The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผน2.2564-ครูเมธินีย์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chaimath2514, 2021-11-07 01:04:27

วิทยาศาสตร์ 6 ม 3

แผน2.2564-ครูเมธินีย์

การใหค้ ะแนนพฤตกิ รรม 3 ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีท่ไี ด้รับมอบหมาย ภายในช้ันเรยี นได้อยา่ งดี ไม่เกดิ ปัญหา
ระเบยี บวินัยในการ สง่ ภาระงานท่ีได้รับตรงต่อเวลา และงานมคี วามสมบูรณ์ เรียบร้อย

เรยี นร้ทู างวิทยาศาสตร์ ปฏบิ ตั ิหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย ภายในช้นั เรยี นได้แต่เกดิ ปัญหา

2 จึงมีการปรับปรงุ แก้ไข และส่งภาระงานที่ไดร้ บั มอบหมายตรงตอ่ เวลา

หรอื ช้ากว่ากำหนดเวลาไมน่ าน

ปฏิบตั หิ นา้ ท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ภายในช้ันเรยี นไดแ้ ต่เกดิ ปญั หาแล้ว

1 แกไ้ ขไมไ่ ด้ ส่งผลกระทบตอ่ การสง่ ภาระงานท่ีได้รบั มอบหมายตรง

ทำให้เกิดปัญหา ส่งชา้ กวา่ กำหนดเวลาออกไป

9.2 ระดบั คณุ ภาพ หมายถงึ ดีมาก
หมายถงึ ดี
คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถงึ พอใช้
คะแนนรวมเฉล่ีย 2.00 - 2.99
คะแนนรวมเฉลีย่ 0.01 - 1.99

ดังน้นั นกั เรียนตอ้ งได้คะแนนเฉลยี่ ทกุ ประเดน็ การประเมิน ไมต่ ่ำกวา่ 2.00 แสดงระดบั
คณุ ภาพ ดี ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมินในแผนการจดั การเรยี นที่ 31

สอ่ื การเรยี นรูแ้ ผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 31: สอ่ื วีดทิ ัศน์
คลิปวีดที ัศน์: 10 Most Beautiful Birds on Planet Earth 2

ส่ือวดี ทิ ศั น์เรือ่ ง นก (10 Most Beautiful Birds on Planet Earth 2) แสดงเกีย่ วกับ
ความหลากหลายของสายพนั ธน์ุ ก

แหลง่ ทม่ี า: เว็บไซต์อา้ งองิ
https://www.youtube.com/watch?v=4rz3xdl2R7Q

เผยแพรเ่ มอ่ื 24 ตุลาคม พ.ศ. 2561
(ช่องYouTube: 4 Ever Green)

สอื่ การเรยี นรู้แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 31: ส่อื วีดทิ ัศน์
คลปิ วีดีทัศน์: Types of Fish-Animal Classification

ส่อื วดี ทิ ัศน์เรอ่ื ง ปลา (Types of Fish-Animal Classification) แสดงเกีย่ วกบั
ความหลากหลายของสายพนั ธป์ุ ลา

แหล่งท่ีมา: เวบ็ ไซต์อา้ งอิง

https://www.youtube.com/watch?v=ZlUpovIkvaA
เผยแพรเ่ มื่อ 11 กันยายน พ.ศ. 2559
(ช่องYouTube: MooMooMath and Science)

สอ่ื การเรียนรแู้ ผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 31: ใบกจิ กรรมท่ี 7.5

ใบกิจกรรมที่ 7.5 ชนิดของสิง่ มีชวี ติ ในแต่ละระบบนเิ วศแตกตา่ งกนั อยา่ งไร

หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 2 ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หนา้ 187

กจิ กรรมท่ี 7.5 ชนิดของสิ่งมชี ีวิตในแตล่ ะระบบนเิ วศแตกตา่ งกันอยา่ งไร?
จุดประสงค์ วิเคราะหข์ ้อมูลและเปรยี บเทียบความหลากหลายทางชวี ภาพในระดับชนิดของสิ่งมีชวี ติ
ในระบบนเิ วศต่าง ๆ
วสั ดุอุปกรณ์ -
สถานการณ์ที่
กาหนดให้ ข้อมูลเก่ียวกับป่าชนดิ ตา่ ง ๆ ในประเทศไทย
ปา่ เบญจพรรณ เปน็ ปา่ โปรง่ ผลดั ใบในช่วงระหว่างเดอื นมกราคมถึงเดือนเมษายน

พบในพ้ืนท่ีภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ดินเปน็ ดินร่วนปนทราย มคี วามชื้น
ในดนิ ปานกลาง มปี ริมาณน้าฝนเฉลย่ี ตอ่ ปีประมาณ 1,400 มิลลิลิตร มักจะเกิดไฟปา่ ขนึ้
ทุกปี ปา่ เบญจพรรณมคี วามหลากหลายของพืชท้ังไม้พุ่มและไม้ตน้ ท้งั หมดประมาณ
100 - 150 ชนิดต่อพืน้ ที่ 1 เฮกแตร์ (6.25 ไร)่ พันธุ์ไม้ที่พบ เช่น สัก แดง ตะแบก ชิงชัน
เสลา ง้วิ ปา่ ตะเคียนหนู มะกอก ประดปู่ า่ ไผร่ วก ไผซ่ าง ฯลฯ สัตว์ที่พบได้ใน
ปา่ เบญจพรรณมีหลายชนดิ เชน่ กวางปา่ เกง้ กระทงิ กระจง หมีควาย หมูป่า ลงิ ค่าง

ชะนี ชะมด หมาใน หมาป่า นกเงอื กสนี ้าตาล นกกก นกขนุ ทอง ไกป่ ่า กบภเู ขา กิ้งก่า
ตะกวด ฯลฯ

ป่าเตง็ รัง เป็นปา่ โปร่งมากกว่าปา่ เบญจพรรณ พ้นื ล่างมหี ญา้ ปกคลุมหนาแน่น ผลัดใบ
ในช่วงระหวา่ งเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน พบมากในพ้ืนทภ่ี าคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
และภาคเหนอื สภาพแวดลอ้ มทวั่ ไปคล้ายป่าเบญจพรรณ มดี นิ เป็นลกู รงั มหี ินและกรวด
ปะปนกับดนิ เหนยี วหรอื ดินร่วนปนทราย ดินมีแร่ธาตุบางชนดิ ตา่ หรอื สูงเกนิ ไป มปี ริมาณ
นา้ ฝนเฉลย่ี ประมาณ 1,400 มิลลิลติ ร ป่าเตง็ รงั มีความหลากหลายของพชื ทัง้ ไมพ้ ุ่มและ
ไมต้ น้ ทง้ั หมดไม่เกิน 100 ชนดิ ต่อพ้ืนท่ี 1 เฮกแตร์ พันธไ์ุ ม้ท่ีพบ เช่น เต็ง รัง ยางกราด
เหียง พลวง มะค่าแต้ กระโดน โมกใหญ่ อินทนลิ บก สมอไทย ผักหวาน หญา้ เพก็ ปรงปา่
ฯลฯ สัตว์ทพ่ี บไดใ้ นป่าเตง็ รังมีหลายชนิด เชน่ กง้ กระต่ายปา่ สนุ ขั จง้ิ จอก ต่นุ บ่าง
กระรอกหลากสี กระแต จงอาง งูเหลือม งหู ลาม นกหัวขวานดา่ งแคระ ฯลฯ

กจิ กรรมท่ี 7.5 ชนดิ ของสิง่ มีชีวิตในแตล่ ะระบบนเิ วศแตกตา่ งกันอยา่ งไร?
สถานการณ์ท่ี ปา่ ดิบเขา เป็นป่าไม้ผลดั ใบ มีเรอื นยอดแนน่ ทึบ เขียวตลอดปี มพี นั ธุ์ไมท้ ม่ี คี วามสูง
กาหนดให้ หลายระดับ บริเวณลาตน้ และก่ิงของต้นไมม้ มี อสและเฟินเกาะเป็นจานวนมาก พบไดใ้ น
พื้นทบ่ี นภเู ขา เชน่ ดอยอินทนนท์ ดอยเชียงดาว จังหวดั เชยี งใหม่ คอยภูคา จังหวัดน่าน
วธิ ีดาเนินกจิ กรรม เขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ภูหลวง จังหวัดเลย เขาหลวง จงั หวัดนครศรธี รรมราช มีดิน
เป็นดินรวนปนทรายแปง้ มอี ากาศเย็นตลอดทั้งปแี ละชมุ่ ชนื้ มีฝนตกเปน็ ประจา มปี รมิ าณ
นา้ ฝนเฉลย่ี ประมาณ 1,500 - 2,000 มิลลเิ มตร ป่าดิบเขามคี วามหลากหลายของพชื ทง้ั ไม้
พุ่มและไม้ต้นทง้ั หมดมากกว่า 400 ชนดิ ต่อพืน้ ที่ 1 เฮกแตร์ พนั ธไ์ุ มท้ พี่ บ เชน่ กอ่ เดือย
กอ่ หนาม มะขามปอ้ มดง จาปี จาปา มณฑาดอย สารภดี ง เต่ารา้ งยักษ์ คอ้ กายอม ฯลฯ
สตั วท์ ี่พบได้ในปา่ ดบิ เขามีหลายชนิด เช่น กวางป่า หมปู ่า เลียงผา กวางผา ลิงอ้ายเงยี ะ ลิน่
เล็ก พังพอนเหลอื ง หมหู ริ่ง หมาหรงิ่ หมีควาย เสือดาว นกเงอื กคอแดง ไก่ฟ้าหลงั ขาว นก
แวน่ สีเทา นกขตั ิยา เตาปลู ู เตา่ จนั กะทา่ ง อึ่งกรายตาขาว ฯลๆ
1. อ่านสถานการณข์ อ้ มูลเก่ียวกับระบบนิเวศป่าเบญจพรรณ ปา่ เต็งรัง และป่าดบิ เขา และ
ร่วมกันอภปิ รายชนิดของสิ่งมชี วี ติ ทพี่ บในระบบนิเวศท้งั 3 ระบบนเิ วศ บันทึกผล
2. เปรยี บเทียบความหลากหลายของชนดิ ของพืชในระบบนเิ วศทง้ั 3 ระบบนเิ วศ บันทึกผล

ขอ้ เสนอแนะใน 3. รว่ มกันอภิปรายความเหมาะสมของสภาพแวดล้อมต่อการดำรงชวี ิตในระบบนเิ วศนั้น ๆ
การทากิจกรรม บันทึกผล และนำเสนอ
ครคู วรแนะนาให้นกั เรยี นรวบรวมขอ้ มูลจากกิจกรรมในประเด็นสาคญั ดงั นี้
1. องค์ประกอบที่ไม่มีชวี ิตของปา่ แต่ละชนดิ
2. สิ่งมชี วี ติ ท่พี บในป่าแตล่ ะชนดิ
3. ความหลากหลายของพชื ทง้ั ไม้พ่มุ และไม้ต้นของปา่ แตล่ ะชนิด
นอกจากนน้ั สามารถแนะนานกั เรยี นใหส้ ืบค้นขอ้ มูลเพิม่ เติมเกย่ี วกับป่าแตล่ ะชนดิ และ
ส่ิงมชี ีวิตต่าง ๆ ท่ีพบในปา่

คำถามทา้ ยกจิ กรรม

1. สภาพแวดล้อมของระบบนเิ วศท้ัง 3 ระบบนิเวศและชนิดของสิง่ มีชีวติ มีความแตกตา่ งกันหรือไม่ อยา่ งไร
2. จำนวนชนิดของพืชในแตล่ ะระบบนเิ วศมีความแตกตา่ งกนั อยา่ งไร
3. เพราะเหตใุ ดจำนวนชนิดของพืชแต่ละระบบนเิ วศจงึ มีความแตกตา่ งกัน
4. จากกิจกรรม สรปุ ได้ว่าอยา่ งไร

ส่อื การเรียนรูแ้ ผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 31: แบบบันทึกการค้นควา้ กิจกรรมท่ี 7.5

แบบบนั ทึกการคน้ ควา้ กิจกรรมที่ 7.5 ชนิดของสิ่งมีชวี ิตในแต่ละระบบนเิ วศแตกต่างกันอย่างไร

ช่อื -นามสกลุ ..........................................................................................ชนั้ .................เลขท่ี...........กลมุ่ ท.่ี ...........

 ผลการทำกจิ กรรม ป่าเบญจพรรณ ปา่ เต็งรงั ปา่ ดิบเขา
รายละเอยี ด

องค์ประกอบท่ไี ม่
มีชวี ติ

ส่งิ มชี ีวิต

ความหลากหลาย
ของพืช

 สรปุ ผลการทำกจิ กรรม
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

แนบทา้ ยแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 31: การใหค้ ะแนนดา้ นกระบวนการ (P)

แนวทางบันทกึ การคน้ ควา้ กิจกรรมที่ 7.5 ชนิดของสงิ่ มชี ีวิตในแตล่ ะระบบนเิ วศแตกต่างกันอย่างไร

 ผลการทำกจิ กรรม

รายละเอียด ปา่ เบญจพรรณ ปา่ เตง็ รัง ป่าดิบเขา
ดินเป็นดินร่วนปน
องคป์ ระกอบทไ่ี ม่ ดนิ เป็นดนิ ร่วนปนทราย มี ดนิ เปน็ ดินลกู รัง มหี นิ และ ทรายแปง้ มอี ากาศเยน็
และชมุ่ ชนื้ มฝี นตกเป็น
มชี วี ิต ความชนื้ ในดินปานกลาง กรวดปะปนกับดินเหนียว ประจำ มปี ริมาณนำ้ ฝน
เฉลี่ย 1,500-2,000
ปริมาณนำ้ ฝนเฉล่ยี ต่อปี และดนิ รว่ นปนทราย มิลลิเมตร

ประมาณ 1,400 มลิ ลเิ มตร ดินมแี รธ่ าตุ บางชนดิ ต่ำ

หรอื สูงเกนิ ไป มปี ริมาณ

นำ้ ฝนเฉล่ยี ประมาณ

1,400 มลิ ลเิ มตร

สง่ิ มีชีวิต พืช เชน่ สกั แดง ตะแบก พชื เช่น เตง็ รงั ยางกราด พชื เชน่ ก่อเดือย กอ่ หนาม
ชิงชัน เสลา งว้ิ ปา่ เหยี ง พลวง มะคา่ แต้ มะขามปอ้ มดง จำปี จำปา
ตะเคียนหนู มะกอก กระโดน โมกใหญ่ มณฑาดอย สารภดี ง
ประดปู ่า ไผร่ วก ไผ่ซาง อินทนิลบก สมอไทย คอ้ กายอม เต่าร้างยกั ษ์
ฯลฯ ผักหวาน หญา้ เพก็ ฯลฯ ฯลฯ

ความหลากหลาย สตั ว์ เช่น กวางป่า เกง้ สตั ว์ เชน่ เก้ง กระต่ายปา่ สตั ว์ เชน่ กวางป่า หมปู ่า
ของพชื กระทิง กระจง หมีควาย สุนขั จ้งิ จอก ตุน่ บา่ ง เลยี งผา กวางผา
หมปู ่า ลงิ ค่าง ชะนี ชะมด กระรอกหลากสี กระแต ลิงอา้ ยเงียะ ลิ่นเล็ก
หมาใน ฯลฯ งจู งอาง งูเหลอื ม งูหลาม พงั พอนเหลือง เสอื ดาว
ฯลฯ ไก่ฟา้ หลงั ขาว ฯลฯ
100-150 ชนิดต่อพื้นท่ี 100 ชนดิ ต่อพื้นท่ี 10,000 400 ชนดิ ตอ่ พ้ืนที่ 10,000
10,000 ตารางเมตร ตารางเมตร ตารางเมตร
(1 เฮกแตร์)

 สรปุ ผลการทำกจิ กรรม
ระบบนิเวศท่มี คี วามหลากหลายของพืชท้งั ไม้พ่มุ และไมต้ ้นสงู มากท่สี ุดคอื ป่าดิบเขา เพราะมอี งคป์ ระกอบที่

ไม่มชี ีวติ ท่เี หมาะสมตอ่ การเจรญิ เติบโตและอาศัยของสิง่ มชี วี ติ จงึ ทำใหม้ ีความหลากหลายของพชื สูงมากท่ีสุด
รองลงมาคือ ป่าเบญจพรรณ และป่าเตง็ รัง ตามลำดับ

หมายเหต:ุ กิจกรรมไม่เปรยี บเทียบความหลากหลายของสตั ว์ เนือ่ งจากสัตว์สามารถปรับตัวใหเ้ ข้ากับสภาพแวดล้อม

จงึ ทำให้สัตว์บางชนดิ สามารถอยู่อาศัยอยใู่ นปา่ หลายชนิด และสามารถอพยพย้ายถิน่ ไปยงั พ้ืนท่ีอ่ืนได้ จึงไม่สามารถ

เปรียบเทียบความหลากหลายของสัตว์ได้

แนบท้ายแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 31: การให้คะแนนด้านความรู้ (K)

เฉลยใบกจิ กรรมที่ 7.5 ชนิดของสงิ่ มีชีวติ ในแตล่ ะระบบนิเวศแตกตา่ งกันอย่างไร

เฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม

1. สภาพแวดล้อมของระบบนิเวศทง้ั 3 ระบบนิเวศและชนิดของสงิ่ มีชีวติ มคี วามแตกตา่ งกันหรือไม่ อย่างไร
แนวคำตอบ แตกตา่ งกัน โดยปา่ เบญจพรรณเป็นป่าโปร่ง ผลดั ใบ มีดนิ เปน็ ดินรว่ นปนทราย มีความช้ืน

ในดนิ ปานกลาง ปริมาณนำ้ ฝนเฉลยี่ ต่อปีประมาณ 1,400 มลิ ลเิ มตร มพี ชื หลายชนดิ เช่น สกั แดง ตะแบก ชิงชัน
เสลา งิ้วป่า ตะเคียนหนู มะกอก ประดูป่า ไผ่รวก ไผ่ซาง ฯลฯ สัตว์ เช่น กวางป่า เกง้ กระทงิ กระจง หมีควาย
หมูปา่ ลิง ค่าง ชะนี ชะมด หมาใน ฯลฯ

ป่าเตง็ รังเป็นป่าโปรง่ มากกวา่ ป่าเบญจพรรณ พนื้ ล่างมหี ญ้าปกคลมุ มดี ินเป็นดนิ ลกู รัง มหี ินและ กรวด
ปะปนกบั ดนิ เหนยี วและดินรว่ นปนทราย ดินมแี ร่ธาตบุ างชนดิ ตำ่ หรอื สงู เกนิ ไป มปี ริมาณน้ำฝนเฉลยี่ ประมาณ
1,400 มลิ ลิเมตร มีพชื หลายชนดิ เช่น เตง็ รงั ยางกราด เหยี ง พลวง มะคา่ แต้ กระโดน โมกใหญ่ อนิ ทนิลบก
สมอไทย ผักหวาน หญา้ เพก็ ฯลฯ สัตว์ เช่น เกง้ กระตา่ ยปา่ สนุ ขั จ้ิงจอก ตนุ่ บา่ ง กระรอกหลากสี กระแต
งจู งอาง งูเหลือม งูหลาม ฯลฯ

ปา่ ดบิ เขาเป็นปา่ ไมผ่ ลดั ใบ มีเรือนยอดแนน่ ทึบ เขียวตลอดท้ังปี มพี ันธไ์ุ ม้หลายระดับ มดี นิ เป็นดินร่วน
ปนทรายแป้ง มีอากาศเยน็ และชมุ่ ชืน้ มีฝนตกเปน็ ประจำ มีปรมิ าณน้ำฝนเฉลย่ี 1,500-2,000 มลิ ลิเมตร มีพืช
หลายชนดิ เช่น กอ่ เดือย ก่อหนาม มะขามปอ้ มดง จำปี จำปา มณฑาดอย สารภดี ง ค้อ กายอม เต่ารา้ งยักษ์
ฯลฯ สตั ว์ เชน่ กวางป่า หมูปา่ เลียงผา กวางผา ลงิ อ้ายเงยี ะ ลิ่นเล็ก พงั พอนเหลือง เสือดาว ไกฟ่ า้ หลงั ขาว ฯลฯ
2. จำนวนชนดิ ของพชื ในแต่ละระบบนเิ วศมีความแตกตา่ งกนั อย่างไร

แนวคำตอบ จำนวนชนิดมคี วามแตกตา่ งกัน โดยป่าดิบเขามีความหลากหลายของชนิดพชื มากท่ีสุด
ประมาณ 400 ชนดิ ตอ่ พื้นท่ี 10,000 ตารางเมตร (1 เฮกแตร)์ ป่าเบญจพรรณมคี วามหลากหลายของชนิดพืช
ประมาณ 100-150 ชนิดตอ่ พ้ืนที่ 1 เฮกแตร์ และ ปา่ เตง็ รังมีความหลากหลายของชนิดพชื ประมาณ 100 ชนิด
ต่อพนื้ ท่ี 10,000 ตารางเมตร
3. เพราะเหตใุ ดจำนวนชนิดของพืชแตล่ ะระบบนิเวศจึงมีความแตกต่างกนั

แนวคำตอบ จำนวนชนดิ ของพชื แต่ละระบบนิเวศแตกตา่ งกันเพราะแตล่ ะระบบนิเวศมีองคป์ ระกอบท่ี
ไมม่ ีชวี ิตแตกต่างกัน ระบบนเิ วศท่มี ีองคป์ ระกอบท่ีไม่มชี ีวิตเหมาะสมตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื ก็จะมจี ำนวน
ชนดิ ของพืชมากกว่า
4. จากกิจกรรม สรุปได้ว่าอยา่ งไร

แนวคำตอบ ระบบนเิ วศป่าท้งั 3 ระบบนเิ วศมอี งค์ประกอบทีไ่ ม่มชี วี ติ แตกตา่ งกนั สง่ ผลทำใหพ้ บ
ส่ิงมีชวี ิตในระบบนเิ วศปา่ ทั้ง 3 ระบบนเิ วศแตกต่างกัน เมื่อเปรียบเทียบความหลากหลายของชนดิ พืชท่พี บใน
ระบบนิเวศทั้ง 3 ระบบนิเวศ พบวา่ ระบบนิเวศป่าดบิ เขามีความหลากหลายของชนิดพชื สูงมากท่ีสุด รองลงมา
เป็นป่าเบญจพรรณ และปา่ เตง็ รงั ตามลำดับ

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 32

เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพกบั การรักษาสมดุลของระบบนิเวศ รหสั วิชา ว23102 เวลา 2 ชั่วโมง

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ระบบนเิ วศและความหลากหลายทางชวี ภาพ รวม 15 ช่ัวโมง

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 2

สาระที่ 1 ชือ่ สาระ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วัด
ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรมการ

เปลีย่ นแปลงทางพนั ธกุ รรมทมี่ ีผลต่อสิ่งมีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวฒั นาการของสิ่งมีชีวติ รวมท้ัง
นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชีว้ ัด
ว 1.3 ม.3/10 อธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพท่มี ตี อ่ การรักษาสมดุลของระบบ

นเิ วศและต่อมนุษย์

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
1) ความหลากหลายทางชีวภาพ มี 3 ระดับ ได้แก่ ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความหลากหลาย

ของชนดิ สิ่งมชี ีวติ และความหลากหลายทางพนั ธุกรรม ความหลากหลายทางชวี ภาพนีม้ ีความสำคญั ตอ่ การรักษา
สมดุลของระบบนเิ วศ ระบบนเิ วศท่มี คี วามหลากหลายทางชีวภาพสูงจะรกั ษาสมดุลได้ดีกว่าระบบนิเวศท่ีมีความ
หลากหลายทางชีวภาพต่ำกว่า นอกจากนี้ความหลากหลายทางชีวภาพยังมีความสำคัญต่อมนุษย์ในด้านต่าง ๆ
เช่น ใช้เป็นอาหารยารักษาโรค วัตถุดิบในอุตสาหกรรมตา่ ง ๆ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนในการดูแลรักษา
ความหลากหลายทางชีวภาพใหค้ งอยู่

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรยี นอธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชวี ภาพทีม่ ีตอ่ การรักษา
1) ดา้ นความรู้ (K) สมดุลของระบบนเิ วศและต่อมนษุ ย์ได้
นักเรียนใช้ทักษะการสังเกต โดยการสังเกตความหลากหลายของส่งิ มชี ีวิต
2) ดา้ นทักษะ (P) ทงั้ ชนิดและจำนวนส่ิงมชี วี ิต
นักเรยี นมีระเบยี บวินัยในการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
3) ด้านเจตคติ (A)

4. คณุ ลักษณะผูเ้ รียน

4.1 คุณลักษณะที่พึงประสงค์

รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซือ่ สัตยส์ ุจรติ  มุ่งม่นั ในการทำงาน

 มวี นิ ยั รักความเป็นไทย  ใฝเ่ รยี นรู้ มีจิตสาธารณะ

5. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
 ความสามารถในการสอื่ สาร: นักเรียนสามารถสื่อสาร โดยนำเสนอผลการสำรวจความหลากหลาย

ทางชวี ภาพ ความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและแนวทางในการรักษาความหลากหลายทางชวี ภาพ

6. สาระการเรียนรู้
ระบบนิเวศที่มีความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิตแตกต่างกัน จะส่งผลต่อการรักษาสมดุลของระบบ

นเิ วศแตกต่างกัน ระบบนิเวศทมี่ ีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมักจะมีสายใยอาหารท่ีซับซ้อนกว่าระบบนิเวศท่ี
มีความหลากหลายทางชีวภาพต่ำกว่า จึงสามารถรักษาสมดุลไว้ได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่น ในระบบนิเวศทีผ่ ู้บริโภค
หนงึ่ ชนดิ กินสง่ิ มีชีวติ ไดห้ ลายชนิด ถา้ ส่งิ มีชวี ิตชนิดใดชนิดหนึ่งหายไปหรือลดจำนวนลง ผบู้ รโิ ภคก็ยังคงสามารถ
ดำรงชวี ติ ตอ่ ไปได้โดยการกนิ สง่ิ มีชวี ิตชนิดอน่ื แต่ในระบบนิเวศที่ผ้บู รโิ ภคกินสง่ิ มชี ีวติ เพียงชนดิ เดยี ว ถา้ ส่ิงมีชีวิต
ที่ถูกบริโภคหายไปหรือลดจำนวนลง ผู้บริโภคนั้นก็จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยูไ่ ด้ ความหลากหลายทางชีวภาพ
นอกจากมคี วามสำคัญในการรกั ษาสมดุลของระบบนเิ วศแล้วยงั ประโยชน์ในการดำรงชวี ติ ของมนษุ ย์ ระบบนิเวศ
ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงจะมีสิ่งมีชีวิตให้มนุษย์เลือกใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น เป็นอาหาร
ทอ่ี ยูอ่ าศยั เครอ่ื งนงุ่ หม่ ยารักษาโรค วัตถดุ ิบในอตุ สาหกรรมต่าง ๆ

กิจกรรมบางอย่างของมนุษยท์ ำใหค้ วามหลากหลายทางชีวภาพลดลง เช่น การตัดไม้ การปล่อยนำ้ เสีย
ลงในแหล่งนำ้ การทิ้งขยะ การทอดสมอเรือบริเวณแนวปะการัง กิจกรรมเหล่านี้เป็นการทำลายแหล่งที่อย่ขู อง
ส่งิ มชี ีวติ ทำใหป้ ระชากรของสิง่ มชี ีวิตลดจำนวนลง อาจเป็นสาเหตทุ ที่ ำใหเ้ กิดการสญู พนั ธุข์ องสิ่งมีชีวติ และทำให้
ระบบนิเวศเสยี สมดุล ซึง่ จะส่งผลตอ่ การดำรงชวี ิตของมนุษยเ์ องในที่สดุ

จากผลของความเสียหายของระบบนิเวศ ทำให้เกิดการรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและ
การมีส่วนร่วมในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น การไม่บุกรุกพื้นท่ีปา่ เพื่อทำการเกษตรและที่อยู่
อาศยั การปลกู ปา่ และดแู ลรักษาป่า การอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ การปลกู ปา่ ชายเลน เพื่อเป็นแหล่งอนุบาล
สัตว์น้ำ การสร้างแนวปะการังเทียม เพื่อสร้างแนวปะการังใหม่หรือซ่อมแซมแนวปะการังเดิมทั้งนี้เพื่อให้
สภาพแวดลอ้ มเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชวี ิตและเป็นการดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพให้คง
อยู่ต่อไป

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ช่ัวโมง; 120นาที)
ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) (10 นาที)
1) ครูและนักเรียนสนทนารว่ มกัน เพื่อกระตุ้นความสนใจของนกั เรียน โดยคำถามว่า นักเรียน

คิดว่าความหลากหลายเหล่านี้มีความสำคัญต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศอย่างไร เพื่อสนทนาถึงประเด็น
ปญั หานัน้ ๆ

ขั้นท่ี 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) (50 นาที)
2) ครูเชื่อมโยงเข้าสูก่ ิจกรรมท่ี 7.6 ความหลากหลายทางชีวภาพเก่ียวข้องกับการรักษาสมดุล

ของระบบนิเวศอย่างไร โดนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา

พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 7.6 และครูตรวจสอบความ
เขา้ ใจการอา่ น โดยใช้คำถามดังตอ่ ไปน้ี

- กจิ กรรมน้ีเกีย่ วกบั เร่ืองอะไร (ความสำคญั ของความหลากหลายทางชวี ภาพทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการ
รกั ษาสมดลุ ของระบบนิเวศ)

- กิจกรรมน้มี จี ุดประสงคอ์ ะไร (อธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพที่มีต่อการ
รักษาสมดลุ ของระบบนิเวศ)

- วิธดี ำเนนิ กจิ กรรมมขี นั้ ตอนโดยสรุปอย่างไร (อ่านสถานการณ์ สงั เกตสายใยอาหารของทั้ง 2
ระบบนิเวศ วเิ คราะห์ผลกระทบของสงิ่ มีชีวิตในสายใยอาหาร และอภิปรายความสำคัญของความหลากหลายทาง
ชีวภาพต่อระบบนิเวศ)

- นักเรียนต้องสังเกตหรอื รวบรวมขอ้ มูลอะไรบ้าง (รวบรวมข้อมลู ในโซ่อาหารแต่ละโซ่อาหารที่
อยู่ในสายใยอาหารจากสถานการณ์ ระดมความคิดเก่ียวกับลำดับขั้นการบริโภคและบทบาทของสิ่งมีชีวิตแตล่ ะ
ชนดิ ในสายใยอาหาร)

3) ขณะที่นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมในการสำรวจ ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมของ
นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ โดยครสู ังเกตการทำงานของนกั เรยี น ใหค้ วามช่วยเหลือเมื่อนกั เรียนมีข้อสงสยั เก่ยี วกับสายใย
อาหารและโซ่อาหารแตล่ ะสถานการณ์

ขัน้ ท่ี 3 ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (20 นาที)
4) นกั เรียนบนั ทึกการทำกจิ กรรมลงในแบบบันทึกการคน้ ควา้ กิจกรรมที่ 7.6 ความหลากหลาย

ทางชีวภาพเกี่ยวข้องกับการรักษาสมดุลของระบบนิเวศอย่างไร โดยสรุปผลของกิจกรรมและตอบคำถามท้าย
กิจกรรม เพื่อให้ได้ข้อสรุปจากกิจกรรมว่า ระบบนิเวศที่ 1 มีความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิตสูงกว่าและ
มีสายใยอาหารที่ซับซ้อนมากกว่าซับซ้อน เมื่อมีสิ่งมีชีวิตชนิดใดในสายใยอาหารหายไปจะมีสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นท่ี
สามารถทำหนา้ ทแ่ี ทนกนั ได้ จึงสามารถรักษาสมดุลของระบบนิเวศได้ดกี ว่าระบบนิเวศท่ี 2 ซง่ึ มีความหลากหลาย
ของชนิดส่ิงมีชวี ิตตำ่ กว่าและมสี ายใยอาหารทีไ่ มซ่ บั ซ้อน

ขั้นท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที)
5) ให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชนข์ องความหลากหลายทางชวี ภาพต่อการรักษา

สมดุลของระบบนิเวศและมนุษย์ โดยอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 194 และเปิดโอกาสให้ทำกิจกรรมเสริม
เกม food web (สืบคน้ ได้จาก ipst.me/10955) จากน้นั รว่ มกนั ตอบคำถามระหว่างเรียน ดงั นี้

- ถ้ากบหายไปจากสายใยอาหาร ระบบนิเวศนี้จะ
เปลี่ยนแปลงอย่างไร (แนวคำตอบ ถ้ากบหายไปจากสายใย
อาหารนี้ ผีเสื้อและตั๊กแตนที่เป็นอาหารของกบจะเพ่ิม
จำนวนมากขน้ึ เพราะไมม่ ผี ลู้ า่ มะมว่ งและข้าวจะลดจำนวน
ลงเพราะถกู กนิ มากขน้ึ จากการเพม่ิ ของผีเสอื้ และตก๊ั แตน งูท่ี
กินกบเป็นอาหารจะขาดแคลนอาหารและกนิ นกมากขึน้ นก

จะถกู งกู นิ มากข้นึ แตใ่ นขณะเดียวกนั นกก็จะเพ่ิมจำนวนขึ้น
เชน่ กันเพราะต๊กั แตนทเ่ี ปน็ อาหารของนกเพิม่ ขึน้ )
6) ให้นักเรยี นเรยี นรเู้ พ่มิ เตมิ เก่ียวกับพฤตกิ รรมของมนษุ ย์ทท่ี ำให้ความหลากหลายทางชีวภาพ
ลดลง การดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ โดยอ่านเนื้อหาในหนังสือหน้า 195 และเกร็ดน่ารู้ โดยใช้
คำถามเพิม่ เตมิ ดงั นี้
- กิจกรรมใดบ้างท่ีส่งผลตอ่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ (กจิ กรรมทกุ ๆ อย่างของมนษุ ย์ เช่น
การทำเกษตรกรรม การกอ่ สรา้ ง หรอื กจิ กรรมอื่น ๆ มักมผี ลต่อส่ิงแวดลอ้ มท้ังทางตรงและทางอ้อม)
- เมื่อความหลากหลายทางชวี ภาพลดลงจะเกิดอะไรขึ้น (ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการ
ใชช้ ีวิตของมนษุ ย)์
เพ่ือใหไ้ ดข้ ้อสรุปว่า
- พฤติกรรมบางอย่างของมนุษย์ นอกจากจะส่งผลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์แล้ว ยังทำให้
ความหลากหลายทางชีวภาพลดน้อยลง ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตบางชนิดและ
การเสยี สมดุลของระบบนิเวศ
ขั้นท่ี 5 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) (20 นาที)
7) ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายผลการทำกิจกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพเก่ยี วขอ้ งกับการรกั ษา
สมดลุ ของระบบนิเวศ จะได้ข้อสรปุ วา่
- ระบบนิเวศท่มี คี วามหลากหลายของชนดิ ส่ิงมีชวี ติ แตกต่างกนั จะส่งผลตอ่ การรักษาสมดุลของระบบ
นิเวศแตกตา่ งกัน ระบบนิเวศท่มี คี วามหลากหลายทางชวี ภาพสงู มักจะมสี ายใยอาหารทซี่ ับซ้อนมากกว่าระบบนเิ วศทมี่ ี
ความหลากหลายทางชีวภาพตำ่ กว่า เมอ่ื เกดิ การเปลยี่ นแปลงจำนวนของสงิ่ มีชีวติ ท่ีส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ จึง
สามารถรักษาสมดลุ ไวไ้ ดด้ ีกวา่ ระบบนเิ วศท่มี ีความหลากหลายทางชวี ภาพต่ำกว่า
- ความหลากหลายทางชีวภาพมีประโยชน์ในการดำรงชวี ิตของมนุษย์หลายอย่าง เชน่ ใชเ้ ป็นอาหาร ท่ี
อย่อู าศัย เคร่ืองนุง่ หม่ ยารักษาโรค และวัตถดุ ิบในอตุ สาหกรรมต่าง ๆ
8) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมนิ (Rubrics Score)

8. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้

8.1 ใบกจิ กรรม: ใบกจิ กรรมท่ี 7.6 ความหลากหลายทางชวี ภาพเก่ียวข้องกบั การรักษาสมดลุ ของ

ระบบนิเวศอยา่ งไร

8.2 แบบบนั ทึกกิจกรรม: แบบบนั ทึกการคน้ ควา้ กจิ กรรมท่ี 7.6 ความหลากหลายทางชีวภาพเก่ยี วขอ้ งกบั

การรักษาสมดลุ ของระบบนิเวศอยา่ งไร

8.3 แหล่งเรียนรู้: หนงั สือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3

เลม่ 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551

(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

9. การวดั และการประเมิน

ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ วิธกี ารวดั เครื่องมือวัด เกณฑท์ ใ่ี ช้ในการประเมนิ

1. อธิบายความสำคัญของความ - ตรวจการตอบ - คำถามท้ายกิจกรรมที่ 7.6 - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน

หลากหลายทางชวี ภาพทม่ี ี คำถามท้าย จำนวน 4 ขอ้ ระดบั คุณภาพดี ถอื ว่าผ่าน

ต่อการรักษาสมดุลของระบบ กิจกรรมที่ 7.6 การประเมินด้านความรู้

นิเวศและตอ่ มนุษย์

(ดา้ นความรู้: K)

2. การใช้ทักษะการสังเกต โดย - ตรวจการทำแบบ - แบบบันทึกการคน้ คว้า - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า 2 คะแนน

การสังเกตความหลากหลาย บนั ทึกการคน้ ควา้ กจิ กรรมท่ี 7.6 ความ ระดบั คุณภาพดี ถือวา่ ผ่าน

ของส่งิ มีชีวิตทง้ั ชนดิ และ กจิ กรรมที่ 7.6 หลากหลายทางชีวภาพ การประเมนิ

จำนวนสงิ่ มีชีวติ เกยี่ วขอ้ งกับการรักษา ดา้ นกระบวนการ

(ด้านกระบวนการ: P) สมดุลของระบบนเิ วศ

อย่างไร

3. ระเบยี บวนิ ยั ในการ - สงั เกตการณ์ไดร้ ับ - เกณฑก์ ารประเมิน - ได้ไม่นอ้ ยกวา่ 2 คะแนน

เรียนรูท้ างวิทยาศาสตร์ มอบหมายบทบาท ระเบียบวินยั ในการ ระดบั คณุ ภาพดี ถือวา่ ผ่าน

(ดา้ นเจตคติ: A) และภาระงานภายใน เรียนรูท้ างวิทยาศาสตร์ การประเมินดา้ นเจตคติ

ช้ันเรยี น

9.1 เกณฑ์การประเมนิ ผลนักเรียน เกณฑ์การประเมิน (Rubrics Score)

ประเด็นการประเมิน คา่ นำ้ หนกั แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การให้คะแนนตอบ ตอบคำถามท้ายกิจกรรมที่ 7.6 ถูกตอ้ ง จำนวน 3-4 ข้อ
คำถามทา้ ย 3 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมท่ี 7.6 ถกู ตอ้ ง จำนวน 2 ข้อ
กิจกรรมที่ 7.6 2 ตอบคำถามท้ายกิจกรรมที่ 7.6 ถกู ต้อง จำนวน 1 ขอ้ หรือไม่ถกู ต้อง
1

ประเด็นการประเมนิ คา่ นำ้ หนกั แนวทางการใหค้ ะแนน
การให้คะแนนการบนั ทึก คะแนน
แบบบนั ทึกการค้นควา้ บันทกึ ผลการทำกจิ กรรม จากการสังเกต แล้วบนั ทึกข้อมูลความ
3 หลากหลายของสง่ิ มีชีวติ ท้ังชนิดและจำนวนสิง่ มีชีวติ ไดค้ รบถ้วน
กจิ กรรมท่ี 7.6 ถกู ตอ้ งตามความเปน็ จริง สอดคลอ้ งกบั เนื้อหาในกิจกรรม
2 บันทึกผลการทำกจิ กรรม จากการสังเกต แลว้ บันทึกขอ้ มลู ความ
การใหค้ ะแนนพฤตกิ รรม หลากหลายของสง่ิ มชี วี ิตทั้งชนดิ และจำนวนสงิ่ มชี วี ติ ได้ มีความ
ระเบียบวนิ ยั ในการ 1 สอดคลอ้ งกบั เนื้อหาในกจิ กรรม
3 บนั ทึกผลการทำกิจกรรม จากการสงั เกต แล้วบันทกึ ข้อมลู ความ
เรียนรูท้ างวิทยาศาสตร์ 2 หลากหลายของสง่ิ มีชวี ติ ทั้งชนดิ และจำนวนสง่ิ มีชีวิตได้ไม่เหมาะสม
เกิดขอ้ ผดิ พลาด ไม่สอดคลอ้ งกับเนอ้ื หาในกิจกรรม
1 ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ภายในชน้ั เรยี นได้อยา่ งดี ไม่เกิดปญั หา
ส่งภาระงานท่ีได้รับตรงต่อเวลา และงานมคี วามสมบรู ณ์ เรยี บรอ้ ย
ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ภายในชั้นเรยี นไดแ้ ต่เกดิ ปัญหา
จงึ มกี ารปรบั ปรงุ แก้ไข และสง่ ภาระงานที่ไดร้ บั มอบหมายตรงต่อเวลา
หรอื ชา้ กวา่ กำหนดเวลาไม่นาน
ปฏิบัตหิ น้าที่ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ภายในชน้ั เรียนได้แต่เกิดปัญหาแล้ว
แกไ้ ขไมไ่ ด้ ส่งผลกระทบต่อการส่งภาระงานท่ีได้รบั มอบหมายตรง
ทำให้เกิดปัญหา ส่งช้ากว่ากำหนดเวลาออกไป

9.2 ระดบั คุณภาพ หมายถงึ ดีมาก
หมายถึง ดี
คะแนนรวมเฉลย่ี 3.00 หมายถึง พอใช้
คะแนนรวมเฉลีย่ 2.00 - 2.99
คะแนนรวมเฉลยี่ 0.01 - 1.99

ดงั น้นั นักเรยี นต้องไดค้ ะแนนเฉลย่ี ทกุ ประเดน็ การประเมิน ไม่ตำ่ กว่า 2.00 แสดงระดับ
คณุ ภาพ ดี ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในแผนการจดั การเรียนท่ี 32

สื่อการเรยี นรู้แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 32: ใบกจิ กรรมท่ี 7.6

ใบกจิ กรรมท่ี 7.6 ความหลากหลายทางชวี ภาพเกยี่ วข้องกบั การรักษาสมดุลของระบบนิเวศอยา่ งไร
หนังสอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ 2 ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร หน้า 192

กิจกรรมท่ี 7.6 ความหลากหลายทางชีวภาพเกี่ยวขอ้ งกบั การรักษาสมดุลของระบบนิเวศอยา่ งไร?
จดุ ประสงค์ อธบิ ายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพท่มี ตี อ่ การรักษาสมดุลของระบบนเิ วศ
วัสดุอุปกรณ์ -
สถานการณ์ที่ ในระบบนิเวศ 2 ระบบนเิ วศ มีสายใยอาหารดงั ภาพ ในชว่ งฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทาง
กาหนดให้ การเกษตร มีหนมู ากินผลผลิตทางการเกษตรเพ่ิมมากขน้ึ เกษตรกรจงึ ลดจานวนประชากรหนู

โดยใชย้ าเบอื่ หนู

ระบบนิเวศที่ 1

ระบบนเิ วศท่ี 2

กิจกรรมที่ 7.6 ความหลากหลายทางชีวภาพเก่ยี วข้องกับการรักษาสมดลุ ของระบบนิเวศอย่างไร?
วธิ ดี าเนินกจิ กรรม 1. อา่ นสถานการณ์ สังเกตสายใยอาหารในระบบนิเวศท้งั 2 ระบบนิเวศ แล้วเปรียบเทยี บ
จานวนชนิดของส่ิงมชี ีวติ รวมท้ังวิเคราะห์ความสัมพนั ธข์ องส่ิงมชี วี ติ ในสายใยอาหาร
บันทึกผล
2. ร่วมกนั อภปิ รายและวิเคราะหผ์ ลกระทบตอ่ ส่งิ มีชีวิตทั้งหมดในสายใยอาหารและการ
รักษาสมดลุ ของระบบนเิ วศ เม่ือหนูหายไปจากระบบนิเวศทง้ั 2 ระบบนเิ วศ บนั ทึกผล

คำถามท้ายกจิ กรรม

1. ในแต่ละระบบนเิ วศมจี ำนวนชนดิ ของส่งิ มีชีวิตแตกตา่ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร
2. เม่ือหนหู ายไป สายใยอาหารในแต่ละระบบนเิ วศมกี ารเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อยา่ งไร
3. เม่อื หนหู ายไป สายใยอาหารในระบบนิเวศใดสามารถเข้าสูส่ มดุลได้ดกี วา่ กัน เพราะเหตุใด
4. จากกิจกรรม สรปุ ได้วา่ อย่างไร

ส่อื การเรยี นร้แู ผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 32: แบบบนั ทกึ การค้นควา้ กจิ กรรมท่ี 7.6

แบบบนั ทึกการคน้ คว้ากิจกรรมที่ 7.6
ความหลากหลายทางชีวภาพเกีย่ วขอ้ งกับการรักษาสมดุลของระบบนิเวศอยา่ งไร

ช่อื -นามสกลุ ..........................................................................................ชนั้ .................เลขท่ี...........กลุม่ ท.ี่ ...........

 บนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม
แสดงการเปรยี บเทยี บผลกระทบจากสถานการณใ์ น 2 ระบบนิเวศ โดยพบวา่

สถานการณ์ทกี่ ำหนด ผลกระทบจากสถานการณ์

ระบบนเิ วศที่ 1 มสี ิง่ มชี ีวิต 13 ชนิด ......................................................................................................................
......................................................................................................................
......................................................................................................................
......................................................................................................................

ระบบนิเวศท่ี 2 มสี ิง่ มีชีวิต 7 ชนิด ......................................................................................................................
......................................................................................................................
......................................................................................................................
......................................................................................................................

 คำถามท้ายกิจกรรม
1. ในแตล่ ะระบบนเิ วศมจี ำนวนชนิดของสิง่ มีชีวิตแตกตา่ งกันหรือไม่ อยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. เม่ือหนูหายไป สายใยอาหารในแตล่ ะระบบนเิ วศมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เม่อื หนูหายไป สายใยอาหารในระบบนิเวศใดสามารถเข้าสู่สมดุลได้ดกี วา่ กัน เพราะเหตใุ ด
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. จากกจิ กรรม สรุปได้ว่าอย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนบทา้ ยแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 32: การให้คะแนนด้านกระบวนการ (P)

แนวทางบนั ทกึ การคน้ คว้ากิจกรรมที่ 7.6
ความหลากหลายทางชีวภาพเกยี่ วขอ้ งกบั การรักษาสมดุลของระบบนเิ วศอยา่ งไร
 บันทึกผลการทำกจิ กรรม

แสดงการเปรยี บเทยี บผลกระทบจากสถานการณใ์ น 2 ระบบนิเวศ โดยพบว่า

สถานการณ์ทกี่ ำหนด ผลกระทบจากสถานการณ์

ระบบนเิ วศท่ี 1 มีสิ่งมชี ีวติ 13 ชนดิ สายใยอาหารซบั ซอ้ น เม่ือหนูหายไปจากระบบนิเวศสง่ ผลทำให้สนุ ขั
และนกอินทรที ก่ี ินหนเู ป็นอาหารจะไม่สามารถกนิ หนเู ปน็ อาหารได้ แตส่ ุนัข
และนกอินทรีสามารถดำรงชีวิตดว้ ยการกนิ ส่ิงมีชีวติ ชนดิ อื่นแทนได้ โดยนก
อินทรสี ามารถกินกระต่าย นก และงเู ป็นอาหารแทนได้ สนุ ขั สามารถกนิ
กระตา่ ยแทนได้ ทำใหร้ ะบบนเิ วศนีย้ งั คงอยตู่ ่อไปได้

ระบบนิเวศท่ี 2 มีสิ่งมีชีวิต 7 ชนดิ มีสายใยอาหารไมซ่ บั ซอ้ น เมือ่ หนูหายไปจากระบบนเิ วศส่งผลทำให้งู
จะไม่มอี าหารทำให้งลู ดจำนวนลง และนกอนิ ทรที ีไ่ มม่ ีหนเู ป็นอาหาร
ก็จะกนิ งูมากขึน้ จนทำใหง้ หู มดไปจากระบบนเิ วศ

แนบทา้ ยแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 32: การให้คะแนนด้านความรู้ (K)

เฉลยใบกิจกรรมที่ 7.6 ความหลากหลายทางชีวภาพเกี่ยวขอ้ งกับการรกั ษาสมดุลของระบบนิเวศอยา่ งไร
เฉลยคำถามทา้ ยกิจกรรม

1. ในแต่ละระบบนเิ วศมจี ำนวนชนดิ ของสิง่ มีชวี ิตแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร
แนวคำตอบ แตกต่างกนั ระบบนิเวศที่ 1 มีความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชวี ติ มากกวา่ ระบบนิเวศท่ี 2

ระบบนเิ วศที่ 1 มสี ิง่ มชี วี ิต 13 ชนดิ มีผูผ้ ลติ จำนวน 2 ชนดิ ผบู้ ริโภคจำนวน 11 ชนดิ
ระบบนิเวศที่ 2 มสี ิ่งมชี วี ติ 7 ชนดิ มผี ้ผู ลิตจำนวน 2 ชนิด ผู้บรโิ ภคจำนวน 5 ชนิด

2. เมอ่ื หนหู ายไป สายใยอาหารในแต่ละระบบนิเวศมีการเปลย่ี นแปลงหรอื ไม่ อย่างไร
แนวคำตอบ มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 ระบบนิเวศ โดยระบบนิเวศที่ 1 เมื่อหนูหายไปจากระบบนิเวศ

ส่งผลทำให้สุนัขและนกอินทรีที่กินหนูเป็นอาหารจะไม่สามารถกินหนูเป็นอาหารได้ แต่สุนัขและนกอินทรี
สามารถดำรงชีวิตด้วยการกินสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นแทนได้ โดยนกอินทรีสามารถกินกระต่าย นก และงูเป็นอาหาร
แทนได้ สนุ ัขสามารถกนิ กระต่ายแทนได้ ทำใหร้ ะบบนเิ วศน้ียงั คงอยู่ต่อไปได้ ระบบนเิ วศที่ 2 เมื่อหนูหายไปจาก
ระบบนเิ วศสง่ ผลทำให้งูจะไมม่ อี าหาร ทำใหง้ ลู ดจำนวนลง และนกอินทรที ไ่ี มม่ ีหนเู ปน็ อาหารก็จะกนิ งูมากข้ึนจน
ทำใหง้ หู มดไปจากระบบนิเวศ

3. เมอื่ หนูหายไป สายใยอาหารในระบบนเิ วศใดสามารถเข้าส่สู มดุลได้ดีกวา่ กนั เพราะเหตใุ ด
แนวคำตอบ ระบบนิเวศที่ 1 เนอ่ื งจากมจี ำนวนชนดิ ของสงิ่ มีชีวิตมากกว่าและมีสายใยอาหารที่ซับซ้อน

ทำให้สิง่ มีชีวติ ในสายใยอาหารมที างเลอื กในการกินอาหาร เมือ่ สง่ิ มีชวี ติ ชนดิ หนึง่ หายไปจากสายใยอาหารกจ็ ะมี
ส่งิ มีชีวิตชนิดอื่นที่สามารถกินเปน็ อาหารได้ จงึ สามารถเขา้ สู่สมดลุ ได้เร็วกว่า

4. จากกจิ กรรม สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร

แนวคำตอบ ระบบนิเวศท่ี 1 มีความหลากหลายของชนิดสิง่ มีชีวิตสูงกว่าและมีสายใยอาหารท่ซี ับซ้อน
มากกว่าจึงสามารถรักษาสมดุลของระบบนิเวศได้ดีกว่าระบบนิเวศท่ี 2 ซึ่งมีความหลากหลายของชนิดสิง่ มีชวี ิต
ต่ำกว่าและมีสายใยอาหารที่ไม่ซับซ้อน ทำให้เมื่อมีสิ่งมีชีวิตชนิดใดในสายใยหายไปจะมีสิ่งมีชีวิต ชนิดอื่นท่ี
สามารถทดแทนกันได้

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 33

เร่อื ง ความสำคญั ของความหลากหลายทางชวี ภาพ รหัสวชิ า ว23102 เวลา 2 ชวั่ โมง

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ ระบบนเิ วศและความหลากหลายทางชีวภาพ รวม 15 ชัว่ โมง

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2

สาระท่ี 1 ชอื่ สาระ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด
ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรมการ

เปลี่ยนแปลงทางพันธกุ รรมท่ีมีผลต่อสิ่งมีชวี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพและววิ ัฒนาการของส่งิ มีชวี ิต รวมท้ัง
นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวช้วี ัด
ว 1.3 ม.3/11 แสดงความตระหนกั ในคุณค่าและความสำคัญของความหลากหลายทางชวี ภาพ โดยมี

ส่วนร่วมในการดแู ลรกั ษาความหลากหลายทางชีวภาพ

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
1) ความหลากหลายทางชีวภาพ มี 3 ระดับ ได้แก่ ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความหลากหลาย

ของชนิดสง่ิ มชี วี ิต และความหลากหลายทางพนั ธุกรรม ความหลากหลายทางชวี ภาพนมี้ ีความสำคญั ตอ่ การรักษา
สมดุลของระบบนเิ วศ ระบบนเิ วศท่มี คี วามหลากหลายทางชวี ภาพสูงจะรกั ษาสมดุลได้ดกี ว่าระบบนิเวศท่ีมีความ
หลากหลายทางชีวภาพต่ำกว่า นอกจากนี้ความหลากหลายทางชีวภาพยังมีความสำคัญต่อมนุษย์ในด้านต่าง ๆ
เช่น ใช้เป็นอาหารยารักษาโรค วัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนในการดูแลรักษา
ความหลากหลายทางชีวภาพใหค้ งอยู่

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นบอกแนวทางในการดแู ลรักษาความหลากหลายทางชวี ภาพได้
1) ดา้ นความรู้ (K) นักเรียนใช้ทักษะการสังเกต โดยการสงั เกตความหลากหลายของสิง่ มชี วี ติ
2) ด้านทักษะ (P) ทัง้ ชนดิ และจำนวนส่ิงมชี ีวติ
นักเรียนมรี ะเบยี บวินยั ในการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์
3) ด้านเจตคติ (A)

4. คณุ ลกั ษณะผู้เรียน

4.1 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์

รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต  มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

 มีวนิ ยั รักความเปน็ ไทย  ใฝเ่ รียนรู้ มจี ติ สาธารณะ

5. ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น

 ความสามารถในการสื่อสาร: นักเรียนสามารถส่อื สาร โดยนำเสนอผลการสำรวจความหลากหลาย
ทางชีวภาพ ความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและแนวทางในการรกั ษาความหลากหลายทางชวี ภาพ

6. สาระการเรียนรู้
ระบบนิเวศที่มีความหลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิตแตกต่างกัน จะส่งผลต่อการรักษาสมดุลของระบบ

นิเวศแตกตา่ งกัน ระบบนิเวศท่มี คี วามหลากหลายทางชีวภาพสูงมกั จะมีสายใยอาหารท่ีซับซ้อนกว่าระบบนิเวศท่ี
มีความหลากหลายทางชีวภาพต่ำกวา่ จึงสามารถรักษาสมดุลไว้ได้ดกี ว่า ตัวอย่างเช่น ในระบบนิเวศที่ผู้บริโภค
หนง่ึ ชนดิ กินสงิ่ มีชวี ติ ได้หลายชนิด ถ้าสงิ่ มีชวี ิตชนิดใดชนิดหนึ่งหายไปหรือลดจำนวนลง ผู้บริโภคก็ยังคงสามารถ
ดำรงชวี ติ ตอ่ ไปไดโ้ ดยการกินส่ิงมชี ีวิตชนิดอ่นื แตใ่ นระบบนิเวศท่ีผูบ้ รโิ ภคกนิ สิ่งมชี ีวติ เพียงชนดิ เดียว ถ้าสิง่ มีชีวิต
ที่ถูกบริโภคหายไปหรือลดจำนวนลง ผู้บริโภคนั้นก็จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยูไ่ ด้ ความหลากหลายทางชีวภาพ
นอกจากมีความสำคญั ในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศแลว้ ยงั ประโยชน์ในการดำรงชวี ิตของมนุษย์ ระบบนิเวศ
ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงจะมีสิ่งมีชีวิตให้มนุษย์เลือกใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น เป็นอาหาร
ทอ่ี ยู่อาศยั เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค วตั ถุดิบในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

กิจกรรมบางอย่างของมนุษย์ทำใหค้ วามหลากหลายทางชีวภาพลดลง เช่น การตัดไม้ การปล่อยน้ำเสีย
ลงในแหล่งน้ำ การทิ้งขยะ การทอดสมอเรือบริเวณแนวปะการัง กิจกรรมเหล่านี้เป็นการทำลายแหล่งที่อย่ขู อง
ส่งิ มชี วี ติ ทำให้ประชากรของส่ิงมชี ีวติ ลดจำนวนลง อาจเป็นสาเหตุทีท่ ำใหเ้ กดิ การสูญพนั ธ์ุของสง่ิ มชี ีวิตและทำให้
ระบบนเิ วศเสยี สมดุล ซงึ่ จะสง่ ผลต่อการดำรงชวี ติ ของมนษุ ยเ์ องในท่สี ุด

จากผลของความเสียหายของระบบนิเวศ ทำให้เกิดการรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและ
การมีส่วนรว่ มในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น การไม่บุกรุกพืน้ ท่ีป่า เพื่อทำการเกษตรและที่อยู่
อาศยั การปลกู ป่าและดูแลรักษาป่า การอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ การปลกู ป่าชายเลน เพื่อเป็นแหล่งอนุบาล
สัตว์น้ำ การสร้างแนวปะการังเทียม เพื่อสร้างแนวปะการังใหม่หรือซ่อมแซมแนวปะการังเดิมทั้งนี้เพื่อให้
สภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของส่ิงมีชวี ิตและเป็นการดูแลรกั ษาความหลากหลายทางชีวภาพให้คง
อย่ตู ่อไป

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ใชร้ ปู แบบการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ชวั่ โมง; 120นาที)
ขน้ั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) (10 นาที)
1) ครูและนักเรยี นสนทนาร่วมกนั เพ่อื กระต้นุ ความสนใจ โดยครูใช้สอื่ คลิปวีดิทัศน์ เรือ่ ง

Infographic สุขพอทพี่ อ่ ให้ ตอน : เกษตรทฤษฎีใหม่ (https://www.youtube.com/watch?v=rJedTtbt4Uo)
เพอ่ื สนทนาถึงประเดน็ ความสำคญั ของการปลกู พืชแบบผสมผสานใหม้ ีความหลากหลาย

ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) (50 นาที)
2) ครเู ช่ือมโยงเข้าสู่กิจกรรมท้ายบท ความหลากหลายทางชวี ภาพมีความสำคญั อย่างไร โดยใช้

คำถามว่า ความหลากหลายทางชีวภาพมีความสำคัญอยา่ งไรตอ่ มนุษย์ (นกั เรยี นตอบตามเขา้ ใจของนักเรียน)
3) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีดำเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชา

พื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 196-197 และครูตรวจสอบ
ความเข้าใจการอา่ น โดยใชค้ ำถามดังต่อไปน้ี

- กิจกรรมนเี้ ก่ียวกับเรอ่ื งอะไร (ความความสำคญั ของหลากหลายทางชีวภาพ)
- กจิ กรรมนี้มจี ดุ ประสงค์อะไร (วิเคราะห์สถานการณแ์ ละอธิบายความสำคัญของความหลากหลาย
ทางชีวภาพ)
- วิธดี ำเนินกิจกรรมมีข้ันตอนโดยสรุปอย่างไร (อ่านสถานการณแ์ ละรวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกับสวน
ปา่ เชิงเดี่ยวและสวนป่าแบบผสม วเิ คราะห์การปลูกสวนป่าท้ัง 2 แบบ ร่วมกนั อภิปรายและนำเสนอผลกระทบที่
จะเกิดข้นึ พร้อมทัง้ เสนอแนวทางเพอื่ สง่ เสรมิ ให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพในทอ้ งถน่ิ )
4) ขณะที่นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกจิ กรรมของนักเรียนแต่ละกลุม่
และให้คำแนะนำ ถ้านักเรียนมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ที่อาจเป็นปัญหา ซึ่งครูควรรวบรวมปัญหา และ
ขอ้ สงสัยทพ่ี บจากการทำกจิ กรรมของนกั เรียนเพอื่ ใช้เป็นข้อมลู ประกอบการอภปิ รายหลังจากการทำกิจกรรม
ขัน้ ท่ี 3 ข้ันอธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (20 นาที)
5) นักเรียนบันทึกการทำกิจกรรมลงในแบบบันทึกการค้นคว้ากิจกรรมท้ายบท ความ
หลากหลายทางชวี ภาพมคี วามสำคญั อย่างไร โดยการตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม และร่วมกันสรปุ ผลของกิจกรรม
ขน้ั ท่ี 4 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที)
6) ให้นักเรียนเรียนรเู้ พม่ิ เติมเกี่ยวกับความสำคญั ของความหลากหลายทางชวี ภาพและร่วมกัน
อภิปรายเก่ียวกบั สิ่งทีน่ กั เรียนได้ออกแบบจากการทำกิจกรรมท้ายบท เพ่ือใหไ้ ดข้ ้อสรุปวา่ แนวทางในการรักษา
ความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นนั้น สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับแนวทางที่ระดมความคิด เช่น รณรงค์
ทำแผน่ พบั โดยการเพม่ิ ความหลากหลายทางชวี ภาพให้กับพน้ื ท่ี เชน่ การปลกู พืชชนิดอืน่ ร่วมกับพืชเศรษฐกิจ
ข้นั ท่ี 5 ข้ันประเมนิ (Evaluation) (20 นาที)
7) นกั เรยี นตรวจสอบการทำแบบบันทกึ การทำกจิ กรรมและส่งตามกำหนดทว่ี างไว้
8) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์
การประเมนิ (Rubrics Score)

8. สือ่ การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้

8.1 คลปิ วีดิทศั น์: Infographic สุขพอทีพ่ อ่ ให้ ตอน : เกษตรทฤษฎใี หม่

https://www.youtube.com/watch?v=rJedTtbt4Uo

8.2 ใบกิจกรรม: ใบกิจกรรมทา้ ยบท ความหลากหลายทางชีวภาพมคี วามสำคญั อยา่ งไร

8.3 แบบบนั ทึกกิจกรรม: แบบบันทกึ การคน้ ควา้ กิจกรรมท้ายบท ความหลากหลายทางชวี ภาพมี

ความสำคญั อย่างไร

8.4 แหล่งเรียนรู้: หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3

เลม่ 2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551

(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธกิ าร

9. การวดั และการประเมนิ

ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ วธิ ีการวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์ท่ีใช้ในการประเมนิ
- ได้ไมน่ อ้ ยกว่า 2 คะแนน
1. บอกแนวทางในการดแู ลรักษา - ตรวจการตอบ - คำถามท้ายกิจกรรม
ระดับคุณภาพดี ถือวา่ ผ่าน
ความหลากหลายทางชวี ภาพ คำถามทา้ ย ท้ายบท จำนวน 3 ขอ้ การประเมินด้านความรู้
- ไดไ้ ม่น้อยกว่า 2 คะแนน
(ด้านความรู้: K) กิจกรรมทา้ ยบท ระดับคุณภาพดี ถือว่าผ่าน
การประเมิน
2. การใช้ทักษะการสังเกต โดย - ตรวจการทำแบบ - แบบบนั ทึกการคน้ คว้า ด้านกระบวนการ

การสงั เกตความหลากหลาย บนั ทกึ การค้นควา้ กจิ กรรมท้ายบท - ไดไ้ มน่ ้อยกว่า2 คะแนน
ระดับคุณภาพดี ถือว่าผ่าน
ของสงิ่ มชี วี ิตทัง้ ชนิดและ กิจกรรมท้ายบท ความหลากหลายทาง การประเมนิ ด้านเจตคติ

จำนวนส่งิ มีชวี ิต ชีวภาพมคี วามสำคัญ

(ดา้ นกระบวนการ: P) อยา่ งไร

3. ระเบียบวินัยในการ - สงั เกตการณ์ไดร้ ับ - เกณฑก์ ารประเมิน

เรียนรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ มอบหมายบทบาท ระเบียบวินยั ในการ

(ดา้ นเจตคติ: A) และภาระงานภายใน เรียนรทู้ างวิทยาศาสตร์

ชนั้ เรียน

9.1 เกณฑก์ ารประเมินผลนักเรียน เกณฑ์การประเมิน (Rubrics Score)

ประเดน็ การประเมิน ค่าน้ำหนกั แนวทางการให้คะแนน
คะแนน
การใหค้ ะแนนตอบ ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมทา้ ยบท ถกู ตอ้ ง จำนวน 3 ขอ้
คำถามท้าย 3 ตอบคำถามท้ายกิจกรรมท้ายบท ถูกต้อง จำนวน 2 ข้อ
2 ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมท้ายบท ถกู ต้อง จำนวน 1 ขอ้ หรือไม่ถูกตอ้ ง
กจิ กรรมท้ายบท 1 บนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม จากการสังเกต แลว้ บนั ทึกขอ้ มูลความ
การให้คะแนนการบันทกึ หลากหลายของสิง่ มชี วี ติ ทั้งชนิดและจำนวนสง่ิ มชี ีวติ ไดค้ รบถ้วน
แบบบันทึกการคน้ คว้า 3 ถูกตอ้ งตามความเปน็ จริง สอดคล้องกับเนอ้ื หาในกจิ กรรม
บนั ทึกผลการทำกิจกรรม จากการสังเกต แลว้ บันทึกข้อมลู ความ
กจิ กรรมทา้ ยบท 2 หลากหลายของสิ่งมีชีวติ ทงั้ ชนิดและจำนวนสงิ่ มีชวี ิตได้ มคี วาม
สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาในกจิ กรรม

บันทึกผลการทำกิจกรรม จากการสังเกต แล้วบนั ทึกข้อมูลความ
1 หลากหลายของสง่ิ มชี ีวิตทัง้ ชนิดและจำนวนสิง่ มีชวี ิตได้ไม่เหมาะสม

เกดิ ขอ้ ผดิ พลาด ไม่สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หาในกจิ กรรม

ประเดน็ การประเมิน ค่าน้ำหนัก แนวทางการใหค้ ะแนน
คะแนน
การให้คะแนนพฤติกรรม ปฏิบตั ิหนา้ ที่ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ภายในช้ันเรยี นไดอ้ ยา่ งดี ไม่เกดิ ปัญหา
ระเบยี บวนิ ัยในการ 3 สง่ ภาระงานที่ไดร้ ับตรงต่อเวลา และงานมคี วามสมบรู ณ์ เรียบร้อย
ปฏบิ ตั หิ น้าท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย ภายในชน้ั เรยี นได้แต่เกิดปัญหา
เรียนร้ทู างวิทยาศาสตร์ 2 จึงมีการปรบั ปรงุ แกไ้ ข และสง่ ภาระงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายตรงตอ่ เวลา
หรือช้ากวา่ กำหนดเวลาไมน่ าน
1 ปฏิบตั หิ น้าท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย ภายในชน้ั เรยี นได้แตเ่ กิดปัญหาแลว้
แก้ไขไมไ่ ด้ สง่ ผลกระทบตอ่ การส่งภาระงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายตรง
ทำให้เกิดปัญหา ส่งช้ากว่ากำหนดเวลาออกไป

9.2 ระดับคณุ ภาพ หมายถงึ ดีมาก
หมายถงึ ดี
คะแนนรวมเฉลย่ี 3.00 หมายถึง พอใช้
คะแนนรวมเฉลี่ย 2.00 - 2.99
คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99

ดงั นั้น นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนนเฉล่ยี ทุกประเด็นการประเมิน ไมต่ ่ำกว่า 2.00 แสดงระดับ
คณุ ภาพ ดี ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ ในแผนการจดั การเรยี นที่ 33

ส่ือการเรียนรู้แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 33: สอ่ื วีดทิ ัศน์

คลปิ วีดที ัศน์: Infographic สขุ พอทีพ่ อ่ ให้ ตอน : เกษตรทฤษฎีใหม่

สื่อวีดทิ ัศนเ์ รื่อง Infographic สุขพอทพี่ ่อให้ ตอน : เกษตรทฤษฎใี หม่ อธบิ ายเกย่ี วกับหลักการปลูก
พืชแบบผสมผสานและดำรงชีวิตแบบพอเพียง ตามโครงการ: พัฒนาสื่อมัลติมีเดีย ขยายผลองค์ความรู้ตาม
แนวพระราชดำริ "สุขพอที่พอ่ ให้ "

แหล่งที่มา: เว็บไซตอ์ า้ งองิ
https://www.youtube.com/watch?v=rJedTtbt4Uo
เผยแพร่เมื่อ 5 สงิ หาคม พ.ศ. 2558

(ช่องYouTube: Atapy Limited)

สื่อการเรยี นรู้แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 33: ใบกจิ กรรมท้ายบท

ใบกิจกรรมทา้ ยบท ความหลากหลายทางชีวภาพมีความสาคญั อย่างไร

หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 2 ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หนา้ 196

กจิ กรรมทา้ ยบท ความหลากหลายทางชีวภาพมคี วามสำคัญอย่างไร?
จดุ ประสงค์ วิเคราะหส์ ถานการณ์และอธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ
วสั ดอุ ปุ กรณ์ -
สถานการณ์ที่
กำหนดให้ พน้ื ทีป่ ่าไมข้ องประเทศไทยลดลงอย่างตอ่ เน่ืองจากประมาณ 138 ลา้ นไร่ ในปี พ.ศ.
2516 เหลือเพยี ง 102 ล้านไร่ ในปี พ.ศ. 2560 การลดลงของพน้ื ทป่ี ่าไม้เกดิ จากการ
ลกั ลอบตัดไม้จำนวนมาก เพ่ือนำไปใชป้ ระโยชน์ รวมถึงการเปล่ยี นแปลงพ้ืนที่ปา่ ไม้ใหเ้ ปน็
พื้นท่ีเกษตรกรมและทอ่ี ยู่อาศยั ก่อให้เกิดผลระทบต่าง ๆ เชน่ การลดจำนวนลงของสัตว์ปา่
และพนั ธุ์พืช การชะล้างพงั ทลายของดนิ เพราะไมม่ ตี น้ ไมป้ กคลุม การเกดิ นำ้ ท่วม จึงมี
แนวคิดท่ีจะพัฒนาพื้นทป่ี ่าไมเ้ ดิมทถี่ กู ทำลายให้เป็นสวนป่า เพอื่ ใช้ประโยชน์ดา้ นเศรษฐกิจ
และด้านส่ิงแวดล้อม โดยเลือกชนดิ พนั ธ์ุไมท้ ีจ่ ะนำมาปลกู ให้ตรงกับความตอ้ งการเป็นสาย
พันธุด์ ี โตเรว็ ให้เนื้อไมท้ ่ีมีคุณภาพ และยังช่วยฟืน้ ฟรู ะบบนเิ วศในบรเิ วณน้นั อีกดว้ ย การ
ปลูกสวนปา่ มหี ลายรปู แบบ ถ้าจำแนกตามองคป์ ระกอบของชนดิ พนั ธไุ์ ม้จะมี 2 รูปแบบ คือ

สวนปา่ เชิงเดีย่ ว เป็นสวนปา่ ท่ปี ลกู ต้นไม้เพียงชนดิ เดียว เพ่ือใชป้ ระโยชน์ด้าน
เศรษฐกจิ เป็นหลกั นยิ มปลูกกันมากทัง้ ภาครัฐและภาคเอกชน การปลูกสวนป่าเชิงเด่ยี วที่
ประสบความสำเรจ็ แล้ว ได้แก่ สวนป่าสักและสวนปา่ ยคู าลิปตัส เพ่อื ใช้เปน็ วัตถุดิบใน
อุตสาหกรรม

วธิ ีดำเนินกจิ กรรม สวนป่าแบบผสม เป็นสวนปา่ ทีป่ ลกู ตน้ ไม้ตัง้ แต่ 2 ชนิดขึ้นไป อาจเป็นไมย้ นื ต้นต่าง
ชนดิ กนั เช่น สัก ยางนา ประดู่ มะค่าโมง กระถินณรงค์ หรอื ปลกู ไม้ยนื ตน้ รว่ มกับพืชชนิด
อ่นื เชน่ พชื สมุนไพร พชื ตระกูลถั่ว การปลูกปา่ แบบผสมทำให้ได้รบั ประโยชน์หรือ
ผลตอบแทนจากพืชหลายชนดิ หลายช่วงเวลา รวมทัง้ ประโยชนด์ ้านส่งิ แวดล้อม
1. อ่านสถานการณ์และรวบรวมข้อมลู เกยี่ วกับสวนป่าเชิงเดยี่ วและสวนป่าแบบผสม
2. วเิ คราะหก์ ารปลูกสวนปา่ ท้งั 2 แบบ ในประเด็นความหลากหลายทางชวี ภาพของ
สง่ิ มชี วี ติ และประโยชน์ที่ได้รบั
3. ร่วมกันอภปิ รายและคาดการณ์เก่ยี วกับความหลากหลายทางชวี ภาพของสวนป่า
เชงิ เด่ยี วและสวนปา่ แบบผสมทจ่ี ะไดร้ ับผลกระทบเมอื่ เกดิ โรคระบาดกับตน้ สกั
4. อภิปรายและนำเสนอผลกระทบทจ่ี ะเกิดขึน้ กบั สวนปา่ ทั้ง 2 แบบ พรอ้ มทงั้ เสนอ
แนวทางในการนำความรูเ้ ร่อื ง วธิ กี ารปลูกสวนปา่ ท้ัง 2 แบบไปใชเ้ พือ่ ส่งเสรมิ ให้เกิด
ความหลากหลายทางชวี ภาพในทอ้ งถิน่

กิจกรรมทา้ ยบท ความหลากหลายทางชีวภาพมีความสำคญั อยา่ งไร?

การเตรยี มตัว เตรยี มขอ้ มูลเพม่ิ เติมเกยี่ วกบั สวนปา่ เชิงเดย่ี วและสวนป่าแบบผสม รวมทั้งสถานการณ์

ลว่ งหน้าสาหรบั ครู ใกล้ตัว เพ่ือเช่อื มโยงให้นกั เรยี นเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกป่าทั้งสองแบบ

คำถามท้ายกจิ กรรม

1. ความหลากหลายของชนดิ พชื ในสวนป่าแบบผสมและสวนปา่ เชงิ เดีย่ วเหมือนหรอื แตกตา่ งกนั อย่างไร
2. เมือ่ เกิดโรคระบาดกับต้นสกั ความหลากหลายทางชีวภาพของพ้นื ท่ี 2 พ้นื ทีม่ กี ารเปลย่ี นแปลงเหมือนกนั
หรือไม่ อย่างไร
3. แนวทางในการรกั ษาความหลากหลายทางชีวภาพในทอ้ งถ่ินทำได้อยา่ งไร

ส่ือการเรยี นรู้แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 33: แบบบันทึกการค้นคว้ากจิ กรรมทา้ ยบท

แบบบันทึกการคน้ ควา้ กจิ กรรมท้ายบท ความหลากหลายทางชวี ภาพมีความสาคัญอย่างไร

ชอ่ื -นามสกลุ ..........................................................................................ชนั้ .................เลขที่...........กลุ่มท.่ี ...........

 บนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม
วเิ คราะห์สถานการณแ์ ละอธบิ ายความสำคัญของความหลากหลายทางชวี ภาพ

.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

 คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. ความหลากหลายของชนดิ พืชในสวนป่าแบบผสมและสวนป่าเชิงเด่ยี วเหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. เม่ือเกดิ โรคระบาดกับตน้ สกั ความหลากหลายทางชวี ภาพของพน้ื ที่ 2 พืน้ ทม่ี ีการเปลยี่ นแปลงเหมอื นกันหรือไม่
อยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. แนวทางในการรกั ษาความหลากหลายทางชีวภาพในทอ้ งถ่นิ ทำได้อยา่ งไร
ตอบ ………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แนบทา้ ยแผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 33: การใหค้ ะแนนดา้ นกระบวนการ (P)

แนวทางบนั ทกึ การค้นควา้ กิจกรรมท้ายบท ความหลากหลายทางชวี ภาพมีความสาคญั อย่างไร

 บนั ทึกผลการทำกจิ กรรม
วิเคราะห์สถานการณ์และอธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ

สวนปา่ เชงิ เดี่ยวเป็นการปลูกต้นไมเ้ พียงชนดิ เดียวเพอื่ ประโยชนท์ างเศรษฐกิจ สว่ นสวนป่าแบบผสม
จะปลกู ต้นไม้ตง้ั แต่ 2 ชนิดขึน้ ไป มปี ระโยชน์หลายดา้ น ทง้ั ทางเศรษฐกิจและส่งิ แวดลอ้ ม เมื่อเกิดโรคระบาด
กบั ตน้ สกั จะสง่ ผลใหส้ วนปา่ สักเชิงเด่ียวไดร้ ับผลกระทบหนกั จนอาจทำให้ตน้ สกั ติดเชอื้ และแพรก่ ระจายจน
ทำให้ต้นสักทั้งสวนตายลง ในขณะที่สวนป่าแบบผสมจะได้รับผลกระทบแค่ตน้ สกั ท่ีอยู่ในสวนปา่ ต้นไมช้ นดิ อื่น
ไม่ไดร้ บั ผลหรืออาจจะไดร้ บั ผลกระทบนอ้ ย รวมท้ังไม่เกิดการระบาดของโรคด้วย ทำให้สวนป่าแบบผสมยงั
คงรักษาสภาพป่าอยไู่ ด้

แนบท้ายแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 33: การให้คะแนนดา้ นความรู้ (K)

เฉลยใบกิจกรรมท้ายบท ความหลากหลายทางชีวภาพมคี วามสาคญั อยา่ งไร
เฉลยคำถามท้ายกจิ กรรม

1. ความหลากหลายของชนิดพืชในสวนปา่ แบบผสมและสวนป่าเชงิ เด่ยี วเหมือนหรือแตกต่างกนั อยา่ งไร
แนวคำตอบ แตกต่างกนั โดยความหลากหลายของชนิดของพืชในป่าผสมมมี ากกว่าสวนปา่ เชงิ เดีย่ ว

2. 2. เมอื่ เกิดโรคระบาดกับตน้ สัก ความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นท่ี 2 พ้ืนทีม่ ีการเปลยี่ นแปลง
เหมอื นกนั หรอื ไม่ อย่างไร

แนวคำตอบ มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง 2 พื้นที่แต่เปลี่ยนแปลงไม่เหมือนกัน โดยในป่าเชิงเดี่ยวจะมีการ
เปลย่ี นแปลงมากเนอ่ื งจากมแี ต่ต้นสัก เมอื่ เกิดโรคระบาดมโี อกาสทำให้ตน้ สักท้ังสวนตาย ในขณะท่ีสวนป่าแบบ
ผสมก็มกี ารเปล่ยี นแปลงแตน่ อ้ ย อาจจะทำให้ตน้ สักในสวนปา่ แบบผสมตายหมด แตย่ งั คงเหลือตน้ ไม้ชนดิ อ่นื

3. แนวทางในการรกั ษาความหลากหลายทางชีวภาพในทอ้ งถิ่นทำไดอ้ ย่างไร
แนวคำตอบ ขึ้นอยู่กับแนวทางที่นักเรียนระดมความคิด เช่น รณรงค์ ทำแผ่นพับ โดยการเพิ่มความ

หลากหลายทางชวี ภาพให้กับพ้นื ที่ เชน่ การปลกู พืชชนดิ อืน่ รว่ มกบั พชื เศรษฐกิจ


Click to View FlipBook Version