The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.6
หนังสือ Extra and Friends

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:55:02

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.6

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.6
หนังสือ Extra and Friends

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป.6

2. หนงั สือเรยี น หน้า 23 Ex. 15 ให้นกั เรียนบอกช่ือสัตวใ์ นภาพ และอา่ นคา adjective ในกรอบ
สี่เหล่ยี มพร้อมกนั แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังประโยคเปรียบเทียบเพื่อใชใ้ นการเล่นเกม

A: The giraffe is taller than the hippo.
B: The elephant is fatter than the chicken.

ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังซ้าหลาย ๆ คร้งั และใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม
3. ครูอธิบายวธิ ีการเลน่ เกมให้นกั เรียนฟัง ดงั น้ี ให้นกั เรียนแบ่งออกเป็น 2 กลมุ่ และผลดั กนั พดู

ประโยคเปรียบเทียบข้นั กว่าเก่ียวกบั สตั วใ์ นภาพ 2 ชนิด กลมุ่ ใดพูดถูกตอ้ ง จะได้ 1 คะแนน กลมุ่ ที่
ไดค้ ะแนนมากกวา่ เป็นกลมุ่ ท่ีชนะ
4. เมอ่ื เล่นเกมเสร็จแลว้ ครูและนกั เรียนช่วยกนั แต่งประโยคดว้ ยกนั อีกคร้ังเกี่ยวกบั ภาพท่ีนามาเล่นเกม

A: The bird is smaller than the chicken.
B: The snake is longer than the snail.
A: The snail is slower than the cow.
B: The cheetah is faster than the hippo.
A: The hippo is heavier than the cow.
B: The cow is shorter than the giraffe.
A: The elephant is bigger than the cheetah.
B: The chicken is fatter than the bird. etc

5. หนังสือเรียน หน้า 23 Sound Spot ใหน้ กั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน โดยครูพูดสัง่ วา่ Close your book.
แลว้ ครูพูดประโยคให้นกั เรียนฟัง ซ่ึงเป็นประโยคทฝี่ ึกออกเสียงสูงต่าทา้ ยประโยคคาถาม เช่น

When is your birthday? Are you happy?

ให้นกั เรียนพูดประโยคตามครู และครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนพดู เสียงสูงต่าทา้ ยประโยคคาถาม

ให้ถกู ตอ้ ง

6. ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน โดยครูพูดส่ังวา่ Open your book to page 23. แลว้ ครูเปิ ด CD

ใหน้ กั เรียนฟังการออกเสียงสูงต่าทา้ ยประโยคคาถามอกี คร้งั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังอกี คร้งั

และให้นกั เรียนพูดตามพร้อมกนั ท้งั ช้นั จากน้นั ให้นกั เรียนฝึกพดู ประโยคเป็นรายบคุ คล

146

When is your birthday? What food do you like?
Are you happy? Do you like apples?

7. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปหลกั การออกเสียงประโยค Wh-questions และ Yes/No questions

Intonation
Intonation คือ การออกเสียงสูงต่าทา้ ยประโยค ซ่ึงในหน่วยน้ี จะเนน้ การออกเสียงทา้ ย
ของประโยคคาถาม ดงั น้ี
- ประโยคคาถามแบบ Yes/No questions จะข้นึ เสียงสูงทา้ ยประโยค เช่น

Do pandas live on a farm? Have you got red T-shirts?

- ประโยคคาถามแบบ Wh questions จะลงเสียงต่าทา้ ยประโยค เช่น

Where are we? Where do cows live?

ข้นั Pre-writing
1. ครูให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นในหนงั สือเรียน หนา้ 22 Ex. 12 และดู fact file ใน Ex. 13 อกี คร้ัง
2. เมือ่ อ่านเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนทา fact file เก่ียวกบั สัตวท์ ่ีตนเองชอบ เพื่อเป็นขอ้ มลู ในการเขยี น
ชิ้นงานเก่ียวกบั สัตวท์ ต่ี นเองชอบ โดยให้นกั เรียนเขยี นลงในกระดาษ A4 ท่ีครูแจกให้ เช่น
Animal: … (the horse)
Lives: ... (on a farm)
Colour: (black, brown, white or grey)
Eats: (grass)
Body: (... big body, big head, long legs, long tail)
Can: (run very fast, jump)
Can’t: (fly)
Lives for: (30 years)

147

Fact file คอื ขอ้ เทจ็ จริงเก่ียวกบั บคุ คลและสตั ว์ ซ่ึงการเขียน fact file
นิยมเขยี นเป็นคาหรือเป็นวลี มีประโยชน์ในการบนั ทึกขอ้ เท็จจริงเก่ียวกบั บคุ คลและสัตว์
และเป็นขอ้ มลู ท่ีช่วยในการในการเขียน
ตวั อย่าง

ทม่ี า: https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/writing-practice/animal-fact-file
ข้นั Writing

1. หนังสือเรยี น หน้า 27 Portfolio ครูบอกนกั เรียนในช้นั วา่ Open your book to page 27. จากน้นั ครู
บอกว่า เราจะเขียนชิ้นงานเก่ียวกบั สัตวท์ แ่ี ตล่ ะคนชอบ เพ่ือใหน้ กั เรียนร่างขอ้ ความเกี่ยวกบั สัตวท์ ่ี
ตนเองชอบ โดยใช้ fact file ทแี่ ตล่ ะคนทาเป็นขอ้ มูลไวแ้ ลว้ ขณะที่นกั เรียนทากิจกรรม ครูเดิน
สังเกตรอบ ๆ ช้นั และใหค้ วามช่วยเหลือนกั เรียนเท่าทจ่ี าป็น

2. เมือ่ แต่ละคนร่างเสร็จแลว้ จึงส่งใหค้ รูตรวจวา่ มีสิ่งทีผ่ ิดหรือไม่ นกั เรียนจะไดแ้ กไ้ ขกอ่ นเขยี นจริง
ซ่ึงครูจะให้นกั เรียนจบั คู่กนั และสลบั ช้ินงานกนั อา่ น พร้อมกบั ใหข้ อ้ เสนอแนะซ่ึงกนั และกนั

148

3. ให้นกั เรียนแต่ละคนเขยี น Portfolio เกี่ยวกบั สัตวท์ แี่ ตล่ ะคนชอบลงในส่วนทา้ ยของ fact file
ทนี่ กั เรียนเขยี น เสร็จแลว้ นาผลงานส่งให้ครูตรวจ

ข้นั Post-writing
1. เมอื่ ครูตรวจผลงานเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแลกเปล่ียนผลงานกนั อา่ นอกี คร้ัง แลว้ ใหแ้ ต่ละคน
นาเสนอผลงานทหี่ นา้ ช้นั และจดั เกบ็ ไวใ้ นแฟ้ม Portfolio
ตวั อยา่ งผลงาน

The horse is my favourite animal. It lives on a farm. Its colours are black, brown,
white or grey. A horse has got a big body, a big head, long legs and a long tail. It can
run very fast, but it can’t fly. A horse usually lives for thirty years! Horses are
beautiful animals!

2. ครูใหน้ กั เรียนคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดท่เี รียนในบทน้ีเพ่มิ เติมอีก 4 คา และบอกความหมายดว้ ย
จากน้นั ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทล์ งในสมุดคาศพั ท์

3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 19 Exs. 12-13 เป็นการบา้ น

Ex. 12

2. c 3. a 4. c 5. a

Ex. 13

2. They live in rivers and lakes.

3. They can swim very well.

4. They usually live for about 70 years.

149

7. การวดั และประเมินผล

วธิ ีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การพดู ถาม-ตอบ แบบประเมินการพูด
ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เก่ียวกบั สัตวท์ ี่ชอบ
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหัด
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
และอา่ น
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การอ่านออกเสียงเรื่อง แบบประเมนิ การอ่าน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ทีอ่ ่าน

ประเมนิ ช้ินงาน เก่ียวกบั สัตว์ แบบประเมนิ ช้ินงาน

ทีช่ อบ

สงั เกตการเลน่ เกมทางภาษา แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้

ตรวจแบบฝึ กหัด แบบฝึกหัด (Workbook)

สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง

ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน ประสงค์

และมจี ิตสาธารณะ

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.4 กระดาษ A4
8.5 บตั รภาพ
8.6 อนิ เทอร์เน็ต

150

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 Old MacDonald’s Farm

เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียง สะกด และบอกความหมายคาศพั ทใ์ นบทเพลง Old Macdonald’s farm ได้
- พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สตั วท์ ี่ชอบได้
- ตอบคาถามจากการอา่ นได้
- ร้องเพลงและเลน่ เกมทางภาษาตามทกี่ าหนดได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตุผล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป. 6/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั คาขอร้อง และคาแนะนาท่ีฟังและอ่าน

ต 1.1 ป. 6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 6/3 เลือก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย

ท่ีอ่าน

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา นิทานง่าย ๆ

และเรื่องเลา่

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป. 6/2 ใชค้ าสงั่ คาขอร้อง คาขออนุญาต และให้คาแนะนา

ต 1.2 ป. 6/5 พูด/เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเอง เก่ียวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมต่าง ๆ

พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชีว้ ดั

ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขียนใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอื่ น และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/3 พูด/เขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

151

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชี้วดั

ต 2.1 ป. 6/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ท่เี กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจการร้องเพลงภาษาองั กฤษ เป็นประโยชนใ์ นการเรียน โดยจะไดฝ้ ึกทกั ษะการอา่ น

และทาใหส้ นุกสนานเพลดิ เพลนิ มที ศั นคติท่ดี ีตอ่ การเรียนภาษาองั กฤษ

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: farm animals

Structure: Old MacDonald’s got a farm and on his farm he’s got a cow.

Pronunciation: animal sounds

Function: describing animals

2) Language Skills

Speaking: พูดขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สตั วท์ ่ีชอบ

ร้องเพลงทางภาษา

Reading: ตอบคาถามจากเร่ืองที่อา่ น

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

152

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่เรียนรู้
5.2 มีวินยั
5.3 มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั
2. ให้ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั farm animals โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน

ตามท่คี รูกาหนด และให้เพื่อนในช้นั ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาศพั ทน์ ้นั ถา้ นกั เรียนเขียน
คาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง ให้นกั เรียนเรียกเพอ่ื นคนต่อไปออกมาทากิจกรรมต่อ แต่ถา้ นกั เรียนเขยี นคาศพั ท์
ไม่ถกู ตอ้ ง ครูให้นกั เรียนบอกเพ่อื นในช้นั ดว้ ยประโยค Help me spell the word, please. และให้
เพ่อื น ๆ ช่วยเหลอื ในการออกเสียงคาศพั ทน์ ้นั ให้นกั เรียนออกมาทากิจกรรมน้ีจนครบทกุ คน

ข้นั Presentation
1. ครูนาบตั รภาพสัตวท์ น่ี กั เรียนเคยเรียนมาแลว้ มาแสดงทลี ะภาพ เช่น cow, horse, duck, bird,
chicken, elephant, whale, cheetah, hippo และ lion จากน้นั ครูสนทนากบั นกั เรียน 1 คน เก่ียวกบั
สตั วท์ ชี่ อบ เช่น
T: What is your favourite animal?
S1: My favourite animal is bird.
T: Why do you like it?
S1: It can fly.
จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียนอีกหลาย ๆ คน ให้บอกสัตวท์ ่แี ตล่ ะคนชอบ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่
ฝึกพดู ถาม-ตอบกนั ครูเดินสังเกตเพอื่ ให้คาแนะนาทจี่ าเป็น
2. ครูเขยี นชื่อเพลง Old Macdonald’s Farm บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาว่า จากช่ือเพลง
น่าจะเก่ียวขอ้ งกบั อะไร ใหน้ กั เรียนคดิ และช่วยกนั ตอบครู แลว้ ครูเฉลยใหน้ กั เรียนฟังวา่ เพลงน้ีจะ
เก่ียวกบั สตั วต์ ่าง ๆ ท่ีอยใู่ นฟาร์ม

153

“Old MacDonald Had a Farm” is a children’s song and nursery rhyme about a farmer
named MacDonald (or McDonald, Macdonald) and the various animals he keeps on his
farm. Each verse of the song changes the name of the animal and its respective noise. In
many versions, the song is cumulative, with the noises from all the earlier verses added
to each subsequent verse. It has a Roud Folk Song Index number of 745.
ทม่ี า: https://en.wikipedia.org/wiki/Old_MacDonald_Had_a_Farm

3. หนังสือเรียน หน้า 24 Ex. 16 ครูพดู สงั่ วา่ Open your book to page 16 and look at the picture.
ใหน้ กั เรียนทาตามคาสัง่ โดยให้นกั เรียนดภู าพ และตอบคาถามครูเก่ียวกบั ภาพที่เห็น เช่น
What can you see in the picture? (A cow and a farmer.)

4. ครูเปิ ด CD เพลงน้ีให้นกั เรียนฟังและดูเน้ือเพลงตามไปดว้ ย จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นเน้ือเพลงในใจ
ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังอกี คร้ัง และหยดุ ทุก ๆ บรรทดั ใหน้ กั เรียนร้องตาม ครูเปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟังในคร้ังท่ีสาม ใหน้ กั เรียนฝึกร้องเพลงตาม CD ดว้ ย

5. ครูให้นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ฝึกร้องเพลงน้ี ต่อมาครูสุ่มเรียกนกั เรียนบางคู่ให้ออกมาร้องเพลงหนา้ ช้นั
ครูคอยช่วยเหลอื นกั เรียนทรี่ ้องเพลงไม่ตรงจงั หวะ และออกเสียงคาในเน้ือร้องไมถ่ กู ตอ้ ง
เม่ือนกั เรียนร้องเพลงจนคล่องแลว้ ครูถามและให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบว่า What animal has Old
Macdonald got? (A cow.)

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 24 Ex. 17 ครูพดู สัง่ ว่า Open your book to page 24. ใหน้ กั เรียนทาตามคาสั่ง
แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเพลงน้ีพร้อมกนั เสร็จแลว้ จึงร้องเพลงพร้อมกนั อีกคร้งั เม่อื ร้องเพลงจบแลว้
ครูบอกว่า ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดทบทวนเพลงท่ีร้อง โดยใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหัดน้ีลงในสมุด
ของตนเอง
2. ให้นกั เรียนอ่านประโยคคาสั่งในกิจกรรมน้ีพร้อมกนั เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย
ของกิจกรรมน้ีคือ ใหน้ กั เรียนจบั คูช่ ื่อสัตวก์ บั เสียงร้องของสตั วแ์ ตล่ ะชนิดให้ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ให้
ช่วยกนั เฉลยคาตอบ

1. c 2. a 3. b

154

3. ครูแบ่งนกั เรียนในช้นั ออกเป็น 3 กลุม่ คือ กลมุ่ A, กลมุ่ B และกลมุ่ C ตามลาดบั และต้งั ชื่อกลมุ่
แตล่ ะกลมุ่ ดงั น้ี กลมุ่ A เป็น duck กลมุ่ B เป็น chicken กลุ่ม C เป็น sheep
แลว้ ให้แตล่ ะกล่มุ ร้องเพลง โดยเปล่ียนคาร้องในเน้ือเพลง คอื เปล่ยี นคาศพั ท์ cow เป็นสตั วท์ ่ีกลมุ่
ตนเองเป็น เช่น กลมุ่ A เป็น duck ให้เปลี่ยนเน้ือร้องจาก cow เป็น duck พร้อมกบั เปลีย่ นเสียงร้อง
ให้สอดคลอ้ งกบั สัตวช์ นิดน้นั ดว้ ย ครูใหแ้ ต่ละกลมุ่ ฝึกร้องเพลงพร้อมกนั จากน้นั ใหอ้ อกมาร้องเพลง
ใหเ้ พือ่ นฟังที่หนา้ ช้นั ดงั ตวั อยา่ ง

Old MacDonald’s got a farm,
E–I–E–I–O

And on his farm he’s got a duck,
E–I–E–I–O

With a quack-quack here
And a quack-quack there
Here a quack, there a quack!
Everywhere a quack-quack!
Old MacDonald’s got a duck

E–I–E–I–O

ข้นั Production
1. เมือ่ ร้องเพลงท่ีเรียนในชวั่ โมงน้ีแลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั แสดงความคิดเห็นวา่ ชอบ หรือไม่ชอบ
เพลงน้ี ดว้ ยประโยค I like / don’t like the song beacuase …….
2. ครูใหน้ กั เรียนคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดทเ่ี รียนในบทน้ีเพม่ิ เติมอกี 4 คา และบอกความหมายดว้ ย
จากน้นั ให้นกั เรียนบนั ทึกคาศพั ทล์ งในสมดุ คาศพั ท์
3. ให้ทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 20 Ex. 14 เป็นการบา้ น

8, 9, 1, 2, 6, 3, 7, 4, 5, 10

155

7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วธิ กี ารวดั
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบประเมนิ การพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
การอ่าน
ประเมินการพดู ขอและให้ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ขอ้ มูลเก่ียวกบั สตั วท์ ่ชี อบ
สงั เกตการร้องเพลง และการ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เล่นเกมทางภาษา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั ประสงค์
สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มนั่ ในการ
ทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั รภาพ
8.5 อินเทอร์เน็ต

156

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 London Zoo

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สวนสัตวไ์ ด้
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองที่กาหนดได้
- ทาชิ้นงานสวนสตั วท์ ี่ชอบได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.1 ป. 6/1 ปฏิบตั ิตามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนาทฟี่ ังและอา่ น

ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ

และเรื่องเลา่

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

ตัวชีว้ ดั

ต 1.2 ป. 6/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ

โดยการ พูดและการเขยี น

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

157

ตัวชี้วัด

ต 2.1 ป. 6/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 6/2 ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ตวั ชี้วดั

ต 2.2 ป. 6/1 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค

ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น

พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตัวชี้วัด

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื จากแหล่งการเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ดั

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเี่ กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การอา่ นเรื่องเกี่ยวกบั ประเทศทพ่ี ดู ภาษาองั กฤษ เป็นการพฒั นาทกั ษะการอา่ น ทาใหเ้ กิดการเรียนรู้

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และอยใู่ นสังคมโลกอยา่ งมคี วามสุข

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: gorilla, different, take a walk, reptile, all over, aquarium, size, miss

the chance, ticket

Structure: Animals, large and small, are waiting for you at London Zoo!

Come and visit us and see some of the world’s most beautiful animals.

158

Pronunciation: Stress and intonation
Function: describing a place
2) Language Skills
Speaking: แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องทก่ี าหนดได้
Reading: ตอบคาถามจากการอ่าน
3) Culture: London Zoo

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกนั
2. ใหน้ กั เรียนทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตว์ โดยครูพดู ประโยคบรรยายเก่ียวกบั สัตวช์ นิดต่าง ๆ
แลว้ ให้นกั เรียนตอบวา่ เป็นสตั วอ์ ะไร เช่น
T: This animal has a very long neck.
Class: Giraffe.
T: Right! (พร้อมกบั แสดงบตั รภาพยีราฟให้นกั เรียนด)ู
(This animal is a large type of cat. This animal is the fastest in the world. This animal eats
bamboos. etc)
ครูถามคาถามเกี่ยวกบั สตั วช์ นิดต่าง ๆ จนครบทุกคา และช่วยเหลอื นกั เรียนที่ทายคาศพั ทไ์ มถ่ ูกตอ้ ง
3. ให้นกั เรียนทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตวช์ นิดตา่ ง ๆ โดยครูเขียนคาเหลา่ น้ีบนกระดาน
lephaent ilno enksa sehor hfsi lweha ใหน้ ักเรียนเรียงคาใหม่ให้เป็นคาท่ีถกู ตอ้ ง และมี
ความหมาย (elephant, lion, snake, horse, fish, whale)

159

ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 25 Ex. 18 ครูสอนคาศพั ทใ์ หมใ่ นเน้ือเร่ืองทจี่ ะอ่านตอ่ ไปน้ีแกน่ กั เรียน gorilla
(ลิงกอริลลา่ ), different (แตกตา่ ง), take a walk (เดินเล่น), reptile (สตั วเ์ ล้อื ยคลาน), all over (ทวั่ ),
aquarium (พิพิธภณั ฑส์ ัตวน์ ้า), size (ขนาด), miss the chance (พลาดโอกาส) และ ticket (ตวั๋ )
โดยครูเขียนคาศพั ทเ์ หล่าน้ีบนกระดาน แลว้ ถามวา่ มใี ครรู้จกั ความหมายของคาเหลา่ น้ีบา้ งหรือไม่
ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ ซ่ึงครูอนุญาตให้หาความหมายจากพจนานุกรมภาษาองั กฤษ แลว้ ครูออก
เสียงคาศพั ทเ์ หล่าน้ีซ้าหลาย ๆ คร้งั และใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตาม
2. เมอ่ื ครูสอนคาศพั ทเ์ สร็จแลว้ ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน ใหน้ กั เรียนเดาความหมายคาที่
ขดี เส้นใต้ เช่น
Snakes and crocodiles are reptile.
There are a lot of fish, dolphin and shark at the aquarium.
ครูแตง่ ประโยคที่เก่ียวขอ้ งกบั คาศพั ทใ์ หม่คาอืน่ ๆ และใหน้ กั เรียนเดาความหมาย
3. ให้นกั เรียนอา่ นช่ือเรื่อง และช่วยกนั เดาวา่ นกั เรียนจะไดอ้ า่ นบทอา่ นเกี่ยวกบั เรื่องอะไร (London
Zoo) จากน้นั ใหน้ กั เรียนเดาว่า มีสตั วอ์ ะไรบา้ งในบทอ่าน และบนั ทกึ ไวล้ งในสมุดของตนเอง

London Zoo

London Zoo หรือชื่อเต็มว่า ZSL London Zoo เป็นสวนสตั วเ์ ชิงวิทยาศาสตร์
ทเ่ี ก่าแก่ทีส่ ุดในโลก ซ่ึงจดั ต้งั ข้นึ ในปี ค.ศ. 1828 ภายในสวนสตั วป์ ระกอบไปดว้ ยสัตว์
ชนิดต่าง ๆ กว่า 800 สายพนั ธุ์ โดยแบ่งโซนออกเป็นส่วน ๆ ไดแ้ ก่ อควาเรียม ห้องสตั ว-์
เล้อื ยคลาน สตั วอ์ อสเตรเลยี เช่น จิงโจ้ และนกอมี ู สวนเสือโคร่ง ห้องกอริลล่าและลิง
บอ่ นกเพนกวนิ ห้องแมลง ห้องนก หอ้ งสัตวก์ ลางคนื โซนแอฟริกา และห้องล่าสุดคือ
The Lemurs ท่ีเปิ ดใหค้ นเขา้ ไปอยกู่ บั ตวั ลเี มอร์ไดอ้ ยา่ งใกลช้ ิด (ลเี มอร์เป็นตวั ทอี่ ยใู่ น
หนงั เร่ือง Madagascar)

สวนสตั วแ์ ห่งน้ีต้งั อยใู่ น Regent Park ซ่ึงเป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่
ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน การเดินทางสามารถนงั่ รถไฟใตด้ ินมาลงทสี่ ถานีรถไฟ
Regent Park แลว้ เดินทะลุสวนข้ึนมา หรือจะลงที่สถานี Camden Town แลว้ เดินทะลุ
เมืองตรงมาท่ีสวน (ท้งั 2 แบบ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ในการเดินทาง) ราคาค่าตวั๋
อยทู่ ่ีคนละ 22.50 ปอนด์
ทมี่ า: http://www.yummygallery.com/london-zoo-รีวิว/

160

ข้นั Reading
1. ครูพูดสั่งว่า Open your book to page 25. ให้นกั เรียนทาตามคาสง่ั แลว้ ครูพดู ตอ่ วา่ Look at the
pictures. ให้นกั เรียนดภู าพ จากน้นั ครูถามคาถาม และใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบคาถาม เช่น What do
you see in the picture? (A gorilla and penguins.)
2. ครูอา่ นบทอ่านทีละประโยค ให้นกั เรียนฟังและอา่ นตาม ขณะเดียวกนั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนให้บอก
ความหมายของเร่ืองทอ่ี า่ นทลี ะประโยค เพอ่ื ประเมินความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั เรื่องทอี่ ่าน
3. ครูอา่ นและหยดุ อ่านประโยคตรงคาศพั ทท์ เี่ วน้ ว่างไว้ จากน้นั ให้นกั เรียนเรียงตวั อกั ษรให้เป็นคาท่ี
ถกู ตอ้ งและมีความหมาย แลว้ ให้นกั เรียนพูดคาน้นั ออกมา ครูพูดประโยคอนื่ ตอ่ โดยใชว้ ิธีการ
เดียวกนั จนจบ
4. ใหน้ กั เรียนอา่ นบทอา่ นในใจอีกคร้ัง และเขียนคาศพั ทใ์ นบทอ่านใหมใ่ หถ้ ูกตอ้ ง โดยใหน้ กั เรียน
เขียนคาลงในสมดุ ของตนเอง เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ

1. lions 2. elephants 3. zoo
4. snakes 5. fish 6. best

จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน อ่านออกเสียงให้เพอื่ นฟังและพูดคาศพั ทท์ ี่เวน้ ว่างให้สมบูรณ์ดว้ ย

ข้นั Post-reading
1. ครูถามนกั เรียนว่า ก่อนอ่านเน้ือเรื่อง ให้แตล่ ะคนเดาวา่ ในบทอา่ นมสี ัตวอ์ ะไรบา้ ง ให้ดูในสมุดที่
ตนเองบนั ทึกไว้ และบอกว่า ตนเองเดาไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ แลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ สัตวท์ อ่ี ยใู่ น
เน้ือเร่ืองมีท้งั หมด 6 ชนิด คือ สิงโต ลงิ กอริลล่า ยีราฟ ชา้ ง งู และปลา
2. ให้นกั เรียนทาชิ้นงาน คนละ 1 ชิ้นงาน โดยให้เลือกสวนสตั วใ์ นประเทศทีต่ นเองชอบมา 1 แห่ง
และเขียนประโยคบรรยายส้ัน ๆ เกี่ยวกบั สวนสตั วน์ ้นั พร้อมกบั หาภาพจากนิตยสาร มาติดประกอบ
ใหส้ วยงาม ใหน้ กั เรียนใชป้ ระโยคดา้ นลา่ ง เป็นรูปแบบในการเขยี น

Come and visit …………… . There are a lot of beautiful animals at the zoo.
……………………………………………….......………………… .
……………………………………………….......………………… .
Don’t miss the chance to see the animals. Buy a ticket today!

161

Come and visit Chiangmai Zoo. There are a lot of beautiful animals at the zoo:
cheetahs, lions, elephants, pandas and giraffes.
Don’t miss the chance to see the animals. Buy a ticket today!

3. ครูใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หม่ทเ่ี รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมุด
คาศพั ท์

4. ให้ทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 21 Ex. 15 เป็นการบา้ น

1. A 2. B 3. B 4. A 5. B

7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วิธกี ารวดั
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบประเมนิ การอา่ น ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
การอา่ น
ประเมินการอ่านออกเสียงเร่ือง แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ท่อี า่ น
ประเมินช้ินงานเก่ียวกบั สวน แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สตั วท์ ช่ี อบ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหัด ประสงค์
สงั เกตพฤตกิ รรมใฝ่ เรียนรู้
มุง่ มนั่ ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.4 ภาพประกอบการทากิจกรรม
8.5 พจนานุกรมภาษาองั กฤษ

162

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 ASEAN animals

เวลา 2 ชั่วโมง

จุดประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ASEAN animals ได้
- ตอบคาถามจากการอ่านได้
- เขยี นบรรยายเกี่ยวกบั สตั วท์ ก่ี าลงั จะสูญพนั ธุไ์ ด้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็

อย่างมีเหตผุ ล

ตวั ชี้วดั

ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย

ทีอ่ ่าน

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา นิทานง่าย ๆ

และเรื่องเลา่

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ัด

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

ต 1.2 ป. 6/5 พดู /เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเอง เก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมต่าง ๆ

พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้ัน ๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชี้วดั

ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/2 เขยี นภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทฟ่ี ังหรืออ่าน

ต 1.3 ป. 6/3 พดู /เขยี นแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

163

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชี้วดั

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตัวชีว้ ัด

ต 2.2 ป. 6/1 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค

ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ต 2.2 ป. 6/2 เปรียบเทยี บความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างเทศกาล งานฉลอง และประเพณี

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น

พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

ตัวชี้วัด

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งการเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ ที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กับสังคมโลก

ตัวชีว้ ดั

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การอา่ นบทอ่านเกี่ยวกบั ประเทศเพอ่ื นบา้ น เป็นการพฒั นาทกั ษะการอ่าน ทาใหเ้ กิดการเรียนรู้ การ

เขา้ ใจวฒั นธรรมของชาติอนื่ และอยใู่ นสังคมโลกอยา่ งมีความสุข

164

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: giant catfish, hog-nosed bat, algae, insect, cave, extinct

Structure: Mekong giant catfish live in the Mekong River, mostly between

Laos and Cambodia. They are the largest freshwater fish in the world.

They eat plants, algae and the remainmes of dead animals.

Kitti’s hog-nosed bats or “bumblebee bats” are the smallest bats

in the world. They live in caves in western Thailand. They eat small

insects.

Function: describing catfish and bat

Pronunciation: stress and intonation

2) Language Skills

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

Writing: เขียนประโยคบรรยายส้นั ๆ เกี่ยวกบั สตั วท์ ่กี าลงั จะสูญพนั ธุ์

3) Culture: ASEAN animals

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm Up
1. ครูและนกั เรียนกล่าวทกั ทายกนั

165

2. ใหน้ กั เรียนแบง่ เป็น 2 กลมุ่ เพ่อื เลน่ เกมทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั ว์ เช่น elephant, cow, chicken,
sheep, cheetah, hippo, panda, duck และ goat เป็นตน้ ดว้ ยการใหน้ กั เรียนเลน่ เกม What’s missing?
โดยครูนาบตั รภาพเกี่ยวกบั สตั ว์ มาตดิ บนกระดาน คร้ังละ 5 ภาพ ให้นกั เรียนหลบั ตาและนบั 1-5
เป็นภาษาองั กฤษ ระหว่างท่หี ลบั ตา ครูนาบตั รภาพออก 1 ใบ แลว้ ใหน้ กั เรียนท้งั ช้นั ลืมตาและบอก
ว่าภาพหรือคาใดหายไป กล่มุ ใดบอกไดถ้ ูกตอ้ ง จะได้ 1 คะแนน ให้นกั เรียนทากิจกรรมน้ีจน
นกั เรียนจาคาศพั ทไ์ ด้

ข้นั Pre-reading
1. ครูนาเสนอเกี่ยวกบั คาศพั ทใ์ หมท่ ่ีอยใู่ นบทอา่ นแกน่ กั เรียน ไดแ้ ก่คาวา่ giant catfish (ปลาบึก),
hog-nosed bat (คา้ งคาวคุณกิตติ), algae (สาหร่าย), insect (แมลง) และ cave (ถ้า) โดยครูแสดง
บตั รภาพให้นกั เรียนดูทลี ะภาพ และออกเสียงคาศพั ทแ์ ตล่ ะคาใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ให้ออกเสียงตาม
ครูให้นกั เรียนออกเสียงเนน้ หนกั ในคาให้ถูกตอ้ งดว้ ย
giant catfish hog-nosed bat algae insect cave
2. ครูพูดและเขยี นประโยคตอ่ ไปน้ีบนกระดาน ให้นกั เรียนอา่ นและช่วยกนั เดาความหมายของคาศพั ท์
ที่ครูขดี เส้นใตต้ ่อไปน้ี
- Ants, bees and mosquitoes are insects.
- There aren’t any dinosaurs in this world. They are extinct.
โดยใหน้ กั เรียนออกมาเขยี นความหมายของคาศพั ทท์ ้งั 2 บนกระดาน ใหน้ กั เรียนเดาความหมายจาก
ประโยคบริบทท่ีอยดู่ า้ นหนา้ เสร็จแลว้ ครูจึงเฉลยให้นกั เรียนฟัง ว่า insect คอื แมลง และ extinct
แปลวา่ สูญพนั ธุ์
3. ครูนาภาพปลาบึก และคา้ งคาวคณุ กิตตมิ าแสดงให้นกั เรียนดู แลว้ ถามนกั เรียนว่า รู้จกั สัตวท์ ้งั 2 ชนิด
หรือไม่ ถา้ รู้จกั ครูใหน้ กั เรียนอธิบาย แลว้ ครูอธิบายเพิ่มเตมิ ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น้ี

Mekong giant catfish (ปลาบกึ )
ปลาบกึ เป็นปลาน้าจืดขนาดใหญช่ นิดหน่ึง ไม่มีเกลด็ อาศยั อยใู่ นแม่น้าโขง

ต้งั แตป่ ระเทศจีน ลาว พม่า และไทย เรื่อยมาตลอดความยาวของแม่น้า รวมไปถงึ แควสาขา
ต่าง ๆ ปลาบึกเป็นปลาท่ีเสี่ยงต่อการสูญพนั ธุ์ เน่ืองจากการจบั ปลามากเกินไป คณุ ภาพน้า
ทีแ่ ยล่ งจากการพฒั นา และการสร้างเขือ่ นบริเวณตน้ น้า ปัจจบุ นั ปลาบกึ ถูกจดั อยใู่ นกลมุ่ ปลา
ทเี่ สี่ยงต่อการสูญพนั ธุ์
ท่ีมา: https://th.wikipedia.org/wiki/ปลาบึก

166

Kitti’s hog-nosed bat (ค้างคาวคุณกิตติ, ค้างคาวกติ ติ หรือค้างคาวหน้าหม)ู
เป็นคา้ งคาวท่จี ดั อยใู่ นสภาวะเสี่ยงตอ่ การสูญพนั ธุ์ และเป็นคา้ งคาวชนิดเดียว

ที่อยใู่ นวงศ์ Craseonycteridae และสกุล Craseonycteris พบไดท้ างตะวนั ตกของประเทศไทย
และทางตะวนั ออกเฉียงใตข้ องประเทศพมา่ อาศยั อยตู่ ามถ้าหินปนู หรือริมแม่น้า

คา้ งคาวคณุ กิตตเิ ป็นคา้ งคาวและสัตวเ์ ล้ยี งลกู ดว้ ยนมทม่ี ีขนาดเลก็ ทส่ี ุดในโลก
มีสีน้าตาลปนแดงเรื่อ ๆ หรือสีเทา มจี มูกคลา้ ยจมกู หมู มีอปุ นิสัยชอบอยรู่ วมกนั เป็นกล่มุ
เฉลยี่ แลว้ กลมุ่ ละ 100 ตวั ต่อถ้า ออกหากินเป็นช่วงส้ัน ๆ ในตอนเยน็ และเชา้ มืด หากินไม่ไกล
จากถ้าท่ีพกั อาศยั กินแมลงเป็นอาหาร และตกลูกปีละหน่ึงตวั

สภาวะของคา้ งคาวคุณกิตตใิ นประเทศพมา่ ไม่เป็นทีแ่ น่ชดั และประชากรทพี่ บ
ในประเทศไทยก็พบว่าจากดั อยใู่ นเพียงจงั หวดั เดียว ทาให้คา้ งคาวคณุ กิตตอิ ยใู่ นสภาวะที่เสี่ยง
ต่อการสูญพนั ธุ์ สาเหตหุ ลกั เกิดจากการคกุ คามจากมนุษย์ และการลดลงของถน่ิ ทอ่ี ยอู่ าศยั
ท่มี า: https://th.wikipedia.org/wiki/ค้างคาวคุณกิตติ

ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 26 Welcome to ASEAN countries 2 ครูพดู วา่ Open your book to page 26.
ใหน้ กั เรียนทาตามคาสัง่ แลว้ ครูอ่านให้นกั เรียนฟังกอ่ นในรอบแรก แลว้ ให้นกั เรียนดูตามทีละ
ประโยค ครูอา่ นใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้ัง คร้งั น้ีให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตามครูดว้ ย แลว้ ใหน้ กั เรียน
จบั คู่กนั ผลดั กนั อ่านคนละประโยค พร้อมกบั ช่วยกนั บอกความหมายของประโยคทอ่ี า่ น

ข้นั Post-reading
ให้นกั เรียนอา่ นเน้ือเร่ืองในหนงั สือเรียน หนา้ 26 อกี คร้งั จากน้นั ให้แต่ละคนแตง่ ประโยคเก่ียวกบั
สตั วท์ ่เี ป็นทส่ี ุด โดยหาขอ้ มูลในอนิ เทอร์เนต็ พร้อมอธิบาย แลว้ ออกมาพดู ใหเ้ พือ่ นฟังทหี่ นา้ ช้นั

ช่ัวโมงที่ 2

ข้นั Warm Up
ครูทกั ทายนกั เรียน จากน้นั ใหอ้ าสาสมคั รออกมาพูดให้เพ่อื นในช้นั ฟังเก่ียวกบั สัตวท์ เ่ี ป็นท่ีสุด
โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ออกมาพูดหนา้ ช้นั

ข้นั Presentation
ครูเขียนประโยคถาม-ตอบเก่ียวกบั สตั วท์ ี่เป็นทส่ี ุด ใหน้ กั เรียนดบู นกระดาน แลว้ ให้นกั เรียน 1 คน
ออกมาพูดถาม-ตอบเป็นตวั อยา่ งให้เพ่อื นในช้นั ฟัง เช่น
T: What animals are the largest freshwater fish in the world?
S1: Mekong giant catfish are the largest freshwater fish in the world.

167

ครูและนกั เรียนพูดสนทนาซ้า 2-3 คร้งั ใหน้ กั เรียนในช้นั จบั คูก่ นั สนทนาเกี่ยวกบั สัตวช์ นิดอืน่ ๆ
จนคล่อง

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 27 Ex. 1 ใหน้ กั เรียนอา่ นบทอ่านในใจอีกคร้ัง และวาดกรอบขอ้ มลู ตามใน
หนงั สือเรียนลงในสมุดของตนเอง จากน้นั เติมขอ้ มลู ทอี่ า่ นลงใน fact file ตามบทอ่านทน่ี กั เรียน
ไดอ้ ่าน เมอ่ื นกั เรียนทาเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

Mekong Giant Catfish Kitti’s Hog-Nosed Bat

Country: Laos and Cambodia Country: Thailand

Length: about 3 metres Length: about 1 inch

Weight: about 300 kilogrammes Weight: about 2 grammes

Food: plants, algae, the remainmes of Food: small insects

dead animals

2. หนงั สือเรยี น หน้า 27 Ex. 2 ให้นกั เรียนอา่ นบทอ่านอกี คร้ัง และทาแบบฝึกหดั ลงในสมุดของตนเอง
โดยใชค้ าท่กี าหนดให้ในวงเล็บ และเปลี่ยนเป็น comapartive หรือ superlative degree ให้สอดคลอ้ ง
กบั ประโยคที่กาหนดให้ เสร็จแลว้ ให้ช่วยกนั ตรวจคาตอบ

1. larger 2. shorter 3. largest 4. smaller 5. smallest

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 27 Ex. 3 ให้นกั เรียนสนทนากนั เกี่ยวกบั สตั วท์ ีก่ าลงั จะสูญพนั ธุ์ ให้นกั เรียนจบั คู่
กนั ทากิจกรรมน้ี โดยให้นกั เรียนสืบคน้ รายช่ือสัตวท์ ส่ี ูญพนั ธุ์แลว้ และกาลงั จะสูญพนั ธุ์ จากเวบ็ ไซต์
ทก่ี าหนด คือ www.ducksters.com/animals/how_animals_become_extinct.php
http://www.oum.ox.ac.uk/thezone/animals/extinct/
และเขียนประโยคบรรยายส้ัน ๆ เก่ียวกบั สัตวท์ ่กี าลงั จะสูญพนั ธุ์ โดยใชข้ อ้ ความตามทก่ี าหนดให้
ตอ่ ไปน้ี

Some wild animals are becoming extinct. We should help protect them.
Those animals are ………………………………………………….....................

168

Some wild animals are becoming extinct. We should help protect them.
Those animals are pandas, rhinos, tigers and blue whales.
2. ครูให้นกั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หมท่ ่เี รียนในชว่ั โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมุดคาศพั ท์
3. เม่อื เรียนจบหน่วยน้ีแลว้ ครูให้นกั เรียนทาแบบฝึ กหดั หน้า 22-23 Exs. 1-7 Modular Revision and
Assessment 2

Ex. 1

Ex. 2 2. a 3. f
1. d 5. b
4. e
Ex. 3 2. the happiest 3. shorter
1. taller 5. fatter
4. the oldest
Ex. 4 2. b 3. a 4. a
1. b หอยทากสีชมพู
Ex. 5 หนูสีส้ม เป็ดสีเหลอื ง
แกะสีแดง

169

Ex. 6

1. are 2. leaves 3. for
6. our
4. animals 5. aren’t
2. They usually eat leaves and bamboo.
Ex. 7

1. They are black and white.

3. They usually live for thirty years.

(Ex. 5) Listen and look. There is one example.
Narrator: Can you see the bird?
Female: Yes. What colour is it?
Male: The bird is red.
Female: A red bird?
Male: Yes. Colour the bird red.
Female: OK! A red bird.
Male: Can you see the bird? Now, you listen and colour.
Narrator:
Now look at the snail.
One Yes. OK.
Female: Colour it pink.
Male: A pink snail?
Female: Yes!
Male: A pink snail. That’s funny!
Female:
Male: Can you see the mouse?
Yes, I can.
Two OK. Colour it orange.
Female: That’s easy! An orange mouse!
Male:
Female:
Male:

170

Three Look at the sheep!
Female: Yes. What colour is the sheep?
Male: Red.
Female: Red?
Male: That’s right.
Female: OK! A red sheep.
Male:
Can you see the duck?
Four Yes. What colour is it?
Female: It’s yellow.
Male: Sorry?
Female: The duck is yellow.
Male: OK!
Female:
Male:

7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธกี ารวดั แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
แบบฝึ กหดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์
ตรวจการตอบคาถามจาก แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
การอา่ น
ประเมินการเขียนบรรยาย แบบฝึกหัด (Workbook)/ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เกี่ยวกบั สัตวท์ ีก่ าลงั จะสูญพนั ธุ์ แบบทดสอบ
ตรวจแบบฝึกหดั /แบบทดสอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ประสงค์
สงั เกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มน่ั ในการ
ทางาน

171

8. สื่อแหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์
8.5 อินเทอร์เน็ต

172

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 CLIL 2 What Do They Eat?

เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สัตวแ์ ละประเภทของสตั วไ์ ด้
- แยกแยะประเภทของสัตวต์ ามประโยคท่ีฟังได้
- พดู ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ประเภทของสตั วช์ นิดต่าง ๆ ได้
- ทาโปสเตอร์นาเสนอเก่ียวกบั ประเภทของสัตวช์ นิดต่าง ๆ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตผุ ล

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมาย

ทอ่ี า่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วดั

ต 1.2 ป. 6/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

ตัวชี้วัด

ต 1.3 ป. 6/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/2 เขยี นภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มลู ต่าง ๆ ทฟี่ ังหรืออา่ น

สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็ น

พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

173

ตัวชีว้ ดั

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ เี่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อืน่ จากแหลง่ การเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปล่ียนเรยี นรู้กบั สังคมโลก

ตวั ชีว้ ดั

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจความหมายของสตั วป์ ระเภทต่าง ๆ และโครงสร้างประโยค ช่วยให้ใช้

ภาษาองั กฤษในการแยกแยะประเภทของสตั ว์ และเช่ือมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาอน่ื และเขียน
ส่ือสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้

3.1ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: herbivore, carnivore, omnivore

Structure: Herbivores are animals that eat plants.

Carnivores are animals that eat meat.

Omnivores are animals that eat plants and meat.

Function: talking about animal classification

2) Language Skills

Listening: แยกแยะประเภทของสัตวต์ ามประโยคทฟ่ี ัง

Speaking: พูดขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ประเภทของสตั วช์ นิดตา่ ง ๆ

174

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ ทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร
- ทกั ษะการจดั กลุ่ม
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 5.2 ม่งุ มน่ั ในการทางาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวคาทกั ทายกบั นกั เรียนในช้นั
2. ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สตั วโ์ ดยแสดงบตั รภาพสัตวต์ ่าง ๆ แก่นกั เรียน โดยครูชูบตั รภาพข้นึ มา
และใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ท์ พร้อมกบั สะกด และบอกความหมายดว้ ย หากนกั เรียนสะกด
และบอกความหมายไมถ่ ูกตอ้ ง ครูพลกิ บตั รคาดา้ นหลงั ให้นกั เรียนดูคาศพั ท์ เพือ่ เป็นการเฉลย
3. นาเขา้ สู่บทเรียนโดยแสดงภาพสัตวใ์ ห้นกั เรียนดู พร้อมกบั ถามวา่ Who eats meat? ให้นกั เรียนตอบ
แลว้ ครูแสดงภาพผกั ให้นกั เรียนดู พร้อมกบั ถามนกั เรียนในช้นั ว่า Who eats vegetables? ใหน้ กั เรียน
ในช้นั ตอบ จากน้นั ครูถามวา่ นกั เรียนทราบหรือไม่วา่ สตั วช์ นิดใดกินเน้ือ สัตวช์ นิดใดกินพชื และ
สัตวช์ นิดใดกินท้งั เน้ือและพชื ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ และครูเขยี นคาตอบเหล่าน้นั บนกระดาน
Animals that eat meat: tiger, lion, cat, dog, etc
Animals that eat plants: rabbit, sheep, cow, horse, etc
Animals that eat both meat and plants: bear, fox, etc

ปัจจัยทางชีวภาพ หมายถงึ สภาพแวดลอ้ มทีม่ ีชีวติ ซ่ึงกค็ ือ กลุม่ สิ่งมชี ีวติ นน่ั เอง
สิ่งมชี ีวติ ในระบบนิเวศมบี ทบาทที่แตกต่างกนั สามารถจาแนกออกเป็น 3 กล่มุ ไดแ้ ก่
1. ผผู้ ลิต – ส่ิงมชี ีวิตทส่ี ร้างอาหารไดเ้ องตามธรรมชาติ
2. ผบู้ ริโภค – ส่ิงมีชีวิตทีส่ ร้างอาหารเองไม่ได้ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดงั น้ี

175

- ผบู้ ริโภคพืช (herbivore) หมายถงึ ส่ิงมีชีวิตที่กินพืชเป็นอาหาร จดั เป็นผบู้ ริโภคลาดบั
ที่ 1 เพราะไดร้ บั การถ่ายทอดพลงั งานจากพชื โดยตรง เช่น ววั ควาย กระตา่ ย หนอน
ตกั๊ แตน ฯลฯ

- ผบู้ ริโภคเน้ือ (carnivore) หมายถงึ ส่ิงมีชีวิตท่ีกินเน้ือสตั วเ์ ป็นอาหาร เช่น เสือ สิงโต
งู ฯลฯ

- ผูบ้ ริโภคท้งั พชื และเน้ือ (omnivore) หมายถงึ สิ่งมชี ีวติ ท่กี ินท้งั พชื และสัตวเ์ ป็นอาหาร
เช่น มนุษย์ ไก่ เป็ด ฯลฯ

- ผบู้ ริโภคซากพืชซากสัตว์ (scavenger) หมายถงึ ส่ิงมชี ีวติ ท่กี ินซากพืชซากสัตว์
ท่ีเน่าเป่ื อยผพุ งั เป็นอาหาร เช่น นกแร้ง ไส้เดือนดิน กิ้งกือ ปลวก เป็นตน้

3. ผยู้ อ่ ยสลายอินทรียสาร – สิ่งมชี ีวิตทส่ี ร้างอาหารเองไมไ่ ด้ ดารงชีวติ โดยการหลงั่ เอนไซม์
ออกมายอ่ ยสลายซากพชื ซากสัตว์ กลายเป็นอนิ ทรียสาร โมเลกุลเลก็ ๆ แลว้ ดูดซึมเขา้ สู่
เซลล์ เพอื่ ใชป้ ระโยชนต์ ่อไป เช่น เห็ดรา แบคทีเรีย เป็นตน้

ทม่ี า: http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type1/science03/19/biodiversity/
web/topic10.html

ข้นั Presentation
1. ให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือ ครูเขียนคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน shark, frog, lion และ crocodile จากน้นั ถาม
วา่ What do these animals eat? ให้นกั เรียนช่วยกนั ระดมสมองและหาคาตอบ They eat meat. ครูพูด
และเขียนประโยคบนกระดาน These animals eat meat. They are carnivores. ให้นกั เรียนพูดตาม
2. ครูเขียนคาตอ่ ไปน้ีบนกระดาน sheep, horse, rabbit, zebra และ deer จากน้นั ถามวา่ What do these
animals eat? ให้นกั เรียนระดมสมองและหาคาตอบ They eat plants. ครูพูดและเขยี นประโยคบน
กระดาน These animals eat plants. They are herbivores. ให้นกั เรียนพดู ตาม
3. ครูเขยี นคาต่อไปน้ีบนกระดาน fox, hedgehog, bear และ raccoon จากน้นั ถามว่า What do these
animals eat? ให้นกั เรียนระดมสมองและช่วยกนั หาคาตอบ They eat plants and meat. ครูพูดและ
เขยี นประโยคบนกระดาน These animals eat plants and meats. They are omnivores. ให้นกั เรียน
พดู ตาม
4. ครูพูดว่า Open your book to page 66. ให้นกั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหดั หน้า 66 Ex 1. ใหน้ กั เรียนดูภาพ
และขดี ✓ ลงในตารางท่ีกาหนดว่า สตั วแ์ ต่ละชนิดอยใู่ นประเภทใด เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟังเพ่อื ตรวจคาตอบ

176

A rabbit is a herbivore.
A dolphin is a carnivore.
A bear is an omnivore.
A fox is an omnivore.
A cow is a herbivore.
A dog is a carnivore.
A tiger is a carnivore.
An elephant is a herbivore.

1. rabbit: herbivore 2. dolphin: carnivore
3. bear: omnivore 4. fox: omnivore
5. cow: herbivore 6. dog: carnivore
7. tiger: carnivore 8. elephant: herbivore

ข้นั Practice
1. ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึ กหดั หน้า 67 Ex. 2 ให้นกั เรียนวงรอบภาพอาหารตามทีส่ ตั วแ์ ตล่ ะชนิดกินให้
ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ให้ช่วยกนั เฉลยคาตอบ

Food items to be circled: 2. cow - grass
1. rabbit - lettuce 4. tiger - meat
3. dolphin - fish 6. horse – apple
5. elephant - nuts

2. ตอ่ มาให้นกั เรียนดภู าพกระตา่ ย แลว้ พดู ว่า A rabbit eats lettuce. It is a herbivore. ใหน้ กั เรียนพูด

ตาม จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนพดู ประโยค จนครบทุกภาพ แลว้ ครูเขียนประโยคทน่ี กั เรียนพูดลง

บนกระดาน ดงั น้ี

A cow eats grass. It is a herbivore. A dolphin eats fish. It is a carnivore.

177

A tiger eats meat. It is a carnivore. An elephant eats nuts. It is a herbivore.
A horse eats apples. It is a herbivore.

ข้นั Production
1. ให้นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ให้แตล่ ะคนเขยี นคาศพั ทท์ เี่ ก่ียวกบั สัตวล์ งในกระดาษ จากน้นั แสดงบตั ร
คาศพั ทท์ ี่ตนเขียนให้เพ่อื นดู และใหเ้ พื่อนตอบวา่ เป็นสัตวป์ ระเภทใด เช่น
S1: (แสดงบตั รคาศพั ท์ snake)
S2: It is a carnivore. It eats plants.
S1: Right. Now it’s your turn.
S2: (แสดงบตั รคาศพั ท์ horse)
S1: …………..
2. แบบฝึ กหัด หน้า 67 Project Time ครูพูดวา่ Open your book to page 67. ใหน้ กั เรียนทาตามคาส่งั
และครูอธิบายภาระงานให้นกั เรียนฟังวา่ ใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็น 3 กลมุ่ คือ กลมุ่ herbivores,
กล่มุ carnivores และกลมุ่ omnivores จากน้นั ให้แต่ละกลมุ่ ทาโปสเตอร์เกี่ยวกบั ชนิดของสัตวท์ ี่
ไดร้ ับมอบหมายมา 3 ชนิด พร้อมกบั ตกแต่งใหส้ วยงาม เม่อื ทาเสร็จแลว้ ให้แต่ละกล่มุ นาผลงาน
ออกมาแสดงหนา้ ช้นั และพดู บรรยายเก่ียวกบั ภาพท่วี าดดว้ ย เช่น A panda, a chick and a cow are
herbivores. They eat plants. A panda eats bamboo, a chick eats rice and a cow eats grass. เป็นตน้
3. ครูให้นกั เรียนบนั ทึกคาศพั ทใ์ หม่ท่เี รียนในชวั่ โมงน้ี พร้อมกบั บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์

7. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
วธิ ีการวดั แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์
ประเมนิ การพูดขอและให้ขอ้ มูล แบบประเมินชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เก่ียวกบั ประเภทของสตั วช์ นิด
ต่าง ๆ แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมินช้ินงานการทาโปสเตอร์ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เกี่ยวกบั ชนิดของสัตว์ ประสงค์
ตรวจแบบฝึ กหดั
สงั เกตพฤติกรรมบ่งช้ีดา้ น
ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มนั่ ในการ
ทางาน

178

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 อุปกรณก์ ารทาชิ้นงาน
8.4 บตั รภาพ/บตั รคาศพั ท์

179

3 A Sore Throat

ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง

1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมเี หตุผล

ตัวชี้วัด

ต 1.1 ป. 6/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่ คาขอร้อง และคาแนะนาทฟี่ ังและอา่ น

ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมาย

ที่อา่ น

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ

และเร่ืองเลา่

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป. 6/1 พูด/เขยี นโตต้ อบในการส่ือสารระหว่างบคุ คล

ต 1.2 ป. 6/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง คาขออนญุ าต และใหค้ าแนะนา

ต 1.2 ป. 6/3 พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการใหค้ วาม

ช่วยเหลือในสถานการณ์ง่าย ๆ

ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอื่ น ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ วั

ต 1.2 ป. 6/5 พดู /เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมตา่ ง ๆ

พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบ

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ

โดยการพดู และการเขยี น

180

ตวั ชี้วัด

ต 1.3 ป. 6/1 พูด/เขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/2 เขียนภาพ แผนผงั แผนภมู ิ และตารางแสดงขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ท่ีฟังหรืออ่าน

ต 1.3 ป. 6/3 พดู /เขียนแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชี้วดั

ต 2.1 ป. 6/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 6/2 ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ตัวชีว้ ัด

ต 2.2 ป. 6/1 บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ ง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค

ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น

พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตวั ชีว้ ัด

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ จากแหลง่ การเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กับสังคมโลก

181

ตัวชี้วดั
ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่าง ๆ

2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจเรื่องท่ีไดศ้ กึ ษา คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา หลกั วิธีการเขียน ช่วยให้

สนทนา โตต้ อบ พูด/เขยี นส่ือสารเก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพ ท้งั การบอกอาการไมส่ บายและแนะนาวธิ ีการรักษา
กฎที่ควรปฏิบตั ิต่าง ๆ และกฎจราจร ความปลอดภยั บนทอ้ งถนน ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม เป็นทกั ษะ
สาคญั ทส่ี ามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: sore throat, cough, headache, toothache, stomach ache, a cold,

put on, take off

temperature, medicine, aspirin, sweets, hurt, chest, throat

feel, ill, pyjamas

road safety, dangerous, traffic, between, zebra crossing, hurry, work,

important, exercise, unfortunately, helmet, bright, highway code,

just, cycling lanes

basil, ginger, ginkgo, lemongrass

cooperate, share, include, take care of, classmate, be kind, respect,

one another

Structure: What’s the matter? I’ve got a sore throat.

I’ve got a cold! I should go to the doctor.

Oh, my throat hurts.

You must be quiet! We mustn’t eat in class.

What’s the matter? I’ve got a sore throat. You should go to bed.

You mustn’t play in here. You must be quit.

Dear Wendy, I’m sorry you feel ill. You should eat a lot of fruit and

vegetables and drink a lot of orange juice. I hope you feel better soon.

What’s the matter? I feel ill! You must see a doctor. Get well soon!

182

Pronunciation: A lot of children in Britain ride their bikes to school.
Function: But often, the streets in their towns are very dangerous.
What do you normally do when you are sick?
2) Language Skills In ASEAN countries, herbs are easy to find and they are cheap.
Listening: Besides basil, there are a lot of herbs that can help stay in good health.
Speaking: For example, ginger, ginkgo and lemongrass.
We should cooperate with one another.
We should raise our hands to speak.
We should share.
We should keep our classroom clean and tidy.
We should include everyone.
We should take care of our school things.
We should listen to our teacher and classmates when they speak.
We should be kind and respect one another.
Word stress, intonation
K sound spelt ch
Describing about illness/health problems, herbs in ASEAN countries
and rules
Asking and answering about illness/health problems, class rules
Giving advice and obligation
Telling one’s health problem
Expressing obligation and necessity of prohibition
Using must/musn’t

ฟังเพ่อื ความเขา้ ใจ, ตอบคาถามจากการฟัง, ฟังเพ่ือหาขอ้ มลู จาเพาะ
พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั ปัญหาสุขภาพ, กฎต่าง ๆ และการขบั ข่รี ถยนต์
วิเคราะห์และพดู โครงสร้างประโยคท่ีใช้ should และ must/mustn’t
พดู ประโยคเก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพและคาแนะนาเกี่ยวกบั สุขภาพ
ใหค้ าแนะนาเก่ียวกบั อาหารทคี่ วรรบั ประทานเมื่อมปี ัญหาสุขภาพ
ออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เร่ืองที่อา่ น
พูดสนทนาเก่ียวกบั อาหารและการปฏบิ ตั ิตวั เมื่อไม่สบาย และสิ่งที่

183

Reading: ตอ้ งทาหรือตอ้ งไม่ทาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
Writing: บอกขอ้ ควรปฏบิ ตั ิและความจาเป็นของขอ้ ห้าม
ร้องเพลงทางภาษา
3) Culture: พดู สนทนาเกี่ยวกบั กฎและประโยคตา่ ง ๆ ท่ใี ชใ้ นช้นั เรียน
อ่านเพื่อความเขา้ ใจ, ตอบคาถามจากการอา่ น, อ่านเพ่อื หาขอ้ มลู จาเพาะ
เขียนประโยคเก่ียวกบั ปัญหาและคาแนะนาเกี่ยวกบั สุขภาพ
เขียนสิ่งท่คี วรทาเพื่อป้องกนั ความเจบ็ ป่ วย
เขียนประโยค วลี หรือคา ทีค่ วรทาและไมค่ วรทาเมอื่ เราไม่สบาย
เขียนจดหมายแนะนาการปฏบิ ตั ิตวั เมอ่ื ไมส่ บายได้
เขียนเน้ือเพลงเก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพ
วเิ คราะห์เรื่องทอ่ี ่าน และนามาเขียนเป็นผงั ความคดิ
herbs in ASEAN countries
การเปรียบเทียบการขบั ขี่ระหว่างของไทยและขององั กฤษ

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ ทใ่ี ชใ้ นการส่ือสาร
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มีวินยั
5.3 มุง่ มนั่ ในการทางาน

6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ประเมินการพูดถาม-ตอบเก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพ และกฎการขบั ขร่ี ถยนต์
2. ประเมนิ การพดู แนะนาเก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพ และอาหารที่ควรรับประทานเมือ่ มปี ัญหาทางสุขภาพ
3. ประเมนิ การพดู โครงสร้างประโยคท่ใี ช้ should และส่ิงท่ีควรทาและไมค่ วรทาเม่อื เราไมส่ บาย
4. ประเมนิ การพูดสนทนาเกี่ยวกบั อาหาร, การปฏิบตั ิตวั เม่อื ไมส่ บาย และเก่ียวกบั กฎในห้องเรียน

184

5. ประเมนิ การเขียนจดหมาย, การเขียนแนะนาการปฏิบตั ติ น, สิ่งท่นี กั เรียนควรทาเพ่ือป้องกนั ความ
เจ็บป่ วย, เน้ือเพลงเกี่ยวกบั ปัญหาสุขภาพ และการทา mind map

6. ประเมนิ ช้ินงาน Food with High Vitamin C, ป้ายเตือนเกี่ยวกบั กฎตา่ ง ๆ ในช้นั เรียน, กฎการขบั ข่ี
รถยนต์ และการออกแบบรางวลั

7. ประเมินการแสดงบทบาทสมมติ
8. สังเกตการออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ ในบทเรียน
9. สังเกตการร้องเพลง และเลน่ เกมทางภาษา
10. ตรวจการตอบคาถามจากการฟังและอ่าน
11. ตรวจแบบฝึกหัด/แบบทดสอบ/สมดุ คาศพั ท์
12. สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ นใฝ่เรียนรู้ มวี ินยั และมุ่งมนั่ ในการทางาน

7 การวดั และประเมินผล
7.1 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ทาแบบฝึกหัดในหนงั สือเรียน
- ทาแบบฝึกหดั ใน Workbook
7.2 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินช้ินงานในขอ้ 6

8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหดั EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.4 บตั รภาพ/บตั รคา
8.5 บตั ร Story Cutouts
8.6 กระดาษ A4
8.7 ดินสอสี
8.8 อุปกรณ์การทาช้ินงาน
8.9 สมดุ คาศพั ท์
8.10 อนิ เทอร์เน็ต

185

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 A Sore Throat!

เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพได้
- ฟังและอา่ นเพอ่ื ความเขา้ ใจได้
- ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ปัญหาสุขภาพได้
- รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี รียนท้งั หมดได้

1. สาระมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตุผล

ตวั ชี้วดั

ต 1.1 ป. 6/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาทฟี่ ังและอ่าน

ต 1.1 ป. 6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 6/3 เลือก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมาย

ที่อา่ น

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ดั

ต 1.2 ป. 6/1 พูด/เขียนโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล

ต 1.2 ป. 6/2 ใชค้ าสง่ั คาขอร้อง คาขออนญุ าต และใหค้ าแนะนา

ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขียนเพ่อื ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชี้วดั

ต 2.1 ป. 6/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

186

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตวั ชี้วดั

ต 2.2 ป. 6/1 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค

ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การถามและตอบเกี่ยวกบั ปัญหาสุขภาพ เป็นทกั ษะสาคญั ทสี่ ามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: sore throat, cough, headache, toothache, stomach ache, a cold, put on,

take off

Structure: What’s the matter? I’ve got a sore throat.

Pronunciation: Word stress

Function: Describing, asking and answering about illness/health problems

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ ความเขา้ ใจ

Speaking: ถาม-ตอบเกี่ยวกบั ปัญหาสุขภาพ

Reading: อา่ นเพอ่ื ความเขา้ ใจ

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

187

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มีวินยั
5.3 มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน
2. ครูทบทวน parts of the body โดยใชค้ าสง่ั Point to your... . Show me your... . และ
Touch your … . ตวั อยา่ ง เช่น
T: Point to your head.
Class: (ช้ีท่ีศรี ษะ) etc.

ข้นั Presentation

1. หนงั สือเรียน หน้า 28 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน จากน้นั ใหน้ กั เรียนดภู าพคนเจบ็ คอ

พร้อมกบั พดู วา่ sore throat และเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู ตาม ครูนาเสนอ

คาศพั ท์ cough, headache, toothache, stomach ache และ cold ทลี ะภาพ ดว้ ยวิธีการเดียวกนั

ตอ่ จากน้นั ครูนาเสนอคาศพั ท์ put on และ take off โดยการแสดงท่าทาง

2. ครูอา่ นและอธิบายคาสัง่ ในหนงั สือเรียนหนา้ เดิม แลว้ เปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง และใหน้ กั เรียนพดู

ตามพร้อมกบั ช้ีทรี่ ูปภาพไปดว้ ย

3. ครูให้นกั เรียนฟัง CD อีกคร้งั แต่คร้งั น้ีให้หยดุ CD หลงั คาแตล่ ะคา เพือ่ ใหน้ กั เรียนฟังและพูดตาม

ในขณะทนี่ กั เรียนพดู ครูตรวจสอบการออกเสียงให้ถกู ตอ้ ง โดยให้นกั เรียน stress คาใหถ้ กู พยางค์

(cough, headache, toothache, stomach ache, cold, put on, take off)

4. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน โดยแสดงท่าทางไมส่ บาย แลว้ ให้นกั เรียนพูดคาศพั ท์

ประกอบท่าทางทค่ี รูแสดง เช่น

T: (แสดงท่าทางไอ)

Class: Cough.

T: Spell the word, please.

Class: C-O-U-G-H

T: Right. etc.

188

ข้นั Practice

1. หนังสือเรียน หน้า 28 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และดูภาพคนเจ็บคอ ครูถามคาถาม

What’s the matter? และเขยี นคาถามน้นั ลงบนกระดาน ครูอา่ นออกเสียงใหน้ กั เรียนฟังหน่ึงคร้ัง

และให้นกั เรียนพดู ตาม จากน้นั ครูพูดประโยค I’ve got a sore throat. และเขียนลงบนกระดาน

แลว้ ให้นกั เรียนพูดตาม เสร็จแลว้ ครูพูดถาม-ตอบเพอื่ เป็นตวั อยา่ งให้แกน่ กั เรียนอกี คร้ัง แลว้ จึง

ใหน้ กั เรียนพดู ตามครู

2. ครูอธิบายว่าจะใหน้ กั เรียนเป็นคนถาม และครูเป็นคนตอบ ดงั น้ี

T: (ชูภาพคนเป็นหวดั )

Class: What’s the matter?

T: I’ve got a cold. etc.

3. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียนหนา้ เดิม ครูอ่านประโยคใน speech bubble ใหน้ กั เรียนฟัง และให้

นกั เรียนอ่านตาม จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คผู่ ลดั กนั ฝึกถาม-ตอบ

1. S1: What’s the matter?
S2: I’ve got a headache.

2. S1: What’s the matter?
S2: I’ve got a cough.

3. Ss1: What’s the matter?
S2: I’ve got a stomach ache.

4. S1: What’s the matter?
S2: I’ve got a toothache.

5. S1: What’s the matter?
S2: I’ve got a cold.

ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั ถาม-ตอบ ดงั น้ี
S1: (แสดงท่าเจบ็ คอ)
S2: What’s the matter?
S1: I’ve got a sore throat.
2. ครูสุ่มนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาทาการแสดงทหี่ นา้ ช้นั
189

3. ครูให้นกั เรียนทาสมุดคาศพั ทค์ นละ 1 เล่ม โดยครูบอกนกั เรียนวา่ ในแต่ละชว่ั โมงนกั เรียนตอ้ ง
บนั ทึกคาศพั ทล์ งในสมุด ถา้ ในชวั่ โมงน้นั เรียนคาศพั ทใ์ หมใ่ หน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หม่ท่เี รียน
โดยให้บอกความหมายลงในสมดุ คาศพั ท์ แตถ่ า้ ไม่ไดเ้ รียนคาศพั ทใ์ หม่ ครูใหน้ กั เรียนคน้ หา
คาศพั ทต์ ามหมวดทเ่ี รียนในบทน้นั เพม่ิ เติมอีก 4 คา และบอกความหมายดว้ ย จากน้นั ให้นกั เรียน
บนั ทกึ คาศพั ทท์ เ่ี รียนในชวั่ โมงน้ี

4. ครูใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 24 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น

Ex. 1 2. toothache 3. cold
1. sore throat 5. stomach ache
4. headache
Ex. 2 3. My tooth hurts
2. My stomach hurts

7. การวดั และประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์

วิธกี ารวดั แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการออกเสียงคาศพั ท์
ประเมนิ การพูดถาม-ตอบ แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เกี่ยวกบั ปัญหาสุขภาพ
ตรวจสมุดคาศพั ท์ สมุดคาศพั ท์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ น แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่ เรียนรู้ มีวนิ ยั และมุ่งมน่ั ประสงค์
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด EXTRA and Friends 6 ป. 6
8.4 สมดุ คาศพั ท์

190

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 I’ve got a cold! I should go to the doctor.

เวลา 1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ออกเสียง k ในคา ch ได้
- วเิ คราะห์และพดู โครงสร้างประโยคทีใ่ ช้ should ได้
- พดู /เขียนประโยคเก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพและให้คาแนะนาเก่ียวกบั สุขภาพได้
- ให้คาแนะนาเกี่ยวกบั อาหารท่คี วรรับประทานเมือ่ มปี ัญหาทางสุขภาพได้
- ตอบคาถามจากการอา่ นและอา่ นเพือ่ หาขอ้ มูลจาเพาะได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ป. 6/1 ปฏิบตั ติ ามคาสั่ง คาขอร้อง และคาแนะนาทฟี่ ังและอา่ น
ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ป. 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้ัน ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเคร่ืองหมาย
ทีอ่ ่าน
ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ
และเร่ืองเลา่
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก
และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชีว้ ัด
ต 1.2 ป. 6/1 พดู /เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป. 6/2 ใชค้ าสั่ง คาขอร้อง คาขออนญุ าต และใหค้ าแนะนา
ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั
ต 1.2 ป. 6/5 พูด/เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั กิจกรรมต่าง ๆ
พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ
โดยการพดู และการเขยี น

191

ตัวชีว้ ดั

ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่อื น และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/3 พดู /เขยี นแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

ตัวชีว้ ัด

ต 2.1 ป. 6/1 ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคม

และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ

ภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตวั ชี้วดั

ต 2.2 ป. 6/1 บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ

การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยค

ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น

พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน

ตวั ชีว้ ดั

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลุม่ สาระการเรียนรู้อ่นื จากแหลง่ การเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเี่ กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพน้ื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลยี่ นเรียนรู้กบั สังคมโลก

ตวั ชีว้ ัด

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ

192

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั illness และ health problems รวมท้งั การถาม การบอกอาการ และการให้

คาแนะนา เป็นทกั ษะสาคญั ทีส่ ามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: sore throat, cough, headache, toothache, stomach ache, a cold, put on,

take off,

Structure: I’ve got a cold! I should go to the doctor.

Pronunciation: K sound spelt ch

Function: Giving advice

2) Language Skills

Speaking: วเิ คราะห์และพูดโครงสร้างประโยคท่ีใช้ should

พูดประโยคเกี่ยวกบั ปัญหาสุขภาพและคาแนะนาเกี่ยวกบั สุขภาพ

ใหค้ าแนะนาเก่ียวกบั อาหารทคี่ วรรบั ประทานเมื่อมปี ัญหาทางสุขภาพ

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น, อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มลู จาเพาะ

Writing: เขยี นประโยคเก่ียวกบั ปัญหาสุขภาพและเขียนคาแนะนาเกี่ยวกบั สุขภาพ

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
5.1 ใฝ่ เรียนรู้
5.2 มีวนิ ยั
5.3 มงุ่ มนั่ ในการทางาน

193

6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm Up

1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนในช้นั
2. ตอ่ มาให้ครูทบทวนคาศพั ทน์ กั เรียนทเ่ี รียนในชว่ั โมงทแ่ี ลว้ โดยให้นกั เรียนดูภาพอาการไม่สบาย

และครูถามวา่ What’s the matter? แลว้ ให้นกั เรียนตอบ เช่น
T: (ชูภาพคนปวดฟัน) What’s the matter?
Class: She’s / He’s got a toothache. etc.

เสียงพยญั ชนะ /k/ และ /g/ (velar plosives หรือ velar stops) เป็นเสียงพยญั ชนะระเบดิ
หรือพยญั ชนะกกั ซ่ึงเกิดข้นึ ทีเ่ พดานอ่อน ในการออกเสียงพยญั ชนะ /k/ และ /g/ ลนิ้ ส่วนหลงั

จะยกข้นึ แตะเพดานอ่อน กระแสลมซ่ึงออกมาจากปอดจะถกู กกั อยชู่ ว่ั ขณะหน่ึงตรงส่วนท่ลี ิ้น

ส่วนหลงั สมั ผสั กบั เพดานออ่ น กระแสลมจะถกู ปลอ่ ยออกมาอยา่ งรวดเร็ว เสียง /k/ และ /g/
ต่างกนั ที่เสียง /k/ เป็นเสียงไมก่ อ้ ง ส่วนเสียง /g/ เป็นเสียงกอ้ ง
ข้อควรจาและปฏิบัติในการออกเสียงพยญั ชนะ /k/ และ /g/ ลิน้ ส่วนหลงั แตะเพดานออ่ น

กระแสลมจากปอดถกู กกั อยคู่ รู่หน่ึงทจี่ ุดสมั ผสั กอ่ นจะระเบิดออกมาอยา่ งรวดเร็ว ในการ

ออกเสียง /k/ เสน้ เสียงไม่สั่น แต่ในการออกเสียง /g/ เส้นเสียงจะสน่ั

ครูให้นกั เรียนฝึกการออกเสียง /k/ จากพยญั ชนะท่สี ะกดโดย ch ไดจ้ าก www.youtube.com
หรือลงิ คต์ อ่ ไปน้ี https://www.youtube.com/watch?v=u3npjwkJgBk

https://www.youtube.com/watch?v=zToluMMkbDc
https://www.youtube.com/watch?v=PUNKk4ZY7WE
ที่มา: ปรารมภ์รัตน์ โชติกเสถยี ร. 2557. การออกเสียงสระและเสียงพยัญชนะในภาษาอังกฤษ.
กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ข้นั Presentation
1. หนงั สือเรียน หนา้ 29 ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และดรู ูปคนปวดศรี ษะ แลว้ พดู วา่ He’s got a
headache. He should stay in bed. แลว้ ครูเขยี นประโยคบนกระดาน ขดี เส้นใตค้ าว่า should แลว้ ให้
นกั เรียนอ่านตามพร้อมกนั และเป็นรายบุคคล จากน้นั ให้นกั เรียนดรู ูปคนไอ แลว้ ครูพดู วา่
He’s got a cough. He shouldn’t play outside. และเขยี นประโยคบนกระดาน ขดี เส้นใตค้ าว่า
shouldn’t แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นตามพร้อมกนั และเป็นรายบุคคล

194

2. นกั เรียนอา่ นประโยค He should stay in bed. และ He shouldn’t play outside. อีกคร้งั ใหน้ กั เรียน
สงั เกตรูป verb ที่ตามหลงั should และ shouldn’t ว่ารูป verb เป็น base form

3. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปว่า เราใช้ should เมื่อให้คาแนะนา และ verb ท่ตี ามหลงั should เป็น
base form และ shouldn’t เป็นรูปปฏเิ สธของ should มาจาก should not

4. นกั เรียนเปิ ดหนงั สือ อา่ นประโยคใน Grammar Box พร้อม ๆ กนั
5. ครูช้ีท่ีเด็กในภาพ และถาม What’s the matter? แลว้ ให้นกั เรียนตอบ

T: What’s the matter?
Class: He’s got a cold.
T: Right. He’s got a cold. He should stay in bed.
จากน้นั ใหน้ กั เรียนพูดตามครู
6. หนงั สือเรยี น หน้า 29 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนทาแบบฝึกหดั อธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนให้คาแนะนาเด็ก
ที่เป็นหวดั ซ่ึงนอนอยบู่ นเตียง โดยใหท้ าแบบฝึกหดั ปากเปล่าก่อน จากน้นั จึงค่อยเขยี นลงสมดุ

1. should 3. should 5. should
2. shouldn’t 4. should 6. shouldn’t

The base form (or root) of a verb is the form listed in the dictionary. It is the version of
the verb without any endings (endings such as -s, -ing and ed). The base form is the same
as the infinitive (e.g., to walk, to paint, to think) but without the to. Sometimes it is called
infinitive without to.

195


Click to View FlipBook Version