ตอ่ มาครูสนทนากบั นกั เรียนแบบต่อเน่ือง ดงั น้ี
T: Where is your sister?
S: At school.
T: When is her birthday?
S: It’s on the fourth of May.
ให้นกั เรียนในช้นั ต้งั ใจฟังและฝึกออกเสียงตามดว้ ย
3. ครูสอนการออกเสียงประโยคคาถาม โดยอธิบายวา่ ประโยคในภาษาองั กฤษ จะแตกตา่ งกบั
ภาษาไทย คือ ตอ้ งลงเสียงสูง-ต่าในประโยคดว้ ย โดยประโยคคาถามแบบ Wh-questions
จะลงเสียงต่าทีท่ า้ ยประโยค
Intonation (การออกเสียงสูง-ต่า)
นอกจากการเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาองั กฤษแลว้ การออกเสียงไวยากรณ์ภาษาองั กฤษ
กเ็ ป็นสิ่งสาคญั ภาษาองั กฤษเป็นภาษาท่มี ี Intonation
Intonation คอื เสียงข้นึ ลงที่เราใชใ้ นเวลาพูด จะมกี ารข้ึนลงของเสียง ถา้ หากเราอยากพูด
ภาษาองั กฤษใหไ้ ดเ้ หมอื นเจา้ ของภาษา เราตอ้ งรู้จกั หลกั การออกเสียงข้นึ ลงเหล่าน้ี นอกจากน้ี
ยงั ช่วยในการฟังภาษาองั กฤษให้มีประสิทธิภาพมากข้ึนอกี ดว้ ย ซ่ึงรูปแบบของ Intonation
ในภาษาองั กฤษจะมี 2 รูปแบบหลกั ๆ คือ
1. Falling Intonation (การลงเสียงต่า) ให้สงั เกตคาทีข่ ีดเสน้ ใตจ้ ะเป็นคาทลี่ งเสียงต่า
ใชส้ าหรบั ลงทา้ ยประโยคคาถามแบบ Wh-questions เช่น
What do you usually eat for lunch? When is your birthday?
2. Rising Intonation (การข้นึ เสียงสูง) ใชล้ งทา้ ยประโยคคาถามแบบ Yes-No questions
เช่น
2 Is she a teacher? Is that your mum?
ทีม่ า: http://www.pasaangkit.com/การออกเสียงสูงตา่ ในภาษา/
จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะคนฝึกออกเสียงประโยคคาถามตามบตั รประโยคทค่ี รูแสดง หรือครูเขียนประโยค
บนกระดาน ให้นกั เรียนฝึกออกเสียงประโยค ครูคอยช่วยเหลือและตรวจสอบความถกู ตอ้ งของ
ประโยคทแ่ี ต่ละคนออกเสียง
4. หนังสือเรยี น หน้า 7 หัวข้อ Grammar ครูพดู ว่า Open your book to page 7. ใหน้ กั เรียนทาตาม
คาส่งั พร้อมกบั อา่ นประโยคในกรอบไวยากรณ์ และทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ประโยคในกรอบ
ร่วมกนั อีกคร้ัง
46
ข้นั Practice
1. ครูพูดสัง่ นกั เรียน Open your book to page 7. และให้นกั เรียนดหู ัวขอ้ Talk with your friend, as in
the example. จากน้นั ให้นกั เรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุม่ แรกอา่ นบทของ A และกลมุ่ ท่ี 2 อา่ นบท
ของ B ในบทสนทนา
2. ครูเขียนวนั ทบี่ นกระดาน 5 วนั เช่น
11th November 21st July 22nd May
4th August 30th December
ใหน้ กั เรียนจบั ค่กู นั และฝึกพดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั ท่ดี งั กลา่ ว ครูเดินสงั เกตเพื่อใหค้ าแนะนา
ท่ีจาเป็น เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คู่ ออกมาพูดหนา้ ช้นั
3. หนังสือเรียน หน้า 7 Ex. 7 ครูให้นกั เรียนอา่ นคาสั่งและช่วยกนั อธิบายกิจกรรมน้ี จากน้นั ให้เวลา
นกั เรียนเติมคาข้ึนตน้ ประโยคคาถามลงในช่องวา่ งให้ถูกตอ้ ง โดยทาลงในสมุด เสร็จแลว้ ครู
รวบรวมคาตอบและเฉลยบนกระดาน
2. Who 3. When 4. How
5. Whose 6. Why
4. แบบฝึ กหดั หน้า 7 Ex. 10 ครูอธิบายวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ังบทสนทนาระหวา่ งผชู้ ายกบั เด็กผหู้ ญิง
คนหน่ึง โดยผูช้ ายจะถามขอ้ มลู ส่วนตวั ของเด็กผหู้ ญงิ คนดงั กล่าว ครูถามนกั เรียนวา่ ขอ้ มลู ส่วนตวั
มอี ะไรบา้ ง เช่น อายุ ทีอ่ ยู่ วนั เกิด จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 1-2 คร้ัง เสร็จแลว้ ครูรวบรวม
คาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบร่วมกนั
Man: Hello, can I ask you some questions?
Girl: Yes, of course.
Man: What’s your name?
Girl: Sue. Sue Jones.
Man: Jones? How do you spell that?
Girl: J-O-N-E-S.
Man: OK. Now, where do you live, Sue?
Girl: I live at twelve, Apple Street.
47
Man: Apple Street?
Girl: Yes, that’s right.
Man: And which class are you in, Sue? Five A?
Girl: No, I’m in five B.
Man: Five B. And when’s your birthday, Sue?
Girl: On the twenty-fifth of September.
Man: Twenty-fifth of September? That’s today!
Girl: Yes. I’m eleven today!
Man: Happy Birthday, Sue!
2. Apple 3. 5B 4. September 5. eleven
5. หนงั สือเรยี น หน้า 7 Ex. 8 ครูเขียนวนั สาคญั ทีใ่ ห้มาบนกระดาน New Year’s Day, Valentine’s Day,
Bonfire Night, Halloween, May Day และให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตามครู แลว้ ช่วยกนั บอกขอ้ มูล
ทีน่ กั เรียนรู้เก่ียวกบั วนั เหล่าน้ี แลว้ ครูสรุปและให้ขอ้ มูลเพม่ิ เติม จากน้นั ใหเ้ วลานกั เรียนจบั ควู่ นั ที่
(1-5) กบั วนั สาคญั (a-e) ทีส่ มั พนั ธ์กนั โดยทาลงในสมุด เสร็จแลว้ ใหช้ ่วยกนั เฉลยคาตอบ
1. New Year’s Day is on the first of January.
2. Valentine’s Day is on the fourteenth of February.
3. Bonfire Night is on the fifth of November.
4. Halloween is on the thirty-first of October.
5. May Day is on the first of May.
48
New Year’s Day (วนั ขนึ้ ปี ใหม่)
ประวตั คิ วามเป็นมาวนั ข้นึ ปี ใหม่ สมยั โบราณน้นั แตล่ ะชาตติ า่ งกไ็ มม่ ีวนั ข้ึนปี ใหม่ทีต่ รงกนั
เช่น ในประเทศเยอรมนี ชาวเยอรมนั สมยั โบราณจะมวี นั ข้ึนปี ใหม่ในปลายเดือนพฤศจิกายน ซ่ึง
เป็นวนั ทก่ี าลงั มอี ากาศหนาวเยน็ ประชาชนที่แยกยา้ ยออกไปหากินในท่ีต่าง ๆ ต้งั แต่ในช่วงฤดูร้อน
หลงั จากเกบ็ เกี่ยวพืชผล และนาข้นึ ยงุ้ ฉางเสร็จแลว้ กจ็ ะมาร่วมฉลองข้ึนปี ใหม่ในระยะน้ี
ตอ่ มาเมอ่ื ชาวโรมนั ไดเ้ ขา้ มารุกราน จึงไดเ้ ล่อื นฉลองปี ใหมม่ าเป็นวนั ที่ 1 มกราคม ชาติ
โบราณ เช่น ไอยคปุ ต์ ฟินิเซียน และอหิ ร่าน เริ่มปี ใหม่ราว 21 กนั ยายน รวมถึงชาวโรมนั ก็เร่ิมปี
ใหม่วนั น้ีเช่นเดียวกนั คร้ันมาถึงสมยั ของซีซาร์ทใี่ ชป้ ฏิทนิ แบบจูเลียน จึงเปล่ยี นวนั ข้ึนปี ใหม่
เป็นวนั ท่ี 1 มกราคม แต่พวกยวิ จะข้ึนปี ใหม่อยา่ งเป็นทางการประมาณวนั ที่ 6 กนั ยายน ถึงวนั ที่
5 ตุลาคม และทางศาสนาเริ่มวนั ที่ 21 มนี าคม ชาวคริสเตียนในยคุ กลางจะเร่ิมปี ใหมใ่ นวนั ท่ี
25 มีนาคม คนองั กฤษเช้ือสายแองโกล-แซกซอนไดเ้ ร่ิมปี ใหม่วนั ท่ี 25 ธนั วาคม ภายหลงั เมื่อพระเจา้
วิลเลียมไดเ้ ป็นราชาแห่งเกาะองั กฤษจึงเปลี่ยนวนั ข้ึนปี ใหม่มาเป็นวนั ท่ี 1 มกราคม ต่อมาเมื่อถงึ
ยคุ กลาง ชาวองั กฤษกเ็ ปลยี่ นวนั ข้ึนปี ใหม่เป็นวนั ที่ 25 มีนาคม เช่นเดียวกบั ชาวคริสเตยี นอนื่ ๆ
ต่อมาเมอ่ื มกี ารใชป้ ฏทิ นิ แบบเกรกอเรียน ชาวคริสเตยี นนิกายโรมนั คาทอลกิ ก็กลบั มาข้ึนปี ใหม่
วนั ท่ี 1 มกราคม อกี คร้งั
ที่มา: http://www.tlcthai.com/education/history-of-thailand/4405.html
Valentine’s Day (วันวาเลนไทน์)
ประวตั ิวนั วาเลนไทน์ เหตเุ ป็นวนั ท่ี 14 กุมภาพนั ธ์น้นั เพราะเป็นวนั เสียชีวิตของนกั บญุ
วาเลนไทน์ หรือเซนตว์ าเลนไทน์ นกั บุญแห่งความรักนน่ั เอง นกั บุญวาเลนไทน์ เป็นผรู้ ิเร่ิมการ
จดั งานแต่งงานในยคุ ทไี่ ม่นิยมให้แตง่ งานกนั เหตเุ พราะในช่วงน้นั โรมตอ้ งประสบกบั สงคราม
จกั รพรรดิคลอดิอุสท่ี 2 ตอ้ งการเกณฑค์ นไปรบ แตม่ บี คุ คลจานวนมากที่มีครอบครัว มภี รรยา
มีคนรกั ตา่ งไมอ่ ยากจะทิง้ ครอบครวั ไป ทาให้จกั รพรรดิคลอดิอสุ ท่ี 2 ตดั สินใจให้ยกเลิกการ
แต่งงานและหม้นั ท้งั หมดของชาวโรมนั ในยคุ น้นั ไปหมดอยา่ งสิ้นเชิง
แต่นกั บญุ วาเลนไทนก์ ลบั สวนกระแสของจกั รพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ชกั ชวนค่รู ักมา
แต่งงานหลายต่อหลายคู่ จนโดนจบั ตวั ไปขงั เอาไว้ และในคกุ ทีค่ มุ ขงั นกั บญุ วาเลนไทนน์ ้นั เขาได้
พบรักกบั สาวตาบอดนางหน่ึง เม่อื โดนจบั ได้ นกั บญุ วาเลนไทนจ์ ึงถูกนาตวั ไปประหารในวนั ท่ี
14 กมุ ภาพนั ธ์ วนั ดงั กล่าวจึงกลายมาเป็นวนั วาเลนไทน์ วนั ทผี่ คู้ นราลึกถึงนกั บญุ ผอู้ ุทศิ ตนให้
ความรกั นน่ั เอง
ทีม่ า: https://hilight.kapook.com/view/19756
49
Bonfire Night
Guy Fawkes Night หรือเรียกอีกอยา่ งว่า Bonfire Night เป็นวนั เฉลมิ ฉลองของชาวองั กฤษ
ตรงกบั วนั ที่ 5 พฤศจิกายน ของทุกปี เพอื่ เป็นการระลกึ ถึง Guy Fawkes กบฏท่ีเป็นกลุ่มคนชาว
โรมนั คาทอลิก ทม่ี คี วามไม่พอใจต่อพระเจา้ เจมส์ที่ 1 ซ่ึงส่งเสริมนิกายโปรเตสแตนตจ์ ึงไดว้ างแผน
พยายามท่จี ะจดุ ระเบิดเพอ่ื ท่ีจะเผาทาลายรฐั สภาองั กฤษ ในปี ค.ศ. 1605 Guy Fawkes น้นั ไดถ้ กู
จบั กมุ ตวั ในวนั ท่ี 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1605 และไดถ้ ูกประหารชีวิตอยา่ งทารุณ โดยการใชม้ า้ แยกร่าง
ตดั หัวเสียบประจาน ต่อมาภายหลงั รฐั บาลไดก้ าหนดใหเ้ ป็นวนั สาคญั ท่มี ีการเฉลิมฉลองระลกึ ถึง
ความกลา้ หาญ ทตี่ อ่ สู้เพือ่ เสรีภาพและความยตุ ิธรรมในคนื วนั ที่ 5 พฤศจิกายน ของทุกปี ท่ี
ประเทศองั กฤษจะมกี ารจุดพลุเล่นประทดั กนั อยา่ งสนุกสนาน
ที่มา: http://sawasdeelondon.blogspot.com/2009/11/guy-fawkes-night.html
Halloween (วนั ฮาโลวนี )
วนั ฮาโลวนี ตรงกบั วนั ที่ 31 ตลุ าคม ของทุกปี เช่ือกนั ว่า เป็นวนั ทโี่ ลกมนุษยแ์ ละโลก
วญิ ญาณเชื่อมต่อกนั เหลา่ ภูตผีวิญญาณจะลงมาเที่ยวเลน่ ยงั โลกมนุษย์ ซ่ึงมที ้งั วิญญาณทีด่ รุ ้ายและ
ไมด่ ุร้าย วธิ ีขบั ไล่วญิ ญาณทดี่ ุร้าย คอื การสวมชุดและหนา้ กากผี เพอื่ หลอกวา่ เป็นผีดว้ ยกนั ดงั น้นั
ในวนั ฮาโลวีนผคู้ นนิยมแตง่ กายเป็นผีและตกแตง่ บา้ นดว้ ยฟักทองแกะสลกั เป็น Jack o’ Lantern
นอกจากน้ีเดก็ ๆ ยงั มกี ารเลน่ trick or treat คอื การเดินเคาะประตตู ามบา้ นตา่ ง ๆ เพื่อขอขนมอีกดว้ ย
ทีม่ า: www.educatepark.com
May Day
ในประเทศองั กฤษ และประเทศอื่น ๆ บางประเทศ วนั May Day ถกู จดั ข้นึ ในวนั แรก
ของเดือนพฤษภาคม เป็นเทศกาลตอ้ นรบั ฤดูใบไมผ้ ลิ เป็นท่รี ู้กนั ดีวา่ เดือนพฤษภาคมเป็นเดือน
ท่มี สี ภาพอากาศทอี่ บอุ่น ตน้ ไมเ้ ร่ิมผลิดอก และเป็นช่วงเวลาของความรักและความโรแมนตกิ
โดยประชาชนจะแสดงออกถึงความสุขและความหวงั หลงั จากไดผ้ ่านฤดูหนาวทีย่ าวนานมาแลว้
จะมีการเตน้ ราในการเฉลิมฉลองเทศกาลน้ี 3 อยา่ ง คอื
- Moris Dancing
(ดูคลิปเพิม่ เติมจาก www.youtube.com ช่ือคลิป Abingdon Traditional Morris Dancing Princess
Royal จากเวบ็ ไซต์ https://youtu.be/sArAC2_ow2k)
- Crowning a May Day
(ดูคลิปเพิม่ เตมิ จาก www.youtube.com ช่ือคลปิ Crowning of the May Queen, Hastings 2015
จากเวบ็ ไซต์ https://youtu.be/nMpKg_fdLrg)
50
- Dancing around a Maypole
(ดคู ลปิ เพม่ิ เติมจาก www.youtube.com ช่ือคลิป Merrily we go around the Maypole จากเวบ็ ไซต์
https://youtu.be/eFF0kUA6KOw)
ทีม่ า: http://projectbritain.com/mayday.htm
ส่วนวนั ที่ 1 พฤษภาคม ในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอ่ืน ๆ เช่น ประเทศไทย
จะเป็นวนั แรงงาน
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนเลน่ เกมทบทวนประโยคทเี่ รียน โดยแบ่งนกั เรียนในช้นั ออกเป็น 2 กลุ่ม แลว้ ครูอธิบาย
วธิ ีการเล่นเกมใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี
1) ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาเลน่ เกม คร้งั ละ 1 คน
2) ให้ตวั แทนของแตล่ ะกล่มุ ผลดั กนั ถาม-ตอบ โดยใชป้ ระโยคคาถามท่ีเรียนไปแลว้
ตอนตน้ ชว่ั โมง เช่น
Team A S1: How old are you?
Team B S1: I’m ten years old.
Team A S1: When is your birthday?
Team B S1: It’s on the first of March.
ตวั แทนนกั เรียนกลมุ่ ใดตอบถูก จะได้ 1 คะแนน
3) ขณะนกั เรียนออกมาทากิจกรรม ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของประโยคที่นกั เรียนพูดดว้ ย
ครูให้นกั เรียนผลดั กนั ออกมาเลน่ เกมน้ีจนครบทกุ คน กลมุ่ ใดไดค้ ะแนนมากทสี่ ุด เป็นกลมุ่ ที่ชนะ
2. ให้นกั เรียนทางานกลุม่ กลุ่มละ 4 คน หาขอ้ มลู เก่ียวกบั วนั สาคญั ขององั กฤษเพ่มิ เตมิ รวมท้งั
ของไทยดว้ ย แลว้ ทาแผ่นป้ายบอกวนั สาคญั ขององั กฤษและไทย อยา่ งนอ้ ย 10 วนั เช่น
51
England Thailand
Christmas Day is on the twenty-fifth of Father’s Day is on the fifth of December.
December. Mother’s Day is on the twelfth of August.
April Fool’s Day is on the first of April. Songkran Day is on the thirteenth of April.
Father’s Day is on the third Sunday of June. Labour Day is on the first of May.
Thanksgiving Day is on the fourth Thursday of Children’s Day is on the second
November. Saturday of January.
May Day is on the first of May.
3. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หมท่ ี่เรียนในชวั่ โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์
4. ครูให้เลน่ เกม Bingo ทบทวนเลขลาดบั 1st-30th โดยใหน้ กั เรียนวาดตาราง ขนาด 5x5 ช่อง และ
สุ่มเขียนเลขลาดบั 1st-30th ในตารางแต่ละช่อง จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกมาหนา้ ช้นั คร้งั ละ 1 คน
เพอ่ื จบั ฉลากเลขลาดบั ทคี่ รูทาข้นึ คนละ 1 ใบ และอ่านใหเ้ พอ่ื นฟัง แลว้ ให้นกั เรียนในช้นั กากบาท
ทบั เลขลาดบั ตามทเ่ี พ่ือนพดู (ถา้ นกั เรียนมีคาศพั ทค์ าน้นั ในตาราง) นกั เรียนคนใดท่ีสามารถกากบาท
ช่องในตารางครบ 5 ช่อง ติดกนั กอ่ นในแนวใดกไ็ ดเ้ ป็นคนแรก ให้พดู ว่า บงิ โก และเป็นผชู้ นะ
ตวั อยา่ ง ตาราง Bingo
5. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 7 Exs. 8-9 เป็นการบา้ น
52
Ex. 8 4. A
2. Where are you from? 8. A
3. What’s your phone number?
4. When is your party?
5. Whose birthday party is it?
6. Why can’t Kevin come to school today?
Ex. 9
1. A 2. B 3. B
5. A 6. B 7. A
7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง
ประเมินการพดู ถาม-ตอบ โดยใช้ แบบประเมนิ การพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
คาถามแบบ Wh-questions
ประเมินการพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วนั สาคญั ขององั กฤษและไทย
ประเมนิ ช้ินงานวนั สาคญั ของ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
องั กฤษและไทย แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตการเลน่ เกมทางภาษา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั ประสงค์
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหดั Extra and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั รภาพ บตั รประโยค
53
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 A Surprise Party!
เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังและอ่านได้
- แสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอ่านได้
1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตัวชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ
และเรื่องเลา่
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเี่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การฟังและอ่านเกี่ยวกบั การจดั งานวนั เกิด เป็นประโยชน์ในการส่ือสาร สามารถนาความรู้ไปใช้
ในชีวิตประจาวนั
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: candle, fantastic, switch off/on, hide, light, look out
Structure: Come to my grandmother’s house.
We’re having a surprise party for her. She’s seventy today.
Pronunciation: Stress and intonation
54
2) Language Skills ตอบคาถามจากการฟัง
Listening: แสดงบทบาทสมมติ
Speaking: ตอบคาถามจากการอ่าน
Reading:
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทาย และถามสารทกุ ขส์ ุกดิบของนกั เรียน
2. ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านออกเสียงเลขลาดบั ตาม CD จากหนงั สือเรียน หนา้ 6 Ex. 5 จากน้นั ครูนาบตั รคา
เลขลาดบั มาแสดงให้นกั เรียนในช้นั ดู และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงทีละคน หรือพร้อมกนั ท้งั ช้นั ก็ได้
3. ให้นกั เรียนเขยี นวนั ทต่ี ามคาบอก เช่น
1st March 18th September 12th January
24th June 23rd August
4. ครูให้ทบทวนประโยคบอกวนั เกิด โดยครูพูดว่า When is your birthday? ให้นกั เรียนแต่ละคนพดู
ประโยคบอกวนั เกิดของตนเองให้ครูและเพอื่ นในช้นั ทราบ จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คู่กนั พูด
ถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั เกิดของเพอ่ื นในช้นั บา้ ง ครูเดินรอบ ๆ ช้นั ขณะนกั เรียนทากิจกรรม
55
ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 8-9 Ex. 9 ครูพูดส่งั นกั เรียนในช้นั วา่ Open your book to pages 8-9 and look at
the pictures. เมอื่ นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียนแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบคาถามครู เช่น
- What can you see? (Oscar, Oscar’s friends, Grandma, Grandpa, cake, a candle, etc.)
- What are they doing? (They are having a party.)
เมื่อนกั เรียนตอบคาถามเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเดาเรื่อง โดยยงั ไม่ตอ้ งอ่านเน้ือเร่ือง ครูให้ความสนใจ
กบั คาตอบของนกั เรียนอยา่ งทว่ั ถงึ ทกุ คน
2. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกว่า งานเล้ยี งวนั เกิด เรานาส่ิงของอะไรไปบา้ ง จากน้นั ครูสอนคาศพั ท์
กอ่ นการฟังและอ่าน โดยให้นกั เรียนคน้ หาความหมายของคาศพั ทจ์ ากพจนานุกรมภาษาองั กฤษ
พร้อมกบั ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทเ์ หลา่ น้ันให้ถกู ตอ้ ง เช่น candle (เทยี นไข), fantastic
(มหัศจรรย,์ เยีย่ มยอด, วิเศษ), switch off/on (ปิ ด/เปิ ดไฟ), hide (ซ่อน), light (แสง), look out (ระวงั )
ครูให้นกั เรียนลงเสียงเนน้ หนกั ในคาให้ถกู ตอ้ งดว้ ย
candle fantastic switch off/on hide
light look out
3. ครูให้นกั เรียนอ่านประโยค 2 ประโยค ทีอ่ ยสู่ ่วนบนของเน้ือเรื่องพร้อมกนั จากน้นั บอกนกั เรียนว่า
ครูจะเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง เมอ่ื ฟังจบแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบคาถาม
แลว้ ครูบอกวา่ ครูจะเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 2 คร้ัง ให้นกั เรียนต้งั ใจฟัง เพอื่ นกั เรียนจะไดต้ อบ
คาถามท้งั 2 ขอ้ น้นั ได้
1. She’s at the supermarket. 2. It’s on the sixth of May.
4. เมอ่ื นกั เรียนตอบคาถามเสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้ฟังอกี คร้งั และหยดุ CD ทกุ คร้ังเม่ือจบประโยค
เพื่อใหน้ กั เรียนพดู ตาม ขณะท่นี กั เรียนพูด ครูตรวจสอบการออกเสียงและระดบั เสียงสูงต่า
(intonation)
ข้นั Reading
1. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 9 จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังอกี คร้ัง แลว้ หยดุ CD
ทกุ คร้งั เมอ่ื จบประโยค เพือ่ ใหน้ กั เรียนอา่ นตาม ครูฟังและแกไ้ ขการออกเสียงคาที่อา่ นไมถ่ กู ตอ้ ง
และระดบั การออกเสียงสูง-ต่า (intonation) ของนกั เรียน ทาเช่นเดิมจนจบเร่ือง ตอ่ มาครูให้
นกั เรียนอ่านเองพร้อม ๆ กนั
56
2. หนังสือเรยี น หน้า 9 Ex. 10 ครูพูดว่า Read the story on pages 8-9. ให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเร่ือง
หนา้ 8-9 อกี คร้งั แลว้ หาภาพทีต่ รงกบั ประโยคที่โจทยก์ าหนดให้ และเขียนตวั เลขลงในสมุด
ของตนเอง เสร็จแลว้ ใหช้ ่วยกนั เฉลยคาตอบ
1. picture 3 2. picture 4 3. picture 5 4. picture 8
ข้นั Post-reading
1. ครูให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเร่ืองเพ่อื ทาความเขา้ ใจอีกคร้งั จากน้นั แบ่งนกั เรียนเป็น 2 กล่มุ เพอ่ื สนทนา
โตต้ อบกนั โดยแบง่ บทสนทนาเป็น 2 ส่วน คอื 4 ภาพแรกเป็น A และ 4 ภาพสุดทา้ ยเป็น B
จากน้นั ครูฟังการอ่านออกเสียงของแตล่ ะคน
2. ครูบอกวา่ ให้นกั เรียนแสดงบทบาทสมมติจากเน้ือเร่ืองทอ่ี ่าน โดยครูมอบหมายให้นกั เรียนจบั กลุ่ม
กบั เพ่อื น ๆ ตามจานวนตวั ละครในหนงั สือเรียน เม่ือแบ่งกลุ่มไดแ้ ลว้ ให้ปรึกษากนั วา่ จะแสดง
เป็นใคร แลว้ ใหจ้ าบทของตนเอง ครูใหเ้ วลาเพื่อท่องบท โดยให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ทอ่ ง แลว้ ให้
นกั เรียนลองมาตอ่ บทกบั ครู โดยคร้งั แรกสามารถดูบทไดก้ อ่ น ครูช่วยแกไ้ ขการออกเสียง
ทีไ่ ม่ถกู ตอ้ ง และชมเชยเมือ่ นกั เรียนออกเสียงถูกตอ้ ง
3. ครูให้เวลานกั เรียนเพื่อฝึกซอ้ มการแสดงบทบาทสมมติ จากน้นั ให้แต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั
ให้นกั เรียนท่ียงั ไม่ไดแ้ สดง สงั เกตและจดบนั ทึกเร่ืองการออกเสียง การแสดงทา่ ทาง ความเป็น
ธรรมชาติของเพอ่ื นแต่ละกลมุ่ ดว้ ย
4. เมอื่ นกั เรียนทุกกล่มุ ออกมาแสดงบทบาทสมมติครบแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายถงึ ขอ้ ดี
และขอ้ บกพร่อง เพื่อนกั เรียนจะไดน้ าไปปรบั ปรุง
5. ใหท้ ากิจกรรมทบทวนเน้ือเร่ืองที่อา่ น ครูใหน้ กั เรียนทางานคู่ โดยถา่ ยเอกสารจากแบบฝึ กหดั
หน้า 79 Story Cutouts ใหน้ กั เรียนแต่ละคู่ ค่ลู ะ 1 ภาพ และฝึกพูดสนทนาตามภาพท่ีไดร้ บั แลว้ ครู
พดู วา่ Close your book. ให้นกั เรียนทาตามคาสั่ง และแบง่ นกั เรียนเป็นกลุม่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั
ครูอ่านประโยคในเน้ือเรื่องทีละประโยค ให้แต่ละกล่มุ ช่วยกนั ระบุภาพท่สี มั พนั ธก์ บั ประโยค
ทีค่ รูพูด
6. ครูใหน้ กั เรียนคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดทีเ่ รียนในบทน้ีเพมิ่ เตมิ อีก 4 คา และบอกความหมายดว้ ย
จากน้นั ให้นกั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทล์ งในสมดุ คาศพั ท์
57
7. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 8 Exs. 11-12 เป็นการบา้ น
Ex. 11
B-4 C-2 D-6 E-3 F-5
Ex. 12
2. surprise 3. seventieth
4. Daniel 5. cake
6. six
7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมินการอา่ น ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วิธกี ารวดั
ประเมินการอา่ นออกเสียง แบบประเมินการแสดงละคร/ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เรื่องทอ่ี า่ น บทบาทสมมติ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการแสดงบทบาท แบบฝึกหดั /แบบทดสอบ
สมมติ
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การฟังและอา่ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด พงึ ประสงค์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมน่ั ในการ
ทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด Extra and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั ร Story Cutouts
58
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 You are invited to a party!
เวลา 2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียง สะกด และบอกความหมายคาศพั ทแ์ ละประโยคตามทีก่ าหนดได้
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- พดู ถามและตอบเก่ียวกบั อายุ และวนั เกิดของผอู้ นื่ ได้
- เขยี นบตั รเชิญงานวนั เกิดได้
- เล่นเกมทางภาษาตามท่กี าหนดได้
1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่าย ๆ
และเรื่องเลา่
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วดั
ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชี้วัด
ต 1.3 ป. 6/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตัวชีว้ ดั
ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
59
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ัด
ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เก่ียวกบั หลกั การออกเสียง การเขียนบตั รเชิญงานวนั เกิด เป็นการเรียนรู้เพอ่ื นาไปใช้
ไดจ้ ริงในชีวิตประจาวนั
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: invitation, address, hope
Structure: Dear Jodie,
It’s my … birthday on the … of July.
Please come to my party at …
My address is … North Road.
I hope you can come.
Pronunciation: Blend (cluster) /gr/
Linking sound
Function: Inviting someone to a birthday party
2) Language Skills
Speaking: พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั อายุ และวนั เกิดของผอู้ น่ื
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขยี นบตั รเชิญงานวนั เกิด
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
60
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายกบั นกั เรียน และให้นกั เรียนในช้นั ทกั ทายกนั เองตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
2. ก่อนเขา้ สู่บทเรียน ครูนาบตั รอวยพรวนั เกิดมาให้นกั เรียนดู พร้อมกบั ถามวา่ What’s this?
ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบวา่ A card. และครูถามนกั เรียนต่อว่า When do we use the card?
ให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ และตอบวา่ Birthday. เป็นตน้ จากน้นั ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ ถา้ เราจะเขยี น
บตั รเชิญวนั เกิด ตอ้ งมอี งคป์ ระกอบใดบา้ ง
3.
โครงสร้างหรือองค์ประกอบของการเขียนบัตรเชิญ
1. ชื่อเจา้ ภาพ 2. คาเชิญ
3. ชื่อของผรู้ ับเชิญ 4. รูปแบบของงานเล้ยี ง
5. วตั ถุประสงคข์ องการจดั งาน 6. วนั และเวลาท่ีจดั งาน
7. สถานทจี่ ดั งาน
ข้นั Pre-reading
1. ครูสอนคาศพั ทใ์ หม่ ไดแ้ ก่ คาวา่ invitation (การเชิญ), address (ทอ่ี ย)ู่ และ hope (หวงั ) โดยครูเขียน
คาศพั ทเ์ หล่าน้ีบนกระดาน แลว้ ครูออกเสียงใหน้ กั เรียนฟังซ้าหลาย ๆ คร้ัง และให้นกั เรียนออกเสียง
ตาม ครูใหน้ กั เรียนออกเสียงเนน้ หนกั ในคาให้ถูกตอ้ งดว้ ย
invitation address
2. ครูแนะนาสานวนภาษาท่ใี ชใ้ นการเขียนบตั รเชิญ
Please come to my ... เป็นประโยคเพ่ือขอร้องใหม้ าร่วมงานเล้ียงของตนเอง
I hope you can come. เป็นประโยคลงทา้ ยเพอื่ แสดงความหวงั วา่ เพอื่ นจะมาร่วมงานเล้ียง
กิจกรรมเพิม่ เติม
ใหน้ กั เรียนหาขอ้ มูลสานวนภาษาทใี่ ชใ้ นการเขยี นบตั รเชิญจากเวบ็ ไซต์
http://learnenglishteens.britishcouncil.org/skills/writing-skills-practice/invitation-party
61
ข้นั Reading
1. หนังสือเรียน หน้า 10 Ex. 11 ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดวา่ การเขยี นบตั รเชิญวนั เกิด เราควรจะเขียนเชิญ
อยา่ งไร ให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ และตอบครู แลว้ ครูพูดวา่ Open your book to page 11. เม่ือนกั เรียน
ทาตามคาส่งั แลว้ ครูให้ดูภาพในบทอา่ น และอธิบายว่า นกั เรียนจะไดอ้ า่ นบทอา่ นเกี่ยวกบั Party
Invitation แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง พร้อมกบั อา่ นตามไปดว้ ยในใจ
2. ครูเปิ ด CD ให้ฟังอีกคร้ัง คร้ังน้ีครูบอกวา่ ใหน้ กั เรียนต้งั ใจฟังให้ดี เพ่ือเป็นขอ้ มูลในการเลอื กคาตอบ
ครูใหน้ กั เรียนอ่านประโยคตาม CD ดว้ ย และหยดุ CD เมื่อจบแตล่ ะประโยค ให้นกั เรียนอา่ น
ออกเสียงตาม โดยครูตรวจสอบการออกเสียงของนกั เรียนวา่ ออกเสียงถกู ตอ้ งหรือไม่
3. ให้นกั เรียนอา่ นบตั รเชิญวนั เกิดในใจอีกคร้ังหน่ึง พร้อมกบั เขียนคาตอบที่เป็นขอ้ มูลทถี่ กู ตอ้ ง
ตรงกบั ทไี่ ดฟ้ ังจาก CD โดยเขียนคาตอบลงในสมุดของตนเอง เสร็จแลว้ ใหช้ ่วยกนั เฉลยคาตอบ
1. twelfth 2. fifteenth 3. three 4. 80
ข้นั Post-reading
1. ครูบอกว่า ให้นกั เรียนทุกคนเป็น Martin ใน Ex. 11 แลว้ ครูถามคาถามนกั เรียน ให้นกั เรียนใชข้ อ้ มูล
ของ Martin ในการตอบ เช่น
T: How old are you?
Ss: I’m twelve years old.
T: When is your birthday?
Ss: It’s on the fifteenth of July.
T: What time is your party?
Ss: It’s at three o’clock.
T: What’s your address?
Ss: It’s 80 North Road.
จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั และฝึกพดู ถาม-ตอบอีกคร้งั โดยครูช่วยเขียนประโยคคาถามบนกระดาน
2. หนงั สือเรียน หน้า 10 Ex. 12 ครูพดู ว่า Open your book to page 10. ใหน้ กั เรียนทาตามคาส่ังท่คี รูพูด
จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความในกรอบคาพูดพร้อมกนั หรืออาจแบง่ เป็นนกั เรียนชายและหญิงก็ได้
พร้อมกบั ผลดั กนั อ่านประโยคในกรอบคาพูดตามภาพ
3. ครูใหน้ กั เรียนจบั คูก่ นั แลว้ สนทนากนั เกี่ยวกบั อายุ และวนั เกิด เหมือนตวั อยา่ งใน Ex.12 ครูให้เวลา
นกั เรียนฝึกซอ้ ม จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหนา้ ช้นั โดยครูชมเชย
นกั เรียนทอ่ี อกเสียงไดใ้ กลเ้ คียงกบั สาเนียงของเจา้ ของภาษา และให้นกั เรียนท่เี หลือในช้นั ต้งั ใจฟัง
การสนทนาของเพ่ือน เพอ่ื ครูจะซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั ขอ้ มูลทเี่ พอ่ื นพดู ดว้ ย เช่น
62
T: How old is Anne?
Ss: She is eleven years old.
T: When is her birthday?
Ss: It’s on the seventh of November.
4. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หม่ทเ่ี รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์
ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ใหอ้ าสาสมคั รออกมาสนทนาเก่ียวกบั วนั เกิดของเพอื่ นในช้นั ว่า
แต่ละคนเกิดวนั ท่ีเท่าไรบา้ ง โดยให้ผลดั กนั ถาม-ตอบกนั เป็นลูกโซ่ ครูเริ่มตน้ เป็ นคนถามคนแรก
ดงั น้ี
T: Anne, when is your birthday?
S1: It’s on the seventh of November. Ken, when is your birthday?
S2: It’s on the third of February. Jack, when is your birthday?
S3: It’s on the ninth of April. etc.
2. หนังสือเรียน หน้า 11 Ex. 13 ครูบอกนกั เรียนในช้นั ว่า Open your book to page 11. ใหน้ กั เรียน
ในช้นั ทาตามคาสง่ั ที่ครูพดู แลว้ ครูแบง่ นกั เรียนในช้นั ออกเป็น 2 ทีม ให้แต่ละทีมส่งตวั แทนออกมา
หนา้ ช้นั คร้งั ละ 1 คน โดยใหน้ าหนงั สือเรียนออกมาดว้ ย จากน้นั ให้ตวั แทนของแต่ละทมี สุ่มถาม
เก่ียวกบั อายแุ ละวนั เกิดของบุคคลในภาพ ถา้ ตวั แทนของทมี ใดตอบถกู จะได้ 1 คะแนน และผลดั กนั
ออกมาทากิจกรรมจนครบทกุ คน ทมี ท่ีไดค้ ะแนนมากกว่าเป็นทมี ชนะ เมื่อเล่นเกมเสร็จแลว้ ครูและ
นกั เรียนอภิปรายเก่ียวกบั สิ่งที่ไดจ้ ากการเล่นเกม
A: How old is Sam?
B: He’s twenty-seven years old.
A: When’s his birthday?
B: On the twenty-second of July.
B: How old is Laura?
A: She’s sixty-four years old.
B: When’s her birthday?
A: On the thirtieth of March.
63
A: How old is Judy?
B: She’s nineteen years old.
A: When’s her birthday?
B: On the tenth of August.
B: How old is Jack?
A: He’s fifty-three years old.
B: When’s his birthday?
A: On the fifteenth of January.
A: How old is Doris?
B: She’s twelve years old.
A: When’s her birthday?
B: On the first of September.
B: How old is Ben?
A: He’s thirty-two years old.
B: When’s his birthday?
A: On the twenty-eighth of February.
A: How old is Mark?
B: He’s eighty-five years old.
A: When’s his birthday?
B: On the twenty-ninth of October.
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอการออกเสียงคาศพั ทท์ ่ขี ้นึ ตน้ ดว้ ย gr โดยบอกนกั เรียนวา่ ในภาษาองั กฤษมกี าร
ออกเสียงตวั อกั ษร 2 ตวั พร้อมกนั เรียกว่า blend หรือ cluster (ควบกล้า) ในบทน้ีจะเป็น
เสียงควบกล้า gr แลว้ ครูอธิบายวิธีการออกเสียงน้ีเพ่มิ เติมแก่นกั เรียน
64
พยญั ชนะควบกลา้ (Consonant clusters)
เสียงใดเสียงหนึ่งในกล่มุ เสียง g + / l, r, j, w/
สาหรบั เสียงควบกล้าน้ีให้พยายามออกเสียงพยญั ชนะเสียงที่ 2 ในขณะที่กาลงั ออกเสียง
พยญั ชนะเสียงท่ีหน่ึงดว้ ย ตวั อยา่ งเช่น ในการออกเสียงควบกล้า /gr/ ขณะทีย่ กริมฝีปากลา่ ง
ไปปิ ดสนิทกบั ริมฝีปากบน เพ่อื ออกเสียง /gr/ น้นั ในขณะเดียวกนั ให้ยกปลายสุดลิน้ ไปยงั
ส่วนหลงั ของป่ มุ เหงือกแลว้ ใหก้ ระแสลมเคล่อื นออกไป โดยไม่มีเสียงเสียดแทรกตาม
เพอ่ื ออกเสียง /r/ ดว้ ยในเวลาเดียวกนั จึงจะเกิดเป็ นเสียงควบกล้าได้ ระหว่างเสียง /g/ และ /r/
ใหล้ องพยายามเช่นน้ีในการออกเสียงควบกล้าทุกเสียง
ทม่ี า: ดร. นนั ทนา รณเกียรติ. สัทศาสตร์เพื่อการสอนการออกเสียงภาษาอังกฤษ.
กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, 2555.
2. ครูอธิบายเกี่ยวกบั การออกเสียงเช่ือมคา (Linking sound) แก่นกั เรียน
การอ่านเช่ือมคาในภาษาองั กฤษ (Linking sound)
คอื คาทลี่ งทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะ และจะออกเสียงพยญั ชนะในคาถดั ไปทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ยสระ เช่น
sit on เราอา่ นว่า si-ton
read a book เราอ่านวา่ reada-book
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 11 Sound Spot ครูเขียนคาศพั ท์ green, grapes, ground ใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน
และเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังการออกเสียงคาศพั ทเ์ หล่าน้ี 2-3 คร้ัง
There are a lot of green grapes on the ground.
ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทต์ าม CD ใหถ้ กู ตอ้ ง โดยใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงซ้าหลาย ๆ คร้ัง
ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงเช่ือมคาในประโยคดว้ ย
กจิ กรรมเพิ่มเตมิ
ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทท์ ี่ข้ึนตน้ ดว้ ย gr จากเวบ็ ไซต์
https://www.youtube.com/watch?v=ohusxUrG5eQ ฝึกที่หอ้ งคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนหรือท่ีบา้ น
ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ี่ข้นึ ตน้ ดว้ ยเสียง gr เพิม่ เตมิ
65
2. ครูใหน้ กั เรียนฝึกแยกแยะคาศพั ทเ์ สียง gr ให้ถูกตอ้ ง โดยครูออกเสียงคาศพั ทท์ มี่ ีเสียง gr และคาศพั ท์
ทม่ี ีเสียงอื่นปนมาให้นกั เรียนฟัง แลว้ แยกแยะให้ไดว้ า่ คาศพั ทค์ าใดออกเสียง gr
ตวั อยา่ งคาศพั ท์
1. glue - green 2. great - bring
3. ground - town 4. glow - ground
5. grape - glad
ในแต่ละขอ้ ครูออกเสียงคาศพั ทเ์ พยี ง 1 คาเท่าน้นั โดยใหค้ รูออกเสียงให้ชดั เจน
ข้นั Production
1. หนังสือเรยี น หน้า 15 Portfolio ครูบอกนกั เรียนว่า ให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นใน Ex. 11 อกี คร้งั เพ่ือใช้
เป็นขอ้ มลู ในการเขยี น โดยครูบอกนกั เรียนว่า ให้นกั เรียนเขียนบตั รเชิญงานวนั เกิดของตนเอง
ให้นกั เรียนเขยี นขอ้ มูลในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ีในบตั รเชิญ เช่น
How old …? (eleven years)
When …? (the twelfth of March)
What time …? (nine o’clock)
Where …? (my home)
2. ให้เวลานกั เรียนร่างขอ้ ความในการเขยี นบตั รเชิญ ขณะท่ีนกั เรียนทากิจกรรม ครูใหค้ วามช่วยเหลอื
ทจี่ าเป็น
3. เมื่อร่างเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนตรวจทานงานเขยี นของตนเอง ในเรื่องความถูกตอ้ งของตวั สะกด
ไวยากรณ์ และเครื่องหมายวรรคตอน หรืออาจสลบั กนั ตรวจกบั เพอ่ื นก็ได้ เสร็จแลว้ เขยี น
บตั รเชิญใหมท่ ่แี กไ้ ขขอ้ มลู ถกู ตอ้ งแลว้ มาส่งครู
4. เมื่อครูตรวจผลงานแลว้ อาจจะให้นกั เรียนแลกเปล่ียนกนั ดู หรือออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั
แลว้ จดั เกบ็ ไวใ้ นแฟ้ม Portfolio
Dear Ben,
It’s my eleventh birthday on the sixth of February.
Please come to my party at six o’clock.
My address is 14 South Road.
I hope you can come.
Love, Mary
66
5. ครูมอบหมายใหแ้ ต่ละคนกลบั ไปศึกษาคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ ทางอินเทอร์เนต็ เพ่ือนามาเปรียบเทียบและ
นามาประยกุ ตก์ บั บตั รเชิญของนกั เรียน และนามาเสนอในคาบเรียนตอ่ ไป
6. ครูให้นกั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หม่ทเี่ รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์
7. ให้ทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 9 Ex. 13 เป็นการบา้ น
2. party 3. Twelve 4. present 5. Eating
6. clown 7. music 8. Dancing
7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
วธิ กี ารวดั
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์
และประโยค แบบฝึกหดั /แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจาก
การอ่าน แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดถาม-ตอบ
เก่ียวกบั อายแุ ละวนั เกิดของ แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ผอู้ ื่น
ประเมินการเขียนบตั รเชิญ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เกี่ยวกบั งานวนั เกิด ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการเลน่ เกมทางภาษา แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้และมงุ่ มนั่ ในการ
ทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหดั Extra and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั รภาพ บตั รคาศพั ท์
67
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 Happy Birthday!
เวลา 1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ฟังและเขยี นเน้ือเพลงตามทฟี่ ังได้
- ร้องเพลงทางภาษาตามทกี่ าหนดได้
- แตง่ เพลงอวยพรวนั เกิดได้
1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชี้วดั
ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่าย ๆ
และเรื่องเลา่
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาและนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ชีว้ ัด
ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา และวฒั นธรรมตามความสนใจ
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชี้วัด
ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่เี กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การร้องเพลงวนั เกิดของเจา้ ของภาษา เป็นการฝึกทกั ษะการออกเสียง และทาใหส้ นุกสนาน
เพลดิ เพลนิ มีเจตคติท่ีดีตอ่ การเรียนภาษาองั กฤษ รวมท้งั รู้จกั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
68
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: lovely, blow out, shout
Structure: This is your special day, so we all want to say, have a lovely day.
2) Language Skills
Listening: ฟังและเขียนเน้ือเพลงตามที่ฟัง
Writing: แตง่ เพลงอวยพรวนั เกิด
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายนกั เรียน สอบถามสารทุกขส์ ุกดิบ หรือเหตกุ ารณ์/สถานการณ์ขา่ วทว่ั ไปท่ีเกิดข้ึน
2. ครูบอกนกั เรียนวา่ วนั น้ีเราจะมารู้จกั ประวตั ขิ องเพลง Happy Birthday to you. โดยครูสรุป ดงั น้ี
เพลง Happy Birthday to you.
เพลงทนี่ ิยมใชใ้ นวนั เกิดทีแ่ พร่หลายมาก คือ เพลง Happy Birthday to you.
ซ่ึงกินเนสบุ๊คไดร้ ะบุว่า เป็นเพลงภาษาองั กฤษทีม่ ีการร้องบอ่ ยที่สุดในโลก แต่งทานองโดย
แพต็ ต้ี ฮิลลแ์ ละมลิ เดร็ด ฮิลล์
ในปี พ.ศ. 2436 โดยเริ่มแรก สองพ่นี อ้ งซ่ึงเป็นครูในโรงเรียนแห่งหน่ึงไดต้ ้งั ใจใช้
สาหรบั ทกั ทายนกั เรียนในช้นั โดยใส่ประโยคว่า Good morning to All. (อรุณสวสั ด์ิทุกคน)
สาหรับเพลงรูปแบบท่เี รารู้จกั กนั น้นั ไดร้ ับการคมุ้ ครองลขิ สิทธ์ิในปี พ.ศ. 2478
โดยบริษทั ซมั มี (Summy Company) และมีกาหนดที่จะหมดอายใุ นปี พ.ศ. 2578
69
ในปี พ.ศ. 2533 วอร์เนอร์มิวสิก ไดซ้ ้ือบริษทั ที่ครอบครองลขิ สิทธ์ิเพลงน้ีในราคา
15 ลา้ นดอลลาร์สหรฐั โดยตีราคามลู คา่ ลขิ สิทธ์ิเพลงน้ีถึง 5 ลา้ นดอลลาร์ ในขณะทส่ี ถานะของ
ลิขสิทธ์ิน้ีในปัจจุบนั ไมช่ ดั เจนนกั วอร์เนอร์ระบุวา่ การแสดงเพลงน้ีในที่สาธารณะถอื เป็นการ
ละเมดิ ลิขสิทธ์ิ เน้ือร้องปัจจุบนั ทีใ่ ชค้ าว่า Happy Birthday น้นั ไม่ทราบว่า ผูท้ ีร่ ิเริ่มเป็นใคร
เน้ือร้องของเพลงสามารถดไู ดท้ เี่ วบ็ ไซตข์ องวอร์เนอร์มิวสิค
ทม่ี า: https://th.wikipedia.org/wiki/วนั เกิด
หลงั จากถกู Warner Chappell Music อา้ งว่าเป็นผูถ้ อื ลขิ สิทธ์ิของเพลง Happy Birthday
และจดั เกบ็ คา่ ลิขสิทธ์ิ หากมกี ารร้อง หรือใชป้ ระกอบสื่อตา่ ง ๆ เพอ่ื การคา้ ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2533
ล่าสุดผพู้ พิ ากษา George H. King แห่งศาลกลางแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกากว็ ินิจฉัยวา่
Warner Chappell Music ไมไ่ ดเ้ ป็นเจา้ ของลขิ สิทธ์ิเน้ือร้องของเพลง Happy Birthday เน่ืองจาก
ตน้ ฉบบั มีช่ือวา่ Good Morning To All ดงั น้นั เพลงอวยพรวนั เกิด Happy Birthday ที่มีอายมุ ากกวา่
100 ปี เพลงน้ีเป็นเพลงของสาธารณะ และไมค่ วรมีการเรียกเกบ็ คา่ ลิขสิทธ์ิอกี ตอ่ ไป
ท่ีมา: http://jingro.com/th/news/us-court-rules-happy-birthday-to-you-is-not-under-copyright/
3. ใหน้ กั เรียนร้องเพลง Happy Birthday to you. พร้อมกนั ท้งั ช้นั โดยปรบมือตามจงั หวะทร่ี ้องดว้ ย
ข้นั Presentation
1. หนังสือเรยี น หน้า 12 Ex. 14 ครูบอกนกั เรียนว่า วนั น้ีเรามเี พลง Happy Birthday แบบใหม่
ซ่ึงนกั เรียนยงั ไม่เคยไดย้ ินมากอ่ น ให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเพลงใหค้ รูฟังพร้อมกนั โดยครูช่วยเหลอื
นกั เรียนทีอ่ า่ นคาศพั ทใ์ นเน้ือเพลงไม่ถกู ตอ้ ง
2. ครูเขียนช่ือเพลง “This is your special day.” บนกระดาน และใหน้ กั เรียนร่วมกนั คดิ ว่า คาว่า Special
day (วนั พิเศษ) มคี วามหมายว่าอยา่ งไร น่าจะเป็นวนั อะไรไดบ้ า้ ง เมอ่ื มีนกั เรียนตอบว่า วนั เกิด
ครูถามตอ่ ว่า เป็นวนั พิเศษอยา่ งไร มกี ิจกรรมอะไรทาในวนั เกิดบา้ ง หรือคุณพ่อคุณแม่ใหส้ ่ิงใดกบั
นกั เรียน หรือนกั เรียนทาสิ่งใดเพ่อื เป็นการตอบแทนพระคณุ ของคณุ พอ่ คณุ แม่บา้ ง
3. ให้นกั เรียนดภู าพในหนงั สือเรียน และดวู ่าในภาพมีใคร ทาอะไร ทไ่ี หน เมอ่ื ไร เพราะอะไร โดยครู
ใช้ Wh-questions เช่น
- What can you see? - What are they doing? etc.
4. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเน้ือเพลง และให้นกั เรียนร้องเพลงคลอตามไปดว้ ยในใจ แลว้ ครูเปิ ด CD
ใหน้ กั เรียนฟังอีก 1 รอบ จากน้นั ให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน โดยครูพูดว่า Close your book, please.
แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนออกมาช่วยกนั เขียนบทเพลงท่ีฟังทลี ะท่อนจนจบเพลง เพ่อื วดั ทกั ษะการฟัง
5. ครูเปิ ด CD อีกคร้งั และหยดุ ทุก ๆ บรรทดั เพอื่ ให้นกั เรียนร้องตาม จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั
เพอ่ื ฝึกร้องเพลง ตอ่ มาครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คู่ ออกมาร้องเพลงให้เพื่อนฟังหนา้ ช้นั
70
ข้นั Practice
หนังสือเรียน หน้า 12 Ex. 15 ครูใหน้ กั เรียนจบั กลุ่มกนั แตง่ เพลงอวยพรวนั เกิดสาหรบั สมาชิก
ภายในครอบครัว 1 คน โดยดูรูปแบบเน้ือเพลงจาก Ex. 14 ซ่ึงนกั เรียนอาจร่างเน้ือเพลงก่อน และ
นามาให้ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของการใชภ้ าษาองั กฤษ ครูเดินรอบ ๆ ขณะนกั เรียนทา
กิจกรรม เมอื่ แต่ละคู่แต่งเพลงเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนทกุ กลุ่มออกมาร้องเพลงหนา้ ช้นั
ข้นั Production
1. เมอ่ื ร้องเพลงทเี่ รียนในชวั่ โมงน้ีแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั แสดงความคดิ เห็นว่าชอบหรือไม่ชอบ
เพลงน้ี ดว้ ยประโยค I like/don’t like the song because …
2. ครูมอบหมายการบา้ นใหก้ บั นกั เรียนว่าใหก้ ลบั ไปอดั คลปิ วิดีโอการอวยพรวนั เกิดให้กบั บุคคลใน
ครอบครวั และนามาส่งในสัปดาห์ถดั ไป
3. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หม่ที่เรียนในชวั่ โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์
4. ให้ทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 10 Ex. 14 เป็นการบา้ น
1. say 2. day 3. Blow 4. shout
7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วิธีการวดั
ตรวจการเขียนเน้ือเพลง แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตามทีฟ่ ัง
ประเมินชิ้นงานการแต่งเพลง แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
อวยพรวนั เกิด แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการร้องเพลงทางภาษา แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการพดู อวยพรวนั เกิด แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้และมุง่ มนั่ ในการ
ทางาน
71
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด Extra and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6
72
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 Party time!
เวลา 1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- วาดภาพประกอบเกี่ยวกบั เรื่องที่อ่าน และพดู บรรยายได้
- เปรียบเทียบการจดั งานวนั เกิดของไทยกบั เจา้ ของภาษาได้
- เขียนรายงานเกี่ยวกบั การฉลองวนั เกิดได้
1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบุประโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมาย
ทอี่ ่าน
ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ
และเรื่องเล่า
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั
ต 1.3 ป. 6/2 เขียนภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ
ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ตัวชี้วัด
ต 2.2 ป. 6/2 เปรียบเทียบความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง และประเพณี
ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
73
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ชีว้ ดั
ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้คาศพั ท์ และเขา้ ใจเร่ืองที่อ่าน ช่วยให้เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งของวฒั นธรรม
การจดั งานฉลองวนั เกิดของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: invite, decorate, banner, try, blow out, make a wish, guest, slice
Structure: In Britain, children invite their friends to a birthday party when it’s
their birthday.
Function: Talking about birthday parties
2) Language Skills
Speaking: พดู บรรยายภาพทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั เรื่องท่ีอ่าน
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
วาดภาพเกี่ยวกบั เร่ืองทีอ่ ่าน
Writing: เขยี นรายงานเก่ียวกบั การฉลองวนั เกิดของไทย
3) Culture: การจดั งานฉลองวนั เกิดในประเทศองั กฤษ
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
74
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูทกั ทายกบั นกั เรียนในช้นั และถามสารทุกขส์ ุกดิบของนกั เรียนดว้ ย
2. ครูเขยี นขอ้ ความ “PARTY TIME” บนกระดาน แลว้ แบ่งนกั เรียนออกเป็น 3 กลุ่ม เทา่ ๆ กนั โดยให้
นกั เรียนช่วยกนั คดิ ว่า ถา้ ตอ้ งจดั งานฉลองวนั เกิดใหเ้ พื่อนในช้นั นกั เรียนตอ้ งจดั เตรียมอะไรบา้ ง
ให้แต่ละกลุ่มช่วยกนั คดิ และเขยี นขอ้ มลู บนั ทกึ ไว้ จากน้นั ใหต้ วั แทนของแต่ละกลมุ่ ออกมารายงาน
ใหเ้ พื่อนฟังหนา้ ช้นั
3. ครูสนทนากบั นกั เรียนในช้นั ว่า ชวั่ โมงน้ีจะเป็นการศึกษาเน้ือเรื่องเกี่ยวกบั การจดั งานวนั เกิดของ
เจา้ ของภาษา แลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ ว่า การจดั งานวนั เกิดของเจา้ ของภาษาจะมกี ารจดั งาน
อยา่ งไร ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก และครูเขยี นขอ้ มูลเหล่าน้นั บนกระดาน
ข้นั ก่อนอ่าน
1. ครูสอนคาศพั ทใ์ หมใ่ นเน้ือเรื่องในหนงั สือเรียน หนา้ 13 Ex. 16 แก่นกั เรียน invite (เชิญ),
decorate (ตกแตง่ ), banner (ธง), try (พยายาม), blow out (เป่ า), make a wish (ขอพร), guest (แขก),
และ slice (ตดั เป็นแผ่นบาง) โดยครูเขียนคาศพั ทเ์ หล่าน้ีบนกระดาน แลว้ ถามนกั เรียนวา่ มีใครรู้จกั
ความหมายของคาเหล่าน้ีบา้ งหรือไม่ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ ซ่ึงครูอนุญาตใหห้ าความหมายจาก
พจนานุกรมภาษาองั กฤษ แลว้ ครูออกเสียงคาศพั ทเ์ หล่าน้ีซ้าหลาย ๆ คร้ัง และใหน้ กั เรียนฝึก
ออกเสียงตาม
2. ให้นกั เรียนอ่านช่ือเร่ือง และช่วยกนั เดาว่า นกั เรียนจะไดอ้ ่านบทอ่านเกี่ยวกบั เร่ืองอะไร
(Party time!) แลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั เดาว่า จะมกี ารจดั อะไรในงานวนั เกิดบา้ ง
3. ครูเขียนประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบคาถาม
- Do you have a party? (Yes./No.)
- Who do you invite? (Friends.)
- What do you do at the party? (Eat, dance and play games.)
4. ครูพูดสง่ั ว่า Open your book to page 13. ใหน้ กั เรียนทาตามคาสั่ง แลว้ ครูพดู ต่อวา่ Look at the
pictures. ใหน้ กั เรียนดูภาพ จากน้นั ครูถามวา่ What do you see in the picture? ให้นกั เรียนช่วยกนั
ตอบคาถาม
75
ข้นั อ่าน
1. หนงั สือเรยี น หน้า 13 Ex. 16 ให้นกั เรียนอ่านขอ้ ความทีก่ าหนดให้ และขดี เส้นใตค้ าสาคญั ใน
ขอ้ ความดงั กล่าว จากน้นั อา่ นเน้ือเร่ืองอยา่ งรวดเร็ว เพ่อื มองหาขอ้ มูลทีส่ ัมพนั ธ์กนั เมอื่ พบแลว้
ให้อ่านทาความเขา้ ใจ แลว้ ระบุวา่ ประโยคทใี่ ห้มาถกู ตอ้ งหรือไม่ เสร็จแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั
เฉลยคาตอบ
1. yes 2. no 3. yes
2. ครูอา่ นทีละประโยคและใหน้ กั เรียนอ่านตาม ขณะเดียวกนั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกความหมายของ
เน้ือเรื่องทีอ่ า่ นทีละประโยค
ข้นั หลังอ่าน
1. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ใหว้ าดภาพ เพ่ือเล่าเร่ืองเก่ียวกบั การจดั งานเล้ยี งวนั เกิดใน
ประเทศองั กฤษ โดยทาเป็นการ์ตนู ช่อง ๆ เม่ือนกั เรียนวาดเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนพดู บรรยายภาพ
เพอื่ เลา่ เก่ียวกบั งานวนั เกิดในประเทศองั กฤษให้เพือ่ น ๆ ฟังอีกคร้งั
2. ให้นกั เรียนช่วยกนั เปรียบเทยี บการจดั งานวนั เกิดของไทยกบั ของเจา้ ของภาษาว่า มีความเหมือนหรือ
แตกตา่ งกนั อยา่ งไร โดยครูถามวา่ What do you do on your birthday? ให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ และ
บอกครู ซ่ึงครูจะเขียนเปรียบเทียบให้นกั เรียนดบู นกระดาน นกั เรียนอาจพูดตอบเป็นภาษาไทยก็ได้
เช่น
ไทย องั กฤษ
- ตกั บาตร - จดั งานวนั เกิด
- ปล่อยปลา - เลน่ เกม
- จดั งานวนั เกิด - เตน้ รา
- เลน่ เกม - รบั ประทานอาหาร
- เตน้ รา - ใหข้ องขวญั เจา้ ของวนั เกิด
- รบั ประทานอาหาร - แจกขนมเคก้ ช้ินเลก็ ๆ และ
- ให้ของขวญั เจา้ ของวนั เกิด
ของขวญั ช้ินเลก็ ๆ
แก่ผมู้ าร่วมงาน
76
3. ให้นกั เรียนเขียนรายงานการฉลองวนั เกิดของไทย วาดภาพหรือตดิ ภาพให้สวยงาม โดยใชข้ อ้ ความ
ตามที่กาหนดให้
In …………………… children invite their friends to their
birthday party. Before the party ……...........................……
………………......………………………………………....
At the party ……………………………………......….…...
………………………………………………………….......
When it’s time to go home …………………........………..
……………………………………………………....……...
4. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หมท่ ีเ่ รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมุดคาศพั ท์
5. ใหท้ ากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 11 Ex. 15 เป็ นการบา้ น ดงั น้ี
77
7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วธิ กี ารวดั
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
การอ่าน
ประเมินชิ้นงานการวาดภาพ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั เร่ืองท่ีอ่าน
และพูดบรรยาย แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด
สงั เกตการเปรียบเทียบการ แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
จดั งานวนั เกิดของไทยกบั
เจา้ ของภาษา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมินการเขยี นรายงาน ประสงค์
เกี่ยวกบั การฉลองวนั เกิด
ของไทย
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้และม่งุ มนั่ ในการ
ทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหดั Extra and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6
8.4 พจนานุกรมภาษาองั กฤษ
78
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 It’s family time!
เวลา 2 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั เทศกาลของไทยและสิงคโปร์ได้
- เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั กิจกรรมที่ทาร่วมกบั ครอบครวั ในวนั สงกรานตไ์ ด้
1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ
และเรื่องเลา่
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการ
พดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ดั
ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ดั
ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณต์ ่าง ๆ ทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา
79
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเร่ืองท่ีอา่ น ช่วยให้เขา้ ใจเก่ียวกบั เทศกาลต่าง ๆ ของประเทศไทยและประเทศ
เพื่อนบา้ นในอาเซียน
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: festival, culture, celebrate, take place, jasmine garland, splash, floral
shirts, hometown, relatives, value, seaweed, oyster, abalone
Structure: When Songkran comes, people like to return to their hometown to
spend time with their families.
In Singapore, the family comes together in February during Chinese
New Year.
Function: Describing festivals in Thailand and Singapore
2) Language Skills
Speaking: ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เทศกาลของไทยและสิงคโปร์
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
Writing: เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั กิจกรรมทท่ี าร่วมกบั ครอบครวั ในวนั สงกรานต์
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ข้นั Warm Up
1. ครูกลา่ วทกั ทายกบั นกั เรียนในช้นั
80
2. ครูให้เล่นเกม Hangman ทบทวนคาศพั ทท์ ่ีเรียนไปแลว้ เช่น เขียนคาว่า family แต่เวน้ บางตวั อกั ษร
ใหน้ กั เรียนทาย โดยผลดั กนั ทายทลี ะตวั ถา้ นกั เรียนทายผิด ครูวาดภาพคนทจี่ ะโดนแขวนคอ
คร้งั ละ 1 ส่วน กตกิ า คอื นกั เรียนตอ้ งทายคาใหถ้ ูกก่อนที่ครูจะวาดภาพคนทถ่ี ูกแขวนคอครบ
__a __ i __ y
เมอ่ื นกั เรียนทายคาศพั ทถ์ ูกแลว้ ครูให้ทายคาศพั ทอ์ ืน่ ตอ่
ข้นั Pre-reading
1. ครูเขียนวนั ที่ 13th of April บนกระดาน แลว้ ถามวา่ วนั น้ีเป็นวนั อะไร ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบว่า
วนั สงกรานต์ (Songkran Day) ตอ่ มาครูถามวา่ วนั น้ีเป็นวนั พิเศษอยา่ งไร ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ
แลว้ ครูนาภาพ Songkran festival in Thailand มาให้นกั เรียนดู พร้อมกบั ถามวา่ What do people like
to do on Songkran festival? ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ ซ่ึงอาจจะตอบเป็นภาษาไทยก่อนกไ็ ด้
จากน้นั ครูทากิจกรรมน้ีกบั วนั ปี ใหมข่ องสิงคโปร์ดว้ ย และใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ
2. ให้นกั เรียนดูภาพวนั สงกรานต์ แลว้ ช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ เ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ภาพดงั กลา่ ว ครูเขียนคาศพั ท์
บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นและบอกความหมาย ครูบอกความหมายทถ่ี ูกตอ้ ง แลว้ ให้นกั เรียน
อา่ นออกเสียงตามครู โดยออกเสียงเนน้ หนกั ในคาให้ถกู ตอ้ งดว้ ย
festival (เทศกาล) culture (วฒั นธรรม) celebrate (ฉลอง)
take place (เกิดข้ึน) jasmine garland (พวงมาลยั ) splash (สาดน้า)
floral shirts (เส้ือลายดอก) hometown (ภมู ลิ าเนา) relatives (ญาติ)
value (คณุ ค่า) seaweed (สาหร่ายทะเล) oyster (หอยนางรม)
abalone (หอยเป๋ าฮ้ือ)
3. ครูอธิบายประวตั ิวนั สงกรานตข์ องไทย และวนั ปี ใหม่ของสิงคโปร์ ใหน้ กั เรียนฟังส้ัน ๆ ดงั น้ี
วันสงกรานต์ของไทย
คาวา่ สงกรานต์ แปลวา่ กา้ วข้นึ ยา่ งข้ึน หรือยา้ ยข้ึน โดยมนี ยั ความหมายวา่ การเขา้ สู่
ศกั ราชราศใี หม่ หรือวนั ข้ึนปี ใหม่ นน่ั เอง โดยเทศกาลสงกรานตเ์ ป็นประเพณีท่มี คี วามเก่าแก่
และคนไทยสืบทอดกนั มาแตโ่ บราณคู่กบั ประเพณีตรุษจีนกนั เลยทเี ดียว จึงไดม้ ีการรวมเรียกกนั
วา่ ประเพณีตรุษสงกรานต์ ซ่ึงแปลวา่ การส่งทา้ ยปี เกา่ ตอ้ นรับปี ใหม่ นน่ั เอง
กิจกรรมในวนั สงกรานต์ ไดแ้ ก่ ทาบุญตกั บาตร สรงน้าพระ รดน้าดาหวั ผูใ้ หญ่ และเลน่ น้า
81
วนั ปี ใหม่ของสิงคโปร์
เทศกาลตรุษจีน หรือปี ใหมต่ ามปฏิทนิ จีน นบั เป็นงานเฉลิมฉลองที่สาคญั ท่สี ุดของ
ชาวจีน ช่วง 3 สัปดาห์ก่อนถงึ วนั ตรุษจีน จะซึมซับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองทว่ั ท้งั เกาะ
โดยมีการเลน่ ดนตรีสด การออกร้านขายของ การเชิดสิงโต การเลน่ กายกรรม รวมท้งั การ
แลกเปล่ยี นสม้ แมนดารินอนั เป็นสัญลกั ษณข์ องการอวยพรใหโ้ ชคดีและการรบั ประทานอาหาร
ทีท่ าเป็นพเิ ศษร่วมกนั
สีแดงเป็นสัญลกั ษณพ์ เิ ศษของฤดูกาลน้ี ครอบครวั ชาวจีนจะมอบซองแดง หรือองั่ เปา
ใหเ้ ดก็ ๆ หรือญาตพิ ่นี อ้ งทีอ่ ายนุ อ้ ยกวา่ นอกจากน้ีผคู้ นนิยมใส่เส้ือผา้ ชุดใหม่สวยงามเพื่อเป็นการ
เฉลมิ ฉลองปี ใหม่ ท่สี าคญั จะเห็นวา่ ทกุ บา้ นทว่ั สิงคโปร์จะมกี ารทาความสะอาดคร้ังใหญ่ และ
ตกแต่งดว้ ยสีแดงแทบทุกที่ มีการแขวนโคมไฟ 2 ดวง ไวท้ ่ปี ระตู และมีการผูกริบบนิ้ สีสันสดใส
ไวท้ ตี่ น้ สม้ จี๊ด ไมผ้ ลท่ีเป็นสัญลกั ษณข์ อง “ทอง” หรือความรุ่งเรือง
หวั ใจของการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน คอื การอยพู่ ร้อมหนา้ กนั ของครอบครวั
และญาติพี่นอ้ ง เพ่ือมาสงั สรรคแ์ ละรบั ประทานอาหารร่วมกนั เป็นประจาทกุ ปี
ท่มี า: https://scoop.mthai.com/specialdays/1733.html
http://www.visitsingapore.com/th_th/festivals-events-singapore/cultural-festivals/chinese-
new-year.html
ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 14 Welcome to ASEAN Countries 1 ครูพูดวา่ Open your book to page 14.
ให้นกั เรียนทาตามคาส่งั แลว้ ครูอ่านให้นกั เรียนฟังก่อนในรอบแรก ให้นกั เรียนดตู ามทลี ะประโยค
ข้นั Post-reading
1. ครูถามคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองท่อี า่ นเพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจ เช่น
- When is the National Family Day in Thailand?
- When does the major family festival take place in Singapore?
ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ
2. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หม่ท่ีเรียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมุดคาศพั ท์
ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm Up
ครูกล่าวทกั ทายกบั นกั เรียนในช้นั จากน้นั ใหอ้ าสาสมคั ร 2-3 คน ออกมาถามเพื่อนในช้นั เก่ียวกบั
เรื่องที่อ่าน เพ่อื เป็นการทบทวน
82
ข้นั Presentation
ครูเขียนประโยคบรรยายเก่ียวกบั วนั สาคญั ต่าง ๆ ให้นกั เรียนดบู นกระดาน และพดู ใหน้ กั เรียนฟัง
เช่น When Songkran comes, people like to return to their hometown to spend time with their
families.
In Singapore, the family comes together in February during Chinese New Year.
แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคน ออกมาพดู ประโยคบรรยายเกี่ยวกบั วนั สาคญั ต่าง ๆ ให้นกั เรียนในช้นั ฟัง
จนคล่อง
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 15 Ex. 1 ใหน้ กั เรียนอา่ นเน้ือเร่ืองในใจอกี คร้ัง และตอบคาถามเก่ียวกบั เน้ือเร่ือง
ทอี่ า่ นดว้ ยตนเองก่อน โดยให้นกั เรียนตอบปากเปล่า เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนลอกคาตอบทถ่ี ูกตอ้ ง
ลงในสมุด เม่อื นกั เรียนทาเสร็จแลว้ ครูใหช้ ่วยกนั เฉลยคาตอบ
1. 14th of April. 2. Jasmine Garland.
3. Colourful floral shirt. 4. In February during Chinese New Year.
5. Fa Cai (seaweed), Bao Yu (abalone), Hou Si (dried oysters).
2. หนังสือเรียน หน้า 15 Ex. 2 ให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นอกี คร้งั และจบั คคู่ าศพั ทก์ บั ความหมายของ
คาศพั ทท์ ส่ี มั พนั ธก์ นั โดยครูใหเ้ ขยี นคาตอบลงในสมดุ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ
1. b 2. a 3. d 4. c
3. ครูอ่านใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้งั คร้ังน้ีให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตามครูดว้ ย แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั ค่กู นั
และผลดั กนั อ่านคนละประโยค พร้อมกบั ช่วยกนั บอกความหมายของประโยคที่อ่าน
ข้นั Production When is the National Family Day in Thailand?
1. ครูเขียนคาถามตอ่ ไปน้ีบนกระดาน What do people usually wear?
When is Songkran festival in Thailand? What are special dishes?
What do Thai people do during the festival?
When is Chinese New Year in Singapore?
83
What do they do?
จากน้นั ให้เวลานกั เรียนเขียนคาตอบ แลว้ จบั ค่กู นั ผลดั กนั พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั เทศกาลของไทยและ
สิงคโปร์จากเร่ืองทอี่ า่ น ครูเดินสังเกตเพอื่ ใหค้ วามช่วยเหลอื ท่ีจาเป็น เสร็จแลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน
ออกมาพดู ถามตอบท่หี นา้ ช้นั
When is Songkran festival in Thailand? (It takes place on the 13th-15th April every
year.)
When is the National Family Day in Thailand? (It is on the 14th April or the second day of
Songkran.)
What do Thai people do during the festival? (People like to return to their hometown to
spend time with their families. They bring
jasmine garlands to pay respect to their parents
and grandparents. Some people go out for fun.
They splash water on other people.)
What do people usually wear? (They usually wear colourful floral shirts.)
When is Chinese New Year in Singapore? (It is in February.)
What are special dishes? (seaweed, abalone and dried oysters)
What do they do? (They have dinner with their family.)
(They visit their relatives and friends.)
2. หนังสือเรยี น หน้ 15 Ex. 3 ให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเรื่องในหนงั สือเรียน หนา้ 14 อีกคร้ัง จากน้นั ให้
นกั เรียนระดมความคดิ วา่ นกั เรียนจะทากิจกรรมอะไรบา้ ง ถา้ สมาชิกในครอบครวั มาอยพู่ ร้อมกนั
ในเทศกาลสงกรานต์ ใหผ้ ลดั กนั ออกมาเขียนบนกระดาน ซ่ึงนกั เรียนอาจทาเป็น mind mapping ก่อน
แลว้ ค่อยนามาแต่งเป็นประโยค
84
Go to the temple
It’s family
time!
Have dinner bring jasmine garlands
to pay respect to their
or have a party at
home parents and
grandparents
During Songkran Festival, in Thailand. I have dinner with my family. Sometimes I have
a party at home. I go to the temple with my family and also bring jasmine garlands to pay
respect to my parents and grandparents.
3. เมื่อเรียนจบหน่วยน้ีแลว้ ครูให้นกั เรียนทาแบบฝึ กหัด หน้า 12-13 Exs. 1-6 Modular Revision and
Assessment 1
Ex. 1 2. cousin 3. brother
1. grandmother 5. uncle 3. Those
4. aunt
2. These
Ex. 2 5. This
1. That
4. That 85
Ex. 3 2. Whose 3. When
1. Where
4. Who
Ex. 4 2. It’s on the fourteenth of February.
1. It’s on the first of April.
3. It’s on the thirty-first of October.
Ex. 5
1. 12 2. London 3. Brownie
4. 6 5. Mrs Hills
Ex. 6
1. ✓ 2. 3. 4. ✓
(Ex. 5) Narrator: Look at the picture. Listen and write a name or a number.
There is one example.
Man: Hello! What’s your name?
Girl: My name’s Susan.
Man: How do you spell that?
Girl: S-U-S-A-N.
Narrator: Can you see the answer? Now you listen and write a name
or a number.
One
Man: And how old are you, Susan?
Girl: I’m twelve years old.
Man: Twelve!
Girl: Yes! That’s right!
86
Two
Man: Where are you from, Susan?
Girl: I’m from London.
Man: London?
Girl: Yes, I’m from London.
Three
Man: Is this your dog, Susan?
Girl: Yes, it is. His name is Brownie.
Man: Do you spell that B-R-O-W-N-I-E?
Girl: Yes. He’s a great dog!
Four
Man: Susan, which class are you in at school?
Girl: I’m in class six.
Man: Six?
Boy: Yes, that’s right.
Five
Man: And what’s your teacher’s name?
Girl: She’s Mrs Hills. You spell that H-I-L-L-S.
Man: Do you like Mrs Hills?
Boy: Oh, yes! She’s a great teacher!
7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบฝึ กหัด ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วธิ ีการวดั
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบประเมินการพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
การอา่ น
ประเมินการขอและให้ขอ้ มูล
เกี่ยวกบั เทศกาลของไทย
และสิงคโปร์
87
ประเมนิ การเขียนใหข้ อ้ มลู แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั กิจกรรมทท่ี าร่วมกบั
ครอบครวั ในวนั สงกรานต์ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหดั /แบบทดสอบ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น ประสงค์
ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมนั่ ในการ
ทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด Extra and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6
88
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 CLIL 1 Sounds good เวลา 1 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- พูดและเขยี นประโยคงา่ ย ๆ เพือ่ บอกลกั ษณะเสียงของสิ่งต่าง ๆ ได้
- ร้องเพลงและเลน่ เกมทางภาษาตามทกี่ าหนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.3 ป.6/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวชี้วัด
ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น
พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ชี้วดั
ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ จากแหล่งการเรียนรู้
และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ดั
ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
89
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั การแยกแยะเสียงตา่ ง ๆ ที่ไดย้ ิน ช่วยให้ใชภ้ าษาองั กฤษในการเช่ือมโยง
กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ รวมท้งั พูดและเขียนส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Feathers and Functions
Vocabulary: long, short, high, low, slow, fast, loud, soft
Structure: It makes a (long) sound.
2) Language Skills
Listening: แยกประเภทของเสียงตามทฟ่ี ัง
Speaking: พดู บอกเก่ียวกบั ลกั ษณะของเสียงที่ไดย้ นิ
Writing: เขียนประโยคงา่ ย ๆ เพื่อบอกลกั ษณะเสียงของสิ่งต่าง ๆ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up
1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนในช้นั จากน้นั ให้นกั เรียนท่นี ง่ั หลงั หอ้ งเดินมาทกั ทายเพอ่ื นทน่ี ง่ั หนา้ ห้อง
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ญาตพิ ี่นอ้ ง เลขลาดบั โดยแสดงบตั รภาพตา่ ง ๆ แก่นกั เรียน ครูชูบตั รภาพ
ข้นึ มาและใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ท์ พร้อมท้งั สะกด และบอกความหมาย หากนกั เรียนสะกดและ
บอกความหมายไมถ่ กู ตอ้ ง ครูพลกิ บตั รคาดา้ นหลงั ใหน้ กั เรียนดคู าศพั ท์ เพือ่ เป็นการเฉลย
3. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยใหน้ กั เรียนในช้นั หลบั ตา และต้งั ใจฟัง โดยครูพดู วา่ Close your eyes and listen
carefully. และครูบอกว่า ให้นกั เรียนฟังวา่ เสียงท่ีครูทาใหน้ กั เรียนฟังน้นั เป็นเสียงอะไร
T: What’s the sound? (ครูปรบมอื )
Ss: Hands clapping.
90
ซ่ึงเสียงตา่ ง ๆ ท่คี รูทา มดี งั น้ี shake coins (เขยา่ เหรียญ), tap a pencil or pen on a desk (เคาะดินสอ หรือ
ปากกาบนโตะ๊ เขยี นหนงั สือ), close a book (ปิ ดหนงั สือ), crumple up paper (ขยากระดาษ),
stamp on the floor (กระทบื บนพ้ืน), tear some paper (ฉีกกระดาษ) และ staple two pieces of paper
(แม็กกระดาษ 2 แผน่ ติดกนั ) เป็นตน้
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอคาคณุ ศพั ทต์ อ่ ไปน้ี long (ยาว), short (ส้นั ), high (สูง), low (ต่า), slow (ชา้ ), fast (เร็ว), loud
(ดงั ) และ soft (นุ่ม, เบา) โดยครูออกเสียงคาศพั ทแ์ ต่ละคาใหน้ กั เรียนฟัง และใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียง
ตามจนคลอ่ ง
เสียง เกิดจากการส่ันสะเทอื นของวตั ถุ เสียงทผ่ี า่ นเขา้ ไปในหูคนเราทกุ วนั ไมว่ ่า
จะเป็นเสียงการจราจรบนทอ้ งถนน เสียงเดก็ ร้อง หวั เราะ เสียงสุนขั เห่า เสียงฝน ฯลฯ กจ็ ดั ว่า
เป็นเสียงท้งั สิ้น
ท่ีมา: http://www.atom.rmutphysics.com/charud/oldnews/0/284/1/video1/music/page6_1.htm
2. ครูเขยี นประโยค It makes a (long) sound. บนกระดาน แลว้ ครูเปิ ดทีเ่ ป่ าผม ใหน้ กั เรียนฟัง พร้อมกบั
พดู ว่า It makes a long sound. ครูพดู ประโยคน้ีซ้า 2-3 คร้งั ให้นกั เรียนออกเสียงตามจนคล่อง ครูทา
กิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ี โดยเปลี่ยนเป็นเสียงอ่นื เพ่ือให้นกั เรียนฝึกพูดโดยใชค้ าคณุ ศพั ทท์ ี่เรียนไดค้ รบ
จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คูก่ บั เพอื่ น ใหแ้ ตล่ ะคนทาเสียงต่าง ๆ ให้เพือ่ นฟัง แลว้ ให้เพ่ือนพูดประโยค
ตามที่ครูสอน โดยเปลย่ี นคาคุณศพั ทใ์ นประโยคให้สอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะเสียงท่เี พ่ือนทา เสร็จแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาทากิจกรรมให้เพอ่ื นดูหนา้ ช้นั
ข้นั Practice
1. แบบฝึ กหดั หน้า 64 Ex. 1 ครูอา่ นคาสง่ั และอธิบายวา่ จะเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเสียงตา่ ง ๆ และให้
เลอื กวงรอบคาศพั ทท์ ต่ี รงกบั เสียงทไ่ี ดย้ ิน เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 2 คร้ัง เพ่ือทากิจกรรม
ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน เสร็จแลว้ จึงช่วยกนั เฉลยคาตอบ
91
One – hairdryer Two – police siren
Three – hammer Four – thunder
Five – violin Six – horse running
Seven – dog barking Eight – tap dripping
1. long 2. high 3. short 4. low
5. soft 6. fast 7. loud 8. slow
2. แบบฝึ กหัด หน้า 64 Ex. 2 ครูอ่านคาสง่ั และอธิบายว่า ครูจะเปิ ด CD จาก Ex. 2 ให้นกั เรียนฟังเสียง
ตา่ ง ๆ อกี คร้งั แลว้ ให้นกั เรียนขดี ✓ลงในกรอบ ทมี่ ีภาพสมั พนั ธก์ บั เสียง โดยก่อนเปิ ด CD ครูให้
นกั เรียนดภู าพ และบอกวา่ สิ่งทเ่ี ห็นในภาพ คอื อะไร เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 2 คร้งั
เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบร่วมกนั
92
3. แบบฝึ กหัด หน้า 65 Ex. 3 ครูบอกว่า นกั เรียนจะไดร้ ้องเพลงเกี่ยวกบั เสียงต่าง ๆ จากน้นั ครูพดู ว่า
Open your book to page 65. แลว้ ครูเปิ ด CD เพลงน้ีใหน้ กั เรียนฟัง 3 คร้งั คร้ังแรกให้นกั เรียนฟังและ
ดูเน้ือเพลงตามไปดว้ ย คร้งั ที่ 2 ให้ฟังและร้องตามทลี ะทอ่ น และคร้ังท่ี 3 ให้ร้องพร้อมกบั เพลง
Music can be high or low.
Music can be fast or slow.
Music can go REALLY LOUD!
Music can make a soft, soft sound!
High or low
Fast or slow
Music is FANTASTIC
Make it loud
Make it soft
Music is like MAGIC!
ต่อมาให้นกั เรียนในช้นั แบง่ ออกเป็น 2 กล่มุ ให้กลุ่มท่ี 1 ร้องเพลงในทอ่ นแรก และกลมุ่ ที่ 2 ร้องเพลง
ในท่อนหลงั เสร็จแลว้ ให้ท้งั 2 กลุ่มสลบั กนั ร้องเพลง จนท้งั 2 กลมุ่ ไดร้ ้องเพลงครบท้งั 2 ท่อน
ข้นั Production
1. แบบฝึ กหัด หน้า 65 Ex. 4 ครูบอกว่า จะให้นกั เรียนเล่นเกม โดยครูอธิบายวิธีเล่นเกมใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี
1) ครูเลือกนกั เรียนออกมาเล่นเกม คร้ังละ 1 คน และให้นกั เรียนที่เล่นเกมเดินออกไปนอก
ห้องเรียน
2) ครูนาสิ่งของ 1 อยา่ ง ซ่อนไวท้ ต่ี ่าง ๆ ในหอ้ ง และให้นกั เรียนเดินกลบั เขา้ มาในห้อง พร้อม
กบั
มองหาส่ิงของที่ครูซ่อน
3) ใหน้ กั เรียนที่เลน่ เกมเดินไปรอบ ๆ หอ้ ง ถา้ นกั เรียนเดินเขา้ ใกลส้ ิ่งของทซ่ี ่อน ให้นกั เรียนในช้นั
ช่วยกนั ปรบมือดงั ๆ เพื่อเป็นสัญลกั ษณ์วา่ เขา้ ใกลส้ ่ิงของท่ีซ่อนแลว้ แตถ่ า้ นกั เรียนเดินห่างจาก
ส่ิงของท่ซี ่อน ใหน้ กั เรียนในช้นั ปรบมือเบา ๆ เพื่อเป็นสัญลกั ษณ์ว่า อยหู่ ่างจากส่ิงของทีซ่ ่อน
4) ครูให้นกั เรียนในช้นั ปรบมือไปเรื่อย ๆ ตามระยะใกล-้ ไกลระหว่างนกั เรียนทหี่ ากบั สิ่งของ
จนนกั เรียนหาสิ่งของชิ้นน้นั ไดพ้ บ และดาเนินกจิ กรรมน้ีกบั นกั เรียนคนอืน่ ๆ ครูบอกวา่ นกั เรียน
คนใดพบสิ่งของที่ซ่อนอยไู่ ดเ้ ร็วที่สุด เป็นผูช้ นะ
93
ก่อนทากิจกรรม ครูควรฝึกใหน้ กั เรียนปรบมือแบบเบา ๆ กบั ดงั ๆ กอ่ น เพ่ือให้นกั เรียนเขา้ ใจว่า
การปรบมอื ระดบั ใดทีเ่ รียกวา่ ดงั หรือเบา
2. ให้นกั เรียนทางานคู่ วาดภาพส่ิงของต่าง ๆ และเขียนประโยคบอกวา่ ส่ิงของเหล่าน้ีทาเสียงลกั ษณะใด
โดยใชโ้ ครงสร้าง It makes a (long) sound. เช่น
It makes a long sound.
It makes a short sound.
3. ครูให้นกั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หมท่ ี่เรียนในชัว่ โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์
7. การวัดและประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
วิธกี ารวดั ผ่านเกณฑ์
ตรวจช้ินงานการเขยี นบอก แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ลกั ษณะเสียงของส่ิงตา่ ง ๆ ผ่านเกณฑ์
สังเกตการพูดบอกเกี่ยวกบั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ลกั ษณะของเสียงท่ไี ดย้ ิน ผา่ นเกณฑ์
สังเกตการร้องเพลงและ แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เล่นเกมทางภาษา แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจแบบฝึ กหดั ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้และมงุ่ มนั่ ในการ
ทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6
94
2 Cows Are Fatter Than Goats!
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 เวลาเรียน 12 ชั่วโมง
1
1 สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตุผล
ตัวชี้วดั
ต 1.1 ป. 6/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาทฟี่ ังและอา่ น
ต 1.1 ป. 6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน
ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบุประโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย
ที่อา่ น
ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ
และเรื่องเลา่
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วัด
ต 1.2 ป. 6/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล
ต 1.2 ป. 6/2 ใชค้ าส่งั คาขอร้อง คาขออนญุ าต และให้คาแนะนา
ต 1.2 ป. 6/3 พดู /เขยี นแสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วาม
ช่วยเหลอื ในสถานการณง์ า่ ย ๆ
ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 6/5 พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆ
พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น
ตัวชี้วดั
ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั
ต 1.3 ป. 6/2 เขยี นภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทฟ่ี ังหรืออา่ น
95