กรรมและตอบคำถามท้ายกิจกรรม เพ่อื ให้ได้ข้อสรุป
จากกจิ กรรมว่า เมื่อเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี จะมีการถ่ายโอนความรอ้ นเกิดขึ้น ซง่ึ การถา่ ยโอนความร้อนนี้มีทั้งแบบที่
ทำใหอ้ ณุ หภมู ิของสารเพิม่ ขึ้นและแบบที่ทำใหอ้ ณุ หภูมิของสารลดลง
ข้นั ท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที)
6) นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการถา่ ยโอนความร้อนของปฏิกิริยาเคมี โดยอ่านเนื้อหาใน
หนังสือเรยี นหนา้ 13-14 และตอบคำถามระหว่างเรียน โดยใชป้ ระเด็นคำถามดังนี้
- การศึกษาการเปลี่ยนแปลงความร้อนของปฏิกิริยาเคมีระหว่างกรดแอซีติกกับโซเดียม
ไฮดรอกไซด์ อะไรคือระบบ อะไรคือสง่ิ แวดล้อม และมีการถา่ ยโอนความร้อนอย่างไร (แนวคำตอบ ระบบในท่ีนี้
คือสารตั้งต้น ได้แก่ กรดแอซีติกและโซเดียมไฮดรอกไซด์ และผลิตภัณฑ์ ได้แก่ โซเดียมแอซีเตตและนํ้า
ส่วนภาชนะ เทอร์มอมิเตอร์ ผู้ทำการทดลองเป็นสิ่งแวดล้อม เมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมีมีการถ่ายโอนความร้อนจาก
สารเข้าสู่มือ ทำให้เมื่อสัมผัสภาชนะจะรู้สึกร้อน หรือการถ่ายโอนความร้อนจากสารสู่เทอร์มอมิเตอร์ ทำให้
อุณหภมู ทิ อ่ี ่านได้จากเทอร์มอมเิ ตอรม์ ีคา่ เพ่ิมขึน้ )
- เมื่อใช้มือจับภาชนะที่มีแอมโมเนียมคลอไรด์ผสมกับปูนขาวจะรู้สึกเย็น นักเรียนคิดว่า
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเป็นปฏิกิริยาดูดหรือคายความร้อน เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ เป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
เนอื่ งจากมกี ารถ่ายโอนความรอ้ นจากมือเขา้ สู่สาร ทำใหร้ สู้ ึกเยน็ )
7) ครูอธบิ ายเพมิ่ เตมิ โดยใชส้ ือ่ วีดทิ ศั น์เรื่อง ปฏกิ ริ ยิ าดูดความรอ้ นและคายความร้อน (สืบค้นได้
จาก ipst.me/10604) ซึ่งอธิบายเกีย่ วขอ้ งกับการถ่ายโอนความร้อนจากส่ิงแวดล้อมเข้าสู่ระบบ และการถ่ายโอน
ความรอ้ นจากระบบไปยงั สง่ิ แวดล้อมเมือ่ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
ขนั้ ท่ี 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation) (20 นาที)
8) ครูและนักเรียนอภิปรายผลการทำกิจกรรม การถ่ายโอนความร้อนของปฏิกิริยาเคมี จะได้
ข้อสรุปว่า เมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมีจะมีการถ่ายโอนความร้อนจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ระบบหรือจากระบบไปยัง
สิ่งแวดล้อม ถ้ามีการถ่ายโอนความร้อนจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ระบบ อุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมจะต่ำลง ปฏิกิริยา
ประเภทนี้เรยี กว่า ปฏิกริ ยิ าดดู ความรอ้ น (endothermic reaction) แตถ่ ้ามกี ารถา่ ยโอนความร้อนจากระบบ ไป
ยังสิ่งแวดล้อม อุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมจะสูงขึ้น ปฏิกิริยาประเภทนี้เรียกว่า ปฏิกิริยาคายความร้อน
(exothermic reaction)
9) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมนิ (Rubrics Score)
8. สื่อการเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้
8.1 อปุ กรณท์ ำกจิ กรรม: จานวน 11 รายการ ดงั แสดงแนบไว้ในใบกิจกรรมท่ี 5.3 การถา่ ยโอนความ
ร้อนของปฏิกริ ยิ าเคมเี ป็นอยา่ งไร
8.2 คลิปวีดิทัศน์: ปฏิกิรยิ าดูดความร้อนและคายความร้อน
8.3 ใบกจิ กรรม: ใบกิจกรรมท่ี 5.3 การถ่ายโอนความร้อนของปฏิกริ ิยาเคมีเป็นอย่างไร
8.4 แบบบันทึกกิจกรรม: แบบบนั ทึกการคน้ คว้ากจิ กรรมท่ี 5.3 การถ่ายโอนความร้อนของ
ปฏกิ ริ ิยาเคมีเป็นอย่างไร
8.5 แหลง่ เรียนรู้: หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
เลม่ 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
9. การวัดและการประเมนิ
ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑท์ ี่ใช้ในการประเมิน
1. ระบปุ ระเภทของปฏิกริ ิยา - ตรวจการตอบ - คำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 5.3 - ไดไ้ ม่นอ้ ยกว่า 2 คะแนน
จากการเปล่ยี นแปลงพลังงาน คำถามท้าย การถ่ายโอนความร้อนของ ระดบั คุณภาพดี ถอื วา่ ผา่ น
ความรอ้ นได้(ด้านความรู้: K) กิจกรรมท่ี 5.3 ปฏกิ ริ ยิ าเคมี จำนวน 4 ข้อ การประเมินด้านความรู้
2. การใช้ทกั ษะการสังเกต - ตรวจการทำแบบ - แบบบนั ทึกการคน้ คว้า - ได้ไมน่ ้อยกวา่ 2 คะแนน
โดยสังเกตการเปล่ียนแปลง บันทึกการค้นควา้ กิจกรรมท่ี 5.3 การถ่ายโอน ระดบั คุณภาพดี ถือวา่
อุณหภมู แิ ละการเปลี่ยนแปลง กิจกรรมที่ 5.3 ความรอ้ นของปฏิกิรยิ าเคมี ผา่ นการประเมนิ
อนื่ ๆ ของสาร แล้วบันทกึ ส่ิงท่ี ด้านกระบวนการ
สงั เกตได้(ดา้ นกระบวนการ: P)
3. ตระหนกั ถึงความสำคัญ - สังเกตการใชง้ าน - เกณฑ์การประเมนิ การใช้ - ไดไ้ มน่ ้อยกวา่ 2 คะแนน
ของการใชอ้ ุปกรณก์ ารทำ อุปกรณ์ในกจิ กรรม งานอุปกรณใ์ นกิจกรรม ระดับคณุ ภาพดี ถือว่าผ่าน
กจิ กรรมได้ (ด้านเจตคติ: A) ของนกั เรียน ของนกั เรียน การประเมินดา้ นเจตคติ
9.1 เกณฑก์ ารประเมินผลนกั เรยี น เกณฑ์การประเมิน (Rubrics Score)
ประเด็นการประเมนิ ค่านำ้ หนัก แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การใหค้ ะแนนตอบ ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท่ี 5.3 ถกู ต้อง จำนวน 3-4 ขอ้
คำถามทา้ ย 3 ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท่ี 5.3 ถูกต้อง จำนวน 2 ขอ้
กิจกรรมท่ี 5.3 2 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 5.3 ถูกตอ้ ง จำนวน 1 ขอ้ หรือ ไมถ่ ูกตอ้ ง
1
การใหค้ ะแนนการบนั ทกึ บันทึกผลจากการสังเกตและอธบิ ายการถ่ายโอนความร้อนของปฏิกริ ิยา
แบบบันทึกการคน้ คว้า 3 เคมี โดยบนั ทึกลงในตารางบนั ทึกผล และอธิบายลงในแบบบันทึกการ
กิจกรรมที่ 5.3 คน้ คว้าไดช้ ดั เจน ถกู ต้อง ครบทกุ ประเดน็ สอดคล้องกบั เนอ้ื หาในกิจกรรม
บันทึกผลจากการสังเกตและอธิบายการถ่ายโอนความรอ้ นของปฏกิ ริ ิยา
2 เคมี โดยบันทกึ ลงในตารางบนั ทึกผล และอธิบายลงในแบบบนั ทึกการ
คน้ คว้าได้ ถูกตอ้ ง แต่ยงั มีข้อผิดพลาดเล็กนอ้ ยทีไ่ มถ่ กู ต้อง
บันทึกผลจากการสังเกตและอธิบายการถ่ายโอนความรอ้ นของปฏิกริ ยิ า
1 เคมี โดยบันทกึ ลงในตารางบันทึกผล และอธิบายลงในแบบบันทึกการ
คน้ คว้าได้ แตม่ ขี อ้ ผิดพลาด ทำให้ไม่สอดคล้องกับเนอ้ื หาในกิจกรรม
การใหค้ ะแนน ใชง้ านอปุ กรณก์ ารทดลองในกิจกรรมไดถ้ กู วธิ ี หยบิ เคลือ่ นย้ายอุปกรณ์
การใช้งานอปุ กรณ์ 3 อยา่ งระมดั ระวงั ไมห่ ยอกลอ้ หรอื แกลง้ เพ่ือนขณะกำลงั ใชง้ านอปุ กรณ์
ในกจิ กรรม และหลงั การใช้งานอปุ กรณ์มกี ารเกบ็ รกั ษาอย่างถูกวิธี
ใช้งานอุปกรณ์การทดลองในกิจกรรมได้ถกู วิธี หยบิ เคล่ือนยา้ ยอุปกรณ์
2 อยา่ งระมดั ระวงั ไมห่ ยอกล้อหรอื แกล้งเพื่อนขณะกำลงั ใชง้ านอปุ กรณ์
แต่หลงั การใชง้ านอปุ กรณ์ไมม่ กี ารเกบ็ รักษาอย่างถกู วิธี หรอื ไมเ่ กบ็
อปุ กรณเ์ ขา้ ตู้เก็บอปุ กรณต์ ามประเภทของอุปกรณ์
ใช้งานอปุ กรณ์การทดลองในกจิ กรรมได้ แต่ขณะหยิบ เคล่อื นย้ายอปุ กรณ์
1 หรือกำลังใชง้ านอุปกรณ์ จะหยอกลอ้ หรอื แกลง้ เพ่ือน อาจทำให้อุปกรณ์
เสยี หายได้ และหลังการใช้งานอปุ กรณ์ไมม่ ีการเกบ็ รักษาอย่างถกู วิธี
9.2 ระดับคุณภาพ หมายถึง ดีมาก
หมายถงึ ดี
คะแนนรวมเฉลย่ี 3.00 หมายถงึ พอใช้
คะแนนรวมเฉล่ีย 2.00 - 2.99
คะแนนรวมเฉลย่ี 0.01 - 1.99
ดังน้นั นักเรยี นต้องได้คะแนนเฉล่ียทุกประเด็นการประเมิน ไมต่ ่ำกวา่ 2.00 แสดงระดับ
คณุ ภาพ ดี ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในแผนการจัดการเรยี นที่ 3
บันทกึ หลงั การสอน
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 5 ปฏกิ ริ ิยาเคมแี ละวสั ดุในชีวติ ประจำวัน.... ...... ... ...
แผนการสอนเรอ่ื ง 3 การถ่ายโอนความร้อนของปฏิกิริยาเคมี
วนั ท่.ี ..............................เดอื น...............................................................พ.ศ.................
1. สรปุ ผลการเรียนการสอน
1. นักเรียนจำนวน....................คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้...........คน คดิ เป็นร้อยละ.............
ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์.......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ.............
ได้แก่..................................................................................................
2. สรปุ ผลตามรายจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 นักเรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ( K)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.2 นกั เรียนมคี วามร้เู กดิ กระบวนการ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3 นักเรยี นมเี จตคติ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ขอ้ เสนอแนะหลังการจดั การเรยี นการสอน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื .............................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระ
() ()
ตำแหนง่ ................................................... ลงช่อื .............................................ผู้ช่วย/รองฯวิชาการ
…………./……………./………… ()
ลงชอ่ื ............................................ผอู้ ำนวยการ
()
สอ่ื การเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3: สอ่ื วีดทิ ัศน์
คลิปวีดที ัศน:์ ปฏกิ ริ ิยาดดู ความร้อนและคายความรอ้ น
สื่อวีดิทัศน์เรื่อง ปฏิกิริยาดูดความร้อนและคายความร้อน อธิบายเกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนความร้อน
จากส่ิงแวดลอ้ มเข้าสู่ระบบ และการถ่ายโอนความร้อนจากระบบไปยงั สง่ิ แวดล้อมเม่อื เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
แหลง่ ทมี่ า: เวบ็ ไซตอ์ ้างองิ ipst.me/10604
เผยแพรเ่ มอื่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562
(เจ้าของผลงาน สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.))
สอ่ื การเรยี นรแู้ ผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3: ใบกิจกรรมที่ 5.3
ใบกิจกรรมท่ี 5.3 การถ่ายโอนความร้อนของปฏกิ ิริยาเคมเี ปน็ อย่างไร
หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เลม่ 2 ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธิการ หนา้ 12
กจิ กรรมที่ 5.3 การถ่ายโอนความรอ้ นของปฏิกริ ิยาเคมีเปน็ อย่างไร?
จุดประสงค์
วสั ดุอุปกรณ์ สังเกตและอธิบายการถ่ายโอนความรอ้ นของปฏกิ ิริยาเคมี
วิธดี ำเนนิ กิจกรรม วัสดุทใี่ ชต้ ่อกล่มุ
1. สารละลายกรดแอซตี กิ หรือน้ำสม้ สายชู 30 cm3
ความเขม้ ข้นร้อยละ 5 โดยมวลต่อปรมิ าตร
2. สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซดห์ รอื สารละลาย 10 cm3
โซดาไฟ ความเขม้ ข้นประมาณ 0.6 โมลตอ่ ลติ ร
3. บกี เกอรข์ นาด 50 cm3 3 ใบ
4. หลอดทดลองขนาดกลาง 1 หลอด
5. ท่ีวางหลอดทดลอง 1 อัน
6. กระบอกตวงขนาด 25 cm3 2 ใบ
7. เทอร์มอมเิ ตอร์ 1 อัน
8. ชอ้ นตักสารเบอร์สอง 1 คนั
9. แว่นตานริ ภยั เทา่ จำนวนนกั เรยี นในกลมุ่
10. ถงุ มอื ยาง เท่าจำนวนนกั เรียนในกลมุ่
วสั ดทุ ใี่ ชต้ ่อห้อง
1. โซเดยี มไฮโดรเจนคารบ์ อเนต 1 กระปุก
1. ตกั โซเดยี มไฮโดรเจนคาร์บอเนตปริมาณ 2 ชอ้ นเบอรส์ อง ลงในหลอดทดลอง
รินสารละลายกรดแอซีตกิ ปริมาตร 20 ลูกบาศก์เซนติเมตร ลงในบีกเกอร์ใบท่ี 1 และ
ปรมิ าตร 10 ลกู บาศก์เชนติเมตร ลงในบกี เกอรใ์ บท่ี 2 รนิ สารละลายโซเดยี ม
ไฮดรอกไซดป์ รมิ าตร 10 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร ลงในบีกเกอร์ใบที่ 3 สังเกตลักษณะ
วัดอณุ หภูมแิ ละบันทึกผล
2. เทโซเดียมไฮโดรเจนคารบ์ อเนตจากหลอดทดลองในขอ้ 1 ลงในบีกเกอร์ใบที่ 1
ทีม่ ีสารละลายกรดแอซตี ิก เขย่า สังเกตการเปลีย่ นแปลง วัดอณุ หภมู ิทนั ที
และบันทึกผล
3. รนิ สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์จากบกี เกอรใ์ บที่ 3 ลงในบกี เกอร์ใบท่ี 2
ท่ีมีสารละลายกรดแอซีติก เขย่า สังเกตการเปลีย่ นแปลง วัดอุณหภูมิทนั ที
และบนั ทกึ ผล
กจิ กรรมท่ี 5.3 การถา่ ยโอนความร้อนของปฏกิ ริ ิยาเคมีเป็นอย่างไร?
กำรเตรยี มตัว • การเตรียมสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซดค์ วามเขม้ ข้นประมาณ 0.6 โมลตอ่ ลิตร
ลว่ งหนำ้ สำหรับครู ปริมาตร 80 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร (สำหรบั 8 กล่มุ ) เตรียมโดยรินสารละลาย
โซเดยี มไฮดรอกไซดเ์ ขม้ ขน้ ร้อยละ 50 โดยมวลต่อปริมาตร ปรมิ าตร 4 ลกู บาศก์
เซนตเิ มตร ลงในบีกเกอร์ แลว้ เติมนำ้ จนมีปรมิ าตรรวมเปน็ 80 ลกู บาศก์เซนติเมตร
• ครูสามารถใช้น้ำสม้ สายชูความเขม้ ข้นรอ้ ยละ 5 โดยมวลต่อปรมิ าตร โดยไมต่ อ้ ง
ผสมน้ำ (นำ้ สม้ สายชสู ามารถหาซอ้ื ได้ท่ัวไป)
ขอ้ ควรระวัง • ครคู วรสวมถุงมอื ขณะเตรยี มสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ เพ่ือปอ้ งกันการสัมผัส
สารโดยตรง ซึง่ จะทำใหร้ ะคายเคอื งได้
ข้อเสนอแนะใน • สารละลายกรดแอซีติกมีกล่ินฉนุ จงึ ควรทำกิจกรรมในบริเวณท่อี ากาศถ่ายเท
กำรทำกิจกรรม โดยอาจเปิดหน้าตา่ งเพื่อชว่ ยระบายอากาศ
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เมื่อผสมสารละลายกรดแอซีติกกบั โซเดียมไฮโดรเจนคารบ์ อเนต เกดิ ปฏิกิริยาเคมีหรือไม่ ทราบได้อย่างไร
2. เมื่อผสมสารละลายกรดแอซตี กิ กับสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ เกิดปฏิกิรยิ าเคมหี รือไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
3. การเปล่ยี นแปลงของสารที่เกิดข้นึ มกี ารถา่ ยโอนความรอ้ นหรอื ไม่ อย่างไร
4. จากกิจกรรม สรุปได้วา่ อย่างไร
สื่อการเรียนรแู้ ผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3: แบบบนั ทึกการค้นควา้ กิจกรรมที่ 5.3
แบบบันทกึ กำรคน้ คว้ำกจิ กรรมที่ 5.3 กำรถ่ำยโอนควำมรอ้ นของปฏกิ ิรยิ ำเคมเี ป็นอยำ่ งไร
ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................ชนั้ .................เลขที่...........กล่มุ ท.ี่ ...........
ตารางบันทึกผล ผลทสี่ ังเกตได้ อณุ หภูมิ (◦C)
สาร
........................................................................................ ...........................
โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต
........................................................................................ ...........................
สารละลายกรดแอซีตกิ
........................................................................................ ...........................
สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์
........................................................................................ ...........................
โซเดยี มไฮโดรเจนคารบ์ อเนต + ……………………………………………………………………………..
สารละลายกรดแอซตี ิก
........................................................................................ ...........................
สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ + ……………………………………………………………………………..
สารละลายกรดแอซตี กิ
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เมื่อผสมสารละลายกรดแอซีตกิ กับโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต เกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีหรอื ไม่ ทราบได้อยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เม่ือผสมสารละลายกรดแอซีติกกับสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ เกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมีหรอื ไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การเปล่ียนแปลงของสารที่เกิดขน้ึ มีการถา่ ยโอนความร้อนหรอื ไม่ อย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. จากกิจกรรม สรุปได้วา่ อยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบท้ายแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3: การใหค้ ะแนนดา้ นกระบวนการ (P)
แนวทางบนั ทึกการค้นคว้ากิจกรรมท่ี 5.3 กำรถ่ำยโอนควำมร้อนของปฏิกิริยำเคมีเปน็ อย่ำงไร
ตารางบันทกึ ผล ผลที่สังเกตได้ อุณหภมู ิ (◦C)
สาร ของแข็ง เปน็ ผง สขี าว 30
ของเหลว ใส ไมม่ สี ี มกี ลนิ่ 30
โซเดยี มไฮโดรเจนคารบ์ อเนต ของเหลว ใส ไมม่ ีสี 30
สารละลายกรดแอซีตกิ มีฟองแกส๊ เกิดขึ้นในของเหลว 26
สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ ผงสขี าวมปี รมิ าณลดลงหรอื อาจหมดไป
โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต + 34
สารละลายกรดแอซตี กิ ของเหลว ใส ไม่มสี ี
สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ +
สารละลายกรดแอซตี กิ
แนบท้ายแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3: การให้คะแนนด้านความรู้ (K)
เฉลยใบกิจกรรมที่ 5.3 กำรถำ่ ยโอนควำมรอ้ นของปฏกิ ริ ิยำเคมีเป็นอย่ำงไร
เฉลยคำถามท้ายกิจกรรม
1. เมอ่ื ผสมสารละลายกรดแอซีติกกบั โซเดยี มไฮโดรเจนคาร์บอเนต เกิดปฏิกิริยาเคมีหรอื ไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
แนวคำตอบ เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ทราบได้จากมฟี องแกส๊ เกดิ ขึน้ และอณุ หภูมขิ องสารลดลง
2. เม่อื ผสมสารละลายกรดแอซตี กิ กับสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ เกิดปฏกิ ิริยาเคมีหรอื ไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
แนวคำตอบ เกิดปฏิกิริยาเคมี สังเกตได้จากอณุ หภมู ิของสารเพิ่มขึน้
3. การเปล่ยี นแปลงของสารท่ีเกดิ ขน้ึ มกี ารถ่ายโอนความรอ้ นหรอื ไม่ อยา่ งไร
แนวคำตอบ ท้งั สองปฏิกิรยิ ามีการถ่ายโอนความรอ้ น โดยปฏิกริ ยิ าระหว่างกรดแอซตี ิกกับ
โซเดยี มไฮโดรเจนคาร์บอเนต มีการถา่ ยโอนความร้อนทท่ี ำให้อณุ หภูมิของสารลดลง แต่ปฏกิ ิรยิ าระหวา่ ง
สารละลายกรดแอซตี ิกกบั สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ มกี ารถ่ายโอนความร้อนท่ที ำใหอ้ ณุ หภมู ิของสารเพิม่ ขน้ึ
4. จากกิจกรรม สรุปไดว้ า่ อยา่ งไร
แนวคำตอบ เม่ือเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี จะมกี ารถ่ายโอนความร้อนเกดิ ข้นึ ซง่ึ การถา่ ยโอนความร้อนน้ี
มที งั้ แบบท่ีทำให้อุณหภมู ขิ องสารเพิ่มขึ้นและแบบทีท่ ำใหอ้ ณุ หภูมิของสารลดลง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4
เรอื่ ง ปฏกิ ิริยาของกรดกับเบส รหัสวชิ า ว23102 เวลา 1 ชว่ั โมง
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ ปฏิกริ ยิ าเคมีและวัสดุในชวี ติ ประจำวนั รวม 17 ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 2
สาระที่ 2 ช่อื สาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วดั
ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธร์ ะหว่างสมบัติของสสารกบั โครงสร้าง
และแรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารการเกดิ สารละลาย
และการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี
ตัวช้ีวัด
ว 2.1 ม.3/6 อธบิ ายปฏกิ ริ ิยาการเกิดสนมิ ของเหลก็ ปฏิกิริยาของกรดกบั โลหะ ปฏกิ ริ ยิ าของกรดกับเบส
และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิดฝนกรด
การสงั เคราะห์ด้วยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมทั้งเขียนสมการขอ้ ความแสดงปฏกิ ิริยาดงั กลา่ ว
2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
1) ปฏิกิริยาเคมีที่พบในชีวิตประจำวันมีหลายชนิด เช่น การเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับ
โลหะ ปฏิกิรยิ าของกรดกบั เบส ปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ ปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิดฝนกรด การสังเคราะห์
ด้วยแสง ปฏิกิริยาเคมีสามารถเขียนแทนได้ด้วยสมการข้อความ ซึ่งแสดงชื่อของสารตั้งต้นและผลิตภัณฑ์ เช่น
เชื้อเพลิง + ออกซิเจน → คารบ์ อนไดออกไซด์ + น้ำ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นอธบิ ายปฏกิ ริ ิยาของกรดกบั เบสได้
1) ด้านความรู้ (K) นกั เรยี นใช้ทักษะการสงั เกต โดยสงั เกตการเปลี่ยนแปลงของสาร
2) ด้านทักษะ (P) เม่ือเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีของกรดและเบส
นกั เรยี นตระหนกั ถึงความสำคัญของการใช้อุปกรณก์ ารทำกิจกรรมได้
3) ด้านเจตคติ (A)
4. คณุ ลกั ษณะผ้เู รียน
4.1 คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์
รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซอื่ สัตย์สุจรติ มุ่งมั่นในการทำงาน
มวี นิ ัย รักความเปน็ ไทย ใฝเ่ รียนรู้ มจี ิตสาธารณะ
5. ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสื่อสาร: นกั เรยี นสามารถสอื่ สาร โดยนำเสนอขอ้ มูลเกยี่ วกบั การระบุการ
เกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีจากการเปลยี่ นแปลงของสารได้
6. สาระการเรียนรู้
สารในชีวิตประจำวันมีหลายประเภท ถ้าจำแนกสารโดยใช้สมบัติความเป็นกรด-เบสเป็นเกณฑ์
จะจำแนกได้เป็นสารทีม่ สี มบัติเป็นกรด เบส หรือกลาง สารที่มีสมบัติเป็นกรดอาจมคี วามเป็นกรดมากหรอื น้อย
แตกตา่ งกัน เบสก็ในทำนองเตียวกัน จึงตอ้ งระบรุ ะดบั ความเปน็ กรด-เบสของสาร ซึง่ สามารถระบุไดด้ ้วยคา่ พีเอช
(pH) โดยทั่วไปสารจะมีค่าพเี อชอยู่ในช่วง 1-14 สารที่มีค่าพีเอชเท่ากับ 7 จะมีสมบัติเปน็ กลางสารที่มีคา่ พเี อช
น้อยกว่า 7 จะมีสมบตั ิเปน็ กรด สว่ นสารที่มีคา่ พีเอชมากกว่า 7 จะมสี มบัติเป็นเบส การทดสอบสมบัติความเป็น
กรด-เบสของสาร สามารถทดสอบได้โดยใช้กระดาษลิตมัส แต่หากต้องการทราบระดับความเป็นกรด-เบส
ของสาร สามารถใชก้ ระดาษยูนเิ วอร์ซลั อินดเิ คเตอร์ ซง่ึ จะเปล่ียนสตี ามคา่ พเี อชต่าง ๆ
การเกิดปฏิกิริยาเคมีจะมีสารใหม่เกิดขึ้น นอกจากสังเกตได้จากการเปลี่ยนสี กลิ่น หรืออุณหภูมิ
มีฟองแกส็ หรือตะกอนเกิดขน้ึ แลว้ การเกดิ ปฏิกิริยาเคมียงั อาจสงั เกตได้จากการเปล่ียนแปลงค่าพีเอชอีกดว้ ย
เมอื่ เติมสารละลายเบสลงในสารละลายกรด จะพบว่าสารละลายทไี่ ดม้ ีคา่ พเี อชสูงกว่าสารละลายกรด
ที่เป็นสารตั้งต้น แสดงว่าเบสที่เติมลงไปทำให้สารละลายมีความเป็นกรดน้อยลง ในทางตรงกันข้ามเมื่อเติม
สารละลายกรดลงในสารละลายเบส สารละลายท่ีได้จะมีคา่ พีเอชตำ่ กว่าสารละลายเบสท่ีเปน็ สารตั้งตน้ แสดงว่า
กรดที่เติมลงไปทำให้สารละลายมีความเป็นเบสน้อยลง การเปลี่ยนแปลงดงั กล่าวเป็นการเกิดปฏิกิริยาเคมีของ
กรดกบั เบส (acid-base reaction) โดยท่ัวไปปฏกิ ิรยิ าดังกล่าวจะได้ผลติ ภัณฑ์เปน็ สารประกอบประเภทเกลือ
และนำ้ ถ้าเกลอื ทเ่ี กดิ ข้ึนละลายในน้ำไดน้ ้อยหรือไม่ละลาย จะเห็นเปน็ ตะกอน แต่ถา้ เกลอื ท่เี กิดข้ึนละลายในน้ำ
ไดด้ ี จะเหน็ เป็นสารละลายใส สามารถเขยี นแทนไดด้ ว้ ยสมการข้อความ ดงั นี้
กรดซัลฟวิ รกิ + แบเรียมไฮดรอกไซด์ → แบเรียมซัลเฟต + นำ้
(กรด) + (เบส) เกลอื (ตะกอน)
กรดแอซตี ิก + โซเดยี มไฮดรอกไซด์ → โซเดียมแอซเี ตต + นำ้
(กรด) + (เบส) เกลือ (ละลายนำ้ )
กรดไฮโดรคลอรกิ + โซเดียมไฮดรอกไซด์ → โซเดยี มคลอไรด์ + น้ำ
(กรด) + (เบส) เกลอื (ละลายน้ำ)
กรด + เบส → เกลอื + น้ำ
เราสามารถนำความรู้เรื่อง ปฏิกิริยาเคมีของกรดกับเบสไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น ในกรณีท่ี
กระเพาะอาหารมีกรดในปริมาณมากเกินไป ต้องกินยาลดกรด ซึ่งมีสมบัติเป็นเบส เพื่อช่วยทำปฏิกิริยากับกรด
ทำให้ความเป็นกรดลดลง ในกรณีของดินเปรี้ยว ซึ่งเป็นดินที่มีความเป็นกรดมากเกินไป ไม่เหมาะกับการ
เพาะปลูก การเตมิ ปูนขาวทมี่ ีสมบัติเป็นเบสจะชว่ ยลดความเปน็ กรดในดนิ นอกจากกรดและเบสจะทำปฏิกิริยา
เคมกี ันแลว้ ทั้งกรดและเบสตา่ งกส็ ามารถทำปฏกิ ริ ิยากบั สารอื่นได้
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ใชร้ ปู แบบการจัดการเรียนการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (1 ชว่ั โมง; 60นาที)
ขนั้ ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) (10 นาที)
1) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เพื่อนำเข้าสู่เรื่อง ปฏิกิริยาเคมีรอบตัว โดยให้นักเรียน
ดูภาพนำเรื่อง (หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นม.3 เล่ม2 สสวท. หน้า 15) โดยใช้
ประเดน็ คำถามดงั นี้
- ผิวหนิ ออ่ นบนตวั อาคารทัชมาฮาลมกี ารเปลย่ี นแปลงเนื่องจากสาเหตใุ ด (เน่อื งจากหินอ่อนบน
ตัวอาคารสัมผัสกบั ฝนกรดทำให้เกิดการกัดกร่อน บรเิ วณท่ีถูกกดั กรอ่ นจะมีการสะสมตัวของฝนุ่ ละออง ทำให้ผิว
หินอ่อนเปลี่ยนจากสขี าวเปน็ สีนา้ํ ตาล)
2) ให้นักเรียนทำกิจกรรมทบทวนความรูก้ ่อนเรียน (หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชน้ั ม.3 เล่ม2 สสวท. หนา้ 5) จำนวน 3 ขอ้ โดยเลอื กตอบวา่ ถูกหรอื ผดิ ดังน้ี
- สารท่เี ขา้ ทำปฏิกิรยิ าเคมเี ป็นสารตัง้ ต้น ส่วนสารใหมท่ ีเ่ กิดขึ้นจากปฏกิ ริ ยิ าเคมเี ปน็
ผลิตภัณฑ์ (ถูกตอ้ ง)
- อะตอมของสารตั้งตน้ จะไมส่ ญู หายไประหวา่ งการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี แต่อะตอมจะจัด
เรยี งตวั เปล่ียนไปเกิดเปน็ สารใหม่ (ถูกตอ้ ง)
- ปฏิกิริยาเคมที ีม่ กี ารถ่ายโอนความรอ้ นจากสงิ่ แวดลอ้ มเข้าสู่ระบบจดั เปน็ ปฏิกิริยาคาย
ความรอ้ น (ผดิ )
3) ครูตรวจสอบการทำกิจกรรมทบทวนความรู้ก่อนเรียน ถ้าไม่ถูกต้องให้แก้ไขความเข้าใจ
คลาดเคลื่อนของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานที่ถูกต้องและเพียงพอที่จะเรียนเรื่องปฏิกิริยา เคมี
รอบตัว และอภปิ รายรว่ มกัน
4) ครูเพิ่มเติมความสนใจของนักเรียน เกี่ยวกับสมบัติความเป็นกรด-เบสของสาร โดยสาธิต
วธิ กี ารทดสอบระดับความเป็นกรด-เบสของสารตัวอย่าง เชน่ นำ้ เปลา่ นำ้ หวาน น้ำมะนาว นำ้ สม้ สายชู เป็นต้น
ดว้ ยกระดาษยูนเิ วอร์ซลั อินดิเคเตอรป์ ระกอบการอภิปราย
ขั้นที่ 2 ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (20 นาที)
5) ครูเชื่อมโยงเขา้ สู่กิจกรรมที่ 5.4 ปฏิกิริยาของกรดกบั เบส โดยใช้คำถามว่า ทราบหรือไมว่ ่า
แมกนเี ซียมไฮดรอกไซด์ในยาลดกรด ช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้อย่างไร (นกั เรียนตอบตามความ
เข้าใจของตนเอง)
6) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 17 และครูตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอา่ น โดยใช้คำถามดงั ต่อไปนี้
- กจิ กรรมนเี้ ก่ยี วกับเรื่องอะไร (ปฏิกริ ิยาของกรดกับเบส)
- กิจกรรมน้มี จี ดุ ประสงคอ์ ะไร (สังเกตและอธบิ ายปฏิกริ ิยาของกรดกบั เบส)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (สังเกตลักษณะสารแต่ละชนิด จากนั้นใช้
กระดาษยูนิเวอร์ซัลอินดิเคเตอร์ตรวจสอบความเป็นกรด-เบสของสารละลายกรดแอซีติกและสารละลาย
โซเดียมไฮดรอกไซด์ จากนั้นรินสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ลงในสารละลายกรดแอซีติก สังเกตลักษณะสาร
และตรวจสอบคา่ พเี อชของสารละลายที่ได้ดว้ ยกระดาษยนู ิเวอร์ซลั อนิ ดิเคเตอร์ และเปรียบเทยี บกับค่าพีเอชของ
สารต้งั ตน้ )
- ข้อควรระวังในการทำกิจกรรมมีอะไรบ้าง (ระวงั การสัมผัสสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ใน
กรณีทสี่ ัมผัสสารละลายดังกล่าว ให้ปลอ่ ยนำ้ ปริมาณมากไหลผา่ นบริเวณท่ีสัมผสั )
- นกั เรยี นตอ้ งสังเกตหรือรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (สขี องกระดาษยนู ิเวอรซ์ ัลอินดิเคเตอร์ และ
คา่ พีเอช ของสารตง้ั ตน้ และผลติ ภณั ฑ)์
7) ขณะท่ีนักเรียนแตล่ ะกลุ่มทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกจิ กรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
และใหค้ ำแนะนำ ถ้านกั เรียนมีขอ้ สงสัยในประเด็นต่าง ๆ ทอี่ าจเป็นปญั หา เชน่ การเทยี บสีเพ่ือหาค่าพีเอชด้วย
กระดาษยูนิเวอร์ซัลอินดิเคเตอร์ ซึ่งครูควรรวบรวมปญั หา และข้อสงสัยท่พี บจากการทำกจิ กรรมของนักเรียนเพ่ือ
ใช้เป็นขอ้ มูลประกอบการอภปิ รายหลังจากการทำกิจกรรม
ข้นั ท่ี 3 ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (10 นาที)
8) นกั เรียนบันทึกการทำกจิ กรรมลงในแบบบนั ทกึ การคน้ คว้ากิจกรรมท่ี 5.4 ปฏกิ ิริยาของกรด
กับเบส โดยสรุปผลของกิจกรรมและตอบคำถามท้ายกิจกรรม เพื่อให้ได้ข้อสรุปจากกิจกรรมว่า เมื่อเติม
สารละลายกรดลงในสารละลายเบส จะพบว่าสารละลายที่ได้มีค่าพีเอชเปลี่ยนแปลงไป โดยมีค่าพีเอชสูงกว่า
สารละลายกรดท่ีเป็นสารตง้ั ต้น หรอื มคี วามเปน็ กรดลดลง และมีค่าพีเอชต่ำกว่าสารละลายเบสท่ีเป็นสารต้ังต้น
หรอื มีความเปน็ เบสลดลง
ขัน้ ที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที)
9) นักเรยี นเรยี นรู้เพิ่มเตมิ เก่ยี วกบั ปฏกิ ิริยาระหว่างกรดกบั เบส โดยอ่านเนอ้ื หาและเกรด็ น่ารู้ใน
หนังสือเรยี นหนา้ 18-19 และตอบคำถามระหว่างเรยี นดงั นี้
- ค่าพีเอชของสารละลายหลังเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างกรดและเบสเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ
มีคา่ พเี อชสงู ขน้ึ เม่อื เปรียบเทียบกับสารละลายกรดทเ่ี ปน็ สารต้งั ต้น และมคี ่าพีเอชตำ่ ลง เมอ่ื เทยี บกับสารละลาย
เบสที่เปน็ สารตั้งต้น)
- แนวคดิ ที่วา่ ปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส สารละลายทไ่ี ด้จะมีสมบัติเป็นกลางเท่านนั้ (แนว
คำตอบ ไมถ่ กู ต้อง ปฏกิ ริ ิยาระหวา่ งกรดกบั เบส สารละลายทีไ่ ด้อาจมสี มบัติเป็นกรด กลาง หรือเบส ข้ึนอยกู่ ับ
ชนิดและปริมาณของกรดและเบสที่เข้าทำปฏิกิริยากัน)
ขนั้ ท่ี 5 ขัน้ ประเมนิ (Evaluation) (10 นาที)
10) ครูและนักเรียนอภิปรายผลการทำกิจกรรม การเกิดปฏิกิริยาเคมี จะได้ข้อสรุปว่า
การเกิดปฏิกิริยาเคมีของกรดกบั เบส (acid-base reaction) จะทำให้สารละลายท่ีไดม้ คี วามเป็นกรด-เบสลดลง
เมื่อเทียบกับสารตั้งต้นปฏิกิริยานี้ส่วนใหญ่จะได้ผลิตภัณฑ์เป็นสารประกอบประเภทเกลือและน้ำ ถ้าเกลือท่ี
เกิดขึ้นละลายในน้ำได้น้อยหรือไม่ละลาย จะเห็นเป็นตะกอน ถ้าเกลือที่เกิดขึ้นละลายได้ดีในน้ำ จะเห็นเป็น
สารละลายใส ปฏกิ ิริยาทเ่ี กิดขึ้นสามารถเขยี นแทนไดด้ ว้ ยสมการข้อความ ดังน้ี
กรด + เบส → เกลือ + น้ำ
11) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรยี นและใหค้ ะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมิน (Rubrics Score)
8. ส่ือการเรยี นรู้/แหลง่ เรยี นรู้
8.1 อุปกรณท์ ำกจิ กรรม: จำนวน 10 รำยกำร ดังแสดงแนบไวใ้ นใบกจิ กรรมท่ี 5.4 ปฏิกริ ยิ ำของกรดกับ
เบสเป็นอย่ำงไร
8.2 ชดุ สาธิต: กระดาษยูนเิ วอร์ซัลอนิ ดิเคเตอร์ และตวั อยา่ งกรด-เบส
8.3 ใบกจิ กรรม: ใบกิจกรรมที่ 5.4 ปฏิกิริยำของกรดกับเบสเปน็ อย่ำงไร
8.4 แบบบนั ทกึ กิจกรรม: แบบบนั ทึกการค้นควา้ กจิ กรรมที่ 5.4 ปฏิกริ ยิ ำของกรดกับเบสเปน็ อยำ่ งไร
8.5 แหล่งเรยี นรู้: หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
เล่ม 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ
9. การวดั และการประเมนิ
ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ วิธกี ารวดั เครื่องมือวัด เกณฑท์ ่ีใชใ้ นการประเมนิ
1. อธบิ ายปฏกิ ริ ยิ าของกรดกบั - ตรวจการตอบคำถาม - คำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 5.4 - ได้ไมน่ ้อยกว่า 2 คะแนน
เบสได้ (ด้านความรู้: K) ทา้ ยกิจกรรมท่ี 5.4 ปฏกิ ริ ยิ ำของกรดกับเบส ระดบั คณุ ภาพดี ถือวา่
เปน็ อยำ่ งไร จำนวน 3 ข้อ ผา่ นการประเมิน
ด้านความรู้
2. การใช้ทักษะการสังเกต - ตรวจการทำแบบ - แบบบันทกึ การค้นคว้า - ไดไ้ ม่น้อยกว่า 2 คะแนน
โดยสังเกตการเปลีย่ นแปลง บันทึกการค้นควา้ กิจกรรมที่ 5.4 ระดบั คุณภาพดี ถือวา่
ของสารเมอ่ื เกิดปฏกิ ิริยาเคมี กิจกรรมท่ี 5.4 ปฏกิ ริ ยิ ำของกรดกับเบส ผา่ นการประเมิน
ของกรดและเบส เป็นอย่ำงไร ด้านกระบวนการ
(ด้านกระบวนการ: P)
ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ วิธีการวดั เครือ่ งมือวดั เกณฑท์ ใ่ี ช้ในการประเมิน
3. ตระหนักถึงความสำคญั - สงั เกตการใช้งาน - เกณฑ์การประเมนิ การใช้ - ได้ไม่นอ้ ยกวา่ 2 คะแนน
ของการใชอ้ ปุ กรณ์
การทำกิจกรรมได้ อปุ กรณใ์ นกิจกรรม งานอุปกรณใ์ นกจิ กรรม ระดับคุณภาพดี ถือว่า
(ด้านเจตคติ: A) ของนกั เรียน ของนักเรียน ผา่ นการประเมนิ
ด้านเจตคติ
9.1 เกณฑก์ ารประเมินผลนกั เรียน เกณฑ์การประเมนิ (Rubrics Score)
ประเดน็ การประเมิน ค่านำ้ หนัก แนวทางการให้คะแนน
คะแนน
การใหค้ ะแนนตอบ ตอบคำถามท้ายกิจกรรมที่ 5.4 ถกู ตอ้ ง จำนวน 3 ขอ้
คำถามท้าย 3 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 5.4 ถกู ตอ้ ง จำนวน 2 ข้อ
กิจกรรมที่ 5.4 2 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 5.4 ถูกตอ้ ง จำนวน 1 ขอ้ หรือ ไม่ถูกต้อง
1
การให้คะแนนการบันทึก บนั ทกึ ผลจากการสังเกตและอธิบายปฏิกริ ยิ าของกรดกับเบส โดยบนั ทกึ
แบบบนั ทกึ การค้นควา้
3 การเปลย่ี นแปลงของสารเมอ่ื เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีได้ครบถว้ น ตามความเปน็
กิจกรรมที่ 5.4 จริงโดยไมเ่ พมิ่ ความคิดเห็นส่วนตัว ลงในแบบบนั ทึกการคน้ ควา้ ได้
ชัดเจน ถูกต้อง ครบทุกประเดน็ สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาในกิจกรรม
บนั ทกึ ผลจากการสงั เกตและอธิบายปฏิกิริยาของกรดกบั เบส โดยบนั ทกึ
2 การเปลี่ยนแปลงของสารเมอ่ื เกดิ ปฏกิ ิริยาเคมีทเ่ี กิดข้ึนลงในแบบบนั ทกึ
การคน้ ควา้ ได้ถูกต้อง แต่ไม่ครบทกุ ประเดน็ ยังมีข้อผิดพลาด
บนั ทกึ ผลจากการสงั เกตและอธบิ ายปฏกิ ิริยาของกรดกับเบส โดยบนั ทึก
1 การเปลีย่ นแปลงของสารเม่ือเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีทเี่ กิดขนึ้ ลงในแบบบนั ทึก
การค้นควา้ ไม่ถูกตอ้ ง มีข้อผดิ พลาดต้องแก้ไข
การให้คะแนน ใช้งานอปุ กรณ์การทดลองในกิจกรรมได้ถูกวิธี หยบิ เคลอื่ นยา้ ยอุปกรณ์
การใชง้ านอุปกรณ์ 3 อยา่ งระมัดระวัง ไม่หยอกล้อหรือแกล้งเพ่อื นขณะกำลังใช้งานอุปกรณ์
ในกจิ กรรม และหลังการใชง้ านอุปกรณ์มีการเก็บรกั ษาอย่างถูกวธิ ี
ใชง้ านอปุ กรณ์การทดลองในกจิ กรรมได้ถูกวิธี หยบิ เคลอื่ นย้ายอปุ กรณ์
2 อย่างระมัดระวงั ไมห่ ยอกล้อหรือแกลง้ เพอ่ื นขณะกำลงั ใชง้ านอปุ กรณ์
แตห่ ลังการใช้งานอุปกรณ์ไม่มีการเกบ็ รักษาอยา่ งถกู วธิ ี หรือไม่เก็บ
อุปกรณ์เข้าตู้เก็บอปุ กรณต์ ามประเภทของอปุ กรณ์
ใช้งานอปุ กรณก์ ารทดลองในกิจกรรมได้ แตข่ ณะหยิบ เคลือ่ นยา้ ยอุปกรณ์
1 หรือกำลงั ใชง้ านอุปกรณ์ จะหยอกลอ้ หรือแกล้งเพื่อน อาจทำให้อปุ กรณ์
เสียหายได้ และหลังการใช้งานอุปกรณ์ไม่มกี ารเกบ็ รกั ษาอยา่ งถูกวธิ ี
9.2 ระดบั คุณภาพ หมายถงึ ดีมาก
หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉลย่ี 3.00 หมายถึง พอใช้
คะแนนรวมเฉลี่ย 2.00 - 2.99
คะแนนรวมเฉลยี่ 0.01 - 1.99
ดงั น้ัน นกั เรียนต้องได้คะแนนเฉล่ยี ทกุ ประเดน็ การประเมนิ ไมต่ ่ำกวา่ 2.00 แสดงระดบั
คุณภาพ ดี ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในแผนการจดั การเรียนที่ 4
สอ่ื การเรยี นรแู้ ผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4: ใบกิจกรรมท่ี 5.4
ใบกิจกรรมท่ี 5.4 ปฏกิ ิริยาของกรดกับเบสเปน็ อย่างไร
หนังสอื เรยี นรำยวิชำพื้นฐำนวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 3 เล่ม 2 ตำมหลักสูตรแกนกลำง
กำรศึกษำขน้ั พนื้ ฐำน พทุ ธศักรำช 2551 (ฉบบั ปรับปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร หน้ำ 17
กจิ กรรมท่ี 5.4 ปฏกิ ริ ิยาของกรดกับเบสเป็นอย่างไร?
จุดประสงค์
วัสดอุ ุปกรณ์ สงั เกตและอธิบายปฏิกิริยาของกรดกบั เบส
วธิ ีดาเนนิ กิจกรรม วัสดุท่ีใช้ต่อกลุ่ม
1. สำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซด์หรือสำรละลำย 5 cm3
โซดำไฟ ควำมเข้มข้นประมำณ 0.6 โมลตอ่ ลิตร
2. สารละลายกรดแอซีติกหรือน้ำส้มสายชู 5 cm3
ความเข้มขน้ รอ้ ยละ 5 โดยมวลตอ่ ปรมิ าตร
3. กระบอกตวงขนำด 10 cm3 2 ใบ
4. หลอดทดลองขนำดใหญ่ 2 หลอด
5. ที่วำงหลอดทดลอง 1 อนั
6. กระดำษยนู เิ วอร์ซลั อินดเิ คเตอร์ 1 กลอ่ ง
7. แทง่ แก้วคน 1 แท่ง
8. กระจกนาฬกิ า 1 อนั
9. แว่นตานริ ภัย เท่าจำนวนนักเรียนในกลมุ่
10. ถงุ มอื ยาง เท่าจำนวนนักเรยี นในกล่มุ
1. รินสำรละลำยกรดแอชีตกิ และสำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซด์ อยำ่ งละ
5 ลูกบำศกเ์ ซนติเมตร ลงในหลอดทดลองแตล่ ะหลอด สังเกตลกั ษณะสำร
ทดสอบควำมเปน็ กรด-เบสของสำรแต่ละชนิดด้วยกระดำษยูนเิ วอรซ์ ัลอินดิเคเตอร์
สงั เกตสขี องกระดำษยนู ิเวอร์ซลั อนิ ดิเคเตอร์ ระบุค่ำพีเอช และบันทกึ ผล
2. รินสำรละลำยกรดแอชีตกิ ลงในหลอดทดลองที่มีสำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซด์
ใชแ้ ทง่ แกว้ คนใหเ้ ข้ำกนั ทดสอบควำมเป็นกรด-เบส ดว้ ยกระดำษยนู เิ วอร์ซัลอินดิเตอร์
สงั เกตลักษณะสำร สขี องกระดำษยนู เิ วอรซ์ ลั อินดเิ คเตอร์ ระบุค่ำพเี อช และบนั ทกึ ผล
กิจกรรมที่ 5.4 ปฏกิ ริ ยิ าของกรดกบั เบสเป็นอยา่ งไร?
การเตรียมตัว • กำรเตรยี มสำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซดค์ วำมเขม้ ข้นประมำณ 0.6 โมลตอ่ ลติ ร
ลว่ งหน้าสาหรับครู ปริมำตร 40 ลูกบำศกเ์ ซนตเิ มตร (สำหรับ 8 กลมุ่ ) เตรียมโดยรนิ สำรละลำย
โซเดยี มไฮดรอกไซดเ์ ขม้ ข้นร้อยละ 50 โดยมวลต่อปรมิ ำตร ปรมิ ำตร 2 ลูกบำศก์
เซนตเิ มตร ลงในภำชนะ แล้วเตมิ นำ้ จนมปี รมิ ำตรรวมเปน็ 40 ลูกบำศก์เซนตเิ มตร
• ครสู ำมำรถใชน้ ้ำสม้ สำยชูควำมเขม้ ขน้ ร้อยละ 5 โดยมวลต่อปรมิ ำตร โดยไมผ่ สมนำ้
(น้ำสม้ สำยชูสำมำรถหำซ้อื ไดท้ ว่ั ไป)
ข้อเสนอแนะใน หลังจำกผสมสำรละลำยกรดและสำรละลำยเบสเขำ้ ดว้ ยกัน ควรคนสำรละลำยให้ทว่ั
การทากจิ กรรม ก่อนนำไปทดสอบด้วยกระดำษยูนเิ วอร์ซัลอินดิเคเตอร์
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เมื่อรินสารละลายกรดแอซีติกลงในสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ พบการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
และสมบัตคิ วามเป็นกรด-เบสของสารเปลีย่ นแปลงไปอยา่ งไร
2. เมื่อรินสารละลายกรดแอซีติกลงในสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ เกิดปฏิกิริยาเคมีหรือไม่ ทราบได้
อยา่ งไร
3. จากกจิ กรรม สรุปได้วา่ อย่างไร
ส่อื การเรียนรู้แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4: แบบบันทึกกำรค้นควำ้ กิจกรรมที่ 5.4
แบบบันทกึ การคน้ คว้ากจิ กรรมท่ี 5.4 ปฏกิ ิริยาของกรดกับเบสเป็นอยา่ งไร
ชือ่ -นามสกุล..........................................................................................ชน้ั .................เลขท่ี...........กลมุ่ ท.่ี ...........
ตารางบนั ทึกผล ลกั ษณะของสาร สีของกระดาษยูนเิ วอรซ์ ลั คา่ พเี อช
อนิ ดเิ คเตอร์
สาร
สารละลายกรดแอซตี กิ
สารละลายโซเดียม
ไฮดรอกไซด์
สารละลายกรดแอซีติก
+ สารละลายโซเดียม
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เม่ือรนิ สารละลายกรดแอซตี ิกลงในสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ พบการเปลี่ยนแปลงหรอื ไม่ อยา่ งไร
และสมบตั ิความเปน็ กรด-เบสของสารเปล่ยี นแปลงไปอย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เม่ือรินสารละลายกรดแอซตี ิกลงในสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ เกดิ ปฏิกิริยาเคมหี รอื ไม่ ทราบไดอ้ ย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากกจิ กรรม สรุปไดว้ า่ อยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบทา้ ยแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี : การใหค้ ะแนนดา้ นกระบวนการ (P)
แนวทางบนั ทึกการค้นคว้ากิจกรรมที่ 5.4 ปฏิกิริยาของกรดกับเบสเปน็ อย่างไร
ตารางบนั ทกึ ผล ลกั ษณะของสาร สีของกระดาษยนู ิเวอรซ์ ัล คา่ พเี อช
ของเหลว ใส ไมม่ สี ี อินดเิ คเตอร์ 3
สาร ของเหลว ใส ไมม่ สี ี แดงส้ม 13
สารละลายกรดแอซตี กิ นำ้ เงนิ 7
สารละลายโซเดยี ม
ไฮดรอกไซด์ ของเหลว ใส ไม่มีสี สม้ เหลือง
สารละลายกรดแอซตี กิ
+ สารละลายโซเดียม
หมายเหตุ บนั ทึกคา่ พเี อชของสารตามสีของกระดาษยนู เิ วอรซ์ ลั อินดิเคเตอร์ ซึง่ อาจแตกต่างจากค่าพีเอช
ทีร่ ะบไุ วใ้ นตารางบันทกึ ผล ทั้งนข้ี ้นึ อยูก่ ับความเขม้ ขน้ ของสารละลายทใ่ี ช้
แนบท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4: การให้คะแนนด้านความรู้ (K)
เฉลยใบกิจกรรมที่ 5.4 ปฏิกริ ิยาของกรดกบั เบสเป็นอย่างไร
เฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม
1. เมอื่ รินสารละลายกรดแอซตี กิ ลงในสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ พบการเปล่ยี นแปลงหรอื ไม่ อย่างไร
และสมบัติความเปน็ กรด-เบสของสารเปลย่ี นแปลงไปอย่างไร
แนวคำตอบ เมื่อสังเกตดว้ ยตาเปลา่ จะไมพ่ บการเปล่ียนแปลง แต่เมอื่ นำไปวดั ค่าพเี อช จะพบการ
เปลย่ี นแปลง โดยสารละลายทไี่ ด้มีค่าพีเอชสูงกว่าสารละลายกรดทเ่ี ป็นสารต้งั ต้น หรอื มคี วามเป็นกรดลดลง
และมีคา่ พีเอชตำ่ กว่าสารละลายเบสที่เป็นสารตั้งตน้ หรอื มีความเป็นเบสลดลง
2. เม่ือรินสารละลายกรดแอซีตกิ ลงในสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ เกิดปฏกิ ิริยาเคมหี รือไม่ ทราบได้อยา่ งไร
แนวคำตอบ เกิดปฏิกริ ิยาเคมี เน่อื งจากสารทไ่ี ดม้ ีค่าพีเอชเปล่ยี นแปลงไป
3. จากกิจกรรม สรุปได้วา่ อย่างไร
แนวคำตอบ เมื่อเติมสารละลายกรดลงในสารละลายเบส กรดจะทำปฏิกริ ิยากับเบส ทำให้สารละลาย
ทไ่ี ด้มีค่าพเี อชอยู่ระหว่างค่าพีเอชของสารละลายกรดและสารละลายเบสตงั้ ตน้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5
เรื่อง ปฏิกริ ยิ าของกรดกบั โลหะและเบสกับโลหะ รหัสวชิ า ว23102 เวลา 2 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีและวสั ดุในชวี ิตประจำวนั รวม 17 ช่ัวโมง
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2
สาระที่ 2 ชือ่ สาระ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั
ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมบัติของสสารกบั โครงสร้าง
และแรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารการเกดิ สารละลาย
และการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี
ตัวช้ีวัด
ว 2.1 ม.3/6 อธบิ ายปฏกิ ิรยิ าการเกิดสนมิ ของเหล็กปฏกิ ริ ิยาของกรดกับโลหะ ปฏกิ ิริยาของกรดกับเบส
และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิดฝนกรด
การสังเคราะห์ด้วยแสง โดยใชส้ ารสนเทศ รวมทั้งเขยี นสมการขอ้ ความแสดงปฏิกิริยาดงั กล่าว
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
1) ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ กรดทำปฏิกิริยากับโลหะได้หลายชนิด ได้ผลิตภัณฑ์เป็นเกลือของโลหะ
และแก๊สไฮโดรเจน
2) ปฏิกิริยาของกรดกับสารประกอบคาร์บอเนตได้ผลิตภัณฑ์เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เกลือของ
โลหะ และน้ำ
3) ปฏกิ ริ ยิ าของกรดกับเบส ไดผ้ ลติ ภัณฑเ์ ปน็ เกลือของโลหะและน้ำ หรืออาจได้เพียงเกลือของโลหะ
4) ปฏกิ ริ ยิ าของเบสกับโลหะบางชนิด ไดผ้ ลติ ภณั ฑ์เป็นเกลอื ของเบสและแกส๊ ไฮโดรเจน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนอธบิ ายปฏิกริ ยิ าของกรดกับโลหะและเบสกับโลหะได้
1) ด้านความรู้ (K) นักเรยี นใช้ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมูล โดยนำข้อมลู จากการ
2) ดา้ นทักษะ (P) สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสาร มาอธบิ ายปฏกิ ริ ยิ าเคมตี ่าง ๆได้
นักเรียนตระหนกั ถึงความสำคัญของการใชอ้ ุปกรณ์การทำกิจกรรมได้
3) ดา้ นเจตคติ (A)
4. คณุ ลกั ษณะผู้เรียน
4.1 คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่ือสตั ย์สุจริต มุ่งมนั่ ในการทำงาน
มวี นิ ัย รักความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรู้ มจี ติ สาธารณะ
5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ความสามารถในการสื่อสาร: นกั เรียนสามารถสอื่ สาร โดยการนำเสนอขอ้ มลู เกยี่ วกบั การระบกุ าร
เกดิ ปฏิกริ ิยาเคมีจากการเปลยี่ นแปลงของสาร
ความสามารถในการคิด: นักเรียนสามารถคิด โดยใช้ความคดิ อยา่ งมเี หตุผลในการเปรียบเทียบและ
อภิปรายการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี: นักเรียนสามารถใช้เทคโนโลยี โดยการสืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกับ
ปฏิกิริยาเคมี
6. สาระการเรยี นรู้
ปฏิกิริยาของกรดกบั โลหะ กรดทำปฏิกิรยิ ากับโลหะไดห้ ลายชนิด โดยทั่วไปเมื่อกรดทำปฏิกิริยากับ
โลหะ ได้ผลิตภัณฑ์เป็นเกลือของโลหะและแก๊สไฮโดรเจน (hydrogen gas หรือ H2) เช่น กรดไฮโดรคลอริกทำ
ปฏิกิริยากบั สังกะสี (zinc หรอื Zn) ไดผ้ ลติ ภณั ฑ์เปน็ ซิงค์คลอไรด์ (zinc chloride หรื ZกCl2) ซึ่งเป็นเกลือของ
สงั กะสีที่ละลายไดใ้ นน้ำและแกส็ ไฮโดรเจน ดงั ภาพ
ภาพแสดง ปฏกิ ิรยิ าเคมขี องกรดไฮโดรคลอรกิ กับสังกะสี
อา้ งอิงจาก: หนังสอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ 2 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธิการ หนา้ 21
ปฏิกิรยิ าเคมขี องกรดไฮโดรคลอรกิ กบั สังกะสี เขยี นแทนไดด้ ว้ ยสมการข้อความ ดงั น้ี
กรดไฮโดรคลอริก + สงั กะสี → ซิงคค์ ลอไรด์ + แกส๊ ไฮโดรเจน
ภาพแสดง แบบจำลองแสดงการจดั เรียงตวั ใหมข่ องอะตอมเม่อื เกิดปฏกิ ิรยิ าเคมรี ะหว่างกรดไฮโดรคลอรกิ กับสังกะสี
อ้างองิ จาก: หนังสอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 2 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธิการ หนา้ 22
โดยท่วั ไปปฏิกริ ยิ าของกรดกับโลหะจะไดผ้ ลติ ภัณฑ์ซึง่ เป็นไปตามสมการ ดังน้ี
กรด + โลหะ → เกลอื ของโลหะ + แก็สไฮโดรเจน
ผลจากปฏกิ ิรยิ าของกรดกบั โลหะ เชน่ การผุกรอ่ นของหลังคาสงั กะสีเม่อื ทำปฏิกิรยิ ากบั น้ำฝนทีม่ ี
สมบัตเิ ปน็ กรด การกดั กรอ่ นตะก่ัวเนื่องจากกรดซัลฟิวรกิ ในแบตเตอร่ี เปน็ ต้น
ปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ เบสทำปฏิกิริยากับสังกะสีและอะลูมิเนียม ได้ผลิตภัณฑ์เป็นเกลือของ
โลหะและแก็สไฮโดรเจน เช่น โซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodium hydroxide หรอื NaOH) ทำปฏกิ ริ ยิ ากับสังกะสี ได้
ผลิตภัณฑ์เป็นโซเดียมซินเกต (sodium zincate หรือ Na2ZnO2) ซึ่งเป็นเกลือของสังกะสี และแก๊สไฮโดรเจน
เขียนแทนไดด้ ้วยสมการขอ้ ความ ดังนี้
โซเดยี มไฮดรอกไซด์ + สงั กะสี → โซเดยี มซินเกต + แก็สไฮโดรเจน
ภาพแสดง แบบจำลองแสดงการจัดเรียงตวั ใหม่ของอะตอมเมอ่ื เกิดปฏิกริ ิยาเคมีระหวา่ งโซเดยี มไฮดรอกไซด์กับสังกะสี
อา้ งอิงจาก: หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลกั สูตร
แกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หนา้ 23
เมอ่ื เบสทำปฏิกิริยาเคมกี บั โลหะจะไดผ้ ลติ ภัณฑ์ซึ่งเปน็ ไปตามสมการ ดังนี้
เบส + โลหะ → เกลอื ของโลหะ + แกส็ ไฮโดรเจน
เราจะพบปฏกิ ริ ิยาของเบสกบั โลหะในชวี ิตประจำวนั ไมห่ ลากหลายนกั เนอื่ งจากมีโลหะเพยี งไมก่ ี่ชนดิ ที่
ทำปฏกิ ริ ยิ ากับเบสได้
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ใชร้ ูปแบบการจดั การเรยี นการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ชว่ั โมง; 120นาที)
ขั้นท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) (20 นาที)
1) ครูกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี น เกย่ี วกบั เรือ่ ง ปฏกิ ิริยาของกรดกบั โลหะและเบสกับโลหะ
โดยใชส้ ่ือวีดิทัศน์เรอื่ ง ปฏกิ ริ ิยาเคมขี องสังกะสีกับกรดไฮโดรคลอริก (สบื คน้ ได้จาก ipst.me/10605) ซึ่งอธิบาย
เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมีของสังกะสีกับกรดไฮโดรคลอริก ซึ่งได้ผลิตภัณฑ์เป็นเกลือของสังกะสีและแก๊ส
ไฮโดรเจน
2) ครูเชอ่ื มโยงเขา้ สู่กิจกรรมที่ 5.5 ปฏกิ ิรยิ าของกรดกบั โลหะและเบสกับโลหะเปน็ อยา่ งไร โดย
ใชค้ ำถามวา่ ทราบหรือไม่ว่าเมอื่ กรดหรือเบสทำปฏกิ ริ ิยากับโลหะ จะเกิดการเปลยี่ นแปลงอยา่ งไร (นักเรยี นตอบ
ตามความเข้าใจของตนเอง)
ข้ันท่ี 2 ข้นั สำรวจและคน้ หา (Exploration) (40 นาที)
3) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 20 และครูตรวจสอบความ
เข้าใจการอา่ น โดยใช้คำถามดังต่อไปน้ี
- กิจกรรมนี้เก่ียวกับเรื่องอะไร (การเปลี่ยนแปลงขณะที่กรดทำปฏิกิรยิ ากับโลหะ และขณะท่ี
เบสทำปฏิกิริยากบั โลหะ)
- กิจกรรมน้ีมีจุดประสงคอ์ ะไร (สงั เกตและอธิบายปฏกิ ริ ิยาของกรดกบั โลหะและเบสกบั โลหะ)
- วิธีดำเนินกจิ กรรมมขี ั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ขัดโลหะที่ต้องการทดสอบ แล้วใส่ลงในหลอด
ทดลองแต่ละหลอด รินสารละลายกรดไฮโดรคลอริกลงไปจนท่วมโลหะ สังเกตการเปล่ียนแปลง ทำการทดสอบ
เช่นเดมิ แตเ่ ปลี่ยนจากสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเปน็ สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์)
- ข้อควรระวังในการทำกิจกรรมมีอะไรบ้าง (ระวังการสัมผัสสารละลายกรดไฮโดรคลอริกหรือ
สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ ในกรณที ่ีสัมผัสสารละลายดังกล่าว ใหร้ ีบลา้ งออกด้วยน้ำสะอาดในปริมาณมาก
ขณะเกดิ ปฏิกิรยิ า ไมค่ วรสงั เกตในระยะใกล้เกนิ ไป เน่ืองจากบางปฏิกริ ิยาอาจมคี วามรอ้ นเกดิ ขึน้ )
- นักเรยี นตอ้ งสงั เกตหรอื รวบรวมขอ้ มูลอะไรบ้าง (ข้อมูลจากการสงั เกตลักษณะของโลหะ และ
การเปลี่ยนแปลงของโลหะแตล่ ะชนดิ เมอื่ ทำปฏกิ ริ ยิ ากบั กรดและเบส)
4) ขณะท่ีนักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกจิ กรรมของนักเรียนแต่ละกลมุ่
และให้คำแนะนำ ถ้านักเรียนมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ที่อาจเป็นปัญหา เช่น ให้ขัดโลหะด้วยกระดาษทราย
ก่อน เพื่อขจัดสารที่เคลือบผิวโลหะออก เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาไดด้ ีขึ้น และควรเติมสารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ
หรือสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ลงในหลอดทดลองแต่ละหลอดในปริมาณท่ีเท่ากัน ซึ่งครคู วรรวบรวมปัญหา
และข้อสงสัยที่พบจากการทำกิจกรรมของนักเรียนเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการอภิปรายหลังจากการทำ
กิจกรรม
ขนั้ ท่ี 3 ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (20 นาที)
5) นักเรยี นบันทกึ การทำกจิ กรรมลงในแบบบนั ทกึ การค้นคว้ากจิ กรรมที่ 5.5 ปฏกิ ิริยาของกรด
กับโลหะและเบสกบั โลหะเป็นอย่างไร โดยสรุปผลของกิจกรรมและตอบคำถามท้ายกิจกรรม เพื่อให้ได้ข้อสรปุ
จากกจิ กรรมวา่ เม่ือเติมสารละลายกรดไฮโดรคลอริกลงในโลหะต่าง ๆ พบว่าสงั กะสแี ละตะปูเหลก็ จะมีฟองแก๊ส
เกิดขึ้นทันทีในปริมาณมาก และกร่อนเร็ว ส่วนอะลูมิเนียมจะมีฟองแก๊สเกิดขึ้นเล็กน้อยและเกิดช้า เมื่อเติม
สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ ลงในโลหะต่าง ๆ พบว่าอะลมู เิ นยี มจะมฟี องแก๊สเกดิ ขนึ้ ทนั ทใี นปริมาณมาก และ
กร่อนเร็ว สังกะสีจะมีฟองแก๊สเกิดขึ้นเล็กน้อยและเกิดช้า ส่วนตะปูเหล็กไม่พบการเปลี่ยนแปลง แสดงว่า
ทั้งกรดและเบสต่างกท็ ำปฏิกิรยิ ากับโลหะบางชนดิ ได้ และมีผลติ ภณั ฑ์ท่ีเป็นแก๊สเกิดข้นึ
ขัน้ ที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที)
6) นกั เรียนเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ เก่ียวกับปฏิกริ ยิ าของกรดกับโลหะ และเบสกับโลหะ โดยอา่ นเน้ือหา
ในหนังสอื เรียนหนา้ 21-23 และตอบคำถามระหว่างเรียน โดยใชป้ ระเดน็ คำถามดงั น้ี
- ถา้ นำน้ำสม้ สายชูใสใ่ นภาชนะท่ที ำจากอะลูมิเนียม นักเรียนคดิ ว่าเหมาะสมหรอื ไม่ เพราะเหตุ
ใด (แนวคำตอบ ไม่เหมาะสม เพราะน้ำส้มสายชูคือสารละลายกรดแอซีติก มีสมบัติเป็นกรด สามารถกัดกร่อน
อะลมู ิเนียมซึง่ เป็นโลหะได้)
- ถา้ ใชโ้ ซเดียมไฮดรอกไซดห์ รอื โซดาไฟล้างท่อทท่ี ำจากโลหะ เนือ่ งจากทอ่ อุดตัน นกั เรียนคดิ ว่า
เหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ ขึ้นอยู่กับชนิดของโลหะที่ใช้ทำท่อ ถ้าท่อที่ทำจากโลหะ
ที่ เกดิ ปฏิกริ ิยากบั โซเดยี มไฮดรอกไซด์ก็จะไม่เหมาะสม เชน่ ทอ่ ท่ีทำจากอะลมู ิเนยี ม เน่อื งจากสามารถกัดกร่อน
อะลูมิเนียมทำให้เกิดความเสียหายได้ แต่ถ้าโลหะที่ใช้ทำท่อไม่เกิดปฏิกิริยากับโซเดียมไฮดรอกไซด์ เช่น ท่อท่ี
ทำจาก เหลก็ หรอื ทองแดง กส็ ามารถใชโ้ ซเดียมไฮดรอกไซด์ล้างท่อได้)
- ในบางพืน้ ทีม่ กี ารบรรจุลกู โปง่ ดว้ ยแก๊สท่ีได้จากปฏกิ ริ ิยาของเบสกบั อะลมู ิเนียม นักเรยี นคดิ ว่า
แก๊สที่ได้เป็นแกส๊ ชนดิ ใด และการบรรจแุ ก๊สดงั กลา่ วในลกู โป่งมีอันตรายหรอื ไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ แก๊สที่ได้
จากปฏกิ ริ ยิ าดังกลา่ วคือแก๊สไฮโดรเจน การบรรจุแก๊สชนิดนีใ้ นลูกโปง่ อาจทำให้เกิดอนั ตรายถ้านำไปใกล้เปลวไฟ
ซงึ่ จะทำให้ลูกโป่งระเบดิ ได้ เนอ่ื งจากแก๊สไฮโดรเจนติดไฟ)
ขัน้ ท่ี 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation) (20 นาที)
7) ครูและนักเรียนอภิปรายผลการทำกิจกรรม ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ และเบสกับโลหะ
จะได้ข้อสรุปว่า ส่วนใหญ่เมื่อกรดทำปฏิกิริยากับโลหะ ได้ผลิตภัณฑ์เป็นเกลือของโลหะและแก๊สไฮโดรเจน
ปฏกิ ริ ิยาระหวา่ งกรดกับโลหะ เขียนแทนไดด้ ้วยสมการดงั นี้
กรด + โลหะ → เกลือของโลหะ + แก๊สไฮโดรเจน
ผลของปฏิกิริยาระหว่างกรดกบั โลหะทำให้เกิดการผุกร่อนของโลหะ ก่อให้เกิดความเสียหาย
แก่วัสดุ เช่น การผุกร่อนของหลังคาสังกะสีเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำฝนที่มีสมบัติเป็นกรด การกัดกร่อนตะกั่ว
เน่อื งจากสารละลายกรดซัลฟวิ ริกในแบตเตอรี่
เมื่อเบสทำปฏิกิริยากับโลหะ ได้ผลิตภัณฑ์เป็นเกลือของโลหะและแก๊สไฮโดรเจน ปฏิกิริยา
ระหว่างเบสกับโลหะเขียนแทนได้ด้วยสมการดังน้ี
เบส + โลหะ → เกลอื ของโลหะ + แกส๊ ไฮโดรเจน
8) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมนิ (Rubrics Score)
8. สื่อการเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้
8.1 อุปกรณท์ ำกจิ กรรม: จำนวน 12 รำยกำร ดังแสดงแนบไว้ในใบกิจกรรมท่ี 5.5 ปฏกิ ริ ยิ ำของกรดกบั
โลหะและเบสกบั โลหะเป็นอยำ่ งไร
8.2 คลปิ วดี ิทัศน์: ปฏกิ ิรยิ ำเคมขี องสงั กะสกี บั กรดไฮโดรคลอรกิ
8.3 ใบกจิ กรรม: ใบกจิ กรรมที่ 5.5 ปฏกิ ิรยิ ำของกรดกบั โลหะและเบสกบั โลหะเปน็ อยำ่ งไร
8.4 แบบบันทกึ กจิ กรรม: แบบบนั ทกึ การคน้ ควา้ กจิ กรรมที่ 5.5 ปฏิกริ ยิ ำของกรดกับโลหะและ
เบสกบั โลหะเปน็ อยำ่ งไร
8.5 แหลง่ เรียนรู้: หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3
เล่ม 2 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
9. การวัดและการประเมิน
ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ วิธีการวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์ทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ
1. อธบิ ายปฏกิ ริ ยิ าของกรดกับ - ตรวจการตอบ - คำถามทา้ ยกิจกรรมท่ี 5.5 - ได้ไม่นอ้ ยกว่า 2 คะแนน
โลหะและเบสกบั โลหะได้ คำถามท้าย ปฏกิ ริ ิยาของกรดกบั โลหะ ระดับคณุ ภาพดี ถือว่าผ่าน
(ด้านความรู้: K) กจิ กรรมท่ี 5.5 และเบสกับโลหะเปน็ การประเมนิ ดา้ นความรู้
อยา่ งไร จำนวน 3 ข้อ
2. การใช้ทกั ษะการลงความเหน็ - ตรวจการทำแบบ - แบบบันทกึ การคน้ คว้า - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน
จากข้อมลู โดยนำข้อมูลจาก บนั ทกึ การค้นคว้า กจิ กรรมที่ 5.5 ปฏกิ ิรยิ า ระดบั คุณภาพดี ถือวา่
การสังเกตการเปลยี่ นแปลง กจิ กรรมที่ 5.5 ของกรดกบั โลหะและ ผา่ นการประเมนิ
ของสาร มาอธบิ ายปฏิกริ ิยา เบสกบั โลหะเปน็ อยา่ งไร ด้านกระบวนการ
เคมีตา่ ง ๆได้
(ด้านกระบวนการ: P)
3. ตระหนักถงึ ความสำคัญ - สงั เกตการใชง้ าน - เกณฑ์การประเมนิ การใช้ - ได้ไม่นอ้ ยกวา่ 2 คะแนน
ของการใชอ้ ปุ กรณ์การทำ อปุ กรณใ์ นกจิ กรรม งานอปุ กรณใ์ นกจิ กรรม ระดบั คณุ ภาพดี ถือว่าผ่าน
กจิ กรรมได้ (ดา้ นเจตคติ: A) ของนกั เรยี น ของนกั เรยี น การประเมินด้านเจตคติ
9.1 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลนกั เรียน เกณฑก์ ารประเมนิ (Rubrics Score)
ประเด็นการประเมิน คา่ น้ำหนกั แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การใหค้ ะแนนตอบ ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 5.5 ถูกตอ้ ง จำนวน 3 ขอ้
คำถามทา้ ย 3 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 5.5 ถูกตอ้ ง จำนวน 2 ขอ้
กจิ กรรมที่ 5.5 2 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 5.5 ถกู ตอ้ ง จำนวน 1 ข้อ หรอื ไมถ่ กู ต้อง
1
การใหค้ ะแนนการบนั ทกึ บนั ทึกผลจากการใช้ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล ลงในตารางบันทึก
แบบบันทึกการคน้ คว้า
3 ผลกจิ กรรม โดยมีการนำข้อมูลจากการสงั เกตการเปลี่ยนแปลงของสาร
กจิ กรรมที่ 5.5 มาอธบิ ายปฏกิ ริ ยิ าเคมีต่าง ๆ ได้อยา่ งสมเหตุสมผล ชดั เจน ถูกตอ้ ง
ครบทกุ ประเด็นสอดคล้องกับเน้อื หาในกจิ กรรม
บันทกึ ผลจากการใช้ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มลู ลงในตารางบันทึก
2 ผลกิจกรรม โดยมีการนำขอ้ มูลจากการสังเกตการเปลยี่ นแปลงของสาร
มาอธิบายปฏิกิริยาเคมีต่าง ๆ ได้ถูกต้อง แต่มีข้อผิดพลาดบางสว่ น
บันทึกผลจากการใช้ทักษะการลงความเห็นจากขอ้ มลู ลงในตารางบันทึก
1 ผลกิจกรรม โดยมีการนำข้อมูลจากการสังเกตการเปล่ียนแปลงของสาร
มาอธิบายปฏิกริ ยิ าเคมีต่าง ๆ แตม่ ีข้อผิดพลาด ไม่สอดคล้องกบั เนือ้ หา
การใหค้ ะแนน ใชง้ านอุปกรณ์การทดลองในกจิ กรรมได้ถูกวธิ ี หยบิ เคล่อื นยา้ ยอปุ กรณ์
การใช้งานอุปกรณ์ 3 อย่างระมัดระวัง ไม่หยอกล้อหรือแกล้งเพ่ือนขณะกำลังใช้งานอปุ กรณ์
ในกจิ กรรม และหลงั การใช้งานอุปกรณม์ กี ารเก็บรกั ษาอยา่ งถูกวิธี
ใช้งานอปุ กรณก์ ารทดลองในกจิ กรรมไดถ้ ูกวธิ ี หยิบ เคลือ่ นยา้ ยอุปกรณ์
2 อย่างระมดั ระวัง ไมห่ ยอกล้อหรือแกลง้ เพื่อนขณะกำลงั ใชง้ านอุปกรณ์
แต่หลังการใช้งานอปุ กรณ์ไม่มีการเกบ็ รกั ษาอยา่ งถูกวธิ ี หรือไมเ่ กบ็
อปุ กรณ์เข้าตู้เกบ็ อุปกรณ์ตามประเภทของอุปกรณ์
ใช้งานอปุ กรณก์ ารทดลองในกิจกรรมได้ แต่ขณะหยบิ เคล่ือนย้ายอปุ กรณ์
1 หรอื กำลังใช้งานอปุ กรณ์ จะหยอกล้อหรอื แกล้งเพ่ือน อาจทำใหอ้ ุปกรณ์
เสยี หายได้ และหลังการใชง้ านอุปกรณ์ไมม่ กี ารเกบ็ รกั ษาอยา่ งถูกวิธี
9.2 ระดับคณุ ภาพ
คะแนนรวมเฉล่ยี 3.00 หมายถึง ดีมาก
คะแนนรวมเฉลย่ี 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉลย่ี 0.01 - 1.99 หมายถงึ พอใช้
ดงั น้นั นักเรยี นต้องไดค้ ะแนนเฉลยี่ ทกุ ประเด็นการประเมิน ไม่ต่ำกวา่ 2.00 แสดงระดับ
คณุ ภาพ ดี ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินในแผนการจดั การเรยี นท่ี
สือ่ การเรียนรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5: ส่ือวีดิทัศน์
คลปิ วีดีทัศน์: ปฏิกริ ยิ าเคมขี องสงั กะสกี บั กรดไฮโดรคลอรกิ
สื่อวีดิทัศน์เรื่อง ปฏิกิริยาเคมีของกรดกับโลหะ อธิบายเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมีของสังกะสีกับกรด
ไฮโดรคลอรกิ ซ่งึ ได้ผลติ ภัณฑเ์ ป็นเกลือของสังกะสีและแก๊สไฮโดรเจน
แหล่งทม่ี า: เวบ็ ไซต์อา้ งองิ ipst.me/10605
เผยแพร่เม่ือ 30 สงิ หาคม พ.ศ. 2562
(เจ้าของผลงาน สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.))
สอ่ื การเรียนรูแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5: ใบกิจกรรมท่ี 5.5
ใบกิจกรรมท่ี 5.5 ปฏิกิริยาของกรดกบั โลหะและเบสกบั โลหะเปน็ อย่างไร
หนังสือเรยี นรำยวิชำพ้นื ฐำนวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 3 เลม่ 2 ตำมหลกั สตู รแกนกลำง
กำรศกึ ษำข้นั พืน้ ฐำน พทุ ธศักรำช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษำธิกำร หน้ำ 20
กจิ กรรมที่ 5.5 ปฏกิ ริ ยิ าของกรดกับโลหะและเบสกับโลหะเป็นอยา่ งไร?
จุดประสงค์
วัสดอุ ุปกรณ์ สังเกตและอธิบายปฏกิ ริ ิยาของกรดกบั โลหะและเบสกับโลหะ
วธิ ดี าเนนิ กิจกรรม วสั ดุทใ่ี ชต้ อ่ กลุ่ม
1. สำรละลำยกรดไฮโดรคลอริกหรือสำรละลำย 20 cm3
กรดเกลอื ควำมเขม้ ขน้ 0.6 โมลต่อลติ ร
2. สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์หรอื สารละลาย 20 cm3
โซดาไฟ ความเข้มขน้ ประมาณ 3 โมลต่อลติ ร
3. แผ่นสังกะสี 1 แผน่
4. แผน่ อะลูมเิ นยี ม 1 แผน่
5. ตะปเู หล็ก 2 ตวั
6. หลอดทดลองขนำดใหญ่ 6 หลอด
7. ที่วางหลอดทดลอง 1 อัน
8. ปากคบี 1 อัน
9. กรรไกร 1 เล่ม
10. กระดาษทราย 1 แผ่น
11. แวน่ ตานริ ภัย เทา่ จำนวนนักเรียนในกลมุ่
12. ถงุ มือยาง เทา่ จำนวนนักเรยี นในกลุม่
1. ขดั แผ่นสังกะสี แผน่ อะลมู เิ นยี ม และตะปเู หล็กดว้ ยกระดำษทรำย
2. ตัดแผ่นสงั กะสี กวำ้ ง 1 เซนติเมตร ยำว 1 เซนติเมตร สังเกตลกั ษณะและบนั ทกึ ผล
แลว้ ใส่ลงในหลอดทดลอง หลอดที่ 1 และหลอดท่ี 4 หลอดละ 1 ชิ้น
3. ตดั แผน่ อะลูเนียม กว้ำง 1 เซนติเมตร ยำว 1 เซนติเมตร สังเกตลกั ษณะ และ
บันทึกผล แล้วใสล่ งในหลอดทดลอง หลอดท่ี 2 และหลอดท่ี 5 หลอดละ 1 ชิ้น
4. สังเกตลกั ษณะของตะเหล็กและบันทึกผล แลว้ ใส่ลงในหลอดทดลองหลอดท่ี 3
และหลอดที่ 6 หลอดละ 1 ตัว
5. เติมสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริกลในหลอดท่ี 1-3 จนทว่ มโลหะ และ
เตมิ สำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซดล์ งในหลอดท่ี 4-6 จนทว่ มโลหะในปรมิ ำณเทำ่ ๆ กัน
เขยำ่ สังเกตกำรเปลย่ี นแปลงตงั้ แตเ่ ริ่มต้นจนครบ 5 นำทีและบันทกึ ผล
กจิ กรรมที่ 5.5 ปฏกิ ริ ิยาของกรดกบั โลหะและเบสกบั โลหะเปน็ อย่างไร?
การเตรียมตัว • กำรเตรียมสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริกควำมเข้มข้น 0.6 โมลตอ่ ลิตร ปริมำตร
ล่วงหนา้ สาหรับครู 160 ลูกบำศก์เซนตเิ มตร (สำหรบั 8 กลุม่ ) เตรียมโดยรินนำ้ ประมำณ 80 ลูกบำศก์
เซนตเิ มตร ลงในภำชนะ จำกนั้นรินสำรละลำยกรดไฮโดรคลอริกเขม้ ขน้ 6 โมลต่อลิตร
ปริมำตร 16 ลกู บำศก์เซนตเิ มตร ลงในภำชนะ แล้วเติมนำ้ จนมีปรมิ ำตรรวมเปน็
160 ลูกบำศก์เซนตเิ มตร
• กำรเตรียมสำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซดค์ วำมเขม้ ขน้ ประมำณ 3 โมลตอ่ ลติ ร
ปริมำตร 160 ลูกบำศกเ์ ซนตเิ มตร (สำหรบั 8 กลุ่ม) เตรียมโดยรนิ สำรละลำย
โซเดยี มไฮดรอกไซดเ์ ขม้ ขน้ ร้อยละ 50 โดยมวลต่อปริมำตร ปริมำตร 40 ลูกบำศก์
เซนติเมตร ลงในภำชนะ แลว้ เตมิ นำ้ จนมปี ริมำตรรวมเป็น 160 ลกู บำศก์เซนตเิ มตร
ขอ้ เสนอแนะใน • สำรละลำยโซเดียมไฮดรอกไซดท์ ่ใี ช้ในกจิ กรรมนี้ มีควำมเขม้ ขน้ มำกกวำ่ สำรละลำย
การทากิจกรรม โซเดียมไฮดรอกไซด์ที่ใช้ในกิจกรรมอ่นื จงึ ควรระมัดระวงั เปน็ พิเศษ โดยสวมถงุ มอื
ขณะเตรียมสำรและทำกจิ กรรมในหอ้ งเรยี น
• กำรขัดโลหะด้วยกระดำษทรำย ควรวำงโลหะบนกระดำษก่อนขดั เม่ือขัดเสรจ็ แล้ว
ใหห้ อ่ ผงโลหะก่อนนำไปทิ้ง
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. โลหะใดบ้างท่ีทำปฏกิ ิรยิ ากับกรดไฮโดรคลอริก ทราบไดอ้ ย่างไร
2. โลหะใดบ้างท่ที ำปฏิกริ ยิ ากับสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ทราบได้อย่างไร
3. จากกิจกรรม สรุปไดว้ า่ อยา่ งไร
สอ่ื การเรียนรู้แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5: แบบบันทึกกำรค้นคว้ำกจิ กรรมท่ี 5.5
แบบบนั ทึกการคน้ ควา้ กิจกรรมท่ี 5.5 ปฏิกิริยาของกรดกบั โลหะและเบสกบั โลหะเป็นอย่างไร
ชอื่ -นามสกุล..........................................................................................ชนั้ .................เลขท่ี...........กลุ่มท.ี่ ...........
ตารางบนั ทึกผล
สาร ผลทีส่ ังเกตได้
สงั กะสี
อะลมู เิ นียม
ตะปเู หล็ก
ตารางบนั ทกึ ผล
หลอดที่ สาร ผลทส่ี งั เกตได้
1 สังกะสี + สารละลาย
กรดไฮโดรคลอรกิ
2 อะลมู เิ นยี ม + สารละลาย
กรดไฮโดรคลอริก
3 ตะปูเหล็ก + สารละลาย
กรดไฮโดรคลอรกิ
4 สงั กะสี + สารละลาย
โซเดียมไฮดรอกไซด์
5 อะลูมเิ นียม + สารละลาย
โซเดยี มไฮดรอกไซด์
6 ตะปูเหลก็ + สารละลาย
โซเดยี มไฮดรอกไซด์
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. โลหะใดบ้างทีท่ ำปฏิกริ ิยากบั กรดไฮโดรคลอรกิ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. โลหะใดบา้ งทท่ี ำปฏกิ ริ ยิ ากบั สารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ ทราบได้อยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากกิจกรรม สรปุ ได้วา่ อยา่ งไร
ตอบ ………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………
.…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบท้ายแผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5: การให้คะแนนดา้ นกระบวนการ (P)
แนวทางบันทึกการคน้ คว้ากิจกรรมที่ 5.5 ปฏกิ ิริยาของกรดกบั โลหะและเบสกบั โลหะเปน็ อย่างไร
ตารางบันทกึ ผล
สาร ผลท่สี ังเกตได้
สงั กะสี ของแข็ง สเี งิน มนั วาว
อะลูมเิ นยี ม ของแข็ง สเี งิน มนั วาว
ตะปเู หล็ก ของแขง็ สีเงิน มนั วาว
ตารางบันทึกผล
ผลทส่ี ังเกตได้
หลอดท่ี สาร เกดิ ฟองแก๊สขนึ้ ทันทีในปริมาณมาก ผิวโลหะไม่มันวาว
1 สังกะสี + สารละลาย
2 กรดไฮโดรคลอรกิ เกิดฟองแก๊สขึน้ อยา่ งชา้ ๆ และเกิดในปริมาณนอ้ ย
3 อะลูมเิ นยี ม + สารละลาย
4 กรดไฮโดรคลอริก เกดิ ฟองแก๊สขนึ้ ทันที และเกิดในปรมิ าณมาก
5 ตะปูเหลก็ + สารละลาย
6 กรดไฮโดรคลอรกิ เกิดฟองแก๊สข้ึนอยา่ งช้า ๆ และเกดิ ในปริมาณนอ้ ย
สังกะสี + สารละลาย เกิดฟองแกส๊ ขึ้นทันที และเกิดในปรมิ าณมาก
โซเดียมไฮดรอกไซด์ ผวิ โลหะเปลยี่ นเป็นสดี ำ
อะลูมเิ นยี ม + สารละลาย ไมพ่ บการเปลย่ี นแปลง
โซเดียมไฮดรอกไซด์
ตะปเู หล็ก + สารละลาย
โซเดยี มไฮดรอกไซด์
แนบทา้ ยแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5: การให้คะแนนด้านความรู้ (K)
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 5.5 ปฏกิ ิรยิ าของกรดกบั โลหะและเบสกับโลหะเปน็ อยา่ งไร
เฉลยคำถามท้ายกิจกรรม
1. โลหะใดบา้ งทที่ ำปฏิกริ ิยากบั กรดไฮโดรคลอริก ทราบได้อย่างไร
แนวคำตอบ สงั กะสี อะลมู เิ นียม และตะปูเหลก็ ทราบไดจ้ ากการเกดิ ฟองแก๊สและผิวของโลหะ
เกดิ การเปลีย่ นแปลง
2. โลหะใดบา้ งท่ที ำปฏิกริ ยิ ากับสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ทราบได้อย่างไร
แนวคำตอบ สงั กะสีและอะลมู เิ นียม ทราบไดจ้ ากการเกดิ ฟองแก๊สและผิวของโลหะ
เกิดการเปลย่ี นแปลง
3. จากกิจกรรม สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร
แนวคำตอบ โลหะบางชนดิ สามารถเกิดปฏิกิริยากับกรดและเบสได้ผลติ ภัณฑเ์ ปน็ แกส๊ และ
อาจสังเกตเห็นผิว
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 6
เร่อื ง ปฏกิ ิริยาการเกดิ สนมิ เหล็ก รหัสวชิ า ว23102 เวลา 1 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ปฏิกิรยิ าเคมีและวสั ดุในชีวิตประจำวัน รวม 17 ช่วั โมง
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 2
สาระที่ 2 ชอื่ สาระ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด
ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสมบตั ิของสสารกบั โครงสร้าง
และแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารการเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี
ตัวชี้วัด
ว 2.1 ม.3/6 อธิบายปฏิกิรยิ าการเกิดสนมิ ของเหล็กปฏกิ ริ ิยาของกรดกบั โลหะ ปฏิกริ ยิ าของกรดกับเบส
และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และอธิบายปฏิกิริยาการเผาไหม้ การเกิดฝนกรด
การสังเคราะหด์ ว้ ยแสง โดยใชส้ ารสนเทศ รวมทงั้ เขยี นสมการข้อความแสดงปฏิกิรยิ าดังกล่าว
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
1) การเกิดสนิมของเหล็ก เกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างเหล็กน้ำ และออกซิเจน ได้ผลิตภัณฑ์เป็นสนมิ
ของเหลก็
2) การเกิดสนิมของเหล็กเป็นปฏกิ ริ ิยาระหวา่ งสารตา่ ง ๆ กบั ออกซิเจน
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นอธบิ ายปฏกิ ริ ิยาการเกดิ สนิมเหลก็ ได้
1) ดา้ นความรู้ (K) นกั เรยี นใช้ทกั ษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ โดยระบุ
2) ด้านทักษะ (P) การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีจากการเปลี่ยนแปลงของสาร
นกั เรยี นตระหนักถงึ ความสำคัญของการใช้อุปกรณก์ ารทำกิจกรรมได้
3) ด้านเจตคติ (A)
4. คณุ ลักษณะผู้เรียน ซ่ือสตั ย์สจุ ริต ม่งุ มั่นในการทำงาน
4.1 คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ
รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง
มีวนิ ยั รกั ความเปน็ ไทย
5. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ความสามารถในการสือ่ สาร: นักเรียนสามารถสอื่ สาร โดยการนำเสนอข้อมลู เก่ยี วกบั การระบุ
การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีจากการเปลีย่ นแปลงของสาร
ความสามารถในการคดิ : นักเรียนสามารถคิด โดยใชค้ วามคิดอย่างมเี หตผุ ลในการเปรียบเทยี บและ
อภปิ รายการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี: นักเรยี นสามารถใช้เทคโนโลยี โดยการสืบคน้ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั
ปฏิกิริยาเคมี
6. สาระการเรียนรู้
เมื่อเหลก็ สมั ผสั กับแกส๊ ออกชิจน และนำ้ หรือความช้ืนในอากาศ จะเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมีได้ผลิตภณั ฑ์เป็น
สนิมเหล็ก ซึ่งเป็นของแข็ง สีน้ำตาลแดง ปฏิกิริยาเคมีนี้เรียกว่า การเกิดสนิมเหล็ก (rusting) ผลของการ
เปลยี่ นแปลงนที้ ำใหเ้ หล็กเกิดการผุกรอ่ น เขียนแทนได้ด้วยสมการขอ้ ความ ดงั น้ี
เหลก็ + แกส๊ ออกซเิ จน + นำ้ → สนิมเหล็ก
สนมิ (rust) เป็นโลหะสว่ นทีม่ ีการเปลยี่ นสภาพไปจากเดิม เนือ่ งจากได้รบั ปฏกิ ริ ยิ าเคมที ม่ี อี ากาศ น้ำ
หรือความร้อนเป็นตัวการสำคัญทำให้โลหะมีคุณสมบัติแตกต่างไปจากเดิม เช่น สีที่เปลี่ยนไป มีความแข็งแรง
ลดลง และทำใหเ้ กิดการผุกร่อน ตัวอย่างทเี่ ราพบเหน็ อยู่บอ่ ยๆ ได้แก่ เหลก็
วิธีการป้องกันเหล็กไม่ให้เกิดสนิมมีอยู่หลายวิธี เช่น การเคลือบผิวเหล็ก เพื่อป้องกันมิให้เนื้อเหลก็
สัมผสั กบั นำ้ และอากาศโดยตรง อาจทำได้หลายวิธี เชน่ การทาสี การชบุ ด้วยโลหะ อาทิ ดีบุก สังกะสี วิธนี ้ีมักใช้
กับชิ้นงานขนาดเล็กหรือกลาง อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของวิธีนี้คือ ผิวเคลือบชนิดนี้ สามารถหลุดออกได้ง่าย
ทั้งทางกายภาพและเคมีซึง่ จะทำใหเ้ นือ้ เหล็กมโี อกาสสัมผัสกับบรรยากาศและเกดิ สนิมขึ้น ยิ่งกว่านั้นผิวเคลอื บ
บางชนิด เชน่ ดีบุก ยงั สามารถเป็นตวั เร่งปฏิกริ ยิ าการเกดิ สนมิ ให้เร็วข้ึนอกี ด้วย
วิธตี ่อมาคอื การทำเปน็ เหล็กกล้าไร้สนมิ (stainless steel) โดยการเตมิ ธาตุอ่ืนๆ ท่สี ามารถทำให้เกิด
ชั้นฟิล์มบางๆ ขึ้นบนผิวเหล็ก เช่น โครเมียม นิกเกิล ธาตุเหล่านี้จะสร้างฟิล์มบางๆ ที่ติดแน่นบนผิวเหล็ก
ช่วยป้องกันไม่ใหเ้ นือ้ เหล็กสัมผัสกับบรรยากาศโดยตรง ผิวเคลือบชนิดนี้มีความคงทนทั้งทางกายภาพและเคมี
เหล็กกล้าไร้สนิมมีหลายเกรด แต่ละเกรดก็จะมีส่วนผสมที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความตอ้ งการในการใช้งาน
แตล่ ะประเภท
ส่วนวิธีสุดทา้ ยคือ การใช้กระแสไฟฟ้าเพอ่ื ใหเ้ หล็กมศี กั ยไ์ ฟฟา้ สูงกว่า
บริเวณใกล้เคียง ซึ่งจะทำให้เหล็กไม่เกิดการสูญเสียอิเลกตรอนและกลายเป็น
สนิม วธิ นี ้ีสามารถป้องกันการเกดิ สนิมไดใ้ นทกุ สภาพแวดล้อม แตม่ คี ่าใช้จ่ายสูง
และต้องอาศัยแหล่งกำเนิดกระแสไฟฟ้าซึ่งไม่สะดวกกับการโยกย้ายไปมา จึง
เหมาะสมสำหรับโครงสร้างใหญๆ่ ที่ต้องใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เสีย่ งต่อการ
เกิดสนิมอยา่ งรุนแรง เช่น ทอ่ ท่ีฝังอย่ใู ต้ดิน ท่อสง่ นำ้ มันใตท้ ะเล เป็นตน้
7. กิจกรรมการเรยี นรู้ ภาพแสดง การเกิดสนิมเหล็ก
ใชร้ ูปแบบการจัดการเรยี นการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (1 ช่วั โมง; 60นาที)