9.1 เกณฑ์การประเมนิ ผลนักเรียน เกณฑก์ ารประเมิน (Rubrics Score)
ประเดน็ การประเมิน ค่าน้ำหนกั แนวทางการให้คะแนน
คะแนน
การให้คะแนนตอบ ตอบคำถามท้ายกิจกรรมที่ 6.5 ถูกตอ้ ง จำนวน 3 ขอ้
คำถามทา้ ย 3 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมท่ี 6.5 ถูกตอ้ ง จำนวน 2 ข้อ
กจิ กรรมท่ี 6.5 2 ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท่ี 6.5 ถกู ตอ้ ง จำนวน 1 ขอ้ หรอื ไมถ่ ูกตอ้ ง
1
ประเดน็ การประเมนิ คา่ น้ำหนกั แนวทางการให้คะแนน
การใหค้ ะแนนการบันทึก คะแนน
แบบบันทึกการค้นควา้ บันทึกผลการทำกจิ กรรม จากการสรา้ งแบบจำลอง โดยเขียนแผนภาพ
3 แสดงการตอ่ ตวั ตา้ นทานแบบขนานได้อยา่ งถกู ต้อง ระบุสัญลักษณ์ได้
กจิ กรรมที่ 6.4 2 สอดคลอ้ งกับกจิ กรรมท่กี ำหนดให้
1 บันทึกผลการทำกิจกรรม จากการสรา้ งแบบจำลอง โดยเขียนแผนภาพ
การให้คะแนนพฤติกรรม แสดงการตอ่ ตัวต้านทานแบบขนานได้ แต่มีข้อผดิ พลาด โดยระบสุ ัญลักษณ์
คุณลกั ษณะการมจี ิต 3 ไม่สอดคลอ้ งกับกิจกรรมท่ีกำหนด
สาธารณะ บันทกึ ผลการทำกจิ กรรม จากการสรา้ งแบบจำลอง โดยเขยี นแผนภาพ
2 แสดงการต่อตวั ต้านทานแบบขนานและระบสุ ัญลักษณ์ ไม่สอดคล้องกับ
กิจกรรมทก่ี ำหนด
1 1) ดูแลรักษาอุปกรณท์ างวทิ ยาศาสตร์และทรัพย์สนิ ภายในห้องเรียน
ของนกั เรียนทุกคร้ังหลังการใช้งาน
2) มีจิตอาสาช่วยเหลือการทำงานกลมุ่ รว่ มกับผ้อู ื่น จึงไม่เกดิ ปัญหา
ภายในกลุม่
1) ดูแลรักษาอุปกรณ์ทางวทิ ยาศาสตร์และทรัพย์สนิ ภายในห้องเรียน
แตเ่ กิดอุบัติเหตุ ทำให้อุปกรณ์เสียหาย
2) ไมม่ จี ิตอาสาและไมช่ ่วยเหลือการทำงานกลมุ่ ทำให้เกิดปญั หาภายในกล่มุ
แต่สามารถแก้ปญั หาได้
1) ไมด่ แู ลอปุ กรณ์ทางวทิ ยาศาสตร์และและทรพั ยส์ ินภายในห้องเรียนหลัง
การใชง้ าน
2) ไม่มีจติ อาสาและไม่ช่วยเหลอื การทำงานกลุม่ ทำให้เกิดปัญหาภายในกลุ่ม
9.2 ระดับคณุ ภาพ
คะแนนรวมเฉลย่ี 3.00 หมายถึง ดมี าก
คะแนนรวมเฉลย่ี 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้
ดังนนั้ นกั เรยี นต้องไดค้ ะแนนเฉล่ียทุกประเดน็ การประเมนิ ไมต่ ำ่ กวา่ 2.00 แสดงระดบั
คุณภาพ ดี ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในแผนการจัดการเรยี นท่ี 16
ส่ือการเรียนรแู้ ผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 16: สอ่ื อินเตอรแ์ อ็กทีฟซมิ ูเลชัน
ส่อื อินเตอรแ์ อก็ ทฟี ซิมูเลชัน ตอน วงจรไฟฟา้
สื่ออินเตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชัน ตอน วงจรไฟฟ้า เป็นสื่อประกอบการจัดการเรียนการสอนวิชา
วิทยาศาสตร์ ในระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ทจ่ี ะช่วยให้นักเรียนเขา้ ใจวงจรไฟฟ้ามากขนึ้ โดยนักเรียนสามารถ
สร้างวงจรไฟฟา้ จำลองไดต้ ามตอ้ งการ และสามารถวดั คา่ ทางไฟฟ้าได้
แหล่งที่มา: เว็บไซต์อา้ งอิง http://ipst.me/10653
เผยแพร่เม่อื 2 กนั ยายน พ.ศ. 2562
(เจ้าของผลงาน สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.))
สอ่ื การเรยี นรแู้ ผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 16: ใบกิจกรรมท่ี 6.5
ใบกิจกรรมท่ี 6.5 วงจรไฟฟา้ แบบขนานเป็นอยา่ งไร
หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เล่ม 2 ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 87
กจิ กรรมที่ 6.5 วงจรไฟฟ้าแบบขนานเปน็ อยา่ งไร?
จุดประสงค์ วเิ คราะห์ความต่างศักย์ไฟฟา้ และกระแสไฟฟา้ ของวงจรไฟฟา้ เม่อื ตอ่ อปุ กรณไ์ ฟฟ้า
หลายตัวแบบขนาน และเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าการต่ออุปกรณไ์ ฟฟา้ แบบขนาน
วัสดุอปุ กรณ์ วสั ดทุ ่ีใชต้ อ่ กลุ่ม
1. ถ่านไฟฉายขนาด 1.5 V
2. กระบะถา่ นแบบ 4 ก้อน 2 กอ้ น
3. สายไฟฟ้า 1 อัน
4. หลอดไฟฟา้ 2.5 V พร้อมฐาน 9 เส้น
1 ชดุ
5. หลอดไฟฟ้าขนาด 6 V พร้อมฐาน 1 ชดุ
6. สวติ ช์แบบโยก 1 อัน
7. แอมมิเตอร์ 1 เครอ่ื ง
8. โวลต์มเิ ตอร์ 1 เครื่อง
วธิ ีดาเนินกิจกรรม 1. ต่อวงจรไฟฟ้าที่ประกอบดว้ ยถ่านไฟฉาย 2 ก้อน
สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า ก ขนาด 2.5 โวลต์ ภาพการจดั อุปกรณใ์ นกจิ กรรม
หลอดไฟฟ้า ข ขนาด 6 โวลต์ และสวติ ช์ ดังภาพ
2. กดสวติ ซ์ลงเพ่อื ใหว้ งจรปดิ นาโวลต์มิเตอร์วัด
ค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างจุด BC ดังภาพ
บันทกึ ผล จากน้นั วัดค่าความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้า
ระหว่างจดุ DE และ AF บันทึกผลแลว้ ยกสวติ ช์ข้ึน
3. น าแอมมิเตอร์วัดค่ากระแสไฟฟ้าที่จุด A
ดังภาพ กดสวิตซ์ลง เพื่อให้วงจรปิด บันทึกผล ภาพการจัดอุปกรณ์ในกิจกรรม
แล้วยกสวติ ช์ขนึ้ จกนนั้ วัดค่ากระแสไฟฟ้าทจี่ ุด B
D และ F บันทกึ ผล
4. เขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าในข้อ 1 พร้อมระบุ
ขนาดและทิศทางของกระแสไฟฟ้าท่ีผ่านจุด A B
D และ F และค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างจดุ
BC DE และ AF นาเสนอ
ภาพการจดั อุปกรณใ์ นกิจกรรม
กิจกรรมที่ 6.5 วงจรไฟฟ้าแบบขนานเปน็ อยา่ งไร?
การเตรียมตัว • ครูควรตรวจสอบคุณภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยูใ่ นสภาพพร้อมใช้งาน
ล่วงหนา้ สาหรบั ครู • ครคู วรฝกึ การใชแ้ อมมิเตอรแ์ ละโวลต์มิเตอร์จนเกดิ ความม่ันใจ
ขอ้ เสนอแนะใน • ครูสามารถทดลองเสมอื นจริงดว้ ยสื่ออนิ เตอร์แอ็กทฟี ซมิ ูเลชนั สาหรบั ทากิจกรรมใน
การทากิจกรรม กรณีที่
อุปกรณ์ไม่เพียงพอ หรอื ในกรณีทต่ี ้องการใหน้ กั เรยี นไปฝึกฝนนอกเวลาเรียน
• ไม่ควรใชถ้ า่ นไฟฉายมากกว่า 2 กอ้ น เพราะจะทาให้ความต่างศกั ยไ์ ฟฟา้ มากกวา่
หลอดไฟฟา้
ขนาด 2.5 V อาจทาให้หลอดไฟฟา้ เสียหายได้
สอ่ื การเรียนร/ู้ • ส่ือการเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า CircutiLab
แหล่งเรยี นรู้ https://www.circuitlab.com/
• สอื่ อนิ เตอรแ์ อก็ ทีฟซมิ ูเลชัน ตอน วงจรไฟฟ้า
http://ipst.me/10653
คำถามท้ายกิจกรรม
1. ในการตอ่ หลอดไฟฟา้ สองหลอดแบบขนาน คา่ กระแสไฟฟ้าที่จุด A B D และ F เปน็ อย่างไร
2. คา่ ความต่างศกั ยไ์ ฟฟา้ ระหว่างจุด BC DE และ AF เปน็ อยา่ งไร
3. จากกิจกรรม สรปุ ไดว้ า่ อยา่ งไร
สอื่ การเรียนร้แู ผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16: แบบบนั ทึกการค้นควา้ กจิ กรรมท่ี 6.5
แบบบนั ทึกการค้นควา้ กิจกรรมที่ 6.5 วงจรไฟฟ้าแบบขนานเป็นอย่างไร
ชอื่ -นามสกลุ ..........................................................................................ชนั้ .................เลขที่...........กลุ่มท.ี่ ...........
ตารางบนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม
ตารางแสดง ค่าความตา่ งศักยไ์ ฟฟ้าระหว่างจุดตา่ ง ๆ
ค่าความต่างศกั ย์ไฟฟ้าระหวา่ งจุดต่าง ๆ (V)
BC DE AF
………………….………. ………………….………. ………………….……….
ตารางแสดง คา่ กระแสไฟฟ้าท่จี ุดต่าง ๆ
ค่ากระแสไฟฟ้าทจ่ี ดุ ต่าง ๆ (A)
ABDF
………………….………. ………………….………. ………………….………. ………………….……….
แผนภาพวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม
คำถามท้ายกิจกรรม
1. ในการตอ่ หลอดไฟฟ้าสองหลอดแบบขนาน ค่ากระแสไฟฟา้ ท่จี ดุ A B D และ F เปน็ อยา่ งไร
ตอบ ………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ค่าความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ระหว่างจดุ BC DE และ AF เปน็ อยา่ งไร
ตอบ ………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากกจิ กรรม สรุปได้วา่ อยา่ งไร
ตอบ ………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบทา้ ยแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 16: การให้คะแนนด้านกระบวนการ (P)
แนวทางบันทึกการคน้ คว้ากจิ กรรมท่ี 6.5 วงจรไฟฟา้ แบบขนานเปน็ อย่างไร
ตารางบันทกึ ผลการทำกจิ กรรม
ตารางแสดง ค่าความต่างศักยไ์ ฟฟ้าระหว่างจดุ ต่าง ๆ
คา่ ความตา่ งศักย์ไฟฟ้าระหวา่ งจดุ ตา่ ง ๆ (V)
BC DE AF
……………2.3...………. ……………2.3...………. ……………2.3...……….
ตารางแสดง ค่ากระแสไฟฟา้ ท่ีจุดต่าง ๆ F
……………0.6……….
คา่ กระแสไฟฟ้าทจี่ ดุ ตา่ ง ๆ (A)
ABD
……………0.6….………. ……………0.25.………. ………..0.35….……….
แผนภาพวงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม
แนบท้ายแผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 16: การให้คะแนนด้านความรู้ (K)
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 6.5 วงจรไฟฟ้าแบบขนานเปน็ อยา่ งไร
เฉลยคำถามทา้ ยกิจกรรม
1. ในการต่อหลอดไฟฟ้าสองหลอดแบบขนาน ค่ากระแสไฟฟา้ ที่จดุ A B D และ F เปน็ อยา่ งไร
แนวคำตอบ คา่ กระแสไฟฟา้ ทีจ่ ดุ A จะเทา่ กบั F ซึ่งมคี ่ามากกว่าจุด B และ D โดยค่ากระแสไฟฟ้าท่ีจดุ B
และ D รวมกนั จะเทา่ กับจุด A และ F
2. คา่ ความตา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ระหว่างจุด BC DE และ AF เป็นอย่างไร
แนวคำตอบ คา่ ความต่างศกั ย์ไฟฟ้าเทา่ กัน
3. จากกิจกรรม สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร
แนวคำตอบ ในการต่อหลอดไฟฟ้าสองหลอดแบบขนาน ความต่างศกั ยไ์ ฟฟา้ ของหลอดไฟฟา้ ทงั้ สอง
จะเทา่ กันและเทา่ กับความต่างศักยไ์ ฟฟา้ รวมของวงจร กระแสไฟฟา้ ท่ีผ่านหลอดไฟฟา้ แตล่ ะหลอดรวมกันจะ
เทา่ กับกระแสไฟฟา้ รวมของวงจร
แนบทา้ ยแผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 16: VDO ปฏิบัตกิ ารทางวทิ ยาศาสตร์สำหรับครูผสู้ อน
อ้างอิงจาก https://ipst.me/9530
เวบ็ ไซต์คลงั ความรู้ SciMath สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
กระทรวงศึกษาธกิ าร เผยแพรเ่ มอ่ื : วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561
สาธิตการทดลองเร่อื ง วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมและขนานเปน็ อย่างไร
ตัวอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อให้นักเรียนหาคำตอบว่าวงจรไฟฟ้า
แบบอนุกรมและขนานเป็นอย่างไร โดยให้นกั เรยี นทำตอ่ วงจรไฟฟ้าเพ่ืออธิบายคา่ กระแสไฟฟ้าและค่าความต่าง
ศกั ย์ไฟฟา้ ของวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมและขนาน เหมาะสำหรบั นกั เรยี นระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
ลขิ สิทธิ์ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
ผแู้ ตง่ หรือ เจ้าของผลงาน สาขาวิทยาศาสตรภ์ าคบงั คับ
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา วทิ ยาศาสตรท์ ั่วไป
ระดบั ชัน้ ม.3
กลุ่มเปา้ หมาย ครู
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 17
เรอื่ ง ออกแบบวงจรไฟฟ้าในห้อง รหสั วชิ า ว23102 เวลา 2 ชวั่ โมง
รวม 22 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ ไฟฟ้า ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 2
มาตรฐาน ว 2.3
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระท่ี 2 ชอ่ื สาระ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลงั งาน พลังงานในชีวิตประจำวนั ธรรมชาติของคลน่ื ปรากฏการณท์ ี่เกีย่ วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคลื่น
แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
ตัวชี้วัด
ว 2.3 ม.3/4 วิเคราะห์ความตา่ งศักยไ์ ฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเมอ่ื ต่อตวั ต้านทานหลายตัว
แบบอนกุ รมและแบบขนานจากหลักฐานเชิงประจักษ์
ว 2.3 ม.3/5 เขยี นแผนภาพวงจรไฟฟา้ แสดงการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรมและแบบขนาน
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
1) ในวงจรไฟฟ้าประกอบดว้ ยแหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้า สายไฟฟ้าและอุปกรณไ์ ฟฟ้า โดยอุปกรณ์ไฟฟา้ แตล่ ะ
ชิ้นมีความตา้ นทานในการต่อตวั ตา้ นทานหลายตัว มที งั้ ตอ่ แบบอนุกรมและแบบขนาน
2) การต่อตัวต้านทานหลายตัวแบบอนุกรมในวงจรไฟฟ้า ความต่างศักย์ที่คร่อมตัวต้านทานแต่ละตัว
มีค่าเท่ากับผลรวมของความต่างศักย์ทีค่ ร่อมตัวตา้ นทานแต่ละตัว โดยกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวต้านทานแต่ละตวั
มีค่าเท่ากนั
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นบรรยายวธิ ีการเขยี นแผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตัวต้านทาน
1) ดา้ นความรู้ (K) แบบอนกุ รมและขนานได้
นกั เรียนใช้ทกั ษะการสรา้ งแบบจำลอง โดยออกแบบวงจรไฟฟา้ ในหอ้ ง
2) ดา้ นทักษะ (P) นักเรยี นมคี วามมงุ่ ม่นั และรบั ผิดชอบในการทำงาน
3) ดา้ นเจตคติ (A)
4. คุณลักษณะผู้เรยี น
4.1 คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์
รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสตั ย์สจุ รติ มุ่งมัน่ ในการทำงาน
มวี นิ ัย รกั ความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจติ สาธารณะ
5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ความสามารถในการส่ือสาร: นกั เรียนสามารถสื่อสาร โดยการนำเสนอขอ้ มลู จากการสังเกต การวัด
การปฏิบัติกิจกรรม และการอภิปราย มาอธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้าและ
กระแสไฟฟ้าของการตอ่ ตัวตา้ นทานแตล่ ะแบบ
6. สาระการเรยี นรู้
วงจรไฟฟา้ โดยทว่ั ไปอาจมีการต่ออุปกรณไ์ ฟฟ้าแบบผสม คอื มกี ารต่อทง้ั แบบอนุกรมและแบบขนาน
ทงั้ น้ีข้นึ อยู่กบั ความต้องการในการใชง้ าน
วงจรไฟฟ้าในบา้ น จะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟา้ หลายชนดิ ประกอบด้วยแผงควบคุมไฟฟ้า
ซึ่งมีสะพานไฟและฟิวสอ์ ยูภ่ ายใน สวิตซ์ เตา้ รบั และเตา้ เสียบทีเ่ ช่อื มต่ออยกู่ ับอุปกรณไ์ ฟฟ้าหรอื เครอื่ งใช้ไฟฟา้
การต่อวงจรไฟฟ้าภายในบ้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นการต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ใน
วงจรไฟฟา้ เช่น ฟวิ ส์ สะพานไฟ สวิตซ์ ซง่ึ ใช้การต่อแบบอนกุ รม
การต่ออุปกรณ์ไฟฟ้แบบอนุกรม ช่วยให้ราสามารถควบคุมวงจรไฟฟ้าภายในบ้านหรือควบคุม
เฉพาะส่วนให้วงจรปิดหรือเปิดตามความต้องการ นั่นคือเราสามารถจา่ ยไฟฟ้าให้เคร่ืองใช้ไฟฟ้าทำงานและหยุด
จา่ ยไฟฟ้าเม่อื เลิกใชง้ านเครื่องใช้ไฟฟ้าน้นั ถา้ วงจรไฟฟ้ามีกระแสไฟฟ้าผ่านในปรมิ าณมากเกินปกตหิ รอื เกดิ ไฟฟ้า
ลดั วงจร เรากส็ ามารถตัดวงจรไฟฟ้าในบ้านท้ังหมดหรอื บางส่วนเพ่อื ความปลอดภยั ไดด้ ว้ ยการใชฟ้ ิวส์และสะพาน
ไฟได้
วงจรไฟฟา้ ภายในบ้านส่วนที่ 2 เป็นการ
ตอ่ เคร่อื งใช้ไฟฟ้าตา่ ง ๆ เช่น หม้อหุงขา้ ว ตูเ้ ย็น พดั
ลม หลอดไฟฟ้า ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่าน้ีใช้การต่อ
เขา้ กบั วงจรภายในบา้ นแบบขนาน เมื่อเครื่องใช้
ไฟฟา้ ชนดิ ใดชนิดหนึ่งเกิดขัดข้องหรือขำรุดเสียหาย
เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ ยังคงใช้งานได้ตามปกติ
นอกจากนี้การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านแบบขนาน
ยังทำให้สามารถเพิ่มเคร่ืองใช้ไฟฟ้าเขา้ ไปในวงจรได้
โดยไมม่ ีผลต่อเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ เครอื่ งอนื่ ดังภาพ ภาพแสดง การตอ่ เคร่ืองใช้ไฟฟา้ เขา้ กับ
เมื่อเราสังเกตการต่อวงจรไฟฟ้าภายใน วงจรไฟฟ้าในบา้ นแบบขนาน
บา้ นจะพบวา่ สายไฟฟ้าจะมฉี นวนหมุ้ เพอ่ื ป้องกัน
ไม่ให้ลวดตัวนำในสายไฟฟ้าแตะกัน ถ้าลวดตัวนำแตะกันจะทำให้กระแสไฟฟ้าจำนวนมากเคลื่อนที่ผ่านส่วน
ที่แตะกันโดยไม่ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า เรียกว่า ไฟฟ้าลัดวงจร (short circuit) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความร้อนสูง
และเป็นต้นเหตุให้เกิดไฟไหม้ ดังนั้นควรตรวจสภาพสายไฟฟ้าอยู่เสมอ ถ้าพบว่าสายไฟฟ้าชำรุดควรปลี่ยน
สายไฟฟ้าใหม่เพอ่ื ความปลอดภยั
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ใช้รปู แบบการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ช่วั โมง; 120นาที)
ขั้นท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement) (20 นาที)
1) ครูและนกั เรียนสนทนาร่วมกัน เพ่ือกระต้นุ ความสนใจของนกั เรยี น โดยครูใชค้ ำถามกระตุ้น
ความคิดดังนี้
- ถ้าเราต้องการต่ออุปกรณ์ไฟฟา้ เพิ่มในวงจรไฟฟา้ ในบา้ น ควรตอ่ แบบใด เพราะเหตุใด
(แนวคำตอบ ควรตอ่ แบบขนาน เพราะเม่อื อุปกรณ์ไฟฟ้าตัวใดตวั หนึ่งชำรดุ อปุ กรณท์ ี่เหลือกย็ ัง
ทำงานต่อไปไดแ้ ละเพราะตอ้ งการให้ความต่างศกั ย์ไฟฟา้ คร่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าเท่ากัน เทา่ กับความต่างศักย์ไฟฟ้า
ของบ้านคอื 220 โวลต)์
2) ครใู ชส้ อื่ คลิปวีดิทัศน์ เรอ่ื ง ไฟฟา้ ลัดวงจรเป็นอยา่ งไร สบื คน้ ไดจ้ าก http://ipst.me/9879
เพือ่ ให้นกั เรยี นตระหนกั ถึงความสำคญั ของการใชง้ านไฟฟา้ ภายในบ้าน ทีอ่ าจเกดิ อนั ตรายจากไฟฟา้ ลัดวงจร
ถา้ ไมร่ ้จู ักวธิ ีการใชง้ านไฟฟา้ ภายในบา้ น
ขน้ั ที่ 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration) (40 นาที)
3) ครูเชอ่ื มโยงเข้าสกู่ ิจกรรมที่ 6.5 วงจรไฟฟ้าแบบขนานเป็นอย่างไร โดยใช้คำถามสำคัญของ
บทและอภิปรายร่วมกนั ซึ่งนักเรยี นควรตอบคำถามสำคัญดังกลา่ วได้ ดงั น้ี
- กระแสไฟฟ้า ความตา่ งศักย์ไฟฟา้ และความต้านทานไฟฟ้ามคี วามสมั พันธก์ นั อย่างไร
(แนวคำตอบ กระแสไฟฟา้ และความต่างศักย์ไฟฟ้าของตวั นำไฟฟา้ ชนิดหนึง่ จะมีความสัมพันธ์
กันโดยเมื่อความต่างศักย์ไฟฟ้ามีค่ามากขึ้น กระแสไฟฟ้ากม็ ากขึ้นด้วย เขียนกราฟระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้า
และกระแสไฟฟ้าได้เป็นกราฟเส้นตรง โดยอัตราส่วนระหว่างความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้ามีค่า คงที่
เรียกวา่ ความตา้ นทานไฟฟา้ )
- วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนานแตกต่างกนั อย่างไร
(แนวคำตอบ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมจะต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบเรียงกันไป ค่ากระแสไฟฟ้าที่
จุดต่าง ๆ จะเท่ากัน ส่วนค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าแต่ละจุดจะไม่เท่ากัน โดยความต่างศักย์ไฟฟ้าคร่อมอุปกรณ์
ไฟฟา้ แตล่ ะตวั รวมกนั จะเทา่ กบั ความต่างศักย์ไฟฟ้ารวมของวงจร ส่วนวงจรไฟฟา้ แบบขนานจะต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า
แบบครอ่ มกนั ไป คา่ ความต่างศักย์ไฟฟ้าคร่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละตวั จะเท่ากนั และกระแสไฟฟ้าท่ีผ่านอุปกรณ์
ไฟฟา้ แตล่ ะตวั รวมกนั จะเท่ากบั กระแสไฟฟา้ รวมของวงจร)
4) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 93 และครูตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอา่ น โดยใชค้ ำถามดงั ตอ่ ไปน้ี
- กจิ กรรมน้ีเก่ียวกับเร่ืองอะไร (ออกแบบวงจรไฟฟา้ )
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (ออกแบบวงจรไฟฟ้าในห้องโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับวงจรไฟฟา้
อย่างงา่ ย)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ออกแบบและเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้าตาม
เงื่อนไขที่กำหนด โดยใช้ถ่านไฟฉายแทนแหล่งจ่ายไฟฟ้าและใช้หลอดไฟฟ้าขนาด 6 โวลต์ แทนหลอดไฟฟ้าใน
ห้อง แล้วต่อวงจรไฟฟ้าตามที่ได้ออกแบบไว้ บันทึกผล นำเสนอและเปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของการต่อ
วงจรแตล่ ะแบบ)
5) ขณะที่นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลมุ่
และให้คำแนะนำ ถ้านักเรียนมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ที่อาจเป็นปัญหา ซึ่งครูควรรวบรวมปัญหา และ
ข้อสงสยั ทพี่ บจากการทำกิจกรรมของนักเรียนเพ่อื ใช้เป็นขอ้ มลู ประกอบการอภปิ รายหลงั จากการทำกิจกรรม
ข้นั ที่ 3 ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) (20 นาที)
6) นักเรียนบันทึกการทำกิจกรรมลงในแบบบันทึกการค้นคว้ากิจกรรมท้ายบท ออกแบบ
วงจรไฟฟา้ ในห้อง โดยการตอบคำถามท้ายกิจกรรม และร่วมกันสรุปผลของกจิ กรรม
ขั้นที่ 4 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที)
7) นกั เรียนทดสอบการตอ่ วงจรไฟฟ้า จากการเขยี นแผนผงั วงจรไฟฟา้ ที่ออกแบบไว้ โดยใช้การ
ต่อวงจรไฟฟ้าในสถานการณ์จำลอง สือ่ อนิ เตอรแ์ อก็ ทฟี ซิมเู ลชัน ตอน วงจรไฟฟา้ โดยใชโ้ ปรแกรมออนไลน์ ตาม
link ดังนี้ http://ipst.me/10653 เพื่อให้นักเรียนทดสอบการสร้างวงจรไฟฟ้าจำลองได้ตามต้องการ และ
สามารถวัดค่าทางไฟฟา้ ได้
ขัน้ ท่ี 5 ข้นั ประเมิน (Evaluation) (20 นาที)
8) ครูและนักเรียนอภิปรายผลการทำกิจกรรม ออกแบบวงจรไฟฟ้าในห้อง และสรุปประเด็น
เรื่องวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย โดยใช้แผนผังมโนทัศน์ (แนบท้ายแผนการจัดการเรียนรู้) จะได้ข้อสรุปว่า
การออกแบบวงจรไฟฟ้าในห้อง ควรใช้การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน เพราะเมื่อหลอดไฟฟา้ หลอดใดหลอดหน่ึง
เสียหาย หลอดที่เหลือก็ยังใช้งานได้ และในแต่ละหลอดจะต่อกับสวิตช์แบบอนุกรม เพื่อควบคุมการปิดเปิด
ของวงจรไฟฟา้
9) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมิน (Rubrics Score)
8. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้
8.1 อปุ กรณท์ ำกิจกรรม: 1) ถ่านไฟฉายขนาด 1.5 V 2) กระบะถา่ นแบบ 4 ก้อน
3) สายไฟฟา้ 4) หลอดไฟฟา้ ขนาด 6 V พร้อมฐาน 5) สวิตชแ์ บบโยก
8.2 สถานการณจ์ าลอง: ส่ืออนิ เตอร์แอ็กทีฟซิมูเลชนั ตอน วงจรไฟฟา้
8.3 แผนภาพ: แสดงผังมโนทศั น์ เรอ่ื งวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
8.4 ใบกจิ กรรม: ใบกิจกรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟ้าในห้องไดอ้ ย่างไร
8.5 แบบบันทกึ กจิ กรรม: แบบบนั ทกึ การค้นคว้ากจิ กรรมท้ายบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในหอ้ งไดอ้ ย่างไร
8.6 แหลง่ เรียนร้:ู หนงั สอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3
เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ
9. การวดั และการประเมนิ
ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ วิธกี ารวัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์ท่ีใชใ้ นการประเมิน
1. บรรยายวิธกี ารเขียน
แผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดง - ตรวจการตอบคำถาม - คำถามทา้ ยกิจกรรมทา้ ยบท - ไดไ้ ม่น้อยกวา่ 2 คะแนน
การตอ่ ตัวตา้ นทานแบบ
อนุกรมและขนานได้ ท้ายกิจกรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟ้าใน ระดับคุณภาพดี ถอื ว่า
(ดา้ นความรู้: K)
2. การใช้ทกั ษะการสร้าง หอ้ งไดอ้ ย่างไร ผา่ นการประเมนิ
แบบจำลอง โดยออกแบบ
วงจรไฟฟา้ ในห้อง จำนวน 3 ข้อ ดา้ นความรู้
(ดา้ นกระบวนการ: P)
- ตรวจการทำแบบ - แบบบันทึกการค้นคว้า - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน
3. ความมุ่งมั่นในการ
ทำงานและความ บนั ทกึ การคน้ ควา้ กจิ กรรมทา้ ยบท ระดับคุณภาพดี ถอื วา่
รบั ผดิ ชอบ
(ด้านเจตคติ: A) กิจกรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟ้าใน ผา่ นการประเมนิ
ห้องไดอ้ ย่างไร ดา้ นกระบวนการ
- สังเกตพฤติกรรมของ - เกณฑ์การประเมนิ ความ - ไดไ้ มน่ ้อยกวา่ 2 คะแนน
นักเรียนระหวา่ งและ มงุ่ ม่นั และความรบั ผดิ ชอบ ระดับคณุ ภาพดี ถือวา่
หลงั การจัดกิจกรรม ในการทำกิจกรรมการ ผ่านการประเมนิ
การเรียนรู้ เรียนรู้ ด้านเจตคติ
9.1 เกณฑ์การประเมนิ ผลนกั เรียน เกณฑ์การประเมนิ (Rubrics Score)
ประเดน็ การประเมิน ค่านำ้ หนกั แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การให้คะแนนตอบ ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท้ายบท ถูกตอ้ ง จำนวน 3 ขอ้
คำถามทา้ ย 3 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมทา้ ยบท ถกู ต้อง จำนวน 2 ข้อ
2 ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท้ายบท ถูกต้อง จำนวน 1 ข้อ หรอื ไมถ่ กู ตอ้ ง
กิจกรรมท้ายบท 1
ประเด็นการประเมิน ค่านำ้ หนัก แนวทางการใหค้ ะแนน
การใหค้ ะแนนการบันทกึ คะแนน
แบบบันทกึ การคน้ คว้า บันทึกผลการทำกจิ กรรม จากการสรา้ งแบบจำลอง โดยเขยี นแผนภาพ
3 ได้ถกู ต้อง แสดงวงจรไฟฟ้าในห้องโดยใช้ความรูเ้ กี่ยวกบั วงจรไฟฟ้าอย่าง
กิจกรรมท้ายบท 2 ง่าย ระบสุ ญั ลักษณ์ได้สอดคล้องกับกจิ กรรมท่ีกำหนดให้
1 บันทึกผลการทำกิจกรรม จากการสร้างแบบจำลอง โดยเขยี นแผนภาพ
การใหค้ ะแนนพฤติกรรม แสดงวงจรไฟฟา้ ในหอ้ งโดยใชค้ วามรเู้ กยี่ วกบั วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ยได้
ความมุ่งม่นั และความ 3 แต่มีขอ้ ผิดพลาด โดยระบสุ ัญลักษณ์ไม่สอดคล้องกบั กิจกรรมทีก่ ำหนด
รับผิดชอบในการทำ บันทึกผลการทำกจิ กรรม จากการสรา้ งแบบจำลอง โดยเขยี นแผนภาพ
กิจกรรมการเรยี นรู้ 2 แสดงวงจรไฟฟ้าในห้องโดยใชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่าย
ไม่สอดคลอ้ งกบั กิจกรรมทีก่ ำหนด
1 1) นักเรียนมคี วามสนใจและมุง่ มน่ั ในการทำกจิ กรรม ใหค้ วามร่วมมือ
และปฏบิ ัติตามขัน้ ตอนการเรียนรเู้ ป็นอย่างดี
2) นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบทำงานที่ไดร้ บั มอบหมายไดต้ รงเวลาที่
กำหนดเปน็ อยา่ งดี
1) นกั เรียนสนใจและมุ่งม่นั ในการทำกจิ กรรมเปน็ บางครง้ั และมีการคยุ
กนั เลน่ ขณะการเรยี นรู้ แตไ่ มก่ ระทบผ้อู น่ื
2) นกั เรยี นมีความรับผดิ ชอบทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมายตรงตามเวลาที่
กำหนด แต่เกิดปญั หาระหว่างการทำงาน
1) นกั เรียนขาดความมุ่งม่ันและไม่สนใจในการเรยี น มีพฤตกิ รรมชอบคยุ
ชอบเลน่ หรอื นอนหลับขณะการเรียนการสอน
2) นักเรียนขาดความรบั ผิดชอบในงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายไมต่ รงตาม
กำหนดเวลาท่ีตกลงไว้
9.2 ระดับคุณภาพ หมายถึง ดมี าก
หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉลย่ี 3.00 หมายถึง พอใช้
คะแนนรวมเฉล่ีย 2.00 - 2.99
คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99
ดงั นนั้ นกั เรยี นต้องได้คะแนนเฉล่ียทุกประเด็นการประเมิน ไม่ต่ำกว่า 2.00 แสดงระดบั
คุณภาพ ดี ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในแผนการจัดการเรียนที่ 17
สอื่ การเรียนรู้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17: สอื่ วีดทิ ัศน์
คลิปวีดีทัศน์: ไฟฟ้าลดั วงจรเป็นอยา่ งไร
สอ่ื วีดทิ ศั น์เรอื่ ง ไฟฟ้าลดั วงจรเป็นอย่างไร อธิบายเกี่ยวขอ้ งกบั การเกดิ ไฟฟา้ ลัดวงจรเป็นอย่างไร โดยให้
นักเรียนตอ่ วงจรไฟฟา้ จำลองการเกิดไฟฟา้ ลัดวงจร
แหล่งที่มา: เว็บไซต์อา้ งองิ ipst.me/9879
เผยแพรเ่ มอื่ 27 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2562
(เจ้าของผลงาน สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.))
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 17: แผนภาพแสดงผงั มโนทศั น์
แผนผังมโนทศั น์ เร่ืองวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
ส่ือการเรียนรแู้ ผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 17: ใบกจิ กรรมท้ายบท
ใบกิจกรรมท้ายบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในหอ้ งได้อย่างไร
หนังสือเรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เลม่ 2 ตามหลกั สูตรแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 93
กิจกรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในหอ้ งได้อย่างไร?
จุดประสงค์
วัสดอุ ปุ กรณ์ ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในห้องโดยใชค้ วามรู้เกยี่ วกับวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
วิธีดาเนินกิจกรรม วัสดุที่ใช้ตอ่ กลุ่ม
1. ถ่านไฟฉายขนาด 1.5 V 4 กอ้ น
2. กระบะถ่านแบบ 4 กอ้ น 1 อัน
3. สายไฟฟา้ 14 เส้น
4. หลอดไฟฟา้ ขนาด 6 V พรอ้ มฐาน 5 ชดุ
5. สวิตชแ์ บบโยก 4 อัน
ถ้านกั เรยี นเป็นวิศวกร ไดร้ ับการวา่ จ้างจากเจ้าของโรงแรมแห่งหนง่ึ ใหอ้ อกแบบ
วงจรไฟฟา้ ทีใ่ หแ้ สงสว่างในหอ้ งพกั โดยมีรายละเอยี ดดังน้ี
มหี ลอดไฟฟา้ ทง้ั หมด 5 หลอด แตล่ ะหลอดกาหนดใหต้ ิดต้งั ในตาแหนง่ ต่าง ๆ
ดงั นี้ อยูท่ ีเ่ พดานบริเวณทางเข้าหอ้ งพกั ในห้องนา้ เหนอื เตยี งนอน เหนือโตะ๊ ทางน
และระเบียง หลอดไฟฟ้าแต่ละหลอดมีสวติ ช์ ยกเวน้ หลอดไฟฟ้า บรเิ วณเหนือเตยี ง
นอนและโต๊ะทางานทใี่ ช้สวิตช์ตวั เดียวกัน แหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้ามาจากแหล่งจา่ ยไฟฟา้
ทีอ่ ย่นู อกห้อง
1. ออกแบบและเขยี นแผนภาพวงจรไฟฟ้า
ตามเง่อื นไขท่กี าหนด โดยใชถ้ ่านไฟฉาย
แทนแหลง่ จ่ายไฟฟา้ และใช้หลอดไฟฟ้า
ขนาด 6 โวลต์ แทนหลอดไฟฟา้ ในห้อง
2. ตอ่ วงจรไฟฟา้ ตามที่ได้ออกแบบไว้
บนั ทึกผล
3. นาเสนอแผนภาพการต่อวงจรและ
เปรยี บเทียบขอ้ ดแี ละขอ้ จากัดของการ
ตอ่ วงจรแตล่ ะแบบ
ภาพ แผนผงั ห้อง
กจิ กรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในหอ้ งไดอ้ ย่างไร?
การเตรยี มตัว ครูควรตรวจสอบคุณภาพของอปุ กรณ์ไฟฟ้าให้อยูใ่ นสภาพพร้อมใช้งาน
ลว่ งหนา้ สาหรับครู
ขอ้ เสนอแนะใน ครูสามารถทดลองเสมอื นจรงิ ด้วยส่อื อนิ เตอรแ์ อ็กทฟี ซิมูเลชนั สาหรับทากจิ กรรม
การทากจิ กรรม ในกรณที ่ีอุปกรณไ์ ม่เพยี งพอ หรอื ในกรณีทีต่ ้องการใหน้ กั เรียนไปฝึกฝนนอกเวลาเรยี น
ส่ือการเรยี นร/ู้ • ส่อื การเขียนแผนภาพวงจรไฟฟ้า CircutiLab
แหลง่ เรยี นรู้ https://www.circuitlab.com/
• สื่ออนิ เตอรแ์ อก็ ทฟี ซมิ เู ลชัน ตอน วงจรไฟฟา้
http://ipst.me/10653
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. การออกแบบวงจรไฟฟ้าในหอ้ ง ใชก้ ารตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบใดบา้ ง เพราะเหตุใด
2. การต่อหลอดไฟฟา้ ทีอ่ ยู่เหนอื เตยี งนอนและอยเู่ หนอื โต๊ะทำงานโดยใชส้ วติ ชต์ วั เดียวกนั ตอ่ ได้กแี่ บบ
แตล่ ะแบบมขี อ้ ดหี รือข้อจำกดั อยา่ งไร
สอ่ื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 17: แบบบนั ทึกการค้นควา้ กิจกรรมท้ายบท
แบบบันทึกการค้นควา้ กจิ กรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟ้าในหอ้ งได้อย่างไร
ช่อื -นามสกลุ ..........................................................................................ชน้ั .................เลขท่ี...........กลุ่มท.่ี ...........
สถานการณท์ ่ีกำหนดให้
- ใหน้ ักเรยี นออกแบบ เร่ือง ...............................................................................................................................
- กำหนดใหม้ หี ลอดไฟฟา้ ทง้ั หมด จำนวน .......................... หลอด
- แต่ละหลอดกำหนดใหต้ ิดต้งั ในตำแหน่งบริเวณ ไดแ้ ก่ ......................................................................................
..........................................................................................................................................................................
ออกแบบแผนภาพวงจรไฟฟา้ ในหอ้ ง
คำถามทา้ ยกิจกรรม
1. การออกแบบวงจรไฟฟ้าในหอ้ ง ใชก้ ารตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบใดบ้าง เพราะเหตุใด
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การตอ่ หลอดไฟฟา้ ทอ่ี ยู่เหนือเตียงนอนและอยเู่ หนอื โตะ๊ ทำงานโดยใชส้ วิตชต์ วั เดยี วกนั ต่อไดก้ ี่แบบ แต่ละ
แบบมีขอ้ ดหี รือขอ้ จำกดั อยา่ งไร
ตอบ ………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบท้ายแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 17: การให้คะแนนด้านกระบวนการ (P)
แนวทางบันทกึ การคน้ คว้ากจิ กรรมท้ายบท ออกแบบวงจรไฟฟ้าในหอ้ งได้อย่างไร
สถานการณ์ท่กี ำหนดให้
- ใหน้ ักเรียนออกแบบ เร่ือง ................ออกแบบวงจรไฟฟ้าท่ใี ห้แสงสวา่ งในห้องพัก.....................
- กำหนดให้มหี ลอดไฟฟา้ ท้งั หมด จำนวน ...........5........... หลอด
- แต่ละหลอดกำหนดใหต้ ิดตั้งในตำแหนง่ บรเิ วณ ได้แก่ ..............อยูท่ ่ีเพดานบริเวณทางเข้าหอ้ งพัก ในห้องน้ำ
เหนือเตียงนอน เหนือโต๊ะทำงน และระเบยี ง..................
ออกแบบแผนภาพวงจรไฟฟา้ ในหอ้ ง
แผนผังวงจรไฟฟ้าทีอ่ อกแบบ วงจรไฟฟา้ ท่ีตอ่ ตามทอ่ี อกแบบ
หมายเหตุ : นกั เรียนอาจออกแบบใหห้ ลอดไฟฟ้าเหนอื เตยี งนอนและโต๊ะทำงานตอ่ กนั แบบอนกุ รม ดงั ภาพ
ซึ่งวิธนี ตี้ รงตามเง่ือนไข แตม่ ีข้อเสียคือถา้ หลอดไฟฟ้าหลอดใดหลอดหนึง่ เสียหาย หลอดท่ีเหลอื จะไม่ทำงาน
ครูอาจใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายไดใ้ นคำถามท้ายกิจกรรมข้อที่ 2
แนบท้ายแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 17: การให้คะแนนด้านความรู้ (K)
เฉลยใบกจิ กรรมทา้ ยบท ออกแบบวงจรไฟฟา้ ในห้องได้อยา่ งไร
เฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม
1. การออกแบบวงจรไฟฟ้าในห้อง ใช้การต่อวงจรไฟฟา้ แบบใดบา้ ง เพราะเหตุใด
แนวคำตอบ ต่อหลอดไฟฟ้าทง้ั หมดแบบขนาน เพราะเมอ่ื หลอดไฟฟ้าหลอดใดหลอดหนึง่ เสยี หาย
หลอดท่ีเหลอื กย็ งั ใช้งานได้ โดยแต่ละหลอดจะต่อกบั สวติ ชแ์ บบอนุกรมเพอื่ ควบคมุ การปิดเปดิ ของวงจรไฟฟ้า
2. การตอ่ หลอดไฟฟา้ ทอี่ ยูเ่ หนือเตียงนอนและอยเู่ หนอื โต๊ะทำงานโดยใชส้ วิตชต์ ัวเดียวกันต่อได้กีแ่ บบ แต่ละ
แบบมขี อ้ ดีหรอื ขอ้ จำกัดอย่างไร
แนวคำตอบ ตอ่ ได้ 2 แบบ คือ ตอ่ หลอดไฟฟา้ ท้ังสองหลอดให้ขนานกนั แลว้ จึงตอ่ อนุกรมกับสวิตช์
โดยเมอื่ กดสวิตช์ก็จะสามารถควบคมุ การปิดเปิดหลอดไฟฟ้าทัง้ สองหลอดพร้อมกัน ซ่ึงมขี อ้ ดคี อื ถ้าหลอดไฟฟ้า
หลอดใดหลอดหนึ่งเสียหาย หลอดที่เหลือก็ยงั ใชง้ านได้ หรือต่อหลอดไฟฟ้าทัง้ สองหลอดและสวิตช์แบบอนกุ รมกนั
โดยเม่อื กดสวติ ชก์ ็จะควบคมุ การปิดเปิดหลอดไฟฟา้ ท้ังสองหลอดได้เชน่ กัน แต่มขี ้อจำกดั คือถ้าหลอดไฟฟา้
หลอดใดหลอดหนง่ึ เสยี หาย หลอดที่เหลือจะไมท่ ำงาน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 18
เรื่อง คำนวณพลังงานไฟฟ้าของเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ รหัสวชิ า ว23102 เวลา 1 ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6 ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ ไฟฟ้า
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวม 22 ช่ัวโมง
สาระที่ 2 ชอื่ สาระ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2
มาตรฐาน ว 2.3
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั
ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ติ ประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคลื่น
แม่เหล็กไฟฟา้ รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ตัวชี้วัด
ว 2.3 ม.3/8 อธบิ ายและคำนวณพลงั งานไฟฟา้ โดยใช้สมการ W = Pt รวมทง้ั คำนวณค่าไฟฟ้าของ
เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าในบา้ น
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
1) เครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีค่ากำลังไฟฟ้าและความต่างศักยก์ ำกับไว้ กำลังไฟฟ้ามีหน่วยเป็นวัตต์ ความต่าง
ศักยม์ หี นว่ ยเป็นโวลต์ คา่ ไฟฟา้ สว่ นใหญ่คิดจากพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ท้ังหมด ซ่ึงหาได้จากผลคูณของกำลังไฟฟ้าใน
หนว่ ยกโิ ลวตั ตก์ บั เวลาในหนว่ ยชวั่ โมง พลังงานไฟฟ้ามีหน่วยเป็นกโิ ลวัตต์ชวั่ โมงหรอื หน่วย
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนอธบิ ายและคำนวณพลงั งานไฟฟา้ โดยใชส้ มการ W = Pt ได้
1) ดา้ นความรู้ (K) นักเรียนใช้ทักษะการใช้จำนวน โดยการนำข้อมลู จากสถานการณ์ตัวอย่าง
2) ดา้ นทักษะ (P) มาคำนวณค่าพลงั งานไฟฟา้ ของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ได้
นักเรียนมคี วามมุ่งม่ันและรับผิดชอบในการทำงาน
3) ดา้ นเจตคติ (A)
4. คุณลกั ษณะผู้เรยี น
4.1 คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์
รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ มุ่งม่นั ในการทำงาน
มวี ินัย รกั ความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มีจิตสาธารณะ
5. ด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
ความสามารถในการสื่อสาร: นักเรียนสามารถสื่อสาร โดยการนำเสนอข้อมูลจากการสืบค้นข้อมลู
มาอธบิ ายเกย่ี วกบั การคำนวณคา่ ไฟฟ้า
6. สาระการเรียนรู้
การเปรยี บเทียบพลังงานไฟฟ้าที่เคร่อื งใช้ไฟฟา้ แตล่ ะเคร่ืองใช้ จะมีการกำหนดเวลาทีใ่ ช้ในเวลาหน่ึง
หน่วยเทา่ กัน ซ่งึ การคดิ พลงั งานไฟฟา้ ท่ใี ช้ไปในหน่ึงหน่วยเวลาเรียกว่า กำลงั ไฟฟา้ (electric power) มีหน่วย
เป็นจูลตอ่ วินาที (J/s) หรือ วัตต์ (W)
กำลังไฟฟา้ จะเขยี นความสัมพนั ธ์ระหว่างพลงั งานไฟฟ้าทเี่ ครอ่ื งใช้ไฟฟ้าใชแ้ ละเวลาได้ดงั นี้
=
เมอื่ แทน พลังงานไฟฟา้ ที่เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ใช้ มหี น่วยเปน็ จลู (J)
แทน เวลาท่ีใช้ มีหนว่ ยเปน็ วนิ าที (S)
แทน กำลังไฟฟา้ มีหนว่ ยเปน็ จูลตอ่ วนิ าที (J/s) หรือวัตต์ (W)
จากภาพ ที่ระบุกำลังไฟฟ้าของหลอดไฟเป็น 100 วัตต์
หมายความวา่ ในเวลา 1 วิ หลอดไฟน้ีใชพ้ ลังงานไฟฟ้า 100 จูล จากค่า
กำลังไฟฟ้าที่ระบุไว้บนเครื่องใช้ไฟฟ้า สามารถคำนวณพลังงานไฟฟ้า
ทั้งหมดที่เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้ไปได้จากสมการ = ซึ่งจะเขียนเป็น
สมการความสัมพนั ธไิ ด้ใหม่เป็น
ภาพ กำลังไฟฟา้ ทร่ี ะบุบนครื่องใช้ไฟฟา้
=
การคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟและกำลังไฟฟ้าสามารถศึกษาไดจ้ ากตัวอย่าง
โจทย์ตอ่ ไปนี้
ตัวอย่างโจทย์ หอ้ งของเด็กชาย ก มหี ลอดไฟฟ้าขนาด 28 วัตต์ จำนวน 2 หลอด และมีพดั ลมขนาด
70 วตั ต์ จำนวน 1 เครอ่ื ง ถา้ เดก็ ชาย ก ใชห้ ลอดไฟฟา้ ท้ังสองหลอดพร้อม ๆ กนั
เป็นเวลา 45 นาที และใชพ้ ดั ลมป็นเวลา 30 นาที พลงั งานไฟฟา้ ทง้ั หมดทใ่ี ช้ไป
จะมีคา่ เท่าใด
แนวคิด หาพลงั งานไฟฟ้าทีห่ ลอดไฟฟ้าใช้
โจทยก์ ำหนด กำลงั ไฟฟา้ ของหลอดไฟฟ้ามีขนาด 28 วตั ต์
เด็กชาย ก ใช้หลอดไฟฟา้ เป็นเวลา 45 นาที
น่นั คอื เด็กชาย ก ใช้หลอดไฟฟ้านาน 45 x 60 วนิ าที เทา่ กบั 2,700 วนิ าที
จากความสมั พันธ์ W = Pt
= 28 W x 2,700 s
= 75,600 J หรอื 75.6 KJ
หลอดไฟฟา้ จำนวน 1 หลอด ใช้พลงั งานไฟฟา้ 75.6 กิโลจูล
ถา้ หลอดไฟฟา้ จำนวน 2 หลอด จะใช้พลงั านไฟฟ้า 75.6 กิโลจลู x 2 หลอด เทา่ กบั 151.2 กิโลจูล
หาพลังงานไฟฟา้ ทพี่ ัดลมใช้
โจทยก์ ำหนด กำลงั ไฟฟา้ ของพดั ลมมขี นาด 70 วัตต์
เด็กชาย ก ใช้พดั ลมเป็นเวลา 30 นาที
นนั่ คือ เด็กชาย ก ใชพ้ ัดลมนาน 30 x 60 วนิ าที เทา่ กับ 1,800 วนิ าที
จากความสัมพนั ธ์ W = Pt
= 70 W x 1,800 s
= 126,000 J หรือ 126 kJ
พัดลมใชพ้ ลังงานไฟฟา้ 126 กโิ ลจูล
ดงั นน้ั พลังงานไฟฟ้าที่เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทัง้ 2 ชนดิ ใช้มีคา่ 151,2 + 126.0 กโิ ลจลู เท่ากบั 277.2 กิโลจูล
การคำนวณค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายในแตล่ ะเดือนนั้น ค่าไฟฟ้าสว่ นหนึง่ คิดจากพลังงานไฟฟ้าทัง้ หมดที่ใช้
ซึ่งสามารถคำนวณพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้จากสมการ W = Pt โดยให้ P มีหน่วยเป็นกิโลวัตต์ t มีหน่วยเปน็
ช่วั โมง ดงั นั้น W จงึ มหี น่วยเปน็ กโิ ลวตั ต์-ชว่ั โมง หรอื หน่วย (unit) ตัวอยา่ งเช่น ใชเ้ ตารีด 2,400 วตั ต์ รีดผ้านาน
3 ชัว่ โมง พลังงานไฟฟ้าท่ีเตารีดใช้คิดเปน็ 7.2 กโิ ลวตั ต์-ชั่วโมง หรือ 7.2 หน่วย ทงั้ นค้ี ่าไฟฟ้าในบ้านจะคำนวณ
เปน็ ราคาต่อหนว่ ย
การคดิ ค่าไฟฟ้าทใ่ี ช้ในแตล่ ะเดอื นน้ัน นอกจากจะคดิ จากพลังงานไฟฟ้าท้ังหมดทีใ่ ชซ้ ง่ึ คอื คา่ ไพฟ้าฐาน
แล้ว ยังรวมคา่ บรกิ ารรายเตือน ค่ไฟฟ้าผันแปร (Ft) และภาษีมูลคา่ เพ่มิ เขา้ ไปด้วย ดงั สมการ
ค่าไฟฟา้ = ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่าบริการรายเดอื น + ค่าไฟฟา้ ผนั แปร + ภาษีมูลค่าเพม่ิ
ค่าไฟฟ้าฐานหาจากพลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดใช้ในหนึ่งเดือน แล้วคูณด้วยค่าไฟฟ้าต่อ
หน่วย ในอัตรากา้ วหน้า ซึ่งเมื่อใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่ม ค่าอัตราต่อหน่วยก็จะเพิ่มขึ้นดว้ ย ขณะที่ค่าไฟฟ้าผันแปร
เป็นค่าใช้จ่ายที่การไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ราคาเชื้อเพลิงที่เปลี่ยนแปลงไปตามตันทุนการผลิต แล้ว
นำไปคูณกับจำนวนหนว่ ยของพลังงานไฟฟา้ ทั้งหมดที่ใช้ในเดือนนั้น ส่วนภาษีมูลคา่ เพิ่มเปน็ ภาษีที่ผู้ใช้ต้องจา่ ย
ตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนีผ้ ใู้ ช้ไฟฟ้ายังตอ้ งรับผดิ ชอบคา่ บริการรายเดือนซงึ่ จะขึ้นอยกู่ ับปริมาณการใช้
พลงั งานไฟฟา้ โดยในปจั จบุ นั การใช้พลังงานไฟฟ้าไมเ่ กิน 150 หนว่ ยต่อเดอื น คิดค่าบริการรายเดือน 8.19 บาท
ถ้าใช้เกิน 150 หนว่ ยต่อเดือน คดิ ค่าบริการรายเดอื น 38.22 บาท
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ใช้รูปแบบการจดั การเรยี นการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (1 ชั่วโมง; 60นาที)
ข้นั ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) (10 นาที)
1) ครูสนทนาร่วมกับนักเรียน โดยแสดงฉลากสินค้าหรือเอกสารที่ระบุกำลังไฟฟ้าบน
เครื่องใช้ไฟฟา้ แล้วใช้คำถามกระตุ้นความคิดว่า ตัวเลขแสดงกำลังไฟฟ้า เช่น 100W 900W 2,400W ที่ระบุไว้
บนเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น สามารถหาได้จากการคำนวณของค่าใดที่เกี่ยวข้อง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ
ตนเอง)
ขน้ั ท่ี 2 ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration) (20 นาที)
2) ใหน้ กั เรียนอ่านเน้อื หาในหนังสอื เรยี นหน้า 102 เพ่ือทบทวนความรเู้ รื่องการเปล่ียนพลังงาน
จากน้ันกำหนดสถานการณ์การใชเ้ ตารดี A และ B เพ่ือเชอ่ื มโยงเขา้ ส่เู รอื่ งกำลงั ไฟฟา้ ดังนี้
- กรณที ี่ 1 เตารีด A ใชพ้ ลังงานไฟฟา้ 5,000 จลู และเตารีด B ใช้พลงั งานไฟฟ้า 12,000 จูล
- กรณีที่ 2 เตารีด A ใช้พลังงานไฟฟ้า 5,000 จูล ในเวลา 2 วินาที และเตารีด B ใช้พลังงาน
ไฟฟา้ 12,000 จลู ในเวลา 10 วินาที
จากสถานการณร์ ว่ มกันอภิปรายโดยใช้คำถามว่า กรณีใดสามารถเปรียบเทียบได้ว่าเตารีดใดมี
อุณหภูมสิ งู กวา่ กันเพราะเหตุใด โดยใหน้ กั เรยี นอธบิ ายคำตอบ เชน่ กรณี 1 ไมส่ ามารถเปรยี บเทยี บได้เพราะเหตุ
ใด และกรณี 2 สามารถเปรยี บเทียบได้เพราะเหตใุ ด ตามความเขา้ ใจของตนเอง
3) ให้นักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 103 เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องจากสถานการณ์ที่
กำหนด ซงึ่ นกั เรยี นจะสามารถสรปุ ได้ว่า กรณที ี่ 1 ไมส่ ามารถสรุปได้ว่าเตารีดใดมีอณุ หภูมิสูงกว่ากัน เพราะไม่ได้
ระบรุ ะยะเวลาในการใชง้ าน กรณีที่ 2 สามารถสรปุ ไดว้ ่าเตารดี A มอี ณุ หภมู ิสูงกว่า B เพราะมีการระบรุ ะยะเวลา
ในการใช้งานเตารีดทั้งสองอัน เมื่อคิดพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปในเวลา 1 วินาทีเท่ากัน เตารีด A ใช้พลังงานไฟฟา้
2,500 จลู ขณะท่เี ตารดี B ใชพ้ ลังงานไฟฟา้ 1,200 จูล ดังนั้นเตารดี A ใช้พลังงานไฟฟา้ ในเวลา 1 วนิ าทมี ากกว่า
เตารีด B เตารีด A จะมีอุณหภูมิสูงกว่า จากนั้นร่วมกันอภิปราย เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า พลังงานไฟฟ้าท่ี
เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ใชใ้ นหน่งึ หนว่ ยเวลา เรยี กว่า กำลงั ไฟฟ้า ซ่ึงมคี วามสัมพันธก์ บั พลงั งานไฟฟ้าและเวลาตามสมการ
P = W/t หรือ W = Pt โดยกำลงั ไฟฟา้ มีหน่วยเป็นจูลตอ่ วนิ าที (J/s) หรือวตั ต์ (W)
ข้นั ท่ี 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (10 นาที)
4) ให้นักเรียนศึกษาการคำนวณหาพลังงานไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าจากตัวอย่างโจทย์ โดยอ่าน
เนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 104-105 แล้ววิเคราะห์ว่าโจทย์ตัวอย่างต้องการให้หาอะไร และโจทย์ตัวอย่าง
กำหนดอะไรให้บ้าง จากนั้นตอบคำถามโจทย์ชวนคิดจำนวน 2 ข้อ (หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชั้นม.3 เล่ม 2 สสวท. หน้า 106) (เฉลยแนบท้ายแผนการจัดการเรียนรู้) และร่วมอภิปราย
เก่ียวกับคำตอบรว่ มกนั
ข้นั ท่ี 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที)
5) ให้นักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 106 และร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการคำนวณ
ค่าไฟฟ้าที่ตอ้ งจ่ายในแต่ละเดอื น โดยใช้คำถามว่า ค่าไฟฟ้าแตล่ ะเดอื นจะมากน้อยเพียงใดเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง
เพื่อใหไ้ ด้ขอ้ สรปุ วา่ ค่าไฟฟ้าจะมากหรอื น้อยขนึ้ อยกู่ บั พลงั งานไฟฟ้าทใ่ี ช้ท้ังหมด ซึง่ เกย่ี วขอ้ งกับกำลังไฟฟ้าของ
เคร่อื งใช้ไฟฟ้าและชว่ งเวลาหรือระยะเวลาท่ใี ช้
6) ให้นักเรียนศึกษาการคำนวณพลังงานไฟฟ้าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้ไปในหนึ่งเดือนจากโจทย์
ตัวอย่างและเกร็ดน่ารู้ โดยอา่ นเนื้อหาในหนังสอื เรยี นหน้า 107-109 และร่วมกันอภปิ ราย เพ่ือให้ได้ข้อสรุปว่า
ค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนคำนวณจากผลรวมของค่าไฟฟ้าฐาน ค่าบริการรายเดือน ค่าไฟฟ้าผันแปร และ
ภาษีมูลค่าเพม่ิ โดยค่าไฟฟ้าฐานเปน็ พลังงานไฟฟ้าทง้ั หมดท่ีเคร่อื งใช้ไฟฟ้าใชโ้ ดยคิดในราคาตอ่ หนว่ ย ค่าบริการ
รายเดือนเป็นค่าบริการที่การไฟฟ้าเป็นผูเ้ รยี กเกบ็ จากผู้ใช้บริการตามปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า ค่าไฟฟ้าผนั
แปรเป็นค่าใช้จ่ายที่การไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ค่าเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ต้นทุนในการ
กอ่ สรา้ งโรงไฟฟา้ และระบบสายส่งไฟฟา้ และภาษีมลู ค่าเพมิ่ เป็นภาษีทีผ่ ู้ใช้ตอ้ งจา่ ยตามกฎหมายกำหนด
ข้นั ที่ 5 ข้ันประเมิน (Evaluation) (10 นาที)
7) นักเรียนตรวจสอบการทำแบบฝกึ หดั คำถามชวนคดิ และสง่ ตามกำหนดทวี่ างไว้
8) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมนิ (Rubrics Score)
8. สื่อการเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้
8.1 อปุ กรณท์ ำกิจกรรม: ฉลากสนิ ค้าหรือเอกสารที่ระบกุ ำลังไฟฟา้ บนเคร่ืองใช้ไฟฟา้
8.2 แบบฝกึ หัด: คำถามชวนคดิ จำนวน 2 ขอ้ (หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยี ชน้ั ม.3 เล่ม 2 สสวท. หนา้ 106)
8.3 แหลง่ เรียนรู้: หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
เล่ม 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร
9. การวัดและการประเมนิ
ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ วิธีการวัด เครอื่ งมือวดั เกณฑ์ทใี่ ชใ้ นการประเมนิ
1. อธบิ ายและคำนวณพลงั งาน - ตรวจการตอบคำถาม - คำถามชวนคดิ - ได้ไมน่ อ้ ยกว่า 2 คะแนน
ไฟฟา้ โดยใชส้ มการ W = Pt ชวนคิด การคานวณหาพลงั งานไฟฟา้ ระดับคณุ ภาพดี ถือว่า
(ดา้ นความรู้: K) และกาลงั ไฟฟา้ เป็นอยา่ งไร ผ่านการประเมิน
จำนวน 2 ขอ้ ดา้ นความรู้
ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ วธิ กี ารวัด เครื่องมอื วดั เกณฑ์ท่ใี ชใ้ นการประเมิน
2. การใช้ทกั ษะการใช้จำนวน - ตรวจการตอบคำถาม - คำถามชวนคดิ - ไดไ้ มน่ อ้ ยกว่า 2 คะแนน
โดยการนำขอ้ มลู จาก ชวนคดิ การคานวณหาพลงั งานไฟฟ้า ระดับคุณภาพดี ถอื ว่า
สถานการณต์ วั อย่างมา และกาลงั ไฟฟา้ เป็นอยา่ งไร ผา่ นการประเมิน
คำนวณค่าพลังงานไฟฟ้า จำนวน 2 ข้อ ด้านกระบวนการ
(ดา้ นกระบวนการ: P)
3. ความมงุ่ มัน่ ในการ - สังเกตพฤตกิ รรมของ - เกณฑก์ ารประเมินความ - ได้ไม่น้อยกว่า2 คะแนน
ทำงานและความ นักเรียนระหวา่ งและ มงุ่ ม่ันและความรับผดิ ชอบ ระดบั คณุ ภาพดี ถือวา่
รบั ผดิ ชอบ หลังการจดั กจิ กรรม ในการทำกิจกรรมการ ผา่ นการประเมิน
(ดา้ นเจตคติ: A) การเรยี นรู้ เรยี นรู้ ด้านเจตคติ
9.1 เกณฑ์การประเมินผลนักเรยี น เกณฑก์ ารประเมิน (Rubrics Score)
ประเด็นการประเมนิ ค่าน้ำหนัก แนวทางการให้คะแนน
การใหค้ ะแนนตอบ คะแนน
ตอบคำถามชวนคดิ ได้ถกู ต้อง จำนวน 2 ข้อ
คำถามชวนคิด 3 ตอบคำถามชวนคิด ได้ถกู ตอ้ ง จำนวน 1 ข้อ
2 ตอบคำถามชวนคดิ ได้แตม่ ขี ้อผิดพลาดต้องปรับปรงุ แกไ้ ขใหถ้ กู ต้อง
การให้คะแนนการบนั ทกึ 1 บนั ทึกผลการคำนวณตามโจทย์ที่กำหนดไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง มีการระบุสูตร
คำตอบลงในแบบฝกึ หัด 3 และแสดงวธิ ีทำไดอ้ ยา่ งชัดเจน สอดคล้องกลับในกิจกรรม
บนั ทกึ ผลการคำนวณตามโจทยท์ ่ีกำหนดไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง มกี ารระบุสูตร
การให้คะแนนพฤตกิ รรม 2 และแสดงวธิ ีทำ สอดคล้องกลับในกิจกรรม แตย่ งั มขี ้อผิดพลาดไม่ถกู ต้อง
ความมุ่งมนั่ และความ บนั ทึกผลการคำนวณตามโจทย์ที่กำหนดไม่ถูกตอ้ ง ไมม่ กี ารระบุสูตร และ
รบั ผดิ ชอบในการทำ 1 แสดงวธิ ที ำ ต้องปรบั ปรุงแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง
กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) นักเรียนมคี วามสนใจและมุง่ มนั่ ในการทำกจิ กรรม ใหค้ วามรว่ มมอื
3 และปฏิบัตติ ามข้ันตอนการเรยี นรู้เปน็ อย่างดี 2) นกั เรยี นมีความรับผดิ ชอบ
ทำงานท่ไี ดร้ ับมอบหมายได้ตรงเวลาท่กี ำหนดเป็นอยา่ งดี
2 1) นักเรยี นสนใจและมุ่งมัน่ ในการทำกจิ กรรมเปน็ บางคร้ัง และมกี ารคุยกัน
เล่นขณะการเรียนรู้ แตไ่ มก่ ระทบผูอ้ ่ืน 2) นักเรยี นมีความรบั ผดิ ชอบทำงาน
1 ท่ไี ด้รับมอบหมายตรงตามเวลาที่กำหนด แต่เกดิ ปัญหาระหวา่ งการทำงาน
1) นักเรียนขาดความมุ่งม่นั และไมส่ นใจในการเรียน มพี ฤติกรรมชอบคุย
ชอบเลน่ หรอื นอนหลับขณะการเรียนการสอน 2) นักเรยี นขาดความ
รบั ผิดชอบในงานทไี่ ดร้ บั มอบหมายไม่ตรงตามกำหนดเวลาท่ีตกลงไว้
9.2 ระดับคณุ ภาพ
คะแนนรวมเฉลย่ี 3.00 หมายถึง ดมี าก
คะแนนรวมเฉลย่ี 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้
ดังนนั้ นกั เรยี นต้องไดค้ ะแนนเฉล่ียทุกประเดน็ การประเมนิ ไมต่ ำ่ กวา่ 2.00 แสดงระดบั
คุณภาพ ดี ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในแผนการจัดการเรยี นท่ี 18
ส่ือการเรยี นรแู้ ผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 18: แบบฝกึ หัด
แบบฝกึ หดั คำถามชวนคิด การคานวณหาพลงั งานไฟฟ้าและกาลงั ไฟฟา้ เป็นอย่างไร จำนวน 2 ข้อ
หนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ 2 ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร หน้า 106
1. บ้านหลังหนึ่งใช้โทรทัศน์ขนาด 125 วัตต์นาน 4 ชั่วโมง และใช้หม้อหุงขา้ วขนาด 450 วัตต์นาน 40
นาที
ในแต่ละวันเครือ่ งใช้ไฟฟ้าใดใช้พลงั งานมากกวา่ และใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ มากกวา่ เทา่ ใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
2. ถ้าใช้งานเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ในแตล่ ะคืนประกอบดว้ ยหลอดไฟฟา้ ขนาด 35 วตั ตน์ าน 2 ช่วั โมง
โทรทัศน์ขนาด 150 วัตตน์ าน 3 ช่วั โมง และพัดลมตง้ั พื้นขนาด 75 วัตต์นาน 30 นาที
เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ท้ังหมดใชพ้ ลังงานไฟฟา้ เท่าใดในเดือนกนั ยายน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…….
แนบทา้ ยแผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 18: การให้คะแนนดา้ นความรู้ (K) และดา้ นกระบวนการ (P)
เฉลยแบบฝึกหดั คำถามชวนคดิ การคานวณหาพลังงานไฟฟา้ และกาลงั ไฟฟา้ เปน็ อยา่ งไร
1. บ้านหลังหนึ่งใช้โทรทัศน์ขนาด 125 วัตต์นาน 4 ชั่วโมง และใช้หม้อหุงข้าวขนาด 450 วัตต์นาน 40
นาที
ในแต่ละวันเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ใดใชพ้ ลงั งานมากกวา่ และใช้พลงั งานไฟฟ้ามากกวา่ เทา่ ใด
แนวคำตอบ หาพลังงานไฟฟา้ ท่โี ทรทัศนใ์ ชใ้ นแต่ละวนั
โจทย์กำหนด โทรทัศน์มกี ำลังไฟฟ้าขนาด 125 วัตต์
ใช้โทรทัศน์เป็นเวลา 4 ชว่ั โมง
นัน่ คอื ใช้โทรทัศน์นาน 4 ช่ัวโมง x 60 นาที x 60 วนิ าที เท่ากับ 14,400 วนิ าที
จากความสัมพนั ธ์ W = Pt
= 125 W x 14,400 s
= 1,800,000 J หรอื 1,800 kJ
พลงั งานไฟฟ้าท่ีโทรทศั นใ์ ช้ในแตล่ ะวัน เทา่ กับ 1,800 กิโลจูล
หาพลังงานไฟฟ้าทีห่ ม้อหุงข้าวใชใ้ นแตล่ ะวนั
โจทยก์ ำหนด หม้อหงุ ข้าวมกี ำลังไฟฟา้ ขนาด 450 วัตต์
ใช้หมอ้ หุงขา้ วเป็นเวลา 40 นาที
นน่ั คือ ใช้หมอ้ หุงขา้ วนาน 40 นาที x 60 วินาที เทา่ กบั 2,400 วินาที
จากความสัมพนั ธ์ W = Pt
= 450 W x 2,400 s
= 1,080,000 J หรือ 1,080 kJ
พลังงานไฟฟ้าท่ีหม้อหุงข้าวใชใ้ นแต่ละวนั เท่ากบั 1,080 กิโลจลู
ดงั นั้น ในแตล่ ะวันโทรทศั น์ใช้พลงั งานมากกว่าหม้อหงุ ขา้ วมคี า่ 1,800 – 1,080 เท่ากับ 720 กโิ ลจูล
แนบท้ายแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18: การใหค้ ะแนนด้านความรู้ (K) และดา้ นกระบวนการ (P)
เฉลยแบบฝกึ หัดคำถามชวนคดิ การคานวณหาพลังงานไฟฟา้ และกาลงั ไฟฟา้ เปน็ อยา่ งไร
2. ถา้ ใช้งานเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ในแต่ละคนื ประกอบด้วยหลอดไฟฟา้ ขนาด 35 วัตตน์ าน 2 ชว่ั โมง
โทรทศั น์ขนาด 150 วตั ต์นาน 3 ชวั่ โมง และพัดลมตั้งพ้ืนขนาด 75 วัตต์นาน 30 นาที
เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าท้ังหมดใช้พลังงานไฟฟ้าเทา่ ใดในเดือนกันยายน
แนวคำตอบ หาพลงั งานไฟฟา้ ท่หี ลอดไฟฟา้ ใชใ้ นเดอื นกนั ยายน
โจทย์กำหนด หลอดไฟฟ้าขนาด 35 วัตต์ / ใช้หลอดไฟฟ้าเป็นเวลา 2 ชว่ั โมง
นัน่ คือ ใช้หลอดไฟฟ้านาน 2 ชว่ั โมง x 60 นาที x 60 วินาที เทา่ กบั 7,200 วินาที
จากความสัมพันธ์ W = Pt
= 35 W x 7,200 s
= 252,000 J หรือ 252 kJ
หลอดไฟฟา้ ใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ตอ่ วนั 252 กโิ ลจูล
ใน 30 วัน หลอดไฟฟ้าใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ 30 วนั X 252 กิโลจลู เท่ากับ 7,560 กิโลจูล หรอื 7.56 เมกะจูล
หาพลังงานไฟฟ้าทโ่ี ทรทศั นใ์ ช้ในเดือนกนั ยายน
โจทยก์ ำหนด โทรทัศนข์ นาด 150 วัตต์ / ใช้โทรทศั นเ์ ปน็ เวลา 3 ช่ัวโมง
น่ันคือ ใช้โทรทัศน์นาน 3 ช่วั โมง x 60 นาที x 60 วินาที เท่ากบั 10,800 วินาที
จากความสมั พันธ์ W = Pt
= 150 W x 10,800 s
= 1,620,000 J หรอื 1,620 kJ
โทรทัศน์ใช้พลังงานไฟฟา้ ตอ่ วนั 1,620 กิโลจลู
ใน 30 วนั โทรทศั นใ์ ชพ้ ลงั งานไฟฟ้า 30 วัน X 1,620 กิโลจูล เทา่ กับ 48,600 กโิ ลจูลหรอื 48.6 เมกะจูล
หาพลงั งานไฟฟ้าท่ีพัดลมตง้ั พน้ื ใชใ้ นเดอื นกนั ยายน
โจทย์กำหนด พัดลมตงั้ พน้ื ขนาด 75 วัตต์
ใชพ้ ัดลมต้งั พ้นื เป็นเวลา 30 นาที
นัน่ คอื ใชพ้ ดั ลมตั้งพน้ื นาน 30 นาที x 60 วินาที เทา่ กบั 1,800 วินาที
จากความสัมพันธ์ W = Pt
= 75 W x 1,800 s
= 135,000 J หรอื 135 kJ
พัดลมตง้ั พ้นื ใช้พลังงานไฟฟ้าต่อคืน 135 กโิ ลจูล
ใน 30 วนั พัดลมต้งั พ้นื ใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ 30 วนั X 135 กโิ ลจูล เท่ากบั 4,050 กิโลจูลหรือ 4.05 เมกะจลู
ดังนนั้ พลังงานไฟฟา้ ท้ังหมดทเี่ ครือ่ งใช้ไฟฟา้ ใชใ้ นเดอื นกันยายน
มีคา่ 7,560 + 48,600 + 4,050 เท่ากับ 60,210 กโิ ลจูล หรอื 60.21 เมกะจูล
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 19
เรอ่ื ง การใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภัย รหสั วชิ า ว23102 เวลา 2 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ไฟฟ้า
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวม 22 ชั่วโมง
สาระท่ี 2 ช่อื สาระ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 2
มาตรฐาน ว 2.3
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลังงาน พลงั งานในชวี ติ ประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกับเสียง แสง และคลื่น
แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตัวชว้ี ัด
ว 2.3 ม.3/9 ตระหนักในคณุ คา่ ของการเลือกใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟา้ โดยนำเสนอวธิ ีการใช้เครื่องใชไ้ ฟฟา้ อย่าง
ประหยดั และปลอดภัย
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
1) วงจรไฟฟ้าในบ้านมีการต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบขนาน เพื่อให้ความต่างศักย์เท่ากัน การใช้
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าในชวี ิตประจำวนั ต้องเลอื กใช้เครอื่ งใช้ไฟฟ้าทมี่ ีความต่างศกั ยแ์ ละกำลังไฟฟ้าให้เหมาะกับการใช้
งาน และการใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟา้ และอุปกรณไ์ ฟฟ้าตอ้ งใชอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ปลอดภัย และประหยดั
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นวางแผนการใช้เคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบ้านอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยัด
1) ด้านความรู้ (K) และปลอดภยั
นักเรยี นใช้ทักษะการสื่อสาร โดยนำเสนอวิธกี ารใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ อย่าง
2) ด้านทกั ษะ (P) ประหยัดและปลอดภยั
นกั เรียนตระหนักในคณุ คา่ ของการเลือกใช้เคร่อื งใช้ไฟฟา้ โดยนำเสนอแนะ
3) ดา้ นเจตคติ (A) วิธีการใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยัดและปลอดภัย
4. คุณลกั ษณะผู้เรยี น ซอื่ สตั ย์สจุ ริต ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
4.1 คุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ มีจิตสาธารณะ
รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง
มีวนิ ยั รกั ความเป็นไทย
5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
ความสามารถในการสื่อสาร: นกั เรยี นสามารถสอื่ สาร โดยการนำเสนอขอ้ มูลจากการสังเกต การวัด
การปฏบิ ัติกิจกรรม และการอภปิ ราย เกี่ยวกบั การคำนวณค่าไฟฟ้า และแนวทางการลดค่าไฟฟ้าในบา้ น
6. สาระการเรยี นรู้
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต้องคำนึงถึงค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าที่ใช้ให้ถูกต้อง เนื่องจาก
ระบบไฟฟ้าแต่ละประเทศ อาจมีค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าแตกต่างกัน เช่น ประเทศไทยใช้ความต่างศักย์ไฟฟ้า
เหมือนกับประเทศจนี ในขณะทป่ี ระเทศญ่ปี ุ่นใชค้ วามต่างศักย์ไฟฟา้ 100 โวลต์ ในการผลิตเครื่องใช้ไฟฟา้ หรอื
อุปกรณ์ไฟฟ้าของแต่ละประเทศจะต้องผลิตให้ตรงกับค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าของประเทศนั้น ๆ ดังนั้นการใช้
เครอ่ื งใช้ไฟฟ้ากต็ ้องใช้ใช้ให้ตรงกับค่าความต่างศักยไ์ ฟฟ้าท่ีระบุไวบ้ นเครือ่ งใช้ไฟฟ้านนั้ ทัง้ นเี้ น่ืองจากความต่าง
ศักย์ไฟฟ้า ซึ่งมีค่าเท่ากับผลคูณระหว่างกระแสไฟฟ้ากับความต้านทานไฟฟ้า แต่ความต้านทานไฟฟ้าของ
เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีค่าคงที่ค่าหนึ่ง ทำให้ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า
ขึน้ อยกู่ ับค่าความต่างศกั ย์ไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟฟ้า น่ันคือถา้ ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่มีความต่าง
ศักย์ไฟฟ้าสูงกว่าที่ระบุไว้ จะทำให้กระแสไฟฟ้าผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่าที่เครื่องใช้ไฟฟ้าจะทนได้ ส่งผลให้
เครื่องใช้ไฟฟา้ นั้นเกิดความร้อนสูง ซึ่งอาจชำรุดเสียหายหรือเกดิ ไฟไหมไ้ ด้ แต่ถ้าใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้ากับแหล่งจา่ ย
ไฟฟา้ ทม่ี ีความต่างศักย์ไฟฟ้าตำ่ กวา่ ทร่ี ะบไุ ว้ใหก้ ระแสไฟฟ้าผ่านเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ นอ้ ยกว่าทีเ่ คร่อื งใช้ไฟฟ้าต้องการ
เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ นั้นกจ็ ะไม่ทำงาน
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟา้ ต้องคำนึงถึงความประหยดั เนื่องจากค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายใน
แต่ละเดือนคิดจากพลังงานไฟฟที่เครื่องใช้ไฟฟ้าท่ีใช้ทั้งหมด ซึ่งพลังานไฟฟ้าที่ใช้ขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าของ
เครื่องใช้ไฟฟ้าและระยะเวลาที่เราใชง้ านเครื่องใช้ไฟฟา้ เหล่านัน้ ดังนั้นการใช้เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าให้ประหยดั จึงควร
พิจารณากำลงั ไฟฟา้ ของเครื่องใช้ไฟฟา้ ให้เหมาะสมกบั การใช้งาน เชน่ การเลือกใชห้ ลอดไฟฟ้าควรเลอื กใช้หลอด
แอลอดี ี ซึ่งมกี ำลังไฟฟา้ ต่ำกว่าหลอดไสแ้ ตม่ ีประสิทธิภาพในกรส่องสว่างมากและมีอายุการใช้งานยาวนาน หรือ
การเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเชนต์แบบผอมขนาด 18 วัตต์ ซึ่งมีความสว่างเท่ากับหลอดไฟฟ้าขนาด 20 วัตต์
แตใ่ ช้พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่าเมือ่ ใชใ้ นระยะเวลาท่ีเทา่ กนั อยา่ งไรกต็ ามการใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าควรเปิดเฉพาะเวลา
ใช้งานเท่าน้นั และควรถอดปกหรอื เตา้ เสียเมือ่ ไม่ได้ใชง้ านการใชค้ รอื่ งใชไ้ ฟฟ้า นอกจากต้องใช้งานใหถ้ ูกตอ้ งและ
ประหยัดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย ซึ่งการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยมีวิธีปฏิบัติดังภาพ (แนบท้าย
แผนการจดั การเรียนรู้)
ซ่งึ การคำนวณหาพลงั งานไฟฟ้าที่เครื่องใชไ้ ฟฟ้าใชไ้ ปและค่าไฟฟ้าท่ีตอ้ งจ่ายในแต่ละเดือน ตลอดจน
การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยและประหยัด เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่าง
มีคณุ ภาพ
7. กิจกรรมการเรียนรู้
ใชร้ ปู แบบการจดั การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ชว่ั โมง; 120นาที)
ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) (10 นาที)
1) ครูและนักเรยี นสนทนารว่ มกัน เพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี น โดยครูใช้แผนภาพแสดง
วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย แล้วให้นักเรยี นร่วมกันตอบว่า สัญลักษณ์ภาพทีเ่ ห็นน้ัน มีการระบุถึงวธิ กี ารหรอื
แนวทางการใชไ้ ฟฟ้าทีป่ ลอดภัยอยา่ งไร
2) ครูใช้สื่อคลิปวีดิทัศน์ เรื่อง การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยในบ้านอยู่อาศัย สืบค้นได้จาก
https://www.youtube.com/watch?v=gVpXXdJVbn0 เพื่อให้นักเรียนตระหนักในคุณค่าของการเลือกใช้
เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภยั
ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (20 นาที)
3) ครูเชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรมที่ 6.6 ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัยได้อย่างไร
โดยใชค้ ำถามว่า เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าท่ีใชอ้ ยู่ในบา้ นมจี ำนวนมาก โดยเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าแตล่ ะชนดิ จะมีฉลากแสดงปริมาณ
ทางไฟฟ้ากำกับไว้ เราจะมีวิธีการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นให้ถูกต้อง ปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย
ไดอ้ ยา่ งไร
4) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หน้า 112 และครูตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอา่ น โดยใชค้ ำถามดงั ตอ่ ไปน้ี
- กจิ กรรมนเี้ กย่ี วกับเรอื่ งอะไร (การใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย)
- กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (วางแผนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างถูกต้อง ประหยัด
และปลอดภัย เปรียบเทียบค่าไฟฟ้าก่อนและหลังการปฏิบตั ิเพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า นำเสนอวิธีการใช้
เครื่องใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภัย)
- วิธีดำเนนิ กจิ กรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมลู เกี่ยวกบั
พลังงานไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟ้า เช่น จำนวนหน่วยที่ใช้ไปในครั้งก่อน จำนวนหน่วยที่ใช้ไปในครั้งหลัง จำนวน
หน่วยที่ใช้ในเดือนนั้น ซ่ึงเป็นผลต่างของจำนวนหน่วยที่ใช้ไปในครั้งหลังและครั้งก่อน กำลังไฟฟ้าของ
เครื่องใช้ไฟฟ้าและพฤติกรรมการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และวิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทีถ่ ูกตอ้ ง ประหยัด
และปลอดภัย)
5) ขณะที่นักเรียนแต่ละกลุม่ ทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
และให้คำแนะนำ ถ้านักเรียนมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ที่อาจเป็นปัญหา ซึ่งครูควรรวบรวมปัญหา และ
ข้อสงสยั ทีพ่ บจากการทำกิจกรรมของนักเรียนเพ่ือใช้เป็นข้อมูลประกอบการอภิปรายหลังจากการทำกจิ กรรม
ขั้นท่ี 3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (10 นาที)
6) ให้นักเรียนแต่ละคนสังเกตค่าพลังงานไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟ้า สืบค้นและวางแผนการใช้
เครื่องใช้ไฟฟ้าใหถ้ ูกตอ้ ง ประหยัดและปลอดภัย โดยครูสังเกตการทำกจิ กรรมของนกั เรียน พร้อมท้งั ใหค้ ำแนะนำ
หากนกั เรยี นมีข้อสงสยั เกี่ยวกบั ค่าพลงั งานไฟฟา้ ทร่ี ะบุในใบแจ้งคา่ ไฟฟ้าและการวางแผนการใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้
7) ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้อง ประหยัดและปลอดภัย
โดยอาจใช้คำถามว่า การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้องควรพิจารณาจากอะไร มีหลักการเลือกใช้อย่างไร
การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัดควรพิจารณาจากอะไร มีหลักการเลือกใช้อย่างไร และการใช้
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าอย่างปลอดภยั ทำไดอ้ ยา่ งไร
8) หลังจากนกั เรยี นปฏบิ ัติตามแผนครบ 1 เดอื นแล้ว ให้นักเรยี นเปรยี บเทียบจำนวนหน่วยของพลังงาน
ไฟฟา้ กอ่ นและหลงั การปฏบิ ัติ พร้อมนำเสนอผลและวิธกี ารใชเ้ ครื่องใชไ้ ฟฟ้าท่ถี กู ตอ้ ง ประหยัดและปลอดภยั ข้ันท่ี
9) ให้นักเรียนตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม จากนั้นร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรปุ จากกิจกรรม
โดยการใชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟ้าใหถ้ กู ต้อง ประหยดั และปลอดภัย ขึ้นอยกู่ บั การทำกจิ กรรมของนักเรยี น
4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที)
10) ให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมเก่ียวกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟา้ ให้ถูกต้อง ประหยัดและปลอดภยั
ตลอดจนเกร็ดน่ารู้ โดยอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 113-115 และร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกบั สิ่งที่นักเรียนได้
เรียนรู้นอกเหนือจากการทำกิจกรรมที่ 6.6 เพื่อใหไ้ ด้ข้อสรุปว่า การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้
ถูกต้องและปลอดภัย โดยการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องเลือกใช้ให้ตรงกับค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าที่ระบุไว้บน
เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ซึง่ เป็นค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใชง้ านและต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกวิธี รวมท้ัง
ต้องเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทมี่ ีกำลังไฟฟา้ ให้เหมาะสมกบั การใชง้ านเพ่ือความประหยัด
ข้นั ท่ี 5 ข้นั ประเมิน (Evaluation) 1 นาที)
11) นักเรยี นตรวจสอบการทำแบบบันทึกการทำกจิ กรรมและสง่ ตามกำหนดทีว่ างไว้
12) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมนิ (Rubrics Score)
8. ส่ือการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้
8.1 อปุ กรณท์ ำกจิ กรรม: 1) ใบแจ้งคา่ ไฟฟ้าก่อนการปฏิบัติ 2) ใบแจ้งคา่ ไฟฟา้ หลังการปฏบิ ัติ
8.2 คลปิ วดี ิทศั น์: เร่ือง การใช้ไฟฟา้ อย่างปลอดภัยในบ้านอยู่อาศัย
8.3 แผนภาพ: แสดงผังมโนทัศน์ เรอื่ งวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย
8.4 ใบกิจกรรม: ใบกจิ กรรมทา้ ยกจิ รรมท่ี 6.6 วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภยั
8.5 แบบบันทึกกิจกรรม: แบบบนั ทึกการค้นคว้ากิจกรรมที่ 6.6 วิธกี ารใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย
8.6 แหลง่ เรียนรู:้ หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3
เลม่ 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธิการ
9. การวัดและการประเมิน
ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมอื วัด เกณฑท์ ่ใี ช้ในการประเมนิ
- คำถามทา้ ยกิจกรรมท่ี 6.6 - ได้ไม่น้อยกวา่ 2 คะแนน
1. วางแผนการใช้ - ตรวจการตอบคำถาม
ใชเ้ ครื่องใชไ้ ฟฟา้ อย่าง ระดับคุณภาพดี ถือวา่
เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นอยา่ ง ทา้ ยกจิ กรรมท่ี 6.6 ประหยัดและปลอดภยั ได้ ผา่ นการประเมิน
อย่างไร จำนวน 3 ข้อ ด้านความรู้
ถูกตอ้ ง ประหยดั และ - แบบบันทกึ การคน้ ควา้ - ไดไ้ ม่นอ้ ยกว่า 2 คะแนน
กจิ กรรมที่ 6.6 ระดบั คณุ ภาพดี ถือวา่
ปลอดภัย (ด้านความรู้: K) ใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟา้ อย่าง ผา่ นการประเมิน
ประหยัดและปลอดภัยได้ ด้านกระบวนการ
2. การใช้ทกั ษะการสื่อสาร - ตรวจการทำแบบ อย่างไร
- คำถามท้ายกิจกรรมที่ 6.6 - ไดไ้ ม่น้อยกวา่ 2 คะแนน
โดยนำเสนอวิธกี ารใช้ บนั ทึกการคน้ คว้า ใชเ้ คร่อื งใช้ไฟฟ้าอย่าง ระดบั คุณภาพดี ถือวา่
ประหยดั และปลอดภัยได้ ผา่ นการประเมิน
เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอยา่ ง กิจกรรมท่ี 6.6 อย่างไร จำนวน 3 ข้อ ด้านเจตคติ
ประหยดั และปลอดภัย
(ด้านกระบวนการ: P)
3. ตระหนกั ในคุณค่าของการ - ตรวจการตอบคำถาม
เลอื กใช้เครื่องใชไ้ ฟฟา้ ทา้ ยกจิ กรรมท่ี 6.6
โดยนำเสนอแนะวิธกี ารใช้
เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าอย่าง
ประหยดั และปลอดภยั
(ดา้ นเจตคติ: A)
9.1 เกณฑก์ ารประเมนิ ผลนักเรยี น เกณฑก์ ารประเมนิ (Rubrics Score)
ประเด็นการประเมนิ คา่ นำ้ หนัก แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การใหค้ ะแนนตอบ ตอบคำถามท้ายกิจกรรมที่ 6.6 ถกู ต้อง จำนวน 3 ขอ้
คำถามท้าย 3 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมท่ี 6.6 ถูกตอ้ ง จำนวน 2 ข้อ
กิจกรรมที่ 6.6 2 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 6.6 ถูกต้อง จำนวน 1 ข้อ หรือไม่ถูกต้อง
1 บันทึกผลการทำกิจกรรม จากการนำเสนอ โดยนำเสนอวิธกี ารใช้
การใหค้ ะแนนการบันทกึ เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภัยได้อยา่ งอย่างรวดเรว็
แบบบนั ทกึ การค้นคว้า 3 ชัดเจน และถกู ต้อง สอดคล้องกบั เน้ือหาในกจิ กรรม
บันทึกผลการทำกจิ กรรม จากการนำเสนอ โดยนำเสนอวิธีการใช้
กจิ กรรมที่ 6. 2 เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภัยไดถ้ กู ต้อง
สอดคลอ้ งกับเน้อื หาในกิจกรรม
1 บันทกึ ผลการทำกจิ กรรม จากการนำเสนอ โดยนำเสนอวธิ กี ารใช้
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยดั และปลอดภัยได้ แต่ไมส่ อดคล้องกบั เนอื้ หา
ประเด็นการประเมนิ ค่านำ้ หนกั แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การใหค้ ะแนน ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท่ี 6.6 ถูกตอ้ ง จำนวน 3 ข้อ
การตระหนักในคณุ ค่า 3 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมที่ 6.6 ถกู ตอ้ ง จำนวน 2 ข้อ
2 ตอบคำถามท้ายกิจกรรมที่ 6.6 ถกู ตอ้ ง จำนวน 1 ข้อ หรอื ไมถ่ ูกตอ้ ง
ของการเลอื กใช้
เคร่ืองใช้ไฟฟา้ 1
9.2 ระดบั คุณภาพ
คะแนนรวมเฉลีย่ 3.00 หมายถึง ดมี าก
คะแนนรวมเฉลี่ย 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99 หมายถงึ พอใช้
ดังนนั้ นกั เรยี นตอ้ งไดค้ ะแนนเฉลยี่ ทุกประเดน็ การประเมนิ ไมต่ ่ำกวา่ 2.00 แสดงระดับ
คุณภาพ ดี ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในแผนการจัดการเรียนท่ี 19
สอื่ การเรยี นรูแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19: สอ่ื วีดิทัศน์
คลิปวดี ที ศั น์: การใช้ไฟฟ้าอยา่ งปลอดภยั ในบา้ นอยู่อาศยั
สือ่ วีดทิ ัศน์เรอ่ื ง การใช้ไฟฟ้าอยา่ งปลอดภัยในบ้านอยอู่ าศยั อธบิ ายเกีย่ วขอ้ งกบั สญั ลักษณ์ทแ่ี สดง
เพื่อระวังการใช้ชีวติ ประจำวนั
แหลง่ ท่มี า: เว็บไซต์อ้างองิ
https://www.youtube.com/watch?v=gVpXXdJVbn0
เผยแพร่เมือ่ 25 สงิ หาคม พ.ศ. 2559
(ชอ่ งYouTube: PEA CHANNEL)
ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 19: แผนภาพแสดงผังมโนทศั น์
แสดงแผนภาพแสดงผงั มโนทศั น์ เร่อื งวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย
(ทม่ี า: https://www.pea.co.th/)
ส่ือการเรียนรแู้ ผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 19: ใบกิจกรรมท่ี 6.6
ใบกิจกรรมท่ี 6.6 ใชเ้ คร่อื งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั และปลอดภัยไดอ้ ย่างไร
หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ 2 ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธิการ หนา้ 112
กจิ กรรมที่ 6.6 ใช้เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัยได้อยา่ งไร?
จดุ ประสงค์ 1. วางแผนการใชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นอยา่ งถกู ต้อง ประหยดั และปลอดภัย
2. เปรียบเทยี บค่าไฟฟา้ ก่อนและหลังการปฏบิ ตั ิเพอ่ื การประหยดั พลังงานไฟฟา้
3. นำเสนอวธิ กี ารใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างประหยดั และปลอดภัย
วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1. ใบแจ้งค่าไฟฟ้าก่อนการปฏิบตั ิ 1 ใบ
2. ใบแจ้งค่าไฟฟา้ หลังการปฏบิ ัติ 1 ใบ
วธิ ดี าเนินกจิ กรรม 1. สงั เกตข้อมลู และระบจุ านวนหนว่ ยของพลงั งานไฟฟ้าทีใ่ ช้ในเดือนน้นั ในใบแจ้ง
ค่าไฟฟา้ บนั ทกึ ผล
2. บนั ทึกข้อมลู เกยี่ วกับกาลังไฟฟา้ ของเครือ่ งใช้ไฟฟ้าทีใ่ ช้ภายในบ้านของตนเอง และ
บนั ทกึ พฤตกิ รรมจรงิ ในการใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าแตล่ ะชนดิ และระยะเวลาทใี่ ช้ เชน่
ใชเ้ ตารีดกาลังไฟฟา้ 2,400 วตั ต์รดี ผ้าวันละ 30 นาที โดยใชร้ ะดบั ความรอ้ นสูงเท่ากัน
ทกุ ช้นิ และพรมน้าที่ผา้ ก่อนการรดี
3. สบื คน้ วิธีการใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ อย่างถกู ตอ้ ง ประหยดั และปลอดภยั แล้วอภปิ ราย
รว่ มกันและวางแผนการใช้เครอื่ งใช้ไฟฟ้าในบา้ นให้ถกู ตอ้ ง ประหยัด และปลอดภยั
ลงมอื ปฏิบัติตามทวี่ าแผนไว้เป็นเวลา 1 เดือน และสงั เกตจานวนหนว่ ยของพลังงาน
ไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟา้ ทใี่ ช้ในเดือนหลังการปฏิบัติ บนั ทกึ ผล
5. เปรยี บเทยี บจานวนหนว่ ยของพลงั งานไฟฟ้าทใ่ี ชก้ ่อนและหลงั การปฏบิ ัติ
6. นาเสนอวธิ ีการใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถกู ตอ้ ง ประหยดั และปลอดภยั
การเตรียมตัว ครตู ้องแจ้งใหน้ กั เรียนเตรียมใบแจ้งคา่ ไฟฟ้าของบ้านตนเองในเดอื นก่อนปฏิบัติ
ลว่ งหน้าสาหรับครู กิจกรรม หรือครอู าจใช้ใบแจ้งค่าไฟฟ้าของโรงเรียนเพอื่ ใหน้ ักเรียนวางแผนการใช้
เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ของโรงเรียนแทนบา้ นตนเอง
ขอ้ เสนอแนะใน • เนื่องจากกจิ กรรมน้ี นักเรียนตอ้ งปฏิบัติกิจกรรมเป็นเวลานาน 1 เดือน ครูสามารถ
การทากิจกรรม เลือกจัดกิจกรรมได้ 2 แนวทาง
แนวทางที่ 1 ให้นักเรียนสบื คน้ ขอ้ มูลเกยี่ วกบั การใช้เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าอย่างถกู ตอ้ ง
ประหยดั และปลอดภัย จากน้นั วางแผนการใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งถูกตอ้ ง ประหยดั
และปลอดภัย และปฏิบตั ิงานตามแผนที่วางไว้เปน็ เวลา 1 เดอื น ซึ่งในระหวา่ งท่ี
นักเรียนปฏิบัตงิ านตามแผน ครสู ามารถจัดการเรียนรอู้ นื่ ๆ ได้ แล้วจัดกจิ กรรมน้ี
อีกคร้ัง เพื่อให้นักเรียนได้เปรียบเทียบจานวนหน่วยของพลังงานไฟฟ้ากอ่ นและหลังได้
กิจกรรมที่ 6.6 ใชเ้ ครื่องใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภยั ไดอ้ ย่างไร?
ขอ้ เสนอแนะใน แนวทางท่ี 2 ในระหวา่ งการจัดการเรยี นรบู้ ทที่ 1 ปริมาณทางไฟฟ้า มอบหมายให้
การทากจิ กรรม นกั เรยี นสบื ค้นข้อมลู เกย่ี วกบั การใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟา้ อย่างถูกตอ้ ง ประหยดั และ
ปลอดภัยลว่ งหนา้ และวางแผนการประหยัดไฟฟ้าในบา้ นของตนเอง จากน้นั ปฏิบัติ
สื่อการเรียนร/ู้ ตามแผนที่วางไวเ้ ปน็ เวลา 1 เดือน เพื่อเตรยี มสำหรบั การทำกิจกรรมท่ี 6.6
แหลง่ เรียนรู้ • เนื่องจากกิจกรรมน้ีตอ้ งใช้ใบแจง้ ค่าไฟฟ้าก่อนและหลังการปฏิบตั ิ เพือ่ ให้สามารถ
เปรียบเทียบจำนวนหนว่ ยของพลงั งานไฟฟา้ ได้ ครูควรแนะนำใหน้ กั เรียนปฏิบัติ
กจิ กรรมตามแผนทว่ี างไว้ไปจนกวา่ จะไดร้ บั ใบแจ้งค่าไฟฟา้ ในรอบถัดไป
• การบันทกึ ข้อมลู เก่ียวกับพฤติกรรมการใชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟ้า ครคู วรแนะนำให้นกั เรยี น
บันทึกรายละเอยี ดของพฤตกิ รรม เชน่ วิธีการใชง้ าน ระยะเวลาทใ่ี ช้ เพื่อเปน็ ขอ้ มลู
ประกอบการวางแผนการใชเ้ ครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าให้ถกู ต้อง ประหยดั และปลอดภัย
• การไฟฟา้ สว่ นภมู ิภาค : วธิ ีใชไ้ ฟฟ้าอย่างประหยัด
https://www.pea.co.th/
• การไฟฟา้ ฝา่ ยผลิตแห่งประเทศไทย : รไู้ วใ้ ช่ว่า ไฟฟ้าใกล้ตัว “การใช้ไฟฟา้
อย่างปลอดภยั ”
https://www.egat.co.th/
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เครื่องใช้ไฟฟา้ ในบ้านชนดิ ใดท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ มากที่สดุ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
2. นกั เรียนวางแผนการใชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นใหถ้ ูกตอ้ ง ประหยัด และปลอดภัยอยา่ งไร
3. จากกจิ กรรม สรุปได้วา่ อยา่ งไร
สอื่ การเรียนรแู้ ผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 19: แบบบันทกึ การค้นคว้ากจิ กรรมท่ี 6.6
แบบบันทกึ การคน้ ควา้ กิจกรรมที่ 6.6 ใชเ้ ครื่องใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภยั ได้อย่างไร
ช่ือ-นามสกุล..........................................................................................ชนั้ .................เลขท่ี...........กลมุ่ ท.่ี ...........
ตารางบันทึกผลการทำกจิ กรรม
การใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้า
การใชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟ้า การใชเ้ ครือ่ งใชไ้ ฟฟ้า การใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟา้
ใหถ้ กู ต้อง ให้ประหยัด ใหป้ ลอดภัย
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
………………………………..…… ………………………………..…… ………………………………..……
คำถามท้ายกจิ กรรม
1. เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นชนดิ ใดท่ีใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ามากที่สดุ ทราบไดอ้ ย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. นกั เรยี นวางแผนการใชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นใหถ้ ูกตอ้ ง ประหยดั และปลอดภยั อยา่ งไร
ตอบ ………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จากกิจกรรม สรุปไดว้ า่ อย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนบทา้ ยแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 19: การใหค้ ะแนนด้านกระบวนการ (P)
แนวทางบันทกึ การคน้ ควา้ กิจกรรมท่ี 6.6 ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภยั ได้อยา่ งไร
ตารางบนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม
การใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้
การใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟ้า การใชเ้ ครื่องใชไ้ ฟฟา้ การใช้เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้
ให้ถูกตอ้ ง
ให้ประหยดั ให้ปลอดภยั
- ใช้เคร่อื งใช้ไฟฟ้าท่มี ี
ความต่างศักย์ไฟฟา้ ตรง - ใช้เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ที่มีฉลาก - ต่อสายดินเมื่อใช้
กบั ความตา่ งศักย์ไฟฟ้า
ของแหลง่ กำเนดิ ไฟฟ้า แสดงประสทิ ธภิ าพอุปกรณ์ เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ทเ่ี ป็นโลหะ
หรอื แหลง่ จ่ายไฟฟา้
ไฟฟ้าหรอื ฉลากประหยัดไฟ - ใช้อุปกรณ์ไฟฟา้ หรอื
เบอร์ 5 ซึง่ บอกคณุ ภาพ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าทีผ่ า่ น
ในการใช้พลงั งานไฟฟา้ มาตรฐานอุตสาหกรรม
ของเคร่อื งใช้ไฟฟา้ - ศึกษาคมู่ อื วธิ ีการใช้
- เลอื กใชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ทม่ี ี เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าและปฏิบัติ
กำลงั ไฟฟ้าเหมาะสมกบั ตามเพ่อื ปอ้ งกนั อนั ตราย
การใชง้ าน เช่น เลอื กใช้ - ไม่เสียบปลัก๊ หรอื เตา้ เสียบ
เครื่องปรบั อากาศทม่ี ี ของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าท่ีมี
กำลงั ไฟฟา้ น้อย มขี นาดบีทียู กำลงั ไฟฟ้าสูงหลายชนดิ
เหมาะสมกบั ขนาดของห้อง ที่เตา้ รบั เพียงอันเดยี ว
และติดตั้งในตำแหน่งท่ี - ใช้สายไฟฟ้าทีม่ ีขนาด
เหมาะสมกับการใช้งาน เหมาะสมเพอื่ รองรบั
เพอื่ ให้อากาศเย็นหมนุ เวยี น ปริมาณกระแสไฟฟา้
ในห้องได้อยา่ งท่วั ถงึ - ตดิ ต้ังสวติ ช์ตัดไฟอตั โนมตั ิ
แนบทา้ ยแผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 19: การให้คะแนนดา้ นความรู้ (K) และด้านเจตคติ (A)
เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 6.6 ใช้เครอื่ งใช้ไฟฟา้ อย่างประหยัดและปลอดภยั ไดอ้ ย่างไร
เฉลยคำถามท้ายกิจกรรม
1. เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นชนดิ ใดทใ่ี ช้พลงั งานไฟฟา้ มากท่ีสดุ ทราบได้อย่างไร
แนวคำตอบ เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าท่ใี ช้พลังงานไฟฟ้ามากทสี่ ดุ พจิ ารณาได้ 2 กรณี คือ
กรณี 1 พิจารณาจากกำลังไฟฟา้ ของเครอื่ งใช้ไฟฟ้า โดยเครือ่ งใช้ไฟฟ้าท่ีมกี ำลงั ไฟฟ้ามากจะใช้พลงั งานไฟฟ้ามาก
ซ่งึ เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ที่ให้ความร้อนและใหพ้ ลงั งานกลบางชนิดเปน็ เครือ่ งใช้ไฟฟ้าที่ใชก้ ำลงั ไฟฟ้ามาก เชน่
เครื่องทำนำ้ อ่นุ ไฟฟ้า มีกำลงั ไฟฟ้า 2,500-12,000 วตั ต์ เตารีดไฟฟ้ามีกำลังไฟฟา้ 750-2,000 วตั ต์
เคร่ืองซกั ผา้ มีกำลงั ไฟฟ้า 3,000 วตั ต์
กรณี 2 พจิ ารณาจากเวลาทีใ่ ช้เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ถ้าเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าที่มีกำลงั ไฟฟ้านอ้ ยแต่ใชง้ านเปน็ ระยะเวลานาน
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้านน้ั กจ็ ะใชพ้ ลังงานไฟฟ้ามากเชน่ กัน
2. นักเรียนวางแผนการใช้เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ในบา้ นใหถ้ กู ตอ้ ง ประหยัด และปลอดภัยอย่างไร
แนวคำตอบ ขึน้ อย่กู บั การทำกจิ กรรมของนกั เรียน
- การใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟา้ ให้ถกู ตอ้ ง เชน่ ใชเ้ คร่อื งใช้ไฟฟ้าท่มี คี วามต่างศักยไ์ ฟฟ้าตรงกบั ความต่างศักย์ไฟฟ้า
ของแหล่งกำเนดิ ไฟฟ้าหรือแหล่งจา่ ยไฟฟ้า
- การใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้าใหป้ ระหยดั เช่น ใชเ้ ครือ่ งใช้ไฟฟ้าที่มฉี ลากแสดงประสทิ ธิภาพอปุ กรณไ์ ฟฟ้าหรอื
ฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 และเลอื กใช้เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ท่ีมกี ำลงั ไฟฟา้ เหมาะสมกบั การใชง้ านของตนเอง
- การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย เช่น ต่อสายดินเมื่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นโลหะ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า
หรอื เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าท่ีผา่ นมาตรฐานอตุ สาหกรรม และใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าใหถ้ ูกต้องตามคู่มอื การใชง้ าน
3. จากกจิ กรรม สรุปไดว้ ่าอย่างไร
แนวคำตอบ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้อง ประหยัด และปลอดภัย ขึ้นอยู่กับการทำกิจกรรมของ
นักเรยี น โดยใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟา้ ให้ถูกตอ้ ง เช่น ใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ทีม่ ีความต่างศกั ย์ไฟฟา้ ตรงกับความต่างศกั ย์ไฟฟ้า
ของแหล่งกำเนิดไฟฟ้าหรือแหล่งจ่ายไฟฟ้า การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด เช่น ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลาก
แสดงประสิทธิภาพอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5 และเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลัง ไฟฟ้า
เหมาะสมกับการใชง้ านของตนเอง ทงั้ นี้เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าท่ใี ชพ้ ลงั งานไฟฟ้ามากพิจารณาจากกำลังไฟฟ้าและเวลาท่ี
ใช้ สว่ นการใช้เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าให้ปลอดภยั เชน่ ใช้อปุ กรณไ์ ฟฟ้าหรือเคร่อื งใช้ไฟฟา้ ที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม
และใช้เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ให้ถูกต้องตามคูม่ อื ปฏิบัติ และเมอ่ื ใชเ้ ครอื่ งใช้ไฟฟา้ ทีเ่ ปน็ โลหะจะตอ้ งต่อสายดิน ในการวาง
แผนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นให้ถูกต้อง ประหยัด และปลอดภัย จะช่วยให้การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามีความ
ปลอดภัยแล้ว ยังช่วยลดการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ภายในบ้านไดใ้ นปรมิ าณมาก
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 20
เรอ่ื ง ตัวต้านทานไฟฟ้า รหัสวชิ า ว23102 เวลา 2 ช่วั โมง
รวม 22 ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ไฟฟา้ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2
มาตรฐาน ว 2.3
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระที่ 2 ช่อื สาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด
ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลงั งาน พลังงานในชวี ิตประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลนื่ ปรากฏการณท์ เ่ี ก่ียวข้องกับเสียง แสง และคลื่น
แมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตัวชวี้ ัด
ว 2.3 ม.3/6 บรรยายการทำงานของชนิ้ สว่ นอเิ ล็กทรอนกิ ส์อย่างง่ายในวงจรจากข้อมูลทรี่ วบรวมได้
2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
1) ชน้ิ ส่วนอิเลก็ ทรอนกิ ส์มีหลายชนิด เชน่ ตัวต้านทาน ไดโอด ทรานซสิ เตอร์ ตัวเก็บประจุ โดยชิ้นส่วน
แตล่ ะชนดิ ทำหน้าที่แตกต่างกนั เพื่อให้วงจรทำงานไดต้ ามตอ้ งการ
2) ตัวต้านทานทำหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ไดโอดทำหน้าที่ให้กระแสไฟฟ้า
ผ่านทางเดยี ว ทรานซสิ เตอร์ทำหน้าที่เปน็ สวิตช์ปิดหรือเปิดวงจรไฟฟ้าและควบคมุ ปรมิ าณกระแสไฟฟ้า ตัวเก็บ
ประจทุ ำหน้าทเี่ ก็บและคายประจไุ ฟฟ้า
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นักเรียนบรรยายหน้าท่ีของตัวต้านทานในวงจรไฟฟ้าได้
1) ดา้ นความรู้ (K) นักเรยี นใช้ทกั ษะการสงั เกต โดยการสงั เกตการทำงานของตวั ตา้ นทาน
2) ด้านทกั ษะ (P) นักเรยี นตระหนกั ถงึ ความสำคัญของการใช้อุปกรณ์การทำกิจกรรมได้
3) ด้านเจตคติ (A)
4. คุณลกั ษณะผูเ้ รยี น ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ มุ่งมั่นในการทำงาน
4.1 คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง
มวี ินยั รักความเปน็ ไทย
5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ความสามารถในการสอื่ สาร: นกั เรยี นสามารถสือ่ สาร โดยการนำเสนอขอ้ มลู จากการสงั เกต การ
ปฏิบตั ิกิจกรรมการสืบคน้ ขอ้ มูล และการอภิปราย มาอธบิ ายเกยี่ วกบั หน้าที่ของชิน้ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์แตล่ ะชนิด
6. สาระการเรยี นรู้
ภายในเครื่องใช้ไฟฟ้ามีวงจรไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างก็มีชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์อยู่ใน
วงจรไฟฟ้า เพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟา้ ทำงานได้ตามต้องการ
เชน่ ตวั ตา้ นทาน ไดโอด ตวั เกบ็ ประจุ ทรานซสิ เตอร์
ตัวต้านทานเป็นชิน้ สว่ นอิเลก็ ทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ตัวต้านทานคงที่และ
ตวั ต้านทานแปรค่าได้ ซง่ึ สามารถอ่านค่าความต้านทานไฟฟ้าของตวั ต้านทานคงท่ีได้จากแถบสีรอบตัวต้านทาน
สว่ นตัวตา้ นทานแปรค่าได้ จะระบุคา่ ความตา้ นทานไฟฟ้าสูงสุดไว้บนตวั ตา้ นทานนน้ั
ก. ตัวตา้ นทานคงที่ ข. ตวั ต้านทานแปรคา่ ได้
ภาพแสดง ตวั ต้านทาน
เม่อื ตอ่ ตวั ต้านทานเขา้ ในวงจรไฟฟ้า ปรมิ าณกระแสไฟฟ้าในวงจรจะเปล่ียนไปเมือ่ เทยี บกบั วงจรไฟฟา้
ที่ไม่ได้ต่อตัวตา้ นทาน ดังนั้นตัวต้านทาน (resistor) จึงทำหน้าท่ีควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจร โดยเม่ือ
ค่าความตา้ นทานไฟฟา้ สงู ข้ึน ปรมิ าณกระแสไฟฟา้ ในวงจรจะมคี ่าลดลง ตวั ตา้ นทานเป็นช้นิ สว่ นอิเล็กทรอนิกส์ท่ี
ไมม่ ขี ั้ว การสลับขาของตัวต้านทานที่ต่อในวงจรไฟฟ้าไม่มีผลตอ่ ปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ตัวต้านทาน
จะมีความต้านทานไฟฟ้า ซึ่งมีหน่วยเป็นโอห์ม ()
การที่ตัวต้านทานทำหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าในวงจร จึงสามารถนำตัวต้านทานมาต่อ
อนุกรมกับชิ้นส่วนอิล็กทรอนิกส์อื่น เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าที่ผ่านชิ้นส่วนอเิ ล็กทรอนิกส์มคี ่ามากเกินไป
จนเกิดความเสยี หายแกช่ ้นิ สว่ นอเิ ล็กทรอนกิ สน์ น้ั ๆ ในวงจรไฟฟ้าได้
ตัวต้านทานคงทีเ่ ป็นตัวต้านทานที่มีค่าความต้านทานไฟฟ้าไม่เปลี่ยนแปลง การเขียนตวั ต้านทานคงที่
ในแผนภาพวงจรไฟฟา้ ใชส้ ญั ลกั ษณ์ในวงจรคือ
ตัวต้านทานแปรค่าได้เป็นตัวต้านทานท่ีค่าความต้านทานไฟฟ้าสามารถปลี่ยนแปลงได้ดว้ ยการหมนุ
ปุ่มปรับคา่ เพม่ิ หรือลดคา่ ความตา้ นทานไฟฟา้ ที่ต้องการ ตัวตา้ นทานแปรค่าไดใ้ ช้สัญลกั ษณใ์ นวงจรไฟฟา้ คอื
หรือ
ตัวต้านทานแปรค่าได้ประกอบด้วยขา 3 ขา ในการใช้งานตัวต้านทานแบรค่าได้สามารถเปลี่ยนค่า
ความต้านทานไฟฟ้าจากค่าต่ำสุด คือ 0 โอห์ม ไปยังค่าสงู สุดตามที่กำหนดไว้ เช่น ตัวต้านทานแปรค่าไดข้ นาด
10 กิโลโอห์ม จะสามารถเปลย่ี นค่าจาก 0 โอหม์ ถงึ 10 กโิ ลโอหม์ ไดอ้ ย่างตอ่ เนอื่ ง
ภาพแสดง ขาของตัวตา้ นทานแปรคา่ ได้
ตัวต้านทานแปรค่าได้สมารถนำมาใช้ในเคร่ืองใช้ไฟฟ้าหรืออปุ กรณไ์ ฟฟ้าในลักษณะเป็นปุ่มหมุนเพอ่ื
ปรับลดหรือเพิ่มความต้านทานไฟฟ้า เช่น ปุ่มปรับความดังของเสียงในคร่ืองเสียง ปุ่มปรับระดบั ความร้อนของ
เตารีด ปุ่มปรบั ความสว่างในวงจรหรไ่ี ฟ (dimmer)
7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ใช้รปู แบบการจดั การเรยี นการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ชัว่ โมง; 120นาที)
ข้ันท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) (20 นาที)
1) ให้นักเรยี นสงั เกตภาพนำเรอ่ื ง หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้
ม.3 เลม่ 2 สสวท. หน้า 116) หรือใช้สอื่ วีดิทศั น์ (https://www.youtube.com/watch?v=yTGSy-79eHc)
ร่วมกับการนำเสนอภาพนำเรอ่ื ง จากน้นั ให้นักเรยี นอ่านเน้อื หานำเร่ือง และร่วมกนั อภปิ รายโดยใชค้ ำถามต่อไปนี้
- องคก์ ารบรหิ ารการบินและอวกาศแหง่ ชาตหิ รือนาซาพัฒนาหุ่นยนตม์ าเพือ่ ช่วยปฏบิ ตั ิภารกิจ
บนดาวอังคารหุน่ ยนต์ดังกลา่ วมีช่ือว่าอะไร (หุน่ ยนต์ R5 หรอื เรียกชื่ออกี อย่างว่า Valkyrie)
- ห่นุ ยนต์ R5 มีลักษณะพิเศษอยา่ งไร (หนุ่ ยนต์ R5 มีลกั ษณะพเิ ศษ คือสามารถเคลอ่ื นไหวได้
อยา่ งอิสระคล้ายมนุษย์ โดยใชเ้ ซ็นเซอร์ควบคมุ การเคลื่อนไหวกว่า 200 จุดท่ัวรา่ งกาย)
- หนุ่ ยนต์ R5 มคี วามสามารถดา้ นใดบ้าง (หุ่นยนต์ R5 มีความสามารถในการตดั สนิ ใจเร่ือง
ตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเองเนอื่ งจากมรี ะบบปญั ญาประดิษฐ์ มคี วามสามารถในการซ่อมแซมอุปกรณท์ ี่เสยี หายและ
บรรเทาภยั พิบัติเน่อื งจากมรี ะบบปฏิบตั กิ ารเม่ือเกิดเหตฉุ ุกเฉนิ และมีความสามารถในการสำรวจเน่ืองจากมี
ระบบการสำรวจในพื้นท่ีทย่ี ากตอ่ การเข้าถึง)
- นักเรยี นคดิ วา่ ภายในหนุ่ ยนต์ R5 มีวงจรไฟฟ้าหรอื ไม่ อย่างไร (หนุ่ ยนต์ R5 มีวงจรไฟฟา้ ที่
ซบั ซ้อนอยภู่ ายในซ่ึงประกอบด้วยส่วนรับคำสง่ั ส่วนปฏบิ ตั กิ าร และส่วนแสดงผลท่ีทำงานสัมพนั ธ์กนั เป็นระบบ)
- นกั เรียนคิดว่าภายในวงจรไฟฟา้ ของหุ่นยนต์ R5 จะมกี ารใชง้ านช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรอื ไม่
หากมชี ้นิ สว่ นอเิ ล็กทรอนกิ สจ์ ะมีหน้าท่อี ย่างไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
2) ให้นักเรยี นทำกิจกรรมทบทวนความรูก้ อ่ นเรียน (หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ชั้นม.3 เล่ม2 สสวท. หน้า 117) จำนวน 2 ข้อ (เฉลยแนบท้ายแผนการจัดการเรียนรู้) เกี่ยวกบั
วงจรไฟฟา้ และการต่อวงจรไฟฟ้า โดยวิเคราะห์ความตา่ งศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟ้า และการตอ่
หลอดไฟฟ้าให้สว่าง แลว้ รว่ มกนั อภิปรายเพือ่ ให้ไดค้ ำตอบทถ่ี ูกต้อง
3) ครูตรวจสอบการทำกิจกรรมทบทวนความรู้ก่อนเรียน ถ้าไม่ถูกต้องให้แก้ไขความเข้าใจ
คลาดเคลื่อนของนักเรียน ความรู้พื้นฐานเรื่องส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าท่ีถูกต้องและเพียงพอท่ีจะเรยี นเรื่อง
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ตอ่ ไป
4) กระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยครูใช้สื่อวีดิทัศน์เกี่ยวกับวงจรไฟกะพริบ
(https://youtu.be/GK3cb85k8S0) หรืออาจใชส้ ่ือจรงิ ใหน้ กั เรียนดู และรว่ มกนั อภิปรายโดยใชค้ ำถาม เช่น
- วงจรไฟฟ้าที่เห็นประกอบด้วยอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น
ถา่ นไฟฉาย สายไฟฟา้ หลอดไฟฟ้าและชิน้ ส่วนอื่น ๆ)
- วงจรไฟฟา้ น้ที ำงานอย่างไร (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
- วงจรไฟฟา้ น้ีแตกต่างจากวงจรไฟฟ้าท่ีนักเรยี นเคยต่อมาแลว้ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความ
เข้าใจของตนเอง)
- ส่วนประกอบใดในวงจรไฟฟ้าทำให้หลอดไฟฟ้าสว่างสลับกัน (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ
ของตนเอง)
5) ให้นักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหนา้ 118 จากนั้นครูนำเสนอชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
และร่วมกันอภิปราย เพื่อให้ไดข้ ้อสรปุ ว่า ชน้ิ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนิกสพ์ ื้นฐานทสี่ ำคัญ เชน่ ตัวตา้ นทาน ไอโอด ตวั เก็บ
ประจุ และทรานซสิ เตอร์ เปน็ ชนิ้ ส่วนที่มหี น้าทค่ี วบคมุ การเคล่ือนทขี่ องกระแสไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้
ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration) (40 นาที)
6) ครูเชอ่ื มโยงเขา้ สกู่ จิ กรรมที่ 6.7 ตัวตา้ นทานมีหนา้ ทอี่ ะไร โดยใช้คำถามวา่ นักเรียนคิดว่า
ตวั ตา้ นทานทำหน้าที่ควบคมุ กระแสไฟฟ้าอยา่ งไรหรือทำหน้าที่อะไรในวงจรไฟฟ้า (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจ
ของตนเอง)
7) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 119 และครูตรวจสอบความ
เข้าใจการอา่ น โดยใช้คำถามดังตอ่ ไปน้ี
ตอนที่ 1 ตัวตา้ นทานคงที่
- กจิ กรรมนเี้ กีย่ วกับเรื่องอะไร (หนา้ ทีข่ องตวั ตา้ นทานคงท่ใี นวงจรไฟฟ้า)
- กิจกรรมน้ีมีจุดประสงค์อะไร (สังเกตและบรรยายหนา้ ท่ขี องตัวตา้ นทานคงท่ใี นวงจรไฟฟ้า)
- วิธีดำเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (ต่อสวิตช์ สายไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า และ
แอมมเิ ตอรเ์ ขา้ กบั ถ่านไฟฉายแบบอนุกรม สังเกตรปู รา่ งลกั ษณะของตัวต้านทานคงท่ีแลว้ ต่อแทรกในวงจรไฟฟ้า
แบบอนุกรม สลับขาของตัวต้านทานคงที่เพื่อตรวจสอบขั้ว เปลี่ยนตัวต้านทานคงที่มีค่าความต้านทานไฟฟ้า
เพม่ิ ข้นึ )
- นกั เรยี นต้องสงั เกตหรอื รวบรวมขอ้ มลู อะไรบา้ ง (นกั เรยี นตอ้ งสงั เกตและบันทกึ ข้อมลู เก่ียวกับ
การเปล่ยี นแปลงของหลอดไฟฟา้ และปริมาณกระแสไฟฟา้ เมื่อไมต่ ่อตวั ต้านทานคงท่ีและเมื่อต่อตวั ต้านทานคงท่ี)