The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.6
หนังสือ Extra and Friends

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:55:02

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.6

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.6
หนังสือ Extra and Friends

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.6

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชีว้ ดั

ต 2.1 ป. 6/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็ น

พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตัวชี้วดั

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งการเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วดั

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ ที่เกิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปล่ียนเรยี นรู้กบั สังคมโลก

ตัวชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจความหมายของกฎตา่ ง ๆ ท่ีใชใ้ นช้นั เรียน ช่วยให้ใชภ้ าษาองั กฤษในการปฏิบตั ติ น

ตามกฎทกี่ าหนด และเชื่อมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิชาอื่น และเขยี นส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและ
เหมาะสม

246

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: cooperate, share, include, take care of, classmate, be kind, respect,

one another

Structure: We should cooperate with one another.

We should raise our hands to speak.

We should share.

We should keep our classroom clean and tidy.

We should include everyone.

We should take care of our school things.

We should listen to our teacher and classmates when they speak.

We should be kind and respect one another.

Function: Describing rules

2) Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Speaking: ออกเสียง สะกดคา และบอกคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เร่ือง Class Rules

พดู สนทนาเกี่ยวกบั กฎและประโยคตา่ ง ๆ ทใ่ี ชใ้ นช้นั เรียน

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน

247

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนในช้นั จากน้นั ให้นกั เรียนทนี่ ง่ั หลงั หอ้ งเดินมาทกั ทายกบั เพ่ือนที่นง่ั หนา้ หอ้ ง
2. ครูนาเขา้ สู่บทเรียน โดยให้นกั เรียนปฏิบตั ิตามคาสัง่ ท่คี รูพดู หรือใหต้ วั แทนนกั เรียนออกมาส่งั ให้

เพ่ือนในช้นั ปฏิบตั ติ ามคาสั่งที่เพ่อื นพูดก็ได้ เช่น
T: Class, stand up, please.
Ss: (นกั เรียนทกุ คนในช้นั ยืนข้ึน)
S1: Class, clap your hands, please.
Ss: (นกั เรียนทกุ คนในช้นั ปรบมอื ) เป็นตน้

3. ครูเขยี นประโยคเหล่าน้ีบนกระดาน โดยครูบอกว่า จะเป็นกฎท่พี วกเราจะนามาปฏิบตั ิกนั ในช้นั เรียน
ใหน้ กั เรียนในช้นั ช่วยกนั บอกวา่ เราควรนากฎขอ้ ไหนมาปฎิบตั ใิ นช้นั บา้ ง เช่น
Listen to the teacher.
Follow directions.
Come to class prepared.
Come to school on time.
Work hard.
Do your best.
Keep the classroom clean. etc

ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอคาศพั ทต์ อ่ ไปน้ี cooperate (ร่วมมอื กนั ), share (มสี ่วนแบง่ , รับผดิ ชอบร่วมกนั ), include
(รวมเขา้ ไว)้ , take care of (ดแู ล, เอาใจใส่), classmate (เพอื่ นร่วมช้นั เรียน), be kind (เอาใจใส่), respect
(เคารพ, นบั ถือ) และ one another (กนั และกนั ) โดยนาภาพเกี่ยวกบั คาศพั ทเ์ หล่าน้ีแสดงใหน้ กั เรียนดู
พร้อมกบั ออกเสียงคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟัง และให้นกั เรียนฝึกออกเสียงตามจนคลอ่ ง
2. ครูบอกวา่ ในชว่ั โมงน้ี เราจะเรียนรู้เก่ียวกบั กฎตา่ ง ๆ ทใี่ ช้ในช้นั เรียน โดยให้นกั เรียนเปิ ดแบบฝึกหดั
หนา้ 68 โดยครูออกเสียงประโยคแตล่ ะประโยคให้นกั เรียนฟัง พร้อมกบั แสดงทา่ ทางประกอบขณะพดู
ประโยคดว้ ย ใหน้ กั เรียนออกเสียงประโยค และแสดงท่าทางประกอบตามครู
ครูให้นกั เรียนฝึกออกเสียงประโยคจนคลอ่ ง

248

ข้นั Practice
1. แบบฝึ กหดั หน้า 68 Ex. 1 ครูอา่ นคาส่งั ให้นกั เรียนฟัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูภาพ อ่านประโยค และ
โยงเสน้ จบั คู่ประโยคและภาพท่มี ีความหมายสมั พนั ธก์ นั ครูใหเ้ วลานกั เรียนในการทาแบบฝึกหดั เสร็จ
แลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเพอื่ ตรวจคาตอบ

One - We should cooperate with one another.
Two - We should include everyone.
Three - We should listen to our teacher and classmates when they speak.
Four - We should raise our hands to speak.
Five - We should take care of our school things.
Six - We should share.
Seven - We should be kind and respect one another.
Eight - We should keep our classroom clean and tidy.

2-e 4-b 6-c 8-d
3-g 5-f 7-h

2. แบบฝึ กหัด หน้า 69 Ex. 2 ครูอา่ นคาสั่ง และอธิบายภาระงาน โดยแบง่ นกั เรียนในช้นั ออกเป็น
5 กลุ่ม เทา่ ๆ กนั แลว้ ครูแจกลกู เต๋าและตวั เดินให้นกั เรียนกล่มุ ละ 1 ชุด จากน้นั ครูอธิบายวิธีเล่นเกมให้
นกั เรียนฟัง ดงั น้ี
1) ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เล่นเกมเป่ ายิงฉุบ นกั เรียนคนใดในกลุม่ เป่ ายงิ ฉุบเป็นผชู้ นะ ให้ไดเ้ ล่นเกมกอ่ น
เป็ นคนแรก
2) ใหแ้ ตล่ ะคนทอยลูกเต๋า คนละ 1 คร้ัง และเดินตวั เดินตามแตม้ ทที่ อยลูกเต๋าได้ เม่อื หยดุ ตวั เดิน
ท่ีช่องใด ใหท้ าตามคาสั่งในช่องที่หยดุ น้นั ๆ
3) ให้นกั เรียนทากิจกรรมน้ีไปเร่ือย ๆ จนไดผ้ ูช้ นะในแต่ละกลมุ่ คอื เดินไปทช่ี อ่ ง Finish
249

ข้นั Production

1. แบบฝึ กหดั หน้า 69 Project Time ครูอธิบายภาระงาน ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ทาชิ้นงาน
Super Student Award ลงในกระดาษท่คี รูแจกให้ แลว้ ครูอธิบายวธิ ีการทาช้ินงานแก่นกั เรียน ดงั น้ี
1) ครูแจกกระดาษใหน้ กั เรียน คนละ 1 แผน่
2) ให้นกั เรียนแตล่ ะคนออกแบบรางวลั ลงในกระดาษทค่ี รูแจกใหต้ ามความชอบ และวาดภาพ
ระบายสีให้สวยงาม
3) เมือ่ นกั เรียนออกแบบรางวลั เสร็จแลว้ ครูรวบรวมรางวลั ที่นกั เรียนออกแบบมาไวท้ ่ีครู และครู
แจกให้นกั เรียนในหอ้ ง นกั เรียนที่ไดร้ บั ตอ้ งเตมิ ช่ือตนเองลงในช่องว่าง เติมวนั ที่ และนาไปให้
ครูเซน็ ชื่อ

2. ครูให้นกั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หม่ทีเ่ รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์

7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั
สังเกตการออกเสียง สะกดคาศพั ท์ แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตามทีก่ าหนด
ประเมนิ การสนทนาเก่ียวกบั กฎ แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ในห้องเรียน สมดุ คาศพั ท์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงานการออกแบบรางวลั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจสมดุ คาศพั ท์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่ เรียนรู้ และม่งุ มน่ั ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 กระดาษ A4
8.4 ดินสอสี
8.5 สมดุ คาศพั ท์

250

4 What Happened To You?

ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง

1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด

1. สาระมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมเี หตผุ ล

ตวั ชี้วดั

ต 1.1 ป. 6/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสง่ั คาขอร้อง และคาแนะนาทฟี่ ังและอ่าน

ต 1.1 ป. 6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 6/3 เลือก/ระบุประโยค หรือขอ้ ความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมาย

ทอี่ า่ น

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ

และเร่ืองเล่า

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.2 ป. 6/1 พดู /เขียนโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป. 6/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง คาขออนญุ าต และให้คาแนะนา

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

ต 1.2 ป. 6/5 พดู /เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมต่าง ๆ

พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชีว้ ัด

ต 1.3 ป. 6/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/2 เขียนภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มูลต่าง ๆ ที่ฟังหรืออ่าน

251

ต 1.3 ป. 6/3 พดู /เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชี้วดั

ต 2.1 ป. 6/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตวั ชี้วดั

ต 2.2 ป. 6/1 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ

การใชเ้ ครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค

ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น

พื้นฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

ตัวชี้วดั

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ จากแหลง่ การเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั สังคมโลก

ตวั ชี้วัด

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

252

2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั TV Programme และเกี่ยวกบั สถานที่ตา่ ง ๆ รวมท้งั สานวน การออกเสียง

คาศพั ทต์ ่าง ๆ การรู้และเขา้ ใจความหมายของสถานท่ีทางธรรมชาติ ช่วยให้ใชภ้ าษาองั กฤษในการบอก
สถานท่ี และเช่ือมโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระวิชาอน่ื ๆ การรู้โครงสร้าง Past simple tense ดว้ ยทกั ษะการฟัง พูด
อ่าน และเขียน การร้องเพลงทางภาษา ทาให้สนุกสนานเพลิดเพลนิ มที ศั นคติทด่ี ีตอ่ การเรียนภาษาองั กฤษ
การอา่ นเรื่องเก่ียวกบั ประเทศเพอื่ นบา้ นและบทความเก่ียวกบั เรื่องราวของประเทศเจา้ ของภาษา เช่น รายการ
โทรทศั น์ เป็นการเพ่ิมพนู ความรู้ พฒั นาทกั ษะการอ่าน มวี สิ ัยทศั น์ที่กวา้ งข้นึ และทาใหเ้ กิดการเรียนรู้ เขา้ ใจ
วฒั นธรรมของชาตอิ ื่น และอยใู่ นสังคมโลกอยา่ งมคี วามสุข สามารถนาไปใชส้ ื่อสารในชีวติ ประจาวนั ได้
อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม ทาใหก้ ารสื่อสารมีประสิทธิภาพ และเป็นพ้นื ฐานในการศึกษาต่อได้

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: sports programme, comedy, cartoon, quiz show, news, computer game

pet shop, circus, funfair, restaurant, bank, post office, hospital,

police station

best, special, nice, ever

silly, laugh, science-fiction, travel in time, adventure, exciting,

interesting, craftwork, presenters

temple, satay, puppet, documentary

volcano, river, desert, sea, island, valley, mountain range, waterfall

Structure: I watched a sports programme yesterday.

What did Tom do yesterday? He tidied his room and watched a comedy

on TV.

Where did you go yesterday? I went to the circus.

Did Wendy and Tom go to the zoo? Yes, they did. No, they didn’t.

Hi, Lin. How was your weekend? Oh, I studied all weekend. What about

you? My dad took me to the cinema. I went for some popcorn, but I fell

over in the dark!

I had a great time last Saturday. We watched a really funny comedy!

It was her birthday so we had a special meal. It was the best day ever!

253

Pronunciation: The big ship sailed on the alley-alley-o, on the last day of September!
Function: My favourite TV programme is Wallace and Gromit. It’s a cartoon about
2) Language Skills a man and his dog.
Listening: I watched a documentary on TV last Tuesday. It was about Bali, an
Speaking: island in Indonesia. The island was very beautiful. The weather was
warm and sunny. I watched the TV programme “Fun Time in Vietnam”
Reading: last week. I saw many wonderful places in Vietnam. He watched a water
Writing: puppet show there. It was incredible!
This is a volcano.
Word stress and intonation
-ed, oa and V sounds
Expressing like
Talking about past events and places around a town
Narrating past events
Describing TV programme

ตอบคาถามจากการฟัง, ฟังเพื่อความเขา้ ใจ, ฟังเพ่ือหาขอ้ มลู จาเพาะ
ออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทใ์ นบทเรียน
พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ และขอ้ มลู เก่ียวกบั ตวั เอง
โดยการใชก้ ารตอบคาถามแบบส้นั
พูดสนทนาเก่ียวกบั เรื่องในอดีต, สถานที่ในเมอื ง, ถึงกิจกรรมทต่ี นเอง
และคนในครอบครัวทา, เกี่ยวกบั TV programme ทชี่ อบ และพูด
สนทนาเก่ียวกบั satay แลว้ เปรียบเทียบกบั อาหารไทย
บอกความแตกต่างระหว่าง verb ของ Past simple tense และ
Present simple tense
พูดบอกกิจกรรมที่สามารถทาในสถานท่ีทางธรรมชาติ
และวธิ ีประหยดั ไฟ และบอกช่ือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นของตนเอง
โดยใชโ้ ครงสร้าง I’ve got … .
ร้องเพลงทางภาษา
ตอบคาถามจากการอ่าน, อ่านเพ่อื ความเขา้ ใจ, อา่ นเพื่อหาขอ้ มูลจาเพาะ
เขยี นขอ้ ความเพอ่ื เตอื นตวั เอง หรือผอู้ ่นื ใหป้ ิ ดเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าเมอ่ื ไมใ่ ช้

254

3) Culture: เขยี นขอ้ ความเกี่ยวกบั My Best Day
ทา mind map เก่ียวกบั My Best Day และ mind map เก่ียวกบั กิจกรรม
ทนี่ กั เรียนทาในแตล่ ะช่วงเวลา
เขยี นส้นั ๆ เก่ียวกบั รายการโทรทศั น์ในประเทศไทย
เขียนจดหมายถงึ เพอ่ื น เล่าถงึ รายการโทรทศั น์ท่ีตนเองดู
BBC Television
ASEAN TV Programmes

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน

6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1. ประเมินการพูดถาม-ตอบเก่ียวกบั รายการโทรทศั น์ ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตวั เอง โดยการใชก้ ารตอบ
คาถามแบบส้ัน และประเมินการพูดถาม-ตอบเกย่ี วกบั สถานท่ที างธรรมชาติ

2. ประเมินการพูดบอกความแตกตา่ งระหวา่ ง verb ของ Past simple tense และ Present simple tense
3. ประเมินการพดู สนทนาถงึ กิจกรรมที่ตนเอง และคนในครอบครัวทา เกี่ยวกบั สถานที่ในเมอื ง

เกี่ยวกบั กิจกรรมทท่ี าในอดีต เก่ียวกบั TV programme ที่ชอบ และเก่ียวกบั satay แลว้ เปรียบเทียบ
กบั อาหารไทย
4. บอกวิธีประหยดั ไฟ และบอกชื่อเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นของตนเอง โดยใชโ้ ครงสร้าง I’ve got ... .
และบอกกิจกรรมทสี่ ามารถทาในสถานทที่ างธรรมชาติ
5. ประเมนิ การเขียนขอ้ ความเพอื่ เตอื นตวั เอง หรือผอู้ ืน่ ให้ปิ ดเครื่องใชไ้ ฟฟ้าเมือ่ ไมใ่ ชง้ าน งานเขยี น
ขอ้ ความเก่ียวกบั My Best Day, การเขียน mind map เก่ียวกบั My Best Day, กิจกรรมทีน่ กั เรียนทา
ในแต่ละช่วงเวลา งานเขียนเกี่ยวกบั รายการโทรทศั นใ์ นประเทศไทย และการเขยี นจดหมายถึงเพ่ือน
เล่าถึงรายการโทรทศั นท์ ่ตี นเองดู
6. ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ

255

7. สังเกตการออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานท่ใี นเมอื ง และเก่ียวกบั
สถานที่ทางธรรมชาติ

8. สงั เกตการร้องเพลง เล่นเกม และร่วมกิจกรรมทางภาษา
9. ตรวจการตอบคาถามจากการฟังและอา่ น
10. ตรวจแบบฝึกหดั /สมุดคาศพั ท์
11.สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ และมุง่ มน่ั ในการทางาน

7 การวัดและประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝึกหดั ในหนงั สือเรียน หนา้ 40-51
- ทาแบบฝึกหัดใน Workbook หนา้ 34-43
7.2 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินช้ินงานตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด

8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั รภาพ
8.5 บตั ร Story Cutouts
8.6 สมดุ คาศพั ท์
8.7 อนิ เทอร์เน็ต

256

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 What Happened To You?

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)

- ออกเสียง สะกด และบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั รายการโทรทศั น์ได้
- ฟังและอ่านเพ่ือความเขา้ ใจได้
- พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์ได้
- พดู สนทนาเกี่ยวกบั เร่ืองในอดีตได้
- รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เรียนได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป. 6/1 ปฏบิ ตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาท่ฟี ังและอา่ น

ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย

ทอี่ ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป. 6/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหว่างบุคคล

ต 1.2 ป. 6/2 ใชค้ าส่ัง คาขอร้อง คาขออนุญาต และใหค้ าแนะนา

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชี้วดั

ต 1.3 ป. 6/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

257

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชี้วดั

ต 2.1 ป. 6/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตัวชีว้ ดั

ต 2.2 ป. 6/1 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค

ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น

พ้ืนฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

ตัวชีว้ ดั

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กบั สังคมโลก

ตวั ชี้วัด

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั TV Programme และการบอกเล่าเหตุการณท์ ีผ่ า่ นมา โดยใช้ Past simple tense

สามารถนาไปใชส้ ื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

258

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: sports programme, comedy, cartoon, quiz show, news, computer game

Structure: I watched a sports programme yesterday.

Pronunciation: Word stress

Function: Talking about past events and narrating past events

2) Language Skills

Listening: ฟังเพื่อความเขา้ ใจ

Speaking: ออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ท์

พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั รายการโทรทศั น์

พดู สนทนาเก่ียวกบั เรื่องในอดีต

Reading: อา่ นเพอื่ ความเขา้ ใจ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุง่ มน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียนในช้นั
2. ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 40 และให้นกั เรียนอา่ นช่ือบทเรียน และดรู ูปภาพ พร้อมกบั ให้
นกั เรียนระดมความคิด ว่าวนั น้ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนเกี่ยวกบั อะไร (TV programmes) Open your
book on page 40. Look at the pictures. What can you see?
3. ครูสรุปว่านกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั รายการโทรทศั น์ We’re going to study about TV
programmes.

259

ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอคาศพั ทใ์ หม่ ไดแ้ ก่ sports programme (กีฬา), comedy (ละครตลก), cartoon (การ์ตนู ),
quiz show (เกมโชว)์ , news (ขา่ ว) และ computer game (เกมคอมพิวเตอร์) แลว้ ให้นกั เรียนปิ ด
หนงั สือเรียน ตอ่ มาครูชูบตั รภาพทีละภาพ ครูออกเสียงให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตามพร้อมกนั
จากน้นั ให้ออกเสียงเป็นรายบคุ คล
2. หนงั สือเรียน หน้า 40 Ex. 1 ให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและพูดตาม
พร้อมกนั จากน้นั ให้นกั เรียนออกเสียงคาทลี ะคา พร้อมกบั ช้ีรูปภาพไปดว้ ย

sports programme comedy cartoon
quiz show news computer game

3. ครูส่ัง Close your book. และชูบตั รภาพทีละภาพ ให้นกั เรียนออกเสียงคาศพั ทใ์ นบตั รภาพ
พร้อมกนั ตอ่ จากน้นั สุ่มให้ออกเสียงเป็นรายบุคคล ในขณะทีน่ กั เรียนออกเสียง ครูตรวจสอบการ
ออกเสียงเนน้ หนกั ในคา (stress)ใหถ้ กู ตอ้ งดว้ ย

sports programme comedy cartoon quiz show news computer game

การออกเสียงคาในภาษาองั กฤษท่ีประกอบดว้ ย 2 พยางคข์ ้นึ ไป เม่อื ออกเสียง
จะตอ้ งเนน้ หนกั (stress) ที่พยางคใ์ ดพยางคห์ น่ึง เช่น comedy และ cartoon
เป็นตน้ ซ่ึงตา่ งจากภาษาไทย ไมว่ ่าจะเป็นคาก่ีพยางคก์ ต็ าม เมื่อออกเสียงจะไม่มี
การลงเสียเนน้ หนกั เป็นพเิ ศษทพี่ ยางค์ใดพยางค์หน่ึง การลงเสียงหนกั เบา
ใหถ้ กู ตอ้ งมคี วามสาคญั เพราะในบางคร้งั การเนน้ เสียงในคาผิดท่ี กจ็ ะทาใหเ้ กิด
ความเขา้ ใจที่ไม่ตรงกนั หรืออาจทาให้เกิดความเขา้ ใจผดิ ได้

หลักการเน้นเสียงหนกั ในคา
คานาม 2 พยางคส์ ่วนใหญ่ มกั จะเนน้ ท่พี ยางคแ์ รก เช่น music, cushion
และ armchair ยกเวน้ guitar และ cartoon
คากริยา 2 พยางคส์ ่วนใหญ่มกั จะเนน้ ท่ีพยางคห์ ลงั เช่น arrive และ return
คาประสมที่เป็นคานามเนน้ ทคี่ าหนา้ เช่น armchair และ handbag
คาประสมท่ีเป็นคากริยา เนน้ ทคี่ าหลงั เช่น get up และ put on

260

ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพเก่ียวกบั รายการโทรทศั น์ไดจ้ าก
http://all-free-download.com/free-photos/tv-show_page_1.html

ข้นั Practice
1. ครูใหน้ กั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน Close your book. จากน้นั ครูพูดประโยค I watched a sports
programme yesterday. และเขยี นประโยคดงั กลา่ วบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู ตามพร้อมกนั
จากน้นั ให้พดู เป็นรายบคุ คล
2. ครูติดบตั รภาพรายการโทรทศั นบ์ นกระดานทีละภาพ ให้นกั เรียนพดู ประโยค โดยใชค้ าที่เก่ียวกบั
บตั รภาพทีต่ ิดบนกระดาน เช่น
T: (ติดบตั รภาพ sports programme)
Class: I watched a sports programme yesterday.
3. ครูลบประโยค I watched a sports programme yesterday. ออก และสุ่มช้ีไปที่บตั รภาพบนกระดาน
ทีละภาพ ใหน้ กั เรียนพดู ประโยคพร้อมกนั จากน้นั สุ่มให้นกั เรียนตอบทีละคน
4. หนังสือเรียน หน้า 40 Ex. 2 ครูสงั่ ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือ Open your book. อา่ นประโยคตวั อยา่ ง
และให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั

2. I watched a comedy yesterday.
3. I watched a cartoon yesterday.
4. I watched a quiz show yesterday.
5. I watched the news yesterday.

ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนจบั คูบ่ อกเพื่อนว่า เมอ่ื วานดูโปรแกรมโทรทศั น์อะไร
S1: I watched the news yesterday. What about you?
S2: I watched a cartoon yesterday.
2. นกั เรียนรายงานให้เพื่อนในช้นั ฟังวา่ คู่ของตนดูรายการโทรทศั นอ์ ะไร เช่น
S1: (name) watched the news yesterday.
S2: (name) watched a cartoon yesterday.
261

3. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ -ed ท่ีอยทู่ า้ ย watched ออกเสียง /t/

การออกเสียง -ed หรือ -d ซ่ึงเติมในคากริยา เพ่ือแสดงความเป็นอดีต สามารถออกเสียง
ได้ 3 แบบ คือ
1. ออกเสียงเป็น [t] เมื่อตามหลงั เสียงพยญั ชนะอโฆษะ เช่น คาว่า mapped, picked
2. ออกเสียงเป็น [d] เม่ือตามหลงั เสียงพยญั ชนะโฆษะ เช่น คาวา่ cubbed, begged
3. ออกเสียงเป็น [Id] ในคากริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ย /t/ หรือ /d/ เช่น คาวา่ wanted, needed
ที่มา: ดร. นนั ทนา รณเกียรติ 2556. สัทศาสตร์เพ่ือการสอนการออกเสียงภาษาองั กฤษ.

กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

4. ใหน้ กั เรียนสืบคน้ ขอ้ มลู ในอนิ เทอร์เนต็ โดยให้ใชค้ าว่า TV programmes เป็น key word ให้หาชื่อ
รายการโทรทศั น์แต่ละประเภท เช่น The Simpson – cartoon เป็นตน้

5. ครูใหน้ กั เรียนทาสมุดคาศพั ทค์ นละ 1 เลม่ โดยครูบอกนกั เรียนว่า ในแตล่ ะชว่ั โมงนกั เรียนตอ้ ง
บนั ทึกคาศพั ทล์ งในสมดุ ถา้ ในชวั่ โมงน้นั เรียนคาศพั ทใ์ หม่ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หม่ที่เรียน
โดยให้บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์ แตถ่ า้ ไมไ่ ดเ้ รียนคาศพั ทใ์ หม่ ครูใหน้ กั เรียนคน้ หา
คาศพั ทต์ ามหมวดท่เี รียนในบทน้นั เพ่มิ เติมอกี 4 คา และบอกความหมายดว้ ย จากน้นั ให้นกั เรียน
บนั ทกึ คาศพั ทท์ ่เี รียนในชว่ั โมงน้ี

6. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 34 Exs. 1-2 ดงั น้ี

Ex. 1 3. cartoon 4. quiz show
2. comedy
5. news 6. computer game

Ex. 2

2. a comedy 3. a cartoon 4. a quiz show

5. a sports programme

262

7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
วิธีการวดั แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์
ประเมนิ การพดู ถาม-ตอบ สมุดคาศพั ท์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เก่ียวกบั รายการโทรทศั น์ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจสมุดคาศพั ท์ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด ประสงค์
สังเกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการ
ทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั รภาพ
8.5 สมดุ คาศพั ท์
8.6 อนิ เทอร์เนต็

263

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 He watched a sports programme yesterday.

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- เปลยี่ นประโยคบอกเลา่ เป็นประโยคปฏิเสธ ประโยคคาถาม และตอบคาถามจากการอ่านได้
- บอกความแตกต่างระหวา่ ง verb ของ Past simple tense และ Present simple tense ได้
- พูดสนทนาถงึ กิจกรรมที่ตนเองและคนในครอบครวั ทาได้
- บอกวิธีประหยดั ไฟ และบอกช่ือเครื่องใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นของตนเอง โดยใชโ้ ครงสร้าง I’ve got … . ได้
- เขียนขอ้ ความเพือ่ เตือนตวั เอง ตามประโยคทกี่ าหนดได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป. 6/3 เลือก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย

ท่อี ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตัวชีว้ ดั

ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอื่ น และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/3 พดู /เขียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั

264

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตวั ชีว้ ัด

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตัวชีว้ ัด

ต 2.2 ป. 6/1 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค

ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น

พ้นื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตวั ชี้วัด

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ จากแหลง่ การเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กับสังคมโลก

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้ Past simple tense ดว้ ยทกั ษะการฟังและพูด เป็นประโยชน์ในการสื่อสาร สามารถนาไปใชใ้ น

ชีวิตประจาวนั

265

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: sports programme, comedy, cartoon, quiz show, news, computer game

Structure: What did Tom do yesterday? He tidied his room and watched a comedy

on TV.

Pronunciation: -ed sounds

Function: Talking about past events

2) Language Skills

Speaking: บอกความแตกต่างระหว่าง verb ของ Past simple tense และ

Present simple tense

พดู สนทนาถึงกิจกรรมที่ตนเองและคนในครอบครวั ทา

บอกวิธีประหยดั ไฟ และบอกช่ือเครื่องใชไ้ ฟฟ้าในบา้ นของตนเอง

โดยใชโ้ ครงสร้าง I’ve got … .

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

Writing: เขียนขอ้ ความเพอ่ื เตือนตวั เอง ตามทกี่ าหนด

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูทกั ทายนกั เรียนในช้นั และนกั เรียนทกั ทายตอบ
2. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนบอกเพื่อนว่า เมอ่ื วานน้ีนกั เรียนดโู ทรทศั น์รายการอะไร

266

S1: I watched a cartoon yesterday.

S2: I watched a sports programme yesterday. etc.

3. ทบทวนการใช้ Present simple tense โดยครูถามคาถาม Do you watch the news every day?

What do you do at 9 o’clock? Etc. จากน้นั ใหน้ กั เรียนสรุปการใช้ Present simple tense

(ใชก้ บั เหตุการณท์ ่เี กิดข้นึ เป็นประจา)

ข้นั Presentation
1. นกั เรียนปิ ดหนงั สือ ครูเขียนและอา่ นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอ่านตาม

I watch the news every day. I watched a comedy yesterday.

ใหน้ กั เรียนสงั เกตความแตกต่างของ 2 ประโยค โดยดูคาทข่ี ีดเสน้ ใต้ ใหน้ กั เรียนบอกว่าประโยคแรก
เป็น tense อะไร (Present simple tense)
2. ให้นกั เรียนอ่านประโยคท่ีสอง พร้อมกบั สงั เกตคาที่ขีดเส้นใต้ อธิบายวา่ ประโยคน้ีเป็น Past simple
tense เราใช้ Past simple tense เมือ่ พดู ถึงเหตุการณท์ ีเ่ กิดข้ึนและสิ้นสุดลงในอดีต
3. ให้นกั เรียนบอกความแตกต่างระหว่าง verb ของ Past simple tense และ Present simple tense
แลว้ ช่วยกนั สรุปรูป verb ทีเ่ ป็น Past simple tense ในประโยคบอกเล่า (เติม -ed ทา้ ย verb)
4. นาเสนอรูปประโยคปฏิเสธและคาถามดงั น้ี ครูเขยี นตารางต่อไปน้ีบนกระดาน ให้นกั เรียนอ่านตาม

Affirmative Negative Interrogative (Question)
I watched the news I didn’t watch the news Did you watch the news
yesterday. yesterday. yesterday?

ใหน้ กั เรียนระดมความคดิ วา่ มีอะไรเปล่ยี นแปลงบา้ งในประโยคปฏิเสธและประโยคคาถาม จากน้นั
ให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปการเปลยี่ นประโยคบอกเลา่ เป็นประโยคปฏเิ สธและประโยคคาถาม
5. ครูเขยี นตารางตอ่ ไปน้ีบนกระดาน

Base form Past form
study studied
like liked
play played

267

ให้นกั เรียนดตู าราง และระดมสมอง ช่วยกนั สรุปหลกั การเติม -ed ทา้ ย verb
6. หนงั สือเรยี น หน้า 41 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และอ่านประโยคในกรอบ Grammar

จากน้นั ครูอธิบายแบบฝึกหัด ให้นกั เรียนทาปากเปลา่ ก่อน แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนลงในสมดุ แลว้ ให้
ช่วยกนั เฉลยคาตอบ

2. Cindy played tennis and studied for her test.
3. Oscar visited grandma and phoned Cindy.
4. Lin stayed at home and listened to her new CDs.

หลกั การในการเตมิ -ed หลงั คากริยาสาหรบั regular verbs มดี งั น้ี
1. กริยาทลี่ งทา้ ยดว้ ย y และหนา้ y เป็นพยญั ชนะ ให้เปลีย่ น y เป็น i แลว้ เติม -ed

ยกตวั อยา่ งเช่น cry – cried และ try – tried
2. กริยาท่ลี งทา้ ยดว้ ย y แตห่ นา้ y เป็นสระ (a, e, i, o, u) ให้เตมิ -ed ไดเ้ ลย

ยกตวั อยา่ งเช่น enjoy – enjoyed และ play – played
3. กริยาทล่ี งทา้ ยดว้ ย e ให้เติม d ไดเ้ ลย ยกตวั อยา่ งเช่น love – loved

และ move – moved
4. กริยาที่มีพยางคเ์ ดียว มสี ระ (a, e, i, o, u) ตวั เดียว และลงทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะที่เป็น

ตวั สะกดตวั เดียว ให้เพ่มิ พยญั ชนะลงทา้ ยอีก 1 ตวั แลว้ เตมิ -ed
ยกตวั อยา่ งเช่น plan – planned และ beg – begged
5. กริยาทีม่ ี 2 พยางค์ แตล่ งเสียงหนกั พยางคห์ ลงั และพยางคห์ ลงั น้นั มสี ระ (a, e, i, o, u)
ตวั เดียวและลงทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะท่เี ป็นตวั สะกดตวั เดียว ให้เพิ่มพยญั ชนะ
ทีล่ งทา้ ยอกี 1 ตวั แลว้ เติม -ed
ยกตวั อยา่ งเช่น refer – referred และ permit – permitted

268

การออกเสียง /ed/, /d/, /t/ และ /id/
-ed ทีต่ ามหลงั พยญั ชนะตอ่ ไปน้ี ‘p’ ‘k’ ’f’ ‘s’ ‘ch’ ‘sh’ ‘x’ และ ‘th’ ออกเสียง /t/
-ed ทต่ี ามหลงั พยญั ชนะตอ่ ไปน้ี ‘b’ ‘g’ ‘j’ ‘m’ ‘n’ ‘l’ ‘r’ ‘th’ ‘w’ ‘v’ และ ‘z’ ออกเสียง /d/
-ed ที่ตามหลงั อกั ษร t และ d ออกเสียง /Id/

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 41 Ex. 4 ครูอธิบายว่าในการทาแบบฝึกหดั น้ี นกั เรียนตอ้ งดภู าพและคาใน Ex. 3
จากน้นั ครูอา่ นประโยคตวั อยา่ ง
2. ให้นกั เรียนจบั คู่กนั ถาม-ตอบเก่ียวกบั สิ่งที่ Tom, Cindy, Oscar และ Lin ทา

1. A: What did Cindy do yesterday?
B: She played tennis and studied for her test.
What did Oscar do yesterday?
2. A: He visited grandma and phoned Cindy.
B: What did Lin do yesterday?
She stayed at home and listened to her new CDs.
3. A:
B:

ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่สลบั กนั สนทนาถงึ กิจกรรมท่ีนกั เรียนและคนในครอบครัวทา ดงั ตวั อยา่ ง
S1: What did you do yesterday?
S2: I played tennis.
S1: And what did your sister do?
S2: She tidied her room and watched a comedy.
2. หนงั สือเรียน หน้า 41 หัวข้อ GO GREEN ครูให้นกั เรียนบอกชื่อเครื่องไฟฟ้าในบา้ นของตนเอง โดย

ใชโ้ ครงสร้าง I’ve got … . เช่น I’ve got a fan., I’ve got a television., I’ve got a CD player. เป็นตน้
269

3. ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และอ่านขอ้ ความใน GO GREEN จากน้นั ระดมสมองคิดเกี่ยวกบั วนิ ยั
ในการใชเ้ คร่ืองไฟฟ้า ช่วยกนั หาคาตอบวา่ เราควรทาอยา่ งไรเมือ่ ไม่ตอ้ งการใชไ้ ฟฟ้า What do you do
when you don’t use your computer/fan/television/CD player? คาตอบของนกั เรียนอาจจะหลากหลาย
เช่น
I unplug it.
I turn it off.
I switch it off.

4. ให้นกั เรียนเขยี นขอ้ ความเพื่อเตือนตวั เอง หรือผอู้ ื่น ให้ปิ ดเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าเม่ือไม่ใชง้ าน นกั เรียนอาจจะ
เขยี นบนกระดาษ Post it แลว้ นาไปแปะไวท้ ่เี คร่ืองไฟฟ้า

5. ให้นกั เรียนคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดทีเ่ รียนในบทน้ีเพมิ่ เตมิ อกี 4 คา และบอกความหมายดว้ ย จากน้นั
ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทล์ งในสมดุ คาศพั ท์

6. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 35 Exs. 3-4 เป็นการบา้ น

Ex. 3 3. phoned 4. watched 5. studied
2. tidied 7. listened 8. liked 9. visited
6. stayed
10. travelled

Ex. 4 Did Bill water the plants?
2. A: … didn’t.
... washed the car.
B: Did Barry cook dinner?
No, he didn’t.
3. A: He watched TV.
B: Did Mark play the piano?
No, he didn’t.
4. A: He played football.
B:

270

5. A: Did Cindy paint her room?
B: No, she didn’t.
She listened to music.
6. A: Did Wendy and Tom visit their friends?
B: No, they didn’t.
They played a game.

7. การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบฝึ กหดั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจาก
การอ่าน แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สังเกตการบอกความแตกตา่ ง แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ระหว่าง verb ของ Past simple
tense และ Present simple tense แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมินการพดู ถึงกิจกรรมท่ี แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตนเองและคนในครอบครัวทา ประสงค์
ประเมินการเขยี นขอ้ ความ
เพือ่ เตือนตวั เอง ตามประโยคท่ี
กาหนด
ตรวจแบบฝึ กหดั
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่ เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการ
ทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6

271

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 Where did you go yesterday?

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานทใี่ นเมืองได้
- พูดสนทนาเกี่ยวกบั สถานทใี่ นเมือง และกิจกรรมทท่ี าในอดีตได้
- ตอบคาถามจากการฟังได้

1. สาระมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตวั ชี้วดั

ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบุประโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย

ที่อา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วดั

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพอื่ ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพูดและการเขยี น

ตัวชี้วัด

ต 1.3 ป. 6/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/3 พูด/เขยี นแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น

พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

272

ตวั ชี้วัด

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งการเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วดั

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กับสังคมโลก

ตัวชีว้ ดั

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สถานที่ และการบอกเลา่ เหตกุ ารณ์ทผี่ ่านมา โดยใช้ Past simple tense สามารถ

นาไปใชส้ ่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: pet shop, circus, funfair, restaurant, bank, post office, hospital,

police station

Structure: Where did you go yesterday? I went to the circus.

Pronunciation: Word stress and -ed sounds

Function: Talking about past events and places around a town

2) Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Speaking: พดู สนทนาเกี่ยวกบั สถานที่ในเมอื ง และกิจกรรมทที่ าในอดีต

273

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน
2. ครูถามคาถาม What did you do yesterday? ให้นักเรียนตอบคาถามต่อกนั เป็นลูกโซ่ ดงั ตวั อยา่ ง

S1: I tidied my room.
S2: I played football.
S3: I cooked dinner. etc.
ในขณะท่ที ากิจกรรม ใหน้ กั เรียนออกเสียง -ed ทา้ ย verbs ให้ถูกตอ้ งดว้ ย

ข้นั Presentation
1. ครูให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ให้นกั เรียนดูภาพละครสัตว์ และพดู วา่ This is a circus. พร้อมกบั เขยี น
คาว่า circus บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนพูดตาม จากน้นั ครูสอนคาศพั ทต์ ่อไปน้ีดว้ ยวธิ ีการเดียวกนั
hospital (โรงพยาบาล), restaurant (ภตั ตาคาร), pet shop (ร้านขายสัตวเ์ ล้ียง), bank (ธนาคาร), funfair
(งานร่ืนเริง), post office (ทีท่ าการไปรษณีย)์ และ police station (สถานีตารวจ) ขณะที่นกั เรียนพูดเนน้
ให้นกั เรียน stress ใหถ้ ูกพยางค์ (circus, hospital, restaurant, pet shop, funfair, post office,
police station)
2. ให้นกั เรียนดูภาพ และบอกวา่ เป็นภาพอะไร เพื่อทดสอบความจาเก่ียวกบั คาศพั ท์ เช่น
T: What’s this? (แสดงภาพละครสัตว)์
Ss: It’s a circus.
3. หนงั สือเรยี น หน้า 42 Ex. 5 ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และอ่านคาในกรอบสี่เหล่ียม แลว้ นาคา
เหล่าน้นั มาเตมิ ใตภ้ าพให้ถูกตอ้ ง โดยเขียนลงในสมดุ จากน้นั ให้ช่วยกนั เฉลยคาตอบ

274

4. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและช้ีภาพคาที่ไดย้ ิน ครูเปิ ด CD อีกคร้งั เพ่อื ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม

pet shop circus funfair
restaurant bank post office
hospital police station

1. pet shop 2. circus 4. restaurant
5. bank 7. hospital

ข้นั Practice
1. ใหน้ กั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ครูช้ีไปท่ีนกั เรียนคนใดคนหน่ึงและพูดว่า Where did you go yesterday?
พร้อมกบั เขยี นประโยคบนกระดาน ให้นกั เรียนดูประโยคและพดู ตาม ครูคอยกระตนุ้ ให้นกั เรียนคิด
คาตอบ โดยช่วยแนะใหด้ คู าว่า where และ go โดยอาจให้นกั เรียนตอบเป็นคา ไม่ตอ้ งตอบเป็น
ประโยค เมื่อไดค้ าตอบแลว้ ให้ครูเขียนบนกระดาน เช่น I went to the pet shop. และให้นกั เรียนพูด
ตาม ครูถาม-ตอบ ดว้ ยคาถามน้ีกบั นกั เรียนอีกหลาย ๆ คน
2. หนงั สือเรยี น หน้า 42 Ex. 6 ให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และดูภาพ ครูอ่านประโยคในกรอบคาพดู
ใหน้ กั เรียนอา่ นตาม จากน้นั ครูอธิบายว่า went เป็น past form ของ go ซ่ึงเมื่อเปลย่ี นเป็น past form
จะไม่เติม -ed แต่จะเปลี่ยนรูปไปเลย ซ่ึงเราเรียกว่าเป็น irregular verb ส่วน verb ที่เติม -ed เรียกวา่
regular verb
3. ให้นกั เรียนจบั คู่กนั สนทนา และผลดั กนั ถาม-ตอบ โดยใชค้ าและภาพในแบบฝึกหัด

2. A: Where did you go yesterday?
B: I went to the restaurant.

3. A: Where did you go yesterday?
B: I went to the hospital.

275

4. A: Where did you go yesterday?
B: I went to the post office.

5. A: Where did you go yesterday?
B: I went to the funfair.

6. A: Where did you go yesterday?
B: I went to the pet shop.

เมือ่ นกั เรียนจบั คู่สนทนา ควรฝึกให้นกั เรียนใชส้ านวนทจ่ี ะทาใหก้ ารสนทนา

ดาเนินไปไดด้ ี ดงั น้ี

It’s my turn. (ถงึ ตาฉนั แลว้ ) Now it’s your turn. (ตอนน้ีถึงตาเธอแลว้ )

Speak louder please. (พูดดงั กว่าน้ีหน่อย) Again please. (พูดอกี ซิ)

ข้นั Production
1. ให้นกั เรียนเขยี นคาบอกสถานท่ีลงในกระดาษคนละ 1 คา จากน้นั จบั คู่และผลดั กนั ถาม-ตอบ
ดงั ตวั อยา่ ง
S1: Where did you go yesterday?
S2: I went to the circus. (แสดงคาทีเ่ ขียนใส่กระดาษ)
2. ใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หมท่ ีเ่ รียนในชวั่ โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมุดคาศพั ท์
3. ใหท้ ากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 36 Exs. 5-6 เป็นการบา้ น

Ex. 5 2. hospital 3. bank
1. funfair 5. circus 6. restaurant
4. pet shop
276

Ex. 6
2. He went to the cinema.
3. He went to the post office.
4. She went to the restaurant.
5. They went to the funfair.
6. He went to the hospital.

7. การวดั และประเมนิ ผล

วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตามทีก่ าหนด
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพดู สนทนา แบบประเมินการพูด ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั สถานท่ใี นเมอื ง และ

กิจกรรมทีท่ าในอดีต

ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหัด

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook)

สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการ ประสงค์

ทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6

277

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 Did you go to the theatre last night?

เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังและอ่านได้
- พดู ถาม-ตอบขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตวั เอง โดยการตอบคาถามแบบส้ันได้
- เล่นเกมทางภาษาตามที่กาหนดได้

1. สาระมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วดั

ต 1.1 ป. 6/3 เลือก/ระบุประโยค หรือขอ้ ความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมาย

ท่อี ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชี้วดั

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตวั ชี้วดั

ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/3 พดู /เขียนแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทีเ่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

278

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การรู้ Past simple tense ดว้ ยทกั ษะการฟังและพดู เป็นประโยชนใ์ นการส่ือสาร สามารถนาไปใชใ้ น

ชีวิตประจาวนั

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: circus, hospital, restaurant, pet shop, bank, funfair, post office, police station

Structure: Did Wendy and Tom go to the zoo? Yes, they did. No, they didn’t.

2) Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Speaking: พดู ถาม-ตอบขอ้ มูลเก่ียวกบั ตวั เอง โดยการตอบคาถามแบบส้นั

Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุง่ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน และใหน้ กั เรียนทกั ทายตอบ

2. ครูเขียนคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกสถานท่ที ่ีสมั พนั ธก์ บั คาดงั กล่าว เช่น money,

food, police, letters, doctors, fish และ elephants

T: Money.

Ss: A bank.

T: Right. etc.

(food – restaurant, police – police station, letters – post office, doctors – hospital, fish – rivers,

elephants – zoo)

279

ข้นั Presentation
1. ครูให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ พูดและเขียนประโยค I watched a comedy yesterday. บนกระดาน
แลว้ ครูขดี เสน้ ใตค้ าวา่ watched และ yesterday จากน้นั อธิบายว่า yesterday เป็นคาบอกเวลาทใี่ ชก้ บั
Past simple tense ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของ yesterday (เม่ือวานน้ี)
2. ครูเขียนประโยค I listened to my new CD last night. และ I went to the funfair two days ago. แลว้
อธิบายว่า last และ ago ก็เป็นคาบอกเวลาทใี่ ชก้ บั Past simple tense เช่นเดียวกบั yesterday
3. ใหน้ กั เรียนสังเกตตาแหน่งของคา yesterday, ago และ last ในประโยค จากน้นั ใหช้ ่วยกนั สรุป
(yesterday และ ago อยทู่ า้ ยประโยค ส่วน last น้นั อยหู่ นา้ คานาม)
4. ครูเขียนประโยคคาถามและคาตอบตอ่ ไปน้ีบนกระดาน
A: Did you tidy your room yesterday?
B: Yes, I did. / No, I didn’t.
ให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปวิธีการตอบคาถามแบบส้นั ดงั น้ี

การตอบคาถามแบบส้นั คือการตอบที่ไมต่ อ้ งทวนขอ้ ความทถ่ี าม เราจะใชก้ ริยาช่วย
เทา่ น้นั ถา้ ตอบ Yes. เราก็จะใช้ did และถา้ ตอบ No. จะใช้ didn’t

5. ครูเขียนประโยค I went to the post office yesterday. บนกระดาน และอธิบายวา่ went เป็น past form
ของ go คากริยาท่ีไมเ่ ติม -ed เรียกวา่ irregular verbs และให้นกั เรียนดูหนังสือเรียน หน้า 91-92
Grammar Handbook

6. ครูพูดและเขยี นประโยค Did you tidy your room yesterday? บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนพูดตาม
ครูอธิบายว่า ประโยคคาถามทต่ี อบดว้ ย Yes./No. ตอ้ งข้นึ เสียงสูงเมอื่ จบประโยค

7. หนงั สือเรียน หน้า 43 Ex. 7 ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียนหนา้ น้ี และอา่ นประโยคในกรอบ Grammar
จากน้นั ครูอธิบายแบบฝึกหัด ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั ปากเปลา่ กอ่ น จากน้นั ให้นกั เรียนเขียนคาตอบ
ลงในสมุด และใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ

2. Did you see 4. had 6. Did you do
3. didn’t make 5. ate

280

Intonation
Intonation คือ ระดบั เสียงสูงต่าในประโยค ประโยคคาถามท่ีตอบดว้ ย Yes/No
จะข้นึ เสียงสูงทา้ ยประโยค

Did you go to the movie yesterday? Have you got red T-shirts?

Wh questions จะลงเสียงต่าทา้ ยประโยค

What did you do last night? Where did you go yesterday?

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 43 Ex. 8 ให้นกั เรียนอ่านคาถามในกิจกรรมน้ีพร้อมกนั ครูอธิบายว่า นกั เรียนจะได้
ฟัง CD และใน CD จะมคี าตอบของกิจกรรมในแต่ละขอ้ จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง และให้
นกั เรียนเลอื กคาตอบ เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD อกี คร้ัง เพอื่ เฉลยคาตอบ

1. Wendy and Tom went to the zoo.
2. Oscar went to the funfair.
3. Lin bought a new bike.
4. Cindy saw a comedy.

1. a 2. b 3. b 4. a

2. หนงั สือเรียน หน้า 43 Ex. 9 ใหน้ กั เรียนจบั คู่สนทนา โดยใชป้ ระโยคใน Ex. 8 ดงั ตวั อยา่ ง
A: Did Oscar go to the cinema?
B: No, he didn’t.

ในขณะท่ีนกั เรียนจบั คู่สนทนา ใหน้ กั เรียนใช้ระดบั เสียงสูง-ต่าใหถ้ ูกตอ้ งดว้ ย
281

ข้นั Production
1. ให้นกั เรียนจบั คู่ สลบั กนั ถาม-ตอบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตวั เอง โดยใหต้ อบคาถามแบบส้นั ดงั ตวั อยา่ ง
S1: Did you listen to the music last night?
S2: Yes, I did. / No, I didn’t. What about you?
S1: I did. / I didn’t.
2. หนงั สือเรยี น หน้า 43 Let’s play! ให้นกั เรียนเล่นเกม ซ่ึงเกมน้ีนกั เรียนตอ้ งไม่ตอบ Yes. หรือ No.
มีวธิ ีการเลน่ ดงั น้ี ให้นกั เรียน 2 คน ออกมาหนา้ ห้อง โดยคนหน่ึงเป็นผถู้ าม และอกี คนเป็นผตู้ อบ
ในการตอบ ตอ้ งตอบโดยไมต่ อ้ งพดู Yes. หรือ No. เช่น

A: Did you go to the post office?
B: I did. etc.

3. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หมท่ ่เี รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์
4. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 37 Exs. 7-9 เป็นการบา้ น

Narrator: What did they do yesterday? Listen and tick.
One

Female: Hi, Jane. Did you make lunch yesterday?
Girl: No, I didn’t. I went to the park.
Two
Female: What about you, Tony? What did you do?

Did you have an ice cream?
Boy: No, I didn’t. I took some photos.
Female: You took some photos?
Boy: Yes, I did.

282

Three Hi, Bob. What did you do yesterday?
Female: I watched a film.
Boy: Did you go to the funfair, too?
Female: No, I didn’t. I stayed at home and watched a film.
Boy:
Hi, Emma. Did you do your homework yesterday?
Four No, I didn’t. I never do my homework on Saturdays.
Female: What did you do then?
Girl: I swam in the sea.
Female:
Girl:

Ex. 7
2. A: Did Ken have a shower yesterday?

B: No, he had a bath.
3. A: Did Sara buy the yellow skirt?

B: No, she bought the green one.
4. A: Did Dad drink a cup of tea?

B: No, he drank a glass of cola.

Ex. 8 4. a
2. a 3. a

Ex. 9 3. No, he didn’t. 4. Yes, she did.
2. No, he didn’t.

283

7. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหดั
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และอ่าน
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การพูดถาม-ตอบขอ้ มลู แบบประเมนิ การพดู ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั ตวั เอง

สงั เกตการเล่นเกมทางภาษา แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหดั (Workbook)

สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง

ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการ ประสงค์

ทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6

284

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 How was your weekend?

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากการฟังและอ่านได้
- แสดงบทบาทสมมตเิ กี่ยวกบั เร่ืองท่ีอา่ นได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย

ทอี่ ่าน

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ และ

เร่ืองเลา่

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การฟังและการอ่านเก่ียวกบั ส่ิงที่เกิดข้นึ ในอดีต เป็นประโยชน์ในการสื่อสาร สามารถนาไปใชใ้ น

ชีวติ ประจาวนั

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions

285

Vocabulary: sports programme, comedy, cartoon, quiz show, news, computer game,
circus, hospital, restaurant, pet shop, bank, funfair, post office,
Structure: police station
Hi, Lin. How was your weekend? Oh, I studied all weekend. What about
Pronunciation: you? My dad took me to the cinema. I went for some popcorn, but I fell
Function: over in the dark!
2) Language Skills Stress and intonation
Listening: Narrating past events
Reading:
ตอบคาถามจากการฟัง
ตอบคาถามจากการอา่ น

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน และให้นกั เรียนทกั ทายตอบ
2. ครูเขยี นคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน laughed, went, took, played, happened, visited, studied, fell และ
watched แลว้ ครูเขยี นตวั เลขใตค้ าศพั ท์ 1-9 จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านและจาคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ครู
ลบคาศพั ทอ์ อกให้เหลอื เพียงแค่ตวั เลข เสร็จแลว้ ครูเรียกนกั เรียนออกมา 1 คนทหี่ นา้ ช้นั ครูช้ีเลข 1
แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนคาศพั ทเ์ หนือตวั เลขท่หี ายไป ครูให้นกั เรียนทเี่ หลือบอกวา่ ผิดหรือถกู ครูและ
นกั เรียนร่วมกนั ทากิจกรรมจนครบท้งั 9 คา
3. ครูและนกั เรียนสนทนาถีงอาหารวา่ งท่คี นนิยมนาไปรับประทานในโรงหนงั

286

ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 44-45 Ex. 10 ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และอา่ นประโยคทย่ี งั ไม่สมบูรณ์
เหนือภาพ จากน้นั ครูอธิบายวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ัง CD เมอื่ ฟังจบแลว้ ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบทถี่ ูกตอ้ ง
2. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 2 รอบ จากน้นั ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบ เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ

c

3. ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง และหยดุ CD ทกุ คร้ังเมือ่ จบประโยค เพือ่ ใหน้ กั เรียนพูดตาม ขณะท่ีนกั เรียนพูด
ครูตรวจสอบการออกเสียงและระดบั เสียงสูงต่า (intonation)

ข้นั Reading
หนังสือเรียน หน้า 45 Ex. 11 ครูให้กเรียนอ่านบทอ่านในหนา้ 44-45 อีกคร้งั และตอบคาถาม โดยจบั คู่
ชื่อในบทอ่านกบั กิจกรรม และเขยี นคาตอบลงในสมดุ เสร็จแลว้ ให้ช่วยกนั เฉลยคาตอบ

1. b 2. c 3. a

ข้นั Post-reading
1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนจบั กลมุ่ กบั เพ่อื น ๆ ตามจานวนตวั ละครในหนงั สือเรียน จากน้นั มอบหมาย
ให้แตล่ ะกลมุ่ ฝึกซอ้ มการสนทนาเช่นเดียวกบั ในหนงั สือเรียน (ประมาณ 5-10 นาที) ครูกาชบั วา่
หากกลมุ่ ใดแสดงไดเ้ หมือนกบั ในบทเรียน มกี ารออกเสียงถกู ตอ้ ง และไม่ดหู นงั สือเรียน
จะไดร้ ับคะแนนพเิ ศษ
2. ให้แตล่ ะกล่มุ ออกมาแสดงบทบาทสมมติหนา้ ช้นั ให้นกั เรียนที่ไม่ไดแ้ สดงสงั เกตและจดบนั ทึก เรื่อง
การพูด การออกเสียง การแสดงท่าทาง และความเป็นธรรมชาติ เป็นตน้
3. เม่ือทุกกลมุ่ แสดงหมดแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายขอ้ ดี และขอ้ บกพร่อง เพอ่ื ทนี่ กั เรียน
จะไดน้ าไปปรบั ปรุง
4. ให้ทากิจกรรมทบทวนเน้ือเรื่องทอ่ี า่ น ใหน้ กั เรียนทางานคู่ โดยถา่ ยเอกสารจากแบบฝึ กหดั
หน้า 82 Story Cutouts ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคู่ คู่ละ 1 ภาพ และฝึกพูดสนทนาตามภาพท่ีไดร้ ับ แลว้ ครูพดู
ว่า Close your book. ใหน้ กั เรียนทาตามคาส่งั และแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กล่มุ ละเทา่ ๆ กนั
ครูอา่ นประโยคในเน้ือเร่ืองทลี ะประโยค ให้แตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั ระบภุ าพทส่ี ัมพนั ธ์กบั ประโยค
ทีค่ รูพดู
287

5. ครูให้นกั เรียนคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดท่เี รียนในบทน้ีเพิ่มเติมอกี 4 คา และบอกความหมายดว้ ย
จากน้นั ให้นกั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทล์ งในสมุดคาศพั ท์

6. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 38 Exs. 10-11 เป็นการบา้ น

Ex. 10 2. dad 3. cartoon 4. popcorn 5. fell over
1. weekend
3. laughed 4. cried
Ex. 11 6. hated
2. wanted
5. finished

7. การวัดและประเมินผล

วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหัด
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และอา่ น และการจบั คูป่ ระโยค
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
กบั ภาพ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์

ประเมินการแสดงบทบาท แบบประเมินการแสดงละคร/

สมมติ บทบาทสมมติ

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook)

สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ

ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มนั่ ในการ ประสงค์

ทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั ร Story Cutouts

288

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 My Best Day

เวลา 2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคาถามจากเร่ืองที่ฟังและอ่านได้
- ออกเสียง สะกด และบอกความหมายของคาศพั ทต์ ามท่กี าหนดได้
- พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั เรื่องทอ่ี ่านได้
- เขียนขอ้ ความเกี่ยวกบั My Best Day ได้
- ทา mind map ตามหวั ขอ้ ท่กี าหนดได้
- เล่มเกมทางภาษาตามทก่ี าหนดได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมเี หตุผล

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมาย

ทอี่ ่าน

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา นิทานง่าย ๆ

และเร่ืองเล่า

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชีว้ ดั

ต 1.3 ป. 6/1 พูด/เขียนใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั

289

ต 1.3 ป. 6/2 เขยี นภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มูลตา่ ง ๆ ทีฟ่ ังหรืออา่ น

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วัด

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ดั

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การอา่ นเชิงวเิ คราะหแ์ ละตอบคาถามจากเรื่องทอี่ า่ น รวมท้งั การเขยี นและบอกเลา่ ประสบการณ์

ดว้ ย Past simple tense เป็นประโยชน์ต่อการสื่อสาร

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: best, special, nice, ever

Structure: I had a great time last Saturday. We watched a really funny comedy!

It was her birthday so we had a special meal. It was the best day ever!

Pronunciation: oa sound

2) Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Speaking: พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั เร่ืองที่อ่าน

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

Writing: เขียนขอ้ ความเกี่ยวกบั My Best Day

ทา mind map ตามหัวขอ้ ท่ีกาหนด

290

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มุ่งมนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่ เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm Up

1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน และให้นกั เรียนทกั ทายตอบ

2. ครูสนทนาเกี่ยวกบั สิ่งทนี่ กั เรียนทาเม่ือคืนที่ผ่านมา

T: What did you do last night?

S1: I watched a cartoon.

S2: I tidied my room.

S3: I phoned Alex. etc.

ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 46 Ex. 12 ครูสอนคาศพั ทต์ ่อไปน้ีให้แก่นกั เรียน best (ดีท่สี ุด), special (พิเศษ)
และ nice (ดี) โดยครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน ให้นกั เรียนอา่ นและเดาความหมายของคาที่
ขดี เสน้ ใต้
It was my best day. It is perfect.
I did a lot of nice things. They were good.
We had special food on birthday, Christmas and Thanksgiving.
ให้นกั เรียนดคู าในประโยคหลงั จะช่วยให้นกั เรียนเขา้ ใจความหมายของคาทีข่ ีดเสน้ ใต้ ครูอธิบายว่า
การเดาความหมายเช่นน้ี นกั เรียนอาจจะไมส่ ามารถบอกความหมายที่ตรงตวั ได้ แต่จะเขา้ ใจ
ความหมายของขอ้ ความ จากน้นั ครูบอกความหมายเป็นภาษาไทยให้นกั เรียนฟัง
2. ใหน้ กั เรียนดูภาพในบทอ่าน ครูอธิบายวา่ ภาพท้งั 3 ภาพ ทางดา้ นขวามือของนกั เรียน เป็นกิจกรรมที่
Bill ทาในเมื่อวนั เสาร์ทีผ่ า่ นมา ใหน้ กั เรียนบอกว่า มอี ะไรบา้ ง

291

A They were at a birthday party.
B They rode their bikes.
C They went to the cinema.
3. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง 3 คร้ัง โดยคร้ังแรกให้นกั เรียนอา่ นตามในใจ คร้ังที่ 2 ใหน้ กั เรียนอ่าน
ออกเสียง และคร้งั ที่ 3 ให้นกั เรียนอ่านตาม และจบั คู่ตวั เลขในแต่ละยอ่ หนา้ ในบทอา่ นกบั ภาพ
ทางดา้ นขวามอื ของนกั เรียน

A-3 B-1 C-2

ข้นั Reading
หนังสือเรยี น หน้า 46 Ex. 13 ครูให้นกั เรียนอ่านคาถาม จากน้นั ใหอ้ ่านบทอา่ นอกี คร้ัง และใหน้ กั เรียน
ตอบคาถามแบบเต็มประโยค โดยให้นกั เรียนตอบปากเปล่ากอ่ น จากน้นั ให้เขยี นลงสมุด เม่อื นกั เรียน
ทาเสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบภายในหอ้ งเรียน

1. He went to the park with his friend, Alex.
2. His uncle took him to the cinema.
3. He went to his grandma’s.

ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 46 Ex. 14 ครูอ่านขอ้ ความในกรอบคาพูด จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขยี นขอ้ ความเก่ียวกบั
My Best Day เหมอื นในกรอบคาพดู แต่เปล่ยี นเป็นกิจกรรมของนกั เรียนเองลงในสมดุ จากน้นั ให้
นกั เรียนพดู ให้เพือ่ นในช้นั ฟัง

292

I had a great time last Saturday. In the morning, I went to the park with my friends.
We played football. Then we went back home. After lunch, my mum took me to the cinema.
We watched a really funny comedy and we ate some popcorn! In the evening, I visited my
grandma. I did a lot of nice things last Saturday. It was the best day ever!

2. ให้นกั เรียนทา mind map เกี่ยวกบั บทอ่าน My Best Day

In the My Best Day After
morning lunch
In the evening
_____________ _____________
_____________ _____________
Rode our bikes _____________ _____________
_____________
_____________
_____________

การเดาความหมายจากบริบท (Guessing meaning from the context)
กลยทุ ธท์ ี่สาคญั อีกกลยทุ ธ์หน่ึงในการอา่ น คือ การเดาความหมายจากบริบท

ในการอา่ น ผูอ้ ่านไม่จาเป็นตอ้ งเปิ ดพจนานุกรมทุกคร้ังทพี่ บคาใหม่ทไ่ี ม่รู้ความหมาย
ผอู้ า่ นอาจเดาความหมายของคา ๆ น้นั จากขอ้ ความทอ่ี ยรู่ อบ ๆ คาท่ผี อู้ ่านไมร่ ู้ความหมาย
คาน้นั ได้ การเดาความหมายน้ี ผอู้ า่ นจะสังเกตจากตวั ช้ีแนะ ทปี่ รากฏอยใู่ นบริบทตวั ช้ีแนะ
จะช่วยใหผ้ อู้ ่านเดาความหมายของคาได้ แตไ่ มไ่ ดห้ มายความว่า ผอู้ า่ นจะสามารถบอก
ความหมายของคาไดเ้ หมือนในพจนานุกรม ผอู้ า่ นจะสามารถเดาไดว้ ่าคา ๆ น้นั
มีความหมายเป็นบวกหรือลบ หรือรู้ความหมายคร่าว ๆ ทจ่ี ะทาให้สามารถเขา้ ใจบทอ่านได้

293

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน และใหน้ กั เรียนทกั ทายตอบ
2. ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาหนา้ ช้นั 1 คน และถือบตั รภาพกิจกรรมทนี่ กั เรียนทาเมอ่ื วนั ทีผ่ ่านมา
โดยไม่ใหเ้ พอ่ื นในช้นั เห็น ครูให้นกั เรียนในช้นั ถามคาถาม Yes/No questions เพ่อื หาคาตอบ
ดงั ตวั อยา่ ง
S1: What did I do yesterday? (ถือภาพ go to the zoo)
S2: Did you tidy your room?
S1: No, I didn’t.
S3: Did you go to the cinema?
S1: No, I didn’t. etc.
S4: Did you go to the zoo.
S1: Yes. (ชูภาพ go to the zoo)

Listen. Play the game.

หนังสือเรียน หน้า 47 Ex. 15 ครูบอกนกั เรียนว่า จะให้เล่นเกม โดยครูอธิบายวิธีการเล่นเกม คอื
ให้นกั เรียน 1 คน เลอื กเด็กในภาพ 1 คน และกิจกรรมในกรอบส่ีเหล่ียม 1 กิจกรรม เช่น เลอื ก Nick
และกิจกรรม watch TV จากน้นั เขียนจบั คู่ช่ือคนกบั กิจกรรมลงในกระดาษ (Nick – watch TV)
ให้นกั เรียนที่เหลือทายว่า Nick ทาอะไร คนทีท่ ายถกู จะเป็นคนทเี่ ลอื กภาพและกิจกรรม เม่อื จบเกม
ครูและนกั เรียนอภิปรายเก่ียวกบั สิ่งทไี่ ดจ้ ากการเลน่ เกม

S1: What did Nick do yesterday?
S2: Did he go to the zoo?
S1: No, he didn’t.
S3: Did he play in the park?
S1: Yes, he did!

294

S3: What did Judy do yesterday?

S4: Did she cook dinner?

S3: No, she didn’t.

S5: Did she watch TV?

S3: Yes, she did. etc.

Sound Spot

1. ครูนาเสนอการออกเสียงคาศพั ทท์ มี่ เี สียงสระ oa โดยให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ครูเขยี นคาศพั ทท์ ่มี ี
oa ประกอบบนกระดาน ไดแ้ ก่ boat (เรือ), goat (แพะ) แลว้ ออกเสียงคาศพั ทใ์ ห้นกั เรียนฟัง และ
ออกเสียงตาม

การออกเสียงสระ oa ในภาษาองั กฤษ ไมเ่ หมอื นการออกเสียงสระ -โอ ของไทย
การออกเสียงสระ oa คลา้ ยการออกเสียงวา่ โอว เหมือนมีเสียง ว อยดู่ ว้ ย
2. หนงั สือเรยี น หน้า 47 Sound Spot ให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียนหนา้ น้ี และฟัง CD เก่ียวกบั ประโยค
ใหน้ กั เรียนฟังประโยค 2-3 คร้ัง แลว้ ครูเปิ ด CD ให้ฟังอกี คร้งั ให้นกั เรียนพดู ตามพร้อมกนั ท้งั ช้นั
จากน้นั ใหพ้ ดู เป็นรายบคุ คล

Look! There is a goat on that boat.

ให้นกั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทต์ าม CD ใหถ้ กู ตอ้ ง โดยให้นกั เรียนฝึกออกเสียงซ้าหลาย ๆ คร้งั
ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงเชื่อมคาในประโยคดว้ ย
กิจกรรมเพิ่มเตมิ
ครูใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทท์ ี่มีเสียงสระ oa ประกอบ จากเวบ็ ไซต์
https://youtu.be/_xYKYTf0JS8 ฝึกทห่ี อ้ งคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนหรือท่บี า้ น
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ี่มีเสียง oa ประกอบ เพ่มิ เตมิ อกี คนละ 5 คา

295


Click to View FlipBook Version