272 5. ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมไม่เกี่ยวข้องกับคนกลางในข้อใด ก. ผู้ค้าส่ง ข. ผู้ค้าปลีก ค. ตัวแทนซื้อ ง. ตัวแทนจำหน่าย 6. ข้อใดคือบุคคลหรือหน่วยงานที่เข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่องทางการจัดจำหน่าย ก. ผู้ผลิต ข. ผู้บริโภค ค. คนกลาง ง. ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม 7. ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นคนกลางประเภทในช่องทางการจัดจำหน่าย ก. ผู้ผลิต ข. ตัวแทน ค. คนกลางในระดับค้าส่ง ง. คนกลางในระดับค้าปลีก 8. ข้อใดคือการจัดจำหน่ายแบบ Selective Distribution ก. การจัดจำหน่ายแบบหนาแน่นสูง ข. การจัดจำหน่ายแบบคัดเลือกตัวแทน ค. การจัดจำหน่ายแบบเลือกสรรคนกลาง ง. การจัดจำหน่ายแบบเลือกเฟ้นคนกลาง 9. ข้อใดคือปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่าย ก. เทคโนโลยี ข. ลักษณะของตลาด ค. สังคมและวัฒนธรรม ง. ลักษณะทางเศรษฐกิจ 10. ข้อใดไม่ใช่ปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่าย ก. ผู้จัดจำหน่ายมีปัญหาด้านการเงิน ข. ผู้จัดจำหน่ายในตลาดมีปริมาณเพิ่มขึ้น ค. ผู้จัดจำหน่ายเลือกจำหน่ายสินค้าที่กำไรสูงสุด ง. ผู้จัดจำหน่ายประเภทต่าง ๆ ที่ไม่มีความรู้ในสินค้าและบริการ
273 การจัดจ าหน่าย 1. ความหมาย และความส าคัญ ของการจัด จ าหน่าย 2. วัตถุประสงค์ และหน้าที่ของ การจัดจ าหน่าย 3. ประเภทของ ช่องทางการจัด จ าหน่าย 4. บุคคลและ สถาบันที่เกี่ยวข้อง กับช่องทางการจัด จ าหน่าย 5. ประเภทของคน กลางในช่องทาง การจัดจ าหน่าย 6. การก าหนด ความหนาแน่น ของคนกลางใน ช่องทางการจัด จ าหน่าย 7. ปัจจัยที่มี อิทธิพลต่อการ ก าหนดช่องทาง การจัดจ าหน่าย 8. ปัญหาของช่อง ทางการจัด จ าหน่าย ผังมโนทัศน์ (Concept Mapping) ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
274 ชื่อวิชา การตลาดเบื้องต้น รหัสวิชา 20200-2001 สอนครั้งที่ 11-12 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย จำนวน 8 ชั่วโมง **************************************************************************** สาระสำคัญ การจัดจำหน่าย เป็นกิจกรรมหนึ่งในองค์ประกอบของส่วนประสมทางการตลาดที่เกี่ยวกับ การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักการตลาด ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการเลือกช่องทางการจัดจำหน่ายที่เหมาะสมเป็นการลดต้นทุน ของธุรกิจทำให้สินค้าเคลื่อนย้ายไปถึงผู้ซื้อได้ตรงเวลาและมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจได้รับความเชื่อถือ และสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันของธุรกิจอีกด้วย 1. ความหมายและความสำคัญของการจัดจำหน่าย 1.1 ความหมายของการจัดจำหน่าย มีนักวิชาการให้ความหมายของการจัดจำหน่ายไว้ ดังนี้ ปณิศา มีจินดา และศิริวรรณ เสรีรัตน์ (2554 : 187) ได้ให้ความหมายการจัดจำหน่าย หมายถึง การส่งมอบสินค้าหรือบริการจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค โดยส่งมอบผ่านคนกลางหรือผู้ผลิตเอง หัวใจสำคัญของการจัดจำหน่าย คือ การนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมออกจำหน่ายในสถานที่ที่เหมาะสม ด้านราคา ปริมาณ และเวลาที่เหมาะสม วิทวัส รุ่งเรืองผล (2558 : 185) ได้ให้ความหมายของการจัดจำหน่าย หมายถึง กระบวนการในการจัดการเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสิทธิในตัวผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตไปจนถึงผู้บริโภค สิฏฐากร ชูทรัพย์ และประอรรัตน์ กีรติผจญ (2563 : 167) ได้ให้ความหมายของการจัด จำหน่าย หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการนำสินค้าและบริการของผู้ผลิตออกสู่ตลาดเพื่อเสนอต่อ ผู้บริโภค โดยการจัดหาสถานที่ขายหรืออาศัยผู้เชี่ยวชาญทางการตลาดที่เป็นคนกลางทำหน้าที่ใน การนำสินค้าหรือบริการไปสู่ผู้บริโภคภายในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม จากความหมายของจัดจำหน่ายที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า การจัดจำหน่าย (Place or Distribution) หมายถึง กิจกรรมทางการตลาดในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยผ่าน กิจกรรมทางการตลาดและคนกลาง เพื่อให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคด้วยความพึงพอใจในเวลาและสถานที่ที่ ถูกต้อง ใบเนื้อหา
275 1.2 ความสำคัญของการจัดจำหน่าย การจัดจำหน่ายมีความสำคัญในการดำเนินงานของ กิจการ ดังต่อไปนี้ 1.2.1 การจัดจำหน่ายที่ดี สามารถลดต้นทุนและความเสี่ยงของกิจการ 1.2.2 ทำให้สินค้าและบริการถึงมือผู้บริโภคได้เร็วขึ้น โดยผู้บริโภคจัดหาซื้อได้ในเวลา ที่ต้องการ (Time Utility) 1.2.3 เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจและผู้บริโภค 1.2.4 ทำให้เกิดช่องทางการเปลี่ยนวัตถุดิบให้เป็นสินค้าและบริการในรูปแบบที่ ผู้บริโภคต้องการ (Form Utility) 1.2.5 ทำให้จัดหาสินค้าและบริการในสถานที่ที่ผู้บริโภคต้องการ (Place Utility) 1.2.6 ทำให้สินค้าหรือบริการเปลี่ยนมือจากเจ้าของสินค้าไปยังผู้บริโภค (Possession Utility) 2. วัตถุประสงค์และหน้าที่ของการจัดจำหน่าย 2.1 วัตถุประสงค์ในการจัดจำหน่าย (Distribution Objectives) การกำหนดกลยุทธ์ด้าน ช่องทางการจัดจำหน่าย มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 2.1.1 เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ สินค้าจำนวนมากที่สามารถเปิด ตลาดใหม่ในต่างประเทศหรือในพื้นที่ที่ไม่มีสินค้าประเภทนั้นจำหน่าย ด้วยการจัดช่องทางการจำหน่าย และจัดหาคนกลางที่เหมาะสมในการดำเนินงานด้านการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภค 2.1.2 เพื่อรักษาหรือเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) สินค้าที่อยู่ใน วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ขั้นเจริญเติบโตและขั้นอิ่มตัวซึ่งมีคู่แข่งเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น การปรับปรุงและ เพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดจำหน่ายเป็นการรักษาหรือเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอีกทางหนึ่ง เช่น กระตุ้นพ่อค้าคนกลางและพนักงานขายทำให้ทำงานมากขึ้นด้วยการส่งเสริมการขาย หรือการเพิ่มช่อง ทางการจำหน่ายด้วยระบบขายตรง (Direct Sales) หรือขายทางอินเทอร์เน็ตรูปแบบออนไลน์ เป็นต้น 2.1.3 เพื่อสร้างระบบการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งมีประสิทธิภาพ จากการแข่งขัน ทางการตลาดที่มีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้นักการตลาดปรับปรุงและสร้างระบบการจัดจำหน่ายที่มี ประสิทธิภาพ เช่น บริษัทยูนิลีเวอร์สร้างระบบสัมพันธ์กับผู้จัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่ คือ ผู้จัดจำหน่าย เป็นเสมือนหุ้นส่วนบริษัท โดยมีเขตพื้นที่รับผิดชอบเฉพาะของแต่ละรายไม่ซ้ำซ้อนกันทำให้ผู้จัด จำหน่ายเกิดความพอใจและทำการขายอย่างเต็มที่ในเขตพื้นที่ของตน
276 2.2 หน้าที่ของการจัดจำหน่าย การจัดจำหน่ายแบ่งหน้าที่ออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 2.2.1 ช่องทางการจัดจำหน่าย ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้าหรือ บริการจากแหล่งผลิตให้แก่ผู้บริโภคคนสุดท้ายอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการ ทันเวลา และทำหน้าที่ในการแลกเปลี่ยน ได้แก่ 2.2.1.1 ซื้อและรวบรวมสินค้า คนกลางแสวงหาสินค้าจากแหล่งต่าง ๆ ซึ่ง อยู่กันอย่างกระจัดกระจายโดยนำมารวบรวมเพื่อสนองความต้องการของผู้ซื้อ เช่น ร้านขายของฝากที่ รวบรวมสินค้าจากหลายแห่งเพื่อจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว เป็นต้น 2.2.1.2 การขาย เป็นหน้าที่เกี่ยวกับการนำเสนอสินค้าเพื่อขายแก่ผู้ซื้อโดย จัดหาสินค้าที่เป็นที่ต้องการของผู้ซื้อ มีแผนการส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นความต้องการของซื้อและ สร้างความพอใจให้แก่ลูกค้า 2.2.2 การกระจายสินค้า ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้าจากแหล่งผลิตไปยัง กลุ่มเป้าหมาย การตัดสินใจด้านการขนส่งเพื่อให้ทันเวลาและตามสถานที่ที่ผู้ซื้อต้องการซื้อสินค้า การตัดสินใจเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ทำให้สินค้าเสียหายขณะขนส่ง และการบริหารด้านคลังสินค้าด้วย ได้แก่ 2.2.2.1 การเก็บรักษาหรือการคลังสินค้า คนกลางมีหน้าที่เก็บรักษาสินค้าที่ รวบรวมเพื่อรอการจำหน่ายหรือเก็บไว้ในคลังสินค้า เพื่อให้เพียงพอต่อการจัดจำหน่ายและนำออกมา ทันทีเมื่อผู้ซื้อต้องการ ซึ่งสินค้าบางอย่างต้องมีการกักตุนไว้ เช่น สินค้าเกษตรที่มีผลผลิตตามฤดูกาล สินค้าที่คาดว่าราคาจะสูง ขึ้นหรือสินค้าที่ต้องซื้อจำนวนมากเพื่อให้ได้รับส่วนลดทางการค้า เป็นต้น โดยคนกลางต้องหาวิธีการเก็บรักษาสินค้าอย่างปลอดภัยและประหยัดต้นทุน 2.2.2.2 การขนส่ง เป็นหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้าจากแหล่งผลิต หรือแหล่งขายไปยังปลายทางโดยเลือกวิธีการขนส่งอย่างเหมาะสม สถาบันที่ทำหน้าที่ขนส่ง เช่น บริษัทขนส่ง บริษัทเดินเรือ สายการบิน เป็นต้น
277 3. ประเภทของช่องทางการจัดจำหน่าย ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท คือ ช่องทางการจัด จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 3.1 ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods) เป็นเส้นทางใน การลำเลียงสินค้าหรือบริการจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคคนสุดท้าย สามารถจำแนกได้ 5 ช่องทาง ดังนี้ 3.1.1 ช่องทางตรง เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดย ไม่มีคนกลางหรือช่องทางศูนย์ระดับ สินค้าช่องทางนี้จะเป็นอาหารสดที่ต้องบริโภคทันทีหรือสินค้าที่มี มูลค่าสูง มีเทคโนโลยีชั้นสูง หรือสินค้าที่ขายยาก ลูกค้าไม่เห็นถึงความจำเป็นหรือไม่มีความต้องการ ต้องใช้พนักงานขายเป็นผู้โน้มน้าวหรือสาธิตการใช้งาน เช่น บัตรเครดิต ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เป็นต้น ภาพที่ 6.1 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงของสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 3.1.2 ช่องทางอ้อม เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าโดยผ่านคนกลางประเภท ต่าง ๆ แบ่งออกได้ ดังนี้ 3.1.2.1 ช่องทางอ้อมหนึ่งระดับ (ผู้ค้าปลีก) เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่ ผ่านคนกลางหนึ่งระดับ คือ ผู้ค้าปลีกที่มีหน้าที่นำสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค ช่องทางการจัด จำหน่ายแบบนี้เหมาะสำหรับสินค้าที่มีเน่าเสียง่าย สินค้าที่ล้าสมัยเร็ว หรือเป็นสินค้าที่มีราคาสูงต้องใช้ เวลาในการตัดสินใจซื้อ เช่น รองเท้า นาฬิกา ทีวี ตู้เย็น เป็นต้น ภาพที่ 6.2 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับของสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. ผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค
278 3.1.2.2 ช่องทางอ้อมสองระดับ (มีผู้ค้าส่ง) เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่ ผ่านคนกลางสองระดับคือ ผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีก เหมาะสำหรับสินค้าหรือบริการที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ กระจัดกระจาย เป็นสินค้าหรือบริการที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เป็นสินค้าที่ไม่เน่าเสียง่าย หรือสินค้า สะดวกซื้อที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป ผู้ผลิตที่เลือกใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบนี้เป็นผู้ผลิตราย เล็ก ๆ ที่มีต้นทุนในการดำเนินงานค่อนข้างจำกัด ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บรักษา สินค้าคงคลัง ภาพที่ 6.3 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับ (มีผู้ค้าส่ง) ของสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 3.1.2.3 ช่องทางอ้อมสองระดับ (มีตัวแทน) เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่ ผ่านคนกลางสองระดับ คือ ตัวแทนและผู้ค้าปลีก เหมาะสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีเงินทุนใน การดำเนินงานค่อนข้างจำกัด และมีความรู้ความสามารถในการจัดการด้านการตลาดไม่เพียงพอต่อ การดำเนินการจัดจำหน่ายด้วยตนเอง หรือการจัดการด้านการตลาดยังไม่มีประสิทธิภาพ สินค้าที่ใช้ใน ช่องทางนี้เป็นสินค้าเปรียบเทียบซื้อ หรือสินค้าเจาะจงซื้อ เช่น กระเป๋า รถยนต์ น้ำหอม เป็นต้น ที่ต้อง อาศัยตัวแทนที่มีความสามารถในการจัดจำหน่าย และกระจายสินค้าไปยังผู้ค้าปลีกเพื่อให้ผู้ค้าปลีก จำหน่ายสินค้าแก่ผู้บริโภค ภาพที่ 6.4 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับ (มีตัวแทน) ของสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 3.12.4 ช่องทางอ้อมสามระดับ เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่ผ่านคนกลาง สามระดับคือ ตัวแทน ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีก เหมาะสมสำหรับสินค้าที่ไม่เน่าเสียง่ายหรือสินค้าที่ไม่ เปลี่ยนแปลงตามสมัยนิยม หรือสินค้าสะดวกซื้อ ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจำนวนมากและอยู่ กระจัดกระจาย เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก เป็นต้น ผู้ผลิตไม่สะดวกที่จะจัดจำหน่ายเองและผู้ค้าส่ง แบ่งเบาภาระด้านการจัดจำหน่าย การขนส่ง การเก็บรักษาสินค้า และการเงิน ผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค ผู้ผลิต ตัวแทน จำหน่าย ผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค
279 ภาพที่ 6.5 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสามระดับของสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 3.2 ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม (Industrial Goods) เป็นเส้นทางใน การลำเลียงสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้ใช้เพื่อการอุตสาหกรรม หรือผู้ใช้ทางธุรกิจต่าง ๆ สามารถจำแนกได้ 4 ช่องทาง ดังนี้ 3.2.1 ช ่องตรง เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้ใช้ทาง อุตสาหกรรมโดยตรงซึ่งจะไม่ผ่านคนกลางหรือเรียกช่องทางศูนย์ระดับ เหมาะสำหรับ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มูลค่าการซื้อขายสูง มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ต้องมีการติดตั้ง มีการบริการ ก่อนและหลังการขาย เช่น เครื่องจักรกล ถาวรวัตถุ เครื่องมือประกอบที่มีราคาสูง หรือสินค้าที่ต้อง ได้รับการแนะนำใช้งาน การบำรุงรักษาจากผู้ผลิต โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่ลูกค้ารายใหญ่และมีมูลค่า การซื้อขายสูง ภาพที่ 6.6 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงของสินค้าอุตสาหกรรม ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 3.2.2 ช่องทางอ้อม เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง แบ่งออกได้ ดังนี้ 3.2.2.1 ช่องทางอ้อมหนึ่งระดับ (ผู้ค้าส่ง) เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่ผ่าน คนกลางหนึ่งระดับ คือ ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ผู้ค้าส่ง) ในการจัดจำหน่ายสินค้าไปยัง ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และมูลค่าของสินค้าไม่สูง เช่น เครื่องมือประกอบขนาดเล็ก วัสดุก่อสร้าง เครื่องทำความสะอาด เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น ภาพที่ 6.7 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับ (มีผู้ค้าส่ง) ของสินค้าอุตสาหกรรม ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. ผู้ผลิต ตัวแทน ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ผู้บริโภค ผู้ผลิต ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ผู้ผลิต ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (ผู้ค้าส่ง)
280 3.2.2.2 ช่องทางอ้อมหนึ่งระดับ (มีตัวแทน) เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่ ผ่านคนกลางหนึ่งระดับคือ ตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ผลิตให้ไปทำหน้าที่จำหน่ายสินค้าแก่ผู้ใช้ ทางอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมประเภทเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่มี มูลค่าสูงและมีความยุ่งยากในการเคลื่อนย้าย รวมถึงผู้ผลิตที่มีเงินทุนน้อยและไม่มีความชำนาญใน การจัดจำหน่ายจึงต้องอาศัยตัวแทน ภาพที่ 6.8 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับ (มีตัวแทน) ของสินค้าอุตสาหกรรม ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 3.2.2.3 ช่องทางอ้อมสองระดับ เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่ผ่านคนกลาง สองระดับ คือ ตัวแทนและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ผู้ค้าส่ง) เหมาะสำหรับผู้ผลิตที่ไม่มี แหล่งในการจัดจำหน่ายสินค้าเป็นของตนเอง จำเป็นต้องอาศัยตัวแทนเข้ามาช่วยในด้าน การจัดจำหน่าย เพราะตัวแทนสามารถกระตุ้นให้ธุรกิจต่าง ๆ ซื้อหรือเช่าสินค้าไปใช้ได้ดีกว่าผู้ผลิตที่ ขาดความรู้ความสามารถในด้านตลาด สินค้าที่ใช้ในช่องทางนี้เป็นสินค้าที่มีขนาดเล็ก ราคาต่ำ เช่น ประเภทเครื่องมือประกอบ อะไหล่ วัสดุสิ้นเปลือง เป็นต้น ภาพที่ 6.9 แสดงช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับของสินค้าอุตสาหกรรม ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. ผู้ผลิต ตัวแทนของผู้ผลิต ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ผู้ผลิต ตัวแทนของผู้ผลิต ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม (ผู้ค้าส่ง)
281 ตารางที่ 6.1 แสดงการเปรียบเทียบช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงและทางอ้อม การใช้ช่องทางการจำหน่ายทางตรง การใช้ช่องทางการจำหน่ายทางอ้อม ข้อดี ข้อดี 1. มีความติดต่อใกล้ชิดกับลูกค้า ทราบความ ต้องการของลูกค้าได้ดี ทราบถึงข้อบกพร่องของ ผลิตภัณฑ์และปรับปรุงผลิตภัณฑ์ 2. สินค้าสามารถถึงผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ไม่ต้อง ผ่านคนกลาง 3. ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคในราคาถูกได้ เพราะ ไม่ต้องจัดสรรกำไรให้พ่อค้าคนกลางทำให้ ผู้บริโภคได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ 1. ทำให้สินค้ากระจายไปได้อย่างกว้างขวาง 2. มีคนกลางเข้ามาช่วยรับภาระความเสี่ยง เนื่องจากมีการกระจายการถือครองสินค้าจาก ผู้ผลิตไป 3. ทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัด จำหน่าย ข้อเสีย ข้อเสีย 1. ไม่สามารถกระจายสินค้าไปถึงตัวผู้บริโภคได้ อย่างทั่วถึง เมื่อผู้บริโภคอยู่กันอย่างกระจัด กระจาย 2. เสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูง ซึ่งอาจทำให้ ต้นทุนต่อหน่วยของสินค้าสูงเกินความจำเป็น 3. ผู้ผลิตต้องรับภาระสินค้าคงคลังทั้งหมด ทำให้ เงินทุนจมอยู่ในสินค้าคงเหลือมากไป 1. ทำให้ผู้ผลิตไม่ได้ใกล้ชิดผู้บริโภคจึงไม่ทราบ ข้อมูลทางการตลาด 2. ราคาสินค้าอาจจะสูงขึ้น เพราะยิ่งผ่าน คนกลางหลายระดับ ทำให้มีการบวกเพิ่ม ผลตอบแทนของตนเองเข้าไปในราคาสินค้า ทำให้ราคาต่อหน่วยสูงขึ้น ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565.
282 ช่องทางการจัดจำหน่ายประกอบด้วยบุคคลและสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องที่เรียกว่า “คนกลาง” มาทำหน้าที่ต่าง ๆ ดังนี้ 4.1 บุคคลและสถาบันที่ทำหน้าที่เป็นคนกลาง แบ่งได้ดังนี้ 4.1.1 พ่อค้าคนกลางหรือผู้ขายต่อ หมายถึง คนกลางที่ทำหน้าที่เก็บรักษาและขาย สินค้าให้ผู้ผลิต ได้แก่ ผู้ค้าส่ง (Wholesaler) และผู้ค้าปลีก (Retailer) พ่อค้าคนกลางมีกรรมสิทธิ์ใน สินค้าที่ตนครอบครอง และต้องยอมรับความเสี่ยงภัยที่เกิดขึ้นกับสินค้าในระหว่างการเก็บรักษาสินค้า โดยได้รับกำไรเป็นผลตอบแทนจากการดำเนินงาน 4.1.2 ตัวแทนคนกลาง ได้แก่ นายหน้า (Broker) ตัวแทนผู้ผลิต (Manufacturer Agent) เป็นคนกลางที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในสินค้าและไม่ได้เก็บรักษาสินค้า ทำหน้าที่ในการแสวงหาลูกค้า และเจรจาต่อรองและโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้ซื้อสินค้า ตัวแทนคนกลางได้รับ ผลตอบแทนในรูปของค่านายหน้าจากการขายสินค้า 4.1.3 สถาบันอำนวยความสะดวกทางการตลาด หมายถึง คนกลางที่ทำหน้าที่ อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปยังลูกค้า เช่น ธนาคาร ธุรกิจประกันภัย สถาบันที่ให้บริการสินเชื่อ องค์กรที่ทำหน้าที่วิจัยตลาด ตัวแทนโฆษณาและสื่อการตลาด องค์กรที่ทำ หน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการตลาด เป็นต้น 4.2 หน้าที่และการดำเนินกิจกรรมของบุคคลและสถาบัน หน้าที่และการดำเนินกิจกรรมใน ช่องทางการจัดจำหน่ายของบุคคลและสถาบัน มีดังนี้ 4.2.1 การซื้อขายแลกเปลี่ยน ประกอบด้วยหัวข้อสำคัญ ดังนี้ 4.2.1.1 การซื้อเป็นการซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อการขายต่อ หรือในฐานะของ ตัวแทนเพื่อสร้างอุปทานของสินค้า 4.2.1.2 การขายเป็นการติดต่อผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้า การส่งเสริมด้าน การตลาดของผลิตภัณฑ์ และการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งคำสั่งซื้อ 4.2.1.3 การรับภาระความเสี่ยงภัย เป็นการรับภาระความเสี่ยงภัยที่เกิดจาก การมีสินค้าไว้ในครอบครอง ซึ่งอาจเกิดจากความเสื่อมสภาพหรือล้าสมัย 4.2.2 การกระจายสินค้าทางกายภาพ ประกอบด้วย 4.2.2.1 การเก็บรักษาสินค้า เป็นการเก็บรวมรวบสินค้าไว้ในสถานที่ ที่สะดวก ลูกค้าสามารถเข้าถึงและซื้อสินค้าได้ และสามารถการป้องกันสินค้าจากความเสียหายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าในระดับที่สูงขึ้น 4. บุคคลและสถาบันที่เกี่ยวข้องกับช่องทางการจัดจำหน่าย
283 4.2.2.2 การแบ่งสินค้าจากหน่วยใหญ่ให้เป็นหน่วยย่อย เป็นการซื้อสินค้าใน ปริมาณมากและแบ่งสินค้าออกเป็นหน่วยย่อยในปริมาณที่ลูกค้าต้องการ 4.2.2.3 การขนส่ง เป็นการเคลื่อนย้ายสินค้าทางกายภาพไปสู่ลูกค้า 4.2.3 การอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย 4.2.3.1 การเงิน เป็นการขยายสินเชื่อให้กับลูกค้า 4.2.3.2 การกำหนดระดับและคุณภาพของสินค้า เป็นการตรวจสอบ ทดสอบหรือการพิจารณาสินค้า การกำหนดระดับและคุณภาพสินค้า 4.2.3.3 สารสนเทศทางการตลาดและการวิจัย เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารใน ด้านสภาพการณ์การแข่งขันในตลาดแก่ลูกค้าและผู้เสนอขายวัตถุดิบ ช่องทางการจัดจำหน่ายเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่ายในการดำเนินงาน ดังนั้นกิจการต้อง ศึกษาและทำความเข้าใจผู้ที่เกี่ยวข้องประเภทต่าง ๆ เพื่อตัดสินใจและกำหนดนโยบายได้ถูกต้องซึ่งผู้ที่ เกี่ยวข้องในช่องทางการจัดจำหน่าย มีดังนี้ 5.1 คนกลางในระดับค้าส่ง คนกลางในระดับค้าส่งทำหน้าที่ในการรับสินค้าจากผู้ผลิตไปจัด จำหน่ายให้แก่ผู้ค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ดำเนินงานในลักษณะซื้อมาขายไป ซึ่งแบ่งประเภทตามลักษณะ การดำเนินงานและการเป็นเจ้าของ ได้แก่ 5.1.1 ตัวแทนจัดจำหน ่าย คือ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนของผู้ผลิตใน การดำเนินงานการจัดจำหน่ายแทนบริษัท โดยเป็นคนกลางให้กับบริษัทในการจัดจำหน่ายสินค้าให้ ลูกค้า ดูแลคลังสินค้า และทำหน้าที่ในการดูแลควบคุมการจัดจำหน่ายให้แก่ผู้ผลิต 5.1.2 ผู้ค้าส่ง คือ ผู้ที่ซื้อสินค้าจากผู้ผลิตเป็นเจ้าของสินค้าและบริหารจัดการสินค้า ด้วยตนเอง ผู้ค้าส่ง คือ ผู้ที่ซื้อสินค้าจากผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้านั้นไปยังผู้บริโภค 5.1.3 ผู้ค้าอิสระ คือ ผู้ค้าส่งประเภทหนึ่งที่ซื้อสินค้าจำนวนน้อยจากผู้ผลิตโดยตรง จากผู้นำเข้าหรือผู้ค้าส่งรายอื่น และจำหน่ายต่อไปยังผู้ค้าปลีก 5.2 คนกลางในระดับค้าปลีก คนกลางในระดับค้าปลีก คือ ผู้ที่ซื้อสินค้าจากผู้ค้าส่งและ จำหน่ายสินค้านั้นไปยังผู้บริโภคคนสุดท้ายด้วยวิธีการซื้อผ่านคนกลางประเภทต่าง ๆ ทำให้ผู้ค้าปลีก เป็นร้านค้าประเภท One - Stop Shopping ที่ซื้อสินค้าจากหลาย ๆ บริษัทมาจำหน่าย ซึ่งรูปแบบ ของการค้าปลีกในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ 5. ประเภทของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย
284 5.2.1 ร้านโชห่วยหรือร้านขายของชำ ร้านค้าปลีกประเภทนี้ตั้งกระจายอยู่ทั่วไป ตามแหล่งชุมชนต่าง ๆ โดยขายสินค้าประเภทของใช้ในชีวีตประจำวัน เช่น สบู่ แชมพู ข้าวสาร เป็นต้น ไม่มีการตกแต่งหน้าร้าน ระบบการบริหารเป็นแบบไม่ทางการ เจ้าของร้านบริการลูกค้าโดยการนำ สินค้ามาให้ลูกค้าเอง โดยอาศัยความใกล้ชิดคุ้นเคยกับลูกค้าในละแวกใกล้เคียง ที่ 6.10 แสดงร้านโชห่วยหรือร้านขายของชำ ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 5.2.2 ร้านสะดวกซื้อ เป็นร้านค้าที่มีวิวัฒนาการมาจากร้านขายของชำโดยมีสินค้า ประเภทเดียวกัน แต่มีการจัดตกแต่งร้านอย่างเป็นระเบียบ มีความสวยงาม คำนึงถึงความสะดวกสบาย ของลูกค้ามากขึ้น ลูกค้าสามารถเดินเลือกสินค้าได้เอง ทำให้ลูกค้าได้ผลประโยชน์มากกว่าซื้อจากร้าน ขายของชำแบบทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันร้านสะดวกซื้อได้รับความนิยมโดยมีการเปิดสาขามากขึ้น เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท 108 Shop เป็นต้น
285 ภาพที่ 6.11 แสดงร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น อีเลฟเว่น) ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 5.2.3 ซุปเปอร์มาร์เก็ต มีลักษณะคล้ายกับร้านสะดวกซื้อ แต่มีขนาดใหญ่กว่า โดยมีสินค้าหลากหลายชนิดและมีสินค้าประเภทของสดจำหน่ายด้วย เช่น ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ เป็นต้น ภาพที่ 6.12 แสดงซุปเปอร์มาร์เก็ต (ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต) ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565.
286 5.2.4 ไฮเปอร์มาร์ท ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ และซุปเปอร์สโตร์เป็นรูปแบบเดียวกับ ซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่มีขนาดใหญ่กว่าและสินค้ามีราคาถูกกว่า เนื่องจากมีอำนาจในการต่อรองการซื้อ สินค้าปริมาณมาก ๆ เช่น บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ เทสโก้โลตัส เป็นต้น ภาพที่ 6.13 แสดงไฮเปอร์มาร์ท ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ และซุปเปอร์สโตร์(บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์) ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 5.2.5 ห้างสรรพสินค้า มีการจัดจำหน่ายสินค้าหลายประเภทตั้งแต่ของใช้ส่วนบุคคล ประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องเรือน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ใช้ในครัว หรืออุปกรณ์กีฬา เช่น ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เซ็นทรัล เดอะมอลล์ เป็นต้น ภาพที่ 6.14 แสดงห้างสรรพสินค้า (ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล) ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565.
287 5.2.6 ร้านขายสินค้าเฉพาะอย่าง เป็นร้านขายปลีกที่จัดจำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น บริษัทโฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จัดจำหน่ายเฉพาะอุปกรณ์และเครื่องมือที่เกี่ยวกับ การตกแต่งและสร้างบ้าน หรือออฟฟิศเมทขายเฉพาะสินค้าที่ใช้ในสำนักงาน เป็นต้น ภาพที่ 6.15 แสดงร้านขายสินค้าเฉพาะอย่าง (โฮมโปร) ที่มา : นันทนา บำรุงชาติ, 2565. 6. การกำหนดความหนาแน่นของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย เป็นการเลือกประเภทของคนกลางและการพิจารณาระดับ ของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย โดยกิจการต้องกำหนดความหนาแน่นของคนกลางในช่องทาง การจัดจำหน่าย ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 6.1 การจัดจำหน ่ายแบบหนาแน ่นสูง (Intensive Distribution) เป็นการกระจาย ผลิตภัณฑ์ผ่านคนกลางแบบไม่จำกัดจำนวนคนกลาง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีการจำหน่ายอย่างทั่วถึงทำให้ ผู้บริโภคมีความสะดวกในการหาซื้อสินค้า ไม่จำกัดจำนวนคนกลางในแต่ละพื้นที่ โดยให้คนกลาง แต่ละรายสามารถแข่งขันกันเองในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ นิยมใช้กับประเภทสินค้าสะดวกซื้อ เช่น น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว ขนมปัง เป็นต้น 6.2 การจัดจำหน ่ายแบบเลือกสรรคนกลาง (Selective Distribution) เป็นการจัด จำหน่ายที่มีการคัดเลือกคนกลางที่เหมาะสมในเขตพื้นที่หนึ่ง ๆ เพื่อป้องกันมิให้การแข่งขันระหว่าง คนกลางของกิจการสูงเกินไป ซึ่งคนกลางในลักษณะนี้ต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายแบบเลือกสรรคนกลางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้ซื้อมีการเปรียบเทียบ โดยการสอบถาม และหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อ เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือ คอมพิวเตอร์เป็นต้น
288 6.3 การจัดจำหน ่ายแบบเลือกเฟ้นคนกลาง (Exclusive Distribution) เป็นการจัด จำหน่ายที่ผู้ผลิตเลือกคนกลางเพียงคนเดียวในเขตพื้นที่หนึ่ง ๆ ซึ่งปกติจะครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง โดยให้คนกลางรายนั้นเป็นผู้รับผิดชอบการจัดจำหน่ายสินค้าของกิจการแต่เพียงผู้เดียว โดยส่วนใหญ่ การจัดจำหน่ายในลักษณะนี้คนกลางจะไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นคู่แข่งขัน และคนกลางที่ได้รับการเลือกเฟ้นนี้จะทำหน้าที่ในการวางแผน และดำเนินการทางการตลาดร่วมกับ กิจการอย่างใกล้ชิด โดยใช้กับผลิตภัณฑ์เจาะจงซื้อ เช่น รถยนต์ นาฬิการาคาแพง เสื้อผ้าที่มีชื่อเสียง เป็นต้น คนกลางที่ได้รับสิทธิเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว อาจเปิดร้านสำหรับจำหน่ายสินค้า มากกว่าหนึ่งแห่งในพื้นที่ที่ได้รับสิทธิได้ เช่น ตัวแทนจำหน่ายกระเป๋ายี่ห้อหลุยส์ วิตตองในประเทศไทย สามารถเปิดจำหน่ายมากกว่า 1 แห่ง ในประเทศไทย โดยเปิดจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำและ โรงแรมระดับ 5 ดาว แต่ทุกร้านบริหาร โดยตัวแทนจำหน่ายรายเดียวกัน 7. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่าย การกำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแต่ละชนิดแต่ละประเภทนั้น เป็นสิ่งที่กิจการต้อง พิจารณาซึ่ง มีปัจจัยประกอบดังต่อไปนี้ 7.1 ลักษณะของตลาด เป็นการพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้บริโภค วิธีการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้า ความต้องการของตลาด เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาเลือกช่องทางการจัดจำหน่าย ได้เหมาะสมตรงตามวัตถุประสงค์ 7.2 ลักษณะของสินค้าและบริการ เป็นการพิจารณาด้านปัจจัยสินค้าโดยคำนึงถึงคุณค่า ขนาด และคุณสมบัติเฉพาะของสินค้าแต่ละชนิดที่ทำการผลิต อายุการจัดเก็บ ความสะดวกใน การเคลื่อนย้าย มีค่าใช้จ่ายในการบริการลูกค้า โดยสิ่งเหล่านี้ต้องนำมาพิจารณาเพื่อหาช่องทางที่ เหมาะสมกับสภาพของสินค้านั้น ๆ 7.3 ลักษณะของธุรกิจหรือองค์กรการผลิต เป็นการพิจารณาด้านสภาพความมั่นคงของธุรกิจ เงินทุนของธุรกิจ ชื่อเสียงของธุรกิจ ขนาดของธุรกิจ เช่น ธุรกิจมีขนาดใหญ่หรือขนาดย่อมมีนโยบาย การตลาดอย่างไร บุคลากรด้านการจัดจำหน่ายมีความรู้ประสบการณ์และความชำนาญเพียงใด 7.4 ลักษณะคู่แข่ง การดำเนินกิจการทุกประเภทมีคู่แข่งทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงใน การแข่งขันมีมากน้อยหรือมีความรุนแรงในการแข่งขันสูงมากเพียงใด เพราะหากคู่แข่งขันมากต้องใช้ ความพยายามในการขายให้มากขึ้น หรือเลือกช่องทางการจัดจำหน่ายที่ถึงผู้บริโภคได้รวดเร็วที่สุด 7.5 ลักษณะของคนกลาง การดำเนินธุรกิจบางอย่างใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงไม่ได้ ต้องอาศัยคนกลาง หรือผู้จัดจำหน่ายในระบบตลาดเข้ามาช่วยเหลือให้การดำเนินงานให้มีความสะดวก และรวดเร็วขึ้น โดยต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของคนกลางกับสภาพของสินค้า ความสามารถ ความชำนาญ และความร่วมมือของคนกลางกับองค์กรธุรกิจ
289 7.6 ลักษณะของสภาพแวดล้อม ช่องทางที่นำมาจัดจำหน่ายสินค้าควรเป็นช่องทางที่ใช้ เวลาสั้น มีค่าใช้จ่ายน้อย โดยพิจารณาลักษณะของสภาพแวดล้อม ลักษณะของกฎหมายในสังคมนั้น ๆ ขนบธรรมเนียมประเพณี ค่านิยมของผู้บริโภค ซึ่งมีส่วนในการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า และบริการในปัจจุบัน การเลือกช่องทางการจัดจำหน่ายแบบใดกับสินค้าและบริการของกิจการนั้น ผู้ผลิตต้อง คำนึงถึงความเหมาะสมหลายด้านเพื่อผลประโยชน์สูงสุดที่ได้รับ แต่ในทางปฏิบัติอาจประสบกับปัญหา และอุปสรรคที่จะทำให้งานบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดจำหน่าย ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากผู้จัดจำหน่าย ที่เป็นคนกลาง ดังนี้ 8.1 ผู้จัดจำหน่ายเลือกจำหน่ายสินค้าที่กำไรสูงสุด โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพสินค้า ทำให้สินค้า ที่มีคุณภาพแต่ให้กำไรน้อยจำหน่ายไม่ได้ ซึ่งส่งผลต่อผู้ผลิต คือ ขาดทุนหรือจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน สินค้าและมีผลกระทบต่อประชาชนที่ต้องบริโภคสินค้าที่ด้อยคุณภาพ 8.2 ผู้จัดจำหน่ายไม่ให้ความสนใจในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าแก่ผู้บริโภค ทำให้เกิด ทัศนคติที่ไม่ดีต่อสินค้าและความไม่น่าไว้วางใจต่อผู้จัดจำหน่ายเหล่านั้น 8.3 ผู้จัดจำหน่ายที่ทำหน้าที่มานาน บุคคลเหล่านี้จึงเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อการจัดจำหน่าย สินค้ามากขึ้นเพราะได้รับความเชื่อถือ ผู้ผลิตรายใดที่เลือกช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีจัดจำหน่าย ประเภทที่ได้รับความเชื่อถือจะเกิดผลดีต่อสินค้าของตนเอง แต่สินค้าที่เกิดใหม่หรือมีราคาน้อยกว่า ไม่ได้รับการสนับสนุน 8.4 ผู้จัดจำหน่ายประเภทต่าง ๆ ที่ไม่มีความรู้ในสินค้าและบริการ ทำให้ผู้บริโภครู้สึก เบื่อหน่ายเป็นสาเหตุให้ยอดขายลดลง 8.5 ผู้จัดจำหน่ายมีปัญหาด้านการเงิน ทำให้ผู้ผลิตไม่ได้รับทุนคืนในระยะเวลาตามกำหนด เกิดภาระหนี้สินต่อกันทำให้ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อ ความสัมพันธ์ในการค้าต่อกันการแก้ไขปัญหาพ่อค้าคนกลางที่เอาเปรียบนั้น ธุรกิจต่าง ๆ ต้องรวมตัว กันเพื่อใช้อำนาจต่อรองไม่ให้พ่อค้าคนกลางคนใดคนหนึ่งผูกขาดการจัดส่งสินค้า เพราะทำให้ผู้ผลิตต้อง ใช้บริการของพ่อค้าคนกลางน้อยราย หรือคนใดคนหนึ่งเท่านั้นจึงต้องมีคนกลางในตลาดมากรายขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันในการให้บริการ การเอาเปรียบน้อยลง รัฐบาลควรให้การสนับสนุน เช่น การจัดตั้งสหกรณ์ หรือการรวมกลุ่มของชาวบ้าน ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่ขจัดปัญหาของพ่อค้าคนกลางที่ เอารัดเอาเปรียบได้ 8. ปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่าย
290 การจัดจำหน่าย (Place or Distribution) หมายถึง กิจกรรมทางการตลาดในการเคลื่อนย้าย สินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค โดยผ่านกิจกรรมทางการตลาดและคนกลางเพื่อให้สินค้าถึงมือผู้บริโภค ด้วยความพึงพอใจในเวลาและสถานที่ที่ถูกต้อง การจัดจำหน่ายมีความสำคัญในการดำเนินงานของ กิจการทำให้ลดต้นทุนความเสี่ยงของกิจการทำให้สินค้าและบริการถึงมือผู้บริโภคได้เร็วขึ้น อำนวย ความสะดวกให้กับธุรกิจและผู้บริโภค ทำให้เกิดช่องทางการเปลี่ยนวัตถุดิบให้เป็นสินค้าและบริการใน รูปแบบที่ผู้บริโภคต้องการ จัดหาสินค้าและบริการในสถานที่ที่ผู้บริโภคต้องการ และทำให้สินค้าหรือ บริการเปลี่ยนมือจากเจ้าของสินค้าไปยังผู้บริโภค การกำหนดกลยุทธ์ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายตลาดไปยัง กลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่เพื่อรักษาหรือเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด และเพื่อสร้างระบบการจัดจำหน่ายที่ แข็งแกร่งมีประสิทธิภาพ หน้าที่ของการจัดจำหน่ายแบ่งหน้าที่ออกเป็น 2 หน้าที่ คือด้านช่องทาง การจัดจำหน่ายและการกระจายสินค้า ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท คือ ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นเส้นทางในการลำเลียงสินค้าหรือ บริการจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคคนสุดท้าย และช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม เป็นเส้นทาง ในการลำเลียงสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้ใช้เพื่อการอุตสาหกรรม หรือผู้ใช้ทางธุรกิจต่าง ๆ ช่องทางการจัดจำหน่ายประกอบด้วยบุคคลและสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องที่เรียกว่า “คนกลาง” มาทำหน้าที่ต่าง ๆ โดยกิจการต้องศึกษาและทำความเข้าใจผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านต่าง ๆ เพื่อตัดสินใจและ กำหนดนโยบายได้ถูกต้อง การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายกิจการต้องกำหนดความหนาแน่นของ คนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ การจัดจำหน่ายแบบหนาแน่นสูง การจัดจำหน่ายแบบเลือกสรรคนกลาง และการจัดจำหน่ายแบบเลือกเฟ้นคนกลาง โดยพิจารณาจาก ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อลดปัญหาด้านช่องทางการจัดจำหน่ายของ กิจการ สรุปสาระสำคัญของชุดการสอนที่6
291 คำศัพท์ คำแปล 1. Place or Distribution การจัดจำหน่าย 2. Form Utility รูปแบบที่ต้องการ 3. Time Utility เวลาที่ต้องการ 4. Place Utility สถานที่ต้องการ 5. Possession Utility ความเป็นเจ้าของ 6. Distribution Objective วัตถุประสงค์ในการจัดจำหน่าย 7. Market Share ส่วนแบ่งทางการตลาด 8. Direct Sales ระบบขายตรง 9. Wholesaler ผู้ค้าส่ง 10. Retailer ผู้ค้าปลีก 11. Broker นายหน้า 12. Manufacturer Agent ตัวแทนผู้ผลิต 13. Intensive Distribution การจัดจำหน่ายแบบหนาแน่นสูง 14. Selective Distribution การจัดจำหน่ายแบบเลือกสรรคนกลาง 15. Exclusive Distribution การจัดจำหน่ายแบบเลือกเฟ้นคนกลาง 16. Consumer Goods ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค 17. Industrial Goods ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม คำศัพท์ที่ควรรู้ ชุดการสอนหน่วยที่ 6
292 เรื่อง ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหมายและความสำคัญของการจัดจำหน่ายได้ 2. บอกวัตถุประสงค์และหน้าที่ของการจัดจำหน่ายได้ 3. อธิบายประเภทของช่องทางการจัดจำหน่ายได้ 4. อธิบายบุคคลและสถาบันที่เกี่ยวข้องกับช่องทางการจัดจำหน่ายได้ เครื่องมือ/วัสดุ/อุปกรณ์ 1. ดินสอ 2. ปากกา 3. ยางลบ 4. ไม้บรรทัด 5. แบบฟอร์มการเขียนใบงาน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 1. ให้นักเรียนแต่ละคนจัดทำใบงานที่ 6.1 เรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าตามแบบฟอร์ม ใบงานที่ครูกำหนดให้ 2. ให้นักเรียนแต่ละคนรวบรวมใบงานส่งครูเพื่อตรวจประเมินผลงาน ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีการระดมสมองของสมาชิกในกลุ่มเพื่อให้มีแนวความคิดและข้อมูลที่ดีที่สุด 2. ควรมีทบทวนเนื้อหาสาระการเรียนรู้เกี่ยวกับความหมายและความสำคัญของการ จัดจำหน่าย วัตถุประสงค์และหน้าที่ของการจัดจำหน่าย ประเภทของช่องทางการจัดจำหน่าย บุคคล และสถาบันที่เกี่ยวข้องกับช่องทางการจัดจำหน่าย ในชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่องการจัดจำหน่ายเพื่อใช้ เป็นแนวทางวิเคราะห์ข้อมูลและคำตอบที่ถูกต้อง สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ที่กำลังศึกษา การวัดและประเมินผล ประเมินผลงานรายบุคคล ใบงานที่ 6.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
293 เกณฑ์การประเมิน รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. ผลงานตรงตาม วัตถุประสงค์ที่ได้ กำหนด ผลงานสอดคล้อง ตามจุดประสงค์ ทุกประเด็น ผลงานสอดคล้อง ตามจุดประสงค์ เป็นส่วนใหญ่ ผลงานสอดคล้อง ตามจุดประสงค์ บางประเด็น ผลงานไม่สอดคล้อง ตามจุดประสงค์ 2. ผลงานมีความ ถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน เนื้อหาสาระของ ผลงานมีความ ถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน เนื้อหาสาระของ ผลงานมีความ ถูกต้อง สมบูรณ์ เป็นส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระของ ผลงานมีคว าม ถูกต้อง ในบาง ประเด็น เนื้อหาสาระของ ผลงานไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน 3. ผลงานมีความ คิดสร้างสรรค์ ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์และมี แนวคิดแปลกใหม่ ผลงานมีความคิด สร้างสรรค์ แต่ไม่ มีแนวคิดแปลก ใหม่ ผลงานมีคว าม น่าสนใจ แต่ไม่มี แนวคิดแปลกใหม่ ผลงานไม่แสดงถึง แนวคิดแปลกใหม่ 4. ผลงานมีความ เป็นระเบียบ ผลงานมีความ เป็นระเบียบและ มีการแสดงออก ถึงความประณีต ผลงานส่วนใหญ่มี ความเป็นระเบียบ แต่มีข้อบกพร่อง เล็กน้อย ผลงานมีความ เป็นระเบียบแต่มี ข้อบกพร่องใน บางส่วน ผลงานส่วนใหญ่ไม่ เป็นระเบียบและมี ข้อบกพร่อง 5. ผลงานเสร็จ ตรงตามเวลาที่ กำหนด ส่งผลงานภายใน เวลาที่กำหนด ส่งผลงานเกิน เวลาที่กำหนด เล็กน้อย ส่งงานช้ากว่า เวลาที่กำหนด 3 นาที ส่งงานช้ากว่าเวลา ที่กำหนด 5 นาที
294 เรื่อง ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ชื่อ-สกุล ……………….……..…..สาขาวิชา………………………….ระดับชั้น……………………………… ที่ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1 ผลงานตรงตามวัตถุประสงค์ได้ที่กำหนด 2 ผลงานมีความถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน 3 ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์ 4 ผลงานมีความเป็นระเบียบ 5 ผลงานเสร็จตรงตามเวลาที่กำหนด รวม เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 18-20 คะแนน หมายถึง ดีมาก 15-17 คะแนน หมายถึง ดี 12-14 คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 12 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมิน .........../........................./............... แบบประเมินใบงานที่6.1
295 เรื่อง ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า คำชี้แจง : จงเติมข้อความลงในช่องว่างที่กำหนดให้เกี่ยวกับโครงสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ให้ถูกต้อง ดังต่อไปนี้ 1. ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค มีดังนี้ 1) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่จัดจำหน่ายผ่านช่องทางนี้ ได้แก่..................................................................................... ............................................................................................................................. .................................... 2) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่...................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับ (มีผู้ค้าส่ง) ของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ได้แก่……………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................... 4) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับ (มีตัวแทน) ของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่...................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... แบบฟอร์มใบงานที่ 6.1
296 5) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสามระดับของสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่…………………………………..………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................... 2. ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม มีดังนี้ 1) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงของสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่………………………………….………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................... 2) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับ (มีผู้ค้าส่ง) ของสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่………………………………………………..…………………………………………. ............................................................................................................................. .................................... 3) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมหนึ่งระดับ (มีตัวแทน) ของสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่………………….………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. .................................... 4) ช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อมสองระดับของสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่…………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................. ....................................
297 เรื่อง กรณีศึกษา ร้านตำสนั่น ครกกระเด็น จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายประเภทของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่ายได้ 2. อธิบายความหนาแน่นของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่ายได้ 3. บอกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายได้ 4. บอกปัญหาของช่องทางการจำหน่ายได้ เครื่องมือ/วัสดุ/อุปกรณ์ 1. ดินสอ 2. ปากกา 3. ยางลบ 4. ไม้บรรทัด 5. กรณีศึกษา ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 1. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ กลุ่มละ 3 คน โดยคละนักเรียนในกลุ่มให้แตกต่าง กันในด้านสติปัญญาและความถนัด 2. ให้แต่ละกลุ่มเลือกหัวหน้ากลุ่ม ๆ ละ 1 คน เพื่อเป็นผู้ควบคุมและดำเนินกิจกรรมและ กำหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกภายในกลุ่ม ฝึกทักษะปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มตามใบงานด้วยตนเอง 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านกรณีศึกษาร้านตำสนั่น ครกกระเด็น โดยนำเสนอประเด็น เกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดหน่าย ดังต่อไปนี้ 3.1 ลักษณะของตลาด 3.2 ลักษณะของสินค้าและบริการ 3.3 ลักษณะของธุรกิจ 3.4 ลักษณะของสภาพแวดล้อม 3.5 ปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่าย 4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานของกลุ่มตนเอง โดยใช้เวลาใน นำเสนอกลุ่มละ 5 นาทีและเปิดโอกาสให้นักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้เสนอแนะแนวทางหรือข้อคิดเห็น พร้อมนำส่งผลงานให้ครูเพื่อตรวจประเมินผลงาน ใบงานที่ 6.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
298 ข้อเสนอแนะ 1. ในการปฏิบัติงานควรระดมสมองของสมาชิกในกลุ่มเพื่อให้ได้แนวความคิดที่ดีที่สุด 2. ควรมีการทบทวนสาระการเรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย ความหนาแน่นของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัด จำหน่ายและปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่าย ในชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่องการจัดจำหน่าย เพื่อใช้ เป็นแนวทางวิเคราะห์ข้อมูลและคำตอบที่ถูกต้อง สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ที่กำลังศึกษา การวัดและประเมินผล ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่มและการนำเสนอผลงานกลุ่ม
299 เกณฑ์การประเมิน รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. ผลงานมีความ ถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน เนื้อหามีความ ถูกต้องครบถ้วน ครอบคลุมชัดเจน ตามวัตถุประสงค์ เนื้อหามีความ ถูกต้องครบถ้วนแต่ ไม่ครอบคลุม ชัดเจนตาม วัตถุประสงค์ เนื้อหามีความ ถูกต้องแต่ไม่ ครบถ้วนหรือไม่ ครอบคลุมตาม วัตถุประสงค์ เนื้อหาไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนและ ไม่ตรงตาม วัตถุประสงค์ 2. ความร่วมมือ ในการทำงาน สมาชิกในกลุ่มให้ ความร่วมมือใน การทำงานดีมาก สมาชิกในกลุ่มให้ ความร่วมมือในการ ทำงานปานกลาง สมาชิกในกลุ่มให้ ความร่วมมือใน การทำงานน้อย สมาชิกในกลุ่มไม่ ให้ความร่วมมือ ในการทำงาน 4. ความ รับผิดชอบ มีการแบ่งหน้าที่ ของสมาชิกในกลุ่ม อย่างชัดเจนและ มีการปฏิบัติตาม หน้าที่ที่ได้รับ มอบหมาย มีการแบ่งหน้าที่ ของสมาชิกในกลุ่ม อย่างชัดเจนแต่ ไม่ได้ปฏิบัติตาม หน้าที่ที่ได้รับ มอบหมาย มีการแบ่งหน้าที่ ของสมาชิกใน กลุ่มแต่ไม่ชัดเจน หรือสมาชิกใน กลุ่มไม่ได้ปฏิบัติ ตามหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมาย ไม่มีการแบ่ง หน้าที่ของสมาชิก ในกลุ่มอย่าง ชัดเจนและ สมาชิกส่วนใหญ่ ไม่ปฏิบัติงาน 4. การนำเสนอ หน้าชั้นเรียน การนำเสนอมีความ เหมาะสม น่าสนใจ และสบสายตากับ ผู้ฟังอยู่ตลอด การนำเสนอมีความ เหมาะสม น่าสนใจ แต่ไม่สบสายตากับ ผู้ฟัง การนำเสนอมี ความเหมาะสม แต่ไม่น่าสนใจ หรือไม่สบสายตา กับผู้ฟัง การนำเสนอไม่ เหมาะสม ไม่น่าสนใจและ ไม่สบสายตากับ ผู้ฟัง 5. การตรงต่อ เวลา การจัดทำใบงาน และการนำเสนออยู่ ภายในเวลาที่ กำหนด การจัดทำใบงาน และการนำเสนอ เกินเวลาที่กำหนด เล็กน้อย การจัดทำใบงาน และการนำเสนอ เกินเวลาที่กำหนด 1 นาที การจัดทำใบงาน และการนำเสนอ เกินเวลาที่กำหนด 2 นาที
300 เรื่อง กรณีศึกษา ร้านตำสนั่น ครกกระเด็น ชื่อ-สกุล ……………….……..…..สาขาวิชา………………………….ระดับชั้น………………………………. ชื่อ-สกุล ……………….……..…..สาขาวิชา………………………….ระดับชั้น………………………………. ชื่อ-สกุล ……………….……..…..สาขาวิชา………………………….ระดับชั้น………………………………. เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 18-20 คะแนน หมายถึง ดีมาก 15-17 คะแนน หมายถึง ดี 12-14 คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 12 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมิน .........../........................./............... แบบประเมินใบงานที่6.2 ที่ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1 ผลงานมีความถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน 2 ความร่วมมือในการทำงาน 3 ความรับผิดชอบ 4 การนำเสนอหน้าชั้นเรียน 5 การตรงต่อเวลา รวม
301 ส้มตำเป็นอาหารที่คนไทยนิยมรับประทาน ปัจจุบันส้มตำมีหลายประเภท เช่น ตำไทย ตำปู ตำโคราช ตำไข่เค็ม ตำปลาร้า ตำป่า ตำซั่ว ตำผลไม้ เป็นต้น ส่วนรสชาติของแต่ละร้านจะมีจุดเด่นใน ตัวเอง เปรี้ยวหวาน เผ็ด ส้มตำเหมือนกันแต่รสชาติไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญคือการพัฒนาฝีมือตัวเอง ควรเลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุง และสร้างจุดเด่นด้วยเมนูที่หลากหลาย ทำให้รสชาติอร่อยและสะอาด ส้มตำมีวงจรชีวิตที่สั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพัฒนาฝีมือของผู้ทำว่ามีรสชาติอร่อยหรือไม่ ส่วน ขนาดของสินค้าหรือปริมาณของนั้นขึ้นอยู่กับต้นทุนที่ผลิตและราคาขายของร้าน ได้แก่ ตำไทย 35 บาท ส้มตำไทยไข่เค็ม 40 บาท เป็นต้น ซึ่งราคาแสดงไว้ในเมนูของร้านเรียบร้อยและติดไว้หน้าร้าน ลักษณะของการขายส้มตำ คนทำต้องมีฝีมืออย่างแท้จริง รสชาติอร่อย สะอาด มีการบริการ และอัธยาศัยที่ดี ทำให้ลูกค้าเชื่อถือได้ โดยคนทำและคนขายส้มตำมีความรู้และประสบการณ์ ซึ่งจบ การศึกษาด้านอาหารและโภชนาโดยตรง การลงทุนประมาณ 20,000 - 300,000 บาท และรสชาติอร่อยทำให้มีลูกค้าเข้ามาซื้ออย่าง สม่ำเสมอทำให้สร้างกำไรได้ดีได้ตามจุดประสงค์ที่เจ้าของร้านส้มตำต้องการ ส่วนปัญหาของร้านตำสนั่น ครกกระเด็น คือ ค่าเช่าร้านแพง ร้านตั้งอยู่บริเวณหน้า มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ เนื่องจากไม่มีอาคารเป็นของตนเอง และขายตามคำสั่งซื้อสำหรับ พนักงานสำนักงาน และรสชาติของส้มตำไม่สม่ำเสมอเนื่องจากมีคนทำหลายคน อย่างไรก็ตามมีลูกค้า เข้ามาซื้ออย่างต่อเนื่องเพราะราคาถูกและสะอาด อีกทั้งคนทำและคนขายมีอัธยาศัยดี พูดจาไพเราะ เวลาลูกค้ามาซื้อมีการแถมข้าวเหนียว ขนมจีน ให้ลูกค้าเป็นประจำ กรณีศึกษา ต าสนั่น ครกกระเด็น
302 คำชี้แจง : 1. แบบฝึกหัดมีจำนวน 3 ข้อ คะแนน 20 คะแนน 2. ให้นักเรียนใช้เวลาในการทำแบบฝึกหัด 20 นาที 1. จงพิจารณาคำศัพท์ต่อไปนี้แล้วนำตัวเลือกด้านขวามือมาใส่หน้าข้อคำถามด้านซ้ายมือให้ถูกต้อง (10 คะแนน) …………… 1. การจัดจำหน่าย ก. Market Share …………… 2. นายหน้า ข. Form Utility …………… 3. ตัวแทนผู้ผลิต ค. Wholesaler …………… 4. ผู้ค้าปลีก ง. Possession Utility …………… 5. ส่วนแบ่งทางการตลาด จ. Manufacturer Agent …………… 6. ผู้ค้าส่ง ฉ. Wholesaler …………… 7. เวลาที่ต้องการ ช. Retailer …………… 8. รูปแบบที่ต้องการ ซ. Place …………… 9. สถานที่ต้องการ ฌ.Broker …………… 10. วัตถุประสงค์ในการจัดจำหน่าย ญ. Distribution Objectives) ฎ. Place Utility ฏ. Time Utility แบบฝึกหัดที่ 6.1 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
303 2. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (4 คะแนน) ..................1. Possession Utility คือ การจัดหาสินค้าและบริการในสถานที่ที่ผู้บริโภคต้องการ ..................2. ช่องทางการจัดจำหน่ายจากผู้ผลิตไปยังตัวแทนและไปยังผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ได้แก่ สินค้าประเภทเครื่องมือ เครื่องจักรที่มีความยุ่งยากในเคลื่อนย้าย ..................3. ช่องทางการจัดจำหน่ายโดยตรงจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคคนสุดท้าย เป็นช่องทางที่ ไม่ผ่านคนกลางเพราะผู้ผลิตทำหน้าที่เป็นคนกลางเอง ..................4. ผู้ค้าส่ง คือ ผู้ที่ซื้อสินค้าจากผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้านั้นต่อไปยังผู้บริโภค 3. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (6 คะแนน) 1. จงบอกความหมายของช่องทางการจัดจำหน่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงบอกความสำคัญของช่องทางการจัดจำหน่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงบอกวัตถุประสงค์ของการจัดจำหน่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงบอกหน้าที่ของการจัดจำหน่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
304 5. จงอธิบายประเภทของช่องทางการจัดจำหน่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. จงอธิบายบุคคลและสถาบันที่เกี่ยวข้องกับช่องทางการจัดจำหน่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
305 คำชี้แจง : 1. แบบฝึกหัดมีจำนวน 2 ข้อ คะแนน 10 คะแนน 2. ให้นักเรียนใช้เวลาในการทำแบบฝึกหัด 10 นาที 1. จงทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อความที่ผิด (6 คะแนน) ..................1. ร้านสะดวกซื้อ เป็นร้านค้าที่มีวิวัฒนาการมาจากร้านขายของชำ ..................2. อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือ คอมพิวเตอร์ ใช้การจัดจำหน่ายแบบเลือก เฟ้นคนกลาง ..................3. ร้านโชห่วย เป็นคนกลางในรูปแบบของการค้าปลีก ..................4. ปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่ายส่วนใหญ่เกิดจากผู้จัดจำหน่ายที่เป็นคนกลาง ..................5. ตัวแทนจัดจำหน่าย คือ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนของผู้ผลิตในการดำเนิน งานด้านการจัดจำหน่ายแทนบริษัท .................6. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายขึ้นอยู่แนวความคิดของ ผู้บริหารกิจการเท่านั้น 2. จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง (4 คะแนน) 1. คนกลางในช่องทางการจัดจำหน่ายมีกี่ประเภท อะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การกำหนดความหนาแน่นของคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่ายมีกี่ระดับ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… แบบฝึกหัดที่ 6.2 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
306 3. จงบอกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงบอกปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่าย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
307 คำชี้แจง : 1. จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียวแล้วทำเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคำตอบ 2. แบบทดสอบมีจำนวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการทำแบบทดสอบ 10 นาที **************************************************************************** 1. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของช่องทางการจัดจำหน่าย ก. จัดหาสินค้าและบริการในสถานที่ที่ผู้บริโภคต้องการ ข. ทำให้สินค้าและบริการถึงมือผู้บริโภคได้เร็วขึ้น ค. เปลี่ยนมือจากเจ้าของสินค้าไปยังผู้ขาย ง. ลดต้นทุนและความเสี่ยงให้กับกิจการ 2. ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์ในการกำหนดกลยุทธ์ด้านช่องทางจัดจำหน่ายในกรณีที่ตลาดมีการแข่งขัน อย่างรุนแรงมากขึ้น ก. เพื่อสร้างระบบการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งมีประสิทธิภาพ ข. เพื่อค้นหาและติดต่อกับผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ซื้อ ค. เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ ง. เพื่อรักษาหรือเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด 3. ข้อใดเป็นหน้าที่ของการจัดจำหน่ายด้านการกระจายสินค้า ก. การคลังสินค้า ข. การบริการ ค. การขาย ง. การซื้อ 4. สินค้าอุปโภคบริโภคประเภทใดนิยมใช้ช่องทางตรง ก. เครื่องปรับอากาศ พัดลม ข. รถยนต์ เครื่องดูดฝุ่น ค. แชมพู ยาสีฟัน ง. นมสด ผลไม้ แบบทดสอบหลังเรียน ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
308 5. ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมไม่เกี่ยวข้องกับคนกลางในข้อใด ก. ตัวแทนจำหน่าย ข. ตัวแทนซื้อ ค. ผู้ค้าปลีก ง. ผู้ค้าส่ง 6. ข้อใดคือบุคคลหรือหน่วยงานที่เข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่องทางการจัดจำหน่าย ก. ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม ข. คนกลาง ค. ผู้บริโภค ง. ผู้ผลิต 7. ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นคนกลางประเภทในช่องทางการจัดจำหน่าย ก. คนกลางในระดับค้าปลีก ข. คนกลางในระดับค้าส่ง ค. ตัวแทน ง. ผู้ผลิต 8. ข้อใดคือการจัดจำหน่ายแบบ Selective Distribution ก. การจัดจำหน่ายแบบเลือกเฟ้นคนกลาง ข. การจัดจำหน่ายแบบเลือกสรรคนกลาง ค. การจัดจำหน่ายแบบคัดเลือกตัวแทน ง. การจัดจำหน่ายแบบหนาแน่นสูง 9. ข้อใดคือปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดช่องทางการจัดจำหน่าย ก. ลักษณะทางเศรษฐกิจ ข. สังคมและวัฒนธรรม ค. ลักษณะของตลาด ง. เทคโนโลยี 10. ข้อใดไม่ใช่ปัญหาของช่องทางการจัดจำหน่าย ก. ผู้จัดจำหน่ายประเภทต่าง ๆ ที่ไม่มีความรู้ในสินค้าและบริการ ข. ผู้จัดจำหน่ายเลือกจำหน่ายสินค้าที่กำไรสูงสุด ค. ผู้จัดจำหน่ายในตลาดมีปริมาณเพิ่มขึ้น ง. ผู้จัดจำหน่ายมีปัญหาด้านการเงิน
309 สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้เป็นสื่อนำเสนอ PowerPoint ใช้กับโปรแกรม Microsoft PowerPoint สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
310 สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้เป็นสื่อนำเสนอ PowerPoint ใช้กับโปรแกรม Microsoft PowerPoint สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
311 สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้เป็นสื่อนำเสนอ PowerPoint ใช้กับโปรแกรม Microsoft PowerPoint สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
312 สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้เป็นสื่อนำเสนอ PowerPoint ใช้กับโปรแกรม Microsoft PowerPoint สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
313 ก่อเกียรติ วิริยะกิจพัฒนา. การตลาดเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : วังอักษร, 2563. นธกฤต วันต๊ะเมล์. การตลาดเพื่อความยั่งยืน. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2561. ปณิศา มีจินดา และศิริวรรณ เสรีรัตน์. กลยุทธ์การตลาดและการวางแผน. กรุงเทพฯ : ธรรมสาร, 2554. พัชรากาญจน์ ศุภเกษมพัฒน์, การตลาดเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : ศูนย์ส่งเสริมอาชีวะ, 2562. วิทวัส รุ่งเรืองผล. หลักการตลาด. พิมพ์ครั้งที่ 9. ปทุมธานี : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2558. วิภาวรรณ ร่วมชาติ. การตลาดเบื้องต้น. กรุงเทพฯ : จิตรวัฒน์, 2562. ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. หลักการตลาด. นนทบุรี: ธรรมสาร, 2562. สิฐฏากร ชูทรัพย์ และประอรรัตน์ กีรติผจญ. หลักการตลาด. นนทบุรี: เอมพันธ์, 2563. สิฐฏากร ชูทรัพย์ และลักษิกา เหล่าบัวดี. การตลาดเบื้องต้น. นนทบุรี: เอมพันธ์, 2562. สุคนธจรินทร์ ไกรศรวัชร. การตลาดเบื้องต้น. นนทบุรี : ศูนย์หนังสือเมืองไทย, 2562. บรรณานุกรม
314 ชื่อวิชา การตลาดเบื้องต้น รหัสวิชา 20200-2001 สอนครั้งที่ 11-12 ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย จำนวน 8 ชั่วโมง **************************************************************************** รหัส ประจำตัว ชื่อ - สกุล พฤติกรรมการเข้าเรียน หมาย เหตุ มา ปกติ มา สาย ขาด เรียน ลา กิจ ลา ป่วย รวม (คน) รวมทั้งสิ้น (คน) หมายเหตุครูผู้สอนทำเครื่องหมาย ✓ ในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมการเข้าเรียน สรุป จำนวนนักเรียนทั้งสิ้น.........คน มาปกติ................................คน มาสาย...............................คน ขาดเรียน.............................คน ลากิจ.................................คน ลาป่วย................................คน (นางนันทนา บำรุงชาติ) ครูผู้สอน แบบบันทึกเวลาเรียน
315 ใบงานที่............. เรื่อง.................................................... ชื่อผู้รับการประเมิน......................................... คำชี้แจง : ให้ทำเครื่องหมาย ลงในช่องพฤติกรรมของนักเรียนตามความเป็นจริง ที่ คุณลักษณะ/พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับพฤติกรรม คะแนนที่ได้ ใช้ได้ = 1 ปรับปรุง = 0 1. ความมีวินัย 1.1 ตรงต่อเวลา 1.2 แต่งกายตามถูกต้องตามระเบียบ 2. ความรับผิดชอบ 2.1 มีความตั้งใจในการเรียนรู้ 2.2 ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายภายในเวลา ที่กำหนด 3. ความสนใจใฝ่รู้ 3.1 มีความกระตือรือร้นในการใฝ่หาความรู้ 3.2 ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง 4. ความมีมนุษย์สัมพันธ์ 4.1 ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 4.2 ให้ความร่วมมือกับผู้อื่นในการเรียนรู้ 5. ความคิดสร้างสรรค์ 5.1 มีความคิดสร้างสรรค์ในการปฏิบัติงาน 5.2 ปฏิบัติงานถูกต้องและเหมาะสม รวมคะแนน เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ระดับ 1 หมายถึง ปฏิบัติเป็นประจำ ระดับ 0 หมายถึง ไม่เคยปฏิบัติ ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมิน (นางนันทนา บำรุงชาติ) ใบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์
316 ระดับชั้น...........................แผนกวิชา..............................................วัน/เดือน/ปี...................................... ที่ ชื่อ – สกุล ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความสนใจใฝ่รู้ ความมีมนุษย์สัมพันธ์ ความคิดสร้างสรรค์ รวมคะแนน 2 2 2 2 2 10 เกณฑ์การประเมินคุณภาพ 9-10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 7-8 คะแนน หมายถึง ดี 5-6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 5 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน ตั้งแต่ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมิน (นางนันทนา บำรุงชาติ) ใบสรุปประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
317 ชื่อ……………….………..สกุล………………………ระดับชั้น…………………………รหัส………………….... คำชี้แจง : 1. ให้นักเรียนประเมินตนเองตามแบบประเมินที่กำหนดให้ 2. นำคะแนนเฉลี่ยที่ได้ประเมินผลตนเองตามเกณฑ์การประเมินว่าอยู่ในระดับใด รายการประเมิน คะแนน เต็ม คะแนนที่ได้ หมายเหตุ 1. การทดสอบก่อนเรียน 10 …………….. คะแนนของทดสอบ ก่อนเรียนไม่นำมา รวมกับคะแนนของ กิจกรรมอื่น ๆ ใช้ สำหรับประเมินผล การพัฒนาการเรียน ของนักเรียนเท่านั้น 2. การประเมินผลขณะเรียน 2.1 ใบงานที่ 6.1 2.2 ใบงานที่ 6.2 2.3 แบบฝึกหัดที่ 6.1 2.4 แบบฝึกหัดที่ 6.2 2.5 ใบประเมินคุณธรรมจริยธรรมและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 20 20 20 10 10 …………….. …………….. …………….. …………….. …………….. หมายเหตุคะแนนประเมินผลขณะเรียน = คะแนนรวม (ข้อ 2.1 ถึงข้อ 2.5) ÷ 2 40 …………….. 3. การทดสอบหลังเรียน 10 …………….. คะแนนรวม (ข้อ 2 ถึงข้อ 3) 50 …………….. เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ผ่าน ดีมาก (44-50 คะแนน) ดี (37-43 คะแนน) พอใช้ (30-36 คะแนน) ไม่ผ่าน ปรับปรุง (ต่ำกว่า 30 คะแนน) ลงชื่อ……………………………….ผู้ประเมิน ………………/……………/………………. แบบสรุปผลคะแนนการเรียนรู้ (รายบุคคล) ชุดการสอนหน่วยที่ 6 เรื่อง การจัดจำหน่าย
เอกสารประกอบชุดการสอน วิชาการตลาดเบื้องต้น (Basic Marketing) รหัสวิชา 20202 - 2001 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชาพาณิชยกรรม หน่วยที่ 7 เรื่อง การส่งเสริมการตลาด นางนันทนา บำรุงชาติ วิทยาลัยการอาชีพท้ายเหมือง สำนักงานคณะกรรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
319 ลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ด้วยชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่อง การส่งเสริมการตลาด แผนภูมิ แสดงลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ด้วยชุดการสอน เริ่ม ศึกษาคำแนะนำ สำหรับนักเรียน ทดสอบก่อนเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ ทดสอบหลังเรียน ศึกษาชุดการสอนต่อไป จบ สอนซ่อมเสริม ไม่ผ่านเกณฑ์ ผ่านเกณฑ์
320 ชื่อวิชา การตลาดเบื้องต้น รหัสวิชา 20200-2001 สอนครั้งที่ 13-14 ชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่องการส่งเสริมการตลาด จำนวน 8 ชั่วโมง *************************************************************************** 1. ให้นักเรียนศึกษาคำแนะนำสำหรับการเรียนรู้ชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่องการส่งเสริมการตลาด ประกอบด้วย 1.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.2 เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 2. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่องการส่งเสริมการตลาด จำนวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที คะแนน 10 คะแนน 3. ให้นักเรียนศึกษาใบเนื้อหาชุดการสอนหน่วยที่ 7 ประกอบด้วย 3.1 ความหมายและความสำคัญของการส่งเสริมการตลาด 3.2 วัตถุประสงค์ของการส่งเสริมการตลาด 3.3 กระบวนการติดต่อสื่อสาร 3.4 ส่วนประสมของการส่งเสริมการตลาด 3.5 ปัจจัยที่มีอิทธิพลในการเลือกส่วนประสมการส่งเสริมการตลาด 3.6 กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด 4. ให้นักเรียนทำกิจกรรมใบงานชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่องการส่งเสริมการตลาด 5. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่องการส่งเสริมการตลาด 6. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่องการส่งเสริมการตลาด จำนวน 10 ข้อ เวลา 10 นาที คะแนน 10 คะแนน 7. ให้นักเรียนประเมินตนเองตามใบสรุปคะแนนการเรียนรู้ (รายบุคคล) ของชุดการสอนหน่วยที่ 7 8. สำหรับนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลจะจัดกิจกรรมการสอนซ่อมเสริม เพื่อเติมเต็มและทำ การทดสอบใหม่ คำแนะนำสำหรับนักเรียน
321 ชื่อวิชา การตลาดเบื้องต้น รหัสวิชา 20200-2001 สอนครั้งที่ 13-14 ชุดการสอนหน่วยที่ 7 เรื่องการส่งเสริมการตลาด จำนวน 8 ชั่วโมง *************************************************************************** จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ นักเรียนสามารถ 1. บอกความหมายและความสำคัญของการส่งเสริมการตลาดได้ 2. บอกวัตถุประสงค์ของการส่งเสริมการตลาดได้ 3. อธิบายกระบวนการติดต่อสื่อสารได้ 4. อธิบายส่วนประสมของการส่งเสริมการตลาดได้ 5. บอกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกส่วนประสมการส่งเสริมการตลาดได้ 6. อธิบายกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดได้ ด้านทักษะ ประยุกต์วิธีการส่งเสริมการตลาดให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดได้ ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ นักเรียนปฏิบัติตนด้วยความมีวินัย มีความรับผิดชอบ มีความสนใจใฝ่รู้ มีมนุษย์สัมพันธ์และ ปฏิบัติงานด้วยความคิดสร้างสรรค์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 1. ความหมายและความสำคัญของการส่งเสริมการตลาด 1.1 ความหมายของการส่งเสริมตลาด 1.2 ความสำคัญของการส่งเสริมการตลาด 2. วัตถุประสงค์ของการส่งเสริมการตลาด 2.1 เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ชนิดใดชนิดหนึ่งทั้งสายผลิตภัณฑ์ 2.2 เพื่อรักษาหรือเพิ่มส่วนครองตลาด 2.3 เพื่อเตือนความทรงจำ 2.4. เพื่อสร้างบรรยากาศการขายในอนาคต 2.5 เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารและให้บริการความรู้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 2.6 เพื่อสร้างความแตกต่างทางการแข่งขัน 2.7 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการส่งเสริมการตลาด รายการจุดประสงค์การเรียนรู้และเนื้อหาสาระการเรียนรู้